ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวางแหพระเจ้าเหวี่ยงกวาดสังสารวัฏ พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    การถืออาคม

    วันนี้ก็ได้พูดคุยกันเช้าๆ ก็จะยกหัวข้อที่ได้สนทนากับพ่ออาจารย์ไว้มาพูดกันในเรื่องของการถือคาถาอาคม

    เนื่องจากมีหลายๆคนได้ติดตามกระทู้นี้ และจดเอาคาถาที่พิมพ์เผยเเพร่ไว้ไปใช้ บางคนก็ได้ผลบางคนก็บอกว่าไม่ได้ผล ซึ่งนี่ก็เป็นสัจธรรมของโลกที่จะใช้ได้ผลหรือไม่ได้ผลนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เอง ต้องพิจารณาว่าเราขาดอะไร

    พ่ออาจารย์ท่านฝากมาถึงผู้เล่นคาถาอาคมทั้งหลายด้วย ด้วยว่ากุศลที่เคยสั่งสมตลอดจนบุพกรรมของเเต่ละคนไม่เสมอกัน ดั่งพงหญ้าที่เสียดแทงขึ้นมาจากพื้นดิน จะสูงต่ำสั้นยาวหาความเท่ากันเสมอมิได้ ดังนั้นความถนัดความเชี่ยวชาญประกอบกับสิ่งที่เคยสร้างไว้ของเเต่ละคนก็ไม่เสมอกันด้วยนั่นเอง

    ทีนี้เรื่องของคาถานั้น มิใช่ว่าผู้รู้มากจะเป็นผู้วิเศษอย่างใด เพราะรู้เเล้วใช้ไม่ได้ก็เท่านั้น

    พระคาถาต่างๆที่ได้ให้ไปนี้เจตนาให้ไว้ เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจแก่พวกเธอ ให้มีที่ยึดหน่วงความรู้สึก อยู่กับคาถา ก่อนใช้ก็นึกถึงคุณพระ เหมือนเราบังคับพวกเธอกลายๆก่อนยกมือไหว้สวดท่องครั้งใดให้นึกถึงพระพุทธเจ้าทุกคน นี่ได้กุศลนะระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้านี่ ถ้าบทไหนยาวหน่อย 3 รอบ 7 รอบ 108 รอบ ก็เท่ากับว่าเธอนั้นต้องระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า 3 ครั้ง 7 ครั้ง 108 ครั้ง เป็นการฝึกกลายๆให้จริตเราติดอยู่กับคุณพระ ติดอยู่กับกุศล

    เพื่อหวังสิ่งหนึ่งที่ว่า เมื่อจิตเราผูกพันธ์กับพระพุทธคุณเเล้ว คนเราก็จะตระหนักถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ท่านประทับอยู่ในใจในจิตวิญญาณของเรา เเม้นจะคิดชั่วทำชั่ว ก็อายพระ กลัวพระ นี่เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่เราใช้มาตลอด หากไม่รักษากำลังใจไม่นึกถึงคุณพระพุทธองค์เพราะคิดว่าดับขันธ์ไปแล้วนั้นก็ผิดถนัด เพราะว่าท่านก็อยู่กับพวกเราทุกคน อยู่กับคนที่นึกถึงท่าน อยู่กับคนที่ทำความดีละอายต่อบาป ท่านไม่ได้สิ้นพระชนม์ไปไหนเลยเเต่นั่งอยู่กลางใจของพวกเรา

    คาถาอาคมทั้งหลายที่ให้ไว้นี่ ให้เพื่อเป็นกำลังใจเป็นเครื่องเปลื้องทุกข์ จริงอยู่ที่คาถาอาคมนั้นถือเป็นอวิชชา ก็สิ่งพรางตาทั้งโลกนั้นเล่า แม้เเต่วิชาชีพที่พวกเธอศึกษาหากินทุกแขนงมันก็ล้วนเป็นอวิชชาทั้งสิ้น ดังนั้นจึงบอกจึงเตือนอยู่เป็นประจำนะ ว่าให้เอาดีทางฝ่ายกรรมฐานวิปัสนาตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าสอน ให้ปฏิบัติถือกันเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องทำ ส่วนไสยศาสตร์ทั้งหลายนั้นใช้ประดับให้เราเจริญรุ่งเรืองสืบสานวงศ์ตระกูลให้เป็นเกียรติเป็นสง่าปรากฏไว้ในโลกเพียงเท่านั้น

    เมื่อจุดประสงค์ของการให้คาถาอาคมต่างๆก็บอกไปแล้ว ก็เพื่อเปลื้องทุกข์ ให้ความหวังให้ที่พึ่งเเละเป็นกุศโลบายให้เข้าถึงคุณพระ ดังนั้นหากคนถือเครียดมากเกินไป จะไม่ส่งผลดีใดๆเลยทั้งสิ้น เพราะมันผิดวัตถุประสงค์ครูบาอาจารย์ไปเสียหมด

    มันจะมีอยู่ทั้ง 2 ลักษณะ ที่ว่าถือขึ้นทำได้ก็ไม่เครียดสบายใจ กับผู้ที่หวังผลนักหนาเเต่ศรัทธากับสภาวะจิตไม่ไปในทางเดียวกันก็ใช้ไม่ขึ้นพาให้ทุกข์ใจ เครียดยิ่งกว่าเดิม

    เราไม่ได้ให้สิ่งเหล่านี้เพื่อเป็นความงมงาย ไม่ได้ให้เพื่อให้เกิดทุกข์เกิดความไม่สบายใจแก่ผู้ใด เราหวังเป็นอย่างยิ่งเพียงแค่ว่าเธอทั้งหลายทำตามที่เราบอก ทำด้วยศรัทธา ระลึกถึงคุณพระผู้อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ให้ไปเพราะจะได้ระลึกถึงคุณพระคุณครูบาอาจารย์กันบ่อยๆ บทไหนยาวๆก็หมั่นสวด พอจิตสงบเรื่อยไปมันก็จะดิ่งลงสู่ญาณ ทุกอย่างที่ให้นี้ที่บอกให้ทำประจำเพราะมันแฝงผลดีอะไรไว้มาก มันสามารถนำมาต่อยอดให้ผลิดอกออกผลได้

    เมื่อจะภาวนาพระคาถาอะไรก็แล้วแต่อย่างพึงทำด้วยความเครียด เพราะเมื่อไหร่ที่เราเครียดมันจะไม่ใช่การภาวนาเลย ให้ถอยออกมาระงับไว้ก่อน ในเมื่อเราเครียดเราก็ต้องใช้ความคิด เปลี่ยนมาเป็นใช้สมองเเทนจิต ทีนี้ว่าเราเครียดอะไร อะไรเป็นสาเหตุของความเครียดนั้น เราจะคลายวิตกความกังวลนั้นอย่างไร นั่นเเหละคือการใช้ความคิดพิจารณาไปเถิด พิจารณาไปจนถึงจุดสิ้นสุดแห่งไตรลักษณ์ พิจารณาไปให้รู้แจ้งแทงตลอดในทุกๆสรรพสิ่ง เพราะการพิจารณานั้นก็เป็นทางทำให้ดวงตาตนเองเห็นธรรมด้วยเช่นกัน

    คนเราเกิดมาคู่กับความเลวเป็นปฐมทั่วทุกตัวคน มีทั้งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ประกอบขึ้นมาเป็นตัวเราเเต่ก็ไม่ใช่ตัวเรา เสมอหน้ากันหมดไม่มีละเว้นสูงต่ำ หน้าที่ของเราทุกคนก็มีเพียงทำพระนิพพานให้เเจ้งเท่านั้น หากพูดถึงพระนิพพานคืออะไรหลายๆคนก็ไม่เข้าใจเพราะยังไปไม่ถึง ดังนั้นก็ทำความเข้าใจง่ายๆ เพราะมันเป็นเรื่องง่ายๆ นั่นคือทำสิ่งอันติดมาเเต่ภพชาติเลวๆทั้งหลายให้สิ้นสุด ให้ไม่มีปรากฏอีกต่อไปเท่านั้น

    วันนี้ก็ขอจบไว้เเต่เพียงเท่านี้ก่อน เพราะพิมพ์มาค่อนข้างยาวเเล้วเดี๋ยวจะเบื่อกัน
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    เชิญร่วมทำบุญรับ พระปิดตาบรมครูหลวงปู่เฒ่ายิ้ม(จุ่มรัก)

    หากจะกล่าวถึง ที่สุดแห่งพระปิดตาในยุคปัจจุบัน ที่หาได้ยากและมีพุทธคุณสูงส่ง มีมูลค่าสูงมากคงจะหนีไม่พ้น พระปิดตาของหลวงปู่เฒ่ายิ้ม แห่งวัดหนองบัว

    ซึ่งต้องเล่าเลยว่าเป็นสุดยอดปรารถนาของผู้ที่ต้องการจะครอบครองเเละมีของปลอมเยอะมากถึงขนาดมีบันทึกไว้ว่าที่เซียนเล่นกันทุกวันนี้ก็ยังปลอมทั้งนั้น

    หลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัวนั้นเป็นสุดยอดพระอภิญญาโบราณ1ใน4รูป ที่แม้เเต่เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพรท่านยังให้การนับถือเป็นปรมาจารย์ของท่าน คือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง

    พ่ออาจารย์พลท่านมีความศรัทธาในองค์บูรพาจารย์เป็นอย่างมาก ประกอบกับท่านได้สืบสายหลักวิชาและอะไรมากมายในสายหลวงปู่เฒ่ายิ้มไว้ ท่านจึงมีดำริที่จะสร้างพระปิดตาขึ้นมาเป็นอนุสรณ์ซักรุ่น แต่กว่าจะทำได้เฉพาะการรวบรวมมวลสาร เพื่อให้ตรงกับที่หลวงปู่เฒ่ายิ้มเคยหาไว้ ก็กินเวลานานนับหลายสิบปีเลยทีเดียว

    มวลสารต่างๆนั้นประกอบไปด้วย
    พญากาฝากที่เป็นสิริมงคล108 คดไม้มงคล108 ไม้มงคลที่ตายพราย108 ว่าน108 เกสร108 ไม้ไผ่ตัน ไม้รวกตัน คดข้าวสารดำ ข้าวสารหิน สมุดใบข่อยใบลานเก่า ผงธูปบูชาพระ ข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธเจ้า กะลาตาเดียว กะลาไม่มีตา คดมะพร้าว กิ่งโพธิ์นิพพาน ไม้ไก่กุก ปูนากระตุกเดือน5 กบจำศีลเดือน5ตายคารู เขี้ยวงูจงอางที่ฝักไข่จนตายคาไข่ ไม้คานคุก ไม้คานประตูคุก ชันโรงกลางแจ้ง ไม้คานแม่หม้าย สากกะเบือแม่หม้าย ไม้คานและสากกะเบือของหญิงที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร เขาควายเผือกฟ้าผ่า เขี้ยวเสือโปร่ง เขี้ยวหมูตัน คดสมองวัว คดขนุน งาช้างดำ งากำจัด งากำจาย งาช้างน้ำ เขากวางคุด เขากระจงคุด งูปากเป็ด ตะไคร่โบสถ์ ตะไคร่เสมา ตะไคร่เจดีย์ กระเบื้องหลังคาโบสถ์ ดินสังเวชนียสถาน เพชรน่าทั่ง ดินกากยายักษ์ เหล็กสังขวานร เหล้กน้ำพี้ รังเหล็กไหล ข้าวตอกพระร่วง จิ้งจกสองหาง จิ้งจกห้าหาง อัญมณี ตะไคร่หลักเมือง น้ำฝนกลางหาว ผงพุทธคุณ ผงปถมัง ผงอทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช (พ่ออาจารย์ท่านได้เพิ่มผงพระสมเด็จ วัดระฆัง ของสมเด็จครูใหญ่เข้าไปด้วย)

    กว่าจะรวบรวมมวลสารจนครบตามตำราพ่ออาจารย์ท่านว่า เราต้องเจออาถรพพ์อะไรมามากมาย เเละยากกว่านั้นก็คือการบดเป็นผง ของบางอย่างกว่าจะบดได้ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงกินเวลาหลายสิบปี

    พ่ออาจารย์พลท่านว่า พระปิดตาของหลวงปู่ยิ้มนี้ คือยอดปรารถนาเเละเป็นยอดพระปิดตานะ วิชาการสร้างการเสกการลงของท่านมีพิธีรีตรองที่กระชับลงไปอีก พระปิดตาของหลวงปู่ผู้เฒ่ายิ้มนี้ถือว่าเป็นยอดของดีเลย แม้แต่พระเกจิดังๆแห่งยุค อย่างหลวงพ่อใจ วัดเสด็จ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อมนี่เป็นอย่างไร ยังต้องมาขอรับพระปิดตาของหลวงปู่เฒ่ายิ้มไปแจกลูกศิษย์ที่วัดท่านกันเลย

    พ่ออาจารย์ท่านจึงได้สร้างพระปิดตาเพื่อบูชาพระคุณของหลวงปู่ยิ้ม ท่านว่าไหนๆทำแล้วต้องเอาให้เค้าใช้เเทนของเก่าได้ หาพระปิดตาหลวงปู่ยิ้มแท้ๆยากมีสนนราคาเกินเอื้อม เรากล้าพูดว่ามาเอานี่ไปใช้ก็ไม่ต่างกัน

    โดยพ่ออาจารย์ท่านได้ใช้เนื้อผงมวลสารล้วน ต้องเรียกว่ามหามวลสารเลยมากดผงซึ่งอ่อนตัวประสานมาก ทำให้ท่านต้องลงรักดำไว้ภายนอกอีกครั้ง

    ซึ่งน้ำรักนี้ท่านก็เสกมาอย่างดี และนอกจากนั้นถือเป็นหัวใจเลย คือพระปิดตาจะมีตะกรุดหัวใจสอดไว้ด้านในทุกองค์ ซึ่งปกตินั้นสมัยหลวงปู่เฒ่ายิ้มยังดำรงค์สังขารเเละได้สร้างพระปิดตาไว้ พระปิดตาของท่านนั้น หาแท้ๆว่ายากนักหนาเเล้ว แต่องที่มีตะกรุดฝังนั้นเรียกได้ว่าหาไม่พบเจอเหมือนพูดถึงผีเเต่ก็ไม่มีใครเห็นกันเลยทีเดียว ยิ่งถ้ามีออกมาเมื่อไหร่สนนราคาคุยกันไม่รู้เรื่อง เเลกบ้านแลกรถเบ๊นได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านได้นิมิตรจากหลวงปู่เฒ่ายิ้มว่าให้ลงตะกรุดฝังไปด้วย ตามสูตรของหลวงปู่เฒ่ายิ้ม ท่านจึงลงตะกรุดมหาลาภใหญ่ตามสูตรของหลวงปู่ยิ้มเพื่อบรรจุไว้ภายในทุกองค์ บางองค์อาจจะกดให้เห็นภายนอกเลยก็มี ดังนั้นจึงถือได้ว่าท่านทำให้ดีให้พิเศษแบบนี้เสมอหน้ากันทุกองค์

    โดยพ่ออาจารย์ท่านได้นำพระขึ้นไปเสกบนยอดดอยในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาทั้งวันทั้งคืนเเละนอกจากนั้น ท่านยังเชิญอดีตบูรพาจารย์เจ้าของวิชาอย่างหลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว ลงมาเสกพระของท่านเองอีกด้วย ท่านถึงกล้าพูดว่า ใช้แทนกันได้ไม่ต่างกัน เพราะพ่ออาจารย์ท่านมีนิมิตรเห็นว่า หลวงปู่ยิ้มได้จับพระปิดตาขึ้นมาพร้อมกับพูดอยู่บ่อยๆว่าดีจริงๆ เราจะมาช่วยทำให้เอง ซึ่งอำนาจจิตของหลวงปู่เฒ่ายิ้มนั้น พ่ออาจารย์บอกว่าเป้นสิ่งที่เกินกว่าคนทั้งหลายจะจินตนาการได้ เเม้พระเกจิชื่อดังแห่งยุคก็เทียบไม่ติดฟุ่น

    ก็เป็นพระปิดตาที่มีขั้นตอนการสร้างค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อนหลายอย่าง ท่านไม่อนุญาติให้เล่า เฉพาะรวบรวมมวลสารก็ตกหลายสิบปี กว่าจะได้สร้างนั้น พ่ออาจารย์ท่านใช้เวลาอีกตกปีกว่าทีเดียว ถึงจะดำเนินการเเล้วเสร็จ

    ท่านว่าเพื่อให้เป็นยอดวัตถุมงคลเเห่งยุค มีพุทธานุภาพ ธรรมมานุภาพ สังฆานุภาพ และอิทธิคุณครบเครื่อง สุดแต่ผู้ใช้งานจะปรารถนาและอธิษฐานเถิด หลวงปู่เฒ่ายิ้มนี่ท่านศักดิ์สิทธิ์มาก

    การทำรูปพระปิดตานั้น มันก็มีหลายความหมาย อาจจะหมายใจเป็นวิชาพระพุทธเจ้าในครรภ์ เป็นพระสังกัจจายน์ปิดตาอธิษฐานดูบุพพกรรมอธิษฐานหาลาภ เป็นพระภควัมปติปิดตาพิจารณา เช่นนี้เป็นต้น แต่ทั้งหมดทั้งมวลพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าก็คือรูปของพระผู้สำเร็จ ผู้พ้นเเล้ว สำรวมอิริยาบทปิดตา เป็นอนุสติหลายๆอย่าง สุดแต่ผู้มีปัญญาจะคิดพิจารณาวิเคราะห์ออกมาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านลงไว้ครบทั้งหมดเป็นทั้งปิดตาพระพุทธเจ้าในครรภ์ พระมหากัจจายน์ปิดตา พระควัมปติปิดตา เป็นคติเดียวกันทั้งสิ้น ผู้บูชาได้ลาภใหญ่ เป็นเอกลาภ หาสิ่งใดเสมอเหมือนมิได้

    ซึ่งพระปิดตานี้ส่วนมากก็จะมีพุทธคุณหนักไปทางมหาลาภ มีกินมีใช้ไม่อดอยาก เป็นเมตตา เป็นมหาเสน่ห์ คุ้มครองป้องกัน อยู่ยงคงกระพัน มีครบหมดในองค์เดียว จะค้ำชู หนุนนดวง ฝืนดวง ทุกอย่างนั้นล้วนแต่เป็นอานุภาพของมวลสารเเละการเสกด้วยอำนาจจิตของครูบาอาจารย์เเต่ละท่าน

    เรากล้าพูดว่าต่อไปจะหาพระปิดตาที่ประกอบขึ้นจากมวลสารล้วนๆเช่นนี้ก็คงยากนักหนา ทำไว้ให้เป็นตำนาน พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะได้เเต่ละองค์นั้นไม่ใช่ง่าย กดพิมพ็เสร็จท่านต้องเอาตอกไม้ไผ่มาฝานมาตัดเนื้อพระที่เกินออก ให้ได้รูปพระปิดตาพอดี เเม้แต่ตากแดดรอพระเเห้งก็ยังต้องเลือกเวลาตอนอรุณรุ่งกับตอนเที่ยงวันบอกกล่าวขออำนาจเเห่งพระสุริยาทิตย์ หยุดเวลาเอาไว้เพียงแค่ตะวันตรงหัวให้ชีวิตคนที่ได้รุ่งขึ้นสูงขึ้นไม่มีตก ท่านว่ามีเเต่ขึ้นลูกเดียว

    * เนื่องจากองค์พระประกอบขึ้นจากมวลสารอาถรรพ์ ของสูง ของศักดิ์สิทธิ์มากมาย พ่ออาจารย์ท่านจึงไม่ได้เปิดให้บูชาเป็นการสาธารณะ ท่านว่า จะให้บูชาเฉพาะผู้มีศรัทธามั่นในพระรัตนตรัยเท่านั้น ไม่มีวางขายเกลื่อนกลาด ให้ทำบุญรับ เพราะปัจจัยที่ได้ก็รวบรวมไว้สร้างงานบุญต่างๆต่อเช่นกัน เมื่อคิดจะเช่าบูชาพระปิดตานี้ให้อธิษฐานให้ดี อนุโมทนาเงินที่บูชาให้ดี ท่านว่าถือซะว่าใช้เงินต่อเงิน ลาภต่อลาภ ทำบุญรับองค์พระไป นำไปห้อยบูชาให้ชีวิตสูงขึ้น

    คาถาบูชา(ระลึกถึงหลวงปู่เฒ่ายิ้มขอบารมีท่านเป็นที่สุด)
    นะปิดปาก โมปิดตา ตัสสะปิดหน้า ยะปิดหัวใจ อนิจจาสูญเปล่า นะชาลิติ นาสังสิโม นะโมพุทธายะ เอหิมะมะ 3 จบ 9 จบ 108 จบ

    เชิญร่วมทำบุญรับ พระปิดตาบรมครูหลวงปู่เฒ่ายิ้ม(จุ่มรัก) บูชา 1,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 18958802.jpg
      18958802.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.2 KB
      เปิดดู:
      86
    • SAM_46671.jpg
      SAM_46671.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.7 MB
      เปิดดู:
      92
    • SAM_46681.jpg
      SAM_46681.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      147
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2015
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    เปิดจอง พระของขวัญสำเร็จทันใจ (เนื้อผงสุริยกาล)

    มีรูปเคารพสำคัญอยู่สิ่งหนึ่ง ที่พ่ออาจารย์ท่านไม่เคยสร้างเลย เเละผมก็ตอบปฏิเสธผู้ที่มาขอเมตตาให้ท่านทำให้หลายครั้ง นั่นก็คือพระสีวลี

    พ่ออาจารย์ท่านเคยกล่าวว่าวิชาพระสีวลีนั้น ไม่ใช่ดีเเต่เพียงเรื่องโชคลาภ โภคทรัพย์เงินทองอย่างเดียว เเต่วิชาพระสีวลีที่ท่านเรียนมา หัวใจของพระสีวลีจริงๆนั้น ผู้ที่ใช้เขาจะพบกับคำว่าสบายในสิ่งที่เขาทำ เเละที่มากไปกว่านั้นมันเป็นเมตตามหานิยม เเละก็เป็นเสน่ห์ด้วย ครูเราสอนมาเช่นนี้จริงๆ เพราะตั้งเเต่ก่อนสมัยครูเราท่านก็ทำสีผึ้งพระสีวลีไว้ แต่ไม่ได้ทำไว้หาเงินหรือเสี่ยงโชค ท่านทำไว้ป้ายผู้หญิง ป้ายที่ไหนได้ที่นั่น เพราะท่านถือว่าพระสีวลีนี้คือบุคคลพิเศษ ในรอบหลายพันปีจะมีผู้ที่มีบารมีเต็มมาเกิดเเบบพระสีวลีนี้ยากนัก พระสีวลีนี้เป็นที่รักใคร่ชอบพอของคนทั้งโลกเเม้ว่ามนุษย์หรืออมนุษย์ทุกภพภูมิ ทั้งยังเป็นผู้มีปัญญาเปรื่องปราดฉลาดเฉลียว เเละเหนือกว่านั้นหากพระเป็นเจ้าสีวลีท่านได้ให้พรแก่ผู้ใดแล้ว คำพรนั้นหนักแน่นหนักหนาเหมือนเหล็กเพชรลิขิตแผ่นผา ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นและเป็นไปได้ถ้วนทุกประการ

    พ่ออาจารย์ท่านว่านางกวักเป็นอย่างไร นั่นก็ที่มีฤทธิ์วิเศษได้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพรของพระสีวลี เรื่องพรของพระสีวลีนี้ผมเคยเจอมากับตัวเเล้ว เอาไว้ค่อยเล่าเเล้วกันมันยาวมากๆ

    หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านก็ได้รับผงวิเศษและของอาถรรพ์ต่างๆมาสะสมไว้มากมาย แต่ท่านก็ยังไม่มีดำริจะทำพระสีวลีซักที จนกระทั่งท่านได้รับนิมิตรหนึ่งซึ่งเป็นมหามงคลอย่างยิ่ง

    ท่านว่าท่านได้เดินไปท่ามกลางพระภิกษุที่กำลังนั่งพิจารณาบาตรกันอยู่กลุ่มหนึ่ง แต่ละท่านก็ล้วนแต่เป็นครูบาอาจารย์ที่ท่านคุ้นหน้า ยกเว้นองค์ประธานที่นั่งอยู่หน้าสุด อันนี้ต้องบอกก่อนว่า ตอนท่านนิมิตรนี้ท่านเห็นตัวท่านเองห่มจีวรเเบบพระ และก็มีอาสนะด้านท้ายสุดเว้นว่างไว้ไม่มีผู้ใดนั่ง

    พ่ออาจารย์ท่านก็เลยตรงมากราบนมัสการท่านก่อน ท่านว่าถึงตรงนี้ท่านสื่อสารกับเราทางจิต เราไม่เห็นปากท่านขยับเลย เเต่เรารู้ว่าท่านพูดเเละบอกอะไร ซึ่งในการสนทนานั้นทำให้พ่ออาจารย์ท่านรู้ว่าพระภิกษุองค์ประธานนั้น คือพระคุณเจ้าสีวลีเถระ ท่านได้มีดำริกับพ่ออาจารย์ว่า เมื่อไหร่คุณจะกลับไปนั่งในที่ของคุณซักที ที่ตรงนั้นที่ว่างอยู่ยังรอคุณอยู่ตลอดนะ (ผมก็มานั่งคิดนะ ดีไม่ดีปลายปีนี้พ่ออาจารย์ท่านคงอาจจะได้บวชให้ครูบาอาจารย์อีกซักหนก็ได้) หลังจากนั้นท่านก็สนทนากันหลายเรื่อง สุดท้าย องค์พระสีวลีท่านจับมือของพ่ออาจารย์ขึ้นมากุมไว้ เเละก็ใช้นิ้วเขียนอะไรบางอย่างไว้กับมือท่าน

    พ่ออาจารย์ท่านว่านิมิตรนี้ถือเป็นมหามงคล เพราะเราได้เห็นรูปลักษณ์ของพระคุณเจ้าท่านอย่างใกล้ชิด เวลาเชิญเวลาจะทำอะไรทีนี้ก็ไม่ยากแล้วเพราะมีความผูกพันธ์ปรากฏในความจำได้หมายรู้ในสัญญาของเราเเล้ว เราเองก็ปรารถนาจะทำรูปพระสีวลีที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างการทำมาเหมือนกัน เราเชื่อว่าที่ท่านจับมือเรานั้นมันเป็นความรู้สึกที่ตื้นตันอยู่บ้าง เราก็จะใช้มือคู่นี้ทำรูปเคารพของท่านให้คนที่เรารักทั้งหลายเอาไปบูชา

    เมื่อมีความคิดเช่นนั้น ท่านจึงมาเเกะเเม่พิมพ์ โดยท่านได้กล่าวว่า พระพิมพ์นี้มีให้เอาไว้ใช้นะ เน้นการใช้งานสร้างเนื้อสร้างตัว ทุกอย่างในนี้ท่านว่าท่านเสกเเยกเอาไว้ทั้งหมด ท่านเเกะเเม่พิมพ์เป็นพระสีวลีทรงบาตร นั่งอยู่ในกลด มีน้ำเต้าอยู่ 2 ข้างซ้ายขวา ท่านว่าสิ่งต่างๆนั้นมีความหมายเเละพลานุภาพเเตกต่างกันไป
    - กลด กลดนี้ก็เหมือนที่อยู่ของคน กลดของพระวิปัสนาจารย์ ก็เหมือนมหาประสาทราชวังของพวกเรา ด้วยกลดนี้จะใช้ป้องกันได้ทุกสิ่งเหมือนฉันกางกำเเพงเเก้วไว้ทั้ง 7 ชั้น ไม่มีสิ่งไม่ดีอะไรจะหลุดรอดเข้ามาทำอันตรายเธอได้ ใครไม่มีบ้าน ไม่มีที่อยู่อาศัย เขาก็จะได้โดยบุพกรรมของเขา เพราะในตัวเขามีสื่ออยู่เเล้ว พระเถระท่านอาศัยอยู่ในกลด พึงใจอยู่ในกลดเสียยิ่งกว่าอยู่ประสาทราชวังหรือทิพย์วิมานเทวดาในชั้นฟ้าพระองค์ไหน เพราะกลดนี้คือที่อยู่อาศัยอันสำราญอิริยาบท ต่อไปคนที่เขาบูชาเขาก็จะมีพร้อมในที่อยู่อาศัยและจตุปัจจัยทั้ง4เช่นกัน
    - บาตร บาตรนี้คือขุมทรัพย์ ทุกสิ่งที่ปรารถนาล้วนสำเร็จได้มาเเต่บาตรนี้ เพราะเราเดินมนต์พระสีวลีอธิษฐานบาตร นี่คือบาตรของพระสีวลี ไม่มีอะไรเลยในโลกที่เป็นไปไม่ได้ เเม้เป็นไปไม่ได้เทวดาเขาก็จะหามาให้ เมื่อพระสีวลีเปิดบาตรคนทั้งหลายไม่ว่าจะยากลำบากหรือต้องดิ้นรนซักเพียงใดเขาก็ปรารถนาจะใส่บาตรกับท่าน ที่เราลงพระสีวลีอธิษฐานบาตรไปให้ เพื่อให้โชคลาภให้สิ่งที่เธอต้องการ มันวิ่งมาหาเธอเองเเบบง่ายดาย เธอจะได้ไม่ลำบากตะเกียกตะกายวิ่งไปหาพวกมัน มนต์นี้สำคัญนะ เเม้มีปัญหาอุปสรรคอะไรขัดขวางมันก็จะมาหาเธอจนได้ หยุดไว้ไม่ได้เลย เวลาอยากได้อะไรก็ให้เอาหน้าผากของตนจรดที่บาตรนี้แล้วอธิษฐานขอกับพระผู้เป็นเจ้านามว่าพระสีวลีเถิด
    - น้ำเต้า พ่ออาจารย์ท่านลงน้ำเต้าไว้ซ้ายขวา ซึ่งเเต่เเรกเราเห็นเรายังเผลอคิดไปว่าถ้าไม่มีน้ำเต้าคงจะสวยงามมากกว่านี้ ท่านว่าไม่มีไม่ได้ น้ำเต้านี้เราประจุพระมนต์มหาสูบเอาไว้ให้มีพุทธคุณดูดกลืนได้ทุกสิ่ง เหมือนกับหลุมดำที่ดูดไม่มีวันเต็มไม่มีวันอิ่มเเบบนั้น จะได้สูบเอาดูดเอาสิ่งดีงามเข้ามาสู่ชีวิตของตนเอง อันนี้ใช้สูบเอาพลังงานก็ได้นะ เวลาไปสถานที่ธรรมชาติดีๆทั้งหลายเช่นทะเลภูเขาต่างๆ อธิษฐานบอกกล่าวให้เขาสูบเอาพลังงานธรรมชาติก็ได้ และวางทิ้งไว้ซักครู่หนึ่งประมาณ 5 นาที แล้วก็นำกลับมา นี่ไงเราถึงเรียกว่าเเรงเเละเห็นผลไว เพราะเธออธิษฐานอะไรกับบาตรพระสีวลีไป มันจะทำงานพร้อมกับน้ำเต้าที่ลงมหาสูบเอาไว้ น้ำเต้าก็จะสูบสิ่งที่ต้องการเเละปรารถนาเข้ามาในขณะที่บาตรนั้นก็เปิดรองรับอยู่เเล้ว นี่เป็นเคล็ดวิชา ไอ้ที่ไม่ได้ไม่สำเร็จไม่มีทั้งหลายนี่ถือว่าแก้เคล็ดไปทุกอย่างเเล้ว เพราะเราแก้ด้วยอาถรรพ์และวิชา


    มวลสาร
    ในส่วนของมวลสารนั้น ท่านใช้สิ่งต่างๆผสมสร้างดังนี้
    - ผงวิเศษ5ประการของสมเด็จบรมครู คือสมเด็จโต วัดระฆังเป็นมวลสารหลัก อันนี้คือปรมาจารย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พ่ออาจารย์ท่านว่าหมดห่วง ผงวิเศษ 5 ประการของขรัวโตนี้ ดีครอบคลุมทุกอย่างมีครบทุกทาง
    - ผงวิชาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ ของหลวงพ่อปาน ซึ่งสืบทอดมาถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และพ่ออาจารย์ท่านได้มาในปริมาณที่ไม่มากนัก(แต่ก็ถือว่ามากอยู่ดี) พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้สำคัญนักหลวงพ่อฤาษีท่านย้ำนักหนาว่าให้เก็บไว้ให้ดี ใครมีเอาไปใช้เเละหมั่นทำบุญ มีเเต่รวยเจริญขึ้นทันตาเห็น ซึ่งปกติสมัยหลวงพ่อปานมีชีวิตอยู่ ผงนี้จะใช้อุดรูพระผงพิมพ์ทรงสัตว์ต่างๆเเต่เพียงนิดเดียวเท่านั้น หาพระของท่านแท้ๆไม่ได้มาเอาองค์นี้ไปใช้เเทนกันได้เลย
    - นวดพระสีวลี ซึ่งเป็นนวดของครูบาอาจารย์ฆราวาสในดงที่ถ่ายทอดวิชาให้พ่ออาจารย์ท่านมีอิทธิคุณแรงกล้าในเรื่องโชคลาภโภคทรัพย์ มหาเมตตาใหญ่ และมหาเสน่ห์ใหญ่ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้มาขวดหนึ่ง นวดนี้มีอายุตก40-50ปี ท่านว่านวดนี้มีพิธีการหุงที่พิเศษเเตกต่างจากสีผึ้งสายเทพ เเละสายพรายทั่วไป มีวิธีการสร้างที่แปลกประหลาดจนเราไม่คิดว่าจะหาใครมาทำได้เป็นคนที่สอง เพราะขนาดตัวเราเองก็ยังทำไม่ได้ ถึงจะเรียนไว้ เเต่อะไรหลายๆอย่างมันหาในยุคนี้ไม่ได้เสียเเล้ว ครั้งนี้เอามาใช้ให้เผยเเพร่ออกไปก็จะเป็นนวดในตำนานที่หมดเเล้วก็ไม่มีการสร้างขึ้นมาอีก
    - ผงหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ อันนี้ก็มีประสบการณ์เรื่องเมตตามหาเสน่ห์เป็นที่ยอมรับในวงกว้างสุดๆเหมือนกัน
    - ผงสุริยกาล ผงนี้ท่านว่าเป็นของวิเศษท่านได้มาตก 30 ปีก่อนสมัยท่านบวชเเละธุดงค์เข้าไปในถ้ำทางภาคเหนือ อันนี้ท่านไม่ได้ระบุพิกัดให้ใครทราบเพราะท่านเก็บไว้ไปเอาของท่านเอง ท่านว่าในถ้ำนั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงรักษาอยู่ ท่านได้พบกับกองผงสีเเดง วางอยู่บนเเท่นหิน เเม้จะตักไปปีต่อมากลับมาดูก็ยังเพิ่มพูนขึ้นเท่าเดิมไม่พร่องลงเเต่น้อย ท่านว่าเป็นของดีมีกายสิทธิ์มันงอกเงยเพิ่มพูนเองได้ คนใช้จะได้งอกเงยไม่อยู่กับที่ ท่านกำหนดจิตถามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดูก็ได้ผลปรากฏว่าเป็นผงชานหมากน้ำหมากของพระสีวลีที่ท่านเคยมาคายเอาไว้ตอนท่านฉันหมากที่ดอยนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจึงเข้าพิทักษ์รักษาเอาไว้อย่างดี พ่ออาจารย์ท่านจึงเก็บสะสมไว้เพื่อวันหนึ่งจะได้นำมาทำรูปเคารพของพระสีวลี ท่านว่าของที่ทำนี่มีเชื้อมีบุญจากองค์ท่านโดยแท้ ชานหมากนี้ได้ทั้งลมหายใจ น้ำลาย ไอปาก ปราณชีวิต ล้วนอยู่ในนี้ทั้งหมดเอามาทำจะได้มีญาณของท่านอยู่ทุกองค์ นอกจากมีบารมีของพระมหาเถระเเล้วยังได้บารมีของเทพยดาเเละกายสิทธิ์ที่เข้ารักษาอีกด้วย ที่เราเรียกว่าผงสุริยกาลเพราะมันเป็นสีแดง สีแดงนี่สีของพระอาทิตย์ มีฤทธิ์มีกำลังแรงกล้า ซ้ำยังเป็นสื่อของความร่ำรวย มีไว้ไม่อับจน
    - ผงลบพุทธคุณ พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านลบผงไว้ในสายวิชาพระสีวลีทั้งหมดทั้งพระสีวลีขอลาภ สีวลีเปิดบาตร สีวลีอุ้มทรัพย์ สีวลีเรือนหลวง สีวลีรับทรัพย์ สีวลีหาลาภ
    พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้มวลสารเหล่านี้มากดพิมพ์ ก่อนกดนั้นได้เอามาเสกเเยกอีกครั้งหนึ่ง ท่านว่าเสกจนมีลมหมุนเข้ามาผงฟุ้งขึ่นไปและเเมงมุมทุ่มอก จิ้งจกปี้กันตรงตามอาถรรพ์ในตำรา ถึงมั่นใจนำออกมาผสมกัน ท่านว่าถ้าเอาเสน่ห์หรือโชคลาภ คนใช้ก็หัวกะไดไม่เเห้ง


    ของวิเศษต่างๆ
    พระผงรุ่นนี้มีฝังของพิเศษเยอะมากเป็นประวัติการณ์ สืบเนื่องจากว่าพ่ออาจารยท่านไม่ค่อยทำงานไม้แกะเเบบสมัยก่อนเเล้ว ทำให้มีคนอยากได้งานชิ้นไม้แกะกันมาก เเละประกอบกับค่าครองชีพทุกวันนี้สูงขึ้น ท่านก็อยากจะทำของดีที่ใช้เเล้วถือว่าคุ้มค่าจริงๆไม่ต้องพกหลายองค์ ท่านจึงเมตตา นำแก่นไม้รักแดงอาถรรพ์ ที่ขึ้นแทงต้นกาหลง ท่านว่าทั้งรักทั้งหลงไปไหนไม่รอดจนตายอยู่ตรงนั้นทีเดียว เเถมยังขึ้นอยู่ในบริเวณที่ไม่น่าจะขึ้น เพราะเป็นสถานที่อาถรรพ์อีกด้วย ท่านนำมาประสระ เเละอธิษฐานจิตเก็บไว้เพื่อใช้แกะของต่างๆ ท่านว่าต่อไปไม้ตัวนี้จะเป็นตำนาน เป็นของหายาก ซึ่งในรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านได้นำมาแกะของวิเศษไว้ 2 ชนิด
    1. พ่อยักษ์แดง หรือองค์ท้าวเวสสุวรรณ ในปางยักษ์ ซึ่งท้าวเวสสุวรรณนั้นมีอะไรที่ค่อนข้างจะผูกพันธ์กับท่าน ถึงขนาดไปเข้าฝันคนที่อยู่ไกลๆให้มาตามหาพ่ออาจารย์ให้ทำของให้อยู่บ่อยๆก็เคยมีปรากฏมาเเล้ว พ่ออาจารย์ว่าท้าวเวสที่ท่านรู้จักนั้น เป็นท้าวเวสที่เกษมสำราญมีความสุข พระองค์อยู่ในประสาทของพระองค์แวดล้อมไปด้วยนางฟ้าที่สวยงามมากมาย จนไม่สามารถนับองค์ได้เลยทีเดียว เหมือนเป็นยอดบุรุษที่อยู่เหนือสตรีนับแสนนับล้านอันมาเกิดขึ้นในวิมานของพระองค์ ท่านว่ายิ่งว่าพญาเขาคำเสียอีก และเเต่เดิมท้าวเวสเองก็เคยมีดำริตอนพ่ออาจารย์สร้างรูปท่านว่าไม่อยากให้ทำรูปยักษษ์เพราะจะเเรงเกินไป ที่เป็นรูปยักษ์นั้นถ้าท่านจะทำก็คอยเอาไว้ทำให้คนดีเขาเอาไปใช้ จะบอกกล่าวหรือขออะไรก็ล้วนเเต่ช่วยให้สำเร็จได้ทั้งนั้น ปู่เวสนี่ท่านทำได้ทุกอย่างอย่างเเม้เเต่ตามคนหาย พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนปู่โสมเฝ้าทรัพย์เลย เป็นเจ้าของสมบัติในเทวโลกไม่ว่าจะเทวดาวิมานไหนสวรรค์ชั้นไหนต้องมารับทรัพย์รับการเเบ่งปันจากท้าวเวสสุวรรณทั้งนั้น ซ้ำยังเป็นผู้ควบคุมทรัพย์ในปฐพีในแผ่นดินอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนทำเเกะเสร็จเอามาเชิญองค์ท่านลงเเล้ว ต้องเจรจากันอยูู่พักใหญ่เลยทีเดียวเพราะคิดเเต่ว่าคนเอาไปใช้เขาจะต้องได้ดีไม่ติดปัญหาอุปสรรคอะไร ต้องมั่งมีได้ตามใจนึก ก่อนจะลงอาถรรพ์ครอบไว้อีกครั้งหนึ่ง
    2. พญาปลาศผริ วิชาปลาศผรินี้ ท่านว่าเกรงจะสูญหายไป เพราะไม่มีคนรู้คนทำ จะไปทำปลาอานนท์กันเสียมาก ท่านว่าเราไม่เอา ปลาอานนท์นั้นเป็นปลาโฉดเขลาทำลายตัวเองไม่ได้ทำคุณประโยชน์อะไรให้เเก่โลกหรือผู้อื่น มีเเต่สร้างความเดือดร้อนให้สัตว์ทั้งหลาย ท่านจึงทำพญาปลาศผริเเทน ซึ่งปลาศผรินี้ก็คือปลาวิษณุอวตารลงมาปราบอสูร มีกำลังเเละบารมีเเห่งพระนารายณ์ผู้เป็นเจ้าอยู่เต็มเปี่ยม พร้อมจะช่วยเหลือทุกคน นี่ถ้าพระนารายณ์มา การณ์แห่งทุกข์จะคลี่คลายไปโดยฉับพลัน พ่ออาจารย์ท่านว่า พญาปลานี้มีคุณแก่มนุษย์นักหนา ด้วยว่าตอนน้ำท่วมโลกนั้น ได้ช่วยพระมนูไววัสวัตอันเป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์ในพื้นพิภพไว้ ไม่ให้โดนน้ำท่วมตาย ทั้งยังบอกวิธีเอาตัวรอดเเละเสด็จมาชักลากจูงเรือเเละคอยปกป้องมหานาวาอันเป็นศูนย์รวมของพืชพรรณเเละสิ่งมีชีวิตที่พระมนูรวบรวมไว้ ให้ฝ่าวิกฤติหลุดพ้นหายนะได้ พ่ออาจารย์ว่าปลาศผรินี้ถือว่ามีพระคุณแก่มนุษย์โลกโดยเเท้จริง วิชาปลาศผรินี้ เมื่อได้รับพญาปลาไปแล้ว ให้เอามาอธิษฐานบอกกล่าวว่าต้องการอะไร ใช้ได้ 2 แบบ
    - ถ้าจะไปไหนไปทำอะไรต้องการความสำเร็จ ก็ให้หลับตา นึกเห็นเป็นปลากรายทองตัวใหญ่มีหงอนอยู่บนหัว ตั้งนิมิตรของเราเอาไว้ พร้อมภาวนาคาถา ให้ปลากรายทองนั้นชักนำเราไปสู่สิ่งที่เราปรารถนา จะไปสอบไปบรรจุ ไปเจรจาความ ไปคุยงาน ไปทำงาน ไปจีบสาว ต้องการอะไรก็ตั้งนิมิตรเอาท่านว่าใช้ได้ทั้งหมด ให้เห็นว่าปลากรายทองนี้พาเราไปจนถึงความสำเร็จเเล้วก็ลงมือทำได้
    - ถ้าปรารถนาโชคลาภหรือ ใช้ในทางเสน่ห์เล่ห์กล ก็ให้ตั้งนิมิตรเช่นเดิม พ่ออาจารย์ท่านว่าอยากได้อะไรก็ให้นึกถึงสิ่งนั้น เงินทอง คนสัตว์สิ่งของนึกถึงสิ่งนั้นไว้นึกถึงหน้าเขาไว้ ภาวนาคาถา และจินตนาการให้เห็นนิมิตรเป็นปลากรายทองตัวใหญ่ได้มาอมเหยื่อตะครุบเหยื่อไว้ในปาก ท่านว่าเพียงเท่านี้ ทุกสิ่งที่ปรารถนาก็จะได้มาโดยง่าย
    3. ตะกรุด ในพระผงของขวัญสำเร็จทันใจนี้ จะมีตะกรุดที่พ่ออาจารย์ลงวิชาไว้ถึง 4 ดอก คือ
    - แสนนางค้ำ วิชานี้ท่านว่าเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างยิ่ง ผู้ได้ครอบครองถือว่าเป็นที่หมายปองในหมู่อิสตรี มันอยู่ที่ใจคนใช้นะถ้าใจเราอยากได้ไปทางโชคลาภสตรีเหล่านั้นเค้าก็จะนำพาโชคลาภมาให้ จะได้คนดีเป็นเกียรติเป็นศรีแก่ตนเอง ซ้ำยังได้คนที่ค้ำคูณตัวเองไว้อีกด้วย เเม้ได้ก็ไม่ตกต่ำลง วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านหวงอยู่มาก ไม่เคยหลุดปากหรือทำให้ใครเลย มาดูการจารอีกขระของท่าน ท่านก็ทำไว้ซะหน้าตะลึงจริงๆชนิดที่ว่าตะกรุดดอกเล็กๆที่ท่านจารขนาดนี้ออกให้บูชาดอกละ4-5พันก็ยังไม่น่าเกลียด
    - เศรษฐีเรือนหลวง เป็นเศรษฐีเรือนเอก เศรษฐีหลวงของราชสำนัก ท่านว่านอกจากมีเงินทองมากมาย ยังมีเกียรติยศเป็นที่นับหน้าถือตา ดีทางโชคลาภ เมตตา ค้าเเม่นขายหมาน ซ้ำผู้ได้ครอบครองไว้ชีวิตนี้จะมีเเต่ความสุขความเจริญโดยส่วนเดียว เลื่อนระดับขึ้นเป็นเจ้าพระยามหาเศรษฐี ใครที่ครอบครัวมีปัญหาคนในครอบครัวไม่รักเราไม่ปรองดองกับเรา มีตะกรุดนี้อยู่ท่านว่าสบายใจไปได้เลย สนิทสนมรักใคร่กลมเกลียวมีเเต่ความสุข
    - มหากัน เป็นสูตรตะกรุดวิชามหากันทางล้านนาที่พ่ออาจารย์ท่านใส่เพิ่มไว้ ใครมีไว้จะคุ้มตัวไม่ให้คนอื่นมาทำอันตรายได้ ท่านว่าใส่ไว้ในนี้แหละดี โชคลาภของเราใครคนอื่นก็มาเอาไปไม่ได้ ทีสำคัญยันต์นี้กันคัดกันถอน ต่อให้ผู้มีอาคมที่ไหนเห็นเราได้ดีเกิดความอิจฉาจะคัดถอนของเราก็ไม่สามารถทำได้ และอีกอย่างหนึ่งคือไม่มีใครข่มเราได้ คนจะรวยเค้ากลัวกันตรงนี้ กลัวคู่เเข่งกลัวคนข่ม พ่ออาจารย์บอกว่าอานุภาพของะกรุดตัวนี้กันข่มเขาไว้ทั้งหมด สบายใจได้เลย
    - สำเร็จทันใจ ตะกรุดดอกนี้ถือว่าสำคัญที่สุดไม่ได้ถ่ายให้ดูพระยันต์ด้านใน พ่ออาจารย์ท่านฝังไว้ด้านหน้า ท่านว่านี่เป็นเเหล่งพลังงานสำคัญขององค์พระเลย เพราะว่าท่านจารอักขระเเบบเดียวกับที่องค์พระสีวลีท่านจับข้อต่อเเขนเขียนลงบนมือท่าน ท่านถือว่าพระสีวลีท่านให้สิทธิ์ในวิชานี้แก่ท่านเเล้วเป็นอักขระที่ท่านไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เมื่อเขียนลงไปเเล้วก็เชิญองค์พระสีวลีให้ท่านมาสำเร็จวิชานี้ตะกรุดนี้ ท่านว่าเป็นมหาสำเร็จ ใครคิดหวังอะไรเป็นสำเร็จทุกเรื่อง คอยหนุนส่งพลังงานความคิดของเรา หนุนส่งอิทธิคุณของมวลสารเเละของวิเศษในองค์พระ


    คาถาบูชาพระของขวัญสำเร็จทันใจ (เนื้อผงสุริยกาล)
    ชาตังพุทโธ โหติสัมภะโว อะสังวิสุโลปุสะพุภะ นะโมพุทธาธา สัทธะวิปิปะสิอุ มะอะอุ นะวีอุณาโลมาพุทธะชายะเต นะชาลิติ ชาลิตินะ ลิตินะชา ตินะชาลิ เอหิสมา ตะมิพิชะ นะปะโพวิเยปะนะ เอยะ โลตะนะรังโล สีวลี จะมหาเถโร เถรัสสามะหะเตโน อสุรโห ชโรทินนัง มหาลาภัง เม ภวันตุ(ระลึกถึงพระสีวลีเป็นที่สุด)
    โอมนะโม มหาเวสสุวรรณโณ มหาไตรโลโกทิพจักขุง มหาไตรโลกานัง มหาภูเตรสาวกัง ทิพพะมันตัง อรหังพุทโธ นะโมพุทธายะ เวสสะพุสะ นะมะพะทะ อรหังอะสังวิสุโลปุสะพุภะ มะอะอุ อิสวาสุสุสวาอิ อิติอิติ มหาเทวัง มหายักขัง ปัตตโลกัง มหาอิทธิฤทธิ อิทธิฤทธัง อรหังประสิทธิเม (ระลึกถึงท้าวเวสสุวรรณเป็นที่สุด)
    กันเหหิคงคานะ วิริยะภุมมะอากาสสะปันดา อนุภูมิคงคามหาสมุทธา อารักขะเทวตา สทาตุมเห นะรักขันตุ(ระลึกถึงปลากรายทองศผริใช้เรียกได้ทุกสิ่ง)


    เนื่องจากมวลสารมีจำกัด จึงพิมพ์พระออกมาได้เพียง 20 องค์ เเละพ่ออาจารย์ท่านเสกเเละลงวิชาอาถรรพ์ไว้อย่างเต็มที่ ก่อนจะทำการเจิมเบิกเนตรและอธิษฐานจิตเชิญพระสีวลีเถระให้มารับรู้เเละให้พรเเก่ผู้ศรัทธานำไปบูชาทีละองค์ ก่อนเสกประจุวิชารวม
    ด้านหน้าองค์พระ จะโรยเเร่โคตรเศรษฐี ท่านว่าไม่ต้องการความสวยเเต่ต้องการความขลังเน้นมวลสารศักดิ์สิทธิ์เเละธาตุกายสิทธิ์ แร่โคตรเศรษฐีนี้ใครได้ไว้ก็เป็นไปตามชื่อ จนไม่ลงเพราะเราเอามากำกับด้วยมนต์สายหลวงพ่อปานไว้อีกรอบ


    สำหรับพระของขวัญสำเร็จทันใจ (เนื้อผงสุริยกาล) เปิดให้ร่วมสั่งจองทำบุญบูชา ใครต้องการจะใช้จริงๆ ค่อยสั่งจองมาพ่ออาจารย์ท่านว่ามีบารมีของงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า องค์พระสีวลีตลอดจนครูสมเด็จเเละองค์หลวงพ่อปาน เทพยดาทั้งหลายเต็มบารมีพุทธภูมิ ร่วมทำบุญกันรับพระรับของดีที่วิเศษสุดองค์นี้ไป

    เปิดจอง ร่วมทำบุญบูชา พระของขวัญสำเร็จทันใจ (เนื้อผงสุริยกาล) องค์ละ 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitled.png
      untitled.png
      ขนาดไฟล์:
      89.8 KB
      เปิดดู:
      90
    • somdajto.jpg
      somdajto.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.8 KB
      เปิดดู:
      95
    • S__2359311.jpg
      S__2359311.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.5 KB
      เปิดดู:
      109
    • SAM_46711.jpg
      SAM_46711.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.6 MB
      เปิดดู:
      155
    • SAM_46741.jpg
      SAM_46741.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.6 MB
      เปิดดู:
      251
    • SAM_4664.JPG
      SAM_4664.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      185
    • SAM_4666.JPG
      SAM_4666.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      88
    • SAM_4665.JPG
      SAM_4665.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      87
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2021
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ตะกรุดพ่อพญาเมืองมอญรุ่นแรก (ตัวพ่อ ดัน ได้ ดี)

    รายการนี้ก็ลงไว้เผื่อมีใครสนใจ เป็นวิชาตะกรุดที่ดูแล้วก็ทำยากพอสมควร เดิมทีนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังไม่เคยทำตะกรุดวิชาสายมอญออกมาเลย เพราะว่าวิชาทางสายนี้ท่านว่าเป็นศาสตร์อีกแขนงหนึ่ง ที่มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ และมีพิธีกรรมมากมายก่อนจะตกผลึกมาเป็นศาสตร์แบบเขมรประยุกต์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

    วิชาตะกรุดมอญ หรือตะกรุด ดัน ได้ ดี นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาของครูบาอาจารย์่าน ที่เมื่อก่อนเวลาทำ จะเลือกทำให้เฉพาะผู้มีบุญญาธิการ ใครได้ไปจะเปลี่ยนจะพลิกชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือ เป็นวิชาการทำตะกรุดทางสายมอญซึ่งไม่ค่อยมีใครทำกันปัจจุบันก็จะค่อยๆเสื่อมสูญไป เนื่องจากมีฤกษ์ยามเฉพาะ เเละการลงนั้นจะต้องมีขันธ์เเละเครื่องบูชาครูเฉพาะสาย ทำให้ท่านทำเก็บไว้ได้ไม่มาก

    ในรุ่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านปรารถนาจะให้มีพุทธคุณสูง ท่านว่าดีจากข้างในเลย จึงได้เก็บตัวทำวิชาโดยเฉพาะ
    - เริ่มจาก ให้นำตะกั่วอวนเจ้าสมุทร หรือตะกั่วอวนตีนแหที่เลิกใช้งานเเล้วมีผู้นำมาบริจาคให้ ท่านว่าตะกั่วนี้สำคัญนัก ดียิ่งกว่ามนต์จินดามณีเสียอีก เพราะใช้ลากใช้คร่าชีวิตมานับหมื่นนับเเสน มีอาถรรพ์พรายสมุทรอยู่ในตัวเอง เมื่อได้มาเเล้วต้องทำพิธีประสระล้างเสนียดเเละอาถรรพ์ทั้งหลายทิ้งไปเสียคำรบหนึ่งก่อนจะได้ดีต่อคนนำไปใช้ เเละจึงนำมาเเช่น้ำมนต์ประกอบพิธีอธิษฐานจิตจนเข้าที่
    - หลังจากนั้นจึงนำมาลงอักขระเลขยันต์สายมอญ เเละนำค้อนปอนด์มาค่อยๆทุบตีที่ตัวอวนเจ้าสมุทรนี้ พ่ออาจารย์ว่านว่าเเข็งใช้ได้เลย ทำทีทุบเป็นวันๆ เป็นวิธีการที่ต้องต้องการจะจารลงถมเพื่อให้เป็นชนวนตะกั่วที่ได้ชื่อว่าอาถรรพ์ที่สุด ท่านว่าจารทุบ จารทุบอยู่หลายเดือน กว่าจะครบ 108 ครั้ง ตามตำรา
    - เมื่อได้เนื้อที่จะทำตะกรุดเเล้วท่านก็นำส่งไปให้ร้านที่ท่านสั่งซื้อตะกั่วเข้าเครื่องรีดให้ ซึ่งทำให้ได้เเผ่นมหามวลสารที่เป็นชนวนเพื่อที่จะใช้ลงตะกรุดเป็นตะกั่วเนื้อละเอียด ดูแน่นๆต่างจากเเผ่นตะกรุดที่เคยใช้งานมาทุกครั้ง

    พ่ออาจารย์ท่านว่ารีดมาได้ตัดเสร็จเเล้วมีอยู่เเค่ 10-20 ดอก จะทำบูชาครูสายมอญพม่ารามัญ ก็ตั้งใจเอาให้มันดีที่สุด ได้ชื่อว่ารุ่นเเรกครั้งเเรกจะได้เป็นมาตรฐานของครั้งต่อๆไป ท่านลงด้วยวิชามอญที่อาจารย์ท่านได้ถ่ายทอดไว้ให้ ซึ่งเป็นอักขระเฉพาะเเละบังคับ

    ท่านว่าเราทำเครื่องรางต่างๆในสายบารมีของอิตถีนารีมาเยอะเเล้ว ครั้งนี้จะทำว่าด้วยบารมีของพ่อบ้าง จะได้ไม่ขาดกัน เพราะไม่มีพ่อ ใครๆก็เกิดมาไม่ได้ทั้งนั้น ท่านว่าตะกรุดดอกนี้ท่านอธิษฐานจิตให้ตกถึงมือเฉพาะผู้มีบุญญาธิการตรงตามตำราที่ระบุไว้เท่านั้น ว่าผู้มีบุญถึงจะใช้ได้เเละได้ครอบครองเป็นเจ้าของ ถ้าไม่มีบุญหาไปก็ไม่มีวันเจอ

    วิชามอญตัวนี้แปลกนัก เพราะว่ามันจะเสริมสร้างความกล้าหาญ ฉลาด หลักแหลมให้กับผู้บูชา ซ้ำยังเป็นมหาปราบ คือปราบได้ทั้งมนุษย์และอมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นบนบก ในน้ำ หรือในอากาศ มีอิทธิฤทธิ์มาก ถ้าใครโดนแกล้งโดนทำร้าย หรือมีศัตรูที่ไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเเน่ใจนะว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกเดี๋ยวจะกลายเป็นบาปกรรมติดตัวไป ให้เอาชื่อนามสกุลของคนที่เขาปองร้ายเรา สอดใส่ไว้ในตะกรุด เขาก็จะพินาศปราศนาการไปเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตำรานี้มีดีอยู่มาก เพราะตะกรุดนี้ หากผู้ใดได้ใช้นับวันจะยิ่งมีฤทธิเพิ่มขึ้น ให้คาดติดเอาไว้กับตัว จะโดนลมพัด โดนน้ำโดนฝน หรือวันโกนวันพระ ท่านว่าตะกรุดจะยิ่งมีฤทธิ์เพิ่มขึ้น พ่ออาจารย์ท่านถึงกับออกปากว่าก็ที่ไหนในโลกที่มันไม่มีลมบ้างเล่า ใส่อาบน้ำนี่ก็โดนน้ำกันทุกวันอยู่เเล้ว ยิ่งวันโกนวันพระ ถ้าคนใช้เขาฉลาดนำมาสวดมนต์ไหว้พระจะยิ่งมีฤทธิ์มากขึ้นอีกเป็นพิเศษ

    พุทธคุณเอกที่เป็นสิ่งที่ต้องการจะบอกจริงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ใครได้ไว้ เหมือนได้ความรักจากพ่อ เเม้นต่ำเตี้ยเรี่ยดินโดนกลบฝังอยู่ในโคลนตม ก็จะมีอาถรรพ์มีแรงหนุนฉุดกระชากให้โงหัวขึ้นมา จะทำอะไรบอกกล่าวกับเจตสิกธาตุรู้ในตะกรุดนี้ อำนาจของพระครูเมืองมอญเจ้าตำรับวิชาท่านจะช่วยดึงฉุดยื้อยุดแบกหาบค้ำจุนหนุนส่งคนที่ถือไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นอาถรรพ์ของวิชามอญ

    วิชานี้เท่าที่เคยลองจารลองเสกให้คนนำไปใช้ ท่านว่าไม่มีนิ่งอยู่กับที่ซักคน เห็นได้ดีกันทุกคน คนจนก็เจอช่องทางทำมาหากินกลายเป็นเศรษฐี ข้าราชการก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นเอาๆเเซงเพื่อนรุ่นเดียวกันไม่รู้กี่ขั้น ท่านว่าขนาดลงเเผ่นตะกั่วธรรมดาๆเลยนะ มันดันจนได้ดีกันทุกคน มาดูมารู้ตัวอีกทีคนที่ได้ที่พกเขาไม่ใช่คนเก่าไม่มีอะไรแบบตอนเเรกเสียเเล้ว เขาหวงตะกรุดนี่เสียยิ่งกว่าอะไร

    ก็เลยตั้งชื่อไว้ว่าตะกรุดตัวพ่อดันได้ดี เพราะสมัยก่อนหากทำให้คนใช้จากยาจกไม่มีจะกินต้องได้เป็นถึงเจ้าพระยาพานทอง ถึงได้บอกได้ย้ำว่าเป็นของคู่บุญ มีไว้เหมือนมีพ่ออยู่กับตัวคอนหนุนส่งผลักดันให้เจริญ ท่านว่าผลักดันนะไม่ใช่ดันทุรัง ถ้าผลักดันมันมีเเต่ขึ้นทั้งวันทั้งคืน ได้ความเจริญได้ความสำเร็จมาแบบหนักแน่นมั่นคง เเต่ถ้าเป็นดันทุรัง ได้วันนี้ พรุ่งนี้จะเหลืออะไรหรือไม่ มันจะคงอยู่กับเราไปได้นานซักเเค่ไหนก็ไม่ทราบได้ คนสมัยนี้มักจะมองข้ามของที่มีคุณแบบนี้และมักจะไปแสวงหาของที่ดันทุรังกันมันเลยไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน นี่อานุภาพของตะกรุดตัวพ่อดันได้ดี ท่านว่าเเล้วเเต่จะขอจะใช้เลยขอได้ทุกอย่างจะให้พาลพบเจอกับอะไรก็ตั้งปรารถนาเอาไว้ อยากเด่น อยากดัง อยากได้ดีกว่าใคร ต้องเอาไปใช้เเล้วจะรู้เอง ท่านว่าจะรู้สึกได้เองเวลาทำอะไรเหมือนมีใครให้ความช่วยเหลือคอยดันเราอยู่ข้างหลัง เหมือนพ่อคอยส่งเสริมลูกไม่มีวันทิ้งลูกเกื้อกูลกันไปไม่หยุดเช่นนัน

    วิธีใช้
    ท่านว่าให้กำจะกรุดให้เเน่น ภาวนาธาตุทั้ง4 เนี๊ยะ เมี๊ยะ เพี๊ยะ เที๊ยะ เพื่อให้พ่อตะกรุดได้ปรับสมดุลย์ในร่างกาย กำภาวนาไว้จนกว่าจะรู้สึกว่าตะกรุดตอดมือตุบๆ หรือเกิดอารมณ์ปิติมีความสุข (มีเวลาว่างก็ให้ทำได้ตลอด)
    หลังจากนั้นเวลาอธิษฐานหรือจะขออะไรจากพ่อตะกรุด ท่านว่าให้ทำจิตให้นิ่ง ตั้งจิตบอกกล่าวอธิษฐาน เอามืออุดรูตะกรุดอีกข้างเอาไว้ คิดอะไร บอกความต้องการเขาเสร็จ เเล้วก็เป่าใส่เข้าไปในรูตะกรุด ตะกรุดนี้จะเลี่ยมก็ได้ไม่เลี่ยมก้ได้ ท่านว่าถ้าเลี่ยมก็อย่าเลี่ยมปิด เพราะเราต้องเปิดออกมาอธิษฐานเป่าผ่านรูตะกรุดบ่อยๆ เนื่องจากชีวิตคนคนหนึ่งนั้น เรื่องที่ปรารถนาอยากได้มันมีอยู่เยอะ ขอให้ถูกต้องทำนองคลองธรรม เเล้วจะเห็นเองว่าเขาสงเคราะห์กันเต็มที่

    * ท่านว่าเป็นการทำตะกรุดวิชามอญตำรับมอญครั้งเเรก วิชาสายมอญนั้นท่านว่าแรงกว่าสายขอมธรรมดาเพราะเป็นต้นกำเนิดของวิชาทางสายพม่ารามัญทั้งหลายก่อนจะตกผลึกมาเป็นสายวิชาทางอยุธยา ทำยากลงยาก มีอาถรรพ์มากตั้งเเต่ยังเป็นเเผ่นก่อนนำมาจาร ท่านว่าเฉพาะแค่ตะกั่วชุดนี้กว่าจะลงถมเสร็จก็มีอานุภาพมากคุ้มชีวิตคนได้สบายๆเเล้ว

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพ่อพญาเมืองมอญรุ่นแรก (ตัวพ่อ ดัน ได้ ดี) ดอกละ 2,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_4679.JPG
      SAM_4679.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      109
    • SAM_46771.jpg
      SAM_46771.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      99
    • SAM_4678.JPG
      SAM_4678.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      184
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    มหาตะกรุดหน่อพระพุทธเจ้า(พญาเต่าคำ)

    แต่เดิมนั้น วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านได้ทางนิมิตร เป็นยันต์ตัวเลขเเบบค่ายกลของหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร ซึ่งท่านว่าค่ายกลยันต์นี้เป็นหนึ่งในยันต์ที่มีมหิทธานุภาพสูงสุด เพราะตัวเลขต่างๆที่ผูกซ้อนกันขึ้นไปนั้น เป็นความหมายเป็นตัวแทนเป็นการเดินกลบทวิธีสื่อถึงของหรือสิ่งที่มีอานุภาพเป็นอเนกอนันต์ในโลกนี้ ต้องเดินต้องวางดวงตัวเลขต่างๆเเละผู้สร้างต้องรู้ความหมายว่าตัวเลขในเเต่ละดวงนั้นว่าหมายถึงอะไร เพราะมีคาถาหัวใจกำกับเฉพาะตอนลงจาร

    พ่ออาจารย์ท่านว่ายันต์นี้มีอานุภาพมากมาย ใช้ปรับร่างกายให้ดีให้สมดุลย์ พกไว้กับตัวจะทำให้จิตใจผ่องใส อวิชชาทั้งหลายจะไม่มาเเผ้วพาล สติตรึกตรองนึกคิดพิจารณาสิ่งใดๆนั้นจะเเจ่มเเจ้งและสว่างมากขึ้น ขับล้างอกุศล ชะลอเเละบรรเทาโรคเวรโรคกรรมเเต่เก่าก่อนอันหาสิ่งใดจะมาบรรเทามิได้ ท่านว่าเหมาะนักกับคนชอบทำบุญรักษาศีลสัตย์ เป็นมหาอักขระที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจ ผลักดันสร้างสรรค์พลังงานทางบวกในร่างกายให้มีมากขึ้น

    ท่านว่าวิชานี้ หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดรนั้นท่านเรียกว่าหน่อพระพุทธเจ้า เพราะใครได้ไว้จะเปี่ยมไปด้วยบุญฤทธิ์เเละบารมีประหนึ่งพระโพธิสัตว์จากสวรรค์ชั้นดุสิตลงมาถือกำเนิดก็ไม่ปาน ซ้ำยังเป็นวิชาที่แปลกอยู่มาก เพราะเป็นการสร้างสรรค์เเละปรับเปลี่ยนจากภายใน จากจิตใจของผู้ใช้เอง จนส่งผลสัมฤทธิ์ผลมาถึงภายนอกท่านว่าเเบบนี้มันมั่นคงเเละจีรังถาวรณ์ไม่ฉาบฉวย

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนเราถ้าเปลี่ยนอกุศลเป็นบุญกุศล เปลี่ยนความเห็นผิดเป็นระลึกชอบ เปลี่ยนใจที่มืดมัวเป็นใจที่สะอาดผ่องใส เปลี่ยนทุกข์คติเป็นสุขคติ เพียงเท่านี้ก็เป็นเรื่องน่ายินดีเเล้ว ถือว่าเกิดไม่เสียชาติมนุษย์สำเร็จกิจของความเป็นมนุษย์ มีทางไปที่สว่างสงบและสูงขึ้น วิชาของหลววงปู่ใหญ่ท่านมาทางนี้ อะไรที่ว่าร้ายๆแย่ๆ เจอมาเยอะๆในชีวิตนี่ท่านว่าเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด

    เพราะเป็นตะกรุดที่ตอนทำต้องชุมนุมธาตุอริยภูมิ ของมหาโพธิสัตว์ทั้งหลายในดุสิตสวรรค์ที่มีกำลังอริยบุคคลตั้งแต่สัตตักขุงปรมะโสดาบันขึ้นไป เป็นตะกรุดที่ใช้กำลังยิ่งใหญ่ของโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายมาทำ เพราะเช่นนี้ วิชานี้ถึงเป็นวิชาที่เปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมด ท่านว่าขอบเขตนั้นมากมายมหาศาล เปลี่ยนแปลงไปถึงก้นบึ้งเเละรากเหง้าทีเดียว

    แต่ทว่ามหายันต์นี้นั้นบรมครูหลวงปู่ใหญ่ท่านกลับทิ้งปริศนาธรรมไว้ให้พ่ออาจารย์ ด้วยท่านให้เลือกสรรค์หัวใจที่จะบรรจุลงไปกลางพระยันต์เอง เพื่อจะให้มีอิทธิคุณเน้นหนักไปทางใดก็สุดแต่ความกรุณาของท่าน

    ซึ่งเคยกล่าวไว้หลายครั้ง ว่าพ่ออาจารย์ท่านมีวิชาที่ท่านสำเร็จและท่านชอบเล่นเเละใช้งานมาตลอดก็คือ วิชาพญาเต่า พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าไม่เฉพาะพญาเต่าเรือน จะเป็นพญาเต่าคู่ พญาเต่าคำ ท่านก็เล่นมาเเล้วทั้งสิ้น ซึ่งเเต่ละอย่างนั้นก็ล้วนมีอิทธิคุณจำแนกเเตกต่างไปมากมายไม่ซ้ำกัน

    พ่ออาจารย์ท่านจึงเลือกยันต์พญาเต่านี้มาประจุเป็นหัวใจไว้ในยันต์กลบทหน่อพระพุทธเจ้า ซึ่งท่านจำเพาะเจาะจงต้องใช้ยันต์พญาเต่าคำเท่านั้น ท่านว่าเต่าคำนี้เป็นเสน่ห์เมตตา เอาเมตตาเข้ามาเป็นหัวใจ เมตตานี้เเหละกลืนได้ทั้งโลก เปลี่ยนนคนได้ทั้งโลก เมตตานี้ดีกว่าอะไรทั้งหลายเสียหมด ท่านว่าเราเอาสูตรคาถาเเละหัวใจเต่าคำมาลง เมื่อลงเเล้วก็ว่าสูตรให้เกิดตัวตนขึ้นมาดุจเจตภูติที่มีพลังงานของพระโพธิญาณเเละวิมุติธรรมหนุนอยู่เบื้องหลัง

    เต่าคำนี้เเต่เดิมก็เป็นสัตว์กินพืชไม่ได้กินเนื้อ เป็นสัตว์ที่มีตบะ เป็นยอดของพญาเต่าทั้งหลายเรียกว่าเต่าโพธิสัตว์ก็ว่าได้ ใครได้ครอบครองพญาเต่าคำก็จะเป็นเหตุเเละที่มาเเห่งความเจริญรุ่งเรืองมิรู้จักจบสิ้น ทั้งยังมีอานุภาพสืบมาเเต่โบราณเเล้วว่าดีเด่นเรื่องกามคุณเป็นพิเศษ ชายใดพกไว้ไม่ต่างจากยอดมหาบุรุษที่ได้กุมหัวใจของอิสตรีทั้งหลายในอาณาบริเวณที่อาศัยอยู่ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเกรงเสียเเต่วิชานี้จะสูญหายไปถึงเอามาลงเพราะคนรู้จักกันเเต่เต่าเรือนเสียเเล้ว แต่ถึงกระนั้นตอนเสก ท่านก็บอกว่าท่านลงวิชาพญาเต่าเรือนไว้ด้วยจะได้ครบทั้งหมดในดอกเดียวเพราะสำเร็จเป็นพญาเต่าเเล้ว

    เมื่อจะใช้ให้ระลึกถึงหลวงปู่เทพโลกอุดร พระโพธิสัตว์พญาเต่าคำเป็นที่สุดเเละภาวนาคาถานมัสการตะกรุดว่า
    วันทิตวา นะโมมหาโพธิสัตโต อิทธิสิตโต นังตะตะมังมัง รักขันตุ สัพพโพธิสัตตา อุมังคลา มหาตูภูนะ นัตนะสาลิวาภะเว
    เมื่อได้ไปให้หาผักบุ้ง 1 กำ กับน้ำเปล่า 1 เเก้ว มาบูชาพร้อมภาวนาคาหรือแม้จะบนบานอะไร ก็ให้ใช้การบนด้วยผักบุ้งเช่นนี้

    เมื่อจะใช้อานุภาพเเห่งตะกรุดพญาเต่าคำ เน้นให้เด่นเป็นเรื่องๆไป อานุภาพตะกรุดพญาเต่าคำมีดังนี้
    - ท่านว่าให้พกไว้กับตัวจะปรับสมดุลย์ต่างๆในร่างกายมิให้เสื่อมถอย ชะลออกุศลกรรมเเต่เก่าก่อนเร่งให้ความดีงามเกิดผล
    - เป็นมหาเมตตาเเก่ชนทั้งโลกเเม้อมนุษย์ทุกหมู่เหล่า ด้วยอำนาจของเหล่าโพธิสัตว์เจ้าที่เป็นที่รักและเคาพของสิ่งมีชีวิตทุกภพภูมิ
    - เเม้มีศัตรู หรือผู้ปองร้ายใดๆ ใเห้เขียนชื่อเขาสอดไว้กลางตะกรุด เเละภาวนาคาถาว่า นะโมพุทธายะ นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ อิสวาสุ จะภะกะสะ มะอะอุ ท่านว่าศัตรูที่ร้ายจะกลายเป็นมิตรเเม้โกรธเกลียดกันก็จะกลับมาคืนดี หากใครคิดคร้ายจะเเพ้ภัยตนเอง
    - แม้มีทุกข์หนักนัก หาทางแก้ไขใดๆมิได้ ร้อยแปดพันประการ ให้ภาวนาว่า นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ นาเกลื่อนเคลื่อน สังสะเทือนหวั่นไหว สิหลงไหลให้เห็นประจักษ์ตา โมเดชะฤทธาพญาเต่า ก็ให้.....(ประสงค์สิ่งใดบอกไป เมตตา รักกู หลงกู คิดถึงกู ค้าขายดี เจรจาสำเร็จ ใส่คำอธิษฐานไว้ตรงนี้)เกลื่อนไปทุกคน อนิจจาวฏสังขารา อนัตตาสูญเปล่า นาสังสิโมภควานาโถ สุสิโมพุทโธภควา ด้วยเดชเดชะพญาเต่าคำ เเละพระมหาโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย พระองค์ได้ช่วยมนุษย์ทั้งหลายด้วยมหากรุณาโดยส่วนเดียวฉันใด ก็โปรดให้ข้าได้รอดจากทุกข์ภัยฉันนั้นเทอญ
    - แม้จะเดินทางไปหนใด พบปะหน้าใครปรารถนาให้เป็นนะจังงัง ให้นำตะกรุดทาบหน้าผากวนไปตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ เเล้วภาวนาคาถาว่า โอมนะโมพุทธายะ นะงวย โมจังงัง พุทจังงัง ธาลืมตัว ยะให้หลงไหล สะเข้าดลจิตใจ ด้วยเดชฤทธาพญาเต่า ขอให้เลื่อนเปื้อนนิ่งนอนเฉยอยู่ นะโมพุทธายะ นะปิดปาก โมแข็งขึง พุทตกตลึง ธาพูดมิออก ยะ(ถ้ามีชื่อเขาก็ใส่ไป)มิอาจจะอื้ออึง นะมะพะทะ นะถอยถด มะสะกดดวงจิตหทัย พะเผลอไผลไม่เป็นสมประดี ทะกรึงกรามึงนิ่งอยู่กับที่ นะมะพะทะ นะจังงัง มะจังงัง พะฟั่นเฟือนเลื่อนลอย ทะกรากรึงเบญจขันธ์มึง มะอะอุสวาฮี อะอิงงงงอ
    - แม้จะไปไหนปรารถนาให้คนเมตตา ให้ภานาว่า โอมนะเลือน โมเลื่อนเปื้อน พุทเลือนหัวใจ ธาไหลหลง ยะเร่งรีบรน สะเข้าดลใจคน เดชะฤทธาพญาเต่า ขอให้เลื่อนเปื้อนไปทุกๆวัน นะโห โมรับ พุทกำชับ ธาพาเดิน ยะนำทางจิตนางขอให้เร่งมาอย่าช้าโดยหมาย เร่งขับเร่งไล่โฉมยงองค์อ่อน เมื่อจะนั่งเมื่อจะนอน เดินทั้งกลางคืนเดินทั้งกลางวัน ขอเร่งรับขวัญ พระพายเจ้าเอ๋ยจงเร่งรีบโดยเร็ว อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ เอหิเอหิมามา (เขาเมตตาเรานักหนา)
    - แม้ปรารถนาจะให้รักให้หลงเรา ให้ภานาตะกรุดว่า นะระลึกนอนฝัน ยิ่งเห็นยิ่งกระสันต์เสน่หา โมคนึงคิดถึงนักรักกรึงจิตให้เมตตา พุทเสียวซ่านกายาเกิดกามกวน ธาพิสวาทมาตรหมายไม่หายรัก ยะชวนชักพิศวงหลงรักตามมา นะโมพุทธายะดลจิจผูกรักสมัครสมาน เอหิ อิตถีลึงคะ มาเถิดแม่มา(ถ้ารู้ชื่อก็กล่าวไป) สู่สมชมชื่นตัณหาราคะจิตกำดัด กลุ้มกลัดชวนเดิน หนุ่มเนาสาวน้อย อย่าตะบอยใจเมิน ยากูคือตังรึงรังใจเพลิน ถูกต้องกล้ำเกินให้เผอิญหลงมา ด้วยอำนาจพญาเต่ามิอาจอยู่ช้า มนต์เวทย์คาถาคือพระยามหากาม หญิงชายถูกเข้าจิตใจวู่วาม เพราะเดชมหากามประสิทธิมามา นะดุ่มเดิน โมไคลคลา พุทสัญจร ธาลีลา ยะจรลี รีบเร่งร้น ส่งกามตามรักมาสวาหะ(บทนี้ให้ใช้กับคนรัก ได้แล้วต้องรับเลี้ยง)
    - เมื่อจะใช้ให้ใครเกิดความกระสันเสน่หาในตัวเรา ให้ภาวนาคาถาบูชาตะกรุดนึกถึงหน้าเขาให้ดี ปถมัง อิตถีเมโย บุคคโลกามะราคัง ราคะเสน่หา กามจิตติมิตตังปิยังมะมะ เอหิอิตถียังพันธนัง กามะรัตนัง กามรึงรึง วิญญาณรักขะนังยานะมามิหัง มามาเรระ พุทธาโลกา วินาเสติ ราคะโทสะโมหะ กามกิเลโส กามโลโภ โสทายะ พุทธะสังมิ
    ท่านว่าตะกรุดนี้มีอานุภาพมากนักมีคาถาเฉพาะส่วนในส่วนของวิชาพญาเต่าจะใช้ให้คนเป็นบ้าก็ได้ ฆ่ากันก็ได้ ท่านว่าเอาไว้ใช้ทางเมตตามหาเสน่ห์เเค่นั้นพอ ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นจะเป็นเดรัจฉานวิชา เพราะไม่ใช่ตะกรุดพญาเต่าคำโดดๆเเต่หนุนด้วยกำลังเเห่งวิมุติเเละโพธิญาณไว้ เป็นกำลังที่มีเเต่จะพัฒนาไม่มีเสื่อมถอย (ถือเคล็ดว่าใครเอาไปประสงค์สิ่งใดทุกเรื่องต้องพัฒนาขึ้นไม่ต่ำลง)

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้นำกระดองเต่าคำของครูบาอาจารย์ที่ทำการป่นไว้ด้วยพระเวทย์และอักขระวิธีซึ่งเป็นของหายากมากเป็นของวิเศษเป็นกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง หากไม่นำมาป่นก็คงจะบูชาได้เเต่เพียงคนเดียวไม่เพียงพอที่จะให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบูชา ท่านนำมาผสมสีผึ้งร้อยรัก ฉาบเคลือบทาด้านในตะกรุดทุกดอก เพื่อให้มีญาณของพญาเต่าคำจริงๆ เป็นเจตภูติที่คอยรับใช้เราใช้งานได้จริง เต่านี้มีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวยิ่งพญาเต่าก็ยิ่งอายุยืนก็เหมือนเรื่องที่ขอที่อยากได้จะส่งผลไม่เพียงในระยะสั้นๆ แต่จะให้ผลที่จีรังมั่นคงยืนยาว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีอานุภาพแรงกล้านัก รุ่นแรกหาฤกษ์ยามทำไว้ได้เพียงประมาณ 30 ดอกเท่านั้น จะมอบให้กับผู้ที่มีความต้องการจะบูชาจริงๆเพราะถือว่าเป็นสมบัติของครูบาอาจารย์ทั้งวิชา มวลสารรวมถึงอักขระวิธี จะให้ตกทอดแก่คนดีเพื่อเป็นที่ระลึกแห่งความเจริญรุ่งเรือง

    ร่วมทำบุญบูชามหาตะกรุดหน่อพระพุทธเจ้า(พญาเต่าคำ) ดอกละ 2,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_4680.JPG
      SAM_4680.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      115
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2015
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    แจก ตะกรุดแม่ทัพน้อย(โองการมหาทมื่น)

    โอม นะ โม พุท ธา ยะ กูจะกล่าวกำเนิดเกิดพระมหาทมื่น กูจะโยนตัวกูขึ้นไปเป็นกงไม้ไร่ก็หักแหลกลงเป็นผุยผงทั่วทั้งเมืองสกลชมพู กูจะลำลึกถุงครูกูใครจะสู้กูก็บ่มิได้ ครูกูจึงให้กูเล่า พระคาถา พุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสะระณังคัจฉามิ ภะคะวาไชยมังคะลัง อะระหัง สุคะโต นะโมพุทธายะวันทานัง ปาสุอุชา อิสะปะมิ พุทธสังมิ อิสวาสุ นะมะอะอุ อิกะวิติ วิสุทธิเสฐโฐ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ อะระหังสุคะโตภะคะวา สังวิธาปุกะยะปะ อาปามะจุปะ ทีมะสังอังขุ ทุสะมะนิ สะธะวิปิปะสะอุ ทุสะนะโส จิเจรุนิ ตันนิพพุทติง นะมะนะอะ นอกอนะกะ กออนออะ นะอะกะอัง ตัถถะนะถะ อุมะอะยัง จิปิเสคิ คิเสปิจิ กันหะเนหะ นิระมหาสะตัง จะภะกะสะ นะมะพะทะ กะระมะถะ จะอะภะคะ นะมะกะยะ สุสิโมพุทโธภะคะวา สุสิโมธัมโมภะคะวา สุสิโมสังโฆภะคะวา โลกะนาโถมหิทธิโก นาสังสิโม ยะถาพะลังจังงังเหยหาย เดชะครูปัทธิยายจึงให้เป็นกำแพงเพชรทั้ง 7 ชั้นกันตนกู คือ พระวิภังค์พระสังฆณี พระปรมัตถะอัตถาจาริย์เจ้าจึงให้คงแก่หอกดาบแหลนหลาวธนูง้าวทั้งหน้าไม้ปืนไฟอย่าได้ต้องตนกู เพชชะคงแก่ หอกเหล็ก หอกหล่อ หอกข้อเงิน หอกข้อทอง หอกสำริดกริชทองแดงคงแก่แสงฟ้าผ่า คงทั้งข้างซ้าย คงทั้งข้างขวา คงทั้งข้างหน้า คงทั้งข้างหลัง คงทั้งนั้น คงทั้งยืน คงทั้งหลับ คงทั้งตื่น คงทั้งกลางคืน คงทั้งกลางวัน ตรีเพชชะคงๆสวาหะ
    โอมเอิกเกริกไตรภพตลบบาดาลเหาะทยานบนอากาศ หมู่อสูรขยาดมืดมัวกลัวกูอยู่ระย่อฤาษีเล้นซุกซ้อนนอนหลับอยู่กลางป่า ทั้งขโมดมารยาเหาะทยานมา ช่วยกูหนุมานหลานพระไวยบุตรสัปปะยุทธด้วยอินทรชิตประสิทธิสรรพางค์ล้างมารมัดตนได้เอาไปถวายแก่ราพย์เจ้ากรุงลงกาหมู่อสูรยักษาจะฆ่ากูก็บ่มิตาย
    ด้วยเดชะพระนารายณ์ จุติลงมาบังเกิด นะโมพุทธายะ ตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวา เกศาผม อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวา โลมาขน อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวา นะขาเล็บ อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวา ทันตาฟัน อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวา ตะโจหนัง อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวา มังสังเนื้อ อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวานหารูเอ็น อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวา อัตถิกระดูก อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ คงด้วยนะโมพุทธายะ พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา บิดารักษา มารดารักษา พระอินทรักษา พระพรหมรักษา ครูบาอาจารย์รักษา อิมังกายะพันธะนังอะธิฏฐามิ ฯ


    สืบทอดเเต่สมัยโบราณจรย์ พ่ออาจารย์กล่าวว่าโองการมหาทะมื่นหรือมหาปัทมึนนี้ ครูบาอาจารย์เจ้าทั้งหลายนิยมใช้กันสืบมา แม้ในการปลุกเสกวัตถุมงคลทั้งหลายก็ดี อย่างหลวงพ่อกวย แห่งวัดโฆษิต ก็นิยมใช้โองการนี้เสกวัตถุมงคลควบคู่ไปกับมนต์พระกาฬอันลือลั่น แม้หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ก็นิยมเสกยันต์แม่ทัพที่ท่านชำนาญด้วยโองการมหาทมื่นนี้

    เเต่เดิมนั้นครูบาอาจารย์ทั้งหลายก็นิยมจะใช้โองการมหาปัทมึนนี้ตามเล่ห์และอิทธิวิธีความถนัดของเเต่ละท่าน จะใช้เพียงส่วนคาถา หรือชักยันต์ใดขึ้นมาเเล้วใช้เสกก็ได้ วิชานี้ใช้คุ้มครองตัวดีนัก ทั้งยังกันเสนียดจัญไร คุณไสยมนต์ดำภูติผีต่างๆไม่ให้มาเเผ้วพาล

    พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านทำของด้านเมตตามาเยอะเเต่ของคุ้มตนเเบบนี้ท่านไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่ ครั้งนี้จึงได้เมตตาทำตะกรุดแม่ทัพน้อยสืบตำราอดีตบูรพาจารย์ชื่อดังเเห่งยุคทั้งหลายเพื่อสงเคราะห์คน

    แต่ทว่าท่านไม่ได้เดินเหยียบทับรอยเท้าครูบาอาจารย์เหล่านั้น ท่านว่าวิชามหาปัทมึนนี่เเตกออกไปหลายสาย สุดที่ใครจะเรียนใครจะรับแบบไหนไว้ เเต่ว่าผลของการเสกออกมานั้น ย่อมเสมอกันเเละเท่ากันหมด เพราะเสกด้วยพระโองการตามคาบพระคาถาเดียวกัน

    ซึ่งหากพูดถึงตะกรุดเเม่ทัพคนจะคิดถึงตะกรุดดอกใหญ่ๆหนักๆ ดอกเดียวคุ้มได้ทั้งกองทัพแบบนั้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องไปทำให้ใหญ่ขนาดนั้น ทำให้ไว้ติดตัวใช้ง่ายๆจะได้ไม่ต้องทำไปเก็บ ทำเพื่อรักษาวิชาจะได้สืบทอดไว้ให้ตกถึงลูกหลาน

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านเฝ้าเพียรหาฤกษ์ ลงเหล็กจารอุโองการมหาปัทมึนซึ่งเป็นวิชาเฉพาะในเพชรฆาตฤกษ์ จึงทำให้ได้จำนวนตะกรุดไม่มากนักค่อนข้างจำกัด ก่อนจะนำมาม้วนเเละเสกเก็บไว้ด้วยโองการมหาทมื่น10,000จบ ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร จึงได้เริ่มเเจกให้บูชา

    ก็มีประสบการณ์ให้ได้เห็นส่วนใหญ่จะเป็นอุบัติเหตุทางรถ รถชนรถคว่ำคนที่เขามีตะกรุดผูกข้อมือหรือห้อยคอเข้าจะไม่เป็นอะไร ก็เป็นประสบการณ์ทางด้านคุ้มครองป้องกัน พ่ออาจารย์ว่าก็ช่วยระงับเคราะห์หนักให้เบาบางลงได้โดยส่วนหนึ่ง ของที่นี่ทำ ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณไสยภูติผีหรืออวิชชาฝ่ายต่ำ ไม่ได้กล้ำกรายคนที่เขาศรัทธาเเน่

    ก็นำมาบอกนำมาฝากกัน เพราะของเเนวคุ้มครองเช่นนี้ท่านไม่ได้ทำบ่อยนัก ท่านว่าหาพระหลักๆแท้ๆของหลวงพ่อเปิ่น หลวงพ่อกวย ที่ท่านลงวิชานี้ไว้ไม่ได้ ก็มาเอานี่ไปใช้กัน เราเชิญครูลงมาทำ ท่านพ่อเปิ่น ท่านพ่อกวย ก็มาช่วยกันลงเต็มที่ เชื่อได้ว่าไม่ต่างจากของที่ท่านทำเองเเต่อย่างใด

    เมื่อจะอาราธนาตะกรุดให้ว่าพระคาถาข้างต้นได้เลย

    พ่ออาจารย์ท่านมอบให้มาแจกจำนวน 30 ดอก ผมก็ขออนุญาติเเจกเลย ใครจะรับก็โพสต์ไว้หน้ากระทู้ แต่ผมขอคิดค่าจัดส่งท่านละ 100 บาท ต่อหนึ่งดอก เมื่อโพสต์จองเเล้ว ให้ชำระภายใน 3 วัน มื่อชำระแล้วให้เเจ้งที่อยู่มา ทำตามขั้นตอนนี้นะครับจะได้ไม่สับสนเเละวุ่นวาย หากท่านใดจองไว้เกินกำหนด 3วันผมขอตัดสิทธิ์ทันที เเต่ถ้าท่านใดมีเหตุจำเป็นที่ต้องโอนช้าให้เเจ้งPM บอกผมไว้ก่อนอันนี้ผมอนุโลมให้

    * โพสต์จองได้เลย รายการนี้แจกฟรี เช่นเดิมพร้อมขอค่าจัดส่ง 100 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_4682.JPG
      SAM_4682.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      106
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญบาตรน้ำมนต์เจ้าขรัวเเสง (เนื้อเหล็กนิพพานวัชรธาตุ)

    สืบเนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านเคยสร้างเหรียญหล่อสมเด็จโตให้บูชากันไปแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้น ท่านได้หล่อเหรียญเนื้อโลหะกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่าเหล็กไหลนิพพานหรือวัชรธาตุเอาไว้ ท่านว่าเบิกฤกษ์ทำบูชาคุณครรูชั้นปฐมาจารย์ ซึ่งใครเห็นก็งงเเละสงสัยว่าเหรียญอะไร เพราะมีตัวหนังสือจารึกไว้ให้รู้เพียงคำเดียวสั้นๆว่า "แสง"

    พ่ออาจารย์ท่านได้ถ่ายทอดประสบการณ์ทางจิตตอนนี้ว่า สำหรับเจ้าขรัวแสงนั้นท่านรู้จักมานานเเล้ว เพราะเป็นครูใหญ่อีกองค์หนึ่งที่มีบารมีสูงมาก เป็นอัฉริยาจารย์เจ้าที่มีบารมีมากเป็นที่เคารพนับถือเเก่หมู่ชน แต่ตัวท่านไม่ค่อยพูดถึงเท่าไหร่เพราะท่านปล่อยให้เป็นเรื่องทางจิตของท่าน พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าสำหรับเจ้าขรัวแสงนี้ท่านเป็นพระเถระที่มีบารมีมาก มากเสียยิ่งกว่าสมเด็จโตหรือหลวงปู่ทวดเสียอีก ท่านเก่ง ท่านแกล้วกล้า เชี่ยวชาญในฤทธิ์และอิทธิวิธีท่านทำได้สารพัด

    เมื่อเราจะสร้างสมเด็จโต สมเด็จอาจารย์ใหญ่ของเรานั้น ขรัวโตท่านได้มาขอไว้ ท่านว่าให้เราสร้างเจ้าขรัวเเสงเสียก่อน ต่อไปคนเขาจะเริ่มรู้จักกัน สิ่งนี้จะมีคุณมีอานุภาพมากล้นพ้นประมาณ ต่อให้พลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอ ท่านว่าให้เราทำไว้ ให้เราช่วยเผยเเพร่เกียรติคุณของพระมหาเถราจารย์ใหญ่รูปนี้เเทนท่านที ซึ่งในตอนนี้ท่านไม่อาจจะทำได้เสียเเล้ว ต้องอาศัยร่างกายเราเป็นกระบอกเสียงบอกผ่านออกไป บอกให้เขารู้ที ว่านี่คืออาจารย์ของฉัน(ขรัวโต) ท่านสอนฉัน(ขรัวโต)ทุกอย่างทั้งกรรมฐาน วิทยาคมเเละเเม้เเต่วิชาการทำผงทำพระ ซึ่งท่านได้ค้นพบมา วิชาที่ฉัน(ขรัวโต)ได้เรียนจากเจ้าขรัวท่านนั้นเหมือนดั่งเศษเสี้ยววิชาของท่าน

    พ่ออาจารย์ท่านได้รับปากครูสมเด็จของท่านไว้เป็นมั่นหมอกว่าท่านจะทำให้เป็นประวัติการณ์ จึงได้นำวัชรธาตุหรือที่เรียกกันว่าเหล็กนิพพานหรือหยาดน้ำฟ้าทวาราวดี ที่ศิษย์ของท่านอัญเชิญออกมาได้จากถ้ำทางภาคใต้มาหลอมเป็นเจ้าขรัวแสงขึ้นมา ซึ่งวัชรธาตุนั้นก็มีอานุภาพมากมาย
    - เป็นธาตุที่ชักชวนผู้ที่เป็นเจ้าของให้ฝักใฝ่ในธรรมะ ชอบที่จะสร้างบุญกุศล สวดมนต์ ไหว้พระและฝึกฝนปฏิบัติทางจิต เช่น น้อมจิตให้ชอบสวดมนต์ นั่งสมาธิ ประพฤติปฏิบัติธรรม จนเข้าสู่กระแสธรรมแห่งวิปัสสนาญาณไปในที่สุด จนทำให้ผู้ที่ครอบครอง รู้แจ้งเห็นจริงต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ตามบุญบารมีของผู้ที่เป็นเจ้าของไปโดยปริยาย
    - เป็นธาตุที่จะจะเข้าไปบั่นทอนอาสวะกิเลสที่กำลังเกิดขึ้นของผู้ใช้และผู้คนที่อยู่รอบข้าง ผู้ที่อยู่ใกล้ตัว ให้สภาวะแห่งกิเลสนั้น ค่อย ๆ ดับลงไป ทำให้ปัญหาต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นทั้งในหน้าที่การงานและครอบครัว หรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดหมดปัญหาลงไป พูดจากันเข้าใจ และทำให้จิตไม่คิดเกินใจ ไร้อารมณ์แห่งการย้ำคิดย้ำทำ เพราะธาตุกายสิทธิ์ชนิดนี้ มีเมตตา คุ้มครอง แคล้วคลาด คงกระพัน โชคลาภ มีบารมีในทุก ๆ ด้าน 1000% สุดแล้วแต่ผู้ที่ครอบครองจะอธิษฐาน
    - เป็นยอดแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เทวคุณ พรหมคุณ และอริยคุณ แห่งสัมมาทิฐิบารมีดูแลรักษา อริยธาตุอยู่ตลอดเวลา เป็นสุดยอดแห่งธาตุที่มีอยู่ในจักรวาล ที่สามารถหลอมละลายธาตุได้ ถ้าอยู่ในเมืองมนุษย์ เรียกว่า เหล็กไหลขาว เหล็กเปียก เหล็กน้ำนมแห่งพระแม่ธรณีเป็นองค์บารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ฝากพระแม่ธรณีเอาไว้ ผู้รู้มักจักนำธาตุชนิดนี้สร้างเป็นยอดปลีของพระธาตุหรือเป็นวัตถุมงคล มีทั้งสำเร็จรูปเป็นธาตุที่มีปลายแหลมทั้งสองด้าน ถ้าล่องลอยอยู่ในจักรวาล เรียกว่า จันทราธาตุ ซึ่งหมายถึง แสงแห่งความร่มเย็น ที่จะนำเข้าสู่ อริยธรรม ส่วนใหญ่จะถูกเทพเทวาอัญเชิญไปรวมไว้ ณ จุดเดียวกัน เพื่อรักษาคุ้มครอง ป้องกันพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ เพื่อเป็นฐานรองรับพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณี ณ ห้องพระนิพพาน แห่งแดนสุขาวดี จึงกลายเป็นธาตุที่ซึมซับเอาอริยบารมีแห่งการปฏิบัติทั้งมวลแห่งเจตสิกที่มีความบริสุทธิคุณเอาไว้ในธาตุชนิดนี้ เราเรียกธาตุชนิดนี้ว่าเป็น วัชรธาตุ
    - เมื่อโลกมนุษย์เกิดวิกฤตแห่งไฟกิเลส วัชรธาตุก็เกิดความเร่าร้อนตามไปด้วย จึงเกิดการละลายตัวหยดลง ณ โลกมนุษย์ เราจึงเรียกว่า วัชรหยดน้ำฟ้า หรือเหล็กไหลพระนิพพาน เพื่อลงมาช่วยเหลือผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เพื่อที่จะเป็นกำลังใจที่จะต่อสู้กับกิเลสตัณหาและความทะยานอยากทั้งหลาย จนสามารถฝ่าฟันเอาชนะกิเลสแห่งตนให้หมดไป และตั้งมั่นแห่งการสะสมบุญบารมีกันต่อไปจนกว่าจะเห็นทางแห่งการพ้นทุกข์ ดีนักแล


    นี่เป็นครั้งเเรกเลยก็อาจกล่าวได้ที่พ่ออาจารย์ท่านใช้ธาตุกายสิทธิ์ในส่วนของเนื้อวัชรธาตุหรือเหล็กไหลนิพพานล้วนๆมาอัญเชิญลงบล๊อกขึ้นรูปเป็นเจ้าขรัวแสงองค์ปฐมบูรพาจารย์ของสมเด็จโต ท่านกล่าวว่าทำไว้เป็นอาจาริยบูชาศิษย์ไม่ทิ้งครู ครูก็ไม่ลืมศิษย์เช่นกัน

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำเหล็กนิพพานนี้มาประกอบพิธีกรรมทางไสยเวทย์เพิ่ม โดยการนำเเช่น้ำมนต์ธรณีสาร เเละเชิญครูบาอาจารย์ เทพยดา ตลอดจนกายทิพย์ทั้งหลายลงมาสอบถามเพื่อจะขอบารมีเทพเจ้าทั้งหลายบรรจุไว้ในเหล็กนิพพานนี้ ท่านว่าของเดิมเขาเกิดมาก็ดีแล้ว เเต่เราจะเอามาทำของสำคัญทั้งทีต้องทำให้เป็นอิทธิคุณแฝด ซ้อนเข้าไปหลายๆชั้นให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีก ด้วยการอ่านโองการต่างๆมากมาย ประจุเข้าไปให้ตัวกายสิทธิ์นี้มีพลังงานที่มีดุลยภาพสมบูรณ์ เต็มทุกอณูท่านว่าทำทั้งที่จะไม่ให้สูญเปล่าไปเสียแม้ซักอณูเนื้อเดียว

    เมื่อัญเชิญลงบล๊อกนั้น เหล็กนิพพานตัวนี้ ท่านว่าเป็นของมีชีวิตมีพลังงานเพราะมันจะดิ้นได้ ดิ้นอยู่ในบล้อกนั้นจนเเข็งตัว เป็นเช่นนี้ทุกองค์

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเจ้าขรัวเเสงนี้เป็นที่นับถือเเละศรัทธาของมหาชนกันมาก เเม้เเต่สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 หรือสมเด็จกรมพระยาดำรง ท่านก็ยังนึกแปลกใจในบุญบารมีของเจ้าขรัวแสงนี้ เพราะท่านสามารถสร้างพระเจดีย์สูงตระหง่านไว้ให้เราดูเป็นอนุสรณ์นึกถึงท่านได้ ที่สำคัญพระเจดีย์นี้สวยงามมากเเละท่านลงมือสร้างเพียงคนเดียว ไม่ให้ใครยุ่งหรือเข้ามาช่วยเลย จะมีเพียงก็เเต่ชาวบ้านเท่านั้นที่สละทรัพย์สินตามศรัทธาให้ท่านเปลี่ยนเป็นอิฐเป็นปูนมาสร้างพระเจดีย์เพื่อเป็นพุทธบูชา พ่ออาจารย์กล่าวว่าท่านทำโดยอิทธิวิธีทั้งสิ้นพระเจดีย์นี้ถ้าเหาะเหินเดินฟ้าไม่ได้ก็ยากที่จะทำได้เพียงลำพังด้วยตัวคนเดียว

    เจ้าขรัวแสงหรือที่เรารู้จักกันในนามของท่านพระครูมหิทธิเมธาจารย์นี้ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวรับรองว่าท่านเป็นพระทองคำทั้งองค์ เป็นพระสำเร็จที่มีบารมีมาก โดยท่านพูดถึงขรัวแสงได้น่าฟังว่า "ขรัวโตนั้นท่านค้นพบชินบัญชรนำมาแปล เจ้าขรัวเเสงผู้อาจารย์ก็ค้นพบยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏกนำมาแปลให้เราสวดบูชากัน ศิษย์เเละครูคู่นี้ ยากที่จะหาใครมาเปรียบเทียบให้เสมอเหมือนได้ บารมีท่านหนักฟ้าหนักเเผ่นดิน ทั้งทางโลกเเละทางธรรม"

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้หล่อเสร็จ ท่านก็เสกเก็บมาตลอด โดยท่านทำเป็นเหรียญหล่อเเบบบาตรน้ำมนต์ ไม่ให้ใหญ่จนเกินไปเด็กหรือผู้หญิงห้อยคอบูชาไม่น่าเกลียด เมื่อท่านหล่อเสร็จเเล้วท่านได้นำมาบรรจุสรรพวิชาทุกด้านของท่าน ก่อนที่จะเชิญบารมีของเจ้าขรัวเเสงเเละครูสมเด็จโตลงมาเสกลงมาเเฝงบารมีของท่านลงในเหรียญหล่อทุกเหรียญ

    ซึ่งพ่ออาจารย์ได้เล่าถึงบรมครูท่านไว้ สมเด็จอาจารย์นั้นถึงกับกล่าวด้วยอารมณ์ปิติว่า "เราขอบน้ำใจคุณมาก เราจะทำให้ดีที่สุด" เเละตัวเจ้าขรัวแสงเองนั้นก็กล่าวขึ้นหลังเสกเสร็จว่า "เหรียญนี้เป็นสมบัติในสวรรค์ชั้นฟ้าที่ปรากฏรูปลงมา เราเเฝงญาณของเราลงไปทุกเหรียญ ใส่วิชาที่เรามีลงไปให้ครบแล้ว ให้เขาใช้เเทนตัวเราได้เลย ฝากคุณบอกคนที่ได้ ว่าเขาโชคดี"

    พ่ออาจารย์ท่านปิติยินดีมากในคำรับรองของ 2 ยอดมหาบูรพาจารย์แห่งยุครัตนโกสินทร์อันหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ ท่านได้นำเหรียญนี้มาสัมผัสดู ท่านว่าเพียงแค่จับขึ้นมาพลังงานก็เเผ่ซ่านไปหมด เค้าเต้นได้ดิ้นได้เหมือนกับสิ่งมีชีวิตเลย

    หลังจากนั้นท่านก็นำมาเสกอีกเก็บจนครบทุกฤกษ์ ทั้งราชาฤกษ์ เพชรฆาตฤกษ์ มหัทธโนฤกษ์ เทวีฤกษ์ สมโณฤกษ์ ทลิทโทฤกษ์ เทศาตรีฤกษ์ ท่านเสกเก็บจนครบทุกฤกษ์ เเม้เเต้วันสำคัญอย่างวันสงกรานต์ท่านก็เอาไปเสก เสกบนดอยท่านก็นำขึ้นไป ฤกษ์จันทรุปราคา-สุริยุปราคาในพิธีอุปราคาทั้งสองท่านก็นำไปเสก จนสุดท้าย วันนี้ซึ่งเป็นวันวิสาขาบูชาจันทร์เต็มดวงเต็มฟ้า เป็นฤกษ์ที่หาไม่ได้อีกเเล้วในรอบหลายสิบปีคือวิสาขบูชาจันทร์ซ้อนจันทร์ ท่านก็เสกเก็บอีก 3 เวลา คือใกล้รุุ่ง เที่ยงตรงตะวันตรงหัวเเละรอบกลางคืน

    ซึ่งเหรียญนี้พ้นวันนี้ไปก็จะออกให้บูชาได้ ท่านว่าเจ้าของเขาเห็นเขาจะไขว่คว้าเอง อย่าถามเราเชียวว่าดีอย่างไร ธาตุกายสิทธิ์แบบนี้ดีทุกอย่าง บารมีเจ้าขรัวเเสงนั้น ท่านพร้อมที่จะเปิดออกช่วยเหลือคนที่มีศรัทธาอยู่เเล้ว

    คาถาบูชา
    มหิทธิเมธาจาริโยนามัง อะหังวันทามิตัง สะทา
    (หากจะบูชาจะบนบานศาลกล่าวขออะไรท่านให้สอดพระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก เจ้าขรัวเเสงท่านจะชอบฟังมากหากมีเวลาว่างให้สวดทุกเช้าเเละก่อนนอนจะเป็นสิรมงคลแก่ชีวิต ให้สวดถวายท่าน แม้จะบนก็ให้บนด้วยการสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก 3จบ 7จบ 108จบ)
    * เมื่อได้รับองค์พระไป ให้นำองค์พระอาราธนาไว้ในมือ สวดพระคาถาอิติปิโสบทพระพุทธคุณเท่าอายุ โดยสวดเกินอายุตน 1 จบ สมมติอายุ 30 ปี ก็สวด 31 จบเช่นนี้ อธิษฐานบอกกล่าวเจ้าขรัวเเสงว่าตัวเรานั้นชื่ออะไรนามสกุลอะไรเกิดวันเดือนปีอะไร ขออาราธนาหลวงปู่เจ้าขรัวเเสงมาเป็นหลักชัยเป็นร่มโพธิ์ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาเเก่ชีวิตของเรา เป็นที่พึ่งของเรา


    พ่ออาจารย์ว่าศิษย์ของเจ้าขรัวเเสงนั้นได้ดีทุกคนเช่นสมเด็จโตเป็นอย่างไร เเม้จะเป็นคนธรรมดาก็ได้ดิบได้ดีเป็นมหาเศรษฐี ท่านว่าเหรียญนี้ประเมินด้วยรูปภายนอกไม่ได้เลยเพราะพลังงานภายในนั้นมหาศาล เรารับประกันเลยว่า เธอจะดีขึ้น ขอให้เอาไปห้อย ศรัทธาปฏิบัติให้ถูกตามที่บอกไป ชีวิตเธอนั้นจะเจริญโดยส่วนเดียว เเม้จะเอาเหล็กนิพพานวัชรธาตุธรรมดามาสอบเทียบก็ยังมีอานุภาพได้ไม่ถึงครึ่ง ของเหรียญบาตรน้ำมนต์เจ้าขรัวเเสงนี้ แสงแห่งบุญ แสงแห่งมหากุศล แสงสว่างที่ใช้ทำคลายความมืด แสงที่เป็นประกายความหวังแก่สรรพชีวิต เธอเอาไปแล้ว เธอต้องได้ดี

    * ใครจะบูชาให้อนุโมทนาบุญให้ดี ได้ทั้งมหากุศลได้ทั้งธาตุกายสิทธิ์เพราะปัจจัยที่ได้จากการให้บูชา พ่ออาจารย์ท่านจะรวบรวมไปให้วัดที่กำลังมีการก่อสร้างพระมหาเจดีย์ต่อไป ท่านกล่าวว่าเจ้าขรัวเเสงนั้นท่านชอบสร้างพระเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชาเป็นอนุสติ ใครเขามาบูชาเจ้าขรัวเเสงของเรานี้เราก็จะต่อบุญให้เค้าด้วยวิธีเดียวกัน

    เจ้าขรัวเเสงรุ่นแรกนี้มีให้ร่วมทำบุญบูชาเพียง 20 องค์เท่านั้น ถ้าหมดเเล้วก็รอรุ่น 2 ได้เลย ซึ่งคงต้องใช้เวลานานมากกว่าจะออกให้บูชาอีกครั้ง ท่านว่าไม่ต้องบอกอะไรเค้ามาก เพราะท่านลงไว้เยอะหลายด้านหลายอย่าง วันไหนเขาดีขึ้นชีวิตเขาเปลี่ยนไปวันนั้นให้เขางงตัวเองให้เขาหาคำตอบเองเเบบนี้ดีกว่า

    * ด้านหลังนั้นท่านจะลงจารเทียมครูเจ้าขรัวเเสงให้องค์ต่อองค์อีกครั้ง

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญบาตรน้ำมนต์เจ้าขรัวเเสง (เนื้อเหล็กนิพพานวัชรธาตุ) 3,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 615_image010.gif
      615_image010.gif
      ขนาดไฟล์:
      64.2 KB
      เปิดดู:
      360
    • K11086007-4.jpg
      K11086007-4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.7 KB
      เปิดดู:
      75
    • SAM_4693.JPG
      SAM_4693.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      149
    • SAM_4691.JPG
      SAM_4691.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      538
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2020
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดคุณพระแก้กรรม(ตำรับท้าวสหัมบดีพรหมสงเคราะห์)

    " นับเเต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน เมื่อกำเนิดสรรพชีวิตขึ้นมา กาลเวลาผ่านไป ชีวิตเหล่านั้นได้วนเวียนอยู่ในวัฏฏสงสาร เขาไหลไปตามกรรม ตามวาระ ตามกาลเวลาของเขาเเต่ละรูปนาม จะหาที่เสมอเหมือนกันนี่บ่มิได้ "
    พ่ออาจารย์พล ท่านเคยมีนิมิตรถึงท้าวมหาพรหมผู้เป็นใหญ่ในโลกทิพย์ ซึ่งก็คือท้าวสหัมบดีบรมพรหม ครูใหญ่สายพรหมของท่าน ได้กล่าวเอื้อนเอ่ยด้วยความเป็นห่วง "ด้วยกลัวภัยอันเกิดจากเคราะห์กรรมนานัปประการจะเกิดแก่สรรพชีวิต เพราะยุคนี้โลกเสื่อมทรามลงนักหนา" จึงได้มอบวิชาบอกวิธีทำของวิเศษอย่างหนึ่งไว้กับพ่ออาจารย์ ท่านว่าเมื่อเห็นถึงเวลาตามสมควรเเล้ว ก็ให้ทำซะ เเต่เราเเละเธอคงช่วยมนุษย์เหล่านั้นได้เพียงหยิบมือ เฉพาะคนที่มีวาสนาเกื้อกูลกับเราเเละเธอ จะช่วยทั้งหมดนั้นคงเป็นไปไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านจึงทำของวิเศษขึ้นมาประกอบพิธีกรรมครบตามที่องค์ครูท้าวสหัมบดีบรมพรหมกำหนดซึ่งจะเเจ้งแบบละเอียดอีกครั้ง ท่านทำเสร็จตามพิธีท่านก็เก็บไว้ มองฟ้า รอเวลาให้ถึงพร้อมบรรจบกัน ทำเก็บไว้เช่นนั้น รอว่าเมื่อไหร่จะได้เอาออกมาช่วยผู้ที่มีวาสนาตามปกาศิตท้าวบรมพรหมท่าน

    ความทุกข์หลากหลายชนิด หลายรูปแบบ ที่มีคนบอกเล่า ขอความเมตตาขอความช่วยเหลือมาทางพ่ออาจารย์นั้น เริ่มมีมากขึ้นเยอะขึ้น ไม่ว่าจะมีทุกข์จากดาวนพเคราะห์ จากชะตาชีวิต จากกฏแห่งเวรกรรมตามวัฏฏสงสาร จากเจ้ากรรมนายเวรในอดีตที่ชาตินี้เราไม่รู้อะไรด้วยตามเล่นงานหลอกหลอน จากศัตรูหมู่มารเทวดาอันธพาลทั้งหลาย จากความทุกข์ทวีมากขึ้นสู่ทุกข์เข็ญ ตกยาก ลำบากอึดอัดคับข้องใจ จากความปรารถนา จากหน้าที่การงานต่างๆ

    พ่ออาจารย์ท่านก็เป็นกังวลตามไปด้วย จนกระทั่งที่ผ่านมาท่านได้ทำพิธีเสกเครื่องมงคล ท่านได้เห็นจิ้งจกเผือก 9 หาง มาปรากฏตตรงหน้าของท่าน พ่ออาจารย์ท่านจึงกำหนดจิตดู เพราะท่านเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยเวลาปฏิบัติธรรมสั่งสมกำลังบารมี ซึ่งพญาจิ้งจกนี้ คือร่างจำแลงของเทพเจ้าหรือมหาพรหมชั้นสูงลงมาเพื่อจะเเจ้งเหตุบอกกล่าว หรือร่วมอนุโมทนาในการปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ซึ่งหลังจากท่านกำหนดจิตดูแล้วก็แจ้งแก่ใจว่าคือใคร เเละท่านดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อทราบว่าครูบรมพรหมของท่านอนุญาติ ให้เอาของวิเศษสิ่งนี้ออกไปโปรดสัตว์ช่วยเหลือหมู่ชนได้เเล้ว ด้วยความทุกข์ร้อนหนักหนาสาหัสของมนุษย์ในปัจจุบันนั้นได้กลายเป็นอาณัติสัญญาณส่งขึ้นไปถึงพรหมโลก

    ของวิเศษที่ว่านี้ ก็คือตะกรุดคุณพระเเก้กรรมนั่นเอง พ่ออาจารย์บอกว่าสมัยนี้ คนเราเวลาเดือดร้อนนี่น่ากลัวมาก เพราะเขาจะทุรนทุรายหาทางออกหาทางเอาตัวรอด ทำให้โดนหลอกโดนต้ม จากพวกบรรดาหมอดู คนทรงเจ้าเข้าผีหรือเดรัจฉานวิชาฝ่ายต่ำต่างๆ จากที่ยิ่งเดือดร้อนอยู่เเล้ว กลายเป็นยิ่งทุกข์หนักขึ้นไปอีก

    ท่านว่าท่านจึงสนองโองการพรหมเทพคือท้าวสหัมบดี ได้ทำตะกรุดมหาวิเศษชุดนี้ขึ้น เพื่อผู้ที่ได้ไปจะได้มั่นใจเเละมีหลักประกันในชีวิตตนเอง ไม่ต้องไปโดนใครเขาหลอก ซึ่งตะกรุดคุณพระแก้กรรมนั้น เป็นตะกรุดที่ทำยากมาก เพราะกว่าจะทำเเล้วเสร็จใน ชุดหนึ่งๆนั้น ต้องกินระยะเวลายาวนาน ถึง 9 ปี

    เมื่อพ่ออาจารย์ได้ลงอักขระยันต์บนแผ่นตะกั่วเเล้ว ทั้งด้านหน้าเเละหลังเต็มสูตรตามสูตรวิชาของบรมครูผู้เป็นใหญ่ ท่านได้นำมาอธิษฐานจิตด้วยตัวท่านเองกำหนดอารมณ์ใส่วิชาเเละพระคาถาตามที่ได้รับถ่ายทอดมา หลังจากนั้นจึงนำไปประกอบพิธีเชิญญาณของเสด็จพระพรหมใหญ่หรือองค์ท้าวสหัมบดีพรหมลงมาจุณเจิมตัวเเผ่นโลหะอักขระยันต์ ประจุวิชาด้วยพรหมศาสตร์ของพระองค์ท่าน

    หากแต่ว่าการทำตะกรุดคุณพระเเก้กรรมนั้นไม่ได้ง่ายเเละเสร็จเพียงเท่านี้ หากแต่ที่กินระยะเวลาถึง 9 ปีกว่า ก็ด้วยว่าเพราะในแต่ละปีนั้น พ่ออาจารย์ท่านต้องนำตะกรุดนี้ไปบรรจุไว้ตรงหน้าพระประธานในอุโบสถวัดต่างๆ ในเวลาที่มีการชุมนุมสงฆ์ลงพระอุโบสถสวดปาฏิโมกข์กัน เพียรทำไปทีละปี ปีละวัด ทำเช่นนี้จนครบ 9 ปี 9 วัด

    หลังจากนั้นจึงนำมาสอบทานพลังว่าตรงตามสายวิชาเเละสำเร็จเเล้วหรือไม่ ท่านว่าเมื่อผ่านพิธีปาฏิโมกข์มาถึง 9 ครั้ง 9 พระอุโบสถนั้น ตะกรุดนี้มีกำลังเเรงกล้ามาก มิถดถอยต่างจากเดิมเเต่อย่างไร เเต่ที่มั่นใจได้อย่างหนึ่งก็คือ ตะกรุดนี้ใครก็คัดถอนมิได้ ใส่ไปที่ใดของก็ไม่เสื่อม เมื่อสำเร็จครบตามพิธีเเล้วผู้ที่ได้ไปนั้นถือว่าชีวิตเขาเหมือนมีเเก้วมณีมีของวิเศษอยู่ในครอบครอง เมื่อเราได้ทำพิธีบูชาตะกรุดคุณพระเเก้กรรมเเล้ว เมื่อเสร็จสิ้นพิธีก็เป็นอันมั่นใจได้เลยว่า ชีวิตเราจะเปลี่ยนกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ

    วิธีบูชาและบรรจุ
    - เมื่อได้รับตะกรุดไป ให้เตรียมบายศรีปากชาม 1 คู่ คายขัน 5 ดอกไม้สีขาวพอประมาณ และเทียนขี้ผึ้งเเท้หนัก 1 บาท เป็นจำนวน 2 เล่มหรือ 1 คู่ มาจุดบูชาตะกรุดคุณพระเเก้กรรมนี้
    - พิธีกรรมนี้ให้เลือกทำเฉพาะข้างขึ้นเท่านั้น ถ้ารอทำขึ้น 15 ค่ำได้จะดีมาก
    - หลังจากนั้นจึงให้ตัดผม ตัดเล็บตนเอง ให้ตั้งใจให้ดี พิจารณาเสียว่าผมเเละเล็บมือนี้คือส่วนประกอบของชีวิตเเละจิตวิญญาณของเรา เมื่อตัดเเล้ว ให้นำมาสวดคาถาบูชา
    - หลังจากนั้นจึงนำเส้นผมเเละเล็บของเราบรรจุลงไปในตะกรุด ตั้งใจบอกกล่าวครูพรหมท้าวสหัมบดี นำน้ำตาเทียนขี้ผึ้ง ที่หยดลงมาจากการจุดบูชาตะกรุดนั้ มาอุดหัวอุดท้ายเอาไว้
    - สวดคาถาบทใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อได้ทำตามนี้เเล้ว ต่อไปนี้ชีวิตเลิกไปดูดวง นอนโลงไปทำบังสุกุลตายหรือเป็นได้เลย เพราะชีวิตเปลี่ยนดวงเปลี่ยนเเล้ว บารมีคุณพระพุทธเจ้า คุณท้าวสหัมบดีมหาพรหมท่านลงมาสงเคราะห์เหยียบเกล้าเหยียบกระหม่อมเราเเล้ว

    สัพพเคราะห์ใดๆแม้มีกำลังมากก็ไม่อาจกล้ำกรายเราได้ ทุกข์เข็ญเคืองขัดหมู่มารสิ่งไม่ดีทั้งหลายไม่อาจทำอันตรายแก่เราได้ ปิดประตูทุกข์ได้เลย เชื่อว่าพวกเธอจะดีวันดีคืน ทำอะไรก็ไหลรื่นประสบความสำเร็จตามคำอำนวยพรของบรมพรหมพระองค์ท่าน

    คาถาบูชา
    ให้อาราธนาตะกรุด ดังนี้
    วิเนยโย วรราชา วะอภิธัมโม รหิโต สะตันโต อะมัจโจ ตถา ตโย หิสันติเส
    แล้วจึงว่าคาถา ดังนี้
    สัพพะเข็ญ สัพพะเคราะห์แล่นมาพานปู่แก้ปู่ขัด สัพพะลางร้ายแล่นมาข้องปู่แก้ปู่ปัด ทุกข์เข็ญเเล่นต้องมาถึงตนปู่แก้ปู่ปัด ชลลนเข้าถึงเนื้อปู่แก้ปู่ปัด เข็ญเข้าเฮือในคิ่งปู่แก้ปู่ปัด ปัดอันตรายให้หนี ปัดอันดีให้อยู่
    โอม จิกจักมึงมาร้อง บอกให้เป็นมาร มาจังไร มาให้เป็นโทษ มึงมาร้องประโยชน์แนวใด โอมสวาหายะ ตั้งแต่นี้สืบไปเมื่อหน้า อย่าให้มีศัตรูมาตัด เทวทัตอย่าได้มาพาล หมู่มารอย่าได้มาใกล้ สัพพะเข็ญอันตรายหนีไกลชีวิตกู สัพพะสิทธิ ภวันตุเม

    ตะกรุดคุณพระแก้กรรมนี้ พ่ออาจารย์ท่านประกอบพิธีสร้างขึ้นเเละได้ออกให้บูชาไปบ้างเเล้ว ซึ่งท่านเหลือไว้ให้มาเปิดบูชา ในพลังจิตนี้ทั้งหมด 20 ดอก หมดเเล้วก็หมดกันหากจะประกอบพิธีสร้างขึ้นใหม่ก็ต้องรออย่างน้อยอีก 9 ปี

    ท่านว่าใครพิจารณาว่าตัวเองมีเคราะห์ต้องทุกข์โทษภัย พูดง่ายๆ ชีวิตนี้มันไม่ดีสมที่ควรจะเป็น มีปัญหาอุปสรรคต่างๆไปไม่ถึงซักที มีมารผจญ มีเจ้ากรรมนายเวรมากหรือโรคภัยรุมเร้า ท่านว่าให้เอาตะกรุดคุณพระเเก้กรรมนี้ไปประกอบพิธีข้างต้น เเล้วนำมาอาราธนาบูชาติดตัวไว้อย่าให้ห่างทีเดียว

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดคุณพระแก้กรรม ดอกละ 2,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_4694.JPG
      SAM_4694.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      199
    • SAM_4698.JPG
      SAM_4698.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      156
    • SAM_4697.JPG
      SAM_4697.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      85
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2015
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญรับ สมิงพระกาฬตวาดฟ้า(พญาเสือตัวครู)

    วิชาเสือนั้น ในอดีตกาลที่ผ่านมาเป็นวิชาที่สร้างได้ยากอย่างยิ่งเนื่องจากคนสร้างต้องมีตบะบารมีโดยเเท้จริง ต่างจากเช่นสมัยปัจจุบัน เนื่องจากเป็นเครื่องรางที่ทรงไว้ซึ่งอิทธิคุณครบครัน ทั้งมหาอำนาจดุดัน เป็นที่เกรงกลัว แต่ก็แฝงด้วยมหาเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ แฝงด้วยเรื่องการทำมาหากินเจริญก้าวหน้า ครบถ้วนกระบวนยุทธ์

    สืบเนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านได้เคยร่ำเรียนวิชาเสือ ซึ่งมีทั้งในสายของภาคกลางเเละภาคเหนือไม่ว่าจะวิชาเสือ เสือสมิงเสือเย็นเสือหัวขาดหวงด้วนต่างๆ ท่านจึงประสงค์จะรวมวิชาเสือทั้งหมดไว้เเละสร้างเสือครูออกมา ท่านว่าวิชาเหล่านี้เมื่อตกผลึกรวมกันเเล้ว จะได้เสือครูที่มีอานุภาพมาก เกินกว่าสติเเละความระลึกนึกคิดทั่วไปจะทำความเข้าใจ

    พ่ออาจารย์ท่านใส่ใจตรงนี้มาก ตั้งเเต่มวลสาร ท่านว่าทุกอย่างต้องเกิดจากอิทธิวิธีเเละสำเร็จด้วยฤทธิ์เท่านั้น ถึงจะประกอบขึ้นมาเป็นกายแห่งมหาภูติรูป 4 นี้ได้ สมัยก่อนทำไว้อย่างไร เราจะไม่ขอเดินทับรอยครูบาอาจารย์เเต่เราจะทำเจ้าเเห่งเสือสมิงทั้งปวงอันเป็นเอกลักษณ์ของเราออกมา ซึ่งท่านได้นำมวลสารต่างๆเหล่านี้ มานวดเเละผสมเข้าด้วยกัน
    - ผงลบอาถรรพ์มนต์พระกาฬ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้นั่งลบถมผงด้วยวิชามนต์พระกาฬ หลังจากนั้นจึงนำผงที่ได้มาปลุกเสกเเละประกอบอิทธิวิธีเข้าว่านยาต่างๆ ท่านว่าผงนี้มีอานุภาพล้นเหลือ จึงเป็นเหตุที่มาของการตั้งชื่อเสือรุ่นนี้ว่าสมิงพระกาฬ เพราะว่าหากพระกาฬมา เเปลว่าคนผู้นั้นย่อมไม่รอดเเล้ว ไม่มีใครล่วงพ้นอำนาจของพระกาฬไปได้ คนเเต่โบราณจึงนิยมพูดกันติดปากว่า "เธอรู้จักพระกาฬหรือหาไม่" พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าผงที่สร้างสมิงพระกาฬนี้ก็เช่นกัน เป็๋นการรวมอิทธิคุณ 2 ส่วนเข้าสู่จุดเดียวกัน นั่นคือศาสตร์วิชามนต์พระกาฬ ที่สะท้อนย้อนกลับสิ่งไม่ดี ดำรงค์ไว้ซึ่งคุณธรรมสุจริต หากใครคิดไม่ดีหรือกระทำไม่ดีกับเรา เขาผู้นั้นจะมีอันเป็นไป ให้พินาศฉิบหายย่อยยับเป็นร้อยเท่าพันทวี หลงจากนั้นท่านได้นำผงวิชาพระกาฬนี้ มาผสมสูตรตามอิทธิวิธีเเละนำมาบูชาไฟอัญเชิญดวงจิตเชิญญาณพระกาฬแห่งยมโลกขึ้นมา ให้สถิตย์อยู่ที่ทุกอณูผงนี้ด้วยการนิรมาณกายของพระองค์ท่าน พ่ออาจารย์กล่าวว่าจุดนี้เลยสำคัญ เพราะวิชามนต์พระกาฬทั้งหลายนั้นเป็นวิชาใช้ฆ่าคน เเต่ปราศจากญาณเเละบารมีเเห่งพระกาฬโดยเเท้จริงสิงสถิตย์อยู่เป็นการตั้งชื่อไปเองเสียเท่านั้น ทำครั้งนี้เราจึงทำผงให้สำเร็จ ทั้งในคติมายาศาสตร์เเละเทวะวิทยา (ผงนี้เฮี้ยนมาก เพราะตอนพ่ออาจารย์ลบถมผงนั้น ได้มีคนที่คิดไม่ดีกับท่านถึงแก่ความตายโดยปัจจุบันทันด่วนจริงๆ)ท่านจึงว่าผงนี้สำเร็จเเล้วมีอาถรพ์เเรงกล้าตามสายวิชา
    - สีผึ้งผีหุง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านหวงมากเพราะได้มาพร้อมๆกับผงพรายกุมาร สีผึ้งนี้เรียกได้ว่าเป็นของสุดยอดที่จะหาของเเท้ชมยังยากในสายหลวงปู่ทิมนี้ ได้ชื่อว่ามีอิทธิคุณและอาถรรพ์แรงกล้าหายากกว่าสีผึ้งเขียวของพ่อท่านทาบเสียอีก ซึ่งวิธีทำสีผึ้งนี้ค่อนข้างพิศดารหลังทำเสร็จหลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกจนสำเร็จ ใครได้ไปใช้ล้วนเห็นผลทันใจทันตากันทุกคน ท่านให้เอาไปใช้ในทางที่ดี พ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาผสมเป็นเชื้อเพื่อนวดกับผงมนต์พระกาฬที่ลบถมได้
    - น้ำมันพระเจ้าตาก ซึ่งน้ำมันนี้ เป็นอีกหนึ่งมวลสารที่ทำให้พระขุนแผนของหลวงปู่ทิมเฮี้ยนสุดๆเนื่องจากใช้น้ำมันนี้เป็นส่วนผสมเนื้อพระ พ่ออาจารย์ท่านได้รับมาพร้อมกับผงพรายกุมารเเต่ไม่เคยนำมาผสมสร้างเนื้อตามสูตรเลย นี่เป็นครั้งเเรกที่ท่านใช้เป็นตัวประสานเนื้อพระ เพื่อให้สมิงพระกาฬนั้นดีที่สุดเช่นบูรพาจารย์เคยทำไว้
    - น้ำมันสังคโลกหรือน้ำมันชาตรี ของพลวงพ่อปานซึ่งท่านได้มาเเต่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งน้ำมันนี้เป็นวิชาการที่ทำยากที่สุดตามสายของหลวงพ่อ มีสรรพคุณรักษาได้ทุกโรครวมถึงโรคเวรโรคกรรมเเละยังบรรเทาเป็นลูกเบาเป็นมหาชาตรี พ่ออาจารย์ได้นำมานวดผสมลงในผงด้วย ท่านว่าจะได้มีทางมหาบารมีเเละคุณของพระอริยเจ้าแฝงเร้นลงไปด้วย
    - น้ำมันเสือสมิง หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ในส่วนนี้สำคัญที่สุด ที่ท่านต้องผสมของอาถรรพ์มากมายในส่วนของการนวดผงนั้น ก็เพราะมีน้ำมันเสือสมิงนี้อยู่ท่านว่าจะให้กลิ่นนั้นเจือจางลงช่วยดับกลิ่นสาบเสือนี้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าตบะเสือสมิงนี่แรงกล้านัก คนโบราณจะหาเขี้ยวเสือกลวงเป็นของยอดกายสิทธิ์ เราจะทำเสือทั้งทีถ้าไม่มีเชื้อไม่มีต้นเค้ามันเลยก็จะกระไรอยู่ ท่านจึงนำน้ำมันเสือสมิงเเท้ๆของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ที่ได้มาสมัยรุ่นๆลองวิชาของท่านจากอาจารย์ฆราวาสในสายหลวงพ่อปาน ซึ่งน้ำมันนี้ท่านจะเอาไว้ทาลายสักเสือไว้กลางหน้าอกท่าน ถือว่าวิชาเสือของหลวงพ่อปานนั้นพ่ออาจารย์ท่านรับมาเต็มตัว น้ำมันนี้ท่านจะใช้ทาปลุกเสือสมิงที่หน้าอกท่าน จนปัจจุบันท่านลดความคึกคะนองลงจึงเลิกใช้ เลิกทาเลิกเล่น และนำน้ำมันนี้เทผสมลงไปในสมิงพระกาฬเสียทั้งหมด ท่านว่าตบะของพญาเสือสมิงอยู่ในนี้เเรงกล้ากว่าเขี้ยวเสืออะไรนั่นอีก เป็นหัวใจเลยก็ว่าได้ไม่มีใครเขาทำกันหรอก เราเเค่อยากให้วิชาพญาเสือสมิงนี้ยังอยู่ต่อไป เป็นของฝากทางพุทธาคมเอาไว้ดูต่างหน้าบูรพาจารย์ทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วมีน้ำมันนี้ผสมก็ไม่ต่างจากพ่อปานท่านเสกเเต่อย่างใด
    - ผงลบพุทธคุณเเละว่านยาต่างๆที่ท่านลบถมสะสมไว้เเละหาเก็บสะสมไว้

    ท่านว่าสมิงพระกาฬตวาดฟ้านี่สำคัญนัก ผงทั้งหลายมวลสารอาถรรพ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านสร้างขึ้นเเละรับต่อมาเเต่บูรพาจารย์ก็ดี เมื่อผสมกันเเล้วย่อมเป็นภาชนะชั้นดีที่จะรองรับในการจุติของมหาภูติรูป4 คือมหาญาณเเห่งท้าวพระกาฬในคราบของเสือสมิงนั้น แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นที่ต้องมีเหมือนกันทุกๆองค์ก็คือวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านทำใส่ลงไปด้วยซึ่งในสมิงพระกาฬนั้นจะประกอบไปด้วย สิ่งต่างๆดังนี้
    - นปุงสกลึงค์ ตามคติความเชื่อของหลักเทวะศาสตร์นั้น ศิวะลึงค์ซึ่งเป็นตัวเเทนขององค์พระศิวะเจ้าที่สมบูรณ์จริงๆจะต้องวางเเละประกอบอยู่บนเเท่นฐานโยนีอันเป็นสัญลักษณ์ของพระอุมา มิใช่อยู่โดดๆ เมื่อสถิตย์ร่วมกันนั้น พลังงานมหาศาลที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุด อันเรียกว่าพลังงานแห่งการสร้างสรรค์สรรพสิ่งก็จะก่อเกิดขึ้น พ่ออาจารย์ท่านทำเพื่อฝังเฉพาะลงไปในสมิงพระกาฬท่านบอกว่าทำยากนะต้องมีพิธีบูชาเชิญญาณเเละประสระโลหิตของเราลงไป ที่ฝังไว้เพื่อให้สมิงพระกาฬนี้ทำได้ทุกสิ่ง ในตัวของเค้าจะมีอำนาจแก่งการสร้างสรรค์เเละก่อกำเนิดอยู่ในตัวเอง เจ้าของต้องการหรือปรารถนาอะไรก็ย่อมเป็นไปได้ทั้งสิ้น เขาช่วยได้หมด ไม่ต้องไปขอจากที่ไหน
    - หุ่นพยนต์ครูโนราห์ พ่ออาจารย์ท่านผูกพยนต์ด้วยอำนาจจิตเเห่งครูโนราห์ใส่ลงไปด้วย โดนการเชิญชิ้นหน้าผากครูโนราห์มาสำเร็จแบ่งอำนาจลงสู่หุ่นพยนต์ทีละตน ท่านว่าเป็นทิพย์เเละกายสิทธิ์ไม่ต้องการการเลี้ยงดูเเต่อย่างใดเป็นหุ่นพยนต์ไม่ใช่กุมารทอง แต่เดิมนั้นครูโนราห์ท่านก็มีเมียมากมายอาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านอยู่เเล้ว พยนต์นี้จึงเป็นพยนต์เสน่ห์ เป็นบริวารของสมิงพระกาฬที่เราจะขอจะบอกกล่าวอะไรก็ได้ จะให้เขาเฝ้าที่เฝ้าทาง เปิดทางเวลาไปทำงานหรือดลจิตดลใจผู้ใด จะให้เขาไปทำอะไรก็สุดเเท้เเต่เราจะบอกกล่าวพ่อหุ่นพยนต์ครูโนราห์
    - ตะกรุดวิชาเสือเย็น ซึ่งพ่ออาจารย์ลงไว้ครบทั้งเพศผู้เเละเพศเมีย ท่านว่าเฉพาะเสือยเย็นอันได้ชื่อว่าเป้นเสือสมิงของทางภาคเหนือ เสืออมตะที่ฆ่าไม่ตายนี้ก็มีอยู่ถึง 2 ดวงจิตเเล้ว เป็นความอุดมสมบูรณ์ทางหยินหยาง ทางด้านพลังงานชีวิต เพื่อทำให้สมิงนี้มีดุลยภาพครอบคลุมในทุกด้านที่เสือสมิงทั้งเพศผู้เเละเพศเมียจะมี หรือพูดอีกอย่างคือสมิงนี้จะเป็นตัวผู้หรือตัวเมียก็ได้
    - ตะกรุดวิชาพยัคฆราช เป็นวิชาเสือของสายภาคกลาง ตั้งเเต่หลวงพ่อเเตง วัดอ่างศิลา สืบทอดมาถึงหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย วิชานี้เป็นยอดของวิชาเสือทั้งปวง เเม้เเต่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ยังสนพระทัย
    - ตะกรุดหนุนดวงดาวเกษตร พ่ออาจารย์ท่านลงด้วยการขับพระเคราะห์เข้าเกษตร ทำให้ดาวพระเคราะห์ประจำตำแห่งเกษตรครบทั้ง 8 ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านค่อยๆลงสะสมไว้ ท่านว่าเขียนจารน่ะมันง่ายเเต่ทำจริงๆน่ะยากเพราะมันไม่ใช่เเค่เขียน วิชานี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ใครที่มีดาวเกษตรซักตัวประจำอยู่ในเรือนนี่ถือว่าโชคดีมากเเล้ว สำหรับคนที่ยังไม่มีเราก็เลยทำวิชานี้ไว้ฝังในสมิงพระกาฬเพื่อให้เกิดอานุภาพ 2 ทาง นั่นคือสมิงพระกาฬนี้จะได้สมบูรณ์ที่สุด มีเเละเป็นได้ทุกอย่าง อีกกรณีหนึ่งคือผู้ใช้จะได้มีดวงเกษตราธิบดีครบทั้ง 8 อยู่กับตนหนุนดวงขับเสริมผู้บูชาให้ดีขึ้นในทุกๆวัน ถ้าผู้ใดมีเกษตร 1 ตัว จะมีข้าทาสชายหญิง มีเกษตร 2 ตัว จะมีทรัพย์สินเงินทองข้าวของข้าวเปลือกข้าวสารมาก มีเกษตร 3 ตัว จะเป็นเจ้านายมีวัวควายช้างม้าข้าคนมาก มีเกษตร 4 ตัว จะมีภรรยามาก มีเกษตร 5 ตัว จะเป็นนักปราชญ์โหราธิบดีผู้เป็นใหญ่ มีเกษตร 6 ตัว จะเป็นพระอรหันต์ มีเกษตร 7 ตัว จะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า มีเกษตร 8 ตัว จะได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่คืออิทธิคุณอานุภาพของดาวเกษตรเมื่อเข้าเรือนดวงของผู้ใด ก็จะทำให้มีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นถึงเพียงนั้น
    - ตะกรุดผูกพยนต์ พ่ออาจารย์ท่านกำกับมหายันต์วิชาผูกหุ่นทำพยนต์ไว้ด้วย ในการเสกขึ้นรูปเเละใส่วิชาทั้งหลายท่านจึงทำไปโดยง่าย
    - ตะกรุดแก้วสามโลก พ่ออาจารย์ท่านลงเเละฝังเอาไว้ในปากเสือ รายการนี้ท่านว่าทำเสริมไว้ เสือของเรานี้อะไรก็ง่ายอะไรก็มีทุกอย่าง ปรารถนาอะไรในโลกทั้งสามล้วนเเต่อยู่ในปากข้าหมดเเล้ว เหมือนเสือนอนกินนอนรอด้วยความสุขสบายเช่นนั้น ชีวิตใครลำบากยากเเค้นอย่างไรเอาสมิงพระกาฬนี่ไปใช้ดู จะเปลี่ยนชีวิตที่ร้อนรน ต้องดินรนกระเสือกกระสนให้นิ่งให้สบายดั่งเจ้าพระยาเป็นเสือนอนกินเช่นนี้

    พ่ออาจารย์ท่านได้ทำพิธีปลุกเสกมายาวนานในระยะเวลาหนึ่ง เเละได้ประกอบพิธีในวันวิสาขบูชาจันทร์ซ้อนจันทร์ด้วย ซึ่งเวลาเสกเสือนี้ ส่วนใหญ่ท่านจะเเยกเสกเสียมากกว่าเพราะจะเชิญครูวิชาเฉพาะสายรวมถึงเจ้าของมวลสารทั้งหมดมาลงเป็นการเฉพาะ ท่านว่าเชิญมาตั้งเเต่ หลวงพ่อแตง วัดอ่างศิลา,หลวงปู่ปาน วัดบางเหี้ย,หลวงพ่อปาน วัดบางโคนม,หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่,ท่านฤาษีลิงดำ ครูบาอาจารย์เหล่านี้ท่านเชิญมาหมดเวลาเสกสมิงพระกาฬ แต่ละท่านพึงพอใจกันเป็นอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า สมิงพระกาฬนี้สำเร็จขึ้นมามีอานุภาพมาก เพราะพระเถระที่สำเร็จวิชาเสือสมิงนั้นได้ประชุมองค์เสกโดยพร้อมเพรียงกัน ซ้ำยังได้ฤทธิ์จากเหล่าพระอรหันต์ท่านประสาทให้ด้วยเมตตา เเค่มวลสารนนั้นก็เกินคำว่าเข้มขลังเเล้ว เมื่อเขาสำเร็จขึ้นมาเทวดาเกเรนี่อยู่ไม่ได้ ใครมีสมิงพระกาฬนี้ทุกข์โทษเคราะห์หนีไกลเลย ภูติผีสัมภเวสีที่คิดร้ายจะให้ผลร้ายกับเรานี่ไม่มีอีกต่อไป เพราะปลุกเสกครั้งใดทั้งเทพเจ้าเเละภูติผีทั้งหลายก็ตกประหม่าขวัญเเตกกระเจิงกันทั้งนั้น

    ที่เรียกว่าสมิงพระกาฬตวาดฟ้านั้นเพราะมีแก้วสามโลกอยู่ในปาก จะปรารถนาอะไรขู่ก้องร้องคำรามย่อมเป็นไปได้ดังปรารถนา เทวดาทั้งหลายต้องมาค้ำจุนดูแลดลบันดาลให้ พ่ออาจารย์บอกว่าต้องมาเดี๋ยวนั้นมิเช่นนั้นเขาทนเสียงคำรามกู่ร้องเจ้านี่ไม่ได้ศรีษะเขาจะเเตกออกเป็นเจ็ดภาค

    พ่ออาจารย์ท่านว่าทำเพื่อรักษาสายวิชาเสือสมิงของท่านที่สืบมาเอาไว้เท่านั้น ทำครั้งเดียว เพราะเสกยาก ไอ้เครื่องรางประเภทนี้มันต่างจากสิ่งอื่นๆ เพราะมันใช้ง่ายของ่าย มันอยู่ในรูปของสัตว์เป็นสมิงเป็นเจตภูติที่ผูกขึ้นมาให้เชื่อฟังเเละรับใช้ผู้เป็นนาย เต็มที่ เต็มสติปัญญาเเละความสามารถอยู่เเล้ว เอาไว้ให้คนที่ต้องการใช้งานจริงๆเเต่จะทำเยอะก็ไม่ได้ เราจึงทำเเค่ครั้งเดียวนี่แหละ ให้ทำอีกครั้งมวลสารก็ไม่ครบเเบบครั้งนี้แล้ว ใครมีสมิงพระกาฬนี้คนเขาทั้งรัก ทั้งยอม ทั้งเกรงกลัวเราเลย ใช้ข่มเขาได้ทั้งนั้น ขออะไรเขาก็ให้ ใครที่ว่าดีว่าสูงที่ว่ามีอาถรรพ์มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆรักษาจะมาเเข่งอำนาจวาสนากับเรานี่หนีเตลิดหมด จะไม่หนีได้อย่างไรสมิงในคราบนิรมาณกายของท้าวพระกาฬเชียวนะ เป็นยอดอย่างยิ่งเเล้วในกระบวนสัตว์เทพพิทักษ์อันเเฝงคติมายาศาสตร์

    ท่านว่าเกินจะใช้ ใช้งานได้เลย แต่หากติดคาถาอยากท่องเพื่อสำรวมจิตก็ได้ ให้ภาวนาหัวใจพระกาฬดังนี้
    กานะสังถานุนิง ถานะสะกา(เป่าไปที่ตัวเสือ)
    หลังจากนั้นให้ระลึกถึงหลวงพ่อแตง วัดอ่างศิลา,หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย,หลวงพ่อปาน วัดบางโคนม,หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เจ้าของมวลสารทั้งหลายเป็นที่สุด ว่าคาถาดังนี้
    โอม โองการครูกูจะบันดาลฟ้า บันดาลดิน บันดาลทั้งพระอินทร์แลพระพรหม บรรดาลทั้งพระยมและพระกาฬ บันดานทั้งพระยาพานพระยาพาลี บรรดาลทั้งเจ้ากรุงพาลีที่อยู่ในป่า อนันเทจะ พยัคคาจะ พยัคคะนะ ครูกูจึงให้กำเนิดมา ซึ่งพญาสมิงฆา โวมะถัง ปะกาเสนโต สะถะอาหา พยัคฆราโช เชนะ อาสิทิเสถถัง อาหะเฏชะนา อะปันนะอาสิติ(เป่าไปที่ตัวเสือ)

    * เมื่อจะบนบานศาลกล่าวใดๆก็ดี ให้บนด้วยหมูนอนตอง คือนำชิ้นเนื้อหมูมาวางบนใบตอง จะใช้ชิ้นเนื้อหมูสดก็ได้ หรือต้มให้สุกก็ได้ ถ้าใช้ชิ้นเนื้อหมูสด สมิงพระกาฬจะมีอานุภาพเกรี้ยวกราดมากกว่าปกติ

    * สมิงพระกาฬนี้เป็นเสือตัวครู เป็นของสำเร็จ เวลาจะใช้ขึ้นอยู่กับกำลังใจของคนรับ ถ้ากำลังใจเปิดรับเขามากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีผลมากขึ้นเท่านั้น สุดเเต่ใจของผู้ใช้งาน

    * เนื้อพระเป็นมวลสารล้วนจึงต้องพ่นแชลคไว้กันการเสียหายดังภาพ จึงเเจ้งให้ทราบ

    สมิงพระกาฬตวาดฟ้าสร้างไว้ได้เพียง 20 ตัว มีให้ร่วมทำบุญบูชาเพียงเท่านี้ ถ้าหมดเเล้วไม่ต้องมาถามหารุ่น 2 อีกเช่นกัน หากผู้ใดอยากได้ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าเราถือว่าให้เขาทำบุญรับ

    ร่วมทำบุญรับ สมิงพระกาฬตวาดฟ้า(พญาเสือตัวครู) บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2015
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระขุนแผนพรายกุมารบูชาครู (ครูใหญ่ท่านยานาค)

    ก็เป็นครั้งเเรกที่พ่ออาจารย์ท่านมีดำริ ว่าอยากจะทำพระเครื่องซักชุดหนึ่ง ซึ่งเป็นพระที่แก่อิทธิคุณทุกองค์ โดยที่ผมเองก็ไม่คาดคิดว่าท่านจะทำเป็นพิมพ์พระขุนแผนพรายกุมาร

    เนื่องจากพ่ออาจารย์ได้เคยออกพระขุนแผนเนื้อผงพรายกุมารให้บูชาไปแล้ว ซึ่งก็หมดในทันทีทั้งๆที่มีจำนวนสร้างค่อนข้างมาก เเต่ตัวท่านนั้นก็ยังติดใจอยู่เพราะเเม่พิมพ์ที่ใช้นั้นขาดความคมชัดไม่สวยงามเท่าไหร่ทำให้องค์พระที่ได้ดูตื้น มาในครั้งนี้ท่านได้ปรับแก้เเม่พิมพ์ใหม่ให้มีความลึก สวยงามมีมิติชัดเจน เเละยังได้ผสมสูตรมวลสารตามตำนานการสร้างพระขุนแผนพรายกุมารอย่างเเท้จริงอีกด้วย

    ที่กล่าวชื่อรุ่นว่าพระขุนแผนพรายกุมารบูชาครูนี้ เพราะว่าเป็นการสร้างด้วยอาศัยบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 2 สายมาผสมกัน ท่านว่าทำบูชาครูทั้งทีต้องเเรงสุดๆไม่ให้ต่างจากที่ครูทำ คือ
    - สายตะวันออก ด้วยมวลสารของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และท่านพ่อทาบ วัดกะบกขึ้นผึ้ง
    - สายภาคกลาง ด้วยวิชาอำนาจบารมีของท่านย่านาค ในสายเจ้าพระคุณสมเด็จโต

    พ่ออาจารย์ท่านมีดำริจะผสมสูตรมวลสารเนื้อพระให้เข้มข้นสูงสุด จึงใช้ผงเเละมวลสารล้วนๆมาประกอบกันขึ้นมาเป็นเครื่องมงคลอาถรรพ์ชุดนี้ โดยได้นวดผงเเยกออกมาตั้งเเต่ผสมมวลสารสร้างสมิงพระกาฬ ซึ่งมวลสารของชุดนี้จะประกอบไปด้วย
    - ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ซึ่งเป็นสุดยอดผงที่มีกรรมวิธีสร้างซับซ้อนวุ่นวาย โดยผงนี้ได้รับการอธิษฐานจิตให้สำเร็จตัวจากหลวงปู่ทิม ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผงที่มีอาถรรพ์เเละเฮี้ยนที่สุดในยุคหลังปี 2500 ก็ว่าได้ ใครได้ไปมีประสบการณ์กันทุกคน ทำให้พระขุนแผนพรายกุมารมีสนนราคาสูงลิบ
    - สีผึ้งผีหุง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านหวงมากเพราะได้มาพร้อมๆกับผงพรายกุมาร สีผึ้งนี้เรียกได้ว่าเป็นของสุดยอดที่จะหาของเเท้ชมยังยากในสายหลวงปู่ทิมนี้ ได้ชื่อว่ามีอิทธิคุณและอาถรรพ์แรงกล้าหายากกว่าสีผึ้งเขียวของพ่อท่านทาบเสียอีก ซึ่งวิธีทำสีผึ้งนี้ค่อนข้างพิศดารหลังทำเสร็จหลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกจนสำเร็จ ใครได้ไปใช้ล้วนเห็นผลทันใจทันตากันทุกคน ท่านให้เอาไปใช้ในทางที่ดี พ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาผสมเป็นเชื้อเพื่อนวดกับผงที่ลบถมได้
    - น้ำมันพระเจ้าตาก ซึ่งน้ำมันนี้ เป็นอีกหนึ่งมวลสารที่ทำให้พระขุนแผนของหลวงปู่ทิมเฮี้ยนสุดๆเนื่องจากใช้น้ำมันนี้เป็นส่วนผสมเนื้อพระตอนทำพระขุนแผนผงพรายกุมาร พ่ออาจารย์ท่านได้รับมาพร้อมกับผงพรายกุมารเเต่ไม่เคยนำมาผสมสร้างเนื้อตามสูตรเลย นี่เป็นครั้งเเรกที่ท่านใช้เป็นตัวประสานเนื้อพระ เพื่อให้พระนั้นดีที่สุดเช่นบูรพาจารย์เคยทำไว้
    - สีผึ้งเขียว ท่านพ่อทาบ วัดกะบกขึ้นผึ้ง สีผึ้งในตำนานที่เเม้มีปริมาณเพียงหัวไม้ขีดเดียวก็มีอานุภาพเเรงกล้า เป็นสีผึ้งได้สาว เสียสาว เพราะมีกรรมวิธีทำลึกลับซับซ้อน
    - ผงอิทธิเจเสน่ห์กล , ผงสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน พ่ออาจารย์ท่านได้ลบผงวิเศษเเละเลือกใช้ผงเพียง สองชนิดนี้เท่านั้นมาผสมสร้างพระรุ่นนี้ ท่านว่าผงอิทธิเจเสน่ห์กลนั้น มีอำนาจรุนเเรงอยู่เเล้ว ปลิวไปที่ไหนเเค่คนเดินก้าวข้ามนี่หลงหัวปักหัวปำ เป็นเสน่ห์อย่างถึงที่สุด ในส่วนของผงสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกันนั้น ก็เเน่นอนว่าเป็นผงที่มีอิทธิคุณทางด้านกามตัณหาเสน่ห์ราคะสูง เพราะสาวสามหมู่บ้านนั้นมีสามีคนเดียวกัน ยินดีอยู่ร่วมกัน ท่านว่าผงสูตรนี้เเรงเอาไปใช้ไม่ต้องพูดอธิบายอะไรมากมันจะไม่งาม ซึ่งท่านกล่าวเเต่เพียงว่า ล่อกันทั้งวัน ได้กันไม่ได้เลือกเลยว่าใครเป็นใคร

    เมื่อนำมวลสารทั้งหมดมาผสมกันเเล้ว ต่อจากนี้ก็มาดูของดีที่ฝังลงในเนื้อพระรุ่นนี้กันบ้าง ซึ่งมีสิ่งวิเศษต่างๆดังต่อไปนี้
    - ท่านย่านาค เป็นเจ้าแห่งภูติพรายที่เฮี้ยนที่สุด ในประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ก็ว่าได้ ที่ถึงกับพระมหากษัตริย์ยังต้องเสด็จไปทอดพระเนตรด้วยพระองค์เองถึงกิตติศัพท์ความเฮี้ยนของท่านย่า โดยภายหลังนั้นสมเด็จโตได้นำชิ้นหน้าผากของท่านย่ามาทำรัดประคด ทำให้ท่านย่าได้ซึมซับวิถีเเห่งคุณธรรม โดยเจ้าพระคุณสมเด็จได้ทำการอบรมสั่งสอนท่านย่าด้วยตัวท่านเอง ทำให้ท่านมีกำลังทางใจสูงขึ้นรวมไปถึงมีอิทธิฤทธิ์ที่แก่กล้ามากขึ้น เรียกได้ว่าก่อนมาเฮี้ยนอย่างไร แต่ปัจจุบันมีฤทธิ์มากกว่านั้น มากกว่าที่เคยเป็นตำนานนับสิบนับร้อยเท่า เเต่ท่านย่านั้นมิได้เกี้ยวโกรธเช่นเเต่ก่อนกลับใจดีพร้อมช่วยเหลือทุกคน ยิ่งเป็นศิษย์ในสายเจ้าพระคุณสมเด็จโตเเล้ว ท่านย่ายิ่งให้ความเอ็นดูคอยช่วยเหลือค้ำจุนทุกเรื่องเป็นพิเศษ พ่ออาจารย์ท่านได้หล่อท่านย่าอุ้มพี่หนูแดงขึ้นจากชนวนตะกั่วอวนเจ้าสมุทรลบถมพิเศษ พอหล่อเเล้วก็นำมาขอบารมีท่านย่าเชิญญาณจิตวิญญาณของท่านมาสถิตย์อยู่ในทุกรูปทุกดวงจิต ก่อนจะอธิษฐานบอกกล่าวให้ท่านย่าไปช่วยเหลือผู้อื่นในทุกๆด้าน พ่ออาจารย์กล่าวว่า วิธีใช้นั้นง่ายมาก เพียงเเค่นึกถึงเจ้าพระคุณสมเด็จท่านตั้งจิตให้เป็นสมาธิ เสร็จเเล้วก็นึกถึงท่านย่าตามมาทีหลังทีนี้จะบอกกล่าวหรืออะไรก็ไวทุกเรื่อง ท่านย่ารักพี่หนูแดงมาก เวลาจะบนจะขออะไรให้บนด้วยขนม ของเล่น น้ำแดง หรือทองคำ ให้บนว่าถ้าสิ่งนั้นๆสำเร็จจะเอาขนมของเล่นเหล่านั้นมาให้พี่หนูแดง (แล้วท่านจะรู้ว่าพรายองค์ครูที่เฮี้ยนที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นเช่นไร)
    - ไม้ไก่กุกวิชาอาถรรพ์ ปกตินั้นจะหาเพียงไม้ไก่กุกที่เป็นของธรรมชาติก็ว่ายากเเล้ว เเต่พ่ออาจารย์ท่านทำเครื่องรางนี้โดยอิทธิวิธีเฉพาะ ซึ่งก็คือท่านได้นำน้ำมันที่ซื้อมา 3 เจ้าไม่ต่อราคามาผสมกับยาประดอกรัก เถ้ากลางป่าช้า ตะไคร่เสมา มาผสมกันเสกด้วยคาถาน้ำตาเเห้ง หลังจากได้น้ำมันมาเเล้วท่านจึงนำไปทาไว้ที่ตัวพ่อไก่และเเม่ไก่ รอเวลาที่พ่อไก่คาบกิ่งไม้เล็กๆร้องเสียงเรียกเเม่ไก่ให้มาผสมพันธุ์อย่างรวดเร็วด้วยมนต์พระคาถา ถือว่าได้ไม้ไก่กุกที่เเรงด้วยอาถรรพ์วิชา ท่านว่าเเรงกล้ากว่าไม้ไก่กุกทั่วไป มีอาถรรพ์สูง ไม้ตัวนี้อยู่ที่ไหน ความรักเสน่หาก็จะวิ่งเข้ามาใส่ มาให้เราง่ายๆไม่ต้องเสียเวลานานเเต่อย่างใดแบบพ่อไก่เรียกเเม่ไก่เพราะต้องมนต์คาถาเช่นนั้น
    - ศิลาอธิษฐาน คุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธ พ่ออาจารย์ได้นำมวลสารพิเศษมาฝังไว้กลางหน้าอกองค์พระทุกองค์ กล่าวกันว่าคุณแม่บุญเรือนนั้นจิตของท่านสำเร็จเเเละท่านมีความเชี่ยวชาญในอิทธิวิธีมีบารมีมาก ดังนั้นศิลาน้ำที่ท่านอธิษฐานไว้ช่วยคนตกทุกข์ได้ยากทั้งหลายจึงเป็นดุจดั่งของวิเศษ พ่ออาจารย์ท่านได้นำมาฝังไว้กลางหน้าอก เพื่อเป็นตัวช่วยขับพลังงานขององค์พระในจุดศูนย์กลางอก เป็นตัวดูดตัวรวบรวมพลังงานเอาไว้ ท่านว่าเพียงเเค่เรามองจุดศูนย์กล้างหน้าอกนี้ ก็พร้อมจะอาราธนาบารมีขององค์พระ ของชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์วิชาความขลังต่างๆทั้งของมหาภูติท่านย่านาคเเละเหล่ากุมาร มาไว้กับตน ไม่จำเป็นต้องสวดคาถาใดๆให้ยุ่งยาก เวลามีความจำเป็นต้องใช้งานเร่งด่วนจริงๆ
    - ตะกรุดวิชาสังฮอมจิต,ผูกจิต เป็นตะกรุดที่ฝังไว้ด้านล่างท่านย่านาค วิชานี้เป็นหนึ่งในวิชาสายเสน่ห์ที่ทำยากมาก เพราะผู้ทำจะต้องเข้าถึงภาวะเเห่งจิตทั้งของตนเเละของผู้อื่น มีญาณวิถีกระจ่างชัด เป็นตะกรุดที่มีอานุภาพทางด้านควบคุมจิตใจผู้อื่น ทำให้จิตเเละความรู้สึกของคนที่เราต้องการอยู่กับเรา ให้เขาอยากเข้ามาหาเรา ผูกเอาไว้กับเราไม่เสื่อมคลาย วิชานี้ถ้าใช้ได้ฝึกให้คล่องพร้อมไปกับการเจริญกรรมฐานภาวนา จะมีญาณวิถีแก่กล้าถึงขนาดที่ทำให้เราสามารถรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น กับอีกคนหนึ่งทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านได้ให้คาถาไว้ใช้กำกับด้วย เพื่อที่เราจะได้ผูกจิตคนที่เราหมายปองได้ เวลาจะระงับดับไปท่านว่าไม่ต้องกังวลก็เพียงระลึกถึงคนใหม่ วิชานี้เป็นตะกรุดสำหรับคนที่หมายปองเรื่องเสน่ห์โดยเฉพาะ ท่านว่าลงให้เต็มที่เเล้วจะใช้จนถึงขนาดเห็นการกระทำเเละความเป็นไปของบุคคลอื่นหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่ที่จิตของผู้รับเอง ว่าจะฝึกเอาจริงเอาจังสักเพียงใด ถ้าใช้ได้คล่องไม่จำเป็นต้องผูกครั้งละคน จะสวดคาถาผูกครั้งละหลายๆคนก็ได้(ท่านว่าลงยากมากลงทั้งหน้าหลังดอกนึงท่องสูตรเป็นชั่วโมง)
    - ตะกรุดมหานิยมใหญ่ ท่านว่าความเมตตานั้นมีแล้วก็กินกันไม่หมด เป็นยอดของวิชา มีเมตตาเเล้วเที่ยวได้ทั่วโลก ใครเห็นก็เมตตาเอ็นดูเข้ามาหาเรา จะทำอะไรเขาก็รักก็เมตตาเอ็นดูเรา ท่านลงไว้ฝังด้านหน้า ในกรณีที่เราจะเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่เจ้านายหรือผู้มีอำนาจมากทั้งหลาย เขาจะได้โอนอ่อนต่อเราเมตตารักเราเหมือนลูกในไส้
    - ตะกรุดมหาเสน่ห์ใหญ่ นี่ก็ฝังไว้ด้านหน้าคู่กับมหานิยมใหญ่เช่นกัน ท่านว่าเพื่อจะให้วิชานี้ควบกัน มีมหานิยมเเล้วก็มีเสน่ห์ในตัวด้วยถ้าใครขาดเสน่ห์ไปจะได้เข้าไปเสริม ท่านว่าคนเรานี้ถ้ามีเสน่ห์เเม้ไม่หล่อไม่รวยเเต่ก็ชวนให้มอง ให้น่าหลงใหลใฝ่ฝัน คนมีเสน่ห์กับคนหล่อนั้น คนมีเสน่ห์ยังไงก็เป็นต่ออยู่เสมอ ท่านทำฝังไว้ให้เป็นอิทธิคุณเเฝด
    - โรยเเร่เทวาประสิทธิ์ มีอิทธิคุณของเหล้าเทพยดาอยู่เต็มเปี่ยม

    "ขลังมาก เฮี้ยนมาก" เป็นคำพูดที่พ่ออาจารย์พูดเสมอเวลาเสกพระชุดนี้ ท่านว่าพระที่เราทำนี่เป็นพระเจ้าชู้ นี่ทำไว้ให้ใครอยากได้ก็ตามเเต่บุญเค้า ทำไว้ให้คนที่มีปัญหาครอบครัว ไม่มีคนรักไม่มีคู่ชีวิต อยากมีความรักอยากได้คู่ที่ดีงาม เค้าเจอก็ให้มีเหตุมาอาราธนาไป กุมารซ้ายขวาองค์พระนั้นท่านเรียกว่าเจ้าชัยกับเจ้ายศ ท่านว่าเลี้ยงเเบบกุมารทองได้เลย ใครมีองค์พระรุ่นนี้

    สมัยก่อนหลวงปู่ทิมทำไว้อย่างไร คราวนี้เราใช้มวลสารของท่านทำมากเสียยิ่งกว่าที่ท่านเคยทำ ไม่ได้คิดวัดรอยเท้าครูบาอาจารย์ เเต่เดินไปตามรอยเท้าท่าน มีอะไรดีก็ใส่ไปให้ครบทั้งหมดท่านเสกแบบเดียวกับที่เสกตะกรุดบ่วงตัณหาดอกครูทีเดียว ท่านว่าเวลาเสกเราสำเร็จด้วยคาถาเเละศาสตร์ที่เราเรียนมา ก่อนจะเชิญสมเด็จบรมครู ท่านทิมกับท่านทาบมาลงเสกปิด อีกครั้ง

    คาถาบูชาอาราธนาองค์พระ
    อิธะเจตะโส ทะทัสหะ ตัณหาหิ จามะสา ภักขิมิ ตังมะ มะตังวา ยะ อิตถีโย พุทธะโนชาโต เอหิ กัมมาริ สัมมา ตะมะอาคัจฐะหิ คิวิตะโพ อาคัจฐะหิ (ท่านว่าให้ภาวนา 7 ที ไม่ควรนำไปเเกว่งน้ำให้ใครกิน เพราะเเรงเกินไปเขาจะเป็นบ้าเสีย)

    วิธีผูกจิต
    จิตตังกุตตัง สุขาวะหัง จิตตังสุกขาวะ จิตตังวิภัตติรูปันจะ นิกเขโปอัตตะโชตนา คัมภีรานิปุนนะนัตถานัง ตัมปิพุธเทนะเท ชิตัง(ระหว่างท่องพระคาถานี้ให้ทำใจให้นิ่งสำรวมจิตไว้ให้มั่นคง)
    ยะถาถัมเป นิพพะเทยยะ วะสะธัมมัง นโรอินทเยวิสัคคัง จิตตังยารัมมโน ทะละหะ (ระหว่างท่องพระคาถานี้ให้นึกถึงหน้าคนที่เราหมายปองเขาเป็นการผูกจิตแล จะนึกเช่นใดก็ตามแต่ปรารถนา)

    *อันนี้ผมพิมพ์ได้เเต่เพียงว่า ชวนมาร่วมทำบุญกันเท่านั้น อธิบายเยอะกลัวจะเป็นภาษาที่ไม่เหมาะ พูดได้เเค่ว่าถ้าหาของเเรงอันนี้เเรงมากเป็นเสน่ห์แบบกินตั..โดยตรง ชวนให้มาร่วมทำบุญบูชากัน พูดได้เท่านี้ ท่านเสกมาตั้งเเต่ทำสมิงพระกาฬเเล้ว เนื้อมวลสารจะมีความเเตกต่างกันในส่วนผสมเเละการเสกที่เเยกกันเสกคนละชนิด

    * เเจ้งว่ามวลสารนั้นหมดเเล้ว ในส่วนของสีผึ้งผีหุงกับน้ำมันพระเจ้าตากเเละผงพรายกุมาร ท่านเทหมดหน้าตักเลย สร้างพระเนื้อมวลสารล้วนได้เพียง 16 องค์เท่านั้น

    ร่วมทำบุญบูชา พระขุนแผนพรายกุมารบูชาครู (ครูใหญ่ท่านยานาค) บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2015
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดบรมอินทรา(ท้าวกำพร้า)

    จะกล่าวถึงจอมเทพ ผู้เป็นใหญ่เเห่งสวรรค์พิภพดาวดึงส์ ซ้ำยังเป็นประธานเทวสภาของกามภพและรูปภพ หลายๆท่านคงจะพอนึกออกว่า เทพเจ้าผู้เป็นตำนานมีคุณธรรมสูงส่งอยู่ในระดับพระอริยบุคคลนี้ ก็คือพระอินทร์นั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวถึงพระอินทร์ไว้ในหลายวาระ จะว่าไปวิชาของพระอินทร์ที่ถ่ายทอดเป็นวิทยาการไว้เพื่อโปรดสัตว์โลกผู้ยากนั้นก็มีหลายแขนงหลายประเภท แต่มีวิชาหนึ่งซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญกันมาเเต่โบราณว่าใครได้พบเเละถือครองยอดวิชานี้ เหมือนได้ผ่านสมบัติทั้งหลายของเทวโลกปรารถนาสิ่งใดล้วนไม่ไกลเกินเอื้อมทั้งสิ้น

    การทำเครื่องมงคลด้วยวิชานี้ พ่ออาจารย์ท่านเเยกเเยะไว้หลายส่วน ตะกรุดดอกหนึ่งนั้นมีความสำคัญเเละมีความหมายลึกซึ้งมาก เพราะเป็นตะกรุดที่ทำด้วยวิชาท้าวกำพร้า อันเป็นวิชาขององค์อมรินทร์ที่สืบทอดเป็นตำนานมาเเต่ฝ่ายลังกานับร้อยนับพันปี พ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาสร้างบูชาครูปู่พระอินทร์ซักครั้งหนึ่ง ซึ่งวิชานี้จะสำเร็จได้ไม่เพียงการลงจารลงเสกเท่านั้น ยังต้องเชิญบารมีของพระอินทร์ท่านมาเทียบมาประจุญาณลงในตะกรุดทุกเเผ่นอีกด้วย

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำเเผ่นตะกั่วลงถมซึ่งหลอมรีดมาพิเศษ มาลงด้วยพระยันต์จักวัตติซึ่งถือว่าเป็นพระยันต์ชั้นสูงในฝ่ายล้านนา มีค่าควรเมืองเพราะนับเนื่องในหมวดหมู่พญายันต์ ซึ่งคำว่าจักวัตตินี้ก็มาจากชื่อของพระยาจักรวัตติราชหมายถึงพระอินทร์นั่นเอง เป็นที่รู้จักกันดีว่ายันต์นี้คือยันต์หัวใจพระอินทร์ ผู้ใดได้บูชาพระยันต์นี้ที่ลงถูกต้องตามกลการลงเเบบบังคับ กล่าวกันว่าคนผู้นั้นจะมีคุณวิเศษในตัวเหมือนพระอินทราธิราชผู้เป็นเจ้าเเห่งดาวดึงส์ทีเดียว

    วิชานี้จะลงเฉพาะฤกษ์วันดีๆเช่นในวันพญาวันหรือเพ็ญข้างขึ้น ต้องทำตอนเช้าก่อนเที่ยงวัน ขึ้นบายศรีข้าวตอกดอกไม้เป็นการเฉพาะพิธีการ ตัวผู้ลงนั้นจะต้องเข้าใจความหมายตามอักขระวิธีแต่ละตัวเเบบกระจ่างชัดที่สุดจึงสามารถลงได้มิเช่นนั้นก็ไม่มีผลอะไร

    "อยากมีทรัพย์สมบัติ ก็ให้มีเสมอน้ำใจ อยากมีคนเคารพนบไหว้ เขาก็เกรงกลัวเคารพเราสิ้น ไว้ที่ใดก็เจริญที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นสมบัติวัตถุและญาติมิตร ถูกเนื้อสมใจแก่คนทั้งหลาย ทำมาหากินคล่อง ลูกน้องรักเจ้านายโปรดปราน" นี่เป็นเพียงเทวานุภาพของพระยายันต์ตัวที่ชื่อจักวัตติอันเป็นหัวใจองค์อินทร์นี้เท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดบรมอินทราขึ้น เพื่อรองรับพลังงานเเละบรรจุพระเวทย์วิชาท้าวกำพร้า อันเป็นวิชาของพระอินทร์โดยเฉพาะที่ประทานให้กับกุลบุตรทั้งหลายที่มีความผูกพันธ์มีบุญให้พระองค์ท่านเกื้อหนุน ดังนั้นเเม้ในส่วนของอักขระเเละพระเวทย์วิธีท่านจึงพิถีพิถันมาก

    เมื่อลงยันต์จักวัตติตามฤกษ์ยามเสร็จเเล้ว ท่านก็หาฤกษ์มงคลลงตัวล้อมพระยันต์ ซึ่งท่านล้อมพระยันต์จักวัตติหรือหัวใจพระอินทร์นี้ ด้วยบทคาถาฝนเสน่หา พระมนต์บทนี้มีพุทธคุณมาก เพื่อหวังให้ผู้ใช้เข้าถึงอำนาจบารมีของตะกรุดเเบบสูงสุด ใครได้ครอบครองก็ให้พระอินทร์ท่านรัก ท่านโปรดปรานอยากจะช่วยเเละเกื้อหนุน พ่ออาจารย์ว่าลงเเบบนี้เป็นอาญาสิทธิ์ที่ขัดข้องไม่ได้ ตะกรุดนี้จะขับพลังบารมีของพระอินทร์ ในส่วนของความรักความเมตตาที่มีให้กับมนุษย์โลกออกมาจนถึงจุดสูงสุด ให้พลังนั้นไหลออกมาเป็นเเสนห่าฝนมิอาจจะคาดการณ์เเละประเมินปริมาณได้ ให้ท่านรักเเละเมตตาเราไม่ต่างจากที่ท่านรักเเละคอยช่วยเหลือเกื้อกูลปัญจสิงขรคนธรรพ์เทพบุตรเหมือนพ่อรักลูก พ่อช่วยลูก ฉันใดก็ฉันนั้น

    ลำพังพญายันต์จักวัตติที่สืบมาเเต่โบราณที่กล่าวขานว่าเป็นหัวใจพระอินทร์ผู้ใดได้ครอบครองเหมือนได้สมบัติสวรรค์มีแก้วมณีโชติอยู่ในมือ ว่าให้ผลเเรงเเล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่เเรงนั้นยังไม่มากพอต้องลงมาเร็วด้วย จึงเลือกที่จะล้อมหัวใจพระอินทร์ด้วยบทฝนเสน่หา ส่วนด้านหลังนั้น ท่านลงจารด้วยพระเวทย์มหาสะกดของท่าน เพื่อให้การทำงานของยันต์ทั้งสามผสานกัน ซึ่งท่านต้องเเยกเสกทีละยันต์ก่อนก่อนจะเสกรวมให้ขับพลังงานหนุนนำซึ่งกันเเละกัน

    จะเห็นได้ว่าการทำตะกรุดบรมอินทรานั้นเป็นการทำในตำรับพ่ออาจารย์พลที่มีวิธียุ่งยากซับซ้อนกว่าจะได้เเต่ละดอกนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านว่าเราจะทำให้ดีที่สุดให้สมกับยุคเข็ญซึ่งพระยันต์เเต่ละตัวนั้นเเม้โบราณจารย์ก็ไม่เคยทำเช่นนี้ ไม่เคยทำให้ถึงขนาดนี้มาก่อน ฝากไว้ให้เป็นตำนาน ในสายวิชาของเสด็จปู่พระอินทร์ท่าน

    เมื่อสำเร็จตะกรุดเเล้ว ท่านก็นำมาประจุพระเวทย์ในส่วนของมนต์ท้าวกำพร้า มนต์นี้ผู้ใดถือครองเสมือนหนึ่งได้รับพรจากพระอินทร์เจ้า พ่ออาจารย์ท่านเชิญพระอินทร์มาประสิทธิ์ประสาทตะกรุดนี้พร้อมกับโองการมนต์ต่างๆเเละเข้าสมาธิอธิษฐานจิตตะกรุดด้วยวิชาท้าวกำพร้าจนสำเร็จ

    วิชานี้มีอำนาจเเลเทวานุภาพมาก ท่านจึงอยากให้ตกถึงเเต่มือคนดี คนขยันทำมาหากิน มิใช่คนเกียจคร้านเฝ้ารอวันเเละเวลาเอาเเต่จะรวยโดยไม่ขวนขวายเเสวงหาความเจริญก้าวหน้าเเต่อย่างใด วิชาท้าวกำพร้านี้เเม้ยาจกกำพร้าเข็ญใจ ยังประสบความมั่งมีได้ดีเป็นถึงเจ้าพระยาพระมหากษัตริย์จอมจักรพรรดิ์ได้ จากบุคคลชนชั้นต่ำสุดได้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตมนุษย์ด้วยอำนาจพรเเละเเรงผลักดันของสิ่งมีชีวิตผู้เป็นใหญ่เเห่งพิภพดาวดึงส์ซึ่งก็คือพระอินทร์นั่นเอง

    ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานให้ตกถึงมือคนดีไม่โลภเท่านั้น เพราะเป็นวิชาที่ให้คุณมาก ท่านว่าไม่อยากเห็นคนขี้เกียจ เมื่อได้ดีเเล้วก็อย่าเหลิงว่ามีพรของพระอินทร์อยู่กับตัว มีพระอินทร์คอยช่วยคอยเปิดทางชีวิตให้อยู่ ให้ขยันประกอบกรรมดี ตั้งใจทำมาหากินต่อไป ท่านจะดึงดูดดลบันดาลให้เจอเเต่สิ่งที่ดีงาม

    ตะกรุดนี้จึงมีพุทธคุณออกทุกด้าน ตามธรรมดาว่าพญายันต์จักวัตตินั้นใช้ได้พันเรื่องดุจฝอยท่วมหลังช้างเมื่อนำหัวใจพระอินทร์มาเข้าด้วยพระยันต์อื่นๆที่หนุนส่งเป็นตัวเร่งเเละผลักดัน เเล้วจึงมาประจุมนต์ท้าวกำพร้าเเล้ว จึงมีพุทธคุณล้านช่อง ใช้ได้ล้านเรื่องตามเเต่จะปรารถนา กล่าวง่ายๆคือไม่ต้องพูดอะไรมาก ใช้ได้ทุกอย่าง เอาไปรักษาให้ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าอยากใช้อะไรก็ตามเเต่จะใช้เถิด ตะกรุดนี้มีอานุภาพไม่ต่างจากพระอินทร์บนสวรรค์เเต่อย่างใดเพราะเอาหัวใจเอาฤทธิ์อำนาจเอามหากรุณาของท่านมาบรรจุไว้เสร็จสรรพ

    เมื่อได้ไปบูชา ให้สวดคาถาบูชาตะกรุดดังนี้
    -ภาวนา อะหิสัสสะ (7-108จบ) นำตะกรุดใส่พานบูชาจุณเจิมตะกรุดนี้ด้วยเครื่องหอม ดอกมะลิสด ปรารถนาสิ่งใดก็เเต่งตัวให้สะอาดเเละน้อมทำตามวิธีนี้เถิด สำเร็จทุกเรื่อง
    -ภาวนาต่อด้วย นะอุภะยะอะ (3-7-9) เป็นการกระตุ้นให้ตะกรุดมีอานุภาพเเรงขึ้นพระอินทร์ท่านจะเข้ารักษาทุกเมื่อหากภาวนาเป็นประจำจะทำให้สื่อเเละเข้าถึงอำนาจของตะกรุดได้ง่ายขึ้น
    จากนั้นให้นมัสการตะกรุดก่อน 3 จบด้วยบทนี้ (ระลึกถึงพระอินทร์เป็นที่สุด)
    - อนิ อเทวรเวนาเถ กัปปันเน กุลละปุตตัสสะ อินทิเทวินโท กรุณามะยิ จากนั้นจึงสวดคาถาว่า
    - โอม อะหังนิรเท สัสสวาสัง วะสะตัง ขะณาเถกะยะเน อินทะเทวินโท กรุณามะยิ สุอะนิอะเท อรัญเญนะนาเถ กุลละปุตตัสสะ นิเทสัตวาสัง วะสันตัง ขณาอุปปันโณ อินทะเทวินโทกรุณามะยิ

    * ตะกรุดบรมอินทรา(ท้าวกำพร้า)นี้พ่ออาจารย์ท่านเสกในไตรมาสตั้งเเต่ปีที่เเล้ว ค้นเจอที่เหลืออยู่มีประมาณ 9 ดอก
    - ผู้ใดมีวัตถุประสงค์อยากร่วมทำบุญบูชา รับตะกรุดบรมอินทรา(ท้าวกำพร้า)นี้ ให้ รักษากฏกติกา พิมพ์คำว่าอยากรวย inbok ส่งมาทางPMแล้วกัน ถ้าท่านใดจะจอง ให้พิมพ์ข้างนอกเดี๋ยวจะดูโลภๆไม่งามดูไม่ดี รายการนี้ให้จองทางPM หมดเมื่อไหร่จะมาเเจ้งหน้ากระทู้อีกที
    -ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้ม้วนมาเเต่เเรก ผู้ใดเช่าบูชารบกวนเเจ้งชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดมาด้วยตอนพิมพ์จองคำว่าอยากรวย ท่านจะทำการเจิมเบิกพระเนตรให้ด้านในตะกรุดก่อนม้วนเเละกรึงปิดเป็นอันเสร็จพิธี

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดบรมอินทรา(ท้าวกำพร้า) ร่วมบุญ 2,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • in_4.jpg
      in_4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.4 KB
      เปิดดู:
      270
    • SAM_4708.JPG
      SAM_4708.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      128
    • SAM_4707.JPG
      SAM_4707.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      111
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2015
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเสน่ห์ท้าวก่ำกาดำ(วิชาท้าวกินรี)

    สืบเเต่โบราณกาล มีพระเวทย์วิชาหนึ่งที่ไม่ค่อยปรากฏว่าครูบาอาจารย์จะสร้างเพื่อประสิทธิประสาทเเก่ผู้ใด เนื่องจากกลัวคนใช้จะเผลอใจนำไปใช้ผิดศีลธรรมหรือจะกลัวว่าจะมีผู้ใดได้ดีไปกว่าตน เกินหน้าตนเอง เเละเนื่องจากวิชานี้ทำค่อนข้างยากด้วยอีกประการหนึ่งก็เลยเเทบจะหายสาบสูญไปเลยก็ว่าได้

    วิชาที่กล่าวถึงนี้คือวิชาท้าวกินรี หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าท้าวก่ำกาดำ พ่ออาจารย์ท่านได้เรียนเเละใช้วิชานี้เที่ยวไปในสถานที่ต่างๆเมื่อในอดีต ด้วยอานุภาพเเห่งวิชานี้เป็นสิ่งที่น่าประหลาดเเละมีอาถรรพ์มากนัก เดี๋ยวจะกล่าวถึงในลำดับถัดไป

    เรื่องราวของท้าวก่ำกาดำหรือท้าวกินรีนี้เป็นตำนานที่สืบทอดมาเเต่โบราณ กล่าวกันว่าได้มีตายายคู่หนึ่งไร้บุตรสืบสกุล ทำอย่างไรก็ไม่มีลูกเสียที จึงได้ขอบุตรต่อพระอินทร์จอมเทพ พระอินทร์ท่านรู้ความประสงค์จึงประทานบุตรชายซึ่งมีบุญญาธิการสูงส่งให้ไปเกิดเป็นลูกของตายาย โดยผู้เป็นเเม่ได้ฝันเห็นดวงแก้วมณีสีดำลอยเข้าไปในปาก ครั้นให้กำเนิดบุตรก็เรียกได้ว่าเด็กคนนั้นมีรูปชั่วตัวดำสนิทเหมือนสีผิวของอีกา ใครเห็นก็หัวเราะเยาะเย้ยทำให้พ่อแม่เกิดความละอายนำบุตรไปลอยเเพทิ้งน้ำเสีย
    เด็กคนนั้นลอยอยู่บนเเพ 7 วัน 7 คืน ก็มาถึงริมชายหาด ด้วยอานุภาพเเห่งบุญญาธิการของทารกน้อยทำให้พระอินทร์จอมเทพไม่สามารถดำรงค์กายให้เป็นปรกติสุขได้ จอมเทพจึงเนรมิตรอีกาดำขึ้นมาตัวหนึ่งให้พาเด็กน้อยไปไว้ที่เมืองเบ็งจาล ซ้ำอีกาเนรมิตรนั้นยังเป็นเเม่นมคอยหาอาหารให้กับเด็กน้อยด้วยจนกระทั่งเด็กน้อยเติบโตขึ้นจึงได้นามว่าท้าวก่ำกาดำ
    ท้าวก่ำกาดำได้ไปอาศัยอยู่กับยายเฒ่าผู้เป็นหัวหน้าคอยเฝ้าสวนหลวงให้กษัตริย์ จนได้พบกับพระธิดาคนสุดท้องของกษัติริย์ที่ชื่อว่านางลุน ท้าวเธอนั้นมีความสามารถพิเศษอยู่ชนิดหนึ่งซึ่งไม่เหมือนใคร ก็คือเธอมีเเคนวิเศษติดตัวมาเเต่เดิม เมื่อท้าวก่ำกาดำเป่าเเคนขึ้นเมื่อไหร่ ก็จะสะกดสรรพชีวิตต่างๆให้เคลิบเคลิ้ม ให้เศร้าสร้อยเช่นใดก็ได้ตามความรู้สึกของท้าวเธอ ซึ่งท้าวเธอได้เป่าเเคนแก้วขึ้นทำให้กษัตริย์และนางลุนเกิดความพอใจในเสียงเเคน ถึงขนาดที่ว่าหากเเม้นไม่ได้ยินเสียงนี้ จะนอนไม่หลับเเม้เเต่เพียงวันเดียว
    เมื่อท้าวก่ำกาดำเข้าใกล้กษัตริย์ได้ ด้วยการคอยเป่าเเคนให้กษัตริย์ฟังก่อนนอน ก็เป็นโอกาสเข้าหาพระราชธิดานางลุนจนลักลอบมีความสัมพันธ์กัน(ขนาดรูปชั่วตัวดำนะ เพราะมนต์สะกดของเสียงแคนจริงๆ)
    ภายหลังท้าวก่ำกาดำ พระองค์ได้ถอดรูป เป็นยอดบุรุษหนุ่มผิวกายงดงามสะอาดผ่องใส่เป็นที่หมายปองของอิสตรีที่ได้พบเห็น เมื่อท้าวก่ำกาดำถอดรูปชื่อเรียกของท้าวเธอก็เปลี่ยนไปโดยมีนามใหม่ว่าท้าวกินรี ท้าวกินรีได้บอกเรื่องราวเเต่หนหลังให้นางลุนทราบว่าตนเองมาจากเมืองอินทปัฐ
    จนภายหลังเรื่องทราบถึงองค์กษัตริย์ผู้เป็นบิดาของนางลุน พระองค์ได้เรียกสินสอดเป็นเงินแสนชั่ง ทองแสนชั่ง ช้างพันตัวพร้อมคนขับขี่ คนใช้พันคน สะพานเงิน สะพานทอง ให้ท้าวกินรีสร้างขึ้นให้เสร็จโดยมีระยะทางตั้งเเต่สวนหลวงไปจนถึงวังหลวง ด้วยบุญญาธิการของท้าวกินรี ท่านได้เป่าเเคนแก้วขึ้นส่งผลให้ทั้งพระอินทร์ ทั้งพญานาค ตลอดจนเทพเจ้าทั้งหลายต้องรีบลงมาช่วยกันหาเงินหาทองเนรมิตรสะหานเงินสะพานทองเเละสิ่งต่างๆให้ครบครันตามความปรารถนาของท้าวกินรี ทำให้ได้เเต่งงานกับนางลุนเเละขึ้นเป็นกษัตริย์เเห่งเมืองเบ็งจาลต่อไป

    ด้วยตำนานของท้าวก่ำกาดำหรือพ่อท้าวกินรีนี้ครูบาอาจารย์ยุคเก่าทราบดีจึงได้ผูกพระเวทย์เเละพระยันต์เฉพาะบทขึ้น

    ซึ่งอานุภาพของพระเวทย์นี้จะมีวิธีใช้เฉพาะอยู่ โดยนับถือกันว่าผู้ใดที่ได้ครอบครองเครื่องมงคลอันสำเร็จด้วยวิชานี้จะมีสรรพคุณนานัปประการ
    - จะได้คู่ครองที่มีรูปงามมีชาติตระกูลสูงแม้ตัวเองจะต่ำต้อยรูปชั่วตัวดำก็จะได้หญิงงาม หญิงสูงศักดิ์ สูงด้วยชาติตระกูลนิสัยดีงามมาเป็นคู่ครอง
    - มีอานุภาพสะกดทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิต ให้เค้าเห็นใจเรา เมตตาสงสารเรา ช่วยเหลือเราในทุกเรื่องที่เราปรารถนา ตั้งเเต่มนุษย์จนถึงอมนุษย์แม้อินทร์พรหมยมยักษ์ก็ตาม
    - ผู้ที่ได้ครอบครอง แม้จะผจญอยู่ในกฏแห่งกรรม เทพเจ้าทั้งหลายก็จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือผ่อนหนักให้เป็นเบา เเละจะประสบความสำเร็จเข้าสู่จุดสูงสุดในชีวิตรวดเร็วเเละง่ายดาย
    - แม้รักหรือชอบพอใครเเล้วก็ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจ ขอเพียงปรารถนาที่จะเริ่มต้นในความรัก ย่อมได้เเละสำเร็จผลทุกครั้งไป
    พอจะกล่าวสั้นๆได้เเต่เพียงเท่านี้เพราะเป็นวิชาที่มีผลทางชักจูงชักนำ ทำให้จิตผู้อื่นเคลิบเคลิ้มหลงใหลตกอยู่ในภวังค์ของตัวเรา

    วิชานี้เป็นวิชาของผู้มีบูญญาธิการยิ่งใหญ่ มีวิธีใช้สารพัดจะใช้ตามเเต่ใจปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าแม้ได้ครอบครองเเล้ว สืบไปเบื้องหน้าชีวิตผู้ที่ถือครองจะสบาย หาความตกต่ำมิได้ เเม้ทุกข์เข็ญหรือปรารถนาสิ่งใดอันเกินเนื้อเกินเเรง เกินกว่าความสามารถของตน เทพเจ้าทั้งหลายท่านย่อมลงมาช่วยเหลือเนรมิตรสิ่งต่างๆให้ไม่เกินใจผู้ปรารถนา

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำวิชาท้าวก่ำกาดำนี้มาลงทำเป็นตะกรุด แต่เดิมทีนี้วิชานี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อของวิชาเล่นทางกามคุณ ซึ่งเคล็ดในการลงนี้มีอยู่ว่า เมื่อจะลงท่านต้องลงเป็นรูปท้าวกินรี ผู้บูชาไปจะได้มีสง่ามีพรรณรัศมีกายจับตาเป็นที่น่ามองเหมือนดั่งพระสังข์ถอดรูป ท้าวก่ำกาดำทิ้งรูปชั่วเช่นนั้น

    ซ้ำจุดสำคัญเลยคือต้องลงให้อยู่ในปางที่กำลังเป่าเเคน ยกเเคนเเก้วของวิเศษขึ้นมาเป่า ด้วยอำนาจของเสียงเเคนนั้นจะดลบันดาลให้มนุษย์เเละอมนุษย์ทั้งหลายเคลิบเคลิ้มอยู่ในความต้องการของเราก่อนจะลงล้อมด้วยคาถาต่างๆของท่าน

    ด้านหลังนั้นท่านประทับยันต์พญากาไว้ ด้วยเชื่อว่าท้าวกินรีหรือท้าวก่ำกาดำนี้อีกาของพระอินทร์เป็นผู้เลี้ยงดูมา เมื่อท่านเป่าเเคนเเก้วปรารถนาสิ่งใดอีกานี้ก็จะไปหามาให้ ปรารถนาความรักหมายปองหญิงงามนางใดเเม้อีกานี้บินไปเกาะเรือนเกาะเหย้าก็เป็นอันเสร็จทุกราย พ่ออาจารย์ท่านลงไว้เพื่อให้ผู้ใช้เห็นความสำเร็จอยู่ตรงหน้านั่นเอง

    ท่านได้ลงวิชาบนแผ่นตะกั่วพิเศษที่เป็นตะกั่วลงถมสั่งรีดโดยเฉพาะ เเละยังลงทับถมด้านหน้าเเละหลังอีก ท่านว่าลงเเบบนี้ถึงจะเข้มขลังดั่งที่บูรพาจารย์เเต่โบราณลงถวายเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินไม่สุกเอาเผากินทำเสียให้เสร็จๆ

    ตะกรุดวิชาเสน่ห์ท้าวก่ำกาดำ(ท้าวกินรี)นี้ พ่ออาจารย์บอกว่าก็มีสรรพคุณตรงตามชื่อตะกรุดเลย เป็นตะกรุดที่สำเร็จด้วยวิชานี้จะออกทางเจ้าชู้เลือกเล่นกับใครก็ได้ เอาไปใช้ก็ระงับข่มใจตนเองไว้บ้างจะได้ไม่ผิดศีลธรรม ไม่มีข้อห้ามเเต่อย่างใด

    เมื่อจะทำตะกรุดให้สำเร็จนั้น พ่ออาจารย์ท่านจะต้องนำตะกรุดลงไปปลุกเสกในน้ำมันเสียก่อนเรียกว่าน้ำมันท้าวกินรี น้ำมันนี้ทำยากนักเพราะเป็นน้ำมันเจตภูติเเต่มิได้น่ากลัวเเต่อย่างใด เพราะต้องนำนกกาที่ตกลงมาตายซากใต้ต้นกาหลงเรียกว่าหลงจนตายหลงจนโงหัวไม่ขึ้น นำซากมาเคียวกับว่านทางเสน่ห์นับร้อยชนิดปลุกเสกด้วยวิชาท้าวกินรีเก็บไว้ ก่อนจะนำตะกรุดลงมาเเช่เเละสำเร็จตะกรุดด้วยวิชานั้น

    ซึ่งการเสกตะกรุดครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้อาศัยยามดีเวลาดีในการเสก ซึ่งนานทีปีหนจะมีซักครั้ง นั่นคือพระจันทร์ยิ้มตั้งเเต่วันที่ 19-21 ซึ่งพ่ออาจารย์ได้นำตะกรุดเเช่น้ำมันท้าวกินนรีเสกให้สำเร็จเป็นเวลา 3 คืน

    นอกจากจะเสกด้วยวิชาท้าวก่ำกาดำเเล้วยังเชิญพลังอำนาจเร้นลับในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์พระจันทร์ยิ้ม ดาวเคราะห์บางดวงมีอำนาจมาก
    - เมื่อได้ปลุกเสกภายใต้ฤกษ์เวลานี้จึงเป็นอันเชื่อได้ว่าใครมีเรื่องรัก ใครอยากมีความรักจะสำเร็จเเน่นอน เพราะพระจันทร์ก็เป็นตัวเเทนของความอ่อนโยนอ่อนหวาน อิสตรี ถือเป็นดาวเสน่ห์ ในขณะที่ดาวศุกร์ก็เป็นตัวเเทนเป็นเครื่องหมายของความรัก ดาวพฤหัสก็หมายถึงการเริ่มต้นสิ่งต่างๆ ด้วยอำนาจแห่งดวงดาวที่พ่ออาจารย์ท่านได้เสกซัดอัดธาตุปลุกเสกบรรจุขึ้นมา จึงเชื่อได้เป็นอย่างยิ่งว่า ตะกรุดท้าวก่ำกาดำ(ท้าวกินรี)นี้ เเม้ใครคิดจะมีความรักปรารถนาสตรีเพศก็จะไม่มีทางสิ้นหวังเเน่นอนเปิดประตูความรักประตูแห่งการเริ่มต้นไว้ได้เลย
    - ในขณะเดียวกันใครคิดจะเริ่มต้นทำอะไรก็จะมีเเต่คนให้ความรักให้ความเอ็นดู ไม่มีความผิดหวังหรือล้มเหลวเลยทีเดียว นี่เป็นอานุภาพซ่อนเร้นของตะกรุดนี้ด้วยอานุภาพเเห่งดวงดาวนอกเหนือจากอานุภาพเเห่งพระเวทย์วิชาโบราณ

    คาถาปลุกตะกรุดกามคุณ
    โอมกาดำกาเผือกเลือกลม หมู่กานอน โอมกาเหล็กกาทองขอให้มาช่วยป้อง กูอวยหน้าเข้าบ้าน ให้ว่ากูผู้ดี โอมสะโหมติด เชิญหมู่กาดำน้อย หนองโสนบินเวิน(สะ-โหน) กาหลักกาวอน กานอนกาตื่น เชิญเยอให้มากุมก้องพระนางน้องผู้สู่คน(ถ้าใช้กับผู้ชายให้ว่าพระพี่อ้าย) เชิญกะถานกคุ้มให้ป่องมา เชิญกะถานกหาให้ป่องมาร่ายรีร่าย โอมสะโหมติด
    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านลงรูปท้าวก่ำกาดำหรือท้าวกินรีไว้ ควรห้อยคอหรืออย่าให้ต่ำกว่าเอว เวลาจะใช้ท่านว่านึกอยากได้อะไรให้บอกกล่าวเอากับท้าวกินรี อยากให้ผู้คนเห็นเรามีสง่าหน้าตางดงามมีเสน่ห์ก็ให้บอกท้าวกินรีนำตะกรุดมาวนใบหน้าตามเข็มนาฬิกาเสีย 3 รอบ
    วิชานี้ท่านว่าหากปรารถนาหญิงใดให้เขียนชื่อเขาสอดไว้ในตะกรุดบริกรรมคาถาวันละ3จบ ครบ7วันเขารักเราเเล แม้อยากให้เทวดารักษาให้เสก 5 จบ นำตะกรุดสวมคอไว้เทวดาทนอยู่มิได้ต้องรีบมารักษาเราเเล ถ้าจะกระทำการสิ่งใดให้เป็นเกียรติยศปรากฏชื่อลือชาทุกสถาน ให้สวด 7 จบ อาราธนาตะกรุดไว้เถิด สำเร็จทุกสิ่งเเล แม้ปรารถนาสิ่งใดหากวันไหนฝันหรือมีนิมิตรระหว่างเข้าสมาธิ เห็นอีกาดำ ด้วยอานุภาพเเรงครู ให้รู้ไว้เสียว่าการที่ปรารถนานั้นจะสำเร็จเสร็จดั่งใจนึกทุกสิ่งแล

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ ว่าหากปรารถนาเพียงเเค่เสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่สะกิดติดต้องใจเเก่หมู่ชนที่ได้พบเห็นเพียงอาราธนาติดตัวก็พอแล้ว เนื่องจากเป็นเวทย์วิชาที่ลงยากเเละฤกษ์ยามในการทำมีจำกัด ท่านจึงทำบูชาครูไว้ได้เพียง 12 ดอกเท่านั้น

    ผู้ใดมีความประสงค์ปรารถนาจะบูชาก็สอบถามมาทางPM ได้เลย ท่านว่าหาฤกษ์เสกให้มีพลังแห่งดวงดาวแฝงเช่นครั้งนี้ยากนัก ใครได้ไปนับว่ามีบุญและได้รับสืบทอดสายวิชาพระเวทย์เเต่โบราณที่ครูบาอาจารย์หวงแหนไม่ค่อยทำให้ศิษย์ผู้ใดได้ใช้ได้เรียนรู้เเละได้ครอบครอง

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเสน่ห์ท้าวก่ำกาดำ(วิชาท้าวกินรี) บูชา 2,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_47161.jpg
      SAM_47161.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      99
    • SAM_47171.jpg
      SAM_47171.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      114
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...