รูปลักษณะสภาวะทั้งหลายทั้งปวง เป็นเพียงพฤติภาพแห่งดวงจิตของบุคคล

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย wisarn, 29 ตุลาคม 2014.

  1. wisarn

    wisarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    727
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,503
    รูปลักษณะสภาวะทั้งหลายทั้งปวง
    เป็นเพียงพฤติภาพแห่งดวงจิตของบุคคล
    - - - - - - - - - -
    ข้อความทำนองนี้จะปรากฏมากมาย
    ในพระธรรมเทศนาของท่านมิลาเรปะ
    เป็นข้อเท็จจริงในธรรมชาติที่พิสูจน์ได้โดย
    ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่การ
    ใช้วิธีตั้งข้อสังเกตง่ายๆของผู้ไม่รู้หนังสือ ก็
    ยังอาจสามารถพิสูจน์สัจจธรรมข้อนี้ได้
    ผลลัพธ์ก็คือทำให้รู้เท่าทัน
    รูปลักษณะสภาวะทั้งหลายทั้งปวง ว่าล้วนไม่
    ได้มีตัวตนของมันเองดำรงอยู่จริง
    - - - - - - - - - -
    ในมุมมองของอนิจจัง เมื่อเรากระทบสัมผัส
    ด้วย ตา หู จมูก ลิ้น กาย อย่างใดอย่างหนึ่ง
    รูปลักษณะสภาวะในภายนอกซึ่งล้วนปราศ
    จากตัวตนของมันเองได้ผันแปรไปแล้ว ดัง
    นั้นการที่เรายังกำหนดความหมาย
    หรือคุณค่าใดๆของรูปลักษณะสภาวะนั้น
    อยู่ต่อไป ก็นับว่าเป็นเรื่องของพฤติภาพภาย
    ในจิตใจซึ่งมีรูปแบบของการสั่งสมอวิชชา
    ไว้หลากหลายนัยยะของแต่ละปัจเจกบุคคลเองล้วนๆ
    ที่เนื่องอยู่กับการกระทบสัมผัสนั้นๆ
    - - - - - - - - - -
    ในมุมมองของอนัตตา หรือความ
    ไม่มีตัวตนของมันเอง
    เช่นการที่เราเห็นก้อนเมฆเป็นสิ่งที่หมายถึง
    ได้ แต่ถ้า
    เข้าไปพิจารณาองค์ประกอบของก้อนเมฆอย่าง
    ใกล้ชิด จะเห็นกลุ่มละอองน้ำ และเงาที่เกิด
    จากละอองเหล่านั้นบดบังแสงอาทิตย์
    เราย่อมไม่เห็นก้อนเมฆแต่อย่างใด
    ภาพรวมออกมาเป็นก้อนเมฆปรากฏให้เห็น
    ได้ในระยะไกลเท่านั้น แน่นอนที่สุดว่าเรา
    ไม่อาจพูดได้ว่าสิ่งที่หมายถึงภายในจิตใจ
    อันคือก้อนเมฆนั้น ว่ามีตัวตนของมันเอง
    อยู่จริง ดังนั้นเราสามารถพูดได้ว่า
    เป็นเพียงพฤติภาพในดวงจิตของบุคคล
    หรือการที่เราเห็นดวงจันทร์ลอยเด่นอยู่
    ในฟากฟ้า และเป็นสิ่งที่หมายถึงได้ แต่เรา
    สามารถจินตนาการได้ว่า
    - - - - - - - - - -
    สิ่งที่เราหมายถึงได้ภายในจิตใจนี้ มิได้มี
    อยู่จริงตามที่เห็น
    เพราะเพียงแต่เราเริ่มออกเดินทาง
    ค้นหาดวงจันทร์หรือสิ่งที่เราเห็นนี้
    เราย่อมพบได้ว่าการเห็น หรือสิ่งที่หมาย
    ถึงของเราเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หรือพูดได้ว่าเรา
    ไม่สามารถหาพบสิ่งที่หมายถึงได้นั่นเอง
    เพราะโดยที่แท้แล้ว เป็นเพียงพฤติภาพ
    ในดวงจิตของบุคคล ตัวอย่างของใกล้ตัว
    เช่นผ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่หมายถึงได้
    เมื่อพิจารณาดูถึงองค์ประกอบย่อย
    เราเห็นแต่เส้นด้ายเรียงตัวเบียดชิดกันสนิท
    ไม่เห็นมีแม้แต่อะตอมเดียวของผ้า
    ถ้าเราพิจารณาองค์ประกอบย่อยของเส้นด้ายลึกลงไป
    เราย่อมพบความว่างเปล่าของด้าย
    ในทำนองเดียวกับที่เราพบ
    ความว่างเปล่าของผ้ามาแล้ว เพราะโดยที่แท้
    แล้ว เป็นเพียงพฤติภาพในดวงจิตของบุคคล
    - - - - - - - - - -
    สรรพสิ่งเป็นเพียงพฤติภาพ
    ในดวงจิตของบุคคล ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ควร
    เข้าไปหลงปรุงแต่งกำหนดหมายคุณค่าใดๆ(
    อวิชชาความไม่รู้ที่ทำ
    ให้เกิดการสังขารปรุงแต่ง)จนเกิด
    ความยึดมั่นถือมั่น(อุปาทาน)
    ผู้ที่รู้แจ้งตระหนักชัดในสัจจธรรมข้อนี้ได้
    โดยไม่ต้องนึกคิดตรึกตรองด้วยเหตผล(
    อบรมโพธิปักขิยธรรมจนเกิดสัมมาญาณทัศนะ
    ) ย่อมไม่ปล่อย
    ให้พฤติภาพของดวงจิตหลงกำหนดหมายปรุงแต่ง
    ในจิตใจหลังการกระทบสัมผัสแม้เพียงชั่วขณะเดียว
    ซึ่งย่อมหมายถึงการที่ผู้นั้น
    สามารถระงับอวิชชาที่ทำให้เกิดสังขาร
    จนทำให้ รู้ หรือวิญญาณดับ อันทำให้ รู้ กับ
    สิ่งที่รู้ หรือนามรูป หยั่งลงไม่ได้
    - - - - - - - - - -
    เมื่อนามรูปดับ อายตนะหรือทวารรับรู้ก็
    ไม่ทำงานในวิถีที่
    เป็นเครื่องมือของอวิชชาอีกต่อไป
    อวิชชาสัมผัสจึงดับ เมื่อผัสสะด้วยโมหะดับ
    ความรักหรือชังย่อมดับลงได้อย่างเด็ดขาด
    นั่นคือเวทนาดับ ด้วยความรักความชัง
    ไม่มีเป้าหมายที่จะหยั่งลงไปได้ใน สิ่งที่รู้
    ใดๆ เพราะนามรูปหยั่งลงไม่ๆได้
    ด้วยวิปัสสนาญาณรู้แจ้งตระหนักชัดว่ารูปลักษณะสภาวะ
    ทั้งปวงล้วนปราศจากตัวตนของมันเอง
    เป็นอนัตตา และไม่ได้ดำรงอยู่แม้ขณะเดียว
    เพราะมีธรรมชาติที่ผันแปร
    เป็นอนิจจังอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ความอยาก
    ได้ อยากมี อยากเป็นหรือโลภะมูลจิต
    ซึ่งเกิดจากความรักความพอใจหรือ
    ความอยากให้พ้นๆไปหรือโทสะมูลจิต
    ซึ่งเกิดจากความชัง ย่อมไม่สามารถเกิดได้
    นั่นคือตัณหาหรือเหตุแห่งทุกข์ไม่เกิด
    ความทนได้ยากย่อมไม่เกิด นั่นหมาย
    ความว่าทุกข์ดับ สำเร็จประโยชน์แห่งการลุ
    ถึงความเป็นจริงของพระอริยเจ้า
    ทั้งสี่ประการ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
    ...
    - - - - - - - - - -
     
  2. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    เรียก เจตสิก
     

แชร์หน้านี้

Loading...