ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงบูชาครูพ่อฟ้าฟื้น(สามอาถรรพ์มหาพรหมเจ็ดภาค)

    จากปฐมบทแห่งศาสตร์อาถรรพ์สู่ตำนานอันจะเป็นที่กล่าวขานกันต่อไป โอม สิทธิฟ้าฟื้นจำเริญศรี.....พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาจัดสร้างพระผงบูชาครูพ่อฟ้าฟื้นขึ้นมาอีกคำรบหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้ท่านได้พิถีพิถันกระทำเต็มสูตรอย่างถึงที่สุด ชนิดที่เรียกได้ว่าจัดสร้างไว้เพื่อให้เป็นหนึ่งในแผ่นดินทีเดียว

    พ่อครูท่านได้หล่อรูปพ่อขุนแผนหรือพ่อครูฟ้าฟื้นขึ้นมาพร้อมๆกับเหรียญหล่อมหาพรหมแปลงรูปคาดสังวาลย์(พ่อฟ้าฟื้น)ที่เคยออกให้บูชาไปนานแล้ว ซึ่งขณะนี้เป็นที่ต้องการและกล่าวขานถึงประสบการณ์อย่างมาก โดยในชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้แกะพิมพ์ทรงของพ่อฟ้าฟื้นอยู่ในปางนั่งบริกรรม ซึ่งมีนัยยะแอบแฝงที่สำคัญยิ่ง


    ซึ่งพระยาสุรินทร์ฤาชัยนั้น จะเรียกท่านว่าพระกาญจน์บุรีก็ได้ หรือที่เรารู้จักท่านกันในนามขุนแผนนั่นเอง อดีตแม่ทัพใหญ่ฝ่ายหน้าในกรุงศรีอยุธยา ผู้ที่บั้นปลายชีวิตได้ถอดจิตทิ้งสังขารไปเสวยวิมุติเป็นท้าวมหาพรหมอยู่ในปัญจสุทธาวาสพรหมโลก พ่ออาจารย์ท่านเรียกชื่อว่าท้าวมหาพรหมพระสุเรนทร์


    เมื่อจะกระทำรูปท่านครั้งนี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ถามโดยตรงกับมหาพรหมพระสุเรนทร์ว่าต้องการจะให้สร้างรูปท่านจากธาตุใด แบบไหน ระหว่างตะกั่วลงถมหรือธาตุกายสิทธิ์ ซึ่งท่านได้ให้คำตอบว่าธาตุกายสิทธิ์ เพราะเหมาะที่จะลองรับกระแสญาณของท่านได้ดีกว่า พ่ออาจารย์ท่านจึงน้ำเหล็กไหลต่างๆมาหล่อเเละได้ควบคุมการหล่อด้วยตนเอง ได้แก่
    - เหล็กไหลช่อทิพย์
    - เหล็กไหลวัชรธาตุ(เหล็กนิพพาน)
    - หยาดน้ำฟ้าทวาราวดี (มีลักษณะคล้ายปรอทกลิ้งได้ แต่เหนือกว่าปรอทมากนักเป็นเหล็กไหลชนิดหนึ่ง)


    เมื่อได้พระมาทั้งหมดแล้ว ท่านจึงนำมาเชิญญาณเเละกระแสจิตแห่งมหาพรหม ซึ่งท่านก็กำหนดจิตนั่งดูอยู่ตลอดเวลา ท่านกล่าวว่า พ่อพระพรหมขุนแผนนี่ท่านเมตตาเราอยู่มาก เพราะท่านใช้ภาวะอำนาจแห่งมหาพรหมนิรมาณกายดวงจิตของท่านลงมาแฝงไว้ในเหรียญหล่อนี้ แม้ผู้ใดได้สวมคล้องก็จะมีพลังแลรัศมีแห่งมหาพรหมติดเนื้อต้องตัวทำให้ดูสดใส กะปี้กะเปร่า ขจัดโรคภัยร้ายเทวดาพาลเจ้ากรรมนายเวรเกเรและชะลอผลแห่งอกุศลกรรมทั้งหลาย เป็นมหาเสน่ห์ มหาเมตตาขั้นสูงสุด


    ท่านได้เมตตาให้เรียกชื่อว่าพ่อครูฟ้าฟื้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าความหมายดี เหมือนชื่อยอดศาสตราของท่าน ดาบฟ้าฟื้นนั้นเคยแพ้ใครเสียที่ไหน ความรักใครเคยเหี่ยวเเห้ง ธุรกิจใครจะซบเซา อะไรที่ว่าแย่ ท่านไปอยู่ด้วยนี่ฟื้นหมดเลย เอาตามเเต่ใจปรารถนาอธิษฐานบอกกล่าวท่าน จะไม่มีหยุดนิ่ง สมดังคำปกาศิตที่ท่านกล่าวว่า " ผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ แม้เราอยู่ใต้ฟ้านี้แล้ว จะกระทำกิจใดให้สำเร็จประโยชน์ก็ขอให้บอกกล่าวแก่เรา ก็ได้ชื่อว่าเราฟื้นคืนขึ้นมาเเล้ว ต่อไปนี้เจ้าจะล้มไม่เป็น มีเเต่ลุกและก้าวกระโดดในทุกเรื่อง "


    พ่ออาจารย์ได้ทำพ่อครูในปางตกประคำนี้ โดยตั้งใจว่าจะทำกิริยาดุจว่าบรมครูพ่อฟ้าฟื้นนี้กำลังนั่งบริกรรมมนต์อยู่ตลอดเวลา ท่านว่าเพราะท่านหล่อรูปพ่อครูไว้นานแล้ว โดยด้านหลังนั้นท่านได้นำมาลงจารอักขระหัวใจขุนแผนด้วยคาถาสุนะโมโลทุกองค์ และท่านยังนำมาเสกด้วยวิชาเฉพาะทางคือวิชาสำเภาหลงท่าเทวดาหลงห้อง และมนต์ด้วยคาถาจูงนางเข้าห้องอยู่แรมปี ท่านว่าท่านใช้เฉพาะวิชานี้จริงๆเพราะท่านตั้งใจว่าเวลาใครนำไปบูชาพกติดตัว จะได้เหมือนกับครูกำลังนั่งร่ายมนต์บทนี้อยู่ตลอดเวลา เค้าจะได้เจอโชคใหญ่เจอสิ่งที่เกื้อกูลสมใจปรารถนา ดุจสำเภาที่หลงท่า หลงมาจากไหนก็ไม่รู้มาเข้าท่าเรา ดุจเทวดาที่หลงห้องแม้จะมีบุญหนักหรือมีฤทธิ์วิเศษก็ยังต้องหลงมาเข้าห้องเราท่านว่าเป็นกฤติยาคมแฝดซ้ำซ้อน พูดไม่ได้ให้คิดเอาเอง อย่าไปพูดถึงเรื่องวิมานเทวดานางฟ้าที่ไหนเลย เอาว่ารูปครูพ่อฟ้าฟื้นที่นั่งหนักกำกับมนต์บทนี้อยู่รับรองว่าได้เรื่องแน่ วิชานี้ได้แต่ผลประโยชน์มีแต่รับไม่มีออกหรือเสียแต่อย่างใด ท่านว่าวิชานี้ดี ไม่ใช่เเค่มีคุณทางด้านลุ่มหลงออกไปทางกามคุณอย่างเดียว แต่คำว่าลุ่มหลงนี้ยังรวมไปถึงด้านอื่นๆด้วย คิดให้ดีมองให้ลึก คำว่าลุ่มหลงนั้นหากคนเราใช้ชีวิตจะทำอะไรคนอื่นเขาก็หลงเพียงเท่านี้มันก็หมายถึงความราบรื่นในทุกๆเรื่องอยู่เเล้ว มันง่ายถึงเพียงนั้น

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านมนต์เสร็จแล้ว แม้มีคนแจ้งความประสงค์ขอบูชาพ่อฟ้าฟื้นเข้ามา ท่านก็ยังไม่ได้นำพ่อฟ้าฟื้นรุ่นนี้ออกให้บูชา เพราะเจตนาของท่านคืออยากทำให้เต็มที่ ให้ดีกว่านี้ พร้อมกว่านี้ ให็เต็มกว่านี้จึงจะออกให้บูชา โดยท่านตั้งใจจะทำเป็นผงวิชาน้ำมันเหมือนเมื่อคราวสร้างท้าวพระยาพันเมียทีเดียว ซึ่งท่านก็ได้นำน้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้ามาเป็นมวลสารหลักในการเตรียมนวดผงผสมเนื้อหามวลสารองค์พระในครั้งนี้ ก็จะกล่าวถึงน้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้ากันคร่าวๆอีกคำรบหนึ่งก่อน


    น้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้า
    เป็นระยะเวลานานที่พ่ออาจารย์ท่านได้คร่ำครวญเเละพิจารณาเห็นอะไรบางสิ่งบางอย่าง ท่านได้เเต่เฝ้ารอข่าวของการมาถึงในวัตถุอาภรรพ์ประเภทหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือน้ำมัน

    น้ำมันนี้ฟังดูอาจจะแปลกเล็กน้อย แต่กล่าวได้เลยว่าศาสตร์ของการสร้างน้ำมันนี้เป็นศาสตร์ที่ซับซ้อนเเละลึกซึ้งที่สุด เมื่อผู้ใดได้บูชาน้ำมันที่สร้างมาตามสูตรโบราณกาลอย่างถูกต้อง จะเห็นผลได้หลากหลายมากที่สุด ซึ่งศาสตร์น้ำมันนี้ก็มีทั้งทางเสน่ห์ เมตตา ชาตรี โชคลาภต่างๆกันไป

    ยกตัวอย่างทางด้านมหาเสน่ห์ก็เช่นน้ำมันพราย ที่ป้ายใครหรือผสมให้ใครกินเเล้วจะซึมเข้าไปในเนื้อในกระดูกผู้นั้นทีเดียว นี่คือความแรงของศาสตร์น้ำมันที่เหนือกว่าเเละเลอเลิศกว่าพร้อมกับใช้งานได้ง่ายกว่าพระเครื่องหรือสีผึ้งธรรมดาทั่่วไปหลายเท่านัก

    กล่าวถึงน้ำมันที่พ่ออาจารย์รอคอยการปรากฏขึ้นนี้ จะเรียกว่าหายสาปสูญไปจากโลกเเล้วก็เป็นได้ เพราะโดนฝังไว้ฝากไว้กับเเม่พระธรณีเป็นเวลาถึง 3 ชั่วอายุคน

    น้ำมันดังกล่าวนี้ เกิดจากผู้สืบทอดอันได้เก็บไว้พิจารณาดีเเล้วเห็นถึงคุณเเละโทษอย่างชัดเจนจึงนำมามอบให้กับพ่ออาจารย์

    น้ำมันนี้เกิดขึ้นก่อนพ.ศ. 2500 นับถอยหลังไป 3 ชั่วอายุคน จะทราบว่าก่อนยุคกึ่งพุทธกาลนั้นเรื่องอาคม อิทธิฤทธิ์ของพวกนี้เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดเจนมากเพราะยังไม่ถึงเวลาเสื่อมถอยตามพุทธบัญญัติ ในช่วงเวลานั้นได้เกิดศาสตร์ประเภทน้ำมันนี้ขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าศาสตร์น้ำมันนั้นมีมายาวนานเเล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านอนุญาติให้เล่าเเละเปิดเผยได้บางส่วนคร่าวๆเท่านั้น จึงจะสรุปให้ฟังว่าน้ำมันนี้หุงขึ้นโดยครูหมอทั้ง 4 สาย ซึ่งทั้ง 4 ท่านนี้เเต่ละท่านต่างก็ร่ำเรียนพระเวทย์ฝึกหัดวิทยาคมมาจนเชี่ยวชาญ ครูหมอทั้ง 4 ท่านนี้เป็นฆราวาสเหมือนๆกันเเต่ที่เเน่ๆเลยก็คือเก่งชนิดหาตัวจับยากเเละไม่ยุ่งหรือสุงสิงกับโลกภายนอกเสียเท่าไหร่

    เมื่อถึงเวลาที่สหธรรมิกทั้ง 4 ท่านนี้ได้พบกันเเลกเปลี่ยนความรู้ จึงตัดสินใจที่จะหุงน้ำมันมหาเสน่ห์ชนิดหนึ่งขึ้นมา โดยใช้สรรพศาสตร์บ้านเกิดของตนเองตามที่ได้ร่ำเรียนมา นำมาผสมรวมกันทั้ง 4 ศาสตร์ ซึ่งเเต่ละศาสตร์เเต่ละสายนั้นจะต้องใช้มวลสารเเละวัตถุอาถรรพ์ที่เเตกต่างกันไป

    ศาสตร์ทั้ง 4 สายของครูหมอทั้ง 4 ท่านนั้น เเบ่งเป็นศาสตร์ต่างๆ ดังนี้

    1. แขก
    2. อิสลาม
    3. พม่า
    4. มอญ


    ซึ่งหากใครเคยรับรู้เเละเล่นของทางเสน่ห์จะทราบว่า ศาสตร์เเห่งมหาเสน่ห์ที่ยอดเเล้วได้เเก่น้ำมันพรายนั้น จะดูเป็นหิ่งห้อยด้อยเเสงไร้คุณค่าไม่มีราคาไปเลยเมื่อมาเทียบอานุภาพกับเสน่ห์สายอิสลาม และเสน่ห์สายแขกพราหมณ์ฮินดู ถึงขนาดที่กล่าวได้ว่าหากเจอเสน่ห์ที่ทำขึ้นจากผู้รู้ศาสตร์วิชาและทำได้จริงจากสองชาตินี้เเล้วไม่ต้องไปหาหมอแก้ที่ไหน นอนรอวันตายได้เลยถึงจะหาย

    เมื่อครูหมอทั้ง 4 ท่านได้ประชุมกันหุงน้ำมันจากของอาถรรพ์ทั้งหลายเเละเสกรวมกันเสร็จเเล้ว ก็ได้นำน้ำมันนี้ เเจกจ่ายให้กับผู้เคารพนับถือ ซึ่งเเรกๆผลของมันก็คือ เป็นภัยคุกคามกับสตรีเพศอย่างเห็นได้ชัด ศิษย์ที่เป็นปุถุชนคนธรรมดาไม่เคยมีภรรยาก็กลับมีเมียอยู่ร่วมกันภายในบ้านหลายคน ที่หนักหน่อยคือเอาดีทางพระศาสนาเป็นพระสงฆ์องค์เจ้าเมื่อได้นำมันไปกลับมีสีกามาติดให้สึกหาลาเพศ

    เมื่อท่านทั้ง 4 พิจารณาเห็นถึงคุณเเละโทษของน้ำมันนั้นเเล้ว จึงได้ร่วมใจกันฝังน้ำมันนี้ฝากไว้กับพระเเม่ธรณีจวบจนกาลเวลาได้ผ่านไป มาถึงยุคหลานของท่านซึ่งเป็นครูโนราห์ได้นำน้ำมันนี้ขึ้นมา ทำให้เป็นที่เเปลกใจแก่ลูกหลานเเละเพื่อนบ้านในระเเวกนั้นว่าทำไมตาแก่ธรรมดาที่ไม่เคยมีอะไร อยู่ดีๆถึงมีสาวอายุ16-17 มาอยู่ด้วยเต็มบ้าน เเละเด็กสาวเหล่านั้นก็หาได้เป็นลูกสาวหลานสาวด้วยเเต่เป็นเมียท่านทั้งหมดตกกว่า 20 คน

    ครูโนราห์ท่านนี้ได้ลองนำน้ำมันนี้ให้ผู้อื่นลองใช้บ้าง ก็ปรากฏผลเช่นเดียวกับบรมครูทั้ง 4 ในอดีตที่ทดลองกัน เขาเอาไปป้ายไปทาผู้หญิงในสถานที่ท่องเที่ยวพอหมดก็จะมาขอใหม่ เรียกได้ว่าคนหน้าตาอัปลักษณ์ได้เมียระดับนางงามเต็มบ้าน ใช้จนไม่รู้จักพอครูท่านจึงเลิกให้น้ำมันเเก่บุคคลผู้นี้ ปรากฏว่าต่อมาคนผู้นี้ก็มีปัญหาในบ้านอันเนื่องมาจากภรรยาทั้งหลายไม่ลงรอยกันเเละตายเพราะภรรยาในที่สุด ท่านจึงลองนำน้ำมันให้พระภิกษุพกดู โดยการเลี่ยมใส่หลอด ปรากฏว่าไม่เป็นอันได้จำวัตรสวดมนต์ยังไม่ครบพรรษาก็มีสาวเล็กสาวใหญ่ตามเข้าออกในกุฏิตลอดเวลาจนได้สึกหาลาเพศในที่สุด

    น้ำมันนี้ครูโนราห์ท่านนี้ซึ่งเป็นผู้สืบทอดทางสายเลือดของครูหมอทั้ง 4 ในส่วนของครูอิสลามได้พิจารณาคุณเเละโทษเเล้วจึงตัดสินใจมอบให้กับพ่ออาจารย์พลพร้อมทั้งบอกคาถากำกับการใช้น้ำมันให้อย่างละเอียด

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้รับน้ำมันมาเเล้ว ท่านพิจารณาเห็นว่าน้ำมันนี้จะเป็นคุณหนักหนาเเก่ผู้มุ่งหวังความเจริญทางโลกียะ หากใฝ่ไปทางโลกุตระก็เลิกคุยกันได้เลย ท่านกล่าวว่าผู้ที่จะบูชาน้ำมันนี้จากท่านไปจะต้องเป็นคนดี มีสติ รู้จักพอ ไม่มักมากทางกามคุณจนเกินงาม เอาว่าสำรวจจิตใจตัวเองว่าดีเเล้วก็มาบูชา

    ซึ่งวิชาน้ำมันนี้จะอยู่สูงกว่าเเละเเตกต่างจากน้ำมันพรายอย่างเทียบไม่ติด พ่ออาจารย์ท่านว่าเหนือกว่าน้ำมันพราย น้ำมันภูติ น้ำมันมหาภูติมากนัก และเนื่องจากน้ำมันนี้ไม่มีชื่อเรียกมาเเต่ต้น ท่านจึงเรียกน้ำมันตัวนี้ว่าน้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้า

    ท่านว่าน้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้านี้เป็นน้ำมันที่แปลก คือมีตัวรู้เเละสนองตอบแบบรวดเร็วรุนแรงตามใจผู้ใช้ หากพกไว้กับเนื้อกับตัวจะซึมซาบกลิ่นอายทำให้ผู้ใช้มีสง่าราศีดูหน้าใสขึ้นมีเลือดฝาดมากขึ้น ไม่ใช่น้ำมันฝ่ายต่ำ เเต่สรรพคุณนั้นกลับรุนเเรงยิ่งกว่า ที่สำคัญคือมีครูวิชาทั้ง 4 สายที่เป็นครูเเละสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดจนเจ้าของน้ำมันทั้ง 4 ท่าน ให้การอุปการะเกื้อกูลเเก่ผู้ถือครองอยู่

    ซึ่งทานได้พิจารณาเเล้วเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการนำไปใช้ไปป้ายไปผสมน้ำให้ใครกิน ท่านจึงจะผสมลงไปในเนื้อพระเพื่อสร้างวัตถุมงคลโดยใช้น้ำมันนี้หนักๆเลยเพื่อสงเคราะห์ศิษย์ที่เเสวงหาของเสน่ห์ที่มีผลรุนเเรงเเต่โบราณกาล จะไม่ใส่หลอดให้เอาไปใช้กันเล่นๆ เพื่อผลดีเเก่ตัวท่านเอง * ซึ่งน้ำมันนี้มาทราบภายหลังว่าพ่อครูโนราห์เองก็ได้นำมาเสกเพิ่มด้วย ซ้ำยังได้สาปแช่งคนที่นำของบรรพบุรุษท่านไปใช้ในทางทุจริตเอาไว้ พ่ออาจารย์ท่านจึงต้องงดเว้นมอบน้ำมันนี้ให้คนนำไปบูชา ท่านว่าถ้าเอามาผสมในเนื้อพระนี้เห็นจะมีแต่คุณไม่มีโทษอย่างใด ซ้ำอานุภาพก็ยังเสมอกันไม่ได้ลดทอนลงเลย สำหรับน้ำมันภูติพระเจ้านี้ท่านจึงตัดสินใจใช้เฉพาะผสมสร้างพระรุ่นสำคัญเท่านั้น


    พ่ออาจารย์ท่านได้นำทั้งว่านยาหลายตระกูล มาผสมกับผงวิเศษที่ท่านลบไว้ ทางเสน่ห์ล้วนๆอย่างหนึ่ง ทางโชคลาภโภคสมบัติอย่างหนึ่ง ทางค้ำคูณเกื้อหนุนดวงชะตาอย่างหนึ่ง ทางคุ้มครองป้องกันอย่างหนึ่ง ทางมหาสะท้อนย้อนคืนความพยาบาทมุ่งร้ายอย่างหนึ่ง และนำมาเจือด้วยผงพรายกุมารหัวเชื้อของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และใส่สีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบ ตลอดจนสีผึ้งพยองคำในตำนานซึ่งยากจะได้ครอบครองผสมลงไปในเนื้อพระด้วย


    สำหรับพ่อครูฟ้าฟื้นนี้ ก็จะฝังสิ่งของมงคลอันมีอาถรรพ์ต่างๆดังต่อไปนี้
    - ตะกรุดมหาพรหมเจ็ดภาค พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาแต่เขมรโบราณ ในอดีตนั้นเห็นจะมีแต่เพียงหลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือที่เรียนสำเร็จ แต่ของท่านนั้นจะเรียกว่าพรหมหกหน้าหรือพรหมหกภาคบางทีก็เรียกเทพรัญจวนไปเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชามหาพรหมเจ็ดภาคนี้ยากจะหาผู้รู้ได้ในแผ่นดินเพราะเป็นวิชาที่ปกติแล้วถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆห้ามถ่ายทอดกัน ต้องให้ตายไปกับตัวคนเรียนเท่านั้น ในครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาลงตะกรุดมหาพรหมเจ็ดภาคฝังไว้ด้านหน้าขององค์พระด้วย ท่านว่าทำเพื่อฝากเอาไว้ให้กับแผ่นดิน ว่าวิชานี้ไม่ได้สูญหายไปไหน ซึ่งวิชามหาพรหมเจ็ดภาคนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามันเป็นที่สุดแล้วของอาถรรพ์และวิชาตลอดจนแรงครูสายเขมรโบราณ ท่านว่าปิดบังซ้อนเร้นกันนัก อย่าว่าแต่จะได้เห็น แม้จะได้ยินยังยาก เพราะว่าเป็นที่สุดของวิชาที่ให้ผลกับคนใช้โดยตรงทางเสน่ห์และโชคลาภไปพร้อมๆกัน ท่านว่าเป็นเสน่ห์ก็เป็นเสน่ห์อย่างถึงที่สุด เช่นมีเจ้าคุณระดับเจ้าอาวาสเคยมาขอตะกรุดท่านอยู่ซ้ำยังขอตะกรุดวิชามหาพรหมเจ็ดภาคนี้ด้วยเพราะท่านไปรู้มาว่าพ่ออาจารย์เคยลงให้กับสหธรรมิกท่าน เมื่อได้ไปผลปรากฏว่าใจไม่แข็งพอ ไม่นานก็มีสีกามาพัวพันจนต้องสึกหาลาเพศไปเอาดีทางโลกไปแล้วก็ได้ดีซะด้วย เช่นนี้ท่านจึงว่าวิชาตัวนี้เป็นเสน่ห์ก็เป็นอย่างถึงที่สุด ในทางกลับกันก็เป็นโชคลาภอย่างถึงที่สุดด้วยไปพร้อมๆกัน ท่านกล่าวว่าถ้าจะเอาให้ถูกคือออกตามใจปรารถนาของคนใช้ทีเดียวว่าต้องการเสน่ห์หรือโชคลาภ ท่านว่าวิชานี้จากคนธรรมดากลายเป็นเศรษฐีมีโรงงานเป็นของตัวเองก็มี จากพระภิกษุที่ยังไม่รู้จะหางบประมาณหลายสิบล้านมาสร้างโบสถ์ได้จากที่ไหนกลายเป็นสร้างเสร็จดุจเทพเนรมิตก็มี ท่านว่า่ตะกรุดมหาพรหมเจ็ดภาคนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดวิชาและของอาถรรพ์ซึ่งเป็นวิชาในตำนานและท่านว่าพ้นวาระนี้แล้วท่านจะไม่ลงอีก เพื่อจะให้มันเป็นตำนานของตำนานสืบต่อไป

    - ตะกรุดสามกามสามอาถรรพ์ วิชานี้ท่านว่าเป็นวิชาโบราณของฝั่งเหนือ ท่านได้เรียนมาจากจารึกใบลาน พ่ออาจารย์ว่าเป็นตะกรุดประเภทวิชาอาถรรพ์ที่ลงยากมาก เพราะต้องลงรูปเรียกธาตุผูกจิตให้มีตัวรู้ ซ้ำยังต้องลงอาถรรพ์ถึงสามชนิดตามชื่อวิชา แม้การเดินอักขระก็ยังยาก ท่านว่าเป็นที่สุดของเสน่หาหากพกโดยทั่วไปก็เป็นเมตตาทำให้เป็นที่สะดุดตาของคนรอบด้าน แม้จะใช้ทางเสน่หาก็เป็นความอาลัยอาวรณ์ประหนึ่งอกจะแตก ท่านว่าวิชานี้ถึงกับใช้เรียกคนให้รักกันได้ ทำให้ผัวเมียที่โกรธกันดีกันได้ ไม่แต่เพียงเท่านั้นยังใช้แก้คุณไสยลมเพลมพัดได้ทุกชนิด ท่านว่าคราวนี้ลงเป็นตะกรุดก็ว่ายากแล้ว เพราะท่านตั้งใจจะให้คนได้พกส่งเสริมกันกับวิชามหาพรหมเจ็ดภาค ท่านว่าตะกรุดสามกามสามอาถรรพ์นี้อย่าไปคิดในทางทะลึ่งนะ ท่านว่าลงยากขนาดนี้ถ้าจะคิดแค่เรื่องแบบนั้นก็เสียของหมด ท่านว่าตะกรุดวิชานี้พกไว้กับตัวจะช่วยอำนวยความสะดวกเหมือนใบเบิกทางให้กับชีวิต แม้เราไปแห่งหนตำบลใดก็จะมีแต่คนเรียกหาอยากทักทายปราศรัยมีน้ำใจไมตรีให้เรา ให้โชคลาภให้ความอุดมสมบูรณ์บริบูรณ์กับเรา ท่านว่าเชื่อเถอะ อยู่ไหนไม่มีอด มีแต่สบายเพราะคนเค้ารักและเมตตาตัวเอง

    - ตะกรุดพระเจ้าเหยียบโลก ท่านว่าเป้นตะกรุดสำคัญอีกสายหนึ่ง เพราะว่าเป็นวิชาที่มีผลมาก โดยพ่ออาจารย์ท่านได้ลงจารเป็นรูปองค์พระเหยียบโลกเอาไว้พร้อมด้วยคาถาอักขระวิชา ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์ว่าดีทุกทางสุดแล้วแต่ปรารถนากันทีเดียว ท่านว่าตัวเราอยู่ในโลกจะหาใครมีอำนาจเหยียบโลกไว้ในอุ้งเท้าได้เช่นนี้ไม่มีอีกแล้ว คำว่าพระเจ้าเหยียบโลกนั้นพูดง่ายๆก็คือพระจักรพรรดิครองโลก เป็นใหญ่ในโลก ได้ทุกอย่างในโลก เพราะได้ทุกอย่างในโลกเช่นนั้นท่านจึงว่ามันใช้ได้ทุกทางออกได้ตามใจปรารถนา ตามสภาวะอารมณ์ของเรานั่นแหละ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดพระเจ้าเหยียบโลกนี้จึงเป็นที่สุดของตะกรุด แม้พกปกติก็จะเป็นมหาอำนาจอย่างถึงที่สุดด้วย ทำให้คึนอื่นกลัวเรา เกรงใจเราถึงกับว่าแค่เค้าคิดไม่ดีกับเราก็รู้สึกผิดแล้ว ท่านว่านี่สำคัญขนาดนั้นทีเดียว

    - อิ่นคู่นาง พ่ออาจารย์ท่านแกะมาจากไม้รักซ้อนตายพรายเสกจนมีจิตวิญญาณ เปิดอาการสามสิบสองใส่ลมหายใจให้เขา ท่านว่าผูกมาอย่างดีแล้วตามตำรับล้านนาโบราณ มีคุณวิเศษเรื่องเสน่ห์เมตตามหานิยมนั้นไม่เป็นรองสิ่งใด ด้วยลักษณะทางเอกลักษณ์ของอิ่น จึงเป็นที่น่าสนใจของคนทั้งหลายนำมาไว้ติดตัว ชาวล้านนาเชื่อว่าการมีอิ่นไว้บูชาจะทำให้มีคนเมตตารักใคร่ มีไว้กับบ้านเรือนจะทำให้คนในครอบครัวรักใคร่กัน หากมีไว้บูชากับตัวเราก็จะทำให้ดูดีมีเสน่ห์ดูมีสง่าราศี อุดมสมบูรณ์ไปด้วยโชคลาภ ข้าวของเงินทองไหลมาเทมา หญิงชายพกติดตัวไปหาใคร หรือคนที่รักใคร่ชอบพอก็จะสมหวังทุกประการ เน้นในทางเมตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลงไม่ว่าจะหญิงชายใดที่หมายตาก็มารักใคร่ชอบพอ ไปไหนมีแต่คนเข้ามาทักทายพูดคุยด้วยความเสน่หา หากบูชาดีจะมีโชคมีลาภไม่ขาด พ่ออาจารย์ท่านว่าอิ่นนั้นมีจิตวิญญาณ เขาจะติดตามไปคอยใหเฃ้การช่วยเหลือเราเหมือนเรามีตัวช่วยชั้นดีโดยเฉพาะเรื่องความรักให้สะดวกราบรื่นได้เป็นอย่างดี ท่านว่าที่จริงเขาก็ให้การสนับสนุนเราในทุกเรื่องนั่นแหละนี่คือข้อดีของอิ่นที่เสกจนเป็นมหากายสิทธิ์นั่นคือเสกจนมีจิตวิญญาณนั่นเอง ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านว่ายังดีทางปรับสมดุลย์ธาตุขันธ์ร่างกายของเราอีกด้วย ท่านว่ามันเป็นพลังพิเศษที่ช่วยชะลอและซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอไปให้ดีขึ้นและบริบูรณ์ขึ้นนั่นเอง

    - วชิราวุธ พ่ออาจารย์ว่าสามง่ามหรือตรีศูลก็เรียก จะเรียกว่าวชิราวุธก็เรียก จัดเป็นเทพอาวุธที่มีอานุภาพมาก เพราะเป็นเทพอาวุธคู่บารมีของพระอินทร์จอมเทพแห่งดาวดึงส์ มีอานุภาพแห่งการทำลายล้างสูงสุด ซ้ำยังสามารถใช้สร้างสายฟ้าได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวชิราวุธนี้ท่านได้ขอเมตตาปู่พระอินทร์มาลงให้เป็นพิเศษ เพื่อที่จะเอาไว้ฟาดฟันศัตรูหมู่มาร ให้ทางเดินในชีวิตแต่ละคนนั้นราบเรียบไม่มีปัญหาอุปสรรคใด ซ้ำยังเป็นที่เกรงกลัวของจิตวิญญาณฝ่ายต่ำ ภูติผีสัมภเวสีไม่อาจเข้าใกล้มาทำร้ายเราได้ นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอำนาจของวชิราวุธนี้ยังมีพลังงานลึกลับที่ช่วยดึงดูดสิ่งดีๆและทำลายสิ่งเลวร้ายทั้งมวลด้วย ท่านว่าอำนาจของวชิราวุธนี่รวดเร็วมาก จะทำอะไรก็ทำได้เร็ว สำเร็จเร็ว รวยเร็ว เรียกว่าทำอะไรก็เร็วจนใจหาย ซ้ำเวลาอยู่ไหนบนบานกราบไหว้เทวดาองค์ใด เทพองค์ไหนอยู่ใกล้องค์นั้นต้องรีบมาช่วยเราก่อนไม่มีเกี่ยงงอนกันเลย ด้วยเกรงอำนาจแห่งปู่พระอินทร์ผู้เป็นเจ้าแห่งดาวดึงส์นั่นเอง


    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระผงบูชาครูพ่อฟ้าฟื้น(สามอาถรรพ์มหาพรหมเจ็ดภาค) นี้ไว้ได้ทั้งหมด 8 องค์ ด้วยเนื้อหามวลสารนั้นมีจำกัด และท่านว่าลำพังตะกรุดตลอดจนวิชาที่ลงก็ทำยาก ทำให้ไม่สามารถสร้างได้ในจำนวนที่คนต้องการ ดังนั้นท่านจึงได้อธิษฐานใจฝากมหาพรหมสุเรนทร์เอาไว้ ว่าให้เฉพาะลูกหลานของท่าน ลูกหลานของพ่อขุนแผนที่มีวาสนาสืบนื่องกันมาอันที่ตัวท่านมหาพรหมจะได้อุปถัมภ์ค้ำจุนนั้นได้ไว้สักการะบูชาเท่านั้น


    คาถาบูชา
    โอมสิทธิฟ้าฟื้นจำเริญศรี สุนะโมโล นะโลโมสุ โลโมสุนะ โลสุนะโม สุรินทะราชัยยะมหาพรหมมา เมตตาจิตตัง กาวะกะ สะละสู มะสังเตอะ ยะมะรานังปะนีตัง อะวิกรึงคะเร อาคัจชะติ นะโมพุทธายะ(ถวายหมากพลูตามสมควร)(สวดอาราธานาอธิษฐานขอพรตามเเต่ปรารถนา)


    * รายการนี้เปิดรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้สั่งจองให้แจ้งชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด (ตลอดจนเรื่องที่ต้องการหรือมีความปรารถนาจะแจ้งหรือไม่แจ้งก็ได้ในส่วนนี้)ไว้ด้วย เพื่อที่พ่ออาจารย์ท่านจะได้ทำการเจิมและบอกกล่าวให้เป็นกรณีพิเศษต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา พระผงบูชาครูพ่อฟ้าฟื้น(สามอาถรรพ์มหาพรหมเจ็ดภาค) บูชา 4,000 บาท

    Suphanburiwatpalelai0609a.jpg SAM_5298.jpg SAM_5300.jpg 035.jpg 110436.jpg image.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงโคตรเจ้าสัวมหาจักรพรรดิสิทธิลาภราชาโชค
    พ่ออาจารย์ท่านได้นิมิตจากเสด็จพระใหญ่ ให้สร้างพระสำคัญไว้ ด้วยหวังอานิสงค์เฉพาะทางเพื่อสงเคราะห์สัตว์ที่เดือดร้อน ประสบทุกข์เข็ญ อดอยาก มีความเป็นอยู่ที่ยากแค้นผิดจากครรลองที่ควรจะเป็นแม้กุศลกรรมที่ได้กระทำไว้ก็หามีอำนาจที่จะหยุดรั้งบาปกรรมที่ตามติดได้ ด้วยว่าพระพุทธานุภาพแห่งพระผงโคตรเจ้าสัวนี้จะยังให้สัตว์ทั้งหลาย ที่มีความทุกข์ร้อนอันเกิดขึ้นแล้วในประการต่างๆได้บรรเทาลงและสงบระงับไปในที่สุด

    จากการณ์นั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงได้พิจารณาเพื่อขอนิมิตจากครูบาอาจารย์เป็นคำรบที่สอง ด้วยว่าจะกระทำรูปพระเครื่องเป็นพิมพ์พระพุทธปฏิมาเช่นใด จึงจะมีอำนาจสงเคราะห์ช่วยเหลือสัตว์ให้เหมาะสมแก่กาลและยุคสมัย ซึ่งท่านก็ได้รับมติจากครูบาอาจารย์โดยทำเครื่องมงคลเป็นรูปสมเด็จพระอนันต์มุนีสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ในพิมพ์ซุ้มกระจังซึ่งคนในยุคปัจจุบันเรียกว่าพระพิมพ์เจ้าสัว แต่เป็นการนั่งประทับในปางมารวิชัย พร้อมด้วยพระมหาสาวกองค์สำคัญอีก 5 รูปด้วยกัน ประกอบด้วย
    - พระมหากัสสปะเถระ
    - พระอนุรุทธะ
    - พระมหากัจจายน์
    - พระสีวลี
    - พระอุปคุต


    เมื่อได้รูปนิมิตเช่นนั้นแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่ารูปเคารพนี้แค่คิดถึงก็รู้แล้วว่าจะเป็นสิ่งสักการะมหามงคลอันมีคุณานุคุณเฉพาะทางที่จะใช้รับมือกับทุกข์โศกเคราะห์ภัยได้ทุกรูปแบบ เช่นนี้ท่านจึงได้บอกกล่าวกับเสด็จพระใหญ่หรือพระสัพพัญญูองค์ปฐมอีกคำรบหนึ่งถึงรูปแบบองค์พระที่ท่านจะสร้างพร้อมกับได้รับคำแนะนำถึงเคล็ดลับต่างๆที่สมควรกระทำให้เหมาะกับเครื่องมงคลชุดนี้ด้วย


    พ่ออาจารย์ท่านได้นำไม้ขนุนที่ยืนต้นตายเองมาแกะเป็นแม่พิมพ์องค์พระ ท่านว่าพระนี้มีรายละเอียดเยอะ และท่านทำแบบโบราณจะให้สวยให้งามนักคงจะเป็นไปไม่ได้แต่ถ้าจะให้ขลังหวังพึ่งพิงได้อันนี้ท่านว่าแน่นอนเชื่อขนมกินได้ล้านเปอร์เซ็นต์ ท่านได้ใช้เวลานานนับเดือนในการแกะแม่พิมพ์ ลงอาถรรพ์ลงวิชาปลุกเสกแม่พิมพ์และทำการชุบด้วยน้ำพระมนต์พุทธาภิเษก เทวาภิเษกและมุรธาภิเษก


    เมื่อท่านสร้างแม่พิมพ์ขึ้นมาแล้ว ท่านก็ได้นำผงคตวิเศษต่างๆทุกชนิดที่ท่านมี โดยท่านเลือกเฉพาะที่มีอานุภาพชุ่มเย็น ไม่เอาที่ร้อนที่เป็นมหาอุตม์หยุดปืนเพราะมันจะขัดแย้งกันในตัวเองเอาเฉพาะทางเรียกโชคลาภ ดีทางเจริญรุ่งเรื่อง เป็นเศรษฐีมหาศาลมาเป็นมวลสารผสมด้วยผงวิเศษต่างๆของบูรพาจารย์ที่ท่านเคยรวบรวมไว้ และที่สำคัญที่สุดแตกต่างกับเครื่องมงคลทุกรุ่นเลยนั่นก็คือผงวิเศษอันท่านใช้เป็นมวลสารหลัก พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำพระที่มีอานุภาพเฉพาะทางเพื่อใช้ต้านเคราะห์กรรม บรรเทาทุกข์เวทนา ชำระและชะลอกฏแห่งกรรม วิชาธรรมดาย่อมไม่สามารถทำได้เพราะมันเหนือมันพ้นความสามารถของมนุษย์แม้จะเป็นบูรพาจารย์ในอดีตก็ตาม จำจะต้องใช้วิชาของพระอริยะเจ้าตลอดจนของเทพยดาเบื้องบน ถึงแม้จะมีบางวิชาที่สำเร็จด้วยอานุภาพเฉพาะทางของเสด็จพระใหญ่ก็ตาม แต่นั่นก็ยังไม่ให้ผลเต็มที่อย่างที่ควรจะเป็นเพราะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของการทำวิชาไม่ใช่ทำแบบเต็มรูป ท่านจึงได้ใช้ความวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่งยวดเพื่อลบถมผงอาถรรพ์สำคัญขึ้นมา นั่นคือผงวิชาต้องห้ามที่สำเร็จด้วยวิชาในส่วนของเวทย์สวรรค์อันทำได้ยากทั้งหมดนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านใช้วิชาเวทย์สวรรค์นี้มาลบผงในภาคส่วนของอาถรรพ์วิชามหาลาภ ผลักดัน เกื้อหนุน เปลี่ยนชีวิตคนใช้ดุจตาเห็น อันเป็นวิชาเฉพาะทางเท่านั้นเพื่อหวังประโยชน์ใหญ่ให้สัตว์เคลื่อนเลื่อนหนีออกจากทุกข์ ถึงซึ่งสุขสมควรแต่อัตภาพที่ควรจะเป็นพร้อมทั้งเจริญรุ่งเรืองไม่หยุดยิ่งๆขึ้นไป


    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระผงรุ่นนี้นั้นเป็นพระสำคัญมาก ข้างบนเขาไม่ให้เราบอกเลยว่าใช้ผงอะไรใช้ยางไม้อะไรเป็นตัวผสานมีอาถรรพ์ขั้นตอนวิธีการอย่างไร ท่านว่าบอกหรือพูดได้เพียงคร่าวๆเท่านั้น แต่ท่านบอกเพียงว่าเป็นจักรพรรดิของพระผงทั้งมวล รู้ไว้เท่านี้ก็แล้วกัน โดยท่านนำผงวิเศษทั้งหลายมาประกอบผสมด้วยขั้นตอนการะทำพระผงวิชาอาถรรพ์ก่อนจะกดแม่พิมพ์เป็นองค์พระ พ่ออาจารย์ท่านว่าอันพระผงโคตรเจ้าสัวนั้น ในองค์พระจะมีพระอยู่ 6 องค์ ซึ่งแต่ละองค์ก็มีอานุภาพต่างๆกันดังนี้
    - องค์สมเด็จพระสัพพัญญูตถาคตเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าแกะให้นั่งอยู่ในปางมารวิชัย คือมีชัยชนะเหนือทุกสิ่ง เมื่อกดพิมพ์ท่านว่านี่สำคัญมาก ต้องเชิญพระเจ้าแสนโกฏิโดยขอบารมีเฉพาะทางขององค์สมเด็จพระพุทธทีปังกร กับประกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้าอาราธนาพุทธบารมีของทั้งสองพระองค์นี้ขึ้นมานำหน้าหนุนนำด้วยพุทธบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์เป็นการเฉพาะ ท่านว่าเพราะพุทธบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งสองพระองค์นี้เป็นพุทธบารมีเฉพาะทางเป็นคุณวิเศษนอกเหนือจากบริบทที่จะปรากฏมีในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ ดีเด่นทางด้านมหาลาภอย่างยิ่งยวดด้วยว่าทั้งสองพระองค์สั่งสมบารมีมาแตกต่างกันไป
    - พระมหากัสสปะเถระ พ่ออาจารย์ท่านวา ครูพระมหากัสสปะนี้สำคัญนักมีบารมียิ่งใหญ่ ทำให้คนรวยก็ได้ เปลี่ยนชีวิตคนก็ได้ทันตาเห็น แต่คนหมางเมินเพราะไม่รู้จักคุณท่านกันเสียมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าดูอย่างพระอินทร์นั่นเป็นไรหมดอายุ ไม่มีบารมีรุ่งเรืองเป็นเหตุให้ถอยลดต่ำศักดิ์ไปด้วยว่าเมื่อครานั้นยังไม่ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคล ท่านต้องไปถามถึงวิธีที่จะช่วยให้ท่านมีบารมีรุ่งเรืองดำรงค์ฐานะประธานเทวสภาและเป็นเจ้าแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ต่อไปไม่ถูกเทพที่มีบารมียิ่งใหญ่ขึ้นมาดำรงค์ตำแหน่งแทน ตอนนั้นท่านไปถามพระมหาโมคคัลลานะก็ไม่ได้คำตอบ จนถึงต้องไปบีบนวดถวายพระมหากัจจายนะเถระเจ้า พระมหาเถระจึงได้เมตตาด้วยเห็นความอ่อนน้อมขององค์อินทร์ แนะนำให้ท่านไปใส่บาตรพระมหากัสสปะหลังออกจากนิโรธสมาบัติเท่านั้นถึงจะช่วยต่อวาสนาได้ ทำให้ท่านมีอายุ มีบารมีแก่กล้าขึ้นมาทันตาเห็นสามารถดำรงค์อยู่ในดาวดึงส์ได้ต่อไป พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพระมหากัสสปะนี้มีบารมีใหญ่มาก แม้ใครตกทุกข์ได้ยากแสนสาหัสหาทางออกไม่ได้ เนื่องจากบุญหมดถึงคราวเจอเคราะห์กรรมเหมือนองค์อินทร์นั่นทีเดียว ก็ยังรอดพ้นกลับมารุ่งเรืองได้ดุจเดียวกัน ท่านว่าคนส่วนใหญ่ก็เหมือนกัน ส่วนใหญ่มักจะบุญหมดหรือเคราะห์กรรมมีอำนาจแรงกว่ากุศลกรรม ทำให้ชีวิตตกต่ำไม่เจริญ ก็ต้องอาราธนาบารมีครูพระมหากัสสปะนี้ถึงจะล่วงทุกข์ได้
    - พระอนุรุทธะเถระ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่จริงแล้วองค์พระอนุรุทธะนั้นให้ผลทางด้านความสุข คือมีชีวิตสมบูรณ์พร้อม เต็มเปี่ยมไปด้วยสุขสมบัตินานัปการ นั่นเพราะท่านมีคุณสมบัติพิเศษสืบเนื่องสานต่อในภพชาติของท่าน ทำให้ท่านเป็นมหาบุรุษผู้ที่ไม่รู้จักคำว่าไม่ได้ ไม่มี พูดให้ถูกก็คือต้องการอะไรต้องมีทุกอย่าง ชีวิตนี้คำว่าไม่ได้คืออะไร คำว่าไม่มีคืออะไร ท่านไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าเจ้าคำว่าไม่ได้กับไม่มีนี้มีความหมายว่าอย่างไร เพราะท่านได้เสมอใจทุกสิ่งแม้สิ่งใดที่หาในมนุษย์โลกไม่ได้ เทวดาในกลุ่มนิมมานรดีก็ต้องตามเนรมิตถวายให้เสมอใจเสมอความต้องการของท่าน เมื่อท่านได้อุปสมบทแล้ว ท่านจึงกลายเป็นพระเถระที่แม้ในยุคหลังก็ยังเป็นที่นิยมบูชาในฐานะพระเถระผู้ไม่รู้จักคำว่าไม่มี พ่ออาจารย์ท่านว่าคนนั้นเมื่อยังมีความต้องการก็ย่อมต้องรู้สึกว่าสิ่งที่ปรารถนายังไม่ได้เสมอใจ ทำให้ตนนั้นไม่ได้ ไม่มีทั้งสิ้น ตรงนี้บารมีของพระอนุรุทธะท่านจะมาเสริมให้หนทางที่จับต้องไม่ได้นั้นเป็นจริงขึ้นมา แต่ว่าวันไหนหากเจาะจงอาราธนาบารมีของท่านเป็นการเฉพาะแล้วให้จำไว้ว่า วันนั้นอย่าพูดคำว่าไม่ได้กับคำว่าไม่มีออกจากปากเลย ท่านว่าให้ถือเคล็ดไว้เท่านี้ แล้วจะได้จะมีเสมอที่ใจต้องการ
    - พระมหากัจจายนะ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระมหากัจจายนะนี้ก็เป็นครูใหญ่เช่นพระมหากัสสปะ เป็นผู้ที่มีปัญญามากสามารถพลิกแพลงสถานการณ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี ซ้ำยังมีลาภสักการะสูงมากเสมอด้วยพระสีวลีเถระเจ้า องค์คุณแห่งพระมหากัจจายนะผู้เอื้ออารีย์ต่อสรรพชีวิตนั้นเป็นมหาคุณานุคุณอย่างแท้จริง ครูบาอาจารย์แต่โบราณเชื่อว่าแม้ได้บูชาแล้วจะมีอานุภาพทางเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างเอกอุ ซ้ำยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยโชคลาภโภคทรัพย์ต่างๆ ที่สำคัญทำให้สติปัญญาดี มีความคิดอ่านการตัดสินใจที่มั่นคงถูกต้อง ท่านว่าหากวันไหนปรารถนาจะอาราธนาบารมีพระคุณเจ้าท่านสงเคราะห์ชีวิตเราให้เหมาะแก่สถานการณ์แล้ว ให้ตั้งจิตอธิษฐานได้เลย แต่จำไว้ว่าจงใช้ความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นพิเศษ ทำด้วยความจริงใจ ใช้ความอ่อนโยนเข้าหาและขอความเมตตาท่านเพียงเท่านัั้น
    - พระสีวลี เอกองค์มหาลาภ ที่สุดของพระมหาสาวก พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องพูดอะไรกันมากเอาว่าท่านขอเมตตาพระสีวลีไว้ ว่าให้ผู้บูชานั้นมีลาภลอย หมายถึงเจอเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เจอโชคดี เจอโชคลาภแบบฟลุ้คๆตลอดในการดำรงค์ธาตุ์ขันธ์ใช้ชีวิตนี้ อย่าให้รู้จักคำว่ายากคำว่าลำบากได้เลย
    - พระอุปคุต พ่ออาจารย์ท่านว่าพระอุปคุตนั้นดีทางมหาปราบสยบมารและพลังอำนาจฝ่ายลบต่างๆในร่างกาย ซ้ำยังอำนวยลาภผลแก่ผู้สักการะอย่างมหาศาลเช่นพระสีวลีอีกด้วย ท่านว่าแต่ละคนนั้นล้วนมีเวรรกรรม มีเจ้ากรรมนายเวร การทำงานการที่จะเดินไปข้างหน้านั้นย่อมมีอุปสรรคดุจพระเจ้าผจญมารโดยแท้ ตรงนี้ด้วยบารมีของพระอุปคุตนั้นจะนำพาให้ชีวิตราบเรียบไปพบเจอกับปัญหาอุปสรรคร้ายแรงใดที่จะทำให้ชีวิตเราสะดุุดได้


    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อกดพิมพ์องค์พระแล้ว ที่ด้านหน้านั้น เสด็จพระใหญ่ได้สั่งให้นำบุษราคัมของหลวงปู่ดู่มาฝังไว้ด้วย ท่านจึงได้ฝังบุษราคัมเอาไว้ตรงกลางในจุดศูนย์กลางองค์พระ บุษราคัมที่ฝังชุดนี้เป็นของสำคัญมากเพราะท่านเคยนำไปให้หลวงปู่ดู่แห่งวัดสะแกอธิษฐานจิตให้ถึงไตรมาส และองค์หลวงปู่ดู่นี้ยังกล่าวถึงอานุภาพของบุษราคัมชุดนี้ว่า ทำให้ดีแล้ว เป็นสมบัติจักรพรรดิทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เปรียบกับดวงแก้วจักรพรรดิ์เป็นเครื่องมงคลสุดที่จะอธิษฐานตามความปรารถนาสารพัดนึกของผู้บูชา ซ้ำบุษราคุมยังเป็นตัวแทนของความรักความร่ำรวยอีกด้วย เหมือนเสด็จพระใหญ่ท่านต้องการจะสื่อว่าองค์พระนี้เป็นตัวแทนของความรักความห่วงใยดุจเดียวกันจึงได้เจาะจงให้ใช้บุษราคัมหลวงปู่ดู่ในกาลนี้ ซ้ำหลวงปู่ดู่เองก็เคยพูดไว้ว่าบุษราคัมชุดนี้มีอานุภาพเช่นสมบัติจักรพรรดิ์ พ่ออาจารย์ว่าก็ถือว่าฝังเอาเคล็ดไว้ต่อไปจะได้ชื่อว่ามีสมบัติจักรพรรดิติดตัวกัน ดึงดูดลาภสักการะบริวารน้อยใหญ่เข้ามาสู่ตนโดยง่าย ซ้ำอานุภาพของบุษราคัมที่หลวงปู่ดู่เสกนั้นย่อมมีมากกว่าบุษราคัมธรรมดาอย่างแท้จริง มีความเชื่อว่าบุษราคัมนั้นช่วยทางด้านกำลังใจและการตัดสินใจและช่วยให้มองโลกในแง่ดี เป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์ ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ ช่วยในเรื่อง การไหลเวียนของโลหิตบรรเทาอาการอักเสบของโรคทางเดินปัสสาวะ ปอด หวัด ช่วยเสริมพลังความคิดสร้างสรรค์


    ด้านหลังองค์พระนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ฝังสิ่งสำคัญต่างๆไว้ดังนี้
    - แม่นางกวัก หญิงสาวผู้ได้รับพรจากพระสีวลีจนกลายเป็นตำนานที่บูรพาจารย์สร้างรูปนางเอาไว้สักการะสืบมา ด้วยหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนาและอธิษฐาน นางจะกวักจะเรียกให้ได้สมใจปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านสร้างแม่นางกวักนี้โดยได้บอกกล่าวปู่เจ้าเขาเขียวขออนุญาติสร้างลูกสาวของท่าน และยังปลุกเสกจนเกิดรูปนามให้มีชีวิตอย่างแท้จริง ท่านว่าเวลาเราขอเราอธิษฐานอะไรกับแม่นางกวัก ให้ท่านรู้และต้องสนองตอบเราได้ จะหวังสิ่งใดปรารถนาสารพัดในปฐพีนี้ ทั้งลาภผล เงินทอง โภคทรัพย์ คู่ครอง โอกาสของชีวิตให้อธิษฐานขอความเมตตากับท่านเลย ให้กวักเงินกวักทอง กวักโชคลาภ กิจการงาน กวักเอามาแต่สิ่งที่ดี กวักคู่แท้ให้เข้ามาในชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานได้ทุกเรื่อง ซ้ำท่านยังอัญเชิญบารมีพระสีวลีลงมาครอบคลุมอีกคำรบหนึ่ง ให้นางกวักนี้มีฤทธานุภาพครอบคลุมทุกด้านตามที่เราจะร้องขอ
    - แร่เจ้าน้ำเงิน ราชาแห่งเงิน เจ้าแห่งโชคลาภวาสนา ที่ว่ากันว่าหาพบเจอได้ยากและจำเป็นต้องมีเวลาหล่อพระกริ่งนั่นเอง ซึ่งสมัยนี้พระกริ่งนั้นไม่มีเจ้าน้ำเงินไปเสียแล้ว พ่ออาจารย์ว่ามันมีอานุภาพมากและก็ดีโดยชื่อของมันเอง ตัวแร่เจ้าน้ำเงินนี้มีอานุภาพสูงท่านว่าเอาว่าใครได้ครอบครองไม่เห็นจะจนลงซักที ใครจะทำอะไรกลั่นแกล้งอย่างไรก็ไม่เป็นผล คนที่ถือครองเจ้าน้ำเงินนี้มีแต่โชคลาภวาสนา สมกับคำว่าเจ้าน้ำเงิน เป็นนายของเงิน เป็นเจ้าแห่งโชคลาภอย่างแท้จริง แร่เจ้าน้ำเงินนี้จะอยู่กับผู้ที่มีบารมีช่วยผลักดันหนุนนำชีวิตเขาขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยอาถรรพ์ธาตุกายสิทธิ์ พ่ออาจารย์จึงได้เมตตานำมาฝังไว้ในพระโคตรเจ้าสัวนี้
    - น้ำมันปลิงดูดทรัพย์ ท่านว่าเป็นวิชาการสร้างน้ำมันวิชาอาถรรพ์ที่ต้องประกอบด้วยว่านยาและยันต์ครบถ้วน อันน้ำมันปลิงดูดทรัพย์นี้ท่านว่าทุกคนรู้อยู่ว่าปลิงมันชอบดูด เรียกว่าไม่ใช่ดูดธรรมดาแต่เป็นสูบเลือดสูบเนื้อเลยดีกว่า อันน้ำมันปลิงดูดทรัพย์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอานุภาพมากทางดูดลาภสักการะนานา สิ่งต่างๆเฉพาะแต่ที่ดีๆเข้ามาหาตัวเราอันนี้คือแม้พกไว้ปกติก็มีพลังงานดึงดูดมหาศาลอยู่แล้ว แม้ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ต้องเข้ามาอยู่ใกล้ๆเราเป็นของเรา ท่านตั้งใจฝังให้ไว้เพราะว่าคนหลายคนได้สร้างบุญสั่งสมกุศลไว้แต่ต้องมารับทุกข์เวทนาเสวยวิบากกรรมเสียแต่เริ่มไม่มีโอกาสเชิดชูหน้าตาตัวเองท่านว่าน้ำมันนี้มันดูดหมด ดูดแม้แต่โอกาสที่ดีให้เข้าถึงตัวมีโอกาสผ่อนปรนความทุกข์สร้างบารมีต่อไป และยังดูดทุกสิ่งเข้ามา ท่านว่าน้ำมันนี้สำคัญนัก ถ้าใช้เป็นแล้วล่ะก็ดูดได้ทุกสิ่งเลย ไม่เว้นแม่แต่มนุษย์ที่มีชีวิต ที่จริงใช้ทางเสน่ห์ก็ได้ แรงอย่างยิ่งยวด แม้จะไปทำงานเจรจาหรือสร้างสัมพันธ์กับผู้ใดก็ให้อาราธนาน้ำมันนี้นึกว่าเขากำลังโดนปลิงเกาะและดูดเลือดเนื้ออยู่เช่นนั้น ท่านว่าเห็นผลทุกราย
    - ผงเศรษฐีทั้งเก้า พ่ออาจารย์ท่านใช้ผงที่สืบทอดมาของหลวงพ่อปานซึ่งปกติท่านจะใช้บรรจุในพระพิมพ์ทรงสัตว์นั้นทำให้พระพิมพ์ทรงสัตว์ของหลวงพ่อปานมีอานุภาพมาก หัวใจสำคัญขององค์พระก็อยู่ที่ผงนี้ ท่านนำมาขออนุญาติและขอบารมีครูมหาเศรษฐีทั้งเก้าท่านแห่งพุทธกาล ซึ่งได้เคยกระทำมหาบริจาค กระทำทานอย่างมหาศาลมโหฬารใหญ่โตและเป็นพระอริยบุคคล ด้วยกุศลเจตนาการบริจาคอันยิ่งใหญ่ของมหาเศรษฐีทั้งเก้านี้เป็นการเสียสละอันกระทำได้ยากนักหนา จะทำเหตุอัศจรรย์ให้เกิดขึ้นได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะให้ใครทำผงทางโชคลาภก็ไม่เสมอทั้งเก้าท่านนี้ลงมาทำด้วยตัวเอง ท่านจึงขอบารมีครูมหาเศรษฐีผู้อริยบุคคลทั้งเก้านี้ให้ประสิทธิผงเป็นกรณีพิเศษให้ผู้ครอบครองผงนี้ได้ร่ำรวยเสมือนมหาเศรษฐีพุทธกาลเช่นนั้น
    - ตะกรุดสิทธิลาภราชาโชค พ่ออาจารย์ท่านได้ลงหัวใจยันต์สิทธิลาภ อันเป็นวิชาเอกที่มีประสบการณ์กันมากของท่านลงในแผ่นตะกั่วขอมโบราณพันปี ท่านว่าเท่านี้ยังไม่พอท่านยังเสริมมนต์ขอพรเทวดา มนต์แก้วสารพัดนึก มนต์มหาสำเร็จ มนต์พระเจ้าเปิดปากเอาไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดสิทธิลาภราชาโชคนี้ทำให้เป็นชุดพิเศษเพื่อฝังพระโคตรเจ้าสัวโดยเฉพาะ ท่านว่าพกไว้เฉยๆว่าดีแล้ว แต่เมื่อใดก็ตามที่เปิดปากขอพรสิ่งใด เอาว่าสิ่งนั้นต้องสำเร็จต้องได้สมกับมนต์ที่ลงไว้นั่นเอง


    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระผงโคตรเจ้าสัวมหาจักรพรรดิสิทธิลาภราชาโชคไว้ทั้งหมด 8 องค์ ท่านว่าถือว่าเป็นจำนวนเลขมงคล เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของเครื่องหมายอินฟินิตี้คือมีกินมีใช้ไม่หมด ดังนั้นที่ด้านหลังองค์พระบริเวณฝาขวดน้ำมันปลิงดูดทรัพย์ท่านจะจารเลข 8 เอาไว้ด้วย ท่านว่าพระนี้เป็นของสำคัญ เป็นของมีเจ้าของตามตราบัญญัติทุกองค์ ท่านว่าเป็นของสำคัญที่ใช้เสริมร่างกายให้มีกำลังพระจักรพรรดิเป็นอาถรรพ์แฝงเร้นดังนั้นครูบาอาจารย์ท่านจึงเลือกผู้ครอบครองและมีวาสนาต้องกันไว้ตั้งแต่เริ่ม


    คาถาบูชา(นะโม 3 จบ)
    มาขะโย มาวะโยมัยหัง มาจะโกจิ อุปัททะโว ธัญญะธารานิ เม ปะวัสสันตุ ธะนัญชัยยัสสะ ยะถา ฆะเร สุวัณณานิ หิรัญญาจะ สัพพะโภคาจะ ระตะนานิ ปะวัสสันตุ เม เอวัง ฆะเร สุมะนะ ชะฏิลัสสะ จะ อะนาถะปิณฑิกะ เมณฑะกัสสะ โชติกะ สุมังคลัสสะ มัณฑาตุ เวสสันตะรัสสะ ปะวัสสันติ ยะถา ฆะเร เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สัพพะสิทธิ ภะวันตุ เม


    * ให้แจ้งจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้บูชา ให้แจ้งชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดไว้ให้พร้อมทุกคน เพื่อที่พ่ออาจารย์ท่านจะได้นำผงมงคลพระปัจเจกพุทธเจ้าหรือผงเงินไหลมา มาทำการเจิมประสิทธิบอกกล่าวแก่องค์พระเป็นการเฉพาะต่อไป รายได้จากการบูชาสมทบทุนการศึกษาเด็กกำพร้ามและด้อยโอกาสทางสังคม


    ร่วมทำบุญบูชา พระผงโคตรเจ้าสัวมหาจักรพรรดิสิทธิลาภราชาโชค บูชา 4,000 บาท

    035.jpg image.png 1207072486.jpg 6352105473583100002.jpg 456_145-1.jpg SAM_5308.jpg SAM_5310.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก)

    นับแต่โบราณกาลสืบมานั้นหากปรารถนาจะสร้างเครื่องมงคลที่มีอิทธิคุณหนักไปทางชุ่มเย็น เห็นผลทาง เมตตามหานิยม เสน่ห์ ลาภผล แคล้วคลาดแล้ว ก็มักนิยมทำเป็นรูปพระภควัมปติหรือพระปิดตากันมาก โดยเฉพาะเจาะจงให้ใช้เนื้อผงมวลสารวิเศษต่างๆเป็นหลักมากกว่าจะใช้โลหะธาตุอื่นๆ กอปรกับความนิยมของพระเครื่องพระปิดตาเนื้อผงของหลวงปู่โต๊ะมีสูงมาก และมีหลายๆคนมักจะถามว่าพ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระปิดตาจัมโบ้แบบของหลวงปู่โต๊ะไว้บ้างหรือไม่ ซึ่งท่านก็รับแต่เพียงว่า เราทำไว้ แต่ยังไม่ได้เวลา


    จำเนียรกาลผ่านไป อาหารการกินชีวิตความเป็นอยู่และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเบื้องหน้านั้น ท่านเห็นว่าคนจะอยู่ได้ยากหากปราศจากวาสนาและลากสักการะนานาทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำรินำพระปิดตาที่ท่านได้บรรจงสร้างสรรค์ไว้ดีแล้วออกมาให้ร่วมทำบุญกัน


    พระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก)นั้น อุบัติขึ้นจากความตั้งใจของครูบาอาจารย์ โดยครูสมเด็จท่านได้นิมิตสอนพ่ออาจารย์ถึงการทำผงวิเศษที่เรียกว่าผงเปิดวาสนามหาอุดม ซึ่งเป็นผงเปิดวาสนาบารมีเฉพาะทาง โดยพ่ออาจารย์นั้นท่านได้พูดถึงตัวผงเปิดวาสนามหาอุดมว่า คนเรานั้นเมื่อพูดถึงคำว่าวาสนาแล้วเราจะนึกไปถึงคนที่เขาโชคดี มีโชคอยู่เรื่อยๆไม่รู้หยุดรู้หมด คิดว่าคนเช่นนี้คือคนวาสนาดี ซึ่งแท้จริงแล้วเจ้าตัววาสนานี้มันเกิดจากผลแห่งบารมีที่ตนได้กระทำไว้เป็นเหตุให้เกิดขึ้น มิใช่อยู่ดีๆมันจะเกิดขึ้นได้เอง หากแต่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการสร้างบารมี เป็นคนมีบารมีมากก็พลอยให้มีวาสนาดีไปด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่ตัวเราเองเท่านั้น ที่จะรู้ว่าตัวเองมีบารมีอยู่หรือไม่ แล้วชีวิตทุกวันนี้ในเมื่อมีบารมีอยู่ทำไมกลับไร้วาสนา ทั้งๆที่ทำบุญให้ทานปฏิบัติภาวนามิได้ขาด แต่ทำไมกลับผีซ้ำด้ามพลอยเจอแต่เรื่องแย่ๆไม่เว้นวัน


    ท่านว่าการทำผงเปิดวาสนามหาอุดมนี้ ก็คือผงเปิดโลก ผงที่ใช้เปิดบารมีช่วยให้คนมีวาสนาหลีกเร้นเคราะห์ภัยที่จะเกิดไม่ให้เข้าถึงตัวนั่นเอง ผงเปิดวาสนามหาอุดมนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไมต้องมหาอุดม เพราะโบราณจารย์และครูสมเด็จท่านสอนว่ามหาอุดมนั้นก็คือที่สุด สูงสุด เป็นความบริบูรณ์พูลพร้อมในทุกสรรพสิ่งอย่างเลอเลิศ อย่างสูงสุดสมบูรณ์ไม่มีประมาณ ดังนั้นผงเปิดวาสนามหาอุดมนี้ก็คือที่สุดของผงที่ใช้เปิดบารมีให้คนเต็มคน ให้คนกลายเป็นคนที่บริบูรณ์ถึงพร้อมด้วยวาสนาและความโชคดีนานัปการ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นผงที่ครูท่านเมตตาสงเคราะห์เพื่อให้ใช้ให้ปรากฏเฉพาะกาล ในเฉพาะยุคสมัยเท่านั้น ท่านว่าเป็นสิ่งที่กระทำได้ยากเพราะสุดท้ายก็ต้องให้เหล่าองค์พระอรหันต์ช่วยกันอธิษฐานบารมีอันเป็นบารมีเฉพาะทางเพื่อให้ผงนี้มีกฤติยาคมสูงสุดแตกต่างจากมงคลสักการะทั่วไป


    พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาเล่าถึงพระเครื่องของหลวงปู่โต๊ะไว้ว่า ในตอนนั้นหลวงปู่ท่านได้มวลสารผงพระเก่าของวัดระฆังและบางขุนพรหมไว้มาก ท่านจึงได้อาราธนาบารมีสมเด็จโต ใช้ผงเก่าที่ชำรุดแตกหักเหล่านั้นมาสร้างพระเครื่องของท่าน จนพระเครื่องของท่านกลายเป็นพระที่มีอภินิหาริย์มากดุจเดียวกัน ดังนั้นเมื่อพ่ออาจารย์ท่านมีดำริจะสร้างพระปิดตา ท่านว่าจำเป็นที่จะต้องใช้มวลสารเก่าของครูสมเด็จผสมด้วยผงวิเศษทั้งห้าประการเป็นผงตั้งต้น นอกจากนั้นแล้วเพื่อให้ได้อานุภาพสูงสุดตามแบบอย่างพระปิดตาที่ควรจะมีท่านจึงได้ลบถมผงวิเศษอีกสองชนิดเป็นการเฉพาะ ถึงอย่างละ 108 หน ประกอบด้วย
    - ผงยันต์มหาละลวยตัวเต็ม พ่ออาจารย์ว่าผงนี้เมื่อลบถมต่อเนื่องกันถึง 108 ครั้ง ซึ่งเป็นการลบผงที่กระทำได้ยาก ส่งผลให้ผงนี้มีอานุภาพมากเกินกว่าจะบรรยายได้ ท่านว่าพูดกันสามวันก็ไม่จบ โดยปกติแล้วผงนี้จะมีคุณมากท่านว่าแค่เศษผงหากได้พกพาอาราธนาแล้วจะช่วยยกสง่าราศีทำให้ผู้บูชาเป็นที่รักของคนทั้งหลายไม่ว่าจะชายหรือหญิง ใครไม่รู้จักก็อยากเข้ามาหาเข้ามาทำความรู้จักเรารักเราดุจพี่น้องร่วมสายโลหิต ซ้ำยังเป็นตบะเดชะดีนักช่วยให้คนเกรงใจเรามีอำนาจดังพระยาราชสีห์เวลาจะทำอะไรก็ไม่ขัดใจเป็นทั้งเมตตาและมหาอำนาจประสานกันอยู่ในที และยังกันกระทำกันภัยอันตรายด้วยประการทั้งปวง ท่านว่าอธิบายได้คร่าวๆเท่านี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้มีอานุภาพมากถึงกับกล่าวได้วาหากใครได้พบ นับว่าเป็นบุญวาสนาของบุคคลผู้นั้น แม้จะมีชีวิตอาภัพมาจากไหนก็ตาม นับจากนี้ไปจะไม่รู้จักคำว่าอาภัพเลย

    - ผงยันต์สุกิตติมา พ่ออาจารย์ท่านได้ทำการลบถมถึง 108 หนเช่นเดียวกัน ท่านว่าบางที่ก็เข้าใจผิดว่าเป็นยันต์มหาละลวย เนื่องจากมีคุณด้านมหาเสน่ห์อย่างโดดเด่นนี่เอง พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ดีนักไม่ดีจริงไม่ใช้สืบกันมาตั้งแต่พระสังฆราชแพแน่นอน ท่านว่ามีคุณทางเมตตาอย่างเอก ถึงกับปรารถนาให้สตรีใดมาหาเราเขาก็จะมาหาเราดังปรารถนา แม้มีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งครอบครัวไม่ลงรอยกันก็จะคืนดีกันโดยไวนี่คือเมตตาอย่างเอกถึงขนาดที่ว่าทะเลาะกันอยู่ก็เปิดปากด่ากันไม่ลง นอกจากนั้นแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ยังมีดีทางหนุนดวงชะตาด้วยพลิกดวงกลับจากร้ายให้กลายดีแบบเชื่อขนมกินได้ ซ้ำเมื่ออาราธนาติดตัวไว้ ด้วยอำนาจของคุณวิชาพ่ออาจารย์ว่าผงนี้ยังจะช่วยขับไล่ปัดเป่าเสนียดจัญไรออกไปพ้นจากร่างกาย พ้นจากชีวิตทีเดียว


    เมื่อท่านได้นำผงมวลสารทั้งหมดมาผสมกันแล้ว ท่านยังได้ผสมผงเกษรว่านและดอกไม้มงคล ตลอดจนผงคตวิเศษและน้ำมันจากบูรพาจารย์ต่างๆนวดหมักไว้กับเนื้อพระ ก่อนจะกดพิมพ์องค์พระขึ้นมา ซึ่งพระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก)นั้น พ่ออาจารย์ท่านได้พิถีพิถันในการเสกมาก เพราะเป็นพระที่ใช้เกี่ยวกับเรื่องเปิดบารมี ต้านทานผลกรรมและกฏแห่งกรรมทั้งหลาย ท่านว่าทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มจึงมีรายละเอียดมาก ทั้งต้องอาราธนาเสด็จพระใหญ่ และพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ไม่มีประมาณในจักรวาลแสนโกฏิมาช่วยกันคุมพิธีไหนจะองค์อรหันต์และเทพพรหมมากมาย


    ซึ่งองค์พระปิดตานั้น พ่ออาจารย์ท่านได้ฝังอิทธิมงคลศักดิ์สิทธิ์หลายชนิดลงไปด้วย ได้แก่
    - พญาพยนต์เพชรฆาตต่อหัวเสือ พ่ออาจารย์ท่านได้นำรังต่ออาถรรพ์ที่ท่านพลีมาตามวิธีการของท่าน มากดเป็นพยนต์ต่อหัวเสือ เพื่อที่จะฝังในพระปิดตาโดยเฉพาะ ท่านว่าคุณปกตินั้นต่อจะเปิดทางโชคลาภวาสนาบารมีให้กับผู้บูชาอยู่แล้ว ทั้งต่อเงินต่อทอง ต่อโชคลาภวาสนาบารมีต่างๆ แต่พญาพยนต์เพชรฆาตต่อหัวเสือนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าท่านใช้วิชาผูกหุ่นพยนต์เป็นกฤติยาคมแฝดด้วย ดังนั้นตัวต่อนี้ยังคอยปกป้องรักษาดูแลเจ้าของดุจทาสผู้ซื่อสัตย์ แม้ใครมารังแกหรือทำร้ายเราท่านว่าเค้าจะได้ผลกลับคืนสนองไปในสิ่งที่ตัวเองกระทำ พ่ออาจารย์ท่านว่าดูอย่างตะกรุดมหาสะท้อนนั่นเป็นไร เพียงแค่อาถรรพ์แห่งคุณวิชาก็ให้ผลปานนั้นแล้ว แต่นี่คือหุ่นพยนต์ที่มีชีวิตจิตใจ ท่านว่าก็คิดเอาเองแล้วกันว่าเค้าจะตอบสนองขนาดไหน ซ้ำยังช่วยเราได้หลายเรื่อง วันไหนติดขัดอะไร ให้ตั้งนึกถึงเจ้าตัวต่อนี้ให้ดี บอกเค้าไปว่าต่อโชคให้พ่อหรือแม่ทีสิ ต่อวาสนาให้พ่อหรือแม่ทีสิ คือจะทำอะไรที่คิดว่ามันหมดมันไปต่อไม่ได้แล้ว ให้อธิษฐานกับเค้า เดี๋ยวทางจะมา ไม่หยุดไม่หมดและจะได้ต่อออกไปเรื่อยๆ ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านพูดติดปากเกี่ยวกับตัวต่อนี้ว่าได้แล้วได้อีกทีเดียว ท่านว่าคนเราส่วนใหญ่มีหลายประเภท มีทั้งที่ไม่เคยได้รับเลยก็มี หรือที่ได้แต่พอได้แล้วจะตันก็มี ดังนั้นท่านจึงผูกพญาพยนต์เพชรฆาตต่อหัวเสือขึ้นมาเป็นการเฉพาะท่านว่าสิ่งนี้ใช้แก้ทางกัน ซ้ำท่านได้อธิษฐานบอกกล่าวท้าวทั้งสี่ตลอดจนเทพยดาอันจำแลงเป็นตัวต่อนี้ให้คอยช่วยเหลือต่อวาสนา ต่อลาภผล ต่อสิ่งที่ดีทุกประการให้เหมาะสมตามลักษณะการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคลออกไปไม่รู้หมด ท่านว่าสิ่งใดดีกับเขาก็ให้ต่อสิ่งนั้นออกไปเรื่อยๆเขาจะได้มีกำลังใจในการใช้ชีวิต ให้ชีวิตเขาได้แล้วได้อีกไม่รู้หมดรู้พอนั่นเอง
    - ลูกอมหัวใจแม่นางฟ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาลบผงมหาเมตตาขั้นสูงเป็นการทำลูกอมที่ให้ผลด้านเสน่ห์เมตตาอย่างเอก โดยท่านว่าจะเรียกลูกอมหัวใจแม่นางฟ้าหรือได้นางฟ้าก็ได้ ท่านว่าเรื่องนี้เราไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ แต่เอาเป็นว่าให้เข้าใจตรงกันคือ แม้ใครไร้คู่ก็จะได้คู่ครองที่ดี เอาว่าผลมันออกมาตามเจตนาพื้นฐานของจิตใจคนใช้ หากมีคู่อยู่แล้วก็จะช่วยให้ได้อยู่ในสังคมที่ดี ได้เจอคู่เจรจาหรือเพื่อนร่วมงานที่ดี ท่านว่ามันเป็นพลังอาถรรพ์แปลกๆที่จะทำให้เราเจอแต่คนดีๆทำให้ชีวิตเรา ทำให้เราเจริญขึ้น เป็นวิชาอาถรรพ์วิชาหนึ่ง ท่านว่าจะใช้ทางเสน่ห์ชู้สาวก็ได้ หรือจะใช้ทางเมตตาเขาหาคนเพื่อจะเจราจาก็ได้
    - ตะกรุดเปิดขุมทรัพย์ เป็นวิชาที่ท่านลงตะกรุดฝังไว้ด้านหลังองค์พระหนึ่งคู่ ท่านว่าวิชานี้ทำยากมากเพราะอักขระเลขยันต์นั้นล้วนมีความสัมพันธ์กับดวงดาว เป็นวิชาที่จะเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนวิถีดวงชะตาของคนอย่างแท้จริง ท่านว่ามันจะดึงจะดูดสิ่งดีๆให้เข้ามา ถ้าใครหวังจะเอาดีทางโชคลาภก็จะได้ตามนั้น บังเกิดโชคลาภอยู่เนืองๆมีความเจริญในลาภสักการะ ท่านว่าทำยากกว่าจะสำเร็จเพราะต้องเสกถึงยี่สิบเอ็ดศุกร์ หกอาทิตย์ สิบห้าจันทร์ แปดอังคาร สิบเจ็ดพุธ สิบเก้าพฤหัสทีเดียว
    - ตะกรุดแฝดหัวใจมหาเวสสันดร พ้ออาจารย์ท่านว่าพระเวสสันดรคือพระผู้มีแต่ให้ มีสมบัติจักรพรรดิ์ใครขออะไรเป็นยกให้เขาหมด ท่านว่าท่านลงเอาไว้ให้เป็นตะกรุดที่ฝังด้านหน้าองค์พระ เพื่อให้ผู้ขอได้รับในทุกสิ่งๆตามแต่ที่ขอที่ปรารถนากัน แม้ว่าจะขอทรัพย์ขอสิ่งใดๆก็ตามทีจากองค์พระก็ให้ได้รับสิ่งนั้นสมความปรารถนาตั้งมั่นดุจดังว่าเราได้ขอกับพระเวสสันดดรมหาโพธิสัตว์เมื่อปางก่อนนั้นทีเดียว ท่านว่าขอได้ทุกสิ่งแม้แต่ลูกในอกท่านก็ยังให้
    - ทับทิมเสกหลวงปู่ดู่ พ่ออาจารย์ท่านฝังไว้ตรงพุงพระภควัมปติ ท่านว่าเป็นเคล็ดให้คนที่ร่างกายหรือชีวิตนี้ยังไม่มีสมบัติหรือทรัพย์สินใดๆติดตัว หรือมีแล้วก็ยังไม่พอไม่เสมอใจไม่เท่าเทียมใครเขา ท่านว่าตอนฝังนี้ท่านสวดคาถาเรียกลาภยัดไปด้วย ถือเคล็ดที่ว่ามีเพชรเต็มพุง มีคลังสมบัติมหาศาลอยู่กับตัวอยู่ในร่างกายใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมดเพราะมันเป็นของติดตัวติดกายเราเช่นนี้แก้อาถรรพ์ชีวิตที่ยังไม่มีไม่ได้ของทุกคนอยู่ในตัวเองด้วยอำนาจบารมีของหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด


    พ่ออาจารย์ท่านเสกพระปิดตามานานหลายปี ทั่งเชิญครูส่งครูและประกอบพิธีต่อชะตาสืบชะตาท่านว่าเสกจนมั่นใจว่าเต็มแล้วไม่มีที่ให้ลงอะไรแล้ว ท่านจึงให้นำออกมาบูชา


    คาถาบูชา
    สุกิตติมา สุภาจาโร สุสีละวา สุปาคะโต ยัสสะสิมา วะเจธิโร เกสะโรวา อะสัมภิโต


    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก) ไว้ทั้งหมด 9 องค์ จะเปิดรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านใดที่จองให้แจ้งชื่อนามสกุลมาด้วย ท่านจะเจิมองค์พระด้วยพระคาถาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์ให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้สมทบทุนวิหารทานในวัดทุรกันดารต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา พระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก) บูชา 2,500 บาท

    035.jpg 1377605394-4-o.jpg vessandorn.jpg SAM_5313.jpg SAM_5314.jpg image.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหากลับวัฏฏะพระเจ้าบิณฑบาตรทุกข์รับเคราะห์กรรม (ล้างบาป)
    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า ตะกรุดดอกนี้เป็นมหาตะกรุดที่มีคุณใหญ่ เนื่องจากมีพรรณคุณพิเศษเฉพาะทางสามารถใช้รับเคราะห์กรรมแทนตัวเองได้

    ทุกข์ โศก โรค ภัย เคราะห์ร้าย เวรกรรม พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งเหล่านี้ย่อมไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างแน่นอน เพราะบาปเคราะห์ทั้งร้ายเมื่อมาส่งผลนั้นย่อมจะให้ทุกข์โทษภัยในประการต่างๆมีทั้งที่เบาบางและสาหัส ดังนั้นท่านจึงได้ทำตะกรุดมหากลับวัฏฏะพระเจ้าบิณฑบาตรทุกข์รับเคราะห์กรรม หรือที่ท่านเรียกสั้นๆว่าตะกรุดล้างบาปขึ้น

    ท่านว่าอันที่จริงแล้ววิชาเช่นนี้ไม่ควรจะมีปรากฏ หรือมีทำออกมาเลย เนื่องจากสัตว์ทั้งหลายนั้นย่อมมีเคราะห์กรรมเป็นของตัวเอง ดังนั้นวิชาการต่างๆจึงมีทั้งได้รับการสืบทอดและหายสาบสูญไปไม่ปรากฏคนสืบทอด เพราะว่าวิชาเช่นนี้ส่วนใหญ่เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ ถึงจะใช้จะทำก็ทำได้ไม่มาก เพราะท่านต้องเลือกและมอบให้แก่คนที่พิจารณาแล้วว่าได้ไปไม่เอาไปทำกรรมสร้างเวรจริงๆ ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงไม่ค่อยนำออกมาให้ใครบูชาเท่าไหร่ แม้มีหลายคนถามหาว่ามีเครื่องรางที่ให้ผลเร็วทางด้านลดโทษชะลอกรรมเก่าเหล่านี้มั๊ย ท่านก็จะรั้งไว้เงียบไว้ จะมีเฉพาะบางคนที่ท่านเห็นว่าเป็นกรรมหนักจริงๆเท่านั้นเรียกว่าถึงขั้นวิบัติได้ทุกเวลา ท่านจึงจะนำออกมาให้บูชา และก็ปรากฏผลว่าดีขึ้นทุกคราทุกครั้งไป จากคนเสวยทุกขเวทนากลายเป็นพลิกฟื้นกลับตัวตั้งฐานะได้มั่นคงทุกคน

    ด้วยเหตุผลบางประการ พ่ออาจารย์ท่านว่ากาลข้างหน้านั้น คนจะได้ทุกข์กันมากด้วยเป็นวาระชะตากรรมที่จะต้องรับกรรมเสวยบาปเคราะห์กันโดยส่วนรวม ดังนั้นท่านจึงให้นำตะกรุดมหากลับวัฏฏะนี้ออกมาให้ร่วมทำบุญ ท่านว่าตะกรุดเรามีจำนวนเพียงน้อยเท่านี้ เมื่อออกไปก็คงไปยื้อไปเปลี่ยนแปลงคนหมู่มากไม่ได้ จะทำได้ก็แค่เพียงส่งผลเฉพาะกับผู้ที่ครอบครองตะกรุดเท่านั้น

    ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านเล็งเห็นกาลสำคัญเบื้องหน้าดั่งว่าไว้ จึงได้นำออกมาให้บูชา ท่านว่าตัวตะกรุดล้างบาปนี้ เป็นตะกรุดที่มีคุณใหญ่อยู่มาก แม้ผู้ใช้อาราธนาให้ต้องกายหรืออาราธนาไว้ในกายรัศมีที่แผ่ออกมาจากเครื่องมงคลนี้จะครอบคลุมองคาพยพโดยถ้วนทั่ว แม้จะมีกรรมหนักหรือกรรมเบาติดตามตัวหรือกำลังให้คุณส่งผลอยู่ในเบื้องปัจจุบันชาติกับเจ้าของดวงจิตนั้นๆก็ดี ผลแห่งบาปกรรมนั้นจะค่อยๆชะลอไปอย่างเห็นได้ชัด เรียกว่าเบาบางลง ค่อยๆเบาลงๆจนหมดอำนาจที่จะแสดงผลไป ท่านว่าที่เป็นดั่งนี้ก็ด้วยบารมีบูรพาจารย์ตลอดจนเสด็จพระใหญ่ท่านได้เมตตาสั่งการกำชับไว้แก่มหาพรหมสุทธาวาสทั้งหลาย ให้สร้างวาระบุญให้สรรพสัตว์มีโอกาสได้กระทำดีเพื่อเป็นต้นทุนในชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่ามันมีเหตุและผลของมันอยู่ จริงๆแล้วบาปกรรมทั้งหลายนั้นย่อมล้างกันไม่ได้ แต่ทว่าด้วยตะกรุดและคุณวิชานี้จะให้ผลในช่วงเวลาที่เราได้ครอบครองและอาราธนาตะกรุดเสมอกับได้ล้างบาป มีชีวิตที่ดีขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปเช่นนั้น เป็นโอกาสให้สร้างวาระบุญ สร้างบารมีค้ำจุนตัวเองอีกคำรบหนึ่ง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นมหากลับวัฏฏะ คือไม่ว่าจะร้ายจะเลวอย่างไร ก็กลับมาให้ดีได้ทั้งหมดทุกเรื่องในวัฏฏะสงสารนี้ ดุจพระเจ้าเปิดบาตรเอ่ยวจีขอบิณฑบาตรทานเคราะห์กรรมทุกข์โศกโรคภัยในชีวิตเจ้า ฉันใดก็ฉันนั้น * เป็นตะกรุดที่ผูกขึ้นมาเพื่อแทนตัวแทนร่างกายของตน ให้รับเคราะห์รับบาปแทน มีอะไรที่จะเกิดกับตนก็ให้ลงที่ตะกรุดนี้เสียทั้งหมด เรียกว่าตะกรุดนี้แทนร่างกายเราจะคอยดูดขับพลังงานไม่ดีทั้งหลาย ซ้ำยังรับเคราะห์กรรมแทนได้อย่างน่าอัศจรรย์ ท่านว่าเครื่องรางเช่นนี้มันฝืนกฏฟ้าฝืนทุกสิ่งทุกอย่างอย่าเรียกว่ามากเกินไปเลย เรียกว่ามากที่สุดก็ได้ ดังนั้นจึงทำยาก ท่านว่าลงก็ลำบาก เมื่อทำจึงทำได้ไม่มาก ท่านว่าเอาไว้ให้คนที่เขาเดือดร้อนและต้องการใช้กันจริงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเคยมีคนถึงฆาตเราดูว่าอย่างไรก็ต้องตาย ปรากฏว่าได้เกิดอุบัติเหตุแต่เจ้าตัวและร่างกายกลับไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีแม้แต่บาดแผลใดๆ แต่ตะกรุดดอกนี้ที่คาดเอวเค้าไว้กลับหักเป็นสองท่อน มีเพียงเท่านั้น นี่คือหนึ่งชีวิตที่ถึงที่ตาย ทุกวันนี้เขาก็ยังอยู่ดีและเจริญมากขึ้นด้วย คนๆนั้นก็ยังคาดตะกรุดที่หักสองท่อนนี้เอาไว้ จ้างให้ถอดเขาก็ไม่ถอด เพราะเขารู้ว่ารอดมาได้เพราะอะไร พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีพรรณคุณวิเศษนัก อย่าว่าแต่หักสองท่อนเลย แม้หลอมละลายกลายเป็นน้ำ มันก็ยังช่วยค้ำจุนชีวิตคนได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้โดยรวมต้องลงหลายวิชาและแยกกันเสกแต่ละอย่างจนสำเร็จก่อนจะนำมารวมกับและขอบารมีเสด็จพระใหญ่ท่านสำเร็จอีกครั้งเพื่อขับเคลื่อนพลังงานให้แสดงผลมาได้ลงตัวที่สุด ท่านว่าตะกรุดนี้ต้องลงอักขระยันต์ถึงสีแผ่น ให้คุณใหญ่สี่ด้านหลักด้วยกัน ประกอบด้วย

    - วิชามหากลับวัฏฏะ ท่านว่านี่ตัวสำคัญเลย วิชานี้ถ้าเสด็จพระใหญ่ไม่ให้ใครก็เอาไม่ได้เพราะต้องถือศีลถือสัตย์เคร่งครัดมาก มหากลับวัฏฏะนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าดีทุกทางที่เกี่ยวกับตัวเอง เพราะมันใช้รับบาปกรรมเคราะห์ เวร ภัย แทนตัวเรา ท่านว่าลงยากมีข้อจำกัดมาก แต่เชื่อเถอะว่าต่อจากนี้ไป ทำอย่างไรก็ไม่ตาย เว้นแต่จะหาที่ตายและถึงอายุขัยในกาลสมควรด้วยเวลาของตนเอง ทั้งทุกข์โศกโรคภัยถึงขั้นวิกฤติ หรือมีเคราะห์บ้านจะแตก ท่านว่าเอารวมว่าที่ร้ายร้ายทุกสิ่ง มันกลับมันรับแทนเราทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้มันช่วยให้คนเป็นคน ฟื้นตัว ดุจต้นไม้ที่เหี่ยวเฉากลับมาแผ่กิ่งก้านร่มรื่นเช่นนั้น ท่านว่าขอเพียงแค่อย่าเหลิงในความสุขความสบายเบื้องหน้า ให้หมั่นทำทานตามกาลทุกเมื่อที่มีโอกาส ให้สร้างบุญต่อชะตาวาสนาให้ตัวเองยิ่งๆขึ้นไป ท่านว่าให้จำเอาไว้ว่าชาตินี้มี ชาติหน้าก็ย่อมมี และบุญกุศลเหล่านี้จะได้เป็นปัจจัยตามอุดหนุนกันต่อไป
    - วิชามหาสะท้อนมนต์พญายมราช พ่ออาจารย์ท่านเรียกวิชานี้ว่ามะยมราช โดยท่านว่าปกติแล้ววิชานี้จะแรงกว่ามนต์พระกาฬที่เป็นคำสาปสะท้อนกลับ แรงกว่ามากนัก พ่ออาจารย์ท่านผูกเอาไว้และทำวิชาลงเต็มสูตรทั้งหน้าหลัง ท่านว่ากว่าจะสำเร็จได้ต้องเจรจากับพญายมอยู่นาน ซ้ำยังต้องเชิญท่านมาสำเร็จคุณวิชาด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นมหาสะท้อนอย่างที่สุด คือสะท้อนสิ่งไม่ดีทั้งหลาย สะท้อนกลับไปทั้งหมด แต่ท่านได้ขอเมตตาพญายมราชไว้ ว่าถ้าเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันเกี่ยวกับเรื่องความคิดคนอันจะล่วงเกินกันตามปกติวิสัยมนุษย์มีก็ให้ละเว้นเสีย ท่านว่าถ้าเป็นอริศัตรูคู่แข่ง คิดมุ่งร้ายหมายทำให้เราวิบัติหรือตกต่ำลง และหมายให้เราถึงแก่ชีวิต ไม่ว่าจะมุ่งร้ายก็ดี ใส่ร้ายก็ดี ความคิดร้ายเหล่านั้นจะสะท้อนกลับไป สิ่งต่างๆนั้นไม่มีวันจะตกถึงตัวเราเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ต้องลงและผูกรวมเอาไว้เช่นนี้ เพราะน้ำใจคนในปัจจุบันนั้น ถือว่าน่ากลัวนัก ยิ่งโลกเปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ก็ยิ่งน่ากลัวเท่านั้น ท่านว่าต่อไปจะอยู่กันยากก็เพราะน้ำใจมนุษย์นี่แหละ ท่านจึงได้ผูกไว้ให้ ท่านว่าจะได้เอาตัวรอดกันได้ ทำชีวิตของตนให้ดีให้พ้นไป
    - วิชาพระเจ้าเปิดบาตร พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาจริงๆวิชานี้ทำยากที่สุด ยากกว่ามหากลับวัฏฏะเสียอีก เพราะบาตรหนึ่งใบนี้เป็นที่รวมของความอุดมสมบูรณ์ เป็นโชคลาภทุกทิวาราตรีกาล เป็นทั้งโภคทรัพย์และมหาอุดมอย่างที่สุด ท่านว่าใครที่ได้ๆขาดๆ ได้ไม่สม่ำเสมอ นี่แหละต่อไปจะได้ไม่หยุด ก็บาตรนี้อยู่ที่ไหนแห่งใด ก็มีวันไหนบ้างที่พระอริยเจ้าเปิดบาตรแล้วไม่ได้อาหารบิณฑบาตร ต่อให้ไม่มีมนุษย์อยู่เลยก็ยังร้อนถึงเทพยดาให้มาถวายทานกันถ้วนทั่ว เรียกว่าสมบูรณ์อย่างถึงที่สุดท่านว่าต่อไปใครที่ไม่มีก็จะได้มี พ่ออาจารย์ว่านี่ไม่ใช่บาตรของพระอริยะเจ้าธรรมดา แต่ท่านลงไว้ให้เป็นบาตรของพระเจ้าทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าขอเพียงยังอยู่ในอายุของพระพุทธศาสนาในภัทรกัปนี้ วิชานี้มีคุณอย่างถึงที่สุด ไม่มีอดอยากยากจนเลย ซ้ำท่านยังลงวิชาสำคัญลงไปอีกหลายส่วนทั้งกลับดวง พลิกดวง ค้ำดวง หนุนดวง ท่านว่าเอาง่ายๆมันตกลงไม่ได้เลย เพราะผูกไว้ด้วยกันทั้งเรื่องดวงและโชคลาภ มีแต่ได้แล้วดีขึ้น ดีขึ้นยิ่งๆขึ้นไปไม่มีต่ำลง นอกจากนี้ท่านยังลงวิชาเฉพาะให้เรื่องเลวร้าย ทุกข์เคราะห์ภัยเวร และสิ่งเลวร้ายแบบปัจจุบันทันด่วน เรื่องไม่คาดคิดทั้งหลายอันจะเกิดกับตัวกับร่างกายในเบื้องหน้า ให้มาลง ให้สงบ ให้ระงับไปที่บาตรนี้ ดุจว่าพระเจ้าเปิดบาตรบิณฑบาตรทุกสิ่ง แม้เจ้ากรรมนายเวรจะเพ่งโทษเขาก็ยังต้องหยุดคิดแล้วคิดอีกเพราะว่าไม่อาจล่วงเกินพระอริยะเจ้าได้นั่นเอง
    - ยันต์มหาอุปถัมภ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้คนมักจะเพ่งโทษกัน หาความทุกข์ยากใส่กัน ดังนั้นท่านจึงลงวิชามหาอุปถัมภ์นี้เสริมไว้ด้วย ท่านว่าวิชานี้ดีด้านเมตตา ดีด้านมหานิยมอย่างถึงที่สุด จะทำให้ใจคนเค้าเอ็นดูเรามีแต่ความรักความเมตตาให้เรา คนเรานั้นพอได้รับความเมตตาจากผู้อื่นแล้ว อันนี้สำคัญเลย ท่านว่าทำอะไรมันก็สะดวกราบรื่นไปหมด จะทำอะไรก็มีแต่คนช่วยเหลือ มีแต่คนคิดจะสงเคราะห์เรา จะอุปถัมภ์เราให้ได้ดี ไม่คอยใส่ร้ายขัดแข้งขัดขาเรา พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละมหาอุปถัมภ์สำคัญนัก แต่ทั้งนี้ตัวของเราเองก็ต้องหมั่นเจริญเมตตาบารมี ทำจิตใจให้โอบเอื้ออารีย์เอาไว้ด้วย ท่านว่าพึงตอบสนองความเมตตาของผู้อื่นด้วยรอยยิ้มและเมตตา แล้วสิ่งดีๆทั้งหลายทั้งความเมตตาจากคนรอบข้างมันจะประดังเข้ามาหาเราเองมากเสียยิ่งกว่าเขื่อนแตกทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อน ลำพังจะทำให้คนเมตตากันยิ้มให้กันอย่างเดียวมันอยู่ไม่ได้ เพราะคนเรานั้นมีสังคมมีการสมาคมกับผู้อื่นตลอดเวลา ดังนั้นนอกจากเขาจะเมตตาเราแล้วยังต้องคิดอุปถัมภ์เราด้วย เพื่อจะเปิดช่องทางสร้างโอกาสใหม่ๆให้กับเราได้ตลอดเวลานั่นเอง

    ตะกรุดนี้ท่านว่าต้องเน้นทุกทางไปพร้อมกัน เมื่อม้วนและเสกรวมกัน จึงเป็นตะกรุดที่มีคุณใหญ่มาก ท่านว่ามีคุณใหญ่จนคาดคะเนไม่ได้ คิดกันไม่ถึงทีเดียว ยิ่งเรื่องการเสกแต่ละอย่างจนสำเร็จก่อนจะมารวมกันนั้น ท่านว่ายาก หนักหนาสาหัสกว่าการลงซะอีก ใครจะบอกว่าตะกรุดแค่เขียนๆลงๆไปก็สำเร็จแล้ว ท่านว่าไม่จริงเลย คนละเรื่อง วิชาบางสูตรก็ยากจะทำสุกเอาเผากินไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยาก เมื่อทำเสร็จแล้วต้องนำด้ายสายสิญจน์ที่ท่านขอจากพระลูกศิษย์ให้หามาให้นำมาพันตะกรุด ท่านว่าด้ายนี้ต้องเป็นด้ายมงคลที่ทำพิธีในบ้านเศรษฐีถึง 9 ท่าน และต้องเป็นเศณษฐีทั้ง 9 ที่มีนามเป็นมงคลอีกด้วย หลังจากนั้นจึงอธิษฐานจิตฝากตะกรุดทุกดอกไว้ในบาตรของเสด็จพระใหญ่และเชิญท่านมาร่วมปลุกเสกอีกหลายคำรบ ท่านว่าทำหลายปีจึงสำเร็จได้ แต่เดิมนั้นพ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมด 13 ดอก ท่านว่ามีออกให้บูชาไปบ้างแล้วจึงเหลือเพียง 8 ดอกเท่านั้น

    คาถาบูชา
    อะโหสิสุขขัง ปะรามังสุขขัง

    ตะกรุดล้างบาปนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดคุณวิชาเฉพาะทาง และท่านตั้งใจว่าจะสร้างเพียงครั้งเดียว เมื่อใครได้บูชาไปแล้วจะเป็นตะกรุดเฉพาะตัวที่จะอยู่กับเราไปชั่วชีวิต ท่านว่าตะกรุดนี้เลือกเจ้าของ ความจริงต้องพูดวาไม่ใช่ตัวตะกรุดที่เลือก แต่เป็นเสด็จพระใหย่และพรหมทั้งหลายเบื้องบนต่างหากที่เลือก พ่ออาจารย์ท่านว่าพูดได้เท่านี้ พูดมากกว่านี้ไม่ได้ คนทุกคนย่อมรู้ตัวเองดีว่าใครมีเคราะห์ มีกรรม เหมาะและควรที่จะบูชาอย่างไร

    * ตะกรุดตะกรุดมหากลับวัฏฏะพระเจ้าบิณฑบาตรทุกข์รับเคราะห์กรรม นี้เปิดรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านให้แจ้งว่าคนที่จะบูชาให้ส่งชื่อสกุล วันเดือนปีเกิดไว้ให้พร้อมด้วย ท่านจะชักยันต์กลางอากาศประสิทธิ์ให้ รายได้จากการบูชามอบเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนยากไร้ต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหากลับวัฏฏะพระเจ้าบิณฑบาตรทุกข์รับเคราะห์กรรม (ล้างบาป) บูชา 4,000 บาท
    image.png Capture.png DSC06451-300x225.jpg SAM_5324.jpg SAM_5323.jpg SAM_5322.jpg SAM_5320.jpg SAM_5319.jpg SAM_5318.jpg SAM_5317.jpg SAM_5316.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2023
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดยันต์ครูองค์ปฐมดับตะวัน(พระเจ้า84,000ตรึงไตรภพ)

    ตะกรุดยันต์ครูนี้พ่ออาจารย์บอกว่าจะให้นำออกมาบูชา "เมื่อเกิดยุคเข็ญข้าวยากหมากแพง มโนธรรมตกต่ำ ศีลธรรมเสื่อมทราม คนใจร้ายยิงปล้นฆ่าฟัน กระทำสิ่งที่วิปริตผิดกว่าแต่กาลก่อนกันเพราะขาดจิตสำนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เหตุและปัจจัยเหล่านั้นถึงพร้อม องค์วิสุทธิเทพและครูบาอาจารย์ที่ประสงค์เจาะจงจะช่วยเหลือบรรเทาเคราะห์ภัยสัตว์ผู้ยากจึงเมตตาอนุเคราะห์ให้นำออกมาบูชา"

    จะกล่าวถึงความเป็นมาของตะกรุดองค์ปฐมดับตะวันหรือพระเจ้าแปดหมื่นสี่พันตรึงไตรภพนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะกฏฟ้าได้กำหนดให้ยุคสามนี้ เป็นยุคที่เทพยดาผู้มเหศรศักดิ์ทั้งหลายรวมไปถึงแม้กระทั่งองค์วิสุทธิเทพทั้งปวง ได้อนุเคราะห์สัตว์โลก ตามงานตามภารกิจที่แต่ละพระองค์จะพึงกระทำ ด้วยพระบัญชานั้น เทพเจ้าทั้งหลายจึงต้องลงมาช่วยเหลือมนุษย์นั่นก็เพื่อจะสำเร็จภารกิจของแต่ละพระองค์ด้วยส่วนหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าคำว่าพระเจ้าแปดหมื่นสี่พันตรึงไตรภพนี้เราไม่ได้เขียนหรือตั้งเล่นๆ เพราะข้างบนเขาเขียน เขาบอกให้ใช้ชื่อนี้ ท่านว่าท่านพูดอะไรไม่ได้มาก ให้คนที่บูชารู้ไว้แค่ว่า วิสุทธิเทพในนิพพานทุกพระองค์ กำลังและพลังงานอันบริสุทธิ์ทั้งหลายนั้นเขาพร้อมนานแล้ว พร้อมที่จะลงมาปรับเปลี่ยนชีวิต สมกับคำว่าพระเจ้าแปดหมื่นตรึงไตรภพ ตรึงเอาไว้ดึงรั้งชีวิตของเราไว้ไม่ให้ต่ำไม่ให้แย่ไปตามยุคเข็ญ เพื่อความสงบระงับไปของห้วงทุกข์ จากร้อนให้คลายเย็น แก้ปมทุกข์เข็ญเคราะห์กรรมบรรดามีด้วยกำลังแห่งอำนาจพระโพธิญาณและวิปัสสนาญาณอันมโหฬารเกินกว่าเทวานุภาพจะบันดาลได้


    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดองค์ปฐมดับตะวันนั้นทำยากมาก เพราะสูตรและการลงแต่ละอย่างเหมือนย่อเอาพระคัมภีร์มาลงทีเดียว ท่านต้องลงในฤกษ์เวลาที่ตะวันดับคือสุริยคราสนั่นเอง ต้องลงหัวใจพระอิติปิโส ตามด้วยเดือนเบิกเมฆ ตะวันเบิกเมฆ ใส่นะมหากำเนิด นะพระเจ้าตรึงไตรภพ ถอดด้วยเมฆพยับ ลงจันทราส่องโลก สุริยันดั้นเมฆ กระหนาบด้วยมหาพรหมส่องโลก ลงองค์อิติปิโส องค์ตรีนิสิงเห องค์ปฐมพินธุ องค์อิทธิเจ พระเจ้าห้าพระองค์ถอดแบบตรึงไตรภพ ลงมหาพุทธาธิคุณและอุโองการมหาราช ถอดด้วยคาถามหาโพธิสัตว์ทั้งสามเหล่าทั้งปัญญาธิกะ สัทธาธิกะ วิริยาธิกะ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดเช่นนี้ถ้าเสด็จพระใหญ่ไม่ให้ทำก็คงทำไม่ได้จริงๆเพราะมีอานุภาพครอบคลุมและเสมอด้วยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอันได้ตรัสรู้ไปแล้วทั้งสามเหล่า คุณพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ล้วนเป็นมหันต์คุณ กล่าวคือล้ำเลิศไม่มีประมาณ ตะกรุดนี้จึงไม่ต้องเสียเวลาอธิบายอะไรมาก


    ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ได้ง่ายแค่นั้น ด้านหลังท่าน ลงยันต์พระรัตนไตร ลงหัวใจสมเด็จองค์ปฐม ใส่หัวใจพระเจ้าแปดหมื่นสี่พัน ครอบด้วยพระเจ้าเปิดโลก พระเจ้าลงโลกา พระเจ้าตรึงพระธรณี ลงหัวใจมหาปรารถนา(ท่านว่าสำคัญมาก เสด็จพระใหญ่ท่านบอกว่าบทนี้อยากได้อะไร ปรารถนาอะไรขอแค่แบมือขอ แบมือออกแล้วรับกลับไปจะได้ดั่งใจปรารถนา) ลงคาถาอัคคีเย็นเหมือนพระคงคา(ท่านว่าชีวิตคนนั้นที่จะสุขสบายฝ่ายเดียวย่อมไม่มี ความทุกข์ทั้งหลายเปรียบได้กับเครื่องร้อน ของร้อนทั้งสิ้น อัคคีเย็นนั้นคือกลับร้อนเป็นเย็น กลับโชคร้ายเป็นโชคดีในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ต้องเจออยู่ร่ำไปก็กลับมันเอาไว้ให้กลายเป็นโชคดีเป็นเรื่องดีๆแทน พร้อมทั้งตรึงสังขารปรับธาตุ แก้สมดุลร่างกายทั้งหมด ให้พลังงานถ่วงดุลและทำงานโดยปกติ เอาว่าไม่ป่วยไม่เป็นโรคง่ายๆสุขภาพแข็งแรง)


    พ่ออาจารย์ท่านว่าอักขระเหล่านี้ล้วนมีความหมายเป็นหัวใจเป็นยอดของตำราพระยันต์ทั้งสิ้น มีความสัมพันธ์กับพุทธกายและจิตใจมนุษย์ พร้อมกันนั้นยังสร้างแรงดึงดูดเอาแต่สิ่งดีๆมาหาตัวเอง ใช้ทางกลับร้ายกลายเป็นดีได้ผลที่สุดท่านว่ารู้กันกับใจตัว ใครคิดว่าชีวิตตัวเองร้าย ร้ายอย่างไร คนอื่นดีนั้นดีอย่างไร ทำไมตัวเองเจอแต่อะไรร้ายๆ อันนี้รู้ตัวเอง เขาจะรู้เองว่าควรแก่การบูชาอะไร อันนี้ดีที่สุดเลยก็ทางกลับร้ายกลายเป็นดีนี่แหละ ซ้ำใครจะทำร้ายเรา เขาจะมองไม่เห็น ถึงเห็นก็เห็นเราเป็นคนอื่นเดินเลยผ่านไปเฉยๆ นี่ตรงนี้บารมีครูท่านแผ่ท่านปกป้องรักษา ให้แคล้วคลาดจากสิ่งไม่ดีทั้งหมด ท่านว่าต้องลองพกดู ความคิดความสามารถใดๆที่มีอยู่ในตัวเองมันจะเผยออกมาเอง อย่างน้อยหัวก็โล่งงสมองก็ปลอดโปร่งไม่มืดทึบตีบตัน ท่านว่าได้อธิษฐานขอพระเสด็จพระใหญ่ไว้ แม้ผู้ใดได้ไปติดตัว จะประกอบอาชีพด้วยความสัตย์สุจริตใดๆ ก็ให้ชีวิตคนผู้นั้นประสบแต่โชคลาภอยู่เนืองๆ โภคทรัพย์หลั่งไหลเทมาดั่งพระแม่คงคาในห้วงมหาสมุทรไม่รู้จักสิ้นสุด ให้มีความเจริญในลาภสักการะไม่รู้ยากรู้จน

    ท่านว่าลงยาก เพราะสมัยนี้คนหากินลำบากเวลาลงท่านว่าต้องทำใจให้อยู่ในมหากรุณาตั้งใจสงเคราะห์สัตว์อย่างแท้จริง ท่านว่าตรงนี้สำคัญว่าจะทรงอารมณ์ไหน ต้องเปิดจิตเปิดใจเปิดรูปตั้งอยู่ในฐานมหากรุณาไม่อย่างนั้นลงไปคนเอาไปใช้ก็เท่านั้น เพราะฐานอารมณ์ไม่ได้ตั้งอยู่ในมหากรุณาของจะเอาไปสงเคราะห์แก้ทุกข์ภัยอย่างไรได้ อักขระแต่ละตัวนั้นต้องเรียกต้องภาวนา ผิดไม่ได้ วิบัติไม่ได้ ซ้ำจารเสร็จแล้วยังต้องอธิษฐานจิตเรียกสูตรตลอดเวลาท่านว่าต้องภาวนาตั้งแต่จับเหล็กจารจนม้วนตะกรุดเสร็จทีเดียว นี่แหละที่ว่ายากเพราะว่าท่านว่าทำครั้งเดียวพอ พอแล้ว ไม่เอาแล้ว ของทั้งหลายนั้นคู่ควรแก่ผู้มีบารมีเสมอกัน ทำเท่านี้ ใครเหมาะใครสมเขาก็มาพาอาราธนาไปเอง ถ้าทำมากไป เกรงว่าใครจะเอาไปใช้ก็ไม่รู้


    ท่านว่าเวลาเสกนั้นเป็นเรื่องของเสด็จพระใหญ่และเบื้องบนทั้งนั้น ส่วนตัวท่านได้แต่ตั้งธาตุ ปลุกแม่ธาตุ หนุนธาตุ เจริญพระเวทย์และพระธรรมตามไปเฉยๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าข้างบนท่านเมตตาอนุเคราะห์ทำให้เราจนเสร็จ จนตะกรุดนี้มีรัศมีสว่างไสวดุจดาวประกายพฤกษ์ เพราะท่านยืมแต่เพียงธาตุสังขารของเราเพื่อลงเท่านั้น วิชาของพระองค์ท่านท่านก็สำเร็จของท่านเอง


    พ่ออาจารย์ท่านเมตตาบอกกล่าวไว้ว่า ตะกรุดยันต์ครูองค์ปฐมดับตะวันนี้เป็นของสำคัญมาก มีการลงการบรรจุหัวใจของพระเจ้าทั้งแปดหมื่นสี่พันรวมไปถึงองค์ปฐมด้วย แม้อยู่ที่ไหนผู้นั้นย่อมเป็นผู้รู้ตื่นไม่มืดบอด ท่านว่าองค์ปฐมดับตะวันก็คือทรงดับได้ทั้งหมด อย่าว่าแต่ปัจจัยสังคมแวดล้อม เรื่องทุกข์ร้อนของมนุษย์เดินดินเลย ด้วยพุทธานุภาพอันไม่มีประมาณแม้จะเป็นไฟทุกข์์ของเทพยดาต่อให้ร้อนเช่นดวงอาทิตย์ก็ยังดับได้ ท่านว่านี่มันของแก้ทางกันนะรู้มั๊ย ไอ้คำว่าของแก้ทางนี่น่ะสำคัญมากนะ ให้รู้ไว้เถิดว่าปกติไม่มีใครเขาทำ เพราะของแก้ทางคือเมื่อทำแล้วสิ่งเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้น เพราะข้างบนเขาถือว่าได้แก้แล้วพ้นแล้วนั่นเอง ท่านว่าพูดได้เท่านี้ ตะกรุดนี้ทำไว้ให้แก้ทางเรื่องร้อนชีวิตที่ร้อนไม่ปกติสุขโดยตรง


    เพราะเป็นเครื่องมงคลเฉพาะกาล เฉพาะวาระ เป็นการทำวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าโดยปกติแล้วจะไม่ทำ ท่านว่าองค์ปฐมดับตะวัน ก็คือฝืนลิขิตวาระของธรรมชาติ เครื่องรางนี้ให้พูดตรงๆก็คือฝืนกฏเกณฑ์ได้ทุกสิ่งท่านว่าไม่ให้พูดมากไปคิดเอง เอาว่าดีจำไว้แค่สั้นๆว่าครูบาอาจารย์นั้นตั้งใจทำให้อย่างดีก็พอ ท่านว่าได้อธิษฐานจิต เก้าเสาร์ เก้าจันทร์ เก้าอังคาร เก้าพฤหัส ข้างบนท่านทำให้เต็มหมดครบหมดแล้ว


    เมื่อได้ไปบูชานั้น * ท่านว่าให้เอากระดาษมาเขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดของตน แผ่นหนึ่ง อธิษฐานว่าพ่อพระพุทธทั้งแปดหมื่นสี่พันไม่มีประมาณ ขอพ่อพระพุทธเจ้าทุกพระองค์โปรดเมตตาตรึงดวงพลิกดวงของลูกด้วย ท่านว่าต้องเขียนเองทำเองนะ ทำแทนกันไม่ได้ ตั้งจิตอธิษฐานให้ดีๆ กระดาษแผ่นนี้สอดไว้ด้านในถาวรเลย


    * และในกรณีที่มีปัญหาใหญ่ มีเรื่องเดือดร้อนที่แก้ไม่ตก คิดว่าตึงมือหาทางออกใดไม่เจอแล้ว ท่านว่าให้นำกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง มาเขียนเรื่องเหล่านั้นแล้วอธิษฐานยัดใส่ลงไปในตะกรุดเช่นเดิม ท่านว่าตั้งจิตตั้งใจกันดีๆ เมื่อยัดลงไปแล้วให้สวดภาวนาพระพุทธคุณไปเรื่อยๆ ได้ 56 จบยิ่งดีมาก แล้วก็ให้นำกระดาษนั้นออกมา แต่กระดาษนั้นจะนำไปทิ้งขยะไม่ได้นะ พ่ออาจารย์ท่านว่ามันเป็นของที่เราถวายเสด็จพระใหญ่ไปแล้ว เป็นความทุกข์ของเรา ให้เอากระดาษนั้นไปลอยน้ำเสียตามคลองตามแม่น้ำที่มีกระแสน้ำไหลอธิษฐานฝากทุกข์ให้ลอยไปกับพระแม่คงคา ทุกข์จะคลาย เคราะห์จะหมดกาลแห่งทุกข์นั้นจะคลี่คลายไปอย่างรวดเร็ว ท่านว่าวิธีนี้ทำได้เรื่อยๆ ท่านว่าเพราะเช่นนี้ถึงเป็นตะกรุดเฉพาะกาลนั่นเอง


    พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าตะกรุดนี้เป็นของเฉพาะตัวและที่สำคัญเป็นของคู่บารมีที่เบื้องบนท่านได้บัญญัติไว้แล้วว่าดอกไหนของใคร เสด็จพระใหญ่ท่านเลือกเจ้าของ ดังนั้นจะมีคนที่ทันบูชาไม่มาก ท่านว่าถ้าไม่ใช่คู่กันแล้วแม้ประสงค์ก็ไม่ได้บูชา พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้ทั้งหมด 8 ดอก ด้วยกัน


    คาถาบูชา

    นาสสะ โจรา ปัสสะ หันติ นาติ มัญเญติ ขัตติโย สัพเพ อมิตเต ตรัสติโย ปิตตานัง นะทุพภะติ

    * ตะกรุดองค์ปฐมดับตะวันนี้ ให้บูชาเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านที่จะบูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้พร้อมกันเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าจะได้ลงน้ำปรุงบอกกล่าวฝากชื่อสกุลกับเสด็จพระใหญ่ท่านให้ทีเดียว เมื่อฝากแล้วได้นำไปใช้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด ต่อไปเมื่อจะทำอะไรก็ง่าย คุณเสด็จพระใหญ่ไม่มีประมาณสุดแล้วแต่จะใช้นั่นเอง รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานในถิ่นทุรกันดารต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดยันต์ครูองค์ปฐมดับตะวัน(พระเจ้า84,000ตรึงไตรภพ) บูชา 3,000 บาท

    20080823_172359.jpg r5002.jpg 1970.png SAM_5325.jpg 1293466942.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลยกแผ่นดิน{มหาพรหมฤาษีวสิษฐ์มุนี+สี่ตะกรุดเทียมครู+น้ำมันเวทย์สั่งจิต(ใจดับสูญ)}

    จากที่สอบถามกันเข้ามาตลอดว่าพ่ออาจารย์มีเครื่องมงคลสายน้ำมันอื่นนอกจากน้ำมันจักรพรรดิ์จำแลงซึ่งให้บูชาหมดไปแล้วหรือไม่ ท่านก็เมตตานำมงคลยกแผ่นดินออกมาให้บูชากัน ซึ่งในมงคลยกแผ่นดินนั้นจะประกอบไปด้วย มหาพรหมฤาษีวสิษฐ์ซึ่งพ่ออาจารย์แกะมาจากไม้ขนุนอาถรรพ์ฟ้าผ่า+สี่ตะกรุดเทียมครู+น้ำมันเวทย์สั่งจิต(ใจดับสูญ)

    มงคลยกแผ่นดินนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่า เป็นเครื่องรางที่มีอานุภาพและคุณนานัปการจนไม่สามารถอธิบายให้ฟังได้ทั้งหมด ท่านว่าเมื่อได้บูชาไปนั้น ไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องเปิดมาเล่นรึเปิดมาใช้แต่อย่างใด ให้เพียงแต่อาราธนาติดตัวเอาไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงเท่านั้นก็เป็นเมตตามหานิยมอย่างเอก ทั้งเป็นมหาอำนาจปราบผลาญศัตรูหมู่ไพรี ทำลายอำนาจคุณไสยอวิชชา ป้องกันโรคและภัยพิบัตินานัปการอันจะเกิดมาจากมหาธาตุทั้งสี่คือดินน้ำลมและไฟ ทั้งยังป้องกันเหตร้ายนานัปการ แม้เมื่ออาราธนาไปแห่งใดย่อมเป็นที่เกรงขามในโลกทั้งสามไม่ว่าจะมนุษย์ ยักษ์มาร อสูร เทวดา ภูติผีทั้งหลาย เค้าย่อมคร้ามเกรงเรานักด้วยบารมีพรหมฤาษีวสิษฐ์ที่ครอบหัวเหยียบกระหม่อมรักษาเราไว้จะคิดอ่านการสิ่งใดย่อมสำเร็จสมประสงค์ทุกเจตนารมณ์ ด้วยว่าโองการและพรของมหาพรหมพระวสิษฐ์มุนีย่อมบรรหารแม่โคแก้วสุรภีให้เนรมิตประทานแก่เราดุจใจปรารถนา

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามงคลยกแผ่นดินนั้นเป็นของมีอานุภาพมาก ด้วยมีคุณวิเศษสามารถช่วยให้ผู้บูชาแหวกว่ายพ้นจากอุปสรรค ปัญหา ความขัดสนทั้งมวล พ่ออาจารย์ท่านว่า
    1. ชีวิตที่ล่มจม ล้มเหลว
    2. ชีวิตที่อดอยากยากจน
    3. ชีวิตอันมีภัยคุกคาม
    4. ชีวิตที่มีอุปสรรคและปัญหา
    5. ชีวิตที่ตกต่ำหาความสุขมิใคร่พบ
    ท่านว่าทุกสิ่งเหล่านี้ รวมไปถึงสิ่งที่มากกว่านี้แต่ท่านไม่สามารถบอกกล่าวออกมาได้เพราะเบื้องบนเขาไม่ให้ท่านพูด ท่านว่าข้างบนเค้าต้องการให้คนขวนขวายกันเองบ้างไม่ใช่ชี้นำเขาไปทั้งหมด ท่านว่าเอาประมาณนี้ก็พอทุกสิ่งเหล่านี้ที่ดำรงค์อยู่จะแหวกออก ให้เราสามารถเอาชนะและพ้นจากเคราะห์ซ้ำกรรมซัดทั้งปวงเหล่านี้ได้ พ้นจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย นำมาถึงซึ่งชีวิตใหม่ การเริ่มต้นใหม่ ด้วยอำนาจบารมีเฉพาะทางของพรหมฤาษีวสิษฐ์ที่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามยกย่องว่าเป็นมหาฤาษีผู้ประเสริฐและเก่งที่สุดในสามโลก ท่านจะช่วยให้ชีวิตเบื้องหน้าของเรานั้นพบแต่ความสุขความเจริญ ความสมหวัง ความสำเร็จในกิจทั้งปวง จะหาอุปสรรคและความตกต่ำอันใดมิได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้กาลเบื้องหน้าถ้าเจอเหตุการณ์อะไรอันจิตเราไม่พึงประสงค์ เพียงยกมือวันทากล่าวอาราธนาขอบารมีมหาฤาษีวสิษฐ์มุนีมาคุ้มเกรงตัวตนโดยพลัน กาลอันไม่พึงประสงค์เหล่านั้นย่อมผ่านไปไม่กล้ำกรายหรือทำลายเราลงได้แต่อย่างใด

    ในมงคลยกแผ่นดินนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าจะประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้

    - มหาพรหมฤาษีวสิษฐ์มุนี ซึ่งแต่เดิมนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเราไม่กล้าสร้างหรอก เพราะท่านเป็นมหาฤาษีผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง ท่านว่าเธอคิดดูนะในบรรดาฤาษีทั้งหมด มหาฤาษีทั้งเจ็ดคือที่สุดแล้วของฤาษีที่มีฤทธิ์และบารมีเฉพาะตัวมากล้นพ้นประมาณ สามารถท่องเที่ยวเดินทางไปได้ในอนันต์จักรวาล มีกิจหน้าที่ช่วยเหลือสรรพสัตว์ดุจคุรุผู้วิเศษ ยิ่งเป็นมหาพรหมฤาษีวสิษฐ์นั้นท่านมีความสำคัญยิ่งนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าให้สังเกตุแต่ละลัทธิแต่ละนิกาย จะมีการยกย่องมหาฤาษีผู้วิเศษสุดยอดแห่งจักรวาลนี้แตกต่างกันไป ไม่มีชื่อไหนเสมอกันหรือตรงกันซักที่ แต่กับพรหมฤาษีวสิษฐ์นั้นเป็นที่น่าแปลกใจอย่างยิ่งนั่นคือทุกนิกายมีชื่อของท่านหมด กล่าวเหมือนกันหมดอย่างไร้ความแตกต่างว่าท่านคือมหาฤาษีหนึ่งในสัปตฤาษีผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ด ไม่ว่าจะในมานวธรรมศาสตร์ มหาภารตะ ศิวะนิกาย ไวษณพนิกาย หรือแม้แต่ความเชื่อเกี่ยวกับมานสาบุตรแห่งพระพรหมมาทั้งเจ็ด ทุกนิกายทุกศาสตร์กล่าวตรงกันอย่างไม่มีข้อโต้แย้งว่าท่านคือสัปตมหาฤาษี
    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะมีวาระโอกาสให้เราสร้างรูปเทียมครูของท่านนั้น ทีแรกครูพระสยมท่านแนะนำว่าให้ทำรูปมหาสาวกพระวสิษฐ์มุนีขึ้นมา เพราะถึงยุคถึงกาลสมัยที่จะเปิดดวงชะตาของสัตว์ที่อยู่ในห้วงทุกข์ซึ่งตรงนี้เป็นกิจธุระและหน้าที่ของพระวสิษฐ์ที่จะช่วยเหลือเหล่าผู้ที่มีวาสนาแต่ผจญเคราะห์กรรม พูดให้เข้าใจโดยง่ายก็คือบุญยังมีแต่กรรมบังอยู่ ซึ่งภายหลังพ่ออาจารย์ท่านนั้นก็ได้เชื่อมจิตสัมผัสญาณกับมหาฤาษีวสิษฐ์ และได้ทำการแกะรูปเทียมครูท่านขึ้นมา โดยท่านว่าครูให้ใช้ไม้ขนุนฟ้าผ่า โดยพ่ออาจารย์ท่านยิ้มพร้อมกับพูดติดตลกว่าคงเพราะท่านมีผิวกายขาว ห่มผ้าก็ขาวและใส่เครื่องทองแบบมหาฤาษีชั้นสูงกระมัง ท่านก็เลยอยากให้รูปเคารพท่านขาวๆ แต่ความจริงนั้นไม้ขนุนฟ้าผ่านี้เป็นไม้อาถรรพ์ตรงตามตำราได้ประจุพลังของสายฟ้าซึ่งเป็นพลังธรรมชาติอันยิ่งใหญ่เชื่อว่าเป็นพลังของเทพเจ้า ทั้งชื่อยังเป็นมงคลนามจะได้หนุนนำพาผู้ใช้บูชา พ่ออาจารย์ท่านว่าไม้ขนุนนี้มีอาถรรพ์ผิดธรรมชาติมากนัก นั่นคือฟ้าลงหรือฟ้าผ่านั้นได้ผ่าตอนกลางวันแสกๆไม่มีเมฆฝนหรือสิ่งใดที่จะปกคลุมท้องฟ้าเลย เรียกว่าพระอาทิตย์เที่ยงตรงทั้งทรงกลด บรรยากาศโล่งๆปลอดโปร่งแดดแรงๆนี่แหละ แต่กลับมีฟ้าลง ฟาดใส่กิ่งขนุนตรงทิศตะวันออก ท่านเห็นและรู้ว่าข้างบนท่านให้มวลสารเก็บไว้รอเวลาทำสิ่งสำคัญ ท่านจึงพลีเก็บไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าแกะไม่ยากหรอก แต่พิธีกรรมหนุนแผ่นดินทั้งยังต้องประสระโลหิต ตลอดจนการปลุกเสกที่พระวสิษฐ์ท่านแนะนำให้ทำนั้นล้วนยากยิ่งเพราะว่าเป็นวิชาที่จะหนุนไปถึงแก่นของจิตของชีวิตกันทีเดียว ท่านว่าเสกไปก็ต้องชักยันต์ในอากาศประทับไป เสกไปประทับไปเต็มไปหมด พ่ออาจารย์บอกว่าถ้าคนมีตาในจะเห็น รูปเล็กๆแค่นี้แต่ข้างในมียันต์เยอะเต็มไปหมด ล้วนแต่เป็นวิชากลับชะตา กลับดวง พลิกดวงพลิกชีวิตทั้งสิ้นเป็นร้อยเป็นพันแขนง พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านทำจนท่านรู้สึกเหนื่อยจึงได้ขอเมตตาให้มหาฤาษีวสิษฐ์ได้แบ่งภาค ให้สภาวะจิตของท่านมาถือกำเนิด ให้รูปเปรียบครูนี้มีญาณ มีบารมีของท่านครอบอยู่แบบมีชีวิตจริง เพื่อที่ผู้บูชาจะได้เปลี่ยนชีวิตจริงๆเช่นกัน
    - สี่ตะกรุดเทียมครู เป็นตะกรุดสำคัญอันประกอบด้วยสรรพวิทยาการสี่ชนิด ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าตะกรุดเทียมครูนี้คือมีฤทธิ์เท่าครูหรือเสมอครูทีเดียว ซึ่งตะกรุดทั้งสี่ประกอบไปด้วย
    1. นารายณ์หอบธรณี พ่ออาจารย์ว่าสูตรนารายณ์หอบธรณีนี้ เกิดจากตอนที่อสูรลักเอาแผ่นดินไป พระนารายณ์จึงตามไปปราบและนำแผ่นดินกลับคืนมาซึ่งท่านว่าแผ่นดินในที่นี้ก็คือพระแม่ธรณีนั่นเองวิชานารายณ์หอบธรณีนี้ท่านว่าหาคนทำยาก เพราะเป็นสูตรที่ช่วยให้ชีวิตคนที่ตกต่ำ อยู่ในจุดด้อยเหมือนพลัดตกเหว ติดหล่ม จมปลัก กลับมารุ่งเรืองเจริญก้าวหน้า เหมือนแผ่นดินยกสูงไม่ให้เราตกต่ำ เหมือนพระนารายณ์มาหอบมากอบกู้ พาดวง พาชะตาชีวิตเราลอยขึ้นไป พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญถึงขนาดนั้น นารายณ์หอบธรณีนี้คือหอบไว้ ชูไว้ เอาว่าให้เป็ดาวค้างฟ้า หอบเอาไว้ตลอด คิดจะตกจะร่วงยังทำไม่ได้เลย เพราะท่านหอบท่านดึงเอาไว้ นี่คือบารมีครูบารมีพระนารายณ์โดยเฉพาะ
    2. พรหมประทับจันทร์ วิชาพรหมประทับจันทร์นี้ ท่านว่าให้กล่าวจริงๆก็เป็นโคตรเสน่ห์เลย แต่จะแตกต่างจากวิชาอื่นนิดหน่อย คือเป็นเสน่ห์ที่จะเปลี่ยนร่างกายเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวพรหมประทับจันทร์นี้คือวิชาที่จะช่วยให้เราดูมีเสน่ห์ น่าค้นหา เป็นที่สะดุดตาสะดุดใจของชนทั้งหลาย ท่านเปรียบเอาไว้ว่าหน้าของพระพรหมนั้นมีสง่าราศีฉันใด ได้ชื่อว่าเป็นหน้าที่สวยงามที่สุดในจักรวาล เป็นที่ปรารถนาจะมอง เหนือกว่าหน้าของเหล่าเทพยดานางฟ้าฉันใด หน้าของเราก็มีสง่าดุจหน้าของพรหมฉันนั้นท่านว่าคิดเอาเองว่าจะน่ามองขนาดไหน ซ้ำพรหมประทับจันทร์ยังซ้อนเสริมด้วยวิชาเชิญพระจันทร์เข้ารูปซึ่งท่านผูกกับยันต์เล่นชู้ไว้ด้วย ท่านว่าเสริมให้ทั้งนะเข้าหา นะรำไร นะจังงัง นะเสน่ห์ ส่งผลทางชู้สาวและเสน่หายิ่งขึ้นไปอีก เพราะพระจันทร์นั้นแม้ปรากฏที่ใด เหล่านางฟ้านางอัปสรย่อมหลงใหลถึงขั้นยอมพลีกายถวายชีวิตนั้นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเสน่ห์ใหญ่ซ้อนเสน่ห์ใหญ่แบบค่ายกล เป็นตะรุดเสน่ห์ที่ทำยากเสกยาก มีพลังยิ่งกว่าเราไปครอบพระลักษณ์หรือครอบเทพรัญจวนอะไรทั้งสิ้น เพราะนี่คือพรหมประทับจันทร์
    3. พิฆาตไพรี วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสูงและของแรงครูแรงมาก ท่านว่าใช้ทางมหาอำนาจและอิทธิฤทธิ์ท่านว่าเพียงพกไว้ก็พอแล้ว เพราะว่าตัววิชาจริงๆนั้นพูดง่ายๆคือสามารถใช้ทำให้คนตายได้เลยทีเดียว ทั้งกำจัด แตกดับ ทำลาย พ่ายพินาศ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ไม่ให้สูญ ซึ่งท่านก็ลงให้เต็มสูตร แต่ท่านว่าอย่าไปใช้ถึงขั้นนั้นเลย เอาแค่พกเฉยๆก็แรงมากแล้ว ท่านว่าเพียงพกอาราธนาไว้ จะช่วยกำจัดอริที่เข้ามาเบียดเบียน แม้รุกรานก็พินาศ แม้คิดมุ่งร้ายหมายชีวิตก็พินาศฉิบหายเจ็บตายมีอันเป็นไปต่างต่างนานา พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้อยู่กันยาก คนประจบสอพลอก็มีมาก คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ไม่อาจหยั่งน้ำจิตน้ำใจของคนที่เราสมาคมหรือร่วมงาน ร่วมชีวิต ได้ ดังนั้นจึงทำให้กันไว้ดีกว่าแก้ทีหลัง วิชานี้ต่างคนต่างอยู่ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไม่รุกรานกัน ก็จะไม่มีเหตุการณ์สิ่งใดปรากฏ พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งเราหมั่นเจริญพรหมวิหารตั้งจิตเป็นกุศลแผ่เมตตาอยู่เนืองๆ ตัวตะกรุดพิฆาตไพรีนี้จะยิ่งมีอานุภาพมาก ถึงกับกล่าวว่ายิ่งเราดีมากเท่าไหร่ ตะกรุดก็จะยิ่งแรงมากขึ้นเท่านั้นเป็นเงาตามตัวทีเดียว
    4. วายุผ่าอัศกรรณ วิชานี้ ท่านว่าเป็นวิชาของพระพาย เป็นวิชาสำคัญที่โดดเด่นและสามารถเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นคนที่โดดเด่นประสบความสำเร็จได้ ด้วยว่าจะช่วยให้เราชนะ ทำอะไรก็ดีกว่าคนอื่น เอาง่ายๆท่านว่าเจริญขึ้นจนคนมองและได้แต่มอง ตามอย่างไรพยายามเท่าไหร่ก็ตามไม่ทัน เหมือนดังวายุหรือพระพายที่พัดพานผ่ายอดเขาอัศกรรณนั้น ทั้งรวดเร็วและมีพลังรุนแรง ท่านว่าวิชานี้ก็เช่นกัน ช่วยให้สิ่งที่เราทำและคิดจะทำสำเร็จอย่างรดเร็ว และสำเร็จทันทีแบบรุนแรง มีอำนาจและพลังมาก ท่านว่าพกไว้ แล้วมันจะเปลี่ยนชีวิต เเม้เป็นคนเรียบๆง่ายๆก็ยังเด่นขึ้นมาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติวิชานี้จะปกปิดกันไว้แต่สมัยโบราณ ที่เจ้าพระยาพานทองทั้งหลายเวลาได้ดิบได้ดี เลื่อนขั้นเลื่อนยศ เลื่อนแล้วเลื่อนอีกแถมเลื่อนซ้ำอีก จนผู้คนสงสัยในขณะที่บางคนผ่านไปสี่สิบปีก็ยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ท่านว่าทำไว้เพราะชีวิตคนสมัยนี้มันมีการแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลา เพราะเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลก จะเรียน จะรัก จะทำงาน จะทำธุรกิจ แม้แต่จะใช้ชีวิต ก็ทุกวันนี้มีเรื่องอะไรที่เราไม่ต้องแข่งกับคนอื่นเขาบ้าง ท่านว่าเอาตัวเองให้รอด เอาตัวเองให้ดี และอย่าดีธรรมดา ต้องดีแล้วดีอีก ดีจนคนอื่นตามไม่ทันนั่นทีเดียวถึงจะอยู่ได้
    - ผงโองการเวทย์สวรรค์บรมพรหมสหัมบดี เป็นผงที่พ่ออาจารย์ท่านประกอบขึ้นมาจากว่านยาอาถรรพ์ ที่ต้องเลี้ยงดูแบบบเฉพาะเป็นกรณีพิเศษทั้งต้องรดด้วยน้ำทิพย์มุรธาภิเษกเป็นประจำทุกวัน เรียกว่าท่านทำเองทุกขั้นตอนตั้งแต่ปลูกว่าน กู้ว่าน เก็บว่าน บดว่าน ทำตัวยา จนมาประกอบปั้นเป็นแท่งผง เพื่อจะเขียนโองการเวทย์สวรรค์ของบรมพรหมครูใหญ่ คือท้าวสหัมบดี ซึ่งผงนี้ท่านว่าทำยากลบยาก เพราะท่านต้องเข้ากรรมฐานนั่งเขียนนั่งลบโดยสงัดเป็นปีมีสูตรและวิธีการซับซ้อน ลบแล้วปั้นใหม่ นำมาเขียนใหม่เวียนเป็นร้อยเป็นพันครั้ง ท่านว่าทำเป็นปีลบเอาแค่ผงทะลุกระดานได้แค่ขวดยาหม่อง เพื่อจะให้ได้ผงเวทย์สวรรค์ของบรมพรหมสหัมบดีโดยเฉพาะ ท่านว่า ผงนี้มีอานุภาพมาก ในใต้ฟ้าหมื่นห้วงจักรวาลนี้ปรารถนาสิ่งใดล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น แม้นอาราธนาบูชาชีวิตจะเหมือนดอกบัวที่โผล่พ้นน้ำแล้วไม่แปดเปื้อนด้วยโคลนตม ซ้ำจะช่วยให้เราหลีกเร้นจากการสมาคมด้วยคนชั่วทั้งหลาย ทำให้เราเจอมิตรที่ดีสังคมที่ดี และมีจิตสำนึกลึกๆค่อยๆปรากฏเด่นชัดขึ้นนั่นคือการระลึกถึงคุณความดีและตั้งอยู่ในคุณธรรมทั้งหลายพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงทั้งหลายทั้งปวง ท่านว่าจิตจะประภัสสรค่อยๆเจริญๆขึ้นทีละระดับ มีพระนิพพานเป็นที่ไปในที่สุดแห่งภพ
    - น้ำมันเวทย์สั่งจิต (ใจดับสูญ) ท่านว่าท่านได้นำน้ำมันมะกอก มาหุงผสมกับน้ำมันกฤษณา ใส่ด้วยว่านยาอาถรรพ์จำนวนมาก ท่านว่าทำตามสูตรน้ำมันเวทย์สั่งจิต วิธีการทำนั้นท่านว่าไม่สามารถเผยแพร่ได้ แต่ไม่มีคุณผีคุณพรายอะไรทั้งสิ้น เป็นน้ำมันวิเศษที่มีคุณเฉพาะทางพ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือเวทย์สั่งจิต เป็นพลังที่สามารถดลจิตดลใจของผู้คนได้ เป็นที่สุดของสายวิชามหาเสน่ห์มหานิยมทีเดียว ท่านว่าสั่งจิตเขาได้ แรงสั่งได้นั่นเอง มีคุณไม่ต่างจากยาสั่งเลย แต่ไม่ได้เอาไว้สั่งตายหรือเอาไว้ทำร้ายใคร หากแต่เป็นสั่งเสน่ห์ สั่งให้เค้ารักเค้าเมตตาเรา เพียงตั้งจิตนึกถึงหน้าคนที่เราต้องการ ท่านว่าอยากทำอะไรก็ทำไปเถิด แต่อย่าให้ผิดศีลผิดธรรมก็พอ น้ำมันเวทย์สั่งจิตนี้ท่านว่าครูแรงนัก ถึงขั้นที่ว่าแม้นไม่ได้ไม่มาหาอกจะแตกตาย หัวใจจะดับสูญทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องเสน่ห์นั้นท่านพูดมากไม่ได้เพราะมันพ้นวิสัยของท่าน ท่านพูดให้แนวทางไว้ว่าคิดเสียว่าพกอาราธนาไว้ให้คนเค้ารักเค้านิยมเราดีกว่า เอาเป็นว่าอยู่ที่ไหนก็มีแต่คนรัก ไม่มีใครกล้าเกลียด เพราะเค้าเกลียดเราไม่ลงนั่นเอง เท่านี้ชีวิตก็ดำเนินต่อไปได้อย่างปกติสุขแล้ว น้ำมันนี้หากปล่อยไว้ว่านยาวิเศษจะตกะกอนนอนก้นไปกลายเป็นน้ำมันสีเหลืองธรรมดา แต่หากเราจะใช้งานท่านว่าให้อธิษฐานจิตดีๆแล้วเขย่าน้ำมันจะเปลี่ยนเป็นสีแดงข้นและข้นมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ท่านว่าสีแดงนี้เป็นมงคลดีนักใช้ดึงดูดโชคดีและความสุขเข้ามาในชีวิต ท่านว่าดีแล้วจะได้รับความสุขในทุกๆด้าน ทั้งโชคดี มีความสุข มีอายุอยู่ได้ยืนยาว

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างและปลุกเสกมงคลยกแผ่นดินนี้ไว้ได้ทั้งหมดสิบขวด และท่านสั่งให้ส่งเลียมไว้ทุกขวดหลังจากที่มีคนจองและท่านอธิษฐานจิตประสิทธิ์ให้แล้ว ท่านว่าจะได้เอาไว้ใช้กัน ถ้าใช้แบบนี้จะไม่มีอันตราย ท่านกลัวว่าจะไปแกะจะไปเล่นกันเดี๋ยวน้ำมันจะหกจะเลอะแล้วต้องไปอาบน้ำมนต์ถอนเสน่ห์ถอนอาถรรพ์คุณวิชากันวุ่นวาย ดังนั้นรุ่นนี้เลยจะคิดค่าเลี่ยมพลาสติกกันน้ำเพิ่มไปในค่าบูชาเลยตามดำริของท่าน ซึ่งค่าเลี่ยมก็ตกอยู่ที่ 100 บาท

    ท่านได้อธิษฐานจิตไว้นานนับปี ท่านว่าน้ำมันนี้ทำยากเสกยาก เสกทีไรเจอแต่เรื่องผิดธรรมชาติต้องตามตำรา ท่านว่าพูดมากไปก้ไม่ได้ บางเรื่องตาเนื้อก็มองเห็น แต่บางเรื่องต้องใช้ตาในถึงจะมองเห็น ท่านว่าเป็นที่สุด และด้วยบารมีของพระวสิษฐ์มหามุนีที่ท่านเลือกท่านมองหาบุคคลที่มีบารมีคู่ควรกับท่าน พ่ออาจารย์ว่าใครเป็นเจ้าของจิตของเขาจะรู้สึกเอง ก็นี่ครูเขา เขาจะต้องมาอัญเชิญไปเอง มงคลยกแผ่นดินนี้เอาไว้ยกชะตาชีวิต เปลี่ยนดวงร้าย เปลี่ยนฐานชีวิต ใครมีบารมีต้องกันเขาจะมานำพาไปเอง

    คาถาบูชา(ระลึกถึงพระศิวะ และพระวสิษฐ์เป็นที่สุด)

    วะสิษฐะ กุมโภทะภะวะ เคาตะมารยะ มุนีนะทะระ เทวาระจิตะ เศขะรายะ จันทราระกะ ไวศะวานะระ โลจะนายะ ตัสไม วาการายะ นะมะศิวายะ

    * มงคลยกแผ่นดินนี้ เนื่องจากมีสิบขวดพอดี จึงได้ปรึกษากับพ่ออาจารย์ท่านแล้วว่าจะให้มีการแถมตะกรุดคู่ดูดทรัพย์ยุคแรกที่พ่ออาจารย์ท่านค้นเจอจำนวนสิบคู่ให้กับผู้ที่บูชด้วย โดยตะกรุดนี้จะมีจำนวนสองดอก คือแบบที่ถักเต็มดอก กับแบบที่ถักสามปล้อง พ่ออาจารย์ท่านว่าแบบที่ถักเต็มดอกนั้นให้พกติดตัวเราจะในกระเป๋าสตางค์หรือกางเกงก็ได้แต่ให้ดีที่สุดควรพกในกระเป๋าสตางค์ ส่วนอีกดอกนั้นที่ถักสามปล้อง ให้พกไว้ในที่เก็บเงินของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเซพหรือที่เก็บเงินเก็บสมบัติอะไร ท่านว่าถ้าหากนักก็ปักลงไปในถังใส่ข้าวก็ได้ จะช่วยให้การทำมาหากินของตนนั้นอุดมสมบูรณ์ แม้ใส่ในที่เก็บเงินก็ช่วยให้เงินทองการทำงานการทำธรุกิจเจริญงอกงามมีเงินเก็บเพิ่มพูนขึ้น ท่านว่าทั้งสองดอกนี้เป็นสื่อซึ่งกันและกัน แม้จะละลายกลายเป้นน้ำก็ยังใช้ได้ โดยดอกหนึ่งให้ติดตัว อีกดอกอยู่ในที่เก็บเงิน มีข้อแม้อย่างเดียวคือห้ามหายนั่นเอง

    * สำหรับผู้บูชามงคลยกแผ่นดินนี้ ก็รับจองเฉพาะทาง PM และให้แจ้งชื่อสกุล วันเดือนปีเกิดทาง PM ไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะเมตตาพิจารณาดวงของแต่ละท่านว่าขาดสูญสิ่งใดไป ท่านจะจารกำกับฝาขวดให้เป็นการเฉพาะเเต่ละคนก่อนจะส่งเลี่ยมต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลยกแผ่นดิน{มหาพรหมฤาษีวสิษฐ์มุนี+สี่ตะกรุดเทียมครู+น้ำมันเวทย์สั่งจิต(ใจดับสูญ)}พร้อมเลี่ยม บูชา 4,100 บาท

    SL1026_1707.jpg image.jpg SAM_5330.jpg SAM_5331.jpg SAM_5326.jpg 122450907.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์เทวภูติดึกดำบรรพ์ท้าวอนันต์กาลมหายักษา (ฝังพยนต์ขุนศรีตัวพ่อ+ผงอาถรรพ์โสมเฝ้าทรัพย์)

    วิชาการผูกพยนต์นั้น เป็นวิชาที่พระโบราณจารหรือผู้เชี่ยวชาญพระเวทย์มักจะทำเอาไว้ ซึ่งก็มีปรากฏในหลายๆรูปแบบทั้งมนุษย์ สัตว์ หรือสัตว์ประหลาด พ่ออาจารย์ท่านเองก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องธาตุทั้งสี่ตลอดจนวิชาการทำพยนต์แขนงต่างๆอยู่มาก จะเห็นได้จากที่มีคนมาขอเศษก้านธูปที่ท่านหักหรือแม้แต่ก้อนดินที่ท่านปั้นเป็นหุ่นพยนต์แบบง่ายๆกำหนดจิตเสกเพียงชั่วอึดใจเดียวแล้วมอบให้เพื่อฉลองศรัทธาของเขาเหล่านั้น ก็ปรากฏว่าหุ่นพยนต์เหล่านั้นกลับไปแสดงฤทธิ์มีตัวมีตนให้คนเห็น บางคนมีตาในจิตมีตัวรู้ดีก็กล่าวสรรเสริญจนเกินเลยไปมากกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้บรรดาคนรู้จักหรือญาติของผู้ที่ครอบครองพยนต์ไม้ก้านธูปพยนต์ดินเหล่านี้ต่างขอเมตตาเข้ามามาก เรียกว่าในช่วงเวลาหนึ่งนั้น ท่านทำให้ชนิดว่าเอาจนก้านธูปไม่มีติดกระถางทีเดียว ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าวิชาการทำพยนต์ของพ่ออาจารย์นั้นท่านมีความชำนาญเพียงใด


    ด้วยบารมีบูรพาจารย์และญาณวิถีตลอดจนกฏของโชคชะตาและวิถีดวงดาว พ่ออาจารย์ท่านได้มีความรู้สึกถึงเทพโบราณตั้งแต่ยุคบรรพกาลองค์หนึ่งซึ่งเคยได้รับการบูชาในรูปของมหายักษ์ผู้ทำลายล้างอำนาจมืดทั้งหลาย ท่านว่าย้อนกลับไปก่อนจะมีมนุษย์ จนมนุษย์แตกดับสิ้นยุคสิ้นสมัยและอุบัติขึ้นใหม่หมุนเวียนเปลี่ยนไปนับกัปกัลป์แลอสงไขย ดวงจิตแต่ครั้งบรรพกาลนี้ก็ยังดำรงอยู่ ท่านจึงเรียกขานว่าท้าวอนันต์กาลมหายักษา ด้วยหมายใจว่ามีห้วงเวลาของชีวิตที่ยืนยาวเป็นอนันต์กาล เพราะยังไม่รู้จุดสิ้นสุดหรือดับสูญ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นยักษ์ที่มีอายุพอๆกับมหาพรหมทีเดียว ท่านว่าท้าวอนันต์กาลนี้เป็นหนึ่งในบรมครูฝ่ายยักษ์ของท่าน มีฤทธิ์มากสามารถปราบปรามหมู่เทวดายักษ์มารปิศาจหรือแม้แต่คลื่นพลังอันเลวร้ายต่างๆที่จะเปลี่ยนแปลงจุดสมดุลของธรรมชาติได้ เมื่อท่านตัดสินใจสร้างหุ่นพยนต์อย่างเป็นทางการ ท่านจึงอาศัยยืมรูปยืมนามของครูยักษ์ของท่านเพื่อให้เกิดสิริมงคลสูงสุดแก่ผู้นำไปบูชาส่วนหนึ่ง และเป็นการอาศัยบารมีบรมครูช่วยให้พยนต์นี้มีทิพย์อำนาจอันศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าที่เทพยดาและมนุษย์จะกระทำได้ส่วนหนึ่ง ตลอดจนเป็นการระลึกถึงครูบาอาจารย์อันจะดลให้ท่านเข้าคุ้มเกรงคุ้มครองรักษาดูแลผู้บูชาอีกส่วนหนึ่ง

    ดังที่กล่าวเบื้องต้นแล้ว พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าการจะสำเร็จพยนต์ให้มีฤทธิ์สูงสุดก็จะต้องทำธาตุทั้งสี่ให้ครบจะขาดจะเกินไม่ได้ ซึ่งท่านก็ได้เพียรหามวลสารสะสมมามากมายตามอุปเท่ห์ที่เป็นรหัส จำต้องใช้ปัญญาคิดและพิจารณาว่าสิ่งต่างๆที่ครูเคยกล่าวให้หาหรือเทพเบื้องบนท่านบอกใบ้ให้เอามาผสมเป็นธาตุตั้งต้นให้ได้แต่ละอย่างนั้นคืออะไร ท่านว่ากว่าจะได้ครบก็หนักหนาสาหัสมากทีเดียว

    เมื่อท่านตั้งใจจะทำแล้วจึงได้ขอบารมีครูเทพครูพรหมครูยักษ์ทั้งหลาย นั่นย่อมหมายรวมไปถึงท้าวอนันต์กาลด้วย ท่านว่าครูท่านมานิมิตให้เห็นเป็นรูปของมหายักษ์ถือกระบองเพชรและจักรแก้วมีหัวยักษ์มากมายวางเรียงรายอยู่บนพื้น พ่ออาจารย์ว่าท้าวอนันต์กาลนี้มีฤทธิ์มากจริงๆ เอาดีๆแล้วจะเรียกว่ามีอานุภาพมากจนบงการเผ่าพันธ์ยักษ์ทั้งหมดได้ก็ไม่ผิด พ่ออาจารย์ท่านจึงได้บูชาครูและแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาโดยท่านเรียกแม่พิมพ์นี้ว่าพระผงทรงผานไถ ท่านว่านี่เป็นมงคลที่หนึ่ง ผานไถนี้ใช้พลิกกลับหน้าดิน พลิกฟื้นพระแม่ธรณีให้อุดมสมบูรณ์ได้ฉันใดก็ฉันนั้น ที่ท่านตั้งใจทำพระพิมพ์นี้ก็เพื่อจะให้ชีวิตคนใช้สามารถพลิกกลับพลิกฟื้นสถานการณ์ได้ตลอดเวลา ไม่ต่ำกว่าคนไม่จนกว่าเขาเช่นกัน ท่านว่าพอได้แม่พิมพ์แล้วท่านก็นำมาลงวิชาเสกกำกับแม่พิมพ์ด้วยนะกลบทนารายณ์พลิกแผ่นดินทั้งสามสูตร เพื่อให้องค์พระที่จะกดออกจากแม่พิมพ์นี้มีอานุภาพดุจผานไถอย่างแท้จริงตามเจตนารมณ์ของท่านนั่นเอง

    อันว่าหุ่นพยนต์นั้น พ่ออาจารย์ท่านหมายใจจะทำไว้ให้แต่แรกเพื่อเป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดีอย่างที่สุดแก่ผู้บูชา ท่านว่าสมัยนี้คนมักนิยมบูชาเครื่องมงคลต่างๆ แต่กลับกลายเป็นว่าตัวคนบูชาเองนั้นต้องไปกราบไปอ้อนวอนขอสิ่งต่างๆเดือดร้อนทีก็อ้อนวอนที เป็นฝ่ายที่ดูไปดูมาคล้ายกับเราไปปรนนิบัติเสียมากกว่า ด้วยว่าความต่างกันของมนุษย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นตัวกำหนดให้เราไม่สามารถล่วงเกินหรือไม่เคารพได้ ดังนั้นท่านจึงตั้งใจมากที่จะทำเครื่องมงคลชนิดนี้ เพราะท่านว่าหลายครั้งและหลายคนเป็นฝ่ายรับใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายกันมานาน ควรแล้วที่จะมีและทำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจะคอยตามรับใช้พวกเขาให้เสมอใจในทุกๆสิ่งที่พึงมีพึงอยากบ้าง ซึ่งวิชาการผูกพยนต์นั้นท่านว่ามันก็ใช้ได้ในระดับนึง แต่ก็ไม่ได้มีอำนาจมากมายเกินไปกว่ากุมารทองเท่าใดนัก ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงปลุกพระเวทย์ผูกพยนต์เทวภูติขึ้นมา ท่านว่ามันก็สูงสุดแล้วในสายวิชาพยนต์ทั้งเราได้ยืมรูปยืมนามครูยักษ์แต่บรรพกาลที่ถูกลืมเลือนไปมาตั้งไว้ให้เป็นชื่อเรียกขาน ท่านว่าถ้าจะทำให้เป็นเรื่องเป็นราวมันก็มีขั้นตอนอยู่มาก เพื่อให้ได้มาซึ่งมงคลวิเศษที่มีหน้าที่ประดุจทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์มีตบะและฤทธานุภาพสูงส่ง ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่อดทนพอทำไม่ได้จริงๆ


    พ่ออาจารย์ท่านได้ลบถมผงวิชาธาตุสี่ มีธาตุตั้งต้นและหนุนธาตุเข้าไปทีละธาตุสลับกลับไปกลับมาตั้งแต่ดินน้ำลมไฟ เป็นดินหนุนด้วยน้ำเป็นต้น หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันจนครบตามหลักแม่ธาตุเพื่อให้เกิดฤทธิ์เป็นเอนกอนันต์ตามเคล็ดวิชาจตุธาตุอันเป็นที่สุด ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณมากสารพัดจะใช้หากเข้าถึงและทำเป็นทำสำเร็จแล้ว ผงนี้มีคุณมหาศาลเปรียบประมาณมิได้เลย ท่านได้นำผงวิชาจจตุธาตุนี้ มาผสมเข้ากับผงวิชาเทพนิมิตที่ท่านลบถมเพื่อให้ผู้ใช้มีเทวดารักษาตัวและสามารถขอหรืออธิษฐานสิ่งใดก็ได้ ไม่เพียงเท่านั้นท่านยังเมตตาลบถมผงพระยันต์สูตรสำคัญต่างๆผสมลงในเนื้อพระด้วย ไม่ว่าจะรัตนมาลา มหาจักรพรรดิ มหาปราบ มหาระงับพิศดาร พระเจ้าห้ามญาติ นวหรคุณ พระเจ้าเข้านิโรธ พระเจ้าห้ามทุกข์ พระไตรปิฏก ปาฏิโมกข์ วิปัสสิ กรณี พุทธจักร นวโลกุตรธรรม พระไตรรัตน์ พุทธคุณเจ็ดดวง โสฬสมงคล ตรีนิสิงเห จตุโรถอด ไตรสรณคมสามดวง ฝนแสนห่า พระเจ้าสิบหกพระองค์ นะโมตาบอด ฤาษีตาไฟ มงกุฏพระเจ้า ชาตรี จตุราริยสัจจ์สองดวง นกคุ้มตัวผู้ตัวเมีย อิติปิโสแปดทิศ ยันต์ธงพระฉิมสองสูตร นอกจากนั้นท่านได้นำผงคตสำคัญที่ท่านฝนรวบรวมไว้มาเข้ากับผงวิเศษเหล่านี้ พร้อมทั้งว่านยาอาถรรพ์ พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้บอกว่าว่านอะไรรู้แต่ว่าหลายชนิดแน่นอนที่สำคัญท่านว่าจะทำพยนต์เทวภูติต้องใช้แต่ว่านที่เก่งมีฤทธิ์มีตัวรู้จักหลบหนีมีชีวิต ว่านธรรมดาใช้ไม่ได้ ท่านได้นำผงวิเศษต่างๆเหล่านี้มานวดรวมกันกับน้ำมันว่านวิเศษของท่านเมื่อนวดได้ที่แล้วด้วยมวลสารธรรมชาติทั้งหลายทำให้เนื้อขององค์พระมีวรรณะอมแดงอมม่วงดั่งที่ปรากฏนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านได้กดพิมพ์องค์พระชนิดที่กดไปก็ลงเหล็กจารกำกับไปทีละองค์ ซึ่งพยนต์เทวภูติท้าวอนันต์กาลมหายักษานี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ฝังของวิเศษต่างๆไว้ดังนี้

    - พยนต์ขุนศรีตัวพ่อ พ่ออาจารย์ท่านใช้วิชาผูกพยนต์พ่อขุนศรีขึ้น โดยอาศัยเม็ดปะคำหลวงปู่ขาว ว้ดถ้ำกลองเพลบูรพาจารย์ของท่านมาทำเป็นส่วนหัวของหุ่นพยนต์ท่านว่าอาศัยกำลังพระกรรมฐานของบูรพาจารย์นั้นเป็นที่สุดที่จะได้ฉุดดึงเปลี่ยนชะตาชีวิตของผู้บูชาจากร้ายกลายเป็นดีแม้อยู่ในที่มืดย่อมพบเจอแสงสว่างเป็นที่สุด นอกจากนั้นท่านยังได้ลงอักขระทำตะกรุดผูกเป็นตัวพยนต์ขึ้นมา ท่านได้ตั้งธาตุหนุนธาตุประสิทธิ์พระเวทย์วิชาอาคมปลุกจนพยนต์ตัวเล็กนี้ดิ้นได้และสะดุ้งตกพาน ตลอดจนได้สอนสั่งใส่วิชาความรู้อบรมสิ่งต่างๆไว้อย่างดี ท่านว่าส่วนช่วงลำตัวนั้นท่านได้ประยุกต์โดยใช้วิชาลงตะกรุดแฝดม้วนเข้าหากันด้วยหัวใจมนุษย์ชายหญิง ท่านว่าพยนต์พ่อขุนศรีของท่านนี้เป็นหุ่นมหาเสน่ห์ที่มีฤทธิ์มากพอๆกับหุ่นเรียกคู่ทีเดียว เรียกว่าใช้ได้หลายทางเป็นทั้งพยนต์ผู้รับใช้ ซึ่งนอกจากจะอธิษฐานบอกกล่าวใช้งานเค้าได้ดุจทาสผู้ซื่อสัตย์แล้ว แม้พกไว้กับตัวก็ยังเป็นเสน่ห์เมตตาดึงดูดหัวใจมนุษย์ทั้งชายหญิงให้อ่อนใจรักม้วนพับเข้ามาหาเรา นอกจากนี้ยังเป็นหุ่นรับกรรมรับเคราะห์แทนเรา ท่านปลุกเสกไว้อย่างดีที่สุด ท่านว่าหากมีเคราะห์กรรมหนักก็จะเบา แม้เคราะห์กรรมเบาย่อมเข้าไม่ถึงตัว เพราะเคราะห์กรรมเหล่านั้นพยนต์จะดึงดูดเข้ามารับเคราะห์แทนตัวเราก่อน ท่านว่าเหมือนตัวตายตัวแทนนั่นแหละท่านทำไว้ให้ครบแล้ว พ่ออาจารย์ว่าพยนต์พ่อขุนศรีนี้มีฤทธิ์ดุจเทวดาเลยทีเดียว ท่านทำฝังไว้ให้ในท้าวอนันต์กาลมหายักษา ท่านว่าจะได้เป็นบริวารให้หุ่นท้าวอนันต์กาลอีกทอดหนึ่ง เพราะชีวิตคนเรานั้นร้อยพ่อพันแม่ ในแต่ละวันย่อมเจอร่างราวต่างๆมากมาย บางคนคราทุกข์คราเคราะห์มาเยือนก็ใช่ว่าจะทยอยมาทีละเรื่อง กลับประดังเข้ามาดั่งกับฝันแสนห่า พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเดียวย่อมช่วยได้ช้า ถ้าหลายมือหลายคนเขาย่อมช่วยได้ไว
    - ผงอาถรรพ์โสมเฝ้าทรัพย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเฮี้ยนเสียยิ่งกว่าภูติพรายใดๆมี ท่านว่าเป็นผงอาถรรพ์ซึ่งอาถรรพ์ในที่นี้ไม่เกี่ยวกับพรายกับผีแต่อย่างใด หากแต่เป็นพยนต์มหายักษ์ซึ่งถูกผูกไว้เฝ้าสมบัติสมัยอยุธยามหาสถาน พ่ออาจารย์ท่านว่าในกรุสมบัติแผ่นดินหนึ่งๆที่เป็นสมบัติของกษัตริย์แต่โบราณจะมีพยนต์เหล่านี้รักษาหลายตน ในสมัยที่ท่านบวชและมีโอกาสได้ธุดงค์ผ่านอยุธยานั้น ท่านได้พบกับโสมเฝ้าทรัพย์ซึ่งพาท่านไปดูกรุสมบัติตั้งแต่ยุคสมัยของพระนเรศวรเรื่อยมาจนถึงพระเจ้าเสือ และปู่โสมนั้นท่านได้ขอตามไปจะไปอารักขาท่านด้วย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเขามาจริงๆไม่ใช่แต่เพียงคำพูด เพราะปรากฏมีตุ๊กตายักษ์ดินเผาขนาดเล็กมาปรากฏอยู่ในย่ามของท่าน หลังจากท่านตรวจดูแล้ว ท่านว่าเค้าตั้งใจจะไปคุ้มครองเราจริงๆ จึงได้ทำพิธีพลีกรรมบอกกล่าวแก่เจ้าของเดิมและนำออกมา เมื่อจะทำพยนต์เทวภูติอนันต์กาลมหายักษา พ่ออาจารย์ท่านว่าจะหวงไว้ใช้คนเดียวก็ไม่ใช่เรื่อง ไหนๆทำแล้วก็ต้องให้ดีให้แรงที่สุดไปเลย ท่านถึงได้สอบถามโสมเฝ้าทรัพย์ ว่าจะขอให้ไปสร้างบารมีช่วยเหลือสัตว์ผู้ยากทั้งหลาย ซึ่งเขาก็ยินดีอย่างยิ่ง พ่ออาจารย์จึงนำตุ๊กตายักษ์นั้นมาขออนุญาติและตะไบฐานออกส่วนหนึ่งเป็นผง ท่านนำมาคลุกและนวดเข้ากับสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบ วัดกะบกขึ้นผึ้งก่อนจะนำมาบรรจุใส่ขวด ท่านว่าผงในขวดนี้มีญาณโสมเฝ้าทรัพย์เฝ้าแผ่นดินทุกชิ้น เขาจะตามรักษาลูกหลานเลือดเนื้อเชื้อชาติไทยอันนี้ท่านว่าเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน แต่ว่าแรงน่ะแรงแน่ๆ อธิษฐานใช้กันให้ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ท่านคลุกสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบให้เพื่อจะได้มีคุณทางเมตตาเป็นกฤติยาคมแฝดอย่างถึงที่สุด ท่านว่าสีผึ้งเขียวนี้มีคุณทางเมตตามหาเสน่ห์มาก แต่ก็นั่นแหละสุดแต่ใจจะใช้ จะเล่นทางเสน่ห์เมตตาหรือเอาไปทำมาหากินให้ได้ดิบได้ดีก็ตามแต่จริตชีวิตคน
    - ตะกรุดวิชาอาถรรพ์พันธะมหาสัญญาเนื้อตะกั่วขอมโบราณ พ่ออาจารย์ว่าวิชานี้แรงนัก ท่านลงในแผ่นตะกั่วขอมโบราณที่ท่านได้มาจากใต้ปราสาทสมัยอาณาจักกรขอมได้ผ่านพิธีเทพพิธีพราหมณ์มามากกมีพลังงานมากกว่าตะกั่วธรรมดาทั่วไป ซ้ำท่านยังได้นำมาลงถมซ้ำก่อนรีดเป็นแผ่นตะกรุดอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านผูกวิชานี้ไว้ในพยนต์ท้าวอนันต์กาลเพื่อให้พยนต์ท้าวอนันต์กาลมีอาถรรพ์ตรึงรูปนาม มีชีวิตและมีฤทธิ์เป็นเอนกอนันต์สุดแล้วแต่จะใช้จะอธิษฐาน พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้พกติดตัวก็ได้ เฝ้าบ้านก็ได้ ท่านว่าแม้แต่สงครามเทวดาก็ยังเอาพยนต์นี้ไปสู้รบได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดวิชาอาถรรพ์ท่านผูกให้เป็นหัวใจสำคัญของพยนต์เทวภูติ ท่านว่าวิชานี้เป็นเลิศยิ่งนักใช้งานได้สารพัดแม้จะไปกระทำอะไรกับใครเขา ท่านว่าตรงนี้ต้องระวัง อย่าไปคิดร้ายหรือสั่งให้พยนต์ไปทำร้ายใครเชียว มันจะเป็นกรรมหนักเปล่าๆ เพียงเอาไว้แค่คุ้มครองรักษาตัวเองก็พอ วิชาพันธะมหาสัญญานี้เป็นที่สุดของวิชาผูกหุ่นพยนต์แต่โบราณ เป็นวิชาที่หุ่นนั้นจะอุทิศทั้งร่างกายและชีวิตเพื่อรับคำซื่อสัตย์และทำตามความประสงค์ของเจ้านาย พ่ออาจารย์ท่านว่าสุดแล้วแต่จะใช่เถิด แม้จะสะกดคน สะกดขึ้นเรือนหรือเข้าหาหญิงสาวย่อมทำได้ทุกสิ่ง ท่านว่าพูดอย่างใดเป็นอย่างนั้นทีเดียว
    - ตะกรุดพ่อคาถาแม่คาถา พ่ออาจารย์ท่านลงไว้ตั้งแต่ปฐมอักขระ พ่อคาถาแม่คาถา โองการพระเจ้ากำเนิดจักรวาลตัวต้น และพระเวทย์เฉพาะทางหัวใจต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งนี้เพื่อให้พยนต์เทวภูตินั้นสามารถใช้คาถาอาคมได้ เป็นครูอาคมที่มีเวทย์และวิทยาการต่างๆ สามารถใช้คาถาอาคมครอบคลุมได้ทุกบท ทุกตอน ทุกด้าน ท่านว่าเพื่อให้พยนต์เก่งเหนือกว่าพยนต์ทั่วไปนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าผูกพยนต์แล้วดีกว่ากุมารทองนิดเดียวอย่าทำ ถ้าทำแล้วต้องให้ดีให้แรงอย่างถึงที่สุดเหมือนพยนต์อาถรรพ์เฝ้าสมบัติของอยุธยานั่นทีเดียว
    - ตะกรุดถอนคุณแก้ดวงกันดวง ท่านลงเสริมไว้ให้ท่านว่าเพื่อให้พยนต์นี้มีอำนาจเหนือภูติผีตลอดจนกุมารทองและสิ่งที่ผูกขึ้นมาทั่วๆไป ให้เค้าสามารถแก้มนต์ได้ถอนคุณถอนของได้ ซ้ำยังยังแก้ดวงกันดวงให้กับผู้บูชาหรือเจ้านายของเขาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าตามแต่จะใช้เถิด ที่ต้องพูดเช่นนี้เพราะว่าดีจนไม่ต้องพรรณณาอะไร ท่านวางไว้ให้หมดแล้ว พยนต์นี้ไม่เพียงจะรับใช้เราแม้เราอาราธนาพกพาไปเค้าคอยกันดวงแก้ดวงของเราให้กับเราด้วยเรียกว่าค้ำชะตาพลิกฟ้าดิน ท่านว่าท่านไม่ได้ผูกไว้ให้เป็นพยนต์ทั่วๆไป เมื่อเป็นเครื่องมงคลแล้วต้องมีดีครบทุกด้านอย่างแท้จริง
    - ตะกรุดหัวใจตรีเทพ พ่ออาจารย์ท่านลงใส่แผ่นทองแดงแผ่นเล็กๆไว้ฝังไว้ด้านหน้าบริเวณโคนกระบองของท้าวอนันต์กาล ท่านว่าเพื่อให้กระบองนี้มีอานุภาพดุจเทพศาสตราวุธของพระเป็นเจ้าทั้งสาม ผนวกกับมงคลนามคำว่าตรีเทพกับตีเทพ ท่านว่าเป็นคำพ้องเสียงกัน ท่านตั้งใจให้กระบองนี้เป็นกระบองตีเทพนั่นเอง จะได้ใช้ลงโทษเทวดามิจฉาทิฏฐิใจพาลเกเรต่างๆ มีอานุภาพมากเกินเทพศาสตราวุธใดๆด้วยใส่อาถรรพ์ของตรีเทพไว้ภายในนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราบางทีก็พลาดไปเหยียบเท้าสิ่งที่มองไม่เห็น สิ่งที่เราไม่รู้ตัวเข้าได้เหมือนกัน ทั้งมนุษย์หรืออมนุษย์ก็ตาม ดังนั้นท่านจึงได้ติดอาวุธไว้ให้กับพยนต์ท้าวอนันต์กาล ท่านว่าเผื่อกรณีฉุกเฉินจริงๆจะได้ใช้ ท่านว่าท่านทำตามวิชากระบองบรมครูของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์เลยนะ
    - เพชรน้ำค้าง เป็นเพชรเสกของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าเพชรน้ำค้าง ท่านนำมาฝังไว้กลางอกของพยนต์เทวภูติ ท่านว่าเห็นมั๊ย พยนต์เรามีสมบัติจักรพรรดิ มีดวงแก้วมหาจักรพรรดิไว้ในครอบครองทุกตน อันเพชรน้ำค้างนี้ท่านว่าเปรียบได้กับรัตนะหรือหนึ่งในของวิเศษของมหาจักรพรรดิทั้งเจ็ด พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาตรงๆก็มีไว้ให้เป็นสิริมงคลกับผู้บูชานั่นเอง แต่ในสิ่งที่มองไม่เห็นนั้น เพชรน้ำค้างนี้จะเป็นตัวรับคำอธิษฐานและส่งผ่านทั้งขับพลังงานต่างๆจากพยนต์เทวภูติออกมาสู่ผู้บูชาได้เร็วยิ่งขึ้น

    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างและเสกพยนต์ไว้ทั้งหมดเก้าตน แต่มีออกให้บูชาไปบ้างแล้ว(*วิธีบูชา ท่านว่าให้ไหว้ด้วยเหล้าขาวรินใส่แก้วหรือจอกเล็กๆพอประมาณให้เขา ตรงนี้ถ้าบูชาติดตัวกลับมาบ้านก็ถอดออกแล้วถวายเหล้าให้เขาก็ได้ ท่านว่ายิ่งไหว้ยิ่งแรงอันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ในการบอกกล่าวอธิษฐานไหว้เหล้าขาวนี้จะทำให้เราเห็นตัวเห็นตนเขาชัดเจนขึ้น บางทีก็จะรู้สึกขนลุกหรือรู้สึกว่าเขาอยู่ข้างๆเราถ้าคนไหนตาดีก็จะรู้จะเห็นแบบชัดเจนไปเลย นอกจากนี้ท่านว่าถ้าในวันไหนจะใช้ทางเจรจามหาเสน่ห์หรือเมตตาทั้งหลาย ท่านให้หาขันน้ำมา นำพ่อพยนต์นั้นท่านแนะนำให้เอาไปเลี่ยมเสียก่อนเมื่อจะใช้ ให้นำพ่อพยนต์มาวางแช่ในขันน้ำ แต่ให้วางแนวตั้งอย่างวางแนวนอน วางพิงกับขันน้ำไว้ ใส่น้ำโรยดอกมะลิ ท่านว่าทำถวายไปเถิด น้ำนั้นเอามาผสมน้ำอาบไล่เสนียดร่างกายดีนัก แม้นำมาแตะหรือพรมหัวพรมใบหน้าก็ช่วยให้มีสง่าราศี แม้จะอธิษฐานดื่มกินก็ช่วยปรับสมดุลย์ธาตุขันธ์ในร่างกายได้ รวมไปถึงหากนำน้ำนั้นมาวนรอบริฝีปากท่านว่าดีกว่าไปลงสาลิกาที่ฟันเสียร้อยครั้งทีเดียว)

    คาถาบูชา
    พุทธังจุติ ธัมมังจุติ สังฆังจุติ ท้าวอนันต์กาลมหายักษาจงมาปฏิสนธิ อัตถะโลโปจะจงมาบังเกิดเป็นพยนต์มหาเทวภูติ ยักษะกาโรโหติสัมภะโว จงบังเกิดรูปด้วยเดชเดชะแห่งมะอะอุนี้เทอญ

    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าพยนต์เทวภูตินี้เลือกเจ้าของและมีเจ้าของแล้วทุกคน ท่านว่าผู้ที่มีวาสนาต้องกันจะได้ใช้งานนั้นเขาจะมีตัวรู้ผุดขึ้นในใจของเขาเอง ว่าสิ่งนี้แบบนี้แหละที่เขาหาที่เขาต้องการ ท่านว่าท่านทำไว้ไม่มากเนื่องจากผงลบและมวลสารอะไรหลายๆอย่างไม่เอื้ออำนวย เพราะเมื่อทำแล้วก็อย่าจะใช้ชนวนมวลสารล้วนๆไม่ต้องผสมอะไรเจือจางให้มากมาย ดังนั้นท่านว่าให้บอกเค้าว่าตัวนี้ใครไวใครได้ เพราะหมดไปแล้วย่อมไม่มีอีก ท่านว่าทำพยนต์เทวภูติแบบนี้เหนื่อยกว่าทำเครื่องมงคลแบบอื่นๆหรือพยนต์ทั่วไปมากนัก

    * พยนต์เทวภูติท้าวอนันต์กาลนี้จะเป็นให้จองเฉพาะทาง PM และผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการชักยันต์นะกันทั้งปวงอธิษฐานจิตครอบรูปนามผู้บูชาให้ตลอดจนจะได้เจิมประสิทธิ์เครื่องมงคลอีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้วยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์เทวภูติดึกดำบรรพ์ท้าวอนันต์กาลมหายักษา (ฝังพยนต์ขุนศรีตัวพ่อ+ผงอาถรรพ์โสมเฝ้าทรัพย์) บูชา 4,000 บาท

    125012e6.jpg 456_145-1.jpg SAM_5332.jpg SAM_5334.jpg 34c7b84dac7fd25973920806d8e6090e.jpg 1315987695.jpg
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา มหามงคลตะกรุดสกลชมภูธิบดีกาลสิทธิ์(สูตรพระอรหันต์ในบ้าน พรหมของลูก)
    พ่ออาจารย์ท่านได้ผูกตะกรุดตำรับสำคัญสองสูตรเข้าด้วยกัน หนึ่งคือยันต์มหาสกลชมภูธิบดี กับยันต์ผูกพระคุณบิดามารดา

    แต่เดิมนั้นท่านว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนถือกำเนิดโดยมีบุพการีเป็นโคตรเหง้าทั้งสิ้น เมื่อให้กำเนิดนั้นก็ถือว่าท่านทั้งสองมีพระคุณยิ่งผืนฟ้ามหาสมุทร ยากที่กุลบุตรกุลธิดาใดจะหาตอบแทนได้หมดสิ้นไม่ ซ้ำมนุษย์อันเป็นสัตว์ประเสริฐเลิศกว่าเดรัจฉานนั้น เมื่อได้กำเนิดเกิดขึ้นมาแล้วก็ได้ความรักความเอื้ออาทร ซึ่งบุพการีนั้นเมตตาคอยฟูมฟักทนุถนอมดูแลด้วยดีมิให้อนาทรร้อนใจจนเติบใหญ่เป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้


    ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น พ่ออาจารย์ท่านว่าพระคุณของบิดามารดานั้น จึงหนักยิ่งผืนฟ้ามหาสมุทร โบราณจารย์จึงได้กล่าวยกย่องสรรเสริญสืบมาว่าอันพ่อแม่นั้นเป็นมหาพรหมในเรือนเป็นพระพรหมในบ้าน เป็นพระอรหันต์ของลูก กุลบุตรกุลธิดาใดรู้คุณพระบิดามารดา และแสดงความกตัญญูกตเวทิตาตอบแทนพระคุณท่านตามสมควรนี้ ชีวิตเขาย่อมได้ดีเป็นยอดคนทั้งสิ้น

    ด้วยมหาอานุภาพแห่งคุณพระบิดา21 คุณพระมารดา12นี้ เปรียบหนักเช่นคุณของผืนฟ้าและแผ่นดิน สูงสุดดุจท้าวมหาพรหม มีคุณคอยอนุกูลเกื้อหนุนกุลบุตรกุลธิดาดุจพระอรหันต์ประจำตัว เป็นพระอรหันต์เฉพาะของตัวเราเท่านั้นไม่ใช่ของใคร ทุกคนมีพ่อมีแม่แต่ต้องเฉพาะเป็นพ่อแม่ของเราเท่านั้น ให้เราไปกราบพระอรหันต์ทั้งหลาย หรือจะไหว้จะปรนนิบัติพ่อแม่คนอื่นสักร้อยคนก็หามีอนุสนธิ์แห่งบุญญานุภาพอันจะมาเกื้อกูลกุลบุตรกุลธิดาได้เสมอพระบิดามารดาของตน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่เดิมนั้นเจ้าพระคุณสมเด็จท่านได้ธุดงค์ขึ้นไปถึงฝ่ายเหนือ ได้วิชาดีของทางนั้นมาเป็นอันมาก ด้วยอัจฉริยภาพของเจ้าพระคุณท่านที่เชี่ยวชาญภาษาอักขระรวมถึงบาลีแขนงต่างๆวิชาการเหล่านั้นย่อมตกผลึกและท่านได้นำใช้มาตลอดจนถึงที่สุดแห่งอายุขัยของท่าน แต่มีวิชาหนึ่งซึ่งครูสมเด็จได้เข้านิมิตเมตตาสั่งสอนพ่ออาจารย์ท่านโดยเฉพาะ ท่านว่าหากไม่สืบทอดไว้ก็เกรงจะสิ้นไปกับไฟเสีย โดยวิชานี้สำคัญนักถึงขั้นที่เจ้าพระคุณท่านให้พ่ออาจารย์นั้นทำของท่านขึ้นมาใช้เองเป็นตะกรุดประจำตัวทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาว่าด้วยยันต์ผูกพระคุณบิดามารดา

    อันวิชายันต์ผูกพระคุณบิดามารดานั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านลงเต็มตำรับตามสูตรเดิมไม่ได้ดัดแปลงแต่อย่างใด ท่านว่าทำยากแต่ละอักขระนั้นต้องลงตัวเล็กดุจปลายเข็มทีเดียว ทั้งนี้ท่านว่าหากให้จารตามปกติตะกรุดนี้คงมีขนาดไม่ต่ำกว่า 9 นิ้ว หรือ 12 นิ้วแน่นอน ที่ท่านต้องลงให้เล็กที่สุดนั้นเพื่อว่ายามกรึงยามม้วนเป็นตะกรุดจะได้มีขนาดพอดีไม่ใหญ่เกินไป กุลบุตรกุลธิดาใดได้ไว้บูชาจะได้สามารถบูชาได้

    วิชายันต์ผูกพระคุณบิดามารดานี้สำคัญอย่างไร กล่าวคือเมื่อสำเร็จเป็นตะกรุดแล้ว หากมีผู้แจ้งประสงค์จะบูชาเข้ามา ท่านว่าต้องแจ้งชื่อนามสกุลของตัวเอง รวมไปถึงชื่อและนามสกุลของบิดามารดาตนเองมาด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการจารตะกรุดที่ผูกชื่อนามสกุลของตัวเรารวมไปถึงบิดามารดามาเกื้อหนุนกันและขอบารมีเสด็จพระใหญ่ ครูสมเด็จและท้าวมหาพรหมทั้งหลายลงประสิทธิ์คุณพระบิดา 21 คุณพระมารดา 12 อันเป็นยอดพระคุณที่แม้แต่มหาบุรุษหรือเทพพรหมทั้งหลายยังเคารพสรรเสริญ ก่อนจะบรรจุไว้ภายในและผนึกอีกคราหนึ่ง

    ท่านว่าเมื่อผูกยันต์มหาวิเศษพร้อมทั้งบรรจุรูปนามของกุลบุตรกุลธิดาใดๆแล้ว ทั้งนี้ให้ประสิทธิ์พร้อมทั้งคุณพระบิดามารดาของเขาอันเป็นของเฉพาะตน พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ยิ่งกว่าแก้วสารพัดนึกเสียอีกแม้แต่แก้วของบรมจักรพรรดิ์อันประเสริฐยังนับว่าห่างไกลหากจะเทียบกับพระคุณบิดามารดา ท่านว่าถึงขั้นตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ แม้ฤาษีนักสิทธิ์เทวดาคนธรรพ์ยักษาหมู่มารทั้งหลายก็ดี ยังให้โทษหรือทำอันตรายไม่ได้ ดุจเรามีเกราะแก้วตาข่ายเพชรคลุมตัว เป็นคุณของท้าวมหาพรหมของเรา คุณของพระอรหันต์ในบ้านของเรา อันเป็นท้าวมหาพรหมหรือพระอรหันต์เฉพาะของเราคนเดียวให้กราบไหว้ซ้ำยังคอยดูแลเกื้อกูลสงเคราะห์เราอย่างดี พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลายกมือไหว้ตะกรุดนี้ พูดตรงๆคาถาอะไรไม่ต้องการเลย เพียงแค่ยกมือไหว้นึกถึงหน้าพ่อหน้าแม่ไว้เท่านั้น ตำรับนี้สำเร็จทุกเรื่องเป็นไปได้ทุกทางไม่มีอะไรขวางกั้นเพราะความรักของพระบิดามารดานั้นเป็นรักที่บริสุทธิ์และยิ่งใหญ่ซ้ำยังมีความปรารถนาดีต่อบุตรสูงสุด ไม่ว่าจะคิดอ่านทำการอะไร ด้วยพระคุณแห่งบิดามารดานั้นย่อมเป็นไปตามนั้นทุกสิ่งดุจเหล็กเพชรลิขิตแผ่นผา อันพระคุณบิดามารดานั้นมีอยู่ในโลก เป็นของกลางดุจคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณแห่งศีล คุณแห่งพระกรรมฐานและมหาธาตุทั้งหลาย เป็นมหาคุณที่จะดึงมาเกื้อกูลบุตรธิดาได้เฉพาะบุคคล

    เธอเห็นรึไม่เล่า พูดตามจริงแล้วแม้ลูกจะชั่ว ลูกจะผิดอย่างไร ลึกๆของคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้วก็ยังรักและเสน่หาในลูกของตนอยู่เช่นนั้น คอยแก้ไขคอยเอาใจใส่ไม่เปลี่ยนแปลง จะดีรึชั่วอย่างไรก็ไม่มีผลให้ความรักของบิดามารดานั้นลดลงเลย ดังนั้นพระคุณของบิดามารดาอันได้ผูกเป็นวิชาและมหายันต์สอดรับกลึงประสานด้วยเวทย์วิชานี้ จึงเป็นวิชาเฉพาะที่ใช้ได้อย่างดีที่สุดเฉพาะของตน ของใครของมัน เป็นคุณที่แตกต่างจากทุกองค์คุณอันได้กล่าวมา นั่นคือเมื่อเราเกิดมามีบิดามารดาแล้ว และเรารู้คุณ พระคุณนั้นย่อมจะตามติดตัวเราไปตลอดชีวิต ท่านว่าจะตามสงเคราะห์เราไปไม่ได้เลือกว่าจะดีจะชั่วเลย เป็นพระคุณที่สะอาดเป็นความรักอันบริสุทธิ์สูงส่ง เป็นพระคุณอันน่าอัศจรรย์ยิ่งแล้วนั่นคือพระคุณของบิดามารดานั่นเอง นี่แหละจึงเรียกว่าพรหมของลูกหรืออรหันต์ในบ้าน นั่นคือมหาพรหมผู้มีฤทธิ์สร้างชีวิตให้เธอเป็นมหาพรหมเฉพาะของเธอ เป็นมหาพรหมที่ขีดเส้นทางบันดาลให้ได้ทุกสิ่ง เป็นอรหันต์ในบ้านที่หากกุลบุตรกุลธิดาใดได้ระลึกถึงดุจได้ระลึกถึงพระอรหันต์ แม้ได้บำรุงรักษาเลี้ยงดูก็เสมอด้วยการปรนนิบัติพระอรหันต์เช่นกัน

    ท่านว่าอันว่าเรานี้พูดไม่ได้มาก ไปตีให้แตกคิดให้ตกกันเอาเอง เราพูดได้เพียงเท่านี้ ว่าอันคุณของบิดามารดานี้เป็นพระคุณที่ไม่เลือกเรื่องที่จะสงเคราะห์บุตรของตนเลย ก็นั่นคือพระคุณของพ่อเรา แม่เรา บุรุษและสตรีที่ดีที่สุดในโลกของเรานั่นเองต่างจากคุณของศีลของพระพุทธเจ้าและเทพเทวาทั้งหลาย ท่านว่าท่านพูดให้คิดได้เท่านี้

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้ลงวิชามหายันต์ตำรับผูกพระคุณบิดามารดาแล้ว นอกจากนั้นภายในตะกรุดท่านยังลงวิชาสำคัญไว้อีกนั่นคือมหายันต์สกลชมภูธิบดี อันเป็นวิชาที่มีอานุภาพมากมายเป็นประการต่างๆสารพัดจะใช้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าอันตะกรุดวิชามหาสกลชมภูธิบดีนี้มีอานุภาพมาก อันจะกล่าวได้คือใช้กันโรคภัยอันตรายทั้งปวง ใครที่มีโรคภัยไข้เจ็บมีเชื้อโรคเชื้อไวรัสต่างๆในร่างกาย ท่านว่าให้เอาตะกรุดนี้อาราธนาไว้ โรคร้ายทั้งหลายจะกลายดี ค่อยๆดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถนัดตา ทั้งยังใช้กันกระทำย่ำยีได้สารพัด ท่านว่าต่อให้ใครคิดร้ายจะทำอันตรายเราด้วยเล่ห์กลไสยเวทย์ต่างๆ ท่านว่าปล่อยเขาทำไปเถอะ ทำจนเขาตายเราก็ไม่เป็นอะไร นอกจากนี้ด้วยอานุภาพของตะกรุดแม้เราทำงานทำการแข่งขันใดๆย่อมช่วยให้เราเป็นผู้ชนะเสมอ

    นอกจากนี้ตะกรุดมหาชมภูธิบดียังมีอานุภาพต่างๆเป็นอเนกปริยาย พกไว้ท่านว่าเป็นราชเสน่ห์แก่หญิงชายทั้งปวงอันจะชวนให้จิตเขามีใจพิศมัยใฝ่หาในตัวเรา หากตั้งจิตระลึกถึงหน้าใครคุณแห่งครูบาอาจาริย์เจ้าย่อมดลบันดาลให้เค้าผู้นั้นคิดถึงหน้าเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีอานุภาพมาก จะทำให้คิดถึง ทำให้รัก ทำให้รักไปจนตายย่อมทำได้ทั้งสิ้น

    แม้จะใช้กับเจ้านาย ผู้มียศศักดิ์สูงกว่าทั้งขุนนางเจ้าพระยาทั้งหลายก็ดุจเดียวกัน นายท่านรักเราหนักหนา แม้มีความผิดติดต้องกายาผู้ใหญ่ผู้บังคับบัญชาก็ยังเมตตาปราณี ท่านว่าคิดเอาเถิดแม้มีโทษถึงตายยังเอ็นดูให้ตายไม่ได้ทีเดียว ตะกรุดนี้แม้พกไว้กับตัวก็มีตบะเดชะดีนัก

    ที่สำคัญพ่ออาจารย์ท่านได้นำสีผึ้งช้างตกมันอันลือลั่นว่ามีคุณทางเมตตามหาเสน่ห์อย่างสูงของท่าน มากวนผสมกับแก่นจันทร์ขาว แก่นจันทร์แดง กฤษณา กลำพัก ขอนดอก สักขี ชลูด สนชมด พิมเสน การบูร กาฝากชุมแสง กาฝากศรีมหาโพธิ์ กาฝากกัลปพฤกษ์ กระทืบยอด ผักกราบทั้งสอง อำพัน ใบไม้รู้นอนสิบเอ็ดชนิด และสารพัดเกษรดอกไม้ทั้งบัวขาว บัวแดง ชะบา สัตตบงกชเป็นอาทิ ท่านว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องยาตามอุปเท่ห์ของตะกรุดสกลชมภูธิบดีไม่ใช่จะหาหรือทำได้โดยง่าย ท่านได้นำเอาเครื่องยาเหล่านี้เคี่ยวกับสีผึ้งช้างตกมันอุดปิดหัวท้ายตะกรุดนั่นเอง

    เมื่อสำเร็จแล้วตะกรุดมหาสกลชมภูธิบดีนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะมีอานุภาพมากใช้ขอได้สารพัด ท่านว่าท่านลงไว้ให้คู่กับยันต์ผูกพระคุณบิดามารดา เพราะหนึ่งนั้นแม้นึกถึงหน้าบิดมารดาย่อมปรารถนาอธิษฐานสำเร็จได้ทุกสิ่ง ส่วนวิชามหาสกลชมภูธิบดีนี้ก็เช่นกัน เมื่อสำเร็จแล้ว ด้วยอานุภาพแห่งวิชาแม้ยกขึ้นอาราธนานึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายและกล่าวสรรเสริญพระพุทธคุณ ท่านว่าให้อธิษฐานเอาเถิด เพียงเท่านี้ทุกสิ่งสำเร็จตรงตามมโนรสทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้คู่กันจะได้ใช้ ทีนี้ก็ตามแต่ใจจะพิจารณาใช้เลย ว่าสิ่งใดควรขอกับพระตถาคตเจ้า หรือสิ่งใดควรขอกับคุณพระบิดามารดา ซึ่งทั้งสองพระคุณนี้ไม่ว่าจะคุณของพระพุทธเจ้าหรือคุณของพระบิดามารดาก็หนักยิ่งผืนฟ้ามหาสมุทรทั้งสิ้น

    นอกจากนี้ภายในตะกรุดพ่ออาจารย์ท่านยังได้นำเหล็กไหลมาบรรจุไว้ด้วย ท่านว่าอันพญาเหล็กไหลนี้ท่านได้ตรวจะสอบจิตวิญญาณแล้วว่ามีเพชรพญาธร ที่มีใจเมตตากรุณาสิงสถิตย์อยู่ ท่านว่าดูจนรู้จนแน่แก่ใจว่าเป็นเพชรพญาธรฝ่ายดีอันมีนามว่ากาลสิทธิ์ จึงได้ชวนให้เขาไปร่วมสร้างบารมีคอยช่วยเหลือผู้ที่บูชาตะกรุด พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานกันได้ตามใจนึกเลย ว่าจะให้ท่านกาลสิทธิ์ช่วยเหลือด้านไหน เพราะพวกนี้เขามีฤทธิ์มากดลจิตดลใจคนเก่ง ทำอะไรก็ว่องไว ฝืมือก็เก่งน้องๆเทวดา ท่านว่าเอาเข้าจริงแล้วเรื่องงานช่วยเหลือมนุษย์นี่ก็หน้าที่เค้าเลย อยากให้ตะกรุดมีฤทธิ์มากก็ให้หาน้ำหอมคอยฉีดที่ตะกรุดก็ได้เมื่อจะขออะไรกับท่านกาลสิทธิ์นี้ พ่ออาจารย์ว่าเพชรพญาธรพวกนี้ชอบกลิ่นหอม เชื่อเถอะเขาช่วยเราสุดชีวิตเลย และอีกประการหนึ่งท่านว่าหากบูชาเพชรพญาธรก็น้องๆขุนแผนนี่เอง เรื่องเสน่ห์เมตตาก็กินขาด สุดแต่จะเอาไปอธิษฐานใช้ตามใจปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านว่าหากใครได้เห็นตัวเห็นตนท่านกาลสิทธิ์หรือปรารถนาจะเซ่นไหว้บูชาอะไรเอาใจท่าน ท่านว่าให้ใช้น้ำหอมจะดีที่สุด ไปหามาเถอะหลายๆกลิ่น สำเร็จเรื่องหนึ่งก็ถวายกลิ่นนึงก็ได้

    ท่านว่าก่อนที่ท่านจะเอาองค์เหล็กไหลใส่ไปในตะกรุดนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตานำเอาองค์เหล็กนั้นมาแช่ในยาสั่งรวยอันเป็นตำรับลับของท่านซึ่งไม่อาจเปิดเผยได้ ท่านว่าขึ้นชื่อว่ายาสั่งก็มีคุณตามที่คิดนั่นแหละ หากแต่นี้ไม่ใช่ยาสั่งอุบาทว์อันเป็นเดรัจฉานวิชา แต่เป็นยาสั่งรวย เป็นยาที่สั่งให้คนใช้ต้องรวย ต้องเป็นเศรษฐีมหาคฤหบดี เปลี่ยนแปลงโชคลาภให้มีโภคทรัพย์ สำเร็จทางด้านการงานทรัพย์สินเงินตรา ท่านว่าแช่เอาไว้ให้ซึมเข้าเนื้อองค์เหล็กให้เพชรพญาธรกาลสิทธิ์รับอานุภาพของว่านยาที่ได้นำมาปรุงเป็นยาสั่งรวยโดยเฉพาะ ทำให้เขามีฤทธิ์มากช่วยให้เรารวยได้ให้โชคได้


    มหามงคลตะกรุดสกลชมภูธิบดีกาลสิทธิ์(สูตรพระอรหันต์ในบ้าน พรหมของลูก) พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ได้แปดดอก ท่านว่าเอาเท่านี้พอ เพราะเป็นตำรับลับ ข้างบนเค้าไม่ยินดีที่จะให้ทำเยอะเนื่องจากหลายๆเรื่อง และผู้ที่มีชะตาจะได้ประสบพบเจอและครอบครองนั้นก็มีไม่มาก

    คาถาบูชา(ท่านว่าใช้ง่ายตามแต่ปรารถนาคาถานั้นไม่จำเป็นต้องจำใดๆ หากจะใช้เพียงระลึกถึงพระพุทธคณ หรือหากจะใช้อานุภาพของยันต์ผูกท่านว่านึกถึงหน้าพ่อหน้าแม่ไว้เท่านั้นเป็นใช้ได้ แต่ถ้าจะท่องคาถาจริงๆก็สวดพุทธคุณเอาก็ได้)
    อิติปิโสภะคะวา อรหังสัมมา สัมพุทโธวิชชาจรณสัมปันโน สุคโตโลกะวิทู อนุตตโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถารังเทวะมนุสสานัง พุทโธ ภควาติ

    * ตะกรุดชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ทั้งหมดแปดดอก รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้บูชาพ่ออาจารย์ท่านให้แจ้งชื่อนามสกุลท่าน พร้อมกับชื่อนามสกุลบิดารมารดาของท่านมาไว้ให้ครบถ้วนด้วย เพื่อที่ท่านจะได้ทำการลงตะกรุดผูกยันต์พร้อมชื่อสกุลบรรจุไว้ภายในก่อนจะผิดด้วยสี่ผึ้งที่เคี่ยวไว้กับว่านยาอีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสร้างพระประธานในวัดและถิ่นทุรกันดารสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มหามงคลตะกรุดสกลชมภูธิบดีกาลสิทธิ์(สูตรพระอรหันต์ในบ้าน พรหมของลูก) บูชา 4,000 บาท

    035.jpg image.jpg C3925353-5.jpg 2_652.jpg SAM_5335.jpg SAM_5336.jpg SAM_5337.jpg SAM_5338.jpg SAM_5339.jpg gr_ir_Pk_Ti.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_5339.jpg
      SAM_5339.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.4 KB
      เปิดดู:
      56
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พญางั่งเป็นหนึ่งเศียรโล้นสำเร็จกุมาร{(ภาคหากิน)ฝังประคำโทนแทนครู ธิดาสรวง}

    ...มหาธาตุกายสิทธิ์ลงถม เป็นหนึ่งในศาสตราวิชาครูที่พ่ออาจารย์ท่านจะไม่ทำโดยปกติ ซึ่งนับว่าเป็นการกระทำที่ใช้ความเพียรพยายามอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะสำเร็จเป็นพญางั่งเศียรโล้นนั้น ต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากมาย นั่นคือท่านต้องนำธาตุกายสิทธิ์มาเทเป็นพระขุนแผนก่อนจากนั้นจึงนำมาปลุกเสก และนำพระนั้นมาเคี่ยวด้วยไฟพระเวทย์ หล่อหลอมและเทใหม่เป็นพญาแผนแสนพลพ่ายซึ่งไม่ใช่รูปทรงพิมพ์พระพุทธเจ้า เมื่อเสร็จแล้วจึงทำการอัดวิชาเมตตามหาเสน่ห์ตามสายฆราวาส และหลังจากนั้นก็นำมาเคี่ยวและหล่อหลอมใหม่ เทเป็นพญางั่งเศียรแหลม อัดวิชาพ่องั่งผู้เป็นเอกในจักรวาล ก่อนจะสิ้นสุดด้วยการเทพญางั่งเศียรโล้นภาคสำเร็จกุมาร ท่านว่านี่คือมหาธาตุศักดิ์สิทธิ์ลงถม ทุกอย่างมีฤกษ์ยาม ทำได้ยากอย่างยิ่งกว่าจะสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย


    พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ผ่านมานั้นหลายคนมีความทุกข์ ทุกข์จากความต้องการของตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ประสบอยู่มันสวนทางกับความต้องการของตน ไม่ได้ทุกสิ่งเสมอใจบ้าง ทุกข์จากปัญหาความรักบ้าง ทุกข์เกิดจากสังคมแวดล้อมบ้าง ทุกข์เกิดจากอาชีพการงานและปัญหาเศรษฐกิจปัญหาครอบครัวบ้าง ท่านว่าแต่ละคนนั้นก็มีปัจจัยปัญหาแตกต่างกันไป อันขึ้นชื่อว่าเกิดมาเป็นมนุษย์นั้นจะหาที่สมบูรณ์พร้อมได้ก็ไม่มี กอปรกับหลายคนถามถึงพญางั่งนั่งแพะและพระเพชรจำแลงซึ่งมากมีประสบการณ์กันเข้ามาว่าจะหาเครื่องรางแบบนี้ได้ที่ไหนอีก พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เปิดเผยเรื่องราวของพญางั่งเป็นหนึ่งเศียรโล้นสำเร็จกุมาร(ภาคหากิน) ท่านว่านี่คือที่สุดของวิชาในสายของพญางั่งแล้ว แม้วิธีการจะสร้างและทำนั้นก็ยากอย่างยิ่ง ทำไมต้องเป็นงั่งเศียรโล้น งั่งสำเร็จกุมาร หลายคนคงสงสัยกันในจุดนี้


    พญางั่งเศียรโล้นนั้น ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่ใช่ของต่ำ ไม่ใช่เดรัจฉานวิชา หากแต่เป็นพญางั่งที่อัญเชิญนิรมาณกายขององค์พระสยมลงมา พ่ออาจารย์ท่านอธิบายว่าหลายๆคนที่มีความทุกข์ยาก ทำคุณคนไม่ขึ้น ใช้ของไม่ขึ้น ไม่ประสบความสำเร็จในความรัก ในหน้าที่การงาน ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตหรือในสิ่งใดๆเลยก็ดี สิ่งเหล่านี้ท่านว่างั่งเศียรโล้นนั้นแก้อาถรรพ์ พลิกดวง ขับเสนียด ทำลายสถานการณ์ตกอับเหล่านั้นได้ทั้งสิ้น

    ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า ความต่างของพญางั่งธรรมดาที่มีเศียรแหลมกับพญางั่งเศียรโล้นนั้นมีความต่างกันอยู่มากมายมหาศาล และเพราะความต่างนี้ตลอดจนหาผู้รู้จริงที่จะสร้างจะเสกงั่งเศียรโล้นจริงๆไม่ได้ ภายหลังครูบาอาจารย์จึงไม่นิยมสร้างกัน จะมีสร้างกันก็เฉพาะงั่งเศียรแหลมนั่นเอง

    ที่ว่าต่างกันนั้น ต่างกันอย่างไร เพราะพญางั่งเศียรโล้นนั้นเป็นงั่งที่ขยัน เป็นงั่งหากินเขาไม่นั่งเฉยๆอยู่กับที่ เรียกว่าเป็นภาคหากินของพญางั่งก็ไม่ผิด โดยปกติแล้วแม้พกบูชาพญางั่งเศียรแหลมธรรมดาพ่ออาจารย์ท่านว่าก็เป็นเมตตามหาเสน่ห์มหานิยมแก้ดวงแก้เสนียดได้แรงพออยู่แล้ว แต่กับพญางั่งเศียรโล้นนั้นนับได้ว่าต่างกันมาก เพราะในปางนี้พ่องั่งจะไม่สนใจวิธีการใดๆทั้งสิ้นในการทำที่จะให้ได้มาซึ่งทุกสิ่งให้สมตามเจตนารมณ์และความปรารถนา ท่านว่าใช่และถูกต้องแล้วทุกสิ่งนั่นแหละทั้งความรัก การงาน การทำมาหากิน ทุกอย่างต้องดีขึ้น ท่านช่วยทั้งหมดโดยไม่สนใจกันทีเดียวว่านั่นจะเป็นเรื่องสุจริตหรือไม่ ทั้งยังไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆเพราะท่านถือว่าเป็นธุระของท่าน หน้าที่ของท่าน เทพพรหมใดๆก็มายุ่งหรือก้าวก่ายไม่ได้ คือพ่องั่งนั้นท่านให้ความรักและเมตตาช่วยเหลือโดยไม่สนใจเลยว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิด ถูกก็ช่วยผิดก็ยังช่วย ช่วยไปทุกสิ่งตามสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต นี่คือความรักของพ่อที่มีต่อลูกอย่างแท้จริง แต่โบราณนั้นจึงถือว่าพ่องั่งเศียรโล้นนั้นเป็นพ่องั่งไร้ศีลธรรม พ่ออาจารย์ท่านว่าอาจจะฟังดูแรงไปบ้าง แต่เอาเข้าจริงๆแล้วด้วยด้วยคุณแห่งครูบาอาจารย์และพระเวทย์วิชานั้นถือว่าไม่เกินเลยไปเลย ก็ในเมื่อยังมีตัณหา มีความปรารถนามีความต้องการที่จะเอาดีทางโลกกันอยู่ เช่นนั้นเรื่องบางอย่างมันย่อมขัดกับศีลธรรมทีเดียว แน่นอนว่าพระก็ยุ่งไม่ได้ เทพก็ช่วยไม่ได้ ดังนั้นพ่องั่งเศียรโล้นจึงเป็นภาคที่พญางั่งจุติขึ้นมาเพื่อช่วยในกิจต่างๆเหล่านั้นให้ได้ ให้สำเร็จในทุกช่องทางไม่เลือกวิธีการนั่นเอง


    พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำทั้งที ให้ทำรูปร่างน่าเกลียดคนเค้าก็จะไม่กล้าห้อยกัน จึงทำองค์ขนาดปกติกำลังพอดี ท่านว่าจะได้ใช้กันได้ไม่รู้สึกลังเลใจว่าใครจะเห็น พ่ออาจารย์ท่านแกะแม่พิมพ์พ่องั่งนี้ให้อยู่ในซุ้มแบบพระขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ท่านว่านี่ไม่ใช่พระพุทธแต่เป็นพ่องั่ง และเป็นพ่องั่งภาคสำเร็จกุมารเสียด้วย ท่านว่าลำพังวิชาของพญางั่งเศียรโล้น ตัวพ่องั่งเศียรโล้นก็มีคุณสมบัติเป็นเอกในสิ่งที่เครื่องรางทุกชนิดไม่มีและไม่สามารถช่วยได้อยู่แล้ว แต่นี่ท่านตั้งใจสร้างให้เป็นพ่องั่งภาคสำเร็จกุมารอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าหากเป็นพระขุนแผนเป็นรูปพระพุทธเจ้าที่อยู่ซ้ายขวานั้นก็เป็นพระโมคคัลลาน์พระสารีบุตรไม่ใช่กุมารทองอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ แต่เมื่อท่านทำและตั้งใจทำเป็นพ่องั่งเศียรโล้นแล้ว ท่านจึงตั้งใจเสกขึ้นรูปซ้ายขวาให้เป็นกุมารทองอย่างแท้จริง ทั้งยังเมตตาอัดพลังอัดเวทย์วิชาเพื่อให้เขาเป็นกุมารทองที่เก่งและใช้งานได้ง่ายอีกด้วยท่านว่าเก่งกาจและซนได้ที่ทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพ่องั่งเขาจะได้มีบริวารช่วงใช้ ช่วยกันหลายๆคนไม่ว่าจะเป็นกิจเล็กๆหรือการณ์ใหญ่ๆก็ดีย่อมสำเร็จทั้งสิ้น นี่คือพญางั่งภาคสำเร็จกุมารเป็นพญางั่งที่มีบริวารคอยเกื้อหนุนช่วยเหลือ ดังนั้นท่านว่าเราเป็นคนใช้ไม่ต้องไปสนใจตรงนั้นเลย ในโลกทิพย์ท่านคุมและจัดการของท่านกันเอาเอง พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่ากุมารนี้เป็นทิพย์เป็นเทวภูติไม่ต้องเลี้ยงใดๆ พ่องั่งท่านเลี้ยงของท่านเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าพอได้แม่พิมพ์มาท่านก็ต้องนำมาลงหัวใจพญางั่งเสกด้วยวิชาพระเจ้าเข้าเรือนแก้ว พร้อมทั้งกำหนดจิตเสกขึ้นรูปกุมารทองไว้ก่อน ท่านว่าทุกอย่างพร้อมและสำเร็จตั้งแต่เป็นแม่พิมพ์ทีเดียว

    ดังที่กล่าวไปแล้ว ว่าจะทำทั้งทีต้องทำให้เต็มสูตร พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ใช่แค่รูปร่างนึกอยากทำก็ทำได้ ครูพระสยมนั้นท่านบอกว่าถ้าจะทำพ่องั่งเศียรโล้นให้สำเร็จทรงอิทธิฤทธิ์เปี่ยมด้วยมหากรุณาอันเอื้ออารีย์ต่อผู้ใช้อย่างแท้จริงแล้วนั้น จะต้องเตรียมมวลสารถึงเก้าชนิด ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านพูดว่าเรามีหน้าที่หาหน้าที่ทำ บอกได้คำเดียวเลยว่าสิ่งที่ท่านกำหนดนั้นหายากทั้งสิ้น ล้วนแต่ของที่มีอาถรรพ์ผิดธรรมชาติทั้งนั้นแต่ก็ไม่ต้องกลัวไปเพราะไม่ใช่ผีไม่ใช่ภูติพรายแต่อย่างใด ที่ว่าอาถรรพ์ผิดธรรมชาตินั้นเพราะมีประจุพลังงานฟ้า พลังเทพมีเทพวิญญาณถือครองอยู่กว่าจะได้ครบเก้าสิ่งจึงเป็นเรื่องยากและบอกใครไม่ได้ ท่านว่าทุกสิ่งนั้นท่านพลีมาและบดเป็นผงทำผงฝังด้านหลังพญางั่งนั่นเอง ท่านว่าจะทำทั้งทีก็ต้องให้ครบสูตร ครบและแรงตามเจตนาครู เจตนาฟ้า เจตนาองค์พระสยมภูวญาณท่านกำหนดมาจะให้ผิดพลาดไม่ได้ นั่นแหละจึงจะได้ชื่อว่าเป็นพญางั่งเศียรโล้นที่จะคอยช่วยเหลือเกื้อกูลเราในทุกเรื่องจริงๆ เป็นพญางั่งภาคหากินช่วยด้วยความรักของพ่อที่มีต่อลูกโดยไม่สนศีลธรรมอย่างแท้จริง

    พญางั่งเศียรโล้นนั้นดานหลังพ่ออาจารย์ท่านฝังสิ่งสำคัญต่างๆล้วนแล้วแต่ของที่มีอำนาจและอาถรรพ์ในตนเองทั้งสิ้น ดังต่อไปนี้

    - ประคำโทนแทนครู ท่านว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเอาของที่เป็นตัวแทนพระตัวแทนเทพเจ้าอย่างประคำโทนแทนครูนี้มาฝังงั่ง ท่านว่าก็พ่องั่งของท่านใช่ของต่ำหรือเดรัจฉานวิชาเสียเมื่อไหร่ หากแต่เป็นภาคหากินขององค์พระสยมภูวญาณทีเดียว ภาคนี้เป็นภาคเทพสูงกว่างั่งธรรมดา จะห้อยคอก็ได้หรือคาดเอวก็ไม่น่าเกลียดขอแค่ให้พ่องั่งโดนเนื้อโดนตัวเราก็พอ นอกจากนี้ที่ฝังไว้ก็เพื่อสื่อความหมายเป็นนัยน์ว่านี่ไม่ใช่งั่งทั่วไปหรืองั่งท้องตลาดแต่อย่างใด แต่เป็นงั่งครู งั่งวิชา อันประคำโทนนั้นดีและวิเศษอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าประคำโทนนั้นมีวิธีการทำที่ยุ่งยากซับซ้อนมากกว่าประคำธรรมดาหลายเท่าในวิชาการทำประคำ เมื่อสำเร็จแล้วเป็นของมีอานุภาพมากท่านว่าสามารถใช้แทนสังวาลประคำสายที่มีจำนวน 108 เม็ดได้ไม่ต่างกันเลย หากแต่ประคำโทนนั้นแรงกว่าเรียกว่าพกลูกเดียวจบ ทั่วพิภพจบแดนนี้ไม่ต้องไปหาอะไรอีก ไม่ต้องไปคาดสังวาลย์ประคำให้เกะกะแต่อย่างใด ท่านว่าการทำประคำโทนนั้นทุกขั้นตอนล้วนมีพิธีกรรมมีการภาวนาพระคาถากำกับทั้งสิ้น ซ้ำเวลาเสกยังต้องอธิษฐานจิตด้วยสูตรพระคาถารัตนมาลาอันสูงสุด ท่านย้ำว่าต้องเอาคุณจากประคำทั้ง 108 เม็ดมารวมไว้ในเม็ดเดียว พระทั้ง108 ครูทั้ง 108 ฤาษีทั้ง108 เทพยดาทั้ง108 พรหมทั้ง108 รวมกันอยู่ในนี้ทั้งสิ้น ท่านว่าไม่ง่ายหรอกนะกว่าจะได้แต่ละลูกถือมั่นถือให้ดีครูลงกันหมดแล้วสถิตย์แล้ว ท่านว่าทำยากต้องลงตะกรุดฝังอาถรรพ์ทำผงผสมผงเฉพาะ กว่าจะลงรักกว่าจะเสก ดังนั้นประคำโทนนี้ท่านจึงว่ามีคุณทุกทาง ใช้ได้ทุกอย่าง ท่านว่าวิชาการทำลูกประคำจริงๆนั้นทำยากมาก หลายๆที่ส่วนใหญ่จึงมักจะซื้อมาเสกไม่ค่อยทำกันตามวิธีการ ส่วนใหญ่จะเป็นประคำตลาดพระทั้งท่าพระจันทร์วัดราชนัดดาเป็นประคำสำเร็จรูปจากไม้มงคลก็ดีหรือที่เป็นแร่เหล็กก็ดีถือเสียว่าซื้อมาเสกเป็นใช้ได้ ท่านว่าของๆท่านนั้นจะให้ทำเป็นลิเกหรือสุกเอาเผากินเช่นนั้นไม่ได้ ประคำโทนนั้นเอาไปต้องเปลี่ยนชีวิตเขาได้ ขั้นตอนมีอย่างไรวิธีการแบบใดก็ใจเย็นๆค่อยๆทำไปไม่ได้รีบ ทำแล้วต้องเอาให้ขลังให้ใช้ได้ ท่านว่าประคำจริงๆนั้นมีอานุภาพใหญ่มาก ทั้งจะทำให้เกิดเมตตา ใช้เจริญภาวนาเป็นเครื่องเตือนใจให้เห็นถึงภัยอันตรายต่างๆก็ดี ใช้ป้องกันอันตรายได้สารพัด ท่านว่าหากจิตจดจ่ออยู่กับประคำนี้หมั่นสวดมนต์ปฏิบัติภาวนาอย่างต่ำก็ได้โลกีย์ฌาน เพราะเวลาทำมันต้องตั้งสติเจริญสติ สติตัวนี้และอานุภาพของครูประคำนี่แหละ จะทำให้สำเร็จฌานโลกีย์ได้ นอกจากนั้นยังสามารถพัฒนาเป็นมรรคเป็นผลได้อีก ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าประคำโทนนั้นเป็นที่สุดของครูประคำจริงๆ ท่านได้เมตตานำมาฝังไว้ในพ่องั่ง เพื่อให้เป็นงั่งครู งั่งวิชา เป็นพ่องั่งที่เก่งมีฤทธิ์มีตัวสามารถใช้วิชาได้ร้อยแปดพันประการ ซ้ำประคำนี้ท่านว่าในสายไศวะนิกายนั้นให้ความสำคัญนักอย่างยิ่งยวด เป็นเครื่องระลึกถึงองค์พระศิวะหรือพระสยมได้เป็นอย่างดี
    - ธิดาสรวงหรือแม่นางฟ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าสุดแล้วแต่จะเรียกนะเรียกได้ทั้งสอง ท่านหล่อธิดาสรวงนี้ขึ้นมาจากธาตุกายสิทธิ์โดยเฉพาะ แต่เดิมนั้นท่านว่าวิชานี้คล้ายวิชานางพิมอยู่บ้าง เป็นรูปของหญิงสาวท้องแก่กำลังคลอดบุตร ต่างกันที่วิชานางพิมนั้นเด็กเขาเอาขาออกมา แต่ธิดาสรวงนั้นเด็กเอาหัวออกมา ท่านว่าท่านทำไว้แล้วก็นำมาเสกเรียกชื่อว่าแม่นางฟ้าเพราะท่านเห็นญาณนางฟ้าอยู่จริงๆ ซ้ำลูกของแม่นางฟ้านั้นก็เป็นเทพกุมารที่มีฤทธิ์มากเสียด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าธิดาสรวงนี่ดีนะ เป็นสัญลักษณ์ของการให้กำเนิด การเกิดขึ้นของสิ่งดีๆ ดังนั้นนี่จึงเป็นสัญลักษณ์ของการกำเนิดชีวิตใครพังใครจมใครล้มเหลวมาอธิษฐานบอกกล่าวแม่นางฟ้าให้ท่านชุบตัวชุบชีวิตขอเกิดใหม่จากท่านเป็นได้เรื่อง พลิกฟ้าพสุธาหงายเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือกันทุกคน ท่านว่านอกจากนี้พกไว้กับตัวยังให้คุณในทุกทางออกได้ทุกด้านเลยตั้งแต่เสน่หาเมตตาไปจนถึงคงกระพันซึ่งปกติจะไม่มีอยู่ด้วยกัน นอกจากนั้นสำหรับคนที่ต้องสอบต้องมีการแข่งขันในธุรกิจหน้าที่การงานหรือสิ่งที่จะกระทำต้องต่อสู้แย่งชิงแข่งขันกับคนอื่นท่านว่าบนบอกแม่นางฟ้านี่ได้ผลชะงัดนัก เรื่องพวกนี้ท่านชอบช่วยเหลือผู้บูชาจริงๆ ลูกๆของท่านจะต่ำกว่าคนจะจนกว่าเขาไม่ได้ จะแพ้ไม่ได้ต้องชนะอย่างเดียว นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังย้ำอีกว่ารูปแม่นางฟ้าหรือธิดาสรวงนี้เป็นรูปอาถรรพ์ หากนำไปติดตัวคล้องคอบูชาไว้ใครที่มีเสนียดหรืออัปมงคลใดๆติดตัวแก้ไขไม่ได้เอาไม่ออก ท่านว่าอาถรรพ์ทั้งหลายนี่หลุดหมดนะ ภูติผีปีศาจทั้งหลายเกรงกลัวมาก เดรัจฉานวิชาไสย์ดำต่างๆเข้าใกล้ไม่ได้ทำอันตรายไม่ได้เลย ท่านว่าบอกได้เท่านี้ เอาว่าชีวิตอยู่ดีกินดีและปลอดภัยก็แล้วกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อนำธิดาสรวงมาฝังในพ่องั่งนี้พลังและธาตุตลอดจนทุกสิ่งล้วนเกื้อกูลกัน สองอย่างนี้ถ้าแยกกันอยู่ก็แล้วไป แต่หากรวมกันเช่นนี้ ความสมบูรณ์ถึงขั้นมหาอุดมจะเกิดขึ้นกับผู้บูชาจะรู้เองเห็นแท้แก่ใจประจักษ์กับตาตนเอง ท่านว่าได้สมใจในทุกสิ่งที่ปรารถนาทีเดียว
    - ตะกรุดเมตตาพรหมวิหารธรรม ท่านว่าครูแต่โบราณนั้นถือคติว่าวิชาเมตตาของพระพรหมนั้นเป็นวิชาสูงสุด บางที่ก็ย่อและดัดแปลงไปใช้ในทางจีบสาวทางกามตัณหาอยู่มาก เพราะถือเป็นมหาเสน่ห์อย่างใหญ่หลวง รูปงามดุจพรหมวิชานะหน้าพรหมนี้ล้วนเป็นสิ่งที่สูงกว่ารูปที่ว่างามของมนุษย์ ครุฑธา หรือเทวราช ท่านว่างามกว่าวิชานะหน้าทองหรือพระลักษณ์หน้าทองเป็นไหนๆ เพราะเป็นรูปที่งามที่สุดดุจรูปพรหม ดุจรูปพระมหาสัตว์พระมหาบุรุษอันเป็นเอกในโลกธาตุทีเดียว ตะกรุดเมตตาพรหมวิหารนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นกระแสธารสูงสุดของความเมตตา ท่านว่าเป็นเมตตาล้วนๆไม่มีอุเบกขาการวางเฉยเข้ามาเจือปนเลยพ่ออาจารย์ท่านว่าเราพูดได้เท่านี้คิดเอาเองแล้วกัน ท่านฝังไว้โดยหวังอิทธิคุณแฝดสองประการนั่นคือ ให้พ่องั่งท่านนั้นรักเราดุจเลือดในอก สามารถช่วยเหลือเราได้ทุกสิ่งให้ท่านเมตตาเราโดยปราศจากอุเบกขาการวางเฉยใดๆมาเจือปน ทุกคำขอ ทุกเรื่อง ทุกสิ่งย้อมต้องสัมฤทธิ์ผล กับอีกประการหนึ่งนั่นคือผู้ที่พกตะกรุดไว้จะได้คุณของกระแสพลังความเมตตาอย่างยิ่ง สรรพสิ่งโดยรอบเค้าจะเมตตาเรา มองเราดีขึ้น มองด้วยความอ่อนโยน เห็นเรางามเหมือนพรหมเหมือนมหาบุรุษดูเป็นคนมีสง่าราศีน่าเข้าหาขึ้นมาทันตา
    - ตะกรุดมหาสะเดาะสารพัดกัน ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนะเพราะรวมวิชาหลายสูตรไว้ในส่วนของหัวใจคาถาสำคัญต่างๆ โดยพื้นฐานแล้วจะมีอำนาจแก้ไขโรคภัยไข้เจ็บ สารพัดโรคสารพัดความเจ็บป่วย กินพลังงานด้านลบดูดกลืนโรคภัยและย่อยสลายไปจากตัวเรา กันโรคร้ายๆโรคแปลกๆผิดธรรมชาติ โรคอันเกิดจากเคราะห์กรรมเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรเจ้าบุญนายคุณทั้งหลาย ท่านว่าปกติวิชาต่างๆจะแก้โรคอันเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรดลบันดาลให้เป็นไปตามเคราะห์กรรมไม่ได้ แต่แปลกที่วิชานี้แก้และกันได้ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือโดยพื้นฐานเพราะท่านยึดถือคำพระตถาคตเจ้าว่าการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ นอกจากนี้ท่านยังลงวิชานะมหาสะเดาะกับมหากันเสริมลงไปอีกด้วย ท่านว่าจะได้สะเดาะเคราะห์บรรเทาทุกข์โศกและเคราะห์กรรมของคนใช้ เสริมอานุภาพให้พญางั่งโดยเฉพาะ จะได้กินพลังงานลบและเคราะห์กรรมได้มากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น ท่านว่าตะกรุดนี้ดีหลายด้านคือนอกจากกันโรคภัยไข้เจ็บแล้วยังใช้กันได้สารพัดสมกับชื่อมหากัน เวลาเรามีเรื่องจวนตัวไม่อยากให้เกิดกับตัวเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ระลึกถึงตะกรุดที่ฝังอยู่นี้ยกขึ้นจบหัวนึกถึงคุณองค์พระสยมผู้ตั้งฟ้าตั้งแผ่นดินเป็นที่สุด อธิษฐานบอกกล่าวว่า ด้วยอานุภาพแห่งมหากันนี้ขออย่าให้เรื่องนั้นๆเกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้าเลย ให้นึกเอาดีๆว่าเป็นเรื่องอะไรด้วยวิชามหากันนี้เมื่อไม่ปรารถนาแล้วสิ่งเลวร้ายต่างๆย่อมไม่เกิดขึ้นเลย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาเราจะเจอเรื่องไม่ดีและร่างกายเรามีพลังงานด้านลบต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะย่อยสลายไปเป็นพลังงานบวกให้กับพ่องั่ง ท่านว่าก็ชีวิตคนน่ะแหละนะ เกิดมามีกรรมเคราะห์ซ้ำกรรมซัดพระเคราะห์เสริมส่ง จะหาดีได้ในช่วงชีวิตซักกี่วัน ดังนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่าร่างกายเราจะไม่มีพลังงานด้านลบเหล่านี้ พ่ออาจารย์ว่านี่แหละคืออาหารของพ่องั่งเศียรโล้นเค้า เค้ากินพลังงานด้านลบเหล่านี้ออกจากตัวเรายิ่งมีเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งแรงเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ต้องเลี้ยงไม่ต้องเซ่น ใช้งานอย่างเดียวสุดแล้วแต่จะใช้ พ่ออาจารย์ท่านว่าสร้างยากเสกยาก เมื่ออาราธนาแล้วก็ได้อย่าถือตัวว่ามีดี และจะลองดีหรืออวดดี ท่านว่าใครๆก็อยากจะมีชีวิตดี แต่เมื่อมีแล้วก็ต้องรู้จักรักษาหรือใช้ให้เป็นด้วย

    คาถาบูชา
    โอม อะหะปะมะอะ กำมะโปน กำตะเบง เมตตาสุเนอ พ่องั่งเอ๋ยเจ้าจงมาสู่หา จงเกยทรัพย์ เอาศรีมาให้กู มานิมานัง มหางั่งตันติ มานิมามะ มามา สวาหะ
    ใช้ทางเสน่ห์ว่า โอมระงั่งตรึงจิตคิดคะนึงตรึงใจ พิศวาทหลงใหลจิตคะนึง คิดถึงกูบ่มิรู้ลืม ใครเห็นก็จิตตรึงคิดถึงกูบ่มิคลาย หญิงชายทั้งหลายก็งวยงงหลงเสน่ห์กู มิเห็นหน้ากูอยู่มิได้ โอมกูจักปลุกพ่องั่งให้มาคลอเคลียอยู่ในตัวกู โอมตื่นมหาตื่น โอมลุกมหาลุก โอมสวาหะสวาหุม เอหิปิยังมะมะ มามะมามา โอมระงั่ง งงงวย มหางงงวย ระงะระงั่ง มะมะสวาหะ มะมะสวาหุม มะมะโอม

    * พ่ออาจารย์ท่านเมตตาจัดสร้างไว้ได้ทั้งหมด 9 องค์ สำหรับผู้ที่จะบูชาท่านว่าให้แจ้งเข้ามาทาง PM เท่านั้น พร้อมกับชื่อนามสกุล พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมบอกกล่าวประสิทธิ์พร้อมกันนี้ท่านยังจะเมตตาลงเหล็กจารนะพลิกแผ่นดินพร้อมกำกับฝากฝังเราไว้กับพ่องั่งให้เป็นการพิเศษอีกด้วย รายได้จากการบูชาร่วมทำบุญยกพื้นพระอุโบสถเพื่อยกฐานชีวิตต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พญางั่งเป็นหนึ่งเศียรโล้นสำเร็จกุมาร{(ภาคหากิน)ฝังประคำโทนแทนครู ธิดาสรวง} บูชา 4,000 บาท

    1403875688.jpg 701465050.jpg SAM_5340.jpg SAM_5341.jpg Luos-108-_Red-_Wood-_Beads-_Tibetan-_Buddhist-_Prayer-.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลแทนครูมหาปฐมพุทธพิมพ์(สมเด็จพระอนันต์คุณอดุลย์ศาสดา)

    ปฐมบทแห่งพระพุทธานุภาพ

    "ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวอันตรายทั้งปวง "

    พ่ออาจารย์ท่านมีความตั้งใจจะสร้างพระสำเร็จหรือพระสมเด็จก็เรียก สืบสานวิชาเก่าของบูรพาจารย์นั่นคือองค์สมเด็จโต ซึ่งท่านว่าในสมัยนี้จะหาคนทำให้ครบสูตร ครบรสได้ยากเต็มทีแล้ว ท่านจึงมีดำริจะทำให้ดีอย่างที่สุดไว้เสียรุ่นหนึ่ง ในกาลนี้ท่านได้เมตตาใช้นิมิตมหามงคลหลายสิ่งมาประกอบกันเพื่อจัดสร้างพระสมเด็จรุ่นมหาปฐมพุทธพิมพ์หรือที่ท่านเรียกว่าสมเด็จพระอนันต์คุณอดุลย์ศาสดานั่นเอง


    พระสมเด็จรุ่นนี้แต่เดิมนั้นท่านมีดำริจะสร้าง เพราะด้วยพุทธานุภาพของเสด็จพระใหญ่หรือองค์ปฐมนั้น ได้มีโองการลงมา พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จท่านตั้งใจไว้ว่าจะให้เราทำในรูปแบบอกร่องฐานเก้า คล้ายๆพระเกศไชโย เพื่อให้คนได้อาราธนานอกจากจะได้นึกถึงพระพุทธานุภาพของเหล่าพระพุทธเจ้าทั้งหลายซึ่งเปี่ยมด้วยมหากรุณาต่อสรรพชีวิตไม่มีประมาณแล้วยังเป็นอนุสรณ์เตือนใจให้ระลึกถึงคุณมารดาผู้ให้กำเนิดที่เสียสละเลือดในอกให้เราดื่มกินจนพ่ายผอมอีกโสตหนึ่ง ซึ่งพระสมเด็จนี้หาใช่รูปพระสสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันแต่โดยเนื้อแท้นั้นเป็นรูปเคารพของเสด็จท่าน พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งชื่อว่ามหาปฐมพุทธพิมพ์เพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระองค์ท่านด้วยอย่างหนึ่ง

    {" สืบเนื่องจากอดีตกาลนั้น พ่ออาจารย์ท่านเล่าไว้อย่างน่าฟังว่า เมื่อเสด็จพระใหญ่หรือองค์ปฐมนั้น เวลาท่านจะเสด็จไปไหนก็ตาม หรือจะมาโปรดใคร ท่านมักจะเรียกใช้งานสัตว์พาหนะของท่าน ซึ่งสัตว์พาหนะทั้งหลายนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเราเคยเห็นแต่บางอย่างและก็มีอีกหลายอย่างที่เราไม่เห็น ซึ่งสัตว์ต่างๆเหล่านี้ล้วนแต่ไม่มีอยู่ในความคิดหรือจินตนาการมนุษย์ใดๆเลยที่จะนึกถึงได้ ส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ที่เกิดมาอย่างแปลกประหลาด ไม่ก็ฝืนกฏของกรรมอยู่นอกเหนือกฏแห่งวัฏสงสาร เป็นสัตว์เทพที่แม้แต่เทพเจ้าทั้งหลายยังไม่กล้ารับไว้เป็นเจ้านาย

    ทั้งนี้ ในบรรดาสัตว์เทพทั้งหมดที่พ่ออาจารย์ท่านเคยเห็นเสด็จท่านนำมาทรงเป็นพาหนะนั้น ท่านว่าแต่ละตัวก็จะมีกายทิพย์เป็นเทวดา เวลาท่านจะเสด็จไปไหนหรือปรารถนาจะใช้งานก็จะคืนรูปเดิมของตน พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอยู่ตัวหนึ่งซึ่งท่านเห็นว่าผิดแปลกกว่าทุกสิ่ง ด้วยว่ามีหัวขนาดใหญ่พอๆกับลำตัว มีรูปกายคล้ายจรเข้แต่ลำตัวมีเกล็ดเหมือนพญานาค ปากกว้างมากมีลักษณะคล้ายตะขอ เมื่ออ้าปากแล้วท่านว่าเสมือนว่าจะดูดกลืนทุกสิ่งไปได้ทั้งหมด ในปากนั้นมีภาพมายาของจักรวาลและดาราจักรอื่นๆอยู่มาก พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าสัตว์ประหลาดแบบนี้เราไม่เคยเห็นที่ไหน จึงขอความเมตตาจากเสด็จท่านถามถึงสัตว์คู่บุญของพระองค์นี้ ซึ่งท่านก็เมตตาเล่าให้ฟังว่า เขานั้นเกิดขึ้นจากแรงปรารถนาและความกระหาย ความอยาก ของบรรดาสัตว์และสรรพชีวิตน้อยใหญ่ที่สะสมมาแต่ครั้งบรรพกาล สามารถกลืนกินได้ทุกสิ่ง กินเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักอิ่ม พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งชื่อสัตว์ที่มีลักษณะประหลาดนั้น เรียกของท่านแต่ผู้เดียวว่าเจ้าตัวเขมือบ


    เจ้าตัวเขมือบนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นสัตว์มงคลและมีฤทธิ์มากเพราะเป็นพาหนะทรงของสมเด็จท่าน ในภายหลังเมื่อที่จะสร้างพระสมเด็จปฐมพุทธพิมพ์นั้น ท่านจึงได้ขอความเมตตาจากเสด็จพระใหญ่ว่าท่านจะแกะสัตว์พาหนะของพระองค์ฝังลงไปด้วย จะได้เป็นกฤติยาคมแฝดอีกโสตหนึ่ง ซึ่งท่านก็อนุญาติและเมื่อทำเสร็จแล้วในการปลุกเสกรูปนามนั้นท่านยังเมตตาให้ตัวเขมือบของท่านนี้แฝงกายทิพย์ลงไปในรูปเคารพให้อีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละที่สุดของฤทธานุภาพทีเดียว ประเสริฐนัก ด้วยสัตว์เทพมหามงคลนี้เกิดจากแรงปรารถนาและความอยากความกระหายของสรรพชีวิต ท่านว่าเวลาคนใช้อาราธนา ตรงนี้คือความอยาก ความกระหาย ความปรารถนา อันเป็นกิเลสอย่างหนึ่งของสัตว์โลกที่ยังมีอยู่ ตรงนี้จะทำการเชื่อมต่อกันโดยฉับพลัน พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญนักมันสื่อกันทันทีเหมือนสัญชาติญาณเลยทีเดียว นั่นคือพร้อมแล้วที่จะกลืนกินทุกสรรพสิ่ง พร้อมแล้วที่จะเขมือบความปรารถนาให้คนอาราธนาได้มาซึ่งความสุขสมหวัง ไม่ว่าจะความสำเร็จ ทรัพย์สินเงินทอง หน้าที่การงานความเจริญก้าวหน้า ความรักความเสน่หาทุกอย่างไม่ว่าจะรูปจะนามล้วนกลืนกินได้ทั้งสิ้น ท่านว่าหากเรามีความปรารถนามีความอยากความกระหายในสิ่งต่างๆยังไม่สิ้นไปพูดง่ายๆว่าเมื่อใดก็ตามที่ชีวิตยังมีไฟอยู่ ยังทะเยอทะยานอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าเจ้าสิ่งนี้จะไม่มีอานุภาพ จะเสื่อม จะสิ้นฤทธิ์ทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าขนาดจักรวาลหรือซากดาราจักรทั้งหลายยังไม่พอที่จะทำให้เขาอิ่มได้เลย ดังนั้นท่านจึงหวังกฤติยาคมแฝดที่ว่าคนใช้อาราธนาจะได้มีแล้วมีอีก ได้แล้วได้อีก มีกินไม่รู้หมดรู้สิ้นเหมือนสัตว์เทพมงคลที่กินไม่รู้อิ่มฉันใดก็ฉันนั้น ท่านฝังไว้ให้เพื่อที่เวลาอยากจะได้หรือสมหวังกับสิ่งใดจะได้อธิษฐานผ่านตัวเขมือบนี้ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าสำเร็จได้ไวนัก " }

    พระผงสมเด็จอนันต์คุณอดุลย์ศาสดานั้น พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจะสร้างเพื่อให้เป็นที่ระลึกถึงองค์เสด็จพระใหญ่หนึ่ง กับเพื่อระลึกถึงคุณแห่งสมเด็จโตอาจารย์ในโลกทิพย์หนึ่ง ท่านจึงตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ถึงกับมีคำกล่าวที่ว่า " ในการทำผง สร้างพระพิมพ์สมเด็จนั้น ทั้งสามชั้น เจ็ดชั้น เก้าชั้นก็ดี เห็นจะยากและใช้ความเพียรสูงสุดก็เก้าชั้นนี่แหละ เหนือกว่านี้ ยากกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว สมกับเป็นพระสำคัญของฉัน ยิ่งทำพระสมเด็จองค์ปฐมเก้าชั้นด้วยแล้ว อย่าเพิ่งตายเลยถ้ายังไม่ทันใช้อาราธนา "


    สมเด็จเก้าชั้นนั้นสำคัญอย่างไร พ่ออาจารย์ว่ายากขึ้นเป็นเงาตามตัวนั้นแหละไม่ใช่นึกจะสร้างก็สร้างแค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก สุกเอาเผากินนั้นท่านทำไม่ได้ เมื่อจะทำนั้นท่านว่าต้องใช้สิ่งที่มีอานุภาพสูงสุดนั้นคือผงวิเศษทั้งห้าประการนำมาทำด้วยอิทธิวิธี คือการลบถมผงทั้งห้าชนิด ท่านว่าต้องเรียกสูตรลงยันต์ตั้งแต่ยังเป็นมวลสารกว่าจะนำมาปั้นเป็นแท่งชอล์คแล้วก็นำมาลบยันต์ต่างๆจนเป็นผงแล้วก็นำมาปั้นเป็นชอล์คอีก ทำกลับไปกลับมาเช่นนี้ห้าครั้งจนครบห้าประการ ท่านว่าง่ายเสียที่ไหน สมเด็จเก้าชั้นก็ต้องทำเช่นนี้สี่สิบห้ารอบ พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องใช้ความเพียรและสมาธิอย่างยิ่งให้สิ่งใดมารบกวนไม่ได้เลย เช่นนี้ผงที่ได้จึงมีคุณภาพ เหนือกว่าผงวิเศษห้าประการทั้งหลาย มีคุณภาพเหนือกว่าผงที่จะนำมาทำพระทั้งปวง เป็นที่สุดของวิชาลงผงอย่างแท้จริง


    นอกจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังได้นำผงไม้ช่อฟ้าใบระกาเก่าของวัดระฆังสมัยเจ้าพระคุณสมเด็จมาตะไบเป็นผงไว้ด้วย และนอกจากนั้นท่านยังอาศัยความเพียรลบพระยันต์ในสายวิชาของเสด็จพระใหญ่ทั้งหมด ทำผงวิเศษหนุนเสริมลงไป ท่านเรียกว่าผงมหาวิชา ผงนี้คือวิชาทุกประการของเสด็จพระใหญ่ที่ได้สอนและบอกท่านอันเป็นศาสตร์เร้นลับหรือวิชาเฉพาะทางที่มีคุณอนันต์ต่างๆเมื่อนำมาลบถมเป็นผงวิเศษจนทะลุกระดานนั้น เป็นของที่มีอานุภาพมาก เพราะเป็นวิชาของพระพุทธองค์ต้นธาตุต้นธรรมจึงมีศักดิ์สูงและมีคุณเหนือสิ่งอื่นใด ท่านว่าผงนี้ท่านลบถมเก็บไว้เรื่อยมานับเวลายาวนานตกสิบปีได้แค่ครึ่งกระปุกชา ซึ่งปกติท่านจะหวงผงเหล่านี้มาก แต่ในวาระนี้ท่านเห็นว่าเป็นฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี เมื่อที่จะทำรูปของเสด็จพระใหญ่ท่านก็อยากทำให้ดีที่สุดจึงได้นำผงวิเศษมหาวิชานี้มาลงผสม

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระสมเด็จนี้มีขั้นตอนรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย แม้จะนวดผงทำองค์พระ น้ำที่จะใช้ท่านยังใช้น้ำที่ผุดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในเศียรพระพุทธรูป ในรอยพระบาท ในถ้ำในบ่อวิเศษต่างๆมาทำ ท่านว่าก่อนอื่นต้องเอาไม้ขนุนมาตัดและลงยันต์มหาจักรพรรดิและทำการปลุกเสกเสียก่อน จากนั้นจึงนำน้ำบริสุทธิ์เหล่านี้มาแช่ไมhขนุนนั้น ให้ยางไม้ขนุนขับพลังงานผ่านยันต์มหาจักรพรรดิแทรกซึมลงไปในทุกอณูของน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์เสียคราวหนึ่ง ก่อนที่จะนำมาใช้นวดองค์พระได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านถือเป็นเคล็ด คนนำไปอาราธนาจะได้มีกฤติยาคมแฝดยิ่งๆขึ้นไป พระสมเด็จนี้นอกจากจะมีคุณของยันต์จักรพรรดิอยู่ภายในแล้ว ยังหนุนนำชีวิตคนไม่ให้ร่วงตกลงมาด้วย จะตกต่ำยากจนนั้นมิได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าเคล็ดนี้ครูสมเด็จท่านเมตตาบอกให้ทำ ท่านบอกว่ายุคนี้คนได้ยากลำบากกันมากจะทำพระสมเด็จสูตรของท่านก็ให้เพิ่มเติมเคล็ดนี้ลงไปเสียด้วย

    จากนั้นท่านจึงนำผงเกษรว่านและดอกไม้มงคลที่ศิษย์มอบให้มาเป็นผงเกษรดอกไม้ที่ในหลวงในพระบรมโกฏิเคยนำไปถวายหลวงตามหาบัว ท่านเห็นว่าเป็นของมหามงคลจึงนำมาป่นใช้แทนในส่วนของเกษรดอกไม้ร้อยแปด และนำผงว่านยาต่างๆ ผงคตวิเศษร้อยแปดประการตามตำรับหลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว ตลอดจนผงแสงศักดิ์สิทธิ์หลายชนิดซึ่งเป็นของอาถรรพ์โดยธรรมชาติ ท่านนำผงต่างๆเหล่านี้มานวดผสมลงไปด้วย ท่านว่าคตและแสงเหล่านี้มีอานุภาพมากหากไม่มีวิชาจะไปลบไปฝนเอาผงจากเขาบางคนแข้งขาหักพิกลพิการไปเลยก็มีให้เห็นมาแล้ว นอกจากนั้นท่านยังทำตามสูตรของการสร้างพระสมเด็จโบราณที่ครูบาอาจารย์มักทำกันสืบมา ท่านว่าบางที่ก็นำผงไปหมักเยี่ยวชะนีบ้าง บางที่ก็นำผงไปหมักกับว่านดอกทองบ้าง แต่ของท่านนั้นท่านเห็นว่าท่านมีน้ำมันช้างตกมันกับน้ำตาปลาพะยูนที่คนถวายมาให้ท่านเสกทิ้งไว้อยู่ ท่านจึงนำทั้งน้ำมันช้างตกมันและน้ำตาปลาพะยูนมานวดเข้ากับพระสมเด็จรุ่นนี้ ท่านว่านี่แหละเมตตามหาเสน่ห์อย่างเอกทีเดียวทั้งน้ำมันช้างย้อยน้ำตาปลาดุหยงนี้เมื่อได้ลงอาถรรพ์วิชาแล้วโบราณจารย์เชื่อถือสืบกันมาว่ามีคุณแรงยิ่งกว่าน้ำมันผีพรายเสียอีก แถมยังเป็นของอาถรรพ์ไม่มีอุบาทว์และอวมงคลใดติดมาเช่นน้ำมันพรายด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านพูดมากไม่ได้เอาว่าพระของท่านใช้ได้ทุกด้าน อย่านำไปขูดผงให้ผู้หญิงกินก็แล้วกันมันจะบาป

    พระสมเด็จนี้พ่ออาจารย์ท่านเมตตาฝังของมงคลต่างๆลงไปนอกจากตัวหม่ำด้านหลังซึ่งเป็นสัตว์กายสิทธิ์มีฤทธิ์วิเศษแล้วก็ยังมีสิ่งต่างๆ ดังนี้
    - ตะกรุดสามกษัตริย์ที่พ่ออาจารย์ท่านฝังเอาไว้ด้านหน้า ท่านว่าลงอักขระวิเศษด้วยนะไว้สามตัว
    ดอกแรกท่านลงนะจักรพรรดิ ท่านว่านะตัวนี้มีคุณถ้วนทุกประการหากชักเป็น มีอานุภาพไม่ต่างกับยันต์มหาจักรพรรดิเลย ท่านว่าสุดแล้วแต่จะอธิษฐานใช้เอาเถิดฝอยท่วมหลังช้างดุจแก้วสารพัดนึกเมื่อลงแล้วก็ต้องนำมาอธิษฐานจิตด้วยบทคาถารัตนมาลา ท่านว่าดอกนี้ขอให้นึกถึงพระรัตนตรัยให้มั่นเถิดเพียงเท่านี้ก็ก็ใช้ได้ทุกทางแล้ว
    ดอกที่สองท่านลงด้วยนะเข้าหา ท่านว่าตะกรุดนะเข้าหาของท่านนั้นท่านตั้งใจจะลงประสิทธิไว้ในพระสมเด็จนี้ เพราะสมัยนี้คนเราต้องเจอต้องมีปฏิสัมพันธกับสังคมแวดล้อมและสรรพชีวิตต่างๆอยู่ตลอดเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าเราตั้งใจอยากให้ชีวิตเขาทำสิ่งใดก็สะดวกราบรื่น เข้าหาใครก็ได้ความรักความเมตตา ผู้ใหญ่ก็เอ็นดู ผู้น้อยก็เคารพเชื่อฟัง แม้จะใช้ทางกลเสน่ห์ท่านว่ามีอานุภาพมากถึงขนาดแตะมือเขาไม่ร้องเลย ท่านว่าสุดแล้วแต่จะใช้เถิดจะใช้ทางทำมาหากินก็ดีหรือจะใช้เพื่อปฏิสัมพันธ์ในแวดวงสังคมก็ดี หรือจะใช้ทางหาคู่ครองก็ดี ทุกอย่างอยู่ที่ใจตน วิชาเหล่านี้ก็เหมือนอาวุธ ยิ่งใช้ยิ่งลับมันก็ยิ่งคม มีวันไหนบ้างที่เราไม่ต้องเจอหน้าคนอื่นหรือพูดคุยกับคนอื่น ท่านว่าไม่มีหรอกต่อให้ไปอยู่ในถ้ำก็ยังมีคนตามไปหาไปคุยเลย ดังนั้นแล้วตะกรุดนะเข้าหานี้ท่านจึงว่าสำคัญนัก มันทำให้ชีวิตของเธอง่ายขึ้น อะไรๆก็เป็นไปได้โดยสะดวก
    ดอกที่สามท่านลงด้วยนะกันศัตรู ท่านว่าแก้ทางกันไว้เพราะไม่มีหรอกที่ชีวิตใครจะอยู่มาได้โดยไม่มีศัตรูเลย ท่านว่าไม่ต้องเอาอย่างเราๆนะ ไปดูพระพุทธองค์สิ ศัตรูคนมุ่งร้ายท่านก็ยังมีนับประสาอะไรกับมนุษย์เดินดินทั่วไป พ่ออาจารย์ท่านว่าดอกนี้ให้คุณหนักมาก ใครคิดร้ายเรานี้ไปไม่รอดเลยเค้าแพ้ภัยตัวเองทั้งสิ้น ศัตรูปองร้ายทำอันตรายไม่ได้ด้วยเรามีพระพุทธานุภาพเป็นเกราะคุ้มกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าสามอย่างตะกรุดสามกษัตริย์ทั้งสามชนิดนี้ ถือได้ว่าครอบคลุมทุกสิ่งแล้ว
    - บุษราคัมของหลวงปู่ดู่ บุษราคัมที่ฝังชุดนี้เป็นของสำคัญมากเพราะท่านเคยนำไปให้หลวงปู่ดู่แห่งวัดสะแกอธิษฐานจิตให้ถึงไตรมาส และองค์หลวงปู่ดู่นี้ยังกล่าวถึงอานุภาพของบุษราคัมชุดนี้ว่า ทำให้ดีแล้ว เป็นสมบัติจักรพรรดิทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เปรียบกับดวงแก้วจักรพรรดิ์เป็นเครื่องมงคลสุดที่จะอธิษฐานตามความปรารถนาสารพัดนึกของผู้บูชา ซ้ำบุษราคุมยังเป็นตัวแทนของความรักความร่ำรวยอีกด้วย เหมือนเสด็จพระใหญ่ท่านต้องการจะสื่อว่าองค์พระนี้เป็นตัวแทนของความรักความห่วงใยดุจเดียวกันจึงได้เจาะจงให้ใช้บุษราคัมหลวงปู่ดู่ในกาลนี้ ซ้ำหลวงปู่ดู่เองก็เคยพูดไว้ว่าบุษราคัมชุดนี้มีอานุภาพเช่นสมบัติจักรพรรดิ์ พ่ออาจารย์ว่าก็ถือว่าฝังเอาเคล็ดไว้ต่อไปจะได้ชื่อว่ามีสมบัติจักรพรรดิติดตัวกัน ดึงดูดลาภสักการะบริวารน้อยใหญ่เข้ามาสู่ตนโดยง่าย ซ้ำอานุภาพของบุษราคัมที่หลวงปู่ดู่เสกนั้นย่อมมีมากกว่าบุษราคัมธรรมดาอย่างแท้จริง มีความเชื่อว่าบุษราคัมนั้นช่วยทางด้านกำลังใจและการตัดสินใจและช่วยให้มองโลกในแง่ดี เป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์ ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ ช่วยในเรื่อง การไหลเวียนของโลหิตบรรเทาอาการอักเสบของโรคทางเดินปัสสาวะ ปอด หวัด ช่วยเสริมพลังความคิดสร้างสรรค์
    - เหล็กไหลแก้วสารพัดนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าอันเหล็กไหลนี้เป็นแหล่งพลังงานที่มีบารมีเทพพรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษา ท่านได้นำมาฝังไว้กลางหน้าอกองค์พระทุกองค์ ดุจว่าเป็นการบรรจุหัวใจขององค์พรให้มีแหล่งพลังงานสำคัญแผ่กระจายออกมา ท่านว่าเวลานำไปอาราธนาให้สังเกตุดูเถิด อานุภาพขององค์พระนั้นจะเปล่งออกมาตลอดแม้ยามเธอหลับหรือตื่นไม่มีวันเหือดแห้งทีเดียวโดยอาศัยเหล็กไหลแก้วสารพัดนึกนี้เป็นจุดศูนย์กลางในการรวมพลังงาน ซ้ำเหล็กไหลแก้วสารพัดนึกนี้ยังมีอานุภาพทางเมตตาอย่างดีเลิศ และเป็นสื่อชักนำลาภสักการะและเงินทองมาสู่ผู้บูชาอีกด้วย
    - ทองคำเปลวลงยันต์หากินคล่องมีลาภสืบเนื่องตำหรับเจ้าขรัวแสง พ่ออาจารย์ท่านว่านี่สำคัญนักอักขระชุดนี้สืบมาแต่เจ้าขรัวแสงองค์อาจารย์ของครูสมเด็จท่านทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าตำราให้ลงไว้ในแผ่นทองคำบริสุทธิ์ม้วนเป็นตะกรุดบูชาจะมีอานุภาพมากทำมาหากินหยิบอะไรเป็นเงินเป็นทองทั้งสิ้น เรียกว่าคนโชคดี วันนี้โชคดี พรุ่งนี้โชคเข้าข้าง ต่อไปก็สวรรค์เมตตา เป็นเช่นนี้ไม่รู้จบ มีลาภผลสืบเนื่องเป็นทอดๆไม่ห่างหายจากลาภสักการะใดๆ แต่ทว่ายุคนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทองคำนั้นแพงเหลือเกิน จะให้ทำตะกรุดทองคำท่านก็เกรงว่าคนจะไม่ได้ใช้กันเพราะราคาทองที่สูงเป็นเท่าตัว ดังนั้นท่านจึงนำแผ่นทองคำเปลวแท้ร้อยเปอร์เซ็น ท่านว่าเอามาใช้แทนกันได้ไม่ขัดคำครูเพราะนี่ก็ทองแท้เหมือนกัน ท่านนำมาไหว้ครูขออานุภาพเจ้าขรัวแสงและสมเด็จโตให้เสกแผ่นทองนี้เสียวาระหนึ่งก่อน ก่อนที่จะนำมลงอักขระตามเวทย์วิชาปลุกเสกอีกคราหนึ่ง จากนั้นจึงนำมาปิดเวลากดพิมพ์องค์พระ ท่านว่าเท่านี้ก็ใช้ได้แล้ว อาราธนาองค์พระเหมือนพกตะกรุดทองคำตำรับเจ้าขรัวแสงทีเดียว
    - ตะกรุดคู่พลังดูด วิชาดูดเวทย์หรือดูดพลังนี้พ่ออาจารย์ท่านเคยพูดถึงบ้างเป็นครั้งคราว ดังนั้นในวาระนี้ท่านจึงลงตะกรุดคู่ฝังเอาไว้ ท่านว่าจะได้ดึงดูดสิ่งดีๆเข้าหาตัว มีอานุภาพในการดูดมหาศาล ซ้ำท่านยังแซวว่าตะกรุดนี้อยู่กับตัวเขมือบยิ่งกว่าเสือติดปีกอีกนะ ด้านหนึ่งก็ดูดเข้ามาด้านหนึ่งก็อ้าปากรอรับ จะไม่สำเร็จได้อย่างไรทำงานสอดผสานกันถึงเพียงนี้ ท่านว่าตั้งจิตอธิษฐานให้ดีเถิดดูดกลืนได้ทุกสิ่ง นี่จะให้ดูอะไรก็ได้ ท่านว่าพูดมากไม่ดีแต่ท่านทำให้เต็มสูตรแล้ว ตะกรุดนี้อย่าเอาไปใช้ในทางที่ผิดมิควรมิชอบก็แล้วกัน ให้คิดแต่สิ่งดีๆ มีความปรารถนาที่ดีจะได้ดูดแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตของเรา

    คาถาบูชา
    ชินะปัญชะระปะริตัง มังรักขันตุสัพพะทา โอมมะศรี มะศรี พรหมรังสี นามะเตโช มหาสมโณ มหาปัญโญ มหาลาโภ มหายะโส สัพพะโสตถี ภะวันตุเม

    พ่ออาจารย์ท่านเมตตาสร้างพระสมเด็จชุดสำคัญนี้ไว้ได้ทั้งหมดเก้าองค์เท่านั้น ท่านว่าพระทุกองค์เลือกเจ้าของ และองค์พระนั้นก็มีเจ้าของกำหนดมาแต่เบื้องบนอยู่แล้ว ท่านว่าใครได้ก็ถือว่าเป็นบุญของเค้า เพราะพระแบบนี้สมัยนี้จะหาคนเสกคนสร้างนั้นแทบไม่มี พระสมเด็จของท่านนั้นท่านว่ามีคุณทุกด้านดังต่อไปนี้ เก้าชั้น - เมตตาใหญ่ , พลิกดวง , หลีกเร้นกรรม , จำเริญยศ , หมดโรคเวร , เคลื่อนทรัพย์ , ขานรับโชค , ยกฐานะ , เปลี่ยนฐานชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าพิจารณาเอาเถิดว่าใครขาดเรื่องใด อยากจะอาราธนาองค์พระก็ตั้งจิตอธิษฐานเอาใช้ได้ทุกประการ ทุกสิ่งเป็นไปโดยพุทธานุภาพของสมเด็จองค์ปฐมเป็นที่สุด

    * พระสมเด็จนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้เก้าองค์จะเปิดให้บูชาทาง PM เท่านั้น สำหรับท่านที่จะจองบูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลเอาไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมประสิทธิ์ให้ต่อไปอีกคำรบหนึ่ง รายได้จากการบูชาท่านจะนำไปซื้อข้าวสารอาหารแห้งถวายวัดในถิ่นทุรกันดารและสามจังหวัดภาคใต้ที่ยากแก่การบิณฑบาตรต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลแทนครูมหาปฐมพุทธพิมพ์(สมเด็จพระอนันต์คุณอดุลย์ศาสดา) บูชา 3,000 บาท

    20080823_172359.jpg 968875_418384591607799_1190815453_n.jpg S_8151141.jpg 1377605394-4-o.jpg SAM_5346.jpg SAM_5345.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874

แชร์หน้านี้

Loading...