รักษาโรคไข้เลือดออก..มึนหัว/อ่อนเพลีย/ภูมิแพ้/หวัดเรื้อรัง/แขนขาบวม...โดยวิธีง่ายๆ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย วสุธรรม, 6 ธันวาคม 2009.

  1. krathin

    krathin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +203
    อนุโมทนาสาธุทุกท่านที่ได้ให้ความรู้ใหม่ ๆ ค่ะ
    จะลองแนะนำให้ผู้ป่วยที่เป็นภูมิแพ้ลองทานดูค่ะ
     
  2. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    มาย้ำเตือนกันว่า
    ไข้เลือดออกที่กำลังระบาดอยู่ทั่วไปนี้
    มีอาการมึนงงหัว อ่อนเพลีย
    และมีอาการเหมือนเป็นหวัดเรื้อรัง
    สามารถรักษาหายโดยวิธีของผมจริงๆ
     
  3. Tom_Om

    Tom_Om เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +411
    ตอนนี้ทำดื่มเองแล้วค่ะ อาการปวดหัว ดีขึ้นมากๆ ดื่มทุกวัน เช้า เย็น หันมารักษาสุขภาพกันเถอะค่ะ สุขภาพแข็งแรงข้ึนจริงๆ สาธุค่ะ
     
  4. icecreamvanila

    icecreamvanila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +125
    นมถั่วเหลืองๆๆๆ อร่อย และมีประโยชน์ chearr
     
  5. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ในปัจจุบันนี้ มีคนป่วยด้วยโรคที่แก้ไขได้โดยดื่มนมถั่วเหลืองปริมาณมาก
    คือโรคติดเชื้อไวรัสไข้เลือดออก มีอาการมึนงงหัวกินยาไม่หาย เป็นหวัดเรื้อรัง
     
  6. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ใครมีอาการมึนงง ปวดหัว ไมเกรน เป็นหวัดเรื้อรัง
    อย่าลืมวิธีการบำรุงภูมิต้านทานด้วยนมถั่วเหลือง
    จำนวน3-5กล่องต่อ1วัน นาน3วัน
    จะหายมึนหัว และไข้จะลดเป็นปกติในกล่องที่3เป็นต้นไปครับ
     
  7. Sawaros

    Sawaros สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณนะคะ >..<
     
  8. lavieestbelle

    lavieestbelle สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเริ่มทานเลยค่ะเพราะเป็นทั้งไทรอยด์ทั้งภูมิแพ้เลย

    แต่อยากรบกวนถามค่ะว่าลูกชายวัยสองขวบสองเดือนตอนนี้ทานนมชงอยู่ (ตราหมี เนสเล่ท์ กล่องสีเหลืองค่ะ) เราอยากให้เค้าสุขภาพแข็งแรง เราสามารถให้เค้าทานนมถั่วเหลืองเสริมด้วยได้มั้ยคะ แล้วก็ไข่แดงด้วยค่ะ ถ้าได้ควรให้เค้าทานปริมาณเท่าไหร่ต่อวันคะ ลูกชายอายุสองขวบสองเดือน หนักประมาณสิบสามกิโลค่ะ

    ขอบพระคุณล่วงหน้าเลยนะคะ
     
  9. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ไข่แดงควรรับประทานวันละ1-2ฟอง
    นมถั่วเหลืองควรรับประทานวันละ1-3กล่องครับ
     
  10. boonsongma

    boonsongma สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +11
    อนุโมทนาบุญที่นำมาเผยแพร่ แต่บังเอิญไปเจอข้อมูลมา อยากให้ช่วยวิเคราะห์ด้วย
    ความจริงของถั่วเหลืองที่ต้องอ่าน ให้คุณหรือโทษ



    นักวิจัยชี้! ชายกินถั่วเหลืองเสี่ยงเป็นหมัน

    <NOSCRIPT></NOSCRIPT>โดย suvimon | วันที่ 25 กรกฎาคม 2551 <SCRIPT type=text/javascript>//<![CDATA[document.write('<iframe src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http%3A%2F%2Fwww.thaihealth.or.th%2Fnode%2F5132&layout=standard&show_faces=false&width=300&action=like&colorscheme=light&height=35" scrolling="no" frameborder="0" style="border:none; overflow:hidden; width:300px; height:35px;" allowTransparency="true"></iframe>');//]]></SCRIPT><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 300px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http%3A%2F%2Fwww.thaihealth.or.th%2Fnode%2F5132&layout=standard&show_faces=false&width=300&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>
    เผยกินเพียง 2 วัน ครั้งหั่นจำนวนอสุจิไปเกือบครึ่ง<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p> [​IMG]</O:p>
    นักวิจัยอังกฤษระบุผู้ชายบริโภคผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการมีบุตรได้ พบผู้ชายบริโภคอาหารมีถั่วเหลืองเพียง 1 ครั้ง ในทุกๆ 2 วัน หั่นจำนวนอสุจิไปเกือบครึ่งจากระดับปรกติที่ 80-120 ล้านตัวต่อมิลลิลิตร เหลือค่าเฉลี่ยไม่ถึง 41 ล้านตัว<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    วารสารการเจริญพันธุ์มนุษย์เปิดเผยผลการศึกษาของนักวิจัย ซึ่งนำทีมโดย ดร.จอร์จ ชาวาร์โร แห่งวิทยาลัยสาธารณสุขฮาร์วาร์ด สะท้อนผลลัพธ์ที่อาจทำให้ผู้ชายต้องระมัดระวังตัวกันอยู่บ้าง หากคิดจะดื่มนมถั่วเหลืองหรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองทั้งหลาย เมื่อพบว่าอาหารที่มีถั่วเหลืองเป็นส่วนผสมอาจทำให้จำนวนอสุจิลดลงไปได้ถึงครึ่งหนึ่ง โดยพบผู้ชายเหลือปริมาณอสุจิเฉลี่ยน้อยกว่า 41 ล้านตัวต่อปริมาณน้ำอสุจิ 1 มิลลิลิตร หลังบริโภคอาหารมีถั่วเหลืองเพียง 1 ครั้งในทุกๆ 2 วัน<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    นักวิจัยเชื่อว่า ฮอร์โมนเอสโตรเจน (oestrogens) ในอาหารต่างๆ ซึ่งอาจเป็นน้ำนมและเครื่องดื่มผสมถั่วเหลือง และเต้าหู้ อาจไปแทรกแซงการส่งสัญญาณของฮอร์โมน<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    การศึกษาดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเคยมีผลที่ตรงกันข้ามระหว่างการศึกษาในสัตว์และมนุษย์ โดยหลายการศึกษาในสัตว์แสดงให้เห็นว่าการได้รับเคมีจากถั่วเหลืองเป็นปริมาณมาก สามารถส่งผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ได้ ในขณะที่การศึกษาการบริโภคผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองในมนุษย์ให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    อย่างไรก็ดี ในการศึกษาใหม่ซึ่งเป็นการศึกษาผู้ชาย 99 คน ที่เข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยากในคลีนิกแห่งหนึ่ง และได้ให้ตัวอย่างน้ำอสุจิไว้ให้ผลสนับสนุนการศึกษาในสัตว์<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    ทั้งนี้ ในการศึกษานักวิจัยได้แบ่งผู้ชายออกเป็น 4 กลุ่ม ตามปริมาณการบริโภคผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง จากนั้นได้เปรียบเทียบปริมาณอสุจิเมื่อมีการบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของถั่วเหลืองมากที่สุดกับการบริโภคปริมาณน้อยที่สุด จนพบความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด โดยปริมาณอสุจิปรกติของผู้ชายจะอยู่ระหว่าง 80-120 ล้านตัวต่อมิลลิลิตร แต่ผลที่ได้พบว่าผู้ชายที่รับประทานอาหารถั่วเหลืองเฉลี่ย 1 ครั้งในทุกๆ 2 วัน มีปริมาณต่ำกว่า 41 ล้านตัว<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    อย่างไรก็ตาม ผลยังมีเสียงคัดค้านจากผู้เชี่ยวชาญบางรายอยู่บ้าง ว่าผู้ชายส่วนใหญ่ในเอเชียบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารจากถั่วเหลืองเป็นปริมาณมากกว่า แต่ไม่พบว่ากระทบต่อการเจริญพันธุ์แต่อย่างใด<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    <O:p> </O:p>
    <O:p> </O:p>
    <O:p> </O:p>
    <O:p> </O:p>
    ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>




    ผู้หญิงคนหนึ่งกับเรื่องของถั่วเหลือง

    คุณผู้ชายทุกท่าน ขอให้ส่งข้อความนี้ถึงเพื่อนหญิงของท่านทุกๆคน.....เพราะมันอาจจะช่วยชีวิตพวกเธอเหล่านั้นได้

    บางสิ่งบางอย่างที่ควรแก่การใส่ใจไว้บ้าง เรื่องที่จะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องจริงที่ไม่มีการดัดแปลงเติมแต่งแก้ไขแต่ ประการใด ทุกๆอย่างเป็นความจริงเพราะมันเกี่ยวกับประสบการณ์ของฉันเองโคยตรง และความคิดเห็นที่ได้จากการอ่านและสัมผัสกับสิ่งต่างๆที่ผ่านมา ฉันกำลังจะบอกเล่าประสบการณ์ต่างๆเหล่านี้ให้กับสาวๆที่สนใจเรื่องของสุขภาพ แต่กำลังทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว

    ตัวฉันเองจบการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนแห่งหนึ่งใน รัฐเท็กซัสในปี ค.ศ.1989 และก็ไม่รั้งรอที่จะก้าวต่อไปยังเมืองอันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ฉันต้องการเปลี่ยนแปลงดัวเอง นั้นคือการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

    ทันทีที่ก้าวเข้าสู่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ด้วยที่ตระหนักถึงเรื่องของสุขภาพเป็นหลัก ฉันก็เริ่มปฏิบัติการลงมือเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายด้วยการทาน อาหารสุขภาพที่ดีที่สุดที่จะหาได้ เต้าหู้เป็นส่วนประกอบหลักของอาหารสุขภาพทุกจาน และฉันก็ซื้อน้ำเต้าหู้เกือบทุกวันมาทานร่วมกับอาหารเกือบทุกอย่างจากอาหาร เช้าประเภทธัญพืชถึงน้ำผลไม้ปั่น หรือไม่ก็ดื่มกินเป็นอาหารว่าง ฉันซื้อขนมปังมัฟฟิ้นก็ทำจากถั่วเหลือง ซุปมิโซะใส่เต้าหู้ ถั่วเหลือง และ ถั่วงอกที่เพาะจากถั่วเหลือง เป็นต้น เนื้อหาในนิตยสารสุขภาพและเสริมสมรรถภาพร่างกายฉบับต่างๆกล่าวถึงคุณ ประโยชน์ของถั่วเหลืองในการป้องกันสารพัดอย่างตั้งแต่โรคหัวใจยันมะเร็ง เต้านม สารสกัด isoflavones จากถั่วเหลือง และโฮโมนที่มีคุณสมบัติคล้าย แอสโตรเจน ต่างก็ทำหน้าที่ช่วยให้คุณหนุ่มแน่นและสุขอนามัยสมบรูณ์ ตัวฉันเองต้องบอกว่าแข็งแรงดูดียอดเยี่อม ด้วยการออกกำลังกายตลอดเวลา แต่รอบเดือนของฉันกลับไม่มาตามปรกติ ในวัยแค่ 20 ฉันเริ่มต้องทานยาคุมกำเนิดเพื่อที่จะควบคุมการมาของรอบเดือน

    นอกเหนือจากนั้น ฉันยังต้องทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดช่วงมีประจำเดือน เนื้อตัวของฉันเริ่มที่จะบวมเหมือนกับว่ากล้ามเนื้อจะล้า ฉันเริ่มจะโศรกเศร้าหดหู่และเริ่มมีอาการรู้สึกเนื้อตัวร้อนวูบวาบ ที่แรกก็เข้าใจว่าเรื่องเพี้ยนๆทั้งหมดที่เกิดคงเป็นอาการที่เรียกว่า PMS (a syndrome that occurs in many women from 2 to 14 days before the onset of menstruation (premenstrual syndrome) อาการที่เกิดกับผู้หญิงส่วนใหญ่ช่วง 2 ถึง 14 วันก่อนจะมีประจำเดือน) เนื่องจากเห็นว่าประจำเดือนมาผิดปรกติอยู่แล้ว ถ้าว่าเมื่อถึงอายุ 25 ปี อาการแย่ลงมาก จนเดินไม่ได้
    ยาเม็ดคุมกำเนิดที่ทานอยู่ไม่เคยสามารถที่จะช่วยทำให้มันมาปรกติหรือ ลดอาการเจ็บปวดได้ ฉันก็เลยตัดสินใจเลิกทาน อาการเช่นนี้เป็นอยู่ต่อไปอีกสองปีจนเริ่มรู้ว่าความเจ็บปวดที่เป็นอยู่ไม่ ใช่ธรรมดาซะแล้ว ตอนอายุ 27 สูตินารีแพทย์ของฉันได้พบซีสท์สองก้อนขนาดเท่าลูกเทนนิสอยู่ในมดลูก ก็ต้องทำการผ่าตัดเอาออก โชคดีที่มันไม่เป็นเนื้อร้าย หมอก็บอกให้กลับไปทานยาคุมเหมือนเดิมแต่ฉันก็ไม่ได้ทำตาม ในปี ค.ศ. 1998 หมอก็พบก้อนเนื้อที่หน้าอก เป็นอันว่าต้องทำการผ่าตัดอีกครั้งและผลตรวจออกมาก็เช่นกันว่าก้อนเนื้อไม่ เป็นพิษเป็นภัย

    ในเดือนพฤศจิกายนปี ค.ศ. 2000 ต่อมเกิดบวม และ เงือกก็อักเสบ แรกก็คิดว่าคงเป็นเพราะติดเชื้อก็ได้ไปหาหมอฟันๆก็บอกว่าไม่มีปัญหา หลังจากทานยาปฏิชีวนะอาการบวมก็ไม่ยุบไป ในขณะเดียวกันก็ได้พบตุ่มเล็กๆทางด้านขวาของลำคอ ฉันก็บอกแม่ว่าาต่อมไทรอยด์มีปํญหา แม่ก็คิดว่าฉันไร้สาระเพราะในครอบครัวไม่มีใครสักคนที่มีปัญหาของต่อม ไทรอยด์ ด้วยเพราะลางสังหรณ์ ก็ได้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญให้ทำการตรวจด้วย Papilary Thyroid Carcinoma (เข้าใจว่าคือการตรวจสอบหามะเร็งสักอย่าง) หลังจากขบวนทดสอบต่างๆเสร็จสิ้นลงเขาก็บอกกับฉันว่าเป็นมะเร็ง ตอนนั้นทั้งตัวฉันเองและคู่หมั่นต่างก็ตะลึงงัน เราไม่ได้เผื่อใจไว้ที่จะรับข่าวเช่นนี้ และยอมรับว่าฉันเองก็กลัวเอามากๆ เราก็เลยกำหนดวันรับการผ่าตัดทันที หมอผู้เชี่ยวชาญบอกกับเราว่าต้องหลังจากการผ่าตัดแล้วหมอพยาธิวิทยาจึงจะ ยืนยันได้ว่ามันใช่หรือไม่ใช่มะเร็ง เขาเจอก้อนเนื้องอกตูมซีกขวาที่ประกอบด้วยเซลล์ผิดปรกติ และก้อนเนื้องอกเล็กๆกำลังโตทางด้านซ้าย ด้วยเหตุนี้ต่อมไทรอยต์ทั้งหมดต้องถูกตัดออกไป

    พวกเขาบอกฉันว่าหลังจากฉายรังสีสารไอโอดีน ฉันก็จะปลอดภัยและรับรองว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกยาวนาน หลังการรักษาฉันก็เริ่มที่จะค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ ต้องยอมรับกับตัวเองที่ไม่เคยคิดแม้แต่ครั้งเดียวว่าสาเหตุมาจากถั่วเหลือง ที่กินมาเกือบสิบปี โดยเชื่อยังไงมันก็เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ

    ฉันได้พบเว็ปเพจในคอมพิวเตอร์ที่มีข้อความเชื่อมโยงปัญหาของไทรอยต์กับ การบริโภคถั่วเหลืองและการตลาดถั่วเหลืองที่แอบแฝงความชั่วร้ายว่าเป็น อาหารสุขภาพทั้งๆที่จริงแล้วเป็นผลพลอยได้เป็นพิษที่ได้จากอุตสาหกรรมการ ผลิตน้ำมันพืช ต้องบอกว่ามันไร้สาระสิ้นดี ในเมื่อนิตยสารต่างๆที่เกี่ยวกับสุขภาพพลานามัยไม่ได้เอ่ยถึงอันตรายจาก ถั่วเหลืองแม้แต่นิด

    ฉันได้ไปหาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรท่านหนึ่ง เธอเคยผ่านการตรวจหามะเร็งไทรอยต์ในปี ค.ศ. 1985 ได้บอกกับฉันว่าถั่งเหลืองเป็นตัวร้ายตัวเจ้าปัญหา เธอได้รับการผ่าตัดมดลูกเนื่องจากมีซิสและปัญหาอื่นๆ หลังจากนั้นสักสองสามเดือนคนที่ฉันคุ้นเคยอีกคนที่ทานถั่วเหลืองก็เป็น มะเร็งต่อมไทรอยต์ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในประเทศอังกฤษที่รู้จักกันผ่านชมรมมะเร็งไทรอยต์ใน อินเตอร์เน็ต ก็เพิ่งจะรับการผ่าตัดและเธอก็มีอายุเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้นเอง

    เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?????????????????

    มะเร็งทรวงอกเกี่ยวโยงกับเอสโตรเจน อะไรที่เล่นตลกกับเอสโตรเจนในร่างกายของสตรี ถั่วเหลือง ไง
    แต่ฉันไม่เคยสงสัยถั่วเหลืองเลย เพราะถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่เคยเจอบทความสักชิ้นแม้ครั้งเดียวที่พูดถึงถั่ว เหลืองว่าเป็นพิษเป็นอันตราย สตรีที่ทานถั่วเหลืองอยู่ก่อนแล้วก่อนที่จะมีปํญหาของไทรอยต์ ก็คงจะทานต่อเนื่องไปเรื่อยๆเป็นปรกติ ถ้าหากเธอไม่รู้มาก่อนว่าจริงแล้วถั่วเหลืองก่ออะไรได้บ้าง มันประกอบด้วยสารอะไร และมันมีปฏิกิริยาต่อร่างกายสตรีอย่างไร ฉันเชื่อว่านี่ป็นเหตุผลที่สตรีที่เป็นมะเร็งไทรอยต์ที่มักจะพัฒนาจนกลาย เป็นมะเร็งเต้านมในเวลาต่อมา

    เพื่อนร่วมงานของฉันคนหนึ่งเป็นผู้ที่โปรดปรานทานถั่วเหลืองเอามาก และ ฉันก็เห็นผมเธอล่วงและน้ำหนักตัวเพิ่มทั้งๆที่เดินออกกำลังกายช่วงหยุดพัก และหลังเลิกงาน ทานเอ๊ปเปิลและส้มเป็นอาหารเที่ยง เธอผู้นี้ก็เพิ่งจะตัดซิสจากมดลูกเช่นกัน

    ฉันเตือนเธอให้เลิกทานถั่วเหลือง และแนะให้ดูเว๊ปไซ้ทดังกล่าว ดูเหมือนว่าบรรดาผู้หญิงทั้งหลายคงจะต้องทนทุกข์ทรมานต่อไปจนกว่าจะ ปรากฎเป็นเรื่องเป็นราวในข่าวทั้งสี่เครือข่ายการสื่อสาร นับตั้งแต่ผ่าตัดเอาไทรอยต์ออก ฉันก็ไม่เคยแตะถั่วเหลืองมาเป็นเวลาสองปีแล้ว

    ถึงท่านผู้อ่านทั้งหลาย เรื่องราวของฉันคงเป็นประโยชน์กับผู้คนทั้งหลายไม่มากก็น้อย กรุณาบอกกล่าวต่อๆกันไปด้วย ยังมีเด็กสาวๆอีกมากมายที่ทานถั่วเหลืองโดยเชื่อว่าเป็นการวิธีหนึ่งในการ ดูแลตนเอง และผู้หญิงทั้งอีกหลายที่ทานเพราะต้องการที่จะมีสุขภาพที่ดี มันไม่ยุติธรรมเลยที่ข้อมูลที่พูดถึงอันตรายจากถั่วเหลืองไม่ได้รับการเผย แพร่ให้กว้างขวางและทั่วถึง มันน่าเศร้าไม่น้อยที่มีผู้คนอีกมากมายที่อยู่ข้างนอกนั้นต่างก็รู้สึกเช่น นี้ มันเป็นการสูญเสียที่ร้ายแรงเมื่อเรามาได้รู้ว่าเราไม่ได้มีสุขภาพดีอย่าง ที่คิด และข้อมูลที่เรายึดถือปฏิบัติมันก็ผิด
    ที่มา http://www.whatphone.net/forum/viewtopic.php?t=6792

    [​IMG] 10/11/2006 13:54
    สำหรับผู้หญิงนั้น นมถั่วเหลือง เหมาะที่สุด เพราะในนมถั่วเหลืองนอกจากจะ ได้โปรตีนจากพืชซึ่งเป็นโปรตีนที่ถูกต้องแล้ว ในนมถั่วเหลืองก็มีแคลเซียม และที่สำคัญมีฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง จะทำให้ผู้หญิงมี ผิวพรรณดี โดยเฉพาะผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน ซึ่งปริมาณเอสโตรเจนในร่าง กายจะลดลงนั้น การดื่มนมถั่วเหลืองจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้ โอกาสที่จะเกิดอาการผิดปกติต่างๆ ในวัยใกล้หมดประจำเดือนลดน้อยลง ปริมาณที่ เหมาะสมสำหรับการดื่มนมถั่วเหลืองคือ วันละหนึ่งแก้ว และหากจะให้ได้ ประโยชน์สูงสุดควรดื่มในเวลาที่ท้องว่าง คือก่อนหรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง ควรดื่มในเวลาท้องว่าง เพราะในนมถั่วเหลือจะมีไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่แข็งแรงมากฉะนั้นถ้ากินพร้อมมื้ออาหารจะทำให้การย่อยและการดูดซึมสารอาหารในมื้อ นั้นๆ ตกลง อย่างไรก็ตามนมถั่วเหลืองอาจไม่เหมาะที่จะให้ผู้ชายดื่มทุกๆ วัน เนื่องจะ การเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงให้กับผู้ชายในปริมาณมาก เกินไป จะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศชายทำให้ผลิต สเปิร์มน้อยลงและมีลูก ยาก
    http://www.thaimission.com/modules.php?name=News&file=article&sid=361
    <!--{IBF.POLL}--><SCRIPT type=text/javascript> </SCRIPT><!--Begin Msg Number 62055--><TABLE style="BORDER-BOTTOM: #a0a0a0 1px solid; TEXT-ALIGN: left; BORDER-LEFT: #a0a0a0 1px solid; MARGIN: 20px auto; WIDTH: 870px; CLEAR: both; BORDER-TOP: #a0a0a0 1px solid; BORDER-RIGHT: #a0a0a0 1px solid" cellSpacing=1><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #a0a0a0 1px solid" class=row2 vAlign=top width="99%">
    นักเรียนอนุบาล PhraDhamma_son
    จำนวนความเห็น: 25


    ความคิดเห็น #1 |
    </TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left; PADDING-BOTTOM: 15px; PADDING-LEFT: 15px; PADDING-RIGHT: 15px; PADDING-TOP: 15px" id=post-main-62055 class=post2 vAlign=top width=700><!-- THE POST 62055 -->ผู้หญิงคนหนึ่งกับเรื่องของถั่วเหลือง

    คุณผู้ชายทุกท่าน ขอให้ส่งข้อความนี้ถึงเพื่อนหญิงของท่านทุกๆคน.....เพราะมันอาจจะช่วยชีวิตพวกเธอเหล่านั้นได้

    บางสิ่งบางอย่างที่ควรแก่การใส่ใจไว้บ้าง เรื่องที่จะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องจริงที่ไม่มีการดัดแปลงเติมแต่งแก้ไขแต่ ประการใด ทุกๆอย่างเป็นความจริงเพราะมันเกี่ยวกับประสบการณ์ของฉันเองโคยตรง และความคิดเห็นที่ได้จากการอ่านและสัมผัสกับสิ่งต่างๆที่ผ่านมา ฉันกำลังจะบอกเล่าประสบการณ์ต่างๆเหล่านี้ให้กับสาวๆที่สนใจเรื่องของสุขภาพ แต่กำลังทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว

    ตัวฉันเองจบการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนแห่งหนึ่งใน รัฐเท็กซัสในปี ค.ศ.1989 และก็ไม่รั้งรอที่จะก้าวต่อไปยังเมืองอันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ฉันต้องการเปลี่ยนแปลงดัวเอง นั้นคือการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

    ทันทีที่ก้าวเข้าสู่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ด้วยที่ตระหนักถึงเรื่องของสุขภาพเป็นหลัก ฉันก็เริ่มปฏิบัติการลงมือเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายด้วยการทาน อาหารสุขภาพที่ดีที่สุดที่จะหาได้ เต้าหู้เป็นส่วนประกอบหลักของอาหารสุขภาพทุกจาน และฉันก็ซื้อน้ำเต้าหู้เกือบทุกวันมาทานร่วมกับอาหารเกือบทุกอย่างจากอาหาร เช้าประเภทธัญพืชถึงน้ำผลไม้ปั่น หรือไม่ก็ดื่มกินเป็นอาหารว่าง ฉันซื้อขนมปังมัฟฟิ้นก็ทำจากถั่วเหลือง ซุปมิโซะใส่เต้าหู้ ถั่วเหลือง และ ถั่วงอกที่เพาะจากถั่วเหลือง เป็นต้น เนื้อหาในนิตยสารสุขภาพและเสริมสมรรถภาพร่างกายฉบับต่างๆกล่าวถึงคุณ ประโยชน์ของถั่วเหลืองในการป้องกันสารพัดอย่างตั้งแต่โรคหัวใจยันมะเร็ง เต้านม สารสกัด isoflavones จากถั่วเหลือง และโฮโมนที่มีคุณสมบัติคล้าย แอสโตรเจน ต่างก็ทำหน้าที่ช่วยให้คุณหนุ่มแน่นและสุขอนามัยสมบรูณ์ ตัวฉันเองต้องบอกว่าแข็งแรงดูดียอดเยี่อม ด้วยการออกกำลังกายตลอดเวลา แต่รอบเดือนของฉันกลับไม่มาตามปรกติ ในวัยแค่ 20 ฉันเริ่มต้องทานยาคุมกำเนิดเพื่อที่จะควบคุมการมาของรอบเดือน

    นอกเหนือจากนั้น ฉันยังต้องทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดช่วงมีประจำเดือน เนื้อตัวของฉันเริ่มที่จะบวมเหมือนกับว่ากล้ามเนื้อจะล้า ฉันเริ่มจะโศรกเศร้าหดหู่และเริ่มมีอาการรู้สึกเนื้อตัวร้อนวูบวาบ ที่แรกก็เข้าใจว่าเรื่องเพี้ยนๆทั้งหมดที่เกิดคงเป็นอาการที่เรียกว่า PMS (a syndrome that occurs in many women from 2 to 14 days before the onset of menstruation (premenstrual syndrome) อาการที่เกิดกับผู้หญิงส่วนใหญ่ช่วง 2 ถึง 14 วันก่อนจะมีประจำเดือน) เนื่องจากเห็นว่าประจำเดือนมาผิดปรกติอยู่แล้ว ถ้าว่าเมื่อถึงอายุ 25 ปี อาการแย่ลงมาก จนเดินไม่ได้
    ยาเม็ดคุมกำเนิดที่ทานอยู่ไม่เคยสามารถที่จะช่วยทำให้มันมาปรกติหรือ ลดอาการเจ็บปวดได้ ฉันก็เลยตัดสินใจเลิกทาน อาการเช่นนี้เป็นอยู่ต่อไปอีกสองปีจนเริ่มรู้ว่าความเจ็บปวดที่เป็นอยู่ไม่ ใช่ธรรมดาซะแล้ว ตอนอายุ 27 สูตินารีแพทย์ของฉันได้พบซีสท์สองก้อนขนาดเท่าลูกเทนนิสอยู่ในมดลูก ก็ต้องทำการผ่าตัดเอาออก โชคดีที่มันไม่เป็นเนื้อร้าย หมอก็บอกให้กลับไปทานยาคุมเหมือนเดิมแต่ฉันก็ไม่ได้ทำตาม ในปี ค.ศ. 1998 หมอก็พบก้อนเนื้อที่หน้าอก เป็นอันว่าต้องทำการผ่าตัดอีกครั้งและผลตรวจออกมาก็เช่นกันว่าก้อนเนื้อไม่ เป็นพิษเป็นภัย

    ในเดือนพฤศจิกายนปี ค.ศ. 2000 ต่อมเกิดบวม และ เงือกก็อักเสบ แรกก็คิดว่าคงเป็นเพราะติดเชื้อก็ได้ไปหาหมอฟันๆก็บอกว่าไม่มีปัญหา หลังจากทานยาปฏิชีวนะอาการบวมก็ไม่ยุบไป ในขณะเดียวกันก็ได้พบตุ่มเล็กๆทางด้านขวาของลำคอ ฉันก็บอกแม่ว่าาต่อมไทรอยด์มีปํญหา แม่ก็คิดว่าฉันไร้สาระเพราะในครอบครัวไม่มีใครสักคนที่มีปัญหาของต่อม ไทรอยด์ ด้วยเพราะลางสังหรณ์ ก็ได้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญให้ทำการตรวจด้วย Papilary Thyroid Carcinoma (เข้าใจว่าคือการตรวจสอบหามะเร็งสักอย่าง) หลังจากขบวนทดสอบต่างๆเสร็จสิ้นลงเขาก็บอกกับฉันว่าเป็นมะเร็ง ตอนนั้นทั้งตัวฉันเองและคู่หมั่นต่างก็ตะลึงงัน เราไม่ได้เผื่อใจไว้ที่จะรับข่าวเช่นนี้ และยอมรับว่าฉันเองก็กลัวเอามากๆ เราก็เลยกำหนดวันรับการผ่าตัดทันที หมอผู้เชี่ยวชาญบอกกับเราว่าต้องหลังจากการผ่าตัดแล้วหมอพยาธิวิทยาจึงจะ ยืนยันได้ว่ามันใช่หรือไม่ใช่มะเร็ง เขาเจอก้อนเนื้องอกตูมซีกขวาที่ประกอบด้วยเซลล์ผิดปรกติ และก้อนเนื้องอกเล็กๆกำลังโตทางด้านซ้าย ด้วยเหตุนี้ต่อมไทรอยต์ทั้งหมดต้องถูกตัดออกไป

    พวกเขาบอกฉันว่าหลังจากฉายรังสีสารไอโอดีน ฉันก็จะปลอดภัยและรับรองว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกยาวนาน หลังการรักษาฉันก็เริ่มที่จะค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ ต้องยอมรับกับตัวเองที่ไม่เคยคิดแม้แต่ครั้งเดียวว่าสาเหตุมาจากถั่วเหลือง ที่กินมาเกือบสิบปี โดยเชื่อยังไงมันก็เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ

    ฉันได้พบเว็ปเพจในคอมพิวเตอร์ที่มีข้อความเชื่อมโยงปัญหาของไทรอยต์กับ การบริโภคถั่วเหลืองและการตลาดถั่วเหลืองที่แอบแฝงความชั่วร้ายว่าเป็น อาหารสุขภาพทั้งๆที่จริงแล้วเป็นผลพลอยได้เป็นพิษที่ได้จากอุตสาหกรรมการ ผลิตน้ำมันพืช ต้องบอกว่ามันไร้สาระสิ้นดี ในเมื่อนิตยสารต่างๆที่เกี่ยวกับสุขภาพพลานามัยไม่ได้เอ่ยถึงอันตรายจาก ถั่วเหลืองแม้แต่นิด

    ฉันได้ไปหาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรท่านหนึ่ง เธอเคยผ่านการตรวจหามะเร็งไทรอยต์ในปี ค.ศ. 1985 ได้บอกกับฉันว่าถั่งเหลืองเป็นตัวร้ายตัวเจ้าปัญหา เธอได้รับการผ่าตัดมดลูกเนื่องจากมีซิสและปัญหาอื่นๆ หลังจากนั้นสักสองสามเดือนคนที่ฉันคุ้นเคยอีกคนที่ทานถั่วเหลืองก็เป็น มะเร็งต่อมไทรอยต์ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในประเทศอังกฤษที่รู้จักกันผ่านชมรมมะเร็งไทรอยต์ใน อินเตอร์เน็ต ก็เพิ่งจะรับการผ่าตัดและเธอก็มีอายุเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้นเอง

    เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?????????????????

    มะเร็งทรวงอกเกี่ยวโยงกับเอสโตรเจน อะไรที่เล่นตลกกับเอสโตรเจนในร่างกายของสตรี ถั่วเหลือง ไง
    แต่ฉันไม่เคยสงสัยถั่วเหลืองเลย เพราะถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่เคยเจอบทความสักชิ้นแม้ครั้งเดียวที่พูดถึงถั่ว เหลืองว่าเป็นพิษเป็นอันตราย สตรีที่ทานถั่วเหลืองอยู่ก่อนแล้วก่อนที่จะมีปํญหาของไทรอยต์ ก็คงจะทานต่อเนื่องไปเรื่อยๆเป็นปรกติ ถ้าหากเธอไม่รู้มาก่อนว่าจริงแล้วถั่วเหลืองก่ออะไรได้บ้าง มันประกอบด้วยสารอะไร และมันมีปฏิกิริยาต่อร่างกายสตรีอย่างไร ฉันเชื่อว่านี่ป็นเหตุผลที่สตรีที่เป็นมะเร็งไทรอยต์ที่มักจะพัฒนาจนกลาย เป็นมะเร็งเต้านมในเวลาต่อมา

    เพื่อนร่วมงานของฉันคนหนึ่งเป็นผู้ที่โปรดปรานทานถั่วเหลืองเอามาก และ ฉันก็เห็นผมเธอล่วงและน้ำหนักตัวเพิ่มทั้งๆที่เดินออกกำลังกายช่วงหยุดพัก และหลังเลิกงาน ทานเอ๊ปเปิลและส้มเป็นอาหารเที่ยง เธอผู้นี้ก็เพิ่งจะตัดซิสจากมดลูกเช่นกัน

    ฉันเตือนเธอให้เลิกทานถั่วเหลือง และแนะให้ดูเว๊ปไซ้ทดังกล่าว ดูเหมือนว่าบรรดาผู้หญิงทั้งหลายคงจะต้องทนทุกข์ทรมานต่อไปจนกว่าจะ ปรากฎเป็นเรื่องเป็นราวในข่าวทั้งสี่เครือข่ายการสื่อสาร นับตั้งแต่ผ่าตัดเอาไทรอยต์ออก ฉันก็ไม่เคยแตะถั่วเหลืองมาเป็นเวลาสองปีแล้ว

    ถึงท่านผู้อ่านทั้งหลาย เรื่องราวของฉันคงเป็นประโยชน์กับผู้คนทั้งหลายไม่มากก็น้อย กรุณาบอกกล่าวต่อๆกันไปด้วย ยังมีเด็กสาวๆอีกมากมายที่ทานถั่วเหลืองโดยเชื่อว่าเป็นการวิธีหนึ่งในการ ดูแลตนเอง และผู้หญิงทั้งอีกหลายที่ทานเพราะต้องการที่จะมีสุขภาพที่ดี มันไม่ยุติธรรมเลยที่ข้อมูลที่พูดถึงอันตรายจากถั่วเหลืองไม่ได้รับการเผย แพร่ให้กว้างขวางและทั่วถึง มันน่าเศร้าไม่น้อยที่มีผู้คนอีกมากมายที่อยู่ข้างนอกนั้นต่างก็รู้สึกเช่น นี้ มันเป็นการสูญเสียที่ร้ายแรงเมื่อเรามาได้รู้ว่าเราไม่ได้มีสุขภาพดีอย่าง ที่คิด และข้อมูลที่เรายึดถือปฏิบัติมันก็ผิด
    ที่มา http://www.whatphone.net/forum/viewtopic.php?t=6792

    [​IMG] 10/11/2006 13:54
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. satu_satu

    satu_satu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +5
    (deejai)ขอบคุณขอมูลดีๆครับ
     
  12. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ตอบคุณบุญส่งมา

    ความจริงของถั่วเหลืองที่ต้องอ่าน ให้คุณหรือโทษ

    1

    นักวิจัยชี้! ชายกินถั่วเหลืองเสี่ยงเป็นหมัน

    <NOSCRIPT></NOSCRIPT>โดย suvimon | วันที่ 25 กรกฎาคม 2551<SCRIPT type=text/javascript>//<![CDATA[document.write('<iframe src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http%3A%2F%2Fwww.thaihealth.or.th%2Fnode%2F5132&layout=standard&show_faces=false&width=300&action=like&colorscheme=light&height=35" scrolling="no" frameborder="0" style="border:none; overflow:hidden; width:300px; height:35px;" allowTransparency="true"></iframe>');//]]></SCRIPT> <IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 300px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http%3A%2F%2Fwww.thaihealth.or.th%2Fnode%2F5132&layout=standard&show_faces=false&width=300&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>
    เผยกินเพียง 2 วัน ครั้งหั่นจำนวนอสุจิไปเกือบครึ่ง<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    นักวิจัยอังกฤษระบุผู้ชายบริโภคผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการมีบุตรได้ พบผู้ชายบริโภคอาหารมีถั่วเหลืองเพียง 1 ครั้ง ในทุกๆ 2 วัน หั่นจำนวนอสุจิไปเกือบครึ่งจากระดับปรกติที่ 80-120 ล้านตัวต่อมิลลิลิตร เหลือค่าเฉลี่ยไม่ถึง 41 ล้านตัว<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    วารสารการเจริญพันธุ์มนุษย์เปิดเผยผลการศึกษาของนักวิจัย ซึ่งนำทีมโดย ดร.จอร์จ ชาวาร์โร แห่งวิทยาลัยสาธารณสุขฮาร์วาร์ด สะท้อนผลลัพธ์ที่อาจทำให้ผู้ชายต้องระมัดระวังตัวกันอยู่บ้าง หากคิดจะดื่มนมถั่วเหลืองหรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองทั้งหลาย เมื่อพบว่าอาหารที่มีถั่วเหลืองเป็นส่วนผสมอาจทำให้จำนวนอสุจิลดลงไปได้ถึงครึ่งหนึ่ง โดยพบผู้ชายเหลือปริมาณอสุจิเฉลี่ยน้อยกว่า 41 ล้านตัวต่อปริมาณน้ำอสุจิ 1 มิลลิลิตร หลังบริโภคอาหารมีถั่วเหลืองเพียง 1 ครั้งในทุกๆ 2 วัน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    นักวิจัยเชื่อว่า ฮอร์โมนเอสโตรเจน (oestrogens) ในอาหารต่างๆ ซึ่งอาจเป็นน้ำนมและเครื่องดื่มผสมถั่วเหลือง และเต้าหู้ อาจไปแทรกแซงการส่งสัญญาณของฮอร์โมน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    การศึกษาดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเคยมีผลที่ตรงกันข้ามระหว่างการศึกษาในสัตว์และมนุษย์ โดยหลายการศึกษาในสัตว์แสดงให้เห็นว่าการได้รับเคมีจากถั่วเหลืองเป็นปริมาณมาก สามารถส่งผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ได้ ในขณะที่การศึกษาการบริโภคผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองในมนุษย์ให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อย่างไรก็ดี ในการศึกษาใหม่ซึ่งเป็นการศึกษาผู้ชาย 99 คน ที่เข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยากในคลีนิกแห่งหนึ่ง และได้ให้ตัวอย่างน้ำอสุจิไว้ให้ผลสนับสนุนการศึกษาในสัตว์<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ทั้งนี้ ในการศึกษานักวิจัยได้แบ่งผู้ชายออกเป็น 4 กลุ่ม ตามปริมาณการบริโภคผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง จากนั้นได้เปรียบเทียบปริมาณอสุจิเมื่อมีการบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของถั่วเหลืองมากที่สุดกับการบริโภคปริมาณน้อยที่สุด จนพบความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด โดยปริมาณอสุจิปรกติของผู้ชายจะอยู่ระหว่าง 80-120 ล้านตัวต่อมิลลิลิตร แต่ผลที่ได้พบว่าผู้ชายที่รับประทานอาหารถั่วเหลืองเฉลี่ย 1 ครั้งในทุกๆ 2 วัน มีปริมาณต่ำกว่า 41 ล้านตัว<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อย่างไรก็ตาม ผลยังมีเสียงคัดค้านจากผู้เชี่ยวชาญบางรายอยู่บ้าง ว่าผู้ชายส่วนใหญ่ในเอเชียบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารจากถั่วเหลืองเป็นปริมาณมากกว่า แต่ไม่พบว่ากระทบต่อการเจริญพันธุ์แต่อย่างใด<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ตอบ ไม่เห็นด้วยกับบทความนี้ครับ เนื่องด้วยจากประสบการณ์ของผมกลับเป็นตรงกันข้าม ผมเคยแนะนำผู้ที่มีปัญหามีบุตรยาก(เป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล) จากเชื้ออสุจิไม่สมบูรณ์ มีจำนวนน้อย ผมได้แนะนำให้ดื่มนมถั่วเหลือง วันละ2-3กล่องเป็นประจำอย่าให้ขาด แล้วนัดให้นำน้ำอสุจิมาตรวจประมาณเดือนละครั้ง พบว่าเชื้ออสุจิสมบูรณ์ขึ้น ค่อยๆมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ใช้เวลารักษาอยู่นานประมาณ6เดือน ก็สมหวังมีบุตรน่ารักขึันมาจริงๆ มีตัวตนยืนยันได้จริง


    ผู้หญิงคนหนึ่งกับเรื่องของถั่วเหลือง

    คุณผู้ชายทุกท่าน ขอให้ส่งข้อความนี้ถึงเพื่อนหญิงของท่านทุกๆคน.....เพราะมันอาจจะช่วยชีวิตพวกเธอเหล่านั้นได้

    บางสิ่งบางอย่างที่ควรแก่การใส่ใจไว้บ้าง เรื่องที่จะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องจริงที่ไม่มีการดัดแปลงเติมแต่งแก้ไขแต่ ประการใด ทุกๆอย่างเป็นความจริงเพราะมันเกี่ยวกับประสบการณ์ของฉันเองโคยตรง และความคิดเห็นที่ได้จากการอ่านและสัมผัสกับสิ่งต่างๆที่ผ่านมา ฉันกำลังจะบอกเล่าประสบการณ์ต่างๆเหล่านี้ให้กับสาวๆที่สนใจเรื่องของสุขภาพ แต่กำลังทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว

    ตัวฉันเองจบการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนแห่งหนึ่งใน รัฐเท็กซัสในปี ค.ศ.1989 และก็ไม่รั้งรอที่จะก้าวต่อไปยังเมืองอันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ฉันต้องการเปลี่ยนแปลงดัวเอง นั้นคือการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

    ทันทีที่ก้าวเข้าสู่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ด้วยที่ตระหนักถึงเรื่องของสุขภาพเป็นหลัก ฉันก็เริ่มปฏิบัติการลงมือเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายด้วยการทาน อาหารสุขภาพที่ดีที่สุดที่จะหาได้ เต้าหู้เป็นส่วนประกอบหลักของอาหารสุขภาพทุกจาน และฉันก็ซื้อน้ำเต้าหู้เกือบทุกวันมาทานร่วมกับอาหารเกือบทุกอย่างจากอาหาร เช้าประเภทธัญพืชถึงน้ำผลไม้ปั่น หรือไม่ก็ดื่มกินเป็นอาหารว่าง ฉันซื้อขนมปังมัฟฟิ้นก็ทำจากถั่วเหลือง ซุปมิโซะใส่เต้าหู้ ถั่วเหลือง และ ถั่วงอกที่เพาะจากถั่วเหลือง เป็นต้น เนื้อหาในนิตยสารสุขภาพและเสริมสมรรถภาพร่างกายฉบับต่างๆกล่าวถึงคุณ ประโยชน์ของถั่วเหลืองในการป้องกันสารพัดอย่างตั้งแต่โรคหัวใจยันมะเร็ง เต้านม สารสกัด isoflavones จากถั่วเหลือง และโฮโมนที่มีคุณสมบัติคล้าย แอสโตรเจน ต่างก็ทำหน้าที่ช่วยให้คุณหนุ่มแน่นและสุขอนามัยสมบรูณ์ ตัวฉันเองต้องบอกว่าแข็งแรงดูดียอดเยี่อม ด้วยการออกกำลังกายตลอดเวลา แต่รอบเดือนของฉันกลับไม่มาตามปรกติ ในวัยแค่ 20 ฉันเริ่มต้องทานยาคุมกำเนิดเพื่อที่จะควบคุมการมาของรอบเดือน

    นอกเหนือจากนั้น ฉันยังต้องทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดช่วงมีประจำเดือน เนื้อตัวของฉันเริ่มที่จะบวมเหมือนกับว่ากล้ามเนื้อจะล้า ฉันเริ่มจะโศรกเศร้าหดหู่และเริ่มมีอาการรู้สึกเนื้อตัวร้อนวูบวาบ ที่แรกก็เข้าใจว่าเรื่องเพี้ยนๆทั้งหมดที่เกิดคงเป็นอาการที่เรียกว่า PMS (a syndrome that occurs in many women from 2 to 14 days before the onset of menstruation (premenstrual syndrome) อาการที่เกิดกับผู้หญิงส่วนใหญ่ช่วง 2 ถึง 14 วันก่อนจะมีประจำเดือน) เนื่องจากเห็นว่าประจำเดือนมาผิดปรกติอยู่แล้ว ถ้าว่าเมื่อถึงอายุ 25 ปี อาการแย่ลงมาก จนเดินไม่ได้
    ยาเม็ดคุมกำเนิดที่ทานอยู่ไม่เคยสามารถที่จะช่วยทำให้มันมาปรกติหรือ ลดอาการเจ็บปวดได้ ฉันก็เลยตัดสินใจเลิกทาน อาการเช่นนี้เป็นอยู่ต่อไปอีกสองปีจนเริ่มรู้ว่าความเจ็บปวดที่เป็นอยู่ไม่ ใช่ธรรมดาซะแล้ว ตอนอายุ 27 สูตินารีแพทย์ของฉันได้พบซีสท์สองก้อนขนาดเท่าลูกเทนนิสอยู่ในมดลูก ก็ต้องทำการผ่าตัดเอาออก โชคดีที่มันไม่เป็นเนื้อร้าย หมอก็บอกให้กลับไปทานยาคุมเหมือนเดิมแต่ฉันก็ไม่ได้ทำตาม ในปี ค.ศ. 1998 หมอก็พบก้อนเนื้อที่หน้าอก เป็นอันว่าต้องทำการผ่าตัดอีกครั้งและผลตรวจออกมาก็เช่นกันว่าก้อนเนื้อไม่ เป็นพิษเป็นภัย

    ในเดือนพฤศจิกายนปี ค.ศ. 2000 ต่อมเกิดบวม และ เงือกก็อักเสบ แรกก็คิดว่าคงเป็นเพราะติดเชื้อก็ได้ไปหาหมอฟันๆก็บอกว่าไม่มีปัญหา หลังจากทานยาปฏิชีวนะอาการบวมก็ไม่ยุบไป ในขณะเดียวกันก็ได้พบตุ่มเล็กๆทางด้านขวาของลำคอ ฉันก็บอกแม่ว่าาต่อมไทรอยด์มีปํญหา แม่ก็คิดว่าฉันไร้สาระเพราะในครอบครัวไม่มีใครสักคนที่มีปัญหาของต่อม ไทรอยด์ ด้วยเพราะลางสังหรณ์ ก็ได้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญให้ทำการตรวจด้วย Papilary Thyroid Carcinoma (เข้าใจว่าคือการตรวจสอบหามะเร็งสักอย่าง) หลังจากขบวนทดสอบต่างๆเสร็จสิ้นลงเขาก็บอกกับฉันว่าเป็นมะเร็ง ตอนนั้นทั้งตัวฉันเองและคู่หมั่นต่างก็ตะลึงงัน เราไม่ได้เผื่อใจไว้ที่จะรับข่าวเช่นนี้ และยอมรับว่าฉันเองก็กลัวเอามากๆ เราก็เลยกำหนดวันรับการผ่าตัดทันที หมอผู้เชี่ยวชาญบอกกับเราว่าต้องหลังจากการผ่าตัดแล้วหมอพยาธิวิทยาจึงจะ ยืนยันได้ว่ามันใช่หรือไม่ใช่มะเร็ง เขาเจอก้อนเนื้องอกตูมซีกขวาที่ประกอบด้วยเซลล์ผิดปรกติ และก้อนเนื้องอกเล็กๆกำลังโตทางด้านซ้าย ด้วยเหตุนี้ต่อมไทรอยต์ทั้งหมดต้องถูกตัดออกไป

    พวกเขาบอกฉันว่าหลังจากฉายรังสีสารไอโอดีน ฉันก็จะปลอดภัยและรับรองว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกยาวนาน หลังการรักษาฉันก็เริ่มที่จะค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ ต้องยอมรับกับตัวเองที่ไม่เคยคิดแม้แต่ครั้งเดียวว่าสาเหตุมาจากถั่วเหลือง ที่กินมาเกือบสิบปี โดยเชื่อยังไงมันก็เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ

    ฉันได้พบเว็ปเพจในคอมพิวเตอร์ที่มีข้อความเชื่อมโยงปัญหาของไทรอยต์กับ การบริโภคถั่วเหลืองและการตลาดถั่วเหลืองที่แอบแฝงความชั่วร้ายว่าเป็น อาหารสุขภาพทั้งๆที่จริงแล้วเป็นผลพลอยได้เป็นพิษที่ได้จากอุตสาหกรรมการ ผลิตน้ำมันพืช ต้องบอกว่ามันไร้สาระสิ้นดี ในเมื่อนิตยสารต่างๆที่เกี่ยวกับสุขภาพพลานามัยไม่ได้เอ่ยถึงอันตรายจาก ถั่วเหลืองแม้แต่นิด

    ฉันได้ไปหาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรท่านหนึ่ง เธอเคยผ่านการตรวจหามะเร็งไทรอยต์ในปี ค.ศ. 1985 ได้บอกกับฉันว่าถั่งเหลืองเป็นตัวร้ายตัวเจ้าปัญหา เธอได้รับการผ่าตัดมดลูกเนื่องจากมีซิสและปัญหาอื่นๆ หลังจากนั้นสักสองสามเดือนคนที่ฉันคุ้นเคยอีกคนที่ทานถั่วเหลืองก็เป็น มะเร็งต่อมไทรอยต์ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในประเทศอังกฤษที่รู้จักกันผ่านชมรมมะเร็งไทรอยต์ใน อินเตอร์เน็ต ก็เพิ่งจะรับการผ่าตัดและเธอก็มีอายุเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้นเอง

    เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?????????????????

    มะเร็งทรวงอกเกี่ยวโยงกับเอสโตรเจน อะไรที่เล่นตลกกับเอสโตรเจนในร่างกายของสตรี ถั่วเหลือง ไง
    แต่ฉันไม่เคยสงสัยถั่วเหลืองเลย เพราะถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่เคยเจอบทความสักชิ้นแม้ครั้งเดียวที่พูดถึงถั่ว เหลืองว่าเป็นพิษเป็นอันตราย สตรีที่ทานถั่วเหลืองอยู่ก่อนแล้วก่อนที่จะมีปํญหาของไทรอยต์ ก็คงจะทานต่อเนื่องไปเรื่อยๆเป็นปรกติ ถ้าหากเธอไม่รู้มาก่อนว่าจริงแล้วถั่วเหลืองก่ออะไรได้บ้าง มันประกอบด้วยสารอะไร และมันมีปฏิกิริยาต่อร่างกายสตรีอย่างไร ฉันเชื่อว่านี่ป็นเหตุผลที่สตรีที่เป็นมะเร็งไทรอยต์ที่มักจะพัฒนาจนกลาย เป็นมะเร็งเต้านมในเวลาต่อมา

    เพื่อนร่วมงานของฉันคนหนึ่งเป็นผู้ที่โปรดปรานทานถั่วเหลืองเอามาก และ ฉันก็เห็นผมเธอล่วงและน้ำหนักตัวเพิ่มทั้งๆที่เดินออกกำลังกายช่วงหยุดพัก และหลังเลิกงาน ทานเอ๊ปเปิลและส้มเป็นอาหารเที่ยง เธอผู้นี้ก็เพิ่งจะตัดซิสจากมดลูกเช่นกัน

    ฉันเตือนเธอให้เลิกทานถั่วเหลือง และแนะให้ดูเว๊ปไซ้ทดังกล่าว ดูเหมือนว่าบรรดาผู้หญิงทั้งหลายคงจะต้องทนทุกข์ทรมานต่อไปจนกว่าจะ ปรากฎเป็นเรื่องเป็นราวในข่าวทั้งสี่เครือข่ายการสื่อสาร นับตั้งแต่ผ่าตัดเอาไทรอยต์ออก ฉันก็ไม่เคยแตะถั่วเหลืองมาเป็นเวลาสองปีแล้ว

    ถึงท่านผู้อ่านทั้งหลาย เรื่องราวของฉันคงเป็นประโยชน์กับผู้คนทั้งหลายไม่มากก็น้อย กรุณาบอกกล่าวต่อๆกันไปด้วย ยังมีเด็กสาวๆอีกมากมายที่ทานถั่วเหลืองโดยเชื่อว่าเป็นการวิธีหนึ่งในการ ดูแลตนเอง และผู้หญิงทั้งอีกหลายที่ทานเพราะต้องการที่จะมีสุขภาพที่ดี มันไม่ยุติธรรมเลยที่ข้อมูลที่พูดถึงอันตรายจากถั่วเหลืองไม่ได้รับการเผย แพร่ให้กว้างขวางและทั่วถึง มันน่าเศร้าไม่น้อยที่มีผู้คนอีกมากมายที่อยู่ข้างนอกนั้นต่างก็รู้สึกเช่น นี้ มันเป็นการสูญเสียที่ร้ายแรงเมื่อเรามาได้รู้ว่าเราไม่ได้มีสุขภาพดีอย่าง ที่คิด และข้อมูลที่เรายึดถือปฏิบัติมันก็ผิด
    ที่มา http://www.whatphone.net/forum/viewtopic.php?t=6792

    [​IMG] 10/11/2006 13:54
    สำหรับผู้หญิงนั้น นมถั่วเหลือง เหมาะที่สุด เพราะในนมถั่วเหลืองนอกจากจะ ได้โปรตีนจากพืชซึ่งเป็นโปรตีนที่ถูกต้องแล้ว ในนมถั่วเหลืองก็มีแคลเซียม และที่สำคัญมีฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง จะทำให้ผู้หญิงมี ผิวพรรณดี โดยเฉพาะผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน ซึ่งปริมาณเอสโตรเจนในร่าง กายจะลดลงนั้น การดื่มนมถั่วเหลืองจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้ โอกาสที่จะเกิดอาการผิดปกติต่างๆ ในวัยใกล้หมดประจำเดือนลดน้อยลง ปริมาณที่ เหมาะสมสำหรับการดื่มนมถั่วเหลืองคือ วันละหนึ่งแก้ว และหากจะให้ได้ ประโยชน์สูงสุดควรดื่มในเวลาที่ท้องว่าง คือก่อนหรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง ควรดื่มในเวลาท้องว่าง เพราะในนมถั่วเหลือจะมีไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่แข็งแรงมากฉะนั้นถ้ากินพร้อมมื้ออาหารจะทำให้การย่อยและการดูดซึมสารอาหารในมื้อ นั้นๆ ตกลง อย่างไรก็ตามนมถั่วเหลืองอาจไม่เหมาะที่จะให้ผู้ชายดื่มทุกๆ วัน เนื่องจะ การเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงให้กับผู้ชายในปริมาณมาก เกินไป จะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศชายทำให้ผลิต สเปิร์มน้อยลงและมีลูก ยาก
    http://www.thaimission.com/modules.php?name=News&file=article&sid=361
    <!--{IBF.POLL}--><SCRIPT type=text/javascript> </SCRIPT><!--Begin Msg Number 62055--><TABLE style="BORDER-BOTTOM: #a0a0a0 1px solid; TEXT-ALIGN: left; BORDER-LEFT: #a0a0a0 1px solid; MARGIN: 20px auto; WIDTH: 870px; CLEAR: both; BORDER-TOP: #a0a0a0 1px solid; BORDER-RIGHT: #a0a0a0 1px solid" cellSpacing=1><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #a0a0a0 1px solid" class=row2 vAlign=top width="99%">
    นักเรียนอนุบาล PhraDhamma_son
    จำนวนความเห็น: 25


    ความคิดเห็น #1 |

    </TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left; PADDING-BOTTOM: 15px; PADDING-LEFT: 15px; PADDING-RIGHT: 15px; PADDING-TOP: 15px" id=post-main-62055 class=post2 vAlign=top width=700><!-- THE POST 62055 -->ผู้หญิงคนหนึ่งกับเรื่องของถั่วเหลือง

    คุณผู้ชายทุกท่าน ขอให้ส่งข้อความนี้ถึงเพื่อนหญิงของท่านทุกๆคน.....เพราะมันอาจจะช่วยชีวิตพวกเธอเหล่านั้นได้

    บางสิ่งบางอย่างที่ควรแก่การใส่ใจไว้บ้าง เรื่องที่จะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องจริงที่ไม่มีการดัดแปลงเติมแต่งแก้ไขแต่ ประการใด ทุกๆอย่างเป็นความจริงเพราะมันเกี่ยวกับประสบการณ์ของฉันเองโคยตรง และความคิดเห็นที่ได้จากการอ่านและสัมผัสกับสิ่งต่างๆที่ผ่านมา ฉันกำลังจะบอกเล่าประสบการณ์ต่างๆเหล่านี้ให้กับสาวๆที่สนใจเรื่องของสุขภาพ แต่กำลังทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว

    ตัวฉันเองจบการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนแห่งหนึ่งใน รัฐเท็กซัสในปี ค.ศ.1989 และก็ไม่รั้งรอที่จะก้าวต่อไปยังเมืองอันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ฉันต้องการเปลี่ยนแปลงดัวเอง นั้นคือการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

    ทันทีที่ก้าวเข้าสู่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ด้วยที่ตระหนักถึงเรื่องของสุขภาพเป็นหลัก ฉันก็เริ่มปฏิบัติการลงมือเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายด้วยการทาน อาหารสุขภาพที่ดีที่สุดที่จะหาได้ เต้าหู้เป็นส่วนประกอบหลักของอาหารสุขภาพทุกจาน และฉันก็ซื้อน้ำเต้าหู้เกือบทุกวันมาทานร่วมกับอาหารเกือบทุกอย่างจากอาหาร เช้าประเภทธัญพืชถึงน้ำผลไม้ปั่น หรือไม่ก็ดื่มกินเป็นอาหารว่าง ฉันซื้อขนมปังมัฟฟิ้นก็ทำจากถั่วเหลือง ซุปมิโซะใส่เต้าหู้ ถั่วเหลือง และ ถั่วงอกที่เพาะจากถั่วเหลือง เป็นต้น เนื้อหาในนิตยสารสุขภาพและเสริมสมรรถภาพร่างกายฉบับต่างๆกล่าวถึงคุณ ประโยชน์ของถั่วเหลืองในการป้องกันสารพัดอย่างตั้งแต่โรคหัวใจยันมะเร็ง เต้านม สารสกัด isoflavones จากถั่วเหลือง และโฮโมนที่มีคุณสมบัติคล้าย แอสโตรเจน ต่างก็ทำหน้าที่ช่วยให้คุณหนุ่มแน่นและสุขอนามัยสมบรูณ์ ตัวฉันเองต้องบอกว่าแข็งแรงดูดียอดเยี่อม ด้วยการออกกำลังกายตลอดเวลา แต่รอบเดือนของฉันกลับไม่มาตามปรกติ ในวัยแค่ 20 ฉันเริ่มต้องทานยาคุมกำเนิดเพื่อที่จะควบคุมการมาของรอบเดือน

    นอกเหนือจากนั้น ฉันยังต้องทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดช่วงมีประจำเดือน เนื้อตัวของฉันเริ่มที่จะบวมเหมือนกับว่ากล้ามเนื้อจะล้า ฉันเริ่มจะโศรกเศร้าหดหู่และเริ่มมีอาการรู้สึกเนื้อตัวร้อนวูบวาบ ที่แรกก็เข้าใจว่าเรื่องเพี้ยนๆทั้งหมดที่เกิดคงเป็นอาการที่เรียกว่า PMS (a syndrome that occurs in many women from 2 to 14 days before the onset of menstruation (premenstrual syndrome) อาการที่เกิดกับผู้หญิงส่วนใหญ่ช่วง 2 ถึง 14 วันก่อนจะมีประจำเดือน) เนื่องจากเห็นว่าประจำเดือนมาผิดปรกติอยู่แล้ว ถ้าว่าเมื่อถึงอายุ 25 ปี อาการแย่ลงมาก จนเดินไม่ได้
    ยาเม็ดคุมกำเนิดที่ทานอยู่ไม่เคยสามารถที่จะช่วยทำให้มันมาปรกติหรือ ลดอาการเจ็บปวดได้ ฉันก็เลยตัดสินใจเลิกทาน อาการเช่นนี้เป็นอยู่ต่อไปอีกสองปีจนเริ่มรู้ว่าความเจ็บปวดที่เป็นอยู่ไม่ ใช่ธรรมดาซะแล้ว ตอนอายุ 27 สูตินารีแพทย์ของฉันได้พบซีสท์สองก้อนขนาดเท่าลูกเทนนิสอยู่ในมดลูก ก็ต้องทำการผ่าตัดเอาออก โชคดีที่มันไม่เป็นเนื้อร้าย หมอก็บอกให้กลับไปทานยาคุมเหมือนเดิมแต่ฉันก็ไม่ได้ทำตาม ในปี ค.ศ. 1998 หมอก็พบก้อนเนื้อที่หน้าอก เป็นอันว่าต้องทำการผ่าตัดอีกครั้งและผลตรวจออกมาก็เช่นกันว่าก้อนเนื้อไม่ เป็นพิษเป็นภัย

    ในเดือนพฤศจิกายนปี ค.ศ. 2000 ต่อมเกิดบวม และ เงือกก็อักเสบ แรกก็คิดว่าคงเป็นเพราะติดเชื้อก็ได้ไปหาหมอฟันๆก็บอกว่าไม่มีปัญหา หลังจากทานยาปฏิชีวนะอาการบวมก็ไม่ยุบไป ในขณะเดียวกันก็ได้พบตุ่มเล็กๆทางด้านขวาของลำคอ ฉันก็บอกแม่ว่าาต่อมไทรอยด์มีปํญหา แม่ก็คิดว่าฉันไร้สาระเพราะในครอบครัวไม่มีใครสักคนที่มีปัญหาของต่อม ไทรอยด์ ด้วยเพราะลางสังหรณ์ ก็ได้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญให้ทำการตรวจด้วย Papilary Thyroid Carcinoma (เข้าใจว่าคือการตรวจสอบหามะเร็งสักอย่าง) หลังจากขบวนทดสอบต่างๆเสร็จสิ้นลงเขาก็บอกกับฉันว่าเป็นมะเร็ง ตอนนั้นทั้งตัวฉันเองและคู่หมั่นต่างก็ตะลึงงัน เราไม่ได้เผื่อใจไว้ที่จะรับข่าวเช่นนี้ และยอมรับว่าฉันเองก็กลัวเอามากๆ เราก็เลยกำหนดวันรับการผ่าตัดทันที หมอผู้เชี่ยวชาญบอกกับเราว่าต้องหลังจากการผ่าตัดแล้วหมอพยาธิวิทยาจึงจะ ยืนยันได้ว่ามันใช่หรือไม่ใช่มะเร็ง เขาเจอก้อนเนื้องอกตูมซีกขวาที่ประกอบด้วยเซลล์ผิดปรกติ และก้อนเนื้องอกเล็กๆกำลังโตทางด้านซ้าย ด้วยเหตุนี้ต่อมไทรอยต์ทั้งหมดต้องถูกตัดออกไป

    พวกเขาบอกฉันว่าหลังจากฉายรังสีสารไอโอดีน ฉันก็จะปลอดภัยและรับรองว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกยาวนาน หลังการรักษาฉันก็เริ่มที่จะค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ ต้องยอมรับกับตัวเองที่ไม่เคยคิดแม้แต่ครั้งเดียวว่าสาเหตุมาจากถั่วเหลือง ที่กินมาเกือบสิบปี โดยเชื่อยังไงมันก็เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ

    ฉันได้พบเว็ปเพจในคอมพิวเตอร์ที่มีข้อความเชื่อมโยงปัญหาของไทรอยต์กับ การบริโภคถั่วเหลืองและการตลาดถั่วเหลืองที่แอบแฝงความชั่วร้ายว่าเป็น อาหารสุขภาพทั้งๆที่จริงแล้วเป็นผลพลอยได้เป็นพิษที่ได้จากอุตสาหกรรมการ ผลิตน้ำมันพืช ต้องบอกว่ามันไร้สาระสิ้นดี ในเมื่อนิตยสารต่างๆที่เกี่ยวกับสุขภาพพลานามัยไม่ได้เอ่ยถึงอันตรายจาก ถั่วเหลืองแม้แต่นิด

    ฉันได้ไปหาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรท่านหนึ่ง เธอเคยผ่านการตรวจหามะเร็งไทรอยต์ในปี ค.ศ. 1985 ได้บอกกับฉันว่าถั่งเหลืองเป็นตัวร้ายตัวเจ้าปัญหา เธอได้รับการผ่าตัดมดลูกเนื่องจากมีซิสและปัญหาอื่นๆ หลังจากนั้นสักสองสามเดือนคนที่ฉันคุ้นเคยอีกคนที่ทานถั่วเหลืองก็เป็น มะเร็งต่อมไทรอยต์ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในประเทศอังกฤษที่รู้จักกันผ่านชมรมมะเร็งไทรอยต์ใน อินเตอร์เน็ต ก็เพิ่งจะรับการผ่าตัดและเธอก็มีอายุเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้นเอง

    เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?????????????????

    มะเร็งทรวงอกเกี่ยวโยงกับเอสโตรเจน อะไรที่เล่นตลกกับเอสโตรเจนในร่างกายของสตรี ถั่วเหลือง ไง
    แต่ฉันไม่เคยสงสัยถั่วเหลืองเลย เพราะถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่เคยเจอบทความสักชิ้นแม้ครั้งเดียวที่พูดถึงถั่ว เหลืองว่าเป็นพิษเป็นอันตราย สตรีที่ทานถั่วเหลืองอยู่ก่อนแล้วก่อนที่จะมีปํญหาของไทรอยต์ ก็คงจะทานต่อเนื่องไปเรื่อยๆเป็นปรกติ ถ้าหากเธอไม่รู้มาก่อนว่าจริงแล้วถั่วเหลืองก่ออะไรได้บ้าง มันประกอบด้วยสารอะไร และมันมีปฏิกิริยาต่อร่างกายสตรีอย่างไร ฉันเชื่อว่านี่ป็นเหตุผลที่สตรีที่เป็นมะเร็งไทรอยต์ที่มักจะพัฒนาจนกลาย เป็นมะเร็งเต้านมในเวลาต่อมา

    เพื่อนร่วมงานของฉันคนหนึ่งเป็นผู้ที่โปรดปรานทานถั่วเหลืองเอามาก และ ฉันก็เห็นผมเธอล่วงและน้ำหนักตัวเพิ่มทั้งๆที่เดินออกกำลังกายช่วงหยุดพัก และหลังเลิกงาน ทานเอ๊ปเปิลและส้มเป็นอาหารเที่ยง เธอผู้นี้ก็เพิ่งจะตัดซิสจากมดลูกเช่นกัน

    ฉันเตือนเธอให้เลิกทานถั่วเหลือง และแนะให้ดูเว๊ปไซ้ทดังกล่าว ดูเหมือนว่าบรรดาผู้หญิงทั้งหลายคงจะต้องทนทุกข์ทรมานต่อไปจนกว่าจะ ปรากฎเป็นเรื่องเป็นราวในข่าวทั้งสี่เครือข่ายการสื่อสาร นับตั้งแต่ผ่าตัดเอาไทรอยต์ออก ฉันก็ไม่เคยแตะถั่วเหลืองมาเป็นเวลาสองปีแล้ว

    ถึงท่านผู้อ่านทั้งหลาย เรื่องราวของฉันคงเป็นประโยชน์กับผู้คนทั้งหลายไม่มากก็น้อย กรุณาบอกกล่าวต่อๆกันไปด้วย ยังมีเด็กสาวๆอีกมากมายที่ทานถั่วเหลืองโดยเชื่อว่าเป็นการวิธีหนึ่งในการ ดูแลตนเอง และผู้หญิงทั้งอีกหลายที่ทานเพราะต้องการที่จะมีสุขภาพที่ดี มันไม่ยุติธรรมเลยที่ข้อมูลที่พูดถึงอันตรายจากถั่วเหลืองไม่ได้รับการเผย แพร่ให้กว้างขวางและทั่วถึง มันน่าเศร้าไม่น้อยที่มีผู้คนอีกมากมายที่อยู่ข้างนอกนั้นต่างก็รู้สึกเช่น นี้ มันเป็นการสูญเสียที่ร้ายแรงเมื่อเรามาได้รู้ว่าเราไม่ได้มีสุขภาพดีอย่าง ที่คิด และข้อมูลที่เรายึดถือปฏิบัติมันก็ผิด
    ที่มา http://www.whatphone.net/forum/viewtopic.php?t=6792

    [​IMG] 10/11/2006 13:54

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ตอบ ไม่เห็นด้วยกับบทความนี้ครับ ในปัจจุบันนี้ท่านลองสังเกตุข่าวโฆษณาทางทีวีนะครับ จะเห็นว่ามีแต่โฆษณานมถั่วเหลืองสารพัดยี่ห้อ แสดงถึงว่ามีคนจำนวนมากนิยมดื่มนมถั่วเหลืองมาก น่าจะมีข่าวว่าพบคนเป็นมะเร็งมากมายสิครับ ส่วนเรื่องเต้าหู้นั้นผมไม่ได้สนับสนุนให้รับประทานนะครับ
     
  13. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ปัจจัยหลักที่สำคัญซึ่งทำให้หายมึนหัวและภูมิแพ้คือ น้ำเต้าหู้ หรือนมถั่วเหลืองปริมาณมาก3-5 กล่อง/แก้ว ต่อวันครับ ไข่แดงสุกๆเป็นปัจจัยเสริม หากไม่ชอบไข่ขาวก็เลือกเน้นรับประทานเฉพาะไข่แดงได้ครับ โรคนี้มาจากโดนยุงกัดควรระวังยุงกัดเสมอๆ มิฉะนั้นก็จะเป็นๆหายๆ แต่เมื่อไม่สบายก็ใช้วิธีนี้ต่อสู้กับเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ทุกครั้ง

    ขอให้สุขกายสุขใจครับ
    วสุธรรม
    ป.ล.ขออนุญาตนำมาลงกระทู้ครับ
     
  14. ยี่แปะกง

    ยี่แปะกง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +272
    ผมได้ทดลองให้ ลูกชาย 5 ขวบ ทานนมถั่งเหลือ ( ทำเอง ) ก่อนนอน วันละแก้ว เขามีอาการของภูมิแพ้ เวลาก่อนนอน หรือ หลับไปแล้ว จะชอบ หายใจไม่ค่อยออก ( พยายามเปิดแอร์ เบาๆ ก็แล้ว ก็ยังไม่หาย )

    พอทานไป ไม่นาน ก็พอว่า เขาไม่มีอาการ คัดจมูก หายใจ ไม่ค่อยออกอีกเลย เป้นปกติดี

    ขอขอบคุณ บรมครู และ เจ้าของกระทู้ มากครับ ที่นำเอา ความรู้ดีๆ มาให้
     
  15. สู่วันใหม่

    สู่วันใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +314
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับมีประโยชน์อย่างมากเลย เดี๋ยวจะซื้อไวตามิ้ลยกโหลไว้เลย
     
  16. รจเรข

    รจเรข Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +42
    ขอบคุณคะ
     
  17. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ด้วยความยินดีครับ
    แบบสั้นๆคือ ดื่มนมถั่วเหลืองมากๆ 1วัน เอาน.น ตัวหาร10เท่ากับจำนวนกล่องที่ควรทานต่อ1วัน วันที่1ทานเยอะๆ วันที่2-3ทาน3-5กล่องต่อ1วัน
    อาการมึนงงหัว จะหายตั้งแต่กล่องที่3เป็นต้นไปครับ หายดีแล้วควรทานเป็นประจำ1-3กล่องต่อวัน หายแล้วอาจเป็นใหม่ได้อีกหากโดนยุงกัดอีก ให้ใช้วิธีดังกล่าวจะหายทุกครั้งครับ
     
  18. lemona

    lemona สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +20
    ขอบพระคุณคุณวสุธรรมเป็นอย่างสูงนะคะที่ให้ความรู้ จะลองทานนมถั่วเหลืองเป็นประจำ สามีเป็นภูมิแพ้ แล้วก็ตอนนอนก็ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เป็นเบาหวาน เป็นความดัน หวังว่าคงจะหายในเร็ววัน
    ขออนุโมทนาบุญนะคะ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2705060", true); </SCRIPT>
     
  19. jim1

    jim1 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +5
    นับว่ามีบุญที่ได้มีโอกาสมาอ่านกระทู้นี้ค่ะ เพราะตัวเองและลูกชายวัย 4 ขวบเป็นภูมิแพ้ทั้งคู่ จามไม่ได้เลย น้ำมูกไหลตามติด เหมือนเป็นหวัด แต่ไม่ใช่ ตัวเองเพิ่งเริ่มเป็นตั้งแต่คลอดลูก แพ้อาหาร แพ้ควัน แพ้อากาศ แพ้เมือกปลาบางชนิด ไม่รู้ว่าจะแพ้อะไรต่อไปอีก
    ปัจจุบันทานน้ำเต้าหู้ อิอิ เรียกแบบชาวบ้าน ๆ นะคะ วันละ 1 ถุง พอมาอ่านกระทู้นี้ จะลองเพิ่มปริมาณให้มากขึ้น ที่สงสัยคือ สำหรับลูกชายวัย 4 ขวบ น้ำหนัก 24 ก.ก จะต้องให้ทานปริมาณเท่าไหร่คะ ถ้าเป็นกล่องเล็ก ๆ สำหรับเด็กน่ะค่ะ
    ขออนุโมทนาด้วยนะคะ สำหรับกระทู้ดี ๆ ที่มีประโยชน์มากมาย
     
  20. MonkeyAstro

    MonkeyAstro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +202
    ผมมึนหัวเป็นประจำเลย จะลองซื้อทานเป็นประจำดูนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...