ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ) พ่ออาจารย์พล

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ)

"แค่จิตเบา..ใจสบายย่อมเกิดผลดั่งปรารถนา"​

เมื่ออาราธนาตะกรุดหากยามที่เราจิตเบาใจสบายจะเห็นผลมาก..พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ง่ายเพียงเท่านี้ยามอารมณ์ดี..ใจเบาๆ..ใจโล่งๆอยากขออะไร ก็นำตะกรุดขึ้นมา
- ตั้งตะกรุดจ่อขึ้นฟ้า
- ตั้งจิตขอแล้วเป่าเข้าไปที่ตะกรุด
- ปราถนาสิ่งใดให้เป่าขึ้นฟ้า

นี่แหละที่ว่าฟ้าคล้อยตามปรารถนาสิ่งใดจะเป็นผลสัมฤทธิ์เสมอ ยิ่งจิตเราเบาใจเราสบายและถ้าเรื่องที่ขอพอจะมีความเป็นไปได้อยู่บ้างยิ่งจะเห็นผลทันตาทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าหากยังมีลมหายใจอยู่ก็ลมนั่นแหละเป่าขอไปเถิดวาสนาย่อมไม่หมดไม่ขาดสิ้นตั้งใจเป่าขึ้นฟ้าไปเถิดไม่ได้มีใครห้ามจะขอร้อยอย่างพันอย่างเป่าสักวันละร้อยครั้งพันครั้งก็ได้...นี่เป็นเครื่องมงคลสำหรับผู้มีความปรารถนามากไม่ได้ห้ามเลยว่าจะขอได้กี่เรื่อง ท่านว่าถ้าจำเป็นอะไรวันนึงเหตุมาเป็นร้อยเรื่องให้ขอได้เรื่องเดียวแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้ ท่านว่านี่เป็นเครื่องมงคลสำหรับการขอแบบไม่มีวาระคือขอไปได้เรื่อยๆตามเหตุการณ์ปัจจุบันทันด่วนของเรา ท่านว่าเป่าขอไปเถิดกำลังปราณกำลังฟ้าจะควบแน่นสนองงานอยู่ที่ตัวเธอ

*** มหาสนอง วิชานี้ให้คุณใหญ่มากพ่ออาจารย์ท่านจึงเลือกลงในตะกรุดลงถมเนื้อตะกั่วขอมโบราณที่สำเร็จจากการลงถมพระยันต์พันคาถาอันทำได้ยากอย่างยิ่ง...ซึ่งตัวพ่ออาจารย์ท่านให้ค่าตะกั่วลงถมที่สร้างด้วยความเพียรนี้มากดั่งทองคำ ซึ่งวิชามหาสนองนี้ท่านว่ามันสำคัญมากกับคนใช้คือ

1. โต้ตอบ วิชานี้พอจิตเรามีความปรารถนาต่างๆถึงจะยังไม่ได้อธิษฐานก็ตาม มหาสนองนี้จะโต้ตอบกับใจเธอตลอด เรียกว่าไม่วางอุเบกขา..ไม่อยู่นิ่ง..ไม่วางเฉย พูดง่ายๆว่าความคิดความปรารถนาขอต่างๆย่อมได้การสนองตอบแม้สิ่งที่ตั้งใจอธิษฐานก็ยิ่งสนองตอบแบบรุนแรง พ่ออาจารย์ท่านว่ามหาสนองนี้ไม่เงียบและไม่นิ่งเลยเพราะวิชาจะโต้ตอบกับผู้บูชาตลอดเวลา..อุปมาว่าเธอส่งอะไรไปที่ตะกรุด(คือกำลังความคิดหรือคำอธิษฐาน)ย่อมได้การตอบรับเป็นผลสัมฤทธิ์กลับมา

2. ยอมตาม เป็นกฤติยาคมให้สัมฤทธิ์ผลทุกประการพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่ายอดปรารถนาของคนก็ได้ เพราะมหาสนองนี้ไม่นิ่งเลยหากกลับจะคล้อยตามและยอมตามผู้อาราธนาไปทุกเรื่อง เรียกว่าขออะไรไปก็ทำตามอย่างนั้นไม่ปฎิเสธคำสั่งคำขอทั้งยอมและตามไม่ขัดใจ เราเป็นคนอย่างไรก็จะเออออห่อหมกไปกับเรา..พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมคำขอของเธอไม่แข็งขัด ยามต้องใช้คุณทางไหนตามเหตุการณ์ที่แปรผันไปในกาลเวลาก็ให้คุณออกมาได้เช่นนั้น

มหาสนองพูดง่ายๆก็ตอบรับตอบกลับเราไปทุกเรื่อง ยิ่งเมื่อใดที่เธอตั้งใจปล่อยวางเรื่องหนักๆซักครู่ทำใจให้เบาสบายแล้วอธิษฐานเป่าขึ้นฟ้าไปนี่เข้าล๊อคเลย กำลังจิตกำลังใจเธอจะยิ่งกระตุ้นมหาสนองตัวนี้ให้เร็วขึ้นและสนองกลับได้ไว..ตรงเรื่อง..ถูกเรื่องเป็นที่สุด

เป่าแล่นฟ้าคล้อย..ยอมตาม
ปกติพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ออกตะกรุดเป่าแล่นให้ใครมาก ..เพราะตะกรุดท่านเป่าแล้วแล่นไปต้องได้เรื่องสมหวังทุกครา วิชานี้แปลกมากเพราะมันไม่ใช่วิชาที่มีไว้เพื่อขอเพียงอย่างเดียวหากแต่ยังสนองกฤติยาคมแฝดซ้อนไปพร้อมๆกัน

1. พาชีวิตเธอไปจนสุด ให้พาไปได้สุดเท่ากำลังใจของเธอ..เคยทำเรื่องอะไรครึ่งๆกลางๆ..เคยทำอะไรไปแล้วมันไม่สุด..เคยคิดว่าเกิดมาใช้ชีวิตได้ไม่สุดรึไม่ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละพอมันไม่สุดความสุขก็ไม่เต็มร้อย,ผลประโยชน์ก็ไม่เต็มที่,เวลาก็เสียไปโดยเปล่าประโยชน์..แต่วิชาเป่าแล่นนี่มันมีอาถรรพ์คือพาชีวิตเธอไปสุดและสุดจริงๆจนเธอพอใจ แม้ลงทุนไว้ก็สำเร็จได้สูงสุด..แม้เสียเวลาทำกิจใดก็ไปได้ไกลที่สุด..แม้ใช้ชีวิตก็อยู่ในจุดที่น่าพอใจสูงสุด นี่เองที่พ่ออาจารย์ท่านว่ามันทำให้เธอไปสุดได้เท่ากำลังใจของเธอ ไม่ใช่พาไปสุดเท่านั้นหากความหวังเธอมากความปรารถนาเธอแรง...เวลา(ตัวแปรสำคัญความสำเร็จชีวิต)มันก็จะแรงและพาเธอไปได้ไวเท่าความหวังของเธอ

2. หลอมรวมสิ่งที่ขาด สิ่งที่ได้มาแล้วเสียไปก็ดี..สิ่งที่เพียรให้ตายก็คว้าไม่ได้ก็ดี..สิ่งที่เป็นเพียงความฝันจับต้องไม่ได้ก็ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งเหล่านี้มันเหมือนอาถรรพ์ที่อยู่คนละขั้วกับชีวิตเธอแม้นได้มาแล้วก็ยังมีเหตุให้แยกจากเสียไปอย่างรวดเร็วรักษาไว้ไม่ได้ ตรงนี้เรียกว่ามันไม่หลอมรวมเข้ากับชีวิตเธอเลย แต่เป่าแล่นนี้ทุกเรื่องที่มันแยกจากหรือไม่มีในชีวิตเธอ..มันจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับชีวิตเธอได้ไม่แยกจากไปอีก นั่นคือผลสำเร็จการหลอมรวมความฝัน,ความหวัง,ความปรารถนาเข้ากับชีวิตจริง สิ่งที่เคยขาด,สิ่งที่ได้ก็มีแต่เสียออกไปรักษาไว้ไม่ได้,สิ่งที่ไม่ใช่วาสนาไม่มีในฐานะของเราพ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องเหล่านี้ตั้งใจให้ดีวางใจให้เบาแล้วขอ "ขอให้วิทยคุณตะกรุดหลอมรวม(...สิ่งที่ต้องการ)เป็นเนื้อเดียวกับชีวิตตนเถิด" พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละสิ่งที่เหมือนสวนทางหลอมรวมไม่เข้ากับชีวิตเธอต่อไปนี้จะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน

3. ขึ้นติดเพดานชีวิต พูดง่ายๆคือกราฟชีวิตทุกเรื่องมันขึ้นสูงขึ้นหมดเลย แล้วจะค่อยๆสูงจนชนติดเพดานชีวิตของเธอเป็นอาถรรพ์ตะกรุดเป่าแล่นของพ่ออาจารย์ ท่านว่าขึ้นติดเพดานนี่ไม่ใช่ขึ้นช้าๆนะหากแต่สมชื่อเขาคือแล่นไป(ระหว่างค่อยๆเดินไปกับลมแล่นไปอะไรมันไวกว่ากัน) ตะกรุดนี้ก็เช่นนั้นเลยเธอเป่าหมื่นเรื่องความปราถนาไว้ที่ตะกรุดชีวิตเธอก็แล่นขึ้นไปสุดเหมือนกัน แล้วต่อไปนี้เธอจะรู้เองว่าจุดสูงสุดด้านนี้ก็ไม่ยากพอเปลี่ยนไปด้านใหม่ก็ไม่ยากมันทำให้ชีวิตเธอสามารถสำเร็จสูงสุดได้หลายๆเรื่องพร้อมๆกัน

"เป่าให้ชีวิตเธอแล่นพุ่งไป แม้นเป่าสิ่งใดฟ้าก็คล้อยยอมตาม" พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ติดตัวไว้และตั้งใจใช้ไม่ต้องเลี่ยมปรารถนาสิ่งใดก็ให้ตั้งฉากขึ้นฟ้าทำใจเบาๆสบายๆส่งคำอธิษฐานเป่าไปในรูตะกรุดแล้วชีวิตเธอจะสำเร็จได้อย่างน่าเหลือเชื่อ พ่ออาจารย์ท่านว่าสำเร็จแบบเบาสบายเหมือนอารมณ์ตอนเธออธิษฐานนั่นแหละแม้อุปสรรคใดๆก็ไม่ขัดขวาง ข้อดีของวิชานี้คือสำเร็จแบบไม่มีอุปสรรคทำให้วงจรชีวิตเธอลื่นไหล(ดังที่พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดที่เห็นพุทธคุณได้ไวที่สุด) ทั้งยังให้ผลทางโชคลาภแบบไม่ธรรมดา ทุกความคิด..ทุกการตัดสินใจ..ทุกการกระทำฟ้าจะคล้อยตามและยอมตามไม่ขัดข้อง เป็นวงจรชีวิตที่เธอเป่าเพื่อให้ตัวเองดีขึ้นเจริญขึ้นแลมีชีวิตที่สูงส่งขึ้น

### บัญชาฟ้าสอพลอ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เป็นสูตรของปู่พระอินทร์ท่านให้ทำไว้โดยพ่ออาจารย์ท่านต้องเข้าป่าไปหาว่านศักดิ์สิทธิ์(เป็นความลับ)เพื่อนำมาทำเป็นแกนตะกรุดเข้ากับตะกั่วขอมโบราณลงถมหมื่นยันต์พันคาถา ท่านเรียกของท่านสั้นๆว่าบัญชาฟ้าสอพลอเพราะฟ้าดินคล้อยตามหมดคิดอ่านปรารถนาสิ่งใดก็ให้เป่าให้อธิษฐานแลฟ้าดินจะคล้อยตามไปทั้งอย่างนั้นและยังคล้อยตามทันที
- ไม่มีการคัดค้าน
- ไม่พูดถึงความสมควร
- อุปมาเหมือนฟ้าเอาใจคน

ท่านว่าสำคัญมากคือฟ้าเอาใจคนเหมือนฟ้ายังประจบสอพลอเราไม่ทอดทิ้งยามเราเป่าคำอธิษฐานต่างๆขึ้นไป ทั้งยังไม่พูดถึงความสมควรว่าเรื่องที่ขอนั้นจะเหมาะสมอย่างไรเธอจะเป็นคนร้ายหรือคนดี(พ่ออาจารย์ท่านว่าลองมาอธิษฐานเป่าผ่านฟ้าดินคนใช้ก็ต้องเลือกแต่สิ่งดีๆทั้งนั้น) บัญชาฟ้าสอพลอก็คือฟ้าตอบรับทันทีเป็นความหมายแฝงให้เธอเข้าใจว่าฟ้าดินไม่ทอดทิ้งยิ่งเป็นตะกรุดเป่าแล่นยิ่งพุ่งสูงขึ้นไวไปได้รวดเร็วกว่าธรรมดา พ่ออาจารย์ท่านว่าอารมณ์คนทุกวินาทีมีพันแปดประการตะกรุดนี้มันตามอารมณ์ตามใจเธอไปนั่นแหละ *** หากแต่เพียงยามอธิษฐานจะเป่าตะกรุดให้วางเรื่องต่างทำใจเบาๆทำตัวสบายๆแค่นั้นเอง

นอกจากนั้นท่านว่า "มหาสนอง" ยังลงไว้ให้ครอบคลุมทั้งหมดในฝั่งเย็นเป็นเมตตาโชคลาภอย่างเอกติดตัวไว้ไม่มีคนเกลียกเราลงเลยผู้คนจะนิยมเรานัก ทั้งทำอะไรที่ต้องมีปฎิสัมพันธ์กับชนโดยรอบย่อมดึงดูดคนเข้ามาดั่งเราเป็นจุดศูนย์กลางที่เขาจะให้ความสนใจเห็นใจและพร้อมเข้าใจ
- ชนทั้งหลายจะเชื่อถือ พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งกว่าสาลิกาลิ้นทองเสียอีกเพราะพูดอะไรไปมันมีผลกระทบกับใจคนแม้นเขาคิดอย่างเราก็เปลี่ยนเป็นอีกอย่างได้..นี่เรียกว่าโน้มน้ามใจคนเป็นผลเหมือนเราวะกดใจเขาให้คล้อยตามเชื่อถือไม่กระทำอันตรายแก่เราทั้งต่อหน้าและลับหลัง
- เป็นโชคลาภอย่างเอก คือสมหวังในโชคลาภผลและมีโชคเนืองๆไม่เหี่ยวแห้งปรารถนาสิ่งใดก้สมหวังได้เป้นไปตามที่ขอ

พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เย็นมากนะ ถ้าใครจับพุทธคุณเป็นลองจับดู...เย็นเหมือนกำก้อนน้ำแข็งทีเดียว เอาไปใช้เถิดจะทำมาหากินสิ่งใดคนย่อมหลั่งไหลมาอุดหนุนเชื่อถือไม่ขาดตกบกพร่องเลย..ทำกิจใดออกไปก็ได้ความรุ่งเรืองมีแต่จะเจริญขึ้นไม่ต่ำลง *** ท่านว่าคนรัก,คนหลง,คนเชื่อถือ..เป็นมหาละลวย(อย่าไปหลอกให้ใครรักอย่าไปล้อเล่นกับชีวิตใคร) พ่ออาจารย์ท่านว่าทำดีๆนี่เขาพลีตัวพลีใจให้เลยแต่ให้เว้นไปอย่าไปทำร้ายเขา เอาแค่เป็นประโยชน์กับชีวิตให้เรามีคนรักคนคอยช่วยเหลือเสมอก็พอแล้ว

### มหาสนอง ให้ผลมากทางโชคลาภเปิดประสาทสัมผัสที่ถูกปิดไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าก่อนเอาไปเป่าขอสิ่งใดให้นำมาส่องที่ตาซ้ายขวาก่อน(ท่านว่าส่องมองขึ้นฟ้าไป)
1. ส่องบ่อยๆเหมือนมีตาทิพย์ คือตาเราจะไวกับสิ่งที่ให้โชคลาภกับเราเหมือนเปิดวาสนาประสาทสัมผัสให้เห็นแล้วต้องตาหรือมีสิ่งกระตุกใจตนอุปมาดั่งมองแผงหวยก็ใช้ความรู้สึกเวลาตามองดึงรางวัลขึ้นมาได้
2. ส่องเห็นน้ำใจคน แม้ตาเราคู่นี้ยังมองทะลุทะลวงน้ำใจคนได้ ไม่มีคนที่หลอกจะปลอมจะใส่หน้ากากเข้าหาเราได้เลย เพราะตาเรามองจะรู้สึกถึงน้ำใจเขาว่าเป็นของจริงรึของปลอม
3. ส่องบ่อยๆตาเราจะมองเห็นสิ่งที่อยากเห็น ท่านว่าอยากเห็นก็เห็นไม่อยากเห็นก็ไม่เห็นเพียงเปิดให้สัมผัสที่หกแรงกล้ามากขึ้น
พ่ออาจารย์ท่านว่าหากใช้เพียงเป่าเท่านั้นก็ย่อมใช้ได้แต่หากนำมาส่องตาก็จะเป็นมหัศจรรย์แก่ตนดุจมีตาทิพย์และเป็นประโยชน์ใหญ่แก่เธอไปตลอดชีวิต..ไม่ถูกคนแสวงหาประโยชน์..หรือตัดสินใจสิ่งใดผิด พ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งส่องทั้งเป่าโชคลาภไม่หลุดลอยไปไหนเลย *** แต่ตะกรุดนี้อย่าเที่ยวนำไปชี้สาปแช่งใครเด็ดขาดเพราะมันจะเห็นและแก้ไขได้ยากนัก

- ให้ติดตัวไว้สิริจะสถิตย์อยู่กับตัวเสมอ
- ให้ติดตัวไว้ย่อมชนะคนแลสรรพชีวิตทั้งปวง
- ให้ติดตัวไว้ที่ว่าอ่อนก็ง่ายที่ว่าแข็งก็ยอม
ตะกรุดนี้เป็นมหาวิเศษพ่ออาจารย์ท่านว่าติดตัวไว้เถิดสำเร็จหมดแล้วชนทั้งหลายยอมเราตามเราทั้งสิ้น ไม่ต้องก้มหัวอยู่ในการกดขี่ของใครเลยเป็นเครื่องมงคลที่ทำที่เสกจนเป็นของสำเร็จ..ขอเพียงนำออกมาใช้บ่อยๆก็ใช้ได้ไม่จำกัดทั้งยังนำโชคลาภมาให้เนืองๆผ่านตาผ่านมือของตนมากขึ้นไปเรื่อยๆ

คาถาบูชา
(เป็นของสำเร็จอธิษฐานจิตใช้ได้เลย)

วิธีใช้
1. ทำจิตให้เบาทำใจให้สบาย
2. หยิบขึ้นมาส่องที่ตาทั้งสองข้างมองขึ้นฟ้า(เปิดประสาทสัมผัสทั้งปวง)
3. ตั้งจิตขอแล้วตั้งใจเป่าไปที่ตะกรุด
4. ปราถนาสิ่งใดให้เป่าขึ้นฟ้า
พ่ออาจารย์ท่านว่าเป่าแล่นนี่นอกจากคำอธิษฐานเธอแล่นไปแล้ว ..ไอ้ที่แล่นเร็วที่สุดก็คือคุณภาพชีวิตเธอ มันจะพัฒนาแบบแล่นไปเลย *** ถ้าขี้เกียจพัฒนาแบบเดินไปทีละก้าว ทีละก้าว พัฒนาด้วยการเอาวิริยะอุตสาหะสติปัญญาขั้นอุกฤษเข้าแลก ..พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าอยากพัฒนาแบบแล่นไปได้ค่อยนำไปใช้เถิด

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของที่หาวัสดุทำได้ยากและทำให้สำเร็จจริงยิ่งยาก เหนือสิ่งใดเลยไม่ใช้สิ่งที่ทำเพื่อเอาไปเก็บ..หากแต่ให้ใช้คู่ชีวิต ...หากเบื่อการพัฒนาแบบเดินไปทีละก้าวๆอยากให้ชีวิตแล่นไปได้เหมือนลมก็ค่อยเอาไปใช้

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ) บูชา 4,000 บาท

​

 

"แค่จิตเบา..ใจสบายย่อมเกิดผลดั่งปรารถนา" ...หากเบื่อการพัฒนาแบบเดินไปทีละก้าวๆอยากให้ชีวิตแล่นไปได้เหมือนลมก็ค่อยเอาไปใช้

พ่ออาจารย์ท่านว่า..ใช้ทั้งส่องและเป่า
1. ส่องบ่อยๆเหมือนมีตาทิพย์
2. ส่องเห็นน้ำใจคน
3. ส่องบ่อยๆตาเราจะมองเห็นสิ่งที่อยากเห็น
ไอ้ที่แล่นเร็วที่สุดก็คือคุณภาพชีวิตเธอ มันจะพัฒนาแบบแล่นไปเลย *** ถ้าขี้เกียจพัฒนาแบบเดินไปทีละก้าว ทีละก้าว พัฒนาด้วยการเอาวิริยะอุตสาหะสติปัญญาขั้นอุกฤษเข้าแลก ..พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าอยากพัฒนาแบบแล่นไปได้ค่อยนำไปใช้เถิด

 

ฝากคำถาม pm ไว้นะ