ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวิฬาร์ย่ำเหยียบเงาหมื่นกฏไม่ใช่เรื่องของเรา(เงาปรากฏรวยอมตะ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระนารายณ์แปลงชีวิตลอยเคราะห์บำเพ็ญกรรม(ศักติเกาโมทกี)

    ด้วยมนุษย์นั้นมีชะตาเป็นของตัวเองจะเรียกว่ากรรมลิขิต หรือพรหมลิขิตก็เรียก การจะเปลี่ยนแปลงชีวิตหรือชะตาลิขิตนั้นนอกจากวิธีเดิมๆเช่นการไหว้ขอบนบานศาลกล่าวแล้วมนุษย์ก็แทบจะไม่รู้เลยว่าสามารถทำอะไรได้อีก พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่เดิมนั้นวิชาที่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาแลเคราะห์กรรมของมนุษย์ได้ โดยประโยชน์ใหญ่ของสิ่งนี้ก็คือการที่มนุษย์สามารถทำและเปลี่ยนได้ด้วยตัวเองไม่ต้องรั้งรอชะตาวาสนาหรือพรหมลิขิตใดๆทั้งสิ้น กล่าวง่ายๆคือยังมีกำลังก็ทำได้เอง วิธีนี้เรียกว่าการบำเพ็ญกรรม วิชานี้ท่านว่าไม่ใช่แค่มีผลทำให้คนดีชั่ววันข้ามคืน หากแต่จะมีผลแบบยาวๆ ในระยะยาว กล่าวได้ว่าแปลงรากฐานจนมั่นคง แปลงเคราะห์ เปลี่ยนชะตาชีวิตทุกชาติภพตลอดไป

    เมื่อคนมีทุกข์มีความเดือดร้อนก็มักจะหาที่พึ่งบอกกล่าวกราบไหว้ด้วยหวังความสุข สมหวัง จะในด้านความสำเร็จ การเลื่อนตำแหน่ง การประมูลงาน การทำธุรกิจค้ากำไรให้เจริญงอกงาม ความเจริญเติบโต โชคลาภ ชัยชนะ ความสมหวัง สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นบ้างไม่เกิดขึ้นบ้าง กล่าวได้ว่าถึงมีผลก็ไม่เสถียรด้วยไม่ได้เปลี่ยนที่ตัวเอง ไม่ได้แก้ที่ชะตา ไม่ได้ปรับรากฐาน ทำให้ไม่มีผลในระยะยาว พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจแต่แรกที่จะนำวิชาบำเพ็ญกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงพระเคราะห์และชะตาของคนนั้นมาใช้คู่กับวิชาลอยเคราะห์ "ที่ว่าทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป" สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากใช้วิชาบำเพ็ญกรรมแล้ว ท่านว่าทำดีก็ต้องได้ดี ทำบุญก็ต้องได้บุญ ทำสิ่งใดย่อมเห็นผลประจักษ์ในสิ่งนั้นทันตาไม่มีอุปสรรคใดๆมากั้นขวางชะลอได้นี่คือสิ่งที่เรียกว่าบำเพ็ญกรรม ให้ชีวิตดีได้ด้วยการกระทำของตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้มีแต่ดีกับดี อย่างน้อยเงื่อนไขก่อนที่ชีวิตเขาจะดี นิสัยเขาก็ต้องดีขึ้นหลายส่วน ท่านเห็นว่าเป็นประโยชน์ใหญ่เช่นนี้จึงตั้งใจจะทำไว้ให้ใช้กันคราหนึ่ง ทั้งยังได้รวมวิชาลอยเคราะห์ที่สำคัญของท่านไว้ด้วย กล่าวคือแม้จะมีปัญหาอุปสรรคหนักหนาแค่ไหนทุกอย่างต้องลอยผ่านพ้นไปได้เหมือนเคราะห์กรรมที่ลอยทวนกระแสน้ำสวนทางไม่กลับมาต้องตัวเรา ให้เรื่องยากเย็นแสนเข็ญและอุปสรรคทั้งหลายพ้นผ่านภายในพริบตา

    เมื่อจะทำวิชาลอยเคราะห์บำเพ็ญกรรมแปลงชีวิตนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าครูท่านกำหนดไว้ชัดเจนต้องทำเป็นรูปพระนารายณ์เท่านั้น ตัวพ่ออาจารย์ท่านก็เห็นว่าเป็นโอกาสอย่างดี จะได้ทำเครื่องมงคลแทนครูองค์พระวิษณุเจ้าให้ผู้มีศรัทธาทั้งหลายได้มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่ตนปรารถนาไปพร้อมกันทีเดียว เช่นนั้นเมื่อท่านหล่อพรหมสฮัมบดีรุ่นแรกของท่าน ท่านจึงหล่อพระนารายณ์สำคัญชุดนี้ไว้พร้อมกัน เป็นอาถรรพ์แฝดที่ว่าเมื่อมีผู้สร้างก็ต้องมีผู้ปกปักรักษาเกิดขึ้นพร้อมๆกันด้วยพระนารายณ์เป็นมหาเทพผู้ปราบยุคเข็ญ ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้สร้างพระนารายณ์มหาปราบยุคขึ้นเป็นครั้งแรกเพราะพระนารายณ์นับเป็นเทพเจ้าสูงสุดที่มีเทวฤทธิ์เหนือเทพเจ้าอื่น มีหน้าที่ปราบปรามจักรวาล เป็นมหาเทพผู้อำนวยความสุข ความสงบ ความสบายให้ถึงพร้อมแก่ผู้บูชา แม้คราวใดที่โลกหรือศิษย์มีทุกข์เดือนร้อนจะถึงกาลแตกดับ พระนารายณ์จะอวตารลงมาปราบปรามสร้างความสงบสุขแก่โลกทุกครั้งไป เรียกว่าเมื่อเดือดร้อนคราใดก็มีท่านนี่แหละคอยคืนความสุขให้ครานั้น เช่นนี้คนที่เดือดร้อนก็ต้องพึ่งท่านเท่านั้น นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้ธำรงค์รักษาจักรวาล สถาปนาระบบคุณธรรมขึ้นในโลกให้มนุษย์และเทวดามีแนวทางการบำเพ็ญบุญเป็นกุศโลบายก็ว่าได้ ด้วยวิชาบำเพ็ญกรรมนั้นเป็นหลักใหญ่ของระบบคุณธรรมในพระศรีหริวิษณุเจ้า เมื่อทำแล้วจะให้ได้ผลสูงสุดก็ต้องทำเป็นรูปของท่าน ดุจว่าให้คุณพระอวตารนั้นอยู่กับเรา คอยบำเพ็ญกรรมร่วมกันไปกับเรา ส่งเสริมให้พื้นฐานความคิด จิตใจ แลชีวิตของเราดีขึ้นได้แบบก้าวกระโดดนั่นเอง

    ด้วยปกตินั้นพระนารายณ์ตำรับพ่ออาจารย์ก็มีเทวคุณคุณสูงอยู่แล้ว เป็นที่รู้กันว่าใช้ได้ทุกทาง ทั้งหนุนดวง เสริมดวง และยังมีคุณด้านมหาปราบ ปราบสิ่งเลวร้าย ขจัดทำลายอุปสรรคขวากหนามเคราะห์กรรมต่างๆ แม้คนทำมาหากินประกอบอาชีพกิจการงานใดๆ พระนารายณ์ของท่านก็จะช่วยเสริมดวงชะตาและหนุนกิจการงานต่างๆให้ดีขึ้น เช่นนั้นคนที่รู้ว่าพระนารายณ์ของพ่ออาจารย์ท่านให้คุณมากจึงมักนิยมกันอยู่มากถึงขนาดว่าแม้ท่านจะแกะสลักองค์ใหญ่เท่าโทรศัพท์ไอโฟนก็ยังมีผู้มีอันจะกินยอมห้อยบูชาไม่ห่างตัว เมื่อพระนารยณ์เสด็จปราบจักรวาลถือเป็นมหาปราบชั้นสูง เหนือเทพ พรหม ยมยักษ์ ทั้งปวง คนที่บูชาพระนารายณ์ตำรับนี้ถึงมีศัตรูหมู่มารก็จะถึงกาลพ่ายแพ้แก่บารมี มีชัยชนะ มีเดช มีศรี มีตบะเดชะ เป็นมหาอำนาจแก่ผู้พบเห็น เป็นทั้งมหาปราบ มหาอำนาจชั้นสูง ด้วยแรงครูจะผลักให้ชีวิตเจริญก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ใช้ป้องกันได้สารพัด แม้นึกคิดสิ่งใดก็สมใจปราถนา กลับดวงจากร้ายกลายเป็นดีได้ จากดีก็ดีมากขึ้นเป็นทวีคูณ รู้ๆกันว่าขอแค่เป็นคนที่เดือดร้อนได้ใช้พระนารายณ์ตำรับพ่ออาจารย์แล้วที่เห็นๆมาก็ได้ผลดีชีวิตก้าวหน้าไม่ตกยากทุกราย พลิกดวงชะตาให้ดีขึ้นได้หมด ดุจพระนารายณ์อวตารลงมาปราบยุคเข็ญให้แผ่นดินร่มเย็นทั้งพลิกฟ้าหนุนดวงชะตาชีวิตให้ดีขึ้นได้

    พ่ออาจารย์ท่านลงคาถานารายณ์อวตารทั้งสิบปางใหญ่เป็นชนวนสำคัญในการหล่อรูปครูเพื่อจะทำพระนารายณ์ตำรับฮินดูอย่างแท้จริง ทั้งยังเตรียมมวลสารที่เกี่ยวเนื่องด้วยการทำผงวิชาของพระนารายณ์ทั้งสิ้นเอาไว้เป็นการเฉพาะด้วยได้แก่ ผงที่ได้จากการถอดยันต์นารายณ์อวตาลทั้งร้อยแปดปางลบถมย่อสูตรพิศดาร ผงสูตรนารายณ์ปราบเก้าโลก ผงนารายณ์สิบปาง ผงนารายณ์เบิกฟ้า ผงนารายณ์เบิกป่า ผงนารายณ์เบิกบาดาล ผงโองการพินธุนารายณ์ ผงนารายณ์ปราบไตรจักร ผงนารายณ์พลิกแผ่นดิน ผงนารายณ์กลึงจักร ผงนารายณ์เกลื่อนสมุทร ผงนารายณ์ตวาดป่าหิมพานต์ ผงนารายณ์เตล็ดไตรจักร ผงนารายณ์ขว้างจักร ผงนารายณ์ทรงเมือง ผงนาราย์ถอดรูป ผงนารายณ์แปลงรูป ผงนารายณ์บันลือสีหนาท ท่านได้นำผงสำคัญนี้มาเข้ากับผงว่านยาที่เตรียมไว้ทั้ง ว่านดอกทอง ว่านกลิ้งกลางดง ผงนางอกแตกที่ลบจากการผสมเถ้าธนบัตร(ถือคติรวย+เสน่ห์ไปพร้อมๆกัน)...และผงเมตตาทั้งหลายเลือกเฉพาะให้ผลทางเมตตาหนึ่ง เป็นเสน่ห์หนึ่ง เป็นมหานิยมหนึ่ง เป็นผูกมิตรหนึ่ง เป็นจูงจิตจูงใจหนึ่ง เป็นมหาละลวยหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อทำพระนารายณ์แล้วจะให้ชีวิตคนใช้ร้อนเกินไปไม่ได้ จะดุเกินไปก็ไม่ได้ เพราะคติแต่โบราณเจ้านายเหนือหัวก็เชื่อกันนักหนาว่ารูปพระนารายณ์นี้เป็นของร้อน พ่ออาจารย์ท่านว่าหากทำเป็นจะไม่ร้อนเลยซ้ำด้วยคุณพระนารายณ์จริงๆนั้นเป็นเทวะกษัตริย์ที่มีทุกสิ่งบริบูรณ์เพียบพร้อมจนหาสิ่งใดเสมอไม่ได้ ท่านนำผงสูตรวิชาสำคัญต่างๆผสมกับผงสูตรลับเฉพาะนั่นคือผงลอยเคราะห์ ผงแปลงชีวิต ผงบำเพ็ญกรรม อันเป็นตำรับสำคัญที่หาคนรู้ได้ยากยิ่งเมื่อจะทำรูปพระนารายณ์อวตารให้เกิดคุณสูงสุดกับมนุษย์ใส่ลงไปด้วย ท่านว่าเท่านี้องค์นารายณ์ก็จะบรรดาลให้สิ่งที่พวกเธอปรารถนาสำเร็จประสงค์ ท่านจะบำเพ็ญกรรมเปลี่ยนชีวิตไปพร้อมกับเธอ น้อมนำให้ชีวิตเธอเกิดผลดีเจริญด้วยสวัสดิมงคลทั้งสิ้น

    ด้านหลังนั้นนอกจากจะอุดผงสำคัญแล้ว โองการพระศรีหริวิษณุท่านยังให้เราทำเทพศาสตราฝังไว้ด้วย ท่านว่าจะให้วิชามาลงตะกรุดแล้วนำมาประกอบกันเป็นรูปคฑาขึ้นมาอันคฑานั้นก็มีนามว่าเกาโมทกี พ่ออาจารย์ท่านว่าโองการมาอย่างไรเราก็ทำตามคำสั่งท่านไปเพราะเราเองก็ตื่นตาตื่นใจจริงๆว่าวิชาลงตะกรุดเหล่านี้เป็นพระเวทย์สำคัญจริงๆ อันคฑาเกาโมทกีนั้นบ่งบอกฐานะของผู้ถูกคุ้มครองของพระนารายณ์ท่าน เป็นการปรากฏรูปเทพศาสตราที่แสดงสถานะว่านี่คือศิษย์ในความคุ้มครองและปกปักรักษาของท่านไม่ให้สิ่งใดมาล่วงเกิน นอกจากนี้คฑานั้นยังสร้างความเยือกเย็นให้กับจิตใจผู้ถือ พ่ออาจารย์ท่านว่าอาวุธวิเศษของพระนารายณ์ชิ้นนี้เรียกได้ว่าแทบจะเป็นของสำคัญที่ถูกลืมก็ว่าได้เพราะหากคนพูดถึงพระนารายณ์ก็จะนึกถึงเทพศาสตราชนิดหนึ่งนั่นคือจักรวัชรนาถ แต่ความเป็นจริงแล้วองค์พระศรีหรินั้นท่านย่อมทรงคฑาเสมอไม่ห่างกายทั้งยามหลับยามตื่นทีเดียว อาวุธที่ถูกลืมนี้บ่งบอกลักษณะความเยือกเย็นของผู้มีอำนาจปกครองตรีโลก ทั้งยังใช้สำเร็จโทษผู้ทำความชั่วร้ายโดยเฉพาะเหล่าอสูรซึ่งเป็นศัตรูกับเทพเจ้า เรียกว่าเป็นคฑาที่ใช้สร้างกฏระเบียบสร้างอำนาจปกครองเป็นของสำคัญที่ทรงถือไว้ตลอดเวลา แต่โดยเนื้อแท้แล้วคฑาเกาโมทกีนั้นคือจิตวิญญาณแห่งมหาศักติอันมีนามว่าเกาโมทกีนั่นเอง ด้วยเป็นเทวนารี มีชีวิต มีรูปนามที่เป็นศักติปรากฏออกมาในรูปคฑาสำคัญนี้ อำนาจของพระเทวีนั้นแสดงถึงปฐมความรู้เป็นความรู้อันมีแต่กำเนิด เป็นวิชชา พระศรีหริท่านบอกว่าคฑาเกาโมทกีนั้นถือเป็นตัวแทนของความรู้แรกสุดในการกำเนิดจักรวาลนั่นคือกาลเวลา... ด้วยเป็นการบ่งบอกสถานะศิษย์ของพระองค์ท่านทั้งยังมีอำนาจรุนแรงดุจสายฟ้าใช้เหวี่ยงฆ่าอสูรได้เป็นจำนานมาก เช่นนั้นองค์ศรีหริท่านจึงเจาะจงให้ทำคฑานี้ฝังไว้ ท่านว่าเพื่อเป็นจุดสูงสุดในการควบคุมกาลเวลาอย่างหนึ่ง เมื่อกาลเวลาอันเป็นกฏธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่สูงสุดอยู่ข้างเราทั้งยังดำรงค์อยู่ในตัวของเราแล้วทุกสิ่งก็จะเกิดขึ้นได้เสมอด้วยอำนาจของศักติเกาโมทกีนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าจิตวิญญาณศักติของคฑาเกาโมทกีนั้นถ้าใครตาดีจะเห็นได้ว่าพระนางเป็นเทวีองค์เล็กๆเหมือนเด็กนั่นแหละ หากจะขอพรกับพระนางก็ให้นึกถึงเทวีองค์เล็กๆแบบเด็กๆ หรือถ้าท่านปรากฏรูปให้เห็นนั่นก็นับว่าเธอโชคดีอย่างมาก

    พ่ออาจารย์ท่านเชิญคุณพระนารายณ์ประสิทธิ์ไว้จนบริบูรณ์แล้ว ท่านว่าเมื่อโลกเดือดร้อนคนก็นึกถึงพระนารายณ์ให้มาแก้ไขทุกครั้งไป แต่ครานี้ฉันขอเอาไว้ ไม่ใช่ให้ท่านแก้ไขโลก หากแต่ให้มาแก้ไขชีวิตพวกเธอ ใครที่กรรมหนักก็เอาท่านไปช่วยสะเดาะเคราะห์ เพราะท่านจะปรากฏรูปมาขับไล่ความชั่วร้ายเลวทรามทั้งหลาย ให้สังเกตดูตัวเองเลยว่าที่ผ่านมานี้มีเคราะห์ โทษ ทุกข์หรือยัง มองให้ออกว่าชีวิตตัวเองสิ่งเหล่านี้เข้ามาหาหรือยัง ที่บ้านมีความสุขดีไหม ครอบครัวมีความอบอุ่นดีหรือเปล่า ทำมาหากินสะดวกสบายเหมือนก่อนหรือเปล่า ครอบครัวทะเลาะกันบ่อย ไม่มีความสุขเหมือนเมื่อก่อน การงานมีปัญหาโน่นปัญหานี่จุกจิก ทั้งเจ้านายลูกน้องไม่เกื้อกูลอุดหนุนเราทำมาค้าขายทำธุรกิจการงานเงียบเหงาซบเซามีปัญหาแล้วทำมาหากินไม่ขึ้น...ทำอะไรไม่เจริญ นั่นแหละท่านว่าให้เอาองค์นารายณ์นี้สะกดทุกข์ไว้ ความทุกข์ที่ทำให้ใครตกต่ำย่ำแย่ไปตามๆกันจะไม่เกิดขึ้นแก่เราเลยถ้าเราอยู่ในความคุ้มครองของพระนารายณ์

    จะขอพรหรือขอพระนารายณ์ให้ช่วยในเรื่องใดๆ ถ้าเรื่องร้อน เรื่องใหญ่ หรือเอาง่ายๆว่าเธอรีบก็ให้จุดธูป16ดอก เทียนขาว1คู่ บอกกล่าวเอาแต่สิ่งดีๆไม่ต้องใช้คาถาใดๆใช้ภาษาไทยที่ตัวเองพูดฟังแล้วเข้าใจนี่แหละสื่อใจบอกไปถึงท่านด้วยความจริงใจ เหมือนเราพูดคุยกับครูบาอาจารย์ถ้าเป็นคนเจ็บไข้บนให้โรคหายก็หาย ทุกสิ่งหากไม่ใช่คุรุกรรมมาเบียดเบียนและเจ้าตัวยังพอมีบุญกุศลอยู่บ้างอันนี้จะเห็นผลไว ติดขัดในเรื่องใดปรารถนาอะไรก็บอกกล่าวท่านไป เห็นผลแล้วก็เอาพระพุทธรูปหน้าตักห้านิ้วไปถวายวัดวาอารามกล่าวอุทิศกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่เบียดบังเรา อย่าบนด้วยของคาวให้บนด้วยพวงมาลัย ดอกไม้หอม น้ำอบ น้ำปรุงและผลไม้เท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าได้ทำพระนารายณ์บำเพ็ญกรรมครั้งนี้ก็ไม่เสียทีที่เรียนวิชามา ผงทั้งหลายนั้นก็มีคุณต่างๆกันทั้งสิ้น ยิ่งคฑาเกาโมทกีนั้นก็ยิ่งน่าอัศจรรย์เข้าไปใหญ่ เอาว่าความรู้สึกฉันถือว่านี่ดีที่สุดศักดิ์สิทธิ์มาก เหมาะสมกับปัญหาชีวิตคน เอาไปแล้วก็เอาไปใช้ถ้าไม่ใช้กลัวห้อยแล้วมันจะหนักคอก็อย่าเอาไป ฉันเสียดายของด้วยไม่ใช่ว่าจะทำขึ้นมาได้ง่ายๆเลย ถึงจะไม่สวยเลิศเลอแบบสมัยนิยมแต่ถ้าคนดูงานหล่อโบราณเป็นก็จะรู้ว่ามีเสน่ห์อย่างมาก วิชาบำเพ็ญกรรมสำคัญขององค์ศรีหรินี้ท่านว่ารับสัจจะไว้ว่าจะทำให้หนเดียว ใครมีบุญหรือมีทางเดินร่วมกันกับพระองค์ท่าน(สายพระนารายณ์)ก็ให้มาเอาไป ด้วยพระนารายณ์นี้ท่านรักในศานุศิษย์ของท่านมากดั่งที่ท่านกล่าวไว้
    เราคือเจ้าของทุกสรรพสิ่ง
    เราคือนายเหนือหัวที่เต็มไปด้วยอำนาจในการควบคุมธรรมชาติของเราเอง
    เราได้ใช้อานุภาพของเรา เนรมิตให้เราได้เกิดมา
    เมื่อใดที่ความถูกต้องเสื่อมลง และความไม่ถูกต้องเจริญขึ้น
    เราจะกลับมาเกิดอีกครั้ง
    เพื่อปกป้องผู้ที่กระทำถูกต้อง
    และเพื่อทำลายผู้กระทำไม่ถูกต้อง
    เราจะนำสิ่งที่ถูกต้องกลับมาและให้ตั้งอยู่เช่นเดิม
    เราจะกลับมา​


    คาถาบูชา
    โอม นารายะนายะ วิทมะเหวาสุเทวายะ ธีมะหิตันโน วิษณุ ประโจทะยาต

    * พระนารายณ์ชุดนี้เป็นของเก่าที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้นานแล้วและนำออกมาให้บูชากัน รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กกำพร้าต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระนารายณ์แปลงชีวิตลอยเคราะห์บำเพ็ญกรรม(ศักติเกาโมทกี) บูชา 2,500 บาท

    51099696-596816504081164-1639584944701308928-n.jpg 51159258-1525545867589885-7839127695379136512-n.jpg
    50996733-296758427533255-6247453274073464832-n.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จตัดกรรมต้านสวรรค์มนต์ชุบตัวเปลี่ยนชีวิต(กันพลาด)

    มีคนเคยถามพ่ออาจารย์ว่าตัวท่านสร้างพระไว้หลายรุ่น ตัวท่านเองจะใช้รุ่นใหนดี ท่านตอบกลับไปว่าสำเร็จตัดกรรมสิดีทุกด้านใช้แล้วเจริญรุ่งเรือง...เพราะอะไร เพราะสำเร็จตัดกรรมนี้หวังอะไรรับรองไม่ผิดหวัง เพราะกว่าจะทำวิชาเสกได้ฉันต้องเชิญเทพทั้งโสฬส(อัญเชิญเทวดาทั้ง 16 ชั้นฟ้า)ลงเสกครอบจนมั่นใจว่าองค์พระต้องมีอานุภาพให้ครบ คนเขาเอาไปถือเอาไว้คุ้มครองชีวิตต้องร่มเย็นเป็นสุขดำเนินชีวิตดั่งครอบอยู่ในร่มเงาของพระศาสดา มีความสมบูรณ์ ส่งให้ชีวิตดีขึ้น เจริญรุ่งเรืองขึ้นหันหน้าไปทิศใดทางใดไม่เห็นปัญหา ตัดและขจัดปัญหาอุปสรรคได้หมด คำว่าสำเร็จตัดกรรมนี้ก็คือลดกรรม งดวาระกรรม ทอนกรรมให้เบาลงน้อยลง ทำให้สัญญากรรมขาด ให้ชีวิตสำเร็จ ไม่ว่าจะกรรมอันก่อเนื่องเป็นเวรภัยใดๆในชาติสงสารก็ดีที่ทำให้ชีวิตตนมีปัญหาเรื่องต่างๆ จะเป็นปัญหาขัดขวางนานัปการ ทั้งความจน ปัญหาเงิน ปัญหางาน ปัญหาการเรียน ปัญหาครอบครัว ปัญหาความรัก ปัญหาเกี่ยวกับคน... รวมไปถึงสิ่งที่ผูกกรรมเหล่านั้นไว้ไม่ว่าจะคำสาปแช่งก็ดี เคราะห์ก็ดี เจ้ากรรมนายเวรก็ดี อำนาจฝ่ายต่ำ ฝ่ายสูง ที่ต่อต้านความเจริญของเราฉุดชีวิตเราลงสู่ที่ต่ำก็ดี สิ่งเหล่านี้ท่านว่าต้องตัดหมดจึงชื่อว่าสำเร็จตัดกรรม

    พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำของให้เขาใช้ ให้ชีวิตผ่อนหนักเป็นเบา หากเบาก็ให้สูญไปก็ต้องทำเป็นรูปพระศาสดา อาศัยพระบารมีทั้งสี่อสงไขยแสนกัลป์ที่ทรงบำเพ็ญบรรลุอภิเษกสัมโพธิณาณเป็นพระศาสดาผู้เลิศกว่ามนุษย์ เทวดา มาร พรหม ไม่มีใครเสมอได้ ท่านผ่านและชนะอุปสรรคทั้งหมดทั้งสิ้นฉันใด การอัญเชิญพระพุทธบารมีของพระองค์เฉพาะกาลนี้ก็จะลดทอน บรรเทา ให้วงจรชีวิตพ้นจากปัญหา ให้มีชีวิตความเป็นอยู่เหนืออุปสรรคทั้งปวงเช่นนั้น ทั้งนี้ยังต้องขอเมตตาองค์พระใหญ่ท่านให้ทำให้ ให้ท่านเสกจนพุทธรัศมีปรากฏจึงจะใช้ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเธอรู้มั๊ย ฉันต้องเสกพระสำเร็จตัดกรรมชุดนี้ในน้ำมนต์ เสกจนฉัพพรรณรังสีทั้งหกทอแสงเหนือองค์พระชนิดเห็นได้ด้วยตาเนื้อนั่นแหละถึงจะสำเร็จ ด้วยเป็นพระที่ครอบพุทธรัศมีจึงดีเรื่องเสริมดวง,ความรุ่งเรืองของหน้าที่การงาน,แหวกอุปสรรค,คลายเคราะห์โศกเป็นที่สุด อันพระรัศมีหรือฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้านั้น ก็มีอยู่ 6 ประการคือ 1.สีเขียว เรียกนีละกสิณ (เขียวเข้มเหลือบม่วง เหมือนดอกอัญชัน) 2.สีเหลือง เรียกปีตะกสิณ (เหลืองเหมือนสีของดอกหรดาลทอง) 3.สีขาว เรียกโอทากะกสิณ ขาวเหมือนแผ่นเงินแท้ 4.สีแดง เรียกโลหิตตะกสิณ แดงเปลวเพลิง 5.สีหงสบาท เรียกมัญเชฏฐะ สีหงสบาทมีสีคล้ายดอกเซ่ง หรือดอกหงอนไก่ 6.สีเลื่อมพรายปภัสสร สีเหลื่อมพรายเหมือนแก้วผลึก เมื่อพุทธรัศมีหรือฉัพพรรณรังสีปรากฏขึ้น เหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆจะต้องหายไป อันตรายต่างๆจะหมดไป นี่เป็นการตัดกรรมอย่างหนึ่ง ไม่ว่ากรรมนั้นจะหนักหรือเบา ถ้าไม่ส่งผลมาจากอนันตริยกรรมแล้วทั้งหมดย่อมบรรเทาได้ แม้อัปมงคลทั้งหลายก็ต้องจางหายไปด้วยเช่นกัน

    พระสมเด็จรุ่นนี้นอกจากเสกจนพุทธรัศมีปรากฏแล้ว ท่านยังใช้ผงที่มีคุณชนิดค่าควรเมืองหลายสกุลด้วยกันมาผสมสร้างเป็นองค์พระ ผงหลักเลยก็คือผงหนูตกถังข้าวสาร มีอานุภาพทางแสวงหาทรัพย์สินให้เติมเต็มได้ไม่มีพร่อง เหมือนถังข้าวสารตักไม่หมดใช้ไม่พร่อง ทรัพย์สินแก้วแหวนเงินทองถึงขาดไปก็หามาเติมเต็มได้ตลอดเวลา ผู้ใช้จะมีดวงเป็นเศรษฐีมีทรัพย์ ดั่งว่ามีบุญได้ถือแก้วสารพัดนึกที่บันดาลความร่ำรวย ความสมหวังมาให้ผู้ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจะให้พระสมเด็จรุ่นนี้นอกจากตัดกรรมแล้วยังมีมีอุปเท่ห์เกี่ยวกับเงินทอง ความมั่งคั่งร่ำรวย เพิ่มทรัพย์เพิ่มสมบัติ ทำมาหากินต้องเหลือเก็บ แม้บูชาไว้กับตัวไว้กับบ้านจะมีลาภมหาศาลเงินทองเติบโตมาก ท่านว่าผงหนูตกถึงนี้คนใช้จะรวยไม่จบไม่สิ้น ไม่มีความอดอยากยากจน ขออย่างเดียวได้ดีแล้วอย่านำไปบอกใคร ให้เก็บไว้เป็นความลับเท่านั้นก็พอ


    ท่านนำผงหนูตกถังมาผสมกับผงข้าวปากบาตรหลวงปู่ขาวและเข้ากับผงพุทธคุณทั้งห้าตามตำรา สมเด็จโตวัดระฆัง ประกอบด้วย ผงพุทธคุณ, ผงมหาราช, ผงตรีนิสิงเห, ผงอิทธิเจ และผงปัถมัง นอกจากนี้ท่านยังผสมผงวิเศษต่างอีกเป็นจำนวนมากทั้งผงภูติพระเจ้า,ผงหนุนดวง,ผงค้ำดวง,ผงสิบสองนักษัตรหลวงปู่เทียน,ผงนะทั้งร้อยแปดตัวซึ่งต้องเสกเดินหน้าถอยหลังย้ายรูปจนสำเร็จ ท่านเอาผงเหล่านี้มาเข้าด้วยผงธาตุข้าวอธิษฐานพระปัจเจกพุทธเจ้าที่มีอานุภาพดุจแก้วสารพัดนึกแม้คิดหวังสิ่งใดหากไม่ผิดศีลธรรมก็จะสำเร็จประโยชน์ได้โดยฉับพลันด้วยแรงอธิษฐานของพระปัจเจกโพธิเจ้านั้น,ผงโสฬสภูมิ(เทวดาให้)ท่านว่าผงนี้แรงนักแม้ได้ผสมในอะไรก็จะหนุนอาถรรพ์สิ่งนั้นให้แรง ให้ดีขึ้นนับพันนับหมื่นเท่าท่านจึงนำมาใช้เมื่อสร้างสำเร็จตัดกรรมนี้,ผงหนุนชะตาค้ำไตรจักร ท่านว่าคนที่บูชาจะค้ำชูหนุนดวงไม่ให้ตก ไม่ให้ต่ำ ทั้งยังแก้เคราะห์กรรมได้,ผงตรีนิสิงเหซ่อนหาให้คุณทางขับเสนียดจัญไรสิ่งอัปมงคลคุณคนคุณผีวิญญานร้ายออกจากตัวเรา,ผงพรหมโลกามีคุณด้านอำนวยผลสวัสดิมงคล ประสิทธิโชคลาภ และมีอายุยืนยาว

    ผงเหล่านี้ท่านว่าเล็กดีแต่ก็พริกขี้หนู เผ็ดร้องไม่ออกเชียว เห็นแบบนี้แต่ละอย่างก็มีอาถรรพ์มากพอที่จะเปลี่ยนชีวิตคนได้ หากใครได้ไว้บูชาให้ตั้งจิตอธิษฐานเอาเถิดจะไม่มีวันตกอับ ตกต่ำ จนกว่าใคร คำว่าอดอยาก ยากจน หม่นหมองจะไม่เกิดขึ้นเลย ขอให้คนใช้มั่นคงในพระรัตนตรัยนะอธิษฐานเอาจะได้ผลยิ่งกว่าแก้วสารพัดนึกอีก ถ้าเดือดร้อนมีทุกข์ภัยไข้เจ็บอย่างไรก็เอาพระอธิษฐานทำน้ำมนต์กินอาบเอาปราบได้หมด ใช้ของฉันนี้เน้นแต่ผงพระพุทธคุณไม่ต้องเอาผงกระดูกผีสางที่ไหน จะได้รู้ว่าคุณพระ คุณเทพ คุณพรหมก็วิเศษเหมือนกัน แรงไม่ตกเชียวล่ะ

    องค์พระสำเร็จตัดกรรมนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าฝังแร่ธาตุศักดิ์สิทธิ์เฉพาะทางไว้ รวมถึงตะกรุดที่ลงจากคุณวิชาเอกอุที่ท่านมั่นใจโดยเฉพาะ ได้แก่
    - แร่กันอับเฉา(กันพลาด) โบราณเขาเอาไว้ถ่วงท้องเรือสำเภา เวลาคนเดินทางแสวงโชคล่องเรือมานี่เขาก็จะหยิบแร่ที่ถ่วงท้องเรือออกมาเป็นที่ระลึกถือว่าเป็นของสิริมงคลด้วยอยู่ท้องสำเภายังถ่วงให้พ้นคลื่นลมแลภัยพิบัติได้ แม้เรื่อที่ว่างยังถ่วงให้เต็มได้ นี่เป็นเคล็ดแต่โบราณเอาไว้เริ่มตั้งตัว ดั่งว่าหยิบทรัพย์ ได้ทรัพย์ในสำเภามาครอบครองเป็นอาถรรภ์แฝด ซ้ำแร่ถ่วงท้องสำเภานี้ยังมีดีในตัวเองโบราณว่ามีคุณตามเคล็ดกันพลาดกันอับเฉาได้ครอบคลุมทั้งสิ้น หมายถึงกันสิ่งไม่ดี กันชีวิตอัปปาง กันชีวิตล่มจม ปิดทางให้ตั้งตัวได้เจริญขึ้นโดยส่วยเดียวไม่มีวิบัติภัยใดๆเลย แร่สำคัญนี้พอถ่ายทอดสืบสกุลจากรุ่นสู่รุ่นในตระกูลเศรษฐี ตัวแร่จึงถูกเคารพในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษซึ่งมีเทวดารักษา คนในสกุลมักจะนำมาอธิษฐานขอพรเพื่อเข้าถึงพลังงานและสิริมงคลเบื้องสูง พ่ออาจารย์ท่านว่าแร่ก้อนนี้นอกจากจะดีทางกันพลาดกันอับจนแล้ว ยังมีดีด้านมหาสะกดให้ฝูงชนหลงเมามัวเคลิบเคลิ้มได้อย่างประหลาดเป็นไปด้วยอานุภาพเทวดา เธอลองคิดเอาเถิดว่าเพียงก้อนแร่ก้อนหนึ่งยังทำให้คนนับสิบในสกุลยึดถือกราบไหว้มาหลายชั่วอายุคนนับร้อยๆปีตั้งแต่ต้นกรุงได้นี่แร่ก้อนนี้ต้องมีอาถรรพ์และวิเศษกว่าแร่ชนิดเดียวกันขนาดไหน ท่านว่าแร่นี้เมื่อนำมาพกพาจะเสริมส่งตบะ เพิ่มวาสนา เติมบุญบารมี ต่อชะตาชีวิตทำให้เกิดความก้าวหน้าในการงาน มีความสุขความเจริญรุ่งเรือง แม้ต้องอาถรรพ์ดวงตกก็หนุนชะตาได้เป็นอย่างดี พ่ออาจารย์ท่านถือเคล็ดว่าแร่นี้ได้ซึมซับ ความสุข ความบริบูรณ์มาชั่วรุ่นเศรษฐีหลายอายุคน ซึมซับความสุขมายาวนานไม่รู้จักคำว่าตกต่ำยากจน มีอาถรรพ์ดุจสำเภาที่ฝ่าคลื่นลมข้ามน้ำข้ามทะเล ฝ่าคลื่น ฝ่าพายุมรสุมวิบากกรรมผ่านพ้นได้นับกาลเวลาไม่ถ้วน เช่นนี้ท่านจึงนำแร่มาอธิษฐานจิต ทั้งยังได้ขอบารมีหลวงพ่อฤาษีเสกให้หลายวาระจนประจักษ์แก่ใจว่าอานุภาพเต็ม ท่านจึงบอก ขอกับเทวดาที่รักษาแร่ให้ออกไปสร้างกุศลใหญ่ แล้วนำแร่มาทุบฝังพระสำเร็จตัดกรรมนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราขอเขาให้ไปหนุนคนที่ได้ไป ให้เจริญขึ้นโดยส่วนเดียวเหมือนที่เขาเคยสร้างคน เปลี่ยนคนติดสำเภาธรรมดาให้ตั้งตัวเป็นเจ้าสัวในเมืองกรุง เป็นเศรษฐีค้าสำเภาได้สืบทอดลูกหลานมาหลายร้อยปีโดยที่สกุลนี้ไม่มีตกต่ำเลย
    - ก้อนชนวนเจ้าสัวหลวงปู่บุญ ก้อนชนวนนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านตัดแบ่ง ในอดีตท่านจะใช้ฝังพระเจ้าสัวไม้แกะของท่านให้คนที่ได้บูชาไปนำไปค้าขายขอโชคลาภได้สมดั่งใจนึก ด้วยเป็นธาตุเป็นพลังงานที่หลวงปู่บุญอธิษฐานไว้ ท่านว่าเราบอกกล่าวให้กับหลวงปู่บุญท่าน มีก้อนชนวนนี้ก็ใช้ได้เหมือนกัน เหมือนใช้พระเจ้าสัวท่านเลย
    - พระธาตุเสด็จ พ่ออาจารย์ท่านนำพระธาตุที่มีฤทธิ์นั่นคือชุดพระธาตุกลุ่มที่เสด็จไปมาได้เองในอากาศมาฝังไว้ตรงอกองค์พระเป็นกรณีพิเศษ ท่านว่าพระธาตุเสด็จนั้นมีฤทธานุภาพแก่กล้าและแสดงฤทธิ์ได้ฉันใด ก็จะได้แสดงฤทธิ์เป็นสิริมงคลนานัปการให้กับผู้ได้ทำสักการบูชาเช่นนั้น
    - ตะกรุดเจ้าสัวตั้งตัว เป็นวิชาที่ครูบาจารย์ครั้งโบราณสืบทอดกันมามีพุทธคุณทางโชคลาภอย่างเอกอุ ท่านว่าเก็บไว้กับตัวจะมีกินมีใช้ไม่ขาด คนไม่มีโชคจะมีโชค โชคลาภเงินทองจะเข้ามาแบบไม่คาดฝัน แม้เอาไว้ใต้หมอนก็ป้องกันฝันร้ายทำให้ฝันดีหากมีวาสนาเทวดาก็จะมาบอกนิมิตนำพาลาภลอยมาให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้นับว่าประหลาดเพราะมีอาถรรพ์มากถึงขนาดคนงอมืองอเท้าทำอะไรไม่ได้ แม้นอนอยู่เฉยๆก็ยังมีกิน มีใช้เหมือนคนปกติได้ ท่านว่าฉันทำไว้ให้ตั้งตัว แต่ไม่ได้สนับสนุนใครให้ขี้เกียจจนไม่ทำอะไรหรอกนะ
    - ตะกรุดทำลายอุปสรรค ท่านว่าเอาไว้ขจัดอุปสรรคและตัวขัดขวางทางทรัพย์ เป็นมหาโชคมหาลาภ ทั้งยังคุ้มครองป้องกัน ปัดเป่าอาถรรพ์ ทำลายคุณไสย ขับไล่ภูตผีปีศาจ เป็นมหาระงับเคราะห์เหตุเภทภัยและภยันตรายทั้งปวงอีกด้วย ท่านถือคติที่ว่าคนเรานั้นถ้าชีวิตไม่มีอุปสรรคแล้ว โชคลาภก็จะเข้ามาได้เอง พออุปสรรคไม่มีโชคลาภก็เกิดขึ้นแล้ว เงิน ทอง ความสุขที่ปรารถนามันก็จะพุ่งเข้าสู่ตัวเราโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าที่จริงมันพุ่งหาตะกรุดนะ แต่เราเป็นคนพกตะกรุดก็เท่ากับว่ามันพุ่งเข้าหาตัวเรา

    พระสำเร็จตัดกรรมรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเป่ามนต์ชุบตัวเปลี่ยนชีวิต ขอพระยม พระกาฬท่านให้พลิกบัญชีเจ้ากรรมนายเวรทั้งหมดคลี่คลายปัญหาให้เป็นรายบุคคลไป ท่านว่าพอได้ไปก็อธิษฐานจิตบอกกล่าวเอาเลยชีวิตจะได้เบาขึ้น สบายขึ้นนับจากวันนี้ไป นอกจากนี้พระรุ่นนี้ยังให้คุณแปลกๆอีกประการหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยอานุภาพของภูติพระเจ้าท่านจะคอยบอกโชคบอกลาภเตือนภัยล่วงหน้า อธิษฐานอะไรก็ใช้ได้หมดจะให้ช่วยเรียกเงิน เรียกลูกค้า ดึงดูดโชคลาภเงินทองทรัพย์สมบัติของมีค่าสารพัด เรียกได้ว่าผู้เป็นเจ้าของสามารถอธิษฐานกับองค์พระทุกเรื่องตามเหตุที่พึงเป็นไปได้ ซ้ำตัวแร่กันอับเฉานี้ท่านว่าให้พกไว้กับตัวเถิดเขาจะซึมซับกลิ่นอายของเราผูกเอาความเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณบรรพบุรุษของแต่ละคนที่ยังวงเวียนอยู่ในภพภูมิอันเป็นสุขคติภูมิทั้งหลาย เนื่องจากมีจิตของบรรพบุรุษคอยช่วยเหลืออยู่นั่นเองก็จะทำให้ลูกหลานร่ำรวยและเจริญขึ้นโดยลำดับขั้น องค์พระนี้ก็ให้หมั่นเอาไว้สวดบทพระพุทธคุณเจริญสติก็จะหนุนดวงสกุลให้เจริญขึ้นสืบไป ด้วยเทวดาที่รักษาแร่รวมไปถึงบรรพบุรุษของแต่ละคนก็จะบันดาลให้มีนิมิตต่างๆเช่นฝันเห็นช่องทางการทำมาหากินที่จะทำให้รวย ทำให้เกิดนิมิตสิริมงคลทั้งหลายเช่นนี้

    คาถาบูชา
    พุทโธ สัพพัญญุตะญาโณ มหาชนานุกัมปะโก ธัมโม โลกุตตะโรวะโร สังโฆ มังคะผะลัฎโฐจะ อิจเจตังระตะนัตตะยัง เอตัสสะ านุภาเวนะ สัพพะทุกขาอุปัททะวา อันตะรายาจะนัสสันตุ ปุญญะลาภะมหาเตโช สิทธิกิจจัง สิทธิลาโภ สัพพะโสตภีภะวันตุเมติ


    * พระสำเร็จตัดกรรมรุ่นนี้ ท่านว่ามีให้บูชาเหลือแค่สี่องค์เท่านั้นใครมีวาสนาสอดคล้องกันก็เอาไป หมดคือหมด รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อและสกุลตนเอาไว้ด้วยท่านจะบอกกล่าวทำการประสิทธิให้ รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จตัดกรรมต้านสวรรค์มนต์ชุบตัวเปลี่ยนชีวิต(กันพลาด) บูชา 4,000 บาท

    51783735-290959901597385-5397113619924123648-n.jpg 51112765-252589835641019-8394747934922506240-n.jpg
    51044285-2192468470797079-5556211814296977408-n.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลแรงครูตรีเทพอนันตกาลผลาญกัป(คำพรมหาเทพ,ลบกฏนามธรรม)

    แต่ปางก่อนนั้น ศาสตร์เฉพาะของครูพระสยม(พระศิวะ)ท่านย่อมถือเป็นศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ และเข้าถึงได้ยากเนื่องด้วยต้องใช้ปฏิบัติการณ์ทางโยคะ พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพระสยมท่านเกรงว่าศิษย์จะขาดที่พึ่ง ทั้งในอนาคตสำหรับคนที่เข้าไม่ถึง ไม่เข้าใจในพระเป็นเจ้าแล้วก็จะยิ่งออกทะเลแต่งนิทานกันสนุกปากเข้าไปใหญ่ เมื่อสิ้นยุคพ่ออาจารย์แล้วต่อไปครูท่านเกรงว่าผู้ศรัทธาอย่างจริงใจหรือสาวกในองค์พระศิวะจะไม่อาจเข้าถึงขุมพลังงานของพระเป็นเจ้าได้ เช่นนี้ครูท่านจึงให้พ่ออาจารย์สร้างมงคลแรงครูขึ้นมา เพื่อให้เป็นตัวแทนอำนาจของครูอาจารย์ทั้งหลายในคณะของพระศิวะ ในนามเทพสังกัดพระศิวะ เพื่อประโยชน์ใหญ่แก่ผู้ศรัทธา ต่อไปจะได้สามารถเชิญครูได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ แม้สิ้นยุคพ่ออาจารย์ท่านลงไปแล้วก็สามารถอาราธนาครูปลุกเสกเครื่องมงคลได้เอง ใช้แรงครูหนุนชะตาตัวเอง เปลี่ยนชีวิตตัวเอง...ท่านว่าสุดแล้วแต่จะกระทำ ด้วยแรงครูนั้นย่อมเป็นไปได้ทุกสิ่ง ซึ่งมงคลแรงครูนี้องค์พระสยมท่านก็กำหนดให้พ่ออาจารย์สร้างออกมาในลักษณะเทพอาวุธที่ทรงกำลังสูงสุดและเป็นสัญลักษณ์ของพระองค์ท่าน นั่นคือตรีศูล

    อันการสร้างเทพศาสตราที่ทรงกำลังสูงสุดนั้นย่อมมีขั้นตอนยุ่งยากเป็นธรรมดา ด้วยตรีศูลนั้นเป็นอาวุธอันทรงพลังประจำกายพระศิวะมหาเทพ มาจากคำว่า “ตรี” แปลว่า “สาม” และ “ศูล” หมายถึง ปัญหาหรือทัณฑ์ทรมาน เมื่อนำมารวมกันแล้ว ตรีศูลจึงหมายความว่า ารบรรเทาความทุกข์สามประการที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ ได้แก่ ทุกข์ทางกาย เช่น กระหายน้ำ, โดนทำร้ายร่างกาย เป็นต้น ทุกข์ทางจิต เช่น โกรธ สงสัย เป็นต้น และทุกข์จากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว, ฝนตก เป็นต้น เมื่อพระศิวะเป็นผู้ถือตรีศูลจึงหมายถึงการที่พระองค์สามารถควบคุมและเยียวยาพลังงานทุกอย่างได้เพื่อจะบรรเทาระงับความทุกข์ทั้งสามประการอันจะเกิดในชีวิตสาวกไม่ว่าจะอยู่ที่ใดทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์ เช่นนั้นการสร้างตรีศูลซึ่งเป็นมหาเทพศาสตรานี้ ยังเป็นสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งครูพระสยมที่จะหยุดความทุกข์ทั้งทางกาย ทางจิต และธรรมชาติของผู้มีวาสนาได้ครอบครองอย่างสิ้นเชิงด้วย

    โดยทั่วไปแล้ว เข้าใจกันว่าตรีศูลซึ่งเป็นอาวุธที่มีสามง่ามเป็นดั่งตัวแทนของมหาเทพ โดยเป็นผู้สร้าง ผู้ปกป้อง และผู้ทำลาย ในขณะเดียวกันตรีศูลยังยังมีพลังในการทำลายโลกลวงตาทั้งสาม ประกอบไปด้วย โลกปัจจุบัน (กาย) โลกอดีต (กามา) และโลกของจิตใจ (อัตตา) เมื่อโลกเหล่านี้ถูกกำจัดไปได้ จะทำให้บุคคลนั้นกลายเป็นผู้รู้แจ้งในที่สุด นอกจากนี้สำหรับโยคีหรือผู้บำเพ็ญโยคะแล้ว ตรีศูลยังสื่อถึง พลังงานละเอียด(นาฑี),ความนิ่งเฉย(อิฑา) และความแคล่วคล่องว่องไว(ปิงคลา)โดยสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนประกอบของจักระในร่างกายที่มาเชื่อมต่อกันแล้วมีรูปร่างคล้ายตรีศูล เป็นพลังงานแห่งชีวิตที่หากควบคุมได้จะทำให้เราเป็นอิสระจากความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งมวล

    นอกจากจะเป็นศาสตราวุธคู่ใจของมหาเทพซึ่งทรงพลานุภาพสูงสุดในจักรวาลแล้ว ดั่งที่รู้ว่าพระองค์เป็นผู้ประสานพลังแห่งจักรวาล เป็นที่เกรงกลัวแก่อสูรและสิ่งชั่วร้าย เป็นผู้อยู่เหนือเหล่าโยคี เทพเทวา และภูติ ดังนั้นมหาเทพศาสตราชิ้นนี้ที่ครูท่านเลือกให้เป็นเครื่องมงคลแทนพลังงานและแรงครูขององค์ท่านนั้นจึงมีคุณสมบัติเหล่านั้น ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านยังว่าเพราะมีเหตุผลอื่นๆอยู่ด้วยที่น้อยคนนักยากจะรู้และทำความเข้าใจ ด้วยตรีศูลแห่งครูพระสยมนั้นมีอำนาจบันดาลภัยพิบัติให้เกิดขึ้นได้ รวมถึงมีความหมายแฝงเกี่ยวกับการสร้างตัวตนของมนุษย์ทุกคน เป็นสุดยอดอาวุธที่ใช้ทั้งในการสร้างจักรวาลและทำลายจักรวาลโดยได้ชื่อว่าเป็นอาวุธที่มีพลังทำลายล้างสูงสุดแล้ว นั่นคือนอกจากทำลายจักรวาลเหมือนเทพศาสตราอื่นๆแล้วยังสามารถทำลายห้วงเวลาได้อีกด้วย เรียกว่าสามารถลบตัวตนทั้งรูปธรรมทุกสิ่งในมหาจักรวาลทิ้งไปและเมื่อทำการลบสิ่งใดแล้วยังส่งผลไม่ให้สิ่งนั้นมีกำเนิดขึ้นมาได้อีกนั่นคือลบห้วงเวลาได้ยาวนานถึงกัปกัลป์เลยทีเดียว (*พ่ออาจารย์ท่านว่าเธอต้องเข้าใจนะที่ครูท่านตั้งใจโดยเฉพาะให้ทำตรีศูลนี้ ก็เพราะตรีศูลนี้ใช้ลบตัวตน ลบความทุกข์ยาก ลบพิบัติภัยทั้งเคราะห์และสิ่งอุบาทว์ทั้งหลายให้หายไปจากชีวิตเธอได้ ซ้ำยังหายไปยาวนานนับกัปกัลป์เช่นนั้น นี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงซึ่งท่านจะให้ใช้ตัดความทุกข์ยาก ทุกข์เข็ญนั่นเอง ด้วยสิ่งใดที่ระงับไปเพียงชั่วครู่แล้วมันก็เกิดขึ้นอีกนั่นคือสภาวะของความทุกข์ยาก สิ่งนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อมันสำคัญและเป็นปัญหาหนักของชีวิตก็เพียงลบตัวตนมันออกไปก็พอ) นอกจากนั้นสภาวะของตรีศูลมหาเทพคือนามธรรมอันยิ่งใหญ่ของสัญลักษณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
    - การสร้าง การรักษา การทำลาย
    - กาลอดีต กาลปัจจุบัน กาลอนาคต
    - โลกสวรรค์ โลกมนุษย์ โลกบาดาล
    - ความมืด(อวิชชา,ราคะ,กิเลส) ความเกี่ยวพัน(สัญญาของสรรพสิ่งที่ผูกโยงเกิดเป็นกฏแห่งกรรม) ความดีงาม(คุณธรรม)
    จะเห็นได้ว่ายากนักที่จะหาเทพศาสตราใดที่จะเป็นสัญลักษณ์ของนามธรรมทั้งยังมีอำนาจควบคุมนามธรรมอันยิ่งใหญ่ได้มากมายถึงเพียงนี้ เพราะทุกสิ่งนั้นล้วนมีอำนาจขัดกับกฏวัฏสงสารทั้งสิ้น นอกจากจะเป็นเทพศาสตราที่ทรงพลังสูงสุดนั่นคือใช้ลบตัวตนเป้าหมายทิ้งไปโดยไม่จำกัดเผ่าพันธุ์ไม่ให้เหลือชาติเหลือวิญญาณก็ย่อมได้ ดั่งในกรณีที่ใช้ตัดเศียรพระพรหม พระเคณศ ก็ปรากฏว่าเศียรมหาเทพเหล่านั้นล้วนแต่อันตรธานหายไปอย่างไร้ตัวตนทั้งสิ้น อะไรที่ถูกตรีนี้ทำลายคือสูญสิ้นชนิดเอากลับคืนมาไม่ได้เช่นนั้นเลยไม่เคยปรากฏว่าจะมีสิ่งใดต้านทานได้ จึงเป็นศาสตราวุธที่ไม่ถูกใช้พร่ำเพรื่อแม้ครูพระสยมเอง และเมื่อท่านให้พ่ออาจารย์สร้างแล้วก็ห้ามคนนำไปใช้พร่ำเพรื่อเช่นเดียวกัน


    อย่างที่ทราบกันดีว่าตรีศูลนั้นเป็นอาวุธของพระศิวะ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อทำด้วยวิชาเป็นเครื่องมงคลแล้วนอกจากจะเป็นยอดเทพศาสตราครูพระสยมท่านว่าตรีที่ทำให้นี้อยู่ที่ใดยังเป็นสัญลักษณ์ของความมีอำนาจ,เป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภ,เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์,เป็นสัญลักษณ์ของเงินทองและความร่ำรวย นอกจากนั้นตรีศูลนี้จะบันดาลให้กระแสกรรมที่กระเพื่อมขึ้นๆลงๆตลอดเวลาของมนุษย์เกิดความมั่นคง เป็นผลให้ชีวิตเกิดความโดดเด่นและถึงซึ่งเกียรติยศชื่อเสียง ด้วยเป็นเทพศาสตราที่คณะเทพของพระศิวะมักนิยมจะถือกันเป็นสัญลักษณ์ไม่ว่าจะ พระศิวะ,พระแม่อุมา,พระแม่กาลี,พระขันธกุมาร,พระพิฆเณศ,พระไภรวะ... เช่นนั้นเมื่อพ่ออาจารย์ท่านทำตรีศูลอันเป็นตัวแทนแรงครูของคณะเทพ เป็นไศวะศาสตรา จึงจำต้องใช้แรงครูของเทพทุกองค์ที่ทรงตรีศูลในคณะศิวะสาวกนั้น

    เมื่อจะทำแรกเริ่มพ่ออาจารย์ท่านต้องหล่อธาตุกายสิทธิ์แล้วนำเข้าหลอมในพิธีกองกูณฑ์อัคคีหรือพิธีโฮมัมบูชาไฟแด่พระอิศวรเจ้า(ครูพระสยม)แล้วนำมาตะไบเป็นยอดตรีเสกเก็บไว้ จากนั้นจึงได้เตรียมผงว่าน,ผงยา,ผงยันต์ชั้นสูงสุด ที่ใช้ในการแก้ผี แก้อาถรรพ์ แก้มนต์ดำ แก้ไสยศาสตร์ ได้แก่
    - ผงยันต์ ผงยันต์แก้ผีทั้งสองร้อยยี่สิบเจ็ดสูตร,ผงยันต์พระเจ้าสิบหกพระองค์,ผงยันต์ตรีนิสิงเห ,ผงยันต์นอโม,ผงยันต์ธงชัยพระอิศวร,ผงยันต์ธงชัยพระอินทร์,ผงยันต์กันคุณไสย,ผงยันต์กันอาวุธ,ผงยันต์อิติโปโสแปดทิศ,ผงยันต์ไตรสรณคมณ์,ผงปราบไพรี
    - ผงว่าน ว่านแสงอาทิตย์,ว่านไพรเหลือง,ไพรดำ,ขมิ้นอ้อย,ขมิ้นชัน,ขมิ้นขาว,ขมิ้นดี,ขมิ้นทอง,หมุยดำ,หมุยขาว,หมุยช้าง,เฉียงพร้า,หมากผู้,ปด,บอน,หิ่งหายผี,บังบาย,หนาด,เข็ดมอญ,หญ้าคา,ว่านโมกขศักดิ์,ว่านมหาปราบ,ว่านพะตะบะ,ว่านสามพันตรึง,ว่านหนุมาน,ว่านนางคุ้ม,ว่านสากเหล็ก,หนามจันทัน,หนามบ้อง,หนามแสงขัน,หนามเพดาษ,หนามงับ,ระงับใหญ่,ข่าตาแดง,ขิง, พริกไทย,เจ็ดมูลเพลิง,บอระเพชร,ว่านน้ำ,พัดแม่ชี,ชิงชาลี,ธรณีสาร,ส้มป่อย,คนทีดำ,งิ้วดำ,งิ้วขาว,เปราะลาย,พญาว่าน,กำแพงเจ็ดชั้น,ใบมะกรูด,ใบมะนาว
    - ผงยา(ผงอาถรรพ์,ผงเขี้ยวงา) ผงลำผีพ่าย,ผงไล่ผีหนี,ผงตีผีตาย,นอแรด,เขี้ยวเสือ,ดีหมี,ชะมดเชียง,ผงงาช้าง,ผงเขาวัวเขาควาย,ผงตะไบปลายหอกปลายดาบ,ตะใคร่เจดีย์,ผงชันเพชร


    ผงพระอิศวรปราบยุคเข็ญ
    พ่ออาจารย์ท่านว่าผงยันต์ ผงว่าน ผงยานี้ต้องนำมาผสมผงที่ได้จากพิธีกองกูณฑ์อัคคีของครูพระสยมโดยว่านบางตัวต้องนำมาลงอักขระตามสูตรแล้วจึงเสกปลุกว่านปลุกเสกยาแล้วจึงบดเป็นผง และนำมาปั้นใหม่เป็นแท่งดินสอลงโองการพระอิศวรปราบยุคเข็ญแล้วเสกตามสูตรตามวาระก่อนโดยเชิญคณะเทพศิวะสาวกทั้งหมดตลอดจนมหาเทพแผ่บารมีแบ่งกำลังลงสถิตย์ในผงพระอิศวรปราบยุคเข็ญนี้ทุกอณูจึงจะสำเร็จเป็นผงศักดิ์สิทธิ์ ผงนี้ท่านว่าที่ใช้แก้ผีได้สารพัด,แก้คุณไสยที่เข้าทำไว้ในแผ่นดิน,แก้อาถรรพ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี แก้ได้ทั้งยาสั่ง,ยาเสน่ห์,ยาแฝด,ยาพิษ,ยารัก,ยาชัง,ยาหน่าย,ยาตาย,ยาประสาท,ยามนต์ต่างๆ รวมไปถึงแก้อุบาทว์ที่เกิดจากการทำของต่ำ,แก้คุณไสยที่โดนมานานจนเข้าเลือด,แก้วิชาที่ถึงขั้นวิบัติอย่างแรง ทั้งปัดป้องสิ่งอัปมงคลเสนียดจัญไร ที่สำคัญยังช่วยหนุนนำดวงชะตามิให้ตกต่ำอีกด้วย อันผู้ใดที่มุ่งมาตรปรารถนาให้ร้ายแก่เราหากมันผู้นั่นยังยืนอยู่บนผืนพระธรณีขอเพียงว่าหากเรายังอยู่บนผืนแผ่นดินนี้มันก็ทำอะไรเรามิได้ เรียกว่าตราบใดที่ยังมีแผ่นดินมันอยู่ก็ทำร้ายเรามิได้เลย ตราบใดที่พระเวทย์และพระธรรมยังมีอยู่ในโลกนี้เราจะปลอดภัยในทุกสถาน ทุกกาล ทุกเมื่อ ให้ถือคตินี้ไว้ให้มั่นคง

    พ่ออาจารย์ท่านได้ทำด้ามตรีศูลด้วยการลงตะกรุดสูตรที่ครูพระสยมสั่งไว้ นั่นคือลงด้วยสูตรยันครูธงชัยพระสยม ธงที่ไม่เคยแพ้ใครในสามโลก ธงนี้ได้ชื่อว่าเป็นธงมหาโชค มหาชัย ธงชัยชนะนิรันดิ์กาล แม้นชักออกประกาศขึ้นหรือตกอยู่ณ.ที่แห่งใดแล้ว ย่อมเป็นอำนาจนิรันดร์ที่จะสยบทุกสรรพสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพระสยมท่านให้ลงธงชัยพระสยมนี้ล้อมรอบโองการคำพรมหาเทพ อันประกอบไปด้วย
    - พระศิวะ(เทพแห่งการทำลายล้าง) อำนวยพรแห่งอำนาจและความสำเร็จ,อำนวยพรแห่งความเจริญ,อำนวยพรแห่งอำนาจเหนือบุคคลทั้งหลาย,อำนวยพรอันนำมาซึ่งผลกำไรอันมหาศาล,อำนวยพรอันนำมาซึ่งความสำเร็จอย่างสูงสุด,อำนวยพรอายุยืน(ต่ออายุผู้ที่ใกล้สิ้นใจได้ชั่วคราว),อำนวยพรบำบัดโรค(สามารถรักษาอาการไข้ที่เป็นมานาน),อำนวยพรแห่งความสมบูรณ์(บันดาลให้พ้นจากความยากจน),อำนวยพรกันอุบาทว์กันเสนียดจํญไรกันคุณไสยอวิชชาทั้งสิบหกภาษา
    - พระวิษณุนารายณ์(มหาเทพผู้ปกปักรักษาโลกมนุษย์) ผู้ดูแลรักษาทุกสรรพสิ่งอำนวยพรขจัดเหล่ามารและสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง,อำนวยพรคุ้มครองชะตาชีวิต,อำนวยพรบันดาลวาสนาแก่มนุษย์,อำนวยพรประทานแสงสว่างส่องกระจายในจิตที่มืดบอด,อำนวยพรขจัดบาป,อำนวยพรขจัดความขัดข้อง,อำนวยพรสร้างความภูมิฐานและการชนะทุกสิ่ง
    - พระพรหม(มหาเทพผู้สร้างโลกและลิขิตชีวิตมนุษย์) อำนวยพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา,อำนวยพรแห่งความคิดการสร้างสรรค์,อำนวยพรทางชะตาลิขิต,อำนวยพรบันดาลให้มีความสุขและสมบูรณ์ในชีวิต,อำนวยพรให้เกิดปัญญาในการประกอบอาชีพ,อำนวยพรความแข็งแรงปกป้องให้ห่างจากศัตรู,อำนวยพรความรู้แจ้ง,อำนวยพรให้เกิดความบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณ
    - พระอินทร์(เทวราชผู้ครองสวรรค์) อำนวยพรบันดาลให้เหตุการณ์ทุกข์ต่างๆคลี่คลาย,ไอำนวยพรบันดาลให้ได้รับการคุ้มครองจากธรรมชาติ,อำนวยพรให้พ้นจากสิ่งเลวร้ายต่างๆ,อำนวยพรให้ชีวิตมีความสุขปราศจากมลทินและความเศร้าทุกข์ใดๆ
    - ท้าวกุเวร(พระคลังสวรรค์) อำนวยพรประทานทรัพย์สมบัติ,อำนวยพรความมั่งคั่งร่ำรวย,อำนวยพรลาภยศแก้ไขชีวิตให้ราบรื่น,อำนวยพรป้องกันภูติผี ปีศาจกันมนต์ดำปัดคุณไสย์ต่างๆ,อำนวยพระไม่ให้มีชีวิตอับจน,อำนวยพรให้มีกินมีใช้มิได้ขาดอย่างอัศจรรย์
    - ยมเทพ(เทพบรรพบุรุษ) อำนวยพรต่ออายุให้ยาวนาน,อำนวยพรให้หายจากโรคภัยต่างๆ,อำนวยพรให้พ้นจากอำนาจวิญญาณและพลังงานฝ่ายต่ำ
    - พระกาล(ผู้ควบคุมห้วงมิติกาลเวลา) อำนวยพรหยุดทุกข์,เคราะห์,เหตุเภทภัยทั้งหลาย
    - พระฤาษี(อำนาจแห่งธรรมและการบำเพ็ญเป็นพรที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด) อำนวยพรปัดเป่าลางร้าย,อำนวยพรส่งเสริมชะตาชีวิต

    ด้วยตรีศูลนั้นเป็นเทพศาสตราระดับสูงสุด เรียกได้ว่าหากพูดว่าเป็นที่หนึ่งแล้วย่อมไม่มีสิ่งใดอันจะมีตัวตนเท่าเทียมได้อีก พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่คิดจะทำก็ยากแล้ว กว่าจะทำได้ก็ไม่ใช่ง่าย เมื่อได้แต่ละอย่างแล้วก็ต้องนำมาประกอบกันและอุดด้วยผงสำคัญที่เตรียมไว้ เพียงแค่ตะกรุดที่ใช้เป็นแกนก็ต้องใช้คำพรและอำนาจของเหล่ามหาเทพสำคัญอันเป็นกฏและตัวแทนของธรรมชาติมากมายผูกขึ้นมา เมื่อประกอบสำเร็จก็ต้องเชิญครูพระสยมแบ่งกำลังจากตรีศูลเล่มจริงของท่านให้กำเนิดในรูปลักษณ์ใหม่ เพื่อให้คนใช้ได้นำไปสักการะเป็นเครื่องมงคลแรงครูหนุนนำชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าตรีเทพนี้ล้างอาถรรพ์ได้ทั้งปวงแม้แต่อาถรรพ์ชีวิต สุดแล้วแต่จะประดิษฐ์คิดวิธีใช้ได้เลย นั่นเพราะสิ่งนี้มีค่ามากเกินคำว่าค่าควรเมืองไปไกลลิบ

    คาถาบูชา

    ศิวายะ เคารีวัทนาพะชะวะ รินทะ สูระยายะ ทักษะ ธะวะระ นาศะกายะ ศรีนีละกัณทายะ วะรึษะ ธะวะชายะ ตัสไม ศิการายะ นะมะศิวายะ

    * มงคลแรงครูตรีเทพอนันตกาล พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตท่านนั้นทำได้แค่ครั้งเดียว ใครมีวาสนารู้ตัวว่าต้องตัดกรรม ตัดสัญญา ตัดชาติเวรใดๆที่ให้ผลในปัจจุบันอยู่ก็ให้นำไปใช้และเก็บรักษาไว้ให้ดี เวลาใช้ก็บอกกล่าวกับท่านเอาเพราะท่านเป็นเทพศาสตราที่มีจิตวิญญาณเสมือนอำนาจพระเป็นเจ้า เป็นรูปปรากฏของกฏนามธรรมทั้งหลาย ดังนั้นเพียงแค่บอกกล่าวก็ถือว่าดีแล้ว.. ตรีเทพมีทั้งหมดหกเล่มแต่ท่านใช้เองด้วยคู่หนึ่งจึงเหลือให้บูชาเพียงสี่เล่มเท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้สมทบทุนซื้อโลงศพให้คนไร้ญาติสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลแรงครูตรีเทพอนันตกาลผลาญกัป(คำพรมหาเทพ,ลบกฏนามธรรม) บูชา 4,000 บาท

    51794240-314369059284070-5169152428188106752-n.jpg

    51752690-928807727508738-7593687077670092800-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2020
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ผู้กลืนกินมหันตภัย,โทษ,ทุกข์(ผูกพระเคราะห์กลืนฟ้าอัฏทิศ)

    แต่โบราณนั้นบุตรแห่งมังกรถือว่ามีหน้าที่ในการช่วยเหลือจักรพรรดิยามสร้างชาติ ในจำนวนนี้ก็ปรากฏนามของเทาเที่ยเช่นกัน ด้วยเป็นอสุรกายที่ตะกละ ละโมบ ไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักเพียงพอ แต่เดิมเทาเที่ยนั้นถูกพระเจ้าส่งลงมาพร้อมอุกาบาตและเนื่องจากเทาเที่ยเป็นสัตว์ที่มีนิสัยดุร้ายและตะกละ ดังนั้นจึงมีคำเปรียบเปรยถึงบุคคลที่เห็นแก่กินและละโมบโลภมากว่าเป็นพวกลูกสมุนของเทาเที่ย ด้วยเพราะเทาเที่ยดื่มกินได้ในปริมาณมาก,กินได้ไม่รู้หยุด,กินได้ไม่รู้จักอิ่ม จักรพรรดิแต่โบราณจึงนำอาถรรพ์ตัวเทาเที่ยนี้มาสร้างไว้ที่พระราชวังเพื่อให้เป็นผู้กลืนกินอุทกภัย ด้วยถือคติว่าดุร้ายนัก เวลาจะกินอะไรก็กินอยู่แต่ผู้เดียวเพราะดุจนไม่มีใครกล้าแย่งกิน เรียกว่าหมายตาอะไรแล้วต้องได้คนเดียว กินคนเดียว อิ่มอยู่คนเดียว ไม่แบ่งใครเช่นนั้น

    แม้พระจักรพรรดิยังต้องพึ่งอาถรร์พึ่งอำนาจของเทาเที่ยนี้ เช่นนั้นตระกูลมีชื่อที่ร่ำรวยทั้งหลาย มีความละโมบ มีความโลภ มีความต้องการ มีประสงค์ที่จะแสวงหาอำนาจ ลาภยศ ชื่อเสียง เงินทองแต่โบราณก็นิยมใช้เทาเที่ยให้กลืนกินทรัพย์สมบัติเข้าบ้านทั้งสิ้น ด้วยถือคติว่าเทาเที่ยนี้กินไม่รู้จักพอ กินไม่รู้จักอิ่ม กินไม่หยุดพัก และต้องได้กินอยู่คนเดียว นอกจากจะเป็นกฤติยาคมแฝดทางรับทรัพย์แล้วยังถือว่าเทาเที่ยกลืนเอามหันตภัยร้ายที่จะต้องเกิดกับตัวเองลงไปได้อีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าลำพังอุทกภัย มหันตภัยที่จะเกิดกับประเทศชาติทำลายชีวิตคนทีละหลายล้านนับไม่ถ้วนมันยังกลืนให้หายไปได้ ดังนั้นมันจึงไม่นับว่าเป็นภาษาอะไรเลยกับภัยเล็กๆที่เกิดขึ้นกับตัวคน ดังนั้นการใช้หรือพกตัวเทาเที่ยนี้นอกจากจะช่วยนำความอุดมสมบูรณ์โชคลาภโภคทรัพย์และความร่มเย็นเป็นสุขในครอบครัวแล้ว ยังกลืนกินทุกข์โทษภัยได้ (ถ้าหากใช้เป็นก็กินได้ทุกอย่างที่อยากกิน)

    พ่ออาจารย์ท่านอุปมาไว้ว่าคนเราแสวงหาทรัพย์มาเติมเต็มท้องได้ตลอดเวลาเหมือนการกินข้าวที่ไม่รู้จักอิ่มนี่คือนิสัยของเทาเที่ย อยากได้อะไรก็แสวงหาสิ่งนั้น อยากกินอะไรก็ได้กินสิ่งนั้นนี่คือคุณสมบัติของผู้ครอบครองอำนาจของเทาเที่ยซึ่งครั้งหนึ่งแม้จักรพรรดิทั้งหลายยังปรารถนาที่จะผูกอำนาจเหล่านี้ไว้กับตัว ท่านว่าคนเรานั้นกินได้ทุกอย่าง กินยังไงก็ไม่อิ่มไม่ว่าจะความรัก อำนาจ ชื่อเสียง ลาภยศ ความสุขในทรัพย์สมบัติ ความสุขในบุตร ความสุขในภริยา ความสุขในความสำเร็จ ความสุขต่างๆ...สิ่งเหล่านี้ก็เหมือนบ่อที่ถมไม่เต็ม เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงลงตะกรุดสร้างตัวเทาเที่ยที่เกิดมาเพื่อกลืนกินทุกสรรพสิ่งไว้ เพื่ออำนวยปัจจัยพื้นฐานในการดำรงค์ชีวิตไม่ว่าจะเงินทอง โชคลาภ เสน่หา ความรัก สิ่งเหล่านี้ท่านว่าอยากกินก็ต้องอิ่ม ต้องได้กินไม่ขาดปาก(เกินกว่านี้ท่านว่าอยากใช้อะไรก็สุดแล้วแต่จะใช้เถิด ใช้ได้ทางโลกีย์ครอบคลุมทั้งสิ้น) ท่านทำเพียงเพื่อให้คนที่มีไว้บูชาจะมีกินมีใช้ไม่รู้จบ ให้ทรัพย์สินเงินทองล้นบ้าน ให้ทุกข์ภัยสูญหาย ความเจ็บช้ำเนื้อตัวและจิตใจไม่เกิดขึ้น เอาอาถรรพ์เทาเที่ยที่กินได้ตลอดเวลา กินได้ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีไม่รู้จักอิ่มนั่นเองเข้ามากลืนกินความปรารถนา สร้างชีวิตคนฉุดดึงขึ้นมาเฉกเช่นจักรพรรดิยามสร้างชาติอันเป็นโอรสสวรรค์เช่นนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านลงเหล็กจารเป็นรูปบุตรมังกรหน้าหมาป่าใช้พระเคราะห์วันผูกเป็นยันต์พารวยจ่อเข้าปากสูตรเรียกลาภกลืนฟ้าอัฎทิศ ท่านว่าทั้งเจ็ดวันนี้อันเป็นสิ่งกำหนดเวลาของโลกจะไม่มีวันไหนที่อยากกินอะไรแล้วไม่ได้กิน สูตรเรียกลาภกลืนฟ้าอัฏทิศนี้อุปมาว่าในแปดทิศนั้นแม้ดาวบนฟ้าก็กลืนกินได้ อยากได้สิ่งใดเพียงอธิษฐานบอกกล่าวเทาเที่ยก็จะหามาให้ด้วยแรงกระหายที่แฝงอยู่ในสัญชาติญาณดั่งว่าตัวเรานี้เกิดมาเพื่อกินอย่างเดียว กินความสุขและเก็บไว้โดยไม่ถ่ายออก สิ่งใดที่ได้มาต้องอยู่กับเราไปตลอดชีวิตกินเข้ามาได้แต่ออกไปไม่ได้ ในส่วนมหันตภัยทุกข์โทษทั้งหลายนั้นก็ให้เทาเที่ยกลืนมันไปแทนตัวเรา

    ด้วยปรากฏสืบมาว่าอำนาจของเทาเที่ยนั้นแม้จักรพรรดิก็ยังต้องการผูกไว้ใช้กับตน ถึงเจ้าตัวไม่ยินยอมก็ยังต้องสะกดไว้เอาอำนาจนี้มาสร้างรากฐานชาติที่ยาวนานนับพันปี พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ท่านตั้งใจลงอาถรรพ์ตัวเทาเที่ยนี้ให้คนใช้ก็เพราะรู้ว่าคนสมัยนี้ที่เกิดมามีพร้อมทุกอย่างหาได้น้อยยิ่งนัก ส่วนใหญ่ก็ปากกัดตีนถีบ มีเป้าหมาย มีแรง มีความพยายาม อยากได้อะไรก็อาศัยอุตสาหะสร้างเอาทั้งสิ้น ท่านจึงตั้งใจลงอาถรรพ์ตัวเทาเที่ยนี้ไว้เพื่อให้คนใช้ได้กอบโกยโอกาศและเพื่อตะครุบความหวัง,ขย้ำสิ่งที่ต้องการจะกินให้กินได้แบบไม่บันยะบันยัง กินได้แบบไม่ต้องปราณีใคร ที่สำคัญคือเราต้องได้กินคนเดียว และอิ่มคนเดียว ไม่มีใครจะมาแย่งโชคลาภไปจากเราได้ ท่านว่าที่ผ่านมาหลายคนบอกว่าขนาดมีโชคก็ไม่ได้กิน แม้ฝันตรงๆยังไม่ได้ซื้อกลายเป็นคนอื่นถูก บางครั้งโชคและวาสนาในมือตัวก็กลับไปได้ไปลงอยู่ที่คนอื่น ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าให้คิดง่ายๆว่าโชคมันก็เหมือนข้าว ไม่ใช่เราคนเดียวที่หิวที่อยากกินข้าว เมื่อทุกอย่างเป็นการแข่งขันเมื่อนั้นข้าวของเราก็ย่อมถูกเขาแย่งกิน ด้วยของบางอย่างนั้นเมื่อท้องของเราไม่ใหญ่พอทั้งรากฐานไม่แน่น วาสนาไม่ถึง โชคไม่มี ข้าวมันจึงตกไปอยู่ในท้องคนอื่นเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเทาเที่ยนี้ก็ใช้แก้พวกคนที่ลาภเข้าไม่ถึงปากเหล่านี้ได้เช่นกันเพราะท้องของมันนี่ทั้งจุและยิ่งใหญ่ไพศาลเปรียบดั่งห้วงมหรรณพที่ไร้ซึ่งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด ดังนั้นอาถรรพ์ของเทาเที่ยจึงสามารถกินทุกอย่างได้ทั้งไตรดาลกินได้ทั้งห้วงจักรวาลโดยไม่รู้จักอิ่ม ขอเพียงสิ่งๆนั้นมีอยู่ไม่ว่าจะรูปหรือนามก็ไม่อาจรอดพ้นตกถึงท้องของมันได้ ด้วยอาถรรพ์นี้ผู้ใดมีไว้บูชาจึงไม่ขาดลาภและย่อมได้สิ่งที่ปรารถนามาครอบครอง โดยพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจให้ใช้กันแบบไม่รู้สึกถึงจุดอิ่มตัวนั่นเอง

    ท่านว่าแต่เดิมนั้นคนใช้เครื่องรางทั้งหลายมักจะรู้สึกได้ถึงจุดอิ่มตัว เช่นนั้นอาถรรพ์เทาเที่ยนี้เมื่อนำมาผูกไว้กับตัวบุคคลผู้ใดแล้ว เขาจะได้กิน(มีโชค)ไปเรื่อยๆชนิดไม่รู้จักจุดอิ่มตัวเลยทีเดียวด้วยมีอำนาจของผู้กลืนกินช่วยเหลือให้สวาปามทุกสิ่งได้ลื่นไหลคล่องคอ ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านยังผูกพระเคราะห์ของวันทั้งเจ็ดให้เสริมส่งโชคลาภจ่อตรงป้อนเข้าถึงปากและยังทำอาถรรพ์ให้กินได้ทั้งสิ้นในทิศทั้งแปดส่งผลให้ผู้ใช้เองก็กินได้ทุกทิศ กินได้ทุกทาง กินได้ทุกสิ่ง ทั้งในหมื่นโลกธาตุแสนโกฏิจักรวาลขอเพียงสิ่งนั้นมีอยู่จริงก็ไม่อาจรอดพ้นตกเป็นเหยื่อของความปรารถนาผู้กลืนกินได้เลย เมื่อจะตั้งความปรารถนากินสิ่งใดแล้ว ท่านว่าคนบางคนต้องใช้เวลาทั้งชีวิตกว่าจะได้กินหรืออาจจะไม่ได้กินด้วยซ้ำ แต่อำนาจของเทาเที่ยนี้รู้กันดีอยู่ว่านอกจากจะตะกละกินทั้งหมดทีเดียวอย่างรวดเร็วแล้ว ยังกินโดยไม่แบ่งให้ใคร กินแบบไม่เหลือซากไม่เหลือร่องรอย เมื่อจะกินอะไรต้องได้กินทันที และในเวลากินก็ไม่มีสิ่งใดมาหยุดยั้งการกินได้

    พ่ออาจารย์ท่านนำตะกรุดมาอุดผงมหาคุณที่ท่านลบถมยันต์ทางด้านความบริบูรณ์และโชคลาภนับร้อยสายทั้งยังผสมเข้ากับแร่กินเงิน,แร่กินทอง,แร่กินความสุข เพื่อเป็นเคล็ดให้คนใช้ได้กินทุกอย่างดั่งว่าของทุกสิ่งในโลกนี้เป็นของตนเพียงผู้เดียว ไม่มีใครคู่ควรต่อสิ่งที่เราปรารถนามากไปกว่าตัวของเรา ท่านใช้เวลาเรียกธาตุทั้งสี่ ขันธ์ทั้งห้า อาการทั้งสามสิบสอง ก่อนเดินจิตปฏิสนธิกำเนิดด้วยการกำเกิดโอปปาติกะซึ่งเป็นการกำเนิดอุบัติขึ้นอย่างบริบูรณ์ของภูมิกายสิทธิ์ ทั้งยังเดินธาตุ ใส่ความต้องการ ความรู้สึกตั้งแต่กามตัณหา ภะวะตัณหาและวิภะวะตัณหา เพื่อให้เทาเที่ยนี้บริบูรณ์ด้วยความทะยานอยากทั้งสามเหล่า ทั้งความทะยานอยากในอารมณ์ที่รักใคร่ชอบพอ,ความทะยานอยากในความอยากมีความอยากเป็น,ความทะยานอยากในความไม่อยากมีและไม่อยากเป็น ท่านว่าเพื่อให้เขารู้ว่าอะไรต้องมี,ต้องได้,ต้องเป็นและอะไรที่ไม่จำเป็นต้องมี เพื่อให้เขาช่วยเรานำมาตามคำปรารถนา เพื่อให้เป็นจุดสูงสุดของการแสวงหาตามกิเลสอันไม่สิ้นสุดของมนุษย์

    ตะกรุดรุ่นนี้ท่านว่าแม้แต่เราเสกเองก็ยังกลัวตัวเองด้วยท่านให้เหตุผลว่าถ้ายังห่มเหลืองห่มขาวไม่พร้อมเอาดีทางโลกก็อย่าคิดนำไปใช้ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ท่านไม่กล้าใช้และกลัวใจตนเองถ้าได้ใช้ ท่านจึงนำมาเสกเก็บและผนึกไว้จะมีบ้างที่ท่านเลือกมอบให้ผู้คู่ควรที่จะบูชาในบางครั้ง ให้เค้าเอาไปแสวงหาโชค ให้เขาเอาไปเติมเต็มสิ่งที่ขาดในชีวิต ซึ่งก็ปรากฏว่าตะกรุดนี้ใช้ได้ดีในทุกเรื่องตามความปรารถนา แถมที่น่าประหลาดใจคือเวลาขอสิ่งใด มักจะได้เกินกว่าที่ขอ ได้มาครั้งละมากๆเช่นนี้เสมอ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นก็เป็นเรื่องของเค้าเรารู้แค่ให้คนใช้กินอิ่ม นอนหลับสาย ไม่เป็นทุกข์เท่านี้ก็พอใจแล้ว

    คาถาบูชา
    ซินะตาซิมานิ โนเยนะเยโน สิทธิวะภาสิทธิ (ปรารถนาขอสิ่งใดให้นำเหล้าขาวทาที่ตะกรุด"ท่านว่าเป็นอุบายให้เทาเที่ยมอมเมาทำตามเราไม่แข็งกระด้าง")


    * ตะกรุดผู้กลืนกินสรรพสิ่งนี้มีจำนวนเล็กน้อย ท่านว่าจะใช้เดี่ยวหรือใช้เป็นคู่ก็ตามแต่ปรารถนาในใจของผู้บูชาเป็นปฐม ท่านว่าเสีงในใจจะบอกเค้าเองถึงความเหมาะสม ถ้าไม่ได้หวังทำการใหญ่อะไรกับชีวิตก็ไม่ต้องใช้ถึงคู่ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้สมทบทุนการศึกษาและอาหารกลางวันเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ผู้กลืนกินมหันตภัย,โทษ,ทุกข์(ผูกพระเคราะห์กลืนฟ้าอัฏทิศ) บูชา 2,500 บาท

    51779339-2058273220892699-4419601796616421376-n.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าไร้หัวใจเสกเงินตรารัตนโกศ,มหาภูติล่าสมบัติทันใจ (ได้ก่อนเจ็บ)

    ในคณะเทพจีนทั้งหลายนั้น มีอยู่คณะหนึ่งที่มีความใกล้ชิดกับมนุษย์มากและพ่ออาจารย์ท่านเองก็เรียกเทพคณะนี้ว่า"ครูฝึก"หรือ"พี่เลี้ยง" ด้วยท่านว่าคณะเทพชุดนี้เป็นเกลอกับท่าน เวลาถึงจุดที่ท่านต้องพึ่งคนอื่นจริงๆก็มักจะได้คณะเทพชุดนี้ช่วยเหลือ แม้ใครเดือดร้อนจนถึงที่สุดท่านได้ส่งชื่อเขาไปให้เทพคณะนี้ เอาเป็นว่ามีแต่รวยขึ้นทุกคน ด้วยฐานะพิเศษที่ท่านเรียกว่าครูฝึกนั้นแน่นอนว่าคณะเทพชุดนี้ย่อมต้องมีปฏิสัมพันธ์ในเชิงลึกกับมนุษย์อยู่แล้วทั้งการดำเนินชีวิต,วิถีและแนวทาง ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงซุ่มทำเครื่องมงคลสำคัญขึ้นมารุ่นหนึ่งเพื่อเป็นตัวแทนของคณะเทพชุดนี้ ท่านว่าทำไว้ให้คนเขาใช้จะได้มี ได้รับ ได้ในสิ่งที่ควรได้ก่อนที่จะเจ็บเนื้อเจ็บตัว เอาเป็นว่าฉันทำเอาไว้ให้แก้เคล็ด ให้เธอได้ก่อนเจ็บนั่นแหละ จะมีประโยชน์อะไรหากต้องพยายามถึงขึ้นเจ็บป่วยแล้วถึงจะประสบผลสำเร็จ บางคนขออะไรไว้นี่ต้องรอจนแก่ถึงเริ่มจะเห็นเงาความหวัง บางครั้งได้ บางครั้งสำเร็จ แต่สิ่งที่ได้มานั้นเราก็ไม่ได้มีอายุจะอยู่ต่อให้ชื่นชมมันเลยแม้แต่น้อย เรียกว่าหามาทั้งชีวิต พอได้ก็ขาดเวลาใช้ ขาดความสุข เพราะหมดเวลาแล้วต้องเสวยทุกข์ก่อน เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงว่า"ฉันนึกถึงคณะเทพชุดนี้ เพราะเขาเคยบ่นกับฉันไว้ให้ฉันเร่งทำขึ้นมาเสียทีเถอะ เขาจะมาทำให้ เขาจะได้ออกไปช่วยเหลือผู้ที่ศรัทธาเขา" ซึ่งเทพจีนคณะนี้ก็คือเทพไฉ่ซิ่งเอี๊ยะนั่นเอง

    ในทำเนียบของเทพเจ้าสำคัญนั้น หากเอ่ยชื่อเทพเจ้าแห่งโชคลาภหรือไฉ่ซิ้งเอี้ยะแล้ว หลายคนย่อมรู้ดีว่าท่านเป็นเทพเจ้าที่ให้คุณทางด้านโชคลาภ ทรัพย์สมบัติ เป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งสำหรับผู้บูชาแล้วใครจะคิดสิ่งใดท่านก็จะให้สิ่งนั้นสมดังปรารถนาทั้งทรัพย์สินเงินทองจะไหลมาเทมาและจะรักษาทรัพย์ที่มีอยู่แล้วเอาไว้ได้อย่างมั่นคง ซึ่งนั่นเป็นหน้าที่คร่าวๆเท่านั้น และคนไทยก็ยิ่งสะเพร่ากันถึงขนาดเหมารวมว่าท่านเป็นองค์เดียวกับท้าวเวสสุวรรณ มีท้าวเวสสุวรรณแล้วก็บูชาใช้แทนกันได้ ซึ่งแท้จริงแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นคนละองค์กันและไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย ต่างกันทั้งรูป นาม และหน้าที่ ด้วยท้าวเวสนั้นไม่ได้มีอานุภาพเสกเงินเสกทองประทานให้มนุษย์ได้ด้วยตนเองเหมือนไฉ่ซิ่งเอี้ยะหากแต่ท้าวเวสท่านเป็นผู้เฝ้าขุมทรัพย์ในแผ่นดิน ไม่ได้มีหน้าที่เสกทรัพย์ แจกทรัพย์ออกประทานให้กับมนุษย์เหมือนคณะเทพไฉ่ซิ่งเอี๊ยะนี้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเทพทุกองค์ที่เกี่ยวข้องเป็นเทพแห่งโชคลาภของทุกศาสนานั้นล้วนแต่มีที่มาแห่งทรัพย์ไม่ได้เสกทรัพย์ได้เองและให้ทรัพย์แก่ผู้บูชาได้ตามใจเช่นคณะเทพทั้งห้านี้ ดังนั้นเทพทั้งหลายก่อนที่จะให้ทรัพย์ให้โชคใครก็มักจะต้องพิจารณาปัจจัยโดยรวมอย่างละเอียด

    ด้วยคณะเทพเจ้าแห่งโชคลาภหรือจะเรียกว่าไฉ่ซิ้งเอี๊ยทั้งห้าก็ได้ เป็นเทพที่ทำงานกันเป็นหมู่คณะ ประกอบด้วย
    - เจ้ากงหมิงหรือเทพไฉเสิน องค์เทพผู้เป็นหัวหน้าของเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งห้า
    - เหยาเส้าซือหรือขุนนางสวรรค์ลี่ซื่อเซียน องค์เทพแห่งการค้าขาย
    - เฉินจิ่วกงหรือเทวทูตเจาไฉสื่อเจ่อ องค์เทพแห่งการเรียกทรัพย์สิน
    - เซียงเซิงหรือเทพเจาเป่าเทียน องค์เทพแห่งการเรียกหาของวิเศษ
    - เฉาเป่าหรือเทพน่าเจินเทียน องค์เทพแห่งการรวบรวมสิ่งเลิศล้ำเลอค่า


    ซึ่งคณะเทพทั้งห้านี้แต่ละคนก็มีคุณสมบัติและหน้าที่แตกต่างกันไป ทั้งยังมีขอบเขต มีทิศทางในความรับผิดชอบส่วนบุคคลของแต่ละคนด้วย กล่าวคือ
    - เทพไฉเสินดูแลทิศกลาง เป็นหัวหน้าห้าเทพผู้รวบรวมมโภคทรัพย์ มีอำนาจบารมีช่วยคุ้มครองให้ผู้บูชาแคล้วคลาดจากเรื่องร้าย เภทภัยบังเกิดไม่ได้ ไม่เข้าถึงตัว ให้ชีวิตบังเกิดความร่มเย็นเป็นสุข ส่งเสริมให้การงานกิจการค้าก้าวหน้า
    - เทพลี่ซื่อเซียนดูแลทิศเหนือ มีอำนาจบารมีช่วยสลายเคราะห์เหตุเภทภัยร้าย และโปรดประทานสติปัญญาอันสว่างไสวรุ่งเรืองในการพัฒนาการงานธุรกิจการค้าให้เจริญก้าวหน้า ประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่มุ่งหวังและสมปรารถนาในเร็ววัน
    - เทพเจาไฉสื่อเจ่อดูแลทิศใต้ มีอำนาจบารมีช่วยส่งเสริมหน้าที่การงานและกิจการค้าของมนุษย์ให้บังเกิดความรุ่งเรืองก้าวหน้า โชคลาภ,ความสุขหมุนเวียนคล่องตัว ประกอบอาชีพได้ลื่นไหล ให้ชีวิตมั่งคั่งบริบูรณ์ สุขภาพพลานามัยแข็งแรงและภายในครอบครัวแคล้วคลาดปลอดภัยสมบูรณ์พูนสุข
    - เทพเจาเป่าเทียนดูแลทิศตะวันออก มีอำนาจบารมีช่วยสลายพลังพิฆาตจากดาวอัปมงคล พร้อมทั้งส่งเสริมพื้นดวงชะตาผู้บูชาให้ราบรื่นสดใส ทั้งยังผลให้หน้าที่การงานและธุรกิจการค้ารุ่งเรืองก้าวหน้าไร้อุปสรรคปัญหา มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและทุกข์เข็ญเภทภัย
    - เทพน่าเจินเทียนดูแลทิศตะวันตก มีอานุภาพในการแก้ไขสลายเคราะห์ภัย มีอำนาจบารมีช่วยส่งเสริมผู้บูชาให้การงานก้าวหน้า ธุรกิจการค้ารุ่งเรือง มีทรัพย์สินเงินทองเพิ่มพูน มีตำแหน่งยศศักดิ์และบริวารเกื้อหนุน แคล้วคลาดจากเรื่องร้ายและเหตุวุ่นวายต่างๆ


    พ่ออาจารย์ท่านว่าคณะเทพไฉ่ซิ่งเอี๊ยะนี้แต่ละองค์ก็มีคุณวิเศษแตกต่างกันไป ซ้ำทุกองค์ยังมีหน้าที่ต่างๆกันในการอภิบาลช่วยเหลือมนุษย์โดยตรงตั้งแต่เกิดจนตาย เช่นนี้ท่านจึงเรียกเทพคณะนี้ว่าครูฝึกหรือพี่เลี้ยง โดยคณะเทพแห่งโชคลาภทั้งห้านั้นได้ให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างเทพไฉเสินเป็นตัวแทนคณะเทพทั้งหมด โดยเทพไฉเสินนี้จะมีฐานะพิเศษนอกจากเป็นเทพทิศกลางแล้วยังเป้นหัวหน้าคณะและเป็นเทพนักรบอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านจึงปั้นรูปเทพนักรบหนวดเครารุงรังมีอถือกระบองสวมชุดนักรบนั่งเสือเป็นพาหนะ โดยท่านตั้งใจให้อีกมือหนึ่งนั่นถือไหวิเศษเป็นตัวแทนของเงินทองและเพชรนิลจินดาของมีค่าที่จะสร้างขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง ท่านว่าไหของเทพแห่งโชคลาภนี้เป็นการแสดงออกถึงความร่ำรวยและมีโชคลาภแบบไม่มีที่สิ้นสุด เพราะตัวท่านมีหน้าที่รักษาไหวิเศษที่ใช้ในการปรุงยาอายุวัฒนะจนได้รับฉายาว่าเทพเจ้าไหวิเศษ เช่นนั้นเมื่อทำตัวแทนคณะเทพแล้วพ่ออาจารย์จึงต้องใส่ไหวิเศษหรือสุดยอดเครื่องสร้างทรัพย์สมบัติลงไปด้วย

    ด้วยคณะเทพแห่งโชคลาภนั้นเป็นเทพชั้นสูงมีตำแหน่งเทียบเท่าแม่ทัพสวรรค์ นอกจากที่รู้กันว่าผู้ใดได้รับการอุปถัมภ์จากเทพทั้งห้านี้ นอกจากท่านจะอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่ง เจริญรุ่งเรือง เปี่ยมด้วยทรัพย์สินเงินทองเพิ่มพูนแล้ว ท่านยังสามารถเรียกลมเรียกฝน(อุปมาว่ามีอำนาจมากขนาดเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ,เปลี่ยนชะตาฟ้าชะตาคนได้)ทั้งยังขจัดโรคภัยแก่คนที่ศรัทธาได้ จึงไม่แปลกที่ตำแหน่งคณะเทพไฉ่ซิงเอี๊ยะในหัวใจของมนุษย์แล้วจะเป็นเทพเจ้าที่สำคัญที่สุดเพราะท่านเป็นเทพที่ประทานโชคลาภหรือความร่ำรวยโดยตรง และยังเชื่อกันสืบมาว่าท่านไม่มีหัวใจหรือพูดง่ายๆคือไร้ใจนั่นเอง เมื่อไม่มีหัวใจจึงไม่เลือกที่รักมักที่ชังใครศรัทธาท่านโดยจริงใจท่านก็รักเขาด้วยความสุจริตเช่นนั้น ท่านจึงเที่ยวโปรยเงินโปรยทองให้คนที่มีท่านอยู่ในใจไปทั่วให้เขาสมความปรารถนาทั้งคอยมอบคำอวยพรให้แก่เขาให้ทำอะไรก็มีแต่คนเชื่อถือ ทั้งยังให้คุณด้านหนี้สินอย่างประหลาดเจ้าหนี้คนไหนบูชามักจะตามหนี้ง่าย ลูกหนี้จะไม่กล้าโกงหรือหนีหนี้ รวมทั้งให้คุณแก่เจ้าของกิจการ ให้ดูแลควบคุมบริวารตลอดจนลูกจ้างให้อยู่ในระเบียบวินัยมีความขยันในการทำงาน

    การมีฐานะมั่งคั่งร่ำรวยนั้นล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการด้วยกันทั้งสิ้น แต่จะร่ำรวยอย่างไรไม่ให้เจ็บช้ำใจอย่างสาหัสไปเสียก่อน การจะมีโชคได้นั้นนอกจากต้องทำงานอย่างเต็มที่แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ชีวิตและความเป็นอยู่ดีขึ้นด้วยเช่นกันเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงนำเหล็กไหลรัตนโกศโคตรเศรษฐี ซึ่งเป็นเหล็กไหลน้ำหนึ่งที่ท่านรักษาไว้ นำมาบดตำพอให้เห็นเนื้อองค์เหล็กผสมกับผงเรียกทรัพย์ทุกตระกูลที่ท่านลบถมไว้อุดหลังองค์เทพแห่งโชคลาภนี้โดยเฉพาะ ท่านว่าเหล็กไหลรัตนโกศนี้เป็นของดีที่สุด เป็นกายสิทธิ์ที่ให้คุณโดดๆทางด้านเรียกทรัพย์ รวมทรัพย์ในแผ่นดิน จะเรียกว่ากำลังแห่งขุมทรัพย์ก็ได้มีอานุภาพมากด้วยจะทำให้คนบูชามีฐานชะตาที่เป็นกำลังหนุนด้วยขุมทรัพย์และวาสนาที่ตักไม่พร่องใช้ไม่หมด ทั้งนี้ท่านยังได้ฝังตะกรุดคู่มหาสมบัติลงหัวใจยอดเศณษฐีเอาไว้ด้วย ท่านว่าคนบูชาไว้จะได้เป็นสิริมงคลให้เจริญขึ้นโดยสถานเดียวไม่มีตกต่ำ และสำคัญที่สุดนั้นก็คือมหาภูติล่าสมบัติทันใจ
    - มหาภูติล่าสมบัติทันใจ ด้วยมีอำนาจของเหล็กไหลรัตนโกศเป็นดั่งขุมกำลังมหาสมบัติในแผ่นดิน พ่ออาจารย์ท่านจึงทำเครื่องมงคลแก้เคล็ดคนที่ไร้โชค ไร้วาสนา ให้มีโชคได้แบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินและจะได้ดึงเอากำลังของกายสิทธิ์ธาตุมาใช้ได้อย่างถึงที่สุด ท่านจึงทำมหาภูติล่าสมบัติขึ้นโดยองค์เทพทั้งห้านั้นได้แนะเคล็ดว่าต้องทำในรูปพังพอนเท่านั้น เพราะแต่โบราณถือคติว่าทรัพย์สมบัติทั้งมวลบนพื้นพิภพล้วนแล้วอยู่แต่ในผืนดิน ความอุดมสมบูรณ์ต่างๆก็มาจากดินจากน้ำใต้ดินทั้งนั้น เช่นนั้นแก้วแหวนเงินทองของมีค่าล้วนแล้วเกิดมาจากพื้นปฐพีทั้งหมดทั้งสิ้น ดังนั้นผู้ที่มีหน้าที่เฝ้าทรัพย์เหล่านั้นก็คือเจ้าแห่งเมืองบาดาลโบราณกล่าวว่าคืองูหรือพญานาคนั่นเอง ซึ่งวิสัยงูนั้นย่อมดุร้ายและหวงทรัพย์สินเรียกว่าไม่แบ่งให้กระเด็นไปที่ใครซักเล็กน้อยเลยดังนั้นสัตว์ที่แก้เคล็ดกับงูได้ย่อมต้องเป็นพังพอน เพื่อให้พังพอนนั้นสยบอาถรรพ์ทรัพย์ในแผ่นดิน ให้พังพอนนั้นล่างู ล่าสมบัติ เร่งหาทรัพย์นั้นมาให้เรา เพื่อให้พังพอนนั้นทำการคายเอาทรัพย์สินแก้ว แหวน เงิน ทอง ออกมาให้แก่เราเช่นนั้นจะแก้เคล็ดและดึงเอากำลังเหล็กไหลรัตนโกศออกมาสงเคราะห์ผู้บูชาได้อย่างเต็มที่ ท่านว่าต้องปลุกภูติล่าสมบัติในรูปพังพอนเท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านใช้ศาสตร์แก้อาถรรพ์เหล่านี้หนุนไปในเครื่องมงคลชุดพิเศษนี้โดยเฉพาะ ท่านว่าพี่เลี้ยงหรือครูฝึกชุดนี้แต่เดิมท่านก็เอาใจมนุษย์อยู่มากแล้ว ซ้ำท่านยังไร้ใจคือให้โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังแบบเทพทั่วไป และด้วยว่าท่านมีกำลังมาก มีขุมพลังงานที่ยิ่งใหญ่อันสั่งสมขึ้นมาจากศรัทธาของมหาชนไม่ได้ขาดตกบกพร่องเลยยาวนานนับพันๆปี เป็นที่ศรัทธาและบูชาตั้งแต่ฮ่องเต้จนถึงสามัญชนทุกกาลสมัยตลอดมาเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจสร้างไว้ให้แก้เจ็บแก้จนกันได้ทุกคน ท่านว่าสำหรับคนที่ชีวิตยังไม่มีหนทาง ไร้แนวทาง รู้สึกว่าตัวเองต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว จะพึงใครก็ไม่ได้ หาหลักยึดก็ไม่เจอ ขาดทั้งวาสนาและกำลังใจ ท่านว่าคนเช่นนี้แหละเหมาะที่จะพึ่งพี่เลี้ยงหรือ"ครูฝึก"มากที่สุด

    พ่ออาจารย์ท่านจึงได้สร้างครูฝึกของมวลมนุษย์ หรือเครื่องมงคลที่รวมกำลังของคณะเทพทั้งห้านี้ไว้ ท่านว่าตราบใดที่มนุษย์ยังกราบไหว้เทพแห่งโชคลาภอยู่ ตราบใดที่มนุษย์ยังขวนขวายความเจริญรุ่งเรืองอยู่ ตราบนั้นขุมพลังของท่านก็จะรุ่งเรืองต่อไปอีกนับร้อยนับพันปีไม่มีเสื่อมไม่มีตกลง ครื่องมงคลชิ้นนี้ฉันทำตามคำสั่งของท่านโดยแท้และได้พลีเหล็กไหลมวลสารต่างๆที่สำคัญใส่ลงไปมากมายเพื่อให้เป็นของวิเศษที่มีพลังอย่างถึงที่สุด เอาว่าสำหรับครูฝึกนั้นท่านก็ลงมาทำให้อย่างเต็มที่ เต็มบารมีสมกับเป็นเทพที่มีชนนับถือมากที่สุดในโลกนั่นแหละ ต่อไปพระองค์นี้จะมีกำลังเรียกลมเรียกฝน(เปลี่ยนแปลงชีวิตคน)ได้ตามใจปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านว่าทำเสร็จเสกเก็บมาก็นาน พวกท่านก็เร่งให้เอาออกอยู่เสมอๆ จนพ่ออาจารย์ท่านเห็นควรว่าเหมาะแล้ว เหลือไว้แค่องค์ที่ท่านใช้เองก็พอ องค์อื่นๆนั้นก็ให้ออกร่วมทำบุญไปเขา(เทพทั้งห้า)จะได้ไม่ต้องมาทวงถามเอากับเราอีกว่าจะเก็บไว้ถึงเมื่อไหร่

    เคล็ดการใช้
    *
    ** พ่ออาจารย์ท่านว่าคาถาไม่ต้องใช้แล้ว มันเกินจุดนั้นไปแล้วเพราะนี่เป็นของกายสิทธิ์ให้อาราธนาใช้ได้เลย แม้ติดตัวไว้ไม่ได้อาราธนาเลยก็ยังใช้ได้ ท่านว่าในเมื่อองค์เทพท่านไร้ใจแต่ตัวเรามีหัวใจเช่นนั้นเวลาใช้จะบอกกล่าวความเดือดร้อนและสิ่งจำเป็น ตลอดจนขอพระเรื่องต่างๆก็ให้พูดกับท่านด้วยใจ ด้วยความรู้สึกที่แท้จริงของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าขอเพียงเราสื่อสารกับท่านด้วยใจไม่ใช่พูดแบบขอไปที ใส่ความรู้สึกเข้าไปทั้งหมด เพียงแค่นั้นย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดหมื่นพันตัวคาถานั้นล้วนไม่จำเป็นเลย


    *** พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ทั้งหมดเจ็ดองค์และท่านใช้เองด้วยหนึ่งองค์เป็นองค์ประจำกายของท่าน ทั้งยังได้มอบให้พระที่ธิเบตไปหนึ่งองค์และผมก็ใช้สิทธิ์จองไว้เช่นกัน ดังนั้นรุ่นนี้จึงมีให้บูชาสี่องค์เท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนบูรณะศาสนวัตถุที่เสื่อมโทรมต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าไร้หัวใจเสกเงินตรารัตนโกศ,มหาภูติล่าสมบัติทันใจ (ได้ก่อนเจ็บ) บูชา 4,000 บาท

    52259350-607840149664137-7729069132649332736-n.jpg 52386919-1140703732774373-2825762076138405888-n.jpg
    51927944-364688564119316-1848067325878599680-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2023
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระรอดวิกฤติพิศดารชี้ทิศส่องทาง(คนต้องรอด,เอ็งรอดแน่ไอ้ทิด)

    - " ใครที่รู้ตัวว่า..ทำอะไรก็ตาม แล้วทำท่าจะไปไม่รอด ลองอาราธนาพระรอดขึ้นคอดูนะ "
    - " ฉันจะทำพระรอดที่ให้คนใช้แล้ว ต้องรอดจริงๆ "
    - " ดีนักจ่ะ ดีนักจ่ะ พระฉันบรรเทาภัยดีนัก อย่าห่างจากคอนะ "


    เมื่อพูดถึงพระรอดแล้วหลายคนมักจะนึกถึงพระรอดมหาวัน จ.ลำพูน เพชรแห่งหริภุญไชย ซึ่งเป็นหนึ่งในพระเบญจภาคี มีประวัติล้ำลึกยาวนานเกิดขึ้นที่เดียวในเมืองลำพูนแห่งนี้ ตำราเก่ากล่าวว่า พระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งเมืองหริภุญไชยร่วมกับฤๅษีทั้งห้าองค์ อาทิ พระสุเทวะฤๅษี และนารทะฤๅษี... ประชุมฤๅษี 108 รูป เป็นผู้สร้างมีรูปแบบศิลปะผสมศรีวิชัยและทวารวดีมีอายุมากกว่า 1,300 ปี ซึ่งเป็นพระพิมพ์หนึ่งในกรุพระสกุลลำพูนนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ชื่อรอด หรือพระรอดจริงๆก็มีเพียงชื่อที่คนตั้งให้กันเท่านั้น

    ดังนั้นท่านจึงสงสัยมาตลอดว่าพระที่คนใช้แล้วจะรอดจากภัยพิบัติ,รอดจากชีวิตอันไม่พึงประสงค์ ,รอดจากความไปไม่รอด..ไปไม่ถึงทั้งหลายนั้น หากอยากสร้างเสียซักครั้งจะต้องทำอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าของบางอย่างนั้นถึงได้อภิญญาสมาบัติก็จริงแม้บางสิ่งหากอยากจะทำก็ทำได้ แต่ถ้าจะทำให้ใช้ได้จริงตามความปรารถนาของเรานั้นมันย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเราต้องมองว่าเราตั้งใจจะทำอะไร ทำให้เขาไปใช้อย่างไร *** ก็แล้วทีนี้ไอ้สิ่งที่เราอยากจะทำนั้นมันจำกัดด้วยเวลาและกฎของกรรมจึงไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ด้วยตัวเอง ท่านว่าจะทำตามตำราก็ไม่รู้จะหาตำราที่ไหนมาทำด้วยไม่มีใครกำหนดวิชาทำพระรอดที่คนใช้แล้วรอดจริงๆไว้เลย เรียกว่าแค่จะหาเรียนวิธีทำพระรอดก็ไม่รู้จะเรียนที่ไหน มีอยู่อย่างเดียวที่ทำได้ก็คือว่ารอ ...รอให้พระท่านมาสั่งเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่(องค์ปฐม)ท่านเมตตาตรงนี้ ท่านว่าฉันก็ไม่รู้จะถ่ายทอดให้ยังไงแต่เอาล่ะฉันจะทำให้เองนะ เช่นนั้นจึงเป็นบ่อเกิดของพระพิมพ์สำคัญที่พ่ออาจารย์ท่านจะเรียกว่าพระรอดพิศดารสืบไป ท่านกำหนดให้ปั้นหุ่นเทียนเป็นรูปพระพุทธถือคบเพลิงส่องนำทาง ท่านว่าจะได้เป็นแสงสว่างเปิดนำทางให้สาธุชนทั้งหลาย " ต่อไปใครพบกับพระพิมพ์นี้เท่ากับพบแสงสว่าง มีปัญญาบารมีมาก นำชัยชนะ นำความสำเร็จ นำความสุข นำความเจริญมาให้ จะได้พบกับแสงสว่างในกิจที่ทำที่ดำรงค์อยู่ ทั้งการทำมาหากิน ราชการ การค้า...ทุกกิจอาชีพ ต้องสำเร็จ ต้องสมหวัง ต้องมีชัยชนะทุกคราวไป คิดทำสิ่งใดก็ออกผลงอกงาม การทำมาหากินได้โชคลาภเงินทอง มีความสุข ชีวิตมีทางออกตลอดเวลา " ให้เสด็จพระใหญ่ท่านแผ่พุทธานุภาพให้แสงสว่างชี้ทิศ นำทาง นำชัยชนะ นำความสำเร็จมาสู่ชีวิตเธอ

    เช่นนั้นจึงเป็นเหตุผลที่พ่ออาจารย์ท่านใคร่ครวญตลอดมาว่าหากจะทำพระรอดทั่วไปแล้วตัวเราย่อมทำได้ แต่หากจะทำพระให้เขาใช้หาทางออกของชีวิตได้ตลอดเวลา ให้ทันยุค ทันสมัย ปรับเข้ากับสถานการณ์เลวร้ายของแต่ละคนได้อย่างพอดิบพอดีเช่นนี้ต้องให้พระ(องค์ปฐม)ท่านทำให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระรอดรุ่นนี้ของฉันแปลกเพราะเสด็จพระใหญ่ท่านคุมพิธีเอง จะหล่อจากอะไร ใช้ยันต์อะไรเอาเป็นว่าเราไม่ต้องคิด ท่านกำหนดของท่านเองลงมาทีละอย่างๆ พอเราทำเสร็จงานใหม่ก็มา ต้องลงอะไรบ้างอย่างละกี่ดวง เห็นมั๊ยเรียกว่าถ้าทำไม่เสร็จท่านจะไม่บอกก่อนล่วงหน้าเลยว่าต้องใช้อะไร เช่นนี้จึงค่อยๆทำค่อยๆลงกันไป เริ่มแต่ยันต์ดวงประสูติ ดวงตรัสรู้ ยันต์ไจยะเบงชรพิศดาร ยันต์ไจยะเบงชรตัวย่อ ยันต์ฟ้าฟีก...ยันต์ดวงตำรับเสด็จพระใหญ่ทั้งร้อยแปดดวง พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องทยอยลงเก็บไว้ตามที่ท่านสั่ง เพราะยันต์แต่ละแบบก็มีวิธีเสกต่างกันไป อะไรเราเสกได้ อะไรต้องให้ท่านเสกก็แยกหน้าที่กันไป อะไรเราลงท่านเสกอย่างนี้เรียกว่าต่างคนต่างทำเพื่อจะนำมาหลอมเป็นมวลสารในลำดับแรก

    พอหลอมยันต์เข้ากับธาตุกายสิทธิ์นั้น พ่ออาจารย์ท่านติพระพิมพ์นี้ว่าหย่อนงามไปมากท่านจึงไม่ใคร่จะให้ใครนำไปบูชา แต่กลับกันเสด็จพระใหญ่ท่านไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นแต่ท่านกลับพอใจอย่างมากและบอกว่า" ดีจ๊ะ ดีจ๊ะ สำเร็จแล้ว แบบนี้ต้องเรียกว่าพระรอดวิกฤติ " พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเป็นเช่นนั้นฉันจึงเก็บยาวหลังจากขอพระ(องค์ปฐม)ท่านทำวิชาให้

    พระรอดสำคัญนี้ท่านว่านอกจากจะให้เสด็จพระใหญ่ท่านทำแล้ว ฉันยังตั้งใจจะทำให้ใช้แทนของเก่ากันด้วย เช่นนั้นท่านจึงได้อัญเชิญพระนางจามเทวีมารับการถวายพระรอดทั้งหมดนี้ประหนึ่งว่าพระนางเป็นผู้สร้างและเชิญองค์สุเทวะฤๅษี นารทะฤๅษี และฤๅษีทั้ง 108 มาทำพิธีปลุกเสกอีกคำรบหนึ่ง ก่อนที่พ่ออาจารย์ท่านจะสอบทานดู ท่านว่าต้องทำเช่นนี้ก็เพื่อให้ใช้ทดแทนพระรอดมหาวันของเก่าได้ ท่านว่าตาฤาษีที่เชิญมาทุกองค์นั้นเขากะซิบบอกฉันว่า "กูเสกเพิ่มพลังของธาตุและกายสิทธิ์ทั้งหมดให้สูงสุดแล้ว ไม่มีใครเขาทำกันอย่างนี้หรอก นี่มึงคิดอะไร..." พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำทั้งทีก็ต้องทำให้ดีที่สุดฉันอาศัยบารมีฤาษีชั้นเทพ ชั้นพรหม ชั้นโพธิสัตว์ ทั้งหลายเหล่านี้ขอให้ช่วยกันประสิทธิ์เพิ่มพลังในส่วนของธาตุและกายสิทธิ์ให้ถึงที่สุดเท่านั้น เพราะในส่วนของวิชาแล้ว เพียงเสด็จพระใหญ่ท่านทำให้นั่นก็เชื่อขนมกินได้ว่าแน่นอนที่สุด

    ท่านว่ากว่าจะทำพระรอด ที่ให้คนนำไปใช้แล้วรอดจริงๆได้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เอาว่าพุทธคุณยอดเยี่ยมทุกทางเด่นด้านแคล้วคลาด คนที่ชะตาขาดโดยเฉพาะชีวิตเจอวิกฤติ ต้องการพลิกกลับชะตาตนให้กลับร้ายกลายดี ใครที่รู้ตัวว่าทำอะไรก็ตาม แล้วทำท่าจะไปไม่รอด ลองอาราธนาพระรอดขึ้นคอดูนะ แล้วจะเข้าใจว่าทำไม "พระรอด คนต้องรอด" ด้วยนะ เพราะพระรุ่นนี้ทำไว้ให้ช่วยคนรอดพ้นภัยพิบัติในชีวิต คนใช้ให้หมั่นอธิษฐานขอต่อพระรอดนั่นเถิดพุทธคุณครอบจักรวาลนั่นทีเดียว จำเอาไว้ว่าพระรอดของฉันนี้ต่อไปจะได้ช่วยเธอเอาไว้อีกมาก..หลายเรื่อง ต่อให้ฉันไม่อยู่แล้วไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครก็ให้พึ่งพระรอดนี้แหละ เอาชีวิตให้รอดไม่ว่าจะทำอะไรก็ดี ครูท่านช่วยกันทำไว้ให้หมดแล้วไม่มีวันเสื่อม ท่านย้ำนักว่าพระฉันช่วยได้ในยามที่ชีวิตคับขันหาทางออกไม่เจอ ...เธออย่าประมาทไปนะ

    "ด้วยชีวิตคนเรานั้นก็เปรียบเสมือนดวงดาว หากเป็นดาวฤกษ์ย่อมเปล่งแสงในตัวเอง หากเป็นดาวเคราะห์ย่อมอาศัยแสงจากดาวฤกษ์ อยู่ที่ตัวเองเลือกจะเป็นอะไร จะพึ่งตัวเองจนส่องแสงออกมาได้สำเร็จเช่นดาวฤกษ์ หรือชีวิตนี้จะต้องพึ่งแสงจากคนอื่นเช่นดาวเคราะห์" พ่ออาจารย์ท่านให้คติไว้ดังนี้เพราะพระรอดวิกฤตินั้นเปรียบเสมือนไฟที่จุดประกายแสงสว่างให้คนใช้ต้องรอดได้ในยามที่ชีวิตมืดมิดลง ท่านว่าหากเลือกที่จะยืนส่องประกายขึ้นได้ด้วยตัวเองนั่นแหละค่อยใช้พระของฉัน

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระรอดวิกฤติไว้นานแล้วแต่ท่านไม่ใคร่จะนำออกมาให้ใครบูชาเพราะท่านอายว่าพระไม่สวยและคนที่ไม่รู้จะเผลอปรามาสไปเป็นบาปกรรมกับชีวิตเขา จนสมัยท่านบวชนั้นท่านก็ได้เอาพระรอดวิกฤตินี้ติดอังสะไปด้วยองค์หนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนนั้นมีทิดสึกใหม่ที่ลาสิกขาออกไปเข้ามากราบท่าน คุยไปคุยมาก็ร้องไห้เล่าความลำบากบอกว่าตัวเองอยากจะมีโชคมีลาภ จะขอของที่เด่นเรื่องโชคลาภแทงหวยเหล่านี้จากพ่ออาจารย์ท่านไปใช้ ท่านจึงถามเขาว่าเป็นคนบ้านไหนทำมาหากินอะไร ท่านว่าท่านเองก็แปลกใจตอนที่คุยกับเขานั้นฉันได้ยินเสียงเสด็จพระใหญ่ท่านตรัสออกมาว่า"เอ็งรอดแน่ไอ้ทิด" เช่นนั้นจึงรู้ว่านายคนนี้ไม่ต้องไปพักหาโชคลาภอะไรเลย หลังจากมาบีบนวดให้เราพ่ออาจารย์ท่านว่าเราเองก็บอกเขาไปว่าโชคลาภนั้นเธอไม่ต้องการเลย เขาก็ร่ำไห้อยู่ตรงนั้นว่าถ้าไม่ได้โชคแล้วชีวิตนี้ก็ไม่รู้จะมีทางออกยังไง กฺจการก็กำลังจะถูกยึด ที่มาบวชนี่ก็หวังจะสะเดาะเคราห์ แต่สถานการณ์ก็แย่ลงๆ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงบอกออกไปว่าเป็นพระก็เป็นมาแล้วเธอยึดมั่นในพระพุทธคุณมั๊ยล่ะ พอทิดนั่นรับคำท่านจึงว่า เอางี้ฉันจะให้พระรอดกับเธอไปใช้ แต่บอกเอาไว้ก่อนหนาว่านี่เป็นพระรอดตำรับของฉัน เอาไปแล้วตั้งใจกลับไปทำงานเสีย"เอ็งรอดแน่ไอ้ทิด" พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนนั้นท่านอยู่ในสมณเพศทิดคนนี้ก็ตามอุปัฏฐากตลอด มาให้เห็นหน้าไม่ขาด แต่ที่น่าตกใจคือชีวิตเขาดีในระยะที่สั้นมาก(เหมือนไม่ถูกจำกัดอยู่ด้วยเวลาและกฏของกรรมเลย)เอาว่าจากรถที่ติดไฟแนน กิจการจะถูกยึด บ้านจะถูกยึด เดี๋ยวนี้กลายเป็นซื้อรถใหม่อีกสามคัน ซื้อบ้านเพิ่มอีกสองหลัง ซื้อคอนโดเพิ่ม ซื้อนั่นซื้อนี่แล้วจะมาขอให้ท่านไปเจิมให้ซึ่งท่านก็ปฏิเสธไปทุกครั้งว่าไม่ใช่ธุระ ให้เอาไปทำที่ไหนก็ได้แต่จะดีกว่านั่นก็คือให้พ่อแม่ ให้บุพการีเธอ เจิมให้ ทำให้(ตามสไตล์ของท่าน)

    หลังจากนั้นมา ท่านจึงถือว่าคำว่า"เอ็งรอดแน่ไอ้ทิด" คำๆนี้เปรียบเสมือนเสียงสวรรค์จริงๆ และก็เป็นมหามงคลอย่างยิ่งกับคนที่ได้ใช้พระรอดรุ่นนี้ เอาว่าจะได้รอดได้พ้นกันจริงๆ เป็นปฐมนิมิตหมายที่ดีอย่างหนึ่ง และก็เรียกติดปากท่านว่าชื่อรุ่นเอ็งรอดแน่ **ด้านหลังองค์พระนั้นจะฝังตะกรุดสำคัญอย่างหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าคนใช้มีหน้าที่ใช้ ไม่ต้องรู้ รู้แค่ว่าดีกับชีวิต ให้เธอรอด ให้เธอพ้นวิกฤติได้ทุกทางเท่านั้น

    คาถาบูชา(ท่านว่าจิตดีๆนึกถึงพระพุทธเจ้าก็ใช้ได้แล้ว แต่ถ้าจิตไม่ไดีก็สวดพุทธคุณนึกถึงองค์ปฐมเอาแค่นั้นเพราะนี่เป้นวิชาของท่าน)
    อิติปิโสภะคะวา อะระหังสัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

    * พระรอดรุ่นนี้เป็นพระที่พ่ออาจารย์ท่านหวงอย่างมาก และท่านเน้นย้ำว่าอยากให้เขาเอาไปใช้กันในครอบครัวให้รอดพ้นจากวิกฤติชีวิตได้ทุกรูปนาม ท่านว่าเราทำได้น้อยจริงๆเพราะชนวนมวลสารที่ต้องนำมาจารมาลงนั้นหล่อหลอมได้ไม่มาก รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้สมทบทุนซื้อโลงศพคนไร้ญาติต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระรอดวิกฤติพิศดารชี้ทิศส่องทาง(คนต้องรอด,เอ็งรอดแน่ไอ้ทิด) บูชา 2,500 บาท

    52657014-360508681211921-4070883394580381696-n.jpg 52590213-336706370272916-176520772158750720-n.jpg
    52830858-409458846266008-6133114037698822144-n.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูนามธรรมบุญหนุนส่งวาสนานำพา(เอื้อบุญ)

    บุญนั้นเป็นพลังงานอย่างหนึ่ง ซึ่งละเอียด ประณีต และทรงพลังอย่างยิ่ง เป็นเครื่องชำระล้างใจให้ใสสะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ห่างไกลจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย เวลาบุญเกิดขึ้นจะมีลักษณะเป็นสายธารเหมือนท่อธารแห่งบุญไหลไปยังผู้ทำบุญนับประมาณมิได้ เช่นนั้นสมเด็จพระตถาคตเจ้าจึงสรรเสริญว่าบุุญนั้นนำสุขมาให้ ให้ผลอันเลิศ มีสุข เป็นวิบาก ดุจแม่น้ำทั้งหลายไหลลงสู่ทะเลฉะนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายๆคนนั้นที่กรรมตามทัน กรรมตามเล่นงาน ก็เพราะว่าอยู่ในจังหวะที่กำลังบุญนั้นเสื่อม บุญนั้นอ่อนกำลัง อันบุญซึ่งเป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้นี้เป็นสิ่งที่คนมองไม่เห็น เมื่อมันอ่อนกำลังลงไปจึงไม่รู้ตัวเองเลยว่า ต้องทำเท่าไหร่ถึงจะพอ ด้วยคนที่ดวงตกหรือกรรมเล่นงานนั้นก็จะหวังพึ่งบุญ ดังนั้นทุกครั้งที่ทำความดี เช่น ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา... หรือทำสิ่งต่างๆจะเกิดกระแสชักพาบุญมารวมตัวกันก็จะปรารถนาอานิสงค์ต่างๆให้ตัวเองหลุดรอดพ้นจากสภาวะทุกข์ทรมานทั้งหลาย แต่ก็ยังติดอยู่ว่าทำไมทำบุญแล้วไม่ได้ดี ต้องทำอย่างไร ทำเท่าไหร่บุญนั้นจึงจะมีอานิสงค์ถึงขั้นเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าบุญนั้นย่อมเป็นนามธรรมซึ่งมีอานุภาพใหญ่เพราะสามารถบันดาลความเป็นไปในชะตาผู้คนรวมถึงเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆได้ถึงสามสิ่ง ได้แก่

    - รูปสมบัติ
    - ทรัพย์สมบัติ
    - คุณสมบัติ

    คุณประโยชน์ทั้งสามนี้เมื่อมีกำลังบุญเต็มที่แล้วย่อมจะเกิดขึ้นกับตัวเองครบถ้วน อย่างเช่นรูปสมบัติกับคุณสมบัตินั้นท่านว่ามันเกี่ยวข้องกับบุญเก่าเพราะมันถูกกำหนดให้เกิดมาแล้วก็ต้อ
    งเป็นแบบนี้ เป็นของติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด หากแต่บุญใหม่ที่เราจะทำนั้นในชาตินี้ก็สามารถคลี่คลายปัญหาเรื่องทรัพย์สมบัติได้ และยังเป็นทุนต่อไปในชาติหน้าให้มีปัจจัยทางรูปสมบัติและคุณสมบัติถึงพร้อมด้วย


    เช่นนั้นปัญหาเรื่องบุญเสื่อมกำลังหรือที่เรียกว่าคราวซวยมาเยือนและไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ พ่ออาจารย์ท่านว่าในช่วงนี้หลายคนประมาทกำลังบุญกันเกินไปพอจิตตกก็หันไปพึ่งหมอดูให้เสียทรัพย์ประกอบกับไม่เข้าใจวัฏจักรของพลังงานเหล่านี้ ก็เห็นมีแต่ไปโดนหลอกโดนกระทำกันเพิ่มเติมจนเป็นวิบากกรรมมากมาย ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงนำตะกรุดครูนามธรรมที่ท่านสร้างเก็บไว้ตามตำรับเสด็จพระใหญ่(องค์ปฐม)ออกมาให้บูชาแก้ไขสถานการณ์เช่นนี้

    เมื่อจะทำให้นามธรรมที่เป็นดุจร่มไม่ใหญ่นั้นแผ่กิ่งก้านให้เหล่านกกาได้อาศัย ท่านว่าพูดง่ายๆก็คือให้คนใช้อยู่ในร่มบุญหรือได้พึ่งพลังงานบุญโดยตรง ซึ่งอานุภาพพบุญนั้นยิ่งใหญ่สุดประมาณ ให้สังเกตุเอาว่าช่วงไหนเรามีบุญมากและบุญกำลังส่งผลสมบัติต่างๆก็จะหลั่งไหลมาหาเรา แต่กลับกันถ้าเมื่อไรเรามีบุญน้อยหรือหมดบุญสมบัติและความโชคดีนั้นก็จะไม่สถาพรอยู่ต่อไปได้ สิ่งที่มีอยู่ก็จะค่อยๆลดน้อยลงไปเพราะไม่มีบุญดึงดูดทรัพย์สมบัติเข้ามา เรียกว่าตัวเรานั้นอยู่ในช่วงขาดคุณสมบัติไปเช่นนี้ก็ได้ ในทางกลับกันพอใจเราร้อนรุ่ม ขวนขวาย วิ่งตามกำลังบุญ ใจแต่เดิมที่เป็นกลางก็ค่อยๆเปลี่ยนสถานะไปกลายเป็นใจที่ยึดเกาะอยู่ในความโลภ มีความตระหนี่ ความชั่ว มีกิเลสเกิดขึ้นกับตัวเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งเหล่านี้แหละที่มันมาเป็นกำแพงขวางพลังบุญที่เราสร้าง พอกิเลสมันมีกำลังมากกว่าบุญมันก็จะผลักคุณสมบัติและทรัพย์สมบัติให้ไกลจากตัวเรายิ่งขึ้นไปอีก เรียกว่าถึงไปทำบุญมากเท่าไหร่ก็ยังตามกิเลสในใจตัวเองไม่ทันเช่นนั้น

    เมื่อกิเลสเป็นเครื่องขวางให้อานิสงค์แห่งบุญนั้นพลัดพรากจากเราไป พ่ออาจารย์ท่านจึงแก้ไขด้วยตะกรุดเอื้อบุญของท่าน ท่านว่าวิชานี้เป็นของเสด็จพระใหญ่ที่ท่านอนุญาติให้ทำไว้ช่วยสงเคราะห์คนที่อยู่ในสภาวะขาดบุญจุนเจือ หรือทำดีเท่าไหร่ ทำบุญมากเท่าไหร่ก็ไม่เห็นทางสว่าง ไม่เห็นทางออกว่าอานิสงค์แห่งบุญนั้นจะเกิดขึ้นกับเราได้ อุปมาบุญดั่งน้ำในคลอง บาปก็เหมือนตอไม้ใต้น้ำ พอน้ำลดตอก็ผุดทำอะไรก็ติดขัดไปหมด เช่นนั้นบุญจึงเป็นนามธรรมหรือกำลังที่สำคัญมาก เพราะบุญนี้จะช่วยให้สิ่งที่ทำอยู่หรือคิดอยู่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามสำเร็จทั้งหมด เรียกว่าความสุขและความสำเร็จของมนุษย์นั้นมีกำลังแห่งบุญหนุนอยู่เบื้องหลังก็ได้ ดังนั้นท่านจึงลงตะกรุดเอื้อบุญใช้บุญซึ่งเป็นนามธรรมที่มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้ เปลี่ยนเป็นกำลังที่จะดึงดูดสมบัติทั้งสามสิ่งนั้นให้เกิดกับผู้บูชา

    เพราะเราไม่รู้ว่าบุญคืออะไร บุญอยู่ที่ไหน...เช่นนั้นท่านจึงให้ใช้ตะกรุดเอื้อบุญนี้อันจะเปลี่ยนกฏเสมือนว่าเรามีกำลังบุญหนุนอยู่ได้ตลอดเวลา แต่ท่านว่าก็อย่าประมาทไปเพราะตะกรุดนี้ใช้ได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว(ชาตินี้) บุญนั้นก็เป็นสิ่งที่ต้องทำกันต่อไปเพื่อจะได้มีอานิสงค์ไว้ใช้กันในชาติหน้าด้วย เมื่อทำตะกรุดพึ่งบุญแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านให้ทำตามสูตรของท่าน ซึ่งต้องอุดขี้ผึ้งวาสนาไว้ในตะกรุดด้วย ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงบอกว่าวิธีทำตะกรุดตัวนี้ค่อนข้างยุ่งยากเพราะต้องทำวิชาควบคู่กับการหุงสีผึ้งวาสนาใช้ไปพร้อมกัน

    ขี้ผึ้งวาสนา

    ด้วยวาสนานั้น หมายถึงความดีงามที่ได้เคยทำสั่งสมไว้มานาน เคยพอกพูนมานานจนกลายเป็นบารมีที่สมบูรณ์เต็มที่ สามารถสนองผลให้ผู้ทำได้ถึงฝั่งแห่งความปรารถนาทุกประการ ทั้งแตกต่างจากกำลังบุญที่ใช้ไปก็หมดสิ้นเหมือนใช้เงินใช้ทอง เพราะวาสนานั้นเป็นพลังงานที่ไม่รู้จักหมดสิ้นไปง่ายๆด้วยเกี่ยวเนื่องกับบารมีที่บำเพ็ญสั่งสมกันมา คนมีวาสนาบารมีแม้จะอยู่ในป่าเขา แม้จะเกิดในโคลนตมในครอบครัวที่คนยากจนเมื่อได้สร้างวาสนาบารมีต่ออีกก็จะทำให้ชีวิตค่อย ๆรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับจนกระทั่งอยู่ในชั้นแนวหน้าของคนทั้งหลาย เด็กจากบ้านนอกเป็นรัฐมนตรี คนที่พลัดถิ่นมามีแค่เสื่อผืนหมอนใบกลายเป็นเศรษฐีใหญ่ คนรับใช้กลายเป็นราชา เรื่องเช่นนี้ตั้งแต่ก่อนพุทธกาลก็มีมามากต่อมากแล้ว ตัวอย่างมันมีอยู่แล้ว เช่นนั้นวาสนาจึงเป็นพลังที่จะเปลี่ยนชะตาได้โดยตรง
    เพราะวาสนาเกี่ยวข้องกับผลบุญที่ทำให้ได้รับลาภยศ พ่ออาจารย์ท่านจึงเตือนเอาไว้ว่า"เราสร้างวาสนาและวาสนาก็สร้างตัวเรา เป็นสิ่งที่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน" ดังนั้นวาสนาเป็นสิ่งที่พาให้ชีวิตเราดำเนินไป แต่จะต่างจากบุญที่ใครสั่งสมมาอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น แต่วาสนานี่แหละจะเป็นตัวการที่ทำให้เรามีชีวิตผันผวนไปตามมันเช่นนั้นวาสนาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้โดยไม่รู้ตัว ด้วยวาสนานั้นสามารถสร้างขึ้นมาได้
    เมื่อจะทำตะกรุดนามธรรมตำรับเอื้อบุญนั้น เสด็จพระใหญ่ท่านจึงให้พ่ออาจารย์ทำขี้ผึ้งวาสนาตำรับเฉพาะไว้อุดตะกรุดทุกดอกด้วย ท่านว่าคนที่มีบุญแต่ขาดวาสนาก็มีอยู่มาก ทำให้ชาติตระกูลไม่ดี สังคมไม่ดี สิ่งแวดล้อมทุกอย่างไม่ดี คนเหล่านี้เรียกว่าไม่ได้มีบุญวาสนามาแต่ปางก่อนทุกอย่างจึงต้องสร้างเอาเอง ท่านจึงให้พ่ออาจารย์ทำขี้ผึ้งวาสนานี้อุดเอาไว้ ด้วยว่าวาสนานั้นจะเป็นกำลังสำคัญที่เปลี่ยนชีวิตคนให้รุ่งเรืองขึ้นตามลำดับดั่งกรณีที่ว่าเด็กจากบ้านนอกเป็นรัฐมนตรี คนที่พลัดถิ่นมามีแค่เสื่อผืนหมอนใบกลายเป็นเศรษฐีใหญ่ คนรับใช้กลายเป็นราชาก็เพราะเขามีวาสนาเช่นนั้น


    พ่ออาจารย์ท่านว่าบุญกับวาสนานั้นเป็นของที่ต้องใช้เกื้อกูลซึ่งกันและกันจะขาดสิ่งใดไปไม่ได้ ด้วยท่านเห็นประโยชน์ว่าบุญเป็นชื่อของความสุข มีผลเป็นความสุข และเป็นที่มาของความสุข ส่วนวาสนาก็เป็นกำลังหนุนความสุขให้สถาพรมั่นคงไม่ให้คลอนแคลนเสื่อมคลาย คนที่ยังมีความทุกข์อยู่ ท่านว่าให้ใช้ตะกรุดนี้ ด้วยบุญนั้นคือสิ่งทำให้ฟู หรือ พองขึ้น บวมขึ้น นูนขึ้น เพื่อเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ตามแต่ตนจะปรารถนา นี่คือพลังของบุญที่จะนำพาให้เป็นไปในสิ่งต่างๆ ซึ่งพลังของตะกรุดเอื้อบุญนั้นจะโอบรัดสิ่งที่เราต้องการเข้ามาหาตัวเรา ให้เรามี ให้เราเป็น ให้ปรารถนานั้นๆเป็นของของเรา ดังนั้นคนที่มีทรัพย์สมบัติมากจึงเรียกว่ามีบุญมาก


    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ทำยาก ท่านว่าตายไปแล้วเกิดมาใหม่ก็อย่าหวังว่าจะได้พบเห็น เพราะเสด็จพระใหญ่ท่านต้องการจะให้ปรากฏในยุคๆหนึ่งเท่านั้น(ปัจจุบันนี้) จะไม่ได้มีปรากฏถาวรณ์เป็นของสาธารณะสืบไป ท่านว่าให้เอาไปใช้สร้างรากฐาน สร้างตระกูล สร้างตัวเองให้ดี เพื่อเป็นรากฐานเสริมส่งให้ลูกหลานในกาลอนาคตจะได้พึ่งพิงใบบุญของเราซึ่งเป็นบรรพบุรุษของเขาได้ ด้วยตะกรุดนี้จะเป็นสื่อกลางให้เราเข้าถึงกำลังบุญและวาสนาได้นั่นเอง

    วิธีใช้
    ตะกรุดนี้ท่านว่าคาถาไม่ต้องแค่นึกถึงพระแล้วก็ใช้ได้เลย ให้เอาติดตัวไว้อย่าห้อยเอวเด็ดขาด แขวนได้เฉพาะคอเท่านั้น


    *** รับจองเฉพาะทาง PM ท่านว่าให้เอาติดคอไว้คนละดอกจะดีกว่าอะไรทั้งสิ้น ในส่วนคนที่จะบูชาเพื่อใช้เร่งเวลาหรือรอให้บุญวาสนาหนุนขึ้นมาโดยลำดับไม่ได้นั้น ท่านว่าให้ใช้สามดอกขึ้นไปแทนคุณพระรัตนตรัย เอาตะกรุดนี้ถวายเป็นพุทธบูชาแทนตัวเองกับพระพุทธรูปที่บ้านที่เราสักการะอยู่ แล้วเอาตะกรุดหนุนไว้ใต้ฐานพระ ด้วยอานิสงค์ของพุทธบูชาที่ได้กระทำนั้นก็จะหนุนฐานบุญและวาสนาของเราขึ้นโดยฉับพลันทันที

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูนามธรรมบุญหนุนส่งวาสนานำพา(เอื้อบุญ) บูชา 900 บาท

    52769386-351786685434666-830280735242846208-n.jpg 53146076-611472169313125-8443244515195617280-n.jpg
    53192430-2182334912095370-591325488085991424-n.jpg
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงต่อชีวิต ต่อลมหายใจ (พ่อพลายเก้าขอ)

    " ไม่ดีจริง ไม่แรงจริง มาว่าข้าได้เลย " ชีวกโกมารภัจจ์ เป็นนามของแพทย์ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในฝ่ายเป็นที่รักของปวงชน ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านสรรเสริญและนับถือเป็นครูองค์หนึ่ง ด้วยท่านมีความรู้ในเรื่องว่านและพืชสมุนไพรมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะเสกว่าน ปลุกฤทธิ์ให้มีคุณได้แรงอย่างน่าประหลาดแล้ว ไม่มีบารมีใครเกินท่านชีวกไปได้เลย ที่ผ่านมาก็มีพระสำคัญอยู่รุ่นหนึ่งที่พ่ออาจารย์ท่านว่าสร้างยาก เพราะท่านชีวกเขากำหนดให้หามวลสารต่างๆด้วยตัวเองและยังมาคุมพิธีให้เองจึงถือว่าเป็นสิริมงคลนักเพราะรุ่นนี้เป็นการทำร่วมกันกับสมเด็จองค์ปฐม , สมเด็จองค์ปัจจุบัน....

    ท่านให้หา ผงไม้เก้าขอ,งาช้างน้ำ,ไม้ช้างข้าม,ผงไม้ไผ่ช้างข้าม,ผงงาช้าง,ผงเชือกปะกำครู,ผงหนังท้องช้าง,ผงงวงช้าง,ผงลิ้นช้าง,ผงฟันกรามช้าง,ผงกระดูกหน้าผากช้าง,ผงรกช้าง,ผงลึงค์ช้าง,ผงหางช้าง,น้ำมันช้างตกมัน,ผงครูปะกำ,ผงมหาลาภ,ผงไม้ไผ่ฟ้าผ่า,ผงมะขามฟ้าผ่า,ผงไม้มะขามโปร่งฟ้า,ว่านดอกทอง,รากราคะ,ว่านช้างผสมโขลง,ว่านสาวหลง,ว่านขุนแผนสะกดทัพ,ว่านมหาโชค,ว่านมหาลาภ,ว่านกุมารทอง,ว่านกระแจะจันทร์,ว่านขมิ้นช้น,ว่านมหาหงษ์แดง,ว่านขมิ้นขาว,ว่านนางล้อม ..พ่ออาจารย์ท่านว่าในส่วนว่านนั้นว่ากันถึงร้อยแปดชนิดที่ท่านให้เตรียมไว้ ซึ่งท่านชีวกนั้นได้เมตตาทำการปลุกฤทธิ์ว่านให้ทุกตัวก่อนที่จะกดเป็นองค์พระ เพื่อที่จะทำ"พระผงต่อชีวิต ต่อลมหายใจ" พ่ออาจารย์ท่านว่าพระผงนี้จะให้คุณวิเศษสมดั่งชื่อเลยสำหรับคนที่ได้รับความทุกข์ยากลำบากใดๆอันนี้เข้าใจไม่ยาก

    จะเห็นได้ว่ามวลสารหลักนั้นล้วนเกี่ยวข้องกับช้างทั้งสิ้น ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเคล็ด ครูชีวกท่านให้เคล็ดเอาไว้ว่า"กำลังช้างสารนั้น เป็นชื่อเรียกเอาฤทธิ์ เอากำลังของเทวดา ซึ่งกำลังเหล่านี้จะไม่มีในหมู่คนทั่วไป นอกเสียจากเธอเป็นผู้มีบุญญาธิการมาเกิดในรอบร้อยปี พันปี เช่นนั้น ดังนั้นช้างจึงเป็นสัตว์สิริมงคลและกำลังช้างสารจึงเป็นชื่อเปรียบฤทธิ์ของเทพของพรหมให้รู้ว่าองค์ไหนมีกำลังแรงเพียงไหน ได้แก่ เทพองค์นี้มีกำลังเจ็ดช้างสารบ้าง เทพองค์นั้นมีกำลังสิบช้างสารบ้าง... เป็นต้น นี่จึงเป็นกำลังอันประเสริฐที่ไม่ปรากฏในหมู่มนุษย์และถ้ามนุษย์ใดได้กำลังนี้หนุนชีวิตก็จะทำให้คนธรรมดากลายเป็นผู้มีบุญญาธิการในรอบพันปีได้ ด้วยกำลังนี้จะเปลี่ยนคนให้มีฤทธิ์มีวาสนาดุจเทวดานั่นทีเดียว" ด้วยดำริดังนั้นของครูชีวกพ่ออาจารย์ท่านจึงให้เอาของขลังส่วนต่างๆของช้างที่ทำวิชาไว้แล้วจากครูส่วยครูปะกำของท่าน ซึ่งอดีตนั้นมีวิชาบังคับช้าง คุมช้างได้ และได้มอบของต่างๆให้พ่ออาจารย์ก่อนจะละสังขารไป ท่านว่าผงเหล่านี้เป็นของช้างมงคลสองเชือก คือ พลายสิริมงคล,พลายสมปรารถนา ท่านว่าผงนี้กว่าจะทำให้สำเร็จได้ทำยากนัก กว่าจะได้ไม่ง่ายเลย คนใช้ไม่ต้องกลัวคุณผีสางอะไร เพราะผงเหล่านี้มีอาถรรพ์มาก ผีและคุณไสยมนต์ดำเกรงกลัวจนขยาดทีเดียว และก่อนทำนั้นครูชีวกท่านให้ดำเนินการเพิ่มอาถรรพ์ช้างพลายจนเสร็จสิ้น โดยการนำผงสำคัญมาเข้ากับผงว่านปั้นเป็นช้างเอราวัณก่อนเสียรอบหนึ่ง จากนั้นจึงเสกเชิญฤทธิ์บอกกล่าวพ่อพลายเอราวัณให้เคลื่อนกายแฝงจิตลงมา ให้หุ่นช้างนี้มีกำลังมากดุจช้างสวรรค์ เป็นที่สุดแห่งกำลังช้างสารอย่างแท้จริงที่จะเปลี่ยนวาสนาและบุญญาธิการของคนอย่างแท้จริง เมื่อสำเร็จแล้วจึงพลีนำมาทำผงวิเศษกดพระอีกรอบหนึ่ง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าทำพระหนนี้ฉันได้บุญนัก เพราะมวลสารแต่ละอย่างนั้นล้วนมีอาถรรพ์มากชนิดที่ว่าเอาไปใช้ได้เลยก็ไม่เสียหน้าอะไร ซ้ำกว่าจะทำได้ยังมีขั้นตอน มีเรื่องราวอีกมากจึงทำให้เชื่อได้อย่างสนิทใจว่า รุ่นนี้แรงสมชื่อเขา นั่นคือใช้ต่อชีวิต ต่อลมหายใจได้ ท่านว่าจะยกตัวอย่างเอาคร่าวๆนะ
    - งาช้างน้ำ ผงนี้ท่านว่ามีอาถรรพ์มากใช้ควบคุมอำนาจและกำลังอาถรรพ์ของช้างได้ชะงัดนักโดยเฉพาะใครมีงาช้างน้ำนี้จะได้ชื่อว่าช้างจะกลัวมาก แม้ดุร้ายเยี่ยงช้างป่าก็ยังกลัว จึงเป็นเคล็ดทางมหาอำนาจไม่ว่าใครจะดุ จะร้ายมาจากไหนเขาก็ย่อมกลัว ย่อมเกรงเราทั้งหมดทั้งสิ้น ถ้าไม่ดีจริงหมอจับช้างจะใช้งาช้างน้ำกันทำไม
    - ผงงวงช้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าทำเป็นผงนี้จะมีอาถรรพ์มาก โดยปกติงวงช้างตามความเชื่อของคนโบราณถือว่าเป็นสุดยอดของขลังทางด้านทำมาหากิน โภคทรัพย์ โชคลาภ และค้าขาย คนที่รู้เมื่อได้พบก็จะรีบเก็บไว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองไม่ค่อยมีให้พบเจอกันง่ายๆ
    เมื่อนำมาทำวิชาไว้ครบถ้วนก็จะยิ่งมีอานุภาพมาก เปรียบได้ประดุจงวงช้างที่ใช้เกาะเกี่ยวอาหารเข้าปากฉันใดผงนี้ก็เรียกทรัพย์ได้ฉันนั้น มีอานุภาพทางทำมาหากิน เจริญโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม และป้องกันภัยอันตราย ได้สารพัดเพราะเชื่อกันว่างวงช้างนั้นเป็นส่วนที่ช้างใช้ในการหยิบจับอาหารการกิน แล้วยังใช้ฟาดและเหวี่ยงศัตรูด้วยอีกทางหนึ่ง ใครที่ถูกช้างฝาด ช้างเหวี่ยงนี่ท่านว่าไม่ตายก็เจ็บหนักทีเดียว นอกจากแรงทางทำมาหากินแล้วยังเป็นสะท้อนเล่นงานคนปองร้ายได้เช่นนี้ ท่านว่าด้วยงวงนั้นจะให้ยืดให้ยาวไปคว้าเดือนจับดาวมาให้เราก็ย่อมได้

    - ไม้ช้างข้าม ถือว่าเป็นของดีทางเมตตา ปกป้องอาถรรพ์ หนุนดวง ค้ำดวงชะตา ท่านเอามาเสกลงอาถรรพ์ให้มีพลังยิ่งขึ้นไปอีกถึงขนาดว่าเอามาผูกเป็นพยนต์เสียหนหนึ่งก่อนพลีทำผง ท่านว่าผงนี้จะได้มีชีวิตและจิตวิญญาณ ใครได้ไปบูชาดุจว่ามีพยนต์เทพตามคุ้มครองดวงชะตาของเขา เอาไว้ใช้ข้ามผ่านอุปสรรคที่กัดกันขัดขวาง เป็นอาถรรพ์ทำลายชีวิตได้ดีนัก ท่านว่าก้าวผ่านก้าวข้ามได้หมดเลย
    - ไม้เก้าขอ มีความเชื่อว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือกันในหมู่ผู้ศึกษาพระเวทย์ที่รู้ลึกรู้จริง ว่าเป็นของมงคลที่หาได้ยากยิ่ง และมีอานุภาพสูงหลายประการคือ เป็นสุดยอดทางการขอ ขอโชค ขอลาภ ขอความเจริญรุ่งเรืองเหล่านี้ท่านว่าดีนัก เป็นของโภคทรัพย์ จากการเป็นขอที่งอเข้าหาตน จึงมีพลังในการเกี่ยว การเหนี่ยวรั้งสิ่งที่ต้องการเข้ามาหาตนเองได้ อีกประการคำว่าขอก็คือได้ เป็นคำมงคลดุจขอแล้วต้องได้ ขอแล้วได้ทุกอย่าง จะขอโชค ขอลาภ ขอความเจริญก้าวหน้า ขอลูก ขอเมีย ขอความรัก เรื่องเหล่านี้ท่านว่าเห็นมามากแล้ว นี่คืออาถรรพ์ไม้เก้าขออย่างแท้จริง
    - ผงลิ้นช้าง ท่านว่ามีอาถรรพ์อยู่ในตัวสูงเป็นมหาเสน่ห์เมตตามหานิยมล้วนๆ ที่ว่ากันว่าผงลิ้นช้างเป็นยอดของมหาเสน่ห์ก็ไม่ผิด เพราะแรงในการเจรจาพูดจาพาที พูดที่ใดก็มีแต่คนรักชอบหลงใหล ท่านว่าท่านเอามาลงวิชาสาริกากำกับไว้โดยเฉพาะที่ผงนี้ด้วยจึงยิ่งแรงทางด้านเมตตาเจรจาเปล่งวาจาใดล้วนแต่มีคนหลงเคลิบเคลิ้มไปด้วยอาถรรพ์เช่นนั้น
    - คชกุศ เป็นของคุมอาถรรพ์ด้วยเชื่อว่ามีอานุภาพบังคับทุกสิ่งให้เป็นไปในทางดีไม่ก่อกำเริบเดือดร้อน หากผู้มีวิทยาคุณอื่นจะมาลองวิชาก็มักแพ้ภัยตัวเองไป เพราะอำนาจของคชกุศหรือ ขอสับช้างนี้จะสะกดอาคมไว้มิให้แสดงฤทธิ์ได้นั่นเอง เป็นของดีที่ไม่ค่อยพบเห็น ผงคชกุศโบราณนี้ดีในทางควบคุมคนให้อยู่ในอำนาจ คุมผู้ใต้บังคับบัญชาให้อยู่ในโอวาทไม่กระด้างกระเดื่อง ทั้งเรื่องโชคลาภก็ดีมาก เป็นมหาอำนาจ มหาลาภ เมตตา มหานิยม พ่ออาจารย์ท่านว่าจะยิ่งเป็นกฤติยามคมแฝดมากขึ้นไปอีกถ้าใช้ผงคชกุศที่เคยสะกดข่มช้างตกมันมาแล้วเช่นเล่มนี้ ด้วยคชกุศนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ด้วยแรงครูประกำที่สูงมากจนข่มช้างอยู่ เพราะถือว่าในทางไสยเวทย์ช้างเป็นสัตว์ที่มีอาถรรพ์แรงเป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์หรือมีดีในตัวนันเอง
    ...ท่านว่ายกตัวอย่างให้ฟังกันคร่าวๆเพราะถ้าให้พูดกันจริงๆของแต่ละอย่างนั้นล้วนมีคุณมาก และกว่าจะนำมาทำผงได้ก็ต้องเสกกำกับลงวิชาไว้แต่ละด้านอย่างดี ท่านว่าเน้นทำเน้นเสกในฤกษ์อมฤตโชค ชัยโชค ทำให้ดีถึงที่สุดแล้ว


    ในส่วนพิมพ์พระนั้นสมเด็จองค์ปัจจุบันท่านว่าให้แกะเช่นนี้เป็นพระพิมพ์ทรงพระเจ้าเปล่งรัศมี ในขนาดกำลังสวยใหญ่กว่าพระวัดปากน้ำและเล็กกว่าพระสมเด็จทั่วไป พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านกำหนดลีลามาอย่างใดเราก็ทำไปตามนั้น ตอนทำพิธีกดท่านชีวกก็มาช่วยเราเอาเป็นธุระทุกอย่าง นั่นจึงเป็นที่มาของอาถรรพ์แรงครูอย่างถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนเสกนี้ฉันแทบไม่ต้องยุ่งเลย เพราะท่านชีวกเขาไปอาราธนามาหมดแล้ว ทั้งองค์ปฐม องค์ปัจจุบัน องค์ทีปังกร องค์กัสสปะ ท่านว่ารุ่นนี้พระท่านทำกันเองทั้งนั้น ท่านเจาะจงเอาองค์ทีปังกรกับองค์กัสสปะมาคุมเรื่องลาภโดยเฉพาะ เพราะพระพุทธกัสสปะนั้นมีวาสนาบารมีเรื่องลาภสักการะหนักที่สุดบารมีท่านนิ่มนวลมากเป็นลาภมหาศาล ส่วนพระพุทธทีปังกรก็มีกำลังแข็งมากใช้ต้านหรือสู้เรื่องราวแรงๆได้ทั้งยังให้บารมีคุณทางลาภสักการะหนักดุจเดียวกัน ส่วนองค์ปฐมนั้นท่านองอาจสง่าผ่าเผย เป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้นำ ส่วนองค์ปัจจุบันก็มีไหวพริบปฏิภาณปราดเปรื่องเป็นเลิศท่านให้คุณได้ทุกทางพ่ออาจารย์ว่าสี่องค์นี้รวมแรงกันรับรองว่าเธอจะได้โชคลาภแบบงงๆ หรือพูดง่ายๆก็คือทำอะไรแล้วได้ผลเกินคาดทั้งนั้น นอกจากนี้บารมีท่านชีวกก็ยังดี ยังใช้ได้ทางรักษาโรคเป็นปกติ ใครที่ป่วยเรื้อรังรักษาไม่หายก็จะได้มีกำลังใจมากขึ้น ท่านว่านี่แหละเอาพระไปแช่น้ำมนต์อธิษฐานขอบารมีท่านชีวกเขาให้ประทานน้ำยาให้ดื่มกิน บอกโรคท่านไปด้วย ถ้าโรคเบานี่จะหายเป็นปลิดทิ้งเลย

    ด้านหลังนั้นท่านลงตะกรุดเบี้ยต่อไส้ไว้ด้วยตะกั่วขอมลงถม ตะกรุดนี้ชื่อก็รู้แล้วว่าดีเรื่องลาภสักการะ พ่ออาจารย์ท่านว่าตำรับนี้ฉันทำใช้เห็นผลมามาก ข้างในนี้ลงถมด้วยคาถาพระร่วงเปิดปากพูดอะไรก็เป็นสิทธิ์ เป็นคำตาย เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นจริง อธิษฐานอะไรก็ได้ผล ท่านว่านี่ลงเสริมไว้ด้วย ลำพังเบี้ยต่อไส้ก็เห็นผลเร็วแล้วเอาง่ายๆวันไหนใครเดือดร้อนก็จะเห็นทางเอง อุปมาเหมือนคนเงินหมดก็จะมีแนวทาง มีเงินเข้ามาให้ใช้เองเรื่อยๆ ถ้าใครคิดใกล้ตัวก็เรียกว่ามีกินไม่อดตายนั่นแหละ แต่ถ้าใครคิดเป็นทำเป็นมันต่อวาสนา ต่องาน ต่อผลสำเร็จไปได้เรื่อยๆจนเธอตายเชียวล่ะ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี่สำเร็จแม้เพียงความคิด คิดเป็นก็ใช้ได้มากกว่าคนอื่นเขา ในส่วนองค์พระนั้นท่านว่ามีรัศมีแปดเมตร องค์พระนั้นมีเทพรักษา ทั้งมีแสงสว่างดังตะวันร้อยดวง(นี่ฉันตรวจสอบให้เธอไม่ต้องเชื่อก็ได้) พ่ออาจารย์ท่านว่าเรานั่งดูให้หมดแล้วองค์ปฐมและคณะของท่านทำกันไม่เสียชื่อเลย ต่อให้เรานั่งเสกอีกร้อยปีพันปีก็ทำไม่ได้เท่าพวกท่านหายใจทิ้งครู่เดียว เพราะท่านทำเต็มอัตรา ท่านคุมอยู่ คนใช้นี่อารมณ์จะดีขึ้นมากเลยเพราะอาราธนาแล้วได้ผลเร็วเป็นอัศจรรย์

    พระผงนี้มีอาถรรพ์มาก พ่ออาจารย์ท่านว่ามีบารมีพญาช้าง พญาเอราวัณเป็นเทพอารักษ์อยู่ภายใน ตอนท่านทำหุ่นช้างท่านเสกตั้งธาตุสี่ ขันธ์ห้า ว่าอาการสามสิบสองจนสำเร็จ เมื่อนำมาทำเป็นผงเสร็จแล้วจึงเป็นของทิพย์ตั้งแต่ยังเป็นผง ทั้งองค์พระนี้ยังมีบารมีมากนักสมนามว่าพระต่อชีวิต ต่อลมหายใจสูตรท่านชีวก แค่ห้อยคอก็เปลี่ยนให้มีวาสนาดั่งกำลังช้างสารเช่นเทวดาได้แล้วทีเดียว
    วิธีใช้
    ให้เขียนชื่อนามสกุลผู้ที่ปรารถนานั้นลงไปในกระดาษรูปภาพคนนั้นแล้วเอาองค์พระวางทับลงไปจะทำให้ผู้นั้นเชื่อฟังเคารพเรา จะใช้ข่มคนทั้งต่ำศักดิ์กว่าหรือสูงศักดิ์กว่าก็ได้ ใช้แก้ไขเพราะเราโดนเขากดขี่ข่มเหงก็ได้ ทั้งใช้ได้ในเรื่องโชคลาภ เรื่องความรัก หรือปัญหานานาประการ ก็ทำตามแบบที่กล่าวไว้ได้เลย เปรียบเรามีพลัง มีบารมีดุจช้างสาร ดุจช้างเอราวัณค้ำสวรรค์เช่นนั้น


    *** ข้อห้าม ห้ามลบหลู่ดุหมื่นเด็ดขาด จะขอเรื่องอะไรก็ได้ยกเว้นการขอแบบแปลกๆหรือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ท่านว่าจะขออะไรบนอะไรให้หากระดาษจดไว้ด้วย พอได้แล้วต้องรีบแก้ตามที่ขอ เพราะพ่อพลายเอราวัณนั้นท่านชอบคนมีความสัตย์ความซื่อไม่คดโกง ท่านว่าจะขออะไรก็ขอไปอันนี้ไม่ว่ากัน แต่ให้จำไว้ถ้าทำไม่ได้..อย่าบนบานเด็ดขาด

    คาถา (นะโมสามจบ)
    โอมเอราวะณะ คะชัง ปูเชมิ (นึกถึงพ่อพลายเอราวัณเป็นที่สุด)


    * พระผงรุ่นนี้ท่านว่าทำด้วยอาถรรพ์ช้างพลายซึ่งเป็นของที่เทวดาท่านรักษาโดยปฐมอยู่แล้ว ทั้งยังมีอำนาจอาถรรพ์ช้างซึ่งร้ายแรงมีอำนาจกว่าอาถรรพ์ใดๆเป็นตัวขับเคลื่อนพลังงาน พ่ออาจารย์ท่านว่าอันนี้ดีกว่าเล่นผีเล่นพรายเยอะ แม้เทวดาก็ยังไม่ให้คุณเท่ากำลังช้างพลายหรือช้างเอราวัณนี้ พระผงรุ่นนี้ท่านใช้มวลสารล้วนๆจึงมีจำนวนน้อย รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่า " วาสนานั้นก็เป็นของเฉพาะคน เรียกว่าของใครของมันก็ย่อมได้ ฉันบอกได้แต่เพียงว่าพระนี้มีเจ้าของทุกองค์ บางคนก็มีวาสนาได้ห้อย บางคนก็มีวาสนาได้ใช้กันทั้งครอบครัว แต่บางคนถึงเห็นถึงอยากได้ พญามารท่านก็มาขวางให้เสียเวลาไป ไม่ทันรอบไม่ทันการณ์ เพราะไม่มีวาสนา "

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงต่อชีวิต ต่อลมหายใจ (พ่อพลายเก้าขอ) บูชา 2,500 บาท

    53453738-798005500554158-5015485335925161984-n.jpg 52911260-389516658297344-5398176950747398144-n.jpg
    52971417-386322088846985-6318194675383533568-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2020
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลจ้าวทรัพย์บ่วงบาศกลืนกิน(มหาวงจรแห่งการเปลี่ยนแปลง)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่โบราณนั้นมักจะมีคนตามหานาคบาศมาใช้กันอยู่ทุกยุคทุกสมัย แต่ก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายดาย แม้หาได้ก็ต้องรู้วิธีทำให้ขลังให้ศักดิ์สิทธิ์ ถึงกระนั้นที่หากันไม่ได้ก็เอาหินเอาศิลาอาถรรพ์หรือสิ่งที่มีดีในตัวเองมาแกะสลัก แม้ตัวท่านเองในอดีตก็ใช้วิธีหล่อหลอมเอาเพราะท่านให้เหตุผลว่าทำได้ง่ายและสะดวกกว่า เพราะหากจะทำบ่วงบาศกลืนกินนี้โดยผงอาถรรพ์ทั้งหลายตามที่ท่านรู้และได้เรียนมาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆนั้นทำได้ยากอย่างยิ่ง ยากเสียยิ่งกว่าการหล่อ การแกะสลัก หรือไปตามหาเอาของจริงมาใช้เสียอีก ด้วยหลายๆสิ่งที่นำมาบดโขลกผสมกันนั้นล้วนมีอาถรรพ์ในตัวตนของมัน และบางอย่างนั้นก็เป็นสมบัติเมืองบาดาลที่นาคราชเขาหวงพอๆกับชีวิตเขา

    นัยยะที่ซ่อนเร้นอยู่
    คนจะรู้แต่เพียงว่า
    นาคบาศเป็นอาวุธเทพที่ดูแปลกตาและทรงกำลังมาก แต่จะไม่ค่อยรู้ถึงอาถรรพ์และความหมายโดยแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านว่านาคบาศก์นั้นเป็นมากกว่าอาวุธ หากทำได้จริงแล้วจะมีค่าเลิศกว่าสมบัติสวรรค์หรือวิมานอากาศใดๆทั้งสิ้นด้วยเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นอนันต์มีรูปเปรียบเป็นวงแหวนจักรวาล ดังนั้นพลังของบ่วงบาศจึงหมายถึงพลังของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ด้วยรูปงูที่คาบหางกลืนกินร่างกายของตัวเองนั้นเป็นอาถรรพ์อย่างหนึ่งนั่นคือคติของการดับและการเกิดใหม่ได้ด้วยตนเองสิ่งนี้จะเรียกว่าการก่อเกิดก็ได้ เพราะกำหนดมหาวงจรแห่งการกำเนิดได้เองเช่นนี้นาคบาศจึงถือเป็นเทพอาวุธที่มีชีวิตอันอยู่นอกเหนือจากกฎสามัญปกติ เรียกง่ายๆคือเป็นชีวิตที่ไม่ได้มาจากการสร้างของพระเป็นเจ้าเพราะไม่ถูกควบคุมโดยวัฏจักร ไม่ได้อยู่ในกฏไตรลักษณ์ เป็นการเกิดโดยปราศจากผู้ให้กำเนิด ซ้ำคนแต่โบราณยังนับถือตรานาคบาศนี้ว่าเป็นเครื่องหมายแทนองค์สุริยเทพ แทนวงจรความเป็นนิรันดร...แทนโลกแห่งจิตวิญญาณ เป็นของวิเศษอันมีคุณช่วยส่งเสริมแก่นพลังชีวิตของผู้ใช้ให้ไม่มีวันหมดเหมาะแก่การสร้างสิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้นได้โดยการอิงอาศัยพื้นฐานจากปัจจัยเดิมของตัวเองโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวตนดุจนาคบาศนั้นที่สร้างชีวิตใหม่ขึ้นได้เองโดยการกลืนกินชีวิตเดิม ดังนั้นวงจรนี้จึงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสมดุลย์ มีจังหวะที่เกิดขึ้นโดยสม่ำเสมอ ดุจงูที่ค่อยๆเขมือบร่างกายตัวเองช้าๆ ไม่ตะกละกินพรวดพราด ซ้ำยังเปรียบได้กับวงจรของกาลเวลาเพราะงูนั้นเคลื่อนที่ดุจการเดินของเข็มนาฬิกาถือเป็นเคล็ดที่แม้แต่คนจีนเองก็ยังชอบและนับถือมาก

    เพราะจังหวะที่สม่ำเสมอนี้จึงสื่อถึงสมดุลยภาพ สมดุลระหว่างข้างบนกับข้างล่างที่ดูราวกับเครื่องหมายอนันต์เช่นนั้นอาถรรพ์ของบ่วงบาศนี้ยังจะช่วยสร้างสมดุลยภาพระหว่างพลังสองสิ่ง(นั่นคือพลังชีวิตของเราที่จะเชื่อมต่อในกิจการที่เรากระทำอยู่ณ.ปัจจุบันเวลานั้นๆ) ด้วยการเคลื่อนตัวโดยการหมุนตัวดุจกงจักรจึงเป็นดั่งเทพอาวุธที่ใช้ทำลายผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย เป็นความตรงกันข้ามที่แฝงไปด้วยความสมดุลย์ พ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นเมื่อไม่มีก็ต้องได้ ต้องมี โดยไม่สนกฏของพระเป็นเจ้าเช่นนั้น ดังนั้นผู้ที่มีอาถรรพ์แห่งบ่วงบาศนี้ครอบงำอยู่จึงมีปัจจัยให้รอดพ้นจากอำนาจแห่งกรรมอันหนักหนา หรือลิขิตชะตาที่ตายตัว และแม้แต่พลังแห่งวิถีดวงดาวที่กำหนดชะตาได้ ด้วยเป็นมหาวงจรที่ไม่เกื้อหนุนโดยกฏไตรลักษณ์ดังนั้นบ่วงบาศนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงว่ามันมีพลังพิศดารมากนัก เพราะสิ่งนี้คือพลังแห่งการกลับคืนสู่นิรันดร์(ช่วยให้คนใช้เดินไปได้สุด,ไปสู่จุดสูงสุด) ทั้งเป็นการเริ่มต้นในความสิ้นสุด(แม้วิบัติถึงขั้นเสียหายก็มีโอกาสเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ) ทั้งยังเป็นเครื่องหมายของการเกิดใหม่มิรู้จบดั่งงูที่เกิดดับไปเรื่อยๆ(ไม่ว่าจะทำอะไร ทำกี่อย่างก็แจ้งเกิดขึ้นได้ทุกอย่าง) นี่จึงเป็นมากกว่านาคบาศก์และเป็นมายามิติที่เป็นเอกเทศ ไม่ได้จำกัดว่านี่เป็นพญานาคนะคนที่บูชาครุฑจะใช้ไม่ได้ เพราะนี่เป็นมหาสัญลักษณ์ที่เรียกว่าตราบใดที่ชีวิตยังมีพลังงานอยู่ย่อมใช้ได้เสมอกัน และสัญลักษณ์นั้นยังมีอำนาจมากพอที่จะปราบเทพเดรัจฉานอย่างครุฑลงได้

    อาถรรพ์พลิกชีวิตคน
    เพราะเหตุใดบ่วงบาศนี้ที่แม้แต่ครูบาอาจารย์และผู้เข้มขลังขมังเวทย์ในคาถาอาคมและพลังจิตทั้งหลายยังต้องเสาะหามาพกติดตัวกันนับแต่อดีตจนปัจจุบัน พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือพลังแห่งการกลืนกิน กับพลังของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อยู่ในกฏของไตรลักษณ์นั่นแหละที่ผู้มีจิตอัศจรรย์แล้วทั้งหลายยังต้องการ ด้วยทุกสิ่งนั้นล้วนอยู่ในวัฏจักรแม้จะทรงวิชาหรือมีอำนาจจิตแรงกล้าสักปานใดก็หนีไม่พ้นข้อนี้ ดังนั้นครูบาอาจารย์จึงมักจะบอกกับศิษย์ที่เรียนวิชาสำเร็จแล้ว หรือแม้แต่สหธรรมิกที่หวังดีต่อกันยังแนะนำในช่วงที่สหายนั้นเจอวิกฤติหรือหาทางออกไม่ได้ให้เสาะหานาคบาศนี้มาใช้ติดตัว ด้วยนาคบาศนั้นจะยังผลพลิกชีวิตผู้บูชาได้นั่นเอง เพราะอาถรรพ์แห่งการกลืนกินและเปลี่ยนแปลงวงจรชีวิตนั้น ถือได้ว่าเป็นยอดอาถรรพ์ที่จะทำให้มนุษย์ใช้ชีวิตได้ง่ายมากขึ้น พ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างบ่อนใหญ่ๆในประเทศจีน ประเทศเขมรว่าเขาจะหางูกินหาง คืองูสองตัวกินกันจริงๆซึ่งหายากมากแล้วฝังกลบไว้ในบ่อน เมื่อเราเข้าไปในบ่อนก็จะเป็นอาถรรพ์ให้โดนกลืนกินอยู่ตลอดเวลา คนที่เข้ามาเล่นจึงเปรียบเสมือนเป็นเหยื่อ เจ้าของบ่อนที่จะกินเขาได้อยู่ตลอดเวลาและกินอย่างสม่ำเสมอ ในทางกลับกันหากเรามีนาคบาศนี้ติดตัวและเข้าไปในบ่อนก็จะล้างอาถรรพณ์ได้ทั้งหมดเช่นกัน ดังนันผู้ที่มีนาคบาศจึงยืนอยู่เหนือกฏด้วยการเป็นผู้กลืนกินได้ตลอดเวลา ทำอะไรก็กินคนอื่นเขาหมดเมื่อเรามีนาคบาศนี้ติดตัว แม้อยากให้เป็นอาถรรพ์ก็ให้เอานาคบาศไปฝังไว้ที่ธรณีประตูให้คนที่เดินข้ามไปมานั้นต้องอาถรรพ์เมื่อเข้าสถานที่เราก็ได้ จะเอาไปฝังหรือกลบก็ได้ทั้งในบ้านหรือในห้องเราก็ตามเป็นการล้างอาถรรพ์ผู้ที่เดินเข้ามาสู่ที่ของเรา แม้เขามีของดีอะไรก็แน่ใจได้ว่าจะต้องโดนกินอย่างแน่นอน ในกรณีที่สถานที่นั้นก่อสร้างไปแล้วไม่สามารถฝังหรือทำอาถรรพ์ได้ตามวิธีนี้ก็ให้แขวนไว้ด้านบนเพื่อให้คนเดินลอดเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ใช้ได้ดุจเดียวกันพกไว้กับตัวเราก็กินเขา เข้ามาในที่ของเรา เขาก็เสร็จเรา เอาว่ายังไงก็ได้กิน จะใช้ทำการค้า ทำธุรกิจหรือใช้ทางกามคุณก็ขึ้นอยู่กับแนวทางการขวนขวายของผู้บูชา


    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะทำนาคบาศเนื้อผงนั้นท่านว่าถ้าจะทำเพียงเอารูปลักษณ์อย่างง่ายๆขอไปทีเช่นสมัยนี้นิยมทำกันย่อมทำได้ไม่ยากเลย แต่หากจะทำให้มีพลังงานยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงแล้วนั่นย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะการหามวลสารต่างๆนั้น บางอย่างทั้งชีวิตของการเดินป่าหาของอาถรรพ์ก็ไม่สามารถหาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวท่านนั้นยังดีที่ได้ของตกทอดมากจากครูบาอาจารย์อยู่บ้างจึงสร้างขึ้นมาได้ไม่ยากนัก สิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ
    - สังขารพญานาค
    - ซากไข่พญานาค
    - ก้อนแป้งผัดหน้านางนาคกัลยา

    ท่านว่าของเหล่านี้ต้องมีให้ครบสูตรนำมาผสมกับน้ำมันนาคสังวาสจึงจะใช้ได้ นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังได้เพิ่มอาถรรพ์แห่งคุณวิชาด้วยการลบถมผงนาคเกี้ยวทุกตระกูลที่มีอานุภาพมากเข้าไปด้วย,ซ้ำยังใช้มวลสารธาตุกายสิทธิ์,ดินแม่น้ำโขง,หินนาคราช,หินแม่น้ำโขง,เหล็กไหลพญานาค,แร่สะเก็ดดาว,ผงยันต์วะพันตัว,ผงวาสนา,ผงนาคบาศ,ผงนาคสวาท,ผงนาคเกี้ยวชู้,ผงกำลังนาคแสนตน,ผงอิทธิเจ,ผงนะปัดตลอด,ผงมหาเศรษฐี ,ผงมหาลาภ,ผงพระเจ้าเงินตรา,ผงวิชาเทพเจ้าแห่งการพนัน,ผงวิชาเสี่ยงดวง,ว่านมหาลาภ,ว่านนาคราช... พ่ออาจารย์ท่านว่าผงวิเศษแต่ละอย่างนั้นย่อมมีคุณใช้ได้นับพันนับหมื่นช่อง และเมื่อผสมผงนั้นครูเทพครูพรหมทั้งหลายท่านยังช่วยกันใช้อำนาจส่งต่อพลังงานการหมุนวนเป็นวงจรมหาวัฏฏะอย่างมีนัยยะพ่ออาจารย์ท่านว่าเหล่าครูท่านช่วยทำให้ด้วยความเมตตาเพื่อให้พลังนั้นหมุนวนถ่ายเทได้ไม่มีจุดสิ้นสุด


    เมื่อสำเร็จแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าการเสกนั้นต้องชุมนุมพญานาคทุกตระกูลให้มาคายยอดพิษของตนเอาไว้นับจำนวนแสนๆโกฏิและต้องชุมนุมเหล่ามหาเทพ มหาพรหมให้มาช่วยกันสร้างและสำเร็จนาคบาศนี้ให้ได้คูรสูงสุดอย่างแท้จริง ด้วยแต่โบราณเชื่อสืบกันมาว่าหากทำสำเร็จแล้วมีอาถรรพ์ต้องตำราแม้ผู้ใดได้ไว้ในครอบครองหรือมีไว้พกพา ก็จะช่วยให้มีกินมีใช้ไม่มีอดตลอดทั้งปีทั้งชาติ เป็นของวิเศษนำพาให้บังเกิดโชคบังเกิดลาภแก่ผู้ครอบครอง และยังใช้ป้องกันเขี้ยวงาได้ทั้งบ่วงนาคบาศยังจะช่วยปกป้องคุ้มครองภัยทั้งหลาย(ภัยพิบัติ) และยังเป็นสิ่งที่จะช่วยปราบมารทั้งหลายที่มาราวีชีวิตเราให้อ่อนกำลังลงด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าใครพกไว้ย่อมมีกินไม่รู้หมดสิ้นดั่งงูที่กินหางและเมื่อใดที่มันกินไปจนถึงหัว มันก็จะคลายลำตัวออกมาแล้วก็จะกลืนกินกันไปอยู่อย่างนั้นเป็นวงจรอนันต์ไม่รู้จบ

    ดั่งนาคบาศหรือศรของอินทรชิตที่ได้จากพระพรหมเมื่อยิงไปก็จะเป็นงูรัดศัตรูบีบคั้นไว้จนสิ้นใจ ดังนั้นบ่วงบาศนี้จึงได้ชื่อว่าบ่วงผูกมัดเพราะใช้จับอะไรก็ได้ไม่มีวันหลุด ต่อให้เป็นสิ่งสูงศักดิ์ล้ำค่าชนิดเห็นหัวไม่เห็นหางเช่นครุฑหรือกินนรีนาคบาศนี้ก็ยังจับได้(พ่ออาจารย์ท่านว่าจับได้ทุกอย่างไม่หลุดมือจิตดีๆก็อธิษฐานเอาเลยว่าจะจับอะไร จะใช้กับงาน ใช้กับตำแหน่ง ใช้กับหัวหน้า คู่ทำการค้า ใช้กับเพศตรงข้ามย่อมได้ทั้งสิ้น)เป็นบ่วงเชือกที่แข็งแรงที่สุด แม้พญาครุฑเจ้าแห่งนกก็ยังกลัวบ่วงนาคบาศนี้เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเอาตามครูบอกคือสามารถชนะทุกอย่างหรือชนะหมด จะใช้ทำน้ำมนต์เสริมดวง ป้องกันภูติผีและคุณไสย เป็นเมตตามหานิยมแคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายดีมีกินไม่มีอด ใช้ในการการเสี่ยงโชค มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม ท่านว่าถ้ามองในแง่เครื่องรางก็มีอาถรรพ์ครบทุกด้านตั้งแต่คุ้มครองป้องกัน ล้างอาถรรพ์ จับมัดวิญญาณร้าย มัดใจ ผูกจิต ไปจนกระทั่งโชคลาภมหานิยม แต่ที่นอกเหนือจากผู้ทรงฌาณหรือทรงวิทยาคมมักจะแสวงหากันแล้วแม้คหบดี พ่อค้า หรือผู้ปรารถนาความเจริญก้าวหน้าในกิจการก็ยังมักแสวงหาบ่วงบาศนี้เช่นกันเพราะรู้ว่ามันเป็นของกินบ่เซี่ยง กินไม่หมด อยากได้อะไรก็รวบก็รัดได้รุนแรง จึงมีความเชื่อกันด้วยเรื่องอิทธิพลของการผูกมัด มัดจิต มัดใจเพศตรงข้าม เพศเดียวกัน คนที่เราชอบ ไม่จำเพาะศัตรู แม้แต่ภูตผีปีศาจ ศัตรูเรา ลูกค้า คนที่มาเล่นการพนัน นาคบาศสามารถผูกมัดได้หมด

    ถ้าบูชาด้วยความเคารพจักชุ่มเย็นเปรียบเหมือนมีพญานาคมาอยู่ด้วย ทำอะไรก็ไม่มีเสียมีแต่ได้ตลอดทุกครา..ทั้งบ่วงบาศนี้ยังใช้เชื่อมต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ นาคบาศที่มีคุณอย่างแท้จริงนั้นได้มาครอบครองไม่ง่ายเลย ในอดีตจึงนับเป็นสิ่งล้ำค่าที่บุคคลผู้ใฝ่หาและแย่งชิงกันถึงขนาดฆ่าฟันกันเลยก็มี แม้หลวงปู่ศุขแห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่าอาจารย์ของเสด็จเตี่ยก็ยังบ่วงนาคบาศไว้ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้แล้วคงจะไม่ได้รบราฆ่าฟันกับใคร ดังนั้นจึงทำให้ไว้ป้องกันตัว ให้อธิษฐานคล้องบ่วงรวบรัดในสิ่งที่เราต้องการ ในสิ่งที่เราปรารถนาให้เอาไปใช้เกิดความชุ่มเย็น สงบสุข กินไม่หมด..แม้ใครกล้ามาต่อกรเราก็ต้องแพ้ทั้งหมด ผู้ถือบ่วงจะต้องชนะทุกสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าบ่วงบาศนี้ปกติจะมีอยู่หลายระดับและมีแต่พญานาคระดับนาคราชขึ้นไปเท่านั้นถึงจะมีบารมีใช้บ่วงนาคบาศได้ ท่านว่าหนนี้เราทำเป็นเนื้อผงให้เต็มสูตรไว้หนเดียวเพื่อหมายใจจะให้คนใช้เอาไว้ใช้กินเงิน กินทอง กินโชค กินลาภมาแก่ผู้ครอบครองเป็นคลังสมบัติ ใช้ให้ทรัพย์สินงอกเงย หากเอาใส่ไว้ในที่เก็บทรัพย์ก็จะป้องกันทรัพย์สินไหลออก และสำหรับผู้ที่ชอบเสี่ยงโชคก็ขอให้เขาชนะทุกอย่าง ..เอาแค่นี้ก็มีชีวิตดีขึ้นแล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าให้พกติดตัวโดยทำเป็นพวงกุญแจหรือจะนำขึ้นแขวนคอก็ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะพวกที่อยู่ในสถานที่ซึ่งมีอาถรรพ์ เรียกว่าชีวิตต้องอาถรรพ์ก็ดีหรือที่อยู่ที่ทำกินต้องอาถรรพ์ก็ดีทั้งบ้านติดทางสามแพร่ง บ้านที่อยู่ต่ำกว่าถนน บ้านที่อยู่ต่ำกว่าบ้านข้างๆ หรือใครที่โดนข้างบ้านกดขี่ หรือรู้สึกว่าเขาทำพิธี ทำสิ่งใดข่มหรือสะกดเรา ก็ให้เอาบ่วงบาศนี้แขวนไว้หน้าบ้าน หรือบางบ้านมีต้นไม้ใหญ่อยู่หน้าบ้านต้นไม้นั้นข่มบ้านเราหากแขวนนาคบาศไว้ที่หน้าบ้านแม้ต้นไม่นั้นมีภูติผีหรือรุกขเทวดารักษาอยู่เขาก็จะออกไปไม่นานต้นไม้นั้นก็จะตาย ดังนั้นบ่วงนี้จึงใช้แก้อาถรรพ์ได้ทุกประการตามแต่ใจจะปรารถนา ทั้งการพกนาคบาศติดตัวจะช่วยปราบสิ่งที่ไม่ดีต่างๆที่จะมาหาเราได้อีกด้วย

    *** บ่วงบาศนี้ฝังพลอยอธิษฐานสารพัดนึกทุกองค์(คละสี) ด้านหลังฝังตะกรุดนาคบาศที่พ่ออาจารย์ท่านลงวิชากำกับไว้ทุกดอก

    คาถาบูชา
    โอม เอหิ พญานาคะสุปัณณานัง สิทธิชะนาจิตตัง อุมะอะ โชคลาภจงบังเกิด (ใช้เสี่ยงโชค)
    โอม เอหิ พญานาคะสุปัณณานัง พุทโธภะคะวา พุทธังสิทธิชะนาจิตตัง ธัมมังสิทธิชะนาจิตตัง สังฆังสิทธิชะนาจิตตัง อิติปิโสภะคะวา พุทธมัดใจ โมเรียกมา บ่วงทัพพะนาคา เยติ โอมประสิทธิเม (ใช้ทางเมตตามหาเสน่ห์ เรียกคู่)
    โอม เอหิ พญานาคะสุปัณณานัง สิทธิชะนาจิตตัง อิติปิโสภะคะวา พุทธังปิด ธัมมังปิด สังฆังปิด มะอุอะ (กันผี กันภัย)


    ***บ่วงบาศนี้รับจองเฉพาะทาง PM พ่ออาจารย์ท่านว่าสามารถบูชาได้ตามปกติ แต่หากอยากให้มีคุณเป็นอนันต์ก็ให้เอาไปทำกันเอง นั่นคือให้บูชาไปคนละคู่ เมื่อต่อกันก็จะเป็นเครื่องหมายอินฟินิตี้ ตรงนี้ท่านว่ามันแรงเกินไปครูท่านห้ามไว้จึงทำไม่ได้ แต่หากใครรู้และต้องการก็สามารถบูชาเป็นคู่ได้ พอเขาอยู่คู่กันแล้วทิพยสภาวะของเขามันจะกินหัวต่อหางกันเองไม่ต่างจากยอดของนาคบาศในตำนาน หรือที่สุดแห่งนาคบาศของจอมนาคราชนั่นทีเดียว(ท่านว่าให้จำไว้ว่าถ้าชีวิตเรื่อยๆยังไม่คิดจะรีบก็อย่าใช้เป็นคู่)

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลจ้าวทรัพย์บ่วงบาศกลืนกิน(มหาวงจรแห่งการเปลี่ยนแปลง) บูชา 900 บาท

    53343481-417627315657942-7111704155495858176-n.jpg 52948708-980416808834657-5720668740580802560-n.jpg
    53034614-2223225557952290-5445554558895915008-n.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันอาญาสิทธิ์ตราประทับหักด่านสามโลก(บรรณาการสวรรค์ทะลวงวาสนาจัดเต็ม)

    สีผึ้งมันทำให้อาคมซึมเข้าเนื้อเข้าตัวแต่ก็ยังไม่ไวเท่าน้ำมัน
    พ่ออาจารย์ท่านไม่ค่อยจะทำน้ำมันพุทธาคมเท่าไหร่ ด้วยท่านให้เหตุผลว่า"สำหรับคนใช้(ชีวิตเขาจะง่ายไป)" นอกจากทำยากแล้วยังต้องพิถีพิถันอย่างมาก ด้วยว่าจะมีของอาถรรพ์ที่ให้โทษหรือทำลายวิถีชีวิตผสมลงไปไม่ได้ เช่นนั้นกว่าจะทำได้สำหรับน้ำมันของท่านที่สามารถนำมาใช้ทาเนื้อทาตัวได้แล้วท่านจะพิถีพิถันอย่างมาก กล่าวได้ว่านอกจากตานอกจะมองเห็นแล้ว มวลสารวัตถุดิบแต่ละอย่างท่านต้องใช้ตาในตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีกจนแน่แก่ใจ ด้วยเหตุว่าน้ำมันนั้นเพราะมันซึมเข้าตัวง่ายและอิทธิคุณในน้ำมันนั้นจะติดตัวเราไปจนตาย ดังนั้นท่านจึงไม่ค่อยออกน้ำมันชุดพิเศษเท่าไหร่


    น้ำมันอาญาสิทธิ์ตราประทับหักด่านสามโลกนั้นเป็นน้ำมันถอดอาถรรพ์โดยเฉพาะ ท่านว่าคนที่เขาใช้นอกจากจะแก้อาถรรพ์แล้วยังใช้ทะลวงวาสนาที่ไม่มีให้จัดเต็มเข้ามาในชีวิตได้ในภายหลังด้วย ซึ่งวิชาทำน้ำมันนี้ท่านว่าทำให้สำเร็จยากมากและสิ่งที่เป็นของขับพลังงานของน้ำมันจริงๆก็คือตะกรุดอาญาสิทธิ์ตราประทับนั่นเอง สำหรับน้ำมันถอดอาถรรพ์นั้นท่านว่าสามารถอธิษฐานกินได้หรือจะใช้ผสมกับอาหารที่ปรุงแล้วก็ได้ แม้ใครกินติดต่อกัน 3 วัน 5 วัน อาถรรพ์สิ่งใดๆในชีวิตที่ติดอยู่ก็จะค่อยๆดีขึ้นจนหาย ถ้าโดนคุณไสย คุณมนต์ โดนอาถรรพ์ ผีทัก ผิดผี ผิดครู ... เรียกว่าไปทำผิดอะไรมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันชาติก็ตามย่อมสามารถถอดถอนให้พ้นเภทภัยได้ เช่นนั้นน้ำมันนี้จึงเน้นการใช้งานในชีวิตจริงแบบค่อยๆกิน ท่านว่าแต้มกินหรือใส่อาหารเล็กน้อยก็เอาอยู่ดั่งได้กินยาถอดอาถรรพ์ ยาเพิ่มวาสนาตำรับใหญ่นั่นทีเดียว ท่านต้องใช้ผงงา ไม้ช้องระอา ว่านขอทองแก้ ชะมดเชียง น้ำมันเลียงผา มหาปราบ ดาบพระนารายณ์ ยายอายุยืน หมื่นอุดมโชค โยกโลหิต.. ฯลฯ และว่านยาเฉพาะทางต่างๆที่เปิดเผยไม่ได้มาหุง พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่ละตัวนั้นค่อนข้างพิเศษมีตั้งแต่ของหาง่ายแต่เอายาก ยันของที่ไม่มีปัญญาหาสุดปัญญาเอา กว่าจะรวบรวมมาหุงน้ำมันได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พื่อให้มีอิทธิคุณใหญ่นั่นคือใครกินก็ได้ และยังต้องไม่เป็นอันตรายใช้แต้มผสมอาหารก็ได้

    สำหรับคนที่ชีวิตต้องอาถรรพ์มาโดยกำเนิด
    ถ้าเคยโดนของแล้วทานน้ำมันจะมีอาการร้อนภายในเนื้อตัว บ้างก็หลังร้าว บ้างก็รู้สึกตัวชา.. อาการอันจะแสดงออกมาเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้เราเห็นต่างๆนาๆว่าเราโดนอาถรรพ์กัดกินชีวิตอยู่ จะด้วยว่าอาถรรพ์จากกรรมที่เราสร้างก็ดี จากเจ้ากรรรมนายเวรก็ดี จากคำสบถสาบานก็ดี จากแรงครูผิดครูก็ดี...อาถรรพ์ทั้งหลายนั่นแหละที่เล่นงานกับชีวิตท่านให้กินติดต่อกันสามสี่วันก็จะดีขึ้น ไอ้อาการที่แสดงออกต่างๆจะทรมานหรือปรากฏเป็นช่วงๆก็จะหายไปไม่มีอาการเหล่านั้นอีก นั่นคืออาถรรพ์ได้หมดไปแล้ว ได้รับการถอดถอน ในขณะเดียวกันหากคนที่ไม่เป็นเลยชีวิตไม่ได้ต้องอาถรรพ์ใดๆอะไรกินเข้าไปจะช่วยให้เวทย์มนต์ดลคาถาที่ถืออยู่ รวมไปถึงแรงครูสรรพวิทยา และเครื่องมงคลทั้งหลายที่ใช้มีพลังพุทธานุภาพแลเทวานุภาพมากขึ้น ท่านว่ายากนักที่จะหาคนเกิดแล้วเกิดอีกแต่ชีวิตไม่ต้องอาถรรพ์ใดๆเลยเหมือนเที่ยวหาหนวดเต่า หาไปก็ตายเปล่า ดังนั้นท่านจึงว่าจะมีหรือไม่มีก็ตามน้ำมันตำรับนี้ทำมาเพื่อให้กินให้ใช้จริงๆ ถ้ามีก็คิดเสียว่าถอดมันออกไป ถ้าไม่มีก็กินเป็นกำลังฤทธิ์เสริมสวัสดิมงคลให้ตัวเองจะได้จัดเต็มเปิดทางทะลวงวาสนาให้พร้อมเจอสิ่งที่สมบูรณ์แบบ

    - ตะกรุดอาญาสิทธิ์ตราประทับหักด่านสามโลก สิ่งนี้นั้นเป็นวิชาเฉพาะในสายพรหมศาสตร์ที่ครูพรหมสฮัมบดีได้สอนพ่ออาจารย์ท่านไว้ ด้วยเป็นวิชาที่จะช่วยหนุนเสริมพลังอำนาจของทุกวิชา ท่านว่าเมื่อเอามาแช่น้ำมันนั้น น้ำมันนอกจากจะแรงทวียิ่งขึ้นไปอีก แม้ตัวเราได้บริโภคอำนาจของยันต์ของวิชาก็จะหนุนพลังอำนาจในชีวิตของเราให้วาสนาเปิดออกด้วย ตะกรุดนี้ทำให้น้ำมันสมบูรณ์แล้วในขณะเดียวกันก็ทำให้คนถือมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบเช่นกัน ท่านว่าที่จริงตะกรุดนี้องค์ครูบรมพรหมผู้เป็นใหญ่ท่านสรรเสริญนัก ว่าวิชานี้มันขับพลังเข้าไปที่ดวงจิตคนใช้โดยตรง "จะทำให้จิตของผู้รับคุณวิชาเป็นอิสระไร้พันธนาการใดๆ แม้นความปรารถนาพันหมื่นก็เป็นดั่งที่คิดหวังไว้ไร้บ่วงกังวล" เมื่อทำตะกรุดแล้วด้วยโองการบรมบิดาท้าวมหาพรหมนั้นท่านว่าตอนม้วนต้องปิดผนึกเสริมพลังคุมสรรพสิ่งทั้งปวงด้วย ถึงกับไม่ไห้เรียกว่าดอกแต่ท่านให้เรียกว่าองค์ตะกรุดทีเดียว(พ่ออาจารย์ท่านว่าคิดๆก็แปลกตั้งแต่ทำตะกรุดมาแม้แต่ตะกรุดจักรพรรดิท่านยังไม่ได้สั่งให้เรียกเป็นองค์แบบนี้) ท่านพูดอย่างน่าคิดว่าว่าตะกรุดชุดที่แช่น้ำมันนี้เมื่อทำเสร็จ "ครูพรหมท่านให้คติไว้ว่าเป็นของกลาง แม้ตาจะมองเห็นแต่ก็พ้นห้วงความคิด ไม่ยึดติดอยู่ในกุศลหรืออกุศลใดๆ มันมีพลังในการพัฒนาตัวมันเองไปพร้อมๆกับการรู้แจ้งในกาย วาจา ใจ ของผู้ใช้งาน จากหยาบให้ละเอียด ทุกมิติ ทุกภพ ให้จบในกาลปัจจุบัน"(พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวาจาของครูที่สั้นแต่มีความหมายไปไกลหลายปีแสง) เป็นวัตถุยึดเหนี่ยวที่จะทำให้คนถือครองกลายเป็นผู้เจริญรุ่งเรืองแต่ฝ่ายเดียว(ไม่ตกต่ำ) ใครมียันต์นี้จะเจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่องและไม่ตกต่ำเสมือนพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่ส่องสว่างทั้งเวลากลางวันและกลางคืนไม่มีเมฆปิดบังดุจแสงสว่างอันจะช่วยส่องทางส่องชีวิต ดุจแสงนำทางผู้มืดมนโหยหาให้สมความปรารถนานานัปการดั่งพ่ออาจารย์ท่านว่าไว้

    นอกจากน้ำมันและตะกรุดชุดพิเศษนี้แล้ว ในตัวน้ำมันนั้นครูบรมพรหมท่านโองการให้พ่ออาจารย์ท่านนำพ่อขุนหลักชัยแช่เอาไว้ด้วย
    - พ่อขุนหลักชัย สิ่งนี้เป็นไม้เสาหลักเมืองเก่าที่มีอาถรรพ์มาก มีคนกราบไหว้มาหลายร้อยปี ใครไปลบหลู่ก็เจออาถรรพ์ให้ชีวิตพินาศไปตามๆกัน แต่หากใครได้บูชากราบไหว้ด้วยใจเคารพนบนอบก็จะได้โชคลาภอย่างน่าอัศจรรย์ พ่ออาจารย์ท่าว่าไม้หลักเมืองเก่าแต่โบราณนั้นใต้หลุมมักจะฝังคนเป็นๆอันมีนามมงคลลงไปเป็นการทำอาถรรพ์ให้มหานครนั้นรุ่งเรือง ดังนั้นหลักเมืองที่เชิญมาประดิษฐานจึงต้องเป็นไม้อาถรรพ์ที่มีกำลังมากพอที่จะเป็นหลักแก่คนทั้งเมืองได้ เป็นหลักเมืองเก่าหลักชีวิตเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าไม้นี้มีเทวดารักษามีเทวดาอยู่ชื่อพ่อขุนหลักชัย เป็นไม้หลักเมืองที่มีความอัศจรรย์ในตัวของมันเองนั่นคือเขาลอยน้ำได้ไม่จม(ท่านว่าเมื่อครูพรหมให้นำมาแกะเป็นหลักชีวิตให้คนใช้ใส่ลงไปในน้ำมันด้วยก็เท่ากับอาถรรพ์นี้จะหนุนให้คนใช้น้ำมันชีวิตต้องลอยขึ้นในทางเดียวจะจมลงไปเหมือนก่อนไม่ได้แล้วเพราะมีหลักให้เกาะแล้วนั่นเอง) คนที่เสียหลักโบราณนั้นเขาถือว่าเริ่มชีวิตผิดมาตั้งแต่ต้นเมื่อรั้นเดินไปในทางผิดก็ต้องคิดจนตัวตาย แต่หากมีหลักให้เกาะทำได้ถูกต้องครบถ้วนตามเคล็ดของคนโบราณ ว่ากันว่าคนๆนั้นจะอยู่ในวาสนามหาสมบัติเจริญขึ้นไปชั่วลูกชั่วหลาน ใครที่ได้อาศัยหลักชัยนั้นเกาะอยู่ค้ำอยู่ก็จะมีแต่ความสุขสวัสดิ์พิพัฒมงคลเจริญสุขในทุกๆประการ
    พ่ออาจารย์ท่านว่าโบราณนั้นถือนักว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้คนก็มีหลักในการใช้ชีวิตหากมองข้ามไป จะหาความสุขความเจริญได้ยากมาก ท่านว่าชีวิตใครก็ตามที่มีปัญหาแม้คนในบ้านยังมีปากเสียงโต้เถียงกัน หรืออาจมีคนเจ็บป่วยออดๆแอดๆอยู่เสมอ ยิ่งมีชีวิต ยิ่งอยู่นานก็มีแต่การนำมาซึ่งความเสื่อม ทั้งเสื่อมเกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง หาความสุขอันใดไม่ได้เลย นั่นก็เพราะคนเหล่านี้นไร้หลักชัยในชีวิตเหมือนมังกรไร้หัวย่อมบินสะเปะสะปะไปทั่วไม่รู้ทิศรู้ทาง ท่านว่าพ่อขุนหลักชัยนี้เมื่อทำแล้วต้องเชิญเทพทั้งห้ามารักษาตั้งแต่ท้าวมหาพรหม พระวิษณุกรรม พระเสื้อเมืองพระทรงเมือง เจ้าพ่อเจตคุปต์ และเจ้าพ่อหอกลอง ทั้งยังลงวิชามหาพิทักษ์ รุ่งเรืองรู้จบ ยอดมิ่งยอดขวัญ พระคลังเต็มท้อง บังโพยภัย เป็นชัยมงคล เมื่อทำสำเร็จแล้วก็จะมีคุณเป็นเอนกประการตั้งแต่หนุนการมีทรัพย์สินให้มีเงินทองล้นหลามมีใช้ไม่ขัดสน มีความอยู่เย็นเป็นสุขสืบไปทั้งเจ็ดชั่วอายุคน มีโชคชัย ชัยชนะ ชนะศัตรู ชนะอุปสรรคต่างๆ มีความสุขกายสบายใจ ไร้ทุกข์โศกโรคภัยทั้งมวล หนุนตัวให้ดีขึ้นร่ำรวยขึ้น ทำอะไรจะมีผู้ให้การเกื้อหนุนอยู่เสมอๆ ทั้งพยุงฐานะ พยุงดวงชะตาให้ดีขึ้น ให้ความมั่นคงทำให้ชีวิตมั่นคงแข็งแรง ทั้งป้องกันภัยอันตรายต่างๆ และกลั่นกรองเอาแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามาสู่ชีวิตตน แม้คนที่ได้ไปบูชาก็มักจะฝันเห็นเทวดาทั้งห้าหรือเจ้าพ่อหลักชัยท่านมาโปรดถายในสามวันเจ็ดวัน ท่านว่าเอามาใส่น้ำมันนี้ให้บูชาก็เพื่อจะได้เสริมหลักชีวิต(เพราะปกติไม้หลักเมือง หลักชัยลอยน้ำได้ที่มีอาถรรพ์มากนี้ท่านไม่ให้กับใครเลย)ท่านว่าใครได้บูชาเจ้าพ่อหลักชัยก็มักพบกับความเจริญรุ่งเรืองดีขึ้นขึ้นแบบผิดหูผิดตาเป็นที่อัศจรรย์ใจในศาสตร์วิชาหลักค้ำชีวิตนี้ยิ่งนักจะนำไปถึงซึ่งความมีศักดิ์ศรี ชื่อเสียง เกียรติภูมิ อำนาจบารมี มีคนเคารพนับถือและยำเกรง

    นอกจากนั้นในขวดน้ำมันพ่ออาจารย์ท่านยังได้นำสีผึ้งแท้ๆของหลวงพ่อปานที่ห่านหวงแหนนักไม่ค่อยนำออกมาใช้ ท่านปั้นใส่ลงไปด้วยทุกขวด ท่านว่าให้เอาไว้เป็นพลังงานตั้งต้นนึกถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่ท่านทำวิชาสงเคราะห์เราคนรุ่นหลัง ทั้งวิชาสีผึ้งยังเป็นเมตตามหานิยม เมตตามหาเสน่ห์ คนทั้งหลายจะมาชื่นชมหลงใหลดุจดวงดาวส่องประกายแม้อยู่ในที่มืดก็มีคนแลเห็นอยากเข้ามาเชยชม เมื่อผสมลงไปแล้วน้ำมันนี้จึงมีคติทางเมตตามหานิยมอย่างเอกใช้แตะแต้มเป็นเสน่ห์เมตตา ทั้งท่านยังได้นำมาเสกในพิธีจันทร์เพ็ญอีกหลายปีทำให้มีจะมีพลานุภาพเสริมให้ผู้ใช้เป็นที่พิศมัยยินดีแก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย มีชีวิตสุกสกาวเหมือนดั่งพระจันทร์กลางฟ้ายามจันทร์เพ็ญเป็นชีวิตที่โดดเด่นท่ามกลางดวงดารา

    ด้วยเป็นวิชาแห่งครูบรมพรหมสูงสุด น้ำมันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันยังให้คุณแปลกๆอีกหลายประการเอาไปใช้จะเห็นด้วยตัวเอง..แม้ใครได้กินหรือสูดดมเป็นประจำก็มักจะระลึกชาติได้ดุจได้สูดดมดอกปราริชาติพฤกษาสวรรค์ ทั้งยังจะระลึกรู้ถึงบุญกุศลบารมีของตนเอง ผู้ใดได้ครอบครองน้ำมันที่มีตะกรุดชุดพิเศษของครูพรหมนี้ทำอะไรครูก็รักษาดุจเรานั่งอยู่กลางใจครูกลางใจพระะพรหม ทั้งยังช้แต้มเพื่อที่จะขจัดฟาดฟันฝ่าอุปสรรค์ต่างๆให้มลายสิ้นไปก็ได้...***ท่านว่าให้จำเอาไว้ว่าน้ำมันนี้สำคัญนัก อะไรที่ประนีประนอมไม่ได้จริงๆในชีวิตเรามันก็จะบังคับหักมาให้เราโดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆเลย(ในส่วนนี้ท่านพูดไม่ได้มันไม่สมควรทั้งๆที่มีความสำคัญมาก ท่านว่าให้ใช้ไปเดี๋ยวจะรู้เองเช่นนี้จึงเรียกว่าหักด่านสามโลก) ท่านว่าใช้ได้สารพัดก่อนใช้ให้ระลึกถึงพระคุณเทพพรหมทั้งปวงจักบังเกิดสิริมงคลไม่รู้จบ ท่านว่าน้ำมันนี้ฉันทำให้เธอใช้ เพื่อแก้ เพื่อถอด เพื่อถอน ของไม่ดีออกจากตัว ในส่วนของพ่อขุนหลักชัยนั้น "ยิ่งแต้มยิ่งได้ ยิ่งขอยิ่งรวย" พ่อขุนหลักชัยท่านจะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายที่หวังไว้ ขอเพียงบูชาด้วยความศรัทธา หมั่นรักษาสัจจะ สิ่งที่หวังไว้จักสำเร็จได้ไม่ยาก แม้ขอสิ่งใดก็ให้มีมารยามรู้กาลควรไม่ควรเพราะอย่าลืมว่าท่านเป็นเทวดามีศักดิ์สูงระดับเทพรักษาเมืองรักาษพระนครแต่โบราณแม้ขอสิ่งใดได้สมหวังก็ควรทำบุญอุทิศให้พ่อขุนท่านด้วยเป็นการตอบแทนคุณ เป็นการบอกท่านว่าเรารู้คุณที่ท่านได้เมตตาได้ช่วยเหลือ ทำเช่นนี้หวังสิ่งใดก็ย่อมสำเร็จ น้ำมันชุดนี้ไม่มีส่วนผสมของภูติพรายก็จริงแต่พ่ออาจารย์ท่านว่าเราก็ทำให้แรงดุจมีจิตวิญญาณดังนั้นจึงมีแต่คุณปราศจากโทษใดๆทั้งสิ้น เอาว่าคนใช้จะติดใจทีเดียว

    ในกรณีใช้จนน้ำมันหมด
    - ผู้บูชาสามารถอธิษฐานนำน้ำมันในขวดมาแตะแต้มตนเองเพื่อหวังผลทางสิริมงคลเมตตามหานิยม ติดต่อธุระการงาน เจรจาธุรกิจก็ไร้ซึ่งอุปสรรค ใช้แตะแต้มสิ่งของภายในร้านค้าต่างๆได้ ช่วยให้ขายดิบขายดีลูกค้าเข้าออกไม่ขาดสาย หรือแตะแต้มคนที่หมายปองให้มีใจแก่เรามากขึ้นตามแต่จะอธิษฐาน แม้แต่การผสมให้ตนเองกินเพื่อถอดถอนเคราะห์กรรมทั้งสิ้นก็ย่อมทำได้ หากน้ำมันใกล้หมดท่านให้เทน้ำมันเก่าออกมาก่อนแล้วจึงเติมน้ำมันจันทน์ที่หาซื้อมาใส่ขวดลงไปกะปริมาณให้พอดีก่อนนำน้ำมันเก่าเททับลงไปใหม่ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่มีเชื้อของเก่าก็ต่อได้อีก ต่อไปร้อยครั้งพันครั้งก็มีคุณเหมือนเดิมเพราะเรามีเชื้อความเข้มขลังมีตะกรุดมีพ่อขุนท่านอยู่ในขวดแล้วก็ต่อใช้ไปได้เรื่อยๆ


    ท่านว่าน้ำมันนี้ใครจะใช้บนบานขอให้ช่วยสิ่งใดก็ใช้ได้หลากหลายตามแต่จะขอในเหตุที่เป็นไปได้ วิธีใช้ให้บนขอเรื่องต่างๆได้เลยไม่ต้องเปิดขวด หรือใช้พกติดตัวก็มีอานุถาพมากไปติดต่อธุระต่างๆ อธิษฐานงานให้สำเร็จ...พกไว้ใช้ได้ดุจเครื่องรางเช่นนั้น หรือจะแตะแต้มเนื้อตัวโดยไม่ต้องพกก็ได้ หากจะใช้ทางเสี่ยงโชคก็ให้บอกพ่อขุนกับครูพรหมท่านและนำน้ำมันมาแต้มที่หน้าผาก และฝีปากก่อนออกไปเสี่ยงโชค ปฏิหาริย์ก็จะเกิดขึ้นดังที่ขอ (วิธีนี้ท่านว่าทำได้หลายอย่าง จะใช้กับการเจรจา จีบสาว ทำงาน ขอสิริมงคลให้ทั้งวันพบเรื่องดีๆ ให้บังตาภูตผีปีสาจเจ้ากรรมนายเวรก็ได้ทั้งสิ้น)

    คาถาบูชา
    นิจจังกาลัง ปิยังโหติ เทวะตาปีนิปัตเตยยัง มหาเตชัง มหาตะปัง พะเลเนเน เตเชนะ ชะยะตุ ชะยะมังคะลัง


    *** น้ำมันสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพรหมท่านให้ทำครั้งเดียว ถึงจะหุงใหม่ก็หุงไม่ได้อีก ท่านทำไว้เจ็ดขวดและท่านเก็บไว้ใช้เองสองขวด อีกขวดหนึ่งนั้นครูท่านเอาไป(หายไปเองท่านว่าพลีให้กับครูอาจารย์เพราะน้ำมันนี้แม้เทวดาก็ยังอยากจะใช้) จึงมีให้จองได้สี่ขวดเท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนสร้งห้องน้ำเป็นแหล่งปลดทุกข์ในวัดที่ขาดแคลนกำลังทรัพย์สืบไป

    ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันอาญาสิทธิ์ตราประทับหักด่านสามโลก(บรรณาการสวรรค์ทะลวงวาสนาจัดเต็ม) บูชา 4,000 บาท

    53361204-337676273520757-5167607133314744320-n.jpg 54206191-1018369641685367-5341841136036085760-n.jpg
    53915127-374140900108134-5078324598706012160-n.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229

แชร์หน้านี้

Loading...