รัชกาลที่ ๔ ทรงประดิษฐ์อักษรไทยอริยกะ...อักษร "อริยกะ" คืออะไร และทำไมต้อง "อริยกะ" ?

ในห้อง 'ในหลวงกับพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย ง้วนดิน, 18 เมษายน 2007.

  1. ง้วนดิน

    ง้วนดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,362
    ค่าพลัง:
    +11,047
    [​IMG]

    รัชกาลที่ ๔ ทรง "ประดิษฐ์อักษรไทย" อริยกะ
    อักษร "อริยกะ" คืออะไร และทำไมต้อง "อริยกะ"?



    อักษร "อริยกะ" คืออะไร?

    อักษร "อริยกะ" เป็นรูปแบบตัวอักษรประเภทหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในขณะทรงพระผนวชเป็น "พระวชิรญาณเถระ" ทรงประดิษฐ์ขึ้นสำหรับใช้เขียนหรือพิมพ์ภาษาบาลีแทนตัวอักษรขอมที่ใช้กันมาแต่เดิม รวมทั้งทรงประดิษฐ์ขึ้นสำหรับใช้เขียนภาษาไทยด้วย (อาจเป็นความต้อง
    การใช้แทนอักษรไทยด้วยก็ได้) อาจถือได้ว่าการประดิษฐ์ "อักษรอริยกะ" เป็นหนึ่งในกระบวนการปฏิรูปพระพุทธศาสนาของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมๆกับการตั้ง "ธรรมยุติกนิกาย"




    ทรงประดิษฐ์อักษรอริยกะเมื่อใด

    [​IMG]สำหรับช่วงเวลาที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประดิษฐ์อักษรอริยกะนั้นไม่ปรากฏชัดเจน สันนิษฐานกันว่าน่าจะทรงประดิษฐ์ขึ้นหลังจากได้เสด็จมาครองวัดบวรนิเวศวิหารแล้ว เพราะในเวลานั้นมีผู้มาถวายตัวเป็นศิษย์เพื่อประพฤติปฏิบัติตามอย่างพระองค์เป็นจำนวนมาก และเพื่อให้การศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยเป็นไปโดยสะดวกจึงน่าจะทรงประดิษฐ์อักษรอริยกะขึ้นสำหรับใช้แทน "อักษรขอม" ที่แต่เดิมถือเป็น "อักษรศักดิ์สิทธิ์" สำหรับเขียนเรื่องราวที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาทั้งที่เป็นภาษาบาลี (เรียกว่า "อักษรขอมบาลี") และภาษาไทย (เรียกว่า "อักษรขอมไทย")รวมทั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้มีความรู้ด้านการพิมพ์ ทรงรู้ปัญหาในการหล่อและการเรียงพิมพ์ ด้วยเหตุที่ทรงรู้ภาษาอังกฤษและภาษาละตินจึงน่าจะทรงดัดแปลงอักษรไทยและวิธีการเขียนโดยอาศัยแบบอย่างจาก "อักษรโรมัน" เป็นแม่แบบ




    อักษร "อริยกะ" มาจากไหน?

    เมื่อพิจารณารูปแบบอักษรอริยกะแล้วจะพบว่าอักษรอริยกะเป็นอักษรที่ได้อิทธิพลรูปแบบตัวอักษรจากอักษร "โรมัน" เป็นอย่างมาก ทั้งนี้เห็นได้จากรูปแบบตัวอักษรและในลักษณะที่มีการแบ่งอักษรอริยกะเป็น ๒ กลุ่ม คือ

    ๑. อักษรอริยกะตัวพิมพ์
    ๒. อักษรอริยกะตัวเขียน

    อักษรอริยกะทั้งสองกลุ่มแม้จะเป็นอักษรอริยกะเช่นเดียวกันแต่ก็มีรูปแบบที่แตกต่างกันไป เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน ลักษณะเช่นนี้พบได้ในรูปแบบตัวอักษร "โรมัน"

    นอกจากอิทธิพลทางด้านรูปอักษรแล้ว ในด้านระบบการเขียนหรืออักขรวิธีของอักษรอริยกะปรากฏอิทธิพลอักขรวิธีการเขียนของอักษรโรมันเข้าไปประสมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเรื่องการจัดวางรูป "สระ"

    ทั้งนี้เพราะลักษณะการวางรูปสระในระบบการเขียนของอุษาคเนย์ เช่น อักษรขอม หรืออักษรไทย นิยมวางสระไว้ทั้งด้านหน้า ด้านบน ด้านล่าง และด้านหลังพยัญชนะ ซึ่งจะเกิดปัญหามากสำหรับการเขียนหรือการพิมพ์

    ในระบบการเขียน "อักษรขอม" แล้วยิ่งมีความยุ่งยากโดยเฉพาะระบบอักษรที่มีทั้ง "พยัญชนะตัวเต็ม" และ "พยัญชนะตัวเชิง"

    ด้วยเหตุนี้เมื่อพระวชิรญาณเถระ (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ทรงประดิษฐ์อักษรอริยกะขึ้น จึงน่าจะทรงพยายามที่จะตัดความยุ่งยากในระบบการเขียนในอักษรขอมและอักษรไทยออกไปทั้งหมด และใช้ตามระบบการเขียนอักษร "โรมัน" ซึ่งง่ายกว่า ทั้งในด้านการเรียงพยัญชนะและสระ (ซึ่งเขียนเรียงไว้หลังพยัญชนะทั้งหมด)

    ดังนั้น "อักษรอริยกะ" จึงเป็นอักษรที่ได้รับอิทธิพลทางรูปแบบตัวอักษรและอิทธิพลทางด้านอักขรวิธีในการเขียนจาก "อักษรโรมัน" นั่นเอง



    ทำไมต้องเป็นอักษร "อริยกะ"

    ทำไมต้องเป็นอักษร "อริยกะ" นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่น่าพิจารณา เพราะนอกจากเรื่องการปรับระบบการเขียนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ (ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจะยากหากจะให้สังคมไทยในเวลานั้นยอมรับรูปแบบอักษรชนิดนี้แทน"อักษรขอม" ที่ใช้กันมานับพันปี) อักษรชนิดนี้จะแฝงจุดหมายบางอย่างบางประการ
    หรือไม่


    เมื่อพิจารณาจากสภาพสังคมในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เราอาจสังเกตเห็นความผิดปรกติบางอย่างกับการจัดการ "พระพุทธศาสนา" ในสังคมกรุงรัตนโกสินทร์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป

    ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้พระเถระผู้ใหญ่แปล "พระธรรมวินัย" อย่างต่อเนื่องเพื่อเทศน์ถวาย และโปรดให้ "จาร" พระไตรปิฎกด้วย "อักษรขอม" ถวายพระอารามต่างๆ เช่น วัดพระเชตุพนฯ ฯลฯ

    พระวชิรญาณเถระ (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) กลับทรงประดิษฐ์ "อักษรอริยกะ" เพื่อ "พิมพ์" พระธรรมวินัยเผยแพร่แทนการ "จาร" บนใบลาน เช่นเดียวกับที่มิชชันนารี "พิมพ์" คัมภีร์ไบเบิลสอนศาสนาคริสต์ กรณีนี้อาจเป็นหนึ่งในกระบวนการปรับ "พระพุทธศาสนา" ให้เหมาะสมกับ
    ยุคสมัยมากขึ้นก็ได้


    การที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประดิษฐ์อักษรแบบใหม่ขึ้นแล้วพระราชทานนามว่า "อักษรอริยะ" อาจเนื่องมาจากต้องการแสดงให้เห็นว่าอักษรประเภทนี้เป็นอักษรของ "ผู้เป็นอารยชน" ซึ่งอาจมีความหมายเป็นนัยยะที่แสดงถึงการปรับตัวเข้าหาความเป็น "อริยะ" หรือ "อารยะ" (อาจหมายถึงประเทศตะวันตก)

    ดังนั้นการที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประดิษฐ์อักษร "อริยกะ" ขึ้นใช้ นอกจากจะเพื่อความสะดวกในการศึกษาเล่าเรียนแทนอักษรขอมแล้ว (ซึ่งโดยความเป็นจริงอาจยุ่งยากกว่า เพราะต้องปรับกระบวนการเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด) ยังอาจมีนัยยะถึงการปรับเปลี่ยนเข้าหาความเป็นอารยะ (ความเป็นตะวันตก) อีกด้วย



    ความแพร่หลายและความเสื่อมของอักษร "อริยกะ"

    หลักฐานเกี่ยวกับความแพร่หลายของอักษรอริยกะมีไม่มากนัก ทราบเพียงว่ามีการนำมาใช้พิมพ์บทสวดมนต์บ้าง พิมพ์หนังสือปาฏิโมกข์บ้าง และพิมพ์หนังสืออื่นๆ บ้าง และใช้แทนหนังสือใบลานที่เคยแพร่หลายมาแต่เดิม แต่ความแพร่หลายนี้ก็จำกัดวงอยู่เฉพาะในวัดบวรนิเวศวิหารเท่านั้น

    จารึกอักษรอริยกะที่มีใช้ให้เห็นอยู่อย่างชัดเจนในปัจจุบันคือ จารึกวัดราชประดิษฐ์ ซึ่งเป็นจารึกข้อความบนแผ่นหินอ่อนพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กล่าวถึงการสร้างวัดราชประดิษฐ์ ข้อความที่จารึกด้วยอักษรอริยกะ คือข้อความในบรรทัดที่ ๑ เป็นอักษรอริยกะ ภาษาบาลี เช่นเดียวกับบรรทัดที่ ๔๐-๔๒ ที่จารึกต่อจากข้อความอักษรขอมภาษาบาลี และในข้อความตอนท้ายบรรทัดที่ ๗๗-๗๘ ของจารึกก็จารึกด้วยอักษรอริยกะเช่นเดียวกัน

    ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงลาผนวชขึ้นเสวยราชสมบัติแล้ว การใช้อักษรอริยกะก็เสื่อมไปในที่สุด ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากมีรูปร่างและระบบอักขรวิธีแตกต่างจากอักษรไทยมากจึงไม่ได้รับความนิยมและค่อยๆ เลิกใช้ไป

    ต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้นำรูปอักษรไทยมาใช้เขียนภาษาบาลีได้ ความจำเป็นที่จะใช้อักษรอริยกะเขียนแทนอักษรขอมก็หมดลงในที่สุด


    ที่มา : http://www.siam2.com/library/ariyaka/index.php




     
  2. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881
    พระองค์ทรงเป็นนักวิปัสนากรรมฐาน บางทีพระองค์อาจจะทราบก็ได้ด้วยอดีตังสญาณ ว่าเรามีเชื้อชายแห่ง อริยกะ ซึ่งเป็นเชื้อสายเดียวกับพระพุทธเจ้านะ
    อย่างที่หลวงปู่มั่นเล่าไว้ว่า ร.4 แท้จริงพระองค์ก็คือพระเจ้าปัสเสนทิโกศลกลับชาติมาเกิดเพื่อช่วยสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาในยุคกึ่งพุทธกาลนั่นเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...