ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหาธาตุนาคเกี้ยวโลกันต์(ท้าวมหากาลนาคราชมัญเชริกภาวัน)

    พ่ออาจารย์ท่านได้ทำตะกรุดชั้นสูงตามตำราพิชัยสงครามขึ้นด้วยยันต์พระยากาลนาคราชโดยเฉพาะ แต่ท่านว่าการจะสำเร็จตะกรุดนี้ ไม่ใช่แต่เพียงอานุภาพของมหายันต์และอักขระวิธีเท่านั้น แต่ยังจำเป็นต้องเชิญญาณและบารมีของท้าวมหากาลนาคราชมาสถิตย์ในตะกรุดสำคัญด้วย

    พ่ออาจารย์พลท่านสื่อญาณบารมีของท้าวมหากาลนาคราช เทพเจ้าฝ่ายนาคาองค์เดียวกับที่สามารถต่อต้านอำนาจแห่งพระโสนุตระเถระผู้อรหันต์ได้

    ท่านได้พูดถึงความพิเศษเกินกว่ามวลเหล่าพญานาคราชทั้งปวงของท้าวมหากาลนาคราชว่า แท้จริงแล้วท้าวมหากาลนาคราชนั้นเป็นเทพแห่งจาตุมหาราชิกาภาคตะวันตกในฝ่ายนาคา ซึ่งภาคตะวันตกแห่งจาตุมหาราชิกาสวรรค์นั้นได้ซ้อนทับเข้ากับชมพูทวีปของเราซึ่งเป็นทวีปมนุษย์ภาคตะวันตกของจักรวาลเช่นกันจึงแน่นอนว่าท้าวมหากาลนาคราชนั้นท่านมีอำนาจเพียงพอที่จะลิขิตหรือเปลี่ยนแปลงชะตามนุษย์ที่พึ่งบารมีท่านได้

    ความสัมพันธ์ในลักษณะภพซ้อนภพ และภูมิซ้อนภูมินี้ทำให้เหล่าพญานาคมีบทบาทมากกับมนุษย์ แต่นั่นก็ยังไม่รวมไปถึงพญานาคผู้มีฐานะพิเศษซึ่งอยู่นอกเหนือและโดดเด่น เกินกว่าอายุขัยเชื้อสายวงศ์นาคราชทั้งหมดเช่นท้าวมหากาลนาคราช

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าท้าวมหากาลนั้นท่านเป็นพญานาคประเภทชลชะมีพระราชวังอาศัยอยู่ในเมืองบาดาล ซึ่งอาณาเขตของพระองค์นั้นจะเรียกว่ามัญเชริกภาวัน ด้วยว่ามีอายุขัยเกินกว่าเหล่าพญานาคและเทพเจ้าในจาตุมหาราชิกาทั้งมวล จึงมีอำนาจ ฤทธิ์ และบารมียิ่งใหญ่เป็นเงาตามตัวไปด้วย ท่านบอกว่าท้าวมหากาลนั้นมีอายุเท่ากับจักรวาลทั้งแสนโกฏิ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่ามีฤทธานุภาพตลอดจนอายุไม่ด้อยกว่ามหาพรหมองค์ใดเลยทีเดียว

    ซึ่งปกตินั้นท้าวมหากาลนาคราชจะตื่นขึ้นมาเป็นสักขีพยานเมื่อเกิดการลอยถาดทองของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในภัทรกัปป์ โดยจะเอ่ยสุนทรคาถาร้อยบทเพื่อบูชาคุณแห่งความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนใครทั้งหมด และเมื่อแต่ละพระองค์ทรงตรัสรู้แล้วท่านก็จะนำเหล่าพญานาคตลอดจนนางฟ้าและนางอัปสรสวรคค์ในปกครองของท่าน มาเข้าเฝ้าเฉลิมฉลองแก่พระพุทธองค์ ด้วยว่าการเกิดพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ท่านรู้ก่อนใครทั้งหมด ด้วยความเมตตาของเหล่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งภัทรกัปป์อันล่วงมาสี่พระองค์แล้ว จึงได้เทศนาโปรดท้าวมหากาลนาคราช ถึงแม้จะมีชาติกำเนิดที่เป็นเดรัจฉานไม่อาจบรรลุธรรมเป็นพระอริยะบุคคลในชาตินี้ได้ แต่ด้วยอำนาจการสงเคราะห์ของพระพุทธองค์แลพระสัจธรรมที่โปรดเทศนาก็ทำให้ท้าวมหากาลมีฤทธิ์และอิสระเพิ่มขึ้นเกินกว่าสัญชาติญาณของพญานาคทั้งหลายด้วยกันหลายเท่าจนไม่อาจประมาณการณ์ได้

    โดยปกตินั้นท้าวมหากาลจะสถิตย์อยู่ในพิภพบาดาลบริเวณมัญเชริกภาวัน เนื่องจากเป็นผู้รู้ราตรีนาน มีอายุขัยเท่ากับจักรวาลแสนโกฏิดุจท้าวมหาพรหมจึงมีนามปรากฏว่ามหากาล(กาลเวลา) ท่านจะเสวยสิริสมบัติดุจเทพสวรรค์อยู่ในพิภพนั้นด้วยว่าอยู่นอกเงื่อนไขแห่งกฏเกณฑ์ธรรมชาติจึงไม่มีใครกล้าล่วงเกินหรือรบกวนท่าน แม้แต่เทพยดาผู้มเหศักดิ์หรือผู้บรรลุคุณธรรมตลอดจนพระอรหันต์ก็ตาม

    ในครั้งหนึ่งนั้นเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ได้มีการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งพระบรมธาตุส่วนหนึ่งนั้นได้ตกไปอยู่กับกษัตริย์แห่งราชวงศ์โกลิยะเมืองรามคาม ซึ่งก็ได้สร้างสถูปเพื่อบรรจุไว้สักการะบูชา จะด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบที่พระบรมสารีริกธาตุจะได้เสด็จไปเป็นสิ่งมงคลสักการะมิ่งขวัญในแดนบาดาล มหาสถูปซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมืองรามคามนั้นได้ถูกน้ำเซาะพังทลาย พระบรมสาริริกธาตุก็เลื่อนไหลหายไปกับกระแสน้ำ เหตุการณ์นี้ทำให้ท้าวมหากาลนาคราชไม่อาจบรรทมอยู่ในมัญเชริกภาวันได้ พระองค์จึงได้เสด็จและใช้ฤทธานุภาพรวบรวมพระบรมสารีริกธาตุทั้งหมดที่เลื่อนไหลไปในกระแสน้ำนั้นไปเก็บไว้ยังมัญเชริกภาวันในวิมานซึ่งพระองค์ประทับอยู่ แม้กาลต่อมาพระโสนุตระเถระจะทราบความเป็นมาและสาเหตุแห่งการสูญหายของพระบรมสารีริกธาตุและใช้อำนาจฤทธิ์แห่งความเป็นอรหันต์ติดตามไปขอคืน ท้าวมหากาลก็หาได้ยินยอมอนุญาติไม่

    พ่ออาจารย์บอกว่ามติครูบาอาจารย์แต่โบราณนั้น เชื่อว่าท้าวมหากาลนาคราชนั้นท่านมีทรัพย์สินเท่าจักรวาลแสนโกฏิตามอายุขัยของท่าน เสวยสุขไม่มีความทุกข์หรือเหตุการณ์ใดมารบกวน เรียกว่าอยู่แบบสบายๆไม่นอนก็ตื่นมากิน ดูระบำรำฟ้อนของเหล่าอัปสรสวรรค์ ถูกบำรุงปรนเปรอด้วยเบญจกามคุณอย่างถึงที่สุด เรียกว่ามีความสุขอันประณีตเสียยิ่งกว่าเทพเจ้าในฉกามาพจรสวรรค์ใดๆเสียอีกไม่รู้จักทุกข์ร้อนกับผู้ใดเลย ชีวิตติดอยู่ในบรมสุข ดังนั้นผู้ที่มีบารมีท้าวมหากาลนาคราชให้ความคุ้มครองช่วยเหลือดูแล ท่านบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก เอาแค่ว่าสบาย นั่งกินนอนกิน เป็นเจ้าคนนายคน มีแต่เจริญขึ้นด้วยลาภสักการะ ไม่รู้จักความทุกข์ยากลำบากใดๆเลย นี่เป็นคุณสมบัติพิเศษของท้าวมหากาลนาคราชท่านโดยเฉพาะ

    ท่านว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ที่พิเศษยิ่งกว่านั้นด้วยการลงพระยันต์กาลนาคราชตำรับพิชัยสงคราม ตามกลบทค่ายกลซึ่งถือว่าเป็นยันต์ใหญ่และยันต์พิเศษอันจะใช้เป็นอาถรรพ์ฝังบ้านเมือง ท่านว่าถ้าไม่สำคัญไม่ดีจริง เพียงแค่ยันต์เดียวคงไม่ถึงกับทำอาถรรพ์ฝังบ้านเมืองได้ แม้อัญเชิญมาลงเป็นตะกรุดก็จะต้องเปลี่ยนชีวิตผู้บูชาได้เช่นกัน ท่านว่าอย่าว่าแต่ชีวิตคนเลย แม้บ้านเมืองก็ยังเปลี่ยนมาแล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านจึงอาศัยฤกษ์ยามอันเป็นมงคลบูชาครูอัญเชิญท้าวมหากาลนาคราชแห่งมัญเชริกภาวันขึ้นมาเพื่อประกอบพิธีลงอาถรรพ์กาลนาคนอนกิน ซึ่งท่านประกอบพิธีจารลงอาถรรพ์ไว้ได้ทั้งสิ้นเพียง 6 ดอกเท่านั้น

    ท่านว่ามหาตะกรุดนี้ท่านเรียกว่านาคเกี้ยวโลกันต์ มีคุณวิเศษยิ่งนัก สุดแต่จะอธิษฐานใช้ได้ถ้วนทุกประการ เมื่อท่านสร้างเสร็จแล้วด้วยความเมตตาของท้าวมหากาลนาคราชได้แนะนำให้ท่านใช้คาถาของเมืองบาดาลที่ต้องขับเคลื่อนธาตุน้ำทำผงวิเศษบรรจุไปด้วย ซึ่งคาถาเฉพาะนี้พ่ออาจารย์ท่านก็ได้ลบถมตามอักขระวิธีเพื่อบรรจุ มีอิทธิคุณทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตา มหาละลวยอย่างเอกอุ ซ้ำยังเป็นแคล้วคลาดจากอันตรายภัยพิบัติทั้งปวงอีกด้วย ก่อนจะกำกับด้วยผงมหาธาตุแก้วมณีโชติซึ่งผู้ลบนั้นจะต้องสำเร็จกสิณเป็นฐานจึงจะทำได้ ท่านว่าผงนี้สำคัญนักแม้ใครได้ถือไว้ปรารถนาสิ่งใด จะทำการใดเพียงแค่นึกเอาทุกอย่างจะเป็นไปได้ดังใจปรารถนา ท่านว่าทำวิชาเหล่านี้ผูกไว้ให้สมกับเป็นตะกรุดในสายบารมีของท้าวมหากาลนาคราช ซึ่งจะเน้นไปที่ชีวิตความเป็นอยู่แบบง่ายๆแต่สะดวกสบายไร้อุปสรรค ปราศจากความทุกข์ใดๆ อยากได้อะไรก็มีทุกอย่างเสมอใจเช่นนั้น

    เมื่อท่านได้ทำการม้วนและผนึกผงวิเศษล้วนๆไม่เจือปนสิ่งใดลงในตะกรุดสำคัญทั้งหกดอกแล้ว ท่านจึงนำมาม้วนเข้าด้วยด้ายขาวสาวพรหมจารีย์ ก่อนที่จะนำตะกรุดนั้นไปแช่น้ำทิพย์เมืองบาดาลซึ่งท่านเก็บรักษาไว้ ซึ่งกรรมวิธีนี้ท่านว่าเป็นการชุบและปลุกตะกรุดอีกวาระหนึ่งให้มีอำนาจเข้าขั้นกายสิทธิ์อย่างแท้จริง แล้วจึงนำมาตากแดดในราชาฤกษ์ตอนเที่ยงวันในเวลาที่พระอาทิตย์อยู่จุดสูงสุดเพื่อให้ชีวิตคนใช้ได้ขึ้นสูงอย่างถึงที่สุดด้วย จากนั้นท่านก็เพียรทำการปลุกเสกเชิญครู เชิญบารมีท้าวมหากาลนาคราชบรรจุและเสกตะกรุดสำคัญนี้เรื่อยมา

    ตะกรุดสำคัญนี้ท่านว่ามีคุณานุภาพครบถ้วนทุกประการ ท่านว่าอยากได้ด้านไหน ในนี้มีหมด เป็นมหายันต์ใหญ่ที่ใช้ฝังอาถรรพ์บ้านเมือง ซึ่งนานๆครั้งท่านจะมีเมตตาจัดสร้างของสำคัญประเภทนี้ขึ้นเนื่องจากสร้างยากเดินอักขระแยบคายตามวิธีบังคับ ท่านว่าเพื่อให้เป็นอาถรรพ์แก่ชะตาชีวิตของตนเอง ของใครของมัน คนเราถ้าไม่มีอาถรร์ตรงนี้เสริมก็เหมือนคนธรรมดาที่อยู่ในกฏของกรรม ซึ่งอาถรรพ์นี้จะอยู่กับตัว ติดตัวเราไปจนตาย เป็นอาถรรพ์ที่จะหนุนชีวิตเราให้เจริญ ให้มั่งมีด้วยลาภสักการะตลอดจนความสุขความสบายทั้งปวงเสมอด้วยท้าวมหากาลนาคราชผู้เสวยทิพย์สมบัติไม่เป็นสองรองใครในเรื่องความสุขสบายเช่นนั้น ท่านว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับกรรมท่านพูดมากไม่ได้ ถ้าใครที่กรรมบังตายังไม่ถึงวาระหรือไม่มีบุญสัมพันธ์กับท้าวมหากาลนาคราชเขาก็จะมองข้ามไป

    คาถาบูชา(อธิษฐานนำตะกรุดเจิมกลางหน้าผากนึกถึงท้าวหมากาลนาคราชเป็นที่สุด)
    โอมนะโมสิทธิชัยยะ วะวิ วะวิ ชัยยะยันติ สิทธิกัมมัง สิทธิกิจจัง สิทธิโธทาระมุมาติ ตากัวสะภาคา คุรุนำหา โยธานิระสีราคะตัง โยวาทีโน สะเนหิตานะภาระ


    * สำหรับผู้ประสงค์จะบูชานั้นให้ตติดต่อเฉพาะทาง PM เนื่องจากมีผู้บูชาไปแล้วบางส่วนทำให้ของมีน้อยจริงๆ โดยเมื่อ PM นั้นให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย ท่านจะได้บอกกล่าวเปิดญาณเชื่อมต่อกับบารมีท้าวมหากาลนาคราชให้เป้นรายบุคคลไป รายได้ทั้งหมดจะนำไปสมทบทุนสร้างทางขึ้นบันไดพระบรมธาตุต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหาธาตุนาคเกี้ยวโลกันต์(ท้าวมหากาลนาคราชมัญเชริกภาวัน) บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 5Lord-Buddha.jpg
      5Lord-Buddha.jpg
      ขนาดไฟล์:
      310.8 KB
      เปิดดู:
      109
    • SAM_5130.JPG
      SAM_5130.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      112
    • SAM_5131.JPG
      SAM_5131.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      127
    • SAM_5126.JPG
      SAM_5126.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      108
    • 026.jpg
      026.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116.4 KB
      เปิดดู:
      81
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระธรรมะบดีมหาพุทธพิมพ์(ผงพระเจ้าแปดหมื่นสี่พัน)

    ในเวลาที่ผ่านมานั้น พ่ออาจารย์ท่านได้แกะบล๊อกแม่พิมพ์พระสมเด็จขึ้นมาพิมพ์หนึ่งตามพิมพ์มาตรฐานนิยมแต่ใส่เอกลักษณ์ของท่านไปไม่ให้ทับรอยครูบาอาจารย์ แล้วท่านได้นำบล๊อกแม่พิมพ์นั้นมาอธิษฐานถวายสมเด็จโตและทำการเสกบล๊อกอยู่ถึง 7 ปีด้วยกัน

    จวบจนเวลาที่จะได้สร้างพระมหาพุทธพิมพ์ก็มาถึง ด้วยว่าเจ้าพระคุณสมเด็จนั้นได้เมตตาทำให้เกิดนิมิตรขึ้น พร้อมทั้งบอกว่า ในกาลเบื้องหน้านั้น คลื่นลมเปลี่ยนแปลง ชีวิตคนยากจะคาดเดา เธอช่วยทำพระให้ฉันหน่อย เป็นพระที่จะใช้บรรจุธรรมวิเศษต่างจากพระทั้งปวง เมื่อได้รับคำเจ้าพระคุณนั้น พ่ออาจารย์ก็มาพิจารณาถึงเหตุการณ์ว่า เป็นเรื่องแน่นอนตรงตามคำทำนายและนิมิตรต่างๆของท่าน ซึ่งต่อไปนั้นกฏแห่งกรรมจะทำงานกันอย่างเข้มข้นนัก เรื่องของกรรมบาปธรรมทั้งหลายจะส่งผลให้โลกเปลี่ยนแปลง คุณธรรมความตระหนักถึงผิดชอบชั่วดีจะเสื่อมลง ตรงตามที่เจ้าพระคุณบอกว่าชีวิตคนนั้นยากจะคาดเดา จึงมีดำริว่าท่านจะให้สร้างพระเพื่อบรรจุธรรม เช่นนั้นแล้วเครื่องมงคลนี้จะต้องเป็นของสำคัญและมีศักดิ์สูงมาก ท่านจึงเตรียมลบถมผงวิเศษต่างๆรอเพื่อจะสร้างพระมหาพุทธพิมพ์โดยเฉพาะ

    โดยท่านได้รวบรวมมวลสารต่างๆจำนวนมาก ซึ่งเน้นหนักไปที่ผงพุทธคุณและผงพระเกจิยุคเก่าที่ท่านเคยรวบรวมไว้ ท่านว่าทำหนนี้ด้วยคำสั่งครูบาอาจารย์ ดังนั้นต้องทำให้ได้เสมอท่าน ท่านได้นำผงวิเศษทั้ง 5 ประการ ที่ท่านลบถมซ้ำไปมาถึง 9 รอบ อันประกอบไปด้วย ผงปถมัง ซึ่งมีอานุภาพหลายด้าน แต่หนักไปทางคงกระพันชาตรีมหาอุดแคล้วคลาด กำบังล่องหนและป้องกันภูตผีปีศาจและคุณไสย ผงอิทธิเจ มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอย่างสูงรวมถึงรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ผงมหาราช มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอย่าสูงป้องกันถอดถอนคุณไสยและแคล้วคลาด ผงพุทธคุณ มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอย่างสูง กำบัง สะเดาะ และล่องหน ผงตรีนิสิงเห มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมป้องกันถอนคุณไสยและภูตผี ป้องกันสัตว์เขี้ยวเล็บงา รักษาโรค อุบัติภัยอันตรายทั้งปวง ท่านได้นำผงวิเศษเหล่านี้มาผสมเข้ากับผง 12 นักษัตร ซึ่งมีวิธีทำที่วิจิตรพิศดารยิ่งแม้ได้สร้างพระเครื่องจากผงวิเศษเหล่านี้ย่อมมีคุณอนันต์

    หลังจากนั้นท่านจึงลงยันต์สำคัญต่างตามตำรับพิชัยสงครามลบถมผงวิเศษออกมา ทั้งยันต์มหาจักรพรรดิ์ มหาปราบ มหาระงับใหญ่ พุทธนิมิตร์ พระเจ้าปราบมาร พระเจ้าห้ามอาวุธ ยันต์นิโรธ พระเจ้าเข้านิโรธ ดั้นพงจักรวาฬ ปฐมอักขระ ยอดอักขระ นะธาตุ มงกุฎพระเจ้า มงกุฎแก้ว ยอดพระมหามงกุฎ กำบังนิทรา สกลชมภูธิบดี ปราบไตรจักร พระเจ้า 28 พระองค์ เทพชุมนุม เทพนิมิตร เทวาประสิทธิ พระแผลง พระวิปัสสิ พระเจ้าเสี่ยงบารมี พระยาราชสีห์ ตราพระราชสีห์ ตราราชสีห์โผน ตรามหาสีหนาท ตรามหาอำนาจ จักรแก้ว ยันต์จักรนารายณ์น้อยใหญ่ รัตน์ไตรจักร นารายณ์ถอดรูป แก้วบรมจักรพรรดิ์ แก้วมณีโชติ แก้วสารพัดนึก ไตรลักษณ์ สุกิตติมา โสฬสมงคล พระนวหรคุณ นวหรคุณ ไตรสรณคม พระไตรปิฎก มหาละลวย มหาวิเศษ ครอบจักรวาฬ มงคลจักรวาฬ 8 ทิศ พระสุริยาทรงกลด ยอดพระอรหาธิคุณ ท้าวมหาพรหม มหาพรหมส่องโลก มหาจักรอนันตคุณ มหาชัยมงคล บารมี 30 ทัศ บารมีทศชาติ จักรวาฬครอบ ยันต์พิไชยสงคราม นเรศวรปราบหงสา พระพุทธเจ้าห้ามญาติ พระเจ้าห้ามทุกข์ จตุพุทธา พระเจ้านอโม นกคุ้มผู้เมีย พระยากา เกราะเพชรพระพุทธเจ้า เกราะเพชร ตาข่ายเพชร กรงทอง กรงทองทรงเครื่อง กันโรคระบาท อนันตนาคราช มหาประสระ เทพรำลึก กันกระทำ แสนสากเหล็ก

    ซึ่งแต่ละพระยันต์หรือแต่ละวิชานั้นล้วนมีคุณเอนกอนันต์ต่างกันเรียกได้ว่ามีค่าควรเมืองทั้งนั้น พ่ออาจารย์ท่านใช้เวลาหลายปีเพียรลบถมผงวิเศษเพื่อสร้างพระมหาพุทธพิมพ์นี้ให้ได้ชื่อว่าประณีตที่สุดและดีที่สุดนั่นเอง ซึ่งทุกพระยันต์ล้วนมีฤกษ์ยามบังคับและใช้ความอุตสาหะอย่างยิ่ง เมื่อท่านได้รวบรวมผงวิเศษทั้งหมดแล้วท่านก็นำมาสวดเชิญครูอาจารย์เจ้าของพระยันต์และเทพเทวดาทำการประสิทธิ์ต่อไป

    สำหรับเหตุแห่งการจะได้มาซึ่งพระธรรมะบดีมหาพุทธพิมพ์(ผงพระเจ้าแปดหมื่นสี่พันนั้น) ด้วยว่าเมื่อท่านเสกผงทั้งหลายต่างๆเหล่านี้ ท่านใช้จิตตามดูเวลาเชิญครูบาอาจารย์มาเสกผงเสมอ ด้วยท่านคิดว่าทำถึงเพียงนี้กว่าจะได้ก็กินเวลาหลายปี คงจะพอแล้ว เหลือกินเหลือใช้แล้ว ท่านว่าคิดเพียงท่านคิดเท่านี้แหละได้เรื่องเสด็จพระใหญ่ท่านบอกว่ายังไม่ครบ ให้ท่านนำผงที่ลบได้จากความเพียรทั้งหมดมาผสมกันแล้วจึงกล่าวชุมนุมพุทธกายทั้งปวง ลบยันต์พระเจ้าแปดหมื่นสี่พันต่อไป ซึ่งวิชานี้มีคุณมากเป็นยอดแห่งวิชาด้วยบารมีแห่งพระสัมมาสัมโพธิญาณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกองค์อันได้เคยอุบัติทั่วทั้งหมื่นโลกธาตุในแสนโกฏิจักรวาล บารมีนี้เป็นของเฉพาะพระสัพพัญญูที่มีในพระพุทธเจ้าเท่านั้น เมื่อจะทำของดีที่สุดก็ควรทำให้ครบบรรจุพระบารมีให้เต็มกำลังพุทธภูมิ พ่ออาจารย์ท่านจึงทำตามคำสั่งนั้น

    เมื่อได้ผงวิเศษแล้วท่านจึงได้นำมานวดเข้ากับน้ำมันว่าน 108 ตามตำรากบิลว่านที่ท่านปลูกและพลีเด็ดตลอดจนนำมาผสมทำน้ำมันเอง พ่ออาจารย์บอกว่านี่เป็นสิ่งที่คนไม่ค่อยจะรู้กัน ถ้าจะทำพระสมเด็จให้เป็นพระสำเร็จเช่นที่เจ้าพระคุณทำนั้นจะต้องใช้น้ำมันว่านทั้ง 108 ชนิดนี้นำมานวดผสมลงไปด้วย เจ้าพระคุณสมเด็จนั้นท่านเชี่ยวชาญเรื่องว่าน 108 มาก ชนิดไหนมีคุณอย่างไรท่านรู้หมด ท่านเชี่ยวชาญถึงกับเขียนตำราเรื่องว่านยาเลยทีเดียว จากนั้นท่านจึงได้ผสมด้วยเกสรดอกไม้มงคล ตลอดจนสีผึ้งของครูบาอาจารย์และผงวิเศษผงทำพระของครูบาอาจารย์ยุคโบราณที่สืบมาถึงท่านทั้งหมด ที่สำคัญท่านว่าจะลืมไม่ได้เลย ก็คือพระสกุลกำแพงเพชร พ่ออาจารย์ท่านได้แสวงหาพระสกุลกำแพงเพชรทั้งหมดที่แตกหัก ที่คนไม่อยากจะห้อยคอด้วยคิดว่าไม่มีมงคลแล้ว พระหักแล้ว ท่านดำเนินรอยตามบูรพาจารย์คือเจ้าพระคุณท่านที่จะนำเศษพระกำแพงเพชรที่แตกหักป่นผสมลงไปด้วยเสมอท่านว่าห้อยองค์นี้ก็ไม่ต่างจากห้อยกำแพงซุ้มกอที่มีพุทธคุณเชื่อขนมกินได้ว่ามีกูแล้วไม่จน ท่านได้ผสมมวลสารทั้งหมดก่อนจะนำมานวดด้วยน้ำผุดจากเศียรพระพุทธรูปโบราณและน้ำผุดตามบ่อตามถ้ำ ซึ่งท่านว่าสิ่งนี้มีข้อจำกัดน้ำที่ไหนบ่อไหนเมื่อเอามานวดทำระจะขลังจะวิเศษ น้ำบ่อไหนใช้ได้ น้ำบ่อไหนใช้ไม่ได้ห้ามใช้ เอามาใช้แล้วทำพระจะไม่ขลัง ท่านว่านี่เป็นความรู้ที่หลวงพ่อฤาษีเคยบอกท่าน ต่อให้ใครถามอยย่างไรเราก็บอกต่อไม่ได้ท่านได้แสวงหามาเพื่อผสมสร้างพระมหาพุทธพิมพ์ทั้งหมด โดยเน้นใช้เฉพาะผงมวลสารวิเศษล้วนๆไม่ให้มีปูนหรือสิ่งใดที่ไม่มีอิทธิคุณแฝดมาเจือปน

    หากจะกล่าวถึงพระธรรมะบดีมหาพุทธพิมพ์แล้ว ก็อดที่จะกล่าวถึงของวิเศษซึ่งฝังอยู่ไม่ได้เลยทีเดียว อย่างที่กล่าวไว้แต่แรกว่าพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจทำให้ดีที่สุด เมื่อจะหาของมาฝังก็ย่อมจะเป็นยอดวิชาที่มีความพิเศษจริงๆเท่านั้น ซึ่งท่านได้ฝังตราพระธรรมจักรที่ท่านหล่อหลอมขึ้นมาจากธาตุกายสิทธิ์ล้วนๆลงไป

    ตราธรรมจักรนี้มีความสำคัญอย่างไร พ่ออาจารย์ว่า ทีแรกนั้นท่านว่าก็ไม่รู้จะฝังอะไร แต่เพราะคิดว่าเกินพอแล้ว แค่ผงวิเศษเหล่านี้ที่ต้องค่อยๆทำลบตามฤกษ์ยามบังคับก็พลิกชะตาผู้คนได้ยิ่งกว่าคำว่าเกินความจำเป็น ด้วยคิดว่าพระแบบนี้เขาไม่ได้สร้างให้คนธรรมดาใช้กัน เค้าทำให้เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินใช้ แล้วใครจะกล้าใช้ของสูงขนาดนี้ ท่านว่าคืนนั้นมีนิมิตเลยเหล่ามหาโพธิสัตว์พุทธภูมิทั้งหลายมีท้าวนาถเทวราช(พระศรีอาริย์)ท่านว่ายังไม่พอ ให้ท่านทำธรรมจักรฝังลงไปด้วย เมื่อท่านพิจารณานิมิตแล้ว ท่านก็รู้สึกเฉยๆไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม แต่ทางท้าวนาถเทวราชเองก็ยังไม่ย่อท้อโดยได้แสดงนิมิตนี้ให้ปรากฏแก่ท่านถึงสามวัน ท่านจึงถามว่าพระองค์จะให้ทำเช่นนี้ทำไม เพียงเท่านี้ก็เกินความจำเป็นอยู่แล้ว ซึ่งท้าวนาถเทวราชก็ได้ให้เหตุผลกับพ่ออาจารย์ว่า ตราธรรมจักรนั้นคือตัวแทนของพระอนุตรธรรม เป็นสัญลักษณ์ของการประกาศพระศาสนา สัญลักษณ์ของแสงสว่างความเจริญรุ่งเรืองที่จะไม่มีวันตกต่ำลงได้อีก แม้ในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์อันได้เคยอุบัติมาแล้ว หลังจากตรัสรู้ ทุกพระองค์ก็พิจารณาถึงสิ่งที่พระองค์ท่านจะใช้ยึดเกาะเคารพบูชาเป็นสรณะเช่นกัน จริงแท้ที่สุดว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์เลือกที่จะเคารพพระสัทธรรมอันได้ตรัสรู้นั้นเป็นสรณะ ดังนั้นตราธรรมจักรนี้จึงเป็นสัญลักษณ์สูงสุดของสภาวะธรรมอันสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ได้เข้าถึงและให้ความเคารพอย่างที่สุด ที่เราให้ท่านทำขึ้นเพื่อจะได้ขอให้เหล่าเสด็จพระใหญ่และมวลหมู่นิกรพระชินสีห์เจ้าทุกพระองค์ใช้บรรจุวิชาธรรมทั้งหลายหมุนวงล้อธรรมต่อไป และพระมหาพุทธพิมพ์นั้นก็จะขอถวายพระนามไว้ว่าพระธรรมะบดี

    เมื่อได้รับทราบเหตุผลที่จะมีเพียงเหล่าพระสัมมาสัมพุทธเเจ้าและมหาโพธิสัตว์เพียงพระองค์เดียวเช่นท้าวนาถเทวราชจะทำความเข้าใจได้แล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงยินดีนักได้นำธาตุกายสิทธิ์ต่างๆมาหล่อตราพระธรรมจักรขึ้น แล้วก็ทำการปลุกเสกเรื่อยมา โดยเชิญองค์พระแสนโกฏิซึ่งมีเสด็จพระใหญ่เป็นประธานให้ช่วยกันอาราธนาธรรมบรรจุธรรม และท่านได้อาราธนาวิชาธรรมอันเป็นวิชาเฉพาะของสายบารมีอธิษฐานจิตเชิญท้าวนาถเทวราชบรรจุธาตุธรรมเข้าไป ท่านว่าตราธรรมจักรนี้มีคุณวิเศษนัก เกินกว่าคุณแห่งวิปัสนาญาณอันสำเร็จด้วยเถรานุภาพทั้งหลาย เพราะสถิตย์อยู่ที่ใด ตกอยู่กับผู้ใดแม้มีไว้ในครอบครองแม้ว่าบาปธรรมทั้งหลายอันให้โทษใหญ่หลวงจะไม่ปรากฎแก่ชีวิตผู้นั้นเลย เป็นแสงสว่างที่ใช้ล้างขับไล่อกุศลกรรมอวิชชาและความมืดทั้งปวง เมื่อได้บูชานั้นธาตุธรรมเหล่านี้จะช่วยประคองจิตและประคองชีวิตให้เจริญรุ่งเรื่องยิ่งๆขึ้นไป ที่ท่านว่าเป็นของสูงอย่างไม่เคยปรากฏมีนั้น เพราะธาตุธรรมเหล่านี้มีเพียงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและผู้ดำเนินอยู่บนหนทางแห่งนิพพานเท่านั้นที่จะนำมาใช้ได้ ถ้าไม่ได้ความเมตตาของท้าวนาถเทวราชและเสด็จพระใหญ่ ท่านว่าคงจะไม่มีใครได้ใช้วิชาธรรมเช่นนี้แน่นอน

    สำหรับพระธรรมะบดีมหาพุทธพิมพ์นั้น นอกจากพ่ออาจารย์ท่านจะฝังตราพระธรรมจักรแล้ว ท่านยังนำตะกรุดอันสำเร็จด้วยยอดวิชาถึงสี่ชนิดฝังลงไปด้วย อันประกอบด้วย
    - ตะกรุดเงิน ท่านลงด้วยวิชาพยนต์พรหมนิมิต เป็นตะกรุดสำคัญที่ท่านใช้ฝังด้านหน้าองค์พระ ท่านว่าคำว่าพรหมนิมิตนั้นหมายถึงปรารถนาสิ่งใดให้ตั้งจิตอธิษฐานให้ดี ทุกสิ่งย่อมสำเร็จด้วยพรหมานุภาพนั่นคือท้าวมหาพรหมย่อมเมตตานิมิตให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วองค์พระทุกองค์นั้นจะมีเทพยดาเข้ารักษาเสมอ แต่ท่านว่าต่อให้เทพยดาเป็นร้อยก็หามีอานุภาพเสมอด้วยมหาพรหมไม่ ที่ท่านผูกตะกรุดพยนต์พรหมนิมิตขึ้นนั้นเพราะตอนเสกท่านตั้งใจจะเชิญมหาพรหมแห่งปัญจสุทธาวาสอันมีบารมีธรรมระดับพระอนาคามีให้ลงมาสถิตย์รักษาองค์พระธรรมะบดีนั้น
    - ตะกรุดตะกั่วลงถม ซึ่งท่านได้ใช้วิชาโบราณของเจ้าพระคุณสมเด็จลงตะกรุดนี้ กล่าวคือท่านได้นำแผ่นตะกั่วมาลงยันต์พุทธคุณ 7 ดวง โดยทำการลงทีละดวงแล้วก็ลบถมจนครบเจ็ดครั้ง ก่อนที่จะลงด้วยอักขระวิเศษที่เป็นอักขระแทนพระสัทธรรมทั้งมวล ท่านว่ามีคุณเป็นเอนกประการตามแต่จะอธิษฐาน ไม่มีสิ่งใดในหมื่นจักรวาลนี้จะมีอานุภาพมากไปกว่ากำลังแห่งพระสัทธรรมอีกแล้ว
    - ตะกรุดทองแดง ลงด้วยมหากันพระเจ้า 16 พระองค์ ซึ่งท่านว่าวิชามหากันภาคนี้ดีกว่ามหาสะท้อนหรืออะไรมากนัก เป็นวิชามหากันที่สำเร็จด้วยพุทธบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง 16 พระองค์ ท่านว่าสารพัดกันได้ทุกประการ ชีวิตคนเรานั้นขอเป็นว่าอย่าเจอเรื่องเลวร้าย อย่าเจอมรสุมคลื่นลมที่จะทำให้ตนนั้นตกต่ำเท่านั้น ชีวิตมันก็จะเดินหน้าต่อไปได้
    - ตะกรุดทองเหลือง ท่านลงด้วยจตุโรบังเกิดทรัพย์ ท่านว่าทุกอย่างในโลก เอาว่ามีทรัพย์ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ อยากได้อะไรก็ได้ ถ้าคนไม่มีทรัพย์ก็เสียเวลาพูดกัน ท่านจึงทำวิชายันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์ ให้เกิดโชคลาภดึงงดูดวาสนาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตเรื่อยๆ ที่ไม่มีก็ให้เกิดและจะต้องเกิด สอดคล้องกับอานุภาพและพระยันต์อื่นๆทั้งหมด

    พ่ออาจารย์ท่านได้กดพิมพ์พระธรรมะบดีนี้ไว้ได้ 9 องค์ ที่พระอุระขององค์พระทุกองค์นั้น ท่านจะฝังหินทรายเสกไว้ ซึ่งเป็นหินสำคัญที่สืบทอดมาในตระกูลเจ้าสัวโบราณตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีคนมีชื่อนำมามอบให้ท่านไว้ เมื่อจะทำพระเครื่องอันอยู่ในสายบารมีของเจ้าพระคุณสมเด็จก็ให้ท่านนำไปร่วมสร้างด้วย โดยหินทรายนี้บรรพบุรุษเขานั้นได้ขอทรายเสกนี้จากเจ้าพระคุณสมเด็จโตเมื่อได้มาเค้าก็นำมาใส่พานไว้บูชากิจการก็เจริญรุ่งเรื่องสืบมาจนเป็นเจ้าสัวมีเงินนับพันล้าน ซึ่งทรายเสกนี้สำเร็จด้วยจิตตานุภาพแห่งเจ้าพระคุณท่านมีค่ามากประเมินมิได้เลย เมื่อท่านจะทำพระไว้เป็นสื่อกับเจ้าพระคุณเป็นอนุสรณ์ถึงเจ้าพระคุณท่าน ท่านจึงได้นำในส่วนของหินทรายซึ่งผู้ถวายบอกว่ามีเพียงเล็กน้อยเพราะส่วนใหญ่จะเป็นทรายละเอียดเท่านั้นมาฝังไว้ที่พระอุระ ท่านว่าแบ่งกันไปใช้จะได้เจริญรุ่งเรืองชั่วลูกสืบหลานเสมอกัน และยังเป็นสื่อให้ผู้บูชาได้อธิษฐานจิตถึงเจ้าพระคุณสมเด็จได้โดยตรงและสำเร็จไวขึ้น

    คาถาบูชา
    - อัญเชิญพระธรรมธาตุแลพระคาถา นมัสการองค์พระว่า เอหิ นะโมพุทธานุภาเวนะ เอหิ นะโมธัมมานุภาเวนะ เอหินะโมสังฆานุภาเวนะ มาเรโสสะ พุทธังสะเรมิ ธัมมังสะเรมิ สังฆังสะเรมิ คาถังอาคัจเฉยยะ อาคัจเชหิเม
    - ปรารถนาสิ่งใดให้ตั้งจิตขอพรเจ้าพระคุณสมเด็จโต อิเมสัง มหาเถรานุภาเวนะ พรหมมะรังสีนามะเต พุทธา ธัมมา สังฆา อานุภาเวนะ เชยยะมังคะลัง อิเมเสถะ สวาหะ


    * พระธรรมะบดีมหาพุทธพิมพ์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพระสำคัญมีเจ้าของแล้วทุกองค์ ท่านสร้างไว้ทั้งหมดเพียง 9 องค์ ที่ผ่านมา มีลูกหลานในตระกูลเศรษฐีเมื่อรู้ข่าวว่าพ่ออาจารย์ได้นำหินทรายมงคลนั้นมาสร้างพระแล้วได้บอกต่อกันและมาขอบูชาไปจำนวนหนึ่งซึ่งท่านก็ให้บูชาไปเพียง 4 องค์เท่านั้น โดยบอกว่าไหนๆก็ทำขึ้นมาแล้ว เหลือไว้ให้คนอื่นเขาใช้ด้วย เอาเอาไปทั้งหมดเลยมันจะเสียเจตนาฟ้าเจตนาครูบาอาจารย์ ซึ่งสำหรับพระธรรมะบดีมหาพุทธพิมพ์นี้ก็เหลือให้จองทั้งหมด 5 องค์ สำหรับท่านที่มีความประสงค์จะบูชา ก็สั่งจองกันเข้ามาเฉพาะทาง PM เท่านั้น ปัจจัยท่านจะนำไปมอบถวายเป็นค่าน้ำค่าไฟให้กับวัดในชนบทต่อไป ท่านว่าทำบุญกับสิ่งเหล่านี้ชีวิตคนนำไปบูชาจะได้สะดวกสบาย ชีวิตราบรื่นหมดทุกข์หมดโศก เจอแต่โชคดี

    ร่วมทำบุญบูชา พระธรรมะบดีมหาพุทธพิมพ์(ผงพระเจ้าแปดหมื่นสี่พัน) บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อพระเจ้าผจญมาร(สร้างบารมีเปิดดวงปัดเคราะห์ล้างกรรม)

    เหรียญหล่อพระเจ้าผจญมารนี้ ดั่งที่เคยกล่าวไปท่านเรียกว่าเหรียญสำคัญ เพราะจะให้บูชาแก่ผู้ที่ตกอยู่ในเหตุการณ์วิกฤติ เจอภัยคุกคามหรือมีปัญหารุมเร้า ชีวิตหาทางออกไม่ได้ ต้องการแก้หรือหลุดพ้นจากเคราะห์กรรมหนักๆตามวาระ

    ซึ่งเหรียญพระเจ้าผจญมารนี้ที่ว่าเป็นของสำคัญเพราะพ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดสำคัญฝังไว้ด้านหลัง เป็นตะกรุดที่ไม่มีผู้ใดจะทำกันเพราะเป็นวิชาตำราหลวงอันส่งผลมากซึ่งแน่นอนว่าย่อมลงได้ยากและมีขั้นตอนยุ่งยากกว่า เป็นวิชาที่สืบสายมาแต่เจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก ซึ่งวิชานี้เป็นตำรับหลวงท่านเรียกตะกรุดนี้ว่าตะกรุดหนุนบารมีหลวง ซึ่งการสร้างนั้นท่านจะลงแผ่นอักขระประกอบด้วยสองส่วนคือ
    - แผ่นตะกั่ว ในส่วนของวิชาหนุนบารมี ท่านว่าวิชานี้สำคัญนักเพราะว่ามีคุณดีครอบคลุมด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ จะทำการค้าหรือเจรจาใดก็ใช้ได้ทั้งสิ้น แต่ที่เหนือกว่านั้นคือใช้หนุนดวงชะตาได้ แม้พกไว้กับตัว ที่ว่าจะดวงตกหรือดวงแตกนั้นท่านว่าไม่มี ไม่ต้องกลัวดวงดาวจะเคลื่อน ลัคนาจะย้าย ราศีใดจะเปลี่ยน ท่านว่าสบายใจทำมาหากินประกอบอาชีพกันไปอย่างปรกติสุขได้เลยไม่ต้องเก็บมาเป็นกังวล สำหรับวิชานี้เป็นวิชาสำคัญนอกจากจะมีพุทธคุณดังที่กล่าวมาแล้ว ท่านว่าสำคัญกว่านั้นก็คือหนุนบารมี เพราะบารมีเป็นของเฉพาะตัวเป็นส่วนของกุศลกรรมที่ตนเองเคยสร้างไว้แต่อดีตชาติ ไม่มีบารมีย่อมเกิดเป็นมนุษย์ไม่ได้ท่านว่าตรงนี้เกิดมาเป็นคนมีบุญเก่ากันทุกคน วิชานี้จะเรียกว่าหนุนกุศลกรรม หนุนบารมีเก่าขึ้นมาให้ส่งผลเกื้อกูลเพื่อประโยชน์ในการสร้างบารมีต่อไปก็ได้ เมื่อบารมีตรงนี้เปิดเคราะห์กรรมใดๆก็จะชะลอไว้ทำอันตรายหรือให้ผลเราไม่ได้ จุดนี้คือเวลาสำคัญที่เราจะได้สร้างบารมีต่อไป
    - แผ่นทองเหลือง ท่านลงด้วยยันต์สำคัญแต่โบราณที่เรียกว่าขุมทรัพย์พระเจ้า อาศัยเหตุที่เมื่อพระมหาโพธิสัตว์ได้บำเพ็ญบารมีครบสี่อสงไขยกำไรแสนมหากัปแล้ว พอได้ถือประสูติกาลนั้นก็ได้มีการเกิดขึ้นพร้อมกันของสิ่งที่เรียกว่าสหชาติทั้งเจ็ด หนึ่งในนั้นคือขุมสมบัติ ขุมทรัพย์หรือขุมทองทั้งสี่ก็เรียก ขุมทรัพย์สี่แห่งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับพระมหาโพธิสัตว์ด้วย โดยสมบัติเหล่านี้มีมากมายไม่มีประมาณ ตักไม่หมดใช้ไม่พร่องมีทรัพย์สมบัติมาก ด้วยเหตุที่มีขุมทรัพย์ทั้งสี่อันเกิดด้วยบารมีของพระมหาโพธิสัตว์นั้น ทำให้พระองค์มีพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์มากถึงขั้นที่ว่าหากแม้นไม่ออกบวชและตรัสรู้แล้วก็จะได้ถึงที่พระบรมจักรพรรดิมีพระราชทรัพย์มหาศาล พ่ออาจารย์ท่านรู้วิชาขุมทรัพย์พระเจ้าอันเป็นวิชาหลวงที่จะช่วยให้ผู้บูชาเจริญรุ่งเรืองได้ ท่านว่าวิชานี้แต่เดิมเค้าใช้ตอนสร้างบ้านสร้างเมืองเพื่อให้เจริญงอกงามสืบลูกสืบหลาน เอาว่าแม้ที่รกร้างยังกลายเป็นมหานครได้จะเอาอะไรแค่กับชีวิตคน
    เมื่อท่านลงตะกรุดทั้งสองแล้วท่านต้องนำมาผนึกประกอบกัน โดยให้ดอกที่เป็นตะกั่วนั้นแทงทะลุยอดขึ้นมา เป็นปริศนาธรรมที่จะทะลุยอด เวลาเสกท่านว่าต้องทำให้เขาทะลุทะลวงทุกอย่าง ชีวิตไม่มีอุปสรรคความขัดข้อง ปรารถนาอะไรอธิษฐานกับองค์พระท่านว่าผ่านไปได้ง่ายดายเหลือประมาณทีเดียวเหมือนสมเด็จพระโพธิญาณท่านตรัสรู้แล้ว ท่านพ้นแล้วนั่นเอง


    แต่เดิมนั้นท่านได้รับเทพนิมิตจากองค์ท้าวสหัมบดีครูบรมพรหมของท่าน ให้สร้างวัตถุธาตุพิเศษอันจะมีอิทธิคุณแฝดช่วยให้สัตว์ทั้งหลายคลายทุกข์ แม้ทุกข์ในวาระหรือเคราะห์กรรมหนักที่กรรมวิบากส่งผลก็ดีหรือจะทุกข์ภายในทุกข์ภายนอกก็ดี เมื่อท่านได้รับคำแนะนำแล้ว ท่านจึงสร้างเหรียญหล่อพระเจ้าผจญมารขึ้นด้วยตั้งใจจะทำให้เป็นพระพิเศษเอาไว้ให้เฉพาะคนที่ชีวตเค้าทุกข์ยากเดือดร้อนบูชา

    โดยท่านทำให้เป็นเอกลักษณ์ของท่านเองนั่นคือเหรียญหล่อรูปใบโพธิ์ท่านว่าเหมือนเหรียญพ่อ เหรียญพระพุทธชินสีห์ของโบราณ ใบโพธิ์เป็นสื่อของสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ให้ความหมายว่าหลุดแล้วพ้นแล้วคนที่เค้ามีทุกข์ใดๆก็ดีจะได้หยุดและพ้นเสียตรงนั้น ท่านทำเป็นรูปสมเด็จพระมหาโพธิสัตว์ทรงประทับนั่งเปล่งรัศมีอยู่บนโพธิบัลลังค์ทรงพระดัชนีชี้ไปที่พื้นพระธรณี ซึ่งมีนางวสุนธรา(ธรณี)บีบมวยผมรองอยู่ด้านหลังรัตนบัลลังค์

    เหรียญพระเจ้าผจญมารนี้ท่านว่าครูกำหนดให้ทำรูปท้าวมาลัยโดยเฉพาะ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งท่านก็ได้เล่าความไว้พอให้เข้าใจกันว่า

    อันสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ได้มีชัยชนะเหนือพญามาราธิราช ท่านว่าในตอนนั้น เมื่อพระองค์ได้ตั้งสัตยาธิษฐานแล้วก็ได้บังเกิดซึ่งรัตบัลลังค์ขึ้นมา หมู่เทพเทวดาท้าวมหาพรหม พระอินทร์ เทพทั้งหมื่นโลกธาตุได้มาชุมนุมพร้อมเพรียงกัน เพราะเขายินดีนักที่สมเด็จพระมหาโพธิสัตว์ถึงวาระที่จะได้ตรัสรู้พระสัพพัญญุตญาณแล้ว
    ในวาระนั้นพญามารผู้เป็นเจ้าแห่งปรนิมมิตวสวัตตีสวรรค์ เมื่อได้ยินเสียงเทวดาท้าวมหาพรหมทั้งหลายสาธุการกระทำสักการะพระมหาโพธิสัตว์ ก็ให้คิดขึ้นมาว่าหากพระองค์ไม่ทำลายการปฏิบัติภาวนาของพระมหาโพธิสัตว์ในครั้งนี้ เจ้าชายก็จะหลุดพ้นไปจากบ่วงอำนาจแห่งตนได้บรรลุเป็นพระสัพพัญญูอย่างแน่นอน ทีนี้พออำนาจตนไม่อาจฉุดรั้งไว้ได้ก็เกรงว่าจะเสียหน้ากลัวความอัปยศอดสู กลัวคนอื่นจะดูถูกท่านว่าอานุภาพแห่งมารอันเลิศล้ำไม่สามารถเหนี่ยวรั้งเจ้าชายไว้ได้เรียกว่าหลงผิดไปชั่วขณะ
    เมื่อพญามารคิดเช่นนี้จึงได้ใช้เทวานุภาพแห่งตน นิรมิตรร่างกายตนเองให้น่าเกลียดน่ากลัวเป็นพญามารมีแขนขวาแขนซ้ายข้างละพันทรงศาสตราวุธร้ายแรงครบทุกมือ ทรงช้างคิรีเมขพร้อมด้วยไพร่พลเสนามารที่เนรมิตรตัวเองให้น่าเกลียดน่ากลัวยิ่งกว่ายกพหลพลโยธาทั้งหลายลงมาเพื่อทำลายการภาวนาครั้งนี้ หวังให้พระมหาโพธิสัตว์ทรงสะดุ้งหวาดกลัวแล้วก็ลุกหนีออกไปจากรัตนบัลลังค์อันเกิดด้วยพระบารมีนั้น
    แต่กาลกลับกัน เมื่อกองทัพพญามาราธิราชได้ปรากฏขึ้นนั้น พ่ออาจารย์ท่านหยอกว่าพระมหาโพธิสัตว์ท่านยังประทับนิ่งอยู่ แต่ที่กลัวภาพนิรมิตรของพญามารกลับเป็นเทพเทวดาทั้งหลายทั้งพระอินทร์พระพรหมจนไปถึงท้าวมหาพรหมทุกพระองค์ที่มาเฝ้าต่างหนีตายกันอลหม่านไปหลบดูเหตุการณ์อยู่ที่กำแพงเขาจักรวาล เรียกว่าน่ากลัวถึงปานนั้นล่วงอานุภาพของเทพยดาแล้วท้าวมหาพรหมทั้งหลายก็เขากลัวจนสติหลุดละทิ้งพระมหาโพธิสัตว์ถึงปานนั้น ทิ้งให้พระมหาโพธิสัตว์รับศึกพญามาราธิราชแต่ผู้เดียว
    ท่านว่าตอนนั้นเป็นไงรู้มั๊ย ก็อีตาเสนามารทั้งหลายนั่นแหละยังไม่ทันรบเลย พอเผชิญหน้าเข้ากับพระมหาโพธิสัตว์แค่นั้นก็เกิดอาการไหวหวั่นสั่นกลัวทำอะไรกันไม่ถูก พญามารท่านเห็นลูกน้องตัวเองแล้วโกรธจัดเลย โกรธขึ้นไปมากกว่าเดิมอีกเพราะยังไม่ทันรบก็เกรงบารมีพระมหาโพธิสัตว์แล้ว ตอนนั้นท่านตวาดออกไปให้กองทัพมารเข้าจู่โจมพร้อมกับบอกมารเสนาว่าจะกลัวอะไร นี่เป็นเพียงแค่มนุษย์ชั้นต่ำต้อยไม่สามารถล่วงเทวานุภาพแห่งตนไปได้ก็เท่านั้น
    ฝ่ายพระโพธิสัตว์เมื่อท่านเห็นมารยกมาก็หาได้หวั่นไหวใดๆ ได้แต่เหลียวมองไปที่ทวยเทพทั้งหลายเรียกว่าหายกันไปไกลไม่เห็นฝุ่นแล้วเพราะกลัวอำนาจพญามาร เมื่อเทวดาไม่ช่วย พระองค์จึงนึกถึงบารมีทั้งสามสิบทัศน์อันที่ได้เคยบำเพ็ญมาเป็นเอนกอนันต์ชาติทั้งทานศีลต่างๆเลยไปถึงปรมัตถบารมีทั้งหลายเป็นอาวุธยุทธการต้านศึกครานี้
    ฝ่ายพญามารเห็นพระโพธิสัตว์นั่งเฉยก็ยิ่งโกรธขึ้นไปอีก ก็ดูสิเนรมิตร่างกายจนน่าเกลียดน่ากลัวยกกันมาเป็นกองทัพขนาดนี้ขนาดเทพเทวาท้าวมหาพรหมยังขวัญหายใจสั่นหนีตายกันวุ่นไป แล้วกับพระโพธิสัตว์ทำไมถึงไม่กลัว ไม่ลุกออกไปจากรัตนบัลลังค์ตรงนี้(ใจท่านอยากให้พระองค์หนีออกไปเหมือนเทวดาเหล่านั้น) ทีนี้พอท่านไม่หนีก็เป็นเรื่องพญามารโกรธมากร้องสั่งเสนามารโจมตีทันทีมีอาวุธอะไรงัดมาใช้กันหมดทั้งบันดาลให้ห่าฝนตกลงมาก็แล้ว ถ่านเพลิงตกลงมาก็แล้ว เปลวไฟตกลงมาก็แล้ว น้ำร้อนตกลงมาก็แล้ว ก้อนศิลาตกลงมาก็แล้ว อาวุธต่างๆพุ่งใส่ก็แล้ว แต่พอทุกสิ่งเหล่านี้เข้ามาใกล้พระวรกายท่าน กลับกลายเป็นดอกไม้บูชาท่านไปเสียอย่างงั้น เรียกว่าสร้างอะไรขึ้นมาก็แพ้บารมีท่านหมด
    เมือเอาชนะด้วยฤทธิ์ไม่ได้ทีนี้พญามารก็ใช้สมอง เพราะเห็นท่านนั่งอยู่คนเดียวส่วนตัวเองนั้นมากับหมู่เสนาโยธามากมาย ก็เลยกล่าวไปว่านี่รู้มั๊ย รัตนบัลลังค์ที่พระองค์นั่งอยู่นี่แหละเป็นรัตนบัลลังค์ที่เกิดขึ้นมาด้วยอำนาจบารมีของเรานะ โดยอ้างหมู่มารทั้งหลายเป็นพยาน ฝ่ายเสนาโยธาทั้งหลายพอเจ้านายพูดเช่นนั้นก็ยกกันสุดๆว่าจริงแท้แน่นอนรัตนบัลลังค์นี้เกิดขึ้นเพราะบารมีนายของตนมีเหตุผลสุดๆ พอพญามารอ้างเช่นนั้นท่านก็กล่าวขึ้นบ้างว่ารัตนบัลลังค์ที่นั่งอยู่นี้เกิดขึ้นด้วยผลบารมีของพระองค์เองที่ได้บำเพ็ญมา
    เมื่อพระมหาโพธิสัตว์ตอบโต้เช่นนั้น เขาเห็นว่าท่านนั่งอยู่คนเดียวตอนนี้พญามารก็หัวหมอแล้ว จึงถามว่าก็ตัวมีพยานมากมายส่วนท่านนั้นล่ะมีพยานมั๊ย ใครจะมาเป็นพยานให้ ได้ยินมารมามุขนี้ท่านจึงชี้พระหัตถ์ลงไปว่าพื้นแผ่นดินทั้งหมดนี้คือพยานของเราพร้อมทั้งเอ่ยพระวาจาเรียกหาวสุนธราหรือนางพระธรณีทันที พอแม่ธรณีได้ยินเสียงมหาสัตว์ทรงเรียกตนนั้นก็ผุดมาเฝ้าทันทีเช่นกันท่านรู้เหตุการณ์ทุกอย่าง ท่านจึงประกาศเป็นพยานว่าพระองค์ทรงเพียรสั่งสมบารมีอย่างยิ่งใหญ่ถึงสี่อสงไขยกำไรแสนมหากัปตั้งแต่อดีตชาตินั้น พระองค์ได้สร้างบารมีสั่งสมกุศลไว้มากล้นพ้นอนันต์ ไม่ต้องเอาอะไรมากเอาเพียงน้ำทักษิโณทกที่ตกลงมาสู่เกศาหม่อมชั้นเพียงสิ่งนั้นก็เป็นพยานได้อย่างดีแล้ว พูดเสร็จพระนางก็บีบน้ำออกจากมวยผมทันที ไม่ต้องกล่าวต่อไปเพราะการกระทำของพระแม่ธรณีนั้นได้ทำให้เกิดวารีลั่นยิ่งกว่าน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพญามารเสนามารทันที ตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่แล้วเหมือนกันเพราะเสนามารทั้งหลายต่างก็เผ่นหนีคลื่นอุทกวารีนั้น ฝ่ายพญามารเองก็ละทิ้งอาวุธทั้งหมดยกมือเนรมิตรทั้งสองพันขึ้นวันทาเหนือเกล้า เมื่อทวยเทพและท้าวมหาพรหมทั้งหลายเห็นเช่นนั้นว่าพระโพธิสัตว์ซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดาสามารถเอาชนะพญามาราธิราชผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์วิเศษได้ก็ดีพระทัยกันถ้วนหน้าแซ่ซ้องสาธุการกลับมาสโมสรกันเช่นเดิม

    อาศัยชัยชนะในคราวนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เพราะชัยครั้งนี้นี่แหละที่ประเสริฐสูงสุดทำให้มนุษย์เป็นพระสัพพัญญูได้ ท่านจึงทำเหรียญพระเจ้าผจญมารไว้โดยเชิญพุทธบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายเชิญธาตุธรรมทั้งหลายมาสถิตย์ ทั้งยังเปิกเนตรให้พระแม่ธรณีพร้อมกับท้าวมาลัยและอาฬาวกยักษ์ในเหรียญเชิญแรงครูทั้งหลายช่วยกันทำอย่างเต็มที่ ท่านว่ายากนะกว่าจะทำได้เพราะลงกันมาเต็มองค์เต็มพระบารมีทั้งนั้น เหรียญนี้ใครใช้จะเร็วเพราะนอกจากได้บารมีพระนางธรณีแล้วยังได้บารมีของท้าวมาลัยและปู่อาฬาวกยักษ์คอยช่วยเหลือ ท่านว่าพูดสั้นๆเท่านี้ให้เค้ารู้เอง เอาว่าเหรียญสำคัญเช่นนี้เราเคยทำที่ไหน ที่ทำเพราะข้างบนเค้าสั่ง เพราะถึงวาระเดี๋ยวก็จะรู้จะเห็นเองของใครก็ของคนนั้น เหรียญแบบนี้เป็นของวิเศษเพราะผลแห่งบารมีอันสะสมมาเกิดแล้ว ท่านว่าเราพูดได้แค่นี้

    ที่เชิญปู่อาฬาวกยักษ์ไว้อีกด้านหนึ่งนั้นท่านว่าเพราะท่านเป็นเจ้าของทุสาวุธและศึกที่ท่านรบกับพระพุทธเจ้านั้นก็วิจิตรพิศดารเรียกว่ามีอานุภาพมากกว่าพญามารมากมาย เพราะพญามารนั้นเพียงตั้งใจจะไล่ให้ลุกออกจากรัตนบัลลังค์ แต่อาฬาวกยักษ์นั้นหมายจะพิฆาตให้ดับสูญกันเลยทีเดียว ภายหลังพระพุทธองค์ทรงปราบพยศอาฬาวกยักษ์แล้วก็ทรงโปรดให้บรรลุธรรมขั้นโสดาทำให้มีฤทธิ์และอิสรภาพมากขึ้นเป็นเงาตามตัวเสมอด้วยพระอินทร์ผู้โสดาบันเช่นนั้น หลังจากนั้นอาฬาวกยักษ์ก็ปรารถนาจะออกไปตามช่วยเหลือมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยากและนับถือพระรัตนตรัยแน่วแน่

    ท่านว่าไหนๆก็ทำของช่วยคนแล้วจึงเชิญปู่อาฬาวกยักษ์มาด้วยเลย ท่านว่าเหรียญนี้แรงมากสำเร็จด้วยบารมีครูบาอาจารย์อันเป็นกายสิทธิ์ทั้งนั้น พ่ออาจารย์ท่านเทด้วยเนื้อธาตุกายสิทธิ์ที่ก่อนจะเทเป็นเหรียญนั้นท่านต้องเทเป็นก้อนก่อน ทั้งยังนำมาตีเป็นแผ่นเพื่อมาลงอักขระพระยันต์สำคัญต่างๆตามที่ครูบาอาจารย์เบื้องบนชี้แนะ ตั้งแต่ดวงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน พุทธจักร นวโลกุตรธรรม รัตนไตรจักร พุทธคุณเจ็ดดวง ยันต์พระไตรสรณคมสามดวง ยันต์พระไตรปิฏก ยันต์พระกรณี อิติปิโสแปดด้าน ยันต์เพชรสี่ด้าน มหากันห้าตัว ยันประจำทิศทั้งแปด พระฉิมขอลาภ ยันต์แก้ทุกข์ เรียกเงินทอง พาหุงใหญ่ ชัยน้อย

    ท่านว่าทำเหรียญนี้ให้ครบรสนั้นต้องดีมาจากภายในกว่าจะทำเสร็จก็ใช้เวลานับปี เมื่อสร้างขึ้นมาแล้วท่านก็ได้นำมาอุดผงมวลสารสำคัญตามสูตรสร้างพระมหาพุทธพิมพ์ที่สำเร็จด้วยบารมีขรัวโตไว้ด้านหลังก่อนจะฝังตะกรุดเฉพาะทางที่กล่าวไว้แต่ตอนต้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้มีพุทธบารมีเทวบารมี โพธิสัตว์บารมีครบถ้วนมีแต่ดีเหนือดีเพราะทำยากเสกยาก ยังไม่ได้ใช้ก็อย่าเพิ่งตาย ท่านว่าแต่เดิมนั้นจะให้คนที่เสวยทุกข์หาทางออกชีวิตไม่ได้เอาไว้บูชา ก็กลับกลายเป็นตั้งตัวได้สิ้นเคราะห์เกิดใหม่ได้ดีกันทุกคน

    ซึ่งเหรียญพระเจ้าผจญมารนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้ทั้งหมด 13 เหรียญ เหลือให้ร่วมทำบุญทั้งหมด 6 เหรียญ เพราะท่านให้บูชาไปบ้างตารมวาระและเคราะห์กรรมของสัตว์ที่มีวาสนาผูกพันธ์กับเครื่องมงคลนี้

    คาถาบูชา(ท่านว่าแค่นึกถึงก็ใช้ได้แล้ว)
    พามานาอุกะสะนะทุ นะสะจะกะ อุเออะเย


    * เหรียญหล่อพระเจ้าผจญมารนี้สำหรับผู้ต้องการจะบูชาก็เปิดให้องเฉพาะทาง PM เท่านั้น เมื่อจองเหรียญก็แจ้งมาพร้อมชื่อนามสกุลด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมและอธิษฐานจิตสี่จุดฝากฝังผู้บูชาไว้กับพ่อพระพุทธ นางพระธรณี ท้าวมาลัยและปู่อาฬาวกยักษ์

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อพระเจ้าผจญมาร(สร้างบารมีเปิดดวงปัดเคราะห์ล้างกรรม) บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระขุนแผนกินเรียบตำรับพระร่วง

    ชีวิตที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานสมบูรณ์ คือการเกิดพร้อมของความสุขทั้งด้านร่างกาย ฐานะ สังคม ซึ่งจะบริบูรณ์ด้วยปัจจัยสี่ไม่ขาดตกบกพร่อง พ่ออาจารย์ท่านได้ศึกษาวิชาการทำพระผงตำรับขรัวโต ซึ่งเจ้าพระคุณสมเด็จนั้นท่านมีวิชาเฉพาะทางอยู่ซ้ำในอดีตก็ยังเคยสร้างพระพิมพ์สำคัญหรือที่เรียกว่าพิมพ์ขุนแผนไว้ซึ่งนับว่าหาได้ยากอย่างยิ่ง เป็นการสร้างด้วยวิชาและผงสำคัญตามตำรับโบราณในสมัยพระมหาธรรมราชาลิไทแห่งราชวงศ์พระร่วงเจ้า เอกบุรุษผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้ยิ่งในพุทธศาสตร์และไสยศาสตร์ทั้งเชื่อมต่อนรกสวรรค์ถ่ายทอดเรื่องราวสร้างบรรทัดฐานคุณธรรมให้พสกนิกรของพระองค์นั้นละอายชั่วกลัวบาป

    จำเนียรกาลผ่านไปท่านว่าหาผู้รู้และคิดจะทำวิชานั้นไม่ได้เลย ท่านจึงได้ขออนุญาติเจ้าพระคุณสมเด็จเพื่อจะทำขึ้น ซึ่งก็ได้รับอนุญาติให้ทำได้ในรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของท่าน เมื่อจะสร้างพระด้วยวิชาของพระมหาธรรมราชาลิไทท่านจึงทำเป็นรูปขุนแผนทรงห้าเหลี่ยมประทับในซุ้มเรือนแก้วด้วยพิมพ์ทรงที่เป็นเอกลักษณ์ สื่อความหมายไปถึงพระพุทธรูปสำคัญคือองค์พระพุทธชินราชอันสร้างโดยพระมหาธรรมราชาลิไท สื่อความหมายไปถึงสมเด็จองค์ปฐมบรมสัพพัญญูผู้เป็นบรมครูยิ่งใหญ่ในนิกรพระชินสีห์ทุกรูปนาม ท่านว่าจะทำพระสำคัญก็ต้องใช้พิมพ์และรูปแบบที่มีความหมายสำคัญสื่อไปถึงองค์ต้นวิชาในราชวงศ์พระร่วง ซึ่งพระพิมพ์นี้เมื่อสร้างสำเร็จท่านว่าแม้จะยังไม่ได้บูชา แม้เพียงสัมผัสอาราธนาก็จะทำให้จิตใจผู้สัมผัสผ่องใสขึ้นได้

    พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ลบถมผงสำคัญตามวิชาโบราณซึ่งท่านว่าไม่สามารถเปิดเผยได้เลยตามสูตรเฉพาะของท่านตามสูตรของพระมหาธรรมราชาลิไท ซ้ำยังนำมาผสมกับผงพุทธคุณ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงว่านยาและคตวิเศษนานาชนิดรวมถึงผงสำคัญศักดิ์สิทธิ์ทางธรรมชาติที่รวบรวมไว้ ทั้งผงไม้กาฝากมางคล คตที่เกิดจากไม้มงคล ว่าน เกสร ผงไผ่ตัน ผงไม้รวกตัน ผงคตข้าวสารดำและข้าวสารหิน ตลอดจนผงที่ได้จากลานจารึกใบข่อยโบราณนำมาเผาไฟทำผงใบลาน ผงข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธ ผงมหาอุตม์กะลาไม่มีตา ผงมหาเสน่ห์กะลาตาเดียวผงคตมะพร้าว ผงกิ่งโพธิ์นิพพาน ผงไม้ไก่กุก ผงเครือร้อยปลา ผงปูนากระตุกเดือนห้า ผงกบจำศีลเดือนห้า ผงเขี้ยวงูจงอางที่ตายคาไข่ที่ฟัก ผงไม้คานและไม้ประตูคุก ผงชันโรงกลางแจ้งตรงตะวัน ผงไม้คานแม่หม้าย ผงเขาควายเผือกฟ้าผ่า ผงเขี้ยวเสือโปร่ง ผงคตสมองวัวเป็นเอกทางตบะเดชะผู้คิดร้ายไม่กล้าขยับปากด่าว่า ผงคตขนุนซึ่งมีเทพยดาอาศัยเป็นเมตตามหานิยมค้ำชูดวง ผงงาช้างดำ งากำจัด งากำจาย งาช้างน้ำ ผงเขากวางคุด ผงเขากระจงคุด ผงพญางูปากเป็ดที่สุดทางโชคลาภวาสนา จะไคร่โบสถ์ ตะไคร่เสมา ตะไคร่มหาเจดีย์ ตะไคร่หลักเมืองชื่อมงคล กระเบื้องโบสถ์โบราณ ดินสังเวชนียสถาน ผงดินกากยายักษ์ ผงเพชรน่าทั่ง ผงเหล็กน้ำพี้ ผงสังขวานร ผงรังเหล็กไหล ผงข้าวตอกพระร่วง น้ำฝนเดือนห้าตกรดหลังคาโบสถ์ น้ำในเศียรพระพุทธรูปน้ำมันช้างตกมัน น้ำตาปลาดุหยง ซึ่งมวลสารทุกอย่างนั้นท่านว่าแม้ไม่ได้เสกก็ล้วนมีอิทธิคุณในตัวเองดึงพาโชคลาภวาสนามาสู่เจ้าของ ซ้ำเป็นกายสิทธิ์ชนิดต่างๆมากมายที่ดีในตัวเองไม่มีวันเสื่อมมีอานุภาพที่จะช่วยเกื้อกูลผู้ใช้โดยเฉพาะ

    เมื่อจะทำในทรงพระขุนแผนท่านจึงนำผงทั้งหมดมาหมักเข้ากับผงพุทธคุณที่ท่านลบถมทางด้านเสน่ห์ตลอดจนโชคลาภมากมายตั้งแต่ มหารัก มหาชิด มหาหลง มหาละลวย มหางงงวย นะจังงัง ผงอ่อนจิต ผงอ่อนใจ ผงชักรูป ชักเงา หลงรูป หลงเงา ผงสะกดนาง ผงจูงนางเข้าห้อง ผงนางอกแตก ผงห้าร้อยเมีย ผงสะกดนาง ผงช้างผสมโขลง ผงกาตอมป่าช้า ผงพญารูปงาม พญาเทครัว พญาหลงลืม ผงขุนแผนชมตลาด ผงขุนแผนสะกดทัพ ผงสะกดกุมาร ผงเสน่ห์เสกแป้งปะหน้า ผงพระลักษณ์หน้าทอง ผงนะหน้าทอง ผงสุวรรณสังข์รูปทอง ผงจินดามณี สาลิกาป้อนเหยื่อ สาลิกาลิ้นทอง การะเวกเสียงทอง รวมไปถึงนะเสน่ห์สำคัญร้อยแปดชนิดและผงพรายกุมาร
    เมื่อได้ผงสำคัญแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงทำผงพิเศษขึ้นมาอีกวาระหนึ่งโดยเฉพาะตามตำรับบรมครูเพื่อจะใช้ฝังเสริมอานุภาพขององค์พระให้แก่กล้ามีผลานิสงค์สื่อตรงเข้าไปในใจของผู้ใช้ ท่านได้สร้างผงที่ท่านเรียกว่าลูกอมสุริยะมณฑล กับลูกอมจันทรมณฑลขึ้นมาตามวิชาการทำผงของท่าน ท่านว่าลูกอมทั้งสองชนิดนี้เปรียบเสมือนสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมีมาก่อน ไม่เคยโคจรมาพบกัน หรือจะปรากฏขึ้นพร้อมกันได้เช่นพระจันทร์และพระอาทิตย์ก็ยังมาเจอและอยู่ด้วยกันได้ ดังนั้นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อุทาหรณ์อันใดยังไม่เกิดขึ้น ความปรารถนาใดที่เป็นไปไม่ได้และยังไม่แล้วเสร็จก็จะเป็นไปโดยฉับพลัน ต่อไปนี้สิ่งที่ไม่เคยมีก็ต้องมี ไม่เคยได้ก็ต้องได้ ไม่เคยรวยก็ต้องรวย ซ้ำยังช่วยปรับสมดุลย์ร่างกายให้ธาตุและพลังงานไม่ต่ำไป ไม่สูงไปให้อยู่ในจุดพอดี ท่านว่าผงลูกอมทั้งสองนี้ใช้ได้อย่างถึงที่สุดเป็นตัวแทนหยินหยาง หญิงชาย เป็นสื่อถึงชีวิตคู่ การให้กำเนิดสรรพสิ่ง ใช้ได้ทั้งเลื่อนยศ โชคลาภ วาสนา ลาภลอย มหาเมตตา มหาเสน่ห์ครบทุกประการ ท่านว่าลูกอมทั้งสองนี้เป็นของพิเศษที่มีอิทธิคุณแรงกล้าเป็นสื่อรับคำอธิษฐานของผู้บูชาไปถึงบูรพาจารย์เบื้องบน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตั้งใจจะตั้งชื่อว่ารุ่นครกแตก เพราะมวลสารดีๆนั้นมากและตอนตำก็นั่งตำจนครกแตกเนื่องจากต้องผสมผงหลายชนิด เมื่อท่านนำผงทั้งหมดตำหมักรวมกันและผสมกดพิมพ์พระนั้น ท่านยังได้หล่อหลอมของวิเศษโดยเฉพาะไว้ล่วงหน้า ทำการปลุกเสกใส่วิชาเฉพาะทางรอไว้ก่อน ซึ่งของทั้งสามนี้ท่านเมตตาหล่อจากธาตุกายสิทธิ์ ตามตำรับหลวงปู่ยิ้ม ไม่ว่าจะเหล็กไหลขาวหยาดน้ำฟ้าทวาราวดี วัชรธาตุ ปรอทป่า แร่พลวง เป็นต้น ซึ่งของวิเศษที่ใช้ฝังพระขุนแผนกินเรียบเหล่านั้นก็ประกอบไปด้วย
    - ซุ้มกอพระร่วงปกาศิต พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านสร้างและเสกด้วยวิชาตำรับเก่า โดยท่านได้เชิญพระมหาธรรมราชาลิไทซึ่งมีฐานะดุจพุทธิโพธิสัตว์ไตรภูมิมาประดิษฐานในพิมพ์ซุ้มกอ พร้อมอาราธนาพระองค์ท่านลงมนต์ปกาศิตพระร่วงเอาไว้ คิดอย่างไร หวังอย่างไร พูดอะไรก็เป็นไปตามนั้นอันเป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์โดยตรงที่สืบทอดมาในสายของราชวงศ์พระร่วงเจ้าท่านว่าใครทำก็ไม่เหมือนเชิญพ่อขุนเจ้าท่านมาทำเอง ซึ่งวิชานี้มีคุณมากท่านว่าเพียงลมปากก็พลิกฟ้าพลิกดินได้ ตั้งฟ้าตั้งดินได้ พูดอะไรก็เป็นไปตามปาก ท่านว่าสร้างให้มีคุณดุจของเก่า พระกำแพงซุ้มกอมีกูไว้ไม่จนซึ่งสร้างในสมัยพระมหาธรรมราชาลิไทมีคุณอย่างไร บูชาแล้วเจริญรุ่งเรืองไม่รู้จุดตกอับเป็นอย่างไร ซุ้มกอพระร่วงก็มีคุณเพียงนั้น ศักดิ์สิทธิ์ ใช้ได้ในทุกสิ่งมีคุณวิชาและบารมีของพ่อขุนเจ้าครบถ้วน ท่านฝังไว้เสริมบารมีพระขุนแผนกินเรียบให้กินได้ทุกอย่าง ให้ดี ให้สำเร็จตามเจตนาประสงค์ของผู้บูชาทุกอย่าง
    - มหานาคบ่วงบาศ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีฤทธิ์สูง ใช้ข่มอาถรรพ์ได้ทุกชนิด ภูติ ผี เทพยดากลัวเกรงนัก ท่านว่าแม้แต่มหาพญาครุฑยังกลัวเกรงทัณฑ์แห่งมหานาคบ่วงบาศนี้ สิ่งมีชีวิตอื่นจะต้องพูดถึงไย ซ้ำยังสื่อกึงการกิน ท่านว่ากินในที่นี้ก็ไปใส่ความหมายเอง อยากกินอะไร จะโชคลาภวาสนา คู่ครอง ความรัก อยากกินอะไรก็กินได้เช่นนั้น กินไม่รู้หมด คือสุขไม่รู้อิ่ม ไม่รู้คลาย มีกินไปเรื่อยไม่มีวันอด ซ้ำยังให้คุณทางเมตตามหานิยม เสริมดวง เสริมโชคลาภวาสนา ปราบสิ่งชั่วร้าย หนุนดวง หนุนการทำมาหากิน กันคุณไสย แคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายดี เป็นเอกทางโภคทรัพย์และโชคลาภ ซ้ำยังมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามตามวิสัยมหาพญานาคทั้งหลาย ท่านว่าแต่นี้ต่อไป อยากกินอะไรอยากได้อะไร ให้ตั้งจิตไว้เป็นสมาธิ นึกถึงมหานาคบ่วงบาศนี้ อยากให้เค้ากินอะไรก็สิ่งที่เราอยากได้นั่นแหละ ให้ตั้งภาพสิ่งนั้นขึ้นมาว่ากำลังถูกพญานาคนี้กลืนกินลงท้องจนหายไป ท่านว่าแล้วแต่จะใช้ ยิ่งใช้ยิ่งเจริญ
    - สาลิกาป้อนเหยื่อ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเป็นวิชาก็มีคุณมาก แต่เมื่อนำมาขึ้นรูปให้มีตัวตนเป็นรูปลักษณ์และเสกลงด้วยวิชาสาลิกาป้อนเหยื่อเสริมเข้าไปนั้นกลายเป็นว่ามีคุณมากกว่าเดินนับร้อยเท่า ท่านว่าวิชาสาลิกาป้อนเหยื่อนั้นปกติก็เป็นหนึ่งในตองอู เป็นเอกทางมหาเสน่ห์ยิ่งกว่าวิชาใดเรียกว่าเชื่อขนมกินได้ แต่ท่านได้นำมาขึ้นรูปเสกใส่หัวใจพ่อสาลิกาแม่สาลิกาทั้งคู่ให้มีธาตุมีชีวิต พร้อมหนุนด้วยวิชาสาลิกาทุกแขนง และเสริมด้วยวิชานกคุ้มตัวผู้ตัวเมียให้มีสิริมงคลยิ่งขึ้นไปอีก ท่านว่าเสน่ห์อย่างเดียวสมัยนี้อยู่ยาก ท่านจึงใส่วิชานกคุ้มไปด้วย ท่านว่านกคุ้มคู่วิชานี้เป็นวิชาที่ช่วยให้ครอบครัวปรองดองไม่แตกแยก ช่วยให้คนบูชามีจิตคิดในทางทำมาหากินก่อร่างสร้างตัว เปิดโอกาสชีวิตให้มีทางเดินของตัวเอง ให้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีเจริญด้วยลาภ ยศ สรรเสริญสิ้นทุกประการ ทั้งยังคุ้มครองอันตรายกำจัดสิ่งชั่วร้ายให้พินาศ ท่านว่าเสกให้นกคุ้มมารุมเรียกทรัพย์เป็นสาลิกาป้อนเหยื่อที่ลงวิชาของนกคุ้มคู่เสริมเข้าไป ท่านว่าที่ทำสาลิกาป้อนเหยื่อนี้เพื่อจะให้รู้ว่าแต่นี้ต่อไป ไม่ต้องขวนขวายสิ่งใด ชีวิตไม่ต้องแสวงหาอะไรให้ยากลำบาก ตั้งจิตให้ดีบอกกล่าวครูบาอาจารย์ท่านจะหามาป้อนให้ถึงปาก ประเคนให้ถึงที่ คิดการณ์ใดก็สะดวกสบายไปได้ไม่เหนื่อยไม่เปลืองแรง อยากได้อะไร ปรารถนาอะไรจะได้ไม่ต้องขวนขวาย เพราะคนบางประเภทต้องขวนขวายทั้งชีวิตกว่าจะได้สิ่งที่ตนปรารถนา ท่านว่าตั้งจิตให้ดีบอกครูบาอาจารย์และพ่อนก แม่นก ว่าอยากได้อะไรให้ท่านคาบมาป้อนแก่เรา
    พ่ออาจารย์ท่านว่ามงคลกายสิทธิ์นี้ทั้งสามสิ่ง เป็นพลังงานที่เสริมส่งกัน เกื้อหนุนซึ่งกันและกันทั้งให้มีกินไม่รู้หมด กินง่ายๆ คิดอะไรก็ได้กิน ท่านจึงตั้งชื่อให้เป็นมงคลนามและเข้าใจกันง่ายๆตามนิมิตที่ได้จากบรมครูทั้งหลายหลังปลุกเสกว่ากินเรียบ ท่านว่าก็ตามนั้นแหละพูดมากไปไม่ได้ สั้นๆรู้ความหมายและตรงตัว

    สำหรับพระขุนแผนกินเรียบตำรับพระร่วงนี้ท่านทำตะกรุดพิเศษสามชนิดฝังลงไปโดยเฉพาะ ประกอบด้วย
    - มหากลับ กลับร้ายกลายเป็นดี ท่านว่าชีวิตคนเจอเรื่องร้ายสารพัด จบเรื่องเก่าก็เจอเรื่องใหม่ วกวนไปเหมือนกระแสน้ำวนไม่รู้จักจบสิ้น ตะกรุดมหากลับนี้มีคุณเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี จากสูญค่าให้มีค่า จากทุกขเวทนาเป็นบรมสุข ท่านว่าเราไม่ได้ไปหยุดกรรม แต่เราเปลี่ยนผลลัพธ์ของมันได้ และผลลัพธ์ทุกอย่างนั้จะเปลี่ยนแปลงไปดีมากขึ้นเพียงใดขึ้นอยู่ที่ตัวผู้ใช้เอง แต่เอาว่าดีไม่มีตก ไม่มีเสื่อม
    - มหาวนเวียน ท่านว่าหลายคนอยากให้สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต แต่ชะตาก้เหมือนจะเล่นตตลก คือนานๆจะเจอสักที เสร็จแล้วก็จะหายไปจนแทบจำไม่ได้เลย ท่านว่าท่านจึงผูกยันต์มหาวนเวียนขึ้น เพื่อดึงดูดสิ่งดีๆ สิริมงคล โชคลาภ หรือใครจะรักทางเสน่ห์ชู้สาวต่างๆก็ตามท่านว่าเวลาตั้งจิตกับองค์พระปรารถนาสิ่งใด สิ่งเหล่านั้นก็จะวนเวียนมาหาเราอยู่เรื่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ได้แล้วได้อีก มีแล้วมีอีก กินแล้วกินอีก ท่านว่าได้ไม่รู้หมดเสริมกำลังเข้าไปด้วยมหาวนเวียนนี้
    - นะใช้ได้ทุกอย่างตำรับนอโม ท่านว่าจารยากเสกยากเพราะมีพุทธคุณตรงตามชื่อดุจร้านสะดวกซื้อที่ถามอะไร จะเอาอะไรก็มีไปหมดครบทุกสิ่ง ปรารถนาสิ่งใด อยากใช้เรื่องใดก็ใช้ได้ทุกอย่าง วิชานี้มันสอดรับกับทุกสถานการณ์ท่านว่าจะได้สอดคล้องกับชีวิตคน ซึ่งผลกรรมนำสัตว์โลกให้เกิดต่างกัน มีวิถีชีวิตมีสังคมที่ต่างกัน สิ่งหนึ่งดีกับคนหนึ่งใช้ได้กับคนหนึ่ง อาจจะใช้ไม่ได้ไม่ได้ดีกับอีกคนก็ได้ ท่านจึงลงกันไว้ให้ใช้ได้ทุกอย่าง ใช้ได้ทุกคน ไม่เลือกชาติพันธุ์และวาระกรรม ตามแต่เขาจะปรารถนาและอธิษฐานนั่นเอง


    เมื่อท่านทำการกดพิมพ์และฝังอาถรรพ์มงคลทั้งหลาย ตลอดทั้งลูกอมสุริยะมณฑลและจันทรมณฑลแล้ว ท่านก็นำองค์พระมาโรยด้วยแร่วิเศษสองชนิด
    - ผงแร่เทวาประสิทธิ์ ที่มีอานุภาพแห่งเทพยดาและบารมีครูบาอาจารย์สายบุญฤทธิ์ประจุอยู่เต็มบารมี
    - ผงแร่โคตรเศรษฐี แร่ที่มีอานุภาพดีครบตรงตามชื่อ ท่านว่าแรงและเร็วมีอำนาจกายสิทธิ์มีดีในตัวเองไม่มีวันเสื่อม เป็นแร่หายากของครูบาอาจารย์นานๆครั้งท่านถึงนำมาใช้ในวาระสำคัญซักหน


    คาถาบูชา(ท่านให้ใช้คาถาพระร่วงเปิดปากหรือปกาศิตพระร่วง)
    เมื่อจะทำการสิ่งใด จะปลุกเสกก็ดี พูดอธิษฐานเป็นประกาศิต ให้ภาวนาพระคาถา อิมังสัจจะวาจัง อธิฏฐามิ ทุติอิมัง สัจจะวาจัง อธิฏฐามิ ตะติอิมัง สัจจะวาจัง อธิฏฐามิ เอานี้วชี้มือขวาสีปากไปทางขวาสามหน พูดสิ่งใดเป็นไปตามปากทุกอย่าง เมื่อทำอย่าแช่งใคร อย่าด่าใครเป็นไปตามปากทั้งนั้น
    ทำเสร็จถอนด้วย อิมังสัจจะวาจัง ปัจจุทะรามิ ทุติ อิมังสัจจะวาจัง ปัจจุทะรามิ ตะติอิมังสัจจะวาจัง ปัจจุทะรามิ ภาวนาเอานิ้วชี้มือขวา สีปากย้อนมาทางซ้าย เป็นการถอนประกาศิตที่ทำไว้


    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระขุนแผนกินเรียบตำรับพระร่วงไว้ได้ทั้งหมด 13 องค์ เปิดให้บูชาไปบ้าง เหลือเพียงเล็กน้อย ท่านว่ารายการนี้เป้นของเฉพาะคน เป็นวิชาเสริมส่งเฉพาะทางเฉพาะบุคคล ท่านว่าพระเลือกเจ้าของไว้ทุกองค์ใด ท่านใดที่จะบูชาจริงๆก็ให้จองไว้เฉพาะทาง PM รายได้สมทบทุนสร้างทางเข้าวัดในเขตพื้นที่ทุรกันดารต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระขุนแผนกินเรียบตำรับพระร่วง บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์

    ที่ผ่านมาถือว่าน้อยนักที่พ่ออาจารย์ท่านจะสร้างเครื่องมงคลอันมีอิทธิคุณเกี่ยงโยงกับเรื่องของกรรมโดยตรง

    ท่านว่าสัตว์ทั้งหลายนั้นล้วนแต่ถูกผูกอยู่ในกฏแห่งกรรม มีเกณฑ์ชะตาที่จะเกิดสุขทุกข์ระคนกันไป ซึ่งเกณฑ์ชะตาเหล่านี้สามารถที่จะแก้ไขได้ด้วยความประพฤติและการกระทำ หากแต่กฏแห่งกรรมนั้นแก้ไขไม่ได้

    สัตว์ทุกรูปนามนั้นปรารถนาความสุข ซึ่งสุขนั้นก็มีทั้งสุขที่ฉาบฉวย ปราณีต ไปจนถึงบรมสุข ไม่ว่าจะสัตว์ชนิดใดหรือมหาสัตว์โพธิสัตว์ก็ตาม ล้วนบำเพ็ญบารมีทนรับความลำบากอย่างยิ่งเพื่อไปให้ถึงความสุขนั้นนั่นคือพระนิพพาน

    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้น โดยท่านได้ทำตามวิชาเฉพาะซึ่งสมเด็จองค์ปฐมได้ประทานให้แก่ท่านไว้ ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาที่พิเศษมาก เนื่องจากเกี่ยวเนื่องด้วยธาตุนิพพาน อันต่างจากเครื่องมงคลใดๆที่จะพึงมีหรือปรากฏมี ซ้ำวิชาที่ใช้ลงนั้น ก็เป็นของสูง เป็นวิชาชั้นสูงยิ่งกว่าตำรับใดๆ ท่านว่าไม่ว่าวิชาในมนุษย์โลก หรือเทวะโลก ตลอดจนพรหมโลกก็ดีนั้น ล้วนเทียบกันไม่ได้ เพราะวิชานี้มีเฉพาะเหล่าพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่รู้ แม้พระอริยสาวกผู้เป็นอรหันต์ขีณาสพก็ไม่สามารถรู้ได้ จะมีที่รู้ก็คือเหล่าพระพุทธเจ้า นอกจากนั้นก็คือผู้ที่รับวิชาจากเสด็จพระใหญ่ท่านโดยตรง

    สำหรับพ่ออาจารย์นั้นท่านพิจารณาเห็นแล้วว่า กระแสแห่งพระนิพพานนั้นนอกจากเหล่าพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์แล้ว ยากที่บุคคลทั้งหลายจะเข้าถึง ท่านจึงได้สร้างตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้นมาครั้งหนึ่ง ท่านว่าตะกรุดนี้แค่ได้ทำก็ถือเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งแล้ว

    เนื่องจากตะกรุดนี้มีอานุภาพต่อต้านกรรมโดยตรง ท่านว่าเหนือกว่าวิชาหนุนดวงหรือวิชาที่เสกโดยคุณแห่งวิปัสนาญาณทั้งหลาย กอปรกับอักขระเลขยันต์นั้นซับซ้อนต้องลงถึงสองแผ่นด้วยกันและนำมาประกอบกันท่านจึงตั้งใจจะทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านได้ประกอบวิชา ลงอักขระเดินธาตุนิพพานโดยขอความอนุเคราะห์และสงเคราะห์จากเสด็จพระใหญ่โดยตรง ได้จารมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้นมาโดยใช้แผ่นโลหะสองชนิด คือ
    - แผ่นทองเหลือง การใช้แผ่นทองเหลืองนั้นต่างจากตะกรุดทุกประเภทที่ท่านเคยสร้างมาเพราะส่วนมากจะใช้แต่โลหะตะกั่ว ด้วยหนนี้ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านให้ใช้ทองเหลืองนั้นแทนแผ่นทองคำ เนื่องจากมีความสุกสว่างมีรัศมีในตัวเอง ท่านว่าวิชานี้เป็นของสำคัญนักแม้ตกในพรหมโลกหรือเทวโลกก็ดี ทั้งพรหมและเทพยดาทั้งหลายย่อมให้ความเคารพนบนอบดุจเข้าเฝ้าเบื้องหน้าสมเด็จพระชินสีห์เช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าธาตุนิพพานในวิชามงคลปิดกรรมนี้ มีผลเกี่ยวเนื่องกับบรมสุขโดยเฉพาะ เมื่อธาตุนิพพานอยู่กับผู้ใดก็ย่อมถือได้ว่าผู้นั้นถึงซึ่งบรมสุขอย่างแท้จริง เมื่อนั้นความทุกข์ทั้งหลายย่อมจะไม่มากล้ำกรายได้ แม้แต่กรรมเวรหรือภัยจากอมนุษย์ทั้งหลายก็ดี
    พ่ออาจารย์ท่านว่า โดยปกติแล้วแม้เหล่าสมเด็จพระบรมศาสดาเมื่อทรงตรัสรู้นั้นตลอดไปจนสิ้นอายุขัยและพระชนม์ชีพ ท่านก็ยังรับผลของกฏแห่งกรรมอยู่ จวบจนท่านเข้านิพพานจึงจะพ้นกฏของสิ่งสมมติทั้งหลาย ดังนั้นมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ท่านว่าจะเกิดขึ้นในวาระสำคัญเท่านั้น แม้พระศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองหรือตกต่ำเพียงใดหากเสด็จพระใหญ่ท่านไม่เปิดให้แก่ผู้ใดแล้ว วิชานี้ย่อมไม่เกิดขึ้นเลย เพราะมีผลใหญ่หลวงให้ล่วงกรรมได้โดยตรง ท่านว่าแม้มีทุกข์เข็ญใดเป็นปัจจัยให้เผชิญอยู่ก็ดีให้ระลึกถึงองค์ปฐมเป็นที่สุด กาลแห่งทุกข์นั้นย่อมคลี่คลายและล่วงผ่านไปได้เสมอดุจว่าไม่เคยเกิดขึ้นเลย แม้ทุกข์นั้นจะมีผลสืบมาจากกฏแห่งกรรมก็ตาม ท่านว่าตรงนี้ศรัทธามีส่วนมาก ยิ่งศรัทธามากก็ยิ่งได้ผลมาก
    พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาแล้วว่าเหตุในปัจจุบันนั้น คนลืมสุขตกทุกข์นั้นมีมาก ด้วยว่าวาระเวรกรรมนั้นหนุนสัตว์ให้โลกปั่นป่วนวุ่นวาย ผู้มีอำนาจล้วนทุศีลขาดความสุจริตยุติธรรม ส่งผลตามมาถึงคนกลุ่มใหญ่ในทุกๆประเทศล้วนเดือดร้อนตามกันไปทั้งหมด ท่านจึงเสี่ยงสัตย์เพื่อสร้างมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้นให้ผู้ที่มีบุญในศาสนาพระสมณะโคดมและมีบุญสัมพันธ์กับเสด็จพระใหญ่องค์ปฐมได้นำไปบูชา
    - แผ่นทองแดง ในส่วนนี้ท่านนำมาลงจารด้วยวิชาพุทธพรหมกายสิทธิ์ โดยได้ม้วนสอดบรรจุไว้ภายใน ท่านว่าวิชานี้ดีทางเสริมบารมี คนเราเมื่อปิดกรรมแล้วก็ต้องเร่งสร้างบารมีหนุนชีวิตตัวเอง วิชานี้เป็นวิชาที่หนุนบารมีให้กุศลกรรมส่งผลท่านว่าพูดได้เพียงเท่านี้ นอกจากเสริมบารมีแล้วยังเกี่ยวกับการสร้างฤทธิ์ เป็นวิชาที่มีอิทธิฤทธิ์วิเศษ
    ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วจะหาวิชาใดที่จะเสริมส่งให้ผู้ครอบครองนั้นล่วงอิทธิฤทธิ์วิเศษได้ย่อมไม่มีอยู่เลย ท่านว่าฤทธิ์วิเศษนี้คือฤทธิ์ทางใจไม่ใช่จะไปดำดินเหิรฟ้าที่ไหน ท่านพิจารณาแล้วว่าเป็นของมงคลชั้นเลิศ ท่านว่าติดตัวเอาไว้เดี๋ยวก้รู้เอง มันจะพอกพูนและเกิดขึ้นกับจิตวิญญาณติดตัวไปถึงภพหน้าไม่ตายตามกายสังขาร คนที่ไม่เคยมีสัมผัสพิเศษ ไม่เคยมีลางสังหรณ์ ไม่เคยมีฤทธิ์ทางใจทั้งหลาย ท่านว่าเดี๋ยวก็จะมี จะค่อยๆมีค่อยๆเกิดขึ้น ค่อยๆเป็นค่อยๆไปและมากขึ้นแม่นยำขึ้นพอกพูนไปเรื่อยๆ ท่านว่านี่มันวิเศษถึงปานนั้น หากคนไหนใช้เป็นนำมาประกอบการทำสมาธิเข้าฌานหรือฝึกพลังทางจิต ท่านว่ายิ่งกว่าเสือติดปีก จะไปชมป่าหิมพานต์ จะไปพิภพนาคา หรือจะไปคุยกับเทวดาหรือพรหมทั้งหลายก็ย่อมทำได้ทั้งสิ้น ท่านว่ามันจะสั่งสมพอกพูนขึ้นเองเวลาเราสร้างบารมีหรือนำมาใช้เวลานั่งสมาธิวิปัสนา แม้พกไว้ปกติก็ยังเป็นมหาอำนาจทำให้คนเคารพ หวั่นเกรงมาจากจิตใจของเค้า

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดมาอุดมวลสารอิทธิมงคลอันมีพรรณคุณวิเศษอีกคำรบหนึ่งก่อนจะทำการปิดผนึกไว้ ท่านว่าของที่อุดไว้ข้างในนั้น แม้ไม่เสกก็ยิ่งกว่าขลัง เนื่องจากท่านบรรจุตะกรุดทองแดงไว้ภายใน ปลายทั้งสองด้านท่านจึงนำมาอุดของที่มีอิทธิคุณสูง ดังนี้
    - สีผึ้งหลวงปู่ภู วัดอินทร์ ท่านว่าสีผึ้งนี้เป้นของโบราณสืบทอดมา อย่างที่ทราบกันว่าหลวงปู่ภูท่านเป็นพระทองคำ เป็นศิษย์ในเจ้าพระคุณสมเด็จโต แต่น้อยคนนั้กจะรู้ว่าท่านมีวาจาสิทธิ์ พูดอะไรก็เป็นไปตามปาก สำหรับสีผึ้งนี้เป็นของใช้แต่เดิมของท่าน พ่ออาจารย์ว่าไม่รู้ท่านได้มาแต่ไหนหรือท่านทำขึ้นเอง แต่เอาแน่ว่าเป็นของที่ท่านใช้ มันแน่นอนว่าย่อมต้องเป็นของดีที่สุดไม่มีอะไรดีกว่านี้ ท่านว่าคนจะเล่นทางมหานิยมหรือมหาเสน่ห์ควรมีไว้ ท่านว่าไม่ต้องดูไกล ดูแค่องค์หลวงปู่ภูท่านมีคนรักคนเคารพกันทั่วเมือง มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกล พ่ออาจารย์ว่าสีผึ้งนี้แต่ก่อนมีทั้งอาจารย์ทั้งคนมาขอบูชาท่าน เขาว่าแค่เม็ดกลมๆเท่าปลายเข็มหมุดให้ก่อนละหมื่น ถึงกระนั้นท่านก็ยังเงียบท่านยังไม่เคยนำออกมาให้ใครทั้งสิ้น ท่านว่าเอาไว้รอเวลาเสด็จพระใหญ่ใช้งานแล้วจะนำออกมาทำของ โดยครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ปั้นและอุดไว้ปลายตะกรุดก่อนจะลงผนึกทุกดอก
    - ผงโพธิ์นิพพาน ท่านว่าผงนี้ท่านปรุงขึ้นจากไม้ที่มีพรรณคุณวิเศษหลายชนิด แต่เพื่อให้ตรงตามชื่อตะกรุดจึงเรียกว่าผงโพธิ์นิพพาน โดยท่านได้นำผงไม้โพธิ์นิพพาน มาผสมกับผงไม้ช่อฟ้าวัดระฆัง ผงไม้กาตอมซาก ผงไม้ตะเคียนหลักเมืองนคร ผงไม้เสาตะลุงช้างโบราณ ผงไม้เสาชิงช้าโบราณ ท่านว่าไม้แต่ละอย่างนั้นล้วนมีอิทธิคุณแฝด มีสิริมงคลและพุทธคุณอย่างสูงต่างกันไป ท่านว่าบางอย่างเป็นของโบราณอย่างไม้เสาตะลุงต้นนี้อายุกว่าสี่ร้อยปีนานกว่าอายุกรุงเทพเสียอีก ส่วนใหญ่เป็นของโบราณที่มีอำนาจลึกลับรักษาหวงแหนทั้งนั้น ท่านพลีมาและก็เชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเหล่านั้นมาช่วยหนุนช่วยเสริมผู้บูชาโดยเฉพาะ โดยนำผงไม้เหล่านี้อุดไว้ที่ปลายอีกข้างหนึ่ง

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้น ท่านได้ทำไว้ทั้งหมดเก้าดอก ท่านว่าไม่ต้องพูดกันมากเพียงผงไม้ต่างๆที่นำมาอุดนั้นแต่ละอย่างถ้านำมาบอกกล่าวกันจริงๆแล้ว ก็เป็นทั้งหนุนดวงอย่างที่สุด เป็นของสูงที่สุด เป็นเสน่ห์อย่างที่สุด เป็นมงคลอย่างที่สุดทั้งสิ้น เมื่อได้ตะกรุดแล้วท่านว่าเสกนั้นยากกว่า การจะเสกให้ได้ตามที่เสด็จพระใหญ่ท่านมีบัญชาไว้ไม่ใช่ง่าย นอกจากเสกบนพื้นดินแล้ว ท่านยังให้เสกบนฟ้ากับใต้ดินอีกด้วย

    พ่ออาจารย์ท่านรู้ว่าเป็นอุบายธรรม หลังจากเชิญเสด็จพระใหญ่มาบรรจุวิชาแล้วท่านจึงดำเนินการณ์เสกให้ครบทั้งสามภพภูมิดังกล่าว โดยเสกบนฟ้าท่านก็นำตะกรุดนั้นขึ้นไปเสกบนยอดเขายอดภูเชิญเทพพรหมทั้งหลายมาเป็นสักขีพยาน เสกใต้ดินท่านก็ปิดถ้ำทำเชิญพญานาคคนธรรพ์วิทยาธรมาเป็นสักขีพยาน ท่านว่าให้คิดกลับไปใหม่ ท่านว่าคงทำไม่ได้อีกเป็นครั้งที่สองเพราะใช้เวลานานมาก เสกแต่ละครั้งอย่างต่ำสามวันสามคืน ต่อไปคงทำไม่ได้อีก เพราะเทพพรหมและนาคราชทั้งหลายต้องลงมาช่วยหนุนช่วยกันทำอย่างต่อเนื่อง ท่านว่าทุกการกระทำไม่มีเสียเปล่าตะกรุดนี้มีฤทธิ์พิเศษอย่างแท้จริง

    คาถาบูชา
    นะมะพุทธัง นะพุทธะสังสะตะอุอิ ปาสุอุชาวิระสติ พุทธิจะติสิวังพุทธัง อิมังคะมังทิตวิสัง อรหังโลกะวิทู ยะวะโลกะวิทู สัพพะอะระหา พุทธะสังมิ พุทธะสังอิ อิสวาสุ สะระณะมะ ทุสะนิมะ ผะเวสัจเจเอหิ อะนิโสสะ เอตังสะตึง เยตะมังคะลัง

    * ตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของเฉพาะทาง ใครที่มีกรรมหนัก ยังไม่ลืมตาอ้าปาก อยากสำเร็จ อยากมั่นคงท่านว่าค่อยมานำไปบูชา รายการนี้คนที่สบายแล้ว รวยแล้ว ท่านว่าไม่ต้องใช้เพราะของมีน้อยเพียงเก้าดอกจะได้บูชากันอย่างทั่วถึง สำหรับผู้ที่ต้องการบูชาก็รับจองเฉพาะ PM ให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมประสิทธิ์ตะกรุดอีกคำรบหนึ่ง

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • newchin9.jpg
      newchin9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45 KB
      เปิดดู:
      110
    • lp-pu-wat-in.jpg
      lp-pu-wat-in.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.9 KB
      เปิดดู:
      77
    • SAM_5148.JPG
      SAM_5148.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      103
    • ำได.jpg
      ำได.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.2 KB
      เปิดดู:
      133
    • Nivana.jpg
      Nivana.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.8 KB
      เปิดดู:
      69
    • IMG_0089_resize.jpg
      IMG_0089_resize.jpg
      ขนาดไฟล์:
      259.7 KB
      เปิดดู:
      81
    • hqdefault.jpg
      hqdefault.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.2 KB
      เปิดดู:
      81
    • 017.jpg
      017.jpg
      ขนาดไฟล์:
      126.3 KB
      เปิดดู:
      228
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2022
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระปัจเจกนวโกฏิเปิดดวงโคตรเศรษฐี (หลังพระโมคคัลลาน์พาโชค)

    ตามที่ถามกันเข้ามามากว่าให้นำรายการนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านเก็บรักษาไว้ออกมาให้ร่วมทำบุญบูชานั้น เนื่องจากพระมีจำนวนน้อย สำหรับผู้ที่จะจองก็ติดต่อไว้ทาง PM เท่านั้น

    พระปัจเจกนวโกฏิเปิดดวงโคตรเศรษฐีนั้น เป็นพระที่สร้างขึ้นด้วยวิชาที่ท่านชำนาญนั่นคือวิชาของพระปัจเจกโพธิเจ้า วิชาพระปัจเจกพุทธเจ้าเก้าไหรวมไปถึงวิชาการเสกพระนวโกฏิหรือพระก้าวหน้า

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนนั้นครูมหาพรหมนั้นได้เข้านิมิตให้ท่านทำสิ่งมงคลด้วยวิชามหาโภคทรัพย์สายบารมีไว้ ท่านว่าเมื่อถึงกาลอันเหมาะอันควรเจ้าของเขาจะมานำพาไปเอง ซึ่งท่านก็ได้ใช้วิชาที่ท่านชำนาญรวมไปถึงอิทธิวัตถุมงคลอันมีฤทธิ์แรงกล้าเป็นกายสิทธิ์ในตัวเอง ตลอดจนผงวิเศษที่พิเศษจริงๆของเก่าที่ครูบาอาจารย์มอบเอาไว้ให้มาสร้างบูชาอาจาริยคุณ

    ซึ่งพระปัจเจกนวโกฏิเปิดดวงโคตรเศรษฐีนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างขึ้นด้วยวิชาพระเจ้านวโกฏิและพระปัจเจกพุทธเจ้าเก้าไห โดยทำเป็นลักษณะพระนั่งซ้อนทับกัน ท่านว่าเคล็ดนี้เป็นสิ่งสำคัญ พระปัจเจกโพธิเจ้าประทับอยู่เบื้องหลังพระเจ้านวโกฏินั้นเป็นการนั่งทับลักษณะซ้อนเงา ท่านว่าคนเราเมื่อมีเงาถึงจะมีชีวิต คนที่ดวงไม่เกิด โชคลาภไม่มี ชีวิตติดขัดทำสิ่งใดไม่สะดวก ท่านว่าจำกัดความไว้ว่าความไม่มีทั้งหลาย ต่อไปก็จะไม่ปรากฏอีก ด้วยการนั่งทับซ้อนเงานี้คือเคล็ดของบูรพาจารย์ที่ว่ามีแล้ว เกิดขึ้นแล้วตลอดเวลานั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามงคลกายสิทธิ์ชิ้นนี้เป็นของที่มีคุณานุคุณประเสริฐเป็นเกทางด้านเปิดดวงโภคทรัพย์ โดยท่านอธิบายว่า
    - พระปัจเจกโพธิเจ้าเก้าไห ดังที่ทราบกันว่าพระปัจเจกโพธิเจ้านั้นมีบารมีมาก แม้พระพุทธองค์ก็ตรัสรับรองไว้ว่า ในโลกทั้งปวง เว้นเราแล้ว ไม่มีใครเสมอพระปัจเจกพุทธเจ้าเลย วิชานี้เป็นวิชาเฉพาะที่แทบจะไม่มีใครทำหรือสาบสูญไปแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าคนส่วนใหญ่ที่สร้างพระปัจเจกพุทธเจ้าขึ้นมา มักจะสร้างและเพียงเชิญบารมี หาได้ทำด้วยวิชาของท่านเองซึ่งสืบมาแต่โบราณบูรพาจารย์ ซึ่งวิชานี้หากทำได้แล้วจำให้ผลมากในทางเกื้อหนุนค้ำจุนให้ร่ำรวย มีฐานะ สังคม ชีวิต ดีขึ้นมากกว่าเดิม เป็นวิชาเรียกทรัพย์ บังเกิดทรัพย์อย่างแท้จริงๆ ท่านว่ายิ่งถ้าตกอยู่ในมือของคนที่ใจบุญสุญทานชอบอวยบุญอวยทาน หมั่นสร้างบารมีโดยเฉพาะทานบารมี หรือจะเป็นตักบาตรพระก็ได้ท่านว่านี่พระปัจเจกท่านชอบท่านโปรดนัก ถ้ามีพระปัจเจกที่เชิญบารมีและบรรจุวิชาธรรมพระปัจเจกโพธิเจ้าเก้าไหนี่อยู่กับตัว จะยิ่งเสริมส่งให้ดี ให้ไว ให้สำเร็จยิ่งขึ้นไปอีก ท่านว่าถ้าให้ทานเป็น มีจิตใจที่เสียสละแก่ส่วนรวมแล้วถือครองพระปัจเจกโพธิเจ้าเก้าไหนี้ท่านว่ายิ่งกว่าคำว่าชีวิตสะดวกสบาย วิชานี้ท่านว่ายากผู้ที่จะสร้างพระปัจเจกโพธิเจ้าเก้าไหได้ขลังนั้นจะต้องเข้าถึงแก่นแท้ของธรรมและมีวาระกรรมจำเพาะพิเศษตามที่บูรพาจารย์กำหนดไว้ซ้ำต้องมีญาณเชื่อมถึงคณะพระปัจเจกพุทธเจ้าด้วย จึงเป็นเรื่องยากที่จะสร้างออกมาเสียหนหนึ่ง
    - พระพุทธนวโกฏิโคตรเศรษฐี พ่ออาจารย์ท่านว่าคนจะรู้จักแต่เพียงว่าเป็นพระก้าวหน้าเพราะมีเก้าพระเศียรท่านว่าที่ท่านต้องทำขึ้นในลักษณะซ้อนเงานั้นเพื่อจะรวมเศียรพระปัจเจกโพธิไว้ให้ครบสิบเศียรพอดี ซึ่งวิชาพระเจ้านวโกฏิโดยแท้จริงนั้นนอกจากบารมีของมหาเศรษฐีทั้งเก้าแล้ว ยังต้องเชิญบารมีของพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดรลงมาคลุมอีกคำรบหนึ่งด้วย ท่านว่าเห็นทำกันมาเยอะ ก็จะทำแบบเต็มวิชาอย่างที่ควรจะเป็นที่ถูกที่ควรไว้ซักวาระหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าคำว่าพระก้าวหน้านี้เมื่อทำด้วยบารมีบูรพาจารย์นั้นก็ย่อมเป็นของวิเศษ เพราะจะบันดาลให้ผู้บูชาสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ ก้าวไปไม่รู้จักหยุด ก้าวไปไม่ถอยหลังกลับ จุดนี้ท่านว่าชีวิตจะไม่อยู่กับที่และไม่แย่ลงต่ำลง ซ้ำจะมีพัฒนาการต่อเนื่องคือก้าวขึ้นไป ก้าวต่อไปสูงขึ้นไปเรื่อยๆ อาศัยด้วยบารมีอานิสงค์แห่งมหาทานที่มหาเศรษฐีทั้งเก้าและพระบรมโพธิสัตว์เวสสันดรเคยกระทำไว้ชักนำโดยตรงมาจุนเจือช่วยเหลือผู้บูชา อานุภาพของพระพุทธนวโกฏิโคตรเศรษฐีวิชานี้ ท่านว่าเป็นวิชาที่ช่วยเสริมเรื่องสิริมงคล แม้ตกแก่ผู้ใดก็ได้ชื่อว่าจะมีชีวิตร่มเย็นอยู่เย็นเป็นสุข ประสพโชคลาภอยู่เนืองๆ เจริญในสัมมาอาชีพเติบโตขึ้นก้าวหน้าขึ้นอย่างโดดเด่น แม้เกิดทุกข์เข็ญทรพิษมิคสัญญี ฝูงชนเดือดร้อนถ้วนทั่วทุกหัวระแหง แต่สำหรับผู้ที่มีพระพุทธนวโกฏิประดิษฐานอยู่และรู้จักกระทำการสักการะนั้น ความทุกข์ยากอดอยากทั้งหลายจะไม่ปรากฏมีขึ้นได้เลย บุคคลนั้นย่อมได้ชื่อว่าอยู่ไกลทุกข์ยิ่งนัก


    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านพิจารณาทำพระนั่งซ้อนเงาแล้ว ท่านว่าเป็นพระสำคัญนักท่านจึงพิจารณาทำด้วยธาตุกายสิทธิ์ อันเป็นธาตุวิเศษมีอิทธิฤทธิ์อันสำเร็จมาแต่เทพยดาในนภากาศ ซึ่งท่านว่าความตั้งใจแรกเริ่มของท่านเลยที่ทำเนื้อธาตุกายสิทธิ์นี้ คือท่านเดินตามรอยบูรพาจารย์เช่นหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว เมื่อจะหล่อจะสร้างจะทำพระท่านจะออกหาธาตุกายสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นเหล็กนิพพานวัชรธาตุหยาดน้ำฟ้าทวาราวดี อันเป็นธาตุพิเศษมีเทวานุภาพอยู่ในตนมาพลีจัดสร้างขึ้น

    เมื่อหล่อหลอมในทรงพระเจ้าพุทธนวโกฏิประทับซ้อนเงาพระปัจเจกโพธิเจ้าแล้ว พุทธรัศมีที่แผ่ออกมาโดยรอบนั้น ท่านว่าตั้งใจทำไว้เพราะใส่วิชาแสงทิพย์บรรจุฉัพพรรณรังสีของเสด็จพระใหญ่ลงไปด้วย เพราะชีวิตคนเมื่อมีแสงสว่างแล้วย่อมไม่มืดบอดลง ความมืดคือความตกต่ำ ทั้งของชีวิตหรือวาระจิตก็ดี หากยึดเกาะกับความมืดหรือความตกต่ำแล้วสัตว์ย่อมไม่สามารถพัฒนาได้ต่อไป ท่านว่าองค์พระที่อาบวิชานี้อยู่ที่ไหนก็สว่าง แม้ชีวิตมื้อนี้ก็สว่าง เกิดชาติภพใหม่มื้อหน้าเมื่อจิตวิญญาณอาบพุทธรัศมีอยู่เป็นประจำมีจิตยึดติดกับองค์พระก็ย่อมไปสู่ภพภูมิที่สว่างยิ่งขึ้น ท่านว่าพุทธรัศมีอันออกจากกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกระองค์นั้น ยิ่งกว่าคำว่าจะให้สว่างเรืองรองไปทั้งแสนโกฏิจักรวาล ท่านว่าบอกได้เท่านี้เพราะมันมากกว่านั้นเกินกว่าระดับมหาพรหมทั้งหลาย นอกจากนั้นท่านยังทำเป็ยรูปไหเล็กๆเก้าใบ ประดิษฐานอยู่โดยรอบองค์พระ จะได้รู้เป็นนัยน์ว่าสำเร็จด้วยวิชาพระปัจเจกโพธิเจ้าแต่โบราณคือพระเจ้าเก้าไห มีกินมีใช้สืบไปเบื้องหน้าอีกเก้าช่วงชีวิต

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านสร้างพระปัจเจกนวโกฏิเปิดดวงโคตรเศรษฐีนั้น ท่านได้นำผงวิเศษที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยมอบให้ท่านเพื่อเก็บไว้สร้างพระตระกูลพระสมเด็จองค์ปฐมโดยเฉพาะ ท่านว่ามีบารมีพระพุทธเจ้าแสนโกฏิอยู่เต็มเปี่ยมซึ่งผงนี้ที่หลวงพ่อฤาษีมอบให้มีหัวเชื้อผงเก่าของหลงพ่อปานตลอดจนผงที่หลวงพ่อฤาษีทำขึ้นเป็นผงหัวเชื้อล้วนๆที่ท่านว่าเพียงช้อนชาหนึ่งก็สร้างพระได้นับพันนับหมื่นองค์ แต่พ่ออาจารย์ท่านนำมาผสมให้แบบผงล้วนๆเลยโดยท่านได้นำมาตำผสมกับถ่านใบลานเก่าสมัยอยุธยา ซึ่งผงชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านจะใช้สร้างสมเด็จองค์ปฐมรุ่นแรกของท่านที่เป็นตำนานหายากมากไปแล้ว ในกาลนี้ท่านได้นำผงวิเศษนี้มาอุดด้านหลังองค์พระด้วยเพราะท่านว่าเชิญเสด็จพระใหญ่มาทำพิธีอาบฉัพพรรณรังสี มีบารมีของท่านอยู่เต็มเปี่ยม เมื่อเอาผงนี้มาทำก็นับว่าเหมาะว่าควรแล้ว

    ซึ่งด้านหลังองค์พระปัจเจกนวโกฏิเปิดดวงโคตรเศรษฐีนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้ฝังของวิเศษไว้สองสิ่ง เป็นของที่มีอานุภาพมากอย่างที่สุด ประกอบด้วย
    - พระโมคคัลลาน์พาโชค เอกองค์อรหันต์ผู้มีความสามารถโดดเด่นในเรื่องการแสดงฤทธิ์พิเศษเหนือกว่าองค์อรหันต์ทั้งปวง ท่านว่าฤทธิ์ของพระโมคคัลลาน์นั้นเป็นฤทธิ์ที่ท่านกระทำเพื่อพระศาสนา หากเราเป็นคนของพระศาสนามีจิตใจยึดเหนี่ยวอยู่ในบุญทานการกุศลท่านช่วยเต็มที่แน่นอนไม่มีสิ่งใดจะเลิศจะเก่งกว่าครูองค์นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระโมคคัลลาน์พาโชคที่ฝังด้านหลังนั้นท่านแกะด้วยของพิเศษ นั่นคือไม้มะรุม แต่เป็นมะรุมที่แปลกและกาได้ยากท่านว่าเป็นของพิเศษที่มีคุณในตัวมีองค์เทพรักษา นั่นคือมะรุมตอมซากทะลุโพธิ์ เป็นต้นมะรุมที่แทงยอดทะลุต้นโพธิ์ซ้ำมีนกกาตายตอมซาก แน่นอนว่าย่อมเป้นที่สุดแล้วทางเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ ซ้ำยังทะลุทะลวงอุปสรรคไม่มีสิ่งใดขวางกั้นได้ พ่ออาจารย์ว่าประกอบกับชื่ออันเป็นมงคลนามของมะรุมด้วย อยู่ที่ไหนทำอะไรก็จะได้มีแต่คนรุมล้อม รุมรัก รุมเมตตา มารุมช่วยเหลือเรา มารุมเกื้อกูลอภิบาลเรา ท่านได้นำไม้มะรุมอาถรรพ์นี้มาแกะเป็นรูปพระโมคคัลลาน์อันเชิญบารมีมาทำโดยเถรานุภาพ ท่านว่าทุกสิ่งนั้นจะได้สำเร็จแทงทะลุยอดไปหมดตามที่ใจปรารถนาด้วยฤทธิ์วิเศษของพระมหาเถระไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้ทั้งสิ้น
    - ตะกรุดหนุนชะตา ท่านว่าเกิดมาเป็นคนได้แปลว่ามีบุญหนุนส่งกันทั้งนั้น ไม่มีบุญย่อมไม่ได้เกิดเป้นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา ตะกรุดนี้แก้โรคประหลาดอย่างหนึ่ง เรียกว่าโรคบุญมีแต่กรรมบัง ท่านว่าตะกรุดนี้เน้นหนุนส่งเสริมดวงปรับฐานชะตาทั้ง 12 ราศี หนุนไปเรื่อยๆทุกวันเดือนปีไม่มีหยุด เปลี่ยนวิกฤติกลับรายกลายเป็นดีที่ดีให้ดียิ่งขึ้นไป คนที่เคยทำงาน หรือไปสานสัมพันธ์กับใคร ท่านเรียกว่าเคยมีกิจกรรมในชีวิตที่ทำแล้วอยู่ๆก็ไปไม่รอดล้มเหลวไอ้ที่คิดว่าจะได้ก็ไม่ได้ชวดไปเสียแบบนั้น ไอ้ที่ไปได้ดีก็ติดขัดหยุดชะงักลง ไอ้ที่น่าจะถูกทำไมมันไม่ถูก ท่านว่าวิชานี้แก้ไขได้ ท่านว่าเมื่อทำต้องทำในฤกษ์ที่ปลอด ยามที่โปร่ง พูดมากไปกว่านี้ไม่ได้เพราะเสด็จพระใหญ่เบื้องบนท่านปิดปากไว้ ท่านว่าแค่บอกให้รู้คร่าวๆเท่านั้นพอ

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้สร้างและนำมาประกอบวิชาปลุกเสกนานนับเวลาร่วมสามปีจนสำเร็จแล้ว ท่านก็ยังได้นำมาเจริญพุทธมนต์คาถาสวดบูชาอยู่เรื่อยๆ ท่านว่าพระนี้เป็นของสำคัญ แม้ตัวท่านจะเป็นผู้สร้างเองก็ยังจำเป็นต้องมีไว้บูชาองค์หนึ่งท่านว่าพระสำคัญขาดไม่ได้ ซึ่งองค์พระทั้งหมดนั้นใช้ผงวิเศษล้วนๆประกอบกับธาตุศักดิ์สิทธิ์และมวลสารพิเศษจึงทำให้สร้างไว้ได้น้อยทั้งหมดเก้าองค์ ซึ่งก็มีผู้ขอไปบูชาหลายคนแล้ว

    คาถาบูชา(นะโม 3 จบ)
    มาขะโย มาวะโยมัยหัง มาจะโกจิ อุปัททะโว ธัญญะธารานิ เมปะวัสสันตุ ธะนัญชัยยัสสะ ยะถาฆะเร สุวัณณานิ หิรัญญาจะ สัพพะโภคาจะ ระตะนานิ ปะวัสสันตุ เม เอวัง ฆะเร สุมะนะ ชะฏิลัสสะ จะ อะนาถะปิณฑิกะ เมณฑะกัสสะ โชติกะ มัณฑาตุ เวสสันตะรัสสะ ปะวัสสันติ ยะถาฆะเร เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สัพพะสิทธิ ภะวันตุเม


    * พระปัจเจกนวโกฏิเปิดดวงโคตรเศรษฐี (หลังพระโมคคัลลาน์พาโชค) ท่านกล่าวว่าเป็นของพิเศษที่ครอบครองได้เฉพาะบุคคล กล่าวคือมีวาระกรรมที่เปิดแล้วพร้อมจะยุติแล้ว ครูบาอาจารย์ท่านจะเมตตาสงเคราะห์ ก็จะดลบันดาลให้มารู้มาเห็นและนำไปบูชาเอง สำหรับผู้บูชานั้นรับจองเฉพาะทาง PM

    ร่วมทำบุญบูชา พระปัจเจกนวโกฏิเปิดดวงโคตรเศรษฐี (หลังพระโมคคัลลาน์พาโชค) 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 20080823_172359.jpg
      20080823_172359.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.3 KB
      เปิดดู:
      109
    • กดไำด.jpg
      กดไำด.jpg
      ขนาดไฟล์:
      11.5 KB
      เปิดดู:
      97
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      11 KB
      เปิดดู:
      71
    • art_41987386.jpg
      art_41987386.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.7 KB
      เปิดดู:
      91
    • SAM_5153.JPG
      SAM_5153.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      88
    • SAM_5157.JPG
      SAM_5157.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      113
    • Moggllana.jpg
      Moggllana.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.4 KB
      เปิดดู:
      125
    • vessandorn.jpg
      vessandorn.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.3 KB
      เปิดดู:
      91
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2022
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระเทพบิดรมหาญาณ(ศาสตร์หงสา)

    เนื่องจากมีหลายๆคนได้ถามกันเข้ามาว่าพ่ออาจารย์ท่านทำตะกรุดรุ่นไหนที่พกง่ายๆมีจิตมีชีวิตเช่นวิชาพระศรีหรือนางพิมพ์ ให้คุณเหมือนพวกเพชรพญาธรอะไรพวกนี้บ้างหรือไม่

    ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นโดยปกติแล้วจะไม่เห็นพ่ออาจารย์ใช้วิชามหาศาสตร์ทางฝ่ายพม่ารามัญมากนัก เมื่อพิจารณาแล้วท่านจึงออกเสียวาระหนึ่งเพื่อบูชาครู ซึ่งตะกรุดพระเทพบิดรมหาญาณ(ศาสตร์หงสา)นี้ ก็เป็นวิชาเอกดังกล่าวที่ท่านกล่าวว่ามีตัวมีตน เร็วแรงเสียยิ่งกว่าสิ่งใดๆ

    ท่านว่ามหาศาสตร์เช่นนี้ไม่มีใครเขาทำกัน เหมือนของต้องห้าม เหนือกว่าไสยศาสตร์ของเขมรหรือฝั่งสยามมากนัก ไม่ต้องกล่าวถึงเลยว่าจะได้ครอบครองกันง่ายๆ เพราะทำยากตั้งแต่หาชนวนมวลสสาร แม้กระทั่งการลงจารอักขระก็ต้องใช้ยันต์และคุณวิชาประกอบกันจนเป็นรูปร่างเครื่องทรง ท่านว่ายากกว่าการจารเสกขึ้นรูปนามตามธรรมดา เพราะทุกอย่างนั้นมีขั้นตอนและถูกกำกับไว้อยู่แล้ว เมื่อสำเร็จได้ไปคนใช้เท่านั้นจะรู้ว่าคำที่กล่าวว่า สำเร็จ ศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์นานัปประการนั้นมิได้เกินความจริงเลย ผู้ได้ครอบครองไว้ย่อมเป็นยอดคนมีครบทุกอย่างดั่งใจปรารถนา เหมือนมหาราชบุเรงนองผู้ชนะสิบทิศแต่ครั้งอดีตที่เคยถือวิชานี้เช่นกัน ก็แล้ววิชาเช่นนี้ ใครเล่าเค้าจะทำให้กันง่ายๆ จากคนธรรมดากลายเป็นพระราชา กลายเป็นมหาราชที่มีทุกอย่าง ท่านว่าคิดเท่านั้นก็แล้วกันไม่แปลกเลยว่าทำไมถึงหวงห้าม

    พ่ออาจารย์ท่านได้บัดพลีก้อนตะกั่วมาทุบตีหล่อหลอมลงจารยันต์มหากำเนิดเกิดรูปนาม ชำระธาตุ ก่อนจะส่งไปรีดเป็นแผ่นแล้วนำมาเข้าพิธีลงสรงมุรธาวารี ก่อนจะนำมาลงอักขระยันต์ตามฤกษ์ยามวันเวลาบังคับ ท่านว่ากว่าจะได้แต่ละดอกนั้นเรียกสูตรว่ากันจนหมดฤกษ์ ยากนักที่จะทำและรวบรวมได้เสียจำนวนหนึ่ง

    เมื่อท่านลงจารเสร็จแล้วจึงนำมาอุดผงมวลสารสำคัญโดยลบยันต์มหาวิญญาณกำเนิด ผูกจิตมหหาภูติศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ท่านว่าวิชาทำผงนี้เป็นของพระกศยปเทพบิดรซึ่งเป็นมหาเทพผู้ประทานชีวิตและชาติพันธุ์หมู่สัตว์ทั้งผอง เมื่อจะทำต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องธาตุและระบบชีวิตอย่างแตกฉาน เมื่อสำเร็จจะบรรจุสิ่งใดก็ตาม หากตั้งมั่นกำหนดให้มีอานุภาพเพียงไหน มีชีวิตอย่างไร ท่านว่าย่อมเป็นไปตามจิตนึกคิดมีอานุภาพเพียงนั้น มีความสำเร็จเพียงนั้น เป็นผงที่มีญาณมีธาตุมีตัวรู้ทุกอณู เสมือนเราได้ผูกพรหมลิขิตขึ้นมาด้วยตัวเอง วิชาเช่นนี้ท่านว่ายากนัก ถ้าไม่ทำมาบรรจุในตะกรุดครูนี้เพื่อเสริมส่งให้มีอานุภาพยิ่งๆขึ้นไป ท่านว่าผงแบบนี้ท่านจะไม่ลบเด็ดขาด มันฝืนกรรมสัตว์มากไปเพราะสัตว์ทุกผู้ทุกนามนั้นล้วนมีความคิดความต้องการเป็นของตนเองทั้งสิ้น

    เมื่อท่านลบผงสำเร็จแล้วจึงนำผงนั้นมานวดกับน้ำมันอันมีพรรณคุณวิเศษต่างๆก่อนจะบรรจุไว้ในตะกรุด ซึ่งท่านว่าจุดสำคัญอยู่ตรงนี้ เพราะน้ำมันชนิดต่างๆนั้นล้วนมีอานุภาพแตกต่างกันไป ค่อยๆนวดเข้ากับผงจนจับตัวเป็นก้อน นวดไปประสิทธิ์มนต์จินดามณีไป น้ำมันทั้งหลายย่อมดูดซึมเข้าอณูเนื้อส่งผลให้ผงนั้นมีอานุภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก
    - น้ำมันตาชูชก ท่านว่าขออะไรใครก็ได้ ขออะไรใครเขาก็เต็มใจให้ ถึงขั้นว่าเลือดในอกยังยกให้ได้ชีวิตนี้ไม่มีหวงอะไรกับเราทั้งสิ้น ท่านว่าน้ำมันชูชกนี้ใช้ได้ทุกทาง ขอคนอื่นเค้าได้หมด แม้เราจะขอสิ่งใดกับตะกรุดแน่นอนว่าย่อมได้ด้วยเช่นกัน
    - น้ำมันไก่กุก เป็นวิชามหาวนหมาเวียน รักไม่สร่าง สุดแล้วแต่จะใช้ท่านว่าอธิษฐานเอาเถิดจะใช้ทางทำมาหากินหาโชคลาภก็ได้แล้วได้อีก จะใช้ทางเสน่หาก็รักแล้วรักอีก
    - น้ำตาปลาพะยูน ซึ่งหาของแท้ยากนัก แม้แต่คนใต้ยังยกย่องว่าแรงเสียยิ่งกว่าน้ำมันพราย เอาว่าน้ำมันพรายนั้นแรงแค่ไหน น้ำตาปลาพะยูนที่เสกทับประจุวิชาแรงกว่านั้นจนเทียบไม่ติด
    - น้ำมันสาลิกาป้อนเหยื่อ ท่านว่าน้ำมันนี้ต้องใช้ธาตุอาถรรพ์นกที่ตายตามตำรา ซึ่งหายากมาก กว่าจะได้ทำและทำได้จนทำสำเร็จนั้นใช้เวลานานนัก มีอานุภาพดีครอบจักรวาล ตามแต่จะอธิษฐานบูชาเล่นได้ทุกทาง
    - น้ำมันช้างโขลงหรือกัวเผาะก็เรียก ท่านว่านี่มหากำเนิด เป็นวิชาทางราคะ หมอเสน่ห์หมอส่วยชอบใช้ เอาไปใช้ได้ทุกทาง เพราะคนที่เขาเห็นเราจะมีความปรารถนารักใคร่เมตตาเราแต่ผู้เดียว ทำงานก็รักยิ่งกว่าลูกในอก ครองคู่ก็รักลืมชีวิต
    - น้ำมันว่าน เป็นว่านตระกูลเสน่ห์ทั้งดอกทอง รักซ้อน จันทร์หอม เถาว์หลง เสน่จันทร์ ต่างๆเป็นต้น ท่านว่าว่านเหล่านี้ปลูกและกู้ตามตำรากว่าจะได้นั้นจึงยากแลนำมาทำน้ำมันเพื่อเอาฤทธิ์ว่านยาแต่ละชนิดมาใช้
    - น้ำมันชะมด ท่านว่าเป็นมหาจังงัง แตะตรงไหนอยู่ตรงนั้น โดนอะไรก็เคลิบเคลิ้มคล้อยตาม ท่านว่าทุกอย่างเป็นไปตามปากไม่ขัดใจเราเลย
    - น้ำมันสาริกาตายตอมซาก ท่านว่าก็ตายคารัง ไปไหนไม่รอด เป็นมหาสะกดให้คิดถึงเรา ใช้ได้ทุกทาง ทั้งเสน่ห์และมหานิยม ใช้ให้ลูกค้าติดใจกลับไปแล้วต้องมาหาอีก หรือใช้ให้คู่ครองไม่เบื่อหน่ายก็ได้
    - น้ำมันแย้ลงรู ท่านว่าเป็นเคล็ดทางเสน่ห์ที่ว่ามันอยู่ในรูไหนก็ต้องกลับเข้ารูนั้น ซื่อสัตย์จริงใจไม่แปรเปลี่ยน
    - น้ำมันเทพรัญจวน ท่านว่าดีทุกทางไม่ต้องกล่าวอะไรมาก เทวดายังมาช่วยตอนทำ เอาว่าเทวดายังหลง คนธรรมดาไม่ต้องพูดถึง
    - น้ำมันกบกินเดือน ต้องพลีซากกบอันมีอาถรรพืต้องตำรามาเคี่ยว เป็นมหาเสน่ห์อย่างรุนแรง
    ท่านว่าน้ำมันแต่ละอย่างนั้นกว่าจะทำได้ต้องใช้เวลานาน ท่านว่านานนับสิบปีก็ไม่ผิดเพราะกว่าจะหามวลสารและหุงตามตำราแต่ละชนิดได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จะเรียกว่าตะกรุดรุ่นนี้คือสิ่งที่ตกผลึกทางวิทยาคมก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านเมตตานำมานวดเข้าผงให้ท่านบอกว่าเหมือนทำอาหาร จะได้มีครบรส สุดท้ายก็แล้วแต่จะนำไปใช้เถิด เพราะมีหมดครบทุกสิ่ง

    ตะกรุดพระเทพบิดรมหาญาณ(ศาสตร์หงสา)นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องเสน่ห์ไม่ต้องกล่าวถึง เพราะเสน่ห์เมตตามหานิยมนั้นแรงมากถึงขั้นตบะแตก ซ้ำยังเรียกโชคเรียกลาภให้เข้ามาสู่ชีวิตเราอย่างง่ายดาย ใครขาดคู่ก็พบคู่ ใครขาดสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้นสมความมุ่งมาตร ชะตาวาสนาฟ้าหนุนส่ง ที่ไม่เคยเกิดมีก็จักมีเอาว่าขออะไรก็สำเร็จสิ่งนั้น ฝูงชนทั้งหลายจะนิยมใกล้ชิดสนิทสนม คู่ครองจะไม่รู้หน่ายคลั่งใคล้ให้เกียรติเรา มีครบทั้งทางด้านสะกด วนเวียน มีฤทธิ์กำราบได้ทั่วไม่ว่าจะเป็นวิชากุมารหรือเพชรพญาธร ดวงจิตเจตภูติต่างๆล้วนตกอยู่ในอำนาจมหาภูติวิญญาณนี้ทั้งสิ้น ต่างกับกุมาร พยนต์ หรือเพชรพญาธรต่างๆ เพราะเป็นศาสตร์ลับที่ท่านไม่สามารถพูดหรือบอกอะไรได้ ท่านว่าทำไว้ได้แค่หนเดียวเมื่อสำเร็จแล้วต่อไปย่อมไม่มีอีก

    ที่ท่านตั้งชื่อว่าพระเทพบิดรมหาญาณนั้น เพราะตะกรุดนี้เป็นตะกรุดผูกมหาญาณจอมภูติขึ้นมา มีฤทธิ์เสด็จจรไปบนเบื้องนภากาศสุราลัยเข้าได้หมดทุกภพภูมิ เหนือกว่าเหล่านักสิทธิ์วิทยาธรทั้งหลาย ทั้งยังมีเดชมาก ยิ่งเก่งมากก็ยิ่งช่วยได้มาก ไวมาก สำเร็จมาก ประกอบกับได้นำมาอุดผงในสายบารมีองค์มหากำเนิดคือพระกัศยปเทพบิดร ซึ่งเป็นมหาเทพ มหาฤาษี ผงนี้มีบารมีสูงมาก ท่านว่าก็มากพอที่จะให้กำเนิดเกิดมีได้ทุกอย่าง แม้แต่ระบบชีวิตชาติพันธุ์จิตวิญญาณต่างๆ รูปร่างลักษะรายละเอียดท่านยังให้กำเนิดได้จะนับอะไรกับความปรารถนาในใจคน ซึ่งเป็นลูกหลานของท่าน พ่ออาจารย์ท่านตั้งชื่อตะกรุดนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่พระเทพบิดรกัศยป และถือเป็นนัยน์อีกอย่างหนึ่งด้วยว่ามหาญาณจอมภูติอันมีเดชมากนี้ เปรียบดุจกับพ่อที่มีเมตตาต่อลูกทุกอย่าง ช่วยสุดใจเขา เป็นทุกข์เป็นร้อนไปกับเราไม่ทอดทิ้งกัน

    เมื่อท่านนำตะกรุดมาอุดผงที่นวดกับน้ำมันประเภทต่างๆแล้ว จึงนำมาเชิญครูเสกอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่าแม้ลำพังตัววิชาตะกรุดก็มีคุณมากแล้ว ตะกรุดนี้มีวิธีใช้สำคัญนัก เมื่อเลี่ยมแล้วให้เจาะรูที่ปลอกตะกรุดด้วย จะขออะไร จะบูชายกมือจบไหว้ก็ให้หาน้ำหอมขวดเล็กๆพกไว้ ขออะไรเขาก็ฉีดบูชาไปเสียทีหนึ่ง ไม่ต้องบนบานศาลกล่าวกันลืม ถวายน้ำหอมนี่แหละท่านว่ายิ่งฉีดบ่อยยิ่งแรง เลือกเอากลิ่นที่ตัวเราเองชอบ ย้ำว่ากลิ่นที่ตัวเราเองชอบเท่านั้น ถ้ารู้สึกว่าอ่อนหรือฉุนจมูกมากไปไม่เอา

    คาถาบูชา
    จิเจรุนิจิตตัง เจตสิกกัง รูปังนิพพานัง ตังนิพพุตัง ทะนะมะพะ ปฐวีธาตุทีฆังวา มะอะอุจิตตัง จุตะติ จิตติจิตตัง จิตมนุษย์หญิงชายทั้งหลายทั่วทั้งแผ่นดิน มีจิตมารักกูทุกผู้ทุกคน อุอะมะเกลื่อนกล่นกันมา อะมะอุรักกูอย่าขาด สัพพะรักกู มหารักกู ภวันตุเม


    * พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่าตะกรุดนี้มีดวงจิตอันผูกเข้ากับเจ้าของผู้เป็นนายทุกดอก คุณแห่งวิชาได้กำหนดผู้ครอบครองไว้ตั้งแต่ต้น เมื่อญาณของพระเทพบิดรสถิตย์แก่ร่างผู้ใดย่อมเป็นเหตุ เป็นบ่อเกิดให้เจริญรุ่งเรื่องไม่รู้จบ ท่านว่าท่านอุดผงลบล้วนๆให้จึงสร้างบูชาครูไว้ได้เพียง 5 ดอกเท่านั้น สำหรับท่านที่ต้องการบูชาก็ให้แจ้งเฉพาะทาง PM รายได้สมทบทุนจตุปัจจัยให้วัดในถิ่นทุรกันดารและประสบอุทกภัยต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระเทพบิดรมหาญาณ(ศาสตร์หงสา) บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Picture-004.jpg
      Picture-004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      213 KB
      เปิดดู:
      82
    • E3369951-16.jpg
      E3369951-16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.6 KB
      เปิดดู:
      222
    • SAM_5159.JPG
      SAM_5159.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      73
    • SAM_5158.JPG
      SAM_5158.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      85
    • SAM_5161.JPG
      SAM_5161.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      90
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงเหล็กไหลมหากาลจักพรรดิทองคำ(เทวะบัญชา)

    แต่เดิมนั้นสมัยท่านยังแสวงหาความวิเวก พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านได้รับเหล็กไหลก้อนหนึ่งจากพวกบังบด มีลักษณะเป็นก้อนสัณฐานกลมแบบดวงแก้ว มีสีทองคำเหลือบเขียวและมีเหล็กไหลไพรดำซึ่งเป็นสุดยอดตำนานของวัตถุธาตุกายสิทธิ์เคียงคู่มากับเหล็กไหลน้ำหนึ่ง เป็นสายแร่เหล็กไหลไพรดำวิ่งผ่านภายในเนื้อบางส่วน ซึ่งท่านเล่าว่าการเลี้ยงไพรดำถือว่ายากแล้ว แค่ว่านไพรดำนั้นก็มีอำนาจไม่ต่างจากเหล็กไหลน้ำหนึ่งดีๆนี่เอง แต่การเลี้ยงให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ให้เกิดธาตุกายสิทธิ์ในไพรดำนั้นจนเป็นเหล็กไหลไพรดำ และสายธาตุเหล็กไหลไพรดำวิ่งเข้ารวมกับธาตุกายสิทธิ์อื่นนั้น หากเทพพรหมไม่เล่นฤทธิ์แล้ว ท่านว่าปุถุชนแม้มีอาคมเฟื่องฟูอย่างไรก็ไม่สามารถทำได้เลย พ่ออาจารย์ท่านเรียกของวิเศษนี้ว่าเหล็กไหลจักรพรรดิทองคำ ท่านว่ามันอยู่นอกเหนือกฏเกณฑ์ตลอดจนวรรณะของตระกูลเหล็กไหลต่างๆ มีฤทธิ์และบารมีมากจนถึงขั้นที่ว่ามีจิตวิญญาณและกายทิพย์ของตน ท่านว่าเป็นอจินไตยไม่สามารถพูดได้ เอาแค่ว่ากายสิทธิ์นี้สามารถบันดาลให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ สามารถเปลี่ยนเป็นไปได้ ทำให้สิ่งที่ไม่มี เกิดมีขึ้นได้ เป็นของสวรรค์ที่ควรกล่าวว่ามีคุณอนันต์จะตกมาเป็นสมบัติในครอบครองของผู้ทรงศีลธรรมเท่านั้น ว่ากันว่าของวิเศษเช่นนี้เป็นหนึ่ง ไม่มีสองทีเดียว ยากที่จะปรากฏให้พบเห็นหรือให้ผู้ใดได้ไว้ถือครอง

    คราวหนึ่งเมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้รับพุทธนิมิตจากสมเด็จองค์ปฐม ซึ่งเรื่องนี้จะไม่กล่าวมากเพราะเป็นเรื่องของญาณวิถี จะกล่าวแต่พอสังเขปเท่านั้น ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านขอให้ทำพระพิมพ์พิเศษขึ้นมาเพื่อให้ตกต้องแก่ศาสนิกอันมีวาสนาต้องกันกับพระองค์ท่าน เพื่อจะได้ช่วยเปลดเปลื้องกาลแห่งทุกข์ ช่วยให้กิจและภาระทั้งหลายสำเร็จไปโดยพุทธานุภาพ เพื่อเป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งใจ เป็นเครื่องระลึกถึงพระมหากรุธาธิคุณ โดยท่านนิรมิตให้เห็นรูปแบบเฉพาะ พ่ออาจารย์ท่านว่าคล้ายกับพระทรงอรุณเทพ แต่ท่านกำชับไว้ว่าห้ามทำในลักษณาการประทับนั่ง ให้ทำในปางเปิดโลกซ้ายขวาเป็นสุริยะจันทร์ ด้านล่างเป็นเทพพรหมถวายสักการะ อันหมายถึงเปิดหมดทั้งห้วงจักรวาล ทั่วทั้งหมื่นโลกธาตุในแสนโกฏิจักรวาล ตรงนี้สว่างแล้ว เปิดแล้ว ที่ให้ทำในปางนี้นั้น เพราะการเปิดโลกของพระองค์ท่าน ท่านว่านอกจากจุดประสงค์ในการเปิดให้สามโลกได้รู้เห็นว่าพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้ว พระสัทธรรมสถิตย์เสถียรมั่นคงดีแล้ว ในกาลนั้นสัตว์ทั้งหลายตลอดสามภูมิก็ได้อานิสงค์บรรลุธรรมเป็นอันมาก ตลอดจนมีผู้ตั้งปรารถนาประสงค์ในการตรัสพระโพธิญาณสืบต่องวงศ์วานหน่อเนื้อพระชินสีห์สืบมา ท่านว่านี่คือสาเหตุที่มาแห่งความเจริญรุ่งเรือง รุ่งอรุณของชีวิต เมฆร้ายจะถูกปัดเป่าไป สัตว์ทั้งปวงจะไม่ถึงฆาตไม่เข้าสู่ความพินาศและตกต่ำลง

    พ่ออาจารย์ท่านเมื่อแรกนั้นก็ได้แกะพิมพ์บล๊อคไม้ไว้ก่อนนำมาลงอาถรรพ์พระจักรพรรดิ์เปิดโลกก่อนคำรบหนึ่ง แล้วจึงรวบรวมผงวิเศษและว่านยาต่างๆ ทั้ง ไพรดำสาลิกา เทพรำพึง เทพรำลึก ดอกทอง มหาเสน่ห์ กะลาตาเดียว ธาตุแม่โพสพ กฤษนา กะลำพัก ขอนดอก ชมด พิมเสน พิกุล บุญนาก กาหลง บัวเผื่อน สัตตบุตร สัตตบรร บัวหลวง ชงโค โยทกา สวาท หนาด พุท มะกรูด ส้มป่อย จำปา กุหลาบ อังกาบ คันทรง สาวหลง จันขาว จันแดง มะลิวัล มะลิซ้อน มะลิลา ญาณรังสี สหัสรังสี ฉัพรรณรังสี มรกต เหล็กไหล ศรีมหาโพธิ์ สหรีพันต้น ผงคตวิเศษสามตระกูลอาทิคตพืช คตสัตว์จตุบท คตสัตว์ทวิบาท ผงกูโบ๊ท ผงจักรพรรดิ์ ผงเศรษฐีทั้งหก ผงวิชาเศรษฐีทั้งเก้า ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงพุทธคุณ ผงปถมัง ผงปถมังเก้าวรรค ผงปถมังเก้าชั้น ผงสุริยะประภา ผงจันทรประภา ผงเศรษฐี ผงเงินล้าน ผงมหากัน มหาเมตตา มหานิทรา มหาถอน และอื่นๆ ท่านว่าเป็นการรวบรวมมวลสารเพื่อจะสถาปนาพระเครื่องชั้นสูงสุดเช่นนี้เป็นครั้งแรก

    เมื่อรวบรวมมวลสารเสร็จแล้ว ท่านจึงทำของวิเศษเพื่อฝังสองชนิด ซึ่งทั้งสองสิ่งนั้นท่านว่าเสริมอานุภาพขององค์พระให้เด่นมากขึ้นไปอีก ประกอบด้วย
    - เกียรติมุข อันหมายถึงกาลเวลาเป็นการสรรเสริญคุณแห่งพระชินสีห์องค์ปฐมว่า ในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ทรงเป็นหนึ่งแต่ผู้เดียว ซ้ำอีกนัยน์หนึ่ง ท่านว่าผู้ที่อยู่เหนือกาลเวลาได้ย่อมเอาชนะทุกสิ่งอย่างบรรดามี อยู่เหนือวัฏฏ อยู่เหนือกฏแห่งกรรม ลอยตัวออกห่างจากอกุศลเพื่อบ่มเพาะคุณความดี หน้ากาลนี้สามารถกลืนกินได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ท่านปลุกเสกอธิษฐานจิตให้กลืนกินเคราะห์กรรม คุณไสยอวิชชาอันติดมาจากรากเหง้าจิตดั้งเดิม ให้เหลือแต่ความสุข โชคลาภ ความมั่นคง ท่านว่ายิ่งกว่าราหูนะ เพราะราหูอมแล้วยังคลายออก แต่หน้ากาลอมแล้วไม่มีวันคลายจะกลืนกินไปทั้งหมดทั้งสิ้นเช่นนั้น ท่านว่าเมื่อปรารถนาสิ่งใดอธิษฐานขอพระองค์พระแล้ว ก็ให้ใช้กำลังใจพิจารณาให้เกียรติมุขนี้กลืนกินสิ่งที่เราต้องการหรือปรารถนานั้นเสีย ทุกอย่างก็สำเร็จดั่งใจไม่ไกลเกินเอื้อมถึง
    - เหรียญทักษิโณทกมหาทาน พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจทำและเสกเก็บไว้มายาวนานแล้วโดยท่านแกะพิมพ์เป็นพระเวสสันดรมหาโพธิสัตว์ประทานหลั่งน้ำทักษิโณทกแก่ชูชก ท่านว่านี่คือสัญลักษณ์ของการให้ การให้สูงสุด การให้ที่ยิ่งใหญ่ การมอบสิทธิ์ขาด ไม่มีการให้ได้จะสูงสุดเทียบเท่าสิ่งนี้ โดยท่านเสกด้วยมหาทานบารมี ไล่ไปอุปปบารมี และปรมัตถบารมี ก่อนจะไล่ไปครบสามสิบทัศเต็มบารมีพุทธภูมิ ท่านว่าแต่นี้ไปลูกขอพ่อต้องให้ เพราะอำนาจแห่งเหรียญมหาทานนี้คือสิทธิ์ขาดที่ต้องให้ และต้องได้ทุกสิ่งตามที่ขอ เทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องรีบช่วยดุจว่าพระมหาโพธิสัตว์ท่านหลั่งน้ำทักษิโณทกตกต้องแก่เราแล้ว วิชานี้ท่านว่าเหมาะกับคนชอบขอชอบอธิษฐาน เวลาขอให้ขอในสิ่งที่ควร ที่เป็นมงคลกับชีวิตและหมั่นทำทานบ่อยๆ อย่ารังเกียจเดียดฉันท์และนึกเสียดายในทานนั้น ท่านว่าผลแห่งทานจะยิ่งหนุนคำขอและคำอธิษฐานของเราให้สัมฤทธิ์ผลไวขึ้นไปอีก เมื่อจะขอสิ่งใดนึกถึงทานที่เราทำแล้ว กำลังแห่งทานนั้นก็จะตามมาช่วยเหลือเรา


    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านทำเครื่องมงคลที่ท่านพิจารณาแล้วว่าเหมาะแก่กันคู่ควรกันทุกกรณี เพื่อฝังและประสิทธิ์ประสาทลงไปนั้น ท่านยังได้ทำวิชาเพิ่มไว้ในองค์พระอีกสองวิชาด้วย โดยลงตะกรุดฝังไว้ด้านหลังสองชนิด
    - ตะกรุดเงินหรือตะกรุดเทวะบัญชา สำหรับตะกรุดเงินนั้นเป็นวิชาที่ปกติพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ทำเด็ดขาด เพราะว่าท่านกริ่งเกรงคนไม่ดีจะเอาไปใช้ แต่เมื่อท่านสร้างสมเด็จองค์ปฐมเพื่อบูชาครูพระบรมศาสดานั้น ท่านว่าวิชาที่จะลงเสริมไว้ย่อมต้องเป็นที่สุด หนึ่งไม่มีสองเช่นกันถึงจะคู่ควร ท่านจึงทำตะกรุดเทวะบัญชาขึ้น ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาทางปากดีๆนี่เอง แต่ว่าอยู่คนละขั้นกับปากพระร่วง ท่านว่าวิชานี้แทบจะสูญหายหรือไม่มีคนใช้กันแล้ว เพราะให้คุณรุนแรงตรงตามปากพูด ดุจว่าเป็นเทวราชบรรหาร ทุกสิ่งที่ขอที่อธิษฐานเป็นปกาศิตจากเทวดา เมื่อพูดสิ่งใดย่อมเป็นไปตามนั้น เสมอปาก เสมอความคิด เสมอใจ จึงเรียกตะกรุดนี้ว่าเทวะบัญชา เหมือนเทวดามีคำสั่งอะไรออกมาทุกสิ่งย่อมสำเร็จสัมฤทธิ์ผลเสียบัดเดี๋ยวนั้น ไม่ช้าไม่นานเลย
    - ตะกรุดตะกั่วหรือตะกรุดเสมอฝัน ท่านว่าคนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิด ที่จะฝัน ที่จะสร้างกำลังใจให้ตัวเอง เพื่อขวนขวายชีวิตความเป็นอยู่หรือสิ่งต่างๆบรรดามีให้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น แต่จะมีซักกี่คนเล่าที่เดินตามความคิด ความฝัน มีบุญเปิดฟ้าหนุนส่งจนประสบความสำเร็จ ซึ่งแน่นอนว่าคนเหล่านี้มีเสียน้อยยิ่งกว่าน้อย ที่เหลือนั้นเดินไปได้แต่ไม่สุดบ้างหรือแค่คิดจะเดินก็ล้มเหลวแล้วบ้าง ท่านว่าตะกรุดเสมอฝันนี้ท่านไม่พูดมาก บอกแค่คร่าวๆว่าฝันที่เป็นจริงก็แล้วกัน มันจะช่วยทำให้เราสานต่อและเติมเต็มความฝันความปรารถนาในชีวิตเราได้ไม่มีอุปสรรคใหญ่โตหรือติดขัดสิ่งใดจนต้องหยุดชะงัก ความหมายก็ตรงตามชื่อว่าเสมอฝัน ขอให้ความฝันนั้นเป็นเหตุแห่งความเจริญรุ่งเรืองย่อมสำเร็จโดยพระพุทธานุภาพ

    เมื่อท่านได้เตรียมจะกดพิมพ์เนื่องจากมวลสารพร้อมแล้ว ทุกอย่างประกอบกันสมบูรณ์ดีแล้ว ท่านได้ขอคำปรึกษาจากเสด็จพระใหญ่ให้ลงมาช่วยกำกับในทุกขั้นตอนด้วย ซึ่งตรงนี้นั้น เมื่อท่านขอท่านได้รับคำแนะนำว่าให้นำของกายสิทธิ์อันมีพลังงานของสวรรค์ เป็นของวิเศษที่เทพพรหมรักษาอันท่านได้มาจากชาวบังบดมาประดิษฐานลงไปด้วย พ่ออาจารย์ท่านปกติจะใช้เหล็กไหลนี้ทำน้ำมนต์บ้าง อธิษฐานจิตภาวนาหรือสวดบริกรรมบ้าง แต่เมื่อได้รับคำสั่งท่านถือว่าเป็นโองการที่ไม่ควรคิดเป็นอื่น ทุกสิ่งเป็นของนอกกาย เมื่อควรจะสละก็ต้องสละมันเสีย ท่านจึงอาราธนาให้ดวงเหล็กไหลนั้นแตกออกมา มีกี่ส่วนท่านก็จะทำพระเพียงเท่านั้นองค์ หากแตกออกมาชิ้นเดียวก็จะทำเพียงองค์เดียว โดยวันรุ่งขึ้นนั้นท่านตรวจสอบพบความอัศจรรย์ว่าก้อนเหล็กไหลนั้น ได้แบ่งส่วนตัวเองออกมาถึงเก้าส่วน และยังเหลือส่วนนึงซึ่งเป็นลูกที่ไม่สมบูรณ์ท่านก็นำมาอาราธนาใช้ต่อ ท่านว่าทั้งเก้าส่วนนี้จะนำมาทำพระได้ทั้งหมดเก้าองค์ไม่ขาดไม่เกินและจะตกต้องแก่ผู้มีบารมีคู่ควรกันเท่านั้น

    เมื่อท่านกดพิมพ์แล้วท่านได้นำมาเสกเก็บไว้ตกสองปี ซึ่งการเสกนี้ไม่ใช่การเสกแบบธรรมดา แต่เป็นการเสกและอธิษฐานจิตแบบเปิดโลก ซึ่งต้องใช้กำลังใจสูงมากกว่าการเสกที่ผ่านๆมา โดยทุกวาระท่านจะหาสถานที่สงบที่มีพลังธรรมชาติสูงจากการคำนวณของท่านเองและนำองค์พระนี้ไปเสกแบบเฉพาะกิจเปิดโลกมาตลอด ท่านว่าทำทุกครั้งเราไม่ได้ทำคนเดียว ท่านบอกแค่เราเสกแบบเปิดโลก เสด็จพระใหญ่ท่านก็ทำให้แบบเปิดโลกเช่นกัน คงจะไม่มีพระรุ่นใดแล้วที่พระองค์ท่านจะเมตตาทำให้ถึงเพียงนี้ ท่านพูดเพียงแต่ว่านี่คือตำนานสืบไป เบื้องหน้านั้นย่อมไม่ปรากฏขึ้นอีก

    คาถาบูชา
    นะโม กาเยนะ วาจายะ เจตะสาวา วะชิรังนามะปะฏิมัง อิทธิธรรมะปาฏิหาริยะกะรัง พุทธะปฐมังสัมมาสัมพุทโธภะคะวา อะหังวันทามิสัพพะโส สะทาโสตถี ภะวันตุเม


    * สำหรับพระผงเหล็กไหลมหากาลจักพรรดิทองคำ(เทวะบัญชา)นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าจะมีไว้เป็นมงคลแก่ชีวิตเฉพาะผู้มีวาสนาต้องกัน ต้องเกื้อหนุนกัน ต้องช่วยเหลือกัน ต่อไปภายหน้าถึงแม้รวยล้นฟ้าแต่ไม่มีวาสนาก็ไม่สามารถครอบครองได้ ก็รับเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้บูชาท่านให้แจ้งเพียงชื่อนามสกุลไว้ ท่านจะทำการเจิมบอกกล่าวเสด็จพระใหญ่รวมถึงจิตกายสิทธิ์ในองค์เหล็กไหลอีกคำรบหนึ่ง บุญกุศลที่เกิดจากจตุปัจจัยนั้นท่านจะนำไปสร้างกุศลด้านวิหารทานในถิ่นทุรกันดารสืบไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงเหล็กไหลมหากาลจักพรรดิทองคำ(เทวะบัญชา) บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 035.jpg
      035.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.7 KB
      เปิดดู:
      133
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      11 KB
      เปิดดู:
      82
    • 20080823_172359.jpg
      20080823_172359.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.3 KB
      เปิดดู:
      106
    • SAM_5162.JPG
      SAM_5162.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.3 MB
      เปิดดู:
      136
    • SAM_5163.JPG
      SAM_5163.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      126
    • bb01.gif
      bb01.gif
      ขนาดไฟล์:
      55.9 KB
      เปิดดู:
      100
    • vessandorn.jpg
      vessandorn.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.3 KB
      เปิดดู:
      92
    • kal1.jpg
      kal1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      553.1 KB
      เปิดดู:
      92
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ดวงแก้วบรมจักรพรรดิ์ (ลูกธาตุเนรมิต)

    พ่ออาจารย์ท่านเล็งเห็นความสำคัญของวัตถุธาตุชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นของสำคัญอันจะกำเนิดมาแต่พระเจ้าจักรพรรดิ เป็นดวงแก้วมณีที่มีอานุภาพมาก สามารถอธิษฐานปรารถนาสิ่งใดก็ย่อมได้ ซึ่งดวงแก้วนี้แม้ชั้นหลังองค์หลวงพ่อฤาษีท่านก็มีของท่าน เรียกว่าแก้วหนึ่งดวงนั้น ล้วนเป็นของประเสิรฐยิ่งเพราะสามารถบันดาลได้ทุกสิ่งไม่มีอับจน

    เมื่อท่านพิจารณาแล้วว่าจะทำดวงแก้วบรมจักรพรรดิ์ขึ้นมาซักหนหนึ่งให้คนนำไปบูชาเป็นขวัญบ้าน ขวัญเรือน ขวัญชีวิต ท่านว่ายากนักหากจะสถาปนาขึ้นมาจริงๆ เพราะตัวท่านหรือเทวดาที่ไหนก็เสกไม่ได้ จนท่านได้รับอนุญาติจากเสด็จพระใหญ่ว่าจะช่วยทำพร้อมทั้งบอกให้ท่านสร้างจากวัตถุธาตุต่างๆมากมายที่ต้องใช้เวลารวบรวมนานมาก ท่านว่ามีตั้งแต่ของหาง่ายแต่เอายาก จนไปถึงของที่หายากและเอายิ่งยาก ท่านว่ากว่าจะรวบรวมได้ครบนั้นหายอยากทีเดียว ทำเพียงหนเดียวก็พอแล้ว ซึ่งท่านเรียกวัตถุธาตุต่างๆเหล่านั้นว่าธาตุเนรมิต ท่านว่าเสด็จพระใหญ่แนะนำไว้ ว่าหากจะทำด้วยการไปซื้อดวงแก้วหรือคริสตัลมาเสกก็ย่อมได้ แต่ว่าหากจะทำให้มีอานุภาพเสมอของจริงแล้ว ก็ต้องใช้ความอุตสาหะรวบรวมของอาถรรพ์ต่างๆขึ้นมา ซึ่งท่านว่าของที่รวบรวมที่เรียกว่าธาตุเนรมิตนี้ไม่มีใครรู้จัก รู้ที่หาที่เอา ท่านไปตามคำสั่งตามคำบอกของเสด็จพระใหญ่ถึงจะรวบรวมได้ ท่านว่าของแบบนี้ไม่มีแบบแผนตามตำราในโลก แม้สร้างขึ้นมาก็สร้างได้เพียงครั้งเดียวไม่เกินนี้ ถ้าไม่ได้เสด็จพระใหญ่ท่านบอกหรือช่วยทำย่อมไม่สำเร็จได้

    ท่านได้นำผงซึ่งเสด็จพระใหญ่มักจะบอกให้หาให้รวบรวมในเวลาหลายสิบปีมาผสมกัน ท่านว่าผงที่ท่านให้ไปเอานั้น ล้วนแต่มีเจ้าของ ไม่ใช่ผงที่มนุษย์ทำไว้ทั้งนั้น ล้วนแต่เป็นของทิพย์ ของเทวดาท่านสร้างไว้ ท่านจึงเรียกผงเหล่านี้ว่าธาตุเนรมิต เพราะเกิดจากการสร้างการเนรมิตของเทพพรหมนั่นเอง ท่านว่าเข้าป่าไปทั้งเหนือใต้ออกตก ค่อยๆรวบรวมไว้พูดเหมือนจะสั้น เหมือนจะง่าย แต่ความจริงนั้นไม่ง่ายอย่างที่พูดเลย ก่อนที่จะนำมานวดมาหมักรวมกัน ท่านว่าธาตุเนรมิตเหล่านี้เป็นของดีมีอาถรรพ์ ถือว่าแปลกประหลาด เพราะสามารถดลบันดาลให้เกิดเรื่องเสมอใจคิด ท่านว่าตอนนวดผงนั้น คิดสิ่งใดมันก็ออกมาแบบนั้น จนแม้ตอนหลังสร้างและประกอบพิธีเสกเสร็จสิ้นคนได้ไปก็จะกลับมาบอกว่าสำเร็จแล้ว ได้แบบนั้นแบบนี้ จนท่านเองเปลี่ยนชื่อให้ใหม่จากลูกแก้วบรมจักรพรรดิ์เป็นลูกธาตุเนรมิต ท่านว่าสรรพคุณเหมือนกัน แต่ความหมายนี่ชัดเจนกว่า จะคิดหรือปรารถนาอะไรก็ได้ดั่งใจดั่งว่าเทวดามาเนมิตถวาย

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงธาตุเนรมิตที่ท่านรวบรวมได้ด้วยความยากลำบาก มาผสมกับผงจักรพรรดิชองหลวงปู่ดู่ ผงทำพระของท่าน ตลอดจนผงวิเศษห้าประการที่ท่านลบถมเอง และผงจินดามณี ผงแก้วบรมจักพรรดิ ท่านว่าเพียงเท่านี้ก็เหลือกินแล้ว ลำพังผงธาตุเนรมิตที่คนไม่มีปัญญาทำได้นี่ก็เหลือกินนัก ท่านนำมาหมักมานวดกับน้ำมุรธาวารี ซึ่งเป็นน้ำที่เกิดขึ้นเองจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติเช่น น้ำในพระพุทธบาท น้ำในเศียรพระปฏิมา น้ำในบาตรพระปฏิมา น้ำทิพย์ในบ่อในถ้ำสำคัญต่างๆ ที่สำคัญที่สุดนั้น ท่านนำมาผสมผงไม้ตะเคียนโบราณพันปีด้วย ท่านว่าใส่ไปให้เป็นเชื้อเพราะตะเคียนต้นนี้มีจิตของนางตะเคียน เขาไวต่อการบนบานศาลกล่าวหรือคำบูชาอธิษฐานของมนุษย์ท่านว่าเวลาขอ จะได้สำเร็จสมหวังรวดเร็วดั่งใจ

    เมื่อท่านนวดและปั้นลูกธาตุเนรมิต หรือแก้วบรมจักรพรรดิ์แล้ว ท่านว่าเรื่องการเสกนั้นท่านทำเองไม่ได้ เทวดาก็ทำไม่ได้ ต้องเชิญเสด็จพระใหญ่และพระพุทธเจ้าองค์สำคัญอันมีฤทธิ์เป็นเอกมาทำทั้งสิ้น เพราะทุกคนที่จะทำนั้นต้องมีบารมีเสมอหรือเหนือกว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์ทั้งสิ้น เมื่อสำเร็จแล้วนั้นท่านว่าใช้ได้เสมอกันไม่ต่างจากของที่อยู่จุฬามณีเลย

    อันดวงแก้วนี้ให้หาพานมาตั้งประดิษฐานไว้บูชา ท่านว่าเป็นวิชาสำคัญของเสด็จพระใหญ่อย่าประมาทว่าเป็นของเล่น ให้หาที่ตั้งวางให้เหมาะให้ควรเพราะว่าทิพย์กายทั้งหลายเค้าลงมารักษา มาชื่นชมบารมีดวงแก้ว ท่านว่ามากล้นพ้นประมาณ เสมอกันกับดวงแก้วจักรพรรดิ์อันประดิษฐานที่พระจุฬามณีในดาวดึงส์นั่นทีเดียว พูดได้ว่าดวงแก้วอยู่ที่ไหน เทพพรหมทั้งหลายก็ลงมาประชุมที่นั่น คอยอารักขาดวงแก้วสำคัญนี้ เทพพรหมเค้าลงบ้านไหนบ้านนั้นก็เจริญรุ่งเรือง ท่านว่าควรใส่พานวางไว้หน้าพระพุทธรูปจะเป็นการดี

    ลูกธาตุเนรมิตนี้ท่านว่านอกจากบูชาแทนแก้วสารพัดนึกหรือแก้วบรมจักรพรรดิ์แล้ว ที่สำคัญเลยคือใช้ฝึกกรรมฐานได้ แม้ลูกเดียวก็คลุมได้ทั้งบ้านทั้งวงศ์ตระกูล เดิมพ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้เก้าลูก แต่มีผู้เชิญไปบูชาแล้วสี่ลูกซึ่งก็มีประสบการณ์ต่างๆนานา ทั้งเห็นดวงไฟสว่างวาบบริเวณดวงแก้วเวลาปิดไฟตอนกลางคืน หรือบนบานขอสิ่งใดก็สำเร็จรวดเร็วดุจแก้วสารพัดนึก ท่านว่าก็ความคิดความปรารถนาคนมันมีร้อยแปดพันประการ แต่ละวันนั้นหาจะซ้ำกันได้ซักวันหนึ่งไม่มี ดังนั้นท่านจึงขอโอกาสและวาระกับเสด็จพระใหญ่ให้ท่านประทานดวงแก้วบรมจักรพรรดิ์ไว้แก่ผู้ที่มีบารมีต้องกัน

    ซึ่งดวงแก้วนี้ท่านว่าหากไร้วาสนาไม่มีบารมี เกิดมาเช่นใดก็ไม่มีวันได้พบเจอหรือพบคุณสมบัติในดวงธาตุนี้ได้เลย ต้องมีวาสนาต้องกันได้พบเจอและครอบครองเท่านั้น ท่านว่าของใครของมัน แม้เกิดชาติภพใหม่ก็ย่อมมีเหตุให้ตามเราไปเป็นพันธะสัญญาเกื้อกูลกันทุกชาติ ท่านว่านี่จึงไม่ใช่ของเล่น ท่านว่าเพียงผงธาตุเนรมิตที่ท่านรวบรวมมาอย่างยากลำบากและมีอาถรรพ์ในตัวมากมายนั้นก็เกินคุ้มไปแล้ว

    ดวงธาตุเนรมิตหรือแก้วบรมจักรพรรดิ์นั้นพ่ออาจารย์ท่านทำไว้เก้าลูก เหลือให้บูชาห้าลูก มีลักษณะเขื่องประมาณหนึ่งฝ่ามือ ท่านว่าเมื่อใส่พานแล้ว ถึงวันพระหรือวันสำคัญใด ฤกษ์ดียามดี ก็ให้หาแผ่นทองมาอธิษฐานปิดบูชาที่ดวงธาตุนั้น จะพรมด้วย้ำอบน้ำปรุง ถวายพวงมาลาสักการะยิ่งดี ท่านว่าเทพพรหมทิพย์กายทั้งหลายเค้าชอบของเค้า หมั่นดูแลภาชนะบรรจุดวงธาตุนี้ให้สะอาด ดอกไม้อย่าให้แห้งเหี่ยว ท่านว่ามีแต่เจริญลูกเดียว เวลาจะอธิษฐานจิตสิ่งใดกับดวงแก้ว ท่านว่าเมื่ออธิษฐานแล้ว ให้บอกกล่าวดวงแก้วปิดท้ายด้วยว่าขอความปรารถนาหรือสิ่งที่อธิษฐานนั้น จงสำเร็จโดยพลันเทอญ

    ในการบูชานั้นท่านว่าก็สวดมนต์ไหว้พระของเราไปตามปกติ แต่หากปรารถนาจะสวดพระคาถาบูชาจริงๆก็ให้สวดบทวิระทะโยหรือคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าได้

    คาถาบูชา
    พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานี มามะ พุทธัสสะ สวาโหม


    ดวงธาตุนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีเจ้าของครอบครองครบทุกคน ทุกคนที่มีวาสนานั้นล้วนแต่ดำเนินมา สร้างบารมีมา บนหนทางที่จะนำไปสู่การเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ มื้อหน้า ชาติภพหน้าทั้งสิ้น ท่านว่ามวลสารท่านรวบรวมให้แล้ว การสำเร็จดวงแก้วอันเป็นสิ่งเฉพาะตนนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านก็ทำให้ด้วยข่ายญาณบารมีของพระองค์ท่านแล้ว ท่านกำหนดหมดแล้วว่าของนั้นจะต้องตกไปเป็นของผู้ใด ได้เกื้อกูลใครตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่มีเกินกำลังญาณของเสด็จพระใหญ่ท่าน ท่านจึงพูดเสมอว่าดวงธาตุนี้มีเจ้าของหมดแล้ว เพราะของนี้เทวดาเค้าหวงแหน ต้องคนมีบุญเท่านั้นถึงจะครองไว้ได้

    * ลูกธาตุเนรมิตนี้เหลือให้ร่วมทำบุญบูชาเพียง 5 ลูก สำหรับผู้ต้องการนำไปบูชาเป็นขวัญเรือน ขวัญชีวิต ให้ติดต่อบูชาเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้จะร่วมสมทบทุนหล่อองค์พระใหญ่ต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ดวงแก้วบรมจักรพรรดิ์ (ลูกธาตุเนรมิต) บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลสมดุลอาถรรพ์เศวตเวทย์(แมลงปอกลับธาตุ)

    พ่ออาจารย์ท่านเคยปรารภถึงวิชาแมลงปออยู่หลายครั้งแต่ท่านก็ยังไม่ใคร่ทำ จนหลายครั้งมีผู้นำแมลงปอสำนักต่างๆที่ศูนย์พระสร้างมาให้ท่านตรวจสอบ ก็กลับพบว่าแมลงปอเหล่านั้นผู้สร้าง ยังไม่รู้แม้แต่หัวใจของแมลงปอไม่มีการลงหัวของแมลงปอเลย ท่านว่าป่วยการที่จะพูดอะไรมากกว่านั้นว่าเสกไปได้อย่างไร

    หลังจากนั้นท่านมีนิมิตเชื่อมต่อเข้ากับอารยธรรมยุคบรรพกาล ท่านจึงรู้และเห็นความสำคัญของวิชาแมลงปอที่ว่า ทำไมทุกคนถึงควรที่จะมี วิชาแมลงปอนี้สำคัญเพียงไร สูงส่งแค่ไหน หากลงหัวใจและลงเต็มวิชาแล้วจะมีคุณมากเพียงใด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายคนจะรู้จักวิชาแมลงปอเพียงแค่ว่า เป็นวิชาชั้นสูงทางเรียกทรัพย์ เป็นวิชาทางมหาลาภ ด้วยแมลงปอมีนิสัยชอบอยู่ร่วมกันเป็นฝูง จะอยู่ร่วมกันในบริเวณที่มีอาหารบริบูรณ์ ดังนั้นวิชาแมลงปอนี้อยู่ที่ไหนที่นั่นจึงจะสมบูรณ์ ไพบูลย์เจริญรุ่งเรืองวัฒนาด้วยชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย เพียบพร้อมไปด้วยอาหารการกินปัจจัยสี่แก้วแหวนเงินทอง ท่านว่าหลายๆคนจะรู้เพียงเท่านี้ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดอย่างใด แต่มันคืออานุภาพของแมลงปอแบบเต็มวิชา ไม่ใช่แมลงปอที่ขาดหัวใจ

    ท่านว่าวิชาแมลงปอนี้สำคัญนัก นอกจากจะเป็นเลิศทางเรียกทรัพย์ เรียกสิ่งที่ไม่มีให้มีเต็มคลังเต็มบ้าน ช่วยให้คนจนเป็นเศรษฐีอย่างง่าย ดีทั้งการทำมาหากินและเสี่ยงโชคทุกสถานเพราะเป็นสัญลักษณ์และวิชาแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่สืบทอดมาแต่ยุคบูรพาจารย์แล้ว ท่านว่ามันก็ถูกแต่ยังไม่ใคร่ถูกเสียทีเดียวทั้งหมด วิชาแมลงปอจริงแท้แล้วนั้น ที่ว่าเป็นวิชาสำคัญมากจนบูรพาจารย์แม้สั่งสอนศิษย์ก็ไม่ใคร่จะสอนทั้งหมดอาจจะมีปิดบังหัวใจหรือการลงบางอย่างทำให้ในชั้นหลังวิชาแมลงปอเป็นแค่การเสกพยนต์ที่หนุนด้วยธาตุและคาถาต่างๆไป

    ท่านว่าโดยแท้จริงวิชาแมลงปอเป็นวิชาแห่งความสมดุล สิ่งใดที่มันยังขาดไปมันก็จะเต็ม สิ่งใดที่มันเกินไปมันก็จะลดทอนทั้งอุปัทวอันตรายเคราะห์กรรม โรคภัยทั้งหลายเช่นนี้จะลดทอนไป ท่านว่ามนุษย์ที่เกิดมาตามกฏแห่งกรรมนี้ มีอยู่แค่สองอย่างในความรู้สึกตน มีแค่สองสถานไม่มีมากไปหรือน้อยไปกว่านั้น หากมากไปนั้นก็ได้ชื่อว่าทุกข์ น้อยไปก็ยิ่งทุกข์อีก ไม่ขาดก็เกินเป็นเช่นนี้ทุกคน วิชาแห่งความสมดุลนี้เป็นวิชาสายกลางเป็นวิชาของความพอดี ซึ่งจะปรับสมดุลย์ธาตุ ตลอดจนวิถีชีวิต ไม่ให้มีมากหรือน้อยเกินไป ท่านว่าที่ว่ามีพอดีนั้นคือมีความสุข วิชาแมลงปอหรือตะกรุดแมลงปอกลับธาตุนี้จึงเป็นวิชาอันจะนำมาซึ่งความสุข แม้สถิตย์อยู่กับผู้ใดย่อมได้ชื่อว่าห่างไกลจากทุกข์หรือนิรทุกข์ทีเดียว

    พ่ออาจารย์ท่านมักจะพุดว่า แมลงปอนั้นเค้ามองโลกได้รอบทิศ เห็นได้ถ้วนทั่วเกินกว่าทัศนวิสัยของมนุษย์หรือสัตว์อื่นๆ เพราะเค้ามองโลกได้ทั้ง 360 องศา และก็เป็นเช่นนั้นผู้ที่ถือครองวิชาแมลงปอนี้จะมีคุณวิเศษเสริมสร้างสัมผัสเร้นลับตลอดจนทัศนวิสัยให้เปิดเต็มที่ มองโลก มองชีวิตได้ง่ายและเข้าใจกว่าคนอื่น เห็นช่องทาง เห็นลู่ทาง เห็นอนาคต จะพึงรู้ว่าสิ่งใดควรทำมิควรทำ มีลางสังหรณ์พิเศษว่าสิ่งใดต้องลงมือทำแล้วจะสำเร็จหรือสิ่งใดเกี่ยวข้องด้วยจะถึงคราววิบัติ ท่านว่าวิชาแมลงปอมันพิเศษตรงสัญชาตญาณเช่นนี้แหละเพราะวิชาอื่นทำไม่ได้และไม่มี มันถึงได้ถูกยกไว้เป็นยอดวิชา เป็นวิชาที่ค่าควรเมืองจะหาวิชาใดมาเปรียบเทียบมิได้ เพราะคนที่กอปรด้วยสัญชาตญาณและสัมผัสพิเศษถึงปานนี้แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นยอดคนที่พันปีจะเกิดมีซักครั้งหนึ่ง แต่คนที่รู้และเข้าใจวิชาหัวใจแมลงปอนั้นกลับไม่มี ท่านว่าถ้าไม่ดีจริงวิชาแมลงปอนี้แม้แต่กษัตริย์ในอารยธรรมโบราณอย่างพวกฟาโรห์อียิปต์คงจะไม่ใช้กัน มันเป็นวิชาแห่งความสมดุลเป็นวิชาแห่งความอุดมสมบูรณ์ถึงขึ้นสร้างมหานคร สร้างชาติ ก่อเกิดอาณาจักรที่มั่งคั่งยาวนานนับพันปีท่านว่านี่คือความลับของวิชาแมลงปอ เพียงหัวใจแมลงปอลงและเสกเต็มวิชาให้กับใคร ไม่เห็นเค้าว่าจะแย่ลงซักราย มีแต่กลายเป็นตัวตนที่คาดไม่ถึงไปแล้วทั้งนั้น

    เมื่อเป็นเช่นนั้นท่านก็พิจารณาจะทำไว้แบบเต็มวิชา เต็มสูตรเป็นรุ่นเสียวาระหนึ่ง ท่านว่าตั้งใจว่าจะทำให้เป็นตะกรุดดอกเล็กๆให้คนมีวาสนาบูชาเค้าจะได้พกง่าย ใช้งานง่าย แต่ถึงกระนั้นวิชามันไม่เล็กตาม ดังนั้นจึงต้องอาศัยความเพียรพยายามอย่างยิ่ง ท่านว่ากว่าจะเรียกสูตรจารแต่ละตัวนั่นยั่งไม่เท่าไหร่ แต่การบีบและย่ออักขระนี่สิ ทำเสร็จแล้วปลงโลกได้เลย ท่านว่าเพราะอาศัยความเพียร ความตั้งใจและความเข้มข้นของจิตอย่างมากจึงทำไว้ได้เพียง 8 ดอก

    หลังจากท่านลงหัวใจแมลงปอเสร็จแล้ว พ่ออาจารย์บอกว่าตะกรุดแมลงปอกลับธาตุนั้นเพื่อให้สมกับเป็นวิชาแห่งความสมดุล ท่านได้นำอาถรรพ์เศวตเวทย์ทั้ง 32 บท ลงเสริมเข้าไปด้วย ท่านว่าเพียงลำพังเศวตเวทย์อันได้ชื่อว่าสูงส่งเหนือกว่าคุณวิชชาหรือไสยเวทย์ทั้งหลาย แม้เพียงบทเดียวก็มีคุณมากประมาณยิ่งกว่าฝอยท่วมหลังช้างแล้ว แต่ท่านกลับลงไว้ถึง 32 บท ทำการจารบีบอัดอักขระมากที่สุดนับร้อยนับพันตัว เพื่อให้ได้ตะกรุดดอกเล็กๆที่บรรจุไว้แน่นด้วยคุณวิชา

    ท่านว่าเศวตเวทย์คือเวทย์บริสุทธิ์ เป็นวิชาธรรมสูงส่งอันจะบันดาลให้เกิดความสำเร็จสมหวังด้วยอานุภาพแห่งอาถรรพ์ธรรมเวทย์ วิชาเช่นนี้เหนือกว่าคุณไสยอวิชชาทั้งปวง ท่านว่าไม่มีใครเค้ามักใช้มักทำกัน เพราะมันเหมือนเป็นดาวข่ม สำหรับผู้ถืออาถรรพ์เศวตเวทย์ดุจว่าข่มและเหยียบวิชาไสยเวทย์และอาถรรพ์ฝ่ายต่ำฝฝ่ายอวิชชาทั้งหลายไว้ทีเดียว แม้ใครมีของดีหรือเล่นคุณไสยอย่างไรท่านว่าเศวตเวทย์ข่มและกำราบทั้งหมด คนเหล่านั้นไม่มีที่ว่าจะชนะและอยู่เหนือกว่าเราเลย

    ท่านว่าเมื่อลงตะกรุดเศวตเวทย์นี้ ย่อมเป็นการลงอาถรรพ์ที่เหนือกว่าวิชาอาถรรพ์ใดๆทั้งปวง เป็นการทำวิชาวาระสำคัญที่จิตวิญญาณเบื้องบนยังต้องน้อมเศียรนมัสการธรรมเวทย์นั้น เพราะธรรมเวทย์เหล่านั้นแม้แต่เหล่าองค์สมเด็จพระพิชิตมารพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังน้อมยึดถือไว้เป็นสรณะ ท่านว่าจะพูดมากก็ไม่ควร บอกได้คร่าวๆเพียงเท่านี้

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้อาศัยยามปลอด อาศัยฤกษ์มงคลลงตะกรุดทั้งแปดดอกถือเคล็คว่าเป็นลัคกี้นัมเบอร์ คนใช้จะได้ยิ่งมีโชคกันมากๆสำเร็จแล้ว ท่านก็พึงเสกแผ่นตะกรุดนั้นเรื่อยมา จนในวาระหนึ่งท่านนิมิตเห็นเสด็จพระใหญ่ได้เมตตามาจับต้องแผ่นจารเหล่านี้ พร้อมกับถามท่านว่ากำลังเล่นอะไร ทำอะไรอยู่นี่แสบตาดีจัง หลังจากนั้นพระองค์ก็พิจารณาแผ่นจารมงคลเศวตเวทย์เหล่านั้น พร้อมกับเปล่งพุทธอุทานว่าสาธุซึ่งแปลว่าดีแล้ว และดำรัสว่า ดูเถิด แม้แต่ธรรมเวทย์ธรรมธาตุเหล่านี้ยังบังเกิดแล้วในวัตถุใด เบื้องหน้านั้นธรรมธาตุเหล่านี้ย่อมบังเกิดในชนเหล่านั้นเสมอกัน หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงขอให้พระองค์ท่านช่วยกำกับและลงวิชาธรรมอีกวาระหนึ่ง

    หลังจากนั้นท่านจึงม้วนและทำการตอกโค้ดตะกรุด พร้อมกับนำมาอุดผงวิเศษอันเรียกว่าราหูกลับธาตุ ท่านว่าวิชานี้ยิ่งกว่าวิชาเพชรกลับหรือมหากลับอะไรเหล่านั้น เพราะเป็นผงที่ทำยากมากเป็นผงของพระราหูอสุรินทร์โพธิสัตว์ เป็นวิชาเฉพาะของมหาโพธิสัตว์ใหญ่พระองค์หนึ่งซึ่งก็คือพระราหู อันว่าราหูกลับธาตุนี้ ธรรมดาท่านว่าแม้ใครได้บูชาพระราหูก็มีความเชื่อกันว่าจะบรรเทาเคราะห์กรรมได้ ยิ่งใครดวงตกพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกต่างๆจึงมักนิยมบูชาพระราหูกัน ด้วยถือว่าจะผ่านพ้นช่วงเวลาเลวร้ายและเคราะห์กรรมเหล่านั้นไปได้ แต่วิชาราหูกลับธาตุนี้ ท่านว่ามันมากกว่านั้นอยู่หน่อยนึง ไอ้เรื่องแย่ๆร้ายๆต่างๆบรรดามีที่จะทำความเสียหายล่มจมพอมันว่าจะเกิดๆ มันก็กลับไม่เกิด กลับหน้ามือเป็นหลังมือไปหมด พูดง่ายๆคือไม่มีนั่นเอง ไม่มีช่วงเวลาเสวยทุกข์ เสวยเคราะห์กรรม วิชาราหูกลับธาตุนี้จึงเป็นยิ่งกว่าวิชาหนุนดวงใดๆ ท่านว่าพกไว้สบายใจอย่างยิ่ง ท่านจึงนำผงราหูกลับธาตุนี้มาอุดมงคลเศวตเวทย์ทุกดอกและเรียกว่าตะกรุดแมลงปอกลับธาตุ

    ท่านว่ามงคลอาถรรพ์เศวตเวทย์นี้เป็นของสูงค่าและทำได้ยาก ลำพังผงราหูกลับธาตุกว่าจะรวบรวมมวลสารอาถรรพ์มาทำผงได้ก็ใช้เวลาร่วมปี ดังนั้นจึงตั้งใจไว้ว่าจะทำเพียงครั้งเดียว ไม่มีครั้งต่อไปอีก เพราะการจารเช่นนี้ใช้พลังจิตสูงมา ท่านว่าตะกรุดนี้อธิษฐานใช้ได้เลย เวลาอธิษฐานให้บอกว่าชีวิตลูกยังขาดอะไร ยังไม่มีอะไร (เพราะสิ่งเหล่านี้จึงได้ชื่อว่าชีวิตยังไม่สมบูรณ์) ขอให้อานุภาพแห่งเสด็จพระใหญ่และครูพระเวทย์พระธรรมสงเคราะห์ให้มีทุกสิ่งสำเร็จทันใจทุกประการ ท่านว่าตะกรุดนี้ทำใจให้สงบให้อารมณ์เย็นสบายแล้วค่อยอธิษฐาน คาถานั้นไม่จำเป็นต้องใช้ แต่จะถือภาวนาไว้ก็ได้

    คาถาบูชา
    เอหิจิตตัง นะกะหะตะปะพุทธัง ภควาจิตตัง มานิมามา


    * มงคลสมดุลอาถรรพ์เศวตเวทย์(แมลงปอกลับธาตุ)นี้ พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้แปดดอก ท่านว่าเป็นวิชาอาถรรพ์ที่ไม่มีใครทำกันเหนือกว่าวิชาอาถรรพ์ใดๆทั้งหมด ดังนั้น ผู้ที่จะบูชาจึงต้องมีวาสนาและจิตผูกพันธ์กับวิชาอาถรรพ์อันเป็นยอดวิชาแต่บรรพกาล ท่านจึงอธิษฐานจิตทำขึ้นฝากไว้ให้กับผู้มบุญสัมพันธ์เหล่านั้น สำหรับคนที่จะบูชารับจองเฉพาะทาง PM และแจ้งชื่อนามสกลุล วันเดือนปีเกิดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมเปิดดวงรับทรัพย์ที่ตะกรุดทุกดอกให้เป้นของเฉพาะคน

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลสมดุลอาถรรพ์เศวตเวทย์(แมลงปอกลับธาตุ) บูชา 4,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2022
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874

แชร์หน้านี้

Loading...