รู้แจ้งโลก หลวงปู่ชา สุภัทโท

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jinny95, 17 สิงหาคม 2010.

  1. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,077
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,669
    รู้แจ้งโลก (หลวงปู่ชา สุภัทโท)



    จะปฏิบัติธรรมอย่างไร คนเราไม่รู้จัก นึกว่าการเดินจงกรม นึกว่าการฟังธรรม นึกว่าการนั่งสมาธิ เป็นการปฏิบัติ นั่นเป็นส่วนน้อย ก็จริงอยู่ แต่มันเป็นเปลือกของมัน การปฏิบัติจริงๆ ก็ปฏิบัติเมื่อประสบอารมณ์ นั่นแหละการปฏิบัติ แล้วที่มันประสบอารมณ์กับอยู่นั้น เช่นมีอะไร



    มีคนมาพูดไม่ถูกใจนะ เราเป็นทุกข์ขึ้นมา
    ถ้าคนพูดให้ถูกใจเรา เราก็เป็นสุข

    ตรงนี้แหละตรงที่จะปฏิบัติ เราจะปฏิบัติอย่างไร อันนี้สำคัญ
    ถ้าเราไปวิ่งกับสุข ไปวิ่งกับทุกข์
    มัวไปวิ่งกับสุข ไปวิ่งกับทุกข์อยู่นั่น
    จะวิ่งตลอดจนถึงวันตายก็ไม่พบธรรมะนี่
    ก็อยู่ไม่ได้ เมื่อรู้จักสุขทุกข์ทั้งสองนี้ขึ้นมาเมื่อไร
    เราจะแก้ไขปัญหาอย่างไรโดยธรรมะ นี่คือการปฏิบัติ



    โดยมากคนที่ได้ของที่ไม่ชอบใจ ไม่อยากจะพิจารณานะ
    อย่างคนนินทาว่าเรา อย่ามาว่าฉัน มาว่าฉันทำไม
    นี่คือคนปิดตัวไว้ ตรงนั้นแหละต้องปฏิบัติ

    ถ้าเขาว่าเราไม่ดี เขานินทาเรานี่ควรฟัง
    เขาว่าถูกหรือผิดอะไรหนอ ไม่ดีตรงไหน
    เราควรรับฟัง ไม่ต้องปิด ปล่อยเข้ามาให้ดูไว้



    บางทีก็มีนะที่เราไม่ดีนั่นน่ะ เขาว่าถูกยังไปโทษเขาอีกนี่
    ทีนี้เรามาดูตัวเรา เราเห็นที่ไหนมันไม่ค่อยดี
    เราก็เขี่ยมันออกเสีย เขี่ยโดยไม่ให้ใครรู้จักนั่นแหละ
    เขี่ยสิ่งที่ไม่ดีออกเสีย มันก็ดีขึ้นมาอีก นี่คือคนมีปัญญา

    สิ่งที่มันวุ่นวาย สิ่งที่มันไม่สงบอยู่ ตรงนั้นแหละ มันเป็นเหตุ สิ่งที่สงบอยู่ก็ตรงนั้นเอง เราเอามันแทนที่เข้าไปที่มันไม่สงบนั่นไง

    นี่บางคนไม่รับฟัง ทิฏฐิมันแรง เราทำอย่างนั้นจริงๆ ก็ไปเถียงเขาอีกนะ ยิ่งกับลูกเราแล้ว ความเป็นจริงบางอย่างมันถูกของเขา แต่เราเข้าใจว่าเราเป็นแม่เขาไม่ยอมมัน อย่างนี้ก็มี

    อย่างเราเป็นครูคนนี่ บางทีลูกศิษย์นะ เขาพูดถูกแต่ว่าเราไม่ยอมมันทำไม เพราะว่าเราเป็นครูเขา เขาจะเถียงเราได้อย่างไร นี่คิดอย่างนี้มันคิดไม่ถูก

    http://webboard.mthai.com/7/2008-03-21/375169.html
     
  2. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    เมื่อกลางวันเพิ่งคุยกับพี่คนหนึ่ง

    การปฏิบัติที่ถูกต้องคือ สามารถประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างสอดคล้อง

    มีทุกข์จรมา รู้ทัน ละได้

    มีสุขจรมา รู้ทัน ไม่หลงไหล

    ความจริง ไม่จำเป็นต้องรู้ทฤษฎีมากมาย เพียงรู้ไตรลักษณ์ แล้วนำไปประยุกต์เข้ากับเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา จนเกิดความเข้าใจอย่างซาบซึ้งจริงๆ ใจเบา กายเบา สุขก็มาเอง

    ปฏิบัติในรูปแบบ ทำได้มากก็ดี แต่ไม่ควรยึด
    ปฏิบัตินอกรูปแบบ ระลึกให้ได้มากๆ สัจธรรมจะแสดงให้เห็นเอง
    มีกระบวนท่า หรือ ไร้กระบวนท่า ล้วนเป็นประโยชน์ทั้งนั้น

    หลวงพ่อชาสอนเชิงประยุกต์ได้ตรงใจ
    ขออนุโมทนากับกระทู้นี้...สาธุ
     
  3. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +3,168
    เคารพต่อพระรัตนตรัย
    อนุโมทนากับผู้นำมาเผยแพร่ครับ

    เห็นด้วย
    เป็นอย่างนั้นจริงๆ
    ประโยชน์ที่แท้ในการศึกษาธรรมอยู่ที่ตนขจัดกิเลสในตนขจัดทุกข์ในตนได้แค่ไหน
    ใครจะอย่างไรสุดท้ายปรับเปลี่ยนใช้ ทำลายกิเลสตนได้ ใครจะว่าอย่างไร ก็ว่ากันไป
     
  4. จิตปรุง

    จิตปรุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +802
    อนุโมทนาค่ะ เห็นด้วยค่ะ การปฎิบัติคือการนำธรรมะไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ การมองดูตัวเองดีกว่ามองคนอื่นแน่แท้
     
  5. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    ขออนุโมทนาครับ
    เราไม่รู้หรอกว่าความทุกข์จะมาเยี่ยมเยือนเราเมื่อไหร่ บางครั้งยังไม่ได้ตั้งสติเลยก็จู่โจมเข้ามาแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดคือการป้องกัน เจียดเวลาสักวันละเล็กวันละน้อย 5นาที 10 นาที เพื่อมาสวดมนต์ภาวนา นั่งสมาธิกำหนดจิต ตามที่ถูกโฉลกกับตนเอง เมื่อจิตสงบดีแล้วก็พิจารณากายภายนอกของเราซึ่งประกอบไปด้วย เกศา โลมา นขา ทันตา และตโจ ท้ายที่สุดก็ต้องทะยอยดับไป เช่น เกศาผมบนหัวก็ต้องมีการร่วงไป บางคนร่วงจนถึงกับล้านโล่งไป โลมาขนบนผิวหนังของเราเมื่อแก่ชราแค่เอามือลูบก็หลุดร่วงไป นขาเล็บของเราก็จะหลุดไป ทันตาฟันของเราก็ต้องลาจากเหงือก ตโจผิวหนังเราก็จะต้องเหี่ยวย่น ทุกอย่างไปตามกาลเวลา แม้แต่ชีวิตเราเองก็ไม่แน่นอน ตายวันตายพรุ่ง ดังนั้นขอให้ทุกท่านจงดำรงจิตของตนเองในความไม่ประมาทเถิด จงปฎิบัติตาม มรรคมีองค์ 8 จะช่วยให้ความทุกข์ลดน้อยลง เพราะเราไม่ไปยึดติดกับมัน แต่ก็ไม่ใช่ไปยอมแพ้กับโชคชะตา ทำหน้าที่การงานให้ดีที่สุด แต่ให้ป้องกันไว้ก่อน ป้องกันบ่วงมารซึ่งจะมาพร้อมกับปัญหาให้ปวดหัว โดยการฝึกปฎิบัติใช้สติควบคุมจิตในแต่ละวัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...