..รักแท้ จะปลุกฟื้นความดี...

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย NAMOBUDDHAYA, 25 มกราคม 2012.

  1. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    ..................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 สิงหาคม 2016
  2. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    ..................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 สิงหาคม 2016
  3. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    ความเข้ากันไม่ได้โดยธาตุ






    ความเข้ากันไม่ได้ หรือความมีเรื่องมีราว มีปากมีเสียงไม่รู้จักจบสิ้น เกิดจากเหตุหลายประการ ทั้งที่ลึกลับและเปิดเผย

    หากพวกคุณมีบาปเวรผูกกันมา การกลั้นใจให้อภัยไปเรื่อยๆอาจช่วยได้ เพราะบาปย่อมหมดกำลังส่งผลเมื่อไม่มีการต่อเวร วันหนึ่งพวกคุณอาจอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุขเมื่อบาปเวรอ่อนกำลังลง กับทั้งได้แรงบุญใหม่ช่วยอุดหนุนให้ความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายสว่างไสวและพร้อมจะหวานชื่นขึ้นกว่าเดิม
    แต่หากพวกคุณมีธาตุนิสัยแตกต่างกัน อันนี้คงแก้ยาก เว้นแต่จะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมละทิฐิมานะ เปลี่ยนแปลงตัวเองตามอีกฝ่ายในทางดี ย้ำว่าต้องเป็นทางดีเท่านั้นนะครับ ถ้าเปลี่ยนไปในทางร้ายจะไม่ช่วยเลย

    ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเรารู้กันอยู่แล้วว่าแรงดึงดูดแบบรักแท้ถาวรต้องสร้างด้วยบุญ ไม่ใช่ด้วยบาป


    การเปลี่ยนแปลงตามกันไปในทางมืด อาจเป็นแรงดึงดูดให้ร่วมหัวจมท้ายกันต่ออีกพักหนึ่ง เพื่อทำเรื่องเลวๆร่วมกันอีก ก่อนจะแปรเป็นพลังผลักออกอย่างรุนแรงและน่ากลัว


    สำหรับคู่ที่รู้ว่าจะไปไม่รอดแน่ อาจเพราะภาพลวงตาที่เข้ากันได้หายไป และกลายเป็นภาพความจริงคือไม่มีอะไรที่ไปด้วยกันได้เลย เช่นนี้คุณควรคิดเองให้ได้ว่า จากกันเสียก่อนจะหมดรัก ดีกว่าหมดรักแล้วค่อยจากกัน
    คำบอกลาที่ดีที่สุด คือคำที่กลั่นออกมาจากน้ำใจ น้ำใจจะเป็นตัวเลือกคำพูดได้ดีที่สุดในโลก
    คำลาที่ประกอบด้วยหยดน้ำตาอาจน่าซึ้งใจ แต่การบอกเลิกด้วยวิธีบีบน้ำตาแสดงละครเยิ่นเย้อจะน่ารำคาญมากกว่ามีประโยชน์ เมื่อคุณทำใจได้ดี ปากก็พูดได้ดีเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องพูดความในใจทั้งหมด ขอเพียงให้ปากตรงกับใจทั้งหมดเถอะ แล้วสติจะอยู่เป็นเพื่อนคุณหลังคุยจบ
    คำพูดลาอาจเป็นคำที่เอ่ยได้ยากที่สุดนับแต่คบกันมา แต่ถ้าคุณไม่ตกลงปลงใจให้เด็ดขาด คุณอาจต้องประสบกับช่วงเวลาลำบากกายลำบากใจที่สุดนับแต่เกิดมาทีเดียว!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 เมษายน 2012
  4. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    [​IMG]
     
  5. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    .................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 เมษายน 2012
  6. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    "...สองธรรมชาติที่ให้แสงสว่างและกำล้งใจแก่โลก...รักแท้บนเส้นขนาน..."




    [​IMG]
     
  7. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    ........................................
     
  8. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    [​IMG]
     
  9. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    [​IMG]
     
  10. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    รักตัวเองเป็น....ก็เป็นการรักคนที่เรารัก เพราะ ไม่ต้องให้เค้าห่วง<!-- google_ad_section_end -->

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->[​IMG]


    รักตัวเองให้เป็น

    เมื่อใดก็ตามที่กระทำสิ่งใดผิดพลาดไป
    ขอจงอย่าลงโทษตัวเอง
    ให้อภัยและทะนุถนอมตัวเองให้มาก ๆ
    ด้วยเหตุผลง่าย ๆ เพียงไม่กี่ข้อ
    ลองคิดดูว่าการลงโทษตัวเองทำให้อะไรดีขึ้นมาบ้าง
    หรือช่วยแก้ไขสิ่งผิดพลาดไปแล้วได้ไหม
    ไม่หรอก

    มันกลับทำให้คุณแย่ลง


    อยากจะบอกว่า ถ้ารักแต่เองไม่เป็นอย่าพึ่งไปรักคนอื่น
    คุณต้องรัก ให้อภัย และเข้าใจตัวเองให้มาก ๆ


    หมั่นให้กำลังใจตัวเองและดูแลจิตใจตนเองให้เข้มแข็ง ทั้งนี้ก็เพื่อตัวเราเองทั้งนั้น<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 เมษายน 2012
  11. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    [​IMG]


    วิธีเดิน บนโลกสุข / บนโลกเศร้า
    วิธีก้าว ข้ามภพ บรรจบสวรรค์
    วิธีรัก วิธีลืม ต่าง / ต่างกัน
    วิธีนั้น เป็นของฉัน / เป็นของเธอ<!-- google_ad_section_end -->
     
  12. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    "คน ที่มีรักแท้ คนที่เจอคนที่รักเราแล้วทุ่มเทสุดชีวิตเนี่ย คุณมีบุญกับเขามามาก เพราะฉะนั้น วันที่มีเขาอยู่ถนอมไว้เถอะ

    หลายคนเลือกที่จะทะเลาะมากกว่าถ<WBR>&shy;นอม เมื่อวันหนึ่งที่ผ่านไปแล้ว
    มันจ<WBR>&shy;ะเรียกร้องคงยาก เขาก็เป็นได้เพียงสายลมที่อยู่ข้<WBR>างตัวคุณเท่านั้นเอง"<!-- google_ad_section_end -->
     
  13. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    ......เนื่องด้วย จิตใจอันงดงาม ของเซียวเหล่งนึ่ง.......

    [​IMG]










    บุคลิกลักษณะของเซียวเหล่งนึ่งนั้นเป็นหญิงที่แสนเย็นชา

    เนื่องจากวิชาประจำสำนักที่นางฝึกปรือมาตั้งแต่เล็ก เน้นการหักห้ามอารมณ์ทั้งเจ็ดและกามคุณทั้งหก

    <SPAN class=indent> ทำให้บ่มเพาะเป็นนิสัยเย็นชากระด้าง เมื่อครั้งยายซุนเสียชีวิต แม้นางได้รับการชุบเลี้ยงดูแลจากยายซุนมาตั้งแต่เล็กจนมีความผูกพันไม่ต่างกับแม่ลูกกัน แต่นางเมื่อเห็นยายซุนกำลังจะสิ้นใจ ใบหน้ายังคงเรียบเฉยปราศจากเค้าความผิดปกติแม้แต่น้อย ฉากนี้ดูเหมือนว่าสาวน้อยนางนี้ ช่างมีจิตใจที่หยาบกระด้างยิ่ง
    แต่ความจริงมิได้เป็นเช่นนั้น เซียวเหล่งนึ่งความจริงแล้วเป็นหญิงที่เปี่ยมล้นไปด้วยน้ำใจ นางมักจะให้อภัยผู้คนที่ทำร้ายนางเสมอ แม้อยู่ภายใต้ใบหน้าที่เย็นชากระด้าง แต่จิตใจของนางนั้นอ่อนโยนนัก


    มีหลายฉากหลายตอนในเรื่อง ที่แสดงออกให้เห็นถึงความใจดีของสาวน้อยนางนี้ ดังจะยกตัวอย่างดังต่อไปนี้


    <SPAN class=indent>
    <SPAN class=indent>เริ่มตั้งแต่การนำนมผึ้งหยกไปให้เตียจี้เก่ง หลังจากเกิดเรื่องที่สำนักชวนจินก่า ยายซุนต้องเสียชีวิตลงที่นั่น นับว่าเป็นเหตุการที่สร้างความบาดหมางคับแค้นระหว่าชวนจินก่ากับสุสานโบราณ แต่เซียวเหล่งนึ่งยังคงนำนมผึ้งที่ใช้รักษาอาการพิษของผึ้งหยกที่เตียจี้เก่งถูกต่อย ไปให้ถึงที่ ศิษย์สำนักชวนจินก่า เห็นเซียวเหล่งนึ่งกับเอี้ยก้วยมา ล้วนวิ่งปราดมาล้อมไว้ ในมือต่างถือกระบี่เพื่อเตียมห้ำหั่น แต่เซียวเหล่งนึ่งกลับนำยามาวางไว้ให้แล้วก็จากไป ทิ้งให้อี่จี้เพ้ง เตียจี้เก่ง และพวกยืนตะลึงลานกับที่ หันไปมองหน้ากันอย่างงุนงง ครั้งนั้นนับว่าเตียจี้เก่งรอดชีวิตไปเพราะความใจดีของเซียวเหล่งนึ่ง
    แต่การช่วยชีวิตเตียจี้เก่งไว้คราวนั้นก็สร้างความลำบากให้แก่นาง เมื่อครั้งที่ เซียวเหล่งนึ่งกับเอี้ยก้วยสยายเสื้อผ้าอยู่ในดงดอกไม้ เพื่อฝึกเคล็ดวิชาสุรางคนางค์ บังเอิญว่า อี่จี้เพ้ง กับเตียจี้เก่ง เดินไปแถวนั้น จนมาได้พบเอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่ง เป็นเหตุทำให้เซียวเหล่งนึ่งธาตุไฟเข้าแทรกบาดเจ็บสาหัส เตียจี้เก่งเห็นสภาพนั้นยังกล่าวหาว่า เซียวเหล่งนึ้งกระทำการไร้ยางอายลอบสมสู่กับชายหนุ่มกลางดินกลางทราย เอี้ยก้วยเห็นอาจารย์อยู่ในสภาพสาหัสและยังได้ยินคำกล่าวหาอันรุนแรง ถึงกับเดือดดานกระโจนเข้าห้ำหั่นกับเตียจี้เก่ง เอี้ยก้วยแม้พลังฝีมือในเวลานั้นจะด้อยกว่าแต่ก็หาทางจนสามารถทำให้เตียจี้เก่งเพรี่ยงพร้ำตกอยู่ภายใต้คมกระบีของเอี้ยก้วยได้ แต่เซียวเหล่งนึ่งก็ได้ห้ามไว้ ตามความตอนนี้
    <SPAN class=indent>
    เอี้ยก้วยเสือกกระบี่หมายแทงใส่ พลันได้ยินเซียวเหล่งนึ่งที่ด้านหลังกล่าวว่า "ก้วยยี้ พิฆาตอาจารย์ไม่เป็นมงคล ท่านให้เขาสาบานว่าจะไม่บ่งบอกเหตุการณ์ในวันนี้ จากนั้น... อภัยละเว้นเขาเถอะ"
    เล่ม 1 หน้า 333​


    <SPAN class=indent>เหตุการคราวนี้นางบาดเจ็บสาหัสแทบเอาชีวิตไม่รอด แต่ยังคงให้อภัยเตียจี้เก่ง และความใจดีของนางที่ปล่อยเตียจี้เก่งไปครั้งนี้ ก็นำพามาซึ่งเภทภัยในภายหน้าอีกด้วย
    <SPAN class=indent>อีกครั้งคือเมื่อตอนลี้มกโช้วกับอั้งเล่งป้อบุกเข้าไปในสุสารโบราณ หวังบีบบังคับให้เซียวเหล่งนึ่งมอบเคล็ดวิชาสุรางคนางค์ให้ ทั้งเอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่งต้องตกอยู่ในห้วงอันตรายหลายครั้งหลายคราจากการมาถึงของลี้มกโช้วในครั้งนี้ ถึงกับต้องตัดสินใจทิ้งศิลาตัดมังกรลงมาปิดทางออก เพราะหวังจะขังตนเองและพวกลี้มกโช้ว ให้ตกตายไปพร้อมกัน แต่ในที่สุดกลับได้พบเจอทางออกอีกทางหนึ่ง ซึ่งทางออกนี้จะต้องดำน้ำออกไป ทางด้านลี้มกโช้วที่ติดตามมา ไม่มีวิชาทางน้ำ แต่ก็อาศัยเกาะรั้งแขนเอี้ยก้วยไม่ยอมปล่อย มาตรแม้นว่าสายน้ำจะพุ่งเข้าปากจมูกของนางจนสินสติไป แต่มือยังคงเกาะที่เอี้ยก้วยแน่น
    <SPAN class=indent>เมื่อออกมาภายนอก ลี้มกโช้วและศิษย์อยู่ในสภาพสิ้นสติ เป็นโอกาสอันดีที่เซียวเหล่งนึ่งสามารถกำจัดนางได้ แต่นางกลับจัดแจ้งวางร่างลี้มกโช้บนหินกลมก้อนหนึ่ง ปล่อยให้น้ำในทองใหลซึมออกจากปากอย่างแช่มช้า เมื่อลี้มกโช้วฟื้นคืนสติ เซียวเหล่งนึ่งกลับบอกเพียงว่า "ซือเจ้ พวกท่านเชิญตามสะดวกเถอะ" นางปล่อยลี้มกโช้วไป เหมือนกับลืมเลือน เรื่องราวที่ลี้มกโชวสร้างความลำบากแก่นางตอนอยู่ภายในสุสานไปหมดสิ้น นี่ก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่นางให้อภัยผู้ที่คิดทำร้ายหมายชีวิตนาง
    และครั้งที่ดูจะหนักหนาสาหัสที่สุดสำหรับชีวิตเซียวเหล่งนึ่ง และเป็นการให้อภัยครั้งที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งของนางคือเมื่อครั้ง ที่นางต้องพบกับความปวดร้าวใจที่สุดในชีวิตลูกผู้หญิง หลังจากที่ทราบความจริงว่าผู้ที่พร้าพรหมจรรย์ของนางไปมิใช่เอี้ยก้วยแต่เป็นอี่จี้เพ้ง นางบังเกิดเป็นความคับแค้นแน่นอก จึงได้เฝ่าติดตาม อี่จี้เพ้งมาเป็นเวลาแรมเดือน จนมาถึงสำนักชวนจินก่า แต่เมื่อถึงเวลา นางก็มิอาจหักใจลงมือฆ่าคนได้ ตามความตอนนี้
    <SPAN class=indent>
    พลังแห่งความแค้นยังรุนแรกกว่ากาลก่อนหลายส่วน ต้องกัดฟันกรอด เสือกกระบี่ข้างขวาแทงใส่อี่จี้เพ้ง เพียงแต่ในชีวิตนาง ไม่เคยฆ่าคน มาตรแม้นคั่งแค้นแน่นอก กระบี่นี้พอแทงถึงเบื้องหน้าทรวงอกอีกฝ่าย กลับไม่อาจแทงเข้าไป
    เล่ม 3 หน้า 315​


    <SPAN class=indent>และในที่สุด ด้วยความใจดีของนาง ก็ยอมให้อภัย ถือว่าทั้งหมดเป็นโชคชะตาที่แสนอาภัพของตนเอง โดยนางได้กล่าวกับเอี้ยก้วย ดังนี้
    "ก้วยยี้ ความบริสุทธิ์ของข้าพเจ้าถูกคนผู้นีเย้ำยีเป็นมลทิน ต่อให้ทุเลาจากอาการบาดเจ็บ ก็ไม่สามารถครองคู่อยู่ร่วมกับท่าน แต่เขา...เขาสละชีวิตช่วยเหลือข้าพเจ้า ท่านก็อย่าได้สร้างความลำบากแก่เขา สรุปแล้วเป็นข้าพเจ้าชะตาอาภัพ"
    เล่ม 3 หน้า 398​


    <SPAN class=indent>อีกครั้งที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน คือเมื่อครั้งที่ก๊วยพู่ไปที่สุสานโบราณและซัดเข็มพิษใส่เซียวเหล่งนึ่ง โดยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นลี้มกโช้ว ความผิดพลาดของก๊วยพู่คราครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก เพราะ พิษของฝ่ามือเบ็ญพิษที่อยู่ในตัวเซียวเหล่งนึ่ง กำลังใหลออกมาตามลมปราณ แต่พอถูกเข็มพิษซัดใส่ พิษย้อนกลับ กระจายไปสู้จุดสำคัญทั้วร่าง เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้มีใบไม้วิเศษโอสถทิพย์ ก็มิอาจรักษาชีวิตนางไว้ได้อีกแล้ว
    <SPAN class=indent>ก่อนนี้เอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งต่อสู้ดิ้นรนท่ามกลางความเป็นตายอย่างลำบากยากเย็น จนคิดค้นวิธีรักษาเซียวเหล่งนึ่งและจัดการกับลี้มกโช้วได้ ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี สุดท้ายทุกสิ่งสลายเป็นอากาศธาตุ เอี้ยก้วยที่เคยแข้มแข็งแกร่งกร้าว ยามนี้ไม่อาจสะกดอดกลั้นสืบไป พลันคุกเข่าลง ฟุบร่างบนโลงหิน เปร่งเสียงร่ำไห้ออกมา เมื่อครั้งที่ก๊วยพู่ตัดแขนเอี้ยก้วยไป เขายังพอให้อภัยได้แต่ครั้งนี้ทำร้ายเซียวเหล่งนึ่งถึงชีวิต แม้จะรู้ว่านางไม่ตั้งใจแต่ก็อดแค้นเคืองไม่ได้ แต่เซียวเหล่งนึ่งกลับบอกว่า
    "ก้วยยี้ พวกเรามีชะตาเช่นนี้ อย่าได้ตัดพ้อตำหนิผู้อื่น ท่านมิต้องคับแค้นใจไปแล้ว"
    เล่ม 3 หน้า 496​


    <SPAN class=indent>เอี้ยก้วยได้ประคองเซียวเหล่งนึ่งออกมาจากสุสานโบราณก่อน ขณะนั้นเป็นเวลาเดียวกับที่เขาจงน้ำและสำนักชวนจินก่าถูกพวกมองโกลเผา เอี้ยก้วยพาเซียวเหล่งนึ่งมานั่งพัก หลังจากนั้นไม่นานก๊วยพู่ออกมา แต่ถูกลี้มกโช้วลอบทำร้าย โดยสกัดจุดแล้วทิ้งให้อยู่ท่ามกลางกองเพลิมรอบด้านที่กำลังรามมาถึง ซึ่งเอี้ยก้วยก็เห็นเหตุการณ์อยู่ นี่เป็นอีกฉากที่แสดงให้เห็นถึงความใจดีของเซียวเหล่งนึ่ง
    เซียวเหล่งนึ่งกล่าวอย่างสงสัยใจ "ก้วยยี้หรือว่าท่านไม่ไปช่วยเหลือนาง?" เอี้ยก้วยกล่าวอย่างแค้นเคืองว่า "นางทำร้ายพวกเราถึงเพียงนี้ ข้าพเจ้าไม่ฆ่านางกับมือ ถิอว่ามีคำว่ากล่าวต่อนางแล้ว" เซียวเหล่งนึ่งทอดถอนใจกล่าวว่า "พวกเราประสบเคราะห์กรรม นับเป็นชะตา ให้ผู้อื่นสุขสำราญ มิใช่ประเสริฐยิ่งหรอกหรือ?"
    เล่ม 3 หน้า 505​


    <SPAN class=indent>เอี้ยก้วยแม้ปากจะบอกอย่างนั้น แต่เมื่อเห็นอัคคีเพลิงใกล้เผาไหม้ถึงตัวก๊วยพู่ จะอย่างไรไม่อาจหักใจอำมหิตได้ กล่าวด้วยความขมขื่นว่า "ตกลงพวกเรามีชะตาอาภัพ ผู้อื่นมีโชคชะตาดี" และก็ลงมือช่วยก๊วยพู่ไว้อีกครั้ง ฉากนี้แสดงให้เห็นว่ามิใช่เพียงเซียวเหล่งนึ่งเท่านั้น เอี้ยก้วยเองก็เป็นอีกคนหนึ่งมีมากไปด้วยน้ำใจ
    เซียวเหล่งนึ่งโดนพิษจู่โจมเข้าถึงภายใน ชีวิตคงจบลงในไม่ช้า แต่ก็หาได้ห่วงแต่ตัวเอง นางพอเห็นอัคคีเพลิงเผาใหม่ ก็อดนึกถึงคนอื่นๆไม่ได้ จึงกล่าวกับเอี้ยก้วยตามนี้
    เซียวเหล่งนึ่งกล่าว "บู๊ซำทง ก๊วยโกวเนี้ยและพวกไม่ทราบจะเผชิญกับทหารมองโกลหรือไม่? นักพรตสำนักชวนจินก่าไม่ทราบหนีเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?" น้ำเสียงแฝงความห่วงใยกังวล เอี้ยก้วยจึงกล่าว "ท่านมีจิตใจดีงามจริงๆ คนเหล่านี้ล้วนกระทำผิดต่อท่าน ท่านยังห่วงหาอาทรไม่ลืมเลือน มิน่าเล่าครั้งกระโน้นซือโจ้วทราบว่าท่านมีจิตใจดีงามเกินไป กลัวว่าภายภาคหน้าท่านได้รับความลำบาก ดังนั้นให้ท่านฝึกฝนถึงขั้นไร้น้ำใจไม่แสวงหา ไม่ว่าเรื่องราวใดไม่ถามไถ่ แต่ท่านพอห่วงใยกังวลข้าพเจ้า การบำเพ็ญภาวนาทั้งสิบกว่าปีล้วนสูญเปล่า บังเกิดความห่วงใยกังวลต่อทุกผู้คนขึ้นมา"
    เล่ม 3 หน้า 507​


    หากมองโดยผิวเผินแล้วเซียวเหล่งนึ่งอาจดูเป็นคนที่เย็นชา ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก แต่ถ้าได้สังเกตุพฤติกรรมตลอดทั้งเรื่อง จะเห็นได้ว่า เซียวเหล่งนึ่งนั้นนอกจากมีวรยุทธที่สูงส่ง มีรูปร่างหน้าตาหมดจดงดงามปานเทพธิดแล้ว จิตใจของนางนั้นก็งดงามสูงส่งไม่แพ้กัน <!--เอี้ยก้วยเข็มแข้งแกร่งกร้าวทั้งสองต่อสู้ดิ้นรนท่ามกลางความเป็นตายอย่างลำบากยากเย็น สุดท้ายทุกสิ่งสลายเป็นอากาศธาตุ ไม่อาจสะกดอดกลั้นสืบไป พลันคุกเข่าลง ฟุบร่างบนโลงหิน เปร่งเสียงร่ำไห้ออกมาแต่ก็รู้อยู่ว่านางไม่ได้ตั้งใจประคองเซียวเหล่งนึ่งออกมาก้วยยี้หรือว่าท่านไม่ไปช่วยเหลือนาง?เอี้ยก้วยกล่าวอย่างแค้นเคืองว่า นางทำร้ายพวกเราถึงเพียงนี้ ข้าพเจ้าไม่ฆ่านางวกับมือ ถิอว่ามีคำว่ากล่าวต่อนางแล้วเซัยวเหล่งนึ่งทอดถอนใจกล่าวว่าพวกเราประสบเคราะห์กรรม นับเป็นชะตา ให้ผู้อื่นสุขสำราญ มิใช่ประเสริฐยิ่งหรอกหรือ?เอี้นยก้วยแม่ปากจะกล่าวแค้งเคืองกล่าวด้วยความขมขื่นว่าตกลงพวกเรามีชะตาอาภัพ ผู้อื่นมีโชคชะตาดีมิใช่เพียงเซียวเหล่งนึ่งเท่านั้น เอี้ยก้วยเองก็เป็นคนหนึ่้งมีมากไปด้วยน้ำใจมองโดยผิวเผินแล้วหากดูแต่ภายนอกแต่ถ้าได้สังเกตุตลอดเรื่องจะเห้นได้ว่าจิตใจงดงามอย่างยิ่งพฤติกรรมนอกจากมีวรยุทธสูงส่ง มีรูปร่างหน้าตาหมดจดงดงามปานเทพธิดแล้ว จิตใจของนางนั้นก็งดงามไม่แพ้กัน
    ระดับวรยุทธของเอี้ยก้วยนั้นก้าวสู่ชั้นแนวหน้าตั้งแต่สำเร็จวิชากระบี่หนักของต๊กโกวคิ้วป้าย สิ่งที่ยืนยันถึงพลังฝีมือของเอี้ยก้วย นอกจากตอนที่สู้กับกิมลุ้นที่สำนักชวนจินก่าแล้ว ฝีมือของเอี้ยก้วยได้แสดงออกอย่างชัดเจนอีกครั้งเมือประทะกับ ฮิ้วโชยยิ้ม (หลวงจีนชื้ออึง)
    ครานั้น ฮิ้วโชยยิ้มเกิดคลุ้มคลั่งทำร้ายอิดเต็งไต้ซื้อ ทางด้านอิดเต็งไต้ซือความจริงพลังยุทธไม่ได้เป็นรอง ออกจะเหนือกว่าอยู่ขั้นหนึ่งด้วยซ้ำ แต่ท่านไม่ยอมตอบโตกลับ จึงถูกฮิ้วโชยยิ้มซัดฝ่ามือใส่อย่างต่อเนื่อง เอี้ยก้วยทดดูไม่ไหว จึงยื่นมือเข้าขัดขวาง และเกิดการต่อสู้กันขึ้น ถ้าว่ากันตามเนื้อเรื่องฉากนี้อาจไม่มีส่วนสำคัญกับเนื้อเรื่องมากนัก ดูเหมือนกับว่าท่านกิมย้งตั้งใจใส่ฉากต่อสู้นี้มา เพื่อแสดงให้ผู้อ่านได้ทราบถึงระดับฝีมือของเอี้ยก้วยว่ามีระดับใกล้เคียวกับยอดคนในอดีตมาก โดยได้อธิบายไว้ตามนี้
    เพลงกระบี่ชุดนี้เป็นไม้ตายของต๊กโกวคิ้วป้าย มาตรแม้นผ่านกาลเวลานานปี ไม่ได้รับการถ่ายทอดจากผู้อาวุโสท่านนี้โดยตรง แต่เอี้ยก้วยฝึกท่ากระบี่กลางกระแสน้ำป่า รับประทานดีงูเพิ่มพลัง ได้รับการช่วยเหลือจากอินทรีวิเศษ เพลงกระบี่ที่เอี้ยก้วยฝึกปรือ มีส่วนคล้ายคลึงกับกระบี่อสูร ซึ่งครั้งกระโน้นพิชิตโดยไร้ผู้ต่อต้านยิ่ง
    เล่ม 3 หน้า 531​


    อิดเต็งไต้ซือยิ่งชมดูยิ่งตื่นใจ เห็นเอี้ยก้วยเป็นเด็กหนุ่มอายุยี่สิบเศษกลับสู้เสมอกับหัวหน้าพรรคมือเหล็กฮิ้วโชยยิ้ม ด้วยภูมิรู้ของท่านกลับมองไม่ออกว่าเป็นวิชาฝีมือสำนักใด พอเหลือบไปมองที่เซียวเหล่งนึ่งที่ยืนอุ้มทารกอยู่ข้างๆ ก็ครุ่นคิด หญิงนางนี้ท่าทางสูงสง่า ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดุเดือดหาได้แตกตื่นลนลานไม่ แสดงว่านางก็มิใช่ชนชั้นธรรมดา เช่นกัน
    ในที่สุดเอี้ยก้วยก็สามารถชนะฮิ้วโชยยิ้มได้ ตามความตอนนี้
    ยามนี้หนึ่งกระบี่สองฝ่ามือยิ่งโรมรันยิ่งดุเดือด เอี้ยก้วยมีเปรียบในเชิงอาวุธ ส่วนหลวงจีนชื้ออึงมีแขนมากกว่าข้างหนึ่ง จึงหักกลบลบล้างกัน ทั้งสองสู้กันไม่เลิกรา หักล้างกันร้อยกว่ากระบวนท่า รู้สึกว่าพลังกระบี่ของอีกฝ่ายเพิ่มพูนขึ้นไม่หยุดยั้ง หลวงจีนชื้ออึงมีอายุสูงวัย เริ่มไม่อาจต้านทานรับได้
    เล่ม 3 หน้า 532​


    นับเฉพาะเวลานี้เอี้ยก้วยก็มีพลังฝีมือที่สูงส่งอยู่แล้ว ต่อมาในช่วงที่รอคอยเซียวเหล่งนึ่งสิบหกปีนั้น เอี้ยก้วยได้มุมานะฝึกซ้อม ทำให้มีพลังฝีมือรุดหน้าอย่างใหญ่หลวง โดยเอี้ยก้วยเปิดตัวหลังผ่านสิบหกปีมา ก็ได้แสดงฝีมือหลายครั้งคราให้ผู้อ่านได้ตื่นใจ แต่การแสดงพลังฝีมือต่อผู้ที่มีระดับต่ำกว่ามาก จะนับเป็นอย่างไรได้ หากจะวัดระดับฝีมือ ย่อมต้องวัดจากยอดฝีมือชั้นแนวหน้าที่เหลืออยู่ โดยกิมย้งได้มีฉากที่แสดงให้ผู้อ่านได้ทราบว่า เวลานี้เอี้ยก้วยมีพลังยุทธเทียบเท่ากับพวก ก๊วยเจ๋ง อึ้งเอี๊ยะซื้อ อิตเต็งไต้ซื้อ และ จิวแป๊ะธง แล้ว ดังฉากต่อไปนี้
    ฉากแรกคือเมื่อตนที่เอี้ยก้วยไปตามหาจิ้งจอกเก้าหาง และได้พบกับเอ็งโกว กับ อิอเต็งไต้ซื้อ เพื่อที่จะกดดันให้เอ็งโกวยอมออกมา เอี้ยก้วยได้กูร้องยาวนานใช้พลังเสียงบีบบังคับให้นางทนไม่ไหวต้องออกมาห้าม พลังที่ออกมาตามเสียงแสดงถึงกำลังภายในอันกล้าแกร่งของเอี้ยก้วย กิมย้งได้บรรยายไว้แบบนี้
    เอี้ยก้วยเปร่งเสียงกู่ร้องดังยาวนาน ดำเนินเป็นเวลาชั่วน้ำเดือด มิเพียงไม่มีวี่แววอ่อนโทรงขาดหาย ตรงกันข้าม พลังเสียงยิ่งมายิ่งกล้าแข็ง อิดเต็งไต้ซื้อรับฟังจนลอบนับถือเลื่อมใส แม้รู้สึกว่าเสียงกูของเอี้ยก้วยออกจะรุนแรงไป มิใช่พลังธรรมอันเที่ยงแท้ แต่ท่านเมื่อตอนอยู่ในวัยฉกรรจ์ ยังไม่มีพลังลมปราณสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ยามนี้อายุสูงวัยเรี่ยวแรงเสื่อมโทรม ยิ่งไม่อาจเทียบเปรียบติดได้
    อิตเต็งไต้ซือต้องครุ่นคิดขึ้น หลายแซ่เอี้ยผู้นี้มีกำลังภายในกล้าแข็งแกร่งกร้าว สุดที่ยอดฝีมือใดจะเทียบเทียมได้ ไม่ทราบเอี้ยก้วยฝึกปรือได้อย่างไร
    เล่ม 4 หน้า 236​


    ฉากที่สองคือตอนที่ประลองกับจิวแป๊ะธง เอี้ยก้วยรับอาสาจะพาจิวแป๊ะธงไปหาเอ็งโกว จึงเดินทางมาหาและได้ประลองฝีมือกัน ทำการประลองอยู่หลายกระบวนท่า ในที่สุดใช้ออกด้วยฝ่ามือกำสลดวิญญาณสลาย แต่ก็ยังคงมิอาจได้ชัย ทั้งคู่นั้นฝีมือก้ำกึ่งกันยิ่ง
    สี่กระบวนท่าพอพ้นผ่าน หนึ่งชราหนึ่งเยาว์วัยต่างนับถือเลื่อมใสต่อฝ่ายตรงข้าม เอี้ยก้วยครุ่นคิดขึ้น ศัตรูเข้มแข็งที่เคยเจอมานับผู้เฒ่าท่านนี้ตึงมือที่สุด คิดหมายเอาชัยไม่ง่ายดายจริงๆ หากแม้นต้องการพิสูจน์ผลแพ้ชนะ มิอาจไม่หักล้างกำลังภายในกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น หากมิใช้ปรากฎเป็นสภาพหนึ่งตกตายหนึ่งบาดเจ็บ ก็อาจตกตายตามกันไปทั้งคู่
    เล่ม 4 หน้า 258​


    จากความตอนนี้ก็พอจะบอกได้ว่าทั้งคู่มีพลังฝีมือใกล้เคียงกันมาก จิวแป๊ะธงยังเคยกล่าวชมวิชาของเอี้ยก้วยต่อหน้าอึ้งย้ง ในนตอนนั้นจิวแป๊ะธงชักชวนอึ้งย้งมาเพื่อจะให้ชมผึ้งหยกที่เขาฝึกเลี้ยงไว้ และได้พูดถึงวิชาของเอี้ยก้วย ตามความตอนนี้
    อึ้งย้งกล่าวว่า "วิชาฝีมือของเฒ่าทารก ข้าพเจ้ายอมรับนับถือตั้งแต่เล็ก หลายปีนี้บัญญัติคิดค้นวิชาพิศดารอะไรอีก" จิวแป๊ะธงสั่นศีรษะกล่าวว่า "มิใช่ มิใช่ วิชาฝีมือที่ดีที่สุดในหลายปีนี้ เป็นฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายของเด็กน้อยเอี้ยก้วย เฒ่าทารกละอายที่สู้ไม่ได้ เรื่องวิชาการต่อสู้อย่าได้เอ่ยถึงอีก" อึ้งย้งลอบประหลาดใจ ครุ่นคิดขึ้น "เอี้ยก้วยผู้นี้ยอดเยี่ยมจริงๆ ทางด้านผู้เยาว์มีก๊วยเซียงน้อย ผู้สูงอายุมีเฒ่าทารก ล้วนนิยมเลื่อมใสเขา ไม่ทราบวิชาฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายนั้นเป็นแนววิชาอันใด"
    เล่ม 4 หน้า 456​


    ต่อมาเป็นฉากที่เอี้ยก้วยไปช่วยก๊วยเซียงไว้จากนีม่อชิง เอี้ยก้วยใช้กำลังภายในซัดปิ่นของก๊วยเซียงทะลุมือไปปักที่กลางกระขม่อมของนี่ม่อชิง ปิ่นนี้เปราะบางกระแทกเบาๆก็หัก กลับซัดทะลุฝ่ามือของยอดฝีมือเข้าไปปักที่จุดสังหารได้ กำลังภายในที่เอี้ยก้วยใช้เป็นไปในแนวแกร่งกร้าวบริสุทธิ์ ก่อนนี้บุคคนเช่นนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นคือ ก๊วยเจ๋งกับอั้งชิกกง แต่บัดนี้เอี้ยก้วยเป็นอีกคนที่ใช้พลังแนวนี้ได้เทียบเท่า
    อีกฉากที่กิมย้งพยายามบอกให้ผู้อ่านได้รู้ถึงระดับฝีมือของเอี้ยก้วย คือเมื่อตอนประลองกับ อึ้งเอี๊ยะซือ ทั้งคู่ประลองกัน โดยใช้ อี่เคอซี เซียวเซียงจื่อและคนหน้าดำอีกคน ขั้นกลาง โดยอยู่ห่างกันซัดฝ่ามือสลับไปมา เซียวเซียงจื่อกับพวกกลับคล้ายเป็นลูกหนังถูกโยนไปมา ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายใช้ถึงครึ่งหนึ่ง เพลงฝ่ามือเทพกระบี่บุปผาร่วงของอึ้งเอี๊ยะซื้อก็ตกเป็นรองแล้ว ดังนั้นอึ้งเอี๊ยะซือจึงเปลี่ยนเป็นวิชาดรรชนีศักิ์สิทธ์ จึงต่อสู้ได้คู่คี่ก้ำกึ่ง ไม่มีผู้ใดเหนือล้ำกว่าผู้ใด อึ้งเอี้ยซือได้กล่าวว่า
    พลงฝ่ามือของเล่าตี๋ชุดนี้ หากวิจารณ์ถึงความหนักหน่วงแกร่งกร้าว ทั้วแผ่นดินนี้มีแต่สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรของเขยเรา ที่สามารถทัดเทียบเปรียบได้ ส่วนเพลงฝ่ามือเทพกระบี่บุปผาร่วงของเล่าฮู กลับด้วยกว่าขั้นหนึ่ง
    เล่ม 4 หน้า 420​



























































































    [​IMG]

    ยอดวิชากระบี่คู่ของเซียวเหล่งนึ่ง
    ยอดยุทธหญิงในนิยายกิมย้งมีอยู่ไม่น้อย ในมังกรหยกภาคนี้ก็มีทั้ง อึ้งย้ง ทั้งลี้มกโช้ว ที่มีพลังฝีมือยากจะหาใครทาบติดและยังถือเป็นสาวงามที่หาได้ยากอีกด้วย เซียวเหล่งนึ่งเองก็เป็นจอมยุทธหญิงอีกคนที่นอกจากเรื่องความงามที่ไม่มีใครเทียบเปรียบติดแล้ว ในด้านวรยุทธของนางก็สูงส่งไม่แพ้หญิงใด ยิ่งถ้าเทียบกับอายุรุ่นเดียวกับนางแล้วคงจาหาหญิงใดมีวรยุทธ์สูงส่งเท่านางอีกไม่ได้
    เซียวเหล่งนึ่งอาศัยอยู่ในสุสานโบราณฝึกวิชาของลิ้มเฉียวเอ็ง ซึ่งลิ้มเฉียวเอ็งถือเป็นยอดหญิงที่มีวรยุทธใกล้เคียงกับปรมจารย์เฮ้งเต้งเอี้ยงเลยทีเดียว จากการฝึกฝนตั้งแต่เด็ก เพียงอายุสิบแปด วรยุทธของเซียวเหล่งนึ่งก็ใกล้เคียงกับ ฮักไต้ทง หนึ่งในเจ็ดนักพรตอวุโสของสำนักชวนจินก่าแล้ว และหลังจากที่ได้เอี้ยก้วยเข้าไปอยู่ด้วยในสุสานโบราณ วรยุทธของนางก็ยิ่งรุดหน้า นางได้ฝึกวิชาของชวนจินก่าเพราะเอี้ยก้วยได้เคยท่องเคล็ดวิชานี้ไว้ ตามด้วยวิชาในเคล็ดวิชาสุรางคนางค์ ภายหลังยังได้ฝึกวิชาในคัมภีร์เก้าอิม และเมื่อออกสู่ยุทธภพ ก็ได้มีโอกาสได้ใช้เพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุธร่วมกับเอี้ยก้วยเพื่อปราบกิมลุ้น เพียงวรยุทธของนาง ณ เวลานี้ก็นับว่าสูงส่งมากมายอยู่แล้ว--->
     
  14. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    ....................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กรกฎาคม 2016
  15. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    [​IMG]
     
  16. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    [​IMG]
     
  17. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
  18. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    ..............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กรกฎาคม 2016
  19. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=saalGKY7ifU&feature=player_detailpage]'Titanic' Theme Song - YouTube[/ame]
     
  20. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,973
    .......................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กรกฎาคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...