ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวางแหพระเจ้าเหวี่ยงกวาดสังสารวัฏ พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสุริยายะชยันตี

    สืบเนื่องจากพระเวทย์วิชาในสายเจ้าปู่สำเร็จลุนที่ท่านเคยผูกมหายันต์ขึ้นมาให้ผู้ที่ครอบครองได้โชคลาภ ร่ำรวยรวดเร็ว เป็นเศรษฐีคหบดีมามากมาย จนกิตติศัพท์ของท่านโด่งดังทั้งในฝั่งลาวและฝั่งไทย เป็นพระมหาเถระเจ้าที่ใครๆก็อยากเข้าไปพึ่งฤทธิ์และบารมี ด้วยท่านนั้นเป็นพระสำเร็จซ้ำยังชำนาญในการฤทธิ์และวิชาการทางไสยเวทย์เป็นยิ่งนัก

    พ่ออาจารย์ท่านได้รับสืบทอดวิชานี้มาจากครูบาอาจารย์ทางฝั่งลาวผู้สืบทอดพระเวทย์ในสมุกของสำเร็จลุนโดยแท้ ท่านจึงนำมาใช้ช่วยเพื่อนมนุษย์ที่สนิทชิดเชื้อกันเป็นพิเศษได้ดีทุกคน โดยวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่เพียงพกติดตัวไว้ ขอให้เป็นคนขยันไม่ย่อท้อรับรองว่าไม่อับจน

    ซึ่งในชั้นหลังนั้นท่านจึงปรารถนาจะลงไว้อย่างเป็นทางการให้เป็นรุ่นหนึ่งไปเลย เพื่อบูชาคุณเจ้าปู่สำเร็จลุน หลังจากท่านอธิษฐานใจเสร็จจึงได้นำตะกรุดมาลงแผ่นตะกั่วแล้วก็ได้รับนิมิตรจากเจ้าปู่สำเร็จลุนว่า ท้าวพลเฮ็ดหยังแหน่ เจ้าสิลงหยัง..ถอดความพอเข้าใจได้ว่า ท่านจะทำอะไรบ้าง จะลงอะไร ทำไมไม่ลงหัวใจพระอาทิตย์ไว้ด้วย เปลี่ยนฐานใหม่แล้วก็ทำตามพระเวทย์ในส่วนของท่าน

    ซึ่งพ่ออาจารย์ว่าที่ครูบาอาจารย์ท่านให้ทำเช่นนี้ คงเพราะต้องการให้ตะกรุดชุดนี้มีอานุภาพเป็นที่สุดนอกจากเรื่องโชคลาภการสร้างฐานะแล้ว ยังเสริมให้ใจตนมีความปรารถนา มีความทะเยอทะยาน ได้พบเกียรติยศสูงสุด ได้เลื่อนขั้นไวในสิ่งที่ทำ ทำกิจสิ่งใดก็ใหญ่โต แข่งขันกับใครก็เจริญก้าวหน้าไม่ถดถอย คนที่ไร้วาสนามาก่อนจะได้มีอำนาจวาสนาเสริมเข้ามาด้วยองค์พระสุริยะเทวราชนั้นเข้าเปลี่ยนแปลงชะตา

    ภายหลังพ่ออาจารย์จึงเข้าใจแล้วว่าแผ่นตะกั่วเดิมนั้นใช้ไม่ได้ ท่านจึงนำแผ่นทองแดงมาอธิษฐานจิต เพื่อขอรับรัศมีที่ได้ชื่อว่าร้อนแรงที่สุดในเทวโลกของพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน เป็นเวลา 7 วัน แล้วจึงลงพระเวทย์ในสายสำเร็จลุนตั้งต้นแล้วครอบลงล้อมด้วยมหายันต์หัวใจสุริยะเทพ

    เมื่อกระทำดังนั้นแล้วท่านได้เชิญพระญานอันศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าปู่สำเร็จลุนมาสำเร็จตะกรุดนี้ด้วยพระเวทย์ของท่าน ท่านว่าเมื่อหนุนฐานพระสุริยะแล้วยิ่งเสริมให้เจริญรุ่งเรื่องขึ้นไปกว่าเดิมเสียอีก ซึ่งอักขระเลขยันต์ในส่วนวิชาของท่านนั้นท่านจะเป็นคนทำ แต่สายวิชาพระเวทย์นั้นท่านให้พ่ออาจารย์รับช่วงต่ออีกที

    โดยที่เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดมาพิจารณาว่ามีกำลังสูงแล้ว และรู้ว่าเจ้าปู่ท่านต้องการจะให้เสริมในสายของพระเวทย์และพลังฤทธิ์ของพระสุริยะเทวราชลงไปด้วย ท่านจึงได้จัดการสักการะพระสุริยะเทพในวันขึ้นเจ็ดค่ำเดือนมาฆะเมื่อสองปีที่ผ่านมา เรียกว่าพิธีสุริยายะชยันตี โดยตัวพ่ออาจารย์เองท่านถือตะกรุดนี้ดั่งตัวแทนและกำลังแห่งองค์สุริยะเทพกระทำพิธีอื่นๆแล้วมาจบในส่วนของการสักการะสุริยะเทพที่ตะกรุดนี้ ซึ่งด้วยอำนาจของพิธีนี้พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าพระสุริยาทิตย์ท่านจะแบ่งกำลังลงมาที่ตะกรุดนี้ดุจตัวแทนของท่าน ซึ่งในสายวิชานี้ เชื่อว่าจะสะเดาะเคราะห์และชำระบาปได้ ทั้งบาปที่ทำไปโดยรู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ในชาตินี้ หรือในภพก่อนๆมาก็ดี และได้นำน้ำมาอาบสรงตะกรุดในระบบเวลาที่กำหนด เพื่อให้ผู้บูชาปราศจากโรคภัยไข้เคราะห์มีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งพิธีนี้พ่ออาจารย์ท่านนำมาดัดแปลงเพื่อกลืนพลังเวทย์ไว้ในตะกรุดเป็นพิธีที่มีรายละเอียดมาก

    เมื่อเสร็จพิธีแล้วท่านจึงนำมาอธิษฐานจิตอีกคำรบหนึ่ง โดยท่านว่าพระสุริยาทิตย์นั้นได้มากล่าวกับท่านไว้ว่า หากผู้บูชากระทำสักการะท่านเป็นประจำเขาผู้นั้นจะเจริญไม่รู้จบ พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้บูชาจะมีกำลังแห่งองค์ตะวันนี้อยู่กับตัวมีแต่เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป เพราะแสงสว่างที่ร้อนแรงนั้นจะขจัดความมืดบอดในชีวิต ทำลายโรคร้าย ฝันร้าย สิ่งเลวร้ายทั้งหลายให้พังพินาศไปโดยปรกติ

    ที่ว่าเจริญรุ่งเรืองนั้น เพราะโดยปกติแล้วไม่มีสิ่งใดรอดพ้นสายพระเนตรแห่งองค์พระสุริยะเทพไปได้ แม้แต่พระมหาโพธิสัตว์อันเสวยพระชาติเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังตรัสว่าพระอาทิตย์นั้นดุจเป็นตาของโลก พ่ออาจารย์ท่านว่าเหตุนี้ด้วยว่าองค์พระสุริยะเทวราชนั้นท่านมองเห็นทุกสิ่ง ไม่เพียงแต่บนโลก แม้ในสวรรค์ หรือใต้บาดาล ท่านก็สอดส่องไปทั้งหมด วิถีแห่งมนุษย์ตลอดจนการดำเนินชีวิตของสรรพสัตว์ก็ล้วนอยู่ในสายตาพระองค์

    พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระสุริยาทิตย์นั้นทรงเป็นปฐมบรมบิดาของสุริยวงศ์อย่างแท้จริง ด้วยมนุษย์คนแรกที่ขึ้นเป็นเป็นกษัตริย์องค์แรกของเหล่ามนุษย์นั้นก็คือพระมนูไววัสวัตหรือพระสัตยพรต ผู้เป็นพระโอรสของพระองค์นั่นเอง เมื่อมีการพูดถึงสุริยวงศ์ก็จะนึกไปถึงสายเลือดกษัตริย์ แต่โดยความจริงแล้วสุริยวงส์ ก็คือสายเลือดและวงศ์แห่งพระสุริยะเทพนั่นเอง ดังนั้นผู้ที่มีตะกรุดสุริยายะชยันตีนี้นอกจากได้วิชาของสำเร็จลุนแล้วยังมีกำลังแห่งองค์พระอาทิตย์อยู่กับตัว ทำให้ประกอบกิจการใด กระทำสิ่งใด ก็จะนำเป็นผู้นำคนอื่นเขาทั้งหมด ดุจเป็นตัวแทนปฐมบรมบิดาในตระกูลกษัตริย์สุริยวงศ์ทั้งมวล

    คาถาบูชา
    โอม ฆฤณิ สุริยาย นะมัส
    เมื่อจะกระทำการสักการะสุริยะเทพ พ่ออาจารย์ท่านว่าให้เลือกเวลาตื่นนอนมาตอนเช้า อาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด ไปกระทำในที่โล่งแจ้ง กำตะกรุดไว้หันหน้าไปทางที่พระอาทิตย์ขึ้น หันหน้าเข้าหาพระอาทิตย์เลย นำภาชนะบรรจุน้ำเล็กๆมาใส่ไว้ในมือ โดยพนมมือนั้นขึ้นเหนือหัวพร้อมภาชนะนั้น จะใช้เป็นขวดน้ำก็ได้ ให้จับแบบพนมมือ แล้วก็เทน้ำนั้นลงพื้น พร้อมระลึกถึงพระสุริยะเทพ กล่าว โอม สุริยาย นะมัส สามครั้งก็ได้หรือจนกว่าน้ำจะหมด ไม่ต้องท่องเร็ว แต่ให้ท่องลากเสียงแล้วค่อยๆรินไปช้าๆ หมั่นกระทำเถิด ท่านว่าทำได้ทุกวันหรือจะทำเป็นบางวันก็ได้เอาที่เราสะดวกใจ ท่านว่ายิ่งทำ ตนเองยิ่งดียิ่งเจริญ ตะกรุดก็จะยิ่งแรงขึ้น เกิดแก่ตัวเอง รับรู้เอง

    *ตะกรุดสุริยายะชยันตีนี้ เป็นตะกรุดเฉพาะกิจ พ่ออาจารย์กล่าวว่า อย่าได้มองข้ามต้องใช้เวลาในการทำนานมากแล้วก็มีพิธีรีตรองเยอะ ไม่ใช่การเสกเฉยๆ ท่านว่าท่านทำให้ดีที่สุดแล้ว จารให้ไม่ใหญ่โตมากจะได้ห้อยคอได้ไม่หนัก เอาคุณภาพไม่ได้เน้นปริมาณ ท่านจึงทำไว้เพียง 18 ดอก วิชานี้ท่านอยากให้คนเดือดร้อนใช้เอาไปเป็นขวัญและกำลังใจ ท่านใดต้องการร่วมทำบุญบูชาก็แจ้งไว้ใน PM

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสุริยายะชยันตี 1,500 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผลไพศาล(ตะกรุดเงินรุ่นแรก)

    สำหรับตะกรุดที่ให้ร่วมทำบุญบูชากันในวาระนี้ เป็นตะกรุดเนื้อเงินรุ่นแรกของพ่ออาจารย์ หรือจะเรียกอีกชื่อว่ารุ่นเสก 3 ปี ก็ได้ เพราะมีขั้นตอนรายละเอียดการสร้างที่ลึกซึ้งอย่างมาก ท่านว่าเอาไว้ออกในช่วงที่คนเค้าลำบากนะ ไม่ขัดสน ไม่ทุกข์ยาก อย่าเพิ่งให้ใครเอาไปใช้

    ตะกรุดนี้ชื่อว่าปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผลไพศาล พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชานี้เป็นวิชาของสมเด็จองค์ปฐม ท่านเล่าว่าในมวลหมู่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย และเหล่าพระมหาโพธิสัตว์ ตลอดจนเทวราชที่มีลำดับศักดิ์ใหญ่ๆนั้น จะมีจักรเพชรอันเกิดขึ้นแต่บุญและโพธิสมภาร เป็นอาวุธประจำกาย เช่นพระศิวะก็มี พระนารายณ์ก็มี พระพรหมก็มี พระอินทร์ก็มี แม้แต่ในสภาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็ล้วนแต่มีจักรเพชรอันเกิดแต่พุทธบารมีของแต่ละพระองค์

    ขึ้นชื่อว่าจักรเพชรนั้นด้วยจักรนั้นจะหมุนไปไม่ขาดช่วงขาดตอนเหมือนการดำเนินวนเวียนของวัฏสงสาร หมุนถ่ายสับเปลี่ยนคงอยู่ดับไปเช่นนั้น เป็นวงล้อแห่งพระเวทย์และพระธรรม เป็นสัญลักษณ์ทางกายภาพของการตัดขาดหมดสิ้น ซ้ำยังเป็นยอดศาสตราวุธที่สูงส่ง มวลสรรพชีวิตเกรงกลัวด้วยอานุภาพการทำลายล้างนั้นสามารถตัดทุกสิ่งได้ หากจะกล่าวแล้ว จักรเพชรที่เปี่ยมด้วยอานุภาพสูงสุดก็คือจักรเพชรของสมเด็จองค์ปฐมนั่นเอง

    จักรเพชร คือบารมีอันสำเร็จออกมาเป็นรูปทางกายภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละพระองค์เหนือกว่าพระขรรค์หรือศาสตราวุธใดๆ จะมีกำลังเพียงไหนก็ขึ้นอยู่ที่บารมีของผู้นั้นตกผลึกออกมา

    พ่ออาจารย์ท่านเคยได้รับนิมิตรจากสมเด็จท่าน ให้นำวิชาพุทธจักรเพชรของพระองค์ท่านมาทำเครื่องรางเอาไว้ ต่อไปจะสูงค่าหาได้ยากยิ่ง ด้วยว่าจะค้ำจุนสรรพชีวิตทั้งมวลและพาเค้าดำเนินเป็นสายตรงเข้าไปหาความสำเร็จสูงสุด

    ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์บอกว่าลึกล้ำพิศดารนัก เพราะในส่วนของวิชาคือดวงความสำเร็จดวงสัมฤทธิ์ผลในทุกเรื่อง ทุกสรรพสิ่ง ที่มนุษย์จะคิดจะพึงปรารถนา เป็นฐานดวงยันต์หนุนด้วยพุทธจักรเพชรองค์ปฐมแบบส่งต่อกันไร้จุดบกพร่อง ดุจดั่งว่าจักรเพชรของสมเด็จพระยอดแก้วดวงธรรมนั้นจะหมุนทำลายความขัดข้องและปัญหาทุกสรรพสิ่ง ตัดขาด ทำลาย ซึ่งจัญไรและอุปาทวมงคลทั้งปวง ด้วยอำนาจแห่งวิปัสนาญาณของสมเด็จองค์ปฐมอันจะริดรอนผลกรรมขยายขอบข่ายกรรมดีของสรรพสัตว์ ซ้ำยังเป็นสัญลักษณ์ที่หมุนวนไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ทำลายกรรมหนักชนเข้าด้วยกำลังแห่งวิปัสนาญาณ ทำให้ชีวิตสรรพสัตว์นั้นหมุนเวียนเปลี่ยนผันไปไม่มีหยุด ที่ว่าเลวลงก็จะดีขึ้น เจอแต่เรื่องดีๆยิ่งๆขึ้นไป ตัดสิ้นทุกสิ่ง สะบั้นให้เป็นธุลีแม้แต่กิเลสและอวิชชาทั้งหลายก็ไม่อาจทานอำนาจของพุทธจักรเพชรองค์ปฐมนี้ได้ ตัดแล้วก็หมุนวนไปหาความสำเร็จซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้แล้วได้อีก

    เหนือทุกสรรพสิ่งพ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าวิชานี้แปลก สมเด็จชินะเจ้าผู้บรมครูท่านคงรู้กาลในอนาคตเบื้องหน้าจึงเมตตาถึงปานนี้ ด้วยวิชาที่ประทานนั้นเป็นพุทธจักเพชรอันทรงอำนาจสูงสุด แวดล้อมรักษาดวงความสำเร็จเอาไว้ ปฐมพุทธจักรเพชรนี้อยู่กับผู้ใดคิดการณ์จะกระทำสิ่งใดก็สำเร็จดั่งความคิด ท่านว่าเวลาจะใช้ให้อาราธนาให้ดี ระลึกถึงสมเด็จองค์ปฐมและจักรเพชรนี้เป็นที่สุด ตั้งจิตเพ่งความปรารถนาเข้าไปในตะกรุด เมื่อส่งความปรารถนาไปก็ได้ชื่อว่าสัมฤทธิ์แล้ว สำเร็จแล้วแก้เคล็ดของความตกต่ำย่ำแย่ในทุกๆสิ่ง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าลงยากนัก วิชานี้ต้องลงในเวลาอันมีฐานของดวงมหาอุจจ์ ท่านว่าเบื้องบนกำชับมานักหนาใช้ฤกษ์อื่นไม่ได้ เพราะว่าฐานมหาอุจจ์นี้จะวิ่งยิงตรงไปเสริมพื้นดวงของผู้ครอบครองให้สูงส่ง หนุนขึ้นไป ยิ่งหน้าที่การงานจะยิ่งได้ผลดีมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตเค้าที่ว่าแย่จะหักเหเปลี่ยนแปลง พลิกตัวมาเจอสิ่งดีๆ จากหน้ามือเป็นหลังมือเปลี่ยนดุจคนละคน คนเราลองดวงชนเสียเจอแต่อะไรแย่ๆท่านว่าวิชานี้มันแก้ที่ฐานดวงกันเลย เสริมมหาอุจจ์เข้าชีวิต ใช้ปฐมพุทธจักรตัดขาดความยากจน ความสิ้นเนื้อสิ้นตัวทั้งหลาย สิ่งเลวร้ายทั้งปวงต่อไปจะไม่มาย่ำยี หนุนด้วยอำนาจแห่งสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณที่ 1 (องค์ปฐม) เป็นที่เคารพเกรงใจแก่สรรพชีวิตทั้งหลาย มหาจักรหมุนไปวิ่งเข้าหาความสำเร็จ

    ท่านว่าวิชานี้แปลกและตรงมาก คือปกติความสำเร็จนั้นมันคือเป้าหมายที่รอคนอยู่เบื้องหน้า มนุษย์ปรารถนาความสำเร็จในทุกกิจที่กระทำ มันไม่ได้วิ่งเข้ามาหาเรา แต่เราต้องวิ่งไปหามัน มันเหนื่อยยากตรงนี้ วิชานี้เป็นการขับเคลื่อนหนุนส่งด้วยปฐมพุทธจักรเคลื่อนตัวเข้าสู่ช่วงชีวิตวงจรแห่งความสำเร็จ ต่อไปทุกกิจที่กระทำไม่ต้องกลัวว่าจะล่าช้า ทำอะไรจะเลวจะแย่ไม่สัมฤทธิ์ประสิทธิ์ผลเพราะการกระทำและความสำเร็จนั้นจะเคลื่อนต่อกัน วิ่งเข้ามาชนกัน ไม่หยดุรอเราอยู่นิ่ง ว่องไวดั่งจักรผัน

    เมื่อลงตะกรุดนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นวิชาที่สำคัญในฝ่ายของพระโพธิญาณ เพราะอักขระที่แวดล้อมกงจักรนั้น ก็เปรียบเสมือนตัวแทนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหนึ่งพระองค์ มีกี่ตัวก็ยากเพียงนั้น ท่านว่าวิชานี้ยากเอาเรื่อง ต้องใช้ญาณใช้กำลังใจในการลงสูงมาก

    เสร็จแล้วหัวใจสำคัญของตะกรุดปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผลไพศาลนี้ ก็คือตะกรุดหัวใจสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณที่ 1 อันเป็นตะกรุดทองแดงนั่นเอง ตะกรุดทองแดงนี้ท่านว่าเสมือนตัวรับและส่งต่อพลังงานกัน เมื่อเลี่ยมบูชาให้นำบรรจุไว้ใส่ไว้ภายในตะกรุดเงิน ดุจดั่งว่ามีพลังงานหมุนวนส่งต่อกันเป็นช่วงๆไม่ขาดตอน ดุจดั่งจักเพรชที่ผันอยู่ตลอดเวลาไม่มีช่องว่างเว้น ชีวิตเราก็จะหมุนวนดำเนินไปสู่หนทางที่ดีขึ้น สูงขึ้นตลอดเวลาเช่นกัน ท่านว่าเจอแต่สิ่งดีงามซ้ำๆซากๆไม่เลวลง ท่านว่าเมื่ออธิษฐานสิ่งใด อธิษฐานเสร็จแล้วให้ยกตะกรุดนี้มาเขย่า พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จท่านสั่งกำชับมาให้ทำแบบนี้ ดุจดั่งเสียงกริ่งที่จะส่งความปรารถนาของเราดังไปกระทบพระโสตขององค์ปฐมท่าน และยังมีความหมายสำคัญซ่อนอยู่นั่นคือการเขย่านั้นเป็นการเคลื่อนไหว เมื่อเคลื่อนไหวแล้วก็คือสิ่งมีชีวิต มหาจักเพชรนั้นเป็นอาวุธทางกายภาพก็จริงแต่ก็มีจิตรู้เป็นเจตสิกที่จะแยกแยะออกว่าสิ่งไหนดีหรือไม่ดี จะดูดเข้ามาหรือทำลายให้ย่อยยับไป เป็นคติที่จะบอกเป็นความนัยย์ว่าตะกรุดนี้มีชีวิต ไม่ใช่ของเล่น

    เมื่อจะเสกตลอดระยะเวลาสามปีนั้น พ่ออาจารย์ว่ามันยาก เพราะต้องเชิญที่ละขั้นเริ่มจากเทวดาก่อน ให้เทพผู้มีมเหศรศักดิ์ทั้งหลายนำเอาจักแก้วจักรเพชรของแต่ละพระองค์นั้นมาเปล่งอานุภาพลงในตะกรุดนี้ ทำเป็นกลบทไป ไล่ไปทีละชั้นจากเทพ โพธิสัตว์ พรหม มหาพรหม มหาพรหมโพธิสัตว์ พระปัจเจกพุทธเจ้า แหละสภาพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่จะมีมหากรุณามาสงเคราะห์อันมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน ก่อนที่จะอาราธนาสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณให้ลงมากระทำวิชา ประทานจักรเพชรของพระองค์ให้แยกออกและสิงสถิตย์ไว้ด้วยพุทธานุภาพ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าความปรารถนา แรงอธิษฐาน สิ่งที่มนุษย์ต้องการนั้นมีร้อยแปดพันประการ หากถามว่าตะกรุดนี้ดีอย่างไร ท่านว่าก็ดีสุดแต่ใจเจ้าแล้วกัน นึกเอาปรารถนาเอาในสิ่งที่อยู่ในครรลองคลองธรรมก็จะสัมฤทธิ์ผล

    คาถาบูชา
    (พ่ออาจารย์ท่านว่าไร้สาระไปเลยเพราะเป็นกายสิทธิ์มีชีวิต) ถ้าจะภาวนาเสริมกำลังใจก็ให้ภาวนาว่า ปฐมังพุทโธ ภาวนาไปเรื่อยๆให้ใจนิ่ง ให้กำลังใจสูงก่อนจะขอสิ่งอื่นใด ถ้าใจนิ่งหรือมีกำลังใจอยู่แล้ว ตะกรุดนี้ไม่ต้องภาวนาสิ่งใดเลย ใช้ได้ทันที

    * ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านให้ออกร่วมทำบุญ ใครจะบูชาท่านว่าถ้าเค้ารู้เนื้อรู้ตัวว่าชีวิตมันไม่เดิน มันไม่ไป อยากทำอะไรสำเร็จสัมฤทธิ์ประสิทธิ์ผลก็จะมาเอาเอง วิชานี้ให้คุณมาก ทำยากทำได้น้อย พ่ออาจารย์ทำไว้ได้เพียง 9 ดอกเท่านั้น ให้ PM สั่งจองไว้ รายได้ท่านให้จบหัวเพราะจะนำไปบริจาคร่วมหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมประดิษฐานตามวัดในชนบทต่อไปเป็นกุศลหนุนส่งผู้ศรัทธาอีกทอดหนึ่ง

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผลไพศาล(ตะกรุดเงินรุ่นแรก) บูชา 2,500 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • newchin9.jpg
      newchin9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45 KB
      เปิดดู:
      155
    • t_119625118.jpg
      t_119625118.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.5 KB
      เปิดดู:
      638
    • SAM_4855.JPG
      SAM_4855.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      104
    • SAM_4859.JPG
      SAM_4859.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      93
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
    เชิญร่วมทำบุญบูชา นัยน์ตามหาเทพพ่อยกให้บล๊อคปาฏิหาริย์(ดวงเนตรพระสยม)

    ตานี้คือการเบิกพระเนตร เบิกแล้ว เปิดแล้ว ไม่ปิดลง

    พ่ออาจารย์ท่านพูดถึงความสำคัญของดวงเนตรนี้ไว้ว่าสำคัญนัก ครูเทพ ครูพระท่านบอกกับเรา พอจะจำแนกบอกสืบต่อไปถึงพวกเจ้าได้ ดังนี้
    - ปกตินั้นตาเป็นสัญลักษณ์ของการมองเห็น เป็นเครื่องรู้ เช่นเดียวกันกับนัยน์ตามหาเทพนี้ หากเบิกขึ้นแล้ว ผู้ครอบครองไว้จะไม่เดินทางผิด สิ่งที่ไม่เห็น ไม่รู้ ไม่เคยประสบพบเจอ นับจากนี้ไปก็จะได้เห็นได้ทราบเฉพาะตัวของตนเอง
    - ตาเป็นสัญลักษณ์ของการเห็น การรู้แจ้ง เป็นสัญลักษณ์ของปัญญาอันยิ่ง ท่านว่าดวงนัยน์ตานี้ดีนัก ให้เอาไว้กับตัวสมองจะปลอดโปร่ง ความคิดจะแจ่มใสขึ้น จะคิดอ่านทำสิ่งใดย่อมเกิดตัวรู้ ตัวปัญญาเด่นชัด ไม่ขุ่นเคือง
    - แม้ในพระพุทธศาสนา สมเด็จพระสุคตบรมครูท่านก็ได้แสดงธรรมไว้อย่างชัดเจนแล้วถึงความสำคัญของการมองเห็น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา สิ่งนี้นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเราถือเป็นเคล็ด สำหรับคนที่ยังมืดบอดอยู่ ยังไม่รู้จักคำว่ามี เพราะเรายัดหัวใจพระธรรมจักรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลงไปด้วย สิ่งใดที่ปรารถนาจะมี ยังไม่เกิด ยังไม่มี นับจากนี้ให้เกิดมีตามที่เรานี้สาปสรรค์เอาไว้
    - นัยน์ตานั้น คำนี้สื่อถึงความหมายยิ่งใหญ่ ประดุจสิ่งรัก สิ่งที่มีค่าสูงสุดของเจ้าของ ดั่งที่คำโบราณท่านเปรียบเปรยว่าแก้วตาดวงใจ นัยน์ตานี้ก็คือแก้วตาสื่อถึงความรักหวงแหนสูงสุด เป็นอิทธิคุณแฝดทางด้านมหานิยม มหาเสน่ใหญ่อย่างที่สุด ถ้ารักใครชอบใครนั้น ต่อไปไม่ใช่เรื่องยาก ดุจเราได้ครองของสำคัญคือแก้วตาดวงใจของเค้าไว้แล้วนั่นเอง ให้ตั้งจิตนึกเอาว่าเรากุมแก้วตาดวงใจของเขาไว้ อยู่ในตัวเราเขาอยู่ในอุ้งมือเราแล้ว จะใช้ทางเสน่ห์เล่กลใดก็สุดแต่ใจเถิด
    - เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจการทำลายล้างสูงสุดในจักรวาล พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ในเหล่ามาร อสุรกาย เทพเจ้า และพระเป็นเจ้าด้วยกัน ก็ยังเกรงอำนาจการทำลายล้างอันเป็นปรมัตถ์นี้ เพราะเป็นการทำลายขั้นสูงสุด พกไว้กับตัวเป็นมหาเดช มหาอำนาจเหนือสิ่งอื่นใด เป็นที่เคารพและเกรงกลัว จนเข้าต้องรีบเข้าหาเรามาประจบเอาใจเราเช่นนั้น

    นัยน์ตามหาเทพ(ดวงเนตรพระสยม)นั้น พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่ในข่ายเรียกว่ามหาสัญลักษณ์ เป็นสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเป็นเจ้าสูงสุด ท่านว่าวิชานี้สำคัญนัก โดยปกตินั้นดวงตาคือสิ่งที่ใครๆผู้ใดก็ย่อมมี แต่ตาที่สามอันจะปรากฏระหว่างพระนลาฎนั้น แม้ในหมู่เทพยดาผู้ทรงมเหศรศักดิ์ทั้งหลายก็ยังไม่ค่อยจะปรากฏมี

    สัญลักษณ์ตาที่สามนั้นจะเห็นมีในเทพเจ้าชั้นผู้ใหญ่จริงๆเท่านั้น ที่ล่วงเข้าถึงและเป็นตัวแทนอำนาจของมหาจักรวาล และบางปางของพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และเหล่าโพธิสัตว์มหายานทั้งหลาย จะไม่ได้มีปรากฏในเทพเจ้าสามัญทั่วไป ซึ่งตาที่สามอันปรากฏนี้ เป็นสัญลักษณ์ของการหยั่งรู้ คือรู้กาลอดีต รู้กาลปัจจุบัน และหยั่งรู้ในอนาคตกาล บูชาไว้เปิดญาณทัศนะของตนจะดีมาก

    แต่ถึงกระนั้นก็ดี หากประมวลสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์(พระเนตรที่สาม)อันเกิดแต่พระนลาฏของเทพเจ้าผู้ทรงมเหศักดิ์แล้ว ก็หามีดวงพระเนตรใดอันจะเป็นที่เกรงกลัวและเชื่อได้ว่ามีอานุภาพร้ายกาจสูงสุด เท่ากับดวงนัยน์เนตรขององค์พระสยม(ศิวะเทพ) ด้วยดวงเนตรนี้หาได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความรู้แจ้งเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังการทำลายล้างสูงสุดอันเกิดมีมาแต่เดิมในฐานะพระผู้เป็นเจ้าอีกด้วย เหนือกว่าและมากกว่าเทพอาวุธอันทรงอานุภาพทั้งหลายของเทพเจ้านั้น ซึ่งอาจเกิดมีขึ้นได้ด้วยอำนาจการสร้างสรรค์ของพระองค์เอง เมื่อเทียบกับอำนาจการทำลายล้างของดวงเนตรแล้วจึงเห็นได้ว่าต่างกันมาก ที่เหล่าเทพเจ้านั้นเกรงกลัวและเคารพองค์พระศิวะเทพเป็นที่สุดนั้นก็เพราะกลัวอำนาจการทำลายล้างของดวงเนตรนี้ แม้พระองค์มีพระประสงค์จะทำลายมหาจักรวาลให้ถึงกาลพินาศย่อยยับไป ก็จะเกิดเพลิงประลัยกัลป์ขึ้นมาจากพระเนตรที่สามนี้ เผาผลาญห้องมหาจักรวาลให้พังพินาศไป

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าดวงพระเนตรนี้ ถ้าจะสร้างเป็นเพียงสัญลักษณ์ดวงตานั้น ย่อมกระทำได้ง่ายนัก แต่ถ้าจะทำเป็นดวงตาของพระศิวะเจ้าแล้วนั่นคือสิ่งที่สร้างได้ยากที่สุด เพราะมีอานุภาพรุนแรงนักแม้สัญลักษณ์ดวงเนตรพระสยมปรากฏขึ้นที่ใด เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายย่อมกลัวเกรงในอาญาสิทธิ์นี้ของพระเป็นเจ้า จึงอาจจะกล่าวได้ว่าบุคคลที่ได้ครอบครองไว้ สามารถปราบและข่มเขาได้ทั้งโลก วิชานี้ถือว่าเป็นมหาปราบอย่างที่สุดอีกสายหนึ่งทีเดียว

    พ่ออาจารย์ท่านเล่าถึงขั้นตอนการสร้างให้ฟังว่า เมื่อเราจะสร้างขึ้นนั้นก็ได้บอกกล่าวครูพระสยมท่านที่เราเรียกว่าพ่อ บอกแล้วนะว่าจะหล่อด้วยธาตุกายสิทธิ์ เมื่อทำแล้ว ท่านใก้เราแกะพิมพ์ใหม่ เป็นอันว่าของเก่าต้องยกเลิกไปใช้ไม่ได้เลย เพราะท่านไม่เอาตาเปล่าๆท่านให้ใส่รูปท่านไว้ในดวงตาด้วย โดยย้ำกับเราว่าให้แกะรูปท่านนั่งประทานพร และอีกมือหนึ่งก็แบลงประทานอภัยให้แก่ทุกสรรพสิ่ง ตรงนี้สำคัญนักนะเจ้าทั้งหลาย เราถึงกล่าวว่าความเอื้ออารีย์และมหากรุณานี้ไม่ใช่สิ่งอันจะปรากฏมีในเทวะองค์ใดที่จะมีกับเหล่าศิษย์เท่ากับพระศิวะเจ้า หัตถ์หนึ่งพ่อยกให้ ให้พรในสิ่งที่ลูกขอมา หัตถ์หนึ่งแปรลงไว้ ประทานอภัยในสิ่งที่เจ้าผิดพลาดล่วงเกินพ่อมา เราก็แกะบล๊อคตามที่ท่านบอก เธอรู้มั๊ย ไปคิดกันเอาเองนะว่าดีแค่ไหนที่เครื่องมงคลนี้สื่ออะไร สื่อถึงน้ำพระทัยลึกๆที่พระองค์ท่านมีกับลูกๆและเหล่าศิษย์นั่นเอง ครูนึกถึงเจ้าแล้ว พ่อนึกถึงเจ้าแล้ว แล้วลูกเล่าจะสนองตอบเช่นไร น้ำใจตรงนี้สำคัญนัก

    ไม่หมดเพียงเท่านั้น มันมีเกร็ดแทรกอยู่อีกส่วนหนึ่ง เห็นว่าควรกล่าวไว้ทีเดียว เมื่อพ่ออาจารย์ท่านแกะเสร็จและนำมาหล่อนั้น ท่านเห็นถึงความผิดปกติอันเกิดขึ้นในองค์พระ เป็นเหมือนกันทุกองค์ นั่นคือรอบๆองค์พระศิวะนั้นเกิดลายน้ำขึ้นอย่างประหลาดเหมือนใครตั้งใจแกะลงไปเช่นนั้นพอหล่ออกมาก็ติดสวยงามเป็นอัศจรรย์ดียิ่งนัก พ่ออาจารย์จึงตั้งใจถามพระองค์ท่านว่าทำไมเป็นแบบนี้ ท่านอธิบายไว้ ตามที่จะเอาจากพ่ออาจารย์ท่านมาตอบได้ความดังนี้ ที่เห็นเหมือนลายน้ำเป็นลักษณะไหลวนอยู่ในลูกนัยน์ตาล้อมรอบตัวท่านนั้น ก็คือพระแม่คงคานั่นเอง มันสื่อถึงการเคลื่อนไหว ไหลวกวนเข้าออกอยู่เช่นนั้น เหมือนจะบอกเจ้าว่าพ่อนี้มีชีวิต สัญลักษณ์นี้มีชีวิตมีการเคลื่อนไหวอยู่ภายใน พระคงคาอันไหลวนมาแต่มวยผมท่านล้อมรอบอยู่บริเวณนัยน์ตานั้น ประดุจหนึ่งน้ำตา น้ำตาของพระศิวะ น้ำตาที่หล่อเลี้ยงและหลั่งออกมาจากมหากรุณา ท่านว่าคำๆเดียว เพราะคำว่าพ่อ ปิตา คำนี้ ที่อินเดียจะมีการนับถือลูกไม้นำมาทำลูกประคำเรียกว่าเมล็ดน้ำตาพระศิวะ ซึ่่งของแท้อันได้มาตรฐานและเป็นสัญลักษณ์มงคลจริงๆนั้นจะหายากและมีสนนราคาที่สูงมาก พ่ออาจารย์ท่านว่ายังสู้สิ่งนี้ไม่ได้เลย ไม่ต้องไปหาเมล็ดน้ำตาพระศิวะที่ไหน ของจริงอยู่ในนี้ ท่านทำให้เกิดของท่านเอง มีอานุภาพใช้ใจสื่อใจ ถึงใจได้เป็นที่สุด

    ด้านหลังนั้นจะฝังตะกรุดภูติพระสยมไว้ จะเรียกว่าภูติพระเจ้าก็ได้ ซึ่งอักขระวิชานี้จะเป็นวิชาเฉพาะสายที่ท่านมีนิมิตรให้เราโดยตรงโดยจะประกอบอักขระขึ้น เมื่อลงจารเสร็จจะมีลักษณะเหมือนหน้าพระศิวะเจ้าแต่ความจริงเป็นการเดินพระยันต์ ถามว่าดีอย่างไรก็บอกว่าดีทุกอย่าง เอาไปใช้ไปขอเถอะ ดีแน่ ที่ท่านเรียกว่าตะกรุดภูติพระสยมนี้ เพราะมีสาเหตุอีกประการหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านฝังตะกรุดนี้ให้มีส่วนที่โผล่พ้นขึ้นมามากหน่อยเพื่อง่ายต่อการทำพิธีนั้น เมื่อได้ไปแล้ว ท่านให้ตัดปลายเส้นผมของตัวเองมาส่วนหนึ่ง นำไปใส่ไว้ในตะกรุดถภูติพระสยมนี้ก่อนจะหาเทียนขี้ผึ้งมาอุดเอาไว้ทั้งบนและล่างไม่ให้ล่วงหล่น เพียงแค่ตะกรุดนี้กว่าจะมีฤกษ์ลงได้เสกก็ยากเหลือใจนัก เอาไปทำกันให้ดีๆ

    ท่านว่าผมนั้นคือสิ่งที่อยู่สูงสุดในร่างกายเรา วิชานี้คือภูติพระสยม เมื่อเราตัดผมของเราไปอุดอยู่ในตะกรุดแล้ว ให้ตั้งจิตให้ดีตอนตัด คิดว่าตัดทุกข์ตัดโศก ตัดปัญหาทั้งหลายในชีวิตเอาไปฝากไว้กับท่าน ถือเคล็ดฝากกายเราไว้ในดวงพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของท่านเหมือนเราเปลี่ยนชีวิตตนเองขึ้นใหม่ เป็นลูกของพ่อแล้ว เอาชีวิตมาฝากไว้กับพ่อแล้ว อุดแล้วไม่ต้องเอาออกบูชาทั้งแบบนั้นเลย เป็นเคล็ดที่ว่าเราพ่อลูกอยู่ด้วยกัน เป็นหนึ่งเดียวกันนับจากนี้ไปจะช่วยเหลือร่วมแรงร่วมใจไม่แยกจากกัน ท่านว่าบอกมากกว่านี้ไม่ได้ วิชาบางอย่างเอาไปใช้เองเข้าถึงเอง รู้เห็นเองนั่นแหละ ป้อนให้ทุกอย่างไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าดวงเนตรนี้ดีทุกอย่างเกิดจากธาตุกายสิทธิ์ แล้วแต่เราจะใช้ เป็นเสน่ห์ก็ได้ เสริมตัวปัญญาก็ได้ เป็นมหาปราบมหาอำนาจก็ได้ ข่มเขาก็ได้ เอาไปใช้ชีวิตทำการงานประกอบธุรกิจ อธิษฐานขอพรใดๆก็ได้ ขึ้นชื่อว่าเราเป็นลูกพ่อแล้ว ลูกขอพ่อต้องให้ ก็บอกอยู่ว่าพ่อยกให้แล้ว พ่ออภัยแล้ว คิดกันไม่ได้ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร

    คาถาบูชา
    โอม นะมัส ศิวาย(ท่านว่าสั้นๆพอเอาไว้ท่องให้เกิดสมาธิ จะได้ง่ายเวลาขอหรืออธิษฐานอะไร ยาวมากไป สมาธิเกิดยากเสียเปล่า)

    * นัยน์ตามหาเทพพ่อยกให้นี้ พ่ออาจารย์หล่อไว้ทั้งหมด 16 องค์ มีให้บูชาไปบ้างแล้ว ท่านว่าถ้าใครมีสายสัมพันธ์พ่อลูก มีบุญสัมพันธ์กับพระองค์ท่าน มันจะเกิดตัวรู้ เกิดความรักและเคารพในใจค่อยมารับไปบูชา รับจองบูชาทางPM เท่านั้น รายได้ท่านจะมอบให้การกุศลอันจะนำไปสร้างวิหารทานในถิ่นทุรกันดารต่อไป

    เชิญร่วมทำบุญบูชา นัยน์ตามหาเทพพ่อยกให้บล๊อคปาฏิหาริย์(ดวงเนตรพระสยม) บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • lord-shiva-30a.jpg
      lord-shiva-30a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.2 KB
      เปิดดู:
      129
    • SAM_48691.jpg
      SAM_48691.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      156
    • SAM_48701.jpg
      SAM_48701.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.3 MB
      เปิดดู:
      88
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเจริญลาภมหาบารมีนิโรธ(ตัวครู)

    เจริญลาภ ตะกรุดนี้เป็นวิชาเฉพาะทางโภคสมบัติซึ่งให้ผลตรงตัว พ่ออาจารย์กล่าวว่าวิชานี้นั้น เป็นวิชาทางมหากำเนิด แต่เป็นการเกิดขึ้นของโชคลาภ ทรัพย์สมบัติ จากศูนย์ จากไม่มี ก็จะเกิดขึ้นจนผู้ครอบครองมั่นคงไม่รู้จักตกต่ำ สิ่งที่มีอยู่แล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มพูนต่อไปเรื่อยๆ แม้เอาไว้กับตัวก็ดึงดูดโชคลาภเข้ามาหาตัวไม่รู้จักเสื่อมถอย แม้ติดไว้กับเรือนสถานี่ทำงานก็จะรุ่งโรจน์มีแต่เร่งให้ดวงเปิด รับทรัพย์เป็นเอนกอนันต์

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ ทำยากทีแรก ท่านเพียงจะลงตะกรุดเจริญลาภนี้เท่านั้น แต่ครูบาอาจารย์ท่านว่ามันดีแต่ก็ยังไม่สุด ท่านได้มีนิมิตรเห็นหลวงพ่อฤาษีลิงดำ กับหลวงพ่อปาน มาหาท่าน บอกว่าให้ลงวิชาพระเจ้านวโกฏิล้อมไปด้วย จะได้ดึงเอาบารมีของมหาเศรษฐีแห่งพุทธกาลทั้ง 9 ท่าน มาไว้กับตัวคนใช้

    ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเห็นเมตตาครูบาอาจารย์ตรงจุดนี้ ท่านเลยลงตะกรุดเจริญลาภไว้เป็นฐาน ก่อนที่จะลงยันต์เบิกทางรับขุมทรัพย์ทั้ง 8 ทิศ อันได้แก่มหาทิศทั้ง 4 และอีก 4 ทิศย่อย ท่านว่าแม้ตัวผู้ใช้อยู่จุุดในในโลก ในทิศทั้ง 8 นี้ เขาก็เป็นดุจแกนกลางที่โชคลาภ ความเจริญมั่งคั่งจะวิ่งเข้ามาหา ดูดทุกอย่างมาไว้กับตัวเขา ไม่หนีไปที่อื่น ไม่วิ่งไปทางอื่น ไม่ตกไปสู่คนอื่น

    ตะกรุดนี้นั้น แม้ใครที่ติดผลกรรมทำอะไรไม่เจริญก็ใช้ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องกลัวเงียบ และควรจะอาราธนาอย่างยิ่ง ท่านว่าเพราะเสด็จพระใหญ่ท่านแนะนำให้เราเพิ่มวิชาเข้าไปอีกสองส่วนให้เหมาะสมกับชะตาของสรรพชีวิตอันได้รับทุกข์ขุกเข็ญจากกระแสของโลกในปัจจุบันนี้ สองส่วนนั้นก็คือ
    - วิชาระงับสงสาร
    - วิชาหนีสงสาร
    สองวิชานี้ก็ตรงตามชื่อคือจะเข้าไปหยุด ไม่ใช่ทำให้เวรกรรมเก่าหายไปเลย หากแต่เพียงระงับไว้ หยุดไว้ ปรามไว้ซึ่งอำนาจอกุศลกรรมที่เจ้าตัวเคยก่อไม่ให้ส่งผล นี่คือให้โอกาศเร่งสร้างกรรมอันเป็นกุศลขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงแค่ระงับไว้เท่านั้นยังหนีอกุศลกรรมนั้น ไม่ให้ตามติดตัวเพื่อจะแสดงผลได้ทันด้วย

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าสองอย่างนี้สำหรับคนที่ทุกข์ขุกเข็ญ เสวยผลแห่งทุกขเวทนาอยู่หาความสุขในลาภและทรัพย์สมบัติไม่เจอ สองวิชานี้นั้น เพียงพอ และเกินพอ ที่จะนำชีวิตของเขาออกจากห่วงแห่งทุกข์ได้ หากแต่ว่าออกแล้วต้องประกอบกุศลกรรมมาชดเชยกัน มิเช่นนั้นชาติหนี้า ไม่ได้เกิดมาพบเจอวิชานี้ก็จะต้องรับกรรมเก่าต่อไป

    ท่านว่าวิชานี้เปิดหมด เปิดทิศทั้ง 8 ระงับและหนีทุกข์เข็ญ ที่สำคัญท่านยังล้อมยันต์ด้วยวิชาพระเจ้านวโกฏิ เพื่อดึงบารมีมหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่านแห่งพุทธกาลมาสู่จุดศูนย์กลางให้เกื้อหนุนผู้บูชาโดยตรง มหาเศรษฐีทั้ง 9 นั้นได้ชื่อว่าเป็นพระอริยบุคคลอันจะไม่ตกต่ำลงอีก ด้วยบุญของทั้ง 9 ท่านค้ำจุนเราอยู่จึงเหมือนดั่งคำสาปปกาศิตที่ชีวิตเราจะตกต่ำนั้นหามิได้ จะได้ลืมตาอ้าปากสมหวังในการประกอบกิจเป็นเกียรติยศอยู่ในวงการอาชีพของตนเอง

    เมื่อท่านลงอักขระเสร็จแล้วท่านได้นำมาปลุกเสกยันต์ต่างให้มีชีวิต และอธิษฐานจิตลงไปจนบอกว่าเต็มดีแล้ว ไม่รู้จะใส่อะไรเพิ่ม ก่อนที่จะอัญเชิญเสด็จพระใหญ่ ครูพระปัจเจกดพธิเจ้า สมเด็จบรมครู และหลวงพ่อปานตลอดจนหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้ท่านมารับรู้และช่วยกำกับเพิ่มเติม

    ตะกรุดนี้นั้นพ่ออาจารย์ท่านเอาเข้าพิธีอธิษฐานตลอดพรรษาที่ผ่านมา และได้รับคำแนะนำจากเสด็จพระใหญ่(องค์ปฐมโพธิญาณ)ว่าในพรรษานี้ท่านจะเข้านิโรธสมาบัติ ถ้าจะให้เป็นเอกลาภ เป็นตะกรุดเจริญลาภดั่งที่ท่านหมายใจไว้ ก็ให้ยกตะกรุดนี้ไปให้ท่านที่นิพพานทุกวัน ท่านจะทำให้เป็นตะกรุดทิพย์ มีฤทธิ์ของการอธิษฐานจิตนิโรธกรรม เป็นเอกด้านโภคทรัพย์สมบัติ ความเจริญรุ่งเรือง แม้ผู้ใช้ปรารถนาสิ่งใดก็ย่อมได้ลุแก่ใจปรารถนาด้วยบารมีของนิโรธสมาบัตินี้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็เพียรยกถวายในทุกๆวันไม่ให้ขาด บารมีของนิโรธสมาบัตินั้นกล่าวกันว่าแม้ใครได้พบได้ถวายทานได้ตักบาตรกับพระผู้ทรงคุณอันออกจากนิโรธแล้วกุศลย่อมเสริมส่ง แม้ยาจกก็ได้เป็นพระราชาในวันเวลานั้นทีเดียว

    เมื่อจบพิธีนิโรธท่านตรวจดูพลังแล้วท่านว่าต่างจากตอนที่ท่านเสกไว้แต่แรกมากนัก เพราะสำเร็จด้วยวิชาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม ตะกรุดนี้มีพลังที่เย็นยะเยือกมากนัก ท่านจึงลองเอามาอธิษฐานจิตหนุนธาตุไฟขึ้นมาแม้ธาตุไฟยังไม่สามารถส่งผ่านพลังงานได้ ท่านว่าตะกรุดนี้ดุจกลับว่าใครที่มีความร้อนรนอาจจะเป็นด้วยจริตเป็นคนใจร้อน มุทะลุดุดัน หากเขาได้พกไว้จะสลายเปลี่ยนเป็นความเย็นมาเกาะกุมแทน ทำให้เขานิ่งขึ้น สงบขึ้น มีสมาธิมากขึ้น

    เมื่ออธิษฐานจิตเสร็จแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ ครูท่านสั่งไว้นักหนาว่าเป็นของเฉพาะคน ท่านอธิษฐานจิตไว้เรียงดอกเรียงตัวแล้ว ถ้าไม่ใช่เจ้าของก็ไม่มีบุญที่จะได้พบ แม้ชื่อก็จะไม่ได้ยิน ถึงได้ยินก็จะหาความสนใจมิได้ด้วยวาสนานั้นปัดไปไม่ให้เข้ากัน จะมีผู้ที่รู้ค่า คู่ควรเท่านั้นถึงจะเชิญไปประดิษฐานเพื่อการณ์อันจะสำเร็จประโยชน์สมดั่งคำว่าเจริญลาภ เค้าผู้นั้นจะเจริญและเจริญยิ่งๆขึ้นไป

    คาถาบูชา
    นะโม สิทธิเชยยะ ลาภะพันทัง พรหมานัง เทวานัง ราชานัง สมณานัง ปุริสานัง อิตถีนัง บัณฑิตานัง ปิยังมะมะ โอมเทิบเทิบ มหาเทิบเทิบ สารพัดเทิบเทิบ สวาหะ (แม้ปรารถนาสิ่งใด...(นึกสิ่งที่ตนปรารถนา)ก็หามาให้แก่กู)

    ตะกรุดเจริญลาภมหาบารมีนิโรธ(ตัวครู)ท่านว่าไม่ให้อธิบายมาก เพราะถ้าต้องจำแนกแจกแจงอย่างละเอียด แค่อัญเชิญบารมีมหาเศรษฐีแห่งพุทธกาลทั้ง 9 ท่านมาสงเคราะห์ผู้บูชาก็เป็นสิ่งที่ประเสริฐสุดแล้ว เพราะยันต์นี้จัดวางแบบค่ายกล ถ้าจะให้พูดอธิบายนั้นสามคืนก็ไม่จบ ด้วยบารมีครูอาจารย์แต่ละพระองค์นั้นถือเป็นยอดยิ่งในมหาจักรวาลแม้แต่ตัวท่านเองยังบอกว่าจารยาก เพราะบีบยันต์ให้มีขนาดเล็กที่สุด คนใช้เขาจะได้บูชาถนัดตัวพกไว้ไม่รู้สึกรำคาญ

    ท่านว่าสร้างไว้ทั้งหมด 16 ดอก ใครมีบุญและชะตาต้องกันกับวิชานี้ก็ให้มารับไป ให้เจริญลาภ เจริญในสิ่งที่กระทำและมุ่งมาตรปรารถนา จะล้มลุกคลุกคลานนั้นมิได้ รายได้ทั้งหมดท่านว่าเป็นมติของครูให้นำไปจัดหาบาตรถวายพระที่อุปสมบทใหม่และอยู่ไกลตามชนบทต่อไป ท่านว่าอานิสงค์ของการถวายบาตรพระนี้มีกินมีใช้ไม่รู้จักหมด ถือว่าช่วยทำบุญหนุนผู้บูชาไปอีกประการหนึ่ง รับสั่งจองทาง PM เท่านั้น

    ร่วมอนุโมทนาทำบุญบูชา ตะกรุดเจริญลาภมหาบารมีนิโรธ(ตัวครู) ดอกละ 3,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • newchin9.jpg
      newchin9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45 KB
      เปิดดู:
      167
    • imagesCACMX3I7.jpg
      imagesCACMX3I7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.3 KB
      เปิดดู:
      73
    • SAM_4875.JPG
      SAM_4875.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      117
    • SAM_4876.JPG
      SAM_4876.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      71
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พญาพาลีอินทรสังกาศ (พระผงแหวกม่าน กลืนสวาท)

    หนึ่งในวิชาและพระเวทย์ฝ่ายไศวะโบราณที่มีอิทธิคุณแปลกประหลาด สามารถดลบันดาลให้ผู้ครอบครองชนะไร้พ่าย ทำอะไรก็สำเร็จ แต่ทว่าครูบาอาจารย์นั้นเกรงกลัวว่าคุณสมบัติแท้จริงของวิชานี้น่ากลัวเกินไป จึงปิดบังอำพราง ไม่สร้างไปเลยก็มี ถ้าสร้างก็มักจะไม่ทำเต็มวิชา ด้วยเกรงว่าจะก่อภัยอันตรายให้กับศิษย์ทั้งหลายที่ได้ใจครอบครอง

    แต่เดิมนั้น พ่ออาจารย์ท่านมีดำริมาก่อนแล้วว่าจะสร้างพระผงแหวกม่านขึ้นมาซักรุ่น เพราะพุทธคุณของพระพิมพ์นี้จะดีทางฝ่าฟันอุปสรรค ทำอะไรก็สำเร็จโดยง่ายพบโชลลาภไว ศัตรู หรืออริไม่ติดตามจองเวร แต่ท่านก็มาพิจารณาว่าถ้าเราจะทำเป็นพิมพ์พระพุทธแบบสมัยนิยมนั้น มันก็ดีอยู่แต่จะไม่ไวเท่าไหร่ พระพิมพ์แหวกม่านนั้นต้องช่วยได้ ใช้ได้จริง และต้องแก้ปัญหาได้รวดเร็วดังนั้นจึงต้องทำรูปอื่น

    จนกระทั่งท่านได้หล่อรูปกากาศ หรือพญาพาลีอินทรสังกาศขึ้นมา เพื่อจะสืบทอดเวทย์ฝ่ายไศวะโบราณที่ขาดการสืบต่อไป ท่านว่าเห็นควรเสียที่ ที่จะนำไปประดิษฐานในซุ้มม่านนั้น ด้วยพาลีนั้นชาติพันธุ์เป็นลิงแต่หน่อเนื้อเชื้อวงศ์เป็นอินทรวงศ์ เป็นลิงมีศักดิ์สูงเป็นลูกเจ้าสวรรค์ต่างกับบรรดาลิงทั้งหลายไม่ว่าจะสุครีพ นิลพัตร หรือหนุมาน ซ้ำยังมีฤทธิ์เลิศเป็นเอกอีกด้วย ถึงขนาดพ่ออาจารย์กล่าวไว้ว่า พาลีถ้าไม่ตายเสียก่อน ในรามเกียรติ์นั้นพระรามไม่ได้เกิดแน่นอน เพราะใครก็ฆ่าพาลีไม่ได้ ใครสู้ก็แพ้พาลี ขนาดเจ้าทศกัณฐ์ที่พระรามตามล่าทำสงครามจนเรื่องกินระยะเวลายาวนานนั้น เจอพาลีเข้าก็หมดแรง รบกี่ทีก็แพ้ แถมยังโดนพาลีจับไปกระทำการทรมานทรกรรมให้กินข้าวเหลือของนางกำนัลแล้วให้องคตลูกชายเอาทศกัณฐ์ไปลากเล่น(เหมือนจูงหมาเดินเล่น)ไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยง หยามเกียรติอสูรวงศ์พรหมถึงปานนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าที่จริงนั้นถ้าว่ากันด้วยฤทธิ์พระรามก็ยังฆ่าพาลีไม่ตาย พาลีตายด้วยมือของตนเอง แม้แต่พระรามแผลงศร ศรพระรามที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดศาสตราวุธฝ่ายเทพ แผลงที่ไรได้เรื่องทุกที พาลีก็ยังคว้าจับมาเล่นได้ไม่ได้สะทกสะท้านในฤทธิ์อำนาจใดๆเลย แต่เพราะระลึกถึงคำสาบานแต่หนหลังได้ว่าตนเองนั้นแย่งเมียน้องคือสุครีพ และเคยถวายสัตย์ต่อพระนารายณ์ไว้ว่าถ้าแย่ง จะให้ศรพระนารายณ์ล้างชีวิต พระรามนั้นอาลัยในตัวพาลีมากนัก เพราะในประวัติศาสตร์ไม่เคยปรากฏมีผู้ใดที่จะมีฤทธิ์แกล้วกล้าเฉกเช่นพญาวานรผู้นี้ พระรามจึงอยากได้พาลีมาทำราชการกับพระองค์ ได้เอ่ยขอเพียงเลือดของพาลีเสียครึ่งหยดมาล้างคำสัตย์ที่สาปสรรค์ไว้ถึงชีวิตให้แก่ศรพระเป็นเจ้า แต่พาลีก็หายอมไม่เพราะต้องการรักษาคำสัตย์นั้น จึงใช้ศรของพระรามทำการปลิดชีพตัวเอง เมื่อตายไปก็ได้เกิดเป็นเทพเจ้ากลับมาทำลายพิธีบูชาหอกของทศกัณฐ์ที่ทำให้อินทร์พรหมยมยักษ์ทั้งสวรรค์เดือดร้อนอีกครั้งนั่นเอง

    พาลีนั้นพ่ออาจารย์บอกว่ามีความสามารถที่ไม่เหมือนใคร ในชั้นฤทธิ์นั้นถ้าเปรียบกับชั้นหลานอย่างหนุมานแล้ว ระดับเจ้าผู้ครองนครขีดขินก็มีความสามารถแต่เดิมอยู่แล้วไม่เป็นรองกันแต่อย่างใด เพราะสืบสายเลือดศักดิ์สิทธิ์เป็นบุตรพระอินทร์เจ้าสวรรค์นั่นเอง แต่สิ่งหนึ่งซึ่งรู้กันไปทั่ว ว่าเป็นความสามารถที่ขี้โกงที่สุดในสามโลก ทำให้กากาศนั้นเก่งเกินกว่าเก่ง เก่งจนแม้แต่พระเป็นเจ้าก็ยังไม่สามารถต่อกรให้มีชัยชนะได้ นั่นคือพรของพระศิวะเจ้าที่ให้กับพาลี กล่วคือ เวลาสู้กับใครให้กำลังอีกฝ่ายนั้นลดลงเสียครึ่งหนึ่งแล้วกลับมาเพิ่มเป็นกำลังให้พาลี เพราะเช่นนี้พาลีเมื่อสู้กับใครจึงมีฤทธิ์เพิ่มอีกมหาศาล ยิ่งศัตรูเก่งแค่ไหน พาลีก็ยิ่งเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดด ซ้ำพระศิวะเป็นเจ้ายังมอบพระขรรค์เพชรของพระองค์ให้เป็นเทพศาสตราคู่กายอีกด้วยในฐานะที่พาลีและสุครีพทั้งสองพี่น้องช่วยกันยกเขาไกรลาสให้ตั้งตรงได้ตามเดิม

    หากจะกล่าวถึงความเจ้าชู้แล้ว กากาศนั้น เหนือเสียยิ่งกว่าที่เรียกว่าเจ้าชู้ยักษ์อีกหลายขุม เพราะสนมกำนัลนั้นเต็มวังสนุกปานวิมานของบิดาคือพระอินทร์ก็ไม่ปาน แถมไม่พอใจใครก็ไปช่วงชิงเมียเค้ามาได้ดื้อๆไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น เช่นนางมณโฑของทศกัณฐ์ ที่มีลูกกับพาลีเป็นองคต ด้วยทศกัณฐ์นั้นได้รางวัลพระเป็นเจ้าประทานนางมณโฑให้ ยังไม่ทันที่จะได้เชยชมเผลอเหาะข้ามเมืองของพาลี กากาศนั้นพิโรธสุดกำลังกล่าวหาว่าทศกัณฐ์หยามเกียรติกล้าบินข้ามศรีษะตน จึงสั่งสอนต่อรบด้วย เอาทศกัณฐ์มาทรมานและเอาเมียพระราชทานนั้นมาเป็นเมียตนเอง แม้แต่นางดาราที่พระศิวะเจ้าโปรดประทานให้น้องชายคือสุครีพก็ยังตกเป็นของพาลี เรียกว่าถ้าใจรักผู้ใดไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมหน้าไหนทั้งนั้น เพราะใครก็สู้ด้วยไม่ได้ รบไปก็แพ้เปล่าๆ

    พ่ออาจารย์ท่านจึงใช้ธาตุกายสิทธิ์ทั้ง เหล็กไหลขาว เหล็กนิพพาน วัชรธาตุ หยาดน้ำฟ้า ปรอทป่า หล่อรูปกากาศ(พญาพาลีอินทรสังกาศ)ขึ้นมา โดยท่านแกะพิมพ์ให้ดูกันง่ายๆ มือหนึ่งนั้นกากาศได้เชิญวชิราวุธไว้เหนือระดับอก พ่ออาจารย์ท่านว่าจะได้รู้ว่านี่คือลูกพระอินทร์ เพราะวชิราวุธ(สายฟ้า)นั้นเป็นสัญลักษณ์ของพระอินทร์ เหมือนเอาพ่อมาไว้กับลูก พ่ออยู่กับลูกเป็นเคล็ดว่าทำอะไรก็เจริญขึ้นฝ่ายเดียวไม่เสียเปรียบตกต่ำ และที่เอามาทำเพราะจะได้เข้ากับซุ้มแหวกม่านด้วยส่วนหนึ่ง ด้วยวชิราวุธนั้นมีอำนาจทำลายล้างที่รุนแรงจะได้ฟาดฟันเคราะห์ร้าย ปัญหาและอุปสรรคให้หมดไปจากเส้นทางชีวิตคนที่ได้รับ ส่วนอีกมือหนึ่งนั้น เชิญพระขรรค์เพชรสุดยอดเทพศาสตราที่พระศิวะเจ้าประทานให้กากาศไว้ ไม่มีปรากฏว่าศึกไหนที่พญากากาศจะแพ้ถ้ามีอาวุธพระเป็นเจ้าอยู่ในมือ

    เมื่อหล่อเสร็จแล้วท่านได้นำมาลงจารหัวใจพญากากาศไว้ที่ด้านหลังทุกองค์ก่อนจะเรียกจิตตั้งรูปนาม และนำไปแช่น้ำทิพย์ที่เกิดเองตามธรรมชาติอันมีกำลังฝ่ายเวทย์สูงและปลุกเสกบนยอดดอยเพื่อจะให้มีกำลังธาตุที่เข้มข้นสำเร็จเป็นพาลีที่มีอานุภาพยิ่งใหญ่ สุดท้ายท่านก็ได้เชิญครูพระสยม(พระศิวะ)มามอบพรแก่พญาพาลีเพื่อให้มีฤทธิ์แกล้วกล้าเช่นในวรรณคดีจริงๆ แต่กลายเป็นท่านบอกพรแก่พาลีว่า ถ้าแม้เผชิญหน้าด้วยผู้หนึ่งผู้ใด ให้กำลังเขาถดถอยเสียครึ่งหนึ่งและมาทดแทนให้กับเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้ไม่มีสงครามแล้ว จะไปรบกับใคร เอาแบบนี้ดีกว่าใช้ได้หลายทางดี สุดแต่ใจจะคิดประดิษฐ์วิธีใช้กันเลย

    หลังจากนั้นท่านได้นำพิมพ์ซุ้มแหวกม่านกลักไม้ขีดมาผสมมวลสารผงวิชาพาลีรั้งทวีป และทำผงเอกคือวิชาพาลีลูบหลังนางแก้วดาราที่เรียกว่าเป็นเสน่ห์เจ้าชู้สุดๆอีกวิชาหนึ่ง ลูบหลังใครได้ร่วมรักหลับนอน ผสมกับผงวิชาลิงสายต่างๆ ซ้ำยังลงผง 18 มงกุฏ อันเป็นลิงเจ้ายอดทหารเอกของพระรามทั้ง 18 ตน และได้นำเศษไม้ เศษงาช้างตกทอดที่เหลือจากการแกะสลักหนุมานของหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน อันเป็นตำนานเครื่องรางในสายหนุมานมาบดเป็นผงผสมลงไปด้วย ท่านว่าหาหนุมานที่หลวงพ่อสุ่นทำไม่ได้ราคาแพงเกินเอื้อม เอานี่ไปใช้ฤทธิ์ท่านก็อยู่ในนี้ ไม่ต่างกัน

    ด้านหลังนั้น พ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดสามกษัตริย์ฝังไว้สามดอก คือเงิน ทองเหลือง และทองแดง โดยตะกรุดทั้งสามนี้ท่านว่าล้วนแต่เป็นวิชาที่สร้างได้ยากทั้งสิ้น
    ดอกแรกเนื้อเงิน คือหัวใจพาลีเต็มสูตร ท่านว่าต้องลงต้องเดินให้ครบเพื่อจะเสริมการตั้งจิตตั้งรูปพญาพาลี ซ้ำท่านยังเมตตาลงจารหัวใจวิชาพาลีลูบหลังนางแก้วดาราเสริมลงไปด้วย ท่านว่าจะได้ขานรับกับผงลบวิชานี้ส่งพลังถึงผู้บูชาได้แรงและไวยิ่งนัก
    ดอกที่สองเนื้องทองแดง ท่านลงยันต์ทศกัณฐ์ฆ่าไม่ตาย ท่านว่าตะกรุดนี้ตั้งตัวดี ใช้ได้หลายทาง ศัตรูที่ไหนจะฆ่าจะล้มเรา เราก็ไม่ตาย ยังลุกกลับมาสู้ใหม่ได้เสมอ ล้มไม่ได้ สู้ไม่ถอยแบบนั้น หรือจะเรียกว่าล้มแล้วลุก ปลุกแล้วฟื้นก็ได้ ยิ่งอุปสรรคเยอะ ยิ่งล้มบ่อยเท่าไหร่ก็จะยิ่งเก่งกาจ ยิ่งสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น
    ดอกที่สามเนื้อทองเหลือง ท่านลงวิชาหนุมานเอาไว้ หนุมานนี้เก่งทุกด้านทั้งบุ๋นและบู๊ ซ้ำยังเสริมกำลังด้วยวิชาสายธาตุหนุนด้วยธาตุลมเป็นเอก เอาพระพายเข้ามาใช้ เอาพ่อมาหนุนลูก ทำอะไรจะได้สำเร็จ จะได้ว่องไว เหมือนลมที่เข้าไปได้ทุกที่ อยู่ที่ไหนก็ไปถึง ไม่มีที่ไหนที่ปราศจากลม ท่านว่าของที่ทำด้วยธาตุลมนี่เสน่ห์ดีนัก ตะกรุดนี้ผู้ใดได้ใช้เวลาเราคิดถึงใครเค้าก็คิดถึงเรากลับ จะทำอะไรก็อธิษฐานฝากบอกพระพายบอกหนุมานไว้ก็ได้ เขาช่วยได้จะสำเร็จไวดั่งมหาวายุพัด

    พ่ออาจารย์กล่าวว่าเฉพาะวิชาพญาพาลีโดดๆนั้นก็มีฤทธิ์มากแล้ว แม้อยู่ต่อหน้าใครก็ลดทอนกำลังวาสนาบารมีเค้าเสียครึ่งหนึ่งมาเพิ่มให้ตนเอง แต่พระผงแหวกม่านนี้ยังได้เพิ่มทางสำเร็จ ชนะอุปสรรคด้วย สำเร็จไว ทำอะไรก็ไวดั่งพญาพาลีที่เปิดม่านปุ๊ปก็สุขสมใจปานนั้น จะเล่นทางเสน่ห์ก็ยอดเสียยิ่งกว่าพระขุนแผน จะเอาผงผีผงพรายมาเทียบนั้นไม่ได้เลย ผงวิชาลิงนี่แหละแรงกว่ามาก

    ท่านเมตตาฝากไว้ว่า ลิงอย่างไรก็คือลิงเห็นแบบนี้องค์ๆหนึ่งนั้นมีวิชาลิงอยู่สารพัดเลย เป็นลิงเจ้าทั้งนั้น ถ้าจะขออะไรอย่าลืมให้กล้วยท่านด้วย จะบนอะไรก็เอากล้วยซักหวีน้ำเปล่าซักแก้ว ผลหมากรากไม้ถวายบ้างตามกำลังแล้วแต่เหตุการณ์ที่เราจะบน ลิงนี่ทำอะไรก็สำเร็จไว ขออะไรเขาก็เต็มใจทำให้ พ่ออาจารย์ท่านยังพูดให้คิดว่าไวกว่าพิมพ์พระพิมพ์เทพเจ้าเสียอีก

    พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องไปแจกแจงอธิบายอะไรเขามากเอาแค่ครอบจักรวาลบอกไปแค่นั้น ลำพังเวลาทำอะไรเจอใครลดทอนกำลังเขาลงครึ่งหนึ่งเพิ่มให้ตนเองก็ใช้ได้ร้อยแปดพันประการแล้ว เวลาจะใช้ท่านว่าให้เลี่ยมห้อยคอก็ได้ พกที่เอวก็ได้ ทำพวงกุญแจก็ได้ ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ได้ แต่เลี้ยงก็หมั่นพูดคุยบอกกล่าวท่านหน่อย ของที่มีจิตมีญาณรู้สิงสู่แบบนี้ ยิ่งเราพูดยิ่งเราคุยกับเค้าท่านว่ามันยิ่งดีกับตัวเราเอง

    คาถาบูชา
    โอม หันตะนุภา อักขระนะ ยาลิ อิสวาสุ จะ อุอามะ
    ใช้ทางเสน่ห์ให้ว่า โอมจิตตัง มหาจิตตัง พาลีลูบหลังนางแก้วดารา สวาหะ

    วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้เพียง 16 องค์เท่ากำลังโสฬสมงคล ท่านใดต้องการบูชารับจองทาง PM เท่านั้น ซ้ำยังเป็นครั้งแรกที่ท่านทำเนื้อธาตุกายสิทธิ์มาฝังในเนื้อผงอีกด้วย รายได้ท่านจะนำไปสมทบทุนที่เอาไว้บูรณะวัดวาอารามในชนบทต่อไป

    อีกประการหนึ่งท่านว่าวิชานี้แท้จริงนั้นอันตราย ถ้าอยู่กับคนดีจะเจริญขึ้นสืบต่อไปในเบื้องหน้า แต่เราแค่ทำสืบวิชาไว้ จึงอธิษฐานจิตให้คนดี ให้ผู้มีบุญฝ่ายสัมมาทิฏฐิได้มาประสบพบเจอและได้ครอบครองเป็นเจ้าของไปแต่เพียงเท่านั้น ผู้ที่ใจคิดคดอย่าได้คิดอย่าได้เห็นเลย รายการนี้ท่านอธิษฐานจิตเสร็จแล้ว ท่านว่าเต็มแล้วแต่ก็จะเสกต่อให้ถึงจันทร์เพ็ญ ผู้บูชาให้แจ้งมาด้วยว่าจะรับเลย หรือจะรอรับหลังจันทร์เพ็ญ แต่ขอให้รีบกันหน่อยเพราะเป็นรายการที่มีผู้สนใจมาก

    ร่วมทำบุญบูชา พญาพาลีอินทรสังกาศ (พระผงแหวกม่าน กลืนสวาท) บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1342250944.jpg
      1342250944.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.3 KB
      เปิดดู:
      82
    • SAM_48821.jpg
      SAM_48821.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.8 MB
      เปิดดู:
      215
    • SAM_48831.jpg
      SAM_48831.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.8 MB
      เปิดดู:
      108
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดจันทร์จรัส(น้ำเพ็ญ)

    หนึ่งในวิชาที่ทำได้ยาก มีกาล มีวาระทำได้ปีละครั้ง ซึ่งถ้าปีใดท่านสุขภาพไม่พร้อมก็จะไม่ทำ

    วิชานี้เป็นปถมังในสายหลวงปู่ศุข วัดปากครลองมะขามเฒ่าอันลือลั่น พ่ออาจารย์เล่าว่าท่านเรียกสิ่งนี้ว่าตะกรุดน้ำ เพราะหลวงปู่ศุขต้องดำลงไปจารใต้น้ำ ดังนั้นวิชานี้จึงมีกันเฉพาะในเหล่าสานุศิษย์ที่ท่านเมตตาโปรดปรานจริงๆและในหมู่เชื้อพระวงศ์ระดับสูงเท่านั้น เพราะเป็นของกระทำได้ยาก

    พ่ออาจารย์กล่าวว่าท่านเองก็จะทำไว้ให้อีกซักครั้ง เพราะวิชานี้แท้จริงแล้วต้องดำน้ำลงไปจารหัวใจเท่านั้น ท่านว่าเห็นเขาเล่นตลกสุกเอาเผากินกันท่านทำไม่ได้ เพราะผู้สร้างนั้นไม่ได้ดำน้ำจาร แต่เอาง่ายเข้าว่าต่อสายสิญจน์เสกใต้น้ำแทน ทำเช่นนี้ย่อมผิดครู ท่านว่ายังใช้ไม่ได้

    ตะกรุดจันทร์จรัสนี้ดีอย่างไร ด้วยอำนาจพระพุทธคุณ แรงวิชาและแรงครูในองค์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านว่าวิชานี้จะให้ผลทางด้านเมตตาแบบเย็นๆ และช่วยทำให้เกิดโชคลาภโภคทรัพย์ระดับสูง เป็นเมตตาโชคลาภ ท่านว่าไม่ใช่เสน่ห์ไม่ถึงขั้นเสน่ห์เพราะอันนี้ครูท่านให้เอาไว้สำหรับทำมาหากิน

    ถือคติที่ว่าจันทร์จรัสเต็มฟ้านภากาศ น้ำขึ้นสูงเสมอด้วยขอบฟั่งชลธารฉันใด นี่เห็นมั๊ย มองข้างบนก็เต็ม มองข้างล่างก็เต็ม มันเต็มมันบริบูรณ์ไม่ขาดตกบกพร่อง ตะกรุดนี้จึงเรียกว่าทำให้เธอมีชีวิตที่สมบูรณ์ เติมให้เธอเต็มไม่แหว่งไม่พร่องก็กล่าวได้

    พ่ออาจารย์ถือฤกษ์จันทร์เพ็ญ ได้อาศัยท่าน้ำบริเวณบ้านลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ดำไปประกอบพิธีลงจารตะกรุดให้ต้องตามเคล็ดวิชา โดยท่านจารแผ่นตะกั่วไว้ก่อนแล้ว ดำน้ำลงไปจารหัวใจเพียงเท่านั้น ซึ่งเมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้ดำลงไปจารนั้น ก็ปรากฏว่าฟ้าฝนได้ตกลงมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย จนกระทั่งท่านจารเสร็จฝนก็หยุดตกพอดีหายสนิทเป็นปลิดทิ้งในช่วงสั้นๆฟ้าก็กระจ่างเหมือนเดิม มีหลายคนถามว่าทำไมฝนตก ท่านตอบให้คิดแต่เพียงว่า เห็นมั๊ยนี่ดีแน่ มันเต็มจนล้นเลยคราวนี้ ฝนก็ตกลงมาทำให้น้ำในตลิ่งงอกเงยเพิ่มพูนยิ่งขึ้นไปอีก ก่อนที่ท่านจะนำตะกรุดนี้ไปเสกพร้อมกับพญาพาลี แต่แยกกันเพราะท่านใส่ตะกรุดไว้ในขันสัมฤทธิ์เสกให้สำเร็จในขันสัมฤทธิ์(ทำอะไรมีแต่สัมฤทธิ์ สำเร็จ)

    ท่านว่าตะกรุดนี้ทำให้คนยุคหลังใช้ ไม่ได้วัดรอยเท้าครูบาอาจารย์ แต่ก็ตั้งใจทำให้ดีเสมอที่ครูบาอาจารย์ท่านกระทำ เอาบารมีท่านตั้งไว้ข้างหน้าแล้วตัวเราเป็นผู้เดินตามไป ตะกรุดนี้ธาตุน้ำเป็นใหญ่ให้ผลทางด้านเมตตาสูง ท่านกล่าวว่าติดคอไว้ให้ดี อะไรที่สูญหายที่มันไม่มีก็จะงอกเงยเพิ่มพูนขึ้น ดูอย่างของที่หลอวงปู่ศุขท่านทำประไร เห็นมั๊ยศิษย์ท่านยาจกก็กลายเป็นเศรษฐี เศรษฐีก็กลายเป็นคหบดี เป็นตะกรุดสร้างเนื้อสร้างตัวจริงๆ ถ้าไม่บรรจบพร้อมกันด้วยกาลและวาระ วิชาเช่นนี้นะเจ้าเอ๋ย มันลงไม่ได้เลย มันทำได้ในกาลหนึ่งวาระหนึ่งเท่านั้น เพราะครูบาอาจารย์ข้างบนท่านก็ไม่ประสงค์ที่จะให้ทำออกมาเยอะๆเป็นของตลาดเสียด้วย ฟ้าเค้าเลือกเอาไว้แล้วว่าดอกไหนของใคร มีเจ้าของกันทุกคน

    ท่านว่าแล้วแต่จะเอาไปใช้ขอให้ทำมาหากินไม่ว่าจะสุจริตหรือไม่ก็ตาม วิชานี้ใช้ได้หมด เอาไปใช้กันนะทางทำมาหากิน ท่านว่าบอกได้เพียงเท่านี้

    คาถาบูชา(ระลึกถึงหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าเป็นที่สุด)
    ตั้งนะโม ๓ จบ อิติอะระหังสุคะโต เกสโรนามะเต ประสิทธิเม อิหิอะโห นะโมพุทธายะ
    ปลุกตะกรุดน้ำเพ็ญ ปุญณะจันโท วิธานันตะ วิสุทธิสาวะโก วะโร พุทโธ สัทธัมมะรังสี มุนิโน มัตถะเกสุภัง

    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้ 20 ดอก ท่านใดจะบูชา เชิญทาง PM เท่านั้น

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดจันทร์จรัส(น้ำเพ็ญ) ดอกละ 500 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1357988146.jpg
      1357988146.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.7 KB
      เปิดดู:
      77
    • Image16554.jpg
      Image16554.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32 KB
      เปิดดู:
      121
    • SAM_48841.jpg
      SAM_48841.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      129
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พญางั่งนั่งแพะลอยเคราะห์องค์ครู(บุรุษผู้ปลดเปลื้องกฏแห่งสรรพสิ่ง)

    วิชาหนึ่งที่พ่ออาจารย์ท่านได้รับสืบทอดมาแต่องค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และก็ยังไม่เคยสร้างเลยแม้แต่ครั้งเดียว ท่านเรียกตามความเข้าใจของท่านว่าวิชาลอยเคราห์

    ตะกรุดนี้สร้างยากมากเพราะเป็นวิชาชั้นสูงที่ท่านต้องลงจารเสกเก็บไว้เมื่อถึงกาลถึงวาระจริงๆเท่านั้น เป็นของที่มีอานุภาพมาก ท่านว่าความหมายมันก็ตรงตัว คือลอยอยู่เหนือเคราะห์กรรม คล้ายๆกับการตกตะกอนของน้ำ เคราะห์กรรมอยู่ส่วนหนึ่ง น้ำอยู่ส่วนหนึ่ง ลอยแยกจากกัน เคราะห์กรรมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรา ดุจดั่งว่าเวทย์วิชานี้คือกำแพงที่ขวางกั้นน้ำกับตะกอนเช่นนั้น ที่ว่าสร้างยากนั้นก็เพราะเป็นวิชาที่เกี่ยวกับกฏแห่งกรรม ท่านว่าไม่มีใครอยากจะทำให้กันหรอก ตอนเรียนมาท่านก็ย้ำหนักหนาว่าต้องเลือกคนให้ ไว้ทำยามบ้านเมืองคับขัน ประชาชนเดือดร้อนข้าวยากหมากแพง

    พ่ออาจารย์ท่านก็สร้างเก็บไว้ ลงจารไว้ตามวาระโอกาสที่นานๆจะมีฤกษ์เสียครั้งหนึ่ง โดยลงจารในฤกษ์ที่กำหนดทำสะสมมาเรื่อยๆ แต่ตอนลงนั้น ท่านไม่ได้ลงเฉพาะวิชาลอยเคราะห์ ท่านเพิ่มในส่วนของไสยเวทย์เข้าไปด้วย ท่านว่ากลืนกันทั้งพุทธทั้งไสย วิชาที่เพิ่มเข้าไปนี้แต่เดิมเป็นวิชาของพราหมณ์ในยุคทมิฬโบราณ วิชานี้แม้บ้านเมืองที่ล่มจมก็กู้ขึ้นมาได้ ช่วยเร่งผลิดอกออกผลให้เจริญรุ่งเรือง ลบล้างคำสาปคำสาบานอันติดเนื้อต้องตัวมาแต่อดีตชาติ

    คำสาปคำสาบานอันเราได้ล่วงเกินผู้หนึ่งผู้ใด ในชีวิตหนึ่งๆของสัตว์โลกที่วนเวียนอยู่ในสงสารวัฏนี้ ท่านว่าเราไม่รู้ตัวหรอกว่าเราสั่งสมสิ่งเหล่านี้มามากมายเพียงไหน จะรุ่งโรจน์มันก็รุ่งไม่ได้เพราะติดทั้งกรรมทั้งคำสาปแช่งต่างๆมากมายที่ประเดประดังกันเข้ามา

    ตะกรุดลอยเคราะห์นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำให้เพียงครั้งเดียว ครั้งเดียวเท่านั้น ท่านว่าเราสร้างเพื่อหวังประโยชน์ใหญ่ ไม่ได้สนใจว่าจะเคราะห์หรือจะกรรม เพียงแต่จะสืบสานพระเวทย์โบราณกับของที่ครูบาอาจารย์ท่านมอบฝากไว้ให้มาเพียงนั้น วิชาสองส่วนนี้ถ้าแยกกันก็แล้วไป ถ้ารวมกันนั้นจะเป็นสุดยอดวิชาในสายบุญฤทธิ์ที่หาสิ่งใดมาเทียบเคียงเสมอเหมือนมิได้ คนใช้ต้องติดเนื้อติดตัวไว้เสมอเพื่อให้บรรเทาเคราะห์กรรมตนเอง ซ้ำยังลบล้างคำสาปคำสาบานความอาฆาตมาตรร้ายอันติดเนื้อต้องตัวมานับแต่อดีตกาล อย่าว่าแต่ปัญหาส่วนตัวเลย วิชานี้แม้บ้านเมืองก็ยังกู้ได้ ให้ผลใหญ่ถึงปานนั้น เอาไปเพื่อหวังประโยชน์ใหญ่ นั่นคือปลดทุกข์ของสัตว์ สัตว์ทั้งหลายนั้นจมเคราะห์จมทุกข์ แต่ก็ยังไม่หมดหวัง เพื่อจะออกจากทุกข์นั้น หาใช่เพื่อต้องการเสวยสุข แต่เพื่อต้องการโอกาสและสิ่งที่ดีกว่า จะได้ทำบุญเพาะบ่มอบรมจิตตนเอง เดินไปในสายบารมีเราจึงทำตะกรุดลอยเคราะห์นี้เสียครั้งหนึ่ง

    วิชานี้ ไม่ได้ส่งผลแต่เพียงการลอยบาปลอยเคราห์กรรม ลบล้างคำสาปคำสาบานอาฆาตมาตรร้ายต่างๆเท่านั้น แต่ยังกันและแก้ได้สารพัดด้วย เป็นทั้งมหากันในตัวเอง ไม่ให้มีสิ่งอุบาทว์จัญไรใดมาย่ำยีบีฑา เพื่อที่จะทำให้ชีวิตตกต่ำ กันทั้งคุณไสยอวิชชา กันไว้ดุจเกราะเพชรปกป้องตนเองเช่นนั้น ท่านว่ากันไว้นี่แหละดี คนเราถ้าเจออุปสรรคไม่มีอะไรมากันเอาไว้มันเจริญยาก ซ้ำยังแก้ แก้ที่ว่านี้คือแก้ไขพฤติการณ์ของเจ้าของให้มีความเห็นถูก แก้ในโรคร้ายสิ่งเลวร้ายต่างๆที่ตกต้องชะตาของผู้บูชาอยู่ แก้สิ่งที่จองจำชีวิตเราไว้เดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ ท่านว่ารู้เองเห็นเอง สิ่งพวกนี้หายหมด ใครที่ทำอะไรไม่เจริญ หาเช้ากินค่ำ หรืออยากประสบความสำเร็จ ด้วยเกรงว่าจะติดเวรกรรมคำสาปสรรค์ใดๆ ท่านว่าเลิกคิดไปได้เลย เราทำไว้ให้ดีแล้วแค่ครั้งเดียว ครั้งเดียวจริงๆเท่านั้น ให้เจ้าของและผู้ที่คู่ควรเขามาเอาไปใช้บูชา

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดลอยเคราะห์เสร็จท่านก็เสกเก็บไว้ ท่านว่าเสกจนเต็มวิชา ต่อมาท่านได้รับนิมิตรจากครูบาอาจารย์ให้ทำเครื่องรางที่จะช่วยลูกศิษย์อันมีวาระกรรมต้องกัน เกิดในยุคเดียวกันกับท่าน ท่านได้รับนิมิตรให้ทำพญางั่ง(อีหง่างโบราณ)ขึ้นมา ท่านว่าวิชานี้แต่เดิมหาคนทำยาก ของเก่าๆบางคนเอาไปใช้เพื่อทำเสน่ห์ทำให้เป็นของต่ำต้องอาถรรพ์ไปก็มาก ท่านจึงจะบูรณาการทำไว้เสียใหม่

    โดยพ่ออาจารย์ท่านได้ทำเป็นพญางั่งนั่งแพะ ท่านว่าวิชาพญางั่งนี้ เป็นปางอวตารขององค์พระศิวะเจ้า(ครูพระสยม)ในพระชาติหนึ่ง เพราะเป็นปางอวตารที่จะลงมาเฉพาะเหตุการณ์จริงๆ ถึงแม้พระภาคเต็มก็ไม่สามารถแก้ไขในส่วนของปัญหาได้ ท่านลงมาเพื่อปลดเปลื้องกฏเกณฑ์ต่างๆในสังคมที่กำหนดขึ้นมาทำให้ธรรมชาตินั้นวิปริต จนพระผู้เป็นเจ้าไม่สามารถดำรงค์พระองค์อยู่ได้ต้องลงมาช่วยเมื่อถึงกาลถึงวาระนั้น โดยพญางั่งที่ทำนี้ท่านว่าต้องทำด้วยไศวะศาสตร์ เข้าให้ถึงองค์พระศิวะจะทำโดยวิธีอื่นไม่ได้ มิเช่นนั้นจะเป็นเพียงเครื่องรางธรรมดา ไม่ใช่รูปแบบของมหาบุรุษที่ลงมาเพื่อปลดเปลื้องชะตาชีวิตของสรรพสิ่ง เมื่อทำแล้วท่านว่าผู้ใดรู้ตัวว่าโดนกดดัน ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสังคม คือหาความยุติธรรมไม่ได้ในชีวิต โดนกดดัน โดนกดขี่ข่มเหง นี่แหละตรงเรื่องเอาไปใช้เลย เพราะว่าท่านคือผู้ปลดปล่อยสรรพชีวิตออกจากการโดนดูถูกเหยียดหยาม โดนผู้อื่นรังแกอย่างแท้จริง

    ครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ทำโดยลงวิชาอีหง่างโบราณไว้ด้วย ท่านว่าใช้ได้ครอบจักรวาลทั้งยังเป็นเสน่ห์สุดๆ เป็นสัญลักษณ์ของพ่อ เป็นรูปแบบของการกำเนิด ลูกคนใดที่ขาดที่ไม่มี ขอกับพ่อ อะไรก็เกิดขึ้นได้เพราะพ่อชูองค์กำเนิด พ่อมีทุกสิ่ง ให้ได้ทุกอย่าง เรื่องหญิงสาวคู่ครองนั้นยิ่งกว่าจอมเจ้าชู้ใดๆ แต่หลักใหญ่ที่ท่านทำเพื่อแก้กฏเกณฑ์เวรกรรมต่างๆในชีวิตผู้บูชา

    โดยท่านทำเป็นพญางั่งนั่งเอกเขนกอยูบนหลังแพะ ซึ่งแพะนั้นท่านว่าสำคัญนัก เพราะมันเป็นตัวรับเคราะห์กรรมแทนเจ้าของ แพะของท่าน ท่านว่ามันกินบาปเคราะห์เป็นอาหาร ซ้ำยังเป็นแพะตัวผู้ตัวจ่าฝูงที่เป็นเอกด้านเสน่ห์มหานิยม ตัวผู้จ่าฝูงตัวเดียวได้ตัวเมียทั้งฝูง พญางั่งนั้่งแพะนี้ท่านทำเพื่อให้คนใช้นำไปบูชาเพื่อหวังให้ออกจากทุกข์จริงๆ

    จะเห็นได้ว่าท่านอัญเชิญตะกรุดลอยเคราะห์ที่ทำได้ยากมากมาฝังไว้ด้านหลังทุกองค์ ท่านว่าเอาเข้าจริงๆ ไม่มีอะไรที่จะเข้ากันและเสริมส่งกันได้ ดีไปกว่านี้อีกแล้ว พญางั่งนั่งแพะนี้เป็นยอดวิชาเสน่ห์แบบหาตัวจับยาก อยู่ไหนเราก็เหมือนยอดบุรุษได้เขาทั้งหมด คำว่าได้คำเดียว ได้แล้วไม่มีเสีย ได้แล้วเราก็เป็นต่อเขา มันเสริมส่งกันไปหมดจะเอาไปทำงานไปทำอะไรมันก็ดีทุกอย่าง ท่านว่าแล้วแต่ใจจะใช้เลย

    * วิธีเลี้ยง
    ให้นำพญางั่งใส่ถ้วยไว้ แล้วตอกไข่ใส่ไป อธิษฐานให้พ่อนั้นเสพย์นั้นกิน หลังจากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ซักสองชั่วโมงแล้วนำมาล้างน้ำทำความสะอาด จะทำอาทิตย์ละครั้งหรือเดือนละครั้งก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งทำท่านยิ่งมีฤทธิ์มาก ยิ่งทำยิ่งขัลง เวลาจะบนอะไรก็ให้บนด้วยไข่นี่แหละ จะของานหรือหมายตาใครก็บอกท่าน ยิ่งใช้ยิ่งแรง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งนี้เป็นของกายสิทธิ์ไม่ต้องใช้คาถาใดๆ ทำใจนิ่งบอกล่าวสื่อสารกับท่านด้วยภาษาใจ ขอให้ใช้ ยิ่งใช้ยิ่งแรง จะนำไปทำพวงกุญแจก็ได้หรือพกไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ได้ หรือพกในที่ลับก็ได้ เป็นของกลางๆ ไม่จำเป็นต้องห้อยคอ แต่ถ้าพกในที่ลับมันจะกินเสนียดและช่วยล้างความอุบาทว์จัญไรต่างๆที่ติดตัวเรามาแต่เดิมได้ไวเป็นพิเศษ

    ท่านสั่งให้บอกเค้ากันสั้นๆ แม้เคราะห์อันเกิดกับมหานคร เกิดแต่สรรพชีวิตหมู่มาก วิชานี้ยังแก้ไขได้ จากตกต่ำแล้วทำให้เจริญได้ นับประสาอะไรกับตัวบุคคล ท่านว่าอย่าอธิบายมากไปกว่านี้ลำพังวิชางั่งนั่งแพะ ท่านว่าตอนท่านเชิญญาณครูบาอาจารย์ต่างๆมาช่วยกันเสกก็ได้รับการยืนยันมากแล้วว่านี่มันพระเจ้าชู้นี่น่า ไม่มีขุนแผนหรือเครื่องรางใดๆจะมีคุณทางเสน่ห์มากไปกว่านี้

    * บูชาได้ทั้งหญิงและชาย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าถ้าไม่ปรารถนาจะให้เป็นเสน่ห์ก็บอกกล่าวกับท่าน ว่าขอเพียงมาเกื้อกูลให้ชีวิตลูกดีขึ้นเท่านั้นพอ เพราะดวงจิตท่านไวเราพูดเราบอกอะไรไปท่านรู้หมด

    * สิ่งนี้เป็นของเฉพาะตัว ท่านว่าเป็นของมีเจ้าของหมดแล้ว ทำไว้ได้เพียง 16 ตน ท่านว่ารู้กันเองเห็นกันเอง คนที่คู่ควรก็จะรู้ค่ามาอัญเชิญไปบูชาเอง ไม่ให้อธิบายอะไรเขาลึกซึ้งมาก เป็นของกายสิทธิ์ที่ข้างบนเค้าให้เกิดตามกาลและวาระ ผู้บูชาติดต่อทาง PM เท่านั้น

    * ปัจจัยที่ได้จากการบูชาพ่ออาจารย์ท่านจะนำไปบริจาคในส่วนของการทำหนังสือธรรมมะหนังสือสวดมนต์ตามวัดต่างๆ ท่านว่าการให้ธรรมมะนั้นชนะการให้ทั้งปวง คนบูชาให้อนุโมทนากันดีๆ ส่วนนี้จะช่วยคลายเคราะห์เรื่องเวรกรรมได้อีกโสตหนึ่ง

    ร่วมทำบุญบูชา พญางั่งนั่งแพะลอยเคราะห์องค์ครู(บุรุษผู้ปลดเปลื้องกฏแห่งสรรพสิ่ง) บูชาองค์ละ 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _MG_99151.jpg
      _MG_99151.jpg
      ขนาดไฟล์:
      337.3 KB
      เปิดดู:
      72
    • SAM_48881.jpg
      SAM_48881.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.3 MB
      เปิดดู:
      123
    • SAM_48891.jpg
      SAM_48891.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.8 MB
      เปิดดู:
      100
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
    เชิญร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหาทานปรมัตถบารมีนิยตโพธิสัตว์(ลูกขอพ่อให้)

    พ่ออาจารย์ท่านมีวิชาทำตะกรุดเอกอยู่ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีคุณมากให้ผลมาก โดยวิชานี้เป็นวิชาทำตะกรุดมหาวิเศษที่มีความพิศดารในตัวเองสูงสุด แต่ท่านว่าสร้างยากเหลือใจ

    ในอดีตนั้นหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเคยได้มอบผงพระพุทธคุณ จะเรียกว่าผงพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ หรือผงเงินล้านก็เรียก ของท่านเจ้าพระคุณอาจารย์หลวงพ่อปาน ไว้ให้หนึ่งตลับ ท่านแบ่งให้เป็นตลับเล็กๆ ซึ่งเป็นผงล้วนๆที่หลวงพ่อปานท่านใช้อุดพระผงพิมพ์ทรงสัตว์ต่างๆทั้งหลาย หลวงพ่อฤาษีท่านย้ำกับพ่ออาจารย์ว่าผงนี้เป็นของสำเร็จ เอาไปผสมทำอะไรก็ตาม มีพุทธคุณไม่แตกต่างกัน อานุภาพเสมอกันกับพระที่หลวงพ่อปานท่านทำไว้จริงๆ

    พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าเป็นของดี ที่เอกองค์พระอรหันต์แห่งยุคท่านได้ทำไว้ มีคุณบารมีทั้งขององค์หลวงพ่อปานและหลวงพ่อฤาษี ซึ่งเมื่อท่านได้รับมาท่านก็ยังนำมาเสกเก็บไว้ต่อไปเรื่อยๆ ท่านว่าผงนี้แค่อณูหนึ่งก็สร้างพระได้นับร้อยนับพันองค์ เป็นของวิเศษมากดั่งสมบัติพระจักรพรรดิ์ รอผู้มีวาสนาต้องกันนำไปครอบครอง

    เมื่อท่านพิจารณาแล้วประกอบกับได้รับนิมิตรจากครูบาอาจารย์เจ้าของผง ท่านว่าฟ้าเป็นใจ ครูท่านเอาด้วย ให้นำผงของท่านนี้ออกมาสงเคราะห์คนยุคปัจจุบัน แต่จะให้ไปทำพระพิมพ์ทรงสัตว์ต่างๆบรรจุผงก็จะทับรอยครู ซึ่งท่านไม่ทำ ท่านว่าเราทำเป็นเครื่องรางดีกว่า ใช้ง่ายกว่าและให้ผลสำเร็จได้เร็วกว่าเสียด้วย สมัยครูทำท่านทำเป็นพระบรรจุผง ยุคเราทำก็ทำเป็นตะกรุดแต่เข้าผงไว้ข้างในแทน แค่นั้นก็ไม่ทับรอยครูและยังเป้นเอกลักษณ์ที่เราถนัดเสียอีก

    เมื่อดำริดังนั้น ท่านจึงทำตะกรุดที่มีพรรณคุณวิเศษขึ้นมา เพื่อจะใช้เป็นแก่นบรรจุผง คือ ตะกรุดมหาทานปรมัตถบารมีนิยตโพธิสัตว์(ลูกขอพ่อให้) พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาสูงสุดในสายของสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์แล้ว เมื่อจะทำท่านว่ายุ่งยากมาก เพระมีขั้นตอนและพิธีกรรมต่างๆมากมาย
    - เริ่มจากพ่ออาจารย์ท่านนำตะกั่วอวนเจ้าสมุทรซึ่งมีอาถรรพ์ทางทะเล ใช้หาทรัพย์ง่ายดีทางมีลาภผลมาก มาทำการปะสระแช่น้ำมนต์อธิษฐานจิต ก่อนจะส่งไปให้ศิษย์รีดออกมาเป็นแผ่นตะกั่ว
    - เมื่อได้แผ่นตะกั่วอวนเจ้าสมุทรแล้ว พ่ออาจารย์ท่านได้นำมาลงพระยันต์เวทย์สวรรค์ (สารพัดขอ) ซึ่งเป็นวิชาหลักของท่าน เป็นวิชาที่ลงยากมากและท่านก็ไม่เคยใช้พร่ำเพรื่อ ซึ่งวิชานี้ใครมีไว้ขออะไรก็จะสำเร็จผลทุกด้าน ดีดุจดั่งแก้วสารพัดนึก โดยท่านนำมาลงพระยันต์เวทย์สวรรค์เต็มสูตรทุกแผ่นก่อนจะอธิษฐานจิตเก็บไว้
    - ต่อเมื่อได้ฤกษ์ที่เหมาะสมแล้วท่านจึงนำแผ่นพระยันต์เวทย์สวรรค์เหล่านั้นเข้าไปจำเริญไฟพิธีพราหมณ์ โดยถือว่าไฟกองกูณอัคคีของพิธีพราหมณ์ เปรียบได้กับองค์พระเพลิง เป็นไฟธาตุศักดิ์สิทธิ์อันจะชำระล้างทุกสิ่งให้บริสุทธิ์
    - เมื่อเสร็จพิธีท่านจึงนำแผ่นพระยันต์เวทย์สวรรค์ที่หลอมละลาย จนกลายเป็นก้อนตะกั่วในไฟพิธีออกมา พ่ออาจารย์บอกว่านี่เป็นธาตุที่มีความบริสุทธิ์สูงเพราะผ่านการชำระล้างมาแล้วถึงสองหน ตั้งแต่การทำน้ำมนต์ประสระตอนเป็นตะกั่วอวนและนำมาจำเริญไฟ ก่อนที่ท่านจะส่งไปให้ศิษย์รีดเป็นแผ่นตะกั่วออกมาอีกคำรบหนึ่งง
    - พ่ออาจารย์ท่านว่าแผ่นตะกั่วนี่สำคัญนัก นอกจากอิทธิคุณจากพิธีกรรมและอานุภาพยันต์เวทย์สวรรค์ที่ได้ลงถมไว้แล้ว ยังมีดีในเรื่องโชคลาภโภคทรัพย์อย่างถึงที่สุดซ้ำยังใช้ตั้งเนื้อตั้งตัวได้ เพราะอาศัยการเกิดใหม่ถึง 3 หนด้วยกัน เป็นเคล็ดว่าต่อไปทำอย่างไรก็ไม่ตาย ไม่เหี่ยวเฉา อะไรเคยพลาดไปแล้วก็มาถือเอากำเนิดใหม่ได้

    เมื่อได้แผ่นตะกั่วธาตุบริสุทธิ์มาแล้ว ท่านได้นำมาลงวิชาสำคัญต่อ ท่านว่าส่วนนี้คือวิชาขั้นสูงสุดในหมู่นิยตโพธิสัตว์ ท่านเดินบทมหาทานว่าด้วยปรมัตถบารมีอันยิ่งยวดขององค์พระเวสสันดร ซึ่งเป็นพระชาติสุท้ายของพระโพธิสัตว์ก่อนจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

    พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระเวสสันดรนี้มีกำลังของการให้สูงมาก เพราะท่านถึงที่พระเจ้าจักรพรรดิราช แต่กลับบำเพ็ญปรมัตถบารมีตามประเพณีแห่งพระบรมโพธิสัตว์ ท่านพร้อมที่จะสละทรัพย์ภายนอกทั้งปวงให้แก่ผู้ต้องการและมาขอท่านเพื่อที่สุดแห่งมหาทานบารมี พ่ออาจารย์ท่านพูดให้คิดว่า วิชานี้เราเป็นผู้ขอ เอาไปใช้เถิด ไม่มีอะไรจะง่ายและสบายเท่านี้อีกแล้ว

    ท่านว่าครูบาอาจารย์แต่เดิมจึงหยิบยกพรรณคุณวิเศษตรงนี้มาทำเป็นตะกรุด แต่ว่ามันเป็นตะกรุดเฉพาะทางสายบารมีพระมหาโพธิสัตว์เจ้าที่ไม่มีใครปรารถนาจะยกให้ใครทำให้ใครสอนใครให้สืบทอดเท่าไหร่ เพราะเป็นวิชาเฉพาะที่เวลาเราไปขออะไรใคร เค้าก็ต้องจำยอมโอนอ่อนยกให้ตามปากเราเช่นนั้น ดุจดั่งลูกขอพ่อก็ต้องตามใจพร้อมที่จะป้อนให้ เหมือนองค์พระเวสสันดรหน่อพระพุทธเจ้าที่พระองค์ท่านปรารถนาจะเข้าไปถึงข่ายแห่งพระโพธิญาณจึงกระทำมหาทานปรมัตถบารมีอย่างสุดกำลัง ให้ทุกอย่าง ทรัพย์ภายนอก ทรัพย์แห่งโลกีย์วิสัยผู้ใดปรารถนาสิ่งใดพระองค์ยกให้ทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้น วิชานี้ท่านว่าแปลกนักขอให้สิ่งที่เราขอเขามีเขาให้หมดเลย ไม่เช่นนั้นปรารถนาอะไรก็อธิษฐานเอากับกับตะกรุดกับคุณวิชาย่อมสัมฤทธิผลทุกประการ เพราะตะกรุดนี้เป็นศูนย์รวมผลแห่งมหาทานปรมัตถบารมีเต็มขั้นของหน่อพระชินสีห์เจ้านั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านลงเหล็กจารเต็มสูตรหน้าหลัง อธิษฐานบารมีด้วยความเที่ยงแท้ต่ออำนาจพระโพธิญาณในกาลเบื้องหน้า ว่าให้ลูกหลานญาติวงศ์ที่มีบุญญา มีวาสนากับเวทย์วิชานี้มารับไปครอบครอง

    เมื่อท่านลงเหล็กจารจนสำเร็จดีแล้วตามฤกษ์ ได้มหาตะกรุดทั้งหมด 12 ดอก ท่านได้นำมาม้วนด้วยวิชามหาเศรษฐีนวโกฏิ ดึงเอาอำนาจบารมีมหาเศรษฐีแห่งพุทธกาลทั้งเก้าท่านมาเกื้อหนุนด้วยเวทย์วิชา

    ต่อจากนั้นท่านจึงนำผงวิเศษล้วนๆไม่ผสมหรือเจือปนสิ่งใดขององค์หลวงพ่อปานที่มีอยู่หนึ่งตลับนั้น ทำการบรรจุลงไปในตะกรุดทั้ง 12 ดอก ซึ่งตะกรุดนี้ท่านได้นำสีผึ้งพระสีวลีมาปิดหัวท้ายของตะกรุด ท่านว่าสีผึ้งนี้สำคัญนักท่านเคี่ยวจากเทียนคาถาพันกัณฐ์มัทรี น้ำตาเทียนมัทรีน้ำมาผสมว่านยาทางโชคลาภ เสน่หาต่างๆมากมายนานนับสิบปี เหมือนที่ท่านชอบพูดประจำว่า ขี้ผึ้งพระสีวลีนั้นแท้ที่จริงใช้ได้ครบทั้งเสน่ห์ชู้สาวตลอดจนเรียกลาภสักการะมาสู่ผู้บูชา ท่านว่ามีตะกรุดนี้ก็เหมือนมีผงของหลวงพ่อปานแท้ๆอยู่ สิ้นตะกรุด 12 ดอกนี้ พ่ออาจารย์ท่านเทผงหมดตลับเลย ท่านว่าอยากจะให้ไว้ใช้กันจึงงใส่แบ่งให้เท่าๆกัน

    ตะกรุดมหาทานปรมัตถบารมีนิยตโพธิสัตว์(ลูกขอพ่อให้) ท่านว่าพุทธคุณตรงตัว ลูกขอพ่อให้ พ่อในที่นี้คือพ่อพระพุทธเจ้า พ่อในพระชาติที่เป็นมหาเวสสันดรโพธิสัตว์ พ่อของลูกๆพุทธบุตรทุกคน อันทรงไว้ด้วยมหากรุณาญาณอย่างแท้จริง ปรารถนาจะขนถ่ายสรรพสัตว์ข้ามห้วงวัฏฏสงสาร ท่านว่าวิชานี้ทำยากมากเพราะมันเหนือสงสาร เมื่อลงเสร็จต้องบอกกล่าวชุมนุมเหล่ามหาโพธิสัตว์อันมีบารมีเต็มที่กับที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว แม้อยู่ในที่แห่งใดไม่ว่าจะพิภพดุสิต พิภพนาคบาดาล ตลอดจนพิภพต่างๆต้องชุมนุมมาบอกกล่าวเชิญท่านมาบรรจุบารมีทั้ง 30 ทัศน์ หนุนกันขึ้นมาเป็นชั้นๆ เป็นกลุ่มๆไปทั้งอนิยตโพธิสัตว์ แลนิยตโพธิสตว์ ท่านว่ามาทำให้กันเป็นกลุ่มเป็นลำดับกลุ่มไหนปัญญาธิก กลุ่มไหนสัทธาธิก กลุ่มไหนวิริยาธิก พระองค์ไหนหรือใครอยู่กลุ่มใดก็หนุนเนื่องสืบกันมาบรรจุพระบารมี

    เมื่อชุมนุมเหล่าพระมหาโพธิสัตว์แล้ว ก็ต้องเชิญสมเด็จองค์ปฐมมาบรรจุธาตุบรรจุธรรม และเชิญองค์หลวงพ่อปานมาสำเร็จตะกรุดด้วยวิชาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าตะกรุดนี้มีจุดเด่นกว่าตะกรุดทางโชคลาภอื่นๆคือ มันจะเข้ามาหาเราเอง นี่ถ้ามันมีเท้ามันจะรีบวิ่งเข้ามาเลย เมื่อเสกเสร็จท่านมีนิมิตรเห็นองค์หลวงพ่อปานท่านพูดถึงตะกรุดชุดนี้ว่า ขอให้เอาไปเจริญขึ้น หลับให้ได้ทรัพย์ ลืมตาก็มีลาภสักการะมิรู้วันรู้คืน เสมอเหมือนด้วยองค์พระสีวลีเฉกเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าดีมาก ดีแล้ว พระอรหันต์ท่านให้พรคนที่ได้ไว้ สำหรับตะกรุดชุดนี้จะไม่บอกว่าทำไมถึงทำยุคนี้ เหมาะกับใครคู่ควรแก่ใคร เพราะมันทำยาก เอาแค่ว่าถ้าตัวเองคู่ควรก็มารับไปบูชาก็พอ ทั้งนี้ครูบาอาจารย์เบื้องบนท่านยังได้มอบพระคาถาไว้ให้ใช้กำกับตะกรุดด้วย

    คาถาบูชา
    โอม นะโม เวสสันตะระ มหาโพธิสัตโต มหาคุณะ ทานะปรมัตถปาระมีสัมปันโน อิทธิสิโต กุมาโร อิติ ชูชโ

    * ตะกรุดนี้ความยาวประมาณ 3.5 นิ้ว เนื้อตะกั่วจะหนาและแน่นกว่าตะกรุดทุกรุ่นที่ท่านเคยสร้างออกให้บูชา ท่านว่าไม่มีข้อห้ามอะไรทั้งนั้น ขยันขอพ่อก็ให้ มีอยู่แค่นั้น สร้างไว้ได้ทั้งหมด 12 ดอก รับสั่งจองทางPM เท่านั้น รายได้จากการบูชาท่านว่าครูข้างบนท่านให้เอาไปสงเคราะสัตว์และเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก ท่านก็จะพิจารณาให้ตามวาระต่อไป

    เชิญร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหาทานปรมัตถบารมีนิยตโพธิสัตว์(ลูกขอพ่อให้) ดอกละ 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • porpan.jpg
      porpan.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.3 KB
      เปิดดู:
      80
    • SAM_4896.JPG
      SAM_4896.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      85
    • SAM_4891.JPG
      SAM_4891.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.3 MB
      เปิดดู:
      223
    • SAM_4895.JPG
      SAM_4895.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      118
    • SAM_4898.JPG
      SAM_4898.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      76
    • SAM_4899.JPG
      SAM_4899.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      72
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
    เชิญร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อกายสิทธิ์ธาตุพระยาธรรมิกราชฝังไม้ครูนิ้วเพชรพระอิศวร

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าคติของพระยาธรรมิกราชนั้น คือเจ้าแห่งธรรม ผู้ควบคุมกลไกและวาระการเกิดของเหล่าศาสดาทั้งหลายในห้องมหาจักรวาลทั้งมมวล

    ด้วยว่าพระองค์นั้นคือผู้ค้นพบและเข้าถึงธรรมอันเป็นที่สุด มีหน้าที่เป็นจอมเทพที่มีปฏิสัมพันธ์พิเศษกับมนุษย์ ด้วยพระองค์นั้นต้องคอยดูแลรักษาปกป้องสุจริตชน ให้เดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้องดีงาม

    ในยามเมื่อกาลอันจะเกิดทุกข์เข็ญซึ่งได้ปรากฏนั้น พระองค์คือบุคคลเดียว และความหวังเดียวที่จะปรากฏขึ้นเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ ช่วยให้รอด ช่วยนำออกจากเหตุการณ์ทั้งหลายที่มันเลวร้ายและวิปริตผิดธรรมชาติ

    ซึ่งแท้จริงนั้น พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพระองค์ได้ปรากฏอยู่เป็นนิจเสมอแล้ว ทรงสอดส่องไปทั่วแม้ในมวลอากาศ เพื่อรอให้คนทั้งหลายเปิดใจรับพระองค์เข้าไป ด้วยศรัทธาอันปราศจากความกังขาเคลือบแคลงใดๆ

    ในปัจจุบันนั้น โลกได้เปลี่ยนแปลงและเสื่อมโทรมลงมาก พ่ออาจารย์ท่านจึงเมตตาสร้างพระยาธรรมิกราชขึ้น โดยถือคติว่ากายหยาบและกายละเอียด พระเวทย์และพระธรรมของพระองค์นั้น ได้รวมตัวกันครบถ้วนบริบูรณ์แล้ว ณ เวลานี้ ในสถานที่นี้ เป็นเคล็ดที่จะช่วยปลดเปลื้องทุกข์ยากและพันธนาการแก่ศิษย์ผู้ศรัทธาอย่างแท้จริง

    พระยาธรรมิกราชนั้นพ่ออาจารย์บอกว่า ท่านมีหน้าที่ของท่านอยู่แล้ว คือปลดเปลื้องยุคเข็ญ เป็นทางรอดที่มนุษย์จะพึ่งโพธิสมภารของพระองค์ท่าน เมื่อคิดจะทำนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้นั่งอธิษฐานวาระกรรมของสัตว์โลกทั้งหลาย เชิญเสด็จครูบาอาจารย์ทุกหมู่เหล่าให้องค์หลวงพ่อฤาษี และสมเด็จองค์ปฐมตลอดจนสมเด็จพระชินะเจ้าสัมมาสัมพุทธเจ้าอันประกอบครบองค์บริบูรณ์ ให้ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาอาราธนาองค์พระยาธรรมิกราชลงมาโปรดสัตว์ผู้ยาก

    ซึ่งก็สำเร็จไปด้วยดี แต่กระนั้น องค์พระยาธรรมิกราชก็ได้ทรงยื่นเงื่อนไขให้พ่ออาจารย์ท่านรับไว้เช่นกัน คือในปัจจุบันนั้น ยังไม่ถึงเวลาที่พระองค์จะลงมาช่วยสัตว์ทั้งหลาย ท่านว่าจะทำรูปพระองค์ท่านให้กับคนทั่วไปนั้นไม่ได้ ให้ทำให้เฉพาะบุคคลที่มีบุญและร่วมพันธะสัญญากันเท่านั้น พระองค์ท่านว่าบุคคลทั้งหลายนั้นยังไม่รู้จักเรา ด้วยเทพเจ้านั้น ยังปิดบังซ่อนชื่อของเราไว้อยู่มาก เพราะเขาไม่ปรารถนาให้เราช่วยเหลือใคร ด้วยหมายใจไว้ว่าจะให้มนุษย์รับเคราะห์กรรมในสิ่งที่ตนเองได้กระทำ ให้รู้จักความทุกข์ยากลำบากเสียก่อน ถ้าเธอจะทำและให้เราไปปกปักรักษาผู้อื่นนั้นก็ย่อมทำได้ แต่ทำให้เฉพาะกับคนที่พร้อมและมีศรัทธา ถ้าใครไม่มีบุญร่วมกับเรา เค้าเห็นเค้าได้ยินว่าพระยาธรรมิกราช เค้าก็จะละเลยไม่ใส่ใจปลอยผ่านไปเอง ถ้าเราช่วยใครแล้วเราก็จะตามช่วยเขาในทุกยุคทุกสมัย ให้บอกเขาเช่นนี้

    พ่ออาจารย์ท่านว่า พวกเจ้ารู้กันหรือไม่ ว่าพระองค์นั้นคือคนที่มีหน้าที่โดยตรงในการพามนุษย์ออกจากยุคเข็ญและความทุกข์ยากต่างๆในกฏของวัฏสงสาร ซ้ำแม้ในทางธรรมก็มีความเชื่อสืบต่อกันมาว่า แม้ใครได้พบพระยาธรรมิกราชเพียงครั้งเดียว ก็ย่อมบรรลุธรรมในระดับอริยบุคคลได้ ที่เราทำรูปและเชิญพระองค์มานั้นก็เพื่อหวังตัดความทุกข์ทางโลก ให้ผู้บูชามีครบทั้งทางโลกและทางธรรม ซึ่งพระองค์ก็รับปากไว้ว่าจะช่วยเป็นอย่างดี

    พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ประมวลธาตุกายสิทธิ์ต่างๆ ทั้งเหล็กไหลขาว หยาดน้ำฟ้าทวาราวดี วัชรธาตุ ช่อพิพย์เงินยวง แร่ปรอทสำเร็จ มาหล่อหลอมรวมกัน ก่อนที่จะฝังของวิเศษไว้ด้านหลังอีกคำรบหนึ่ง

    โดยพ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระยาธรรมิกราชในปางที่ทรงพระมหามงกุฏพร้อมพระแสงขรรค์กับพระแสงจักรไว้คู่พระกรทั้งสองข้าง ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นมหาจักรพรรดิ์อันจะช่วยเหลือสรรพสัตว์ไปตามวิถีของพระโพธิญาณ ท่านว่านี่คือองค์ประมุขในมวลหมู่พระโพธิสัตว์ก็ไม่ผิด แต่พระองค์มีฐานะพิเศษอยู่มาก มากเกินกว่ามนุษย์จะเข้าใจและก็ไม่ใช่พระศรีอาริย์อีกด้วย หากจะกล่าวว่ามีตัวตนที่อยู่เหนือเหล่าพุทธะขึ้นไปอีก พวกเธอจะเชื่อหรือไม่ พระยาธรรมิกราชก็คือชื่อของพระเจ้าองค์หนึ่งที่อยู่ในฐานะพิเศษนั้น ซึ่งชื่อนี้แม้ในเหล่าโพธิสัตว์บางพระองค์ก็อาจจะมีได้ พระมหาโพธิสัตว์ทั้งหลายก็ย่อมเข้าถึงความเป็นพุทธะ และความเป็นพระยาธรรมิกราชได้ แต่ก็เป็นคนละองค์กันกับองค์ผู้เป็นชีวิตศักดิ์สิทธิ์โดยกำเนิดนั้น เหมือนมีพระพุทธเจ้า ก็มีโคตรวงศ์ศากยะอันเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมนั่นเอง

    ท่านว่าพระยาธรรมิกราชบรมจักรพรรดิ์ที่ท่านทำนี้ ไม่ใช่ตัวตนของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ตัวตนของเหล่ามหาโพธิสัตว์ที่จะบำเพ็ญบารมีให้ถึงซึ่งฐานะพระยาธรรมิกราช แต่เป็นตัวตนเดิมของพระยาธรรมิกราชนั่นเอง เรียกว่าธาติเดิมภูมิเดิมโดยแท้ ไม่ใช่สภาวะชีวิตอันเข้าถึงซึ่งความเป็นพระยาธรรมิกราช

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านสร้างและเทหล่อแบบโบราณได้ครบจำนวน 12 องค์แล้ว ในระหว่างหล่อนั้นท่านก็ได้นำของวิเศษ 2 สิ่งฝังลงไปด้วย
    1. สิ่งแรกคือไม้ครู ท่านว่าสร้างและทำยากมาก วิชานี้เป็นวิชาของหลวงปู่ภู วัดอินทร์ มีอาถรรพ์วิชาแรงกล้ายิ่งนักดุจเทพศาสตราวุธ นอกจากนั้นไม้ครูก็มีความหมายตรงตัวคือไม้ของครู ไม้นี้จะดึงให้ครูบาอาจารย์มาปกปักรักษาเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านต้องนั่งแกะไม้ครูนี้จากไม้อาถรรพ์ที่ครูมานิมิตรให้ไปเอา และยังลงพระนามทำอาถรรพ์เพิ่ม ยัติใส่เข้าไปทั้งสองด้านไม่ว่าต้นว่าปลาย เพื่อให้สำเร็จเป็นไม้ครูนิ้วชี้เพชรพระอิศวร ซึ่งจะมีอิทธิคุณต้นชี้ตายปลายชี้เป็น ท่านว่าเมื่อฝังลงไปแล้วเวลาจะใช้ก็ให้ตั้งจิตดีๆระลึกถึงครูสมเด็จโตและหลวงปู่ภูเป็นที่สุด แต่อย่าเอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์เด็ดขาด เพียงพกไว้ก็เป็นสิริมงคลมากพอแล้ว ภูติผีเทวดาเค้าจะขยาดไม่กล้ารังแกเราได้เลย ไม้ครูนี้อยู่ที่ไหนใครก็เกรงกลัวทั้งนั้นทำอะไรก็ง่ายดายไปหมด เก็บเอาไว้ไปชี้ตัวเอง ชี้ทุกวันอธิษฐานในสิ่งที่ดีงามระหว่างชี้ปลายไม้เข้าหาตัว ให้ดี ให้สำเร็จ ให้เป็นเลิศกว่าคนอื่นหมื่นแสน อย่าเอาไปใช้รังแกคนอื่น ชี้ตายชี้ความพินาศให้กับคนอื่น ห้ามเอาไปเคาะพระเคาะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ศาลเจ้าศาลพระภูมิเด็ดขาด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเป็นการรบกวนท่านเหล่านั้น ถ้าเป็นเจ้าที่เจ้าทางก็ถึงกับอยู่ไม่ได้เลยทีเดียว ท่านว่าฝังไว้อีกนัยน์หนึ่งก็เพราะเป็นสื่อระหว่างศิษย์กับครู เราอธิษฐานไว้ ใครได้ไปก็เหมือนเป็นศิษย์สมเด็จพระยาธรรมิกราชท่านแล้ว มีไม้ครูนี้เชื่อมจิตเชื่อมใจ เป็นอาญาสิทธิ์ของครูที่จะช่วยเหลือปกปักรักษาเจ้าไม่เกรงเทวดาฟ้าดินที่ไหนทั้งนั้น ท่านว่าไม้ครูของหลวงปู่ภูนั้นหาของแท้ยากมาก ท่านจะทำไว้ให้เพียงหนเดียว ใช้แทนกันได้

    2. ตะกรุดพระสุเมรุค้ำฟ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เปรียบกับเขาพระสุเมรุราชที่ตั้งสวรรค์จตุมหาราชิกาและดาวดึงส์นั่นเอง เป็นดุจแกนโลกเป็นหลักโลก ค้ำโลกกับสวรรค์เอาไว้ เป็นหลักปักฟ้าดินให้แยกออกจากกัน ไม่มีวันเอนเอียงย่อยยับลงได้เลย ตะกรุดนี้มีคุณทางค้ำชะตา วิชานี้เป็นของเทพเบื้องบน ท่านว่าจะค้ำไว้ไม่ให้ตกและยังค้ำให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ดีวันดีคืนไม่มีตกต่ำย่อยยับลงดั่งเขาพระสุเมรูที่ค้ำฟ้าค้ำดินเช่นนั้น ท่านว่าให้อธิษฐานบอกกล่าวกับเทพเจ้าเถิดว่าลูกชื่ออะไรนามสกุลอะไร อยู่ที่ปห่งไหน ใครเป็นบิดามารดา ขอพรท่านให้รักษาค้ำชูชีวิตและชะตาตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงแค่นั้นก็พอแล้ว เห็นดอกเล็กๆนี้ดีกว่าตะกรุดหนุนดวงดอกใหญ่ๆมากนัก

    พ่ออาจารย์ท่านว่า บอกเค้าแค่ที่ควรบอกก็พอแล้ว รุ่นนี้เจ้าของเค้าเห็นเค้าจะเกิดปิติฉุกคิดและต้องการเอง เหมือนได้ยินคำว่าพระพุทธเจ้า ก็เกิดปิติศรัทธาในพระองค์ฉันใดก็ฉันนั้น อย่าบอกอะไรมาก เพราะมันอันตราย อย่างไม้ครูนี้ ก็เป็นของวิเศษมีเดชมากถ้าฟาดหัวใครเล่นเขาก็เป็นบ้าถึงกับวิกลจริตได้ เราเลยเอามาฝังให้แบบนี้จะได้ใช้กันให้เกิดคุณไม่อำนวยโทษร้ายแรงแก่ผู้ใด

    พ่ออาจารย์บอกว่าทำยากมาก ไม่ใช่ขออนุญาติกันง่ายๆทั้งไม้ครูและพญาธรรมิกราชนั้น ต่างกรรมต่างวาระกันทั้งสิ้น ใครบูชาไปก็คิดเสียว่านี่คือของดี เป็นของขวัญที่เราได้รู้จักกัน ซึ่งปัจจัยนี้เราจะเอาไปบริจาคงานกฐินตามวัดในชนบทต่อไป พระยาธรรมิกราชบรมจักรพรรดิ์นี้เป็นของวิเศษมีตราประทับเจ้าของไว้ทุกองค์ ท่านว่าวิชานี้ฝืนกฏและวิบากกรรมอย่างแรงและเข้มข้นมาก ด้วยเป็นองค์วิสุทธิเทพซึ่งสามารถหยิบยื่นมรรคผลนิพพานอันเปรียบกับลูกไม้ส่งมอบให้แก่ผู้ใดก็ย่อมได้ เทพเบื้องบนเค้าจึงปกปิดและไม่มีใครทำใครสร้างกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเองก็จะทำเพียงครั้งเดียวให้เป็นตำนานไปเลย ขอให้เจ้าของที่แท้ เพียงผู้มีวาสนาเท่านั้นมารับไป

    คาถาบูชา
    อะหังภันเต ธรรมิกราชา พุทธะรักขิโต ยาวะชีวัง สะระณังคัจฉามิ อิมัง สังเสวีรังยันตัง อิติตะเรเอหิ นะโมพุทธายะ เอหิธัมมายะ เอหินะโมสังฆายะ อิมังคาถัง เอหิ เอหิ

    * สร้างไว้ได้เพียง 12 องค์เท่านั้น เปิดจองบูชาเฉพาะใน PM ใครต้องการจะบูชาให้บอกคอมเม้นไว้ ว่าต้องการและศรัทธาในพระยาธรรมิกราช จะเชิญพระองค์ไปช่วยเหลือด้านใด

    เชิญร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อกายสิทธิ์ธาตุพระยาธรรมิกราชฝังไม้ครูนิ้วเพชรพระอิศวร บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระเกศโมลีพุทธิรังษีปฐมบรมสัพพัญญู(เกตุมาลาธาตุพระเจ้าสิบแสนฝังสังกัจจายน์หูยาว)

    ในบรรดาเครื่องมงคล พระเครื่องและเครื่องรางทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่านี่คือเครื่องราง ที่มีศักดิ์สูงกว่าพระเครื่องธรรมดาสามัญทั่วไป จัดอยู่ในขอบเขตของเครื่องรางขั้นมหาจักรพรรดิ์ก็ว่าได้

    ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้หล่อหลอมบูชาครูขึ้นมานานแล้ว โดยท่านได้รับนิมิตรจากพระสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดา สมเด็จท่านตรัสบอกกับพ่ออาจารย์ ขอให้ท่านสร้างของวิเศษสูงสุดให้เสียหนหนึ่ง ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งวิเศษที่เกิดด้วยพุทธานุภาพ พ้นอานุภาพใดๆในวัฏจักรจะสร้างสรรค์ได้ ถ้าตัวพ่ออาจารย์ท่านยอมตกปากรับคำ ท้ายที่สุด สมเด็จพระผู้บรมครูท่านกล่าวว่า ตถาคตจะเชิญพระพุทธเจ้าทั้งสิบแสน ลงไปช่วยเจ้าทำให้สำเร็จ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็น้อมรับด้วยความยินดี

    สิ่งที่กล่าวถึงนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นรูปวัตถุทางกายภาพ ที่นิพพานเบื้องบนต้องการให้ท่านสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดเชื่อม รับบารมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งสิบแสนพระองค์อันมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมเป็นประธาน เป็นสิ่งที่เปรียบได้กับพระธาตุเกตุมาลาของสมเด็จองค์ปฐมท่าน

    พ่ออาจารย์กล่าวว่า ครูบาอาจารย์ทั้งหลายนั้นนิยมนำเส้นผม หรือเส้นเกษามาใส่ในพระเครื่อง ด้วยนิยมว่าเป็นของสูง สูงสุดแล้วในร่างกายของตนเอง พระเกตุมาลาของเหล่าพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลายก็เช่นกัน นี่คือสิ่งที่อยู่สูงสุดแล้ว ในร่างกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บังเกิดเฉพาะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ปรากฏว่าจะมีเอกองค์อรหันต์สาวกเหล่าใด ปรากฏพระเกตุมาลาขึ้นบริเวณพระเศียร

    พระเกตุมาลาของพระพุธเจ้าทั้งหลายนั้น เป็นสิ่งที่ยังให้สรรพสัตว์ทั้งหลายเห็นและรู้จักว่านี่คือพระพุทธเจ้า เกิดความเคารพ ความนอบน้อม อยากจะรับฟังธรรมคำสั่งสอน ด้วยว่าพระเกตุมาลานั้นจะทรงไว้ซึ่งพระรัศมีพวยพุ่งออกมาตลอดเวลา เป็นรัศมีที่เปล่งอยู่เหนือพระเศียรของสมเด็จพระบรมศาสดา มีรัศมีกว้างแผ่ออกไปได้วาหนึ่ง ยังความเลื่อมใสให้บังเกิดขึ้นแก่สัตว์โลกที่ได้พบเห็น ที่เป็นดั่งนี้ก็เป็นไปเพราะด้วยบุญและบารมีตั้งแต่เสวยชาติเป็นเหล่ามหาโพธิสัตว์ ได้บำเพ็ญโพธิสมภารไว้มากมายหาประมาณมิได้นับอสงไขยกัป เมื่อกระทำเป็นเครื่องมงคลนั้น จึงมีพรรณคุณเป็นดั่งฉรรพพรรณรังสีของเหล่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ส่องแสงสว่างกว่าแรงตะวัน เป็นแสงสว่างแห่งอริยผล แห่งสัจธรรม อันจะปัดเป่าและทำลายความมืดลงได้โดยแท้จริง

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้หล่อพระเกศโมลีพุทธิรังษีปฐมบรมสัพพัญญูขึ้นมา โดยท่านใช้ธาตุตั้งต้นประกอบจากกายสิทธิ์บริสุทธิ์อันเทพยดาได้รักษาไว้ มีอานุภาพที่สามารถซึมซับพระเวทย์และพระธรรมได้ดี ส่วนการเสกนั้น ท่านว่าท่านไม่ใช่พระพุทธเจ้า ท่านเสกเองไม่ได้แม้แต่เพียงเล็กน้อย เพราะสิ่งนี้ยังไม่ได้เกิดในร่างกายท่าน

    พ่ออาจารย์ท่านใช้เวลาตลอดพรรษา เพียรเชิญเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม พร้อมด้วยสภาพุทธินายกทั้งสิบแสนพระองค์ผู้เป็นสัพพัญญูลงมาเสกมากระทำด้วยวิชชาของพระองค์ท่าน ท่านว่าของวิเศษได้เกิดขึ้นแล้ว ตลอดทั้งมหาจักรวาลและไตรโลกนี้ จะหาสิ่งใดวิเศษเกินกว่านี้ย่อมไม่มีอีก

    ด้วยว่าเมื่อสำเร็จแล้ว สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมนั้นได้ตรัสรับรองไว้ ว่านี่คือสิ่งวิเศษ แม้อยู่ในร่างกายผู้ใด ประดุจได้นั่งอยู่ในบัญชรแวดล้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งสิบแสนพระองค์ มีคุณทุกด้านด้วยพุทธานุภาพสูงสุด เอาล่ะ ตามแต่จะปรารถนาแลอธิษฐาน พ่ออาจารย์ท่านว่าคำปกาศิตนี้มีความหมายยิ่งนัก ให้ตรองกันเอาเอง บอกได้แค่เพียงว่านี่คือที่สุดแล้ว สูงสุดแล้ว ที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะทรงมี จะหาของขวัญใดวิเศษเท่านี้ ย่อมหามิได้อีก

    ด้านหลังพระเกศโมลีพุทธิรังษีปฐมบรมสัพพัญญูนั้น ตอนหล่อ พ่ออาจารย์ท่านได้ฝังบรมครูสายเอกของท่านลงไปด้วย มีหลายครั้งที่คนสอบถามเข้ามาว่าเมื่อไหร่หนอท่านจะทำพระสังกัจจายน์ซักที เป็นเดือน เป็นปี ก็แล้ว ทำไมยังไม่เอาออกมาให้บูชา เราก็ได้แต่บอกเขาว่ารอก่อนๆ ยังไม่ถึงเวลา ท่านเตรียมของท่านไว้แล้ว ทำทั้งทีท่านก็อยากจะเอาให้ดีที่สุดเหมือนกัน

    พ่ออาจารย์ท่านได้หล่อพระมหากัจจายนะไว้ด้วยธาตุกายสิทธิ์ เมื่อจะหล่อพระเกศโมลีนั้น ด้านหลังท่านได้คีบพระมหากัจจายนะที่ท่านเสกทิ้งไว้นานนับปีมาฝังด้วยทุกองค์ ท่านว่าประหลาดแท้ พอฝังลงไปเนื้อพระเกศโมลีนั้นจะแข็งตัวแน่นสนิททันที เหมือนข้างบนเค้าจะบอกให้รู้เป็นนัยน์ๆว่ามันเข้ากันอย่างถึงที่สุด เพราะว่าแค่คีบกดลงไปมันแข็งทันทีรวมเป็นเนื้อเดียวกันแยกจากกันไม่ได้เลย ไม่ขยับเขยื้อน เป็นเช่นนี้ทุกองค์ จะกล่าวว่ารุ่นนี้บูชาหนึ่งเหมือนได้ถึงสองก็ไม่ผิด เพราะท่านต้องรอฤกษ์หล่อต่างวาระกันถึงสองรอบก่อนจะนำมาประกอบรวมกัน

    ครูพระสังกัจจายน์หูยาวของท่านนี้ดีอย่างไร ท่านว่าแต่โบราณกาลมา นี่แหละคือที่สุดของพระมหาเถระที่ทรงภูมิรู้และวิชชา ซ้ำยังนำความอุดมสมบูรณ์ร่ำรวยด้วยทรัพย์สินศฤงคารมาสู่ผู้ศรัทธา และท่านยังประกอบด้วยสิริโฉมงดงามเป็นเลิศยังความเข้าใจผิดให้เกิดแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายไปที่แห่งใดประดุจดั่งว่าสมเด็จพระชินสีห์เจ้าได้เสด็จมาเอง

    ที่อื่นจะทำอย่างไรเราไม่รู้ แต่วิชาการสร้างพระสังกัจจายน์หูยาวนั้น มันอยู่ที่ศรัทธาของผู้บูชา ยิ่งศรัทธามากยิ่งให้ผลมาก วิชานี้ตอบสนองกับความศรัทธาโดยตรง ให้คุณเด่นทุกเรื่องมีทุกทาง ถามว่ามีด้านไหนบ้างที่ไม่มีจะง่ายกว่า ไม่ว่าจะเมตตามหานิยม ทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง โชคลาภ เสี่ยงโชค เป็นเสน่ห์ติดตาต้องใจแก่สตรีเพศ นำความปลอดดปร่งแจ่มใสมาสู่ผู้บูชา แม้จะเรียนศึกษาหรือใช้งานสรรพวิทยาเหล่าใด ก็จะเรียนได้ไว เรียนได้สำเร็จ นำวิชาไปประกอบกิจได้อย่างแตกฉาน

    เราเล็งเห็นแล้วว่าพระเกศโมลีนี้คือกายสิทธิ์สูงสุดอันจะบังเกิดมีในมหาจักรวาลเฉพาะพระองค์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราจึงเชิญรูปหล่อครูที่ดี กอปรไปด้วยเมตตาสูงสุดไม่เลือกชนชั้นวรรณณะ คือองค์พระสังกัจจายน์หูยาวประดิษฐานไว้ นี่พวกเธออย่าทำเป็นเล่นไปนะ ถึงจะใส่วิชาพระสังกัจจายน์หูยาวเอาไว้ แต่เวลาเสกก็ยากใช่ที่เพราะต้องกราบอาราธนาพระมหากัจจายนะในนิพพานท่านลงมาเสกสำเร็จรูปเหมือนของท่านด้วยองค์ท่านเอง

    ใครที่รอมาหลายปี ก็ถือว่าเป็นของขวัญให้ไปพร้อมกัน พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าถึงจะเป็นเครื่องราง แต่ก็เป็นของมงคลสูงสุดให้เอาไว้ห้อยคอเท่านั้นห้ามพกต่ำ เมื่ออาราธนาแล้วให้ใช้กำลังใจของตนเข้าหาสมเด็จองค์ปฐมเป็นประจำทุกขณะจิตที่นึกได้ จะทานข้าวจะทำอะไรก็อย่าลืมยกไปถวายท่านที่นิพพานเสียก่อน ไปด้วยกำลังใจ บอกกล่าวท่าน มีอานิสงค์มากนักเกินกว่าเครื่องรางใดๆจะบันดาลให้เกิดได้ เดี๋ยวรู้เอง ก็สมเด็จองค์ปฐมพร้อมสภาพระพุทธเจ้าทั้งสิบแสนอยู่กับตัวถึงปานนั้น ที่ว่ามีอานิสงค์มากเพราะเจ้าทำทีเดียวแล้วมันไปถึงกันหมด ระลึกถึงพระพุทธเจ้า ก็ส่งไปถึงพระเจ้าทั้งสิบแสนในคราวเดียว อยากจะทำบุญถวายทานด้วยกำลังใจของเรากับสมเด็จองค์ปฐมท่านก็ยังมีอานิสงค์แผ่ไปถึงพระเจ้าทั้งสิบแสนในคราวเดียว เช่นนี้เราถึงได้บอกว่า มีอานิสงค์มากนัก อยู่กับบุญ เสวยบุญ ปรารถนาสิ่งใดตั้งใจ ให้สงบ ปล่อยให้ว่างเปล่า อธิษฐานไปกับพระเกศโมลี ย่อมไปถึงพระเนตรพระกรรณพระเจ้าทั้งสิบแสน เดี๋ยวรู้เอง

    * พระเกศโมลีพุทธิรังษีปฐมบรมสัพพัญญู พ่ออาจารย์ท่านจะเชิญครูลงจารประสิทธิ์ให้เฉพาะคน

    * สำหรับเครื่องมงคลสูงสุดนี้ ท่านว่าไม่จำเป็นต้องใช้คาถาใดๆมาอาราธนาเลย ทำตัวให้ว่าง เข้าถึงด้วยความว่างเปล่า เบา สบาย หากจะภาวนาก็ใช้เพียงคำว่าพุทโธเท่านั้นพ่อ

    * สร้างไว้ได้เพียง 13 องค์ รับจองทาง PM รายได้สมทบทุนบำรุงพุทธสถนและหล่อรูปพระสมเด็จองค์ปฐมถวายตามวัดต่างๆในชนบทต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา พระเกศโมลีพุทธิรังษีปฐมบรมสัพพัญญู(เกตุมาลาธาตุพระเจ้าสิบแสนฝังสังกัจจายน์หูยาว)เนื้อธาตุกายสิทธิ์ บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • newchin9.jpg
      newchin9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45 KB
      เปิดดู:
      82
    • S__5865912.jpg
      S__5865912.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.5 KB
      เปิดดู:
      64
    • SAM_4918.JPG
      SAM_4918.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      125
    • SAM_4919.JPG
      SAM_4919.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      97
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229
    เชิญร่วมทำบุญบูชา เหรียญกายทิพย์สำเร็จบรมครูเจ้าปู่ชัยพรหม(ธงชัยพัดโบก)

    ครูองค์นี้สายเหนือโลก เน้นการเล่นฤทธิ์และปาฏิหาริย์(วาทะของพ่ออาจารย์)

    สืบเนื่องจากพ่ออาจารย์ได้สร้างเหรียญกายทิพย์สำเร็จบรมครูเจ้าปู่ชัยพรหม(ธงชัยพัดโบก)ขึ้น เพื่อบูชาคุณพ่อแม่ครูอาจารย์ในโลกทิพย์ ซึ่งเหรียญนี้ท่านได้หล่อสำเร็จขึ้นมา ประกอบด้วยสุดยอดชนวนมวลสารอันเป็นที่สุดมากมาย

    โดยเจ้าปู่นั้น พ่ออาจารย์บอกว่าท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่พระองค์หนึ่งที่เสวยพระชาติเป็นมนุษย์ มีฤทธิ์และอภิญญาสมาบัติทางจิตที่แกร่งกล้ามากเกินกว่าผู้ใดในยุคนั้น

    ท่านบอกว่าแม้เพียงลมหายใจน้ำลายไอปาก หรือวัตถุใดก็ตามเพียงท่านได้สัมผัสหรือกำหนดเพ่งจิตเสกแล้วเป็นได้เรื่อง ของสิ่งนั้นดีกว่าและเหนือกว่า มีฤทธิ์มากเกินกว่าที่จะหาผู้ใดจะกระทำได้

    เหรียญหล่อนี้พ่ออาจารย์ท่านปรารถนาจะสร้างขึ้นมาให้เป็นตัวแทนของเจ้าปู่ท่าน เป็นสื่อระหว่างผู้มีศรัทธาในวิถีจิตอภิญญา ให้ได้บูชาฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่าน ซึ่งท่านได้ขอนิมิตรจากเจ้าปู่ว่าสมควรที่จะทำมั๊ย จะทำออกมาในรูปลักษณ์ใด เมื่อได้รับอนุญาติท่านจึงได้ตัดสินใจสร้างขึ้นมาโดยการเอาเนื้อธาตุกายสิทธิ์เข้ากับก้อนแร่พลวงของเก่าที่เจ้าปู่ท่านเคยเสกลงอาคมไว้ ซึ่งแร่พลวงนี้ได้มาจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุ โดยพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า จะทำสิ่งแทนครูทั้งทีก็ต้องเอาชนวนของท่านนี่แหละมาทำเป็นชนวนตั้งต้น เดินตามรอยเท้าท่านไปอะไรๆจได้เจริญงอกงาม

    ซึ่งการเอาแร่พลวงของเจ้าปุ่มาผสมนั้น พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าจะได้เพิ่มพลังธาตุของกายสิทธิ์ให้สูงขึ้นไปอีก หนุนขึ้นทุกด้านทั้งเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาด ความเจริญก้าวหน้า คุมคน เสี่ยงโชค ทำมาหากิน การแข่งขัน และชัยชนะ

    พ่ออาจารย์ได้รับนิมิตรให้สร้างเป็นรูปลักษณะที่เจ้าปู่ท่าน นั่งผ่อนคลายอิริยาบทอยู่บนหลังม้า อีกมือหนึ่งนั้นก็ถือธงชัยพัดโบกสุดยอดวิชาของท่าน โดยเจ้าปู่นั้นเปรียบได้ดั่งพ่อแม่ครูอาจารย์ที่จะไม่ทิ้งศิษย์ เป็นศูนย์รวมความเมตตาและเกื้อการุณย์ เป็นศูนย์รวมของแหล่งคาถาและอาถรรพ์วิชาต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ทำเป็นขี่ม้าถือธงนี้ ไม่ใช่ท่านให้ทำโดยเสียเปล่า ทุกอย่างมีความหมายทั้งนั้น
    1. ม้า ม้านี้เป็นพาหนะของคนยุคโบราณ เป็นพาหนะของเจ้าปู่ชัยพรหมอยู่แล้ว สมัยก่อนนั้นเจ้าปู่ก็มีม้าตัวโปรด ปราดเปรียว ชื่อว่าคุณแก้ว ม้านี้เป็นม้าป่าวิเศษและว่องไว ซ้ำยังรอดจากคมหอกคมดาบมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อจะสร้างนั้นเจ้าปู่ท่านได้ให้สร้างรูปคุณแก้วไว้ด้วย ท่านว่าม้าเป็นสัญลักษณ์ของความว่องไว ผู้บูชาจะไปที่ไหนปรารถนาอะไรจะได้สำเร็จไวสมดังใจคิด ม้าดุจดั่งบริวารยิ่งเป็นม้าที่รู้ใจนั้นเหมือนเรามีบริวารที่ดีไม่หักหลังเรา คุณแก้วนี้ภูติและสิ่งไม่ดีทั้งหลายกลัวกันนัก เป็นม้าพยนต์ มีฤทธิ์แรงกล้ามากกว่าวัวควายธนูเวทย์ทั้งหลายไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง พ่ออาจารย์ท่านว่าลงเอาไว้เช่นนี้ เดี๋ยวเค้าจะเอาคุณมาให้
    2. ธงชัยพัดโบก วิชาเอกขึ้นชื่อของเจ้าปู่ ธงชัยนี้เป็นธงสำคัญ ธงพิชัยสงครามพ่ออาจารย์บอกว่าเสกยากมาก ต้องชักยันต์เป่าวิชาไว้นั่งทำทีละองค์ ที่ว่าเป็นธงสำคัญนั้น เพราะธงชัยก็เหมือนจุดรวมจิตใจของกองทัพ เป็นศูนย์รวมขวัญและกำลังใจ แม้ได้มองแล้วจะปราศจากสิ้นซึ่งความเกรงกลัว สร้างกำลังใจให้กับเหล่าทหารและขุนศึกในการรบ แต่ธงชัยพัดโบกนี้ทำวิชาใช้พุทธคุณผสานกับธาตุลมเพื่อจะพัดพาเอาสิ่งดีๆมาสู่ธาตุสังขารของผู้ครอบครอง สมัยก่อนวิชานี้เจ้าปู่ทำไว้ ปักที่ไหนก็ค้าขายดีเจริญขึ้นทั้งวงศ์ตระกูล แม้ปรารถนาลูกสาวบ้านไหนอยากให้เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมเพียงไร เอาธงไปปักไว้ถือคติที่ว่าลมพัดไปทางใดใครสูดธาตุลมเข้าไป เขารักเราทุกคน แม้จะคุมคนยกธงขึ้นปักเขาก็ยำเกรงอ่อนน้อมเรา เพราะธาตุลมนี้อยู่ในร่างกายเขา พัดไปได้ทุกทิศสุดแท้แต่จะปรารถนา ท่านว่าจะอธิษฐานปรารถนาขออะไรจากเจ้าปู่ท่าน ให้มองที่ธงชัยนี้แล้วเพ่งความปรารถนาสุดแท้แต่จะอธิษฐานได้เลย ครอบคลุมทุกเรื่อง เมื่อปั้นพิมพ์นั้นเจ้าปู่ท่านได้เข้านิมิตรให้แก้ไขธงชัยนี้เพิ่มเติม โดยให้ทำเป็นลักษณะธงชัยที่โดนลมพัดลู่วิ่งเอาสิ่งดีเข้ามาหาตน ท่านว่าความปรารถนา โชคลภ ทรัพย์สิน สิ่งต่างๆ ต่อไปนี้จะได้ไม่ไปที่อื่น วิ่งตรงเข้ามาหาเรา เข้ามาหาผู้ที่มีธงชัยพัดโบกนี้

    เมื่อได้แบบพิมพ์และพ่ออาจารย์ท่านเทหล่อขึ้นมาแล้ว สำหรับการสร้างเพื่อบูชาคุณครูนั้น ท่านว่าท่านปรารถนาจะเอาให้แรงสุดๆไปเลยเป็นกฤติยาคมแฝด โดยด้านหลังองค์พระนั้น ท่านได้ฝังของวิเศษไว้ด้วยถึงสามอย่าง
    1. ลูกหินเจ้าปู่ชัยพรหม ของดีที่ไม่ควรมองข้าม ลูกหินเสก หินก้นห้วยของท่านนี้ดีทุกด้าน สมัยก่อนต้องข้ามป่าข้ามเขากันทีเดียวเพื่อจะไปหาท่านนำมาบูชาเป็นสิริมงคล พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของดีธาตุทั้งสี่ประชุมกันครบ เสริมส่งกันปรารถนาสิ่งใดย่อมเป็นไปได้ไว สำเร็จสมความตั้งใจปรารถนา แต่เดิมนั้นท่านได้นำลูกหินเหล่านี้มาตำเพื่อที่จะบดให้เป็นผงไว้สร้างเครื่องมงคล เนื่องจากลูกหินนั้นมีขนาดใหญ่ แต่ท่านปวดมือไม่สามารถตำต่อได้ ได้แต่เพียงกระเทาะลูกที่มีขนาดใหญ่ให้มีสัณฐานพอดีเท่านั้น จนเจ้าปู่ท่านได้มาเข้านิมิตรบอกพ่ออาจารย์วาท่านไม่ให้ตำเป็นผง ได้ที่แล้วให้ใช้ทั้งแบบนี้เลย ท่านจึงนำเศษลูกหินเสกของเจ้าปู่นั้นฝังไว้ด้วยทั้งแบบนี้ ลูกหินชุดนี้เป็นชุดที่พ่ออาจารย์ท่านได้รับสืบต่อมาและก็ใช้แช่ทำน้ำมนต์ของท่านต่อมานาน ท่านว่าเรื่องความแรงไม่ต้องพูดกัน สุดยอดในสายปฐวีธาตุแล้ว
    2. ตะกรุดพระเจ้าครอบฟ้า ตะกรุดนี้เป็นการลงวิชาของเจ้าปู่ท่านซึ่งมีอานุภาพครบทุกทาง เด่นและเก่งทุกด้าน สุดแท้แต่ใจจะใช้ ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาสำเร็จ ใช้จิตเชื่อมอย่างเดียว อธิษฐานได้ทุกเรื่องครอบคลุมหมด ครอบทุกยันต์ทุกคาถาทุกบทพุทธคุณ เป็นวิชาที่ไม่ค่อยได้สร้างให้แก่ใคร แต่ลงไว้ให้เพื่อคนที่ได้ไปจะได้ใช้จิตอธิษฐานเอาให้แรงกันแบบลูกโดด มีก๊อกหนึ่งก๊อกสอง
    3. ผงมหาเทวะภูติบรมครู โดยพ่ออาจารย์ท่านได้ขออนุญาตุเจ้าปู่ปั้นผงนี้ไว้เป็นแท่งเล็กๆใส่ในตะกรุดทุกดอกที่ฝังหลังเหรียญ ทานว่าแม้อณูเดียวก็มีฤทธิ์มากแล้ว ผงนี้สำคัญนักเป็นดังหัวใจของเหรียญกายทิพย์ก็ไม่ปาน ด้วยท่านได้นำเอาเถ้าอังคารธาตุของเจ้าปู่ที่เก็บไว้มาทำพิธีขออนุญาติ ซ้ำยังได้นำเอาชิ้นส่วนกะโหลกหน้าผาก ของเจ้าปู่ท่านนำมาตำผสมลงไปด้วยส่วนนึง เป็นผงที่แรงที่สุดธาตุขันธ์ล้วนๆ ท่านนำมาผสมรวมกันปั้นไว้เป็นแท่งเพื่อบรรจุ ซึ่งผงนี้มีคุณค่ามากเป็นสื่อถึงครูได้อย่างเร็วและแรงที่สุด ท่านว่าไม่ใช่ผีไม่มีพรายใดๆทั้งสิ้น มีแต่ญาณของพระโพธิสัตว์ มหากรุณาญาณอันจะพาผู้นับถือออกจากวังวนแห่งความทุกข์

    เหรียญนี้พ่ออาจารย์ท่านขออนุญาติสร้างเพื่อบูชาคุณครูได้ทั้งหมด 14 เหรียญ ท่านว่าทำไว้ดีที่สุดแล้ว ใครอยากบูชา เชิญครู อยากให้ชีวิตเจริญด้วยฤทธิ์แรงครู ต้องการครูที่ว่าดีว่าแรงไปสักการะบูชาเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตก็ค่อยมาเอาไป

    * ท่านว่าเจ้าปู่นั้นชอบฉันหมาก ถ้าอยากให้แรงก็คงจะไม่แรงไปกว่านี้ แต่ถ้าอยากสักการะครูทำอะไรจะได้สำเร็จไว ให้หาหมากพลู ยาสูบ น้ำชาหนึ่งแก้วถวายเจ้าปู่ท่าน แล้วหญ้าสดซักกำมือให้คุณแก้วยอดอาชาของท่าน ถวายไปพร้อมกัน ท่านว่าทำได้เพียงเท่านี้ก็ดีที่สุดแล้ว

    เหรียญนี้ท่านว่าไม่ต้องใช้คาถาใดๆเลย สำเร็จด้วยฤทธิ์แรงครูล้วนๆ จะใช้อย่างไร ให้ใช้ด้วยศรัทธาทำจิตให้นิ่งมีสมาธิ พูดภาษาใจกับท่าน บอกท่านขอท่านตรงๆ อธิษฐานด้วยศรัทธาขอบารมีท่าน เพียงเท่านี้ท่านก็รับรู้แล้ว

    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้เพียง 14 องค์ ผู้บูชาให้ติดต่อทางPM เท่านั้น รายได้ทั้งหมดพ่ออาจารย์ท่านจะมอบให้เป็นทุนเด็กกำพร้า และผู้ด้วยโอกาสทางการศึกษาต่อไป

    เชิญร่วมทำบุญบูชา เหรียญกายทิพย์สำเร็จบรมครูเจ้าปู่ชัยพรหม(ธงชัยพัดโบก) บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,720
    ค่าพลัง:
    +18,229

แชร์หน้านี้

Loading...