ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระอนันตชินราชผงวิชาพิมพ์ปั้น(สำเร็จเบิกบุญก่อลาภพลิกฟ้ากลับธรณี)

    "คนบางคนทำบุญมามากแต่ก็ยังนำมาใช้ไม่ได้"

    ด้วยสภาวะสังคมที่เปลี่ยนไป ทั้งคนมีความทุกข์มากขึ้น พ่ออาจารย์ท่านจึงพิจารณานำพระรุ่นเก่าที่มีอานุภาพตัดกรรม หรือช่วยผู้บูชาให้พ้นจน พ้นทุกข์ไปได้ ซึ่งท่านเพียรสร้างไว้ตามวาระโอกาสซึ่งเสด็จพระใหญ่ท่านให้ทำ โดยพ่ออาจารย์ท่านว่าพระสำเร็จรุ่นนี้เสด็จพระใหญ่ท่านคุมงานเองทั้งหมดนะ พ่ออาจารย์ท่านว่าอันที่จริงหลักคำสอนของศาสนาพุทธที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นั้นเป็นหลักใหญ่เป็นกฎแข็งที่ไม่มีใครมาเปลี่ยนได้ หากเราไม่เคยทำบุญทำทานไว้เมื่อชาติปางก่อนเลย ไม่เคยสนใจเรื่องศีล สมาธิ หรือสัมมาทิฐิเลย ผลที่ตามมาก็คือ เราต้องเป็นคนยากจนแน่ๆ อันว่าคนยากจนก็มีหลายประเภท ประเภทที่แย่ที่สุดคือ เมื่อเกิดมาเป็นคนยากจนแล้วยังไม่พอ ยังดื้อดึงไม่เคารพพระศาสนา ผลของการไม่ได้ทำบุญกุศลสั่งสมไว้ในชาติที่ผ่านมาก็จะทำให้ไม่สนใจ ไม่ขวนขวายทำมาหากินไม่มุ่งในการทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ แต่หากในชาติก่อนเราเคยสนใจในเรื่องไตรสิกขาหรือตัวศีลสมาธิปัญญานี่แหละมาบ้าง เรียกว่าเคยทำบุญในพระศาสนาอยู่บ้างสิ่งเหล่านี้ก็จะตามรักษาตัวเรา แม้ว่าจะเกิดมายากจนอย่างไรก็จะพยายามขวนขวายหากินสร้างตนเองจนมั่งมีขึ้นมาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ก็เป็นสัจธรรมที่กำหนดความยากดีมีจนและอุปนิสัยต่างๆของสัตว์โดยทั่วไป

    แต่กาลปัจจุบันนั้นกลับมีคนที่ทำบุญมามากทั้งในชาติก่อนและชาติปัจจุบันแต่กลับยังติด ยังนำออกมาใช้ไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้เสด็จพระใหญ่ท่านก็เลยให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระขึ้นไว้ใช้เฉพาะกาล เรียกว่าทำไว้แก้ทุกข์ซักหน เพราะคนที่วาสนาปิดกั้นนิ่งเฉยดังกล่าวมานี้จำเป็นจำต้องใช้กระแสแห่งศีลและอภิญญาของผู้สำเร็จเป็นสื่อชักนำ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็อธิบายเอาไว้ว่าในโลกนี้ไม่มีอำนาจใดๆที่สมควรจะใช้และฝากเอาไว้ให้ท่านช่วยได้เสมอกับเสด็จพระใหญ่อีกแล้ว ด้วยธรรมวินัยทั้งหลายที่พระองค์บัญญัติขึ้นในไตรสิกขานั้นจะช่วยผู้เคารพเลื่อมใสที่ติดอยู่ในห้วงทุกข์ได้ถ้วนทุกประการ ไม่ว่าจะช่วยตัดกรรมเก่าที่ไม่หนักให้ขาดได้ หรือทำกรรมหนักให้เบาบางลงมาก็ยังได้ ด้วยเพราะพระองค์นั้นได้บำเพ็ญทศบารมีมายาวนาน หากใครขัดข้องเรื่องปากท้องการทำมาหากินผลของทานบารมีก็จะช่วยให้เราผู้เลื่อมใสทำมาหากินเจริญก้าวหน้าไม่ฝืดเคืองเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อชนใดได้พึ่งพระพุทธานุภาพนั้นแลสามารถตั้งตัวขึ้นมาได้ได้ด้วยกระแสอภิญญากระแสบารมีขององค์ปฐม(เสด็จพระใหญ่)ที่เราเข้าไปอาศัยอยู่ในร่มเงาของท่าน เราก็จะทำบุญทำทานรักษาศีลสั่งสมไปตามการเปลี่ยนแปลงในอุปนิสัยของเราโดยอัตโนมัติเพื่อเป็นทุนเอาไว้ใช้ในภายภาคหน้าอย่างไม่รู้จบ

    ดังนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านจึงให้พ่ออาจารย์ลบผงวิชาเบิกบุญไว้เสียครั้งหนึ่ง เพื่อให้ท่านได้สร้างพระที่ฝืนดวงได้ แหวกทุกข์ แหวกโศก และแหวกอุปสรรคทั้งปวง ท่านเปรียบว่าชีวิตคนบูชาจะได้สูงขึ้นดุจเดินจากที่มืดสู่ที่สว่าง เพื่อการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม แม้ผู้มีไว้บูชาศรัทธาและนับถืออย่างจริงใจล้วนจะประสบความสำเร็จในชีวิตทุกประการทั้งสิ้น ท่านทำให้เน้นไปทางด้านเบิกบุญเพื่อใช้ดับทุกข์ ดับโศก ดับโรคภัย ข้ามพ้นอุปสรรคอันตราย ให้เปลี่ยนวิถีความเป็นอยู่ดุจเดินจากที่มืดสู่ที่สว่าง นอกจากจะเบิกบุญแล้วท่านยังลงทางฝืนดวง ค้ำดวงเสริมไว้ ด้วยตั้งใจจะทำให้ผู้บูชามีดวงดี ไม่ตกไม่ต่ำ ถึงคราวจนก็จนไม่นาน ถึงคราวดวงตกก็ไม่ตกจนถึงต่ำ จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าเขดังนี้ พระอนันตชินราชนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านทำให้ดีไม่แพ้ของเก่า ทั้งเบิกบุญแหวกออกจากทุกข์โศกโรคภัย ขจัดออกจากอุปสรรค เสกให้ครบทั้งทางเจริญก้าวหน้า ป้องกันและคุ้มครอง เสริมชะตาบารมี โชคลาภค้าขายดี ให้เอาไปใช้ดูแล้วชีวิตจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้น

    เก็บๆกันเอาไว้บ้างนะ
    พ่ออาจารย์ท่านนำ
    ผงเบิกบุญที่ลบไว้ตั้งเป็นผงหลัก ผสมด้วยผงที่ท่านหวงแหนที่เรียกว่าผงเทพเนรมิตนั่นก็คือผงอิทธิเจพันปีซึ่งท่านได้จากในถ้ำ
    ผงอิทธิเจพันปีนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าก้อนผงนี้เขามีนางฟ้ารักษาชื่อจันทร์ฉายเป็นผงที่ดีครบทางเสน่ห์เมตตาโชคลาภครบถ้วนทุกประการถึงขั้นแม้โกรธกันแทบตายเจอกันจะฆ่ากันก็เป็นมิตรกันได้ ผูกมิตร รักเมตตาต่อกันได้ แม้ผงนี้ซักอณูหนึ่งก็มีอานุภาพมีตัวมีตนมีอาการสามสิบสอง มีความรู้สึกนึกคิดตอบรับความปรารถนาคำอธิษฐานได้ สมัยก่อนท่านว่าแค่เอาอณูผงนี้ผสมกับปูนปั้นเป็นเม็ดกลมๆให้คนห้อย เขาว่าเอาไปใช้ได้ภรรยาถึงสามคน พ่ออาจารย์ท่านเห็นคุณทางด้านเสน่ห์เมตตาของผงอทธิเจจันทร์ฉายนี้มามาก ท่านจึงนำก้อนผงทั้งหมดน้อมถวายเป็นพุทธบูชาหวังให้คนเอาไว้ใช้เป็นเมตตาแก่ชนทั่วไป ท่านว่าผงนี้แม้ได้ไปใช้แล้วให้ติดตัวไว้จะรักใครจะผูกมิตรกับใครให้อธิษฐานเอาถ้าสำเร็จแล้วต้องรับผิดชอบทุกอย่าง(ห้ามใช้ในทางไม่ดี ใช้ผิดศีลธรรม) ท่านจึงเอาบารมีของนางฟ้าหรือแม่จันทร์ฉายนี้ให้ออกไปสร้างบารมีเกื้อหนุนวาสนาคน ท่านว่าบารมีของนางฟ้าเขา ขอได้ทุกทางนะ ขอแค่เธอเป็นคนดีจะขออะไรก็ได้
    ท่านนำผงสองอย่างนี้เป็นมวลสารตั้งต้นผสมกับผงต่างๆที่มี
    คนรวบรวมส่งมาให้อันเป็นมวลสารที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาที่เก็บสะสมมาเพื่อให้พ่ออาจารย์ท่านใช้ผสมสร้างเครื่องมงคลประจำตัว ได้แก่ ผงพระแหวกม่านของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ผงจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ผงชันเพชรจากพระมหาบุษบกพระแก้วมรกต ผงว่านห้าร้อยชนิดของหลวงปู่พรหมมา ผงจากวัดพระแก้ว ผงแร่บางไผ่ ผงบางขุนพรหมที่แตกหักพ่ออาจารย์ท่านว่ามีค่อนกระป๋องท่านจึงถือบารมีสมเด็จโตโดยนำผงชิ้นกรุบางขุนพรหมนั้นมาตำบดใช้แทนปูนทีเดียว...และยังมีผงสำคัญที่มีความพิศดารอันไม่สามารถกล่าวได้อีกมากที่ชนทั้งหลายรวบรวมมาไม่ว่าจะเกษาหลวงปู่เทพโลกอุดร เกษาสำเร็จลุน ผงหลวงปู่เดินหน...ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าผงและของมงคลต่างๆล้วนแต่ถูกสร้างและได้มาด้วยอภินิหาริย์ทั้งสิ้นท่านได้นำผงอันไม่สามารถเปิดเผยได้เหล่านี้มาผสมผงนะปัดตลอดแดง ผงนะปัดตลอดลอดกระดานชนวน ผงว่านมหามงคล 108 ผงผลิกแผ่นดิน ผงพระธาตุ ผงพระธาตุพระสีวลี ผงหัวปลีแฝด ผงดอกบัวแฝด ผงอิทธิเจนวหรคุณ ผงอิทธิเจหัวช้าง ผงตะไบพระกริ่งสังฆราชแพ ผงปัถวีธาตุ ผงมหาอาคม ผงว่านชนะคน ผงมหายันต์ ผงมหาอุตม์ และผงมหาราช ผงจินดามณี ผงนางอกแตก ผงผูกจิต ผงมหาปัทมึนทั้งห้า ผงมหากันทั้งเก้า ผงเกสรดอกไม้บูชาพระคู่บ้านคู่เมือง ดินรอยเท้าลูกอ่อนที่ร้องไห้ตามแม่เก้าคน ผงแต่ละอย่างพ่ออาจารย์ท่านว่าล้วนมีอานุภาพและสิริมงคลมากท่านจึงนำมาเทรวมกันและเสกด้วยมนต์ดับทุกข์นาน 3 เดือน ด้วยผงเหล่านี้ท่านตั้งใจนำมาสร้างพระเบิกบุญพิมพ์ปั้นท่านว่าต่อไปพระนี่ใครได้ไปให้เขาเอาไว้ใช้ทำกรรมฐาน เพิ่มบุญ เบิกบุญ ด้วยรุ่นนี้เสด็จพระใหญ่ท่านทำให้เองทุกขั้นตอนจึงดีทุกทางดีทุกอย่างเกินกว่าที่มนุษย์จะทำ เธอเก็บกันให้ดีนะต่อไปจะหาไม่ได้

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านปั้นองค์พระแล้วท่านได้เชิญพระบรมธาตุอันเสด็จทอแสงไปมาระหว่างอากาศซึ่งเป็นของศักดิ์สิทธิ์มีฤทธานุภาพมาก มีอานุภาพมาก เข้ามาประดิษฐานไว้บริเวณเศียรองค์พระซี่งปกติแล้วพระธาตุอันแสดงฤทธิ์ที่ท่านไปเชิญมาเหล่านี้ท่านจะหวงแหนอย่างมาก พร้อมกับฝังแร่เหล็กไหลหัวใจธรณีและพลอยเสกจินดามณี นอกจากนั้นท่านยังนำผงแก้วสารพัดนึกที่ท่านตั้งใจจะใส่ตอนปั้นองค์พระมาปั้นเป็นดวงแก้วติดไว้ ท่านว่าผงนี้หากเราใส่แต่แรกคงแสดงอานุภาพได้ไม่เต็มที่นัก เพราะมีผงอย่างอื่นอยู่มากแล้วก็แรงๆทั้งนั้น เสด็จพระใหญ่ท่านจึงให้นำผงนี้มาปั้นเป็นดวงแก้วถือไว้เพื่อจะได้เป็นแก้วสารพัดนึกจริงๆ ท่านจึงนำผงแก้วสารพัดนึกมาเข้ากับผงพรายกุมารขึ้นหนึ่งครกพอทำสำเร็จแยกกันปลุกเสกเสร็จแล้วท่านได้นำผงพรายกุมารผสมกับผงแก้วสารพัดนึกปั้นเป็นลูกเล็กๆด้วยผงล้วนๆแล้วจึงปลุกเสกอีกคำรบหนึ่งโดยอาราธนาเสด็จพระใหญ่ท่านลงวิชาไปในทางสารพัดนึกหรือสำเร็จตามความปรารถนา สำเร็จตามใจทันใจเช่นนั้น ส่วนผงพรายกุมารที่ใส่ไว้ท่านว่าทำเพื่อเร่งให้ผงแก้วสารพัดนึกส่งผลเร็วขึ้น พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าผู้ที่มีลูกแก้วสารพัดนึกนี้อยู่กับตัวจะคิดจะนึกอะไรในทางที่ถูกอยู่ภายในศีลในธรรมจะสำเร็จสมความมุ่งมาตรปรารถนาอย่างรวดเร็ว ลูกแก้วนี้จะส่งผลชัดเจนตอนที่ถึงเวลาคับขัน หรือยามที่หมดที่พึ่งแล้วจะเห็นผลชัดมาก พ่ออาจารย์ท่านปั้นองค์พระอนันตชินราชนี้เป็นพระพิมพ์เพชรกลับถือดวงแก้วนั่งบัลลังค์ดอกบัวตามที่เสด็จพระใหญ่กำหนด ด้วยถือคติว่าจะได้กลับร้ายกลายเป็นดีได้ทุกสิ่ง ทั้งยังพร้อมที่จะพ้น พร้อมที่จะเบิกบานบนหนทางแห่งแสงสว่างเช่นดอกบัวนั้น แม้จะปรารถนาสิ่งใดก็จะได้อธิษฐานกับดวงแก้วสารพัดนึกนั่นเช่นกัน

    ตะกรุดโชคปาฏิหาริย์ เป็นตะกรุดที่พ่ออาจารย์เลือกลงฝังไว้ด้านหลังองค์พระ ท่านว่าอันปาฏิหาริย์นั้นคือสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ โชคปาฏิหาริย์นี้ก็เช่นกันกล่าวคือคนที่ปกติไม่มีโชคเกิดขึ้นก็จะเกิดได้นั่นเอง ท่านว่าให้ใช้เดินไปบนหนทางที่จะเป็นเศรษฐี ใช้ทางร่ำรวยเงินทอง ทางมั่งมีทรัพย์ต่อยอดเข้าไป พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีนิมิตตอนเสกว่าเป็นแสงเงินแสงทองเต็มไปหมด ท่านจึงบอกว่าคนเอาไปใช้ท่านให้เอาไปให้รวยนะ เพราะเป็นตะกรุดที่จะแสดงอภินิหาริย์และปาฏิหาริย์ทางโชคลาภทางร่ำรวยเป็นเศรษฐีมั่งมีทรัพย์เช่นนั้น ท่านว่าอธิษฐานได้เลยตามใจเรา อธิษฐานให้รวยก็รวยไม่ยาก อธิษฐานให้มีก็ไม่ยาก อธิษฐานดูนะอย่าไปขอสิ่งที่เหลือวิสัยก็พอแล้วจะสำเร็จ เพราะวิชานี้องค์ปฐมท่านนำมาให้

    “ห้อยพระเบิกบุญ เคราะห์ต้องหนีไกล” ด้วยองค์ปฐมนั้นท่านรับอาราธนาให้มาไล่ตัวทุกข์ ขับความชั่วร้ายเลวทราม แม้ทุกข์ภัยหนักต้องเดือดร้อนถึงท่านให้มาแก้เคราะห์กรรมให้ ท่านว่าให้จับอาการตัวเองให้ดีดูสิว่าในช่วงนี้มีทุกข์เข้ามาหาเราหรือยัง ที่บ้านมีความสุขความอบอุ่นไหม ทำมาหากินสะดวกสบายเหมือนแต่ก่อนหรือเปล่า ครอบครัวทะเลาะกันบ่อยมั๊ย...ปัญหาต่างๆเหล่านี้แหละคือตัวทุกข์ ทุกข์เพราะบุญนั้นไม่จับ ทุกข์เพราแรงบุญนั้นมาไม่ถึง เมื่อไม่มีความสุขเหมือนชีวิตแต่ก่อน การงานก็มีปัญหาจุกจิกมากมายทั้งเจ้านายลูกน้องไม่เกื้อกูลไม่อุปถัมภ์ไม่เชื่อฟังเราซะเลย เอาว่าแม้ทำมาค้าขายทำธุรกิจการงานก็เงียบเหงาซบเซา เรื่องเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นปัญหาใหญ่เพราะตัวเคราะห์ตัวทุกข์มันทำเอา วิธีแก้ง่ายที่สุดคือให้บูชาพระเบิกบุญ พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเรานั้นหากไม่เคยเกิดมาเกื้อกูลกันมาก่อน แม้ชาตินี้พบเจอกัน ก็จะไม่เลื่อมใสศรัทธา พบเห็นพระอยู่ตรงหน้าก็จะไม่เห็นความสำคัญถือว่าไม่ใช่ของของเขา พระเบิกบุญนี้ก็เช่นกัน หากเขาพอมีวาสนากับเสด็จพระใหญ่อยู่บ้างเรียกว่าเคยมีความผูกพันกัน เดี๋ยวเขาก็มาเอาของของเขาไป องค์พระนี้ท่านว่าแม้เอาไว้ที่บ้านเงินทองก็เข้าบ้าน ทั้งค้าขายดีมีกำไร นำโชคลาภการเงินไม่ขาดกระเป๋า กระตุ้นการเงิน เรียกเงิน เรียกลาภ รับทรัพย์อย่างเดียว เพราเสด็จพระใหญ่ท่านสงเคราะห์เหมาะแก่ยุคสมัย

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าพระเบิกบุญนี้ท่านเก่ง ฤทธิ์ท่านมาก พระพิมพ์ปั้นนี้เสด็จพระใหญ่จะเน้นฤทธิ์คืออะไรที่เกิดขึ้นไม่ได้ก็เกิดขึ้นได้ อะไรที่เป็นไปไม่ได้ก็เป็นได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนี้เสกเน้นให้ทุกอย่างครบหมดแต่จะเด่นอีกอย่างคือเสด็จพระใหญ่ท่านลงวิชา"ชุบตัว"ของท่านไว้ ด้วยวิชาเฉพาะของท่านวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาที่ช่วยให้ทำอะไรก็ดีไปหมด ทำอะไรก็สำเร็จไปหมด เหมือนการชุบตัว ชุบให้มี ชุบให้ได้ ชุบจากดำเป็นขาว ชุบลงบ่อเงินบ่อทองเช่นนี้ ด้วยคนเรานั้นวัฏจักรต้องวนเวียนอยู่กับไอ้ตัวทุกข์ไอ้ตัวเคราะห์ที่ชอบเข้าไปเสวยหรือไปกินไปทับดวงชะตาทำให้ดวงดาวเปลี่ยนผันไปมีผลร้ายมากกว่าดี เขาก็จะตกต่ำย่ำแย่ไปตามๆกันทุกๆเรื่องเช่นนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านจึงเสกชุบมนต์ ชุบวิชา ชุบตัวขึ้น เพื่อดับความทุกข์ความเดือดร้อนทั้งเคราะห์ร้ายต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านพูดเป็นนัยน์ๆว่าวิชาชุบตัวแบบเสด็จพระใหญ่นั้นเป็นวิชาเฉพาะ แม้คนก็ทำไม่ได้ แม้พระอรหันต์สาวกก็ยังทำไม่ได้ ดังนั้นคนที่ทุกข์หนักจึงต้องหาพระเบิกบุญชุบตัวนี้บูชาไว้ก่อน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเรานั้นตราบใดที่ยังเหยียบดินก็ยังมีทุกข์ ท่านจึงเสกมนต์ปราบธรณีเพื่อให้ผู้บูชาชนะทุกข์และชนะทั้งแผ่นดิน ท่านว่าเสกมานานปีจนเต็มจนเสกไม่เข้าแล้ว เอาว่าให้ติดตัวบูชาไว้จะป็นต่อเขาตลอด จะมีคนนำของดีๆมาให้ จะต่อเงินต่อทองต่อวาสนาไม่ให้หมดให้มียืดยาวอยู่เสมอ เรียกว่าตราบใดที่ยังเหยียบดินอยู่ก็มีแต่เรื่องดีๆ ถ้าจะบูชาไว้ในบ้านก็ให้วางองค์พระไว้ที่ฐานพระประธานของบ้านโดยให้พระพิงฐานพระประธานของบ้านให้พระเบิกบุญหันหน้าออกท่านว่านี้เหละเสริมอานุภาพให้คลุมได้ทั้งบ้าน หรือจะใช้พกติดตัวได้นี่ก็จะแน่นอนกว่า ท่านว่าแล้วแต่กำลังบุญและวาสนานะ เพราะเราทำให้ดีที่สุดแล้ว ถ้าเขาไม่รู้ปัญหาของตัวเอง ตายังมืดบอดหรือมองไม่เห็นนั้นมันก็เรื่องของเขาไม่ต้องไปพูดเยอะ

    คาถาบูชา
    อรหังกันโตอิติปิโสภควา กุมภัณยักษาพระโมคคัลลาปาระยันติ นะโมพุทธัง นะกันตังอรหังพุทโธนะโมพุทธายะ เย อริยะสัจจะพุทโธอรหัง ธรรมโมอรหัง สังโฆอรหัง พุทธังกัน ธัมมังกัน สังฆังกัน ท้อท้อกันกันสารพัดกัน พุทธังร้อยโยช ธัมมังร้อยโยช สังฆังร้อยโยชอิติปิโสภควา พระพุทธเจ้าสั่งมา พระโมคคัลลาปาระยันติ นะเยปะลังยุธเต พุทธสังมินะชาลิติ สัพพะลาภะภวันตุเม เอหิเมมาคะนะชาลิติ ข้าขออัญเชิญเสด็จพระอนันตชินราชมาล้อมรอบครอบตัว ขออาราธนาพระสัทธรรมเจ้าและพระพุทธคุณเข้ามาในตัว ขอเบิกบุญรับบุญให้สิ่งไม่ดีห่างหายไหลไปดั่งกระแสพระคงคา สาธุๆๆ


    ****พระอนันตชินราชพิมพ์ปั้นหรือพระเบิกบุญนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำครั้งนี้เป็นหนสุดท้าย ด้วยว่ามวลสารหายากและจะกวนเสด็จพระใหญ่ท่านบ่อยๆก็ไม่สมควร ดังนั้นใครมีวาสนาก็มาเอาไปท่านทำไว้ทั้งหมดแปดองค์แต่ท่านอาราธนาบูชาเององค์หนึ่งและให้ผู้มีวาสนาสูงไปองค์หนึ่ง จึงเหลือให้ร่วมสั่งจองทั้งหมดหกองค์ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนหล่อพระใหญ่ประดิษฐานตามวัดที่ขาดแคลนต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระอนันตชินราชผงวิชาพิมพ์ปั้น(สำเร็จเบิกบุญก่อลาภพลิกฟ้ากลับธรณี) บูชา 4,000 บาท

    48243225-2170565572974616-8048753444095262720-n.jpg 48275597-1292948957519791-5100242022975930368-n.jpg
    48418903-2560020367557791-1103995307345051648-n.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเวทย์สวรรค์(พิชัยสมบัติจักรพรรดิวิญญาณ)

    พ่ออาจารย์ท่านได้เล็งเห็นสภาวะปัจจุบันว่าเศรษฐกิจไม่ดี การค้าการขายย่ำแย่ และคนตำแหน่งสูงๆก็ยังโดนปลดออกกันเป็นว่าเล่น ท่านจึงอนุญาติให้นำวิชาเวทย์สวรรค์ชุดเฉพาะที่เรียกว่าพิชัยสมบัติจักรพรรดิ์วิญญาณนี้ออกมาช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบกับความตกต่ำของชีวิตและสังคมเหล่านั้น ด้วยเป็นวิชาเฉพาะทาง เป็นวิชาพระเวทย์เเต่โบราณที่หาคนรู้ คนศึกษาได้ยากเเทบจะหายสาบสูญไปเเล้ว เพราะสามารถใช้อันเชิญพลังทิพย์ของสิ่งศักดิ์สิทธื์ได้ ดังนั้นถ้าไม่เกิดวิกฤติตกต่ำอย่างแท้จริงท่านย่อมเลี่ยงที่จะเอาออกมาใช้

    สืบเนื่องจากตะกรุดเวทย์สวรรค์ปกตินั้นมีราคาสูงมากแค่ตัวปกติที่พอจะจับจองบูชาได้ก็นับกันที่หลักหมื่นขึ้นไป ยิ่งตัวพิเศษๆนั้นเอาว่าแม้หลายๆคนมีเงินมากองไว้ท่านก็ยังไม่ลงให้เพราะวาสนาไม่ถึง ซ้ำตัวตะกรุดเองก็น้ำหนักค่อนข้างมาก มีขนาดค่อนข้างใหญ่ผิดปกติเรียกว่าคนที่บูชาไปแม้อยากจะพกก็ยังพกได้ยาก ดังนั้นนานๆจึงต้องนำออกมาใช้มาดูซักครั้ง ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกตินั้นตะกรุดก็เป็นเครื่องคาด พอเอาไปไม่คาดไม่ใช้นานๆเข้าสายสัมพันธ์มันก็ไม่เกิด ท่านพิจารณาถ้วนถี่เห็นว่าสภาพสังคมในปัจจุบันนั้นเป็นวาระกรรมใหญ่ที่รับร่วมกัน ท่านจึงนำตะกรุดเวทย์สวรรค์ชุดพิเศษที่ท่านลงไว้ออกมาให้บูชา

    ด้วยตะกรุดนี้ท่านไม่สามารถลงเองได้ เพราะเป็นอักขระที่เหนืออักขระเป็นธรรมที่เหนือธรรม เรียกว่าตอนลงนั้นต้องแฝงธาตุเชิญครูแฝงอาการ หรือก็คือให้ครูผูกมือ ผูกวิญญาณแล้วทำการลง อักขระที่เขียนนั้นล้วนเป็นภาษาศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ใช่ทั้งขอม ทั้งธรรม ทั้งเทวนาครี หรืออะไรทั้งสิ้น แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าเธออ่านไม่ออกเห็นแล้วมองไม่รู้เรื่องเช่นนี้แหละ รู้ไว้แค่ว่ามันขลังนัก ก็ถ้ามนุษย์อ่านกันออกมันจะเรียกว่าเวทย์สวรรค์ได้อย่างไร ชุดนี้ที่ฉันทำครูในโลกทิพย์ท่านเรียกว่า"พิชัยสมบัติจักรพรรดิ์วิญญาณ" (ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นตะกรุดที่พ่ออาจารย์ท่านใช้ใส่กล่องเล็กๆเอามาไว้หนุนหัวนอนตลอดชุดหนึ่งเพราะท่านเชื่อว่าเป็นของสูงมากและก็มีอานุภาพมาก)

    มารู้จักเวทย์สวรรค์กันก่อน....
    วิชาทำตะกรุดนี้ถือเป็นการทำตะกรุดครูอีกประเภทของพ่ออาจารย์ที่ว่า ด้วยวิชาในหมวดของพระเวทย์สวรรค์ ซึ่งเป็นวิชาพระเวทย์เเต่โบราณกาล ปกติท่านจะไม่โปรดนำมาทำมาใช้ซักเท่าไหร่ วิชานี้อักขระที่ใช้เขียนไม่ใช่ตัวธรรมหรือตัวขอม เเต่เป็นอะไรที่ล้ำเเละลึกกว่านั้น ชื่อก็บอกอยู่เเล้วว่าป็นเวทย์สวรรค์เป็นวิชาของพรห ของเทวดาเขาใช้กัน จึงนับเป็นโอกาสดีที่พ่ออาจารย์ได้เมตตาทำตะกรุดนี้ให้พวกเราได้เป็นคนใช้ได้เป็นผู้ถือครอง
    พ่ออาจารย์กล่าวว่า เธอเคยได้ยินวิชาหมากินความคิดของสายอีสานมั๊ย อันนี้คนละเรื่องเลย พุทธคุณคล้ายกันเเต่หนักหน่วงกว่า เอ่ยปากภาวนาขออะไรก็เเล้วเเต่กับตะกรุด ปรารถนาสารพัดที่มีต้องได้ ต้องเห็นผล นี่คือเวทย์สวรรค์ตัวนี้มันให้ผลเเรงเเละไวเเต่ต้องไม่เกินกรรมของเราเพราะชีวิตคนเรามีความต้องการความปรารถนาไม่รู้จบ จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีวิชาเเละเครื่องรางที่ทำให้เขาได้ในสิ่งที่คิดไปซะหมด เเน่นอนว่ายุ่งไม่รู้จบ วิชาต่างๆ จึงถูกเก็บถูกปิดไม่ถ่ายทอดกันเช่นพระเวทย์สวรรค์วิชานี้ ไม่มีการถ่ายทอดเลยเเละก็ห้ามเราถ่ายทอดด้วยให้ตายไปกับตัวเราเหมือนกัน
    วิชานี้ขออะไรได้ สารพัดขอเลยเธอเอ๋ย ขอได้ยิ่งกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องมหาสมุทร มันอันตรายตรงนี้ วิชานี้จะเเรงมากหรือน้อยมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรานะ มันขึ้นอยู่ที่ใจคนใช้ที่ต้องเชื่อมั่นเจ้าตะกรุดนี้โดยปราศจากเหตุผล เเบบว่าเชื่อเต็มร้อยนั่นเเหละมั่นใจมาก มันจะเเรงไม่เเรงเเค่ไหนอยู่ที่ใจคนใช้เลย อันนี้บอกไว้ก่อนว่า ถ้ามั่นใจสนิทใจมากก็ยิ่งขอได้ไวมากสำเร็จผลมาก ที่ว่าเป็นดาบสองคมก็เพราะน้ำใจคนนี่มันน่ากลัวมันไม่ได้มีจำกัดนะ ถ้าศรัทธาเชื่อมั่นเเละถือขึ้นมันก็จะยิ่งทับทวีเเละยิ่งมีพลังมากขึ้นเรียกว่าขึ้นเอาขึ้นเอานั่นแหละ ทีนี้เเหละจะเปรียบให้เห็นภาพก็เหมือนเล่นลมบนบินสูงอย่างพญาครุฑเลย
    ก็ตามที่บอกว่าเป็นวิชาของเทวดา เทวดาเขาใช้กัน วิชาเหล่านี้จึงไม่มีปะปนหรือมีให้เห็นเเพร่หลายนัก เราเองก็เลือกคนให้ เพราะว่า มันเเรงเท่ากับใจคนใช้ เเล้วคนส่วนมากที่กล้ามาเอาใจเขาก็เเรงมันก็ยิ่งเสริมยิ่งผลักให้สำเร็จไปกันใหญ่ เเต่เราก็ต้องดูจริตคนนะ ต้องไม่มากไปไม่มักใหญ่ใฝ่สูงถึงจะให้เขาเอาไปบูชาได้ ถามว่าใช้ได้เเค่ไหนขออะไรได้ ให้ใช้ใจเราเป็นมาตรฐานว่า ควรจะขอมั๊ยดีกว่า ขอได้ให้อยู่ในกรอบสิ่งที่ดีงามเเละความเจริญก้าวหน้าของตนเอง
    ทีนี้มาดูกันต่อ วิชานี้ถ้าเราเอาไปขอซี้ซั่ว มันได้มั๊ย มันก็ได้ เเต่ได้เวรกรรมติดมาด้วย ก็บอกเเล้วว่า เป็นวิชาของเทพยดาเขาใช้กัน ไปไหนเขาก็ตามกันไปเป็นสื่อให้เราเข้าถึงเขาง่าย ว่าก็ว่า เถอะ ไอ้ของเเบบนี้เวลาได้มันได้มากเเต่ถ้าเอาไปใช้ผิดมันจะเจ็บมาก เวรกรรมจะสนองไว
    วิชานี้แปลกนะเวลาเราลงจะเป็นเสมอๆ น้ำมูกน้ำหูน้ำตาจะไหลมาเองแบบอัตโนมัติ ถ้าไปทำให้ใครเห็นเขาจะนึกว่าเราบ้า นั่งเขียนภาษาอะไรก็ไม่รู้ขอมก็ไม่ใช่ธรรมก็ไม่ใช่ เขียนไปร้องไห้ไปมีปิติตั้งไว้สูงถึงขนาดนั้น กว่าจะเสร็จดอกนึงนี่ก็เล่นเอาเหนื่อยมาก เพราะไปเเตะของสูง วิชาของเบื้องบนเขา
    และวิชานี้ที่ใช้ขอได้สารพัดมันธรรมดาซะที่ไหน ต้องลงเต็มแผ่นทั้งหน้าหลังทีเดียวไม่ใช่เขียนไม่กี่ตัว กว่าจะได้คนทำร่างกายก็เเย่ ถ้าสั่งปั๊มก็ไม่ได้เรื่องอีก เพราะสูตรการลงเรารู้อยู่เเก่ใจว่า มันต้องทำมาจากมือของเราจะเเค่ปั๊มมาเป่าก็ไม่ได้
    ทีนี้เราก็เเค่ปรารถนาให้คนได้ไปเขาใช้ให้ถูกทำนองคลองธรรมเเค่นั้น มนุษย์นี่มีปากมีความปรารถนา ตะกรุดนี่เหมาะกับคนช่างขอ ขอไปเถอะ ขอจนกว่าจะได้เเละอย่าหยุดที่จะขอ ถ้าขอเเล้วยังไม่ได้ให้ตัดพ้อน้อยเนื้อต่ำใจว่าออกไปเลยนั่นเเละได้เเน่ เทวดาบางทีเขาก็ยึกยักลังเล เเต่เขากลัวอบายภูมิถ้าเราตัดพ้อว่าเค้ารับรองว่าไม่กล้าไม่ช่วย ประสงค์จะสื่อจะขอองค์ไหนก็ออกนามท่านไปเลย
    ถ้าเรื่องมันใหญ่มันพูดกันยาก อยากเห็นผลไวมาก ให้เอากระถางธูปมาเอาตะกรุดนี่ปักไว้ จุดกลางเเจ้งนะธูป36ดอกจุดบอกเขาไปพอธูปหมดให้เก็บตะกรุดทันทีได้เรื่องเเน่ เเค่ขอธรรมดาลำพังตะกรุดนี้ก็ขึ้นชื่อว่าเเรงมากเเล้ว
    ตะกรุดนี้ให้คาดไว้ติดเนื้อติดตัวแต่ห้ามต่ำกว่าเอวนะมันจะไม่ดี เนื่องจากปกติเป็นตะกรุดที่ม้วนหนาน้ำหนักเอาเรื่องอยู่เรียกว่าห้อยกันทุกวันก็มีทรุดหนนี้ท่านจึงตั้งใจทำให้มีขนาดเล็กพกง่ายและน้หนักเบาเพื่อที่คนใช้จะได้ใช้กันจริงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำให้เห็นให้รู้ไว้ว่าของสูงเเละพระเวทย์ดึกดำบรรพ์ที่อาถรรพ์เเรงให้คุณมหันต์เหล่านี้ยังไม่ได้หายไปไหน เเต่เเค่ไม่ปรารถนาที่จะทำบ่อยก็เท่านั้น
    ท่านว่าใครรู้เนื้อตัวเเละต้องการหรือตามหาวิชานี้ก็ให้เขาจองเอาไว้เพราะพลาดแล้วจะไม่มีให้เห็นอีกท่านไม่ได้อธิบายอะไรเยอะ เพราะเป็นพระเวทย์สวรรค์ด้วย เเถมยังใช้ขอได้ทุกอย่างด้วย ถ้าพูดเยอะมันจะเป็นการชี้โพรงให้กระรอกมากเกินไป


    ทีนี้ตะกรุดเวทย์สวรรค์ที่ชื่อพิชัยสมบัติจักรพรรดิวิญญาณนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหลักๆเลยก็จะลงด้วยองค์แห่งธาตุแสงนั่นก็คือพระสุริยาทิตย์ที่เป็นตัวแทนองค์ธรรมต้นกำเนิด ด้วยถือว่าแสงนั้นเป็นบ่อเกิดแห่งชีวิต ทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานที่ทำให้ทุกชีวิตสามารถขับเคลื่อนทำกิจกรรมต่างๆต่อไปได้ จึงถือเป็นอาถรรพ์ยิ่งใหญ่แห่งสภาวะองค์ธรรมที่จะทำให้มนุษย์นั้นเจริญรุ่งเรือง มีชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง ไม่ตกต่ำ ไม่เสื่อมถอยและมีพัฒนาการที่ก้าวกระโดดได้ไกลกว่าชนทั้งหลายอันไม่มีองค์ธรรมซึ่งเป็นต้นกำเนิดสรรพชีวิตเกื้อหนุน พ่ออาจารย์ท่านว่าในโลกทิพย์นั้นเรียกองค์ธรรมแห่งธาตุแสงว่า"จักรพรรดิวิญญาณ"... ซ้ำตำรับนี้ท่านยังลงไว้ผูกอาถรรพ์คู่กับต้นปาริชาติอันเป็นสมบัติวิเศษแห่งดาวดึงส์พิภพที่มีอานุภาพยิ่งใหญ่ นั่นคืออยากได้อะไรแม้อธิษฐานใจกับต้นปาริชาติย่อมได้สมความปรารถนาทั้งสิ้น เรียกว่าจะหมายเดือนหมายดาว จะเอานางฟ้า เอาสมบัติเทวดา จะเอาปราสาทวิมานต่างๆแม้กระทั่งทิพย์สมบัติ ย่อมขอจากปาริชาติได้ทั้งสิ้นท่านว่าขอได้หมดไม่มีลูกจะขอลูกก็ยังได้ เช่นนั้นปาริชาติจึงเป็นต้นไม้ต้นเดียวที่อสูรพิภพลงทุนทำสงครามนานกับเทวดามายาวนานชนิดที่เรียกว่านับกัปกัลไม่ได้เพื่อจะหาทางแย่งชิงปาริชาตินั้นไปไว้ในพิภพของตน พ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อหนุนให้เวทย์สวรรค์ขอได้ทุกสิ่งอย่างแท้จริงจึงต้องลงรูปธรรมของปาริชาติเอาไว้ด้วยจะได้ขับเคลื่อนทั้งพลังชีวิตและพลังความปรารถนาได้พร้อมๆกัน

    พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าเมื่อครูเมตตาตั้งนามมาดังนี้คือเวทย์สวรรค์ชุด(พิชัยสมบัติจักรพรรดิวิญญาณ) ท่านจึงนำผงวิเศษอีกสองตระกูลมาคลุกตะกรุดให้เกิดมีอานุภาพสูงสุดยิ่งขึ้นไปอีก
    - ผงพิชัยสมบัติ สุดยอดวิชาจากตำราพระพิชัยสงครามนั่นคือวิชาพิชัยสมบัติ ซึ่งหาผู้รู้จริงทำจริงที่จะทำได้ยากเพราะเป็นที่สุดของวิชาโภคทรัพย์ตามตำรับพิชัยสงคราม ซึ่งแต่โบราณนั้นอย่าหวังว่าคนธรรมดาสามัญจะมีไว้ในครอบครอง ยิ่งการเสกด้วยวิชาพิชัยสมบัตินั้นยิ่งยากเข้าไปอีกเพราะพิชัยสมบัตินั้นเป็นวิชาที่จะเปิดดวงคนให้มีชัยชนะเหนือทรัพย์ทั้งหลายโดยไม่สนชะตาชีวิตหรือสิ่งที่ผ่านมานั้นเอง ท่านว่าวิชานี้ไม่ใช่วิชาชนชั้นทั่วไป แต่เป็นวิชาโชคลาภโภคทรัพย์ตำรับพิชัยสงคราม เป็นวิชาที่ทำถวายเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน พ่ออาจารย์ท่านให้ความสำคัญกับวิชานี้มาก ด้วยว่าเป็นวิชาที่มีอานุภาพค่าควรเมืองตำรับหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านให้ความสำคัญกับวิชาพิชัยสมบัติมากท่านว่าถึงกาลควรแก่เวลาแล้วที่คนจะได้เปิดดวงเบิกบุญปรับหนุนโชคชะตากันเสียที วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านต้องลงอักขระเลขยันต์ตามตำรับ หนุนด้วยสี่เทวราชที่คุมมหาทิศทั้งสี่นั่นคือท้าวจตุโลกบาลท่านว่าเพราะแบบนี้ไม่ว่าอยู่ทิศไหนที่ไหนก็รวยเพราะเป็นอาญาสิทธิ์ของจตุโลกบาล ไม่เพียงเท่านั้นวิชานี้ยังเป็นวิชาที่เสริมส่งคนใช้ด้วยคุณของสิบสองพระโพธิสัตว์อีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าพระโพธิสัตว์ทุกองค์นั้นล้วนมีจิตเมตตาเปี่ยมด้วยมหากรุณาอันยิ่ง แน่นอนว่าทุกพระองค์ย่อมโปรดสัตว์ให้พ้นจากความทุกข์ยากได้ด้วยจิตมหากรุณานี้ แต่ท่านว่านี่ยิ่งแล้วใหญ่เลยเพราะไม่ใช่มีกำลังเพียงหนึ่งแต่นี่มีถึงสิบสอง วิชาพิชัยสมบัตินั้นจึงเป็นวิชาสำคัญที่พลิกชีวิตคนได้แบบฉับพลันทันที เป็นวิชาชั้นสูงตามตำรับพิชัยสงคราม มีคุณอันหาค่ามิได้ ท่านว่าหากได้ไว้ผูกตัวหรือนำติดกายบูชา คนผู้นั้นจะเจริญรุ่งเรืองยกฐานะตนเองได้ แม้อยู่กับตัวก็ยกฐานะตัว แม้นำไปฝังในบ้านก็ยกฐานะเพิ่มทรัพย์สมบัติให้แก่เรือน หากบ้านไหนมีพระภูมิเทวดา นำผงวิชานี้ไปฝังที่บริเวณพระภูมิ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ดีวันดีคืนทีเดียว เป็นอาญาสิทธิ์ท้าวจตุโลกบาลและสิบสองพระโพธิสัตว์ให้พระภูมิเจ้าที่รีบหาสมบัติมาให้ตรงไหนพร่องก็ต้องเติมให้เต็มอยู่เฉยมิได้เลย หากตั้งใจบูชาแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ล้วนแต่ผลิดอกออกผลงอกเงย ที่จะได้ชั่วหรือเสมอตัวนั้นหามีไม่ด้วยเป็นวิชาที่สืบมาแต่บูรพาจารย์มีคุณด้านโชคลาภสูงส่ง เชื่อถือกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแล้วว่าเป็นสุดยอดวิชาทางด้านเรียกโชคลาภให้หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ชีวิตใครไม่เคยมีโชคหากจับพิชัยสมบัติขึ้นมาจะพลิกเปลี่ยนวาสนาได้ฉับพลันทันที ด้วยว่าพิชัยสมบัตินั้นคือปรับชีวิตให้มีชัยชนะเหรือทรัพย์สมบัตินั้นเอง ให้ผู้ใช้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติทั้งหลาย นี่จึงไม่ใช่วิชาโชคลาภโภคทรัพย์ธรรมดา สิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ก็จะบังเกิดขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ความปรารถนาใดที่ต้องใช้ความอุตสาหะมาก ใช้ความเพียรมาก ทำให้ชีวิตเรายากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน สิ่งเหล่านั้นล้วนแต่จะสำเร็จสมปรารถนาดั่งตั้งจิตมุ่งหวังไว้ไม่เคลื่อนคลายเพราะนี่คือพิชัยสมบัติตามตำรับพิชัยสงครามอย่างแท้จริง
    - ผงจักรพรรดิ ที่พ่ออาจารย์ลบถมตามสูตรยันต์ทำตะกรุดมหาจักรพรรดิมีอุปเท่ห์ดังนี้
    สิทธิการิยะ ท่านทิศาปาโมกขาจารย์ ท่านได้ประชุมกันสร้างมหายันต์นี้ขึ้น โดยจารึกไว้บนแผ่นหินบรรจุไว้ในสระน้ำใหญ่ เพื่อหวังที่จะให้กุลบุตรผู้ใดที่เล่าเรียนพระไตรปิฎกได้อาบกินน้ำในสระนั้นแล้ว สติปัญญาความทรงจำจะได้ดีขึ้น
    - อนึ่งถ้าหากกุลบุตรผู้ใดปรารถนาจะใคร่จำเริญในลาภและยศ ท่านให้ลงพระมหายันต์นี้ใส่ในแผ่นทองคำก็ได้ แผ่นทองแดงหรือแผ่นตะกั่วก็ได้ ทำเป็นตะกรุดเอาแช่น้ำบูชาไว้ ยิ่งแช่ไว้ในขันสัมฤทธิ์(หรือขันน้ำมนต์ที่ประกอบขึ้นตามพิธี)ยิ่งดี เอาน้ำที่แช่ตะกรุดนั้นกินบ้าง ลูบหน้าบ้าง เอารดศรีษะบ้าง บำบัดโรคภัยทั้งหลาย ทั้งจะมีอายุยืนนาน บังเกิดลาภยศตาม แต่จะถึงปรารถนาอธิษฐานเอาเถิดได้สำเร็จความปรารถนาทุกประการแล
    - อนึ่งจะให้มีตบะเดชะให้เอาตะกรุดมหาจักรพรรตธิราชนี้ผูกเอวไว้ ให้รูดตะกรุดนั้นไว้ข้างหน้า ใครเห็นใครก็กลัว ใครเห็นใครรักแล ถ้าจะเล่นการพนันให้รูดตะกรุดนั้นมาไว้ข้างหน้า ตั้งใจอธิฐานเอาว่า จะต้องการเงินสักเท่าไหร่ ก็ให้พึงเอาเพียงนั้นเถิด พึงตั้งมั่นอยู่ในความสัตย์ ให้ตั้งความปรารถนาทุกอย่างไม่แพ้แก่ใครในการเล่นการพนันเลย
    - อนึ่งถ้าจะให้ทำมาค้าขึ้น เพื่อที่จะขายสินค้าได้คล่องๆ ให้เอาตะกรุดนี้แช่ทำน้ำมนต์เอาน้ำมนต์นั้นประพรมสินค้าก็จะซื้อง่ายขายคล่องแล ถึงแม้ว่า ผีเข้าคนอยู่ก็ดี เกิดโรคภัยไข้เจ็บทุกขเวทนาต่างๆ ก็ดี เอาน้ำมนต์ที่แช่ตะกรุดนี้ประพรมผีร้ายออกหนีไปสิ้นมิอาจจะอยู่ได้เลยเป็นอันขาด ทั้งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็จะบรรเทาสูญหายถอนแก้กระทำย่ำยีถูกเสน่ห์ยาแฝดหายสิ้นทุกประการ ประพรมบ้านเรือนปัดเป่าตัวเสนียดจัญไรต่างๆ หายสิ้น กันฟ้ากันไฟก็ได้ ถ้าหากถูกคดีเป็นถ้อยร้อยความ ให้เอาน้ำมนต์แช่ตะกรุดนี้อาบรดจะมีชัยชนะแก่คู่ความแล
    - อนึ่งถ้าจะกันโจรผู้ร้ายมิให้ทำอันตรายแก่เรา ให้เอากรวดหรือทรายมาแล้วเอาน้ำมนต์ที่แช่ตะกรุดนี้ประพรมบริเวณบ้านเรา อธิษฐานขอเอาบารมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสงฆ์คุณ จงมาช่วยคุ้มครองป้องกันอันตรายบรรดาคนคิดร้ายที่เข้ามาเหยียบถูกเอากรวดทรายที่หว่านโปรยไว้ จะบันดาลให้มีอันเป็นไปต่างๆ นานา มิสามารถที่จะทำร้ายเราได้เลย
    - ตะกรุดดอกนี้อยู่กับผู้ใด ผู้นั้นเจริญในลาภยศมิรู้ขาดเลย ถึงแม้จะมีอุปสรรคอันตรายบาปเคราะห์รบกวนสักเท่าไหร่ก็ดี ก็สามารถจะฝ่าฟันไปได้มิรู้ยากรู้จนเลยเจริญในลาภยศทุกประการ คุ้มกันสรรพเสนียดจัญไรคุณไสยนานาประการ สารพัด นำติดตัวไปสารทิศใดก็ดีข้าศึกศัตรูพ่ายแพ้ไปสิ้น มิอาจจะทำอันตรายแก่เราได้ เป็นที่รักที่ชอบแก่คนทั้งหลาย แม้เข้าประจัญด้วยข้าศึกศัตรูก็บันดาลให้เกิดมีตบะเดชะเป็นมหาจังงังแก่ข้าศึกทั้งมวล อย่าว่า แต่ศึกมนุษย์ ถึงเทพยดาก็ครั้นคร้ามแล อุปเท่ห์ของตะกรุดมหาจักรพรรตราธิราชนี้สารพัดใช้ได้ทุกประการ ทรงคุณานุภาพเหลือจะคณานับ ประสิทธิทุกประการแลตามแต่จะใช้เถิด (พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ก็มีอานุภาพเช่นตะกุดนั้นเอง)


    ด้วยเป็นเวทย์สวรรค์ดึกดำบรรพ์ท่านว่าให้อาราธนาคล้องคอหรือผูกเอวไว้เดี๋ยวก็จะรู้เอง เอาว่ามีผลพลอยได้เกิดขึ้นอยู่เสมอๆกับคนใส่ ท่านว่าให้สังเกตุเอาด้วยตัวเองว่าต่อไปนี้จะสามารถจับสัมผัสหรือเริ่มมีความรู้สึกถึงพลังงานทั้งจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรืออำนาจในเครื่องมงคลทั้งหลายได้อย่างชัดเจนขึ้นที่ละน้อยตามผลการขัดเกลาของตะกรุด (ตะกรุดรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านถักเชือกสีน้ำเงินไว้ก่อนคลุกผง ท่านว่าเป็นสีของกษัตริย์เป็นสัญลักษณ์และกำลังของจักรพรรดิ ทำไว้ให้เป็นเอกลักษณ์จะได้เห็นก็รู้ว่านี่คือยอดตะกรุดอย่างแท้จริง)

    คาถาบูชา ท่านว่าไม่ต้องใช้ ที่ให้ใช้ก็คือการขอการคุยกับตะกรุดนี่เเหละ ตะกรุดนี่มีตัวรู้มีจิตวิญญาณ เป็นภาชนะรองรับชั้นดี ถ้าเราใส่กำลังใจเเละความรู้สึกลงไปมาก สิ่งที่ขอมันก็เห็นผลมาก เป็นสูตรการใช้ที่ขึ้นอยู่กับกำลังใจเราเลย ไม่ต้องไปมองใครที่ไหนวิชานี้คือตัวเราล้วนๆ นี่มันดีเเบบนี้ ถ้ามั่นใจใจตัวเองนั่นเเหละแรง การบูชา(ถ้าห้อยติดตัวไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสักการะยกเว้นจะปักถาวรในกระถางธูปหรือใช้บูชาไว้กับบ้าน)ควรบูชาด้วยพวงมาลัย ดอกไม้หอมต่างๆ เช่นดอกมะลิ ดอกดาวเรือง น้ำอบ น้ำหอม แป้งหอม น้ำผลไม้ หรือน้ำหวานต่างๆ ตามสมควร(ไม่ต้องจุดธูปก็ได้) แล้วอฐิษฐานขอพรเอา...ดั่งใจปรารถนา

    วิชาเวทย์สวรรค์นั้นนับเป็นสุดยอดมหาตะกรุดที่สร้างยากและเสกยาก ท่านว่ากว่าจะลงได้ดอกนึงเวลาลงนั้นทั้งปรอทและเหล็กไหลที่ฝังในตัวจะวิ่งพล่านไปหมด ลงเสร็จจะอ่อนเพลียมากท่านจึงทำได้น้อย ท่านว่าทำให้ดีแล้วอาราธนาห้อยและบูชาได้เลยไม่ต้องสงสัย เพราะไอ้ตัวสงสัยนี่แหละที่จะปิดกั้นการสื่อสารของตัวเอง เอาว่าถ้าใครจะใช้ก็ใช้แต่ถ้าสงสัยก็อย่าเอาไปเพราะเวทย์สวรรค์ชื่อเขาก็บอกอยู่แล้วว่าเหนือสามัญการรับรู้ของมนุษย์ ***ตะกรุดนี้ท่านว่าครูในโลกทิพย์ท่านให้บูชาเป็นคู่(พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้พูดมาก ท่านบอกเพียงว่าเมื่อมีจักรพรรดิก็ย่อมต้องมีคู่กำลังของพระจักรพรรดิ์...คือจักรพรรดินี ดังนั้นคนที่บูชาเป็นคู่ท่านจะผูกตะกรุดทั้งสองดอกให้ติดกันแล้วอธิษฐานขอบารมีครูลงสมดุลย์ธาตุวิญญาณให้เป็นกรณีพิเศษ พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกสิ่งย่อมมีคู่และเมื่อไหร่ที่มันสมดุลย์รับรองว่าธาตุหรือวาสนาของเรามันก็จะเกื้อกูลให้สมดุลย์ไปด้วย ไอ้เหตุการณ์ที่ธาตุวิปริต ดวงตก วาสนาบกพร่องมันก็จะไม่เกิดขึ้นอีก)

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเวทย์สวรรค์(พิชัยสมบัติจักรพรรดิวิญญาณ) บูชา 2,500 บาท

    48363409-300433367256605-544705353254699008-n.jpg
    48355238-2195368007450783-1590177672447655936-n.jpg
    48383676-267348027276779-2226387394137948160-n.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระสังข์แปลงรูป(พยนต์อาถรรพ์ปะขาวไม้ขอ)

    "อะไรที่มันจะหลุดไม่ถึงวาสนาเราก็เอาขอเกี่ยวไว้ได้ทั้งสิ้น"
    "อาถรรพ์พระสังข์ถอดรูปเงาะคือถอดความซวย ถอดคราวเคราะห์ ความทุกข์ยากอดอยาก อันนี้ออกทั้งสิ้น วิชาพระสังข์ถอดรูปนี่อะไรที่ไม่ดีคือถอดหมด เรียกว่าเปลี่ยนเป็นคนใหม่ทันใดนั้น แบบนี้คืออาถรรพ์ของเค้า"

    เปิดตำนานการสร้างพระสังข์ที่ทรงคุณทางเมตตา มหาเสน่ห์ สูตรลับเฉพาะของพ่ออาจารย์ตามคำเรียกร้องของหลายๆคนที่ถามหาพระขุนแผนมาเป็นจำนวนมาก หลังจากที่พระต่างๆได้หมดลงไปแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงให้นำพระสังข์แปลงรูป หรือที่ท่านเรียกว่าถอดเงาะซึ่งท่านสร้างขึ้นด้วยผงวิชาเรียกคนตามสูตรพิสดารที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ...เงาะถอดรูป เป็นความหมายให้รู้ว่า "ของแท้ ของจริงข้างในนั้นเป็นของมีค่า อย่ามองกันแต่ผิวเผินเพียงเปลือกภายนอก" ดั่งจะกล่าวเป็นอีกแง่มุมหนึ่งได้ว่าจะมองคนต้องมองที่ข้างในนั่นเอง ดังนั้นพระสังข์อันเกี่ยวเนื่องกับสุวรรณสังข์ชาดก พ่ออาจารย์จึงไม่ค่อยทำบ่อยนักเพราะท่านต้องลงอาคมทางเสน่ห์ เมตตา โชคลาภครบสูตร ท่านว่าเจ้าเงาะตอนได้มาลัยนางรจนานั้นก็นับได้ว่า"รูปชั่วตัวดำ" ดังนั้นวิชาพระสังข์นี้จึงอุปมาดุจว่าแม้ใครรูปชั่วตัวดำไม่สวยไม่งามขอเพียงมมีพ่อพระสังข์บอกได้คำเดียวว่าสง่าราศีจะจับตาคนมองใครเห็นเราเขาจะมองเป็นหล่อเป็นสวยขึ้นมาทันทีเช่นนั้น ถึงแม้รูปเราจะไม่งามแต่เขาก็ต้องตาเหมือนต้องมนต์สะกด ดังนั้นใครที่ชอบของแรงๆพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่จำเป็นต้องเจ้าชู้ก็ได้ ขอให้พกพกพระสังข์คุณวิชานี้ติดตัวก็จะมีวาสนาด้านสัตว์สองเท้า หรือได้คู่ครองที่อุปถัมภ์เราตามความเหมาะสมแก่วาสนา

    มนต์สะกดพระสังข์ถอดรูปนี้ดุจใครที่เห็นเป็นเจ้าเงาะรูปชั่วตัวดำนักแต่ที่ไหนได้กลับมีทองคำอยู่ด้านใน จะใช้ทางแข่งขันกับใครแม้ได้ชื่อว่ามีอำนาจล้นฟ้าเป็นเจ้าชายจากเมืองต่างๆก็ชนะถึงเจ็ดเมือง ไม่ว่าจะประลองอะไรกับใครก็ชนะได้ทั้งหมดไม่เคยแพ้ใครแม้กระทั่งพระอินทร์ก็ยังชนะ ซ้ำด้วยรูปชั่วตัวดำนี้ยังเป็นที่มาของมหาเสน่ห์เพราะได้นางรจนาผู้ที่สวยที่สุด ฉลาดที่สุด มาครอบครองเรียกว่าอาถรรพ์ได้คนดีได้คนชั้นสูงกว่าสถานะปัจจุบันของตนมาเกื้อหนุนนี่ต้องยกให้เค้า ซ้ำนอกจากเสน่ห์และการหาคู่แล้วเมื่อทำเป็นเครื่องรางพ่ออาจารย์ท่านว่ายังต้องเน้นอิทธิคุณให้ครบถ้วนทั้งด้านมหาโชคมหาลาภบันดาลความร่ำรวยให้เป็นมหาเศรษฐีมีเงินทองมากมายก่ายกอง บันดาลธุรกิจการค้าการงานให้เจริญรุ่งเรืองขึ้น ใครมีไว้บูชาติดตัวติดบ้านจะเจริญด้วยลาภสักการะค้าขายดีมีกำไรเพราะครูท่านเล่นฤทธิ์ให้เลื่องลือเรียกว่ามีไว้ตั้งใจจะให้พบความมหัศจรรย์ด้านมหาโชคมหาลาภเป็นที่สุด ด้วยพระสังข์นั้นมีอำนาจทางเสน่ห์เมตตาสูงส่งดีต่อเพศตรงข้ามเป็นเมตตาอาลัยรักไม่ยอมจาก ดีต่อผู้ใหญ่ที่เข้าหาจะบังเกิดเมตตาอุปการะดุจว่าเป็นลูกหลาน ทั้งทางค้ำชูดวงชะตาก็เชื่อได้สนิทใจ ไปที่ใดย่อมได้รับความช่วยเหลือเป็นที่รักแก่มนุษย์และเทวดาทั้งปวง เป็นที่มาแห่งข้าวปลาอาหารทรัพย์สินเงินทอง ทั้งยังดลให้เกิดโชคลาภอยู่เสมอเงินทองไม่ขาดมือ ทำให้เจริญในหน้าที่การงานได้มาซึ่งยศตำแหน่ง ทำมาหากินอาชีพใดก็ได้คล่อง..ได้ตลอด เมื่อธุรกิจการงานมีกำไรดี พูดจาสิ่งใดคนรักคนเชื่อถือ เป็นเสน่ห์ทางวาจาดุจไพเราะจับใจผู้ฟัง ทั้งเทวดายังรักษาไปไหนมาไหนก็แคล้วคลาดปลอดภัย พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงนี้ก็เป็นสิริมงคลอย่างยิ่งยวด เรียกว่ามีครบทุกด้านนั่นเอง เมื่อจะทำก็ต้องลงให้ครบดังนี้

    ด้วยมหามนต์กลสูตรที่หลายๆคนรู้จักว่าเป็นมนต์ลับคู่ใจ คือ"จินดามณีมนต์"ของพระสังข์นั้น ปัจจุบันมีเผยแพร่กันมากมาย พ่ออาจารย์ท่านว่ามันก็แค่ตัวหนังสือเพราะมนต์นี้ถึงจะเอาไปอ่านกันเองอย่างไรก็ใช้ให้เกิดอานุภาพแบบพระสังข์ไม่ได้ ด้วยว่าเป็นพระเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระเวทย์ที่ออกจากโอษฐ์ท้าวมหาพรหมและก็ได้รับการประทานให้องค์พระอินทร์จนมาถึงนางยักษ์และพระสังข์เป็นลำดับ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพระเวทย์ที่มีกรรมสิทธิ์เพราะพระเวทย์ที่ออกจากโอษฐ์มหาพรหมนั้นไม่ใช่ใครจดใครท่องก็จะนำไปใช้ได้บราณเขาถือกันนักว่าพระเวทย์ที่ออกจากโอษฐ์ตรีเทพนั้นจำกัดไปถึงวรรณะของผู้ใช้ทีเดียวหากตัวเองไม่คู่ควรก็จะพาลเป็นโทษมหันต์อย่างคาดไม่ถึงเสียมากกว่า ...เมื่อจะทำพระสังข์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าก็จำเป็นต้องใช้พระเวทย์นี้เพื่อจะทำให้ดีที่สุดให้คนบูชาพระสังข์นอกจากมีเสน่ห์ ยังกลับวาสนา ชนะสิบทิศทั้งใช้ทางเรียกทรัพย์เจริญลาภเป็นอนันตคุณ เพราะทำด้วยวิชาสำคัญที่ออกจากโอษฐ์มหาพรหม ซึ่งคุณแห่งวิชานั้นแม้ผู้ใดที่ได้ครอบครองย่อมบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สินความอุดมสมบูรณ์ทั้งการอุปโภคบริโภคและยังเป็นผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตามีคนนับถือรักใคร่ บังเกิดความสุขความร่มเย็น เจริญด้วยโชคลาภความร่ำรวย เรียกว่าเป็นวิชาที่ใช้เพื่อช่วยให้ตนเองพ้นจากความทุกข์ยากอย่างแท้จริงไม่ต้องลำบากยากจน เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่สุขสบายปราศจากความอดอยาก พ่ออาจารย์ท่านว่าในยุคนี้นอกจากจะใช้ทางเสน่ห์แล้วก็ไม่เห็นจะมีสิ่งใดที่สำคัญไปกว่าคุณภาพชีวิต ดังนั้นอิทธิคุณทางทำมาหากิน ค้าขายร่ำรวยช่วยพ้นความจนเหล่านี้จึงจำเป็นต้องมี เพราะท่านเจตนาอยากให้คนห้อยนอกจากมีเสน่ห์แล้วยังต้องพ้นความอดอยากยากจน และให้เกิดสิริมงคลความมั่งคั่งเป็นเศรษฐี มีโชคดuมีเมตตา ท่านว่าแต่โบราณนั้นวิชาทำนองนี้ก็มีอยู่มากแต่จะเน้นให้แรงให้ครบเครื่องก็ไม่มีวิชาไหนจะเกินไปกว่าจินดามณีที่เน้นไปทางการทำมาหากินพร้อมทั้งชนะข้าศึกศัตรูและยังเป็นเสน่ห์เมตตาอย่างน่าอัศจรรย์ ท่านว่าเราตั้งใจทำหนนี้เพื่อให้คนเขาเอาไปอาราธนาให้การค้าการทำมาหากินให้ได้ทรัพย์เข้ามาคล่องๆ บังเกิดความเจริญไพบูลย์อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สินบริวาร และยังเปี่ยมด้วยเสน่ห์เมตตาอย่างสูงสุด

    เช่นนั้นสุวรรณสังข์ตำรับพ่ออาจารย์ท่านจึงเกิดขึ้นตามฤกษ์มหาโชคทั้งกำหนดบรรจุในรูปพระสังข์ร่ายมนต์จินดาอุปมาว่าชีวิตถอดแล้ว ผ่านแล้ว พ้นแล้ว เปลี่ยนจากรูปเงาะเป็นเทพบุตรแล้วดังนี้ ท่านได้นำมวลสารต่างๆที่สะสมไว้ทั้งผงว่านพญาเทครัว ผงเงาะถอดรูป ว่านจูงนาง ว่านห้าร้อยนาง ว่านดอกทอง ว่านสาลิกาลิ้นทอง ว่านมหาโชค ว่านมหาลาภ ว่านนะหน้าทอง ว่านนางตาม ว่านมหาเมฆ ว่านนางล้อม ว่านเสน่ห์ขุนแผน ว่านขุนแผนสะกดทรัพย์ ว่านสาวหลง ว่านไก่แดง ผงพญางิ้วดำ ผงอิทธิเจ ผงพระเจ้า5พระองค์ ผงเรียกทรัพย์ ผงกินบ่เสี้ยง(มีกินมีใช้ตลอด) ผงเงาะรูปทอง ผงเงาะเรียกทรัพย์ ผงเงาะเหินหาว ผงมหารัญจวน ผงยาจินดามณี ผงเสน่ห์จันทร์เพ็ญ ผงนะหน้าทอง ผงพระสังข์เจ้าเสน่ห์ ผงเหล็กไหลคนธรรพ์ ผงแร่ดูดทรัพย์ ผงเหล็กไหลพญานาค ผงสะเก็ดดาวตก ผงเหล็กไหลเพลิง ผงแร่เกาะล้าน ผงแร่พญาเหล็ก ผงเหล็กไหลตาน้ำ ผงคตขนุน ผงหินนวลจันทร์ ผงทรายทองเศรษฐี ผงแร่เจ้าน้ำเงิน ผงปะการังแดง ผงดินเจ็ดโป่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าเราต้องนำมวลสารเหล่านี้มาปั้นทั้งว่านทั้งผงเพื่อจะเขียนมนต์เรียกคนลบถมแลวนำมาเขียนพระเวทย์มณีจินดาสูตรท้าวมหาพรหม

    ท่านกดพิมพ์รูปพระสังข์ตอนแปลงกายเป็นเทวดากำลังนั่งร่ายมนต์จินดามณีเรียกเนื้อ เรียกปลา ท่านว่ากดไปก็เรียกจิต เรียกนาม อาการ32 ทั้งลงมนต์จินดามณีกำกับไปทีละองค์ ท่านว่าทำหนนี้เพราะอยากปลุกตำนานให้กลับมามีชีวิต มีลมหายใจ ให้เป็นมหาโชคโภคทรัพย์ คนเอาไปใช้เขาจะได้รู้ได้เห็นว่าเงินทองไหลมาเทมามิขาดสายดั่งสายน้ำมีกินมีใช้ตลอดมิขัดสนทั้งเป็นเสน่หาเมตตาเป็นที่รัก ไม่เห็นหน้าก็หลงละเมอ ต้องตาต้องใจแก่เพศตรงขามมิรู้ลืม พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยรวมแล้วก็ทำไว้เพื่อให้คนไม่มีครอบครัวได้มี หรือคนที่มีแล้วก็จะได้รักกันมากขึ้น ให้ความเป็นอยู่ของเขาดี มีความมั่นคง ปราศจากปัญหาในชีวิต เรียกได้ว่าอยู่เย็นเป็นสุขไม่ทุกข์ร้อนไปกับห้วงมรสุมแรงกรรมทั้งหลาย

    พระสังข์แปลงรูปนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้ฝังเครื่องมงคลพิเศษลงไปสองชนิด ที่นับว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิคุณเอกอุมากประสบการณ์อยู่ในตัวเอง ได้แก่
    - พยนต์อาถรรพ์ปะขาวไม้ขอ ย้อนไปสมัยท่านออกป่าพ่ออาจารย์ท่านเห็นตาปะขาวเดินหายไปในดงไม้ขอท่านจึงได้พลีไม้เหล่านั้นมาบอกกล่าวและเชิญตาปะขาวนั้นกลับมาอยู่ด้วยเพื่อจะได้หาโอกาสให้สร้างบารมีช่วยเหลือคนต่อไป ภายหลังท่านได้มีนิมิตให้นำไม้ขออาถรรพ์ตาปะขาวนั้นมาแกะเป็นรูปร่างตะขอทรงแปลกๆ ทั้งเมื่อทำยังต้องเบิกเนตร ใส่คิ้วใส่ตาวาดปากลงอักขระบังคับตามที่ตาปะขาวบอกลงในไม้ขออาถรรพ์นั้นเรียกว่านำมาแกะตามนิมิตนั่นถึงจะใช้ได้ เสร็จแล้วท่านก็บอกกล่าวเชิญให้ตาปะขาวท่านทำเต็มที่ของท่านเลย สุดท้ายท่านมาตรวจดูจึงรู้ว่าไม้ขอที่แกะนั้นเขาทำให้ด้วยวิชาพยนต์ เป็นพยนต์ตัวแทนของเค้า เป็นพยนต์ตาปะขาวเจ้าป่าที่มีอานุภาพเป็นเอกลักษณ์นั่นเอง ท่านว่าปกติไม้ขอนี้เมื่อนำมาลงอาถรรพ์ ใครพกไว้ไปเอ่ยปากขออะไรเขาก็ยกให้ เพราะเป็นขอเกี่ยวใจเขาไว้ทั้งหมด อะไรที่มันจะหลุดไม่ถึงวาสนาเราก็เอาขอเกี่ยวไว้ได้ทั้งสิ้น ท่านว่าพอตรวจดูก็รู้ว่าไอ้อาถรรพ์ประเภทนี้นั้นคนไม่ค่อยได้ใช้ได้เห็นกันมากเท่าไหร่ เพราะเป็นของเฉพาะคนอย่างแท้จริง ดุจทนสิทธิ์ที่มีเจ้าของ มีเทวดาตามรักษาเป็นเงาตามตัวเช่นนั้น ดังนั้นสมัยก่อนใครบริจาคทองคำหุ้มยอดเจดีย์บ้าง ใครบริจาคทองคำเทยอดเจดีย์บ้าง ท่านก็จะเอาพยนต์ปะขาวไม้ขอนี้มอบให้เขาไป พ่ออาจารย์ท่านว่าคนใช้เขามาเล่าว่าเห็นกันเป็นตัวเป็นตน วางเอาไว้ตรงไหนก็เห็นตาปะขาวอยู่ตรงนั้น บางคนก็ว่าคนในบ้านเห็น ทั้งเวลาขอสิ่งใดก็ล้วนเห็นความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอย่างน่าประหลาด...พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละอาถรรพ์แท้จริงของวิชาขอ ยิ่งกว่าชูชกหรือสิ่งใดๆทั้งสิ้นเพราะเป็นรูปเนรมิต ให้ขอได้ขอดี ขอไปเถอะ ขอให้ได้ให้มีสุดที่จะขอที่จะเกี่ยว ท่านว่าเมื่อทำพระสังข์แล้วก็เอาพยนต์ปะขาวนี้มาฝังเป็นอาถรรพ์ไว้ เพื่อให้คนที่ชอบขอเขาได้ขอได้มีกันสมความหวังและเจตนาเขา
    - ตะกรุดพระสังข์ถอดรูป เป็นยอดแห่งตะกรุดเมตตาชั้นครูที่มีอานุภาพมากวิชาหนึ่งและยังอำนวยผลให้ใช้ในเรื่องทางเมตตามหานิยม เข้าหาเจ้านาย โชคลาภเงินทอง อุดมโชคโภคทรัพย์ต่างๆนาๆ วิชานี้เป็นหนึ่งในวิชาการลงตะกรุดของท่านที่ท่านชำนาญมากๆ ท่านว่าแม้ได้พกพาติดตัวไปตลอดจะเป็นเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น จะช่วยทำให้หญิงสาวหรือเพศตรงข้ามเกิดความหลงใหลรักใคร่อยากจะอยู่ใกล้ๆ ท่านว่าอานุภาพของตะกรุดพระสังข์ถอดรูปนี้ใครที่ได้พบประสบหน้าต่างต้องการที่จะเข้ามาทำความรู้จัก ใช้ได้ทั้งทำให้เขารักทั้งหลงในตัวของเรา ดุจพระสังข์ถอดรูปเงาะเป็นชายหนุ่มรูปงาม เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงสื่อถึงความสำเร็จ ความสุข และชัยชนะ(ด้านการแข่งขัน) เป็นมหามงคลแก่ผู้ที่ได้บูชาอาราธนาครอบครองเพียงขอให้พกตะกรุดนี้ติดตัวจะทำให้ประสบแต่โชคลาภเงินทองอย่างมหัศจรรย์ รวมทั้งเป็นเมตตาอย่างยอดที่สุด

    เช่นนั้นพระสังข์นี้ท่านจึงทำให้หนุนดวงแก้ดวงตก ยกดวงชะตาให้สูงขึ้น ทั้งใช้ในด้านการบันดาลโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง ข้าวของข้าทาสบริวาร จะทำกิจการงานอันใดก็จะสำเร็จลุล่วง คิดนึกสิ่งใดจะสำเร็จเร็วพลันบรรลุถึงเป้าหมายและความสำเร็จ ความร่ำรวย พ่ออาจารย์ท่านว่าพระสังข์ชุดนี้เราปลุกเสกด้วยวิชาธรรม ทั้งธรรมบันดาล ธรรมบรรลุไว้ จะพกติดตัวติดบ้านก็อุ่นใจไปที่ไหนก็มีแต่คนเมตตารักใคร่อุปถัมภ์ค้ำชูช่วยเหลือเช่นนั้น

    วิธีบูชา
    - หากมองเพียงแง่มุมเครื่องรางก็ห้อยคอบูชาเพียงอย่างเดียวก็ได้
    - แต่หากอยากไหว้พ่อพระสังข์หรืออยากจะบนอะไรกับท่านก็ให้หาพานเล็กๆมาใส่แบงค์สีแดง(แบงค์ร้อย) ดอกไม้สีแดงจะเป็นชบาแดง กุหลาบแดง ดอกเข็มต่างๆก็ได้(หรือเป็นดอกไม้พลาสติกก็ได้จะได้ไม่ต้องเปลี่ยน)ธูปสีแดง เทียนสีแดงอย่างละห้าเล่ม แล้วก็น้ำอบน้ำหอมต่างๆตามแต่เราจะหาได้เอาเท่านี้แหละใส่พานถวายพระสังข์เขา น้ำอบน้ำหอมก็หมั่นพรมท่านเวลาอธิษฐานขอสิ่งต่างๆให้บันดาลความสุข ความรุ่งเรือง ขอให้ค้าขายดีมีกำไร ให้งานที่ทำก้าวหน้าตลอดไป เวลาห้อยท่านเสร็จก็เอาท่านมาวางท่านไว้ในพานนั้นเช่นนี้ก็ได้


    คาถาบูชา(น้อมจิตถึงท้าวมหาพรหม)
    อัถพรหม ปูชนัม โอม พรหมชญานัม ปรัถนัม ปูรัสตาทวิ ลีม ตัช อาวัช
    ว่าคาถา มะหามุนีปิตาละปะโฐ มะเหสิยักขา ปิตามุนีกุถานัง เปติมุนี ปิตาภาคะวันตัง ธะตาโน ปิตาตัสสะ มะหาวันโต มะเสตาวิขาสันตี
    ใช้ทางเสน่ห์ว่า พุทโธรูปงามเหมือนรูปพระพรหม พุทธังมะรูปงามเหมือนรูปพระอินทร์ พุทธะสัง รูปงามเหมือนโฉมพระนารายณ์ จะแปลงลงมาเหมือนเทวดาสวาหะ อวิสุนุสสานุสติ ติวาปิภะ


    * พระสังข์แปลงรูปนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นทั้งเสน่ห์ทั้งทางทำมาหากิน ท่านสร้างไว้ทั้งหมดเก้าองค์ แต่เหลือให้บูชาตกห้าองค์ (ท่านว่าชุดนี้ดีเพราะคนที่เคยใช้จากพ่อค้าข้าวแกงยังก้าวหน้าเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันได้) และทั้งวิชาจินดามณีตำรับโอษฐ์พระพรหมที่ท่านนำมาลบถมผงวิเศษสร้างพระสังข์ตลอดจนพยนต์ไม้ขอตาปะขาว ท่านว่าล้วนแต่เป็นของเฉพาะตน มีตราบุญบัญญัติเจ้าของเขาอยู่ เดี๋ยวเห็นก็จะรู้สึกกันเองให้เป็นไปตามวาสนาเขาเลย ...เช่นนั้นจึงรับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมทำบุญเครื่องนุ่งห่มและอุปกรณ์การศึกษาเด็กชาวเขาที่ขาดโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระสังข์แปลงรูป(พยนต์อาถรรพ์ปะขาวไม้ขอ) บูชา 4,000 บาท

    48906535-1977058462596945-3916933766483804160-n.jpg 48411445-281895642472548-3438432469353758720-n.jpg
    48417709-269305577079754-7277369414993838080-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2021
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์อาถรรพ์ปะขาวไม้ขอ(ชุดพิเศษเปิดวาสนา มหาสะกด บังคับ ควบคุม)

    "อะไรที่มันจะหลุดไม่ถึงวาสนาเราก็เอาขอเกี่ยวไว้ได้ทั้งสิ้น"

    พยนต์อาถรรพ์ปะขาวไม้ขอ

    ย้อนไปสมัยท่านออกป่าพ่ออาจารย์ท่านเห็นตาปะขาวเดินหายไปในดงไม้ขอท่านจึงได้พลีไม้เหล่านั้นมาบอกกล่าวและเชิญตาปะขาวนั้นกลับมาอยู่ด้วยเพื่อจะได้หาโอกาสให้สร้างบารมีช่วยเหลือคนต่อไป

    ภายหลังท่านได้มีนิมิตให้นำไม้ขออาถรรพ์ตาปะขาวนั้นมาแกะเป็นรูปร่างตะขอทรงแปลกๆ ทั้งเมื่อทำยังต้องเบิกเนตร ใส่คิ้วใส่ตาวาดปากลงอักขระบังคับตามที่ตาปะขาวบอกลงในไม้ขออาถรรพ์นั้นเรียกว่านำมาแกะตามนิมิตนั่นถึงจะใช้ได้ เสร็จแล้วท่านก็บอกกล่าวเชิญให้ตาปะขาวท่านทำเต็มที่ของท่านเลย สุดท้ายท่านมาตรวจดูจึงรู้ว่าไม้ขอที่แกะนั้นเขาทำให้ด้วยวิชาพยนต์ เป็นพยนต์ตัวแทนของเค้า เป็นพยนต์ตาปะขาวเจ้าป่าที่มีอานุภาพเป็นเอกลักษณ์นั่นเอง

    ท่านว่าปกติไม้ขอนี้เมื่อนำมาลงอาถรรพ์ ใครพกไว้ไปเอ่ยปากขออะไรเขาก็ยกให้ เพราะเป็นขอเกี่ยวใจเขาไว้ทั้งหมด อะไรที่มันจะหลุดไม่ถึงวาสนาเราก็เอาขอเกี่ยวไว้ได้ทั้งสิ้น ท่านว่าพอตรวจดูก็รู้ว่าไอ้อาถรรพ์ประเภทนี้นั้นคนไม่ค่อยได้ใช้ได้เห็นกันมากเท่าไหร่ เพราะเป็นของเฉพาะคนอย่างแท้จริง ดุจทนสิทธิ์ที่มีเจ้าของ มีเทวดาตามรักษาเป็นเงาตามตัวเช่นนั้น ดังนั้นสมัยก่อนใครบริจาคทองคำหุ้มยอดเจดีย์บ้าง ใครบริจาคทองคำเทยอดเจดีย์บ้าง ท่านก็จะเอาพยนต์ปะขาวไม้ขอนี้มอบให้เขาไป พ่ออาจารย์ท่านว่าคนใช้เขามาเล่าว่าเห็นกันเป็นตัวเป็นตน วางเอาไว้ตรงไหนก็เห็นตาปะขาวอยู่ตรงนั้น บางคนก็ว่าคนในบ้านเห็น ทั้งเวลาขอสิ่งใดก็ล้วนเห็นความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอย่างน่าประหลาด...พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละอาถรรพ์แท้จริงของวิชาขอ ยิ่งกว่าชูชกหรือสิ่งใดๆทั้งสิ้นเพราะเป็นรูปเนรมิต ให้ขอได้ขอดี ขอไปเถอะ ขอให้ได้ให้มีสุดที่จะขอที่จะเกี่ยว เพื่อให้คนที่ชอบขอเขาได้ขอได้มีกันสมความหวังและเจตนาเขา

    พ่ออาจารย์ท่านนำพยนต์อาถรรพ์ไม้ขอซึ่งทรงอิทธิคุณด้วยเทพฤทธิ์ของเจ้าป่าตาปะขาวชุดเก่าซึ่งท่านทำวิชาผูกกับขอวิเศษเนื้อกายสิทธิ์ธาตุที่ท่านเสกลงสะกด ข่ม บังคับ อาถรรพ์และคุณวิชาทั้งปวงไว้อีกคำรบหนึ่งมาผูกเข้าด้วยกัน ท่านว่าตาขอนี้เป็นยอดอาถรรพ์ เป็นขอเหมือนกันแต่มากกว่าขอ เพราะเป็นตาขอไม่ใช่ตะขอธรรมดา พ่ออาจารย์ท่านจึงต้องการเล่นฤทธิ์โดยใส่ตะขอมงคลเพื่อเพิ่มอานุภาพให้ตาขอด้วย ท่านว่าต่อไปนี้ตาขอนอกจากใช้ขอแม้แต่เลือดในอกคนแล้วยังมีอานุภาพของตะขอที่ใช้ในการเกี่ยว การเหนี่ยวรั้งไว้ การสะกด ข่ม บังคับ ปักอาถรรพ์.. อีกประการคำว่าขอก็คือได้ เป็นคำมงคล

    อันตะขอนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีที่มาจากคชกุศ ซึ่งเป็นยอดศาสตราและเป็น ๑ ใน ๘ สิ่งมงคลของพราหมณ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าการจะสร้างคชกุศตามตำราพราหมณ์นั้นไม่ใช่ว่าจะเสกส่งเดชได้ เพราะนอกจากจะต้องลงอานุภาพแห่งองค์นารายณ์แล้ว ยังต้องลงอานุภาพของพระศรีเคณศด้วย

    ปกติแล้วขอสับช้างนั้นเปรียบเสมือนสิ่งมงคลและอาวุธประจำกายของควาญช้าง เพื่อที่จะใช้สั่งการช้างให้ทำตามคำสั่งอย่างที่เราสามารถพบเห็นกันได้ทั่วไป ซึ่งบางที่เรียกว่า ตะขอช้าง บ้าง ขอสับช้างบ้าง ขอจ๊างบ้างแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น ทั้งยังเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญของพระพิฆเณศวรเจ้า สังเกตได้จากรูปปั้นหรือภาพวาดโบราIที่พระพิฆเณศวรจะถือตะขอช้างเอาไว้ในมือ อันเป็นเครื่องหมายถึงการขจัดเสียซึ่งอุปสรรค ขจัดภัย และเป็นบารมีมหาอำนาจเป็นมหามงคลอีกด้วย(พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ใดมีขอวิเศษที่ท่านลงเสกตามตำรับพราหมณ์นี้ จะแสดงออกถึงมหาอำนาจการสะกดข่มโดยบริบูรณ์ต่อสรรพชีวิต)

    ด้วยถือกันมาแต่โบราณว่าคชกุศหรือขอช้างนั้นย่อมเป็นเครื่องหมายแห่ง บารมี อำนาจวาสนา ความสำเร็จ ทั้งยังขจัดอุปสรรค สมควรที่ผู้ที่เคารพศรัทธาในพระพิฆเณศวรหรือต้องการความสำเร็จในเรื่องต่างๆจะบูชาไว้ และยังเชื่อว่าผู้ใดมีขอวิเศษนี้ยังเป็นผู้มีวาทะศิลป์เป็นเลิศสามารถพูดจาหว่านล้อมให้คนนับถือเชื่อฟังอีกด้วย ด้วยเหตุว่าคชกุศเป็นของมงคลมีพลังที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังแห่งการบังคับที่สามารถค้ำคูณดวงชะตาและข่มสรรพอาถรรพ์ คุณไสย และสิ่งไม่ดีต่างๆได้อย่างชะงัด อุปมาดั่งสิ่งเล็กๆเพียงแค่นี้ก็มีอำนาจข่มสัตว์ใหญ่ที่มีอาถรรพ์มากเช่นช้างป่าให้เกรงกลัวและทำตามได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะอย่างนี้ท่านจึงตั้งใจทำตะขอแฝงอิทธิคุณผูกไว้กับพยนต์ไม้ปะขาวตาขออีกชั้นหนึ่ง

    หลายคนเข้าใจว่าอันตะขอนี้เป็นเพียงเครื่องมืออย่างเลวชนิดหนึ่งเท่านั้น แต่พ่ออาจารย์ท่านกลับเข้าใจและเข้าถึง ท่านว่านี่แหละเครื่องรางสิริมงคล นี่แหละศาสตราวุธวิเศษที่ยากจะหาผู้รู้ได้น้อยเต็มที จำเอาไว้นะพวกเธอว่าไอ้ตะขอที่เราทำนี้เสกยากเพียงไหน ฉันบอกได้แค่ว่าเครื่องรางสิริมงคลนี้มีแรงครูที่สูงมาก แล้วอะไรก็ตามที่ได้ชื่อว่าแรงครูสูง ของเหล่านั้นมักมีค่าพอที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตคนได้อย่างง่ายดาย ด้วยตะขอนี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือกันในหมู่ผู้ศึกษาพระเวทย์ที่รู้ลึกรู้จริงว่าเป็นของมงคลที่หาได้ยากยิ่งและมีอานุภาพสูงหลายประการคือ เป็นของโภคทรัพย์จากการเป็นขอ มีลักษณะงอหมายถึงการเกี่ยว การเหนี่ยวรั้งไว้ อีกประการคำว่าขอก็คือได้เป็นคำมงคล ยิ่งขอที่พ่ออาจารย์ท่านประจุอาคมนั้นยังเป็นเครื่องรางชั้นยอดเพราะต้องนำมาเสกแช่น้ำมันที่มีส่วนผสมของเศษเชือกประกำ ตะไคร่เสาตะลุงช้างเผือก น้ำมันช้าง ผงวิเศษจากการลบยันต์หัสดี ยันต์หนุมานหักคอช้างเอราวัณ นะคชสาร เช่นนั้นจึงเป็นของมีอานุภาพสูงเพราะมีเทพวิญญาณสิงสถิตย์ในตะขอ เป็นศาสตราวุธที่มีวิญญาณเช่นนั้นเอง

    แม้ทางโชคลาภก็เช่นกัน คนโบราณจะนำตะขอมาเสกเพิ่มอาถรรพ์เพราะเชื่อสืบมาแต่บรรพบุรุษว่าแรงเสียยิ่งกว่าตั้งนางกวักไว้ในบ้านถึงร้อยองค์ ทั้งหากได้มีติดบ้านหรือติดตัวผู้ใดแล้วยังเป็นของมงคลคุมอาถรรพ์ ด้วยเชื่อว่ามีอานุภาพบังคับได้ทุกสิ่งให้เป็นไปในทางดี(บังคับได้แม้แแต่คนที่อยู่สูงกว่าเรา มีวาสนาดีกว่าเรา มีอำนาจมากกว่าเรา) บังคับให้ทุกอย่างในชีวตเราร่มรื่น ราบเรียบ บังคับไม่ให้เหตุแห่งทุกข์หรืออาถรรพ์วิญญาณร้ายทั้งหลายนั้นกำเริบก่อความเดือดร้อนขึ้นมา แม้หากผู้มีทรงวิทยาคมหรือมีตบะแก่กล้าอื่นจะมาลองดี ลองวิชา คนเหล่านั้นก็จะแพ้ภัยตัวเองไปเพราะอำนาจตะขอที่พ่ออาจารย์เชิญเทพวิญญาณครูประกำนั้นสามารถใช้สะกดอาคมไว้มิให้แสดงฤทธิ์ได้นั่นเอง จึงนับว่าเป็นของดีที่ไม่ค่อยพบเห็นมากนักทั้งผู้รู้เรื่องก็มักปกปิดเก็บเงียบอมพะนำเสียก็เลยไปกันใหญ่

    พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยขอสับช้างนั้นมีขนาดใหญ่โตมาก แม้นำมาลงอาถรรพ์ก็ทำได้เพียงบูชาไว้ในบ้าน ยากแก่การพกพาไปในที่สาธารณะให้คนจับตามอง ท่านว่าเช่นนั้นท่านจึงหล่อเป็นชิ้นเล็กและเชิญครูประกำลงวิชาเชิญสองมหาเทพทั้งองค์นารายณ์และพระเคณศมาประสิทธิ์เทพวิชาเก็บเอาไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นเล็กๆอย่างนี้ก็ใช้ได้เหมือนกันไม่ต่างกันเลย มีความเชื่อสืบกันมาแต่โบราณว่าตะขอนี้ดีในทางควบคุมคนให้อยู่ในอำนาจด้วย เพราะเคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมีผู้ใต้บังคับบัญชาไม่อยู่ในโอวาทกระด้างกระเดื่อง ด้วยถือดีว่าเป็นคนดีมีวิชาเหมือนกัน ก็เลยแก้อาถรรพ์ด้วยเขียนชื่อแล้วเอาขอช้างสับสะกดไว้ปรากฏว่าเจออีกทีหงอเชื่องเชื่อฟังแต่โดยดี แม้ใช้ในการปราบผีหรือข่มอาถรรพ์ก็ยังให้ผลชะงัดมาก เล่ากันสืบมาว่าในศาลาวัดหนึ่งมีผีนางไม้ดุมากคอยรบกวนผู้พักอาศัยให้เดือดร้อนอยู่เนืองๆ จนไม่มีผู้กล้าพักอาศัยยามค่ำคืนและเป็นผีที่เหลือมือหมอคือเป็นประเภทพฤกษาเทวา อาคมธรรมดาจึงไม่สามารถสะกดอยู่ จนวันหนึ่งนางไม้นี้มาสิ้นฤทธิ์อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อมีคนคณะหนึ่งเดินทางมาผ่านพักที่ศาลาหลังนี้พอนางไม้เริ่มออกฤทธิ์เขย่าศาลาหัวหน้าคณะไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะไม่เคยเรียนมนตร์ปราบผี นึกถึงความศักดิ์สิทธิ์องค์ครูประกำได้ก็เอาตะขอช้างนี่สับไปที่เสาตกน้ำมันที่นางไม้นี้อยู่ ปรากฏว่าทีเดียวเท่านั้นนางไม้นั้นสิ้นฤทธิ์หมดพิษสงสงบเสงี่ยมเงียบจ๋อยไม่มารบกวนอีกเลย อ้าวก็ช้างตกมันตัวเบ้อเร่อเบ้อเท่อขออันเดียวยังสะกดอยู่เลยนางไม้ตัวเล็กๆจะเหลืออะไร เพราะในทางไสยเวทช้างเป็นสัตว์ที่มีรังควาน(อาถรรพ์ แรงเป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์หรือมีดีในตัว

    เช่นนั้นจึงสรุปความว่าตะขอนี้เป็นของมงคลพิเศษที่มีทั้งศรีคือความเป็นมงคลและเดชคืออำนาจในการสะกดข่มอยู่ในตัว ให้คุณด้านโชคลาภค้าขายเก็บเกี่ยวเงินทองลูกค้า มีอำนาจเป็นใหญ่ผู้คนนับถือเกรงกลัวมีบารมีดุจช้าง ลูกน้องเชื่อฟังหัวหน้าเชื่อฟัง(***แม้หากโดนผู้ใดกดขี่ข่มเหงทั้งการงาน สังคม ชีวิตครอบครัว หรือปยากปราบอยากข่มใครไว้ใต้อำนาจเรา ใช้ได้แม้แต่ศัตรูหรือคู่แข่ง ให้เขียนชื่อนามสกุลคนนั้นลงในกระดาษรูปภาพเขาแล้วนำขอนี้สับลงไปจะทำให้ผู้นั้นเชื่อฟังเคารพเรา หงอเชื่องเชื่อฟังแต่โดยดี) ซ้ำยังแก้อาถรรพ์ แก้อาการผิดสำแดง สะกดอาคม หากอยู่ในบ้านจะควบคุมอาถรรพ์บังคับทุกสิ่งให้เป็นไปในทางที่ดีไม่ให้กำเริบนำความเดือดร้อนมาให้ แม้ใครมาลองดีลองวิชาก็แพ้ภัยตัวเอง เพราะโดนตาขอสะกดไว้ไม่ให้แสดงฤทธิ์นั้นเอง

    คาถาบูชา
    มโหทโรมหากาโย คชพักโตรมหัพพโล นาโคนาคยชโยโหติ ศิวปุตโตมหิทธิโก คชธโร คชสิทธิ ภวันตุเต เอกทันตะปรมรังโส นาคัภระณะภูสิโต กัมมธาโร กัมมธาโร กัมมสิทธิ ภวันตุเต โอม เห เห เห คชลักขณะ เตเชนะ คัชโช คชสวาหะ


    ***ตาขอชุดนี้เป็นของพิเศษ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้เฉพาะการณ์และของมีจำนวนน้อย ทำไว้ให้คนที่โดนข่ม โดนรังแก คนที่อยู่ในอำนาจผู้อื่น คนที่อยากจะเป็นไท เป็นอิสระจากสิ่งหน่วงถ่วงอยู่ในชีวิต ท่านว่าก็ให้มาอาราธนาไว้ ถ้าอยากเป็นผลไวหน่อยก็พกไว้คู่หนึ่ง อันหนึ่งเป็นเครื่องรางติดตัวไว้ไม่ห่างกาย อันหนึ่งไว้ในที่อยู่อาศัย วางไว้ใต้หมอนที่เรานอนหรือที่หิ้งพระ หิ้งเทพที่เราบูชา ในจุดที่เรากราบไหว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นอาถรรพ์แก้เคล็ดเวลาขออะไร ขอพรอะไรแล้วไม่ได้ ต่อไปจะได้ขอได้บอก ได้อธิษฐานกับสิงศักดิ์สิทธิ์ได้

    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์อาถรรพ์ปะขาวไม้ขอ(ชุดพิเศษเปิดวาสนา มหาสะกด บังคับ ควบคุม) บูชา 1,500 บาท

    48417092-285328095464438-5154733479946092544-n.jpg i4zug.jpg 48414147-2161500600833948-6335325457386307584-n.jpg
    48420713-361972544603064-1537006960870686720-n.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์รับกรรมมหายักษาผจญมาร (ตายแทนตัว เจ็บ ช้ำ ชั่ว รับแทน )

    เมื่อจะกล่าวถึงวิชาหุ่นพยนต์แล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าการผูกหุ่นนั้นก็มีขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์หรือนำไว้ใช้งานในหลายกรณี ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเจตนาการผูกหุ่นแต่ละครั้งนั้นแตกต่างกันออกไปเช่นอาจจะผูกขึ้นเพื่อดูแลรักษาสถานที่ได้แก้บ้าน วัด เจดีย์เหล่านี้ หรืออาจจะผูกขึ้นเพื่อปกป้องคนอาราธนาจากปืนจากศาสตราวุธต่างๆ แม้จะผูกหุ่นเพื่อใช้ทำลายคน ทำร้ายคน ภูติผีร้าย วัวธนู ควายธนู กุมารผี หรือจะผูกเพื่อเฝ้าสมบัติแผ่นดินเฝ้าทรัพย์สินก็ยังได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอุปเท่ห์ของการผูกหุ่นนั้นมีมากมาย จะผูกเป็นหุ่นไปดลจิตดลใจให้ทำมาค้าขึ้นผู้คนเข้าหารักใคร่เช่นนี้ก็มี แต่สิ่งทำได้ยากที่สุดและถือว่าเป็นขั้นสูงสุดในสายการผูกหุ่นพยนต์ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือการผูกหุ่นเพื่อใช้เป็นตัวตายตัวแทน เรียกว่าเจ็บ ช้ำ ชั่วให้หุ่นรับกรรมแทนเราทั้งหมด เป็นหุ่นที่จะรักษาคนใช้แม้มีโรคภัยอาการเจ็บป่วยก็ต้องรับไว้เอง ท่านว่าหุ่นประเภทนี้ผูกได้ยากที่สุดและต้องใช้อำนาจจิต อำนาจของกรรมฐานมาผูกเขา ไม่ใช่หุ่นผีหุ่นพรายอาฆาต เพราะถ้าเป็นหุ่นผีเขาจะรับกรรมแทนเราไม่ได้ด้วยกรรมเดิมของเขาก็มีมากอยู่แล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านสรรเสริญวิชาผูกหุ่นพยนต์ที่มีอานุภาพอย่างแท้จริงอยู่สองตำรับ นั่นก็คือวิชาผูกหุ่นของหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า กับวิชาผูกหุ่นของหลวงปู่เฒ่ายิ้ม แห่งวัดหนองบัวผู้โด่งดัง ซึ่งท่านบอกว่าสองปรมาจารย์นี้หุ่นที่ผูกกินกันไม่ลงเลย อันที่จริงวิชาผูกหุ่นเป็นวิชาเก่าแก่ที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยการสร้างหุ่นพยนต์นั้นสามารถสร้างได้จากวัตถุอาถรรพณ์หลายอย่างไม่ว่าจะโลหะอาถรรพ์,ดินอาถรรพ์ ,ไม้อาถรรพ์ ,ขี้ผึ้งอาถรรพ์ เพราะของอาถรรพ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าวัสดุที่นำมาผูกหุ่นนั้นคล้ายกับการสร้างวัวธนูและควายธนู โดยคนสมัยก่อนมักจะนิยมสร้างหรือผูกหุ่นพยนต์เอาไว้เพื่อใช้เฝ้าบ้านเรือนทรัพย์สิน แม้แต่เจดีย์เก่าที่มีกรุสมบัติก็ยังผูกพยนต์เฝ้าพิทักษ์รักษาทรัพย์สมบัติแผ่นดินนั้นไว้ เรียกว่าที่ใดที่มีหุ่นพยนต์รักษาหากมีผู้คิดจะไปลองดีผู้ไปขุดหาสมบัติต้องเกิดอาเพศมากมายดั่งที่เคยมีบันทึกไว้เป็นหลักฐานยืนยันมาแล้วในการขุดพบสมบัติของโบราณตามเจดีย์เก่าทั้งหลาย

    เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจจะผูกหุ่นที่ใช้เป็นตัวตายตัวแทนทั้งเจ็บ ช้ำ ชั่วให้หุ่นรับกรรมแทนตัวคนใช้ทั้งหมดเป็นหุ่นที่จะรักษาคนใช้แม้มีโรคภัยอาการเจ็บป่วยก็ต้องรับไว้เองตำรับที่ผูกยากที่สุดนี้ โดยจะใช้วิชาและมวลสารต่างๆสองสาย คือสายหลวงปู่ศุขกับสายหลวงปู่เฒ่ายิ้มมาสร้างหุ่นพยนต์ และท่านยังกำชับว่า ฉันจะขอบารมีทั้งสองท่านรวมไปถึงองค์พระมหากัสสปะเถระเจ้าผู้เป็นต้นตำรับวิชาหุ่นพยนต์ให้มาสำเร็จหุ่นพยนต์ให้ฉันด้วย (ท่านว่าพยนต์ขององค์พระมหากัสสปะนั้นมีอานุภาพมากถึงขนาดพระอินทร์ต้องยกกองทัพเทพลงมาปราบทีเดียว)

    โดยการวบรวมมวลสารต่างๆได้แก่ตะปูที่ใช้ตรึงโลงศพที่ถูกเผาไหม้เป็นขี้เถ้าแล้วจากเตาเผาท่านว่าสิ่งนี้เป็นของที่มีกฤติยาคมแฝดเพราะใช้ตรึงอาถรรพ์ตรึงวิญญาณร้ายไม่ให้อาละวาดได้ดีนัก คนโบราณจะตีดาบกำราบผีทำมีดหมอก็จะใช้ตะปูตรึงโรงนี่แหละ ท่านจึงนำมาบดโขลกตำให้ละเอียดแล้วนำมาเข้ากับผงลบยันต์โสฬสมงคล,ผงยันต์อิติปิโสแปดทิศ ,ผงยันต์เกราะเพชร,ผงยันต์พระเจ้าสิบหกพระองค์,ผงยันต์บารมีสามสิบทัศน์,ผงยันต์อาวุธเทพทั้งสี่,ผงวิชาธาตุทั้งสี่,ผงพยนต์ดำ,ผงพยนต์แดง,ผงวิชาเทพพยนต์,ผงยันต์เทพนิมิต,ผงยันต์จตุโรบังเกิดทรัพพย์,ผงนะมหาลาภ,ผงนะมหาเศรษฐี จากนั้นจึงนำผงมาบูชาไฟซัดด้วยใบไม้อีกเจ็ดชนิดอันได้แก่ใบตาล,ใบลาน,ใบขนุน,ใบคูณ,ใบพยุง,ใบรัก,ใบจันทร์ แล้วจึงนำผงทำหุ่นมาเผาเข้ากับหญ้ามหาปราบหรือหญ้ากลางทุ่งที่รอดไฟไม่โดนไฟไหม้ทั้งๆที่หญ้าในบริเวณเดียวกันโดนไฟไหม้หมดจัดเป็นของอาถรรพ์มีเทวดารักษาอยู่ เมื่อได้ผงทำหุ่นแล้วท่านจึงนำผงมานวดกับมวลสารทำหุ่นพยนต์ที่ท่านเตรียมไว้เพื่อเสริมอิทธิคุณให้หุ่นพยนต์ ได้แก่ดินกลางถ้ำ,ดินยอดจอมปลวก,ตะใคร่เจดีย์เก่า,ดินโป่ง,ดินทางสามแพร่ง,ตะใคร่เสมาเจ็ดวัด,ว่านสาวหลง,ว่านศรนารายณ์,ว่านเพชรแดง,ว่านเพชรใหญ่,ว่านเพชรน้อย,ว่านสิงหโมรา,ว่านกระจาย,ว่านครอบจักรวาล,ว่านกล่อมนางนอน,ว่านพระตะบะ,เชือกผูกหัวเกวียน,เชือกประกำ,รกช้าง,ไคลเสาตะลุงช้าง,เถาวัลย์หลง,หญ้าคาโบสถ์ร้าง,ฟางข้าว,ปอ,ป่าน,ชันโรง,ผงไม้พญงิ้วดำ,ผงไพรดำ,ผงไม้มะขามโปร่งฟ้า,ผงไม้กาหลง,ผงไม้รัก,ผงไม้มะยม,ผงไม้ยอ,ผงไม้ขนุน,ผงแร่เกาะล้าน,ผงแร่เขาอึมครึม,ผงแร่เหล็กไหลเพลิง,ผงแร่เหล็กไหลตาน้ำ,ผงแร่เหล็กไหลนาคา,ผงแร่ดูดทรัพย์

    เมื่อได้ผงทำหุ่นแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงนำผงทั้งหมดไปคลุกน้ำรักและนำมาปั้นเป็นรูปหุ่นพยนต์ด้วยมือขึ้นทีละตนในฤกษ์ยามมงคลคืนพระจันทร์เต็มดวง โดยท่านกำหนดเรียกหนุนธาตุเปิดอาการทั้งสามสิบสอง กำหนดจิตให้เกิดนิมิต เห็นหุ่นพยนต์นี้เคลื่อนไหวมีชีวิตแล้วนำมาลงเหล็กจารสดลงในเนื้อหุ่นพยนต์ทีละตน ท่านว่าจารไปปลุกเสกรอไป โดยหุ่นพยนต์ชุดรับกรรมนี้พ่ออาจารย์ท่านจะฝังสิ่งมงคลอาถรรพ์ต่างๆ ดังนี้
    - ตะกรุดรับทุกข์เป็นตายแทนตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าอันนี้เราพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะเป็นวิชาจากองค์ธรรมท่านให้มา เอาว่ามันก็ใช้ตรงตามชื่อของตะกรุดนั่นเลย พ่ออาจารย์ท่านลงจารฝังไว้เป็นแกนกลางให้หุ่นพยนต์ ดุจเป็นจุดประสงค์หลัก เป็นหน้าที่ เป็นแก่นพลังงานที่ไม่มีวันเหือดแห้งให้หุ่นนั้นรับชั่ว รับเคราะห์ รับโรคภัย สิ่งใดเจ็บช้ำท่านว่าให้เข้าหาตะกรุดนี้พยนต์รับแทนไปทั้งหมด
    - แร่ปัญจะมหาคีรี ถ้าจะทำหุ่นพยนต์ให้แข็งต้องใช้แรงเทวดาห้าองค์เข้าพิทักษ์รักษาตามส่วนต่างๆเป็นฤทธิ์เป็นเดชให้พ่อยักษ์อีกทีหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าแร่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าขุนเขาที่ท่านรวบรวมไว้นำมาฝังตามจุดต่างๆของหุ่นพยนต์นั้น เป็นแร่กายสิทธิ์ธาตุที่มีเทวดาเจ้าป่ารักษา เป็นแร่ที่เกิดขึ้นในแต่ละขุนเขาดุจของวิเศษที่ให้คุณนานัปการ เป็นดั่งแก้วสารพัดนึกที่จะค้ำคูนช่วยเหลือผู้เป็นเจ้าของให้มั่นคงจีรังได้ดั่งยอดเขา ช่วยค้ำคูนให้เจริญรุ่งเรืองเปรียบดั่งขุนเขาที่เป็นบ่อเกิดแห่งความอุดมสมบูรณ์เป็นที่พักพิงของสรรพชีวิตน้อยใหญ่ เมื่อนำมาฝังแล้วก็ดุจว่าหุ่นนั้นมีฤทธิ์เยอะขึ้นด้วยกำลังของเทวดาที่เข้ารักษาจุดต่างๆทั้งห้าองค์ เป็นการเสริมอาถรรพ์หุ่นด้วยเทวานุภาพ
    - ก้อนกายสิทธิ์ธาตุ เป็นก้อนแร่ที่พ่ออาจารย์ท่านนำปรอทที่ท่านดักมาหุงเข้ากับแร่พลวง แร่ตะกั่วขอมพันปี แร่ดีบุก และชินเงินเก่าสมัยต่างๆเทออกมาเป็นก้อนกายสิทธิ์ธาตุ ท่านว่ามีอานุภาพแรงดุจปรอทสำเร็จ ท่านจึงนำมาฝังไว้เป็นใจหรือจุดหัวใจหุ่นพยนต์ หุ่นนั้นจะได้สำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังมีอานุภาพมากจะเหาะเหินรุ่งเรืองด้วยตนเองนั้นเป็นกายสิทธิ์

    ท่านนำมามาปลุกเสกเรียกธาตุสี่คือดิน น้ำ ไฟ ลม หนุนธาตุ ตั้งธาตุ เรียกอาการสามสิบสองปลุกเสกพระคาถาย่อส่วน ขยายส่วน ปลุกเสกพระคาถาดำดิน ล่องหนหายตัว กำบังตัว แล้วจึงนำหุ่นวางบนฝ่ามือทีละตัว ท่านว่าต้องเสกจนหุ่นลุกขึ้นมาได้เองจึงจะสำเร็จ จากนั้นจึงขอบารมีครูพระมหากัสสปะเถระเจ้าตำรับตลอดจนหลวงปู่ศุข หลวงปู่เฒ่ายิ้มมาสำเร็จหุ่นพยนต์นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเรากำหนดจิตตามไปดูว่าครูท่านทำอย่างไร ท่านว่าครูท่านปลุกเสกเดินกระแสจิตทั้งด้านอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ให้แบบดึงพลังจักรวาลจากทั้งสิบทิศผูกหุ่นกันแบบเต็มกำลัง ซ้ำยังผูกเป็นหุ่นมหายักษ์ผูกเป็นหุ่นจักรพรรดิ์ก็เลยกลายเป็นหุ่นยักษาจักรพรรดิ์แล้วจึงนำมาครอบวิมานแก้ว ครอบฉัพพรรณรังสีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อให้เป็นราชาแห่งพยนต์ จนพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเสกจนล้นไม่มีอะไรให้เราทำอีกแล้ว

    อิทธิคุณของหุ่นพยนต์นั้น กล่าวคือเป็นพรายกระซิบ บอกเหตุ เตือนภัยที่กำลังจะมาถึง รับเคราะห์แทนเจ้าของได้ เสริมดวงบารมีด้านบริวาร บอกโชคให้ลาภ บอกหวย เรียกเงิน เรียกทอง เรียกทรัพย์ ไปค้าไปขายมีโชคลาภเป็นเมตตามหานิยม เข้าหาสาวมหาเสน่ห์ ทั้งเสี่ยงดวงพนัน กันคุณไสยไล่อัปมงคล ไล่ผีเร่ร่อนได้ ช่วยทำมาค้าขาย เรียกคนเข้าร้าน ธุรกิจการงาน เฝ้าบ้าน เฝ้าของ เฝ้ารถ ทรัพย์สินเงินทอง กันขโมยใช้ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง(ไม่ว่าทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ) กันรังสี กันโรคระบาด ทั้งภูติผีปีศาจ อีกทั้งคุณไสยล้างอาถรรพณ์สิ่งที่ไม่ดีไม่บริสุทธิ์ทั้งคุณผี คุณคน คุณมนต์ คุณคาถา คุณหนัง และสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ กันพวกเขี้ยวงาใต้น้ำ คนโบราณเชื่อว่าใครมีหุ่นพยนต์มาครอบครองก็จะเปรียบเสมือนมีเงาคอยตามตัวปกป้องคุ้มครองยามเดินทางไปที่ต่างๆ หากวางบูชาไว้หน้ารถก็เปรียบเสมือนมีตัวเราเองอยู่ในรถคันนั้นเฝ้าดูแลแทนตัวเรา อธิษฐานใช้ได้ท่านบอกถึงเวลาเอาไปใช้เถิดเดียวรู้เอง มีทุกข์ มีภัยมาไม่ต้องกลัวปล่อยให้มันมา เดี๋ยวหุ่นเขาจะรับเอาไว้เอง แต่อย่าได้ลำพองใจว่ามีของดี ไม่ใช่มีหุ่นแล้วจะเที่ยวเกเร สร้างปัญหา รังแกใครก็ได้ หากทำบ่อยๆระวังครูท่านจะตำหนิให้เกิดโทษ ท่านว่าของดีก็ต้องอยู่คู่กับคนดีด้วย ท่านว่าปกติหุ่นพยนต์รุ่นนี้จะให้ใช้เฉพาะเป็นรายบุคคลไป แต่สถานการณ์บ้านเมืองปากท้องและชีวิตในปัจจุบันของหลายๆคนนั้นไม่ค่อยจะดี ท่านว่ายิ่งนานก็ยิ่งหนัก ท่านจึงอนุโลมให้นำออกมาให้ใช้บูชากัน โดยมีข้อแม้แค่ว่า ขอให้คนที่เอาไปเป็นคนดี ขอแค่เป็นคนดีเรื่องอะไรมันก็ดีไม่ต้องไปกลัว

    ในยุคสมัยนี้ยากแก่การที่จะหาพระเกจิอาจารย์ใดที่ผูกและกำกับหุ่นพยนต์ได้ดั่งอดีตเช่นหลวงปู่ยิ้ม หลวงปู่ศุข พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นๆกันได้ทั่วว่าจะใช้น้ำมันพราย ใช้กระดูกผี ใช้ชิ้นส่วนศพเช่นผมผีตายโหง ผ้าห่อศพต่างๆ เอาของที่มีอาถรรพ์ของผีของวิญญาณที่ตายไม่ดีมาทำหุ่นพยนต์ เพราะอยากได้อาถรรพ์ อยากได้ของแรงๆไม่ได้สนชีวิตคนใช้ว่าจะเป็นอย่างไร ท่านว่าหุ่นที่แรงอย่างนี้นับว่าแรงเสียเปล่าเพราะเขาใช้งานช่วยเราไม่ได้มากซ้ำยังเป็นโทษมากกว่าคุณเราจึงไม่ใช้ของที่เกี่ยวกับศพมาทำหุ่นเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นเราสำเร็จด้วยอานุภาพผงวิเศษกับคุณว่านยาและวิชาผูกหุ่น นี่ถ้าเราไม่ขอบารมีท่าน(หลวงปู่ยิ้ม หลวงปู่ศุข)ไม่เชิญครูพระมหากัสปะมาช่วยผูกหุ่นรุ่นนี้ก็ยากจะสำเร็จหุ่นรับกรรมได้เพราะตั้งใจทำไว้ให้เป็นที่สุดในสายวิชาพยนต์นั่นคือใช้รับเคราะห์กรรมแทน แม้ผูกขึ้นมาแล้วก็ต้องเรืองฤทธิ์ดั่งเทพยดา

    หุ่นพ่อยักษ์นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆต้องเรียกพ่อยักษ์จักรพรรดิ์ ท่านว่าเราทำให้เต็มที่แล้ว มีตัว มีญาณบารมีครูบาอาจารย์ มีอิทธิฤทธิ์ มีธาตุทั้งสี่ มีวิญญาณขันธ์ห้าครบสูตรตามตำรา จะใช้อธิษฐานอะไรก็ตามแต่จะใช้เถิด ใครที่บูชาปรารถนาจะเสี่ยงโชคหากมีโชคมีลาภหุ่นพยนต์หรือพ่อยักษ์ของฉันก็จะมาปรากฏตัวในความฝันให้เห็น เป็นยักษ์บ้าง เป็นฤาษีบ้าง เป็นพระจักรพรรดิ์บ้าง เป็นคนแก่บ้าง คนหนุ่มบ้าง หรือเด็กบ้าง บอกโชคบอกลาภให้เห็นเป็นประจำ

    คาถาบูชา
    โอมปลุกปลุก กูจะปลุกพ่อหุ่นด้วยอะหังนุกา อยู่แล้วรักษาอย่าไปอื่น ขอให้อายุมั่นขวัญยืน ทำมาค้าได้มีโชคมีชัย ลาภมา เงินมา ทองมา นะนะนะนะ อะถันโธโมสิตังวะคะลึงคะลัง นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ อิสวาสุ สุสวาอิ จิเจรุนิ จิตตัง เจตสิกัง รูปัง นิมิตตัง อิติภูตะ เอหิจิตตัง มานิมามา นะมะพะทะ ยังกิญจิ ระตะนังโลเก วิชชะติวิวิธัง ปุถุระตะนัง พุทธะสะมัง นัตถิตัสสะมา โสตถี ภะวันตุเม แก้วแหวนเงินทองทรัพย์สินใดในโลกนี้ มนุษย์หรือปุถุชนจะไขว่คว้าหามาได้โดยไม่ยากแต่ของวิเศษดีเลิศประเสริฐยิ่งกว่าพระพุทธคุณนั้นไม่มีอีกแล้วที่ดีกว่านี้ ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัยขอพ่อยักษ์จงมาโปรดลูกคนนี้ให้ลูกกินอิ่มนอนหลับ จะเอาอะไรก็ขอให้ช่วยให้ลูกสมปรารถนา


    *** หุ่นพ่อยักษ์นี้พ่ออาจารย์ว่าควรพกไว้ติดตัวทำพวงกุญแจได้ คาดเอวได้ ใส่กระเป่ากางเกงได้ แต่ใครที่มีเคราะห์หนักมาก ดวงชะตาเกิดมาร้ายมากกว่าดี หรือใครที่จะทำงานใหญ่มีคู่แข่งมาก ให้อาราธนาพ่อหุ่นเป็นคู่สองตน และอธิษฐานบอกพ่อยักษ์ว่าตนนึงใช้รับโชคร้ายวิบากกรรมเคราะห์ซ้ำกรรมซัดตามชะตาราศี อีกตนนึงใช้รับกรรมปัจจุบันและใช้กรรมปัจจุบันแทนตัวเอง

    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์รับกรรมมหายักษาผจญมาร (ตายแทนตัว เจ็บ ช้ำ ชั่ว รับแทน ) บูชา 2,500 บาท

    49385895-328741737732630-6518553508172529664-n.jpg 49151455-328898337717084-4194166874579140608-n.jpg
    49652205-488734774983564-2564057491021234176-n.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสิทธิเทพนึกรวย,สมบัติทิพย์,เศรษฐีใหม่ (เทวดาให้โชค)

    ตะกรุดสิทธิเทพหรือเทวดาให้โชคนี้แต่เดิมพ่ออาจารย์ท่านก็ไม่เชื่อและไม่ได้คิดจะทำ หากเพียงท่านลองวิชาให้คนนำไปใช้อเห็นผลแล้วซึ่งตัวท่านเองก็นับว่าพอใจกับพลานุภาพของตะกรุดสิทธิเทพนี้อย่างมากเพราะผู้ใดได้ไว้บูชารายไหนรายนั้นมักจะโชคดีมีความสุขในทรัพย์สมบัติอย่างน่าฉงนจนเป็นที่เรียกกันติดปากสืบมาว่าตะกรุดเศรษฐีใหม่ กล่าวได้ว่าวิชานี้เป็นทิพย์วิชาที่ครูบรมพรหมนั้นให้ท่านไว้ เมื่อท่านได้ลองจนมั่นใจแล้วว่าดีท่านจึงตั้งใจเก็บตัวทำตะกรุดตะกั่วขอมลงถมแบบเต็มสูตรด้วยวิชาสิทธิเทพนี้ซักครั้ง

    เมื่อกล่าวถึงพ่ออาจารย์พลแน่นอนว่าหลายๆคนย่อมนึกถึงตะกรุดหลักสามชนิด นั่นคือ สิทธิโชค,สิทธิลาภ,สิทธิชัย โดยตะกรุดทั้งสามอย่างนี้ถือได้ว่าเป็นชุดหลักและเป็นยอดปรารถนาที่คนอยากจะบูชามากที่สุด หากแต่ท่านตั้งสัจจะไว้ว่าจะทำในจำนวนเท่าไหร่ เมื่อทำครบแล้วท่านจึงไม่ได้ทำให้ใครอีก ดังนั้นตะกรุดที่มีสรรพคุณอันประเสริฐทั้งสามตัวนี้ในหลายๆปีชั้นหลังจึงไม่มีผู้ใดได้ครอบครอง เมื่อมีกระแสรบเร้าเข้ามามากท่านจึงให้เอาตะกรุดสิทธิเทพนี้ไปเปิดตัวเพราะวิชาลงตะกรุดชุดนี้เป็นวิชาตำรับบรมครูเช่นตะกรุดสามชนิดข้างต้นและเป็นวิชาที่ท่านลองจนสนิทใจแล้วว่าดี ว่าใช้ได้ ท่านว่าให้เอาไปใช้แทนกันและจำไว้ว่าอย่าช้าเพราะเราทำไม่เยอะและทำแค่ครั้งเดียว

    วิชาลงตะกรุดสิทธิเทพดอกครูนี้พ่ออาจารย์ท่านเรียกแฝงความหมายเป็นนัยยะสำคัญไว้ว่ารวมมิตรเทพเจ้าท่านว่าหมายเอาเทพเจ้ามารวมกันกับเรา มาอยู่ฝั่งเรา เป็นมิตรของเรา ท่านว่าวิชานี้เป็นศาสตร์ลับเฉพาะของครูสหัมบดีพรหมแม้เอาไว้ที่ใดหรือผู้ใดได้พกติดตัวก็ประดุจเชื้อเชิญให้เทพเทวามาโปรดหรือมาเข้าพิทักษ์รักษา ไปไหนมาไหนหรือบูชาไว้เป็นนิจ เหล่าเทพเทวาจักให้คุณใหญ่หลวงแล ท่านว่านี่คือมาหาแล้วต้องให้คุณไม่ใช่มาเยี่ยมๆมองๆเฉยๆแล้วจากไปไม่เอาธุระกับใครดังนั้นตะกรุดนี้นอกจากเทวดาเกื้อกูลแล้วทั้งยังช่วยเหลือชีวิตที่ขัดสนเรื่องเงินทองเปลี่ยนให้การงานการเงินคล่องตัว เป็นสุดยอดเมตตา โภคทรัพย์ เจรจาค้าขายทั้งสามารถป้องกันคุณไสยภูติผีปิศาจ หรือจะเอามาทำน้ำมนต์อาบแก้เสนียดจัญไรก็ได้ ท่านว่าตะกรุดดอกนี้สำคัญนักแม้แขวนไว้ในสิ่งปลูกสร้างหรือแขวนไว้ในบ้านเพื่อแก้ฮวงจุ้ยที่เสียให้ดีขึ้นก็ยังได้ หากใครมีกิจกรรมที่ทำอยู่ก็จะช่วยส่งเสริมสัมมาชีพทั้งหลายตลอดจนการค้าขายการทำมาหากินให้เจริญรุ่งเรือง ท่านว่าเช่นนั้นวิชานี้จึงเสมือนเรามีพลังขับเคลื่อนที่เรามองไม่ออก ดูไม่เห็น คอยขับดันผลักส่งชีวิตเราอยู่เนืองๆ ท่านว่านี่แหละสิทธิเทพ พูดง่ายๆก็คืออยู่ไหนเทวดาก็ช่วย ไปถิ่นไหนของเทวดาหน้าไหนเขาก็คอยลงมาช่วยเหลือเราหมด ไม่กีดขวาง ไม่ข้ามถิ่น ไม่กลั่นแกล้ง เปลี่ยนคนวาสนาธรรมดาให้กลายเป็นเด็กเซ่นเทวดาเรียกแบบนี้ก็ได้ เปลี่ยนชีวิตให้ฟลุ๊คๆและดำเนินไปเรื่อยๆเช่นนั้น

    ก่อนจะลงจารท่านต้องนำตะกั่วขอมโบราณที่หลอมรีดลบถมสูตรรัตนมาลาร้อยแปดรอบมาไหว้กล่าวอาราธนาคุณครูเสียคำรบหนึ่ง ท่านว่าจะต้องทำการอัญเชิญเทพเทวา อีกฤๅษีทั้ง108ตน ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบสองดาราจักรให้มาเป็นพยานทั้งลงมาสถิตย์ที่ตะกรุดเพื่อเป็นพลังเทวคุณแก่ผู้บูชา เพื่อให้แผ่นตะกรุดนี้เป็นมงคลต้องตำราพระเวทย์เต็มเปี่ยมด้วยอานุภาพของเหล่าเทพเทวาและบรมครูฤๅษีลงมาประทับรักษา เมื่อรวมกับอานุภาพการลบถมยันต์รัตนมาลาแล้วจึงเป็นแผ่นตะกั่วลงถมที่รวบรวมเอาพุทธคุณอันประเสริฐตลอดจนอานุภาพของเทพเทวาที่รักษาโลกธาตุและคุณพระรัตนตรัยอันเป็นมงคลสูงสุดไว้ พ่ออาจารย์ท่านอัญเชิญเทวดาประจำวันที่รักษาวันทั้งเก้าคือเจ็ดนพเคราะห์ราหูและเกตุมาอวยชัย อัญเชิญเทพยดาสิบหกชั้นฟ้า สิบห้าชั้นดิน สิบสี่ชั้นบาดาล มาปกป้องกันเสนียดจัญไร ทั้งอาราธนาองค์พระครอบไว้ทั้งสี่มุมแผ่นตะกรุดเพื่อให้คุ้มครองทั้งสี่ทิศ ท่านว่าตะกรุดสิทธิเทพนี้ฉันทำเป็นรุ่นสุดท้ายแล้วนะต่อไปไม่ทำแล้ว ไม่มีแรง มันทำยากเสกยากหนักหนา เพราะวิชาของฉันเป็นของจริง เธอใช้ให้จริงก็เห็นผลจริง

    ตะกรุดสิทธิเทพนี้เป็นตะกรุดที่ให้คุณใหญ่เพราะมีเทพชั้นสูงรักษาองค์ตะกรุดดุจรับบัญชาจากท้าวสหัมบดีพรหมผู้เป็นเจ้าแห่งปัญจะมหาสุทธาวาสพรหมภูมิลงมา เมื่อมีเทพชั้นสูงอันเป็นคณะขององค์สหัมบดีรักษาด้วยรัศมีเทพนั้นผู้ที่ถือครองตะกรุดย่อมได้ชื่อว่าเป็นคนที่มีสิริมงคลมาก มีเสน่ห์มาก ขนาดเทวดาและนางฟ้าด้วยกันยังหลงใหลฉะนั้นเมื่อผู้คนที่พบหน้า เจรจา พูดคุยกับเราซึ่งมีเสน่ห์ด้วยเทวานุภาพ ด้วยเมตตาเอื้ออารีย์แห่งพรหม ผู้คนทั้งหลายต่างก็จะมารักใคร่ เมตตาเอ็นดูให้ความช่วยเหลือเรา ผีสางนางไม้ก็เมตตารักใคร่ช่วยเหลือ เทพเทวดาก็รำลึกตรึกถึง พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งเหล่านี้เป็นผลพวงอันจะเกิดขึ้นและเป็นเหตุนำไปสู่ความสำเร็จทั้งด้านการงาน การเงิน โชคลาภ ด้วยเมตตาตัวนี้คนบูชาจะไม่ขาดแคลนในเรื่องความรักอย่างแน่นอน ดังนั้นสิทธิเทพจึงเป็นวิชาที่ครอบคลุมความสำเร็จในทุกด้าน***พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่ก่อนนั้นตะกรุดสิทธิลาภ สิทธิโชค สิทธิชัยล้วนมีขนาดใหญ่โต พกยาก ห้อยไปคนก็บ่นว่าหนัก เมื่อทำสิทธิเทพนี้ท่านจึงตั้งใจทำให้มีขนาดเล็กที่สุดเอาว่าห้อยคอได้แล้วก็ไม่หนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าเราต้องบีบอักขระและใช้ความอุตสาหะอย่างมาก เพราะตอนจารต้องใช้แว่นขยายส่องดูไปด้วย เห็นเป็นดอกเล็กๆอย่างนี้ ข้างในนั้นฉันลงจารเป็นร้อยๆอักขระธรรม เอาว่าทำให้ครั้งเดียวไม่มีแรงจะทำให้อีกแล้วสำหรับสิทธิเทพนี้เราพูดได้แค่นั้น

    "ให้มนุษย์ในใต้หล้ามาสยบ แม้ยุรยาตรหนใดมีเทพเทวดาต้องคอยพิทักษ์รักษา" นี่คือคุณที่บรมพรหมท่านกล่าวไว้ว่าตะกรุดสิทธิเทพนี้ใช้ได้หลายด้าน เมื่อลงอักขระบนแผ่นตะกั่วขอมโบราณลงถมแล้วก็ต้องเสกเรียก เสกกลึง ก่อนจะม้วนและเสกกำกับ จักมีอานุภาพตามนั้นท่านว่าปรารถนาสิ่งใดๆก็ได้ดั่งปราถนาแล แม้เรื่องขอโชคลาภ ค้าขายดี ธุรกิจก้าวหน้า เอาว่าขอให้ได้ ขอให้ขอ เพราะมีคนขอโชคจากตะกรุดสิทธิเทพแล้วสามารถปลดหนี้ได้เลย จนเรียกติดปากในหมู่คนเคยใช้ว่าตะกรุดเศรษฐีใหม่บ้าง ที่ถูกหวยบ่อยหน่อยก็เอาไปตั้งชื่อว่าตะกรุดใบ้หวย ส่วนคนที่มีตาในใสกระจ่างหรือมีวิชาพอจะมองเห็นอะไรได้ก็กล่าวยกย่องว่าเป็นตะกรุดสมบัติทิพย์(สมบัติเทวดา) พ่ออาจารย์ท่านอธิบายแบบอารมณ์ดีว่าเพราะฉันไม่ได้ลงแค่สิทธิเทพหรอกหนา ตะกรุดนี้ตอนจารนั้นฉันใส่วิชาสมบัติพระอินทร์ลงไปด้วยเอาว่าให้หรรษาและบันเทิงอยู่ในทรัพย์สมบัติให้สมกับที่ดาวดึงส์นั้นสวยงามและสะดวกสบายที่สุด นั่นแหละตะกรุดฉันบางคนใช้ทำมาหากินถึงกลายเป็นเศรษฐีใหม่ บางคนใช้เทวดาก็มาใบ้บอกหวย ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามจริตคนใช้อย่างนี้ วิชานี้เป็นสายวิชาเฉพาะที่พระอินทร์ท่านมอบให้ สามารถอาราธนาไปใช้ด้านมหาลาภได้ดีมากๆ คนใช้เป็นหน่อยยนี่เหมือนมีตาทิพย์เขาว่ากันอย่างนั้น วิชาสมบัติพระอินทร์นี้ผู้ใดบูชาหมั่นอาราธนาจะประสบความสำเร็จสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา ใช้เสี่ยงโชค เสี่ยงดวง ทำมาค้าขาย เจรจาธุรกิจได้สำเร็จเห็นผลจัดว่าเป็นของดีที่ควรมีไว้คู่กายจะได้ค้ำคูณหนุนตัวให้เจริญรุ่งเรืองดุจมีสมบัติเทวดาหรรษาดั่งอยู่ในดาวดึงส์เช่นนั้น

    ท่านเมตตาเสกให้แรงหายห่วงเพราะสิทธิเทพนั้นผู้บูชาต้องอยู่ในอารักขาของเทพยดา ท่านว่าเมื่อมีเทพอยู่กับตัว มีเทพให้ความสนใจชีวิตก็จะบังเกิดอำนาจวาสนา บุญบารมี มีโชค มีลาภ เลื่อนขั้น เลื่อนเงินเดือน เลื่อนตำแหน่ง มีแต่ความเจริญก้าวหน้า ทำมาค้าขึ้น หากใครฉลาดไม่ปล่อยโอกาสไปเฉยๆให้เร่งทำบุญให้ทานทุกวันจะได้ผลเร็วขึ้นจนชีวิตเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แม้ประสงค์ทรัพย์อันใดในโลกหลังจากนั่งเจริญสติภาวนาแล้วก็ให้นึกถึงทรัพย์ นึกถึงเงินทองเถิด ท่านว่านึกไปเลยอยากรวยก็คิดถึงแต่เรื่องหาเงินอย่างเดียวทุกๆห้านาที อยากถูกหวยก็คิดแต่เรื่องหวยเช่นนี้ ให้เร่งภาวนาเถิดจักร้อนถึงเทวดานำมาให้ เรื่องเสี่ยงดวงเมตตา มหาลาภค้าขาย การพนันดวงดี เทวดาท่านเมตตาให้โชคลาภ ให้เราทำมาค้าขายดี ท่านว่าตะกรุดนี้แม้ไม่ห้อยคอก็ต้องพกไว้กับตัวถึงจะใช้ได้เอาว่าใส่ไปเดี๋ยวเห็นผลเองเพราะพูดอะไรออกไปแล้วต้องได้เงิน พูดแล้วต้องมีโชคมีลาภได้โชคได้ลาภทรัพย์สินเงินทองไหลมาเทมาไม่ขาด มีลาภลอยจะมีนิมิตเลขหวยมาบังเกิดให้เห็นเลยทีเดียวถ้าจิตนิ่งและสำรวมดีแล้ว *แนะเคล็ดไว้เล็กน้อยผู้ใดอยากบูชาตะกรุดนี้ให้ได้ผลต้องหมั่นทำบุญใส่บาตรถวายสังฆทาน ปล่อยนกปล่อยปลาอยู่เสมอ ทำเพื่อเป็นอานิสงค์ให้เทพยดาและตัวเองนั้นมีความผูกพันธ์กัน มีพันธะระหว่างกัน พออธิษฐานขอโชคลาภจากตะกรุดสิ่งที่ไม่มีก็จะมีมาไม่ขาดสาย

    ตะกรุดสิทธิเทพนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้สารพัด หากต้องตกอยู่ในอันตรายหรือวงล้อมศัตรูท่านว่าให้เอาตะกรุดอมไว้หนีได้แล ถ้าจะให้เป็นเมตตาให้เอาตะกุดพกติดตัวไปด้วยแม้หนักหนาถึงขั้นมีโทษตายก็มิถึงตาย ถ้าจะทำเป็นกำบังให้อมตะกรุดไว้แล้วค่อยๆเดินไปท่านว่าทั้งวันยันค่ำเขาไม่เห็นตัวเราเลย ถ้าจะกันสัตว์น้ำมิให้ทำอัตรายเราให้เสกตะกรุดเจ็ดทีอมไปมันไม่ทำร้ายเราเลยแม้เทวดาก็เทวดารัก แม้ผีก็ตามคุ้มครองให้โชคให้ลาภ พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆเราไม่ได้ตั้งใจทำให้ไปฆ่าฟันหรือไปเป็นโจรที่ไหนเพราะเราตั้งใจทำไว้หนนี้เพื่อให้ใช้ตั้งตัว นำไปใช้เรียกทรัพย์ เรียกลาภ ทำมาค้าขาย ใช้หนุนดวง หนุนโชคชะตา จะคนที่ไม่มีโชคลาภก็จะมีเข้ามาไม่ขาดสายคนที่มีมาประจำก็จะยิ่งเพิ่มทวีคูณยิ่งๆขึ้นไป ตะกรุดสิทธิเทพนี้มียันต์สมบัติทิพย์ สมบัติพระอินทร์อยู่ ใช้เรียกทรัพย์เรียกลาภให้มีกินมีใช้ไม่ขาดสาย พ่ออาจารย์ท่านว่ายันต์นี้เป็นยันต์เจ้าสัว เป็นวิชชาสร้างตัว วิชาเศรษฐีเก็บไว้ให้ดีๆหมั่นบูชาจะบังเกิดผลเห็นได้ทันใจ ด้วยอำนาจแห่งอักขระเลขยันต์นี้ประกอบกับตอนเสกท่านลงผงจตุโรบังเกิดทรัพย์และมหาบุรุษแปดจำพวกโปรยไว้ในน้ำมนต์ที่แช่ตะกรุด ท่านว่าเพื่อให้อิทธิคุณของวิชาทั้งสองสายหนุนส่งผสานเป็นเนื้อเดียวกันภายในตะกรุด ด้วยคุณวิชานั้นผู้บูชาที่เป็นยาจกยากจนจะกลายเป็นเศรษฐี เศรษฐีจะกลายเป็นมหาเศรษฐีและจักรักษาทรัพย์ไว้ได้นาน ทรัพย์สินเงินทองจักเพิ่มพูน คนโชคร้ายกลับกลายเป็นคนโชคดี คนไม่มียศจะมียศ คนไม่มีผัวจะมีผัว คนไม่มีเมียจะมีเมีย คนไม่มีลูกจะมีลูก ผัวเมียรังเกียจกันจะคืนดีต่อกัน คนไม่มีสติปัญญาจะมีสติปัญญา คนไม่มียศจะมียศ คนไม่มีข้าทาสบริวารจะมีข้าทาสบริวาร คนไม่เป็นที่รักจะเป็นที่รัก จะบังเกิดตบะเดชาปรากฏไปทั่วทุกทิศ บ้านเมืองไร่นา เรือกสวนบริษัทห้างร้านวัดวาอารามที่เสื่อมโทรมเอาตะกรุดไปฝังไว้หรือเอาติดไว้ที่ป้ายบริษัทห้างร้านจะเจริญรุ่งเรืองประกอบการพานิชต่างๆจะมีโภคทรัพย์หลั่งไหลมาสู่มิได้ขาดหาย แลบรรจุไว้ใต้ฐานพระประธานไหว้กราบบูชาจะเจริญวัฒนาสถาพรจะเกิดโชคลาภใหญ่ยิ่งจะมีคนมาบำรุงให้รุ่งเรือง ไปอยู่ณ.ทิศใดตำบลใดไม่มีตกต่ำเลย เป็นของวิเศษอย่าได้ประมาทผู้บูชาจะเจริญรุ่งเรือง แม้เอาไปฝังไว้ในที่รกร้างก็จะเจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขึ้นมีแต่รวยๆด้วยพุทธคุณ ทั้งวิชาสิทธิเทพนั้นเทวดาเทวดาให้ลาภอยู่มากแล้ว ประสงค์โชคลาภเงินทองการทำงานกิจการค้าขายต่างๆให้อธิษฐานเอา พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันลงไว้ครบ เอาว่าเสกให้เป็นเมตตาใหญ่ มหานิยมใหญ่ มหารัก มหาหลง ระงับเกลียด ระงับโกรธ อย่าว่าแต่มนุษย์ธรรมดาที่จะรักเราเลย จนแม้แต่เทวดาก็ยังมารักเรา ทั้งกันคุณไสย กันฟ้าผ่า ขอโชคลาภ ค้าขายดี ธุรกิจก้าวหน้า ปลดหนี้ เด่นเรื่องปกป้องภัยอันตรายตลอดจนคุณไสยทั้งปวง พ่ออาจารย์ให้แขวนไว้ที่หน้าบ้านหรือที่ทำงานแล้วเทวดาท่านจะให้โชคลาภไม่ขาดสาย ป้องกันฟ้าผ่าดี กันคุณไสยดีนักแล วิชาการทำตะกรุดสิทธิเทพนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องปลุกเสกในน้ำมนต์จนจนน้ำมนต์หมุนจึงจะสำเร็จ

    คาถาบูชา
    พุทธะนิมิตตัง มะอะอุ ปัจจะยะลาโภ อินทะสาวัง ธะนังสาวังทะสะติ อิสะวิระมะสาพุทเทวา เทวะพามา เอหิเอหิ ปิยังมะมะ


    *** ตะกรุดสิทธิเทพนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากให้ติดตัวไว้คนละดอก แต่หากใครมีบ้าน มีที่ทำงานอยากจะหนุนส่งให้เป็นอาถรรพ์เจริญรุ่งเรืองก็ควรมีไว้เสียสองดอก เพื่อจะฝังหรือห้อยไว้ในบ้านและที่ทำงานหรือแหล่งเก็บเงินนั้นอีกดอกหนึ่ง ท่านว่าะเปลี่ยนตัวเราและสถานที่ของเราให้เกื้อหนุนและเจริญไปพร้อมๆกัน แม้ใครอยู่หอไม่ได้อยู่บ้านท่านว่าให้เอารูปบ้านตัวเองนี่แหละบอกกล่าวเทวดาว่านี่คือที่อยู่อาศัยของเราอยู่ตรงไหนก็บอกไปแล้วเอาตะกรุดทับทำอาถรรพ์ไว้ ท่านว่าก็ใช้ได้เหมือนกัน

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสิทธิเทพนึกรวย,สมบัติทิพย์,เศรษฐีใหม่ (เทวดาให้โชค) บูชา 3,000 บาท

    49385901-618668168553168-412609012681408512-n.jpg
    49827703-2389335468004381-2598381649880154112-n.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา กิเลนนภาห้าธาตุหมื่นกาลผันชีวิต(วาสนาเจิดจรัส)

    "ออกเงียบๆ อย่าให้คนรู้กันเยอะนัก เดี๋ยวพวกหิวอำนาจวาสนาจะมาเอากันไปเสียหมด"

    หากกล่าวถึงกิเลนนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นสัตว์สวรรค์ที่มีตัวตนอยู่จริงเพราะท่านเคยเห็นมันมาก่อนและท่านก็รู้ว่าหากใครมีวาสนาดีพอจะได้เห็นกิเลนแล้ว ชีวิตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่นนั้นท่านจึงขออนุญาติพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเพื่อจะทำกิเลนอันเป็นพาหนะทรงของท่านให้คนใช้เสียครั้งหนึ่ง

    ด้วยเชื่อว่ากิเลนนั้นมีลักษณะของสัตว์มงคลห้าชนิดรวมกัน คือ หัวมังกร เขายูนิคอร์น ตัวเป็นกวาง มีเกล็ดเหมือนปลา หางวัว และยังเกิดจากธาตุทั้งห้า คือ ดิน, น้ำ, ไฟ, ไม้ และทอง ผสมกันจึงเป็นสัตว์สวรรค์ชนิดเดียวที่มีความสมดุลย์ของเบญจธาตุซ้ำยังมีอายุอยู่ได้ถึงหลายพันปีและถือว่าเป็นยอดแห่งสัตว์ทั้งหลาย เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี เมื่อจะปรากฏให้เห็นครั้งใดก็จะเกิดผู้มีบุญมาปกครองบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุขเมื่อนั้น ดั่งในยุคของฝูซีเป็นผู้ปกครองโลกกิเลนได้ปรากฏตัวขึ้นที่แม่น้ำฮวงโห หลังกิเลนมีลายอักขระจารึกซึ่งต่อมาได้พัฒนากลายมาเป็นตัวอักษร กิเลนจึงถือเป็นหนึ่งในสี่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยกิเลนเป็นสัญลักษณ์ของวาสนาและความมั่นคง ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านว่ายังใช้ป้องกันสิ่งอัปมงคลได้ เรียกได้ว่ากิเลนเมื่อปรากฏขึ้นที่ไหนหมายถึงกำลังจะมีเรื่องมงคลเกิดขึ้น หรือผู้ใดได้เห็นกิเลนบุคคลผู้นั้นก็จะมีแต่โชคดีไม่มีเรื่องร้าย ซ้ำพลังงานของกิเลนยังจะช่วยกรองและขจัดสิ่งอัปมงคลต่างๆให้พ้นตัวไปแลจะนำเอาความโชคดี ข่าวดีมาให้ด้วยเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี

    ด้วยคุณลักษณะดังกล่าว ทั้งยังมีนิสัยเชื่องและเป็นมิตรกับมนุษย์ แม้จะมีฤทธิ์มีอำนาจแต่ก็ไม่เคยทำร้ายคน ไม่ทำลายต้นไม้ใบหญ้าจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสัตว์ที่มีคุณธรรม พ่ออาจารย์ท่านว่ากิเลนนั้นเป็นสัตว์ห้าธาตุที่เหนือกว่าเทพพิทักษ์ประจำธาตุทั่วๆไปจึงมีขนห้าสีปรากฏอยู่กลางหลัง ซ้ำยังมีกำลังนำธาตุทั้งห้ามาเล่นฤทธิ์ได้เช่นพ่นน้ำ พ่นไฟ ทำเสียงคำรามเหมือนฟ้าดินแปรปรวน มีเขาเป็นอาวุธวิเศษ คนจีนโบราณเรียกกิเลนว่าเหรินโซ่ว ด้วยเพราะกิเลนมีนิสัยประหลาดไม่เคยทำร้ายใครถึงขนาดที่ว่าจะไม่เดินเหยียบย่ำลงไปในใบหญ้าที่ยังเขียวสด อีกทั้งไม่เหยียบย่ำแมลงเล็กๆที่มีชีวิตนี่จึงเป็นคุณลักษณะทางเมตตาที่กิเลนแสดงออกอย่างใหญ่หลวงต่อสรรพชีวิต ต่างจากสัตว์เทพชนิดอื่น ด้วยเป็นสัตว์มีเมตตาสูง มีใจอารี ไม่ทำร้ายมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย พ่ออาจารย์จึงใช้ฤทธิ์ของกิเลนที่มีครบทั้งห้าธาตุทั้งยังมีลักษณะเชื่องด้วยเมตตาแลเป็นมิตรกับมนุษย์อย่างที่สุดมาสร้างกิเลนนภาห้าธาตุขึ้นมา

    นอกจากกิเลนเป็นสัตว์ที่มีเมตตามีคุณธรรมสูงอีกทั้งซื่อสัตย์ แม้ในเรื่องการสลายพลังงานพิฆาตเขาก็ยังทำได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ ตั้งแต่ทำเครื่องมงคลอันมีลักษณะเฉพาะทั้งหลายนั้นเกี่ยวกับพลังงานลบทั้งหลายก็ทำได้เพียงการขับดันดูดกลืนถ่ายเทให้เกิดสมดุลย์ทำได้เพียงกลับสถานการณ์เลวร้ายให้ค่อยๆดีขึ้น แต่กับกิเลนนั้นเค้ามีสายเลือดพิเศษและมีพลังเฉพาะตัวของเขาจะเรียกว่ามีคุณเฉพาะทางก็ได้นั่นคือการสลายพลังพิฆาต ไม่ใช่การดูดขับปรับสมดุลย์แต่เป็นการสลายทิ้งไปเฉยๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเธอพอจะนึกออกมั๊ย สลายก็คือหมดไป อยู่ดีๆมันก็หมดไปไอ้ตัวเคราะห์ร้ายทั้งหลายนั่นแหละ คือไม่ใช่มันไม่เกิดนะแต่มันหมดมันจึงเกิดไม่ได้ กิเลนจึงนับว่าแตกต่างกับสัตว์อื่นๆเช่นเสือสิงห์ มังกรแลสัตว์เทพทั้งหลายดังนี้ และผู้รู้มักจะใช้กิเลนเป็นเทพพิทักษ์คือใช้ไปในทางปกปักรักษามากกว่านำไปใช้ทำลายล้างผลาญใคร ด้วยเป็นสัตว์เทพที่ให้คุณอนันต์ชนิดที่แม้เทวดาหรือโพธิสัตว์ยังปรารถนาจะได้มาเลี้ยงไว้เพื่อดึงดูดสิริมงคล เพราะกิเลนนั้นนอกจากเขาจะสลายพลังพิฆาตแล้ว เมื่อเขาสลายพลังงานนั้นหมด พลังของเขาจะเริ่มดึงดูดสิ่งดีๆเข้าหาผู้ดูแลเป็นระบบของเขาด้วย

    ด้วยเป็นสัตว์เทวะที่คอยปราบปรามความชั่ว คอยปกป้องคนดี และมอบความโชคดีให้คนเหล่านั้น เช่นนั้นใครที่ได้บูชากิเลนจึงนับว่าเป็นโชคอย่างมหาศาล เพราะกิเลนเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดโชคลาภและวาสนาที่จะดีดสูงขึ้นอย่างมากมายมหาศาลจนน่าประหลาดใจเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยปกตินิสัยสัตว์เทพตัวนี้จะรักสิ่งสวยงาม รักทรัพย์สมบัติและของมีค่าเช่นนั้นจึงถือว่าเขาแสวงหาทรัพย์ทั้งหลายเก่งกว่าผู้ใด เพราะในที่สิงสถิตย์ของเขาแม้จะเป็นที่นอน ที่นั่ง หรือที่ซึ่งเขาจะยืนเป็นประจำนั้นล้วนแต่ต้องมีทรัพย์สินเงินทองมณีจินดาอันสูงค่าทั้งหลายวางกองไว้ ด้วยนิสัยกิเลนนั้นจะเรียกว่ามักใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทองก็ไม่ผิด เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำกิเลนหนนี้ ด้วยนอกจากจะตั้งใจสลายพลังงานพิฆาตดึงดูดโชคดีแล้ว ยังเป็นเมตตามหานิยมอย่างสูงจนน่ากลัว และปรับวาสนาคนให้ผกผันมาใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทองเช่นกิเลนฟ้าได้ ด้วยปกติกิเลนนั้นจะนั่งทับเงินทองของมีค่าต่างๆจึงถือเป็นเคล็ดที่จะใช้เพื่อดึงดูดโชคลาภและรายได้ให้ไหลเข้ามาเหมือนกระแสน้ำ ช่วยให้คนเลี้ยงประสบความสำเร็จทั้งมีวาสนาบารมีให้ชีวิตมีความมั่นคง

    พ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมมวลสารมงคลต่างๆ เช่น พญากาฝากที่เป็นสิริมงคล108,คดไม้มงคล108,ไม้มงคลที่ตายพราย108,ว่าน108,เกสร108,ไม้ไผ่ตัน,ไม้รวกตัน,คดข้าวสารดำ,ข้าวสารหิน,สมุดใบข่อยใบลานเก่า,ผงธูปบูชาพระ,ข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธเจ้า,กะลาตาเดียว,กะลาไม่มีตา,คดมะพร้าว,กิ่งโพธิ์นิพพาน,ไม้ไก่กุก,ปูนากระตุกเดือน5,กบจำศีลเดือน5ตายคารู,เขี้ยวงูจงอางที่ฝักไข่จนตายคาไข่,ไม้คานคุก,ไม้คานประตูคุก,ชันโรงกลางแจ้ง,ไม้คานแม่หม้าย,สากกะเบือแม่หม้าย,ไม้คานและสากกะเบือของหญิงที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร,เขาควายเผือกฟ้าผ่า,เขี้ยวเสือโปร่ง,เขี้ยวหมูตัน,คดสมองวัว,คดขนุน,งาช้างดำ,งากำจัด,งากำจาย,งาช้างน้ำ,เขากวางคุด,เขากระจงคุด,งูปากเป็ด,ตะไคร่โบสถ์,ตะไคร่เสมา,ตะไคร่เจดีย์,กระเบื้องหลังคาโบสถ์,ดินสังเวชนียสถาน,เพชรน่าทั่ง,ดินกากยายักษ์,เหล็กสังขวานร,เหล้กน้ำพี้,รังเหล็กไหล,ข้าวตอกพระร่วง,จิ้งจกสองหาง,จิ้งจกห้าหาง,อัญมณี,ตะไคร่หลักเมือง,น้ำฝนกลางหาว,ผงพุทธคุณ,ผงปถมัง,ผงอทธิเจ,ผงตรีนิสิงเห,ผงมหาราช.. ท่านว่ากว่าจะรวบรวมมวลสารจนครบตามตำราพ่ออาจารย์ท่านว่า เราต้องเจออาถรพพ์อะไรมามากมายเเละยากกว่านั้นก็คือการบดเป็นผง ของบางอย่างกว่าจะบดได้ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงกินเวลาหลายสิบปี เมื่อรวบรวมผงได้แล้วท่านจะนำมาปั้นเป็นแท่งชนวนลงวิชาหมื่นกาลผันชีวิต ท่านว่าวิชานี้สามารถใช้แปรเปลี่ยนเหตุของทุกข์ได้นับหมื่น ไม่ว่าจะเหตุของทุกข์ที่เชื่อมโยงกับกาลเวลาใดทั้งในอดีตและปัจจุบันย่อมแก้ไขได้ แปรเปลี่ยนได้ ผกผัน กลับตาลปัตได้เช่นนั้น เรียกว่าอะไรที่มันดีก็ดีดให้มันดีกว่าเดิม อะไรที่มันแย่มีต้นเหตุมาจากกรรมนำพาแต่ชาติก่อนๆหรือหาสาเหตุไม่ได้ก็ผันกลับให้มันดีขึ้นมาได้ วิชานี้ท่านว่าเป็นวิชาเอาไว้กลับวาสนาชะตาคนที่ร้ายก็เปลี่ยนให้ดี เมื่อจะทำกิเลนที่เป็นสัตว์เทพประทานความโชคดีท่านว่าผงนี่แหละจึงเหมาะกัน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่เหมาะจะใช้กิเลนของฉันนั้นมีทั้งหมดสองประเภท นั่นคือคนที่โชคร้ายตั้งแต่เกิด กับคนที่เพียรกระทำตามความฝัน ทำอย่างดีที่สุดแล้ว และอยากจะประสบโชควาสนานี่จึงเอากิเลนฉันไปใช้ได้ ส่วนคนที่งอมืองอเท้าไม่ทำอะไรอย่าเอาไป พ่ออาจารย์ท่านพูดน่าคิดว่ากิเลนรุ่นนี้ให้ออกเงียบๆ อย่าให้คนรู้กันเยอะนัก เดี๋ยวพวกหิวอำนาจวาสนาจะมาเอากันไปเสียหมด ให้เหลือให้คนดีๆเขาได้ใช้กันบ้าง ด้วยกิเลนถือว่าเป็นยอดแห่งสัตว์ทั้งหลาย เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ฉันทำกิเลนในครั้งนี้ใครที่มีกิเลนของฉันต่อไปเขาจะเกิดความรู้แจ้งบางอย่าง สิ่งใดที่เป็นปัญหาเขาจะแก้ไขได้ คนเหล่านี้ต่อไปจะพึ่งพาตนเองได้ เธอจงจำเอาไว้ให้ขึ้นใจเถิดว่ากิเลนของฉันนั้นจะนำสิ่งมงคลดึงเข้ามาหาตัวเธอ ด้วยปกติชีวิตคนนั้นมักจะแหวกว่ายฟันฝ่าไปหาโชคลาภวาสนา พยายามทุกทางเพื่อจะไปหาความสำเร็จ แต่คุณวิเศษในตัวกิเลนนั้นเมื่อเค้าอยู่คู่กับเธอแล้วไอ้สิ่งที่พวกเธอทั้งหลายตามหานั่นแหละที่มันจะต้องเปลี่ยนมาตามหาเธอแทน พอจะเข้าใจหรือไม่ว่าไม่ใช่เราที่ต้องไปไขว่คว้าแต่เป็นตัววาสนาต่างหากที่มันจะพยายามไขว่คว้าเข้ามาให้ถึงตัวเรา เช่นนั้นฉันจึงถือว่ากิเลนของฉันได้นำความสุขแลความเป็นมงคลมาสู่มนุษย์แล้ว ถ้าเธอเป็นคนมีจิตใจดีกิเลนนั้นจะสงสารให้ความช่วยเหลือ สำหรับมิตรกิเลนเขาจะปฏิบัติตัวอย่างมิตรและให้ความเป็นมิตรที่ซื่อสัตย์หมดหัวใจ แต่สำหรับศัตรูของเธอนั้นเขาจะตอบโต้เหมือนดั่งศัตรูของเขาเช่นกัน รับรองว่าใครที่กิเลนโต้ตอบเช่นศัตรูนั้นไม่มีดีให้เหลือแน่นอน

    ด้วยกิเลนนั้นเป็นต้นกำเนิดของแผนภูมิสวรรค์ทั้งแปดทิศ หรือที่คนพอจะนึกภาพออกคือยันต์แปดทิศนั่นเองด้วยที่หลังของกิเลนนั้นจะมียันต์แปดทิศประทับไว้เช่นนั้นจึงถือเสมอว่ากิเลนนั้นเป็นผู้มอบแผนภูมิสวรรค์ เป็นผู้มอบความรู้ มอบภาษา มอบตัวอักษรให้กับมนุษย์ ซึ่งต่อมาตัวอักษรนั้นก็พัฒนาขึ้นเป็นองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงว่าเขาเป็นสัตว์เทพที่ผูกพันธ์กับการใช้ชีวิตของมนุษย์โดยตรงมาตั้งแต่ต้นต่างจากสัตว์เทพตัวอื่นๆที่ไม่ไยดีมนุษย์ เพราะเขาสามารถบัญชาได้ทั้งห้าธาตุ และยังเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่หลวงต่อมนุษย์โลก ให้เธอคิดกันให้ดีว่ามีวันไหนบ้างที่เธอไม่พูด ไม่ใช้ภาษา ไม่ได้ใช้ชีวิตโดยอาศัยองค์ความรู้อยู่ภายใต้สวรรค์แห่งนี้ นั่นย่อมไม่มีเช่นนั้นกิเลนจึงมีพลังทางด้านความคิดและสติปัญญาอันสูงส่ง แม้ผู้ใดได้ครอบครองชีวิตเขาก็อยู่เย็นเป็นสุข ด้วยกิเลนกำเนิดจากธาตุทั้งห้าคือ ดิน น้ำ ไฟ ไม้และทองรวมกัน ตัวเขาจึงเป็นความกลมกลืนของสรรพสิ่ง ทั้งยังทรงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ในทุกที่อันเขาสถิตย์อยู่ มีทั้งความแข็งแกร่ง ทรงพลัง มั่นคงและยั่งยืน

    เมื่อทำกิเลนสวรรค์นั้น พ่ออาจารย์ท่านได้ทำตะกรุดพยนต์ปราณเบญจธาตุฝังเอาไว้ด้วยที่ด้านหลัง ท่านว่าตะกรุดชุดนี้แต่ละดอกทำยากนัก เพราะท่านถือเสมือนหุ่นนี้คือร่างกายของผู้บูชาที่เมื่อนำไปพกพาติดตัวแล้วเขาจะซึมซับกลิ่นอายและชะตาเสมือนหนึ่งเป็นตัวแทนของเรา เช่นนั้นหุ่นนี้จึงถูกฝังถูกผูกเข้าไว้กับกิเลน พ่ออาจารย์ท่านว่าเสมือนหนึ่งได้ผูกตัวของเราเข้าไว้กับวาสนาของกิเลนฟ้า เมื่อหุ่นที่มีปราณของเรานี้อยู่คู่กับกิเลนฟ้าแล้วแน่นอนว่าวาสนาของเราก็จะดี ตราบใดที่หุ่นไม่พรากจากตัวกิเลน ตราบนั้นกิเลนก็ยังต้องตามให้คุณแก่เราเรื่อยไป สุดท้ายแล้ว ท่านว่าหุ่นนี้ดุจร่างกายข้า ให้กินเลนนำพา.... วาสนามาสู่ตัวข้าเถิด

    *** ด้วยกิเลนนั้นสามารถสลายพลังงานพิฆาตและแก้ไขให้โชคชะตาให้ดีขึ้นได้ สำหรับใครที่รู้ตัวว่าที่ผ่านมาชีวิตร้ายมากกว่าดีก็ให้บูชาเป็นคู่ ท่านว่าอย่าไปคิดว่าตัวเองเก่งหรือดีกว่าคนอื่นเขา อย่าดื้อ เพราะคติการใช้งานกิเลนนั้นเป็นเช่นนี้จริงๆท่านว่ายิ่งมีหลายตัวนั้นก็ยิ่งดี หรืออย่างน้อยก็ควรมีซักคู่หนึ่ง เพราะเขาเป็นสัตว์ที่อยู่เป็นคู่ พ่ออาจารย์ท่านว่า"หัวกิเลนหันไปตรงนั้นเอาว่าเรื่องร้ายก็สลายไปตรงนั้น ใครที่ตั้งใจจะแก้อาถรรพ์ในร่างกายให้ให้เอาเค้าไปเลี่ยมแล้วคาดเอวไว้ทั้งด้านซ้ายและขวาดุจเขาหันหน้าชนกันเข้าหาตัวเราเขาก็จะสลายเรื่องร้ายทั้งหลายไปไม่มีหลุดรอดเช่นนี้" หากจะใช้กิเลนเพื่อเรียกทรัพย์ อำนวยโชค ก็ให้นำกิเลนมาวางทับเหรียญเงินที่เป็นโลหะห้าเหรียญ จำไว้ว่าต้องเอาเป็นเหรียญไม่เอาเป็นกระดาษ ถ้าบ้านไหนมีทองคำนี่จะดีมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าให้เอาเหรียญเงินกับทองคำนั่แหละวางเป็นฐานไว้ก่อนเอากิเลนมาวางทับพร้อมกับบอกเค้าว่าต่อแต่นี้ไปนี่คือที่อยู่ของเขา ต่อไปนี้เราจะอยู่ด้วยกัน ให้เขาไปขวนขวายหาทรัพย์เหล่านี้มาให้เรา มาเติมให้เต็มถ้ำพระคูหา นอกจากนี้ใครที่มีลูกยากก็ยังนิยมว่ากิเลนนั้นจะนำพาบุตรชายที่ดีมาให้สืบสกุล ด้วยกิเลนนั้นสามารถขับหยินพิทักษ์หยาง อำนวยโชคดีให้เกิดขึ้นได้ในทุกๆเรื่องที่เป็นความโชคดีเพราะเขาจะเปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นโชคดีได้นั่นเอง เรียกว่าสถานะของกิเลนเทียบเท่ามังกรเลยทีเดียวด้วยเป็นสัตว์สวรรค์ที่ให้คุณเรื่องโชคลาภทรัพย์สินและยังถือเป็นสัตว์สวรรค์ชั้นสูงในห่วงโซ่อาหาร จึงเป็นธรรมดาที่ผู้มีบารมีกิเลนเกื้อหนุนจะเจริญในกิจการที่กระทำอยู่มากเพราะเขาเป็นตัวแทนแสดงถึงอำนาจและยศศักดิ์เรียกว่าใครที่ชีวิตยังไม่เจริญนี่จะไต่เต้าไปได้ไกลมาก ส่วนใครที่ขึ้นไปแล้วแต่ยังไม่สุดเขาก็จะดันให้ขึ้นไปได้อีก ซ้ำบารมีกิเลนเมื่อปรากฏที่ไหนสถานที่นั้นจะผูกสมัคร รักใคร่ กลมเกลียวกันอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

    วิธีใช้
    กิเลนนี้มีความเชื่อว่า
    แค่ได้เห็นก็เป็นบุญตา หากได้พบก็ถือเป็นวาสนาเปลี่ยนชีวิต เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นเคล็ดสร้างกิเลนขึ้นมาเพื่อให้คนใช้พบเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ท่านว่าขอแค่ได้เห็นได้มองทัศนาก็นับว่าชีวิตเปลี่ยนกลับวาสนา บางคนรู้จึงเอามาดูบ่อยๆ แน่นอนว่าการใช้เพียงแค่เราหยิบเขามาดูบ่อยๆแค่นั้นก็นับว่าเปิดประตูความโชคดีแล้ว แม้จะหมั่นพูดหมั่นคุยกับเขาได้อันนั้นก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก หากว่าวันใดเขาปรากฏตัวในนิมิตหรือในความฝันแน่นอนว่าวันนั้นจะได้ลาภใหญ่หรือมีวาสนาไม่คาดฝันมาถึงตัว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำให้เต็มที่แล้วเพราะเสกจนพลิกกลับได้เอง(พลิกผัน) ท่านว่าไม่ใช่กระโดดพานนะแต่เป็นพลิกกลับไปกลับมา ท่านว่าวางๆไว้เสกเสร็จลืมตาขึ้นมาอีกทีเขาก็พลิกตัวอย่างน่าประหลาดมันเฮี้ยนเช่นนี้ท่านจึงเรียกว่ากิเลนผันชีวิต เอาว่าขี้เล่นและมีตัวมีตนแน่นอน ด้วยการเสกให้พลิกไปมาตลอดนี้ท่านยังแซวว่าสงสัยลมมันจะแรงนัก ทั้งๆสถานที่นั้นมีความสงัดแม้แต่ไฟของเปลวเทียนยังไม่ขยับ

    ร่วมทำบุญบูชา กิเลนนภาห้าธาตุหมื่นกาลผันชีวิต(วาสนาเจิดจรัส) บูชา 3,000 บาท

    49418612-1938482876269668-825445534075453440-n.jpg 49663015-1116593841851280-7481882657979105280-n.jpg
    49748584-275425176473400-7097854204521218048-n.jpg
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา สมเด็จพระศรี{อาริย์}สัมฤทธิ์(ผงพุทธทันใจมหาสมปรารถนา)
    ด้วยคติชนนั้นล้วนมุ่งหวังที่จะได้ไปเกิดทันในยุคพระศรีอาริย์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเวลาที่ทุกสิ่งจะบริบูรณ์พร้อมมูลทั้งความสุข ความสมหวัง จะเห็นว่าเวลานับพันปีที่ผ่านมานั้นแม้ตามศิลาจารึกและถาวรวัตถุต่างๆก็มักจะปรากฏคำอธิษฐานซึ่งเต็มไปด้วยการตั้งความปรารถนาจะได้ไปเกิดในยุคของพระศรีอาริย์ ซึ่งสมเด็จพระศรีอาริยเมตตรัยบรมโพธิสัตว์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าพระองค์ก็ได้บำเพ็ญบารมีอยู่และยังมีกิจที่ต้องทำกับมนุษย์อีกหลายประการ พูดง่ายๆจิตของพระองค์ท่านก็ไปๆกลับๆระหว่างมนุษย์โลกกับเทวโลกนั่นแหละ เป็นความผูกพันธ์ที่ยังตัดกันไม่ขาด ทิ้งกันไม่ได้หากมีคนตั้งใจปรารถนาจะเกิดทันยุคของท่านนี่ก็เท่ากับเป็นบริวารของท่าน เป็นคนของท่าน คนเหล่านี้ท่านจะไม่ทิ้งเด็ดขาด

    ทำไมต้องสร้างพระศรี..พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่(องค์ปฐม)ท่านบอกให้ทำ เรียกว่ามีบัญชาหรือต้องการให้ทำนั่นก็ได้ ซึ่งทีแรกพ่ออาจารย์ท่านก็คิดว่าสมเด็จพระศรีนั้นเวลาท่านทำพิธีต่างๆท่านก็ออกนามเชิญพระองค์อยู่เสมอแล้ว แต่เสด็จพระใหญ่ท่านบอกว่าเท่านั้นยังไม่พอจึงให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างรูปพระศรีซึ่งเรียกว่าพระศรีสัมฤทธิ์ขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่า เพราะคนจำนวนมากที่มีบารมียังไม่เข้มข้นเรียกว่ายังสร้างบารมีกันมาไม่เต็ม ทั้งสมเด็จพระศรีท่านก็มีบริวารอยู่มากไม่ว่าจะเป็นคนที่คอยติดตามท่านมาแต่ก่อน คนที่ปรารถนาจะเกิดให้ทันในยุคของท่าน คนทั้งหลายที่อ้างนามท่านเวลาทำการกุศลต่างๆ ด้วยคนเหล่านี้ปัจจุบันก็เอากำเนิดเกิดขึ้นมานับล้านนับแสน และสมเด็จพระศรีท่านก็ถือเสมือนเป็นคนของท่านและตั้งใจจะช่วยกันไปให้ถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าพอตั้งจิตจะทำแล้วก็มานึกอยู่ว่า เอ..จะทำอย่างไรหนอ จะเอาอะไรไปทำรูปท่านหนอ นึกได้เท่านั้นเสด็จพระใหญ่ก็พาท่านไปที่ปราสาทเลย เมื่อไปถึงก็พาเข้าไปในห้องโถงอันโอ่อ่าได้พบกับเทวดาองค์หนึ่งนั่งอยู่บนแท่นสูงมีหน้าตาสดสวยใส่เครื่องประดับแพรวพราวและมีรัศมีสว่างมากเป็นพิเศษ พ่อครูท่านว่าพอเข้ามาท่านก็ทักเราเฉยเลยว่าเจอกันอีกแล้วและหนนี้เสด็จพระใหญ่ท่านพามาท่านจึงรีบลงมารับ และพูดกับเราว่าไม่ต้องกังวลไปหนาก็ทำฉันแบบที่เป็นฉัน แบบที่เธอเห็นนั่นก็พอส่วนเรื่องจะเอาอะไรไปทำเดี๋ยวฉันจะให้คนเอาลงไปให้ พ่ออาจารย์ท่านจึงพูดกับสมเด็จพระศรีว่าทำขึ้นมาแล้วก็หวังจะให้ท่านลงมาช่วยมนุษย์ ซึ่งท่านก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงไปเพราะในกาลข้างหน้ามนุษย์จะได้รับความเดือดร้อนจากภัยต่างๆมากมายบรรดามี แต่ก็ให้จำเอาไว้อย่างหนึ่งว่า "คนของฉัน ฉันไม่ทิ้ง"

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จพระศรีอาริย์นั้น ท่านสถิตย์อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตอันเป็นที่ประทับของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายและว่าที่พระอัครสาวก หลายๆคนพอพูดถึงสวรรค์ชั้นนี้ก็จะคิดเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือเป็นที่อยู่ของเทพที่ได้ชื่อว่าเป็นโพธิสัตว์ แต่ความจริงนอกจากจะเป็นที่อยู่ของเหล่าพระบรมโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตจำนวนมากแล้ว แม้เหล่าเทพบุตรที่สร้างบารมีปรารถนาเป็นพระสาวกเพื่อตามเสด็จพระบรมโพธิสัตว์ลงมาตรัสรู้ในอนาคตก็อยู่ร่วมกันที่ชั้นดุสิตนี่ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ใครๆก็ปรารถนาจะอยู่ชั้นดุสิตแม้ เทพ พรหม ที่มีกำลังบุญมากมายพอทีจะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นใดก็ได้ตามปรารถนาก็ยังมาเลือกสวรรค์ชั้นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะได้อยู่กับพระอนาคตวงศ์อันมีสมเด็จพระศรีเป็นประธานใหญ่แล้ว สวรรค์ชั้นนี้ยังมีอะไรที่พิเศษอยู่มาก กล่าวคือเหล่าเทพแห่งดุสิตสวรรค์นั้นแม้ประสงค์จะสร้างบารมีธรรมในโลกมนุษย์แล้วเพียงทำสมาธิอธิษฐานจิตก็จะดับวูบลงมาสู่ภูมิมนุษย์ได้ทันที ไม่ต้องรอให้จุติเพราะความโกรธ เพราะหมดบุญ หมดอายุขัยเฉกเช่นสวรรค์ชั้นอื่น นอกจากนี้เหล่าเทพแห่งดุสิตสวรรค์ยังเป็นพวกพ้องเป็นกัลยาณมิตรที่เอื้อเฟื้อต่อกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนเอาคนที่มีลักษณะนิสัยใกล้เคียงกันมารวมกันไว้ในที่เดียว แต่ละคนท่านก็คิดถึงแต่พระนิพพาน คิดถึงแต่การฝึกตัวเอง เช่นนี้จึงไม่วุ่นวายและไม่มีเทพที่ดำรงค์ตัวอยู่อย่างประมาทเช่นสวรรค์ชั้นอื่น ทั้งเมื่อเถิงวันพระ สันดุสิตเทวราชก็จะเชิญเหล่าพระอนาคตวงศ์ผู้เป็นใหญ่ทั้งสิบอันมีสมเด็จพระศรีเป็นประธานให้รับนิมนต์นั่งแสดงธรรมเพื่อความเบิกบานในอรรถในธรรมนั้นจะพลันเกิดมีแก่เหล่าเทพแห่งดุสิตสวรรค์ทั้งหลาย

    ด้วยเหตุนั้นพระศรีท่านจึงมีบริวารมาก มีพวกพ้อง มีกำลัง มีบารมีมาก เพราะใครก็อยากเป็นคณะของพระศรี เป็นเทพในสังกัดของพระศรีเช่นนั้น เมื่อมีดำริจะสร้างและองค์พระศรีท่านอนุญาติแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงแกะบล๊อคแม่พิมพ์เป็นซุ้มปราสาทและมีสมเด็จท่านทรงเครื่องเต็มยศนั่งสำแดงบารมีอยู่บนรัตนบัลลังค์เช่นนั้นตามที่ท่านเห็น พร้อมกันนี้พ่ออาจารย์ท่านยังได้รวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเช่นผงไม้ตะเคียนตกน้ำมันบนภูลังกา ว่านเสน่ห์จันทร์ทั้งห้า ดินเจ็ดโป่ง ดินขุยปู ว่านมหาลาภ เปลือกเหียง ว่านกุมารทอง รากผักหวาน ว่านเพชรน้อย ว่านเพชรหลวง ว่านนมนางว่านทอง ว่านเงินไหลมา ผงเครือเถาหลง ว่านขุนแผนสะกดทัพ เครือร้อยปลา เครือเขาหลงตัวผู้ตัวเมีย ข้าวก้นบาตรหลวงปู่ขาว ดอกรักซ้อน ดอกกาหลง กาฝากมะยม ผงไพรปลุกเสก ผงตระไคร่เสมาเจ็ดวัด พ่ออาจารย์ท่านเอาว่านต่างๆมาเขียนเป็นผงสำคัญซึ่งเรียกว่าผงยันต์พันคาถา
    - ผงยันต์พันคาถา ผงนี้เกิดจากการเขียนคาถาพันบท เขียนยันต์พันรูป ซึ่งจะมีอานุภาพดุจฝอยท่วมหลังช้างที่เรียกว่าอธิธฐานใช้ได้ทุกด้าน เสมือนเรามีทรัพย์สินมากมายหลายประการปรารถนาสิ่งใดก็นำไปใช้แลกเปลี่ยนได้ไม่รู้หมด พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้เราทำมาเป็นปีและต้องใช้ความอุตสาหะมาก ให้คิดเอาเองว่าลำพังยันต์หนึ่งนั้นยังมีอุปเท่ห์ใช้ได้นับสิบนับร้อย เช่นนั้นยันต์พัน คาถาพัน ยิ่งไม่ต้องพุดถึง เอาว่าที่นำมาใช้เป็นมวลสารก็เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคนบูชา ทั้งยังเป็นคติของสมเด็จพระศรีอาริย์ที่ใครจะเกิดในยุคท่านก็ให้ฟังเทศนามหาเวสสันดรชาดกในวันเดียวจบทั้งพันพระคาถา เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงทำผงคาถาพันขึ้นเสมือนใครมีไว้ก็เกิดทันท่านและได้อยู่กับท่านเป็นคณะของท่านนั่นเอง
    เมื่อได้ผงยันต์พันคาถาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านท่านได้เขียนผงยันต์ธงพระฉิมเรียกทรัพย์ ผงมนต์มหาลาภ ผงคาถาเรียกทรัพย์ ผงคาถาเงินแสน ผงคาถาเงินล้าน ผงยันต์มหาโสฬสสะระตะใส่ลงไปอีกด้วย ท่านว่าเอาผงทั้งหมดมาคลุกกับน้ำมันตานีที่ต้องพลีปลีกล้วยตานีมาเคี่ยวกับว่านเจ็ดชนิดในโบสถ์เจ็ดโบสถ์ตอนเที่ยงคืน พ่ออาจารย์ว่าท่านทำเก็บไว้นานก็เพิ่งได้นำมาใช้เพราะสมัยนี้จะไปขออนุญาตินั่งเคี่ยวน้ำมันในโบส์ตอนเที่ยงคืนพระท่านก็จะมองเราไม่ดีไปเสียอีกท่านจึงไม่ทำน้ำมันตัวนี้แล้ว ท่านว่าน้ำมันนี้แรงนะเพราะตอนเคี่ยวเราต้องใช้เตโชกสิณไม่ใช่ใช้ไฟเคี่ยว ต้องเคี่ยวไปเรื่อยๆจนน้ำมันเดือดขึ้นฟองนั่นจึงถือว่าสำเร็จ ท่านว่าน้ำมันนี้โดยรวมจะดีทางเมตตามหานิยม แต่ที่แน่ๆทางเสี่ยงโชคลาภลอยก็ได้ไม่หยอกเหมือนกัน


    เมื่อได้ผงกดพิมพ์แล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงนำของกายสิทธิ์ต่างๆฝังลงไปด้วยอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่าพระศรีรุ่นนี้เราจะทำไว้ให้ช่วยคนได้มากที่สุด เพราะปกติวิสัยของพระบรมโพธิสัตว์แล้วท่านจะสงเคราะห์คนไม่เลือกที่รักมักที่ชัง และเพื่อสร้างบารมีท่านย่อมเสียสละได้แม้ชีวิต เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงนำของมงคลต่างๆที่รวบรวมไว้ตามบัญชาพระศรีมามาฝังไว้ดังนี้
    - ผงพุทธทันใจมหาสมปรารถนา ผงนี้ท่านว่าได้มาตามสัญญาของสมเด็จพระศรีท่านที่ว่า"ส่วนเรื่องจะเอาอะไรไปทำเดี๋ยวฉันจะให้คนเอาลงไปให้ " พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเองก็ยังงงๆและไม่เข้าใจเหมือนกัน เพราะวันนั้นเราเดินทางไปทำบุญวัดพระศรี..ก็เจอตาปะขาวแปลกๆเอาถุงใส่ผงมายื่นให้ใส่มือ บอกกับเราว่าพระศรีท่านให้ผมรอเอาของให้อาจารย์ พอเราก้มหน้าลงพิจารณาผงครู่หนึ่งเท่านั้นปะขาวท่านก็ไม่อยู่เสียแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ก็แปลกสมกับเป็นผงของเทวดาจริงๆ เพราะเราจับดูแล้วก็เห็นองค์พระมาปรากฏในนิมิตเวลาทำกรรมฐาน พวกเธอรู้มั๊ยว่าองค์พระที่อยู่ในผงนี่ศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะไม่ว่าจะขอพร ขอความช่วยเหลืออะไร ท่านก็จะประทานพรให้สมความปรารถนา สมกับเหตุการณ์ที่ขอทุกครั้ง ท่านว่าดูแล้วมันก็แปลกดีเพราะว่าทุกสิ่งนั้นทันใจ ทันความคิด และได้สมดั่งปรารถนา เราเองก็ไม่รู้ว่าผงอะไรเพราะไม่เคยเจอผงแบบนี้เลยจึงถามพระศรีท่าน ท่านก็บอกชื่อมาว่าแบบนี้ๆผงนี้ต่อไปจะได้ช่วยคนของผม พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพิจารณาเห็นว่าผงนี้มีคุณวิเศษ เห็นว่าดี เร็ว และแรงจริงๆ อธิษฐานขอได้ครบ สมใจนึก ท่านจึงเอาบรรจุไว้ในขวดฝังลงไปเลย ท่านว่าเฉพาะผงนี้ไม่ต้องผสมอะไรใช้ได้ทั้งอย่างนี้เลย ถ้าคนมีวาสนาเขาจะได้ไปอธิษฐาน ขอเพียงหลับตาให้เห็นองค์พระแค่นั้นขอได้หมดเลย ท่านว่าสมเด็จพระศรีท่านจะช่วยคนของท่านให้นำพาตัวเองให้อยู่รอดไปได้ท่ามกลางสภาวะสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบัน
    - หุ่นเทพน้อย(เจ้ามารน้อย) พ่ออาจารย์ท่านว่าพระศรีท่านให้เราเอาไม้มะเขือบ้ามาแกะหุ่นเทพน้อย ท่านว่าเป็นบริวารของท่านให้เราใส่ลงไปด้วย เพราะสมเด็จพระศรีนั้นเวลาใครขออะไรท่านจะช่วยได้เต็มที่แต่ก็ไม่เกินวาระกรรมของเขา เช่นนี้ท่านจึงให้ใส่หุ่นเทพน้อยเอาไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราก็แกะแต่ไม่มีปัญญาเสก เพราะหุ่นเทพน้อยนี้ต้องเชิญพระศรีท่านมาทำมากำกับบริวารของท่านเองเรามีหน้าที่ทำและดูอย่างเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าพระศรีท่านให้เอาหุ่นนี้แช่น้ำมนต์ในขันสัมฤทธิ์ท่านจะทำให้เพราะท่านถือว่าน้ำเป็นบ่อเกิด เป็นปัจจัยแห่งชีวิต สิ่งมีชีวิตจะขาดน้ำไม่ได้เหมือนท่านจะหนุนธาตุน้ำนำหน้า และหุ่นนี้ก็นับว่าแปลกเพราะพระศรีท่านตั้งใช้ให้ลงไปช่วยคน เอาว่าเรื่องอะไรที่มันไม่ใคร่จะงาม สองแง่สองง่าม ดูไม่อยู่ในหลักในธรรมเท่าไหร่ เรื่องแบบนี้อย่าไปขอพระศรีท่านแต่ให้บอกกับเทพน้อยแทนรับรองว่าได้เรื่อง พ่ออาจารย์ท่านว่าแสบไม่ใช่เล่นไม่อย่างนั้นพระศรีท่านกับคณะเทพบนดุสิตคงไม่เรียกว่าเจ้ามารน้อย(เพราะความแสบ) พระศรีท่านว่ามารไม่มีบารมีไม่เกิดและอำนาจเทวปุตมารก็เป็นตัวทดสอบความมั่นคงของจิตมนุษย์ เช่นนี้ท่านจึงให้เทพน้อยมาร่วมสร้างบารมีไปพร้อมกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นเทพน้อยนี่อาถรรพ์แรงใช้อะไรเขาก็สู้ไม่ถอย สู้จนตาย ตอนพระศรีท่านเชิญท่านทำของท่านเสร็จเราเห็นเป็นรัศมีสีเขียวจับที่ตัวหุ่น เอาว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัตตังแต่จงรู้ไว้ว่าหุ่นนี่มีชีวิตเวลาเดือดร้อนอะไรหรือต้องการอะไรขอให้บอกกล่าวให้เทพน้อยช่วย เขาจะช่วยเธอได้ ท่านว่าก่อนเอามาฝังนี่สมัยพระศรีท่านลงให้ใหม่ๆเราเคยลองให้คนตกงานเขายืมใช้ก็ยังได้งานทำไวทันตาเห็น
    - ตะกรุดพระโพธิสัตว์ค้าสำเภา เป็นวิชาที่ใช้ในด้านโชคลาภ มหาลาภ เรียกทรัพย์ เรียกเงินทอง ทำมาค้าขึ้น ค้าขายร่ำรวย ดูดทรัพย์ ข้าวของ เงินทอง ไหลมาเทมา ด้วยวิชาการปลุกเสกสร้างตะกรุดให้คนใช้บังเกิดโชคลาภ ใช้แล้วมีโชคลาภ มีเงินมีทองเพิ่มทรัพย์รับเงินและทองไหลมาเทมา จะมีแต่ความสุข ความเจริญ เจริญด้วยลาภ ยศ ทรัพย์สินเงินทองข้าวของเนืองนองพ่ออาจารย์ท่านเสกมนต์เรียกทรัพย์กำกับไว้หมื่นจบ ท่านว่าเสกจนเสกไม่เข้าจนเชื่อมั่นได้ว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ขลังและแรงมากเรื่องมหาลาภเรียกทรัพย์ได้ผลดีจริง ซ้ำยังเป็นวิชาสายโพธิสัตว์ที่เหมาะกับการฝังไว้กับพระศรีเพื่อให้คนนำไปใช้สร้างบารมี
    - เหล็กไหลฤาษีองคต พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสิริมงคลบันดาลลาภผลสูงสุด ทั้งเป็นเมตตามหานิยมคนชื่นชมชอบใจด้วยเป็นสิริมงคล คนเคารพนับถือ เทวดาชื่นชม พรหมก็สรรเสริญ ท่านว่าพกไปจะพบความสำเร็จในการดำเนินชิวิต และยังแก้รวมถึงป้องกันยาพิษยาสั่งอีกคาถาอาคม การเสกของลองวิชา อีกทั้งป้องกันอุบัติเหตุจะเปลี่ยนหนักให้กลายเป็นเบา จะให้ผู้บูชาเป็นผู้โชคดีตลอดไปแม้คนในครอบครัวที่อยู่ในรัศมีขององค์เหล็กก็จะเป็นผู้ประสบเฉพาะสิ่งที่ดีเลิศในการดำเนินชีวิตประจำวัน

    พอสำเร็จเป็นองค์พระ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราก็ยังไม่ได้เสกอยู่ดีเพราะทั้งหมดนี้ต้องเชิญสมเด็จพระศรีท่านทำของท่านเป็นรูปนิมิตของท่าน ให้ท่านนิรมาณกายของท่านมาสถิตย์รูป ท่านว่าเราจะได้ทำก็เพียงดั้นเมฆซึ่งสมเด็จท่านบอกให้เราทำและท่านจะช่วย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้คือการยกเมฆบังรัศมีดวงอาทิตย์ระหว่างประกอบพิธี แต่โบราณนั้นเชื่อว่าการดั้นเมฆเชื่อว่าจะดับทุกข์ คลายเหตุการณ์ที่เดือดร้อนทั้งปวงให้กับผู้บูชาได้ ทั้งยังยกชีวิต ยกจิตใจ ยกดวงชะตาคนใช้ไม่ให้ตกต่ำ ไม่ให้ล้ม ให้เป็นสุขอยู่ตลอดเวลา ท่านว่าเป็นความเมตตาของพระศรีท่าน นี่ถ้าใครมาถามฉันว่าพระนี่ดียังไง ฉันคงตอบเขาว่าตาบอดรึเปล่าถึงไม่รู้ เพราะพระศรีท่านทำให้ทุกอย่าง ตรงนี้ก็สุดแล้วแต่วาสนาเขาเท่านั้น

    คาถาบูชา (นะโมสามจบ)
    ธุระนะสิ ธุรินะสะ กะระ นะโมพุทธายะ การะไมตรีเมตตัง จิตติธะนัง ชีวิตจุติ อุอะยุยะ นะมะสัจเจ นะเมสัจจะ วะภะนะโม โหติ


    * พ่ออาจารย์ว่าพระศรีนี้ฉันทำได้แปดองค์ และจะเก็บไว้ใช้เององค์หนึ่ง รวมกับพระศรีท่านไปนิมิตบอกให้พระที่มาเอาไปอีกสององค์ จึงมีให้บูชาทั้งหมดห้าองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้ารู้ว่าตัวเองรอพระศรี เป็นคนของพระศรีก็มาเอาไป รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างห้องน้ำในวัดที่ขาดแคลนต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา สมเด็จพระศรี{อาริย์}สัมฤทธิ์(ผงพุทธทันใจมหาสมปรารถนา) บูชา 4,000 บาท

    50598017-1981814658593988-1651164915265699840-n.jpg 49348724-462082584323432-3975526208552042496-n.jpg
    49802064-521188058388898-950118079512182784-n.jpg
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระปิดตาเจ้าน้ำทองมหาเสน่ห์,ตั้งตัว(ลืมตาอ้าปาก)

    เธอเอ๋ย...อย่าได้สนเท่ห์ในพระภควัมปิดตาที่เราสร้างไว้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าคนในสมัยก่อนนั้น ถ้าเขาอยากจะตั้งตัวหรืออยากจะจีบสาวก็ดี เขาจะหาพระปิดตาที่สร้างขึ้นจากผงดีๆไว้ใช้กันซักองค์ ท่านว่าแค่นี้ก็เหลือกินแล้วไม่ต้องไปแสวงหาขุนแผนจากที่ไหนเลย ที่ผ่านๆมาด้วยเหตุว่าผู้ใดบูชาพระปิดตาที่พ่ออาจารย์ท่านเพียรเมตตาลบผง เชิญครูและตั้งใจปลุกเสกอย่างแท้จริงนั้นมักพบเจอแต่ความเจริญก้าวหน้าพวยพุ่งมุ่งตรงเข้ามาหาตลอด เรียกว่าไม่มีสิ่งใดจะมาหยุดสวัสดิมงคลและลาภผลที่จะมีเข้ามาแก่ผู้ที่มีพระปิดตาของท่านบูชาได้

    ท่านว่าท่านมีผงวิเศษอยู่ชนิดหนึ่งที่ลบถมปลุกเสกเอาไว้ยาวนานแล้ว ท่านเรียกรวมๆของท่านว่า"ผงลืมตาอ้าปาก" ด้วยท่านปรารถนาจะเก็บไว้ทำพระตระกูลเจ้าสัวหากแต่ครูสมเด็จท่านกลับแนะนำให้ใช้ทำพระปิดตาจะดีกว่า พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำพระปิดตายอดผงตำรับโบราณที่ท่านตั้งใจสร้างไว้เพื่อช่วยคนที่ตกยากให้หายลำบาก คนที่มีหนี้ให้หายเป็นหนี้ คนที่ล้มเหลวให้ลืมตาอ้าปากมีกินมีใช้อย่างไม่รู้ตัว ท่านว่าเรื่องอดอยากปากแห้งหมดแรงทำมาหากินนั้นเป็นไม่มี ทั้งผงนี้อยู่ที่ไหนยังจะทำให้เกิดโชคดี ให้มีทรัพย์ทวีเพิ่มพูนว่องไว ให้หาเงินง่ายได้อย่างใจหวัง ท่านว่าตั้งใจอธิษฐานให้ดีๆผงนี้แรงจริงๆสมัยก่อนเราเอามากดกระพิมพ์สามเหลี่ยมองค์เล็กจิ๋วแจกคนไปมาก คนที่บูชาพระที่ทำจากผงลืมตาอ้าปากนี้เขาว่ามีประสบการณ์กันหนักมากบ้างก็ถูกหวยรวยเป็นแสนๆ บ้างขายที่ได้เงินเป็นสิบๆล้าน บางรายถึงขนาดกิจการแทบล้มละลายแต่พอได้พระจิ๋วนี้ไปบูชาหนี้ที่มีเป็นจำนวนหลายล้านกลับหมดได้ในเวลาเพียงไม่นาน เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกว่าผงลืมตาอ้าปาก และท่านค่อนข้างจะหวงผงวิเศษชุดนี้มาก ท่านว่าพระผงชุดนี้ไม่ว่าเธอจะหยิบจับกระทำกิจการอันใดขอให้บอกออกปากอธิษฐาน แล้วเธอก็จะได้สมหวังดังตั้งใจในเวลาเพียงไม่นาน เธอจะไปประสบพบเจอแต่ทรัพย์สินเงินตราอันมากมายเหลือล้นท่วมท้นล้นตัวเป็นเจ้าสัวมีเงินทองกองเต็มบ้าน ไม่เชื่อก็ลองดู..แล้วจะรู้ว่าว่าหาเงินหาทองมันได้ไม่ยากเลย

    พ่ออาจารย์ท่านนำผงวิเศษตระกูลต่างๆที่ท่านเก็บรวบรวมไว้มาผสมกับผงลืมตาอ้าปาก ซึ่งผงแต่ละชนิดได้ชื่อว่ามีคุณแรงด้วยกันทั้งสิ้น ได้แก่
    - ผงหมื่นหอม เป็นแท่งผงแท้ๆของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ท่านตั้งใจว่าหากจะทำพระปิดตาพิมพ์ของหลวงพ่อแก้วแล้วก็ต้องเสกให้ใช้แทนกันได้ เช่นนี้ท่านจึงนำผงหลวงพ่อแก้วที่เก้บไว้มาใช้เป็นมวลสาร พ่ออาจารย์ท่านว่าแท่งผงของท่านนั้นผ่านไปร้อยปีมาแล้วก็ยังหอม ผงหลวงพ่อแก้วได้เชื่อว่าเป็นผงอิทธิเจที่มีกำลังมากเช่นนั้นเราจึงเรียกว่าผงหมื่นหอมมีอานุภาพทางทำให้คนรักคนหลง ดังนั้นคนที่มีพระปิดตาหลวงพ่อแก้วหรือพระที่อาจารย์ยุคต่อมาใช้ผงหลวงพ่อแก้วทำขึ้นจึงห้ามขูดผงใส่น้ำใส่อาหารให้ผู้หญิงกินด้วยว่าจะทำหใ้เกิดปัญหาตามมา
    - ผงปัถมัง นิยมใช้ทางแคล้วคลาด กำบังล่องหน ป้องกันภูตผีปีศาจและคุณไสย
    - ผงอิทธิเจ นิยมใช้ทางเมตตามหานิยม เป็นมหาเสน่ห์อย่างสูงแบบเชื่อขนมกินได้ ทั้งยังรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยผงนี้หากปรารถนาหญิงใดชายใดท่านว่าจะได้ดังหวัง ใส่น้ำให้กิน ใส่อาหารให้กินจะเกิดความหลงใหลได้ปลื้ม
    - ผงมหาราช คือที่สุดหรือยอดสุดเป็นยอดแห่งผง มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยม เป็นเสน่ห์อย่างสูง ใช้ได้ทั้งป้องกันและถอนคุณไสยและแคล้วคลาด การค้าขาย และเข้าหาผู้ใหญ่
    - ผงล้มลุก,สะดุ้งกลับ ท่านว่าล้มแล้วต้องลุกได้จะไม่หยุดอยู่กับที่ ทั้งผงสะดุ้งกลับยังช่วยให้เรื่องร้ายกลับกลายเป็นเรื่องดี ต่อไปอะไรที่ร้ายๆผ่านเข้ามาต้องเปลี่ยนเป็นเรื่องดีให้ทั้งหมด
    - ผงค่ายกลเศรษฐี หรือจะเรียกว่ายันต์ค่ายกลหนูตกถังข้าวสารก็ได้ วิชานี้ท่านว่าถ้าสายหลวงปู่ทิมจะเรียกว่ายันต์โบกสาวคือโบกผู้หญิงที่มีนิสัยดีให้เข้ามาหา เด่นด้านเมตตามหานิยม แต่พ่ออาจารย์ท่านทำเป็นวิชาค่ายกลอุปมาว่าเทวดาจำแลงกายออกมาเป็นพญาหนูขมวดหางชักเป็นยอดยันต์นะเศรษฐี เดินค่ายกลเลขยันต์ลบถมผงจนลอดกระดานชนวน ท่านว่าผงนี้ดีทางเจริญงอกงามเป็นเศรษฐีมั่งมีทรัพย์ ต้องเสกจนมีหนูตัวเป็นๆตกลงไปในผงจริงๆจึงจะใช้ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าก็อย่างที่รู้กันคือหนูตกถังข้าวสารนั้น มันอิ่ม มันสบาย มันบริบูรณ์ไปหมด ชีวิตมีแต่ความสุขแบบไม่ต้องออกแรงไปหาอะไรเลยเช่นนั้นแหละ ผงนี้จึงเป็นทั้งผงเมตตาอย่างเอกและเก่งทางโภคทรัพย์แบบหาตัวจับยาก
    - ไม้ไก่กุก เป็นไม้ที่ได้ชื่อว่าเป็นไม้มหาเสน่ห์ซึ่งมีแรงครูสูงและหาได้ยากนำมาเป็นมวลสารพิเศษด้วยท่านว่าจะขาดไม่ได้ ไม้ไก่กุกนั้นเกิดจากไก่แจ้ตัวผู้คาบกิ่งไม้วิเศษนี้ร้อง กุ๊ก กุ๊ก เรียกตัวเมียให้มาหาพร้อมทั้งโยนกิ่งไม้ให้ตัวเมียคาบอมน้ำลายต่อ ก่อนที่จะผสมพันธ์ได้ลูกไก่ป็นฝูง โบราณกาลจึงนิยมเอาไม้ไก่กุกที่ขึ้นชื่อว่าป็นไม้เรียกสาวหายาก ท่านจึงนำผงไม้ไก่กุกนี้มาผสมสร้างพระปิดตา ให้เป็นเลิศทางมหาเสน่ห์ มหานิยม เรียกคน เรียกเงิน เรียกลูกค้าชนิดคุมทั้งฝูง ทั้งยังหากินเก่งเลี้ยงได้ทั้งฝูง อุปมาว่าไก่ตัวผู้นั้นหากินเดินไปที่ไหน คุ้ยเขี่ยอะไรก็ได้ข้าวของเงินทองนับไม่ถ้วน
    - ว่านเศรษฐีกอบทรัพย์ เป็นว่านที่เลี้ยงไว้เพื่ออำนวยโชควาสนาบารมี เรียกเงินทองให้ไหลมาเทมาไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่ผู้ปลูกว่านนี้จะเป็นเศรษฐีมีเงินกันแทบทุกคน ทั้งเป็นว่านทางเมตตามหานิยมมีแต่คนนิยมชมชอบนับหน้าถือตา ทำให้ผู้คนไปมาหาสู่อยู่เสมอ พอใบของว่านขอดเมื่อใดก็จะเรียกคนเข้าบ้านเรียกธนสารสมบัติเข้าเรือน ทำให้ขายของดี ธุรกิจการงานจะประสบความสำเร็จดี ยิ่งถ้าว่านออกดอกจะยิ่งมีโชคลาภยิ่งขึ้น ดังนั้นพ่ออาจารย์จึงตั้งใจใช้ว่านชนิดนี้ทำพระปิดตาโดยเฉพาะ
    ท่านได้นำผงวิเศษทั้งหลายอันได้แก่ผงพุทธคุณ,ผงตรีนิสิงเห,ผงพระเจ้าสิบหกพระองค์,ผงวิเศษด้านมหาเมตตามหานิยม,ผงมหามิตร มาผสมกับเกษรว่านร้อยแปด,กาฝากมงคล,ว่านยาวิเศษ,ไคลโบสถ์,ไคลเสมาโบราณสถาน,ผงกะลาตาเดียว,ผงคัมภีร์ใบลาน,ผงแร่บางไผ่,ผงแร่เกาะล้าน,ผงดินกากยายักษ์,ผงทำพระหลวงพ่อกวย


    ท่านแกะแม่พิมพ์พระควัมปติกำลังปิดตาทรงหลวงพ่อแก้วพิมพ์ใหญ่งดงามอลังการ ให้นูน อวบ อ้วน อุดมสมบูรณ์ แผ่กระแสเมตตาไปทั่วสารทิศ ท่านว่าผงเหล่านี้ที่นำมากด นำมาทำพระปิดตานั้นส่วนใหญ่จะเน้นผงที่ให้คุณทางมหาเสน่ห์หนึ่ง,ผูกมิตรหนึ่ง,เมตตาหนึ่ง,มหานิยมหนึ่ง เอาว่าต่อให้คนที่เกลียดกันไม่อาจเข้ากันได้ ไม่มีทางญาติดีกันเลยชนิดตายก็ไม่ต้องเผาผีกัน ไม่ถูกกันดั่งศรศิลป์ไม่กินกันอยู่รวมกันไม่ได้ ก็ยังญาติดีเป็นมิตรกันได้ ท่านว่านี่อานุภาพพระปิดตานั้นดีทางเมตตามหานิยมถึงขนาดนี้ขนาดคนที่ไม่ถูกกันยังอยู่ด้วยกันได้แล้วคนที่เกลียดเราล่ะจะไม่ยิ่งรักเมตตาเราหรือ นอกจากใช้ทางผูกมิตรไมตรีมีเมตตาไปรอบตัวแล้วยังใช้ทางเจรจาพาที ให้คุณทางโชคลาภ เงินทอง การทำมาหากินให้มีความสุขเกษมเปรมปรีดากว่าคนทั้งหลาย อายุยืนไม่เจ็บไม่ไข้เป็นสารพัดกัน ดุจมีกำแพงแก้ว 7 ชั้นกางกั้นไว้

    พระปิดตาลืมตาอ้าปากนี้ พ่ออาจารย์ท่านเน้นทำให้นำไปใช้งานได้จริง ท่านจึงฝังของวิเศษไว้สองชนิดได้แก่
    - องคตยศยง(องคตยกฐานะ) องคตผู้ไม่ตกต่ำ ไม่ตกเป็นรองใคร ไม่ตกที่นั่งลำบาก พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจสร้างองคตนี้มาฝังพระปิดตาโดยเฉพาะท่านว่าสำหรับคนที่ไม่มีจุดยืน ยังขาดจุดหมายในชีวิต ด้วยองคตนั้นเคยเป็นตัวแทนพระรามไปเจรจาความกับทศกัณฐ์ ซึ่งทศกัณฐ์นั้นนั่งอยู่บนบัลลังค์ที่สูงส่ง ใครไปอยู่ตรงหน้าก็จะรู้สึกได้ถึงความไม่เท่าเทียม รู้สึกเสมือนเป็นผู้มีอำนาจด้อยกว่าทศกัณฑ์ เรียกว่าถูกสะกดข่มอย่างสมบูรณ์ แต่องคตก็กลับม้วนหางใช้นั่งต่างบัลลังค์จนความสูงเสมอกันกับทศกัณฐ์นั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านจึงสร้างองคตม้วนหางขึ้นเป็นอาถรรพ์อย่างเอกและนับว่ามีคุณวิเศษอยู่มาก ท่านว่าคนใช้จะเป็นผู้ไม่ตกต่ำ ไม่ตกเป็นรองใครชีวิตจะมิได้ตกไปสู่ที่ต่ำเลย ดุจมีองคตยกขนดหางอุ้มชูไว้ แม้ชีวิตที่ต่ำมาแต่เดิมก็ต้องพุ่งไปสู่ที่สูง แม้คนที่อยู่สูงก็จะต่ำลงมิได้ ทั้งใครที่ได้รับความไม่เท่าเทียมกัน หรือมีความรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น ไม่มีโอกาสเท่าคนอื่นเขา ท่านว่าคนเหล่านี้จะใช้องคตได้แรงนัก เอาว่าดีดตัวกันจนตั้งตัวไม่ทันนั่นเลยทั้งนี้องคตยังมีพุทธคุณยังโดดเด่นในทางอำนาจดลใจให้ผู้ใช้มีความกล้าหาญไม่ตกเป็นเบี้ยล่างและไม่ตกเป็นรองใคร และยังถือว่าเป็นหนึ่งในครูลิงที่ใช้ได้ทางเมตตาอย่างแรง หรือจะใช้ทางเจรจาความก็เป็นเลิศด้วยเป็นหนึ่งในสามสัญลักษณ์ของมหาปราบจักรวาล พ่ออาจารย์ท่านใช้ผงยันต์หัวใจองคตมาผสมกับผงไม้ด้ามตาลปัตรกดพิมพ์เป็นรูปองคตยกฐานะขึ้นมาก้วยตาลปัตรนั้นเมื่อจะใช้ต้องตั้งขึ้นให้ตรงจับให้มั่นคง คือมีพุทธคุณทำชีวิตให้เที่ยงตรงมั่นคง และเมื่อหยิบมาใช้ก็จะตั้งอยู่หน้าคนทั่วไปเสมอสิ่งนี้แสดงถึงอำนาจ ตบะ เดชะ ที่ไม่มีใครลบเลือน หรือบังกลบได้ อีกทั้งคำว่าตาลปัตรคือกลับตาลปัตรหมายถึงกลับร้ายให้กลายเป็นดี กลับไม่มีให้ร่ำรวย ทั้งยังกลับดวงแย่ แก้ดวงตก ยกดวงชง ทั้งองคตยังเป็นยอดขุนศึกมีกำลังอย่างน่าประหลาด อาศัยว่ามีเกียรติยศสูงสุดได้ทรมานลากทศกัณฐ์ยักษ์ที่เป็นเจ้ายึดครองสามโลกเล่นในวัยเด็กจึงถือว่าองคตนั้นมีฤทธิ์มากเพราได้ลองกำลังกับทศกัณฐ์เป็นประจำ เช่นนั้นผู้ที่ใช้องคตของพ่ออาจารย์ท่าน จึงแน่นอนว่านอกจากจะค้ำชูดวงชะตาชีวิตตนเองไม่ให้ตกต่ำแล้ว ยังต้องไม่ตกเป็นรองหรือต่ำกว่าใครอีกด้วย
    - ตะกรุดเจ้าน้ำทอง ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาการลงตะกรุดโภคทรัพย์ตำรับมอญ พูดง่ายๆคือเมื่อลงแล้วจงต้องเสกจนนิมิตเห็นเป็นสายน้ำมีแสงสีทองทอจับตาจึงจะสำเร็จ เป็นตะกรุดที่ดีทางโชคลาภอภิมงคลขนาดนั้นจึงเรียกว่าตะกรุดเจ้าน้ำทอง ท่านว่าฝังไว้ด้วยจะช่วยหนุนผงลืมตาอ้าปากอีกชั้นหนึ่ง แม้เป็นตะกรุดดอกเล็กแต่ก็แรงด้านพุทธคุณเป็นอย่างมาก ท่านว่าไปไหนมาไหนไม่อดอยาก เป็นเมตตามหานิยมและโชคลาค้าขาย เอาไปใช้เถอะ..ดี ท่านว่าตะกรุดนี้เสกให้สำเร็จยาก กว่าจะทำให้มาใช้นั้นไม่ง่าย ท่านฝังไว้กับพระปิดตาก็ตั้งใจเอาไว้ให้ใช้ตั้งตัว จะได้เป็นพญาเศรษฐีและลืมตาอ้าปากได้ในเวลาไม่ช้าไม่นานนับจากนี้ไป

    พระปิดตานี้เมื่อทำและเสกเสร็จแล้ว ท่านทดลองให้เจ้าอาวาสระดับพระสังฆาธิการในจังหวัดบุรีรีมย์นำไปใช้อาราธนาดู แต่มีข้อแม้ว่าต้องห้อยเดี่ยวๆเพราะท่านอยากจะดูพุทธคุณให้ชัดเจน ท่านว่าแม้วัดจะสร้างวิหารใช้เงินตั้งสิบล้านแต่เงินที่ได้จากการบริจาคทานการกุศลก็ไหลมาเทมาอย่างไม่น่าเชื่อ จนพระคุณเจ้าท่านเรียกว่าพระปิดตาเงินล้านและตั้งใจอาราธนาติดตัวไม่ขาดขอคุณพระช่วยเหลือจนสร้างวัดได้สวยงาม พ่ออาจารย์ท่านว่าพระปิดตานี้ดีทุกด้านจะขอให้มีเงินไหลมาเงินก็ไหลมาล้นหลาม ช่วยหาเงินให้เราได้มาก ต่อไปจะหายาก ยิ่งในวาระบ้านเมืองหากินลำบากขึ้นเช่นนี้ ใครมีพระปิดตารุ่นนี้ก็นับได้ว่าอยู่สบายกว่าเขา ให้ใช้บารมีองค์พระอุ้มดวงไม่ให้ตกต่ำ มีโชค มีลาภนับล้านกันทุกรูปทุกนาม นอกจากนี้องค์พระยังแรงทางด้านเมตตาอย่างมาก ท่านว่าใช้อมไว้ในปากเวลาทำงานเกี่ยวกับการพูดคุยลูกค้าที่หินจริงๆก็ได้ ใช้ลูบหน้าลูบตาบรรเทาโรคภัยเวรกรรมเวลาไม่สบายก็ได้ แต่ที่ห้ามจริงๆเลยก็คือการขูดผงให้ผู้หญิงกิน อันนี้เด็ดขาดเพราะครูแรงเดี๋ยวจะเป็นบ้าเป็นบอไม่รู้ตัว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระปิดตานี้กว่าจะเสกสำเร็จได้ ต้องเสกแบบใจเย็นๆเท่านั้น ท่านว่านอกจากจะเชิญหลวงพ่อแก้วและเชิญคุณพระมหากัจจายนะตลอดจนพระภควัมปติมาทำให้แล้ว เราเองก็เสกคาถาเงินล้านของหลวงพ่อปานใส่ไปเรื่อยๆ ตามด้วยคาถาเศรษฐีเจ็ดหาบท่านว่าสูตรนี้มีคนรู้น้อยหาคนทำได้จริงยาก โบราณจารย์ท่านว่าเสกคาถานี้ปลุกพระใครได้ไปจะร่ำรวยทรัพย์สินเงินตราอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ใครที่ไม่เคยมีโชคก็จะโชคดี ใครที่เคยเป็นหนี้ท่วมท้นพ้นหัวก็จะปลดหนี้จนหมดออกจากตัวได้เพียงไม่นาน ผู้ที่มีไว้บูชาจักไม่อดอยากหรือยากจนแต่อย่างใด ท่านว่าเสกจนพระมหากัจจายนะท่านบอกกับเราว่า"พอแล้วๆ พระปิดตารุ่นนี้คนที่เขาใช้หากว่าจะเอาดีทางโลกนั้นเอาว่าจนไม่เป็น มีแต่รวยกับรวยอยู่แค่สองทางนี้ไม่มีทางอื่นเป็นคติให้เลือกอีกแล้ว" พ่ออาจารย์ท่านว่ารุ่นนี้มีครบเลยสำหรับคนที่คิดจะตั้งตัวหรือเอาไปใช้ให้ชีวิตตัวเองลืมตาอ้าปากได้พุทธคุณพระปิดตานี้มีดีครบทุกทางจะส่งผลสำเร็จโดยพลัน

    คาถาบูชา
    พะ เห วา รา นะมะการานุภาเวนะ กันตะยาราม สัพเพอุปัททะเว (ใช้เรียกองคตบ่อยๆท่านว่าตั้งตัวได้ ฟื้นตัวไว ยกตนสำเร็จได้โดยเร็ว)


    * พระปิดตานี้พ่ออาจารย์ท่านเน้นผงและมวลสารพิเศษทำให้สร้างได้จำนวนไม่มาก ผู้ใดจะบูชารับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้สมทบทุนซื้อเครื่องเขียนและอุปกรณ์การเรียนให้กับชาวเขาและเด็กยากไร้ต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระปิดตาเจ้าน้ำทองมหาเสน่ห์,ตั้งตัว(ลืมตาอ้าปาก) บูชา 2,500 บาท

    50874054-2312781805599960-428368463166177280-n.jpg 50047023-424701211605624-6212793691153629184-n.jpg
    50881548-294992734539045-4380192177435705344-n.jpg
    1403712227.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดตัวล่อกลกำเนิดชาติสงสาร(อุดแร่สลายกรรมพรหมปาฏิหาริย์)

    วิชาทำตะกรุดชุดหนึ่ง ซึ่งเป็นวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าตัวล่อ โดยเดิมทีนั้นท่านว่าเป็นวิชาของครูบรมพรหมสหัมบดีที่ถ่ายทอดไว้..อะไรคือตัวล่อ ล่ออะไร แล้วใช้อย่างไร วิชานี้ท่านว่าเป็นการทำเครื่องมงคลที่น่าประหลาดนัก ตะกรุดตัวล่อนี้ก็อุปมาเสมือนสื่อที่จะชักนำให้มีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นมาในชีวิต กล่าวง่ายๆก็คือความคิดใด ความปรารถนาใด ของเราก็ดี สิ่งนี้จะเป็นเสมือนอุบายชักนำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาดให้เราพบสิ่งที่ตัวเรามีประสงค์ได้เกิดขึ้น เรียกว่าโผล่ขึ้นมาทันใจ ล่อให้ได้ ให้เจอ ให้รับมา พ่ออาจารย์ท่านว่ามันเป็นอิทธิคุณที่ลึกซึ้งอย่างมากเพราะสิ่งนี้เป็นตัวล่อ เป็นกลกำเนิดก่อเกิดสิ่งต่างๆที่เป็นเล่ห์กลของโลกทั้งหมดไม่ว่าจะรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสทั้งหลาย สิ่งใดบรรดามีอันเป็นยอดปรารถนาของชาติภพ สิ่งใดจะอุบัติเกิดได้ภายใต้ชาติสงสาร สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นท่านว่าตัวล่อกลกำเนิดแห่งมหาพรหมนี้ย่อมคิดอ่านเอามาได้ดั่งใจประสงค์ทั้งสิ้น จะได้ดับกาลทุกข์โศกทั้งหลายของลูกๆทั้งชายหญิงให้พังพินาศสูญหายใช้ได้ทั้งเล่ห์กลรบรับสารพัดไม่มีขัดสน ....วิชาสำคัญนี้ครูบรมพรหมท่านจำแลงแปลงเป็นภิกษุชรามาสอนพ่ออาจารย์พร้อมทั้งมาย้ำเตือนกระตุ้นว่าปี62นี้ต้องใช้ ดุจดั่งมีบัญชาสวรรค์ว่าไม่ต้องเก็บไว้แล้ว ถึงเวลาแล้ว ให้เอาออกไปให้ลูกหลานในสายบารมีของครูพรหมบูชาได้แล้ว***ด้วยปกติวิชาทำตะกรุดตัวล่อนี้เดิมท่านจะหวงแหนแลกำชับนักหนาว่าเมื่อทำต้องกำนลครูด้วยทรัพย์ที่สูงค่า พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาจริงๆเลยก็คือใครจะบูชานั้นครูบรมพรหมท่านให้นำสิ่งที่มีค่าควรเมืองมาแลกเอาไป(สำคัญมากถึงขนาดนั้น) เรียกว่าเมื่อจะออกให้บูชาก็ต้องใช้ทรัพย์มหาศาลเข้าแลกแต่เดิมนั้นใครมาทำบุญกับท่านเป็นหลักแสนท่านถึงจะยอมเอาออกมาให้ใช้ท่านว่าปกติวิชานี้ครูท่านกำชับไว้หนักหนาด้วยจะป้องกันมิให้ไพร่ได้วิชา เพราะตะกรุดตัวล่อกลกำเนิดนั้นเป็นมหันต์คุณทุกสิ่งย่อมใช้ได้ดั่งใจนึกอุปมาว่ามีคุณค่าใหญ่มากดั่งแว่นแคว้นเมืองสวรรค์เช่นนั้น แต่หนนี้ด้วยมีนิมิตจึงนับว่าเป็นโชคกับหลายๆคน

    ด้วยวิชาของพระพรหมนี้พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่า "มีอานุภาพมาก เห็นเป็นตะกรุดตะกั่วเช่นนี้อย่าดูถูกไปหนา ช่วยฟื้นพลังงานให้คนหายทุกข์ร้อนได้มากเชียวล่ะ" พ่ออาจารย์ท่านว่าโลกสมัยนี้ปรับเปลี่ยนไปมาก บางอย่างก็รอกรรมและชะตามาลิขิตไม่ได้ บางอย่างก็รอให้ความสำเร็จเกิดขึ้นจาก"แรง"หรือความพยายามก็ไม่ทัน ด้วยโลกทุกวันนี้หมุนไปด้วยปัจจัยสี่ ใช้เงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนความสุขทุกอย่าง กล่าวได้ว่าเงินทองเป็นสิ่งที่ทุกคนมีความต้องการและจำเป็นต้องมีจนปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าคนสมัยนี้ใช้เงินซื้อความสุขได้ ถึงแม้ว่าในขณะที่เราตายไป จะนำเอาติดตัวไปด้วยไม่ได้ก็ตาม แต่เงินนั้นก็คือพระเจ้าที่จะเนรมิตได้ทุกๆอย่างเมื่อเรามีชีวิตอยู่ตามความต้องการของเรา ด้วยโลกนั้นขับเคลื่อนและเปลี่ยนโฉมไปเงินจึงเป็นสิ่งที่จะต้องใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งของที่ต้องการเพื่อจะได้นำมาเลี้ยงชีวิตของตัวเองและครอบครัวให้บริบูรณ์ในปัจจัยสี่ต่อไป ในยุคนี้ใครเล่าจะปฏิเสธว่ามีความสุขตั้งอยู่โดยไม่ต้องใช้เงิน ชีวิตนี้จะไม่ซื้อสิ่งต่างๆ สมัยนี้แค่เดินออกนอกบ้านอย่างน้อยก็ต้องซื้อน้ำซื้ออาหารกินเพื่อเพิ่มกำลังวังชา ให้ร่างกายแข็งแรงและสมบูรณ์เพื่อประโยชน์ใหญ่จะได้ประกอบการงานต่อไป กรณีเช่นนี้ตะกรุดตัวล่อกลกำเนิดชาติสงสารเขาก็จะทำงานไปพร้อมกับเรา เรียกว่าขณะนั้นเราทำสิ่งใดก็ดี เช่นเมื่อเราทำงานหาเงินอย่างมุ่งมั่นเขาก็จะบันดาลให้สิ่งที่เรามุ่งมั่นนั้นได้มากขึ้น มีกำไรในการค้ามากขึ้น กิจการไปได้ดีขึ้น รับราชการเจริญงอกงามมากขึ้นเช่นนี้เป็นต้น เรียกว่าเป็นตัวล่อเอาสิ่งที่เราตั้งใจไว้เข้ามาจนกระทั่งในไม่ช้าเราก็จะร่ำรวยขึ้นอย่างไม่รู้ตัว นี่เป็นกรณีตัวอย่างเพียงด้านเดียวของเรื่องเล็กๆคือปัจจัยที่เรียกว่าเงินซึ่งพ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างไว้

    ในตะกรุดนั้น...อุดแร่สลายกรรมพรหมปาฏิหาริย์ แร่นี้พ่ออาจารย์ท่านรับมานานแล้วแต่ก็ไม่รู้จะนำไปทำอะไร ทีแรกท่านว่าจะเอาไปถลุงหล่อเป็นรูปพรหมขึ้นมาท่านว่าก็ใช้แร่ค่อนข้างมาก มากจนเปลืองเนื้อแร่อย่างมากมายมหาศาลกว่าจะได้พรหมเล็กๆซักองค์ ท่านจึงว่าได้ไม่คุ้มเสียเพราะแร่นี้มีอิทธิคุณในตัวเองอยู่แล้ว ครูพรหมท่านบันดาลให้เกิด ทำให้มาดีแล้ว เป็นของศักดิ์สิทธิ์มีอานุภาพมาก เช่นนี้ท่านจึงได้นำมาอุดตะกรุดตัวล่อเสียเลยในคราวเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าแร่นี้มีคุณใหญ่มากจึงเรียกว่าแร่สลายกรรม เริ่มจากสลายอารมณ์ขุ่นมัว อาการหมองเศร้าต่างๆออกไปจากจิตใจ ทั้งอาการมักกลัว ความโกรธเกลียดทั้งหลายลดน้อยลงให้ตัวเราเบาและสบายมากขึ้น ทั้งผ่อนกรรมหนักให้เป็นเบาที่เบาแล้วก็ให้จางหายไป ท่านว่าเมื่อใจเราเย็นขึ้น ตัวเราและคนรอบข้างก็จะมีความสุขไปกับเราด้วย เพราะแร่นี้เขาสลายสิ่งไม่ดีทั้งหมดไม่ว่าจะโรคที่รุมเร้า โรคที่หาสาเหตุไม่ได้ โรคเวร โรคกรรม อาการหงุดหงิดร้อนรนในจิตใจทั้งที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณตามรบกวนเราก็ดี เกิดจากสนามพลังงานต่างๆที่เรามองไม่เห็นก็ดี สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เอาว่าทำอะไรไม่ได้ แร่สลายกรรมพรหมปาฏิหาริย์เขาจะสลายไปทั้งหมด ให้สังเกตุดูว่าโรคภัยไข้เจ็บและปัญหาชีวิตทุกด้านตั้งแต่การเรียน ความรัก ครอบครัว การงาน การเงินจะบรรเทาลงอย่างรวดเร็ว ท่านว่าแร่นี้แรงมากนะแม้ใครจิตไม่นิ่งนั่งสมาธิไม่ได้นานก็ให้ลองเอาตะกรุดไปกำแล้วนั่งดูใหม่ ท่านว่าหนนี้จะไม่อยากลุกทีเดียวเพราะจิตสงบเร็ว ปิติบังเกิดอิ่มเอิบไปหมด ทั้งยังกระตุ้นเพิ่มความแข็งแรงให้ร่างกาย สิ่งที่เสื่อมถอยไปแล้วก็จะพัฒนามากขึ้น เป็นเมตตามหาเสน่ห์ชนนิยมทั่วโลกด้วยสำเร็จจากอำนาจของพรหม ทั้งบรรเทาและป้องกันภาพหลอน ฝันร้าย ...ใช้ได้หมดเพื่อจะสลาย ซ่อมแซมและฟื้นสภาพดั่งปาฏิหาริย์แห่งพรหม

    นอกจากแร่วิเศษชนิดนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านอุดไว้ภายในแล้ว หัวท้ายตะกรุดท่านยังอุดด้วยผงวิเศษมากมายที่ท่านรวบรวมไว้ด้วย ท่านว่าพกดอกเดียวเหมือนได้ทุกอย่าง ทั้งผงเหล็กไหล ผงเหล็กไหลฤาษี ผงเหล็กไหลเงินยวง ผงเหล็กไหลตาแรด ผงตะไบเหล็กน้ำพี้ ผงเพชรหน้าทั่ง ผงพระธาตุอรหันต์ ผงพระธาตุสีวลี ผงพระธาตุข้าวบิณ ผงพระธาตุเขาสามร้อยยอด ผงแก่นไม้สัก ผงลูกมณีโคตร ผงมณีรัตนะ ผงหงอนพญานาค ผงแก้วขนเหล็ก ผงแร่บางไผ่ ผงหยกพันปี ผงขมิ้นหิน ผงข้าวตอกพระร่วง ผงคดกะลา ผงกะลาตาเดียว ผงสะเก็ดดาว ผงหินขวานฟ้า ผงกัลปังหา ผงข้าวสารดำ ผงดอกไม้หิน ผงเพชรน้ำค้าง ผงลูกธนูคนธรรพ์ ผงงาช้างพรายกระเด็น ผงแร่อาถรรพ์ภูเขาควาย ท่านนำมาโขลกจนละเอียดผสมกับผงวิเศษของหลวงปู่เทพโลกอุดรและผงฤาษีผสมซึ่งท่านได้มาตามถ้ำสำคัญ ท่านว่าแร่บางอย่างนั้นทั้งชีวิตบางคนก็ไม่สามารถประสบพบเจอได้แต่ละอย่างล้วนแต่เป็นของมีอานุภาพมากส่งเสริมซึ่งกันและกัน และผงวิเศษสองชนิดที่ใส่ลงไปก็เป็นยอดผงอันจะหาผู้ใดทำเสมอเหมือนมิได้เพราะสำเร็จด้วยครูบาอาจารย์สำคัญซึ่งดำรงค์ขันธ์ลึกลับยากจะประสบพบเจอ ท่านว่าตะกรุดนี้ท่านตั้งใจทำให้มีกระแสพลังงานรุนแรงอยู่ภายในเพื่อเป็นสิ่งขับเคลื่อนชีวิตผู้บูชาโดยเฉพาะ ท่านว่าตะกรุดตัวล่อที่หุ้มแหล่งพลังงานเหล่านี้อยู่ก็เสมือนกายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์ไม่เสื่อม ไม่ตกต่ำ มีพลังงานให้ใช้ไม่รู้จบรู้หมด จะได้ใช้ลุยกับชีวิตให้เต็มที่เพราะของเหล่านี้มันขลังตั้งแต่ต้นธาตุ เมื่อนำมาบรรจุและเสกสำเร็จด้วยแรงครูสายพรหมแล้วย่อมเปลี่ยนจากผงวิเศษกลายเป็นของทิพย์ท่านว่าใครมีตาในหรือได้ญาณเจโตทั้งหลายขึ้นไปเขาจะเห็นและรับรู้ได้เป็นอย่างดี

    ทั้งนี้ด้วยปกติวิชาสายพรหมของพ่ออาจารย์ท่านนั้นยังมีอานุภาพมาก จะรู้กันดีว่าเป็นของดีที่เรียกทรัพย์ได้ง่ายตะกรุดตัวล่อนี้ก็เช่นกันท่านตั้งใจบอกกล่าวกับครูพรหมว่าให้คนที่นำไปติดตัว เอาไปใช้ จะไม่อด ไม่อยาก ไม่ยาก ไม่จน ทั้งยังเปิดทางแห่งความสำเร็จ ให้ครูพรหมปัดเป่าทุกข์ โศก โรค ภัย อันตรายใดๆก็ดีหากมีก็ให้ฝากไว้กับตะกรุดได้เลย ให้เอาไปพลิกดวง พลิกวาสนา คนไม่มีโชคให้เป็นคนมีโชค คนหากินลำบากก็ให้เป็นเศรษฐีในชาตินี้ ปรารถนาสิ่งใดก็ให้สำเร็จได้เร็ววันทันตาเห็น ให้เป็นผู้เจริญรุ่งเรืองโดยส่วนเดียวไม่มีความตกต่ำ ทำอะไรจะมีเทวดาคอยหนุนมีคนคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด ท่านว่าแต่ละดอกอธิษฐานฝากฟังกำกับไว้เป็นอย่างดีเพราะตัวล่อนั้นเป็นกลกำเนิดชาติภพ เป็นวิชาเฉพาะเอาว่าครูแรง ด้วยชาติภพนั้นเมื่อกำเนิดมาแล้วย่อมเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่นนี้กลกำเนิดจึงเป็นกลที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหนทางชีวิตสรรพสิ่งในชาติภพนั้นๆ ที่ว่าแก้ไม่ตก ทุกข์ยากไม่คลาย เส้นทางเดินไปไม่มี สิ่งทั้งหลายย่อมเบี่ยงเบนไปในหนทางใหม่ได้ ย่อมเจริญก้าวหน้าขึ้นโดยลำดับ ด้วยครูท่านจะป้องกันเสนียดจัญไรคุณไสยเวรกรรมเคราะห์ร้ายอัปมงคลทั้งปวงนั้นไม่ให้กล้ำกราย

    "กลกำเนิดชาติสงสารนั้น เป็นดั่งกลพลิกสถานการณ์" พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อมีชาติ ย่อมมีทุกข์ เวทนา สัญญา...ทั้งหลายเกิดขึ้น สิ่งทั้งหลายนี้จะดำเนินไปบนหนทางที่หลบไม่ได้ เลี่ยงก็ไม่ทันเพราะมันเป็นทางเดินของเรา มีแต่ต้องก้าวไปข้างหน้าจะถอยกลับไม่ได้ ไม่มีทางเดินอื่นใดให้เราเลือกเปลี่ยนเส้นทางเลย เช่นนั้นนั่นคือชะตากรรม ตะกรุดตัวล่อนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นกลกำเนิด คือมันซ้อนกล ซ้อนบรรทัดฐานชาติสงสารของกรรมลิขิต ให้พลิกสถานการณ์กลายกลับได้ ท่านว่าเมื่อซ้อนกลกำเนิดแล้วหนทางที่จะไปต่อก็มีเพิ่มขึ้น มีการแตกแขนง มีโอกาสเปลี่ยนเส้นทางเบี่ยงเบนโชคชะตาแต่เดิมเป็นลำดับขั้น เรียกว่าเปลี่ยนแล้วก็ยังต้องเปลี่ยนต่อไปจนกว่าจะดี และก็จะเปลี่ยนต่อๆไปจนมันดีที่สุดชนิดที่เราแทบจะไม่รู้ตัวว่าได้ก้าวเข้ามาในการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่จุดไหนตอนไหน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่ดีจริงคงไม่กำหนดแต่แรกให้แลกวิชานี้ด้วยทรัพย์มหาศาลซึ่งท่านก็ไม่อยากจะประกาศให้ใครบูชาเพราะกลัวเขาครหาและไม่เข้าใจ ต่อเมื่อภายหลังจึงถึงเวลาท่านว่าใครเอาไว้ได้ก็เป็นวาสนาของเขาแล้วกัน รายการนี้ท่านว่าไม่ต้องพิมพ์เยอะ สั้นๆแต่รู้เรื่อง เฉพาะแร่เฉพาะผงแต่ละอย่างนั้นก็ให้คุณมากอยู่แล้วใช้ทั้งชาตินี้ก็ไม่หมด ประกอบกับตะกรุดตัวล่อยังเป็นวิชาเอก ซึ่งไม่ใช่ของเราแต่เป็นวิชาเอกของครูพรหมท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าเท่านี้ก็เพียงพอแล้วให้มนุษย์ใช้ ทั้งล่อ ทั้งสลาย ทั้งซ่อมแซมและฟื้นฟูครบในดอกเดียว

    คาถาบูชา
    ทะสะทิสารัสมิง พรหมานังสฮัมปตีคุณัง ทุกขะ โรคะ ภะยัง เวรัง วิวัณชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัณชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภวันตุเม รักขันตุ สุรักขันตุ

    * ตะกรุดนี้มีให้บูชาสี่ดอก รับจองเฉพาะทาง PM ท่านใดจองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะฝากครูพรหมให้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อนำไปใช้งานได้ประสิทธิสมเจตนามากขึ้นและแรงขึ้น รายได้สมทบทุนอาหารกลางวันโรงเรียนชาวเขาในชนบทสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดตัวล่อกลกำเนิดชาติสงสาร(อุดแร่สลายกรรมพรหมปาฏิหาริย์) บูชา 4,000 บาท


    50521874-2762150840476576-4352567832551096320-n.jpg
    51161399-243315923235454-606476758316744704-n.jpg
    50458234-2317338428522344-2880217386663804928-n.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874

แชร์หน้านี้

Loading...