ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ) พ่ออาจารย์พล

เรื่องเปิดจองน้ำมัน..เห็นควรว่าต้องเลื่อนออกไปอีกวันก่อน เพราะเป็นน้ำมันอาถรรพ์ที่มีอายุนับร้อยปีนำมาหุง ประกอบกับสิ่งที่พ่ออาจารย์ท่านบรรจุในขวด

พ่ออาจารย์ท่านขอนำไปมัดด้วยอาคมซ้อนกฤติยาคมอีกรอบหนึ่ง ท่านว่าถ้าไม่มัด…นางจะซนเกินไป

ก็เลยเอาเป็นว่ารอบเช้าพรุ่งนี้จะเปิดจองพร้อมๆกัน ใครที่เป็นสายน้ำมันตามน้ำมันของพ่ออาจารย์ท่านตลอดหนนี้ผมก็ไม่รับล่วงหน้านะ เดี๋ยวคนจะบ่นได้ว่าเปิดจองน้ำมันทีไรห้านาทีสิบนาทีเต็ม บางรุ่นสองสามนาทีไม่มียอด ก็เอาไว้กดจองกันพรุ่งนี้เช้านะครับ …แล้วก็ติดตามกันด้วยว่าในขวดนั้นมีอะไร

 

ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันพุทโธแปลงสภาพแต่งชะตาปลุกร่างพลังแฝงกลับกลายสลับฐานะ(จอมคนภะโคหงสา)

การปลุกศักยภาพ
ด้วยมนุษย์ทุกคนล้วนมีศักยภาพแฝงเร้นอยู่ในกายตน..เรียกว่ามีพลังงานหลายประเภทซ่อนอยู่ในตัวเรามากมายหลายเรื่อง
เช่นบางคนทำงานไปเฉยๆก็มีชื่อเสียงเงินทองสำเร็จสิ่งใดได้ง่ายๆนี่คือพลังที่แฝง..เป็นโชคชะตาแห่งความสำเร็จ
ในบางคนหน้าตาก็บ้านๆธรรมดาๆแต่กลับเป็นที่รักเมตตาไม่มีใครกล้าเกลียด จะไปตกอยู่ที่ใดก็มีแต่คนโอบอุ้มช่วยเหลือยกเอาไว้ให้สุขสบาย...นี่ก็เป็นพลังแฝงของเมตตามหานิยม
แต่กลับกันบางคนสวยหล่อเรียนเก่ง..ความคิดโลดโผน..มีพลังสติปัญญาอันน่าทึ่งกลับไม่มีโอกาสได้แสดง,กลับถูกผู้อื่นแย่งผลงาน,กลับไม่ได้รับความสนใจจากคนรอบข้างแม้ตนจะหน้าตาดีมีบุคลิกที่ดีกว่าเรียกว่าทำสิ่งใดก็เหมือนคนอื่นมองไม่เห็น

เหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าพลังงานศักยภาพในตัวเรามันยังไม่ถูกปลุกขึ้นมา ให้จำไว้เลยว่าทุกคนเกิดมาเป็นมนุษย์มีพลังศักยภาพพลังแฝงอยู่ในร่างกายตนเสมอกันทุกคนแต่ขึ้นอยู่กับว่าใครมันจะปลุกขึ้นมาใช้ได้เท่าไหร่..เห็นมั๊ยเช่นนี้พระพุทธองค์จึงบอกว่าตนเองเป็นที่พึ่งแห่งตน..จะพึ่งผู้หนึ่งผู้ใดที่ประเสริฐกว่าตนเป็นไม่มีก็เพราะคนทุกคนมีศักยภาพพลังแฝงติดตัวทุกด้าน..เอาดีได้ทุกเรื่อง..สำเร็จได้ทุกด้าน..แม้ด่านยากที่สุดเช่นมรรคผลนิพพานมนุษย์ก็ยังทำสำเร็จได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่สำเร็จก็คือคนที่ผ่านการปลุกศักยภาพกายผ่านกระบวนการแปลงสภาพมาแล้ว

การแปลงสภาพ เป็นกระบวนการที่มนุษย์ทุกคนสามารถกระทำได้..แต่กลับไม่เคยเกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคนกลับกันจะเกิดได้กับคนเพียงแค่หยิบมือในโลกซึ่งหมายถึงคนเหล่านั้นได้รับการแปลงสภาพชะตากรรมปลุกศักยภาพในตัวตนให้ตื่นขึ้น ในมุมกลับจะโดดเด่นเป็นที่ได้รับความสนใจมากกว่าคนอื่นและสำเร็จใหญ่หลวงมากกว่าใคร คนที่ปลุกพลังแฝงในตัวเองได้มีตั้งแต่เกิดมาศักยภาพก็เปิดอยู่แล้วแต่ในกรณีนี้มีน้อยนัก ในส่วนของการปลุกก็ยังมีอีกสองวิธีคือ

- ใช้กำลัง แบบที่เราจะพูดถึงก็อีกอย่างหนึ่งนั่นคือการฝืนบังคับสิ่งที่ปิดอยู่ให้เปิด..บังคับให้เปิด..ให้เกิดขึ้นมาให้ได้..และต้องทำให้ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าการกระทำแบบบังคับนี่มันลำบากเกินกว่าคนจะทำได้ชนิดที่เรียกว่าลำบากเลือดตาแทบกระเด็นเลยเพราะต้องสร้างกำลังความเพียรอย่างยิ่งยวดระดับพระมหาชนกว่ายทวนทะเลสีทันดรใช้พลังจิตกำลังใจสูงเกินมนุษย์ทั่วไปเพื่อจะฝืนเปิดชะตาฟ้าเหล่านี้

- ใช้พระเวทย์ ใช้พลังธาตุพลังงานธรรมชาติ..พลังพระเวทย์วิชา วิธีนี้จะสบายกว่าทุกๆอย่างเพราะใช้ตัวช่วยเข้ามาปลุกไม่ได้พยายามด้วยกำลังตนเองล้วนๆใช้พลังดึงดูดคุณวิเศษแห่งมหาธาตุพลังจักรวาลเข้ามาเพื่อเปิดศักยภาพ..เปิดพลังแฝงให้เกิดกระบวนการแปลงสภาพ..และกลายสภาพเป็นจอมคน

### ด้วยมนุษย์มีกำลังแฝงซึ่งก็คือหนึ่งในพลังธรรมชาติที่จะข้ามขั้นศักยภาพอยู่ในร่างกาย..ขึ้นอยู่กับว่าใครจะหยิบมาใช้เป็น..ใครจะเรียกพลังด้านไหนออกมาใช้ หรือจะย่ำอยู่กับความธรรมดา ย่ำอยู่กับที่ซึ่งมันติดเพดานที่ปิดอำนาจวาสนาและความสามารถตนไปตลอดชีวิต

ตำนานน้ำมันของจอมคนภะโคหงสาวดี(ใช้ปลุกร่าง..ปลุกพลังแฝง..แปลงสภาพ..กลายร่าง..สลับฐานะ)
น้ำมันชนิดนี้ไม่ใช่ของใหม่หากเป็นของโบราณที่โดนผนึกไว้ในแผ่นดินพุกามประเทศ เป็นน้ำมันที่ใช้ความรู้ขั้นสูงสุดอันลึกซึ้งจากผู้มีพรสวรรค์ฟ้าประทานรู้เจนจบทั้งพุทธเวทย์และไตรเพทไปพร้อมๆกัน เป็นน้ำมันที่ใช้เพื่อปลุกกำลังศักยภาพในร่างกายตนให้เกิดการตื่นขึ้นของพลังแฝง..นำไปสู่กระบวนการแปลงสภาพ..กลายร่างกลายชะตา..สลับฐานะชนชั้นสู่ผู้มีวาสนาสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยเป็นน้ำมันเก่าแก่เราเอามาหุงใหม่แต่ก็ไม่สามารถทิ้งความเข้นข้นของตัวน้ำมันได้..ก็จะดูเป็นน้ำมันที่มีมวลแน่นหนามาก..ดูเหนียวๆข้นๆซักหน่อยเพราะเราทำให้แบบหัวเชื้อเพียวๆเลย..วันดีคืนดีหากขึ้นไขหรือจะหนืด..จะเเข็ง..เช่นนี้ไม่ต้องตกใจเอาไปตากแดดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว

ตำนานแห่งจอมคนภะโคหงสา..ผู้ผสมศาสตร์พุทธเวทย์และไตรเพทน้อมนำกำลังพระพุทธะมาแปลงสภาพแต่งชะตา..ปลุกร่าง..ปลุกพลังแฝงจนกลายร่างสลับฐานะ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นน้ำมันที่ได้บันดาลอานิสงส์ผลบุญให้เกิดขึ้นและหนุนส่งอย่างมหันต์คุณ เปลี่ยนให้บุคคลซึ่งเป็นคนธรรมดาเป็นภิกษุธรรมดาในศาสตาตถาคตกลายเป็นจอมกษัตริย์สึกออกมาเสวยราชในเมืองภะโคหงสาวดี เพียงชายผู้หนึ่งที่เกิดมาเป็นเพียงคนธรรมดาทุกอย่างหากแต่ได้เรียนจนรู้จบในพุทธเวทย์และไตรเพทได้สร้างน้ำมันแปลงสภาพแต่งโชคชะตาแห่งราชัน จากคนธรรมดาที่มีความรู้มากแต่ไร้ซึ่งโชคชะตาได้พิจารณาดูแล้วว่าแท้จริงดวงของตนมีวาสนาที่จะได้ครองพระราชสมบัติเป็นเจ้าแห่งหงสาวดีราชธานีใหญ่..แต่เส้นทางคนธรรมดาไปสู่ราชันนั้นใครก็ยากจะเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้เช่นนั้นท่านจึงได้ใช้ความรู้สร้างน้ำมันขึ้นมาเพื่อแต่งร่างตน..จนเสร็จกิจแล้วจึงได้ผนึกเก็บไว้

เมื่อได้ใช้น้ำมันแต่งร่างแล้วจึงสึกหาลาเพศบรรพชิต ด้วยอานุภาพแห่งน้ำมันพระพุทโธแปลงสภาพนั้นกลับบันดาลให้ทิดสึกใหม่พบกษัตริย์เจ้าแห่งหงสาวดีโดยบังเอิญ
- และบังเอิญกว่านั้นคือให้พระองค์นึกเมตตาแต่แรกเห็นจนตั้งให้เป็นพระยา(อันนี้เอามาเทียบกับยศทางไทยจากสามัญก้าวแรกก็ขึ้นมาเป็นพระยาเลย)
- และบังเอิญมากกว่านั้นด้วยอานุภาพแห่งน้ำมัน จึงทำให้เป็นที่รักเป็นที่เสน่หาแก่คนทั้งปวงในแผ่นดิน ชาวบ้านชาวเมืองยิ่งรักหนักหนาอุปมาว่ารักพระยามากกว่าเจ้าหงสาเสียอีก
- ด้วยอำนาจแห่งน้ำมันแปลงสภาพเมื่อได้ยศแล้วก็ได้บริวารสามพันมาครองเขตแดน ย่างก้าวที่สอง..จากพระยาขึ้นสู่เจ้าเมือง..
เมื่อมาเป็นเจ้าครองเมืองแล้วจึงได้พิจารณาเห็นว่ากษัตริย์หงสาผู้นี้ข่มเหงราษฎรเดือดร้อนนักจึงได้ชวนน้องชายทั้งสองมาตั้งค่ายนอกเมืองไว้ พอกษัตริย์ทราบว่าคิดกบฎล้อมกรุงก็สั่งให้จัดทัพตั้งแม่ทัพยกออกไป
- ด้วยอำนาจแห่งน้ำมันแปลงสภาพเมื่อแม่ทัพจัดทัพพร้อมกลับยกไปจับกษัตริย์ฆ่าเสียเอง เป็นย่างก้าวที่สาม..จากเจ้าเมืองสู่กษัติย์เจ้าจอมคน
พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าสังเกตุดีๆจะรู้ว่าท่านแค่อยู่เฉยๆและไม่เคยลงแรงทำอะไรเลย เพียงแค่อยู่เฉยๆจากสามัญก็ขึ้นสู่จุดสูงสุด มีแต่ผู้คนมารักมาเอ็นดูแต่งตั้ง..มีแต่สถานการณ์ที่ทำให้ตนเองได้ประโยชน์อย่างแรงที่สุด พอแม่ทัพได้ฆ่าเจ้าหงสาแล้วกลับนึกกลัวพระยาผู้นี้เพราะรู้ว่าเป็นคนพิเศษ..ที่มนุษย์ทั้งแผ่นดินรักใคร่นับถือตรงข้ามกับเจ้านายเดิมที่ประชาชนเกลียดชังหากจะฆ่าท่านพระยาก็จะเกิดทุรยศในแผ่นดินครั้งยิ่งใหญ่จากประชาชนทั้งมวล แม่ทัพจึงเชิญพระยาให้ยกทัพเข้าเมืองโดยไม่ต้องรบและกลายเป็นกษัตริย์เจ้าแห่งหงสาวดี..จากนั้นท้าวเธอก็ได้ลูกสาวแม่ทัพเป็นมเหสี..ตั้งท่านแม่ทัพเป็นเจ้ามหาเสนาบดีมีสิทธิขาดในรามัญประเทศทั้งปวง
- ด้วยอำนาจแห่งน้ำมันแปลงสภาพหลังจากกษัตริย์หงสาได้ครองราชก็ได้แผ่ขยายพระราชอำนาจไปอีก..มีเมืองขึ้นเพิ่มถึง 32 หัวเมือง กลายเป็นเจ้าแคว้นจอมกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่

นี่คือคนธรรมดาที่แสนจะธรรมดาคนหนึ่งหากแต่รู้จบพุทธเวทย์และไตรเทพจนสร้างของศักดิ์สิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงวาสนาตนเองไปได้ตลอดชีวิตทำให้น้ำมันนี้เป็นที่ซุกซ่อนปกปิดอย่างมาก แม้พ่ออาจารย์ท่านได้มาจากครูบาอาจารย์เจ้าเชื้อสายรามัญท่านก็ให้ปกปิดไว้อย่าได้นำมาใช้ง่ายๆ..จนสภาพปัจจุบันนั้นพ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าคนทำมาหากินใช้ชีวิตลำบากมาก และยากหนักหนาหากจะใช้วิริยะบารมีเยี่ยงพระมหาชนกเพื่อจะกลายสภาพร่างชะตาตัวเอง ท่านจึงเล็งเห็นโอกาสใหญ่ในโชคชะตาชีวิตคนที่จะได้ใช้น้ำมันแปลงสภาพกันซักคราหนึ่ง
- ให้เป็นที่รักจำเริญใจแก่คนทั้งหลาย
- ให้ประจญชนะข้าศึกศัตรูเจริญและได้รับสมบัติข้าวของทั้งมวล เจริญด้วยยศ เจริญด้วยเดชะ

พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่าน้ำมันแปลงสภาพนั้นก็คือน้ำมันปลุกศักยภาพที่ทำให้ตัวเรามีพลังงานด้านต่างๆในร่างกายมากขึ้นๆ..ชนิดที่มีพลังแฝงอยู่ในตัวเองเมื่อมันมีมาก..มีล้นและเพิ่มพูนทวีทวีไปเช่นนี้การจะปลุกให้ตื่น..การจะทำให้เกิดขึ้นมาในชีวิตย่อมเป็นเรื่องง่ายเช่นนี้คนที่ไม่มีพลังที่จะปลุกศักยภาพตนเองก็ต้องเริ่มใช้เสียหากแต่จะไวจะช้าต่างกันเพียงใดก็อยู่ที่ว่าของเก่าเรามีบ้างหรือไม่มีเลย ถ้าพอมีอยู่เติมนิดเดียวมันก็เต็มหยิบมาใช้ได้ถ้าไม่มีเลยมันก็ต้องเติมกันเยอะหน่อยเพื่อสะสมให้เต็ม น้ำมันพุทโธแปลงสภาพจึงเป็นน้ำมันพิเศษที่ใช้ขับใช้ดึงพลังงานในตัวเราออกมาหลอมรวมกับชีวิตจริงเพื่อปลุกศักยภาพความสำเร็จทุกด้านให้ตื่นขึ้น เป็นน้ำมันที่ใช้ได้ทุกเรื่องตามวัตถุประสงค์ พ่ออาจารย์ท่านสมมติว่าบางคนเขาคิดจะเล่นแต่ทางเสน่ห์เพราะรู้ว่าชีวิตตนขาดเสน่ห์เลยขอเปิดศักยภาพทางนี้เฉพาะด้านไปเลยพอพลังงานเปิดออกเท่านั้นแหละได้ภรรยาไปห้าหกสิบคน..แต่ไม่มีเงินเลี้ยงดูใครซักคน..เช่นนี้มันคนใช้ของไม่เป็น..เสียของอย่างแท้จริง ท่านจึงว่าเป็นภัยนักหากนำไปเพียงสนองกิเลสตัณหาของตัวเองหากแต่นำไปใช้งานเพื่อให้เกิดประโยชน์ความสำเร็จสูงสุดท่านจึงจะสนับสนุน

วิธีใช้
*** ห้ามนำน้ำมันไปแต้มคนอื่น..หากตนเองยังไม่มีบารมีมากพอ(เพราะนั่นเท่ากับว่าเราใช้พลังของเราไปเปิดศักยภาพให้เขา) น้ำมันนี้จึงใช้ได้แบบของใครของมันนั่นคือตัวเองใช้กับตัวเองหากมั่นใจว่าชีวิตตนเองดีมีบารมีมากพอแล้วเมื่อนั้นจะสงเคราะห์ผู้อื่นย่อมไม่ผิด
- ให้ฉีดหรือทาน้ำมันใส่หลังมือข้างที่ตนถนัดที่สุดใครถนัดซ้าย..รึขวาก็ฝ่ามือข้างนั้น จากนั้นนำมือทั้งสองมาลูบหลังมือเข้ากันแก้เคล็ดเปลี่ยนห้ามือเป็นหลังมือ..นี่เปิดศักยภาพให้เกิดมาเป็นผู้รับ..จะได้รับอย่างเดียว..ข้าวของ..เงินทอง..มรดก..โชคลาภ
- ให้ฉีดหรือทาน้ำมันใส่ฝ่ามือ..ทำทีละมือข้างไหนก่อนก็ได้..เน้นย้ำให้เป็นบริเวณลายมือของตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าลายมือนี่มันบอกทุกอย่างในชีวิตหมดเลยนะง่ายๆคือทุกสิ่งน่ะอยู่ในมือทั้งสองข้าง..ทำเสร็จแล้วก็กำมือเอานิ้วมือลูบๆน้ำมันข้างนั้นของมันเอง..เช่นนี้เปิดศักยภาพทุกด้านพร้อมๆกัน
- ให้ฉีดหรือทาน้ำมันใส่นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือข้างที่ถนัด นำนิ้วสองข้างมาถูๆแล้วแต้มที่หน้าผาก..จะเปิดศักยภาพการพัฒนาสิ่งต่างให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
- ให้ฉีดหรือทาน้ำมันใส่นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือข้างที่ถนัด แล้วนำมาขยี้ปลายใบหูทั้งซ้ายและขวา..จะเปิดศักยภาพเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ให้คนนิยมชมชอบ
- ใช้ฉีดทาใส่เส้นผมจะดึงดูดผู้พบเห็นให้สนใจมอบความสำคัญให้กับเรา
- ให้พกพาอาราธนาหรือกำขวดน้ำมันไว้ในมือ..ย่อมอธิษฐานไปถึงบุคคล,เทพ,พรหมที่เราเคารพนับถือ
- พ่ออาจารย์ท่านว่าหากตั้งไว้บูชาให้หาพานมารองรับกราบนมัสการได้เช่นกราบพระองค์หนึ่ง
- น้ำมันนี้แบ่งใส่ขวดเล็กๆเพื่อฝังตรงธรณีประตูได้ ท่านว่าคนเดินข้ามไปแล้วต้องกลับมาอีก ใช้เรียกคนเข้ามาได้ไม่ขาดสาย
- หากนำน้ำมันไปแต้มตามเครื่องราง,วัตถุมงคล,หรือเครื่องมงคลจะทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีกำลังฤทธิ์มากขึ้น(วิธีนี้ทำได้ไม่จำกัดเหมือนเปิดศักยภาพ)

เพียงแค่ขอพรจากน้ำมันว่า..หากโลกนี้ยังมีพลังพุทธานุภาพอยู่ ขอให้เราเจริญขึ้นทุกวันคืน..อย่าให้ความเจริญได้หมุนเวียน..ผันเปลี่ยน..หนีหายไปตามกาลด้วยเทอญ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่เน้นให้ทามือเพราะมือกุมเส้นชะตาชีวิตไว้ทุกอย่างตั้งแต่อายุขัย,สมอง,พลัง,โชคลาภ..สิ่งต่างๆมากมายมันบอกอยู่ในมือหมดใช้ทีนึงคุ้มค่าได้ครบทุกอย่างทีเดียว ส่วนคนที่จะอาราธนาพกแทนตะกรุดนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแค่เอาน้ำมันนี้ไปเลี่ยมใหม่แบ่งใส่หลอดห้อยคอเล็กๆก็ใช้แทนตะกรุดได้แล้ว หากแยกเลี่ยมไว้เล็กๆเพื่อห้อยคอนอกจากจะหมุนเวียนถ่ายส่งปรับพลังศักยภาพในกายตนยังเกื้อกูลร่างกายเราด้วยพลังเมตตาอย่างเต็มขั้น พวกคนที่เจ้านายเกลียดขี้หน้าหรือคนที่โดนสังคมรังเกียจเหล่านี้จะกลับตาลปัตรหน้ามือเป็นหลังมือกันเลย แม้แต่พวกที่ความรักเหินห่างคู่ครองไม่สนใจก็จะได้รับการเอาใจใส่อย่างดี..พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ได้จำกัดแค่คู่เรานะแต่มันเป็นเมตตาไปหมดเลย เป็นเมตตาที่จะทำให้คนรอบข้างทนุถนอมเรา..ไม่ใช่แค่รู้สึกดีคุยๆยิ้มๆก็หายแต่กลับเป็นเขาทนุถนอมระวังรักษาเราไว้เอาใจใส่เราดีแบบนี้ ส่วนคนที่ใช้ทางปลุกพลังงานก็ใช้ปลุกได้อย่างแรงเช่นกัน

ตะกรุดพระเวท(ครูใหญ่แปลงชะตา)
ในตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านจะลงด้วยหัวใจยันต์ครูรวมไปถึงพ่อแม่คาถาและสูตรวิชาตำรับลับของจอมคนภะโคหงสาที่ถ่ายทอดกำหนดยันต์คุมน้ำมันของท่านไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่ละดอกนี้ทำได้ยากมากเพราะต้องตั้งเครื่องบูชาครูกันทีละดอกก่อนจะทำพิธีเขียนตะกรุดขึ้นมาได้พ่ออาจารย์ท่านได้ออกทุนทรัพย์นี้ไปหลายหมื่นบาท(ท่านจึงว่าใครได้น้ำมันชุดนี้ไปก็คุ้มแล้วแค่ตะกรุดยังเหมือนได้ฟรี) เป็นตะกรุดแปลงชะตาเราไม่ให้ชะตาเราส่งผลร้ายใดๆกับกายมนุษย์ของเราเอง เรียกว่ามีคุณส่งเสริมให้เกิดเฉพาะผลด้านดีที่หนุนเนื่องไปในอำนาจวาสนาเท่านั้น

ตะกรุดครูใหญ่นี้เขาคุมไว้หมดเลยอะไรที่จะส่งผลร้ายหรือแฉลบให้เจ็บเนื้อเจ็บตัวนี้จะระงับไว้หมดทีนี้เราจะเปิดศักยภาพด้านใดก็ย่อมทำได้เต็มที่
- บางคนขาดศักยภาพทางเสน่ห์เมตตา
- บางคนขาดศักยภาพทางเรื่องเจรจา
- บางคนขาดศักยภาพทางเรื่องความอุดมสมบูรณ์ในชีวิต
- บางคนขาดศักยภาพเรื่องลาภผลเงินทองลาภลอยได้เสีย
- บางคนขาดศักยภาพในโภคสมบัติและทรัพย์ทั้งหลาย
- บางคนขาดศักยภาพทางด้านการแสดงออก,ด้านจิตใจ,มีเมตตาเกินคน
- บางคนขาดศักยภาพที่จะใช้ในการข่ม,ปราบศัตรูเอาชนะผู้อื่น
- บางคนขาดศักยภาพในการหาคู่ครอง
พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือแบบคร่าวๆแต่รวมๆคือเปิดหมดนะทุกทางพร้อมๆกันนั่นแหละ เพียงแต่ถ้าเราไปย้ำคิดย้ำทำจะเอาทางเดียวใช้มันอยู่ทางเดียวมันก็จะออกแค่ทางนั้น

นางโภควตี
นอกจากนี้ในขวดยังบรรจุใบว่านมหาลาภที่งอกในเรือนอนาถบิณฑิกเศรษฐี ซึ่งนับเป็นของมงคลที่แรงและมีค่าอย่างสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าได้ประมาทใบไม้แห้งๆนี้ไปเลยอะไรที่เกิดขึ้นมาในโลกได้ด้วยบารมีท่านสุทัตตะคหบดีนี่มันหนุนตัวเราได้อย่างถึงที่สุดอยู่แล้ว...ไม่ใช่ใบว่านอายุพันปีนะหากแต่มันเคยเกิดขึ้นในบริเวณที่เป็นเรือนของท่านเท่านั้นและพ่ออาจารย์ก็เก็บรักษาไว้ ท่านว่ามันต้องมีมูลและมีเค้าลางบางอย่างคืออาจจะมีหน่อมีพันธ์อยู่บริเวณนั้นมาแต่เดิมพอต้นเก่าตายลงก็รอเวลาเกิดต้นใหม่..ใครจะไปรู้สองพันกว่าปีก่อนท่านคหบดีอาจจะปลูกว่านไว้จนเป็นเหตุที่มาแห่งความร่ำรวยอันน่าพิศวงนี้ก็เป็นได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของมงคลอย่างสูงสุดจึงบรรจุลงไปให้โดยท่านเรียกว่านนี้ตามญาณรุกขเทวีที่คอยดูแลต้นว่านรวมถึงดูแลต้นไม้ต่างๆในเรือนท่านเศรษฐีว่านางโภควตี พ่ออาจารย์ท่านถือว่าใบว่านนี้มีตระกูลสูงผู้พกพาจะได้เป็นเศรษฐีมีฐานะไปตามๆกันอันเป็นปัจจัยเกื้อหนุนในแหล่งที่มา...ท่านบรรจุใส่ไว้ในทุกๆขวด

น้ำมันพุทโธแปลงสภาพนี้เชื่อว่าหากผู้ใดได้พก..ได้ทา..ได้สัมผัส จะได้พลังงานแห่งพุทธคุณรวมถึงครูว่านยาประทับลงบนตัวนอกจากฟื้นศักยภาพแล้วยังช่วยให้เรามีสง่าราศีไร้ราคีใดๆ..ใครได้ทาได้ใช้พุทธานุภาพจะมอบความรักให้แก่ตน..ตราบใดที่ยังมีพระพุทธคุณอยู่ในโลกเราจะไม่มีวันเสื่อมถอยในเกียรติยศเลย..พ่ออาจารย์ท่านว่าพึงใช้ไปเถอะปลุกศักยภาพในกายตนที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นพร้อมๆกับการบังเกิดของโชคลาภอยู่เนืองๆ..มันจะมีโชคเกิดขึ้นกับคนใช้เสมอจนเป็นที่หวงแหนแก่ผู้ที่ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันชุดนี้ไม่มีพรายนะครูแต่โบราณท่านหุงด้วยว่านด้วยยาล้วนๆ กว่าจะได้มาต้องใช้ผงว่านปั้นเป็นหุ่นเทพเจ้าทั้งหลายอันมีนามสำคัญในฉกามาพจรสวรรค์สาธยายพระเวทย์หุงจนกองกูณฑ์อัคคีดับแล้วจึงตั้งพิธีนำน้ำมันถวายพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์ ทำทีละพระองค์..รวม 28 ครั้ง จึงเป็นที่สุดแห่งพุทธานุภาพผสมผสานทั้งพุทธศาตร์แลไตรเพทเวทย์มนต์คาถาว่านยาทำออกมามีจำนวนน้อยมากๆที่สืบทอดกันมา เพราะส่วนใหญ่ได้แข็งเป็นก้อนไปตามกาลเวลาพ่ออาจารย์ต้องนำมาหุงอีกรอบเอาหัวเชื้อล้วนๆนี้นี่คือมูลเหตุที่ทำให้พ่ออาจารย์หวงแหนน้ำมันชุดนี้มาก เพราะท่านทำออกมาได้น้อยมากๆคิดดูว่าลำพังบวงสรวงใหญ่ๆครั้งหนึ่งก็ยุ่งยากแล้วแต่นี่ครูผู้ทำไว้ต้องบวงสรวงถึง 28 ครั้งติดต่อกัน ท่านว่ายุ่งยากซับซ้อน

น้ำมันพุทโธแปลงสภาพนี้จึงใช้จุลเจิมได้ทุกด้านไม่มีข้อห้าม...แต่พ่ออาจารย์ท่านห้ามว่าอย่าเอาไปทำเล่นเพราะท่านเสียดายของด้วยต่อให้ผสมหัวเชื้อไปเจือจางมาใช้ทีละหม้อท่านก็ยังเสียดายอยู่ดี ..ท่านว่าหากจะหุงน้ำมันเช่นนี้ในสมัยนี้ให้สำเร็จต้องใช้เงินหลายแสนบาทและเสียเวลายาวนานมากไม่คุ้มกับการนำไปใช้เล่นกันเลย ใครจะเอาไปใช้ทางเมตตาเพิ่มเสน่ห์ก็อย่าเอาไปใช้กับคนที่มีเจ้าของแล้วก็พอ...และอย่าลืมว่าเป็นน้ำมันที่มีอาถรรพ์รุนแรงชนิดที่ว่าไม่มีผู้ใดถอนมนต์ได้จะฉุดให้เราได้ดีประเสริฐเลิศคนไปตลอดกาลสมัย ท่านว่าแรงมากนะมีแต่จะดีขึ้นทุกวันทุกคืน..ไม่ต้องกลัวไอ้พวกขี้อิจฉามันจะแกล้งถอนพระเวทหรือทำลายอาถรรพ์ศักดิ์สิทธิ์ที่หนุนหลังเราอยู่เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าใครแกล้งเราไปถอดถอนแตะต้องจะทำลายอาถรรพ์ที่เปลี่ยนชีวิตเราให้เป็นยอดคนเช่นนี้ มันผู้นั้นย่อมได้ชื่อว่าถูกอัปรีจัญไรกินตัวเสียจริตไปเพราะน้ำมันนี้หุงขึ้นจากผู้มากบารมีทรงพระเวทย์เป็นผู้วิเศษไม่ใช่ของธรรมดา..ฐานะไม่เท่าเขาก็แก้เขาไม่ได้..แล้วในโลกสมัยนี้จะหาใครมีฐานะเทียบเท่าทั้งชำนาญพระเวทย์ได้อีกเล่า

คาถาบูชา
คาถาต้นบทอาราธนาน้ำมันพุทโธแปลงสภาพของพ่ออาจารย์นั้น ท่านให้อาราธนาว่า
"อันว่าตัวข้าจะนมัสการก็จักทำการไหว้ยังบรมโพธิสมภารแห่งพระบรมโลกนาถตถาคตเจ้า อันมีพระบาทประเสริฐทั้งสองข้างรุ่งเรืองด้วยเครื่องทรง อันมีมหามงกุฎซึ่งมียศอันประเสริฐกว่ามนุษย์และเทวดาทั้งหลาย อันมีปัญญาวุธและฉัพพรรณรังสีสิริวิลาศแผ่รัศมีตระการ อันมีความงดงามซึ่งอาจกำจัดเสียซึ่งสิ่งปิดกั้นชะตาชีวิตผู้ข้าทั้งผอง ขออำนาจบุญและบารมีของพระตถาคตเจ้าอันมีปัญญาวุธและธรรมรังสีแห่งตถาคต ซึ่งเป็นที่ตั้งอยู่แห่งกำลังบุญอันยิ่งใหญ่กว่าสรรพสัตว์หมู่ใดในโลก เป็นที่ตั้งแห่งปัญญาและฉัพพรรณรังสีอันประเสริฐสุดในโลกทั้งสาม จงมาเป็นปิ่นปักยอดมหามงกุฎเป็นธงชัยแต่งร่างเป็นหลักชัยค้ำชะตาชีวิตให้ตัวข้าเหนือกว่าคนทั้งหลายเป็นยิ่งกว่าเทพยดาเจ้าทั้งปวง ด้วยกำลังบุญและปัญญาวุธตลอดจนรัศมีแห่งตถาคตเจ้านั้นแล" แล้วตั้งจิตขอพรว่า( ....หากโลกนี้ยังมีพลังพุทธานุภาพอยู่ ขอให้เราเจริญขึ้นทุกวันคืน..อย่าให้ความเจริญได้หมุนเวียน..ผันเปลี่ยน..หนีหายจากเราไปตามกาลด้วยเทอญ)

### น้ำมันนี้มีวิธีใช้หลากหลายมากๆ หากแต่เป็นของโบราณที่เฉพาะเจาะจงให้ใช้กันในหมู่ผู้ที่มีวาสนาจะได้แปลงสภาพ..แต่งชะตา..ปลุกร่าง..ปลุกพลังแฝง ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีวาสนาได้เปลี่ยแปลงเช่นนี้

### พ่ออาจารย์ท่านจึงได้อธิษฐานต่อครูบาอาจารย์กายทิพย์เจ้าของน้ำมัน ว่าให้เฉพาะเจาะจงในหมู่มนุษย์ที่จะได้สืบทอดใช้งานโดยแท้จริงเท่านั้นให้ได้มาพบและนำไปใช้สร้างเนื้อสร้างตัวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง

### พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เปิดจองและลงข้อมูลเพียงคร่าวๆก่อน รายละเอียดการใช้..โดยละเอียดมากๆ..อันมีวิธีใช้พิศดารมากๆเพื่อให้สำเร็จผลในการแปลงสภาพแต่งชะตาปลุกร่างปลุกพลังแฝงอย่างรวดเร็ว

### พ่ออาจารย์ท่านว่าหัวเชื้อน้ำมันชุดนี้ใครได้ไปถือว่าคุ้มมากเพราะช้อนชานึง สามารถนำไปเจือจางน้ำมันหนึ่งหม้อใหญ่ได้มีอิทธิคุณเสมอกัน..เหมือนเดิม..ไม่ต่างจากของเดิม..ถ้าคนใช้เป็นต่อยอดได้หลายๆหม้อใช้กันไปได้หลายชั่วอายุคน

ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันพุทโธแปลงสภาพแต่งชะตาปลุกร่างพลังแฝงกลับกลายสลับฐานะ(จอมคนภะโคหงสา) บูชา 4,000 บาท

​

 

น้ำมันนี้หนึ่งช้อนชาขยายได้หนึ่งหม้อ ..ใช้ได้ดุจเดิม ไม่รู้ขวดนี้ขยายได้กี่หม้อ หัวเชื้อแบบข้นๆหนืดๆเลยวันไหนขึ้นไขบ้างหรือจับแข็งอย่าตกใจ ..ถ้าฉีดไม่ออกก็ไม่ต้องตกใจอาจจะเพราะหนืดมากบางช่วงมวลจะแน่นๆให้เปิดมาป้ายเอาแทน เดี๋ยวมีลงวิธีใช้แบบละเอียด

 

มีแต่คนเริ่มทักมาบอกว่าถูกใจตะกรุดที่สร้างจากหนังสมิงมากไซด์นี้แค่หน้าเสือโคร่งอย่างเดียวก็คุ้มแล้วชมกันไม่หยุดเลย แต่โทนๆแบบนี้พ่ออาจารย์ท่านทำแค่รุ่นเดียวจริงๆท่านทำให้แบบสะใจเลย

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่ภาคภูมิ ED 2611 5069 8 TH

พี่สุริชัย ED 2611 5070 7 TH

พี่ศิระ ED 2611 5071 5 TH

พี่สุรวุฒิ ED 2611 5072 4 TH

 

ลงรายละเอียดน้ำมันไว้ครบนะครับ สมกับเป็นน้ำมันที่ใช้ทุนทรัพย์สูงมากๆในการสร้างจนพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าต่อให้รู้สูตรก็ไม่เสียเวลาหุงเด็ดขาด เพราะมันยากเกินไปมีข้อห้ามระหว่างทำพิธีมากมายเป็นหน้ากระดาษเช่นนั้นทีเดียวจึงเป้นที่มาของคำว่า..ถ้าทำได้เราก็ไม่ทำ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

เรื่องตะกรุดหนังสมิงนี่มีหลายๆคนขอเข้ามาว่าอยากจะได้ดอกเล็กๆเพราะทุกคนรู้ดีว่าต้องมีที่ท่านตัดแล้วมันเป็นเศษชิ้นเล็กๆชิ้นเสี้ยวๆให้นำมาทำตะกรุดดอกเล็กๆออกให้บูชาในส่วนคนที่ไม่ทัน ก็เดี๋ยวเอาไว้รอกันอีกทีนะ

 

วันนี้ติดตามกันดีๆนะ

 

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสมิงน้อยกลืนกินคำสาปสาบานชำระไอมารวิบากดำชุดหนังปู่เจ้าสมิงไพรชุบอภิธรรม(เจ้าสมิงหลุมดำ)

ชุดสมิงน้อยนี้พ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดลงถมเจ้าหลุมดำที่ทำไว้เหลือจากฝังพระมาม้วนด้วยหนังปู่เจ้าสมิงไพรชุบอภิธรรม โดยได้ลงอักขระชำระไอมารวิบากดำในชีวิตกำกับไว้ที่หนังปู่เจ้าสมิงไพร..อันมีอำนาจตัดแรงและบรรเทากรรมหนักได้

วิชาชำระไอมารวิบากดำ,กรรมหนัก(ลงที่หนังสมิง)
"ก็เหตุเกิดแห่งกรรมเป็นไฉน คือ ผัสสะเป็นเหตุเกิดแห่งกรรม..ก็ความต่างแห่งกรรมเป็นไฉน คือ กรรมที่ให้วิบากในนรกก็มี,ที่ให้วิบากในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานก็มี,ที่ให้วิบากในเปรตวิสัยก็มี,ที่ให้วิบากในมนุษย์โลกก็มี,ที่ให้วิบากในเทวโลกก็มี นี้เรียกว่าความต่างแห่งกรรม..ก็วิบากแห่งกรรมเป็นไฉน คือ เราย่อมกล่าววิบากแห่งกรรมว่ามีสามประการ คือ กรรมที่ให้ผลในปัจจุบันหนึ่ง,กรรมที่ให้ผลในภพที่เกิดหนึ่ง, กรรมที่ให้ผลในภพต่อๆไปหนึ่ง,นี้เรียกว่าวิบากแห่งกรรม" พ่ออาจารย์ท่านเข้าใจสภาพชีวิตของคนที่ต้องจมอยู่ในวิบากกรรมชัดเจนดั่งที่องค์พระศาสดาตรัสไว้ว่า"โลกย่อมเป็นไปเพราะกรรม หมู่สัตว์ย่อมเป็นไปเพราะกรรม สัตว์ทั้งหลายถูกผูกไว้ในกรรมเหมือนลิ่มสลักของรถที่กำลังแล่นไปฉะนั้น”

เพราะวิบากเป็นผลที่เกิดขึ้นจากเหตุแห่งการกระทำกรรมนั้น ตามกฏสังสารวัฏชัดเจนว่าเมื่อมีเหตุก็ต้องมีผลตามมาเช่นกันเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นกรรมจะดีหรือชั่วก็มีผลอยู่ในตัวเองทั้งสิ้นทั้งยังจะอยู่ติดตัวเราตลอดไป เพราะทั้งกรรมดีและกรรมชั่วจะคอยอยู่เคียงข้างเราไปตลอดโดยไม่แยกไปไหน ทดแทนกันไม่ได้ไม่ใช่ว่าฉันมีกุศลมากกว่าฉันจะล้างบาปได้เช่นนี้ ดั่งที่พระตถาคตเจ้าท่านสอนไว้ว่า “ดูก่อนปุณณะ กรรมสี่ประการนี้..กรรมดำ มีวิบากดำมีอยู่,กรรมขาว มีวิบากขาว มีอยู่, กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำทั้งขาวมีอยู่,กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาวเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมมีอยู่” นั่นหมายถึงทั้งกรรมดำ,กรรมขาวก็มีวิบากกรรมของตนเอง เป็นคนละเหตุ คนละปัจจัยและส่งผลคนละอย่างกัน ดังนี้
- แนวทาง,ผลและการกระทำที่แสดงออกมาออกมาในด้านลบ คืออกุศลหรือบาป
- บุญกุศลที่ส่งผลกระทำให้ชีวิตมีความสุขและสังคมก็มีความสงบ หลุดพ้นจากทุกข์ได้
- เป็นผลแห่งการกระทำที่มีทั้งบวกและลบปนกันทำให้ผลกรรมออกผลมาเกิดทั้งสุขและทุกข์ปนกันไป
- ส่วนกรรมอันแสดงอยู่เป็นกลางๆนั้นคืออพยากตากรรม เช่นการทำกิจวัตรประจำวันปกติ
วิบากกรรมนั้นไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว,ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศล ล้วนแต่ส่งผลของตนเองทั้งสิ้นโดยมีองค์ประกอบมาจากการกระทำเกิดจากตัวเราเองเป็นเหตุและผลของมัน,เป็นสิ่งที่เราสร้าง,เป็นสิ่งที่เราสะสมมา เมื่อมีปัจจัยย่อมเกิดผลลัพธ์ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ในส่วนที่ดีนั้นก็แล้วกันไปแต่ในส่วนที่ร้ายอันหลายๆคนได้ประสบพบเจอก็จะเป็นเหตุทำให้ชีวิตจ่อมจมและร่วงหล่น เจอแต่สิ่งแย่ๆอุบัติขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วนทั้งสิ้น

พ่ออาจารย์ท่านให้พิจารณากันเองว่าชีวิตของเรานั้นมีเรื่องเหล่านี้หรือไม่
- เป็นคนทำบุญคนไม่ค่อยขึ้น ลำบากมาตั้งแต่เด็กพอมีเพื่อนเข้าสังคมก็มีแต่ปัญหา เป็นชนวนให้เราเข้าไปพัวพันเรื่องผลประโยชน์ได้เสีย,เรื่องเงินทองทรัพย์สิน ไม่ว่าจะช่วยเหลือใครไปก็ตามคนเหล่านั้นจะหาเรื่องปวดหัวตามมาให้ไม่เว้น ในส่วนคุณงามความดีนั้นแม้เราสงเคราะห์เพียงใดก็ไม่มีใครมองเห็น ทำดีกับใครก็ไม่เกิดผลใดๆ
- เป็นคนชอบเชื่อคนง่ายและไว้ใจคน ทั้งยังเป็นคนกตัญญูกับผู้ที่ให้การช่วยเหลือแต่มักจะต้องเจอปัญหากับเรื่องของคนอื่นดึงเราไปเกี่ยวข้องอยู่เสมอ
- มีกรรมจากความรัก มากรักแต่งงานบ่อย ได้คู่ยาก ได้คู่ต้องหลบซ่อน ได้คู่ที่ต่างวัยกัน ยิ่งรักยิ่งเจ็บยิ่งแค้น บางคนก็เกิดมาไร้คู่ ในส่วนคนที่มีคู่ก็กลายเป็นคู่ครองนำมาซึ่งปัญหา มีคู่ที่วาสนาบารมีไม่เสมอกัน เหล่านี้ล้วนเป็นวิบากทั้งสิ้น
- ชอบโดนกลั่นแกล้ง,โดนรังแก,โดนเอาเปรียบ ยิ่งเราดูสบายๆง่ายๆก็ยิ่งมีปัญหาแบบนั่งอยู่ดีๆก็มีคนใส่ร้ายไม่รอให้เราแก้ไขหรือแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น ยิ่งหากตนมีอารมณ์ร้อนเป็นคนตรงก็จะยิ่งโดนรังแกมากขึ้นไปอีก ทั้งโดนเพ่งเล็ง โดนเอาเปรียบสารพัด
- คนรอบตัวไม่ให้ความสำคัญมักจะนึกถึงเราในอันดับท้ายๆ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากใครเท่าที่ควร
- งานที่ทำไม่สำเร็จ ไปได้ครึ่งๆกลางๆต้องออกกระทันหัน ต้องเลิกแบบไม่เต็มใจ เป็นคนท้อแท้เบื่อง่าย ชีวิตต้องเหนื่อย ต้องดิ้นรน แบกรับภาระที่เหนื่อยเกินตัวจะรับไหว
- ปากพาจน มีคนเชื่อถือแต่ก็เอาทุกข์มาให้โดยไม่รู้ตัว มีบุคลิกเจ้าชู้ทั้งๆที่ไม่ใช่คนแบบนั้น นับว่ามีเสน่ห์อยู่ในตัวเองแต่ก็ต้องเหนื่อยเพราะปัญหาที่ไม่ได้ก่อตลอดเวลา
- เป็นคนไม่รอบคอบ สติหลุดลอยจิตไม่นิ่ง แม้มีปัญญาสูงไหวพริบดีก็จะมีบุคลิกที่ดูไม่จริงใจไม่น่าคบหาเชื่อถือ
- มักจะปวดหัวอยู่ข้างเดียวเป็นๆหายๆหรืออวัยวะร่างกายมีปัญหา ให้ความจริงใจกับใครก็กลายเป็นว่าอยู่ต่อหน้าเค้าทำกับเราอย่างนึง ลับหลังเค้าทำกับเราอย่างนึง
- ชีวิตยังไร้จุดหมาย,ยังไม่รู้จักตัวตนของตัวเอง,ยังหาความสุขแท้จริงของชีวิตตัวเองไม่เจอ มีแต่ปั้นหน้ายิ้มแต่ภายในไม่มีความสุข ชอบสงสารชอบเห็นใจคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองใช่ว่าจะดี มีปัญหาทั้งความคิดและอารมณ์ยึดติด อาภัพคนอุปถัมภ์ คิดมากเรื่องเล็กๆน้อยๆ..เรื่องเก่าๆ..หาเงินเก่งแต่ก็ใช้เงินหมด
- มีชีวิตที่สูญเสีย จ่อมจมอยู่กับเรื่องวิตกกังวล โดนคนเอาเปรียบต้องทุกข์ใจเสมอ พลัดพรากจากคนรักจากของรัก โดนทำร้ายจิตใจ
...ท่านว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้มีมากมายจนยากจะกำหนดเป็นคำพูดหรือตรรกะใดๆได้ ให้พิจารณาดูว่าตัวเองเป็นคนที่เจอกับเรื่องเหล่านี้หรือไม่ ถ้าใช่นั่นก็แปลว่าชีวิตเรานั้นวนเวียนอยู่ในวิบากกรรมที่กำลังส่งผลร้ายมากกว่าดี

วิชานี้นำไปใช้ปรับพลังเหนี่ยวนำคำอธิษฐานป้องกันกระแสกรรมดำหรือไปยุ่ง,ขัดขืน,ต่อต้านกับชะตาฟ้าและอำนาจที่มองไม่เห็น เป็นดั่งกุศลจิตที่ต้องใช้ความตั้งมั่นอย่างสูงด้วยวิชาเหล่านี้พบเห็นได้น้อยมากทั้งยังไม่แพร่หลาย ไม่ใช่ของตลาด กล่าวได้ว่าไม่ใช่นึกอยากจะทำจะเขียนก็ทำได้ ต้องทำตามฤกษ์ ตามปัจจัยมงคลด้วยใจบริสุทธิ์ ด้วยเป็นวิชาเทพพรหม เป็นวิชาส่วนตัวของเทพแต่ละองค์ในส่วนนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เป็นวิชาส่วนตัวของครูบรมพรหมสฮัมบดี ครูท่านเล็งญาณกำหนดมาแต่เริ่มทำไว้ให้เป็นของส่วนตัว..ของที่มีชะตาต้องกันคู่กับเจ้าของดั่งฟ้ากำหนด พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเช่นนี้ถ้าพกไว้ซักระยะนึงจะเห็นผลมากเกินกว่าคุณวิชาเพราะว่าจิตเรานั้นจะซึมซับกระแสบรมครูเข้าร่าง,เข้าใจซึมอยู่กับเราไปทุกภพทุกชาติ นานไปจะรู้เองว่าสามารถสัมผัสองค์ท่านได้ติดต่อองค์ท่านได้ค่อยๆสว่างมากขึ้น และถ้าสัมผัสกันมากขึ้นเรื่อยๆนานกว่านั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าจะสื่อสารกับเทพทั่วโลกก็ยังทำได้..อันนี้เป็นเรื่องของครูท่านจะเปิดให้เราหรือไม่เมื่อไหร่ วิชาเช่นนี้เมื่อหมื่นปีก่อนก็ยังมีและปัจจุบันนี้ก็มีแต่จะหาที่แท้จริงนั้นคงยาก ด้วยพระยันต์ที่ท่านลงมาทำให้ก็แปลความหมายไม่ได้เพราะเป็นภาษาของท่านที่ท่านใช้เฉพาะองค์ท่านเอง วิชาตะกรุดนี้จึงเรียกว่า"ตะกรุดพรหมสำเร็จวิชา" คือแปลไม่ได้ รู้เฉพาะผู้ที่ลงและยังเป็นเสมือนรหัสลับ รหัสที่มีแต่ผู้ถือเท่านั้นจึงจะเข้าถึงดั่งเอกสิทธิ์ที่พรหมผู้เป็นบรมบิดาให้ไว้แก่บุตรรักของตน รหัสที่จะให้ใครในโลกล่วงรู้ไม่ได้ นำไปถอดก็ไม่ออก จะเข้มขลังยืนยงด้วยจิตแห่งบรมพรหมนั้นเสมอไป เพราะสร้างขึ้นด้วยพลังจิต ร่ายเขียนด้วยมหาจิตแห่งองค์พรหม แม้คนมีวิชาที่ถอนของถอนคาถาได้ก็ไม่สามารถคัดถอนวิชาเทพพรหมเช่นนี้ได้ถึงกล้าที่จะทำก็เท่ากับสัมผัสลบหลู่องค์ท่านโดยตรงเช่นนั้น ด้วยเป็นของเฉพาะกาลพ่ออาจารย์ท่านว่าแต่ละดอกแต่ละปีท่านก็สร้างมาเพื่อเจ้าของแต่ละคน เราก็ไม่ได้ไปรู้อะไรกับท่านเพราะเมื่อจะทำท่านว่าเพียงแต่ขอยืมร่างยืมสังขารเพียงปีละครั้งชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้นเวลา,ฤกษ์,ยามทั้งหลายจึงล้วนเป็นท่านกำหนด เราจะไปจับไปต้องไม่ได้เลย เวทย์มนต์กลใดก็ล้างไม่ได้ อ่านก็ไม่ออกมนต์ก็ไม่มีวันเสื่อม สมดั่งชื่อว่าเป็นของครูที่ทำให้สำเร็จแล้วไม่ต้องการสิ่งปรุงแต่งใดๆแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเช่นนี้อาจจะมีร่างทรงทำกันเยอะแต่ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ลงมาทำด้วยจะได้ผลไม่ได้ผลก็เป็นไปตามบุญ ท่านว่าในส่วนของท่านท่านเองไม่ใช่ร่างทรงแต่ครูแค่ยืมร่างชั่วครู่เท่านั้นเสร็จกิจก็จบกันไปเป็นเรื่องๆ ดังนั้นวิชาเหล่านี้ถ้าไม่ใช่เทพพรหมจริงทำแล้วจะไม่มีผลใดๆเลยเพราะเป็นวิชาที่อยู่เหนือวัฏจักรจึงมีฤทธิ์ แต่ถ้าหากผู้ทำโดนครอบงำจากภูมิต่ำก็จะขาดฤทธิ์ยิ่งถ้าเป็นผีสิงร่างคนทำนี่ยิ่งใช้ไม่ได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าจะยกเว้นพวกมหิทธิกาเปรต,วิชชาตะเปรต,กาลัญธิกาเปรตเหล่านี้ที่สมอ้างชื่อเทพมีร่างทรงทำกันเยอะถ้าพวกนี้ทำก็จะมีฤทธิ์มีความขลัง แต่ก็นับเป็นคนละชั้นกับวิชาเทพพรหมที่ถือเป็นจุดสูงสุดและสูงส่งมานับหมื่นพันปี วิชาของดวงจิตภูมิต่ำเหล่านี้แม้มีฤทธิ์แต่ก็เสื่อมถอยมีวันหมดต่างกันอย่างที่สุดกับวิชาเทพพรหมบริสุทธิ์เช่นนั้น

วิชานี้ดีอย่างไรพ่ออาจารย์ท่านว่า..ถามว่าดีอย่างไรครูพรหมท่านบอกไว้แค่ชำระไอวิบากตัดแรงบรรเทา จากที่ตัวท่านใช้ท่านว่ามันไม่ใช่ชำระปกตินะแต่คนที่มีวิบากกรรมเหมือนครูท่านจะรู้ได้ หากเป็นกรรมดำวิบากที่ก่อทุกข์ยิ่งคนจำพวกนี้ใช้ตะกรุด ตะกรุดจะยิ่งมีฤทธิ์แรงกล้ามากกว่าปกติ เราดูได้จากช่วงไหนๆถ้าดวงเราตกพระเคราะห์เสวยอายุ วิชาครูพรหมนี้จะสว่างวาบขึ้นมาเลย สว่างอยู่อย่างนั้นไม่ดับอย่าเผลอไปมองเชียวต้องหยีตากันไปข้างเขาจะชำระไอวิบากกรรมในตัวเรา ..ชำระอย่างไรก็ชำระเข้าตัวเขา การชำระนี่ก็เหมือนเธอใช้เงินชำระค่าใช้จ่ายนั่นแหละจ่ายไปก็จบหนี้กันสิ่งนั้นช่วงเวลานั้นก็ไม่ใช้ภาระของเราแล้ว หมดภาระกันไป จึงเรียกได้ว่าชำระตัดแรงและบรรเทา พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆแล้วฉันไม่ควรพูดเลยเพราะเป็นวิชาของครูบรมพรหม เป็นกิจของท่านที่ท่านเลือกคนของท่าน จะชำระอย่างไรก็เป็นลีลาของท่านเรียกว่าเป็นรหัสลับที่เปิดเผยไม่ได้พอแต่จะบอกได้ว่าให้เอาติดตัวไว้ตลอดก็พอย่าเอาไปติดบ้าน ถ้าติดกับตัวพอมีวาสนาชะตาร้ายเมื่อไหร่นั่นแหละเขาชำระทิ้งทันที ชำระให้ไม่ได้เกิดขึ้นเลย ชำระ ตัดแรง ..บรรเทาให้ชีวิตเราที่ว่าหนักก็เบา ที่เบาอยู่ก็สบาย ด้วยขึ้นชื่อว่าวิบากนั้นย่อมส่งผลได้สารพัดเรื่องตามเหตุและปัจจัยกรรมที่ทำมาต่างคนก็ต่างเรื่องร้อยสาเหตุหมื่นเหตุผล ขึ้นชื่อว่าวิบากแล้วจึงเกินอำนาจผู้ได้ล่วงเกินได้ ยกไว้แต่บรมพรหมอันมีหน้าที่ตรวจสอบและปัดเป่าเคราะห์กรรมของผู้ภักดีเท่านั้น

เมื่อจิตถูกรบกวนดวงก็ตก ชีวิตก็เครียดใจก็ฟุ้งซ่านอารมณ์จึงหงุดหงิดง่าย เช่นนี้จะคิดจะไตร่ตรองทำสิ่งใดย่อมไม่ออกมาเป็นผลดีแต่เพียงน้อย ด้วยไม่ได้มีสติ ห่วงหน้าพะวงหลังภาระรัดรึงเต็มไปหมด หนักบ่าหนักชีวิตจะวางลงสักอย่างก็ไม่ได้ ด้วยอำนาจร้ายหรือวิบากดำนั้นกำลังต่อต้านความพยายาม,ความสำเร็จของเราอยู่ ใจของเราที่ขุ่นมัว ชีวิตที่มีปัญหา หนทางที่ไม่ได้แก้ไขทุกสิ่งนั้นย่อมมีสาเหตุ ดั่งควันจะไม่เกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีไฟ เพราะสรรพชีวิตมีวิถีให้ตั้งอยู่และดับไป พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขอครูบรมพรหมท่านเอาตะกรุดนี้ออกมาเพื่อจะได้ปลดเปลื้องปัญหาทุกข์ของผู้ที่เป็นเจ้าของและมีวาสนาสัมพันธ์กัน

*** หนังสมิงม้วนทับตะกรุดลงถมสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบาน(เจ้าหลุมดำ)
ตะกรุดสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นตามพระเวทย์โบราณ ด้วยปางก่อนนั้นสังข์อสูรได้กลืนกินพระเวทแลพระธรรมศาสตร์ทั้งปวงอันไหลออกมาจากโอษฐ์ของพระพรหมธาดาเป็นเจ้าได้ ด้วยกำหนดเมื่อถึงพรหมราตรีองค์พรหมท่านหลับไหลกินเวลายาวนานถึง 4,320 ล้านปี โลกก็เข้าสู่ความมืดมน อนธการ น้ำจะท่วมโลก สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะสูญสิ้นเผ่าพันธ์ จนหมดสิ้นช่วงเวลาพรหมราตรีนั้นเข้าสู่พรหมทิวาทุกอย่างจึงจะกลับมาเป็นปกติ การที่คัมภีร์พระเวทย์หายไปทำให้โลกมนุษย์เดือดร้อน ฝนฟ้าไม่ตก เกิดความแห้งแล้งอดอยาก ก่อนเวลาที่โลกจะวิบัติตามช่วงพรหมราตรีที่กำหนดไว้

ด้วยสังข์อสูรนั้นสำคัญว่าเมื่อโลกขาดซึ่งพระเวทย์แลพระธรรมศาสตร์ไป พอพระพรหมตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็จะไม่สามารถสร้างโลกแลสร้างสรรค์จักรวาลได้เลย เทพยดาตลอดจนมนุษย์ก็จะไม่ได้รับองค์ความรู้ต่างๆทั้งยังไม่นับถือพระเป็นเจ้าอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้พ่ออาจารย์ท่านซึ่งได้รับการแนะนำจากองค์ปฐมพรหมว่าให้ทำตะกรุดครูดอกสำคัญขึ้นลงวิชาสังข์อสูรไว้ เพราะสังข์อสูรนั้นเป็นผู้กลืนกินที่ได้ชื่อว่ากลืนได้ทุกอย่างแม้กระทั่งพระเวทย์และพระธรรมศาสตร์ทั้งหลายอันปกติแล้วจะหาผู้ใดกลืนกินมิได้ จึงได้ชื่อว่าสังข์อสูรนั้นมีอำนาจมากกลืนได้ทุกสิ่งด้วยตัวสังข์อสูรนั้นเป็นมหาพรหมจุติลงมาจึงมีกำลังฤทธิ์มาก ซ้ำเหนือสิ่งอื่นใดสังข์อสูรนั้นได้ลักโขมยสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากพระเป็นเจ้า ได้กลืนกินทั้งรูปธรรมและนามธรรมอันเป็นต้นกำเนิดของมหาจักรวาลได้(พระเวทย์และพระธรรม)
เช่นนั้นท่านจึงถือว่าสังข์อสูรนั้นเป็นดั่งหลุมดำที่ใช้กลืนกินได้ทุกสิ่ง(วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านปกปิดมากและวิชานี้ท่านตั้งใจหลบไว้ไม่ให้ใครเห็นหรือเอาไปใช้กันได้ง่ายๆด้วยท่านกลัวว่าจะหลงระเริงเอาไปใช้ในทางที่ผิด) ซ้ำสังข์นั้นยังมีอานุภาพมงคลอีกหลายประการ แม้ว่าบุคคลใดจะทำการมงคลให้เอาสังข์ไปเป่าให้ดังจนสุุดเสียงสังข์นั้นแล เสียงนั้นได้ยินไปถึงสถานที่ใดก็เป็นอุดมมงคล ทั้งสังข์ยังใช้ในการเป่าประโคมเพื่อเตรียมพร้อมขบวนศึก ใช้เป่าเป็นอาณัติสัญญาณในการสงคราม ใช้เพื่อประกาศศักดาและความมีชัย ...เช่นนั้นพ่ออาจารย์จึงสรุปว่าวิชาสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบานนั้นสามารถกลืนได้ทุกสิ่งทั้งยังใช้ขับไล่สิ่งอันไม่เป็นมงคลออกไปจากตัวเราหรือสถานที่ซึ่งเราอาศัยอยู่ และเป็นเครื่องหมายแห่งศักดานุภาพแลชัยชนะอีกด้วย ท่านว่าบ้านไหนร้อนเป็นไฟ ชีวิตใครที่วิบัติอย่างไร้สาเหตุชนิดที่โดนผีมันทำเอา หรือโดนเจ้าที่เทวดาให้ร้ายเหล่านี้ มีสังข์อสูรอยู่ด้วยรับรองได้ว่าวิบัติต่างๆนั้นเงียบสนิท

อานุภาพของสังข์อสูรนั้นมีอยู่มากเมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงตามโองการปฐมพรหมโดยทำเป็นตะกรุดครูที่สร้างด้วยสรรพพิธีกรรมโบราณเช่นการทำตะกรุดตะกั่วลงถมแล้วท่านจึงเรียกตะกรุดสังข์อสูรนี้ว่าเจ้าหลุมดำ เพราะเจ้าหลุมดำนี้มีแรงกระหายที่แฝงลึกอยู่ในสัญชาติญาณสามารถกลืนกินได้แม้แต่พระเวทย์และพระธรรม ซ้ำวิชานี้ยังใช้กลืนกินคำสาป,คำสาบาน,ทุกข์,โทษ,ภัยใดๆอันแสดงออกถึงผลร้ายที่มากระทบกายและใจของเรา ท่านว่าเจ้าหลุมดำนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม กลืนเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม หากคนใช้เป็นจะรู้ว่าสามารถใช้เพื่อกลืนและกินได้ทุกสรรพสิ่ง ยิ่งเรามีบาปมากทุกข์มาก มีชีวิตติดอยู่ในคำสาปคำสาบานตั้งแต่อดีตชาติอันผูกพันธ์เหนี่ยวรั้งเราไว้ ใช้ชีวิตวกวนหาทางออกไม่ได้อยู่เช่นนี้ ท่านว่านั่นแหละเจ้าหลุมดำกลืนกินได้ทั้งหมด ยิ่งเค้ากินมากก็จะยิ่งให้คุณมาก ท่านว่าวิชานี้แปลกคนที่ว่าทรุดๆไร้จุดยืน คนที่ติดคำสาปคำสาบานเหล่านี้ พอเจ้าหลุมดำมันกินเสร็จไม่ใช่แค่มันนะที่อิ่ม แต่ตัวเรามันก็ให้กินให้อิ่มด้วยเหมือนเป็นการตอบแทนที่เราให้มันกิน ชีวิตใครที่ขาดสิ่งใดอยู่ไม่ว่าจะโชคลาภความรักความปรารถนา สิ่งใดที่ต้องประสงค์นั่นแหละบอกกับเจ้าหลุมดำไว้ได้เลยว่า "เมื่อกินอิ่มแล้วให้พ่ออิ่มด้วยนะพ่อขาด...สิ่งนี้ๆก็ว่าไป" ท่านว่าถ้าใช้เป็นดังนี้จะมีกินมีใช้ไม่รู้จบ มันกินเร็ว กินไวชนิดที่ไม่เหลือให้ใคร ก็ส่งผลให้เราได้ทุกอย่างแบบที่ไม่มีใครกล้าแย่งเช่นกัน

ทั้งเจ้าหลุมดำนี้ได้ชื่อว่ากินอย่างเดียว เก็บอย่างเดียวไม่มีเอาออก ไม่รู้จักอิ่มและไม่มีอะไรที่เขาจะกินไม่ได้ เช่นนั้นวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้เปรยเอาไว้ว่านอกจากกลืนกินคำสาปคำสาบานในร่างกายตัวตนของเราแล้ว เจ้าหลุมดำนี้แม้อยู่ที่ไหนก็ยังจะช่วยเจ้าของกอบโกยสิ่งที่ตัวเธอต้องการแบบไม่รู้จักคำว่าพอดี(พูดง่ายๆคือเกินพอไปไกล) จะกอบโกยทุกอย่าง ครอบครองทุกอย่างจนตัวเธอเองคาดไม่ถึงว่าทำไมเมื่อก่อนเป็นแบบนั้นและตอนนี้เรามีขนาดนี้ได้อย่างไร จะถึงซึ่งสิ่งอันสมปรารถนา มีความสุขกับทรัพย์สมบัติที่ตั้งใจจะให้เป็นตั้งแต่แรก ...ท่านว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือใช้ชีวิตแบบไม่มีจุดอิ่มตัว นี่คืออานุภาพของเจ้าหลุมดำ เพราะตัวของมันนั้นสามารถบรรจุพระเวทย์และพระธรรมได้จึงมีอานุภาพอันประมาณมิได้ ท่านว่ามีมิติอันกว้างใหญ่ไพศาลไม่สามารถคาดคะเนจุดสิ้นสุดได้อยู่ในตัวของมันเช่นนี้ท่านจึงเรียกเจ้าหลุมดำเพราะจริงๆแล้วตัวของมันสามารถใส่ได้ทุกสิ่ง

***วิชานี้เป็นพระเวทย์พิศดารซึ่งพ่ออาจารย์ได้รับการถ่ายทอดโดยปฐมพรหม ท่านว่ามีอำนาจเหนือแรงพรหมลิขิตต่างๆที่ดลบันดาลชีวิตคนมากนัก ด้วยเหตุสังข์อสูรนั้นโขมยของจากพระพรหมเปลี่ยนแปลงพรหมลิขิตซึ่งส่งผลร้ายแรงที่สุดต่อมหาจักรวาลได้อย่างไร เรื่องโขมยชะตา เปลี่ยนชีวิต กลับทุกข์เป็นสุขทั้งหลายเค้าก็ทำได้ง่ายๆเช่นนั้น

### วิธีใช้
- ตะกรุดนี้เมื่อได้รับไปท่านให้ผู้บูชาตั้งจิตตั้งสมาธิให้ดี นำเอาปากกามาเขียนชื่อตัวเองจารใส่ลงไปที่ตะกรุด ให้ทำเบื้องหน้าพระปฏิมาหรือทำจิตหน่วงไว้มั่นคงในพระรัตนตรัยอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เมื่อกระทำนั้นพ่ออาจารย์ท่านให้ตั้งจิตให้ดีบอกกล่าวกับมหาสังข์เขาว่าให้กลืนกินคำสาปและคำสาบานตั้งแต่อดีตชาติของเราขณะที่เราเขียนชื่อลงไป...(ต้องทำด้วยตัวเอง) อยากจะให้ท่านช่วยให้ท่านกลืนกินอะไรก็บอกไปเลยในขณะนั้น การเขียนชื่อนี้ทำได้เพียงครั้งเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะพกแบบไม่เขียนก็ได้ แต่หากทำตามนี้วิชานี้จะมีผลมาก เห็นผลได้ไวดั่งใจ เจ้าหลุมดำจะเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเราและตามช่วยเราตลอดไปแม้ในภพภูมิไหนๆ จะเกิดอีกกี่ชาติ พรและความโชคดีเหล่านี้จะไม่หายไปจากตัวเราเลย

พ่ออาจารย์ท่านเจาะจงให้ใช้หนังใบหน้าและท้ายทอยของศรีษะปู่เจ้าสมิงไพรเพื่อมาทำตะกรุดชุดนี้โดยเฉพาะ..ด้วยถือว่าเป็นของมีค่ามากที่สุดและแรงตบะสูงสุด เป็นเวลายาวนาน..กว่า 60 ปีที่หนังปู่เจ้าสมิงไพรอาถรรพ์นี้ได้เปลี่ยนมือจากรุ่นสู่รุ่นด้วยเป็นสมิงอาถรรพ์ต้องตำรามีเขี้ยวโคร่งโปร่งฟ้าทั้งสี่เขี้ยว(เป็นสัญลักษณ์ของเสือที่มีเทพเจ้ารักษา)เมื่อแก่ตายลงแล้ววิญญาณย่อมไปเป็นพระไพรปกปักรักษาป่าหรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าปู่เจ้าสมิงไพร หนังศรีษะของปู่เจ้านั้นมีอาถรรพ์มากและที่ยากกว่าคือเป็นหนังเก่าที่ถูกเก็บรักษาไว้เพื่อบนบานศาลกล่าวขอได้ทุกเรื่อง พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะทำวิชาเสือต้องใช้เสือโคร่งเท่านั้นจะไปใช้ดาว,เมฆ,ดำ,ไฟ..เหล่านี้ไม่ได้ด้วยตบะมันเทียบกันไม่ได้เลยมีแต่นิยายที่คนแต่งมาขายของแต่แท้จริงแล้วสำหรับเราอะไรก็สู้ปู่เจ้าสมิงไพรไม่ได้ด้วยในบรรดาเสือโคร่งร้อยตัวพันตัวจะมีสมิงพิเศษนี้เพียงตัวสองตัวเท่านั้น ลำพังหนังแท้ว่าหายากแล้วแต่หนังที่มีอาถรรพ์สมิงวิญญาณพระไพร..แถมเป็นของเก่าโบราณที่รักษาไว้อย่างดีย่อมหายากกว่าร้อยเท่าพันเท่า

พ่ออาจารย์ท่านสืบสานตำนานปู่เจ้าสมิงไพรอันเป็นพญาสมิงจิตวิญญาณแห่งป่า..เมื่อนำหนังมาทำเครื่องมงคลจะเป็น "เสือครองโลก..สมิงครองภพ" ทั้งท่านยังตั้งใจทำและรังสรรค์ขึ้นด้วยหัวใจอย่างแท้จริงด้วยท่านทราบดีว่าหนังชุดนี้เป็นของอาถรรพ์เก่าแก่ที่มีพลังระดับจักรพรรดิของเหล่าเสือ..เป็นเจ้าครองป่าราชาของเหล่าสมิงตามที่ผู้เฒ่าผู้แก่ที่รักษาไว้บอกต่อมาเมื่อนำมาทำเป็นเครื่องมงคลจะมีพื้นฐานพลังโดดเด่นและรุนแรงทุกทิศทาง
- เสริมอำนาจ เสริมวาสนา เสริมบารมี
- ปราบมาร ปราบศัตรูที่มองไม่เห็น ปราบอวิชชา
- เป็นสุดยอดอาถรรพ์ป้องกันคุ้มครองกายตน
- เภทภัยอันตรายไม่แผ้วพาน
- ใช้กันของอาถรรพ์กันคุณไสย
- คุ้มครองเคหสถาน ปกป้องเมื่ออยู่ในสถานที่อัปรีย์
- เคลียร์ร่างกาย กำจัดพลังงานลบอุบาทว์จัญไรออกจากร่างกาย
- ข่มภูติผีปีศาจอสุรกายทั้งปวง(แม้เทวดายังเกรงกลัวพระไพร)

หนังสมิงชุดนี้เป็นหนังบริเวณใบหน้าหรือศรีษะอันสูงสุดในร่างปู่เจ้าสมิงไพรท่านว่าต้องใช้ส่วนนี้เท่านั้นจะใช้ส่วนอื่นไม่ได้ตะกรุดเราต้องดีที่สุดเพราะเราทำให้..เป็นตำนานตลอดไป ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าเป็นของดีพร้อมจะหาตำหนิที่ไหน..จะหาว่าไม่ดีอย่างไร..เช่นนี้ย่อมไม่มีเลย เป็นที่สุดแห่งตะกรุดหนังเสือที่เราจะทำไว้เพียงครั้งเดียวในชีวิต คนใช้ให้พกติดตัวปรารถนาสิ่งใดให้อธิษฐานเอาเถิดย่อมสมหวังมโนรสปรารถนา...แต่อาถรรพ์หนังปู่เจ้าสมิงไพรนั้นไม่ใช่มีดีเพียงเท่านี้ เมื่อเธอเอาไปใช้อาราธนาย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้อยู่เหนือกว่าวิญญาณทั้งหลายไอ้อาถรรพ์ผีทั้งหลายประการนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับตัวแก้อาถรรพ์พวกคนที่โดนพรายกินตัวได้ทั้งยังจะคุมวัตถุมงคลทุกประเภทที่เกี่ยวกับผีหรือกุมารทองของอาถรรพ์ทั้งหลายอันเจ้าของไปเกี่ยวข้องจะด้วยความตั้งใจก็ดี..หรือไม่ได้ตั้งใจก็ดี ท่านคุมให้เกิดแต่คุณเท่านั้นไร้โทษภัยอันตรายอาถรรพ์จัญไรแฝงเร้นที่จะให้โทษนั้นย่อมไม่เกิดขึ้นเลย
### หนังศรีษะปู่เจ้าสมิงไพรนี้ถือเป็นของอาถรรพ์หายากที่พ่ออาจารย์ท่านปิดทองบูชามานานหลายสิบปี มีจิตอภิญญาแห่งปู่เจ้าพระไพรที่สละกายสังขารกลับคืนสู่ภูมิเทวดามากด้วยบารมี..เป็นใหญ่กว่าภูติผี..ใช้คุมวิญญาณเกเรทั้งหลายในโลกได้ทั้งสิ้น

เมื่อนำหนังปู่เจ้าสมิงไพรมาลงวิชาเพื่อม้วนครอบตะกรุด ซึ่งมีอานุภาพของวิชารุนแรงชนิดที่ว่า..แรงแบบไร้ความปราณี..อันแม้แต่ผู้มากฤทธิ์และกายทิพย์ทั้งหลายจะเทวดา,มุนี,ฤาษี,ดาบสตัวตนทิพย์ใดๆก็ไม่สามารถถอดถอนลดทอนอานุภาพแห่งกายสิทธิ์หนังปู่เจ้าที่นำมาลงวิชาได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากเป็นตะกรุดครูทุกสายของท่านแล้วยังใช้เป็นอาถรรพ์ได้หลากหลายแขนง แต่ตะกรุดฉันนี่มันติดกฤติยาคมของปู่เจ้าด้วยจึงยิ่งแรงเข้าไปใหญ่
- จิตวิญญาณรอบกายจะสยบ..ยำเกรง..เธอจะไม่โดนใครข่ม
- ภูติผีจะเชื่อฟัง
- จะเพิ่มฤทธานุภาพตลอดจนพลังงานธาตุแก่เครื่องมงคลและวัตถุทุกชนิดในกายตน
- จะได้เผชิญหน้าต่อทุกสิ่ง..และทำให้สยบราคาบต่อเธอได้ทุกสิ่ง
- จะมองเห็นทุกข์..เห็นเหตุ..รู้เภทภัยอันจะเกิดแก่ตัวด้วยสัญชาติญาณปู่เจ้าสมิงไพร(ป้องกันระวังทัน)
- จะมีวาสนาทางทำมาหากิน..อุปมาว่ามีเหยื่อมาป้อนถึงปากเธอนอนรอกิน
- จะเงยหน้าก็รับทรัพย์ หันหน้าไปทางไหนก็รับโชค..ดั่งปู่เจ้าที่หันหน้าไปทิศใดก็เห็นเหยื่อชัดเจนไร้สิ่งบดบัง

ตะกรุดของฉันไม่ได้ทำจากหนังเสือผีเสือปีศาจหากแต่เป็นหนังเสือพระพุทธเจ้าที่ฉันถวายองค์ปฐมให้ท่านแผ่พลังจิตพุทธบารมีทำให้ในหลายๆวาระจึงอาจจะเรียกว่าเป็นทิพย์แต่เหนือทิพย์..เป็นเทพแต่เหนือเทพ..มีสภาวะพุทธะแฝงไร้อันตรายใดๆ *** ถ้าสอดชื่อสกุลวันเดือนปีเกิดตัวเองไว้ในตะกรุด..
- จะได้รับการหนุนดวงเสริมอำนาจวาสนา..ดั่งได้วาสนาแห่งราชันพยัคฆ์สมิงไพรไร้พ่าย..ไร้ผู้ต้านทาน
- จะไร้ผู้คิดคดทรยศ ไม่มีคนหักหลัง
- จะสามารถอธิษฐานขอชัยชนะได้ตามแต่จะปรารถนาในแต่ละเหตุการณ์
- จะได้รับอำนาจบารมีบริบูรณ์ด้วยตบะ..ดุจเจ้าป่า
- จะย่างกรายไปแห่งใดสรรพสิ่งย่อมสยบ..ดั่งราชันสมิงไพรสยบป่า
- จะได้รับความยำเกรง..ด้วยสรรพสัตว์ย่อมเกรงกลัว
- จะสมบูรณ์ด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์
- จะเปนคนน่าพึงใจชนทั้งหลายอยากอยู่ใกล้
พ่ออาจารย์ท่านว่ากำลังแห่งราชันปู่เจ้าสมิงไพรจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับผู้บูชาหันไปทางไหนก็รับโชคได้ทรัพย์

ข้อควรจำ
1. ไม่ต้องเลี้ยง..ไม่ต้องเซ่นเพราะไม่ใช่ผี
2. พ่ออาจารย์ท่านชุบศรีษะปู่เจ้าด้วยพระอภิธรรมจึงไม่มีอาถรรพ์ภูติพรายใดๆติดอยู่เป็นกำลังของมวลเทพเทวดาพร้อมอาถรรพ์แห่งชาติกำเนิดและกายสังขาร..ที่มาพร้อมวาสนากับชะตาตนอันยิ่งใหญ่เท่านั้น
3. หากปรารถนาจะสังเวยแก่ปู่เจ้าเพราะท่านช่วยเหลือเรามามากเราสำนึกคุณแล้ว ก็ให้ทำบุญอุทิศแก่ท่านตามสมควรหรือตามวาระโอกาสที่เราอยากจะทำ

อาถรรพ์ 500 ปี
พ่ออาจารย์ท่านกำหนดให้เสกปิดจะกรุดหนังศรีษะปู่เจ้าสมิงไพรชุดนี้ในฤกษ์จันทร์เพ็ญปีนี้เท่านั้น เพราะไม่ใช่เพียงได้อาถรรพ์จันทร์เพ็ญที่ดีทางเมตตาเงินทองเต็มไม้เต็มมืออย่างถึงที่สุดแต่ยังเป็นจันทร์เพ็ญที่เกิดซ้อนจันทรคราสอันมีอำนาจทางมายาศาสตร์แบบสูงสุดด้วย

### อุปมาจันทร์เพ็ญท้องฟ้าสว่างสุกใสรับแสงจันทร์กระจ่างตาที่สุด

### อุปมาจันทรคราสคือเดือนดับที่ท้องฟ้ามืดมิดไร้สิ้นแสงดาวมากที่สุด

เมื่ออาถรรพ์ของความมืดและแสงสว่างเกิดทับซ้อนในฤกษ์เวลาเดียวกันจึงเป็นอาถรรพ์อย่างยิ่งยวด..ที่พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียง 500 ปีจะมีซักหนหนึ่ง การเสกปิดตะกรุดกำเนิดราชันครองภพในฤกษ์นี้ถือเคล็ดปลดปล่อยสรรพชีวิตจากมืดไปสว่าง..มามืดไปสว่าง..จากต่ำตมไปถึงฟากฟ้าดวงดาว ให้ชีวิตมีแต่ขาขึ้นจากมืดกลับสว่างเท่านั้นและยังเป็นกฤติยาคมแฝดของตะกรุดราชันอย่างหนึ่งว่าในรอบ 500 ปีนี้อาถรรพ์แห่งราชันของตะกรุดจะไม่เสื่อมไม่โดนบดบังโดยผู้ใดทั้งสิ้น..ก็แล้วใครมันจะมีอายุอยู่ไปได้อีก 500 ปี เช่นนี้ตะกรุดฉันจึงตกทอดได้รุ่นสู่รุ่นให้กลับร้ายกลายเป็นดีกลับผีกลายเป็นคนกำเนิดผู้มีวาสนาไปอีกห้าชั่วอายุคน..แม้นครบห้าร้อยปีแล้วก็อย่าหมายว่าจะคลายอาถรรพ์หากไม่มีของวิเศษที่ดียิ่งไปกว่านี้กำเนิดขึ้นในฤกษ์นั้นทุกสิ่งก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยหรือต่อให้มีก็ใช่ว่าจะโคจรมาเจอกันและหักล้างกันได้หากของนั้นไม่มีอาถรรพ์มากไปกว่าหนังปู่เจ้าสมิงไพรชุบอภิธรรมนี้ เพราะฉันทำให้ในวันที่อยู่เหนือกว่าทุกวัน ในเวลาที่แรงกว่าทุกวัน ในฤกษ์ที่เหนือกว่าทุกฤกษ์มาตลอดนับสิบปี
*** จะสามารถข่มกำลังของวิเศษทั้งหลายของผู้อื่นรอบกายได้เมื่อต้านต่อเข้ากับเราของเรานั้นจากมืดไปสว่างแต่หากเขาประสงค์ร้ายหรือใช้สิ่งใดมารังแกเราแล้ว ..ของๆเขาจะกลับกันเรียกว่าจากสว่างไปมืดหมดพลังตั้งแต่ยังมาไม่ถึงตัวเธอไปแล้ว

ตะกรุดชุดนี้จะทำให้ชีวิตเธอเดินไปได้ถึงที่สุด..ไปได้ตลอด..ไปได้ถึงทุกสิ่ง..ไปเอาดีกลับมาได้ตลอด..ไปเอาสุขกลับมานอนกอด..ไปแล้วต้องมีกลับมาตลอด..ไปเหยียบความฝันแล้วเอากลับมา นี่คืออำนาจแห่งภาคปฐมบทในบรมครูปู่เจ้าสมิงไพรพ่ออาจารย์ท่านว่าปู่เจ้าท่านใช้ได้ทุกทางเลยจะป้องกันยั่วยุเย้าแหย่หรือกันคนหักหลัง(พวกนี้แรงนะท่านเอาคืนแทนเราแรง) ยิ่งเรื่องปราบศัตรูหรือปกครองบริวารลูกน้องก็เฉียบขาดมากใช้กำราบพวกที่ชอบต่อรองหรือสยบพวกที่ชอบต่อต้านได้ทุกรูปแบบ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่าผู้ที่จะได้ครอบครองตะกรุดปฐมบทนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนามากและคนประเภท "มีของเก่า" ทำมาเยอะ

พ่ออาจารย์ท่านว่าในบรรดาเครื่องรางนั้นที่ฉันยกให้เป็นระดับราชันแล้วถือว่ามีไม่กี่ชนิดนักหรอก นั่นย่อมหมายถึงการเกิดขึ้นของอาถรรพ์ที่พลิกกลับชะตาฟ้าดินได้...และเครื่องมงคลที่ใช้สร้างตัวให้เดิมตามรอยเส้นทางแห่งราชันนั้นยิ่งสร้างได้ยาก อย่างที่ฉันบอกว่านี่เป็นเสือขององค์ปฐมท่าน..ท่านกำชับว่าไม่ให้พูดอะไรมากเกินงามเพราะเจ้าของที่ถือครองนั้นล้วนแต่เป็นคนที่ทำของเก่ามาดีแล้วจึงได้พบเจอกับเส้นทางอันจะเปลี่ยนฐานะเขาตลอดไป แต่ก็อย่าลืมไปอีกเรื่องหนึ่งเสือฉันนั้นไม่ใช่เสือธรรมดา

- สมิงไพรฉันมีมายาแท้จริงในการล่อหลอกล่อลวงผู้คน..ให้ยอมพลีกายตกเป็นเหยื่อได้ อุปมาตัวเราได้เหยื่อกินโดยไม่ใช้กำลัง
- สมิงไพรฉันมีมายาทำให้ศัตรูตายใจ..ก่อนลงมือปลิดชีพ อุปมาว่าได้ทุกอย่างเหนือเล่ห์กล
- สมิงไพรฉันมีมายาทำให้ศัตรูลืมตัว..ลืมตน..ลืมตาย อุปมาว่าได้ของรักทุกอย่างแม้แต่ชีวิต
- สมิงไพรฉันเป็นยอดแห่งนักล่า..และนักเสพย์สุขในเวลาเดียวกัน อุปมาของที่มาแห่งตะกรุดไฮโซ..ได้ทุกอย่างแล้วมีความสุข
- สมิงไพรของฉันใช้ข่มศัตรูฝ่ายตรงข้ามได้ อุปมาว่าเอาตะกรุดทับชื่อมันบอกกล่าวครูศัตรูทำอะไรก็ไม่เจริญ
- สมิงไพรของฉันเป็นเจ้าแห่งการช่วงชิง..เพราะแย่งชิงเหยื่อสัตว์อื่นทุกชีวิตได้ทั้งป่า(ในโลกของเขา) อุปมาดุจเราแย่งชิงความสำเร็จผู้อื่นได้
- สมิงไพรของฉันเป็นเจ้าแห่งโชคลาภวาสนา อุปมาว่าสยบทุกสิ่งแต่ตัวเองไม่มีอันตรายจนสิ้นอายุขัยเป็นวาสนาอย่างสูงสุด

เช่นนี้ปู่เจ้าสมิงไพรจึงช่วยอุ้มชูเธอได้ทุกทางเต็มกำลังด้วยอำนาจพญาสมิงอันเหนือกว่าพยัคฆราชใดๆทั้งสิ้น...สุดแล้วแต่เจตนาเธอจะใช้งานอย่าเอาไปทำเรื่องที่ไม่สมควรนะ..จงละอายต่อบาปให้มาก..ให้ใช้เพื่อความเจริญสุดขีดทางโลกเท่านั้น

คาถาบูชา
พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าปลุกด้วยคาถาเสือเลย ให้ปลุกด้วยพุทธคุณเถิด สมิงไพรจะเจริญด้วยคุณแก่ตัวเธออย่างถึงที่สุด ด้วยเป็นเสือของพระพุทธเจ้าเพียงระลึกถึงพระพุทธไม่ต้องท่องบทพุทธคุณก็ใช้ได้แล้ว..(สุดแต่จะอธิษฐานเถิด ท่านว่าของวิเศษเวลาใช้จะเสียเวลาท่องบ่นคาถาเพื่ออะไร..มันเต็ม..มันวิเศษอยู่แล้ว..และวิเศษตลอดไปใช้ได้ในกาลทุกเมื่อ)

### พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดหนังเสือรุ่นแรกที่ท่านออก..ด้วยอายุ..ด้วยชาติอันเหนือกว่าเสือทุกชนิด..ทั้งท่านยังม้วนห่อให้แบบหนาๆไม่ได้หวงหนังเลยราคานี้..ไซด์นี้ เที่ยบกับหนังใบหน้าพยัคฆ์อาถรรพ์ของแท้แบบยาวๆใหญ่ๆยุคเก่า 60 ปีขึ้นไปแล้วถือว่าเบามากๆ(เพราะท่านฟอกไว้และรักษามาดีมากบางส่วนที่ขนหลุดท่านก็ไม่นำมาทำ)

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าผู้ที่จะได้ครอบครองตะกรุดนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนามากและคนประเภท "มีของเก่า" ทำมาเยอะ ..คนที่ไม่ทันเห็นจึงถือว่าไม่ใช่เจ้าของอย่างสิ้นเชิง (จะจองคนละกี่ดอกก็จองไว้เลย เพราะทำครั้งเดียว ..และหนึ่งดอกใส่ชื่อกันเองได้คนหนึ่งอย่าใส่ไปมากกว่านั้น..ตะกรุดดอกหนึ่งเหมือนราชันสมิงไพรตัวหนึ่ง..และราชันก็มีเพียงตัวเดียวในดอกเดียวเท่านั้น)

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสมิงน้อยกลืนกินคำสาปสาบานชำระไอมารวิบากดำชุดหนังปู่เจ้าสมิงไพรชุบอภิธรรม(เจ้าสมิงหลุมดำ) บูชา 5,000 บาท

​

 

ชุดนี้เป็นชุดดอกเล็กเรียกว่าจ้าวสมิงน้อย ..จริงๆก็หน้าเสือตัวเดียวกันแต่จะไซด์เล็กประมาณหนึ่งนิ้ว มีจำนวนจำกัดมากๆเพราะหนังที่ท่านตัดไว้ถึงจะเป็นชิ้นเล็กแต่เอามาม้วนหนาๆแบบนี้ก็หาไม่ง่าย..เกินคำว่าเศษหนังไปเลย

*** ใครจะจองเผื่อใครฝากใคร..รึเก็บไว้ใช้หลายๆเรื่องหนนี้ก็อย่าพลาดกันอีกนะ

 

รายการนี้หลังวันที่ 2 ไม่ว่าจะเหลือหรือหมดขอปรับราคาหน้ากระทู้เป็นดอกละ 5,000 บาท นะครับอย่างที่เคยแจ้งว่าหนังชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านหวงมาก ลองใช้แล้วจะรู้ว่าทำไมถึงหวง เพราะครูแรงจริงคนจิตดีๆนี่พูดตอบกันได้เป็นคำๆคำเตือนลอยมาเป็นประโยคเลย

 

แจ้งการส่ง EMS
​

พี่ชัยวัฒน์ ED 2611 5228 8 TH

พี่พรเทพ ED 2611 5229 1 TH

พี่ณธพรหม ED 2611 5230 5 TH

พี่พิสุทธิ์ ED 2611 5231 4 TH

พี่คณพศ ED 2611 5232 8 TH

พี่ภิญโญ ED 2611 5233 1 TH

พี่วิศณุกร ED 2611 5234 5 TH

พี่วุฒิชัย ED 2611 5235 9 TH

พี่เมธี ED 2611 5236 2 TH

พี่ศิระ ED 2611 5237 6 TH

พี่พรหมพล ED 2611 5238 0 TH

พี่ฐิตกาญจน์ ED 2611 5239 3 TH

 

อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้เปิดเรื่องด้วยเรื่องสีผึ้งพอดีมีพี่ท่านนึงมาเล่าให้ฟัง

สีผึ้งพรหมผ่านจิตนี่ อัศจรรย์ดีนะครับ เปลี่ยนคนได้แบบเหมือนเป็นคนล่ะคนเลย ใช้กินใช้ทาดีมากเลยครับ

ไม่รู้จะเล่ายังไงครับ ผมเป็นคนไม่ค่อยพูดอธิบายไม่เก่งพูดแล้วคนไม่ค่อยเข้าใจ เอาเป็นว่าทำให้เป็นคนดีน่ะครับ ดีเหมือนเป็นคนล่ะคนน่ะครับ เป็นคนมีศีลมีธรรมมากกว่าเดิม หรือ คนอื่นเป็นแบบนี้ไหมผมก็ไม่รู้นะครับ แต่ตัวผมเองผมว่าเปลี่ยนไปเยอะมากเหมือนเป็นคนล่ะคน เหมือนมีตัวขยันมาสิง อยากทำแต่อะไรดีๆ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่คิดจะทำเลย แล้วก็ไม่รู้สึกเหงาๆ อ้างว้าง เดียวดาย ความรู้สึกว่าโดดเดี่ยวนี่ไม่มีเลย ก็ห้อยอะไรก็บูชาอะไรมาเยอะนะครับ แต่ก็ไม่เป็นแบบนี้ ครั้งแรกที่เป็นแบบนี้ หรือเพราะถูกโฉลกกับสีผึ้งนี้กะไม่รู้สิครับ

ความจริงมันมีอะไรเยอะมากกว่าที่ผมพูดแต่ผมบอกไม่ถูกครับ มันเป็นเหตุการณ์การแปลกๆ นั่งรอกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ดีๆ ก็นึกขึ้นได้ ..จากตอนนั้นมามันรู้สึกแวป ..จากนั้นมาความคิดความรู้สึก การกระทำก็เปลี่ยนไป ผมไม่รู้จะบอกยังงัยดี เหมือนเป็นคนล่ะคนเลยที่นี้ ทุกวันนี้ผมก็ยังงงๆอยู่เลย เพราะอะไรถึงเปลี่ยนได้ขนาดนี้

แต่ผมคิดว่าเป็นเพราะสีผึ้งพรหมผ่านจิตแหละครับ เพราะมันเหมือนมีตัวขยันมาสิง อยากทำแต่อะไรดีๆ อยากตื่นมาสวดมนต์ไหว้พระตอนเช้าๆ อะไรที่ไม่ดีก็เลิก บุหรี่ก็เลิกสูบ อยากรักษาศีล ขยันหาอะไรทำไม่อยากอยู่เฉยๆปล่อยเวลาผ่านไป อะไรไร้สาระก็ไม่ค่อยอยากจะทำ ทั้งๆที่เมื่อก่อนชอบมาก อย่างเล่นเกมส์นี่ก็รู้สึกไม่อยากเล่นเลย เห็นอะไรรกๆก็อยากเก็บกวาด มันแปลกอ่ะพี่ แต่ก่อนผมไม่เคยรู้สึกอยากทำแบบนี้

 

เดี๋ยวจะนำเครื่องมงลชุด "ทวงหนี้" ออกมาให้บูชากันหลักร้อยนะครับ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

ให้เงินตรากลับคืนมาสู่มือเรา ..ทวงหนี้ ..ปลดหนี้ วันนี้ติดตามกันนะครับ

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่พรเทพ ED 2611 5545 7 TH

พี่จารุวรรณ ED 2611 5546 5 TH

พี่วีรภัทร ED 2611 5547 4 TH

พี่ธีรนนท์ ED 2611 5548 8 TH

พี่ทัศภูมิ ED 2611 5549 1 TH

พี่ปภัสสร ED 2611 5550 5 TH

พี่นฐมน ED 2611 5551 4 TH

พี่กฤตยชญ์ ED 2611 5552 8 TH

 

คืนนี้จะเปิดจองรอบดึกนะครับ

 

ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าบังกรรมวาสนานำพาข้ามโอฆะสงสาร(ชุดเคลียร์หนี้สิน,พระแก้จนปลดหนี้)

ให้เงินตรากลับคืนมาสู่มือเรา ..ทวงหนี้ ..ปลดหนี้ เคลียร์ทางดุจประเคน ..จูงลากมาให้ถึงที่

พระชุดนี้เป็นพระพิมพ์ที่พ่ออาจารย์ท่านกดโดยใช้มวลสารเฉพาะทาง..และฝังตะกรุดเฉพาะทางไว้เนิ่นนานมากๆแล้วโดยตั้งใจสร้างเพื่อวัตถุประสงค์ 3 สิ่ง คือ
- ให้คนใช้ได้ปลดหนี้
- ให้คนใช้ทวงหนี้..นำทรัพย์กลับคืน
- ให้คนใช้เคลียร์ชีวิตหากมีหนี้สินล้นพ้นตัว
ท่านว่าการจะทำพระพิมพ์นี้สำคัญที่พิมพ์พระหนึ่ง,ผงวิเศษที่ใช้หนึ่ง,ของที่ฝังหนึ่งทุกสิ่งต้องเกื้อหนุนซึ่งกันและกันไม่อาจขัดกันได้ ท่านเห็นว่าคนเดี๋ยวนี้ภาระหนี้สินมีมากจึงให้นำเครื่องมงคลชุดนี้ที่เสกเก็บไว้นานแล้วออกมาให้บูชา ท่านว่าใครจะเอาพระสวยไม่ต้องเช่านะ ฉันบอกเลยว่าฉันใช้มวลารล้วนๆพระแบบนี้มันจะหาความสวยยากแต่ขลังน่ะล้านเปอร์เซ็นต์

ปฐมบทพระเจ้าบังกรรมวาสนานำพา
การสร้างสมเด็จองค์ปฐมพิมพ์พิเศษด้วยผงพุทธอโหสิกรรมนั้นนับว่าเป็นงานยากที่สุดในชีวิตของพ่ออาจารย์ท่านก็ไม่ผิด ซึ่งท่านได้เมตตาบอกกล่าวว่าท่านยังจำสาเหตุที่จะสร้างได้เป็นอย่างดี โดยแรกเริ่มนั้นท่านมีความกังวลเกี่ยวกับเคราะห์กรรมของแต่ละบุคคลที่ท่านตรวจดวงชะตาแล้วร้ายมากกว่าดีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจนมีนิมิตถึงหลวงพ่อปานได้พาท่านไปหาเสด็จพระใหญ่ แต่อยู่ดีๆตอนนั้นท่านก็ได้จ้องไปที่พระพุทธองค์แล้วมีความรู้สึกว่าทำไมมนุษย์ที่ยังมีกรรมผูกพันธ์กันอยู่จะต้องท่องเที่ยวอยู่ในภพทั้งหลาย เมื่อมีภพก็มีชาติ..มีทุกข์วนเวียนอยู่ในชาติสงสารเรื่อยไป ในตอนนั้นเสด็จพระใหญ่ก็ได้เมตตาสั่งสอนพ่ออาจารย์ท่านเพราะรู้วาระจิตที่ท่านคิดสืบมาจากความกังวลเกี่ยวกับกรรมที่เลิกให้ผล...สุดท้ายจึงบอกให้ท่านทำผงพุทธอโหสิกรรมไว้เพื่อให้คนที่มีบุญสัมพันธ์กันได้นำไปเสริมกำลังใจให้พ้นจากเคราะห์กรรมในชาติสงสารนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพอรู้หลักทำผงพุทธอโหสิกรรมจากพระองค์ท่าน เราก็คิดอยู่ว่าน่าจะทำเป็นพิมพ์พระรูปท่านถึงจะเหมาะจะควร จะได้เกิดเป็นสิริมงคลสูงสุดในชีวิตของคนผู้บูชาต่อไปไม่น้อย ท่านว่าเราเพียงระลึกอยู่เท่านี้ แต่เสด็จพระใหญ่กลับเปล่งวาจาว่าสาธุๆออกมาถึงสามครั้งสามหน

พ่ออาจารย์ท่านหลังจากได้รับพุทธนิมิตแล้วก็ตั้งใจว่าจะทำและจะทำให้อย่างดีที่สุด ท่านว่าท่านไม่เคยทำอะไรที่ยากถึงเพียงนี้เลย เพราะเสด็จพระใหญ่กำหนดให้มาแต่เดิมเมื่อจะสร้างพระผงวิเศษนี้ท่านว่าให้พ่ออาจารย์กลับไปทำพระพิมพ์ฉุดดึงโดยประทานนิมิตโอภาสให้ท่านเห็นเป็นอัศจรรย์ เป็นรูปพระองค์ทรงกางกลดให้พระฉายา(เงา)ตกลงไปต้องกระทบเหมือนกำลังบังร่างกายสรรพสัตว์ทั้งหลายที่พระองค์จูง..รั้ง..ฉุด..ดึง นำทางพวกเขา พ่ออาจารยท่านได้นำผงซึ่งทำไว้สร้างปฐมพุทธพักตร์ที่ท่านจำต้องลบถมผงวิเศษถึง 227 ชนิด เท่ากับศีลพระทั้งอักขระยันต์จากคัมภีร์ปถมังต่างๆตำราพระพิชัยสงครามแต่ละสูตร รวมไปถึงวิชาและอักขระยันต์ต่างๆที่พ่ออาจารย์ท่านได้รับการขัดเกลาและสั่งสอนโดยตรงจากเสด็จพระใหญ่ท่าน ท่านได้ทำการลบถมจนทะลุกระดานชนวนในเวลาหลายปีกว่าจะได้ครบ 227 ชนิด ซึ่งท่านบอกว่านี่ไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว..เอาเป็นว่าถ้าไม่ได้ใช้อย่าเพิ่งตายก็แล้วกัน ซึ่งไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้นพ่ออาจารย์ท่านเมื่อจะผสมผงสร้างพระท่านยังได้นำผงรัตนมาลาที่ท่านเรียกสูตรลบทีละตัวทีละพระคาถาอีก 108 พระคาถามาใส่ผสมลงไปด้วย ท่านว่าเฉพาะผงที่ใช่ทำพระนี่ก็นับว่าเป็นที่สุดของวิชาอันจะเกิดจะมีขึ้นได้ในโลกนี้แล้ว ท่านได้เมตตานำผงลบถม 227 ชนิดมาผสมกับผงรัตนมาลาทั้ง 108 ท่านว่าหากจะทำอิทธิวัตถุให้มีฤทธิ์อำนาจสูงสุดนั้น ตัววัสดุมวลสารที่นำมาใช้จะต้องผสมกลมกลืนกันทั้งพุทธและไสย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงวิเศษอีกชนิดหนึ่งมาใช้ผสมนั่นก็คือผงโฮมัมหรือฮวานัมที่ได้จากกองกูณฑ์อัคคีในการบูชาไฟด้วยอาถรรพ์เวทย์ต่อองค์พระสยมภูวญาณของท่านผสมลงไปด้วย ท่านว่าผงนี้ดีใช้ทางกันตัวได้ทุกสิ่งพกอยู่ที่ไหนยิ่งกว่ากำแพงแก้วเจ็ดชั้นหรือว่าตาข่ายเพชรเสียอีก เป็นสุดยอดของกันตัวแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าต่อให้ผงวิชาเกราะเพชรหรือวิชาต่างๆก็เทียบกับผงตัวนี้ไม่ได้..ชีวิตใครที่มักมีสิ่งไม่พึงใจ..ไม่พึงประสงค์มารบกวน ทั้งที่ตัวเองก็หาทางแก้แล้วไปรับยันต์เกราะเพชรมาก็แล้วหรือพกวัตถุเกี่ยวกับยันต์เกราะเพชรก็แล้วยังแก้ไม่หาย ท่านว่าผงนี้เอาอยู่ทุกสิ่งที่ไม่พึงประสงค์นั้นไม่ว่าจะเกิดแต่กรรมลิขิตหรือเป็นไปตามวัฏจักรก็ตาม หากเป็นอัปมงคลแล้วไซร้ย่อมถูกแผดเผาไปให้เป็นจุณมหาวิจุณในพริบตา

ท่านได้นำมวลสารทั้งหมดมาเข้ากับผงพุทธอโหสิกรรมเกี่ยวลาภซึ่งท่านลบถมไว้ตามสูตรของเสด็จพระใหญ่ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดและทำยากที่สุดในการสร้างพระหนนี้เพราะเป็นผงที่มีอานุภาพประหลาด ไม่ใช่สร้างเพื่อการชะลอกรรมหรือการประวิงเวลา ***แต่เป็นการยกเลิกกรรมด้วยกฏเกณฑ์พิเศษซึ่งมีอยู่และได้ผลจริงนั่นคือวิชาพุทธอโหสิกรรม แน่นอนว่าเมื่อมีภพมีชาติก็ย่อมมีอกุศลกรรมทำให้ชีวิตเศร้าหมองเลวร้ายลงตามวิถีกรรมที่แสดงผลนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพุดแบบตรงๆชัดเจนกันเลยก็คือวิชาทำผงนี้จะทำให้บาปกรรม อกุศลกรรมทั้งหลายเลิกให้ผล..ให้เลิกแล้วต่อกัน..ไม่เพ่งโทษเอาโทษกันอีก อกุศลกรรมอันใดได้มีแล้วได้เกิดขึ้นแล้วได้ให้ผลตามครรลองแห่งกรรมแล้ว สิ่งเหล่านี้จะงดจะสงบระงับไปด้วยอำนาจอโหสิกรรมแห่งพระพุทธคุณ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงวิชาคุณพระ(พุทธอโหสิกรรม)นี้มีอานุภาพใหญ่นักเพราะเป็นผงที่ยกเลิกกฏเหล็กของกรรมลิขิตได้โดยไม่ผิดจารีตหรือครรลองใดๆทำให้เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณที่เราผูกกรรมและล่วงเกินกันไว้ไม่ถือโทษซึ่งกันและกันในกรรมที่กระทำอันล่วงไปแล้ว ถือได้ว่าเป็นผงสำคัญที่อยู่เหนือกว่าผงทั้งหมดกำเนิดขึ้นด้วยโอกาส..กาลเวลา..วาระที่เสด็จพระใหญ่ท่านเมตตาจะสงเคราะห์พุทธบริษัทอย่างแท้จริง

พ่ออาจารย์ท่านว่าสังคมสมัยนี้เวรกรรมให้ผลแรง แฝงมาด้วยอันตรายและภัยน่ากลัวเพราะมีปัจจัยร่วมกันหลายด้าน คนที่ดิ้นรนแก้ไขก็ยิ่งอยู่กันยากทั้งนี้เพราะเค้าแก้ไม่ตรงจุดด้วยนำกรรมมาผูกกรรมให้ปมแห่งชะตานั้นขมวดยุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้น ด้วยการจะแก้ปมนี้เราเห็นมีแต่เพียงอำนาจพุทธบารมีในผงพุทธอโหสิกรรมเท่านั้น ด้วยกุศลเจตนาของเสด็จพระใหญ่ท่านแม้เวียนว่ายตายแล้วเกิดผ่านภพชาติชะตาฟ้าวาสนาใดๆในรอบหลายร้อยปีต่อจากนี้ไปวิชานี้ก็จะไม่บังเกิดขึ้นมาอีก สิ่งนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะเสด็จพระใหญ่ท่านมีโองการหรือดลใจพ่ออาจารย์ท่านอย่างไร ท่านได้แกะแม่พิมพ์ขึ้นโดยใช้นิมิตโอภาสที่ได้เห็นเมื่อคราวนั้นเป็นปฐม ท่านว่าหลับตาครั้งใดภาพก็ฉายชัดอยู่เช่นนั้นทำให้พระพิมพ์นี้เป็นเอกลักษณ์ในตัวเองยิ่งนัก

เมื่อท่านได้ใช้ไม้ขนุนตายพรายมาลงอาถรรพ์สำคัญด้วยคุณวิชาเก็บเกี่ยวลาภผลให้มีกินมีใช้ มีวาสนาชักนำไม่รู้สุดรู้สิ้น ซ้ำยังหนุนดวงเสริมส่งโอกาสแก่คนใช้แล้ว ท่านก็นำไม้ขนุนตายพรายนั้นมาแกะแม่พิมพ์โดยท่านทำเป็นรูปสมเด็จองค์ปฐมเมตตากางกลดทั้งยังฉุดดึงรั้งตัวของพุทธบริษัทเอาไว้พาเดินข้ามฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคทั้งหลาย เป็นพระพิมพ์ที่มีความหมายในตัวเอง โดยท่านตั้งชื่อว่าพระเจ้าบังกรรมวาสนานำพาข้ามโอฆะสงสารหมายถึงเสด็จพระใหญ่ท่านกางกลดให้ร่มเงาจูงเราเดินโดยมีประฉาย(เงา)ทอดบังร่างเราไว้ ทั้งยังเป็นเคล็ดที่พ่ออาจารย์ท่านจะอธิษฐานจิตด้วยวิชาพิเศษของสมเด็จบรมครูท่านนั่นคือวิชาพระเจ้าบังกรรม

วิชาพระเจ้าบังกรรมนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นยอดของวิชา ท่านเสกและเชิญเสด็จพระใหญ่มาลงวิชาไว้ให้อย่างเต็มที่ อำนาจของวิชาเป็นพลังที่สมเด็จบรมครูท่านปิด,ขวาง,กั้นผลของการกระทำที่ส่งผลร้ายมายังปัจจุบันก็ดีหรือในอนาคตก็ดีทั้งคราวเคราะห์ก็ดี..บาปอกุศลก็ดีปิดไว้ไม่ให้ผ่านเข้ามา..บังไว้ให้พ้นจากตัวเรา จะเห็นได้ว่าแม้พ่ออาจารย์ท่านใช้วิชาพระเจ้าบังกรรมนี้กับใครก็ตามเมื่อท่านพิจารณาแล้วว่าเขาไม่ผิดหรือยังไม่เหมาะแก่กาลเวลาถึงมีโทษานุโทษด้วยอาญาของแผ่นดินแต่ก็แคล้วคลาดหลุดรอดไปได้ทุกครั้ง หลายๆครั้งที่หลายๆคนไม่ว่าเจ้านาย หรือนักธุรกิจใหญ่ตลอดจนนักการเมืองหรือคนที่เกิดอาเพศกลัววาสนาหมด ทั้งหวาดสะดุ้งและกลัวภัยในวัฏสงสารด้วยวาระกรรมที่เกิดปรากฏลางร้ายนานัปการสามารถมีชีวิตแบบปรกติสุขมีชีวิตที่ไม่ล้มไม่สะดุดได้ก็เพราะพ่ออาจารย์ท่านใช้วิชานี้ ในหนนี้ท่านจึงได้นำวิชาพระเจ้าบังกรรมมาลงไว้พร้อมกับผงพุทธอโหสิกรรมเพื่อให้มีอานุภาพสงเคราะห์สูงสุดและเป็นการปิดตำนานวิชานี้อย่างแท้จริง ท่านว่าทำเยอะไปก็จะไม่ดีทำให้หนเดียววิชานี้ให้จบเท่านี้ใครเขามีวาสนามีบุญเกื้อหนุนกันเขาคว้าได้ก็จะคว้าเอาไว้เอง

พ่ออาจารย์ท่านได้กดพิมพ์องค์พระพร้อมกับใช้น้ำผุดคือน้ำทิพย์ที่ผุดขึ้นในเศียรพระเจ้าในพระพุทธบาทและสถานที่อาถรรพ์สำคัญต่างๆมานวดเนื้อพระตอนท่านผสมสูตรเพื่อจะกดพิมพ์

### นี่คือปฐมบทแห่งพระพิมพ์ แต่ด้วยพ่ออาจารย์ท่านล่วงรู้ว่าในภายหน้าคนจะเป็นหนี้สินล้นพ้นมือยากจะไถ่ถอนภาระตนในวาระนั้นท่านจึงได้นำมวลสารมาเข้ากับผงวิเศษสำคัญอีกชนิดหนึ่ง..สร้างพระเคลียร์ทาง..ปลดหนี้..ทวงหนี้ไว้ด้วย ท่านว่าชีวิตใครที่มัวแต่แก้ไขปัญหายิ่งแก้ก็ยิ่งมีปัญหาเพิ่ม พอเจอปัญหาก็แสวงหาแนวทางแก้กันไปพอแก้ไปก็ได้ดีแค่เสมอตัวสุดท้ายก็เจอปัญหาให้มานั่งแก้ใหม่อีกต้องแก้ไขซ้ำซากเป็นวงจรชีวิตไม่จบสิ้นซักที ต้องมานั่งกลุ้มนั่งแก้บ่อยๆเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดแค่เสมอตัวไม่ใช่แก้แล้วหักจบประสบโชคพบเจอชัยชนะและความสำเร็จเลยแบบชีวิตคนอื่นเขา ท่านว่าตรงนี้สำคัญมันจะแก้ได้อย่างไรก็เพราะทุกสิ่งนั้นเป็นกรรม ยิ่งแก้มีแต่ยิ่งวุ่นวายนอกจากใช้วิชาพุทธอโหสิกรรมนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าข้างบนเขาไม่ให้เราพูดมากเราบอกได้แค่ว่าเอาไปใช้เถิดอาราธนาท่านและคุณวิชาให้ดี ชีวิตเธอจะเหมือนมีเสด็จพระใหญ่ท่านเดินนำทางจูงมือเธอก้าวข้ามทางแห่งภพไปด้วยกันทีเดียวในหนทางอันทอดยาวนี้จะไม่โดดเดี่ยวหรือเดินผิดทางอีกต่อไป

พระพิมพ์ชุดผงเคลียร์ทาง,ปลดหนี้,ทวงหนี้
ด้วยพ่ออาจารย์ท่านเล็งเห็นว่าคนทำมาหากินทุกๆอาชีพช่วงนี้บ่นกันอุบว่าหาตังค์ยากลำบากนักหนา ลืมตาอ้าปากไม่ขึ้นหายใจไม่ออกเลยไม่ว่าจะคิดจะลองหรือกระดิกตัวไปทำมาหากินอะไรก็ติดขัดกันหมดขัดสนเงินทองจะอยู่จะกินก็ฝืดหาก็ไม่คล่องแล้ว เนื่องด้วยสภาวะพิษเศรษฐกิจที่ตกต่ำรุนแรงขึ้นหลายคนที่ทำธุรกิจไม่ค่อยเฟื่องฟูการงานไม่ก้าวหน้า,ไม่กระเตื้อง ยิ่งการเงินนี่ยิ่งไม่กระดิกเลย บางคนก็หาทางออกด้วยการกู้หนี้ยืมสินเขามาเลยกลายเป็นวัฏจักรของคนเป็นหนี้เพราะไม่สามารถชำระหรือปลดหนี้ได้ถาวรปัญหานี้จึงเหมือนเรื่องซ้ำเติมให้คนไร้ทางออกยิ่งขึ้นไปอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าในห้วงวัฏจักรนี้ไม่มีสิ่งใดหรืออะไรก็ดีจะยากเกินไปกว่าที่อำนาจพระพุทธานุภาจะบันดาลให้เป็นไปซ้ำเมื่อกุศลกรรมก่อเกิดกรรมให้คุณตอบสนอง ผลดีก็ย่อมประคับประคองชีวิตคนที่ล้มไปแล้วให้ลุกขึ้นมาโดยง่ายเมื่อเราใช้ทั้งพระพุทธานุภาพและกุศลกรรมเข้ามาเสริมส่งชีวิต ทั้งสองสิ่งนี้ย่อมอุดรอยรั่วและนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท่านว่านี่ถึงจะไปห้ามก็ห้ามไม่อยู่แล้วนะคนมันจะได้ดีจะเจริญใครก็ห้ามไม่อยู่มันแตกต่างกับชีวิตผีซ้ำด้ามพลอยในตอนแรกขนาดนั้น ท่านว่าในส่วนของการอาราธนาให้พระพุทธานุภาพสงเคราะห์ท่านจะขอครูพระพุทธทุกพระองค์อาราธนาให้ท่านช่วยกันทำให้เอง ส่วนในเรื่องกุศลกรรมอันนี้ก็เร่งประกอบกันให้ดีเถิดผลบุญนั้นเมื่อเจอกับพระพุทธานุภาพย่อมให้ผลแรงทันตาสำเร็จทันใจเช่นนี้

วิชานี้เป็นของครูพรหมเอาไว้ใช้เรียกเงินทองให้เหล่าคนที่ชีวิตมีปัญหา,ติดขัด,ฝืดเคือง จะได้มีของดีไว้บูชาให้พระพุทธานุภาพ,คุณเทพ,คุณพรหมได้สงเคราะห์ ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาดูดทรัพย์ทั้งยังเปลี่ยนโชคของคนได้ช่วยให้รับวาสนาเงินทองเปลี่ยนชีวิตให้รับแต่เงินแต่ทองต้องไปข้องเกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆหากแต่ไม่ไหลออกมีแต่ไหลเข้ามา นี่คือเกี่ยวโชค,ดูดลาภบันดาลให้ผลสำเร็จในชีวิตเกิดขึ้นโดยพลัน ท่านว่าพูดกันเข้าใจง่ายๆเลยก็คือรวยเร็วกว่าคนอื่นๆในแวดวงที่ทำมาหากินเหมือนกัน ท่านให้พ่ออาจารย์ท่านลบผงดูดทรัพย์,ผงหัวใจพระสิวลี,ผงทศชาติเงินไม่ขาด,ผงมหาเศรษฐี,ผงปลดหนี้,ผงวิชาเจ้าสัวใหญ่,ผงมหาลาภ,ผงมหาทรัพย์,ผงจับลาภจับเงินจับทอง,ผงดวงเศรษฐีใหญ่ ผงเหล่านี้พ่ออาจารย์ลบถมยันต์เองตามฤกษ์ยามมงคลปลุกเสกผงนี้อยู่นานถึงสองปีก่อนที่จะนำมาสร้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้แต่เดิมก็สำเร็จด้วยพระพุทธานุภาพอยู่แล้ว เมื่อนำมาสร้างพระพิมพ์ที่มีอาถรรพ์มากเช่นนี้จึงจะลงตัวมีคุณค่ามากพอที่จะอุดรอยรั่วปิดช่องโหว่ชีวิตคนได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาทำผงเหล่านี้เสด็จพระใหญ่ท่านมาเสกให้หลายรอบผงนี้จึงมีพุทธคุณมากแม้เพียงเศษผงก็เปลี่ยนชีวิตคนได้ฉันเคยเอามาใส่ซองพลาสติกให้คนลองพกดู ช่วงนั้นใครได้ผงไปก็ได้ดิบได้ดีมีอันจะกินกันถ้วนหน้าท่านจึงมั่นใจในอิทธิคุณผงวิเศษชุดนี้ท่านว่าใครใช้ก็ไม่เห็นจะลำบากเลยสักคนมีแต่บอกว่าสบายขึ้น บางคนบอกว่างานเยอะจนทำไม่ทันทำไม่ไหวที่ท้อถึงขนาดบอกว่าไม่ไหวแล้วเบื่อแล้วงานขนาดนี้ไม่มีเวลาให้พักเลยไม่เคยเจอะเคยเจอมาก่อนก็ยังเกิดขึ้นได้ คนที่ได้เลื่อนขั้นได้ก้าวหน้าก็มีอยู่มากท่านว่าหนนี้ท่านจึงใช้ผงชุดนี้เพื่อให้โอกาสคนที่ท้อถอยได้มีโอกาสเปิดดวงเข้าถึงโชคลาภแลสมบัติทั้งหลายจะได้จับได้ใช้โชคและลาภเหล่านั้น

"ใครเป็นหนี้จะได้หมดหนี้อยากได้ดิบได้ดีมีความเจริญ อยากให้งานที่ทำก้าวหน้าลงทุนอะไรได้กำไรไม่ขาดทุนชีวิตมั่งคั่งอยู่เป็นสุขจะนั่งจะนอนล้วนเป็นสุขไม่ทุกข์สาหัส พ่ออาจารย์ท่านว่าอยากเปิดดวงอยากปลดหนี้ก็ให้เอาผงชุดนี้ไปใช้แต่เมื่อใช้เมื่อถืออาราธนาแล้วต้องตั้งหน้าตั้งตาตั้งใจทำมาหากินด้วยนะ อย่าคร้านอย่าขี้เกียจเทวดาครูบาอาจารย์ท่านไม่ชอบถ้าคิดว่าใช้แล้วจะนั่งๆนอนๆไม่ทำอะไรเช่นนี้อย่าเอาไปเลย แต่ถ้าใครอยากงานเข้า..มีงานมาก..มีความก้าวหน้าในอาชีพนั่นแหละจึงจะควรอาราธนาให้สิ่งดีๆเข้ามาไม่ขาดไม่ช้าเลย"

ท่านว่าเป็นสุดยอดของผงให้เอาไปใช้ในทางมหาลาภ,โภคสมบัติ,ปลดหนี้ปลดสินอย่างแท้จริง ท่านจึงเอาผงเหล่านี้มาโขลกรวมกับผงที่เกิดจากพระธาตุของพระสีวลีพระอรหันต์ที่มีลาภหนักมากเป็นมวลสารหลัก จากนั้นจึงใช้ผงที่ให้คุณทางโภคทรัพย์ของครูบาอาจารย์ที่เคยมอบให้ท่านไว้และผงที่พระอรหันต์หรือเทวดาได้ทำไว้เพื่อรอโอกาสสงเคราะห์คนซึ่งท่านเจอตามถ้ำตามป่าเขาเอามาโขลกผสมรวมกัน *** ท่านว่าสูตรทำผงนี้ให้ลาภหนักมากเรื่องเอาไปแล้วจะใช้ปลดหนี้นั้นย่อมเป็นไปได้อย่างแน่นอน เพราะผงนี้อยู่ที่ไหนที่นั่นจะอุดมสมบูรณ์บริบูรณ์ถึงพร้อมด้วยปัจจัยสี่ได้โชค,ได้ลาภ,ได้ลาภลอย คนที่เคยใช้ที่เป็นหนี้สองเดือนปลดหนี้ได้แล้วก็มีชีวิตหมดหนี้หมดสินกันเลย พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจว่าอยากจะให้คนที่บูชาเป็นคนที่อุดมสมบูรณ์ทำอะไรไปทางไหนก็มีหนทาง มีคนหยิบยื่นน้ำใจและความช่วยเหลือมีเงินทองติดตัวสะสมทรัพย์ได้ มีฐานะมีอันจะกินเพิ่มพูนขึ้นตามลำดับขั้นให้หนี้สินบางเบามีทางทางออก ให้หนทางแห่งเหตุและที่มาของทรัพย์นั้นงอกเงยเก็บเงินอยู่ตลอดเวลาที่ยังเป็นสัมมาทิฏฐิยังไหว้พระยังนึกถึงพระพุทธเจ้าอยู่ผงอิทธิคุณนี้ย่อมช่วยได้ไม่มีประมาณ

ด้านหลังท่านลงตะกรุดตัวครูมหากวักบาตรสัมฤทธิ์ (ฝังไว้เป็นกรณีพิเศษ)
"ตะกรุดตัวนี้เป็นตะกรุดทิพย์นะ"
วิชาทำตะกรุดคุณพระมาโปรดนี่พ่ออาจารย์ท่านว่าลึกซึ้งอย่างมาก เพราะกว่าจะทำได้แต่ละแผ่นไม่ใช่แค่ลงจารแล้วเสกเท่านั้นก็จะเสร็จ หากแต่ยังมีเคล็ดต่างๆอีกมากที่ต้องทำให้ตรงตามครูสั่ง ท่านว่านอกครูไม่ได้เลยดังนั้นตะกรุดนี้จึงพูดได้แต่เพียงกว่ากว่าจะม้วนได้นั้นยากนัก ตะกรุดคุณพระมาโปรดนี้ทำได้ยากนักพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นของคุณพระ สมเด็จองค์ปฐมท่านให้พ่ออาจารย์ลงจารแผ่นทำสะสมไว้ด้วยอาศัยพุทธกิจที่ทรงบำเพ็ญอยู่ทั้งห้าอย่าง ซึ่งเป็นกิจวัตรหลักของพระพุทธเจ้าทุกองค์ที่ทรงทำอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืนให้เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ด้วยพระพุทธเจ้าทุกพระองค์นั้นทรงสำเร็จกิจส่วนพระองค์นั่นคือมีอัตตหิตประโยชน์หรือประโยชน์ของพระองค์เองเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ดีแล้วหลังจากบรรลุพระโพธิญาณตัดสิ้นอาสวะกิเลสให้หายขาดไป เช่นนั้นท่านจึงใส่ใจในประโยชน์ของชาวโลกเพื่อสร้างสันติสุขให้บังเกิดขึ้นกับโลกด้วยการนำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นจากทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน เช่นนี้จึงถือเป็นพุทธกิจที่พระองค์จะโปรดเวไนยสัตว์ทั้งหลายบางทีก็เสด็จโดยปกติแต่บางทีก็ทรงกระทำปาฏิหาริย์แตกต่างกันไปเพื่อเจริญศรัทธาแก่สาธุชนทั้งหลาย ด้วยพระพุทธเจ้าทุกพระองค์นั้นจะทรงใช้ทิพย์จักษุสอดส่องทั้งหมื่นโลกธาตุแผ่ข่ายพระญาณออกไปตรวจดูสรรพสัตว์ที่มีบุญญาธิการได้สร้างสมคุณงามความดีไว้ดีแล้ว ท่านจะดูว่ามีบุญมากพอที่จะบรรลุธรรมาภิสมัยหรือไม่อย่างไร หากมีวาสนาแล้วแม้อยู่ไกลเพียงใดแม้อยู่ต่างภพ,ภูมิหรือมิติพระองค์ก็จะเสด็จไปโปรดไม่เลือกย่อท้อต่อระยะทางไกลใกล้นั้นเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดคุณพระมาโปรดนี้ก็เช่นกันเป็นตะกรุดที่จะมีไว้ใช้กันเฉพาะผู้ที่ถูกเลือกสรรค์เท่านั้นให้คุณพระท่านโปรดท่านสงเคราะห์ให้มีโอกาสได้รับความสุขได้รับกุศลกรรมตอบแทนความยากลำบากไม่เลือกว่าจะเป็นวิธีธรรมดาหรือว่าได้มาโดยปาฏิหาริย์ ดั่งพุทธกิจแห่งองค์พระตถาคตเจ้าที่ต้องการจะช่วยเหลือทุกๆคนโดยไม่ย่อท้อ

พ่ออาจารย์ลงวิชาบาตรสัมฤทธิ์เอาไว้ท่านว่ามีวิชาบาตรนี้คิดทำสิ่งใดก็สัมฤทธิ์ผล ดั่งที่ทราบกันดีแล้วว่าบาตรนั้นเป็นของใช้ส่วนตัวสำหรับพระภิกษุและพระภิกษุทั้งหลายก็ได้รับการอบรมสืบต่อกันมาให้ดูแลรักษาบาตรที่ใช้นั้นเป็นอย่างดี เรียกว่าบาตรของตนก็ต้องรักษาให้ดีที่สุดด้วยคตินับแต่โบราณที่นิยมรักษาสืบทอดกันมาว่าพระหนึ่งรูปจะมีบาตรได้เพียงหนึ่งใบเท่านั้น
ดังนั้นวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้จึงเป็นวิชาเปิดบาตรเปิดทางความอุดมสมบูรณ์ทั้งทรัพย์สินเงินทองสิ่งก่อสร้างทั้งหลายให้พรั่งพร้อมด้วยจตุปัจจัย ดุจได้รับลาภสักการะมากมายทั้งจากมนุษย์และเทวดาไม่รู้จบสิ้นทั้งการบิณฑบาตรนี้ก็เป็นทั้งพุทธประเพณีที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงทำสืบทอดกันมาตลอดแม้ในพระภิกษุก็รับประเพณีนี้สืบต่อกันมา สมเด็จองค์ปฐมท่านจึงแนะนำพ่ออาจารย์ว่า "บาตรนั้นเป็นเครื่องมือสำหรับโปรดสัตว์วิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้ก็เช่นกัน เป็นวิชาที่จะใช้โปรดสัตว์ทั้งหลายให้แปรเปลี่ยนไปสู่หนทางที่ดี" แม้ในบางบุคคลที่มีกรรมอันแก้ได้ยาก..มีกรรมหนักอันรุนแรง ท่านว่าคนเหล่านี้ก็ต้องอาศัยวิชาบาตรสัมฤทธิ์ช่วยแก้ไขด้วยบาตรนั้นใช้โปรดเวไนยสัตว์ ดังนั้นสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายเมื่อมาอยู่ในบาตรนี้ย่อมแปรเปลี่ยนเป็นของดีทั้งสิ้น ใครที่ชีวิตมีเรื่องรบกวนรุมเร้ามากก็ให้อธิษฐานเอาเรื่องและความกังวลทั้งหลายใส่ลงในวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี่เสียท่านว่าสิ่งที่ไม่ดีคุณพระท่านก็เปลี่ยนให้ดีได้แม้พกเอาไว้เฉยๆก็ยังแก้ชงเปลี่ยนปัญหาชีวิตให้เจอแต่ความสุขได้

ทั้งวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้ยังช่วยแก้ไขแม้แต่อาถรรพ์ต่างๆทั้งในตัวเองและรอบๆตัวได้ ท่านว่าไม่เพียงแต่แก้อาถรรพ์แก้ชงเท่านั้นต่อให้ใครถูกผีเข้าเจ้าสิงเอาตะกรุดนี้ไปสวมคอเถิดดุจเธอเอาบาตรสัมฤทธิ์ไปครอบหัวเขาอย่างนั้น ดังนั้นนี่จึงเป็นวิชาแก้ปมอาถรรพ์ทุกสิ่งในทางกลับกันตัวเธอที่สวมตะกรุดนี้ก็จะมีกำลังใจสูงขึ้นนั่นเพราะอะไร *** พ่ออาจารย์ท่านว่าคนมีไหวพริบเขาจะรู้ทันทีว่าเวลาแรงครูประสิทธิ์ประสาทชัยมงคลนั้นเป็นอย่างไร เพราะวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้หากเธอนำมาคล้องคอก็เท่ากับว่าเธอเอาบาตรครอบหัวดุจครอบครูอยู่ตลอดเวลาเช่นนั้น ด้วยบาตรเป็นสิ่งที่ใช้รับความอุดมสมบูรณ์ทั้งหลาย เป็นสิ่งที่พระใช้ฉันกันทั้งเช้าทั้งเพลเช่นนั้นจึงถือว่าเป็นสุดยอดโภคทรัพย์ชักนำให้แรงครูหนุนเป็นมหาเศรษฐี ดุจดั่งชีวิตของพระที่ทั้งชีวิตมีบาตรเพียงใบเดียวตั้งแต่บวชจนมรณะภาพก็ใช้เพียงบาตรนั้นเลี้ยงชีพ ใส่ทั้งข้าวปลาอาหารใส่ทั้งปัจจัยต่างๆใส่สารพัดตลอดชีวิตก็ไม่เคยเต็มซักที สมเด็จองค์ปฐมท่านว่าวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้ดุจเสกบาตรแห่งพระตถาคตเจ้ามีคุณอนันต์ดุจว่าบาตรใบเดียวใช้เลี้ยงได้ทั้งวัด เช่นนั้นเรื่องอื่นจึงนับไม่เป็นอันใด พ่ออาจารย์ท่านว่าลำพังชีวิตเราครอบครัวเราใช้เพียงวิชาบาตรนี้ก้หาเลี้ยงได้บริบูรณ์ทั้งสิ้น

วิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้ดีอย่างไรวิเศษแค่ไหนพ่ออาจารย์ท่านว่าหากไม่มีบาตรความอุดมสมบูรณ์และโภคทรัพย์ต่างๆย่อมไม่ต่างจากสิ่งว่างเปล่าเพราะไม่มีสิ่งใดจะมีฤทธิ์มารองรับสิ่งเหล่านี้ได้ดีกว่าวิชาบาตรสัมฤทธิ์ ไม่มีบาตรทุกสิ่งย่อมคว่ำตกหกคะเมนสูญหายไปในอากาศ เช่นนั้นวิชานี้จึงวิเศษทางโปรดสัตว์,โปรดชีวิต เป็นตัวช่วยชั้นครูที่จะหนุนเราโปรดเราให้มีกินมีใช้ไม่รู้จบสิ้น โปรดให้เกิดโภคทรัพย์มหาศาลดั่งปาฏิหาริย์ที่ได้รับจากการสร้างกุศลกรรม..ทั้งเรียกหา..ทั้งเร่งให้มา..ทั้งรองรับความพรั่งพร้อมในจตุปัจจัยทั้งหลายมากมายสุดจะประมาณดั่งบาตรสัมฤทธิ์ที่เลี้ยงคนได้ทั้งชีวิตแม้ใส่เท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็มเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหลักๆนะพูดสั้นๆเลยคือเหลือกินเหลือใช้ ตะกรุดรุ่นนี้ที่ว่าทำยากเพราะพ่ออาจารย์ท่านทำคนเดียวไม่ได้ด้วยสมเด็จองค์ปฐมท่านให้เคล็ดและวิธีการสร้างนอกจากการลงจารคาถาวิธีกำหนดจิตต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าพอรู้ปุ๊ปก็รู้เลยว่าตะกรุดแบบนี้ท่านกะจะให้ทำครั้งเดียวแน่ๆเพราะกว่าจะได้แต่ละดอกนั้นไม่ง่ายเลย ฉันต้องลงจารและเสกแผ่นตะกรุดจนสำเร็จก่อนจากนั้นก็ให้พระที่มาเรียนวิชาฝากท่านไป บอกว่าทุกเช้าให้เอาแผ่นยันต์พระคาถานี้หนึ่งแผ่นใส่ไว้ก้นบาตรก่อนออกไปบิณฑบาตร ให้ทำเช่นนี้เรื่อยๆไปวันละแผ่นและต้องทำทุกแผ่นเป็นเคล็ดที่ว่าพระออกบิณฑบาตรนั้นคือการโปรดสัตว์ท่านว่าตะกรุดนี้อยู่ในบาตรก็เช่นกัน นั่นคือออกไปโปรดสัตว์จริงๆพอพระเปิดบาตรทีก็ได้อาหารบิณฑบาตรทันทีพ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือการโปรดสัตว์เปิดทางโชคลาภต้องทำอยู่เป็นเดือนวันละแผ่นกว่าจะได้ครบ ท่านที่มาเรียนยังพูดติดตลกว่าไม่รู้ครึ้มอกครึ้มใจอะไรเอาแผ่นยันต์ของพ่อครูรองก้นบาตรญาติโยมใส่กันพูนบาตรเต็มย่ามทุกวัน แม้แต่รถที่ขับผ่านไปแล้วยังจอดลงมาใส่แถมได้ถังสังฆทานมาอีกวันละใบสองใบเป็นเช่นนี้อยู่ทั้งเดือน ท่านว่าต้องรีบบิณรีบกลับวัดเพราะไม่มีมือจะหิ้วเดินออกไปนิดเดียวก็เต็มแล้ว นอกจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแค่โปรดสัตว์รับบาตรนั้นยังใช้ไม่ได้เพราะกว่าจะสำเร็จได้ม้วนตะกรุดกันนั้น สมเด็จองค์ปฐมท่านให้ทำตามเคล็ดของท่านทุกอย่างทีเดียวเราก็ขอให้พระรูปเดิมท่านช่วยเอาแผ่นยันต์นี้อีกหนหนึ่งไปวางไว้ใต้ผ้ารับประเคน ท่านว่ากางผ้ารับประเคนแล้วสอดแผ่นยันต์นี้ไว้ด้านใต้ให้ทำเช่นนี้วันละแผ่นเวียนไปจนครบแม้ตัวท่านไม่อยู่หน้ากุฏิก็ยังวางทิ้งไว้เช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าคุณพระรูปนั้นท่านดีใจใหญ่เลยท่านว่าพ่อครูทำยันต์อะไรสอนผมบ้างเพราะพอสอดแผ่นยันต์ไว้ใต้ผ้าวันๆนึงเหมือนเรามีเครื่องเรียกลาภสักการะเลย ขนาดตัวผมไม่อยู่วางผ้ารับประเคนไว้เฉยๆกลับมาเห็นยังมีปัจจัยวางไว้บ้าง,มีน้ำปานะบ้าง ท่านว่ามีแม้แต่เครื่องชงกาแฟไม่รู้ว่าใครเขาแห่กันเอามาถวายได้ทุกวัน บางวันคิดๆว่าเราขาดสิ่งใดอยู่ดีๆก็มีคนเอามาให้เป็นแบบนี้อยู่ทั้งเดือนปกติพระไม่อยู่โยมเขาก็กลับแต่ตั้งแต่วางแผ่นยันต์ไว้ใต้ผ้ารับประเคนก็เจอแต่เรื่องแปลกๆทุกวันเต็มไปหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าผ้ารับประเคนนี้เป็นเคล็ดที่เสด็จพระใหญ่ท่านให้ทำเพราะเป็นผ้าที่มีไว้แต่รับอย่างเดียว..รับ..รับ..รับและรับเข้าไม่มีไหลออก แม้ตัวเราอยู่เฉยๆกับที่ก็มีคนถ่อมาหา ถ่อมาให้เรารับมาประเคนให้ถึงมือมอบให้ถึงที่ เช่นนั้นวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้สมเด็จองค์ปฐมท่านจึงเจาะจงให้ทำอาถรรพ์กับผ้ารับประเคนทีละแผ่น ดุจวิชานี้เป็นสายใยที่จะเชื่อมชีวิตเข้ากับสมบัติต่างๆให้ความปรารถนาให้ทรัพย์สินและปัจจัยสี่ที่ต้องการวิ่งเข้ามาหาเราเอง ให้เราได้สิ่งที่อยากได้อย่างสะดวกสบายจะมีคนมาหามีทางมาให้เดินเป็นที่มาของการเพิ่มพูนความสุขตลอดไป

พระเคลียร์ทางปลดหนี้ชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากที่สุดเพราะต้องใช้ผงเฉพาะทางและตะกรุดที่กันอาถรรพ์คนจะเป็นหนี้ได้ทุกอย่างมาประกอบกันท่านทำเก็บไว้มานานและเปิดให้บูชาเพียงหนเดียวเท่านั้น

### ท่านว่าถ้าหนี้สาหัสรีบเร่งชักจูงดึงกลับหนึ่งองค์ต่อหนึ่งเรื่อง(ใครก่อร่างสร้างภาระไว้เยอะก็ต้องใช้หลายองค์หน่อยจะไวมาก เอาพระวางทับชื่อลูกหนี้ไว้)

### หากไม่มีหนี้สินใดๆอาราธนาห้อยคอตนได้จะประเสริฐทางลาภผลชีวิตต่อไปจะไม่เป็นหนี้ใครอีกตลอดชาติ

### ถ้าได้เลี่ยมให้คนในครอบครัวใส่ครบทุกคน พ่ออาจารย์ท่านว่าตัดปัญหาตามล้างตามเช็ดกันไปอีกทางหนึ่ง เพราะบางทีหนี้เราไม่ได้ก่อแต่คนรอบข้างก็สร้างมาให้เรา

### พ่ออาจารย์ท่านให้เปิดบูชาชุดนี้เพียงหนเดียวเท่านั้น..ท่านว่าคนที่เขามองการไกลมีปัญญามากเขาจะรู้ค่าและตั้งใจเก็บพระชุดนี้ไว้เพื่อตัวเองและคนในครอบครัวเขา

คาถาบูชา
อิเมเสถะพุทธจิตตัง มนุสสะจิตติสัญญาปะ อาทะยันตามะขิละปัถวีพุทธายะ ปะระยัตตังตุกาทาสุราเมมะริยะจี ขอเดชเดชะปฐมพุทธานุภาพดับสังวัฏฏิสงสาร ดับสารพัดทุกข์ โรคหายดับ เคราะห์หายดับ เสนียดจัญไรหายไป หนีสงสาร ข้ามสงสารด้วยมหาพุทธานุภาพ ทุกโขทุกขังวินาสสะยันติ ปฐมพุทธังอานุภาเวนะชัยยะมังคะลัง ปฐมพุทธะเมตตา สะทะปะโต อโหสิ อโหสิ อโหสิ สวาหะ

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง Pm เท่านั้น ท่านว่าถ้ารักตัวเองก็มานำไปใช้ หรือถ้าห่วงคนในครอบครัวไม่อยากเจอภาระที่ไม่ทันตั้งตัวก็เอาไปให้ครบทีเดียว เพราะของแบบนี้สร้างยากและไม่มีวาระทำอีกแน่นอนหากไม่ใช่ของเก่าที่ทำๆไว้เช่นนี้ก็เลิกพูดกัน

ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าบังกรรมวาสนานำพาข้ามโอฆะสงสาร(ชุดเคลียร์หนี้สิน,พระแก้จนปลดหนี้) บูชา 4,000 บาท

​

 

ใครทันชุดปลดหนี้หนนี้ถือว่าคุ้มมากเพราะเป็นพระมวลสารล้วนๆ(องค์พระแก่ผงจนเป็นสีเทาๆ) โดยปกติพ่ออาจารย์ท่านตั้งราคาไว้สี่พันเท่าทุกอย่าง แต่ท่านว่าถ้าจะให้คนมีหนี้ใช้ก็ให้ลดราคาลงก่อน ท่านจึงให้เปิดจองหลักร้อยเพียง 3 วัน ท่านว่าคนที่เขาทุกข์เพราะหนี้ก็ให้จองไปราคานี้ถือว่าวาสนานำพาให้มาทันเวลาพอดี หลังจากนี้ก็จะปรับราคาเป็นองค์ละสี่พันเท่าเดิมซึ่งเป็นราคาปกติ(เพราะท่านหวงผงชุดนนี้มากท่านว่าองค์หนึ่งๆแม้สลายไปเหลือธุลีผงอานุภาพก็ไม่ลดลงเลย)

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

ก็มีคนถามกันมาแต่เมื่อวานสี่ห้าท่านว่าเมื่อวานฤกษ์สุริยะคราสพ่ออาจารย์ท่านทำอะไรออกมั๊ย..รอกันนิดเรียกได้ว่าอย่างแรงขนหัวลุกเลย