ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวิฬาร์ย่ำเหยียบเงาหมื่นกฏไม่ใช่เรื่องของเรา(เงาปรากฏรวยอมตะ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา รูปสลักพระผู้มาโปรดกาลิงคะพราหมณ์ปฐมกำเนิด (ไถ่ถอน,นิรโทษ,โรมรัน)

    " เครื่องรางที่สร้างเพื่อให้ผู้ที่เป็นดั่งบุตรบุญธรรมของมหาบุรุษเท่านั้นครอบครอง "
    ในอดีตนั้น หลายๆคนมักจะถามว่าพ่ออาจารย์ว่าท่านทำเสาไฟให้บูชาบ้างมั๊ย บางคนก็ว่าฝันเห็นเสาไฟน่ากลัวมีพราหมณ์หนุ่มเดินออกมาจากเสาไฟนั้น..หลายคนฝันสำแดงอาการและนิมิตแปลกประหลาดทั้งเรื่องเสาไฟและพราหมณ์หนุ่มจำแลงกายมาหา เพื่อมาโปรดชีวิตที่ทุกข์ยากของตน ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็งำประกายเอาไว้ไม่ได้กล่าวความแก่ผู้ใดว่าสิ่งใดคือเสาไฟ สิ่งใดคือพระผู้มาโปรด ผู้ไถ่ถอนชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ด้วยเครื่องมงคลนั้นเป็นของล้ำค่ายิ่งนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าที่คนเขาจะเห็นเสาไฟอันเป็นดั่งหลุมดำที่ลุกโชนนั้นปรากฏขึ้นมาไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ก็ดี บางคนสามารถนิมิตล่วงหน้าได้ถึงพระผู้มาโปรดที่ออกมาจากเสาตนนั้นเพราะท่านคือตัวแทนแห่งคุณงามความดีและสิริมงคลเรียกว่าเป็นกำลังของศรีก็ได้ เป็นมหาบุรุษที่จะมาโปรดเพื่อนำมาซึ่งสวัสดิภาพแลสิริมงคลเพื่อความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งยวดยิ่งกว่าผู้ใดในยุคใดๆ พ่ออาจารย์ท่านเรียกนามของมหาบุรุษว่ากาลิงคะพราหมณ์ ท่านว่าครูผู้นี้มีอำนาจมากสามารถไปได้ทุกที่ซึ่งรัศมีของพระอาทิตย์ส่องถึง ผู้ใดที่ท่านโปรดก็ดุจมีชีวิตใหม่เข้าสู่รุ่งอรุณแห่งยุคทองที่ชะตาอันมืดดับจะกลับกลายเป็นสว่างจ้าด้วยรัศมีแห่งศรีไปทุกทิศทาง เป็นรัศมีขององค์คุณอันประกอบด้วยการตื่นรู้และเบิกบานของมหาบุรุษ...ทั้งยังเป็นกำลังของเหล่าพระเวทย์และมหาธาตุตลอดจนพลังงานทั้งหลายนช่วงหลายพันปีมานี้ท่านจะเลือกออกมาโปรดเฉพาะบุคคลที่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งเท่านั้น

    ด้วยคติแห่งเสาไฟที่ลุกไหม้ดุจแวดล้อมในเพลิงบรรลัยกัลป์นี้ ท่านว่าแท้จริงแล้วเป็นสภาวะของการก่อเกิดเพื่อจะจุติและปฏิสนธิของสรรพสิ่ง จะเรียกว่าเป็นรากเหง้าดึกดำบรรพ์ของสรรพชีวิตก็ได้ ท่านให้ความรู้ว่าไม่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้นแม้แต่ท้องฟ้าหรือดวงดาราทั้งหลายที่ปรากฏออกมาเป็นปฐมก็ล้วนแต่ออกมาจากสิ่งนี้ ท่านจึงถือว่าเสาไฟนั้นเป็นพลังของการก่อเกิดการสร้างสรรค์จักรวาล มีกำลังผลักดันให้อำนาจที่ขึ้นลงของตัณหาทั้งสามคืออารมณ์รักใคร่,ความอยากมีอยากเป็น,ความไม่อยากมีไม่อยากเป็นทั้งหลายหมุนเวียนดำเนินกันไปตามลีลาของสังสารวัฏ จะเรียกว่าใครปรารถนาสิ่งใดหรือไม่ต้องการให้ชีวิตเป็นอย่างไรหากเข้าถึงเสาไฟนี้แล้วทุกสิ่งย่อมเป็นไปด้วยกำลังแห่งปฐมกำเนิดนั้นไม่ยากเลย พ่ออาจารย์ท่านเรียกเสาไฟว่าแท่งปฐมกำเนิด เช่นนั้นท่านจึงประดิษฐ์ทำเป็นรูปลึงค์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของตัวกำเนิดที่ท่านตั้งใจแกะและมนต์พระเวทย์ปถมังกำเนิดเอาไว้เป็นตัวแทนของเสาไฟปฐมกำเนิดนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ากำลังของปฐมกำเนิดนั้นจะช่วยให้คนบูชาสมหวังในทุกสิ่ง(เอาว่าไม่ผิดหวังในสิ่งที่หมายปอง) ท่านว่าพอทำมาเป็นรูปลึงค์นี้หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ปลัดขิก แต่โดยแท้จริงแล้วนั้นไม่ใช่เขาลึกล้ำและซับซ้อนกว่านั้นไปหลายขุม ท่านเพียงแค่ทำให้เป็นรูปของเสาไฟที่มีสัญลักษณ์ทางกายภาพขององค์กำเนิดเพื่อจะสื่อถึงเสาปฐมกำเนิดนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าการจะสร้างกาลิงคะพราหมณ์ได้นั้นไม่ใช่ของง่าย เพราะเมื่อจับมีดแกะไม่ใช่ว่าจะแกะได้เลยหากแต่ต้องท่องบ่มพระเวทย์ไปด้วยตั้งแต่มนต์มหากำเนิด,มนต์แถนฟ้า,มนต์ไท้ธรณี,มนต์มณีจินดา,มนต์เรียกสมบัติ...ท่านว่าลงมีดไปก็กำกับไปตามตัวรู้ที่ครูท่านส่งมาในจิตเราว่าให้ท่องบทไหนกว่าจะได้องค์หนึ่งนั้นท่องเป็นร้อยบทบางอย่างก็เป็นเวทย์ดึกดำบรรพ์ปรากฏมาให้ท่องออกนามเฉพาะตอนแกะสลักเท่านั้นเป็นการควบคุมกำลังแห่งปฐมกำเนิดที่จะเคลื่อนกายลงมาเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่..เป็นกำลังที่ไม่มีวันแห้งเหือดและใช้ไม่รู้หมด ดั่งว่าคนเอาไปใช้จะไม่รู้จักคำว่าลำบากเลยเพราะกำลังแห่งกาลิงคะพราหมณ์ที่สิงพิงอยู่ในเสาปฐมกำเนิดของท่านนั้นเป็นกำลังเต็มตัว พ่ออาจารย์ท่านแกะสลักรูปมหาพราหมณ์ติดกับเสาปฐมกำเนิดเพื่อจะสื่อถึงองค์คุณที่มีกำลังแรงกล้าไม่มีวันดับ เรียกว่าเราเอาไปใช้สอยนี่ไม่ต้องกลัวเลยว่ากำลังท่านจะตก เพราะกำลังท่านจะซึมออกมาสู่ตัวเราเรื่อยๆให้เราใช้กำลังของท่านเปลี่ยนแปลงชีวิต ใช้เท่าไหร่ก็ไม่รู้หมดเปลี่ยนชีวิตที่ขาดกำลังและที่พึ่งให้สะดวกสบายไม่มีความลำบาก ดั่งมีครูมีที่พึ่งให้เราตักตวงสิ่งที่ปรารถนาได้ไม่มีวันหมดสิ้น จะปรารถนาสิ่งใดก็มีหมุนเวียนเข้ามาเรื่อยๆอยู่ตลอด ท่านว่าปฐมกำเนิดนี้ใช้ขอได้ทุกเรื่อง ขอได้ไม่เลือก แม้อยู่กับตัวเราก็จะได้พบสิ่งที่ปรารถนาโดยเร็ววัน จะสมหวังในชีวิตยิ่งกว่าครั้งใดที่เคยผ่านมา

    พ่อกาลิงคะพราหมณ์นั้นมีอาการสามสิบสองพร้อมที่จะสดับรับรู้ความต้องการของลูกๆและพร้อมช่วยเหลือทุกเมื่อ ไม่เลือกว่าจะเป็นเรื่องหนักจิตน่าปวดหัวจะโรคภัยหรือเรื่องรักๆใคร่ๆไม่มีถือตัวตั้งแต่เรื่องสูงไปจนต่ำ ท่านว่าเป็นเครื่องรางที่ใช้งานง่ายไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรยุ่งยาก จะใช้ทางสะกดจิตสะกดใจคนหรือแม้แต่จะล้างสมองคนให้เขาเมตตาเราภักดีต่อเราลึกเข้าไปในกมลสันดานก็ยังทำได้เพียงบอกพ่อพราหมณ์ท่านให้ช่วยเท่านั้น นอกจากนี้ท่านยังคอยเตือนคอยบอกถึงอันตรายและภัยที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าแก่ลูกที่มีใจศรัทธา ทั้งจะปัดภัยให้พ้นตัวหรือจะให้เห็นเหตุการณ์ในอนาคตที่ไม่อาจแก้ไขได้เพื่อให้เราเตรียมรับมือพร้อมที่จะหลีกเลี่ยงจุดวิกฤตินั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าอยู่ที่เจตน์จำนงค์ของคนใช้เป็นหลักถ้าเราขยันทำมาหากินแต่เงินเก็บไม่ค่อยมีหาไม่พอใช้ท่านก็จะบอกโชคลาภแก่เราให้เราเจริญในทรัพย์สมบัติมหาศาลสารพัด เรียกว่าอธิษฐานได้ทุกเรื่องตามเหตุที่พึงจะเป็นไปได้

    พระผู้ไถ่ถอน,นิรโทษความผิดบาป
    เพื่อจะสร้างองค์ปฐมกำเนิดกาลิงคะพราหมณ์(ผู้เป็นดั่งตัวแทนของปฐมกำเนิด) พ่ออาจารย์ท่านต้องอธิษฐานจิตแบบรวมขุมกำลังพระเวทย์ทั้งหมดเพื่อเป็นการครอบพระเวทย์อาถรรพ์ให้รวมกันได้เป็นหนึ่งเดียวซึ่งอานุภาพของกำลังธรรมชาติทุกแขนงจะสำแดงผลอย่างเต็มที่ไม่มีที่จะข่มกันเอง..สุดท้ายรูปพ่อกาลิงคะนั้นจะบันดาลได้ทุกสิ่งแบบปราศจากเงื่อนไขในอันที่จิตมนุษย์ผู้ใช้นั้นปรารถนาในเหตุปัจจัยที่เป็นไปได้ โดยพ่ออาจารย์นั้นท่านอธิษฐานต่อครูพระเวทย์และพระธรรมดึงกำลังของความรักที่เทวะมีต่อมวลมนุษย์มาสถิตย์อยู่ในองค์กาลิงคะเพื่อให้ท่านมีแรงบันดาลใจที่จะเติมเต็มความคาดหวังของมนุษย์ เติมเต็มในสิ่งที่เราขาดให้เรามีความสุขสมหวังทำให้ชีวิตเรารุ่งเรืองสืบไปบนพื้นฐานของความรักที่ยิ่งใหญ่ซึ่งพ่อมีต่อลูกเป็นความรักความปรารถนาดีดั่งจะส่งผ่านเรื่องดีๆให้เราทางสายเลือดเช่นนั้น ท่านจะดลบันดาลให้เราเป็นที่เมตตาแก่บุคคลรอบตัวไม่ว่าจะคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงตลอดจนคนรู้จักและไม่รู้จักทุกหมู่เหล่าจะมีผู้คนหลั่งไหลไปมาหาสู่ตัวเราไม่ขาด จะคลายความโกรธความเกลียดที่ผู้อื่นมีต่อเราแปลงมาเป็นพลังงานให้เขาเข้ามาหาเราอยากพูดกับเรา *** พ่ออาจารย์ท่านว่าจะมีคนเข้าหาพร้อมให้เราสานต่อเรื่องราวความสัมพันธ์ต่างๆตามกิจในชีวิตเราที่ดำเนินอยู่อย่างพอเหมาะพอเจาะ จะทำอะไรแข่งกับใครในทางโลกก็มีโอกาสมากกว่าผู้อื่น แม้ผู้ใดยังขาดคู่ครองก็จะได้พบเจอคนที่มีศักดิ์มีวาสนาบารมีมากกว่าตัวเรา จะได้คู่ที่คอยอุปถัมภ์ค้ำจุนเราไม่นำพาเราไปสู่ความตกต่ำ พ่อพราหมณ์เขาจะเติมเต็มสิ่งที่เราขาดเรียกว่าขาดอะไรก็ได้อย่างนั้น ทั้งอาถรรพ์ในร่างกายที่ทำให้วาสนาไม่ดีตลอดจนเสนียดจัญไรและเคราะห์กรรมที่ออกฤทธิ์ออกเดชส่งผลให้ตัวเองกลัดกลุ้มอยู่ เมื่ออาราธนาพ่อกาลิงคะพราหมณ์ติดตัว ### รูปของท่านจะสะกดสิ่งเหล่านี้ไว้และรับเข้าตัวเองซ้ำยังส่งเข้าไปเผาในแท่งเสาปฐมกำเนิดหมุนวนถ่ายเทกลับกลายมาเป็นสิริ,เป็นศรี,เป็นมงคลกลับคืนให้สู่ตัวเรา จะมีปฏิบัติการณ์ซ้ำซากไปอยู่เช่นนี้เกิดขึ้นกับตัวเราตลอดเพื่อลดพลังอาถรรพ์ทั้งหลายที่แต่ละวันเราอาจจะไปทำผิดคิดชั่วไปสร้างเรื่องอะไรเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งวิบากกรรมที่ตั้งด่านขวางหน้าเราอยู่ท่านก็จะบรรเทาให้เบาลงและหมดไป พออุปสรรคน้อยลงความสำเร็จก็ง่ายขึ้นสิ่งที่อยากเจอก็ได้เจอ อารมณ์เราจะเย็นขึ้นสงบขึ้นตามลำดับไม่มีชีวิตที่ร้อนรนกระวนกระวายหาสาเหตุไม่ได้ท่านจะผูกชะตาเราเข้ากับเรื่องใดนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าขึ้นอยู่กับสิ่งที่จิตเรายึดติดและปรารถนาว่าตัวตนเราลึกๆแล้วอยากเป็นคนแบบไหน แต่เอาว่าพื้นฐานนั่นต้องเหมือนกันคือเป็นคนที่มีอันจะกินมีหลักชัยชีวิตมีความเจริญรุ่งเรืองต่างจากคนๆอื่นๆรอบตัวทั้หมด ผู้ที่มีกาลิงคะพราหมณ์นั้นจะแตกต่างจากคนอื่นอย่างชัดเจนจนสามารถสังเกตุเปรียบเทียบชีวิตตัวเองได้จากคนรอบๆตัวเพราะเขาจะบันดาลความสุขที่หลากหลายได้มากมายนิรโทษนิรภัยได้ทั้งผอง ไถ่ถอนเราออกจากสิ่งที่เราไม่อยากมี ไม่อยากเป็น ไม่ปรารถนาพบเจอเหล่านั้น...

    ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ชีวิตผู้คนส่วนใหญ่จึงให้ค่าและหมดพลังงานไปกับการผลักดันตัวเองเข้าหาความสนุกสนานตัณหาและเงินตราทุกเพศทุกวัย พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์กาลิงคะพราหมณ์นั้นท่านจะขัดเกลาจิตวิญญาณให้จิตสำนึกเราสูงขึ้นพร้อมกับผลักดันตัวตนของเราให้เจริญทางโลกพร้อมๆกัน ท่านครอบพระเวทย์แบบรวมขุมพลังไว้เพื่อให้คนใช้อธิษฐานได้สมดั่งใจในแต่ละฉากแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกันด้วยเหตุปัจจัยของชีวิตแต่ละคน หากใครจะเอาไปเล่นหรือขอทางความรักแล้ว ท่านว่าแม้เป็นคู่กันมีบุญมีบุพกรรมร่วมกันมาแต่อดีตชาติเรียกว่าจะมีวาสนาให้ได้อยู่ด้วยกันสมดั่งใจ แต่หากหาคู่แท้ไม่เจอก็จะเชื่อบุพเพสันนิวาสให้ได้มีไมตรีสานต่อสานสัมพันธ์กัน ท่านว่าไม่แคล้วจะลงรอยขอให้ตัวเราเองทำตัวเองให้ดีก่อนไปขออะไรจากท่านก็พอ
    - อยากเบิกบุญมาใช้ เวลาที่เรารีบเร่งต้องการสิ่งที่ตนเองอยากได้มาในเร็ววันนั้น ท่านจะเรียกว่าอยากเร่งเวลาไม่ให้ชะลอช้านานจนเสียการณ์ที่คิดจะกระทำบางคนคิดอยากจะเบิกบุญมาใช้ ก็ให้เอากาลิงคะพราหมณ์นั้นมาแนบกับริมฝีปากเรา ให้เราพูดและออกเสียงสิ่งที่คิด สิ่งที่อยากทำเหมือนเป็นการพูดผ่านท่านก่อน เสียงและความต้องการนั้นจะผสานเข้ากับปฐมกำเนิดกลายเป็นเสียงแรกที่จะนำมาซึ่งฤกษ์งามยามดีเป็นเสียงสวรรค์ที่ใช้สั่งให้ชีวิตเราเดินไปทางไหน บางคนฉลาดเขาจะทำแบบนี้เมื่อทำบุญและอยากให้ผลบุญเห็นทันตาก็จะพูดผ่านพ่อกาลิงคะพราหมณ์เพื่อเรียกเทวดามาอนุโมทนาบุญให้เราทันที ท่านว่าสุดแต่จะเอาไปดัดแปลงใช้กันจะเบิกบุญเบิกดวงเบิกโชควาสนาเบิกทางชีวิตได้ทั้งสิ้น ด้วยพ่อกาลิงคะพราหมณ์นั้นใช้พลิกวาสนาลูกๆที่พานพบได้อย่างน่าอัศจรรย์

    พ่ออาจารย์ท่านแกะองค์กาลิงคะจากกิ่งไม้โพธิ์ที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกซึ่งยืนต้อนตายพรายอยู่บนจอมปลวก ทั้งในต้นโพธิ์นั้นยังมีกาฝากไม้รัก กาฝากขนุน กาฝากชุมแสง กาฝากพยุงอันเป็นไม้มงคลนามเสริมส่งกันในตัวเองขึ้นเป็นอาถรรพ์ตรงตามตำรา ท่านว่ากิ่งโพธิ์นี้จึงมีอาถรรพ์มากเป็นพิเศษในหลายๆด้านต่างจากกิ่งโพธิ์ทั่วไปไกลลิบ ท่านนำไม้มาเป่ามนต์ให้ซึมซับธาตุและวิชาทั้งหลายก่อนนานนับปี และนำไปเหลาทำไม้ค้ำสมเด็จองค์ปฐมองค์ครูที่ท่านกราบไหว้ทุกวันไว้ก่อน เพิ่มอาถรรพ์ทางด้านค้ำจุนหนุนดวงชะตามิให้ตกต่ำ เป็นกฤติยาคมแฝดให้ชีวิตผู้รับมีความก้าวหน้าในชีวิตการงานนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศและสง่าราศีสู่ผู้เป็นเจ้าของเวลาจกตกจะดับนี่ท่านว่าจะมีคนมาคอยดันคอยค้ำไว้ให้เสมอ เมื่อผ่านพิธีสำคัญๆที่ท่านอธิษฐานจิตมาพอสมควรท่านจึงนำมาแกะพร้อมกับมนต์พระเวทย์ตามรูปนิมิตที่ได้รับมา ก่อนจะอุดด้วยผงอาถรรพ์ทั้งหลายประเภทเขา,เขี้ยว,คต,นอ,งา,กะลา,แร่,เป๊ก,แหย่ง,แสง,แก้วและมวลสารศักดิ์สิทธิ์อีกหลายตัวที่หาไม่ได้อีกแล้ว พร้อมทั้งนำผงสำเร็จธาตุที่เสด็จมาได้เองในอากาศที่ท่านอัญเชิญไว้และรวบรวมมานานนับสิบๆปีมาปั้นอุดไว้ภายใน พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นสุดยอดวัตถุที่เป้นกายสิทธิ์มีคุณมีกำลังในตัวเองสูงมากทั้งสิ้น ก่อนจะอุดด้วยตะกรุดสำคัญ
    - ตะกรุดเปิดอวิชชาเวทย์สวรรค์ (ถึงชื่อจะน่ากลัวแต่คนที่เข้าใจโลกจะไม่กลัว) ท่านว่าตะกรุดนี้เป็นวิชาว่าด้วยเวทย์สวรรค์ขั้นสูงซึ่งเป็นยอดวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านไม่ค่อยลงมากนักด้วยได้รับยากกว่าวิชาทั้งหลายทั้งยังสลับซับซ้อนและมีอิทธิฤทธิ์พิศดารเหนือกาลเวลา เรียกว่าเป็นวิชาที่ให้คุณรุนแรงกว่าปกติหลายเท่าตัว คำว่าเปิดอวิชชานั้นคือเปิดในสิ่งที่เราไม่รู้ สิ่งที่ชีวิตเรายังไม่เคยพบเห็น,ไม่เคยมี,ไม่เคยคิดว่าจะได้รับ เพื่อนำมาซึ่งสิ่งที่ดีงามของปัจจัยทางโลกทั้งปวง ท่านว่า *** อวิชชานั้นก็คือสิ่งที่ปิดไว้ ดังนั้นการเปิดสิ่งที่ปิดก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เปิดเอาอวิชชาที่ครอบตัวเองอยู่ออกไปให้เราพบ ให้เราได้สิ่งที่ชีวิตไม่เคยมี ท่านกำกับตะกรุดเปิดอวิชชาเวทย์สวรรค์ด้วยนะจบเพื่อให้สิ่งที่เราอยากได้ ความฝันของเราต้องสำเร็จ ทุกกิจที่ทำต้องจบ ต้องสำเร็จกิจไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป
    เมื่อฝังตะกรุดอุดผงสำคัญเป็นการเสริมพลังเพิ่มฤทธิ์เพิ่มความเก่งกาจผลักดันให้กับพ่อกาลิงคะแสดงอานุภาพเปิดทางรวย ปิดทางจน..ขออะไรแล้วต้องได้สามารถช่วยเหลือเราได้ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้


    ในยุคหลายพันปีที่มนุษย์ปรับตัวห่างออกไปไกลจากพื้นฐานคุณธรรมนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องมงคลจะทำได้เพียงแค่หนุนดวงช่วยให้เราเป็นเจ้าคนนายคน...หรือจะอะไรก็ตามเท่านี้ยังไม่พอ เพราะอารมณ์เพื่อนร่วมโลกทั้งหลายของเรานั้นยังไม่นิ่ง ดังนั้นพ่อกาลิงคะจึงต้องพร้อมเสมอที่จะเข้าโรมรันต่อสู้ชีวิตไปพร้อมๆกับเรา ท่านว่าจะมายืนนิ่งสนิททำตัวเป็นเทพเจ้ารับการบูชาแล้วยืนกะพริบตาเช่นนั้นไม่ได้ การจะช่วยคนยุคนี้ต่างจากคนสมัยก่อนมากเพียงแค่ให้พรและทำให้เค้าโชคดีนั้นมันยังไม่พอเพราะท่านทำได้มากกว่านั้นแต่พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำอะไรได้ต้องลองใช้กันเอง...สิ่งที่พ่อกาลิงคะท่านถนัดอีกด้านหนึ่งก็คือการเล่นฤทธิ์ จะทำอะไรก็เอามาด้วยฤทธิ์นี่จึงทำให้ชีวิตคนนั้นง่ายและสะดวกขึ้น ทั้งนี้พ่อกาลิงคะท่านยังจะเพิ่มฤทธานุภาพในเครื่องมงคลและพระเครื่องทั้งหลายที่เราห้อยอยู่ในร่างกายเราด้วย

    ใฝ่สูง
    พ่ออาจารย์ท่านยกหุ่นพ่อกาลิงคะนั้นว่าเป็นเครื่องมงคลอาถรรพ์สำหรับคนใฝ่สูง คือคนที่ยังมีความหวัง มีความฝันสูงกว่าที่ชีวิตตัวเองเป็นอยู่ท่านจึงลงตะกรุดด้วยเวทย์สวรรค์วิชาสำคัญผูกคอพ่อกาลิงคะไว้เพื่อจะนำให้ท่านชักพาชีวิตเราสูงขึ้นตลอดเวลา ท่านเปรียบว่าต่อไปเธอจะกิน(มีชัย)ในที่สูง ความเป็นอยู่ชีวิตจะไม่นอนลงต่ำ จะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่สูงและสุขสบายตลอดไป เช่นนั้นพ่อกาลิงคะจึงเป็นเครื่องรางสำหรับคนใฝ่สูงและคิดสูงยังไม่พึงพอใจในตัวเองยังอยากไปให้ไกลกว่านี้รู้ว่าตัวเองมีศักยภาพทำได้ดีมากกว่านี้ เช่นนี้พ่อกาลิงคะจึงเป็นเครื่องรางที่ "คนใฝ่ต่ำห้ามใช้ ให้เอาไปเล่นของสูง" ด้วยชีวิตนั้นก็เหมือนฉากละครที่แล่นฝ่าคลื่นลมอันทับโถมผ่านไป ทุกชีวิตต้องมีบทสรุป ทุกเรื่องราวต้องมีจุดจบในตัวมันเอง อยู่ที่เราพอใจกับจุดจบที่เรายืนอยู่ตรงนี้หรือยังและเราเลือกที่จะให้มันเป็นจุดจบแล้วจริงๆหรือเลือกที่จะออกเรือต่อ พ่อกาลิงคะพราหมณ์นั้นท่านว่ามีอาถรรพ์มากเพราะไม่ใช่เครื่องรางสำหรับคนธรรมดาหากแต่เป็นของใช้สำหรับคนใฝ่สูงให้ขึ้นไปอยู่ที่สูงจึงเป็นมากกว่าพยนต์..และเทพยดาทั้งหลาย หากแต่เป็นมิตรแท้ที่จะอยู่ค้ำจุนและช่วยเราไปจนตาย

    ซึ่งพ่อกาลิงคะนั้นท่านว่าตัวท่านเป็นเพียงผู้ทำแต่ห้ามใช้ ท่านเป็นเพียงผู้ที่จะส่งผ่านประสิทธิองค์ครูสู่เจ้าของเท่านั้น ซึ่งท่านปลุกเสกปั่นธาตุทำวิชาของท่านมาหลายปี ทำอยู่ทุกวันชนิดนำไปเลี่ยมให้พร้อมใช้ทุกตัวแล้วก็ผูกรอบเอวท่านทุกตัวเสกทุกวัน แบบนี้แหละที่เรียกว่าของรักและทำหลบเอาไว้ จะเสกพิธีไหนวาระใดเสกอะไรก็อยู่ติดเอวท่านมัดลากสายสิญจน์ไว้ตลอด...ท่านว่าทั้งตอดทั้งกระโดดตีกันเกรียวกราวอยู่ประจำ หากแต่องค์กาลิงคะนั้นต่างจากเครื่องรางทั่วไปเพราะท่านจะเลือกเจ้าของที่แท้จริงเสมอ ผู้ที่รับท่านไปจะถือเสมือนว่าเป็นดั่งบุตรบุญธรรมของมหาบุรุษองค์นี้เท่านั้นจึงจะครอบครองได้ ท่านจะปฏิบัติกับเราด้วยสายใยของพ่อที่พึงมีพึงรับผิดชอบชีวิตลูกเช่นนี้

    **** พ่ออาจารย์ท่านทำพ่อกาลิงคะไว้ห้าองค์เท่านั้น ท่านว่าวาสนาในปัจจุบันของสัตว์โลกนั้นท่านรับบุตรบุญธรรมและลูกหญิงลูกชายได้เพียงห้าคนตามจำนวนตัวเลขของภัทรกัป พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ที่ใช้องค์กาลิงคะนั้นจะพกองค์พระที่ส่วนใดของร่างกายก็ได้ทั้งห้อยคอหรือผูกเอวและแม้แต่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง เพราะองค์ท่านสถิตย์อยู่ทุกที่ในธรรมชาติไม่เลือกสถานที่ว่าเราจะห้อยตรงไหนความเป็นจริงท่านก็ยังอยู่เช่นนั้นของท่านเหมือนเดิมและท่านประสงค์จะให้ตัวเองเป็นของกลางๆคือไม่สูงและไม่ต่ำเพื่อที่จะได้แก้ไขเรื่องราวโดยรวมของลูกๆได้ทุกเรื่อง องค์กาลิงคะทุกองค์นั้นพ่ออาจารย์ท่านเลี่ยมห้อยเอวทำวิชาไว้ให้แต่เดิมทุกองค์ สำหรับพ่อกาลิงคะนั้นท่านว่าไม่ต้องเลี้ยงไม่ต้องเซ่นอะไรเลยมีแต่ใช้กับใช้เท่านั้น คาถาไม่ต้องท่านกำกับมาเลยว่าคุยกับท่านต้องผ่านแค่ภาษาใจ ใจที่บริสุทธิ์และศรัทธาอย่างจริงใจนั่นแหละจึงจะคุยกับท่านได้ตลอดเวลา รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดและความปรารถนาที่สุดในใจฝากเอาไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะประสิทธิให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนเสื้อผ้ากันหนาวและทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา รูปสลักพระผู้มาโปรดองค์ปฐมกำเนิดกาลิงคะพราหมณ์(ไถ่ถอน,นิรโทษ,โรมรัน) บูชา 4,000 บาท

    78700224-448537019410883-7986213076678475776-n.jpg 78890556-3343783279026850-7459009904133537792-n.jpg 79374339-821563888285828-281470728988000256-n.jpg 78823889-435202443843645-1670687384166989824-n.jpg
    80347744-670302503502899-4423245359107538944-n.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดแฝดเนื้อธาตุอาถรรพ์เพิ่มพูนกำลังจิตตานุภาพคลายข้อจำกัด (กลับดำเป็นขาว,กลับผิดเป็นถูก)

    " หากจิตของตัวเองไม่ดีไม่มีพลังทำอะไรไปมันก็พังก็ไม่ดีทั้งนั้น...จึงเป็นตะกรุดที่มีไว้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองอย่างถึงที่สุด "
    ตะกรุดที่พ่ออาจารย์ท่านอาราธนาคู่กายเสมอ
    ด้วยครูท้าวสหัมบดีพรหมท่านเมตตาให้พ่ออาจารย์ลงวิชาในสายของท่าน โดยใช้ชนวนอาถรรพ์คราวสร้างพระเจ้าสัวมาหลอมรีดเป็นแผ่นตะกรุด ด้วยชนวนนั้นมีเชื้อ มีชาติ มีสัญญา มีอานุภาพที่เปลี่ยนคนสร้างคนได้ ท่านใช้ตะกั่วเก้าโกฏิของเจ้าสัวโบราณมาทำ ท่านว่าเรารวบรวมไว้ เอาแค่โกฏิเค้ามาเป็นสื่อเป็นชนวนให้ตรงตามตำราเท่านั้นไม่ได้มีกระดูกหรือมวลสารอาถรรพ์ใดๆ ท่านว่าลำพังโกฏินี่ก็อาถรรพ์มากพอแล้ว กว่าจะเจรจาจนได้มาต้องหาโกฏิใหม่ไปเปลี่ยนให้เค้า ซึ่งเศรษฐีทั้งเก้านี้ท่านว่าได้แก่
    - เศรษฐีคุณพระ เป็นถึงท่านเจ้าคุณมีทรัพย์สินและบริวารมาก คนใช้จะเจริญด้วยยศศักดิ์
    - เศรษฐีที่ดิน เป็นเจ้าของที่ดินมหาศาล คนใช้จะได้มีที่ดินทำกินมีบ้านช่องเป็นของตัวเอง
    - เศรษฐีพ่อค้าทอง เป็นเจ้าของร้านทองชื่อดัง ท่านว่าคนใช้จะได้จับเงินทองไม่ขาดมือทำมาหากินอะไรก็ซื้อง่ายขายคล่อง
    - เศรษฐีสวนส้ม สมัยก่อนใครมีสวนส้มยิ่งทำเป็นกิจการใหญ่โตส่งออกถือว่ารวย ท่านว่าคนใช้นั้นจะได้มีทรัพย์ ทรัพย์ที่มีจะได้ออกดอกออกผล
    - เศรษฐีนายหน้า มีวาสนาได้ด้วยการพูดจาติดต่อประสานงาน ท่านว่าจะได้เปิดและเพิ่มวาสนาคนใช้ให้ติดต่อสื่อสารเจรจางานใดๆก็สำเร็จร่ำรวย
    - เศรษฐีเจ้าปัญญา เป็นชีวิตที่เรียนเก่ง ได้ดีเพราะมีปัญญามาก สอบได้เป็นอันดับแรกของจังหวัด กลายเป็นเศรษฐีเพราะวาสนาบวกกับสติปัญญาที่สูงส่งเกินมนุษย์ ท่านว่าคนใช้จะได้มีปัญญา รู้ทันคำพูดและมีความคิดฉลาดหลักแหลม
    - เศรษฐีโรงบ่อน เป็นเจ้าของบ่อนพนันท่านว่าคนผู้นี้มีอำนาจ วาสนา บารมีครบถ้วน การจะเป็นเจ้าของบ่อนที่ท้าทายอำนาจรัฐได้ย่อมไม่ธรรมดา ท่านว่าคนใช้จะได้มีบารมีมากเช่นเดียวกัน
    - เศรษฐีเจ้าสำราญ เป็นคนที่ได้ดีเพราะแต่งเมีย เหมือนหนูตกถังข้าวสาร อยู่เฉยๆโชคลาภ ทรัพย์สิน ศฤงคาร ความสุขทุกประการก็มากองอยู่ตรงหน้าโดยไม่ต้องหาต้องลงแรงทำอะไร ท่านว่าคนใช้จะได้สะดวกสบายทำอะไรลื่นไหล ได้ลาภได้ทรัพย์กันง่ายๆ
    - เศรษฐีเหมืองแร่ แร่ธาตุทั้งหลายเป็นทรัพย์ในดินเป็นสิ่งที่เกิดที่งอกเงยตามธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้มีในดินทุกที่ การเป็นเศรษฐีเป็นเจ้าสัวเพราะทรัพย์สินที่เกิดที่งอกขึ้นเองในที่ดินตนนับว่าเป็นวาสนาแต่เดิม ท่านว่าทำอะไรจะได้งอกเงยและทรัพย์จะเกิดขึ้นได้เอง

    ชนวนชุดนี้เกิดจากบารมีอันสั่งสมไว้นับชาติไม่ถ้วนของเหล่าเจ้าสัว โดยท่านนำตะกั่วโกฏิเหล่านั้นมาหลอมรีดไล่เอาตะกันออกจนบริสุทธิ์ ก่อนจะนำมาลงถมด้วยยันต์สำคัญต่างๆดังนี้ ดวงประสูติ ดวงตรัสรู้ ดวงปรินิพพาน ยันต์พระพุทธเจ้าถอดรูป ยันต์พระพุทธเจ้าแปลงรูป ยันต์พระพุทธเจ้าแบ่งภาค ยันต์พระพุทธเจ้าเปล่งรัศมี ยันต์พระพุทธคุณ108 ยันต์มหาจักรพรรดิ ยันต์รัตนมาลา ยันต์มหาปราบ ยันต์มหาระงับ ยันต์คู่ชีวิต ยันต์ตารางเพชร ยันต์เฉลียวเพชร ยันต์เกราะเพชร...ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านปกติจะหวงชนวนชุดนี้มากมีไม่กี่ครั้งที่ท่านจะนำชนวนอาถรรพ์เช่นนี้มาสร้างเครื่องมงคล ซึ่งหนนี้ท่านก็ได้นำมาหลอมรีดเป็นแผ่นตะกรุดสำคัญด้วยเหตุว่าต้องการทำของที่ "เปลี่ยนคนสร้างคนได้"

    เครื่องรางที่มีไว้เพิ่มพลังจิตตานุภาพในตัวเอง
    ตะกรุดนี้เปรียบเสมือนสิ่งที่ใช้ควบคุมพลังงาน เป็นตัวสั่งการพลังงานในรูปแบบต่างๆให้แปรเปลี่ยนสภาพไม่ว่าจะการเกิดขึ้น,ตั้งอยู่และดับไป เช่นนั้นตะกรุดวิชาขององค์พรหมสูงสุดจึงมีพลังถ่ายทอดและควบคุมซึ่งกันและกันแบบเป็นลูกโซ่ พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกสิ่งในห้วงมหรรณพนี้ล้วนขับเคลื่อนด้วยพลังงานและเชื่อมผ่านส่งต่อแบบมีผลกระทบซึ่งกันและกัน ### ถ้าเราควบคุมสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้ชีวิตเราก็จะล้มทั้งกระดาน ล้มต่อไปเป็นทอดๆแบบตัวต่อโดมิโน เช่นนั้นทุกกระบวนการตั้งแต่การเกิดขึ้นของชีวิตไปจนถึงการคงอยู่และดับสลายจึงถูกกำหนดขึ้นด้วยธรรมชาติตามรูปแบบวงจรของแต่ละคน เพราะชีวิตของแต่ละคนนั้นย่อมมีระบบและโลกของตนเองต่างกันไปในขณะที่เราเป็นสิ่งมีชีวิตซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับพลังงาน,ธาตุทั้งสี่ไปจนถึงพลังแห่งดวงดาวและกระแสวัฏจักรได้ ท่านว่าสังเกตุง่ายๆเลยเพราะสิ่งเหล่านี้มีผลกับชีวิตเราโดยตรงเช่นนั้นเราจึงเปลี่ยนแปลงในทุกๆวันเปลี่ยนสภาพดำเนินไปสู่จุดแตกดับตลอดเวลา ...เพราะธรรมชาตินั้นให้ผลโดยตรงกับชีวิตของเรา เช่นนั้นเราจึงอาศัยกำลังธรรมชาติมาเปลี่ยนวงจรในตัวเองได้ ซึ่งสิ่งที่จะทำให้เราเปลี่ยนแปลงไปได้นี้ท่านว่าก็คือพลังจิตตานุภาพ

    ด้วยสรรพสิ่งล้วนถูกสั่งการโดยพลังงานและส่งผลกระทบต่อมหาธาตุและการเปลี่ยนแปลงในวงจรชีวิตอย่างเป็นระบบ เช่นนั้นผู้มีกำลังทางจิตเข้มแข็งจึงได้เปรียบกว่าคนอื่นเวลาทำสิ่งเดียวกันอยู่เสมอ นั่นก็เพราะพวกเขาเหล่านี้จะควบคุมพลังงานที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆในชีวิตตัวเองได้ แต่การฝึกเพื่อให้จิตเกิดพลังนั้นในหลายๆปัจจัยบางคนก็ไม่สามารถสัมผัสได้เลย ครูบรมพรหมท่านจึงโองการให้พ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดชุดพิเศษที่เพียงนำติดตัวไว้ ด้วยเวทย์สวรรค์สูตรเฉพาะด้านในนั้นเขาก็จะขัดเกลาทั้งยังป้องกันเราจากสิ่งรบกวนต่างๆทางจิตไม่ให้มีสิ่งใดมาตกกระทบจนชีวิตต้องหันเหแย่ลงไป ท่านว่าใจเราจะสบายขึ้นไม่หนักหน่วงกับภาระในชีวิต ### ยิ่งหากเรานึกถึงแต่สิ่งดีๆด้วยแล้วจิตเราก็จะยิ่งมีพลังมากขึ้น ท่านว่าคิดเรื่องดีๆต่อตนเองและผู้อื่นซักร้อยเรื่องในขณะที่พกตะกรุดนี้ พลังความคิดก็จะเปลี่ยนเป็นกำลังบริสุทธิ์ยกระดับพลังจิตตัวเอง ในขณะเดียวกันคนที่ไม่มีตะกรุดต่อให้คิดสิ่งดีๆซักร้อยอย่างพันอย่างมันก็เป็นได้แค่ความคิดไม่ได้ส่งผลให้ชีวิตตัวเองเปลี่ยนแปลงอะไร ทั้งนี้ตะกรุดเพิ่มกำลังจิตตานุภาพจึงเป็นเสมือนตัวแทนที่ใช้เชื่อมและยกระดับพลังจิตของเราเองหากอาราธนาติดตัวแล้วท่านว่าจะช่วยให้เราเองมีสมาธิมากกว่าคนอื่นหลายเท่าตามคุณวิชาและแรงครูขององค์สหัมบดีพรหม ซึ่งท่านประสงค์จะให้ใช้ตะกรุดนี้เป็นกุญแจยกระดับจิตยกระดับชีวิตพัฒนากระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากพลังงานธรรมชาติ จะควบคุม,ยกระดับ,ทำลายหรือเปลี่ยนสิ่งต่างๆท่านว่าคนที่จิตมีกำลังมากพอล้วนกำหนดชะตาชีวิตในแบบที่อยากเป็นได้ทั้งสิ้น หากแต่เรานั้นขาดสิ่งที่จะควบคุมเขาให้เป็นไปตามกลไกความคิดของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตคนก็เหมือนตัวต่อที่ต้องคอยต่อออกไปเรื่อยๆ กลไกในการควบคุมกำลังนี้ก็เหมือนกันมันต้องใช้ให้ต่อเนื่องและส่งผลเชื่อมต่อกันเป็นลูกโซ่จึงจะมีผลชัดเจน เช่นนั้นครูท่านจึงให้วิชามาสองแบบเพื่อใช้ให้คนที่ไม่มีโอกาสหรือไม่มีของเก่าทำมาและเหล่าคนที่สัญญาความจำได้หมายรู้ยังไม่เปิด ได้ใช้งานเพื่อเพิ่มกำลังจิตกำลังความคิดตัวเอง

    เมื่อชีวิตเราเข้าถึงจุดกำเนิดก่อเกิดพลังงานที่จิตเราเองควบคุมได้ เราก็จะเข้าใจว่าโลกนี้มีเรื่องต่างๆนับไม่ถ้วนที่เราสามารถทำได้ สิ่งที่เราไม่เคยทำไม่เคยคิดไม่มีหนทางและยังมองไม่เห็นด้วยมีข้อจำกัดทางสติปัญญา สิ่งที่ไม่เคยไม่อาจคิดหรือเข้าใจได้ ตรงนี้กำลังทางจิตเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วมันก็จะชี้นำเราไปสู่ความรู้ใหม่ๆเสมอ ยิ่งจิตมีกำลังมากระดับสติปัญญาก็ยิ่งสูงสามารถเข้าใจเรื่องที่ลึกและละเอียดได้มากเป็นเงาตามตัว ด้วยธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่มากเราจึงต้องพัฒนากำลังจิตตานุภาพและสติปัญญาของตนเองให้เพิ่มขึ้นและมากขึ้น(ท่านว่าหากไม่ขัดเกลาเกิดกี่ชาติก็เป็นอยู่เช่นนี้ไม่ได้ยกระดับพัฒนาตัวตนไปตามภพภูมิต่างๆที่สูงขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น เรียกว่าเสียเวลาเกิด) พ่ออาจารย์ท่านว่าหากเราใช้และเล่นเป็นเราจะไม่หยุดอยู่เพียงข้อจำกัดว่าโลกมีเท่านี้แค่นี้ ด้วยเราจะรู้เองว่ามีมิติอื่นๆซ้อนทับโลกและที่อยู่อาศัยของเราอีกมากซึ่งทุกมิตินั้นก็มีพลังงานดำเนินวนไปตามวัฎจักรของเขาแบบเราเช่นกัน เช่นนั้นเมื่อจิตเรามีพลังปัญญาเราได้รับการขัดเกลาและพัฒนาแล้วเราก็จะเข้าใจธรรมมชาติทั้งยังใช้กำลังนั้นขับเคลื่อนการดำรงค์อยู่ของตนเองได้

    ด้วยพลังจิตของเรานั้นเชื่อมโยงกับกำลังธรรมชาติ เช่นนี้ตะกรุดแฝดเนื้อธาตุอาถรรพ์จึงเปรียบเสมือนเครื่องควบคุมและขับผ่านกระแสพลัง นอกจากเราจะรับรู้ได้ถึงมิติและกลุ่มก้อนพลังงานทั้งหลายเรายังอาจจะยืดอายุตนเองให้ยาวนานขึ้นด้วยตัวเรามีพลังชีวิตเพิ่มมากขึ้น(ไม่เกินกรรม) พอเราสั่งสมสิ่งที่เป็นกำลังของจิตเราได้เราก็จะรู้เห็นสิ่งที่พลังงานธรรมชาติบังตาเราไว้ได้มากขึ้น ทั้งหากเรามีกำลังทางจิตแกร่งกล้าเราก็สามารถควบคุมและเปลี่ยนแปลงมันได้ ด้วยธรรมชาตินั้นมีต้นตอเกิดขึ้นจากความว่างเปล่า ทุกสิ่งย่อมดำเนินไปเข้าหาจุดเสื่อมสลาย หากแต่สิ่งที่อยู่เหนือกำลังนั้นขึ้นไปกลับไม่ใช่สิ่งที่ไร้ตัวตนหรือมีการเปลี่ยนแปลงใดๆอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้เราเองก็ต้องไปให้ถึงจุดนั้นเช่นกัน ดังนั้นการพัฒนาทางจิตจึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อจิตมีกำลังแล้วจะฝึกใช้พลังเล่นฤทธิ์ทำให้จิตตนมีฤทธิ์ นึกคิดสิ่งใดเป็นไปตามความต้องการจะฝึกมโนมยิทธิหรือทำให้แตกฉานในอิทธิวิธีก็ได้ เรียกว่าเมื่อจิตตานุภาพมีกำลังกล้าเรื่องทิพยอำนาจ,ทิพยโตหรือจักษุก็ดีย่อมจะพัฒนาไปตามจิตที่ละเอียดมากขึ้น กระบวนการตื่นรู้ ความจำ ความคิด ความรู้สึกล้วนพัฒนาทั้งหมดเพราะจิตเป็นพลังงาน เป็นพลังที่ควบคุมสมองโดยตรงเช่นนั้นจิตจึงทำได้หลายอย่างทั้งการปกปักคุ้มครองและทำสิ่งที่ต้องการรวมไปถึงสะกดข่มศัตรูทำให้ผู้อื่นเกิดความเกรงใจเลื่อมใสหรือจะใช้ทางบำบัดรักษาอาการต่างๆก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจิตที่มีพลังนั้นทำได้ทุกอย่าง

    เช่นนั้นท่านจึงต้องการให้จิตของพวกเรานั้นมีพลังโดยตัวมันเองเพื่อที่จะได้พึ่งตัวเองและพัฒนาตัวเองได้มากที่สุดท่านจึงลงตะกรุดแฝดด้วยวิชาครูบรมพรหมทั้งสองสูตรและม้วนเข้าหากันอุดผงลับเฉพาะไว้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นยันต์แบบไหนอุดผงอะไรครูท่านให้ปิดปากให้สนิท ท่านว่าวิชาสำคัญนี้ต้องตายไปกับตัวเท่านั้น เช่นนั้นจึงบอกกันได้แค่เรื่องการอาราธนาไปใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงตนเองให้มีพัฒนาการไปสู่ความรู้แจ้งเห็นจริง เมื่อตัวปัญญาเกิดญาณทัศนะก็จะเปิดขึ้น เราจะมีความเข้าใจถึงความเป็นธรรมชาติและเข้าใจรอบรู้เกี่ยวกับสรรพสิ่งที่วันนี้เรามองว่าเป็นเรื่องเหนือโลก....ท่านว่าคนใช้เป็นเขาจะพัฒนาตัวเองไปถึงจุดที่เหนือโลกนั้นขอเพียงแค่พกไว้ยกระดับกำลังจิตตัวเองทุกเช้าค่ำเอาติดตัวไว้เช่นนี้ ข้อดีอุปมาเปรียบเทียบกับสิ่งใดไม่ได้เลยเราบอกได้แค่ว่าจิตที่มีพลังพร้อมจะพัฒนาในทุกด้านนั้นมันเหนือโลกและพร้อมที่จะพ้นโลกพูดได้เท่านั้น ผู้ที่อาราธนาจะไม่สามารถนำพลังจิตไปใช้ในทางที่ผิดได้นอกจากการพัฒนาส่งเสริมจิตวิญญาณและเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตตนเองดีขึ้น *** พ่ออาจารย์ท่านย้ำข้อนี้มากที่สุดเพราะกำลังทางจิตนั้นหากนำไปใช้ผิดที่ผิดทางย่อมก่อเกิดเภทภัยแก่ตนทั้งยังสร้างเวรกรรมไม่รู้จบสิ้น เช่นนั้นท่านจึงไม่ปรารนาจะเห็นใครตายไม่ดี ท่านว่าของบางอย่างก็ต้องจำกัดไว้เพื่อการพัฒนาเท่านั้น พัฒนาและควบคุมพลังงานไปดังใจคิดและแสดงฤทธิตามอิทธิวิธีควบคู่กับการถือศีลถือธรรมไม่ออกนอกกรอบเพื่อจุดหมายเดียวกันคือพระนิพพาน ท่านว่าผู้ที่มีกำลังทางจิตมากมีปัญญามากจะฉลาดรอบรู้ในความทุกข์คือรู้เท่าทันทุกข์ไม่เอาตัวเองเข้าหาความทุกข์และเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ทั้งยังเข้าถึงความเป็นทิพย์สามารถรู้อดีตและเห็นอนาคตบางช่วงบางตอนพร้อมทั้งเหตุผลที่ทำไมจึงเป็นแบบนั้นเพราะเหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนั้นท่านว่าจิตจะหยั่งรู้และเข้าใจได้ แม้แต่จะอ่านใจคนบางครั้งมองๆคนอื่นก็รู้สิ่งที่คนอื่นกำลังคิดเช่นนี้ ท่านว่าพูดถึงตรงนี้พอเพราะคนที่กระทำให้แจ้งในอิทธิวิธีอย่างแท้จริงแล้วเขาจะมีพลังเปลี่ยนธรรมชาติและเหาะเหิรเดินน้ำหายตัวหรือพูดคุยกันในระยะไกลเหล่านี้ย่อมทำได้แต่มันก็ไม่ได้ทำกันง่ายๆหรือเปลี่ยนแปลงไปสู่จุดนี้ได้ทันทีต้องอาศัยเวลาการหมั่นขัดเกลาอย่างยิ่งยวด แต่เราก็ต้องว่าตามกันเป็นขั้นๆค่อยๆพัฒนาไปซึ่งตะกรุดตัวนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นโอกาส...เป็นโอกาสที่ครูบรมพรหมท่านให้เวทย์สวรรค์ตัวนี้มาเพื่อพัฒนากำลังจิตตานุภาพโดยเฉพาะ แต่ก็ต้องรู้ว่าถนนนั้นมีหลายสายใครจะใช้ไปทางไหนเพื่ออะไรก็เป็นเรื่องของแต่ละคน จุดหมายใครจะอยู่แค่ไหนก็เป็นความต้องการของเขา ขอแค่เพียงให้จิตมีกำลังสามารถควบคุมความคิดให้สงบได้ มีสติรู้เท่าทันความคิดตัวเอง มีสมองปลอดโปร่งไร้สิ่งเหนี่ยวนำฉุดรั้งอารมณ์ทั้งหลาย ทำให้เราตื่นให้ชีวิตสว่างไม่ฟุ้งซ่าน พ่ออาจารย์ท่านว่ามีเพียงเท่านี้ก็ดีกว่ามนุษย์ที่เดินสวนกันไปๆมาๆไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

    ด้วยสรรพสิ่งนั้นมีสองด้านเสมอเสมือนฉากขาวกับดำ(สื่อถึงพลังกายสิทธิ์ของผงที่อุดในตะกรุด) ท่านว่าหากด้านใดมากไปก็เพิ่มด้านตรงข้ามเข้าไปเสริมหากน้อยไปก็เสริมถ่วงดุลย์กันให้พอดีเช่นนี้จึงเรียกว่ากลับดำเป็นขาวเข้าสู่จุดสมดุลเพื่อให้จิตวิญญาณของเราปกติมากที่สุดไม่ร้อนรนด้วยสิ่งผูกรัดต่างๆที่สะสมมาเวลาเราใช้ชีวิต จิตที่ปกติสงบสุขไม่ฟุ้งซ่านเช่นนี้จึงจะสร้างพลังและก่อให้เกิดฤทธิทางใจต่างๆได้มากมาย พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เราบอกได้แค่เพียงไม่ใช่ลงเหล็กจารก็เสร็จเพราะท่านว่าเราทำเองไม่ได้ ต้องเชิญครูแฝงร่างให้องค์พรหมท่านจารของท่านเองแม้ผงที่อุดก็เป็นกฤติยาคมแฝดที่จะแก้อาถรรพ์คนที่ฝึกจิตไม่สงบ จิตไม่มีกำลัง ใช้พลังทางจิตเหล่านี้ไม่ได้ เพื่อจุดประสงค์จะให้ผู้อาราธนามีพลังจิตที่แข็งกล้าให้พัฒนาตนเองไปสู่จุดที่มีสมาธิโดยไม่ต้องหลับตา ท่านว่าเมื่อไปเรียนกสิณการเพ่งธาตุต่างๆก็จะทำได้ไวขึ้น ทั้งเกิดความรู้แจ้งในสรรพสิ่งควบคุมความคิดตนเองได้อันนำไปสู่การฝึกตน..ทั้งรู้ใจคนรู้ความคิดรู้เท่าทันตัวเอง(สำคัญที่สุด) รู้ความคิดสัตว์เวลาได้ยินหมาเห่าก็รู้ว่ามันอยากบอกอะไรเช่นนี้ท่านว่าเมื่อจิตมีพลังและเข้าสู่กระบวนการพัฒนามันก็จะค่อยๆพัฒนาไปทั้งชีวิต แม้ตายตกไปสิ่งที่ติดตัวนี้ก็จะอุบัติพร้อมกับเราในชาติใหม่ไม่ได้หายไปไหนเป็นพื้นฐานของเรา

    ตะกรุดแฝดคู่นี้พ่ออาจารย์ท่านเปรียบเสมือนแสงสว่างในแสงสว่างท่านเรียกว่าแสงเหนือ ที่จะช่วยให้คนรู้จักควบคุมพลังทางจิตและนำออกมาใช้ได้ ทั้งยังเข้าใจธรรมชาติสามารถทำตนให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติจนพัฒนาไปสู่ความเปลี่ยนแปลงดั่งใจนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าแรกก็จะค่อยๆค่อยๆ ค่อยค่อยเปลี่ยนไปตามพัฒนาการของตัวเรา เอาว่าชีวิตต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีที่สุดแน่นอน ทั้งความคิดยังจะเห็นจริงตามความเป็นไปของธรรมชาติไม่ว่าจะธาตุในวัตถุต่างๆทั้งรูปนามพลังงานการเปลี่ยนแปลงไปตามกฏแห่งไตรลักษณ์ เราจะเห็นตัวเราหมุนตามโลกไปพร้อมๆกับการฝึกตนตลอดเวลา เมื่อถึงจุดที่สมควรแก่ช่วงเวลาในชีวิตก็จะละซึ่งสังโยชน์ล่วงถึงประโยชน์ยิ่งใหญ่ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงกล้ากล่าวได้ชัดเจนว่าตะกรุดนี้เป็นเครื่องรางที่เหมาะจะพกเอาไว้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองอย่างถึงที่สุด เพราะเกิดมาชาติมนุษย์นั้นไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการฝึกจิตพัฒนาตนเองอีกแล้ว

    ท่านว่าหนนี้ครูพรหมท่านขอไว้ไม่ให้ลงรายละเอียดใดๆเกี่ยวกับวิชาเลยจริงจึงทำได้แต่บอกเล่าข้อดีและสิ่งที่จะเป็นเมื่ออาราธนาติดกายเสมอเท่านั้น ท่านว่าต้องพกและควรพกซึ่งท่านเองก็พูดมากไปกว่านี้ไม่ได้ แต่ท่านกล่าวย้ำแค่ว่า "จะกลับดำเป็นขาวกลับผิดเป็นถูก กลับชีวิตให้อยู่ในความสุขควรคู่กับสิ่งที่คู่ควรยิ่งๆขึ้นไป ยิ่งจิตมีกำลังมากขึ้นเท่าไหร่สิ่งที่คู่ควรนั้นก็จะยิ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว" วิธีใช้ ท่านว่าจะพกติดกระเป๋ากางเกงก็ได้ไม่ได้ห้าม หากแต่ต้องนำติดตัวเสมอไม่ควรถอดแม้เวลาไหน ยิ่งติดตัวได้บ่อยหรือมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีกับตัวเองมากขึ้นเท่านั้นเพราะจิตจะพัฒนาไปไม่มีขาดช่วง คนที่พัฒนาได้ตลอดแม้แต่เวลานอนหลับนั่นคือการทำงานไม่หยุดพัก การขัดเกลาสม่ำเสมอ เช่นนั้นผลที่ได้ย่อมมากกว่าคนอื่น คาถาท่านว่าไม่ต้องใช้หากอยากท่องก็ท่องเพียง อรหัง รู้ ตื่น เบิกบาน ย้ำๆซ้ำๆวนไปมาเพียงเท่านี้

    *** ตะกรุดแฝดเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ไม่กี่ดอก ท่านว่าทำได้น้อยเพราะผงทำยากและชนวนทำแผ่นตะกรุดก็หมด ท่านว่าไม่ต้องไปรีบขายใครเขา เพราะคนที่เห็นค่าตัวเองจริงๆเขาจะมาเอาไปใช้กันในหมู่ญาติวงศ์ของเขา ส่วนคนที่ไม่ให้ค่าไม่คิดว่าตัวเองจะพัฒนาไปได้เขาจะไม่มองตะกรุดเช่นนี้เลย รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ก่อนส่งพ่ออาจารย์ท่านจะบอกกล่าวครูพรหมประสิทธิให้อีกวาระหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดแฝดเนื้อธาตุอาถรรพ์เพิ่มพูนกำลังจิตตานุภาพคลายข้อจำกัด (กลับดำเป็นขาว,กลับผิดเป็นถูก) บูชา 2,500 บาท


    79436627-2188974848063353-636229384050573312-n.jpg 80116884-512888605968864-5589418091952996352-n.jpg 79253920-816774902078560-8133737330621022208-n.jpg
    78711916-1156751577856838-1260773519298396160-n.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา มหาธาตุสำเร็จองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณในบาตรช่อฟ้า(องค์ธาตุแห่งอาตมัน)

    เหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณ
    ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน

    การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น) เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน

    พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น) ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น

    องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย

    องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น

    ด้วยอจินไตยเป็นสิ่งเกินหยั่งคาด
    ดวงธาตุนี้ก็เช่นกัน
    พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากเป็นกายสิทธิ์ธาตุแห่งองค์อาตมันแล้วยังมีเหล่าทิพย์กายของมหาพรหมคอยรักษา โดยเฉพาะครูใหญ่องค์สหัมบดีพรหมเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงกล่าวเป็นนัยน์ๆว่าองค์ธาตุนี้ใครได้ครอบครองถือว่าได้ของดีหลายต่อเลย ด้วยครูพรหมสหัมบดีนั้นเป็นบรมครูผู้ยิ่งใหญ่และประเสริฐสุดในฝ่ายพรหมของพระพุทธศาสนา เป็นเจ้าแห่งพรหมโลกผู้อาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกโปรดเวไนยสัตว์ด้วยพระเมตตาของพระองค์ ทั้งยังเป็นบรมครูผู้เป็นใหญ่เป็นผู้นำแห่งหมู่มหาพรหมสุทธาวาส เป็นพรหมผู้ได้ชื่อว่ามีรัศมีรุ่งเรืองที่สุด...เป็นใหญ่สูงสุดเปรียบดั่งกษัตริย์เหนือกษัตริย์..เทพเจ้ายิ่งเทพเจ้าในหมู่พรหม ท่านเป็นผู้ซึ่งได้รับการอ่อนน้อมการกราบไหว้บูชาทุกภพภูมิ และเมตตารักใคร่สรรพสัตว์ผู้ทุกข์ยากมากที่สุดก็คือท้าวสหัมบดีพรหมผู้เป็นบรมครูใหญ่ของพ่ออาจารย์พลนั่นเอง

    บรมพรหมสหัมบดีนั้นมีความผูกพันธ์กับพ่ออาจารย์มากด้วยแรงครูของสายพรหมปัญจสุทธาวาสนี้ท่านบอกว่ามีดีทุกด้าน ขอได้ทุกอย่าง ท่านว่าเธอเชื่อมั๊ย คนเราเกิดมาไม่พ้นกรรม ไม่มีวัตถุมงคลใดช่วยเรื่องกรรมได้ เเต่พระพรหมเหล่านี้ไม่ใช่แบบนั้นโดยเฉพาะ...ครูสหัมบดีพรหม อิทธิคุณท่านพลิกฟ้าพลิกดินเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ ใครที่มีกรรมหนักตามสนอง ถ้าครูท่านเมตตาก็จะช่วยให้เบาบางได้มีโอกาสทำคุณงามความดีชดเชยบาปกรรมทั้งหลาย เรียกได้ว่าผ่อนหนักเป็นเบาจากเรื่องร้ายๆก็จะค่อยๆจางหายไป ถ้ายังมีบุญเเละความดีอยู่ท่านก็จะช่วยให้ได้รับอานิสงค์ของผลบุญนั้นไวขึ้น นี่บารมีพระพรหมสหัมบดีดีอย่างนี้ท่านสถิตย์อยู่ในอกนิฏฐาสุทธาวาสมหาพรหม พูดง่ายๆคือชั้นสูงสุดเป็นภพภูมิแห่งรูปพรหมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชั้นปัญจสุทธาวาสและทั้งหมดของรูปาวจรภูมิ แม้แต่พระอินทร์หรือท้าวสักกะเทวราชแห่งดาวดึงษ์ ก็ยังตั้งความปรารถนาขอมาเกิดเป็นพรหมชั้นนี้

    นอกจากนี้องค์ธาตุยังมีพระญาณของเหล่าอกนิฏฐามหาพรหมคอยรักษา พรหมอกนิฏฐ์นี้เป็นพรหมชั้นผู้ใหญ่ที่อุบัติมาจากพระอริยบุคคลระดับอนาคามี ที่มีอินทรีย์ คือสัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญาแก่กล้าบริบูรณ์ทุกส่วน แต่มีปัญญาโดดเด่นที่สุด จัดอยู่ในกลุ่มพระอนาคามีระดับสูงสุดมีชื่อเรียกเฉพาะว่าอุปหัจจปรินิพพายีหมายถึงผู้จวนจะถึงปรินิพพาน กับอันตราปรินิพพายี คือผู้ปรินิพพานในระหว่างหมายถึงไม่อยู่เป็นมหาพรหมจนครบอายุขัยแห่งมหาพรหมนั้น เมื่อถึงวาระเเละจบภารกิจก็จะเข้านิพพานเลย *** มหาพรหมอกนิฏฐ์เหล่านี้ท่านว่าทุกพระองค์ล้วนสูงสุดและสูงส่งมีอำนาจมากล้นพ้นประมาณ ซึ่งมหาพรหมอกนิฏฐาสุทธาวาสนี่แหละที่มักลงมาถ่ายทอดวิทยาการต่างๆให้มนุษย์โลกเพื่อจะได้เอาไว้ใช้ปรับตัวเวลาเผชิญปัญหาเหตุการณ์ซับซ้อนต่างๆได้ ทั้งยังคอยเป็นห่วงมาบอกข่าวแจ้งข่าวล่วงหน้าเสมอๆแม้สมเด็จพระบรมศาสดายังได้ยืนยันเอาไว้เองว่าพรหมเหล่านี้แหละที่มักรอบรู้ถึงการบรรลุธรรมขั้นต่างๆของมนุษย์ที่มนุษย์เองยากนักจะรับรู้ได้.... พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น)

    ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด

    ...ต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น
    เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงนำไม้ช่อฟ้าสมเด็จโตที่เหลือเล็กน้อยมาแกะเป็นรูปบาตรบรรจุองค์ธาตุไว้ ด้วยท่านถือว่าไม้ช่อฟ้าเป็นของสูงมากคือสูงสุดในอุโบสถแล้วมีอาถรรพ์มากซ้ำยังหาได้ยากอย่างยิ่ง มีพลังของครูสมเด็จโตท่านในปริมาณมากเพราะเมื่อท่านลงอุโบสถทำวัตรสวดมนต์ปลุกเสกพระอัญเชิญเทวดาไม้เหล่านี้ก็ได้ซึมซับพลังงานเหล่านั้นไปครั้งเเล้วครั้งเล่ายุคเเล้วยุคเล่า และบาตรก็ยังนับว่าเป็นของสูงซึ่งเมื่อพระเปิดบาตรเมื่อใดก็มีข้าวล้นบาตรเมื่อนั้น เป็นเคล็ดให้ผู้มีอันจะกินทั้งหลายมีกินไม่รู้จักหมดสิ้น บาตรช่อฟ้านี้จะบันดาลให้ผู้บูชามีลาภผลสุขสมหวังถ้วนทุกประการ สิ่งใดที่ปิดอยู่ก็ให้ท่านสงเคราะห์เปิดให้ เปิดแล้วต้องได้รับ ต้องอิ่ม ต้องสมบูรณ์พูนสุขครบถ้วนนั่นเอง

    ท่านลบถมผงพระอนุรุทธเปิดบาตรเอาไว้ด้วยเป็นวิชาที่หาคนทำคนสืบทอดได้ยากเป็นวิชาสายครูพระอนุรุทธะเถระ ท่านจึงทำผงสำคัญอุดไว้ให้จนล้นบาตร ผงนี้ท่านว่าผู้ใดได้บูชาเเล้วชีวิตจะมีเเต่ความเจริญในลาภสักการะมิรู้ขาด จะมีจะได้สมประสงค์ทุกสิ่งที่พึงจะปรารถนา ถือว่าเป็นยอดวิชาที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยยื้อความเป็นอยู่คนใช้จริงๆ ท่านว่าชีวิตนี้จะไม่รู้จักคำว่าไม่มี คำหนึ่งคำว่า "ไม่มี" คำนี้ไม่ได้หมายเฉพาะลาภสักการะนะเเต่รวมไปถ้วนทุกอย่างวิชานี้ของท่านตกอยู่กับผู้ใดจะมีจะได้ในทุกสิ่งที่ปรารถนาไม่เพียงเเต่โชคลาภวาสนาเเต่ยังรวมไปถึงสิ่งต่างๆ เอาเป็นว่าสำเร็จดั่งใจคิดฝันก็เเล้วกัน ทุกสิ่งอย่างจะไม่รู้เลยคำว่าไม่มีคืออะไร ตัวไม่มีนี่หน้าตาเป็นอย่างไรเพราะทุกสิ่งที่มีพระประสงค์ต้องมี ต้องได้ ท่านว่าวิชาบาตรพระอนุรุทธเถระนี้อยากได้อะไรก็ขอกับบาตรต่อให้เป็นสิ่งที่ไม่มีในโลกมนุษย์ เทพเจ้าทั้งหลายก็ต้องรีบมาเนรมิตรให้ฉับพลันทันที บาตรอยู่ในทิศไหนก็มีทุกสิ่งตรงนั้นเป็นหน้าที่ของเทพยดาเเถบนั้นไปเลย

    ท่านทำบาตรด้วยไม้ช่อฟ้าที่นับเป็นของสูงค่า ทั้งยังลบผงทำวิชาชั้นสูงบรรจุไว้ให้เป็นกฤติยาคมแฝด เมื่อใส่บรรจุองค์ธาตุอาตมันไปจึงนับว่าได้บรรจุองค์ธาตุไว้ในของสูงที่สร้างมาจากที่สูง(ยอดฟ้า ยอดอุโบสถ) ### รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีเพียงไม่กี่องค์เท่านั้น ท่านให้แบ่งๆกันไปบูชาเพราะเป็นของสูงที่ท่านไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้เอง จึงให้บูชาได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ท่านว่าของเช่นนี้เป็นของคู่บารมีนะ อยู่ที่ว่าบารมีของใครเค้าจะถึงพร้อม ถ้าไม่ใช่เจ้าของก็จะไม่สนใจเลยเพราะเขาจะอุปถัมภ์เฉพาะผู้ที่คู่ควรเท่านั้น

    คาถานมัสการ
    โอม ยัมไศวาหะ สะมุปาสะเต ศิวะอิติ พรหมเหติ เวทานติโนเพา ทธาพุทธอีติประมาณะปะฎะวะหะ กรเตติ ไนยายิกาหะ อรหันนิตยะถะไญนะ ศาสะนะระตาหะ กรรมเมติ มีมานสกาหะ โสยัมโน วิทะธาตุวานณะ ฉิตะผะลัม ไตรโลกยะนาโถ หะริหะ
    โอม เทวะ มหาเทวะ ปรมัติอาตมภูว มหาอธิบดีไตรโลกาธาตุโอม ฤ ฤา มหา ฦ ฦา


    เมื่อองค์อาตมันสำเร็จธาตุลงเป็นกายสิทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าของประเภทนี้ถ้าเราพกติดตัวเขาจะช่วยเราได้มากกว่าเราไหว้เราขอกับรูปพระรูปเทพทั้งหลาย เพราะเขาเป็นกายสิทธิ์เป็นของกลางๆ เหมือนเราจะดีหรือชั่วจะต่ำหรือสูงจะประเสริฐหรือจะแย่ ขอให้ศรัทธาและกราบขอจากองค์อาตมันท่าน ด้วยความที่เป็นกายสิทธิ์สำเร็จธาตุ ท่านจะช่วยไม่เลือก..และไม่รอ

    *** รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านให้บูชาเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อสกุลเอาไว้ด้วย รวมทั้งความปรารถนาที่จะบอกกล่าวกับครูอาตมัน รายได้ร่วมสมทบทุนเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มหาธาตุสำเร็จองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณในบาตรช่อฟ้า(องค์ธาตุแห่งอาตมัน) บูชา 2,500 บาท

    79352275-535842380331717-4422382461523066880-n.jpg 79852682-3502124103161516-2908084422970441728-n.jpg
    80423001-676748676189879-6166153537479770112-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2019
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อจันทร์ฉายพ่อเหนือเทพพระอวโลกิเตศวร (พระศรีสลับกลับคลาดดับกลับอนาคตกาล)

    สำหรับอนาคต...ของผู้ไร้อนาคต
    อย่างที่ทราบกันว่าเศรษฐกิจในระดับกลางและระดับล่างตอนนี้แย่มากนิ่งมากไม่ขยับเลย พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าคนจะไร้อนาคต และมีชีวิตกันแบบไร้ทิศทาง(อยู่แบบตามมีตามเกิด) ท่านจึงได้อนุญาติให้นำเครื่องมงคลที่สร้างเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตออกมา นั่นก็คือองค์พ่อเหนือเทพหรือที่รู้จักกันในนามพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์

    พ่อเหนือเทพ
    ซึ่งมหาโพธิสัตว์องค์นี้พ่ออาจารย์ท่านคุ้นเคยกันดีและเรียกท่านว่าพ่อเหนือเทพ เพราะเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีผู้เคารพศรัทธามากที่สุด(จึงมีบารมีมากที่สุดในบรรดาโพธิสัตว์) ด้วยท่านเป็นองค์กำลังของมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าทั้งปวง ทั้งเป็นผู้ที่คอยเฝ้ามองจากเบื้องบนหรือจะเรียกว่าพระผู้ทัศนาดูโลกก็ได้นั่นคือท่านคอยเฝ้าดูแลสรรพสัตว์ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์นั่นเองด้วยเป็นผู้เพ่งสดับเสียงแห่งโลกสดับฟังเสียงคร่ำครวญของสัตว์โลกที่กำลังตกอยู่ในห้วงทุกข์เพราะพระองค์ทรงไว้ซึ่งความกรุณาอันไพศาลไม่มีขอบเขตเพื่อจะคอยสอดส่องดูแลปลดเปลื้องทุกข์ของสรรพสัตว์เสมอ พ่อเหนือเทพนั้นเป็นผู้ที่สามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณคืออาจจะเป็นพระพุทธเจ้าเมื่อใดก็ได้แต่ทรงยับยั้งไว้เนื่องจากความกรุณาสงสารต่อสรรพสัตว์ ทั้งพ่ออาจารย์ยังตอกย้ำว่าท่านมีอภินิหาริย์มากด้วยเป็นสมันตมุขคือปรากฏพระพักตร์อยู่สอดส่องไปทั่วทุกทิศอาจแลเห็นทั้งหมด

    พ่อเหนือเทพท่านเป็นพระธยานิโพธิสัตว์ ซึ่งพระโพธิสัตว์ประเภทนี้มิใช่พระโพธิสัตว์ผู้กำลังบำเพ็ญบารมีเพื่อแสวงหาดวงปัญญาอันจะนำไปสู่ความรู้แจ้งหากแต่เป็นพระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญบารมีบริบูรณ์ครบถ้วนแล้ว(เต็มแล้ว)จึงสำเร็จเป็นพระธยานิโพธิสัตว์หรือพระโพธิสัตว์ในสมาธิโดยยับยั้งไว้ยังไม่เสด็จเข้าสู่พุทธภูมิเพื่อจะโปรดสรรพสัตว์ต่อไปอีกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พระธยานิโพธิสัตว์นี้เป็นทิพยบุคคลที่มีลักษณะดังเทพยดา มีจิตเข้าสู่ภูมิธรรมขั้นสูงสุดและทรงไว้ซึ่งพระโพธิญาณอย่างมั่นคงจึงมีสภาวะที่สูงกว่าพระโพธิสัตว์ทั่วไป โดยพระธยานิโพธิสัตว์มักจะมีภูมิหลังที่ยาวนานเป็นพระโพธิสัตว์เจ้าที่สำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์มาเนิ่นนานนับแต่สมัยพระอดีตพุทธเจ้าองค์ก่อนๆสุดจะคณานับเป็นกาลเวลาได้ โดยพ่อเหนือเทพหรือพระอวโลกิเตศวรนั้นท่านเป็นพระธรรมกายโพธิสัตว์จึงมีฐานะสูงกว่าพระโพธิสัตว์ชั้นสามัญอื่นๆ ทั้งยังเป็นอกชาติปฏิพัทธะ(เกิดอีกชาติเดียวก็เข้าสู่การตรัสรู้ทันทีเช่นเดียวกับพระศรีอาริยเมตตรัย) ทรงได้สดับหฤทัยธารณีและบรรลุถึงภูมิที่แปดแห่งพระโพธิสัตว์เจ้า

    พ่อเหนือเทพนั้นท่านได้รับธรรมจักรมาโดยตรงจากพระพุทธเจ้าและเป็นผู้นำในการรักษาพระพุทธศาสนาและหมุนธรรมจักรต่อไป ท่านมีปกติประทับอยู่ณ.สุขาวดีพุทธเกษตรคอยช่วยพระอมิตาภพุทธะโปรดสรรพสัตว์ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์ และเนื่องจากเป็นพระธยานิโพธิสัตว์จึงมีความเป็นมาอันยาวนานสุดจะคาดคำนวณได้นับแต่สมัยของพระวิปัสสีพุทธเจ้าเป็นต้นมาก็ทรงได้โปรดสัตว์มาเป็นลำดับจนถึงบัดนี้อันเป็นกาลสมัยของพระสมณโคดมศากยมุนี โดยท่านถูกวางตัวไว้เพื่อจะตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าภายหลังการดับขันธปรินิพพานของพระอมิตาภะณ.สุขาวดีพุทธเกษตร(พระอมิตาภพุทธะเป็นพระพุทธเจ้าในอดีตย้อนไปก่อนหน้าพระโคตมพุทธเจ้าไป 10 กัป) พุทธเกษตรหรือวิสุทธิภูมิเกิดขึ้นด้วยอำนาจบารมีของพระอมิตาภพุทธะอาจเรียกว่าสุขาวดีก็เพราะผู้อยู่ในดินแดนนี้ย่อมไม่มีความทุกข์เลยหากแต่เสวยสุขอยู่เสมอ

    ด้วยมหากรุณาที่เล็งเห็นสรรพสัตว์ยังตกอยู่ในโมหะอวิชชาทำให้ต้องทนทุกข์อยู่ในวังวนแห่งสังสารวัฏยากจะหลุดพ้นไปได้เช่นนั้นพ่อเหนือเทพท่านจึงโปรดปวงสัตว์ให้เห็นธรรมพ้นทุกข์ด้วยพระเมตตากรุณาเพราะทรงปรากฏพระกายได้ทั่วทุกหนทุกแห่งที่มีสัตว์ตกอยู่ในห้วงทุกข์ เช่นนั้นท่านจึงโปรดให้พ่ออาจารย์หล่อรูปของท่านไว้ในปางบุรุษ(ไม่ใช่สตรีหรือปางเจ้าแม่กวนอิม) เพื่อจะได้สดับเสียงแห่งทุกข์ของผู้เดือดร้อนและคอยเรียกหาพระองค์ด้วยท่านยังทรงไว้ซึ่งความอ่อนโยนเป็นพิเศษดังเช่นความรักของมารดาที่มีต่อบุตรซึ่งพร้อมจะเข้าหาผู้ระลึกถึงเสมอด้วยท่านตั้งปณิธานไว้ว่า “ในอนาคตกาลข้าพเจ้าจะยังประโยชน์สุขให้เกิดแก่สรรพสัตว์ได้" เป็นความตั้งใจอันยิ่งใหญ่ของพระโพธิสัตว์ ### องค์พ่อเหนือเทพนั้นท่านดำรงค์อยู่สูงกว่าโพธิสัตว์ทั้งหลายเพราะท่านได้รับประทานพระปัญญาคุณ,พระสันติคุณ และพระกรุณาธิคุณทั้งสามประการนี้จากพระพุทธเจ้าโดยตรง เพราะเมื่อท่านตั้งปณิธานโปรดสรรพสัตว์นั้นพระพุทธเจ้าทั้งปวงทุกพระองค์ในทศทิศก็เปล่งแสงโอภาสเรืองรองมาต้องวรกายแห่งพระโพธิสัตว์และฉายรัศมีไปยังโลกธาตุต่างๆอย่างปราศจากขอบเขต


    อานุภาพแห่งพ่อเหนือเทพนั้นมีเป็นเอนกประการ พ่ออาจารย์ท่านว่าพ่อเหนือเทพท่านสั่งให้สร้างรูปท่านเพื่อจะโปรดสัตว์ที่มีบุญวาสนานำพาให้มาต้องกันและอยู่ในข่ายพระญาณอันจะได้พึ่งบารมีของท่านโดยเฉพาะ โดยรูปหล่อนี้เมื่ออาราธนาติดตัวย่อมมีคุณวิเศษดังนี้
    - หากเธอได้รับความทรมานจากทุกข์ทั้งหลายอยู่ สรรพทุกข์ของเขาก็จะปลดหลุดพ้นไป
    - หากหมั่นน้อมจิตเข้าหาเปล่งวาจานมัสการ ท่านจะสดับดูแลซึ่งเสียงของเราในทันที
    - จะไม่เป็นอันตรายด้วยอาวุธหรือการทำร้ายใดๆด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - จะไม่เป็นอันตรายด้วยมหาอัคคีด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - จะไม่เป็นอันตรายด้วยอุทกภัยหรือตกไปในมหาสาครอันล้ำลึกด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากต้องการทรัพย์สินศฤงคารอันมีสุวรรณ,หิรัญ,ไพฑูรย์,บุษราคัม,เพทาย,เพชร,นิล,จินดามณีรัตน์ชาติเป็นอาทิ ก็จะได้สมใจด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากชีวิตถูกย่ำยีโดยอสูรและปีศาจร้ายก็จะรอดพ้นจากอสูรภัยได้ด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - ยักษ์มารทั้งหลายทั่วมหาตรีสหัสสโลกธาตุ แม้ดวงจักษุอันดุร้ายก็ยังมิกล้าจะแลดูมายังตัวเราด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - ถ้ามีศัตรู มีผู้มุ่งร้ายหรือกระทำการประทุษร้ายก็จะหลุดพ้นจากความพินาศไปได้ด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากมีโทษกรรมทรมานจะได้รับความอิสระด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากถูกจองจำในเครื่องพันธนาการอยู่เครื่องจองจำพันธนาการเหล่านั้นจักภินทนาการลงด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากชีวิตเราตกอยู่ในภัยอันตราย
    ### แม้ทั่วทั้งมหาตรีสหัสสโลกธาตุก็หาผู้ใดให้ความช่วยเหลือไม่ได้ ขออย่าได้กลัวให้อธิษฐานต่อองค์พ่อเถิด ด้วยมหาสัตว์พระองค์นั้นทรงมีพระมหากรุณาซึ่งจะปลดเปลื้องเหตุความหวาดกลัวต่างๆได้
    - หากมีอารมณ์มักมากในกามราคะก็สามารถห่างไกลจากกามราคะได้ด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากมีอารมณ์มากไปด้วยโทสะก็สามารถห่างไกลจากโทสะได้ด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากมีอารมณ์มากไปด้วยโมหะก็สามารถห่างไกลจากโมหะได้ด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากปรารถนาบุตรชายอันสมบูรณ์ด้วยบุญญาธิการและปัญญา บุตรหญิงที่ทรงลักษณะสิริโสภาคย์มีบุญอันกระทำไว้แล้ว ก็ให้ขอจากพระโพธิสัตว์พระองค์นี้เถิด

    ด้วยพ่อเหนือเทพท่านจะกระทำซึ่งหิตานุหิตประโยชน์อันมากมายแก่ผู้ที่ระลึกถึงด้วยมีพระเดชานุภาพอันพิลึกโอฬารเช่นนี้ รูปหล่อพ่อเหนือเทพนี้ท่านว่าคนที่จะได้ไปย่อมต้องมีบุญสมภารอันจะประมาณมิได้ แม้ได้บูชาสักการะและปรนนิบัติถวายสิ่งอุปโภคบริโภค มีภัตตาหาร เสนาสนะ เภสัช แด่พระโพธิสัตว์ชั่วระยะกาลเวลาหนึ่งเขาจะมีบุญญาภิสมภารเสมอได้สร้างบุญไว้นับอสงไขยโกฏิกัลป(คนที่ไม่มีบุญไม่มีวาสนาในชะตาตัว ถ้ารู้ว่าบุญน้อยก็ให้ตั้งข้าวน้ำกระทำสักการะบูชาพ่อเหนือเทพให้ดี)เพราะจะเกิดกุศลผลบุญอันนับมิได้ประมาณมิได้

    ด้วยพ่อเหนือเทพท่านท่องเที่ยวโปรดสัตว์ในมหาตรีสหัสสโลกธาตุ พ่ออาจารย์ท่านว่าหากบุคคลใดมีวาสนากับพระพุทธเจ้าที่จะได้รับการโปรดโดยพุทธกายแล้ว นั่นจะเป็นหน้าที่ของพ่อเหนือเทพท่านที่จะปรากฏรูปพุทธกายขึ้นมาโปรดสัตว์ นอกจากนั้นหากผู้ใดมีวาสนาจะได้รับการโปรดโดยพุทธสาวกไม่ว่าจะเป็นภิกษุหรือเทพเจ้าอินทร์พรหมแลพราหมณ์และจักรพรรดิ ไม่ว่าจะนาคยักษ์คนธรรพ์อสูรกุมารมโหราค...ท่านว่ามีวาสนาอย่างไรพ่อเหนือเทพท่านก็จะปรากฏรูปกายขึ้นมาเพื่อโปรดเรา เฉพาะเรา ตรงกับวาสนาเราเช่นนั้น *** นี่คือสิ่งที่องค์พ่อท่านคล้อยตามวาสนาเพื่อจะโปรดและถอดถอนเรา ไถ่เราออกจากความทุกข์ยากทั้งปวงให้ได้ ทั้งยังจะแสดงธรรมแก่เราสมควรแก่วาสนาด้วย

    ด้านหลังอุดด้วยผงสลับ,กลับ,คลาดซึ่งใช้ให้ตัวเราคลาดแคล้วกับเคราะห์กรรมหลักและเศษกรรม เคราะห์หามยามซวยทั้งหลายที่มาเกิดกับตัวเรานั้นจะถูกสลับสับเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะมันจะหนีจะย้ายจากตัวเขาไปลงอยู่กับเหล่าคนที่มีกรรมอกุศลร่วมกันแทนจึงเรียกได้ว่าสลับ กลับ คลาดทั้งหมด
    - สลับ คือสับเปลี่ยนตัวตน
    - กลับ คือย้อนเจตนาและการกระทำกลับไปให้ผู้ทำ
    - คลาด คือคลาดแคล้วเนื้อตัว ไม่ได้กล้ำกรายให้ต้องทุกข์ โทษ ภัย
    นอกจากจะเปลี่ยนชีวิตให้กลับตาลปัตรแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้ต้องทำความเข้าใจไว้ ว่ามันกลับเฉพาะอกุศลกรรมและเคราะห์ภัยรวมไปถึงเศษกรรมหากแต่กุศลกรรมก็ยังเสวยกันได้อย่างปกติมิใช่บางเรื่องดีอยู่แล้วจะกลับไปเลวลง เพราะผงลบวิชานี้ถูกลิขิตไว้แล้วให้คนใช้ต้องพุ่งขึ้น สูงขึ้น ไม่ตกต่ำลงเท่านั้น นอกจากสลับ กลับ คลาดตัวบุคคลแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่ายังย้อนกลับทุกความคิดปองร้ายและการกระทำด้วยคุณไสย อวิชชา เจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ให้กลับคืนเข้าหายังผู้กระทำด้วย แม้ใครจะเล่นงานเราก็เข้าผิดที่ผิดทาง ทำอะไรเราก็ทำผิดตัวผิดตนวนอยู่แบบนั้น มันจะเป็นเช่นนั้นอยู่ร่ำไป วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ได้ไปหยุดยั้งกรรมไม่ให้เกิด แต่มันกลับสับเปลี่ยนให้ตกกับคนที่มีกรรมร่วมกัน ให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็นแทนนั่นเอง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลยผงนี้ใช้ชำระจิตวิญญาณของผู้อาราธนาด้วย ท่านว่าคำๆนี้เป็นมิติที่กว้างและลึกมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราทุกวันนี้ผ่านการเกิดมาแล้วไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ เป็นมากันหมดตั้งแต่สัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก มนุษย์ เทวดา พระราชา...เรียกว่าอยู่กันมาหมดทุกภพูมิ ทุกโลก ทุกโกฏิจักรวาล ไม่มีจะว่างเว้นการมีชีวิตอยู่และล้มหายตายจากแม้ซักวินาที จิตวิญญาณตัวนี้ของแต่ละคนล้วนแต่ตรากรตรำกรำชีวิตกันมาหนักหนา ใช้งานกันมามากมายจนตกตะกอนอกุศลมูลทั้งหลายแปดเปื้อนเนื้อตัว ท่านว่าคิดดูเถิด ถึงเวลาชำระมันบ้างหรือยัง หรือจะปล่อยให้ตายไปแบบเปื้อนๆ แล้วก็เกิดใหม่แบบเปื้อนๆเลอะๆเช่นนี้สั่งสมไปเรื่อยๆ ***ผงนี้ต้องเสกจนกระทั่งฟ้าผ่าผิด ฟ้าต้องผ่าและต้องผ่าผิดที่ผิดทางตามครูพระสยมท่านกำหนดไว้จึงจะสำเร็จโดยสายฟ้านั้นพ่ออาจารย์ท่านเปรียบไว้กับการลงทัณฑ์ของสวรรค์ เป็นเคล็ดที่ว่าแม้ทัณฑ์สวรรค์ฟาดลงมาก็ยังไม่ถูกไม่โดนเนื้อตัวเสมอด้วยเคราะห์กรรมและเศษกรรมทั้งหลาย ท่านว่าต้องเสกจนฟ้าผ่าฟ้าฟาดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ฟาดอย่างไรก็ไม่ถูกไม่โดนมณฑลพิธีทำได้เพียงฟาดพื้นที่โดยรอบเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้กว่าจะเสกสำเร็จได้จึงนับว่าเป็นของที่เสี่ยงตายทำมาให้ใช้กันโดยเฉพาะ คิดแล้วก็ยังอดใจหายไม่ได้กว่าจะทำสำเร็จจนเสกเก็บไว้ยาวๆ เพราะถ้าพลาดก็คือเราตายมันท้าทายถึงขนาดนั้น ดังนั้นจึงพลาดไม่ได้เลย
    ท่านนำผงวิชาสำคัญมาเข้ากับผงเหล็กไหล ผงเหล็กไหลฤาษี ผงเหล็กไหลเงินยวง ผงเหล็กไหลตาแรด ผงตะไบเหล็กน้ำพี้ ผงเพชรหน้าทั่ง ผงพระธาตุอรหันต์ ผงพระธาตุสีวลี ผงพระธาตุข้าวบิณ ผงพระธาตุเขาสามร้อยยอด ผงแก่นไม้สัก ผงลูกมณีโคตร ผงมณีรัตนะ ผงหงอนพญานาค ผงแก้วขนเหล็ก ผงแร่บางไผ่ ผงหยกพันปี ผงขมิ้นหิน ผงข้าวตอกพระร่วง ผงคดกะลา ผงกะลาตาเดียว ผงสะเก็ดดาว ผงหินขวานฟ้า ผงกัลปังหา ผงข้าวสารดำ ผงดอกไม้หิน ผงเพชรน้ำค้าง ผงลูกธนูคนธรรพ์ ผงงาช้างพรายกระเด็น ผงแร่อาถรรพ์ภูเขาควาย


    และพ่อเหนือเทพท่านโองการให้แกะรูปพระศรีอาริย์ผู้เป็นเอกชาติปฏิพัทธะเช่นเดียวกับตัวท่านฝังไว้ด้านหลัง ### แต่ท่านให้เคล็ดว่าต้องแกะเป็นรูปตอนท่านสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าแล้วไม่ใช่รูปโพธิสัตว์เพื่อเป็นการแก้เคล็ดคนที่ไม่มีวาสนาไร้อนาคตทั้งหลายได้มาบูชา จะได้มีอนาคตก้าวไกลไม่หยุดนิ่ง ด้วยพระศรีอาริย์เมตไตรย์ท่านอยู่ในกาลในวาระที่มีพุทธทำนายมีพระชาติแน่นอนเเล้ว ดังนั้นจึงรับภาระหน้าที่โดยตรงในการสงเคราะห์โลก สงเคราะห์สัตว์ทั้งหลาย ด้วยกำลังและอำนาจบารมีของพระองค์
    รูปนี้อ้างอิงถึงพุทธบารมีและอนาคตกาลที่จอมเทพแห่งดุสิตสวรรค์นามว่าพระศรีอาริย์ จะได้ลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า รูปเหมือนนี้พ่ออาจารย์ได้ลงหัวใจเอาไว้ท่านว่าสำคัญนัก เปรียบดุจญาณและบารมีขององค์พระศรีจริงๆเลยทีเดียว ใครปรารถนาอะไรอธิษฐานบอกกล่าวพระองค์ได้ ขอได้ทุกเรื่องแม้เเต่จะขอตั้งสัตย์อธิษฐานจะทำความดีเพื่อให้เกิดทันยุคพระศรีอาริย์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งอนาคตวงศ์ก็ยังได้ ด้วยบารมีของพระศรีอาริย์นี้หากหนุนเสริมผู้ใดแล้ว ย่อมประสบโชคดี ได้ลาภ มีวาสนาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว คนจีนถึงชอบและบูชาพระศรีอาริย์กันมากจนสับสนกับพระสังกัจจายน์ ซึ่งพระศรีอาริย์แบบคนจีนนั้นจะเป็นพระอ้วนพุงพลุ้ยลงพุงให้อานิสงค์เรื่องโชคลาภไม่ต่างจากพระสังกัจจายน์เลยทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านรู้วิธีทำรู้เคล็ดลับที่จะทำ เมื่อทำแล้วคนได้ไปต้องตั้งตัวได้ ร่ำรวยเป็นเจ้าสัวท่านถึงจะทำ
    เมื่อญาณแห่งสมเด็จพระศรีอาริย์ท่านลงมาสงเคราะห์ตัวเราพร้อมกับองค์พระอวโลกิเตศวรผู้มีคุณและมีสถานะเป็นเอกชาติปฏิพัทธะเช่นเดียวกัน จึงเป็นฤกษ์และวาระมงคลแก่ผู้ได้ไว้ครอบครองอย่างหาที่สุดไม่ได้

    ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังได้นำรูปหล่อจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่ท่านเสกเก็บไว้มานานฝังลงไปด้วย จันทร์เสี้ยวนี้ท่านหล่อมาจากแผ่นชนวนทองเหลืองอันท่านลงยันต์เกี่ยวกับวิชาความรู้ในสายโชคลาภและโภคทรัพย์ไว้ทั้งหมด เรียกได้ว่ามีรูปหล่อจันทร์ฉายนี้เสมอด้วยพกตะกรุดมีวิชาเร่งเงินทองอยู่กับตัวนับร้อยพัน ทั้งท่านยังได้นำมาอาบแสงจันทร์ทำพิธีขอเงินพระจันทร์ทุกๆปี ลงเสกทั้งในฤกษ์จันทรคราสและสุริยคราส ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้อธิบายว่าที่ต้องเสกในฤกษ์อาทิตย์สิ้นแสงด้วยนั่นก็เพราะแต่โบราณนั้นถือนัก ว่าธาตุเย็นเป็นธาตุที่ให้ผลทางด้านโชคลาภโภคทรัพย์ ซึ่งมีอริก็คือธาตุที่เป็นความร้อน การที่ต้องเสกในวันพระอาทิดย์ดับแสง ก็เพื่ออาศัยปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้ให้เกิดอำนาจและพลังศักดิ์สิทธิ์สูงสุด เพราะเชื่ออย่างยิ่งว่าเมื่อพระอาทิตย์สิ้นแสงแล้วเป็นเวลาที่วิชาแห่งไสยเวทย์จะมีกำลังแรงกล้าและทรงอำนาจของที่ทำพิธีในเวลานี้จะศักดิ์สิทธิ์มาก ซ้ำยังถือคติดับร้อนผ่อนเย็นเอาความร้อนออกไปให้เหลือไว้เเต่ความเย็นเหลือไว้ แต่โชคลาภโภคทรัพย์ไม่มีสิ่งอันทำให้ขัดข้อง และเหนืออื่นใดนั้นการเสกในฤกษ์สุริยุปราคายังให้ผลทางด้านชัยชนะด้วย มันทำให้ชนะศัตรูคู่แข่งคนที่เขาได้บูชาวัตถุมงคลชุดนี้ไปจะชนะศัตรูคู่แข่งทั้งหลาย มีคนคอยให้ความช่วยเหลือค้ำจุน คอยสนับสนุน เห็นมั๊ยว่าถ้ามีแต่โชคลาภมันก็ไปต่อไม่ได้อยู่ดี คนเราจะได้ดีจะต้องรู้จักกับคำว่าชัยชนะ มีคนคอยหนุนคอยเสริมเป็นฐานให้เรา สุดท้ายชีวิตเขาก็จะพบกับความมั่นคง ทั้งท่านยังได้ลงตะกรุดเพิ่มพระยันต์เพื่อช่วยเร่งลาภผลให้ต่อเนื่องเข้าไป ไม่หยุดชะงัก ไม่ขาดตอน อีกสองดอก

    คาถาบูชา
    นโม อารยาวโลกิเตศวราย โพธิสตฺตวาย


    รูปหล่อพ่อเหนือเทพนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามีบารมีของสุดยอดมหาโพธิสัตว์ที่ได้ชื่อว่ามีเมตตามากที่สุดและมีบารมีเต็มทั้งสองพระองค์อยู่ด้วยกัน ซึ่งท่านก็มีเจตนามั่นคงที่จะไปดูแลคุ้มครองลูกหลานอันอยู่ในโพธิวงศ์เป็นหน่อเนื้อบุคคลซึ่งมีวาสนาบุญสัมพันธ์กัน ทั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้แจ้งเอาไว้ว่าถ้าเป็นเจ้าของเขาจะมาอาราธนาเอง ไม่มีลูกคนไหนที่ปฏิเสธสายสัมพันธ์พ่อลูกนี้ได้หรอก หากมีบุญสัมพันธ์แล้วยังไงก็ต้องเชิญท่านไปใจเขาจะรู้เองว่าพ่อของเขารออยู่ตรงนี้

    *** รายการนี้ท่านทำไว้เพียงห้าองค์เท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดเอาไว้ด้วย รวมไปถึงความปรารถนาที่ลูกอยากจะฝากเนื้อฝากตัวและบอกกล่าวกับองค์พ่อท่านว่าให้แจ้งกันเข้ามาด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการประสิทธิให้และบอกกล่าวฝากฝังลูกไว้กับพ่อเหนือเทพทีละองค์ รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อจันทร์ฉายพ่อเหนือเทพพระอวโลกิเตศวร (พระศรีสลับกลับคลาดดับกลับอนาคตกาล) บูชา 4,000 บาท

    80634272-2218975518204308-3348791708702736384-n.jpg 80415743-749238082209554-4337021618602639360-n.jpg
    80188225-455246765399323-7561876204823773184-n.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดผู้เสียสละผูกพันสัญญารับแทนตัวเจ้า(แก้รหัสเชื่อมสวรรค์ต่อชีพจร)

    "ตะกรุดแบบนี้ต้องเก็บรักษาให้ดี เพราะจะมีเพียงดอกเดียว..โอกาสเดียวในชีวิตเธอที่จะได้ครอบครอง"

    ว่าด้วยวิชาทำตะกรุดที่ทรงอาญาสิทธิ์สวรรค์ที่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นตะกรุดก็จะแก้ไขส่งเสริมและช่วยเหลือเราทุกครั้งไป โดยอาถรรพ์แรงครูนั้นจะไม่เลือกว่าเราเป็นคนแบบไหนอยู่ในสังคมหรือมีชีวิตอย่างไร จะดีหรือไม่ดีจะใช้ทางมืดหรือทางสว่าง พ่ออาจารย์ท่านทำตะกรุดพิเศษตัวนี้มาเพื่อเก็บเอาไว้ให้ใช้กันในเหตุไม่คาดฝัน เพราะท่านทราบดีว่าพระเครื่องที่เป็นบารมีของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริงนั้นมักจะขอพรได้ยากหากแต่เอาไว้ใช้ฝึกเจริญสติให้ถึงพร้อมก่อนจะละสังขาร...สิ่งเหล่านี้ก็เป็นอีกเรื่อง เพราะคนส่วนหนึ่งนั้นไม่ได้หวังนิพพานหากแต่มีปัญหาในการดำรงค์ชีพซึ่งเครื่องมงคลที่สำเร็จด้วยบารมีเทพพรหมนั้นคุณวิเศษของท่านก็จะแสดงออกมาโปรดเฉพาะผู้ทรงธรรมรักษาศีลเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านเล็งเห็นว่าโลกนั้นหมุนไปวันเวลาก็ผลัดไปไวเท่ากับความรู้สึก ศีลธรรมรอบตัวนั้นเสื่อมโทรมลงดังนั้นถ้าใครหวังพึ่งพระหรือเทพพรหมในขณะที่ตนเองปฏิบัติไม่ถึงจึงเป็นเรื่องยากมาก บางคนก็เร่งทำบุญหวังเศษบุญจะส่งผลให้ถึงชีวิตไวๆแต่ก็ไม่ได้ผล พ่ออาจารย์ท่านจึงดำริสร้างตะกรุดสำคัญชุดนี้ขึ้นมาเพื่อโปรดให้คนซึ่งขาดที่พึ่งได้อยู่รอดปลอดภัยไม่ต่ำตกไม่อดอยาก

    เมื่อมนุษย์อยู่ในธรรมชาติก็ต้องอาศัยกำลังจากสัทธรรมมาเกื้อหนุน เพราะสัทธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ควบคุมทั้งเทพเจ้าคุมทั้งพลังปาฏิหาริย์ตลอดจนสวรรค์,มนุษย์,นรก,บาดาล ไม่ว่าจะเชิญเทพหรือต้องการประจักษ์แจ้งในเหตุทางอภินิหาริย์ของชีวิตๆทุกประการ ทั้งยังมีอำนาจเหนือดวงดาวที่ควบคุมมนุษย์โดยตรง ซึ่ง"ตะกรุดผู้เสียสละ" นี้ปกติพ่ออาจารย์ท่านจะไม่สร้างแต่ด้วยครูพระสยมท่านให้ทำเอาไว้ เพราะตะกรุดแบบนี้เกินอำนาจที่ครูบาอาจารย์หรือมนุษย์ทั้งหลายจะทำได้ต้องทำโดยดวงพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เช่นครูพระสยมเท่านั้น เพราะตะกรุดนั้นมีกำลังบังคับกำลังฟ้าและวิถีดาวให้เกิดผลดีกับมนุษย์อย่างถึงที่สุด ท่านว่าทำไว้วันหนึ่งจะจำเป็นต้องใช้จะมีคนที่เดือดร้อนมาหา ด้วยวิชานี้ตราบใดที่เท้ายังเหยียบยังสัมผัสกับแม่พระธรณีก็ยังอยู่ในอำนาจดูแลของท่านถ้าท่านไม่ดูแลคือตายเท่านั้น ไม่ว่าจะคนที่จิตอ่อนเพราะเห็นผีบ่อยหรือจะโดนผีเข้าพลังกายบกพร่องไร้กำลังเห็นอะไรแล้วหวาดสะดุ้งขี้ตกใจหันซ้ายหันขวาผวาอยู่บ่อยๆ....ท่านว่าให้พกตะกรุดนี้เถิดผีเข้ามาไม่ได้ทั้งยังจะเจอกับเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์สามารถสื่อกันได้ตลอดเวลา ปกติเครื่องมงคลทั้งหลายนั้นจะต้องปรับธาตุปรับพลังนั่นก็ถือว่าแรงแล้ว *** หากแต่ตะกรุดนี้กลับกันเพราะเขาใช้เปลี่ยนพลัง นั่นคือเปลี่ยนเลยไม่ต้องปรับทั้งยังป้องกันเรื่องร้ายและเรียกโชคได้ทุกประเภทไม่ว่าจะโชคจากนรก บาดาล มนุษย์ หรือว่าฟ้าสวรรค์ โดยจะเรียกเฉพาะเรื่องดีๆและป้องกันการลงทัณฑ์ทรมานที่จะเปลี่ยนชะตาหรือทดสอบวงเวียนชีวิตจากฟ้าสวรรค์และอมนุษย์

    ตัวตะกรุดนั้นจะรวบรวมกำลังของพระเวทย์และพระธรรมทั้งอักขระต่างๆยังเป็นเวทย์สวรรค์ที่เป็นตัวแทนของธรรม ซึ่งเป็นพลังและมหาสัญลักษณ์ที่ครูพระสยมท่านสำเร็จและถ่ายทอดมา ตะกรุดสำคัญนี้จะใช้ผูกกับจิตวิญญาณดุจผูกสัญญาให้พระธรรมพระเวทย์สงเคราะห์เราปัดเป่ารับเคราะห์แทนตัวเรา คนที่มีปัญหาไม่ว่าจะทางโชคลาภ วาสนา ความรักหรือเหตุการณ์ต่างๆที่อุบัติในชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องเหล่านี้ก็รวมอยู่จัดเป็นเรื่องธรรมชาติเป็นสิ่งธรรมดาทั้งนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปด้วยธรรมชาตินั่นก็ต้องแก้ด้วยตะกรุดที่ผูกขึ้นโดยการผูกสัญญาเข้ากับธรรมชาติและพระเวทย์พระธรรม ### ตะกรุดสำคัญนี้ท่านว่าใช้ได้หมดทุกเรื่องไม่มีข้อห้าม สุดแต่ใจจะปรารถนาแม้จะเอาไปใช้อธิษฐานหนักไปจนถึงขั้นเร่งวาสนา หรือขอให้มีชัยชนะแก่ทุกสิ่งที่ชีวิตผจญอยู่ก็ยังกระทำได้ ท่านว่าใช้ให้ดีก็ชนะทุกอย่างนั่นแหละ ครูพระสยมท่านโองการไว้ว่าผู้ที่จะได้ไปครอบครองนั้นจะเป็นผู้ที่พระเวทย์ยอมรับโดยแท้จริง ทั้งพระธรรมได้เลือกเธอแล้ว ขออย่างเดียวห้ามหายให้รักษาเอาไว้ให้ดีเพราะจะเป็นตะกรุดดอกเดียวในชีวิตที่จะเสริมให้ตัวเราแข็งแกร่งขึ้นมาได้ เอาไปแล้วก็ขอได้ทุกสิ่งขอในทางที่ถูกก็จะสำเร็จดั่งใจหวังทั้งครูพระสยมยังแฝงอำนาจของท่านไว้ด้วยตะกรุดนี้มีอำนาจแห่งการรังสรรค์ก่อเกิดสิริมงคล เราอยากได้อะไรบอกแก่ตะกรุดไว้เขาจะพามาให้เราพูดง่ายๆคือเรื่องที่ปรารถนานั้นจะเกิดขึ้น ทั้งยังให้ใช้ปราบใช้ทำลายวิญญาณบาปได้ คนที่ป่วยหรือมีอาการแปลกๆท่านว่าใช้ตะกรุดนี้แช่น้ำดื่มกินได้เลย แม้คนทำงานเจรจาค้าขายต่างๆท่านว่าบอกกับตะกรุดไว้เวลาคุยงานเขาจะซื้อของจากเราจนกว่าเงินในกระเป๋าจะหมดนั่นทีเดียว...ใช้ได้สารพัด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าด้านในมีวิชาที่ว่าด้วยเวทย์สวรรค์อยู่มากมายหลายตัว บางตัวก็ช่วยเปิดสมองทำให้มีสมาธิมากขึ้นช่วยทางด้านความคิดความจำให้ลึกซึ้ง ดั่งว่าเราสามารถใช้ความคิดและปัญญาได้ถูกจังหวะถูกโอกาส วิเคราะห์พิจารณาสิ่งใดก็คิดได้ลึกมากๆ มีมุมมองกว้างกว่าเดิม สามารถมองเห็นปัญหาในปัญหา สามารถแก้ไขปัญหาในต้นตอ ท่านว่าคนมีสมองความคิดเปิดอย่างนี้จะพลิกชีวิต หรือสร้างชีวิต สร้างสิ่งใหม่ๆได้ตลอด ความคิดที่ดี คนที่ใช่ เวลาที่ถูกที่ควร เราจะรู้เองว่าจังหวะต่างๆควรทำอะไร เราจะเปลี่ยนแปลงอะไรตรงไหน เราจะคิดได้ก่อนใคร จะขยับขยายทำอะไรก็ควบคุมมันได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายตัวบางตัวก็ป้องกันไม่ให้พลังดวงดาวและธรรมชาติส่งผลร้ายกับเรา ช่วยให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับฟ้ากับธรรมอย่างเต็มที่ ดึงพลังฟ้าเข้าหาตัวเสมือนมีกำลังของโชคสถิตย์อยู่ เขาจะช่วยเราโดยไม่สนว่าเราอยู่จุดไหน เดินทางไปไหน ไปอยู่ชัยภูมิไหนสถานที่ใดเพราะพลังฟ้าพลังโชคนั้นอยู่กับเราไม่ใช่สถานที่เราจะได้รับกำลังเพราะเราผูกสัญญาเชื่อมต่อกันด้วยจิตวิญญาณสัมพันธ์กับสามภพ จะใช้เพิ่มบารมี เพิ่มอำนาจ เพิ่มวาสนาเพื่อให้เราทำทุกอย่างได้ในเวลาที่สมควร

    ผู้เสียสละผูกพันสัญญารับแทนตัวเจ้า
    วิชานี้เป็นดุจเพื่อนตาย ดุจพี่เลี้ยงที่ติดตามและพร้อมตายรับความซวยของเรา จะเรียกว่าเป็นตัวตายตัวแทนของเราก็ได้เพราะยามใดที่เรามีเคราะห์เขาจะรับก่อนเสมอ ด้วยชีวิตเราเชื่อมต่อผูกสัญญาไว้กับเขาแล้ว การผูกสัญญานี้จะเอื้ออาทรและทำเพื่อเราแบบนี้ตลอดไปท่านว่าเหนือกว่าวิชารับเคราะห์อะไรทั้งหลายไปไกล เพราะการผูกสัญญานั้นเคราะห์หามยามซวยไหลลงที่เค้าหมดสอดคล้องกับอำนาจตะกรุดที่ว่าเปลี่ยนกันทันที ..ไม่ใช่แค่ปรับหรือทยอยถ่ายเทมันออก แม้ว่าชะตาเราจะขาดดวงเราจะถึงฆาตเขาจะรับแทนเราทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าหนักถึงตายนี่ตะกรุดสัมฤทธิ์ที่หล่อคลุมด้านนอกจะร้าวระเบิด หรือชีวิตใครที่ตกต่ำจากสิ่งที่มองไม่เห็นพอพกไปหากตะกรุดมีรอยโดนขีดข่วนจมลึกนั่นคือเขารับแทนเราและเป็นอะไรที่หนักมากจริงๆ ไม่ว่าจะทำอะไรหากตะกรุดสั่นเตือน ท่านว่าให้รีบพาตัวเองออกจากสถานที่ตรงนั้นเสียอย่างเร็วที่สุด หรือระงับกิจที่จะทำทางที่จะไปเช่นนี้

    นอกจากนี้ตะกรุดยังทำงานตลอดเวลา นั่นคือ
    คอยเคลียร์คอยปัดเรื่องร้ายออกไปตลอดเวลา ท่านว่าทั้งปัดทั้งบังไม่ให้เจอด้วยเวทย์สวรรค์ตัวพิเศษที่ลงไว้ครอบคลุมเรื่องเลวร้ายทั้งหมดไม่ว่าจะดวงตกหรืออุบัติเหตุจากภูติผีปีศาจแม้ธรรมชาติฟ้าผ่าไฟไหม้ ของต่ำ ไสยศาสตร์อาถรรพ์วิชา คนว่าร้ายใส่ร้ายใส่ความท่านว่าปัดหมดไม่ต้องตัวทั้งสิ้น ถ้าเจอใครมาร้ายกับเรานี่เขาจะสะท้อนเรื่องร้ายแรงกลับไปเดี๋ยวนั้นเลยแบบที่เราไม่ต้องทำอะไร ถ้าคิดไม่ดีมาคุณก็แพ้ภัยตัวเองยิ่งหากทำของใส่เราของก็เข้าตัวเขาเอง แม้ชีวิตคนที่ล้มลงก็ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้ ต่อให้ชีวิตเคยล้มระเนระนาดมาก่อนก็ยังจะฟื้นคืนมาโดยเร็วทั้งจะไม่เจ๊งหรือกลับไปล้มไปสะดุดใดๆอีก ท่านว่าตรงนี้เพราะเขารับแทนเราทั้งหมด หากใจเรามุ่งมั่นอยู่เพียงชัยชนะ ท่านว่าสามภพนี้แม้จะเป็นอมนุษย์,มนุษย์หรือเทวดาเราก็ไม่แพ้เลย ท่านว่าครูพระสยมทำให้เต็มที่ใช้ปัดเรื่องร้ายทั้งสามภพที่ยึดโยงผูกกันเป็นลูกโซ่เข้าหาตัวเราออกไป

    เขาจะส่งเสริมเราในเหตุการณ์ที่เราต้องการให้ส่งเสริม ในวันที่ส่งเสริมและเวลาที่ส่งเสริม จะคอยกระแทกพลังงานรอบตัวให้เกิดผลเพื่อส่งเสริมเราอยู่ตลอดทำอะไรก็จะสำเร็จแบบก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ทั้งยังดึงโชคดึงบริวารเข้ามา หากคนที่ชีวิตคั่งค้างมีกิจที่ยังทำไม่สำเร็จแบบนี้เขาจะดึงความสำเร็จเข้ามาพูดง่ายๆคือดึงพลังงานที่ขาด ดึงพลังที่เราต้องการกระแทกสู่ตัวเรา บางคนอยากได้เงิน บางคนอยากได้คู่บางคนมีปัญหากับงาน กับผู้ใหญ่ผู้อุปถัมภ์เขาก็จะกระตุ้นเรื่องนั้นๆ เรียกว่ากระตุ้นในสิ่งที่เรามีปัญหา พ่ออาจารย์ท่านว่าหากอาราธนาตะกรุดนี้จะไม่พบกับความยากในชีวิต จะไม่ตกต่ำกว่าคนอื่น แล้วเธอจะอัศจรรย์ใจยิ่งนักว่าเผลอๆปีสองปีตนเองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร นั่นเพราะเขาหนุนดวงเราตลอดเพราะเราผูกสัญญากับเขาไว้เขาจึงดึงพลังมาให้เราทำให้เราทุกเรื่อง ถ้าใจเราหิวเงินเขาก็เรียกแต่เงินเข้ามา พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่จะได้รับโชคลาภต่างๆนั้นจะต้องอาศัยพลังงานหลายสายผูกกันเป็นลูกโซ่ ซึ่งปกติวัตถุมงคลนั้นจะเสริมเป็นบางเรื่องบางจุดไม่ได้กระตุ้นพลังงานให้ทำงานทั้งวงจร พูดง่ายๆคือเขาคอยกระแทกให้เกิดการทำงานทั้งระบบจึงใช้เรียกได้ทุกอย่างที่ใจเราต้องการหรืออยากได้ไม่เลือกว่าจะดีหรือไม่ดีขอให้เป็นพลังงานที่ธรรมชาติจะสร้างให้ปรากฏได้(วงจรชีวิต)เขาก็จะเรียกเข้ามา

    ตะกรุดหล่อยอดคน
    กว่าจะทำตะกรุดซึ่งลงวิชาสำคัญนี้ได้ ครูพระสยมท่านให้พ่ออาจารย์รวบรวมยอดโลหะที่หาได้ยากตั้งแต่เหล็กยอดประสาท ยอดพระที่นั่ง ยอดพระเจดีย์ ยอดนคร ยอดเมือง ยอดฉัตร ยอดวัด ยอดเมรุ ยอดธาตุ ตามคติว่าเป็นสิ่งที่สุดยอดที่สุดซึ่งจะมีอาถรรพ์หนุนชีวิตเราให้สูงขึ้นทั้งยังปราบศัตรูช่วยให้เราเป็นยอดคนได้ ท่านจึงเรียกโลหะชุดนี้ว่าตะกรุดหล่อยอดคน ท่านเอามาหล่อเข้ากับยอดเหล็กจารของบูรพาจารย์ของท่านที่ท่านว่าขลังที่สุดเพราะตอนครูท่านเขียนท่านจารท่านก็กำหนดจิตบริกรรมคาถาไปด้วยตลอดเรียกว่าเป็นสุดยอดด้วยแรงครูทั้งยังผสมด้วยเหล็กไหลฤาษี,ไหลเงินยวง,เหล็กไหลตาแรด,เหล็กน้ำพี้...ชินจากกรุมเหศวร(กลับร้ายกลายเป็นดี) ทั้งยังนำเหรียญทองโบราณที่หายาก(ปัจจุบันมีค่าหลายแสนบาท)เป็นเหรียญทองอาถรรพ์ที่ใช้เรียกทรัพย์โดยเฉพาะท่านว่าหาไม่ได้ไม่มีอีกแล้วท่านหล่อผสมลงไปด้วย ท่านถือว่าประเทศไทยนั้นเป็นธาตุทองถึงต้องใช้กำลังทองอาถรรพ์เพื่อดึงเอาชัยชนะต่างๆเข้ามาในชีวิต เมื่อหลอมออกมาแล้วจึงได้ตะกรุดหล่อวรรณะอมเขียวที่ท่านว่าสร้างได้ยากที่สุดเพราะมวลสารนั้นหาไม่ง่ายเลย พอหล่อออกมาท่านต้องเสกด้วยมนต์ทศกัณฐ์ถอดหัวใจจึงจะสำเร็จแม้ใครได้พกไว้ก็จะเป็นยอดคนดวงไม่ตกฆ่าไม่ตาย ดั่งเราย้ายจิตออกไปจากตัวแม้เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่สามารถให้โทษถึงตัวได้

    แก้รหัสเชื่อมสวรรค์ต่อชีพจร
    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านสอดรับสวมใส่กันไว้ท่านว่าห้ามคลายออกให้ใส่ติดอกหรือติดข้อมือไว้เขาจะเชื่อมต่อชีพจรเราเข้ากับพลังงานสวรรค์ จะช่วยพลิกชะตาพัดสิ่งที่ล่มจมให้กลับฟื้นคืนทั้งปราบพยศคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นเจ้านายลูกหลานบริวารหรือคู่ครอง ทั้งจะช่วยเรื่องสุขภาพของเราด้วย ใครมีปัญหาสุขภาพมีลูกยากท่านว่าใส่ไปเลยไม่ต้องถอด วิชาเชื่อมสวรรค์ต่อชีพจรด้วยกาลผูกสัญญานี้ตัวเราจะดุจมีดาวสวรรค์ส่องประกายเป็นสิริมงคลเรียกหาพลังมงคลอยู่ตลอดเวลา ท่านว่ารอบตัวเรานั้นมีพลังงานอยู่มากมายเมื่อเราเชื่อมพลังต่อชีพจรแล้วเขาจะดูดพลังดีเข้ามาและกระแทกปะทะพลังร้ายออกไป นำพลังมาเติมเต็มร่างกายในส่วนที่หายไปไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่น แบบที่ว่าทำอย่างไรก็พร่อง ไม่รวยไม่มีวาสนาท่านว่าเราะขาดพลังเหล่านี้ ### เมื่อฟื้นฟูกลับมาจึงเท่ากับแก้ปัญหาที่ตัวเราคือต้นเหตุ แก้รหัสที่ทำให้ชีวิตเราตกต่ำทั้งปวง เมื่อฟื้นคืนแล้วจึงจะได้ชื่อว่าทำอะไรก็มั่งคั่ง ทีนี้จะใช้ชีวิตอยู่ในบ่อเงินบ่อทองหรือจะปรารถนาอะไรก็เป็นเรื่องของใจเราเลย เพราะเราคุมพลังฟ้าสวรรค์เชื่อมต่อกับร่างกายได้แล้วดังนี้

    พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าตะกรุดสำคัญนี้เป็นวิชาที่ขอได้ไหว้รับ ถ้าหมั่นขอทุกวันก็ได้รับในทุกวันเช่นกัน อาศัยความต้องการของเราเป็นทุนเดิมอยู่แล้วส่งพลังไปขับเคลื่อนตะกรุด เขาย่อมให้คุณกับเราและให้โทษแก่คนที่เราไม่ชอบไม่อยู่ในศีลธรรม(ศัตรู) พ่ออาจารย์ท่านว่าหากมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นในชีวิตสามารถอธิษฐานบอกกับตะกรุดได้ว่าเป็นเรื่องอะไรเขาจะช่วยให้เราพ้นไปอย่างแน่นอน ตะกรุดนี้มีชีวิตพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องไปบนบานศาลกล่าวใดๆกับเขาขอแค่เราบ่นแค่เราบอกเท่านั้นเขาก็ช่วยเราแล้ว หากพกติดคอหรือติดข้อมือเปิดชีพจรเชื่อมต่อกำลังสวรรค์ ท่านว่าก็เหมือนเราเปิดสามโลกไม่อาจต้านทานความต้องการของเราได้ ทั้งในขณะเดียวกันก็ไม่มีสิ่งใดหยุดความช่วยเหลือได้ ไม่ติดอยู่ในเรื่องผลบุญผลกรรมจึงช่วยไม่ได้แบบนั้นไม่มีเพราะอดีตชาตินั้นเรามองไม่เห็น แต่ปัจจุบันกับอนาคตนั้นเราต้องกำหนดเอง ท่านจึงถือคติที่ว่าจะต้องช่วยในทันที เมื่อได้รับไปควรขอในเรื่องเป็นมงคลแก่ชีวิตอย่านำไปใช้กลั่นแกล้งคนอื่น ที่สำคัญเลยพ่ออาจารย์ท่านว่าเขาจะทำให้เรารอดจากกรรมเมื่อเรายังใส่ยังนับถือเขาอยู่ แต่หากเราทำเขาหายเขาก็จะไม่ช่วยเราอีกวิบากกรรมก็จะตามเราทัน เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงย้ำว่าให้เอาไปใช้ไปขอแต่เรื่องดีๆเป็นมงคลกับตนเองอย่านำไปรังแกใคร

    วิธีใช้
    - พ่ออาจารย์ท่านให้ตัวเราเองเขียนชื่อตัวเองไปบนตะกรุด ท่านว่าเราจะเป็นเจ้าของเขา จะไม่มีใครในสถานที่ใดทำอะไรเราได้เลย
    - หากจะเซ่นตะกรุดให้แรงขึ้นเรื่อยๆไม่มีจำกัด ท่านให้เอาเหล้าขาวหนึ่งถ้วยน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว เอาตะกรุดไปจุ่มเหล้าสักครู่หนึ่งแล้วจึงเอามาจุ่มน้ำ ท่านว่าทำได้ตลอดหากอยากให้พลังแรงๆหรือไม่สบายใจก็ทำได้ตลอดไม่ต้องเลือกวันยิ่งทำยิ่งดี
    - จะไปหาเงิน จะไปหาความรัก...หรือหาอะไรก็ตาม ก่อนไปให้บอกกับตะกรุดแล้วเราจะได้สิ่งนั้นกลับมา
    - เมื่อได้สิ่งที่ปรารถนาไว้แล้วให้เอาตะกรุดมาแช่เหล้าแช่น้ำอีก แช่เพียงครู่นับหนึ่งถึงสิบในใจให้ท่านเสพย์เท่านั้นเป็นการขอบคุณท่าน
    - ถ้าพกติดตัวได้ตลอดเขาจะนำมาซึ่งพลังงาน...และสิ่งที่ปรารถนาไม่ขาดสาย
    - ไม่มีคาถา,ข้อห้ามการใช้ ขอเพียงอย่านำไปใช้ในทางที่ผิดเพื่อสิริมงคลจะได้สถิตย์อยู่กับเราตลอดไป


    *** ตะกรุดสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านทำเอาไว้ได้หกดอก ท่านว่าเป็นของสูงของหนักครูท่านไม่ให้พูดถึงมากพอจะกล่าวคร่วๆได้เพียงเท่านี้ ### ผู้ที่จะได้ไปครอบครองนั้นจะเป็นผู้ที่พระเวทย์ยอมรับโดยแท้จริง ทั้งพระธรรมได้เลือกเธอแล้ว รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อสกุลวันเดือนปีเกิดรวมทั้งอาชีพและปัญหาที่ติดขัดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะบอกกล่าวครูและขอกำลังสงเคราะห์ประสิทธิ์กับตะกรุดให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กดอยชาวเขายากไร้ต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดผู้เสียสละผูกพันสัญญารับแทนตัวเจ้า(แก้รหัสเชื่อมสวรรค์ต่อชีพจร) บูชา 4,000 บาท


    80725291-441131839899333-5618221637288591360-n.jpg 80194339-2186696758292083-6651029614049099776-n.jpg
    79645971-912237819170936-1005898713865912320-n.jpg
    80199725-439953660226057-539259540881801216-n.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ลูกกรอชุมนุมธาตุอริยภูมิกรองจักรพรรดิสมบัติ(จักรพรรดิตวาดฟ้า)

    ที่เธอแย่..เพราะไม่มีสิ่งใดช่วยคัดกรองชีวิตเธอ เธอจึงต้องรับไปทั้งหมด

    "กรอง 11" หรือ "ลูก 11" ...ที่เสียงใสดังกังวาลปานเสียงจั๊กจั่น
    ลูกกรอตำรับพ่ออาจารย์ท่าน คือ
    ลูกที่ม้วนเอาความฝืดเคือง,ยากจน,เข็ญใจของผู้เป็นพ่อแม่เก็บเข้าไว้ภายในตนเอง มีแต่กรอเข้าๆกรองเอาเฉพาะเรื่องขมขื่นที่ทำให้เราหนักเราทรุดเข้ามา...เพื่อให้ผู้เป็นพ่อเป็นแม่นั้นเหลือแต่ความสุขบริบูรณ์ ด้วยลูกกรอนั้นจะกรองและกดความยากลำบากตลอดจนสิ่งที่ทำให้ผู้เป็นพ่อแม่ตกต่ำลงเขาจะทับไม่ให้เผยอขึ้นมาได้ ทั้งความขมขื่นเป็นทุกข์ใจ หรือคนที่มีเรื่องชอกช้ำตรอมตรมระทมใจ แม้แต่คนที่ต้องยิ้มทำหน้าชื่นตาบานแต่ในใจกลับฝืนซึ่งความชอกช้ำเอาไว้เหล่านี้ นั่นแหละคือเป้าหมายของลูกกรอที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นมาเพื่อให้เปลี่ยนชีวิตที่เราเก็บเรากดความทุกข์ยากเอาไว้ลึกๆ

    เครื่องรางที่สร้างได้ยากที่สุด
    สมัยโบราณจะมีปรอทกรอฝังตามวัดร้างบ้าง วังเก่าบ้างแม้ใครได้ไปครอบครองก็นับเป็นมงคลสูงสุด แต่จวบจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้วิธีสร้าง วิธีทำ พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นของใหม่ๆทำกันออกมาเหมือนของเล่นท่านจึงตั้งใจทำลูกกรอของท่านไว้ ท่านว่า "ฉันเรียกลูกกรอเพราะฉันทำตามแบบของฉัน ทำตามตำรับเสด็จพระใหญ่ท่าน แบบนี้จึงเป็นลูกกรอแบบของฉันไม่ซ้ำกับใครทั้งในอดีต,ปัจจุบันและอนาคต" ด้วยกว่าจะทำได้นั้นท่านต้องทำลูกกรอด้วยชนวนแผ่นยันต์อาถรรพ์และนำปรอทมาเข้าด้วยทองคำเคลือบผิวไว้เผาไล่ด้วยความร้อนซ้ำยังต้องทำแก้วสามโลกตำรับเสด็จพระใหญ่โลกบรรจุไว้ภายในเป็นการเฉพาะ

    ด้วยเสด็จพระใหญ่ท่านพูดกับพ่ออาจารย์ไว้ว่านับเเต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน เมื่อกำเนิดสรรพชีวิตขึ้นมา กาลเวลาผ่านไปชีวิตเหล่านั้นได้วนเวียนอยู่ในวัฏสงสาร สัตว์โลกทั้งหลายเขาไหลไปตามกรรม ตามวาระ ตามกาลเวลาของเขาเเต่ละรูปนาม จะหาที่เสมอเหมือนกันนี่บ่มิได้ "ด้วยกลัวภัยอันเกิดจากเคราะห์กรรมนานัปประการจะเกิดแก่สรรพชีวิต เพราะยุคนี้โลกเสื่อมทรามลงนักหนา" จึงได้มอบวิชาบอกวิธีทำของวิเศษอย่างหนึ่งไว้กับพ่ออาจารย์ ท่านว่าเมื่อเห็นถึงเวลาตามสมควรเเล้ว ก็ให้ทำซะ เเต่เราเเละเธอคงช่วยมนุษย์เหล่านั้นได้เพียงหยิบมือ เฉพาะคนที่มีวาสนาเกื้อกูลกับสายบารมีนั้นมีไม่มากจะช่วยทั้งหมดนั้นคงเป็นไปไม่ได้

    เพราะสมัยนี้คนเราเวลาเดือดร้อนนี่จะน่ากลัวมาก เพราะเขาจะทุรนทุรายหาทางออกหาทางเอาตัวรอด ทำให้โดนหลอกโดนต้มจากพวกบรรดาหมอดู คนทรงเจ้าเข้าผีหรือเดรัจฉานวิชาฝ่ายต่ำต่างๆ จากที่ยิ่งเดือดร้อนอยู่เเล้วกลายเป็นยิ่งทุกข์หนักขึ้นไปอีก ท่านจึงตัดสินใจนำลูกกรอที่สร้างไว้ออกมาเพราะอาศัยที่ลูกกรอนั้นมีกำลังแรงกล้า "และจะกรองเฉพาะสิ่งที่ดีที่สุดเข้ามาในชีวิตพ่อแม่แบบไม่มีฉาบฉวย" เขาจะยิ่งมีกำลังแรงกล้าไม่ถดถอยลงถ้าพ่อแม่ของเขามีเรื่องทุกข์มากมีสิ่งให้คัดกรองเข้าชีวิตมาก(เขาก็จะยิ่งทำงานมากยิ่งเก่งมาก) และเครื่องมงคลลูกกรองนี้ท่านว่าทำอย่างไรก็ไม่มีวันเสื่อม ใส่ไปที่ใดก็ไม่เสื่อม ใครก็คัดถอนเขาไม่ได้ทั้งนั้น

    ผู้ที่โชคดีได้ลูกกรองไว้เสมือนได้เเก้วมณีมีของวิเศษอยู่ในครอบครอง ยิ่งโดนทุบโดนตีชีวิตก็ยิ่งดียิ่งดังเมื่อมีลูกกรองคอยกรองสิ่งต่างๆในชีวิตท่านว่าชีวิตเราจะเปลี่ยนกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ ที่สำคัญเลยในลูกกรอท่านจะบรรจุแก้วสามโลกไว้ตามตำรับเสด็จพระใหญ่ที่สอนเฉพาะพ่ออาจารย์ ท่านว่าแก้วสามโลกนี้ไม่ใช่ของธรรมดาเพราะทำเอาด้วยวิชา ย่อมเหนือกว่าเหล็กไหลและปรอทสำเร็จ ท่านว่าเล่นแร่แปรธาตุอยู่นานยากนักกว่าจะได้มาเพียงติดว่าเกือบตายไปเสียก่อนไม่เช่นนั้นคงไม่ได้ทำต่อ อาถรรพ์แก้วสามโลกนี้แม้ตัวเราจะปรารถนาอะไรถ้าเขย่าแล้วอธิษฐานด้วยเคล็ด"จักรพรรดิราชตวาดฟ้า"ที่พ่ออาจารย์ท่านลงไว้ทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้ดังปรารถนา เสมอด้วยความต้องการให้ได้มา ดั่งเป็นความปรารถนาของพญาจักรพรรดิราชที่เทพยดาทั้งหลายต้องน้อมรับเท่านั้น แก้วสามโลกที่ลงอาถรรพ์ด้วยวิชาพญาจักรพรรดิราชตวาดฟ้านี้แม้ปรากฏขึ้นที่ใดเทวดาต้องมารับใช้มาดูแลบันดลดันดาลให้มิเช่นนั้นเขาจะทนเสียงลูกกรอไม่ได้ดั่งศรีษะเขาจะเเตกออกเป็นเจ็ดภาค พ่ออาจารย์ท่านต้องใช้เวลาถึงเก้าปีกว่าในการสร้างสุดยอดเครื่องรางชิ้นนี้เพราะท่านว่าการลงวิชานั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้สำเร็จได้ง่ายเลย ท่านต้องนำลูกกรองนี้ไปบรรจุไว้ตรงหน้าพระประธานในอุโบสถวัดต่างๆ ในเวลาที่มีการชุมนุมสงฆ์ลงพระอุโบสถสวดปาฏิโมกข์กัน เพียรทำไปทีละปี ปีละวัด ทำเช่นนี้จนครบ 9 ปี 9 วัด ซ้ำยังต้องบังตาคนไว้ด้วย

    ทั้งนี้ลูกกรองยังใช้ป้องกันสิ่งชั่วร้ายและสิ่งอัปมงคลทั้งปวงที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรา เวลาเรามีภัยเขาก็จะหมุนส่งเสียงดังกังวาลขึ้นเองเพื่อเตือนเราให้ระวังภัยให้จงหนัก หรือใช้สติตัดสินใจในสิ่งที่คิดอยู่ให้ดีว่าเปลี่ยนใจก็ยังไม่สาย พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อลูกกรองฉันดังเมื่อไหร่ แม้ตอนนั้นเธอคิดอะไรอยู่ก็ให้ล้มเลิกกลับใจเสียเพราะการกระทำนั้นจะนำมาซึ่งความวิบัติอย่างแน่นอน เมื่อได้รับลูกกรอไปเขาจะช่วยปรับร่างกายให้สมดุลย์ดีทำให้จิตใจผ่องใส อวิชชาทั้งหลายจะไม่มาเเผ้วพาล ทั้งยังชัดด้วยสติตรึกตรองนึกคิดพิจารณาสิ่งใดๆนั้นจะเเจ่มเเจ้งและสว่างมากขึ้น ใช้ขับล้างอกุศล ชะลอเเละบรรเทาโรคเวรโรคกรรมเเต่เก่าก่อนอันหาสิ่งใดจะมาบรรเทามิได้ ช่วยฟื้นฟูจิตใจ ผลักดันสร้างสรรค์พลังงานทางบวกในร่างกายให้มีมากขึ้น เพราะเป็นการสร้างสรรค์เเละปรับเปลี่ยนจากภายในจากจิตใจของผู้ใช้เองจนส่งผลสัมฤทธิ์ผลมาถึงภายนอกท่านว่าเเบบนี้มันพัฒนาตัวเราไปแบบมั่นคงเเละจีรังถาวรณ์ไม่ฉาบฉวย นอกจากนี้ลูกกรอยังมีอานุภาพต่างๆกันดังนี้
    - เป็นเครื่องรางที่ชักชวนให้ผู้ที่เป็นเจ้าของฝักใฝ่ในธรรมะ ชอบที่จะสร้างบุญกุศล สวดมนต์ ไหว้พระและฝึกฝนปฏิบัติทางจิต เช่น น้อมจิตให้ชอบสวดมนต์ นั่งสมาธิ ประพฤติปฏิบัติธรรม จนเข้าสู่กระแสธรรมแห่งวิปัสสนาญาณไปในที่สุด จนทำให้ผู้ที่ครอบครองรู้แจ้งเห็นจริงต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ตามบุญบารมีของผู้ที่เป็นเจ้าของไปโดยปริยาย
    - เป็นเครื่องรางที่จะเข้าไปบั่นทอนอาสวะกิเลสที่กำลังเกิดขึ้นของผู้ใช้และผู้คนที่อยู่รอบข้าง ผู้ที่อยู่ใกล้ตัว ให้สภาวะแห่งกิเลสนั้นค่อยๆดับลงไป ทำให้ปัญหาต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นทั้งในหน้าที่การงานและครอบครัว หรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดหมดปัญหาลงไป พูดจากันเข้าใจและทำให้จิตไม่คิดเกินใจ ไร้อารมณ์แห่งการย้ำคิดย้ำทำเพราะลูกกรองชนิดนี้มีเมตตา ใช้ได้ทั้งคุ้มครอง แคล้วคลาด คงกระพัน โชคลาภ มีบารมีในทุกๆด้าน1000% สุดแล้วแต่ผู้ที่ครอบครองจะอธิษฐาน
    - เป็นยอดแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เทวคุณ พรหมคุณ และอริยคุณ แห่งสัมมาทิฐิบารมีซึ่งจะดูแลรักษาลูกกรองอยู่ตลอดเวลา เป็นสุดยอดแห่งเวทย์ที่มีอยู่ในจักรวาลดั่งเป็นองค์บารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะฝากไว้กับศิษย์ซึ่งร่วมวาสนาบารมี ด้วยสาดรัศมีแสงแห่งความร่มเย็นที่จะนำเข้าสู่อริยธรรมออกมา จึงเป็นยอดเครื่องรางที่ซึมซับเอาอริยบารมีแห่งการปฏิบัติทั้งมวลของเจตสิกที่มีความบริสุทธิคุณเอาไว้ในลูกกรองนี้
    - เมื่อผู้ใช้เกิดวิกฤตแห่งไฟกิเลสหรือมีมารผจญชีวิต ลูกกรองก็จะเกิดความเร่าร้อนตามไปด้วย เขาจึงมีหน้าที่ช่วยกรอและกรองเหตุร้ายทั้งหลายเพื่อที่จะเป็นกำลังใจให้เราต่อสู้กับกิเลสตัณหาและความทะยานอยากทั้งหลายได้อย่างสบาย(เรียกว่าทำให้ชีวิตเราดีขึ้นจนมีโอกาสสร้างสมบารมีเช่นนั้น) จนกว่าที่เราจะสามารถฝ่าฟันเอาชนะกิเลสแห่งตนให้หมดไปและตั้งมั่นในการสะสมบุญบารมีจนกว่าจะเห็นทางแห่งการพ้นทุกข์นั้น ลูกกรองเขาจะไม่หยุดกรองเรื่องร้ายออกไปเลย


    ทำไมจึงเรียก "ลูก 11"
    เพราะเป็น "ลูกกรอชุมนุมธาตุอริยภูมิกรองจักรพรรดิสมบัติ" ที่ตอนทำต้องชุมนุมธาตุอริยภูมิของมหาโพธิสัตว์ทั้งหลายในดุสิตสวรรค์แลทวยเทพที่มีกำลังอริยบุคคลตั้งแต่สัตตักขุงปรมะโสดาบันขึ้นไปจนถึงมหาพรหมอนาคามีและแดนพระนิพพาน เป็นลูกกรองที่ใช้กำลังยิ่งใหญ่ของโพธิสัตว์เจ้าและพระอริยบุคคลทุกชั้นทั้งหลายมาทำ เพราะเช่นนี้วิชานี้ถึงเป็นวิชาที่เปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมด ท่านว่าขอบเขตนั้นไร้จำกัดย่อมมีคุณประโยชน์มากมายมหาศาล ใครที่ได้ลูกกรองไปอธิษฐานจะเปลี่ยนแปลงชีวิตและชะตากรรมไปถึงก้นบึ้งเเละรากเหง้าทีเดียว เหตุที่เรียก "ลูก 11" นั้นก็เพราะอาศัยกำลังของอริยภูมิทั้งสิบเอ็ดขั้นได้แก่
    1.สัตตักขุงปรมโสดาบัน เริ่มแรกก็สำคัญเลยนี่ก็เป็นพระโสดาบันประเภทหนึ่ง คือมีกำหนดอีกเพียง 7 ชาติสุดท้ายเท่านั้น ก็จะหยุดวงจรการเกิดแก่เจ็บตายบรรลุพระอรหัตผล พ่ออาจารย์ท่านบอกว่า สัตตักขุงปรมโสดาบันนี้จะต้องวนเวียนคอยเกิดดับอีกเพียง 7 ครั้งเเละทุกครั้ง จะต้องอยู่ในสุคติภูมิเท่านั้นไม่ลงสู่ทุกข์คติเเล้ว จำไว้นะว่าตั้งเเต่พระโสดาบันขึ้นไปลงสู่ทุกข์คติไม่ได้ ปิดทางนรกไว้เเล้ว
    2.โกลังโกละโสดาบัน อันนี้ก็สำคัญแม้พระอินทร์องค์ปัจจุบันที่ท่านตั้งปรารถนาจะไปอุบัติในสุทธาวาสมหาพรหม ก็เป็นพระอริยบุคคลชั้นโกลังโกละโสดาบันเช่นกัน พวกเธอจำเอาไว้โกลังโกละโสดาบันนี่คือผู้ไปจากสกุลสู่สกุล หมายถึงอยู่ในสกุลที่สูงมากแล้วก็ไปต่อด้วยภพชาติที่สูงมากเช่นกัน มีกำหนดเกิดอีกเพียง 2-3 ครั้งก็จะเข้าสู่ความหลุดพ้นจากวัฏฏสงสารเกิดเเก่เจ็บตาย เข้าสู่ความเป็นอรหัตผล
    3. เอกพีชีโสดาบัน อันนี้ถือว่าหาได้ยากมากในจำนวนพระโสดาบันทั้งหมด ซึ่งก็คือผู้ที่ถืออัตภาพเพียงอันเดียว มีอีกเพียงภพชาติเดียวเท่านั้นก็จะเข้าสู่ความเป็นอรหันต์หลุดพ้นการเกิดเเก่เจ็บตาย เป็นภาวะที่เรียกว่าสูงสุดและประณีตที่สุดในภาวะของพระโสดาบันก็อาจจะกล่าวได้
    4. สกทาคามี อันนี้ไม่มีแบ่งแยกอะไรมาก เข้าใจตรงกันว่าพระสกทาคามีนั้นต้องมาเกิดอีกเพียงครั้งเดียวก็จะหลุดพ้นการเกิดแก่เจ็บตาย
    5. อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี อันนี้เป็นพระอนาคามีอันดับแรก ซึ่งจัดอยู่ในช่วงของวงจรสิ่งมีชีวิตที่สูงมาก กล่าวคือเป็นพระอนาคามีผู้มีกระแสอยู่เบื้องบนสู่อกนิฏฐภพ เรียกว่าเป็นสิ่งพิเศษเลยก็ได้สำหรับพระอนาคามีชั้นนี้ เพราะจะได้มาอุบัติอยู่ในปัญจสุทธาวาสมหาพรหมไม่ชั้นใดก็ชั้นหนึ่ง ก่อนที่จะจุติไปอุบัติในขั้นที่สูงยิ่งขึ้นคือเป็นพระอนาคามีที่วนเวียนอยู่ในปัญจสุทธาวาส เมื่อพ้นชั้นรองเเล้วก็จะไปสู่ชั้นสูงสุดคืออกนิฏฐมหาพรหมแล้วเลยไปเข้านิพพาน
    6. สสังขารปรินิพพายี อันนี้เป็นพระอนาคามีที่วนเวียนอยู่ในปัญจสุทธาวาสมหาพรหมเช่นกันแต่เป็นประเภทพิเศษ คือใช้ห้วงเวลามากเป็นพิเศษเพราะเป็นประเภทที่จะถึงนิพพานได้ต้องใช้เเรงชักจูง ใช้ความเพียรพยายามหนักมาก
    7. อสังขารปรินิพพายี จำพวกนี้ก็เป็นเหล่าพระอนาคามี แต่เป็นพระอนาคามีที่ค่อนข้างสบายหน่อย คือไม่ใช้แรงชักจูง ไม่ต้องใช้ความเพียรมากนัก เมื่อเป็นพระอนาคามีแล้วในระยะเวลาอันสั้นก็จะเข้าสู่นิพพานได้เลย
    8. อุปหัจจปรินิพพายี ประเภทนี้เป็นพระอนาคามี ผู้มาเกิดเป็นพรหมในมหาสถานปัญจสุทธาวาสมหาพรหม และมีพรหมมายุขัยพ้นไปได้เกินครึ่งเเล้วแต่ยังไม่ทันครบตามอายุขัยแห่งมหาพรหมนั้นๆก็จะเข้าปรินิพพาน
    9. อันตราปรินิพพายี ประเภทนี้ก็เช่นกันกินเวลาเร็วเป็นพิเศษ นั่นคือเป็นพระอนาคามีที่เกิดในแดนปัญจสุทธาวาสมหาพรหมไม่ชั้นใดก็ชั้นหนึ่ง แต่ควรจะเป็นชั้นอกนิกฐมหาพรหม นอกจากจะมีวัตถุประสงค์และความผูกพันธุ์กับชั้นอื่นจึงไปเกิดที่นั่นเป็นกรณีพิเศษ พระอนาคามีประเภทนี้จะเสวยพรหมมายุขัยอยู่เพียงไม่นานนัก คือยังไม่ทันถึงครึ่งเเห่งอายุขัยของมหาพรหมในชั้นนั้นๆก็จะเข้าสู่ปรินิพพาน
    10. ปัญญาวิมุติ ประเภทนี้คือพระอรหันต์ เลยพิภพภวัครา เข้าสู่โลกุตระภูมิแล้ว เป็นพระอรหันต์ ที่หลุดพ้นได้โดยใช้ปัญญา
    11. อุภโตภาควิมุติ นี่ก็อยู่ในโลกุตรภูมิ เป็นพระอรหันต์เช่นกัน ประเภทนี้จะเข้าสู่ความเป็นอรหันต์ได้โดยใช้การบรรลุเจโตวิมุติญาณอรูปสมาบัติก่อน แล้วจึงได้ปัญญาวิมุติตามมา
    เพราะทำด้วยบารมีของ 11 ภูมิอันได้ชื่อว่าเป็นอริยภูมิสูงสุด จึงเรียกว่า "กรอง 11" หรือ "ลูก 11" ซึ่งลูกกรองนี้นอกจากจะเตือนภัยและกลั่นกรองชีวิตคนใช้ ยังสามารถแสดงฤทธิ์ให้ปรากฏได้ด้วยการป้องกันสิ่งชั่วร้าย คุณไสย ลมเพลมพัดไม่ดีทั้งหลาย คนที่เล่นของเอาของไปปล่อย เช่นพวกว่าน พวกผี น้ำมันลูกกอก น้ำมันพราย หรือสิ่งที่เป็นอมนุษย์เกเรทั้งหลายเวลาตัวเราจิตอ่อนหรือดวงตกก็อาจจะได้รับของเหล่านี้เข้าตัวไป พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้ามีลูกกรองของพวกนี้เจาะเข้ามาไม่ได้เลย เหมือนคนร้ายติดด่านตำรวจที่ตั้งสกัดอยู่ 108 ชั้น เจาะอย่างไรก็เข้าไม่ถึง ทั้งลูกกรอนอกจากจะใช้ป้องกันสิ่งอัปมงคลทั้งปวงเขายังนำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้

    ลูกกรอนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้ดั่งพรายกระซิบ คือเราสามารถบอกกล่าวเขาได้ว่าอยากเห็นอยากให้เขาบอกหรือนิมิตอะไร แม้แต่อยากให้เขาส่งเสียงเวลาเรามีอันตรายในเรื่องไหน(พ่ออาจารย์ท่านว่าเจรจากันเองได้เลย) นอกจากนี้ลูกกรอยังได้ชื่อว่ามีเดชมาก แม้เอาไปวางไว้ตรงไหนเทวดาเกเรนี่อยู่ไม่ได้เลย ทั้งทุกข์โทษเคราะห์ยังหนีไกลภูติผีสัมภเวสีที่คิดร้ายจะให้ผลร้ายกับเรานี่ไม่มีอีกต่อไป เพราะปลุกเสกครั้งใดทั้งเทพเจ้าเเละภูติผีทั้งหลายก็ตกประหม่าขวัญเเตกกระเจิงกันทั้งนั้น ### หากอธิษฐานใช้ในอาชีพการทำงานของตน ท่านว่าจะเจริญไวดั่งได้ทิพยสมบัติ ตัวเราจะสมบูรณ์รุ่งเรืองเดชดั่งเทพเจ้าชั้นฟ้าเช่นพญาอินทราธิราชหรือบรมพรหมสฮัมบดีเช่นนั้น ตัวเราจะมีอานุภาพดั่งจักรพรรดิ แม้วางเอาไว้ก็มีรัศมีสว่างไกลไปได้ 18 โยชน์ เทพพรหมทั้งหลายย่อมมารวมตัวชุมนุมบันเทิงยินดีเมตตาอยู่ด้วยตัวเรา เคราะห์กรรมจัญไร ทุกข์ภัยอัปมงคลใดๆก็พินาศสูญสิ้น คนทำมาหากินจะเป็นเศรษฐี เศรษฐีจะกลายเป็นมหาเศรษฐี ทรัพย์สินเงินทองเพิ่มพูน คนโชคร้ายจะกลับกลายเป็นคนโชคดี คนรักหน่ายรักหนีจะพลิกกับมามีเสน่ห์เป็นที่รัก เพศตรงกันข้ามจะเกิดความรักเมตตาเสน่หาอุ้มชูอุปถัมภ์ คนไม่มีลูกจะมีลูก ผัวเมียรังเกียจกันจะคืนดีต่อกัน คนไม่มีสติปัญญาจะมีสติปัญญา มีข้าทาสบริวาร บังเกิดตบะเดชาปรากฏไปทั่วทุกทิศ

    อันแท้จริงนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาทำลูกกรอนั้นเหนือกว่าปรอทกรอใดๆ เพราะเป็นของเฉพาะ เป็นวิชาของสมเด็จองค์ปฐม พ่อพระพุทธท่านให้ฉันมา ฉันจึงต้องบอกว่าลูกกรอนี้เป็นของสูง เอาติดตัวไว้ถ้ามีภัยจะได้รู้ตัวก่อน อยู่กับตัวก็ส่งเสริมให้เจริญวัฒนาสถาพร จะเกิดโชคลาภใหญ่ยิ่ง *** จะมีคนมาบำรุงเราให้รุ่งเรือง(ดั่งพระอริยบุคคลทั้งสิบเอ็ดชั้นอริยภูมิแม้ปรากฏขึ้นที่ใดคนก็แห่ไปบำรุงด้วยลาภสักการะมากมายปานนั้น) ไม่มีตกต่ำเลย จะใช้ทางเจรจาก็ได้พูดให้คนฟังเคลิ้มก็ได้ หรือจะอธิษฐานดึงคนดีๆเข้าชีวิต อธิษฐานให้เจอลูกค้าดีๆ เจอเพื่อนพี่น้องร่วมงานที่ดี พกใส่กระเป๋าก็กรองเงินเข้ามาได้ ท่านว่าใช้ได้หมดเพราะเขากรองจนเหลือแต่สิ่งที่ดีและบริสุทธิ์ใจกับเราจริงๆเข้ามาหาเรา ยิ่งใครที่ตกอับติดขัดหรือโชคร้ายต้องอุบาทว์ใดๆ ลูกกรอนี้แกว่างน้ำราดรดหัวใช้ล้างอุบาทว์ได้ปัดอุบาทว์ทั้งปวงทิ้งได้ (ข้อห้าม อย่าเอาไปขว้างปาใส่ใคร ลูกกรอนี้มีเดชมากดั่งวชิราวุธของพระอินทร์และศาสตรามหาเทพทั้งหลาย จะทำให้สติเขาฝั่นเฝือนได้)

    เมื่อได้อาราธนาลูกกรองแล้วท่านว่าเลิกกังวลเกี่ยวกับดวงชะตาไปได้เลย เพราะชีวิตเปลี่ยนดวงเปลี่ยนเเล้ว บารมีคุณพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ตลอดด้วย 11 อริยภูมิลงมาสงเคราะห์แล้ว ครูพระท่านเหยียบเกล้าเหยียบกระหม่อมเราเเล้วสัพเคราะห์ใดๆแม้มีกำลังมากก็ไม่อาจกล้ำกรายเราได้ ทุกข์เข็ญเคืองขัดหมู่มารสิ่งไม่ดีทั้งหลายไม่อาจทำอันตรายแก่เราได้ ปิดประตูทุกข์ได้เลย เชื่อว่าพวกเธอจะดีวันดีคืนทำอะไรก็ไหลรื่นประสบความสำเร็จ เพราะกำลังแห่ง 11 อริยภูมินี้นับเป็นที่สุดแล้วก็จะเป็นเหตุเเละที่มาเเห่งความเจริญรุ่งเรืองมิรู้จักจบสิ้น

    ท่านเฝ้าเสกทุกฤกษ์ทั้งราชาฤกษ์ เพชรฆาตฤกษ์ มหัทธโนฤกษ์ เทวีฤกษ์ สมโณฤกษ์ ทลิทโทฤกษ์ เทศาตรีฤกษ์ ท่านเสกเก็บจนครบทุกฤกษ์ เเม้เเต้วันสำคัญอย่างวันสงกรานต์ท่านก็เอาไปเสก เสกบนดอยท่านก็นำขึ้นไป ฤกษ์จันทรุปราคา-สุริยุปราคาในพิธีอุปราคาทั้งสองท่านก็นำไปเสก ไม่ว่าจะวันวิสาขาบูชาจันทร์เต็มดวงเต็มฟ้าน้ำเต็มสมุทร จันทร์ซ้อนจันทร์ บรรจุคุณแห่งสายฟ้า ขอเงินพระจันทร์.....ท่านทำจนลูกกรอเต้นได้ โดดพาน สั่นสะเทือนเกรียวกราวเสร็จตามพิธีท่านก็เก็บไว้ มองฟ้า รอเวลาให้ถึงพร้อมบรรจบกันทำเก็บไว้เช่นนั้น รอว่าเมื่อไหร่จะได้เอาออกมาช่วยผู้ที่มีวาสนาตามปกาศิตพ่อพระพุทธเพื่อให้ใช้รับมือกับความทุกข์หลากชนิดหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะมีทุกข์จากดาวนพเคราะห์ จากชะตาชีวิต จากกฏแห่งเวรกรรมตามวัฏฏสงสาร จากเจ้ากรรมนายเวรในอดีตที่ชาตินี้เราไม่รู้อะไรด้วยตามเล่นงานหลอกหลอน จากศัตรูหมู่มารเทวดาอันธพาลทั้งหลาย จากความทุกข์ทวีมากขึ้นสู่ทุกข์เข็ญ ตกยาก ลำบากอึดอัดคับข้องใจ จากความปรารถนา จากหน้าที่การงานต่างๆ....จนพ่อพระพุทธท่านอนุญาติท่านจึงนึออกมา ท่านว่าก็แค่ใช้ลูกกรอ ให้เขากรองสิ่งไม่พึงประสงค์ออกไปเท่านั้น..แล้วคอยดูเถอรอฟังแต่เรื่องดีๆได้เลย

    คาถาบูชา
    วิเนยโย วรราชา วะอภิธัมโม รหิโต สะตันโต อะมัจโจ ตถา ตโย หิสันติเส สัพเข็ญสัพเคราะห์แล่นมาพานพุทโธกำจัด สัพลางร้ายแล่นมาข้องพุทโธกำจัด ทุกข์เข็ญเเล่นต้องมาถึงตนพุทโธกำจัด ทุกข์แล่นเข้าถึงเนื้อพุทโธกำจัด เข็ญแล่นเข้าถึงใจพุทโธกำจัด ปัดอันตรายให้หนี ปัดอันดีให้อยู่ ทุกข์เข็ญให้สูญหายณ.บัดนี้

    *** ลูกกรอชุมนุมธาตุอริยภูมินี้ พ่ออาจารย์ท่านห้ามไม่ให้พูดถึงวิธีสร้างใดๆเพราะเป็นความลับของฟ้าสวรรค์ เป็นของสูง เป็นวิชาตำรับของท่าน เช่นนั้นผู้ที่ได้ "ลูก11" นี้ไปบูชาจะต้องได้ชื่อว่ายังไม่สิ้นด้วยทุกข์เข็ญจริงๆ พ่ออาจารย์ท่านทำไว้เพียง 5 ลูกเท่านั้น ผู้บูชาท่านให้แจ้งชื่อและนามสกุลเพื่อใช้ในการประสิทธิมงคลด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนโครงการอาหารกลางวันเด็กยากไร้สืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ลูกกรอชุมนุมธาตุอริยภูมิกรองจักรพรรดิสมบัติ(จักรพรรดิตวาดฟ้า) บูชา 4,000 บาท


    80746401-818429661912995-2576790720434143232-n.jpg 80726186-482651735713678-5477820354678226944-n.jpg
    80520850-459448431276259-7643540253428416512-n.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา สรภูกลืนอินทร์กินตับควักหัวใจ(มหาธาตุอาตมันมีไข่เต็มท้องมีทองเต็มพุง)

    พ่ออาจารย์ท่านทำเครื่องรางอันมีกฤติยาคมแฝดขึ้นมาชนิดหนึ่งนั่นคือทำวิชาตุ๊กแกของท่าน หากแต่ตุ๊กแกของท่านนั้นต่างจากที่อื่นเพราะเป็นตุ๊กแกที่กลืนงูเขียวโดยมีหางของงูเขียวโผล่จากปากตุ๊กแก หรือที่ท่านเรียกว่าสรภูกลืนอินทร์(ด้วยหมายเอางูเขียวว่าเขียวเหมือนพระอินทร์)

    สรภูกลืนอินทร์
    ท่านหมายถึงวิชาที่มีอำนาจมากสามารถกลืนกินได้ทุกอย่างแม้กระทั่งองค์อินทร์เจ้าสวรรค์ก็ยังโดนกลืนได้ ท่านว่าวิชานี้เอาไว้ทำหุ่นตุ๊กแก # เมื่อทำแล้วผู้ที่พกตุ๊กแกของท่านนั้นจะได้กินทุกสิ่งที่อยากกิน ต่อให้สิ่งนั้นจะหนักหนาหรือมีอำนาจมากกว่าตัวเองซักแค่ไหนก็ไม่พ้นมือเราไปได้ วิชานี้เกี่ยวเนื่องด้วยความเชื่อโบราณซึ่งตุ๊กแกนั้นจะให้งูเขียวช่วยกินตับตัวเอง(เป็นเพียงความเชื่อ)เพื่อให้ตนเองมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เมื่อทำวิชาพ่ออาจารย์ท่านว่าย่อมมีดีเหนือวิชาตุ๊กแกโดยปกติเพราะงูเขียวนั้นท่านเปรียบว่าเขียวอย่างพระอินทร์นะเป็นวิชาทางมายาศาสตร์ที่ช่วยคนให้ชนะได้ง่าย ได้กิน ได้สมหวังในทุกเรื่องที่ปรารถนาอย่างง่ายๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตใครที่ย่ำแย่ลงถ้าได้สรภูกลืนอินทร์นี่มันแก้อาถรรพ์กันทันทีเหมือนความเชื่อที่ว่าพ่องูกินตับตุ๊กแกจากร่างกายที่ย่ำแย่ก็จะกลับมามีชีวิตยืนยาว วิชานี้ก็เช่นกันถ้าชีวิตใครแย่ๆอยู่ใช้สรภูกลืนอินทร์นี้เขาจะดีขึ้นทันที
    ทั้งสรภูกลืนอินทร์ยังเป็นมหาอำนาจอย่างที่สุดหรือจะใช้ทางมหาปราบก็ได้เพราะวิชานี้ท่านว่าเขาดุปราบไปได้ทั่ว
    *** หากชีวิตเรามีใครมาสร้างความรำคาญคอยกวนใจนี่เข้าทางเลย นิสัยเขาคือกำจัดสิ่งรบกวนรอบตัวในชีวิตอยู่แล้ว จะใช้ทางเมตตาโชคลาภก็ได้ แม้แต่การพนัน(สิ่งที่ผิดศีลก็ได้ทั้งสิ้น)...ท่านว่าอะไรทำเงินได้หาเงินได้ หาความสุขได้ วิชานี้ใช้ได้หมดเลยไม่มีข้อห้าม ต้องมานั่งถอดนั่งกลัวว่าจะเหมาะสมหรือไม่ ทั้งยังเป็นเครื่องมงคลพิเศษที่ขัดเกลาสัมผัสที่หกของผู้ใช้ให้แหลมคมขึ้นจนสามารถรับรู้เรื่องเหนือธรรมชาติได้ รวมไปถึงช่วยสร้างลางบอกเหตุร้ายดีต่างๆให้เอะใจก่อนจะลงมือตัดสินใจทำอะไร(พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาจะขัดเกลาความรู้สึกเรา ก่อนจะทำอะไรให้เราเชื่อความรู้สึกตัวเอง นั่นแหละคือลางสังหรณ์ที่เขาบอกกับเรา)
    เมื่อท่านหล่อสรภูนั้นท่านว่ามีอาถรรพ์มาก นอกจากจะกลืนกินและเขมือบได้ทุกสิ่งแม้แต่สิ่งซึ่งสูงใหญ่และมีอำนาจเกินฝันของตนแล้ว(ท่านเปรียบงูเขียวว่าเขียวแบบพระอินทร์คือเป็นหุ่นอาคมกินได้ทั้งสวรรค์) แม้
    สิ่งผ่านหูผ่านตาเราอยากได้อะไรก็ตะครุบไว้ได้ทั้งสิ้นไม่มีหลุด เหมือนมือตุ๊กแกที่เกาะได้ทุกอย่างจับอะไรไม่หลุดร่วง เกาะสิ่งใดก็ยึดติดเหนียวแน่นเรียกว่าผ่านมือแล้วยากจะปล่อยหรือดึงกลับ ทั้งยังดุร้ายคุ้มครองรักษาผู้เป็นนายอย่างเข้มงวดกวดขัน อาศัยที่วิชานี้เป็นวิชาสรภูท่านว่าตุ๊กแกของท่านนั้นเป็นตุ๊กแกตีนผี(คิดแล้วได้ดั่งใจ) เพราะเราคิดเราทำอะไรมันจะสำเร็จไวอย่างน่าทึ่งเหมือนนิสัยเขาที่เคลื่อนไหวรวดเร็วว่องไว ทั้งยังร้องทักบอกโชคลาภแก่เราได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานแก่เขาได้เลย
    - จะอยู่เย็นเป็นสุขพบความรุ่งเรือง
    - จะได้เงินทองแม้ไม่ตั้งตัว
    - จะได้รับข่าวดีมีแต่เรื่องน่ายินดีในวันที่มีเขาอยู่ด้วย
    - จะได้โชคลาภสมความปรารถนา
    - สิ่งที่ตั้งใจทำจะประสบความสำเร็จ


    ตามเคล็ดโบราณที่ว่างูเขียวช่วยกินตับควักหัวใจตุ๊กแก จึงเป็นเคล็ดที่ว่าสรภูกลืนอินทร์จะช่วยให้เราอิ่ม...ให้เรามีครบในเรื่องทางโลก ถ้าจะเล่นทางเสน่ห์กิน..บ ท่านว่าก็ทำได้จะกินอะไรก็ได้อยู่ที่นิสัยเจ้าของขอให้เป็นเรื่องทางโลกบอกเขาได้หมดไม่ติดว่าจะดีหรือจะชั่วเพราะเขากินลึกกินตับควักหัวใจหมายตาเหยื่อไว้ย่อมไปไหนไม่รอด ใครที่ทำงานแล้วลำบากหรือยากกว่าจะพูดจะทำ กว่าจะได้อะไรมาซักอย่าง(บ้านรถที่ดินทรัพย์สินปัจจัยสี่) พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ให้คุณลูกโดดเลยกินอะไรก็ง่ายกินอะไรก็ได้หมดไอ้ที่ยากๆในชีวิตหรือยังทำไม่ได้นี่หาไม่เจอ ยิ่งถ้าปฏิสัพันธ์กับคนอื่นด้วยก็เหมือนกินใจเขา ขาดอะไรเราก็มีเพราะทำอะไรก็เสมือนหนึ่งว่าคนอื่นยกหัวใจให้ เราเจ้านายสรภูนั้นกำเอาหัวใจเขามา ทั้งคุณวิชานี้ยังเป็นกฤติยามคมแฝดเมื่อเราทำอะไรที่เสี่ยงภัยเสี่ยงอันตรายคาบลูกคาบดอกน่าจะเป็นโทษมากกว่าเป็นคุณแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าพกหุ่นสรภูกลืนอินทร์นี้แล้วทำไปเถอะ ถ้าไม่ได้ยินเสียงตุ๊กแกร้องทักก็ไม่ต้องหยุด อะไรที่เขาไม่เตือนนี่ลุยได้เลยไปได้ก็กลับได้ที่ว่าอันตรายต้องโดนต้องเคราะห์ต้องโทษต้องอุบาทว์ทั้งหลายก็พ้นมาได้ภัยทั้งหลายกลืนเราไม่ลง พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจอยากให้ได้ใช้กันจริงๆเพราะท่านเห็นควรว่าชีวิตคนยุคนี้มีความเสี่ยงมาก จะทำอะไรตัดสินใจอะไรกับชีวิตก็เสี่ยงไปหมด ในเมื่อจะเสี่ยงแล้วก็ต้องทำเพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วจะกลัวมันทำไม วิชาสรภูกลืนอินทร์นี้เขาดีทางเปลี่ยนปัจจัยเสี่ยงให้เป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่า ยิ่งชีวิตใครเสี่ยงมากก็ยิ่งบรรลุผลตอบแทนซึ่งยิ่งใหญ่มาก ยิ่งอันตรายมากเป้าหมายก็ยิ่งชัดเจนมากดั่งสรภูเขาเปิดช่องน้อยแต่พอตัวที่เราจะรอดหลุดปัจจัยเสี่ยงนั้นไปให้กับเรา เขาแหวกทางให้ปากเหยี่ยวปากกาก็ทำร้ายเราไม่ได้

    ทั้งนี้ยังช่วยให้เจ้าขอมีชีวิตคล่องตัวขึ้นตามสัญชาติญาณของสรภู ไม่ถูกจำกัดในที่ใด สามารถปักหลักประกาศอาณาเขตเป็นของตนเองได้(สมบูรณ์ด้วยปัจจัยสี่คนที่ไม่มีบ้านหรือทรัพย์สินใดๆเป็นของตนเองต้องใช้) ทั้งยังปราดเปรียวว่องไวในทุกกิจที่คิดจะทำ แม้จะหนีภัยก็หลบพ้นภันอันตรายทั้งหลาย ทั้งวิชานี้ยังเป็นมหากำบังพ่ออาจารย์ท่านว่าพกไว้แม้ศัตรูตามล่าก็มองไม่เห็นตัวเราเพราะเขาอำพรางให้ด้วยการกำบังของเขา แม้เอาไว้กับที่ทำงานหรือติดบ้านก็เรียกคนเข้าหา เรียกลูกค้าเรียกลาภสักการะมาให้เอาว่าเงินทองเข้าดีทุกทางเพราะเขาดักเก่งจับอยู่ไม่หลุด ปรารถนาอะไรบอกหุ่นสรภูนี้สิ่งนั้นจะมารุมล้อมอยู่รอบตัว(บอกเขาไปว่าแม่สรภูจ๋าฉันหิว... ท่านว่าหิวเงินเงินก็มารุม หิวสาวสาวก็มารุม หิวชัยชนะชัยชนะก็มารุม ท่านว่าใช้เป็นไม่ออกนอกลู่นอกทางก็ทำให้ตนเองเจริญขึ้นได้)

    มีไข่เต็มท้องมีทองเต็มพุง
    ด้วยที่ท้องนั้นพ่ออาจารย์ท่านเอาเม็ดธาตุจิ๋วขององค์อาตมันที่ท่านคัดขนาดเล็กไว้ฝังไปที่ท้องสรภูรุ่นนี้ทั้งหมด อันว่ามหาธาตุวิเศษนี้มีคุณนัก ท่านว่าฝังไปให้เป็นไข่ตุ๊กแก ตุ๊กแกมีไข่จะยิ่งดุยิ่งให้คุณมากแรงมากมีแต่แรงขึ้นทุกวันไม่มีวันตก สรภูกลืนอินทร์นี้ครูพรหมของฉันท่านว่า "มีไข่เต็มท้องมีทองเต็มพุง" คือมีทรัพย์มาก***อุปมาดั่งแม่น้ำสรภู(ชื่อเหมือนสรภู)เป็นมหาธาราอันกว้างใหญ่มีทรัพย์สมบัติมากมายจะเรียกมาตักอาบดื่มกินใช้จ่ายเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมดไม่รู้จักเหือดแห้ง ซ้ำองค์ธาตุเม็ดเล็กๆนั้นก็ยังมีอานุภาพมากดั่งที่ท่านเรียกว่าเล็กพริกขี้หนู
    *** เหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณ
    ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน
    การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น) เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน
    พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น) ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น
    องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย
    องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น

    *** ด้วยอจินไตยเป็นสิ่งเกินหยั่งคาด
    ดวงธาตุนี้ก็เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากเป็นกายสิทธิ์ธาตุแห่งองค์อาตมันแล้วยังมีเหล่าทิพย์กายของมหาพรหมคอยรักษา โดยเฉพาะครูใหญ่องค์สหัมบดีพรหมเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงกล่าวเป็นนัยน์ๆว่าองค์ธาตุนี้ใครได้ครอบครองถือว่าได้ของดีหลายต่อเลย ด้วยครูพรหมสหัมบดีนั้นเป็นบรมครูผู้ยิ่งใหญ่และประเสริฐสุดในฝ่ายพรหมของพระพุทธศาสนา เป็นเจ้าแห่งพรหมโลกผู้อาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกโปรดเวไนยสัตว์ด้วยพระเมตตาของพระองค์ ทั้งยังเป็นบรมครูผู้เป็นใหญ่เป็นผู้นำแห่งหมู่มหาพรหมสุทธาวาส เป็นพรหมผู้ได้ชื่อว่ามีรัศมีรุ่งเรืองที่สุด...เป็นใหญ่สูงสุดเปรียบดั่งกษัตริย์เหนือกษัตริย์..เทพเจ้ายิ่งเทพเจ้าในหมู่พรหม ท่านเป็นผู้ซึ่งได้รับการอ่อนน้อมการกราบไหว้บูชาทุกภพภูมิ และเมตตารักใคร่สรรพสัตว์ผู้ทุกข์ยากมากที่สุดก็คือท้าวสหัมบดีพรหมผู้เป็นบรมครูใหญ่ของพ่ออาจารย์พลนั่นเอง
    บรมพรหมสหัมบดีนั้นมีความผูกพันธ์กับพ่ออาจารย์มากด้วยแรงครูของสายพรหมปัญจสุทธาวาสนี้ท่านบอกว่ามีดีทุกด้าน ขอได้ทุกอย่าง ท่านว่าเธอเชื่อมั๊ย คนเราเกิดมาไม่พ้นกรรม ไม่มีวัตถุมงคลใดช่วยเรื่องกรรมได้ เเต่พระพรหมเหล่านี้ไม่ใช่แบบนั้นโดยเฉพาะ...ครูสหัมบดีพรหม อิทธิคุณท่านพลิกฟ้าพลิกดินเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ ใครที่มีกรรมหนักตามสนอง ถ้าครูท่านเมตตาก็จะช่วยให้เบาบางได้มีโอกาสทำคุณงามความดีชดเชยบาปกรรมทั้งหลาย เรียกได้ว่าผ่อนหนักเป็นเบาจากเรื่องร้ายๆก็จะค่อยๆจางหายไป ถ้ายังมีบุญเเละความดีอยู่ท่านก็จะช่วยให้ได้รับอานิสงค์ของผลบุญนั้นไวขึ้น นี่บารมีพระพรหมสหัมบดีดีอย่างนี้ท่านสถิตย์อยู่ในอกนิฏฐาสุทธาวาสมหาพรหม พูดง่ายๆคือชั้นสูงสุดเป็นภพภูมิแห่งรูปพรหมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชั้นปัญจสุทธาวาสและทั้งหมดของรูปาวจรภูมิ แม้แต่พระอินทร์หรือท้าวสักกะเทวราชแห่งดาวดึงษ์ ก็ยังตั้งความปรารถนาขอมาเกิดเป็นพรหมชั้นนี้
    นอกจากนี้องค์ธาตุยังมีพระญาณของเหล่าอกนิฏฐามหาพรหมคอยรักษา พรหมอกนิฏฐ์นี้เป็นพรหมชั้นผู้ใหญ่ที่อุบัติมาจากพระอริยบุคคลระดับอนาคามี ที่มีอินทรีย์ คือสัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญาแก่กล้าบริบูรณ์ทุกส่วน แต่มีปัญญาโดดเด่นที่สุด จัดอยู่ในกลุ่มพระอนาคามีระดับสูงสุดมีชื่อเรียกเฉพาะว่าอุปหัจจปรินิพพายีหมายถึงผู้จวนจะถึงปรินิพพาน กับอันตราปรินิพพายี คือผู้ปรินิพพานในระหว่างหมายถึงไม่อยู่เป็นมหาพรหมจนครบอายุขัยแห่งมหาพรหมนั้น เมื่อถึงวาระเเละจบภารกิจก็จะเข้านิพพานเลย *** มหาพรหมอกนิฏฐ์เหล่านี้ท่านว่าทุกพระองค์ล้วนสูงสุดและสูงส่งมีอำนาจมากล้นพ้นประมาณ ซึ่งมหาพรหมอกนิฏฐาสุทธาวาสนี่แหละที่มักลงมาถ่ายทอดวิทยาการต่างๆให้มนุษย์โลกเพื่อจะได้เอาไว้ใช้ปรับตัวเวลาเผชิญปัญหาเหตุการณ์ซับซ้อนต่างๆได้ ทั้งยังคอยเป็นห่วงมาบอกข่าวแจ้งข่าวล่วงหน้าเสมอๆแม้สมเด็จพระบรมศาสดายังได้ยืนยันเอาไว้เองว่าพรหมเหล่านี้แหละที่มักรอบรู้ถึงการบรรลุธรรมขั้นต่างๆของมนุษย์ที่มนุษย์เองยากนักจะรับรู้ได้.... พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น)
    ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด


    ด้วยเหล็กวิชาองค์ครูอาตมันนั้นมีค่ามากถึงปานนี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาทำวิชาเข้ากับสรภูกลืนอินทร์อันเป็นคติทางมายาศาสตร์ว่าแม้มหาธาตุยังกลืนได้ เช่นนั้นทุกสิ่งที่เราต้องประสงค์ก็ไม่มีอะไรแล้วที่จะไกลเกินเอื้อม พ่ออาจารย์ท่านปั่นธาตุเรียกสูตรลงวิชาสรภูกลืนอินทร์ เปิดตา เปิดปาก เปิดใจ เปิดสัมผัสให้แสดงฤทธิ์ได้ ทั้งเปิดเท้าทั้งสี่ให้จับสิ่งใดก็ได้ไม่มีวันหลุด(ท่านว่าเพราะมีเหล็กมหาธาตุอาตมันเป็นแหล่งพลังงานหนุนบารมีอยู่จะจับสิ่งใดก็ได้ไม่หลุดรอดเลย ไม่มีสิ่งใดเกินหรือพ้นบารมีองค์อาตมันไปได้) จะเกาะยึดติดสิ่งมงคลทั้งหลายถ้าเราไม่ได้สั่งเขาเขาก็จะเกาะเอามงคลทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมอบให้เรา ทั้งเปิดหางให้กวัดแก่งปัดป้องคุ้มครองเราตลอด พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเสกต้องเสกอยู่ในมุ้งไม่งั้นเขาเดินกันออกไปไกลหายไปเลยหลายตนก็มี กว่าจะทำได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยโดยเฉพาะองค์ธาตุขนาดเล็กที่ท่านคัดไว้นี้ท่านก็ฝังให้เต็มสูตรเช่นกัน

    สรภูรุ่นนี้ท่านกำกับเป็นพิเศษโดยมนต์เวทย์เฉพาะทางไว้ให้ทำมาหากินคล่องตัว ใครมีหนี้ก็หมดหนี้ งานไม่เข้างานไม่เดินจะกลายเป็นงานไม่ขาดงานไม่สะดุด ใครอยากกิน(อยากมี)อะไรต้องได้กิน ...โชคลาภถูกหวยท่านว่านี่เขาช่วยตรงๆเลยจะเล่นทางไหนก็สมใจเร็วทุกทาง

    คาถาบูชา
    พ่ออาจารย์ว่าหุ่น(สรภูกลืนอินทร์)กับนายใจเดียวกัน เพียงเลี่ยมพกเขาไว้ติดตัวเท่านั้นให้เขาจำกลิ่นจำสัมผัสเราได้ก็ใช้ได้เลย คาถาไม่ต้องใช้เพราะวิชานี้เป็นวิชาเปิดสัมผัสที่หกอยู่แล้วถ้ายังต้องใช้คาถาก็ถือว่าป่วยการณ์มาก ท่านย้ำว่าตุ๊กแกฉันเป็นของทิพย์นะเพราะมีองค์เหล็กเต็มท้อง

    *** รายการนี้ท่านว่าของมีน้อยเพราะเสกทีแรกเขาคลานหนีไปมากกว่าจะมารู้ทางใช้มุ้งครอบไว้ทีหลัง เฉพาะองค์ธาตุก็คุ้มแล้วรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งช่อนามสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะผูกสัญญาผูกความซื่อสัตย์ให้เขาเป็นหุ่นรับใช้เราฐานนาย - บ่าว เพื่อให้เราใช้งานเขาได้เต็มที่สูงสุด รายได้ร่วมสมทบทุนเด็กด้อยโอกาศทางการศึกษาต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา สรภูกลืนอินทร์กินตับควักหัวใจ(มหาธาตุอาตมันมีไข่เต็มท้องมีทองเต็มพุง) บูชา 2,500 บาท


    81041608-1220865104968908-2746410369206452224-n.jpg 81724589-1013234375702001-5636421479601012736-n.jpg
    80578182-563636174197672-8208574494348935168-n.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดหัวสว่านธาตุวิชาผลาญผจญมารย่อพระธรณี (ชุบตัว,ยกฐานะ)

    ตะกรุดของฉันตัวนี้ชื่อว่าย่อพระธรณี คือย่อจังหวะและเหตุการณ์ความสำเร็จจากที่ยาวไกลให้สั้นลง จากที่มองไม่เห็นให้สัมผัสได้ จะได้ไม่ใช้ชีวิตอย่างไร้ประโยชน์กันไปวันๆ ท่านว่าจุดหมายทางเดินของใครนั้นย่อมแตกต่างกันไปทุกคน ความคาดหวัง ความสำเร็จย่อมไม่เท่ากันไม่เสมอกัน เช่นนั้นตะกรุดของฉันจึงเรียกว่า"ย่อพระธรณี" ย่อจากหนทางที่เธอต้องเดินไปไกลรอให้ตนเองเหน็ดเหนื่อยล้มประดาตายเช่นนั้นย่อมันเข้ามา ขอแค่เธอตั้งจิตบอกกล้าวคุณครูคุณวิชาในตะกรุดว่าจะให้ย่อให้ย่นหนทางแห่งความฝันนั้นอย่างไร ชัยชนะในชีวิตพวกเธอเป็นเรื่องอะไร ขอให้บอกกล่าวเอากับเขา พระแม่ธรณีนั้นท่านจะสงเคราะห์ในบัดดล ที่ว่าไกลก็ใกล้ ที่ว่ายาวก็สั้น ที่ว่าลำบากหนักหนาก็สบายขึ้นมาทันที

    หัวสว่านเจาะทะลุทะลวง
    ด้วยยุคนี้โลกตกต่ำลงอย่างรวดเร็วฉับพลัน วิชาทั้งหลายซึ่งได้สถาปนาไว้ใช้ในการณ์ปกติจึงไม่สามารถจะใช้ระงับเหตุหรือจะคุ้มโทษโทสาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนจ่ายยาไม่ตรงกับความแรงของโรค ทั้งนี้วิชาในส่วนของการชุบตัว,ยกฐานะก็เช่นกัน ท่านจึงมีดำริให้เอาตะกรุดหัวสว่านออกมา ตะกรุดนี้ท่านว่าเหมือนเราจ่ายยาตัวที่แรงที่สุดซึ่งจะช่วยตัดกรรมให้สงบระงับไปโดยฉับพลันพร้อมสร้างความสุขนิรันดร์ให้เกิดแก่สรรพชีวิต เช่นนั้นครูท่านจึงประสงค์จะให้สัตว์ที่ตกถึงทุกข์มีพลังศักสิทธิ์เกื้อหนุนดูแล ท่านว่าสูตรที่ลงตะกรุดนี้เสด็จพระใหญ่ท่านเจาะจงไว้เลยว่าให้ม้วนแบบหัวสว่านเพื่อจะได้เจาะทะละทะลวงเหตุแห่งปัญหาและสิ่งขีดขวางต่างๆทุกสิ่งเดินหน้าโกยทรัพย์โกยความสุขสบายแต่ฝ่ายเดียวสิ้นสุดความเดือดร้อนทุกข์ยากความลำบากทั้งหลาย ท่านว่าสรรพสัตว์นั้นจะเวียนว่ายไปตามกระแสโลกแลกฏแห่งกรรมของตนท่านจึงจ่ายยาแรงให้ตรงโรคด้วยตะกรุดหัวสว่านที่แก้ไขความวิบัติให้ถึงจุดสิ้นสุดได้ ท่านว่ายานี้แรงนะแม้โรคหนักยังหายนับประสาอะไรกับชีวิตคนปกติที่จะไม่งอกงามเบ่งบาน จะไม่ดีขึ้นโดยฉับพลันทันทีได้อย่างไร แค่อาราธนาตะกรุดนี้เรื่องเฮงซวย โชคร้าย โดนคนกลั่นแกล้ง โดนใครกระทำ...ไม่รู้ ทั้งความมืด อุปสรรค อธรรมทั้งหลายเอาว่าทะลวงหมดเผาผลาญสิ้นโคตรต้นเหตุแห่งปัญหา ไม่เหลือต้นตอ..เหลือเชื้อที่จะให้เกิดเหตุวิบัติใดๆอีกได้เลย ไม่เพียงแต่มาผลาญสิ่งที่เราจำเป็นต้องผจญอันหลีกเลี่ยงไม่ได้เท่านั้น พุทธคุณตะกรุดนี้ยังนำออกและเปิดทางให้อีกด้วยคือนำออกจากสถานการณ์เลวร้ายที่เจออยู่เพียงอาราธนาก็จะผ่านพ้นไปอย่างน่าพิศวง ซ้ำยังเปิดทางให้เจอแสงสว่าง ให้มีอนาคตที่ดีเป็นที่ไปไม่ตกต่ำย่ำกลับมาสู่จุดเดิมอีกหนหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องถามตัวเองกันก่อน สมัยนี้ปัญหาเยอะเปรียบกับโรคก็คือโรคมาก ถามใจกันดุว่าเราโดนใครคดโกงหรือเปล่า ตกอยู่ในความเสื่อมไม่ว่าจะเป็นตัวเราเองที่เสื่อมหรือสังคมรอบข้างที่เสื่อมหรือไม่ ชีวิตมันดูมืดมนไร้หนทางหรือไม่ ทุกวันนี้สับสนวุ่นวายหรือไม่ ซึ่งความมืดมนทั้งหลายนี้มักจะมาในเรื่องของการงาน ความรัก ปากท้อง ครอบครัว หรือสังคมแวดล้อม ถ้ารู้ว่าชีวิตหนีจากเรื่องเหล่านี้ไม่พ้น ก็ถึงเวลาที่เราควรจะให้โอกาศแก่ชีวิตตนเองเพื่อแก้ไขเจาะทะลวงทะลุปัญหาให้ถึงจุดสิ้นสุดได้

    ตะกรุดนี้มีวิชา"ผลาญผจญมาร"ของแม่พระธรณี
    ด้วยนางพระแม่ธรณีนั้นมีความสำคัญ พ่ออาจารย์ท่านว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายนั้นได้อาศัยอยู่บนพื้นดิน เปรียบก็เหมือนดั่งลูกอยู่ในอ้อมกอดของแม่นั่นเอง จะเจริญก็อยู่บนแผ่นดินนี้ จะวิบัติก็อยู่บนแผ่นดินนี้เช่นกัน หากใครมีพลังของแม่พระธรณีเกื้อหนุนชีวิตแล้ว ความตกต่ำยากไร้ ทำมาหากินไม่ขึ้น โดนคนกลั่นแกล้ง สิ่งต่างๆเลวร้ายทั้งหลายนั้นย่อมไม่มีเป็นแม่นมั่น เพราะแม่ท่านรักและช่วยเหลือประดุจเลือดในอกของพระองค์ท่านเลยกระนั้น หากเรารู้คุณท่านอยู่บ้างระลึกถึงท่านขอบารมีท่านจะมีแต่เจริญขึ้นโดยสถานเดียว ### พ่ออาจารย์ท่านจึงนำ"วิชาผลาญผจญมาร" ของพระแม่ธรณีมาใช้ลงตะกรุดนี้โดยเฉพาะ ท่านเมตตาเล่าว่าพระแม่ธรณีนี้เคยบอกกับท่านว่าตัวของแม่เองได้เป็นพยานการเกิดขึ้นของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงปัจจุบัน ได้รองรับกระแสอุทกธาราที่เหล่าพระมหาโพธิสัตว์มากมายหลั่งรินไว้เวลาประกอบธรรมกำกุศล ได้ขึ้นมาช่วยเหล่าพระพุทธเจ้าที่จะตรัสรู้ทุกพระองค์ในทุกกาลทุกวาระเมื่อจะต้องประจญด้วยพญามาร พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็จะอ้างเอาพระแม่ธรณีนี้เป็นพยานนั่นเอง ท่านจึงว่าพระแม่ธรณีนี่แหละเก่งที่สุดในโลก ท่านอยู่ในทุกที่ทั้งโลก โอบอุ้มทุกชนชาติศาสนามาเนิ่นนาน รองรับบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ตั้งแต่คราวพระชินสีห์องค์ปฐมได้ค้นพบและตรัสรู้สัพพัญญุตญาณเป็นพระสัพพัญญูในโลกธาตุจวบจนถึงพระองค์ปัจจุบัน ได้อยู่เป็นสักขีพยานและเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระนางมีบารมีมากถึงปานนั้น สำหรับวิชาผลาญผจญมารของนางแม่พระธรณีนี้พ่ออาจารย์พ่ออาจารย์ท่านว่าทำมาดีแล้วให้ติดตัวไว้จะชนะมารชนะอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย แม้กิจใดที่แม้แต่เหล่าเทพไม่สามารถกระทำได้ ไม่สามารถช่วยเหลือได้หรือเทพเจ้ายังหวาดกลัวนั้น ท่านว่าแม้อันตรายถึงปานนั้นแม่ก็ยังอยู่กับลูกเสมอและพร้อมที่จะช่วยลูกในกาลทุกเมื่อนั่นเอง *** ด้วยวิชาผลาญผจญมารนั้นสำคัญนักเพราะเทพเจ้าฝ่ายมารจะกลัวกันมาก เทพยดามิจฉาทิฏฐิทั้งหลายจะไม่กล้ากลั่นแกล้งให้โทษแก่เราเลย

    ตะกรุดธาตุวิชานี้จะแผ่พลังออกมาถี่มากๆแบบสม่ำเสมอไม่ขาดตอน(พ่ออาจารย์ท่านว่าพลังงานแรงและถี่มาก)เพื่อมาเกื้อหนุนยกชูเราโดยเฉพาะ ซ้ำยังหนุนดวงผู้บูชาแม้มีเคราะห์ก็คลายออก แม้มีกรรมก็สะเดาะเสียให้พ้นจากกาลและวาระกรรมเหล่านั้น ทั้งธรณีสารและเรื่องราวเดือดร้อนทั้งหลายทำอันตรายสิ่งใดเรามิได้เลย คนที่ชีวิตลุ่มๆดอนๆ ดีก็ไม่สุด สะดุดมาทั้งชีวิต ก้าวมาถอยกลับ อยู่กับที่ หรือมีความรู้สึกว่าตัวเองมันยังไปไม่ได้ นี่เพราะเราหาสิ่งที่จะช่วยเหลือเราได้ไม่ตลอดหรือตัวเรารับพลังงานได้ไม่ทั้งหมด ขาดช่วง ขาดตอน จึงจำเป็นต้องใช้ของหนักของแรงที่แผ่กระแสพลังได้ถี่มากๆพ่ออาจารย์ท่านว่านี่จึงจะแก้เคล็ดกัน ทั้งคุณแห่งวิชาก็จะเข้ามาหนุนแก้รากฐานชีวิตเรารับรองว่าหนุนชนิดที่เรียกว่าดีวันดีคืน ทั้งปราบปราม ทั้งทำลายและหนุนนำยกชู ประเสริฐสิ้นถึงเพียงนี้แล นอกจากนี้ท่านยังลงยันต์เวทย์สวรรค์บทพิเศษที่ต้องไปนั่งจารนั่งลงอยู่ในประสาทขอมโบราณ โดยเลือกฤกษ์ยามให้ตรงกับเวลาที่สงัด เมื่อคิดจะทำจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านว่าความยากอยู่ในระดับที่เรียกว่าลงผูกอาถรรพ์เลยทีเดียว ท่านว่าวิชานี้ปกติจะสืบทอดต่อกันมาและใช้กันเฉพาะในสายของสำนักพระราชวังแต่โบราณ ไม่เคยปรากฏว่าจะได้มาตกถึงมือคนนอกเพราะเค้าหวงแหนและบดบังกันมาก เช่นนั้นโดยปกติตะกรุดนี้ท่านจึงใช้สงเคราะห์ให้เป็นการส่วนบุคคล เพราะเป็นตะกรุดที่ผลาญเชื้อกรรมจึงถือว่าขัดหลักศาสนา ขัดหลักกฎแห่งกรรม ใครได้ใช้ก็เหมือนได้ "ชุบตัว ล้างบาป แก้บาป" ให้ผู้อาราธนาดุจมีชีวิตใหม่โดยมิต้องรอให้ล้มหายตายจากไปก่อน

    ด้วยเป็นหนึ่งในชุดวิชาชุบตัวที่ท่านไม่ค่อยจะทำให้ใครง่ายๆเพราะกลัวคนใช้ลืมตัว ลืมคุณครูบาอาจารย์ ลืมพระศาสนา หากแต่พ่ออาจารย์ท่านเมตตาว่าชนทั้งหลายนั้นล้วนมีบาปหนักเป็นตัวคอยถ่วงดุล ถ้าวันใดกรรมดีนั้นไม่ปรากฏ เคราะห์กรรมก็จะให้ผล คนบางจำพวกนี่ทำอย่างไรก็ไม่มีลาภผล ทำมาหากินไม่ขึ้น ขาดความรัก ไปไม่ถึงความสำเร็จ ด้วยเวรภัยเคราะห์กรรมประการต่างๆในเบื้องอดีตชาติตามส่งผลอยู่ นอกจากนี้แม้ในภพปัจจุบันก็ยังมีเวรกรรมที่ได้ก่อและสั่งสมมาเรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้เมื่อแสดงอำนาจของกฏแห่งกรรมเค้าจะส่งผลระยะยาวไม่ใช่ผ่านวันพ้นคืนก็จะสูญสิ้น บางคนพิจารณาดวงชะตาว่าพระเคราะห์ถอยถด ดวงจะดีเป็นประการต่างๆแต่ก็กลับไม่ดี ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น มีแต่ปัญหารุมเร้าทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ...การมีชีวิตอยู่อย่างตายทั้งเป็นนั้น ไม่มีใครเข้าใจหรือรู้สึกได้ว่าเป็นอย่างไรนอกจากคนที่เคยผ่านห้วงเวลาเหล่านั้นมาด้วยตัวเอง ด้วยว่าการที่มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสที่เรียกว่าอยู่ก็ไม่สู้ตายนั้นย่อมเป็นชนวนและผลเหตุให้คนทั้งหลายหลงผิด ออกนอกลู่ทางอันดีงาม ปัจจัยเหล่านี้เป็นเหตุให้โบราณจารท่านคิดวิธีชุบตัวเพือแก้ไขบาปและเปิดช่องทางให้ผลบุญหนุนส่ง เปิดโอกาสให้ชีวิตได้ขึ้นมาจากหล่ม ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าการชุบตัวนั่นเอง

    ด้วยการชุบตัวนี้สำคัญอย่างไรคนที่ชีวิตดีอยู่แล้วคงจะไม่รู้สึกว่าจำเป็น แต่ตรงข้ามคนที่ขึ้นๆลงๆ ชีวิตบัดซบ ดวงไม่เปิด เทวดาไม่ให้โอกาส ชะตาเล่นตลก ท่านว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอุปทานของคนที่ผ่านอะไรมามาก ชีวิตจมอยู่กับความทุกข์อันสาหัส ดังนั้นการชุบตัวก็คือสภาวะการเปลี่ยนแปลงจากจุดที่แย่ที่สุด ต่ำที่สุด กลับฟื้นคืนมาอยู่ในจุดที่ดีที่สุด แต่การจะแก้ไขชะตามนุษย์ทุกผู้โดยยืมมือท่านแต่เพียงคนเดียวเช่นนั้นก็ไม่สมควร พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวท่านเองจะโดนเพ่งเล็งจากกฏแห่งกรรมและผู้คุ้มกันสภาวะธรรมชาติทั้งเจ็ดมากจนเกินไป ดังนั้นท่านจึงทำวิชาชุบตัวนี้ออกมาอีกครั้ง เพื่อหวังประโยชน์ให้ผู้อาราธนาได้เกิดใหม่ - แก้ไขบาปของตน จะได้ช่วยตัวเองให้พ้นจากทุกข์ หากไม่เชื่อก็อย่าเอาไป ถ้าคนที่ทุกข์เขายังมองไม่เห็นความทุกข์ไม่อยากพ้นทุกข์ไม่ช่วยตัวของตัวเองแล้วชีวิตนี้ก็เหมือนนั่งรอความตายอยู่ร่ำไป

    วิชาชุบตัวนี้ท่านว่าให้อาราธนาเสมอเพราะจะชุบตัวเราด้วยบารมีพระเจ้าแปดหมื่นสี่พันโสรจสรงองคาพยพชุบมนต์ ชุบตัว อาบพระพุทธรัศมีของพระเจ้านับหมื่นที่ทรงอุบัติข้ามชาติภพมากมายหลายมหากัปดุจว่าได้ตายแล้วเกิดใหม่ โบราณจารย์ตีค่าไว้ดุจพ้นบาปกรรม แม้กำลังจะร่วงหล่นไปในขุมมหานรกก็ยังมิอาจตกลงไปได้เลยทีเดียว ด้วยตะกรุดนี้ทำง่ายแต่เสกยากเหลือใจ เพราะกว่าจะทำให้เป็นผลสำเร็จได้ต้องเจรจาและขอเอาชีวิต ให้เขา...ยอมละเว้นเพื่อให้คนใช้พร้อมที่จะเดินขึ้นไปในจุดสำคัญซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

    ยาขนานเอกที่แรงที่สุด
    ท่านว่าต้องขอเอาเจรจาเอากัยผู้ควบคุมสภาวะกรรมและธรรมชาติทั้งเจ็ด(พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเจรจากันอยู่นานตั้งแต่ตีหนึ่งถึงสว่าง *** เช่นนั้นท่านจึงจัดตะกรุดนี้ว่าเป็นยาหนักเหมาะกับคนโรคแรงกรรรมเยอะ)ซึ่งไม่ง่ายเลย แต่ละท่านนั้นใจเหล็กอย่างยิ่ง ท่านว่าไอ้ตรงนี้เราก็พูดมากไม่ได้เพราะเบื้องบนเค้าไม่ยอมให้บอกกล่าวอะไรกันมาก เอาเป็นแค่รู้ว่าหน้าที่นี้เป็นหน้าที่หมุนเวียน ในยุคหนึ่งๆเทพเจ้าเขาจะเลือกพวกเขาขึ้นมารับผิดชอบและเผอิญยุคนี้ก็มีถึงเจ็ดท่าน ท่านว่าบอกได้เท่านี้และจะไม่พูดมากไปกว่านี้ หากจะทำของเปลี่ยนชีวิตให้คนใช้ได้เกิดใหม่ ชุบตัว ล้างบาป แก้ไขชะตากรรม ก็ต้องล่วงอำนาจของทั้งเจ็ดท่านนี้เท่านั้น หากไม่พ้นย่อมแก้ไขสิ่งใดไม่ได้เลย

    เพื่อจะชุบตัวถอดตัวตนเก่าออกทั้งหมด เพื่อให้เราเกิดเป็นคนใหม่ รูปใหม่ โฉมใหม่ ท่านว่าพลิกฟื้นคืนกลับถึงปานนั้นเลยทีเดียว เพราะเป็นวิชาที่สูงมาก เมื่อทำต้องเสี่ยงบารมี นำเอาบารมีของแต่ละชาติในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ดึงบารมีท่านลงมาอาบมาฉาบมาเคลือบตะกรุดนี้ และตะกรุดมีแรงครูสูงมากถึงขนาดรับรองได้เลยว่าย่อมทำให้ความปรารถนาทุกประการนั้นกลายเป็นเรื่องจริงและเกิดผลสำเร็จได้ ท่านว่าคุณของวิชามันซึมซับไม่ใช่ส่งผลเฉพาะกับรูปกายเท่านั้นที่ว่าชุบตัวเรา แต่มันซึมลึก ซึมลงไปถึงจิตวิญญาณจนถึงขั้นที่ว่าเมื่อแตกกายย่อยยับดับสังขารลงแล้วยังจะตามคุ้มครองไปถึงชาติหน้าภพหน้า และยังเป็นปัจจัยติดตัวทำให้พบพระศาสนาในสมเด็จพระศรีอาริย์เป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นหรือไม่ คุณวิชามันค่อยๆชุบทีละชั้นทีละชาติภพชุบจนกระทั่งมีนิพพานเป็นที่ไปในศาสนาสมเด็จพระศรีอาริย์สัมมาสัมพุทธเจ้าทีเดียวนี่แหละคือวิชาชุบตัวที่แรงที่สุด ท่านว่าสารพัดจะใช้อยากจะชุบทางไหนถ้าจะเรียกลาภอยู่ที่ไหนทรัพย์สินเงินทองก็ไม่ขาดเรียกว่าปิดช่องทางจนหรือกระเป๋าแห้งไปเลย ท่านว่าใช้ได้หมด ใช้ทางเรียกทรัพย์เป็นมหาลาภ ชนะคู่แข่ง ไม่มีศัตรูมารบกวน ใช้ได้แม้กระทั่งอาราธนาแช่น้ำ ใช้น้ำนั้นถอดถอนอวมงคลทั้งหลายทีเดียว

    ผู้อาราธนาเสมอพ่ออาจารย์ท่านว่าอำนาจแห่งวิชาส่วนหนึ่งจะถูกขับเข้าไปอยู่ในตัวของเราซ้อนร่างชุบจิตวิญญาณของเราทำให้เราเป็นผู้เจริญเพราะได้ชุบตัวอาบบารมีพระเจ้าแปดหมื่นสี่พันเสมอไปโดบปริยาย ตรงนี้แม้วันไหนเราไม่ได้พกตะกรุดก็ยังใช้อานุภาพนั้นได้ดุจเดียวกัน หากยิ่งอาราธนาตัวตะกรุดไว้ด้วยเรากับเขาก็จะเป็นอันหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์ ซึ่งตะกรุดที่แรงเป็นพิเศษเช่นนี้ ท่านว่าทำยาก จะทำให้เต็มสูตรเช่นนี้ครั้งเดียวในชีวิตแล้วจะไม่ขอทำอีก เพราะเป็นวิชาที่ต้องเสี่ยงบารมี และมีผลกับคนใช้สืบต่อไปจนถึงยุคศาสนาพระศรีอาริย์ทีเดียว ท่านว่าไม่ใช่ของทำเล่นๆ แค่ติดตัวก็ปรับสมดุลย์ขับล้างสิ่งไม่ดี ซ้ำยังปรับให้อยู่ในระดับที่พอดีไม่มากไปหรือน้อยไป ท่านว่าของบางอย่างมากเกินไปจนร่างกายรับไม่ไหวก็ไม่ดี น้อยเกินไปจนกำลังไม่แสดงออกก็ไม่ดี การจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ทุกสิ่งต้องอยู่ในระดับที่พอดี

    วิชาอาถรรพ์นี้ความจริงจะเรียกว่าใช้แก้อาถรรพ์ก็ได้ ท่านว่าตะกรุดนี้ลงอาถรรพ์มีคุณอยู่มากแต่จะพูดได้เพียงคร่าวๆเท่านั้น หลังจากนั้นต้องใช้เองเห็นเองท่านว่าจึงจะดีที่สุด พ่ออาจารย์ท่านปรารภว่าการแก้อาถรรพ์นั้นคือแก้ที่เกี่ยวพันสืบเนื่องมาแต่ชาติกำเนิด ท่านว่าจุดนี้มีกันทุกคน เป็นอัจฉริยภาพของครูบาอาจารย์นับพันปีที่คิดกระบวนการวิชานี้ขึ้นมา แต่ไม่ได้แพร่หลายเพราะต้องการใช้กันเอง ใช้เป็นรายบุคคลไป ไม่มีการสืบทอดเป็นของสาธารณะ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ทำกันถึงขนาดนั้นสืบทอดมาแต่ในวังของเขมรโบราณ เพราะสมัยยุคขอมนั้นกษัตริย์จะยกตัวเทียบเท่าเทพเจ้าหรือพระโพธิสัตว์ต่างๆ ดังนั้นเขาจะมีชุดกระบวนการวิชาต่างๆที่ใช้แก้อาถรรพ์อันติดมาแต่ชาติกำเนิดของตนเอง ท่านว่าพูดได้เพียงเท่านี้ ต้องมีวาสนามีบุญต้องกันมีความสัมพันธ์กับแรงครูและคุณวิชาจริงๆจึงจะได้มาเห็นและนำไปบูชา...ด้วยหากไม่แก้อาถรรพ์ทำไม่ครบ พ่ออาจารย์ท่านว่าชุบตัวไปก็เท่านั้นเหมือนสวมเสื้อใหม่ทับเสื้อเก่ามีแต่จะยิ่งอึดอัดรำคาญใจ

    ด้วยว่ามนุษย์นั้นจมอยู่ในทุกข์เวทนากันเหลือเกิน ผุดเกิดเวียนว่ายไม่สามารถเข้าถึงพลังในกายตนเองได้ ไม่เห็นอาตมัน ไม่พบสัจธรรม ไม่กลับเข้ารวมกับสภาวะสูงสุด ไปไม่ถึงพระนิพพาน ติดอยู่ในบ่วงกรรม ในห้วงทุกข์เวทนาต่างๆ ด้วยเป็นผลแห่งการกระทำที่ทำไว้ท่านจึงให้ออกตะกรุดหัวสว่านเพื่อจะใช้เจาะทะลุทะลวงตัดกลางหนทางแห่งเวรกรรมทั้งหลายได้ เพราะอำนาจอื่นนั้นไม่สามารถตัดกรรมตรงนี้ได้ทั้งสิ้นช่วยได้ชั่วครั้งชั่วคราวเพียงเท่านั้น ท่านบรรจงเสกมายาวนานก่อนจะนำมาถักเชือกรูดด้วยผงมหากาฬ,ดินกากยายักษ์,ผงเขี้ยวหนุมาน,ผงถ้ำเทวาพิทักษ์,ผงพระธาตุสีวลี,ผงเพชรหน้าทั่ง,นิลตัดเหล็ก,ผงบัวผุด,ขี้เหล็กเปียกภูสิงห์,เหล็กไหลพญานาคภูเขาควาย,แร่ทรหดประเทศลาว,ทรายดำหลวงปู่ทวด,ด้วงหิน,ข้าวสารหิน,ข้าวสารดำ,เหล็กไหลย้อย,เพชรประสาน,เหล็กน้ำพี้,ทรายคำ,ผงจักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่,แร่บางไผ่,แป้งเสกหลวงปู่บุดดา,น้ำมันชาตรีหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ใครมีทุกข์มาก,โรคแรง,ชีวิตผจญมารมากเกินกำลังรับไหวให้เอาตะกรุดแตะหัวว่าคาถา " ทุกขา ทุกขัง ปฏิฐิตัง สัมปติฉามิ "

    *** ตะกรุดนี้เนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าทำได้ยากมากจริงๆและท่านว่าขอเก็บไว้เองดอกหนึ่งจึงมีไม่มาก เพราะทำครั้งนี้สำหรับวิชาที่ลงเต็มสูตรเช่นนี้ย่อมไม่มีครั้งที่สองอีกอย่างแน่นอน รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษษเด็กที่ขาดโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดหัวสว่านธาตุวิชาผลาญผจญมารย่อพระธรณี (ชุบตัว,ยกฐานะ) บูชา 2,500 บาท

    81811320-654431445297119-7953838528029261824-n.jpg
    81977311-2874068402652498-1301192305469816832-n.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์เทวภูติดึกดำบรรพ์ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี(ชุดหุ่นเจตน์จำนงค์สวรรค์อวตาร)


    "หุ่นเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้นเป็นดั่งความตั้งใจมุ่งหมายของสยมภูว(ผู้เป็นเจ้า)แห่งสังสารวัฏ ด้วยเป็นหุ่นแห่งสยมภูวอวตารจากโลกหนึ่งสู่อีกโลก ...หุ่นเจตน์จำนงค์สวรรค์อวตารนี้จึงมีเทวานุภาพอันประหลาด วิชานี้อยู่ที่ไหนใครกระทำย่ำยีเธอไม่ได้เลย ### แม้ตัวเธอจะทำอะไรก็ไม่ติดเวรไม่ติดกรรมให้แปดเปื้อนในวงจรวัฏสงสารทั้งสิ้น เป็นวิชาสำหรับผู้เห็นภัยในวัฏสงสารอย่างแท้จริง เพราะใครทำอะไรผู้มีหุ่นสวรรค์อวตารแล้วการกระทำทุกอย่างย่อมผ่านดั่งทะลุตัวเราไปเฉกเช่นทะลุเงาแบบนั้น แม้การกระทำผิด ผลแห่งบาปกรรมทั้งหลายแลสิ่งอันใจเราไม่ต้องประสงค์ไม่พึงใจทั้งมวล สิ่งเหล่านี้ย่อมผ่านตัวเราไปดั่งฟ้าทะลุเงา(คือพุ่งผ่านพอเป็นพิธีแต่ไม่สัมผัสไม่ก่อวงจรกรรมแก่กัน เช่นนี้จึงเรียกว่าสวรรค์อวตาร) ด้วยไม่มีกำลังใดประทุษร้ายให้โทษผู้ครองหุ่นได้เลตลอดเวลาที่ถือครองหุ่นนั้นยอมได้รับอภิสิทธิ์เหนือผู้ใด ดั่งสวรรค์อวตารสู่ผืนปฐพีแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ใครก็ต่อต้านไม่ได้ทั้งสิบทิศ"

    ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี
    ตะโพนครูใหญ่อินทรเภรี(พระประโคนธรรพ์)
    คือวิชาทำกลองของพระอินทร์อันเป็นวิชาที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัย ด้วยกลองนี้ดังขึ้นเมื่อไหร่แม้เทวดาทั้งหลายยังต้องหยุดนิ่งทิ้งกิจทุกการกระทำเพื่อสดับสำเนียงอินทรเภรีนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ไม่ใช่การสร้างกลองไก่กาใดๆทั้งสิ้นหากแต่เป็นกลองที่มีศักดิ์สูงที่สุดในเทวโลกก็ว่าได้ ด้วยกลองอินทรเภรีนั้นต้องเชิญจิตแห่งท้าวเวสสุวัณและท้าวอาฬาวกยักษ์มาช่วยกันแบกแลรักษาอินทรเภรีไว้ เช่นนั้นกลองนี้จึงมีอานุภาพของสองมหายักษ์ที่ใช้ขับไล่สิ่งชั่วร้ายและภัยพิบัตินาๆออกจากตัวเราได้(ท่านว่าอย่าว่าแต่คนเลยแม้บ้านเมืองก็ยังแก้ไขได้)ชีวิตผู้ใดตกอยู่ในภัยพิบัติหาความก้าวหน้าไม่ได้แค่พกอินทรเภรีไว้ก็แก้อาถรรพ์ได้ทั้งสิ้น ซ้ำผู้ใดได้อธิษฐานกับกลองนี้ประดุจได้บอกกล่าวส่งตรงคำพูดถึงพระอินทร์เจ้าสวรรค์เปล่งวาจาดั่งเสียงอสนิบาตได้ยินทั่วฟ้าดิน...เช่นนั้นวิชาสร้างอินทรเภรีนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงหวงแหนอย่างมากเพราะเป็นกลองที่มีแรงครูสูงสุด ท่านอุปมาดั่งว่าคนใช้ยิ่งเจ็บ(รับกรรมมามาก)ยิ่งดี..ยิ่งตียิ่งดัง ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังลงวิชาทำตะโพนครูใหญ่เสริมอาถรรพ์สอดรับกันเข้าไปด้วย ตะโพนนี้สำคัญนักเจ็บไข้ได้ทุกข์ต้องร้องบอกกล่าวครูตะโพน และที่ผ่านมาตะโพนท่านต้องพิจารณาคนให้ทุกครั้งใครจะเอาไปเล่นทางชู้สาวท่านไม่ให้เลยเพราะท่านว่าเสน่ห์ร้ายยิ่งกว่าน้ำมันพรายเสียอีก(ส่วนมากคนใช้ตะโพนชุดนี้จะเอาไปเลี่ยมทองห้อยแทนขุนแผน เขาว่ากันว่าต่อให้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมถอด) พ่ออาจารย์ท่านจึงตัดปัญหานำตะโพนชุดนี้มาสร้างพยนต์เทวภูติดึกดำบรรพ์ชุดนำฤกษ์หุ่นสวรรค์อวตารเอาไว้
    ด้วยตะโพนของท่านนั้นมีแรงครูสูงมากจนไม่มีสิ่งใดมาถอดถอนหรือแก้ไขผู้ต้องอาถรรพ์ตะโพนได้ ทั้งยังสำทับว่าตะโพนฉันยิ่งตียิ่งดังอุปมากับชีวิตเราก็เหมือนตะโพนยิ่งมีคนตีคนคิดร้ายมากเท่าไหร่เรายิ่งดังยิ่งได้ยิ่งดีเจริญมากขึ้นไปเรื่อยๆ พ่ออาจารย์ท่านแกะตะโพนจากไม้มะกรูดที่คั่นกลางเท้าตะโพนใบเก่าที่ผ่านการไหว้ครูใช้เป็นประธานในการบรรเลงเสกเป่าคาถาอาคมมานับร้อยปี ท่านว่ามีอาถรรพ์ในการใช้ป้องกันภัยอันตรายและข่มศัตรูคู่แข่งได้ทั้งสิ้น ทั้งยังใช้กำกับชีวิตคนได้(ใครที่ควบคุมชีวิตตนเองไม่ได้ ชีวิตไม่เดินไปตามที่คิดให้ใช้ตะโพนครู)ดั่งตะโพนหน้าทับกำกับเครื่องดนตรีทั้งหลาย ท่านว่าก่อนทำนี่ต้องนำสังข์ไปเทน้ำทิพย์มนต์ล้างหน้าตะโพนเสียก่อนจึงทำพิธีบอกกล่าวแรงครูพลีกรรมมาทำได้ ทั้งกลองตะโพนตำรับพ่ออาจารย์นั้นยังได้ชื่อว่านำความสำเร็จทุกด้านที่ใจประสงค์ส่งตรงถึงคนใช้ด้วย เพราะตะโพนนั้นเป็นกลองใบแรกที่พระคเณศยกขึ้นตี จึงเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้แทนตัวพระคเณศด้วยเสมอมา รูปตะโพนนี้จึงเป็นดั่งตัวแทนบรมครูหลายสายวิชาของท่านอย่างแท้จริง
    ด้วยครูตะโพนนั้นทรงอาถรรพ์ชั้นครูเป็นที่เคารพยำเกรงอย่างยิ่ง เป็นดั่งราชาของเครื่องดนตรีทั้งทั้งหลาย
    ทั้งยังใช้แทนองค์พระประคนธรรพ์ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าในบางตำราก็บอกว่าเป็นองค์เดียวกับพรหมฤาษีนารท เช่นนี้จึงยกไว้ว่าเป็นมหาประชาบดีหัวหน้าฤาษีและคนธรรพ์ทั้งปวง เพราะรูปตะโพนนี้มีอาถรรพ์ดั่งเป็นรูปของพระประคนธรรพ์นี้เองจึงถือเสมอว่าใช้แทนองค์ท่านได้เลยและต้องยกไว้ในที่สูงเสมอมีพลังที่จะนำมาซึ่งอำนาจลึกลับแห่งชัยชนะ มีอำนาจดั่งราชา มีบารมีเด็ดขาดเหนือผู้ใด ข่มศัตรูคู่แข่งได้ทั้งสิ้น ทั้งยังกันอัปมงคลเสนียดจัญไรผีเข้าเจ้าสิงด้วยแรงครูชั้นสูง ทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จปราศจากอุปสรรคเครื่องกีดขวาง ทั้งเสน่ห์เล่ห์กลคนหลงรักนิยมยินดี ดึงหัวใจคนให้น้อมต่ำโอนอ่อน ขออะไรใครเขาก็ให้โดยดี มีคนหนุนมีคนยกคนส่งเสริมไม่ขาดตอน ทำชื่อเสียงเราให้ระบือไปไกลทั่วเมืองแมนแดนสวรรค์ แม้เทพยดาผู้มเหศักขเทวราชก็หยุดอาถรรพ์แห่งครูตะโพนมิได้ ..ตะโพนที่มีฤทธิ์เช่นนี้ท่านจึงฝังไว้ในท้าวอนันตกาลเนื้อนำฤกษ์ชุดหุ่นสวรรค์อวตาร

    ท้าวอนันตกาล
    วิชาการผูกพยนต์นั้น เป็นวิชาที่พระโบราณจารหรือผู้เชี่ยวชาญพระเวทย์มักจะทำเอาไว้ ซึ่งก็มีปรากฏในหลายๆรูปแบบทั้งมนุษย์ สัตว์ หรือสัตว์ประหลาด พ่ออาจารย์ท่านเองก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องธาตุทั้งสี่ตลอดจนวิชาการทำพยนต์แขนงต่างๆอยู่มาก จะเห็นได้จากที่มีคนมาขอเศษก้านธูปที่ท่านหักหรือแม้แต่ก้อนดินที่ท่านปั้นเป็นหุ่นพยนต์แบบง่ายๆกำหนดจิตเสกเพียงชั่วอึดใจเดียวแล้วมอบให้เพื่อฉลองศรัทธาของเขาเหล่านั้น ก็ปรากฏว่าหุ่นพยนต์เหล่านั้นกลับไปแสดงฤทธิ์มีตัวมีตนให้คนเห็น บางคนมีตาใน จิตมีตัวรู้ดีก็กล่าวสรรเสริญจนเกินเลยไปมากกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้บรรดาคนรู้จักหรือญาติของผู้ที่ครอบครองพยนต์ไม้ก้านธูปพยนต์ดินเหล่านี้ต่างขอเมตตาเข้ามามาก เรียกว่าในช่วงเวลาหนึ่งนั้น ท่านทำให้ชนิดว่าเอาจนก้านธูปไม่มีติดกระถางทีเดียว ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าวิชาการทำพยนต์ของพ่ออาจารย์นั้นท่านมีความชำนาญเพียงใด
    ด้วยบารมีบูรพาจารย์และญาณวิถีตลอดจนกฏของโชคชะตาและวิถีดวงดาว
    พ่ออาจารย์ท่านได้มีความรู้สึกถึงเทพโบราณตั้งแต่ยุคบรรพกาลองค์หนึ่งซึ่งเคยได้รับการบูชาในรูปของมหายักษ์ผู้ทำลายล้างอำนาจมืดทั้งหลาย ท่านว่าย้อนกลับไปก่อนจะมีมนุษย์ จนมนุษย์แตกดับสิ้นยุคสิ้นสมัยและอุบัติขึ้นใหม่หมุนเวียนเปลี่ยนไปนับกัปกัลป์แลอสงไขย ดวงจิตแต่ครั้งบรรพกาลนี้ก็ยังดำรงอยู่ ท่านจึงเรียกขานว่าท้าวอนันต์กาลมหายักษา ด้วยหมายใจว่ามีห้วงเวลาของชีวิตที่ยืนยาวเป็นอนันต์กาล เพราะยังไม่รู้จุดสิ้นสุดหรือดับสูญ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นยักษ์ที่มีอายุพอๆกับมหาพรหมทีเดียว ท่านว่าท้าวอนันต์กาลนี้เป็นหนึ่งในบรมครูฝ่ายยักษ์ของท่าน มีฤทธิ์มากสามารถปราบปรามหมู่เทวดายักษ์มารปิศาจหรือแม้แต่คลื่นพลังอันเลวร้ายต่างๆที่จะเปลี่ยนแปลงจุดสมดุลของธรรมชาติได้ เมื่อท่านตัดสินใจสร้างหุ่นพยนต์อย่างเป็นทางการ ท่านจึงอาศัยยืมรูปยืมนามของครูยักษ์ของท่านเพื่อให้เกิดสิริมงคลสูงสุดแก่ผู้นำไปบูชาส่วนหนึ่ง และเป็นการอาศัยบารมีบรมครูช่วยให้พยนต์นี้มีทิพย์อำนาจอันศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าที่เทพยดาและมนุษย์จะกระทำได้ส่วนหนึ่ง ตลอดจนเป็นการระลึกถึงครูบาอาจารย์อันจะดลให้ท่านเข้าคุ้มเกรงคุ้มครองรักษาดูแลผู้บูชาอีกส่วนหนึ่ง
    ดังที่กล่าวเบื้องต้นแล้ว พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าการจะสำเร็จพยนต์ให้มีฤทธิ์สูงสุดก็จะต้องทำธาตุทั้งสี่ให้ครบจะขาดจะเกินไม่ได้ ซึ่งท่านก็ได้เพียรหามวลสารสะสมมามากมายตามอุปเท่ห์ที่เป็นรหัส จำต้องใช้ปัญญาคิดและพิจารณาว่าสิ่งต่างๆที่ครูเคยกล่าวให้หาหรือเทพเบื้องบนท่านบอกใบ้ให้เอามาผสมเป็นธาตุตั้งต้นให้ได้แต่ละอย่างนั้นคืออะไร ท่านว่ากว่าจะได้ครบก็หนักหนาสาหัสมากทีเดียว เมื่อท่านตั้งใจจะทำแล้วจึงได้ขอบารมีครูเทพครูพรหมครูยักษ์ทั้งหลาย นั่นย่อมหมายรวมไปถึงท้าวอนันต์กาลด้วย ท่านว่าครูท่านมานิมิตให้เห็นเป็นรูปของมหายักษ์ถือกระบองเพชรและจักรแก้วมีหัวยักษ์มากมายวางเรียงรายอยู่บนพื้น พ่ออาจารย์ว่าท้าวอนันต์กาลนี้มีฤทธิ์มากจริงๆ เอาดีๆแล้วจะเรียกว่ามีอานุภาพมากจนบงการเผ่าพันธ์ยักษ์ทั้งหมดได้ก็ไม่ผิด พ่ออาจารย์ท่านจึงได้บูชาครูและแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาโดยท่านเรียกแม่พิมพ์นี้ว่าพระผงทรงผานไถ ท่านว่านี่เป็นมงคลที่หนึ่ง ผานไถนี้ใช้พลิกกลับหน้าดิน พลิกฟื้นพระแม่ธรณีให้อุดมสมบูรณ์ได้ฉันใดก็ฉันนั้น ที่ท่านตั้งใจทำพระพิมพ์นี้ก็เพื่อจะให้ชีวิตคนใช้สามารถพลิกกลับพลิกฟื้นสถานการณ์ได้ตลอดเวลา ไม่ต่ำกว่าคนไม่จนกว่าเขาเช่นกัน ท่านว่าพอได้แม่พิมพ์แล้วท่านก็นำมาลงวิชาเสกกำกับแม่พิมพ์ด้วยนะกลบทนารายณ์พลิกแผ่นดินทั้งสามสูตร เพื่อให้องค์พระที่จะกดออกจากแม่พิมพ์นี้มีอานุภาพดุจผานไถอย่างแท้จริงตามเจตนารมณ์ของท่านนั่นเอง
    อันว่าหุ่นพยนต์นั้น พ่ออาจารย์ท่านหมายใจจะทำไว้ให้แต่แรกเพื่อ
    เป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดีอย่างที่สุดแก่ผู้บูชา ท่านว่าสมัยนี้คนมักนิยมบูชาเครื่องมงคลต่างๆ แต่กลับกลายเป็นว่าตัวคนบูชาเองนั้นต้องไปกราบไปอ้อนวอนขอสิ่งต่างๆเดือดร้อนทีก็อ้อนวอนที เป็นฝ่ายที่ดูไปดูมาคล้ายกับเราไปปรนนิบัติเสียมากกว่า ด้วยว่าความต่างกันของมนุษย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นตัวกำหนดให้เราไม่สามารถล่วงเกินหรือไม่เคารพได้ ดังนั้นท่านจึงตั้งใจมากที่จะทำเครื่องมงคลชนิดนี้ เพราะท่านว่าหลายครั้งและหลายคนเป็นฝ่ายรับใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายกันมานาน ควรแล้วที่จะมีและทำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจะคอยตามรับใช้พวกเขาให้เสมอใจในทุกๆสิ่งที่พึงมีพึงอยากบ้าง ซึ่งวิชาการผูกพยนต์นั้นท่านว่ามันก็ใช้ได้ในระดับนึง แต่ก็ไม่ได้มีอำนาจมากมายเกินไปกว่ากุมารทองเท่าใดนัก ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงปลุกพระเวทย์ผูกพยนต์เทวภูติขึ้นมา ท่านว่ามันก็สูงสุดแล้วในสายวิชาพยนต์ทั้งเราได้ยืมรูปยืมนามครูยักษ์แต่บรรพกาลที่ถูกลืมเลือนไปมาตั้งไว้ให้เป็นชื่อเรียกขาน ท่านว่าถ้าจะทำให้เป็นเรื่องเป็นราวมันก็มีขั้นตอนอยู่มาก เพื่อให้ได้มาซึ่งมงคลวิเศษที่มีหน้าที่ประดุจทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์มีตบะและฤทธานุภาพสูงส่ง ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่อดทนพอทำไม่ได้จริงๆ
    พ่ออาจารย์ท่านได้ลบถมผงวิชาธาตุสี่ มีธาตุตั้งต้นและหนุนธาตุเข้าไปทีละธาตุสลับกลับไปกลับมาตั้งแต่ดินน้ำลมไฟ เป็นดินหนุนด้วยน้ำเป็นต้น หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันจนครบตามหลักแม่ธาตุเพื่อให้เกิดฤทธิ์เป็นเอนกอนันต์ตามเคล็ดวิชาจตุธาตุอันเป็นที่สุด ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณมากสารพัดจะใช้หากเข้าถึงและทำเป็นทำสำเร็จแล้ว ผงนี้มีคุณมหาศาลเปรียบประมาณมิได้เลย ท่านได้นำผงวิชาจตุธาตุนี้ มาผสมเข้ากับผงวิชาเทพนิมิตที่ท่านลบถมเพื่อให้ผู้ใช้มีเทวดารักษาตัวและสามารถขอหรืออธิษฐานสิ่งใดก็ได้ ไม่เพียงเท่านั้นท่านยังเมตตาลบถมผงพระยันต์สูตรสำคัญต่างๆผสมลงในเนื้อพระด้วย ไม่ว่าจะรัตนมาลา มหาจักรพรรดิ มหาปราบ มหาระงับพิศดาร พระเจ้าห้ามญาติ นวหรคุณ พระเจ้าเข้านิโรธ พระเจ้าห้ามทุกข์ พระไตรปิฏก ปาฏิโมกข์ วิปัสสิ กรณี พุทธจักร นวโลกุตรธรรม พระไตรรัตน์ พุทธคุณเจ็ดดวง โสฬสมงคล ตรีนิสิงเห จตุโรถอด ไตรสรณคมสามดวง ฝนแสนห่า พระเจ้าสิบหกพระองค์ นะโมตาบอด ฤาษีตาไฟ มงกุฏพระเจ้า ชาตรี จตุราริยสัจจ์สองดวง นกคุ้มตัวผู้ตัวเมีย อิติปิโสแปดทิศ ยันต์ธงพระฉิมสองสูตร นอกจากนั้นท่านได้นำผงคตสำคัญที่ท่านฝนรวบรวมไว้มาเข้ากับผงวิเศษเหล่านี้ พร้อมทั้งว่านยาอาถรรพ์ พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้บอกว่าว่านอะไรรู้แต่ว่าหลายชนิดแน่นอนที่สำคัญท่านว่าจะทำพยนต์เทวภูติต้องใช้แต่ว่านที่เก่งมีฤทธิ์มีตัวรู้จักหลบหนีมีชีวิต ว่านธรรมดาใช้ไม่ได้ ท่านได้นำผงวิเศษต่างๆเหล่านี้มานวดรวมกันกับน้ำมันว่านวิเศษของท่านเมื่อนวดได้ที่แล้วด้วยมวลสารธรรมชาติทั้งหลายทำให้เนื้อขององค์พระมีวรรณะอมแดงอมม่วงดั่งที่ปรากฏนั่นเอง
    *** ชุดนำฤกษ์เบิกดวงจิตครู ท่านจะใช้มวลสารพิเศษเพื่อสร้างหุ่น ด้วยผงวิชาเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้นเป็นดั่งความตั้งใจมุ่งหมายของสยมภูว(ผู้เป็นเจ้า)แห่งสังสารวัฏ ด้วยเป็นการสร้างหุ่นแห่งสยมภูวอวตารจากโลกหนึ่งสู่อีกโลก ...หุ่นเจตน์จำนงค์สวรรค์อวตารนี้จึงมีเทวานุภาพอันประหลาด วิชานี้อยู่ที่ไหนใครกระทำย่ำยีเธอไม่ได้เลย ### แม้ตัวเธอจะทำอะไรก็ไม่ติดเวรไม่ติดกรรมให้แปดเปื้อนในวงจรวัฏสงสารทั้งสิ้น เป็นวิชาสำหรับผู้เห็นภัยในวัฏสงสารอย่างแท้จริง เพราะใครทำอะไรผู้มีหุ่นสวรรค์อวตารแล้วการกระทำทุกอย่างย่อมผ่านดั่งทะลุตัวเราไปเฉกเช่นทะลุเงาแบบนั้น แม้การกระทำผิด ผลแห่งบาปกรรมทั้งหลายแลสิ่งอันใจเราไม่ต้องประสงค์ไม่พึงใจทั้งมวล สิ่งเหล่านี้ย่อมผ่านตัวเราไปดั่งฟ้าทะลุเงา(คือพุ่งผ่านพอเป็นพิธีแต่ไม่สัมผัสไม่ก่อวงจรกรรมแก่กัน เช่นนี้จึงเรียกว่าสวรรค์อวตาร) ด้วยไม่มีกำลังใดประทุษร้ายให้โทษผู้ครองหุ่นได้เลตลอดเวลาที่ถือครองหุ่นนั้นยอมได้รับอภิสิทธิ์เหนือผู้ใด ดั่งสวรรค์อวตารสู่ผืนปฐพีแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ใครก็ต่อต้านไม่ได้ทั้งสิบทิศ นำมาผสมด้วยผงอาถรรพ์โสมเฝ้าทรัพย์ ที่พ่ออาจารย์ท่านว่าเฮี้ยนเสียยิ่งกว่าภูติพรายใดๆมี ท่านว่าเป็นผงอาถรรพ์ซึ่งอาถรรพ์ในที่นี้ไม่เกี่ยวกับพรายกับผีแต่อย่างใด หากแต่เป็นพยนต์มหายักษ์ซึ่งถูกผูกไว้เฝ้าสมบัติสมัยอยุธยามหาสถาน พ่ออาจารย์ท่านว่าในกรุสมบัติแผ่นดินหนึ่งๆที่เป็นสมบัติของกษัตริย์แต่โบราณจะมีพยนต์เหล่านี้รักษาหลายตน ในสมัยที่ท่านบวชและมีโอกาสได้ธุดงค์ผ่านอยุธยานั้น ท่านได้พบกับโสมเฝ้าทรัพย์ซึ่งพาท่านไปดูกรุสมบัติตั้งแต่ยุคสมัยของพระนเรศวรเรื่อยมาจนถึงพระเจ้าเสือ และปู่โสมนั้นท่านได้ขอตามไปจะไปอารักขาท่านด้วย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเขามาจริงๆไม่ใช่แต่เพียงคำพูด เพราะปรากฏมีตุ๊กตายักษ์ดินเผาขนาดเล็กมาปรากฏอยู่ในย่ามของท่าน หลังจากท่านตรวจดูแล้ว ท่านว่าเค้าตั้งใจจะไปคุ้มครองเราจริงๆจึงได้ทำพิธีพลีกรรมบอกกล่าวแก่เจ้าของเดิมและนำออกมา เมื่อจะทำพยนต์เทวภูติอนันต์กาลมหายักษา พ่ออาจารย์ท่านว่าจะหวงไว้ใช้คนเดียวก็ไม่ใช่เรื่อง ไหนๆทำแล้วก็ต้องให้ดีให้แรงที่สุดไปเลย ท่านถึงได้สอบถามโสมเฝ้าทรัพย์ ว่าจะขอให้ไปสร้างบารมีช่วยเหลือสัตว์ผู้ยากทั้งหลาย ซึ่งเขาก็ยินดีอย่างยิ่ง พ่ออาจารย์จึงนำตุ๊กตายักษ์นั้นมาขออนุญาติและตะไบฐานออกส่วนหนึ่งเป็นผง ท่านนำมาคลุกและนวดเข้ากับสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบ วัดกะบกขึ้นผึ้งซึ่งองค์นำฤกษ์นี้ท่านผสมผงลงไปนวดทั้งหมดเลย ท่านว่าผงนี้มีญาณโสมเฝ้าทรัพย์เฝ้าแผ่นดินทุกอณู เขาจะตามรักษาลูกหลานเลือดเนื้อเชื้อชาติไทยอันนี้ท่านว่าเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน แต่ว่าแรงน่ะแรงแน่ๆ อธิษฐานใช้กันให้ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ท่านคลุกสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบให้เพื่อจะได้มีคุณทางเมตตาเป็นกฤติยาคมแฝดอย่างถึงที่สุด ท่านว่าสีผึ้งเขียวนี้มีคุณทางเมตตามหาเสน่ห์มาก แต่ก็นั่นแหละสุดแต่ใจจะใช้ จะเล่นทางเสน่ห์เมตตาหรือเอาไปทำมาหากินให้ได้ดิบได้ดีก็ตามแต่จริตชีวิตคน

    ซึ่งพยนต์เทวภูติท้าวอนันต์กาลมหายักษาชุดนำฤกษ์หุ่นเจตน์จำนงค์สวรรค์อวตารนี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ฝังของวิเศษต่างๆนอกจากตะโพนอินทรเภรีไว้ดังนี้
    - ตะกรุดหล่อยอดคน(ชุดพิเศษบรรจุแก้วสามโลก) กว่าจะทำตะกรุดซึ่งลงวิชาสำคัญนี้ได้ ครูพระสยมท่านให้พ่ออาจารย์รวบรวมยอดโลหะที่หาได้ยากตั้งแต่เหล็กยอดประสาท ยอดพระที่นั่ง ยอดพระเจดีย์ ยอดนคร ยอดเมือง ยอดฉัตร ยอดวัด ยอดเมรุ ยอดธาตุ ตามคติว่าเป็นสิ่งที่สุดยอดที่สุดซึ่งจะมีอาถรรพ์หนุนชีวิตเราให้สูงขึ้นทั้งยังปราบศัตรูช่วยให้เราเป็นยอดคนได้ ท่านจึงเรียกโลหะชุดนี้ว่าตะกรุดหล่อยอดคน ท่านเอามาหล่อเข้ากับยอดเหล็กจารของบูรพาจารย์ของท่านที่ท่านว่าขลังที่สุดเพราะตอนครูท่านเขียนท่านจารท่านก็กำหนดจิตบริกรรมคาถาไปด้วยตลอดเรียกว่าเป็นสุดยอดด้วยแรงครูทั้งยังผสมด้วยเหล็กไหลฤาษี,ไหลเงินยวง,เหล็กไหลตาแรด,เหล็กน้ำพี้...ชินจากกรุมเหศวร(กลับร้ายกลายเป็นดี) ทั้งยังนำเหรียญทองโบราณที่หายาก(ปัจจุบันมีค่าหลายแสนบาท)เป็นเหรียญทองอาถรรพ์ที่ใช้เรียกทรัพย์โดยเฉพาะท่านว่าหาไม่ได้ไม่มีอีกแล้วท่านหล่อผสมลงไปด้วย ท่านถือว่าประเทศไทยนั้นเป็นธาตุทองถึงต้องใช้กำลังทองอาถรรพ์เพื่อดึงเอาชัยชนะต่างๆเข้ามาในชีวิต เมื่อหลอมออกมาแล้วจึงได้ตะกรุดหล่อวรรณะอมเขียวที่ท่านว่าสร้างได้ยากที่สุดเพราะมวลสารนั้นหาไม่ง่ายเลย พอหล่อออกมาท่านต้องเสกด้วยมนต์ทศกัณฐ์ถอดหัวใจจึงจะสำเร็จแม้ใครได้พกไว้ก็จะเป็นยอดคนดวงไม่ตกฆ่าไม่ตาย ดั่งเราย้ายจิตออกไปจากตัวแม้เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่สามารถให้โทษถึงตัวได้ ที่สำคัญเลยในองค์นำฤกษ์นี้ท่านจะบรรจุแก้วสามโลกไว้ตามตำรับเสด็จพระใหญ่ที่สอนเฉพาะพ่ออาจารย์ในตะกรุดหล่อยอดคนด้วย ท่านว่าแก้วสามโลกนี้ไม่ใช่ของธรรมดาเพราะทำเอาด้วยวิชา ย่อมเหนือกว่าเหล็กไหลและปรอทสำเร็จ ท่านว่าเล่นแร่แปรธาตุอยู่นานยากนักกว่าจะได้มาเพียงติดว่าเกือบตายไปเสียก่อนไม่เช่นนั้นคงไม่ได้ทำต่อ อาถรรพ์แก้วสามโลกนี้แม้ตัวเราจะปรารถนาอะไรถ้าเขย่าแล้วอธิษฐานด้วยเคล็ด"จักรพรรดิราชตวาดฟ้า"ที่พ่ออาจารย์ท่านลงไว้ทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้ดังปรารถนา เสมอด้วยความต้องการให้ได้มา ดั่งเป็นความปรารถนาของพญาจักรพรรดิราชที่เทพยดาทั้งหลายต้องน้อมรับเท่านั้น แก้วสามโลกที่ลงอาถรรพ์ด้วยวิชาพญาจักรพรรดิราชตวาดฟ้านี้แม้ปรากฏขึ้นที่ใดเทวดาต้องมารับใช้มาดูแลบันดลดันดาลให้มิเช่นนั้นเขาจะทนเสียงเขย่าไม่ได้ดั่งศรีษะเขาจะเเตกออกเป็นเจ็ดภาค ***นี่จึงเป็นที่มาของเสียงกริ่งในชุดนำฤกษ์ ท่านว่าพระกริ่งเขย่าแล้วพระไภษัชยคุรุรู้อย่างไร พยนต์ฉันที่มีกริ่งก็เช่นกัน ทั้งกริ่งยอดอาถรรพ์ที่เกิดแต่วิชารวมกับกำลังครูตะโพนนี้ กริ่งดังทีหนึ่งก็เหมือนมีคนตีตะโพนลั่นเทวสภาเช่นนี้จึงนับได้ว่าเป็นเครื่องมงคลที่พิเศษที่สุด
    - ตะกรุดวิชาอาถรรพ์พันธะมหาสัญญาเนื้อตะกั่วขอมโบราณ
    พ่ออาจารย์ว่าวิชานี้แรงนัก ท่านลงในแผ่นตะกั่วขอมโบราณที่ท่านได้มาจากใต้ปราสาทสมัยอาณาจักกรขอมได้ผ่านพิธีเทพพิธีพราหมณ์มามากกมีพลังงานมากกว่าตะกั่วธรรมดาทั่วไป ซ้ำท่านยังได้นำมาลงถมซ้ำก่อนรีดเป็นแผ่นตะกรุดอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านผูกวิชานี้ไว้ในพยนต์ท้าวอนันต์กาลเพื่อให้พยนต์ท้าวอนันต์กาลมีอาถรรพ์ตรึงรูปนาม มีชีวิตและมีฤทธิ์เป็นเอนกอนันต์สุดแล้วแต่จะใช้จะอธิษฐาน พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้พกติดตัวก็ได้ เฝ้าบ้านก็ได้ ท่านว่าแม้แต่สงครามเทวดาก็ยังเอาพยนต์นี้ไปสู้รบได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดวิชาอาถรรพ์ท่านผูกให้เป็นหัวใจสำคัญของพยนต์เทวภูติ ท่านว่าวิชานี้เป็นเลิศยิ่งนักใช้งานได้สารพัดแม้จะไปกระทำอะไรกับใครเขา ท่านว่าตรงนี้ต้องระวัง อย่าไปคิดร้ายหรือสั่งให้พยนต์ไปทำร้ายใครเชียว มันจะเป็นกรรมหนักเปล่าๆ เพียงเอาไว้แค่คุ้มครองรักษาตัวเองก็พอ วิชาพันธะมหาสัญญานี้เป็นที่สุดของวิชาผูกหุ่นพยนต์แต่โบราณ เป็นวิชาที่หุ่นนั้นจะอุทิศทั้งร่างกายและชีวิตเพื่อรับคำซื่อสัตย์และทำตามความประสงค์ของเจ้านาย พ่ออาจารย์ท่านว่าสุดแล้วแต่จะใช่เถิด แม้จะสะกดคน สะกดขึ้นเรือนหรือเข้าหาหญิงสาวย่อมทำได้ทุกสิ่ง ท่านว่าพูดอย่างใดเป็นอย่างนั้นทีเดียว

    ### พระผงชุดนำฤกษ์นี้ท่านทำด้วยวิชาผูกหุ่นสวรรค์อวตาร ซึ่งท่านย้ำสำทับว่าคนที่เขาเดือดเนื้อร้อนชีวิตหรือติดขัดในชีวิตความเป็นอยู่จะมานำไป โดยเฉพาะผู้เห็นภัยในวัฏสงสารกลัวกรรมจะเปื้อนเนื้อเปื้อนตัวไม่จบไม่สิ้นเท่านั้น เขาจึงจะเห็นค่าหุ่นวิชาสวรรค์อวตารนี้ ถ้าคนธรรมดานัยน์ตายังมีมลทินโทษยังไม่คิดถึงชาตินี้ชาติหน้า ยังไม่รู้วงจรแห่งกรรม ไม่เชื่อในกฏการกระทำ เค้าจะไม่สนหุ่นนี้เลย จะเพียรหาแต่ของช่วยดับร้อนผ่อนเย็นไปวันๆเท่านั้น เช่นนั้นหุ่นวิชาสวรรค์อวตารนั้นจึงเป็นดั่งสิ่งมีค่าสูงสุดสำหรับคนที่ต้องการความช่วยเหลือโดยเทพพยนต์ ทั้งยังหวาดกลัวภัยแห่งกรรมลิขิตไม่อยากผูกกรรมใดๆเพิ่มกับผู้อื่นอย่างแท้จริง ด้วยวิชานี้ใครกลั่นแกล้งทำร้ายเรามาหรือจะมีเวรกรรมพันผูกมาแต่หนใด ทุกสิ่งจะผ่านตัวเราดั่งแสงผ่านเงามีแต่ดูดกลืนลงผืนแผ่นดินอย่างเดียวเท่านั้น จึงเป็นเคล็ดสวรรค์อวตารที่สิ่งอันเลวร้ายจะไม่ฝืนกฏแห่งกรรมเขาจะตกต้องตัวเราหากแต่ผ่านหายไปดั่งทะลุเงาเช่นนี้ตลอดกาล..เหลือไว้เพียงสิริมงคล

    คาถาบูชา
    พุทธังจุติ ธัมมังจุติ สังฆังจุติ ท้าวอนันต์กาลมหายักษาจงมาปฏิสนธิ อัตถะโลโปจะจงมาบังเกิดเป็นพยนต์มหาเทวภูติ ยักษะกาโรโหติสัมภะโว จงบังเกิดรูปด้วยเดชเดชะแห่งมะอะอุนี้เทอญ

    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าผงคุณวิชานี้ชีวิตฉันทำได้เพียงครั้งเดียว ถ้าใครรู้สึกว่าตรงกับจริตและชีวิตตัวที่ต้องคอยมาเป็นเหยื่อของกรรม ชดใช้กรรมอยู่ ทำกรรมดีไม่ขึ้น นั่นแหละจึงใช้หุ่นสวรรค์อวตารนี้ ด้วยพยนต์เทวภูตินี้เลือกเจ้าของและมีเจ้าของแล้วทุกคน ท่านว่าผู้ที่มีวาสนาต้องกันจะได้ใช้งานนั้นเขาจะมีตัวรู้ผุดขึ้นในใจของเขาเอง ว่าสิ่งนี้แบบนี้แหละที่เขาหาที่เขาต้องการ ท่านว่าท่านทำไว้ไม่มากเนื่องจากผงลบและมวลสารอะไรหลายๆอย่างไม่เอื้ออำนวย เพราะเมื่อทำแล้วก็อย่าจะใช้ชนวนมวลสารล้วนๆไม่ต้องผสมอะไรเจือจางให้มากมาย ดังนั้นท่านว่าให้บอกเค้าว่าตัวนี้ใครไวใครได้ เพราะหมดไปแล้วย่อมไม่มีอีก ท่านว่าทำพยนต์เทวภูติแบบนี้เหนื่อยกว่าทำเครื่องมงคลแบบอื่นๆหรือพยนต์ทั่วไปมากนัก

    * พยนต์เทวภูติชุดนำฤกษ์สวรรค์อวตารนี้มีเพียง 5 องค์เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านใช้ติดเอวท่านตนหนึ่งจึงมีให้จองกันสี่องค์ จะให้จองเฉพาะทาง PM และผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการชักยันต์นะกันทั้งปวงอธิษฐานจิตครอบรูปนามผู้บูชาให้ตลอดจนจะได้เจิมประสิทธิ์เครื่องมงคลอีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้วยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์เทวภูติดึกดำบรรพ์ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี(ชุดหุ่นเจตน์จำนงค์สวรรค์อวตาร) บูชา 4,000 บาท

    82219552-840584769733369-4462456293101142016-n.jpg 81383393-599257130907866-8644448378505134080-n.jpg
    81886794-446667652907710-4895452171211898880-n.jpg
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี (ชุดครูพี่เลี้ยง)

    ตะโพนชุดครูพี่เลี้ยงนี้ พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ให้ใช้กันโดยเฉพาะซึ่งท่านได้ผูกตะกรุดอาถรรพ์หัวใจครูพี่เลี้ยงกำกับตะโพนไว้ ท่านว่าครูพี่เลี้ยงนั้นเป็นมากกว่าครูทั่วๆไป เพราะนอกจากเป็นครูแล้วยังเป็นพี่เลี้ยงที่ต้องหาเลี้ยงเราด้วย ครูพี่เลี้ยงนั้นจะต้องคอยดูแล ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้เราเสมือนว่าเราเป็นดั่งศิษย์ซึ่งเป็นศิษย์พิเศษ เปรียบได้กับพี่น้องร่วมสายโลหิตเช่นนั้น ดังนั้นตะโพนชุดครูพี่เลี้ยงที่ท่านแยกเสกเก็บไว้จึงมีอาถรรพ์มากเหมาะกับการนำไปห้อยเดี๋ยวๆอาราธนาอย่างที่สุด

    เพราะครูพี่เลี้ยงนั้นจะมีความผูกพันธ์และสนิทสนมกับเรามาก...ลึกซึ้งเกินคำว่าศิษย์กับครูปกติชนิดออกหน้าแทนกันได้ ท่านจะใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์นับพันนับหมื่นปีที่สร้างสมบารมีมาเพื่อทำให้ชีวิตเราเข้ารูปเข้ารอย คอยผลักดันพลังงานให้เกิดขบวนการทางความคิดในเชิงสร้างสรรค์ เรียกว่าคอยเกื้อกูลกันอย่างจริงใจ เช่นนั้นจึงเป็นยอดแห่งครูที่จะช่วยศิษย์ทุกสายอย่างแท้จริง เพราะตะโพนของพ่ออาจารย์นั้นท่านลงไว้หลายสายทำได้หลายอย่าง

    พ่ออาจารย์ท่านว่า ครูพี่เลี้ยงของฉันเขาจะมุ่งแค่ผลสำเร็จอย่างเดียวนะ ต้องบอกพวกเธอเอาไว้ก่อน ที่บอกว่าผลสำเร็จนั้นคือผลในชีวิตศิษย์น้อยๆของท่าน ท่านจะคอยเสริมพลังดึงเราเข้าสู่เส้นทางที่สมควร ทั้งเพิ่มพลังจิตพลังใจ ฝึกเราให้เข้มแข็ง ทำให้เราเห็นแนวทางลู่ทางที่ถูกปิดอยู่ ถ้าคนไหนตกอยู่ในปัญหาชีวิตตะเกียกตะกายไม่พ้นท่านก็จะไปแก้ไขให้ เพราะงานท่านคือครูพี่เลี้ยงเป็นครูที่ลงมาคลุกคลีกับเรา เพื่อสร้างคนให้เป็นคนได้อย่างแท้จริง ท่านจะเกื้อกูลเราไปเรื่อยๆจนกว่าเราจะเข้มแข็ง ใช้ชีวิตยืนอย่างมั่นคงได้โดยที่ไม่มีท่านนั่นแหละ ท่านจึงจะกลับไปชื่นชมความสำเร็จของศิษย์ท่านอยู่เงียบๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องห่วงท่านจะคอยดูอยู่เสมอไม่ไปไหนไกล นี่คืออาถรรพ์ของแรงครูซึ่งท่านเรียกว่าครูพี่เลี้ยงหรือครูฝึก,ครูหัด

    ครูผู้เป็นกัลยาณมิตรโดยแท้จริงซึ่ง...จะต่อหัวต่อตีนเราไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านว่าบางคนเปลืองเวลามาเยอะไหว้ครูมาก็มาก แต่ขาดครูสอนครูหัดนี่ทั้งชีวิตก็ทำอะไรไม่ได้ ของบางอย่างนั้นมีแรงครูก็จริง แต่ไม่มีความเอื้ออาทรณ์หรือแรงหนุนของครูพูดง่ายๆคือไม่เข้าถึงใจครู ท่านว่าพูดแบบนี้คงเข้าใจง่ายกว่า เช่นนั้นคำเพียงคำเดียวระหว่างครูกับครูพี่เลี้ยง พ่ออาจารย์ท่านว่าถึงจะเป็นครูเหมือนกันแต่ความผูกพันธ์นั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง

    ตะโพนชัยชุดนี้เป็นชุดครูพี่เลี้ยงที่ท่านอธิษฐานจิตเชิญครูมาเต็มบารมี ทั้งยังหนุนแรงครูขอเชิญครูให้มาเหยียบหัวช่วยศิษย์ดุจเป็นกัลยาณมิตร เป็นครูพี่เลี้ยงที่ต้องเลี้ยงต้องดูเราไปทั้งชีวิตไม่ทิ้งขว้าง ไม่ใช่ครูที่เสพย์แต่กลิ่นไปธูปควันเทียนรอการกราบไหว้บูชาหรือคำบนบานของใคร ท่านว่าครูพี่เลี้ยงของฉันมีเกียรติมากกว่านั้น ใครจะห้อยตะโพนชุดนี้ไม่ต้องเปลืองวาจาบนใดๆ เพียงแต่บอกกล่าวถึงอาชีพและความเดือดร้อนของชีวิตในปัจจุบันให้ครูทราบเท่านั้นพอ ส่วนหน้าที่ครูพี่เลี้ยงจะขีดเส้นชีวิตเธออย่างไรนั้นไม่นานจะได้เห็นกันเอง

    ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี
    ตะโพนครูใหญ่อินทรเภรี(พระประโคนธรรพ์)
    คือวิชาทำกลองของพระอินทร์อันเป็นวิชาที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัย ด้วยกลองนี้ดังขึ้นเมื่อไหร่แม้เทวดาทั้งหลายยังต้องหยุดนิ่งทิ้งกิจทุกการกระทำเพื่อสดับสำเนียงอินทรเภรีนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ไม่ใช่การสร้างกลองไก่กาใดๆทั้งสิ้นหากแต่เป็นกลองที่มีศักดิ์สูงที่สุดในเทวโลกก็ว่าได้ ด้วยกลองอินทรเภรีนั้นต้องเชิญจิตแห่งท้าวเวสสุวัณและท้าวอาฬาวกยักษ์มาช่วยกันแบกแลรักษาอินทรเภรีไว้ เช่นนั้นกลองนี้จึงมีอานุภาพของสองมหายักษ์ที่ใช้ขับไล่สิ่งชั่วร้ายและภัยพิบัตินาๆออกจากตัวเราได้(ท่านว่าอย่าว่าแต่คนเลยแม้บ้านเมืองก็ยังแก้ไขได้)ชีวิตผู้ใดตกอยู่ในภัยพิบัติหาความก้าวหน้าไม่ได้แค่พกอินทรเภรีไว้ก็แก้อาถรรพ์ได้ทั้งสิ้น

    ซ้ำผู้ใดได้อธิษฐานกับกลองนี้ประดุจได้บอกกล่าวส่งตรงคำพูดถึงพระอินทร์เจ้าสวรรค์เปล่งวาจาดั่งเสียงอสนิบาตได้ยินทั่วฟ้าดิน...เช่นนั้นวิชาสร้างอินทรเภรีนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงหวงแหนอย่างมากเพราะเป็นกลองที่มีแรงครูสูงสุด ท่านอุปมาดั่งว่าคนใช้ยิ่งเจ็บ(รับกรรมมามาก)ยิ่งดี..ยิ่งตียิ่งดัง

    ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังลงวิชาทำตะโพนครูใหญ่เสริมอาถรรพ์สอดรับกันเข้าไปด้วย ตะโพนนี้สำคัญนักเจ็บไข้ได้ทุกข์ต้องร้องบอกกล่าวครูตะโพน และที่ผ่านมาตะโพนท่านต้องพิจารณาคนให้ทุกครั้งใครจะเอาไปเล่นทางชู้สาวท่านไม่ให้เลยเพราะท่านว่าเสน่ห์ร้ายยิ่งกว่าน้ำมันพรายเสียอีก(ส่วนมากคนใช้ตะโพนชุดนี้จะเอาไปเลี่ยมทองห้อยแทนขุนแผน เขาว่ากันว่าต่อให้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมถอด)

    ด้วยตะโพนของท่านนั้นมีแรงครูสูงมากจนไม่มีสิ่งใดมาถอดถอนหรือแก้ไขผู้ต้องอาถรรพ์ตะโพนได้ ทั้งยังสำทับว่าตะโพนฉันยิ่งตียิ่งดังอุปมากับชีวิตเราก็เหมือนตะโพนยิ่งมีคนตีคนคิดร้ายมากเท่าไหร่เรายิ่งดังยิ่งได้ยิ่งดีเจริญมากขึ้นไปเรื่อยๆ พ่ออาจารย์ท่านแกะตะโพนจากไม้มะกรูดที่คั่นกลางเท้าตะโพนใบเก่าที่ผ่านการไหว้ครูใช้เป็นประธานในการบรรเลงเสกเป่าคาถาอาคมมานับร้อยปี ท่านว่ามีอาถรรพ์ในการใช้ป้องกันภัยอันตรายและข่มศัตรูคู่แข่งได้ทั้งสิ้น

    ทั้งยังใช้กำกับชีวิตคนได้(ใครที่ควบคุมชีวิตตนเองไม่ได้ ชีวิตไม่เดินไปตามที่คิดให้ใช้ตะโพนครู)
    ดั่งตะโพนหน้าทับกำกับเครื่องดนตรีทั้งหลาย ท่านว่าก่อนทำนี่ต้องนำสังข์ไปเทน้ำทิพย์มนต์ล้างหน้าตะโพนเสียก่อนจึงทำพิธีบอกกล่าวแรงครูพลีกรรมมาทำได้

    ทั้งกลองตะโพนตำรับพ่ออาจารย์นั้นยังได้ชื่อว่านำความสำเร็จทุกด้านที่ใจประสงค์ส่งตรงถึงคนใช้ด้วย เพราะตะโพนนั้นเป็นกลองใบแรกที่พระคเณศยกขึ้นตี จึงเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้แทนตัวพระคเณศด้วยเสมอมา รูปตะโพนนี้จึงเป็นดั่งตัวแทนบรมครูหลายสายวิชาของท่านอย่างแท้จริง

    ด้วยครูตะโพนนั้นทรงอาถรรพ์ชั้นครูเป็นที่เคารพยำเกรงอย่างยิ่ง เป็นดั่งราชาของเครื่องดนตรีทั้งทั้งหลายทั้งยังใช้แทนองค์พระประคนธรรพ์ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าในบางตำราก็บอกว่าเป็นองค์เดียวกับพรหมฤาษีนารท เช่นนี้จึงยกไว้ว่าเป็นมหาประชาบดีหัวหน้าฤาษีและคนธรรพ์ทั้งปวง

    เพราะรูปตะโพนนี้มีอาถรรพ์ดั่งเป็นรูปของพระประคนธรรพ์นี้เองจึงถือเสมอว่าใช้แทนองค์ท่านได้เลยและต้องยกไว้ในที่สูงเสมอมีพลังที่จะนำมาซึ่งอำนาจลึกลับแห่งชัยชนะ มีอำนาจดั่งราชา มีบารมีเด็ดขาดเหนือผู้ใด ข่มศัตรูคู่แข่งได้ทั้งสิ้น ทั้งยังกันอัปมงคลเสนียดจัญไรผีเข้าเจ้าสิงด้วยแรงครูชั้นสูง ทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จปราศจากอุปสรรคเครื่องกีดขวาง ทั้งเสน่ห์เล่ห์กลคนหลงรักนิยมยินดี ดึงหัวใจคนให้น้อมต่ำโอนอ่อน ขออะไรใครเขาก็ให้โดยดี มีคนหนุนมีคนยกคนส่งเสริมไม่ขาดตอน ทำชื่อเสียงเราให้ระบือไปไกลทั่วเมืองแมนแดนสวรรค์ แม้เทพยดาผู้มเหศักขเทวราชก็หยุดอาถรรพ์แห่งครูตะโพนมิได้

    คาถาบูชา
    ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกาเรนะ ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ ทุติยัมปิ ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกาเรนะ ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ ตะติยัมปิ ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกาเรนะ ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ ..ขอครูพี่เลี้ยงจงบันดาลดลด้วยสรรพสิทธิ์วิทยา ให้พระครูพี่เลี้ยงจงสถาพรกรรมสิทธิ์แก่ข้าในกาลบัดนี้เทอญ

    *** พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่า ตะโพนชุดครูพี่เลี้ยงนี้ไม่ต้องบอกอะไรกันมากนัก เพราะบางคนวาสนาเขาไม่ถึงเกิดมาได้เพียงเท่านี้ ไม่มีวาสนาจะมีครูพี่เลี้ยงคอยดูแล เขาก็จะไม่ได้ไป มารจะมารบกวนความคิดเขาให้วิปริตไปเอง เช่นนั้นตะโพนชุดนี้ท่านว่าใครมีบุญก็มาเอาไป รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น เนื่องจากของมีจำกัดหากของหมดจะแจ้งใน PM อีกทีหนึ่ง

    ร่วมทำบุญบูชา ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี (ชุดครูพี่เลี้ยง) บูชา 900 บาท


    82224083-1392409097607824-1416554091953258496-n.jpg 82486903-521409201915775-2118376315332591616-n.jpg
    82065682-2816077578450328-6336752228342169600-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...