ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวิฬาร์ย่ำเหยียบเงาหมื่นกฏไม่ใช่เรื่องของเรา(เงาปรากฏรวยอมตะ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เทพพยนต์ปฐมโลกีย์จ้าวมหาภูติพระแผลงนามบัญญัติอัตตา,กุศล,สำเร็จ(มามืดไปสว่าง)
    "หุ่นเทพพยนต์นี้ พ่ออาจารย์ท่านจำลองปางของมหาเทพเมื่อครั้งปราบตรีปุราสูรมาสร้าง" ตรีปุราสูรคืออสูรสามตนได้แก่วิทยุนมาลี,ตารกักษะ,วีรยาวณะ เป็นบุตรของตารกาสูรที่ถูกพระขันธกุมารสังหารไป ตรีปุราสูรนี้นับว่าเป็นจ้าวอสูรที่สำคัญมากเพราะเทพทั้งหลายฆ่าไม่ตายด้วยเธอขอพรพระพรหมนานถึง3,000ปี โดยได้ปราสาทสามหลังอันปราสาททองนั้นตั้งอยู่บนสวรรค์,ปราสาทเงินตั้งอยู่ในอากาศ,ปราสาทโลหะตั้งอยู่ในโลกมนุษย์ ปราสาททั้งสามนี้จึงเรียกรวมกันว่าตรีปุระหรือเมืองสามเมือง(โดยทุกๆหนึ่งพันปีเมืองทั้งสามนี้ถึงจะโคจรเรียงกันเป็นเส้นตรง) ผู้ที่จะสังหารตรีปุราสูรได้จะต้องสามารถฆ่าอสูรทั้งสามพร้อมทำลายเมืองทั้งสามได้ในเวลาเดียวกัน กล่าวคือต้องทำลายให้ครบเพียงการโจมตีครั้งเดียวเท่านั้น ด้วยพรของพระพรหมนี้จึงเกิดเมืองลอยฟ้าทั้งสามรวมไปถึงทิพย์ยานมากมาย ส่วนจ้าวอสูรทั้งสามก็มีฤทธิ์มากนักเที่ยวไล่จับเทวดาสำคัญๆมาควบคุมเป็นเชลยใส่ในคุกไว้ทั้งหมด ตั้งแต่พระคเณศ,เทวฤาษีนารท,พระอินทร์,พระยม,พระวรุณ,พระพาย,พระกาฬ,ท้าวกุเวร,พระอาทิตย์,พระจันทร์....(โดนกันหมดสวรรค์นั่นเลย) จนพระศิวะเจ้าได้สั่งให้พระวิศวกรรมสร้างรถม้าจากทองคำให้พระพรหมาเป็นสารถีและสร้างมหาธนูกับลูกศรให้พระศิวะ พระศิวะและเหล่าเทพจึงบุกไปที่เมืองตรีปุระในช่วงเวลาที่ทั้งสามเมืองเรียงตรงกัน พระองค์จึงยิงธนูใส่เมืองทั้งสามเพื่อทำลายที่คุมขังเหล่าเทพและยังสังหารตรีปุราสูรและวงศ์อสูรทั้งหมดรวมถึงทำลายเมืองลอยฟ้าทั้งสามอันเป็นปราการที่ไม่มีวันตีแตกไปพร้อมๆกันด้วยธนูดอกเดียวดั่งคำพรของพระพรหม พ่ออาจารย์ท่านถือคติว่าเทพพยนต์นี้มีอำนาจยิ่งใหญ่เพียงยิงศรครั้งเดียวก็ทำลายเหตุแห่งความเสื่อม ความทุกข์ร้อน ต้นตอแห่งอสัตย์ธรรมได้ครบทั้งสามโลกในเวลาเดียวกัน ทำลายไปทั้งหมดทั้งจ้าวอสูร,บริวาร,ไพร่พล,ปราสาทราชวังไม่มีเหลือเถ้าธุลี ซ้ำยังได้คืนอิสระให้กับเหล่าเทพเจ้าทั้งหลาย เช่นนั้นท่านจึงจำลองปางพระแผลงของมหาเทพอันเป็นมหามงคลของการทำลายล้างเพื่อปลดแอกสถานการณ์กดดันอันกักขังเหนี่ยวรั้งแลคืนอิสระแก่สรรพชีวิตมาสร้างเทพพยนต์ชั้นครูของท่าน

    ด้วยสายธารแห่งกาลเวลาเป็นสิ่งคําจุนโลกใบนี้เอาไว้ มันมิได้อยู่ไกลออกไปจนสุดขอบฟ้าแต่กลับอยู่ใกล้ตัวของทุกคน ทุกๆการเคลื่อนไหวของทุกสิ่งทุกอย่างต่างผลักดันกาลเวลาให้เดินหน้าต่อไป กาลเวลาจึงเหมือนกับสายน้ำที่ไหลไปข้างหน้าเป็นดั่งเครื่องคุมขังเหนี่ยวรั้งเราไว้ในวังวนของอัตตาแลวัฏจักร สายธารแห่งกาลเวลามิอาจมองเห็นและไม่มีสีสันแต่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนจ่อมจมอยู่ในกระแสธารอันเชี่ยวกรากนี้ แท้จริงแล้วโลกใบนี้เปรียบเสมือนกระดานหมากรุกขนาดใหญ่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนเป็นเพียงตัวหมากซึ่งเคลือนที่ไปตามกฏเกณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นกฎแห่งฤดูกาล,กฎแห่งกาลเวลาทุกคนต่างก้าวเดินไปตามกฏทั้งสิ้น ไม่ว่าพวกเขากําลังมีชีวิตอยู่,ไม่ว่าพวกเขาจะตกตายลง พวกเขาย่อมแหวกว่ายอยู่ในห้วงกระแสธารแห่งกาลเวลาสายนี้นั่นเอง เพราะนั่นคือกฏ ด้วยความมืดก็มีกฎของความมืด แสงสว่างก็มีกฎของแสงสว่าง เช่นนั้น อันชนทั้งหลายนั้นยังเกี่ยวข้องกับโลก,ยังแสวงหาเพื่อเรื่องทางโลก,และยังอยู่ในกฏอันเป็นธรรมดาโลก ภาวะความเป็นไปที่ยังวนเวียนอยู่ในภพสามคือ กามภพ,รูปภพ,อรูปภพนี้ ก็เปรียบเสมือนปราสาทกลางหาวทั้งสามของตรีปุราสูรที่ไม่มีวันตีแตกและจองจำกักขังได้แม้กระทั่งเทพเจ้า ด้วยทุกชีวิตยังเกี่ยวข้องอยู่กับเรื่องกาม ตัณหา ทิฏฐิ อวิชชา พูดให้ง่ายคือยังมีเรื่องเกี่ยวกับกามารมณ์ทั้งรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เหล่านั้น คนที่ยังมีกิเลสอยู่ก็จะปรุงแต่งกันไปต่างๆนานา เพราะมันเป็นความขวนขวายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นอย่างหนึ่ง ทั้งอยากเป็นอย่างคนอื่นโดยไม่รู้ว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ เมื่อเป็นแล้วมันเป็นสุขหรือทุกข์ แต่อารมณ์ที่อยากได้อย่างเขาอยากมีอย่างเขาก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับชนทั้งหลาย

    เมื่อจะก้าวเดินต่อไปให้ถึงทางโลกุตระ เพื่อความพ้นโลก,เหนือโลก พ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนี้พื้นฐานชีวิตก็ควรจะบริบูรณ์และถึงพร้อมเสียก่อน ม้จะอยู่กับมันแต่ก็ย่าไปยึดติดมันเพราะสรรพสิ่งทั้งหลายล้วนเป็นสิ่งที่จะย่อยยับไป เช่นนั้นศาสตร์การสร้างจ้าวมหาภูติอันเป็นร่างปรากฏ,เป็นที่ตั้งอยู่แห่งบุญบาปและผลแห่งบุญบาปนั้น ท่านจึงนำมาใช้ด้วยเห็นเหตุสำคัญว่ามนุษย์ทั้งหลายยังเกี่ยวข้องกับโลก,ยังตั้งอยู่ในโลก,ยังเปลี่ยนแปลงตามกระแสโลก ทั้งนี้เมื่อชีวิตยังดำรงค์อยู่ในภาวะที่ผูกอินทรีย์ไว้ จิตของเราการกระทำของเราจึงมีขอบเขต มีความสามารถ เช่น ตัวเราอยู่ในวิสัยที่จะทำเรื่องต่างๆได้หรือเป็นเรื่องเหลือวิสัยที่จะทำได้เพราะตัวเราอยู่ในกฏหรือกระแสธารแห่งกาลเวลาอันเชี่ยวกรากที่คุมขังไว้ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้สร้างจ้าวมหาภูติอันจะอธิษฐานขอกำลังแห่งครูพระศิวะเจ้าเพื่อทำลายเครื่องพันธนาการชีวิตเหล่านั้น ท่านว่าแม้ชีวิตเราเปรียบดั่งใบบัวอันไม่เคยปฏิเสธน้ำฉันใด แต่ต่อไปนี้น้ำก็ไม่อาจชำแรกติดอยู่ในใบบัวได้ฉันนั้นดุจดั่งบัณฑิตไม่จำเป็นต้องดัดจริตปฏิเสธโลกียวิสัยหากแต่ควรฝึกใจอย่าให้ติดมัน

    เมื่อครูพระสยม(พระศิวะ)ท่านรับจะช่วยทำเทพพยนต์ชุดนี้ ท่านจึงให้คติว่าเป็นของชุดพิเศษที่ทำให้คน มืดมา สว่างไป(ตโม โชติปรายโน)เอาไปใช้ ด้วยเหตุว่าถ้าเปลี่ยนชีวิตคนให้มืดมาสว่างไปได้อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอีก เพื่อให้ชนทั้งหลายที่ได้ใช้จ้าวมหาภูติมีหนทางสว่างไปในภายหน้า ไม่อับจนเกิดเป็นคนมืดมน ไม่เกิดมาเสียเปล่าเพราะไม่รู้เดียงสาอะไรเลย เหมือนกับมดกับปลวกมืดตื้อไปหมด,พูดอะไรก็ไม่รู้เรื่องรู้ราว,เรื่องศีลเรื่องธรรมกล่าวไปก็ไม่นำพา ด้วยเข้าใจว่าตัวเองโง่เง่าเต่าตุ่นไม่มีสติปัญญาแล้วก็เลยไม่ทำความดีต่อไป เห็นว่าหมดวิสัยของตัวแล้วจึงซ้ำเติมตัวเองให้โง่ให้ทึบให้ตื้อเข้าไปอีกเรียกว่ามืดมาแต่ต้นแล้วก็มืดต่อไปอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราเกิดมาทุกคนต้องมืดมนด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่สว่างมาแต่เบื้องต้น ใครเกิดมาจะรู้จักดี ชั่ว ฉลาดเฉลียวมาแต่เบื้องต้นนั้นไม่มีหรอก ถึงชาติก่อนจะสร้างวาสนามาดีแล้วก็ตาม กลับมาเกิดใหม่ก็ต้องมาเริ่มหัดเอาใหม่ แต่นิสัยเป็นเหตุให้วาสนาที่ติดตัวนั้นถึงพร้อมได้ดีมากกว่าคนอื่นที่ไม่ได้ทำมา เช่นนั้นท่านจึงขอให้ครูพระสยมมีโองการมนต์พยนต์ชุดนี้เพื่อเปลี่ยนนิสัยอันติดตัวมารวมถึงชะตาวาสนาที่มืดทึบ แม้จะติดอยู่ในความมืดบอดทั้งหลายต่อไปนี้มีคติเดียวนั่นคือต้องมืดมาสว่างไปเท่านั้น ด้วยเป็นเทพพยนต์เมื่อเราบูชาแล้วชนทั้งหลายจะให้ความยำเกรงเป็นอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าจ้าวมหาภูติรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ท่านใช้เองจนเห็นประสบการณ์มากมาย เอาเป็นว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับท่านนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องอัศจรรย์ทั้งสิ้น ยากที่จะหาคำตอบทางวิทยาศาสตร์อธิบายได้ทุกอย่าง แม้แต่กระทั่งขอโชคลาภ,ขอความเจริญรุ่งเรืองจากท่านก็มีให้เห็นมาไม่ใช่น้อยกลายเป็นเรื่องเด็กๆไปเลย แต่สิ่งสำคัญที่สุดของการจะบูชาท่าน ก็คือต้องมี “สัจจะ” พูดจริง ทำจริง จะมาทำเป็นตลกบิดเบือนไม่ได้ พูดแล้วต้องปฏิบัติตามคำพูดที่พูดออกไปให้ได้ ถ้าสามารถรักษาสัจจะได้ท่านก็จะคุ้มครองรักษาเรา แต่หากเป็นคนโลเล พูดจาตลบแตลง พูดวันนี้อย่าง พรุ่งนี้อย่าง หาสาระแก่นสารไม่ได้ท่านว่าอย่าใช้(ถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็นหรือแค่เราปากพล่อยพูดไปเรื่อยก็อย่าไปอธิษฐาน)

    ในมวลสารของจ้าวมหาภูตินั้นท่านใช้ผงมหาภูติของเศรษฐีในอดีตถึงสิบหกคนตามตำรับโสฬสเศรษฐีมหาศาลมาทำ รุ่นนี้ท่านว่าเป็นผงสำคัญที่ท่านรับมาจากครูที่สอนท่านซึ่งได้รวบรวมและส่งต่อกันมาหลายชั่วคนในบรรดาครูที่รับสืบวิชา ท่านว่านี่ไม่ใช่ผงผีผงกระดูกนะ หากแต่เป็นผงลบวิชาโสฬสเศรษฐีมหาศาลซึ่งครูท่านจะเลือกเศรษฐีที่เป็นศิษย์อุปถัมภ์ และต้องมีวาสนาดีและมีลักษณะเป็นมงคลจริงๆ(ด้วยเศรษฐีนั้นมีอยู่เกลื่อนทุกยุคไปแต่จะหาคนที่มีบารมีมาก มีของเก่าเยอะ มีวาสนาทำมาดี มีลักษณะดี เช่นนี้ย่อมหายากยิ่งกว่าสรรหาช่างเผือกในป่าดง)ไปขอให้เขาหยดเลือดใส่ผงนี้บอกเขาว่าจะขอเอาวาสนาเขาไปช่วยคนในชั้นหลังบ้างจะทำวิชาเก็บไว้ซึ่งเขาต้องมอบให้ด้วยความเต็มใจเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเคล็ดการเอาสัญญา,เอานิสัย,เอาวาสนา,เอาบุญบารมีของเศรษฐีมหาศาลผ่านทางสายโลหิตที่ข้นกว่าน้ำใดๆมาผูกวิชาไว้เป็นการทำอาถรรพ์ให้คนใช้รวยไปอีกสิบหกชาติ ที่ไม่รวยก็ต้องรวย ทั้งผงนี้ยังได้อัญเชิญปู่โสมเฝ้าทรัพย์-ปู่โสมเรียกทรัพย์มาทำวิชาด้วย ท่านว่าระหว่างกดพิมพ์ก็ต้องลงอาถรรพ์วิชาเทพพยนต์ที่เป็นวิชาอันพระอินทร์ท่านผูกไว้กำกับไปพร้อมกัน ดังนั้นพยนต์นี้นอกจากจะดีทางวิชาอาถรรพ์ของครูพระสยมแล้วยังดีทางรับทรัพย์-เรียกทรัพย์อีกด้วย ไม่ว่าจะเพิ่มทรัพย์สินในบ้าน,ธุรกิจการงาน,ขอให้ทำมาค้าขึ้น,ค้าขายคล่อง,เรียกทรัพย์,เรียกโชคลาภ,ติดต่อธุรกิจต่างๆ... ท่านว่าไม่พูดเยอะ เอาว่าใช้ไปเถิดขอให้เป็นงาน ทำอะไรอยู่ล่ะ ไอ้ที่ทำๆมันจะคล่องตัวมากขึ้น ไม่ฝืด ไม่เคือง ไม่ชะงักงัน ไม่หยุดอยู่กับที่ทั้งนั้น

    พยนต์ชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงยาสำคัญและตะกรุดชุดฝังไปด้วย นั่นคือ
    - ผงยาเทพนิมิตอภิรมย์ ใส่ขวดเฉพาะทำการฝังให้ทุกองค์ด้วย ซึ่งผงยานี้ท่านว่าให้พกอธิษฐานไว้เพราะมันมีฤทธิ์รุนแรงเป็นที่สุด ใช้ได้สารพัดประโยชน์เพียงแค่พกก็เป็นมงคลขับชะตาราศีให้ขึ้นสูงสุดดั่งมีพรหมมาลิขิตจับยกวาสนาให้เรา ดั่งมีเทพมานิมิตให้กิจทั้งหลายของเราสมปรารถนา ทั้งหมายปองต้องจิตผู้ใดท่านว่าต่อให้คนนั้นมีคนรักอยู่แล้วเขาก็ต้องแตกหักกับคนที่รักอยู่(อันนี้ท่านไม่แนะนำให้ทำจึงให้เพียงพกก็พอ) ท่านว่าแค่พกก็ดีแล้ว..ดีมากๆแล้วดุจพกยาแฝด,ยาเสน่ห์,ยาดักวาสนานั่นเลย ทั้งยังเป็นเสน่ห์กับคนที่ใช้ของเสน่ห์ไม่ขึ้น เป็นเหตุแห่งความเจริญในชีวิตเรา ในสถานที่ซึ่งเราอยู่ พกติดตัวไว้กลับดวงร้ายให้กลายเป็นดีแก้โรคทางประสาทจิตหลอนนึกคิดเพ้อฝันไปเอง ท่านว่าผงยานี้พกไว้กับตัวมีอานุภาพมากเพราะคุณครูวิชาท่านแทรกซึมพลังงานผ่านตัวเราลงไปอย่างลึกซึ้ง ท่านปรารถนาจะให้คนใช้มีแต่คนรักมากๆยิ่งไม่มีคนเกลียดนั่นยิ่งดี ทั้งยังอาศัยอำนาจครูยาขับชะตาราศีหนุนดวง,พลิกดวง,กลับดวงไปพร้อมๆกันด้วย ดั่งคำที่องค์ปฐมท่านว่าไว้ว่าผงยานี้ตั้งแต่โบราณนั้นใครพบยานี้ไม่ได้ใช้บูชาเหมือนคนสิ้นวาสนา ส่วนใครที่ได้ใช้อาราธนาผู้นั้นดุจดังได้พระโสดาแล(ท่านว่ามีค่ามากปานนั้น) ในส่วนการเข้ายาและเครื่องยานั้นท่านจะไม่บอกกล่าว ท่านว่าของแต่ละอย่างต้องหากันทั้งชีวิตทั้งสิ้น เราทำให้ดีแล้วถ้าเขาไม่เอาก็เรื่องของเขา แต่ยานี้มีดีอยู่ข้อหนึ่งนั่นคือมันเป็นโฉลกมงคลกับผู้พกพา หากใครได้พกแล้วมันจะดึงโชคเข้ามาอยู่เรื่อยๆ ดั่งคำว่าวันนี้โชคดีพรุ่งนี้ก็ยังโชคดี ด้วยไม่ใช่ยาของมนุษย์หากแต่เป็นของเทวดาใช้ แก้ได้หมดทั้งมนต์ดำ คุณไสย์ ของดำ ของเขมร แขก ลาว พม่า มอญ ไทใหญ่...ขับอาถรรพ์ร้ายในชีวิตได้ทั้งสิ้น
    - ตะกรุดปฐมโลกีย์มหาสำเร็จ อันมีคุณดึงคนให้นิยมเราทั่วโลก ทั้งผลักดันให้มีบารมี,มียศศักดิ์สูงเที่ยมฟ้า ต่อให้ผู้มีอำนาจวาสนาก็มายอมลงให้แก่เรา ให้มีคนอุปถัมภ์ทั้งกลางวันกลางคืนอุปมาว่าช่วยเหลือแม้กระทั่งยามหลับหรือยามตื่น หมายตาทำกิจใดย่อมสุขสมหวัง ต้องรวยเงินทอง,รวยคนรัก,รวยคนอุปถัม ท่านลงเป็นตะกรุดชุดค้ำไว้ ท่านลงตะกรุดปฐมโลกีย์มหาสำเร็จไว้เป็นดอกกลาง ท่านว่านี้ดั่งตัวเราจะเอียงซ้ายเอียงขวาก็ไม่ได้ จะล้มบนล้มล้างก็ไม่ได้ เพราะนี้ฉันลงไม้เท้ามหาเถรค้ำไว้หมดแล้วทุกทางเลยมันจะไปล้มไปเอียงได้อีกท่าไหนก็ลองดูต่อไปเรื่องทางโลกโลกีย์ทั้งหลายมีคติอย่างเดียวคือต้องสำเร็จเท่านั้น ทั้งยังทำมหาจักรวัชรนาทอีกดอกหนึ่งหนุนฐานเอาไว้ดุจว่าตัวเธอนี้ได้เหยียบอยู่บนอาวุธทำลายล้างที่จะผันให้เดินก้าวหน้าไร้อุปสรรคไปได้ตลอดรอดฝั่ง,ทั้งหนุน,ทั้งพยุงไว้ให้ฐานมั่นคงราบเรียบไม่มีสะดุด,ไม่ทรุดตัว จักรนี้ถ้าใช้เป็นท่านว่าอันตรายวิชานี้ฆ่าและทำลายคนได้ง่ายๆเลย แต่ท่านลงไว้ให้มีผลเฉพาะกับศัตรูเราเท่านั้น

    ท่านลงธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ก่อบังเกิดปลุกเสกด้วย ขันธ์ห้า อาการสามสิบสอง แล้วตรึงวิชาคาถาเอาไว้กันคัดกันถอน ท่านว่าให้เอาไปใช้ในทางที่ดีอย่าไปทำร้ายใคร บางคนใช้ไปในทางไม่ดีทำหุ่นสาปแช่งให้ศัตรูเจ็บป่วย ฉิบหาย อันนี้ไม่ดีไม่แนะนำ แต่บางคนรั้นก็เอาไปสาปแช่งคนอื่นนี่ไม่ดี เอาเป็นว่าหุ่นนี้ฉันทำให้เป็นหุ่นอธิษฐานตามความประสงค์ของเราจะให้เป็นไปต่างๆนานาตามประสงค์ อยากจะใช้อย่างไรก็ให้เป็นไปตามบัญชานั้น ท่านนำไปปลุกเสกริมน้ำตรงบริเวณที่แม่น้ำไหลทวนกระแสคือมีกระแสน้ำตีกลับปรับทิศทางเป็นวังวน ท่านว่าต้องเพียรหาสถานที่เช่นนี้ถึงสามสิบสองแห่งเท่าอาการหุ่นทำพิธีอธิษฐานไปเรื่อยๆ ท่านถือเป็นเคล็ดที่ว่าน้ำตีกลับน้ำวนกลับคือให้กลับร้ายกลายเป็นดี ใครทำไม่ดีจะสะท้อนย้อนกลับไปหาคนทำ ทั้งหุ่นเทพพยนต์จะรับเคราะห์แทนเมื่อเราดวงตก,โชคไม่ดี,ใครที่คิดไม่ดีคิดทำร้ายจะสะท้อนกลับตีกลับไปหาคนนั้น เขาจะคอยช่วยเหลือเราไม่มีพิษภัยใดกับเราเมื่อนำติดตัวไว้ก็จะเสริมดวง เสริมบารมีให้กับเรา ทำได้ทั้งปกป้องคุ้มครองขับไล่สิ่งอัปมงคลสิ่งชั่วร้าย,ภูตผี,คุณไสย,คุณผี,คุณคน,ลมเพลมพัดและสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ ทั้งยังหาเงินเก่งสามารถบอกโชค บอกลาภ แก่ผู้เป็นเจ้าของได้อีกด้วยเขาจะมาปรากฏตัวในความฝันเป็นคนแก่บ้าง,หนุ่มบ้างหรือเด็กบ้าง บอกโชคบอกลาภให้เห็นช่วยให้มีทรัพย์สินลาภผลเงินทองโชคลาภ พ่ออาจารย์ท่านว่าลงไว้ทั้งหมดทั้งกันไฟ,กันฟ้า,กันลม,กันภัยทางน้ำ,กันโจร ท่านลงวิชาพัดโบกลงไปด้วย นอกจากนั้นยังเป็นเงาเป็นตัวตายตัวแทน,เป็นตัวรับเคราะห์แทนดั่งวิชาพยนต์โบราณที่ใครบูชาไว้ก็เสมือนมีเงาคอยตามตัว เพื่อปกป้องคุ้มครองภัยต่างๆ คอยรับเคราะห์รับผลแทนเราทั้งสิ้น เวลาที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่นไม่ว่าทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อมท่านว่าพกไปเถิดควรมีไว้เป็นอย่างยิ่งจะชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย

    ท่านว่าเสกจนล้นไม่รู้จะล้นอย่างไรแล้วเอาไปใช้เถิดถึงเวลาใช้เดียวรู้เอง ถึงเวลามีภัยไม่ต้องกลัว กันได้หมดทั้งรังสีโรคระบาด เรียกเงิน,เรียกงาน,เรียกทรัพย์,ช่วยเหลือคน ท่านว่ามีมาก บอกไปยาวๆก็ไม่หมด เอาว่าดีกว่าที่เธอคิดกันเยอะก็แล้วกันเพราะท่านกำกับเทพพยนต์ไว้ให้ช่วยชีวิตคนใช้ให้ราบรื่น ไปอยู่กับเขาต้องทำให้เขารวยล้นเหลือเท่านั้น ท่านลงให้ครบทั้งมหาบุญฤทธิ์ มหาอิทธิฤทธิ์จะทำอะไรก็ให้บอกกล่าวกับพ่อหุ่นท่านเมื่อเรื่องสำเร็จแล้วก็จงให้จงทำอย่างที่พูดไว้(ในกรณีบนท่าน) ไม่ว่าจะหาความรักหรือหาทรัพย์สินใดๆเมื่อได้สมหวังแล้วก็จงดูแลเลี้ยงดูหรือรักษาทรัพย์นั้นเอาไว้ให้ดี ให้จำไว้ตลอดว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เราหามาคนเดียว แต่เป็นสิ่งที่เรากับจ้าวมหาภูติท่านช่วยกันหามา***ถ้าคิดได้อย่างนี้ไม่หลงไปตามกระแสโลกพ่ออาจารย์ท่านว่ามันมีแต่เจริญ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้ครบทุกอย่างแล้วอย่างที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนในแผ่นดิน ทั้งปัเคราะห์,ปัดศัตรูลงไว้ครบถ้วน

    ด้วยเป็นหุ่นพยนต์แรงครูหรือเทพพยนต์ที่ไม่มีผงผี ผงพรายแม้แต่น้อน ท่านใช้กำลังและขอบารมีพระพุทธเจ้า,พระปัจเจกพุทธเจ้า,พระอรหันต์มาเป็นต้นธาตุต้นธรรมจนมั่นใจในดวงศีลดวงธรรมอันเป็นฐานกำลังของเทพพยนต์โดยเฉพาะ ทั้งอัญเชิญครูพระสยมมาแบ่งกำลังประสิทธิ์ทำวิชาให้เหมือนครั้งสังหารตรีปุราสูร ผูกลงวิชาเหมือนปู่พระอินทร์ท่านผูกหุ่นพยนต์องค์ต้น เช่นนั้นผู้บูชาจึงมีกำลังเทวดาเข้าพิทักษ์รักษาตามกำลังวันไม่มีเสื่อมมีคลาย เอาไปอธิษฐานให้ดีใช้ไม่มีข้อห้าม พกได้เลยตลอดเวลา
    ***นอกจากนี้เสด็จพระใหญ่ยังให้พ่ออาจารย์ท่านมนต์พระคาถาหัวใจพระพระจูฬปันถกอีกห้าแสนจบ ท่านว่าหากผู้ใดรู้เคล็ดวิชานี้อัญเชิญหัวใจพระจูฬปันถกมาสถิตอยู่ในตัวหุ่น เมื่อเราอธิษฐานอะไรกับหุ่นเทพพยนต์นี้ เมื่อเราใช้เขาทำงานสิ่งใดก็ดี จะให้รักษาบ้าน ร้าน อาคาร ป้องกันโจร ขโมย หรือแสวงหาทรัพย์ ถ้ามีคนร้ายมันจะเห็นหุ่นเป็นตัวเราหลากหลายนับประมาณมิได้ไม่กล้าเข้าไปใกล้เลย เวลาที่เราขออะไรกับพ่อหุ่นจากเดิมที่หุ่นเราเหมือนมีคนๆเดียวคอยช่วยเหลือก็จะกลายเป็นมีร้อยคน หมื่นแรง แสนกำลังเข้ามาช่วยเรา มาทำงานต่างๆให้เราพร้อมกันดุจพระเถระเจ้าท่านจำแลงกายเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นเคล็ดเสกปิดท้ายที่เสด็จพระใหญ่ท่านว่าจำเป็นต้องทำ เพราะหุ่นเทพพยนต์นี้จะมีกำลังมากทวิทวีเก่งกว่าเดิมอีกนับแสนๆเท่าจากเดิมที่ว่าเก่งแล้ว..พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องเสียเวลาพูด เขาจะมีร่างแบ่งไปอีกนับหมื่นนับแสนร่างเช่นนั้น

    หุ่นเทพพยนต์จ้าวมหาภูตินั้นไม่ต้องเลี้ยงต้องเซ่นเพราะเป็นพยนต์เทพ เน้นแต่การบอกกล่าวหากเกิดเหตุการณ์อะไรไม่ดีก็บอกให้ท่านจัดการไปได้เลย(แต่มีข้อห้ามอยู่อย่างหนึ่ง ในส่วนของปลายธนูที่เล็งไปนั้นไม่จำเป็นอย่าไปอธิษฐานเล็งใส่ใคร หรือไปเล็งให้ใครเขาฉิบหายเลยเพราะนั่นคือทั้งชีวิตเขา หากเราห้อยหรือพกบูชาก็ไม่มีอะไร แต่หากเราตั้งใจเล็งพร้อมอธิษฐานสาปแช่งเช่นนั้นท่านว่ามันมีอาถรรพ์อยู่มากที่ปลายธนูนี้ ถ้าเลือดตาไม่กระเด็นหรือไม่โดนใครทำร้ายมาอย่างถึงที่สุดจริงๆอย่าไปทำเขาเลย)

    คาถาบูชา
    จิเจรุนิจิตตัง เอหิจตุระภูตา เอหิสะมาคะมา จิตของพระแผลงจ้าวมหาภูติจงมาทำตามบัญชา มานิมามา .....(อธิษฐานบัญชาได้ทุกสิ่ง)

    *** จ้าวมหาภูตินี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องไปพูดเยอะ เฉพาะค่าเสกค่าพิธีที่ทำให้ไปแค่นั้นเขาก็คุ้มแล้วเพราะเราตั้งใจทำไว้ใช้งานเองด้วยจริงๆ ท่านสร้างไว้ทั้งหมดหกองค์ มีให้บูชาเพียงห้าองค์เท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM ผู้สั่งจองให้แจ้งชื่อนามสุกลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการประสิทธิ์ให้ต่อไป ท่านว่ารายการนี้ใช้ตกทอดกันในวงศ์สกุลได้หรือหากจะเปลี่ยนมือก็บอกกล่าวท่านเอา รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กไร้โอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เทพพยนต์ปฐมโลกีย์จ้าวมหาภูติพระแผลงนามบัญญัติอัตตา,กุศล,สำเร็จ(มามืดไปสว่าง) บูชา 4,000 บาท

    57798791-352275422062745-8567926269042229248-n.png 57761921-464083407669285-7903289863921729536-n.png
    57652759-400438110687393-4565317057578532864-n.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงคชศาสตร์พญาโพธิสัตว์นาฬาคิรีกุญชร(พี่ช้างธนปาลกะ)
    แค่ท่านกับเราเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
    "ครั้นรุ่งขึ้นเป็นเวลาเช้าพระดาบสธรรมเสนบรมโพธิสัตว์นั้นก็เหาะมายังสำนักสมเด็จพระโกนาคมนเจ้าพร้อมด้วยพระอริยสาวก แล้วก็เข้าไปกราบนมัสการแทบพระบาทมูลแห่งสมเด็จพระสัพพัญญู พิจารณาดูทวัตติงสมหาบุรุษลักษณะแล้วก็เกิดความโสมนัสยินดีขึ้นมา จึงกราบทูลอาราธนาพระโกนาคมนเจ้าให้ตรัสพระสัทธรรมเทศนาฯ ครั้งนั้นสมเด็จพระผู้ทรงพระภาคเจ้าจึงทรงพระมหากรุณาตรัสพระสัทธรรมเทศนาว่าฯ ดูก่อนธรรมเสนดาบสผู้เจริญบัดนี้สมควรตัวท่านจะพินิจพิจารณาซึ่งกิริยาอันจะให้ไปสู่เมืองแก้วคือพระอมตมหานครนิพพานจึงจะชอบแก่ตัวท่านฯ จึงมีพระพุทธฎีกา ตรัสเป็นนัยคัมภีรภาพด้วยประการดังนั้น พระธรรมเสนดาบสได้สดับก็บังเกิดความเลื่อมใสศรัทธา คิดว่าจะตัดซึ่งเศียรเกล้าออกกระทำสักการบูชาพระสัทธรรมเทศนาแห่งสมเด็จพระโกนาคมนเจ้าเถิด จึงกระทำอธิษฐานเล็บของพระองค์ให้คมดุจดาบ ตรัสซึ่งเศียรเกล้าให้ขาด แล้วก็วางไว้ในฝ่าพระหัตถ์ชูขึ้นกระทำสักการบูชาสมเด็จพระพุทธเจ้า กล่าวเป็นพระคาถาตั้งความปรารถนาว่า พระองค์ทรงพระนามว่าพระโกนาคมนเจ้าได้ตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูผู้ประเสริฐแล้ว นานไปในอนาคตกาลเบื้องหน้า ข้าพระบาทขอปรารถนาให้ได้สำเร็จพระศรีสรรเพ็ชญ์พุทธเจ้าพระองค์หนึ่งด้วยศีลทานของข้าพระบาทนี้ อนึ่งเล่าพระองค์ผู้ทรงพระมหากรุณาเป็นที่พึ่งแก่ไตรโลกแล้วจะล่วงลับดับขันธ์เข้าสู่เมืองแก้วก่อนข้าพระบาทเล่า ข้าพระบาทขอปรารถนาให้สำเร็จพระนิพพานในกาลเบื้องหน้าด้วยเดชะผลศีลทานของข้าพระบาทในครั้งนี้ฯ"

    ด้วยคติการบูชาพญานาฬาคิรีกุญชรโพธิสัตว์ หรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าเทพบุตรธนปาลกะซึ่งจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตวงศ์นั้นจะยังกุศลให้เกิดขึ้นมหาศาล ทั้งยังให้ไม่อด ไม่อยาก ไม่ยาก ไม่จน ไม่อัตคัดข้นแค้น ทำกิจการหรือบำเพ็ญบารมีได้อย่างราบรื่น จะเกิดลาภสักการะไหลหลั่งมาไม่มีประมาณทั้งยังใช้เสริมมงคลต่างๆ ด้วยเป็นศาสตร์ที่รุ่งเรืองและนับถือในหมู่ชนชั้นสูงสุดเท่านั้น เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจสร้างพระผงคชศาสตร์นี้เป็นพิเศษด้วยจะได้เชิญเทพบุตรธนปาลกะซึ่งเป็นเอกอัครบุรุษอุดมวงศ์ในสิบองค์โพธิสัตว์ดุสิตสวรรค์ อันพระพุทธองค์ได้รองรับแล้วเมื่อเกิดเป็นช้างนาฬาคิรีนั้นว่าท่านมีบุญไม่น้อยเลย ให้แสดงมหากรุณาลงมาสร้างบารมีสั่งสมไปชั่วกาลในศาสนาสมเด็จพระชินสีห์เจ้าอีกวาระหนึ่ง

    นอกจากนั้นท่านยังผสมผสานพุทธคุณจากการลบผงพญาคชสารเชือกสำคัญต่างๆนอกจากผงวิชาของช้างนาฬาคิรีแล้วไว้ในวาระเดียวกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นพญาฉัททันต์โพธิสัตว์,ช้างเอราวัณ,ช้างปาลิไลยกะ...เป็นต้น พอจะยกตัวอย่างได้ดังนี้
    - คติการบูชาพญาช้างฉัททันต์นั้น ท่านเป็นพระโพธิสัตว์เมื่อคราวพระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพญาช้างอยู่ในป่าหิมพานต์ มีกายขาวดั่งเงินยวง เท้าแดง ปากแดง งาฉายรังสีแสงเป็นหกสี มีกำลังมาก มีบริวาร 8000 เชือก บูชาพระปัจเจกพระพุทธเจ้าทั้ง 500 พระองค์อยู่เป็นนิจสะสมบารมีธรรมมากมาย ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาสายหลวงพ่อเดิมมีพุทธคุณมากสามารถบันดาลให้ได้ทุกสิ่งที่ขอ
    - ส่วนช้างเอราวัณนั้นเป็นพาหนะของพระอินทร์ ถือว่ามีอานึภาพมากสามารถเหยียบไปได้ทุกหนแห่ง ทั้งบนดิน,บนผิวน้ำ,และในอากาศ ด้วยคติว่ามีพละกำลังที่มากมายมหาศาลทั้งสามารถทำลายสรรพสิ่งให้ย่อยยับไปได้โดยไม่ต้องใช้เวลาเท่าใดนัก แต่เนื่องจากเป็นสัตว์ที่เกิดจากการจำแลงกายของเทพคือเอราวัณเทพบุตรดังนั้นจึงไม่ค่อยได้เห็นท่านสำแดงฤทธานุภาพไล่ทำลายสิ่งต่างๆให้ปรากฏเท่าไหร่นัก ทั้งนี้วิชาการสร้างช้างเอราวัณนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วเป็นของสูง มีอาถรรพ์มาก มีฤทธานุภาพมาก จึงเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากตามไปด้วย ถ้าทำขึ้นมาด้วยความรู้จริง วิชาถึง เกิดผลดีก็ดีไป แต่ถ้ารู้ไม่จริง ทำไม่ดี ไม่เหมาะไม่ควร เกิดเป็นผลร้ายกับคนใช้ขึ้นแล้วก็จะควบคุมไม่อยู่


    โดยปรกติแล้วช้างเผือกนั้นคือสัญลักษณ์แห่งความรู้และการเกิดสิริมงคล ดั่งความฝันของพระพุทธมารดาคืนก่อนวันเสด็จลงจากดุสิตสวรรค์ของพระโพธิสัตว์เจ้า พระนางก็ทรงพระสุบินถึงช้างเผือกมอบดอกบัวให้พระนางโดยดอกบัวอันหมายถึงความบริสุทธิ์และความรู้ ทั้งในไตรภูมิ ยังเชื่อกันว่าช้างเผือกนั้นเป็นหนึ่งในสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ ได้แก่ ภริยาที่สมบูรณ์,ขุมสมบัติเหลือคณานับ,ที่ปรึกษาแผ่นดินที่ดี,ม้าที่วิ่งเร็ว,กฎการปกครองที่ดี,แก้วแหวนอันเป็นสิ่งสำคัญ,ช้างเผือกที่สง่างาม” ส่วนเรื่องพุทธคุณนั้นถือว่าช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มีพลังอำนาจลึกลับในตัว เมื่อได้บูชาจะก่อให้เกิดความเป็นสวัสดิมงคลทั้งแก่บุคคลและสถานที่ เป็นนิมิตรหมายแห่งความยิ่งใหญ่,ความอุดมสมบูรณ์,ความมั่งคั่งรุ่งเรือง อันหาที่สุดมิได้ อีกทั้งช่วยเสริมบารมีของผู้ที่ได้ครอบครองตลอดจนดีเด่นไปในทางทางมหาอำนาจปราบข่มศัตรู เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจสร้างพญานาฬาคิรีกุญชรนี้เป็นกรณีพิเศษเพื่อหวังผลในการเกื้อหนุนชีวิตผู้ใช้โดยตรง

    ท่านว่าวิชาช้างแต่ละประเภทนั้นมีคุณต่างกันไป แต่โดยรวมแล้วช้างเหล่านี้เหมือนกันคือมีครบทั้งอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ ด้วยพวกเขานั้นเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ทั้งมีนิสัยอ่อนโยน,เป็นมิตรและไม่ดุร้าย ทั้งช้างยังเป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหารจึงไม่คุกคามชีวิตสัตว์โลกอื่นๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อสร้างเป็นช้างเทพบุตรธนปาลกะแล้ว ท่านจะลงมาช่วยสนับสนุนในเรื่องของความสูงใหญ่คือดันเรา,ชูเราขึ้นไปให้สูงที่สุด เปรียบเป็นภูเขาสูงใหญ่ที่มั่นคงอันจะเป็นร่มเงาและที่พึ่งของเราต่อไปภายหน้า ทั้งยังช่วยให้จิตใจปลอดโปร่งเติมเต็มสติปัญญา ท่านว่าพกไว้กับตัวนี่ถ้าใช้คำว่าเธอจะฉลาดขึ้นไม่รู้ว่าจะเชื่อกันมั๊ย ด้วยท่านมีพละกำลังมหาศาลและมีรูปร่างสูงใหญ่แต่ข้างในลึกๆกลับไม่ดุร้ายไม่ทำร้ายผู้อื่นง่ายๆรวมถึงไม่ไปรบกวนผู้ใดก่อนไม่ตอแยกับใครนั่นแหละ เพราะฉะนั้นคนที่บูชาท่านให้จำเอาไว้ว่าท่านจะดันเราอย่างเดียว ดันไม่หยุด ดันไปเรื่อยๆจนกว่าชีวิตเราจะมีอำนาจเป็นของตัวเอง มีความสำเร็จใหญ่โตดั่งที่ปรารถนาทั้งท่านจะช่วยปัดเป่าภัยอันตรายทั้งปวงไม่ให้เข้ามายุ่งกับเรา รวมถึงขัดเกลาสติปัญญาและความคิดให้แหลมคม ทั้งยังเป็นเหตุ,เป็นบ่อเกิด,เป็นกำลังอันจะนำพาโชคลาภวาสนาฉุดกระชากลากดึงให้เข้ามาถึงตัว ท่านธนปาลกะกำหนดให้พ่ออาจารย์ท่านแกะพิมพ์รูปช้างนาฬาคิรีโดยให้มีใบหูยาวใหญ่เพื่อคนบูชาท่านจะได้ป้องกันตัวได้ดุจช้างที่สะบัดใบหูปรกข้างตัว หรือด้านข้างบนของขา,หางซึ่งยาวจรดพื้นต้องแกว่งไกวตวัดขึ้นไม่อยู่นิ่งเพื่อป้องปัดเป่าเสนียดจัญไรทั้งหลาย,งวงก็ต้องยาวจรดพื้นแลตวัดเข้าหาตัวเพื่อจะดึงโชคและสิริมงคลเข้ามาถึงตัวเราด้วยวาสนากำลังพญานาฬาคิรีกุญชรโพธิสัตว์เ,งาช้างจะต้องมีลักษณะแหลมคมปลายโค้งเชิดขึ้นเพื่อที่จะเอาไว้พุ่งชนศัตรูหรือคู่ต่อสู้เป็นมหาปราบมีอานุภาพทำลายล้างสูงสุด

    ท่านได้รวบรวมมวลสารสำคัญต่างๆมาผสมกับผงคุณวิชาสายพญาช้างที่ท่านลบไว้ทั้งไคลพระเจดีย์เจ็ดวัด,ไคลเสมาเจ็ดวัด,ไคลโบสถ์เจ็ดวัด(ถือตามตำราโบราณว่าพญาช้างที่สร้างจะได้มีกำลังเจ็ดช้างสารอันเกรียงไกร)นำมาผสมกับผงอิทธิเจ,ผงมหาราช,ไม้พญาช้างหลง(ดีเด่นด้านมหาเสน่ห์ยิ่งนัก),ผงไม้เสาตะลุงช้าง,ว่านชะดองชา,ว่านพญาลิ้นดำ...ท่านนำมวลสารต่างๆมาผสมกับผงสำคัญต่างๆของพญาช้างเผือก ได้แก่
    - ผงงาช้างศึก อันเป็นสัญลักษณ์ความบริสุทธิ์และเป็นมงคล ผงนี้ท่านธนปาลกะได้เสกให้ก่อนนำมาผสมคราวหนึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าท่านทำให้เป็นกาลเฉพาะเน้นทางพลังอำนาจสะกดให้คนอื่นเชื่อฟังทั้งยังช่วยฟันฝ่าอุปสรรคให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งหลาย ท่านเสกให้พร้อมกำกับว่าให้ใส่ไปทั้งหมดเพื่อคนใช้ต่อไปจะได้เอาชนะเหล่าศัตรูหมู่มารที่ผจญเวร,ผจญกรรมกันในชีวิตได้ไม่ยาก(พ่ออาจารย์ท่านว่าผงงาสำคัญนี้จะต้องใช้งาช้างศึกโบราณมาลงอาถรรพ์เท่านั้น ทั้งต้องเป็นช้างเผือกด้วย นอกจากงาช้างที่ออกศึกงาธรรมดายังใช้ไม่ได้) ทั้งนี้ยังเป็นเคล็ดที่จะทำให้ผู้ครอบครองชนะการทำศึก,การแข่งขันได้ครั้ง
    - ขนหางช้างเผือก ท่านว่าช้างเป็นสัตว์ใหญ่เป็นตัวแทนของอำนาจ ท่านธนปาลกะท่านได้เสกให้สำเร็จก่อน ท่านว่าขนหางช้างเผือกนี้ท่านลงให้ครบทั้งปัดเป่าเสนียดจัญไร,อุปสรรคขัดขวางทั้งหลาย เมื่อนำมาเป็นมวลสารแล้วผู้บูชาติดตัวจะได้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายที่มองไม่เห็น ทั้งจะปลอดภัยจากการเดินทางสัญจรในแต่ละวันอันจะเหยียบย่างเข้าไปในถิ่นอาถรรพ์ที่ต่างๆ ท่านว่าลงให้ครบหมดจะใช้ป้องกันคุณไสยก็กันได้ทุกชนิด ทั้งยังช่วยปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายได้อีกด้วย(ท่านว่าแม้เจ้ากรรมนายเวรมารังควานก็ปัดออกไปได้ ท่านธนปาลกะท่านลงให้ครบถึงขนาดนั้น มากกว่านี้ไม่สามารถพูดได้) ให้บูชากันดีๆท่านว่าองค์มหาโพธิสัตว์ท่านเมตตาทำให้หมดแล้วติดตัวไว้จะทำให้สามารถหยั่งรู้เภทภัยต่างๆล่วงหน้าได้ เสมือนตัวเองมีสัมผัสพิเศษทั้งยังป้องกันเหตุอันตรายระงับไว้ไม่ให้เกิดขึ้น ด้วยขนหางช้างเป็นสัญลักษณ์ความรักและความภักดีท่านว่าใส่ลงไปหนนี้ก็เพื่อให้พี่ช้างท่านรักเราเต็มที่นั่นเอง
    - ผงรกช้างผือก เป็นของมงคลอันน่าอัศจรรย์ซึ่งคนโบราณผู้เฒ่าผู้แก่เชื่อกันว่าผู้ใดได้ครอบครองพกพา กช้าง จะบันดาลโชคลาภขั้นสูง,เรียกโชค,เรียกลาภ และยังสามารถเร่งโชค,เร่งลาภ เข้ามาสู่ตัวผู้ครอบครองอย่างน่าอัศจรรย์ใจเป็นยิ่งนัก พ่ออาจารย์ท่านขอเมตตาท่านธนปาลกะลงวิชาให้ก่อนจะนำมาเป็นมวลสาร ท่านว่าผงรกช้างนี้ท้าวเธอท่านทำให้เป้นพิเศษเพราะเป็นของที่จะดึงจะฉุดวาสนาช่วยเหลือคนได้ ทั้งคนที่หมด,คนที่ไม่มี,คนที่ยังไม่ถึงเวลาบุญพาวาสนานำส่งทั้งหลายก็ยังเร่งเวลาให้โชคดีเข้าถึงตัวได้ ท่านว่าผสมไปให้ทั้งหมดพกเอาไว้จะไม่มีอับจน เงินทองจะไหลมาเทมาเป็นระยะไม่ขาดสายกินใช้ไม่หมด คนที่ทำมาหากินไม่คล่อง,โชคลาภไม่ค่อยมี,การงานตกต่ำ,ทำอะไรก็ติดขัด,ชักหน้าไม่ถึงหลัง,เป็นหนี้เป็นสิน,เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ท่านว่าหมดปัญหา ต่อไปจะมีมาเรื่อยๆ หมดแล้วก็มีมาใหม่เป็นวงจรหล่อเลี้ยงชีวิตดั่งรกช้างสายใยแห่งพระมหาโพธิสัตว์ที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตเราเช่นนั้น
    - ผงเชือกปะกำ ท่านธนปาลกะได้ลงอาถรรพ์ให้สามารถป้องกันคุณไสย์หรือวิชา,โรคร้ายและการกระทำที่เขาปล่อยมาในอากาศที่เรียกว่าลมเพลมพัดได้ ทั้งยังเป็นมงคลมาก (ท่านธนปาลกะท่านอุปมาไว้น่าฟังว่าเอาไว้จับอะไรที่จับยาก,ตึงมือ,เกินวาสนาตัวเองที่จะรับ ต่อไปจะได้สัมผัส,ได้ครอบครอง,เป็นของเราอย่างง่ายดาย ก็ลำพังเชือกนี้มีอำนาจคล้องช้างที่ได้ชื่อว่าดุ ว่ามีอาถรรพ์มากได้อย่างไร ต่อไปสิ่งที่ยากๆเธอก็เอามาได้เช่นนั้น) พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติแล้วก็มีอำนาจมากภูตผีปีศาจและคุณไสยเกรงกลัวยิ่งกว่าเทพศาสตราวุธ ทั้งใช้ล้างอาถรรพ์อะไรที่ว่าเฮี้ยนๆได้ฉมังนัก บ่วงบาศก์หนังปะกำยังเด่นด้านเมตตามหานิยมอีกด้วย ถือเป็นของมงคลยิ่งนักทั้งด้วยความที่เป็นบ่วงบาศก์ในตัวมันเองยังจะคล้องจะนำพาให้เกิดโชคลาภ ทำมาค้าขึ้นไม่อดอยากเป็นสิ่งมงคลที่ให้โชคลาภสุขสมหวังให้สมดังใจปราถนา
    ท่านเน้นมวลสารอาถรรพ์และว่านยาเพื่อจะทำให้เป็น เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ควบคู่ไปกับวิชาอาถรรพ์ของพญาช้างที่เป็นมหาอำนาจอย่างถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะได้ครบเครื่องส่งผลในด้านการเจรจา การค้าขาย โชคลาภให้เป็นนะจังงัง ให้ผู้ที่ได้ยินเสียงเกิดความนิยมชมชอบควบคู่กันไปด้วยทั้งหมด ทั้งยังคุ้มครองป้องกันภัยต่างๆยามเมื่อมีภัยมาถึงตัว
    **ท่านว่าพระผงนี้สำคัญนักเพราะผู้ใดมีไว้เขาจะมีพละกำลังดุจพญาช้างสาร มีวาสนาบารมีเพิ่มขึ้นเจ็ดเท่าห่างไกลกับผู้อื่นเจ็ดช่วงตัวจนตามกันไม่ทัน ดั่งคำที่ว่าแข่งเรือแข่งพายนั้นแข่งได้แต่แข่งบุญแข่งวาสนานั้นแข่งกันไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพญาช้างที่สร้างนี้เป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ให้พกไว้กับตัวพี่ช้างเขาจะเป็นพาหนะอันประเสริฐนำโชค,นำวาสนามาให้เราสิ่งใดที่ขาดก็ให้บอกพี่ช้างขอท่านว่าให้ยื่นงวงออกไปหยิบมาให้ ใครที่ชีวิตตกอับหาความมั่นคงไม่ได้ ยังใช้ชีวิตอยู่ในมุมที่ไม่มั่นคงไม่แข็งแรงหรือมีเภทภัยต่างๆคอยกัดกินตัวเราทำร้ายตัวเรา พร้อมจะพิฆาตเราให้ย่อยยับลงไป ท่านว่าให้ใช้พี่ช้างเขาเถิดท่านสามารถป้องกันเสนียดจัญไรให้เราได้ แม้จะเจ็บไข้ได้ป่วยไม่แข็งแรงประเภทสามวันดีสี่วันไข้ก็ให้ขอบารมีพี่ช้างเขาปัดรังควานทั้งหลายออกไปก็จะกลับมาแข็งแรงไม่เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อยๆอีก ท่านว่าใช้ได้หมดทั้งสิ้นขอแค่เรารู้ตัวว่าชีวิตตัวเองเป็นอย่างไรโดนรังควานอยู่หรือไม่ จะเป็นที่เจ้ากรรมนายเวรหรือเปล่าที่ทำให้เราหากินไม่ขึ้นดังนี้ ทั้งพี่ช้างยังจะคอยนิมิตบอกเหตุเภทภัยที่จะเกิดขึ้นแก่เราให้รู้ตัวล่วงหน้าด้วยสัญชาติของเขา พ่ออาจารย์ท่านว่าช้างนั้นจะมีสัญชาติญาณพิเศษเขาจะรู้ล่วงหน้าทั้งหมดหากจะมีภัยเข้ามถึงตัวผู้เลี้ยงดูเขา พี่ช้างนี่ก็เช่นกัน ไอ้ชีวิตที่ว่าแย่ๆปัญหาเยอะๆต่อไปจะคลี่คลายไปทั้งหมดเอง*** หากปรารถนาสิ่งใดให้ลูบหลังพี่ช้างเพื่อกระตุ้นให้ก่อเกิดสิริมงคลทั้งโชคลาภเงินทองและความร่ำรวย,ความสำเร็จ ท่านว่ายิ่งลูบเจ้าของยิ่งพบกับความสุข,ความสำเร็จ,ความเจริญรุ่งเรือง ยิ่งก้าวหน้าก้าวไกลประสบความสำเร็จครบถ้วนสมบูรณ์ตามความสมควรในกิจการที่กระทำอยู่

    - พญาช้างฝังตะกรุดต้านเคราะห์กรรม
    ปกติวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านหวงมากเพราะเป็นสิ่งที่จะหน่วงเหนี่ยวเกี่ยวพัน ผูกรัดมัดตรึงชีวิตคนไว้ไม่ให้วิบัติได้ ท่านว่าเสกก็ยากแสนลำบากอุปมาดั่งวัฏจักรที่หมุนวนเช่นสายน้ำหลากหล่นไหลไม่มีวันหยุด แต่ผู้พกตะกรุดนี้ก็ยังรักษาตัวยืนอยู่ได้มั่นคงไม่คลอนแคลนท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่โหมซัดเข้ามาเช่นนั้น เขาจะต้านความแรงของเคราะห์กรรมไว้ ไม่ให้เราไหลลงไป,ไม่ให้เราล้มลงไป,ไม่ให้เราทรุดตัวไป พูดง่ายๆคือไม่ร่วงหล่นลงไปจะยืนเด่นเป็นสง่าเหนือปัญหาอุปสรรค,เหนือเคราะห์กรรมแลทุกข์ภัยทั้งปวง
    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่ออธิษฐานจิตนั้น
    ท่านธนปาลกะท่านลงมาทำให้เต็มที่ และกล่าวว่าไม่ต้องเชิญผู้ใดมาช่วยเพิ่มอีก"เพียงแค่ท่านกับเราเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว"

    เคล็ดการบูชา
    พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่พกติดตัวหากแต่จะตั้งบูชาก็ให้หาน้ำสะอาดวางไว้ให้ท่านซักแก้วด้วย จะได้แก้เคล็ดชีวิต
    อุปมาดั่งแก้วน้ำนั้นเป็นอ่างน้ำ เป็นบ่อเงินบ่อทองพี่ช้างท่านจะได้ใช้งวงจับและดึงดูดโชคลาภ เงินทอง ความร่ำรวย ความมั่งคั่ง และโอกาสที่ดีๆทั้งหลายมาวางไว้ให้กับเราได้ง่ายขึ้น ตอนอธิษฐานวางแก้วน้ำก็ตั้งจิตดีๆพูดเองเออเองไปว่าแก้วนี้คือบ่อวาสนา,บ่อสิริมงคลให้พี่ช้างใช้งวงจับวาสนามาป้อนให้ผมถึงปาก...ท่านว่าพูดเองเออเองไปเดี๋ยวได้เรื่อง พี่ช้างที่กำลังดูดน้ำเข้าปากก็คือพี่ช้างที่กำลังดูดเงินทองตามความประสงค์มามอบให้เรานั่นเอง

    คาถาบูชา
    นะโมตัสสะมัย นาฬาคิริงศะวะราย ฉัททันต์โพธิสัตโต โพธิสัตตะวาย มหาสัตตะวาย นะมะพะทะ


    ***พ่ออาจารย์ท่านว่าคนบูชาเป็นเครื่องรางก็ใช้ได้ทุกอย่างทันที แต่คนที่สะสมบารมีและต้องการเพิ่มพูนบารมีของตนเองให้ขยายออกไป,แผ่ไปมากขึ้นเรื่อยๆถือดั่งคติพระเจ้าจักรพรรดิว่ายิ่งมีช้างเผือกมาอุ้มสมในบารมีมากเท่าใดยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้นจะเพิ่มบารมี,เพิ่มพละกำลังในการต่อสู้กับปัญหารุมเร้าต่างๆเป็นการสร้างอาถรรพ์ให้ชีวิตตนเองเจริญรุ่งเรืองสืบไป(ท่านว่าจะใช้กี่เชือกตามความเหมาะแก่บุญบารมีตนก็ถามใจตัวเองเอา เดี๋ยวเทวดาเขาบอกเอง) คนที่บูชาท่านไปก็ให้เรียกว่า "พี่ช้าง" ท่านว่าเลี้ยงไปเรื่อยๆเถิดพอเราเจริญขึ้นพี่ช้างก็จะยิ่งมีเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆจะเงาขึ้นบ้าง,อ้วนขึ้นบ้าง,จ้ำม่ำขึ้นบ้างต่างๆนี้เลี้ยงๆดูแลกันไปเดี๋ยวจะเห็นเป็นอัศจรรย์เอง ท่านว่าขอให้บอกกล่าวท่านขอให้ท่านช่วย ขอพลังจากท่าน เช่นไปทำงานมาเหนื่อยมากก็พูดกับท่านไปว่าพี่ช้างผมเหนื่อยจังเลย...เพราะอะไร อยากได้งานใหญ่ อยากมีอะไร..ทำไมเพราะอะไร ชีวิตเหน็ดเหนื่อยอย่างไร เจออะไรมา ทั้งหมดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าให้บอกกล่าวกับพี่ช้างเขาได้เลยจะปัญหาอะไรทั้งความรัก,สุขภาพ,หน้าทมี่การงาน,ไร้ดวง,ไร้คู่,กระเป่าแห้ง,ไม่มีโชคลาภ ท่านว่าขอให้พูดให้บอกกล่าวก็พอ รับสั่งจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะประสิทธิให้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่เราสืบไป ปัจจัยส่วนหนึ่งร่วมบุญไถ่ชีวิตโคกระบือในโอกาสต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงคชศาสตร์พญาโพธิสัตว์นาฬาคิรีกุญชร(พี่ช้างธนปาลกะ) บูชา 2,500 บาท

    58610227-291174938501192-2907855071716835328-n.jpg 58444483-2183424121969492-1761447451950055424-n.jpg
    58902149-318993975386898-1149621062758039552-n.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสังวาลย์พระธรรมแต่งร่าง+น้ำมันจ้าวชีวิตโคตรเศรษฐีอมฤตโชค (ลืมตาอ้าปาก,เปิดทางรวย)

    น้ำมันจ้าวชีวิตโคตรเศรษฐีอมฤตโชคนั้นจัดเป็นน้ำมันของเก่าที่มีอายุมากกว่า100ปี #พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนคนที่มารับต้องนำทองมาขอทีละ5บาทครูท่านจึงให้ใช้ เพราะถือเป็นน้ำมันชั้นสูงสุดในบรรดาน้ำมันสายวาสนาโชคลาภทั้งหมดและยังประกอบพิธีสร้างทำได้ยากยิ่ง ท่านเรียกสั้นๆว่าน้ำมันโคตรเศรษฐี(เป็นน้ำมันที่สืบทอดมาในตระกูลของพระอริยเจ้าท่านหนึ่ง...ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเราจะไม่ขอออกนามท่าน) น้ำมันนี้ต้องหาวันดีไปทำพิธีกรรมเพื่อเอาน้ำมัน..ในตำราว่า..ถ้าผู้ไม่มีอาคมแก่กล้าอย่าได้บังอาจทำเพราะอาจต้องอาถรรพ์ถึงตายได้(พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันพูดไม่อายเลยนะว่าตัวเองก็ยังไม่คิดจะทำเพราะมวลสารที่ใช้ทำแต่ละอย่างล้วนเสี่ยงตายทั้งนั้นแค่คิดจะทำก็เหมือนเอาชีวิตไปทิ้งแล้ว)เมื่อได้มาครบแล้ว..ก็ให้เสกมวลสารก่อนรอบหนึ่งเสก7โบสถ์, 7เสาร์ ,7อังคาร, 7จันทร์ดับ ,7วันเพ็ญ..วิชาเหล่านี้ปัจจุบันจึงหาได้น้อยนักเพราะทำได้ยากยิ่งและสูญหายไปมาก ท่านว่าของแต่ละอย่างที่ว่าหายากทำยากคือเขากำหนดสถานที่หาที่เอาไว้ทั้งสิ้นไม่ใช่ว่าจะไปเก็บที่ไหนก็ได้กว่าจะรวบรวมได้ครบจึงยากขึ้นไปอีก จะบอกแต่คร่าวๆได้แก่ ยอไม่ตกดิน,ไม้ไก่กุ๊ก,ว่านสาลิกาลิ้นทอง,ว่านสาลิกาชนิดหัว,ว่านกาหลง,ว่านดอกทองมหาอุดม,ว่านมหาลาภ,ว่านจักรพรรดิ์,ว่านกวักพระพรหม,ว่านกวักมรกต,ว่านพระฉิมพลี,ว่านนางคุ้ม,ว่านแม่โพสพ,ว่านเศรษฐร้อยล้าน,ว่านมหาโชค,ว่านอุดมโชค,ว่านเศรษฐีก้านทอง,ว่านรวยไม่เลิก,ว่านบังลังค์เศรษฐี,ว่านเสน่ห์จันต่างๆ,ดอกรักซ้อน,ดอกรัก,ดอกมะรุม,ลูกยอ,รากยอ,ต้นยอไม่ตก,ดอกพิกุล,ดอกจัน,ดอกเข็มขาว,ดอกบานไม่รู้โรย,ดอกบัวทั้ง4 ,ต้นไทรต้นตาลตายคาต้น,กาฝากรัก,กาฝากยอยอ,กาฝากมะยม,ย่านสะบ้าข้ามคลอง,ลูกสวาทล่องวารี,รากไม้เล่นวารี นำมาหุงเข้ากับผงวิเศษต่างๆเช่น ผงกำเนิด,ผงนอโม,ผงอาการสามสิบสอง,ผงยันต์โสฬสมงคล,ผงยันต์ปฐมอักขระ,ผงยันต์ปถมังสูตร,ผงยันต์นพเคราะห์ทั้ง 9 ดวง,ผงยันต์หัวใจวันทั้ง 7,ผงดวงตราพระอิศวร,ผงดวงตราพระนารายณ์,ผงดวงตราพระพรหม,ผงดวงตราพระพาย,ผงดวงตราพระอินทร์,ผงดวงตราพระลักษมี,ผงยันต์ธาตุ 4,ผงยันต์เทพชุมนุม,ผงยันต์ทางเสน่ห์,ผงเทพนิมิตร,ผงเทพรัญจวน,ผงมหาลาภ,ผงพุทธนิมิต,ผงหัวใจขุนแผน,ผงเทพจินดามณี,ผงประกาศิตพระร่วง,ผงชาตรี,ผงรักซ่อนชู้,ผงเทพบันดาลทรัพย์,ผงเทพเศรษฐี,ผงนางกวัก,ผงพระฉิมพลี,ผงมณฑาสวรรค์,ผงลบคืนจันทร์เพ็ญ ...ท่านว่าผงลบต่างๆเองก็ต้องลงอักขระเลขยันต์ในวันเวลาตามวิชาทั้งทำการปลุกเสก-ร่ายโองการตลอดพิธีลบผงเพื่อให้เกิดฤทธานุภาพสูงที่สุด เมื่อจะหุงก็ต้องแต่งเครื่องพลีกรรมขึ้นบูชาเทวดาทั้งสิบหกชั้นฟ้ารวมถึงบูชาเทวดานพเคราะห์บวงสรวงครูบาอาจารย์ ผู้ที่กวนก็ต้องเลือกวันและเวลาเกิดอีกสามคนเวียนวนกวนกันตามยามต่างๆ,ทั้งยังต้องใช้คนที่เกิดอีกฤกษ์ยามหนึ่งเป็นคนคอยเติมฝืนสุมไฟใส่เชื้อ,คนเทน้ำมัน,คนใส่มวลสารว่านยานี่ก็อีกอย่างล้วนแต่ต้องใช้ฤกษ์และเวลาเกิดตามกำหนดทั้งสิ้นซ้ำยังต้องเป็นคนที่ดำรงค์พรหมจรรย์มาตลอดชีวิต(พ่ออาจารย์ท่านจึงว่ายากนักที่จะทำได้อีก)ไม้ที่ใช้กวนก็ต้องใช้ไม้ชัยพฤกษ์,ไม้พลับพลา ไม้ที่ทำเชื้อเพลิงก็ต้องใช้ไม้เทพทาโร,ไม้ราชพฤกษ์,ไม้ยอ,ไม้รัก,ไม้ขนุน,ไม้มะยม แม้การหุงน้ำมันก็ต้องใช้ก้อนเส้าแบบโบราณโดยใช้ไม้กางหยาง,ใช้กะทะทองสำริดรอบกระทะพันด้วยหญ้าคาปักเฉลวเพชรสามด้าน,วางก้อนเส้าสามก้อนลงยันต์ทุกจุดทั้งไม้กางหยาง,ก้อนเส้าในกะทะ,ก้นกะทะ,หูกะทะ,ขอบกะทะ,แม่ไฟ,ไม้ฟืนต้องลงอักขระกำกับทุกอย่าง การหุงใช้วิธีเดียวกับการกวนเกษียณสมุทรมีการตั้งโลกธาตุ,มีพิธีการปลุกว่าน,การชุมนุมยา,เซ่นไหว้ว่านยา ,เซ่นไหว้เหล่าเพชรพญาธรแลคนธรรพ์ที่รักษาหัวว่านต่างๆ ต้องบูชาไฟตามสูตรแต่โบราณ ทั้งต้องนำใบยาใบว่านมาลงอักขระเลขยันต์ให้ครบสูตรก่อนจะเคี่ยว ขณะหุงก็จะปลุกเสกเดินธาตุ,เรียกธาตุ,ชุมนุมธาตุและร่ายโองการมหาโชคต่างๆ ต้องขับเคลื่อนและดึงพลังจากธรรมชาติมาลงในกระทะน้ำมันโดยห้ามน้ำมันพุ่งลงในกองไฟเป็นอันขาดทั้งไม้ฟืนที่ใส่ก็ห้ามดึงออกจนได้น้ำมันว่านมหาลาภชั้นเลิศที่ไม่ข้น,ไม่หนืด,ไม่เหม็นหืนเป็นน้ำมันชั้นสูงแล้วจึงเริ่มปลุกเสกในฤกษ์อมฤตโชคทั้ง 7 วันได้แก่ อาทิตย์ 8,จันทร์ 3,อังคาร 9,พุธ 2,พฤหัส 4,ศุกร์ 1,เสาร์ 5 และใช้ฤกษ์พิเศษปลุกวันจันทร์เพ็ญอีก 4 วัน,ใช้ฤกษ์จันทรคราส 3,สุริยะคราส 3,ใช้ฤกษ์ชัยโชค 1,มหาสิทธิโชค 1,สิทธิโชค 1 ท่านว่ากระทำให้ครบตามกำลังเทวดาเท่ากับกำลังเทวดาซึ่งกว่าจะปลุกเสกให้ครบและเกิดอาถรรพ์ทั้งลมพัด,ฟ้าผ่า,ฝนตกแดดออกแลเหตุผิดธรรมชาติที่ปรากกฏชัดตรงตามข้อกำหนดนั้น ท่านว่ากว่าจะหุงได้ยากกว่าไปหามวลสารเสียอีกเพราะมีสูตรทำขลังให้ตายตัวเช่นนั้นแต่โบราณท่านจึงหวงและปกปิดนักแม้จะใช้ยังต้องแลกด้วยทองคำ เพราะว่ากว่าจะทำได้นั้นไม่ง่ายเลยบางครู,บางยุค,บางสมัยเกิดมาแล้วตายไปก็ไม่มีวาสนาจะได้ทำ

    เช่นนั้นน้ำมันจ้าวชีวิตโคตรเศรษฐีอมฤตโชคจึงเป็นน้ำมันที่เน้นพุทธคุณทางเมตตามหาลาภ เรียกเงินเรียกทอง เป็นน้ำมันที่สร้างจากแรงครู,แรงวิชา,ว่านยาล้วนๆไม่มีพรายไม่มีมนต์ดำใดๆทั้งสิ้น ผู้ใดได้บูชาย่อมเกิดเสน่หา-เมตตา,เกิดโชคลาภเงินทองแก่ผู้ครอบครอง,มีคนนิยมชมชอบ,ทั้งจักบังราศีไม่ให้อับ,ไม่มีคนคิดร้าย,แม้แต่เทพเทวายังเมตตาแก่ตัวเรา เพียงใช้เจิม-ใช้ทาตามตัววันละนิดตามร่างกายหรือผสมน้ำอาบก็ได้ผลดีแลหมาะสำหรับบุคคลที่ใช้ของทางโชคลาภไม่ขึ้น ใช้ของทางโชคลาภมาหลายอย่างแต่ไม่เป็นผล ท่านว่านี่เป็นมหาโชคชั้นสูงเพียงใช้พกพาก็เห็นผลแค่ครอบครองไว้ก็เป็นที่รักแก่มนุษย์ เทพ เทวดา และสัตว์ทั้งหลาย ครูแต่เดิมท่านว่าผู้ใดใครมีนับได้ว่าประเสริฐกว่าคนทั้งหลายยิ่งนัก จะแก้อาถรรพ์คนที่ดวงขาดโชค,ขาดวาสนา หรือแม้แต่ต้องอาถรรพ์ต่างๆทั้งเล่นผี,เล่นพรายมากเกินไปจนใช้ของโชคลาภไม่ได้ผล,หรือพวกของเข้าตัวท่านว่าสามารถใช้น้ำมันทาตัวหรือผสมน้ำอาบได้เพื่อขับสิ่งไม่ดีออกจากร่างกายช่วยเสริมราศีเราให้ดีที่สุด คนที่ใช้ประจำท่านว่าจะเป็นเสน่ห์ในตัวแม้จะต้องการสิ่งใด ย่อมได้สมหวังตามปราถนาถ้าจะใช้เพื่อการใดเป็นเฉพาะสามารถอธิษฐานบอกครูเทพที่รักษาน้ำมันเอาได้แลเพราะน้ำมันนี้ผู้ใดได้ไว้ครูย่อมเข้ารักษาให้ปลอดภัยทั้งเจริญในโชคลาภมากด้วยเงินทอง เจริญด้วยพรสวัสดิมงคลทุกประการ

    ในยุคสมัยนี้พ่ออาจารย์ท่านมักจะพูดลอยๆออกปากเสมอว่า สงสารพวกคนที่หากินยากจะทำอะไรธุรกิจก็ฝืดเคืองกันไปเสียหมด เรียกว่าข้าวยากหมากเเพงลืมตาอ้าปากกันยาก สิ่งที่เราพอจะทำได้นอกจากให้กำลังใจก็คือใช้วิชาทำมงคลวัตถุนี่เเหละดั่งที่เคยกล่าวไปเเต่ต้นว่าท่านไม่ประสงค์ให้ลูกศิษย์อดอยากยากจนหรือต่ำกว่าใครเขา ท่านจึงมักทำวิชาเกี่ยวกับเรื่องเงินทองโชคลาภเสมอ เพื่อให้ถูกจริตกับยุคสมัยซึ่งจะเลวร้ายลงไปอีกมากหลังกึ่งพุทธกาล ท่านว่าใครที่เขาเล่นเสน่ห์ซักวันหนึ่งเขาก็จะมาตามเก็บของที่ช่วยเรื่องเงินทองโชคลาภเเบบเน้นๆเอง เพราะในยุคนี้มันต่างออกไปจากอดีต เงินหมื่นเงินเเสนนั้นไม่ได้มีค่าซื้อบ้านได้เป็นหลังๆ ไหนจะภัยธรรมชาติ ภัยจากสัตว์ร่วมโลก ภัยจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายที่จะทวีเเละหนักขึ้น พ่ออาจารย์ท่านอยากให้เตรียมพร้อมกันไว้ดีกว่ามาตามเเก้ที่หลัง ถ้าจะเล่นวัตถุมงคลท่านว่าอย่าลืมด้านโชคลาภโภคทรัพย์เด็ดขาด *เช่นนั้นท่านจึงตั้งใจเปิดน้ำมันสำคัญซึ่งหายสาบสูญไปนานตามกาลเวลานี้แบ่งให้เอาไปใช้กันเพราะวิชานี้นับว่าเป็นวิชาเอกที่หาคนทำคนสืบทอดได้ยาก ผู้ใดได้บูชาเเล้วให้เจริญรุ่งเรืองไปจนตัวตาย ชีวิตจะมีเเต่ความเจริญในลาภสักการะมิรู้ขาด มีได้สมประสงค์ทุกสิ่งที่พึงจะปรารถนา ถือว่าเป็นยอดวิชาที่สร้างขึ้นเพื่ออนุเคราะห์คนที่จะขอรับไปบูชาจริงๆ ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านได้นำน้ำมันนี้มาบอกกล่าวเชิญมหาเศรษฐีทั้ง 9 ในสมัยพุทธกาล ขอบารมีท่านทั้งหลายมาทำมาลงสงเคราะห์เฉพาะอีก เพื่อจะได้มั่นใจว่าน้ำมันนี้คนรับไปบูชาจะได้ร่ำรวยกันจริงๆ เพราะบารมีของมหาเศรษฐีทั้ง 9 ซึ่งเป็นอริยบุคคลนี้ เเต่ละท่านร่ำรวยระดับอภิมหาเศรษฐีกันเลยทีเดียว บุคคลเหล่านี้ถึงจะใช้จ่ายเเม้สมบัติพร่องไปเเต่เพียงน้อยพระภูมิเเละเทวดาทั้งหลายก็ต้องหามาเติมให้เต็มคลังมิรู้จักขาดตกบกพร่อง เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อเสวยสุขทางโลกเลยจริงๆก็ว่าได้ท่านไม่ได้กล่าวอะไรมาก เพียงเเต่บอกว่า เอาไปใช้ รู้จักการให้ทานอย่าได้ขาดนะ จะได้ลืมตาอ้าปากได้ มีได้เหมือนคนอื่นเขาไม่น้อยกว่าใครเขา น้ำมันของครูสอน,ครูฝึกของเรา ครูเราไม่ได้ทำคนเดียวหรอกนะ ก่อนใช้อย่างน้อยก็นึกถึงมหาเศรษฐีพุทธกาลทั้ง 9 ท่านนั่นแหละ จำท่านเอาไว้ให้ติดปากนึกถึงท่านเมื่อใช้น้ำมัน เพราะน้ำมันนี้พวกท่านมาช่วยกันลงช่วยกันสงเคราะห์ นึกถึงท่านก่อนใช้กุศลก็จะได้เกิดมีบุญหล่นทับหัวทับตัวกันทุกคน ดีอย่างไรเราพูดไปก็เท่านั้น น้ำมันชุดนี้เราบอกได้แค่ให้บูชาเอาไว้ใช้สืบรุ่นลูกรุ่นหลานนะ รักษากันดีๆ

    ซ้ำในขวดน้ำมันสำคัญนั้นท่านยังได้ทำวิชาเฉพาะลงตะกรุดสังวาลย์พระธรรมแต่งร่างเอาไว้ด้วย เพื่อให้ใช้เสริม,หนุนเข้ากับน้ำมัน เพราะตะกรุดนี้ถือเคล็ดพระธรรมแต่งร่างถือเคล็ดมหาบังเกิดคือเคล็ดลับการเกิดของสรรพสัตว์ทั้งปวงทั้งหลาย ทำอะไรก็ให้บังเกิดแต่ผลดี,บังเกิดโชค,บังเกิดลาภ,บังเกิดเงิน,บังเกิดทอง,บังเกิดทรัพย์ เป็นสูตรวิชาทำมาหากินของคนโบราณท่านว่าใช้เพื่อแต่งร่างเราให้เป็นคนใหม่ ใช้อานุภาพพระสัทธรรมเจ้าอันประเสริฐดั่งน้ำอมฤตรสแต่งร่างแต่งชีวิตที่เสื่อมโทรมเพราะถูกกาลเวลากัดกร่อน แต่งจิตใจที่สึกหรอไปตามห้วงวิบาก พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกตินั้น มวลสรรพสัตว์ทั้งหลายย่อมหลงไหลวนเวียน ดำเนินชีวิตไปด้วยปัจจัยสามสิ่ง นั่นคือ กิเลส,กรรม,วิบาก เช่นนั้นตะกรุดสังวาลย์นี้ท่านจึงสร้างแบบเฉพาะกาล คือสร้างขึ้นมาเพื่อชะลอหยุดยั้งกฏของมหาวัฏฏะที่เกิดขึ้นกับผู้ใดผู้หนึ่งอันเกี่ยวเนื่องมาจาก กิเลส กรรม วิบากเหล่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพระเวทย์แลพระธรรม(อาตมัน)ท่านมีดำริว่าถึงเวลาแล้วที่จะทำลายความทุกข์และคราบน้ำตาของหมู่สัตว์ทั้งผอง ชนทั้งหลายที่มีศรัทธาต่อธรรม ต่อจิตวิญญาณสูงสุด คนเหล่านั้นจะต้องถึงซึ่งบรมสุขท่านจึงกรุณาให้พ่ออาจารย์ทำตะกรุดสังวาลย์ที่จะสะกดทับกิเลส กรรม วิบาก อันเหนี่ยวรั้งฉุดดึงให้ชีวิตคนตกต่ำ ตกอยู่กับความมืดไม่พบแสงสว่างหาทางออกอย่างไรไม่ได้การสะกดทับคือสะกดวัฏฏะทั้งสามของมโนวิญญาณอันเคยทำกรรมหรือมีสัญญากรรมตลอดจนวนเวียนชดใช้ผลกรรมซึ่งเกี่ยวเนื่องด้วยกิเลส กรรม วิบากทั้งหลาย วัฏฏะทั้งสามนี้ไม่ได้หายไปไหนแต่ด้วยเมตตาของอาตมันท่านจะทับจะสะกดไว้ให้โอกาสเราได้ประกอบกุศลสร้างคุณงามความดี พบเจอกับความสุขอันปราศจากทุกข์ใดมาเบียดบัง ท่านว่าครูมีคำสั่งไว้ว่า"ศิษย์นั้นก็ไม่ต่างจากลูกในไส้อย่างใด เพราะเราห่วงเขาเหมือนพ่อห่วงลูก หากเขาคิดถึงเราถ้าไม่ช่วยเขาแล้วเราจะช่วยใคร" ท่านว่าทำตะกรุดสำคัญเพื่อเข้ากับน้ำมันครั้งนี้ไม่ใช่แค่จะตัดกรรมหรือริดรอนกรรมด้วยอานุภาพแห่งคุณวิชาของบูรพาจารย์ แต่จะเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่มีอำนาจเหนือวัฏฏะทั้งสามอันไม่เคยปรากฏมีมาก่อน พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์อาตมันท่านทำให้จนเป็นดาบสองคม มีคุณอนันต์จนกลัวว่าคนได้ไปจะลำพองใจนำไปใช้ในทางที่ผิด ท่านว่าให้จำไว้เสมอคนที่บูชาไปจงอย่าเกียจคร้าน อย่าลำพองใจ อย่าเดินไปตามกระแสของโลก ให้เร่งขวนขวายประโยชน์เบื้องหน้าหมั่นสร้างตบะสั่งสมบารมีประกอบคุณธรรมความดีให้ถึงพร้อมจึงจะไม่เสียเจตนาของเรา พ่ออาจารย์ท่านมีดำริในภายหลังก่อนออกให้บูชาว่าตะกรุดแลน้ำมันชุดนี้ผิว่ากาลเบื้องหน้าหากหาผู้มาบูชาหรือรับไปไม่ได้ ท่านตายเมื่อไหร่ก็ให้ทำลายลงไปพร้อมกันกับตัวท่านเสีย เพราะกลัวใจคนไม่ดีจะนำไปใช้ จนกระทั่งองค์อาตมันท่านแจ้งเหตุว่าถึงเวลาแล้ว คนที่เขารอคอยและมีวาสนาจะครอบครองก็มีครบแล้ว ให้ท่านวางใจได้เพราะทุกคนที่เอาไปใช้ย่อมเป็นคนดีท่านจะคัดสรรค์คนของท่านให้เอง

    ด้วยสังวาลย์พระธรรมแต่งร่างนี้เป็นของสูงแต่เดิมตะกรุดสายสังวาลย์ต่างๆก็เป็นการทำวิชาเครื่องคาดสำหรับพระมหากษัตริย์และแม่ทัพนายกองอันประกอบด้วยสรรพคุณที่ทรงพลานุภาพอย่างถึงที่สุดอยู่แล้ว ท่านไม่อยากจะให้วิชาเหล่านี้สูญหายไปประกอบกับถึงเวลาอันดีที่จะสร้างเเละเสกเอาไว้ให้กับผู้ที่ต้องการรับสุดยอดของดีไว้บูชาจึงได้จัดทำตะกรุดนี้ขึ้น ในเรื่องของฤกษ์ยามที่จะต้องคัดฤกษ์มงคลสูงสุดลงให้เเก่ผู้บูชาซึ่งพ่ออาจารย์ก็เลือกฤกษ์เพียงสองฤกษ์เท่านั้นที่จะใช้ลงตะกรุดนี้ประกอบไปด้วย ราชาฤกษ์ เเละเพชฌฆาตฤกษ์ โดยทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เนื่องมาจากท่านตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดนั่นเองสำหรับตะกรุดสังวาลย์ชุดนี้มีความยากในการลงไล่อักขระตามกลบทนั้นถือว่ายากอยู่แล้วเพราะเป็นมหายันต์ชั้นสูงและเป็นยันต์ชุดเทพวิชาคือไม่มีปรากฏมาแต่ก่อนในโลกนอกจากบรมครูองค์อาตมัน(จิตแห่งพระเวทย์และพระธรรม)ท่านจะนิมิตบอกให้ใช้เฉพาะตัวของท่านเองเท่านั้นเป็นตะกรุดชุดที่นานๆจะทำออกมาที นานทีปีหนจึงจะมีให้เห็นเอาเป็นว่าสังวาลย์พระธรรมแต่งร่างนั้นจะต่างจากตะกรุดทั่วๆไปตั้งแต่ความสูงส่งขององค์ต้นวิชา นั่นจึงถือว่าเป็นตะกรุดตระกูลสูงเช่นนั้น ซ้ำในชุดหนึ่งนั้นมีสี่ดอก ในแต่ละดอกย่อมมีสถานที่การลงแตกต่างกันออกไปเมื่อทำเสร็จแล้วท่านจะต้องนำมาคาดติดตัวไว้ตลอดเวลาในการประกอบพิธีต่างๆ ทั้งในพิธีอุปราคา จันทรคราส-สุริยคราส และเเม้เเต่พิธีบนดอยต่างๆของท่าน ซึ่งท่านจะสอบพลังของตะกรุดที่คาดนี้อยู่เนืองๆ จนแน่เเท้แก่ใจว่าเป็นยอดแล้วถึงถอดออกมาเป็นชุดๆ ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพลานุภาพมากยากที่จะประเมิณค่าได้ ทั้งหาผู้สืบทอดและทำได้ยากเนื่องจากเป็นวิชาขององค์อาตมันมีพลานุภาพปรากฎในทุกด้านในทุกทิศทางแม้ตะกรุดนี้อยู่ที่ใดก็จะแผ่รัศมีออกไปในทิศทั้งสิบ เปรียบดังเกราะแก้วกำแพงเหล็กที่ป้องกันภัยและเสนียดจัญไรจากทุกสารทิศไม่ให้มากล้ำกรายผู้บูชาได้ ทั้งยังมีอานุภาพสุดแต่ใจนึก พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานจิตให้ตะกรุดสังวาลย์นี้สอดคล้องรับกันกับอารมณ์ปรารถนาในใจตัวคนถือคนใช้ ท่านหมายถึงว่าแม้ผู้บูชาใครจะปรารถนาอะไรก็แล้วแต่สิ่งที่ปรารถนาไว้ก็ไม่สามารถหลุดรอดพ้นหนีออกไปได้เลย สังวาลย์ทั้งสี่นี้จะดลบันดาลให้ทุกสิ่งไม่สามารถหลุดรอดออกไปได้ตามคำอธิษฐาน แม้ว่าจะปรารถนาลาภยศชื่อเสียงเงินทองความเจริญก้าวหน้า สิ่งต่างๆเหล่านี้เมื่อได้มาแล้วจะต้องอยู่กับเราไปตลอดไม่รู้จักคำว่าตกต่ำลงเลย เปรียบดั่งต้องพันธนาการจับสิ่งใดไว้ได้ก็ไม่รู้หลุดรู้เคลื่อนเลยฉันใดก็ฉันนั้น ท่านการเสกตะกรุดนี้ต้องทำให้ได้ถึงขั้นใช้ตะกรุดได้ดั่งใจ วิชานี้ท่านว่าทำยาก กว่าจะจารและสำเร็จตะกรุดดอกนึงนั้น บทพระคาถามีหลายคาบหลายบทมาก ต้องเสกแยกทีละดอกๆ สำเร็จทีละดอก ท่านว่าตะกรุดที่จะใช้ได้ดั่งใจปรารถนานี้คือเอาไปแล้วต้องใช้ได้ดั่งใจนะ เพราะวิชานี้มีแรงครูสูงมีธาตุรู้ของครูบาอาจารย์อยู่กับองค์ตะกรุด ท่านว่าครูท่านบอกเอาไว้ อยากได้อะไรปรารถนาสารพัดในปฐพี ให้จ้องที่ตะกรุดแล้วนึกเอา มันมีเท่านี้จริงๆ นึกเอานั่นแหละแล้วจะได้เอาทุกสิ่ง ไม่ว่าลาภสักการะเงินทองความเจริญรุ่งเรืองสิ่งใด ท่านว่ามีไม่รู้หมดตราบใดที่ยังนึกคิดได้ ให้นึกแต่สิ่งที่ดีๆจะได้ไม่ผิดเจตนาของครูบาอาจารย์

    ชุดตะกรุดสังวาลย์ในน้ำมันนี้ท่านว่าแม้เราไม่นำพาติดตัวพกอาราธนา***เพียงแต่อาราธนาน้ำมันจุนเจิมหน้าผากเท่านั้นก็มีผลเสมอคาดด้วยสังวาลย์นี้ไปกับเราทุกที่เช่นเดียวกันมีอานุภาพครอบฟ้าคลุมดินตามแต่จะอธิษฐานท่านว่าวิชานี้เเล้วเเต่จะเอาไปใช้เลย เป็นไปได้ทุกเรื่อง สำเร็จได้ทุกเรื่อง แต่วิชานี้มีความพิเศษไม่เหมือนใครอยู่อย่างหนึ่ง หากผู้คาดผู้บูชา ทำคุณงามความดีทำบุญทำกุศล ตะกรุดจะยิ่งทวีพลังเเละอานุภาพเพิ่มมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ท่านว่าเป็นวิชาที่แปลกพลังไม่ตกไม่เสื่อมมีแต่จะรอวันเพิ่มขึ้น มากขึ้น ขยายขึ้น สูงขึ้นทุกวัน ผู้ที่บูชาจะหนุนนำชักพาให้เจอแสงสว่างพบกับสิ่งดีงาม ประหนึ่งเราได้อานิสงค์มีธรรมคุ้มกาย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันชุดนี้กลิ่นว่านยาจะหอมมากๆทั้งใสเหมือนตาตั๊กแตน ท่านว่าให้ดูเอาเถิด สีน้ำมันนั้นมันกลืนๆกันอยู่ จะเหลืองก็ไม่เหลือง จะเขียวก็ไม่เขียว จะฟ้าก็ไม่ฟ้า***แต่ให้จำเอาไว้ให้ดีว่าเมื่อได้ไปนั้น เราเห็นน้ำมันเป็นสีอย่างไรในตาเรา วันไหนถ้าสีน้ำมันเปลี่ยนไป ท่านว่านั่นแหละจะรวยใหญ่ ครูท่านแสดงนิมิตบอกแล้วล่วงหน้าให้รู้เนื้อรู้ตัว เฉพาะตัวน้ำมันนั้นท่านเคยนำมาออกมาให้คนที่เดือดร้อนเรื่องธุรกิจการหากินบูชาไปหลอดหนึ่ง ปรากฏว่าเขาระงับความต้องการและกิเลสของตนไม่ได้สุดท้ายจนท้ายที่สุดหลอดน้ำมันก็อันตรธานหายไป ท่านว่าพอมี,พอได้ก็หลงอยู่ในกามในกิเลส ไม่ได้รู้เลยว่าถือของสูงขนาดไหนอยู่และใครเขาเป็นคนช่วยฉุดขึ้นมา ที่จะสำนึกประกอบคุณงามความดีทำบุญทำกุศลเอาพระธรรมใส่ตนมาปฏิบัติเช่นนั้นยังไม่มี ท่านจึงเก็บน้ำมันชุดนี้ไว้ไม่ยอมนำออกมาให้ใครได้บูชาอีกเลยจนวาระนี้

    ***วิธีทำหวย
    ให้ทำกลางคืนในดึกสงัด ท่านว่าทำเงียบๆคนเดียวอย่าไปบอกใคร เมื่อจะทำให้จุดธูปสิบหกดอก จุดเทียนสองเล่ม เตรียมดอกไม้หรือพวงมาลัยคล้องขวดน้ำมันไว้ตั้งจิตบูชาครูบาอาจารย์ทั้งชั้นฟ้า ทั้งครูเทพ ครูพรหม ครูฤาษี มหาเศรษฐีพุทธกาลทั้งเก้า และองค์อาตมันเป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ขอลาภกับครูท่าน ถ้าเรามีวาสนาก็ให้ท่านโปรดให้เราเห็น โดยนำกระดาษมาแผ่นหนึ่งเขียนเลข 0-9 ล้อมกันไว้เป็นวงกลม อธิษฐานบอกครูบาอาจารย์นำน้ำมันนั้นแตะลงตรงกลางวงกลมหนึ่งที ภาวนาคาถาว่า"สัพเพชะนา พะหูชะนา เมตตาสุขัง จะมหาลาภัง ปิยังมะมะ" แล้วก็แตะน้ำมันบริเวณหนังตาซ้ายขวาแล้วจึงเข้านอน พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้ามีวาสนาแรงจะถูกหวยหลับไปตัวเลขจะมาเป็นสีแดงๆในนิมิตฝันของเรานั่นเลย แต่ถ้าไม่ได้ฝันเห็น พอตื่นมาท่านให้จ้องแผ่นกระดาษตัวเลขนั้นโดยหลับตาและลืมตาครั้งหนึ่งเห็นเลขใดเป็นเลขแรกก็เอาตัวนั้น ท่านว่าจะสองตัวหรือสามตัวก็ทำตามนี้โดยการหลับตาและลืมตาสองถึงสามครั้ง(ให้ทำได้เฉพาะคืนก่อนวันหวยออกเท่านั้น) ได้เลขอะไรก็ตามอย่าได้บอกกับใครเด็ดขาด รู้คนเดียวและซื้อคนเดียวเท่านั้น


    คาถาบูชา
    โอมพุทธังบังเกิด ธัมมังบังเกิด สังฆังบังเกิด พระเจ้าประเสริฐบังเกิดเป็น ออ อา ออ แอ ออเมตตา อาเอ็นดู ให้พระธรรมอุปถัมภ์ ให้พระธรรมค้ำชู ยกกูหนีไกลวัฏฏะทุกข์แต่ใดไม่มาแผ้วมาพาน อนิจจาพุทโธ พุททังมาโส ธัมมังมาโส สังฆังมาโส มาแล มาแล มาเชย มาชม มา ออ แอ ฤ ฤา ธัมมังมาโส เมตตามาโสมาสิมา


    * ตะกรุดสังวาลย์พระธรรมแต่งร่าง+น้ำมันจ้าวชีวิตโคตรเศรษฐีอมฤตโชคนี้พ่ออาจารย์ท่านทำไว้เพียงห้าชุด และท่านเก็บเอาไว้ใช้เองชุดหนึ่ง น้ำมันนี้ท่านว่ามีเจ้าของมีผู้ถือครองทุกขวด รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น (ผู้บูชาให้แจ้งชื่อ,นามสกุล,วันเดือนปีเกิดไว้ด้วยท่านจะบอกกล่าวครูอาตมันประสิทธิให้อีกคราหนึ่ง) รายได้ร่วมสมทบทุนไถ่ชีวิตโค-กระบือสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสังวาลย์พระธรรมแต่งร่าง+น้ำมันจ้าวชีวิตโคตรเศรษฐีอมฤตโชค (ลืมตาอ้าปาก,เปิดทางรวย) บูชา 4,000 บาท

    58670498-345539282765030-6622404773712756736-n.jpg
    59423694-822490924799000-3178432711375192064-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2023
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระสำเร็จอธิษฐานใจอุดรอยรั่วชีวิตเพชรฆาตฤกษ์(เทวดาช่วยด้วย)
    "สิ่งเล็กๆน้อยๆเช่นรอยรั่วเล็กๆก็อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตคนไปตลอดกาลได้ ให้ระวังกันให้ดีเพราะหนึ่งรูเล็กๆที่ว่านี้ก็อาจจะล่มเรือลำใหญ่เหมือนที่ล่มชีวิตใครก็ได้มามากแล้ว" พ่ออาจารย์ท่านว่าจิตที่ฝึกมาดีแล้วนั้นย่อมไม่มีรอยรั่วใดๆเหมือนเรือนอันอาศัยที่ปลูกมาดีแล้วแม้เจอกับพายุฝนอย่างไรย่อมไม่รั่วไม่ซึม ในขณะเดียวกันจิตที่อัตภาพปรุงแต่งตามกาลเวลาไม่ได้ฝึกฝนขัดเกลาเช่นนี้ฝนตกทุกทีย่อมรั่วเสมอ...(ท่านว่าอนาคตคนจะมีปัญหาชีวิตเพิ่มขึ้นทีละเรื่องๆไปเรื่อยๆมากขึ้นๆ ท่านจึงให้นำพระอธิษฐานใจชุดนี้ออกมาให้บูชา เพื่อให้คนที่มีวิสัยทัศน์และรู้ว่าจะเกิดปัญหาในอนาคตกับตัวได้แก้เคล็ดนำไปใช้อุดรอยรั่ว)

    *** พระชุดนี้เป็นพระเก่าสมัยที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างเหรียญซุ้มระฆัง ซึ่งท่านใช้มวลสารเดียวกันหล่อบูชาครูขึ้นพร้อมกัน
    เพราะว่าเหรียญหล่อรุ่นแรกนี้ท่านตั้งใจมากๆและทำเต็มที่ โดยใช้ชนวนล้วนๆที่ไม่มีโลหะธรรมดาเจือปนให้เสียชื่อแต่อย่างใด ที่สำคัญนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้แกะเเม่พิมพ์ด้วยตัวเองรวมทั้งลงมือหล่อเองด้วย ในวาระนี้จะมาดูมวลสารกันก่อนซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้เตรียมชนวนมวลสารไว้ที่ง่ายต่อการหลอมและการลงวิชาเพื่อให้มีพุทธคุณที่เข้มขลังสุดๆ เป็นที่ทราบกันดีว่า ตะกั่วและเงินเป็นโลหะที่รับเเละซึมซับกระเเสพลังงานได้ดีเยี่ยมที่สุดและที่สำคัญยังง่ายต่อการหล่อหลอมที่สุด ชนวนที่นำมาหล่อเหรียญนี้จึงเป็นตะกั่วผสมเงินนั่นเอง โดยท่านได้นำตะกั่วอวนหาปลามาแช่น้ำพระพุทธมนต์ปะสระล้างอาถรรพ์ปัดเสนียดโดยตั้งธาตุให้บริสุทธิ์ก่อน ก่อนที่จะนำมารีดเป็นแผ่นและลงอักขระวิชาทับถมตามสูตรบูรพาจารย์ในอดีตเช่นหลวงปู่เอี่ยม วัดหนังเป็นต้น พ่ออาจารย์ได้กำกับลงอักขระพุทธาคมพระยันต์ต่าง108พระยันต์ลบถมอยู่เช่นนี้ ทำไปเรื่อยๆไม่ได้รีบร้อน จนเต็มความสามารถเพื่อประสงค์ที่จะสร้างมงคลสักการะที่ดีงามฝากไว้ตามรอยบูรพาจารย์ในอดีตหลังจากนั้นท่านจึงสั่งรีดแผ่นเงินแท้เเละต้องเป็นเงินบริสทธิ์ที่หลอมไฟละลายด้วย มาทำการลงวิชาและอักขระอีกทั้งหมด 8 แผ่น เพื่อจะทำการหลอมรวมกันสร้างเหรียญหล่อรุ่นแรกเป็นปฐมฤกษ์ครั้งนี้


    โดยเเผ่นเงินทั้ง8ท่านลงวิชาต่างๆกัน ดังนี้
    1. แผ่นยันต์พระคาถาชินบัญชร พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอานุภาพ108 พันประการสุดที่จะกล่าวถึงได้เสียหมด พุทธคุณดังฝอยท่วมหลังช้างตามเเต่ผู้ใช้จะอธิษฐาน
    2. เเผ่นยันต์เกราะเพชร ตำรับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เพื่อให้คุ้มครองป้องกันผู้ที่มีเหรียญไว้บูชาดุจเกราะเเก้วตาข่ายเพชร ซึ่งการลงยันต์นี้ท่านว่าต้องเดินตามสูตรทีละตัวๆ และหลังจากลงแล้วจึงเชิญเสด็จพระใหญ่ให้มาเป็นประธานพร้อมหลวงพ่อปานลงเสก
    3. แผ่นยันต์แม่ธาตุทั้ง 4 ท่านว่าทุกสิ่งทุกอย่างในวัฏสงสารนี้ย่อมประกอบด้วยธาตุทั้ง 4 ปรุงเเต่งขึ้น ดังนั้นจึงถือว่าเป็นวิชาที่มีอานุภาพครอบจักรวาลสามารถเติมเต็มสิ่งที่ขาดเเละปรับสมดุลย์ให้แก่ร่างกายผู้ใช้ได้
    4. แผ่นยันต์ครอบจักรวาล พระยันต์นี้ท่านว่ามีอานุภาพครอบจักรวาลสุดแล้วแต่ผู้ใช้จะมีสิ่งใดปรารถนาประสงค์บอกกล่าว จะช่วยทำให้สำเร็จสมดังคำอธิษฐาน ครอบคลุมในทุกๆด้าน
    5. แผ่นยันต์พระปัจเจกพุทธเจ้าเรียกทรัพย์ วิชานี้เป็นหนึ่งในวิชาของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้ลงเเละเสกกำกับเพื่อเร่งลาภดูดดึงเอาโชคลาภวาสนามาสู่ผู้ใช้ผู้บูชาไม่ให้เสียเวลาคอยท่าบุญเก่านานๆ นอกจากนั้นท่านยังเชิญหลวงพ่อปานพร้อมทั้งครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่ได้มรณภาพไปแล้วลงทำการประสิทธิ์ให้อีกด้วย
    6. แผ่นยันต์พญาราชสีห์ ท่านลงเเละเสกให้เป็นมหาอำนาจ เป็นราชเสน่ห์ สามารถสะกดผู้อื่นได้ ผู้บูชาจะได้มีตบะเดชะเหมือนหนึ่งพญาราชสีห์เป็นที่เคารพยำเกรงของบุคคลรอบข้างไม่โดนกดขี่
    7. แผ่นยันต์ทำน้ำมนต์ พระยันต์นี้ท่านลงไว้เพื่อให้ผู้บูชาเหรียญเมื่อถึงคราวคับขัน จะสะเดาะลูกตายในครรภ์ออก จะสะเดาะก้างปลาออกจากคอ จะทำน้ำมนต์รดอาบเพื่อเป็นสิริมงคล หรือแก้วิกลจริตผีเข้าเจ้าสิงต่างๆ ก็สามารถกระทำได้ง่าย ด้วยการนำเหรียญหล่อนี้อาราธนาลงเเช่น้ำทำน้ำพระพุทธมนต์ได้ทันที เฉกเช่นวัตถุมงคลของอมตเถราจารย์ในอดีตทั้งหลาย
    8. แผ่นยันต์หัวใจชายหญิง เป็นเมตตามหานิยมมผูกจิตผูกใจ ให้ผู้คนททั้งหลายรักใคร่ ไม่ว่าจะเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม
    ท่านได้นำแผ่นตะกั่วอวนลงถมเเละเเผ่นเงินจารพระยันต์ต่างๆผสมกันหล่อหลอมขึ้นด้วยตัวท่านเอง สำเร็จเป็นเหรียญหล่ออธิษฐานใจทั้งสิ้นตามดำริเดิมเมื่อสร้างเหรียญซุ้มระฆังด้วยตั้งใจจะทำไว้เป็นพระคะแนน หลังจากนั้นจึงนำมาแช่น้ำว่านและทำการปลุกเสกทิ้งไว้มาโดยตลอ


    นับแต่อดีตกาลตำนานการทำวัตถุมงคลเนื้อโลหะนั้น โบราณจารย์และบูรพาจารย์ทั้งหลายได้สร้างสิ่งล้ำค่าเต็มภูมิรู้และสติปัญญาของท่านทิ้งไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ระลึกถึง การสร้างต้องเลือกฤกษ์ยาม ต้องดีตั้งแต่เนื้อในดีให้ถึงที่สุดในทุกๆด้าน เมื่อกาลเวลาผ่านไปเครื่องมงคลเหล่านั้นล้วนมีคุณค่าบังเกิดพระพุทธคุณมากมาย พ่ออาจารย์ท่านมีความประสงค์อยากจะสร้างเพื่อบูชาครู และดำเนินรอยตามบูรพาจารย์ทั้งหลายแต่จะไม่ทับรอยครู จึงได้ซุ่มจัดทำเหรียญหล่อขึ้นมาเป็นเหรียญหล่อที่เน้นเนื้อหามากกว่าปริมาณ ท่านให้เหตุผลที่จะทำรูปเหรียญนี้ขึ้นว่าเพื่อบูชายกย่องครูบาอาจารย์ทั้งเป็นเครื่องระลึกตรึกถึง "เมื่อศิษย์ไม่ลืมครู ครูย่อมไม่ทิ้งศิษย์ฉันใดก็ฉันนั้น"

    ต้องกล่าวเกริ่นเลยว่า แรกเริ่มเดิมทีท่านอยากจะทำเหรียญหล่อที่มีเเรงครูสูงขึ้นมาซักรุ่นแต่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร แล้วอยู่ดีๆท่านก็เเกะเเม่พิมพ์ของท่านออกมาเสร็จเรียบร้อย ท่านว่าต้องเหรียญพระสมเด็จโตนี่แหละเป็นตัวแทนของครูบาอาจารย์ของเราในสายบารมี(และในการนั้นท่านก็ตั้งใจทำพระพุทธจักรพรรดิ์พิมพ์สมเด็จคะแนนขนาดย่อมๆเพื่อเทนำฤกษ์,เบิกฤกษ์ในวาระเดียวกันตามธรรมเนียมการสร้างพระคะแนนไว้ด้วย) เมื่อเเกะเเม่พิมพ์นี้ท่านพูดคำพูดนึงจนติดปาก พูดไปยิ้มไป เหมือนท่านดีใจอะไรมากๆซักอย่าง ท่านว่า "ทำเหรียญนี้ครูลงแรงเทวดาเค้าช่วยด้วย" พูดซ้ำไปซ้ำมาเช่นนี้หลายครั้ง เมื่อได้ฤกษ์เพชรฆาตฤกษ์อันประกอบด้วยวันและเวลาอันเป็นมงคลสมบูรณ์ครบถ้วนทุกประการ ท่านได้นำเบ้าหลอมมาผิงไฟไล่ขี้เทียนและหลอมโลหะตะกั่วกับแผ่นเงินจารอักขระรวมกันจากนั้นจึงทำการเทด้วยตัวท่านเองทีละองค์ เมื่อเทพระอยู่นั้นท่านพูดขึ้นมาว่า "ไม่คิดว่าครูใหญ่จะมา นี่ไงสมเด็จโตท่านมาจริงๆนะ" พูดไปยิ้มไป เป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดเเละสร้างความปิติลึกเข้าไปในจิตใจของผุ้บูชาว่าครั้งหนึ่งก็ได้ใช้พระในสายบารมีในบารมีของครูสมเด็จจริงๆ และยังได้ทราบว่าบารมีของสมเด็จโตนั้นท่านเตรียมพร้อมที่จะมาโปรดเเละคุ้มครองเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตสำหรับผู้มีศรัทธาเเล้ว เมื่อทำการหล่อได้ ครบจำนวนบล๊อคแม่พิมพ์พระก็ได้เเตกลง เป็นการทำลายตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ เสมือนมีประสงค์จะให้เหรียญหล่อรุ่นแรกนี้มีเพียงเท่านี้ในฤกษ์นี้ไม่สามารถสร้างเพิ่มได้อีก เมื่อหล่อเก็บในเพชรฆาตฤกษ์ได้ครบพ่ออาจารย์ท่านจึงนำเหรียญทั้งหมดลงแช่ในน้ำมนต์อ่านโองการทำน้ำพระพุทธมนต์เสกเพิ่มเข้าไป เเละยังได้นำน้ำว่านน้ำยามาเข้าเพิ่มเพื่อแช่เเละอาบเหรียญหล่อนี้ให้เป็นกายสิทธิ์บังเกิดพุทธคุณถึงขีดสุด ถือว่าท่านเสกใต้น้ำตลอดเวลาเป็นการดับพิษไฟร้อน เเก้เคล็ดสำหรับผู้ที่บูชาพระเนื้อโลหะไม่ขึ้นและไม่ถูกกับธาตุไฟ

    เหตุที่ท่านหล่อในฤกษ์เพชรฆาตท่านให้เหตุผลว่า อันนี้เราตั้งใจจะให้เอาไปใช้งานกันจริงๆ เหรียญนี้จะได้มีพุทธคุณสามารถนำไปพิฆาตสิ่งชั่วร้ายและทำลายล้างอาถรรพ์ต่างๆอันเป็นเหตุที่ทำให้ชีวิตผู้ครอบครองตกต่ำได้ เราจะเเก้ตั้งเเต่ต้นเหตุกันเลย ถ้าทำแล้วชีวิตเขาไม่ดีขึ้นก็ไม่รู้จะทำไปทำไมด้วยครูสมเด็จคือพระอริยเจ้าที่มีบารมีอริยภูมิเต็มเปี่ยม เมื่อท่านเเสดงธรรมนั้น เปรียบดุจแสงสว่างที่ส่องลงไปในที่มืดสนิท แสงแห่งธรรมนี้สว่างแจ่มใสเเละไม่มอดดับ เมื่อตกต้องผู้ใดชีวิตผู้นั้นย่อมเจริญรุ่งเรืองไม่รู้จักตกต่ำ ใครที่ว่าเดือดร้อนเเสนเข็ญ,ลืมตาอ้าปากไม่ขึ้นเอาเหรียญนี้ไปบูชาเขาจะได้เจอทางออกของชีวิต เหรียญทุกเหรียญนี้พ่ออาจารย์ประกอบพิธีเชิญครูเเละอธิษฐานจิตมายาวนานตกหลายๆปี ท่านว่าตั้งใจจะให้ผู้รับไปเห็นพุุทธคุณจะทำอะไรก็ให้ก้าวหน้าต่อไปไม่มีวันถอยหลังให้เขาเห็นเเละรู้ว่าเหรียญนี้มีคุณค่าไม่ใช่ของธรรมดาที่ทำขึ้นมาเล่นๆเพียงเเค่มองด้วยตาเปล่าก็รู้เเล้วว่าเหรียญนี้มีคุณค่าอยู่ในตัวเอง เหรียญหล่อนี้ท่านว่ามีเทพยดาเเละหมู่พรหมเข้ารักษาเป็นคระอยู่ประจำทุกเหรียญ พลังพุทธคุณนั้นจะเเผ่รัศมีออกมาเป็นพุทธรัศมีทั้งยังมีบารมีของพรหมเเละเทพระดับสูงที่ต้องการลงมาสงเคราะห์มนุษย์เข้ารักษาโดยเฉพาะ ท่านจึงเรียกเหรียญหล่อนี้ว่าเหรียญเทวดาช่วยด้วย เหรียญหล่อนี้ถือว่ามีน้ำหนักพอควรจับเเล้วตึงๆมือและมีส่วนเกี่ยวเนื่องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเเละเทพเทวดาตั้งแต่ขั้นตอนการแกะพิมพ์ การหล่อเเละการเสก ดังนั้นจึงถือว่าเป็นยอดวัตถุมงคลที่ควรหามาไว้บูชากันให้ได้(อันนี้เเนะนำจริงๆ) เพราะตั้งแต่ท่านทำเครื่องมงคลมาไม่เคยได้ยินท่านพูดไปยิ้มไปเช่นนี้เลย "ว่าข้างบนเขาเอาด้วยเทวดาเขาเล่นด้วย"

    สำหรับเหรียญชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านหยิบออกมาหนึ่งเหรียญนำไปเลี่ยมเงินห้อยคอบูชาของท่านเอง ท่านว่าชุดนี้พุทธคุณสูงมากเสกเสร็จเเล้วใช้เองก็เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างเกิดขึ้นชัดเจนดี ถ้าใครเค้าถามว่าดีอย่างไรให้ตอบเขาไปว่าห้อยเเล้วดีขึ้น จะต้องดีขึ้นทุกอย่าง พับผ่าสิ ทำก็ยาก เสกก็ยิ่งยาก เชิญครูลงมาทำกันหมด ยังไม่ทันใช้เลยมาถามว่าดียังไง ดีไม่ดีบอกเขาไปว่าตัวเราเองยังนำมาห้อยเองเท่านี้ก็พอ สำหรับเหรีญนี้ด้านหลังจะเรียบพ่ออาจารย์จะลงเหล็กจารกำกับไว้ทุกเหรียญ เมื่อได้ไปบูชาให้เลือกฤกษ์วันพฤหัสบดี ถวายบายศรีปากชาม น้ำเปล่า น้ำชา หมากพลู แก่องค์สมเด็จโตแล้วสวดพระคาถาชินบัญชรบูชาท่าน เมื่อจะอาราธนาเหรียญให้ท่องห้องพระพุทธคุณอิติปิโสเพียงเท่านี้ ถ้ามีเวลาว่างก็สวดอิติปิโสเท่าอายุโดยสวดเกินอายุตัวเองหนึ่งจบได้ก็จะดีมาก

    ***เฉพาะชุดเหรียญอธิษฐานใจพิมพ์คะแนนนี้(ท่านว่าตอนหลอมท่านได้เพิ่มมวลสารลับลงไปด้วยเป็นตะกรุดเก่าของสมเด็จโตที่ครูสมเด็จท่านนำมาแต่กรุกำแพงเพชร...ท่านว่าครูไม่ให้พูดถึง ชุดนี้จึงเป็นที่มั่นใจได้ว่าพิเศษยอดโถจริงๆ) พ่ออาจารย์ท่านว่าติดตัวเอาไว้เถิดเมื่อใดที่เราได้กระทำการบำเพ็ญสั่งสมบารมีมาในระดับเต็มที่ดีเเล้ว ญาณทัศนะของเราจะได้ไปเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพิทักษ์รักษาเหรียญและตัวเราอยู่ เมื่อจิตเราเข้าถึงต่อไปทำอะไรก็ง่ายเพราะครูสมเด็จท่านลงไว้ให้เป็นพลังงานสัมฤทธิ์ผลอันยิ่งใหญ่ในนามของความสำเร็จบรรลุผลท่านเรียกวิชานี้ว่า"มงคลประสิทธิ์" เมื่อเกิดขึ้นเเละตั้งอยู่ที่เเห่งใดเเล้วย่อมนำมาซึ่งสวัสดิมงคล ประสิทธิ์ซึ่งมงคลต่างๆดุจมีเทวดาให้พร หากแม้นปราศจากสิ่งดีงามเต็มเปี่ยมไปด้วยอุบาทว์จัญไรทั้งหลายก็จะกลับกลายพลิกผันเติมเต็มทุกๆด้านให้มีซึ่งสุขสวัสดิมงคล เมื่ออยู่ที่ใดมีมงคลเกิดเก่ตัวเราเองเเล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะพลันสำเร็จไปได้โดยอัตโนมัติ เมื่อเชิญครูทำการบรรจุวิชามงคลประสิทธิ์แล้วอาจกล่าวได้ว่าผู้ที่ได้เหรียญนี้ไปบูชานับเป็นวาสนา จะได้เชื่อมต่อกับครูสมเด็จและเทพยดาท่านให้ทำการประสิทธิกิจทั้งหลายเเละช่วยเหลือให้พ้นจากความยากลำบากประสบพบเจอความสำเร็จในทุกๆด้าน ต้องเน้นย้ำเลยว่าทุกๆด้านไม่มีแบ่งเว้น ผู้บูชาต้องได้รับพรได้ใช้พลังขององค์พระท่านในด้านต่างๆได้ เพื่อที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จนั้นๆแก่ชนหมู่มากให้ก้าวข้ามพ้นซึ่งอุปสรรคเเละอุปัทวอันตรายทั้งปวง เสนียดจัญไรทั้งหลายจะไม่มากล้ำกราย และทุกคำขอที่ประสงค์และขอไปต้องสัมฤทธิ์ผลสมดังประสงค์สำหรับพ่ออาจารย์ท่านมีความประสงค์อยากเห็นสัตว์พ้นทุกข์เเละออกจากกองทุกข์ต่างๆที่ถาโถมเข้ามาในยุคปัจจุบัน ท่านจึงได้สร้างเเละขอครูให้ช่วยเป็นกรณีพิเศษ

    - เหรียญอธิษฐานใจ
    เมื่อจะอธิษฐานสิ่งใดหากอยากสำเร็จได้เร็วและไวให้ตั้งจิตให้นิ่งเสียก่อน ปราศจากอารมณ์อยากได้ใคร่ดีทั้งหลายและนำเหรียญหล่อนี้จรดหน้าผากตัวเราเอาท่านมาเเตะหน้าผากเราไว้ขณะอธิษฐาน เป็นการอ่านใจและสื่อใจระหว่างเรากับท่านโดยตรง ขอแนะนำว่าอย่าทำนิสัยไม่ดี,อย่าโลภให้อธิษฐานเพียงเรื่องเดียวแค่ข้อเดียวเท่านั้นจะเห็นผลไวที่สุดในวันหนึ่งๆ อย่าโลภ ให้ทำการขอท่านได้วันละครั้งวันละเรื่อง เมื่ออธิษฐานกับองค์พระเสร็จเรียบร้อยเเล้วก็ให้อาราธนาห้อยบูชาได้ตามปกติ สำหรับการบูชานี้ก็ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรเลยพ่ออาจารย์ท่านว่าท่านทำให้เต็มที่เเล้ว ให้มีจิตมีเจตสิกรับรู้โต้ตอบกับเราได้ถ้าใครมีตาในจะรู้จะเห็นว่าทุกคำพรเเละข้ออธิษฐาน ครูท่านจะใส่ใจหากสำเร็จการณ์ใหญ่ลุล่วงความปรารถนาเเห่งตัวเราเองเเล้ว ก็ให้หาน้ำเปล่า ข้าวตอกดอกไม้ ผลไม้ 3-5-9 อย่าง ตามแต่ที่หาได้ถวายท่านไป เป็นการแสดงออกถึงน้ำใจของมนุษย์ แม้นจะไม่มีใครว่าถวายไปท่านจะรับจะกินหรือไม่ แต่เมื่อท่านช่วยเเล้วก็ถือเสียว่าเราควรจะตอบเเทนน้ำใจท่าน การซื้อใจด้วยน้ำใจนี้ เป็นการผูกมิตรที่ดีที่สุดเเล้วต่อๆไปการอธิษฐานช่วยเหลือก็จะยิ่งง่ายขึ้นเรื่อยๆ การอธิษฐานนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความรัก,ความเจริญ,ตำแหน่งการงาน,เรื่องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์,ตามคนหาย...ขอให้เป็นสิ่งที่ปรารถนาในใจไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็บอกกล่าวแก่ท่านได้เพราะอำนาจของท่านจะครอบคลุมความสำเร็จในทุกๆด้าน เเละช่วยเหลือกันเต็มกำลังความสามารถไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง ท่านว่ามงคลวัตถุชิ้นนี้ให้ฉลาดในการใช้ หากอยู่บ้านไม่อยากห้อยคอก็ให้หาพานเล็กๆมาใส่ จะได้กำจัดซึ่งความหม่นหมองเเละเรื่องเลวร้ายภายในภายนอกทั้งหลายซึ่งเกิดกับคนในบ้าน เมื่อจะไปที่แห่งใดจะเข้านอนหรือจะเดินทางก็ควรอาราธนาออกจากพานมาติดเนื้อติดตัวเดินทางไปด้วยกับเรา ให้ท่านขับล้างพิษเเละเสนียดจัญไรความไม่บริสุทธิ์ทั้งหลายในร่างกายเราเสียก่อนเมื่อกลับถึงบ้านก็นำไปอาราธนาตั้งไว้ที่พานเช่นเดิมดังนี้ก็ได้

    คาถาบูชา
    ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ นุต อะ ทู วิ กะ โล โต คะ สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา วิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระ อะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิ ฯ



    *** เหรียญอธิษฐานใจชุดนี้เป็นพระเก่า พ่ออาจารย์ท่านจะลงเหล็กจารให้ทุกองค์ไม่ซ้ำกันท่านว่าห้ามเลือกแล้วแต่วาสนาบารมีใครจะได้องค์ไหน จะนำไปเลี่ยมห้อยคอก็ได้,ทำหัวแหวนก็ได้,ทำกำไรก็ได้ แต่อย่านำไปไว้ในที่ต่ำ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระสำเร็จอธิษฐานใจอุดรอยรั่วชีวิตเพชรฆาตฤกษ์(เทวดาช่วยด้วย) บูชา 900 บาท

    59385514-321056825234754-28292577371357184-n.jpg
    SAM-4515.jpg SAM-4504.jpg
    59392763-618391111961757-7168145342934810624-n.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์(นิราศทุกข์ทั้งผอง)

    ด้วยคติแห่งโพธิและมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ต้องการจะโปรดโลก สั่งสอนมนุษย์เเละเวไนยสัตว์ทั้งหลายข้อนี้เป็นพระเมตตาอันไม่มีประมาณ และเหนือสิ่งอื่นใดนั้นเราทุกคนได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่อพระพุทธเจ้า ดังนั้นวิชานี้จึงใช้อำนาจพ่อพระพุทธสงเคราะห์ดวงลูกๆโดยตรง ใช้คุณแห่งมหากรุณาและเมตตาของพ่อเพื่อยับยั้งกลไกแห่งอกุศลกรรมทั้งหลาย ให้เจ้าของดวงนั้นได้มีกำลังแห่งพระโพธิญาณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสริมส่งอยู่ในดวงของตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้นท่านก็ทำกิจและบำเพ็ญบารมีมาต่างกันถึงท่านจะสร้างบารมีอย่างไม่ได้ย่อท้อ ตั้งแต่การสั่งสมบุญซึ่งจะใช้ชำระขัดเกลาสันดานให้มีคุณภาพดีขึ้น เป็นความประพฤติที่ดีขึ้นทางกาย,ทางวาจาและทางใจจนกระทั่งมีจิตใจที่กล้าแข็ง จึงได้สร้างบารมีหรือก็คือบุญที่ทำอย่างหนักหน่วงมากด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพันอย่างไม่หวั่นไหว จนบารมีครบทั้ง 30 ประการ เช่นนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์จึงสร้างบารมีกันมายาวนานด้วยบุญบารมีอย่างมากมายที่ทำไว้ยิ่งยวด ... ในด้านคุณสมบัติและคุณธรรมซึ่งการฝึกฝนตนเองของพระองค์ด้วยคุณธรรมอันยิ่งยวดนี้เองก็ทำให้แต่ละพระองค์มีความถนัดและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามวิสัยของบารมีอันได้อบรมมา

    แต่กาลเวลาภายหน้านั้น...ท่านว่านักปราชญ์จะตกต่ำลง ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจวาสนา การเปลี่ยนแปลงตามวัฏฏจักรทั้งฤดูกาลตลอดจนธรรมชาติร่วมไปถึงน้ำใจของมนุษย์นั้นได้เริ่มเกิดขึ้นเเละมีให้เห็นอยู่มากมายเเล้ว ความผันผวนทั้งหลายนี้มาพร้อมความเสื่อม ในยุคปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าทอดสายตาไปที่แห่งใดก็ล้วนเเต่พบเจอความทุกข์ทั้งสิ้น แม้มองเห็นความสุขก็ยังเป็นความสุขในความทุกข์อยู่ดี เราทั้งหลายนอกจากจะรู้จักความทุกข์ยากลำบากเเล้ว ควรจะมองเข้าไปให้เห็นความทุกข์ อย่าไปหดหู่ท้อแท้ใจกับมัน ให้ปลงอนิจจังเอาไว้ ตั้งอารมณ์ให้เป็นกลาง หมั่นฝึกฝนสติเเละต่อพระกรรมฐานเป็นทุนของชีวิตไว้ไม่หลงไปตามกระเเสโลกและสังคม เมื่อท่านมีดำริเช่นนี้ครูท่านก็อยากจะช่วยบุคคลอันเจริญตั้งมั่นอยู่ในศรัทธาที่ไม่คลอนแคลนให้พ้นจากยุคเข็ญเเละห้วงภาวะขาลงต่างๆทุกด้าน ท่านก็คิดที่จะทำวัตถุมงคลกลับดวงชะตาขึ้น ###ท่านว่านอกจากการเชิญครูให้แฝงกายจับมือขึ้นรูปชักยันต์แล้วตะกรุดชนิดนี้ยังต้องใช้บารมีขององค์พระบางพระองค์ด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าก่อนที่จะลงได้ต้องทำสมาธิจนได้ระดับหนึ่งก่อนเพราะครูที่แฝงกำลังจับมือท่านชักยันต์นั้นต้องใช้วิปัสสนาญาณของท่านเข้ามาช่วยเสริมในการปัดเป่าเคราะห์กรรมของผู้บูชานั่นเอง

    เสด็จพระใหญ่ท่านให้พ่ออาจารย์ขอบารมีขององค์สมเด็จพระพุทธเวสสภู,และองค์สมเด็จพระพุทธกุกกุสันโธเป็นกาลเฉพาะเหตุ เพราะองค์สมเด็จพระกกุสันโธนั้นจะมีบารมีทางด้านนำสัตว์ข้ามพ้นจากยุคมืดยุคเข็ญและนำสัตว์โลกทั้งหลายออกจากความทุกข์ร้อนความกันดารต่างๆ(ท่านว่านี่ถ้าใครทุกข์มากหรือลำบากมากต้องรีบขอบารมีองค์พระกกุสันโธนี่แหละ) ส่วนสมเด็จพระพุทธเวสสภูนั้นท่านย่อมเป็นผู้ประทานความสุขแก่หมู่ชน เป็นผู้เติมเต็มความสุข ดังนั้นชีวิตใครที่มีแต่ทุกข์ไม่เคยได้สัมผัสความสุขเลยจึงจำเป็นต้องขอบารมีท่านที่ได้ทำไว้เพื่อสงเคราะห์สัตว์ทั้งหลายให้ได้รับความสุขกันถ้วนหน้า โดยวิชานี้จะมีพุทธคุณใหญ่ๆนอกจากเรื่องความสำเร็จเเล้ว ท่านหมายใจจะให้ผู้บูชาไปถึงฝั่งฝันได้อย่างง่ายดายเสมือนปอกกล้วยเข้าปาก ด้วยมนุษยชาตินั้นล้วนมีความต้องการความอยากได้ใคร่ดีกันต่างๆนานาเนื่องจากมีความหวังมีความฝันที่จะต้องก้าวไปพร้อมความทะเยอทะยานในตัวเอง ดังนั้นเเล้วทุกเรื่องที่ปรารถนาเมื่อไปถึงฝั่งแล้วย่อมถือได้ว่าสำเร็จ แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นเเละไม่ง่ายเลยที่มนุษย์จะประสบความสำเร็จได้ในทุกเรื่องสืบเนื่องมาจากความขัดข้อง,อุปสรรคเเละปัญหาที่มีเข้ามาเป็นเครื่องทดกสอบกำลังใจนั่นเอง ไม่ว่าจะการงาน,การศึกษา,ความรัก,ความปรารถนา,ความต้องการ,ความอยากได้ใคร่ดีต่างๆ ซึ่งความขัดข้องเหล่านั้นก็มีผลสืบเนื่องมาเเต่กรรมอันเป็นกฎของวัฏฏสงสารนั่นเอง เช่นนั้นองค์สมเด็จพระพุทธเวสสภู,แลองค์สมเด็จพระกกุสันโธจึงให้ท่านลงตะกรุดไว้จะได้มอบแก่ชนทั้งหลายได้ติดตัวใช้กัน เพราะต่อไปนี้สิ่งที่คนทั้งหลายจะประสบพบเจอนั้นล้วนเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสนัก จะหนักจะรุนแรงขึ้นกว่าเดิมอีกมาก ท่านว่า "ปกติเธอจะทำตะกรุดไว้กันและแก้ดวงให้พวกเขา จำไว้นะว่าทั้งกันและแก้ตอนนี้ก็ไม่พอเราจะลงเพชรกลับเพื่อกลับชีวิตเขาให้รุ่งโรจน์ให้นิราศห่างไกลจากทุกข์ทั้งผอง" พ่ออาจารย์ท่านได้พิจารณาดูโดยเฉพาะประโยคสุดท้ายนั้น เปรียบเสมือนคำปกาศิตและความปรารถนาดีของพ่อพระพุทธทั้งสองที่เป็นห่วงชีวิตมนุษย์ เช่นนั้นจึงสบายใจได้ว่าตะกรุดที่ท่านจะทำขึ้นให้บูชานี้จะต้องไม่ใช่ตะกรุดที่ห้อยแล้วหนักตัวเปล่า แต่ต้องกันสารพัดสิ่งไม่ดีทั้งหลายที่จะเกิดเหตุต่อไปในอนาคตกาลไม่ให้เกิดขึ้นกับผู้บูชาได้ ซ้ำยังต้องมีพุทธคุณในการแก้,การคลายเหตุการณ์วิกฤติต่างๆให้ผ่านพ้นไปด้วย รวมไปถึงการกลับร้ายกลายเป้นดีกลับชีววิตที่อ่อนล้าเพราะความเหน็ดเหนื่อนและท้อใจนั้นกัดกินให้กลับมารุ่งโรจน์อยู่ในจุดสูงสุดอีกครั้ง

    ท่านว่าแต่เดิมนั้นพอเสด็จพระใหญ่ท่านแนะนำให้ขอบารมีพ่อพระพุทธทั้งสอง ฉันก็ยังคิดหนักว่าจะลงอะไรดีแล้วจะให้ท่านมาเสกอย่างไร คิดอยู่แต่แค่นั้นแหละว่ามีวิชาใดที่จะช่วยฉุดชักเเละขจัดความขัดข้องทั้งหลายท่านตั้งจิตพิจารณาจนมีนิมิตรเเละทราบโดยนิมิตรนั้นว่า สมเด็จพระพุทธเวสสภูให้ทำตะกรุดซึ่งท่านได้กล่าวว่าคนเราหากประสบความสำเร็จได้ง่ายเเละเร็วชีวิตเค้าก็จะมีความสุขเช่นนั้นชีวิตนี้ของเขาเราจะช่วยเอง เราจะขจัดเหตุเเห่งปัญหาเเละอุปสรรคตลอดจนความขัดข้องทั้งมวลที่จะเข้ามาขวางความสำเร็จในชีวิตเขาทุกเรื่อง ให้เขาสำเร็จได้ลืมตาอ้าปากได้ในทุกเรื่อง ไม่ว่าสาเหตุจะมาจากกรรมเก่า,เจ้ากรรมนายเวรหรือเทพยดาทดสอบลองใจก็ตาม เราจะคลี่คลายการณ์ทั้งหลายนั้นให้ผ่านไปด้วยดี เพราะความสำเร็จนี้เป็นบ่อเกิดเเห่งความสุขสมบูรณ์ถึงพร้อมในทุกด้านมิได้จำกัดไว้เพียงด้านใดด้านหนึ่ง ทั้งสมเด็จพระกกุสันโธยังได้เสริมให้อีกวาระหนึ่ง ด้วยเป็นวิชาที่ช่วยให้ชีวิตสัตว์ดำเนินไปสู่ความสำเร็จไม่ตกกรอบไม่ออกนอกเส้นทาง เมื่อมีเป้าหมายใดแล้ววิชานี้ก็จะเป็นพลังไฟในการขับเคลื่อนชีวิตให้ไปสู่เป้าหมาย ไม่ใช่เพียงมีเป้าหมายไว้ให้เพ้อฝันแต่ไม่สามารถไปถึงได้ ตะกรุดวิชานี้จะช่วยขจัดปัญหาอุปสรรคเหตุการณ์อาเพศต่างๆทั้งน้อยใหญ่ไม่ให้เกิดเเก่ผู้ครอบครอง คิดอ่านทำการณ์สิ่งใดใหญ่น้อยทั้งหลายก็ให้สัมฤทธิ์ผลพบเจอเเต่ชัยมงคลไร้พ่ายตลอดไป (***พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนลงนั้นกลายเป็นว่าเราไม่ต้องทำ พ่อพระพุทธทั้งสองท่านเมตตาทำให้หมดเลย ท่านมาจับมือเราวาดยันต์ขึ้นพอสมเด็จพระพุทธเวสสภูปล่อยสมเด็จพระกกุสันโธท่านก็ทำให้ต่อเลย ยันต์ที่ท่านวาดที่ท่านลงให้ก็เป็นวิชาในยุคสมัยของพวกท่านที่แตกฉานกันมายาวนานจนเราไม่สามารถรู้หรือเข้าใจและอ่านได้ว่าท่านจับมือเราเขียนอะไร พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดชุดนี้ทั้งสองวิชาที่พ่อพระพุทธท่านลงนั้นเกินกว่าปฏิภาณและความสามารถเราที่จะทำเองได้จริง)

    ซึ่งหลักใหญ่ของวิชานี้นอกจากจะคุ้มภัยอันตรายทั้งหลายแล้วยังเสริมส่งให้ผู้บูชาประสบชัยชนะในทุกๆด้านอีกด้วย ศัตรูคู่แข่งทั้งหลายนั้นท่านว่าสู้เราไม่ได้เลย หากเรากำหนดจิตบอกกล่าวพระรัตนตรัยว่าใครคนไหนคือศัตรูเขาจะมีอันพ่ายแพ้แก่เราไปสิ้น วิธีนี้ท่านว่าเป็นเล่ห์กลใช้ได้หลายทางนักจะศัตรูคู่แข่งทางด้านธุรกิจ,การเจรจาต่อรอง,การงาน,ความรัก ล้วนใช้ได้ทั้งหมดพ่ออาจารย์ท่านพ่อพระพุทธท่านลงสงเคราะห์ผู้นำไปใช้เต็มที่โดยทำการแฝงพุทธานุภาพเพื่อที่ต่อไปเบื้องหน้าเเม้เข้าสู่ยุคเข็ญ เขาก็จะไม่ลำบากเลยทั้งกัน,แก้และพลิกกลับครบเครื่องตามดำริของครูบาอาจารย์ เมื่อลงเสร็จนั้นท่านได้ทำการอธิษฐานบอกกล่าวครูบาอาจารย์ ฝากให้ครูท่านสงเคราะห์ผู้ใช้ให้เต็มที่ เพราะท่านจะถักเชือกลายจรเข้ขบฟันเเเละเชือกนี้ก็เป็นสายสิญจน์ที่ท่านทำขึ้นมาโดยเฉาะ ซึ่งได้นำไปชุบน้ำฟ้ากล่าวง่ายๆคือใช้น้ำที่ตกจากฟ้า(ฝน)ห่าแรก มาทำเป็นน้ำมุรธาภิเษกชุบเชือกเพื่อพันตะกรุดนั่นเอง ถือเคล็ดที่ว่าน้ำนั้นฟ้าประทานให้ เทพเทวดาทั้งหลายท่านเมตตาให้ดับร้อนผ่อนทุกข์ เพื่อเป็นสื่อให้ตะกรุดนี้ผู้ใช้จะได้รับความเมตตาจากเทพยดาทั้งหลายอีกโสตหนึ่งนั่นเอง

    เวลาเสกนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเสกแบบเปิดโลกเต็มกำลัง แต่ตะกรุดนี้มีอะไรที่มากกว่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติท่านจะเสกเองแต่หนนี้พ่อพระพุทธทั้งสองท่านเปิดโลกทำให้ของท่านเองโดยที่ตัวฉันไม่ต้องยุ่ง เพราะการเสกแบบเปิดโลกนั้นปกติต้องอาศัยกำลังญาณและสมาบัติของผู้เสกเองเป็นสื่อ เพื่อเชื่อมถึงพลังงานธรรมะ พลังงานพระพุทธคุณและกำลังแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ด้วยเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ธรรมะนั้นคือแสงสว่างที่ไม่มีวันมอดดับ เป็นแสงสว่างที่ใช้ทำลายความมืด ความไม่รู้ อวิชชาทั้งปวง ทำลายเครื่องกีดขวาง เครื่องผูกมัด ส่องแสงสว่างให้มองเห็นทะลุเชื่อมถึงกันได้ทั้งหมด ดังนั้นเมื่อเสกแล้วเครื่องมงคลที่สำเร็จออกมาจะได้รับการสงเคราะห์ด้วยอำนาจพระพุทธคุณในระดับที่อยู่เหนือและสูงกว่าอำนาจพุทธคุณในระดับอื่นๆ เพราะเป็นอำนาจแห่งสัจธรรมที่ใช้ส่องสว่างและทำลายความมืด เกินกว่าและสูงกว่าอำนาจแห่งวิปัสสนาญาณในสายอภิญญาหรือพระอรหันต์ทั่วไปก็ไม่สามารถกระทำได้ ต้องใช้พระพุทธคุณให้สงเคราะห์ให้ทำให้เท่านั้น เป็นกำลังพิเศษอันจะเกิดได้แต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น สิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็นวัตถุมงคลเครื่องสูงที่เสกได้ยากทำได้ยากและไม่ค่อยมีพ่อแม่ครูอาจารย์จะทำกันเท่าไหร่ เพราะใช้กำลังจิตกำลังใจสูงหลังจากเสกแล้วกายเนื้อกายสังขารย่อมอิดโรยวัตถุมงคลประเภทนี้กล่าวได้เลยว่านับแต่อดีตกาลมาผู้ที่มีถือครองไว้ก็มีเพียงไม่กี่คน เพราะครูบาอาจารย์ทั้งหลายก็ไม่ปรารถนาที่จะเสกด้วยวิธีนี้ เพราะถ้าหากหมายใจที่จะทำแล้วจะทำให้ได้ผลมากได้อานิสงค์มากนั้นต้องเป็นการสงเคราะห์เฉพาะบุคคลการเสกแบบนี้จึงไม่เหมาะกับพิธีพุทธาภิเษกหรือนั่งปรกแบบปกติหากสำเร็จด้วยอำนาจแห่งสัจธรรมอันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า เป็นอะไรที่สุดๆแล้วจริงๆ เพราะอำนาจแห่งพระสัจธรรมนั้นยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณหากเป็นอำนาจแห่งครูอาจารย์อำนาจแห่งเทพยดาทั้งหลายยังมีประมาณได้,มีขีดจำกัดได้ แต่อำนาจแห่งพระสัจธรรมนั้นเป็นอำนาจที่อยู่เหนือกลไกเเห่งวัฏฏสงสาร เป็นอำนาจที่ไม่รู้เหือด,รู้แห้ง,รู้ดับ เป็นแสงสว่างที่ส่องประกายตลอดเวลาเกินกว่าอำนาจของเทพพรหมใดๆทั้งสิ้น ผู้ใช้เครื่องมงคลประเภทนี้พูดภาษาง่ายๆคือดีวันดีคืน ทำอะไรจับอะไรก็รุ่งไปหมด ชีวิตไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไร หากตนเองเป็นสัมมาทิฏฐิ ดำรงค์ตนอยู่ในหนทางที่สุจริตด้วยแล้ว จะยิ่งเป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่ เพราะเราเดินอยู่ในด้านสว่างอยู่แล้วต่อให้มีความมืดฉายเข้ามาบ้างมีปัญหาอุปสรรคบ้าง แสงสว่างนั้นจะทำลายความมืดทั้งปวงและชักนำเราให้ขึ้นไปสู่สิ่งที่เจริญและเป็นสวัสดิมงคลทั้งหลายสืบไป

    ท่านว่ายิ่งพ่อพระพุทธทั้งสองทำวิชาเปิดโลกให้เองดังนี้แล้วจึงมั่นใจได้ว่าดีกว่าเราทำเองหรือไปเชิญท่านมาทำอีกเป็นไหนๆ เพราะเป็นวิชาของท่านเช่นนั้นท่านจึงรับผิดชอบให้เต็มที่ด้วยการเปิดให้สว่างทั้งตานอกเเละตาใน,เปิดชีวิตคนใช้ให้ออกมาพบแสงสว่าง เมื่ออับจนหนทางทุกข์หามยามเคราะห์ต่างๆก็จะช่วยเปิดสิ่งที่ปิดกั้น,ขวางกั้นเราอยู่ออกไป,ที่ว่าต่ำว่าจน,ที่ว่าหมดหนทางเยียวยา,ตกไปสู่ที่มืดสนิทก็ฉุดชักกลับมาในความสว่างให้ดำรงค์อยู่ในคุณธรรมเเละสัจธรรมสืบไป ท่านว่าเห็นมั๊ยนี่มันกลับทั้งหมด เพราะท่านตั้งใจจะกลับจะพลิกให้ทุกอย่างรุ่งโรจน์ จะนำเราออกจากทุกข์ทั้งผองตามคติของท่านดังนั้นตะกรุดนี้จึงมีสำคัญมากท่านว่าใครได้ไว้แม้ตายไปจากภพภูมินี้จิตที่ตั้งมั่นอยู่ในกุศลและหนแห่งสัจธรรมก็จะยังช่วยเขาให้ได้สืบสวรรค์สมบัติเเละนิพพานสมบัติต่อไป แค่พบเจอตะกรุดนี้ได้ก็เป็นบุญนักหนาแล้ว หากได้อาราธนาด้วยด้วยก็ยิ่งเจริญรุ่งเรืองในครรลองคลองธรรมยิ่งๆขึ้นไปอีก ท่านว่าถึงคราวทำเพื่อปวงชนทั้งหลายของสิ่งนี้ให้เอาไว้ใช้ปราบยุคเข็ญ,ขจัดพิษภัยเศรษฐกิจและปัญหาชีวิตโดยเฉพาะสืบไปเบื้องหน้า ใครที่ว่าตกต่ำย่ำแย่,ทำอะไรก็ทรุดตัว,เงยหน้าขึ้นไม่ได้,ไปต่อไม่ถูก,หาทางออกไม่เจอ มีตะกรุดคุณวิชาพ่อพระพุทธทั้งสองนี้ไว้บูชา ด้วยอำนาจแห่งพุทธบารมีของทั้งสองพระองค์อันได้จำเริญบ่มเพาะมาดีแล้วนั้นจะช่วยพยุงเขาไว้ไม่ให้ตกต่ำ,ให้ลุกขึ้นได้,ให้กลับมาเจริญได้ ใครที่ไม่เคยพบความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมเขาก็จะได้พบ

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามนุษย์เรานั้นมีธาตุความร้อนอยู่ในตัวทุกคนนั่นคือธาตุไฟในกายมนุษย์ เมื่อสภาพเเวดล้อมปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มันส่งผลให้สิ่งมีชีวิตต่างๆนั้นเร่าร้อนขึ้นเร่งเสริมและหนุนมีปฏิสัมพันธ์ให้ธาตุไฟแสดงออกทางพฤติกรรมและอารมณ์มากขึ้นต้องทำความเข้าใจไว้ก่อนว่าบุคคลใดก็ตามมีธาตุไฟในตัวมากไปนั้นไม่ดี จะส่งผลต่ออารมณ์,โทสะ,ความเกรี้ยวโกรธและที่สำคัญโชคลาภนั้นทำให้ตายอย่างไรก็จะไม่วิ่งเข้ามาหาบุคคลประเภทนี้ เพราะโชคลาภนั้นเปรียบเสมือนความเย็นเป็นธาตุน้ำที่ขัดกับธาตุไฟโดยสิ้นเชิง พ่อพระพุทธทั้งสองท่านจึงตั้งใจจะช่วยเหลือ ท่านว่าเมื่อช่วยแล้วก้ต้องไปให้มันสุด ต้องเปลี่ยนจากข้างในจึงจะเป็นการปรับชีวิตเขาได้อย่างแท้จริง จะต้องเปลี่ยนแปลงความร้อนภายในร่างกายและจิตใจให้ทุเลาเบาบางลง จากคนแข็งกร้าวอุปนิสัยก็จะอ่อนลง เมื่อร่างกายเราเย็นลงโชคลาภวาสนาการเงินต่างๆก็จะตามมาอย่างเต็มที่ไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไร เปิดทางรับแต่สิ่งที่ดีและสิ่งที่ยอดเยี่ยมเท่านั้นและข้อดีสูงสุดของตะกรุดนี้คือสิ่งที่วิชาอื่นไม่มีเสมอเหมือน นั่นคือกำลังแห่งพระโพธิญาณพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในทุกโลกธาตุนั้นมีมากกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในพื้นมหาสมุทร แต่สิ่งที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์มีเหมือนกันนั่นก็คือทศบารมีธรรมและกำลังอำนาจแห่งพระโพธิญาณซึ่งเป็นสิ่งที่เหนือกว่าอำนาจแห่งฉฬภิญญาอรหันตานุภาพของพระสงฆ์สาวกทั้งปวง เช่นนั้นเมื่อพ่อพระพุทธท่านทำให้ด้วยกำลังแห่งพระโพธิญาณแล้วเรื่องอื่นเราอย่าไปคิดอะไรอีก

    คาถาบูชา(นะโมสามจบ)
    ท่านว่ากำหนดลมหายใจพุท-โธ จนจิตนิ่งดีแล้ว ให้นึกถึงชื่อพ่อพระพุทธทั้งสองคือสมเด็จพระพุทธเวสสภูและสมเด็จกกุสันโธเพียงเท่านี้ก็ใช้ได้เลย เพราะท่านทั้งสองนั้นเมตตามาทำให้จนเป็นของสำเร็จเกินความคิดอ่านของปุถุชนแล้ว


    * ตะกรุดสำคัญนี้ท่านว่ามีเจ้าของกำหนดไว้แล้วทุกดอก ใครที่มาพบมาเจอนั้นท่านว่านั่นคือคนที่มีสัญญาร่วมกัน แต่ถ้ากรรมปัจจุบันของเขาหนักเกินไปหรือไม่สามารถแก้ไขเยียวยาอะไรได้แล้วเขาก็จะปล่อยผ่านไปด้วยตัวเขาเอง รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์(นิราศทุกข์ทั้งผอง) บูชา1,500 บาท

    59705863-1796374717131412-3069022675822182400-n.jpg
    59727077-2199427683471088-2950290083040722944-n.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระธรรมสวามีผงพุทธอุปถัมภ์พยาบาลรักษาปิดเคราะห์ซ่อนกรรม(พระสร้างคน,ยกฐานะ)

    "เมื่อไหร่ที่บารมีถึงพร้อม...ให้เธอทำผงพุทธอุปถัมภ์ให้ลูกหลานของฉันเสียคราวหนึ่งนะ"
    "สำหรับคนที่ไม่มีอะไรมา...มาแต่ตัว ไม่มีอนาคตอะไรเลยท่านต้องช่วยพวกเขามากๆหน่อยนะครับ”
    "พระผงพุทธอุปถัมภ์นี้พระใหญ่ท่านให้ทำมาใช้ติดตัวนะ ไม่เหมาะสำหรับเก็บไว้เฉยๆใครวางไว้นานๆไม่ใช้เดี๋ยวหายได้ แหมม..ของดีก็ต้องใช้ก่อนใช่มั๊ยจึงจะรู้ว่าดี"

    พระพุทธเจ้าผู้เป็นสรรเพชุดาญาณนั้นท่านคือครูผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ด้วยทรงมีคุณทั้งสามได้แก่พระปัญญาคุณ,พระบริสุทธิคุณ,พระมหากรุณาธิคุณโดยปรกติ เมื่อเสด็จพระใหญ่ท่านให้พ่ออาจารย์ทำผงพุทธอุปถัมภ์โดยอาศัยพุทธานุภาพนั้นก็เพื่อที่จะได้พยาบาลรักษาปิดเคราะห์ซ่อนกรรมช่วยเหลือบุคคลอันมีบุญสัมพันธ์กันมาก่อนร่วมกับท่าน คนที่เกิดไม่ทันยุคศาสนาของท่าน...หรือคนที่ผ่านกระแสธาราของกฏแห่งกรรมอันเชี่ยวกรากมาจนถุงยุคนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาพุทธอุปถัมภ์นี้เจาะจงเหลือเกินในการที่จะคํ้าจุน,คํ้าชูทั้งให้การสนับสนุนผู้ตั้งจิตอาราธนา เปรียบเสมือนการรับเราไว้ในอุปถัมภ์,อุปการะของเสด็จพระใหญ่ ท่านจะคอยเลี้ยงดูเราทั้งค้ำยันไว้ไม่ให้ล้ม จะคอยอุดหนุน คอยบำรุงให้เราเจริญขึ้น พยุงให้สูงขึ้น ทั้งส่งเสริมช่วยเหลือคอยอุปการะสงเคราะห์อนุเคราะห์กันในทุกๆโอกาส พ่ออาจารย์ว่าเช่นนี้ฉันจึงย้ำว่าต้องใช้แล้วจะรู้เอง เพราะพระผงรุ่นนี้ท่านตั้งใจทำมาให้คนที่ได้ทุกข์ยากและต้องการการเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษเหล่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าจะรู้สึกได้เองเหมือนชีวิตเรามีผู้เลี้ยงดูคอยอุปถัมภ์ชุบเลี้ยงค้ำจุนเผื่อแผ่อยู่ข้างๆตัวเองเสมอ

    สำหรับผู้มีศรัทธาในพุทธานุภาพ,มีความเชื่อท่านจะช่วยจะรักษาไว้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องทนทรมานกับความทุกข์ยากสาหัสใดๆมานานขนาดไหนก็ตามด้วยกำลังแห่งผงพุทธอุปถัมภ์นั้นจะบรรเทาช่วยเหลือสิ่งที่หนักหนาสาหัสได้ อุปมาดุจเธอนั้นเป็นคนป่วย,มีโรคภัย,มีไข้ที่พร้อมจะกำเริบอยู่เนืองๆตามกรรมเก่าที่เธอทำไว้ พอชีวิตเธอเกิดศรัทธาได้บูชาผงพุทธอุปถัมภ์นี้ก็ให้เธอขอบารมีองค์พระท่านรักษาโรคเวรโรคกรรมทั้งหลาย ที่ว่าได้เจ็บได้ไข้กันมายาวนานนั้นอันใดจะมี...อันนั้นจักหายไป ด้วยเมตตาธิคุณในพระตถาคตเจ้าอันไม่มีสิ่งใดมาวัดมาประมาณได้นั้นดั่งท่านได้ให้คำปกาศิตไว้ว่า"บุคคลใดก็ตามที่ไม่มีผู้สนใจจะดูแล ทั้งยังตั้งอยู่ในกระแสของโรคเวรโรคกรรมทั้งหลายเราจะช่วยเหลือบุคคลนั้นจนกว่าจะหาย" พ่ออาจารย์ท่านว่าผงพุทธอุปถัมภ์ที่เสด็จพระใหญ่ให้ทำขึ้นมานี้มีอาถรรพ์มากเพราะท่านตั้งใจจะช่วยเหลือทั้งให้การพยาบาลอุปถัมภ์ผู้อาราธนาอย่างแท้จริงแม้ในยามปกติหรือยามที่ชีวิตทรุดตกต่ำลง แม้ในกิจต่างๆกรรมต่างๆที่ชีวิตเราวนเวียนข้องเกี่ยวอยู่ท่านก็จะช่วยให้มีกำลังกาย กำลังใจถึงพร้อมอยู่เสมอ เรียกได้ว่าจะช่วยให้เธอนั้นกลับเข้าสู่สภาวะที่ตัวของเธอเองช่วยตนเองได้,ยืนขึ้นมาได้ด้วยขาตัวเองโดยไม่ต้องรับการช่วยเหลือจากใครอีกโดยเร็วที่สุด

    วิชาพุทธอุปถัมภ์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าจะผูกพันกับผู้ที่ได้อาราธนาดุจบิดามารดาคอยดูแลปกป้องบุตร..จะเป็นอยู่เช่นนั้นและเป็นตลอดไป ด้วยคนเราเมื่อตกทุกข์ได้ยากสิ้นไร้ไม้ตอกหรือเจ็บไข้ไม่สบาย เมื่อใดก็ตามที่เราได้ทุกขเวทนาอย่างถึงที่สุดคนทั้งหลายก็มักจะนึกถึงพ่อแม่ก่อนเป็นลำดับแรก แล้วนั่นก็จริงอีกที่คุณบิดามารดานั่นแหละที่ช่วยเราได้เสมอ เพราะได้ชื่อว่ามีพระคุณเกื้อกูลโดยตรงต่อเราอย่างหาที่สุดไม่ได้ ดังนั้นวิชาพุทธอุปถัมภ์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านจึงให้ฉันผูกวิชาไว้นอกจากคนใช้เวลาอาราธนาจะต้องนึกถึงพระพุทธคุณแล้วยังต้องนึกถึงคุณบิดามารดาของตัวเองอีกด้วย ท่านว่าเกิดมาเป็นคนอย่าลืมพระคุณพ่อแม่ที่แม้แต่พระศาสดายังทรงสรรเสริญเท่านี้ก็เจริญโดยลำดับแล้ว ด้วยบิดามารดานั้นเป็นพระพรหมของลูก,เป็นพระอรหันต์เป็นพระที่ไม่เคยทอดทิ้งเราไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่นนั้นผงพุทธอุปถัมภ์นี้จึงเปรียบได้กับกระแสความรักอันสูงสุดเมื่อเราเชื่อ มีศรัทธาจนเกิดปิติปาฏิหาริย์ทั้งหลายก็จะเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นนาถของโลกพระองค์ก็ยังรู้ซึ้งถึงพระคุณของผู้เป็นบิดามารดาที่คอยอนุเคราะห์บุตรนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่นั้นท่านได้สรรเสริญกำลังบิดามารดานี้เมื่ออนุเคราะห์แก่กุลบุตรธิดาใดว่าดุจเป็นบุรพเทวดา,เป็นบุรพาจารย์,เป็นอาหุเนยยบุคคลของบุตรดังนี้ ด้วยจะมีแต่กำลังแห่งบิดามารดาเท่านั้นที่จะมั่นคงอยู่ได้ในพรหมวิหารธรรมโดยไม่ยอมทิ้งลูกของตน ย่อมมีเมตตารักใคร่ปรารถนาจะเห็นลูกของตนมีความสุขปราศจากโรคภัยเบียดเบียน ทั้งยังมีกรุณาสงสารเมื่อบุตรนั้นประสบกับความทุกข์คิดแต่จะช่วยให้พ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อน ช่วยให้มีความสุขความเจริญก้าวหน้าแบบสุดกำลังเท่าที่จะช่วยได้ เมื่อลูกถึงพร้อมซึ่งความสุขสามารถยืนขึ้นได้ด้วยตัวเองก็พลอยมีใจยินดีด้วยไม่อิจฉาริษยาในความสุขของลูก เมื่อเห็นลูกต้องประสบทุกข์เดือดร้อนก็ไม่ซ้ำเติมเช่นนั้นจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์รักษาลูกก่อนเทวดาทั้งปวง เพราะวิชานี้เป็นของกลางที่จะช่วยเหลือผู้บูชาโดยไม่ยึดติดกับอารมณ์เกลียดและโกรธใดๆดั่งคุณพระบิดามารดา...ดั่งพระพุทธคุณเช่นนั้นแม้เราทำผิดก็ยกโทษให้ไม่คำนึงถึงความผิดใดๆทั้งสิ้นมุ่งแต่ให้พวกเขามีความสุขความเจริญฝ่ายเดียว ทั้งจะให้อุปการะดุจนำพาลาภสักการะทั้งหลายมาป้อนให้ลูกถึงปากพ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนั้นพระผงพุทธอุปถัมภ์นี้จึงมีอานุภาพมากแม้ใครได้อาราธนาติดตัวหรือกราบไหว้บูชา ดุจดั่งว่าได้ดำรงค์อยู่ใกล้ชิดพระอรหันต์ขีณาสพทั้งยังได้กราบไหว้บูชาท่านอยู่ตลอดเวลา ####เช่นนั้นพระผงนี้ใครได้ไปแนะให้เอาไปให้พ่อแม่ตนเองอธิษฐานให้พรซ้ำๆพูดแต้สิ่งที่ดีกับลูกเสมอต่อองค์พระลูกจะมีแต่เจริญไม่มีตกอับ(หากผู้ใดพ่อแม่ไม่อยู่แล้วก็ให้นึกถึงพ่อแม่ของตัวเองไว้ คิดเองเออเองเลยว่าท่านพุดอะไรให้พรเราอย่างไร..อยากได้พรอะไรก็คิดอย่างนั้น) แม้ทำได้ดังนี้ก็จะมีความสุขความเจริญแก่ชีวิตทั้งเป็นที่สรรเสริญของเทวดาทั้งหลายแลเป็นเหตุให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวง

    ท่านได้ลบถมผงวิเศษตามสูตรเฉพาะของเสด็จพระใหญ่ที่ท่านกำชับไว้หนักหนาว่าไม่ให้พูดออกไปเด็ดขาดใครเชื่อใครมาเอาไปใช้ก็ให้เป็นที่บุญและวาสนาของเขาจริงๆเท่านั้นท่านว่าพอจะบอกได้ก็มี
    ผงวาสนาค้ำฟ้า ใช้ค้ำชูชะตาเร่งนำพาวาสนาของเราให้เปิดออก ให้รับความสุขมีชีวิตอยู่ในช่วงที่ดีที่สุด
    ผงสร้างคน ใช้สร้างอำนาจลาภยศและบารมีชื่อเสียงต่างๆให้คนกลายเป็นคนเต็มตัว
    ผงหาทรัพย์ ท่านว่าใช้ทางหาลาภทำมาหากินให้เจริญในอาชีพได้ทุกทาง
    ผงแก้โรค อันนี้ใช้แก้โรคภัยไข้เจ็บตลอดจนฟื้นฟูสุขภาพที่ทรุดโทรม
    ผงดับทุกข์ ใช้แก้ทุกข์แก้ความเดือดร้อนทั้งหลาย
    ผงแก้อาถรรพ์ ใช้ล้างสิ่งอัปมงคลและแก้อาถรรพ์ร้ายต่างในตัวเราไม่ให้กำเริบขึ้นมา
    ผงเมตตา ใช้ในการเข้าหาคนให้ผู้ใหญ่เมตตามีแต่คนรักไม่มีคนเกลียด
    ผงยกฐานะ ช่วยให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าไม่มีทางตันสามารถขยับฐานะตัวเองได้ง่ายและไวขึ้น
    ผงขุมทรัพย์ ช่วยไม่ให้อดดุจคนมีทรัพย์ตลอดเวลาแม้ทรัพย์ขาดไปเทวดาต้องช่วยเหลือ...

    ท่านว่าบอกได้คร่าวๆแค่นี้เพราะผงแต่ละอย่างนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านทำให้เต็มที่ ท่านว่าผงแต่ละอย่างนี้แม้ตกในแผ่นดินผืนใด จะเป็นเหย้าเรือนหรือได้ไว้เป็นกรรมสิทธิ์แก่บุคคลใด จะมีผลเพิ่มพูนให้ไม่รู้จบ มีคุณล้ำค่ายิ่งกว่าแก้วสารพัดนึก แค่ได้พบเห็นก็ได้ชื่อว่ามีบุญมีบุพกรรมได้ทำมาดีแล้ว อย่าไปกลัวเลยว่าจะตกทุกข์ได้ยาก ขอให้บูชาไว้ให้ดีเถิดชีวิตจะเต็มไปด้วยมงคลทั้งหลายทั้งข้าวของสมบัติก็บริบูรณ์นักถึงขั้นคหบดีเป็นเศรษฐีรุ่งเรือง แม้ปรารถนาสิ่งใดก็จะสัมฤทธิ์ผลเจริญขึ้นวัฒนาสถาพรตลอดไป

    เสด็จพระใหญ่ท่านเจาะจงให้พ่ออาจารย์ทำพิมพ์พระเป็นพระปางพยาบาลเช่นนี้เพราะจะได้สื่อเข้าไปให้ถึงใจว่าต่อแต่นี้ด้วยผงคุณพระวิชาพุทธอุปถัมภ์นั้นก็จะได้โอบอุ้มดูแลกันไป แม้ในวันที่ตกต่ำและทุกข์ยากหรือในวันที่เธอเจ็บอย่างถึงที่สุดก็จะไม่ทอดทิ้งกัน ซึ่งองค์พระนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ฝังมงคลวัตถุต่างๆดังนี้
    - พลองตีเทพ "เทพมาตีเทพ มารมาตีมาร ใช้ตีกำราบสั่งสอนหรือกำจัดได้ทั้งสิ้น" เสด็จพระใหญ่ท่านให้แกะด้วยไม้กำจัดและจะทำให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพลองนี้เปรียบเสมือนตัวแทนการปราบปรามและสามารถใช้อธิษฐานขจัดอุปสรรคตต่างๆโดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวรที่กลั่นแกล้งเราตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ไม่อยู่ในทำนองคลองธรรม เพราะเจ้ากรรมนายเวรและจิตวิญญาณทั้งหลายจะเกรงกลัวพลองนี้นักดุจเห็นพลองประหารเทพนั่นทีเดียว(ด้วยเทพนั้นท่านว่าเป็นคำจำกัดความไว้เรียกรวมๆหมายถึงตัวตนที่มีฤทธิ์มากยากที่เราจะแตะต้อง ตัวตนเหล่านั้นเรียกรวมๆว่าเทพ ส่วนพลองตีเทพนั้นก็เป็นสิ่งที่เอาไว้ใช้ลงโทษเทพเหล่านั้นนั่นเอง) ท่านว่าพลองตีเทพนี้ใครใช้เป็นจะมีผลดีมากเพราะนอกจากเราใช้เองแล้วยังสามารถใช้อธิษฐานช่วยเหลือมนุษย์หรือแผ่อานุภาพไปถึงภพภูมิต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้อธิษฐานใช้คราวใดก็ทำได้เต็มกําลังทั้งรุนแรงและดุดันอย่างถึงที่สุด ใช้ได้ทั้งป้องกันและปราบปรามทุกสิ่งที่ไม่ดีรวมทั้งคุณไสยอวิชชาทุกชนิด เป็นการปราบด้วยธรรม,ปราบด้วยบารมีที่เสด็จพระใหญ่ท่านลงไว้ให้จึง เรียกว่าทั้งปราบและโปรดไปพร้อมๆกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าพลองตีเทพนี้คนที่ใช้เป็นจะสามารถส่งจิตกำกับพลองออกไปได้ไกลมาก...แม้ตัวเราอยู่ตรงนี้จะกำหนดจิตไปที่ไหนก็ได้ท่านว่าตีได้ไกลถึงพรหมโลกทีเดียว ###ด้วยพลองนี้ท่านห้ามนำมากวัดแกว่งเล่นเด็ดขาด พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านกำชับไว้หนักหนาหากนำมากวัดแกว่งเมื่อใดโลกทิพย์รอบด้านจะสั่นสะเทือน พอเราแกว่งพลองเขาจะได้ยินเสียงดังเลื่อนลั่นเหมือนสายอสุนีบาตตกต้องโลกของเขา ท่านว่าเช่นนั้นจึงห้ามแกว่งเล่นหรือถือไปเล่นมั่วๆเพราะต่างภพต่างภูมิเขาจะเดือดร้อนกันได้ เช่นนั้นท่านจึงเจาะจงให้ฝังไว้กับพระพิมพ์เสีย ท่านว่าจะได้ใช้แต่อาราธนาแผ่กำลังฤทธิ์กวาดไปตามที่เราต้องการ
    - ลูกอมรวยใหญ่ โบราณท่านนิยมบูชาพระสีวลีเพื่อเร่งลาภผลเงินทองให้หากินคล่องตัว เช่นนั้นพ่ออาจารย์จึงเมตตาลบถมผงคาถาวิชาพระสีวลีทุกชนิดที่ท่านเคยร่ำเรียนมาปั้นเป็นลูกอมไว้แล้วตั้งชื่อว่าลูกอมรวยใหญ่ ท่านว่าเสกเสร็จรู้เลยลูกอมนี้ให้คุณมากแม้คนใช้จับจ่ายใช้สอยมากก็ยังได้เงินทองกลับมาเองไม่พร่องไป ท่านว่าทรัพย์ที่ขาดที่หายไปเดี๋ยวจะได้กลับมาใหม่พุทธคุณจะออกไปทางมีเงินเยอะรวยใหญ่สมชื่อดังนั้น ใครบูชาลูกอมแล้วนึกถึงคุณพระสีวลีเงินทองจะมาล้อมด้วยบุญของพระสีวลีที่พ่ออาจารย์ท่านเชิญและทำวิชาไว้อย่างแท้จริง ให้คุณพระส่งเสริมสงเคราะห์เราดุจว่าลูกอมนี้อยู่ที่ไหนจะนำมาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุขบริเวณนั้น ความอิ่มอุดมสมบูรณ์,ไม่อดไม่อยากจะปรากฏแก่ผู้บูชาให้ชีวิตรับเงินทองโภคสมบัติ พร้อมทั้งศุภมงคล อายุ วรรณะ สุขะ พละครบครันเป็นเสบียงบุญไม่หมดสิ้นทั้งยังนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่ตัวเอง
    - ตะกรุุดน้ำเต็มบ่อ วิชานี้เปรียบพระพุทธคุณดั่งคลังแห่งโภคสมบัติที่จักไหลมาจากจตุรทิศ ด้วยพระพุทธเจ้าทรงเป็นประธานแห่งอริยทรัพย์ทั้งภายในและภายนอก ด้วยพุทธานุภาพนั้นแม้สมบัติจักรพรรดิอันยิ่งใหญ่ก็ยังปรากฏขึ้นมาได้นี่แหละขุมทรัพย์อันบริสุทธิ์ที่อุดมไปด้วยสรรพมงคล ท่านว่าตะกรุดนี้ติดตัวใครจักพบเจอแต่อริยทรัพย์รวมไปถึงสิริสมบัติทั้งสินทรัพย์เงินทอง แลโภคทรัพย์เนืองนองท่วมท้นหลับก็ได้รับเงินตื่นก็ยังได้เงินเพิ่มพูนทวีความสุขความเจริญแม้ทำกิจใดก็สมปรารถนา เปรียบประดุจกำลังแห่งพุทธคุณนั้นเป็นขุมทรัพย์ใหญ่ที่ไม่รู้จักหมดดั่งมหาสมุทรสาครที่ไม่มีวันเหือดแห้ง เอ่ยอ้างเป็นเหตุปัจจัยแห่งกุศลพึงเกิดกับผู้บูชาไปตลอดกาล ให้ทรัพย์สินเงินทองไหลบ่าเทเข้ามาดั่งห้วงน้ำเล็กใหญ่หลั่งไหลลงไปสู่ท้องพระสมุทรมหาสาครฉันนั้น
    - ตะกรุดปิดเคราะห์ซ่อนกรรม ท่านว่าใช้แก้เคราะห์กรรม,ไล่ผี,เสนียดจัญไรก็ได้ หรือจะบูชาให้นำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ เพิ่มยศเพิ่มตำแหน่งฐานะก็สุดแต่จะใช้ ท่านว่าตามชื่อเลยพูดเยอะก็ไม่ได้เพราะตะกรุดนี้ท่านต้องลงด้วยตะกั่วขอมลงถมเท่านั้นจึงจะมีอานุภาพมาก พอปิดเคราะห์ซ่อนกรรมได้ทุกอย่างในชีวิตจึงสรุปรวมไว้ที่คำว่าดี เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงเป็นเหตุที่จะอุดช่องโหว่และเติมเต็มชีวิตเราขอให้แค่ผู้ใช้มั่นคงในคุณพระรัตนตรัยท่านว่าจะยิ่งแรงขึ้นเป็นเงาตามตัว ยิ่งถ้าคนใช้ประกอบด้วยศีลมั่นคงในสติแล้วล่ะก็ผลจะยิ่งตอบสนองไวดุจเงาตามตัวที่ต้องวิ่งตามเราให้ทัน รีบคลุมร่างกายเราทับตัวตนเราเพื่อปิดเคราะห์ซ่อนกรรมเช่นนั้น

    พระธรรมสวามีเนื้อผงพุทธอุปถัมภ์นี้ท่านว่าทำไว้ให้ครบแล้วตามแต่จะอธิษฐานใช้ แม้ผู้ใดนำไปอาราธนาจะยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ดั่งบุญวาสนาที่แข่งกันไม่ได้ท่านว่าแม้ได้พบได้นำไปอาราธนานั่นก็ถือว่ามีวาสนาแล้ว "อุปมาดั่งกาไก่จะกลายเป็นหงส์" จะเกิดเมตตามหามงคลล้นมากดังมีเทวดาอยู่กับตัว ไปทางไหนคนทั้งหลายก็เปิดทางให้จะรักเมตตาเราด้วยอำนาจของศีลของพระธรรม อำนาจนี้แรงกว่าการทำให้รักด้วยวิชาใดๆหลายเท่านัก ท้งยังได้อำนาจบารมีแบบลูกโดดชนิดที่ว่าสิ่งมีชีวิตใดไม่ว่าจะอยู่บนดิน,บนฟ้า,หรือขุดรูอยู่ในมิติต่างๆก็สยบไม่เว้น(ท่านว่านี่คืออานุภาพของพลองตีเทพโดยตรง)ทำให้เรามีบารมีโดดเด่นเป็นที่ยำเกรง ทั้งยังจะระงับภัยและเหตุการณ์เลวร้ายเบื้องหน้าได้ ทั้งยังนอนกินมีชีวิตความเป็นอยู่สบายดุจมีคนคอยอุ้มชูอุปถัมภ์ใช้แล้วจึงมีชื่อเสียงโด่งดังเสริมสง่าราศีเสริมความก้าวหน้าเสริมกิจการให้สำเร็จสมหวังทุกอย่าง เหตุหลายประการล้วนสรุปที่คำว่าดีทั้งสิ้นยังให้เกิดผลดีต่างๆตามมาเป็นอันมาก สุดท้ายจะไม่ตายโหงไม่ตายเป็นผีสัมภเวสีมีที่อันจะไปด้วยดี

    คาถาบูชา(ท่านให้นึกถึงพระพุทธคุณและคุณบิดามารดาเป็นที่สุดก่อนว่าบทสักกัตวา)
    สักกัตวาพุทธะรัตตะนัง โอสะถังอุตตะมังวะรัง หิตังเทวะมะนุสสานัง พุทธะเตเชนะ โสตถินานัสสันตุ ปัททะวา สัพเพทุกขาวูปะสะเมนตุเมฯ
    สักกัตวาธัมมะรัตตะนัง โอสะถังอุตตะมัวะรัง ปิริฬาหูปะสะมะนัง ธัมมะเตเชนะ โสตถินานัสสันตุ ปัททะวา สัพเพภะยาวูปะสะเมนตุ เมฯ
    สักกัตวาสังฆะรัตตะนัง โอสะถังอุตตะมังวะรัง อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง สังฆะเตเชนะ โสตถิน นัสสันตุปัททะวา สัพเพภะยาวูปะสะเมนตุเมฯ


    ### พ่ออาจารย์ท่านให้แถมดวงแก้วกำลังพระจักรพรรดิ์ชะลอกรรม ซึ่งเป็นดวงแก้วที่ท่านนำมาอธิษฐานจิตเสกไว้หลายปีให้บูชาคู่กัน ท่านว่าเป็นดวงแก้วธรรมดาๆนี่แหละแต่ฉันอธิษฐานและเสกตลอดจนเชิญครูและทิพย์กายต่างๆมาร่วมปลุกเสกให้เป็นดวงแก้วจักรพรรดิ์ใช้ชะลอกรรมได้ แก้วมหาจักรพรรดิเรียกว่าแก้วมณีนพรัตน์ เป็นสมบัติของพระพุทธเจ้าแม้ผู้ใดนำไปใช้ก็จะเกิดประโยชน์ใหญ่มีพุทธานุภาพมากแล้วแต่จะอธิษฐานเอา ให้นำแก้วมณีนพรัตน์ไปแขวนคอไว้แล้วภาวนาไตรสรณคมณ์ตลอดเวลาหรือภาวนามากๆ ถ้ากรรมไม่หนักพุทธานุภาพของไตรสรณคมณ์ก็จะช่วยได้อยู่ที่ว่าตั้งใจภาวนามากน้อยเพียงไรนับถือและศรัทธาจริงภาวนาไปจะมีเหตุมาทำให้หาย กรรมหนักก็จะเบา กรรรมเบาก็จะหาย ทำมากๆผลของไตรสรณคมณ์ที่เป็นบุญใหญ่นี้ก็สามารถตัดกรรมได้โดยการภาวนาไตรสรณคมณ์ เมื่อจิตเป็นสมาธิและภาวนาไตรสรณคมณ์ก็จะสว่างไปทั้งสามโลก การภาวนานี้เป็นบุญใหญ่กรรมชั่วที่เคยทำไว้มิอาจเข้าแทรกได้ กรรมดีที่เคยทำไว้แต่ปางก่อนก็จะมาส่งผลบวกกับบุญใหญ่ที่เกิดจากการภาวนาไตรสรณคมณ์รวมกันก็จะเป็นมหากุศล หากได้ภาวนาคู่กับดวงแก้วกรรมชั่วเรียกว่าเป็นหมันไปเลยยังไม่มีโอกาสที่จะมาส่งผล

    *** ร่วมทำบุญบูชาองค์พระธรรมสวามีผงพุทธอุปถัมภ์ได้เฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านว่าเราจะต้องฝากฝังเขาไว้ให้ถึงมือเสด็จพระใหญ่ท่าน ท่านว่าพระรุ่นนี้วาสนาเราทำได้แค่ครั้งเดียว ใครจะได้จะบูชานั่นก็ขึ้นอยู่กับวาสนาอีกท่านว่าต้องมีวาสนาทั้งผู้ทำและผู้รับจริงๆ ใครบารมียังอบรมมาไม่พอก็ไม่ได้ไป รายการนี้ท่านทำไว้หกองค์ ท่านอาราธนาใช้โปรดสรรพสัตว์เององค์หนึ่งและท่านว่าเทวดาเขามาเชิญไปอีกองค์หนึ่ง จึงมีให้ร่วมบูชาทั้งสิ้นสี่องค์ รายได้ร่วมสมทบทุนค่าน้ำค่าไฟตามวัดต่างๆเพื่อเป็นปัจจัยนำมาซึ่งแสงสว่างแก่ชีวิตสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระธรรมสวามีผงพุทธอุปถัมภ์พยาบาลรักษาปิดเคราะห์ซ่อนกรรม(พระสร้างคน,ยกฐานะ) บูชา 4,000 บาท

    60026044-420947531786905-4704163892740227072-n.jpg 60126740-354482598539835-990539550038163456-n.jpg 60338897-334982110546417-7797926340396580864-n.jpg
    60314576-2228298197431310-2509930058299211776-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2020
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ดวงแก้วกำลังพระจักรพรรดิ์ชะลอกรรม

    แก้วจักรพรรดิ เป็นหนึ่งในรัตนะทั้ง ๗ ของพระเจ้าจักรพรรดิเป็นแก้วสารพัดนึกที่สามารถดลบันดาลให้ผู้ที่เป็นเจ้าของและผู้เลื่อมใสศรัทธาได้รับสิ่งที่ตนเองปรารถนาตามกำลังบุญของบุคคลนั้นๆ ดวงแก้วมณีหรือมณีรัตนะคือดวงแก้วใสก็ปรากฏงดงามดวงโตประมาณสี่ศอกก็เลื่อนลอยมาจากวิปุลละบรรพต ดวงแก้วนั้นประดับด้วยฐานทองรองรับมีดอกประทุมแก้วที่เป็นแก้วมุกดา ประดับไว้ทั้งสองข้างแวดล้อมด้วยแก้วมณีที่เป็นบริวาร ๘๔,๐๐๐๐ ดวง งดงามมีสิริประดุจดาวล้อมเดือน ดวงแก้วนั้นมีรัศมีส่องสว่างไสวไปไกล ๑ โยชน์ ในยุคที่มีพระเจ้าจักรพรรดิมาเกิดมนุษย์ในยุคนั้นอยู่ได้อย่างมีความสุขจากอานุภาพลูกแก้วจักรพรรดินั้น มหาชนจะประกอบกิจการงานต่างๆทั้งกลางวันกลางคืนโดยอาศัยอานุภาพแสงสว่างจากดวงแก้วนั้นแก้วมณีโชติคือแก้ววิเศษหรือแก้วจินดามณี,แก้วสารพัดนึก สามารถเปล่งแสงได้ในตัวเองดุจแสงจากหลอดไฟนีออนสามารถเปล่งแสงสว่างไสวในยามค่ำคืนทำให้สว่างดุจกลางวันและสามารถดลบันดาลให้ผู้ที่เป็นเจ้าของและผู้เลื่อมใสศรัทธาได้รับสิ่งที่ตนเองปรารถนาเพราะในดวงแก้วมีองค์จักรพรรดิกายสิทธิ์มีฤทธิ์มากดลบันดาลให้มีขึ้น เป็นดวงแก้วคู่บารมีของพระเจ้าจักรพรรดิ

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างดวงแก้วกำลังพระจักรพรรดิ์ชะลอกรรม ซึ่งเป็นดวงแก้วที่ท่านนำมาอธิษฐานจิตเสกไว้หลายปีให้บูชาคู่กัน ท่านว่าเป็นดวงแก้วธรรมดาๆนี่แหละแต่ฉันอธิษฐานและเสกตลอดจนเชิญครูและทิพย์กายต่างๆมาร่วมปลุกเสกให้เป็นดวงแก้วจักรพรรดิ์ใช้ชะลอกรรมได้ แก้วมหาจักรพรรดิเรียกว่าแก้วมณีนพรัตน์ เป็นสมบัติของพระพุทธเจ้าแม้ผู้ใดนำไปใช้ก็จะเกิดประโยชน์ใหญ่มีพุทธานุภาพมากแล้วแต่จะอธิษฐานเอา ให้นำแก้วมณีนพรัตน์ไปแขวนคอไว้แล้วภาวนาไตรสรณคมณ์ตลอดเวลาหรือภาวนามากๆ ถ้ากรรมไม่หนักพุทธานุภาพของไตรสรณคมณ์ก็จะช่วยได้อยู่ที่ว่าตั้งใจภาวนามากน้อยเพียงไรนับถือและศรัทธาจริงภาวนาไปจะมีเหตุมาทำให้หาย กรรมหนักก็จะเบา กรรรมเบาก็จะหาย ทำมากๆผลของไตรสรณคมณ์ที่เป็นบุญใหญ่นี้ก็สามารถตัดกรรมได้โดยการภาวนาไตรสรณคมณ์ เมื่อจิตเป็นสมาธิและภาวนาไตรสรณคมณ์ก็จะสว่างไปทั้งสามโลก การภาวนานี้เป็นบุญใหญ่กรรมชั่วที่เคยทำไว้มิอาจเข้าแทรกได้ กรรมดีที่เคยทำไว้แต่ปางก่อนก็จะมาส่งผลบวกกับบุญใหญ่ที่เกิดจากการภาวนาไตรสรณคมณ์รวมกันก็จะเป็นมหากุศล หากได้ภาวนาคู่กับดวงแก้วกรรมชั่วเรียกว่าเป็นหมันไปเลยยังไม่มีโอกาสที่จะมาส่งผล

    พ่ออาจารย์ท่านใช้ลูกแก้วธรรมดาๆที่ท่านสั่งให้หาซื้อมานี่แหละนำมาเสก จากของธรรมดาให้กลายเป็นของเหนือโลก ท่านเฝ้าเชิญกำลังพระจักรพรรดิตลอดจนเทพยดาทั้งหลายอันรักษาแก้วมณีของพระจักรพรรดิเช่นท้าวจตุโลกบาลให้ช่วยกันทำวิชาทำการประสิทธิดวงแก้วหนแล้วหนเล่านับเวลาหลายปีจนดวงแก้วธรรมดาๆนี้มีกำลังฤทธิ์กล้าแกร่งถึงขนาดท่านออกปากว่า"ทำสำเร็จแล้วก็ใช้แทนกันได้" พุทธคุณของแก้วมหาจักรพรรดิ์นั้นครอบจักรวาลแล้วแต่เจ้าของจะนำไปใช้เรียกว่าสำเร็จได้ดั่งใจนึกสำเร็จได้ตามจิตหมาย ผู้ที่มีไว้ควรที่จะนำมาใช้ช่วยในการปฏิบัติจะเห็นได้ว่าเราสามารถกำลูกแก้วมหาจักรพรรดิ์เพื่อทำสมาธิได้ คนที่มีของดีแบบนี้จะเก็บไว้เฉยๆบนหิ้งได้อย่างไร…ตามปกติแล้วดวงแก้วที่พ่ออาจารย์อธิษฐานจิตเน้นในแนวบุญฤทธิ์ ดวงแก้วนั้นจะมีรัศมีที่สว่างไสว เพราะท่านเชิญคุณพระตลอดจนพุทธบารมีและโพธิสัตว์ทั้งหลายมาทำให้เต็มกำลัง ถึงขนาดว่าบางครั้งคนที่บูชาไปจะสามารถมองเห็นรัศมีนั้นได้ด้วยตาเนื้อทีเดียว แสงสว่างนี้แม้ในบางขณะที่เรามองไม่เห็นแต่พ่ออาจารย์ท่านก็ว่าเขาสว่างอยู่ตลอดเวลา และเมื่อแสงนี้ปรากฏขึ้นที่ใดย่อมดึงดูดความสนใจในภพภูมิทั้งหลายและตัวตนอันเป็นทิพย์กายต่างๆ ด้วยในโลกทิพย์นั้นเทวดาเขามักจะวัดกำลังกันด้วยรัศมีที่เปล่งออกมาจากตัวเขาหรือของวิเศษที่เขาใช้เพราะเขาถือว่านี่เป็นรูป,เป็นสมบัติทางกายภาพของเขา นอกจากนั้นรัศมีนี้ยังเป็นตัวแทนของพลังงานบุญและคุณความดีต่างๆที่ได้สร้างได้สะสมไว้ในภพชาติทั้งหลาย ซึ่งพลังงานที่ได้จากการทำกุศลกรรมนี้ย่อมเป็นสิ่งพยุงและค้ำจุนภพภูมิทั้งหลายได้อย่างดี แม้ในขณะเดียวกันผู้อาราธนาดวงแก้วก็ย่อมมีความผ่องใสหรือมีรัศมีในตัว ได้รับแรงกุศลกรรมมาช่วยพยุงค้ำจุนไว้ไม่ให้ล้มเหลว แม้เทวดาทั้งหลายเห็นรัศมีแก้วนั้นก็มักมีใจยินดีดั่งเห็นกัลยาณมิตรในหมู่พวกเขาเอง เขาจะเข้ามาปกปักรักษาดูแลใกล้ชิดผู้ครอบครองและใช้งานดวงแก้วนี้อยู่เสมอ

    แก้วนี้ทำด้วยบารมีพระพุทธเจ้า เวลาทำจริงๆพ่ออาจารย์ท่านว่าคนธรรมดาทำไม่ได้เลยต้องให้พุทธภูมิทั้งหลายหรือองค์พระในนิพพานท่านสอน แต่นั่นก็ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าให้ท่านช่วยเราทำหรือทำให้เรา ดวงแก้วนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าน่าประหลาด ถ้าใครได้ใช้เขาจะตามเป็นสมบัติของเราไปให้ใช้กันอีกหลายสิบชาติ แม้ตายแล้วเกิดเกิดแล้วตายวนเวียนผันเปลี่ยนกันไป ไม่ว่าชาติใดพอเป็นมนุษย์ก็ต้องมาพบกับดวงแก้วที่เป็นของตนเองเช่นนี้ ด้วยแก้วลูกเดียวนั้นจะสามารถหล่อเลี้ยงชีวิตของคนไปได้ตลอด พ่ออาจารย์ท่านว่าเกินพอทีเดียว ด้วยเป็นของทิพย์ที่เทวดารักษาและเทวดาเขาหวงแหนดังนั้นผู้ที่จะมีวาสนาได้นำไปใช้ต้องมีบุญพอจึงจะเห็นจะมีโอกาสครอบครองได้

    ดวงแก้วนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของดีใช้ได้หลายทาง นอกจากติดตัวเราไว้เขาจะช่วยเพิ่มกำลังให้กับเราแล้ว เวลาเราสร้างบารมีทั้งหลายตลอดจนทำกิจต่างๆยังได้ชื่อว่าสามารถทำได้เร็วกว่าคนอื่นเขาและเห็นผลสำเร็จไวกว่าคนอื่น...มีคุณมากถึงปานนั้นบุคคลใดก็ดีมีดวงแก้วอันกำลังพระจักรพรรดิหล่อเลี้ยงเต็มวิชานยี้ติดตัวเขาจะตามคุ้มครองช่วยเหลือไปทุกภพ ด้วยเป็นกายสิทธิ์ในตัวเอง มีอำนาจ,มีสิทธิเป็นประธานแห่งสัตตะรัตนะทั้งเจ็ดประการในพระเจ้าจักรพรรดิ์จึงสามารถดลบันดาลเหตุการณ์น้อยใหญ่ทั้งหลายให้เกิดขึ้นได้ ดุจดวงแก้วบรมจักรพรรดิ์แม้หล่อเลี้ยงรักษาชีวิตเราคราวใดแล้ว สมบัติทั้งหลายความสุขทั้งปวงย่อมตั้งอยู่บริบูรณ์ครบถ้วนทุกประการ ทรัพย์สมบัตินั้นก็มั่งคั่งขึ้นทำมาหากินใดๆก็ทำได้โดยง่าย ดวงแก้วนั้นมีอานุภาพครอบจักรวาลแล้วแต่จะอธิฐาน เช่น มหาลาภ,แคล้วคลาด,กันภัย,รักษาโรค สามารถนำไปเลี่ยมอาธนาห้อยคอหรือทำเป็นเข็มกลัดและเครื่องประดับอื่นๆได้ตามความต้องการ ท่านว่าผู้ที่ได้ไปใช้จะเห็นผลเห็นคุณในด้านต่างๆต่างกันตามแต่ปัญหาของชีวิตที่เขาเจอ เป็นของสารพัดนึกจริงๆเหมือนกับมีแก้วบรมจักรพรรดิ์ไว้ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านว่าดวงแก้วนี้สำคัญนักแม้แต่ยอดพระโพะฺสัตว์อย่างหลวงปู่ทวดก็ยังมีดวงแก้ววิเศษที่ได้มาจากพญานาค ในสมัยนั้นท่านได้ใช้อานุภาพดวงแก้วนี้ช่วยเหลือคนให้พ้นผ่านอันตรายต่างๆมานับครั้งไม่ถ้วน
    ###สำหรับคนที่การเงินหมุนไม่คล่องตัว ท่านว่าเพื่อความคล่องตัวในด้านการเงิน ให้จับภาพขององค์แก้วไว้พร้อมกับท่องพระคาถาเงินล้านการเงินก็จะคล่องตัว
    พระคาถาเงินล้าน(ตั้งนะโม ๓ จบ )
    สัมปจิตฉามินาสังสิโม พรหมาจะมหาเทวา สัพเพยักขาปะรายันติ(คาถาปัดอุปสรรค) พรหมาจะมหาเทวา อภิลาภาภะวันตุเม(คาถาเงินแสน) มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม(คาถาลาภไม่ขาดสาย) มิเตภาหุหะติ (คาถาเงินล้าน) พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะสวาโหม(คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า) สัมปะติจฉามิ(คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น) เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ


    (วิธีการใช้ลูกแก้ว)
    ก่อนที่จะภาวนาคาถาให้มองดูลูกแก้วเสียก่อน จำภาพแก้วได้ ก็หลับตานึกถึงภาพแก้วนั้นแล้วก็ภาวนา นี่ทำเป็นกรรมฐานจะภาวนา พุทโธ หรือ นะมะพะทะ ว่าได้ทุกอย่างเพราะว่าแก้วเป็นอาโลกกสิณ สำหรับอาโลกสิณนี่เป็นกสิณพื้นฐานของทิพจักขุญาณหากว่าขณะที่หลับตาภาวน ภาพลูกแก้วเลือนไปจากใจให้ลืมตาดูใหม่ จำภาพลูกแก้วแล้วภาวนาต่อไปจนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจ คราวหลังเราไม่ต้องมองดูลูกแก้วแต่นึกภาพลูกแก้วได้เป็นปกติอย่างนี้ท่านเรียกว่า “อุคหนิมิต”
    อุคหนิมิตนี่เป็นอุปจารสมาธิเป็นผลของทิพจักขุณาณ เมื่อทำอย่างนี้เรื่อยๆไปจนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจอยู่เสมอ ต่อมาก็อธิษฐานให้ลูกแก้วโตขึ้นก็จะเห็นภาพลูกแก้วโตขึ้น อธิษฐานให้เล็กลงก็จะเล็กลง ให้อยู่สูงก็อยู่สูง ให้อยู่ต่ำก็อยู่ต่ำ อยู่หน้าก็ได้ อยู่หลังก็ได้ตามชอบใจ อย่างนี้เป็นปฏิภาคนิมิต ถือว่าเป็นนิมิตสูงสุดส่วนหนึ่ง…”
    “ในเมื่อเห็นลูกแก้วชัดเจนแจ่มใสดีเท่าไหร่ความเป็นทิพจักขุญาณของท่านพุทธบริษัทที่จะเห็นภาพอื่นก็จะเห็นชัดเจนเท่านั้น แต่ว่าถ้าเห็นลูกแก้วชัดเจนดีแล้วต่อไปก็อธิฐานขอให้ภาพลูกแก้วหายไป ขอภาพของพระพุทธเจ้าจงปรากฏ ในเมื่อเห็นภาพของพระพุทธเจ้าปรากฏแทนขอให้อธิฐานให้พระองค์โตขึ้นภาพของพระพุทธเจ้าโตขึ้น ขอให้พระองค์ทรงเล็กลงก็เล็กลง ให้สูงให้ต่ำได้ตามความต้องการ อย่างนี้ถือว่าถึงที่สุด ของมโนมยิทธิ
    ถ้าทำมโนมยิทธิได้ตามนี้แล้วจึงเคลื่อนออก ถ้าเคลื่อนไปไหนจิตกับกายจะตัดกันเด็ดขาด คือว่าไปสุดตัว ถ้าไปสุดตัวก็จะได้พบทุกอย่าง จะพบเทวดา จะพบพรหมก็ดี พบพระอรหันต์ก็ดี เราก็จะมีสภาพไปนั่งคุยกันอย่างสบาย เหมือนนั่งคุยกันอยู่นี่ ถือว่าเป็นการเต็มมโนมยิทธิที่ศึกษา เพราะมโนมยิทธิที่ศึกษากันอยู่เวลานี้ เราใช้กำลังครึ่งเดียว…”
    “แต่ว่าเพื่อผลประโยชน์ของบรรดาท่านพุทธบริษัทว่า ทุกคนยังต้องกินต้องใช้ พระพุทธเจ้าก็ทรงห่วงเหมือนกัน ท่านถือว่าถ้าทุกคนยากจนเสียจริงๆ ไม่มีกินมีใช้ การเจริญสมาธิก็ไม่มีผล เพราะมีความเดือดร้อน”
    ฉนั้นท่านจึงแนะนำว่า ถ้าทำสมาธิในด้านของกรรมฐานครบถ้วนพอใจแล้ว หลังจากนั้นให้ต่อด้วยคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า (คาถาเงินล้านปัจจุบัน) และเวลาที่เจริญพระกรรมฐานทรงฌาณเท่าไรคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็จะทรงฌาณเท่านั้น เมื่อคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าทรงเป็นฌาณการเงินของท่านพุทธบริษัทจะมีการคล่องตัวดีมาก ถ้าปฏิบัติได้เป็นฌาณจริงๆคือเห็นภาพชัดจริงให้สังเกตุดูว่าหลังจากทำไป ๓ เดือน ผลการปฏิบัติลาภสักการะจะเกิด การเงินไม่ฝืดเคือง ยิ่งทำนานมากเงินก็จะยิ่งขังตัว…”
    “เงินเดือนที่ไม่ค่อยพอเดือนมันก็จะเริ่มพอเดือน เดือนหน้ากับเดือนหลังมันลงตัวกันได้ก็พอตัวแล้ว ต่อมาเจ้าเดือนหน้ามันไม่ยอมไป เดือนใหม่ก็ยังมีมาอีก มันเริ่มขังตัว มันเริ่มขังตัวแน่นะ รวมความว่า มันนอนคุยกันในกระเป๋าได้ ทำตามนี้มีผลจริงๆ นะ และวิธีที่ใช้เงินในคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็มีแบบหนึ่ง ซึ่งเคยได้กล่าวไว้แล้ว..”


    ***ดวงแก้วนี้รับจองเฉพาะทาง PM เพราะมีจำนวนจำกัด พ่ออาจารย์ท่านว่าคนหนึ่งใช้หลายดวงก็ได้ ยิ่งมีมากกำลังของเราก็ยิ่งมากเป็นเงาตามตัวไป จิตกายสิทธิ์ของดวงแก้วเขาจะตามติดเจ้าของและคอยหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดแม้จะไม่ต้องพกเขาก็ตาม ท่านว่าใครจะใช้กันกี่ลูกนี้ก็ใช้ตามกำลังวันก็ได้หรือจะใช้ตามจิตรู้ตามที่ครูท่านดลใจว่าเหมาะว่าควรเท่าไหร่นั่นก็ได้ ท่านว่าทำให้ดีแล้วก็พิจารณาใช้ตามที่เหมาะที่ควรเถิด จะนำไปฝากไปเผื่อใครก็ให้แยกกันใช้ แก้วนี้จะมีเจ้าของได้เป็นคนๆไปเช่นนั้น

    ร่วมทำบุญบูชา ดวงแก้วกำลังพระจักรพรรดิ์ชะลอกรรม บูชา 100 บาท

    60445014-2404383959784333-1774639942215925760-n.jpg
    60314044-317980798880835-5027661709943242752-n.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พี่สุดหล่อจอมปาฏิหาริย์(พ่อเนื้อทอง)

    เอ๊ะ..นี่ใคร เวลาที่คนขออะไรแล้วเกินกำลัง เกินวาสนา หรือเหล่ากุมารและมหาภูติไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดีก็จะพาไปหาชายคนนี้ โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง,เรื่องขอหวย,ขอเรื่องที่เขาให้ไม่ได้,ขอเรื่องที่เกินวาสนาตนเอง,ขอเรื่องที่ผิดกฏ,เรื่องที่ยังไม่ถึงเวลาต่างๆ...เหล่ามหาภูติและกุมารก็จะนำผู้เป็นเจ้าของเข้าไปหาชายคนหนึ่ง ชายที่มีร่างเป็นทองคำนอนคุดคู้อยู่กับแท่นศิลา หลายคนว่าต้องไปตะโกนเรียกตามบทตามคำที่เหล่ามหาภูติกะซิบบอกให้ ซ้ำมหาภูติหรือกุมารยังบอกเหมือนกันทุกคนว่าห้เรียกท่านว่าพี่สุดหล่อต้องพี่สุดหล่อคำนี้เท่านั้น ส่วนใหญ่มีแต่คนเจอปัญหาหนักๆหรือตึงมือจริงๆที่เหล่ามหาภูติจะพามาหาพี่สุดหล่อนี้ ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงด้วยล่ะก็ถึงกับเคลิบเคลิ้มกันทีเดียว เขาว่าพอเรียกพี่สุดหล่อปุ๊ปทางนั้นก็ตอบกลับมาว่า"แม่สุดสวยบ้างแม่โฉมงามบ้างมาหาฉันทำไม"(ปากหวานอย่างนี้ไงเล่า)ผู้ชายบางคนท่านก็เรียกว่าพ่อตาหวาน,พ่อรูปงามบ้าง นี่แบบนี้เหล่ากุมารและมหาภูติจึงกำชับหนักหนาว่าต้องเรียกท่านว่าพี่สุดหล่อตามที่พวกเขาเรียกเพราะมันจะคุยกันง่าย และคนที่มาเจอพี่สุดหล่อได้นั้นร้อยทั้งร้อยกลับไปต้องเจอดีได้ดีกันทุกคน **ที่ว่าดีนี่ก็เรื่องที่ขอท่านทั้งนั้น..มันได้เรื่องขึ้นมาแล้ว แต่ส่วนใหญ่เลยก็หนีไม่พ้นเรื่องขอหวยทั้งที่ตัวเองยังไม่มีวาสนา หลายคนเล่ามาตรงกัน เล่ามาบ่อยๆจนจับสังเกตุได้อย่างหนึ่ง เวลากุมารและเหล่ามหาภูติพาไปหาพี่สุดหล่อนั้นถ้าเป็นเรื่องหวยท่านจะให้แบบงวดนั้นออกตรงๆเลย แต่ถ้าท่านหัวเราะขึ้นมา,หรือทักว่าบุญเราไม่พอบ้างอันนี้ต้องขึ้นแต้มลดแต้มถึงจะถูกท่านจะไม่ให้ตรงๆ(จากที่ฟังๆเล่ากันมา) แล้วจริงๆท่านเป็นเทพองค์ไหนหรือเป็นอะไรกันแน่ บางคนตาดีเพราะเรียนมาทางมโนมยิทธิก็พยายามหาพยายามตามหรืออธิษฐานให้พบท่านอีกครั้งแต่กลับปรากฏว่าไม่ได้พบเลย จึงเป็นปริศนาอยู่ว่าบุรุษร่างทองผู้ที่มีรัศมีดั่งแสงทองคำนั้นคือใคร ทำไมนอกจากเหล่ากุมารหรือมหาภูติของพ่ออาจารย์ท่านจะนำทางไปพบเองแล้วแม้ปรารถนาจะเจออีกก็พบไม่ได้

    นามพ่อเนื้อทอง(พี่สุดหล่อนั้น)ดังกระหึ่มมานานนักหนาพ่ออาจารย์ท่านสร้างตามคำแนะนำของครูพรหมสฮัมบดีเพื่อให้เขากลายเป็นผู้นำเหล่kรุกขเทวดา,มหาภูติและเทพเดรัจฉานทั้งหลายในความดูแลของท่าน ซึ่งต่อมาท่านก็ได้เมตตาทำเป็นเครื่องมงคลและเสกเก็บไว้ตามคำแนะนำของทิพย์กายทั้งหลายเพราะท่านรู้ว่าพ่อเนื้อทองนี้จะได้สร้างคุณประโยชน์อีกมาก ดั่งอมตะวาจาที่กล่าวว่า ### หากวันใดที่เรียกฟ้าแล้วฟ้าไม่ขานรับ ก้มเรียกดินดินก็ไม่ตอบ แม้บนบอกเทวดาท่านก็ไม่ช่วย..เมื่อนั้นให้มาบอกกับพ่อเนื้อทองเขานี่
    - ตำนานพ่อเนื้อทองนั้น มาจากตำนานพญาคันคาก(คางคก) พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้สำคัญนัก จากบุรุษที่เกิดมาอัปลักษณ์น่าหวาดกลัวเป็นที่รังเกียจแก่ผู้พบเห็น แม้มีผิวสีทองเหลืองอร่ามแต่ก็มีตุ่มตมขึ้นตามตัวถึงกระนั้นด้วยบุญญาธิการอันยิ่งใหญ่ก็ยังอธิษฐานให้ร้อนอาสน์พระอินทร์บนสวรรค์ได้ ถึงกับพระอินทร์ต้องอัญเชิญเครื่องบริโภคแห่งมหาจักรพรรดิ์ทั้งหลายไม่ว่าจะประสาทแก้ว,นางแก้ว,....ครบถ้วนลงมาให้ถึงเมืองมนุษย์พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่ละสิ่งนั้นสวยงามเลอค่าดั่งไพชยนต์มหาปราสาททีเดียวกล่าวได้ว่าชะลอสวรรค์ลงมาไว้ในแดนดินก็ไม่ผิดเพราะพญาคันคากนี้มีบุญมากซ้ำพระอินทร์ยังถอดรูปคางคกนั้นให้อีกด้วย ในยุคของพญาคันคากนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเขามีฤทธิ์มาก มีอำนาจยิ่งใหญ่ถึงขนาดบงการคนได้ทั้งโลกสมกับเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ นอกจากนั้นเหล่าสัตว์จตุบททวิบาททั้งหลายก็ล้วนแต่จงรักภักดีและบูชาพญาคันคากนี้เสมอด้วยเทพยดาทีเดียว แม้ต่อมาพระพิรุณกำเริบดลบันดาลไม่ให้ฝนตกต้องโลกมนุษย์ พญาคันคากท่านก็เกณฑ์ไพร่พลเหล่าสัตว์จตุบทวิบาททั้งน้อยใหญ่บุกขึ้นสวรรค์เปิดสงครามขั้นเด็ดขาดกับเทพบดีนั้นทันที มหายุทธระหว่างพญาคันคากและพระพิรุณนั้นดำเนินไปยาวนานไม่รู้แพ้ชนะด้วยเล่ห์กลอุบายทางสงครามของแต่ละคน จนพระพิรุณท้าพญาคันคากรบตัวต่อตัวนั่นเองจึงเพลี่ยงพล้ำถูกจับตัวได้ นับแต่นั้นโลกก็ต้องจารึกนามบุรุษผู้ยิ่งใหญ่มากบารมีที่เอาชัยชนะได้แม้กระทั่งเทพบดีชั้นสูงนี้
    พ่ออาจารย์ท่านรู้ว่าพญาคันคากอันเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์นั้นย่อมเป็นที่พึ่งแก่ฝูงชนและสัตว์อันได้ชื่อว่าเดือดร้อนทุกคน ดูอย่างสมัยที่มนุษย์และสัตว์โลกมีเรื่องกับเทวดาด้วยโดนกลั่นแกล้งไม่ให้ฝนตกให้ชีวิตทั้งหลายเดือดร้อนทุกข์ใจนั้นท่านยังประกาศสงครามเอาชัยพระพิรุณได้ เรียกว่าเรื่องใดแม้เทวดาไม่ช่วยเหลือพ่อพญาคันคากท่านย่อมรับช่วยเองขอเพียงให้เป็นเรื่องทุกข์ร้อนของมนุษย์ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้สร้างพญาคันคากไว้ผสมกลมกลืนกับวิชาพญาคางคกอันสืบทอดมาในสายหลวงปู่ศุขแห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า


    ท่านตั้งใจจะทำเป็นรูปคางคกสามขาตามคติจีนด้วยว่าจะเอาให้ดีและเป็นมงคลสูงสุด เป็นที่รู้กันดีว่าคางคกหรือเซียมซูของจีนนั้นเป็นสัตว์เทพที่คนนิยมบูชาไว้มากที่สุดเพื่อใช้ชเรียกเงิน-ทอง โชคลาภให้เข้าหาตัวเองรวมถึงกิจการที่ตัวเองทำอยู่
    - ที่มาของคางคกทองสามขาหลังเจ็ดดาวนี้เขาเป็นสัตว์เลี้ยงวิเศษในพระชนนีแห่งเง็กเซียนฮ่องเต้ สัตว์ตัวนี้มีฤทธิ์มากดุจเทพเซียนวันๆหนึ่งเขาจะไม่ทำอะไรเลยจะใช้แต่ความสามารถพิเศษเรียกเงินเรียกทองมาเล่นสนุกในสระบัว พระชนนีจึงตั้งชื่อให้ว่า"กิมเซียมซู" ...ซึ่งต่อมาก็ได้หนีมาเที่ยวเล่นบนโลกในเขตแห้งแล้งกันดารและอดอยากมาก เจ้าคางคกน้อยนี้ได้เข้าไปอยู่ในบ้านคนบันดาลก้อนเงินก้อนทองออกมาเล่นให้กับคนนำไปแจกจ่ายกันทั้งบันดาลให้ฟ้าฝนตกต้องอุดมสมบูรณ์ยกระดับให้คนทั้งหมดร่ำรวยขึ้นทุกคนหาคนจนไม่ได้เลย พอเจ้าแม่สวรรค์รู้ว่าคางคกน้อยทำบุญทำความดีก็มีความยินดีประทานพรให้ "เมื่อเจ้านั้นอยู่ที่ไหนก็ให้ที่นั้นมีแต่ความร่ำรวยอุดมสมบูรณ์"
    นอกจากจะเสกเงินเสกทองได้เองแล้วยังทำให้บริเวณที่สถิตย์อยู่นั้นมีแค่ความเจริญ,เงินทองไหลมาเทมา,ค้าขายดีอยู่ที่ไหนก็ทำให้ที่นั้นไม่ยากจนไม่ขัดสน,ให้ร่ำรวย,มีทรัพย์สมบัติเงินทองมากมายก่ายกอง ต่อมาคนจึงนิยมบูชากันมากและทุกคนก็มั่งมีเงินทองทำมาค้าขายก็ดีทำธุรกิจการงานก็มีแต่ความเจริญเพราะเขาจะช่วยเสริมอำนาจบารมีทางด้านการเงินดูดโชคลาภความร่ำรวยมั่งคั่งให้กับผู้ครอบครอง

    พ่ออาจารย์ท่านพูด(ติดตลก)ว่าเดี๋ยวนี้แล้งนัก ร้อนเหลือเกิน ให้เอาพ่อเนื้อทองนี่แหละไปใช้จะได้นำความอุดมสมบูรณ์เข้าหาผู้คน ด้วยว่าพญาคางคกนั้นแบกกลุ่มดาวทั้งเจ็ดที่เป็นเทพผู้รักษาดวงชะตาคนทั้งโลกดังนั้นคนที่เกิดแต่ละวันจึงบูชาท่านได้เสมอกันไม่มีแบ่งแยก ด้วยอำนาจแห่งดาวทั้งเจ็ดนี้จะยังให้ภัยพิบัติและอันตราย,โรคร้ายทั้งหลายย่อมดับสูญ ใครที่ทุกข์ยากเหมือนจะสิ้นใจสิ้นชีวิตก็จะต่อชีวิตให้ดำรงอยู่ได้ต่อไป นี่คือเคล็ดลับของพญาคางคกที่ไม่มีอำนาจใดๆลบล้างเขาได้ และเพราะเช่นนี้เขาจึงหนุนได้ทุกคนแก้อาถรรพ์ได้ทุกอย่างท่านว่าต่อให้คนชะตายาจกหรือถึงที่ชะตาขาดแล้วก็ตามพญาคางคกนี้ก็ยังบรรเทาได้ขาชอบช่วยเหลือคนยากคนจนด้วยการแจกเงินแจกทองเพราะเขามีความสามารถในการคายเงินคายทองออกจากปากได้ วิชาคางคกนี้จึงเน้นเพื่อเพิ่มพูนเงินทองและอุดรอยรั่วที่จะทำให้เงินทองรั่วไหลโดยเฉพาะ ให้มั่งมีเงินทองทำมาค้าขายดีมีแต่ความสุขความเจริญลาภผลไหลมาเทมาไม่ยากจนไม่ขัดสนเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านแกะบล๊อคให้มีลักษณะเด่นคือคางคกนั้นจะมีสามขา,ขาด้านหลังคล้ายปลา,จมูกเหมือนพญามังกร,กรงเล็บเหมือนสิงโต,ไม่มีทวารเงินทองเข้าแล้วไม่มีทางออก, คาบเงินคาบทองเล่นตลอดเวลา และพญาคันคากท่านยังเน้นย้ำว่าต้องทำให้เป็นกายทองคือมีสีเหลืองทองอร่ามไปทั้งตัวจึงจะดึงดูดมงคลได้ดี ท่านได้นำมวลสารต่างๆที่พญาคันคากท่านให้หามาใช้โดยเฉพาะไม่ว่าจะผงไข่กบสามขา,ผงกบจำศีลตายคารู,อิฐเก้าพระธาตุ,ผงหินศิวะลึงค์,ผงโยนีพระอุมา,ผงลูกกรอกแมวเก้าตัว,ดักแด้หิน,ดินจอมปลวก,ดินโป่ง,ผงงวงช้างเผือก,ผงครั่งพุทราตายพราย,ผงบันไดเรือนแม่หม้ายผัวตายลูกชายเดียว,หิ่งหายผี,ไม้ไก่กุก,ไม้แหย่แย้,ว่านพญาปากเข็ด,น้ำตาเด็กร้องไห้ตามแม่,ขี้สูตรดินเพียง,ดินขุยปู,รังหมาร่า,ผงหางนาค,ผงว่านโยนี,เถาวัลย์หลง,ว่านดอกทองสิบสองจำพวก,ขมิ้นแดง,ดอกรักซ้อน,ดอกกาหลง,น้ำมันตานี,น้ำมันตะเคียน,น้ำมันกะลาตาเดียว,น้ำมันช้างโขลง,ผงโองการมหาปัถหมื่น,ผงโองการเอิกเกริกพระราม,ผงพระคาถามหาลาภ,ผงมนต์ดวงแก้วพระสีวลี,ผงราหูอมจันทร์,ผงต์พระพุทธเจ้าเปิดโลก,ผงตรีนิสิงเห,ผงต์อิติปิโสตรึงไตรภพ,ผงอิติปิโสนารายณ์คายจักร,ผงอิติปิโสเดินหน้านารายณ์บรรทมสินธุ์,ผงอิติปิโสถอยหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์,ผงอิติปิโสนารายณ์แปลงรูป,ผงอิติปิโสภุชงค์เดินหน้าลีลาซ่อนหาง,ผงธงพิชัยสงคราม,ผงอิติปิโสทรงชัยมหาทิพมนต์,ผงมหาสาวัง...ท่านว่านำผงทั้งหมดมาปั้นเขียนวิชาคางคกทำผงตำรับหลวงปู่ศุขอีกคำรบหนึ่ง

    พญาคันคากหรือพ่อเนื้อทองนี้ดีทุกด้านเพราะท่านถือเคล็ดใช้ผงกบจำศีลเป็นมวลสารหลักดั่งกบจำศีลบำเพ็ญภาวนาดังนั้นตบะเดชะของพญาคันคากนั้นย่อมอยู่ในช่วงรุ่งเรืองเฟื่องฟูมากที่สุด พญาคันคากนี้ท่านว่าทำเอาไว้ให้สวนกระแสทุกอย่างจริงๆต้องเพ่งกสิณธาตุ,ปั่นธาตุ,หนุนธาตุ,เรียกอาการ,ร่ายพระเวทย์คาถามหาอาคมประจุใส่ไว้ให้พญาคันคากนี้ตามจิตของผู้นำไปใช้ จิตเราคิดเห็นอย่างไร,ต้องการอะไรพญาคันคากท่านจะตามส่องตามดูวาระจิตของเราเพื่อยังผลนั้นให้สำเร็จอย่างแท้จริงรวมไปถึงใช้แก้คราสเคราะห์ได้อย่างวิเศษสามารถข่มฝ่ายตรงข้ามได้เหมือนกบกินเดือนกินตะวัน***ท่านว่าใครมาแข่ง,มาบัง,มาบดหรือมาเบียดเบียนรังแกเราก็อธิษฐานให้พญาคันคากนั้นไปอมไปดับรัศมีความรุ่งโรจน์ของเขาซะ พญาคันคากนี้ฝังเครื่องมงคลสองชนิด คือ
    - ตะกรุดแรงครูทักษิณาทาน ใช้เหรียญเงินที่รับทักษิณาทานเวลาพ่ออาจารย์ท่านประสิทธิวิชาให้ศิษย์ที่ท่านเลือกเงินทักษิณาทานนี้ท่านจะนำมาใส่ไว้ในขันครู แน่นอนว่าย่อมต้องมีแรงครูสูงสุดๆ ท่านว่าวิชาทำตะกรุดนี้เปรียบดั่งพราหมณ์ดั่งครูบาอาจารย์เมื่อกระทำพิธีใดๆให้สมปรารถนาแล้วจะสามารถร้องขออะไรก็ได้กับเจ้าภาพไม่เลือกว่าจะเป็นกษัตริย์หรือมีอำนาจเพียงใดก็ต้องรีบหามาประเคนให้เช่นนั้นเหรียญแรงครูทักษิณาทานนี้จึงมีฤทธิ์มีอำนาจมาก กล่าวคือเวลาเราขออะไรครูก็ต้องให้ไม่เลือกเช่นนั้น ท่านสร้างตะกรุดนี้ในวันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 โดยนำเหรียญมาเสกบรรจุหัวใจโภคทรัพย์ให้อีกคำรบหนึ่งและนำแผ่นยันต์ที่จารกำกับฤทธิ์แรงครูหุ้มเหรียญเงินนั้นอีกที ท่านว่าตะกรุดนี้เหมาะยิ่งสำหรับคนหาเงิน,ต้องการเงิน ด้วยแรงครูนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็จะทำให้ที่นั้นกลายเป็นแหล่งขุมทรัพย์,แหล่งเงินแหล่งทองไปได้ หากหาเงินไม่คล่องหาใช้ไม่ทัน...แม้กระทั่งหากหาเงินคล่องแต่ไม่เหลือเก็บ ท่านว่าตะกรุดนี้ช่วยหาเงินได้นอกจากนั้นก็ช่วยเก็บเงินได้ด้วย จะเอาอะไรมากแม้ในตัวตะกรุดเองก็ยังมีเงินเก็บของมันอยู่นี่ทำให้ทั้งเรียกเงินมาทั้งเก็บเงินได้ครบเลย ตะกรุดนี้ให้ใช้ในด้านหาโชคหาลาภเท่านั้น
    - กระดิ่งพลังจักรวาล พ่ออาจารย์ท่านมีวิชาเสกกระพรวนเป็นเลิศ เช่นนั้นเมื่อทำพญาคันคากนี้ท่านจึงให้หากระดิ่งเล็กๆมาเตรียมไว้เพื่อจะเสกบรรจุพลังจักรวาลให้เต็มที่เหมือนเช่นท่านเสกกระพรวน ท่านว่าแต่เดิมนั้นวิชาทำกระพรวนเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจและความมั่งคั่ง,ความอุดมสมบูรณ์,เกียรติยศชื่อเสียงและทรัพย์สินเงินทอง อีกทั้งยังเป็นเครื่องรางที่ใช้ขจัดสิ่งชั่วร้าย ป้องกันเสนียดจรัญไรคุณไสยอวิชาต่างๆจึงเป็นที่นิยมของคนชั้นสูงตั้งแต่กษัตริย์ไปจนถึงเจ้าครองแคว้นทั้งหลาย ***จะใช้เพื่อขจัดวิญญาณชั่วร้าย(รวมไปถึงเจ้ากรรมนายเวร)ที่เข้ามารบกวน ก็ได้แม้พกปกติก็เป็นเครื่องนำโชค,ทั้งทำให้อายุมั่นขวัญยืน,นำมาซึ่งชัยชนะในสงครามการแข่งขันนำมาซึ่งความร่ำรวยและโชคลาภ เมื่อทำการเขย่าให้กระพรวนเกิดเสียงดังจะช่วยปัดเป่า สิ่งชั่วร้ายและเสริมโชคลาภความมั่งคั่งมั่นคงให้กับผู้ที่มีไว้ติดตัวเสียงของกระพรวนจะช่วยไล่สิ่งไม่ดีได้,ติดบ้านเรือนป้องกันสิ่งไม่ดีทั้งหลายไม่ให้เข้ามาใกล้หรือแขวนไว้เรียกเงินเรียกทองก็ได้ ท่านว่าให้สั่นกระดิ่งหรือพรวนเพื่อเรียกลูกค้าเป็นเสน่ห์เมตตาแก่ผู้พบเห็นเป็นที่รักใคร่แก่ผู้ได้ยินเสียงแล้วแต่สารพัดจะอธิษฐาน


    พ่อเนื้อทองหรือพี่สุดหล่อท่านจะช่วยเพิ่มพูนเงินทองให้กับเจ้าของเนื่องจากคางคกสามขา สามารถคายเงินคายทองได้พ่ออาจารย์ท่านจึงใช้ตะกรุดแรงครูทักษิณาทานกำกับพญาคางคกช่วยให้การคายเงินคายทองออกมาทุกครั้งเมื่อมีเหรียญแรงครูอยู่กับคางคกสามขาจะช่วยดึงดูดความมั่งคั่งอย่างมหาศาลเข้ามาสู่ตัวคนใช้ได้ตลอดเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาคางคกของท่านไม่ได้เน้นให้เหนียวให้ไปตีกับใครแต่เน้นให้เป็นมงคลอย่างยิ่งและจะนำโชคดีมาให้ไม่ขาด ทั้งดีเรื่องเสี่ยงดวงเป็นอย่างมากช จะเอาไปทำมาค้าขายก็มีกำไรมีโชคมีลาภ,จะเอาไปเสี่ยงดวงดวงก็ขึ้นมีแต่ได้กับได้ อธิษฐานเอาเลยเรื่องเงินๆทองๆเรื่องโชคลาภมหาลาภนับว่าดีทีเดียวท่านลงให้ครบทั้งเมตตา,มหาลาภ,มหาเสน่ห์,กันแก้คุณไสย์มนต์ดำ,คลาดแคล้วป้องกันภัย เรื่องการเงินไม่เป็นสองรองใครให้การเงินราบรื่น,งานคล่องตัว ...อะไรที่ขอฟ้าไม่ได้ขอดินไม่เอ่ยขานให้มาขอกับพี่สุดหล่อเขานี่จำกันเอาไว้นะ พ่ออาจารย์ท่านว่าเสกไปก็ตามเก็บกันไปทีเสียงกระดิ่งนี่เกรียวกราวเหมือนกบกระโดด เขากระโดดพานกันทุกตัวเสกเสร็จก็ตามเก็บตัวไหนคึกหน่อยก็กระโดดไปไกล พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเชิญพ่อเนื้อทองมาสถิตย์ในร่างเขาทุกตัว คนที่ได้ไปมักจะได้ยินเสียงกบเสียงคางคกร้อง***ท่านว่ามีแต่เฮง(ถ้าสั่นกระดิ่งบ่อยๆนี่ยิ่งดีใหญ่เพราะกระดิ่งก็มีอานุภาพของเขา) ใช้เรียกทรัพย์ดีมากๆให้พกติดตัวจะใช้ทางไหนก็แล้วแต่ ใครไม่มีคู่พกเอาไว้ให้มีคนมารักมาทักมาสนใจเข้ามาหาเราจนรักเราแบบนี้ก็ได้ จะอธิษฐานด้านใดเป็นพิเศษก็ได้มีดีทุกด้าน แต่เรื่องทำมาหากินนี่เก่งนักเพราะเขาคายเงินคายทองมาเล่นได้ตลอดเวลา
    ### ชีวิตใครที่มีปัญหาหนักท่านให้เอากระดาษเขียนชื่อตัวเองแล้วเอาคางคกทับไว้ในจุดที่ฝังเหรียญครู ท่านว่าจะเอาเชือกมามัดมาพันชื่อเราติดกับตัวคางคกไว้เลยก็ได้ อธิษฐานบอกเขาว่าพี่สุดหล่อ ฉันเป็นเจ้านายของพี่นะเดือดร้อยอย่างงี้ๆ...จะให้พี่ช่วยอะไรก็ว่ากันไป(พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าลืมคำเรียกแทนตัวเขาว่าพี่สุดหล่อเท่านี้ก็แล้วกัน)

    ผู้บูชาควรตั้งใจบอกกล่าวเพื่อให้พี่สุดหล่อนำโชคลาภเงินทองมาให้กับตนเองทั้งแสดงความรักเหมือนเขาเป็นสัตว์เลี้ยงคู่กาย เช่นคอยลูบตามลำตัวตามอกตั้งแต่หลังจรดหางลูบเขาบ่อยๆลูบไปก็พูดไปบอกประมาณว่าเราเป็นเจ้าของให้ช่วยหาทรัพย์สินเงินทองมาให้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ดูแลเขาให้ดีอย่าให้เลอะเทอะหรือสกปรกได้(เลี่ยมกันไว้เลยจะดีที่สุดนี่เป็นเคล็ด"ท่านว่าถ้าตัวเขาสะดาดจะดวงก็ดี,จะโชคก็ดีทั้งโชคทั้งดวงของเรานี้ย่อมสว่างสดใสอยู่เสมอ") ขอท่านดีๆให้ท่านเข้ามาดูแลเรานำโชลาภเงินทองมาให้กับเรา อย่าลืมนำพาท่านติดตัวไปไหนมาไหนกับเราด้วยตลอดพ่ออาจารย์ท่านว่าพี่สุดหล่อเขาชอบเที่ยวไม่ชอบอยู่นิ่งๆถ้ามีเจ้านายเขาก็จะตามไปด้วยตลอดเวลาไปไหนเขาก็จะประทานโชคลาภให้เราตลอดระยะทางที่เราพาเขาไป ท่านว่าจะพกจะคาดเอวทำพวงกุญแจหรือใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ได้เพราะท่านทำให้เป็นเครื่องรางจะได้ใช้กันสะดวกขึ้น

    คาถาบูชา
    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าฉันทำสำเร็จแล้ว ไม่ต้องใช้คาถาใดๆนอกจากสื่อใจกันเท่านี้ก็พอ เขาอ่านจิตส่องใจเราอยู่เขารับรู้ได้ขอเพียงเราคิดถึงเขาว่าให้ช่วยอะไร


    *** พ่อเนื้อทองนี้เป็นยอดของบริวาร ท่านว่าถ้าตามเคล็ดที่ครูสฮัมบดีท่านแนะนำจริงๆว่าคนที่จะเอาไปแก้ดวงแก้คราสแก้เคราะห์หรือหนุนกิจการหนุนชีวิตตัวเองจริงๆจังๆแบบเป็นเรื่องเป็นราวนั้นจะต้องใช้เป็นคู่จึงจะมีอานุภาพสมบูรณ์ แต่หากจะใช้เพียงเป็นเครื่องรางเท่านั้นท่านว่าพกเป็นตัวเช่นนี้ก็ได้ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่าวิชาของพรหมทุกอย่างล้วนแต่ถูกลิขิตให้มีเจ้าของมีผู้ครอบครองอยู่แล้ว เราทำให้เต็มที่แล้วไม่กลัวเลยว่าคนใช้จะเอาไปใช้แล้วไม่ดี ท่านว่ามีแค่คนประเภทเดียวเท่านั้นที่ไม่ควรเอาไปใช้นั่นคือไม่ได้ศรัทธาและไม่ใช้จริงจัง รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พี่สุดหล่อจอมปาฏิหาริย์(พ่อเนื้อทอง) บูชา 2,500 บาท

    60814660-334426193933495-5620665061363154944-n.jpg 60642791-440951273387021-2917088615748075520-n.jpg
    60669234-336503576969311-1926005507533832192-n.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พลองประหารเทพ,ตีเทพ(ไพรีพิฆาต)

    "เทพมาตีเทพ มารมาตีมาร ใช้ตีกำราบสั่งสอนหรือกำจัดได้ทั้งสิ้น"
    เสด็จพระใหญ่ท่านให้แกะด้วยไม้กำจัดและจะทำให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพลองนี้เปรียบเสมือนตัวแทนการปราบปรามและสามารถใช้อธิษฐานขจัดอุปสรรคตต่างๆโดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวรที่กลั่นแกล้งเราตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ไม่อยู่ในทำนองคลองธรรม เพราะเจ้ากรรมนายเวรและจิตวิญญาณทั้งหลายจะเกรงกลัวพลองนี้นักดุจเห็นพลองประหารเทพนั่นทีเดียว(ด้วยเทพนั้นท่านว่าเป็นคำจำกัดความไว้เรียกรวมๆหมายถึงตัวตนที่มีฤทธิ์มากยากที่เราจะแตะต้อง ตัวตนเหล่านั้นเรียกรวมๆว่าเทพ ส่วนพลองตีเทพนั้นก็เป็นสิ่งที่เอาไว้ใช้ลงโทษเทพเหล่านั้นนั่นเอง)


    ด้วยพลองตีเทพนั้นเป็นศาสตราแห่งอำนาจและมีอำนาจบงการจิตใจสรรพสิ่งจึงถือเป็นอำนาจอย่างแท้จริงที่สุด เขาจะมีประสาทสัมผัสและจะคอยสังเกตดูผู้ที่พกพาเขาตลอดเวลา ถ้าคนใช้มีชีวิตที่ดียิ่งเป็นคนดีเขาก็จะอยู่เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจเคียงข้างกายจะดลบันดาลให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า แต่ถ้าคนใช้เลวทรามอย่างถึงที่สุดพ่ออาจารย์ท่านว่าพลองนี้เขาจะไม่อยู่ด้วยนานเดี๋ยวเดียวเขาก็จะหายไปเพราะคนๆนั้นชีวิตจะเสื่อมลงเรื่อยๆกลับกันในขณะที่สุจริตชนถือหรือนำไปใช้พ่ออาจารย์ท่านแย้มคร่าวๆว่าความฝันของเขาจะเป็นจริง พลองตีเทพนี้จะกลายเป็นพลองสมปรารถนาอยู่ส่งเสริมเขา

    นอกจากนั้นพลองยังใช้ข่มพลังร้ายทั้งหลายรอบตัวสะกดเอาไว้ไม่ให้กำเริบได้อีกด้วย ท่านว่าเวลาจะใช้ถนัดมือไหนก็ถือไว้มือนั้น...จะใช้ก็ต่อเมื่อเอาไว้ปราบอย่างรุนแรง ปราบทุกชนิดเพราะพลองนี้มีอานุภาพเน้นในเรื่องปราบอย่างรุนแรง,ปราบภูติผีปีศาจ###ปราบแม้กระทั่งเรื่องร้ายและเหตุการณ์ทั้งหลายที่ผ่านเข้าชีวิต และที่ดีกว่านั้นคือพลองตีเทพนอกจากใช้สะกดพลังร้ายรอบๆตัวแล้วยังเป็นเทพศาสตราที่พ่ออาจารย์ท่านว่าสร้างมาให้เป็นคู่ปรับกับพลังวัฏจักรโดยเฉพาะ นั่นคือพลังของวิถีดวงดาวต่างๆที่จะผันเปลี่ยนเส้นทางดวงชะตาคนให้ตกต่ำหรือเรียกสั้นๆว่าพลังดาวพิฆาตซึ่งดาวพวกนี้จะแผ่พลังคอยกัดกินคอยพิฆาตชีวิตคน...พลองตีเทพนั้นจะสะกดพลังงานดาวพิฆาตพลังงานที่สร้างเรื่องร้ายแรงเหล่านี้ให้สยบลงได้(รวมไปถึงเรื่องร้ายที่เกิดจากวิญญาณ...พ่ออาจารย์ท่านว่าเจ้ากรรมนายเวรเทวดาก็นับ)

    นอกจากนี้ยังใช้ไล่ผีได้ทุกสัญชาติ จะไม่พกติดตัวก็ได้เพราะเขามีชีวิตยกเว้นมีเหตุหรือทำพิธีปราบวิญญาณร้ายนี่ท่านว่าต้องใช้ รวมไปถึงสถานที่ใดที่เราไปข้องเกี่ยวที่มันมีอาถรรพ์มากๆอย่างทางสามแพ่ง,ช่องลม,สุสาน,โบสถ์,วัด,โรงพยาบาลหากได้ต้องอาถรรพ์หรือพักอาศัยหันหน้าชนกับสถานที่เหล่านี้ย่อมเป็นเรื่องร้ายมากกว่าดี แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าพลองตีเทพนั้นเอาอยู่เพราะท่านเคยลองให้คนที่บ้านอยู่ตรงข้ามร้านขายโรงศพเอาไปใช้ท่านว่าไม่ต้องไปติดสิงห์ติดคันฉ่องอะไรเลยมีแค่พลองตีเทพนี้หันหน้าต้านพลังร้ายเดี๋ยวนี้กลับเจริญกว่าเก่ารวยกว่าเมื่อก่อนแบบคาดไม่ถึง ***นอกจากนี้พลองตีเทพยังมีอำนาจลึกลับในการดึงดูดคนที่มีอำนาจสูงลงมาเป็นบริวารให้กับเราได้และยังทำให้เราเจริญก้าวหน้าในยศถาบรรดาศักดิ์และอำนาจวาสนาที่จะพุ่งทยานขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านจึงเสกและกำชับพ่ออาจารย์ท่านเสมอว่าให้เก็บเอาไว้ให้ดีเพราะพลองนี้มีจิตวิญญาณและมีเจ้าของทุกเล่ม ก็ขนาดว่าแม้ดวงดาวที่ส่งผลร้ายกับมนุษย์ก่อให้เกิดความเดือดร้อนก็ยังสะกดดาวร้ายเหล่านั้นได้ ทีนี้อย่างอื่นก็ย่อมสามารถสะกดได้ทุกเรื่องที่เป็นเรื่องร้ายเช่นกัน

    ท่านว่าพลองตีเทพนี้ใครใช้เป็นจะมีผลดีมากเพราะนอกจากเราใช้เองแล้วยังสามารถใช้อธิษฐานช่วยเหลือมนุษย์หรือแผ่อานุภาพไปถึงภพภูมิต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้อธิษฐานใช้คราวใดก็ทำได้เต็มกําลังทั้งรุนแรงและดุดันอย่างถึงที่สุด ใช้ได้ทั้งป้องกันและปราบปรามทุกสิ่งที่ไม่ดีรวมทั้งคุณไสยอวิชชาทุกชนิด เป็นการปราบด้วยธรรม,ปราบด้วยบารมีที่เสด็จพระใหญ่ท่านลงไว้ให้จึง เรียกว่าทั้งปราบและโปรดไปพร้อมๆกัน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพลองตีเทพนี้คนที่ใช้เป็นจะสามารถส่งจิตกำกับพลองออกไปได้ไกลมาก...แม้ตัวเราอยู่ตรงนี้จะกำหนดจิตไปที่ไหนก็ได้ท่านว่าตีได้ไกลถึงพรหมโลกทีเดียว ###ด้วยพลองนี้ท่านห้ามนำมากวัดแกว่งเล่นเด็ดขาด พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านกำชับไว้หนักหนาหากนำมากวัดแกว่งเมื่อใดโลกทิพย์รอบด้านจะสั่นสะเทือน พอเราแกว่งพลองเขาจะได้ยินเสียงดังเลื่อนลั่นเหมือนสายอสุนีบาตตกต้องโลกของเขา ท่านว่าเช่นนั้นจึงห้ามแกว่งเล่นหรือถือไปเล่นมั่วๆเพราะต่างภพต่างภูมิเขาจะเดือดร้อนกันได้ ให้เพียงอธิษฐานใช้ท่านว่าจะได้ใช้แต่อาราธนาแผ่กำลังฤทธิ์กวาดไปตามที่เราต้องการ

    พลองนี้ทรงพลังเป็นสัญลักษณ์ของผู้นำ,การปราบ,การอัญเชิญพลังสวรรค์ ###ท่านว่าพลองนี้เป็นเหตุแห่งความเจริญดึงคนให้ขึ้นมาเป็นผู้นำได้ ทั้งในการอธิษฐานจิต,สวดมนต์,ทำสมาธิ,หรือประกอบพิธีใดๆหากในมือเราถือพลองตีเทพไว้จะสามารถอัญเชิญพลังสวรรค์มาโปรดตัวเองได้ท่านจึงนับพลองนี้ว่าเป็นเทพศาสตราที่แรงมากปกติจะไม่เอาออกมาให้ใช้ ด้วยพลองนี้มีอำนาจมากแม้เอาไปใช้ทางทำมาหากินก็สามารถใช้เรียกคนให้มาชุมนุมได้ช่วยเรียกลูกค้าเข้ามาหาเราได้อย่างนี้ ด้วยเป็นสิ่งต้องห้ามไม่เหมาะที่จะเอาไปใช้เล่นๆเพราะสามารถใช้ทำอาถรรพ์ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าใครมีศัตรูนี่ให้เอาพลองวางบนโต๊ะหันด้านคมของพลองออกไปหน้าบ้าน(ในกรณีศัตรูอยู่บ้านตรงข้าม) หรือจะเอาข้าวสารใส่ชามแล้วเอาพลองปักไว้ให้ด้านคมชี้ขึ้นข้างบนจุดธูปปักไปดอกนึง ระหว่างปักธูปให้นึกถึงหน้าของคนที่เป็นศัตรูของเรารอจนกว่าธูปจะไหม้หมดจากนั้นจึงน้าข้าวสารไปโยนให้ไก่กินศัตรูเราจะพินาศสิ้น
    - ถ้าเราเป็นฝ่ายถูกทำร้ายแต่เรามีพลองตีเทพรักษาอยู่ พลองจะสั่นเตือนเราตลอดเวลามีเหตุการณ์ร้ายแรงให้เรารู้ตัวล่วงหน้า
    - หากมีคนปล่อยของทำร้ายหรือมีคนรังแกเราท่านว่าพลองจะสั่น เราจะรู้สึกเหมือนโดนไฟดูดบางทีก็เหมือนสมองได้ยินเสียงฟ้าร้องคำรามทั้งๆที่บรรยากาศปกติ ท่านว่านั่นแหละสิ่งที่เขาทำร้ายเราต่างๆนั้นพลองเขาจะสนองให้ย้อนกลับไปหาคนทำ
    - เเม้มีคนสาปแช่งเรา พลองย่อมสนองกลับคำสาปนั้นให้ไปหาคนทำพร้อมทั้งคุ้มครองรักษาผู้เป็นเจ้าของไว้
    - ถ้าเป็นเราเองที่ตั้งใจจะทำร้ายคนอื่น ท่านว่าตอนทำนั้นหากพลองตีเทพสั่นให้หยุดทำเสีย เพราะฝ่ายนั้นเขามีบารมีมากพอที่จะต่อต้านได้ แล้วฮู้เทพพิทักษ์เราสั่น แปลว่าฝ่ายตรงข้ามมีของกัน ให้เลิกท้าโดยการถอน ธูปออก
    - พลองนี้สามารถใช้ป้องกันและแก้คุณไสยได้จะช่วยป้องกันให้บ้าน,จะช่วยป้องกันตัวคน,จะช่วยให้วิถีแห่งดวงดาวที่สร้างเหตุการณ์เรื่องร้ายไม่ส่งผลหาเรา
    - ใครที่โดนรังแกแต่ทำอะไรเขาไม่ได้เพราะอีกฝ่ายมีของแก้ มีครู,มีเทวดารักษาคุ้มครองท่านว่านี่แหละให้เงื้อพลองขึ้นแล้วนึกเอาว่าเราใช้พลองทุบหัวเขา ยิ่งเขาทำเรารังแกเรามากเท่าไหร่ตัวเองก็จะโดนกลับไปเท่านั้น ทั้งครูและเทวดาอีกฝ่ายหนึ่งนั้นก็ไม่สามารถจะพิทักษ์รักษาได้
    - ถ้าเราเป็นคนดีอยู่ในศีลในธรรมพลองจะชอบใจดั่งได้อยู่กับกัลยาณมิตร เขาจะช่วยเราเรื่องงานให้เจริญขึ้น อันนี้ก้ขึ้นอยุ๋กัยว่าเราทำมาหากินอะไร เขาจะเรียกให้คนมาอุดหนุนส่งเสริมไม่ขาดสาย


    *** พลองตีเทพนั้นเป็นของมีชีวิตสื่อตรงกับใจคนถือ ท่านว่าคาถาไม่ต้องใช้เพราะเป็นของสำเร็จอธิษฐานเอาได้เลย ขอให้ทำตัวดีๆแล้วชีวิตจะดีมาก,จะได้ดี,จะพุ่งแรงอย่างไร้สิ่งฉุดดึง ท่านว่าพลองนี้ทำยากเพราะเป็นงานแกะมือขนาดเล็กแบบนี้แถมพ่ออาจารย์ท่านต้องแกะเองทุกชิ้นแล้วก็เสกเองชนิดแกะไปเสกไปก่อนนจะเชิญเสด็จพระใหญ่มาทำให้ งานแกะแบบนี้ยิ่งเล็กก็ยิ่งทำยากและทำได้น้อยเพราะท่านไม่ได้จ้างใครเขามาแกะให้ท่านทำของท่านเองได้แค่ไหนเอาแค่นั้นต้องทำเองทุกขั้นตอน...ดังนั้นของจึงมีน้อยมากๆถ้าอยากได้กันก็จะออกให้บูชาเท่าที่มีซึ่งก็มีเท่าที่เห็น ใครมีวาสนาก็มาเอาของตัวเองไปใช้เพราะเขาเป็นของที่รอเจ้าของ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ### ถ้าใครจะวางอาถรรพ์ในบ้านหรือจะแก้ไขสยบพลังดึงดูดความเจริญ ให้ปักพลองไว้ในข้าวสารวางไว้ทั้งสี่มุมของบ้านหรือสถานที่อยู่ของเรา ท่านว่าที่แห่งนั้นจะเป็นอาณาเขตของเรา เราอยู่ก็จะเจริญรุ่งเรืองเทพผีใครมาไม่ดีนี่เขาเข้าไม่ได้ทั้งสิ้น

    ร่วมทำบุญบูชา พลองประหารเทพ,ตีเทพ(ไพรีพิฆาต) บูชา 900 บาท


    61132169-2374452499508314-9132590386861047808-n.jpg 60788776-2205468286430028-4399255518628020224-n.jpg
    60895626-389563064978345-5256746104346640384-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2019
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดตัวครูดัชนีปฐมภูมิดับย่อยวัฏจักร(คลายปมคลี่พันธนาการตัดการจองจำ)

    *** ในมหาวัฏนั้นย่อมมีวัฏจักรย่อยประกอบรวมกันอยู่มากมาย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าในห้วงเวลาหนึ่งที่พวกเราลงมาเกิดกันนี้ มันเป็นเพียงเวลาสั้นๆของเทพ,พรหมเท่านั้น อย่างที่เราทราบกันดีว่าในภพที่เราอยู่นั้นจะมีภพภูมิทั้งหลายซ้อนทับกันและหมุนวนวัฏจักรดำเนินท่วงทำนองของการเกิด,ดับไปด้วยกัน หากแต่ต่างกันที่ข้อกำหนดของเวลาเท่านั้น ด้วยเราท่องเที่ยวไปในอาการที่เป็นวัฏฏะ คือหมุนวนอยู่ในการเวียนว่ายตายเกิดหมุนวนอยู่เช่นนั้นตราบเท่าที่ยังตัดกิเลส,กรรม,วิบากไม่ได้ ดังนั้นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนก็ดำเนินอยู่บนพื้นฐานของเวลาที่ไหลไปในวัฏจักรเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์หรือกิจกรรมใดๆก็ดีทั้งที่เราอยากให้เกิดหรือไม่อยากให้เกิดก็ดี,ที่เราพอใจหรือไม่พอใจก็ดี,จะเป็นสุขหรือเป็นทุกข์,เป็นสิ่งที่เราต้องการปรารถนาหรือไม่ เมื่อมีการเริ่มต้นก็ต้องมีจุดจบในตัวเองและในบางทีกระแสเวลาอาจจะดึงหมุนเข้าไปสู่จุดเริ่มต้นนั้นอีก พ่ออาจารย์ท่านเรียกเหตุการณ์เหล่านี้ว่าวัฏจักรย่อยที่จะกระตุ้นเร่งเร้าให้มหาวัฏจักรใหญ่เกิดการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะช้าจะเร็วก็ตาม

    เช่นนั้นชีวิตเล็กๆของเราย่อมตกอยู่ในวงจรที่ซับซ้อนเหล่านั้น เวลาเธอมีทุกข์หรือเหตุการณ์ไม่พึงใจไม่พึงปรารถนาเรื่องเหล่านั้นมันก็ยังเกิดซ้ำๆวนเวียนไปไม่รู้จบบางคนเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ยังเกิดขึ้นอีกทำให้การใช้ชีวิตนั้นยากเย็นเต็มทีจะพิจารณาสิ่งใดหนอก็เจอแต่เรื่องลำบากใจ จะแก้ไขสิ่งใดก็อึดอัดเต็มทน ###แล้วจะทำอย่างไรล่ะจึงจะสามารถตัดวงจรแห่งสังสารวัฏได้แม้จะเป็นการตัดช่องน้อยแต่พอตัว พอให้รอดให้ได้ลืมตาได้หายใจกันบ้างก็ยังดี

    ครานี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำตะกรุดพิเศษที่ทำไว้ออกมา ท่านว่าวิชานี้ใช้เพื่อเปิดวงจรย่อยให้กับตัวเอง ให้เราได้มีโอกาสกำหนดและลิขิตวัฏจักรที่เราจะเดินและเปลี่ยนมันด้วยตัวเองเพราะปกตินั้นมหาวัฏย่อมผูกพันธ์และโดนจองจำภายใต้เงื่อนไขพันธะของเวลา ซ้ำยังประกอบด้วยภพภูมิต่างๆอันจะมาซ้อนทับเหลื่อมล้ำกันมากมายทำให้ปัจจัยของเวลานั้นใหญ่และทรงพลังมากขึ้นไปอีกเพราะความแตกต่างของระบบเวลาในวัฏจักรย่อยต่างๆนั้นไม่ได้เสมอกันเลย เรื่องเลวร้ายต่างๆเมื่อเกิดขึ้นมันจึงดำเนินไปตามระยะเวลาของมันตั้งแต่ต้นจนจบจะเห็นว่าเราเป็นเพียงผู้อยู่ในเงื่อนไขของกาลเวลา ไม่สามารถเอาตัวรอดหรือตัดผ่านวงจรที่เกิดขึ้นออกมาได้ ทีนี้ตามหลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญาที่ประกอบด้วยโลกุตตรมรรคเก้าย่อมสามารถตัดวงจรของสังสารวัฏได้ส่วนความสัมพันธ์และการตัดวงจรสังสารวัฏตามหลักอริยสัจสี่คือทุกข์,สมุทัย,นิโรธ และมรรคนั้นต้องดูที่กรรม เพราะมีกิเลสเป็นสาเหตุของการเกิดกรรมและกรรมเป็นสาเหตุให้เกิดวิบากวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏจนกว่าจะบรรลุพระนิพพานอันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต

    ด้วยการบรรลุนั้นย่อมไม่ง่ายเลยหากบารมียังไม่ถึงพร้อม ชนทั้งหลายก็จะขวนขวายในกิจและหน้าที่ดำเนินชีวิตบนภาระของตนในแต่ละวันให้ผ่านไปอย่างดีที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาโดยทั่วไปจึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมหาวัฏจักรได้นอกจากจะทำด้วยวิปัสสนาญาณหรือ..เสด็จพระใหญ่ท่านใช้อำนาจแห่งโลกุตตรเพื่อตัดวงจรสังสารวัฏอันจะมีผลสืบทอดไปถึงกรรมวิบากที่เราวนเวียนประสบอยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าตัดวงจรสังสารวัฏปุ๊ปไอ้ตัวกรรมวิบากที่เราเจออยู่นี้มันก็หยุดทันทีเลยนะไม่ได้ไหลไปตามกระแสเวลาของมันอีก มันจะดับ,จะหยุดและตัวเราจะได้ประโยชน์นั่นก็คือการพ้นทุกข์ แม้ไม่ใช้พ้นจากกองกิเลสบรรลุมหานฤพานแต่ก็ยังเป็นการออกจากทุกข์และเริ่มวัฏจักรย่อยที่เราเป็นผู้สร้างผู้ดำเนินด้วยตัวเราเองได้ จะได้เริ่มได้ทำให้มันดีที่สุดดั่งที่เราตั้งใจคิด ตั้งใจจะกระทำนั่นเอง สูตรที่นำไปสู่การหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงและสามารถตัดวงจรแห่งสังสารวัฏคือกิเลส,กรรม,วิบากได้นั้นจึงเป็นเรื่องที่คนทั่วไปทำไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเสด็จพระใหญ่ท่านไม่เมตตาจริงๆอันนี้ยังนับว่ายาก แม้องค์พระทั้งหลายท่านก็ยังละวางเอาไว้ด้วยเรื่องแห่งสังสารวัฏในมหาวัฏจักรนั้นย่อมไม่ใช่กิจธุระของท่าน

    อันปกติในโลกมนุษย์นี้ส่วนมากผู้ที่มาเกิดก็จำแนกออกได้ด้วยสองหลักใหญ่ๆนั่นก็คือ ผุดขึ้นมาหรือเกิดลงมา แม้ค่าของความเป็นคนจะมีอยู่เท่ากันแต่อย่าลืมวิสัยอันเป็นของติดตัวหรือของเก่าของตนเอง คนที่ผุดขึ้นมานั้นย่อมแน่นอนว่าเคยก่อกรรมทำเข็ญมามากไม่ได้คำนึงถึงบุญบาปใช้ชีวิตผูกติดอยู่แต่กับอกุศล พอถึงกาลกิริยาย่อมหนีไม่พ้นอบายภูมิทั้งสี่ นี่ตรงนี้พอกรรมหมดกำลังบุญก็จะเห็นจะส่งผลจึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง แต่บาปกรรมที่ติดตัวอยู่ก็ตามมาติดๆให้เกิดมาแล้วต้องได้รับทุกข์สาหัสทั้งหลาย บางคนเกิดมาพิการเกิดมาไม่สมประกอบหรือมีร่างกายอัปลักษณ์ ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นผลติดตามตัวเองทั้งสิ้นในขณะที่บางคนเกิดมาแล้วเจอแต่ความสุขอันปราณีตนั่นก็เพราะบุญเก่าเขาตามสนอง ตามปรุงแต่งให้ชีวิตเขาดำเนินไปอย่างปรกติสุข ให้สังเกตุได้เลยว่าเวลาเรามีทุกข์หรือมีปัญหานั้นไม่ใช่เพียงตัวเราคนเดียวเสียเมื่อไหร่ที่ต้องเผชิญกับปัญหา หากแต่คนรอบข้างก็ยังโดนไปด้วยจะเป็นในแง่ของภาระหรือร่วมกันแก้ก็ดี นั่นก็เพราะทุกคนมีวงจรกรรมที่ผูกมาร่วมกันตั้งแต่ในระดับตัวตนจนโตไปถึงในระดับประเทศนั่นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านอยากเห็นชีวิตคนโดยรวมนั้นมีสุขแบบปรกติ ไม่ต้องจมกองทุกข์หรือหาทางออกให้พ้นจากบ่วงกรรมวิบากไม่ได้ ด้วยศิษย์ทั้งหลายนั้นที่เป็นคนดีและตั้งใจทำความดีจริงๆก็มีอยู่หากแต่ชีวิตของเขาไม่ได้ดีเพราะไม่มีของเก่าหนุนส่ง ทำให้ไม่มีกำลังใจที่จะประกอบกรรมดีกันต่อไป พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขอเมตตาเสด็จพระใหญ่ให้ท่านช่วย ท่านก็ให้พ่ออาจารย์ลงตะกรุดวัฏจักรย่อยนี่เสียซักครั้งเพื่อเปิดโอกาส,เปิดวงจรกาลเวลาและวัฏจักรสำหรับคนใช้จะได้คลายปมคลี่พันธนาการตัดการจองจำของตัวเอง

    เพื่อจะเริ่มสร้างชีวิตที่ดีให้เกิดสุขอันปราณีตให้ชนนั้นได้เสวยสมบัติอันประเสริฐสุดท่านว่าตะกรุดนี้มีอานุภาพมากดุจว่านั่นทีเดียว เสด็จพระใหญ่ท่านว่าตะกรุดวัฏจักรย่อยนี้จะดำเนินลีลาแห่งภพให้ชีวิตเราสูงขึ้นดุจพระเจ้าจักรพรรดิที่เสวยสมบัติไม่บกพร่องหรือดุจองค์อมรินทร์จอมสวรรค์ที่มีทิพยสมบัติอันรุ่งเรืองเหนือทวยเทพทั้งหลายทีความสุขความสำราญดั่งรูปพรหมเช่นนั้น แต่ทว่าให้พึงจดจำกันให้ดีว่าสรรพสิ่งใดๆก็ตามเมื่อรุ่งเจริญไปแล้วย่อมไม่ตั้งอยู่เช่นนั้นถาวรณ์ ที่จะเที่ยงแท้ยั่งยืนเรื่อยไปตลอดกาลนั้นเป็นไม่มี สิ่งที่จะดีที่สุดเที่ยงแท้ที่สุดนั่นก็คือตนพึ่งตน ตะกรุดนี้เป็นเพียงตะกรุดที่จะเปิดทาง เปิดช่องช่วงชิงโอกาสและความสุขสบายมาให้เรา เมื่อได้โอกาสนั้นตัวเราเองก็ต้องประกอบกรรมดีหมั่นสร้างกุศลด้วยไม่ใช่ใช้ชีวิตเละเทะเหลวไหลอย่างนี้ไม่ต้องเอาไปใช้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อจะได้เกิดประโยชน์ใหญ่แก่ตนได้อาศัยสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกเป็นเครื่องอาศัยเป็นเครื่องมือสำหรับสร้างบารมี เช่นนั้นคนใช้ตะกรุดนี้จึงถือคติที่ว่าสมบัติทั้งหลายนั้นเป็นของกลาง,ของโลก เป็นเพียงเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสร้างบุญกุศลได้สะดวกสบายมากขึ้นเช่นนั้น ท่านว่าไอ้ความสะดวกสบายนี้อย่าไปยึดติดมันเป็นแก่นสารทีเดียวให้จำไว้ว่าเรามีภาระที่ต้องพึ่งตัวเองอยู่ เราต้องแสวงหาสิ่งที่เป็นสาระของชีวิตเข้ามาพอกพูนขัดเกลาสติปัญญาของตัวเองอยู่เรื่อยๆ

    เพราะการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารเป็นสิ่งที่น่ากลัวเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้แน่นอนและไม่ปลอดภัยเลย ทุกชีวิตต้องท่องเที่ยวไปเกิดในสุคติบ้าง,ทุคติบ้างตามกรรมที่เผลอกระทำกันแต่งแต้มเข้าไปจะทุกข์ก็ดีจะสุขก็ดีสลับกันไปอยู่เช่นนี้ ดังนั้นการที่เสด็จพระใหญ่ท่านจะช่วยให้พ้นจากภัยในวัฏสงสาร จะดับย่อยวัฏจักรเพื่อตัดการจองจำให้กับเรานั้นตัวเราเองก็อย่าลืมจุดหมายที่แท้จริงในการเกิดเป็นมนุษย์ด้วย ว่าเรามีหน้าที่อย่างไรจะต้องไปให้ถึงฝั่งพระนิพพานอันเป็นเอกันตบรมสุขได้อย่างไร จะสะสมบารมีให้เต็มได้อย่างไรสิ่งเหล่านี้ล้วนต้องทำด้วยตัวเองทั้งสิ้น อย่าได้ประมาทในการสั่งสมบุญบารมี ทั้งทาน ศีล ภาวนานั้นก็อย่าละเลย เพราะที่ไปของสรรพสัตว์ทั้งหลายย่อมมีคติไม่แน่นอน บ้างก็ไปนรก บ้างก็กำเนิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน บ้างก็เกิดในเปรตวิสัยคือคติของพวกเปรตและอสุรกาย บ้างก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ และคติที่สูงไปกว่านั้นคือเหล่าเทวดาซึ่งหมายรวมเอาทั้งที่เป็นพรหมและอรูปพรหม ที่ไปของสัตว์ที่ยังอยู่ในวัฏฏะมีเพียงเท่านี้ไม่ยิ่งไปกว่านี้ท่านจึงปรารถนาจะให้มีที่ไปที่ดีและสมบูรณ์ไม่ต้องพัวพันจองจำอยู่ในทุกขเวทนานับชาติไม้ถ้วน

    นี่คือโอกาส ...พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเราไม่ทำไว้แล้วใครจะทำ เพราะสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนวนอยู่ในสังสารวัฏนี้ดุจเหมือนถูกขังอยู่ในคุกขนาดใหญ่ ท่านอุปมาว่าเป็นเหมือนเชลยศึกที่ถูกจองจำ เป็นประดุจโคงานที่เขาเทียมไว้หรือเป็นดุจวัวที่ผูกหลักเอาไว้ เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงเป็นเครื่องดับย่อยวัฏจักรและตัดการจองจำทั้งหลายที่พันธนาการจิตวิญญาณของเขาอยู่เพื่อเปิดให้เขาได้ลืมตาอ้าปากได้สร้างวัฏจักของตนเองอันเปรียบตัวเขาในโลกนั้นเป็นดั่งพระจักรพรรดิ,ดั่งองค์อมรินทร์ที่บริบูรณ์ด้วยความสุขเช่นนั้น ท่านว่านี่จึงเป็นโอกาสเป็นทางให้ได้สร้างบารมีกันสืบไป หากใครจะกินจะใช้แต่เพียงเท่านี้ชาตินี้ก็ช่างเขา เพราะภพชาติหนึ่งของมนุษย์นี้ก็เปรียบเสมือนการหลับของเทวดาเสียตื่นนึงพอตื่นมาก็เริ่มต้นกันใหม่ ถ้าเขาฉวยโอกาสพอได้ดีมีกำลังทรัพย์มากรู้จักทำบุญกับพระศาสนาหมั่นอบรมจิตใจบ่มเพาะปัญญาตนเองเขาก็จะมีคติมีที่ไปที่ดีขึ้นสูงขึ้นนับชาติไม่รู้จบ แต่ถ้าเขาได้โอกาสแล้วเขายังหลงระเริงเช่นนั้นก็ย่อมไม่มีโอกาสใดๆอีก ท่านว่าช่วยกันได้แค่นี้ ทุกอย่างในสังสารวัฏนั้นใช่ว่าจะประคองไปมอบให้ถึงมือกันได้

    ตะกรุดนี้ท่านว่าสร้างยากมากอย่างแท้จริง เสด็จพระใหญ่ท่านให้สงวนวิธีทำเอาไว้ทุกอย่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่พระยันต์ด้านในก็ไม่มีภาษาใดๆที่มนุษย์ยุคไหนจะเข้าใจได้แล้วเพราะเป็นอักขระวิธีปฐมแรกเริ่มของพ่อพระพุทธท่านโดยเฉพาะ ทั้งเวลาทำท่านก็ต้องนำตะกรุดมาวัดเทียบกับนิ้วชี้(ดัชนีของท่านเอง) เป็นคติว่าจะได้ชี้สั่งคนอื่นได้ตลอดเวลา ทั้งยังมีขั้นตอนที่ปราณีตอย่างการแช่น้ำว่าน คลุกผงยันต์ เข้ามวลสารศักดิ์สิทธิ์ อาบว่านยา ท่านว่าทุกอย่างทำได้ยากมากในสิ่งที่เสด็จพระใหญ่ท่านสั่งให้หาแต่ละอย่าง ยังดีที่เราพอมีเก็บไว้อยู่บ้างจึงทำได้ ถ้าสั่งให้หาเดี๋ยวนี้และทำเดี๋ยวนี้เอาว่าถอดใจได้เลย ว่านแต่ละอย่างยาแต่ละตัวนั้นล้วนแต่ครูในโลกทิพย์ท่านเอาออกมาให้ทั้งสิ้นต้องเก็บมาทั้งชีวิตเท่านั้น

    ตะกรุดนี้สำคัญมากเพราะท่านทำเทียบกับดัชนี ท่านว่าแม้ตอนเสกเสด็จพระใหญ่ท่านก็นำตะกรุดแต่ละดอกเทียบกับดัชนีของพระองค์ท่านทีละดอกทั้งนั้น เช่นนั้นตะกรุดนี้นอกจากมีคุณวิเศษดังกล่าวข้างต้นแล้วยังใช้ชี้ธรรม,ชี้ทางสว่างได้อีกด้วย ตะกรุดนี้เป็นสัญลักษณ์บอกถึงการสิ้นสุดของการเดินทาง,บอกถึงจุดหมาย,ถึงความสำเร็จ ในวงจรของเวลานั้นท่านว่าเมื่อแรกเริ่มจะเหนื่อยต่อเมื่อสิ้นสุดเท่านั้นจึงจะพอหายใจได้สบายกันบ้าง เช่นกันตะกรุดนี้ก็เปรียบดั่งจุดสิ้นสุดคือจุดที่เราสบายที่สุดนั่นเอง ด้วยเสด็จพระใหญ่ท่านเทียบตะกรุดกับดัชนีให้ทีละดอก เช่นนั้นจึงใช้ชี้ได้สารพัด ท่านว่าถ้าใช้ชี้ให้พรตัวเองก็จะให้ทรัพย์ได้เร็วกว่าทุกสิ่ง ชี้ให้สำเร็จก็สำเร็จทุกประการ ชี้เพื่อขอพรใดๆก็ให้พรได้ทันใจทันคิด ชี้ไปที่ไหนที่นั่นจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง(จริงๆแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านทำให้ด้วยประสงค์จะชี้ให้พ้นทุกข์,พ้นความขัดข้อง) แต่เราคนใช้จะเอาไปอธิษฐานใช้อะไรมันก็อีกเรื่องหนึ่งเพราะว่าไอ้ตัวทุกข์นั้นมันก็ครอบคลุมวิบากกรรมทุกอย่างอยู่แล้ว เรียกว่ามีผลสืบทอดกันไปเป็นช่วงๆจะกล่าวว่านี่เอาไปชี้ทีก็ลดวิบากกรรมไปได้อย่างหนึ่งนั้นก็ได้ ะชี้ให้รวย,ชี้ให้เลื่อนตำแหน่ง,ชี้ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ,ชี้ให้หายจากโรคเวรโรคกรรมก็ได้ ท่านว่ามีอานุภาพดุจเสด็จพระใหญ่ท่านชี้ท่านให้พรประสิทธิ์กับเราด้วยตัวท่านเอง

    อันคำว่า"พร"นี้ เมื่อให้แล้วจะถอนไม่ได้มันเป็นบาปเพราะเทพ,พรหมและองค์พระนั้นท่านจะถือคติว่าเมื่อเขียนด้วยมือแล้วจะลบด้วยเท้าไม่ได้ ดั่งพ่อแม่ที่ให้พรลูกให้มีความเจริญรุ่งเรือง แล้วพอโมโหจะถอนพรก็จะถอนไม่ได้ด้วยจะเป็นบาปอย่างร้ายแรง เช่นนั้นทั้งองค์พระ,เทพ,พรหมทั้งหลายก็ดีเมื่อให้พรแก่ผู้ใดแล้วก็ย่อมประสิทธิอยู่เช่นนั้นจะถอดจะถอนไม่ได้เลย ดั่งตะกรุดนี้ท่านท่านทำไว้เพื่อให้ผู้ใช้ได้ชี้ตัวเอง ได้ให้พรตัวเอง ท่านว่าคิดเอา ปรารถนาเอาแต่สิ่งที่ดีที่เป็นสิริมงคลกับตัวเองอย่าไปขออะไรอันน่ารังเกียจ จะมีผลดุจเสด็จพระใหญ่ท่านให้พรกระทำอนุโมทนาให้เราด้วยตัวท่านเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าหมั่นชี้หมั่นให้พรแก่ตัวเองไปเรื่อยๆติดอะไรเจออะไรคับข้องใจก้ชี้เข้าไป ชี้ตัวเองก็ให้พรตัวเอง ชี้งาน ชี้กิจการก็เปิดทางเปิดอุปสรรคชี้ทางสว่างให้แก่ชีวิตตัวเองอยู่เช่นนั้น ท่านว่าชี้ได้เรื่อยไปทั้งตะกรุดยังจะดับย่อยวัฏจักรทำให้เราเป็นคนใหม่ในแบบคนเก่าที่มีชีวิตสุขได้มากขึ้นและสบายได้มากกว่าใคร ดุจเราอยู่ในโลกในวัฏจักรอันมีเราเป็นใหญ่แต่ผู้เดียวเช่นนั้น

    นอกจากนี้ด้วยอานุภาพของดัชนีนั้นยังถือเป็นมหาปราบชั้นสูง เหนือเทพ พรหม ยมยักษ์ทั้งปวง เพียงอาราธนาติดตัวไปศัตรูหมู่มารทั้งหลายก็พ่ายแพ้แก่บารมี จะมีชัยยะ,มีเดช,มีศรี,มีตบะเดชะ และเป็นมหาอำนาจแก่ผู้พบเห็น ถ้าถึงคราวจำเป็นเจอหมู่มารรุกรานก็ให้อธิษฐานตะกรุดเป็นดั่งนิ้วเพชรที่ชี้ไปต้องหมู่มารใดๆย่อมพินาศสูญสิ้น ท่านว่าอย่าชี้ไปเรื่อยเพราะเพียงพกไว้ก็เจริญก้าวหน้ามากพอดูอยู่แล้ว ทั้งจะปราบศัตรู,ปราบอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าให้กับเรา,ทั้งจะสะกดสิ่งไม่ดี,สะกดเหตุเสื่อมทั้งปวง

    คาถาบูชา
    พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ยกตะกรุดไหว้เหนือหัวนึกถึงเสด็จพระใหญ่เ้พียงเท่านั้นก็ขลังกว่าว่าคาถาพันบท เพราะเสด็จพระใหญ่ท่านกำกับผู้ใช้เอาไว้ว่าเวลาใช้ "ให้นึกถึงเรา"

    ### ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าลงยากและทำยากที่สุด ยิ่งต้องเข้าผง เข้ามวลสาร เข้าว่านยา อาบน้ำว่านกว่าจะสำเร็จแต่ละสูตรนั้นไม่ง่ายเลย ต้องใจเย็นๆรอจนแห้งแล้วค่อยๆทำทีละขั้น ท่านจึงทำได้ทั้งหมดหกดอกเท่านั้นและท่านใช้อาราธนาไว้จี้หรือชี้ให้พรตัวเองเป็นตะกรุดประจำตัวของท่านดอกหนึ่ง จึงมีให้บูชาเพียงห้าดอก ท่านว่าแต่ก่อนเราตั้งราคาไว้นับแสน เพราะไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ได้อีกเมื่อไหร่ ไม่รู้ครูท่านจะยอมทำให้อีกชาติไหน แต่ปัจจุบันนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านกระตุ้นให้เอาออกไปให้คนที่เขาตกอยู่ในสภาวะการณ์อันเป็นทุกข์ตรงกับอิทธิคุณตะกรุดนี้ได้ใช้ ท่านว่าดุจรอเวลาสุกงอมจนได้ที่แล้วมีเจ้าของครบแล้วท่านจึงให้เอาออกเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เอาออกมาในราคาปกติ(พูดได้เลยว่าถ้าไม่ถึงเวลามีเงินก็ยังเอายากจริงๆ) ตะกรุดนี้ให้บูชาเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างเมรุเผาศพที่ชำรุดตามวัดทุรกันดารสืบต่อไป
    61298006-2357390854336520-2148184397684146176-n.jpg
    60871327-288786288672947-1367080389440438272-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...