พระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเจริญลาภปราบไพรี- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

ew801878065th บางรัก
ew801878074th เชียงใหม่

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

ข้อมูลจากเวปพลังจิต กระทู้ประสบการณ์หลวงปู่พิศดู

ข้อมูลเก่า ที่มีผู้ลงไว้ในเว็บเก่าของวัดวันพระเจ้าแดง..( ปี 2554 )
รูปหล่อหลวงปู่พิศดู รุ่น "พระธรรมธาตุ" จัดสร้างโดยครูบากฤดา สุเมโธ เพื่อบูชาธรรมองค์หลวงปู่พิศดู และเป็นที่ระลึกในวันคล้ายวันเกิดหลวงปู่ อายุ 88 ปี ซึ่งได้รับการอนุญาติจากองค์หลวงปู่ท่านโดยตรง จำนวนการจัดสร้าง 789 องค์ เนื้อนวะโลหะเต็มสูตร หลอมรวมจากชนวนมวลสารล้วนๆ ซึ่งไม่สามารถประเมินมูลค่าได้
"หมายเหตุ รูปหล่อชุดนี้ครูบาท่านถวายหลวงปู่ทั้งหมด โดยเล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า ไม่มีการจอง ไม่มีการเช่าบูชา เพราะหลวงปู่และครูบาท่านจะแจกเป็นของขวัญหรือที่ระลึกแทนองค์ท่านอย่างแท้จริง"
มวลสารในการจัดสร้างครับ
1. ก้านชนวนพระกริ่งธรรมจารีและแผ่นยันต์เหรียญคณาจารย์(คุณทุเรียนทอดมอบให้) หนัก 10 กิโลกรัม
2.ชนวนกริ่งมังกรฟ้าชนวนเก่าเก็บของครูบากฤษดาไว้มาหล่อรุ่นนี้หมด(มีในเวปกระทู้มวลสารวัตถุมงคลครูบากฤษดาตามรายการทั้งหมดมีครบ)
3.เหรียญสตางค์รูโบราณและเงินโบราณอีกหลายชิ้นหนัก 20 กิโลกรัม ตระกูลเปลี่ยนวงค์ถวาย
4.เงินบริสุทธิ์เป็นแท่งจำนวน 4 แท่ง(เงินนอก) จำนวน 5 กิโลกรัม มูลค่า 180,000 บาท เจ้าสัวที่ฮ่องกงถวายครูบากฤษดา
5. ทองคำแท้หนัก 9 บาท มูลค่า 198,000 บาท ครอบครัวเปลี่ยนวงค์ถวายบูชาคุณหลวงปู่และครูบาท่านทั้งสอง
6.เงินพดด้วง กำไรเงิน สร้อยนาค สร้อยคอทองคำและเหรียญพระเครื่องที่เป็นเงินต่างๆ และสายไฟทองแดง (ที่โดนฟ้าผ่า) เครื่องสำริด รวมทั้งหมด 80 กิโลกรัม ครูบาและครอบครัวเปลี่ยนวงค์ ตลอดถึงทุเรียนทอดถวายบูชาคุณหลวงปู่
สรุปค่าใช้จ่าย เฉพาะ ทองคำ เงินบริสุทธิ์(เงินนอก) ค่าแรงนายช่าง และสายไฟทองแดง รวมทั้ง 4 รายการ เป็นเงิน 450,000 บาท ไม่รวมมวลสารชนวนต่างๆทั้งเงินโบราณ เครื่องทอง นาก สำริด เหรียญสตางค์และอื่นซึ่งมีค่าทางวัตถุที่สูงทีเดียวจึงไม่อาจนำมาตีค่าได้ ถ้าเอากันจริงคงเกือบล้านครับ หลังจากทำพิธีหล่อแล้ว โดยครูบากฤษดา เป็นผู้กับหนดวันเวลา และ ตอกโค๊ตกงจักร ตลอดถึงการจารย์พระคาถา เม กะ มุ อุ (ล้านนา) ชึงเป็นคาถาของหลวงปู่พิศดูจารสมัยก่อนที่ท่านยังแข็งแรง ด้วยครูบาทั้งหมดทุกๆขั้นตอนครูบาเป็นผู้ทำทั้งหมดครับ สรุปแล้วทั้งเทพระ ตอกโค๊ต จารองค์ ครูบาทั้งหมดครับ วัตถุมงคลจะอัดพลังอธิตฐานจิตไปเรื่อยๆอย่างไม่มีกำหนดครับ เมื่อวันนั้นมาถึงฟ้าดินย่อมรับรู้ครับ ครูบาท่านพูดเป็นปริศนาเสมอๆ ว่า "ที่สุดไม่ปรากฏ"
รูปหล่อพระธรรมธาตุ หลวงปู่พิศดู จึงเป็นรูปหล่อที่ทรงคุณค่ายิ่งนัก ทั้งชนวนมวลสารในการสร้าง ความพิถีพิถันในแต่ละขั้นตอน รวมกับการปลุกเสกจากสุดยอดพระเกจิแห่งยุคทั้งสองท่านคือ หลวงปู่พิศดู และครูบากฤษดา และเป็นการสร้างแจกทีไม่ได้เปิดจอง ทำให้ประเมินค่าไม่ได้ เป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ลูกหาเป็นอย่างมาก สุดยอดของสายนี้แล้ว

รูปหล่อรุ่น พระธรรมธาตุ(ทันใจ) ตอนที่ 1
จุดประสงค์หลักพระชุดนี้สร้างขึ้นมาเพื่อบูชาธรรมองค์หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี พระอาจาริยคุณผู้ประเสริฐผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตามหาบารมีธรรมอย่างที่สุดหาประมาณมิได้ พระผู้เป็นได้ยิ่งกว่าครูบาอาจารย์ของลูกศิษย์ทุกคน..
รูปหล่อรุ่นนี้สร้างได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งเนื้อหาชนวนแบบนวโลหะครบสูตร ทั้งพิธีกรรม จัดเป็นรูปหล่อรุ่นสุดท้ายของหลวงปู่พิศดู ชื่อว่า รุ่นพระธรรมธาตุ(ทันใจ)
พระรุ่นนี้หลวงปู่พิศดูท่านได้มอบหมายให้ท่านครูบากฤษดาจัดสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจขององค์ท่านทั้งสองเองจริงๆ โดยองค์หลวงปู่ได้สั่งการไว้เมื่อต้นปี พ.ศ.2553 พระรุ่นนี้พรั่งพร้อมทั้งชนวนมวลสารที่เป็นชนวนศักดิ์สิทธิ์ล้วนๆไม่มีเจือปนโลหะธาตุธรรมดาเลย โดยมีชนวนพระกริ่งธัมมะจารีเป็นเนื้อชนวนหลัก ผสมผสานกับชนวนมวลสารต่างๆเพิ่มเติมอีกจำนวนมากร่วม 100 กว่ากิโลกรัม ในแบบฉบับของเนื้อนวโลหะครบสูตรแก่ทองคำ เรียกได้ว่าลงแรงลงใจกันเต็มที่กับพระชุดนี้มากๆครับ น่าสรรเสริญและน่าอนุโมทนายิ่ง จำนวนสร้างทั้งหมด 789 องค์
และที่วงเล็บไว้หลังชื่อว่า(ทันใจ)นั้น ก็เพราะว่า พระชุดนี้สร้างตามแบบฉบับโบราณาจารย์แต่เก่าก่อน โดยได้หล่อหลอมเนื้อชนวน เททอง ตัดช่อ แต่งองค์พระ ตอกโค๊ตรูปกงจักร และอธิษฐานจิต ทั้งหมดนี้สร้างเสร็จภายในวันเดียว จึงเรียกว่า "ทันใจ" เพื่อเป็นเคล็ดมงคลในเรื่องของการทำอะไร หรือการบูชาขอพรก็จะสำเร็จผลได้อย่างทันใจ..
เรียกได้ว่าจัดเป็นผลงานชิ้นเอกขององค์ครูบาอาจารย์ทั้งสอง ฝากไว้เป็นสิ่งมงคลวัตถุคู่พระศาสนา เป็นสังฆา+อาจาริยานุสติ ของลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธาในครูบาอาจารย์ทั้งสอง..

#รูปหล่อหลวงปู่พิศดูรุ่นพระธรรมธาตุ(ทันใจ) ตอนที่ 2
สร้างจากชนวนมวลสารที่เหลือจากการสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ธัมมะจารี แต่ได้เพิ่มเติมสุดยอดชนวนมวลสารต่างๆอันทรงคุณค่าอีกมากมาย จัดเป็นเนื้อนวโลหะแก่ทองคำ จ้าวน้ำเงิน แบบเข้มข้นที่สุดเท่าที่เคยจัดสร้างมา จุดประสงค์หลักพระชุดนี้สร้างขึ้นมาเพื่อบูชาพระคุณองค์หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี พระอาจาริยะคุณผู้ประเสริฐผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตามหาบารมีธรรมอย่างที่สุดหาประมาณมิได้ พระผู้เป็นได้ยิ่งกว่าครูบาอาจารย์ของลูกศิษย์ทุกคน..
รูปหล่อรุ่นนี้สุดยอดมากๆ สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยมีมาของวัดเทพธารทองครับ เป็นรูปหล่อรุ่นสุดท้ายของหลวงปู่พิศดู ชื่อว่า รุ่นพระธรรมธาตุ(ทันใจ) พระรุ่นนี้หลวงปู่พิศดูท่านได้มอบหมายให้ท่านครูบาสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจขององค์ท่านทั้งสองเองจริงๆ โดยองค์หลวงปู่ได้สั่งการไว้เมื่อต้นปี พ.ศ.2553 พระรุ่นนี้พรั่งพร้อมทั้งชนวนมวลสารที่เป็นชนวนศักดิ์สิทธิ์ล้วนๆไม่มีเจือปนโลหะธาตุธรรมดาเลย โดยมีชนวนพระกริ่งธัมมะจารีเป็นเนื้อชนวนหลัก ผสมผสานกับชนวนมวลสารต่างๆเพิ่มเติมอีกจำนวนมากร่วม 100 กิโลกรัม ในแบบฉบับของเนื้อนวโลหะเต็มสูตรแก่ทองคำ เรียกได้ว่าลงแรงลงใจกันเต็มที่กับพระชุดนี้มากๆครับ น่าสรรเสริญและน่าอนุโมทนายิ่ง จำนวนสร้างทั้งหมด 789 องค์
และที่ต้องวงเล็บไว้หลังชื่อว่า(ทันใจ)นั้น ก็เพราะว่า พระชุดนี้สร้างตามเคล็ดมงคล ตามแบบฉบับโบราณาจารย์แต่เก่าก่อน โดยได้หล่อหลอมเนื้อชนวน เททอง ตัดช่อ แต่งองค์พระ ตอกโค๊ตรูปกงจักร และอธิษฐานจิตบรรจุพุทธคุณ ทั้งหมดนี้สร้างเสร็จภายในวันเดียว จึงเรียกว่า "ทันใจ" เพื่อเป็นเคล็ดวิชาในเรื่องของการทำอะไร หรือการบูชาขอพรก็จะสำเร็จผลได้อย่างทันใจ.. ผมเองนั้นมั่นใจเต็มที่ว่าไม่แพ้พระกริ่งธัมมะจารีขององค์หลวงปู่อย่างแน่นอน เรียกได้ว่าจัดเป็นผลงานชิ้นเอกขององค์พระอริยะทั้งสองฝากไว้เป็นสิ่งมงคลวัตถุคู่พระศาสนา เพื่อเป็นสังฆา+อาจาริยานุสติ...
#รูปหล่อหลวงปู่พิศดู รุ่นพระธรรมธาตุ = ที่สุด ไม่ปรากฏ
ประกาศิต อมตวาจาที่ท่านครูบากฤษดา กล่าวถวายมหามงคลนาม เพื่อตั้งเป็นชื่อรุ่น แด่ รูปหล่อลอยองค์หลวงปู่พิศดูรุ่นนี้ คำดังท่านกล่าว ล้วนมีความหมายสำคัญ และลึกซึ้งยิ่งนัก..ดังขยายความได้ดังนี้..
พระรูปหล่อองค์หลวงปู่พิศดูรุ่น พระธรรมธาตุ เป็นรูปหล่อรุ่นสุดท้ายที่องค์ท่านทั้งสองสร้างอย่างตั้งใจ และอธิษฐานจิตร่วมกันเป็นรุ่นสุดท้ายที่องค์หลวงปู่ยังดำรงค์สังขารธรรมอยู่
อาจกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า สร้างไว้เพื่อเป็นอาจาริยานุสรณ์ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ในยามที่องค์หลวงปู่จากไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงจิตแห่งธรรมธาตุ ที่สุดไม่ปรากฏทั้งรูป-นาม มีแต่เพียงจิตล้วนที่เปี่ยมด้วย มหาพลังแห่งธรรมบารมีสถิตอยู่ ณ แดนพระนิพพาน เรียกว่ามหาพลังแห่งอสังขตธาตุ อันบริสุทธิ์..
อสังขตธาตุ หมายถึง ธาตุที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง และมีลักษณะความเกิดไม่ปรากฏ1 ความเสื่อมสลายไม่ปรากฏ1 เมื่อตั้งอยู่ความแปรปรวนไม่ปรากฏ1
#อสังขตลักษณะ ของอสังขตธรรม 3 อย่างเหล่านี้ มีอยู่ในพระอรหันต์ คือ
1. ไม่ปรากฏมีการเกิด = ไม่เกิด
2. ไม่ปรากฏมีการเสื่อม = ไม่แปรปรวน(แก่ เจ็บ ตาย)
3. เมื่อตั้งอยู่ ก็ไม่ปรากฏมีภาวะอย่างอื่นปรากฏ = ไม่แปรปรวน(แก่ เจ็บ ตาย)
สามอย่างเหล่านี้แล คืออสังขตลักษณะของอสังขตธรรม และมีพลังอย่างที่ไม่มีประมาณ เป็นมหาพลังแห่งธรรมบารมี ซึ่งเหนือกว่าพลังใดๆทั้งสิ้นในโลกทั้งสาม สามารถจะทำลายในสิ่งที่อาวุธใดๆในโลกก็ไม่อาจจะทำลายได้ นั่นคือ อาสวะกิเลศในจิตใจ ให้มลายสิ้นไปได้อย่างที่ไม่มีวันหวนกลับ และในทางกลับกันยังเป็นเครื่องป้องกันความเสื่อมทั้งปวง และภัยต่างๆอันจะมากระทบจิตได้อย่างแน่นอน จัดเป็นวิชชา(เหนือกว่าวิชา)สูงสุด สุดยอด ที่สุด แต่ ไม่ปรากฏการเกิดอีกต่อไป และไม่ปรากฏความทุกข์ทั้งปวงอีกต่อไป เป็นเอกันตบรมสุข สุขที่สุดไม่มีสุขอื่นใดยิ่งกว่า รวมอยู่ใน " พระธรรมธาตุ "
(ข้อมูลคุณทุเรียนทอด)

 

สวัสดียามค่ำครับป๋า

 

ข้อมูลการสร้าง ล็อกเก็ต รุ่นพระธรรมธาตุ หลวงปู่พิศดู

- ล็อกเก็ตนี้ก็เป็นรุ่นเดียวกันกับรูปหล่อพระธรรมธาตุ สร้างขึ้นเมื่อต้นปี พ.ศ.2553 โดยความตั้งใจขององค์หลวงปู่พิศดูและท่านครูบากฤษดา โดยองค์หลวงปู่ท่านเป็นผู้เลือกแบบรูปที่จะนำมาจัดสร้างเองโดยบอกว่า " ให้เอารูปยิ้มไปทำ " ด้านในบรรจุมวลสารศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงปู่ ท่านครูบา และครูบาอาจารย์ต่างๆ ด้านหลังปิดผนึกด้วยแผ่นยันต์องค์พระเมตตา ยันต์ผู้ชนะสิบทิศ และหัวใจพระคาถาต่างๆ ซึ่งถอดจากลายมือจารของท่านครูบากฤษดาเอง.. เข้าพิธีพุทธาภิเษกในปี 2553 พร้อมกับ พระกริ่ง-ชัยวัฒน์ธัมมจารี และ พระกริ่งมังกรฟ้า โดยมีองค์หลวงปู่ร่วมกับท่านครูบาอธิษฐานจิตเรื่อยมาอีกหลายวาระ...

จัดว่าสมบูณณ์แบบที่สุด ไม่แพ้ล็อกเก็ตรุ่นใดที่เคยสร้างมา เพื่อบูชาพระคุณองค์หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี และเป็นอาจาริยานุสรณ์ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจของลูกศิษย์ ในยามที่องค์หลวงปู่จากไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงจิตแห่งพระธรรมธาตุ อันบริสุทธิ์..

ล็อกเก็ตพระธรรมธาตุ หลวงปู่พิศดู อธิษฐานจิตโดยครูบากฤษดา และหลวงปู่พิศดู จำนวนสร้างมีรายละเอียด ดังนี้
- หลังเงิน 100 องค์
- หลังกะไหล่ทอง 300 องค์
สำหรับแจกสาธุชนที่ศรัทธาในองค์หลวงปู่และผู้มีคุณประโยชน์จริงๆ เช่นเดียวกับรูปหล่อลอยองค์ครับ

 

เปิดพระปัจเจกพุทธเจ้าเนื้อผงด้านหลังปั๊มยันต์พุทธเจ้าชนะมาร รุ่นสมปราถนา + เหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้า -ครูบากฤษดาและหลวงปู่พิศดู อธิษฐานจิตทั้ง2รายการ



พระปัจเจกพุทธเจ้า เนื้อผง รุ่น "สมปรารถนา" ชุดนี้ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2552 โดยคณะศิษย์ผู้สร้างถวายได้จําลองพุทธลักษณะองค์พระปัจเจกมาจากรูปหล่อพระปัจเจกพุทธเจ้าที่เป็นสมบัติของวัด ซึ่งมีอายุกว่าหลายร้อยปีถึงพันปี รูปแบบพิมพ์ทรงสี่เหลี่ยม ประทับนั่งอยู่ในซุ้มประตู บนซุ้มประตูเขียนคําว่า "สติ" อักขระด้านล่างสุดบริเวณฐาน อ่านว่า พระปัจเจกโพธิ ส่วนด้านหลังองค์พระ ออกแบบเป็นรูปบาตรภายในมีดอกบัว และล้อมด้วยคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นภาษาล้านนา พระปัจเจกพุทธเจ้ารุ่นนี้ ครูบากฤษดาท่านเมตตาตั้งชื่อรุ่นว่า "สมปรารถนา" ท่านว่ารุ่นนี้ศักสิทธิ์ตั้งแต่ปั๊มแล้ว เพราะเจตนาดี พระชุดนี้สร้างไว้ทั้งหมด 5 สี
ซึ่งสีเขียวนี้ ได้นําถวายบูชาธรรมแด่หลวงปู่พิศดูทั้งหมด และมีสีเหลืองบางส่วนประมาณ 1,000 องค์ หลังจากครูบากฤษดาท่านได้ปลุกเสกแล้ว ได้ถูกนําไปให้หลวงปู่พิศดูท่านปลุกเสกอีกครั้งพร้อมพระปัจเจกสีเขียว ซึ่งจะปั๊มตรายันต์พระพุทธเจ้าชนะมารไว้ ( บางส่วนได้แจกไปโดยไม่ปั๊มก็มีแต่น้อยมาก ) พระบางส่วนได้นําไปถวายวัดอื่นเพื่อทําประโยชน์ผ่านท่านครูบากฤษดา และอีกบางส่วนฝังไว้ที่เสาวิหาร วัดสันพระเจ้าแดง
สาเหตุหลักที่สร้างเป็นพระปัจเจกโพธินั้น ความหมายอีกนัยหนึ่งก็คือ ภูมิธรรมขององค์หลวงปู่พิศดูนั้นท่านปราถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้ามาแต่เดิม จวบจนบารมีธรรมของท่านเพิ่มพูน และเห็นว่าความเกิด ความแก่ ความเจ็บ และความตาย นำมาซึ่งความทุกข์ทั้งปวง จึงเกิดความเบื่อหน่ายในชาติภพ จึงได้ถอนความปราถนาจากพระปัจเจกฯ สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในชาตินี้
เหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้า
สร้างเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ 2553 แต่ออกให้ทำบุญบูชาครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ 2554 งานฉลองพระอุโบสถ วัดสันพระเจ้าแดง โดยเจ้าภาพใหญ่ที่ถวายปัจจัยในการสร้างเหรียญชุดนี้ คือ คุณอาเล็ก ซึ่งเป็นคณะศิษย์สำนักมังกรฟ้าที่ประเทศฮ่องกง ด้านหน้าเหรียญถูกออกแบบเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า มีเส้นรัศมีโดยรอบ ซึ่งพระปัจเจกพุทธเจ้าในเหรียญนี้ ได้ถอดแบบมาจากพระพุทธรูปเก่าแก่ประจำวัด ซึ่งมีอายุหลายร้อยปีหรืออาจถึงพันปี และด้านหลังเหรียญบรรจุยันต์เกราะเพชร ซึ่งมีอานุภาพมากด้วยพุทธคุณ ค้ำจุนดวง เสริมบารมี เสริมการงาน การเงิน มียันต์เกราะเพชรหนุนดวงจะมิตกอับ อีกทั้งยังป้องกันภัยรอบด้านอีกด้วย
เหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้านี้ ผ่านการปลุกเสกดังนี้
1. หลวงปู่พิศดู ธัมมจารี วัดเทพธารทอง
2. หลวงปู่ปลอด วัดโพธินิมิตร
3. หลวงพ่อบุญยัง วัดห้วยน้ำอุ่น
4. ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง
เหรียญชุดนี้ยังได้เข้าพิธีต่างๆของทางวัดสันพระเจ้าแดงมาโดยตลอดก่อนออกให้บูชา ครูบากฤษดาท่านว่า "เหรียญนี้มีพุทธคุณในทางโชคลาภ เมตตามหานิยม และยังช่วยป้องกันภัยต่าง ๆ อีกด้วย"

 

เปิดเหรียญใบโพธิ์จิ๋ว รุ่น4 สภาพผิวเดิมๆสวยมากครับ + พระยอดธง หลวงปู่พิศดู จัดไปเบาๆ


เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2548 สร้างถวายโดยลูกศิษย์สายหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค เป็นเหรียญรูปใบโพธิ์ขนาดจิ๋ว ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่พิศดูนั่งสมาธิเต็มองค์ อยู่ในรูปใบโพธิ์ ด้านหลังเป็นยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ มีเนื้อทองเหลืองลงยาสีเขียวเพียงอย่างเดียว จำนวนสร้างทั้งหมด 3,124 องค์

 

ปิดใบโพธิ์จิ๋วครับ

 

สวัสดียามค่ำครับป๋า

 

#มองไม่เห็นท่าน..
เมื่อประมาณปี 2549 ผมเคยไปกราบพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงญาณสูงมากรูปหนึ่ง ท่านชื่อหลวงปู่อินทร์ วัดท่านอยู่ปทุมธานี จริงๆแล้วหลวงปู่อินทร์รูปนี้ ผมเคยไปกราบท่านหลายครั้งแล้ว เวลาใครมีเรื่องเดือดร้อนต่างๆ ผมก็มักจะพาไปกราบขอเมตตาให้ท่านช่วยตรวจทางใน และรักษาให้ ซึ่งญาณของท่านมีความว่องไว และแม่นยำสูงมาก แค่ถามไปปั๊บ ท่านตอบสวนกลับมาปุ๊บทันที เรียกได้ว่าไม่เคยผิดหวัง จัดว่าสุดยอดอีกองค์หนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้หลวงปู่อินทร์ท่านยังสามารถรักษาคนที่ถูกกระทำเรื่องคุณไสย ผีเข้า ฯลฯ ผู้ที่มาพึ่งบารมีท่านได้ผลเป็นที่น่าพอใจกลับไปทุกคน

แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมได้เคยถามหลวงปู่อินทร์ถึงหลวงปู่พิศดู ว่าท่านเป็นอย่างไรบ้าง(อยากฟังว่าท่านจะบอกอย่างไร) ถ้าใครเคยไปหาหลวงปู่อินทร์จะทราบดีว่า ญาณท่านไวขนาดไหน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งเดียวที่ผมเห็นอาการผิดไปจากปกติ นั่นก็คือ ทันทีที่ถามท่านถึงหลวงปู่พิศดู หลวงปู่อินทร์ท่านนิ่งไปประมาณเกือบ 1 นาที แล้วท่านก็ทำหน้าสงสัย จากนั้นท่านจึงนั่งหลับตานิ่งไปอีกประมาณ 5 นาที พอลืมตาขึ้นมาท่านก็บอกว่า..
"เอ๊ะ แปลกนะองค์นี้ มองไม่เห็นท่านเลย มืดไปหมด พยายาม(ใช้จิต)เข้าไปเจาะดู เหมือนท่านบังไว้หนามาก ไม่ให้เห็นอะไรเล้ย.."

นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นหลวงปู่อินทร์ไม่สามารถตรวจทางในได้ ถ้าตามปกติแล้ว ถามท่านปั๊บ ตอบปุ๊บ ไม่ต้องนั่งหลับตาแบบนี้..
หลังจากที่ไปกราบหลวงปู่อินทร์แล้ว ในสัปดาห์เดียวกันนั้น ผมก็เดินทางไปกราบหลวงปู่พิศดู ที่วัดเทพธารทอง พอผมเข้าพบหลวงปู่พิศดูเท่านั้น ท่านก็ทักขึ้นมาทันทีว่า.. วันก่อนไปไหนมา..?? ผมรู้ทันทีเลยว่า หลวงปู่ท่านทราบโดยละเอียดอยู่แล้ว จึงตอบไปเพียงว่า ไปทำบุญมาครับ..
เหตุการณ์แนวนี้ ผมเชื่อว่า สาเหตุที่หลวงปู่อินทร์ไม่สามารถตรวจดูจิตของหลวงปู่พิศดูได้ เพราะหลวงปู่พิศดูท่านบังของท่านไว้ แบบว่าจิตไวทันกัน ใครจะมาดูท่าน ท่านรู้ตัวก่อน จึงปิดบังไว้ได้ทันควัน..

เรื่องราวนี้ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง และไม่ได้มีเจตนาจะเอาครูบาอาจารย์มาเปรียบเทียบกันแต่อย่างใด เพราะผมก็นับถือทั้ง 2 องค์ และขอท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณด้วยครับ..
สิรภพ สายพานิช‎

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

ed859511496th บางกรวย

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

ed859514285th คุณศักดิ์

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า