ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวางแหพระเจ้าเหวี่ยงกวาดสังสารวัฏ พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อพระเจ้าสัวนวะโกฏิลิขิตวาสนามหาจักรพรรดิมังกร (แม่นางกวักโกยทรัพย์แม่นางรับนั่งนับเงิน)


    เรื่องของมังกรนั้น...เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเร้นลับอย่างมาก และมักจะไม่นิยมพูดถึงกันโดยละเอียด พ่ออาจารย์ท่านได้ให้วิทยาทานเกี่ยวกับมังกรไว้คร่าวๆ ดังนี้ ท่านว่ามังกรนั้นเป็นสัตว์เทพชั้นสูงที่เกิดขึ้นยาก และที่สำคัญคือเป็นชนชั้นปกครอง เรามักจะนิยมนำมาเปรียบเทียบและโมเมไปกับพญานาคฝั่งเรา ซึ่งเอาจริงๆแล้วท่านว่าคนละเรื่อง เพราะนาคนั้นมีประชากรมากกว่าเป็นโกฏิจนมิอาจประมาณได้แต่มังกรนั้นมีน้อยกว่านักและหากยิ่งนับชนชั้นปกครองหรือมังกรสูงสุดก็น้อยเสียว่านับได้ด้วยนิ้วมือ


    พ่ออาจารย์ท่านว่าการกำเนิดของมังกรนั้นมีหน้าที่ต่างๆกันมากมายเพราะเป็นสัตว์เทพที่พิเศษ ถ้าเกิดบนฟ้าก็จะเป็นมังกรฟ้าเป็นมังกรชั้นสูงสุด เป็นมังกรสวรรค์มีอานุภาพมาก ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างเง็กเซียนฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ครอบครองบัลลังค์สวรรค์ของมหายานนี่ก็เป็นมังกรฟ้าเช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีลำดับรองลงมาเช่นมังกรควบคุมมหาสมุทร และมังกรที่เกิดตามเขาตามป่าหรือในน้ำทั่วไปซึ่งจะพบเจอหรือหาได้ง่ายกว่ามังกรฟ้า แต่ถึงอย่างนั้นก็เรียกว่าแทบหาไม่เจอกันเลยทีเดียว โดยประเภทหลังนี่เองที่มักทำหน้าที่เป็นภูมิเทว รักษาพิทักษ์แผ่นดินหรือแม่น้ำสำคัญต่างๆ

    แม้ในมังกรระดับล่างสุด บางตัวนอกจากเป็นภูมิเทวา บางตัวก็ยังมีฐานะเป็นพระโพธิสัตว์อันมีภพชาติแน่นอน มีทั้งพุทธภูมิ สาวกภูมิ ซึ่งมังกรเหล่านี้แม้ในระดับล่างสุดเมื่อลงมาเกิดขึ้นก็จะเป็นใหญ่เหนือพื้นที่นั้นๆ พ่ออาจารรย์ท่านยกตัวอย่างเช่นหากในพื้นที่นั้นมีนาคราชทั้งหลายหรือกษัตริย์นาคาปกครองอยู่ก็จะโดนปกครองโดยมังกรนั้นอีกทีหนึ่ง ท่านว่านี่เราพูดถึงเพียงมังกรระดับล่างสุดเท่านั้นนะ

    เมื่อท่านตั้งใจจะสร้างพระไว้ใช้เองพร้อมกับให้คนที่มีบุญร่วมชาติทั้งหลายได้อาราธนาเอาไว้เปิดวาสนาของคน ท่านจึงได้รับนิมิตจากเสด็จพระใหญ่ให้ทำเป็นพระที่มีมังกรประทับอย่างเสียไม่ได้ เรียกว่าต้องทำให้ได้ ท่านจึงได้หล่อพระเจ้าสัวในรูปแบบของตัวท่านเองขึ้นมา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระเจ้าสัวนั้นเป็นเรื่องของเศรษฐี พูดกันง่ายๆก็คือพระที่ทำให้คนเป็นเจ้าสัวหรือเศรษฐีนั่นเอง แล้วพระจะทำให้คนเป็นเศรษฐีได้อย่างไร ตรงนี้ท่านว่ามันมีความหมายโดยนัยน์อยู่ลึกๆเกินกว่าที่คนจะเข้าใจได้ไปมากนัก แต่เมื่อท่านพิจารณาและอาราธนาเสด็จพระใหญ่แล้ว เมื่อพระพุทธเจ้าองค์ปฐมรับอาราธนาสร้างพระเจ้าสัวทั้งที ก็แปลว่าพระนี้ย่อมมีอานุภาพสร้างคนได้ นั่นคือสร้างคนให้เป็นเจ้าสัวได้ พ่ออาจารย์ท่านบอกไว้ตั้งแต่สมัยนั้นเลยว่าเจ้าสัวหล่อโบราณของเรานี้คนรับจะต้องเป็นเจ้าสัวทุกคนนะ แต่จะรวยมาก รวยน้อย ยังไงก็แล้วแต่มันต่างกันอยู่ตรงที่วาสนา แต่เอาว่าต้องรวย พ่ออาจารย์ท่านทำด้วยเจตนาที่ตั้งใจช่วยผู้ศรัทธาให้ลืมตาอ้าปากได้ แต่การสร้างพระเจ้าสัวที่จะใช้เปิดชะตาวาสนาคนนั้น ก็ยากมากเช่นกันเพราะท่านว่าที่เราเรียนมานั้นมันต้องใช้ชนวนอาถรรพ์ตำรับของเราจริงๆ เป็นชนวนที่จะสร้างคน เปลี่ยนคนจากยากจนให้เป็นเศรษฐี

    ท่านว่าพระเจ้าสัวนั้นจะต้องมีเชื้อ มีชาติ มีสัญญา มีอานุภาพที่เป็นของเจ้าสัวจริงๆ โดยตำราของท่านว่าจะทำของแรงๆที่มีอานุภาพเปลี่ยนคนสร้างคนได้ก็ต้องใช้ตะกั่วพันโกฏิของเจ้าสัวโบราณมาทำ ท่านว่าเรารวบรวมไว้ เอาแค่โกฏิเค้ามาเป็นสื่อเป็นชนวนให้ตรงตามตำราเท่านั้นไม่ได้มีกระดูกหรือมวลสารอาถรรพ์ใดๆ ท่านว่าลำพังโกฏินี่ก็อาถรรพ์มากพอแล้ว กว่าจะเจรจาจนได้มาต้องหาโกฏิใหม่ไปเปลี่ยนให้เค้า ซึ่งเศรษฐีทั้งเก้านี้ท่านว่าได้แก่

    - เศรษฐีคุณพระ เป็นถึงท่านเจ้าคุณมีทรัพย์สินและบริวารมาก คนใช้จะเจริญด้วยยศศักดิ์
    - เศรษฐีที่ดิน เป็นเจ้าของที่ดินมหาศาล คนใช้จะได้มีที่ดินทำกินมีบ้านช่องเป็นของตัวเอง
    - เศรษฐีพ่อค้าทอง เป็นเจ้าของร้านทองชื่อดัง ท่านว่าคนใช้จะได้จับเงินทองไม่ขาดมือทำมาหากินอะไรก็ซื้อง่ายขายคล่อง
    - เศรษฐีสวนส้ม สมัยก่อนใครมีสวนส้มยิ่งทำเป็นกิจการใหญ่โตส่งออกถือว่ารวย ท่านว่าคนใช้นั้นจะได้มีทรัพย์ ทรัพย์ที่มีจะได้ออกดอกออกผล
    - เศรษฐีนายหน้า มีวาสนาได้ด้วยการพูดจาติดต่อประสานงาน ท่านว่าจะได้เปิดและเพิ่มวาสนาคนใช้ให้ติดต่อสื่อสารเจรจางานใดๆก็สำเร็จร่ำรวย
    - เศรษฐีเจ้าปัญญา เป็นชีวิตที่เรียนเก่ง ได้ดีเพราะมีปัญญามาก สอบได้เป็นอันดับแรกของจังหวัด กลายเป็นเศรษฐีเพราะวาสนาบวกกับสติปัญญาที่สูงส่งเกินมนุษย์ ท่านว่าคนใช้จะได้มีปัญญา รู้ทันคำพูดและความคิดฉลาดหลักแหลม
    - เศรษฐีโรงบ่อน เป็นเจ้าของบ่อนพนันท่านว่าคนผู้นี้มีอำนาจ วาสนา บารมีครบถ้วน การจะเป็นเจ้าของบ่อนที่ท้าทายอำนาจรัฐได้ย่อมไม่ธรรมดา ท่านว่าคนใช้จะได้มีบารมีมากเช่นเดียวกัน
    - เศรษฐีเจ้าสำราญ เป็นคนที่ได้ดีเพราะแต่งเมีย เหมือนหนูตกถังข้าวสาร อยู่เฉยๆโชคลาภ ทรัพย์สิน ศฤงคาร ความสุขทุกประการก็มากองอยู่ตรงหน้าโดยไม่ต้องหาต้องลงแรงทำอะไร ท่านว่าคนใช้จะได้สะดวกสบายทำอะไรลื่นไหล ได้ลาภได้ทรัพย์กันง่ายๆ
    - เศรษฐีเหมืองแร่ แร่ธาตุทั้งหลายเป็นทรัพย์ในดินเป็นสิ่งที่เกิดที่งอกเงยตามธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้มีในดินทุกที่ การเป็นเศรษฐีเป็นเจ้าสัวเพราะทรัพย์สินที่เกิดที่งอกขึ้นเองในที่ดินตนนับว่าเป็นวาสนาแต่เดิม ท่านว่าทำอะไรจะได้งอกเงยและทรัพย์จะเกิดขึ้นได้เอง

    พระเจ้าสัวก็ต้องเกิดจากบารมีอันสั่งสมไว้นับชาติไม่ถ้วนของเหล่าเจ้าสัว จึงจะสำเร็จเป็นเจ้าสัวจริงๆ โดยท่านนำตะกั่วโกฏิเหล่านั้นมาหลอมรีดไล่เอาตะกันออกจนบริสุทธิ์ ก่อนจะนำมาลงถมด้วยยันต์สำคัญต่างๆดังนี้ ดวงประสูติ ดวงตรัสรู้ ดวงปรินิพพาน ยันต์พระพุทธเจ้าถอดรูป ยันต์พระพุทธเจ้าแปลงรูป ยันต์พระพุทธเจ้าแบ่งภาค ยันต์พระพุทธเจ้าเปล่งรัศมี ยันต์พระพุทธคุณ108 ยันต์มหาจักรพรรดิ ยันต์รัตนมาลา ยันต์มหาปราบ ยันต์มหาระงับ ยันต์คู่ชีวิต ยันต์ตารางเพชร ยันต์เฉลียวเพชร ยันต์เกราะเพชร

    จากนั้นท่านจึงแกะบล๊อคพิมพ์อย่างมีนัยยะสำคัญตามนิมิตเป็นสมเด็จพระสุคตเจ้าบรมครูประทับนั่งขัดสมาธิเพชรโดยเกี่ยวกระหวัดพันบริเวณขาเป็นเลข 8 หรือปาที่แปลว่าความเจริญก้าวหน้าไม่รู้จักจบสิ้น เป็นสัญลักษณ์โดยพุทธลักษณะอันแสดงออกมา พ่ออาจารย์ว่าเราจับแปดนี่มาเป็นช่วงพระเพลาโดยการตะแคงข้าง มันก็คือสัญลักษณ์อินฟินิตี้นั่นเอง เสด็จพระใหญ่ท่านต้องการให้ทำแบบนี้ มีนัยยะของสัญลักษณ์แฝงอยู่ หมายถึงพระเจ้าสัวรุ่นนี้คนใช้จะยิ่งรวยอย่างไม่รู้สิ้นรู้สุด โดยองค์พระเจ้าสัวนั้นเสด็จประทับเหนือบัลลังค์ศรีษะพญามังกรฟ้า

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนี้ถึงจะเป็นพระเจ้าสัวโดยแท้จริง ทั้งองค์พระที่เป็นเจ้าสัว เกิดจากมวลสารที่มีชีวิตและบารมีเก่าของเจ้าสัวซ้ำยังประทับเหนือมังกรฟ้าอันเป็นจักรพรรดิมังกร ท่านว่าทุกอย่าง ตั้งแต่ปั้นหุ่นเทียนทำบล้อก เสกชวนวมวลสาร การลงถม เททอง ปลุกเสก เบิกเนตรรอุดผงฝังมงคลศักดิ์สิทธิ์ ทุกอย่างทำในฤกษ์มหาเศรษฐีทั้งนั้นไม่ว่าจะเศรษฐีโยค ภูมิปาโลฤกษ์ เทวีฤกษ์ ไม่มีฤกษ์เสียหรืออวมงคลใดๆเลย ท่านว่าฤกษ์นี้สำคัญมาก นั่นก็เพราะจะทำให้เครื่องมงคลที่คนเอาไปถือเอาไปใช้มีปาฏิหาริย์มากตามไปด้วย ยิ่งท่านหล่อด้วยไฟเตโชกสิณพระนั้นจึงมีอิทธิฤทธิ์มากเป็นเงาตามตัว

    อันพระเจ้าสัวที่ประทับเหนือจักรพรรดิ์มังกรนี้สำคัญและมีคุณวิเศษอย่างไร ท่านว่าจะพูดถึงคุณวิเศษของมังกรฟ้าที่ท่านเชิญมาลงพระเจ้าสัวคร่าวๆแต่พอฟังได้ เพราะว่าท่านพูดมากไม่ได้ โดยท่านพูดเป็นคำแฝงไว้เพียงมังกรฟ้าตนนี้ก็คือเง็กเซียน มันพัวพันซับซ้อนเกินกว่าจะพูดถึงได้

    - มังกรฟ้ามีฤทธิ์มากกว่าสัตว์เทพทั้งหลาย หากให้เปรียบเทียบย่อมไม่ไกลกว่าพญาครุฑดึกดำบรรพ์
    - มังกรฟ้าเหินฟ้า เธอรู้มั๊ยคืออะไร ...นั่นคือมังกรฟ้าย่อมไม่มาแปดเปื้อนด้วยธุลีดินทั้งหลาย... เขาจะไม่ร่อนต่ำ ไม่ลงต่ำ ต่างจากมังกรทุกสายพันธุ์เช่นนั้น คนใช้ก็มีแต่จะสูงและสูงขึ้นไม่มีคำว่าเสมอตัวหรือตกต่ำ
    - มังกรเป็นสัตว์ที่สูงศักดิ์ การบูชามังกรนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่า "ย่อมนำความสูงศักดิ์และสิ่งที่สูงศักดิ์มาสู่ผู้คน"
    - มังกรฟ้าเป็นสัตว์มงคลสูงสุดเป็นราชาของทุกเผ่าพันธุ์ ย่อมนำมาถึงซึ่งความเจริญในอำนาจ วาสนา บารมีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    - มังกรคือจิตวิญญาณของการเปลี่ยนแปลงและฟื้นฟูให้ดีขึ้น คนจีนเชื่อและถือกันมาก พ่ออาจารย์ท่านว่ามังกรฟ้าของท่านนั้น ย่อมนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในหลายๆสิ่งอย่างของชีวิต พร้อมกับฟื้นฟูสิ่งที่เสียหายไปให้กลับมางอกงาม
    - มังกรมักจะช่วยส่งเสริมธุรกิจการค้าให้รุ่งเรืองโดยเฉพาะสำนักงานหรือร้านค้า แม้บุคคลธรรมดาก็ยังช่วยเรียกโชคลาภให้มาเยือนได้ไม่ขาดสาย
    - มังกรเป็นสัญลักษณ์ของการช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายพร้อมทั้งยังช่วยเพิ่มความเจริญรุ่งเรืองให้กับชีวิต
    - มังกรฟ้าเป็นตัวตนที่สื่อถึงอำนาจ การปกครอง การบังคับบัญชา ทุกสรรพสิ่ง
    - มังกรเป็นตัวแทนของความแข็งแกร่ง ความตั้งใจ ความพยายาม กล้าหาญ และอดทน
    - มังกรเป็นสัญลักษณ์นำโชคที่ดีต่อชีวิต พรั่งพร้อมด้วยอำนาจ บารมี ความมั่งคั่ง พลานามัยที่สมบูรณ์
    - มังกรฟ้าเป็นสัตว์ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาปราณี ชอบส่งมอบความสุขให้กับผู้ประพฤติดี
    - มังกรฟ้าสามารถสลายพลังปราณชี่พิฆาต และสามารถแก้ไขให้โชคชะตาดีขึ้นได้
    - มังกรฟ้ามีความสามารถที่จะดึงดูดสิ่งดีเข้ามาและผลักดันเรื่องเลวร้ายออกไป....

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพูดได้แค่คร่าวๆ หากจะถามหาคุณของมังกรฟ้านั้น เหมือนเราไปสอบถามสิ่งที่เป็นอนันต์กาล ย่อมไม่รู้จักจุดจบ จึงบอกได้เพียงเท่าที่ควรบอก ท่านว่าอันพระเจ้าสัวนวะโกฏิลิขิตวาสนามหาจักรพรรดิมังกรนี้แม้ผู้ใดได้พบเห็นนับว่าเป็นสิริมงคลอย่างมาก หากแม้นได้ครอบครองดุจคนผู้นั้นขี่หลังมังกรมีวาสนาดุจเทพเซียน ด้วยว่าแต่เก่าก่อนนั้นคนธรรมดาหาได้มีหวังที่จะจับต้องของใช้ซึ่งเป็นสิริมงคลสูงสุดเช่นนี้ อันมังกรฟ้าหรือมังกรห้าเล็บอันมีชาติกำเนิด ตบะ และวาสนาบารมีสูงสุดนั้น จำกัดไว้ใช้เพียงองค์พระจักรพรรดิ์เท่านั้น ยิ่งเป็นมังกรฟ้าที่เชิญและลงอาถรรพ์โดยพ่ออาจารย์แล้วนับได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์โดยแท้จริง ถึงกับท่านบอกเปรยเป็นนัยฯ์ๆว่า"ลิขิตวาสนามหาจักรพรรดิ์มังกร" สิ่งนี้ย่อมต้องแฝงความยิ่งใหญ่อย่างถึงที่สุดแน่นอนดุจเจ้าผู้ปกครองสวรรค์ จักรพรรดิ์ในหมู่ประชา

    ด้านหลังนั้นท่านว่าอุดด้วยผงตระกูลเศรษฐี ท่านว่าเราบอกไม่ได้นะว่าผงอะไร แต่พูดให้ฟังได้แค่คร่าวๆว่าผงนี้เราทำมาจากไม้สำคัญเป็นชนวนลบถมผงวิเศษ อันไม้สำคัญนี้เราก็ขอเขามา ด้วยตอนบวชมีโอกาสไปบ้านเศรษฐีท่านหนึ่ง เห็นไม้ยืนต้นมงคลนี้ว่ามีเทพอารักษ์สถิตย์อยู่จึงรู้ว่าไม่ใช่ของธรรมดา ได้มีโอกาสสอบถามคหบดีเจ้าของเรือน ท่านว่าแต่ก่อนนี่ล้มๆลุกๆอยู่เสมอ ยืนไม่ขึ้นตั้งตัวไม่ได้ จนหลวงปู่ที่ท่านนิพพานไปแล้วสั่งให้หาไม้มงคลมาปลูก โดยท่านได้เมตตาลงอักขระและให้น้ำมนต์มาผสมคอยรดต้นไม้นี้ พอต้นไม้เจริญก็น่าแปลก เรายิ่งเจริญ ยิ่งโต ยิ่งงอกงามขึ้น มากขึ้นๆตามต้นไม้นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ากฏของโลก ความศักดิ์สิทธิ์อจินไตยใดๆมันอธิบายได้ยาก เอาแค่ว่าไม้นี้นำมาทำเป็นผง เป็นไม้มงคลที่เปลี่ยนชีวิตเศรษฐี ทำเพื่อให้เติบโต ให้เจริญ ให้งอกงาม ท่านว่าของเช่นนี้ที่มีสิริ มีชะตา มีวาระจะได้เกื้อหนุนให้คนใช้เป็นเศรษฐีไม่ได้บังเกิดมีขึ้นโดยง่าย นอกจากนี้ด้านหลังยังได้ฝังเครื่องมงคลอีกสองชนิด ได้แก่

    - แม่นางกวักโกยทรัพย์ พ่ออาจารย์ท่านเมตตาหล่อแม่นางกวัดโดยยันต์เรียกทรัพย์เพื่อฝังพระเจ้าสัวโดยตรง ท่านว่าเรียกให้มาได้ ทรัพย์ทั้งหลาย กวักให้มาหา ให้ผ่านมา ให้เข้าตัว ให้เรามีโอกาสมากกว่าคนอื่นเขา ทั้งยังเป็นเมตตา มหานิยม คนเอ็นดูชมชอบครบถ้วนทุกประการ แต่เราทำไว้ให้พิเศษกว่าคราใด เพราะเป็นนางกวักที่ใช้กับเจ้าสัว ดังนั้นจึงเพิ่มวิชาที่ใช้เสกนางโกยลงไปด้วย ทั้งกวักทั่งโกยให้โชคลาภไม่ขาดสาย
    - แม่นางรับนั่งนับเงิน สิ่งนี้สำคัญ พ่ออาจารย์ท่านว่าบุญมีแต่กรรมบัง ชะตามาแต่วาสนาไม่ถึง เหตุการณ์เหล่านี้ทุกคนย่อมเคยเจอ หลายๆคนชีวิตเหมือนจะได้แต่ผ่านไป ที่จะเป็นของเรา มั่นใจมากแต่กลับไม่ได้รับ กลายเป็นของคนอื่น เมื่อท่านฝังแม่นางกวักแล้ว ท่านจึงลงยันต์นางรับหล่อเป็นแม่นางรับฝังไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าเราจะไม่พูดมาก สั้นๆเพียงคำเดียว นั่นคือ"อะไรที่กวักมาหรือผ่านมาจะได้รับไว้ได้ทั้งหมด" ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านเน้นมากคือทำเพื่อให้ได้รับ ได้รับโชคลาภ ได้รับสิ่งที่ปรารถนา ได้รับสิ่งที่อธิษฐาน ท่านว่าหากเหตุการณ์ทั้งหลายที่เราอยากได้ แต่มันเกิดกับคนอื่น คนรอบตัวไม่ใช่กับเรานั่นก็ป่วยการณ์ เพราะเรารับไม่ได้ แม่นางรับนั้นมีอิทธิคุณทางนี้ หากวาสนาใดที่เราขอเกินมือไป ท่านก็จะช่วยรับให้เพื่อมอบแก่เรา

    เคล็ดลับการบูชาพระเจ้าสัวนวะโกฏิลิขิตวาสนามหาจักรพรรดิมังกร ให้ได้ผลไวนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเคยแนะนำคนจนถูกรางวัลที่หนึ่งมาแล้ว ถ้าศรัทธาก็ทำตาม จะเจริญอย่างมาก ชีวิตจะเปลี่ยนผันในบัดดล
    - บริเวณปากของมังกรฟ้านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าให้หาพลอยสีประจำวันเกิด แต่ถ้าใครจำวันเกิดไม่ให้ใช้เพชรหรือพลอยขาวเม็ดเล็กๆมาติดไว้ แม้ใครที่จำวันเกิดได้ต้องการให้มังกรฟ้าเปล่งอานุภาพสูงสุดจะใช้เพชรหรือพลอยขาวก็ได้ แต่ถ้าหาไม่ได้ค่อยใช้พลอยประจำวันเกิดติดลงไป พ่ออาจารย์ว่าจะเปิดวาสนาตนได้ไวและเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะในปากมังกรนั้น จะเป็นที่เก็บแก้ววิเศษที่เกิดจากน้ำลายมังกร เป็นของศักดิ์สิทธิ์คู่กายมังกรฟ้าที่เรียกว่ามุกอัศนีบ้าง มุกจันทราบ้าง ซึ่งมุกนี้จะมีอำนาจดลบันดาลความอุดมสมบูรณ์ความเจริญงอกงามมาสู่คนใช้โดยตรง ท่านว่าเราทำให้ดีแล้วเรื่องเพียงเท่านี้อยากรวยต้องทำเอง ถือเป็นสัญญาที่เกิดขึ้นของเราคนใช้กับมังกรฟ้า นั่นคือเราคืนมุกจันทราใส่ไว้ในปากเขา เขาก็จะคายความสมบูรณ์และทำให้ชีวิตเรางอกงามด้วยอำนาจของสิ่งที่เรามอบให้ สิ่งนี่จำเป็นต้องทำด้วยตัวเอง

    พระเจ้าสัวนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้นานแล้ว ในภายหลังท่านจึงนำมาติดตะกรุดเศรษฐีเจริญทรัพย์ไว้ด้านหน้าองค์พระอีกทีหนึ่ง ท่านว่าดอกเล็กๆนี้เราลงนะไว้ถึงสามนะ คือนะเศรษฐี นะมั่งมี นะเงิน ก็ตรงตัวตามชื่อนะนั้นๆคือให้คนใช้เป็นเศรษฐีมั่งมีเงินทอง ดุจเป็นอำนาจที่ถ่ายทอดจากพระเจ้าสัวสู่พญามังกรมอบแก่เรา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าไปเบื้องหน้าคนจะอยู่กันลำบาก ท่านจึงอธิษฐานให้คนที่มีวาสนาผูกพันธ์กับมังกรฟ้ามารับเครื่องมงคลเขาไปสร้างตัวเปลี่ยนแปลงชีวิต โดยพระเจ้าสัวนี้ท่านหล่อไว้ทั้งหมดแปดองค์ แต่เหลือให้บูชาหกองค์เท่านั้นเพราะท่านได้ให้บูชาเปลี่ยนฐานะคนไปแล้วและต้องการเก็บไว้เองด้วยองค์หนึ่ง

    คาถาบูชา

    ธนังโภคัง ทุสะมะนิ ธนังโภคัง ทุสุมุนิ อุมิอะมิ มหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ เมกะมุอุ

    * พระเจ้าสัวที่เปิดจองทั้งหกองค์นั้น เปิดให้บูชาเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านที่บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย ท่านจะทำการเจิมพิเศษเปิดจิตวิญญาณมังกรฟ้าให้ รายได้ร่วมสมทบทุน ข้าวสาร อาหารแห้งที่จำเป็นให้แก่วัดทุรกันดารและโรงเรียนในชนบทที่ขาดแคลนต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อพระเจ้าสัวนวะโกฏิลิขิตวาสนามหาจักรพรรดิมังกร (แม่นางกวักโกยทรัพย์แม่นางรับนั่งนับเงิน) บูชา 4,000 บาท

    27849131_2142532452699831_213722579_n.jpg
    27951099_2142532466033163_1619810709_o.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา มหาตะกรุดนิพพานดับธาตุ(พระอนัตตาสูญเปล่า)

    วิชานี้ได้ชื่อว่ามีอานุภาพแรงจนพ่ออาจารย์ท่านเลิกเขียนเลิกทำไประยะหนึ่ง จึงเป็นสูตรการทำตะกรุดที่ท่านไม่ค่อยได้ทำให้ใครไว้ ทำให้หาโอกาสครอบครองยาก แม้จะหาดูก็ยังยาก

    ตะกรุดนี้สำคัญอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไมถึงชื่อว่านิพพานดับธาตุ เดิมทีตะกรุดนี้ท่านได้วิชามาจากองค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านว่า "วิชานี้ยุคพ่อยังไม่เคยทำไว้และพ่อจะให้เธอคนเดียวเอาไว้พิจารณาทำตามแต่พอเหมาะพอควร" ซึ่งวิชานี้ตัวหลวงพ่อเองท่านได้เรียนมาแต่องค์หลวงพ่อปาน

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านเรียนแล้วท่านก็รู้ถึงที่มาว่าเป็นวิชาขลังของคนโบราณที่จารึกใส่ลานทองคำรักษาไว้ในพระเจดีย์เพื่อต้องการสืบให้ถึงอนุชนรุ่นหลัง แต่ด้วยคุณของวิชาที่เป็นเอกเทศน์และแปลกประหลาดซ้ำมีอานุภาพรุนแรงจึงทำให้บูรพาจารย์ไม่ได้แตะต้องหรือทำขึ้นแต่อย่างใด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาชุดนี้เราลองสืบค้นดูแล้ว มีมูลมีเงื่อนเค้าไม่ใช่หลักลอย เพราะส่วนหนึ่งไปตรงกับตำราของเจ้าขรัวแสง วัดมณีชลขันธ์บูรพาจารย์ไสยเวทย์พุทธาคมองค์สำคัญของเจ้าประคุณสมเด็จ

    ด้วยยึดมั่นเสมอตามคำหลวงพ่อฤาษีว่าเมื่อจะทำให้พิจารณาตามแต่พอเหมาะพอควร ท่านมาดูความเปลี่ยนแปลงของสังคมและชีวิตคน สิ่งที่เลวร้ายแลมีภัยอันตรายนานาหลายรูปแบบหลายสิ่งไม่เคยเกิดไม่เคยอุบัติก็มีขึ้นมา ทั้งความแปรปรวนของธรรมชาติและภัยในอนาคตกาล ท่านจึงได้ลองทำขึ้นก่อนแต่ก็มีคนนำไปใช้ในลักษณะลบหลู่ครูบาอาจารย์ ด้วยใจไม่เชื่อ ไม่ได้ศรัทธาแต่อย่างใด ทำให้เกิดผลร้ายนานัปการเป็นวงกว้างตามอานุภาพของตะกรุด ท่านจึงหยุดลงหยุดจารไปพักหนึ่ง

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามหาตะกรุดนิพพานดับธาตุ ที่เราตั้งชื่ออย่างนี้เพราะว่ามีความหมายสำคัญ การดับของพระนิพพานคือดับสิ้นทุกสิ่งอย่าง สิ้นธาตุ สิ้นชาติ สิ้นอวิชชาบรรดามี เป็นการดับอย่างบริสุทธิ์ พูดเช่นนี้ก้คงพอจะเดาได้ ตะกรุดนี้มีคุณทางด้านดับทุกข์นี่เอง ใช้ได้ตั้งแต่ดับทุกข์ทางใจ ดับทุกข์ทางชาติ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ประเสริฐสุดถึงขั้นดับไปทั้งหมด บูรพาจารย์สรรเสริญนักว่าผู้บูชาจะมีพระนิพพานเป็นที่ไป

    ด้วยทุกข์ที่เกิดทางกายภาพทั้งหลายในภพปัจจุบันนั้นดับสูญอย่างสมบูรณ์ ซึ่งปัจจุบันนั้น ความทุกข์ของคนมีมาก ทั้งทุกข์กายภาพต่างๆ อันได้แก่ทุกข์ในหน้าที่ ทุกข์จากการงาน ทุกข์จากครอบครัว ทุกข์จากสังคม ทุกข์จากเพื่อนฝูง ทุกข์จากสามี บุตร ภริยา ทุกข์ทางใจ ทุกข์ในสุขภาพ ทุกข์ทางชนชั้น ทุกข์จากชาติกำเนิด ทุกข์จากรูปกาย ....ทุกข์แลเวทนาทั้งหลายบรรดามีล้วนแต่ ดับ สูญ ทั้งสิ้นจนกว่าจะเข้าถึงพระนิพพาน

    ท่านว่าเห็นหรือไม่ว่าบูรพาจารย์ท่านมีพระคุณอันประเสริฐ ท่านเป็นห่วงชนรุ่นหลังและไม่ได้ทิ้งไปไหนไกล แต่ว่าสำหรับคนบางประเภทที่จิตใจหม่นหมอง คอยคิดร้าย มุ่งร้าย ประทุษร้าย อาฆาต พยาบาท จองเวรผู้อื่นล้วนใช้ตะกรุดนี้ไม่ได้ เพราะตะกรุดนี้ก็ใช้ในทางดับสูญได้เช่นกัน ใช้ให้ศัตรู ให้คนที่เราปองร้าย ดับ สูญสิ้น มีอันเป็นไปก่อนเวลาอันสมควร พ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนี้ย่อมผิดกฏธรรมชาติอย่างร้ายแรง ตัวท่านเองพูดมากไม่ได้ ดังนั้นตะกรุดนี้จึงต้องระงับไว้ด้วยไม่ต้องการให้คนใจบาปนำวิชาอาคมไปทำให้เสื่อมเสีย พร้อมกับระลึกถึงคำสำคัญที่หลวงพ่อสั่ง นั่นคือพิจารณาตามแต่พอเหมาะพอควร

    ภายหลังหลายๆคนเริ่มถามหามหาสะท้อน หามนต์พระกาฬ หรือสิ่งอื่นๆว่ามีอะไรแรงกว่ามั๊ย พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาจริงๆตัวนี้แรงกว่ามนต์พระกาฬอีกนะ พวกมหาสะท้อนนี่ก็เป็นการสะท้อนสิ่งร้ายๆกลับไป ไม่ได้ช่วยดับตัวทุกข์ทางกายภาพถ้วนทุกประการให้กับชีวิตตน แต่ตัวนิพพานดับธาตุนี่มันดับทุกข์ที่เกิดขึ้นกับเราทุกอย่างเลย ซ้ำไม่ได้สะท้อนย้อนคืนสิ่งเลวร้าย แต่ใช้การดับสูญตอบสนองความเลวร้ายภัยพิบัติทั้งหลาย

    ท่านว่าจะพูดให้เห็นภาพ สมมติว่ามีคนปองร้ายเรา มีภัยธรรมชาติ มีสงครามมนุษย์หรือสงครามเทวดาที่ไหนก็แล้วแต่ เมื่อสิ่งอันได้ชื่อว่าเป็นภัย เป็นการเบียดเบียน เป็นสิ่งที่จะพรากความสุข พรากเราให้ไกลไปจากพระนิพพาน สิ่งเหล่านั้นแม้พุ่งและประดังเข้ามาถึงตัวเรา ด้วยอานุภาพตะกรุดที่ครอบตัวเราไว้ จะบันดาลดลให้สิ่งต่างๆบรรดามีทั้งหมดดับ สูญสิ้น สิ้นเชื้อ สิ้นอันตราย ท่านว่ามันดับแล้วสิ้นแล้ว เอาง่ายๆไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากชีวิตอันเป็นปกติสุขนั่นเอง

    ดังนั้นชีวิตใครที่ทุกข์มาก ไม่ว่าทุกข์จากอะไร ท่านว่ายิ่งอยู่นาน ยิ่งใช้ชีวิต ทำไมหนอมันถึงมีแต่ทุกข์ มีแต่ปัญหา ไม่สุข ไม่สบายเหมือนคนอื่นเขา ยิ่งอยู่ยิ่งสังเวชใจตน ตรงนี้ตัววิชานิพพานดับธาตุใช้ได้เลย

    พ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดวิเศษด้วยตะกั่วพุทธาคมอาถรรพ์หรือตะกั่วขอมโบราณพันปีที่หลอมรีด ท่านว่าเราทำครั้งนี้เพื่อสืบทอดวิชาของบูรพาจารย์ไม่ให้สูญไป แต่จะไม่ทำให้ใครชิบหายหรือว่าล้มตายลงอีก ท่านจึงขอบารมีเสด็จพระใหญ่คุมวิชาไว้ให้มีอานุภาพเป็นประโยชน์สูงสุดแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งจะได้ไม่เป็นบาปกรรมข้ามภพชาติต่อกัน ท่านว่าเอาไว้กันตัวแค่นั้นพอ แต่เราบอกแล้วว่าดีกว่าวิชาทำนองมหาสะท้อนหรือมนต์พระกาฬเหล่านั้น เพราะวิชานี้ส่งเสริมตัวเองโดยตรง ใครมีปัญญาจะพิจารณารู้ได้ทันที ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญถึงขนาดที่แม้พบแต่ไม่อาจถือครอบครองไว้เคารพบูชาได้นับว่าเสียชาติที่เกิดมาอย่างยิ่ง

    เมื่อลงตะกรุดเสกจนเต็มวิชา มีนิมิตเกิดขึ้นเป็นขั้นเป็นตอน ประกอบพิธีปลุกเสกจนแล้วเสร็จ ท่านว่าทำยากนะ เพราะต้องทำจนร้อนอาสน์พระอินทร์ ร้อนอาสน์องค์บรมพรหมทั้งหลาย ด้วยเป็นการเกิดขึ้นของสิ่งที่มีอานุภาพใหญ่ควรค่าแก่การลงมาสักการะบูชาไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้ ทั้งนี้ก่อนม้วนตะกรุดท่านยังได้เมตตาลงวิชาเอกที่ท่านไม่ค่อยนำมาใช้หรือทำให้ใครอีกสองชุดใส่แผ่นทองแดงพันไว้ด้วย นั่นคือวิชาระงับสงสาร วิชาหนีสงสาร

    อันวิชาทั้งสองนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อไม่มารวมกันก็แล้วไป แต่เมื่อมารวมกับนิพพานดับธาตุ มันจะส่งเสริมกัน อันนี้ก็ดับ อันนั้นก็ระงับไว้ อันนี้ก็หนีไกล มันส่งต่อกันเป็นทอดๆให้เราห่างไกลจากสิ่งที่เรรวนแปรปรวนในห้วงวัฏสงสาร ท่านว่าเอาเถอะทำไว้ให้ดีแล้วจะมีบุญรับหรือไม่ก็เป็นเรื่องของเขา บางคนทั้งชีวิตไม่อาจจะเห็นได้ บางคนเห็นก็เอาไม่ได้ เพราะตะกรุดนี่สำคัญมากนะ ใครไม่มีบุญพญามารท่านดลใจ ท่านครอบไว้หมด จะให้เกิดอคติความคิดปล่อยผ่านไปชั่วครั้งชั่วคราว ต้องมองข้ามและไม่อาจเห็นสาระสำคัญที่แฝงอยู่ภายใน

    ท่านว่าเราทำแค่ตามเหมาะตามควร ทำเพราะเห็นค่าแลอนุรักษ์ไว้โดยสร้างได้ทั้งหมดแปดดอก ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าคนใช้ควรติดตัวอย่าได้ห่าง อาราธนาทุกเช้าค่ำ เราลงมนต์กันเสื่อมไว้แล้ว ใช้ได้ไม่เสื่อม ถ้ารักษาดีอีกสองพันปีก็ยังไม่เสื่อม ขอแค่อย่าทำหายเท่านั้นพอ

    คาถาบูชา
    พุทธรัตนัง ธัมมะรัตนัง สังฆรัตนัง ขอเดชะแก้วทั้งสามประการอันเป็นประธานในโลกา ฝูงผีปีศาจราชฑูต ผีภูติผีพรายผีตายห่า สรรพสัตว์ทั้งหลายแม้มนุษย์ ครุฑ อินทร์แลพรหมมา มันผู้ใดคิดร้ายแก่ตัวข้า ขอเดชะพระอนัตตาให้สูญเปล่า สูญ มหาสูญ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีคุณอนันต์นะ เราพูดได้คร่าวๆก็พิจารณากันเอาเอง แต่จะทำให้ครั้งเดียวเพราะเสกยาก ทำทีต้องร้อนอาสน์ทั้งอินทร์พรหม ของแบบนี้รบกวนเทวดาไม่ควรทำบ่อยนัก แม้พญามารอันเป็นเทวราชโพธิสัตว์ยังต้องรักษาให้สืบทอดแก่ผู้ที่คู่ควร ก็เลยเอาแค่พอเหมาะพอควรตามหลวงพ่อท่านสั่งไว้

    * มหาตะกรุดนิพพานดับธาตุนี้ ให้บูชาเฉพาะทาง PM โดยท่านที่จองให้แจ้งชื่อและนามสกุลไว้ พ่ออาจารย์ท่านจะกำหนดอาการ เป่าคาถานิพพานธาตุ ให้ดับทุกข์เวทนาทั้งหลายอีกวาระหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนไถ่ชีวิตโคกระบือสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มหาตะกรุดนิพพานดับธาตุ(พระอนัตตาสูญเปล่า) บูชา 3,000 บาท


    968875_418384591607799_1190815453_n.jpg
    rjvxko.jpg
    1099885-44b62.jpg
    28052715_2144786632474413_982736048_n.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระสำเร็จองค์ธรรมธาดาเอกัมพรหมมา
    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างเครื่องมงคลบูชาครูองค์ธรรม หรือครูท้าวมหาพรหมธาดาไว้ตามสายวิชาพรหมศาสตร์ ซึ่งองค์ธรรมธาดานั้นท่านว่าจะแตกต่างจากพรหมอื่นๆ เพราะเป็นพรหมที่เป็นพระผู้เป็นเจ้า หรือเป็นพระบรมบิดาแห่งปวงเทพของศาสนาพราหมณ์ ได้รับการบูชาและดำรงค์อยู่ในความเชื่อของมนุษยชาติมานานนับหลายพันปี ในฐานะพรหมที่มีอำนาจในการสร้างสรรค์และลิขิตชะตาตลอดจนวาระกรรมได้

    อันพระพรหมธาดานั้นสถิตอยู่บนพรหมโลกชั้นที่ 3 มหาพรหมาภูมิ ได้สร้างพระมเหสีขึ้นมาองค์หนึ่งชื่อ สรัสวดี หรือ ศตรูปาเพื่อมาช่วยสร้างสรรค์สรรพสิ่งทั้งปวงให้เกิดขึ้นในโลก อาทิ สร้างเทวดา มนุษย์ อสูร สัตว์ พืช และสร้างวิทยาการทั้งหลาย อาทิ ภาษา คัมภีร์พระเวท อักษรศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เป็นต้น

    ท่านมีอำนาจที่จะสร้างสรรค์ ลิขิตความเป็นไปของทุกสรรพสิ่งและกำหนดชะตาชีวิตของสัตว์ทุกเผ่าพันธุ์ ด้วยท่านหยั่งรู้ในความเคลื่อนไหวของสรรพชีวิต ด้วยความเป็นไปของโลกทั้งหลายล้วนอยู่ในสายตาของท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อท่านต้องคอยจับตาดู คอยสอดส่องความเป็นไปต่างๆดุจบิดาที่คอยดูแลบุตร พระองค์ท่านก็จะสร้างสรรค์และลิขิตโดยควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกฏแห่งกรรม จะเรียกว่าระบบกรรมที่ดำรงค์อยู่นั้น ทำงานได้และเป็นไปในทางที่ควรจะเป็นเพราะมีองค์บรมครูธาดาพรหมนี้คอยขับเคลื่อนก็ได้

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะสร้างเครื่องมงคลที่มีความสัมพันธ์กับครูพรหมองค์ธรรมธาดานั้น ท่านจึงได้ทำพระสำเร็จองค์ธรรมธาดาเอกัมพรหมมาขึ้น ซึ่งมีรายละเอียดและขั้นตอนการสร้างตลอดจนพิธีกรรมต่างๆมากมาย เพื่อให้ได้เครื่องมงคลที่มีอำนาจเหนือชะตาลิขิตที่จะเป็นประโยชน์ใหญ่กับผู้บูชา

    ท่านได้นำวิชาพรหมศาสตร์ผสมผสานกับพระเวทย์โบราณเพื่อให้ได้เครื่องมงคลที่มีอำนาจสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาพรหมของฝ่ายพุทธก็ดี ของฝ่ายพราหมณ์ก็ดี ล้วนมีข้อดีอยู่ในตัวเองทั้งสิ้น ถึงจะแตกต่างกัน แต่หากเข้าใจและนำมารวมกันได้แล้ว ด้วยข้อดีของแต่ละฝ่ายเมื่อรวมกันสิ่งประเสริฐก็จะเกิดขึ้น อันรูปพรหมของฝ่ายพุทธนั้นหากทำตามวิชาพรหมศาสตร์แล้วก็จะมีอานุภาพมาก ช่วยส่งเสริมความสำเร็จให้ผู้บูชาได้ง่ายและไวอย่างน่าประหลาด ทั้งดลความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองให้ปรากฏในชีวิตได้ไม่ยาก จะเรียกว่าสมหวังทุกเรื่องก้ามข้ามสารพันปัญหาอุปสรรคได้ก็ไม่ผิด สิ่งไม่ดี ความยากจน เคราะห์ภัย ความล้มเหลวสิ้นหวังทั้งหลายจะไม่มีให้ได้ประสบพบเจอ ซ้ำยังมีคุณด้านต่างๆได้แก่
    - เป็นเมตตามหานิยมอย่างที่สุดดุจเมตตาพรหมวิหารของพระพรหม เจ้านายลูกน้องและสิ่งแวดล้อมสัตว์ต่างๆทั้งหลายที่เราต้องเข้าสังคมด้วยเห็นหน้าเป็นต้องมนต์สะกด เจอหน้าใครมีแต่ความรักความเมตตาให้ เรื่องเมตตานี้ดีมากท่านว่าถ้าเขาเมตตาเรา ทำอะไรก็มีแต่ได้ลูกเดียว เพราะความเมตตาเป็นบ่อเกิดแห่งความสงสารเห็นใจนำมาซึ่งความช่วยเหลือและมิตรภาพ
    - แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง กันภัย กันคุณไสยการกระทำ คุณผี คุณคน ลมเพลมพัด อาถรรพ์ร้ายแรงต่างๆ
    - ดีเด่นด้านเงินทอง เร่งโชคลาภให้ไหลมาเทมาง่ายไม่ติดขัด การงานธุรกิจรุ่งเรือง ทำมาค้าขายดีเป็นเศรษฐี
    - แก้ดวงไม่ดี ดวงตกทุกข์โทษภัยจากดวงดาว ราศี พระราหู และเบญจเพสด้วย

    กอปรกับการผสานพระเวทย์โบราณและวิชาธรรมของครูพรหมธาดานั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องมงคลจะมีอำนาจวิเศษของมหาพรหมแม้บูชาอาราธนาด้วยอุปนิสัยของท้าวมหาพรหมธาดา หากกระทำดีและมีใจภักดิ์บูชาก็จะได้รับการบันดาลพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านว่านี่สำคัญมากเป็นข้อปฏิบัติง่ายๆ แม้ผู้ใดประพฤติบาปบาปมีกิเลสตัณหาก็จะถูกท่านลิขิตให้ชีวิตมีแต่ความลำบากยากเข็ญ แต่ในทางกลับกันอันนี้เสียอีกที่ทำไม่ยากและต้องจำไว้และกระทำตลอดไปนั่นคือการประพฤติดีมีจิตใจเอื้ออารีย์ต่อผู้อื่น พระพรหมธาดาท่านจะบันดาลให้มีความสุขและสมบูรณ์ในชีวิต เรียกว่าอยากได้อะไรก็สมหวังตลอดทีเดียว ไม่พบเจอความลำบากยากเข็ญอับจนอย่างใดเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งนี้มันส่งผลเป็นลูกโช่นะ ไม่ใช่แค่ให้มีชีวิตที่ดี มีชีวิตที่ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อตายไปแล้วก็จะได้ถึงภพภูมิที่ดีที่สูงขึ้นไปด้วย พระองค์ท่านจะประทานปัญญาในการประกอบอาชีพ ให้เห็นทาง เห็นทิศที่ควรจะไป ปกป้องให้ตนนั้นห่างจากศัตรู ห่างจากเรื่องร้ายๆ ประทานความแข็งแรงในสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ ให้ความรู้แจ้งตลอดจนชี้แนะแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆด้วยตัวรู้ของตน มอบความบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณโดยกระทำให้ร่างกายความคิดความรู้สึกผู้บูชานั้นเติมเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์

    หากจะถามว่าบูชาองค์ครูธรรมธาดานี้ต่างจากบูชาครูพรหมปกติอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าต่างตรงที่ระดับความรักและช่วยเหลือ เพราะท้าวมหาพรหมธาดานั้นท่านถือว่าตัวท่านเป็นผู้สร้างโลกรวมถึงได้รับการบูชาในฐานะผู้สร้างสรรค์จักรวาลมาหลายพันปี ตัวท่านเองก็มีหน้าที่และปัจจัยหลายอย่างที่ต้องช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ด้วยมีพระทัยที่อ่อนโยน รักสรรพชีวิตที่พระองค์ถือว่าได้สร้างขึ้นมาเสมอดุจความรักที่บิดามีต่อบุตร หากระลึกถึงพระองค์ด้วยความสงบแล้วเมื่อนั้นการณ์ทุกอย่างล้วนคลี่คลายไปได้ด้วยดี ท่านย่อมใช้อำนาจแห่งพรหมของท่าน อันต่างจากอำนาจของมหาพรหมอื่น ด้วยอำนาจของมหาพรหมธาดานั้นมีความเกี่ยวเนื่องกับกฏของกรรมและสามารถริดรอนกรรมหนักได้ ผู้บูชาท่านจึงมักได้ดีล้ำหน้า เกินหน้าเกินตาคนทั้งหลาย

    พ่ออาจารย์ท่านได้ทำผงด้วยวิชาพรหมศาสตร์อันกระทำได้ยากขึ้นมาสองชนิด ท่านว่ากว่าจะได้นั้นเลือดตาแทบกะเด็นเพราะเป็นผงที่เอาไว้ชำระเคราะห์กรรม แก้ดวงตก ดวงแตก ฝืนดวงฝืนชะตาฟ้าและวิถีดวงดาว ทั้งยังลงตะกรุดสำคัญที่ท่านได้จากการกระทำพิธีพระเวทย์บูชาพระพรหมธาดาจนได้อักขระยันต์จากการเพ่งกองกูณฑ์อัคคี พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดสำคัญนี้ดุจเป็นหัวใจของพระพรหมธาดาที่จะสื่อและเข้าถึง เข้าไปช่วยเหลือมนุษย์ในทุกๆเรื่อง ท่านว่าเราทำให้ดีให้ครบแล้ว วิชาที่ได้จากเปลวอัคคีนี้เป็นวิชาเฉพาะทางต่างจากวิชาที่ถูกบัญญัติขึ้นโดยมนุษย์ทั้งหลาย ด้วยเป็นความปรารถนาของเทพพรหมที่จะสงเคราะห์โลก ท่านว่าหากให้กล่าวถึงคำว่าค่าควรเมืองนั้นยังน้อยไป

    ท่านได้นำผงวิเศษทั้งสองชนิดไปกดพิมพ์ในพิมพ์ทรงพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ที่ท่านดัดแปลงและแกะให้เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ท่านว่าพิมพ์นี้สำคัญนะเพราะเราทำขึ้นเพื่อบูชาคุณสมเด็จโต ให้คนใช้ได้เป็นใหญ่ เป็นคนสมบูรณ์ มีความมั่นคงในชีวิต โดยท่านเรีกพระสมเด็จนั้นว่าพระสำเร็จองค์ธรรมธาดาเอกัมพรหมมา

    พระสำเร็จองค์ธรรมธาดานั้นพ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้สองชนิดด้วยกัน ซึ่งจะแตกต่างกันทั้งเนื้อหามวลสารและอานุภาพขององค์พระ แบ่งเป็น

    - องค์ปฐมฤกษ์ไตรภูมิ(ลิขิตฟ้า) พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้หกองค์ เป็นการลบผงลิขิตฟ้ากับผงโสฬสพรหมภูมิรวมกับผงสายวิชาพรหมศาสตร์ทุกแขนงที่ว่าด้วยฤทธานุภาพอันพิศดาร แก่มวลสารผงเหล็กไหลทุกสกุล ท่านว่าเนื้อนี้จะพิเศษคือมีพลังกล้าแข็ง แรงและเร็วด้วยอานุภาพเทพพรหมศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ใช้รับมือกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องกรรมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะกรรมเก่า กรรมปัจจุบัน หรือกรรมใหม่ วาระกรรมใดๆก็ดีรวมไปถึงชะตาฟ้าลิขิตที่ยากจะเปลี่ยนแปลง ท่านว่าจะยกตัว เปลี่ยนฐานดวง ฐานชีวิตเหมือนเกิดใหม่ มีอานุภาพมากท่านไม่สามารถบอกหรือบรรยายได้เพราะเป็นเรื่องของกรรม เรื่องของพรหม ผิดกฏโลก ท่านว่าเอาง่ายๆ เนื้อนี้แม้เหล่ามหาพรหมในโสฬสยังเข้าพิทักษ์รักษา มีอาญาสิทธิ์มาก สว่างมาก ด้านหน้าฝังแร่ดูดวิญญาณ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของธรรมชาติมีอานุภาพมาก ด้วยว่าแร่นี้จะชำระกายและวิญญาณของผู้ใส่ให้บริสุทธิ์ตลอด ทั้งยังเร่งลาภปรับดวงทางโภคทรัพย์ดึงดูดสมบัติและโชคดีต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ ด้านหลังฝังเหรียญหล่อแทนครูท้าวมหาพรหมธาดาที่พ่ออาจารย์ท่านเมตตามนต์ด้วยวิชาชุบตัว ชุบชีวิตให้ตอนฝังอีกครั้งหนึ่ง ท่านว่าคนที่ได้ไปจะเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ยุติกรรมร้ายแรงเดิมๆแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ครูธาดาพรหมจะลิขิตให้ เป็นการเกิดครั้งที่สองตามหลักพระเวทย์ พ่ออาจารย์ว่าครูพรหมท่านช่วยเต็มที่ พร้อมกับฝังตะกรุดหัวใจธาดาพรหมอันมีอานุภาพมากเสมอด้วยพรแห่งพรหมธาดา

    - เนื้อโคตรผงพลิกแผ่นดิน พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้เก้าองค์ เป็นการลบผงนารายณ์พลิกแผ่นดินกับผงพรหมค้ำแผ่นดินผสมผงสายวิชาพรหมศาสตร์ทุกแขนงที่ว่าด้วยฤทธานุภาพอันพิศดาร เนื้อนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณมาก ใช้พลิกสถานการณ์กลับฐานะได้ เปลี่ยนคนได้จากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งพลิกกลับและค้ำไว้ให้มั่นคงเป็นดาวค้างฟ้าไม่ร่วงหล่นลงมา เนื้อนี้ท่านว่าอย่ามองข้ามใช้พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้ ใครปัญหาอุปสรรคเยอะๆสมควรต้องใช้ ด้านหลังฝังตะกรุดหัวใจธาดาพรหมอันมีอานุภาพมากเสมอด้วยพรแห่งพรหมธาดา


    พระทั้งสองเนื้อกดพิมพ์ ผสม มวลสาร แม้แต่ฝังมงคลวิเศษ ตลอดจนการปลุกเสก ทั้งหมดทำในฤกษ์มงคลเฉพาะตามสายวิชาพรหมศาสตร์ เพื่อให้ได้เครื่องมงคลที่จะมีอาถรรพ์ทรงอานุภาพสูงสุดสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระสำเร็จองค์ธรรมธาดานั้นท่านสร้างไว้นานแล้ว ท่านว่าเป็นพระที่มีคุณประหลาดเพราะใช้เสริมส่งพระสัทธรรมและต่อต้านข่มปราบอธรรมโดยเฉพาะ ผู้บูชาจะรู้ได้เฉพาะตนว่าธรรมชาติทั้งหลายที่แวดล้อมเราอยู่ พลังงานทั้งมวลนั้นจะเกื้อหนุนเสริมส่งเราให้รุ่งเรืองได้อย่างพิศดาร ตอนไหนที่เคราะห์แรง ชีวิตตกต่ำอย่างถึงที่สุด ให้อาราธนาดูแล้วจะพบกับความมหัศจรรย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    เคล็ดลับ

    ทำได้ชีวิตจะเจริญอย่างยิ่ง ด้วยองค์พรหมธาดานั้นท่านชอบความสงบ เมื่อจะทำสมาธิระลึกถึง ตลอดจนขอพรท่าน พ่ออาจารย์ว่าให้ทำในสถานที่อันสงัดและเงียบสงบ จงเสียเวลา ลมหายใจ ตลอดจนความศรัทธานั้นไปกับคำภาวนา ในช่วงแห่งการภาวนานั้นท่านว่าเสมอด้วยตัวเธอได้อยู่ในโลกของพรหม อยู่กับพรหมธาดาเพียงลำพัง ยิ่งทำบ่อยยิ่งดี ท่านจะโปรดมาก ไม่ต้องมีอามิสสินจ้างเครื่องเซ่นใดๆให้วุ่นวาย ท่านไม่ต้องการสิ่งใดจากลูกแม้แต่นมซักหยดหรือน้ำซักแก้ว นอกจากกำลังใจความคิดถึงระลึกถึงกันอยู่ ความสงบที่ใช้ในการภาวนา แม้เจอทุกข์หนักต้องการผ่านไปอย่างรวดเร็วหรือจะขอพรองค์พรหมธาดาท่าน ช่วงที่จะภาวนานั้นให้ตั้งใจแน่วแน่ไปเลยว่าจะทานอาหารมังสวิรัติถวายเป็นบุญบารมีให้กับท่าน กี่วันที่เราตั้งใจไว้ก็ว่ากันไปตามแต่พอเหมาะพอควร

    คาถาบูชา (ภาวนา สัก ชิต เอกัม พรหมมา)
    โอม อีม หรีม ชรีม กลีม สาอะห์ สัต ชิด เอกัม พรหมมา โอม สารบัม กฮาลวิดาอี พรหมมา โอม สัตยัม กฮานัม อานันดัม พรหมมา โอม สัตยัม กฮานัม อานันตัม พรหมมา โอม สัตยัม กฮานัม อัมรึตัม พรหมมา โอม สัตยัม กฮานัม อาบโฮยัม พรหมมา โอม มยามาตมาฮา พรหมมา โอม ปรากนอานาม อานันดัม พรหมมา โอม ตัต สัต โอม

    พระสำเร็จองค์ธรรมธาดาเอกัมพรหมมานั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเครื่องมงคลเฉพาะกาล เป็นของที่สร้างเพื่อหมายเอาไว้ปราบยุคเข็ญ ให้ผู้บูชาเจริญด้วยสัทธรรม ก้าวหน้าทางโลกถ้วนทุกประการ ท่านว่าเรารู้ว่าที่สร้างนั้นไม่พอกับสัตว์ผุ้ยากทั้งหลาย แต่ครูท่านให้สร้างเพียงเท่านี้ก็ต้องทำแค่นี้ เพราะมวลสารมันมีน้อย ที่สำคัญของเกี่ยวกับเรื่องเวรกรรมแทรกแทรงกฏแห่งกรรม ไม่สามารถจะทำเยอะได้ เพียงทำไว้ให้คนที่เจ็บหนัก หรือมีความทุกข์สาหัส ให้เขาได้เกิดใหม่ คลายทุกข์ ออกจากทุกข์บ้างเท่านั้น

    * รับสั่งจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะเจิมและบอกกล่าวฝากชีวิตให้เป็นลูกพระพรหมธาดาอีกคำรบหนึ่ง รายได้สมทบทุนวิหารทานในวัดที่ขาดแคลนเสนาสนะสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระสำเร็จองค์ธรรมธาดาเอกัมพรหมมา องค์ปฐมฤกษ์ไตรภูมิ(ลิขิตฟ้า) บูชา 3,500 บาท
    ร่วมทำบุญบูชา พระสำเร็จองค์ธรรมธาดาเอกัมพรหมมา เนื้อโคตรผงพลิกแผ่นดิน บูชา 1,500 บาท


    28175686_2147490848870658_827520742_n.jpg 28176521_2147399822213094_1722046143_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2018
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหากามทวิภพอสูรเทพเสพนาง(อุดเทวะโอสถรัตนคัมภีร์คลุกน้ำมันสามกาม)

    วิชามหาเสน่ห์ตับล่างในตำนาน ...พลิกฟื้นวิชาสายมนต์อสูรโบราณที่แรงลูกโดดด้วยเสน่ห์ซ้ำต้องกระทำพิธีในอสูรฤกษ์หรือคืนเดือนดับ โดยผู้ทำต้องรู้เวทย์อสูรดึกดำบรรพ์รวมไปถึงหัวใจอสูรต่างๆ ....

    พ่ออาจารย์ท่านว่าการทำวิชาเทพอสูรนี้เสกยากเพราะต้องแบ่งพิธีเป็นวาระอย่างชัดเจนเพื่อให้ได้ของที่แรงทางด้านมหาเสน่ห์สูงสุดทั้งคืนเดือนดับ คืนเดือนเพ็ญ จันทร์ซ้อนจันทร์ เข้าเทวีฤกษ์ เสกในป่าช้า เสกในถ้ำ เสกขวางบันได เสกด้วยวิชาเสน่ห์เทพอสูร ท่านว่าต้องเสกจนห้ามอกห้ามใจกันไม่ได้ถึงขนาดว่าแม้อยู่คนละโลกคนละภพเช่นคนกับอสูรยังต้องข้ามมาเสพสมกัน โดยวิเศษเพศอสูรนั้นย่อมได้ชื่อว่ามีกามคุณและความปรารถนาแรงกล้ากว่าชาติพันธุ์ใด ไม่ว่าจะ ตัณหา ราคะ พิศวาสก็ดี มีอารมณ์ที่ดุดันและมักมากในกามคุณซ้ำยังมีฤทธิ์ร้ายกาจมากพอที่จะกระทำทุกสิ่งเพื่อสนองอารมณ์และความต้องการของตนเองให้เสร็จโดยเร็วตามความปรารถนา ด้วยอาถรรพ์แห่งวิชาของชาติพันธุ์ที่ให้คุณพิศดารถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านออกปากว่า "แม้อยู่กันคนละโลก คนละภพ คนละมิติ ก็ยังมาร่วมรักกันได้..." ซึ่งสายวิชานี้ก็พอจะเกริ่นคร่าวๆได้บ้าง ว่าเป็นการเสพย์ การร่วมรัก หรือเป็นเครื่องมงคลทางเสน่ห์ที่เน้นอิทธิคุณทางตับล่างแบบแรงลูกโดด โดยศาสตร์อันได้ชื่อว่าลึกลับและทำได้ยากที่สุด ความซับซ้อนและลึกลับนี้ให้ผลถึงขนาดที่ว่าแม้อยู่ต่างภพ อยู่กันคนละโลกยังดึงมาสมสู่ได้ นับประสาอะไรกับสิ่งมีชีวิตร่วมพระธรณีเดียวกัน

    ซึ่งทั้งวิชาและมวลสารต่างๆนั้นล้วนแต่ต้องใช้เวลากว่าจะทำจะเสกได้ บางอย่างก็ต้องเสกคืนเดือนดับเจ็ดรอบเพื่อปลุกมนต์ครูอสูรให้มีพลังแกร่งกล้า มวลสารบางชนิดก็ต้องทำถึงสามปี ของบางอย่างกว่าจะได้เอาก็ต้องอดทนรอถึงห้าปีเจ็ดปี กว่าจะสำเร็จเครื่องมงคลศาสตร์สายอสูรเทพดึกดำบรรพ์นั้นจึงไม่ใช่ของง่ายส่งผลให้มีวิชาอสูรเสพนาง เป็นเครื่องมงคลสายล่างที่เป็นวิชาสร้างชื่อของพ่ออาจารย์ท่านอย่างแท้จริง จนบางคนที่เคยได้ไปแล้ว ถึงขนาดกล่าวขานตามคำติดปากคนสมัยนี้ว่าวิชาสายหื่นบ้าง สายกินตับแบบรุนแรงบ้าง ด้วยเห็นผลจนคนใช้เหนื่อยเช่นนั้นทีเดียว

    ซึ่งตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านแบ่งออกเป็นสองแผ่นด้วยกัน ซึ่งแต่ละแผ่นนั้นท่านก็ลงวิชาแต่ละชนิดก่อนจะนำมารวมกัน ล้วนแต่เป็นวิชาเสน่ห์ตับล่างระดับพระเวทย์ขั้นสุดที่ได้ชื่อว่ามีคุณรุนแรงยิ่งกว่าพระเพลิงแผดเผา ประกอบด้วย
    - มหากามทวิภพเทพอสูรเสพนาง นับเป็นแผ่นที่ต้องเสกถึงเจ็ดเดือนดับด้วยพิธีกรรมอันประกอบด้วยอาถรรพ์มากมาย ท่านว่าต้องทำทั้งสายเมมร สายแขก สายอีสาน สายล้านนาล้านช้างไทใหญ่ ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านออกปากว่าสำเร็จหนนี้ให้ตายก็ไม่ทำอีก เพราะมีพิธีการที่เคร่งครัดอันไม่อาจเปิดเผยได้ค่อนข้างมากเหนือกว่าพวกสาริกาป้อนเหยื่อไปไกลโข
    - ครูเสน่ห์ดอกไม้กุหลาบแดง หนึ่งในวิชาโบราณที่พ่ออาจารย์ท่านสืบเวทย์วิชามาจากครูสายใต้ โดยท่านลงใส่แผ่นตะกั่วขอมโบราณและเมื่อทำเสร็จต้องปลุกเสกอีกถึงเก้าจันทร์เพ็ญ ซึ่งวิชานี้ท่านว่าหาดูยังยากและเป็นวิชาที่แทบไม่มีใครทำกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าในเรื่องความแรงนั้นหายห่วง การทำก็พิศดารไม่แพ้กัน กล่าวกันว่าแม้มีมหาว่านที่แรงสุดๆทางเสน่ห์มาพกพา หรือจะมีขุนผีพญาพรายที่ไหนชิ้นส่วนศพอาถรรพ์ใดๆไม่ว่าจะปั้นเหน่งหรือน้ำมันพราย ถ้าจะเอาเสน่ห์แล้ว ล้วนแต่สู้ยันต์เสน่ห์ดอกไม้กุหลาบแดงไม่ได้ทั้งสิ้น

    โดยตะกรุดนั้นท่านต้องกระทำวิชาอาถรรพ์ตั้งแต่สถานที่และการลงจารตลอดจนฤกษ์ยามทุกอย่างทำให้เป็นตะกรุดที่กว่าจะทำได้ดอกนึงนั้นใช้เวลานานอย่างยิ่ง เรียกว่ามีคุณค่าทางจิตวิญญาณสูงก็ได้ ซ้ำเมื่อได้ตะกรุดที่มีอานุภาพสูงสุดแล้วยังต้องนำมาอุดด้วยยาและเข้าน้ำมันอีกคำรบหนึ่ง ซึ่งยาหรือโอสถวิเศษนั้นก็ต้องใช้เทพโอสถผสานด้วยน้ำมันสามกาม ซึ่งตัวน้ำมันทั้งสามชนิดนี้ แม้เพียงชนิดเดียวก็มีอานุภาพถึงขั้นพญาเทครัวแล้ว

    เทวะโอสถรัตนคัมภีร์ ยานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเปล่งอานุภาพยิ่งใหญ่มากนัก สมกับเป็นยาเทพที่ประกอบพิธีปรุงยาก "แม้ได้บูชาอาราธนาไว้กับตัวท่านว่าความสุขความสงบร่มเย็นจะมาเยือน ไม่ทุกข์ร้อนกลัดกลุ้มด้วยปัญหาสารพันอันเกิดจากปัจจัยสี่หรือธาตุทั้งหลาย ซ้ำยังจะนำให้ถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรืองอันเป็นความสุขสวัสดีของโลกอย่างถึงที่สุด นอกจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังว่ายาวิเศษนี้มีอานุภาพมาก ถ้าได้พกอยู่กับตัวย่อมเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาตลอดจนอสูร นาคา แลสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย หากคนที่ยังไม่เคยมีความรักท่านว่าจะได้รัก จะมีคู่ครองภายในเจ็ดวัน ซ้ำยานี้สถิตย์อยู่ที่ใดก็ดี เทวดาตลอดจนภูติผีปีศาจราชฑูต อสูรแลครุฑธานาคาทั้งหลายอันจะพึงสถิตย์อยู่บนโลกใบนี้ย่อมจะมาชุมนุมอภิบาลรักษาคนผู้นั้น พร้อมกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่นั่นคือการให้พรหรือการประสาทพรจากเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงตบะฌาณขั้นสูงให้ชีวิตเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ให้มีพลัง เต็มเปรี่ยมไปด้วยสิริมงคลที่เกิดจากพรอันเปล่งจากตบะฌาณของท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย อิทธิคุณของเทวะโอสถนี้แม้จะเข้าหานาย ผู้หลักผู้ใหญ่ เพศตรงข้ามที่หมายปองก็ดีท่านว่าให้นำยาลูบหน้าลูบตาเค้าจะรักและเมตตาเราเสมอบุตรในไส้ที่คลอดออกมาเอง แม้อาราธนาทำน้ำมนต์รดสิ่งใดก็จะสำเร็จสมความปรารถนาถ้วนทุกประการ"


    พ่ออาจารย์ท่านว่าอันเทวะโอสถนั้นย่อมมีศักดิ์ศรีของเทวะโอสถต่างจากตำรับยาอันพิลาศในโลกแดนดินทั้งหลายอย่างสิ้นเชิง ซึ่งท่านก็ว่าแปลก น้ำมันสามกามเป็นสีหนึ่ง ตัวยาเป็นสีหนึ่งแต่พอจะเอามาอุดตะกรุดนำมานวดรวมกันกลับกลายเป็นสีหนึ่ง ท่านว่าก็จะออกม่วงๆอย่างที่เราเห็นกันนี่แหละแต่เอาว่าแรง แม้ผงที่อุดนี่ก็แรงพอๆกับตัวตะกรุดและคุณวิชาทีเดียว

    ในส่วนของน้ำมันสามกามหรือน้ำมันกามสามภพก็เรียกอันประกอบด้วยน้ำมันกามภพ น้ำมันกามจิต น้ำมันกามจรนั้น ย่อมเป็นน้ำมันที่มีอิทธิคุณรุนแรงถึงขนาดทำให้คนดีๆแม้หลงรักก็ยังรักดุจกลายเป็นบ้าได้ สามารถใช้ปลุกอารมณ์และความรู้สึกของคน ด้วยตัวน้ำมันนั้นครอบคลุมด้วยมหากามคุณใหญ่ทั้งมวล ทั้งตัณหา ราคะ พิศวาส พิศมัย หลงใหล คิดถึง ดึงจิตวิญญาณ อันเป็นสิ่งที่มนุษย์ทั้งหลายยากจะหลุดพ้น ท่านว่าหากเป็นคนที่ยังมีความรู้สึกเหล่านี้ก็ดี อานุภาพแห่งน้ำมันนั้นย่อมใช้ได้ ท่านว่าข้อนี้อย่าได้กังขา อย่าว่าแต่มนุษย์เลยแม้เทวดาก็ยังพ้นได้ยาก น้ำมันนี้จึงมีคุณมากด้วยการปลุกอารมณ์คนที่เราหมายปอง ผูกพันสำทับไว้ให้ยากที่จะหลุดพ้นบ่วงกามคุณ ท่านว่าถ้าจะพูดกันตรงๆนะอิทธิคุณของน้ำมันนี้แม้แต่สาวพรหมจรรย์ก็ยังต้องมาติดพันเราจนกว่าจะได้ชื่นชมนั่นเอง ท่านเห็นว่าเป็นอันตรายเกินไปจึงนำมาคลุกด้วยผงยาเทวะโอสถเพื่อให้คุณของน้ำมันใช้ออกได้ในทางเสริมส่งกัน

    ตะกรุดนี้จะเน้นหนักไปที่การปลุกเร้าความต้องการ สำหรับช่วยส่งเวทย์อสุรมนต์ทางเสน่ห์เพื่อเรียกจิตคนได้ หรือแม้กระทั่งส่งเข้าฝันก็ยังทำได้ถ้าพลังสมาธิแลพลังจิตของคนใช้แก่กล้าก้าวหน้าในระดับนึง พ่ออาจารย์ท่านว่าความพิเศษของตะกรุดนี้ที่มีอานุภาพปลุกเร้าความต้องการนี่เอง ทำให้มันมีคุณใช้ได้หลายด้าน เพราะมนุษย์นั้นย่อมมีอารมณ์เป็นพื้นฐานมีความต้องการที่ไม่สิ้นสุด เมื่อมีความต้องการเหล่านี้ย่อมตกอยู่ในอานุภาพการบงการของตะกรุดทั้งสิ้น ท่านว่าจะมีกี่คนกันบนโลกใบนี้ที่ตัดตัวตวามต้องการความอยากทั้งหลายได้ หากมีล้วนนับได้ด้วยนิ้วมือ ดังนั้ท่านว่าก็สุดแล้วแต่จะใช้ให้พิจารณากันให้ดีอย่าให้เป็นโทษกับผู้อื่น ใช้เพื่อประโยชน์ใหญ่ของชีวิตตน อย่าทำไปเพียงปรารถนาความสนุกชั่วครั้งคราว

    ด้วยตะกรุดนั้นอุดด้วยผงยาคลุกเคล้าด้วยน้ำมันวิเศษจึงมีอานุภาพสารพัดจะใช้ ถ้าจะเอาเสน่ห์ก็ถึงขั้นทำให้คนรักจนเป็นบ้า แม้ม้าลืมโรง ช้างโขลงลืมไพร หงส์ทองลืมถ้ำพระคูหา เทวดาอัปสรลืมทิพย์วิมานสถาน ซ้ำด้วยอานุภาพยายังจะช่วยให้เจอคู่อุปถัมภ์ ไปไหนพบแต่คนช่วยเหลือ มีอานุภาพยิ่งท่านว่าเอาว่าชีวิตนี้ทำอะไรก็สบายๆไม่ลำบาก หากใช้เป็นแล้วจะใช้ให้เป็นเจ้าคนนายคนก็ได้ ใช้ให้เป็นใหญ่เป็นโตก็ได้ ใช้ดึงดูดคู่ค้าการงานหรือคนชั้นสูงที่อยู่สูงกว่าตนมาอุปถัมภ์ค้ำจุนก็ได้ แม้จะใช้ดึงดูดวาสนาชะตาความรักจากคนต่างระดับกันที่เปรียบดุจดั่งอยู่คนละโลก คนละฟ้า คนละมิติให้มาเจอกันรักกันก็ยังได้ ท่านว่าอสูรกับมนุษย์นั้นต่างเพศ ต่างภพ ยากที่จะลงเอยกันได้แล้ว หากยังรักลงเอยกันได้ทุกสิ่งล้วนย่อมไม่ต้องกล่าวถึงเลย

    เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงมีคุณมาก สุดแล้วแต่ดวงจิตของคน สุดแล้วแต่ลักษณะอุปนิสัย สุดแล้วแต่คนจะใช้ ด้วยเป็นตะกรุดสายล่างท่านว่าให้คาดไว้ต่ำกว่าเอว ยิ่งอยู่ใกล้จุดเพศยิ่งจะทวีอานุภาพสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ปลุกเสกทำให้อย่างดีไม่มีคำว่าเสื่อมไม่มีคำว่าถอย มีแต่ช่วยส่งเสริมความสุขสมหวัง ความรัก ความปรารถนา ซึ่งคำแรงๆบางคำท่านว่าก็บอกกล่าวออกมาไม่ได้ ซึ่งท่านให้คิดเอาเองว่านี่คือที่สุดของตับล่าง เป็นสายล่างที่ทำขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการ ปัจจัยพื้นฐานและอารมณ์ของมนุษย์จึงบอกได้เท่าที่ควรบอก เดี๋ยวเอาไปใช้ก็จะรู้จะเห็นเอง หากคิดว่าแรงเกินไปก็ให้ถอดเก็บไว้ เอาไว้ใส่ไว้คาดในวันเวลาที่สมควร ท่านว่าไม่ใช่แต่เรื่องเสน่ห์รักสนุก หากคนมีหัวคิดคนใช้เป็นจะดึงดูดวาสนาเปลี่ยนชะตาฟ้าก็ยังทำได้ จะปรารถนาคู่ครองที่อยู่สูงดุจอยู่กันคนละภพคือรักแล้วสามารถเปลี่ยนชีวิตตนได้ก็ยังมีมาแล้ว ท่านว่าบอกได้เท่านี้ รักษากันให้ดีเพราะท่านจะทำเพียงครั้งเดียว

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมดเก้าดอก โดยให้บูชาออกไปเป็นระยะๆ บางคนนำไปใช้จนได้คู่ครองที่ร่ำรวยลงหลักปักฐานเปลี่ยนชีวิตตนได้สมเจตนา บางคนเสื่อมถอยด้วยอายุและสมรรถภาพทางกายและอารมณ์ก็กลับฟื้นฟูขึ้นมาได้ด้วยพลังงานลึกลับอย่างน่าประหลาด จนมีคนนำไปใช้ในทางที่ผิดไปจากเจตนาของท่าน ใช้เพียงสนองความต้องการเพื่อความบันเทิงรักสนุก ท่านจึงเก็บเอาไว้ไม่นำออกมาให้บูชาอยู่พักหนึ่ง ท่านว่าตะกรุดนี้เราขอให้ได้อยู่กับคนดีๆ มีเจตนาที่ดีนำไปใช้เปลี่ยนชีวิต ซึ่งก็มีเหลือให้ร่วมทำบุญทั้งหมด 6 ดอก

    คาถาบูชา
    ปุพเพวะสันนิวาเสนะ ปัจจะบันนะหิเตนะวา เอวันตังชะยะเตเปมัง อุปะลัง วะยะโสธะเก นะอิตถีนะ พันทะมะทะโว โสมานะกะริฐาโถ โอมอิตถี ขอให้มึงจงมาทั้งสิบหกชั้นฟ้า สิบห้าชั้นดิน กูขอตั้งจิตถึงบารมีผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วสากลโลก ขอให้ชนทั้งหลายมาหลงรักกูแต่ผู้เดียว เอหิชัยยะ เอหิพะหูชะนา เอหิจงมา เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ

    * ตะกรุดมหากามทวิภพอสูรเทพเสพนางเหลือให้ร่วมทำบุญทั้งหมดหกดอก สำหรับผู้บูชาท่านว่าจะเป่ามนต์เทพรำลึกให้ตะกรุดเป็นพิเศษ ซึ่งใครจะจองก็ให้ PM ไว้เท่านั้นพร้อมกับชื่อนามสกุลตนเอง รายได้ร่วมสมทบทุนไถ่ชีวิตโคกระบือและซื้ออุปกรณ์การเรียนให้เด็กชาวเขาต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหากามทวิภพอสูรเทพเสพนาง(อุดเทวะโอสถรัตนคัมภีร์คลุกน้ำมันสามกาม) บูชา 4,000 บาท


    28511072_2150898218529921_1840626588_n.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ดวงตราอจินไตยกลับมารวยฝังน้ำตาพญามาร(จอมฟ้ากำสรวล)

    " บรรดาสัตว์ผู้มีอัตภาพ (ใหญ่) อสุรินทราหูเป็นเลิศ บรรดาบุคคลผู้บริโภคกาม พระเจ้ามันธาตุราชเป็นเลิศ บรรดาผู้ใหญ่ยิ่ง มารเป็นเลิศ "...(พุทธดำรัส)
    "พระยามารนี้เวลานี้ช่วยชาวบ้านพวกพุทธมามกะทุกคน พระยามารต้องบังคับให้ลูกน้องไปช่วยเหลือ คือ ที่ประคับประคองพวกเรานี่แหละ "(หลวงพ่อฤาษี)

    หากกล่าวถึงเครื่องมงคลที่เป็นรูปของพญามาราธิราชอันมีพระบารมีเต็มโดยเฉพาะ และใช้อาราธนาให้เข้ากับกรรมหรือวงจรสำคัญที่มีคุณลักษณะพิเศษนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะสร้างแล้วย่อมยากอย่างแท้จริง ด้วยต้องใช้วัตถุและมวลสารที่เป็นของพญามารมีบารมีของท่านจริงๆมาทำ สิ่งนี้ย่อมเรียกได้ว่าเห็นยากเอายาก


    เมื่อจะกล่าวถึงปกติวิสัยของพญามาราธิราชนั้นท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่องค์สำคัญ แต่คนส่วนมากก็ยังยึดติดกับคำว่ามาร ไม่ได้เข้าใจว่าท่านคือเทวดาจำพวกหนึ่ง ไปเข้าใจเสียว่ามารคือตัวตนที่น่าเกลียดน่ากลัว จินตนาการให้น่าสยดสยองดุจยักษ์มารเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วพญามารนอกจากจะเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ที่มีบารมีล้นฟ้าแล้ว ยังมีฐานะเป็นถึงจอมภพหรือเจ้าสวรรค์ชั้นปรนิม ขึ้นชื่อว่ามีภพภูมิที่สูงกายทิพย์ย่อมสง่างามและมีความปราณีตมากกว่าเทวดาต่ำชั้นลงไปทั้งหมด ท่านว่าในกามภพนั้นแม้เราคิดว่าเทวดาตั้งแต่จาตุมหาราชิกาไปจนถึงนิมานรดีมีรูปงาม แต่นั่นย่อมไม่อาจเทียบได้กับชั้นปรนิม นับประสาอะไรจะไปเทียบกับพญามาร

    พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า ใน "บรรดาผู้ใหญ่ยิ่งทั้งหมด มารเป็นเลิศ " .... "พญามาร มีโคตรเสมอด้วยพระอินทร์ " จะเรียกว่าพญามารคือประมุขฝ่ายมาร หรือเทวดาฝ่ายมารในสวรรค์ชั้นสูงสุด ที่มีความเป็นทิพย์ประณีตที่สุดอันจะพึงมีได้ในสวรรค์และเทวดาทั้งมวลก็ไม่ผิด แท้จริงแล้วมารก็คือเทวดา หากแต่มีหน้าที่ ซึ่งตรงนี้หน้าที่ของพญามารก็คือกามคุณทั้งหลายประกอบด้วยรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ด้วยท่านมีหน้าที่ดูแลและควบคุมวงจรแห่งกามคุณ การดูแลวงจรที่ยิ่งใหญ่นั้นเมื่อมองในมุมกลับหากพ้นจากจุดนี้ก็จะถึงซึ่งความเป็นอริยะเช่นกัน ดังนั้นเมื่อไม่มีมารแล้วจะมีพระอริยะได้อย่างไรจุดนี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า "ของบางอย่างอาจมองว่าขัดแย้งกัน แต่แก่นแท้กลับหนุนเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกันโดยที่เราไม่อาจเข้าใจ" หากไม่มีเหล่าเทวปุตตมารบรรดาโพธิสัตว์แลเทวดาทั้งหลายย่อมไม่มีหน้าที่ให้กระทำเพื่อที่จะเพิ่มบารมีของตน ย่อมไม่มีบททดสอบต่างๆเพื่อการก้าวล่วงไปถึงความเป็นอรหันต์หรือโพธิญาณในตนทั้งสิ้น

    เมื่อพูดถึงมารหลายคนย่อมคิดเสมอว่า ขึ้นชื่อว่ามารย่อมมีหน้าที่ทำลายล้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันมารทั้งหลายและพญามารนั้น เค้าก็มีหน้าที่ของเค้า หากให้กล่าวกันจริงๆแล้ว หน้าที่ของมารนั้นกลับเป็นคุณประโยชน์กับหมื่นจักรวาลและสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่มากเสียด้วย หากแต่ไม่มีใครนิยมพูดถึงกัน และไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่สนใจจะรู้ หน้าที่นั้นคือหน้าที่ของการสร้างสรรค์ จะเรียกว่าพญามารก็เป็นพระผู้สร้างองค์หนึ่งทีเดียวย่อมไม่ผิด เพราะพญามารคือกษัตริย์แห่งภพปรนิมในฝ่ายมาร ภพนี้เทวดาทั้งหลายปรารถนาสิ่งใดก็ตาม จะมีเทวดาในภพต่ำกว่าหรือภพนิมมานรดีมาคอยตามเนรมิตถวาย แต่ถึงกระนั้นหากเป็นเรื่องการสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับกามคุณทั้งห้า ก็ไม่มีเทวดาที่ไหนจะมีฤทธิ์ มีอานุใหญ่ มีความประณีตที่จะสร้างสรรค์ได้เหนือเทวปุตตมาร แม้แต่พรหมก็ยังไม่เป็นเลิศในกามคุณเช่นนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างเครื่องมงคลแทนครูพญามาราธิราชไว้ชุดหนึ่ง หากใครที่ติดตามกระทู้มาตลอดจะทราบดีว่ามีการกล่าวถึงพญามารอยู่เนืองๆ ด้วยท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ทั้งพ่ออาจารย์ยังยึดเป็นครูองค์สำคัญ โดยการทำเครื่องมงคลแทนครูนั้นท่านได้ขออนุญาติครูซึ่งพญามารท่านก็ได้กำหนดให้กระทำในรูปแบบที่ท่านต้องการ
    - การพนมมือ คือการแสดงคารวะ แสดงความนอบน้อมถ่อมตนเป็นสัญญาณว่าให้และคืนความรู้สึกอันดี รวมทั้งเรื่องดีๆทั้งหลายตลอดจนความอ่อนน้อมส่งกลับแก่ผู้บูชา ด้วยเจตนาที่เท่าเทียมกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญหล่อนี้ด้วยศักดิ์ศรีขององค์ท่านย่อมไม่จำเป็นต้องไหว้ใคร แต่การแสดงคารวะนี้เหมือนเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ท่านว่าใจเราแน่แค่ไหนย่อมได้ผลคืนกลับไปมากเพียงนั้น
    - บัวตูม บัวบาน สัญลักษณ์แห่งความงอกงามของสรรพชีวิต หนึ่งคือบัวตูมดุจดอกบัวใต้น้ำที่ยังไม่ได้รับแสงอาทิตย์ ต้องโดนกุ้งหอยปูปลาตอดมีอันตรายแก่ชีวิตอยู่เนืองๆ สองคือบัวบานที่พ้นน้ำแล้ว เบ่งบานประจักษ์แก่ตาโลกสมศักดิ์ศรีชาติพันธุ์แล้ว ดุจชีวิตที่ผ่านพ้นอุปสรรคและห้วงวัฏสงสาร ไม่มีสิ่งใดทำอันตรายหรือแผ้วพาลได้นับจากนี้ต่อไป

    เมื่อจะกระทำเครื่องมงคลนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าพญามาราธิราชท่านเป็นครูใหญ่ของเรา ท่านจึงนำเอาคตของเจ้าปู่ชัยพรหมและของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมาเคี่ยวรวมกับธาตุกายสิทธิ์ พร้อมทั้งใช้เพลิงพิธีหลอมเอาตบะและอานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้นมารวมกันเพื่อสร้างเหรียญหล่ออจินไตยที่มีพลังงานเหนือโลกโดยวัตถุประสงค์ขึ้นมา การสร้างเหรียญหล่ออจินไตยนี้คือพลังงานเหนือโลกที่อยู่เหนือกฏและความเป็นไปทุกอย่างของโลกท่านว่าบอกได้เพียงเท่านี้จริงๆ

    การทำเหรียญหล่ออจินไตยพญามาราธิราชนั้น พ่ออาจารย์ว่าทุกอย่างต้องเคร่งครัดและปราณีตอย่างมาก ด้วยเครื่องมงคลแทนครูนี้จะมีอานุภาพเป็นเลิศแม้สถิตย์อยู่กับผู้ใดบุคคลนั้นดุจมีอาญาสิทธิ์พิเศษ ทั้งเทพแห่งนิมมานรดีจะต้องคอยรักษาเนรมิตสิ่งต่างๆตามที่ปรารถนาให้ดั่งใจคิด และเหล่าเทวปุตตมารอันอยู่ภายใต้บัญชาแห่งพญามารทั้งหลาย ก็จะบันดาลให้บุคคลนั้นเจริญด้วยกามคุณอันเป็นความสุขอย่างยิ่งในโลก ด้วยการสร้างสรรค์อย่างปราณีต พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาตรงๆนะชีวิตคน เกิดมาแล้วก็ควรจะเหยีบเรือสองแคมไว้บ้าง ถ้าจะตัดโลกตัดทุกอย่างก็ตัดให้มันจริงอย่าเพียงแต่คิดให้หรูให้ดูดี หากอยากตัดแล้วก็อย่าอยู่เป็นมนุษย์เลย ไปบวชเสีย ไปทำความเข้าใจทำให้แจ้งให้เห็นในอรหันต์นิพพานนั่นเถิด แต่หากจะอยู่เป็นปุถุชนใช้ชีวิตไม่ให้ข้องขัดหวังเอาดีทางโลกเจริญไปพร้อมกับการปฏิบัติธรรมดูแลพระศาสนาแล้ว เช่นนี้เราจึงเรียกว่าเหยียบเรือสองแคม ด้วยหมายความว่าเจริญไปพร้อมๆกันทั้งทางโลกและทางธรรม ดังนั้นอานุภาพแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนา วิวัฒนาการตนเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น อันวิทยาการความเจริญก้าวหน้า สิ่งสวยงามสะดวกสบาย ความยิ่งใหญ่โอ่อ่าอัครฐานทั้งหลาย สิ่งใดอยู่ในกามคุณห้า นั่นแหละคือานุภาพและการควบคุมของเหล่าเทวปุตตมาร มันคือหน้าที่ของชาติพันธุ์เขา เป็นหน้าที่อันมีมาแต่กำเนิด หน้าที่ซึ่งทำด้วยความเชี่ยวชาญ หน้าที่อันเหมาะสมกับฤทธิ์อำนาจตน

    เหรียญหล่ออจินไตยนี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้มวลสารกายสิทธิ์เชิญบารมีพญามารฝังไว้เฉพาะเจาะจงทุกองค์ สิ่งนั้นท่านเรียกว่าน้ำตาพญามาร อันน้ำตาพญามารนี้เป็นของสำคัญยิ่งยวดซึ่งผูกพันธ์กับพญามารมากนัก
    "...เมื่ออดีตกาลนั้นท่านไม่สามารถเอาชนะพระโพธิสัตว์ได้ จนพระบรมโพธิสัตว์ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ท่านก็รู้สึกโศกเศร้าน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่อาจดำรงค์พระองค์อยู่ในเทวโลกได้ จึงมานั่งน้อยใจหม่นไหม้อยู่บนพื้นโลก ท่านได้นั่งขีดเขียนแผ่นหินศิลาเทียบวิชาความรู้ระหว่างตนเองกับพระพุทธองค์ ก็รู้ว่าตนกับพระพุทธเจ้านั้นยังห่างไกลกันอยู่ด้วยพระพุทธองค์ทรงรู้มากกว่าตนถึงสิบหกประการ ตั้งแต่บารมีสิบ อินทรียปโรปริยัติญาณ สยานุสยญาณ มหากรุณาสมาบัติ ยมกปาฏิหาริยญาณ อนาวรณญาณ สัพพัญญุตญาณ เมื่อท่านรู้ความแตกต่างท่านก็กำสรวลโศกเศร้าจนน้ำตาแห่งพญามารได้หลั่งลงต้องปฐพี เป็นน้ำตาแห่งความสำนึกและกลับตัวกลับใจพร้อมกับทำพิณประจำพระองค์หล่นไว้ตรงนั้น ซึ่งองค์อมรินทร์ก็ได้มาเชิญพิณนั้นพร้อมกับนำน้ำตาพญามารซึ่งเป็นกายสิทธิ์ธาตุประดิษฐานในพานทองนำกลับไป "
    ...เมื่อพ่ออาจารย์จะทำเครื่องมงคลแทนครูพญามารนั้น องค์อมรินทร์ท่านว่าถ้าจะให้ควรก็ให้นำน้ำตาพญามารประดิษฐานลงไปด้วย โดยท่านได้นำน้ำตานั้นมามอบให้แข็งค้างไว้แต่เบื้องอากาศ พ่ออาจารย์ท่านต้องทำพิธีอัญเชิญและนำขวดน้ำมันจินดามณีมารองรับ ส่งผลให้น้ำมันจินดามณีเปลี่ยนสีไปใสกระจ่างดุจสีน้ำทะเลเมื่อผสมกลมกลืนเข้ากับน้ำตาพญามาร ท่านจึงเรียกน้ำมันนี้ว่าน้ำตาพญามาร

    น้ำตาพญามาร ...ของวิเศษเทวโลกนี้มีอานุภาพอันน่าอัศจรรย์ยิ่งดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านได้กล่าวไว้ว่า " บิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิต " เป็นธาตุบารมีของพญามาราธิราชอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนเรานั้นถ้าถึงกับบิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิตได้แน่นอนว่าชีวิตนี้ย่อมไม่มีไม่รู้จะให้เดือดร้อนเรื่องอะไร อันจอมฟ้าพญามารนั้น หากลงมาทำหน้าที่หนุนส่งผู้ใด ด้วยฐานะที่ตนก็มีหน้าที่สร้างสรรค์กามคุณ มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองในเทคโนโลยีและวิวัฒนาการทั้งหลายของทุกชาติพันธุ์ มีหน้าที่ดูแลความเป็นไปและความเจริญก้าวหน้าของโลกแลมนุษยชาติ ด้วยกามคุณนี้ก็คือความสะดวก สบาย ความยิ่งใหญ่ในภพ ในชาติ หลายคนสงสัยว่าพวกที่รวยๆ อยู่เฉยไม่ทำอะไรก็รวย หรือพวกที่ใช้เงินให้ตายใช้ทั้งชาติมันก็ยังไม่หมด พวกที่มีบารมีมากคับฟ้าคับแผ่นดินใครก็เอาลงมาไม่ได้ หรือสถานที่อันใหญ่โตโอ่อ่าเกินความจำเป็น เกินประโยชน์ใช้สอย เกินชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งคนและสถานที่เหล่านี้ นั่นคือการอุปถัมภ์ของเหล่าเทวปุตตมารนั่นเอง

    ตัวจอมฟ้าพญามารนี้ได้เคยกล่าวไว้เบื้องหน้าพระบรมศาสดาว่า "ตัวพระองค์มีฤทธิ์ที่จะบันดาลภูเขาทั้งลูกให้เป็นทองคำได้ มีอานุภาพยิ่งใหญ่ในกามสามารถขวนขวายเรื่องทรัพย์ อำนวยประโยชน์สุขต่างๆตามแต่จะประสงค์ " ดังนั้นบุคคลใด สถานที่ใด หากได้รับความอุปถัมภ์หรือบารมีจากเทวปุตตมาร บุคคลเหล่านั้นก็จะถึงซึ่งความเปลี่ยนแปลง ความเจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันจอมฟ้าพญามารนั้น ท่านได้กำหนดรูปแบบของเครื่องสูงแทนตัวท่านให้แล้วเสร็จตั้งแต่แกะพิมพ์และแม้แต่ผงที่จะใช้อุดต้องจำเพาะลงไปว่าใช้ได้เพียงผงพุทธนิมิต กับผงพุทธเนรมิตรเท่านั้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านต้องเพียรลบถมผงทั้งสองนี้ล้วนๆจำนวนนึง นำมาคลุกกับผงไม้ตะเคียนช่อฟ้าอุโบสถ ก่อนจะอุดไว้ด้านหลังท่านว่าตะเคียนช่อฟ้านี้คืออยู่ที่สูงค้ำฟ้าไม่ต่ำลง ซึ่งนอกจากจะอุดผงสำคัญอันมีคุณนิมิต เนรมิตได้ทุกอย่างด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณสมกับอานุภาพทางด้านสร้างสรรค์ความสุขอันเกิดแต่กามคุณของพญามาราธิราชแล้ว ยังฝังตะกรุดสำคัญอีกสองประการ เป็นหัวใจพญามารดอกนึง กับการสร้างสรรค์กามคุณดอกนึง พ่ออาจารย์ว่าเมื่อพระผู้สร้างอยู่กับตัวแล้ว การใช้ชีวิตทำทุกกิจให้แจ้งนั้น สิ่งต่างๆบรรดามีหากประสงค์อะไรให้บนบอกท่านเอา


    เหรียญหล่อสำคัญรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านให้ชื่อรุ่นว่ากลับมารวย ซึ่งความหมายก็ตรงตามชื่อนั้น คนรวยกับคนเคยรวยนี่ท่านว่าไม่เหมือนกัน เพราะคนรวยคือยังมีบุญยังเสวยบุญอยู่ แต่คนเคยรวยคือบุญหมดถึงวาระกรรมไปแล้ว ดังนั้นการกลับมารวยได้จะต้องอาศัยพื้นฐานอะไร การจะช่วยคนเคยรวยที่หมดบุญสูญสิ้นวาสนาไปแล้วให้กลับมามั่งมีได้ต้องอาศัยอะไร ตรงนี้ท่านว่ามีคนมาปรึกษาและบูชาเครื่องมงคลของท่านไปแต่เขาก็ไม่กลับมารวยด้วยท่านตรวจชะตาดูจึงรู้ว่าสิ้นบุญสูญวาสนาการเป็นเศรษฐีไปแล้วนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านตอนนั้นจึงได้อาราธนาดวงตราจอมฟ้าพญามารที่ฝังน้ำตาพญามารไว้หรือจะเรียกเหรียญมารฟ้ากำสรวลก็สุดแต่จะเรียกขานให้เขาไปบูชา ท่านว่าสมกับคำที่เรากล่าว " บิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิต " แม้คนที่สิ้นบุญสูญวาสนาไม่มีทางกลับมาตั้งตัวจนมั่งมีได้แล้ว ก็ยังฟื้นกลับคืนฐานะเก่าได้ ดังนั้นท่านจึงเรียกมงคลบูชาครูนี้ติดปากว่ารุ่นกลับมารวย

    อันวิสัยปุถุชนมนุษยชาตินั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าขอแค่อย่างเดียว เหรียญหล่อนี้ไม่ว่าจะเอาไปใช้กันด้านไหนอย่างไรก็ตาม ขอแค่อย่าลืมตัว อย่าเป็นวัวลืมตีนได้ดีแล้วก็เสพย์สุขไม่รู้จักขวนขวายในทานและบำรุงรักษาศาสนา อันพญามารในวันนี้ไม่เหมือนพญามารในอดีตกาล ด้วยพระองค์นั้นกลับตัวคอยดูแลพิทักษ์รักษาพระศาสนาทั้งยังเป็นมหาโพธิสัตว์ใหญ่ที่พร้อมช่วยเหลือผู้คน แม้ใครอาราธนาบูชาท่าน เมื่อได้ดีสมความปรารถนาอย่างไรก็อย่าทิ้งแนวทางในการสร้างบารมีนั้นเช่นกัน

    คาถาบูชา

    นะโม วะสะวะตีมาเร อนาคะตังเส พุทธัสสะ(ใช้ภาวนา)
    โอม วสวัตตีโพธิสัตโตนะโมพุทธานะ ปาฏิหารัญจะ ทวาทะสะ กาละกัญชะมหา ภิสมาปะสะนะวา อิติสิทชะติ

    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างดวงตราจอมฟ้ากำสรวลไว้ทั้งหมดแปดองค์ คงเหลือให้บูชาห้าองค์รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้สั่งจองให้แจ้งชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำพิธีหยดเทียนสะกดเคราะห์ให้ที่ดวงตราอีกวาระหนึ่ง รายได้ร่วมทำบุญสร้างวิหารทานในวัดที่ขาดแคลนจตุปัจจัยเพื่ออุทิศถวายกุศลแก่ท้าวมาลัย

    ร่วมทำบุญบูชา ดวงตราอจินไตยกลับมารวยฝังน้ำตาพญามาร(จอมฟ้ากำสรวล) บูชา 4,000 บาท


    28536845_2154026424883767_827370847_n.jpg
    28537512_2154026421550434_1047846815_n.jpg
    28695797_2154046078215135_1871949228_o.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2021
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดตัวครูทวิบารมีพระเจ้าทรงวิชามนต์กันความเสื่อม(ข่ม,ปราบ,สาป,ฝังพระธรณี)

    จากที่หลายคนสอบถามกันเข้ามาให้เหตุผลว่าวิชานี้เป็นของจำเป็น และเป็นของที่ต้องมีสำหรับการจะใช้อาราธนาเครื่องมงคลและวัตถุมงคลทุกประเภททั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องความเสื่อมซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมากของคนใช้เครื่องมงคล เพราะว่าคนที่ชอบสายนี้หรือมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมงคลต่างๆ ในกิจวัตรประจำวัน การเข้าสังคม การดำเนินชีวิตที่เป็นไป ย่อมมีความผิดพลาดโดยที่ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี รู้เท่าถึงการณ์ก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ควบคุมตัวได้ก็ดี ควบคุมตัวเองไม่ได้ก็ดี เหตุการณ์ต่างๆล้วนเป็นตัวปัญหาชักนำไปสู่ความเสื่อม ทั้งความเสื่อมในกายสังขาร ความเสื่อมของจิตวิญญาณ และความเสื่อมในมงคลวัตถุทั้งหลาย

    เครื่องมงคลนั้นอาจเสื่อมถอยลงได้เพราะคนบูชาไม่ทราบว่าครูแต่โบราณท่านถืออะไร แล้วก็ไม่ทราบว่าวันๆนึงเผลอทำอะไรผิดครู ซ้ำบางคนศัตรูรู้ว่ามีของดีอันนี้หนักเลยเพราะเค้าจะแกล้งทำให้ของเราเสื่อมเสียเเต่แรกเมื่อเสื่อมแล้วถึงใช้ไปก็ไม่มีผลอะไรเลย หลายครั้งผู้บูชาเครื่องมงคลอาจจะมีความคิดว่าทำไมหนอของถึงไม่เหมือนเดิม ทำไมรู้สึกว่าฤทธิ์และปาฏิหาริย์ถดถอย คิดไปเองว่าอาคมคงเสื่อมลง ที่พูดนี่คือครอบคลุมทุกวิชาของทุกสำนักทุกคณาจารย์เลยทีเดียว เรื่องนี้เป็นความสำคัญของคนที่ต้องการเล่นของและใช้เครื่องมงคลที่ควรตระหนักรู้เป็นสิ่งแรกๆเลย แต่แน่นอนว่าหลายคนนั้นมองข้ามไปและคิดไม่ถึง ทุกสิ่งไม่ว่าจะอักขระเลขยันต์ที่สักมาให้เลอะเนื้อเลอะตัว เวทย์มนต์คาถาอาคมที่ท่องบ่น ตลอดจนเครื่องมงคลและอิทธิวัตถุอันมีฤทธิ์ในตนเองทั้งหลาย หากการปฏิบัติตนไม่โอเค เป็นสิ่งอันกระทำให้วิชาเสื่อม ของเหล่านั้นก็จะเสื่อมถอยด้อยค่าลงไปได้

    ทั้งลายสัก อักขระเลขยันต์ วิชาอาคม คุณมนต์คุณคาถา เครื่องมงคลทั้งหลายถ้วนทุกตำราทุกสำนักล้วนมีข้อห้ามที่จะทำให้ถดถอยอานุภาพลง การเสื่อมลงแห่งอาคมคาถา วิชา พุทธคุณ อิทธิคุณ มงคล ราศีของดีภายนอกและภายใน สิ่งต่างๆที่จะนำไปสู่ความเสื่อมนั้นมีมากมายพ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างเช่น คนอื่นนั่งคร่อม ก้าวข้ามหลัง ใช้ผ้าขนหนูร่วมกับเพศตรงข้าม กินของเหลือของเซ่นผี ของที่คู่สามีภรรยาอื่นกิน กินน้ำในห้วยหนองคลองบึง ลอดใต้ถุนห้องครัว ถ่มน้ำลายในโถส้วม เพื่อนหรือแฟนเดินข้ามหัวข้ามหลัง กินของแสลงต่างๆ ลอดใต้หว่างขา ลอดราวผ้า ลอดสายสิญจูงผีโยงโลงศพ ลอดสะพานเสาเดียว ลอดไม้ค้ำเรือนค้ำบ้าน สิ่งที่ยกตัวอย่างๆท่านว่าเป็นของเล็กๆน้อยๆที่พอนึกได้ หากให้พูดกันจริงเอาเป็นว่าแทบไม่ได้กะดิกกันเลยชีวิตคนเพราะคนบางคนเพื่อนเล่นหัวแฟนเดินข้ามเป้นเรื่องปกติ ร้านอาหารบางร้านก่อนเค้าขายเรารู้หรือไม่ว่าเขายกอาหารเซ่นผีรึเปล่า บางร้านอยากให้ขายดีๆก็เซ่นผีที่ตนเลี้ยงด้วยอาหารที่ขายก็มี และเรื่องอื่นๆบิบย่อยอันเป้นเหตุแห่งความเสื่อมทั้งสิ้น เพราะครูบาอาจารย์ที่ท่านให้ถือเครื่องมงคลนั้นท่านต้องการให้คนเรามีสติ ต้องการให้เจริญสติ หากคนไม่มีสติย่อมเป็นเหตุนำไปสู่ความเสื่อมในทุกสิ่ง ความเสื่อมแต่ละอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละวิชา สำนัก ครูบาอาจารย์จะยึดปฏิบัติ ซึ่งหากถือปฏิบัติจริงๆแล้วชีวิตคนย่อมวุ่นวายเดินไปไหนไม่ได้เลยทีเดียว สิ่งอันมิควรกระทำทั้งหลายคือความผิดพลาด บางครั้งเราอาจจะทำไปโดยไม่รู้ตัว แต่พอไม่รู้ตัวบ่อยๆ ทำซ้ำซากหลายๆครั้ง ครั้งเดียวอาจไม่มีผลอะไร แต่พอซ้ำๆบ่อยๆอาคมภายนอกและภายในก็อาจหายไปแบบที่เราไม่รู้ตัวเช่นกัน

    อันนี้พูดโดยรวมๆของทุกสำนัก บางครั้งมีคนถามมาว่าไปทำเรื่องผิดจารีตต้องสิ่งไม่ดีมาทั้งหลายนี้ของดีจะเสื่อมมั๊ย ก็ต้องตอบไปเพื่อรักษากำลังใจว่าของดีที่เสกมาดีย่อมไม่มีวันเสื่อม ซึ่งของดีที่ไม่มีวันเสื่อมที่กล่าวถึงนั้น แท้จริงก็คือการปฏิบัติดีอันเป็นของดีภายในของตนเอง เป็นพระพุทธคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเทวคุณ พรหมคุณที่อยู่ที่ไหนก็ไม่มีวันเสื่อม แต่หากเป็นของดีที่เกิดจากการกระทำ การเสก การยัติ เกิดจากอาคมลมปราณอาถรรพ์ต่างๆ ย่อมมีอันขึ้นลงทั้งพุ่งทั้งเสื่อมได้ทั้งสิ้น แต่ทว่าด้วยสิ่งอันไม่อำนวยต่างๆในสังคมและภาวะปัจจุบัน หลายข้ออันเป็นทางนำไปสู่ความเสื่อมนั้นล้วนหนีไม่พ้นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นกฏทุกอย่างล้วนมีข้อห้ามและข้อยกเว้นเหมือนกัน เช่นการทรงวิชา การกันเสื่อม การเพิ่มอานุภาพเครื่องมงคลทั้งหลาย เพื่อป้องกันตนให้พ้นความเสื่อม เพื่อป้องกันเครื่องมงคลไม่ให้เสื่อม และเพื่ออานุภาพที่ยิ่งๆขึ้นไปนั่นเอง

    ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้เมตตาสร้างตะกรุดพระเจ้าทรงมนต์ขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งตะกรุดนี้จะมีอานุภาพและทรงคุณค่าอย่างยิ่งยวดสำหรับคนที่ใช้เครื่องมงคล วัตถุอาถรรพ์ทั้งหลาย ตลอดจนคนที่มีลอยสักอักขระเลขยันต์พระคาถาอยู่กับตัว หรือแม้แต่คนที่ท่องบ่นมนตราใช้พระคาถาก็ตาม สมดั่งชื่อการทรงมนต์ ทรงทุกอย่างไว้ให้สัมฤทธิ์ผล ใฃ้ได้ผล ไม่มีการเสื่อมถอยในคุณวิชา และที่สำคัญพ่ออาจารย์ท่านยังเมตตาลงบททวิบารมีเพิ่มเข้าไป ท่านว่าพลังตั้งต้นดีอย่างไร แรงอย่างไร พออาราธนาตะกรุดนี้นอกจากกันเสื่อมแล้ว ยังฟื้นฟูพลังงานของเวทย์มนต์ คาถา อักขระทั้งหลายอีกด้วย แม้พลังแรกเริ่มมีเท่าไหร่ก็จะทวีมากขึ้นไปเป็นเงาตามตัว ท่านว่าขอให้พกติดเนื้อติดตัวไปเรื่อยๆเป็นใช้ได้ อะไรอยู่กับตัวเราถือว่าดีหมด ใครเคยรับอะไร ใช้อะไร ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจไม่เห็นผล ก็ต้องอาราธนาตะกรุดกันเสื่อมนี่แหละ


    แต่ทว่าเมื่อพ่ออาจารย์ท่านทำเครื่องมงคลท่านย่อมไม่ทำอะไรที่เล็กน้อย ยิบย่อยแน่นอน เมื่อจะทรงวิชา กันเสื่อม ทวีอานุภาพของอำนาจวิชาทั้งหลายแล้ว ยังต้องมีอานุภาพเป็นเอกเด่นชัดทางด้านการกระทำ ด้วยการทำของข่มใส่คนทั้งปวงด้วย ซึ่งปกติพ่ออาจารย์ท่านจะทำของแก้ข่ม นั่นหมายถึงตัวท่านรู้วิธีการทำข่มเป็นอย่างดี ทั้งแตกฉานและเชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง แต่กลับกันท่านกลับไม่ค่อยให้ใครบูชาของที่กระทำการข่มใส่ผู้อื่นเพราะท่านว่ามันแรงมากไปกลัวจะใช้ผิดเอาไปทำเป็นบาปเป็นกรรมตัวเอง การข่มนี้แรงถึงขั้นสุดตามที่พ่ออาจารย์ท่านพูดทีเดียวว่า "ข่ม,ปราบ,สาป,ฝังพระธรณี"

    วิชานี้...ท่านว่าครูบาอาจารย์ท่านไม่ค่อยอยากให้ใคร ท่านจึงห้ามนักหนา ตีค่าไว้ถึงแสนตำลึงทอง แต่ก่อนถ้าไม่บรรทุกข้าวมาเจ็ดเล่มเกวียนหรือลากซุงไม้สักงามๆมาเป็นร้อยต้นท่านจะไม่ทำให้แก่กันเลย ด้วยครูบาอาจารย์ท่านเลือกคนไม่ใช่ทำให้ใครก็ได้ ต่อเมื่อถึงยุคเราก็เลยตั้งค่ากำนัลครูเอาไว้ทำบุญอุทิศให้ครูบาอาจารย์ทั้งหลายดอกนึงเป็นแสนบาท ก็ยังปรากฏคนไขว่คว้าต้องการบูชาและบอกต่อกันเป็นที่น่าอัศจรรย์ รายไหนรายนั้นหากใช้และอาราธนามักจะเห็นผลทันตาโดยเฉพาะหากกระทำข่มใส่กับคนใหญ่คนโตที่มีอำนาจล้นฟ้าล้นเมือง เขาว่าเห็นผลทันตาจากหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่กลั่นแกล้งซ้ำยังช่วยเหลืออนุมัติโครงการให้อย่างรวดเร็ว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่เดิมนั้นใช้แผ่นทองคำ ตอนนี้มาใช้แผ่นทองแดงฟ้าผ่าทำให้แทนด้วยต้องกับตำราที่ต้องเอาทองแดงไปบวงสรวงเทวดา พระอินทร์เจ้าร้อนอาสน์เมื่อไหร่ประทานใส่ด้วยวชิระเพิ่มอานุภาพให้ทองแดงเมื่อนั้นจึงจะถือว่าใช้ได้ ท่านว่าเราม้วนไว้ภายในตะกรุดกันเสื่อมด้วยตั้งใจจะทำให้ทุกคนใช้เพื่อไม่ให้วิชาตกและหล่นหายไป ด้วยปกติจำเพาะจะมีกันในหมู่เศรษฐีและเจ้าสัวผู้มีอันจะกินเอาไว้ใช้ทำวิชาข่มใส่ผู้ที่ตนปรารถนาอยากเอาชนะเขา เพราะคนปกติคงจะไม่มีใครมาเช่าตะกรุดดอกนึงเป็นแสนบาทเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงนำยอดตะกรุดนี้มาม้วนรวมกับตะกรุดกันเสื่อมให้เป็นของดีแถมไปด้วยในตัว

    ซึ่งท่านว่าวิชานี้มีคุณอยู่มากถ้าใช้กับศัตรูช้กับศัตรูที่คิดร้ายเรา ใช้กับศัตรูที่เล่นงานเรา ใช้กับศัตรูที่จองล้างจองผลาญเรา ใช้กับคนที่อยู่สูงกว่าเรามีอำนาจเหนือเรา ชอบข่มเหงรังแกเรา หรือแม้แต่เคยมีคนเอาไปใช้กับศรีภรรยาที่ชอบข่มสามี ชอบใช้อำนาจก็มีผลมาให้เห็นแล้วว่ากลับตาลปัตรดั่งหนูกลัวแมว ท่านว่าวิชานี้มันแรงแบบลำดับขั้น พอเห็นผลแล้วต้องรีบเอาออกทิ้งไว้ไม่ได้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เป็นบาปกรรมไม่บังควร เพราะถ้าทำไว้นานจากข่ม มันก็จะกลายเป็นปราบ แล้วก็กลายเป็นคำสาป จนกลายเป็นสะกดฝังพระธรณีอันร้ายแรงที่สุดไป ท่านว่าฝังธรณีคืออะไรก็คือข่มชนิดต่ำติดตี....(น)นั่นเอง

    ดังนั้นท่านจึงให้ใช้เพียงแค่ลำดับข่มกับปราบ พอนิสัยเขาเปลี่ยนให้รีบเอาออกทันที ท่านว่าเราจะเห็นได้จากคนที่เราข่ม เขาจะเชื่อฟังเรา เออออไปกับเราง่ายๆ อ่อนต่อเรา อยู่ใต้เรา พูดอะไรก็คล้อยตามเชื่อเรา ดุจผู้น้อยกลัวผู้ใหญ่ให้ทำอะไรก็ทำไม่มีปากมีเสียง นี่คือการข่มการทำด้วยวิชา

    วิธีใช้

    เพียงแค่เขียนชื่อ นามสกุล คนที่เราต้องการข่มแล้วม้วนสอดไว้ในตะกรุดแล้วสวดอาราธนาด้วยคาถาธรรมกำจัดเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะข่มใส่ใครก็ให้กระทำดังนี้ คือใช้ชื่อนามสกุลเขาม้วนสอดไว้อาราธนาด้วยธรรมกำจัด แต่เมื่อเห็นผลเค้าโอนอ่อนผ่อนตามแล้วให้รีบเอาออกและเลิกกระทำ อย่าใส่ไว้นานจะเป็นเวรเป็นกรรมไป ดังนั้นตะกรุดนี้ไม่เหมาะแก่คนที่ลุถึงด้วยอำนาจโทสะจริตพยาบาทมาดร้ายผู้อื่น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ผ่านมาปกติจะเป็นคนเลือกของต่สำหรับตะกรุดดอกนี้แล้วท่านว่าต่างกันมาก นั่นเป็นเพราะตะกรุดจะเรียกหาเจ้าของเอง หากมีบารมีจะได้เชิดชูวาสนา วิชา พระเวทย์เพื่อคุณค่าในชีวิตตนเองแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะดลให้เห็นค่าความสำคัญ แต่หากไร้วาสนาต่อให้คิดการณ์ยิ่งใหญ่เทียมฟ้าอย่างไร แม้เห็นท่านก็จะบังไว้ดุจเมฆหมอกบังนัยน์ตาให้คิดแต่เพียงว่าเป็นของไร้ค่า ไม่จำเป็น ไม่คู่ควรกับเรา

    วิชานี้ด้วยมีคุณอนันต์หากคนรู้คุณค่าและใช้เป็น ท่านว่าใช้ทางรวยก็จะรวย ใช้ทางชู้สาวก็จะได้เสมอใจ ใช้ทางหน้าที่การงานข่มเจ้านายใช้เพื่อความเจริญเพื่อขั้น ตำแหน่ง ฐานะ หน้าตาทางสังคม หรือแม้แต่จะใช้เพื่อทำลายผู้อื่นจากคนดีๆให้พินาศย่อยยับล่มจมไปก็ยังได้ สุดแล้วแต่ใจจะใช้ขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกคน แต่ท่านว่ามีข้อห้ามอย่างเดียว ห้ามจริงๆเพราะถ้าทำชีวิตตัวเองจะตกต่ำทันที นั่นก็คือ ห้ามเอาไปใช้กับบุพการี ห้ามใช้กับพ่อแม่ ห้ามทำการข่มใส่พ่อแม่ของตน ท่านว่าถ้าบุตรธิดาใดกระทำการข่มใส่พ่อแม่ของตนแล้ว บุตรนั้นย่อมต่ำกว่าเดรัจฉาน แม้เทวดาอารักษ์ครูบาอาจารย์ย่อมไม่ปกป้อง คุณแห่งวิชาทั้งหลายย่อมเสื่อมลง ท่านว่านี่คือข้อห้ามเพียงข้อเดียว ถ้าคนมีสติดีๆ ไม่กำเริบชั่วช้ากว่าเดรัจฉาน ก็คงไม่มีใครคิดกระทำการข่มใส่พ่อแม่ของตนแน่นอน

    คาถาบูชา

    กุมากาฉะละ โสมาเรสะ(ทรงมนต์)

    พุทธังสะระนังคัจฉามิ ธัมมังสะระนังคัจฉามิ สังฆังสะระนังคัจฉามิ ทุติยัมปิพุทธังสะระนังคัจฉามิ ทุติยัมปิธัมมังสะระนังคัจฉามิ ทุติยัมปิสังฆังสะระนังคัจฉามิ ตะติยัมปิพุทธังสะระนังคัจฉามิ ตะติยัมปิธัมมังสะระนังคัจฉามิ ตะติยัมปิสังฆังสะระนังคัจฉามิ พุทธังเจ้าจงรักษาข้าพเจ้าบัดนี้เทอญ ธัมมังเจ้าจงรักษาข้าพเจ้าบัดนี้เทอญ สังฆังเจ้าจงรักษาข้าพเจ้าบัดนี้เทอญ พุทธังกันจะ ธัมมังกันจะ สังฆังกันจะ นะระนะจะ นะระนะจะ นะระนะจะ พุทธังกำจัด ธัมมังกำจัด สังฆังกำจัด พุทธังสีกา ธัมมังสีกา สังฆังสีกา พุทธะคุณณัง ธัมมะคุณณัง สังฆะคุณณัง พุทธะรัตนัง ธัมมะรัตนัง สังฆะรัตนัง พุทธังระงับ ธัมมังระงับ สังฆังระงับ พุทโธพันธะจิตตัง ธัมโมพันธะจิตตัง สังโฆพันธะจิตตัง พุทธะกัญจายะ ธัมมะกัญจายะ สังฆะกัญจายะ พุทธังบำราบ ธัมมังบำราบ สังฆังบำราบ พุทโธคะราย ธัมโมระราย สังโฆสูญไป พุทธังคะราย ธัมมังคะราย สังฆังคะราย พุทธังหนีภัย ธัมมังหนีภัย สังฆังหนีภัย พุทธังคะราย ธัมมังคะราย สังฆังคะราย พุทธังสูญหาย ธัมมังสูญหาย สังฆังสูญหาย พุทโธณิท ธัมโมณิท สังโฆณิท(ธรรมกำจัด)

    * ตะกรุดตัวครูทวิบารมีพระเจ้าทรงวิชามนต์กันความเสื่อม(ข่ม,ปราบ,สาป,ฝังพระธรณี) มีให้บูชาทั้งหมดห้าดอกตามวาสนาที่ตะกรุดจะเรียกหาเจ้าของ พ่ออาจารย์ท่านว่าให้แจ้งชื่อสกุล วันเดือนปีเกิดเวลาตกฝากไว้ด้วย ท่านจะเป่ามนต์อธิษฐานเพิ่มบารมีให้เป็นการส่วนตัว รายได้ทำบุญอุทิศถวายกุศลแก่ครูบาอาจารย์ในสายพ่ออาจารย์พลทั้งหมด

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดตัวครูทวิบารมีพระเจ้าทรงวิชามนต์กันความเสื่อม(ข่ม,ปราบ,สาป,ฝังพระธรณี) บูชา 4,000 บาท


    28876478_2156110628008680_1971636656_o.jpg
    28832514_2156100181343058_1325802540_n.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลอาถรรพ์พรายขุนแผนเพชรสวาทง่อยหกเมีย

    "ของสิ่งนี้แม้ได้ใส่ติดตัวเข้าใกล้ใครเนื้อเขาจะพองใจเขาจะเต้น จิตจะพิศวงงงงวยหาความสมประดีมิได้ "
    ..........................
    คาถาอาราธนา
    อาราธนา อุกาสะ สัมปะติ จิตติ มิตติ อรหัง ปิยังมะมะ (ให้ถือเป็นเคล็ดกระทำนำนิ้วแตะที่ขวดสีผึ้งแล้วนำมาทาปากเฉยๆพอเป็นพิธีเท่านั้น , เมื่อจะไปหาผู้ใหญ่หรือผู้มียศศักดิ์ให้ใช้นิ้วโป้ง , เมื่อจะไปหาคนรุ่นเดียวกันหรือคนใช้ คนที่มีศักดิ์ต่ำกว่าให้ใช้นิ้วชี้ , เมื่อจะไปหาแม่หม้ายหรือผู้สูงอายุให้ใช้นิ้วกลาง , เมื่อจะไปหาหนุ่มๆสาวๆให้ใช้นิ้วนาง , เมื่อจะไปหาสาวน้อยหรือผู้มีอายุน้อยกว่าให้ใช้นิ้วก้อย)
    ............................

    * สำหรับผู้บูชาให้ส่งรายละเอียดชื่อนามสกุลเข้ามาเฉพาะทาง PM พ่ออาจารย์ท่านจะเจิมและกำกับมนต์ให้เป็นพิเศษอีกครั้ง


    ร่วมทำบุญบูชา มงคลอาถรรพ์พรายขุนแผนเพชรสวาทง่อยหกเมีย บูชา 4,000 บาท

    * เนื่องจากเนื้อหาโดนลบถึงสองรอบ ผมก็ไม่รู้จะแก้ยังไงให้ผ่านดีเพราะตรวจทานหลายครั้งก็ไม่มีคำทะลึ่งหรือรุนแรงอะไรเลย จนบางคนบอกว่างงทำไมโดนลบ ดังนั้น ใครที่จะบูชาหรือต้องการอ่านก็ให้ PM เข้ามาและผมจะส่งรายละเอียดทั้งหมดไปให้เฉพาะคนนะครับ ก็ถือเสียว่ารายการนี้เป็นของพิเศษจริงๆแล้วกัน

    get_auc3_img_php_12.jpg image.png 28833159_2159934924292917_1071526893_n.jpg
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลสาปสวรรค์เหรียญครูเปิดพลังจักรวาลอิสีทุรวาสะ(ฝังเงินปากผี)

    " อุทาหรณ์อันใด อันจะพึงเป็นไปมิได้ก็ดี ด้วยแรงครูพระฤาษีทุรวาสนั้น ย่อมจะดำเนินเรื่องราวให้เกิดขึ้นได้ "


    ด้วยชีวิตคนนั้นย่อมผ่านเหตุการณ์ต่างๆบรรดามี อันความคิดและการกระทำทั้งหลาย หลายสิ่งเป็นได้เพียงภาพฝัน แม้จะเพียรพยายามเท่าไหร่ก็ไม่มีวันสำเร็จหรือกระทำให้เกิดขึ้นมาได้ ด้วยชีวิตคนผู้นั้นยังขาดซึ่งพลังงาน และผู้ช่วยอันจะมาเชื่อมเหตุการณ์อีกทั้งดำเนินเรื่องราวต่างๆให้เกิดขึ้นนั่นเอง ด้วยการดำเนินเรื่องราวดุจฉากละครแห่งพระผู้เป็นเจ้านั้นแม้สิ่งที่ไม่เคยเกิด สิ่งที่เป็นได้เพียงแค่ความคิดและภาพฝัน ก็ย่อมอุบัติขึ้นได้

    อำนาจแรงครูนั้น สำคัญไฉน ทำไมต้องเป็นพระฤาษีทุรวาส พ่ออาจารย์นั้นท่านว่าอันองค์ครูทุรวาสนี้มีฤทธานุภาพสูงด้วยเกิดขึ้นมาแต่อำนาจโทสะของพระศิวะเจ้า ดังนั้นการกระทำใดๆของท่านก็ดี ล้วนแต่ตัดสินใจฉับพลันทันทีทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ยอมใคร ไม่เห็นแก่หน้าใคร และไม่เกรงแม้เทพ เทวดาหน้าไหนไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กก็ดี

    โดยจริงแท้นั้นเพียงแค่นามทุรวาสะปรากฏขึ้น ทั่วทุกโลกธาตุแม้เทพยดาตลอดจนอินทราหรือมวลอสูร ย่อมเกรงกลัวและหวาดผวาในนามนี้อย่างถึงที่สุด แท้จริงนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าพระฤาษีทุรวาส คือปางหนึ่งขององค์พระศิวะที่เกิดมาเพื่อดำเนินเรื่องราวและเหตุการณ์สำคัญต่างๆให้เป็นไปอย่างรวดเร็วนั่นเอง สิ่งอันใดที่จะเกิดขึ้นและได้รับการแก้ไขหากแต่ต้องยั้งรอระยะเวลาอันยาวนานที่ระบุหน่วยวัดไม่ได้ ก็ได้อาศัยคำสาปและพรต่างๆของพระฤาษีทุรวาสนั้นดลให้เกิดขึ้นในฉับพลันทันที

    ด้วยความเป็นหนึ่งในมหาจักรวาลอันยากจะหาใครเปรียบ กอปรกับนิสัยอันมีมาแต่ชาติกำเนิดที่ยากจะหาผู้ใดเสมอเหมือน แม้นดีก็ได้ชื่อว่าดีใจหาย แม้นช่วยใครก็จะได้รับการประสาทพรอันวิเศษสูงสุดที่ยากเกินกว่ามนุษย์และเทพยดาใดๆจะจินตนาการนึกถึง แต่หากมุ่งร้ายและปรากฏความเป็นศัตรูแก่ผู้ใดแล้ว ย่อมจองเวรอาฆาตด้วยคำสาปอันได้ชื่อว่าอำมหิตสูงสุดจนถึงแก่ความวิบัติฉิบหาย...ด้วยพระฤาษีทุรวาสนี้ได้ชื่อว่ามีฤทธิ์ด้วยอำนาจตบะเฉพาะตนแลวาจาปกาศิตสูงสุดของท่าน พ่ออาจารย์ท่านจึงได้สร้างมงคลบูชาครูด้วยเล็งเห็นคุณวิเศษเฉพาะตนอันหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ของพระฤาษีทุรวาสเพื่อน้อมให้ผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายได้อาราธนา

    พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่านอกจากคำสาปที่สุดแสนอำมหิตจนเป็นบ่อเกิดของสงครามมากมายหลายยุค หลายเผ่าพันธุ์แล้ว แม้คำพรของท่านก็ถือได้ว่าเป็นยอดแห่งคำอวยพรที่มีฤทธานุภาพอันประเสริฐกว่าเทพยดาทั้งหลายด้วยเช่นกัน กล่าวได้ว่าแม้ใครได้สักการะบูชาด้วยใจศรัทธาและอ่อนน้อมถ่อมตน ท่านก็จะดีด้วยอย่างถึงที่สุดแบบเรียกว่าเวลาดีก็จะดีใจหาย ประสิทธิประสาทพรอันจำเป็นต่อเหตุการณ์ทั้งในปัจจุบันและอนาคตครอบคลุมถ้วนทั่ว ซ้ำยังคุ้มเกรงให้ปัจจามิตรที่คิดร้ายมอดดับถึงคราพินาศราพณาสูร


    ตรงนี้คือสิ่งสำคัญ ท่านว่าครูทุรวาสนี้เวลาเชิญมานั้นหากเป็นเรื่องช่วยคนท่านจะยินดีมาก หากใครมีตาในจะรู้ได้ ที่ว่าโหด ว่าดุ ว่าอำมหิตนี้ แต่กับผู้ศรัทธาท่านกลับใจดีๆสุดเหมือนคุณปู่คุณตาร่วมสายตระกูลนั่นทีเดียว ซ้ำคำอวยพรแต่ละอย่างที่ให้ไปนั้น ล้วนแต่ครอบคลุมเหตุการณ์ทั้งปัจจุบันแลอนาคต ด้วยญาณทัศนะของท่านที่พึงรู้ว่ากรรมของสัตว์ใดจะดำเนินไปในรูปแบบใดและอุปนิสัยการให้พรนี้ย่อมไม่เหมือนผู้อื่นด้วยท่านจะแก้ไขวาระกรรมนั้นให้โลดแล่นและได้ดีเป็นเกียรติยศสูงสุดในชีวิต สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเหนืออารมณ์โกรธและดุร้ายในภาพลักษณ์ที่แสดงออกมานั้น ท่านมีความใจดีและความห่วงใยสานุศิษย์อย่างถึงที่สุด ตรงนี้หากปราศจากความเมตตาในจิตใจแล้วย่อมไม่เกิดขึ้นเลย

    แต่การสร้างพระฤาษีทุรวาสนั้นย่อมยากและมีอาถรรพ์ล้นปรี่อย่างถึงที่สุดจะเห็นได้จากที่มีหลายคนขอให้พ่ออาจารย์สร้างหรือแกะเป็นมงคลประจำกายให้มาตลอดท่านก็ไม่เคยทำให้ เหตุด้วยว่าแรงครูสูงและเมื่อจะทำนั้นจะทำเล่นๆตามแต่อารมณ์มิได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านพูดแบบตรงๆนะ หนนี้เราไม่ได้ทำเอาสวยหรือปราณีตใดๆเลย แต่เราทำแบบโบราณที่เอาขลังและพลังงานศักดิ์สิทธิ์เข้าว่า ด้วยท่านใช้เวทย์สวรรค์ลงมนต์กูโบ๊สด้วยวิชาเปิดพลังจักรวาลในแผ่นกายสิทธิ์ธาตุเพื่อเป็นชนวนตั้งต้น พ่ออาจารย์ว่าการเปิดพลังงานจักรวาลและดึงเข้าเครื่องมงคลนี้ จะเป็นแหล่งพลังงานอันอนันต์ตลอดไปให้กับกายสิทธิ์ธาตุก่อนนำมาขึ้นรูปเป็นพระฤาษีทุรวาสซึ่งท่านไม่เคยทำเช่นนี้ในเครื่องมงคลใดๆ ทำไมต้องเปิดพลังงานจักรวาล พ่ออาจารย์ท่านว่าการเปิดพลังงานจักรวาลนั้นคือเปิดพลังงานแห่งการเคลื่อนไหว พลังงานที่ให้กำเนิดชีวิต มหาธาตุ และสสารต่างๆ เป็นพลังงานที่จะผลักดันและดำเนินเรื่องราวต่างๆให้เป็นไปในแบบที่ควรจะเป็น

    ท่านหล่อหลอมธาตุ เชิญครู ประจุพลังงานด้วยเวทย์วิชาศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังอาราธนาขอเมตตาจากครูทุรวาสะให้กระทำให้อย่างถึงที่สุด เพื่อให้ออกไปคุ้มเกรงผู้อาราธนาต่อสู้ฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคต่างๆ โดยเหรียญหล่อนั้นรูปลักษณ์จะเหี่ยวย่นเหมือนผิวคนแก่ เหมือนหนังช้าง เหมือนโยคีโบราณอย่างน่าอัศจรรย์เป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าสวยแบบโบราณๆ

    ด้านหลังเหรียญหล่อนั้นท่านได้ทำอาถรรพ์ฝังเงินปากผีเอาไว้ ของดีแต่โบราณที่ได้ชื่อว่าหาง่ายแต่เอายาก มีอาถรรพ์รุนแรงมาก ทั้งคนที่จะเอามาใช้ให้ได้ดีได้ต้องรู้วิธีล้างอาถรรพ์ร้าย และรู้วิธีเสกว่าจะทำอย่างไรให้เงินปากผีนั้นมีอานุภาพมากซ้ำยังเป็นเสมือนกายสิทธิ์อันมีฤทธิ์ มีความรู้สึกและมีอาถรรพ์ที่รุนแรง คอยคุ้มครองติดตามช่วยเหลือเรา เงินปากผีของพ่ออาจารย์ท่านนั้นสำคัญอย่างไร ด้วยเป็นเงินปากผีที่ทำพิธีอย่างถูกต้องไม่ซี้ซั้ว เป็นเงินปากผีที่ทำด้วยวิชาชนิดที่มีคนหา และต้องการอย่างมากนั่นเอง

    เหรียญเงินปากผีชุดนี้เป็นของเก่าที่พ่ออาจารย์ท่านเก็บสะสมมาเรื่อยๆ โดยที่ท่านได้ทำพิธีล้างอาถรรพ์ร้ายพร้อมกับเดินมนต์ปลุกเสกเก็บไว้อย่างยาวนาน ท่านว่าเงินปากผีนี้เอาตรงๆก็มีฤทธิ์รอบด้านสารพัดจะใช้ เหมือนเป็นพยนต์คอยช่วยเราได้ทุกเรื่อง เหมือนเงาที่อยู่ติดร่างกายของเราไปไหนไปกันเข้านอกออกในได้ทุกที่ไม่มีเสื่อม ท่านว่า" ฉันเสกจนเป็นกายสิทธิ์ ไม่ว่าจะทำอะไรเค้าก็จะติดตามเราไป ขอเพียงแค่เอ่ยปากให้ช่วยเหลือก็พอ ใช้ได้ทุกเรื่องไม่มีข้อห้าม" ซึ่งเหรียญเงินปากผีนี้พ่ออาจารย์ท่านได้เคยนำไปอาราธนาบารมีขอให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีเสกให้ โดยท่านกำชับไว้ว่า "ลงอาคมมาดีแล้วนี่ ตอนนี้ชั้นยกภพยกภูมิให้หมดแล้ว นี่ของสำคัญนะ เออดีๆมีเจ้าของทุกเหรียญ อย่าเอาไปแจกใครซี้ซั้วล่ะ เอาไว้ไปทำฤาษีชีไพรค่อยให้เขา"


    ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ระลึกถึงคำพูดของพระคุณหลวงพ่อฤาษีมาตลอดและพอมีโอกาศสร้างฤาษีทุรวาสะท่านก็นำเงินปากผีสำคัญนี้มาฝังด้านหลังนั่นเอง ท่านว่าเหรียญเงินปากผีนี้ ทำไมคนโบราณถึงหากันนักอยากรู้ต้องบูชาเอง เขาจะช่วยเราเหมือนเป็นลูกมือเราทีเดียวท่านว่าเราพูดคร่าวๆได้แค่นี้ คนที่เค้ารู้คุณแสวงหาและเห็นประโยชน์จริงๆจะเข้าใจ ที่ท่านฝังฤาษีทุรวาสไว้ก็เพราะใช้อาถรรพ์ข่มอาถรรพ์ ไม่ใช่ผี ไม่ใช่วิญญาณร้ายใดๆเพราะเป็นเหรียญสำคัญที่หลวงพ่อท่านยกภพภูมิให้หมดแล้ว เป็นของมีฤทธิ์มากซ้ำใครที่มีดวงอาถรรพ์ ตลอดจนชีวิตต้องสาป ต้องอาถรรพ์ร้ายทั้งหลาย เหรียญนี้ท่านว่าเราลงไว้แล้ว มันสะกดข่มได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้ไม่ได้พูดถึงอาถรรพ์ร้ายภายในร่างกายเท่านั้นแต่ยังสะกดอาถรรพ์ในดวงชะตา ตลอดจนสถานที่และปัจจัยร้ายแรงต่างๆ

    ซ้ำเงินปากผีนี้ยังเป็นสื่อโภคทรัพย์ชั้นเลิศ ด้วยว่าเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ติดตัวผู้วายชนม์ไปภพภูมิหน้า หากรู้วิธีทำ วิธีเอาแล้วจะดีอย่างยิ่งกับคนอาราธนา พ่ออาจารย์ท่านได้ประกอบพิธีจนสำเร็จและนำเงินปากผีนี้มาทำวิชา ท่านว่าพกไว้เถอะดูดเงินดีนัก ใครที่ขาดๆหายๆรายได้ไม่สม่ำเสมอโชคลาภขาดๆเกินๆมีมาไม่ตลอด จำคำเราไว้ "จะมีกินมีใช้ไปถึงชาติหน้าทีเดียว"

    มงคลบูชาครูนี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าเหมาะแก่คนชอบของแรงๆ เป็นมงคลอาถรรพ์ ที่จะเปิดพลังงานจักรวาลเปลี่ยนอาถรรพ์ชีวิต พร้อมด้วยบารมีของพระฤาษีทุรวาสที่จะดำเนินเรื่องราวเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีและงอกงามขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ ท่านว่าหากปรารถนาเพียงแค่เรื่องมงคลชั่วครั้งชั่วคราวก็อย่าเอาไป แต่หากปรารถนาสิ่งดีๆให้เข้ามาอย่างน่าใจหายและตกตะลึงอันนั้นถึงจะเหมาะกัน ด้วยองค์ฤาษีทุรวาสนั้นท่านมีฤทธิ์มาก ถึงขนาดสาปฟ้า สาปสวรรค์ สาปเทวดาถ้วนมหาจักรวาลให้ตกอยู่ในห้วงคำสาปท่านมาแล้ว ดังนั้นเหรียญนี้คนที่บูชาเทวดาเขาจะยำเกรง ซ้ำหากในอดีตชาติมีเจ้ากรรมนายเวรหรือผู้มีตบะญาณและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดอาฆาตทำร้ายเราอยู่ด้วยชาติเวรทั้งหลายก็ดี เมื่อเราอาราธนาพระทุรวาสฤาษีนี้ เค้าจะปลดเปลื้องวาระกรรมออกให้ด้วยเกรงในอำนาจตบะบารมีของพระฤาษีที่ร้อนแรงดุจเพลิงแผดเผา

    ท่านมักจะพูดเสมอว่าของเช่นนี้ไม่มีผู้ใดเขาทำกัน บรมครูที่ยิ่งใหญ่ดั่งฤาษีทุรวาสนั้นท่านมีอารมณ์รุนแรง รักแรง เกลียดแรง เวลาช่วยเหลือค้ำจุนใครท่านทำด้วยเกียรติยศของท่าน ไม่ช่วยขอไปทีหรือทำเล่นๆ ดังนั้นใครที่บูชาครูทุรวาส เราถือว่าเขาโชคดีที่มีบุญอยู่บ้าง พอให้ได้เจอกับครูสำคัญที่จะเปลี่ยนชะตาเขาไปตลอดกาลผู้นี้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าอีกเรื่องหนึ่ง ที่คนบูชาต้องพึงจดจำไว้ ว่านั่นจะเป็นอำนาจวิเศษที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อรับพระทุรวาสะของเราไปบูชา นั่นคือการเปลี่ยนแปลงของอำนาจวาจา วาจาที่กล่าวออกไปทั้งหลายก็ดี จะมีอำนาจบงการคนและชีวิตรอบข้างได้ หากอาราธนาจนครูท่านเมตตาและอาคมตลอดจนบารมีอันเป็นสิ่งเฉพาะตนซึมเข้าเนื้อเข้ากระดูกแล้ว วาจาก็จะยิ่งมีอานุภาพรุนแรงดุจคำปกาศิตที่จะให้พรหรือสาปแช่งผู้อื่นได้

    ข้อควรจำ
    - สิ่งแรกที่ควรทำคือฝากตัวเป็นศิษย์ท่านด้วยความตั้งใจอย่างแท้จริง มีเครื่องบูชาครูง่ายๆเพียงน้ำชา น้ำเปล่า ดอกไม้หอม และให้พูดเออออไปเองว่าท่านรับแล้ว จากนั้นให้ขอพรท่านให้คุ้มเกรงชีวิตเราตลอดไป
    - การบูชาครูทุรวาสนั้นไม่ควรมุ่งร้ายหรือไปขอให้ท่านสาปแช่งใคร เพราะลำพังบารมีท่านคุ้มเกรงชีวิตเราหากมีผู้ใดคิดร้าย คนผู้นั้นก็แทบจะหนีไม่พ้นภัยพิบัติอันเกิดจากอารมณ์โทสะของครูท่านที่จะจะปกป้องเราเวลามีคนมาปองร้ายสานุศิษย์อยู่แล้ว
    - หมั่นพูดแต่สิ่งดีๆ เวลากราบไหว้ขอพร ควรขอแต่สิ่งดีงามอันเป็นมงคลเป็นเกียรติยศแก่ชีวิต
    - หากมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ พ่ออาจารย์ท่านให้จุดธูปสิบหกดอก บอกกล่าวเล่าให้ครูทุรวาสฟัง ท่านว่าใช้คำว่าเล่า เรามีเรื่องอึดอัดคับข้องใจประการใดก็ดี ไปพูด ไปเล่าให้ท่านฟัง ว่ามันทุกข์มาก มันลำบาก มันหาทางออกไม่ได้ ใครทำร้ายเราอะไร ชีวิตนี้มันไม่มีทางให้เดินอย่างไรก็พูดไป เล่าออกไป เหมือนฟ้องร้องต่อท่าน พยายามพูดกับท่านบอกท่านให้มากๆ ขอให้ทำด้วยความจริงใจและออกมาจากน้ำใจจริงๆของเรา พ่ออาจารย์ว่าอย่าว่าแต่มนุษย์เลย แม้เราดำรงค์อยู่ในสุจริตยุติธรรมแล้ว แม้คู่กรณีเป็นเทวดาบนสวรรค์ท่านก็จะไปเอาความให้
    - เมื่อถึงกาลแห่งทุกข์หรือรู้สึกว่าตนเองนั้นมีสิ่งผิดปกติในร่างกาย แม้แต่เกรงว่าจะต้องคุณโดนของรึมนต์ดำอาถรรพ์ใดๆก็ดี ให้อาราธนาครูทำน้ำเทพมนต์รดอาบดื่มกิน ก็จะชะล้างคุณไสยทั้งหลายลงได้ ซ้ำยังลดและสะกดอาถรรพ์ร้ายทั้งหลายจากภายในร่างกายและดวงชะตาของตนอีกด้วย
    - หากปรารถนาสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรืออยากให้ชีวิตดำเนินและเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรด้วยความรวดเร็ว พ่ออาจารย์ท่านให้เอากระดาษลงวันเดือนปีเกิดและชื่อนามสกุลตนเอง เอารูปครูทับไว้สามวันอธิษฐานขอให้ท่านเปลี่ยนแปลงวาสนาในชะตาชีวิต พร้อมกับขอพรด้วยวาจาปกาศิตขององค์ท่านให้ชีวิตสำเร็จในเรื่อง....ใดๆตามแต่ปรารถนา
    - ครูท่านชอบดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม เมื่อจะไหว้หรือมีใจน้อมกตัญญูอยากจะบูชาพระคุณท่านก็ถวายเพียงน้ำเปล่าน้ำชา และดอกไม้ชนิดใดก็ได้ที่มีกลิ่นหอม จะสามอย่าง ห้าอย่าง เก้าอย่าง ก็ตามแต่สะดวกและความพึงใจของตน แม้เมื่อจะบนบานศาลกล่าวสิ่งใดก็ให้บนด้วยดอกไม้หอมเพียงเท่านั้น งดการถวายเนื้อสัตว์และของคาวใดๆทั้งสิ้น

    คาถาบูชา

    โอม ทุรวาสะ อิสีเทวะ นะโม นะมะฮา
    เสกปากให้วาจามีกำลังมาก ด้วยเดชเดชะ ครั้นกูอ้าปากคราใดให้เสียงกูใสเสมอนกการเวกอันร้องอยู่ในท้องพระเวหา ให้เสียงกูดังประหนึ่งพื้นพสุธาสั่นไหว แม้เสียงกูไปต้องขุนเขาก็แหลกราน เสียงกูดังไกลไปถึงมหาพรหมในสถานอกนิษฐ์ เทพทุกฟ้าพรหมทุกสถานให้แล่นมาฟังเสียงกู เสียงกูนี้ดังปานฆ้องเก้าใบ ระฆังหมื่นลูก กังวาลเหมือนเสียงช้างสาร ห้าวหาญปานพญาราชสีห์ ให้เสียงกูนี้ปราบแผ่นดินและหัวใจผู้คน โอมศรี พรหม ปัญโญ ปัญญัง สัพพะกาลัง สะหุม

    * พระฤาษีทุรวาสนั้น พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้ทั้งหมดเจ็ดองค์ตามจำนวนเงินปากผีที่มี สำหรับผู้สั่งจองให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดเวลาตกฟากและเรื่องทุกข์ใจไว้ทาง PM พ่ออาจารย์ท่านจะจุดธูปสิบหกดอก บอกกล่าวฝากดวงชะตาให้วาระหนึ่งก่อน พร้อมกับลงจารกำกับเหรียญหล่อสำคัญนี้ รายได้ร่วมสมทบทุนไถ่ชีวิตโคกระบือและเป็นทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาศต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลสาปสวรรค์เหรียญครูเปิดพลังจักรวาลอิสีทุรวาสะ(ฝังเงินปากผี) บูชา 4,000 บาท


    7_B1.jpg durvasa-shakuntala-_J3_BAPD.jpg
    28908412_2162737430679333_1779429512_n.jpg 28907265_2162737444012665_828212946_n.jpg
    28946093_2162737394012670_263157658_o.jpg
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดนักล่าตบะพยัคฆราช+รูปหล่อพยัคฆ์ตัวครูสมิงนารายณ์(เสือขย้ำ)

    จะกล่าวถึงวิชาลงตะกรุดพญาเสือนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าตัววิชานั้นมีหลายชนิดและหลายประเภท ซึ่งแต่ละชนิดก็ให้คุณแตกต่างกันไปตามสายวิชาและการสืบทอด จะเห็นได้ว่าแม้พ่ออาจารย์ท่านจะมีวิชาเสืออยู่หลายตัวแต่ท่านก็ไม่ค่อยออกเครื่องรางเสือเท่าไหร่ ท่านมักพูดหยอกมากกว่าว่าเสือของฉันมันมีตัวมีตน เป็นราชาพยัคฆ์ ทำเล่นๆแค่ให้คนใช้ขอไปทีไม่ได้


    ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงลงวิชาตะกรุดนักล่าตบะพยัคฆราชขึ้นมา ตะกรุดนี้เป็นตะกรุดวิชาเสือตัวสำคัญของพ่ออาจารย์ท่าน เพราะเป็นตัวล่าเหยื่อ ออกตระเวนหาเหยื่อทุกท้องที่ ท่านว่าอันเสือล่าเหยื่อนี้ทำยากกว่าเสือทุกชนิดเพราะต้องเสกลงอาการอธิษฐานให้ตื่นตัว พร้อมล่าตลอดเวลา


    โดยปกติคนที่บูชาตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามักได้ประสบพบพรรณคุณ องค์คุณวิเศษต่างๆจากตะกรุด ดังนี้ จะส่งเสริมสิริมงคล ให้เจริญด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ โชคลาภหลั่งไหลทำมาค้าขึ้นดี เป็นมหาอำนาจแคล้วคลาด ปลอดภัย แก้ดวงตก เสริมดวงโชคชะตาให้รุ่งโรจน์ แม้ได้บูชาจะมีอำนาจมากนัก เปี่ยมด้วยตบะเดชะ เป็นมหาปราบกำราบสิ่งชั่วร้ายได้สิ้น สิ่งลึกลับต่างๆทั้งภูติผีแลคุณไสยสิบสองชาติภาษาย่อมไม่สามารถทำอะไรได้เลย เป็นทั้งเมตตามหาเสน่ห์มีอำนาจในการสะกดใจคน กันรังควาน ปัดเสนียด การกลั่นแกล้งทุกประการ...


    แต่พ่ออาจารย์ท่านว่า ตะกรุดนักล่าตบะพยัคฆราชนี้ ไม่เหมือนกับตะกรุดวิชาเสือโดยทั่วไป เพราะตะกรุดนี้เป็นวิชาเอกของเสือชั้นครู เป็นตะกรุดที่เอาไว้ล่า นอกจากคุณวิเศษเพิ่มเติมจากเสือปกติดั่งได้กล่าวไว้แล้ว ยังช่วยให้ชีวิตคนใช้เปลี่ยนแปลงไปด้วย "ปกติชีวิตคนนั้นจะนั่งรอเหยื่อ รองาน รอความสำเร็จวิ่งเข้ามาหา พ่ออาจารย์ท่านว่าคนประเภทนี้มันขยันรอ แต่โชคก็ไม่ได้ขยันเข้ามาเป็นสิ่งสวนทางกัน ตรงกันข้ามกับคนอีกประเภทหนึ่ง นั่นคือขยันตัวเป็นเกลียว ทำทุกอย่างไม่หยุดนิ่งรออยู่เฉยๆ แต่ก็ทำอะไรไม่สำเร็จซักอย่าง คนทั้งสองนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพฤติการณ์ต่างกัน แต่ปลายทางเท่ากันนั่นคือความล้มเหลว"


    ดังนั้นท่านจึงคิดจะนำวิชาที่ครูเฒ่าถ่ายทอดไว้ นำออกมาช่วยให้การดำเนินชีวิตของคนนั้นง่ายขึ้น ด้วยวิชานักล่าตบะพยัคฆราชนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าเสือนั้นมีหลายประเภทมีทั้งราชาของเหล่าจ่าฝูง เสือตัวจ่าฝูงและเสือลูกฝูง เสือทั้งหลายนั้นล้วนมีอำนาจและคุณลักษณะต่างกัน บางประเภทก็นอนรออาหาร บางประเภทก็ออกล่าเหยื่อ แต่เสือตัวนี้ท่านทำให้แก้วิกฤติปากท้องและการใช้ชีวิตของคนให้เป็นกรณีพิเศษ เพราะท่านจำเพาะทำเป็นเสือล่าเหยื่อนั่นเอง


    เสือล่าเหยื่อคือตัวตนของความยิ่งใหญ่ที่ไม่หยุดนิ่ง เคลือนไหวไปเรื่อยๆพร้อมกับชัยชนะและความสำเร็จที่มากขึ้น กวาดไปทั้งป่า ล่าไปทั้งโลก เสือของท่านเป็นเสือที่ไม่อยู่เฉย เพราะเขาจะเที่ยวติดตามแสวงหาจนกว่าจะได้ชัยชนะ แม้จุดหมายยิ่งใหญ่ปานใดก็โดนสะกดให้ล้มลง ให้แตกพ่ายตั้งแต่ยังไม่เริ่ม เพราะนี่คือการล่าของราชาพยัคฆ์ อันที่จริงท่านว่าวิชาเสือนั้นมีหลายตัวหลายประเภท แต่เสือนักล่านี้ครูบาอาจารย์ท่านจะไม่นิยมทำกัน เพราะท่านเกรงว่าหากเอาไปใช้ตกถึงมือเสือ มือโจร มือคนเห็นแก่ได้ คนเหล่านั้นจะยิ่งกว่าเสือติดปีก ล่าไปทั่ว ล่าไม่ถอย ล่าไม่เห็นตัวและไม่มีใครทำอันตรายพวกมันได้ ดังนั้นแต่อดีตบูรพาจารย์จึงไม่ค่อยลงเสือตัวล่ากันนัก


    ในขณะเดียวกันพ่ออาจารย์ท่านว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนแปลงไป หมดยุคของเสือของโจรถึงยุคที่คนใช้ชีวิตกันยากขึ้น ลำบากขึ้นแล้ว ท่านพิจารณาว่าอันพรรณคุณพิเศษของเสือตัวล่านี้เหมาะและเข้ากับยุคสมัย อันว่าคนที่ใช้แม้เสมอตัวแค่ห้อยอาราธนาด้วยนิสัยแต่ละบุคคลเกิดมามิได้เสมอกัน หากเป็นคนประเภทอยู่นิ่งๆไม่ทำอะไรรอแต่ความสบายวิ่งเข้ามาให้ถึงปาก อานุภาพของเสือตัวล่าก็จะล่าและทำให้สิ่งต่างๆสำเร็จได้ไวขึ้น แต่หากบุคคลนั้นมีอุปนิสัยในการแสวงหา มีจิตใจที่อยากจะยิ่งใหญ่ อยากจะพัฒนาตัวเองขึ้นไปไม่ติดอยู่ในวังวนและสถานที่เดิมๆ อานุภาพของเสือตัวล่านั้นจะผสานเข้ากับอุปนิสัยและการใช้ชีวิตของผู้บูชา นี่เองที่ท่านเรียกว่าจะดีแบบเสือติดปีก เพราะทำอะไรล่าอะไรก็ได้ไปหมด


    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเรียกอาการยากกว่าเสือทั่วไป ซ้ำยังเสกให้สำเร็จยิ่งยาก ท่านทำมานานหลายปีลงวิชาเสือไว้ครบถ้วนโดยไม่บอกใคร ท่านว่าตะกรุดแบบนี้ให้ใครรู้ไม่ได้ถ้ายังไม่ถึงเวลาว่าเราได้ทำไว้ ถ้าเกิดมีคนรู้เขาก็จะแย่งกันไปหมดไม่เหลือให้คนที่จำเป็นต้องใช้จริงๆได้อาราธนา โดยตะกรุดนี้ท่านว่าใช้ได้สารพัดดุจแก้ววิเศษมีคุณรอบด้าน จะใช้ล่าอะไร อะไรที่เป็นความสำเร็จ เป็นทางที่เราอยากจะเดินไปให้ถึงย่อมใช้ได้ทั้งสิ้น ทั้งล่างาน ล่าผลงาน ล่าสาว ล่าความรัก ล่าเกียรติยศ ล่าโชค ล่าวาสนา ท่านว่าขอให้ใจอยากล่า ไม่ว่าเรื่องใดย่อมใช้ได้ทั้งสิ้น


    เมื่อท่านลงและเสกตะกรุดแล้ว ท่านยังได้เมตตานำหนังหน้าผากเสือ ที่เป็นสมิงจริงๆอันท่านเคยพบและสะกดนำหนังหน้าผากตัดไว้ ถือเป็นของสำคัญและมีอานุภาพวิเศษในการสะกดข่มสรรพชีวิตทั้งหลายด้วยตบะเสืออย่างถึงที่สุด กล่าวกันว่าเสือแต่ละตัวนั้นมีอำนาจตบะไม่เท่ากัน แต่เสือที่ฝึกตนมาถึงขั้นสมิง เขาจะมีอำนาจตบะแรงกล้ากว่าเสือทั้งหมด กล่าวกันว่าด้วยตบะเสือนี้แม้จ้องตาเหยื่อเมื่อใด สัตว์ทั้งหลายก็จะขาอ่อน ถูกตรึง ถูกสะกดไว้หนีไปไหนไม่ได้ ต้องยอมถูกล่ากลายเป็นอาหารอยู่ในขณะนั้นเอง จุดหน้าผากเสือนี้เองที่พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นแหล่งพลังงานตบะชั้นยอดที่แสดงอานุภาพออกมา เป็นดุจตาที่สามของสมิงที่ผ่านการล่าและสะกดสัตว์มาแล้วทั่วป่า เป็นหนังหน้าตบะเสืออันมีคุณสูงกว่าเสือทั่วไป พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาตัดหนังหน้าผากมาม้วนเป็นตะกรุดดอกเล็กๆยัดใส่ไว้ภายในตะกรุดนักล่าอีกหนหนึ่ง ท่านว่าเอาไปใช้ ใครเป็นเหยื่อเป็นศัตรูเราจะได้สะกดมันให้อ่อนน้อม ยอมพลีกายพลีตนเป็นอาหาร เป็นทางเดินให้กับเราเสียให้หมด ท่านว่าหนังหน้าเสือสมิงแท้ๆนั้นมีน้อยเพราะเป็นของหายากและเอายาก จะสะกดเสือที่เคยสะกดวิญญาณและสัตว์ทั้งป่ามาแล้วไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นก็ให้แบ่งๆกันไปใช้เอาอานุภาพของมัน จึงต้องตัดทำเป็นตะกรุดดอกเล็กๆบรรจุไว้ภายใน


    * เมื่อจะออกให้บูชาตะกรุดนักล่านั้น ก็จะแถมพยัคฆ์ตัวครูสมิงนารายณ์(เสือขย้ำ)ให้บูชาไว้พร้อมกันทีเดียว

    พยัคฆ์ตัวครูสมิงนารายณ์(เสือขย้ำ)
    เสือกายสิทธิ์ธาตุที่พ่ออาจารย์ท่านปลุกเสกมายาวนาน ทั้งลงจารสูตรยันต์เอื้อนเอ่ยโองการจารึกสูตรพยัคฆ์นารายณ์ ทั้งหัวใจเสือสามจำพวก เหลือร้ายด้วยนะตวาดหิมพานต์กำกับไว้ที่ปากสมิงดุจว่าอำนาจเสือสะกดได้ทั้งเมือง ปราบได้ทั้งป่า เพียงแค่เสียงตวาดคำรามก็ทำให้สัตว์ทั้งหลายสูญสติไปเสียสิ้น ทั้งว่าสูตรทำวิชาเสือขย้ำเหยื่อเรียกอาการไว้ที่ฝ่าเท้าแลกรงเล็บ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสมิงนารายณ์นี้เป็นเสือนารายณ์อวตาร กรงเล็บและคมเขี้ยวนั้นคมกล้าด้วยอานุภาพของสุทัศนจักร เป็นเสือครูปราบปรามได้แม้แต่เทวดาและอสูรทุกภพภูมิ ในสายเสือแล้ว เสือเทพพยัคฆ์นี้นับเป็นของสูง เป็นเสือที่ทำวิชาอ้างเอ่ยถึงปางอวตารแห่งองค์พระนารายณ์

    ท่านได้สร้างไว้ในรูปแบบเสือหลวงพ่อปาน ด้วยถือว่าเดินตามรอยครูบูรพาจารย์ซ้ำยังเชิญองค์หลวงพ่อปานท่านทำวิชาเสือประสิทธิ์ให้อีกวาระหนึ่ง กล่าวได้ว่าเมื่อพ่ออาจารย์ท่านปลุกเสกพยัคฆ์ตัวครูนั้น กายสังขารท่านดูเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งดูท้วมใหญ่ผิวหนังแดงแฝงความน่าเกรงขามดุดันดุจคนโบราณ เมื่อท่านทำวิชาเสือนี้เรียกว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ท่านว่าที่กายสังขารเปลี่ยนนั้นเพราะครูท่านแฝง หลวงพ่อปานท่านทำวิชาสมิงให้ รูปลักษณ์ภายนอกก็เลยเปลี่ยนไป ท่านเสกในป่าจนป่าลั่นได้ยินเสียงเสือคำราม ทั้งสาปเสือเดินวนเวียนกอปรกับเสือขย้ำทุกตนนั้นกระจายตกจากถาดที่วางไว้ไปติดตามเนื้อที่ใช้พลีกรรมถวาย เมื่อเก็บกลับคืนมาก็ได้ไม่ครบทุกองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเสกเสร็จเสือหายเข้าป่าไปเป็นจิตวิญญาณเสือพระเวทย์คุ้มครองป่าก็มาก ดังนั้นเสือรุ่นนี้จึงเป็นเสือเป็นเจ้าป่าอย่างแท้จริง

    ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านยังทำวิชาเสือขย้ำ เป็นวิชาเอกสายเสือของท่านที่ได้ชื่อว่าหากทำเสือขย้ำแล้วไม่มีสิ่งใดที่จะกลืนกินสามารถหลุดรอดไปจากปากได้ "ดุจปากของเรานับแต่นี้จะกลืนอะไรก็ไม่หลุด หากไม่คายออกมาเองแล้วย่อมได้กิน ไม่มีสิ่งใดพ้นปากเราได้เลย" ท่านว่าวิชานี้ย่อมมีดีในตัวของมัน เพราะคนเรามีหลายอย่างผ่านหน้าผ่านตาเหมือนจะได้แต่ก็ไม่ได้ ไปอยู่กับคนอื่น วาสนาผ่านตัวเองไปก็มีเรียกได้ว่าจะกินเหยื่อแต่ก็ไม่มีปัญญากิน แม้หามาได้ก็เหนื่อยเปล่า คนอื่นแย่งผลงานความดีความชอบไปแต่ฝ่ายเดียวก็มี ลงทุนลงแรงอะไรก็กลายเป็นทำให้เขาไม่เข้าตัวเอง แต่วิชาเสือขย้ำนี้เป็นการแสดงออกด้วยสีหนาท อำนาจราชศักดิ์กดขี่และขบกัดอย่างรุนแรงไม่ให้สิ่งใดก็ตามที่หมายใจจะกลืนกินหลุดรอดพ้นไปได้

    ที่ผ่านมามีคนถามหาสมิงพระกาฬซึ่งหมดไปนานแล้ว ก็ได้แต่แนะนำเสือขย้ำให้เพราะเป็นเสือครู เสือวิชา ซ้ำยังเป็นเอกของวิชาสายเสือของพ่ออาจารย์ที่ท่านสร้างและเชิญบารมีหลวงพ่อปานทำให้ นับว่าใช้แทนของเก่าได้เลย ซึ่งคนที่บูชาไปก็ล้วนแต่เล่าประสบการณ์กันมาไม่ขาดเกี่ยวกับประสบการณ์ตกเหยื่อ ขย้ำเหยื่อ เขาว่ามันสะใจมากเพราะขย้ำได้ทุกประเภท ทุกสถานการณ์ทั้งหากิน ทั้งขย้ำเหยื่อ ขย้ำสาว

    เดือนนี้ก็มีขอให้จัดกิจกรรมมา แต่ว่าก็ยังไม่รู้จะเอาอะไรมาเล่นเกมเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะแจกก็เอาของดีๆไปเลย แต่ก็นั่นอีกเสือขย้ำนั้นเหลือเพียงสี่องค์(ใช้ว่าองค์เพราะเป็นเสือเทพ) ไม่พอให้เล่นรึแจกใครให้เสียอารมณ์แน่นอน ก็เลยจะแจกไปกับตะกรุดที่จะเปิดให้บูชาเพราะเป็นตะกรุดที่ใช้วิชาเสือทำพอดี ทั้งล่าทั้งขย้ำ

    * เมื่อจะนำมาแจกก็ไม่ใช่ว่าจะแจกได้ทุกคนเพราะเสือไม่พอกับตะกรุด ดังนั้นจะพิจารณาให้เป็นคนๆไป ใครที่ต้องการเมื่อบูชาตะกรุดและแจ้งขอรับเสือขย้ำพร้อมกันไปด้วยหากมีเหตุผลดีๆว่าจะเอาไปทำอะไรก็จะแถมคู่กันไป

    *พ่ออาจารย์ท่านว่าของสองสิ่งนี้หนุนส่งอานุภาพของกันและกัน ใครได้ใช้ควรพกไว้คู่กัน ทั้งล่าทั้งขย้ำ ท่านว่าพูดได้เท่านี้คือ "ล่าเพื่อมาขย้ำ" ดีอย่างไรอยู่ที่ใจคนใช้แล้วเท่านั้นที่จะรู้


    คาถาบูชา

    โอม อานันเทจะ พยัคโฆจะ พยัคคะนะ ตะมัตถัง ปะกาเสนโต ตัวกูคือ พญาพยัคโฆเชชะนา อาสิทิเสฏฐัง อาหะเยชะนา อะปัณณะอาสิทิ สัตถาอาหะ พยัคโฆจะวิริยะ อิมังคาถามะหะ อิติ ฮ่ำ ฮึ่ม ฮึ่ม

    * ตะกรุดนักล่าตบะพยัคฆราชนั้นพ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้เพียงหกดอกด้วยหนังหน้าสมิงมีน้อย รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ส่วนใครที่ต้องการพยัคฆ์ตัวครูสมิงนารายณ์(เสือขย้ำ) เมื่อบูชาตะกรุดแล้วให้แจ้งขอรับเสือขย้ำพร้อมกันไปด้วย หากมีเหตุผลดีๆว่าจะเอาไปทำอะไรก็จะแถมคู่กันไป รายได้ร่วมสมทบทุนบูรณะเสนาสนะในวัดที่เสื่อมโทรมต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดนักล่าตบะพยัคฆราช+รูปหล่อพยัคฆ์ตัวครูสมิงนารายณ์(เสือขย้ำ) บูชา 4,000 บาท

    29134742_2165858360367240_1816918344_n.jpg
    29390757_2165858340367242_1256604038_o.jpg
    29391246_2165858217033921_1200721225_o.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เทวีบุญฤทธิ์สมปรารถนากามเธนุคาวี(แร่โควรรธผงกฤษณะยันตรา)
    " ถึงขนาดที่แม้แต่พรหมฤาษีผู้ยิ่งใหญ่ในญาณอุเปกขา ยังเกิดความโลภครอบงำเมื่อเห็นโควิเศษนี้ แม้แต่พรหมฤาษียังก่อสงครามอันน่าสยดสยองเพื่อแย่งชิงแม่โค เหตุด้วยเพราะแม่โคนี้มีอานุภาพแห่งการสร้างสรรค์เกินอำนาจของพรหมนั่นเอง "

    อันสุรภีคาวีหรือกามเธนุนั้น ถือเป็นวัวต้นกำเนิดที่พ่ออาจารย์กล่าวว่านอกจากเราจะยกย่องแล้ว แม้เหล่าเทพพรหมทั้งหลายก็ดียังให้การบูชา ด้วยเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์และสิริมงคล นอกจากนั้นในทุกส่วนของร่างกายแม่โคนี้ ยังเป็นที่สถิตย์ของเหล่าเทพเจ้าสำคัญทั้งหลายไม่ได้ว่างเว้น มีพละกำลังมากด้วยกำลังพระเจ้าทุกพระองค์สถิตย์อยู่....


    พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริที่จะสร้างแก้วสารพัดนึกวิเศษขึ้นมาในรูปแม่โคกามเธนุ เทวีผู้มีแต่ให้ ให้ทุกอย่างแก่ผู้ครอบครองตามคำร้องขอ ให้โดยปราศจากการโต้แย้งหรือปฏิเสธ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าศาสตร์แห่งการสร้างโคนี้มีมาเนิ่นนานนับพันปีแล้ว และพราหมณ์ยังยกย่องวัวให้เป็นหนึ่งในมารดาทั้งเจ็ดอีกด้วย


    ท่านว่าเมื่อจะสร้างโคกามเธนุนี้ผู้บูชาต้องรู้ไว้ก่อนว่าเราไม่ได้สร้างขึ้นมาในฐานะเครื่องรางเหมือนวัวธนูและควายธนูนั้น แต่กามเธนุเป็นหนึ่งในเทพมารดาที่แม้แต่เทพ พรหม ฤาษียังต้องยกมือไหว้และให้การสักการะบูชา เป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่เพราะเป็นวัวต้นกำเนิด เป็นเทพที่เป็นมารดาของวัวทั้งหมด...


    " ด้วยคุณวิเศษของโคแก้วสารพัดนึกนั้น เป็นคุณวิเศษอันเกิดขึ้นได้จากบุญฤทธิ์ จากการเนรมิตของแม่โคเอง เป็นอานุภาพเฉพาะตนของเขา ซึ่งหาผู้ใดเสมอเหมือนไม่ได้ และสิ่งที่แม่โคเนรมิตขึ้นมานั้นก็นับด้วยว่าย่อมเป็นสิ่งอันเป็นเลิศที่สุด "


    พ่ออาจารย์ท่านว่าโคกามเธนุนี้อยู่ที่ไหน ตรงนั้นจะอุดมสมบูรณ์ เต็มเปรี่ยมไปด้วยวิวัฒนาการและความเจริญก้าวหน้าของผู้ครอบครอง ทั้งยังดลสิริมงคลให้บังเกิดแก่ร่างกาย ให้สิริสถิตย์อยู่ในตำแหน่งอันเป็นมหาอุดมที่จะดลบันดาลความสุขความสมหวังทุกสิ่งบรรดามี ทั้งยังตอบสนองให้พรแก่ผู้บูชาได้ทุกสิ่งไม่ว่าจะม้า รถ คช พล ทรัพย์สมบัติ แลความปรารถนานานัปการ


    การมีอยู่ของแม่โคกามเธนุหรือสุรภีคาวีนี้ ด้วยว่าเป็นโคแก้วสารพัดนึก หากแต่ผู้กระทำการบูชา ไม่ใช่ต้องคอยบูชาดั่งเทพเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะว่าเทวีกามเธนุนั้นมีหน้าที่ของเค้าอยู่ หากเราเป็นผู้ครอบครองเขาแล้ว เขาก็ย่อมมีหน้าที่อันจะตอบสนองเราเช่นกันนั่นคือการคอยปรนนิบัติเราในทุกวิถีทาง ไม่ให้เราได้ทุกข์ รำคาญใจ หรือเดือดเนื้อร้อนใจเช่นนั้น


    ดังนั้นเครื่องมงคลอันแปลกตายากจะพบเห็นจึงได้อุบัติขึ้นมา พ่ออาจารย์ท่านหล่อด้วยธาตุกายสิทธิ์และอธิษฐานจิตเป็นอย่างดี ท่านว่าเสกอะไรก็ไม่ยากดุจเสกเทวีกามเธนุนี้ ด้วยว่าเป็นรูปอาถรรพ์แห่งสิริมงคลและความอุดมสมบูรณ์ "เทพเจ้าเขาก็ไม่อยากให้เราทำมากด้วยว่ามันจะไปขัดกับกระแสกรรมและทุกข์เภทตลอดจนภัยพิบัติต่างๆอันจะเกิดแก่มนุษย์ ด้วยกรรมนั้นลิขิตทุกสิ่งไว้เป็นอันดี แต่หากมนุษย์หมู่ใดได้ครอบครองแม่โคกามเธนุนั้นแล้ว สิ่งเหล่านั้นย่อมเกิดขึ้นไม่ได้เลย ด้วยโคนี้จะดลแต่ความอุดมสมบูรณ์และสิริมงคลให้บังเกิดทั้งยังคอยปรนนิบัติช่วยเหลือสุดแต่การเอ่ยปากขอของผู้ครอบครอง"


    เมื่อจะสร้างจะเสกนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าความยากก็อยู่ที่การเชิญเหล่าเทพเจ้าทั้งหลายไปสถิตย์อยู่ตามส่วนต่างๆของร่างแม่โค อันแม่โคนี้ด้วยว่าเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้าแต่เดิม ด้วยตรีมูรตินั้นเสด็จลงมาเป็นหน้าโค ดวงตาทั้งสองก็คือสุริยันจันทรา พระอัคนีเป็นบ่าโคทั้งสองข้าง ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ พระวรุณ พระยม พระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์ พระอุมา พระลักษมี พระสรัสวดี และเหล่าพรหมฤาษีตลอดจนถึงนารัทมุนีแยกเป็นอวัยวะน้อยใหญ่ เท้าทั้งสี่ข้างก็สถิตย์ด้วยสัญลักษณ์แทนพระเวทย์ทั้งสี่แต่ปางบรรพ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากเพราะต้องนั่งวาดยันต์ศรีจักราแต่ละมณฑลต้องอัญเชิญเทวดาทีละพระองค์ก่อนจะเป่ายันต์ไปตามตัวแม่โคสุรภี


    ดังนั้นแม่โคนี้จึงมีอำนาจยิ่งใหญ่ด้วยการให้กำเนิดทุกสรรพสิ่งตามแต่บุญฤทธิ์จะดลให้เป็นไปในคำขอของผู้ถือครอง ท่านว่าเขาจะจำเจ้าของ และแม่โคนี้เป็นของวิเศษอย่างยิ่งเฉพาะเจ้าของ ถ้าเป็นเจ้าของขอหรือใช้งานย่อมเกิดผลทันที แต่หากเป็นผู้อื่นปรารถนาอธิษฐานอย่างใดก็ไม่นำพาความปรารถนาทั้งหลาย


    เมื่อปลุกเสกอัญเชิญพระเวทย์พระธรรมตลอดจนเทพเจ้าสำคัญเข้าดำรงค์อยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเรากระทำสักการะแม่โคนี้ ในเวลาเดียวกันย่อมไปถึงเทพเจ้าทั้งหลายด้วยเช่นกัน ด้วยแม่โคนี้เป็นตัวแทนแห่งความเมตตากรุณาเมื่อสำเร็จเป็นเครื่องมงคลจึงมีผลให้ผู้ครอบครองเป็นที่รักและเอ็นดูแก่สรรพสิ่งต่างๆอย่างน่าประหลาดใจ พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้แต่ตัวโคสุรภีเอง เทพเจ้าทั้งหลายยังเมตตาเข้ารักษาในทุกส่วนของร่างกาย ดังนั้นรูปกายมงคลนี้ จึงเป็นกระแสแห่งพลังด้านเมตตา มหาชิด มหาหลง อยากอยู่ใกล้ อยากปกปักรักษา เป็นมงคลแก่ผู้บูชาอาราธนาอย่างถึงที่สุด


    เมื่อสร้างแม่โคแล้ว ด้านหลังพ่ออาจารย์ท่านยังฝังเครื่องมงคลตลอดจนผงวิเศษสำคัญไว้ให้อีกด้วย มงคลวัตถุอันท่านพิจารณาสร้างเพื่อฝังแม่โคกามเธนุนั้นประกอบด้วย


    - ผงกฤษณะยันตรา ด้วยว่าพระกฤษณะนั้นนับถือว่าเป็นองค์อวตารของพระวิษณุผู้ปกปักรักษาสรรพสิ่งซึ่งคนนิยมนับถือท่านว่าเป็นคนเลี้ยงวัว เป็นผู้อภิบาลโคทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านจึงเลือกทำวิชาลงผงวิเศษขึ้นเพื่อเสริมอาถรรพ์หนุนรูปโคสุรภีนี้อีกคราหนึ่ง ท่านได้เขียนยันต์อักกะตัชชารี เป็นเลขยันตร์คาถาอาคมที่ถอดจากคำพูดแต่ละคำกลายเป็นตัวอักษรและสัญลักษณ์อันถูกจัดเรียงอย่างมีระเบียบและนำตัวเลขแทนสัญลักษณ์ดวงดาว มหาธาตุ และเทพเจ้าต่างๆจัดเรียงอยู่ในผังสมมุติของจักวาลทำการจัดเรียงตัวเลขเหล่านั้นในทิศทางที่ดีที่สุด


    ด้วยว่าอำนาจจากตัวเลขที่ถูกสมมุติแทนดาวดวงทั้งหลายจะส่งพลังงานจากดาวดวงจริงหรือพลังจักรวาลมาสู่ตัวผู้บูชาเพื่อให้สำเร็จในเหตุการณ์และความปรารถนาต่างๆ

    ผงนี้จะแผ่พลังงานจากมหาธาตุ ดวงดาว ตลอดจนถึงเทวราช เป็นพลังที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องไม่มีบกพร่อง พ่ออาจารย์ท่านว่าผงสำคัญนี้อันที่จริงเราก็ไม่อยากทำเท่าไหร่ ด้วยอานุภาพของมันนั้นจะส่งผลไปถึงการบิดเบือนมิติต่างๆรอบด้าน เป็นสื่อของพลังงานจักรวาล พลังงานกาลเวลาตลอดจนนำพาอำนาจพระกฤษณะมาสู่ผู้ศรัทธา

    ด้วยวิถีของการกระจายพลังงานที่แผ่ออกมาดุจคลื่นกระทบฝั่งไม่มีวันหยุดพัก ทั้งตัวผงเองยังดึงดูดพลังจักรวาลเข้ามาใช้เป็นตัวขับเคลื่อนพลังงานอันจะแผ่นี้ตลอดเวลา ดังนั้นผงกฤษณะยันตราก็เป็นผงที่มีอานุภาพการปรับเปลี่ยนสมดุลย์ให้ร่างกายผู้อาราธนาโดยอัตโนมัติ ด้วยจะควบคุมพลังงานเข้าออกทั้งดึงทั้งแผ่ไปในทิศต่างๆ

    พ่ออาจารย์ท่านลบ " ยันตรากฤษณะมณฑล" ให้มีอานุภาพเฉพาะทาง ท่านว่าหากใครถามว่าทำไมต้องเจาะจงลงยันต์กฤษณะมณฑล ทำไมไม่ใช้ศิวะมณฑล หรือวิษณุ อัคนีแลเทพเจ้าทั้งหลาย ทำไมเราถึงเจาะจงกฤษณะมณฑลนี้ ก็ให้บอกเขาไปว่า เพราะยันตราแต่ละรูปแบบนั้นมีอานุภาพต่างๆกันไปและเราพิจารณาแล้วว่ากฤษณะมณฑลนั้นมีอานุภาพควรกันกับแม่โคกามเธนุ ซ้ำยังเหมาะแก่ยุคสมัย ด้วยมีอานุภาพดึงดูดความรัก ดึงดูดน้ำจิตน้ำใจสัตว์ทั้งหลายอันมีน้อยและหาได้ยากในยุคนี้ให้เข้าหา ซ้ำผงยันต์กฤษณะมณฑลนี้ก็เป็นเสน่ห์อย่างเหลือล้น ทั้งยังเป็นผงเดียวที่มีอานุภาพทำให้ผู้พกผู้บูชาหลุดพ้นจากความทุกข์ ซึ่งเราพิจารณาแล้วว่าผงยันต์ตัวอื่นก็ไม่วิเศษเช่นนี้ ก็สมัยนี้ตัวทุกข์มันมาก สืบไปเบื้องหน้าคนก็จะยิ่งทุกข์หนักมาก เมื่อจะมีผู้ใดบูชาโคกามเธนุก็ด้วยปรารถนาการอภิบาลให้พ้นจากทุกข์ เช่นนั้นจึต้องอาราธนากระแสพลังงานของกฤษณะยันตราให้ดึงดูดธาตุและพลังจักรวาลขับออกซึ่งภัยพิบัติ ดลให้เจอแต่สิ่งดีงามพ้นห้วงทุกข์ทั้งหลาย

    - รูปหล่อกฤษณะยื่นแก้ว พ่ออาจารย์ท่านนอกจากเมตตาลงผงกฤษณะยันตราแล้ว ยังนำรูปหล่อกฤษณะยื่นแก้วฝังกำกับไว้ด้วย ท่านว่าดุจพลังงานของภควันกฤษณะนี้ยื่นเพชรน้ำเอกเกาสตุภะให้กับเรา อันเพชรนี้จะดลบันดาลทรัพย์ทั้งยังคุ้มกันภัยพิบัติและอันตรายทั้งปวงด้วย ท่านว่าเป็นการจัดรูปแบบพลังงานให้สอดคล้องกัน เมื่อผงกฤษณะยันตรามีหน้าที่ในการดึงดูดและขับออก รูปหล่อนี้ก็มีหน้าที่ในการรวบรวมและยื่นเข้ามาป้อนถึงปากถึงมือ ให้สำเร็จไวและทันเหตุการณ์ จะเรียกว่าทันใจก็ไม่ผิด เวลาขอและอธิษฐานสิ่งใดจะได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว


    - แร่โควรรธ ท่านว่าแร่สำคัญนี้ครูบาอาจารย์ที่สืบสายเลือดจากพราหมณ์ที่เดินทางเข้าสู่สุวรรณภูมิได้มอบไว้ให้ ส่วนตัวท่านนั้นท่านไม่รู้ว่าแร่นี้คืออะไร เอามาจากไหน รู้จักแต่เพียงว่าเขาโควรรธนั้นเป็นเขาศักดิ์สิทธิ์ด้วยได้รับการสัมผัสกับพระกฤษณะเป็นเจ้ายกขึ้นท้าทายอำนาจของพระอินทร์ เมื่อสืบทอดต่อกันมาก็บอกสืบๆกันมา พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนดั่งเป็นเจตนาฟ้า ย่อมไม่ใช่เพียงเรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ในเมื่อแร่นี้มีชื่อพ้องกับเขาโควรรธ มีพลังงานของพระกฤษณะสถิตย์อยู่แต่ปางบรรพ์ ท่านจึงนำแร่วิเศษนี้มาฝังไว้ให้ผู้บูชาอาราธนาด้วย ท่านว่าเขาโควรรธต้านภัยพิบัติอันพระอินทร์บันดาลให้เกิดขึ้นอย่างร้ายแรงได้ฉันใด แร่นี้ก็ย่อมต้านทานภัยพิบัติและสิ่งไม่ดีของผู้ทรงอำนาจ ผู้มากด้วยบารมี ไม่ว่าจะกระทำทางตรง หรือกระทำด้วยฤทธิ์และไสยเวทย์ทั้งหลาย แร่นี้ย่อมป้องกันได้เช่นนั้น


    - ตะกรุดเมตตาพรหมวิหาร พ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดสำคัญฝังไว้ ท่านว่าเมตตาตัวนี้เป็นตัวเมตตาของพรหม เป็นเมตตาที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ดุจเมตตาของบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ท่านลงตะกรุดตัวนี้เพื่อหวังอานุภาพสองด้าน หนึ่งก็คือให้คนทั้งหลาย อันเราแวดล้อมหรือสมาคมด้วยเขาเมตตาเรา เกลียดเราไม่ลง สองก็คือให้โควิเศษนี้เสน่หาเรา เมตตาเรา เอาใจผูกพันธ์กับเราเพื่อจะได้ช่วยเราให้สำเร็จการณ์ต่างๆได้สมดั่งใจ


    พ่ออาจารย์ท่านปลุกเสกกำกับแม่โคสำคัญนี้ไว้เป็นอย่างดี ท่านว่าอย่าไปมองว่ามันเป็นของแปลก แต่ของแปลกนี้ย่อมช่วยคนได้มาก มิเช่นนั้นนับพันปีก่อนคนเขาจะสักการะกันสืบมาเพื่ออะไร เพราะนี่คือรูปอาถรรพ์ รูปที่จะล้างอาถรรพ์ลดทอนวิบากกรรม ด้วยทุกสิ่งนั้นสำเร็จด้วยบารมีครูบาอาจารย์และเทพเจ้าทั้งหลาย นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราสร้างแม่โควิเศษนี้ไว้ให้ติดตัวเพราะถือคติว่าการได้ถือครองแล้ว ได้เข้าครอบครองสิ่งที่แม้แต่เหล่าพรหมฤาษียังปรารถนาแล้ว ย่อมได้รับการอภิบาลบำรุงรักษาจากโคแก้วเช่นนั้น


    นอกจากนี้การทำรูปโควิเศษนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ารูปโคยังเป็นสัญลักษณ์ของเทวีลักษมี เป็นสื่อนำโชค หากใครครอบครองรูปโคอันอุดมด้วยมหามงคลเช่นกามเธนุนี้ย่อมได้พรด้านโชคลาภจากมหาเทวีลักษมี ด้วยเชื่อว่ารูปโคนั้นจะนำความโชคดีมาสู่ผู้บูชารายการนี้ท่านว่าเป้นรูปอาถรรพ์เหมือนพ่องั่ง ถ้าฟ้าดินไม่เปิด ครูบาอาจารย์ไม่อนุญาติย่อมกระทำไม่ได้ โคที่จะดลทุกสิ่งไปตามความปรารถนาผู้ครอบครองนั้น นับจากนี้ไปสำหรับชีวิตเจ้าของถือได้ว่าเป็นการเดินทางสู่คำว่าตำนาน


    คาถาบูชา

    เย เย กามเธนุ สรเว เทวาหะ สะถิตา เทเห สรวา เทวะมะยีหิ เคา

    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างโคแก้วนี้ไว้ได้เพียงห้าองค์ ด้วยเหตุว่าผงกฤษณะยันตรานั้นลบยากและมีปริมาณน้อย สำหรับผู้บูชาให้สั่งจองไว้เฉพาะทาง PM พร้อมกับแจ้งชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด พ่ออาจารย์ท่านจะตรวจดวงและจารอธิษฐานกำกับเพื่อเติมเต็มในสิ่งที่ดวงชะตายังขาดหรือบกพร่องอยู่ พร้อมทั้งเจิมประสิทธิ์ให้อีกวาระหนึ่ง รายได้สมทบทุนไถ่ชีวิตโคกระบือ ถืออานิสงค์ต่อชีวิตด้วยการให้ชีวิต

    ร่วมทำบุญบูชา เทวีบุญฤทธิ์สมปรารถนากามเธนุคาวี(แร่โควรรธผงกฤษณะยันตรา) บูชา 4,000 บาท


    29852760_2170377296582013_1531440791_n.jpg
    29750936_2170377303248679_1779638620_n.jpg
    kamdhenu1.jpg 0de530a1225171d2f5dcc994012d3f75.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229

แชร์หน้านี้

Loading...