ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ) พ่ออาจารย์พล

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...าร-พ่ออาจารย์พล.539894/page-498#post-11151814

 

ร่วมทำบุญบูชา องค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรพระร่มฉัตรทรงแส้ปัดรังควาน(ฝูงพญาวิฬา,อัสดรกัณฐกะเหยียบหมู่ดาว)

เหรียญหล่อองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรนี้เป็นเหรียญชั้นครูที่สำคัญมาก พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าพระร่มฉัตรด้วยเหตุสำคัญเพราะมวลสารต่างๆที่นำมาบดอุดไว้ด้านหลังนั้นท่านใช้ฉัตรองค์สำคัญชั้นสูงมากๆที่ชำรุดมาสร้าง ***ซึ่งท่านไม่บอกและไม่อนุญาติให้บอกใคร ด้วยท่านย้ำอยู่เพียงว่าเป็นฉัตรขององค์บรรพบุรุษแรกตั้งกรุง ในกรุงนี้เว้นฉัตรองค์นี้องค์เดียวเท่านั้น ก็มีฉัตรอีกเพียงหนึ่งองค์ที่มีศักดิ์สูงกว่า... พระร่มฉัตรนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใครได้ใช้ดุจมีเงาแห่งเศวตฉัตรนั้นได้ทอดบังเงานำความเจริญรุ่งเรืองร่มเย็นอย่างหาใดเปรียบมิได้เข้ามาในชีวิต ชีวิตใครที่ร้อนรุ่มด้วยภัยทั้งหลายท่านว่าถ้าหลบใต้เงานี้ดุจมีบารมีขององค์ผู้เป็นเจ้าของฉัตรนั้นปกเกล้าคุ้มกระหม่อมแผ่กิ่งก้านทอดเงาให้การดูแล รับรองได้ว่าร่มเย็นไม่ร้อนรุ่มหรือเจ็บไข้ได้ทุกข์ใดๆอีก เช่นนี้ด้วยท่านรู้ดีว่าเป็นมวลสารที่มีอาถรรพ์มาก มีค่าไม่อาจประเมิณได้ ทั้งยังเป็นของสูงมากจนในชีวิตคนผู้หนึ่งมิอาจพานพบได้โดยง่าย เสด็จพระใหญ่จึงให้ท่านสร้างองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรด้วยมวลสารทำคัญนี้

ท่านทำให้รู้ว่าเป็นของสูงนั่นคือทำเป็นรูปองค์พระประทับอยู่ใต้ร่มฉัตร(เป็นพระร่มเย็นอย่างที่สุด) พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพิมพ์นี้ใช้ดับร้อนผ่อนเย็นให้เห็นประจักษ์แก่ตาเป็นอัศจรรย์นัก ด้วยฉัตรนั้นเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีอำนาจ มีบารมีของเจ้านายองค์สำคัญทั้งยังเป็นของมงคลมีอาถรรพ์ในตัว มีคุณวิเศษใช้ป้องกันสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาไม่ให้เข้ามาในชีวิตได้อย่างเด็ดขาด ท่านว่าให้อธิษฐานเอากับองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรว่าอะไรคือสิ่งที่ไม่ต้องการ,สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ สิ่งเหล่านั้นจะไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้เลยภายใต้เงาเศวตรฉัตรที่สาดทับร่างกายอยู่นี้ ทั้งเป็นของสูงมากขององค์ผู้กล้าแต่ต้นกรุงที่ชำรุดจนยากแก่การซ่อมแซม พ่ออาจารย์ท่านจึงนำทั้งส่วนที่เป็นผ้าแลหวายที่เป็นก้านเป็นยอดซึ่งลงชาดหรดาลปิดทองเอาไว้ทั้งยังกลีบจำปีกระดาษสาอันชำรุดแทบจะป่นเป็นผุยผงนำมาตำโขลกตะไบให้เป็นผงละเอียดบดด้วยมือของท่านเองเพื่อเป็นมวลสารพระชุดนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าปกตินั้นฉัตรจะเป็นเครื่องประกาศเกียรติยศเช่นนั้นพระร่มฉัตรจึงนำเอาเกียรติยศชื่อเสียงความมั่นคงมั่งคั่งทุกอย่างที่จุดสูงสุดในชีวิตคนควรจะมีเข้ามาหาเราได้อย่างง่ายดายเพราะท่านดึงเอามาจากพระบารมีที่รวบรวมไว้ในฉัตรขององค์ผู้เป็นเจ้าของนั่นเอง ทั้งฉัตรยังเป็นสัญลักษณ์แทนตัวของผู้นำของเจ้าแผ่นฟ้าแผ่นดิน เป็นยอดแห่งชัยชนะถือว่าเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งที่ได้พึ่งบารมีองค์หลวงพ่อร่มฉัตรนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าฉัตรที่มีหลายชั้นนั้นเพราะแต่ละชั้นใช้แสดงความยิ่งใหญ่ประกาศออกไปทั้งแปดทิศรวมไปถึงสวรรค์และบาดาลด้วย เช่นนั้นท่านจึงว่ามีอาถรรพ์มากด้วยเป็นเครื่องเกียรติยศที่ใช้ประกาศชัยชนะทั้งสิบทิศเหนือประเทศราชน้อยใหญ่..ว่าไร้พ่ายในยุคนั้น เป็นสัญลักษณ์ของพระจักรพรรดิ์ที่แสดงบารมีด้วยจำนวนชั้นของร่มฉัตรเช่นนั้น เป็นเครื่องสูงที่สำคัญที่สุดเช่นเดียวกับพระมหามงกุฏทีเดียว ดั่งองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรที่ทรงชนะในจักรวาลเพราะทรงเป็นจักรพรรดิแห่งโลกุตรแดนนิพพานและจักรวาลเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนี้มีอาถรรพ์มากเอาว่าอาราธนากันให้ดีทั้งแปดทิศนี้ไม่แพ้ไม่ลงให้แก่ผู้ใดเลย ทั้งอาถรรพ์นั้นยังไม่สามารถถอดถอนแก้ไขหรือทำลายได้ ไม่ต้องกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมหน้าไหนกริ่งเกรงว่าใครจะมีบารมีมีเทวดาองค์ใดคุ้มเลย ด้วยภายใต้เงาฉัตรนี้ถ้าเป็นสมัยก่อนองค์เจ้าของนั้นท่านไม่แพ้ไม่ลงให้แก่ผู้ใดทั้งสิ้น เรียกว่ามีแต่คนกลัวท่านและกลัวมาทุกยุคทุกสมัยไม่เคยปรากฏว่าท่านจะกลัวใครทั้งนั้น

ในมือหลวงพ่อถืออะไร !!!
พระพิมพ์สำคัญนี้เสด็จพระใหญ่ท่านกำหนดพิมพ์ทรงเอง ท่านให้พ่ออาจารย์ท่านปั้นหุ่นเทียนเป็นพระพุทธรูปแปลกตาโดยเฉพาะ นั่นคือให้องค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรนั้นทรงถือแส้ปัดรังควานเอาไว้ด้วย ด้วยแส้นั้นท่านจะได้ใช้โบกไปมาเพื่อปัดเป่า ปัดรังควานสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ปัดสิ่งชั่วร้าย ปัดทุกข์ ปัดโศก ปัดโรค ปัดภัย ปัดออกไปไม่ให้ต้องกายเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพิมพ์นี้มีอาถรรพ์มาก เพราะท่านปัดหมดแม้เรื่องน่ารำคาญเล็กๆน้อยๆในชีวิตทั้งหลาย ทั้งอุปสรรคมารผจญและเศษกรรมตลอดจนบททดสอบทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นก่อนความสำเร็จ อะไรที่น่ารำคาญสำหรับเราองค์หลวงพ่อพระทศพลท่านปัดให้หมดทั้งสิ้นไม่ให้เข้าใกล้...เฉียดใกล้ตัวเราแม้แต่น้อย นี่คืออาถรรพ์ของพระทรงแส้ปัดรังควาน ปัดให้ชีวิตเราสะอาดราบเรียบ ปัดอุปสรรค ...ปัดศัตรูด้วยพระบารมี พ่ออาจารย์ท่านว่าอยากให้ท่านปัดสิ่งใดออกไปให้พ้นชีวิตเราก็อธิษฐานกันเอาเลย ด้วยแส้นี้เป็นที่หวาดกลัวของหมู่มารและเทวดามิจฉาทิฏฐิอย่างถึงที่สุด

ฝูงแมวมากจากไหน
ด้วยพระพิมพ์นี้องค์ปฐมท่านกำหนดไว้ชัดเจนว่าภายใต้ร่มฉัตรนั้นให้องค์พระประทับแวดล้อมอยู่ด้วยฝูงแมว เพราะแมวเป็นสัตว์พิเศษใครเห็นก็นิยมเอ็นดูอยากเข้าหาอยากอยู่ใกล้ แม้จะหยิ่งจะเชิดใส่ก็ไม่มีใครโกรธมีแต่จะยิ่งรักเมตตาเช่นนั้นทั้งแมวยังมีสัมผัสพิเศษมีสัญชาตญาณสามารถมองเห็นในสิ่งที่มนุษย์มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ ไม่รู้สึก เช่นนั้นฝูงแมวอาคมเหล่านี้จึงมีอำนาจในการป้องกันพลังชั่วร้ายทุกรูปแบบตลอดจนภูติผีปีศาจไม่ให้ย่างกรายมายุ่งเกี่ยวกับชีวิต เพราะแมวเขาจะรู้สึกได้เองว่าชีวิตเราต้องแก้ไขตรงไหน ตรงไหนมีสิ่งไม่ดีมีพลังงานลบแฝงอยู่ เขาจะคอยขับไล่วิญญาณร้ายและพลังงานลบให้พ้นจากอาณาเขตของเขาไม่ให้สิ่งเหล่านั้นคอยรบกวนอยู่ในอาณาเขตได้เลย เช่นนั้นฝูงแมวนี้ก็จะมองเราเป็นอาณาเขตของเขาเช่นกันที่จะคอยสอดส่องขับไล่ไม่ให้พลังงานร้ายในกายเรากำเริบขึ้นมาจนส่งผลต่อชะตาชีวิตเราได้ ***ทั้งเขาจะคอยปกป้องตัวเราให้พ้นหรือออกห่างจากอำนาจแห่งคำสาปแช่งทั้งหลายที่ติดตัวมา ด้วยแมวเป็นสัตว์ให้คุณคือคอยส่งพลังและสิริมงคลให้แก่เราคอยปกป้องเราจากสิ่งเร้นลับ นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังว่าแมวฝูงนี้เป็นยอดแมวเพราะเขาจะให้โชคลาภแก่เจ้าของทั้งเรียกโชคลาภเงินทอง ช่วยให้ทำมาหากินคล่องไม่ติดขัด มีชีวิตเจริญก้าวหน้า พระพิมพ์นี้ใครได้ไว้จะเป็นผู้มีโชคนานับประการ(โดยเฉพาะการเสี่ยงโชคได้โชคจากสิ่งที่มองไม่เห็นไม่คาดฝัน) ท่านใช้รกแมวมาเป็นส่วนผสมมวลสารครั้งนี้ด้วยเพราะองค์พระมีรูปของฝูงแมวอยู่ ซึ่งรกแมวนั้นได้ชื่อว่ามีอาถรรพ์ช่วยให้ทำมาค้าขึ้นจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด ทั้งรกยังเป็นสิ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตทางเดียวยามทารกอยู่ในครรภ์ เช่นนั้นผู้ใดมีรกแมวที่เสกเรียกอาการลงอาถรรพ์วิชามาอย่างดีจึงเท่ากับมีเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิตตนเองให้อิ่มสุขอุดมสมบูรณ์ได้ตลอดเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะทำองค์พระที่น้องล้อมด้วยฝูงเจ้าเหมียวนี้ให้สำเร็จได้ก็ไม่ใช่ของง่าย เพราะองค์ปฐมท่านให้เราหารกแมวถึงหกชนิดมาเป็นมวลสารในการทำครั้งนี้
- รกแมวขาวสำลี ช่วยเยียวยาส่วนที่เสียหาย เรื่องที่พังพินาศในชีวิต รวมไปถึงคอยส่งพลังเยียวยาจิตใจความรู้สึกที่ถูกบั่นทอนอยู่เสมอของเราตลอดเวลา
- รกแมวสีส้ม เน้นในเรื่องหน้าที่การงานช่วยให้การเงินมั่งคั่ง เป็นพลังนำมาซึ่งชีวิตที่มั่นคงแน่นอนไม่สั่นคลอน ทั้งยังไร้โรคช่วยให้สุขภาพดีอายุยืน
- รกแมวสามสี ช่วยให้มีโชคอย่างถึงที่สุดไม่ว่าจะอยู่บนบกหรือในน้ำแม้แต่อยู่ในถ้ำก็ยังปกปิดความโชคดีของเราไม่ได้ ทั้งยังคอยปกป้องเราออกจากภัยร้านทั้งหลาย
- รกแมวเทา นำมาซึ่งความเมตตาเอ็นดูของชนทั้งหลาย ทั้งความรัก ความสุข ความอบอุ่น ช่วยให้เราโชคดีอย่างน่าประหลาด ทั้งยังช่วยให้เราใจเย็นให้อารมณ์เราสงบมากขึ้น
- รกแมวดำ เน้นในเรื่องแก้ปัญหาทั้งหลายให้หมดไปจากชีวิตเจ้าของ เวลาเจอปัญหาอะไรจะช่วยให้เราเห็นทางออกทางแก้ไขได้อย่างชัดเจนเหมือนมีญาณหยั่งรู้
- รกแมววิเชียรมาศ ช่วยปกป้องเราจากคนคิดร้าย คนที่คอยอิจฉาริษยารอบด้านรอบกาย ทั้ยังนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศและชักนำความสำเร็จสู่ชีวิต
ด้วยแมวเป็นสัตว์ที่จะเข้าหาเราเอง เช่นนั้นรกทั้งหลายนี้จึงเป็นพลังงานที่จะพุ่งเข้าหาเราเอง ใครที่กลัวกุมารทองกลัวลูกกรอกแมวเหล่านี้ท่านว่าใช้รกแมวได้เลยเพราะเขาให้คุณไม่มีโทษด้วยเป็นเพียงรกไม่ใช่กุมาร ทั้งแมวยังเป็นสัตว์ที่ได้ชื่อว่ามีเก้าชีวิตคือฆ่าอย่างไรก็ไม่ตายมีใครปองร้ายก็รอดภัยรอดจากปากเหยี่ยวปากกาได้ทุกครั้ง ท่านจึงถือว่าองค์พระนี้มีคุณพิเศษนั่นคือฆ่าอย่างไรก็ไม่ตายดั่งเราเป็นแมวเก้าชีวิตเช่นนั้น ด้วยถือว่าองค์พระศาสดาเคยเสวยพระชาติเป็นพญาวิฬามาแล้วทุกพระองค์พ่ออาจารย์ท่านจึงนำรกแมวชุดนี้เชิญครูเชิญองค์พระมาเสกให้ทำวิชาความขลังให้เต็มที่ตามที่แต่ละองค์ถนัดก่อนจะนำมาเป็นมวลสารต่อไป

พระพิมพ์นี้ท่านทำเป็นรูปองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรสาดพระรัศมีแข่งกับสุริยะจันทร์ นั่นคือไม่มีรัศมีใดๆในโลกจะมาแข่งขันหรือสู้กับพลังอำนาจจากองค์หลวงพ่อได้ เรียกว่ากลบทับทุกรํสมีทุกตัวตนเช่นนั้น ด้านหลังท่านอุดด้วยมวลสารสำคัญนั่นคือผง....ฉัตรผสมด้วยผงรกแมวหกชนิดล้วนๆแบบแก่มวลสารที่สุด ทั้งยังได้ฝังของวิเศษไว้ด้วย
-อัศวราชกัณฐกะ ม้าอันเป็นสหชาติกับพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสิ่งมีบุญที่เกิดมาเพื่อร่วมบำเพ็ญบารมีทุกชาติภพ ด้วยเป็นม้าพระที่นั่งของพระโพธิสัตว์จึงถือเป็นราชาม้า เมื่อพระ มหาโพธิสัตว์ได้ข้ามห้วงวัฏสงสารออกบวชไปแล้ว พญาม้ากัณฐกะได้ตรอมใจไปจุติเป็นเทพบุตรในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นามว่ากัณฐกะเทพบุตร พ่ออาจารย์ท่านว่าครูแต่หนหลังยกย่องม้าเทพตัวนี้กันยิ่งนัก เพราะเป็นหนึ่งในสมบัติจักรพรรดิแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ ที่จะนำความสุขสมหวังในทุกสิ่งมาให้แก่ผู้ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านหล่อรูปม้ากัณฐกะทั้งเชิญทิพย์อำนาจแห่งกัณฐกะเทพบุตรมาสถิตย์ด้วยอานิสงค์นี้รูปม้านี้จึงมีอำนาจนำเราข้ามพ้นปัญหาและอุปสรรคใหญ่น้อยได้เหมือนเมื่อครั้งม้าแก้วนำองค์โพธิสัตว์ข้ามพ้นวัฏสงสารเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านย้ำอาถรรพ์พญาม้าว่า "คึกคะนอง สำเร็จรวดเร็วดั่งลมพัด" ดั่งพญาม้านำพามหาสัตว์ข้ามพ้นสังสารวัฏเช่นใดความทุกข์และอุปสรรคใดๆเพียงพญาม้าโลดแล่นก็ผ่านได้หมด ทั้งยังมีแรงอันประเสริฐด้วยว่าเทพยดาทั้งหลายมาสิงรักษาอยู่ในส่วนต่างๆทำให้มีฤทธิ์มากแม้เหาะข้ามสมุทรก็ยังได้ เช่นนั้นผู้ใดได้รูปหล่อพญาม้าที่พ่ออาจารย์ท่านเชิญทิพย์ญาณตลอดจนลงอาถรรพ์เรียกเหล่าเทพเจ้าเข้าสถิตย์ตามส่วนต่างๆเสริมฤทธิ์ให้แก่พญาม้าแก้วนี้ ดุจผู้นั้นได้สมบัติจักรพรรดิ์ที่จะนำความสุขสมบูรณ์มาให้โดยฉับพลัน สิ่งใดที่เป็นธุระบอกกล่าวพี่ม้าให้พาเราไปส่งถึงจุดหมายจะสำเร็จเร็วกว่าปกติไม่ติดขัดในสิ่งใดทำการณ์ใดก็สำเร็จรวดเร็วเจริญก้าวหน้ารวดเร็ว ท่านว่ามีพลังม้าแก้วนี้ติดตัวเราทำอะไรก็คล่องตัวอย่างมากสำเร็จเร็วดั่งสายฟ้าฟาดส่งมีเรี่ยวแรงคึกคะนองผิดสังเกตุ ไอ้เรื่องเห็นผลเร็วเห็นผลไวเอาว่าไม่ต้องพูดกันเพราะไม่มีอะไรจะพูดด้วยนี่คือที่สุดของเครื่องมงคลที่จะส่งคุณให้ถึงความฝันได้ หากชีวิตมีสิ่งที่หมายปอง หากเรายังมีจุดหมายที่สูงกว่าบารมีเราจะพาไปได้ เช่นนั้นอย่าเพิ่งถอดใจไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องเปลืองแรงขวนขวายเพียงแค่อาศัยพี่ม้านี้ไปก็เท่านั้น

ด้านล่างพี่ม้านั้นท่านนำองค์ธาตุอาตมันมาวางเรียงเป็นกลุ่มดาวเหนือ เป็นอาถรรพ์หนุนส่งชีวิตเราให้ก้าวพ้นเหนือดวงดาวและเหยียบย่างไปบนเส้นทางหมู่ดาว คือยิ่งวิ่งยิ่งสูงพ้นแสงสุริยะจันทร์ขึ้นไป ทั้งดาวเหนือทั้งเจ็ดยังถูกเรียกแทนด้วยชื่อของจักรพรรดิ เพราะดาวทุกดวงมีเทพรักษาด้วยเป็นกลุ่มดาวที่มีคุณมากใช้กำหนดทิศทางในยามค่ำคืนมานานหลายพันปี เช่นนั้นจีนโบราณจึงถือว่ากลุ่มดาวเหนือนั้นเป็นดั่งราชรถของเง็กเซียนฮ่องเต้พ่ออาจารย์นำพี่ม้าขึ้นกลุ่มดาวจึงเสมือนว่าเป็นม้าเทียมราชรถช่วยให้มีอาถรรพ์สำเร็จทุกกิจได้ฉับพลันทันที ทั้งกลุ่มดาวเหนือนี้แกนจักรวาลที่เคลื่อนหมุนไปทีละน้อยทำให้เกิดฤดูกาลความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ
เมื่อนำองค์ธาตุอาตมันมาจำลองเป็นกลุ่มดาวจึงมีฤทธิ์มาก ช่วยให้มีอำนาจปราบภูติผีไล่เหล่ามารปีศาจ ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังที่จะบัญชาการทวยเทพทั้งหลายให้เข้าอุปภัมภ์ช่วยเหลือได้ พ่ออาจารย์ว่าองค์ธาตุเรียงกันเป็นกลุ่มดาวนี้มีอาถรรพ์มาก ใช้ได้ทั้งข่มและปราบปรามอย่างรุ่นแรง ปราบภัยได้ทุกชนิด สะกดอาถรรพ์อวิชชาได้ทุกอย่าง พลิกกลับเรื่องร้ายเป็นเรื่องดีได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอำนาจมาก ***ใช้ได้แม้กระทั่งดึงคนมีอำนาจสูงลงมาให้เราเหยียบเป็นทางเดินของเราเป็นบริวารของเราได้ ทั้งยังนำมาซึ่งอำนาจยศฐาเรียกคนสารพัดที่จะใช้ ใช้ได้ทั้งเตือนภัยและคอยสะท้อนคำสาปได้ทุกชนิดทุกประเภท
ด้านหลังที่ท่านวางองค์ธาตุเป็นรูปดาวเหนือนั้น ก็ด้วยองค์พระทศพลบพิตรนั้นมีคุณทางด้านบรรเทาวิบากกรรมอยู่แล้ว อำนาจแห่งดวงดาวนี้จึงยิ่งหนุนและเสริมส่งให้แรงขึ้นไปอีก เพื่อปรารถนาจะให้ผู้ใช้มีพลังใจจะได้สร้างคุณงามความดีต่อไป ท่านจึงลงอาถรรพ์ดาวเหนือนี้เพื่อบรรเทาวิบากกรรม ท่านว่าองค์ธาตุกลุ่มดาวนี้มีอาถรรพ์มากแม้คนชั่วหากกลับใจก็ยังใช้ได้ ท่านต้องเสกจนดาวส่องประกายก่อวิถีเชื่อมต่อมรรคาฟ้าดินเชิญเจ็ดเทพสถิตย์ชำระแผ่นดิน แม้ดาวนี้อยู่ที่ไหนก็ตกต่ำไม่ได้...เหนือคน .เหนือดาวด้วยกันทั้งสิ้น ช่วยให้ชนะนำพาชีวิตด้วยแสงสว่างในยามที่สิ้นไร้หนทาง ต้องสว่างฉับพลัน รุ่งเรืองฉับพลัน ท่านลงอาถรรพ์ให้ชีวิตเราเป็นดั่งอาณาเขตของหมู่ดาวเหนือมีแต่ต้องเหนือต้องสว่างมากยิ่งๆขึ้นไป ดั่งดวงของเรามีฟ้ามีดวงดาวคอยโอบอุ้มชะตาไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าขอให้อาราธนาเถิดชีวิตจะผลิดอกออกผลทันทีต้องเหนือคนใหญ่โต แม้คนดวงตกชีวิตพังทลายดวงแตกท่านว่าหากยังไม่ตายก็ให้เร่งขวนขวายไว้เถิดจะตกต่ำไม่ได้ติดดินก็ไม่นาน นี่คืออำนาจดาวเหนือหนุนชีวิต จะหนุนให้เหนือทุกผู้คน เหนือกว่าใคร ไปได้สูงกว่าทุกคนเช่นนี้ เพราะเป็นดาวของผู้นำ ยิ่งชีวิตใครต้องสู้ต้องประชันขันแข่งแก่งแย่งกับคนอื่นยิ่งแพ้ไม่เป็น ตัวของเราชื่อของเราจะสว่างไม่รู้ดับไปชั่วกัปกัลป์ ดั่งความเชื่อจีนโบราณที่ว่าองค์จักรพรรดิหรือเทียนตี้คือผู้ที่มาจากดาวเหนือ กลุ่มดาวเหนือจึงเป็นดาวที่ใช้แทนองค์จักรพรรดิ์ ดึงพลังอำนาจความยิ่งใหญ่สู่ตัวเราโดยตรงผ่านองค์ธาตุอาตมันเช่นนั้น
****ซ้ำองค์ธาตุเม็ดเล็กๆนั้นก็ยังมีอานุภาพมากดั่งที่ท่านเรียกว่าเล็กพริกขี้หนู
*** เหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณ
ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน
การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น) เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน
พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น) ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น
องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย
องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น
*** ด้วยอจินไตยเป็นสิ่งเกินหยั่งคาด
ดวงธาตุนี้ก็เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากเป็นกายสิทธิ์ธาตุแห่งองค์อาตมันแล้วยังมีเหล่าทิพย์กายของมหาพรหมคอยรักษา โดยเฉพาะครูใหญ่องค์สหัมบดีพรหมเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงกล่าวเป็นนัยน์ๆว่าองค์ธาตุนี้ใครได้ครอบครองถือว่าได้ของดีหลายต่อเลย ด้วยครูพรหมสหัมบดีนั้นเป็นบรมครูผู้ยิ่งใหญ่และประเสริฐสุดในฝ่ายพรหมของพระพุทธศาสนา เป็นเจ้าแห่งพรหมโลกผู้อาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกโปรดเวไนยสัตว์ด้วยพระเมตตาของพระองค์ ทั้งยังเป็นบรมครูผู้เป็นใหญ่เป็นผู้นำแห่งหมู่มหาพรหมสุทธาวาส เป็นพรหมผู้ได้ชื่อว่ามีรัศมีรุ่งเรืองที่สุด...เป็นใหญ่สูงสุดเปรียบดั่งกษัตริย์เหนือกษัตริย์..เทพเจ้ายิ่งเทพเจ้าในหมู่พรหม ท่านเป็นผู้ซึ่งได้รับการอ่อนน้อมการกราบไหว้บูชาทุกภพภูมิ และเมตตารักใคร่สรรพสัตว์ผู้ทุกข์ยากมากที่สุดก็คือท้าวสหัมบดีพรหมผู้เป็นบรมครูใหญ่ของพ่ออาจารย์พลนั่นเอง
บรมพรหมสหัมบดีนั้นมีความผูกพันธ์กับพ่ออาจารย์มากด้วยแรงครูของสายพรหมปัญจสุทธาวาสนี้ท่านบอกว่ามีดีทุกด้าน ขอได้ทุกอย่าง ท่านว่าเธอเชื่อมั๊ย คนเราเกิดมาไม่พ้นกรรม ไม่มีวัตถุมงคลใดช่วยเรื่องกรรมได้ เเต่พระพรหมเหล่านี้ไม่ใช่แบบนั้นโดยเฉพาะ...ครูสหัมบดีพรหม อิทธิคุณท่านพลิกฟ้าพลิกดินเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ ใครที่มีกรรมหนักตามสนอง ถ้าครูท่านเมตตาก็จะช่วยให้เบาบางได้มีโอกาสทำคุณงามความดีชดเชยบาปกรรมทั้งหลาย เรียกได้ว่าผ่อนหนักเป็นเบาจากเรื่องร้ายๆก็จะค่อยๆจางหายไป ถ้ายังมีบุญเเละความดีอยู่ท่านก็จะช่วยให้ได้รับอานิสงค์ของผลบุญนั้นไวขึ้น นี่บารมีพระพรหมสหัมบดีดีอย่างนี้ท่านสถิตย์อยู่ในอกนิฏฐาสุทธาวาสมหาพรหม พูดง่ายๆคือชั้นสูงสุดเป็นภพภูมิแห่งรูปพรหมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชั้นปัญจสุทธาวาสและทั้งหมดของรูปาวจรภูมิ แม้แต่พระอินทร์หรือท้าวสักกะเทวราชแห่งดาวดึงษ์ ก็ยังตั้งความปรารถนาขอมาเกิดเป็นพรหมชั้นนี้
นอกจากนี้องค์ธาตุยังมีพระญาณของเหล่าอกนิฏฐามหาพรหมคอยรักษา พรหมอกนิฏฐ์นี้เป็นพรหมชั้นผู้ใหญ่ที่อุบัติมาจากพระอริยบุคคลระดับอนาคามี ที่มีอินทรีย์ คือสัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญาแก่กล้าบริบูรณ์ทุกส่วน แต่มีปัญญาโดดเด่นที่สุด จัดอยู่ในกลุ่มพระอนาคามีระดับสูงสุดมีชื่อเรียกเฉพาะว่าอุปหัจจปรินิพพายีหมายถึงผู้จวนจะถึงปรินิพพาน กับอันตราปรินิพพายี คือผู้ปรินิพพานในระหว่างหมายถึงไม่อยู่เป็นมหาพรหมจนครบอายุขัยแห่งมหาพรหมนั้น เมื่อถึงวาระเเละจบภารกิจก็จะเข้านิพพานเลย *** มหาพรหมอกนิฏฐ์เหล่านี้ท่านว่าทุกพระองค์ล้วนสูงสุดและสูงส่งมีอำนาจมากล้นพ้นประมาณ ซึ่งมหาพรหมอกนิฏฐาสุทธาวาสนี่แหละที่มักลงมาถ่ายทอดวิทยาการต่างๆให้มนุษย์โลกเพื่อจะได้เอาไว้ใช้ปรับตัวเวลาเผชิญปัญหาเหตุการณ์ซับซ้อนต่างๆได้ ทั้งยังคอยเป็นห่วงมาบอกข่าวแจ้งข่าวล่วงหน้าเสมอๆแม้สมเด็จพระบรมศาสดายังได้ยืนยันเอาไว้เองว่าพรหมเหล่านี้แหละที่มักรอบรู้ถึงการบรรลุธรรมขั้นต่างๆของมนุษย์ที่มนุษย์เองยากนักจะรับรู้ได้.... พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น)
ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด

องค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรเป็นเจ้านั้น พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าเป็นเครื่องมงคลสูงค่ามาก ทั้งชีวิตท่านก็ทำได้เพียงครั้งเดียว ใครจะได้ ใครจะมีวาสนาก็ให้องค์หลวงพ่อกับเจ้าของมวลสารท่านดลใจเลือกคนของท่านเอง ### แต่หากจะถามเราว่าใครคือเจ้าของมวลสารนั้นเอาเป็นว่าเราบอกไม่ได้ พูดได้แต่เพียงได้ยินชื่อเท่านั้นก็สะดุ้งไปเจ็ดชั่วโคตร เอาว่าใช้นำพลังอาถรรพ์นำพุทธคุณมาหนุนตัวเท่านั้นก็พอ ที่ไม่ควรรู้ไม่ควรเอ่ยก็อย่าไปรู้ใดๆเลย

คาถาบูชา
วิ เว โก อัง เย หิ (หมั่นอาราธนาองค์พระจะไม่เดือดร้อนด้วยภัยใดๆเลย)

*** องค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรนั้น พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้หกองค์แต่ท่านอาราธนาสวมคอท่านองค์หนึ่ง จึงมีให้บูชาห้าองค์เท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้จองพร้อมแจ้งวันเดือนปีเกิดเวลาตกฝากตลอดจนสิ่งติดขัดในชีวิตบอกเอาไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะลงอาถรรพ์วิชาทั้งสื่อสารกับดวงพระวิญญาณ..ให้เพื่อจะได้สงเคราะห์รวดเร็วเป็นรายบุคคลไป รายได้ร่วมสร้างห้องน้ำในวัดทุรกันดารสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา องค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรพระร่มฉัตรทรงแส้ปัดรังควาน(ฝูงพญาวิฬา,อัสดรกัณฐกะเหยียบหมู่ดาว) บูชา 4,000 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...ยง-พ่ออาจารย์พล.539894/page-499#post-11154588

 

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดอัษฏมบรมโพธิสัตว์สงเคราะห์โลก(ตัวครูแปดพลัง - แปดจอมราชัน)

หากจะกล่าวถึงวิชาพระอรหันต์แปดทิศนั้น พ่ออาจารย์ท่านจะนิยมใช้ศาสตร์ที่ครูเทพครูพรหมประสิทธิ์ไว้เฉพาะแก่ท่านมากกว่า นั่นคืออัษฏมหาโพธิสัตว์หรือที่ท่านเรียกว่าแปดจอมราชัน ซึ่งเหล่ามหาโพธิสัตว์ทั้งแปดนี้จะเป็นดั่งกำแพงแก้วแวดล้อมองค์พระพุทธเจ้าทั้งแปดทิศ แต่ละพระองค์ล้วนมีฤทธิ์และให้คุณต่างๆกันไป

ซึ่งแปดมหาโพธิสัตว์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแต่ละองค์ล้วนมีบารมียิ่งใหญ่และมีการนับถือกันมายาวนานหลายพันปีทั้งในอินเดีย จีน ทิเบต ชวา อินโด... โดยทั้งแปดพระองค์นั้นได้แก่ 1.พระเมตตรัย(พระศรี) 2.พระคคนคัญชะ 3.พระสมันตภัทร 4.พระวัชรปาณี 5.พระมัญชุศรี 6.พระสรรวนิวรณวิษกัมภี 7.กษิติครรภ์ 8.พระขครรภ์ ทั้งแปดพระองค์นี้พ่ออาจารย์ท่านถือเป็นครูใหญ่สายมหาโพธิสัตว์อันมากปาฏิหาริย์ทั้งสิ้น เรียกว่าท่านยกเป็นครูสายปาฏิหาริย์บารมีอันไม่มีประมาณแม้พระองค์ใดพระองค์หนึ่งก็มีฤทธิ์สุดหยั่งคาดเป็นที่สุด เมื่อครูทั้งแปดทิศมาประชุมกันและออกโองการให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดแปดจอมราชันขึ้นมาได้ โดยใช้สูตรและคาถาแปดบทแทนองค์ท่านทั้งแปด ซึ่งการชักยันต์วาดยันต์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าล้วนเป็นเวทย์สวรรค์ทั้งสิ้น แต่ละยันต์แต่ละมหาสัญลักษณ์นั้นครูท่านจับมือเราเขียน(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) ท่านว่าตะกรุดแปดจอมราชันนี้มีคุณเป็นอนันต์ไร้จุดบกพร่อง เรียกได้ว่ามีพลังงานและบารมีอันจะโปรดโลกได้เต็มทั้งแปดสายครอบคลุมหมื่นโลกธาตุ

อันมหาโพธิสัตว์(แปดจอมราชัน)ในแต่ละพระองค์นั้นย่อเป็นตัวแทนของคุณวิเศษแตกต่างกันไป
1. พระเมตตรัย หรือพระศรีอริยเมตไตรย เป็นที่รู้จักกันดีทั้งยังเป็นที่นับถือของชาวพุทธทุกนิกาย ตามความเชื่อว่าเป็นพระโพธิสัตว์ผู้ที่จะมาอุบัติเป็นพระพุทธเจ้าต่อจากพระศากยมุนีหรือพระโคตมพุทธเจ้า
พระองค์ท่านเป็นตัวแทนของ "มหาไมตรี" อันได้แก่ความเป็นมิตรไมตรี ความเมตตาปรารถนาดีอันไม่มีประมาณที่พระองค์ท่านจะถ่ายทอดผ่านเวทย์สวรรค์ภายในตะกรุดเข้าสู่เราผู้รับโดยตรง ด้วยเชื่อว่าท่านมีความเมตตาเสมอด้วยเมตตาขององค์พระศาสดาที่มีต่อสรรพสัตว์ ท่านจะถือพระองค์ดั่งเป็นกัลยาณมิตรที่ดีกับเราอยู่เสมอ เช่นนั้นองค์พระเมตตรัยนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระองค์ย่อมมีจิตสงเคราะห์ไปในโลกธาตุทั้งมวล อานุภาพของท่านจะเกื้อกูลและนำประโยชน์ที่เราปรารถนามาให้ จะเปลี่ยนสิ่งที่ผิดเป็นถูก เปลี่ยนเส้นทางที่พังพินาศเป็นหนทางที่ราบเรียบ

2. พระคคนคัญชะ เป็นตัวแทนของ"มหากรุณาและมหาอุปายะ" พระองค์เป็นมหาโพธิสัตว์ที่ได้รับการนับถือตั้งแต่ในอินเดียลงมา พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์นี้จะมีกำลังด้านสมาธิช่วยเหลือผู้ที่หมั่นปฏิบัติตนทำสมาธิทั้งหลาย ซึ่งท่านเป็นตัวแทนของมหากรุณาเช่นเดียวกับพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เช่นนั้นตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าครูในโลกทิพย์ท่านจึงกำชับให้เป็นเคล็ดลับว่าต้องลงไว้ทั้งสองกำลังอันเป็นตัวแทนแห่งมหากรุณาของที่สุดทั้งสองนั่นเลยทีเดียว
เช่นนั้นหากพูดถึง"มหากรุณาและอุปายะ"แล้วก็จะมีกำลังของพระอวโลกิเตศวรอยู่เต็มพระบารมีแห่งมหาสัตว์เจ้า ด้วยองค์อวโลกิเตศวรนั้นก็มีผู้นับถืออย่างมากถึงขั้นเรียกว่าเป็นมหาโพธิสัตว์ในอุดมคติ เพราะท่านตั้งใจที่จะโปรดสัตว์อันตกทุกข์ทั้งหลายในทุกแง่มุมให้สิ้นทุกภพภูมิ เช่นนี้จึงนับว่าเป็นตัวแทนของมหากรุณาเช่นกัน
ทั้งสองพระองค์นี้ล้วนมีกรุณาธิคุณอันไม่มีประมาณ เป็นกรุณาธิคุณเสมอด้วยองค์พระสัมมาสัมโพธิญาณที่มีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยเป็นกรุณาอันประกอบด้วยปัญญาและอุบายที่จะยกเอาตัวผู้อาราราธนาออกจากทุกข์เข็ญ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ท่านโปรดไม่เลือกชั้นวรรณะจะยากดีมีจนท่านโปรดหมด เพราะคติของท่านคือไปคนเดียวไม่ได้ ท่านไม่ทิ้งสรรพสัตว์ไม่ทิ้งผู้ที่หวังพึ่งท่าน...คือท่านไม่ทิ้งเรา ท่านจะช่วยเราด้วยจิตกรุณาหากเรายกตะกรุดนึกถึงท่านเช่นนี้ ผู้อาราธนาจะได้อาศัยพระกรุณานี้นำตนข้ามพ้นความวิบัติล่มจมทั้งหลายได้ในฉับพลัน

3. พระสมันตภัทร เป็นตัวแทนของ "มหาจรรยา" ด้วยอำนาจของมหาโพธิสัตว์องค์นี้จะช่วยอำนวยแก่เราในด้านความสำเร็จทุกกิจที่พึงคิดพึงทำ พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งหากเป็นผู้ปฏิบัติธรรมด้วยแล้วท่านยิ่งโปรดมากเลย ท่านจะรักษาและส่งเสริมเป็นพิเศษ องค์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีกำลังกล้าแกร่งมากเพราะพระองค์ท่านเป็นตัวแทนของบารมีทั้งหก ยิ่งถ้าใครหวังความสำเร็จในการงานหน้าที่หรือกิจทางโลกทั้งหลาย ต้องอาศัยบารมีขององค์สมันตภัทรเท่านั้น
ท่านเป็นตัวแทนกำลังของ"มหาจรรยา" หรือจริยาวัตรของพระพุทธเจ้าทั้งหลายอันมีที่มาจากโพธิสัตว์จรรยานี้ เริ่มตั้งบุคคลทั่วไปประพฤติกุศลกรรมบถพัฒนาตนเองจนเกิดศรัทธาปรารถนาโพธิญาณ...ยาวนานไปจนได้รับพุทธพยากรณ์บำเพ็ญบารมีในแต่ละขั้นบรรลุภูมิบรรลุธรรมทั้งหลายเพื่อจะตรัสรู้และหมุนกงล้อธรรมจักรอนุเคราะห์สรรพสัตว์ต่อไป เช่นนี้กำลังแห่งมหาจรรยาจึงยิ่งใหญ่มากครอบคลุมผู้ปฏิบัติธรรมและเหล่าโพธิสัตว์ทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนี้บารมีท่านจึงใหญ่เพราะหน้าที่ของท่านครอบคลุมวงจรแห่งมหาจรรยาทั้งหมด

4. พระวัชรปาณี เป็นตัวแทนของ"มหาพละ" ท่านมีหน้าที่คอยคุ้มครองพระพุทธเจ้าและพระธรรมวินัยดั่งมีอีกนามปรากฏว่าพระธรรมบาลโพธิสัตว์ ด้วยท่านถือวัชระอันเป็นได้ทั้งสายฟ้าและเพชรเป็นเทพศาสตรา พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้มีญาณเฉียบคมว่องไวดุจสายวัชระฟาดฟันกิเลสทั้งปวง ท่านคอยคุ้มครองอารักขาแก่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย บ้างก็ว่าท่านจำแลงกายมาเป้นยักษ์บ้างถือกระบองเพชรบ้าง บางครั้งก็จำแลงเป็นเทพสง่างามดั่งพระอินทร์บ้าง...ท่านจำแลงได้ทั้งสิ้น
ท่านมีหน้าที่ขจัดสิ่งชั่วร้ายและอุปัทวอันตรายทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าบารมีครูองค์นี้โปรดใครเอาว่าชีวิตปลอดภัยไม่เลือดตกยางออกทั้งคนพาลทุจริตหรือใครที่โดนคนอื่นรังแกพวกนี้ ถ้าเราถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเลวร้ายในชีวิตเราท่านจะขจัดให้ทันทีไม่ได้เฉียดใกล้กันเลย
ท่านเป็นตัวแทนของ"มหาพละ" หรือกำลังทั้งสิบของพระพุทธเจ้า นั่นคือกำลังแห่งญาณอันนับเป็นตถาคตพลญาณอันประกอบขึ้นเป็นที่มาแห่งนามทศพลนั่นเอง เช่นนั้นครูองค์นี้จึงมีกำลังญาณลึกซึ้งสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านว่ามีกำลังอันเกิดจากญาณเกิดจากฤทธิ์ไม่มีประมาณ อยากได้อะไรเห็นผลไวทันตาก็ลองออกนาม เรียกบารมีท่านในตะกรุดแล้วขอท่านดู

5. พระมัญชุศรี เป็นตัวแทนของ"มหาปรัชญา" พระองค์เป็นมหาโพธิสัตว์ยุคต้นที่รู้จักกันมากว่าเก่าแก่ที่สุด ท่านเป็นผู้เลิศด้วยปัญญา โปรดนำพาแสงสว่างเป็นดวงปัญญาให้กับคนที่ดวงตามืดบอด พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่มีปัญหาพวกชีวิตเส้นผมบังภูเขา รู้และยอมรับว่าตัวเองขาดตัวปัญญาทำอะไรไม่รอบคอบทำลงไปแล้วค่อยมาเสียดายที่หลังว่าไม่น่าทำเลย ทำไมแค่นี้เราคิดไม่ได้ แค่เรื่องนี้เราลืม เรามองข้ามไปได้อย่างไร ...เหล่านี้ ท่านให้ขอองค์พระมัญชุศรีโปรดนำชีวิตเพียงเท่านี้ทุกอย่างที่กล่าวมาจะเปลี่ยนได้หมดเลย
พระองค์ท่านชอบนักปราชญ์ ให้การอภิบาลแก่ผู้มีปัญญา ทั้งยังเป็นมหาโพธิสัตว์ที่เป็นเจ้าแห่งตำราและศิลปวิทยาการทั้งปวง ใครที่หวังความเจริญในการศึกษา อยากเข้าใจแจ่มแจ้งในแขนงงานใดหรือกิจใดที่จะกระทำเพื่อให้กิจนั้นออกมาดีที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ขอบารมีพระมัญชุศรีเสีย
ด้วยเป็นตัวแทนของ"มหาปรัชญา" หรือดวงปัญญา กล่าวง่ายๆคือท่านเป็นดั่งพระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เมื่อาราธนากำลังแห่งมหาปรัชญานี้เราจะรอบรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ ใจของเราจะหยั่งรู้เหตุและผลมีความเข้าใจในสภวะทั้งหลายรอบตัวตามความเป็นจริง ทั้งองค์พระมัญชุศรีนี้ยังประกอบไปด้วยญาณรู้สิ่งทั้งปวงอันจะนำมาซึ่งประโยชน์แก่ผู้อาราธนา(ท่านจะจัดและคัดสรรค์ทุกอย่างมาเฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตเราเพื่อการพัฒนาตนเองจริงๆ)

6.พระสรรวนีวรณวิษกัมภีน เป็นตัวแทนแห่ง"มหาคุณ" องค์นี้ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ผู้ขจัดนิวรณ์ธรรมทั้งปวงจะไม่เป็นที่รู้จักกันมากนักหรืออาจถูกลืมไปเลยในชนรุ่นหลัง แต่คุณวิเศษของท่านนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่างานหลักเลยคือขจัดอุปสรรค ใครที่ชีวิตมีอุปสรรคเครื่องขัดขวางเยอะ ดูอะไรแล้วขวางหูขวางตายังไม่พอใจกับชีวิตตนเองให้ขอบารมีองค์นี้
แม้อุปสรรคในการปฏิบัติธรรม พวกนั่งไม่ติดนั่งแล้วตัวทุกข์กำเริบ อารมณ์กระเจิดกระเจิง...ต่างๆเหล่านี้ก่อนปฏิบัติให้ยกตะกรุดขอบารมีท่านคุมไว้จะไม่มีอาการเหล่านี้ปรากฏเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายคนมักจะลืมท่านเพราะคนที่ปฏิบัตินั้นน้อยลงเต็มที ก็เอาเป็นว่าขอทางโลกให้ขอกับองค์อื่นแต่วันไหนนึกอยากปฏิบัติธรรมเห็นมรรคเห็นผลก็ให้ขอเอากับองค์นี้
ท่านเป็นตัวแทนของ"มหาคุณ" คือองค์คุณแห่งการตรัสรู้ การรู้แจ้งของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ทั้งยังมีกำลังเหนือนิวรณ์และกิเลสสิ่งมัวหมองที่คอยขัดขวางไม่ให้คนบรรลุคุณธรรม ไม่ให้ชีวิตมีความก้าวหน้า ท่านจะกำจัดนิวรณ์คืออุปสรรคเหล่านั้นให้ถึงซึ่งธรรมแห่งการตรัสรู้ ทั้งวิชชา วิมุติ และนิพพาน


7. พระกษิติครรภ์ ท่านเป็นตัวแทนของ"มหาปณิธาน" องค์นี้จะมีผู้นับถือมากในหลายๆประเทศด้วยมีคุณสมบัติเด่นชัดทางมหากรุณา(กรุณาต่อสัตว์มาก)แต่ท่านชัดเจนที่สุดในมหาปณิธานไปพร้อมๆกัน ด้วยปณิธานของท่านนั้นมีอยู่ว่า "ตราบใดที่นรกยังไม่ว่างจากสัตว์ทั้งหลาย พระองค์จะไม่ขอตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า"
ท่านชอบโปรดสัตว์ในนรกภูมิ โดยเฉพาะสัตว์เฉพาะคนที่ตกทุกข์ได้ยากรับทัณฑ์โทษทุกข์ทรมานเหล่านี้ ท่านจะอาศัยฤทธิ์เดชบรรเทาให้ออกจากทุกขเวทนาทั้งหลาย ทั้งยังคอยชี้แจงบาปบุญให้ใจเรารู้สึกรู้สำนึกมีสติเกิดขึ้น รู้คิดว่าสิ่งไหนคือบาปคือบุญผิดหรือถูกควรหรือไม่ควรเพื่อให้ชนทั้งหลาย....มีโอกาสได้กลับใจ
ด้วยท่านคอยช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานในอบายภูมิจึงได้รับการนับถือในฐานะพระโพธิสัตว์แห่งคนตายและดวงวิญญาณ ทั้งยังให้การพิทักษ์แก่ผู้อ่อนแอและพ่ายแพ้ในชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าใครเป็นโรคที่รักษาไม่หายให้ขอบารมีท่านเลยเอาตะกรุดแกว่งน้ำขอบารมีท่านรักษาดื่มกินได้เลย
ท่านเป็นตัวแทนของ"มหาปณิธาน" หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆคืออธิษฐานบารมี การอธิษฐานด้วยความตั้งใจและทำไปอย่างมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวเด็ดขาด ดั่งมหาปณิธานของพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่บำเพ็ญมานับภพชาติไม่ถ้วนก่อนได้ตรัสรู้ เป็นปณิธานอันเด็ดที่ที่มีแต่ความสูญเสียในทุกๆสิ่งแม้แต่ชีวิตก็ยังไม่ละทิ้งเป้าหมายเช่นนั้นเพื่อไปให้ถึงพระโพธิญาณเพื่อประโยชน์แก่สรรพสัตว์หรือผู้อื่นไม่ใช่เพื่อตนเอง
พ่ออาจารย์ท่านว่าใครขอบารมีพระกษิติครรภ์นี่ท่านจะทำให้อย่างถึงที่สุดเลยเพราะคุณของท่านนั้นเป็นเป้าหมายที่มีไว้สำหรับผู้อื่น เป็นหน้าที่ซึ่งต้องเห็นผู้อื่นมาก่อนตนเองเสมอเช่นนั้นท่านจึงช่วยเราอย่างเต็มที่ พวกที่เกิดมานับชาติไม่ถ้วนไม่มีบุญเก่าไม่มีบารมีไม่มีวาสนาติดตัวเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ยกตะกรุดขึ้นขอบารมีท่านแล้วรีบหมั่นทำกุศลอย่าได้ขาด เพียงเท่านี้ท่านว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่นั่นทีเดียว ไม่ต้องเสียเวลานั่งอดนั่งรอที่ไม่รู้ว่าจะรออะไรไปวันๆ ท่านจะช่วยเราไปจนถึงซึ่งความสุข ถึงสุคติภูมิ ถึงพระนิพพานนั่นทีเดียว

8.พระขครรภ์(อากาศครรภ์) เป็นตัวแทนแห่ง"มหาสมาธิ" ท่านเป็นองค์กำลังของสุญญตาและอนัตตาคือความไม่มีตัวตนของสิ่งต่างๆ องค์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญมากใครที่รู้ตัวเองว่าเคยทำความผิด ให้อธิษฐานบอกเล่าความผิดสารภาพบาปกับพระองค์ก่อนเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่เช่นนั้นท่านว่าเริ่มไปมันก็ไม่เดินเพราะติดบ่วงกรรม มันเดินไปต่อไม่ได้
ท่านเป็นพระโพธิสัตว์แห่งการปลงอาบัติ,การสารภาพบาปและการกลับใจ เป็นพระโพธิสัตว์ผู้โปรดสัตว์ผู้กระทำชั่วให้กลับมาประพฤติธรรม ทั้งยังอยู่ในฐานะพระโพธิสัตว์แห่งสมาธิ,ความบริสุทธิ,ความรู้,ภูมิปัญญา...การประทานพรและความโชคดี ใครที่อยากขอขมากรรมต่อบิดามารดาผู้ล่วงลับหรือครูบาอาจารย์แม้แต่ผู้ที่เคยล่วงเกินทั้งหลาย ท่านว่าให้จบตะกรุดขึ้นออกนามพระองค์ขอบารมีพระองค์ฝากคำขอขมาของเราไปพ่ออาจารย์ท่านว่าย่อมไปถึงทั้งหมดทีเดียว (อันนี้สำหรับคนที่ทำมาหากินไม่ขึ้นควรจะทำ)
ท่านเป็นตัวแทนของมหาสมาธิ อันเป็นสมาธิของพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ทรงเข้าออกเพื่อแสดงธรรมอันมีหัวข้อต่างๆ เป็นสมาธิอันเป็นที่มาแห่งคุณวิเศษมากมาย

อันมหาโพธิสัตว์ทั้งแปด หรือจะเรียกว่าตะกรุดแปดพลังนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าลงยากมากเพราะแต่ละทิศแต่ละยันต์ที่ใช้แทนครูแต่ละพระองค์นับได้ว่ามีอาถรรพ์สูงมีคุณวิเศษค่าควรเมือง ในอดีตนั้นท่านเคยออกให้บูชาเฉพาะผู้มีเคราะห์หนักคนหนึ่ง เขาว่าใส่ไปเรื่อยๆก็เห็นองค์พระโพธิสัตว์มาโปรดเขา(ไม่รู้องค์ไหน) มายืนยิ้มให้เขาเห็นแต่เห็นโดยตาเนื้อนั่นทีเดียว ที่รู้ว่าเป็นโพธิสัตว์เพราะเขาว่าคนที่ไหนจะมีรัศมีกายเวลายืนยิ้มมองมาที่เรา หลังจากเขาเอาตะกรุดไปสารภาพบาปของเขา ก็หมั่นเร่งทำบุญชีวิตมีแต่ดีขึ้นๆจนเดี๋ยวนี้มีครบในสิ่งที่คนสมบูรณ์แบบควรจะมี ไม่มีทุกข์ร้อนใดๆเลย พ่ออาจารย์ท่านจึงเก็บเอาไว้เพราะตั้งใจจะใช้สงเคราะห์คนด้วยเป็นตะกรุดที่มีอาถรรพ์มาก ทำยากและแรงครูสูง

ด้านในท่านอุดผงวิเศษที่ลบถมจากมวลสารเฉพาะ นั่นคือมวลสารอันเป็นตัวแทนพระโพธิสัตว์แต่ละพระองค์ที่แต่ละพระองค์ท่านให้หามาทำเป็นผงก่อนจะลงอาถรรพ์กำกับทีละชนิด แล้วจึงนำมาปั้นรวมเป็นแท่งเขียนผงวิเศษหลากหลายสูตร ตั้งแต่ผงดอกบุนนาค(แทนพระเมตตรัย),ผงบัวหลวง(แทนพระอวโลกิเตศวร),ผงสุริยะมณฑล(แทนพระสมันตภัทร),ผงตะไบวัชระ(แทนพระวัชรปาณี),ผงดอกบัวขาบ(แทนพระมัญชุศรี),ผงจันทรมณฑล(แทนพระสรรวนี),ผงจินดามณี(แทนพระกษิติครรภ์),ผงตะไบพระขรรค์โบราณ(แทนพระอากาศครรภ์)

พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดรุ่นนี้ทำไว้ได้น้อยนักและจะทำครั้งเดียว ผู้ที่ได้ไปให้ใช้สวมคอและครองเอาไว้ให้ดีเถิดท่านว่ามีคุณเป็นเอนกประการสุดแล้วแต่จะอาราธนา ถ้าไม่ทำตัวต่ำช้า ทำเรื่องชั่วมากเกินเยียวยา... ใช้ตะกรุดแปดจอมราชันต้องดีขึ้นทุกคน

คาถาบูชา
อัษฏา โพธิสัตตวายะ ตทยถา เมตตรัยยะ คคนคัญชะ สมันตภัทร วัชรปาณิ มัญชุศรี สรรวนิวรณวิษกัมภี กษิติครรภ์ ขครรภ์ สะเจติ

*** รายการนี้มีทั้งหมดห้าดอก พ่ออาจารย์ท่านใช้ปักกระถางธูปเชิญครูทั้งแปดมาสงเคราะห์อยู่ดอกหนึ่ง มีให้บูชาสี่ดอก รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้นผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดเอาไว้ด้วยเพราะพ่ออาจารย์ท่านต้องเจิมบอกกล่าวครูบาอาจารย์ให้อีกครั้ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดอัษฏมบรมโพธิสัตว์สงเคราะห์โลก(ตัวครูแปดพลัง - แปดจอมราชัน) บูชา 4,000 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...าว-พ่ออาจารย์พล.539894/page-499#post-11157673

 

ร่วมทำบุญบูชา พระผงสยบเก้าโลกยกข้ามวรรณะปรับภพภูมิ (ครองสมบัติสวรรค์เก้าชั้นฟ้า)

"มนุษย์ทุกคนย่อมถวิลหาการเปลี่ยนแปลง"
แม้การเปลี่ยนแปลงนั้นก็มีขึ้นมีลง พ่ออาจารย์ท่านจึงอนุญาติให้นำ "พระผงสยบเก้าโลกยกข้ามวรรณะปรับภพภูมิ" ออกมาแก้ไขสถานการณ์ ด้วยหวังประโยชน์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ซึ่งองค์พระนั้นจะประทับพระบาทสยบเก้าโลกครองสมบัติเก้าชั้นฟ้ามีพุทธคุณให้เราก้าวไปได้ข้างหน้าเสมอไม่ถดถอย ดุจเหยียบขึ้นสูงไปเรื่อยๆขึ้นไปในชั้นฟ้าทีละชั้นเช่นนั้นเป็นการก้าวเข้าไปหาความสุขที่ประณีตยิ่งขึ้น

ด้วยองค์พระนั้นสามารถอาราธนาปรับภพภูมิให้แก่ตนเองและผู้อื่นได้ ทั้งยังยกเราก้าวพ้นข้ามวรรณะวิถีชีวิตที่เสื่อมต่ำลงได้ เมื่อได้ชื่อว่าวรรณะย่อมหมายถึงสิ่งที่ถูกกำหนดถูกลิขิตมาแต่ชาติกำเนิด อย่างที่คนเราเกิดมาแล้วนึกแคลงใจว่าทำไมตนต้องเกิดมาต่างจากคนนั้นคนนี้มีสถานต่างกันตั้งแต่เกิดทำให้วิถีชีวิตต่างกันออกไป เรียกได้ว่าถูกกำหนดมาตายตัวแล้ว พอจะมีกำลังเปลี่ยนแปลงยกสถานภาพของตนขึ้นมาก็เหนื่อยท้อลำบากไม่สิ้นสุด จนบางคนเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ดั่งวรรณะทั้งสี่ที่ถูกลิขิตไว้ให้วรรณะสุดท้ายนั้นต่ำตมโดยชาติกำเนิดไม่สามารถเลือกเกิดได้ ต้องเป็นคนที่ต่ำกว่าคน เป้นมนุษย์ที่ต่ำกว่ามนุษย์คอยรับใช้มนุษย์ด้วยกัน ไปที่ไหนก็ไม่เข้าพวกเหมือนเราต่างจากคนอื่นเป็นบุคคลอันไม่พึงประสงค์เช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งนี้มันเป็นที่เวรกรรมเขาลิขิตมา เพราะคนเราเกิดมาเลือกเกิดไม่ได้ ชีวิตบางคนก็ถูกกีดกันผลักไสออกไปจากสิ่งที่ควรได้ควรมีด้วยดวงเกิดและโชคชะตาของตน บางคนดิ้นรนต่อสู้แต่ก็ไม่เห็นหนทางไม่มีใครยอมรับ ไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตตนให้ดีกว่าเดิมเข้าไปมีสถานภาพทางสังคมที่สูงขึ้น พวกที่ถูกกดขี่ ถูกรังแก ถูกกลั่นแกล้งทุกทางเสมอ คนที่รู้สึกว่าชีวิตร้อนรุ่ม ยิ่งพยายามยิ่งดินรนก็ยิ่งเหมือนเอาตัวเองไปสู่ขุมนรก...แต่ก็ยังไม่ทิ้งความหวังว่าสักวันหนึ่งเราจะนำตัวเองออกไปให้พ้นจากภาวะอันต่ำต้อยนี้ เราจะต้องมีชีวิตที่ปกติสุขไม่ต้องคอยหาเช้ากินค่ำจะใช้จ่ายอะไรทีก็ต้องกังวลชักหน้าไม่ถึงหลัง คนที่ยังไม่ทิ้งความหวังนั้นจึงควรใช้พระยกข้ามวรรณะปรับภพภูมินี้

องค์พระนั้นสามารถใช้อาราธนายกระดับชีวิตตนเองได้ แล้วก็ยังอาราธนาปรับภพภูมิแก่ผู้อื่นรวมถึงคนที่ตายจากไปแล้วได้ไม่ว่าเขาจะอยู่ในโลกไหนมีการเกิดใหม่เป็นอะไรก็ดี พ่ออาจารย์ท่านทำวิชาและอาราธนาองค์ต้นธรรมเพื่อสร้างพระผงรูปเหมือนให้กับท่าน ด้วยองค์ต้นธรรมนั้นท่านไม่แบ่งแยกชนชั้นวรรณะหรือชีวิตความเป็นอยู่ผู้ใด ท่านไม่ปิดกั้นใคร เพราะสำหรับลูกๆของท่านนั้นทุกคนเสมอภาคกันในความเป็นมนุษย์ทั้งหมด สำหรับองค์ต้นธรรมนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นลูกของท่านย่อมไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะ ไม่มีการเปรียบเทียบว่าใครจะสูงหรือต่ำกว่ากัน ท่านจะยกเราข้ามพ้นวรรณะหรือพรหมลิขิตแต่เดิมอันไม่อาจหักหาญเปลี่ยนแปลงต่อสู้เพื่อลบล้างความอยุติธรรมในชีวิตได้ด้วยความพยายาม เช่นนั้นท่านจึงให้พ่ออาจารย์สร้างพระผงรุ่นนี้เพื่อลงวิชาพิเศษให้คนอาราธนาสามารถอาราธนายกระดับชีวิตตนเองและปรับภพภูมิแก่ผู้อื่นได้ด้วยประสงค์ดีของเรา ท่านว่าจะได้เป็นการทำบุญเติมบุญอย่างง่ายๆอยู่ที่ไหนก็ทำได้ตลอดเวลาเช่นนี้

องค์ต้นธรรม
พ่ออาจารย์ท่านรับโองการองค์ธรรมบดีหรือองค์ต้นธรรมให้สร้างพระผงสำคัญขึ้น เพื่อเป็นวัตถุที่ระลึกทางกายภาพซึ่งเกิดจากธรรมเวทย์ให้ผู้ศรัทธาได้จับต้องกราบไหว้และอาราธนาองค์ธรรม ตามหลักพระธรรมอันเป็นนามธรรมที่ยิ่งใหญ่ไร้รูปลักษณ์ที่จะจับต้องได้ เป็นกฏเกณฑ์ที่บัญชาการทั้งหมื่นโลกธาตุพ่ออาจารย์ท่านจึงสร้างเพื่อให้คุณวิเศษขององค์ต้นธรรมนั้นได้ต่อติด และได้เป็นที่พึ่งพาของผู้ศรัทธา ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะทำได้นั้นถือว่ามีอาถรรพ์อยู่มาก ด้วยองค์ต้นธรรมนี้ไม่ใช่ใครจะมีจะนึกอยากบูชาก็ทำได้ ย่อมขึ้นอยู่กับสัญญาแต่เก่าก่อนของคนอาราธนานั้นด้วย ถ้าไม่มีสัญญาร่วมกับท่านมาแต่กาลก่อนก็ไม่มีวาสนาผูกพันธ์ การจะเป็นศิษย์ของท่านก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นคนที่จะเอาไปก็เป็นคนที่มีวาสนาร่วมกัน หากขาดสัญญาไปแล้วการจะเป็นศิษย์ในองค์ต้นธรรมย่อมเป็นไปมิได้เลย เขาจะไม่เพียงมองหรือพิจารณาให้ลึกซึ้ง มองไม่เห็นคุณค่าของพระผงนี้
การสร้างองค์ต้นธรรมอันมีศักดิ์สูง เป็นสุดยอดหรือจุดสูงสุดที่เหล่าศาสดาและมหาเทพทั้งหลายต้องอาศัยความเพียรเพื่อเข้าให้ถึงนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ง่ายเลย เพราะท่านต้องอาศัยการปั่นธรรมทีละชนิดเพื่อดึงพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดจนครูบาอาจารย์จากเบื้องบนเพื่อรวมกันมาอาราธนาองค์ต้นธรรม ท่านว่านี่จึงสำเร็จประโยชน์ใหญ่เพราะเราสร้างรูปเคารพให้กับสิ่งที่สูงที่สุดอันเป็นดวงพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้องค์ต้นธรรมนั้นลงมาช่วยกระทำการต่างๆ ทั้งยังเป็นการขอพลังจากองค์ท่านมาช่วยอำนวยพรให้สิ่งต่างๆที่เรากระทำ หรือสิ่งต่างๆที่โคจรอยู่รอบตัวเราและในชีวิตของเรานั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่น แต่การอาราธนาองค์ต้นธรรมนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแน่นอน ว่าท่านมีอุปการคุณมากและมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้ หากเธอเอาองค์ต้นธรรมไปห้อยแล้วก็เท่ากับว่าเธอเข้ารับพลังของดวงแก้วดวงธรรม นำพลังขององค์ต้นธรรมมาขัดเกลาจิตใจหรือใช้ในการฝึกจิตได้ ...พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คล้ายๆกับสิ่งแทนครูเลยเพราะใครจะทำอะไรจะเสกเครื่องรางของขลังต่างๆให้มีพลังศักดิ์สิทธิ์ก็ยังทำได้ แม้จะไล่ผี ปราบปอบ ล้างอาถรรพ์ต่างๆท่านว่านี่พลังขององค์ต้นธรรมทำได้หมด จากคนที่ไม่มีวิชาธาตุธรรมนั้นก็จะปั่นธรรมในตัวเองให้เรารู้เราเห็นอะไรได้กว้างขึ้น
ท่านว่าการอาราธนาองค์ต้นธรรมก็เหมือนกับการเปิดประตูต่างๆเชื่อมโยงกันทุกมิติ เรียกว่าหากใครที่ปฎิบัติมาพอสมควรมีสะสมมาตั้งแต่ชาติที่แล้วก็จะได้มาต่อยอดจากตรงนี้ การอาราธนาองค์ต้นธรรมนั้นเป็นการปลุกจิตวิญญาณของตนเองให้แผ่พลังขยายไปยังมิติอื่นๆนอกจากมนุษยโลกแล้วยังมียมโลกและเทวโลกตลอดจนถึงนิพพานได้อีกด้วย ผู้ที่รับพลังขององค์ต้นธรรมนั้นมักจะมีปัญญารู้แจ้ง เข้าใจ เข้าถึงสิ่งต่างๆได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังจะสัมผัสถึงพลังเหนือโลกต่างๆได้ง่ายขึ้น พ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าดุจองค์ต้นธรรมใหญ่หรือที่เราเรียกพระธรรมท่านลงมาสอนสั่งเราด้วยตัวเองเราจะค่อยๆปรับกายเนื้อให้เข้าใจและเข้าถึงสิ่งต่างๆที่คนปรกติธรรมดาทั่วๆไปมองไม่เห็นหรือเข้าไม่ถึงตรงนี้ท่านเรียกว่าฤทธิ์ทางใจ ท่านว่าจะค่อยๆเห็นแน่ชัดมากขึ้นแต่ขอเอาไว้อย่างเดียวว่าอย่าไปหลงใหลได้ปลื้มกับฤทธิ์ตัวนี้ว่าตนเองจะเป็นผู้วิเศษแต่อย่างใดเพราะหากเราหลงมันก็จะขวางการเข้าถึงสภาวะธรรมในลำดับที่สูงขึ้นไป ท่านว่าให้ผู้อาราธนามีใจเป็นกลางไว้ถึงได้มาก็ไม่ต้องยินดีกับมันสุดท้ายเราก็จะเข้าถึงสัจจะแห่งธรรมทั้งหลายได้ สำหรับคนที่อาราธนาองค์ต้นธรรมนั้นต่อไปก่อนจะกระทำการใดๆก็ให้เชื้อเชิญท่านมาช่วยเหลือเสียก่อนจะขอพร,ขอเรื่องใดๆหรือใช้ทางขจัดปัดเป่าและป้องกันรักษาให้พ้นจากภัยอันตรายย่อมทำได้ทั้งสิ้น..ท่านว่าค่อยๆขัดเกลาจิตที่หยาบให้ละเอียดขึ้นเมื่อเข้าถึงธรรมแล้วต่อไปการบรรลุธรรมนั้นก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย ในเรื่องความสามารถแปลกๆที่ติดตัวมาเช่นการแก้ถอนคุณไสย ไล่ผี ไล่ปอบ การใช้คาถาอาคมได้เห็นผล หรือใช้วัตถุมงคลได้ดียิ่งขึ้น เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงผลพลอยได้ทั้งสิ้น

องค์ต้นธรรมปางสยบเก้าโลก
เป็นพระผงองค์ต้นธรรมที่นั่งห้อยพระบาทเหยียบสะกดข่มอาถรรพ์ไม่ดีทั้งหลายในจักรวาลเอาไว้ ด้วยพ่ออาจารย์ท่านถือว่าเก้าโลกนั้นเป็นตัวแทนของทั้งหมื่นจักรวาล ดั่งอาศัยพลังงานองค์ต้นธรรมนั้นสะกดอาถรรพ์ทั้งสิ้นในหมื่นจักรวาลเอาไว้ปิดกั้นไม่ให้ความตกต่ำเสื่อมโทรมใดๆแผ้วพาลตัวเรา อันที่จริงโลกทั้งเก้านั้นท่านว่าได้แก่
- แดนนิพพาน
- สวรรค์,พรหมโลก
- ภูมิมาร
- มนุษย์ภูมิ
- เดรัจฉานภูมิ
- โลกบาดาล
- นรกภูมิ
- เปรตวิสัยภูมิ
- อสุรกายภูมิ
ทั้งเก้านี้ได้ชื่อว่าเก้าโลก องค์ต้นธรรมท่านให้แทนด้วยดวงดาวทรงกลมเก้าดวงเป็นปริศนาธรรมล้อมองค์ท่านไว้ โดยท่านยกพระบาทขึ้นเหยียบสะกดข่มอาถรรพ์ทั้งหลายทั้งเก้าโลกไว้ไม่ให้กล้ำกรายตัวเรา ทั้งยังยกข้ามวรรณะปรับภพภูมิชีวิต ปรับสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงทั้งหลายด้วยความพยายามได้ตามที่เราอาราธนา

พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อท่านสร้างองค์ต้นธรรมแล้ว นอกจากจะเชิญครูบาอาจารย์ทั้งหลายตั้งแต่เสด็จพระใหญ่ลงไปช่วยกันปั่นธรรมและอาราธนาองค์ต้นธรรมลงมาแล้ว ท่านยังได้นำวิชาธรรมต่างๆของท่านได้แก่ธรรมบรรลุ ธรรมเก้าโกฎิ ธรรมห้องพระไตร ธรรมฤาษี ธรรมบันดาล ธรรมพระอรหันต์ ธรรมกาบแก้ว ธรรมแก้วสารพัดนึก ธรรม84000...และอีกหลายๆวิชาธรรมที่เรียกว่าธรรมทั้งหมด ครอบให้กับองค์พระทีละองค์(เสกเรียงองค์จึงทำยาก) ท่านว่ากว่าจะทำได้เสร็จยอมรับเลยว่านานจริงๆ ทั้งยังต้องทำผงด้วยวิชาธรรมประเภทต่างๆผสมลงไปด้วยเป็นพื้นฐาน ท่านว่าเน้นผงล้วนๆให้แก่กล้าในพลังอิทธิคุณสูงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะยกตัวอย่างได้พอสังเขป เพื่อให้รู้คร่าวๆว่าองค์พระนี้มีอะไรมากกว่าที่ตาเนื้อจะรู้เห็นและสัมผัสได้ ดวงธรรมต่างๆนั้นได้แก่
- ธรรมกาบแก้ว เป็นธรรมห้องสำคัญที่ใช้ในการรักษา ทั้งใช้ในทางแคล้วคงเสกน้ำเสกเหล้ากินได้สารพัด ขอให้พิจารณากันให้ดีเถิด พ่ออาจารย์ท่านว่านี่รักษาได้สารพัดเลยพอลงไว้แล้วเหรียญนี้ใช้แช่น้ำกินแทนยาได้เลย จะป่วยจากสิ่งใดๆที่ผิดธรรมชาติหรือโดนกระทำจากจิตวิญญาณชั้นสูงชั้นต่ำก็ดี ย่อมรักษาได้ทั้งสิ้น
- ธรรมพระอรหันต์ ท่านว่าธรรมพระอรหันต์นี้จะช่วยขจัดปัดเป่าเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดี ด้วยชีวิตคนส่วนใหญ่นั้นย่อมร้ายมากกว่าดี ถึงดีก็ดีไม่สุด ท่านจึงครอบธรรมสำคัญนี้ไว้เพื่อหวังประโยชน์ให้การใช้ชีวิตนั้นง่ายขึ้นทั้งยังใช้อาราธนารักษาคนเป็นบ้าเป็นปอบ หรือถูกภูตผีปีศาจเบียดเบียนก็ย่อมได้ แม้โดนเทวดาผีเข้าเจ้าสิงทำอาถรรพ์ร้ายต่างๆที่บ้าน ที่ไร่ ที่นา ในป่า ในดงดอน ห้วย หนอง คลองบึง ที่เราเข้าไปอาศัยอยู่ด้วยความรักความหวงแหนสถานที่ ท่านว่าให้อาราธนาเหรียญออกชื่อธรรมพระอรหันต์นี้ก็จะขจัดปัดเป่าไปได้
- ธรรมเก้าโกฏิ วิชานี้โบราณท่านถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากใช้ป้องกันภูตผีปีศาจมิให้มารบกวนย่ำยีได้ดีนักแล ทั้งยังใช้ป้องกันและรักษาปอบ โพง ผี เทพอารักษ์ เจ้าหลัก เจ้าที่ นายผี เทวดามิจฉาทิฏฐิ ผีดง ผีป่า ผีบ้า ท่านว่าจะทำให้ฤทธิ์ที่แรงกล้าของมันจืดจางไป
- ธรรมพระไตร ห้องนี้ท่านว่าสำคัญเพราะใช้ขจัดปัดเป่าความทุกข์ความโศกรวมไปถึงโรคภัยที่ติดตัวเราโดยเฉพาะ ตลอดทั้งอุบัติเหตุและอุปัททวะอันตรายอันจะเกิดขึ้นกับเราก็ดีหรือเกิดขึ้นไปแล้วก็ดีให้เหตุที่ยังไม่เกิด,ให้ผลที่เกิดขึ้นแล้วเสื่อมสลายไป ท่านว่าใช้อาราธนาป้องกันโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายนับว่าได้ผลดีสมความปรารถนากันมามากแล้วเมื่ออธิษฐานออกชื่อใช้ในการป้องกันและรักษาอาราธนาให้หากโรคภัยไข้เจ็บเหือดหายไปได้ แม้บ้านเมืองเกิดความเดือดร้อนจากภูตผีปีศาจเข้ามาเบียดเบียนก็ยังรักษาได้ แม้ที่อยู่ซึ่งไม่มีใครจับจองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เมื่อเราเข้าไปอยู่ จะเป็นเจ้าป่าหรือภูตผีปีศาจที่มารักษาและถือครองแม้เราลุกล้ำเข้าไปก็ย่อมจะถูกผู้รักษาเหล่านั้นทำอันตรายบางรายถึงแก่ความตายหรือจะสะกดไว้ให้เจ็บป่วยและตกต่ำลงก็ดี ผู้คนที่ถูกเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขาเบียดเบียนท่านว่าให้อาราธนาธรรมพระไตรนี้ปัดเป่าออกไปเสีย
- ธรรมแก้วสารพัดนึก ท่านว่าเป็นบทวิเศษใช้ได้สารพัดนึกสมดั่งชื่อมีค่าร้อยแปดพันประการ เมื่อเอ่ยชื่อธรรมแก้วสารพัดนึกแล้วหันหน้าไปทางทิศตะวันออกวันนั้นทำอะไรก็จักได้ชัยชนะ แม้เอ่ยนามแล้วหันหน้าไปทางทิศเหนือก็จะมีเดชาอานุภาพเป็นที่หวั่นเกรงแก่ฝูงชนยิ่งนัก แม้หันหน้าไปทางทิศใต้ทุกข์โศกโรคภัยต่างๆก็จะหายไป หากเงยหน้าขึ้นบนฟ้าก็จะชนะข้าศึกศัตรู จะอาราธนาตอนเช้าก็มีลาภมาก อาราธนาตอนสายรูปก็จะงาม ท่านว่านี่ใช้ได้สารพัดเลยทั้งให้ลาภให้มีทรัพย์สินมาก,ให้เทวดารักษา,ให้ศัตรูดับสูญสิ้น,ให้คนบูชาเรา,ให้อันตรายหายสิ้น,ถามหาความสุขย่อมได้ความสุข,ให้คนกลัวเรา,ให้ความแค้นมลายหายไป.. ท่านว่าย่อมใช้ได้ทั้งสิ้นแม้ปรารถนาอันใดก็จะได้ดั่งใจทีเดียว
- ธรรมแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้อาราธนาธรรมนี้ผู้คนจะนับหน้าถือตาเป็นที่เลื่องลือว่าเก่งกล้าวิชา เป็นที่เกรงขามของทั้งคนทั้งผี ทั้งยังใช้ทางป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บอันเกิดจากภูตผีปีศาจได้ผลดีมาก ท่านว่าเมื่ออาราธนาธรรมดวงนี้แล้วก็ให้เคร่งครัดในศีลทั้งห้าจะยิ่งได้ผลดีมากขึ้น องค์ธรรมนี้ท่านว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้หรือเอ่ยชื่อแต่หากว่าเราดีจริงนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะธรรมสำคัญนี้จะหนุนความสำเร็จในทุกกิจการ แต่ถ้าหากเราไม่มีศีลก็ดี ไม่เชื่อในองค์ธรรมก็ดีนอกจากจะไม่ได้ผลแล้วยังจะเป็นโทษอีกด้วย(ท่านว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ วันไหนตัวเองดีพอก็ค่อยอาราธนาธรรมนี้)
ท่านว่านี่ก็ยกตัวอย่างได้เพียงระดับหนึ่งแต่เอาว่าอาราธนาใช้ได้สารพัดนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าการสร้างองค์ธรรมบดีหรือองค์ต้นธรรมก็เรียกนั้น ต้องบรรจุวิชาธรรมไว้ให้ครบถ้วนซึ่งปกติแล้ววิชาเหล่านี้ย่อมอาศัยความเอาใจใส่ขยันหมั่นเพียรในการฝึกเพื่อจะทำให้ดวงธรรมเข้มแข็งขึ้น สามารถนำออกมาใช้ได้อย่างดี แต่หนนี้ท่านว่าองค์ต้นธรรมท่านช่วยครอบให้ทั้งหมดแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าบุคคลทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ย่อมมีบุญกรรมและวาสนาบารมีที่แตกต่างกันออกไป บางคนกรรมยังหนักอยู่จึงต้องขับกรรมก่อนเรียกว่าเมื่ออาราธนาองค์ต้นธรรมนั้นท่านก็จะขับกรรมให้ก่อนในกรณีคนที่มีปัญหาด้านนั้นๆ แล้วค่อยพัฒนาขัดเกลาธรรมไปพร้อมๆกับตัวเรา

นอกจากใช้ผงวิชาธรรมมากมายแล้วท่านยังผสมด้วยผงวิเศษสำคัญหลายชนิด ได้แก่
- ผงสิตาตปัตรา เป็นผงวิชาลับที่ท่านทำไว้เพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคภยันตรายทุกประการ ทั้งอำนาจคุณไสยต่างๆอันจะคืบคลานก็ไม่อาจกร้ำกรายตัวเราได้ ผงนี้ได้ชื่อว่ามีกำลังเห็นผลรวดเร็วดั่งครุฑ นั่นคือใช้แล้วเห็นทันตาดั่งครุฑกระพือปีกบิน(ท่านว่าไวมาก) อานุภาพของผงนี้จะนำเราไปสู่ความสำเร็จดั่งตั้งใจได้อย่างรวดเร็วดั่งพญาครุฑโบยบิน ซึ่งครุฑนี้ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่บินได้เร็วที่สุดท่านว่าอุปมาไว้เช่นนี้ก็คงพอจะเข้าใจกันได้ ทั้งคุณแห่งผงนี้ยังใช้ป้องกันโรค, ขจัดอุปสรรค,มนตร์ดำ,คาถาวิชาอาคมชั่วร้าย และหมู่มารศัตรูมุ่งร้ายทั้งหลาย ที่สำคัญที่สุดเลยท่านว่าเวทย์ที่กำกับผงไว้นั้นไม่มีวันเสื่อมไม่มีสิ่งใดอำนาจใดสามารถทำลายได้ หากผู้ใช้มีใจปรารถนาจะทำกิจใดให้เสร็จอย่างรวดเร็วผงนี้ก็มีคุณเสริมให้เป็นเช่นนั้นให้หนทางที่เราเลือกสำเร็จทันตาดั่งขี่ครุฑไปนั่นทีเดียว
- ผงยันต์ศรีจักรา(จักรวาลแห่งการเคลื่อนไหวเปลี่ยนผ่าน) ผงธาตุศรีจักรานี้เป็นตัวดึงอำนาจเบื้องสูงลงมา รวมทั้งเป็นตัวนำพาพลังงานจากเบื้องต่ำขึ้นสู่เบื้องบน ไม่ว่าจะสถิตย์อยู่ที่ใดย่อมสั่นสะเทือนและเกิดแรงกระเพื่อมของคลื่นในบรรยากาศส่งผลต่อระนาบมิติต่างๆ เราจะกำหนดจิตให้ดึงเข้าหรือผลักออกก็ได้ เมื่อเขาอยู่ที่ตัวเรากำลังนี้ก็จะซึมเข้าสู่กระบวนการหายใจเข้าออกเป็นการดึงพลังงานธรรมเข้าและขับพลังลบออกผ่านลมหายใจนั้น พ่ออาจารย์ท่านเน้นว่าผงยันต์ศรีจักรานั้นมีความหมายล้ำลึกส่วนมากคนใช้จะมีที่อยู่อาศัยมีหลักฐานมั่นคง เพราะเป็นรูปย่อของสัดส่วนจักรวาลที่รวบภพภูมิทั้งหมด เมื่อบูชาย่อมเป็นแหล่งศูนย์รวมพลังเทวะ สามารถแผ่พลังงานให้สถานที่ให้ตัวของเราได้ สามารถแผ่พลังงานให้บุคคลที่เจ็บป่วยหรือปรารถนาความสงบแลต้องการพลังงานก็ทำได้ ท่านว่าพลังชีวิตที่สึกหรอในตัวเราก็จะได้รับการเติมเต็มเป็นทั้งการสื่อพลังงานจักวาลการสื่อพลังงานของเทพจนกระทั้งการเข้าถึงปรัชญาระดับสูง
- ผงกันปีศาจ กันภูติผี สัมภเวสี อสุรกายทุกชนิด ผงนี้จะกันการทำร้ายจากมือมืด หรือสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นในจำพวกมิจฉาทิฏฐิทั้งหมด
- ผงกันเดรัจฉาน ใช้กันสัตว์เดรัจฉานต่างๆอันจะเป็นอุบัติเหตุให้เกิดแก่ชีวิตด้วยการทำร้ายเรา เช่น ช้าง โค กระบือ เสือ สิงห์ต่างๆบรรดามี
- ผงกันข่ม ใช้กันข่มจกผู้มีอำนาจมากกว่า รวมไปถึงการกลั่นแกล้งต่างๆให้ชีวิตเราวิบัติจากทั้งไสยศาสตร์ การกระทำมนุษย์และอานุภาพดวงดาวต่างๆ ท่านว่ากันข่มทั้งหมด ไม่ให้มีสิ่งแวดล้อมใดมาสะกด มาข่ม มากดหัวกดชีวิตเอาไว้
- ผงกันศาสตราวุธ ท่านว่าผงตัวนี้ปืนผาหน้าไม้ ศาสตราวุธทั้งหลายเมื่อทำร้ายเรา จะไม่ปรากฏอันตรายแก่ชีวิต เอาตัวรอดได้ ไม่ตายด้วยศาสตราวุธทั้งปวง
- ผงเข้าหาเจ้านาย ผงนี้ทำไว้สำหรับเวลาเข้าหาผู้ใหญ่ หรือจะสมาคมด้วยคนชั้นสูงก็ดี ผู้มีอายุมากกว่าก็ดี พูดอะไรไปเขาเชื่อหมด เขาเมตตาเราดุจลูกในไส้ เลือดในอก อุปมาดุจว่าแม้มีความผิดถึงที่ตายก็ยังฆ่าไม่ลง เอาไว้ใช้ในการงาน ในชีวิต จะทำอะไรคนเขาจะโอนอ่อนผ่อนปรนให้อย่างน่าประหลาด
- ผงเรียกลาภ ผงนี้หาลาภดี ค้าง่ายขายคล่อง ทำอะไรได้ผลเกินตัว ได้กำไรสูงไม่มีขาดทุน ท่านว่าสูตรนี้จำเอาไว้ไม่มีขาดทุน จะเอาไปใช้ทางไหนก็เรื่องของเธอ
- ผงค้าสำเภา อันนี้สำคัญ สำเร็จงานใหญ่ ได้จับธุรกิจใหญ่ ดึงดูดโชคลาภใหญ่หลวง เรียกว่าประสบความสำเร็จใหญ่ ไปอยู่ถิ่นใด จะจรไปไหนก็ได้ดีทุกที เป็นเอกทางมหาลาภอย่างที่สุด
- ผงมหาเสน่ห์ ผงนี้ลงไว้ด้วยสูตรสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน เป็นมหาเสน่ห์ถึงขนาดว่าภรรยาทั้งหลายอยู่รวมกันได้ไม่ตีกันถึงแม้ผู้หญิงจะถือคติเสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใครก็ตาม นั่นคือรักและหลงจนลืมโกรธเป็นเสน่ห์ถึงปานนั้น
- ผงอริพ่าย ผงนี้สำคัญที่สุด ลงยาก ท่านว่าลงไว้รับกับทุกสถานการณ์ ผงนี้อยู่ไหนทำอะไรก็ชนะเขาทั้งหมด ศัตรูพ่ายแพ้ แข่งยังไงแกล้งอย่างไรก็ไม่มีวันชนะ ทำร้ายเราไม่สำเร็จเลย ท่านว่าโลกต่อไปเบื้องหน้าจะยิ่งน่ากลัว จะหาคนที่อยู่โดยไม่มีศัตรูนั้นยาก ต่อไปนี่แค่เขม่นตากันก็เกลียดชังกันแล้ว เรียกว่าเกลียดกันดื้อๆ ท่านว่าผงนี้จึงสำคัญมากเพราะใช้รับได้ทุกสถานการณ์
- ผงห้ามจน ท่านว่าเหนือกว่าโภคทรัพย์ธรรมดาก็ต้องห้ามจนนี่แหละ ดุจปกาศิตสาปไว้ว้าห้ามจนคือจนไม่ได้ และไม่มีวันจนนั่นเอง จนในที่นี้คือจนด้วยทรัพย์สิน จนด้วยปัญหาหนทางในการดำรงค์อยู่ การดำเนินชีวิต ท่านว่านี่คือห้ามไว้แล้วนะ ทางจนไม่เปิด เข้าไปไม่ได้ เช่นนั้นก็เหลืออยู่ทางเดียว นั่นคือสุข สมบัติ พิพัฒนมงคลทั้งหลาย ท่านว่าห้ามจนนี่ก็ปิดประตูทุกข์ไปแล้วอย่างหนึ่ง
- ผงยาดำมหากาฬ ท่านเพียรทำโดยมีความนัยน์สำคัญซ่อนเร้นขึ้นมา ใช้รักษาตัวผู้ใช้และควบคุมดวงของโชคลาภความมั่งคั่งทั้งหลายให้มีเข้ามาเนืองๆ ท่านว่าพกไว้อธิษฐานให้ท่านช่วยเปิดดวงเปิดทางให้เราก็พอ
- ยาเทวีสิบสองนางหรือยานางสิบสอง พ่ออาจารย์ท่านนำแท่งยาสุระสะติ่ของเก่า ซึ่งหาได้ยาก เป็นยาเก่าที่ปรุงมาแต่โบราณของบูรพาจารย์พม่า ไม่ใช่ยาใหม่รึปรุงใหม่ที่มีขายแต่อย่างใดท่านว่าของใหม่นั้นทำอย่างไรก็เทียบของเก่าของโบราณไม่ได้ ท่านว่าลำพังยาสุระสะติ่นี่ก็เป็นปิยะสุดๆแล้วเอาว่าเทวดานางฟ้ายังหลงเท่านี้ก็พอ ยานี้ที่เรียกว่ายานางสิบสองก็เพราะทำจากยาสุระสะติ่ของเก่าของโบราณ ซึ่งนางสุระสะติ่นั้นก็คือพระแม่สุรัสวดีนั่นเอง เป็นครูใหญ่ทางสายวิชาพม่า ไทใหญ่ ที่เรียกนางสิบสองเพราะด้วยสายวิชานั้นเชื่อว่านางมีสิบสองปาง มีนางสุระสะติ่ทั้งหมดสิบสองคน จึงเป็นสิบสองกำลังของพระแม่แห่งภูมิปัญญาความรู้ที่จะช่วยและเกื้อกูลลูกที่ศรัทธา ท่านว่าพกไว้นะดี ยานี้สมองจะปลอดโปร่ง คิดอะไรก็ออกสมัยนี้เขาเรียกว่าเก็ท คือคิดออกแต่เรื่องดีๆ คิดแล้วทำชีวิตก็ยิ่งดี จะนำชีวิตไปสู่ความเจริญทางภูมิปัญญามีวิวัฒนาการด้านความคิดสติปัญญาแตกแขนงไปไม่รู้จบ ซ้ำยานี้อยู่กับใครนอกจากจะเป็นปิยะเป็นที่รักของมนุษย์เทวดาแล้ว คนผู้นั้นจะมีสิริ เป็นทั้งเสน่ห์และเดช อำนาจครบถ้วนไม่มีอะไรจะเปรียบอยู่ในตัวเอง ท่านว่าคิดเอานะทั้งเสน่ห์เดชะตบะอำนาจรวมอยู่พร้อมๆกัน เช่นนี้จะหามีที่ไหน เป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆเพราะทั้งหลงทั้งกลัวทั้งเกรงใจเกิดขึ้นพร้อมกันหมดเลย

ด้านหลังองค์ต้นธรรมท่านให้ฝังด้วยตะกรุดนพจิต เป็นตะกรุดที่มีพิธีกรรมการลงจารพิเศษคือจารด้วยจิตวิญญาณองค์ต้นธรรม(พระผงรุ่นนี้จึงมีแรงครูสูงมากๆ)ที่ผ่านมือผ่านร่างพ่ออาจารย์เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดแต่ละดอกนั้นแม้ท่านเองก็ยังอ่านไม่ออกว่าเป็นภาษาอะไร หากแต่ภายหลังองค์ต้นธรรมท่านแจ้งให้รู้ว่าให้ใช้ธรรมใดๆเสกกำกับชนิดไหน ท่านจึงเข้าใจว่าแต่ละดอกเป็นตัวแทนของวิชานั้นๆทั้งหมด เรียกว่าเก้าศาสตร์ เก้าวิชา เก้าห้องที่เป็นปฐมพลังขององค์ต้นธรรมฝังเอาไว้เพื่อเชื่อมต่อกำลังกับจิตวิญญาณเราได้ ท่านต้องหนุนธรรมกำกับไปทีละห้องทีละดอก จึงไม่ใช้ง่ายเลยกว่าจะทำได้ครบ
- ห้องสมาธิ ท่านว่าก่อนจะทำการใดๆก็ให้อาราธนาธรรมห้องสมาธินี้เสียก่อน ธรรมนี้จะช่วยให้จิตใจของเราแน่วแน่ ทั้งยังสามารถมองเห็นภาพนิมิตเหตุการณ์ต่างๆเบื้องหน้าได้เป็นบางช่วง นอกจากนั้นยังใช้ป้องกันหรือปราบปรามภูตผีปีศาจได้
- ห้องจืด ทำให้ฤทธิ์ของผี,เทวดาหรือผู้มีวิชาที่มาขัดขวางสร้างเรื่องให้เรานั้นจืดจางไป แม้คนที่ผีเข้าเจ้าสิงห็หายได้หรือใช้ให้หายจากเจ็บไข้ได้ป่วยก็ได้ มีภูตผีปีศาจในที่ใดย่อมขับได้ทั้งสิ้น จะอาราธนาเสกน้ำมนต์,เสกทรายซัดสถานที่,เสกก้อนหินฝังอาถรรพ์ก็ย่อมได้ ท่านว่าสถานที่ใดก็ดีเมื่อฝังแล้วฤทธิ์ของภูติผีปีศาจนั้นย่อมจืดจางหายไป
- ห้องหิริโอตโอตตัปปะ ใช้ขับภูตผีปีศาจ เป็นดั่งกำแพงแก้วสามประการคือพระพุทธ,พระธรรม,พระสงฆ์ เมื่ออาราธนาคุณพระรัตนตรัยก็จะเป็นดั่งกำแพงป้องกันสรรพทุกข์,สรรพโศก, สรรพโรค,สรรพภัย,สรรพอันตรายและอุบาทว์ต่างๆได้ทั้งภายนอกและภายใน เช่นนั้นเครื่องป้องกันอันเกิดจากคุณพระรัตนตรัยนี้จึงประเสริฐยิ่งนัก
- ห้องล้อมรักษา ใช้อาราธนาเพื่อล้อมรักษาตัวเอง ทั้งขับไล่อาถรรพ์หรือภูติผีที่อยู่ก่อนแล้วให้ออกไปไกลจากตัวเรา ไม่ให้ศัตรูและภูติผีปีศาจเข้ามาใกล้เราได้
- ห้องกำจัด ใช้อาราธนาเมื่อจะทำการกำจัดศัตรูทั้งภายในและภายนอก ท่านว่าเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกกว่าเพียงแต่ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ภูตผีปีศาจก็จะแตกระจัดกระจายไป ทั้งนี้เป็นไปด้วยเดชานุภาพแห่งพระรัตนตรัย
- ห้องแผลงฤทธิ์ ฤทธิ์เดชเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการและจะเกิดขึ้นได้เมื่อบำเพ็ญคุณงามความดี ครั้นได้แล้วก็อาจเสื่อมสูญไปได้ เช่นนั้นคนแต่ยุคก่อนย่อมถือเอาว่าพระพุทธเจ้าเป็นเจ้าแห่งฤทธิ์เป็นจอมอิทธิฤทธิ์เพราะพระองค์ได้สร้างพระบารมีมาครบถ้วน เช่นนั้นก่อนเราจะทำกิจใดจึงต้องฃแผลงฤทธิ์ หรือทำการร้องขอเอาฤทธิ์ของพระพุทธเจ้ามาใช้ ท่านว่าให้อาราธนาไปเถิดจะเกิดผลดีแน่นอน
- ห้องกำบัง ท่านว่าให้อาราธนาเพื่อไม่ให้ภูตผีปีศาจแลสิ่งที่ไม่ดีมองเห็นตัว เพื่อความไม่ประมาทก็ควรจะป้องกันไว้เพราะการแก้ไขนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่าการป้องกัน ท่านจึงให้อาราธนาธรรมกำบังนี้ไว้เสมอๆให้น้อมระลึกนึกถึงถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เพียงเท่านี้ภูตผีปีศาจก็ทำอันตรายหรือเบียดเบียนไม่ได้ ทุกสิ่งย่อมกำบังได้ทั้งหมดกำบังได้หมดไม่เป็นอันตรายแก่ตัวเรา แม้คนหรือผีจะทำอะไรเราก็เข้าไม่ถึงมาลองก็ไม่ถูกจนถึงขั้นที่สุดเขาให้วัวธนูปล่อยออกมาก็ยังไม่อาจทำอันตรายเราได้
- ห้องตัน ท่านว่าเมื่ออาราธนาจะเป็นที่หวาดเกรงแก่ภูตผีปีศาจตลอดจนเป็นที่เคารพนับถือจากคนทั้งหลาย เมื่อเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยเนื่องจากภูตผีปีศาจเบียดเบียนก็ดีให้อาราธนาปราบปรามได้เลย ทั้งยังจะช่วยป้องกันรักษาให้อยู่เย็นเป็นสุขปราศจากทุกข์โศกโรคภัยได้ดียิ่งนัก
- หยาดน้ำ ท่านว่าใช้อาราธนาในการแผ่กุศลเจริญเมตตาจิตถือเป็นการให้อภัยแก่กัน เมื่อได้ทำหรือปราบภูตผีใดๆแล้ว ท่านให้อาราธนาห้องนี้แผ่ส่วนกุศลให้เพื่อมิให้มีกรรมมีเวรต่อกัน อนึ่งสัตว์ที่ถูกเราข่มเหง ขับไล่ หรือผูกมัดไว้ จักได้หายความพยาบาทอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน

นอกจากนี้ท่านยังฝังพลอยเสกมงคลที่หลวงปู่ใหญ่(หลวงปู่เทพโลกอุดร)มอบให้ไว้ ท่านเรียกว่าพระร่างใหญ่ในป่าเอาออกมาให้เก็บไว้ผสมทำพระ ทำวัตถุมงคลให้ลูกหลานของท่านใช้ เพราะท่านอธิษฐานไว้แทนตัวท่านแล้ว ซ้ำด้านหลังท่านยังฝังองค์พระผงมหาคุณพิมพ์ปั้นไว้เป็นประธานด้วย
- ผงมหาคุณ ผงสำคัญอันท่านลบเก็บไว้ทั้งเก้าประการนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากมาก พอเอามารวมกันก็เสกเก็บไว้ยาวนานเพื่อจะทำเครื่องมงคลที่เหมาะสมเสียครั้งหนึ่ง ปรากฏว่ามีคณะมาขอผงวิเศษไปสร้างพระเครื่อง ท่านพิจารณาแล้วว่าผงของเราก็มีอานุภาพมาก จึงเมตตาจะตักไปให้เขาซักช้อนหนึ่งผสมเป็นมวลสารทำพระเขา ท่านว่าไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดก็ดี ตอนเปิดขวดนั้นเขาบ่นกันอุบว่าผงเข้าตา คงจะกระเด็นหรือมีแรงอัดอากาศในขวดอันนี้ก็ไม่ทราบ แต่เรื่องที่น่าแปลกก็คืออยู่ดีๆทุกคนพูดกันหมดในลักษณะที่เหมือนกัน นั่นคือมองเห็นฤาษี เทวดาต่างๆที่มาเฝ้ามาอารักขาพ่ออาจารย์ท่านจนร้องโวยวายและบอกกันต่อๆมาว่ามึงเห็นมั๊ย นั่นยักษ์ นั่นเทวดา นั่นฤาษี นั่นเทพอะไร คุยกันจนพ่ออาจารย์ท่านระลึกได้ว่าจะปล่อยไปเช่นนี้ไม่ได้ จึงได้อธิษฐานจิตซัดน้ำมนต์ล้างตา ล้างอาถรรพ์วิชาออกไป ท่านว่าผงนี้สำคัญนะพอลองเอามาทาตาก็รู้ว่าสำคัญเลย อะไรที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ ไม่เคยมี เปิดหมด ให้รู้ ให้เห็น ให้ได้ ให้มี สำคัญตรงนี้ ท่านว่าจะเก็บไว้ก็เป็นอันตรายมองเห็นไปทั่วเช่นนี้คนเขาจะหาว่าบ้า ท่านจึงเทหมดทั้งขวดส่วนหนึ่งเคยใช้สร้างเครื่องมงคล ส่วนที่เหลือท่านใช้ผงล้วนๆทำพระผงมหาคุณพิมพ์ปั้น ซึ่งปั้นด้วยมือท่านทีละองค์ๆเอาไว้ ด้วยผงวิชามหาคุณทั้งเก้าประการนี้จะได้เปิดชีวิตคนบูชาทุกด้านเปิดทั้งหมด ให้รู้ ให้เห็น ให้ได้ ให้มี....

### องค์ต้นธรรมสยบเก้าโลกให้ใช้เพื่อยกข้ามวรรณะปรับภพภูมิตัวเอง พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นของพิเศษเพราะเป็นพระผงที่ทำยากและซับซ้อน เมื่อได้ห้อยอาราธนาแล้วให้ใส่ติดกายไว้ตลอดอย่าถอดออก เพราะมารรึกรรมนั้นจะเห็นช่องโหว่จู่โจมเอาได้ ตราบใดที่ใส่ติดคอไว้ตลอดไม่มีที่ว่าจะแย่รึหวนกลับไปแย่ลงเลย องค์ต้นธรรมท่านเปรียบพระผงยกวรรณะนี้ไว้ "ดั่งผู้อาราธนาได้ครองสมบัติเก้าโลกเก้าชั้นฟ้าสวรรค์" ทุกอย่างเป็นเลขเก้า มีแต่เก้าไปข้างหน้าไม่ถอยหลังกลับ

การสร้างพระเพื่อใช้ยกวรรณะตนเอง ปรับภพภูมิให้ตนเองและผู้อื่นตามแต่จะอาราธนานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าทุกอย่างต้องเคร่งครัดและปราณีตอย่างมาก ด้วยเครื่องมงคลแทนครูองค์ต้นธรรมนี้จะมีอานุภาพเป็นเลิศแม้สถิตย์อยู่กับผู้ใดบุคคลนั้นดุจมีอาญาสิทธิ์พิเศษ ด้วยหมายความว่าให้เจริญไปพร้อมๆกันทั้งทางโลกและทางธรรม ดังนั้นอานุภาพแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนา วิวัฒนาการตนเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น อันวิทยาการความเจริญก้าวหน้า สิ่งสวยงามสะดวกสบาย ความยิ่งใหญ่โอ่อ่าอัครฐานทั้งหลาย...ทุกอย่างนี้จะยกตัวเราขึ้นไปให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

คาถาบูชา(ท่านให้อาราธนาองค์ต้นธรรมแล้วนึกถึงคุณพระรัตนตรัยก็ใช้ได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ห้อยๆไปท่านจะตอบสนองกับใจเราโดยตรง คาถาไม่จำเป็นต้องใช้ แต่ถ้าคนที่ใจยังแกว่งยังอยากท่องอยากบ่นก็ท่องไป)
เอวัง พุทธัง สะรันตานัง ธัมมัง สังฆัญจะ ภิกขะโว ภยังวา ฉิมภิตัตตังวา โลมะหังโส นะเหสสะติ

### องค์พระทุกองค์พ่ออาจารย์ท่านลงอาถรรพ์จารสด - จารเปียก อาราธนาคุณองค์ต้นธรรมเพื่อใช้ยกวรรณะเปลี่ยนแปลงชีวิตและให้เราอาราธนาปรับภพภูมิได้กำกับไว้ทุกองค์

*** พระผงมีให้บูชา 5 องค์เท่านั้น ด้วยรุ่นนี้ท่านสร้างไว้เก้าองค์ แต่ท่านว่าตัวท่านเองก็ใช้องค์หนึ่งอาราธนาในช่วงกรรมหนักๆเบี่ยงไม่พ้นตัว ทั้งยังได้ถวายคืนเจ้าของมวลสารไปสามองค์(หลวงปู่เทพโลกอุดรที่ท่านเจอกันในภายหลังซึ่งท่านขอไปเก็บเอาไว้) รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งเชื่อนามสกุลรวมไปถึงความก้าวหน้าในอาชีพหรือกิจที่ตั้งใจปรารถนาไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะประสิทธิให้ไว้เป็นสิริมงคลอีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมแจกทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา พระผงสยบเก้าโลกยกข้ามวรรณะปรับภพภูมิ (ครองสมบัติสวรรค์เก้าชั้นฟ้า) บูชา 4,000 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...ัน-พ่ออาจารย์พล.539894/page-500#post-11160207

 

ร่วมทำบุญบูชา อัศวราชกัณฐกะตัวครูผูกตะกรุดชัยยะธรณี (ชุดม้าส่งสาสน์)

"ม้าชุดนี้ใช้เร่งทุกอย่างได้..เร่งให้เร็วขึ้น"
อัศวราชกัณฐกะ ม้าอันเป็นสหชาติกับพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสิ่งมีบุญที่เกิดมาเพื่อร่วมบำเพ็ญบารมีทุกชาติภพ ด้วยเป็นม้าพระที่นั่งของพระโพธิสัตว์จึงถือเป็นราชาม้า เมื่อพระมหาโพธิสัตว์ได้ข้ามห้วงวัฏสงสารออกบวชไปแล้ว พญาม้ากัณฐกะได้ตรอมใจไปจุติเป็นเทพบุตรในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นามว่ากัณฐกะเทพบุตร

พ่ออาจารย์ท่านว่าครูแต่หนหลังยกย่องม้าเทพตัวนี้กันยิ่งนัก เพราะเป็นหนึ่งในสมบัติจักรพรรดิแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ ที่จะนำความสุขสมหวังในทุกสิ่งมาให้แก่ผู้ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านหล่อรูปม้ากัณฐกระทั่งเชิญทิพย์อำนาจแห่งกัณฐกะเทพบุตรมาสถิตย์ด้วยอานิสงค์นี้รูปม้านี้จึงมีอำนาจนำเราข้ามพ้นปัญหาและอุปสรรคใหญ่น้อยได้เหมือนเมื่อครั้งม้าแก้วนำองค์โพธิสัตว์ข้ามพ้นวัฏสงสารเช่นนั้น

พ่ออาจารย์ท่านย้ำอาถรรพ์พญาม้าว่า "คึกคะนอง สำเร็จรวดเร็วดั่งลมพัด" ดั่งพญาม้านำพามหาสัตว์ข้ามพ้นสังสารวัฏเช่นใดความทุกข์และอุปสรรคใดๆเพียงพญาม้าโลดแล่นก็ผ่านได้หมด ทั้งยังมีแรงอันประเสริฐด้วยว่าเทพยดาทั้งหลายมาสิงรักษาอยู่ในส่วนต่างๆทำให้มีฤทธิ์มากแม้เหาะข้ามสมุทรก็ยังได้ เช่นนั้นผู้ใดได้รูปหล่อพญาม้าที่พ่ออาจารย์ท่านเชิญทิพย์ญาณตลอดจนลงอาถรรพ์เรียกเหล่าเทพเจ้าเข้าสถิตย์ตามส่วนต่างๆเสริมฤทธิ์ให้แก่พญาม้าแก้วนี้ ดุจผู้นั้นได้สมบัติจักรพรรดิ์ที่จะนำความสุขสมบูรณ์มาให้โดยฉับพลัน

สิ่งใดที่เป็นธุระบอกกล่าวพี่ม้าให้พาเราไปส่งถึงจุดหมายจะสำเร็จเร็วกว่าปกติไม่ติดขัดในสิ่งใดทำการณ์ใดก็สำเร็จรวดเร็วเจริญก้าวหน้ารวดเร็ว ท่านว่ามีพลังม้าแก้วนี้ติดตัวเราทำอะไรก็คล่องตัวอย่างมากสำเร็จเร็วดั่งสายฟ้าฟาดส่งมีเรี่ยวแรงคึกคะนองผิดสังเกตุ ไอ้เรื่องเห็นผลเร็วเห็นผลไวเอาว่าไม่ต้องพูดกันเพราะไม่มีอะไรจะพูดด้วยนี่คือที่สุดของเครื่องมงคลที่จะส่งคุณให้ถึงความฝันได้ หากชีวิตมีสิ่งที่หมายปอง หากเรายังมีจุดหมายที่สูงกว่าบารมีเราจะพาไปได้ เช่นนั้นอย่าเพิ่งถอดใจไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องเปลืองแรงขวนขวายเพียงแค่อาศัยพี่ม้านี้ไปก็เท่านั้น

แม้ผู้ใดได้ม้าแก้วไว้บูชา ย่อมหนุนนำชนผู้นั้นให้ยิ่งใหญ่ ให้กลายเป็นนักปกครอง มีภาวะผู้นำ สง่างามเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม ทั้งเสริมเรื่องความคล่องแคล่วว่องไวทำอะไรก็สำเร็จโดยง่าย เจริญก้าวหน้าทุกด้าน อุดมสมบูรณ์เกินกว่าผู้ใด ### พ่ออาจารย์ท่านถืออาถรรพ์ใช้ม้าวิเศษชุดนี้รับส่งเทพเจ้าแห่งโชคลาภหรือองค์ไฉ่ซิ่งเอี๊ยะในช่วงตรุษจีน จึงเป็นการเสริมอาถรรพ์ให้ม้าแก้วรับพลังเทพแห่งโชคลาภแรงหนักขึ้นไปอีก ทั้งโภคทรัพย์ มหาลาภ เรื่องทำมาค้าคล่อง จะเรียกคน เรียกลาภ เรียกทรัพย์ เรียกเงินเรียกทอง...ขอให้เป็นโชคลาภสุดแล้วแต่จะเรียก ประสงค์จะให้เงินทองวิ่งเข้ามาหาหรือมีกินมีใช้ไม่มีอดก็บอกกับม้าแก้ว ด้วยอาถรรพ์ที่ว่าเค้ารับส่งเทพแห่งโชคลาภมาแล้วนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นมงคลอย่างมากประดุจตัวเขาคอยรับส่งโชคลาภหยิบยื่นใส่ชีวิตเราได้ง่ายๆ ใครที่รู้สึกว่าชีวิตตัวเองมาถึงคอขวดเจอทางตัน ก็ให้อาราธนาม้าตัวนี้เขาจะรับส่งโชคลาภให้เราดุจหาปลาน้อยปลาใหญ่ทั้งหลายจับไหลเข้ามาเองไม่ต้องเหนื่อย

ท่านผูกตะกรุดชัยยะธรณีเอาไว้ มีผลให้ได้ชัยชนะพุ่งแรงทุกด้านปานฟ้าผ่า ทั้งยกชีวิตหนุนดวงอำนาจวาสนาบารมีชะตา ยกฐานะให้เป็นเจ้าคนนายคน ท่านว่าชนะทั้งธรณีในพื้นปฐพีม้านี้ปรากฏที่ใดไร้ผู้ต้าน ที่ห่วงว่าจะแรงจะเห็นผลเร็วไวแค่ไหนไม่ต้องเปลืองคำพูดเพราะม้าแก้วนี้ดุจม้าพระพาย ไปได้ดั่งลมพัดปลิวไม่ทิ้งเงา เขาจะแบกเรายกเราให้สูงยกดวงยกชะตายกชีวิต เสริมดวงชะตาชีวิต เร่งเรื่องเงินทองเข้ามาหา ถ้าใครรับราชการจะเจริญมากก้าวหน้ามาก หากทำงานองค์กรก็จะถึงตำแหน่งใหญ่โตก้าวหน้าไวผิดสังเกตุ คนธรรมดาก็จะกลายเป็นคนมีลูกน้องมีบริวาร มีคนใส่ใจคอยค้ำชูอุปถัมภ์ ประชันขันแข่งกับใครให้ยกม้าจบหัวบอกพี่ม้าทั่วทั้งธรณีนี้ม้าเราไม่แพ้แก่ใคร แข่งอะไรล้วนชนะทั้งสิ้น ช่วงไหนรู้สึกแย่หรือหม่นหมองให้บอกพี่ม้าพ่ออาจารย์ท่านว่าเขาไล่เคราะห์ ไล่กรรมพวกเคราห์ร้ายทั้งหลายแลขจัดอุปสรรคได้เพราะเขาแบกเรารับเราส่งเราเขาจึงจำเป็นต้องยกเราให้สูงกว่าชนทั้งผอง

ม้ากัณฐกะที่ผูกตะกรุดชัยยะธรณีนั้นเป็นดั่งม้าส่งสาส์น
คือส่งและทำความต้องการของเราให้เป็นจริงได้(พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันพูดมากมันก็น่าเกลียด) เพราะเขามีอิทธิฤทธ์เหนือชั้นจะแก้อาถรรพ์ไล่ผีกันคุณไสยทำได้ทั้งหมด แม้เรื่องเสน่ห์เมตตาก็แรงจนหัวกระไดไม่แห้งดั่งม้าพ่อพันธุ์ที่ลงวิชาม้าเสพย์นางเอาไว้ ถ้างวดไหนวันไหนอยากได้โชคขอแค่บอกพี่ม้าท่านว่าคนเขาจะหามามอบให้เราถึงมือ ม้าชุดพิเศษตัวครูชุดนี้ท่านเพิ่มมวลสารสำคัญในการหล่อหลอมไว้ด้วย ตั้งแต่มงคลจักรวาลใหญ่,มงคลจักรวาลน้อย,บารมีสามสิบทัศน์,วิปัสสิ,พระกรณี,พระยันต์ตรีเทพ,มหาพรหมส่องโลก,นารายณ์กว้างจักรตรึงไตรภพ,นารายณ์ปราบโลก,นารายณ์พลิกแผ่นดิน,นารายณ์ปราบไตรจักร,พรหมบันดาลทรัพย์,พรหมค้ำแผ่นดิน,พรหมสี่สมุทร,พระกาฬผลาญชีพ,อาวุธพระเจ้า...เช่นนั้นม้าแก้วชุดตัวครูที่มีกระดิ่ง(ตะกรุดชัยยะธรณี)ผูกคอจึงมีฤทธิ์มากไม่กลัวใคร ใช้ไปทำอะไรเขาก็สู้สุดฤทธิ์ จะไล่ผีถอนคุณไสยกันของลมเพลมพัดกระทำย่ำยีท่านว่าขอให้ติดตัวไว้เถิด เพียงไม่ห่างกายเรา อย่าว่าแต่ผีแม้จะไล่ศัตรูเราเขาก็ยังทำได้ ****ที่ใดมีปัญหาหนักหน่วง ปัญหาที่ไม่รู้สาเหตุ เกิดจากสิ่งที่มองไม่เห็น ทั้งปัญหาภายในภายนอกถ้าหนักยิ่งจนเกินมือตัวเราแก้ไขไม่ได้แล้ว พ่ออาจารย์ท่านให้เอาม้าแก้ววางไว้แล้วจุดธูปบอกพี่ม้าให้เข้าแก้ จะไม่พ่ายแพ้หรือทนทุกข์ซ้ำซากอีกต่อไป

ม้าแก้วมีคุณเป็นอนันต์ ดั่งปรากฏเช่นนี้
- เป็นม้าตัวครูมีเสน่ห์ลึก มีแต่คนรักไม่มีคนเกลียดใครก็ทำร้ายไม่ลง ถ้าหวังเรื่องรักก็รักแรง เป็นเมตตาเอ่อล้นท่วมหัว พ่ออาจารย์ท่านว่าพกไว้ก็เป็นเมตตาแรงลูกโดด(เรื่องเสน่ห์อย่าได้เอาพี่ม้าไปใช้กับคนมีครอบครัวเด็ดขาดเพราะเขาจะทิ้งลูกทิ้งผัวมาหาเรา มันบาป ท่านว่าบาปกรรมรับกันเองท่านทำไว้เพื่อให้เอาดีเข้าชีวิต) ขอเพียงรักกันจริงชอบกันจริงไม่เอาไปใช้ผิดที่ผิดทางนั่นแหละจึงบอกพี่ม้าขอความรักครั้งนี้อย่ามีอุปสรรค ให้พี่ม้าไปจูงเขามาให้เราแบบนี้

- มีฤทธิ์ร้ายกาจคุ้มตัวได้ ปกป้องคนรอบข้างได้ เป็นมหากันกันไฟกันฟ้ากันเคราะห์กันกระทำย่ำยี ทั้งภัยพิบัติอัปมงคลไม่ได้เฉียดใกล้เข้าถึงตัวเราถึงบ้านถึงที่อยู่อาศัย(ถ้าฝังพี่ม้าไว้สี่มุมสี่ทิศของบ้านหรือที่ทำงาน คนในบ้านจะเจริญรุดหน้ารวดเร็วทันตา บ้านนั้นจะปราศจากภูติผีชั่วร้ายเข้าครอบงำ) อัปมงคลไม่เข้าหา ทำลายภูติผีทั้งกันคุณคนคุณไสยยาสั่งฝังรูปฝังรอย พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ได้เข้าถึงตัวเรา เพราะพี่ม้าเขาเป้นสัตว์เขาไวต่อกลิ่นมากกว่าคน แค่กลิ่นมาไม่ต้องรอเห็นตัวเขาก็ออกไปจัดการแล้ว บูชาติดที่ไหนก็คุ้มครองตรงนั้นผีตายโหงวิญญาณเร่ร่อนเข้าใกล้ไม่ได้เพราะเขาจะต่อสู้กับผีและอสูรทุกรูปแบบ แม้ผู้ใดคิดร้ายปองร้ายเราอยู่เขาก็จะต่อต้าน

- ช่วยให้ดวงพุ่ง หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรืองมีโชคลาภทรัพย์สินเงินทอง ช่วยเรื่องเลื่อนยศเลื่อนขั้นหนุนตำแหน่ง ช่วยให้การค้าขายดำเนินไปด้วยดี ทำกำไรง่ายๆ กิจการคล่องตัวในยามยุคเข็ญ ทั้งแก้ฮวงจุ้ยขจัดสิ่งไม่ดีพลังงานร้ายหนุนให้เจริญในชั่วพริบตา จะพูดจาติดต่อเจรจาความใดก็ล้วนสำเร็จ คนคิดร้ายคอยกลั่นแกล้งยังคลายใจกลับมารักเมตตาเรา

- พี่ม้านี้ชนะทั่วปฐพีแปดทิศ ติดตัวไว้ยกดวงสูง ข่มคนรอบข้าง ทำให้เราเด่นกว่าใคร ได้ผลงาน ได้หน้า ได้ความดีความชอบยศศักดิ์เจริญก้าวหน้ามีแต่คำว่าเจริญทุกทาง เอาลูบหน้าลูบตาดูมีสง่าราศี ทั้งเป้นราชศักดิ์เป้นมหาอำนาจปราบไปทั่ว กิจการงานที่ทำไม่มีตกต่ำต้องสูงต้องส่งให้เหนือกว่าทุกผู้คน

คนที่เคยเป็นรองทั้งรองมือรองเท้าคนอื่น ทำอะไรพ่ายแพ้ ชีวิตสิ้นหวังล้มเหลว พี่ม้าจะช่วยให้ตั้งตัวได้ คนที่ล้มไปแล้วจะลุกขึ้นยืนตั้งหลักปักฐานได้ คนที่พ่ายแพ้หมดหนทางในชีวิตจะกลับมาชนะ คนที่สิ้นหวังล้มเหลวจะผงาดขึ้นมาได้อีกครั้ง พี่ม้าจะหนุนให้จิตวิญญาณและร่างกายเรามีกำลังวังชาอย่างน่าประหลาด ทั้งยังมีกำลังของพี่ม้าคอยหนุนหลังเป็นมือมืดค้ำจุนอุดหนุนช่วยเหลือเราให้สำเร็จดั่งตาเห็น ไม่ล้มไม่แพ้ใคร จะใช้ทางมหาปราบศัตรูก็ได้ ทำน้ำมนต์ลูบหน้าลูบตาดื่มกินเสริมดวงเสริมสิริมงคลให้อิทธานุภาพซึมซับเข้าตัวรวดเร็วก็ได้ ใช้ทำนำมนต์แช่มือตัวเองให้รับทรัพย์ได้รวดเร็วก็ได้....พ่ออาจารย์ท่านว่าสารพัดจะใช้คนที่เคยดวงตก ดวงอับ ชีวิตล้มเหลวให้พึ่งพี่ม้าดู ชีวิตใครที่เคยเหลวแหลกเอาดีไม่ได้ก็ให้พึ่งพี่ม้า คนที่ฐานไม่แน่นตั้งหลักไม่อยู่ก็ให้พึ่งพี่ม้า ....จะเอาติดตัวรึทำน้ำมนต์รดอาบดื่มกินใดๆท่านว่ามีแต่ดีกับดี ต่อไปจะตั้งเนื้อตั้งตัวได้โดยเร็วพลัน ใครแข่งประชันกับเรามีแต่พินาศสิ้น

ม้านั้นเป็นเอกเรื่องเสี่ยงโชค ชนะทุกคราแต้มต่อเหนือผู้อื่นทุกครั้ง ทั้งยังมีอำนาจเหนือคุณไสยชาติพันธ์ต่างๆไม่ว่าจะของแรงทั้งไทยจีนเขมรแขกมอญก็เอาม้าแก้วไม่ลงเพราะเป็นม้ารับส่งพระศาสดา เอาไปใช้ทางลาภลอยก็ได้ลาภมากลาภไหลไม่หยุด ไม่มีดวงก็ขอให้พี่ม้าบอกฌชคมอบดวงแก่เรา ใช้เส้นพี่ม้าเสี่ยงโชคได้เงินจากลาภลอยทั้งหลาย ดูดทรัพย์ดูดเงินดูดทองก็ดี ### คนมีหัวก้าวหน้าให้ใช้พี่ม้าสร้างโอกาส ดึงโอกาส ฉุดโอกาสให้ดวงชะตาเรากล้าเด่นเหนือล้ำคนรอบข้าง ท่านว่าชะตาจะพุ่งไปแม่นยำเหมือนจับวางแต่ถ้าจะใช้ด้านนี้ใจต้องไม่วอกแวกไม่หลงผิดคิดชั่วเอาไปสร้างเรื่องเสื่อมเสีย

คาถาบูชา
โอม ชัยยะ ชัยยะ ธรณี
พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาจะทำอะไรก็ตามให้กำพี่ม้าเอาไว้แน่นๆท่องคาถาไปเรื่อยๆถ้ามือเราเปลี่ยนเป็นสีแดงก็ทำให้หยุดทำได้เลย ยิ่งแดงมากยิ่งโชคดีมาก วันไหนเห็นเป็นเลือดฝาดนี่จะได้โกยเงินทั้งวันทีเดียว

* รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา อัศวราชกัณฐกะตัวครูผูกตะกรุดชัยยะธรณี (ชุดม้าส่งสาสน์) บูชา 900 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...้า-พ่ออาจารย์พล.539894/page-500#post-11161573

 

ร่วมทำบุญบูชา พระขุนแผนจอมมนตราคู่อุปถัมภ์สองบารมี(ทับจันทรา)​

พระขุนแผนชุดเก่าที่ได้ชื่อว่ากดพิมพ์จากมวลสารที่ดีที่สุด

.... ก็เป็นครั้งเเรกที่พ่ออาจารย์ท่านมีดำริว่าอยากจะทำพระเครื่องซักชุดหนึ่ง ซึ่งเป็นพระที่แก่อิทธิคุณทุกองค์ โดยที่ผมเองก็ไม่คาดคิดว่าท่านจะทำเป็นพิมพ์พระขุนแผนพรายกุมาร เนื่องจากพ่ออาจารย์ได้เคยออกพระขุนแผนเนื้อผงพรายกุมารให้บูชาไปแล้วซึ่งก็หมดในทันทีทั้งๆที่มีจำนวนสร้างค่อนข้างมาก เเต่ตัวท่านนั้นก็ยังติดใจอยู่เพราะเเม่พิมพ์ที่ใช้นั้นขาดความคมชัดไม่สวยงามเท่าไหร่ทำให้องค์พระที่ได้ดูตื้น มาในครั้งนี้ท่านได้ปรับแก้เเม่พิมพ์ใหม่ให้มีความลึก สวยงามมีมิติชัดเจน เเละยังได้ผสมสูตรมวลสารตามตำนานการสร้างพระขุนแผนพรายกุมารอย่างเเท้จริงอีกด้วย

ที่ท่านสร้างพระขุนแผนพรายกุมารรุ่นนี้เพื่อบูชาครู นั่นก็เพราะว่าเป็นการสร้างด้วยอาศัยบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 2 สายมาผสมกัน ท่านว่าทำบูชาครูทั้งทีต้องเเรงสุดๆไม่ให้ต่างจากที่ครูทำ คือ
- บารมีพรหมสุเรนทร์(พ่อขุนแผน)
- บารมีเทพหลักเมืองสุพรรณ(พ่อขุนช้าง)

พ่ออาจารย์ท่านมีดำริจะผสมสูตรมวลสารเนื้อพระให้เข้มข้นสูงสุด จึงใช้ผงเเละมวลสารล้วนๆมาประกอบกันขึ้นมาเป็นเครื่องมงคลอาถรรพ์ชุดนี้ โดยได้นวดผงเเยกออกมาตั้งเเต่ผสมมวลสารสร้างสมิงพระกาฬสมัยนั้น... ซึ่งมวลสารของชุดนี้จะประกอบไปด้วย
- ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ซึ่งเป็นสุดยอดผงที่มีกรรมวิธีสร้างซับซ้อนวุ่นวาย โดยผงนี้ได้รับการอธิษฐานจิตให้สำเร็จตัวจากหลวงปู่ทิม ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผงที่มีอาถรรพ์เเละเฮี้ยนที่สุดในยุคหลังปี 2500 ก็ว่าได้ ใครได้ไปมีประสบการณ์กันทุกคน ทำให้พระขุนแผนพรายกุมารมีสนนราคาสูงลิบ
- สีผึ้งผีหุง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านหวงมากเพราะได้มาพร้อมๆกับผงพรายกุมาร สีผึ้งนี้เรียกได้ว่าเป็นของสุดยอดที่จะหาของเเท้ชมยังยากในสายหลวงปู่ทิมนี้ ได้ชื่อว่ามีอิทธิคุณและอาถรรพ์แรงกล้าหายากกว่าสีผึ้งเขียวของพ่อท่านทาบเสียอีก ซึ่งวิธีทำสีผึ้งนี้ค่อนข้างพิศดารหลังทำเสร็จหลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกจนสำเร็จ ใครได้ไปใช้ล้วนเห็นผลทันใจทันตากันทุกคน ท่านให้เอาไปใช้ในทางที่ดี พ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาผสมเป็นเชื้อเพื่อนวดกับผงที่ลบถมได้
- น้ำมันพระเจ้าตาก ซึ่งน้ำมันนี้ เป็นอีกหนึ่งมวลสารที่ทำให้พระขุนแผนของหลวงปู่ทิมเฮี้ยนสุดๆเนื่องจากใช้น้ำมันนี้เป็นส่วนผสมเนื้อพระตอนทำพระขุนแผนผงพรายกุมาร พ่ออาจารย์ท่านได้รับมาพร้อมกับผงพรายกุมารเเต่ไม่เคยนำมาผสมสร้างเนื้อตามสูตรเลย นี่เป็นครั้งเเรกที่ท่านใช้เป็นตัวประสานเนื้อพระ เพื่อให้พระนั้นดีที่สุดเช่นบูรพาจารย์เคยทำไว้
- สีผึ้งเขียว ท่านพ่อทาบ วัดกะบกขึ้นผึ้ง สีผึ้งในตำนานที่เเม้มีปริมาณเพียงหัวไม้ขีดเดียวก็มีอานุภาพเเรงกล้า เป็นสีผึ้งได้สาว เสียสาว เพราะมีกรรมวิธีทำลึกลับซับซ้อน
- ผงอิทธิเจเสน่ห์กล , ผงสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน พ่ออาจารย์ท่านได้ลบผงวิเศษเเละเลือกใช้ผงเพียง สองชนิดนี้เท่านั้นมาผสมสร้างพระรุ่นนี้ ท่านว่าผงอิทธิเจเสน่ห์กลนั้น มีอำนาจรุนเเรงอยู่เเล้ว ปลิวไปที่ไหนเเค่คนเดินก้าวข้ามนี่หลงหัวปักหัวปำ เป็นเสน่ห์อย่างถึงที่สุด ในส่วนของผงสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกันนั้น ก็เเน่นอนว่าเป็นผงที่มีอิทธิคุณทางด้านกามตัณหาเสน่ห์ราคะสูง เพราะสาวสามหมู่บ้านนั้นมีสามีคนเดียวกัน ยินดีอยู่ร่วมกัน ท่านว่าผงสูตรนี้เเรงเอาไปใช้ไม่ต้องพูดอธิบายอะไรมากมันจะไม่งาม ซึ่งท่านกล่าวเเต่เพียงว่า ล่อกันทั้งวัน ได้กันไม่ได้เลือกเลยว่าใครเป็นใคร
- ผงไม้ไก่กุกยอดอาถรรพ์ วิชาอาถรรพ์ที่ปกตินั้นจะหาเพียงไม้ไก่กุกที่เป็นของธรรมชาติก็ว่ายากเเล้ว เเต่พ่ออาจารย์ท่านทำเครื่องรางนี้โดยอิทธิวิธีเฉพาะ ซึ่งก็คือท่านได้นำน้ำมันที่ซื้อมา 3 เจ้าไม่ต่อราคามาผสมกับยาประดอกรัก เถ้ากลางป่าช้า ตะไคร่เสมา มาผสมกันเสกด้วยคาถาน้ำตาเเห้ง หลังจากได้น้ำมันมาเเล้วท่านจึงนำไปทาไว้ที่ตัวพ่อไก่และเเม่ไก่ รอเวลาที่พ่อไก่คาบกิ่งไม้เล็กๆร้องเสียงเรียกเเม่ไก่ให้มาผสมพันธุ์อย่างรวดเร็วด้วยมนต์พระคาถา ถือว่าได้ไม้ไก่กุกที่เเรงด้วยอาถรรพ์วิชาอย่างที่สุด ท่านว่าเเรงกล้ากว่าไม้ไก่กุกทั่วไป มีอาถรรพ์สูง ไม้ตัวนี้อยู่ที่ไหน ความรักเสน่หาก็จะวิ่งเข้ามาใส่ มาให้เราง่ายๆไม่ต้องเสียเวลานานเเต่อย่างใดแบบพ่อไก่เรียกเเม่ไก่เพราะต้องมนต์คาถาเช่นนั้น ท่านใช้ไม้อาถรรพ์นี้ป่นเป็นผงผสมเป็นมวลสารเฉพาะ
- ศิลาอธิษฐาน คุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธ พ่ออาจารย์ได้นำมวลสารพิเศษมานวดผสมลงไปในเนื้อพระทุกองค์ กล่าวกันว่าคุณแม่บุญเรือนนั้นจิตของท่านสำเร็จเเเละท่านมีความเชี่ยวชาญในอิทธิวิธีมีบารมีมาก ดังนั้นศิลาน้ำที่ท่านอธิษฐานไว้ช่วยคนตกทุกข์ได้ยากทั้งหลายจึงเป็นดุจดั่งของวิเศษ พ่ออาจารย์ท่านได้นำมาผสมลงไปในเนื้อพระเพื่อเป็นตัวช่วยขับพลังงานขององค์พระเป็นตัวดูดตัวรวบรวมพลังงานเอาไว้ ท่านว่าเพียงเเค่เรามองก็พร้อมจะอาราธนาบารมีขององค์พระ ของชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์วิชาความขลังต่างๆทั้งของคุณวิชาทั้งหลายมาไว้กับตน จะได้ไม่จำเป็นต้องสวดคาถาใดๆให้ยุ่งยากเวลามีความจำเป็นต้องใช้งานเร่งด่วนจริงๆ
- ผงวิชาสังฮอมจิต,ผูกจิต เป็นผงวิชาที่เป็นหนึ่งในวิชาสายเสน่ห์ที่ทำยากมาก เพราะผู้ทำจะต้องเข้าถึงภาวะเเห่งจิตทั้งของตนเเละของผู้อื่น มีญาณวิถีกระจ่างชัด เป็นผงที่มีอานุภาพทางด้านควบคุมจิตใจผู้อื่น ทำให้จิตเเละความรู้สึกของคนที่เราต้องการอยู่กับเรา ให้เขาอยากเข้ามาหาเรา ผูกเอาไว้กับเราไม่เสื่อมคลาย วิชานี้ถ้าใช้ได้ฝึกให้คล่องพร้อมไปกับการเจริญกรรมฐานภาวนา จะมีญาณวิถีแก่กล้าถึงขนาดที่ทำให้เราสามารถรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับอีกคนหนึ่งทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านได้ให้คาถาไว้ใช้กำกับด้วย เพื่อที่เราจะได้ผูกจิตคนที่เราหมายปองได้ เวลาจะระงับดับไปท่านว่าไม่ต้องกังวลก็เพียงระลึกถึงคนใหม่ วิชานี้เป็นผงเฉพาะทางสำหรับคนที่หมายปองเรื่องเสน่ห์โดยเฉพาะ ท่านว่าลงให้เต็มที่เเล้วจะใช้จนถึงขนาดเห็นการกระทำเเละความเป็นไปของบุคคลอื่นหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่ที่จิตของผู้รับเอง ว่าจะฝึกเอาจริงเอาจังสักเพียงใด ถ้าใช้ได้คล่องไม่จำเป็นต้องผูกครั้งละคน จะสวดคาถาผูกครั้งละหลายๆคนก็ได้(ท่านว่าลงยากมากเพราะทำเป็นผงล้วนๆลบอยู่หลายวันกว่าจะได้ซักค่อนขวดยาหม่อง)
- ผงมหานิยมใหญ่ ท่านว่าความเมตตานั้นมีแล้วก็กินกันไม่หมด เป็นยอดของวิชา มีเมตตาเเล้วเที่ยวได้ทั่วโลก ใครเห็นก็เมตตาเอ็นดูเข้ามาหาเรา จะทำอะไรเขาก็รักก็เมตตาเอ็นดูเรา ท่านลบผงผสมไว้ในกรณีที่เราจะเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่เจ้านายหรือผู้มีอำนาจมากทั้งหลาย เขาจะได้โอนอ่อนต่อเราเมตตารักเราเหมือนลูกในไส้
- ผงมหาเสน่ห์ใหญ่ นี่ก็ลบผสมไว้เพื่อให้อานุภาพสอดรับคู่กับมหานิยมใหญ่เช่นกัน ท่านว่าเพื่อจะให้วิชานี้ควบกัน มีมหานิยมเเล้วก็มีเสน่ห์ในตัวด้วยถ้าใครขาดเสน่ห์ไปจะได้เข้าไปเสริม ท่านว่าคนเรานี้ถ้ามีเสน่ห์เเม้ไม่หล่อไม่รวยเเต่ก็ชวนให้มอง ให้น่าหลงใหลใฝ่ฝัน คนมีเสน่ห์กับคนหล่อนั้น คนมีเสน่ห์ยังไงก็เป็นต่ออยู่เสมอ ท่านผสมไว้ให้เป็นอิทธิคุณเเฝด

"ขลังมาก เฮี้ยนมาก" เป็นคำพูดที่พ่ออาจารย์พูดเสมอเวลาเสกพระชุดนี้ ท่านว่าพระที่เราทำนี่เป็นพระเจ้าชู้ นี่ทำไว้ให้ใครอยากได้ก็ตามเเต่บุญเค้า ทำไว้ให้คนที่มีปัญหาครอบครัว ไม่มีคนรักไม่มีคู่ชีวิต อยากมีความรักอยากได้คู่ที่ดีงาม เค้าเจอก็ให้มีเหตุมาอาราธนาไป กุมารซ้ายขวาองค์พระนั้นท่านเรียกว่าเจ้าชัยกับเจ้าย ท่านว่าเลี้ยงเเบบกุมารทองได้เลยสำหรับใครมีองค์พระรุ่นนี้ เขาเป็นกุมารเทพ(มีความเป็นทิพย์ในตัวเองเรียกใช้เรียกสวดมนต์ทำบุญอย่างเดียว ของเล่นเครื่องเซ่นเขาไม่รับ) พ่ออาจารย์ท่านว่าขุนแผนรุ่นนี้เราใช้มวลสารของท่าน(บูรพาจารย์ในอดีต)ทำมากเสียยิ่งกว่าที่เจ้าของเขาเคยทำไว้ ด้วยไม่ได้คิดวัดรอยเท้าครูบาอาจารย์เเต่เดินไปตามรอยเท้าท่าน มีอะไรดีก็ใส่ไปให้ครบทั้งหมด ถึงตอนเสกท่านก็เสกแบบเดียวกับที่เสกตะกรุดบ่วงตัณหาดอกครูทีเดียว ท่านว่าเวลาเสกเราสำเร็จด้วยคาถาเเละศาสตร์ที่เราเรียนมา ก่อนจะเชิญสมเด็จบรมครู ท่านทิมกับท่านทาบมาลงเสกปิดอีกครั้ง

ทำไมจึงเป็นพระขุนแผนจอมมนตราคู่อุปถัมภ์สองบารมี
พระชุดนี้ต้องกดแยกพิมพ์ไว้เป็นกรณีพิเศษเพราะพ่อขุนแผนนั้นท่านสั่งให้พ่ออาจารย์สร้างรูปเพื่อนเกลอของท่านบรรจุลงไปด้วย นั่นก็คือเทพขุนช้างซึ่งเป็นเพื่อนเกลอหรือที่พ่อแผนท่านเรียกว่า"มิตรยามยาก มิตรที่พึ่งพาได้" พ่อขุนช้างนั้นท่านเป็นเทวดาหลักเมืองหรือจะเรียกเจ้าพ่อหลักเมืองของสุพรรณก็ได้ เป็นตระกูลมหาเศรษฐีใหญ่ทั้งยังเป็นเพื่อนกับขุนแผนมาแต่เยาว์วัยพอเติบโตขึ้นก็ได้เป็นท่านขุนด้วยความฐานะมหาเศรษฐีของท่าน
พ่ออาจารย์ท่านว่าที่จริงแล้วทั้งสองท่านนี้ไม่มีใครจนเลย มีแต่คนยุคหลังเข้าใจผิดกันไปเอง เพราะท่านเป็นพระยาเป็นเจ้าพระยากันทั้งคู่คนนึงก็เป็นเจ้ากรมคนนึงก็เป็นเจ้าเมืองจะเอาที่ไหนมาจน ทั้งความเป็นจริงแล้วทั้งสองยังเป็นมิตรที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาตลอดอีกด้วย เช่นนั้นพ่อขุนแผนจึงให้พ่ออาจารย์ท่านทำองค์ขุนช้างฝังบรรจุไว้ในขุนแผนรุ่นนี้เป็นกรณีพิเศษ ทำให้พระขุนแผนรุ่นนี้มีสองบารมีทั้งเทพพรหมครบบริบูรณ์
- หนึ่งคือพ่อขุนแผนที่มีพระเวทย์ขลัง มีวิชาความรู้ร้ายกาจ
- หนึ่งคือพ่อขุนช้างมหาเศรษฐีที่ไม่รู้จักคำว่าจน

เทพขุนช้างมีดีด้านไหน..
พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาตรงๆเลยก็คือหนุนคุณจนเป็นเศรษฐีนั่นเเหละ ท่าน(เทพขุนช้าง)ท่านบอกเองว่าเราหนุนเรื่องเงินทั้งวิธีหาเงิน วิธีทำมาหากินให้ได้เงิน ช่องทางการเงิน....หนุนทุกทางให้ได้เข้ามา เปิดซึ่งรายรับทุกทางที่ยังปิดอยู่
ใครที่มีวิกฤติเหตุจวนตัวหรืออยากรวยไวชีวิตหวังกับอาชีพก็ไปไม่รอดไม่ถึงฝั่งแน่นอน ต้องหากับหวยกับเบอร์พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ต้องใช้พ่อขุนช้างนี่แหละหนุนเอาแล้วจะเข้าใจว่าเล่นหวยจนรวยมันเป็นยังไง ส่วนคนที่ทำงานมีช่องทางการเงินอื่นๆอันนี้ยิ่งหายห่วงเพราะท่านจะดึงเงินมาให้เราหลายช่องทางมากขึ้นตามที่เราถนัด บูชาพ่อขุนช้างนี่อยากได้อะไรก็พูดกับท่านเลยแล้วให้นึกว่าท่านเออ..ออไปกับเราด้วยถึงจะได้ตามนั้นจริงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าขุนช้างนั้นเป็นเทพที่มีอภินิหาริย์มากชีวิตใครที่ท่าทางแย่ๆรู้ตัวว่าตัวเองจะไปไม่รอดนี่ต้องใช้ขุนช้างเลย
พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ขุนช้างนั้นเมื่อเราปั้นท่านและเชิญท่านมาตามบัญชาพ่อแผนท่านก็มาช่วยอย่างเต็มที่ ท่านว่ารอจะช่วยมานานแล้วรอจะไปโปรดคนที่มีวาสนาต้องกันและรอคนที่เชิญท่านได้จริงๆแบบนี้อยู่นาน ท่านให้พ่ออาจารย์สร้างรูปท่านหรือที่เรียกว่า"รูปเหมือนปั้นพิมพ์ตลก" ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านต้องนั่งปั้นไปอธิษฐานจิตไปทีละองค์ ท่านทำให้คนดูเห็นแล้วรู้สึกตลกเพราะเป็นเคล็ดของความเมตตาใครเห็นใครก็ยิ้มใครเห็นใครก็รักง่ายๆ องค์ขุนช้างนั้นท่านสั่งให้พ่ออาจารย์ลบถมผงประเภทต่างๆรวมถึงเสาะหาว่านยาแต่ละชนิดแบบเฉพาะเจาะจงเพื่อนำมาใช้ปั้นรูปท่านชนิดที่ว่าจะเกินหรือขาดอย่างใดล้วนไม่ได้เลย
ขุนช้างนี้ดีทุกด้านนอกจากจะหนุนเปิดชีวิตเรื่องเส้นทางการเงินแล้วยังดีด้านเสน่ห์เมตตาด้วยเพราะเขามีข้าทาสบริวารมาก มีเมียมีนางต้นห้องเมียเล็กเมียน้อยก็มากหลายสิบหลายร้อย พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานใจใช้ได้ทุกทาง ### แต่ให้จำไว้ห้อยองค์ขุนแผนรุ่นนี้ที่ฝังเทพขุนช้างนั้น อยากได้อะไรจะได้มาง่ายๆเป็นพิเศษไม่ต้องใช้ความพยายาม เพราะนี่คืออาถรรพ์เบิกทางของขุนช้างเขา จะได้เมียได้บ้านเปิดทางเลื่อนยศ...ท่านว่าจะเอาอะไรยกเว้นเดือนกับดาวบนฟ้าขุนช้างเขาเปิดทางได้หมดเพราะเขาเป็นมหาเศรษฐีของอยุธยามหาสถานเป็นผู้มากบารมี แม้แต่ขุนนางเจ้าพระยาผู้มีศักดิ์สูงยังต้องเกรงใจเคารพนบไหว้ นี่คือข้อดีหรือคุณของรูปเหมือนขุนช้างรุ่นนี้ ท่านว่าทำอะไรก็สะดวกไปหมดเพราะเขาเป็นคหบดีอยู่ไหนคนก็ไว้หน้า ทั้งทรัพย์สินหรือยศฐาที่ได้มาจะยืนยงสถาพร ปิดประตูที่ว่าได้ลาภเสื่อมลาภนั่นทีเดียว
ทั้งองค์ขุนช้างนั้นยังได้ชื่อว่าเป็นผู้แยบคายเปี่ยมด้วยสติปัญญายิ่งใหญ่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ ไม่เข้าตาจน ไม่ตกอยู่ในแต้มต่อผู้ใดแม้มีภัยก็รอดได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่หลักๆแล้วเขาดีทางโภคทรัพย์ที่สุด

พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ขุนแผนรุ่นนี้นั้นพิเศษอยู่มากเพราะขุนแผนท่านบัญชาให้สร้างใส่เพื่อนรักท่านลงไปด้วย ท่านว่าคนเขาไปเข้าใจผิดกันเองว่าพวกท่านเป็นอริกัน ไม่ถูกกันแต่ความจริงแล้วทุกอย่างเป็นเรื่องแต่งทั้งสิ้น ท่านปรองดองกันดีและคอยช่วยเหลือกันตลอดดั่งคำว่า"มิตรยามยาก" เช่นนี้อาถรรพ์ของขุนแผนรุ่นนี้จึงมีมากมหาศาล ใครเดือดร้อนเข้าตาจนจะได้คนหนุนส่ง ใครขาดคู่อุปถัมภ์คู่บารมีอธิษฐานกับองค์พระจะได้สมหวัง จะพบกัลยาณมิตรคอยช่วยเหลือเราไปจนตายไม่ทรยศหักหลังเช่นนี้ ซ้ำเทพขุนช้างยังบอกสถานที่ให้พ่ออาจารย์ท่านขุดเอาผงวิเศษที่ท่านทำไว้กับขุนแผนสมัยเป็นเกลอกัน ท่านว่าผงนี้มีอาถรรพ์มากมีคุณทุกทางแต่ข้า(ตัวขุนช้าง)เป็นคนบอกให้คุณไปเอาเพราะฉนั้นผงนี้ก็จะมีบารมีของข้าเยอะกว่า(พ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อนเขาไม่ยอมกันเลยคุยข่มกันผ่านทางเราเพราะเอาเข้าจริงเทพขุนช้างท่านข่มขุนแผนไม่ได้**ท่านพูดไปก็ขำไป แต่โดยรวมแล้วคือดีเพราะบารมีขุนช้างนั้นเน้นความสำราญความสะดวกสบายแบบชีวิตระดับมหาเศรษฐีของพระนคร นี่คือบารมีที่ไม่มีใครเทียมใครเหมือน) ด้วยเป็นผงเก่ามีอาถรรพ์มากทั้งพ่อขุนช้างยังเน้นย้ำว่าผงนี้บารมีท่านคลุมไว้ทั้งหมดเพราะท่านเป็นทั้งคนสร้างคนขุดคนฝังเอง พ่ออาจารย์ท่านจึงนำผงที่แข็งเป็นหินแล้วมาโขลกพอแลกใส่ไว้ตอนกดพิมพ์ที่ด้านหน้าทุกองค์ ***ท่านว่าแค่ผงนี้ก็คุ้มแล้ว ตายแล้วเกิดใหม่ก็หาใครมีบารมีเฉพาะทางที่จะทำของดีฝากไว้กับแผ่นดินเช่นนี้ไม่ได้ ฉันบอกได้แค่ว่าใครที่คิดว่าห้อยขุนแผนจะมีแต่เรื่องชู้สาวนั้นกลับไปคิดใหม่ได้เลย เพราะรุ่นนี้เขา(ทั้งสองท่าน)เน้นให้พร้อมมูลทุกด้านโดยมีความสะดวกสบายทางโลกีย์วิสัยกามคุณทั้งห้าตลอดจนเงินตรายศฐาบรรดาศักดิ์ครบถ้วน ทั้งเป็นบารมีเทพพรหมทั้งนั้นถ้าใครจะเน้นเรื่องใดไม่ต้องการเรื่องไหนจะปิดประตูลงกลอนเอาเฉพาะเรื่องเดียวก็บอกท่านได้

ขุนช้างทับจันทรา
ด้วยคติที่ว่าทับจันทร์ จันทร์นั้นเปรียบคือสตรีถูกสร้างจากนางฟ้าสิบห้าองค์บดเป็นผงจึงเกิดเป็นจันทราเทพ รูปจันทราเทพนี้จึงช่วยเพิ่มสง่าราศี ความงามให้แก่กายสังขารของเรา ทั้งยังชักพาความโอบอ้อมอารีจากผู้อื่นดึงสู่ตัวเราโดยตรง รูปหล่อจันทราเทพเนื้อมหาชนวนวิเศษนี้ท่านลงอาถรรพ์เฉพาะทางก่อนใช้ฝังพระขุนแผน นอกจากจะดีทางเสน่ห์สำหรับคนเอาไปอธิษฐานทางเจ้าชู้แล้ว(คนที่ไม่อธิษฐานใช้ด้านนี้ก็จะไม่เจอ) ยังนำพามิตรภาพรอบด้านเป็นเมตตาอย่างเอก จะพูดคุยอะไรปรารถนาสิ่งใดย่อมสัมฤทธิ์ผล ทำให้ใจเราปลอดโปร่งมีความคิดสร้างสรรค์ ทั้งขจัดปัดเป่าทุกข์นำพาโชคดีความมั่งคั่งร่ำรวยมาให้
ดั่งคติที่ว่าอยากรวยเร็วอยากได้เงินต้องขอกับพระจันทร์ เมื่อขุนช้างนั่งทับจันทร์นั่นจึงเปรียบได้ว่าแม้แต่เดือนแต่ดาว แม้สมบัติกลางหาวก็หยิบให้เราได้ ทั้งกำลังของพระจันทร์ยังมีอิทธิพลกับโลกกับตัวมนุษย์โดยตรงโดยเฉพาะธาตุน้ำ และร่างกายของมนุษย์ก็เป็นธาตุน้ำมากกว่าครึ่งท่านจึงควบคุมความเป็นไปของเราได้ทุกอย่าง พ่ออาจารย์ท่านอยากเห็นผู้ใช้สะดวกสบายครบทุกทางตามความปรารถนาท่านจึงยอมนำพระสำคัญรุ่นนี้ออกมาให้บูชา เช่นนั้นขุนช้างทับจันทร์จึงช่วยสะกดทุกข์เอาไว้เร่งโชคลาภเงินทองและเปิดทางให้เราได้ทุกด้านอย่างถึงที่สุด ทั้งทับจันทรายังเป็นกฤติยาคมแฝดหมายถึงได้สิ่งที่มีค่าทั้งคู่ครองสัตว์สองเท้าหรือทรัพย์สินอันเป็นที่รักสมความปรารถนา

คาถาบูชาอาราธนาองค์พระ
อิธะเจตะโส ทะทัสหะ ตัณหาหิ จามะสา ภักขิมิ ตังมะ มะตังวา ยะ อิตถีโย พุทธะโนชาโต เอหิ กัมมาริ สัมมา ตะมะอาคัจฐะหิ คิวิตะโพ อาคัจฐะหิ (ท่านว่าให้ภาวนา 7 ที ไม่ควรนำไปเเกว่งน้ำให้ใครกิน เพราะเเรงเกินไปเขาจะเป็นบ้าเสีย)
วิธีผูกจิต
จิตตังกุตตัง สุขาวะหัง จิตตังสุกขาวะ จิตตังวิภัตติรูปันจะ นิกเขโปอัตตะโชตนา คัมภีรานิปุนนะนัตถานัง ตัมปิพุธเทนะเท ชิตัง(ระหว่างท่องพระคาถานี้ให้ทำใจให้นิ่งสำรวมจิตไว้ให้มั่นคง)
ยะถาถัมเป นิพพะเทยยะ วะสะธัมมัง นโรอินทเยวิสัคคัง จิตตังยารัมมโน ทะละหะ (ระหว่างท่องพระคาถานี้ให้นึกถึงหน้าคนที่เราหมายปองเขาเป็นการผูกจิตแล จะนึกเช่นใดก็ตามแต่ปรารถนา)

### ใครหวังรวยทางหวย รวยแบบฟลุคๆ หรือรู้ตัวว่าที่ทำมาหากินอยู่นั้นก็แค่เสมอตัว ทำไปวันๆเอาตัวไม่รอดท่านว่าให้ใช้บารมีขุนช้างของท่านจะรวยไว คนที่ทำท่าว่าจะไม่รอดย่อมรอดแน่ๆจะพลิกฟื้นฐานะได้ในสามเดือนหกเดือน หากยังมีขุนช้าง(ที่ฝังหลังองค์พระรุ่นนี้)อยู่ในคอไม่ต้องกลัวจะไม่มีเงิน จะเอารถ เอาบ้าน เอางินสด ...จะเอาอะไรมีแต่จะได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยซ้ำ พ่ออาจารย์ท่านว่าบารมีของท่านกับผงที่ท่าน(ขุนช้าง-ขุนแผน)ทำนั้นเฮี้ยนมากขลังมาก
### ข้างจันทรานั้นท่านฝังแรพิเศษที่เกิดขึ้นในศิวะโยนีลึงค์ไว้ ท่านเรียกว่าธาตุมหากำเนิดของมหาเทพ เป็นธาตุที่ตกผลึกเกิดขึ้นเองในพิธีบูชา(ท่านหวงมากเพราะธาตุนี้มีค่ามากที่สุดทั้งยังมีอาถรรพ์และกำลังเหนือเทพทั้งลหาย) มีองค์ธาตุนี้อะไรๆก็เกิดขึ้นได้เป็นไปได้ทั้งนั้น มีอาถรรพ์มากด้วยแรงของปาฏิหาริย์พระศิวะพระอุมาไม่มีอะไรต้านทานหรือถอดถอนได้เลย ตามแต่จะใช้จะอธิษฐานเอาเพราะมวลสารทุกอย่างนั้นลงตัวแล้วอย่างมากที่สุด

*** รายการนนี้มีจำนวนน้อยเพราะพ่ออาจารย์ท่านเน้นผงมวลสารโบราณของพ่อขุนช้างล้วนๆมาใส่ไว้ เอาบารมีสองเทพพรหมเข้าช่วยเหลือคนที่หวังพึ่งพาองค์ขุนช้างขุนแผนอย่างเต็มที่ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งความประสงค์ที่อยากจะบอกกับองค์เทพทั้งสองไว้ด้วยว่าอยากให้ช่วยเปิดทางเรื่องไหนเป็นพิเศษ พ่ออาจารย์ท่านจะเจิมประสิทธิให้อีกคราหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนค่าอาหารเด็กนักเรียนชาวเขาสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา พระขุนแผนจอมมนตราคู่อุปถัมภ์สองบารมี(ทับจันทรา) บูชา 3,000 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...น์-พ่ออาจารย์พล.539894/page-500#post-11163844

 

ร่วมทำบุญบูชา กุมารนาจาราชันอัคคีอมตะข่มอ๋องวังมังกร(สี่พันมหาทัพกุมารอินทกะ)

หากจะกล่าวถึงกุมารวิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านประยุกต์หลายศาสตร์วิชาเพื่อสร้างยอดกุมารคงหนีไม่พ้นองค์นาจา ตามที่เห็นกันคือองค์นาจานั้นจะปรากฏในรูปลักษณ์ของเด็กผู้ชายยืนเหยียบอยู่บนกงจักร(วงล้อไฟ)และมักจะถืออาวุธคือหอกและห่วงติดกายเสมอ เทพองค์นี้มีอิทธิฤทธิ์มากและมีหน้าที่ใหญ่(สำคัญ)มากสามารถเหาะเหินเดินอากาศไปที่ไหนที่เทพเซียนไปไม่ได้ก็ล้วนไปได้ทั้งสิ้นเพราะมีกงล้อไฟเป็นพาหนะ เรียกว่าไม่มีที่จำกัดหรือเข้าไม่ได้เลย มีอำนาจมากในทางปราบมารและปีศาจพ่ออาจารย์ท่านจึงยกว่าเป็นเทพกุมารที่เก่งมาก ทั้งเง็กเซียนฮ่องเต้ยังแต่งตั้งเป็นแม่ทัพสวรรค์เสมอด้วยเทพเอ้อหลางที่ทำหน้าที่ปกป้องประตูสวรรค์นั่นทีเดียว แต่นาจานั้นกลับมีหน้าที่พิเศษอยู่อีกนั่นก็คือเป็นองครักษ์ขององค์เง็กเซียนโดยตรง(พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเก่งมากๆจริงๆถึงรับหน้าที่ตรงนี้ คนจะไม่ค่อยรู้กันว่าท่านเก่งขนาดไหน) องค์กุมารนาจานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีศักดิ์ใหญ่มากเพราะมีตำแหน่งเป็นแม่ทัพฟ้าสามารถบัญชาการทหารสวรรค์หรือเซียนที่มีฤทธิ์แกร่งกล้าเป็นทหารของชั้นฟ้าได้ทั้งสี่ทิศ(ควบสี่เหล่าทัพเลย)

โดยนิสัยขององค์นาจานั้นจะเป็นเด็กที่ซนมากและไม่กลัวใครทั้งสิ้น ทั้งยังเป็นอริถือว่าเป็นอาถรรพ์ที่ใช้สะกดข่มเหล้าจ้าวมังกรได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์กุมารนาจานั้นมีงานอดิเรกที่ชอบทำเวลาว่างคือการล่ามังกรถือเป็นเทพองค์เดียวที่เง็กเซียนยกให้เป็นพิเศษ ดังนั้นมังกรตนใดที่มีพฤติกรรมนอกรีตหรือทำความเดือดร้อนส่วนใหญ่จะโดนนาจาล่าเล่นทั้งสิ้น ดังที่ทราบกันว่านาจาเคยปราบมังกรเจ้าสมุทร ทั้งยังไปเมืองบาดาลถลกเอ็นมังกรและเสกมังกรให้กลายเป็นงูเขียว...วีรกรรมทางนี้นับว่ามีมากเพราะบางที่ก็ว่าท่านสังหารพญามังกรถึงเก้าตน บ้างก้ว่าท่านสังหารมังกรโอรสเจ้าสมุทร บ้างก็ว่าท่านฆ่าไม่เหลือโดยใช้ธนูของพระยูไลยิงตาย เช่นนั้นจึงถือว่าท่านมีอิทธิฤทธิ์มาก...มากเกินเด็กเกินกว่าเทพทั้งหลายจะมีได้ด้วยซ้ำทั้งยังเป็นที่นับถือศรัทธาของฝูงชนได้รับการสักการะมายาวนาน

เมื่อนาจาสำแดงฤทธิ์เขาจะสูงถึงเก้าเมตรศรีษะจะมีกงจักรพร้อมทั้งสามเศียรแปดกรมีตาเซียนเก้าดวงมีฤทธิ์พ่นควันพ่นไฟในมือถือกฤษฏีกาของเง็กเซียนฮ่องเต้(แม้เหล่าเทพมารปีศาจก็ไม่กล้าขัดโองการสวรรค์ที่ท่านถือไปไหนมาไหนตลอด)ทั้งเหล่ามารต่างก็สยบต่อท่านทั้งสิ้นด้วยท่านคุมทัพสวรรค์มีกองกำลังส่วนตัวไว้ใต้บัญชาอีกสามหมื่นสามพันนาย มีอาณาเขตตระเวณรอบพระราชวังสวรรค์ของเง็กเซียนได้ ทั้งยังเป็นผู้ปราบและกำราบมังกรทั้งมวล(พ่ออาจารย์ท่านจึงทำองค์นาจาเหยียบหัวมังกรเอาไว้) พ่ออาจารย์ท่านว่านาจามีกำลังประเสริฐเพราะสามารถง้างคันธนูของพระยูไล(โดยนัยยะว่าเป็นคันธนูที่พระสิทธัตถะเคยง้างยิงหรือสหัสถามธนู)ที่ได้ชื่อว่ามีน้ำหนักมากและไม่มีเทพเซียนที่ไหนสามารถง้างได้(เป็นเด็กมีบุญจริงๆ) ด้วยนาจานั้นเป็นศิษย์ของไท่อี้เจิ้นเหริน(หนึ่งในผู้ศักดิ์สิทธิ์หรือสิบสองเทพทองคำของลัทธิเต๋า)ซึ่งบำเพ็ญพรตที่เขากันหยวนซานถ้ำจินกวงด้วยตัวอาจารย์นั้นก็มีวีรกรรมอยู่มากในทางช่วยโลกมนุษย์สังหารมารปีศาจ ทั้งยังคอยเช่วยนาจาตลอดไม่ว่าจะเก็บวิญญาณไว้ในดอกบัวหรือสร้างร่างใหม่เป็นมนุษย์บัว จะเรียกว่านาจาโชคดีที่มียอดอาจารย์ซึ่งใช้เส้นสายหาแต่ของดีๆในหมู่สิบสองเทพทองคำมาให้ศิษย์ตนก็ไม่ผิด ด้วยนาจานั้นมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว รู้จักการเสียสละและมีความกตัญญูต่อบิดามารดาพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะทำกุมารที่แรงฤทธิ์และมีศักดิ์ใหญ่ในโลกก็ต้องทำองค์นาจาไว้ให้คนได้พึ่งบารมีท่าน ด้วยเหตุง่ายๆว่า
- ไม่มีกุมารใดที่มีฤทธิ์เสมอนาจา
- ไม่มีกุมารใดที่มีศักดิ์เป็นแม่ทัพฟ้าเสมอนาจา
- ไม่มีกุมารใดที่มีกองทหารสวรรค์ในบัญชาการหลายหมื่นเสมอนาจา
- ไม่มีกุมารใดที่ถือกฤษฎีกาหรืออาญาสิทธิ์โองการสวรรค์ไว้กับตัวตลอดเสมือนนาจา
- ไม่มีกุมารใดที่บัญชาทหารฟ้าในมหาทิศทั้งสี่ได้ทุกกองพลเสมือนนาจา
- ไม่มีกุมารใดมากฤทธิ์ล่าเหล่าจ้าวมังกรเล่นเสมือนนาจา..
ทั้งในศาลเจ้าทุกศาลในโลกมนุษย์นาจายังมีหน้าที่คุมทหารในศาลเหล่านั้นด้วย ทั้งยังคอยดูแลพิธีกรรมต่างๆที่มนุษย์ทำหรือบนบอกขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นไปด้วยดี พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือหน้าที่ของกุมารนาจาที่คนไม่ค่อยรู้ถึงไปศาลเจ้าที่ไหนๆก็ตาม จะได้สมปรารถนากันหรือไม่ก็อยู่ที่องค์นาจาทั้งสิ้น

เดิมนาจาคือกุมารไฟหรือราชันอัคคีอมตะมาจุติจึงมีฤทธิ์มากปราบได้ทั้งสิ้นทุกเผ่าพันธ์แบบที่ไม่เคยปรากฏมีมาก่อนทั้งยังมีการบูชานับถือมายาวนานหลายพันปี
หลายเค้าเงื่อนและต้นตอซึ่งเป็นที่มาของกำลังอันมากฤทธิ์
บ้างก็ว่านาจาคือนลกุเวรหรือบุตรของท้าวเวสสุวรรณเพราะท้าวกุเวรจีนบางที่ก็นับถือเป็นหลี่จิ้งพ่อของนาจา ทั้งด้วยพฤติกรรมของนาจาเองที่มีทั้งสภาวะของเทพและมารเหมือนสภาวะของเผ่าพันธ์ยักษ์จึงเชื่อว่านาจาคือนลกุเวรก็มี แต่ในบางที่ก็เชื่อว่านาจาคือพระกฤษณะเพราะพระกฤษณะเจ็ดขวบก็ฆ่าพญานาคเหมือนที่นาจาฆ่ามังกรทั้งยังง้างธนูซึ่งไม่มีใครง้างได้เช่นนาจา...ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาท่านสร้างนาจารุ่นนี้ท่านจึงเชิญบารมีของท้าวเวสสุวรรณและพระกฤษณะมาเสริมองค์กุมารนาจาด้วยให้มีฤทธิ์หนักขึ้นเก่งขึ้นเป็นอาญาสิทธิ์ของทุกชาติพันธ์ไม่ว่าจะพุทธ เต๋า หรือฮินดู พ่ออาจารย์ท่านว่าทำให้เต็มกำลังอย่างถึงที่สุุด
ถือครองยอดแห่งเทพศาสตรา
ด้วยเป็นศิษย์รักของไท่อี้เจิ้นเหริน อาจารย์จึงนำของวิเศษที่ได้จากองค์หยวนสือเทียนจุน(ปรมาจารย์เซียน)มามอบให้นาจาทั้งหมดไม่ว่าจะห่วงเฉียนคุนหรือแพรฮุ่นเทียนที่เรียกง่ายๆว่าห่วงจักรวาลและแพรไหมฟ้า ที่มีฤทธิ์มากสามรารถขจัดมารร้ายได้ทั้งสิ้น ทั้งตัวนาจายังมีของวิเศษติดกายมาแต่กำเนิดคือกำไลทองคำและเอี๊ยมไหมแดงซึ่งเป็นของวิเศษที่เจ้าแม่หนี่วาประทานให้ ของวิเศษของนาจานั้นแม้เพียงแพรไหมฟ้าเมื่อเหวี่ยงลงน้ำยังสั่นสะเทือนไปถึงวังบาดาล เหวี่ยงถูกใครก็ตายเรียบไม่ว่าจะพลทหารหรือจ้าวมังกร นอกจากนี้นาจายังมีกงล้อไฟเป็นพาหนะทั้งยังใช้โจมตีศัตรูได้ แม้ห่วงจักรวาลนั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นยอดของเทพศาสตราเพราะเหวี่ยงถูกใครย่อมตายสนิททั้งใช้รัดรึงสิ่งใดก็ไม่มีหลุดรอดออกไปได้ใช้พันธนาการได้ทุกสรรพสิ่ง ไม่เพียงเท่านั้นนาจายังถือครองทวนอัคคีหรือทวนวิเศษที่หลอมมาจากเปลวสุริยันอันเป็นอัคคีเที่ยงแท้แห่งสามภพที่เผาทำลายได้ทุกอย่าง เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่านาจามีฤทธิ์มากทั้งยังเข้าไปได้ทุกที่ซ้ำมีศักดิ์ใหญ่มีหน้าที่ใหญ่โตไม่มีใครกล้าอวดดีกับเขา

พี่นาจาให้คุณมากเหลือประมาณ
เพราะเป็นยอดแห่งอิทธิฤทธิ์คุมทัพฟ้าทั้งสี่ทิศปราบปรามหมู่มารจึงมีฤทธิ์มากกว่าเทพเซียนหรือกุมารใด ทั้งยังมีจิตใจเอื้ออารีย์ของความเป็นเด็กรู้จักรักรู้จักเกลียดทั้งกตัญญูต่อผู้เอ็นดูตนเป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านจึงรับคำยอดเซียนเต๋า(องค์หยวนสือเทียนจุน)ให้ทำกุมารนาจาไว้โดยทำเป็นรูปนาจาเหยียบมังกรจะยิ่งให้คุณมากเพราะนาจาข่มอ๋องข่มเผ่าพันธ์มังกรไว้ทั้งหมด กุมารนี้จะสะกดข่มผู้ที่มีอำนาจมาก ชนชั้นสูงที่เราเอื้อมไม่ถึงล่วงเกินไม่ได้ทั้งหลายจะดึงลงมาอยู่ใต้เท้าเราทั้งสิ้น คนที่ถูกกระทำโดยพวกชอบใช้อำนาจไปในทางที่ผิด คนที่โดนของ โดนสะกด โดนข่ม หรือคนที่เกิดมาวาสนาต่ำมีชะตาต่ำไม่อาจลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงตัวเองได้พ่ออาจารย์ท่านว่ายอดเซียนเต๋าท่านให้รับองค์นาจา(พี่นาจา)ไปบูชา จะเปลี่ยนชีวิตตนได้ฉับพลัน ด้วยองค์นาจานั้นมีอาญาสิทธิ์ของเง็กเซียนหรือถือโองการสวรรค์ที่ตรีโลกไม่กล้าขัดขืนอยู่กับตัวไปไหนจึงผ่านได้ตลอดทั้งเซียนทั้งมารต้องเปิดทางให้ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตจะได้ไม่โดนกลั่นแกล้งจากเทพมารปีศาจใด ทั้งอธิษฐานขอสิ่งใดจากเทพทั้งหลายย่อมผ่านสะดวกสัมฤทธิ์ผลเพราะองค์นาจาเปิดทางเหล่าทหารสวรรค์ที่คอยเฝ้าศาลในศาลทุกที่
- อาถรรพ์พี่นาจาเหยียบเผ่ามังกร
ด้วยมังกรคือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แห่งฟ้าดินมีอยู่ทั้งในทะเล ในฟ้าสวรรค์ แม้ที่ขดตัวอยู่ตามผืนดินและภูเขา มีทั้งที่เป็นมิตรและร้ายกาจ การที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างองค์นาจาและปลุกจิตท่านขึ้นมาในรูปเหยียบหัวมังกรนั้นท่านว่าองค์นาจาท่านดีใจมากและบอกว่ารู้ใจท่านมาก ทั้งองค์นาจายังจะปราบพยศมังกรทุกเผ่าพันธ์ให้นำมาซึ่งความสุขและความอุดมสมบูรณ์แก่ตัวผู้บูชาและคนในบ้าน องค์นาจาท่านว่าเผ่าพันธ์มังกรทั้งหลายนั้นมีมาก ได้แก่
1. มังกรปกติ มีอำนาจมากสามารถทำให้เกิดฝนได้แม้เสียงใครได้ยินก็หูหนวกโดยสิ้นเชิง
2. มังกรไฟ เป็นมังกรมีปีกและเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีนิสัยดุร้าย
3. มังกรฟ้าสวรรค์ ที่มาจากฟ้าสวรรค์เป็นอมตะนิรันด์เป็นมังกรในหาดสวรรค์ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองปราสาทราชวังของเทพเจ้าบนสรวงสรรค์ และเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของฮ่องเต้
4. มังกรวิญญาณ เป็นมังกรที่บันดาลให้เกิดลมฝนเพื่อประโยชน์ต่อการเกษตรต่อมนุษย์ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของจักรราศี
5. มังกรบาดาล เป็นมังกรเฝ้าทรัพย์สมบัติในแผ่นดิน จะรักหวงแหนดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดในโลกอันตกทอดมาจากยุคดึกดำบรรพ์
6. มังกรเหลือง เป็นมังกรเจ้าปัญญา มีความรู้แจ้งต่อสรรพสิ่ง
7. มังกรอารักษ์ เป็นมังกรที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรและในทะเลมักอาศัยอยู่ในหนองน้ำใกล้ๆกับถ้ำที่มีอากาศอับชื้น และมังกรประเภทนี้ก็อาศัยแม้ในบ้านของมนุษย์
8. พญามังกร ปกครองสี่สมุทรคือทะเลเหนือใต้ออกตก
ปางนี้จึงปราบทุกเผ่าพันธุ์ดึงเอากำลังของมังกรทุกสิ่งมามอบให้กับผู้บูชา เหมือนตอนนาจาถลกเอ็นมังกรทำเสื้อเกราะให้พ่อ ...ด้วยมังกรนั้นมีความสามารถที่จะทำตัวเองให้มีขนาดใหญ่เท่ากับจักรวาลหรือมีขนาดเล็กเท่ากับหนอนไหมก็ได้จึงถือเป็นเคล็ดว่าเมื่อองค์นาจาปราบข่มมังกรไว้ชีวิตเราต้องมีแต่ใหญ่โตขึ้นไม่เล็กลงเด็ดขาด ทั้งยังได้คุณของมังกรทั้งความทะเยอทะยาน ความฉลาดเจ้าปัญญา เด็ดขาดทรงพลังมาส่งเสริมจิตวิญญาณตัวเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าพี่นาจาข่มมังกรไว้ให้ส่งต่อเฉพาะคุณของเขาแก่เราไม่เอาโทษนี่คือการปราบปรามอย่างเด็ดขาด เพราะปกติมังกรมักจะโกรธง่ายและให้โทษผู้คน แต่นี่ท่านกลับบังคับให้มังกรคายแก้ว ดุจมังกรคายมุกจันทรามุกแห่งความอุดมสมบูรณ์เสริมส่งชีวิตผู้บูชา ให้มีแต่ความเจริญงอกงามมีโชคลาภวาสนาอายุยืนยาว คอยปัดเป่าวิญญาณชั่วร้าย ดุจสะกดข่มความยิ่งใหญ่ๆใดทั้งปวงที่กดทับชีวิตเราจนโงหัวไม่ขึ้น ทำลายอำนาจที่เราต่อต้านไม่ได้ทั้งที่มองเห็นหรือไม่เห็นก็ดี ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่มาจากไหนมีอำนาจบารมีดุจเทพเจ้ามากเพียงใดองค์นาจาท่านข่มไว้ทั้งสิ้น ชีวิตใครที่โดนกระแสคลื่นลมและเปลี่ยนแปลงตามอำนาจความคิดผู้อื่นที่เหนือกว่าตน หรือพ่ายแพ้แก่ผู้ที่มีอำนาจมากกว่าในทุกด้าน ท่านว่าให้รับองค์นาจาไปใช้ ด้วยมังกรเป็นตัวแทนของธาตุทั้งน้ำความอบอุ่นทะเลผืนดินธรรมชาติอันเป็นพลังสูงสุดของโลกและสิ่งที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลายเมื่อองค์นาจากดมังกรเอาไว้ย่อมข่มสิ่งที่ดูยิ่งใหญ่ทั้งปวงรอบข้างเราให้อ่อนน้อมตามไปด้วย ทั้งธรรมชาติและพลังงานจะปกป้องเราให้รอดพ้นจากภยันตรายต่างๆ คนที่ยิ่งใหญ่เหนือคน คนที่สูงกว่าคนจะอ่อนน้อมกับเราและชะตาเราจะเดินขึ้นไปอยู่ในจุดนั้นแทน พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์นาจาเหยียบหัวมังกรนั้น เพราะหัวถือได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่สูงสุดของสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดเหนือทุกเผ่าพันธ์ ดังนั้นองค์นาจาเหรียญนี้จะนำมาซึ่งความโชคดีสูงสุดเช่นกัน
พ่ออาจารย์ให้เรียกท่านว่า "พี่นาจา" พูดหวานๆเพราะๆกับพี่เขานี่สารพัดที่จะขอกันทีเดียวเพราะเขาต่างจากเทพเซียนอื่นๆด้วยมีนิสัยเหมือนเด็ก เป็นเด็กอารมณ์ดียิ้มง่ายและให้การดูแลแก่คนในครอบครัวของตนมากเป็นพิเศษ เมื่อเรารับท่านไปก็เสมือนว่าเราเป็นครอบครัวของท่านแล้ว

ด้านหลังท่านอุดด้วยผงวิเศษที่ผสมด้วยเถ้าฮู้ที่ท่านทำพิธีเขียนด้วยโลหิตและเผาเก็บเถ้าไว้ตามที่องค์ยอดเซียนและองค์นาจาแนะนำ ในส่วนของผงวิเศษนั้นท่านใช้ทั้งผงยันต์ที่ท่านลบถมไว้หลายร้อยชนิดเข้ากับผงอาถรรพ์เก่าที่ท่านขุดได้ตามถ้ำตามปราสาทเจดีย์ร้าง นอกจากนี้องค์นาจายังฝังสัญลักษณ์ของท่านไว้ด้านหลังด้วย
- ห่วงจักรวาลรัดด้วยแพรไหมฟ้า รายการนี้องค์นาจาขอให้พ่ออาจารย์ทำให้เป็นพิเศษเพราะเป็นของวิเศษประจำกายท่านขาดกันไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านจึงหลอมจากธาตุกายสิทธิ์และนั่งพันด้วยสายสิญจน์ไม่ไหม้ไฟอันท่านถือเสกของมาหลายปี ท่านว่าดุจเป็นห่วงจักรวาลพันด้วยแพรไหมฟ้า ซึ่งห่วงและแพรนี้มีฤทธิ์มากใช้ปราบปรามได้ทั้งสามโลกเมื่อรวมตัวกัน ทั้งยังใช้รัดสิ่งใดก็ได้ไม่มีวันหลุดรอด ### พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ตั้งสมาธิดีๆนะ อยากได้อะไรก็เอาห่วงนี่ไปคล้องจับ ชีวิตขาดอะไรอยากเป็นเจ้าของโรงงาน อยากเลื่อนขั้น อยากได้ใจคน อยากได้เงิน อยากได้บ้าน อยากได้รถ อยากได้คู่ครอง อยากได้อะไรก็คล้องอันนั้นให้เธอทำจิตนิ่งๆตั้งสมาธิดีๆเอาห่วงไปคล้องรูปจินตภาพนั้นไว้ ท่านว่ายิ่งทำบ่อยยิ่งได้ไว เพราะเค้าคล้องไว้แล้วไม่มีวันหลุดเลย พอคล้องได้ก็ให้ลากมาหาเราทันที ยิ่งทำบ่อยจุดหมายยิ่งใกล้ความสำเร็จยิ่งเห็นง่ายเพราะทุกอย่างลงตัวไปหมด ใครก็ขัดก็ขืนฤทธิ์ห่วงจักรวาลขององค์นาจาไม่ได้
- ตะกรุดสี่ทัพฟ้า(อินทกะสี่พัน) ด้วยอินทกะนั้นคือเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ทั้งสี่กองทัพที่เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดอันจะพึงมีแล้วของท้าวมหาราชทั้งสี่อันประจำอยู่ในสี่ทิศ มีหน้าที่พิทักษ์รักษาและตรวจตราโลก เป็นกองกำลังของเสนายักษ์กองใหญ่หนึ่งพัน,เสนาคนธรรพ์กองใหญ่หนึ่งพัน,เสนากุมภัณฑ์กองใหญ่หนึ่งพัน,เสนานาคกองใหญ่หนึ่งพัน ได้ชื่อว่าทรงยศ ทรงกำลังมากเพราะบำเพ็ญบารมีบำเพ็ญฌาณมาแก่กล้าพร้อมที่จะทรงฌาณขึ้นชั้นพรหมได้ตลอดเวลา เมื่อใดที่ท้าวจตุโลกบาลแต่ละองค์หมดวาระก็จะคัดเทพชั้นอินทกะเหล่านี้ขึ้นมารับตำแหน่งต่อไป โดยอินทกะแต่ะองค์ก็จะมีเทวดาชั้นรองเป็นบริวารจำนวนมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าเทพอินทกะเหล่านี้ชอบสร้างบารมี เมื่อท่านจะทำกุมารองค์ครูให้ใครก็จะสังเกตุได้ว่าเทพอินทกะเหล่านี้มักจะลงมาก่อนเป็นอันดับแรก พวกเขาจึงบอกให้พ่ออาจารย์ลงจารนามทั้งสี่กองพัน ทั้งของนาค,ยักษ์,คนธรรพ์,กุมภัณฑ์แยกกันเอาไว้พวกเขาจะลงมาทำให้ทั้งนิรมาณกายแฝงกำลังฌาณกันไว้ทุกองค์ ให้ถือว่าว่าตะกรุดเป็นตัวแทนของพวกเขาทั้งสี่พันนายผู้เป็นเทพบดีแห่งจตุมหาราชิกา ทั้งยังให้พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาฝังไว้เมื่อจะทำกุมารองค์ครูที่พิเศษจริงๆ ดุจให้พวกเขาทั้งสี่พันได้ไปสร้างบารมีพร้อมกัน เมื่อนั้นเขาว่ากุมารนั้นจะเป็นกุมารที่เก่งที่สุดในโลกเพราะเกิดด้วยบารมีของเทพบดีระดับแม่ทัพเทพของแต่ละเผ่าพันธ์ถึงสี่พันองค์จะมีฤทธิ์มากปรากฏแก่ตาโลกควรค่าให้โลกต้องจารึกสืบไป จวบกับที่พ่ออาจารย์สร้างองค์นาจาและเห็นพอเหมาะพอควรที่ว่าองค์นาจานั้นเป็นแม่ทัพฟ้ามีอำนาจบัญชาสี่ทิศอันเป็นทัพของจตุโลกบาลอยู่ในตนเองแล้ว จึงฝังตะกรุดทั้งสี่อันเป็นตัวแทนของสี่เผ่าพันธ์อินทกะลงไปด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าสารพัดจะใช้เลยเพราะคนธรรพ์นี่ก็หนักทางเมตตา ยักษ์กุมภัณฑ์เหล่านี้ก็ครบทั้งมหาปราบมหาสะท้อนมีอำนาจยิ่งใหญ่ พญานาคก็มีสมบัติมาก เวลาบอกเวลาอธิษฐานอะไรก็เหมือนมีแรงมีกำลังถึงสี่พันคนรอช่วยเราเตรียมพร้อมไว้อยู่ตลอด

ตรงกลางห่วงจักรวาลนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังฝังองค์ธาตุอาตมันเอาไว้ด้วย เพื่อเป็นตัวแทนของขุมพลังงานอันเป็นนิรันดร์ที่เทพศาสตราและกุมารนาจาตลอดจนอินทกะทั้งสี่พันจะดึงกำลังออกมาใช้ได้ตลอดเมื่อเจองานโหดงานหินที่เกินมือหรือเกินกำลังจริงๆ(พ่ออาจารย์ท่านว่าที่จริงแล้กรณีนี้แทบจะไม่มีสิทธิ์เกิดขึ้นได้)
เหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณ
ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน
การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น) เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน
พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น) ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น
องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย
องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น
ด้วยอจินไตยเป็นสิ่งเกินหยั่งคาด
ดวงธาตุนี้ก็เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากเป็นกายสิทธิ์ธาตุแห่งองค์อาตมันแล้วยังมีเหล่าทิพย์กายของมหาพรหมคอยรักษา โดยเฉพาะครูใหญ่องค์สหัมบดีพรหมเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงกล่าวเป็นนัยน์ๆว่าองค์ธาตุนี้ใครได้ครอบครองถือว่าได้ของดีหลายต่อเลย ด้วยครูพรหมสหัมบดีนั้นเป็นบรมครูผู้ยิ่งใหญ่และประเสริฐสุดในฝ่ายพรหมของพระพุทธศาสนา เป็นเจ้าแห่งพรหมโลกผู้อาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกโปรดเวไนยสัตว์ด้วยพระเมตตาของพระองค์ ทั้งยังเป็นบรมครูผู้เป็นใหญ่เป็นผู้นำแห่งหมู่มหาพรหมสุทธาวาส เป็นพรหมผู้ได้ชื่อว่ามีรัศมีรุ่งเรืองที่สุด...เป็นใหญ่สูงสุดเปรียบดั่งกษัตริย์เหนือกษัตริย์..เทพเจ้ายิ่งเทพเจ้าในหมู่พรหม ท่านเป็นผู้ซึ่งได้รับการอ่อนน้อมการกราบไหว้บูชาทุกภพภูมิ และเมตตารักใคร่สรรพสัตว์ผู้ทุกข์ยากมากที่สุดก็คือท้าวสหัมบดีพรหมผู้เป็นบรมครูใหญ่ของพ่ออาจารย์พลนั่นเอง
บรมพรหมสหัมบดีนั้นมีความผูกพันธ์กับพ่ออาจารย์มากด้วยแรงครูของสายพรหมปัญจสุทธาวาสนี้ท่านบอกว่ามีดีทุกด้าน ขอได้ทุกอย่าง ท่านว่าเธอเชื่อมั๊ย คนเราเกิดมาไม่พ้นกรรม ไม่มีวัตถุมงคลใดช่วยเรื่องกรรมได้ เเต่พระพรหมเหล่านี้ไม่ใช่แบบนั้นโดยเฉพาะ...ครูสหัมบดีพรหม อิทธิคุณท่านพลิกฟ้าพลิกดินเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ ใครที่มีกรรมหนักตามสนอง ถ้าครูท่านเมตตาก็จะช่วยให้เบาบางได้มีโอกาสทำคุณงามความดีชดเชยบาปกรรมทั้งหลาย เรียกได้ว่าผ่อนหนักเป็นเบาจากเรื่องร้ายๆก็จะค่อยๆจางหายไป ถ้ายังมีบุญเเละความดีอยู่ท่านก็จะช่วยให้ได้รับอานิสงค์ของผลบุญนั้นไวขึ้น นี่บารมีพระพรหมสหัมบดีดีอย่างนี้ท่านสถิตย์อยู่ในอกนิฏฐาสุทธาวาสมหาพรหม พูดง่ายๆคือชั้นสูงสุดเป็นภพภูมิแห่งรูปพรหมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชั้นปัญจสุทธาวาสและทั้งหมดของรูปาวจรภูมิ แม้แต่พระอินทร์หรือท้าวสักกะเทวราชแห่งดาวดึงษ์ ก็ยังตั้งความปรารถนาขอมาเกิดเป็นพรหมชั้นนี้
นอกจากนี้องค์ธาตุยังมีพระญาณของเหล่าอกนิฏฐามหาพรหมคอยรักษา พรหมอกนิฏฐ์นี้เป็นพรหมชั้นผู้ใหญ่ที่อุบัติมาจากพระอริยบุคคลระดับอนาคามี ที่มีอินทรีย์ คือสัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญาแก่กล้าบริบูรณ์ทุกส่วน แต่มีปัญญาโดดเด่นที่สุด จัดอยู่ในกลุ่มพระอนาคามีระดับสูงสุดมีชื่อเรียกเฉพาะว่าอุปหัจจปรินิพพายีหมายถึงผู้จวนจะถึงปรินิพพาน กับอันตราปรินิพพายี คือผู้ปรินิพพานในระหว่างหมายถึงไม่อยู่เป็นมหาพรหมจนครบอายุขัยแห่งมหาพรหมนั้น เมื่อถึงวาระเเละจบภารกิจก็จะเข้านิพพานเลย *** มหาพรหมอกนิฏฐ์เหล่านี้ท่านว่าทุกพระองค์ล้วนสูงสุดและสูงส่งมีอำนาจมากล้นพ้นประมาณ ซึ่งมหาพรหมอกนิฏฐาสุทธาวาสนี่แหละที่มักลงมาถ่ายทอดวิทยาการต่างๆให้มนุษย์โลกเพื่อจะได้เอาไว้ใช้ปรับตัวเวลาเผชิญปัญหาเหตุการณ์ซับซ้อนต่างๆได้ ทั้งยังคอยเป็นห่วงมาบอกข่าวแจ้งข่าวล่วงหน้าเสมอๆแม้สมเด็จพระบรมศาสดายังได้ยืนยันเอาไว้เองว่าพรหมเหล่านี้แหละที่มักรอบรู้ถึงการบรรลุธรรมขั้นต่างๆของมนุษย์ที่มนุษย์เองยากนักจะรับรู้ได้.... พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น)
ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด

คาถาบูชา
นำมอ หน่าจาซาไท้จื้อ นำมอ หน่าจาซิ้งเซียงฮุก นำมอ หน่าจาตงตั๊วหง่วงส่วย

รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นจิตแห่งเครื่องมงคลและเทพศาสตราตลอดจนเหล่าเทพบดีทั้งสี่พันและองค์นาจาจะเลือกหาผู้ที่คู่ควรกับท่านเอง เพราะเป็นของอาถรรพ์ที่เหยียบหัวมังกรขึ้นสู่ที่สูง ดังนั้นคนที่ชีวิตไม่มีวาสนามากพอจะไปอยู่ในจุดนั้นได้เขาก็จะชวดไปด้วยเรื่องง่ายๆ ด้วยการตัดสินใจแบบหลับหูหลับตาเพราะองค์นาจาจะบังตาไว้ทั้งหมด ## ทั้งกุมารรุ่นนี้ยังไม่ต้องการการเลี้ยงดู เครื่องเซ่น ไอธูป ควันเทียนใดๆทั้งสิ้น เพราะทุกองค์ล้วนเป็นเทพบดีที่มีศักดิ์สูง ต้องการเพียงการเปิดอกพูดคุยกับเราด้วยความจริงใจไม่เสแสร้งแกล้งทำ อยากได้อะไรก็บอกท่านไปหากไม่ใช่เรื่องผิดหนาสาหัสร้ายแรงย่อมเป็นไปได้
และองค์นาจานั้นก็เป็นเทพมารคือมีอารมณ์ร่วมไปกับเราทุกอย่าง มีทั้งความเป็นเทพและมารอยู่ในตัวตนของท่าน อาจกล่าวได้ว่าเป็นเทพองค์เดียวที่ช่วยเราได้ทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องที่เราขอจะถูกหรือผิด ขอเพียงถูกสำหรับเราท่านช่วยทั้งหมด เพราะท่านไม่ได้เป็นเทพที่เคร่งครัดหรือเป็นเทพที่วางตัวสูงส่งไปเลยแบบเทพทั้งหลายหากแต่ท่านเป็นกันเองและปกป้องคนของท่าน

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้หกองค์แต่ท่านพกเพื่อสลายอาถรรพ์และอุปสรรคในชีวิตท่านติดตัวท่านตลอดองค์หนึ่งจึงมีให้บูชาเพียงห้าองค์ สำหรับผู้สั่งจองให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดเวลาตกฟากและข้อความคำในใจที่ปรารถนาจะบอกต่อองค์นาจาและอินทกะทั้งสี่พันไว้ พ่ออาจารย์ท่านจะอธิษฐานเปิดโลกเปิดบารมีบอกกล่าวให้อีกคำรบหนึ่ง ปัจจัยส่วนหนึ่งร่วมบริจาคทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา กุมารนาจาราชันอัคคีอมตะข่มอ๋องวังมังกร(สี่พันมหาทัพกุมารอินทกะ) บูชา 4,000 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...รา-พ่ออาจารย์พล.539894/page-501#post-11167224

 

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดความหวังมิผันแปรพระเจ้าภาวนากันภัยสู่ตัว(ฟ้า-บุญกระจ่าง ไฟชีวิตไม่ดับสูญ)

ตะกรุดวิชานี้ครูใหญ่ท่านให้ลงตะกรุดให้คนติดตัวกัน เพราะต่อไปนี้สิ่งที่คนทั้งหลายจะประสบพบเจอนั้นล้วนเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสนัก เหตุการณ์ความทุกข์ยากจะหนักจะรุนแรงขึ้นกว่าเดิมอีกมาก ครูเบื้องบนจึงเมตตานำเอาวิชาของพระโพธิสัตว์เจ้าที่น้อมนำภาวนามาทุกชาติภพประสิทธิไว้แก่พ่ออาจารย์เพื่อทำตะกรุดไว้กันและแก้ให้แก่คนที่เสี่ยงภัยร้ายทั้งหลาย ท่านว่าจำไว้นะว่าทั้งกันและแก้ พ่ออาจารย์ท่านได้พิจารณาดูโดยเฉพาะประโยคสุดท้ายนั้นเปรียบเสมือนคำปกาศิตและความปรารถนาดีของครูบาอาจารย์และทวยเทพเบื้องบนที่เป็นห่วงมนุษย์โลก ซึ่งตะกรุดที่ท่านจะทำขึ้นให้บูชานี้จะต้องไม่ใช่ตะกรุดที่ห้อยแล้วหนักตัวเปล่าแต่ต้องกันสารพัดสิ่งไม่ดีทั้งหลายที่จะเกิดเหตุต่อไปในอนาคตกาลไม่ให้เกิดขึ้นกับผู้บูชา ซ้ำยังต้องมีพุทธคุณในการแก้ การคลายเหตุการณ์วิกฤติต่างๆให้ผ่านพ้นไปด้วยต่อไปเบื้องหน้าเเม้เข้าสู่ยุคเข็ญเขาก็จะไม่ลำบากเลยทั้งกันและแก้ครบเครื่องตามดำริของครูบาอาจารย์ เมื่อลงเสร็จนั้น ท่านได้ทำการอธิษฐานบอกกล่าวครูบาอาจารย์ ฝากให้ครูท่านสงเคราะห์ผู้ใช้ให้เต็มที่

เพราะเป็นของสูงแม้พระโพธิสัตว์ผู้มากบารมียังต้องน้อมนำภาวนาเข้าสู่ตนเรียกว่าภาวนามาทุกชาติ เพื่อจะกันสารพัดภัยให้แคล้วคลาดท้ายที่สุดย่อมสำเร็จประโยชน์ใหญ่ใครก็ทำอันตรายไม่ได้ กันทั้งนอกทั้งในตั้งแต่เบื้องต้นท่ามกลางและที่สุด ### พ่ออาจารย์ท่านต้องใช้แผ่นตะกั่วลงถมคุณวิชามาหลอมรีดตัดเป็นรูปธงชัยโบกสะบัดลงอาถรรพ์ธงสามชายแล้วจึงลงคาถาวิชาครูที่แม้แต่พระเจ้ายังต้องออกโอษฐ์ภาวนาร้องขอ จากนั้นจึงม้วนขึ้นให้ตั้งเป็นดั่งแท่งเทียนซึ่งมีเปลวเทียนอันไม่มีวันดับมอด เมื่ออาราธนาตะกรุดนี้ภายใต้รัศมีไฟที่ส่องรอบกายเรา(ไฟทิพย์)นี้ยากที่จะมีภัยใดๆล่วงเกินได้ ท่านว่าชีวิตของเราดวงเราเหมือนเป็นไส้เทียนที่จะจุดเปลวไฟให้สว่างไสวลุกโชนแม้ในวันคืนที่มืดมิดตอลดเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดตำรับนี้ทำยากห้อยสิ่งเดียวเหมือนได้สามอย่างทั้ง
- หนุนดวงกันภัย
- ธงชัย
- ดวงประทีปจุดไฟชีวิต
*** ซึ่งตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นอะไรที่เฉพาะเจาะจงมากเพราะท่านใช้สำหรับใส่ชื่อนามสกุลและดวงชะตาของเรา เมื่อบรรจุไปแล้วจะมีคุณเสมอด้วยพระเป็นเจ้ากำลังนั่งภาวนากันตัวกันภัยต่างๆรอบด้านให้กับเราทั้งหมด
จะช่วยป้องกันภูติ ผี ปีศาจ อสูร ยักษ์อันธพาล ตลอดจนเทวดามิจฉาทิฏฐิทั้งหลาย เมื่อเห็นตะกรุดนี้จะต้องเกรงอำนาจของเหล่าเทวราช ไม่กล้าที่จะปองร้ายแก่ผู้เป็นเจ้าของ ทั้งจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายแม้ประดิษฐานอยู่ที่ไหนที่นั่นก็สะอาดบริสุทธิ์หากอยู่บนตัวหรือร่างกายของเราสิ่งชั่วร้ายใดๆก็ไม่สามารถเเผ้วพาลได้ภัยทั้งหมดย่อมห่างไกล ซึ่งหลักใหญ่ของวิชานี้นอกจากจะคุ้มภัยอันตรายทั้งหลายแล้วยังเสริมส่งให้ผู้บูชาประสบชัยชนะในทุกๆด้านอีกด้วยเพราะเป็นธงสามชายธงชัยแห่งเทวราชศัตรูคู่แข่งทั้งหลายนั้นสู้เราไม่ได้เลย หากเรากำหนดจิตบอกกล่าวพระรัตนตรัยและทั้งหลายที่สถิตย์อยู่ในธงแล้วว่าใครคนไหนคือศัตรูเขาจะมีอันพ่ายแพ้แก่เราไปสิ้น วิธีนี้ท่านว่าเป็นเล่ห์กลใช้ได้หลายทางนักจะศัตรูคู่แข่งทางด้านธุรกิจ การเจรจาต่อรอง การค้าการขาย การงาน การศึกษา ความรัก การแก่งแย่งชิงดี ล้วนใช้ได้ทั้งหมดะมีอานุภาพคุ้มครองป้องกันได้สารพัดในทุกทิศ ด้วยตะกรุดสามารถเเผ่รัศมีคลุมได้ทั้งบ้าน หากนำมาพกติดตัวก็มีพุทธคุณครอบจักรวาลตามแต่ผู้บูชาจะปรารถนาเเละอธิษฐานใช้ กันฟ้า กันไฟ กันเสนียดจัญไร โจรภัยและนำมาซึ่งสิ่งดีงามอันเป็นสวัสดิมงคลแก่ผู้บูชา

ทั้งยังเป็นการจุดดวงไฟชีวิตโดยใช้ดวงชะตาเราเป็นไส้เทียน จุดให้สว่างไสวครุกลุกโชนด้วยรัศมีไฟทิพย์ตลอดไปไม่มีวันมอดดับ เพราะชีวิตมนุษย์เราปกตินั้นการจะทำเรื่องหนึ่งเรื่องใดให้ได้ดี,ให้ประสบความสำเร็จอยู่เสมอตลอดเวลามักจะเป็นไปไม่ค่อยได้ นั่นก็เพราะผลเหตุด้วยพลังงานในตัวเราไม่เสถียรบ้าง...บางคนก็คิดและคำนวณเอาตามชะตาราศีว่าดวงไม่ดีมีวิบัติเป็นไปด้วยประการต่างๆบ้าง พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขออนุญาติเสด็จพระใหญ่ท่านเปิดทางสว่างด้วยอยากจะทำของแก้เคราะห์แก้ดวงที่มีอานุภาพมากกว่าการหนุนดวงใดๆ เพื่อให้ผู้ที่พกของสิ่งนี้โชคดีหรือทำได้..ได้ในสิ่งที่จะทำ ได้ผล ได้ความสำเร็จอยู่ตลอดเวลา...เพื่อให้ความหวังที่มีมิผันแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งอื่น ให้จุดหมายปลายทางสว่างไสวไม่มอดดับลงกลางพายุชีวิตที่โหมกระหน่ำเพื่อจะได้หนุนชะตาเปลี่ยนวิถีดวงดาวทั้งกันภัยที่จะเกิดกับคนๆนี้ไปทั้งชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องเหล่านี้ย่อมไม่มีใครเคยทำมาก่อนและไม่ใช่คิดว่าอยากจะทำก็ทำได้เลยเครื่องมงคลที่ทำด้วยวิชานี้จะเกินคำว่าหนุนดวงพื้นๆไปมาก จะกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าหนุนดวงอย่างรุนแรง ไม่ได้ใช้เพียงเพื่อจะหนุนแต่ยังถึงขั้นใช้ปรับเปลี่ยน ปรับแต่งวิถีชีวิตคนได้ จะปรับดวง,ปรับพื้นฐานชะตาท่านว่าจะปรับอะไรก็ได้ แต่ที่สำคัญเลยเขาจะกันภัยดับทำลายปัญหาและอุปสรรคให้เฉพาะตัวเราด้วยรัศมีไฟทิพย์ ซึ่งเป็นของเราและใช้กับเราเท่านั้นจริงๆเพราะอาศัยชะตาของเราเป็นดั่งก้านไส้เทียนอุดไว้ภายในทำให้ไฟมีกำลังมากส่องสว่างอย่างที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือมายาศาสตร์ทำให้ชีวิตคนที่มืดที่ดับสว่างไสวขึ้นตลอดไปได้อีกครั้ง ตราบใดที่ไม่แยกดวงออกจากตะกรุดหรือทำตะกรุดหายก็เลิกกลัวภัยทั้งหลายนั่นทีเดียว ถ้าจะอธิษฐานกับไฟศักดิ์สิทธิ์ก็ให้ส่งเจตน์จำนงค์ใช้เป็นเรื่องๆเอาเป็นอย่างๆ เช่นจะใช้เพื่อยกฐานะก็ได้,จะป้องกันเรื่องร้ายก็ได้,จะใช้พกติดตัวเพื่อขอพรก็ได้...ท่านว่าสารพัดจะใช้ที่จะให้ใช้ได้ เมื่อบรรจุดวงของเราแล้วย่อมได้ชื่อว่าไฟถูกจุดขึ้นมาเขาจะปรับเปลี่ยนธาตุในตัวของเรา ไม่ว่าจะเป็นคนที่ดวงตกหรือมีเคราะห์หามยามร้ายเกินขีดจำกัดใดๆก็ดี จะเกิดจากอำนาจของดวงดาว อำนาจของชะตาจักรราศีหรือจะเป็นโชคร้ายที่เกิดจากพลังวิญญาณ กำลังคุณวิชานั้นจะปิดเรื่องฉิบหายเรื่องร้ายทั้งหลายได้ทั้งหมดทั้งสิ้น ปิดเรื่องร้ายไม่ให้วิ่งเข้าหาเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าคนบางคนนั้นแม้อยู่เฉยๆแค่หายใจทิ้งสารพัดปัญหาก็พร้อมที่จะวิ่งเข้าใส่ แต่คนอีกประเภทนั้นแม้ตัวอยู่ไกลจากปัญหาแต่ก็ชอบสร้างปัญหาให้กับตัวเอง ดังนั้นสิ่งที่เป็นยอดของการดับทุกข์ภัยก็คือใช้อาราธนาปิดเรื่องร้ายที่วิ่งเข้ามาหาตัวเท่านี้ก็นับว่าวิเศษเหนือสิ่งใดแล้ว ด้วยเมื่อท่านปิดช่องปิดทางไม่มีให้มีเหตุร้ายต่างๆเกิดขึ้นนั่นก็คือแก้เคราะห์ทั้งหมดแล้ว จะเป็นเคราะห์ภัย,วิบากกรรม,ดวงตก,ดวงแตก,ต้องคราส...ท่านว่าสารพัดจะแก้สิ่งทั้งหลายด้วยเป็นการแก้ที่ดวงเพื่อจะหนุนดวงเสริมดวงให้เคราะห์ภัยไม่มี ท่านสมมติว่าคนเรานั้นถ้าเกิดมีเคราะห์ต่อให้มีโชคลาภชีวิตก็ย่อมอยู่ได้ไม่มีความสุขเช่นมีเงินแต่ครอบครัวมีปัญหา,หรือมีวาสนาชื่อเสียงเกียรติยศแต่มีคนนินทาคอยให้ร้าย ลองคิดว่าต่อให้โชคดีแต่เจ้านายเกลียดขี้หน้าบ้าง หรือทำอะไรก็ติดขัดบ้างอย่างชีวิตกำลังจะไปได้ดีๆก็ไปขับรถชนคนเป็นคดีความบ้างเช่นนี้ เมื่อความเสียหายเกิดขึ้นชีวิตมันจะไปดีได้อย่างไร เช่นนี้จึงต้องจุดไฟชีวิตปิดช่องเคราะห์ทั้งหมดเมื่อชีวิตจะดีแล้วก็ต้องหาเรื่องร้ายใดๆไม่เจอเช่นนี้ เมื่อบรรจุดวงท่านว่าตัวเราเป็นเจ้าชะตาที่จุดไฟ ไฟทิพย์ขององค์ปฐมย่อมสื่อตรงถึงใจเรา อะไรเป็นเรื่องร้ายเรื่องดีสำหรับเรา เราก็ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจตนเองเป็นที่สุด ไฟทิพย์ก็จะปิดเฉพาะเรื่องร้ายของเราอยู่เช่นนั้นแปรเปลี่ยนให้กำลังเคราะห์กรรมสลายดึงวิถีดาวให้ส่งผลดีมาให้เราโดยตรงไม่ใช่อุดเรื่องเงิน แต่กลับช่วยเสริมเรื่องเงิน ป้องกันเรื่องร้ายหนุนดวง คนที่รู้ตัวว่า “ดวงตก” หรือดวงแตกดวงร้ายแรงใกล้จะสิ้นแสงประกายไฟชีวิตทั้งหลายควรรีบอาราธนา

ก่อนจะทำตะกรุดต้องตัดแผ่นโลหะเป็นรูปธงสามชายธงชัยเทวราชลงอาถรรพ์ว่าด้วยยันต์ครูธงชัย ธงที่ไม่เคยแพ้ใครในสามโลก ธงนี้ได้ชื่อว่าเป็นธงมหาโชค มหาชัย ธงชัยชนะนิรันดิ์กาล แม้นชักออกประกาศขึ้นหรือตกอยู่ณ.ที่แห่งใดแล้ว ย่อมเป็นอำนาจนิรันดร์ที่จะสยบทุกสรรพสิ่งประหนึ่งเป็นธงชัยนำหน้าและมีกำลังทวยเทพทั้งหลายเป็นแรงหนุนเสริมส่งคนใช้ก่อนจะใช้ลูกสะบ้าลบยันต์ลงถมเพื่อลงอาถรรพ์วิชาข้างต้น พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องทำอาถรรพ์วิชาธงก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อนำธงมาลบถมลงคุณวิชาของตะกรุดเช่นนี้จึงจะม้วนขึ้นมาเป็นเปลวเทียน อันวิชาธงชัยของพ่ออาจารย์ท่านนั้นก็มีอาถรรพ์ด้วยครูเทพทั้งหลายแบ่งกำลังรักษาดังนี้
- พระศิวะ(เทพแห่งการทำลายล้าง) อำนวยพรแห่งอำนาจและความสำเร็จ,อำนวยพรแห่งความเจริญ,อำนวยพรแห่งอำนาจเหนือบุคคลทั้งหลาย,อำนวยพรอันนำมาซึ่งผลกำไรอันมหาศาล,อำนวยพรอันนำมาซึ่งความสำเร็จอย่างสูงสุด,อำนวยพรอายุยืน(ต่ออายุผู้ที่ใกล้สิ้นใจได้ชั่วคราว),อำนวยพรบำบัดโรค(สามารถรักษาอาการไข้ที่เป็นมานาน),อำนวยพรแห่งความสมบูรณ์(บันดาลให้พ้นจากความยากจน),อำนวยพรกันอุบาทว์กันเสนียดจํญไรกันคุณไสยอวิชชาทั้งสิบหกภาษา
- พระวิษณุนารายณ์(มหาเทพผู้ปกปักรักษาโลกมนุษย์) ผู้ดูแลรักษาทุกสรรพสิ่งอำนวยพรขจัดเหล่ามารและสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง,อำนวยพรคุ้มครองชะตาชีวิต,อำนวยพรบันดาลวาสนาแก่มนุษย์,อำนวยพรประทานแสงสว่างส่องกระจายในจิตที่มืดบอด,อำนวยพรขจัดบาป,อำนวยพรขจัดความขัดข้อง,อำนวยพรสร้างความภูมิฐานและการชนะทุกสิ่ง
- พระพรหม(มหาเทพผู้สร้างโลกและลิขิตชีวิตมนุษย์) อำนวยพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา,อำนวยพรแห่งความคิดการสร้างสรรค์,อำนวยพรทางชะตาลิขิต,อำนวยพรบันดาลให้มีความสุขและสมบูรณ์ในชีวิต,อำนวยพรให้เกิดปัญญาในการประกอบอาชีพ,อำนวยพรความแข็งแรงปกป้องให้ห่างจากศัตรู,อำนวยพรความรู้แจ้ง,อำนวยพรให้เกิดความบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณ
- พระอินทร์(เทวราชผู้ครองสวรรค์) อำนวยพรบันดาลให้เหตุการณ์ทุกข์ต่างๆคลี่คลาย,อำนวยพรบันดาลให้ได้รับการคุ้มครองจากธรรมชาติ,อำนวยพรให้พ้นจากสิ่งเลวร้ายต่างๆ,อำนวยพรให้ชีวิตมีความสุขปราศจากมลทินและความเศร้าทุกข์ใดๆ
- ท้าวกุเวร(พระคลังสวรรค์) อำนวยพรประทานทรัพย์สมบัติ,อำนวยพรความมั่งคั่งร่ำรวย,อำนวยพรลาภยศแก้ไขชีวิตให้ราบรื่น,อำนวยพรป้องกันภูติผี ปีศาจกันมนต์ดำปัดคุณไสย์ต่างๆ,อำนวยพระไม่ให้มีชีวิตอับจน,อำนวยพรให้มีกินมีใช้มิได้ขาดอย่างอัศจรรย์
- ยมเทพ(เทพบรรพบุรุษ) อำนวยพรต่ออายุให้ยาวนาน,อำนวยพรให้หายจากโรคภัยต่างๆ,อำนวยพรให้พ้นจากอำนาจวิญญาณและพลังงานฝ่ายต่ำ
- พระกาล(ผู้ควบคุมห้วงมิติกาลเวลา) อำนวยพรหยุดทุกข์,เคราะห์,เหตุเภทภัยทั้งหลาย
- พระฤาษี(อำนาจแห่งธรรมและการบำเพ็ญเป็นพรที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด) อำนวยพรปัดเป่าลางร้าย,อำนวยพรส่งเสริมชะตาชีวิต

ฟ้า-บุญ กระจ่าง ไฟชีวิตไม่ดับสูญ

"เมื่อใช้ดวงชะตาจุดประทีปไฟชีวิตนั้นทุกอย่างย่อมดีขึ้นทันตา...ใครที่ดวงตกก็มาเอาไปใช้ ส่วนใครที่ดีอยู่แล้วถ้าได้ใช้ก็จะยิ่งมีดีเกินตัวเกินวาสนา" ชีวิตจะลุกโชนดั่งไฟทิพย์อันจะแผดกำลังได้ไม่รู้ดับรู้จบ ท่านว่าปกติชีวิตคนนั้นก็เหมือนเปลวไฟ เปลวไฟปกติจะมีทั้งเวลาที่อ่อนแรงบ้าง มีกำลังแรงบ้าง บางทีไฟนั้นก็ติดอยู่ยาวนาน แต่บางทีก็ดับด้วยหมดเชื้อหมดกำลัง ดังนั้นไฟชีวิตที่ถูกจุดติดด้วยกำลังของตัวเราเองด้วยการใช้ดวงของเราเป็นดั่งไส้เทียนนี้จึงเป็นยอดแห่งเครื่องมงคลที่จะหนุนดวงส่งพลังให้กับเรา..เพื่อเรา...และเป็นของเรา..เจ้าของไฟทิพย์โดยตรงอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเคยเป็นคนประเภทใดมาก่อนทั้งดวงแตก ดวงภินทุบาทว์..จะมีชีวิตที่เสียหายมาอย่างไร จะเคยมีดาวพระเคราะห์เป็นภินทุบาทว์ปรากฏชัดเจนในดวงชะตา หรือดวงชะตามีความยุ่งยากสับสนได้สิ่งหนึ่งขาดสิ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเคยเป็นอย่างไร ต่อจากนี้ไปต้องพ้นทั้งสิ้น ดุจจุดไฟแล้วพระเจ้าท่านจะภาวนากันตัวเราไว้ตลอดเวลา แล้วจะมีช่องที่ใดให้ภัยหรือเหตุอัปมงคลสอดส่องเข้ามาได้อีก อุปมาว่าปิดสิ่งเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นหรือวิ่งเข้ามาหาเราอันมีอิทธิพลมาจากดวงดาวนพเคราะห์เป้นวิชาปิดเหตุร้าย ท่านว่ามันจะอุดจะปิดเฉพาะเรื่องร้ายไม่ให้เข้ามาหาเราแต่ไม่ได้เป็นอุดเงินแบบนั้น *** หากชีวิตเรายังแย่ยังไม่พร้อมเดินไปด้วยขาตัวเองแบบไม่ต้องพึ่งใครก็ไม่ควรจะให้ตะกรุดอยู่ห่างจากตัวเองเลยให้พกไว้จะได้หมดห่วงไม่ต้องคอยเป็นห่วงเรื่องอะไร ไฟทิพย์จะผลาญอวิชชาปรับธาตุแปรเปลี่ยนสิ่งรอบตัวดูดแต่พลังที่ดีเข้ามา เมื่อไฟติดอยู่เราจะไม่อ่อนกำลังไม่มีวันแพ้พ่ายใดๆทั้งสิ้น ไฟทิพย์ที่ลุกโชนก็เหมือนดวงชะตาเราเจิดจรัสแผ่แสงออกไปทั้งสิบทิศกำลังแสงนั้นจะช่วยดักทรัพย์ ดักกำลังของธาตุทั้งห้าทำให้ร่างกายเราสมบูรณ์เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ช่วยดึงพลังงานภายนอกปรับพลังงานภายในแก้ไขให้เป็นพลังงานที่ดี เปิดสิบทิศกระตุ้นพลังงานไม่ว่าเราจะอยู่ไหนเดินทางไปทิศใดก็ได้ชื่อว่าปราบไปทั้งสิบทิศไร้ภัยกวนใจเพราะได้รับการปรับจากไฟทิพย์ที่เป็นทั้งธาตุอัคคีสวรรค์และเป็นธงชัยของเหล่าเทวราชปรับแต่งตลอดเวลาอยู่ที่ไหนก็ดี,อยู่ที่ไหนก็ชนะก็มีชัยเช่นนี้ คนที่ไม่เคยมีคู่ก็จะมี คนที่ไม่เคยมีโชคไม่เคยถูกหวยมันก็จะได้จะถูก คนที่เคยทำอะไรไม่เจริญรุ่งเรืองก็จะทำได้ ยิ่งหากเราทำบุญทำกุศลทำความดีสวดมนต์ไหว้พระคิดดีพูดดีทำดีตะกรุดนี้จะยิ่งมีกำลังมากขึ้นๆเป็นลำดับขั้นไปมีกำลังแรงกล้าสุกใส สว่างขึ้นๆ ชีวิตเราก็จะยิ่งสว่างยิ่งลุกโชนขึ้นเผาผลาญดวงชะตาให้ร้อนแรงประสบความสำเร็จในทุกสิ่งทันใด
- ด้วยจะคงความหวังแห่งชีวิตไว้ มิให้ผันแปรเป็นอื่น ให้จุดหมายยังคงเป็นจุดหมายไม่ออกนอกลู่ทางจนมองไม่เห็นทางหรือไม่เห็นเงาความสำเร็จ เช่นนี้จึงต้องใช้ชะตาตนจุดไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ชื่อว่าหนุนดวงได้แรงที่สุดและทำยากที่สุด เพราะเดิมนั้นเป็นวิชากันภัยเมื่อชีวิตไม่มีภัยใดๆมากล้ำกรายนั่นย่อมเป็นชีวิตในอุดมคติที่ปลอดโปร่งโล่งสบาย หายใจก็เป็นสุข ใช้ชีวิตอย่างไรล้วนเป็นสุขทั้งสิ้น ไม่มีภัยทำกิจจบสำเร็จทุกอย่างชีวิตก็หมดห่วง ไร้ห่วงแล้ว คนที่มีวาสนาใช้ดวงตนจุดไฟนำแสงบุญของสวรรค์เค้าเกื้อหนุนคือคนที่ไม่มีอะไรจะต้องห่วงอย่างแท้จริง ทั้งเรื่องทุกข์เรื่องความสัมพันธ์ทั้งหลายที่จะดึงทุกข์เข้ามาท่านว่ามันหมดแล้วไม่มีทุกข์ไม่ต้องห่วงอะไรอีก พอไร้ภัยดวงก็ขึ้น ชีวิตก็ดี ด้วยเป็นวิชาที่ทำยากท่านจึงตั้งใจทำไว้ให้คนที่ดวงตกได้ใช้ ท่านว่าจะดวงช้ำมาจากไหน ทั้งต้องพลัดพรากจากของรักหรือสิ่งที่รัก แม้ต้องตกเข้าไปอยู่ในช่วงเวลาทุกข์ยากลำบากประการต่างๆ จะมีความเสียหายหรือรู้สึกอึดอัดคับข้องใจมีจุดด่าง จุดเสีย จุดมืดบอดในชีวิต ท่านว่าจะดวงช้ำหรือดวงมืด,ดวงบอดต้องอยู่อย่างทุกข์ยากๆมืดบอดไปตามเรือนชะตา มีแต่ร้ายมากกว่าดีคนเหล่านี้น่าสงสาร เพราะความพยายาม ความตั้งใจจริงของเขาเหล่านั้นกลับแพ้ดวงชะตาของตนเอง ยิ่งพยายามทำดี ใช้สติใช้ความตั้งใจมากถึงเพียงไหนก็มีแต่จะเกิดผลร้ายมากขึ้นเพียงนั้นเป็นเงาตามตัว เช่นนั้นไฟศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นเสมือนเครื่องรับและเครื่องกรองกำลังของพลังราศีจากบุคคลอื่นที่จะมาเบียดบังตัวเราเพื่อนำมาบรรจุไว้ภายใน ทั้งยังนำกำลังนั้นมาปฏิสัมพันธ์กับดวงเกิด,วันเกิดและปีจรของเรา ส่งผลให้ราศีคู่ที่ให้โทษลดพลังและหมดกำลังไป เรียกว่าดึงดวงคนรอบข้างมาหนุนตัวเรา วันๆเราเดินผ่านคนมากมายรัศมีไฟนี้ก็จะส่องสว่างมีกำลังแข็งกล้ามากขึ้น เพราะเขาดึงสิ่งดีๆจากไฟชีวิตรอบด้านมาสู่ตัวเราให้มีกำลังมากขึ้นและข่มคนที่อยู่ในบริเวณเดียวกับเราอยู่เสมอ ทำให้เราสามารถเก็บเกี่ยวโชคลาภหรือสิ่งที่เราต้องการได้ในขณะที่ตัวอุปสรรคก็จะลดกำลังลงและค่อยๆหายไป

เมื่อกันภัยจากปัจจัยภายใน(จุดไฟชีวิตให้โชติช่วงให้ตัวเรามีกำลังวาสนาเจิดจรัสในตนเอง)และปัจจัยภายนอก(ปิดกั้นภัยสิบิศคัดกรองวาสนารอบด้านส่งเสริมตนเอง) นอกจากนี้เมื่อพกตะกรุดไปที่ใดก็ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะโดนวิญญาณร้ายเล่นงาน เพราะวิญญาณทั้งหลายแม้เทพยดาภูมิต่ำย่อมหวาดกลัวต่อไฟศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้นยิ่งไฟที่จุดด้วยดวงชะตาเราก็กลายเป็นว่าเขาหวาดกลัวตัวเรา รอบด้านมีแต่คนเกรงใจทั้งยังหนุนนำอาถรรพ์ธงชัยเทวราชใครก็ต่อต้านไม่ได้แพ้ไม่เป็นไปทำอะไรก็จะกินคนอื่นเอาชนะคนอื่นได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเปลวอัคคีนี้อธิษฐานได้ดั่งใจทุกอย่างเหมือนเราขอพรกับพระเพลิงอันมากฤทธิ์เป็นที่เกรงขามแก่เหล่าเทพยดา ท่านว่ากาลต่อไปภายหน้าโลกจะยิ่งร้ายแรงนักให้บูชาติดตัวไว้อย่าได้ถอดจะได้อยู่กันรอด ให้ปลอดภัย ไม่อดอยาก ยิ่งคนที่โดนเล่นโดนกระทำโดนรังแกมาหนักๆยิ่งต้องพกไว้หมั่นอาราธนาคาถาอย่าได้ขาดปากพ่ออาจารย์ท่านว่าเดี๋ยวก็รู้ ...ตะกรุดนี้จะใช้เพียงกันภัยหรือหนุนดวงเฉยๆก็ยังนับว่าประเสริฐเกินไปกับเรื่องเพียงเท่านี้ เพราะอานุภาพไฟศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นที่ใดย่อมเสมือนพระอัคนีเสด็จมาเอง เมื่อเราสอดดวงเราไว้ภายในย่อมเป็นอาถรรพ์ที่ว่าไฟนั้นครอบคลุมตัวเราชำระกายและจิตวิญญาณเราให้บริสุทธิ์ เป็นผู้บริสุทธิ์เหมือนได้เกิดใหม่หาราคีมลทินใดๆไม่พบเลย ### ตะกรุดดอกนี้ใครที่ดวงแตกดวงตกแบบหนักๆเลยท่านให้ยกตะกรุดบรรจุดวงนำไปวางหน้าพระพุทธรูปแล้วสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย อุปมาดั่งได้ใช้ชีวิตตนเองจุดไฟบูชาคุณพระสัมมาพุทธเจ้า ท่านว่าทำไปเรื่อยๆยิ่งดีกับชีวิตตน แต่หากอยากเห็นสิ่งเปลี่ยนแปลงก็จะเห็นได้ภายในสามวันห้าวันเจ็ดวัน คุณพระรัตนตรัยท่านจะสงเคราะห์ พ่อพระพุทธท่านจะสงเคราะห์เสมอด้วยเราได้ถวายชีวิตไว้กับท่านนั่นทีเดียว
พ่ออาจารย์ท่านว่าในกรณีที่เจอมาหหนักจริงๆร่อแร่เต็มทีอยากเปลี่ยนในฉับพลันบัดดลเท่านั้นนะค่อยทำ แต่ถ้าไอ้ประเภทไม่สบายใจเช็คดวงแล้วไม่ดีมีปีชงแบบนี้ถือเป็นดวงตกธรรมดาๆหนุนไปใส่ไปวันเดียวก็รู้เรื่องแล้ว ทั้งพกบูชาไว้ทำอะไรก็ยังสำเร็จมีชัยชนะเหนือทุกสิ่ง คนที่ร่างกายไม่เเข็งแรงเจ็บป่วยบ่อยหรือมีโรคประจำตัวแสงชีวิตนั้นติดๆดับๆริบหรี่ท่านว่าให้บรรจุดวงไว้เถิดหากยังไม่ถึงที่ตายก็จะไม่ตายจะไม่เจ็บไข้ได้ป่วยซ้ำๆซากๆอย่างใดเลย

พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าของแบบนี้ที่จะหนุนดวงคนที่ถึงขั้นวิกฤติแล้วจริงๆนั้นทำได้ยากมาก เพราะเมื่อจะทำต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่เบื้องบนเขาอนุญาติจะสร้างมากก็ไม่ได้แม้ใจจริงท่านอยากจะทำให้มากๆพอกับคนทั้งโลกก็ยังทำไม่ได้ ซ้ำการทำตะกรุดที่ต้องมานั่งลบถมหลอมรีดซ้ำไปซ้ำมานับร้อยครั้งนั้นก็เป็นข้อจำกัดของท่านจริงๆว่าทำได้แค่พอจะให้คนที่มีวาสนาที่บังเอิญมาพบเห็นได้ใช้เเค่นั้น ท่านถักเชือกที่ตะกรุดด้วยสายสิญจน์ที่ท่านทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งได้นำไปชุบน้ำฟ้ากล่าวง่ายๆคือใช้น้ำที่ตกจากฟ้า(ฝน)มาทำเป็นน้ำมุรธาภิเษกชุบเชือกเพื่อพันตะกรุดนั่นเอง ถือเคล็ดที่ว่าน้ำนั้นฟ้าประทานให้เทพเทวดาทั้งหลายท่านเมตตาให้ดับร้อนผ่อนทุกข์ เพื่อเป็นสื่อให้ตะกรุดนี้ผู้ใช้จะได้รับความเมตตาจากเทพยดาทั้งหลายอีกโสตหนึ่งนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านลบผงพุทธคุณอันมีคุณวิเศษใช้เติมกำลังใจไฟชีวิตพอกไว้ที่ปลายตะกรุดทุกดอกดุจเปลวไฟที่ส่องแสงตลอดเวลา ท่านว่าผงนี้ลบยากกว่าทำตะกรุดเสียอีก ลบได้น้อยเพราะทำนับเดือนได้นิดเดียว ท่านลบเอากำลังพุทธคุณเข้าเสริมให้ชีวิตเราสว่างไสวตลอดไปพอไฟชีวิตเราตกเมื่อไหร่จะได้รับการเติมให้เต็มเช่นนั้น

คาถาบูชา
นะอะมะ พุทธะรูปัง อิทธิธรรมะปาฏิหาริยะกัง สัมปะติจฉามิ นะมะอะอุ นะอะนะอุนะมะ มะอะมะอุมะนะ อะนะอะมะอุอะ อุนะอุมะอะอุ

- สิ่งที่ผู้บูชาต้องทำ ให้นำกระดาษมาเขียนชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด เวลาตกฝาก ชื่อบิดามารดา อธิษฐานม้วนกระดาษบรรจุไว้ที่ตะกรุดขอกำลังคุณพระอรหันต์คือพ่อแม่เปิดทางจุดไฟชีวิตนี้ของลูกให้ลุกโชนตลอดไป (พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้เคล็ดรักที่บริสุทธิ์ของบิดามารดามาเกื้อหนุน ในกรณีคนที่บิดามารดาไม่ได้เลี้ยงหรือไม่ได้รักใคร่กลมเกลียวผูกพันธ์กันก็ให้ใช้ชื่อคนที่เลี้ยงดูเรามาคนที่เรารักเคารพเทิดทูนใส่ลงไปก็ได้)
ตะกรุดนี้สำคัญนักเพราะวิชานี้ "คนที่จะมาพบ ก็คือคนที่จะมีวาสนาพ้นทุกข์พ้นโศกได้"

*** ตะกรุดกันภัยธงชัยเทวราชชุดพิเศษนี้พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ได้ไม่มากแต่ถือได้ว่าเป็นตะกรุดที่น่าใช้และควรจะใช้มากที่สุด(ด้วยแม้แต่ตัวพ่ออาจารย์เองที่ท่านรู้สูตรตะกรุดหนุนดวงมากมาย ท่านยังเลือกตะกรุดตัวนี้บรรจุดวงชะตาของท่านไว้โดยเฉพาะ) รายการนี้รับจองทาง PM เท่านั้น รายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดความหวังมิผันแปรพระเจ้าภาวนากันตัว(ฟ้า-บุญกระจ่าง ไฟชีวิตไม่ดับสูญ) บูชา 2,500 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...กะ-พ่ออาจารย์พล.539894/page-501#post-11169082

 

ร่วมทำบุญบูชา องค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรชุดแมวจับช้าง(พระคะแนนแก้วราหูนิลกาฬ)

พระชุดนี้ท่านเสกมานานและเรียกของท่านว่าชุด "น้องแมวจับช้าง"
ด้วยพ่ออาจารย์ท่านตัดสินใจนำองค์หลวงพ่อทศพลบพิตรเนื้อผงที่ท่านกดพิมพ์ไว้ตอนปั้นมวลสารอุดหลังหลวงพ่อพระทศพลแบบหล่อ พอปั้นเนื้อเหลือองค์นึงก็จะนำมานวดเข้ากับผงทำพระชุดเก่ากดพิมพ์เป็นรูป "พระผงต่อชีวิต ต่อลมหายใจ (พ่อพลายเก้าขอ) " เรียกว่าค่อยๆนั่งทำไปทีละองค์ผสมผงทีก็กดพิมพ์พระเนื้อผงได้องค์สององค์ ซึ่งพระชุดนี้ท่านทิ้งมวลสารไม่ลงเลยจำต้องกดพิมพ์ไว้และเสกพร้อมกัน ซึ่งท่านถือว่าพระชุดนี้เป็นพระคะแนน โดยพระผงมวลสารหลวงพ่อพระทศพลชุดพิเศษนั้น ด้านหลังจะฝังแก้วราหูเอาไว้เพื่อแยกจากพระชุดอื่นๆ ....
ผงชุดสร้างหลวงพ่อทศพลบพิตรนั้นเป็นมวลสารชั้นครูที่สำคัญมาก ด้วยเหตุสำคัญเพราะมวลสารต่างๆที่นำมาบดอุดไว้ด้านหลังนั้นท่านใช้ฉัตรองค์สำคัญชั้นสูงมากๆที่ชำรุดมาสร้าง ***ซึ่งท่านไม่บอกและไม่อนุญาติให้บอกใคร ด้วยท่านย้ำอยู่เพียงว่าเป็นฉัตรขององค์บรรพบุรุษแรกตั้งกรุง ในกรุงนี้เว้นฉัตรองค์นี้องค์เดียวเท่านั้น ก็มีฉัตรอีกเพียงหนึ่งองค์ที่มีศักดิ์สูงกว่า... พ่ออาจารย์ท่านว่าใครได้ใช้ดุจมีเงาแห่งเศวตฉัตรนั้นได้ทอดบังเงานำความเจริญรุ่งเรืองร่มเย็นอย่างหาใดเปรียบมิได้เข้ามาในชีวิต ชีวิตใครที่ร้อนรุ่มด้วยภัยทั้งหลายท่านว่าถ้าหลบใต้เงานี้ดุจมีบารมีขององค์ผู้เป็นเจ้าของฉัตรนั้นปกเกล้าคุ้มกระหม่อมแผ่กิ่งก้านทอดเงาให้การดูแล รับรองได้ว่าร่มเย็นไม่ร้อนรุ่มหรือเจ็บไข้ได้ทุกข์ใดๆอีก เช่นนี้ด้วยท่านรู้ดีว่าเป็นมวลสารที่มีอาถรรพ์มาก มีค่าไม่อาจประเมิณได้ ทั้งยังเป็นของสูงมากจนในชีวิตคนผู้หนึ่งมิอาจพานพบได้โดยง่าย เสด็จพระใหญ่จึงให้ท่านสร้างองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรด้วยมวลสารทำคัญนี้
...ชุดนี้เมื่อปั้นผงทำมวลสารอุดหลวงพ่อทศพลบพิตร ผงที่ตำไว้ยังเหลือท่านว่าเป็นของสูงจะทิ้งไม่ได้ จึงตำใส่มวลสารเก่าเพิ่มทำการกดพิมพ์ในบล๊อกพระผงต่อชีวิตต่อลมหายใจไปพร้อมกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพิมพ์นี้เป็นพระร่มเย็นอย่างที่สุดใช้ดับร้อนผ่อนเย็นให้เห็นประจักษ์แก่ตาเป็นอัศจรรย์นัก ด้วยมวลารคือฉัตรนั้นเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีอำนาจ มีบารมีของเจ้านายองค์สำคัญทั้งยังเป็นของมงคลมีอาถรรพ์ในตัว มีคุณวิเศษใช้ป้องกันสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาไม่ให้เข้ามาในชีวิตได้อย่างเด็ดขาด ท่านว่าให้อธิษฐานเอากับองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรว่าอะไรคือสิ่งที่ไม่ต้องการ,สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ สิ่งเหล่านั้นจะไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้เลยภายใต้เงาเศวตรฉัตรที่สาดทับร่างกายอยู่นี้ ทั้งเป็นของสูงมากขององค์ผู้กล้าแต่ต้นกรุงที่ชำรุดจนยากแก่การซ่อมแซม พ่ออาจารย์ท่านจึงนำทั้งส่วนที่เป็นผ้าแลหวายที่เป็นก้านเป็นยอดซึ่งลงชาดหรดาลปิดทองเอาไว้ทั้งยังกลีบจำปีกระดาษสาอันชำรุดแทบจะป่นเป็นผุยผงนำมาตำโขลกตะไบให้เป็นผงละเอียดบดด้วยมือของท่านเองเพื่อเป็นมวลสารพระชุดนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าปกตินั้นฉัตรจะเป็นเครื่องประกาศเกียรติยศเช่นนั้นฉัตรจึงนำเอาเกียรติยศชื่อเสียงความมั่นคงมั่งคั่งทุกอย่างที่จุดสูงสุดในชีวิตคนควรจะมีเข้ามาหาเราได้อย่างง่ายดายเพราะท่านดึงเอามาจากพระบารมีที่รวบรวมไว้ในฉัตรขององค์ผู้เป็นเจ้าของนั่นเอง ทั้งฉัตรยังเป็นสัญลักษณ์แทนตัวของผู้นำของเจ้าแผ่นฟ้าแผ่นดิน เป็นยอดแห่งชัยชนะถือว่าเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งที่ได้พึ่งบารมีร่มฉัตรนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าฉัตรที่มีหลายชั้นนั้นเพราะแต่ละชั้นใช้แสดงความยิ่งใหญ่ประกาศออกไปทั้งแปดทิศรวมไปถึงสวรรค์และบาดาลด้วย เช่นนั้นท่านจึงว่ามีอาถรรพ์มากด้วยเป็นเครื่องเกียรติยศที่ใช้ประกาศชัยชนะทั้งสิบทิศเหนือประเทศราชน้อยใหญ่..ว่าไร้พ่ายในยุคนั้น เป็นสัญลักษณ์ของพระจักรพรรดิ์ที่แสดงบารมีด้วยจำนวนชั้นของร่มฉัตรเช่นนั้น เป็นเครื่องสูงที่สำคัญที่สุดเช่นเดียวกับพระมหามงกุฏทีเดียว ดั่งองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรที่ทรงชนะในจักรวาลเพราะทรงเป็นจักรพรรดิแห่งโลกุตรแดนนิพพานและจักรวาลเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนี้มีอาถรรพ์มากเอาว่าอาราธนากันให้ดีทั้งแปดทิศนี้ไม่แพ้ไม่ลงให้แก่ผู้ใดเลย ทั้งอาถรรพ์นั้นยังไม่สามารถถอดถอนแก้ไขหรือทำลายได้ ไม่ต้องกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมหน้าไหนกริ่งเกรงว่าใครจะมีบารมีมีเทวดาองค์ใดคุ้มเลย ด้วยภายใต้เงาฉัตรนี้ถ้าเป็นสมัยก่อนองค์เจ้าของนั้นท่านไม่แพ้ไม่ลงให้แก่ผู้ใดทั้งสิ้น เรียกว่ามีแต่คนกลัวท่านและกลัวมาทุกยุคทุกสมัยไม่เคยปรากฏว่าท่านจะกลัวใครทั้งนั้น

มวลสารชุดหลวงพ่อทศพลบพิตรนี้มีรกแมวสำคัญอยู่ด้วย
ด้วยแมวเป็นสัตว์พิเศษใครเห็นก็นิยมเอ็นดูอยากเข้าหาอยากอยู่ใกล้ แม้จะหยิ่งจะเชิดใส่ก็ไม่มีใครโกรธมีแต่จะยิ่งรักเมตตาเช่นนั้นทั้งแมวยังมีสัมผัสพิเศษมีสัญชาตญาณสามารถมองเห็นในสิ่งที่มนุษย์มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ ไม่รู้สึก เช่นนั้นผงรกแมวแมวอาคมเหล่านี้จึงมีอำนาจในการป้องกันพลังชั่วร้ายทุกรูปแบบตลอดจนภูติผีปีศาจไม่ให้ย่างกรายมายุ่งเกี่ยวกับชีวิต เพราะแมวเขาจะรู้สึกได้เองว่าชีวิตเราต้องแก้ไขตรงไหน ตรงไหนมีสิ่งไม่ดีมีพลังงานลบแฝงอยู่ เขาจะคอยขับไล่วิญญาณร้ายและพลังงานลบให้พ้นจากอาณาเขตของเขาไม่ให้สิ่งเหล่านั้นคอยรบกวนอยู่ในอาณาเขตได้เลย เช่นนั้นญาณน้องแมวนี้ก็จะมองเราเป็นอาณาเขตของเขาเช่นกันที่จะคอยสอดส่องขับไล่ไม่ให้พลังงานร้ายในกายเรากำเริบขึ้นมาจนส่งผลต่อชะตาชีวิตเราได้ ***ทั้งเขาจะคอยปกป้องตัวเราให้พ้นหรือออกห่างจากอำนาจแห่งคำสาปแช่งทั้งหลายที่ติดตัวมา ด้วยแมวเป็นสัตว์ให้คุณคือคอยส่งพลังและสิริมงคลให้แก่เราคอยปกป้องเราจากสิ่งเร้นลับ นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังว่าแมวอาคมนี้เป็นยอดแมวเพราะเขาจะให้โชคลาภแก่เจ้าของทั้งเรียกโชคลาภเงินทอง ช่วยให้ทำมาหากินคล่องไม่ติดขัด มีชีวิตเจริญก้าวหน้า พระพิมพ์นี้ใครได้ไว้จะเป็นผู้มีโชคนานับประการ(โดยเฉพาะการเสี่ยงโชคได้โชคจากสิ่งที่มองไม่เห็นไม่คาดฝัน) ท่านใช้รกแมวมาเป็นส่วนผสมมวลสารครั้งนี้ด้วย ซึ่งรกแมวนั้นได้ชื่อว่ามีอาถรรพ์ช่วยให้ทำมาค้าขึ้นจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด ทั้งรกยังเป็นสิ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตทางเดียวยามทารกอยู่ในครรภ์ เช่นนั้นผู้ใดมีรกแมวที่เสกเรียกอาการลงอาถรรพ์วิชามาอย่างดีจึงเท่ากับมีเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิตตนเองให้อิ่มสุขอุดมสมบูรณ์ได้ตลอดเวลา ซึ่งองค์ปฐมท่านให้เราหารกแมวถึงหกชนิดมาเป็นมวลสารในการทำครั้งนี้
- รกแมวขาวสำลี ช่วยเยียวยาส่วนที่เสียหาย เรื่องที่พังพินาศในชีวิต รวมไปถึงคอยส่งพลังเยียวยาจิตใจความรู้สึกที่ถูกบั่นทอนอยู่เสมอของเราตลอดเวลา
- รกแมวสีส้ม เน้นในเรื่องหน้าที่การงานช่วยให้การเงินมั่งคั่ง เป็นพลังนำมาซึ่งชีวิตที่มั่นคงแน่นอนไม่สั่นคลอน ทั้งยังไร้โรคช่วยให้สุขภาพดีอายุยืน
- รกแมวสามสี ช่วยให้มีโชคอย่างถึงที่สุดไม่ว่าจะอยู่บนบกหรือในน้ำแม้แต่อยู่ในถ้ำก็ยังปกปิดความโชคดีของเราไม่ได้ ทั้งยังคอยปกป้องเราออกจากภัยร้านทั้งหลาย
- รกแมวเทา นำมาซึ่งความเมตตาเอ็นดูของชนทั้งหลาย ทั้งความรัก ความสุข ความอบอุ่น ช่วยให้เราโชคดีอย่างน่าประหลาด ทั้งยังช่วยให้เราใจเย็นให้อารมณ์เราสงบมากขึ้น
- รกแมวดำ เน้นในเรื่องแก้ปัญหาทั้งหลายให้หมดไปจากชีวิตเจ้าของ เวลาเจอปัญหาอะไรจะช่วยให้เราเห็นทางออกทางแก้ไขได้อย่างชัดเจนเหมือนมีญาณหยั่งรู้
- รกแมววิเชียรมาศ ช่วยปกป้องเราจากคนคิดร้าย คนที่คอยอิจฉาริษยารอบด้านรอบกาย ทั้ยังนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศและชักนำความสำเร็จสู่ชีวิต
ด้วยแมวเป็นสัตว์ที่จะเข้าหาเราเอง เช่นนั้นรกทั้งหลายนี้จึงเป็นพลังงานที่จะพุ่งเข้าหาเราเอง ใครที่กลัวกุมารทองกลัวลูกกรอกแมวเหล่านี้ท่านว่าใช้รกแมวได้เลยเพราะเขาให้คุณไม่มีโทษด้วยเป็นเพียงรกไม่ใช่กุมาร ทั้งแมวยังเป็นสัตว์ที่ได้ชื่อว่ามีเก้าชีวิตคือฆ่าอย่างไรก็ไม่ตายมีใครปองร้ายก็รอดภัยรอดจากปากเหยี่ยวปากกาได้ทุกครั้ง ท่านจึงถือว่าองค์พระนี้มีคุณพิเศษนั่นคือฆ่าอย่างไรก็ไม่ตายดั่งเราเป็นแมวเก้าชีวิตเช่นนั้น ด้วยถือว่าองค์พระศาสดาเคยเสวยพระชาติเป็นพญาวิฬามาแล้วทุกพระองค์พ่ออาจารย์ท่านจึงนำรกแมวชุดนี้เชิญครูเชิญองค์พระมาเสกให้ทำวิชาความขลังให้เต็มที่ตามที่แต่ละองค์ถนัดก่อนจะนำมาเป็นมวลสารต่อไป

ชุดพระคะแนน..พ่ออาจารย์ท่านตำสุดยอดมวลสารใส่เพิ่มให้
เป็นมวลสารชุดที่สร้างพระผงต่อชีวิต ต่อลมหายใจ (พ่อพลายเก้าขอ) ท่านนำมวลสารชุดนั้นมาผสมไว้ด้วยทั้ง ผงไม้เก้าขอ,งาช้างน้ำ,ไม้ช้างข้าม,ผงไม้ไผ่ช้างข้าม,ผงงาช้าง,ผงงาช้างศึก,ผงเชือกปะกำครู,ผงหนังท้องช้าง,ผงงวงช้าง,ผงลิ้นช้าง,ผงฟันกรามช้าง,ผงกระดูกหน้าผากช้าง,ผงรกช้าง,ผงรกช้างเผือก,ผงลึงค์ช้าง,ผงหางช้าง,ผงหางช้างเผือก,น้ำมันช้างตกมัน,ผงครูปะกำ ซึ่งผงเหล่านี้ล้วนมีอาถรรพ์มากชนิดที่ว่าเอาไปใช้ได้เลยก็ไม่เสียหน้าอะไร ซ้ำกว่าจะทำได้ยังมีขั้นตอน มีเรื่องราวอีกมากจึงทำให้เชื่อได้อย่างสนิทใจว่า รุ่นนี้แรงสมชื่อเขา นั่นคือใช้ต่อชีวิต ต่อลมหายใจได้ ท่านว่าจะยกตัวอย่างเอาคร่าวๆนะได้แก่
- งาช้างน้ำ ผงนี้ท่านว่ามีอาถรรพ์มากใช้ควบคุมอำนาจและกำลังอาถรรพ์ของช้างได้ชะงัดนักโดยเฉพาะใครมีงาช้างน้ำนี้จะได้ชื่อว่าช้างจะกลัวมาก แม้ดุร้ายเยี่ยงช้างป่าก็ยังกลัว จึงเป็นเคล็ดทางมหาอำนาจไม่ว่าใครจะดุ จะร้ายมาจากไหนเขาก็ย่อมกลัว ย่อมเกรงเราทั้งหมดทั้งสิ้น ถ้าไม่ดีจริงหมอจับช้างจะใช้งาช้างน้ำกันทำไม
- ผงงวงช้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าทำเป็นผงนี้จะมีอาถรรพ์มาก โดยปกติงวงช้างตามความเชื่อของคนโบราณถือว่าเป็นสุดยอดของขลังทางด้านทำมาหากิน โภคทรัพย์ โชคลาภ และค้าขาย คนที่รู้เมื่อได้พบก็จะรีบเก็บไว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองไม่ค่อยมีให้พบเจอกันง่ายๆ
เมื่อนำมาทำวิชาไว้ครบถ้วนก็จะยิ่งมีอานุภาพมาก เปรียบได้ประดุจงวงช้างที่ใช้เกาะเกี่ยวอาหารเข้าปากฉันใดผงนี้ก็เรียกทรัพย์ได้ฉันนั้น มีอานุภาพทางทำมาหากิน เจริญโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม และป้องกันภัยอันตราย ได้สารพัดเพราะเชื่อกันว่างวงช้างนั้นเป็นส่วนที่ช้างใช้ในการหยิบจับอาหารการกิน แล้วยังใช้ฟาดและเหวี่ยงศัตรูด้วยอีกทางหนึ่ง ใครที่ถูกช้างฝาด ช้างเหวี่ยงนี่ท่านว่าไม่ตายก็เจ็บหนักทีเดียว นอกจากแรงทางทำมาหากินแล้วยังเป็นสะท้อนเล่นงานคนปองร้ายได้เช่นนี้ ท่านว่าด้วยงวงนั้นจะให้ยืดให้ยาวไปคว้าเดือนจับดาวมาให้เราก็ย่อมได้
- ไม้ช้างข้าม ถือว่าเป็นของดีทางเมตตา ปกป้องอาถรรพ์ หนุนดวง ค้ำดวงชะตา ท่านเอามาเสกลงอาถรรพ์ให้มีพลังยิ่งขึ้นไปอีกถึงขนาดว่าเอามาผูกเป็นพยนต์เสียหนหนึ่งก่อนพลีทำผง ท่านว่าผงนี้จะได้มีชีวิตและจิตวิญญาณ ใครได้ไปบูชาดุจว่ามีพยนต์เทพตามคุ้มครองดวงชะตาของเขา เอาไว้ใช้ข้ามผ่านอุปสรรคที่กัดกันขัดขวาง เป็นอาถรรพ์ทำลายชีวิตได้ดีนัก ท่านว่าก้าวผ่านก้าวข้ามได้หมดเลย
- ผงงาช้างศึก อันเป็นสัญลักษณ์ความบริสุทธิ์และเป็นมงคล ผงนี้ครูท่านได้เสกให้ก่อนนำมาผสมคราวหนึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าท่านทำให้เป็นกาลเฉพาะเน้นทางพลังอำนาจสะกดให้คนอื่นเชื่อฟังทั้งยังช่วยฟันฝ่าอุปสรรคให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งหลาย ท่านเสกให้พร้อมกำกับว่าให้ใส่ไปทั้งหมดเพื่อคนใช้ต่อไปจะได้เอาชนะเหล่าศัตรูหมู่มารที่ผจญเวร,ผจญกรรมกันในชีวิตได้ไม่ยาก(พ่ออาจารย์ท่านว่าผงงาสำคัญนี้จะต้องใช้งาช้างศึกโบราณมาลงอาถรรพ์เท่านั้น ทั้งต้องเป็นช้างเผือกด้วย นอกจากงาช้างที่ออกศึกงาธรรมดายังใช้ไม่ได้) ทั้งนี้ยังเป็นเคล็ดที่จะทำให้ผู้ครอบครองชนะการทำศึก,การแข่งขันได้ครั้ง
- ขนหางช้างเผือก ท่านว่าช้างเป็นสัตว์ใหญ่เป็นตัวแทนของอำนาจ ท่านว่าขนหางช้างเผือกนี้ท่านลงให้ครบทั้งปัดเป่าเสนียดจัญไร,อุปสรรคขัดขวางทั้งหลาย เมื่อนำมาเป็นมวลสารแล้วผู้บูชาติดตัวจะได้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายที่มองไม่เห็น ทั้งจะปลอดภัยจากการเดินทางสัญจรในแต่ละวันอันจะเหยียบย่างเข้าไปในถิ่นอาถรรพ์ที่ต่างๆ ท่านว่าลงให้ครบหมดจะใช้ป้องกันคุณไสยก็กันได้ทุกชนิด ทั้งยังช่วยปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายได้อีกด้วย(ท่านว่าแม้เจ้ากรรมนายเวรมารังควานก็ปัดออกไปได้ ท่านธนปาลกะท่านลงให้ครบถึงขนาดนั้น มากกว่านี้ไม่สามารถพูดได้) ให้บูชากันดีๆท่านว่าครูท่านเมตตาทำให้หมดแล้วติดตัวไว้จะทำให้สามารถหยั่งรู้เภทภัยต่างๆล่วงหน้าได้ เสมือนตัวเองมีสัมผัสพิเศษทั้งยังป้องกันเหตุอันตรายระงับไว้ไม่ให้เกิดขึ้น ด้วยขนหางช้างเป็นสัญลักษณ์ความรักและความภักดีท่านว่าใส่ลงไปหนนี้ก็เพื่อให้พี่ช้างท่านรักเราเต็มที่นั่นเอง
- ผงรกช้างผือก เป็นของมงคลอันน่าอัศจรรย์ซึ่งคนโบราณผู้เฒ่าผู้แก่เชื่อกันว่าผู้ใดได้ครอบครองพกพา กช้าง จะบันดาลโชคลาภขั้นสูง,เรียกโชค,เรียกลาภ และยังสามารถเร่งโชค,เร่งลาภ เข้ามาสู่ตัวผู้ครอบครองอย่างน่าอัศจรรย์ใจเป็นยิ่งนัก ท่านว่าผงรกช้างนี้ครูท่านทำให้เป็นพิเศษเพราะเป็นของที่จะดึงจะฉุดวาสนาช่วยเหลือคนได้ ทั้งคนที่หมด,คนที่ไม่มี,คนที่ยังไม่ถึงเวลาบุญพาวาสนานำส่งทั้งหลายก็ยังเร่งเวลาให้โชคดีเข้าถึงตัวได้ ท่านว่าผสมไปให้ทั้งหมดพกเอาไว้จะไม่มีอับจน เงินทองจะไหลมาเทมาเป็นระยะไม่ขาดสายกินใช้ไม่หมด คนที่ทำมาหากินไม่คล่อง,โชคลาภไม่ค่อยมี,การงานตกต่ำ,ทำอะไรก็ติดขัด,ชักหน้าไม่ถึงหลัง,เป็นหนี้เป็นสิน,เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ท่านว่าหมดปัญหา ต่อไปจะมีมาเรื่อยๆ หมดแล้วก็มีมาใหม่เป็นวงจรหล่อเลี้ยงชีวิตดั่งรกช้างสายใยแห่งพระมหาโพธิสัตว์ที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตเราเช่นนั้น
- ผงเชือกปะกำ สามารถป้องกันคุณไสย์หรือวิชา,โรคร้ายและการกระทำที่เขาปล่อยมาในอากาศที่เรียกว่าลมเพลมพัดได้ ทั้งยังเป็นมงคลมาก (ท่านธนปาลกะท่านอุปมาไว้น่าฟังว่าเอาไว้จับอะไรที่จับยาก,ตึงมือ,เกินวาสนาตัวเองที่จะรับ ต่อไปจะได้สัมผัส,ได้ครอบครอง,เป็นของเราอย่างง่ายดาย ก็ลำพังเชือกนี้มีอำนาจคล้องช้างที่ได้ชื่อว่าดุ ว่ามีอาถรรพ์มากได้อย่างไร ต่อไปสิ่งที่ยากๆเธอก็เอามาได้เช่นนั้น) พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติแล้วก็มีอำนาจมากภูตผีปีศาจและคุณไสยเกรงกลัวยิ่งกว่าเทพศาสตราวุธ ทั้งใช้ล้างอาถรรพ์อะไรที่ว่าเฮี้ยนๆได้ฉมังนัก บ่วงบาศก์หนังปะกำยังเด่นด้านเมตตามหานิยมอีกด้วย ถือเป็นของมงคลยิ่งนักทั้งด้วยความที่เป็นบ่วงบาศก์ในตัวมันเองยังจะคล้องจะนำพาให้เกิดโชคลาภ ทำมาค้าขึ้นไม่อดอยากเป็นสิ่งมงคลที่ให้โชคลาภสุขสมหวังให้สมดังใจปราถนา
- ไม้เก้าขอ มีความเชื่อว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือกันในหมู่ผู้ศึกษาพระเวทย์ที่รู้ลึกรู้จริง ว่าเป็นของมงคลที่หาได้ยากยิ่ง และมีอานุภาพสูงหลายประการคือ เป็นสุดยอดทางการขอ ขอโชค ขอลาภ ขอความเจริญรุ่งเรืองเหล่านี้ท่านว่าดีนัก เป็นของโภคทรัพย์ จากการเป็นขอที่งอเข้าหาตน จึงมีพลังในการเกี่ยว การเหนี่ยวรั้งสิ่งที่ต้องการเข้ามาหาตนเองได้ อีกประการคำว่าขอก็คือได้ เป็นคำมงคลดุจขอแล้วต้องได้ ขอแล้วได้ทุกอย่าง จะขอโชค ขอลาภ ขอความเจริญก้าวหน้า ขอลูก ขอเมีย ขอความรัก เรื่องเหล่านี้ท่านว่าเห็นมามากแล้ว นี่คืออาถรรพ์ไม้เก้าขออย่างแท้จริง
- ผงลิ้นช้าง ท่านว่ามีอาถรรพ์อยู่ในตัวสูงเป็นมหาเสน่ห์เมตตามหานิยมล้วนๆ ที่ว่ากันว่าผงลิ้นช้างเป็นยอดของมหาเสน่ห์ก็ไม่ผิด เพราะแรงในการเจรจาพูดจาพาที พูดที่ใดก็มีแต่คนรักชอบหลงใหล ท่านว่าท่านเอามาลงวิชาสาริกากำกับไว้โดยเฉพาะที่ผงนี้ด้วยจึงยิ่งแรงทางด้านเมตตาเจรจาเปล่งวาจาใดล้วนแต่มีคนหลงเคลิบเคลิ้มไปด้วยอาถรรพ์เช่นนั้น
- ผงคชกุศ เป็นของคุมอาถรรพ์ด้วยเชื่อว่ามีอานุภาพบังคับทุกสิ่งให้เป็นไปในทางดีไม่ก่อกำเริบเดือดร้อน หากผู้มีวิทยาคุณอื่นจะมาลองวิชาก็มักแพ้ภัยตัวเองไป เพราะอำนาจของคชกุศหรือ ขอสับช้างนี้จะสะกดอาคมไว้มิให้แสดงฤทธิ์ได้นั่นเอง เป็นของดีที่ไม่ค่อยพบเห็น ผงคชกุศโบราณนี้ดีในทางควบคุมคนให้อยู่ในอำนาจ คุมผู้ใต้บังคับบัญชาให้อยู่ในโอวาทไม่กระด้างกระเดื่อง ทั้งเรื่องโชคลาภก็ดีมาก เป็นมหาอำนาจ มหาลาภ เมตตา มหานิยม พ่ออาจารย์ท่านว่าจะยิ่งเป็นกฤติยามคมแฝดมากขึ้นไปอีกถ้าใช้ผงคชกุศที่เคยสะกดข่มช้างตกมันมาแล้วเช่นเล่มนี้ ด้วยคชกุศนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ด้วยแรงครูประกำที่สูงมากจนข่มช้างอยู่ เพราะถือว่าในทางไสยเวทย์ช้างเป็นสัตว์ที่มีอาถรรพ์แรงเป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์หรือมีดีในตัวนันเอง
...ท่านว่ายกตัวอย่างให้ฟังกันคร่าวๆเพราะถ้าให้พูดกันจริงๆของแต่ละอย่างนั้นล้วนมีคุณมาก และกว่าจะนำมาทำผงได้ก็ต้องเสกกำกับลงวิชาไว้แต่ละด้านอย่างดี ท่านว่าเน้นทำเน้นเสกในฤกษ์อมฤตโชค ชัยโชค ทำให้ดีถึงที่สุดแล้ว นอกจากนี้ยังมีมวลสารและว่านยาต่างๆที่เก็บไว้ที่หมอชีวกท่านเมตตามาคุมและลงอาถรรพ์ให้ทั้ง ไคลพระเจดีย์เจ็ดวัด,ไคลเสมาเจ็ดวัด,ไคลโบสถ์เจ็ดวัด,ผงอิทธิเจ,ผงมหาราช,ไม้พญาช้างหลง,ผงว่านมหาลาภ,ผงไม้ไผ่ฟ้าผ่า,ผงมะขามฟ้าผ่า,ผงไม้มะขามโปร่งฟ้า,ว่านดอกทอง,รากราคะ,ว่านช้างผสมโขลง,ว่านสาวหลง,ว่านขุนแผนสะกดทัพ,ว่านมหาโชค,ว่านมหาลาภ,ว่านกุมารทอง,ว่านกระแจะจันทร์,ว่านขมิ้นช้น,ว่านมหาหงษ์แดง,ว่านขมิ้นขาว,ว่านนางล้อม ..พ่ออาจารย์ท่านว่าในส่วนว่านนั้นว่ากันถึงร้อยแปดชนิดที่ท่าน(หมอชีวก)ให้เตรียมไว้ ซึ่งท่านชีวกนั้นได้เมตตาทำการปลุกฤทธิ์ว่านให้ทุกตัวก่อนที่จะกดเป็นองค์พระ เพื่อที่จะทำ"พระผงต่อชีวิต ต่อลมหายใจ" พ่ออาจารย์ท่านว่าพระผงนี้จะให้คุณวิเศษสมดั่งชื่อเลยสำหรับคนที่ได้รับความทุกข์ยากลำบากใดๆอันนี้เข้าใจไม่ยาก

จะเห็นได้ว่ามวลสารหลักนั้นล้วนเกี่ยวข้องกับช้างทั้งสิ้น ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเคล็ด ครูชีวกท่านให้เคล็ดเอาไว้ว่า"กำลังช้างสารนั้น เป็นชื่อเรียกเอาฤทธิ์ เอากำลังของเทวดา ซึ่งกำลังเหล่านี้จะไม่มีในหมู่คนทั่วไป นอกเสียจากเธอเป็นผู้มีบุญญาธิการมาเกิดในรอบร้อยปี พันปี เช่นนั้น ดังนั้นช้างจึงเป็นสัตว์สิริมงคลและกำลังช้างสารจึงเป็นชื่อเปรียบฤทธิ์ของเทพของพรหมให้รู้ว่าองค์ไหนมีกำลังแรงเพียงไหน ได้แก่ เทพองค์นี้มีกำลังเจ็ดช้างสารบ้าง เทพองค์นั้นมีกำลังสิบช้างสารบ้าง... เป็นต้น นี่จึงเป็นกำลังอันประเสริฐที่ไม่ปรากฏในหมู่มนุษย์และถ้ามนุษย์ใดได้กำลังนี้หนุนชีวิตก็จะทำให้คนธรรมดากลายเป็นผู้มีบุญญาธิการในรอบพันปีได้ ด้วยกำลังนี้จะเปลี่ยนคนให้มีฤทธิ์มีวาสนาดุจเทวดานั่นทีเดียว ด้วยดำริดังนั้นของครูชีวกพ่ออาจารย์ท่านจึงให้เอาของขลังส่วนต่างๆของช้างที่ทำวิชาไว้แล้วจากครูส่วยครูปะกำของท่าน ซึ่งอดีตนั้นมีวิชาบังคับช้าง คุมช้างได้ และได้มอบของต่างๆให้พ่ออาจารย์ก่อนจะละสังขารไป ท่านว่าผงเหล่านี้เป็นของช้างมงคลสองเชือก คือ พลายสิริมงคล,พลายสมปรารถนา ท่านว่าผงนี้กว่าจะทำให้สำเร็จได้ทำยากนัก กว่าจะได้ไม่ง่ายเลย คนใช้ไม่ต้องกลัวคุณผีสางอะไร เพราะผงเหล่านี้มีอาถรรพ์มาก ผีและคุณไสยมนต์ดำเกรงกลัวจนขยาดทีเดียว และก่อนทำนั้นครูชีวกท่านให้ดำเนินการเพิ่มอาถรรพ์ช้างพลายจนเสร็จสิ้น โดยการนำผงสำคัญมาเข้ากับผงว่านปั้นเป็นช้างเอราวัณก่อนเสียรอบหนึ่ง จากนั้นจึงเสกเชิญฤทธิ์บอกกล่าวพ่อพลายเอราวัณให้เคลื่อนกายแฝงจิตลงมา ให้หุ่นช้างนี้มีกำลังมากดุจช้างสวรรค์ เป็นที่สุดแห่งกำลังช้างสารอย่างแท้จริงที่จะเปลี่ยนวาสนาและบุญญาธิการของคนอย่างแท้จริง เมื่อสำเร็จแล้วจึงพลีนำมาทำผงวิเศษกดพระอีกรอบหนึ่ง
ในส่วนพิมพ์พระนั้นสมเด็จองค์ปัจจุบันท่านว่าให้แกะเช่นนี้เป็นพระพิมพ์ทรงพระเจ้าเปล่งรัศมี ในขนาดกำลังสวยใหญ่กว่าพระวัดปากน้ำและเล็กกว่าพระสมเด็จทั่วไป พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านกำหนดลีลามาอย่างใดเราก็ทำไปตามนั้น ตอนทำพิธีกดท่านชีวกก็มาช่วยเราเอาเป็นธุระทุกอย่าง นั่นจึงเป็นที่มาของอาถรรพ์แรงครูอย่างถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนเสกนี้ฉันแทบไม่ต้องยุ่งเลย เพราะท่านชีวกเขาไปอาราธนามาหมดแล้ว ทั้งองค์ปฐม องค์ปัจจุบัน องค์ทีปังกร องค์กัสสปะ ท่านว่ารุ่นนี้พระท่านทำกันเองทั้งนั้น ท่านเจาะจงเอาองค์ทีปังกรกับองค์กัสสปะมาคุมเรื่องลาภโดยเฉพาะ เพราะพระพุทธกัสสปะนั้นมีวาสนาบารมีเรื่องลาภสักการะหนักที่สุดบารมีท่านนิ่มนวลมากเป็นลาภมหาศาล ส่วนพระพุทธทีปังกรก็มีกำลังแข็งมากใช้ต้านหรือสู้เรื่องราวแรงๆได้ทั้งยังให้บารมีคุณทางลาภสักการะหนักดุจเดียวกัน ส่วนองค์ปฐมนั้นท่านองอาจสง่าผ่าเผย เป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้นำ ส่วนองค์ปัจจุบันก็มีไหวพริบปฏิภาณปราดเปรื่องเป็นเลิศท่านให้คุณได้ทุกทางพ่ออาจารย์ว่าสี่องค์นี้รวมแรงกันรับรองว่าเธอจะได้โชคลาภแบบงงๆ หรือพูดง่ายๆก็คือทำอะไรแล้วได้ผลเกินคาดทั้งนั้น นอกจากนี้บารมีท่านชีวกก็ยังดี ยังใช้ได้ทางรักษาโรคเป็นปกติ ใครที่ป่วยเรื้อรังรักษาไม่หายก็จะได้มีกำลังใจมากขึ้น ท่านว่านี่แหละเอาพระไปแช่น้ำมนต์อธิษฐานขอบารมีท่านชีวกเขาให้ประทานน้ำยาให้ดื่มกิน บอกโรคท่านไปด้วย ถ้าโรคเบานี่จะหายเป็นปลิดทิ้งเลย ทั้งยังให้ไม่อด ไม่อยาก ไม่ยาก ไม่จน ไม่อัตคัดข้นแค้น ทำกิจการหรือบำเพ็ญบารมีได้อย่างราบรื่น จะเกิดลาภสักการะไหลหลั่งมาไม่มีประมาณทั้งยังใช้เสริมมงคลต่างๆ ด้วยเป็นศาสตร์ที่รุ่งเรืองและนับถือในหมู่ชนชั้นสูงสุดเท่านั้น เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจสร้างพระคะแนนชุดนี้เป็นพิเศษ

นอกจากนั้นท่านยังผสมผสานพุทธคุณจากการลบผงพญาคชสารเชือกสำคัญต่างๆทั้งผงวิชาของช้างนาฬาคิรี ไม่ว่าจะเป็นพญาฉัททันต์โพธิสัตว์,ช้างเอราวัณ,ช้างปาลิไลยกะ...เป็นต้น ท่านว่าวิชาช้างแต่ละประเภทนั้นมีคุณต่างกันไป แต่โดยรวมแล้วช้างเหล่านี้เหมือนกันคือมีครบทั้งอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ ด้วยพวกเขานั้นเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ทั้งมีนิสัยอ่อนโยน,เป็นมิตรและไม่ดุร้าย ทั้งช้างยังเป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหารจึงไม่คุกคามชีวิตสัตว์โลกอื่นๆ พอจะยกตัวอย่างได้ดังนี้
- คติการบูชาพญาช้างฉัททันต์นั้น ท่านเป็นพระโพธิสัตว์เมื่อคราวพระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพญาช้างอยู่ในป่าหิมพานต์ มีกายขาวดั่งเงินยวง เท้าแดง ปากแดง งาฉายรังสีแสงเป็นหกสี มีกำลังมาก มีบริวาร 8000 เชือก บูชาพระปัจเจกพระพุทธเจ้าทั้ง 500 พระองค์อยู่เป็นนิจสะสมบารมีธรรมมากมาย ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาสายหลวงพ่อเดิมมีพุทธคุณมากสามารถบันดาลให้ได้ทุกสิ่งที่ขอ
- ส่วนช้างเอราวัณนั้นเป็นพาหนะของพระอินทร์ ถือว่ามีอานึภาพมากสามารถเหยียบไปได้ทุกหนแห่ง ทั้งบนดิน,บนผิวน้ำ,และในอากาศ ด้วยคติว่ามีพละกำลังที่มากมายมหาศาลทั้งสามารถทำลายสรรพสิ่งให้ย่อยยับไปได้โดยไม่ต้องใช้เวลาเท่าใดนัก แต่เนื่องจากเป็นสัตว์ที่เกิดจากการจำแลงกายของเทพคือเอราวัณเทพบุตรดังนั้นจึงไม่ค่อยได้เห็นท่านสำแดงฤทธานุภาพไล่ทำลายสิ่งต่างๆให้ปรากฏเท่าไหร่นัก ทั้งนี้วิชาการสร้างช้างเอราวัณนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วเป็นของสูง มีอาถรรพ์มาก มีฤทธานุภาพมาก จึงเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากตามไปด้วย ถ้าทำขึ้นมาด้วยความรู้จริง วิชาถึง เกิดผลดีก็ดีไป แต่ถ้ารู้ไม่จริง ทำไม่ดี ไม่เหมาะไม่ควร เกิดเป็นผลร้ายกับคนใช้ขึ้นแล้วก็จะควบคุมไม่อยู่
ด้วยในไตรภูมิยังเชื่อกันว่าช้างเผือกนั้นเป็นหนึ่งในสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ ได้แก่ ภริยาที่สมบูรณ์,ขุมสมบัติเหลือคณานับ,ที่ปรึกษาแผ่นดินที่ดี,ม้าที่วิ่งเร็ว,กฎการปกครองที่ดี,แก้วแหวนอันเป็นสิ่งสำคัญ,ช้างเผือกที่สง่างาม ส่วนเรื่องพุทธคุณนั้นถือว่าช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มีพลังอำนาจลึกลับในตัว เมื่อได้บูชาจะก่อให้เกิดความเป็นสวัสดิมงคลทั้งแก่บุคคลและสถานที่ เป็นนิมิตรหมายแห่งความยิ่งใหญ่,ความอุดมสมบูรณ์,ความมั่งคั่งรุ่งเรือง อันหาที่สุดมิได้ อีกทั้งช่วยเสริมบารมีของผู้ที่ได้ครอบครองตลอดจนดีเด่นไปในทางทางมหาอำนาจปราบข่มศัตรู

เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจสร้างองค์หลวงพ่อชุดพิเศษด้วยการนำมวลสารพญาช้างมาผสมลงไปด้วย ท่านว่าบารมีเจ้าของมวลสารท่านนั้นยิ่งใหญ่จำเป็นต้องใช้สัตว์ใหญ่ที่มีบารมีควรกันจึงจะยิ่งเป็นมหามงคลและให้คุณมากเพื่อหวังผลในการเกื้อหนุนชีวิตผู้ใช้โดยตรง ท่านเน้นมวลสารอาถรรพ์และว่านยาเพื่อจะทำให้เป็น เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ควบคู่ไปกับวิชาอาถรรพ์ของพญาช้างที่เป็นมหาอำนาจอย่างถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะได้ครบเครื่องส่งผลในด้านการเจรจา การค้าขาย โชคลาภให้เป็นนะจังงัง ให้ผู้ที่ได้ยินเสียงเกิดความนิยมชมชอบควบคู่กันไปด้วยทั้งหมด ทั้งยังคุ้มครองป้องกันภัยต่างๆยามเมื่อมีภัยมาถึงตัว **ท่านว่าพระผงนี้สำคัญนักเพราะผู้ใดมีไว้เขาจะมีพละกำลังดุจพญาช้างสาร มีวาสนาบารมีเพิ่มขึ้นเจ็ดเท่าห่างไกลกับผู้อื่นเจ็ดช่วงตัวจนตามกันไม่ทัน ดั่งคำที่ว่าแข่งเรือแข่งพายนั้นแข่งได้แต่แข่งบุญแข่งวาสนานั้นแข่งกันไม่ได้

องค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรเป็นเจ้านั้น พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าเป็นเครื่องมงคลสูงค่ามาก ทั้งชีวิตท่านก็ทำได้เพียงครั้งเดียว ใครจะได้ ใครจะมีวาสนาก็ให้องค์หลวงพ่อกับเจ้าของมวลสารท่านดลใจเลือกคนของท่านเอง ### แต่หากจะถามเราว่าใครคือเจ้าของมวลสารนั้นเอาเป็นว่าเราบอกไม่ได้ พูดได้แต่เพียงได้ยินชื่อเท่านั้นก็สะดุ้งไปเจ็ดชั่วโคตร เอาว่าใช้นำพลังอาถรรพ์นำพุทธคุณมาหนุนตัวเท่านั้นก็พอ ที่ไม่ควรรู้ไม่ควรเอ่ยก็อย่าไปรู้ใดๆเลย
พระชุดแมวจับช้างนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าแล้วแต่บารมีใครจะถึงจะคู่ควรได้ไว้ เสมอด้วยสัตว์เล็กยังจับสัตว์ใหญ่มากบารมีได้อยู่หมัดเป็นมหามงคลยิ่งสำหรับคนที่มีความฝันและความปรารถนาใหญ่เกินตัวและยังไม่ได้รับมา ท่านว่าให้เร่งอาราธนาพระผงชุดนี้เถิด โดยเฉพาะชุดนี้ด้านหลังทุกองค์ฝังด้วยแก้วราหูนิลกาฬเพื่อแยกออกกับพระชุดต่อชีวิตต่อลมหายใจปกติ ท่านว่าชุดมวลสารองค์หลวงพ่อทศพลบพิตรของฉันที่เป้นพระคะแนนทุกองค์ต้องมีแก้วราหูด้านหลัง ซึ่งแก้วราหูนี้ก็มีดีทางด้านคุ้มกันและหนุนดวงอย่างถึงที่สุด ท่านว่าบารมียิ่งใหญ่ทั้งยังดันยังผลักหนุนเราพร้อมกันทีเดียว

คาถาบูชา
วิ เว โก อัง เย หิ (หมั่นอาราธนาองค์พระจะไม่เดือดร้อนด้วยภัยใดๆเลย)

ในส่วนองค์พระนั้นท่านว่ามีรัศมีแปดเมตร องค์พระนั้นมีเทพรักษา ทั้งมีแสงสว่างดังตะวันร้อยดวง(นี่ฉันตรวจสอบให้เธอไม่ต้องเชื่อก็ได้) พ่ออาจารย์ท่านว่าเรานั่งดูให้หมดแล้วองค์ปฐมและคณะของท่านทำกันไม่เสียชื่อเลย ต่อให้เรานั่งเสกอีกร้อยปีพันปีก็ทำไม่ได้เท่าพวกท่านหายใจทิ้งครู่เดียว เพราะท่านทำเต็มอัตรา ท่านคุมอยู่ คนใช้นี่อารมณ์จะดีขึ้นมากเลยเพราะอาราธนาแล้วได้ผลเร็วเป็นอัศจรรย์

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้จองพร้อมแจ้งวันเดือนปีเกิดเวลาตกฝากตลอดจนสิ่งติดขัดในชีวิตบอกเอาไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะลงอาถรรพ์วิชาทั้งสื่อสารกับดวงพระวิญญาณ..ให้เพื่อจะได้สงเคราะห์รวดเร็วเป็นรายบุคคลไป รายได้ร่วมสร้างห้องน้ำในวัดทุรกันดารสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา องค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรชุดแมวจับช้าง(พระคะแนนแก้วราหูนิลกาฬ) บูชา 900 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...ูญ-พ่ออาจารย์พล.539894/page-502#post-11170677

 

ร่วมทำบุญบูชา เหรียญแห่งวิวัฒนาการทิพย์กายจักรวาลแสนโกฏิ(เอเลี่ยน)

เหรียญเอเลี่ยนคืออะไร..
การสร้างเหรียญเอเลี่ยนนั้นท่านทำเสมือนใช้เป็นวัตถุธาตุแทนสัญลักษณ์ชักนำบารมีผู้อื่นมาหนุนเสริมเรา อย่างเช่นคนที่เขาอยากรวยมั่งมีทรัพย์ก็มักจะขอพระสีวลีขอกับพระนวโกฏิหรือมหาเศรษฐีทั้งเก้าเช่นนี้ หากแต่เหรียญเอเลี่ยนคือการขอกับผู้ที่มากบารมีทั้งหมื่นโลกธาตุไปพร้อมๆกัน ท่านบอกว่าเอเลี่ยนที่คนเรารู้จักพูดง่ายๆก็คือมนุษย์ต่างดาวซึ่งเขาใส่จินตนาการเข้าไปมาก
แต่แท้จริงแล้วในจักรวาลน้อยใหญ่ที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นแสนโกฏิจักรวาลนั้นจะประกอบไปด้วยจักรวาลขนาดเล็ก(เช่นสุริยจักรวาลของเรา),จักรวาลขนาดกลาง(เช่นกาแล็คซี่),จักรวาลขนาดใหญ่(เอกภพ) ทีนี้เขาก็นับกันไปว่าพันจักรวาลขนาดเล็กมารวมกันจึงจะเป็นหนึ่งจักรวาลขนาดกลางหรือกาแลคซี่และพันกาแลคซี่มารวมกันก็จะเป็นเอกภพ พอจักรวาลนับพันจักรวาลมารวมกันแบบนี้เราเรียกว่าโลกธาตุขนาดเล็ก ในขั้นกว่าก็คือพันกาแลคซี่มารวมกันก็จะเกิดโลกธาตุขนาดกลาง แต่ขนาดพันเอกภพขึ้นไปถึงจะเรียกว่าโลกธาตุขนาดใหญ่ ซึ่งพันโลกธาตุขนาดเล็กนี้ก็จะมีขนาดเท่าหนึ่งโลกธาตุแบบกลางๆส่วนพันโลกธาตุขนาดกลางก็จะเท่ากับหนึ่งโลกธาตุขนาดใหญ่ ซึ่งโลกธาตุขนาดใหญ่นั่นเองที่มีอยู่หนึ่งพันโลกธาตุพอนับรวมจักรวาลทั้งสิ้นจึงได้แสนโกฏิจักรวาล
พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเรามองไปในมุมใหญ่กันแล้วก็ต้องมาย่อยดูกันอีก เพราะสมเด็จองค์ปฐมท่านว่าในแต่ละจักรวาลอันมากมายมหาศาลนี้ล้วนแต่มีนรกสวรรค์แยกกันไปเป็นของตัวเองอย่างพระอินทร์จักรวาลของเราพอไปอีกจักรวาลนึงเขาก็มีพระอินทร์ของเขาเหมือนกันทั้งพระพรหมทั้งลำดับสุขคติภูมิอบายภูมิต่างๆเขาก็มีของเขาอยู่แบบนั้นเหมือนกับทางเราแต่ทั้งแสนโกฏิจักรวาลนั้นก็นับถือพระพุทธเจ้าเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งในแสนโกฏิจักรวาลนั้นก็ยังมีดาวที่มนุษย์เกิดขึ้นเช่นกัน จักรวาลไหนจะเกิดมนุษย์รูปร่างอย่างไรแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับกำลังวัฏจักรจัดสรรค์ลงไป อย่างพวกเราเกิดมาในโลกก็รู้ตัวกันอยู่ว่ามีความเป็นอยู่อย่างนี้ แต่ในอีกซีกโพ้นจักรวาลหนึ่งมนุษย์ในโลกที่ลำบากกว่าเราก็ยังมีและที่เขาเจริญจนเราคาดไม่ถึงนั่นก็ยังมี...นั่นแหละคือสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์ต่างดาว

ด้วยมนุษย์(เอเลี่ยน)ในโลกอื่นนั้น ท่านว่าที่แย่กว่าดาวเราก็มีหรือที่ดีเกินหน้าไปก็มาก คำว่าดีที่ว่านี้ก็คือมีความเป็นทิพย์เพราะตัวเขาเป็นกึ่งเทวดา(เฉพาะบางดาวความต้องการเขาแค่คิดแค่เนรมิตเอาเหมือนเทพชั้นนิมมานรดีของเราแบบนี้) เช่นนั้นโลกพวกนี้คนเหล่านี้เขาก็มีฤทธิ์มากมีคุณธรรมมากประพฤติตนอยู่ในศีลห้าบ้างศีลแปดบ้างเดินตามมรรคแปดถือกุศลกรรมบททั้งสิบตามหลักคุณธรรมที่แต่ละโลกยึดถือไว้ปฏิบัติ ด้วยเขาก็มีนรกสวรรค์อยู่เหมือนกันกับเรา หากแต่ในโลกที่สมบูรณ์หรือโลกในอุดมคตินั้นมนุษย์ของเขามีความเป็นทิพย์สูงมากมีอายุดั่งเทวดานั่นคือเกิดมาก็อยู่กันด้วยหลักหมื่นปีแสนปีแบบนี้ไม่ใช่ไม่ครบร้อยปีก็ตายกันเกลื่อนแบบของเรา เช่นนั้นคนพวกนี้จึงมากฤทธิ์มากตบะมากบารมีเป็นเงาตามตัวบางคนเกิดมาเร่งปฏิบัติทั้งภาวนารักษาทั้งคุณธรรมไปนิพพานเลยก็มี บางดาวก็เร่งปฏิบัติกันเพราะคนของเขารู้แล้วเห็นแล้วเข้าถึงความเป็นทิพย์หมดแล้วเรียกว่าคนที่ตั้งใจปฏิบัติก็ทำไปนั่งเป็นพันเป็นหมื่นปีไม่ออกจากฌาณไม่ติดต่อใครแบบนี้ก็มาก เช่นนี้เพราะภพของเขาถูกกำหนดแล้วว่าใช้รองรับมนุษย์อีกแบบหนึ่งนั่นเอง บางโลกก็น่าอนาถนักเพราะเสวยกันแต่ความสุขจนมองทุกข์ไม่เห็นพอครบหมื่นครบแสนปีตายไปก็ไปอยู่ในอรูปพรหมไปนิพพานก็ไม่ได้พบพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าในโลกอื่นนั้นส่วนใหญ่เขาจะดีกว่าเรากันทั้งนั้นเช่นนั้นองค์ปฐมท่านจึงให้สร้างเหรียญแห่งวิวัฒนาการเอาไว้เพื่อรวมกำลังบารมีทั้งแสนโกฏิจักรวาล..เพื่อจะสร้างสุขและเร่งให้เกิดการพัฒนาในจิตตน

เหรียญเอเลี่ยนนี้พระใหญ่ท่านไม่ให้พูดเลยว่าสร้างอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านให้คำจำกัดความไว้ได้แค่"ลึกลับมาก" เพราะแรงกุศลกรรมของโลกทั้งหลายนั้นหนักและแน่นกว่าโลกของเรา เครื่องมงคลของเขาที่พ่ออาจารย์ท่านได้องค์ปฐมอนุเคราะห์(เหรียญแห่งวิวัฒนาการ)นี้จึงเป็นสิ่งที่รวมจิตวิญญาณชั้นยอดของแสนโกฏิจักรวาลทั้งระดับมหาจักรพรรดิลงไปจนถึงเศรษฐีคหบดีผู้มากฤทธิ์ทั้งหลายในแต่ละโลกที่เปรี่ยมไปด้วยวาสนาบารมีอันเป็นตัวแทนแสนโกฏิจักรวาลทั้งสิ้น ดังนั้น "เหรียญแห่งวิวัฒนาการ" จึงมีฤทธิ์ช่วยให้คนถือเจริญก้าวหน้าได้อย่างประหลาด ทั้งตนเองจะมีการเปลี่ยนแปลง...นำไปสู่การเปลี่ยนผ่านและวิวัฒนาการความเป็นมนุษย์ จากคนที่ไม่เคยได้ ทำอะไรไม่เป็นก็มีการพัฒนาเกิดขึ้น เพราะเป็นกำลังจิตกำลังใจของญาณอภิญญาจากผู้ที่ยิ่งยวดในตบะทั้งโลกธาตุต่างๆจึงเป็นพลังที่เหนือโลกเหนือไปกว่ามนุษย์จะคาดถึง ด้วยกำลังนั้นไร้รูปท่านจึงต้องทำเหรียญเอเลี่ยนเพื่อบรรจุไว้ให้เชื่อมต่อเข้ากับกระแสจิตเราจนเกิดอิทธิฤทธิ์ ด้วยพลังแห่งการวิวัฒนาการที่จะมีการพัฒนาให้เราเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วเหนือสรรพสิ่งทั้งหลายรอบด้าน ทั้งจะเชื่อมต่อกระแสจิตเราเข้ากับสรรพสิ่งสรรพชีวิตของท่านผู้วิเศษทั้งหลายเพื่อจะได้เปิดบารมียังความเจริญทั้งปวงให้เกิดขึ้น

แม้ในโลกธาตุอื่นก็มีเทพพรหมของเขาดังนั้นเมื่อทำเหรียญเอเลี่ยน พ่ออาจารย์ท่านว่ามันมีอะไรที่มากกว่าตาเราเห็นเพราะคุณพระท่านรวมเอาไว้ให้หมดเลยเพื่อให้เป็นเหรียญเร่ง...ทรัพย์ เร่งรวย เร่งความเจริญก้าวหน้า เร่งพัฒนาการ เร่งวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณ ด้วยดวงจิตมนุษย์ที่มีอายุนับหมื่นนับแสนปีนี้จัดว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงและเต็มไปด้วยพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง เหรียญแห่งวิวัฒนาการนี้ท่านจึงย้ำตลอดว่านอกจากใช้ต่อสู้กับสิ่งไม่ดีในตัวเองและรอบข้างแล้วยังใช้ต่อสู้กับความอยุติธรรมในชีวิตได้อีกด้วย เพราะมนุษย์(เอเลี่ยน)เหล่านี้เค้ามีพลังในการดักจับวิญญาณชั่วร้ายหรือสิ่งเลวร้ายต่างๆเป็นเสมือนงานที่เขาทำปกติเพื่อที่จะอบรมสั่งสอนพวกนั้นเสียใหม่ ทั้งยังเป็นฑูตทางจิตวิญญาณเป็นเหรียญที่จะส่งพลังเยียวยาจิตใจให้เราฮึกเหิมมีกำลังสร้างสรรค์คุณธรรมและพัฒนาการชีวิตไปพร้อมกัน เหรียญเอเลี่ยนนี้ "องค์ปฐมท่านเรียกว่าเหรียญบำบัด" คือใช้ได้ทั้งแก้ไขและรักษาทำให้เสื่อม ทำให้คลายลง อยู่ที่จิตเราจะเพ่งไปด้านไหนเช่นทำให้เรื่องใกล้ตัวผ่อนคลายปัญหาความตึงเครียด ทำให้ความจนเสื่อมลง ทำให้เรื่องที่บีบรัดตัวคลายลง ท่านว่าต้องถามตัวเองก่อนว่าอยากแก้ไขอะไร อะไรที่ควรเสื่อมสลายไปและอะไรที่ควรคลี่คลาย อะไรที่ควรบำบัดนั่นก็ใช้บารมีเหรียญเอเลี่ยน(ยอดมนุษย์คือมนุษย์ที่อยู่บนสุดเหนือกว่ามนุษย์ด้วยกัน)นี้จัดการด้วยการบอกกล่าวและอาราธนาบารมีผู้อมตะทุกภพภูมิ

ด้วยบารมีของสิ่งมีชีวิตชั้นสูง พ่ออาจารย์ท่านว่าเราจะสามารถควบคุมชีวิตเราได้อย่างที่ควรเดินและควรจะเป็น ใครที่น้อยเนื้อต่ำใจเรื่องชีวิตนั้นไม่ยุติธรรมหรือมองยังไงก็ไม่เห็นความเท่าเทียมกันระหว่างตัวเราและผู้อื่น ท่านว่านี่แหละคือคนที่ต้องเริ่มพัฒนาการและวิวัฒนาการตนเองก้าวเข้าไปเพื่อเอาดีในทุกด้านพร้อมกับการเจริญสติปฏิบัติธรรมนำตัวเองไปสู่การเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงขึ้นทีละลำดับ
พลังแห่งวิวัฒนาการสำคัญไฉน***
เพราะวิวัฒนาการนั้นเป็นสิ่งเดียวที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ในสรรพชีวิต ให้ชีวิตนั้นแปรผันเปลี่ยนผ่านจุดที่ไม่พึงประสงค์ ที่ไม่รอดก็ต้องรอดเพื่อความอยู่รอด ***หากแต่เรานั้นต้องเป็นคนที่ได้รับเลือกเท่านั้น เพื่อให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงและขจัดความกังวล,ความทุกข์ยากรอบตัวให้น้อยลงทุกขณะจิต ทั้งยังเร่งให้จิตเราเกิดการพัฒนาเมื่อเราบำเพ็ญเพียรและปฏิบัติจะได้ช่วยคลี่คลายปัญหาชีวิตนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเข้าถึงสภาวะที่ดีขึ้นแบบคงที่ได้อย่างทรงตัวได้ ไม่เพียงเจริญขึ้นแต่ตัวหากแต่จิตยังต้องวิวัฒนาการไปตลอด

เหรียญนี้จึงเป็นดั่งตัวแทนของผู้ถูกเลือกให้เปลี่ยนผ่านชีวิตนั่นเอง ด้วยเขาจะพัฒนากำลังใจพัฒนาตัวเราให้หลบเลี่ยงปัญหาและอุปสรรคทั้งหลาย ทั้งยังต่อต้านโรคภัยไข้เจ็บใดๆก็ดีเพราะจิตเราได้รับการพัฒนาและวิวัฒนาการอยู่เนืองๆให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่ากระบวนการต่างๆนี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเรียกว่าเท่าทันโลก เพราะโลกทุกวันี้เกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีแต่เรื่องสารพัดจบปัญหานึงก็มีอีกปัญหานึงเข้ามามิได้หยุด และในอนาคตจะกลายเป็นว่าเรื่องหนึ่งไม่จบเรื่องที่สองก็ตามมาสอดแทรกไปจนถึงเรื่องที่สิบที่ร้อย มันจะพัฒนาขึ้นไปอย่างนั้นจริงๆ คนที่จะรอดได้ก็คือคนที่มีพัฒนาการและวิวัฒนาการในตนเองสูงกว่าคนอื่น..เร็วกว่าคนอื่น เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอันจะนำไปสู่วุฒิภาวะที่เหมาะสมให้เรามีลักษณะมีความสามารถที่พึงประสงค์แก่การรอดพ้นปัญหาทั้งหลาย ภัยอันตรายทั้งปวง ให้อยู่รอดมีชีวิตได้ในสังคมที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีในทางที่พึงปรารถนาก่อนที่จะเกิดมหันตภัยจนรับมือไม่ทันท่านจึงให้นำเหรียญเอเลี่ยนนี้ออกมาสร้างบารมี ท่านว่าคนหนึ่งคนนั้นเมื่อเปลี่ยนแปลงกำลังจิตเขามันจะเชื่อมเข้าถึงวงจรทั้งหมดเลย แม้ร่างกายก็ไร้โรคภัย อารมณ์ก็เสถียร ฐานะทางสังคมก็เปลี่ยนไป สติปัญญาก็ชัดเจนรู้คิดรู้ผิดรู้ถูก เจริญก้าวหน้าไปไวกว่ามนุษย์ด้วยกัน

ด้านหลังองค์ปฐมท่านให้พ่ออาจารย์ลบผงวิเศษที่มีคุณทางด้านบำบัดชีวิตและจิตวิญญาณโดยเฉพาะใช้ผงลบล้วนๆอันมีอิทธิคุณแกร่งกล้าอุดไว้ทั้งยังฝังเม็ดประคำที่ท่านใช้นับจริงๆใช้เจริญสติมายาวนานหลายสิบปีมีทั้งบารมีองค์พระและเทพพรหมนับไม่ถ้วน ด้วยลูกประคำคือตัวแทนของการภาวนาการพัฒนาทางจิตวิญญาณที่จะเปิดโลกเปิดมิติได้ทั้งหมดให้ตัวเราพัฒนาขึ้นอย่างไม่มีประมาณ
เหรียญเอเลี่ยนนี้ทำด้วยบารมีพระพุทธเจ้า
องค์ปฐมท่านให้ลงจารวิชาเชิญองค์พระมังคละสัมมาสัมพุทธเจ้าอาบพุทธรัศมีใส่ตะกรุดบรรจุไว้เป็นแกนกลางเม็ดประคำ ทั้งยังต้องเป็นองค์พระมังคละเท่านั้น เพราะท่านเป็นผู้ที่มีรัศมีกายสว่างไสวมากที่สุดในบรรดาพระพุทธเจ้าด้วยกันทั้งหมด เรียกว่ามีรัศมีกายพุ่งไปไกลกลบแสงสว่างตะวันจันทราและกลบรัศมีใดๆทั้งแสนโกฏิจักรวาลทั้งสิ้น อาจกล่าวได้ว่าพระฉัพพรรณรังสีสว่างมากเกินกว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่จะสาดออกไปประมาณแปดสิบศอกแม้มีพระประสงค์จะแผ่รังสีไปทั้งแสนโกฏิจักรวาลก็ยังให้สว่างได้ทั้งสิ้น แต่ไม่ใช่สาดกระจายออกไปสม่ำเสมอและสว่างตลอดกาลคงที่อยู่เช่นนั้นแบบองค์พระมังคละ
พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยองค์พระมังคละนั้นทุกโลกธาตุรู้หมดว่าพระพุทธเจ้าเกิดขึ้น พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหนทรงพระชนม์อยู่หรือไม่ เพราะยุคนั้นเขาไม่มีกลางวันกลางคืนกันเลยพระอาทิตย์พระจันทร์ในจักรวาลอื่นแล้วอย่างไร ไม่จำเป็นต้องมองต้องใช้ เพราะทั้งกลางวันกลางคืนก็สว่างด้วยพุทธรัศมีทั้งหมด ต้องดูฤดูกาลดูดอกไม้บานดูธรรมชาติอื่นๆเอาเพื่อจะนับวันนับคืน ท่านมีรัศมีแรงกล้าครอบคลุมทั้งแสนโกฏิจักรวาลถึงปานนั้น ไม่ว่าจะแสงสว่างในตัวเทพพรหมหรือตะวันจันทราใดๆล้วนถูกรัศมีทิพย์โอภาสในพระศาสดามังคละพุทธเจ้ากลบทั้งสิ้น ทรงมีรัศมีแผ่เป็นนิตย์ไม่ขาดตอนยุคนั้นโลกธาตุอื่นๆจึงไปมาหาสู่กันเสมอโดยเฉพาะมนุษย์ที่เราเรียกเขาว่าเอเลี่ยนทั้งหลาย ชนชั้นมี่มีฤทธิ์มากมีความเป็นทิพย์สูงเขาก็จะมาหาพระพุทธเจ้านามมังคละกันทั้งสิ้นเรียกว่าเป็นยุคแห่งการมาเยือนของมนุษย์ทั้งหมดไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะเทพพรหมต่างโลกธาตุเท่านั้น ทั้งสัตว์ทั้งหลายมนุษย์ทั้งปวงยังได้อาศัยแสงสว่างแห่งองค์พระมังคละนั้นส่องนำทางชีวิตจนจบกิจทั้งสิ้น
พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ปฐมท่านกำชับไว้จะทำเหรียญนี้ให้มีคุณสูงสุดต้องใช้บารมีของพระมังคละเท่านั้น เพราะองค์พระมังคละนี้บารมีท่านสามารถแผ่ซ่านออกไปในแสนโกฏิจักรวาลได้เป็นนิตย์ตลอดเวลา แม้เอเลี่ยน(มนุษย์โลกอื่น)อาจจะมีหลงลืมนามพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งองค์ใดก็ดี แต่เขาจะไม่มีวันลืมนามพระมังคละพุทธเจ้านี้เลยทุกยุคทุกสมัย พ่ออาจารย์ท่านจึงได้เชิญองค์พระมังคละมาทำเหรียญนี้อย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อจะได้เป็นสื่อชักนำบารมีผู้ศักดิ์สิทธิ์ในแสนโกฏิจักรวาลมาประสิทธิ์ไว้รวมกัน ทั้งจะได้เป็นแสงสว่างอันยิ่งกว่าแสงสว่างใดๆส่องนำทางชีวิตผู้อาราธนาไปจนสำเร็จกิจแห่งบารมี

พ่ออาจารย์ท่านฝังเม็ดธาตุอาตมันไว้ในทรงดาวห้าแฉกและฝังตะกรุดสำคัญอีกหนึ่งดอกท่านว่าพูดไม่ได้ แต่ลงเอาไว้ให้แก้เรื่องหนักหนาสาหัสสากรรจ์ที่บังเกิดขึ้นในชีวิต เรื่องที่ไม่ส่งผลดีวิบากที่รุนแรงไม่มีอะไรไปแก้ไขได้ เพราะเป็นเหรียญของเอเลี่ยนหรือฑูตแห่งจิตวิญญาณจึงกันพลังงานลบ พลังงานร้ายต่างๆที่ให้ผลรุนแรงได้ทันที ทั้งเหรียญนี้ยังเป็นเครื่องรางแทนครูของแสนโกฏิจักรวาลนั่นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าหากคิดว่าโลกเรากว้างใหญ่จักรวาลกว้างใหญ่แล้ว แสนโกฏแจักรวาลก็คือหน่วยนับของหนึ่งล้านล้านจักรวาลย่อยนั่นเอง เหรียญนี้ท่านสร้างตามรูปแบบที่องค์ปฐมสั่งให้ท่านปั้น ท่านว่าหน้าตาของมนุษย์(เอเลี่ยน)ท่านก็ให้เห็นมาแบบนี้เราก็ทำตามนี้ว่าเขาหน้าเป็นแบบนี้นะ ตาไม่ได้โปนนะ แต่ก็ด้วยมีอยู่อีกหลายโลกนับไม่ถ้วน พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ปฐมท่านคงตั้งใจให้รูปนี้เป็นตัวแทนของโลกทั้งหมด

### ท่านเห็นประสบการณ์เปลี่ยนแปลงมีวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณและพัฒนาไปพร้อมกับหน้าที่การงานเกิดขึ้นจริงแก่ผู้ที่ลองใช้เหรียญแห่งวิวัฒนาการนี้แม้จะฮือฮาเพราะเปลี่ยนชีวิตทั้งทางโลกและทางธรรมได้ หรือแม้มาขอเช่าเพิ่มท่านก็ไม่เคยเอาออกมาอีกเลย ท่านจึงเก็บรักษาเหรียญนี้ไว้อย่างดี ด้วยองค์ปฐมท่านว่าโลกธาตุวุ่นวายเรื่องหนึ่งไม่คลี่คลายก็มีเรื่องถาโถมขึ้นมาเมื่อไหร่ค่อยเอาออกมา ท่านเห็นว่าคนบ่นกันเยอะทั้งเรื่องโรคเรื่องเศรษฐกิจเรื่องฝุ่น...เรื่องจิปาถะที่แก้ไขไม่ได้จึงเห็นว่าควรแล้วที่จะกันไว้ก่อนดีกว่ารอให้อะไรมันเปลี่ยนกันไม่ทัน เช่นนั้นเหรียญนี้จึงเป็นเหรียญที่เลือกเจ้าของอย่างแท้จริง ถ้าไม่ใช่ผู้ถูกเลือกท่านว่าง่ายๆก็คือไม่ทันใช้ ไม่ทันใครเขาทั้งนั้น

คาถาบูชา
อิติปิโสภควา นามะรูปัง มังคละสัมพุทโธ อรหังพุทโธ อิติปิโสภควา(อาราธนาเวลาจะอธิษฐานสิ่งใดใช้บารมีพระมังคละตั้งต้น)

*** เหรียญนี้เหลือเพียงห้าเหรียญเพราะท่านใส่ไว้เป็นอาถรรพ์สื่อกายทิพย์ทั้งหลายในพานครูของท่านทั้งยังใช้อาราธนาเมื่อเจอวิบากหนักเสมอๆ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลและปัญหาหมักหมมทุกประการที่อยากขอบารมีผู้ศักดิ์สิทธิ์และมีฤทธิ์ทั้งแสนโกฏิจักรวาลเปิดทางให้เอาไว้ด้วย ท่านจะบอกกล่าวให้พิเศษสำหรับรายการนี้ รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษษเด็กด้อยโอกาศที่ขาดแคลนทุนการศึกษาสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา เหรียญแห่งวิวัฒนาการทิพย์กายจักรวาลแสนโกฏิ(เอเลี่ยน) บูชา 4,000 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...าฬ-พ่ออาจารย์พล.539894/page-502#post-11173988

 

ร่วมทำบุญบูชา เครื่องรางเอเลี่ยนบำบัดทุกข์,เปิดทางวิวัฒนาการ(ชุดจานบิน)

เอเลี่ยนคืออะไร..
การสร้างเอเลี่ยนนั้นท่านทำเสมือนใช้เป็นวัตถุธาตุแทนสัญลักษณ์ชักนำบารมีผู้อื่นมาหนุนเสริมเรา อย่างเช่นคนที่เขาอยากรวยมั่งมีทรัพย์ก็มักจะขอพระสีวลีขอกับพระนวโกฏิหรือมหาเศรษฐีทั้งเก้าเช่นนี้ หากแต่เหรียญเอเลี่ยนคือการขอกับผู้ที่มากบารมีทั้งหมื่นโลกธาตุไปพร้อมๆกัน ท่านบอกว่าเอเลี่ยนที่คนเรารู้จักพูดง่ายๆก็คือมนุษย์ต่างดาวซึ่งเขาใส่จินตนาการเข้าไปมาก

แต่แท้จริงแล้วในจักรวาลน้อยใหญ่ที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นแสนโกฏิจักรวาลนั้นจะประกอบไปด้วยจักรวาลขนาดเล็ก(เช่นสุริยจักรวาลของเรา),จักรวาลขนาดกลาง(เช่นกาแล็คซี่),จักรวาลขนาดใหญ่(เอกภพ) ทีนี้เขาก็นับกันไปว่าพันจักรวาลขนาดเล็กมารวมกันจึงจะเป็นหนึ่งจักรวาลขนาดกลางหรือกาแลคซี่และพันกาแลคซี่มารวมกันก็จะเป็นเอกภพ พอจักรวาลนับพันจักรวาลมารวมกันแบบนี้เราเรียกว่าโลกธาตุขนาดเล็ก ในขั้นกว่าก็คือพันกาแลคซี่มารวมกันก็จะเกิดโลกธาตุขนาดกลาง แต่ขนาดพันเอกภพขึ้นไปถึงจะเรียกว่าโลกธาตุขนาดใหญ่ ซึ่งพันโลกธาตุขนาดเล็กนี้ก็จะมีขนาดเท่าหนึ่งโลกธาตุแบบกลางๆส่วนพันโลกธาตุขนาดกลางก็จะเท่ากับหนึ่งโลกธาตุขนาดใหญ่ ซึ่งโลกธาตุขนาดใหญ่นั่นเองที่มีอยู่หนึ่งพันโลกธาตุพอนับรวมจักรวาลทั้งสิ้นจึงได้แสนโกฏิจักรวาล

พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเรามองไปในมุมใหญ่กันแล้วก็ต้องมาย่อยดูกันอีก เพราะสมเด็จองค์ปฐมท่านว่าในแต่ละจักรวาลอันมากมายมหาศาลนี้ล้วนแต่มีนรกสวรรค์แยกกันไปเป็นของตัวเองอย่างพระอินทร์จักรวาลของเราพอไปอีกจักรวาลนึงเขาก็มีพระอินทร์ของเขาเหมือนกันทั้งพระพรหมทั้งลำดับสุขคติภูมิอบายภูมิต่างๆเขาก็มีของเขาอยู่แบบนั้นเหมือนกับทางเราแต่ทั้งแสนโกฏิจักรวาลนั้นก็นับถือพระพุทธเจ้าเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งในแสนโกฏิจักรวาลนั้นก็ยังมีดาวที่มนุษย์เกิดขึ้นเช่นกัน จักรวาลไหนจะเกิดมนุษย์รูปร่างอย่างไรแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับกำลังวัฏจักรจัดสรรค์ลงไป อย่างพวกเราเกิดมาในโลกก็รู้ตัวกันอยู่ว่ามีความเป็นอยู่อย่างนี้ แต่ในอีกซีกโพ้นจักรวาลหนึ่งมนุษย์ในโลกที่ลำบากกว่าเราก็ยังมีและที่เขาเจริญจนเราคาดไม่ถึงนั่นก็ยังมี...นั่นแหละคือสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์ต่างดาว

เอเลี่ยนชุดจานบิน
ด้วยมนุษย์(เอเลี่ยน)ในโลกอื่นนั้น ท่านว่าที่แย่กว่าดาวเราก็มีหรือที่ดีเกินหน้าไปก็มาก คำว่าดีที่ว่านี้ก็คือมีความเป็นทิพย์เพราะตัวเขาเป็นกึ่งเทวดา(เฉพาะบางดาวความต้องการเขาแค่คิดแค่เนรมิตเอาเหมือนเทพชั้นนิมมานรดีของเราแบบนี้) เช่นนั้นโลกพวกนี้คนเหล่านี้เขาก็มีฤทธิ์มากมีคุณธรรมมากประพฤติตนอยู่ในศีลห้าบ้างศีลแปดบ้างเดินตามมรรคแปดถือกุศลกรรมบททั้งสิบตามหลักคุณธรรมที่แต่ละโลกยึดถือไว้ปฏิบัติ ด้วยเขาก็มีนรกสวรรค์อยู่เหมือนกันกับเรา หากแต่ในโลกที่สมบูรณ์หรือโลกในอุดมคตินั้นมนุษย์ของเขามีความเป็นทิพย์สูงมากมีอายุดั่งเทวดานั่นคือเกิดมาก็อยู่กันด้วยหลักหมื่นปีแสนปีแบบนี้ไม่ใช่ไม่ครบร้อยปีก็ตายกันเกลื่อนแบบของเรา เช่นนั้นคนพวกนี้จึงมากฤทธิ์มากตบะมากบารมีเป็นเงาตามตัวบางคนเกิดมาเร่งปฏิบัติทั้งภาวนารักษาทั้งคุณธรรมไปนิพพานเลยก็มี บางดาวก็เร่งปฏิบัติกันเพราะคนของเขารู้แล้วเห็นแล้วเข้าถึงความเป็นทิพย์หมดแล้วเรียกว่าคนที่ตั้งใจปฏิบัติก็ทำไปนั่งเป็นพันเป็นหมื่นปีไม่ออกจากฌาณไม่ติดต่อใครแบบนี้ก็มาก เช่นนี้เพราะภพของเขาถูกกำหนดแล้วว่าใช้รองรับมนุษย์อีกแบบหนึ่งนั่นเอง บางโลกก็น่าอนาถนักเพราะเสวยกันแต่ความสุขจนมองทุกข์ไม่เห็นพอครบหมื่นครบแสนปีตายไปก็ไปอยู่ในอรูปพรหมไปนิพพานก็ไม่ได้พบพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าในโลกอื่นนั้นส่วนใหญ่เขาจะดีกว่าเรากันทั้งนั้นเช่นนั้นองค์ปฐมท่านจึงให้สร้างเหรียญแห่งวิวัฒนาการเอาไว้เพื่อรวมกำลังบารมีทั้งแสนโกฏิจักรวาล..เพื่อจะสร้างสุขและเร่งให้เกิดการพัฒนาในจิตตน

เหรียญเอเลี่ยนนี้พระใหญ่ท่านไม่ให้พูดเลยว่าสร้างอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านให้คำจำกัดความไว้ได้แค่"ลึกลับมาก" เพราะแรงกุศลกรรมของโลกทั้งหลายนั้นหนักและแน่นกว่าโลกของเรา เครื่องมงคลของเขาที่พ่ออาจารย์ท่านได้องค์ปฐมอนุเคราะห์(เหรียญเอเลี่ยน)นี้จึงเป็นสิ่งที่รวมจิตวิญญาณชั้นยอดของแสนโกฏิจักรวาลทั้งระดับมหาจักรพรรดิลงไปจนถึงเศรษฐีคหบดีผู้มากฤทธิ์ทั้งหลายในแต่ละโลกที่เปรี่ยมไปด้วยวาสนาบารมีอันเป็นตัวแทนแสนโกฏิจักรวาลทั้งสิ้น ดังนั้น "เหรียญแห่งวิวัฒนาการ" จึงมีฤทธิ์ช่วยให้คนถือเจริญก้าวหน้าได้อย่างประหลาด ทั้งตนเองจะมีการเปลี่ยนแปลง...นำไปสู่การเปลี่ยนผ่านและวิวัฒนาการความเป็นมนุษย์ จากคนที่ไม่เคยได้ ทำอะไรไม่เป็นก็มีการพัฒนาเกิดขึ้น เพราะเป็นกำลังจิตกำลังใจของญาณอภิญญาจากผู้ที่ยิ่งยวดในตบะทั้งโลกธาตุต่างๆจึงเป็นพลังที่เหนือโลกเหนือไปกว่ามนุษย์จะคาดถึง ด้วยกำลังนั้นไร้รูปท่านจึงต้องทำเหรียญเอเลี่ยนเพื่อบรรจุไว้ให้เชื่อมต่อเข้ากับกระแสจิตเราจนเกิดอิทธิฤทธิ์ ด้วยพลังแห่งการวิวัฒนาการที่จะมีการพัฒนาให้เราเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วเหนือสรรพสิ่งทั้งหลายรอบด้าน ทั้งจะเชื่อมต่อกระแสจิตเราเข้ากับสรรพสิ่งสรรพชีวิตของท่านผู้วิเศษทั้งหลายเพื่อจะได้เปิดบารมียังความเจริญทั้งปวงให้เกิดขึ้น

แม้ในโลกธาตุอื่นก็มีเทพพรหมของเขาดังนั้นเมื่อทำเหรียญเอเลี่ยน พ่ออาจารย์ท่านว่ามันมีอะไรที่มากกว่าตาเราเห็นเพราะคุณพระท่านรวมเอาไว้ให้หมดเลยเพื่อให้เป็นเหรียญเร่ง...ทรัพย์ เร่งรวย เร่งความเจริญก้าวหน้า เร่งพัฒนาการ เร่งวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณ ด้วยดวงจิตมนุษย์ที่มีอายุนับหมื่นนับแสนปีนี้จัดว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงและเต็มไปด้วยพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง เหรียญแห่งวิวัฒนาการนี้ท่านจึงย้ำตลอดว่านอกจากใช้ต่อสู้กับสิ่งไม่ดีในตัวเองและรอบข้างแล้วยังใช้ต่อสู้กับความอยุติธรรมในชีวิตได้อีกด้วย เพราะมนุษย์(เอเลี่ยน)เหล่านี้เค้ามีพลังในการดักจับวิญญาณชั่วร้ายหรือสิ่งเลวร้ายต่างๆเป็นเสมือนงานที่เขาทำปกติเพื่อที่จะอบรมสั่งสอนพวกนั้นเสียใหม่ ทั้งยังเป็นฑูตทางจิตวิญญาณเป็นเหรียญที่จะส่งพลังเยียวยาจิตใจให้เราฮึกเหิมมีกำลังสร้างสรรค์คุณธรรมและพัฒนาการชีวิตไปพร้อมกัน เหรียญเอเลี่ยนนี้ "องค์ปฐมท่านเรียกว่าเหรียญบำบัด" คือใช้ได้ทั้งแก้ไขและรักษาทำให้เสื่อม ทำให้คลายลง อยู่ที่จิตเราจะเพ่งไปด้านไหนเช่นทำให้เรื่องใกล้ตัวผ่อนคลายปัญหาความตึงเครียด ทำให้ความจนเสื่อมลง ทำให้เรื่องที่บีบรัดตัวคลายลง ท่านว่าต้องถามตัวเองก่อนว่าอยากแก้ไขอะไร อะไรที่ควรเสื่อมสลายไปและอะไรที่ควรคลี่คลาย อะไรที่ควรบำบัดนั่นก็ใช้บารมีเหรียญเอเลี่ยน(ยอดมนุษย์คือมนุษย์ที่อยู่บนสุดเหนือกว่ามนุษย์ด้วยกัน)นี้จัดการด้วยการบอกกล่าวและอาราธนาบารมีผู้อมตะทุกภพภูมิ

ด้วยบารมีของสิ่งมีชีวิตชั้นสูง พ่ออาจารย์ท่านว่าเราจะสามารถควบคุมชีวิตเราได้อย่างที่ควรเดินและควรจะเป็น ใครที่น้อยเนื้อต่ำใจเรื่องชีวิตนั้นไม่ยุติธรรมหรือมองยังไงก็ไม่เห็นความเท่าเทียมกันระหว่างตัวเราและผู้อื่น ท่านว่านี่แหละคือคนที่ต้องเริ่มพัฒนาการและวิวัฒนาการตนเองก้าวเข้าไปเพื่อเอาดีในทุกด้านพร้อมกับการเจริญสติปฏิบัติธรรมนำตัวเองไปสู่การเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงขึ้นทีละลำดับ
พลังแห่งวิวัฒนาการสำคัญไฉน***
เพราะวิวัฒนาการนั้นเป็นสิ่งเดียวที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ในสรรพชีวิต ให้ชีวิตนั้นแปรผันเปลี่ยนผ่านจุดที่ไม่พึงประสงค์ ที่ไม่รอดก็ต้องรอดเพื่อความอยู่รอด ***หากแต่เรานั้นต้องเป็นคนที่ได้รับเลือกเท่านั้น เพื่อให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงและขจัดความกังวล,ความทุกข์ยากรอบตัวให้น้อยลงทุกขณะจิต ทั้งยังเร่งให้จิตเราเกิดการพัฒนาเมื่อเราบำเพ็ญเพียรและปฏิบัติจะได้ช่วยคลี่คลายปัญหาชีวิตนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเข้าถึงสภาวะที่ดีขึ้นแบบคงที่ได้อย่างทรงตัวได้ ไม่เพียงเจริญขึ้นแต่ตัวหากแต่จิตยังต้องวิวัฒนาการไปตลอด

เหรียญนี้จึงเป็นดั่งตัวแทนของผู้ถูกเลือกให้เปลี่ยนผ่านชีวิตนั่นเอง ด้วยเขาจะพัฒนากำลังใจพัฒนาตัวเราให้หลบเลี่ยงปัญหาและอุปสรรคทั้งหลาย ทั้งยังต่อต้านโรคภัยไข้เจ็บใดๆก็ดีเพราะจิตเราได้รับการพัฒนาและวิวัฒนาการอยู่เนืองๆให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่ากระบวนการต่างๆนี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเรียกว่าเท่าทันโลก เพราะโลกทุกวันี้เกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีแต่เรื่องสารพัดจบปัญหานึงก็มีอีกปัญหานึงเข้ามามิได้หยุด และในอนาคตจะกลายเป็นว่าเรื่องหนึ่งไม่จบเรื่องที่สองก็ตามมาสอดแทรกไปจนถึงเรื่องที่สิบที่ร้อย มันจะพัฒนาขึ้นไปอย่างนั้นจริงๆ คนที่จะรอดได้ก็คือคนที่มีพัฒนาการและวิวัฒนาการในตนเองสูงกว่าคนอื่น..เร็วกว่าคนอื่น เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอันจะนำไปสู่วุฒิภาวะที่เหมาะสมให้เรามีลักษณะมีความสามารถที่พึงประสงค์แก่การรอดพ้นปัญหาทั้งหลาย ภัยอันตรายทั้งปวง ให้อยู่รอดมีชีวิตได้ในสังคมที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีในทางที่พึงปรารถนาก่อนที่จะเกิดมหันตภัยจนรับมือไม่ทันท่านจึงให้นำเหรียญเอเลี่ยนนี้ออกมาสร้างบารมี ท่านว่าคนหนึ่งคนนั้นเมื่อเปลี่ยนแปลงกำลังจิตเขามันจะเชื่อมเข้าถึงวงจรทั้งหมดเลย แม้ร่างกายก็ไร้โรคภัย อารมณ์ก็เสถียร ฐานะทางสังคมก็เปลี่ยนไป สติปัญญาก็ชัดเจนรู้คิดรู้ผิดรู้ถูก เจริญก้าวหน้าไปไวกว่ามนุษย์ด้วยกัน

### เหรียญชุดจานบินนี้องค์ปฐมท่านให้พ่ออาจารย์ลบผงวิเศษที่มีคุณทางด้านบำบัดชีวิตและจิตวิญญาณโดยเฉพาะใช้ผงลบล้วนๆอันมีอิทธิคุณแกร่งกล้าปั้นขึ้นมาและฝังหน้ากากเอเลี่ยนไว้ เพราะเป็นเหรียญของเอเลี่ยนหรือฑูตแห่งจิตวิญญาณจึงกันพลังงานลบ พลังงานร้ายต่างๆที่ให้ผลรุนแรงได้ทันที ทั้งเหรียญนี้ยังเป็นเครื่องรางแทนครูของแสนโกฏิจักรวาลนั่นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าหากคิดว่าโลกเรากว้างใหญ่จักรวาลกว้างใหญ่แล้ว แสนโกฏแจักรวาลก็คือหน่วยนับของหนึ่งล้านล้านจักรวาลย่อยนั่นเอง เหรียญนี้ท่านสร้างตามรูปแบบที่องค์ปฐมสั่งให้ท่านปั้น ท่านว่าหน้าตาของมนุษย์(เอเลี่ยน)ท่านก็ให้เห็นมาแบบนี้เราก็ทำตามนี้ว่าเขาหน้าเป็นแบบนี้นะ ตาไม่ได้โปนนะ แต่ก็ด้วยมีอยู่อีกหลายโลกนับไม่ถ้วน พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ปฐมท่านคงตั้งใจให้รูปนี้เป็นตัวแทนของโลกทั้งหมด

### ท่านเห็นประสบการณ์เปลี่ยนแปลงมีวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณและพัฒนาไปพร้อมกับหน้าที่การงานเกิดขึ้นจริงแก่ผู้ที่ลองใช้เหรียญแห่งวิวัฒนาการนี้แม้จะฮือฮาเพราะเปลี่ยนชีวิตทั้งทางโลกและทางธรรมได้ หรือแม้มาขอเช่าเพิ่มท่านก็ไม่เคยเอาออกมาอีกเลย ท่านจึงเก็บรักษาเหรียญนี้ไว้อย่างดี ด้วยองค์ปฐมท่านว่าโลกธาตุวุ่นวายเรื่องหนึ่งไม่คลี่คลายก็มีเรื่องถาโถมขึ้นมาเมื่อไหร่ค่อยเอาออกมา ท่านเห็นว่าคนบ่นกันเยอะทั้งเรื่องโรคเรื่องเศรษฐกิจเรื่องฝุ่น...เรื่องจิปาถะที่แก้ไขไม่ได้จึงเห็นว่าควรแล้วที่จะกันไว้ก่อนดีกว่ารอให้อะไรมันเปลี่ยนกันไม่ทัน เช่นนั้นเหรียญนี้จึงเป็นเหรียญที่เลือกเจ้าของอย่างแท้จริง ถ้าไม่ใช่ผู้ถูกเลือกท่านว่าง่ายๆก็คือไม่ทันใช้ ไม่ทันใครเขาทั้งนั้น

*** เหรียญเอเลี่ยนนี้เป็นอาถรรพ์สื่อกายทิพย์ทั้งหลายทั้งยังใช้อาราธนาเมื่อเจอวิบากหนักเสมอๆ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลและปัญหาหมักหมมทุกประการที่อยากขอบารมีผู้ศักดิ์สิทธิ์และมีฤทธิ์ทั้งแสนโกฏิจักรวาลเปิดทางให้เอาไว้ด้วย ท่านจะบอกกล่าวให้พิเศษสำหรับรายการนี้ รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษษเด็กด้อยโอกาศที่ขาดแคลนทุนการศึกษาสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา เครื่องรางเอเลี่ยนบำบัดทุกข์,เปิดทางวิวัฒนาการ(ชุดจานบิน) บูชา 900 บาท

​