ร่วมกันถวายงานพระเจ้าอยู่หัว

มีพระมหากรุณา พระราชทานความช่วยเหลือนายปรีชา<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานความช่วยเหลือแก่นาย<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" /><st1ersonName w:st="on" ProductID="ปรีชา มูลทองชุน">ปรีชา มูลทองชุน</st1ersonName> และครอบครัว ที่ประสบอุบัติเหตุจากการทำดี หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เร่งให้ความช่วยเหลือ ด้านการรักษาพยาบาล ที่อยู่อาศัย และเงินสงเคราะห์ เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจ ในการดำรงชีพ ถือเป็นแบบอย่างของการมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น และมีส่วนร่วมสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ พร้อมมอบถุงพระราชทานและยารักษาโรคแก่ราษฎรพื้นที่เขตภาษีเจริญ จำนวน 150 ชุด<o></o>
(28 พ.ย. 51) เวลา 09.20 น. : นาง<st1ersonName w:st="on" ProductID="วรรณวิไล พรหมลักขโณ">วรรณวิไล พรหมลักขโณ</st1ersonName> รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีพระราชทานความช่วยเหลือ นาย<st1ersonName w:st="on" ProductID="ปรีชา มูลทองชุน">ปรีชา มูลทองชุน</st1ersonName> และครอบครัว พร้อมมอบถุงพระราชทานและยารักษาโรคแก่ราษฎรในพื้นที่ โดยมี ฯพณฯ พลเรือเอกชุมพล ปัจจุสานนท์ องคมนตรี เป็นประธานในพิธี ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ร่วมพิธี ณ อาคารมานนา โรงเรียนตรีมิตรวิทยา เขตภาษีเจริญ<o></o>
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน จัดพิธีพระราชทานความช่วยเหลือแก่นาย<st1ersonName w:st="on" ProductID="ปรีชา มูลทองชุน">ปรีชา มูลทองชุน</st1ersonName> และครอบครัว ซึ่งได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลและที่อยู่อาศัย จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังถูกรถยนต์พุ่งชนขณะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ส่งผลให้สมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จอประสาทตาเสื่อม และมีปัญหาการได้ยิน โดยกรุงเทพมหานครได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนในการถมดินพร้อมปรับพื้นที่ราชพัสดุเพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัย พร้อมทั้งจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือและให้กำลังใจแก่ผู้ที่ทำดี ถือเป็นแบบอย่างในการทำดีแก่สังคม<o></o>
ทั้งนี้ สำนักราชเลขาธิการได้ตรวจสอบและประสานส่วนราชการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น จากโรงพยาบาลศิริราช กรมพัฒนาสังคม สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรมธนารักษ์ ในด้านการรักษาพยาบาล เงินสงเคราะห์ครอบครัว ทุนการศึกษาบุตร สถานที่ก่อสร้างที่พักอาศัย โดยในวันนี้ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม จากบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด กรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ กรมธนารักษ์ การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง และบริษัท ซิโน

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=898 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=898 background=images1/bg_head1.gif bgColor=#ffffff height=34>

พระราชทานความช่วยเหลือให้แก่ราษฎรที่ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ​

</TD></TR><TR bgColor=#e8e8e8><TD>

<TABLE width=600 border=0><TBODY><TR align=right><TD> |ส่งข่าว | Home</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE style="BORDER-RIGHT: 1px dotted; BORDER-TOP: 1px dotted; BORDER-LEFT: 1px dotted; BORDER-BOTTOM: 1px dotted" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=703 bgColor=#ffffff border=0 center?><TBODY><TR><TD width=708><TABLE width=729 border=0><TBODY><TR><TD align=left width=723>

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2550 ที่มัดยิดอี้ยตุ้ยอิสลามเกาะไร่ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา พลเรือเอก ชุมพล ปัจจุสานนท์ องคมนตรี เป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษา สิ่งของพระราชทาน และที่อยู่อาศัยโครงการพระราชทานความช่วยเหลือให้แก่ราษฎรที่ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในด้านต่าง ๆ ซึ่งในการนี้สำนักราชเลขาธิการพิจารณาแล้วเห็นว่า เด็กชายราเชน ขาวยั่งยืน ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา สมควรได้รับความช่วยเหลือในด้านที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และทุนการศึกษา และเพื่อเป็นการเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณแก่ราษฎรทุกหมู่เหล่า ทางจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยนายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการได้นำจังหวัดเคลื่อนที่มาร่วมให้บริการประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสนี้ด้วย
สำหรับเด็กชายราเชน ขาวยั่งยืน นับถือศาสนาอิสลาม เป็นบุตรของนางทรัพย์ ยิ้มวิลัย ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ บิดาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ มีป้าประกอบอาชีพรับจ้าง มีรายได้ไม่แน่นอน เป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัว และต้องดูแลยายซึ่งมีอายุมากแล้วอีกด้วย ซึ่งเด็กชายราเชนขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนพุทธิรังสีพิบูล อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา


​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สุดตื้นตัน พ่อของแผ่นดิน ทรงพระราชทานความช่วยเหลือ ดช.ป่วยไขกระดูกฝ่อ

<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=7 bgColor=#999999 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD background=../images/line_V.gif></TD><TD></TD></TR><TR><TD width=1 background=../images/line_H.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE class=news2006_black cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 15px; PADDING-TOP: 10px" align=left>โรงพยาบาลระดมแพทย์เข้าให้การช่วยเหลือเด็กชายที่ล้มป่วยด้วยโรคไขกระดูก หลังหนูน้อยเขียนจดหมายทูลเกล้าฯถวายฎีกาถึง

 

สาธุจ้ะ อบเอาบางข้อความไปเผยแผ่นะคะ

http://larndham.net/index.php?showtopic=34041&st=113

 

<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>น้ำพระทัย'พ่อหลวง'ดั่งน้ำทิพย์



</TD></TR><TR><TD vAlign=top>

น้ำพระทัย'พ่อหลวง'ดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจชุบชีวิตใหม่ครอบครัว'เด็กหญิง'กตัญญู ​

น้ำพระทัยของพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย ที่หลั่งรินช่วยเหลือปวงพสกนิกรที่ยากไร้เปรียบประดุจ​

 

-"...ชีวิตของ ด.ญ.แนน เติบโตมาพร้อมฐานะยากจนข้นแค้น แบกรับภาระหนี้สินท่วมหัว มิหนำซ้ำครอบครัวยังต้องอาศัยในที่ดินของผู้อื่น ปลูกกระท่อมพักอาศัยชั่วคราวเพียงได้หลบแดดฝนประทังชีวิตไป วัน ๆ หนึ่ง สร้างความรันทดและหดหู่ให้กับผู้คนรอบข้างครอบครัวนี้

แม้ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่ ด.ญ.แนน สามารถเลือกวิถีทางการดำเนินชีวิตของเธอได้ เธอไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคใด ๆ ยามว่างจากการเล่าเรียนก็ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระพ่อและแม่ ไปรับจ้างหาเงินเป็นทุนการศึกษาของตัวเธอเองและทุนการศึกษาของน้อง ๆ อีก 2 คน รวมทั้งเป็นค่าอาหารในแต่ละมื้อด้วยความกตัญญู แต่ด้วยภาระหนักอึ้งเกินวัย ทำให้เธอทนไม่ไหวอีกต่อไป

วันที่ 9 ม.ค. 2551 หรือต้นปีที่ผ่านมา ด.ญ.แนน ตัดสินใจทูลเกล้าฯถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานความช่วยเหลือ ด้วยน้ำพระทัยอันเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานความช่วยเหลือแก่ครอบครัว ด.ญ.แนน

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา พล.ร.อ.ชุมพล ปัจจุสานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์เดินทางไปเป็นประธานมอบบ้านพระราชทานพร้อมที่ดิน ซึ่งปลูกสร้างตามโครงการเทิดไท้องค์ราชัน ทุนการศึกษาและสิ่งของพระราชทานแก่ครอบครัวของ ด.ญ.แนน สร้างความปลาบปลื้มให้ครอบครัวของเด็กหญิงกตัญญูผู้นี้เป็นล้นพ้น

ด.ญ.แนน ร่ำไห้ด้วยความปลื้มปีติเล่าว่า รู้สึกดีใจเหมือนได้เกิดใหม่ที่ในหลวงได้พระราชทานความช่วยเหลือ ทำให้ครอบครัวมีความหวัง ตนเองก็มีความหวังจะได้เรียนต่อตามความตั้งใจและจะขอเป็นคนดีของสังคมเพื่อทดแทนพระคุณพระองค์ท่านตลอดไป ...."

-ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นร่มโพธิทองของไพร่ฟ้าประชาราษฎร์สืบต่อไปตราบนานเท่านาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

 

.....ด้วยเกล้า เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่แสดงออกถึงความจงรักภักดี และความเคารพเทิดทูนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีเนื้อหาสาระเป็นคติสอนใจคน ซึ่งถ่ายทอดจากความรู้สึกของชาวนาและความยากลำบากของกระดูกสันหลังของชาติ แต่ยังดีที่แม้ว่าทุกคนจะแร้นแค้นยากจนสักเพียงใด ความร่มเย็นและน้ำพระทัยของ 'ในหลวง' ก็แผ่กระจายเอาความชุ่มชื่นร่มเย็นไปถึง...เป็นภาพยนตร์ที่ทรงคุณค่าและควร ชม

ด้วยจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณใน 'พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ' สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย และ บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด ได้ผนึกกำลัง ระดมสมอง และใจ ในการนำภาพยนตร์เรื่อง ด้วยเกล้า กลับมาฉายอีกครั้ง โดยเรามิได้ดัดแปลงของเดิมแต่อย่างใด เพียงแต่ปรับปรุงและแก้ไขในเรื่องคุณภาพเสียงจากของเดิมเปลี่ยนเป็นระบบ ดอลบี้ 5.1 ซึ่งได้รับความเอื้อเฟื้อจากบริษัท ดอลบี้ มาช่วยดูแลในด้านระบบเสียงให้ รวมไปถึง กันตนา เอื้อเฟื้อแล็ปเพื่อใช้ในขั้นตอนผลิตฟิล์มทั้งหมด ,ฟูจิ ฟิล์ม มอบฟิล์มในการทำต้นฉบับใหม่ ,วนิลาสกาย ร่วมทำเสียงประกอบภาพยนตร์ใหม่, ลัลลาบาย ร่วมทำดนตรีประกอบภาพยนตร์ , ห้องเสียงรามอินทรา ร่วมบันทึกเสียงให้ใหม่ทั้งหมด และ เดอะโพสต์ บางกอก ร่วมสร้างสรรค์ผลิตภาพยนตร์ตัวอย่างครั้งใหม่ โดยมี ราเชนทร์ ลิ้มตระ***ล,สุเทพ ตันนิรันดร์ ร่วมตัดต่อและจัดทำโปสเตอร์ และ แบนเนอร์สื่อโปรโมททั้งหมด และคุณเกียรติกมล เอี่ยมพึ่งพร รับหน้าที่โปรดิวเซอร์งานในครั้งนี้ นี่เป็นเจตนารมณ์อันยิ่งยวดของ คนทำหนังไทย ที่ร่วมกันทำเพื่อ ในหลวง เนื่องในปีมหามงคลฉลองสิริราชสมบัติครบ 60ปี เพื่อย้ำเตือนความโชคดีเป็นที่สุดที่ได้อยู่ร่วมแผ่นดินไทย เป็นประชาชนของพระองค์

ภาพยนตร์ ด้วยเกล้า เปรียบเสมือนตัวแทน และ สื่อความหมายของ ความรู้สึก ของ คนหนังไทย ที่มีต่อพระเจ้าแผ่นดินของเรา เนื้อหาของหนังบอกเล่าเรื่องราว ในปีแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระราชทานข้าวเปลือกจากแปลงทดลองในวังสวนจิตรลดา สู่พิธีจดพระนังคัลแรกนาขวัญ เสาคำ(จรัล มโนเพ็ชร) ชาวนาจากภาคเหนือได้มาเก็บกอบไป 1 กำเล็กๆ ด้วยความรักเทิดทูนและศรัทธาใน ข้าวของพ่อ เขาหว่านข้าวเหล่านั้นลงในผืนดินที่แห้งแล้ง ต่อสู้กับความไร้น้ำใจของนายทุน ความดูหมิ่นจากคนในครอบครัว และธรรมชาติที่โหดร้าย จนวันหนึ่งที่ ฝนหลวง ซึ่งไม่ใช่ น้ำฝน ธรรมดา แต่คือ 'น้ำพระทัยของในหลวง' ที่ได้ชโลมแดนดินกันดาร เสาคำ ผู้เหมือนว่าจะพ่ายแพ้จึงกลับมาหยัดยืนได้พร้อมรวงข้าวสุกอร่ามเต็มอ้อม แขน....ดวงตาที่เปี่ยมประกายความสุข

-www.jaranmanopetch.com

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=800 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=10 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>แต่ก่อนบ้านห้วยทรายที่ลุงยินอยู่ ค่อนข้างแห้งแล้ง ขาดน้ำกินน้ำใช้ ลุงยินเล่าให้ฟังว่า "มาอยู่ที่นี่ตอนแรก ทำไร่มันสำปะหลัง สับปะรด อ้อย ตอนนั้นน้ำยังไม่อุดมสมบูรณ์ ต้องอาศัยฝนธรรมชาติ ทีนี้มันก็ต้องเสี่ยงกับตลาดเพราะว่า ปีนึงเราปลูกได้ครั้งเดียว ปีไหนราคาผลผลิตดี เราก็มีลุ้นขายได้หน่อย ปีไหนผลผลิตไม่ดี มันก็ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลาง ต่อมาเมื่อประมาณปี 2523 มีเจ้าหน้าที่เข้ามาบอกข่าวว่า จะมีโครงการในพระราชดำริเข้ามานะ"

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left width=800 height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width=800 height=50></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=800 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=10 cellPadding=10 width=800 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left width=205><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=205 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE height=115 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=185 bgColor=#6f7685 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=595>"หลังจากที่โครงการเข้ามา ทางเจ้าหน้าที่ก็จัดที่ดินให้ 10 ไร่ ขุดสระน้ำให้เรียบร้อย หลังจากนั้นลุงก็เลิกทำไร่อ้อย ไร่มัน เพราะ"โครงการเข้ามาแล้ว ลุงก็หันมาทำการเกษตรแบบผสมผสานตามแนวพระราชดำริ" เพราะตอนนั้นลุงก็ได้โอกาสไปศึกษาดูงานที่ วัดมงคลชัยพัฒนา จังหวัดลพบุรี ซึ่งที่นั่นจะเป็นต้นแบบของโครงการ เราก็เอามาปรับปรุงใช้ที่บ้านเรา ตอนเริ่มเข้าโครงการก็ทำเกษตรผสมผสาน ปลูกมะม่วง ขนุน ชมพู่ หลายๆอย่าง ตอนที่ต้นใหญ่ยังไม่โต เราก็ปลูกพืชผักสวนครัวไปก่อน ช่วงแรกๆเราก็ปลูกพริก ปลูกมะเขือ เพื่อเป็นรายได้ประจำวัน หลังจากนั้นอยู่ได้ประมาณ 3 ปี เราก็รู้สึกว่าอะไรมันก็ดีขึ้น เพราะผลผลิตเราก็เริ่มออกแล้ว 3 ปี ในพื้นที่ 10 ไร่นี้มันก็พอมีรายได้จุนเจือครอบครัว ส่วนปลาจะเลี้ยงในสระน้ำ แต่ไว้บริโภคอย่างเดียว"





</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left width=800 height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=10 cellPadding=10 width=800 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left width=205><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=205 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE height=115 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=185 bgColor=#6f7685 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=595>"ลุงรู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาส อยู่รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกประมาณวันที่ 19 ก.ค. 2540 ท่านเสด็จมาอย่างเป็นทางการ มีสมเด็จพระเทพฯ เสด็จมาด้วย มาที่บ้านลุงเลย ท่านรับสั่งว่ามาดูเรื่องดิน ท่านมานี่ ท่านต้องการทราบ ท่านก็หยิบดินขึ้นมาดู แล้วทรงรับสั่งว่า "ทำไมดินถึงดำ ใช้อะไร" ลุงเข้าใจว่าท่านคงหมายถึงดินดำ เพราะมีแร่ธาตุเยอะ ทำอย่างไรดินถึงดี เราก็บอกท่านว่า ใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกเป็นส่วนใหญ่ ตอนนั้นเราเลี้ยงไก่ เลี้ยงวัว เราก็ใช้วัตถุดิบที่เรามีอยู่ ดินก็เลยดำ ดินดี พอท่านเสด็จกลับ ท่านก็เหลือบไปเห็นกองเศษใบไม้กองหนึ่ง กองที่ลุงกำลังจะเอาไปทำปุ๋ยพอดี ตอนนั้นลุงรู้จักปุ๋ยชีวภาพแล้ว ท่านเลยรับสั่งว่า"ทุกบ้านน่าจะทำปุ๋ยชีวภาพใช้" ทีนี้กรมพัฒนาที่ดินก็เลยเอาคำรับสั่งของท่านไปปฎิบัติ ทุกวันนี้ปุ๋ยชีวภาพหรือปุ๋ยธรรมชาติดีมากในหมู่บ้านเรา"





</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left width=800 height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=10 cellPadding=10 width=800 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left width=205><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=205 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE height=115 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=185 bgColor=#6f7685 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=595>"ครั้งที่ 2 ที่ลุงได้รับเสด็จท่าน วันที่ 20 เมษายน 2543 ลุงรับทราบตอนเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ของวันที่ 19 ตอนนั้นเราก็สงสัยว่ารถใครมา สรุปว่ามีเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังมาดูพื้นที่ก่อน เดินมาหลังบ้านตอน 5 ทุ่ม มาดูพื้นที่ที่จะเตรียมรับเสด็จพระองค์ท่าน เราก็ตกใจก็พาไปดู มีเจ้าหน้าที่เต็มไปหมด แล้วก็บอกเราว่า พรุ่งนี้ต้องรับเสด็จพระองค์ท่าน ตอน 4 โมงเย็น บ้านลุงเป็นจุดที่ 4 พระองค์จะเสด็จมาที่นี่ มาเยี่ยม มาทรงงานที่นี่ พระองค์ทรงขับรถมาเอง พอท่านลงจากรถ ลุงมีหน้าที่รับเสด็จ ถวายรายงานท่าน ท่านรับสั่งว่า "เดี๋ยวเราไปดูเรื่องน้ำกัน" ลุงก็พาท่านไปดู ท่านรับสั่งอะไร เราก็ถวายงานท่าน ท่านก็เดินดู อยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ท่านรับสั่งว่า "มีปัญหาอะไรไหม" ซึ่งตอนนั้นก็มีน้ำท่วมช่วงเดือนมีนาคม น้ำมันหลากมา ตรงนี้มันเป็นแนวตีนเขา น้ำจะลงมาจากเขา มันเป็นทางน้ำผ่าน ซัก 10 นาทีน้ำก็จะหายไป พระองค์ท่านเลยรับสั่งว่า ให้เจ้าหน้าที่ทำทางระบายน้ำ ให้น้ำไหลเลย ตอนนี้ก็ทำเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นน้ำก็ไม่หลากแล้ว"




</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

www.mylifewithhismajestytheking.com

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=800 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=10 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left>ช่วงใน 3 ปีที่ต้นไม้ใหญ่ยังไม่โตลุงก็ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ก็เก็บพืชผักสวนครัวที่เราผลิตได้ไปขาย จะขายตรงเลยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง

ปัจจุบันลุงมีพื้นที่ในโครงการ 10 ไร่ นอกโครงการอีก 30 ไร่ ต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ 10 ไร่ ก็โตเต็มหมดแล้ว พร้อมที่จะเก็บผลผลิตได้หมด อย่างต้นมะพร้าว 1 อาทิตย์ เราตัดได้ครั้งนึง ส่วนในพื้นที่ส่วนตัว เราก็ปลูกมะเขือเทศ มะเขือยาว ปลูกพืชล้มลุกไป ก็แบ่งจัดสรรกันทำในครอบครัว อย่างลุง ก็จะปลูกผักปลอดสารพิษ โดยวิธีการมุ้ง ใช้ปุ๋ยชีวภาพที่ทำขึ้นเอง

ตั้งแต่มีอ่างเก็บน้ำ มีโครงการขึ้น มีศูนย์ศึกษาและพัฒนาบ้านห้วยทราย อะไรก็ดีขึ้น น้ำเราก็พอใช้ ฝนก็ตกต้องตามฤดูกาล จนกระทั่งปัจจุบัน ก็สมบูรณ์ พูนสุข มีกินมีใช้ สำหรับชีวิตของลุง ถ้าไม่มีโครงการนี้ คิดว่าลุงก็คงจะไม่ถึงขั้นนี้"

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left width=800 height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left width=800 height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=10 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>

"อยากจะให้พระองค์ท่านมีอายุยืนนาน ท่านจะได้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่ราษฎร เป็นห่วงพระองค์ท่าน ขอให้พระองค์ท่านอย่าได้เจ็บอย่าได้ไข้ ขอให้พระองค์ท่านมีความสุข
อายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงประชาทุกคน"​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left width=800 height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left width=800 height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left><STYLE type=text/css><!--.txtxxsmall { font-size: xx-small;}--></STYLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center noWrap align=right height=100> </TD><TD vAlign=center noWrap align=left>ยิน แหยมสกุล
23 หมู่ 7 ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

จาก http://www.sarakadee.com


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom colSpan=2>บันทึกไว้ในใจราษฎร์

</TD><TD> </TD></TR><TR><TD bgColor=#eeee00 colSpan=3></TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffdd>กล่าวกันว่า ภาพถ่ายหนึ่งใบ สามารถทดแทนคำพูดได้นับพันคำ...

ยิ่งหากภาพถ่ายใบนั้นเต็มล้นด้วยเรื่องราวของความผูกพัน ก็ยิ่งมีค่าทบเท่าพันทวี

ในบรรดาภาพถ่ายทั้งหลาย อาจกล่าวได้ว่าภาพที่อยู่ในความสนใจของคนไทยมากที่สุดภาพหนึ่ง ก็คือภาพพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งนับแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ จนถึงปัจจุบันคือปี พ.ศ. ๒๕๔๙ อันเป็นปีที่ทรงครองราชย์มาครบ ๖๐ ปี ช่างภาพส่วนพระองค์และสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ คงได้ฉายพระรูปของพระองค์ไปแล้วนับหมื่นนับแสนภาพ

ที่สำคัญ ในจำนวนภาพถ่ายมากมายเหล่านั้น ยังมีภาพที่สร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็นได้เสมอ ไม่ว่าเมื่อไร และไม่ว่าจะเคยได้เห็นมาแล้วสักกี่ครั้งก็ตาม

กล่าวอย่างสามัญที่สุด--นั่นคือภาพ

 

<TABLE cellPadding=8 width="100%" bgColor=#eeee55><TBODY><TR><TD vAlign=top>ญาดา ชินะโชติ อายุ ๖๐ ปี

 

<TABLE cellPadding=8 width="100%" bgColor=#eeee55><TBODY><TR><TD vAlign=top>คุณยายสุมน ภมรสูตร อายุ ๘๐ ปี

 

<TABLE cellPadding=8 width="100%" bgColor=#eeee55><TBODY><TR><TD vAlign=top>ศิริวรรณ บุญงาม
เกษตรกรบ้านห้วยแม่เพรียง อ. แก่งกระจาน จ. เพชรบุรี

 

<TABLE cellPadding=8 width="100%" bgColor=#eeee55><TBODY><TR><TD vAlign=top>ละมัย พังแสงสุ
เกษตรกรตัวอย่างของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

 

<TABLE cellPadding=8 width="100%" bgColor=#ff6600><TBODY><TR><TD vAlign=top>ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

 

<CENTER>





</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER><CENTER>









</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>

















</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER><CENTER>

















</CENTER>


http://palungjit.org/showthread.php?t=72607&page=59</CENTER></CENTER>

 

คุณยายสุมน ภมรสูตร อายุ ๘๐ ปี
“ยายภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย เพราะเมืองไทยมีในหลวง”


เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริ
ราชสมบัติครบ ๖๐ ปี คุณยายสุมนยกมือพนมท่วมหัว พร้อม
ถวายพระพรว่า
“ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ยาย
ภูมิใจและดีใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย อยู่ในผืนแผ่นดินไทย ไม่มี
ที่ไหนดีเท่ากับประเทศไทย แล้วพระเจ้าแผ่นดินอย่างนี้ ไม่มีที่
ไหนในโลก”
จักรพันธุ์ กังวาฬ : เรื่อง
บุญกิจ สุทธิญาณานนท์ : ภาพ


ทรงพระเจริญ


-อ้างอิงจากข้อความเดิม คุณภาวิโต #73

 

ทรงพระเจริญ

 

<TABLE cellPadding=8 width="100%" bgColor=#eeee55><TBODY><TR><TD vAlign=top>ละมัย พังแสงสุ
เกษตรกรตัวอย่างของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

 

ทฤษฎีใหม่ : การบริหารจัดการที่ดินเพื่อการเกษตรตามพระราชดำริ


ในทุกคราที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร
ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศนั้น ได้ทรงถามเกษตรกรและทอดพระเนตรพบสภาพปัญหา
การขาดแคลนน้ำเพื่อการปลูกข้าวและเกิดแรงดลพระราชหฤทัย อันเป็นแนวคิดขึ้นว่า


1. ข้าวเป็นพืชที่แข็งแกร่งมาก หากได้น้ำเพียงพอจะสามารถเพิ่มปริมาณเม็ดข้าวได้มากยิ่งขึ้น



2. หากเก็บน้ำฝนที่ตกลงมาไว้ได้แล้ว นำมาใช้ในการเพาะปลูกก็จะสามารถเก็บเกี่ยวได้มากขึ้นเช่นกัน



3. การสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่นับวันแต่จะยากที่จะดำเนินการได้เนื่องจากการขยายตัวของชุมชนและข้อจำกัด ของปริมาณที่ดิน เป็นอุปสรรคสำคัญ



4. หากแต่ละครัวเรือนมีสระน้ำประจำไร่นาทุกครัวเรือนแล้ว เมื่อรวมปริมาณกันก็ย่อม
เท่ากับปริมาณในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ แต่สิ้นค่าใช่จ่ายน้อยและเกิดประโยชน์สูงสุด
โดยตรงมากกว่า ในเวลาต่อมาได้พระราชทานพระราชดำริให้ทำการทดลอง
"ทฤษฎีใหม่" เกี่ยวกับการจัดการที่ดินและแหล่งน้ำ เพื่อการเกษตรขึ้น
ณ วัดมงคลชัยพัฒนา ตำบลห้วยบง อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี แนวทฤษฎีใหม่
กำหนดขึ้นดังนี้ ให้แบ่งพื้นที่ถือครองทางการเกษตร ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วเกษตรกรไทย
มีเนื้อที่ดินประมาณ 10-15 ไร่ต่อครอบครัว แบ่งออกเป็นสัดส่วน 30-30-30-10
คือ ส่วนแรก : ร้อยละ 30 เนื้อที่เฉลี่ย 3 ไร่ ให้ทำการขุดสระกักเก็บน้ำไว้ใช้
ในการเพาะปลูก โดยมีความลึกประมาณ 4 เมตร ซึ่งจะสามารถรับน้ำได้จุถึง
19,000 ลูกบาศก์เมตร โดยการรองรับจากน้ำฝน ราษฎรจะสามารถนำน้ำนี้
ไปใช้ในการเกษตร ได้ตลอดปีและยังสามารถเลี้ยงปลาและปลูกพืชน้ำ พืชริมสระ
เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่งด้วย ส่วนที่สอง : ร้อยละ 60 เนื้อที่เฉลี่ย ประมาณ 10 ไร่ เป็นพื้นที่ทำการเกษตรปลูกพืชผลต่าง ๆ โดยแบ่งพื้นที่นี้ออกเป็น
2 ส่วน คือ ร้อยละ 30 ในส่วนที่หนึ่ง : ทำนาข้าว ประมาณ 5 ไร่ ร้อยละ 30 ในส่วน
ที่สอง : ปลูกพืชไร่หรือพืชสวนตามแต่สภาพของพื้นที่และ ภาวะตลาด ประมาณ 5 ไร่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคำนวนโดยใช้หลักเกณฑ์ว่า ในพื้นที่ทำการเกษตร
นี้ต้องมีน้ำใช้ในช่วงฤดูแล้ง ประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ ถ้าหากแบ่ง
แต่ละแปลงเกษตรให้มีเนื้อที่ 5 ไร่ ทั้ง 2 แห่งแล้ว ความต้องการน้ำจะต้อง
ใช้ประมาณ 10,000 ลูกบาศก์เมตร ที่จะต้องเป็นน้ำสำรองไว้ใช้ในยามฤดูแล้ง
ส่วนที่สาม : ร้อยละ 10 เป็นพื้นที่ที่เหลือ มีเนื้อที่เฉลี่ยประมาณ 2 ไร่ จัดเป็น
ที่อยู่อาศัย ถนนหนทาง คันคูดินหรือคูคลอง ตลอดจนปลูกพืชสวนครัวและเลี้ยงสัตว์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแนวพระราชดำริอันเป็นหลักปฏิบัติสำคัญยิ่ง
ในการดำเนินการ คือ


1. วิธีการนี้สามารถใช้ปฏิบัติได้กับเกษตรกรผู้เป็นเจ้าของที่ดิน ที่มีพื้นที่ดินจำนวนน้อย
แปลงเล็ก ๆ ประมาณ 15 ไร่ (ซึ่งเป็นอัตราถือครองเนื้อที่การเกษตรโดยเฉลี่ย
ของเกษตรกรไทย)
2. มุ่งให้เกษตรกรมีความพอเพียงในการเลี้ยงตัวเองได้ (Self Sufficiency)
ในระดับชีวิตที่ประหยัดก่อน โดยมุ่งเน้นให้เห็นความสำคัญของความสามัคคีกัน
ในท้องถิ่น
3. กำหนดจุดมุ่งหมายให้สามารถผลิตข้าวบริโภคได้เพียงพอทั้งปี โดยยึดหลักว่า
การทำนา 5 ไร่ของครอบครัวหนึ่งนั้น จะมีข้าวพอกินตลอดปีซึ่งเป็นหลักสำคัญ
ของทฤษฎีใหม่นี้ นอกจากนี้ยังทรงคำนึงถึงการระเหยของน้ำในสระหรืออ่างเก็บน้ำ
ลึก 4 เมตร ของเกษตรกรด้วยว่า ในแต่ละวันที่ไม่มีฝนตกคาดว่าน้ำระเหย
วันละ 1 ซม. ดังนั้น เมื่อเฉลี่ยว่าฝนไม่ตกปีละ 300 วันนั้น ระดับน้ำในสระจะลดลง
3 เมตร จึงควรมี การเติมน้ำให้เพียงพอ เนื่องจากน้ำเหลือก้นสระเพียง 1 เมตร
เท่านั้น ดังนั้น การมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่เพื่อคอยเติมน้ำในสระเล็ก จึงเปรียบ
เสมือนมีแท้งค์น้ำใหญ่ ๆ ที่มีน้ำสำรอง ที่จะเติมน้ำอ่างเล็กให้เต็มอยู่เสมอ
จะทำให้แนวทางปฏิบัติสมบูรณ์ขึ้น กรณีของการทดลองที่วัดมงคลชัยพัฒนา
ทรงเสนอวิธีการดังนี้ จากภาพตุ่มน้ำเล็กคือสระน้ำที่ราษฎรขุดขึ้นตามทฤษฎีใหม่นี้
เมื่อเกิดช่วงขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ราษฎรก็สามารถ สูบน้ำมาใช้ประโยชน์ได้
และหากน้ำในสระไม่เพียงพอก็ขอรับน้ำจากอ่างห้วยหินขาว ซึ่งได้ทำระบบส่งน้ำ
เชื่อมต่อลงมายังสระน้ำที่ได้ขุดไว้ในแต่ละแปลงซึ่งจะช่วยให้สามารถมีน้ำใช้
ตลอดปี ในกรณีราษฎรใช้น้ำกันมากอ่างห้วยหินขาวก็อาจมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ
หากโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสักสมบูรณ์แล้ว ก็ใช้วิธีการสูบน้ำจากป่าสัก
มาพักในหนองน้ำใดหนองน้ำหนึ่ง แล้วสูบต่อลงมาในอ่างเก็บน้ำห้วยหินขาว
ก็จะช่วยให้มี ปริมาณน้ำใช้มากพอตลอดปี



-www.icphysics.com