ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันเวทย์บรมพุทโธมนต์ขับเสนียด(พระเจ้าให้เกิดใหม่ , แก้บาป)
    ...นับแต่โบราณกาลสืบมา พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพิธีกรรมต่างๆมากมายที่ครูบาอาจารย์มักจะประกอบพิธีช่วยเหลือลูกศิษย์ สงเคราะห์ให้เป็นการส่วนบุคคล ซึ่งพิธีกรรมทั้งหลายนั้นที่เห็นจะไม่ค่อยมีใครทำให้กันเลย ทั้งเหตุด้วยว่าขัดหลักศาสนา ขัดหลักกฎแห่งกรรมแลเมื่อบุคคลอันได้ประกอบพิธีนั้นเมื่อได้ดีมักมีใจหลงระเริงอยู่มาก นั่นคือการชุบตัว การล้างบาป แก้บาป ให้ผู้ทำนั้นได้เกิดใหม่ ดุจมีชีวิตใหม่โดยมิต้องรอให้ล้มหายตายจากไปก่อน

    ซึ่งการทำพิธีล้างบาป แก้บาป ชุบตัวนี้พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าพระเจ้าให้เกิดใหม่ และท่านมักจะไม่ทำให้กับใครเพราะรายไหนรายนั้นเกิดใหม่ได้แล้วลืมตัว ลืมคุณครูบาอาจารย์ ลืมพระศาสนากันแทบทุกราย วิชาเหล่านี้จึงจำกัดไว้ทำให้เฉพาะบุคคลที่พิจารณาว่าสมควรจริงๆเท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าชนทั้งหลายนั้นล้วนมีบาปหนักเป็นตัวคอยถ่วงดุล ถ้าวันใดกรรมดีนั้นไม่ปรากฏ เคราะห์กรรมก็จะให้ผล คนบางจำพวกนี่ทำอย่างไรก็ไม่มีลาภผล ทำมาหากินไม่ขึ้น ขาดความรัก ไปไม่ถึงความสำเร็จ ด้วยเวรภัยเคราะห์กรรมประการต่างๆในเบื้องอดีตชาติตามส่งผลอยู่

    นอกจากนี้แม้ในภพปัจจุบันก็ยังมีเวรกรรมที่ได้ก่อและสั่งสมมาเรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้เมื่อแสดงอำนาจของกฏแห่งกรรมเค้าจะส่งผลระยะยาวไม่ใช่ผ่านวันพ้นคืนก็จะสูญสิ้น างคนพิจารณาดวงชะตาว่าพระเคราะห์ถอยถด ดวงจะดีเป็นประการต่างๆแต่ก็กลับไม่ดี ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น มีแต่ปัญหารุมเร้าทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน

    ...การมีชีวิตอยู่อย่างตายทั้งเป็นนั้น ไม่มีใครเข้าใจหรือรู้สึกได้ว่าเป็นอย่างไรนอกจากคนที่เคยผ่านห้วงเวลาเหล่านั้นมาด้วยตัวเอง ด้วยว่าการที่มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสที่เรียกว่าอยู่ก็ไม่สู้ตายนั้นย่อมเป็นชนวนและผลเหตุให้คนทั้งหลายหลงผิด ออกนอกลู่ทางอันดีงาม


    ปัจจัยเหล่านี้เป็นเหตุให้โบราณจารท่านคิดวิธีขับเสนียด พิธีล้างบาป แก้ไขบาปเพื่อเปิดช่องทางให้ผลบุญหนุนส่ง เปิดโอกาสให้ชีวิตได้ขึ้นมาจากหล่ม ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าการเกิดใหม่นั่นเอง


    การเกิดใหม่นี้สำคัญอย่างไร ทำไมต้องประกอบพิธีเหล่านี้ ชีวิตบัดซบ ดวงไม่เปิด เทวดาไม่ให้โอกาส ชะตาเล่นตลก ท่านว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอุปทานของคนที่ผ่านอะไรมามาก ชีวิตจมอยู่กับความทุกข์อันสาหัส ดังนั้นการเกิดใหม่ในหนนี้ก็คือสภาวะการเปลี่ยนแปลงจากจุดที่แย่ที่สุด ต่ำที่สุด กลับฟื้นคืนมาอยู่ในจุดที่ดีที่สุด


    แต่การจะแก้ไขชะตามนุษย์ทุกผู้โดยยืมมือท่านแต่เพียงคนเดียวเช่นนั้นก็ไม่สมควร พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวท่านเองจะโดนเพ่งเล็งจากกฏแห่งกรรมและผู้คุ้มกันสภาวะธรรมชาติทั้งเจ็ดมากจนเกินไป ดังนั้นท่านจึงทำวิชาพระเจ้าให้เกิดใหม่ - แก้ไขบาป ลงในน้ำมันเวทย์เพื่อผลที่จะได้เสมอกัน ทั้งยังเป็นอุปเท่ห์ที่มากกว่า นั่นคือสามารถทำได้ด้วยตนเอง ใช้ได้เองไปตลอดชีวิต ไม่มีใครห้ามหรือจะขัดขวางได้ ท่านว่าที่เราทำนี้ก็เพื่อให้คนใช้ได้ช่วยตัวของตัวเอง หากไม่เชื่อก็อย่าเอาไป ถ้าคนที่ทุกข์เขายังมองไม่เห็นความทุกข์ ไม่อยากพ้นทุกข์ ไม่ช่วยตัวของตัวเองแล้ว ชีวิตนี้ก็เหมือนนั่งรอความตายอยู่ร่ำไป "ตนเตือนตนของตนให้พ้นผิด ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน ตนแชเชือนใครจะช่วยให้ป่วยการ"


    พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันเวทย์นี้ก็เป็นเหมือนเครื่องมือที่ให้ไว้เพื่อช่วยตนเองเอาดีให้ได้ เป็นน้ำมันสำเร็จที่ผู้ใช้เพียงเหลือหัวเชื้อไว้ก็สามารถขยายใช้ได้เองมีอานุภาพดุจเดิมใช้ได้ตลอดชีวิตไม่ต่างกันเพราะเป็นของทิพย์ โดยการทำน้ำมันนี้ท่านว่ายากนักหนา มวลสารการทำน้ำมันต่างๆท่านไม่ให้เปิดเผยออกไป ท่านว่าเอาไปใช้เหมือนการทำพิธีให้เฉพาะตนเช่นนั้นไม่ต่างกันเลย


    โดยน้ำมันนี้แยกออกเป็นสองส่วน

    - หนึ่งคือน้ำมันเวทย์บรมพุทโธมนต์ขับเสนียด(พระเจ้าให้เกิดใหม่ , แก้บาป) ในส่วนของน้ำมันนี้เป็นวิชาเฉพาะทางที่ใช้บารมีพระเจ้าแปดหมื่นสี่พันอาราธนาลงในน้ำมันนั้นเพื่อเรียกเข้าตัว โสรจสรงองคาพยพชุบมนต์ ชุบตัว อาบพระพุทธรัศมีของพระเจ้านับหมื่นที่ทรงอุบัติข้ามชาติภพมากมายหลายมหากัปดุจว่าได้ตายแล้วเกิดใหม่ บราณจารย์ตีค่าไว้ดุจพ้นบาปกรรม แม้กำลังจะร่วงหล่นไปในขุมมหานรกก็ยังมิอาจตกลงไปได้เลยทีเดียว
    - สองคือตะกรุดแก้วสารพัดนึกเร่งรวยสูตรแช่น้ำมัน อันนี้พ่ออาจารย์ท่านทำใส่ไว้ให้ในน้ำมันเป็นกรณีพิเศษ ท่านว่าเราก็ไม่รู้ว่าคนใช้วันไหนจะขัดสนอะไร จะต้องการให้พ่อแม่ครูอาจารย์สงเคราะห์ด้านไหน ปัญหาอะไร ท่านจึงใส่ตะกรุดนี้ไว้เพื่อให้ผู้ใช้สามารถอาราธนาได้ทุกช่อง ใช้ได้ทุกเรื่อง คลี่คลายได้ทุกปัญหานอกจากบ่วงแห่งเวรกรรมดุจเป็นดวงแก้วสารพัดนึกที่คิดหรือหมายปองสิ่งใดก็เป็นไปตามนั้น ทั้งตะกรุดนี้ยังมีอานุภาพใหญ่ในด้านโชคลาภ เร่งความรวย ผันผวนชะตาให้ดีดขึ้นเป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตมนุษย์นี้มีใครบ้างที่กลัวได้ดี มีใครบ้างที่ไม่ทะเยอทะยาน เมื่อถึงคอขวดไปต่อไม่ได้พบจุดตีบตันก็อยากดีดตัวเองขึ้นอยากทะลุคอขวดข้ามให้พ้นไปทั้งนั้น ตะกรุดนี้ก็มีพุทธคุณเช่นนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเอาตะกรุดที่ทำง่ายแต่เสกยากเหลือใจ เพราะกว่าจะทำให้เป็นผลสำเร็จได้ต้องเจรจาและขอเอาชีวิต ให้เขาละเว้นพร้อมคนใช้เพื่อจะเดินขึ้นไปในจุดที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับผู้ควบคุมสภาวะกรรมและธรรมชาติทั้งเจ็ดซึ่งไม่ง่ายเลย แต่ละท่านนั้นใจเหล็กอย่างยิ่ง ท่านว่าไอ้ตรงนี้เราก็พูดมากไม่ได้เพราะเบื้องบนเค้าไม่ยอมให้บอกกล่าวอะไรกันมาก เอาเป็นแค่รู้ว่าหน้าที่นี้เป็นหน้าที่หมุนเวียน ในยุคหนึ่งๆเทพเจ้าเขาจะเลือกพวกเขาขึ้นมารับผิดชอบและเผอิญยุคนี้ก็มีถึงเจ็ดท่าน ท่านว่าบอกได้เท่านี้และจะไม่พูดมากไปกว่านี้ หากจะทำของเปลี่ยนชีวิตให้คนใช้ได้เกิดใหม่ ชุบตัว ล้างบาป แก้ไขชะตากรรม ก็ต้องล่วงอำนาจของทั้งเจ็ดท่านนี้เท่านั้น หากไม่พ้นย่อมแก้ไขสิ่งใดไม่ได้เลย


    เมื่อเอาตะกรุดนี้ใส่ไปในน้ำมันแล้ว น้ำมันก็จะมีแหล่งพลังงานที่ขยายตัวมากขึ้น ใช้ได้มากช่องตามแต่จะอธิษฐาน พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันนี้ปรุงเสร็จกลิ่นก็จะหืนๆหน่อยเพราะใส่ว่านยาบรรดามีตามสูตรเยอะมาก หากแต่ท่านได้นำน้ำมันจันทร์มาเทลงเพื่อดับกลิ่นเพียงเล็กน้อย ผสมลงไปให้น้ำมันนั้นมีกลิ่นหอมสดชื่นน่าใช้น่าทาเหมือนน้ำหอมชนิดหนึ่ง


    โดยตัวท่านนั้นรับปากเทพทั้งเจ็ดไว้ว่าจะทำวิชา ทำน้ำมันครั้งนี้เพียงหนเดียววาระเดียวเท่านั้น ท่านว่าต่อไปน้ำมันนี้ก็จะเป็นน้ำมันหัวเชื้อที่เอาไว้ล้างชะตาแก้ไขวิบากกรรมของมนุษย์ เมื่อบรรจุขวดได้ทั้งหมดเจ็ดขวดแล้วท่านก็นำน้ำมันที่เหลือไปฝังดินไว้ฝากไว้กับแม่พระธรณีโดยตั้งสัจจะอธิษฐานว่าให้ตายตกไปก็จะไม่ขุดขึ้นมาอีก


    ซึ่งน้ำมันทิพย์ทั้งเจ็ดขวดนี้ก็จะเปิดให้บูชาเพียงห้าขวดเท่านั้น ด้วยพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจเก็บไว้เองสองขวดหนึ่งเพื่อสงเคราะห์สัตว์โลก สองเพื่อพลีเทวดา ท่านว่าน้ำมันนี้มีเจ้าของทุกขวด ไม่ใช่เจ้าของเขาก็จะไม่สนใจ ครอบครองไม่ได้เป็นเช่นนั้นอย่างน่าประหลาด


    * การใช้น้ำมันนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าให้หมั่นใช้ ไม่ต้องไปกลัวว่ามันจะหมดเพราะน้ำมันนี้คนใช้สามารถขยายเองได้ ไปหาซื้อน้ำมันแก้ว น้ำมันจันทร์มาเติมเอาเวลาหมด หรือจะน้ำหอมกลิ่นที่ตนชอบก็ได้ไม่ว่ากัน ใช้ได้เรื่อยๆ ยิ่งคนป่วยหนักๆด้วยโรคเวรโรคกรรมต้องยิ่งหมั่นใช้ เพราะเคราะห์กรรมมันสะสมมานาน ชะตามันติดขัดก็ต้องทาบ่อยๆ สำหรับคนที่เวรกรรมเบาบางทาครั้งหรือสองครั้งท่านว่านี่ก็เห็นผลแล้ว เอาว่าเห็นผลเสมอกันยิ่งทาบ่อยยิ่งมีแต่จะดียิ่งขึ้นไป ให้เชื่อมั่นแล้วทุกสิ่งจะเปลี่ยนไปในจุดที่สูงที่ดีขึ้นทันให้ตาเห็นอย่างแน่นอน


    วิธีใช้ คาถาบูชาและการอาราธนา


    - นะน้ำมะอะอุ มะดินอะอุนะ อะไฟอุนะมะ อุลมนะมะอะ อัตตะมะนะ ชุมนุมพระเจ้าแปดหมื่นสี่พันเพื่อคุณพระ อาราธนาน้ำมันเวทย์บรมพุทโธ ให้จิตจับน้ำมันจนเห็นรัศมีองค์พระจะยิ่งมีผลหนักมาก

    - หุสะละพัสสะ ยันตัง สันตัง เอตัง สตึง เรียกน้ำมันเข้าตัวอยู่ได้เจ็ดวัน(ท่านว่าทาครั้งเดียวติดตัวไปเจ็ดวันแต่จะทาบ่อยๆก็ได้ไม่ว่ากัน มนต์นั้นจะติดตัวไปแม้เกิดชาติภพใดก็หาความลำบากไม่ได้)

    - นะโมพุทธายะกุสลาธัมมา อะกุสลาธัมมา ทุกขังอนิจจัง ทุกขังอรหังสุคโตภควาติ อธิษฐานเจิมหน้าผาก เมื่อใดก็ตามที่บุญน้อยถอยถดทุกข์ยากลำบากขัดสน ท่านว่าภาวนามนต์เจิมเคราะห์กรรมจะคลายให้กุศลกรรมเข้ามาช่วยบรรเทาดุจว่าได้เห็นบุญ อยู่กับบุญมากนักหนา กาลแห่งทุกข์จะผ่านพ้นไป

    - ยันโนกริตตัง คุคิคะเมตัง นานาเมตัง สาละภูมิตังเมสังเส อธิษฐานเจิมหน้า หายบาป หมดเคราะห์กรรมดุจได้เกิดใหม่ เปลี่ยนชีวิตพลิกกลับชะตาฟ้าดิน

    - มะอะอุ อุอะมะ อุมะอะ อะมะอุ อุอะมะ มะอุมะอะ อุสีวัง อัฏฐะจักกัง อธิษฐานเจิมแก้สารพัดทุกข์ ทุกข์ทั้งหลายมิได้ต้องตัวเลย ทั้งยังเป็นเสน่ห์เมตตา

    - มะโทรังอะตะระโร เวสะวันโนนะหากะปิ ปิสาคะตาวาโหมิ มหายักขะเทพะอนุตะรัง เทพะดา เทพะเอรักขังยังยังอิติ เวสะวะนันภูตัง มหาลักชามะนังมะภูอารักขะ นะพุทธิมะมัตตะนัง กาลปะติทิสา สัพเพยักขาปะลายัตตะนิ ผสมน้ำมันกับน้ำสะอาด ประพรมร่างกายหรือสถานที่ทั้งหลายไม่ว่าจะบ้านเรือน ร้านค้า ห้างร้านบริษัท เทือกสวนไร่นา ถอนอาถรรพ์ร้าย ลางร้าย และปราบวิญญาณร้ายทั้งปวง

    - ภะคะวะโต ภะตังโทโส ภัตตะโมโห อิติภควา อธิษฐานเจิมเข้าหาผู้ใหญ่หรือผู้สูงวัยย่อมดี เข้าหาเจ้านาย เข้าหาผู้มีอำนาจเหนือตนเขาเอ็นดูนัก ทั้งยังระงับอารมณ์โทสะให้เหือดหายดุจว่าไม่เคยโกรธกัน

    - ปะทุมะยะถา โภกะนุทังสุคันธัง ปาโตสิยา ผุลละมะวิคะตะคันธัง อังคิระสังปัสสะ วิโรจะมานัง คัปปันตะมาทิจจะ วันตะลิกเขติ เจิมใส่น้ำ นำน้ำนั้นไปดื่มกิน ล้างหน้า มีปัญญมาก สมบูรณ์ด้วยสติ สัมปชัญญะ มิพลั้งพลาดในการกระทำอันเป็นเหตุแห่งความเสสื่อม

    - อิเมสังเทวานังอานุภาเวนะ อินตานะอานุภาเวนะ พุทธาธัมมาสังฆาอานุภาเวนะ ชัยยะมังคะลัง อิเมเสถะสวาหะ เจิมฝ่ามือสองข้างก่อนพนมมือกราบไหว้อธิษฐานขอพรเทวดา เอามือเสยผมรับพรเทวดาเข้าตัว

    - สีวลีจะมหาเถโร พรหมาอินโทจะเทวตา สัพพะราชา สัพพะอิตถียา สัพพะนะมามิหัง สีวลีมหาเถโร เถรัสสามะหะเตโน อสุระโหชะโรทินนัง มหาลาภังเม ภวันตุ เจิมมือแลหน้าตาแสวงหาลาภสักการะมิรู้หมด มีกินมีใช้ไม่รู้สิ้น

    - เถโรปาปิเมสัพพะ นิองคะมัจจัปคะนิ ปัสสามิกิ มังคะปะนะเกสักกะ สะสะริรัง นิกขะมะละหุปาปิมาติอาหะ นำน้ำมันผสมน้ำกินและทาตัว ถ้าต้องคุณ ต้องการกระทำด้วยเดรัจฉานวิชาย่อมออกสิ้น

    น้ำมันเวทย์บรมพุทโธมนต์ขับเสนียด(พระเจ้าให้เกิดใหม่ , แก้บาป)นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสำคัญมาก สารพัดจะใช้ได้ทุกช่องขอให้เชื่อมั่นเถิด ท่านทำไว้เจ็ดขวดแต่ออกให้บูชาได้ห้าขวดเท่านั้น * ผู้ใช้เมื่อชีวิตดีขึ้นให้หมั่นทำบุญต่อวาสนา ระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์และพระศาสนา นึกถึงคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายมีเสด็จพระใหญ่เป็นที่สุด


    * รับสั่งจองเฉพาะทาง PM สำหรับผู้จองให้แจ้งชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดไว้ด้วย พ่ออจารย์ท่านจะอธิษฐานจิตปิดวิบากกรรมให้เฉพาะตน รายได้ร่วมบูรณะพระเจดีย์และพระวิหารวัดในถิ่นทุรกันดารที่ขาดแคลนจตุปัจจัยในการพัฒนา


    ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันเวทย์บรมพุทโธมนต์ขับเสนียด(พระเจ้าให้เกิดใหม่ , แก้บาป)บูชา 4,000 บาท


    30121081_2173003449652731_503503057_n.jpg 30180092_2173003446319398_1792208552_n.jpg
    30007724_2173004286319314_328483147_n.jpg
    Screen_Shot_2014-03-20_at_11.13.43.png
    images.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2020
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ซุ้มกอยอยศพระเจ้าก่อเกิด,ผงจตุภาคี,พญาอินทร์ล้านช่อง(ภูติกินฝัน)

    พญาอินทร์ล้านช่อง ใช้ได้ล้านเรื่อง เป็นเครื่องมงคลที่ครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านสรรเสริญนัก แต่ก็สร้างให้สำเร็จได้ยากด้วยว่าต้องตามหาไม้สักที่ชื่อพ้องกับพระอินทร์คือท้าวสักกะที่มีลักษณะตรงตามตำรา อันอุบัติขึ้นในเขตแดนของผู้มีชาติตระกูลสูง และทุกอย่างต้องทำให้สำเร็จภายในวันเดียว ......จำเนียรกาลผ่านไปพ่ออาจารย์ท่านก็ได้พบต้นสักนี้ซึ่งมีลักษณะยืนต้นตายพราย สัณฐานภายในนั้นกลวงโล่งโปร่งตลอดอันเป็นลักษณะของไม้โปร่งฟ้า แลต้องอสนีบาตซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนยอดไหม้แต่ก็หาได้ทำอันตรายอันใดให้เกิดกับไม้นี้ได้เลย.....รวมไปถึงพรรณคุณต่างๆต้องกับตำรา พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาตามตำราทั้งบริเวณที่ขึ้น ตลอดจนต้นไม้โดยรอบที่ฟ้าผ่าไฟไหม้ราบไปหมด จึงได้ทราบจากเจ้าของที่ดินว่าคนที่มาตัดล้วนแต่มีอันเป็นไปทั้งสิ้น ท่านจึงพลีกรรมบวงสรวงบูชาเทพารักษ์ ทั้งยังบอกกล่าวปู่พระอินทร์ เพื่อขอไม้สำคัญนี้มาสร้างมงคลวัตถุ


    ….โดยพ่ออาจารย์ท่านเน้นสร้างให้ตรงตามตำราทุกอย่าง ท่านว่าถือเอาฤกษ์ปีใหม่ไทยซึ่งเป็นพิธีเถลิงศกใหม่ของคนไทย จะได้เป็นเคล็ดเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ จัดพิธีพลีกรรม ตัดไม้ รวมถึงแกะสลัก ทุกอย่างต้องทำให้เสร็จภายในวันเดียวเฉพาะเวลาพระอาทิตย์ตรงหัว อยู่ในจุดสูงที่สุด รุ่งเรืองและร้อนแรงที่สุด พ้นไปจากนั้นถือว่าใช้ไม่ได้ ดังนั้นองค์พระจึงแกะได้อย่างศิลป์ทั่วไป ขาดความสวยงามและประณีตอยู่บ้างตามกำหนดเวลาที่มีเพียงเล็กน้อยเพราะถือเคล็ดพระเจ้าทันใจ ทำอะไรใช้อะไรจะได้สำเร็จทันใจไม่ทันข้ามวัน

    อันพญาอินทร์ล้านช่องนี้ท่านได้จำหลักเป็นรูปต้นปาริชาตหรือกัลปพฤกษ์อันเป็นต้นไม้วิเศษ ด้วยเป็นสมบัติสำคัญของพระอินทร์และดาวดึงส์เทวะโลก ที่สามารถบันดาลได้ทุกสิ่งบรรดามีทั้งนั้นตามความฝันและความปรารถนาคาดหวังของผู้มีบุญได้พบเจอ ทั้งยังฟื้นความทรงจำย้อนภูมิหลังทุกภพชาติในอดีตกาลให้ปรากฏขึ้นได้ ซึ่งต้นไม้วิเศษนี้ล้วนเป็นที่ปรารถนาของมวลอสูรกายที่จะนำไปปลูกในอสูรพิภพด้วยเชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงภพภูมิให้สวยงามและมีความเป็นทิพย์เสมอด้วยดาวดึงส์สวรรค์ เพื่อการครอบครองนั้นย่อมก่อให้เกิดมหาสงครามนับครั้งไม่ถ้วน พ่ออาจารย์ท่านได้จำหลักต้นปาริชาติโดยมีพญาอินทร์หรือท้าวสักกะประทับอยู่บนแท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ถัดไปมีแม่ย่าสุชาดาประทับถวายงานด้านล่าง ท่านว่าพญาอินทร์ล้านช่องนี้แม้ผู้ใช้มีศรัทธาอาราธนาเดือดร้อนเมื่อใด หรือจะประสงค์อยากบอกกล่าวขอความช่วยเหลือพระอินทร์ผู้เป็นเจ้าสวรรค์คราใดแท่นนี้ก็จะร้อนดุจเพลิงกาฬผลาญเผา ใครเดือดร้อนไม่ต้องรอบุญทำกรรมแต่งพระอินทร์รู้ท่านต้องรีบช่วยก่อนเพื่อคลายความร้อนจากแท่นบัณฑุกัมพลเช่นนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าอันพญาอินทร์ล้านช่องนั้น ก็ใช้ได้ล้านเรื่อง *เรื่องสารพัดบรรดามีทั้งหลายนับล้าน ล้าน ถ้วนทุกประการทั้งแสนจิตล้านใจบนบอกขอพรได้ไร้ข้อห้าม มีมนต์ปลุกเป็นการทำวิชาเช่นของเฉพาะกาลภายในท่านเป่าอักขระมนต์คาถานับหมื่นแสน เชิญพระเวทย์และพระธรรมตลอดจนเชิญเจ้าปู่ แม่ย่าให้นำสมบัติสวรรค์มาเป็นหลักชัยแก่ผู้บูชา ท่านว่าเจ้าปู่แม่ย่าได้ปกาศิตบอกไว้ชัดแจ้ง ว่าคุณแห่งปาริชาตสวรรค์ปรากฏขึ้นแล้วแก่ตาโลก ผู้ใดได้ไว้ เสมือนมีบุญพบต้นปาริชาตนั้นทีเดียว บอกได้เท่านี้ ก็แม้แต่เทวดาผู้มีเดชอันใหญ่ มีกำลังมาก สามารถเนรมิตสิ่งต่างๆบรรดามีได้ดังใจนึกยังต้องการปาริชาตสวรรค์ นั่นก็เพราะเทวดานั้นจะเนรมิตสิ่งใดก็ได้เพียงตามกำลังบุญวาสนาของตนนั้น หาได้เสมอด้วยปาริชาตสวรรค์ที่มีกำลังมากเกินบุญของเทพยุดาถ้วนทุกตัวตน....

    เมื่อท่านสร้างพญาอินทร์ล้านช่องสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านก็นำมาฝังไว้ด้านหลังซุ้มกอยอยศพระเจ้าก่อเกิดทันที ด้วยว่าการทำครั้งนี้ต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้าอย่างยาวนาน เริ่มจากนำแผ่นยันต์ที่จารมนต์พระเจ้าก่อเกิดพร้อมด้วยกายสิทธิ์ธาตุต่างๆ มาปลุกเสกด้วยวิชาพระเจ้าก่อเกิดสรรพสิ่ง ก่อนจะเทเป็นพระซุ้มกอที่ท่านแกะพิมพ์องค์พระแก้วปลุกเสกรอไว้ ท่านว่าที่ท่านเลือกพระซุ้มกอนี้เพราะเป็นพระที่ฤาษีสร้าง สำเร็จด้วยเทพพรหมร่วมใจกันจึงมีฤทธิ์ถึงขนาดว่ามีกูไว้ไม่อับจน แม้กาลภายหลังผู้ใดจะพึงสร้างก็ไม่ปรากฏอิทธิคุณเสมอกัน พ่ออาจารย์ท่านมนต์ปลุกเสกพร้อมเชิญเทพพรหมให้หาสรรพยากายสิทธ์ต่างๆมาร่วมหล่อร่วมเทไปพร้อมกัน ท่านเสกเก็บไว้ด้วยมนต์พระเจ้าก่อเกิดจนมั่นใจ ท่านว่าซุ้มกอที่เราทำนี้ก็เพื่อให้ใช้กันแทนของเก่า คนที่ใช้จะรู้ว่าคำว่ามีกูไว้ไม่อับจนเป็นอย่างไร ซ้ำพระสำคัญนี้ยังสำเร็จด้วยมนต์พระเจ้าก่อเกิด เป็นมหากำเนิด เป็นกำลังแห่งการให้กำเนิด พลังแห่งการเริ่มต้น ความสำเร็จ ซ้ำยังขับเคลื่อนศักยภาพพลังงานชีวิตอย่างแท้จริง


    ทั้งนี้ท่านได้นำผงสำเร็จ อันหมายถึงผงที่ท่านทำและอัญเชิญมาไว้เพื่อรอการผสม อันจะได้อุดและฝังหลังพระซุ้มกอนี้มาเนิ่นนานแล้ว ซึ่งผงวิเศษทั้งสี่ชนิดนั้นประกอบไปด้วย


    - ผงงอกเงยเศรษฐีจับช้าง ผงวิเศษนี้เป็นผงตระกูลเศรษฐีที่พ่ออาจารย์ท่านลบถมเอง โดยเมื่อจะทำต้องใช้ชิ้นส่วนสำคัญของครูช้างครูปะกำนำมาประกอบพิธี ทั้งหนังช้าง งาช้าง งวงช้าง หูช้าง... หางช้าง โดยแต่ละส่วนนั้นล้วนมีคุณอยู่ในตัวของมันเอง ท่านนำมาทำวิชาก่อนที่จะเผาตำเอาผงลงวิชาเศรษฐีจับช้าง ท่านว่าวิชานี้ดีอย่างไรทำไมถึงชื่อแปลกๆ ผงวิชาเศรษฐีจับช้างนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มากกำลัง มากบารมี ผงเศรษฐีจับช้างนี้ก็อาศัยกำลังของช้างสำคัญให้เป็นเศรษฐีแบบไม่นึกฝัน ท่านว่าคนที่ถูกเมินเฉย ชีวิตจับแต่งานเล็ก คิดการณ์ใหญ่ ทำสิ่งที่ต้องเติบโตและพัฒนาขึ้นไม่เคยประสบความสำเร็จ ตัวนี้ต้องใช้ผงนี้แก้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเคยทำให้พวกทำธุรกิจลองใช้กันหลายคน ที่บอกว่ามีแต่งานเล็กๆโครงการที่ไม่ค่อยจะได้กำไรกัน รายไหนรายนั้นกลายเป็นได้จับงานใหญ่โตทั้งสิ้น ท่านว่าผงนี้เหมาะสำหรับคนอยากมีพัฒนาการ ต้องการความสำคัญ อยากรับผิดชอบงานใหญ่จะได้รวยและมั่งมีแบบใหญ่โต ซ้ำวิชาเศรษฐีจับช้างนี้ยังสยบการแข่งขัน ปราบปรามคู่แข่ง กำราบปัจจามิตรคิดร้ายให้มีอันเป็นไปได้อีกด้วย

    - ผงสุริยะมณฑลทรงรถ ผงสำคัญนี้ท่านพบในถ้ำที่พม่าเป็นผงสำคัญคู่กับผงจันทร์ทรงกลด พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ทำไว้โดยฤาษียุคโบราณ เราสอบถามดูได้ความว่าเป็นองค์เดียวกันกับที่คิดประดิษฐ์ยันต์สุริยประภา จันทรประภาให้ใช้กันสืบมานั่นทีเดียว อันผงสุริยะมณฑลทรงรถนั้นท่านว่าเป็นของประเสริฐเลิศเสียกว่าทรัพย์สินจินดามณีใดๆในโลก หาค่ามิได้ หาสิ่งใดเทียบเทียมได้ยาก ถึงขนาดว่าแม้แก้วมณีโชติ สมบัติบรมจักรพรรดิ หรือสมบัติพระอินทร์สิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไม่อาจเสมอเหมือนได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้จะดีด้านหนุนดวง ซ้ำยังทำให้บุคคลทั่วไปผ่อนคลายอารมณ์ไม่มักโกรธถือโทษเรา ทั้งคนเคารพยำเกรง มีอายุยืนโสตสัมผัสแจ่มใสมิหลงเลือน ทั้งระงับโรคาอาการเจ็บไข้โทษภัยร้ายแรงทุกประการ แม้นได้พบอาราธนากล่าวสืบมาว่าย่อมไม่รู้จักที่จะตกทุกข์ได้ยากนั่นทีเดียว มีค่าดุจได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กระทำสักการะให้ดี

    - ผงจันทร์ทรงกลด เป็นผงสำคัญคู่กับสุริยะมณฑล แต่ผงนี้จะเน้นหนักทางโชคลาภถึงขนาดที่ว่าแม้ไม่มีจะกินเทวดายังเอาอาหารมาให้ และผิว่าถิ่นที่อาศัยของเรารอบบริเวณมีสินทรัพย์สมบัติใดย่อมได้ตกเป็นกรรมสิทธิแก่เราทั้งสิ้น หรือแม้นจะปรารถนาแก้วแหวนเงินทองหรือวัตถุอะไรก็ตาม ให้จัดเครื่องบูชาแก่ผงนี้ดุจบูชาพระสัมมาสมพุทธเจ้า ท่านว่าบำเพ็ญไปเถิดปรารถนาอันใดต้องได้ดั่งใจทุกประการท่านว่าผงนี้สำคัญมากแม้นคนหนียังได้กลับคืน คนรักเอาใจออกห่างยังกลับมาสนใจ เป็นเสน่ห์เมตตาติดกันไม่แยกจาก ดั่งชะตาเปิดรับวาสนาดุจน้ำขึ้นทรัพย์เต็มท้องน้ำ ให้รีบตักรีบโกย ท่านว่าอุปมาไว้แก่ผู้ที่ได้ผงนี้ไปบูชาดุจชีวิตน้ำขึ้นอยู่เช่นนี้เรื่อยไปไม่ลดลงเสื่อมถอยเลย ท่านว่าผงทั้งสองนี้เป็นผงสำเร็จของฤาษีแต่โบราณ หากจะทำพระซุ้มกอให้แรงและมีฤทธิ์เสมอหรือเกินกว่านั้นสิ่งอื่นย่อมมิอาจแทนกันได้ ผงนี้จึงเหมาะแก่การสร้างพระซุ้มกอที่สุด พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้ผงสองชนิดนี้เป็นปัจจัยหลักในการสร้างพระผสมมวลสารนั่นเอง

    - ผงฤาษีสัมฤทธิ์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าหลวงพ่อฤาษีท่านยื่นใส่มือมาให้ บอกแค่ว่าชื่อผงฤาษีสัมฤทธิ์ ให้เก็บไว้รอคนมีบุญเอาไปใช้ ท่านว่าท่านไม่ได้ถามอะไรมากเพราะถือคำพระอริยะเจ้านั้นเป็นวาจาศักดิ์สิทธิ์ ที่ว่าสัมฤทธิ์แปลว่ามันดีไปหมด เกิดผลทุกอย่าง สัมฤทธิ์ผลไปหมดทุกอย่าง และผงนี้เป็นผงแต่โบราณที่สร้างโดยฤาษีเช่นกันท่านจึงเรียกว่าฤาษีสัมฤทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเก็บมานานจนทำพระซุ้มกอนี้ ก็เพื่อจะให้คนมีบุญแต่กรรมบังทั้งหลายได้เอาไปอาราธนาใช้ดู ให้ชีวิตเขาสัมฤทธิ์ เป็นประสิทธิ์เกิดมรรคเกิดผลตามแนวทางของอาชีพและวิถีชีวิตที่คาดหวัง ท่านจึงนำมาผสมพร้อมผงทั้งหลาย

    ผงทั้งสี่นี้เป็นผงสำเร็จไม่มีสิ่งอื่นใดเจือปน พ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกว่าผงจตุภาคี แม้นใครมีก็มีชีวิตในวิถีที่เหนือกว่าผู้อื่นดุจเหยียบย่ำฟ้าดินไม่ตกยากอับจน เป็นของที่ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน ท่านว่าเราไม่ได้กล่าววาจาท้าทายฟ้าดิน แต่ของบางอย่างที่มีค่าถึงขนาดที่สมบัติพระอินทร์ แก้วมณีโชติ หรือสมบัติพระเจ้าจักรพรรดิยังต่ำชั้นจนไม่กล้าเปรียบ ของเช่นนี้ไม่ใช่ของธรรมดา ถ้าไม่ใช่เพื่อสร้างพระให้ตรงสายวิชา เฉพาะผงของฤาษีทั้งสามชนิดนี้ ไม่รวมเศรษฐีจับช้างให้เสนอมาช้อนละแสนหรือมากเท่าให้ท่านก็ไม่ให้ใครหรือแม้แต่จะนำออกมา เมื่อท่านสร้างพระซุ้มกอนั้นท่านได้ใช้เคล็ดสำเร็จทันใจนำผงวิเศษจตุภาคีทั้งสี่ล้วนๆมาเข้ากับตัวประสานผสมนวดให้เข้ากัน ก่อนนำมาฝังอุดด้วยพระอินทร์ล้านช่องและตะกรุดสำคัญที่ท่านเรียกว่าลูกอมภูติกินฝัน


    ตะกรุดลูกอม(ภูติกินฝัน)

    ท่านว่าสิ่งนี้ทำไว้ให้เพื่อจะได้ใช้กันตามแต่ใจคิด ตะกรุดลูกอมภูติฝันนั้นคือวิชามหาภูติที่กินความฝันเรา แม้ฝันสิ่งใดก็ย่อมเป็นจริงตามนั้น คิดสิ่งใดก็จะเกิดสิ่งนั้น วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณมาก ซ้ำยังมีโทษมหันต์ ให้ใช้ให้ระลึกแต่สิ่งที่ดีเป็นประโยชน์แก่ตนเองเท่านั้นหากมีความคิดในทางเสื่อมลามกอนาจารให้อาราธนาออกจากคอไปก่อน จะเรียกว่าวิชานี้ทำความฝัน ความตั้งมั่น ตั้งใจของหลายๆคนให้เกิดขึ้นและเป็นจริงก็ได้ ซ้ำยังช่วยเพิ่มลางสังหรณ์โดยภูติฝันมักจะแจ้งเตือนเหตุการณ์ดีร้ายต่างๆล่วงหน้า ท่านว่าคนใช้มักจะฝันเห็นเหตุที่จะเกิดขึ้นจริงกับตัวเองในอนาคตอันใกล้ นั่นคือเขามาบอกมาเตือนจะได้ระวังและเตรียมรับมือได้ถูกช่องทาง ตะกรุดภูติฝันนี้จึงเป็นวิชาสำคัญมาก ท่านว่าก็มันโกงเขาทั้งหมด ที่ไม่ให้ใส่เวลาความคิดไม่เข้าท่านั้นเพราะจะได้ไม่ติดกรรม ท่านเมตตาฝังไว้ในพระซุ้มกอนี้เพื่อทำวิชาให้สำเร็จสมดั่งใจสารพัดนึก

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระซุ้มกอนี้ไว้ทั้งหมดแปดองค์ จะสังเกตได้ว่าเมื่อท่านสร้างพระพิมพ์ที่เป็นพระพิมพ์สำคัญนั้นคนจะตื่นตัวกันมาก เพราะของสิ่งนั้นย่อมใช้แทนกันได้เสมือนของเก่า กอปรกับถ้าไม่ประจวบเหมาะด้วยกาลและวาระตลอดจนมีมวลสารอันเลิศล้ำตำราจริงๆท่านจะไม่ทำ ซึ่งในวาระนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้เวลาเตรียมการมานานอย่างมาก แต่พอสำเร็จก็หายเหนื่อยทีเดียว


    นั่นเพราะท่านปู่ – ท่านย่า คือองค์พระอินทร์กับแม่ย่าสุชาดา ท่านรับว่าใครที่ได้ไปบูชาอาราธนา ให้หมั่นสวดคาถาที่ท่านประทานให้ไว้อาราธนากำกับองค์พระนั้น ให้สวดอยู่เนืองๆ มีอะไรให้บอกกล่าวแก่ท่านทั้งสองโดยตรง ท่านจะรับเป็นธุระ จะช่วยเหลือบุคคลทั้งหลายนั้นให้เป็นลำดับแรก พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้เป็นความเมตตาของครูบาอาจารย์ ของท่านปู่ – ท่านย่าอย่างถึงที่สุด


    คาถาบูชา

    โอมเชยยะสัมปัตติ มหาเชยยะสัมปัตติ เชยยันติ โอมทุเร ทุเร อะนิอะเทวะระเวนาเถกัปปัณเณ กุลละปุตตัสสะ อินทะเทวินโท กรุณามะยิ อาหะภันเต อินทะกัปปันเน อินทราเทหิ สักกะทิชีวิตา สัพพะทุกขา มุจเจยยะ สวาหะ

    * ซุ้มกอยอยศพระเจ้าก่อเกิดนั้นพ่ออาจารย์ท่านเก็บไว้ใช้อาราธนาสงเคราะห์คนเองหนึ่งองค์จึงมีให้บูชาทั้งหมดเจ็ดองค์ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้สั่งจองให้แจ้งวันเดือนปีเกิดรวมไปถึงชื่อสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะบอกกล่าวฝากฝังปู่พระอินทร์กับแม่ย่าสุชาดาให้อีกวาระหนึ่ง


    ร่วมทำบุญบูชา ซุ้มกอยอยศพระเจ้าก่อเกิด,ผงจตุภาคี,พญาอินทร์ล้านช่อง(ภูติฝัน) บูชา 4,000 บาท



    30429813_2179280172358392_1388874914_n.jpg 30185017_2179280149025061_738269671_n.jpg in_4.jpg 7_B1.jpg
    30429332_2179280119025064_1145622365_n.jpg 30776938_2179280122358397_874618662_n.jpg
    30180181_2179279542358455_434192078_n.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดอริยทรัพย์มหาบุรุษสืบสกุลบุญครูเฒ่าต่อชีวิต(เงินเข้า,สร้างคน)

    ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป หลายๆสิ่งก็เปลี่ยนไป เช่นเศรษฐกิจในทุกวันนี้ บางคนบอกว่าอยู่ได้ บางคนบอกว่าฟื้นตัว ในขณะที่บางคนเหมือนจรวดพุ่งขึ้นฟ้าบอกกันว่าจะทำอะไรก็อิสระหาเงินคล่องดูง่ายไปหมดยิ่งได้เครื่องมงคลไปยิ่งเจอแต่สิ่งดีๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกส่วนนึงถามเข้ามา เป็นคำถามที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่าเมื่อมีคนได้ดี ก็ย่อมมีคนลำบากตามกลไกเศรษฐกิจและสังคมนั่นเอง บางคนบอกว่าหาเงินยาก บางคนบอกรายจ่ายสวนทางกับรายรับ มีทั้งขาดดุลยภาพ การเงินไม่คล่องตัว หลายคนขอคำปรึกษาว่ามีอะไรจะช่วยให้เงินเข้า หาเงินคล่อง รายรับรายจ่ายไม่ขาดดุลย์ มีเงินเหลือเก็บ ทั้งนี้ปัญหาเหล่านี้จากที่ฟังดูแทบจะทุกคนล้วนมีแต่เหตุให้ใช้จ่ายด้วยเรื่องสุดวิสัยทั้งสิ้น เมื่อมีรายจ่ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นหรือจำเป็นให้ใช้จ่ายแทรกเข้ามาหลายๆเรื่องนั่นก็จะทำให้รายรับกับรายจ่ายสวนทางกัน...


    เมื่อมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ พ่ออาจารย์ท่านจึงพิจารณานำตะกรุดอริยทรัพย์มหาบุรุษตำรับเก่าที่จัดสร้างได้ยากซึ่งเป็นวิชาของหลวงปู่เฒ่ายิ้มออกมาให้ได้บูชา ท่านว่าวิชานี้เอาจริงๆนั้นก็แปลกด้วยว่าใจแต่เดิมไม่เคยคิดจะสร้าง แต่กลับฝันเห็นหลวงปู่ยิ้มท่านมาหาเอาพระยันต์มาให้ดูถึงสามครั้ง พ่ออาจารย์ท่านว่าตนเองก็ไม่เคยฝันเช่นนี้แถมฝันเหมือนกันถึงสามครั้งสามหน จนครั้งสุดท้ายนั้นหลวงปู่ท่านเมตตามาในนิมิตบอกให้พ่ออาจารย์ท่านทำวิชาตะกรุดนี้ อย่างน้อยถ้าจะไม่ทำให้ใครเลย ก็ควรทำไว้ใช้เองให้ได้ซักดอก


    ด้วยครูบาอาจารย์ท่านเมตตาเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงเห็นเป็นสำคัญและคิดว่าต้องมีอะไรบางอย่างไม่เช่นนั้นพระอริยะเจ้าท่านจะไม่ลงมาวุ่นวายเป็นแน่ ท่านจึงได้ลองทำโดยใช้เวลาห้าปีเพื่อทำตะกรุดได้ทั้งหมดสิบหกดอก ท่านว่าแต่แรกเราตั้งใจจะทำใช้คนเดียวนั่นแหละ แต่ตอนทำมันเกิดเห็นภาพคนเดือดร้อนทุกข์ยากไปทั่ว ก็เลยนึกไปถึงหลวงปู่เฒ่าว่าท่านคงอยากจะให้ใช้วิชานี้ไปสงเคราะห์คนมากกว่าเราจะมาสงเคราะห์ตัวเอง จึงขออนุญาติท่านว่าจะทำได้มากสุดเสียเท่าใด ซึ่งทั้งหมดครูก็อนุญาติให้ทำได้สิบหกดอก แต่กว่าจะได้ก็ต้องหมดเวลาไปห้าปีนั่นเพราะฤกษ์ลงฤกษ์เสกมันมีน้อย พ่ออาจารย์ท่านยิ้มแล้วพูดติดตลกอยู่ว่า "เครื่องมงคลสายหลวงปู่ยิ้มนี้ที่จะหยิบมาทำง่ายๆสุกเอาเผากินเป็นไม่มี พิธีการมาก ลายละเอียดมาก ทำยากปานเข็นครกขึ้นเขาทีเดียว"


    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เป็นตะกรุดสำคัญด้วยองค์หลวงปู่เฒ่ายิ้มนั้น ท่านเป็นพระอาจารย์องค์สำคัญที่เสด็จในกรม(กรมหลวงชุมพร)ท่านเครารพและใช้เวลาปรนนิบัติศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมด้วย แม้ตะกรุดนี้ท่านว่าเอาตามจริงหลวงปู่ท่านบอกเราว่า ท่านก็เคยทำเพียงครั้งเดียว นั่นคือทำให้ศิษย์รักของท่านหรือเสด็จในกรมเอาไปทำตามเคล็ดวิธีการบูชาที่วังนางเลิ้ง จึงนับว่าเป็นของสำคัญมากพ่ออาจารย์ท่านจึงเข้าใจทำไมหลวงปู่ท่านอยากให้เราทำให้ได้ แม้ที่สุดจริงๆแล้วถ้าจะไม่ทำให้ใครเลยก็ควรทำไว้ใช้เสียดอกหนึ่ง เพราะวิชาชุดนี้ให้คุณมากต่างจากวิชาโภคทรัพย์ทั้งหลายนั่นเอง


    ตะกรุดนี้เป็นตะกรุดดอกยาว เพราะท่านทำให้เต็มสูตร ท่านว่าอันพระยันต์นี้มีอานุภาพมากเนื่องจากพื้นฐานจะหนุนดวงชะตาทั้งแก้เคราะห์กรรม กลับร้ายให้กลายเป็นดี ทั้งยังขับไล่เสนียดจัญไรต่างๆ และหากติดกายผู้ใดไว้เชื่อได้ว่าจะไม่มีความอดอยาก ทรัพย์สมบัติจะไหลเข้าไม่มีไหลออก ท่านว่าถ้าเอาตามที่หลวงปู่ยิ้มท่านปกาศิตไว้นั่นคือยาจกจะได้เป็นเศรษฐี ทรัพย์สมบัติทั้งหลายจะไหลเข้ามาดุจสายน้ำเอ่อนองไหลซึมออกมาไม่มีวันจบสิ้น แม้คนขัดสนทำมาหากินลำบากก็จะลืมตาอ้าปากได้ มีทรัพย์สินและโชควาสนาให้กอบโกยไม่รู้หมด


    นอกจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังได้นำคาถาเงินล้านมาลงเสริมไว้ ด้วยบทคาถาสำคัญนี้จะช่วยให้ธุรกิจหรือการทำมาหากินใดๆไม่มีสะดุด เป็นไปโดยราบรื่น คล่องตัว หากใจศรัทธามั่นย่อมเป็นโชคลาภขนานเอก ซ้ำยังแก้เคล็ดให้คนใช้ได้จับเงินล้าน ท่านว่าใครอาราธนาดีๆหมั่นทำทานตลอด มติครูบาอาจารย์ว่าจะได้จับเงินล้านในเร็ววัน


    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดแล้วท่านยังน้ำมาม้วนและพอกด้วยผงยาพิชัยสมบัติราชาโชค ท่านว่าผงนี้อยู่ที่ใดเสมือนจุดนั้นเป็นคลังสมบัติใช้ดึงดูดเงินทองเสมือนหลุมดำไม่รู้จักอิ่ม ทั้งยังดีในเรื่องเสี่ยงโชค ลาภลอย สุดแต่จะเอาไปใช้กันท่านว่าพูดได้เท่านี้เพราะการพนัน การเสี่ยงโชคหวังลาภลอยมันเป็นสิ่งไม่ดี


    ตะกรุดนี้สำคัญอย่างไร เมื่อเสกเสร็จนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเราเห็นนิมิตที่แสดงออกมีทั้งต้นไม้เงินต้นไม้ทองดูสวยงาม แลใบของต้นไม้นั้นก็ล่วงโปรยลงมาตลอดไม่ขาดระยะสักเวลา ท่านว่าเป็นนิมิตดีที่ไม่เคยเกิดขึ้นด้วยว่าโชคลาภนั้นจะเข้ามาดุจใบไม้ มีลมก็ร่วง ร่วงอยู่ทุกวัน ร่วงอยู่ไม่ขาดสาย อันต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านใบดกปกหนาเป็นร่มเงาแก่ฝูงชน ก็ต้นไม้เหล่านั้นมีวันใดที่ใบไม่ร่วงหล่นบ้าง พ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าคนไม่มีโชคก็จะได้โชค ขาดลาภก็จะได้ลาภสักการะไม่ขาดด้วยโภคทรัพย์เงินตรา ดั่งใบไม้ที่ร่วงหล่นมาจากต้นฉันใดก็ฉันนั้น


    พ่ออาจารย์ท่านว่าเราต้องเสกทีละดอกจนมีนิมิตปรากฏเช่นนี้ทุกดอกเป็นเวลาห้าปี ดังนั้นท่านจึงถามเอาว่าจะไม่ยากได้อย่างไร ลำพังลงยันต์อ่านอาคมบริกรรมปลุกเสกใครก็ทำได้ แต่การทำให้สำเร็จนั้น ทุกดอกจะต้องเกิดนิมิตเหมือนกันทั้งสิบหกครั้งคลาดเคลื่อนไม่ได้ เพื่อชีวิตคนนำไปใช้จะได้สัมผัสกับโชคลาภวาสนาดั่งใบไม้ที่รูดมาต้องกายไม่รู้หมด แม้เสกทีละดอกเสร็จจนมีนิมิตดุจเดียวกันแล้วก็ต้องนำมาอ่านมนต์เสกอีกคำรบหนึ่ง


    ตรงนี้สำคัญมาก เพราะพ่ออาจารย์ต้องเสกมนต์กำกับขุมทรัพย์ซึ่งมีถึง 128 พระคาถา ด้วยว่าเป็นมนต์อาถรรพ์ของสำนักพระราชวังโบราณ สมัยขอมเรืองอำนาจที่เอาไว้ทำอาถรรพ์กำกับท้องพระคลังมหาสมบัติ ด้วยสมัยโบราณนั้นขอมเรืองอำนาจมากพอที่จะขยายอำนาจและอารยธรรมปกคลุมไปทั่วดินแดนแถบนี้ ดังนั้นท้องพระคลังมหาสมบัติของเขาจึงรุ่งเรืองมาก ว่ากันว่าแม้ใช้อย่างไรก็ไม่พร่องไม่หมด เป็นท้องพระคลังที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทองคำแลจินดามณีเลิศเลอไปด้วยสมบัติล้ำคานานัปการ พ่ออาจารย์ท่านว่ามันยากก็ตรงนี้เสกตะกรุดนี้เหมือนลงอาถรรพ์ท้องพระคลังโบราณ ยากเพราะมีนิมิตเกิดขึ้นแต่ละครั้งแต่ละอย่างนั้นต่างกันไป อันพระคาถาทั้ง128 นั้น ท่านว่าต้องนั่งเสกด้วยมนต์คาถาละพันจบ จนมีนิมิตศุภมงคลต่างกันครบร้อยยี่สิบแปดอย่างถึงจะใช้ได้ จะเห็นว่าท่านต้องใช้เวลายาวนานมากซึ่งเรื่องนี้ท่านไม่สามารถบอกใครได้ด้วยเป็นความลับและไม่ต้องการสืบทอดให้ใครนั่นเอง


    ดังนั้นตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงทำได้เพียงครั้งเดียวและท่านตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่มีครั้งที่สอง ด้วยว่าขั้นตอนกำหนดกฏเกณฑ์นั้นมันวุ่นวาย และท่านเชื่อว่าเจ้าของที่เชื่อมวาสนาสัมพันธ์กันกับเวทย์วิชานั้น ล้วนแต่มีอยู่ครบถ้วนแล้วไม่มากไปกว่านี้ เพราะวิชาชุดนี้เป็นวิชาที่เป็นตำนานอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้ดูครั้งเดียว สำหรับคนที่ได้ไปเราก็ยินดีด้วย เขาจะได้เจริญรุ่งเรืองตามสมควร เป็นไปด้วยบารมีหลวงปู่เฒ่าท่านเกื้อกูล


    ชีวิตมนุษย์นั้น เพราะไม่เคยมี ไม่เคยได้รับมาก่อน จึงมีความฝัน มีความปรารถนาที่จะครอบครอง มีกำลังใจที่จะเพียรพยายามไปบนหนทางแห่งวาสนาและชะตาของตนนั้น แม้ความตั้งมั่นจะยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ผู้ที่ไปถึงจุดหมายนั้นก็มีเพียงหยิบมือ พ่ออาจารย์ท่านจึงแนะนำให้บูชาตะกรุดนี้เพื่อใช้คู่กายในการทำความปรารถนาทั้งหลายให้เกิดขึ้นจริง ท่านว่าสรุปแล้วตะกรุดจะมีอานุภาพ ดังนี้ในกรณีที่เราอาราธนาติดตัว

    - เร่งโชคลาภเข้ามาตลอด
    - มีชีวิตที่รุ่งเรือง
    - ทำมาหากินง่ายอย่างเหลือเชื่อ
    - ดีด้านเสี่ยงโชคลาภการพนัน
    - กำราบศัตรูได้ราบคาบ
    - คู่ค้า เหยื่อ เขาจะเดินเข้ามาหาเราด้วยตัวเอง
    - เป็นเมตตามหานิยมให้คนชอบพอ
    - เป็นเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้คนใช้ต่อชีวิต อะไรที่มันพังมันหักกลาง ชีวิตที่ต่อไม่ติดจะได้ฟื้นฟูขึ้นมา สร้างคนให้เป็นคนเต็มภาคภูมิ


    * ข้อควรปฏิบัติ

    - ทำอาถรรพ์นำตะกรุดฝังลงไปในข้าวสาร วิธีนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นการแก้เคล็ดอย่างถาวรให้เงินเข้า กันเงินออก เงินพร่อง ซึ่งวิธีใช้ตะกรุดนี้ท่านว่าทำได้โดยไม่ต้องคาดหรือพกติดตัว แค่แก้เคล็ดนี่ได้ก็เหมือนย้อนเกล็ดมังกร เป็นการแก้แบบถาวรให้ตังเข้าไม่มีออกไปตลอดกาล ท่านให้นำชามหรือถังใส่ข้าวสารจนเต็มและต้องพูนเหนือขอบภาชนะมาวางไว้หน้าพระพุทธรูปที่เราบูชาพระรัตนตรัย ท่านว่าข้าวเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ อันตะกรุดนี้เป็นตัวแทนของพระคลังเมื่อได้ฝังลงไปนั่นก็คือท้องพระคลังที่อุดมสมบูรณ์ และข้าวยังพ้องเสียงกับคำว่าเข้า นั่นคืออริยทรัพย์ที่มีข้าวทับถมนั้น หมายถึงทรัพย์ที่แต่นี้สืบไปจะเข้ามาไม่มีวันหมด แม้จะอาราธนาตะกรุดอื่นหมื่นแสนมาฝังลงไปในข้าวก็ไม่เป็นการแก้เคล็ดได้เช่นนี้ อันข้าวที่พูนออกมานั้น แม้นหุงข้าวประกอบกิจครัวเรือน ท่านว่าให้ตักเป็นหัวเชื้อนำไปหุงผสมเพื่อบริโภค ถือเคล็ดรับเอาคุณวิชาเข้าตัว โชคลาภจะได้เกิดแก่ตนและคนในครอบครัว ส่วนข้าวที่เราตักพร่องไปนั้นก็ให้เติมให้เต็มอยู่เนืองๆ
    - การอาราธนาตะกรุดทำน้ำมนต์ ท่านให้แช่ตะกรุดในน้ำและขอบารมีหลวงปู่ยิ้มสำเร็จน้ำมนต์นั้น อันน้ำนี้นำไปรดหน้าประตูบ้านหรือสถานที่ทำงานทั้งซ้ายขวา ท่านว่าสถานที่นั้นจะมีลูกค้ามาก กิจการจะรุ่งเรืองแบบไม่ลืมหูลืมตาทีเดียว แม้ได้อาบกินจะเจริญด้วยสง่าราศี ติดต่อเจรจาว่าความ แสงหาโชคลาภหรือกระทำกิจการงานใดก็ดี ล้วนแต่มือขึ้นมีแต่ได้ไม่ถดถอย

    คาถาบูชา

    สิริโภคานะมาสะโยโอมเทิบเทิบ มหาเทิบเทิบ สารพัดเทิบเทิบ นะมามีมามหาลาภา สวาหะ

    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดไว้ทั้งหมด 16 ดอก แต่ท่านให้บูชาไปจนเกิดประสบการณ์มามากแล้ว จึงเหลือให้ผู้ที่ต้องการใช้จริงๆบูชาได้ทั้งหมด 4 ดอกเท่านั้น สำหรับท่านที่บูชาจะเปิดให้สั่งจองเฉพาะทาง PM พ่ออาจารย์ว่าชุดนี้ทำมาอย่างดีเต็มวิชาแล้วแม้เขียนใหม่ก็ไม่สามารถทำได้เช่นนี้อีก สำหรับผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ ท่านจะเป่ามนต์น้ำออกบ่อซึมทรายกำกับให้ผู้บูชาด้วย รายได้สมทบทุนซื้ออาหารแห้งและอุปกรณ์เครื่องเขียนให้กับเด็กชาวเขาต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดอริยทรัพย์มหาบุรุษสืบสกุลบุญครูเฒ่าต่อชีวิต(เงินเข้า,สร้างคน) บูชา 4,000 บาท


    30991179_2181391892147220_664804589_o.jpg
    30831216_2181392335480509_51642459_n.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลวิหคฟ้าสาลิกาสวรรค์มหาภูติกินนารี(หัวครูเจ้าชู้ยักษ์ทศพักตร์หน้าทอง)

    ตำนานวิหคฟ้าสาลิกาสวรรค์นั้นเป็นวิชาอาถรรพ์ยุคขอมโบราณที่นิยมใช้กันทั่วไป ด้วยเชื่อว่าให้ผลด้านเมตตามหานิยม เป็นที่รักของผู้คน ซ้ำยังใช้ในการเจรจาพาที แต่ทั้งนี้หากทำเต็มตำรับวิชาแล้วยังเล่นทางเสน่ห์เล่ห์กลใช้เป็นยาแฝดได้อีกด้วย


    * การเจรจานั้นเป็นการใช้คำพูดสื่อสารในสาระสำคัญต่างๆ ทั้งนี้วิชาสาลิกาก็เป็นวิชาที่หนุนวาจา หนุนคำพูด ให้วาจานั้นมีพลัง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันลมปากนั้นย่อมมีอำนาจครอบงำได้ทุกสิ่ง คำคนนี้ทรงพลังอย่างมากเพราะจะพูดให้เขารักก็ทำได้ จะพูดให้เกลียด พูดให้แตกแยกกันก็ยังได้ นี่เป็นเพียงลมปากธรรมดา ดังนั้นวิชาสาลิกาที่ใช้เสริมส่งคำพูดคนให้มีพลังเกินวิสัยจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นอาถรรพ์วิชาในการใช้คำพูดสะกดผู้คนได้ทุกสิ่งนั่นเอง...


    ผู้ที่มีสาลิกาลิ้นทองอยู่กับตัวนั้นย่อมเป็นที่รักแก่ผู้คน เป็นที่เสน่หาโดนถ้วนทั่ว วาจามีพลังอำนาจพูดจาสิ่งใดไม่ขัดหูคน แม้นพูดจาเจรจาสิ่งใด กับผู้ใด เค้าจะหลงรักปักใจเชื่อไปจนวันตาย... พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆแล้ววิชาสาลิกาใช้ออกได้หลายทางตั้งแต่การทำงาน การเข้าสังคม การจีบสาว การเจรจาว่าความ การพูดคุยกับผู้ใหญ่ ท่านว่าทุกสิ่งในชีวิตล้วนต้องอาศัยการพูดคุยการเจรจาทั้งสิ้น ก็มีวันใดบ้างที่เราตื่นมาแล้วจะไม่พูดไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเลย ดังนั้นวิชาที่เสริมส่งการเจรจานี้หากใครได้ถือไว้ ทำอะไรย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง


    ซึ่งวิชาสาลิกานี้ก็มีการทำวิชาแตกต่างกันไปตามสายตามสูตร รวมไปถึงวัสดุที่ใช้ มีทั้งแบบตะกรุด สีผึ้ง ผง ว่านยา รูปหล่อ ตามแต่ครูบาอาจารย์ผู้สร้างจะพิจารณาว่าจะใช้อะไร พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาจริงๆแล้วที่ท่านเคยทำก็จะมีตะกรุดกับรูปหล่อที่ลงวิชาไว้ เมื่อพูดถึงสาลิกาท่านก็จะพูดว่าสมัยนี้ถ้าไม่พูดถึงที่อื่นเอาเฉพาะของเรา หรือทอดสายตามองไปทั่วแล้ว จะหาสาลิกาที่เป็นสาลิกาตนครู คือวิชาสาลิกาที่ท่านว่าจำเป็นต้องหามวลสารเฉพาะของสาลิกาตามคำครูบาอาจารย์ หากปราศจากมวลสารสิ่งต่างๆเฉพาะทางเหล่านี้แม้จะสักอย่างใดอย่างหนึ่ง จะไม่สามารถทำวิชาสาลิกาเต็มสูตรได้เลย ที่ผ่านๆมาพ่ออาจารย์ท่านจึงเพียงลงมนต์บ้าง ลงวิชาบ้าง ส่วนที่ทำเต็มสูตรต้องตามตำราให้เป็นสาลิกาตนครู ท่านว่าเราไม่เคยให้ใครได้ใช้ เพราะนกนี้มันแรงด้วยอาถรรพ์วิชาตลอดจนแรงครูชั้นสูง ใช้ได้ทั้งสายเมตตา สายมหานิยม สายเสน่ห์ ตามตำรับเขมรโบราณนับพันปีที่มีมวลสารเฉพาะทางของวิชาสาลิกา ท่านว่าสาลิกาของท่านมักจะจำแลงกายเป็นหญิงสาวสวมชุดขาวงดงามมาปรากฏบ่อยครั้ง...


    การทำสาลิกาตนครูนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องหามวลสารให้ต้องตามตำรา ท่านว่าในสายวิชาท่านหากทำแล้วขาดอะไรไปของนั่นถือว่ายังใช้ไม่ได้ ยังทำไม่สำเร็จ แค่ดีกว่าเศษหินดินทรายเพียงเท่านั้น ซึ่งมวลสารเฉพาะทางเหล่านี้ประกอบด้วย รังร้างนกสาลิกา กระดูกสาลิกาแม่ลูก(ต้องนอนกกลูกตายเท่านั้นเรียกว่ารักจนตายไปตามกัน) ไม้กาจับหลัก ไม้กาล่องน้ำ ไม้กาหลงรัง น้ำมันลูกกา น้ำมันหัวใจกา น้ำตาเด็กร้องไห้ตามแม่เจ็ดคน นำมวลสารต่างๆเหล่านี้มาเข้ากับผงยาตำรับขอมโบราณพันปีสองชนิดนั่นคือผงยาลูกกา ผงยาหัวใจกา โดยต้องแยกกันเสกแล้วจึงผสมเสกรวมกันอีกวาระหนึ่ง ซึ่งการทำผงยาลูกกา ผงยาหัวใจกาเหล่านี้ เป็นยาโบราณที่มีสูตรการทำซับซ้อนซ้ำยังเป็นยาในหมวดวิชาอาถรรพ์ที่ใช้สะกดรักปักใจไม่พรากจาก ซึ่งตัวยานั้นล้วนแต่ต้องใช้ของอาถรรพ์ทั้งสิ้นไม่สามารถถ่ายทอดได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้จะทำสาลิกาตนครูที่มีอำนาจเป็นเอกในสายวิชาสาลิกาทั้งหมดแล้วเราก็จำเป็นต้องทำให้เต็มสูตรของเรา


    เมื่อทำผงวิชาสาลิกาเสกจนปรากฏรูปหญิงสาวสวยงามสำเร็จตามตำรับมหาภูติสาลิกาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงแกะพิมพ์เป็นนกสาลิกาจับหลักพร้อมกับท้าวกินนรีร่ายเวทย์อยู่ด้านล่างตามเอกลักษณ์ของท่าน โดยท่านตั้งใจแกะเป็นสาลิกาเดี่ยว ด้วยว่าจะได้โผจับคู่ จับสิ่งที่ต้องการ ตั้งคู่แท้ คู่จร คู่สมพงษ์ สิ่งใดที่เราขาด ยังมีความปรารถนาอยู่ สาลิกาจะได้จับสิ่งเหล่านั้นมาเติมเต็ม


    พ่ออาจารย์ท่านว่าผงวิชาสาลิกาของเรานั้นทำยาก เมื่อเสร็จทุกขั้นตอนแล้วย่อมเป็นผงสำเร็จ ท่านได้นำผงสำเร็จนี้มานวดเข้ากับผงอีกสามชนิด ประกอบด้วย

    - ผงท้าวกำพร้า วิชาท้าวกำพร้านี้เเม้ยาจกกำพร้าเข็ญใจ ยังประสบความมั่งมีได้ดีเป็นถึงเจ้าพระยาพระมหากษัตริย์จอมจักรพรรดิ์ได้ จากบุคคลชนชั้นต่ำสุดได้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตมนุษย์ด้วยอำนาจพรเเละเเรงผลักดันของสิ่งมีชีวิตผู้เป็นใหญ่เเห่งพิภพดาวดึงส์ซึ่งก็คือพระอินทร์นั่นเอง ผงนี้ผู้ใดถือครองเสมือนหนึ่งได้รับพรจากพระอินทร์เจ้า ในการทำสาลิกาตนครูนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ลงผงวิชาท้าวกำพร้าและทำวิชาท้าวกำพร้าโดยตรงแบบเต็มสูตรเป็นครั้งแรก เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคน จากจุดต่ำสุดให้ขึ้นสู่ขั้นสูงสุด อุปมาดุจยาจกไร้พ่อแม่ ไร้กำลัง ไร้ญาติขาดมิตร ก็ยังบินสูงขึ้น ชีวิตเกิดปาฏิหาริย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าขึ้นสู่การเป็นพระราชาได้
    - ผงคุณวิชาท้าวกินรี อันวิชาท้าวกินรีนี้ท่านว่ามีชื่อพ้องเสียงกับคำว่า กิน - นา - รี เป็นนามที่สื่อให้เห็นชัดด้านมหาเสน่ห์อย่างแท้จริง และยังเป็นภาควิชามหาเสน่ห์ที่ให้คุณพิเศษแบบเต็มสูตรอีกแขนงหนึ่งเช่นกัน ด้วยนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณโดษเด่น โดยนับถือกันว่าผู้ใดที่ได้ครอบครองเครื่องมงคลอันสำเร็จด้วยวิชานี้จะมีสรรพคุณนานัปประการดังต่อไปนี้
    1. จะได้คู่ครองที่มีรูปงามมีชาติตระกูลสูงแม้ตัวเองจะต่ำต้อยรูปชั่วตัวดำก็จะได้หญิงงาม หญิงสูงศักดิ์ สูงด้วยชาติตระกูลนิสัยดีงามมาเป็นคู่ครอง
    2. มีอานุภาพสะกดทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิต ให้เค้าเห็นใจเรา เมตตาสงสารเรา ช่วยเหลือเราในทุกเรื่องที่เราปรารถนา ตั้งเเต่มนุษย์จนถึงอมนุษย์แม้อินทร์พรหมยมยักษ์ก็ตาม
    3. ผู้ที่ได้ครอบครอง แม้จะผจญอยู่ในกฏแห่งกรรม เทพเจ้าทั้งหลายก็จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือผ่อนหนักให้เป็นเบา เเละจะประสบความสำเร็จเข้าสู่จุดสูงสุดในชีวิตรวดเร็วเเละง่ายดาย
    4. แม้รักหรือชอบพอใครเเล้วก็ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจ ขอเพียงปรารถนาที่จะเริ่มต้นในความรัก ย่อมได้เเละสำเร็จผลทุกครั้งไป
    พอจะกล่าวสั้นๆได้เเต่เพียงเท่านี้เพราะเป็นวิชาที่มีผลทางชักจูงชักนำ ทำให้จิตผู้อื่นเคลิบเคลิ้มหลงใหลตกอยู่ในภวังค์ของตัวเรา ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาของผู้มีบูญญาธิการยิ่งใหญ่ มีวิธีใช้สารพัดจะใช้ตามเเต่ใจปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าแม้ได้ครอบครองเเล้ว สืบไปเบื้องหน้าชีวิตผู้ที่ถือครองจะสบาย หาความตกต่ำมิได้ เเม้ทุกข์เข็ญหรือปรารถนาสิ่งใดอันเกินเนื้อเกินเเรง เกินกว่าความสามารถของตน เทพเจ้าทั้งหลายท่านย่อมลงมาช่วยเหลือเนรมิตรสิ่งต่างๆให้ไม่เกินใจผู้ปรารถนา
    - ผงปถมังมหากำเนิด วิชาสำคัญที่ใช้สร้างสรรค์พร้อมกับเรียกร้องสิ่งที่ต้องการให้มาหาได้ทุกสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ขาดสิ่งใด พร่องสิ่งใดไม่รู้สิ้นรู้สุด ก็จะก่อเกิดเติมเต็มสิ่งเหล่านั้น ท่านว่าพูดได้แต่เพียงเท่านี้ว่ามันสำคัญ และเป็นของที่สำคัญมากจนไม่สามารถนิยามสิ่งใดได้มากกว่านี้เพราะมันจะเติมเต็มไปจนถึงจิตวิญญาณเป็นวิชาที่เรียกว่าช่วยให้สมความปรารถนาก็ได้ อันผงปถมังมหากำเนิดนี้ทำยากนัก และไม่ค่อยมีคนทำกันเนื่องจากเป็นผงที่มีแรงครูสูง

    เมื่อนำผงสาลิกาตนครูมาผสมผงวิเศษทั้งสามชนิดแล้วท่านจึงนำมากดพิมพ์เป็นองค์พระ พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้ถ้าจะเล่นเสน่ห์อย่างเดียวมันอยู่ยาก โดยทั่วไปวิชาสาลิกาก็เป็นเมตตาหนักไปถึงขั้นเสน่ห์อยู่แล้วยิ่งเราทำตนครูเช่นนี้ด้วย เห็นทีว่าขุนแผนรึอะไรก็เอาไม่อยู่ เมื่อเราจะทำให้เต็มสูตรทั้งทีก็ต้องเล่นให้มันครบทุกทาง ทั้งบุญฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ วิชาสายกำเนิด สายโพธิสัตว์ สายเทวราชอินทราเอามารวมกันให้หมด ด้วยสาลิกานี้จะอำนวยความสุขและหนุนนำชีวิต ท่านว่าเป็นนกสาลิกาที่มีดีมากกว่าเสน่ห์เมตตาทั่วไป


    ด้านหน้านั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ลงตะกรุดท้าวกินรีฝังไว้เป็นคอนไม้ให้นกสาลิกาเกาะด้วย ท่านว่ามีรูปท้าวกินรีร่ายเวทย์อยู่ดุจว่าจะสะกดเรียกสาลิกานั้นให้กลับคืนรัง จะได้ทำให้เต็มสูตรวิชาของท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเสน่หาเรียกความรักหรือสิ่งที่พพึงปรารถนาได้สุดแต่ใจของผู้ใช้ ที่สำคัญท่านฝังเพชรจักพรรดิไว้ที่ดวงตาสาลิกา ซึ่งเพชรนี้เป็นพลอยเสกของหลวงปู่ดู่วัดสะแก มีอานุภาพมาก


    ด้านหลังนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ฝังมงคลวิเศษไว้สองชนิด ได้แก่

    - หัวครูเจ้าชู้ยักษ์ทศพักตร์หน้าทอง โดยหัวครูทศกัณฐ์นี้ท่านหล่อหลอมขึ้นมาจากแผ่นยันต์วิชาสายเสน่ห์และโภคสมบัติมากมาย ท่านว่าครูฝ่ายยักษ์ทศกัณฐ์นั้นเป็นครูที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เป็นเจ้าโลกและพิภพทั้งหมด ด้วยสถาปนาอำนาจไปทั่วทั้งสวรรค์ บาดาล หรือแม้แต่นรกภูมิ ซ้ำยังขู่เข็ญรีดไถทรัพย์สมบัติ ดวงดาว ตลอดจนของมีค่าและสิ่งวิเศษทั้งหมดในมหาจักรวาลมาไว้ในครอบครองของตนอย่างที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน ดังนั้นผู้มีรูปครูยักษ์ทศกัณฐ์ที่ลงวิชาไว้จึงเป็นผู้มีทรัพย์สมบัติ มีอำนาจและโชค วาสนามาก นอกจากนั้นยังได้ชื่อว่าเป็นยักษ์จอมเจ้าชู้จนเกิดคำพูดสืบต่อกันมาว่าเจ้าชู้ยักษ์ เพราะมีเมียไปทุกชาติ ทุกภาษา ทุกเผ่าพันธุ์ ตั้งแต่นางฟ้า นางยักษ์ พญานาค นางปลา นางแปลง(มณโฑ) สัตว์เดรัจฉาน(นางช้าง) ด้วยวิชาทศพักตร์หน้าทองนี้พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นทศกัณฐ์ภาคเสน่ห์ เล่นสาว จีบสาว ชู้สาว ให้คุณทางด้านลุ่มหลงอย่างมากจนคนเดินตามก็มีมาแล้ว ว่ากันว่าเว้นนางสีดาซึ่งเป็นบุตรในไส้นางเดียวที่เหลือไม่มีผู้ใดพ้นมือเมื่อทศกัณฐ์ร่ายเวทย์หน้าทองไปได้เลย นอกจากนี้อาถรรพ์ครูยักษ์ยังเป็นที่เกรงกลัวของภูติผี วิญญาณ สัมภเวสี ตลอดจนกันกระทำสิ่งไม่ดีทั้งหลายด้วย ท่านว่าครบเครื่อง เหนือสิ่งอื่นใดอำนาจของเคราะห์ภัยทั้งเจ้ากรรมนายเวร ตลอดดาวบาปเคราะห์ทั้งหลาย ย่อมไม่ส่งผลในชะตาของเราเลย ด้วยเค้ากลัวครูยักษ์ทศกัณฐ์ เนื่องจากเคยกักขังเทวดาตลอดจนดาวนพเคราะห์ทั้งหลายไว้นั่นเอง
    - ลูกอมเงินล้าน เป็นลูกอมที่พ่ออาจารย์ท่านปั้นและผึ่งลมไว้ โดยใช้ผงเงินล้าน ผงพระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้า ผงทศชาติ ผงจินดามณี ผงพระสีวลีเปิดบาตร ผงหาลาภ ผงเร่งลาภ ผงเสริมลาภ ท่านได้นำผงต่างๆมาเข้ากับว่านตระกูลเศรษฐีปั้นเป็นลูกอม โดยลูกอมเม็ดเล็กๆนี้ก็ปรากฏความขลังยิ่งนัก ท่านว่าคนเค้าเอาไปแช่น้ำพรมที่ค้าขาย เขาตั้งตัวได้ จับเงินล้านกันก็มีมาแล้ว ท่านจึงถือเป็นอุดมมงคลเรียกเสียว่าลูกอมเงินล้านนำมาฝังสาลิกาชุดนี้ จะได้ดึงโชคลาภให้พัดพาเข้าสู่ตัว

    พ่ออาจารย์ท่านได้เสกนกสาลิกาจนมีจิตวิญญาณภูติสาลิกาสถิตย์อยู่ทุกองค์ ท่านว่าสาลิกาของท่านนั้นนอกจากเสน่ห์แบบเต็มสูตรอันเป็นพื้นฐานของสาลิกาตนครูแล้วยังมีทั้งวิชาท้าวกำพร้า ท้าวกินรี ปถมังกำเนิด รวมไปถึงใช้ดึงดูดโชคลาภ ทั้งยังกันเคราะห์แก้ดวงด้วยพญายักษ์ทศกัณฐ์ เรียกว่าครบทุกสิ่งในหนึ่งเดียว โดยท่านทำการกดพิมพ์ไว้ได้ทั้งหมด 5 องค์


    ท่านให้ภาวนาคาถาปถมังกำเนิดกำกับสาลิกาด้วยในองค์พระนั้นท่านใส่ผงเป็นเชื้อเร่งอานุภาพไว้แล้ว ท่านว่าอยากได้อะไร ต้องการสิ่งใดไม่มีเกินมือท้าวกินรีกับภูติสาลิกาทั้งสิ้น ปรารถนาสิ่งใดก็ให้ออกโองการตอนภาวนาพระคาถาอธิษฐานดั่งใจนึกนั่นทีเดียว


    คาถาบูชา

    โอมอิตถีโยปุริโส มนุษย์โลกทั้งหลายหญิงและชาย สูทั้งนี้บ่รู้สุด กูรู้จักกำเนิดเมื่อแรกมึงเกิดปฏิสนธิในครรภ์พระมารดา ทั้งแรกแตกปัญจะสาขาคือ เกษา โลมา นะขา ทันตา ตะโจในอาการสามสิบสองประการเป็นต้น เป็นประธานด้วยธาตุทั้งสี่คือปถวีกสินัง อาโปกสินัง เตโชกสินัง วาโยกสินัง รกหนามึงรองนั่ง รกบางมึงหุ้มตัว น้ำกระชังมึงทูนหัว สูทั้งนี้บ่รู้สิ้นรู้สุด มึงเป็นลูกมนุษย์ กูเป็นลูกพระธรรม โองการกูจะบันดาลให้มึงมารักกู มึงมาตามหากู มารักนี่ มาหากูนี่(นึกถึงบุคคลที่ต้องการหรือสิ่งที่ปรารถนา) โอมสิทธิสวาโหม

    * มงคลวิหคฟ้าสาลิกาสวรรค์มหาภูติกินนารี(หัวครูเจ้าชู้ยักษ์ทศพักตร์หน้าทอง) พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมด 5 องค์ เปิดรับจองเฉพาะทาง PM พ่ออาจารย์ท่านว่าสาลิกาเหล่านี้ล้วนมีเจ้าของถือครองกันทุกตน ผู้สั่งจองให้แจ้งชื่อ นามสกุลและความปรารถนาสำคัญที่ต้องการจะฝากบอกกล่าวแก่ภูติสาลิกาไว้ด้วย ท่านจะทำการประสิทธิและบอกกล่าวให้อีกวาระหนึ่ง รายได้สมทบทุนการศึกษาเด็กชาวเขาที่ด้อยโอกาสต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา มงคลวิหคฟ้าสาลิกาสวรรค์มหาภูติกินนารี(หัวครูเจ้าชู้ยักษ์ทศพักตร์หน้าทอง) บูชา 4,000 บาท


    31682353_2186924701593939_8161283885057966080_n.jpg 31578052_2186924711593938_428773083445198848_n.jpg
    31563952_2186921968260879_828542244150575104_n.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อผลาญลิขิตฟ้าปกาศิตยมราชธรรมเทพพิพากษา( ตะกรุดทัณฑ์สวรรค์โองการพระยม,หุ่นแพะล้างบาปรับกรรม)

    เหรียญผลาญลิขิตฟ้า คือมงคลวัตถุที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจสร้างเพื่อวัตถุประสงค์หลักในการดับล้าง ทำลายโซ่ตรวนและชะตากรรมที่ถูกกำหนดหรือจารึกไว้ ซึ่งไม่อาจบิดเบือนหรือแก้ไขได้ และอีกนัยน์หนึ่งก็คือการก้าวข้ามบุญวาสนาแต่กาลก่อนที่ส่งผลสนองจองจำให้เราไม่อาจก้าวหน้าหาความเจริญในชะตาชีวิตได้


    ในอนันตจักรวาลนั้นมีภพย่อยมากมาย แต่ก็ปรากฏภูมิใหญ่ๆทั้งหมดเพียงสามภูมิเท่านั้นหรือที่เราเรียกกันว่าไตรภูมินั่นเอง หากไม่นับรวมพื้นโลกที่เราอาศัยอยู่หรือสวรรค์แล้ว นรกก็นับได้ว่าเป็นดินแดนอันลึกลับและไม่มีใครอยากเฉียดกรายเข้าใกล้มากที่สุด ถึงกระนั้นนรกภูมิก็ไม่ใช่สิ่งที่สัตว์โลกผู้ใดจะหลีกเลี่ยงได้ ด้วยเมื่อถึงกาลกิริยาจำเป็นต้องไปรับคำพิพากษาจากพญามัจจุราชเสียทั้งสิ้น


    มหาพรหมอนาคามีผู้เป็นนายเหนือหัวแห่งนรกภูมิ มีวิมานอันอยู่ในภูมินรกปกครองทวยเทพทั้งหลายที่มาทำหน้าที่ต่างๆในภูมินั้นรวมไปถึงสัตว์นรกทั้งปวง เราจะรู้จกกันดีในนามของยมเทพหรือจะเรียกว่าพระธรรมราชบ้าง แลธรรมเทพก็ดี เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะสร้างเครื่องมงคลที่ให้ผลเหนือกรรมลิขิตแลสัมพันธ์กับโชคและดวงนั้น โดยฉันทามติแห่งครูเฒ่าและองค์เทพทั้งหลายไม่ว่าจะทิพย์กายและอสุรกายก็ดี ต่างพร้อมใจกันอนุญาติและอัญเชิญพระธรรมบดียมราชให้มาแผ่บารมีคุ้มเกรงผู้เคารพศรัทธาโดยมติพ่อแม่ครูอาจารย์เหนือหัว


    พระธรรมบดียมราชเจ้าแห่งนรกภูมินั้น เมื่อในสมัยพุทธกาลได้มีโอกาสฟังเทศน์จากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วก็มีดวงตาเห็นธรรมบรรลุพระโสดาบัน ในกาลต่อมาก็ถึงซึ่งภูมิธรรมชั้นพระอนาคามี เป็นภูมิพรหมสุทธาวาสกล่าวได้ว่ามีทั้งวิมานอยู่ในปัญจสุทธาวาสมหาพรหมแลเมื่อจะเสด็จออกพิพากษาดวงวิญญาณทั้งหลายก็จะปรากฏองค์อยู่ในวิมานแดนนรกภูมิ


    พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายๆคนมักจะคิดว่าพญายมท่านน่ากลัว แต่ข้อเท็จจริงแล้วท่านเป็นท้าวมหาพรหมลำดับสูงสุดในรูปพรหม ดังนั้นคนทั้งหลายจึงมักเห็นท่านตามแต่ตะกอนจิตใจจะปรุงแต่ง หากเป็นคนบาปทุจริตก็จะเห็นรูปกายท่านดูน่าสยดสยองแลหวาดกลัว แต่หากตั้งมั่นในธรรมสุจริตก็จะพบกับรูปกายที่สวยงามเกินเทวราชและเหล่าพรหมทั้งหลาย อันท้าวพญายมราชนั้นท่านดำรงตำแหน่งคอยพิพากษาตัดสินดวงวิญญาณในแดนยมโลกอย่างยุติธรรม ประกอบด้วยจิตเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา พร้อมกับคณะผู้ช่วยของท่าน ผู้ช่วยของพระยมนอกจากคณะยมฑูตกับนายนิรยบาล สุวัน สุวานแล้วยังมี พระจิตตคุปต์ และพระกาฬไชยศรี เป็นต้น


    ด้วยมติแห่งครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ใดก็ดี ที่จะได้พบ ได้เข้าเฝ้าพระธรรมบดียมราชนั้นล้วนแต่เป็นผู้ตกตายรอการเกิดใหม่ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงถือคติแห่งพระเวทย์ว่าเมื่อเราสร้างพระยมนี้ แม้ใครสักการะบูชาก็เท่ากับว่าเขาได้พบกับองค์ยมราชแล้ว ชีวิตนั้นถือว่าได้กำเนิดใหม่ ได้เกิดในรูปใหม่ พ้นจากสภาวะเดิมแล้ว หลุดพ้นจากกงล้อกรรมและลิขิตฟ้าที่จองจำพันธนาการไว้ด้วยโซ่ตรวนทั้งหลาย พ้นจากโรคร้ายแลมีอายุยืนนานสืบไป


    โดยปกติแล้วอานิสงค์ของการบูชานับถือพระยมนั้นเชื่อกันว่าภูติผีปีศาจไม่กล้าระราน คนผู้นั้นจะมีตบะบารมีที่น่าเกรงขาม ผู้ที่คิดร้ายด้วยทุจริตมิชอบอิจฉาตาร้อนจะแพ้ภัยตัวเอง นอกจากนี้หากหมั่นบูชาพระองค์ท่านเสมอๆ ท่านว่าจะห่างไกลจากความป่วยไข้ มีอายุยืนนาน หากรับราชการหรือทำมาค้าขายด้วยความซื่อตรงก็จะบังเกิดความเจริญมีความสุขในชีวิตยิ่งๆขึ้นไปแต่สิ่งที่สำคัญนอกจากนั้น พ่ออาจารย์ท่านก่อนจะนำธาตุกายสิทธิ์ทั้งหลายมาเทด้วยไฟพิธีนั้น ท่านได้หล่อหลอมธาตุนำมาลงกำกับด้วยหัวใจยมราชเสียคำรบหนึ่ง ก่อนจะล้อมด้วยวิชายมบาลใจอ่อนแม้กระทั่งตอนเทเครื่องมงคลนั้นท่านก็เดินคาถายมบาลใจอ่อนอยู่ตลอดเวลา

    วิชายมบาลใจอ่อนเมื่อนำมาใช้กำกับในการสร้างพระธรรมบดียมราชนั้น ท่านว่าโดยปกติแล้ววิชานี้ แม้ยมบาลผู้รักษากฏเหล็กดำรงค์อยู่ในสุจริตเที่ยงตรงไม่โอนอ่อนผ่อนตามผู้ใด ไม่มีสิ่งใดทำให้ท่านเอนเอียงได้ ก็ยังต้องผ่อนปรนยอมให้กับเรา จึงเป็นที่สุดแห่งวิชามหาเสน่ห์ที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจลงกำกับทำอาถรรพ์ไว้กับรูปพระยม * พ่ออาจารย์ท่านว่าพระยมนี้ แตกต่างจากเทพองค์อื่น ด้วยปกติท่านจะสัตย์ซื่อ ใจแข็ง แต่เราใช้คติพระเวทย์และมายาศาสตร์สร้างรูปเคารพท่านด้วยวิชายมบาลใจอ่อน นั่นก็เพื่อให้ท่านโอนอ่อนตามใจและให้พรทุกประการดั่งใจผู้บูชาปรารถนา อันพรของพระธรรมบดียมราชนายเหนือหัวแห่งนรกภูมินั้น ถือได้ว่าเป็นพรวิเศษด้วยเรากำกับเวทย์ยมบาลใจอ่อนไว้ถ้าไม่ขอสิ่งใดที่หนักปากและยากเกินกว่าจะเป็นไปได้แล้วสิ่งนั้นย่อมสำเร็จโดยพลัน ด้วยพระยมท่านถือสัจจะยิ่งชีพ ไม่ใช่เพียงแต่ยกมือให้พรไปเรื่อย แต่หากให้พรผู้ใดแล้วท่านจะติดตามงานของท่านเสมอจนประสบความสำเร็จ แม้จะต้องแหกกฏเหล็ก ฝืนลิขิตฟ้าแลกฏแห่งกรรมก็ตาม แต่หากพระองค์เผลอให้พรผู้ใดแล้วก็จำต้องช่วยเหลือให้ได้ดั่งในกรณีคืนชีวิตให้พระสัตยวานที่ถึงกาลสิ้นอายุขัยนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระธรรมบดียมราชไว้ด้วยศิลป์แบบไทยโบราณโดยประทับนั่งทรงไม้เท้ายมทัณฑ์ที่จะใช้ลงโทษทุกสรรพชีวิตอันจะคิดร้ายและจ้องทำลายผู้ศรัทธา อีกพระหัตถ์หนึ่งทรงไว้ซึ่งนิ้วดัชนีหรือชี้นิ้วเพชรพิพากษาสิ่งต่างๆให้เป็นไป นิ้วเพชรปกาศิตนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาเราเอาไปบูชาจะขอพรอธิษฐานอะไร ให้จรดนิ้วเพชรนี้ไว้บริเวณหน้าผากของตนแล้วอธิษฐานใจตามปรารถนาเถิด พระองค์จะช่วยให้กาลทุกสิ่งที่เดือดร้อนคลี่คลาย พร้อมกับเติมเต็มความสุขให้ถึงพร้อม ท่านว่าอยากจะขออะไรก็ให้คิดให้ดี อย่าไปขออะไรที่ไม่มีวันเกิดขึ้นหรือเป็นไปได้ก็พอ

    ด้านหลังองค์พระนั้น พ่ออาจารย์ท่านอุดมวลสารและกายสิทธิ์สำคัญดังนี้
    - หุ่นแพะลอยเคราะห์ล้างบาปรับกรรม วิชาแพะพ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญนัก เพราะมันเป็นตัวรับเคราะห์กรรมแทนเจ้าของ แพะของท่านนั้นมันกินบาปเคราะห์เป็นอาหาร ซ้ำยังเป็นแพะตัวผู้ตัวจ่าฝูงที่เป็นเอกด้านเสน่ห์มหานิยม ดั่งที่ว่าตัวผู้จ่าฝูงตัวเดียวได้ตัวเมียทั้งฝูง แพะนี้ท่านทำเพื่อให้คนใช้นำไปบูชาโดยหวังประโยชน์ใหญ่ให้คนใช้นิราศทุกข์จริงๆ โดยท่านได้ใช้ความเพียรอุตสาหะหาฤกษ์ยามลงตะกรุดลอยเคราะห์เก็บไว้ทีละดอกๆ เอาแต่เนื้อตะกรุดเท่านั้นไม่ให้มีโลหะสิ่งใดเจือปนมาเทหล่อเป็นแพะล้างบาปรับกรรมรุ่นนี้
    วิชาลอยเคราห์นี้สร้างยากมากเพราะเป็นวิชาชั้นสูงที่ท่านต้องลงจารตะกรุดเสกเก็บไว้เพื่อที่จะใช้เมื่อถึงกาลถึงวาระจริงๆเท่านั้น เป็นของที่มีอานุภาพมาก ท่านว่าความหมายมันก็ตรงตัว คือลอยอยู่เหนือเคราะห์กรรม คล้ายๆกับการตกตะกอนของน้ำ เคราะห์กรรมอยู่ส่วนหนึ่ง น้ำอยู่ส่วนหนึ่ง ลอยแยกจากกัน เคราะห์กรรมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรา ดุจดั่งว่าเวทย์วิชานี้คือกำแพงที่ขวางกั้นน้ำกับตะกอนเช่นนั้น ที่ว่าสร้างยากนั้นก็เพราะเป็นวิชาที่เกี่ยวกับกฏแห่งกรรม ท่านว่าไม่มีใครอยากจะทำให้กันหรอก ตอนเรียนมาท่านก็ย้ำหนักหนาว่าต้องเลือกคนให้ ไว้ทำยามบ้านเมืองคับขัน ประชาชนเดือดร้อนข้าวยากหมากแพง
    พ่ออาจารย์ท่านก็สร้างเก็บไว้ ลงจารไว้ตามวาระโอกาสที่นานๆจะมีฤกษ์เสียครั้งหนึ่ง โดยลงจารในฤกษ์ที่กำหนดทำสะสมมาเรื่อยๆ แต่ตอนลงนั้น ท่านไม่ได้ลงเฉพาะวิชาลอยเคราะห์ ท่านเพิ่มในส่วนของไสยเวทย์เข้าไปด้วย ท่านว่ากลืนกันทั้งพุทธทั้งไสย วิชาที่เพิ่มเข้าไปนี้แต่เดิมเป็นวิชาของพราหมณ์ในยุคทมิฬโบราณ วิชานี้แม้บ้านเมืองที่ล่มจมก็กู้ขึ้นมาได้ ช่วยเร่งผลิดอกออกผลให้เจริญรุ่งเรือง ลบล้างคำสาปคำสาบานอันติดเนื้อต้องตัวมาแต่อดีตชาติ
    คำสาปคำสาบานอันเราได้ล่วงเกินผู้หนึ่งผู้ใด ในชีวิตหนึ่งๆของสัตว์โลกที่วนเวียนอยู่ในสงสารวัฏนี้ ท่านว่าเราไม่รู้ตัวหรอกว่าเราสั่งสมสิ่งเหล่านี้มามากมายเพียงไหน จะรุ่งโรจน์มันก็รุ่งไม่ได้เพราะติดทั้งกรรมทั้งคำสาปแช่งต่างๆมากมายที่ประเดประดังกันเข้ามา
    ตะกรุดลอยเคราะห์นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราสร้างเพื่อหวังประโยชน์ใหญ่ไม่ได้สนใจว่าจะเคราะห์หรือจะกรรม เพียงแต่จะสืบสานพระเวทย์โบราณกับของที่ครูบาอาจารย์ท่านมอบฝากไว้ให้มาเพียงเท่านั้น วิชาสองส่วนนี้ถ้าแยกกันก็แล้วไป ถ้ารวมกันนั้นจะเป็นสุดยอดวิชาในสายบุญฤทธิ์ที่หาสิ่งใดมาเทียบเคียงเสมอเหมือนมิได้ คนใช้ต้องติดเนื้อติดตัวไว้เสมอเพื่อให้บรรเทาเคราะห์กรรมตนเอง ซ้ำยังลบล้างคำสาปคำสาบานความอาฆาตมาตรร้ายอันติดเนื้อต้องตัวมานับแต่อดีตกาล อย่าว่าแต่ปัญหาส่วนตัวเลย วิชานี้แม้บ้านเมืองก็ยังกู้ได้ ให้ผลใหญ่ถึงปานนั้น เอาไปเพื่อหวังประโยชน์ใหญ่ นั่นคือปลดทุกข์ของสัตว์ สัตว์ทั้งหลายนั้นจมเคราะห์จมทุกข์ แต่ก็ยังไม่หมดหวัง เพื่อจะออกจากทุกข์นั้น หาใช่เพื่อต้องการเสวยสุข แต่เพื่อต้องการโอกาสและสิ่งที่ดีกว่า จะได้ทำบุญเพาะบ่มอบรมจิตตนเอง เดินไปในสายบารมีเราจึงทำตะกรุดลอยเคราะห์นี้เสียครั้งหนึ่ง
    วิชานี้ ไม่ได้ส่งผลแต่เพียงการลอยบาปลอยเคราห์กรรม ลบล้างคำสาปคำสาบานอาฆาตมาตรร้ายต่างๆเท่านั้น แต่ยังกันและแก้ได้สารพัดด้วย เป็นทั้งมหากันในตัวเอง ไม่ให้มีสิ่งอุบาทว์จัญไรใดมาย่ำยีบีฑา เพื่อที่จะทำให้ชีวิตตกต่ำ กันทั้งคุณไสยอวิชชา กันไว้ดุจเกราะเพชรปกป้องตนเองเช่นนั้น ท่านว่ากันไว้นี่แหละดี คนเราถ้าเจออุปสรรคไม่มีอะไรมากันเอาไว้มันเจริญยาก ซ้ำยังแก้ แก้ที่ว่านี้คือแก้ไขพฤติการณ์ของเจ้าของให้มีความเห็นถูก แก้ในโรคร้ายสิ่งเลวร้ายต่างๆที่ตกต้องชะตาของผู้บูชาอยู่ แก้สิ่งที่จองจำชีวิตเราไว้เดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ ท่านว่ารู้เองเห็นเอง สิ่งพวกนี้หายหมด ใครที่ทำอะไรไม่เจริญ หาเช้ากินค่ำ หรืออยากประสบความสำเร็จ ด้วยเกรงว่าจะติดเวรกรรมคำสาปสรรค์ใดๆ ท่านว่าเลิกคิดไปได้เลย เราทำไว้ให้ดีแล้ว ให้เจ้าของและผู้ที่คู่ควรเขามาเอาไปใช้บูชา
    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดลอยเคราะห์เสร็จท่านก็เสกเก็บไว้ ท่านว่าเสกจนเต็มวิชาจนได้นำตะกรุดทุกดอกมาหล่อหลอมในรูปแบบ"แพะลอยเคราะห์รับบาปล้างกรรม" ด้วยในอดีตที่ท่านลงตะกรุดลอยเคราะห์นั้นท่านได้ถือสัจจะวาจาไว้แล้วว่าจะทำในรูปแบบตะกรุดเพียงครั้งเดียว วาระนี้ท่านจึงนำตะกรุดไปเทเป็นหุ่นแพะเสกขึ้นรูปทรงวิชาไว้ให้ใช้รับบาปล้างกรรมแทนตัวผู้บูชาได้อีกด้วย ท่านสั่งให้บอกเค้ากันสั้นๆว่า แม้เคราะห์อันเกิดกับมหานคร เกิดแต่สรรพชีวิตหมู่มาก วิชานี้ยังแก้ไขจากตกต่ำแล้วทำให้เจริญได้ นับประสาอะไรกับตัวบุคคล
    - ตะกรุดทัณฑ์สวรรค์โองการพระยม เป็นที่สุดในสายวิชามหาสะท้อนย้อนกรรมกลับไปสนองผู้ปองร้ายและทำร้ายเราในทุกรูปแบบ ดุจดั่งพระยมท่านลงโทษคนกระทำผิดคิดชั่วให้ได้รับผลกรรมนั้น นั่นคือการสะท้อนย้อนกลับโดยฉับพลันทันที เรียกได้ว่าเมื่อใดก็ตามที่ผู้บูชาตะกรุดมีผู้ประสงค์ร้ายหรือคิดไม่ดีนั้น อานุภาพของตะกรุดจะสะท้อนผลร้ายกลับไปร้อยเท่าพันทวีเป็นเหตุให้ต้องมาขอขมาเรา หากไม่มาขอขมาแก่เราแล้วก็ไม่สามารถลบล้างได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ผ่านมานั้นเราจะไม่ได้ทำตัวนี้ให้ใครมากนัก เพียงมหาสะท้อนงานศพก็นับได้ว่าแรงและมีกำลังจนคนเอาไปใช้เกิดประสบการณ์ถามหากันว่ามากแล้ว แต่ตัวนี้ยังถือได้ว่าแรงกว่านั้น แรงกว่าแม้มนต์พระกาฬสะท้อนกลับอันมีอาถรรพ์จนถึงขั้นวิบัติมีอันเป็นไปต่างๆนานัปการ เมื่อเห็นว่ากำลังสร้างรูปพระยมนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงลงตะกรุดทัณฑ์สวรรค์โองการพระยมไว้ให้คู่กัน ท่านว่ารูปกับวิชานั้นมีความสัมพันธ์กันและจะเสริมส่งซึ่งกันและกัน ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดบอกได้สั้นๆแต่เพียงว่านี่คือวิชาของพระธรรมบดียมราช ดังนั้นเมื่อทำวิชาท่านจึงต้องใช้รูปท่านกำกับไว้ ผู้บูชาจะได้ไม่พลั้งเผลอผิดพลาดนำไปใช้ก่อกรรมสร้างเวรใดๆ เอาแค่ให้สะท้อนย้อนสิ่งอัปมงคลทั้งหลายตามวินิจฉัยแห่งยมเทพนั้นก็พอ
    - หญ้าคาพรมน้ำมนต์หลวงปู่ฝั้น ตามคติพรหมณ์หญ้าคาถือว่าเป็นของสูงเป็นมงคล เคยใช้เป็นที่รองหม้อน้ำอมฤตที่พระศิวะใช้ดื่มมาเเล้ว ส่วนคติตามพระพุทธศาสนานั้น มหาโพธิบัลลังก์ที่พระพุทธเจ้าประทับทรงชำระมารทั้งหลายได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์พุทธคยานั้น ก็เพราะทรงใช้หญ้าคาปูรองนั่งนี่เอง ชาวพุทธจึงถือว่าหญ้าคาเป็นหญ้ามงคลเป็นสิ่งที่ใช้กำจัดศัตรู เภทภัย โรคา พญามารต่างๆให้สูญหาย ด้วยเหตุนี้พระสงฆ์จึงนิยมใช้หญ้าคามาพรมน้ำมนต์สืบมา พ่ออาจารย์ท่านว่าหลวงปู่ฝั้นนั้นท่านมีจิตเมตตาสงเคราะห์คนไม่เลือกชั้นวรรณะตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องรดน้ำมนต์นั้นจะมีคนไปกราบให้ท่านประพรมให้อยู่เสมอไม่ขาดระยะ อันหญ้าคาที่ท่านใช้รดน้ำมนต์นั้นย่อมเป็นของดีด้วยสิ่งใดก็ตามที่พระอรหันต์ท่านใช้เป็นประจำย่อมมีอานุภาพมาก ยิ่งได้จุ่มแช่ในน้ำมนต์ของท่านมานานนับปี ทั้งผ่านมือ ผ่านการสวดว่าคาถาและคำให้พรต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาฝังไว้เป็นสิริมงคลให้คนใช้อาราธนาปลอดภัยจากเภทภัยและสิ่งเบียดเบียนทั้งหลายไม่ว่าจะรูปธรรม นามธรรมใดๆก็ตาม
    - ผงยาดำกลืนทุกข์ ความทุกข์อันได้แก่การใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก ติดอยู่ในสภาวะที่บีบคั้น หรือสภาพที่ทนได้ยาก รวมไปถึงความไม่สบายทั้งกายและใจต่างๆก็ดี โดยเฉพาะปกิรณกทุกข์ คือทุกข์ต่างๆที่ฉาบฉวยหมุนเวียนเข้ามาไม่ว่างเว้น ทั้งความเสื่อมนานาชนิดไม่ว่าจะเสื่อมลาภ เสื่อมยศ...บรรดามี ด้วยพ่ออาจารย์ท่านเห็นเป็นสำคัญว่าคนนั้นหนีไม่พ้นจากทุกข์ฉาบฉวยทั้งหลาย เมื่อท่านสร้างพญายมราช ท่านจึงนำผงยาดำกลืนทุกข์นั้นมาอุดไว้ด้านหลัง ท่านว่าเวลาห้อยบูชาผงนี้จะเปล่งรัศมีของเขาคลุมทั่วร่างกายคนใช้เอาไว้ ความทุกข์ใดๆก็ดีเขาจะกลืนกินและรับไว้หมด สังเกตง่ายๆหลังจากห้อยบูชา อย่างน้อยความทุกข์ทางใจจะค่อยๆหายไปอย่างน่าฉงน จะรู้สึกคิดบวก มีกำลังใจ รู้สึกสดชื่นอย่างน่าประหลาด ด้วยผงยาดำนี้มันจะกลืนกินความทุกข์ทั้งหลายไม่ว่าจะทุกข์ฉาบฉวยหรือทุกข์ที่เกิดจากสภาวะสังขารให้เรามีอารมณ์เบิกบานตลอดเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่มีทุกข์ ไม่มีโรค ความโศกหาย ภัยร้ายไม่เกิดขึ้น ชีวิตย่อมมีความสุขสมควรแก่อัตภาพนั่นเอง


    พ่ออาจารย์ท่านสร้างเหรียญหล่อผลาญลิขิตฟ้าปกาศิตยมราชธรรมเทพพิพากษาไว้ทั้งหมด 5 องค์ ท่านว่าองค์พระทุกองค์นั้นล้วนผูกพันธ์กับลิขิตชะตาของผู้ใช้อยู่ กล่าวคือมีเจ้าของถือครองกันครบทุกองค์ เป็นของเฉพาะกาล เฉพาะวาระที่ท่านพลีกรรมบวงสรวงและใช้เวลาในการสร้างและหามวลสารยาวนาน คนที่ได้บูชานั้นจะเป็นลูกรักของพญายมราช มีบุญบารมีสัมพันธ์กันมาแต่ภพเก่าก่อนในทางใดทางหนึ่ง เมื่อจะได้เกื้อหนุนกันให้สำเร็จกิจแห่งภพ ท่านจะดลบันดาลให้รับรู้แลเกิดความสนใจ พึงใจ ขึ้นมาเอง

    คาถาบูชา
    ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง สุขะโตจุติ จิตะเมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ (สามจบ)
    โอม พระยะมะราชะ อุปาทะวะตายะ มะหิงสาพาหะนายะ ทักขิณะทิสะฐิตายะ อาคัจฉาตุ ภุญชะตุ ขิปปะยะตุ วิปปะยะตุ สะวาหะ สะวาหายะ สัพพะอุปาทะวะวินาสายะ สัพพะอันตะรายะวินาสายะ สุขขะวัฑฒะโกโหตุ อายุ วัณณะ สุขะ พะลัง อัมหากังรักขันตุ สะวาหะ สะวาหายะ


    * เหรียญหล่อผลาญลิขิตฟ้าปกาศิตยมราชธรรมเทพพิพากษา เปิดให้สั่งจองเฉพาะทาง PM โดยให้แจ้งชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมประสิทธิฝากผู้บูชาไว้เป็นลูกหลานพระธรรมบดียมราช ให้ท่านคุ้มเกรงตามแต่จะทรงพระกรุณาอีกวาระหนึ่ง รายได้สมทบทุนไถ่ชีวิตโคกระบือต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อผลาญลิขิตฟ้าปกาศิตยมราชธรรมเทพพิพากษา( ตะกรุดทัณฑ์สวรรค์โองการพระยม,หุ่นแพะล้างบาปรับกรรม) บูชา 4,000 บาท

    31946451_2189615704658172_5122004282962345984_n.jpg 31945455_2189615711324838_7385520419538731008_n.jpg
    31957531_2189615697991506_7476834082836447232_n.jpg
    108_201707271059001.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสะกดทุกข์สะท้อนกรรม(มหาสะท้อน) ชุดพิเศษ

    สืบเนื่องจากมีความต้องการสูงและหลายๆท่านอยากบูชาไว้ใช้หลายๆดอกเผื่อลูกหลานในครอบครัวให้ใช้เพื่อความสบายใจด้วย รวมไปถึงของที่อื่นนั้นราคาบูชาค่อนข้างสูงมาก ทั้งยังมั่นใจในคุณวิชาของพ่ออาจารย์เนื่องจากเคยพบเจอประสบมากับตัวแล้ว จึงอยากอ้อนวอนให้ท่านลงตะกรุดมหาสะท้อนให้


    "ก็ต้องย้อนกลับไปก่อนถึงต้นสายวิชาที่ทำนั่นคือหลวงพ่อวัดท่าซุง ถือเป็นสุดยอดวิชาตะกรุดของหลวงพ่อ ซึ่งช่วงราวๆปี ๒๕๒๗-๒๕๒๘ ในวัดจะมีผู้ไม่ประสงค์ดีทำไสยศาสตร์คุณไสยดำเพื่อหวังจะทำร้ายทั้งพระและฆราวาสในวัด พระท่านมาบอก หลวงพ่อเลยเมตตาทำให้พิเศษเฉพาะเป็นการภายใน โดยบรรดาลูกหลานจะลงชื่อกันไว้ แล้วนำแผ่นทอง เงิน นาค หรือตะกั่วมากันเอง แล้วก็นำใส่พานไปให้หลวงพ่อปลุกเสก ตอนแรกหลวงพ่อก็ลงมือจารด้วยตัวท่านเอง สักพักหมาหอนลั่นกันทั้งวัด หลวงพ่อก็หยุดจาร เมื่อปลุกเสกเสร็จ หลวงพ่อก็บอกว่า พระท่านมาบอกว่าไม่ต้องจารทั้งหมดหรอก จะไม่ไหว ให้กำหนดจิตทำ ท่านเลยกำหนดจิตตามพระท่านสั่ง ปรากฎว่าตะกรุดทุกดอกในพานนี้ ขึ้นเป็นตัวอักขระตามเนื้อตะกรุดครบทุกดอกเลย จะมีจำนวนไม่มาก ในระหว่างปี พ.ศ.๒๕๒๘ หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้เมตตาสงเคราะห์ศิษย์ใกล้ชิดเป็นกรณีพิเศษ โดยอนุญาตให้นำแผ่นทองคำ แผ่นนากหรือแผ่นเงิน(ตามกำลังของแต่ละคน) มาทำเป็นแผ่นตะกรุด เรียกกันว่าตะกรุดเม ซึ่งเป็นคำย่อมาจาก “ เม สัมมุกขา สัพพา หะระติ เต สัมมุกขา ” ท่านได้เมตตาจารยันต์ให้ ส่วนใหญ่เป็นยันต์องค์พระและมีอุณาโลมอยู่ด้านบน บางแผ่นท่านจารอักขระเพิ่มเติมให้ และมีอยู่แผ่นหนึ่งที่ท่านเมตตาจารเป็นกรณีพิเศษโดยด้านหนึ่งเป็นยันต์ท่านปู่พระอินทร์ (ยันต์ปัญจพุทธา) อีกด้านเป็นยันต์ท้าวมหาชมภู ที่กล่าวว่าเป็นกรณีพิเศษนั้นเนื่องจากในขณะนั้นหลวงพ่อท่านมีภาระกิจมากทั้งงานสอนพระกรรมฐาน งานศูนย์สงเคราะห์ฯ งานเจริญศรัทธางานก่อสร้าง ฯลฯ เวลาพักผ่อนของท่านน้อยมาก ท่านยังสละเวลาจารแผ่นยันต์ให้ ผู้ที่ได้รับแผ่นยันต์ชุดนี้มาตั้งแต่ต้นหรือได้รับตกทอดมาในภายหลังล้วนแล้วแต่มีความชุ่มชื่นใจ อิ่มใจในความเมตตาของท่าน


    ตะกรุดเม นั้นมีอานุภาพในการสะท้อนกลับ ไม่ว่าใครทำดีทำชั่วกับผู้ใช้ตะกรุด ผลดีผลชั่วนั้นจะย้อนคืนไปยังผู้ทำเป็นร้อยเท่าพันทวี “ เม สัมมุขขา สัพพา หะระติ เต สัมมุขขา ” คาถานี้ถ้าทำถึงที่สุดท่านว่าแม้แต่ลูกปืนที่ยิงมาก็จะย้อนกลับไปหาผู้ยิงเอง ข้อควรระวัง อย่าเข้าไปในสถานที่ซึ่งคนหรือสัตว์กำลังคลอด เพราะจะทำให้คลอดไม่ได้ และห้ามให้เด็กใช้อย่างเด็ดขาด

    ในเรื่องของตะกรุดเม(มหาสะท้อน) หลวงพ่อกล่าวว่า "ที่เขาห้ามให้เด็กใช้ เพราะว่ามหาสะท้อนย้อนกลับทุกอย่าง แล้วย้อนกลับหลายเท่า ถ้าเราเผลอไปตีเด็ก เราอาจจะโดนอะไรที่หนักกว่านั้นคืน เขาเลยห้ามไม่ให้เด็กใช้ และห้ามเข้าไปในที่ที่คนหรือสัตว์กำลังคลอด เพราะจะทำให้คลอดไม่ออก จะโดนย้อนกลับหมด"

    มี คนสงสัยว่า ในเมื่อตะกรุดสะท้อนผลร้าย การอาราธนาตะกรุดให้คุ้มครองจะเป็นการทำร้ายคนอื่นหรือไม่ ก็ต้องขอออกความเห็นว่า การอาราธนาตะกรุดเมเหมือนการใส่เกราะคุ้มครองตัวเอง ถ้าเขาเตะลูกบอลมาใส่คุณ ลูกบอลก็ย่อมสะท้อนกลับไปหาเขา สิ่งที่เขาได้รับเป็นการกระทำของเขาหรือคุณเองล่ะ? และสำหรับผู้ที่คิดดีทำดีต่อผู้อื่นตะกรุดย่อมสะท้อนผลดี สรุปว่า ถ้าไม่มีเจตนาจะทำร้ายใคร แกล้งใคร ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว เคยมีคนสงสัยว่า ถ้าพกตะกรุดทั้งคู่แล้วชกกันจะเป็นอย่างไร ท่านว่าคนที่กำลังใจเข้มแข็งกว่าก็ได้เปรียบกว่า แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีตะกรุดแล้วเผลอไปล่วงเกินคนที่พกตะกรุดเข้า ก็ให้ขอขมาโทษผู้ที่พกเสีย...ถ้าทำทัน และขอขมาพระรัตนตรัยด้วย"

    วิชาทำตะกรุดมหาสะท้อนนั้นมีหลายสายและคุณวิชานั้นก็ให้ผลคล้ายๆกัน แต่ในสายหลวงพ่อจะเป็นมหาสะท้อนสายบุญฤทธิ์ที่ใช้บารมีองค์พระท่านสงเคราะห์ให้ ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้เมตตาตัดสินใจจะลงให้ผู้บูชาที่จองมาเป็นกรณีพิเศษ ที่จริงท่านไม่อยากจะทำเลย ท่านว่าจะเป็นบาปกรรมแก่สัตว์ทั้งหลายให้เขาเดือดร้อน แต่มันก็มีข้อแม้ที่ครูบาอาจารย์สั่งไว้ว่า ถ้าเขาขอให้ช่วยก็ต้องทำให้ ด้วยว่าโลกและสังคมปัจจุบันนี้ล้วนมีแต่การแก่งแย่งและต่อสู้กันทุกที่ มีการรังแกกดขี่หรือทำร้ายกันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ท่านว่าสิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นภัยในวัฏสงสาร ตะกรุดมหาสะท้อนของพ่ออาจารย์พลจึงได้เกิดขึ้น


    วิชาของท่านนั้นแปลกเเละรุนแรง แปลสั้นๆตรงตามตัวเลยก็คือ ใครที่ผูกใจเจ็บเรา ใครที่ด่าเรา ใครที่คิดร้ายเรา ใครที่เขาใช่เล่ห์หรือกระทำให้ชนะหรือได้ดีกว่าเราพูดง่ายๆคือมาร้ายไม่ใช่มาดีจะเกิดผลกลับไปทันทีให้มีอันเป็นไปฉิบหายหรือตายเป็นที่สุด ในขณะเดียวกันสิ่งที่ตรงกันข้ามก็คือคนที่เขาทำดีกับเราผลดีก็ย่อมสะท้อนกลับไปเช่นกัน ท่านว่าดีมาก็ดีกลับ ร้ายมาก็ร้ายกลับ ผลแห่งการกระทำนั้นจะย้อนกลับไปเป็นร้อยเท่าพันทวี พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาทำตะกรุดนี้เหมือนกระจกสะท้อนเงาตนเอง ดุจกฏเหล็กแห่งสังสารวัฏนั่นคือทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วนั่นเอง


    พ่ออาจารย์ท่านว่าเวรกรรมควรระงับด้วยการไม่จองเวร ที่ทำให้ก็เพราะอนุรักษ์วิชาเท่านั้น อย่าไปคิดมุ่งร้ายกับใคร เพราะเราไม่ได้กร่อนสูตรย่อสูตรเราลงให้เต็มทั้งหมด ดังนั้นผู้ใด้จึงควรตั้งอยู่ในจิตที่วางไว้ในอุเบกขาวางเฉยต่อผัสสะความรู้สึกโกรธเกลียดเป็นผู้มีเมตตาเป็นอารมณ์ก็จะใช้ตะกรุดนี้ขึ้นในทางที่จะเจริญรุ่งเรือง คิดว่ามีไว้กันตัวมิได้มีไว้ทำลายผู้อื่น


    คาถาบูชา (ท่านว่า ไม่ต้องใช้ เพราะเสกมาดีเเล้วเเต่หากจำเป็นจะภาวนาก็ภาวนาได้)

    อักโกจฉิมัง อะวะธิมัง อะชินิมัง อะหาสิเม เย จะ ตัง อุปะนัยหันติ เวรัง เตสัง นะสัมมะติ
    * ซึ่งเป็นพุทธภาษิตบทหนึ่งใช้เตือนใจเราภาวนาเหมือนเป็นปริศนาธรรมก็พอ ส่วนเรื่องลงวิชาพ่ออาจารย์ท่านทำให้เต็มที่เเล้ว

    ตะกรุดนี้เป็นของอันตราย เพราะใช้สะท้อนเเม้เเต่ผู้ที่คิดร้ายประสงค์ร้าย ท่านว่าถ้าตามครูสอนเรารู้ตัวคนทำหรือคนที่คิดไม่ซื่อกับเราด้วยให้เขียนชื่อนามสกุลสอดใส่ตะกรุดไป หากเขาทำจริงจะเกิดผลรุนแรงถึงขั้นวิบัติฉิบหายเเละล้มตายได้ แต่บาปกรรมนั้นเธอคิดว่าเธอจะรับไหวมั้ย ท่านว่าไม่ใช่ตะกรุดเอาไว้ทำร้ายคนแต่เป็นใจคนที่เอาไปทำร้ายกันเอง ถ้าเราใช้ตะกรุดทำร้ายผู้อื่นนั่นแสดงว่าเราก็ไม่ใช่คนดีอะไรเช่นเดียวกับเขา พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ที่ทำให้ก็เพื่อให้พกอาราธนาเฉยๆ ทำให้เพื่อเป็นของกันตัวเท่านี้ก็แรงพอแล้ว ถ้าเขาเป็นคนดี ถ้าเขาไม่ได้คิดไม่ซื่อ ไม่ได้ว่าร้ายเรามันก็จะไม่เกิดผลอะไร


    * นอกจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังได้ลงวิชาพิเศษที่เรียกว่าสะกดทุกข์ไว้ เพื่อให้ผู้บูชามีแต่ความสุขความเจริญในการประกอบอาชีพทำมาหากิน ซึ่งวิชานี้ท่านจะทำน้อยครั้งมาก ท่านว่าเมื่อสะท้อนกรรมแล้วก็ต้องสะกดทุกข์ด้วย ชีวิตจึงจะเจริญ จะใช้แต่สะท้อนปลดีปลร้ายใส่คนอื่นนั้นตนเองย่อมไม่ได้รับประโยชน์อะไร ดังนั้นตะกรุดชุดนี้ท่านจึงลงให้แบบพิเศษเพื่อให้ผู้บูชาคลายเคราะห์กรรมที่ติดขัดบางช่วงเวลานั้นๆ


    เอาไว้พกทำข้อมือเอาไว้ห้อยคอเพื่อความสบายใจได้ทุกอย่างตามแต่สะดวก อย่าได้เอาไปใช้ในทางที่ผิดเลย ท่านว่าเป็นตะกรุดดอกเล็กๆ เอาไว้ให้เด็กให้ผู้หญิงห้อย ให้คนที่เรารักเราเป็นห่วงห้อย คนเจ้าเล่ห์เหลี่ยมจัดนี่ห้ามห้อย(ถ้าอยากให้เด็กห้อยเพราะรักลูก พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ห้อยได้เป็นบางเวลา อย่าให้เค้าห้อยไปโรงเรียน หรือขณะที่เราทำโทษเขาก็ให้ถอดออกเสียก่อน) ให้ประสิทธิไว้เฉพาะกับคนดีเท่านั้น


    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าแปลก บางคนลองอาราธนาหลายๆดอกพร้อมกันก็ปรากฏว่าชีวิตที่ติดวิบากกรรมหนักหรือโดนรังแกจากผู้มีอิทธิพลมากก็หลุดพ้น คลายลง... เห็นผลในอันที่จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว*ตรงนี้ท่านว่าถ้าใครรู้ตัวว่ากรรมมาก และกรรมหนักหรืออยากเห็นผลเร็วก็ให้บูชาเป็นคู่กัน


    มีข้อห้ามข้อเดียว ตะกรุดนี้ห้ามคลี่ถ้าคลี่ให้เสื่อมถอนทันที ท่านม้วนส่วนหน้าตัดให้เป็นตะกรุดดอกเล็กๆ กะทัดรัด รายการนี้ตามคำเรียกร้องท่านลงให้พิเศษเฉพาะคนสั่งจอท่านจะลงตามจองจนครบจำนวนที่เสด็จพระใหญ่ท่านอนุญาติให้ทำ หากครบแล้วขอสงวนสิทธิ์ในการปิดจองทันที ทั้งให้บูชาในราคาที่ไม่หนักมากนักจะได้ทั่วถึงกัน


    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสะกดทุกข์สะท้อนกรรม(มหาสะท้อน) ชุดพิเศษ บูชาดอกละ 500 บาท

    e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b981e0b8a1e0b988e0b898e0b8a3e0b893e0b8b5.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นแพะผูกกรรมรุกมหันต์ทุกข์ โทษ ทรมาน (ล้างบาปรับกรรม)

    วิชาเอกที่หลายๆคนหวังได้ไว้ในครอบครองและหาโอกาศน้อยครั้งที่พ่ออาจารย์ท่านจะสร้าง จะทำในขนาดกำลังดีน่าใช้เช่นนี้ด้วยแล้ว ตามกระแสที่ขอบูชาแพะเพราะอยากได้ไว้ใช้รับกรรมและแจกลูกหลานนั้น เนื่องจากแพะมีจำนวนน้อยและชุดนี้เป็นของกำลังใช้ที่ตัวเล็กแล้วก็น่ารักสุดๆ บางคนที่มีปู่พญายมจะบอกว่าแพะรุ่นนี้น่ารัก แบ๊วมาก โดยเฉพาะใครชอบของจิ๋ว ห้อยคอกำลังสวย หรือจะทำพวงกุญแจพก แม้แต่ห้อยเอวรึพกในร่มผ้าท่านว่าได้ทั้งหมดทั้งสิ้นเอาตามแต่ใจสะดวก ขอเพียงให้ใช้ให้พกติดตัวก็พอ


    แพะเป็นสัตว์มงคลที่โบราณจารย์ นิยมนำรูปมาสร้างเป็นเครื่องรางของขลังเพื่อเป็นเครื่องป้องกันภยันตรายให้แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยเรียกเงินทอง โชคลาภ และเป็นมหาเสน่ห์ สังเกตว่าแพะฝูงหนึ่งจะมีกี่ตัวก็แล้วแต่ มักจะมีตัวผู้เพียงตัวเดียวนอกนั้นเป็นตัวเมีย จึงมักมีผู้นิยมนำไปใช้ในเรื่องเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์ ด้วยคติที่ว่าตัวผู้หนึ่งเดียวคุมตัวเมียทั้งฝูง ดังนั้นวิชาแพะจึงเน้นพุทธคุณด้านเมตตาแรงที่สุด เสน่ห์สูงล้น เพราะแพะนี้นิสัยเจ้าชูตัวพ่อได้แพะตัวเมียทั้งฝูงได้สบายหลายรอบ และแพะตัวเมียไม่ปฏิเสธ


    แพะมีพุทธคุณดีทุกด้าน ใครใช้ เคราะห์หดหาย เคราะห์จืด เคราะห์จาง เคราะห์หมด แพะรับเคราะห์แทนเรา แพะกินเคราะห์ กินสิ่งไม่ดีแปลถ่ายออกมาไปในรูปของ เมตตามหาเสน่ห์มหานิยม เคราะห์มากเท่าไหร่แพะแปลสภาพมาเป็นเสน่ห์ออกมากเท่านั้น ไปทางเจ้าชู้ไปทาง สาวๆ หนุ่มๆเดินงงหลงทิศหลงทาง "กลับร้ายกลายเป็นดี ล้างอาถรรพ์ มนต์ดำ ชนะทุกปัญหา ชนะทุกอุปสรรค์ เมตตา ชนะใจคนทั้งหลาย อย่าว่าแต่มนุษย์เลย แม้เทวดา ก็พาให้เมตตา รักใคร่ เสน่หา เกื้อกูล" ยังมีคุณตามตำราแพะเศรษฐีแพะตำรับ เรียกเงิน เรียกทอง เรียกโชคลาภ ให้ทวีมากเข้า ใครมีแพะเศรษฐี บอกได้คำเดียวว่า“ ร่ำรวย ”


    หุ่นแพะลอยเคราะห์ล้างบาปรับกรรม วิชาแพะพ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญนัก เพราะมันเป็นตัวรับเคราะห์กรรมแทนเจ้าของ แพะของท่านนั้นมันกินบาปเคราะห์เป็นอาหาร ซ้ำยังเป็นแพะตัวผู้ตัวจ่าฝูงที่เป็นเอกด้านเสน่ห์มหานิยม ดั่งที่ว่าตัวผู้จ่าฝูงตัวเดียวได้ตัวเมียทั้งฝูง แพะนี้ท่านทำเพื่อให้คนใช้นำไปบูชาโดยหวังประโยชน์ใหญ่ให้คนใช้นิราศทุกข์ พ้นทุกข์จริงๆ โดยท่านได้ใช้ความเพียรอุตสาหะหาฤกษ์ยามลงตะกรุดลอยเคราะห์เก็บไว้ทีละดอกๆ เอาแต่เนื้อตะกรุดเท่านั้นไม่ให้มีโลหะสิ่งใดเจือปนมาเทหล่อเป็นแพะล้างบาปรับกรรมรุ่นนี้

    วิชาลอยเคราห์นี้สร้างยากมากเพราะเป็นวิชาชั้นสูงที่ท่านต้องลงจารตะกรุดเสกเก็บไว้เพื่อที่จะใช้เมื่อถึงกาลถึงวาระจริงๆเท่านั้น เป็นของที่มีอานุภาพมาก ท่านว่าความหมายมันก็ตรงตัว คือลอยอยู่เหนือเคราะห์กรรม คล้ายๆกับการตกตะกอนของน้ำ เคราะห์กรรมอยู่ส่วนหนึ่ง น้ำอยู่ส่วนหนึ่ง ลอยแยกจากกัน เคราะห์กรรมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรา ดุจดั่งว่าเวทย์วิชานี้คือกำแพงที่ขวางกั้นน้ำกับตะกอนเช่นนั้น ที่ว่าสร้างยากนั้นก็เพราะเป็นวิชาที่เกี่ยวกับกฏแห่งกรรม ท่านว่าไม่มีใครอยากจะทำให้กันหรอก ตอนเรียนมาท่านก็ย้ำหนักหนาว่าต้องเลือกคนให้ ไว้ทำยามบ้านเมืองคับขัน ประชาชนเดือดร้อนข้าวยากหมากแพง

    พ่ออาจารย์ท่านก็สร้างเก็บไว้ ลงจารไว้ตามวาระโอกาสที่นานๆจะมีฤกษ์เสียครั้งหนึ่ง โดยลงจารในฤกษ์ที่กำหนดทำสะสมมาเรื่อยๆ แต่ตอนลงนั้น ท่านไม่ได้ลงเฉพาะวิชาลอยเคราะห์ ท่านเพิ่มในส่วนของไสยเวทย์เข้าไปด้วย ท่านว่ากลืนกันทั้งพุทธทั้งไสย วิชาที่เพิ่มเข้าไปนี้แต่เดิมเป็นวิชาของพราหมณ์ในยุคทมิฬโบราณ วิชานี้แม้บ้านเมืองที่ล่มจมก็กู้ขึ้นมาได้ ช่วยเร่งผลิดอกออกผลให้เจริญรุ่งเรือง ลบล้างคำสาปคำสาบานอันติดเนื้อต้องตัวมาแต่อดีตชาติ

    คำสาปคำสาบานอันเราได้ล่วงเกินผู้หนึ่งผู้ใด ในชีวิตหนึ่งๆของสัตว์โลกที่วนเวียนอยู่ในสงสารวัฏนี้ ท่านว่าเราไม่รู้ตัวหรอกว่าเราสั่งสมสิ่งเหล่านี้มามากมายเพียงไหน จะรุ่งโรจน์มันก็รุ่งไม่ได้เพราะติดทั้งกรรมทั้งคำสาปแช่งต่างๆมากมายที่ประเดประดังกันเข้ามา

    ตะกรุดลอยเคราะห์ที่ใช้เทแพะนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราสร้างเพื่อหวังประโยชน์ใหญ่ไม่ได้สนใจว่าจะเคราะห์หรือจะกรรม เพียงแต่จะสืบสานพระเวทย์โบราณกับของที่ครูบาอาจารย์ท่านมอบฝากไว้ให้มาเพียงเท่านั้น วิชาสองส่วนนี้ถ้าแยกกันก็แล้วไป ถ้ารวมกันนั้นจะเป็นสุดยอดวิชาในสายบุญฤทธิ์ที่หาสิ่งใดมาเทียบเคียงเสมอเหมือนมิได้ คนใช้ต้องติดเนื้อติดตัวไว้เสมอเพื่อให้บรรเทาเคราะห์กรรมตนเอง ซ้ำยังลบล้างคำสาปคำสาบานความอาฆาตมาตรร้ายอันติดเนื้อต้องตัวมานับแต่อดีตกาล อย่าว่าแต่ปัญหาส่วนตัวเลย วิชานี้แม้บ้านเมืองก็ยังกู้ได้ ให้ผลใหญ่ถึงปานนั้น เอาไปเพื่อหวังประโยชน์ใหญ่ นั่นคือปลดทุกข์ของสัตว์ สัตว์ทั้งหลายนั้นจมเคราะห์จมทุกข์ แต่ก็ยังไม่หมดหวัง เพื่อจะออกจากทุกข์นั้น หาใช่เพื่อต้องการเสวยสุข แต่เพื่อต้องการโอกาสและสิ่งที่ดีกว่า จะได้ทำบุญเพาะบ่มอบรมจิตตนเอง เดินไปในสายบารมีเราจึงทำตะกรุดลอยเคราะห์นี้เสียครั้งหนึ่ง

    วิชานี้ ไม่ได้ส่งผลแต่เพียงการลอยบาปลอยเคราห์กรรม ลบล้างคำสาปคำสาบานอาฆาตมาตรร้ายต่างๆเท่านั้น แต่ยังกันและแก้ได้สารพัดด้วย เป็นทั้งมหากันในตัวเอง ไม่ให้มีสิ่งอุบาทว์จัญไรใดมาย่ำยีบีฑา เพื่อที่จะทำให้ชีวิตตกต่ำ กันทั้งคุณไสยอวิชชา กันไว้ดุจเกราะเพชรปกป้องตนเองเช่นนั้น ท่านว่ากันไว้นี่แหละดี คนเราถ้าเจออุปสรรคไม่มีอะไรมากันเอาไว้มันเจริญยาก ซ้ำยังแก้ แก้ที่ว่านี้คือแก้ไขพฤติการณ์ของเจ้าของให้มีความเห็นถูก แก้ในโรคร้ายสิ่งเลวร้ายต่างๆที่ตกต้องชะตาของผู้บูชาอยู่ แก้สิ่งที่จองจำชีวิตเราไว้เดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ ท่านว่ารู้เองเห็นเอง สิ่งพวกนี้หายหมด ใครที่ทำอะไรไม่เจริญ หาเช้ากินค่ำ หรืออยากประสบความสำเร็จ ด้วยเกรงว่าจะติดเวรกรรมคำสาปสรรค์ใดๆ ท่านว่าเลิกคิดไปได้เลย เราทำไว้ให้ดีแล้ว ให้เจ้าของและผู้ที่คู่ควรเขามาเอาไปใช้บูชา

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดลอยเคราะห์เสร็จท่านก็เสกเก็บไว้ ท่านว่าเสกจนเต็มวิชาจนได้นำตะกรุดทุกดอกมาหล่อหลอมในรูปแบบ"แพะลอยเคราะห์รับบาปล้างกรรม" ด้วยในอดีตที่ท่านลงตะกรุดลอยเคราะห์นั้นท่านได้ถือสัจจะวาจาไว้แล้วว่าจะทำในรูปแบบตะกรุดเพียงครั้งเดียว วาระนี้ท่านจึงนำตะกรุดไปเทเป็นหุ่นแพะเสกขึ้นรูปทรงวิชาไว้ให้ใช้รับบาปล้างกรรมแทนตัวผู้บูชาได้อีกด้วย ท่านสั่งให้บอกเค้ากันสั้นๆว่า แม้เคราะห์อันเกิดกับมหานคร เกิดแต่สรรพชีวิตหมู่มาก วิชานี้ยังแก้ไขจากตกต่ำแล้วทำให้เจริญได้ นับประสาอะไรกับตัวบุคคล


    * ตะกรุดผูกกรรม พ่ออาจารย์ท่านได้นำแพะที่เสกพิธีพญายมราช นำมามัดด้วยด้ายมงคลสมรสเป็นคติแห่งความรักที่สมหวังไว้กับตะกรุดชนิดพิเศษนั่นคือตะกรุดผูกกรรม ตะกรุดตัวนี้เป็นวิชาสำคัญที่ใช้ในหลายกรณี อาทิผูกมัดกรรมแลเคราะห์ทั้งหลายทั้งหมดทั้งมวล เพื่อดึงดูดรวบรวมไว้ให้ตกลงมาที่แพะนี้อย่างเฉพาะเจาะจงมิให้หลุดรอดมาพบเจอ หรือคุ้มครองปกป้องกรรมให้กรรมทั้งหลายส่งผลเฉพาะด้านที่ดี วิชาตะกรุดผูกกรรมนี้พ่ออาจารย์ท่านไม่เคยทำให้ใครหรือลงที่ไหนมาก่อนด้วยต้องจำกัดอักขระบีบลงในพื้นที่จำกัดเพื่อจะให้ได้ตะกรุดสำคัญนี้ ซ้ำท่านว่ามันยังเข้ากันได้เสริมกันกับแพะพอดี ท่านจึงนำตะกรุดนี้มาผูกให้เฉพาะผู้ที่บูชาแพะรุ่นพิเศษ ตามคติท่านที่ว่าเอาให้มันถึงที่สุดไปเลย คนใช้จะได้หายทุกข์หน้าดำ หายจน หายเครียด มีกำลังใจสู้ชีวิตกันซักที


    คาถาบูชา

    มาขะโย มาวะโย มัยหัง มาจะโกจิ อุปัทะโว กะหาปะณานิ ปะวัสสันตุ เมณฑะกัสสะ ยะถาฆะเร อิทธิฤทธิ์ พุทธะนิมิตตัง อิมังคงกระพันธะนัง อธิษฐามิ

    แพะจิ๋วนี้พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ให้คนพกห้อยคอกันหรือจะทำเป็นพวงกุญแจก็ได้ โดยเฉพาะตั้งใจจะให้เด็กๆหรือผู้หญิงได้บูชาหรือห้อยกันได้ทั่วหน้าทั้งครอบครัว ท่านว่าที่ให้ใช้กับทั้งครอบครัวนั้น ได้เช่นนั้นก็จะดีเพราะดวงคนในครอบครัวมักเกี่ยวเนื่องและมีกรรมหนุนกัน แต่สำหรับใครที่เคราะห์หนักท่านว่าให้ร่นแพะไปพกใต้ร่มผ้าหรือใต้สะดือ นอกจากกินเคราะห์แล้วเขาจะยังแก้อัปมงคลที่เกิดจากจุดกำเนิดหรือลักษณะเฉพาะของร่างกายเราด้วย


    สำหรับคนปกติทั่วไปพ่ออาจารย์ท่านว่าใช้คนละตัวก็พอ แต่สำหรับใครที่พิเศษ นั่นคือรู้ตัวว่าไม่พ้น เสวยทุกข์ โทษ ทัณฑ์ เป็นมหันต์ทุกข์ มหันต์โทษ รู้ตัวว่าเคราะห์กรรมเราหนักมากเป็นพิเศษ จมทุกข์มานานหลายปีนี้ทำอย่างไรก็ไม่พ้นเลย หรือต้องการใช้งานแพะให้ไวที่สุด ท่านว่าแพะตัวนี้มีตะกรุดผูกกรรม ควรใช้คู่กันสองตัว สำหรับคนไหนที่อาราธนาคู่กันได้สองตัวพ่ออาจารย์ท่านว่า " ตัวหนึ่งเขาก็จะผูกเฉพาะกรรมดีเอาผลดีถ่ายเทมาให้เรา ส่วนอีกตัวก็จะกินเฉพาะกรรมเลวหรือบาปเคราะห์แปรเปลี่ยนธาตุกรรมเป็นสิริมงคลอีกต่อหนึ่ง เหมือนคนเราทำงานถ้าให้ไปจับงานทำพร้อมกันสองอย่างแม้มันจะสำเร็จแต่ว่าก็ยังต้องใช้เวลาหรือช้าหน่อยจึงค่อยๆดี แต่ถ้าหากให้สองงานให้มีคนทำสองคน ต่างคนต่างทำหรือช่วยกันทำนั่นย่อมดีและเห็นผลไวกว่าแน่นอนกว่า หุ่นแพะนี้เราผูกขึ้นมาเพื่อให้รุก ไล่บี้ทัณฑ์ ทุกข์ โทษ ทรมานโดยเฉพาะ ขอให้อาราธนาไว้อย่าพ้นกายห่างกายเท่านั้น "


    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นแพะผูกกรรมรุกมหันต์ทุกข์ โทษ ทรมาน (ล้างบาปรับกรรม) บูชา 700 บาท

    32744179_2195160047437071_7131185293926858752_n.jpg
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา องค์กำเนิดบรรพกาลวราหาคลี่แผ่นดิน(หมูกินเสือตรีกาลมหาสะเดาะ)
    " วราหาผู้เป็นเจ้า ได้เสด็จออกปราบมหายักษ์ คลี่แผ่นดินทั้งสี่ทวีปให้เจริญรุ่งเรือง "
    วิชาหมูนั้นมีอยู่หลายสาย เหมือนที่พ่ออาจารย์ว่าหมูนั้นมีหลายตัว บางตัวก็ปราบได้แม่แต่เสือเย็น หรือเสือสมิง นั้นคือหมูที่มีเดชมาก บางตัวก็กันพวกภูติผีปีศาจ ปล่อยออกไปได้เหมือนพยนต์ที่คอยทำลายอาถรรพ์ร้ายทั้งหลาย แต่บางตัวก็ดีด้านโชคลาภอย่างถึงที่สุด ในยุคนี้หลายๆที่นิยมสร้างหมูนารายณ์กันมากแต่กลับทำได้เพียงแค่ชื่อด้วยไม่ได้มีจิตแห่งพระเป็นเจ้าอย่างแท้จริง กอปรกับของบางอย่างภิกษุทำไม่ได้อย่างสิ้นเชิง พ่ออาจารย์ท่านจึงใคร่สร้างยอดเครื่องรางวราหาวตารนี้ให้ปรากฏ

    หมูนารายณ์หรือพระวราหะนั้นสำคัญไฉน พ่ออาจารย์ท่านอุปมาไว้ดั่งว่าเมื่อเกิดกลียุค หิรัณยากษะมหายักษ์ใคร่จะเป็นเจ้าโลก จึ่งกระทำฤทธานุภาพให้ปรากฏม้วนแผ่นดินทั้งสี่ทวีปเอาลงไปในบาดาล สรรพสัตว์ตลอดจนมนุษย์รวมไปถึงพระแม่ธรณีล้วนได้รับความทุกข์แสนสาหัส พูดง่ายๆคือกำลังจะตาย และตายกันชนิดล้างเผ่าพันธุ์ ในปางนั้นพระนารายณ์ผู้เป็นเจ้าได้ทรงกู้สถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นด้วยการอวตารพญาหมูป่าตัวเผือกขาวดังสำลีมีเขี้ยวโง้วยาวเป็นเพชรลงไปสังหารมหายักษ์ ครั้นแล้ว" วราหาผู้เป็นเจ้า ได้เสด็จออกปราบมหายักษ์ คลี่แผ่นดินทั้งสี่ทวีปให้กลับเจริญรุ่งเรือง "


    ดังนั้นจึงถือคติที่ว่าเมื่อพระวราหาวตารคลี่แผ่นดิน คือนำแผ่นดินที่สิ้นหวังแล้ว แผ่นดินที่ตายแล้วทั้งสี่ทวีป อันสรรพสัตว์ทั้งหลายหากำลังใจหรือความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้แล้วนำกลับมา คลี่ออกให้กำเนิดสรรพชีวิตขึ้นใหม่ สถาปนาแผ่นดินสี่ทวีปขึ้นใหม่จนถึงแก่ความเจริญรุ่งเรืองเป็นที่สุด ด้วยคตินี้จึงอุปมาวราหาคลี่แผ่นดินเป็นวิชาที่ทำให้ชีวิตได้เริ่มต้นใหม่จนถึงที่สุดแห่งความเจริญรุ่งเรือง ถึงแม้จะเป็นชีวิตที่พิกลพิการ ลำบากยากแค้นสิ้นหวัง แม้จะแห้งเหี่ยวแล้ว ใกล้ดับสูญแล้ว ร้ายแรงถึงปานนั้นก็ยังกู้กลับขึ้นมาได้


    พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าถ้าท่านไม่ทำขึ้นมาจริงๆจังๆคนที่รู้และทำได้จริงก็ดูจะไม่มีเสียแล้ว ดังนั้นท่านจึงตั้งใจทำหมูของท่านมากด้วยวิชาพยนต์นารายณ์เป็นหลักเพื่อกู้แก้วิกฤติที่เลวร้ายสิ้นหวังทุกสถาน ซ้ำยังลบผงวิชาหมูทุกตัวผสานลงไปด้วย นอกจากนั้นด้วยปัจจัยที่ว่าหมูมันกินจุ กินเก่ง กินไม่เลือก กินได้ตลอดดุจดั่งลาภลอยมีให้กินไม่ขาด จะกินใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด "ท่านว่าหมูมันสบาย ชีวิตมีแต่นั่งกินนอนกินแล้วก็โตขึ้นๆไม่หยุด ท่านจึงอุปมาว่าชีวิตแบบหมูๆคือการเติบโตแบบง่ายๆสบายๆดั่งวิสัยของคนนั่งกินนอนกินและต้องเจริญขึ้นเท่านั้น"


    ท่านตั้งใจทำหมูชุดนี้ให้มีอานุภาพ มีตัวตนโดยใช้มวลสารเฉพาะทางที่ท่านเก็บไว้นั่นคือเขี้ยวหมูตันพันปีซึ่งแข็งเป็นหิน ของชิ้นนี้มีอานุภาพมากท่านวว่าใช้ได้ทุกอย่างดุจอาวุธเทวดา มีเดชมาก แรงครูสูง วันดีคืนดีมักปรากฏเป็นหมูเผือกเขี้ยวเพชรออกมาหาข้าวกิน ท่านได้นำเขี้ยวหมูหินหรือเขี้ยวเพชรนี้บดเป็นผงเพื่อสร้างวราหาคลี่แผ่นดิน โดยฝังชิ้นส่วนเขี้ยวที่บดไม่ละเอียดไว้ด้านหน้าเป็นขุมพลังพญาหมูส่วนหนึ่ง ทั้งยังผสมด้วยผงลบวิชาหมูนารายณ์รวมถึงหมูทองแดงและหมูทุกสาย รวมไปถึงซ้องหมูป่าทนสิทธิ์ทรงอำนาจที่มีความเชื่อว่าหากหมูป่าไม่ตายหรือคายออกมาเองจะไม่สามารถพบได้เลย ท่านถือคติว่ากูไม่ตายคนอื่นก็ไม่ได้กินเช่นนั้นซ้ำซ้องหมูป่ายังมีเดชมาก ผงทั้งหมดนำมารวมกับว่านยาและไม้เฉพาะทางตามตำรับสร้างหมูนารายณ์ที่ท่านไม่ให้เปิดเผย ท่านว่าว่านและตัวยาแต่ละอย่างล้วนหายาก ไม่แปลกใจเลยที่โบราณจารย์จะกำหนดขึ้นไว้และเมื่อสร้างเสร็จนั้นหมูนั้นจะมีเดชมากพิฆาตได้แม้กระทั่งเสือสมิง


    รูปนั้นสำคัญไฉน ..ด้วยรูปเป็นสื่อที่บ่งบอกกิริยาและมีความสำคัญในการเรียกอาการตลอดจนสำเร็จตัวตนทั้งหมดพ่ออาจารย์ท่านจึงแกะพิมพ์หมูสำคัญนี้เป็นพระวราหะเขี้ยวยาวโง้งทูนแผ่นดินทั้งสี่ทวีปไว้บนศรีษะ ดุจว่ากำลังคลี่ออกเพื่อรูปนี้จะให้กำเนิดสรรพชีวิตเป็นที่สุดแห่งความเจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงปฐวีธาตุผสมกับยันต์กำเนิดแม่พระธรณีทำพิธีบูชาไฟสักการะรูปนามแห่งมหาเทวีก่อนจะปั้นเป็นลูกกลมๆบรรจุไว้ที่หัวของพระวราหะ ท่านว่าใช้แม่ธรณีนี่แหละแทนแผ่นดินที่กำลังคลี่ออก เป็นมงคลสองต่อทั้งชนะมาร ปราบแผ่นดิน คลี่คลายวิบัติดุจผู้พกนั้นอยู่ในสถานการณ์ที่หมูนารายณ์นี้กำลังแก้ไขคลี่คลายปัญหาโลกแตกตลอดเวลา ไม่มีเหตุการณ์ร้ายๆใดจะมาปิดกั้น อุดตัน หรือเป็นอุปสรรคให้ฝ่าไปไม่ได้


    นอกจากสำเร็จรูปพยนต์นารายณ์แล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังลงตะกรุดทำวิชาหมูกินเสือฝังไว้ด้านหน้ากำกับพยนต์หมูด้วย วิชานี้ชื่อประหลาดเพราะปกติหมูต้องเป็นเหยื่อเสือ ต้องเป็นฝ่ายที่ถูกกิน แต่หมูกินเสือนั้นท่านว่าเป็นวิชาที่กลับร้ายให้กลายเป็นดี เปรียบตัวเองเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนด้อยไร้ฤทธานุภาพแต่เหล่าผู้มากด้วยวาสนาบารมีก็ยังมาตายคาปาก มาให้เรากินถึงที่ ไม่ต้องแสวงหา ไม่ต้องดิ้นรน อิ่มแบบมีเกียรติไม่ใช่อิ่มไปมื้อๆขอไปที ตรงนี้ท่านว่าสำคัญมากสมัยนี้คนเราชอบแสวงหาสิ่งที่ช่วยเหลือชั่วมื้อชั่วคราวประดุจหิวข้าวก็จะหาโภชนาหารเพียงเติมให้เต็มท้อง แก้หิว แก้อยากไปมื้อๆ อิ่มเช่นนี้เป็นอิ่มมื้อเดียว มื้อหน้าก็ต้องเหนื่อยออกหากินใหม่ กว่าจะได้กว่าจะอิ่มอีกก็เสียเวลาสูญเสียช่วงชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงทำวิชาหมูกินเสือเพื่อแก้ปัญหาวาสนาชะตาคนให้มีชีวิตที่ง่ายขึ้น ทำอะไรก็ง่ายไปหมด และเป็นผู้ชนะตลอดกาล


    ด้านหลังพยนต์หมูนี้ท่านฝังของมงคลเพื่อหนุนธาตุวิชาให้เสริมอานุภาพซึ่งกันและกัน กลืนกินไม่ขัดแย้งกัน ดังนี้

    - องค์กำเนิดนัยน์ตามหาเทพ ด้วยความเชื่อและศาสตร์บรรพกาลในการบูชาลึงค์ดุจเทพเจ้านับพันปีพ่ออาจารย์ท่านจึงแกะองค์กำเนิดอันเป็นขุมพลังแห่งเทวะไว้ นั่นคือมหาศิวะลึงค์เบิกเนตรพระสยม ซึ่งตาที่สามอันปรากฏนี้ เป็นสัญลักษณ์ของการหยั่งรู้ คือรู้กาลอดีต รู้กาลปัจจุบัน และหยั่งรู้ในอนาคตกาล บูชาไว้เปิดญาณทัศนะของตนจะดีมาก ด้วยดวงเนตรนี้หาได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความรู้แจ้งเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังการทำลายล้างสูงสุดอันเกิดมีมาแต่เดิมในฐานะพระผู้เป็นเจ้าอีกด้วย เหนือกว่าและมากกว่าเทพอาวุธอันทรงอานุภาพทั้งหลายของเทพเจ้านั้น ที่เหล่าเทพเจ้านั้นเกรงกลัวและเคารพองค์พระศิวะเทพเป็นที่สุดนั้นก็เพราะกลัวอำนาจการทำลายล้างของดวงเนตรนี้ แม้พระองค์มีพระประสงค์จะทำลายมหาจักรวาลให้ถึงกาลพินาศย่อยยับไป ก็จะเกิดเพลิงประลัยกัลป์ขึ้นมาจากพระเนตรที่สามนี้ เผาผลาญห้องมหาจักรวาลให้พังพินาศไป ด้วยคติแม้สัญลักษณ์ดวงเนตรพระสยมปรากฏขึ้นที่ใด เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายย่อมกลัวเกรงในอาญาสิทธิ์นี้ของพระเป็นเจ้า จึงอาจจะกล่าวได้ว่าบุคคลที่ได้ครอบครองไว้ สามารถปราบและข่มเขาได้ทั้งโลก วิชานี้ถือว่าเป็นมหาปราบอย่างที่สุดอีกสายหนึ่งทีเดียว โดยองค์กำเนิดเบิกเนตรนี้มีอานุภาพแลมงคลทั้งสถานะความเป็นพ่อ ด้วยพลังฝ่ายเทวะที่สรรค์สร้างและให้ทุกสิ่งตามี่ผู้บูชาปรารถนา รวมไปถึงการปราบปรามทำลายล้างศัตรูที่มุ่งร้ายอย่างที่สุด ดวงเนตรนั้นย่อมประกอบด้วยมงคลต่างๆ ดังนี้
    1. ปกตินั้นตาเป็นสัญลักษณ์ของการมองเห็น เป็นเครื่องรู้ เช่นเดียวกันกับนัยน์ตามหาเทพนี้ หากเบิกขึ้นแล้ว ผู้ครอบครองไว้จะไม่เดินทางผิด สิ่งที่ไม่เห็น ไม่รู้ ไม่เคยประสบพบเจอ นับจากนี้ไปก็จะได้เห็นได้ทราบเฉพาะตัวของตนเอง
    2. ตาเป็นสัญลักษณ์ของการเห็น การรู้แจ้ง เป็นสัญลักษณ์ของปัญญาอันยิ่ง ท่านว่าดวงนัยน์ตานี้ดีนัก ให้เอาไว้กับตัวสมองจะปลอดโปร่ง ความคิดจะแจ่มใสขึ้น จะคิดอ่านทำสิ่งใดย่อมเกิดตัวรู้ ตัวปัญญาเด่นชัด ไม่ขุ่นเคือง
    3. แม้ในพระพุทธศาสนา สมเด็จพระสุคตบรมครูท่านก็ได้แสดงธรรมไว้อย่างชัดเจนแล้วถึงความสำคัญของการมองเห็น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา สิ่งนี้นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเราถือเป็นเคล็ด สำหรับคนที่ยังมืดบอดอยู่ ยังไม่รู้จักคำว่ามี เพราะเรายัดหัวใจพระธรรมจักรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลงไปด้วย สิ่งใดที่ปรารถนาจะมี ยังไม่เกิด ยังไม่มี นับจากนี้ให้เกิดมีตามที่เรานี้สาปสรรค์เอาไว้
    4. นัยน์ตา คำนี้สื่อถึงความหมายยิ่งใหญ่ ประดุจสิ่งรัก สิ่งที่มีค่าสูงสุดของเจ้าของ ดั่งที่คำโบราณท่านเปรียบเปรยว่าแก้วตาดวงใจ นัยน์ตานี้ก็คือแก้วตาสื่อถึงความรักหวงแหนสูงสุด เป็นอิทธิคุณแฝดทางด้านมหานิยม มหาเสน่ห์ใหญ่อย่างที่สุด ถ้ารักใครชอบใครนั้น ต่อไปไม่ใช่เรื่องยาก ดุจเราได้ครองของสำคัญคือแก้วตาดวงใจของเค้าไว้แล้วนั่นเอง ให้ตั้งจิตนึกเอาว่าเรากุมแก้วตาดวงใจของเขาไว้ อยู่ในตัวเราเขาอยู่ในอุ้งมือเราแล้ว จะใช้ทางเสน่ห์เล่ห์กลใดก็สุดแต่ใจเถิด
    5. เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจการทำลายล้างสูงสุดในจักรวาล พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ในเหล่ามาร อสุรกาย เทพเจ้า และพระเป็นเจ้าด้วยกัน ก็ยังเกรงอำนาจการทำลายล้างอันเป็นปรมัตถ์นี้ เพราะเป็นการทำลายขั้นสูงสุด พกไว้กับตัวเป็นมหาเดช มหาอำนาจเหนือสิ่งอื่นใด เป็นที่เคารพและเกรงกลัว จนเข้าต้องรีบเข้าหาเรามาประจบเอาใจเราเช่นนั้น
    - องค์กำเนิดลัชชาเคารี เทวีแห่งความอุดมสมบูรณ์ด้วยอุบัติขึ้นจากโยนีของมหาสตรี พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากเป็นครรภ์หรือที่กำเนิดในทุกสรรพสิ่ง เป็นที่สุดแห่งความอุดมสมบูรณ์แล้ว ยังเป็นตัวแทนพลังกำเนิดของฝ่ายอิตถีเทวะหรือมหาศักติทั้งปวงอีกด้วย เป็นปฐมครรภ์แห่งจักรวาล มารดาแห่งโลก รูปแห่งอารมณ์ มหามายา ปัญญา ความรู้แจ้ง ทุกสรรพสิ่งในจักรวาลล้วนอยู่ในรูปของมหาศักติผู้ให้กำเนิดจักรวาล โดยถือว่าแม่คือตัวแทนของคำว่าความรัก ความปรารถนาดีที่มีต่อลูก เป็นสายใยที่ไม่มีวันตัดขาด ต้องอุปถัมภ์ค้ำจุนให้พรกันตลอดไป ในอารายธรรมโบราณนั้นถือได้ว่าเทวีลัชชาเคารีนี้เป็นต้นกำเนิดของแม่เป๋อฝั่งเราก็ว่าได้ ดังนั้นเมื่อพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจะสร้างองค์กำเนิดทั้งสอง ท่านจึงปรารถนาจะทำให้เป็นที่สุดโดยใช้องค์กำเนิดบรรพกาล ซึ่งนอกจากจะมีอำนาจด้านมหามงคลดลบันดาลได้ร้อยแปดแล้ว ยังเป็นที่สุดแห่งเสน่ห์ มหาเมตตา ความเย้ายวนสุขสันต์ด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด นั่นก็คือรูปแบบพลังงานชีวิต พลังงานต้นกำเนิดอันเกิดแต่การสร้างสรรค์ดั้งเดิมของปฐมครรภ์ล้วนบริสุทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่ามนุษย์นั้นเกิดมากี่ภพชาติ อุบัติมาตั้งแต่ตัวตนสูงสุดยันต่ำสุด แปดเปื้อนมามากไม่รู้จะเท่าไหร่ พลังงานแห่งชีวิต พลังงานตั้งต้นล้วนมัวหมองไม่สมดุลย์ทั้งสิ้น เพื่อจะเปลี่ยนคนให้ได้ดี มีความสุข มีปรกติชีวิตที่จะเจริญก้าวหน้าได้ต่อไป จึงต้องใช้อานุภาพแห่งมหาเคารีนี้ขัดเกลาพลังงานชีวิตให้บริสุทธิ์ ไม่เช่นนั้นยิ่งใช้ชีวิตเวียนว่ายตายเกิดผจญเคราะห์กรรมก็ยิ่งจะมัวหมองมากลงไปเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราหากพลังงานชีวิตมันค่อยๆบริสุทธิ์ขึ้นทีละน้อยๆจนเต็มเปรี่ยมให้สังเกตุได้เลยว่าเรื่องดีๆทั้งหลายมันจะวิ่งเข้ามาหาเราเอง อุปมาดุจคำว่าผู้มีบุญญาธิการยิ่งใหญ่แม้ตกไปอยู่แห่งใดก็ย่อมสุขสบายไม่อนาทรร้อนใจ
    - ตะกรุดเวทย์สวรรค์ตรีกาลมหาสะเดาะ เป็นสูตรทำตะกรุดชุดของพ่ออาจารย์นว่าด้วยวิชาแก้เคราะห์กรรม หากพูดถึงวิชาแก้เคราะห์แล้ว ตัวนี้ท่านว่ามันต่างกับเคราะห์ทุกตัว ด้วยเป็นเวทย์สวรรค์ที่ออกจากโอษฐ์ท้าวมหาพรหมหรือจะเรียกว่าเวทย์ดึกดำบรรพ์ก็ได้ โดยปกติวิชาแก้เคราะห์จะหมายให้แก้เคราะห์ฉาบฉวย หรือเคราะห์ที่มันหนักๆเอาให้ถึงตาย จะเปร่งอานุภาพเป็นครั้งคราวจนหลายๆคนอาจสงสัยว่าทำไมชีวิตมันยังติดๆหรือดูแย่อยู่ จะมีก็แต่เรื่องแรงๆที่ผ่านไปได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่เคราะห์รายวันเล็กๆน้อยๆก็ยังเจอยังต้องปวดหัวคลี่คลายกันต่อไป ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าให้สังเกตุเอา ก็ดวงดาวทั้งหลายยังเคลื่อนตัวไม่หยุดที่จะให้พระเคราะห์ไม่ทำงานนั้นจะเป็นไปได้ที่ไหน ถึงหลายๆครั้งมหาเคราะห์เช่นนั้นจะเบาลงไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ก็ยังมีผลของเคราะห์กรรมอยูดี ด้วยมนุษย์นั้นเกิดมาเพื่อเสวยกรรม แต่วิชานี้กลับระบุครอบคลุมเคราะห์กรรมสามสถานนั่นคือ
    - เคราะห์วัน
    - เคราะห์เดือน
    - เคราะห์ปี
    เรียกว่าหากล่วงออกมาจากเคราะห์สามสถานนี้ก็ไม่มีเคราะห์หามยามร้ายใดไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่กล้ำกรายได้อีกแล้ว ถึงจะหยุดการเคลื่อนไหวของดวงดาวไม่ได้ แต่ก็ล่วงเคราะห์ด้วยเวทย์สวรรค์ ด้วยอาญาสิทธิ์แห่งพระบรมบิดาพรหมเทพเป็นปฐม ซึ่งเคราะห์สามสถานนั้นครอบคลุมชีวิตคนทั้งชีวิต ไม่ว่าจะเคราะห์วันตลอดจนเดือนหรือปี พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้มันสอดคล้องกับการจะเปลี่ยนชีวิตคนที่ยากลำบากให้มีชีวิตแบบหมูๆ กินแบบหมูๆ สบายแบบหมูๆ ท่านจึงจำเป็นต้องงัดวิชาที่เคยไปเรียนในบังบดขึ้นมาทำ โดยตั้งใจจะทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามงคลและอาถรรพ์ที่ฝังเสริมลงไปนั้นทุกสิ่งล้วนขานรับซึ่งกันและกัน ด้วยหมูเขี้ยวเพชรนี้แม้จะดุดันอย่างไร เมื่อคลี่คลายแผ่นดินทั้งสี่ทวีปแล้วก็หาได้มีพลังแห่งการสร้างสรรค์ พลังแห่งองค์กำเนิด ต่อให้คลี่คลายไปวิกฤติต่างๆย่อมเรียงหน้ามาให้คลี่ใหม่อยู่เรื่อยๆ ไม่อาจจะพัฒนาได้ เหมือนชีวิตคนเจออุปสรรคแก้ไปอย่างก็มีอีกอย่างไม่รู้จบสิ้น ชีวิตต้องเวียนแก้อยู่อย่างนั้น ถึงจะแก้ได้แล้วจะอย่างไรในเมื่อเสียเวลาไปทั้งชีวิตกับการแก้ไขเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆ ในขณะเดียวกันการพัฒนาต่อยอดพลังงานชีวิตนั้นหากติดซึ่งเคราะห์กรรมทุกอย่างก็จะหยุดนิ่ง ท่านจึงว่าเมื่อคลี่คลายแล้วจำต้องสร้างสรรค์แลระงับเคราะห์หยุดกรรม สรรพสิ่งจึงจะถึงซึ่งความรุ่งเรือง ท่านมองเห็นความสำคัญของวิชาหมูนี้โดยก่อนจะสร้างท่านคิดและขอคำปรึกษาจากครูเทพพรหมทั้งหลาย ว่าทำอย่างไรจึงจะปลดล๊อคชีวิตคนที่มันติดขัดได้สิ่งใดเมื่อทำแล้วจะแก้ไขปัญหาครบคลุมทั้งระบบชีวิตทั้งยังเป็นขั้นตอนและกระบวนการที่นำไปสู่การพัฒนา เมื่อลงตัวแล้วท่านพิจารณาว่าหากคนเราคลี่คลายปัญหา มีพลังชีวิตขับดันสร้างสรรค์ก่อเกิดสรรพสิ่ง เพื่อจะลิขิตชะตาแลวาสนาตนเองได้ ซ้ำยังก้าวล่วงเคราะห์ฟ้าชะตาดิน เมื่อนั้นชีวิตแบบหมูๆที่จะเจริญและพัฒนาไปเรื่อยๆก็จะเกิดขึ้น


    หมูนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้เป็นพยนต์นารายณ์มีอานุภาพมาก ท่านว่าให้ใช้เป็นเครื่องรางหรือทำพวงกุญแจก็ได้ คาดเอวก็ได้มีตัวมีตนแรงมากนัก วันดีคืนดีจะเห็นหมูเผือกเขี้ยวยาว ถ้าใครตาดีหน่อยก็จะเห็นกันง่ายมาปรากฏ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีเคล็ดการเลี้ยงง่ายๆเพื่อให้บูชาได้ผลทันตาเช่นกัน

    * เคล็ดการบูชาหมูนั้น ท่านว่าหมูมันหากินเก่ง กินไม่หยุด แต่เราผู้เป็นเจ้าของมัน อย่าให้มันหากินเอง เราต้องเลี้ยงมัน อย่าให้มันกินสิ่งใดในบ้านของเราไม่เช่นนั้นมันจะกินจนไม่เหลือ ได้ไปต้องบอกกล่าวกันก่อนว่าห้ามหากินเองหรือกินข้าวของในบ้าน พ่อสัญญาว่าจะเลี้ยงเจ้าให้ดี พูดให้เข้าใจง่ายๆคือให้ถือเคล็ด ไปซื้อข้าวสารจากนอกบ้านมาซักถุง และตั้งใจไว้เลยบอกกับหมูเลยว่าข้าวสารนี้คืออาหารของเค้าตั้งใจเลยว่านี่คืออาหารหมู วันพระหนนึงก็เปลี่ยนให้มันทีนึง ถือคตินี้มันจะหากินนำทรัพย์สินจากภายนอกเข้ามาหาเราไม่หยุด โดยที่ทรัพย์สินภายในจะอยู่คงเดิมไม่ขาดตกบกพร่องมีแต่จะเพิ่มพูนยิ่งๆขึ้นไป อุปมาดั่งกินแต่ของนอกบ้านหาเข้าบ้าน ลากมากินในบ้านจนอิ่ม ซ้ำยังไม่แตะต้องสมบัติทรัพย์สินใดๆในบ้านนั้น เมื่อจะขอสิ่งใดก็ให้ขอตอนเลี้ยงอาหารเขาเถิด

    คาถาบูชา

    โอม ศานตาการัม ภุชะคะศะยะนัม ปัทมะนาภัมสุ เรศัม วิศวาธารัม คะคะนะสะทฤศัม เมฆะวรรณัม ศุภางคัม ลักษมีกานตัม กะมะละนะยะนัม โยคิภีร์ ธยานะคัมมยัม วันเทวิษณุมอภะวะภะยะหะรัม สรรวะโลกัยกานาถัม

    * วราหาคลี่แผ่นดินนี้ พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ 8 ตน มีให้บูชาไปแล้วสองตนและท่านเลี้ยงข้าวน้ำไว้เป็นพยนต์พิทักษ์เองหนึ่งตน จึงมีให้บูชาทั้งหมด 5 ตน สำหรับผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่อาจารย์ท่านจะบอกกล่าวสั่งสอนเพื่อมอบอาญาสิทธิ์ให้เจ้าของใช้งานได้เต็มที่พร้อมกับเจิมประสิทธิ์มงคลชัยอีกวาระหนึ่ง รายได้สมทบทุนสร้างหอระฆังและเมรุเผาศพที่ชำรุดต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา องค์กำเนิดบรรพกาลวราหาคลี่แผ่นดิน(หมูกินเสือตรีกาลมหาสะเดาะ) บูชา 4,000 บาท


    Shiva.jpg
    32679034_2195163900770019_5435999841505247232_n.jpg 32683119_2195163894103353_4816300476611952640_n.jpg
    32395259_2195163877436688_6947438634429579264_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2023
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระปิดตาจตุมหาโลกาพิมพ์ปั้น,ดักทรัพย์,ล้มลุก,มือโต,พารวย(ผงนางโกย น้ำมันเศรษฐีเจ็ดเรือน)
    ...สืบเนื่องจากมีคนถามหา พระปิดตาพร้อมกับบางคนที่อยากได้เครื่องมงคลแบบลิมิเต็ดทำนองว่าเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลก ทั้งขอแบบที่พอเช่าบูชาไหว ด้วยปัจจัยต่างๆดังกล่าวนี้ซึ่งมีกาลครั้งหนึ่งที่หลวงพ่อแก้วเคยปกาศิตสื่อสารให้พ่ออาจารย์ทำพระปิดตาตำรับของท่านเพื่อสืบสายวิชาไว้ โดยได้บอกมวลสารลับและวิธีการทำต่างๆรวมถึงเมตตามาช่วยสำเร็จพระปิดตาพิมพ์ปั้นอันจะเป็นตำนานนั้น ใครที่ขอของดีแบบทำกับมือ พ่ออาจารย์ท่านปั้นเองทุกขั้นตอน ใครที่ชอบสายพระปิดตาทรงโบราณที่เน้นพุทธคุณทุกด้านพร้อมกัน จึงพลาดไม่ได้


    ทำไมต้องสร้างพระปิดตาตำรับหลวงพ่อแก้ว คนแต่โบราณเชื่อกันว่าพระปิดตาตำรับหลวงพ่อแก้วนี้มีอานุภาพเป็นเอกอยู่ด้านเดียว แต่ก็เป็นอานุภาพที่เหนือกว่าแม้กระทั่งพระสมเด็จวัดระฆังหรือมงคลวัตถุอื่นๆด้วยกันนั่นก็คือพลังงานด้านโชคลาภ เมตตา ไปไหนไม่มีคนเกลียดมีแต่คนรัก เมื่อพูดถึงพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว หลายคนมักนึกถึงพระปิดตาเนื้อผงจุ่มรัก หรือเนื้อผงคลุกรักของท่าน...แต่ก่อนที่ท่านจะนำมวลสารมากดเป็นพิมพ์พระปิดตาหลังแบบที่เราคุ้นเคยกันนั้น ก่อนหน้านี้ท่านได้สร้างเป็นพิมพ์ปั้นก่อน ซึ่งกว่าจะปั้นเสร็จทีละองค์ๆย่อมใช้เวลามากกว่าการกดแม่พิมพ์เพราะฉะนั้น ความเข้มขลัง ความพิเศษ ตลอดจนเอกลักษณ์ของพระเมื่อปั้นมือทีละองค์ ทุกองค์พอเหมือนกันได้แต่ต้องไม่เหมือนกัน ถือว่าแต่ละองค์เป็นหนึ่งเดียวในโลกก็ว่าได้

    พ่ออาจารย์ท่านศึกษาและรวบรวมมวลสารต่างๆเพื่อสร้างพระปิดตาพิมพ์ปั้นตามตำรับหลวงพ่อแก้ว ดั่งที่หลวงพ่อแก้วเคยทำไว้ แต่ท่านไม่ได้ทำในปริมาณมากจนต้องนำผงไปคลุกกับรัก ดังนั้นท่านจึงใช้มวลสารล้วนๆปั้นขึ้นเลยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในส่วนผสมการสร้างพระปิดตาตำรับหลวงปู่แก้วนั้นได้แก่ ใช้ผงที่ลงเลขยันต์อักขระหลายตำรับวิชาเช่นผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ผงสาริกาหลงรังเป้นต้นแล้วลบเก็บผงไว้ ใช้เกสรดอกบัวที่นาคถวายพระอุปัชฌาย์ ไคลเสมาหรือตะไคร่น้ำติดเสมาหน้าโบสถ์ ว่านยาศักดิ์สิทธิ์ได้แก่ยอดกาหลง, ยอดรักซ้อน, ยอดสวาท, ดินโป่ง กาฝากรัก และเกสรดอกไม้... เกสรบุนนาคที่เก็บจากป่าโป่งจากบริเวณโป่งช้างหรือโป่งสัตว์ ส่วนใหญ่เป็นดอกไม้เช่น ดอกบุนนาค ดอกนมแมว ท่านจะรอให้แมลงตอมดอกไม้เสียก่อน ดอกไม้ที่ไม่มีแมลงตอม.. ท่านว่า ไม่หอม...ไม่เอา ส่วนผสมต่อมา เรียกว่าไม้ไก่กุก ไม้ที่ไก่เจาะจงไปใช้จงอยปากเคาะ..คนโบราณถือว่า เป็นไม้เสน่ห์มหานิยม ชายได้ก็ใช้ทัดหู หญิงได้ก็ห้อยไว้ที่อก เชื่อกันว่าจะเสริมความสวยความงามขึ้นอีกสิบเท่า ...ขาดไม่ได้ก็คือผงกะลาตาเดียว ผงกะลาไม่มีตา...และมวลสารลับอื่นๆตามตำรับหลวงพ่อแก้ว ส่วนผสมสุดท้ายคือน้ำ ตำรับหลวงพ่อแก้วนั้นใช้ขันรองน้ำที่หยดจากผนังถ้ำ ท่านเรียกว่าหยดน้ำตา หยาดน้ำตก ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความอาลัย ในยามที่จะพลัดพรากจากกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าต่อให้มวลสารดีอย่างไรก็ต้องมีเชื้อเก่าผสมด้วย ท่านจึงเอาผงหลวงพ่อแก้วที่เก็บไว้ใส่ลงไปหมดหน้าตักเพื่อนำมาสร้างพระปิดตาพิมพ์ปั้นหรือพิมพ์แลกซุงนี้


    พ่ออาจารย์บอกว่าพระปิดตาชุดนี้มีอาถรรพ์มาก เพราะเน้นตำรับรวยเร็วของท้าวจตุโลกบาลที่ได้สอนท่านไว้ผสานลงไป จึงต้องผสมของสำคัญเพิ่มไปอีกสองอย่าง คือ
    - ผงนางโกย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เรียกเต็มๆก็คือนางกอบโกย หมายถึงวิชาที่ใช้ทางขวนขวายหาทรัพย์เก่ง ได้ทรัพย์มาก มักนิยมใช้เสี่ยงโชค ถ้าเป็นทางหากินท่านว่าใช้ได้หมดไม่เลือกว่าจะสุจริตหรือไม่สุจริตก็ตาม ผู้ใช้อยากได้อะไรท่านว่าก็ขนเอาไป มีทรัพย์มาก ขนได้มาก โกยได้เยอะทำอะไรก็โกยเอาๆ เป็นมงคลเหนือกว่าการค่อยๆทยอยเก็บกินดอกผลไปเรื่อยๆ วิชานางโกยนี้ดุจแม่นางฟ้าผู้ใจดีรวบรวมขุมทรัพย์จำนวนมากเปิดทางสะดวกให้เราพร้อมตักตวงกอบโกยได้เต็มที่ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาของเทวดา...บอกได้เพียงเท่านี้
    - น้ำมันเศรษฐีเจ็ดเรือน น้ำมันนี้จะว่าทำยากก็ยาก เพราะต้องซื้อน้ำมันจันทร์ไปขอให้เศรษฐีที่ร่ำรวยมีความเป็นอยู่สบายมีกินมีใช้ไปเจ็ดชั่วโคตรก็ไม่หมด ให้เขาช่วยอธิษฐานบารมีหนุนเนื่องกันลงไปในน้ำมันนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องทำจนได้เจ็ดคน แล้วจึงนำมาอธิษฐานจิตหุงด้วยว่านยาพร้อมกับเสกด้านเปิดวาสนาชะตาชีวิตหนุนดวงเศรษฐี ท่านว่าสูตรนี้เป็นน้ำมันเปิดดวงเศรษฐี ให้เศรษฐีที่มีบุญบารมีมากถึงเจ็ดคนอธิษฐานใจใช้บารมีเศรษฐีเก่าหนุนให้คนมีดวงเศรษฐีได้ใช้ จะได้มีวาสนาเป็นเศรษฐีสืบต่อกันไป
    ของสำคัญทั้งสองนี้ท่านว่าอาถรรพ์มากตั้งแต่ตอนทำตอนผสมผง ทั้งฝูงแมลงบินมาตอมผงเสมือนเล่นกับดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอม ทิพย์กายทั้งหลายก็ส่งเสียงอื้ออึงแซ่ซ้องสาธุการกันให้ขวักไขว่ไปหมด เมื่อทำพิธีผสมผงนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้บอกกล่าวหลวงพ่อแก้วไว้ ท่านว่าสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดเจ้าของผงหรือองค์หลวงพ่อแก้วท่านมานั่งคุมพิธีเองตั้งแต่ทำผงจนปั้นพระเสร็จไม่ยอมไปไหนเลย ..เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าพระปิดตาชุดนี้สำคัญมาก


    ด้วยได้เมตตาจากองค์หลวงพ่อแก้ว ผสานกับที่ท่านใช้วิชาของท้าวจตุโลกบาลที่มีความเป็นห่วงมนุษย์ อยากจะประทานโชคลาภเปิดวาสนาแต่หาอุบายอันใดโดยตรงไม่ได้ จึงได้บอกเป็นเคล็ดวิชาให้พ่ออาจารย์ท่านทำขึ้น ด้วยเหตุดังนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งชื่อพระปิดตารุ่นนี้เป้นเกียรติประวัติแก่จอมเทพทั้งสี่ว่า "พระปิดตาจตุมหาโลกาพิมพ์ปั้น" นั่นเอง ทั้งนี้นอกจากจะเน้นเนื้อหามวลสารแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังได้ทำตะกรุดสองดอกสูตรของหลวงพ่อแก้วฝังไว้ในพระปิดตาด้วยดอกหนึ่งเร่งรวยลืมจน ดอกสองนะเสน่หา ท่านว่าพระปิดตาหลวงพ่อแก้วลำพังแบบปกติก็หายากแล้ว แต่แบบที่ฝังตะกรุดนั้นยิ่งกว่าพลิกแผ่นดินจะหา ท่านว่าไหนๆเราทำแล้วก็ให้มันสุดๆไปเลย ต้องดีที่สุด

    ในอดีตกาลนั้นหลวงพ่อแก้วท่านนั่งปั้นพระของท่านเอง จนเมื่อกายสังขารชราภาพมากขึ้นและมีผู้นิยมบูชาพระท่านมากขึ้นจึงเปลี่ยนมาใช้การกดพิมพ์ ขณะเดียวกันความนิยมที่ยิ่งเพิ่มขึ้นก็ทำให้ในภายหลังมีหลายๆคนนอกจากพระเณรมาช่วยท่านกด ระหว่างการพิมพ์พระปรากฏว่ามีหนุ่มๆสาวๆที่มาช่วย กระทั่งสามเณร มีอันต้องรักใคร่ได้เสียกันหลายคู่ทั้งพระสงฆ์ก็สึกหาลาเพศไปเพราะสีกา กล่าวกันว่าเพราะผงทำพระของท่านเป็นเหตุ หลวงพ่อจึงเปลี่ยนวิธีผสมเนื้อใหม่ ใช้รักผสมเนื้อให้เหนียวจะได้ไม่ปลิวไปทำให้ใครต่อใครรักใคร่กันเกินเลย...โดยไม่จำเป็น

    สรรพคุณของพระปิดตาตำรับหลวงพ่อแก้วโด่งดังทุกด้านแต่ที่หลายคนทราบมากที่สุดก็คือมหาเสน่ห์เป็นเลิศ เมื่อดูจากมวลสารและวัสดุต่างๆที่นำมาเป็นส่วนผสมเกือบทุกอย่าง ล้วนมุ่งเน้นไปทางด้านเมตตามหานิยมทั้งสิ้น โดยเฉพาะผงอิทธิเจจะมีอานุภาพทางด้านเมตตามหาเสน่ห์อย่างแรงแก่สตรีเพศ ตามตำรากล่าวว่าแค่ขูดผงเพียงเล็กน้อยให้ผู้หญิงกินผู้หญิงคนนั้นจะรักและจงรักภักดีกับผู้ชายที่ขูดผงให้กินแบบโงหัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว และมวลสารอีกอย่างหนึ่งก็คือไม้ไก่กุก ก็เป็นไม้มหาเสน่ห์เช่นกันเกิดจากไก่ตัวผู้คาบกิ่งไม้ชิ้นเล็กๆแล้วร้องเรียกให้ไก่ตัวเมียเข้ามาหา เมื่อตัวเมียจิกคาบชิ้นไม้นั้นแล้วคล้ายๆบ่งบอกถึงการรับไมตรีจากไก่ตัวผู้ จากนั้นไก่ตัวผู้ก็จัดการเผด็จศึกทันที ตำราโบราณจึงถือว่าไม้ไก่กุกเป็นของอาถรรพ์ทางเมตตามหาเสน่ห์อย่างแรง นอกจากนี้ยังใช้ดีในด้านโชคลาภหรือโภคทรัพย์ ให้สังเกตเวลาได้พระปิดตาตำรับหลวงพ่อแก้วมาการค้าขาย การงาน กิจการงานต่างๆจะดีขึ้น ฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังอุดมด้วยโภคทรัพย์สมบัติ ธนสารสมบัติ โดยเฉพาะ"มหาเสน่ห์" ใครเห็นใครก็รักยิ่งกับเพศตรงยิ่งข้ามชะงักนัก จนหลวงพ่อแก้วปรามโดยสาปแช่งไว้ว่า "ถ้าได้มาเป็นเมียแล้วไม่เลี้ยงดู ทิ้งขว้าง ให้ตายแบบหมาข้างถนน"ทีเดียว ส่วนด้านแคล้วคลาดคงกระพันก็มีคนเจอประสบการณ์มามากมาย


    พุทธคุณพระปิดตานั้นถึงขนาดกล่าวกันว่า ถ้าเป็นผู้หญิงมีพระติดตัวก็ไม่ต้องผัดหน้า ถ้าเป็นผู้ชายก็ไม่ต้องหวีผม แม้ขอทานชรายังได้เมียสาว ...แม้ชีวิตศัตรูมีมากก็จะน้อยลงถ้าศัตรูน้อยก็จะหมดไป เรียกได้ว่านอกจากเป็นเสน่ห์ เป็นปิดตาพารวย ยังกันได้ทุกอย่างอีกด้วย เรื่องโชคลาภก็แรงเช่นกันถึงขนาดที่ว่า ถ้าเป็นแม่ค้าท่านท้าว่าถ้าขายของไม่หมดหาบ ท่านจะซื้อของที่เหลือในหาบ ท่านย้ำหนักหนาว่าพระของท่านแก้จนได้ แม้ใครเบื่อเอาพระไปคืนท่าน ท่านจะให้เงิน1ตำลึง เงิน1ตำลึงสมัยนั้นมีค่ามาก แต่ก็ยังน้อยกว่าพระเพราะค่าพระของท่านแลกซุงได้หนึ่งท่อน ต่อมาระยะหลังๆท่านตีราคาพระของท่านเพิ่มขึ้นถึงองค์ละ 1ชั่งทองคำ ในยุคแรกสมัยก่อนใครอยากได้พระปิดตาพิมพ์ปั้นจากมือหลวงพ่อแก้ว ต้องทำงานโค่นไม้ งานชักลากไม้ในป่า ซึ่งเป็นงานหนักและเหนื่อย ถ้าใครมาช่วยชักลากซุงจากป่ามาถึงวัด ท่านก็ให้พระหนึ่งองค์ ใครเอาซุงมาถวายท่าน 1 ท่อน ท่านก็จะให้พระ 1 องค์แต่ภายหลังที่ท่านทำพระไม่ไหวแล้ว แม้แต่พระพิมพ์ก็ยังมีค่ากว่าหนึ่งชั่งทองคำ ดังนั้นคนสมัยก่อนจึงติดปากเรียกพระปิดตาหลวงพ่อแก้วว่ารุ่นลากซุงก็ถูก จะเรียกรุ่นแลกซุงก็ไม่ผิดนอกจากพุทธคุณทางด้านมหาเสน่ห์เน้นคู่ครอง ตลอดจนโชคลาภเปลี่ยนชีวิตดั่งปกาศิตของหลวงพ่อว่าพระท่านนั้นแก้จนได้ แม้ในด้านคุ้มครองก็ยังถือว่าเยี่ยมเพราะเมื่อตอนแจกท่านจะบอกว่า เอาไว้ป้องกันไข้ป่า ป้องกันภัยจากสัตว์ร้ายหรือโรคร้าย คนที่เอาพระอมไว้หรือห้อยคอ ลดอันตรายจากไข้และสัตว์ร้ายได้ไม่น้อย ภูตผีปิศาจก็ไม่อาจเข้าใกล้

    จะเห็นได้ว่า พระปิดตาตำรับหลวงพ่อแก้วนั้นมีพุทธคุณโดดเด่นทุกด้านจึงเป็นสุดยอดปรารถนามาแต่โบราณ แต่สำหรับผู้มีศรัทธาก็ยังไม่สิ้นความหวังไปด้วยมีกาลครั้งหนึ่งที่หลวงพ่อแก้วเคยปกาศิตสื่อสารให้พ่ออาจารย์ทำพระปิดตาตำรับของท่านเพื่อสืบสายวิชาไว้ โดยได้บอกมวลสารลับและวิธีการทำต่างๆรวมถึงเมตตามาช่วยสำเร็จพระปิดตาพิมพ์ปั้นอันจะเป็นตำนานนั้น


    ...พระปิดตาพ่ออาจารย์ดีอย่างไรคนใช้เท่านั้นถึงจะรู้ ก็ท่านนั่งปั้นนั่งทำทีละองค์ทำไปเสกไปเชิญหลวงพ่อแก้วท่านมาทำตั้งแต่ยังเป็นผง คราก่อนที่ท่านออกพระปิดตามีแต่คนบอกว่าใช้ดีแต่ติดที่องค์ใหญ่เทอะทะ แต่พระปิดตาพิมพ์ปั้นนั้นขนาดกำลังห้อยไม่หนักคอ และที่สำคัญคือเน้นมวลสารมาก ใส่ผงเก่าหลวงพ่อแก้วเยอะเนื้อจึงสวย ภาษาคนช่อบส่องพระต้องพูดว่ายิ่งส่องยิ่งมันส์เช่นนั้น วัตถุประสงค์ของท่านคือทำบูชาครู ทำเพื่อให้ใช้แทนของเก่าได้ ใครหาพระปิดตาหลวงพ่อแก้วแท้ๆไม่ได้ มาเอานี่ไปพ่ออาจารย์ท่านว่าพุทธคุณก็เหมือนกัน ใช้ได้เช่นเดียวกัน


    หลวงพ่อแก้วท่านสั่งความไว้ ให้ทำตามสมัยท่านนั่นคือซุงหนึ่งท่อนหรือทองหนึ่งชั่งแลกพระไปหนึ่งองค์ ที่ผ่านมาพ่ออาจารย์ท่านก็ยึดปฏิปทานี้เวลาใครทำบุญให้ทองคำมามากๆเพื่อไปเทยอดเจดีย์บ้างหรือบริจาคเงินทุนการศึกษาเด็กมาเยอะๆท่านก็จะมอบพระให้ไปหนึ่งองค์ ปรากฏว่าพระปิดตาพิมพ์ปั้นนั้นมีประสบการณ์มากทั้งความเจริญก้าวหน้าและเสน่ห์ชู้สาวไม่ผิดกับที่หลวงพ่อแก้วสร้างแต่อย่างใด แต่ในภาวะปัจจุบันนั้นคนหากินกันยากขึ้น โชคลาภขาดมืออยากได้พระดีๆราคาเบาๆห้อยเป็นขวัญกำลังใจ พ่ออาจารย์ท่านจึงขออนุญาติหลวงพ่อแก้วบอกกล่าวท่านเพื่อนำพระปิดตาที่เรียกว่าเป็นชุดที่หลวงพ่อแก้วมาช่วยท่านสร้างอย่างเต็มบารมีนี้ออกให้บูชากัน ในราคาที่ไม่สูงไม่เกินกำลังมาก ท่านว่าให้บูชาหนเดียวเอาไว้แก้ปัญหาคนที่หากินไม่คล่อง เหลือเท่าไหร่ก็เก็บเอาไว้ให้กับคนที่มีบุญมาบริจาคทุนเช่นเดิม

    คาถาบููชา

    นะโมพุทธัสสะคะวัมปะติสสะ นะโมธัมมัสสะคะวัมปะติสสะ นะโมสังฆัสสะคะวัมปะติสสะ สุขา สุขะ วะรัง นะโมพุทธายะ มะอะอุ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา เจวะเสกขาธัมมา ยะธาพุทโมนะ

    สาระสำคัญ* พระปิดตาพิมพ์ปั้นมือนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระหนึ่งองค์กลับดวงเปิดชะตาชีวิตได้หนึ่งคน แต่ถ้าใครอยากรวยเร็วคิดว่าไม่ทันใจ เห็นอนาคตว่าจะลำบากอีกนานก่อนจะสบาย อยากเรียกคู่หรือแม้แต่ทำให้คนรักผูกติดไม่แตกแยก ท่านว่าให้บูชาสององค์หันหลังพระฝั่งที่มีตะกรุดผสานกัน ชนกัน ประกบกันแล้วหาสายสิญจน์มาผูกไว้ดั่งพิมพ์หัวบายศรี แล้วใช้อาราธนาองค์พระห้อยคอตามปกติ ซึ่งพระปิดตานี้พ่ออาจารย์ท่านเปิดให้บูชาเพียงวาระเดียวเท่านั้น เพราะท่านว่าทำยาก แม้มวลสารต่างๆจะหาได้ทำได้ แต่วาระฟ้าชะตาดินที่หลวงพ่อแก้วท่านจะนั่งคุมช่วยทำปรกบารมีเช่นนี้ ย่อมไม่เกิดขึ้นง่ายๆ


    ร่วมทำบุญบูชา พระปิดตาจตุมหาโลกาพิมพ์ปั้น,ดักทรัพย์,ล้มลุก,มือโต,พารวย(ผงนางโกย น้ำมันเศรษฐีเจ็ดเรือน) บูชา 1,000 บาท


    32972108_2197736290512780_707868592439296000_n.jpg 33046844_2197736297179446_599267818919165952_n.jpg
    1404130892.png
    33081679_2197737470512662_1301215274954915840_n.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหาโองการสูตรขอพรเข้าตัว(เทวราชเนรมิต)

    สืบเนื่องจากตะกรุดมหาโองการ พ่ออาจารย์ท่านว่ามันเป็นวิชาเฉพาะทางจริงๆก็เลยทำไว้ ทีแรกไม่คิดว่าจะเอาให้ใครใช้กลัวจะไปเขียนอะไรเหลวไหล แต่ลึกๆเลยท่านก็ยอมรับว่าเป็นวิชาระดับตำนานเช่นกัน เนื่องจากตะกรุดนี้เป็นวิชาที่ใช้เกี่ยวกับการอธิษฐานจิต


    การอธิษฐานจิต อธิษฐานใจเวลาเราขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเคยมีหลายๆคนบอกหมดธูปไปเป็นกำๆ บางทีเกือบสิบหนเพียรจุเพียรขอถึงจะสำเร็จ ที่เป็นเช่นนี้ท่านว่าเพราะเราไม่เคยอธิษฐานปากตัวเอง ไม่เคยมีสัจจะหรือรักษาสัจจะยิ่งชีวิต เวลาพูดเวลาขออะไรจึงไม่มีความมั่นคงแลไม่เห็นผลสัมฤทธิ์เหมือนดั่งที่ควรจะเป็น เพราะมนุษย์นั้นประมาทพลาดพลั้งผิดคำพูดทำกรรมทางวจีกรรมล่วงไปในวันๆหนึ่งนั้นหลายครั้งหลายครา


    ในขณะเดียวกันเทพเจ้าทั้งหลายก็ไม่ชอบยุ่งกับมนุษย์บางจำพวก ด้วยกายของพวกเทวดานั้นหยาบสำหรับพวกเทวดาด้วยกัน แต่ก็ละเอียดสำหรับมนุษย์จะรู้เห็นได้ทั่วไป นอกจากผู้มีใจผ่องใสจึงจะรู้จะเห็นได้ไม่ยากนัก ทั้งยังมีอคติกับสัตว์โลกที่ไม่ตั้งอยู่ในคุณธรรม ด้วยว่ามนุษย์ที่เหม็นคาวน่ารังเกียจคือมนุษย์ที่เหม็นคาวศีลธรรม รังเกียจศีลธรรม ไม่สนใจในศีลธรรม มนุษย์ประเภทเบื่อศีลธรรมซึ่งเป็นของดีเลิศในโลกทั้งสาม แต่ชอบในสิ่งที่น่ารังเกียจของท่านผู้ดีมีศีลธรรมทั้งหลาย มนุษย์ประเภทนี้น่ารังเกียจจึงไม่อยากเข้าใกล้และเหม็นคาวฟุ้งไปไกลด้วย ดังนั้นเมื่อชนทั้งหลายเดือดเนื้อร้อนใจเอ่ยปากพึ่งพิงเทวดาจึงได้รับแต่อาการเฉยเมยกลับมา ทำให้รู้สึกกันไปเองว่าสวรรค์ไม่มีตา ฟ้ากลั่นแกล้ง เป็นวลีติดปากที่โทษเทวดาฟ้าดินนั่นเอง


    ทีนี้ตะกรุดตัวนี้มันให้ค่าต่างกัน นั่นก็คือความไวของการอธิษฐานจิตเวลาเราขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย วิชานี้เหมือนเราเขียนสาสน์ถึงสวรรค์โดยตรง อยากขออะไร ฟ้องอะไร อธิษฐานอะไรเขียนสอดใส่ไว้ท่านว่าเหมือนยื่นเรื่องให้เทพเจ้าโดยตรงไม่ต้องผ่านมือใคร ไม่ต้องผ่านแม้กระทั่งปากตัวเอง เพราะหากปากตนยังไม่ศักดิ์สิทธิ์ไม่รักษาสัจจะวาจาก้าวล่วงวจีกรรมบ่อยก็อย่าหวังจะไปบนบานอะไร ท่านว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาเลือก เขาก็คร้านที่จะฟังทีนี้พอไอ้เราขอท่านด้วยปากเรา ปากมันไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้วคำขอต่างๆท่านก็จะนิ่ง วิชานี้จึงเป็นกุญแจสำคัญที่เอาไว้ติดต่อสื่อสารเวลาอธิษฐานหรือแสดงความต้องการแบบตรงตัวให้ถีงรวดเร็ว แม่นมั่นอย่างที่สุด


    ด้วยเทพยดาทั้งหลายก็เหมือนชนทั้งปวง เขาจะคบหาสมาคมแต่คนประเภทเดียวกัน ดังนั้นในปัจจุบันนี้พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าคนเดือดร้อนกันมาก หาความสุขสบายเพียงหยิบมือเล็กน้อย ส่วนเรื่องทุกข์ เรื่องร้อนใจมีประดังเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน คนทั้งหลายจึงนิยมหาที่พึ่งพิง ไปกราบไหว้เทพ เทวดาต่างๆ ไปตำหนักทรงต่างๆ ท่านว่าคนเหล่านี้ไปตำหนักทรงก็เพื่อต้องการความสบายใจว่าเขาสามารถพูดคุย บอกเล่าติดต่อกับเทพเจ้าได้ แต่กลับกันกลายเป็นว่ากลับโดนหลอกลวงให้เสียทรัพย์หนักขึ้นบ้าง โดนคุณไสยอวิชชาของบรรดาร่างทรงบ้างเช่นนี้


    ท่านว่าเหตุด้วยมนุษย์ต้องการสื่อสารกับเทพยดาจึงแสวงหาเรื่องเดือดร้อนมาใส่ตัวดุจจุดไฟเผาตัวเอง ดังนั้นหากจะแก้ปัญหาก็ต้องแก้ที่ต้นเหตุ เมื่อท่านมาพิจารณาถึงวิชาที่เสด็จพระใหญ่เคยประทานไว้ หากมีปัญหาจะบอกกล่าวสิ่งใดก็ให้ทำวิชาเช่นนี้ปรารถนาจะขอความช่วยเหลือจากเทพเจ้าองค์ใดๆก็ย่อมไปถึงกันทั่วทั้งสิ้นในฉับพลันทันที แม้เทพเจ้าก็ดี หมู่พรหมก็ดี เขาไม่อาจจะปิดโสตประสาทรับรู้ของเขาได้


    พ่ออาจารย์ท่านเรียกวิชาทำตะกรุดนี้ว่าตะกรุดมหาโองการสูตรขอพรเข้าตัว ตะกรุดนี้ท่านว่าเมื่อเราเขียนความปรารถนาส่งคำอธิษฐานใดๆก็ตามเปรียบดั่งโองการฟ้าที่ออกมาแล้ว โองการนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ ปกาศิตทุกสรรพสิ่งให้ปฏิบัติตามเช่นหน้าที่ อยู่เหนือกว่าความรู้สึกที่จะตอบรับแลปฏิเสธด้วยพึงใจหรือไม่พึงใจเช่นนั้น ท่านว่าเมื่อไม่ใช่คำขอแต่เป็นหน้าที่เขาก็จะรีบทำ ในอดีตนั้นท่านเกรงว่าคนจะเอาไปเขียนเล่น เขียนกันมั่วท่านจึงทำหากแต่ระงับไว้ จะมีให้บูชาก็เฉพาะคนที่ไปโดนโกง เจอปัญหาร่างทรงทำพิษบ้างเป็นรายๆไปเท่านั้น จนเกิดประสบการณ์กลายเป็นที่กล่าวขานในหมู่ญาติและเพื่อนร่วมงานว่าบุคคลเหล่านั้นที่บูชาตะกรุด มีพลังงานพิเศษสามารถติดต่อสื่อสารเทวดาฟ้าดินได้ กลายเป็นของดีคู่กายที่ไม่อยากเอ่ยปากบอกใครว่ามีไว้ในครอบครอง


    ในกาลบัดนี้ ...พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมาะแก่เวลาและตะกรุดของท่านก็ไม่ได้ทำไว้มากมายเช่นใด จะขอกันไว้เป็นสัญญาใจก็แต่เพียงว่า อย่าเอาไปเขียนเล่น อย่าไปทำอะไรที่ไร้สาระ เพราะเขียนอะไรไปนั้นย่อมถึงเทพยดาแลครูบาอาจารย์ทั้งหมด


    ท่านว่าตะกรุดนี้เทวดาท่านช่วยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง แต่ก็อย่าไปทำให้ท่านชังในความเป็นมนุษย์เสียเลย ให้เขียนแต่เรื่องที่เราเดือดร้อนจริงๆ คำขอที่สามารถเป็นไปได้ คำขอที่เพิ่มระดับมากขึ้นยิ่งๆขึ้นไปตามผลสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างว่าสมมติถ้าคนอยากมีบ้าน ก็ให้ขอการงานที่มั่นคงสอดไว้ หนต่อมารู้สึกว่างานตนมั่นคงดีแล้วก็ให้ขอโอกาศขยับขยาย ขอสังคม ขอโชคลาภ คือค่อยๆขอเพิ่มขึ้นในขั้นกว่าไปเรื่อยๆจนรากฐานเรามั่นคง ไม่ใช่ว่าเขียนเป็นเล่นสักแต่เขียน ขอบ้าน ขอร้อยล้าน ขอพันล้าน ขอถูกหวยรางวัลที่1 ท่านว่าคนเช่นนี้ขอไม่เป็นและคร้านที่จะทำให้เทวดาเขารังเกียจมากขึ้นกว่าเดิมเสียเปล่า ท่านว่าถ้าหวังหวยก็ขอไป ขอให้เจอคนขายที่ดวงสมพงษ์กับเราวาสนาเกื้อหนุนเรา นี่ขอแบบนี้หวยมันก็จะถูก พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าขอเป็น มีมารยาทเสียสามส่วน รู้จักลำดับเหตุการณ์และความสำคัญ ไม่โลภหรือแสดงตัวตนน่ารังเกียจ การใช้ตะกรุดมหาโองการเช่นนี้ย่อมไม่ยากเลย


    ตะกรุดมหาโองการนั้นท่านว่าคนใช้เป็นก็เป็นตัวช่วยชั้นดี เหมือนเสือติดปีกติดอาวุธเหมาะกับคนซึ่งมีความเพียรพยายามในการประกอบอาชีพ คนที่คาดหวังความสำเร็จโดยไม่สนบุญเก่า คนที่ชอบขอพรพระหรือเทวดาแต่ไม่เห็นผล ไม่ประสบความสำเร็จ จะด้วยขอไม่เป็นหรือเทพไม่พึงใจก็ตาม ท่านว่าให้ทำใหม่ ทำให้ถูกให้ควร ขอเป็นขั้นเป็นตอน เช่นนั้นความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเลย


    ดั่งที่เกริ่นไว้ พ่ออาจารย์ท่านดำริมาแต่เริ่มว่าตะกรุดมหาโองการนั้นเป็นของสำคัญยิ่งยวด ซ้ำจะเป็นอันตรายเมื่อไปอยู่ในมือของพวกมิจฉาทิฏฐิ จึงไม่ควรเผยแพร่ไปในวงกว้าง ควรมีตกไว้เป็นสิ่งสืบทอดในหมู่ชนที่เดือดเนื้อร้อนใจตกทุกข์ได้ยาก ต้องการพึ่งบารมีพระ บารมีเทพจริงๆเท่านั้น ดังนั้นท่านจึงจะเปิดให้บูชาเพียงครั้งเดียว วาระนี้หนเดียวและจะไม่นำออกมาให้ปรากฏแก่ตาโลกอีก โดยท่านเมตตาให้ตั้งราคาไว้ไม่สูงมากเพื่อที่คนเช่าบูชาจะได้บูชากันได้ทั่วถึง


    วิธีใช้(ควรอ่าน)

    - ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสำเร็จ เสกยาก ไม่ต้องมีคาถาอะไรมากำกับ มีแค่เอาไปแล้วก็ใช้ซะ หมั่นใช้ ขยันใช้ ใช้ในเรื่องดีๆเพียงเท่านั้น
    - เมื่อจะใช้ท่านว่าให้เขียนความปรารถนาหรือสิ่งที่อยากบอก อยากร้องเรียนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายและม้วนกระดาษนั้นๆไว้
    - นำตะกรุดจบหัวและกราบไหว้ระลึกถึงพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ สวดมนต์สรรเสริญคุณพระรัตนตรัยเป็นปกติ
    - เมื่อเสร็จกิจพิธีการแล้ว ให้นำกระดาษข้อความนั้นสอดใส่ไว้ในตะกรุด อธิษฐานตั้งใจฝากฝังความทุกข์ เรื่องเร่งด้วน ข้อเหตุการณ์ช่วยเหลือต่างๆถึงเสด็จพระใหญ่หรือครูบาอาจารย์เทพยดาต่างๆที่เราเคารพ
    - เมื่อใช้เสร็จเห็นผลแล้วให้นำความที่เขียนนั้นออกและเขียนสิ่งใหม่ๆตามวาระโอกาสต่อไป

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิธีใช้ก็ง่ายๆมีเพียงเท่านี้ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด * แต่ให้จำเอาไว้ ตะกรุดดอกหนึ่งขอได้หนึ่งเรื่อง ไม่ควรเขียนอะไรที่เยอะมากหรือมากความ ท่านว่าถ้าจะให้เร็วหรือมีเรื่องที่จำเป็นต้องขอพร้อมกันหลายเรื่อง เป็นเรื่องที่หนุนเนื่องกัน ต้องการความสำเร็จพร้อมๆกันอย่างขาดไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องใช้หลายดอกให้เหมาะสมตามสถานการณ์ความเป็นไป


    *ตะกรุดสำคัญวิชามหาโองการนี้ พ่ออาจารย์ท่านเปิดวิชาและทำไว้ให้บูชาเป็นสาธารณะเพียงวาระเดียวเท่านั้น ท่านว่าใครที่บุญยังมีวาสนายังหนุนส่งอยู่บ้าง ของๆเขาเดี๋ยวเขาก็มาเอาไปเอง แต่ใครที่กรรมมันบังหรือถึงคราวเคราะห์อย่างถึงที่สุดแล้ว จะทำอย่างไรก็จะไม่ได้ไปใช้เป็นแน่นอน


    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหาโองการสูตรขอพรเข้าตัว(เทวราชเนรมิต) บูชา 500 บาท

    33506976_2200436640242745_7550357145485574144_n.jpg
    33597973_2200437423576000_5667794600790589440_n.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874

แชร์หน้านี้

Loading...