ร่วมทำบุญบูชา พระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์ชุดปฐมพุทธันดร(มหาเสาร์ล้างอาถรรพ์) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลรับโอกาสไถ่ถอนบาปเปลี่ยนผ่านกาลเวลาพระทักษะประชาบดี(ฝังยอดขุนทรัพย์เสด็จกลับ)

    " จากอหังการกลายเป็นความเสียสละตน ...คุรุผู้เป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งการสำนึกบาป "

    ใครๆก็กลัวพระทักษะแต่อยากได้พรจากพระทักษะ(แม้แต่เทพเจ้า) เพราะพระทักษะนั้นปากท่านศักดิ์สิทธิ์เกินใครด้วยมีตบะมาก ท่านสาปแม้กระทั่งพระนารทพรหมฤาษีให้เร่ร่อนอยู่ไม่เป็นที่ไม่เป็นทางพระนารทก็ต้องเร่ร่อนไปตลอดกัปกัลป์เช่นนั้น แม้ท่านให้ความช่วยเหลือใครท่านก็ทำอย่างไม่ไว้หน้าผู้ใดทั้งสิ้นเช่นเหตุการณ์ของพระจันทร์ที่ท่านยื่นมือเข้าช่วยลูกสาว โดยสาปพระจันทร์ที่ลำเอียงรักลูกของท่านไม่เท่ากันให้มีอาการเจ็บป่วยรุนแรงจนเกิดเว้าแหว่งซึ่งแต่เดิมจันทร์นั้นเต็มดวงตลอด...ดังที่ยกตัวอย่างจะเห็นว่าเหตุการณ์ทุกเหตุหากพระทักษะได้สาปใครแล้วแม้แต่ตรีเทพก็แก้ไขไม่ได้ ในขณะเดียวกันหากท่านให้พรหรือช่วยเหลือผู้ใดคำพรนั้นก็จะยิ่งมีกำลังมากและท่านจะช่วยอย่างไม่เกรงฟ้าเกรงดิน

    องค์พระทักษะนั้นท่านเป็น "มนัสบุตรแห่งพรหมมา" กล่าวได้ว่าท่านเป็นผู้ที่เป็นทิพย์อยู่ตลอดเวลามีอำนาจทิพย์สภาวะสูงสุดตั้งแต่เกิด เพราะท่านเกิดจากใจพระพรหมเกิดจากความต้องการที่จะให้ท่านทำหน้าที่พิเศษในโครงข่ายการสร้างจักรวาลหาได้เกิดจากครรภ์ของสตรีดังปุถุชนทั่วไปไม่ เมื่อบังเกิดขึ้นมาเบื้องต้นแล้วองค์ทักษะได้ทำหน้าที่ในการสร้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ ทวยเทพ อสูร นาค ครุฑ ปิศาจ ทั้งหลายให้บังเกิดมีเต็มพื้นที่แห่งจักรวาล โดยการมอบลูกสาวให้เป็นชายาเทพเจ้าทั้งหลายซึ่งลูกๆของท่านนั่นเองที่เป็นต้นกำเนิดทุกเผ่าพันธ์ ในบรรดาพระฤาษีที่นับเป็นพระประชาบดีซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาผู้ยิ่งใหญนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเห็นจะมีเพียงแค่สองท่านที่ปรากฏเกียรติอย่างชัดแจ้งนั่นคือ พระกัศยปเทพบิดรและพระทักษะเท่านั้น ด้วยพระทักษะได้ชื่อว่าเป็นพ่อตาของเทพเจ้าที่เทพทั้งหลายเกรงใจและเกรงกลัวกันหนักหนา ซ้ำยังมีเกียรติเป็นพ่อตาของพระกัศยปเทพบิดรอีกด้วย องค์ทักษะนั้นท่านเป็นประชาบดีคือผู้เป็นใหญ่ในหมู่ชน,ผู้เป็นใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์ทั้งหมด ซึ่งนามประชาบดีนี้จะจัดไว้ใช้เฉพาะอย่างจำกัดเอาไว้เรียกเทพที่มีเกียรติยิ่งใหญ่เป็นต้นตอของเผ่าพันธ์ทั้งหลายจริงๆอย่างพระพรหมเช่นนี้ก็เป็นประชาบดี โดยหน้าที่ของพระประชาบดีก็คือการให้กำเนิดเหล่ามนุษย์และเทวดาตลอดจนกลไกมหาจักรวาล ด้วยพระทักษะนั้นท่านเกิดขึ้นมาจากบาทของพระพรหม และถือว่าท่านเป็นบิดาของเทพฝ่ายสตรีทั้งหมด ทั้งยังเป็นพ่อตาของเทพเจ้าหลักๆทั้งสวรรค์รวมไปถึงพระกัศยปเทพบิดร อาจจะบอกได้ว่าท่านเป็นเทพองค์แรกที่สร้างระบบกลไกการให้กำเนิดมนุษย์โดยมีบุตรสตรีให้สมรสกับเทพต่างๆตามโองการบรมบิดาพรหมเทพที่ให้ท่านทำหน้าที่สำคัญนี้ ดุจว่าท่านเป็นรากเหง้าของเผ่าพันธุ์ทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าจุดสำคัญที่คนไม่ค่อยรู้คือพระทักษะเป็นบิดาของกลุ่มดาวนักษัตทั้งหลายที่มีผลต่อชะตามนุษย์โดยตรงซึ่งเป็นชายาของพระจันทร์ ดังนั้นท่านจึงมีอำนาจเหนือวิถีดวงดาวและเหนือชะตากรรมเป็นดาวข่มของคนที่เวรกรรมตามเล่นงานได้เป็นอย่างดี ซ้ำบุตรเขยทั้งหมดไม่ว่าจะเทวะองค์ใดของพระทักษะประชาบดีหากสุ่มชื่อขึ้นมาก็ล้วนแต่เป็นเทวราชทั้งสิ้นซ้ำยังมีอิทธิฤทธิ์และอำนาจบารมีสูงกันทั้งนั้น และยังได้ชื่อว่าเขยทุกคนนั้นเกรงกลัวพ่อตากันอย่างถึงที่สุดชนิดกลัวจับขั้วหัวใจ พ่ออาจารย์ท่านถึงกับออกปากว่าหากมีรูปพระทักษะอยู่เหล่าเทพเจ้านี่เขาเกรงใจเราแทบจะเหมาสวรรค์เลยนะ เช่นนั้นท่านจึงเรียกองค์ทักษะว่า"พ่อใหญ่"

    ด้วยอหังการต่อพระศิวะที่ทำให้ถูกตัดเศียรและนำหัวแพะที่ใช้บูชายัญมาต่อแทน พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือการรับกรรมและการให้ชีวิตเกิดขึ้นใหม่ภายในพิธีบูชายัญ ท่านว่ากรณีของพระทักษะนี้น่าสนใจจริงๆเพราะเทพองค์อื่นก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัยพระคเณศมีแต่องค์พระศิวะเท่านั้นที่จะคืนชีวิตให้และก็หาหัวช้างมาต่อแทน แต่ในกรณีพระทักษะนั้นท่านใช้หัวแพะที่นำมาบูชายัญ เช่นนั้นหลังจากเกิดใหม่แล้วพระทักษะจึงนอบน้อมแต่องค์พระศิวะและกลายเป็นตัวแทนของการไถ่บาปและให้โอกาสจากพระเป็นเจ้า แต่เดิมท่านเป็นมหาราชของภพภูมิที่ได้ชื่อว่าเจริญและยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลเป็นพระประชาบดีที่มีอำนาจควบคุมและสั่งการเหล่าเทพเจ้าทั้งหลายได้ดั่งใจต้องการ เมื่อเกิดใหม่นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าบทบาทของพระทักษะที่ได้รับหลังจากการชุบชีวิตจากครูพระสยมนั้น ท่านตั้งใจจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อการไถ่บาปและให้กำเนิดชีวิตที่ดีงามทั้งปวง ท่านเป็นดั่งตัวแทนของการเปลี่ยนผ่านจากช่วงเวลาระหว่างความทุกข์กลายเป็นความสุข จากความตายกลายเป็นการให้ชีวิตใหม่...เป็นการเริ่มต้นบทบาทหน้าที่ตลอดจนโอกาสและพฤติกรรมใหม่

    ที่ผ่านมามีแต่คนถามหาของเพื่ออยากจะใช้ไถ่ถอนชะตากรรมเปลี่ยนบาปกรรมที่ตนได้เคยทำไว้ในอดีตชาติอันส่งผลต่อผลกรรมทุกวันนี้ ท่านว่าใครไม่เป็นเราไม่รู้หรอกว่ามันยากตั้งแต่คิดจะเริ่ม ไอ้ทำของจะไถ่ถอนบาปกรรมแบบนี้เริ่มมาก็ยากแล้ว ด้วยไม่ใช่อำนาจของมนุษย์จะแก้ไขได้นอกจากเทพเจ้าผู้มีหน้าที่ด้านนี้หรือองค์พระสยมองค์ปรพรหมเหล่านี้ เช่นนั้นองค์ปรพรหมท่านจึงแนะนำให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระทักษะขึ้นมาด้วยท่านเป็นครูของสายวิชาการไถ่บาป รูปของท่านนั้นมีอำนาจลี้ลับเฉพาะที่ส่งผลต่อการไถ่ถอนบาปกรรมทั้งปวงด้วยท่านเป็นทั้งมหาฤาษีและมหาประชาบดีที่มีพระเศียรเป็นแพะที่ใช้ในพิธีบูชายัญ ดังนั้นองค์พระทักษะจะให้ผลแห่งการไถ่บาปโดยตรง เรื่องไม่ดีหรือเศษกรรมทั้งหลายจะมาลงกับครูช่วยให้พ้นจากบาปที่ต้องชดใช้ในสิ่งที่เคยทำไม่ดีไว้(พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอะไรนี่พุ่งลงหัวแพะที่ใช้บูชายัญหมดเลยนะ แต่เราต้องรู้ด้วยว่าหัวแพะนี้ไม่ใช่แพะธรรมดาอีกต่อไปแต่เป็นแพะระดับมหาเทพอย่างพระทักษะประชาบดี) เมื่อทำรูปของพระทักษะนั้นผู้ใดได้รับอาราธนาไว้ ท่านจะเปลี่ยนจิตใจของคนจะส่งผลให้ชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงทางดีงามไพบูลย์อย่างกระทันหัน เมื่อมนุษย์มีบาปกรรมพอกพูนสั่งสมเช่นนั้นบาปของมนุษย์ต้องถูกชำระให้บริสุทธิ์ก่อนสิ่งอื่นใดเพื่อจิตวิญาณของเขาจะได้สะอาดพอสมกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้ องค์ปรพรหมท่านว่าไฟแห่งยัญพิธีและเศียรแพะที่ใช้บูชายัญอันนำมาต่อให้พระทักษะนั้นจะคืนโอกาสและความบริสุทธิ์ทั้งช่วยชำระล้างความบาปในอดีตของมนุษย์ให้เริ่มต้นชีวิตที่ดีงามมีความสุขพรั่งพร้อมขึ้นมาใหม่ได้ ดั่งองค์พระทักษะที่เป็นครูเป็นตัวแทนของการไถ่บาปทั้งปวง

    องค์ปรพรหมท่านโองการให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระทักษะในปางบูชากองกูณฑ์อัคคีท่านว่าปางนี้จะยิ่งมีอำนาจกำลังตบะสูงส่งมากนักเป็นตบะของพระทักษะที่เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายหวั่นเกรงนั่นทีเดียว ในรูปนี้องค์พระทักษะจะได้รับเคราะห์ภัยและบาปอกุศลธรรมทั้งหลายแทนลูกๆที่บูชาไว้กับตัวเองพ่ออาจารย์ท่านว่ามีเท่าไหร่เผาลงไฟพิธีทั้งหมด คนใช้จะได้หนุนดวง พลิกดวง ต่อต้านวิบากกรรมได้ ทีนี้ขออะไรก็ง่ายก็สำเร็จ เพราะไม่ติดวิบากกรรม ท่านไถ่ถอนให้ทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่า ###องค์ปรพรหมท่านกำชับมาเองเลยว่าต้องทำแบบนี้ให้พระทักษะนั้นยื่นเครื่องสังเวยลงกองไฟ นั่นคือมีสิ่งที่ใช้สังเวยแทนตัวเราทดแทนและไถ่ถอนเราจากเคราะห์ภัยทั้งหลาย ให้กำลังครูกำลังตบะอันแกร่งกล้าของทักษะประชาบดีนั้นไถ่ถอนเราต่อหน้าไฟพิธีผ่านยัญกิจโดยองค์พระทักษะประชาบดีผู้เป็นครูของการไถ่ถอนบาปทั้งปวง

    เมื่อไถ่ถอนสิ่งที่ติดค้างเป็นดั่งเงาตามตัวของเราออกแล้ว ครูพระทักษะยังมีดีทุกๆด้านสารพัดจะใช้ ท่านว่าใครใช้ เคราะห์หดหาย เคราะห์จืด เคราะห์จาง เคราะห์หมด องค์ทักษะรับเคราะห์แทนเรากลืนกินเคราะห์กินสิ่งไม่ดีในธาตุบันธ์และวิญญาณของเรา ท่านจะแปลถ่ายออกมาไปในรูปของกระแสพลังงานทางเมตตามหาเสน่ห์มหานิยม ยิ่งอดีตเรามีบาปให้ชำระมากเท่าไหร่องค์พระทักษะยิ่งมีกำลังเข้มแข็งเท่านั้น สมกับการปรับเปลี่ยนสถานการณ์เพื่อจะได้เกิดใหม่มีชีวิตใหม่ที่ดำเนินไปอย่างสงบสุข ทั้งจะกลับร้ายกลายเป็นดี ล้างอาถรรพ์ มนต์ดำ ให้ชนะทุกปัญหาชนะทุกอุปสรรค เป็นเมตตาชนะใจคนทั้งหลาย ท่านว่าอย่าว่าแต่มนุษย์เลยแม้เทวดาก็พาให้เมตตารักใคร่เสน่หาเกื้อกูล ทั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านยังลงวิชาอาถรรพ์ด้วยหัวใจของครูแพะไว้ด้วยให้เป็นแพะเศรษฐีแพะตำรับเรียกเงิน,เรียกทอง,เรียกโชคลาภให้ทวีเข้ามามากขึ้น ใครมีครูพระทักษะนั้นบอกได้คำเดียวว่า“ ร่ำรวย” นอกจากไถ่ถอนบาปแล้วยังเสริมเรื่องวิชาแพะเอาไว้ครบถ้วน ด้วยจะเป็นตัวรับเคราะห์กรรมแทนเจ้าของ ครูท่านจะกินบาปเคราะห์เป็นอาหาร องค์พระทักษะนี้ท่านทำเพื่อให้คนใช้นำไปบูชาโดยหวังประโยชน์ใหญ่ให้คนใช้นิราศทุกข์พ้นทุกข์จริงๆ โดยท่านได้ใช้ความเพียรอุตสาหะหาฤกษ์ยามลงแผ่นจารวิชาล้างบาป,ไถ่ถอนกรรมเอาไว้ทีละแผ่นๆ เอาแต่เนื้อแผ่นชนวนที่เสกอย่างเข้มขลังเท่านั้นไม่ให้มีโลหะสิ่งใดเจือปนมาเทหล่อเป็นองค์พระทักษะประชาบดี พระผู้ปลดปล่อย ไถ่ถอนและรับบาปแทนลูกทั้งหลาย องค์พระทักษะรุ่นนี้สร้างยากมากพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเสกเชิญครูเก็บไว้เพื่อที่จะใช้เมื่อถึงกาลถึงวาระจริงๆเท่านั้น เป็นของที่มีอานุภาพมาก ท่านว่าความหมายมันก็ตรงตัว คือไถ่ถอนบาปกรรม ให้โอกาสเมื่อสำนึกผิดและนำลูกๆเปลี่ยนผ่านช่วงเวลาไปยืนอยู่ในจุดสูงสุดที่มีความสุขอย่างแท้จริงซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ของครูพระทักษะประชาบดี ท่านว่าองค์พระทักษะที่ว่าสร้างยากนั้นก็เพราะเป็นวิชาที่เกี่ยวกับกฏแห่งกรรม ท่านว่าไม่มีใครอยากจะทำให้กันหรอก ตอนปรพรหมท่านสั่งท่านก็กำชับมาท่านก็ย้ำหนักหนาว่าต้องเลือกคนให้ ไว้ทำยามบ้านเมืองคับขัน ประชาชนเดือดร้อนข้าวยากหมากแพงแบบนี้


    เรียกท่านสั้นๆว่า"พ่อใหญ่"ก็ได้
    ด้วยของที่ใช้ไถ่ถอนบาปกรรมเพื่อให้เราเริ่มต้นชีวิตใหม่และต้องเป็นชีวิตที่ดีขึ้นมากกว่าแต่เดิมนั้น เนื่องจากบางเรื่องพระหรือเครื่องมงคลทางพุทธศาสนาก็ยังข้องแวะติดอยู่ในกฏของกรรม จะทำอะไรเกินกรรมไม่ได้ แล้วทีนี้ไอ้ตัวเคราะห์มันก็หนัก วิบากปรรมก็มาเต็มๆ เรียกว่าเอาแค่ผ่อนลงเล็กน้อยก็รู้ว่าผ่อน แต่ก็ยังเรียกว่าหนักจนไม่อยากอยู่ในสภาพนี้อยู่ดี " ....แน่นอนว่าถ้าถึงขนาดนั้นเครื่องมงคลทางพุทธย่อมไม่มี แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าสายพระเวทย์ สายอาถรรพ์แรงครูนี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านยกครูพระทักษะให้เป็นตัวแทนของการไถ่บาป ด้วยมหากรุณาที่พร้อมจะเสียสละตัวเองและรับความเจ็บปวดแทนสรรพชีวิตทั้งหลายด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ของพ่อซึ่งเป็นประชาบดี เพื่อให้ได้มาซึ่งสันติ ความสุข ความเจริญ ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้สร้างมงคลศักดิ์สิทธิ์เฉพาะกาลชนิดหนึ่งขึ้นมา ด้วยเหตุที่ว่าเพื่อเป็นตัวแทนครู เป็นการระลึกถึงครู ให้บูชาครู อย่าดูถูกครู นึกถึงครูแล้วจะได้ดี หมดหนี้สินเป็นเศรษฐีมหาศาล มีความสุขในห้วงชีวิต ด้วยว่าครูนั้นจะรับความเจ็บปวด ความทุกข์ โทษ เคราะห์ภัย อุบาทว์ พิฆนะจัญไร หายนะ ท่านจะกลืนกินอัปมงคลอวมงคลทั้งหลายไว้ด้วยความรักอันใหญ่หลวง เพื่อสิริ เพื่อมงคล เพื่อสันติ เพื่อความสุข เพื่อความเจริญ ที่จะพึงบังเกิดมีในชีวิตของลูกน้อยนั่นเอง
    เมื่อเกิดเป็นมนุษย์นั้นไม่ว่าจะต่างชาติต่างวรรณณะกันเพียงไหน เชื่อได้ว่าย่อมมีความทุกข์ทั้งสิ้น เพราะขึ้นชื่อว่ามนุษย์นั้น ย่อมมีความทุกข์เรื่องต่างๆทุกคน จะจนจะรวยเเค่ไหนก็หนีไอ้คำว่าความทุกข์นี้ไม่พ้นในอดีตจวบจนปัจจุบัน สิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็อยู่ในห้วงทุกข์ทั้งสิ้น เพราะเสวยผลแห่งกรรมตามติดไปตามวาระตามระบบที่ตนเองเป็นคนก่อขึ้นมาเมื่อมีความทุกข์ก็ก้มหน้ารับทุกข์กันไป พ่ออาจารย์ท่านว่า
    องค์พระทักษะนี้จะสร้างเยอะก็ไม่ได้จะแจกให้บูชากันทั่วไปก็ไม่ได้ด้วยเป็นแรงครูที่มีอาถรรพ์เป็นวิชาที่ส่งผลยิ่งใหญ่ สามารถไถ่ถอนเคราะห์กรรมเปลื้องปลดทุกขเวทนาให้พ้นตัวคนใช้ได้ ผู้ใดมีความทุกข์ก็ล่วงทุกข์ได้ ซ้ำยังมีคุณวิเศษสุดเเต่จะคิดจะปรารถนาด้วยอำนาจตบะของทักษะประชาบดีที่เทพเจ้าทั้งหลายยังเกรงกลัวดังนั้นไม่ว่าจะความทุกข์อันเกิดจากบาปกรรมใดๆก็ล่วงผ่านไปได้ ซ้ำยังรักษาสิริสวัสดิ์ในกายตนเอง ปกป้องคุ้มครองให้เราอยู่ในช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุด เเม้อยู่ในสถานที่ใดๆสิ่งมีชีวิตทั้งหลายทิพย์กายทั้งปวงย่อมให้ความรักความกรุณา ให้ตัวเราพร้อมกับภาวะเเห่งการสร้างสรรค์เพื่อให้กำเนิดความสุข เมื่อไถ่ถอนบาปแล้วมีชีวิตใหม่แล้วย่อมได้ชื่อว่าสิ้นทุกข์ไปแล้วชีวิตจะได้เกิดการเปลี่ยนเเปลงในทางที่ดีอย่างใหญ่หลวง เมื่อสิ้นทุกข์เเล้วจะได้พบกับความสุขเพราะอาศัยกฎธรรมชาติข้อนี้ที่นำสุขนำความสมบูรณ์มาเติมเต็มความทุกข์ที่ขาดหายไป เมื่อแรงครูไถ่ถอนเราออกจากบาปกรรมก็ถือว่าท่านพาเราออกจากสภาวะทุกข์ บุคคลผู้มีความทุกข์จะล่วงทุกข์ประการต่างๆ จะสาหัสเเค่ไหนเดือดร้อนเพียงใด เขาจะทิ้งความทุกข์ไว้แล้วเกิดเป็นคนใหม่ พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือไม่เหลือคราบคนเก่า จากคนประสบทุกข์กลายเป็นคนไร้ทุกข์ ได้ดีในสิ่งที่ตนปรารถนา ทั้งเสริมสมดุลย์ปรับธาตุพลังงานหยินยางให้อยู่ในสภาวะพอดีไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป เพื่อให้สุขภาพร่างกายจะได้เเข็งเเรงไม่เจ็บป่วยง่าย ด้วยพ่อใหญ่นั้นเป็นรูปอาถรรพ์เป็นของสูงอย่ามองว่าต่ำไม่ใช่สิ่งล้อเล่น มีพ่อใหญ่อยู่ท่านว่าไม่ว่าจะแรงเทพแรงผีหรือแรงคุณไสยใดๆก็ไม่สามารถทำอันตรายเราได้พลังงานด้านลบต่างๆย่อมสูญสลายไป ซ้ำยังกันกระทำกันผู้มีวิชาอาคมคัดถอนอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านอธิบายสั้นๆเพียงเเค่นี้ท่านว่าองค์พระทักษะนี้เมื่อเผยเเพร่ออกไปแล้วก็เหมือนน้ำทิพย์ที่จะไปชุบชีวิต ไปต่อชีวิตเค้า ต่อไปจะเป็นครูหลักของเราหากพูดถึงการไถ่ถอนบาปและเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างสันติสุขใครๆก็ต้องนึกถึงพระทักษะประชาบดี ท่านว่าชนใดเมื่อถึงซึ่งความสุขมีทรัพย์สินบริบูรณ์ดีแล้วเขาจะได้ใช้ทรัพย์นั้นช่วยสงเคราะห์คนอีกมากเพื่อสร้างกุศลสืบต่อไป


    ด้านหลังท่านใช้ผงยาแดงมหากาฬที่ท่านเพียรทำโดยมีความนัยน์สำคัญซ่อนเร้นขึ้นมา ท่านว่าผงนี้ใช้รักษาตัวคนใช้และควบคุมดวงของโชคลาภความมั่งคั่งทั้งหลายให้มีเข้ามาเนืองๆ ทั้งยังได้ผสมเข้ากับผงอาถรรพ์โสมเฝ้าทรัพย์ที่ว่าเฮี้ยนเสียยิ่งกว่าภูติพรายใดๆท่านว่าเป็นผงอาถรรพ์ซึ่งอาถรรพ์ในที่นี้ไม่เกี่ยวกับพรายกับผีแต่อย่างใด หากแต่เป็นพยนต์มหายักษ์ซึ่งถูกผูกไว้เฝ้าสมบัติสมัยอยุธยามหาสถาน พ่ออาจารย์ท่านว่าในกรุสมบัติแผ่นดินหนึ่งๆที่เป็นสมบัติของกษัตริย์แต่โบราณจะมีพยนต์เหล่านี้รักษาหลายตน ในสมัยที่ท่านบวชและมีโอกาสได้ธุดงค์ผ่านอยุธยานั้น ท่านได้พบกับโสมเฝ้าทรัพย์ซึ่งพาท่านไปดูกรุสมบัติตั้งแต่ยุคสมัยของพระนเรศวรเรื่อยมาจนถึงพระเจ้าเสือ และปู่โสมนั้นท่านได้ขอตามไปจะไปอารักขาท่านด้วย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเขามาจริงๆไม่ใช่แต่เพียงคำพูด เพราะปรากฏมีตุ๊กตายักษ์ดินเผาขนาดเล็กมาปรากฏอยู่ในย่ามของท่าน หลังจากท่านตรวจดูแล้ว ท่านว่าเค้าตั้งใจจะไปคุ้มครองเราจริงๆ จึงได้ทำพิธีพลีกรรมบอกกล่าวแก่เจ้าของเดิมและนำออกมา เมื่อจะทำพระทักษะนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าอยากจะทำให้ดีที่สุดเพราะท่านตั้งใจฝังแต่ของดีๆเช่นนั้นผงจึงต้องดีด้วย ผงโสมเฝ้าทรัพย์นี้จะหวงไว้ใช้คนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องไหนๆทำแล้วก็ต้องให้ดีให้แรงที่สุดไปเลย ท่านถึงได้สอบถามโสมเฝ้าทรัพย์ ว่าจะขอให้ไปสร้างบารมีช่วยเหลือสัตว์ผู้ยากทั้งหลายชักนำวาสนาทรัพย์สินเงินทองให้ช่วยเขาหาทรัพย์สินมาเติมเต็มคลังสมบัติของแต่ละคนเช่นนี้ซึ่งเขาก็ยินดีอย่างยิ่ง พ่ออาจารย์จึงนำตุ๊กตายักษ์นั้นมาขออนุญาติและตะไบฐานออกส่วนหนึ่งเป็นผง ท่านนำมาคลุกและนวดเข้ากับสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบ วัดกะบกขึ้นผึ้งท่านว่าผงนี้มีญาณโสมเฝ้าทรัพย์เฝ้าแผ่นดินทุกองค์ เขาจะตามรักษาลูกหลานเลือดเนื้อเชื้อชาติไทยอันนี้ท่านว่าเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน แต่ว่าแรงน่ะแรงแน่ๆอธิษฐานใช้กันให้ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ท่านคลุกสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบให้เพื่อจะได้มีคุณทางเมตตาเป็นกฤติยาคมแฝดอย่างถึงที่สุด ท่านว่าสีผึ้งเขียวนี้มีคุณทางเมตตามหาเสน่ห์มาก แต่ก็นั่นแหละสุดแต่ใจจะใช้ จะเล่นทางเสน่ห์เมตตาหรือเอาไปทำมาหากินให้ได้ดิบได้ดีก็ตามแต่จริตชีวิตคน ด้านหลังท่านฝังสิ่งมงคลดังนี้
    - ขุนทรัพย์เสด็จกลับ เป็นอาถรรพ์ที่ว่าเมื่อเสียทรัพย์ไปเท่าไหร่ยิ่งได้ทรัพย์กลับคืนเข้ามามากมายทวียิ่งขึ้นเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราเกิดมานี่ก็ต้องเสียเงินแล้ว ในแต่ละวันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ใช้เงิน ก็ในเมื่อต้องใช้เงินมีดวงให้เสียทรัพย์กันทุกคนอยู่แล้วก็เปลี่ยนข้อเสียตรงนี้มาส่งเสริมทำอาถรรพ์ให้กับชีวิตตนเองเสียดีกว่า เช่นนั้นท่านจึงสร้างขุนทรัพย์เสด็จกลับขึ้นมา ท่านว่าขุนทรัพนี้ทำยากด้วยผงวิชานั้นไม่เท่าไหร่แต่ทำเสร็จแล้วต้องเอาไปปล่อยในคลองน้ำไหลให้ท่านเสด็จไปแบบนั้นแล้วจึงสวดเรียกรอจนท่านจะเสด็จกลับมาในจุดเดิมจึงเอาพานรองรับไว้เช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจึงทำได้ไม่มาก ปล่อยไปร้อยว่ายวนกลับมาได้ไม่ถึงสิบ องค์ที่กลับมาได้ท่านจึงถือเป็นองค์หัวโจกและแก่กล้าอิทธิคุณแรงจริงเก่งจริงเช่นนั้น ขุนทรัพย์นี้ท่านว่าเขาหาทรัพย์เก่ง รู้ทางไปหมดเหนือกว่าการหาโภคทรัพย์ธรรมดา พ่ออาจารย์ท่านว่าเอามาฝังหลังองค์พระทักษะเช่นนี้ใครใช้นี้จนไม่ได้ จนไม่เป็นดุจครูปกาศิตเอาไว้เช่นนั้นเลย ที่ว่าจะจนลงด้วยทรัพย์สินจนด้วยปัญหาหนทางในการดำรงค์อยู่การดำเนินชีวิต ท่านว่านี่คือเกิดขึ้นไม่ได้เลยขุนทรัพย์ท่านนั่งรอเปิดทางทรัพย์เอาไว้ให้หมดแล้วทางจนไม่เปิดเข้าไปไม่ได้ เช่นนั้นก็เหลืออยู่ทางเดียวนั่นคือสุขสมบัติพิพัฒนมงคลทั้งหลาย ท่านว่าหุ่นขุนทรัพย์เสด็จกลับก็คือทรัพย์เต็มมือได้ทรัพย์กลับมานี่ก็ปิดประตูทุกข์ไปแล้วอย่างหนึ่ง ท่านว่าขุนทรัพย์นี้ท่านทำให้เป็นทั้งยิดัมทั้งธรรมบาลมีฤทธิ์มาก เป็นพยนต์เทพเจ้าปกครองดูแลสมบัติเบื้องล่างทั้งในโลกในบาดาลทั้งหมดมีพญานาคทั้งหลายเป็นบริวารเป็นพยนต์แห่งโชคลาภและความมั่งคั่ง
    - ตะกรุดมหาสะเดาะกันสารพัด ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนะเพราะรวมวิชาหลายสูตรไว้ในส่วนของหัวใจคาถาสำคัญต่างๆ โดยพื้นฐานแล้วจะมีอำนาจแก้ไขโรคภัยไข้เจ็บ สารพัดโรคสารพัดความเจ็บป่วย กินพลังงานด้านลบดูดกลืนโรคภัยและย่อยสลายไปจากตัวเรา กันโรคร้ายๆโรคแปลกๆผิดธรรมชาติ โรคอันเกิดจากเคราะห์กรรมเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรเจ้าบุญนายคุณทั้งหลาย ท่านว่าปกติวิชาต่างๆจะแก้โรคอันเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรดลบันดาลให้เป็นไปตามเคราะห์กรรมไม่ได้ แต่แปลกที่วิชานี้แก้และกันได้ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือโดยพื้นฐานเพราะท่านยึดถือคำพระตถาคตเจ้าว่าการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ นอกจากนี้ท่านยังลงวิชานะมหาสะเดาะกับมหากันเสริมลงไปอีกด้วย ท่านว่าจะได้สะเดาะเคราะห์บรรเทาทุกข์โศกและเคราะห์กรรมของคนใช้ เสริมอานุภาพให้พระทักษะโดยเฉพาะ จะได้กินพลังงานลบและเคราะห์กรรมได้มากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น ท่านว่าตะกรุดนี้ดีหลายด้านคือนอกจากกันโรคภัยไข้เจ็บแล้วยังใช้กันได้สารพัดสมกับชื่อมหากัน เวลาเรามีเรื่องจวนตัวไม่อยากให้เกิดกับตัวเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ระลึกถึงตะกรุดที่ฝังอยู่นี้ยกขึ้นจบหัวนึกถึงคุณองค์พระสยมผู้ตั้งฟ้าตั้งแผ่นดินเป็นที่สุด อธิษฐานบอกกล่าวว่า ด้วยอานุภาพแห่งมหากันนี้ขออย่าให้เรื่องนั้นๆเกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้าเลย ให้นึกเอาดีๆว่าเป็นเรื่องอะไรด้วยวิชามหากันนี้เมื่อไม่ปรารถนาแล้วสิ่งเลวร้ายต่างๆย่อมไม่เกิดขึ้นเลย

    คาถาบูชา(ให้ตั้งใจระลึกถึงครูอย่างแน่วแน่)
    โอม ศานติ


    ด้วยองค์พระทักษะนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเชิญท่านมาหุ่นนี้จึงเปรียบเสมือนตัวแทนท่านเป็นนิรมาณกายของท่านที่เมื่อรูปนี้สูญสลายไปจากจักรวาลองค์นิรมาณกายก็จะไปรวมเข้ากับองค์ต้นของท่านเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยท่านเกิดจากบาทแห่งบรมพรหม ทั้งยังเคยทำความผิดไว้จนเป็นที่มาของหัวแพะอันใช้ต่อแทนนั้น ท่านจึงปรารถนาจะใช้กรรมด้วยการช่วยเหลือมนุษย์ โดยเมื่อจะบูชานั้น ท่านว่าไม่ต้องยกไว้ในที่สูง ให้ทำกับรูปท่านเหมือนเครื่องรางชิ้นหนึ่งพกไว้ในระดับเอวใส่ต่ำๆได้ ###(พ่ออาจารย์ท่านว่าที่จริงเป็นกุศโลบายของท่านถึงจะเคยทำผิดแต่ครูพระสยมท่านก็ล้างบาปต่อชีวิตให้แล้ว ซ้ำยังเป็นมหาฤาษีเป็นทั้งหนึ่งในมหาเทพที่ได้รับเกียรติให้เป็นองค์ประชาบดีไหนเลยจะอยู่ต่ำได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงๆเลยเพราะจุดที่ท่านจะแผ่พลังและชำระไถ่ถอนบาปกรรมได้มันไม่ได้อยู่บนคอของเรา ท่านจึงตั้งใจให้ทำกับรูปท่านเหมือนเครื่องรางเท่านั้นเพื่อประโยชน์ในการใช้งานอย่างสูงสุด) พ่ออาจารย์ท่านว่าพ่อใหญ่นั้นท่านก็เหมือนพ่อของเราคาถาไม่จำเป็นต้องท่องก็ได้ขอแค่ใจสื่อถึงใจจำชื่อท่านได้ออกชื่อท่านกำท่านไว้คุยกับท่านประหนึ่งบุตรธิดาคุยกับบิดา ขอความคุ้มครอง ขอทรัพย์ ขอในสิ่งที่ขาดที่อยากจะขอดุจบุตรร้องขอทรัพย์ขอความช่วยเหลือจากบิดาเช่นนั้น ทุกเรื่องท่านจะสนองให้ดุจบิดารักษาบุตรเช่นกัน

    *** องค์พระทักษะประชาบดีนั้นพ่ออาจารย์ท่านใช้เองด้วยองค์หนึ่งเพื่อให้ครูท่านรักษาธาตุขันธ์ จึงมีให้บูชาทั้งหมดสี่องค์ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ***ผู้บูชาท่านว่าหากมีอะไรอยากฝากไว้ให้บอกกล่าวกับองค์พระทักษะเป็นพิเศษก็ให้บอกได้เลยโดยเฉพาะเรื่องร้อนเรื่องทุกข์ต่างๆ รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างห้องสุขาในวัดชนบทสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลรับโอกาสไถ่ถอนบาปเปลี่ยนผ่านกาลเวลาพระทักษะประชาบดี(ฝังยอดขุนทรัพย์เสด็จกลับ) บูชา 4,000 บาท

    72085469-2440286336248743-7565766079394349056-n.jpg 71172033-558462144924807-22879402454941696-n.jpg
    72289755-387280052196498-1180233893131845632-n.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
    ร่วมทำบุญบูชา พระหัตถ์หมื่นลักษณ์ทรงดัชนีปฐมภูมิเปิดวัฏจักรย่อย (รับ,ขอ,ห้าม,โอบอุ้ม)

    ท่านว่ารอยพระหัตถ์นี้ทรงพุทธานุภาพเสมือนหนึ่งสิ่งแทนตัวขององค์พระศาสดา เป็นพระหัตถ์ของท่านที่จะคอยปัดเป่าป้องกันอันตรายทั้งปวงให้กับเรา เป็นมือที่จะคอยโอบอุ้มค้ำชูเราจะหยิบจับทำสิ่งใดก็สำเร็จได้ดั่งประสงค์เสมอด้วยเจตจำนงค์ของตน ท่านว่ามือนี้เธอรู้มั๊ยว่าสำคัญนัก คนเราจะให้หรือเป็นฝ่ายที่ถูกให้(รับ)ล้วนต้องยื่นมือออกไปทั้งสิ้น พระพุทธหัตถ์ขององค์ปฐมหรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าหัตถ์พระเจ้านี้ท่านถือเป็นฝ่ามือรับทรัพย์จะขออะไรใครก็ให้ทั้งสิ้น และอีกประการหนึ่งฝ่ามือมนุษย์ปุถุชนคนปกติย่อมมีรอยเส้นที่มีความหมายต่างๆสั้นบ้างยาวบ้างไม่ได้เสมอกันตามวาสนามนุษย์จะพร่องบ้างหย่อนบ้างตามบุญกรรมที่เคยอบรมไว้ จะหาที่เต็มได้ดั่งหัตถ์พระชินสีห์ที่อบรมบารมีมาดีแล้วเป็นไม่มี เพราะคนปกตินั้นไม่ได้เต็มเปรี่ยมด้วยมหาปุริสลักษณะเช่นนี้... ท่านจึงถือว่าไม่มีมือของใครที่ไหนจะดีไปกว่ามือพระศาสดา สมเด็จองค์ปฐมท่านให้พ่ออาจารย์หล่อพระพุทธหัตถ์นี้จากแร่โคตรเศรษฐีผสมด้วยยันต์ดวง ประสูติ,ตรัสรู้,ปรินิพพาน ,ยันต์รอยลักษณ์พระหัตถ์,รอยพระบาท,และยันต์ดวงวิเศษร้อยแปดผสมเข้ากับธาตุกายสิทธิ์ เมื่อสร้างเสร็จแล้วเสด็จพระใหญ่ท่านเรียกว่า "หัตถ์หมื่นลักษณ์" หัตถ์ที่จะห้ามความวิบัติตกต่ำหมื่นเรื่องให้หยุดอยู่ไกลจากตัวเรา

    หัตถ์หมื่นลักษณ์นี้ท่านว่าใช้ต่อเสริมเติมวาสนาให้ดี ใช้ยกฐานะให้สำเร็จหรือแม้แต่จะใช้เสริมต่อเส้นวาสนาของคนที่ขาดที่พร่องไปเพื่อประโยชน์ใหญ่อย่างถาวรคือความสำเร็จในชีวิตก็ได้ ท่านว่าชีวิตเราจะสูงจะดีขึ้นตามวาสนาและลายมือขององค์พระมหาสัตว์เจ้าท่านจะดึงเราขึ้นทุกๆทางจนแม้แต่ลายมือหรือฐานชีวิตของเราค่อยๆเกิดความเปลี่ยนแปลงไป ท่านว่าใช้ต่อชีวิต,ต่อวาสนาคนได้ จะเสริมดวง...ให้เป็นยอดในกิจด้านที่ตนกระทำให้ได้ดีมีวาสนาเต็มมืออุดมไปด้วยเรื่องมงคลทุกสิ่ง พระหัตถ์นี้พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าให้ติดตัวเอาไว้เพราะท่านจะอุ้มชูเราทุกด้านทั้งจะพลิกร้ายกลายเป็นดีได้ง่ายๆในทุกเรื่องดุจเราพลิกฝ่ามือ มีคุณเสมอใจเพราะเป็นหัตถ์ของพระผู้มีแต่ให้ มือที่โอบอุ้มหรือพระหัตถ์หมื่นลักษณ์นี้ในกาลภายหน้าจะช่วยเหลือคนได้อีกมากโดยเฉพาะคนที่ดวงไม่เปิด คนที่วาสนายังไม่เกิดขึ้นกับตัว คนที่เจออุปสรรคไร้ทางออกจะได้พบช่องเห็นทางที่เปิดให้ ชีวิตเราวาสนาเราลายมือของเราอะไรที่มันขาด,อะไรที่มันหาย,อะไรที่ทำไมมันถึงไม่ได้มีเหมือนใครเขา,สิ่งที่มันบกพร่องมันไม่เต็ม ท่านว่าองค์ปฐมท่านจะต่อให้ทำให้อย่างเต็มที่ พระหัตถ์หมื่นลักษณ์นี้ขึ้นชื่อว่าใช้ยกวาสนาได้โดยไม่ต้องไปทำอะไรทั้งสิ้น ทั้งให้กิจทุกอย่างสำเร็จยั่งยืนเสมอกันมีชีวิตที่สูงส่ง มีวาสนาความมั่นคงเข้มแข็งพร้อมสรรพด้วยที่อยู่อาศัย ทำสิ่งใดล้วนเต็มไปด้วยเกียรติยศแลชื่อเสียง มีอำนาจทางการเงินมหาศาลทำให้สิ่งที่ลงมือทำสำเร็จอย่างรุ่งโรจน์ล้มเหลวไม่ได้เลย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านตั้งใจให้ทำไว้เมื่อครั้งสมัยก่อนนั้นแน่นอนว่าย่อมเป็นสิ่งสำคัญ ท่านว่าลักษณ์พระหัตถ์นี้อยู่กับตัว นิ้วทั้งห้านี้ชี้ใส่ตัวแม้จะเรียกเงินเงินก็ต้องมา,จะเรียกความรุ่งเรืองทุกสิ่งย่อมเดินหน้าไม่นิ่งหยุด,จะเรียกวาสนาก็ยำให้วาสนาสูงกว่าชนนับหมื่นแสนไม่ต่ำกว่าใครทั้งสิ้น,จะเรียกหาผู้ค้ำคูณก็มีบริวารคอยค้ำจุนเกื้อหนุนให้เรา,เรียกความสุขความสงบสบายใจสิ่งใดเหล่านี้ล้วนชี้เข้าตัวให้เกิดกับเราทั้งสิ้นเพราะเป็นมือที่คอยโอบอุ้ม วิบัติใดๆก็ตามที่เกิดจากลายมือที่แย่อันสะท้อนมาจากบุญทำกรรมแต่งของเรา สิ่งที่บกพร่องไปเหล่านั้นจะต้องดึงขึ้นใหม่ทั้งหมด

    *** หัตถ์หมื่นลักษณ์ชุดนี้พิเศษอย่างไร
    *** ทำไมพ่ออาจารย์ถึงตั้งใจฝังตะกรุดหัวใจดัชนีปฐมภูมิ(วิชานี้ถ้าแยกกันอยู่ท่านว่าก็แล้วไปแต่ถ้าได้รวมกันเมื่อไหร่ จะเป็นของดียอดอัศจรรย์ที่ทรงกำลังอันมหาศาล)...

    พ่ออาจารย์ท่านว่าในห้วงเวลาหนึ่งที่พวกเราลงมาเกิดกันนี้ มันเป็นเพียงเวลาสั้นๆของเทพ,พรหมเท่านั้น อย่างที่เราทราบกันดีว่าในภพที่เราอยู่นั้นจะมีภพภูมิทั้งหลายซ้อนทับกันและหมุนวนวัฏจักรดำเนินท่วงทำนองของการเกิด,ดับไปด้วยกัน หากแต่ต่างกันที่ข้อกำหนดของเวลาเท่านั้น ด้วยเราท่องเที่ยวไปในอาการที่เป็นวัฏฏะ คือหมุนวนอยู่ในการเวียนว่ายตายเกิดหมุนวนอยู่เช่นนั้นตราบเท่าที่ยังตัดกิเลส,กรรม,วิบากไม่ได้ ดังนั้นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนก็ดำเนินอยู่บนพื้นฐานของเวลาที่ไหลไปในวัฏจักรเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์หรือกิจกรรมใดๆก็ดีทั้งที่เราอยากให้เกิดหรือไม่อยากให้เกิดก็ดี,ที่เราพอใจหรือไม่พอใจก็ดี,จะเป็นสุขหรือเป็นทุกข์,เป็นสิ่งที่เราต้องการปรารถนาหรือไม่ เมื่อมีการเริ่มต้นก็ต้องมีจุดจบในตัวเองและในบางทีกระแสเวลาอาจจะดึงหมุนเข้าไปสู่จุดเริ่มต้นนั้นอีก พ่ออาจารย์ท่านเรียกเหตุการณ์เหล่านี้ว่าวัฏจักรย่อยที่จะกระตุ้นเร่งเร้าให้มหาวัฏจักรใหญ่เกิดการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะช้าจะเร็วก็ตาม

    เช่นนั้นชีวิตเล็กๆของเราย่อมตกอยู่ในวงจรที่ซับซ้อนเหล่านั้น เวลาเธอมีทุกข์หรือเหตุการณ์ไม่พึงใจไม่พึงปรารถนาเรื่องเหล่านั้นมันก็ยังเกิดซ้ำๆวนเวียนไปไม่รู้จบบางคนเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ยังเกิดขึ้นอีกทำให้การใช้ชีวิตนั้นยากเย็นเต็มทีจะพิจารณาสิ่งใดหนอก็เจอแต่เรื่องลำบากใจ จะแก้ไขสิ่งใดก็อึดอัดเต็มทน ###แล้วจะทำอย่างไรล่ะจึงจะสามารถตัดวงจรแห่งสังสารวัฏได้แม้จะเป็นการตัดช่องน้อยแต่พอตัว พอให้รอดให้ได้ลืมตาได้หายใจกันบ้างก็ยังดี

    ครานี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำตะกรุดพิเศษที่ทำไว้ออกมา ท่านว่าวิชานี้ใช้เพื่อเปิดวงจรย่อยให้กับตัวเอง ให้เราได้มีโอกาสกำหนดและลิขิตวัฏจักรที่เราจะเดินและเปลี่ยนมันด้วยตัวเองเพราะปกตินั้นมหาวัฏย่อมผูกพันธ์และโดนจองจำภายใต้เงื่อนไขพันธะของเวลา ซ้ำยังประกอบด้วยภพภูมิต่างๆอันจะมาซ้อนทับเหลื่อมล้ำกันมากมายทำให้ปัจจัยของเวลานั้นใหญ่และทรงพลังมากขึ้นไปอีกเพราะความแตกต่างของระบบเวลาในวัฏจักรย่อยต่างๆนั้นไม่ได้เสมอกันเลย เรื่องเลวร้ายต่างๆเมื่อเกิดขึ้นมันจึงดำเนินไปตามระยะเวลาของมันตั้งแต่ต้นจนจบจะเห็นว่าเราเป็นเพียงผู้อยู่ในเงื่อนไขของกาลเวลา ไม่สามารถเอาตัวรอดหรือตัดผ่านวงจรที่เกิดขึ้นออกมาได้ ทีนี้ตามหลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญาที่ประกอบด้วยโลกุตตรมรรคเก้าย่อมสามารถตัดวงจรของสังสารวัฏได้ส่วนความสัมพันธ์และการตัดวงจรสังสารวัฏตามหลักอริยสัจสี่คือทุกข์,สมุทัย,นิโรธ และมรรคนั้นต้องดูที่กรรม เพราะมีกิเลสเป็นสาเหตุของการเกิดกรรมและกรรมเป็นสาเหตุให้เกิดวิบากวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏจนกว่าจะบรรลุพระนิพพานอันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต

    ด้วยการบรรลุนั้นย่อมไม่ง่ายเลยหากบารมียังไม่ถึงพร้อม ชนทั้งหลายก็จะขวนขวายในกิจและหน้าที่ดำเนินชีวิตบนภาระของตนในแต่ละวันให้ผ่านไปอย่างดีที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาโดยทั่วไปจึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมหาวัฏจักรได้นอกจากจะทำด้วยวิปัสสนาญาณหรือ..เสด็จพระใหญ่ท่านใช้อำนาจแห่งโลกุตตรเพื่อตัดวงจรสังสารวัฏอันจะมีผลสืบทอดไปถึงกรรมวิบากที่เราวนเวียนประสบอยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าตัดวงจรสังสารวัฏปุ๊ปไอ้ตัวกรรมวิบากที่เราเจออยู่นี้มันก็หยุดทันทีเลยนะไม่ได้ไหลไปตามกระแสเวลาของมันอีก มันจะดับ,จะหยุดและตัวเราจะได้ประโยชน์นั่นก็คือการพ้นทุกข์ แม้ไม่ใช้พ้นจากกองกิเลสบรรลุมหานฤพานแต่ก็ยังเป็นการออกจากทุกข์และเริ่มวัฏจักรย่อยที่เราเป็นผู้สร้างผู้ดำเนินด้วยตัวเราเองได้ จะได้เริ่มได้ทำให้มันดีที่สุดดั่งที่เราตั้งใจคิด ตั้งใจจะกระทำนั่นเอง สูตรที่นำไปสู่การหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงและสามารถตัดวงจรแห่งสังสารวัฏคือกิเลส,กรรม,วิบากได้นั้นจึงเป็นเรื่องที่คนทั่วไปทำไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเสด็จพระใหญ่ท่านไม่เมตตาจริงๆอันนี้ยังนับว่ายาก แม้องค์พระทั้งหลายท่านก็ยังละวางเอาไว้ด้วยเรื่องแห่งสังสารวัฏในมหาวัฏจักรนั้นย่อมไม่ใช่กิจธุระของท่าน

    อันปกติในโลกมนุษย์นี้ส่วนมากผู้ที่มาเกิดก็จำแนกออกได้ด้วยสองหลักใหญ่ๆนั่นก็คือ ผุดขึ้นมาหรือเกิดลงมา แม้ค่าของความเป็นคนจะมีอยู่เท่ากันแต่อย่าลืมวิสัยอันเป็นของติดตัวหรือของเก่าของตนเอง คนที่ผุดขึ้นมานั้นย่อมแน่นอนว่าเคยก่อกรรมทำเข็ญมามากไม่ได้คำนึงถึงบุญบาปใช้ชีวิตผูกติดอยู่แต่กับอกุศล พอถึงกาลกิริยาย่อมหนีไม่พ้นอบายภูมิทั้งสี่ นี่ตรงนี้พอกรรมหมดกำลังบุญก็จะเห็นจะส่งผลจึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง แต่บาปกรรมที่ติดตัวอยู่ก็ตามมาติดๆให้เกิดมาแล้วต้องได้รับทุกข์สาหัสทั้งหลาย บางคนเกิดมาพิการเกิดมาไม่สมประกอบหรือมีร่างกายอัปลักษณ์ ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นผลติดตามตัวเองทั้งสิ้นในขณะที่บางคนเกิดมาแล้วเจอแต่ความสุขอันปราณีตนั่นก็เพราะบุญเก่าเขาตามสนอง ตามปรุงแต่งให้ชีวิตเขาดำเนินไปอย่างปรกติสุข ให้สังเกตุได้เลยว่าเวลาเรามีทุกข์หรือมีปัญหานั้นไม่ใช่เพียงตัวเราคนเดียวเสียเมื่อไหร่ที่ต้องเผชิญกับปัญหา หากแต่คนรอบข้างก็ยังโดนไปด้วยจะเป็นในแง่ของภาระหรือร่วมกันแก้ก็ดี นั่นก็เพราะทุกคนมีวงจรกรรมที่ผูกมาร่วมกันตั้งแต่ในระดับตัวตนจนโตไปถึงในระดับประเทศนั่นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านอยากเห็นชีวิตคนโดยรวมนั้นมีสุขแบบปรกติ ไม่ต้องจมกองทุกข์หรือหาทางออกให้พ้นจากบ่วงกรรมวิบากไม่ได้ ด้วยศิษย์ทั้งหลายนั้นที่เป็นคนดีและตั้งใจทำความดีจริงๆก็มีอยู่หากแต่ชีวิตของเขาไม่ได้ดีเพราะไม่มีของเก่าหนุนส่ง ทำให้ไม่มีกำลังใจที่จะประกอบกรรมดีกันต่อไป พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขอเมตตาเสด็จพระใหญ่ให้ท่านช่วย ท่านก็ให้พ่ออาจารย์ลงตะกรุดวัฏจักรย่อยนี่เสียซักครั้งเพื่อเปิดโอกาส,เปิดวงจรกาลเวลาและวัฏจักรสำหรับคนใช้จะได้คลายปมคลี่พันธนาการตัดการจองจำของตัวเอง

    เพื่อจะเริ่มสร้างชีวิตที่ดีให้เกิดสุขอันปราณีตให้ชนนั้นได้เสวยสมบัติอันประเสริฐสุดท่านว่าตะกรุดนี้มีอานุภาพมากดุจว่านั่นทีเดียว เสด็จพระใหญ่ท่านว่าตะกรุดวัฏจักรย่อยนี้จะดำเนินลีลาแห่งภพให้ชีวิตเราสูงขึ้นดุจพระเจ้าจักรพรรดิที่เสวยสมบัติไม่บกพร่องหรือดุจองค์อมรินทร์จอมสวรรค์ที่มีทิพยสมบัติอันรุ่งเรืองเหนือทวยเทพทั้งหลายทีความสุขความสำราญดั่งรูปพรหมเช่นนั้น แต่ทว่าให้พึงจดจำกันให้ดีว่าสรรพสิ่งใดๆก็ตามเมื่อรุ่งเจริญไปแล้วย่อมไม่ตั้งอยู่เช่นนั้นถาวรณ์ ที่จะเที่ยงแท้ยั่งยืนเรื่อยไปตลอดกาลนั้นเป็นไม่มี สิ่งที่จะดีที่สุดเที่ยงแท้ที่สุดนั่นก็คือตนพึ่งตน ตะกรุดนี้เป็นเพียงตะกรุดที่จะเปิดทาง เปิดช่องช่วงชิงโอกาสและความสุขสบายมาให้เรา เมื่อได้โอกาสนั้นตัวเราเองก็ต้องประกอบกรรมดีหมั่นสร้างกุศลด้วยไม่ใช่ใช้ชีวิตเละเทะเหลวไหลอย่างนี้ไม่ต้องเอาไปใช้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อจะได้เกิดประโยชน์ใหญ่แก่ตนได้อาศัยสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกเป็นเครื่องอาศัยเป็นเครื่องมือสำหรับสร้างบารมี เช่นนั้นคนใช้ตะกรุดนี้จึงถือคติที่ว่าสมบัติทั้งหลายนั้นเป็นของกลาง,ของโลก เป็นเพียงเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสร้างบุญกุศลได้สะดวกสบายมากขึ้นเช่นนั้น ท่านว่าไอ้ความสะดวกสบายนี้อย่าไปยึดติดมันเป็นแก่นสารทีเดียวให้จำไว้ว่าเรามีภาระที่ต้องพึ่งตัวเองอยู่ เราต้องแสวงหาสิ่งที่เป็นสาระของชีวิตเข้ามาพอกพูนขัดเกลาสติปัญญาของตัวเองอยู่เรื่อยๆ

    เพราะการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารเป็นสิ่งที่น่ากลัวเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้แน่นอนและไม่ปลอดภัยเลย ทุกชีวิตต้องท่องเที่ยวไปเกิดในสุคติบ้าง,ทุคติบ้างตามกรรมที่เผลอกระทำกันแต่งแต้มเข้าไปจะทุกข์ก็ดีจะสุขก็ดีสลับกันไปอยู่เช่นนี้ ดังนั้นการที่เสด็จพระใหญ่ท่านจะช่วยให้พ้นจากภัยในวัฏสงสาร จะดับย่อยวัฏจักรเพื่อตัดการจองจำให้กับเรานั้นตัวเราเองก็อย่าลืมจุดหมายที่แท้จริงในการเกิดเป็นมนุษย์ด้วย ว่าเรามีหน้าที่อย่างไรจะต้องไปให้ถึงฝั่งพระนิพพานอันเป็นเอกันตบรมสุขได้อย่างไร จะสะสมบารมีให้เต็มได้อย่างไรสิ่งเหล่านี้ล้วนต้องทำด้วยตัวเองทั้งสิ้น อย่าได้ประมาทในการสั่งสมบุญบารมี ทั้งทาน ศีล ภาวนานั้นก็อย่าละเลย เพราะที่ไปของสรรพสัตว์ทั้งหลายย่อมมีคติไม่แน่นอน บ้างก็ไปนรก บ้างก็กำเนิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน บ้างก็เกิดในเปรตวิสัยคือคติของพวกเปรตและอสุรกาย บ้างก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ และคติที่สูงไปกว่านั้นคือเหล่าเทวดาซึ่งหมายรวมเอาทั้งที่เป็นพรหมและอรูปพรหม ที่ไปของสัตว์ที่ยังอยู่ในวัฏฏะมีเพียงเท่านี้ไม่ยิ่งไปกว่านี้ท่านจึงปรารถนาจะให้มีที่ไปที่ดีและสมบูรณ์ไม่ต้องพัวพันจองจำอยู่ในทุกขเวทนานับชาติไม้ถ้วน

    นี่คือโอกาส ...พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเราไม่ทำไว้แล้วใครจะทำ เพราะสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนวนอยู่ในสังสารวัฏนี้ดุจเหมือนถูกขังอยู่ในคุกขนาดใหญ่ ท่านอุปมาว่าเป็นเหมือนเชลยศึกที่ถูกจองจำ เป็นประดุจโคงานที่เขาเทียมไว้หรือเป็นดุจวัวที่ผูกหลักเอาไว้ เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงเป็นเครื่องดับย่อยวัฏจักรและตัดการจองจำทั้งหลายที่พันธนาการจิตวิญญาณของเขาอยู่เพื่อเปิดให้เขาได้ลืมตาอ้าปากได้สร้างวัฏจักของตนเองอันเปรียบตัวเขาในโลกนั้นเป็นดั่งพระจักรพรรดิ,ดั่งองค์อมรินทร์ที่บริบูรณ์ด้วยความสุขเช่นนั้น ท่านว่านี่จึงเป็นโอกาสเป็นทางให้ได้สร้างบารมีกันสืบไป หากใครจะกินจะใช้แต่เพียงเท่านี้ชาตินี้ก็ช่างเขา เพราะภพชาติหนึ่งของมนุษย์นี้ก็เปรียบเสมือนการหลับของเทวดาเสียตื่นนึงพอตื่นมาก็เริ่มต้นกันใหม่ ถ้าเขาฉวยโอกาสพอได้ดีมีกำลังทรัพย์มากรู้จักทำบุญกับพระศาสนาหมั่นอบรมจิตใจบ่มเพาะปัญญาตนเองเขาก็จะมีคติมีที่ไปที่ดีขึ้นสูงขึ้นนับชาติไม่รู้จบ แต่ถ้าเขาได้โอกาสแล้วเขายังหลงระเริงเช่นนั้นก็ย่อมไม่มีโอกาสใดๆอีก ท่านว่าช่วยกันได้แค่นี้ ทุกอย่างในสังสารวัฏนั้นใช่ว่าจะประคองไปมอบให้ถึงมือกันได้


    ตะกรุดนี้ท่านว่าสร้างยากมากอย่างแท้จริง เสด็จพระใหญ่ท่านให้สงวนวิธีทำเอาไว้ทุกอย่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่พระยันต์ด้านในก็ไม่มีภาษาใดๆที่มนุษย์ยุคไหนจะเข้าใจได้แล้วเพราะเป็นอักขระวิธีปฐมแรกเริ่มของพ่อพระพุทธท่านโดยเฉพาะ ทั้งเวลาทำท่านก็ต้องนำตะกรุดมาวัดเทียบกับนิ้วชี้(ดัชนีของท่านเอง) เป็นคติว่าจะได้ชี้สั่งคนอื่นได้ตลอดเวลาชุดนี้ท่านลงเป็นหัวใจไว้เสกพร้อมกับชุดใหญ่ทานว่ามีอานุภาพใช้ได้เสมอกัน ทั้งยังมีขั้นตอนที่ปราณีตอย่างการแช่น้ำว่าน คลุกผงยันต์ เข้ามวลสารศักดิ์สิทธิ์ อาบว่านยา ท่านว่าทุกอย่างทำได้ยากมากในสิ่งที่เสด็จพระใหญ่ท่านสั่งให้หาแต่ละอย่าง ยังดีที่เราพอมีเก็บไว้อยู่บ้างจึงทำได้ ถ้าสั่งให้หาเดี๋ยวนี้และทำเดี๋ยวนี้เอาว่าถอดใจได้เลย ว่านแต่ละอย่างยาแต่ละตัวนั้นล้วนแต่ครูในโลกทิพย์ท่านเอาออกมาให้ทั้งสิ้นต้องเก็บมาทั้งชีวิตเท่านั้น

    ตะกรุดนี้สำคัญมากเพราะท่านทำเทียบกับดัชนี ท่านว่าแม้ตอนเสกเสด็จพระใหญ่ท่านก็นำตะกรุดแต่ละดอกเทียบกับดัชนีของพระองค์ท่านทีละดอกทั้งนั้น เช่นนั้นตะกรุดนี้นอกจากมีคุณวิเศษดังกล่าวข้างต้นแล้วยังใช้ชี้ธรรม,ชี้ทางสว่างได้อีกด้วย ตะกรุดนี้เป็นสัญลักษณ์บอกถึงการสิ้นสุดของการเดินทาง,บอกถึงจุดหมาย,ถึงความสำเร็จ ในวงจรของเวลานั้นท่านว่าเมื่อแรกเริ่มจะเหนื่อยต่อเมื่อสิ้นสุดเท่านั้นจึงจะพอหายใจได้สบายกันบ้าง เช่นกันตะกรุดนี้ก็เปรียบดั่งจุดสิ้นสุดคือจุดที่เราสบายที่สุดนั่นเอง ด้วยเสด็จพระใหญ่ท่านเทียบตะกรุดกับดัชนีให้ทีละดอก เช่นนั้นจึงใช้ชี้ได้สารพัด ท่านว่าถ้าใช้ชี้ให้พรตัวเองก็จะให้ทรัพย์ได้เร็วกว่าทุกสิ่ง ชี้ให้สำเร็จก็สำเร็จทุกประการ ชี้เพื่อขอพรใดๆก็ให้พรได้ทันใจทันคิด ชี้ไปที่ไหนที่นั่นจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง(จริงๆแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านทำให้ด้วยประสงค์จะชี้ให้พ้นทุกข์,พ้นความขัดข้อง) แต่เราคนใช้จะเอาไปอธิษฐานใช้อะไรมันก็อีกเรื่องหนึ่งเพราะว่าไอ้ตัวทุกข์นั้นมันก็ครอบคลุมวิบากกรรมทุกอย่างอยู่แล้ว เรียกว่ามีผลสืบทอดกันไปเป็นช่วงๆจะกล่าวว่านี่เอาไปชี้ทีก็ลดวิบากกรรมไปได้อย่างหนึ่งนั้นก็ได้ จะชี้ให้รวย,ชี้ให้เลื่อนตำแหน่ง,ชี้ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ,ชี้ให้หายจากโรคเวรโรคกรรมก็ได้ ท่านว่ามีอานุภาพดุจเสด็จพระใหญ่ท่านชี้ท่านให้พรประสิทธิ์กับเราด้วยตัวท่านเอง

    อันคำว่า"พร"นี้ เมื่อให้แล้วจะถอนไม่ได้มันเป็นบาปเพราะเทพ,พรหมและองค์พระนั้นท่านจะถือคติว่าเมื่อเขียนด้วยมือแล้วจะลบด้วยเท้าไม่ได้ ดั่งพ่อแม่ที่ให้พรลูกให้มีความเจริญรุ่งเรือง แล้วพอโมโหจะถอนพรก็จะถอนไม่ได้ด้วยจะเป็นบาปอย่างร้ายแรง เช่นนั้นทั้งองค์พระ,เทพ,พรหมทั้งหลายก็ดีเมื่อให้พรแก่ผู้ใดแล้วก็ย่อมประสิทธิอยู่เช่นนั้นจะถอดจะถอนไม่ได้เลย ดั่งตะกรุดนี้ท่านท่านทำไว้เพื่อให้ผู้ใช้ได้ชี้ตัวเอง ได้ให้พรตัวเอง ท่านว่าคิดเอา ปรารถนาเอาแต่สิ่งที่ดีที่เป็นสิริมงคลกับตัวเองอย่าไปขออะไรอันน่ารังเกียจ จะมีผลดุจเสด็จพระใหญ่ท่านให้พรกระทำอนุโมทนาให้เราด้วยตัวท่านเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าหมั่นชี้หมั่นให้พรแก่ตัวเองไปเรื่อยๆติดอะไรเจออะไรคับข้องใจก้ชี้เข้าไป ชี้ตัวเองก็ให้พรตัวเอง ชี้งาน ชี้กิจการก็เปิดทางเปิดอุปสรรคชี้ทางสว่างให้แก่ชีวิตตัวเองอยู่เช่นนั้น ท่านว่าชี้ได้เรื่อยไปทั้งตะกรุดยังจะดับย่อยวัฏจักรทำให้เราเป็นคนใหม่ในแบบคนเก่าที่มีชีวิตสุขได้มากขึ้นและสบายได้มากกว่าใคร ดุจเราอยู่ในโลกในวัฏจักรอันมีเราเป็นใหญ่แต่ผู้เดียวเช่นนั้น

    นอกจากนี้ด้วยอานุภาพของดัชนีนั้นยังถือเป็นมหาปราบชั้นสูง เหนือเทพ พรหม ยมยักษ์ทั้งปวง เพียงอาราธนาติดตัวไปศัตรูหมู่มารทั้งหลายก็พ่ายแพ้แก่บารมี จะมีชัยยะ,มีเดช,มีศรี,มีตบะเดชะ และเป็นมหาอำนาจแก่ผู้พบเห็น ถ้าถึงคราวจำเป็นเจอหมู่มารรุกรานก็ให้อธิษฐานตะกรุดเป็นดั่งนิ้วเพชรที่ชี้ไปต้องหมู่มารใดๆย่อมพินาศสูญสิ้น ท่านว่าอย่าชี้ไปเรื่อยเพราะเพียงพกไว้ก็เจริญก้าวหน้ามากพอดูอยู่แล้ว ทั้งจะปราบศัตรู,ปราบอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าให้กับเรา,ทั้งจะสะกดสิ่งไม่ดี,สะกดเหตุเสื่อมทั้งปวง

    คาถาบูชา
    นะโม กาเยนะ วาจายะ เจตะสาวา วะชิรังนามะปะฏิมัง อิทธิธรรมะปาฏิหาริยะกะรัง พุทธสิกขีรูปังปฐมพุทธังสัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา อะหัง วันทามิ สัพพะโส สะทา โสตถี ภะวันตุ เม


    *** วิชาตะกรุดดัชนี้นั้นท่านให้ใช้อาราธนาไว้จี้หรือชี้ให้พรตัวเอง เมื่อฝังประสิทธิเมไว้ในพระหัตถ์หมื่นลักษณ์ย่อมถือเป็นของประจำตัวคู่กายคู่ชีวิตอย่างหนึ่ง โดยปกติเฉพาะตะกรุดนี้ท่านว่าแต่ก่อนเราตั้งราคาไว้นับแสน เพราะไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ได้อีกเมื่อไหร่ ไม่รู้ครูท่านจะยอมทำให้อีกชาติไหน แต่ปัจจุบันนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านกระตุ้นให้เอาออกไปให้คนที่เขาตกอยู่ในสภาวะการณ์อันเป็นทุกข์ตรงกับอิทธิคุณตะกรุดนี้ได้ใช้ ท่านว่าดุจรอเวลาสุกงอมจนได้ที่แล้วมีเจ้าของครบแล้วท่านจึงให้เอาออกเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เอาออกมาในราคาปกติ(พูดได้เลยว่าถ้าไม่ถึงเวลามีเงินก็ยังเอายากจริงๆ)ท่านจึงได้นำออกให้บูชา ซ้ำพระหัตถ์หมื่นลักษณ์นี้ก็เป็นของมีประสบการณ์เกรียวกราวว่าคนใช้เอาไปดึงเส้นวาสนาเป็นพระสำเร็จ พระรวยเร็วกันทุกคน รายการนี้ท่านว่าใครที่เค้ามีบุญคู่ควรกันเดี๋ยวเขาจะมาเอาไปเอง รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยท่านจะอธิษฐานบอกกล่าวขอเปิดชะตาวาสนาให้เป็นรายบุคคลไป รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กชาวดอยที่ด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระหัตถ์หมื่นลักษณ์ทรงดัชนีปฐมภูมิเปิดวัฏจักรย่อย (รับ,ขอ,ห้าม,โอบอุ้ม) บูชา 900 บาท

    72485546-464786464126025-8797183007598313472-n.jpg 72250537-247810076158082-6750301456609312768-n.jpg
    72245062-684125185431304-6907863637533130752-n.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
    ร่วมทำบุญบูชา พระพิมพ์ปฐมฤกษ์พระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์กลืนกินคำสาปคำสาบาน (ซุ้มกอสะดุ้งกลับ โพธิ์เก้า,ผงมหาสะเดาะ)

    *** พระชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านตอกย้ำไว้ชัดเจนว่า พุทธคุณอย่างแรง คนไม่มีเคราะห์ห้ามใช้

    *** ตะกรุดลงถมสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบาน(เจ้าหลุมดำ)
    ตะกรุดสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นตามพระเวทย์โบราณ ด้วยปางก่อนนั้นสังข์อสูรได้กลืนกินพระเวทแลพระธรรมศาสตร์ทั้งปวงอันไหลออกมาจากโอษฐ์ของพระพรหมธาดาเป็นเจ้าได้ ด้วยกำหนดเมื่อถึงพรหมราตรีองค์พรหมท่านหลับไหลกินเวลายาวนานถึง 4,320 ล้านปี โลกก็เข้าสู่ความมืดมน อนธการ น้ำจะท่วมโลก สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะสูญสิ้นเผ่าพันธ์ จนหมดสิ้นช่วงเวลาพรหมราตรีนั้นเข้าสู่พรหมทิวาทุกอย่างจึงจะกลับมาเป็นปกติ การที่คัมภีร์พระเวทย์หายไปทำให้โลกมนุษย์เดือดร้อน ฝนฟ้าไม่ตก เกิดความแห้งแล้งอดอยาก ก่อนเวลาที่โลกจะวิบัติตามช่วงพรหมราตรีที่กำหนดไว้
    ด้วยสังข์อสูรนั้นสำคัญว่าเมื่อโลกขาดซึ่งพระเวทย์แลพระธรรมศาสตร์ไป พอพระพรหมตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็จะไม่สามารถสร้างโลกแลสร้างสรรค์จักรวาลได้เลย เทพยดาตลอดจนมนุษย์ก็จะไม่ได้รับองค์ความรู้ต่างๆทั้งยังไม่นับถือพระเป็นเจ้าอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้พ่ออาจารย์ท่านซึ่งได้รับการแนะนำจากองค์ปฐมพรหมว่าให้ทำตะกรุดครูดอกสำคัญขึ้นลงวิชาสังข์อสูรไว้ เพราะสังข์อสูรนั้นเป็นผู้กลืนกินที่ได้ชื่อว่ากลืนได้ทุกอย่างแม้กระทั่งพระเวทย์และพระธรรมศาสตร์ทั้งหลายอันปกติแล้วจะหาผู้ใดกลืนกินมิได้ จึงได้ชื่อว่าสังข์อสูรนั้นมีอำนาจมากกลืนได้ทุกสิ่งด้วยตัวสังข์อสูรนั้นเป็นมหาพรหมจุติลงมาจึงมีกำลังฤทธิ์มาก ซ้ำเหนือสิ่งอื่นใดสังข์อสูรนั้นได้ลักโขมยสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากพระเป็นเจ้า ได้กลืนกินทั้งรูปธรรมและนามธรรมอันเป็นต้นกำเนิดของมหาจักรวาลได้(พระเวทย์และพระธรรม)
    เช่นนั้นท่านจึงถือว่าสังข์อสูรนั้นเป็นดั่งหลุมดำที่ใช้กลืนกินได้ทุกสิ่ง(วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านปกปิดมากและวิชานี้ท่านตั้งใจหลบไว้ไม่ให้ใครเห็นหรือเอาไปใช้กันได้ง่ายๆด้วยท่านกลัวว่าจะหลงระเริงเอาไปใช้ในทางที่ผิด) ซ้ำสังข์นั้นยังมีอานุภาพมงคลอีกหลายประการ แม้ว่าบุคคลใดจะทำการมงคลให้เอาสังข์ไปเป่าให้ดังจนสุุดเสียงสังข์นั้นแล เสียงนั้นได้ยินไปถึงสถานที่ใดก็เป็นอุดมมงคล ทั้งสังข์ยังใช้ในการเป่าประโคมเพื่อเตรียมพร้อมขบวนศึก ใช้เป่าเป็นอาณัติสัญญาณในการสงคราม ใช้เพื่อประกาศศักดาและความมีชัย ...เช่นนั้นพ่ออาจารย์จึงสรุปว่าวิชาสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบานนั้นสามารถกลืนได้ทุกสิ่งทั้งยังใช้ขับไล่สิ่งอันไม่เป็นมงคลออกไปจากตัวเราหรือสถานที่ซึ่งเราอาศัยอยู่ และเป็นเครื่องหมายแห่งศักดานุภาพแลชัยชนะอีกด้วย ท่านว่าบ้านไหนร้อนเป็นไฟ ชีวิตใครที่วิบัติอย่างไร้สาเหตุชนิดที่โดนผีมันทำเอา หรือโดนเจ้าที่เทวดาให้ร้ายเหล่านี้ มีสังข์อสูรอยู่ด้วยรับรองได้ว่าวิบัติต่างๆนั้นเงียบสนิท
    อานุภาพของสังข์อสูรนั้นมีอยู่มากเมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงตามโองการปฐมพรหมโดยทำเป็นตะกรุดครูที่สร้างด้วยสรรพพิธีกรรมโบราณเช่นการทำตะกรุดตะกั่วลงถมแล้วท่านจึงเรียกตะกรุดสังข์อสูรนี้ว่าเจ้าหลุมดำ เพราะเจ้าหลุมดำนี้มีแรงกระหายที่แฝงลึกอยู่ในสัญชาติญาณสามารถกลืนกินได้แม้แต่พระเวทย์และพระธรรม ซ้ำวิชานี้ยังใช้กลืนกินคำสาป,คำสาบาน,ทุกข์,โทษ,ภัยใดๆอันแสดงออกถึงผลร้ายที่มากระทบกายและใจของเรา ท่านว่าเจ้าหลุมดำนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม กลืนเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม หากคนใช้เป็นจะรู้ว่าสามารถใช้เพื่อกลืนและกินได้ทุกสรรพสิ่ง ยิ่งเรามีบาปมากทุกข์มาก มีชีวิตติดอยู่ในคำสาปคำสาบานตั้งแต่อดีตชาติอันผูกพันธ์เหนี่ยวรั้งเราไว้ ใช้ชีวิตวกวนหาทางออกไม่ได้อยู่เช่นนี้ ท่านว่านั่นแหละเจ้าหลุมดำกลืนกินได้ทั้งหมด ยิ่งเค้ากินมากก็จะยิ่งให้คุณมาก ท่านว่าวิชานี้แปลกคนที่ว่าทรุดๆไร้จุดยืน คนที่ติดคำสาปคำสาบานเหล่านี้ พอเจ้าหลุมดำมันกินเสร็จไม่ใช่แค่มันนะที่อิ่ม แต่ตัวเรามันก็ให้กินให้อิ่มด้วยเหมือนเป็นการตอบแทนที่เราให้มันกิน ชีวิตใครที่ขาดสิ่งใดอยู่ไม่ว่าจะโชคลาภความรักความปรารถนา สิ่งใดที่ต้องประสงค์นั่นแหละบอกกับเจ้าหลุมดำไว้ได้เลยว่า "เมื่อกินอิ่มแล้วให้พ่ออิ่มด้วยนะพ่อขาด...สิ่งนี้ๆก็ว่าไป" ท่านว่าถ้าใช้เป็นดังนี้จะมีกินมีใช้ไม่รู้จบ มันกินเร็ว กินไวชนิดที่ไม่เหลือให้ใคร ก็ส่งผลให้เราได้ทุกอย่างแบบที่ไม่มีใครกล้าแย่งเช่นกัน
    ทั้งเจ้าหลุมดำนี้ได้ชื่อว่า
    กินอย่างเดียว เก็บอย่างเดียวไม่มีเอาออก ไม่รู้จักอิ่มและไม่มีอะไรที่เขาจะกินไม่ได้ เช่นนั้นวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้เปรยเอาไว้ว่านอกจากกลืนกินคำสาปคำสาบานในร่างกายตัวตนของเราแล้ว เจ้าหลุมดำนี้แม้อยู่ที่ไหนก็ยังจะช่วยเจ้าของกอบโกยสิ่งที่ตัวเธอต้องการแบบไม่รู้จักคำว่าพอดี(พูดง่ายๆคือเกินพอไปไกล) จะกอบโกยทุกอย่าง ครอบครองทุกอย่างจนตัวเธอเองคาดไม่ถึงว่าทำไมเมื่อก่อนเป็นแบบนั้นและตอนนี้เรามีขนาดนี้ได้อย่างไร จะถึงซึ่งสิ่งอันสมปรารถนา มีความสุขกับทรัพย์สมบัติที่ตั้งใจจะให้เป็นตั้งแต่แรก ...ท่านว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือใช้ชีวิตแบบไม่มีจุดอิ่มตัว นี่คืออานุภาพของเจ้าหลุมดำ เพราะตัวของมันนั้นสามารถบรรจุพระเวทย์และพระธรรมได้จึงมีอานุภาพอันประมาณมิได้ ท่านว่ามีมิติอันกว้างใหญ่ไพศาลไม่สามารถคาดคะเนจุดสิ้นสุดได้อยู่ในตัวของมันเช่นนี้ท่านจึงเรียกเจ้าหลุมดำเพราะจริงๆแล้วตัวของมันสามารถใส่ได้ทุกสิ่ง ***วิชานี้เป็นพระเวทย์พิศดารซึ่งพ่ออาจารย์ได้รับการถ่ายทอดโดยปฐมพรหม ท่านว่ามีอำนาจเหนือแรงพรหมลิขิตต่างๆที่ดลบันดาลชีวิตคนมากนัก ด้วยเหตุสังข์อสูรนั้นโขมยของจากพระพรหมเปลี่ยนแปลงพรหมลิขิตซึ่งส่งผลร้ายแรงที่สุดต่อมหาจักรวาลได้อย่างไร เรื่องโขมยชะตา เปลี่ยนชีวิต กลับทุกข์เป็นสุขทั้งหลายเค้าก็ทำได้ง่ายๆเช่นนั้น
    ### วิธีใช้
    - ตะกรุดนี้เมื่อได้รับไปท่านให้ผู้บูชาตั้งจิตตั้งสมาธิให้ดี นำเอาปากกามาเขียนชื่อตัวเองจารใส่ลงไปที่ตะกรุด ให้ทำเบื้องหน้าพระปฏิมาหรือทำจิตหน่วงไว้มั่นคงในพระรัตนตรัยอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เมื่อกระทำนั้นพ่ออาจารย์ท่านให้ตั้งจิตให้ดีบอกกล่าวกับมหาสังข์เขาว่าให้กลืนกินคำสาปและคำสาบานตั้งแต่อดีตชาติของเราขณะที่เราเขียนชื่อลงไป...(ต้องทำด้วยตัวเอง) อยากจะให้ท่านช่วยให้ท่านกลืนกินอะไรก็บอกไปเลยในขณะนั้น การเขียนชื่อนี้ทำได้เพียงครั้งเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะพกแบบไม่เขียนก็ได้ แต่หากทำตามนี้วิชานี้จะมีผลมาก เห็นผลได้ไวดั่งใจ เจ้าหลุมดำจะเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเราและตามช่วยเราตลอดไปแม้ในภพภูมิไหนๆ จะเกิดอีกกี่ชาติ พรและความโชคดีเหล่านี้จะไม่หายไปจากตัวเราเลย

    *** พระชุดนี้แก่ผงมหาสะเดาะ
    ผงมหาสะเดาะพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเเต่เดิมวิชานี้เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งในภาควิชาของเทพนิมิตร ท่านได้เฝ้าครูมหาพรหมคือองค์สหัมบดีบรมพรหมสูงสุดแห่งปัญจสุทธาวาสท่านจึงได้วิชานี้มา โดยใช้วิชานี้ตั้งตัวเเละทำไว้ให้ลูกศิษย์บ้างเฉพาะบางคนที่มีความประพฤติดี วิชานี้องค์บรมพรหมท่านให้มาโดยเฉพาะ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าแก่นเเท้ของวิชานี้ต้องสวนกับกระเเสของกรรมในระดับหนึ่ง พระองค์ท่านได้มอบอักขระให้พร้อมคาถาเสกเรียกว่ามหาสะเดาะ ครูท่านบอกว่าเพราะสัตว์นั้นมีกรรมเฉพาะเเต่ละบุคคล ถึงมีโชคบางทีก็รับไม่ได้ บางครั้งกรรมส่งผลหนักเเม้โชคก็ยังไม่มีเลย
    ในจุดนี้เพื่อให้ผู้ใช้ได้เสวยศุภมงคลอันเกิดเเต่โชคลาภวาสนา พระองค์ท่านจึงให้วิชามหาสะเดาะเเก่พ่ออาจารย์ ท่านว่าเมื่อพกไว้บูชาไว้กับตัว จะสะเดาะโซ่ตรวนบ่วงพันธนาการที่กุมรัดให้หลุดออก ให้ไขว่คว้าโชคลาภได้ จะทำอะไรก็มีเเต่โชคร่ำรวยง่ายๆโชคดีเเบบนั้น ในส่วนของเวรกรรมนั้นก็ไม่ได้หายหรือสลายไปไหน เพียงเเต่คลายพันธะทั้งหมดออกชั่วคราวให้สัตว์เหล่านั้นที่ได้บูชาสามารถรับโชคได้เเต่กรรมเก่าก็ยังรับเหมือนเดิม พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชานี้มันดีตรงที่เวลามีโชคพูดง่ายๆคือมีเงิน ให้เอาเงินไปทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวร บ่วงกรรมมันก็จะบรรเทาเบาบางลง ทีนี้อะไรก็ง่ายไปหมด ทำไปเรื่อยๆได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำบุญ ได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำการกุศลอุทิศให้เขา เช่นนี้ก็ขึ้นชื่อว่าต่อไปบ่วงพันธนาการต่างๆก็จะลดจะคลายลง เงินเเละความโชคดีมันจะยิ่งไหลมาไม่รู้จบ เมื่อท่านลงวิชาทำผงมหาสะเดาะลงด้วยว่านยาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจะล้อมมหาสะเดาะด้วยวิชาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ของหลวงพ่อปาน วัดบางโคนม พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ดีมากอยู่เเต่เดิมเเล้วในส่วนของพระคาถาไม่ต้องกล่าวอะไรมาก เเต่พอนำมาลงวิชาทำผงกลับต้องทำให้มากขึ้นไปอีก คืออัญเชิญบารมีพระปัจเจกพุทธเจ้าอันอภิเษกพระสัมโพธิญาณทั้งหลาย ซึ่งพระปัจเจกโพธิเจ้านั้นมีจำนวนมากกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรทั้งสี่ เอ่ยอ้างมหาบารมีในระดับโพธิญาณซึ่งสูงกว่าระดับวิปัสนาญาณของพระอรหันต์ทั่วไป มาช่วยเป็นตัวเบิกทางลดกระเเสเวรกรรมให้ผู้บูชาประสบโชคดี เมื่อเหล่าพระปัจเจกโพธิเจ้าทั้งหลายช่วยกันสงเคราะห์ ผสานกับพระเวทย์ในสายบรมพรหมสหัมบดีวิชานี้จึงรับเเละหนุนกันเป็นทอดๆ หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ลงพระเวทย์เฉพาะอันท้าวสหัมบดีบรมพรหมท่านสอนไว้ พระเวทย์นี้ไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดเผยเเก่ผู้ใด ท่านลงผงวิเศษล้อมวิชาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์อีกทีหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพระเวทย์นี้ต่อให้อยู่เฉยๆโชคลาภก็วิ่งเข้ามาหาเอง เเม้ปรารถนาเงินทองของมีค่าความสุขสบายใดก็ไม่ไกลเกินความปรารถนา จะเสี่ยงโชคจะพนันขันต่ออะไก็เอาเเต่พองามตามใจเถิดก่อนที่ท่านจะลบเอาผง ท่านว่าพระหรือเครื่องมงคลใดๆก็ดีที่สร้างด้วยผงนี้ ผู้ใช้ให้พึงรู้แก่ใจไว้ว่าอยากได้อะไรเท่าไหร่ให้ตั้งสัจจะกับผงนี้ไว้ ว่าวันนี้อยากได้เท่าไหร่ได้เเล้วให้พอให้หยุด เเล้ววันอื่นค่อยขอเมตตาในส่วนมหากรุณาของเสด็จปู่ท้าวสหัมบดีต่อไป ผงนี้มีอำนาจอาญาสิทธิ์ด้วยผู้ที่บูชานั้นเทพเจ้าท่านจะต้องสงเคราะห์ถ้วนทุกคน ไม่มีเลือกที่รักมักที่ชังโปรดเสมอหน้ากันหมดรักเราเต็มใจโปรดเรา อีกประการหนึ่งท่านว่าจะทิ้งวิชาทางเมตตานั้นไม่ได้ ยิ่งโชคลาภการพนันเสี่ยงดวงด้วยเเล้วมันต้องเดินไปควบคู่กับเมตตา ใครเห็นเราเค้าก็เต็มใจให้เรายิ้มให้กับเรา เราเอาเงินเขามาง่ายๆไม่ขัดขืนเรา เช่นนั้นผงมหาสะเดาะนี้ท่านจึงลงไว้ครอบคลุมทั้งหมด

    *** พระพิมพ์สำคัญชุดปฐมฤกษ์ พระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์ (ซุ้มกอสะดุ้งกลับ โพธิ์เก้า)

    เป็นประสงค์ของพ่ออาจารย์ที่ท่านตั้งใจจะสร้างพระพิมพ์ขึ้นบูชาครูเสียหนหนึ่ง โดยตั้งใจว่าจะทำให้ดี ใช้มวลสารของครูมาทำ เชิญครูลงมาเมตตาอธิษฐานจิตให้ ซ้ำยังเป็นการสร้างพระพิมพ์ที่ได้ชื่อว่าทำได้ยากที่สุดอีกวาระหนึ่ง พระพิมพ์นี้เรียกว่าพระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์ หรือจะเรียกว่าสะดุ้งกลับโพธิ์เก้าก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพิมพ์นี้จะมีปาฏิหาริย์มาก มีฤทธิ์มากและมีคุณครอบทุกทาง ซึ่งท่านใช้เวลาอธิษฐานจิตและเชิญครูลงปลุกเสกนานมาก


    ท่านไม่ให้บอกอะไรที่เรียกว่ามากเกินไป ให้พูดแต่เพียงคร่าวๆพอเข้าใจเท่านั้น โดยแรกเริ่มนั้น ท่านได้นิมิตรเห็นประชาชนเดือดร้อนทุกข์ยากเป็นกำลัง และเหล่าพระเบื้องบนตลอดจนพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านเมตตาสงสารจับใจ จึงได้ปรารภกับท่านว่า พวกเราจะช่วยกันแผ่เมตตา เอาความกรุณานี้ชำระล้างทุกข์เข็ญที่จะปรากฏขึ้นช่วยกันทำเสียหนหนึ่ง ในภายหลังท่านก็ได้รับสื่อต่อลงมาว่า อยากให้ท่านช่วยสร้างพระพิมพ์ ซึ่งพระพิมพ์นี้เป็นพระพิมพ์สำคัญต้องเป็นท่านเท่านั้นถึงจะทำให้สำเร็จได้ โดยต้องทำตามอาถรรพ์แห่งคุณวิชา เอาไว้ให้เป็นขวัญกำลังใจแก่สัตว์ผู้ยากในภายหน้า พ่ออาจารย์ท่านจึงเริ่มบูชาครูแกะแม่พิมพ์ บอกกล่าวครูบาอาจารย์ให้ท่านช่วยเหลือ แฝงครูลงมาช่วยกันสร้างให้รูปแบบพิมพ์ทรงออกมาเป็นเช่นที่ครูต้องการ ท่านว่าพระพิมพ์นี้ให้คุณถึงสามสถาน ดุจมีพระซุ้มกอบูชาไว้ มีพระเศียรโล้นสะดุ้งกลับบูชาไว้ มีพระปรกโพธิ์เก้าใบบูชาไว้ในองค์เดียวกัน

    พระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์นั้น พ่ออาจารย์ท่านใช้มวลสารเดิมของบูรพาจารย์มาเป็นธาตุตั้งต้นในการทำ เพราะท่านอาศัยอำนาจจิตของบูรพาจารย์เหล่านั้นให้กำเนิดก่อเกิดสิ่งดีงามซึ่งทรงคุณวิเศษ โดยท่านกล่าวว่าเดินตามรอยเท้าครูนั่นเอง ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าพระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์นั้น เป็นพระพิมพ์ที่มีคุณวิเศษอยู่มาก พอจะจำแนกให้เห็นได้ ดังนี้
    - พุทธลักษณะพิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับนั้น เป็นการสร้างพระพิมพ์ที่สร้างได้ยากกว่าปกติ อันนี้พูดถึงพระพุทธคุณภายใน ไม่ใช่แค่เพียงรูปลักษณ์ การทำพระพิมพ์นี้ต้องสำเร็จด้วยวิทยาคมขั้นสูงจากผู้อธิษฐานจิต เหนือกว่าพุทธาคมธรรมดา หากผู้สร้างกระแสจิตไม่เข้มแข็ง ถ้าทำตามหลักคุณวิชาแล้ว จะเสียจริตไปทันที กล่าวคือถ้าเสกไม่เป็นคนเสกเป็นบ้าได้เพราะต่างจากการทำพระธรรมดา โดยการอธิษฐานจิตนั้นจะใช้บทพระคาถายอกย้อนถอยหลังขึ้นต้น แล้วฐานกำลังการปลุกเสกการแผ่กระแสจิตก็ยังไหลยอกย้อนเสมอด้วยบทพระคาถาเช่นกัน จึงเหนือและต่างจากการอธิษฐานธรรมดา ดังนั้น พุทธคุณของพระเศียรโล้นสะดุ้งกลับนั้นจึงแรงกล้ายิ่งนัก เหนือกว่าวิชามหาสะท้อนหรือเพชรกลับใดๆหลายเท่า พ่ออาจารย์ท่านว่า สามารถทำให้ผู้ครอบครองพลิกฟ้าพลิกดินได้ เปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ กลับเรื่องร้ายๆที่กำลังผจญอยู่ สถานการณ์แย่หรือวิกฤติ ให้กลายเป็นโอกาส เป็นเรื่องที่ดีได้ แม้ดวงตก มีทุกข์โทษภัย เคราะห์หามยามร้ายใดๆก็จะคลายสูญสิ้น ไม่ใช่ด้วยจะไปเบียดเบียนกฏแห่งวัฏฏะสงสาร แต่อาศัยพุทธานุภาพและแรงครู ส่งทุกข์โทษภัยเหล่านั้นกลับไปให้ไกลหมื่นโยชน์แสนโยชน์
    - ปรกโพธิ์เก้าใบ ดั่งที่บอกไปแล้วแต่ต้นว่าพระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์นั้น เป็นพระที่พ่ออาจารย์ท่านต้องการเดินขุมพลัง เน้นพุทธคุณทุกทางพร้อมกัน ตามมติครูบาอาจารย์เบื้องบนให้เหมาะแก่ยุคปัจจุบัน การอัญเชิญองค์พระพิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับเข้าประทับในซุ้มโพธิ์เก้าใบนี้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการปกปักรักษาคุ้มครองไม่ทอดทิ้งกัน ของศิษย์และครู ซ้ำยังมีความหมายถึงความเจริญก้าวหน้า รุดหน้า ไม่อยู่นิ่ง แม้ได้อาราธนาบูชาก็จะพบความสุขร่มเย็น สมหวังในทุกๆสิ่ง
    - พิมพ์ซุ้มกอ สำคัญยิ่งนัก เพราะพ่ออาจารย์ท่านต้องการเน้นพุทธคุณพร้อมกันให้เหมาะแก่สภาวะการณ์ปัจจุบัน โดยท่านว่าพระกำแพงซุ้มกอนั้น ดีเด่นครอบจักรวาล ทุกคนรู้กันดีว่า มีพุทธคุณทางโชคลาภวาสนาสูงนัก ดั่งจารึกในลานทองว่ามีกูไว้ไม่จน แม้องค์ครูสมเด็จจะสถาปนาพระสมเด็จวัดระฆังยังต้องเอาดินกรุ เอาพระกำแพงซุ้มกอที่แตกหักมาเป็นมวลสารผสม จนพระสมเด็จวัดระฆังนั้นมีอิทธิคุณดุจเดียวกัน คือใครมีกูไว้ไม่จนนั่นเอง


    พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้มวลสารเก่าดั้งเดิม ของครูบาอาจารย์ที่ท่านรับสืบทอดมา นำมาผสมสร้างเป็นหัวเชื้อในการทำพระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์ครั้งนี้ พอจะยกตัวอย่างได้อาทิเช่น
    - ผงเปิดทาง เปิดวาสนา เป็นวิชาที่ต้องลงคู่กัน พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าชีวิตคนนั้น เกิดมาเป็นมนุษย์ได้ต้องบอกไว้ว่ามีทุน มีวาสนากันทุกคน แต่ทั้งนี้ใครจะมีกรรมมีสิ่งใดมาบดบังเบียดเบียน มันก็เป็นเรื่องกฏแห่งกรรมของชะตาสัตว์โลก วิชานี้เมื่อเราอาราธนาจะช่วยขจัดปัดเป่า เปิดทาง เปิดผลบุญอำนาจวาสนาให้เราเป็นวาระๆไป มีข้อห้ามอย่างเดียวคือห้ามหาย ต้องอาราธนาตลอด เช่นนั้นคุณแห่งวิชาก็จะเกื้อกูลเปิดทางให้เราตลอด เมื่อทางเปิดแล้วจงเร่งตักตวงสร้างคุณงามความดี อย่าเพลิดเพลินแต่การณ์คิดจะเสวยสุขฝ่ายเดียวก็พอ
    - ผงสมเด็จวัดระฆัง ขรัวโต เป็นผงที่พ่ออาจารย์ได้เคยนำออกมาใช้สร้างพระบ้างในบางวาระที่จะสถาปนาพระสำคัญๆเท่านั้น
    - ผงยาวาสนาจินดามณี หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ซึ่งท่านได้นำยาวาสนาทั้งแบบเม็ดยา และลูกประคำปราบหงสานำมาฝนขอเป็นชนวนมวลสารเข้ากับผงยาสำเร็จของหลวงปู่บุญที่เอาไว้ผสมทำพระเนื้อผงยาโดยเฉพาะอีกต่างหาก เพื่อจะนำลงมาผสมเป็นมวลสารในวาระนี้ ใครมีไว้ได้ชื่อว่ามีวาสนาอย่างยิ่ง
    - ผงพระพุทธคุณคาถาลบมือหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ซึ่งท่านได้รับมอบมาจากครูฆราวาสของท่าน โดยครูท่านกำชับไว้ว่า แม้จะผสมทำอะไร องค์พระนั้นมีพุทธานุภาพมาก ไม่ต่างจากที่หลวงปู่บุญท่านทำเอง
    - ผงทำพระ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิต เป็นผงที่ท่านได้รับสืบต่อมาซึ่งผงนี้คือผงที่หลวงพ่อกวย ได้ชักยันต์อักขระคาถาวิชาต่างๆลบถมไว้เพื่อนำมาผสมทำพระผงของท่าน พ่ออาจารย์ว่า พระรุ่นนี้มีพุทธลักษณะนั่งบัลลังค์โพธิ์เก้า จึงได้นำผงของหลวงพ่อกวยผสมทำพระด้วย เพื่อเป็นเกียรติแก่ครูบาอาจารย์
    - ผงจักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เป็นผงที่สร้างชื่อทางสายนี้ พุทธคุณนั้นยิ่งใหญ่ครอบจักรวาลไม่ต้องกล่าวอะไรกันมาก
    - ผงคู่ชีวิต สายหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน
    - ผงวิเศษ 5 ประการ
    - ผงพุทธคุณนะหน้าทอง พระลักษณ์หน้าทอง
    - ผงพระสีวลีเร่งลาภ
    - ผงมนต์พระกาฬสะท้อนกลับ
    - ผงบทพระอิติปิโสธงชัย(ถอยหลัง)
    - ผงว่านสำคัญ 108 ชนิด
    - ผงกรุบางขุนพรหม
    - ผงดินก้นกรุและพระกำแพงซุ้มกอแตกหัก
    - น้ำทิพย์มนต์ธรรมชาติ ที่ผุดเองตามถ้ำและเศียรพระพุทธรูปต่างๆ


    เมื่อท่านได้ผสมมวลสารสำคัญต่างๆแล้ว จึงได้สถาปนาพระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์ ซึ่งในองค์พระนี้ท่านยังได้ฝัง เครื่องมงคลต่างๆลงไปเสริมอิทธิคุณด้วย อาทิเช่นด้านหน้าโรยแร่เหล็กไหลกลางทุ่ง หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว แร่นี้เป็นในส่วนของขี้เหล็กไหล ที่หลวงปู่บุญท่านเคยชี้จุดให้ศิษย์ฆราวาสไปขุดกลางทุ่งนครชัยศรี ครูฆราวาสของท่านนั้นเล่าว่าตอนขุดนี้มืดฟ้ามัวดินทีเดียว เป็นแร่ที่มีจิตวิญญาณรักษา อัญเชิญขึ้นมาได้ไม่มาก หลวงปู่บุญท่านได้นำมาอธิษฐานจิตในส่วนของพุทธคุณมีบดผสมพระบางส่วน และที่เหลือท่านก็มอบให้ศิษย์ไว้สืบต่อมาจนตกทอดถึงพ่ออาจารย์ ท่านว่าแร่นี้มีพุทธคุณแรงมาก ทีเทพยดาเข้ารักษาทุกชิ้นเรียกว่าเฮี้ยนที่สุดก็ได้ เมื่อนำมาฝังมาโรยไว้แล้วเทพยดานั้นก็จะเข้าอารักขาพระพิมพ์ไปด้วย เมื่อจะขอจะอธิษฐานอะไรกับองค์พระ ให้ทำจิตให้นิ่งสงบ เพ่งจิตไปที่องค์พระเลยหรือจะใช้ฝึกสมาธิก็ได้ จิตจะปลอดโปร่ง แม้อธิษฐานสิ่งใดก็สำเร็จโดยเทวานุภาพ

    พระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์นี้ พ่ออาจารย์ท่านสร้างตามมติครูบาอาจารย์ เมื่อจะเสกท่านก็ได้เชิญครูนอกจากเสด็จพระใหญ่และองค์พระในนิพพานแล้ว ยังมีครูองค์อื่นๆอาทิครูสมเด็จโต และบูรพาจารย์องค์อื่น เช่นหลวงปู่บุญ หลวงพ่อกวย หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อฤาษี ท่านว่าเจ้าของมวลสารท่านลงมาทำให้แผ่เมตตากันครบ ต่างกรรมต่างวาระกัน เพราะท่านเน้นเชิญแต่ละองค์ให้ลงมาอธิษฐานจิตเดียวควบคู่ไไปกับการทำวิชาของท่าน เมื่อสำเร็จนั้นท่านมีนิมิตเห็นหลวงปู่บุญมาเตือนท่านว่า พอแล้ว พระเหล่านี้มีเจ้าของครบแล้ว คนมีบุญเขาจะมารับ ตกต้องตามพรหมลิขิตทุกองค์

    คาถาอาราธนา
    ติวาคะภะ โธพุทนังสา นุสมะวะเทถา สัตถิระ สามะทัมสะริปุโรตะ นุตอะทูวิกะโลโตคะสุโนปันสัม ณะระจะชา วิโทพุธสัมมา สัมหังระ อะวาคะภะ โสปิติอิ

    *** พระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์ชุดพิมพ์ปฐมฤกษ์นี้ พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้ทั้งหมด 4 องค์ ผู้ต้องการบูชาจริงๆรบกวนจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น โดยให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดเวลาตกฟากตลอดจนเรื่องที่ขัดข้องเอาไว้ด้วย ท่านจะทำการประสิทธิให้เป็นการเฉพาะต่อไป รายได้จากการทำบุญร่วมสมทบทุนบุญวิหารทานต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระพิมพ์ปฐมฤกษ์พระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์กลืนกินคำสาปคำสาบาน (ซุ้มกอสะดุ้งกลับ โพธิ์เก้า,ผงมหาสะเดาะ) บูชา 4,000 บาท


    71839359-562913427784324-7980655706825031680-n.jpg 72126597-424801418455967-2568243795644645376-n.jpg
    72131691-519204028903137-1031545849080971264-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2021
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
    ร่วมทำบุญบูชา ลูกอมมหาภูติกินฝันสร้างคนต่อชีวิต(เพิ่มบุญฤทธิ์ต้านภัยพิบัติ)

    วิชาสร้างลูกอมนั้นเป็นวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านใส่ใจและใคร่ครวญพิจารณาในการลบผงอย่างแท้จริง ด้วยว่าเป็นของที่ทำยากแต่ใช้ง่ายและใช้สะดวกที่สุดไม่มีข้อจำกัดใดๆในการพกพา เช่นนั้นท่านจึงปรารถนาที่จะทำลูกอมอย่างดีที่สุดขึ้นมาให้ใช้กันสักหน เพราะชีวิตมนุษย์นั้นยังขาดแคลน เพราะไม่เคยมี ไม่เคยได้รับมาก่อน จึงมีความฝัน มีความปรารถนาที่จะครอบครอง มีกำลังใจที่จะเพียรพยายามไปบนหนทางแห่งวาสนาและชะตาของตนนั้น แม้ความตั้งมั่นจะยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ผู้ที่ไปถึงจุดหมายนั้นก็มีเพียงหยิบมือ พ่ออาจารย์ท่านจึงแนะนำให้อาราธนาลูกอมชุดนี้เพื่อใช้คู่กายในการทำความปรารถนาทั้งหลายให้เกิดขึ้นจริง ท่านว่าสรุปแล้วลูกอมนั้นเปรียบดังแก้วสารพัดนึกและมีอานุภาพครบไม่ว่าจะเป็นทาง
    - เร่งโชคลาภเข้ามาตลอด
    - มีชีวิตที่รุ่งเรือง
    - ทำมาหากินง่ายอย่างเหลือเชื่อ
    - ดีด้านเสี่ยงโชคลาภการพนัน
    - กำราบศัตรูได้ราบคาบ
    - คู่ค้า เหยื่อ เขาจะเดินเข้ามาหาเราด้วยตัวเอง
    - เป็นเมตตามหานิยมให้คนชอบพอ
    - เป็นเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม....


    เพื่อการณ์นั้นพ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมผงวิเศษที่แก่กล้าอิทธิคุณตามที่ท่านพิจารณาว่าดีแล้ว ควรแล้ว ในการปั้นลูกอมวิชาขึ้นทีละลูกด้วยตนเอง ท่านคัดสรรค์วิชาที่ขึ้นชื่อและท่านทำสำเร็จซ้ำยังเสกเก็บไว้มายาวนานอย่างหวงแหนซึ่งผงเหล่านั้นล้วนแล้วแต่สร้างได้ยาก แม้อย่างใดอย่างหนึ่งก็นับว่าเป็นยอดของผงวิเศษแล้ว ได้แก่
    - ผงฝืนลิขิตฟ้าโสฬสมหาพรหม เป็นการลบผงลิขิตฟ้ากับผงโสฬสพรหมภูมิรวมกับผงสายวิชาพรหมศาสตร์ทุกแขนงที่ว่าด้วยฤทธานุภาพอันพิศดาร ท่านว่าผงนี้จะแรงเป็นพิเศษคือมีพลังกล้าแข็ง แรงและเร็วด้วยอานุภาพเทพพรหมศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ใช้รับมือกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องกรรมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะกรรมเก่า กรรมปัจจุบัน หรือกรรมใหม่ วาระกรรมใดๆก็ดีรวมไปถึงชะตาฟ้าลิขิตที่ยากจะเปลี่ยนแปลง ท่านว่าจะยกตัว เปลี่ยนฐานดวง ฐานชีวิตเหมือนเกิดใหม่ มีอานุภาพมากท่านไม่สามารถบอกหรือบรรยายได้เพราะเป็นเรื่องของกรรม เรื่องของพรหม ผิดกฏโลก ท่านว่าเอาง่ายๆ ผงนี้แม้เหล่ามหาพรหมในโสฬสยังเข้าพิทักษ์รักษา มีอาญาสิทธิ์มาก สว่างมากท่านว่าคนที่ได้ไปจะเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ยุติกรรมร้ายแรงเดิมๆแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ครูพรหมจะลิขิตให้ เป็นการเกิดครั้งที่สองตามหลักพระเวทย์ ใช้พลิกสถานการณ์กลับฐานะได้ เปลี่ยนคนได้จากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งพลิกกลับและค้ำไว้ให้มั่นคงเป็นดาวค้างฟ้าไม่ร่วงหล่นลงมา ผงนี้ท่านว่าอย่ามองข้ามใช้พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้ ใครปัญหาอุปสรรคเยอะๆสมควรต้องใช้
    - ผงทำลูกอมเงินล้าน ผงที่พ่ออาจารย์ท่านใช้ทำลูกอมชุดนี้เป็นผงวิชาเงินล้าน,ผงพระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้า,ผงทศชาติ,ผงจินดามณี,ผงพระสีวลีเปิดบาตร,ผงหาลาภ,ผงเร่งลาภ,ผงเสริมลาภ ท่านได้นำผงต่างๆมาเข้ากับว่านตระกูลเศรษฐีเพื่อใช้ปั้นเป็นลูกอม โดยลูกอมเม็ดเล็กๆนี้ก็ปรากฏความขลังยิ่งนัก ท่านว่าคนเค้าเอาไปแช่น้ำพรมที่ค้าขาย เขาตั้งตัวได้ จับเงินล้านกันก็มีมาแล้ว ท่านจึงถือเป็นอุดมมงคลเรียกเสียว่าลูกอมเงินล้าน ท่านนำผงทำลูกมซึ่งท่านหวงแหนนี้มาเป็นมวลสารตั้งต้น เพื่อจะได้ดึงโชคลาภให้พัดพาเข้าสู่ตัวด้วยบทคาถาสำคัญนี้จะช่วยให้ธุรกิจหรือการทำมาหากินใดๆไม่มีสะดุด เป็นไปโดยราบรื่น คล่องตัว หากใจศรัทธามั่นย่อมเป็นโชคลาภขนานเอก ซ้ำยังแก้เคล็ดให้คนใช้ได้จับเงินล้าน ท่านว่าใครอาราธนาดีๆหมั่นทำทานตลอด มติครูบาอาจารย์ว่าจะได้จับเงินล้านในเร็ววัน
    - ผงปถมังมหากำเนิด วิชาสำคัญที่ใช้สร้างสรรค์พร้อมกับเรียกร้องสิ่งที่ต้องการให้มาหาได้ทุกสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ขาดสิ่งใด พร่องสิ่งใดไม่รู้สิ้นรู้สุด ก็จะก่อเกิดเติมเต็มสิ่งเหล่านั้น ท่านว่าพูดได้แต่เพียงเท่านี้ว่ามันสำคัญ และเป็นของที่สำคัญมากจนไม่สามารถนิยามสิ่งใดได้มากกว่านี้เพราะมันจะเติมเต็มไปจนถึงจิตวิญญาณเป็นวิชาที่เรียกว่าช่วยให้สมความปรารถนาก็ได้ อันผงปถมังมหากำเนิดนี้ทำยากนัก และไม่ค่อยมีคนทำกันเนื่องจากเป็นผงที่มีแรงครูสูง
    - ผงนิพพานดับธาตุ พ่ออาจารย์ท่านดำริว่า..ที่เราตั้งชื่ออย่างนี้เพราะว่ามีความหมายสำคัญ การดับของพระนิพพานคือดับสิ้นทุกสิ่งอย่าง สิ้นธาตุ สิ้นชาติ สิ้นอวิชชาบรรดามี เป็นการดับอย่างบริสุทธิ์ พูดเช่นนี้ก็คงพอจะเดาได้ ผงนี้มีคุณทางด้านดับทุกข์นี่เอง ใช้ได้ตั้งแต่ดับทุกข์ทางใจ ดับทุกข์ทางชาติ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ประเสริฐสุดถึงขั้นดับไปทั้งหมด บูรพาจารย์สรรเสริญนักว่าผู้บูชาจะมีพระนิพพานเป็นที่ไป
    - ผงหมูกินเสือ วิชานี้มีชื่อประหลาดเพราะปกติหมูต้องเป็นเหยื่อเสือ ต้องเป็นฝ่ายที่ถูกกิน แต่หมูกินเสือนั้นท่านว่าเป็นวิชาที่กลับร้ายให้กลายเป็นดี เปรียบตัวเองเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนด้อยไร้ฤทธานุภาพแต่เหล่าผู้มากด้วยวาสนาบารมีก็ยังมาตายคาปาก มาให้เรากินถึงที่ ไม่ต้องแสวงหา ไม่ต้องดิ้นรน อิ่มแบบมีเกียรติไม่ใช่อิ่มไปมื้อๆขอไปที ตรงนี้ท่านว่าสำคัญมากสมัยนี้คนเราชอบแสวงหาสิ่งที่ช่วยเหลือชั่วมื้อชั่วคราวประดุจหิวข้าวก็จะหาโภชนาหารเพียงเติมให้เต็มท้อง แก้หิว แก้อยากไปมื้อๆ อิ่มเช่นนี้เป็นอิ่มมื้อเดียว มื้อหน้าก็ต้องเหนื่อยออกหากินใหม่ กว่าจะได้กว่าจะอิ่มอีกก็เสียเวลาสูญเสียช่วงชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงทำวิชาหมูกินเสือเพื่อแก้ปัญหาวาสนาชะตาคนให้มีชีวิตที่ง่ายขึ้น ทำอะไรก็ง่ายไปหมด และเป็นผู้ชนะตลอดกาล
    - ผงท้าวกำพร้า วิชาท้าวกำพร้านี้เเม้ยาจกกำพร้าเข็ญใจ ยังประสบความมั่งมีได้ดีเป็นถึงเจ้าพระยาพระมหากษัตริย์จอมจักรพรรดิ์ได้ จากบุคคลชนชั้นต่ำสุดได้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตมนุษย์ด้วยอำนาจพรเเละเเรงผลักดันของสิ่งมีชีวิตผู้เป็นใหญ่เเห่งพิภพดาวดึงส์ซึ่งก็คือพระอินทร์นั่นเอง ผงนี้ผู้ใดถือครองเสมือนหนึ่งได้รับพรจากพระอินทร์เจ้า ในการทำลูกอมผงวิเศษนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ลงผงวิชาท้าวกำพร้าและทำวิชาท้าวกำพร้าโดยตรงแบบเต็มสูตรเป็นครั้งแรก เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคน จากจุดต่ำสุดให้ขึ้นสู่ขั้นสูงสุด อุปมาดุจยาจกไร้พ่อแม่ ไร้กำลัง ไร้ญาติขาดมิตร ก็ยังบินสูงขึ้น ชีวิตเกิดปาฏิหาริย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าขึ้นสู่การเป็นพระราชาได้
    - ผงกฤษณะยันตรา ด้วยว่าพระกฤษณะนั้นนับถือว่าเป็นองค์อวตารของพระวิษณุผู้ปกปักรักษาสรรพสิ่งซึ่งคนนิยมนับถือท่านว่าเป็นคนเลี้ยงวัว เป็นผู้อภิบาลโคทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านจึงเลือกทำวิชาลงผงวิเศษขึ้นเพื่อเสริมอาถรรพ์ท่านได้เขียนยันต์อักกะตัชชารี เป็นเลขยันตร์คาถาอาคมที่ถอดจากคำพูดแต่ละคำกลายเป็นตัวอักษรและสัญลักษณ์อันถูกจัดเรียงอย่างมีระเบียบและนำตัวเลขแทนสัญลักษณ์ดวงดาว มหาธาตุ และเทพเจ้าต่างๆจัดเรียงอยู่ในผังสมมุติของจักวาลทำการจัดเรียงตัวเลขเหล่านั้นในทิศทางที่ดีที่สุด ด้วยว่าอำนาจจากตัวเลขที่ถูกสมมุติแทนดาวดวงทั้งหลายจะส่งพลังงานจากดาวดวงจริงหรือพลังจักรวาลมาสู่ตัวผู้บูชาเพื่อให้สำเร็จในเหตุการณ์และความปรารถนาต่างๆผงนี้จะแผ่พลังงานจากมหาธาตุ ดวงดาว ตลอดจนถึงเทวราช เป็นพลังที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องไม่มีบกพร่อง พ่ออาจารย์ท่านว่าผงสำคัญนี้อันที่จริงเราก็ไม่อยากทำเท่าไหร่ ด้วยอานุภาพของมันนั้นจะส่งผลไปถึงการบิดเบือนมิติต่างๆรอบด้าน เป็นสื่อของพลังงานจักรวาล พลังงานกาลเวลาตลอดจนนำพาอำนาจพระกฤษณะมาสู่ผู้ศรัทธาด้วยวิถีของการกระจายพลังงานที่แผ่ออกมาดุจคลื่นกระทบฝั่งไม่มีวันหยุดพัก ทั้งตัวผงเองยังดึงดูดพลังจักรวาลเข้ามาใช้เป็นตัวขับเคลื่อนพลังงานอันจะแผ่นี้ตลอดเวลา ดังนั้นผงกฤษณะยันตราก็เป็นผงที่มีอานุภาพการปรับเปลี่ยนสมดุลย์ให้ร่างกายผู้อาราธนาโดยอัตโนมัติ ด้วยจะควบคุมพลังงานเข้าออกทั้งดึงทั้งแผ่ไปในทิศต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านลบ " ยันตรากฤษณะมณฑล" ให้มีอานุภาพเฉพาะทาง ท่านว่าหากใครถามว่าทำไมต้องเจาะจงลงยันต์กฤษณะมณฑล ทำไมไม่ใช้ศิวะมณฑล หรือวิษณุ อัคนีแลเทพเจ้าทั้งหลาย ทำไมเราถึงเจาะจงกฤษณะมณฑลนี้ ก็ให้บอกเขาไปว่า เพราะยันตราแต่ละรูปแบบนั้นมีอานุภาพต่างๆกันไปและเราพิจารณาแล้วว่ากฤษณะมณฑลนั้นมีอานุภาพมากยิ่งซ้ำยังเหมาะแก่ยุคสมัย ด้วยมีอานุภาพดึงดูดความรัก ดึงดูดน้ำจิตน้ำใจสัตว์ทั้งหลายอันมีน้อยและหาได้ยากในยุคนี้ให้เข้าหา ซ้ำผงยันต์กฤษณะมณฑลนี้ก็เป็นเสน่ห์อย่างเหลือล้น ทั้งยังเป็นผงเดียวที่มีอานุภาพทำให้ผู้พกผู้บูชาหลุดพ้นจากความทุกข์ ซึ่งเราพิจารณาแล้วว่าผงยันต์ตัวอื่นก็ไม่วิเศษเช่นนี้ ก็สมัยนี้ตัวทุกข์มันมาก สืบไปเบื้องหน้าคนก็จะยิ่งทุกข์หนักมาก เมื่อจะมีผู้ใดบูชาลูกอมนี้ก็ด้วยปรารถนาการอภิบาลให้พ้นจากทุกข์ เช่นนั้นจึงต้องอาราธนากระแสพลังงานของกฤษณะยันตราให้ดึงดูดธาตุและพลังจักรวาลขับออกซึ่งภัยพิบัติ ดลให้เจอแต่สิ่งดีงามพ้นห้วงทุกข์ทั้งหลาย
    - ผงคุณวิชาท้าวกินรี อันวิชาท้าวกินรีนี้ท่านว่ามีชื่อพ้องเสียงกับคำว่า กิน - นา - รี เป็นนามที่สื่อให้เห็นชัดด้านมหาเสน่ห์อย่างแท้จริง และยังเป็นภาควิชามหาเสน่ห์ที่ให้คุณพิเศษแบบเต็มสูตรอีกแขนงหนึ่งเช่นกัน ด้วยนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณโดษเด่น โดยนับถือกันว่าผู้ใดที่ได้ครอบครองเครื่องมงคลอันสำเร็จด้วยวิชานี้จะมีสรรพคุณนานัปประการดังต่อไปนี้
    1. จะได้คู่ครองที่มีรูปงามมีชาติตระกูลสูงแม้ตัวเองจะต่ำต้อยรูปชั่วตัวดำก็จะได้หญิงงาม หญิงสูงศักดิ์ สูงด้วยชาติตระกูลนิสัยดีงามมาเป็นคู่ครอง
    2. มีอานุภาพสะกดทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิต ให้เค้าเห็นใจเรา เมตตาสงสารเรา ช่วยเหลือเราในทุกเรื่องที่เราปรารถนา ตั้งเเต่มนุษย์จนถึงอมนุษย์แม้อินทร์พรหมยมยักษ์ก็ตาม
    3. ผู้ที่ได้ครอบครอง แม้จะผจญอยู่ในกฏแห่งกรรม เทพเจ้าทั้งหลายก็จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือผ่อนหนักให้เป็นเบา เเละจะประสบความสำเร็จเข้าสู่จุดสูงสุดในชีวิตรวดเร็วเเละง่ายดาย
    4. แม้รักหรือชอบพอใครเเล้วก็ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจ ขอเพียงปรารถนาที่จะเริ่มต้นในความรัก ย่อมได้เเละสำเร็จผลทุกครั้งไป
    พอจะกล่าวสั้นๆได้เเต่เพียงเท่านี้เพราะเป็นวิชาที่มีผลทางชักจูงชักนำ ทำให้จิตผู้อื่นเคลิบเคลิ้มหลงใหลตกอยู่ในภวังค์ของตัวเรา ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาของผู้มีบูญญาธิการยิ่งใหญ่ มีวิธีใช้สารพัดจะใช้ตามเเต่ใจปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าแม้ได้ครอบครองเเล้ว สืบไปเบื้องหน้าชีวิตผู้ที่ถือครองจะสบาย หาความตกต่ำมิได้ เเม้ทุกข์เข็ญหรือปรารถนาสิ่งใดอันเกินเนื้อเกินเเรง เกินกว่าความสามารถของตน เทพเจ้าทั้งหลายท่านย่อมลงมาช่วยเหลือเนรมิตรสิ่งต่างๆให้ไม่เกินใจผู้ปรารถนา


    ลูกอมสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านเลือกผงผสมมวลสารและปั้นเองทุกลูก ท่านว่าเมื่อปั้นก็เอ่ยโองการเชิญเทพพรหมและครูบาอาจารย์ต่างๆท่านมาช่วยทำการประสิทธิ์ไป ค่อยๆเอาผงผสมปั้นไปทีละลูก ***(ท่านว่าเราทำทีละลูกก็คือรอเสร็จรอแห้งสำเร็จเป็นลูกอมลูกหนึ่งนั่นแหละถึงผสมมวลสารทำใหม่อีกหนึ่งลูก ค่อยๆทำไปทีละลูกก็ตกลูกละวันสองวันตามแต่เวลาจะมี เพราะลูกอมของชั้นไม่ใช่ของโหลๆ แต่ฉันตั้งใจจะทำลูกอมที่ดีที่สุดซึ่งฉันใส่ใจทำมากที่สุดต้องผสมมวลสารทีละลูกจะได้แน่ใจว่าใส่ครบทุกอย่าง ปั้นไปดูพลังงานไปจะขาดจะพร่องอะไรไม่ได้...) โดยลูกอมทุกลูกนั้นท่านจะลงตะกรุดภูติกินฝันไว้เป้นแกนกลางสำคัญ
    ตะกรุดลูกอม(มหาภูติกินฝัน)
    ท่านว่าสิ่งนี้ทำไว้ให้เพื่อจะได้ใช้กันตามแต่ใจคิด ตะกรุดลูกอมภูติฝันนั้นคือวิชามหาภูติที่กินความฝันเรา แม้ฝันสิ่งใดก็ย่อมเป็นจริงตามนั้น คิดสิ่งใดก็จะเกิดสิ่งนั้น วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณมาก ซ้ำยังมีโทษมหันต์ ให้ใช้ให้ระลึกแต่สิ่งที่ดีเป็นประโยชน์แก่ตนเองเท่านั้นหากมีความคิดในทางเสื่อมลามกอนาจารให้อาราธนาออกจากคอไปก่อน จะเรียกว่าวิชานี้ทำความฝัน ความตั้งมั่น ตั้งใจของหลายๆคนให้เกิดขึ้นและเป็นจริงก็ได้ ซ้ำยังช่วยเพิ่มลางสังหรณ์โดยภูติฝันมักจะแจ้งเตือนเหตุการณ์ดีร้ายต่างๆล่วงหน้า ท่านว่าคนใช้มักจะฝันเห็นเหตุที่จะเกิดขึ้นจริงกับตัวเองในอนาคตอันใกล้ นั่นคือเขามาบอกมาเตือนจะได้ระวังและเตรียมรับมือได้ถูกช่องทาง ตะกรุดภูติฝันนี้จึงเป็นวิชาสำคัญมาก ท่านว่าก็มันโกงเขาทั้งหมด ที่ไม่ให้ใส่เวลาความคิดไม่เข้าท่านั้นเพราะจะได้ไม่ติดกรรม คิดอะไรฝันอะไรมันก็กินแบบนั้นและทำความฝันให้ปรากฏในชีวิตจริง ท่านเมตตาลงตะกรุดฝังไว้เป็นดั่งหัวใจลูกอมนี้เพื่อทำวิชาให้คนใช้ลูกอมสำเร็จสมดั่งใจสารพัดนึก

    ซ้ำลูกอมทุกลูกนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังนำมาคลุกเข้ากับแร่อาถรรพ์สำคัญคือ ผงแร่โควรรธ ท่านว่าแร่สำคัญนี้ครูบาอาจารย์ที่สืบสายเลือดจากพราหมณ์ที่เดินทางเข้าสู่สุวรรณภูมิได้มอบไว้ให้ ส่วนตัวท่านนั้นท่านไม่รู้ว่าแร่นี้คืออะไร เอามาจากไหน รู้จักแต่เพียงว่าเขาโควรรธนั้นเป็นเขาศักดิ์สิทธิ์ด้วยได้รับการสัมผัสกับพระกฤษณะเป็นเจ้ายกขึ้นท้าทายอำนาจของพระอินทร์ เมื่อสืบทอดต่อกันมาก็บอกสืบๆกันมา พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนดั่งเป็นเจตนาฟ้า ย่อมไม่ใช่เพียงเรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ในเมื่อแร่นี้มีชื่อพ้องกับเขาโควรรธ มีพลังงานของพระกฤษณะสถิตย์อยู่แต่ปางบรรพ์ ท่านจึงนำแร่วิเศษนี้มาคลุกลูกอมให้ผู้บูชาอาราธนาด้วย ท่านว่าเขาโควรรธต้านภัยพิบัติอันพระอินทร์บันดาลให้เกิดขึ้นอย่างร้ายแรงได้ฉันใด แร่นี้ก็ย่อมต้านทานภัยพิบัติและสิ่งไม่ดีของผู้ทรงอำนาจ ผู้มากด้วยบารมี ไม่ว่าจะกระทำทางตรง หรือกระทำด้วยฤทธิ์และไสยเวทย์ทั้งหลาย แร่นี้ย่อมป้องกันได้เช่นนั้น เมื่อปั้นลูกอมเสร็จแล้วท่านจะนำลูกอมเหล่านี้มาวางใส่พานรวมกันและเสกมนต์กำกับขุมทรัพย์ซึ่งมีถึง 128 พระคาถา ด้วยว่าเป็นมนต์อาถรรพ์ของสำนักพระราชวังโบราณสมัยขอมเรืองอำนาจที่เอาไว้ทำอาถรรพ์กำกับท้องพระคลังมหาสมบัติ ด้วยสมัยโบราณนั้นขอมเรืองอำนาจมากพอที่จะขยายอำนาจและอารยธรรมปกคลุมไปทั่วดินแดนแถบนี้ ดังนั้นท้องพระคลังมหาสมบัติของเขาจึงรุ่งเรืองมาก ว่ากันว่าแม้ใช้อย่างไรก็ไม่พร่องไม่หมด เป็นท้องพระคลังที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทองคำแลจินดามณีเลิศเลอไปด้วยสมบัติล้ำคานานัปการ พ่ออาจารย์ท่านว่ามันยากก็ตรงนี้เสกลูกอมวิชานี้เหมือนลงอาถรรพ์ท้องพระคลังโบราณ ยากเพราะมีนิมิตเกิดขึ้นแต่ละครั้งแต่ละอย่างนั้นต่างกันไป อันพระคาถาทั้ง128 นั้น ท่านว่าต้องนั่งเสกด้วยมนต์คาถาละพันจบ จนมีนิมิตศุภมงคลต่างกันครบร้อยยี่สิบแปดอย่างถึงจะใช้ได้ จะเห็นว่าท่านต้องใช้เวลายาวนานมากซึ่งเรื่องนี้ท่านไม่สามารถบอกใครได้ด้วยเป็นความลับและไม่ต้องการสืบทอดให้ใครนั่นเอง

    ### ลูกอมชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำได้น้อย เมื่อจะใช้ หากมีเรื่องเดือดร้อนอะไร(จวนตัวและจำเป็นจริงๆ) ท่านว่าให้เอาลูกอมเข้าปากอาราธนาพระคาถากลืนน้ำลายสามครั้ง จากนั้นจึงนำออกมาเช็ดทำความสะอาด ท่านว่าลูกอมนี้หากอมบ่อยก็จะยิ่งเพิ่มบุญฤทธิ์และมงคลวิเศษทุกๆประการตามอำนาจผงวิเศษที่ได้สร้างไว้ให้แก่ชีวิตเรา ท่านว่าท่านลงไว้ครบทุกด้าน เน้นให้คนใช้มีชีวิตที่ดี มีความสุขความสงบ สมบูรณ์ด้วยวาสนาลาภผล ใครที่ไร้วาสนา ขาดความสุขสมบูรณ์ก็ให้อาราธนาอมเป็นครั้งคราวเถิด ท่านว่าถ้าชีวิตเปลี่ยนได้ลาภสมใจหรือรู้สึกว่าเราสุขเท่านี้ตอนนี้มันพอมันเหมาะแก่ชีวิตเราแล้วก็ไม่ต้องอาราธนามาอม เพียงแต่ใช้ห้อยคอหรือทำพวงกุญแจไปเท่านั้น จะพกส่วนไหนของร่างกายก็ได้ ***เมื่อจะนอนก็ให้เอาไว้ใต้หมอน ด้วยแรงครูของตะกรุดวิชาภูติกินฝันนั้นจะช่วยให้เราฝันแจ้งเหตุล่วงหน้า หรือจะมีนิมิตมงคลอื่นใดตามแต่ที่เราขอหรือครูจักบันดาลให้เป็นไป

    คาถาบูชา
    โอม อะคะหึม อะคะหัม อึอะอำ อะอิอุ อะอิอุ อะอิอุ (ภาวนาไว้เมื่ออาราธนาลูกอม หรือจะภาวนาเวลาอมกลืนน้ำลายท่านว่าจะยิ่งมีฤทธิ์ทบทวี ตัวเราเองก็จะเห็นผลแรงและเร็วกว่าปกติ)


    *** ลูกอมนี้ท่านว่าเราทำให้ครั้งเดียว เพราะวิชาแต่ละสูตรนั้นล้วนแต่เป็นของค่าควรเมืองทั้งสิ้น ใครได้ไว้ใช้ก็ให้รักษาให้ดีสืบทอดชั่วลูกชั่วหลาน ##ท่านว่าคนใช้หนึ่งคนควรมีสองลูก(อันนี้ถ้าจะเน้นใช้งานจริงๆก็ใช้เป็นเรื่องๆไปลูกหนึ่งวิชาภูติกินฝันจะได้ทำงานเต็มที่ ส่วนอีกลูกหนึ่งนั่นก็เก็บไว้อมปรับสมดุลย์ทางบุญฤทธิ์ในร่างกายของตน) หรือจะเผื่อเพื่อนเผื่อคนในครอบครัวก็ได้ เพราะมันจะไม่ดีเท่าไหร่ถ้าจะผลัดกันอมหรือเราอมแล้วเอาไปให้คนอื่นอมต่อเช่นนี้ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ลูกอมมหาภูติกินฝันสร้างคนต่อชีวิต(เพิ่มบุญฤทธิ์ต้านภัยพิบัติ) บูชา 900 บาท

    73375526-442515306379162-4216203703234854912-n.jpg 72943370-772863743169615-1778690981139316736-n.jpg
    73262878-1384772798340952-2727181435550040064-n.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบาน(เจ้าหลุมดำ)

    ตะกรุดสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นตามพระเวทย์โบราณ ด้วยปางก่อนนั้นสังข์อสูรได้กลืนกินพระเวทแลพระธรรมศาสตร์ทั้งปวงอันไหลออกมาจากโอษฐ์ของพระพรหมธาดาเป็นเจ้าได้ ด้วยกำหนดเมื่อถึงพรหมราตรีองค์พรหมท่านหลับไหลกินเวลายาวนานถึง 4,320 ล้านปี โลกก็เข้าสู่ความมืดมน อนธการ น้ำจะท่วมโลก สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะสูญสิ้นเผ่าพันธ์ จนหมดสิ้นช่วงเวลาพรหมราตรีนั้นเข้าสู่พรหมทิวาทุกอย่างจึงจะกลับมาเป็นปกติ การที่คัมภีร์พระเวทย์หายไปทำให้โลกมนุษย์เดือดร้อน ฝนฟ้าไม่ตก เกิดความแห้งแล้งอดอยาก ก่อนเวลาที่โลกจะวิบัติตามช่วงพรหมราตรีที่กำหนดไว้
    ด้วยสังข์อสูรนั้นสำคัญว่าเมื่อโลกขาดซึ่งพระเวทย์แลพระธรรมศาสตร์ไป พอพระพรหมตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็จะไม่สามารถสร้างโลกแลสร้างสรรค์จักรวาลได้เลย เทพยดาตลอดจนมนุษย์ก็จะไม่ได้รับองค์ความรู้ต่างๆทั้งยังไม่นับถือพระเป็นเจ้าอีกต่อไป

    ด้วยเหตุนี้
    พ่ออาจารย์ท่านซึ่งได้รับการแนะนำจากองค์ปฐมพรหมว่าให้ทำตะกรุดครูดอกสำคัญขึ้นลงวิชาสังข์อสูรไว้ เพราะสังข์อสูรนั้นเป็นผู้กลืนกินที่ได้ชื่อว่ากลืนได้ทุกอย่างแม้กระทั่งพระเวทย์และพระธรรมศาสตร์ทั้งหลายอันปกติแล้วจะหาผู้ใดกลืนกินมิได้ จึงได้ชื่อว่าสังข์อสูรนั้นมีอำนาจมากกลืนได้ทุกสิ่งด้วยตัวสังข์อสูรนั้นเป็นมหาพรหมจุติลงมาจึงมีกำลังฤทธิ์มาก ซ้ำเหนือสิ่งอื่นใดสังข์อสูรนั้นได้ลักขโมยสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากพระเป็นเจ้า ได้กลืนกินทั้งรูปธรรมและนามธรรมอันเป็นต้นกำเนิดของมหาจักรวาลได้(พระเวทย์และพระธรรม)

    เช่นนั้นท่านจึงถือว่าสังข์อสูรนั้นเป็นดั่งหลุมดำที่ใช้กลืนกินได้ทุกสิ่ง(วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านปกปิดมากและวิชานี้ท่านตั้งใจหลบไว้ไม่ให้ใครเห็นหรือเอาไปใช้กันได้ง่ายๆด้วยท่านกลัวว่าจะหลงระเริงเอาไปใช้ในทางที่ผิด) ซ้ำสังข์นั้นยังมีอานุภาพมงคลอีกหลายประการ แม้ว่าบุคคลใดจะทำการมงคลให้เอาสังข์ไปเป่าให้ดังจนสุุดเสียงสังข์นั้นแล เสียงนั้นได้ยินไปถึงสถานที่ใดก็เป็นอุดมมงคล ทั้งสังข์ยังใช้ในการเป่าประโคมเพื่อเตรียมพร้อมขบวนศึก ใช้เป่าเป็นอาณัติสัญญาณในการสงคราม ใช้เพื่อประกาศศักดาและความมีชัย ...เช่นนั้นพ่ออาจารย์จึงสรุปว่าวิชาสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบานนั้นสามารถกลืนได้ทุกสิ่งทั้งยังใช้ขับไล่สิ่งอันไม่เป็นมงคลออกไปจากตัวเราหรือสถานที่ซึ่งเราอาศัยอยู่ และเป็นเครื่องหมายแห่งศักดานุภาพแลชัยชนะอีกด้วย ท่านว่าบ้านไหนร้อนเป็นไฟ ชีวิตใครที่วิบัติอย่างไร้สาเหตุชนิดที่โดนผีมันทำเอา หรือโดนเจ้าที่เทวดาให้ร้ายเหล่านี้ มีสังข์อสูรอยู่ด้วยรับรองได้ว่าวิบัติต่างๆนั้นเงียบสนิท

    อานุภาพของสังข์อสูรนั้นมีอยู่มากเมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงตามโองการปฐมพรหมโดยทำเป็นตะกรุดครูที่สร้างด้วยสรรพพิธีกรรมโบราณเช่นการทำตะกรุดตะกั่วลงถมแล้วท่านจึงเรียกตะกรุดสังข์อสูรนี้ว่าเจ้าหลุมดำ เพราะเจ้าหลุมดำนี้มีแรงกระหายที่แฝงลึกอยู่ในสัญชาติญาณสามารถกลืนกินได้แม้แต่พระเวทย์และพระธรรม ซ้ำวิชานี้ยังใช้กลืนกินคำสาป,คำสาบาน,ทุกข์,โทษ,ภัยใดๆอันแสดงออกถึงผลร้ายที่มากระทบกายและใจของเรา

    ท่านว่า
    เจ้าหลุมดำนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม กลืนเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม หากคนใช้เป็นจะรู้ว่าสามารถใช้เพื่อกลืนและกินได้ทุกสรรพสิ่ง ยิ่งเรามีบาปมากทุกข์มาก มีชีวิตติดอยู่ในคำสาปคำสาบานตั้งแต่อดีตชาติอันผูกพันธ์เหนี่ยวรั้งเราไว้ ใช้ชีวิตวกวนหาทางออกไม่ได้อยู่เช่นนี้ ท่านว่านั่นแหละเจ้าหลุมดำกลืนกินได้ทั้งหมด ยิ่งเค้ากินมากก็จะยิ่งให้คุณมาก ท่านว่าวิชานี้แปลกคนที่ว่าทรุดๆไร้จุดยืน คนที่ติดคำสาปคำสาบานเหล่านี้ พอเจ้าหลุมดำมันกินเสร็จไม่ใช่แค่มันนะที่อิ่ม แต่ตัวเรามันก็ให้กินให้อิ่มด้วยเหมือนเป็นการตอบแทนที่เราให้มันกิน ชีวิตใครที่ขาดสิ่งใดอยู่ไม่ว่าจะโชคลาภความรักความปรารถนา สิ่งใดที่ต้องประสงค์นั่นแหละบอกกับเจ้าหลุมดำไว้ได้เลยว่า "เมื่อกินอิ่มแล้วให้พ่ออิ่มด้วยนะพ่อขาด...สิ่งนี้ๆก็ว่าไป" ท่านว่าถ้าใช้เป็นดังนี้จะมีกินมีใช้ไม่รู้จบ มันกินเร็ว กินไวชนิดที่ไม่เหลือให้ใคร ก็ส่งผลให้เราได้ทุกอย่างแบบที่ไม่มีใครกล้าแย่งเช่นกัน

    ทั้งเจ้าหลุมดำนี้ได้ชื่อว่า
    กินอย่างเดียว เก็บอย่างเดียวไม่มีเอาออก ไม่รู้จักอิ่มและไม่มีอะไรที่เขาจะกินไม่ได้ เช่นนั้นวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้เปรยเอาไว้ว่านอกจากกลืนกินคำสาปคำสาบานในร่างกายตัวตนของเราแล้ว เจ้าหลุมดำนี้แม้อยู่ที่ไหนก็ยังจะช่วยเจ้าของกอบโกยสิ่งที่ตัวเธอต้องการแบบไม่รู้จักคำว่าพอดี(พูดง่ายๆคือเกินพอไปไกล) จะกอบโกยทุกอย่าง ครอบครองทุกอย่างจนตัวเธอเองคาดไม่ถึงว่าทำไมเมื่อก่อนเป็นแบบนั้นและตอนนี้เรามีขนาดนี้ได้อย่างไร จะถึงซึ่งสิ่งอันสมปรารถนา มีความสุขกับทรัพย์สมบัติที่ตั้งใจจะให้เป็นตั้งแต่แรก

    ...ท่านว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือใช้ชีวิตแบบไม่มีจุดอิ่มตัว นี่คืออานุภาพของเจ้าหลุมดำ เพราะตัวของมันนั้นสามารถบรรจุพระเวทย์และพระธรรมได้จึงมีอานุภาพอันประมาณมิได้ ท่านว่ามีมิติอันกว้างใหญ่ไพศาลไม่สามารถคาดคะเนจุดสิ้นสุดได้อยู่ในตัวของมันเช่นนี้ท่านจึงเรียกเจ้าหลุมดำเพราะจริงๆแล้วตัวของมันสามารถใส่ได้ทุกสิ่ง ***วิชานี้เป็นพระเวทย์พิศดารซึ่งพ่ออาจารย์ได้รับการถ่ายทอดโดยปฐมพรหม ท่านว่ามีอำนาจเหนือแรงพรหมลิขิตต่างๆที่ดลบันดาลชีวิตคนมากนัก ด้วยเหตุสังข์อสูรนั้นโขมยของจากพระพรหมเปลี่ยนแปลงพรหมลิขิตซึ่งส่งผลร้ายแรงที่สุดต่อมหาจักรวาลได้อย่างไร เรื่องโขมยชะตา เปลี่ยนชีวิต กลับทุกข์เป็นสุขทั้งหลายเค้าก็ทำได้ง่ายๆเช่นนั้น

    ### วิธีใช้

    - ตะกรุดนี้เมื่อได้รับไปท่านให้ผู้บูชาตั้งจิตตั้งสมาธิให้ดี นำเอาปากกามาเขียนชื่อตัวเองจารใส่ลงไปที่ตะกรุด ให้ทำเบื้องหน้าพระปฏิมาหรือทำจิตหน่วงไว้มั่นคงในพระรัตนตรัยอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เมื่อกระทำนั้นพ่ออาจารย์ท่านให้ตั้งจิตให้ดีบอกกล่าวกับมหาสังข์เขาว่าให้กลืนกินคำสาปและคำสาบานตั้งแต่อดีตชาติของเราขณะที่เราเขียนชื่อลงไป...(ต้องทำด้วยตัวเอง) อยากจะให้ท่านช่วยให้ท่านกลืนกินอะไรก็บอกไปเลยในขณะนั้น การเขียนชื่อนี้ทำได้เพียงครั้งเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะพกแบบไม่เขียนก็ได้ แต่หากทำตามนี้วิชานี้จะมีผลมาก เห็นผลได้ไวดั่งใจ เจ้าหลุมดำจะเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเราและตามช่วยเราตลอดไปแม้ในภพภูมิไหนๆ จะเกิดอีกกี่ชาติ พรและความโชคดีเหล่านี้จะไม่หายไปจากตัวเราเลย

    คาถาอาราธนา
    ติวาคะภะ โธพุทนังสา นุสมะวะเทถา สัตถิระ สามะทัมสะริปุโรตะ นุตอะทูวิกะโลโตคะสุโนปันสัม ณะระจะชา วิโทพุธสัมมา สัมหังระ อะวาคะภะ โสปิติอิ

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบาน(เจ้าหลุมดำ) ร่วมทำบุญบูชา 900 บาท


    73150693-522245141908596-3124382089848291328-n.jpg
    72430561-493077137942647-9155337525798109184-n.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
    ร่วมทำบุญบูชา บรมครูเบิกชีวิตเหรียญเบิกไพรสวามีสังกาลา(เวตาลถวายพร,ผงกาลกินวิชา)
    " เมื่อใดที่สวามีสังกาลาปรากฏ พลังธรรมชาติอันมหาศาลจะมาบรรจบกัน ณ บัดนี้ "

    สวามีสังกาลาหรือภีมะสังกรนั้นพ่ออาจารย์ท่านจะเรียกสองนามนี้สลับกันไปแต่ความหมายคือองค์เดียวกัน โดยสวามีสังกาลานั้นเป็นหนึ่งในบรมครูสำคัญที่พ่ออาจารย์ท่านให้ความเคารพอย่างสูง และมักจะเชื่อมต่อกระแสญาณ ตลอดจนเชิญครูลงแฝงอยู่เสมอๆ ด้วยท่านมีรัศมีกายสีดำทมิฬดุจห้วงนภายามรัตติกาล พ่ออาจารย์ท่านว่าบรมครูท่านนี้คือนามธรรมอันยิ่งใหญ่นั่นคือเวลาอันเป็นนิรันดร์ในห้วงความมืดมิดซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปรากฏแสงสว่าง เช่นนั้นท่านจึงถือว่าองค์ภีมะสังกรนั้นเป็นครูต้นของท่านเพราะท่านเป็นต้นตอสัจธรรมก่อนการกำเนิดแสงสว่างและสร้างจักรวาล ท่านว่าครูองค์นี้มีอานุภาพมากแม้ลมหายใจที่ท่านปล่อยออกมายังลุกโชนแปลบปลาบสว่างจ้าดุจฟ้าแลบก็ไม่ใช่ไฟบรรลัยกัลป์ก็ไม่เชิง ท่านว่าโดยปกติรูปสวามีสังกาลานั้นจะมีอาถรรพ์มาก ด้วยถ้าไม่เดือดร้อนหรือเข้าตาจนหนักมากจริงๆก็ยังไม่ต้องพึ่งบารมีครูองค์นี้ เพราะตัวของท่านนั้นจะถูกปลุกขึ้นมาเมื่อโลกตกสู่กลียุค ดุจธรรมชาติทั้งหลายจมสู่ความมืดมิดซึ่งจะกระตุ้นความชั่วร้ายต่างๆทุกรูปแบบให้ย่างกรายออกมาสร้างปัญหา ด้วยสวามีสังกาลานั้นเป็นเวลาแห่งความมืดนิรันดร์อันเป็นจุดเริ่มต้นของแสงสว่างเมื่อใดที่สวามีสังกาลาปรากฏ พลังธรรมชาติอันมหาศาลจะมาบรรจบกัน ณ บัดนี้ เพื่อสร้างเสริมกำลังให้ผู้ศรัทธาและปัดเป่าความมืดทั้งหมดในชีวิตให้พ้นไปในทันทีเพื่อจุดประกายแสงสว่างของชีวิตให้รู้แจ้งเห็นชัดในทุกกิจทุกสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตใครที่มารเยอะ สวามีสังกาลานี้เป็นองค์ครูสายปราบมารที่ทรงกำลังมาก ทั้งยังบำบัดทุกข์และโรคทั้งหลายด้วยทรงมีมหากรุณายิ่งกว่าเทพทั้งปวง ซ้ำยังเป็นที่พึ่งสูงสุดของผู้ที่ต้องการอำนาจพิเศษเหนือธรรมชาติต่างๆบรรดามี ด้วยมีสิทธิ์เหนือชีวิตและความตายสามารถชุบชีวิตที่สิ้นสูญให้ฟื้นกลับคืนมาใหม่ได้อันล่วงอำนาจของมหาเทพทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นเคล็ดว่าคนที่กำลังทุกข์กำลังเจ็บปวดกับวิถีชีวิตก็ดีด้วยบารมีครูท่านเปี่ยมความกรุณาดังนี้ท่านย่อมชุบและฟื้นคืนชีวิตทั้งหลายให้ดีขึ้นทันตา ด้วยหน้าที่ของท่านคือเปลี่ยนชีวิตที่มัวหมองนั้นให้กลายเป็นจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ เช่นนั้นท่านจึงอยู่เหนือกฏแห่งกรรมมีฐานะพิเศษที่วัฏจักรหรือสังสารวัฏไม่สามารถทำอะไรท่านได้และมีฐานะพิเศษสูงสุดด้วยว่าเป็นยอดและเป็นผู้นำของเหล่าเทพ,มหาเทพ,มหาฤาษี,โยคี,นักสิทธิ์ทั้งปวงดุจว่าท่านเป็นทั้งมหาโยคีและเป็นจอมราชาของมุนีและทวยเทพไปพร้อมๆกัน เพราะคุณธรรมของท่านนั้นสูงส่งและถึงซึ่งฐานะและทิพยสภาวะทุกระดับชั้นนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านจึงให้ความสำคัญมากว่าหากจะสร้างรูปสวามีสังกาลานั้นจะมีคุณมากเป็นเงาตามตัวด้วยว่าตรีโลกนี้จะหาผู้มีฐานะพิเศษเช่นสวามีสังกาลานั้นหาอย่างไรเสียก็ไม่มีวันเจอ

    เมื่อจะสร้างสวามีสังกาลานั้นครูท่านอยากจะเปลี่ยนชีวิตผู้บูชาให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุดท่านจึงขอให้พ่ออาจารย์ทำรูปท่านแบบฤาษีเบิกไพรโดยหันหน้าท่านเข้าหาป่า(พ่ออาจารย์ท่านว่าแก้เคล็ดดุจครูหันหน้าเข้าหาภัยทั้งหมดของเราเพื่อเบนเราออกไป) เพราะท่านเปรียบว่าไพรหรือป่านั้นเป็นสถานที่ซึ่งมีอาถรรพ์มากที่สุด การเบิกไพรก็คือเปิดทาง เปิดป่า เบิกเอาภัยและอาถรรพ์ทั้งหลายออกไปให้พ้นชีวิตและทางเดินของตัวเจ้า ช่วยเบิกทางแผ้วถางเส้นทางที่เราจะเดินมุ่งไปไม่ให้ปัญหาต่างๆปรากฏออกมา ยิ่งชีวิตใครที่เข้าตาจนหรือหาทางออกไม่ได้นั้นท่านว่ายิ่งเหมาะที่จะอาราธนา เพราะอาถรรพ์สวามีสังกาลาเบิกไพรนี้ท่านจะเปิดทางออกไปสู่ชีวิตใหม่ ให้เราได้เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆชักพาสวัสดิมงคลมาเปลี่ยนทางเดินชีวิต ซ้ำจะช่วยกำจัดปัดเป่าอุปสรรคทั้งปวงให้ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย หากวันหนึ่งถึงคราวจนไม่พ้นตัวจะเพลี่ยงพล้ำจริงๆกับสิ่งใดๆพ่ออาจารย์ท่านว่าให้เธอจำคำเราเอาไว้ให้มั่นเมื่อถึงครานั้นด้วยบารมีของสวามีสังกาลานี้จะมีคนเข้ามาอุ้มมาช่วยเหลือเธออย่างทันท่วงทีแม้ในเรื่องนั้นจะถึงกาลที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆก็ตาม ท่านว่าครูท่านกำหนดให้ทำให้ปั้นหุ่นเทียนตามนี้เพื่อหวังใจว่าผู้ได้บูชาจะเจริญก้าวหน้ามีชีวิตที่ราบรื่น มีกิจการที่จะดำเนินต่อไปอย่างไม่ติดขัดไร้ซึ่งอุปสรรคทุกๆสิ่ง ให้ชีวิตนั้นไร้ปัญหาโดยครูท่านจะปัดเป่าให้ รูปอาถรรพ์สวามีสังกาลาเบิกไพรนี้เป็นสายครูที่ท่านหวงแหนอย่างยิ่งเพราะชีวิตนึงนั้นท่านว่าครูท่านเปิดให้ทำได้ครั้งเดียว ซ้ำรูปนี้ยังมีอาถรรพ์มากประหนึ่งครูอาจารย์(สวามีสังกาลา)ประทับอยู่กับผู้บูชาตลอดเวลา ท่านว่าสุดแล้วแต่จะอธิษฐานใช้เลยไม่ว่าจะคุ้มดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำ ป้องกันคุณคนคุณผี ส่งเสริมชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า...จะขออะไรครูก็อยู่ที่ปากของเรา

    เบิกไพรคือเปิดทางถอนอาถรรพ์ ไอ้วิชาและอาถรรพ์ต่างๆนี่ที่ขึ้นชื่อว่าทำให้ซวย ให้ทำมาหากินยาก มีความเป็นอยู่ยากลำบาก มีการป่วยไข้ไม่สบาย ท่านว่าคนเราถ้าไปโดนคนกลั่นแกล้งก็ดี หรือจะภูติผีเทวดามิจฉาทิฏฐิเหล่านี้ ลองโดนเข้าไปแล้วมันทำมาหากินอะไรไม่เจริญทั้งสิ้น แม้จะเจอของดีแก้ไขได้แต่ไอ้ตะกอนของวิชาและอาถรรพ์ตลอดจนคำสาปแช่งทั้งหลายมันก็ยังมีละอองเหลือติดอยู่ในกายเรา ค่อยๆสะสมๆให้หนาขึ้นไปรอวันที่จะแผ่ความร้อนจุดไฟขึ้นมาเผาตัวเอง พวกคนที่มีละอองเหล่านี้ในตัวให้สังเกตุเลยว่าชีวิตจะแปลกๆทำอะไรก็ไม่มีความคล่องตัวเหมือนคนอื่น จะมีเหตุๆต่างๆให้เสียทรัพย์บ้าง บางคนก็สามวันดีสี่วันไข้มีวิปริตต่างๆมีความเป็นอยู่ไม่ปกติ เช่นนี้จึงจำต้องพึ่งครูที่จะช่วยเราเบิกทางและถอนอาถรรพ์นั้นตลอดเวลาติดอยู่กับตัวเราเพื่อเปิดทางให้เราเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ ท่านว่าที่จะถอยหลังกลับเป็นไม่มีดังนี้

    เมื่อจะสร้างสวามีสังกาลาให้สมบูรณ์นั้น พ่ออาจารย์ท่านมีความปรารถนาไม่อยากจะเห็นผงวิเศษที่ลบถมขึ้นจากมหายันต์ชั้นสูงที่สืบทอดกันในหมู่กษัตริย์แม่ทัพนายกองอันประกอบด้วยสรรพคุณที่ทรงพลานุภาพสูญหายไป ประกอบกับท่านพิจารณาว่าถึงเวลาอันดีที่ทำเอาไว้ให้กับผู้ที่ต้องการรับสุดยอดของดีไว้บูชาจึงได้จัดทำผงนี้ขึ้น ซึ่งในเรื่องของฤกษ์ยามที่ลงจะต้องคัดฤกษ์มงคลสูงสุดตามสายวิชาเพื่อทำผงโดยพ่ออาจารย์ท่านก็เลือกฤกษ์เพียงสองฤกษ์เท่านั้นที่จะใช้ลบผงนี้ประกอบไปด้วยราชาฤกษ์เเละเพชฌฆาตฤกษ์ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เนื่องมาจากท่านตั้งใจจำทำให้ดีที่สุดนั่นเอง อันผงทั้งสองนั้นประกอบไปด้วย
    - ผงยันต์เกราะเพชรพระเจ้าสูตรพิชัยสงคราม ผงที่เกิดจากพระยันต์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพลานุภาพมากยากที่จะประเมิณค่าได้ หาผู้สืบทอดและทำได้ยาก เนื่องจากเป็นมหายันต์ชั้นสูงที่ทำให้เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน มีพลานุภาพปรากฎในทุกด้านในทุกทิศทางแม้ผงนี้อยู่ที่ใดก็จะแผ่รัศมีออกไปในทิศทั้งสิบ เปรียบดังเกราะแก้วกำแพงเหล็กที่ป้องกันภัยและเสนียดจัญไรจากทุกสารทิศไม่ให้มากล้ำกรายผู้บูชาได้ ทั้งยังมีพุทธคุณสุดแต่ใจนึก พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานจิตให้ผงนี้สอดคล้องรับกันกับอารมณ์ปรารถนาในใจเรา ไม่ใช่แต่เพียงให้ดีทางด้านคุ้มครองทั้งยังเป็นเมตตาและมหาอำนาจชั้นเลิศตามสูตรยันต์พิชัยสงครามอีกด้วย ในส่วนตัวพ่ออาจารย์จะเรียกผงนี้ว่าผงแหพันชั้น ท่านว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เพราะเวลาเสกต้องทำให้มีพุทธคุณสมกับชื่อผงที่ว่าแหพันชั้นนั้น ท่านหมายถึงว่าแม้ผู้บูชาใคร่จะปรารถนาอะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่ปรารถนาไว้จะไม่สามารถหลุดรอดพ้นหนีออกไปได้เลย ผงนี้ท่านว่าลงยากเพราะพระยันต์นั้นต้องชักถักคล้ายรูปร่างแห ดุจแหตาถี่ที่จะดลบันดาลให้ทุกสิ่งไม่สามารถหลุดรอดออกไปได้ตามคำอธิษฐาน แม้ว่าจะปรารถนาลาภยศชื่อเสียงเงินทองความเจริญก้าวหน้า สิ่งต่างๆเหล่านี้เมื่อได้มาแล้วจะต้องอยู่กับเราไปตลอดไม่รู้จักคำว่าตกต่ำลงเลย เปรียบดั่งแหฟ้าตาข่ายดินที่ดักจับสิ่งใดไว้ได้แล้วต้องพันธนาการไว้ไม่ให้รู้หลุดรู้เคลื่อนเลยฉันใดก็ฉันนั้น การเสกผงนี้ก็เช่นกันต้องทำให้ได้เฉกเช่นนั้น ความยากจึงไม่ได้อยู่ที่การลงการเชิญครูเพียงอย่างเดียวเพราะท่านเน้นพระพุทธคุณในทุกด้านให้ปรากฏในทุกทิศทางที่ผงนี้สถิตย์อยู่
    - ผงมหาจักรอนันตคุณ เป็นผงซึ่งก็จัดเป็นมหายันต์ตามสูตรพิชัยสงครามโดยแท้เช่นกันที่ต้องเลือกฤกษ์และเวลาลงอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ผู้บูชาไปใช้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ซึ่งพ่ออาจารย์กล่าวว่ามหายันต์สูตรนี้มีดีทุกด้านไม่ต่างกับชื่อเลยนั่นคือนันตคุณ คือมีคุณเป็นอเนกอนันต์นั่นเองสุดแต่ใจของผู้ใช้จะพึงปรารถนาแต่ที่แน่ๆนั่นคือ เด่นทางด้านเสริมสิริมงคลชื่อเสียงและเกียรติยศให้ปรากฏแก่ผู้บูชา ท่านว่าหากเราเองมีชื่อเสียง เป็นคนมีเกียรติเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคมแล้วแม้จะทำอะไรไม่ต้องเอ่ยปากทุกสิ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้มา ท่านว่าได้แบบไวด้วยไม่เหนื่อยด้วย ซึ่งการเสกนั้นท่านต้องตั้งธาตุหนุนธาตุตั้งนิมิตเสกให้มหาจักรนี้พัดหมุนไปได้ตลอดเวลา ถือเคล็ดที่ว่านอกจากดีมีคุณเป็นอนันต์ตามใจผู้ใช้แล้ว ยังเปรียบเสมือนกงจักรศาสตราเทพอาวุธแห่งองค์พระนารายณ์ที่ใช้ตัดและทำลายได้ทุกสิ่ง ไม่ใช่ตัดแต่เพียงเคราะห์กรรมเท่านั้นยังตัดทุกข์โศกโรคภัยและใช้ป้องกันเทพยดาอันธพาลทั้งหลายไม่ให้มากลั่นแกล้งได้อีกด้วย
    โดยปกตินั้น
    ผงทั้งสองนี้ท่านจะหวงแหนมากเพราะถือว่าเป็นเครื่องสูงของสูงและทำยากซ้ำพุทธคุณจะแผ่ซ่านออกมาทั้งสิบทิศและยังมีอานุภาพแฝงไว้อีกประการหนึ่งด้วยในผงเกราะเพชรพระเจ้านั่นคือการสะท้อนย้อนกลับโดยฉับพลันทันที เรียกได้ว่าเมื่อใดก็ตามที่มีผงนี้ติดตัวหากมีผู้ประสงค์ร้ายหรือคิดไม่ดีนั้น อานุภาพของผงนี้จะสะท้อนผลร้ายกลับไปร้อยเท่าพันทวี พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ นอกจากกันไฟกันฟ้ากันเคราะห์กันกระทำย่ำยีและเสนียดจัญไรทั้งหลายแล้วยังดีทางมหาสะท้อนอีกด้วยแต่เป็นมหาสะท้อนสูตรพิชัยสงครามท่านเลยถือโอกาสเสกเพิ่มมนต์พระกาฬลงกำกับไปด้วยโดยถือว่าจะเสริมและเติมให้เต็มให้เป็นมหาสูตรของท่านโดยเฉพาะ

    ผงกาลกินวิชา
    ผงสำคัญนี้เป็นผงหลักที่พ่ออาจารย์ท่านลบถมวิชาหน้ากาลกินวิชาขึ้นมาโดยเฉพาะ ท่านว่าเจ้าตัวหน้ากาลนั้นเป็นอสูรที่มีลักษณะดุร้าย คิ้วขมวด นัยน์ตากลมโตถลน จมูกใหญ่ ปากกว้างเห็นฟันบนและมีเขี้ยว ไม่มีริมฝีปากล่าง ไม่มีลำตัว มีแขนออกมาจากด้านข้างของศีรษะสวมเครื่องประดับศีรษะลักษณะเป็นกระบังหน้าเรียกเกียรติมุขหรือหน้ากาลซึ่งกาลนั้นก็พ้องกับเวลา เป็นอำนาจอันอยู่ในการควบคุมของสวามีสังกาลา
    กาลหรือหน้ากาลมีความหมายเดียวกับเวลา เป็นผู้ซึ่งกลืนกินสรรพสิ่งทั้งมวล จึงมีคติว่ากินได้ทุกอย่างจึงเป็นผู้ครอบครองเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง นอกจากนั้นผงนี้ยังเสมือนสิ่งคุ้มครองปกปักรักษามิให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาสู่ตัวเราและยังนำเกียรติยศมาสู่เราด้วย เพราะเกียรติมุขนั้นหมายถึงหน้าอันมีเกียรติ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญและมีอาถรรพ์มากเพื่อให้ชีวิตและลมหายใจของเขาที่เกิดขึ้นจากการเรียกสูตรลบยันต์มอบพลังให้กับเราล้างอถรรพ์ในชีวิตเรา ทั้งหน้ากาลยังได้ชื่อว่าหิวกระหายเป็นนิจกินอย่างไรก็ไม่อิ่มอันเป็นเคล็ดสื่อถึงความมั่งคั่งร่ำรวย ได้เปรียบ กินคนอื่นไปเรื่อย กินไม่รู้จบเพราะเป็นผู้กลืนกินเวลาทุกขณะในโลก เวลาอันเดินหน้าไปเรื่อยๆที่ไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้ จึงเป็นดั่งผู้ควบคุมกาลเวลาและครอบครองเหนือทุกสิ่ง ด้วยผงนี้จะเปลี่ยนอารมณ์เราในวันที่ร้อนให้เย็นลง ให้ชีวิตเราเคลื่อนไปสู่จุดที่สูงที่สุดและดีที่สุดอย่างรวดเร็ว ทั้งยังกลับสิ่งร้ายให้กลายเป็นดีสามารถล้างอาถรรพ์ไม่ดีต่างๆ ป้องกันสิ่งชั่วร้าย เสริมดวงชะตาทำให้มีราศีมีชื่อเสียงมีเกียรติยศ.. พ่ออาจารย์ท่านว่าหน้ากาลนี้มีฤทธิ์มากแม้เหล่าราชาอสูรตลอดจนเทพนพเคราะห์อย่างพระราหูก็ยังกลัวจะถูกหน้ากาลกลืนกินดังนั้นจึงเป็นเคล็ดว่าใครที่มีผงนี้อยู่กับตัวเทพอสูรทั้งหลายจะเกรงกลัวเรา นพเคราะห์ทั้งหลายจะไม่เล่นตลกกับชีวิตเรา
    ผงกาลกินวิชานั้นจะกินวิญญานกินความชั่วร้ายและอุบาทว์จัญไรทั้งหมด ที่จะมาทำร้ายเราให้โทษกับเรา จะกินคุณไสยในอากาศกินวิชาที่ไม่ดีทั้งพวกฝ่ายต่ำและของอุบาทว์เปลี่ยนเป็นพลังงานบริสุทธิ์เกื้อหนุนเรา ทั้งคุ้มครองผู้ที่เป็นเจ้าของกันคุณไสย และยังมีคุณสะกดให้คนหลงเชื่อหรืออยู่ในอำนาจของเราเชื่อฟังเราทุกอย่าง จะให้คนหลงรักเราก็ได้ ให้พ้นจากถ้อยความและสิ่งที่ถูกคนกระทำให้ร้ายก็ได้ ท่านว่าแล้วแต่จะอธิษฐานใช้กันเลย

    เวตาลถวายพร
    เวตาลนั้นเป็นบุตรของพระกศยปะเทพบิดรที่เกิดจากนางอทิติ เมื่อเกิดมาก็เป็นภูติคอยถวายงานตามรับใช้พระศิวะ(ครูพระสยม)เป็นเจ้า โดยเวตาลนั้นในมือขวาจะถือไม้เท้ามือซ้ายถือหอยสังข์ ขณะเมื่อมาปรากฏตัวจะนุ่งห่มเสื้อผ้าสีเขียวทั้งชุดบางทีก็นั่งมาบนเสลี่ยงมีเหล่าศิวะสาวกคอยหาม บางคราวก็ขี่ม้ามีภูติบริวารถือคบเพลิงส่งเสียงโห่ร้องกึกก้องแวดล้อมโดยรอบ
    เวตาลนั้นปกติจะอาศัยอยู่ในป่าช้ากับครูพระสยมเมื่อท่านลงมาบำเพ็ญตบะในป่าช้า
    ตัวเวตาลเขาจะมีญาณหยั่งรู้ในกาลทั้งสามคืออดีตปัจจุบันและอนาคต หยั่งรู้แม้แต่จิตใจและน้ำใจผู้คนอันซุกซ่อนของแต่ละคน ถึงได้ชื่อว่าเป็นอมนุษย์วิเศษด้วยเป็นลูกของพระเทพบิดรแม้เป็นอมนุษย์แต่กลับได้รับการยกย่องในหมู่ภูติผีและเทพเจ้าทั้งปวงเพราะตัวมีฤทธิ์ที่เกิดจากการหยั่งรู้ทั้งมีปัญญาและคุณธรรมครบถ้วน เขาจะยอมพ่ายแพ้และยกย่องความเพียรพยายามของผู้ที่ขอร้องเขา เขาจะช่วยเหลือคนดีต่อต้านคนเลวเสมอ เช่นนั้นผู้มีวิชาทั้งนักสิทธิ์,ฤาษี,วิทยาธรอันมีฤทธิ์มาก แม้มากฤทธิ์แต่ทุกคนก็อยากได้เวตาลมาเป็นข้ารับใช้ เหมือนที่เวตาลคอยรับใช้พระศิวะเจ้า เพราะทุกคนรู้ดีว่าเรื่องใดที่อับจนต่อให้มีฤทธิ์อย่างไรก็หาทางออกไม่ได้ แต่เวตาลนั้นมีปัญญามากมักจะมีทางออกให้ทุกคนเสมอ
    ซ้ำเวตาลยังเป็นดั่งฑูตที่คอยบอกเล่าเรื่องที่พบเห็นพูดคุยกับองค์พระศิวะโดยตรง ท่านจะคอยบอกคอยเล่าเรื่องของคนที่ท่านจับตามองทั้งชีวิตของเขากับองค์พระสยม พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะทำรูปเวตาลนั้นก็ต้องใช้กิ่งไม้ที่เวตาลเคยเกาะจึงจะมีอาถรรพ์มากดุจได้ตัวเวตาลจริงๆ ท่านจึงได้นำกิ่งตะเคียนที่ขึ้นในป่าช้าอันเวตาลเคยเกาะ...มาแกะเป็นรูปเวตาลเกาะกิ่งไม้ห้อยหัวลง และรูปเวตาลอาถรรพ์นี้ครูพระสยมได้เมตตาทำให้โดยสร้างขึ้นจากอนุภาคของเวตาล(พ่ออาจารย์ท่านว่าครูมาทำให้ทั้งหมดเลย)จึงถือว่าใครมีเวตาลนี้ก็ดุจดั่งมีภูติรับใช้ ที่เราไม่ต้องเลี้ยงไม่ต้องดูแลอะไรเขาเลย วันดีคืนดีเขาจะมาบอกเล่าพูดคุยกับเราเกี่ยวกับอดีตของเรา เกี่ยวกับอนาคตความเป็นไปของโลก หรืออาจจะบอกถึงปัญหาและทางออกในชีวิตเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอทั้งสิ้น
    เมื่อชีวิตเราถึงคราวเข้าตาจน อับจนหนทาง ลำบากยากแค้น พ่ออาจารย์ท่านว่าให้อธิษฐานบอกกล่าวเวตาลแล้วปัญหาจะผ่านพ้นไปง่ายๆ***ดุจผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายก็ยังต้องการครอบครองเวตาล แม้ครูพระสยมก็ยังโปรดที่จะพูดคุยกับเวตาลอยู่เสมอๆ ท่านว่าจะขอโชคขอลาภขอความเจริญรุ่งเรืองในตำแหน่งหน้าที่การงานก็ยังได้สมดั่งใจหวังหรือจะอธิษฐานขอทางความรักกด็ได้
    เวตาลถวายพรนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า
    โดยปกติเมื่อเวตาลพูดคุยหรือพอใจกับผู้ใดเขาก็จะถวายพรให้กับคนนั้น ไม่ว่าความปรารถนาใดๆย่อมจะส่งผลทันตา ซ้ำผู้มีรูปอาถรรพ์เวตาลอยู่กับตัวนั้นยังจะรอดจากคำสาปทั้งมวล ทั้งบรรดาอมนุษย์ทั้งหลายมียักษ์,กุมภัณฑ์,รากษส,ปีศาจ,แม่มด,หมอผี.. ตลอดจนสัตว์โลกประเภทอมนุษย์เดียวกันนี้จะสิ้นฤทธิ์เดชเมื่ออยู่ใกล้รูปราชาเวตาลทั้งสิ้น
    พ่ออาจารย์ท่านว่าพรของเวตาลนั้นไม่ใช่ของเล่น เพราะเขาสามารถอวยพรแม้ในชีวิตหลังความตายของเราได้ สามารถนำความสำเร็จให้เราเป็นดั่งราชาของเทวโลกในจักรวาลใดจักรวาลหนึ่งได้ เช่นนั้นพรของเวตาลจึงไม่ใช่ของเล่น พ่ออาจารย์ท่านว่ารูปเวตาลถวายพรนี้ขอแค่หมั่นพูดคุยกับเขา บอกเล่าความทุกข์ของชีวิตเราก็พอ แต่ขอให้จำไว้ว่าจงพูดความจริงกับเวตาล อย่าโกหกเวตาลโดยเด็ดขาด แล้วเรื่องราวของเรานั้นก็จะรู้ถึงครูพระสยมทันที ซ้ำเวตาลยังจะแแก้ไข้และให้พรแก่ชีวิตเราตามสมควรด้วย

    คาถาบูชา
    โอม สวามีสังการายะ ภีมะสังกร สังกาลีเยบีมาร์สังการาชายะ สังการาชามา นะโม นะมะ


    ### สำหรับท่านที่จะบูชาองค์สวามีสังกาลานี้ก็ให้ส่งรายละเอียดเรื่องปัญหาที่ติดขัดในชีวิตแนบไว้ด้วย ให้บ่งบอกด้วยว่าชีวิตตัวเองมีปัญหาอะไรขาดอะไรต้องการอะไรปรารถนาอะไร พ่ออาจารย์ท่านจะทำการบอกกล่าวให้ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านให้คติมาเพียงข้อเดียวสำหรับผู้ที่จะบูชานั่นคือขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดีแล้วจะได้ดี ปัจจัยร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กพิการที่ด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา บรมครูเบิกชีวิตเหรียญเบิกไพรสวามีสังกาลา(เวตาลถวายพร,ผงกาลกินวิชา) บูชา 4,000 บาท


    74522314-981300435536271-2994604005117657088-n.jpg 73390635-2409039409191508-6900979432022867968-n.jpg
    74426901-1216573538538629-6520814374662176768-n.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลูกอมมหากำเนิดเสด็จแม่ยั่วเมือง(เม็ดสำเร็จธาตุวิชาสุระปัดคำ)

    เห็นถามกันเข้ามาก็เลยขออนุญาติพ่ออาจารย์นำมาให้เปิดจองกัน ***แต่ต้องย้ำไว้ก่อนว่าชุดลูกอมนี้นอกจากเสน่ห์แล้ว พ่ออาจารย์ท่านจะเน้นเรื่องกันกระทำ กันคนกลั่นแกล้งและล้างอาถรรพ์ ดับล้างอันตราย ฉุดช่วยดึงชีวิตที่ตกต่ำตลอดจนพลิกวิกฤติฟื้นฟูรากฐานชีวิตเสริมเข้าไปด้วย

    สืบเนื่องจากตะกรุดมหายันต์เสด็จแม่ยั่วเมือง(วิชาสุระปัดเพ็ญจันทร์)นี้ เป็นตะกรุดที่สร้างได้ยากมากถึงมากที่สุด และมีเหลือให้บูชาเพียงหลักสิบดอกเท่านั้นหมดแล้วหมดกันไม่มีอีก เพราะสถานะของพ่ออาจารย์ในตอนนี้ไม่สามารถลงให้เต็มวิชาได้เเบบสมัยก่อนเเล้วนั่นเอง ตะกรุดมหายันต์เสด็จแม่ยั่วเมือง(วิชาสุระปัดเพ็ญจันทร์)นี้ดีอย่างไร ก่อนจะไปพูดถึงตรงนั้น ต้องบอกกล่าวว่านี่เป็นตะกรุด 2 กษัตริย์ โดยถือเคล็ดว่าใช้แผ่นทองแดงแทนแผ่นนาคฝังใจด้วยเม็ดเงินที่พ่ออาจารย์เทหล่อจากแผ่นเงินสุระปัดคำดั่งร่างเดียวกันไม่รู้แตกไม่รู้แยกเป็นสอง เป็นคติทางวิชามหาเสน่ห์ที่ล้ำลึกในโสตหนึ่ง

    ในกระบวนการวิชาทางมายาศาสตร์ทั้งหลาย ที่พ่ออาจารย์พลท่านถนัดที่สุดคือวิชาในฝ่ายของเทววิทยา ดังนั้นการลงตะกรุดมหายันต์เสด็จแม่ยั่วเมือง(วิชาสุระปัดเพ็ญจันทร์) ก็เป็นการจารพระรูปพระศรีมหาอุมาเทวีปางบูชาลึงค์เต็มสูตร ซึ่งในอดีตนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาทำชนิดตะกรุดลูกอมไว้ด้วย***เพราะท่านพิจารณาเห็นว่าต่อไปตะกรุดนี้จะหายากคนจะถามกันเยอะ ประกอบกับค่าบูชาที่สูงค่าบางคนก็ยากจะแตะต้อง ท่านจึงเสกตะกรุดลูกอมแม่ยั่วรอเวลาเอาไว้

    วิชาลงตะกรุดแม่ยั่วเมืองซึ่งปางนี้เป็นปางที่พระมหาอุมาเทวีได้เกิดมหากรุณาแลเมตตาเเก่สรรพชีวิตที่ตกทุกข์ได้ยากจึงต้องทำหน้าที่เพื่อก่อเกิดสรรพชีวิตทั้งมวล เป็นปางที่ปลุกพระศิวะเจ้าให้ออกจากญาณสมาบัติ เพื่อการสร้างสรรค์สรรพชีวิตบนโลกที่หยุดชะงักไปจะได้ดำเนินต่อไปตามวัฏจักรกลไกธรรมชาติ

    ดังนั้น ในบรรดาเครื่องรางเสน่ห์ทั้งหลายพ่ออาจารย์ท่านจึงกล่าวได้เต็มปากว่า จะหาสิ่งใดเหนือกว่านี้ย่อมไม่มีอีกเพราะนี่คือภาวะการสร้างสรรค์จากพลังมหาศักติ(มหาอุมาเทวี) ถือเป็นวิชามหากำเนิดในชั้นแรกเริ่มเพื่อก่อให้เกิดสมดุลย์แห่งกลไกจักรวาล
    - วิชามหากำเนิดนี้ที่ว่าดี คือสรรค์สร้างเเละก่อเกิดทุกสรรพสิ่ง ที่ว่าไม่มีอยู่ ก็สร้างให้มันมีให้มันปรากฏขึ้นมาได้ ที่ไม่มีความเป็นไปได้ก็พลิกกลับให้มันเป็นจริงได้ ที่อยู่ในวิกฤติก็เปลี่ยนเป็นโอกาสได้ เหมือนพระมหาอุมาเทวีที่ทรงปลุกพระศิวะออกจากญาณสมาบัติเพื่อภาวะการสร้างสรรค์ของโลกจะได้ดำเนินต่อไป ไม่อยู่ในจุดวิกฤติเเละขาดเเคลนอีกนั่นเอง ไม่ต้องบอกเลยว่าการปลุกพระเป็นเจ้าขึ้นมานั้นต้องใช้วิธีไหนอย่างไร เพราะการปลุกนี้คือการปลุกตัณหาโดยตรงโดยเฉพาะ ให้พระศิวะเจ้าตื่นขึ้นเพื่อร่วมรักกับพระนางจึงถือเป็นปางที่สมบูรณ์ไปด้วยมนต์มหาเสน่ห์ในขั้นสูงสุด สูงขนาดที่ดลบันดาลให้จิตใจของพระเป็นเจ้าสูงสุดออกจากญาณสมาบัติได้

    ด้วยการทำลายล้างความชั่วร้ายสถาปนาไว้ซึ่งระบบคุณธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ขจัดคนพาลมิจฉาทิฏฐิ ปกปักรักษาศิษย์เสมือนลูกไม่ให้ถูกข่มเหง รังแก ด้วยอำนาจอย่างเด็ดขาดและเหี้ยมหาญประทานชัยชนะเหนือศัตรูท่านว่าไม่มีใครจะรังแกเราได้เลย เร่งรุดให้เจริญในอำนาจวาสนาบารมีด้วยเกียรติยศอย่างสูงสุด ประทานยศถาบรรดาศักดิ์และความเป็นใหญ่ตลอดจนอำนาจในการปกครอง ด้วยว่าพระนางนั้นคือมารดาแห่งสรรพชีวิตทุกชีวิตคือลูกเสมอกัน ประทานความรักให้เท่าเทียมกัน ดำรงไว้ซึ่งน้ำพระทัยที่เต็มเปี่ยมด้วยความเมตตา ซ้ำยังช่วยให้มีกำลังใจกล้าหาญ ประกอบด้วยกำลังวังชาอาจชนะมวลศัตรูได้ทั้งสิบทิศ ดำรงค์ตนอยู่ในความยุติธรรมสุจริต และยังเกื้อกูลให้ร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพที่ดีพร้อมบริบูรณ์ อำนวยความสุขในการครองเรือน ยังชีวิตให้อิ่มเอม ผาสุข เปี่ยมสุขด้วยความอุดมสมบูรณ์ คุ้มเกรงให้ออกห่างจากภยันตรายทั้งปวง นั่นคือสิ่งที่แม่ยั่วเมืองสามารถกระทำได้

    เมื่อพ่ออาจารย์ได้นำแผ่นทองแดงมาลงรูปเสด็จเเม่ยั่วเมืองนั้นท่านไม่ลืมที่จะลงศิวลึงค์ไปด้วย ##แต่ในชุดลูกอมนี้ท่านว่าแม่ยั่วก็ดีทางเสน่ห์เป็นที่สุดแล้วท่านจึงลงเสริมให้ครบทางกันกระทำ กันคนกลั่นแกล้งและล้างอาถรรพ์ ดับล้างอันตราย ฉุดช่วยดึงชีวิตที่ตกต่ำตลอดจนพลิกวิกฤติฟื้นฟูรากฐานชีวิตเสริมเข้าไปด้วย ท่านเปรียบตะกรุดดั่งว่านั้นคือหลักหินเป็นเสาแกนกลางของจักรวาล ทุกสรรพชีวิตจะถูกดึงดูดโดยสิ่งนี้เเละก็จะวนเวียนไป โคจรไปตามวัฏจักรของกฏแห่งกรรม เป็นการหมุนเวียนซ้ำเเล้วซ้ำเล่าอยู่เช่นนี้ ที่ต้องลงศิวลึงค์เเละเบิกพระเนตรพระศิวะเจ้าไว้ก็เพื่อจะใช้มหากรุณาธิคุณส่วนนี้ของพระผู้เป็นเจ้าดึงดูดสรรพชีวิตต่างๆที่ผู้ใช้ปรารถนาจะให้มาข้องเกี่ยวติดพัน ดึงดูดให้คนเหล่านั้นสนใจเรา และเปลี่ยนจากที่เราไปสนใจเค้าไปตามติดเค้า เป็นเค้าต้องมาตามติดมาโคจรเข้าหาตัวเราเอง ไม่ว่าจเป็นใครทุกสรรพสิ่งเเละสรรพชีวิตใช้ได้ทั้งหมด ท่านลงอาถรรพ์ศิวะซ่อนรูปเสริมกำลังเข้าไปด้วย ซึ่งวิชานี้แต่เดิมแทบจะไม่มีการถ่ายทอดให้ผู้ใดเพราะเป็นวิชาสืบทอดในสายพระเวทย์ชั้นสูง แต่เดิมนั้นกษัตริย์ขอมเปรียบดั่งร่างอวตารของพระศิวะเจ้า เมื่อจะขึ้นครองราชย์นั้นต้องให้ผู้เรืองวิชามาประจุอาถรรพ์ตัวนี้ไว้กับร่างกาย เรียกว่าอาถรรพ์แห่งราชาหรือพระมหากษัตริย์ก็ได้ เป็นวิชาที่จะทำให้ญาณบารมีขององค์พระศิวะนั้น แฝงซ่อนอยู่ในร่างผู้บูชาโดยตรง เป็นทั้งมหาอำนาจ มหาเมตตา มหาเสน่ห์ มหาปราบ มหากำราบ ครบถ้วนทุกประการ ปลุกดีในตัวสร้างขุมพลังในจิตวิญญาณอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านเมตตาลงไว้ให้เพื่อที่ผู้บูชาจะได้มีพลังมีจิตที่ดีภายในก่อนค่อยไปอาราธนาของดีภายนอกใดๆ

    ท่านได้กล่าวไว้ให้คิดสำหรับผู้มีตะกรุดนี้ว่า ให้ถือเสด็จพระอุมาเป็นแม่เพราะโดยศักดิ์เเล้วท่านคือมารดาของจักรวาลหรือจักรวาลชนนีเป็นประธานในหมู่อิตถีเทวีทั้งหลาย เมื่อเป็นลูกของท่านให้ใช้ความรู้สึกรักท่านเเบบรักเเละเทิดทูนมารดาจริงๆ สิ่งใดที่ลูกอยากได้ลูกปรารถนา แม่ย่อมให้ลูก เเม่จะเห็นลูกตกต่ำไม่ได้ แม่จะเห็นลูกลำบากไม่ได้ ลูกอยากได้อะไรเเม้ต้องแลกด้วยชีวิตแม่ก็จะหามาให้ลูกให้ได้ ท่านถือคติแบบนั้น ด้วยมหาศักตินั้นคือพลังงานสูงสุดของจักรวาล ในสามภพหรือไตรดาลคือทั่วทั้งสวรรค์แดนมนุษย์หรือในบาดาล หากปรากฏพระรูปของมหาศักติขึ้นแล้วสรรพชีวิตทั้งหลายย่อมนอบน้อมและเคารพบูชา ด้วยท่านปรารถนาคุณสมบัติสูงสุดที่มนุษย์ใช้เวลาทั้งชีวิตในการแสวงหาและเติมเต็ม เพราะว่าบุคคลที่มีพร้อมทั้งสติปัญญา ความรู้ รูปกาย ทรัพย์สมบัติตลอดจนอำนาจวาสนานั้น คือที่สุดแห่งความบริบูรณ์ที่มนุษย์ควรจะเป็น เรียกว่าเป็นชีวิตในอุดมคติก็เป็นได้ ท่านจึงปรารถนาจะสร้างตะกรุดแม่ยั่วเมืองด้วยมนต์มหากำเนิดขึ้นด้วยการรวมอานุภาพสูงสุดของมหาจักรวาลซึ่งท่านว่าทอดสายตาไปทั่วทั้งสามภพก็หาจะมีซึ่งผู้ใดที่ทรงอานุภาพมากกว่านี้ด้วยว่าเป็นพระแม่สูงสุดของจักรวาลผู้รักและให้กำเนิดสรรพชีวิตทั้งมวลนั่นเอง เพื่อจะเกื้อหนุนดวงชะตา ทำลายสิ่งเลวทรามชั่วร้ายในชีวิต เร่งเร้าให้ผู้บูชามีครบถ้วนบริบูรณ์ในทุกสิ่งที่ปรารถนาหรือต้องการ

    ทีนี้ในส่วนที่สำคัญที่สุดเลยที่พ่ออาจารย์ไม่สามารถลงได้อีกทำให้ตะกรุดนี้มีให้บูชาเพียงเล็กน้อยนั่นก็คือ
    - เม็ดสำเร็จธาตุวิชาสุระปัดคำ หรือก็คือในส่วนของยันต์สุระปัดจันทร์เพ็ญนั่นเอง เเผ่นเงินสุระปัดนี้เปรียบดั่งมหามงกุฏของพระเจ้าจักรพรรดิ์ เปรียบดั่งมงกุฏของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใช้เคล็ดวิชานี้สร้างสิ่งที่มีคุณค่าสูงสุดขึ้นมา นั่นคือเเผ่นเงินที่อยู่บนหัวนาคตอนบวชนั่นเอง เป็นเเผ่นเงินสมัยก่อนเลยที่พ่ออาจารย์ท่านสวมศรีษะเมื่อเป็นนาคตอนบวชเเล้วท่านเก็บเอาไว้ ซึ่งเเผ่นเงินนี้เปรียบเสมือนมงกุฏของพ่อนาคที่ใส่ไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม พ่อนาคเป็นประธานในงานอุปสมบท มีเเต่ผู้คนจากทั่วสารทิศมารุมล้อมเเสดงความยินดีดุจดาวล้อมเดือนก็ไม่ปาน พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าเเผ่นเงินสุระปัดจันทร์เพ็ญนี้ก็เปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางของระบบสุริยะ เป็นพระอาทิตย์ที่ดาวน้อยใหญ่ทั้งหลายต้องโคจรหมุนรอบในเวลากลางวัน เป็นพระจันทร์อันเป็นประธานเเห่งรัตติกาลที่ปกครองดวงดารายามค่ำคืน ถือคติที่ตอนเราเป็นนาคมีคนน้อยใหญ่รุมล้อมเเสดงความยินดีไปมาหาสู่ ที่เคยโกรธเคืองไม่มองหน้ากันก็พูดดีกันก็มากราบกรานเเสดงความเคารพแบบนี้ถือว่าเป็นของดีมีอาถรรพ์เเห่งมายาคติสูงสุด
    แผ่นเงินสุระปัดจันทร์เพ็ญที่พ่ออาจารย์ท่านนำมาเทเป็นเม็ดธาตุวิชาสุระปัดคำฝังในตะกรุดนั้นมีอาถรรพ์มากตามที่ได้กล่าวไว้ แต่ก็ยังไม่ถึงที่สุด เพราะในสมัยอดีตตกหลายสิบปี สมัยที่พ่ออาจารย์ท่านได้เรียนวิชาแมงวันคำใหม่ๆ ท่านได้ใช้เเผ่นเงินสุระปัดจันทร์เพ็ญที่ท่านเสกไว้เเล้วนี่เเหละมาลองวิชาของท่าน เรียกได้ว่าท่านลงไว้เเบบเต็มสูตรเต็มตำราไม่มีบั่นทอนเลย นั่นคือการลงยันต์บนตัว...เพื่อให้ได้คุณเเห่งกามตัณหาสูงสุดเเละลงให้ตรงตามตำราที่เรียนมามากที่สุด จะเห็นได้ว่าในสมัยนี้พ่ออาจารย์ท่านไม่ทำวิชาเเมงวันคำของท่านอีกเลย เพราะว่าท่านไม่สามารถลงให้เต็มสูตรตามตำราได้ เเละยิ่งจะให้ต่อมือหรือให้คนอื่นลงเเทนก็ไม่ใช่เรื่องที่ท่านจะมั่นใจว่าเข้มขลังเท่าที่ท่านทำ เพราะการวาดการลงอักขระการภาวนาสูตรการเล่นลมหายใจในขณะที่ลงยันต์เเละมีปฏิสัมพันธ์ไปด้วยนั้นเป็นอะไรที่ยากมากทีเดียว
    เมื่อได้เเผ่นยันต์สุระปัดที่ผ่านการลงยันต์เเมงวันคำเเล้ว ท่านก็จะนำมาลงยันต์ประทับหลังต่างหากอีกคำรบหนึ่ง เป็นยันต์ที่ท่านเอาไว้เเช่น้ำมันดีดสาวของท่านเองในสมัยก่อน กล่าวได้ว่าเป็นวิชามหาเสน่ห์ที่ท่านสำเร็จเเละทดลองใช้ได้ผลมาเรื่อยๆตลอดเเล้วนั่นเอง เมื่อได้เเผ่นพระยันต์สุระปัดคำเต็มสูตรเเล้ว ท่านก็นำมาเสกโดยเน้นเสกเก็บไว้ตลอดในฤกษ์จันทร์เพ็ญ พระจันทร์ขึ้นเต็มดวงไขรัศมีกระจ่างฟ้าเมื่อไหร่เป็นอันต้องเอาออกมาเสกทุกครั้งด้วยการเป่ามนต์เชิญพระจันทร์เข้าตัว 108 คาบ ซึ่งวิชานี้ท่านว่าคนเอาไปใช้จะได้มีเสน่ห์ มีทรัพย์สินดั่งเวลาน้ำขึ้นจันทร์เต็มดวง อุดมสมบูรณ์ปานเชิญพระจันทร์เข้าสถิตย์ในกายตนทีเดียว เวลาไปไหนก็จะมีสง่าราศีดูมีรัศมี มีน้ำมีนวล เมื่อเสกครบดีแล้วท่านได้นำแผ่นเงินบางส่วนมาหลอม
    พร้อมกับใส่ธาตุกายสิทธิ์ต่างๆลงไป เสริมด้วยปรอทสำเร็จของหลวงปู่ละมัย และปรอทกินทองของครูบาศรีอ่อง เทออกมาเป็นเม็ดสำเร็จธาตุวิชาสุระปัดคำเพื่อจะใช้เป็นหัวใจตะกรุดลูกอมนั่นเอง

    หลังจากนั้นท่านจึงนำดินสองพองมาลงยันต์นะตวัดจันทร์ หรือที่นิยมเรียกกันติดปากว่าพระยันต์ยมบาลใจอ่อน โดยท่านเพียรลบเสร็จแล้วปั้นใหม่ถึง 108 ครั้ง ก่อนที่จะนำมาลบนะพระเจ้า มนต์ขอพรเทวดา มนต์สำเร็จทันใจ และมนต์มหากำเนิดต่อไป ท่านว่าที่ท่านตั้งต้นด้วยนะตวัดจันทร์หรือที่เรียกว่าผงยมบาลใจอ่อนนั้น เพราะว่าแม้แต่ยมบาลเทพผู้รักษากฏเหล็กทรงความยุติธรรมนักหนา ยังได้ชื่อว่าต้องใจอ่อนยอมผ่อนปรนให้กับความต้องการของเรา แล้วนับประสาอะไรกับน้ำใจมนุษย์และสัตว์รอบข้าง ยิ่งองค์พระแม่ยั่วเมืองนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะท่านมีน้ำใจประกอบด้วยเมตตาอยู่แล้วยิ่งใจอ่อนเข้าไปอีก และมนต์บทต่างๆที่ลบถมลงไปนั้นก็คัดมาเฉพาะหัวกะทิ ท่านว่าเพื่อให้ง่ายต่อการขอ การเข้าถึงนั่นเอง ขอแล้วต้องถึง ขอแล้วต้องได้รับความเมตตา โดยท่านได้นำผงลบนั้นมาผสมกับมวลสารคตศักดิ์สิทธิ์ต่างๆที่เคยบดไว้ ทั้งคตไข่งู คตไข่นกในป่า คตไข่ไก่ คตกะโปกเสือ คตปลิง ต่างๆ รวมไปถึงผงวิเศษบูรพาจารย์ต่างๆที่ท่านรวบรวมไว้ เข้ากันกับสีผึ้งของครูที่เป็นมวลสารรุนแรงทางเมตตามหาเสน่ห์ อุดผงฝังไว้ในตะกรุด

    ซึ่งในภายหลัง พ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดนี้เเช่ในน้ำมันเสน่ห์ภูติพระเจ้า(ครูทั้ง4) และเสกจนได้ชื่อว่าสำเร็จและเกิดขึ้นเเล้วในน้ำมัน นั่นคือเเช่และเรียกสูตรเรียกนามตั้งรูปให้จุติปฏิสนธิเป็นเสด็จเเม่ยั่วเมือง ให้ถือกำเนิด ให้เกิดขึ้นมาใหม่เเบบโอปปาติกะกำเนิด ซึ่งเป็นการเกิดขึ้นเเบบจุติของเทวดาเเละสิ่งลึกลับ เเละซึมซับอิทธิคุณเเละมนต์มหาเสน่ห์ของน้ำมันเสน่ห์ภูติพระเจ้า(ครูทั้ง4)จนเต็มเปี่ยม ท่านกล่าวไว้ว่าในเรื่องของมหาเสน่ห์นี้ไม่ต้องไปพูดไปกล่าวอะไรเเล้ว เพราะเสียเวลาที่จะพูดจะบอก ตะกรุดนี้วิชานี้เราทำเต็มที่ ถ้าไม่ได้ถอดเขี้ยวถอดเล็บมาเอาดีทางธรรมทางพระศาสนาเเล้ว เราจะใช้เองให้มันรู้ไป ทำก็ยากพิธีก็มาก ถ้าไม่ใช่เคยทำไว้สมัยก่อน มาตอนนี้ก็คงทำไม่ได้อีกเเล้ว ถ้าใครหวังจะเอาดีทางโลก ไม่ว่าจะเสวยสมบัติมีความสุขด้วยลาภที่เกิดจากสัตว์สองเท้า(คู่ครอง)หรือปรารถนาโชคลาภวาสนาใดๆวิชานี้ย่อมครอบคลุมทั้งหมด ท่านเสกจนพอ จนท่านออกปากว่าเต็มแล้วตะกรุดนี้มีทุกสิ่งที่มนุษย์ต้องการและควรจะมี

    วิธีบูชา
    พ่ออาจารย์ท่านให้หากำยานมาจุดถวาย(ในกรณีไม่ได้ใส่ติดตัว) *** รวมถึงหาน้ำหอมน้ำปรุงกลิ่นที่เราใช้กับตัวเองประจำมาฉีดพ่นที่ตะกรุดเสมอๆ(ที่หลอดตะกรุดให้เจาะรูเพื่อพ่นสปรย์น้ำอบน้ำปรุงได้) อยากได้อะไรหมั่นพูดหมั่นขอบอกกล่าวเสด็จแม่มหาอุมาเทวี ตะกรุดนี้ให้ห้อยคอบูชา ไม่ต้องถอดไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามไม่มีเสื่อม ให้ห้อยไว้จะยิ่งทวีพลังเเละอานุภาพรุนแรงมากขึ้น


    คาถาบูชา
    โอม ศรีมหาเทวี สตีมหามาตา อุมาภควดี ศรีมหาทุรคาเทวีมหิทธิกา มหาอิทธิโย เทวะมนุษย์สะยักษ์สะวันทามิ


    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดลูกอมนี้ไว้ได้เพียงประมาณหนึ่งกำมือหลักสิบดอกไม่มาก ดังนั้นจึงจะเปิดให้จองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่าวิชาเหล่านี้บ้างก็เป็นของสูงสุดที่ทั้งชีวิตยากจะได้เห็น บ้างก็เป็นวิชาที่มีอาถรรพ์มาก มีอานุภาพรุนแรง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นครูท่านรักษษและเลือกคนของท่านเอง ท่านบอกเราแค่ว่าเก็บเอาไว้นานๆก่อนค่อยเอาออกไปเพราะเจ้าของเขาจะมาเอาไปเองจนครบ ดังนั้นตะกรุดลูกอมชุดพิเศษนี้ ท่านจึงเก็บไว้นานหลายปีจนครูมหาศักติให้ท่านนำออกมา

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลูกอมมหากำเนิดเสด็จแม่ยั่วเมือง(เม็ดสำเร็จธาตุวิชาสุระปัดคำ) บูชา 900 บาท

    73357349-417439405621861-5476761151318523904-n.jpg 73504903-1191605237894197-3421036971336663040-n.jpg 74335862-419457618739836-4571751597192773632-n.jpg
    74634699-685441785275714-1408332420742119424-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2019
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
    ร่วมทำบุญบูชา เวตาลถวายพรเนื้อไม้คานอาถรรพ์ (ราชาเวตาล)

    เวตาลนั้นเป็นบุตรของพระกศยปะเทพบิดรที่เกิดจากนางอทิติ เมื่อเกิดมาก็เป็นภูติคอยถวายงานตามรับใช้พระศิวะ(ครูพระสยม)เป็นเจ้า โดยเวตาลนั้นในมือขวาจะถือไม้เท้ามือซ้ายถือหอยสังข์ ขณะเมื่อมาปรากฏตัวจะนุ่งห่มเสื้อผ้าสีเขียวทั้งชุดบางทีก็นั่งมาบนเสลี่ยงมีเหล่าศิวะสาวกคอยหาม บางคราวก็ขี่ม้ามีภูติบริวารถือคบเพลิงส่งเสียงโห่ร้องกึกก้องแวดล้อมโดยรอบ

    เวตาลนั้นปกติจะอาศัยอยู่ในป่าช้ากับครูพระสยมเมื่อท่านลงมาบำเพ็ญตบะในป่าช้า
    ตัวเวตาลเขาจะมีญาณหยั่งรู้ในกาลทั้งสามคืออดีตปัจจุบันและอนาคต หยั่งรู้แม้แต่จิตใจและน้ำใจผู้คนอันซุกซ่อนของแต่ละคน ถึงได้ชื่อว่าเป็นอมนุษย์วิเศษด้วยเป็นลูกของพระเทพบิดรแม้เป็นอมนุษย์แต่กลับได้รับการยกย่องในหมู่ภูติผีและเทพเจ้าทั้งปวงเพราะตัวมีฤทธิ์ที่เกิดจากการหยั่งรู้ทั้งมีปัญญาและคุณธรรมครบถ้วน เขาจะยอมพ่ายแพ้และยกย่องความเพียรพยายามของผู้ที่ขอร้องเขา เขาจะช่วยเหลือคนดีต่อต้านคนเลวเสมอ เช่นนั้นผู้มีวิชาทั้งนักสิทธิ์,ฤาษี,วิทยาธรอันมีฤทธิ์มาก แม้มากฤทธิ์แต่ทุกคนก็อยากได้เวตาลมาเป็นข้ารับใช้ เหมือนที่เวตาลคอยรับใช้พระศิวะเจ้า เพราะทุกคนรู้ดีว่าเรื่องใดที่อับจนต่อให้มีฤทธิ์อย่างไรก็หาทางออกไม่ได้ แต่เวตาลนั้นมีปัญญามากมักจะมีทางออกให้ทุกคนเสมอ

    ซ้ำเวตาลยังเป็นดั่งฑูตที่คอยบอกเล่าเรื่องที่พบเห็นพูดคุยกับองค์พระศิวะโดยตรง ท่านจะคอยบอกคอยเล่าเรื่องของคนที่ท่านจับตามองทั้งชีวิตของเขากับองค์พระสยม พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะทำรูปเวตาลนั้นก็ต้องใช้กิ่งไม้ที่เวตาลเคยเกาะ(ไม้คาน)จึงจะมีอาถรรพ์มากดุจได้ตัวเวตาลจริงๆ ท่านจึงได้นำกิ่งตะเคียนที่ขึ้นในป่าช้าอันเวตาลเคยเกาะ...มาแกะเป็นรูปเวตาลเกาะกิ่งไม้ห้อยหัวลง และรูปเวตาลอาถรรพ์นี้ครูพระสยมได้เมตตาทำให้โดยสร้างขึ้นจากอนุภาคของเวตาล(พ่ออาจารย์ท่านว่าครูมาทำให้ทั้งหมดเลย)จึงถือว่าใครมีเวตาลนี้ก็ดุจดั่งมีภูติรับใช้ ที่เราไม่ต้องเลี้ยงไม่ต้องดูแลอะไรเขาเลย วันดีคืนดีเขาจะมาบอกเล่าพูดคุยกับเราเกี่ยวกับอดีตของเรา เกี่ยวกับอนาคตความเป็นไปของโลก หรืออาจจะบอกถึงปัญหาและทางออกในชีวิตเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอทั้งสิ้น

    เมื่อชีวิตเรา
    ถึงคราวเข้าตาจน อับจนหนทาง ลำบากยากแค้น พ่ออาจารย์ท่านว่าให้อธิษฐานบอกกล่าวเวตาลแล้วปัญหาจะผ่านพ้นไปง่ายๆ***ดุจผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายก็ยังต้องการครอบครองเวตาล แม้ครูพระสยมก็ยังโปรดที่จะพูดคุยกับเวตาลอยู่เสมอๆ ท่านว่าจะขอโชคขอลาภขอความเจริญรุ่งเรืองในตำแหน่งหน้าที่การงานก็ยังได้สมดั่งใจหวังหรือจะอธิษฐานขอทางความรักกด็ได้

    เวตาลถวายพรนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า
    โดยปกติเมื่อเวตาลพูดคุยหรือพอใจกับผู้ใดเขาก็จะถวายพรให้กับคนนั้น ไม่ว่าความปรารถนาใดๆย่อมจะส่งผลทันตา ซ้ำผู้มีรูปอาถรรพ์เวตาลอยู่กับตัวนั้นยังจะรอดจากคำสาปทั้งมวล ทั้งบรรดาอมนุษย์ทั้งหลายมียักษ์,กุมภัณฑ์,รากษส,ปีศาจ,แม่มด,หมอผี.. ตลอดจนสัตว์โลกประเภทอมนุษย์เดียวกันนี้จะสิ้นฤทธิ์เดชเมื่ออยู่ใกล้รูปราชาเวตาลทั้งสิ้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพรของเวตาลนั้นไม่ใช่ของเล่น เพราะเขาสามารถอวยพรแม้ในชีวิตหลังความตายของเราได้ สามารถนำความสำเร็จให้เราเป็นดั่งราชาของเทวโลกในจักรวาลใดจักรวาลหนึ่งได้ เช่นนั้นพรของเวตาลจึงไม่ใช่ของเล่น พ่ออาจารย์ท่านว่ารูปเวตาลถวายพรนี้ขอแค่หมั่นพูดคุยกับเขา บอกเล่าความทุกข์ของชีวิตเราก็พอ แต่ขอให้จำไว้ว่าจงพูดความจริงกับเวตาล อย่าโกหกเวตาลโดยเด็ดขาด แล้วเรื่องราวของเรานั้นก็จะรู้ถึงครูพระสยมทันที ซ้ำเวตาลยังจะแแก้ไข้และให้พรแก่ชีวิตเราตามสมควรด้วย

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างราชาเวตาลที่เปรียบเสมือนหูตาที่ครูพระสยมใช้ให้สอดส่องความเป็นไปของโลก ด้วยเวตาลนั้นเราเป็นคนใช้จึงต้องเข้าใจว่าเขาเป็นบริวารไม่ใช่เจ้านายของเรา ให้เปรียบเขาเสมือนสมบัติของเรา


    ซึ่งเวตาลที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างนั้นมีคุณสมบัติคร่าวๆดังนี้
    - เวตาลนั้นมีชาติกำเนิดสูงมีศักดิ์ใหญ่เพราะเป็นบุตรพระเทพบิดร กล่าวง่ายๆว่ามีโคตรเสมอด้วยพระอินทร์
    - เวตาลนั้นได้ชื่อว่ามีอาวุธที่พรงพลังมากที่สุดนั่นคือมีปัญญามีปัญญาเฉียบคมมากยากจะหาเทพเจ้าใดมาเปรียบเทียบ
    - เวตาลนั้นมีแบ๊คที่ทรงพลังที่สุดนั่นคือครูพระสยม
    - เวตาลนั้นแม่เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายก็หวังจะได้ไว้เป็นบริวาร เพราะเขาสามารถช่วยคลี่คลายกาลแห่งทุกข์,แลสารพัดปัญหาอันผู้เป็นนายไม่สามารถหาทางออกและแก้ไขได้
    - คนใด ที่ไหน สถานการณ์ใดอันไร้ทางออก เวตาลนั้นย่อมคลี่คลายปลดปล่อยเส้นทางอุดตันเหล่านั้นได้
    - รูปเวตาลนั้นมีอาถรรพ์ในตัวเองมาก(เหมือนรูปครุฑที่มีอาถรรพ์ในตัวเอง)

    ....ซ้ำที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างคือราชาเวตาล ด้วยราชานั้นคือต้นกำเนิดแห่งเผ่าพันธ์ คือราชันในเหล่าภูติ เป็นบุตรของพระเทพบิดรเช่นเผ่าพันธุ์ครุฑนาคก็มีลูกหลานสืบทอดมากมาย เวตาลก็เช่นกัน

    ราชาเวตาลท่านเป็นเจ้าแห่งป่าช้าสถิตย์อยู่กับครูพระสยมคอยควบคุมเหล่าภูติผีบริวารขององค์พระศิวะเช่นนั้นเหล่าผีจะเกรงกลัวท่านมาก เหล่าภูติผีปีศาจอมนุษย์จะไม่รุกรานนายตัวเอง

    ทั้งนี้เวตาลยังมีทรัพย์สมบัติมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าเธอรู้มั๊ย สมัยก่อนขุมสมบัติที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลายก็ล้วนแต่เป็นสุสานนั่นเอง ก็นี่เขาเป็นเจ้าแห่งสุสานทั้งนั้นเขาจึงควบคุมทรัพย์สมบัติของโลกมากมายทุกยุคทุกสมัย ก็คนธรรมดาที่ไหนตายไปจะอยู่ในสุสานได้ส่วนใหญ่ก็มีแต่เศรษฐี จักรพรรดิ์ มหาจักรพรรดิ์ทั้งนั้น

    เช่นนั้นท่านว่าเวตาลจะมีประสบการณ์มากในทุกๆด้านสุดแต่จะขอให้เขาคลี่คลายปมปัญหา ขอให้เป็นเรื่องเกินตัวหาทางออกไม่ได้ไม่ว่าจะเกี่ยวกับอะไรย่อมพึ่งเขาได้ทั้งสิ้น...จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมในมวลสมบัติที่มีค่าทั้งปวงในโลก เวตาลจึงเป็นทรัพย์สมบัติที่มีค่าอันผู้รู้ปรารถนาจะครอบครองมากที่สุด

    ร่วมทำบุญบูชา เวตาลถวายพรเนื้อไม้คานอาถรรพ์ (ราชาเวตาล) บูชา 900 บาท


    73342823-536519390240712-3478837146557612032-n.jpg
    74290225-564613531013944-555219184087203840-n.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าปิดทุกข์ลาภทรงนาวาส่งคนหนุนกลับพันธะสัญญา (ดาบประหารตัดกรรม)

    สายบารมีของพ่ออาจารย์นั้นหลายคนบอกว่าดีทางด้านอาราธนาหากิน หนุนคนที่ประกอบอาชีพต่างๆได้ทุกอาชีพอย่างน่าอัศจรรย์เพราะท่านมักจะมีดำริว่าจะทำพระให้คนเขารวย โดยปกติท่านจึงเน้นด้านนี้อย่างมากและต้องเป็นพระกลับพระพลิกชีวิตคนได้เช่นนั้น... แต่สมัยนี้จะเอาอะไรไปพลิกให้เขารวยได้อย่างไร... ก็สมัยนี้มารมันเยอะ ก่อนจะรวยก็ต้องผจญมารก่อนเพราะเวรกรรมนั้นเล่นงานอย่างหนักเรียกว่าต้องทุกข์ก่อนค่อยได้ดี ทีนี้กว่าจะผ่านทุกข์ได้เราจะรอกันไหวหรือทนได้เท่าไหร่ สุขกับทุกข์ที่คละเคล้าแยกกันไม่ออกนี้บางทีมีโชคมานิดหนึ่งก็ได้ทุกข์ก้อนใหญ่ตามมาท่านเรียกว่าทุกขลาภหรือสหคตทุกข์ก็ได้ คือเป็นอยู่มีชีวิตแบบทุกข์ไปด้วยกัน เป็นทุกข์ที่เข้ามากำกับกันกับลาภ,ยศ,สุข,สรรเสริญ หรือทุกขลาภดังแสดงไว้ในโลกธรรมสูตรว่า ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เป็นทุกข์แต่ละอย่าง จัดเป็นวิปริณามทุกข์ คือเป็นทุกข์เมื่อแปรเปลี่ยนไปเป็นอื่น เช่นมีลาภคือทรัพย์ก็ต้องระมัดระวัง คนที่สูญเสียเพราะมีทรัพย์ก็มีอยู่มากมาย การได้ลาภ ยศ สุขสรรเสริญ ได้ทรัพย์จากการเสี่ยงโชคการพนันต่างๆหรือได้ตำแหน่งอันเป็นสุขชั่วคราวทั้งหลายในกามภพแล้วเกิดทุกข์ใหญ่หลวงตามมาเช่นนี้ท่านว่าเพราะเรามีวิบากมากกว่าบุญ เช่นนั้นก็ต้องชนะและข่มวิบากได้เรื่องสุขจึงจะไม่เป็นปัญหา แต่หากข่มหรือชนะไม่ได้เราก็ต้องทุกข์และตายไปทั้งอย่างนี้

    น้ำอุ้มเรือ
    สมเด็จองค์ปฐมท่านจึงได้พูดเป็นความนัยน์ไว้กับพ่ออาจารย์ว่า"น้ำอุ้มเรือ" ซึ่งท่านได้นิมิตติดกันเป็นโศลกสามวันสามคืนให้พ่ออาจารย์ท่านคลี่คลายปริศนาธรรม พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริที่จะทำพระพิมพ์น้ำอุ้มเรือหรือพระเจ้าปิดทุกข์ลาภทรงนาวาส่งคนหนุนกลับพันธะสัญญานี้ขึ้นมา ท่านว่าวิชานี้สำคัญมากเพราะน้ำที่หนุนเรือเปรียบได้กับพลังศักดิ์สิทธิ์ที่หนุนชีวิตเราไม่ให้จม ดั่งเราเป็นเรือน้อยแหวกว่ายพายอยู่ในกระแสกาลเวลาอันกว้างใหญ่ พอน้ำขึ้นเรือก็สูง พอน้ำลงเรือก็ต่ำ ให้น้ำหนุนคือให้ชีวิตอยู่ในจังหวะที่มีครูมีทิพย์กายคอยค้ำจุนอยู่ตลอด มีผู้คนคอยสนับสนุนมีพลังลึกลับตีกลับชีวิตเราให้สูงขึ้นดุจน้ำขึ้นเรื่อยๆ ซ้ำวิชานี้ยังสำคัญมากเพราะเรือนี้มีตำนานอยู่ทุกชาติพันธุ์ด้วยพระเจ้าจะช่วยเฉพาะสิ่งที่ถูกเลือกเท่านั้นจึงขึ้นไปได้ ด้วยทุกศาสนานั้นมีความเชื่อเรื่องเรือที่จะมีเฉพาะผู้ถูกเลือกเท่านั้นขึ้นไปเหยียบได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรือโนอาของคริสต์หรือความเชื่อของอิสลาม แม้แต่เรือของพระมนูก็ตามเรือที่จะเลือกผู้ที่ถูกคัดสรรค์เท่านั้นให้รอดจากหายนะ จะมีเฉพาะสิ่งที่อยู่บนเรือเท่านั้นที่จะรอดจากทุกข์และมหันตภัยท่านว่าพ้นจากสิ่งที่ถูกเลือกแล้วนอกเรือล้วนดับชีวิตสิ้น ดุจดั่งเรือนี้จะหยุดชะตากรรมและทุกขลาภทั้งปวง เสด็จพระใหญ่ท่านจึงเจาะจงให้พ่ออาจารย์ทำพระพิมพ์นี้ที่ท่านเรียกสั้นๆว่าน้ำอุ้มเรือ เมื่อเราได้โดยสารเรือลำนี้ท่านว่าดุจชีวิตคนที่ว่ายอยู่ในกระแสธารแห่งสังสารวัฏ ต้องฝ่าทั้งคลื่นทั้งลมที่รุนแรงต้องใช้กำลังแต่เฉพาะตัวเองเหนื่อยยากแทบตายฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกรากเพื่อจะไปหาที่เกาะที่ยึดได้ซักสิ่งหนึ่งก็ดิ้นรนกันแทบตายแล้ว ท่านว่าระหว่างคนที่ใช้แต่กำลังว่ายไปกับคนที่ไม่ต้องออกแรงมาก นั่งเฉยๆแต่ก็ไปถึงไวดุจมีเรือโดยสารที่ถูกกำหนดไว้แล้วว่าเป็นเราและเราต้องรอด อย่างไหนดีกว่ากันก็คิดดูเอาเอง ท่านว่าให้เลือกเอาเองระหว่างจะเป็นคนนั่งเรือ หรือคนแหวกว่ายอยู่ในท้องมหาสมุทรที่ต้องใช้ทั้งกำลังและความคิดสติปัญญามากกว่าคนอื่นเขา เข้าทำนองว่าไปถึงก็ช้าซ้ำใช้กำลังไปทั้งตัวจนเหนื่อยเจียนตายบางทีก็อาจไปไม่ถึง *** หากเลือกที่จะลงเรือด้วยมหานาวานี้ก็จะส่งเธอให้ถึงฝั่งผ่านม่านหมอก แหวกทุกข์โศก ส่งให้ขึ้นถึงฝั่งถึงความสำเร็จเช่นนั้น จะเป็นผู้ปราศจากภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง ท่านว่าไม่ว่าจะภัยใหญ่ทุกข์ใหญ่เอาว่าจะไม่เกิดกับเราปิดเรื่องทุกขลาภไปเลย ไม่ว่าจะคิด จะทำ จะจับต้องอะไรก็สำเร็จเจริญงอกงามรุ่งเรืองสถาพร ไม่ว่าจะไปทิศไหนเขาก็ให้การต้อนรับ จะให้ความช่วยเหลือ จะให้การอุดหนุน จะยกให้เหนือกว่าผู้อื่นดุจมีกระแสน้ำตีกลับชีวิตเราให้สูงขึ้นเรื่อยๆ

    เหตุที่คนทั้งหลายนั้นล้มบาง ลุกบ้าง ทิ้งตัวบ้าง ต่ำตกบ้าง สูญเสียบ้าง ท่านว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะรากไม่มั่นคงฐานก็ไม่แน่น แล้วยังไปคิดฝันไปฝืนสร้างให้ใหญ่โตทั้งที่กำลังตนไม่พอก็ยังรั้นจะเดินตามความปรารถนาต่อไปในฐานที่ทรุดๆแหว่งๆเช่นนั้น ### สมเด็จองค์ปฐมท่านบอกว่าเพราะคนบางคนเค้ามีความทะเยอทะยานมากแต่เขาไม่รู้จักตัวเอง พ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าบางคนรู้ชีวิตว่าแย่อยากหาของมาเสริมพอได้ยินคำว่าจักรพรรดิ์ๆก็จะหาแต่เครื่องมงคลที่เป็นจักรพรรดิ์มาใช้เพราะคิดว่ามันใหญ่โตชีวิตเราจะใหญ่ตามเช่นนี้ โดยลืมคิดไปว่าของบางอย่างนั้นเขาทำให้ใครใช้ มันหนักเกินไปสำหรับชีวิตเราหรือไม่ เอามาแทนที่จะหนุนดวงมันจะทับดวงชะตาเรารึเปล่า เรามีบริวารที่ไหนเราปกครองใครหรือไม่ถึงไปเอามาใช้...เรามีความจำเป็นแค่ไหน
    เช่นนี้ท่านว่าสุขเท่าไหร่ รวยเท่าไหร่ มีเท่าไหร่ มันก็รังแต่จะรั่วจะไหลออกหมด ยิ่งฝืนมากมันก็ยิ่งพังยิ่งล้มง่าย ด้วยวาสนาที่เป็นพื้นฐานแต่ละคนมันรองรับไม่ไหว ด้วยไม่ได้เกิดมาเพื่อให้มีวาสนาเช่นนั้นแม้เพียรพยายามอย่างไรก็มีแต่จะพังพินาศย่อยยับลงไปไม่เป็นท่าเหลือเพียงความจำและสัญญาที่ปรากฏว่าเคยมีเคยไปถึงเพียงเท่านั้น ดังนั้นก่อนที่จะใช้จะถืออะไรท่านจึงว่าต้องแแก้ให้เขาที่ฐานรากเสียก่อนแก้ที่ตัววาสนาในชะตาเขา
    เหรียญหล่อรุ่นนี้ท่านจึงตั้งใจอย่างมากเพื่อที่จะ"ส่งคนหนุนกลับพันธะสัญญา" หนุนกลวาสนาชะตาชีวิตคน ท่านต้องลงแผ่นจารชนวนมวลสารชุดเฉพาะกิจขึ้นมาหุงเข้าด้วยธาตุกายสิทธิ์ ทั้งวัชรธาตุ หยาดน้ำฟ้าและปรอท ท่านวางระบบแบบจักรวาทิน
    ช้ชะตามหาจักรพรรดิผูกเข้า แทรกซึมไปในเนื้อตัวและวาสนาคนใช้คนรับไปอาราธนา อันมหาจักรพรรดิคือเจ้าแห่งราชาที่อยู่เหนือจอมราชันทั้งหลาย การจะเป็นมหาจักรพรรดิได้นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่แต่คนเขาจะยอมรับ หากแต่สามโลกแม้ในนรกหรือบนสวรรค์ก็ต้องยอมรับด้วย เรียกว่ามีอำนาจและบารมีสะกดภพภูมิทั้งหลายได้ไม่ครั่นคร้ามทีเดียว ดังนั้นเมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้ใช้บารมีมหาจักรพรรดิมาเป็นรากฐานเป็นวาสนาให้กับคน ***ไม่ใช่เอากำลังจักรพรรดิมาทับชีวิตคนที่วาสนาไม่ถึงให้ล้มลุกคลุกคลานยิ่งกว่าเดิม ท่านว่าตรงนี้สำคัญมากเพราะมหาจักรพรรดิมีบุญบารมี มีพระราชอำนาจเป็นอาญาสิทธิ์กดขี่สรรพชีวิตทั้งปวง ท่านทำเพื่อหนุนนำวาสนากลับฐานร้ายให้กลายเป็นดี พลิกฟื้นสิ่งที่เราสูญเสียไปให้กลับคืนมาเป็นของเราด้วยวิสัยวาสนาของมหาจักรพรรดิ สิ่งที่ได้มาแล้ว เป็นของเราแล้วย่อมไม่มีเสื่อมสูญไปทั้งยังจะได้มากขึ้น เพิ่มพูนขึ้น เรียกว่าแผ่กระจายรากฐานได้มั่นคงเป็นปึกแผ่นขึ้นตามคติจักรวาทินของการขยายพระราชอำนาจทั้งสิบทิศ
    พระเสริมรากฐานเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากนะ เพราะเรือที่เราจะนั่งนั้นถ้ารั่วขึ้นมาน้ำซัดหนุนชีวิตเราก็มีแต่จะพังจริงหรือไม่ ไม่ใช่จะมุ่งเน้นหาแต่บารมีที่ใหญ่คับฟ้าคับดินมาหนุนตัวเองทั้งที่ตัวเองรับไม่ได้เช่นนั้นชีวิตก็จะวนอยู่ในทุกขลาภเรื่อยไป เมื่อทำแล้วท่านว่าต้องหนุนรากให้แน่นฐานเราต้องแกร่งจะได้ต่อวาสนาคนใช้เสริมให้แกร่งแม้อยากจะทรุดก็ทรุดลงไปไม่ได้อีก
    ทั้งยังจะขยายขอบเขตอาณาบริเวณฐานรากเราออกไปเนืองๆด้วย กล่าวภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายก็คือเจริญแบบมั่นคงนั่นเอง ***พ่ออาจารย์ท่านว่าหลังๆนี้มีแต่คนเข้าใจผิดสรรหาอะไรที่เกินกำลังวาสนาชะตาตนมาเพื่อประสงค์จะสงเคราะห์ให้ชีวิตตนดีขึ้น แต่กลับกลายเป็นเอามากดทับตัวเองให้นิ่งสนิทยิ่งกว่าเก่า เช่นนั้นท่านจึงนำเหรียญหล่อน้ำอุ้มเรือนี้ออกมาแก้สถานการณ์เพื่อให้คนมีชีวิตดั่งน้ำอุ้มเรือ ไม่ใช่ใช้น้ำมาเพื่อจมเรือ


    เพราะความเปลี่ยนแปลงทางโลก ชะตากรรมของโลก การดับสูญของชีวิต ความทุกข์ความสุขแห่งช่วงชีวิต ความดีความชั่วที่กลมกลืนเป็นหนึ่ง กฏแห่งกรรมที่ตามติดดั่งเงา ยิ่งหนีก็จะยิ่งติดตาม ยิ่งพยายามหลบเลี่ยงมันก็จะยิ่งวิ่งเข้ามาหาเรา ด้วยประจักษ์รู้ดีเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ลบถมผงสำคัญหลายชนิดมาเข้ากับมวลสารสำคัญใช้ในการอุดพระพิมพ์น้ำอุ้มเรือนี้ ได้แก่
    - ผงหัวใจพระเจ้า อันจะใช้ปลดหนี้กรรมรวมถึงปิดอบายภูมิโดยเฉพาะ โดยเน้นขับกำลังให้เรามีดีจากข้างในสามารถปลดหนี้กรรมปิดทางอบายภูมิได้ ทั้งครูพรหมท่านยังกำชับไว้แต่เริ่มว่าผงวิชานี้นับเป็นธรรมขั้นสูง เมื่อนำมาทำของมงคลจะนำความเจริญรุ่งเรือง นำพาโชคลาภโภคทรัพย์มาให้ แม้พกติดตัวไว้ไปค้าไปขายก็จะได้กำไรดี อาราธนาเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคก็ได้ลาภมั่งมีเป็นกอบกำ จะมีชีวิตถึงขั้นเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีมีเงินใช้ไม่ขาดมือ ทั้งพลิกดวงชะตากลับร้ายกลายเป็นดีพลิกความจนให้เป็นความมั่งมี ทั้งยังหนุนดวงชะตา ใช้ค้ำชูชะตาหนุนดวงชะตาให้เจริญยิ่งขึ้นไปตลอดไม่มีวันตกต่ำ ทั้งยังทำได้ยากท่านได้ยกขันคายคือขันห้า ขันแปด ผ้าแดง,ผ้าขาวยาวศอก,เทียนพันเล่ม ท่านว่ามีสูตรการลงด้วยเมื่อแต่งขันคายแล้วจากนั้นก็ให้ลงโดยใช้สูตรแปดทิศาและสิบหกทิศา โดยกำหนดยามแต่ละยามและเป่าคาถาหันไปตามทิศนั้นก่อนลงอักขระพระคาถาวิชาพระเจ้าอุดมทรัพย์ ท่านว่าวิชานี้ลงยากเพราะเป็นวิชาธรรมในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยท่านได้นำมาไหว้ครูเชิญครูตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐม รวมไปถึงพระอรหันต์ขีณาสพทั้งหลาย โดยลงถมผงด้วยคุณธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งสามสิบแปดประการ ซ้ำลงเรียกลาภ เร่งลาภ ดึงลาภ หนุนทรัพย์ในดินหนุนกำลังพระธรณี พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันเชิญพระแม่ธรณีมาทำวิชาด้วย ตราบใดที่ยังมีแผ่นดิน ตราบใดที่เท้ายังเหยียบอยู่บนพื้นแผ่นดิน ที่จะรู้ยากรู้จน ที่ว่าไม่อุดมด้วยทรัพย์สินและโภคสมบัตินั้นเป็นไม่มีทีเดียว และด้วยอานุภาพของพระแม่ธรณีนี้ ทั้งผงนี้ยังมีพุทธคุณแฝงอีกด้วย แม้นว่ามีผู้ใดมุ่งร้ายมีจิตพยาบาทอาฆาตเรา หากเขาอยู่บนแผ่นดินของแม่ธรณีนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาทำอะไรเราไม่ได้เลย คนจะรวยจะเก่งแล้ว หากโดนสะกัดดาวรุ่ง โดนรังแก โดนให้ร้ายมันก็ไปไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง เช่นนี้ท่านจึงทำวิชาให้เกิดขึ้นพร้อมกัน ท่านว่าจะได้ไม่ประสบปัญหาจนชีวิตไม่สามารถก้าวและกระโดดต่อขึ้นไปได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าใครได้รับไปนับว่าโชคดีอย่างยิ่งเพราะวิชานี้เสด็จพระใหญ่ท่านกำชับมาว่าเป็นของจริงไม่มีวันเสื่อม ตราบใดที่พระเวทย์พระธรรมยังดำรงค์อยู่ในอนันตจักรวาลนี้ ตราบใดที่ธรรมอันสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายยังไม่เสื่อมลง ตราบใดที่จิตยังตั้งมั่นตระหนักในพระรัตนตรัย ธาตุธรรมอันเป็นธาตุตั้งต้นแห่งคุณวิชาย่อมไม่มีวันตกลงหรือเสื่อมจากจิตเราและจะคงอยู่กับเราเกื้อหนุนเราไปตลอดฉันใดก็ฉันนั้น ท่านว่านอกจากเป็นยอดของมหาลาภแล้วยังใช้ได้ครอบจักรวาล
    - ผงดินเจ็ดประตูชัย ถือคติว่าไปไหนดำเนินกิจการใดก็เอาฤกษ์เอาชัยไม่มีคำว่าแพ้
    - ผงดินท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสาร ท่านว่าจะมีอะไรมั่งคั่งสมบูรณ์เท่ากับคลังหลวงในพระราชวังอันยิ่งใหญ่ย่อมไม่มีอีกแล้ว ผงนี้ท่านเอาดินท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสารมาเข้ากับผงคตและแร่วิเศษต่างๆตำรับหลวงปู่เฒ่ายิ้มที่ท่านเสกเก็บไว้ ท่านว่าผงนี้เชื่อขนมกินได้เลย อุปมาเหมือนคนไร้ทุนซึ่งสมัยนี้คนไม่มีทุนไม่มีปัจจัยสะสมไว้มีอยู่มาก เรียกว่าคนไม่มีความพร้อมเช่นนั้นก็ได้ ท่านว่าอย่าว่าแต่คนไม่มีทุนเลย แม้คนที่ไม่มีอะไรเหลือแล้วยังมีกินขึ้นมาได้ ดังนั้นแม้ไม่มีทุนไปแต่ตัวก็ต้องได้ของดีกลับบ้านแน่นอนยิ่งกว่าแช่แป้ง หรือที่พูดกันว่าไปแต่ตัวแต่ต้องเจริญขึ้นจนกลับบ้านเช่นนี้
    - ผงยอดเศรษฐี นี่จะเรียกว่าโคตรเศรษฐีก็ได้ผงนี้ใครได้ไว้ท่านว่าทำอะไรไม่มีสะดุดเลย ด้วยเทวดาท่านแปลงมารักษาทุกอณูผงหากตั้งใจทำมาหากินแม้คำว่าเศรษฐีหรือมหาเศรษฐีก็ยังถือว่าน้อยไปพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องได้เป็นถึงยอดถึงโคตรเช่นนั้นพูดอีกทางนึงคือเป็นที่สุดนั่นเอง
    - ผงสุริยันทอแสง ท่านว่าผงนี้สำคัญอุปมาเหมือนดวงอาทิตย์ ตราบใดที่โลกยังต้องแสงอาทิตย์ หรือตราบใดที่แหงนหน้ามองฟ้ายังเห็นแสงอาทิตย์ ท่านว่าตราบนั้นคนที่มีผงนี้อยู่จะตกอับอาภัพโชคไม่ได้เลย เมื่อแสงตะวันยังอยู่ฉันใดเราจะรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ เจริญก้าวหน้าเช่นนั้น เสมอ ดุจว่าพระอาทิตย์ยังอยู่ยันต์นี้ผงนี้ก็ยังขลังตลอดไป คนที่ถือผงไว้จะหาความตกต่ำย่ำแย่ลำบากไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติยันต์นี้เป็นของสูงซึ่งโบราณจารย์ใช้ผูกกับดวงเมืองที่เสาหลักเมือง หนนี้ท่านเมตตานำมาทำเป็นผงลงให้ด้วยถือคติว่าเมื่อโลกแตกตะวันดับนั้นแหละเมืองถึงจะหายไป พระสำคัญนี้ก็เช่นกัน ตราบใดไม่สิ้นแสงตะวันคนใช้เขาก็ย่อมรุ่งโรจน์ไม่ขาดเงินเช่นนั้น
    - ผงโภคทรัพย์จินดามณี ท่านว่าผงนี้ก็สำคัญเพราะเป็นผงที่ใช้เบิกฤกษ์เปิดทาง ด้วยชีวิตคนนั้นหากทางปิด ดวงไม่เปิด ต่อให้ใช้พระทางโชคลาภก็ไร้ผล ท่านว่าแม้ถือฉลากรางวัลที่หนึ่งอยู่ในมือก็ยังมีเหตุให้ขึ้นเงินไม่ได้ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำให้เพื่อเปิดทางโภคทรัพย์แบบเต็มกำลังทั้งเก้าฤกษ์ ให้กำลังนั้นหนุนนำ นำพาวาสนาเงินทองเข้าหาชีวิต
    - ผงธนทรัพย์เก้าฤกษ์ ท่านว่าดีทุกวัน ดีทุกฤกษ์ จะเรียกว่าผงห้ามจนหรือจนไม่เป็นก็ได้ ผงนี้จะมีคุณเน้นไปทางหาทรัพย์ง่าย ได้ทรัพย์แต่ละครั้งเป็นกอบเป็นกำ ดั่งที่โบราณว่าไว้ว่าผงยันต์นี้อยู่กับใครจะเป็นเจ้าสัวมีทรัพย์มาก ด้วยทรัพย์นั้นใช้ทั้งชาตินี้ไปจนถึงชาติหน้าก็ยังไม่หมด
    - ผงไม้รอดคุก ด้วยท่านถือคติว่าหากติดอยู่ในคุกก็โดนจำกัดสิทธิเสรีภาพเป็นทุกข์อย่างที่สุด แต่หากรอดจากคุกแล้วนั่นก็คือชีวิตพ้นจากความจำกัด รอดแล้ว พ้นแล้ว รอดจากความทุกข์แล้ว โดยท่านได้นำไม้รอดคุกหรือทุกข์นี้มาเสกเพิ่มอาถรรพ์ก่อนพลีเป็นผง
    - ผงหงส์คาบทรัพย์ ท่านว่าผงนี้เร่งให้เจริญ เจริญไปพร้อมกับความสุขไม่มีทุกข์เจือปน ห้ามเจ็บ ห้ามจน สุขล้นไปกับเงินทอง
    - ผงมอญแปลงหาทรัพย์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาหาทรัพย์ เพิ่มทรัพย์ ใช้ให้เงินทองไหลมาเทมา ทำอะไรก็สะดวก มีแต่กำไรไม่ขาดทุน จับอะไรก็ได้กำไร
    - ผงครุฑตะปบเหยื่อ ท่านว่าหมายมั่นปั้นมือจะทำกิจใดแล้วไม่มีรอด ไม่พ้นมือ ดุจเรากำหนดได้ ทุกสิ่งอยู่ในกำมือเราเช่นนั้น
    - ผงปัจเจกโพธิ์ ท่านว่ามีเงินทองทั้งยามหลับยามตื่น ลาภไหลมาไม่ขาด ทุกความปรารถนาจะต้องสำเร็จสมหวัง มีลาภสักการะมาก แลจักร่ำรวยในที่สุด
    - ผงพระเจ้าขอลาภ ตำราว่าแม้มีทุกข์เข็ญเมื่อเอ่ยปากก็ต้องผ่านพ้นไป แม้เกิดทุพภิกขภัยหากปรารถนาแล้วไซร้ก็ยังผ่านพ้นกลับคืนความเจริญได้ฉันใดก็ฉันนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาสั้นๆขออะไรกับองค์พระท่านก็ให้
    - ผงบุญญานุภาพพระสีวลี ท่านว่าผงนี้อยู่ไหนที่นั่นร่มเย็น อิ่ม อุดมสมบูรณ์ ไม่อดไม่อยาก เจริญด้วยเงินทองโภคสมบัติ พร้อมทั้งศุภมงคลได้แก่อายุ วรรณะ สุขะ พละ แกร่งกล้าบริบูรณ์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านอุปมาดุจบุญของพระสีวลี ท่านว่าต่อให้บ้านเมืองเข้าสู่ยุคเข็ญแต่ด้วยบุญญานุภาพฝนที่แล้งก็ยังตก น้ำคลองที่แห้งขอดยังกลับมาเต็ม ป่าไม้ที่ยืนต้นตายยังกลับมาเขียวชอุ่ม เปลี่ยนจากความแห้งแล้งอดอยากเป็นความอุดมสมบูรณ์ คนที่เจ็บที่จนจะฟื้นตัว
    - ผงแก้กลมหาปราบโลก พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือสุดยอดผงที่เป็นมหาปราบได้ทั้งโลก ทั้งยังแก้กลคุณวิชาอาเพทและเคราะห์กรรมการกระทำด้วยไสยเวทย์แลภูติผีต่าง ท่านว่าทำยากมาก ต้องใช้ว่านแสงอาทิตย์ ว่านไพรเหลือง ไพรดำ ขมิ้นอ้อย ขมิ้นชัน ขมิ้นขาว ขมิ้นดี ขมิ้นทอง หมุยดำ หมุยขาว หมุยช้าง เฉียงพร้า หนามแสงขัน หนามเพดาษ หนามงับ ระงับใหญ่ ข่าตาแดง ขิง พริกไทย เจ็ตมูลเพลิง บอระเพ็ช ว่านน้ำ พัดแม่ชี หมากผู้ ปด บอน หิ่งหายผี บังบาย หนาด เข็ดมอญ หญ้าคา ว่านโมกขศักดิ์ ว่านมหาปราบ ว่านพะตะบะ ว่านสามพันตรึง ว่านหนุมาน ว่านนางคุ้ม ว่านสากเหล็ก หนามจันทัน หนามบ้อง ชิงชาลี ธรณีสาร ส้มป่อย คนทีดำ งิ้วดำ งิ้วขาว เปราะลาย พญาว่าน กำแพงเจ็ดชั้น ใบมะกรูด ใบมะนาวผงยันต์พระเจ้าสิบหกพระองค์ ผงงาช้าง ผงเขี้ยวต่างๆ ผงเขาวัวเขาควาย ผงปรายหอกปลายดาบ ข้าวสาร๓สี ตะใคร่เสมา ตะใคร่เจดีย์ ผงชันเพ็ช นำผงเครื่องยามานวดด้วยน้ำฝนเดือนห้าห่าแรก น้ำฝนตกแดดออก น้ำสามบึง น้ำสามบ่อ น้ำสามสระ น้ำค้าง น้ำกาไม่ทันข้าม ก่อนนำมาเข้ากับผงลำผีพ่าย ผงไล่ผีหนี ผงตีผีตาย ผงยันต์ตรีนิสิงเห ผงยันต์นอโม ผงยันต์อิติโปโสแปดทิศ ผงยันต์ไตรสรณคมณ์ ก่อนที่พ่ออาจารย์จะปั้นแท่งผงเพื่อลงยันต์แก้กลมหาปราบโลก เมื่อได้ผงวิเศษแล้วท่านได้นำผงนี้เข้าพิธีกองกูณฑ์อัคคีหรือบูชาไฟถวายแก่ครูพระสยมอีกวาระหนึ่งเพื่อให้มีอิทธิคุณแรงกล้าสูงสุด ***ผงยานี้มีอานุภาพแรงมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้ทั้งแก้คุณไสย แก้ของ แก้มนต์ดำ แก้ผีขับไล่วิญญาณร้าย แก้ภูติ แก้พราย ใช้แก้สารพัดผี แก้มนต์ แก้อาถรรพ์ แก้อาเพท แก้อุบาทว์ แก้เสนียดจัญไร แก้เสน่ห์ยาแฝด แก้ยาสั่ง แก้ยาพิษ แก้มนต์บังตาร้านค้า แก้อาถรรพ์ที่บังเกิดในแผ่นดิน แก้คุณไสยที่เข้าทำไว้ในแผ่นดิน แก้ที่ทาง แก้ที่ดินเป็นอาเพท แก้อาคมลมใน แก้โรคร้ายต่างๆที่เกิดจากสิ่งที่มองไม่เห็นตัว แก้อาถรรพ์ทั้งมวลในแผ่นดินที่ดลให้ทำมาหากินไม่ขึ้น โชคลาภติดขัด วาสนาไม่ผลิดอกออกผล ผงนี้มีอานุภาพมากพ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ป่าช้าผีดุหากนำผงนี้ซัดเข้าไปป่าช้านั่นก็ย่อมร้างทันที

    ทั้งนี้ด้านหลังพ่ออาจารย์ท่านยังฝังเครื่องมงคลสำคัญเอาไว้ด้วยสองสิ่ง นั่นคือ
    - ดาบประหารตัดกรรม ด้วยเสด็จพระใหญ่ท่านให้พ่ออาจารย์มาหล่อดาบคู่เป็นเครื่องหมายกากบาทที่จะหยุดห้ามและประหารความทุกข์ทั้งปวง ### โดยท่านเน้นย้ำมากว่าต้องเป็นดาบคู่วางกากบาทเท่านั้นจึงจะมีกฤติยาคมแฝดใช้ห้ามทุกข์ภัยให้พ้นตัวได้(ดีกว่ารอให้ภัยมาเยือนถึงค่อยตัด)แล้วท่านจะลงมาทำให้ทั้งยังชุมนุมเทพพรหมและวิสุทธิเทพทั้งหลายให้เอง... ซึ่งเมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้ทำแล้วจึงนำมาฝังไว้ในพระพิมพ์"น้ำอุ้มเรือ"นี้
    ดาบของพ่ออาจารย์ท่านดีอย่างไร

    ด้วยวิชาดาบสะหรีนั้นถือเป็นศาสตราวุธคู่พระวรกายของพระมหากษัตริย์หรือผู้ปกครองบ้านเมืองที่มีบุญบารมีประดุจเทพเจ้า เนื่องจากแต่เดิมนั้นเชื่อกันมาว่าเป็นศาตราวุธแห่งเทพเจ้ามาก่อน เป็นอาวุธคู่กายที่ใช้ทั้งในด้านการป้องกันสิ่งชั่วร้าย และการดลบันดาลหรือเนรมิตสิ่งต่างๆได้ตามบุญบารมีของผู้ครอบครอง จะเรียกว่าเป็นเครื่องสูงที่คู่ควรกับคนที่มีบุญญาธิการก็ได้เชื่อว่าเป็นเทพศาสตราวุธของพระอินทร์เป็นตัวแทนอำนาจจากเบื้องบนที่ทรงความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่ถือครองจึงเสมือนเป็นผู้ได้รับอำนาจจากเทวราชเบื้องบน โดยท่านใช้กายสิทธิ์ธาตุเงินยวงมาผสมกับตะปูสังขวานรซึ่งเป็นตะปูโบราณที่เอาไว้ยึดเครื่องไม้ในอุโบสถมาหลอมเข้ากับตะปูโลงศพที่ใช้ตรึงโลงไม่ให้ภูติผีวิญญาณหลุดออกมาโดยขอให้สัปเหร่อเก็บไว้ ทั้งยังต้องเข้ากับบาตรแตกหรือบาตรพระที่ชำรุด และเหล็กน้ำพี้ ตลอดจนผาลไถชำรุดอีกด้วย ท่านว่าทำให้เต็มสูตรการสร้างมีดที่มีอาถรรพ์ในตัวเองนับแต่เริ่มตามสูตรบูรพาจารย์ยุคโบราณนั่นทีเดียว
    "ดาบตัดกรรม" เมื่อท่านจะทำนั้นท่านได้พิจารณาถึงสภาวะของมนุษย์โดยรวมก่อน ว่าจะทำเครื่องรางให้เขารวยเพียงเท่านั้นมันคงไม่พอ เพราะถ้าจะรวยต้องต้านกระแสกรรมหนักได้ด้วย ไม่เช่นนั้นเครื่องรางก็ไม่สามารถส่งผลอะไรได้มากเนื่องจากสัตว์โลกยังอยู่ในกฏของกรรม จำต้องทำเครื่องสูงที่มีอานุภาพส่งผลโดยตรงกับกรรมนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงมาพิจารณาว่าจริงแท้ทีเดียว เครื่องรางประเภทดาบที่สร้างได้ถูกต้องปลุกเสกมาดีนั้นย่อมมีอานุภาพสูงสามารถใช้ริดรอนกรรมเก่าได้ เพราะเป็นของสูงใช้ผ่าใช้ตัดได้ทุกสิ่งและสำเร็จด้วยพุทธคุณเป็นไปด้วยพุทธานุภาพและพรหมานุภาพ เมื่อท่านพิจารณาเช่นนี้แล้วจึงคิดว่าจะทำไว้เสียครั้งหนึ่งท่านว่าดาบนี้ต้องเก่งและต้องใช้ได้ดีมากทำตามตำราทุกอย่าง โดยท่านเสกตามตำราพิชัยสงครามประจุคุณจนเต็มทีละเล่ม ท่านว่าทำทั้งทีต้องให้ดีที่สุด ลงด้วยวิชาลงเครื่องสูงลงตามเครื่องพิชัยสงครา, สำหรับถวายเจ้านาย เป็นพระแสงดาบที่ใครได้ครองไว้ ไม่ใช่จะมีแต่บุญ ยังต้องยิ่งด้วยบารมีที่สั่งสมมามากจึงจะได้พานพบและครอบครองได้ เมื่อได้ดาบตัดกรรมแล้วท่านได้เชิญครูขอเมตตาให้ท่านลงประสิทธิ์ให้อีกวาระหนึ่งด้วยดาบนี้ก่อนที่จะฝังท่านยังนำมาแช่อธิษฐานจิตในน้ำล้างดาบสังหารของเพชรฆาต ท่านว่าเอาอาถรรพ์เคล็ดวิชาที่ใช้คร่าชีวิตคนได้จริง ด้วยชีวิตก็คือสิ่งที่มีค่าที่สุด ถือว่าดาบนี้พิฆาตได้แม้กระทั่งสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับมนุษย์ ดังนั้นสิ่งมีค่าอื่นใดยิ่งไปกว่านี้ย่อมไม่มี ดาบนี้เป็นดาบฟันดะ ฟันลูกเดียว มีอะไรฟันเข้าเราหมด กอบโกยไว้หมดไม่เหลือให้ผู้อื่น ท่านว่าอธิษฐานจิตดีๆเวลาจะใช้จะเอาอะไรอยากได้อะไร อยากได้คนก็นึกถึงหน้าเขาเอาดาบฟันไป อยากได้โชคลาภจะเสี่ยงดวงก็มองไปที่หน้าเขาจินตภาพว่าเราเอาดาบฟันไป จะเจรจางานใหญ่ทำสิ่งสำคัญก็เหมือนกันท่านว่ามองหน้าเขาคิดว่าเราเอาดาบฟันไป อาถรรพ์คุณวิชาได้ลูกเดียวฟันลูกเดียวเป็นแบบนี้ดาบนี้ฝังไว้เป็นอาถรรพ์เพื่ออธิษฐานเวลาฟันแล้วยังเท่ากับตัดและริดรอนผลกรรมให้เราด้วยอาถรรพ์แห่งไสยเวทย์ ทั้งยังเปิดช่องทางทำกินเปิดโอกาสชีวิตคนได้ด้วยคตินี้
    เสด็จพระใหญ่ท่านทำให้เป็นสัญลักษณ์ของการควบคุมนามธรรมในจักรวาลใช้ในการตัดและประหารทั้งความมืด แสงสว่าง ความดี ความชั่ว ความสุข ความเดือดร้อน เคราะห์ร้าย ภัยพิบัติ..... (สิ่งที่เป็นนามไร้รูปร่างแตะต้องไม่ได้เช่นนั้น) ทั้งยังควบคุมอำนาจและความเป็นสิริมงคลทั้งปวงพ่ออาจารย์ท่านว่าตัวดาบนั้นเป็นสิ่งเล็กๆที่สร้างให้เกิดวงจรอันยิ่งใหญ่ เพื่อสนองตอบกับปัจจัยสี่ข้อหนุนเสริมผู้ครอบครองคือ ความยิ่งใหญ่,ความสุข,ความมั่งคั่ง,ความไม่มีโรคมีอายุยืนยาว ซึ่งปัจจัยทั้งสี่นี้ท่านว่าเป็นเสมือนพรมงคลที่แม้แต่ทวยเทพยังทำให้ไม่ได้ ตรงนี้ถือว่าสำคัญมาก ทั้งดาบตัดกรรมยังเป็นสัญลักษณ์แสดงอำนาจเหนือกรรมลิขิตของเทพเจ้าเพื่อรวมศูนย์พลังงานจักรวาลอันเป็นพลังมงคลที่ต่อต้านความหายนะ พินาศ ฉิบหายของอกุศลและความมัวหมองได้อย่างน่าฉงน
    เครื่องหมายกากบาทคือห้ามนั้น ท่านว่าใช้ได้ทั้งห้ามทุกข์ห้ามโศกต่างๆหากเข้ามาใกล้ต้องโดนตัดโดนประหารทั้งสิ้น ทั้งตัดทั้งห้ามทุกข์ภัยที่จะมาถึง ท่านว่าดาบนี้แรงนะเป็นดาบสายกำราบปราบปราม ตอนเสกเสร็จยังต้องแยกเสกอีกหนหนึ่งเชิญเทพสงครามทั้งยังครูที่มีฤทธิ์รุนแรงมาสำเร็จให้ด้วยหลายวาระ พ่ออาจารย์ท่านว่าแรงอย่างไรก็เป็นเรื่องปัจจัตตังพูดมากไม่ได้ แต่บอกได้คำเดียวว่าแรงจริงๆเพื่อให้พลังงานคอยปราบปรามสิ่งชั่วร้าย ปิดกั้นทุกข์โทษโทสาทั้งหลายให้เข้าไม่ถึงตัว ดาบนี้สำคัญนักเพราะสามารถขจัดศัตรูตลอดจนทำลายอุปสรรคขัดขวางให้แก่ผู้บูชาได้ ใครโดนกลั่นแกล้งใส่ความ กระทำด้วยทุจริต ชีวิตโดนรังแกไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่อย่างใด ท่านว่าแก้ไขได้หมด หรือแม้แต่คุณไสย ไสยศาสตร์มนตร์ดำชาติไหนภาษาใด พ่ออาจารย์ท่านว่านี่พ่ายแพ้อานุภาพไม่มีได้กินซ้ำยังปรับเสริมแก้ไขอุบาทว์ตัวทุกข์ตัวเคราะห์ตลอดจนสิ่งอัปมงคลทั้งหลายทั้งภายในภายนอกด้วย เพราะเป็นดาบดับล้างท่านว่าคนอาราธนาจะไม่เจออุบัติเหตุร้ายแรงสิ่งใดเลยมาแผ้วพาลกับชีวิต จะไม่เจอเหตุที่ทำให้ตื่นตระหนก ไม่พบสาเหตุใดที่นำเราออกจากชีวิตอันสันติและผาสุกจากการครองเรือน นอกจากการกันแก้อาถรรพ์ร้าย ล้างบางอวิชชา ให้โทษกับมารยาทุจริต
    นอกจากนั้นวิชาสร้างเทพศาสตราของพ่ออาจารย์ยังใช้ได้อีกหลายทาง ดังนี้
    - ใช้ป้องกันอันตรายทั้งหลายเมื่ออยู่กับตัวผู้ใช้
    - ทักให้ตกใจเมื่อมีภัยมาเช่นการสั่นหรือกะตุก เพื่อเตือนผู้บูชาให้ระมัดระวังเหตุแห่งอันตราย
    - ผ่อนกรรมหนักเป็นเบา
    - เป็นที่ยำเกรงต่อศัตรู เป็นมหาอำนาจ ป้องกันฟ้าผ่า
    - สยบภูตผีปีศาจ ถอดถอนเสนียดจัญไร
    - แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยพิบัติ ไม่ว่าจะมาจากน้ำมือของเทวดา มนุษย์ และผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ก็มลายหายไปอย่างสิ้นเชิง
    - ใช้อาราธนาทำน้ำมนต์แก้คุณไสย แก้เสนียดจัญไรต่างๆลมเพลมพัด ฝังรูปฝังรอย ผีเข้าเจ้าสิง ตลอดจนฝันร้ายต่างๆ ได้
    - ป้องกันอสรพิษแลสัตว์ที่มีเขี้ยว มีงาทั้งหลาย เมื่อมีดาบเทพอาวุธติดตัว
    - ป้องกันคุณไสย คุณผี คุณมนต์แลอาถรรพ์ลมเพลมพัด กันกระทำย่ำยี
    - เป็นได้ทั้งมหาอำนาจ เป็นเมตตา เป็นแคล้วคลาด เป็นมหาอุตม์ ตามสภาวะจิตการอธิษฐานใช้
    - ป้องกันตัวจากศัตรูที่มุ่งร้าย ดูแลผู้เป็นเจ้าของเทพศาสตราให้พ้นขาดจากศัตรูที่หวังปองร้าย พ้นจากอำนาจที่รุนแรงอันคิดจะทำลายเจ้าของ
    - ใช้ขับไล่ภูตผีปีศาจที่เข้าสิงคน หรือมีผู้ปล่อยมาให้มาเข้าสิงไม่ว่าจะโดยปกติวิสัยหรือมีคนใช้ให้กระทำมา
    - เก็บบูชาไว้ในบ้านป้องกันอัคคีภัยและโจรภัย
    - เมื่ออาราธนาดาบแล้ว ในยามมีอันตรายจะรู้ตัวก่อนทุกครั้งไป
    - ใช้คัดของถอนของ ถอนอาถรรพ์ที่รุนแรงตลอดจนความคงกระพันต่างๆนาๆได้ แม้ว่าผู้นั้นจะมียันต์สักอยู่เต็มตัวและเป็นยันต์ที่มีความแข็งแกร่งมากเพียงใดก็ดี หรือจะมีเครื่องมงคลวิเศษใดที่ทำให้ผู้นั้นมีความคงกระพัน เทพศาสตรานั้นสามารถทำลายความคงกระพันตลอดจนอาถรรพ์วิชาทั้งหลายได้อย่างง่ายดาย แม้จะเป็นอาถรรพ์จากการกินว่านยาหรือวิชาของดีอื่นๆ เมื่อเจอกับเครื่องสูงเช่นเทพศาสตราก็ยังต้องยอมสยบให้ เมื่อผจญด้วยผู้คิดร้ายที่มีวิชาทั้งหลายความขลังเหล่านั้นจะค่อยๆหมดลง
    - เมื่อไปต่างถิ่น ต่างบ้าน ต่างเมือง หรือนอนกลางดินกินกลางทรายในป่าให้เอาปลายดาบกล่าวขอขมาแม่พระธรณี แล้วขีดลงไปเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือรูปวงกลมรอบๆตัวของผู้ที่นอน มดและสัตว์ต่างๆตลอดจนภูติผีปีศาจจะไม่มาเข้าใกล้(อาราธนาพระท่านว่าก้ให้นึกเอาว่าใช้ดาบขีดลงใช้ได้เหมือนกัน)......


    - ตะกรุดวิชาพัดโบก แต่โบราณที่ทำไว้จนโด่งดังเห็นจะมีหลวงปู่กราด หลวงปู่ทิม หลวงปู่อี๋เช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านก็เช่นกันที่ผ่านมาเคยมีคนถามหาว่าพ่ออาจารย์ท่านลงวิชาพัดโบกแบบเต็มวิชามั๊ยอยากจะได้ไว้บูชา เพราะพวกเขารู้กันดีว่าวิชานี้เป็นของในตำนาน หาคนลงคนเสกได้ยาก ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ให้บอกแต่เพียงว่า ครูเก่าครูก่อนครูผู้เฒ่า ท่านทำของท่านมาดีแล้ว อยากได้ก็ไปหาเอาโน่น หลวงปู่กราด หลวงปู่ทิม หลวงพ่ออี๋โน่น ซึ่งทุกคนล้วนแต่บ่นกันไม่หยุด เพราะของเก่าแท้ๆนั้นหาได้ยากและมีราคาแพง ใครทันได้ยุคนั้นก็หวงแหนดุจมรดก จะให้ไปหาของเก่านั้นมันเกินกำลังและไม่รู้จะไปหาที่ไหนพัดโบกของเรานั้นเราทำด้วยเคล็ดวิชา แตกต่างจากครูในอดีตเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเรา นอกจากจะลงวิชาพัดโบกไว้แล้ว ยังเป็นพัดแก้วของจักรพรรดิ เป็นวิชาพัดโบกสายจักรพรรดิจะปัดเสียซึ่งอุบาทว์จัญไรทั้งปวงออกไป ให้ชีวิตกลับตาลปัตรในบัดดลทันที ที่เลวร้ายให้กลับมาดี ที่ดีก็ให้พบชะตาวาสนาที่สูงขึ้น ทั้งพัดนี้ยังใช้พัดความเจริญ โชคลาภ ความสุขเข้ามาได้ โบกความทุกข์ โรคภัย กรรมเวรให้ออกไปก็ได้ ท่านว่าสำหรับคนที่สถานการณ์ชีวิตตึงเครียด วิชาพัดโบกนี้จะช่วยผ่อนลงได้ ทั้งขจัด ปัด ขับไล่ รักษา เยียวยา ทำให้คลายลง ทุเลาลง บรรเทาลง แก้ความลำบากยุ่งยากขัดข้องให้หมดไปพอได้ฤกษ์งามยามดีจึงนำไปปลุกเสกด้วยคาถาพัดโบกอีกคำรบหนึ่งพร้อมทั้งเชิญบารมีพระมหาจักรพรรดิลงมาช่วยสำเร็จวิชาพัดนี้ด้วย ท่านว่าต้องเสกจนตะกรุดนั้นสั่นสะเทือนเหมือนต้องลม บ้างก็ปลิวก็กระเด็นออกนอกพาน จึงจะถือมาสำเร็จตามตำรา ถ้าเสกแล้วไม่สั่นตะกรุดอยู่นิ่งๆท่านว่าใช้อย่างไรก็ใช้ไม่ได้ เพราะเสกไม่สำเร็จ ไม่มีอานุภาพ
    อันตะกรุดพัดโบกนี้จะใช้เป็นเมตตามหานิยม ท่านว่าแม้พกไว้เฉยๆกับตัว คนที่ค้าขายก็จะขายของดีเป็นเทน้ำเทท่า ที่ทำกิจการอื่นๆลูกค้าก็จะเข้ามาก อุดหนุนมาก เป็นที่รักแก่คนทั้งหลาย แต่ถ้าจะเล่นทางผู้หญิงอย่างเดียว ท่านว่าพัดนี้ให้ต้องลมพัดไปทางทิศไหนที่มีสตรีที่เราหมายปอง สตรีนั้นเมื่อถูกต้องคุณวิชาพัดโบก แม้ว่ากำลังไถนาอยู่ก็ถึงกับทิ้งคันไถตามชายที่มีพัดโบกไปทันที แต่มีข้อแม้ว่าเมื่อได้เขาเป็นภรรยาแล้วต้องเลี้ยงดูเขา ห้ามทิ้งขว้างอย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นจะเกิดโทษภายหลัง
    วิชานี้นับว่ามีอุปเท่ห์หลายอย่างไม่ว่าจะเรียกคน เพียงนึกถึงใครให้ท่องคาถาพัดโบกแล้วยืนเหนือลมให้ลมพัดแล้วอธิษฐานไปทำไม่เกินเจ็ดวันคนที่เรานึกถึงต้องมาหา ถ้าเกลียดใคร ใครมาบ้านอย่างเจ้าหนี้มาทวงหรือคนที่เราไม่ต้องการมาหาภาวนาคาถาจากที่โบกเข้ามาก็ให้เปลี่ยนเป็นโบกออกไป คนที่เราไม่ต้องการพบเขาจะกลับไปทันทีวิชานี้นอกจากจะเอาไว้โบกใช้เป็นเสน่ห์ให้หญิงสาวลุ่มหลงชนิดเดินตามกลับบ้านแล้ว ยังนำไปใช้ในทางที่ดีๆให้ธุรกิจ กิจการตนเองเจริญรุ่งเรือง มีคนอุดหนุน มีคู่ค้าเยอะกว่าปกติได้อีกด้วย เรียกได้ว่าวิชาพัดโบกพิเศษนี้จะใช้พัดให้คนมาหาก็ได้ หรือแม้แต่จะใช้โบกให้กลับไปก็ได้ถ้าเราไม่ต้องการประสบพบหน้า พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้หลายทางขึ้นอยู่กับเจตนาว่าจะดีหรือชั่ว จะใช้ทางไหน จะโบกเอาอะไร ท่านว่าถ้าโบกเป็นก็ได้ทรัพย์สินศฤงคาร ได้สิ่งที่ดีในชีวิตวิชาพัดโบกนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจจะทำเต็มวิชาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ท่านว่าไม่ใช่เพราะเครื่องยาหายากและบางอย่างมีราคาสูงมากจนประเมินค่านับแสนนับล้านบาทแม้กระทั่งขาดซักอย่างยังไม่ได้ แต่ที่ยากจริงๆคือทำแล้วต้องเสกให้สำเร็จปรากฏเหตุนิมิตต้องตำราถึงจะมีอิทธิคุณเสมอด้วยของที่ครูเก่าก่อนท่านทำไว้


    คาถาบูชา
    อุอากะสะ นะชาลิติประสิทธิลาภา มหาลาโภ โชคะวันตัง เอหิจงมา ธะนะปาตัง มากะมายังอักขะโต ปาระติโย วันทิตตะวา นะมามิหัง (ท่านว่าหมั่นสวดบูชาแล้วเงินเต็มมือ ทรัพย์ไม่พร่อง)
    - อาราธนาดาบตัดกรรม ให้อาราธนาพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยเจ้าทั้งหมด พรหมและเทวดาทั้งหมด ครูบาอาจารย์ และท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง4
    พุทโธ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ ธัมโม ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ สังโฆ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ
    - ถ้าใช้รักษาโรค บรรเทาเวรกรรม ให้เอาองค์พระเเตะศรีษะแล้วว่าคาถา
    ทุกขา ทุกขัง ปฏิฐิตัง สัมปติฉามิ


    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระรุ่นนี้ฉันตั้งใจเสกให้มีปาฏิหาริย์มาก ทุกขั้นตอนตั้งแต่ทำผงไปจนถึงเทองค์พระ เพื่อให้คนนำไปใช้เจอปาฏิหาริย์เสมอกัน ท่านว่าคนใช้พระที่องค์หนึ่งทำในฤกษ์กับอีกองค์ไม่ตรงฤกษ์หรือฤกษ์ต่างกันเช่นนี้ผลที่ได้ก็ย่อมไม่เท่ากัน พ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นเรื่องฤกษ์ยามมาก ท่านว่าขอแค่มีฤกษ์แม้บางครั้งตีสามตี่สี่ก็ต้องนั่งรอทำ ซ้ำเมื่อเสกองค์ปฐมท่านให้เอาพระใส่เรือท่านก็เอาใส่เรือเสกโดยต้องผูกเรือลอยเอาไว้ช่วงหนึ่งและเสกจนเรือลอยทวนน้ำได้..อึดใจจึงสำเร็จ ท่านว่าถ้าเรือลอยทวนน้ำแปลว่าน้ำอุ้มเรือพระนี้ใช้ทวนกระแสชะตากรรมได้แล้ว ซ้ำที่ผ่านมาวันโกนวันพระวันดีคืนดีก็จะปรากฏดวงแก้วสุกสว่างลอยออกมาจากเครื่องมงคลชุดนี้คล้ายกับปรากฏการณ์การเสด็จหรือเล่นฤทธิ์ของพระธาตุหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านว่าพระรุ่นนี้ฉันอธิษฐานฝากองค์ปฐมท่านให้ท่านส่งคนใช้ให้ถึงฝั่ง ให้เขามีความสุขไม่เดือนร้อนทั้งกายและใจ มีพลังมากทั้งกำลังกายและกำลังสติปัญญา ประสบความสุขความเจริญครบถ้วน ท่านว่าทำให้ทุกอย่างแล้ว ต่อให้แย่แค่ไหนได้ไปก็ต้องดีขึ้น ต้องดีวันดีคืน ไม่มีคำว่าขาดแคลน

    *** พระชุดน้ำอุ้มเรือนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอาราธนาใช้ได้หลายทาง เมื่อจะออกให้บูชาท่านยังต้องปิดวาจาเสกอีกสามวันสามคืนเพื่อจะถามสมเด็จองค์ปฐมท่านให้อนุญาติและเชิญท่านประสิทธิเมทำให้เต็มกำลังอีกคำรบหนึ่ง โดยองค์พระนั้นจะมีปรากฏบางองค์เห็นได้ชัดว่ากลางอกนั้นจะเป็นเสมือนตอกโค๊ตไว้ ซึ่งโดยแท้จริงพ่ออาจารย์ท่านไม่ได้ทำอะไรเลย อักขระนั้นลอยออกมาเอง บางองค์ก็เป็นตัวพุทธ บางองค์ก็เป็นตัวนะ บางองค์ก็ชัด บางองค์ก็เลือนปรากฏอยู่บริเวณหน้าอกเป็นไปโดยพุทธานุภาพหลังจากเสกปิดวาจาเสร็จ(ท่านว่าเสกจนอักขระลอยท่านจึงให้พอ) พระรุ่นนี้ท่านสร้างไว้ทั้งหมดหกองค์ท่านเก็บไว้อาราธนาเององค์หนึ่งจึงมีเหลือจองห้าองค์ ท่านว่าจะมีเฉพาะผู้ที่ถูกเลือกจากองค์พระเท่านั้นจึงจะมาเอาไปบูชาได้ เหมือนเรือลำนี้จะมีเฉพาะผู้ที่จะรอดเท่านั้นถึงขึ้นเหยียบได้ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้แจ้งวันเดือนปีเกิดเวลาตกฝากและปัญหาชีวิตเอาไว้ด้วย รายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนกองทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าปิดทุกข์ลาภทรงนาวาส่งคนหนุนกลับพันธะสัญญา (ดาบประหารตัดกรรม) บูชา 4,000 บาท

    75323354-2467898320153407-7859727294833623040-n.jpg 73417719-1166645586868761-4582206277735677952-n.jpg
    74682746-709591326192629-2992098231002857472-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2019
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,476
    ค่าพลัง:
    +17,873
    ร่วมทำบุญบูชา จี้ดาบคู่ตัดกรรมประหารทุกข์ลาภ (ผงพระสุเมรุค้ำฟ้า,มหาพรหมซ้อนเงา)

    ดาบประหารตัดกรรม ด้วยเสด็จพระใหญ่ท่านให้พ่ออาจารย์หล่อดาบคู่เป็นเครื่องหมายกากบาทที่จะหยุดห้ามและประหารความทุกข์ทั้งปวง ### โดยท่านเน้นย้ำมากว่าต้องเป็นดาบคู่วางกากบาทเท่านั้นจึงจะมีกฤติยาคมแฝดใช้ห้ามทุกข์ภัยให้พ้นตัวได้(ดีกว่ารอให้ภัยมาเยือนถึงค่อยตัด ดาบคู่นั้นมีอาถรรพ์มากเพราะใช้ห้ามไม่ให้เข้าถึงตัว) แล้วท่านจะลงมาทำให้ทั้งยังชุมนุมเทพพรหมและวิสุทธิเทพทั้งหลายให้เอง... ซึ่งเมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้ทำแล้วส่วนหนึ่งท่านได้นำมาฝังไว้ในพระพิมพ์"น้ำอุ้มเรือ" ส่วนที่เหลือท่านจึงนำไปปั้นติดกับผงวิเศษอันทรงกฤติยาคมที่ท่านเคยลบถมไว้

    ดาบของพ่ออาจารย์ท่านดีอย่างไร
    ด้วยวิชาดาบสะหรีนั้นถือเป็นศาสตราวุธคู่พระวรกายของพระมหากษัตริย์หรือผู้ปกครองบ้านเมืองที่มีบุญบารมีประดุจเทพเจ้า เนื่องจากแต่เดิมนั้นเชื่อกันมาว่าเป็นศาตราวุธแห่งเทพเจ้ามาก่อน เป็นอาวุธคู่กายที่ใช้ทั้งในด้านการป้องกันสิ่งชั่วร้าย และการดลบันดาลหรือเนรมิตสิ่งต่างๆได้ตามบุญบารมีของผู้ครอบครอง จะเรียกว่าเป็นเครื่องสูงที่คู่ควรกับคนที่มีบุญญาธิการก็ได้เชื่อว่าเป็นเทพศาสตราวุธของพระอินทร์เป็นตัวแทนอำนาจจากเบื้องบนที่ทรงความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่ถือครองจึงเสมือนเป็นผู้ได้รับอำนาจจากเทวราชเบื้องบน โดยท่านใช้กายสิทธิ์ธาตุเงินยวงมาผสมกับตะปูสังขวานรซึ่งเป็นตะปูโบราณที่เอาไว้ยึดเครื่องไม้ในอุโบสถมาหลอมเข้ากับตะปูโลงศพที่ใช้ตรึงโลงไม่ให้ภูติผีวิญญาณหลุดออกมาโดยขอให้สัปเหร่อเก็บไว้ ทั้งยังต้องเข้ากับบาตรแตกหรือบาตรพระที่ชำรุด และเหล็กน้ำพี้ ตลอดจนผาลไถชำรุดอีกด้วย ท่านว่าทำให้เต็มสูตรการสร้างมีดที่มีอาถรรพ์ในตัวเองนับแต่เริ่มตามสูตรบูรพาจารย์ยุคโบราณนั่นทีเดียว

    "ดาบตัดกรรม" เมื่อท่านจะทำนั้นท่านได้พิจารณาถึงสภาวะของมนุษย์โดยรวมก่อน ว่าจะทำเครื่องรางให้เขารวยเพียงเท่านั้นมันคงไม่พอ เพราะถ้าจะรวยต้องต้านกระแสกรรมหนักได้ด้วย ไม่เช่นนั้นเครื่องรางก็ไม่สามารถส่งผลอะไรได้มากเนื่องจากสัตว์โลกยังอยู่ในกฏของกรรม จำต้องทำเครื่องสูงที่มีอานุภาพส่งผลโดยตรงกับกรรมนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงมาพิจารณาว่าจริงแท้ทีเดียว เครื่องรางประเภทดาบที่สร้างได้ถูกต้องปลุกเสกมาดีนั้นย่อมมีอานุภาพสูงสามารถใช้ริดรอนกรรมเก่าได้ เพราะเป็นของสูงใช้ผ่าใช้ตัดได้ทุกสิ่งและสำเร็จด้วยพุทธคุณเป็นไปด้วยพุทธานุภาพและพรหมานุภาพ เมื่อท่านพิจารณาเช่นนี้แล้วจึงคิดว่าจะทำไว้เสียครั้งหนึ่งท่านว่าดาบนี้ต้องเก่งและต้องใช้ได้ดีมากทำตามตำราทุกอย่าง โดยท่านเสกตามตำราพิชัยสงครามประจุคุณจนเต็มทีละเล่ม ท่านว่าทำทั้งทีต้องให้ดีที่สุด ลงด้วยวิชาลงเครื่องสูงลงตามเครื่องพิชัยสงครามสำหรับถวายเจ้านาย เป็นพระแสงดาบที่ใครได้ครองไว้ ไม่ใช่จะมีแต่บุญ ยังต้องยิ่งด้วยบารมีที่สั่งสมมามากจึงจะได้พานพบและครอบครองได้ เมื่อได้ดาบตัดกรรมแล้วท่านได้เชิญครูขอเมตตาให้ท่านลงประสิทธิ์ให้อีกวาระหนึ่งด้วยดาบนี้ก่อนที่จะฝังท่านยังนำมาแช่อธิษฐานจิตในน้ำล้างดาบสังหารของเพชรฆาต ท่านว่าเอาอาถรรพ์เคล็ดวิชาที่ใช้คร่าชีวิตคนได้จริง ด้วยชีวิตก็คือสิ่งที่มีค่าที่สุด ถือว่าดาบนี้พิฆาตได้แม้กระทั่งสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับมนุษย์ ดังนั้นสิ่งมีค่าอื่นใดยิ่งไปกว่านี้ย่อมไม่มี ดาบนี้เป็นดาบฟันดะ ฟันลูกเดียว มีอะไรฟันเข้าเราหมด กอบโกยไว้หมดไม่เหลือให้ผู้อื่น ท่านว่าอธิษฐานจิตดีๆเวลาจะใช้จะเอาอะไรอยากได้อะไร อยากได้คนก็นึกถึงหน้าเขาเอาดาบฟันไป อยากได้โชคลาภจะเสี่ยงดวงก็มองไปที่หน้าเขาจินตภาพว่าเราเอาดาบฟันไป จะเจรจางานใหญ่ทำสิ่งสำคัญก็เหมือนกันท่านว่ามองหน้าเขาคิดว่าเราเอาดาบฟันไป อาถรรพ์คุณวิชาได้ลูกเดียวฟันลูกเดียวเป็นแบบนี้ เวลาเราอธิษฐานเอาดาบฟันอะไรยังเท่ากับตัดและริดรอนผลกรรมให้เราด้วยอาถรรพ์แห่งไสยเวทย์ ทั้งยังเปิดช่องทางทำกินเปิดโอกาสชีวิตคนได้ด้วยคตินี้

    เสด็จพระใหญ่ท่านทำให้
    เป็นสัญลักษณ์ของการควบคุมนามธรรมในจักรวาลใช้ในการตัดและประหารทั้งความมืด แสงสว่าง ความดี ความชั่ว ความสุข ความเดือดร้อน เคราะห์ร้าย ภัยพิบัติ..... (สิ่งที่เป็นนามไร้รูปร่างแตะต้องไม่ได้เช่นนั้น) ทั้งยังควบคุมอำนาจและความเป็นสิริมงคลทั้งปวงพ่ออาจารย์ท่านว่าตัวดาบนั้นเป็นสิ่งเล็กๆที่สร้างให้เกิดวงจรอันยิ่งใหญ่ เพื่อสนองตอบกับปัจจัยสี่ข้อหนุนเสริมผู้ครอบครองคือ ความยิ่งใหญ่,ความสุข,ความมั่งคั่ง,ความไม่มีโรคมีอายุยืนยาว ซึ่งปัจจัยทั้งสี่นี้ท่านว่าเป็นเสมือนพรมงคลที่แม้แต่ทวยเทพยังทำให้ไม่ได้ ตรงนี้ถือว่าสำคัญมาก ทั้งดาบตัดกรรมยังเป็นสัญลักษณ์แสดงอำนาจเหนือกรรมลิขิตของเทพเจ้าเพื่อรวมศูนย์พลังงานจักรวาลอันเป็นพลังมงคลที่ต่อต้านความหายนะ พินาศ ฉิบหายของอกุศลและความมัวหมองได้อย่างน่าฉงน

    เครื่องหมายกากบาทคือห้ามนั้น ท่านว่าใช้ได้ทั้งห้ามทุกข์ห้ามโศกต่างๆหากเข้ามาใกล้ต้องโดนตัดโดนประหารทั้งสิ้น ทั้งตัดทั้งห้ามทุกข์ภัยที่จะมาถึง ท่านว่าดาบนี้แรงนะเป็นดาบสายกำราบปราบปราม ตอนเสกเสร็จยังต้องแยกเสกอีกหนหนึ่งเชิญเทพสงครามทั้งยังครูที่มีฤทธิ์รุนแรงมาสำเร็จให้ด้วยหลายวาระ พ่ออาจารย์ท่านว่าแรงอย่างไรก็เป็นเรื่องปัจจัตตังพูดมากไม่ได้ แต่บอกได้คำเดียวว่าแรงจริงๆเพื่อให้พลังงานคอยปราบปรามสิ่งชั่วร้าย ปิดกั้นทุกข์โทษโทสาทั้งหลายให้เข้าไม่ถึงตัว ดาบนี้สำคัญนักเพราะสามารถขจัดศัตรูตลอดจนทำลายอุปสรรคขัดขวางให้แก่ผู้บูชาได้ ใครโดนกลั่นแกล้งใส่ความ กระทำด้วยทุจริต ชีวิตโดนรังแกไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่อย่างใด ท่านว่าแก้ไขได้หมด หรือแม้แต่คุณไสย ไสยศาสตร์มนตร์ดำชาติไหนภาษาใด พ่ออาจารย์ท่านว่านี่พ่ายแพ้อานุภาพไม่มีได้กินซ้ำยังปรับเสริมแก้ไขอุบาทว์ตัวทุกข์ตัวเคราะห์ตลอดจนสิ่งอัปมงคลทั้งหลายทั้งภายในภายนอกด้วย เพราะเป็นดาบดับล้างท่านว่าคนอาราธนาจะไม่เจออุบัติเหตุร้ายแรงสิ่งใดเลยมาแผ้วพาลกับชีวิต จะไม่เจอเหตุที่ทำให้ตื่นตระหนก ไม่พบสาเหตุใดที่นำเราออกจากชีวิตอันสันติและผาสุกจากการครองเรือน นอกจากการกันแก้อาถรรพ์ร้าย ล้างบางอวิชชา ให้โทษกับมารยาทุจริต

    นอกจากนั้นวิชาสร้างเทพศาสตราของพ่ออาจารย์ยังใช้ได้อีกหลายทาง ดังนี้

    - ใช้ป้องกันอันตรายทั้งหลายเมื่ออยู่กับตัวผู้ใช้

    - ทักให้ตกใจเมื่อมีภัยมาเช่นการสั่นหรือกะตุก เพื่อเตือนผู้บูชาให้ระมัดระวังเหตุแห่งอันตราย

    - ผ่อนกรรมหนักเป็นเบา

    - เป็นที่ยำเกรงต่อศัตรู เป็นมหาอำนาจ ป้องกันฟ้าผ่า

    - สยบภูตผีปีศาจ ถอดถอนเสนียดจัญไร

    - แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยพิบัติ ไม่ว่าจะมาจากน้ำมือของเทวดา มนุษย์ และผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ก็มลายหายไปอย่างสิ้นเชิง

    - ใช้อาราธนาทำน้ำมนต์แก้คุณไสย แก้เสนียดจัญไรต่างๆลมเพลมพัด ฝังรูปฝังรอย ผีเข้าเจ้าสิง ตลอดจนฝันร้ายต่างๆ ได้

    - ป้องกันอสรพิษแลสัตว์ที่มีเขี้ยว มีงาทั้งหลาย เมื่อมีดาบเทพอาวุธติดตัว

    - ป้องกันคุณไสย คุณผี คุณมนต์แลอาถรรพ์ลมเพลมพัด กันกระทำย่ำยี

    - เป็นได้ทั้งมหาอำนาจ เป็นเมตตา เป็นแคล้วคลาด เป็นมหาอุตม์ ตามสภาวะจิตการอธิษฐานใช้

    - ป้องกันตัวจากศัตรูที่มุ่งร้าย ดูแลผู้เป็นเจ้าของเทพศาสตราให้พ้นขาดจากศัตรูที่หวังปองร้าย พ้นจากอำนาจที่รุนแรงอันคิดจะทำลายเจ้าของ

    - ใช้ขับไล่ภูตผีปีศาจที่เข้าสิงคน หรือมีผู้ปล่อยมาให้มาเข้าสิงไม่ว่าจะโดยปกติวิสัยหรือมีคนใช้ให้กระทำมา

    - เก็บบูชาไว้ในบ้านป้องกันอัคคีภัยและโจรภัย

    - เมื่ออาราธนาดาบแล้ว ในยามมีอันตรายจะรู้ตัวก่อนทุกครั้งไป

    - ใช้คัดของถอนของ ถอนอาถรรพ์ที่รุนแรงตลอดจนความคงกระพันต่างๆนาๆได้ แม้ว่าผู้นั้นจะมียันต์สักอยู่เต็มตัวและเป็นยันต์ที่มีความแข็งแกร่งมากเพียงใดก็ดี หรือจะมีเครื่องมงคลวิเศษใดที่ทำให้ผู้นั้นมีความคงกระพัน เทพศาสตรานั้นสามารถทำลายความคงกระพันตลอดจนอาถรรพ์วิชาทั้งหลายได้อย่างง่ายดาย แม้จะเป็นอาถรรพ์จากการกินว่านยาหรือวิชาของดีอื่นๆ เมื่อเจอกับเครื่องสูงเช่นเทพศาสตราก็ยังต้องยอมสยบให้ เมื่อผจญด้วยผู้คิดร้ายที่มีวิชาทั้งหลายความขลังเหล่านั้นจะค่อยๆหมดลง

    - เมื่อไปต่างถิ่น ต่างบ้าน ต่างเมือง หรือนอนกลางดินกินกลางทรายในป่าให้เอาปลายดาบกล่าวขอขมาแม่พระธรณี แล้วขีดลงไปเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือรูปวงกลมรอบๆตัวของผู้ที่นอน มดและสัตว์ต่างๆตลอดจนภูติผีปีศาจจะไม่มาเข้าใกล้(อาราธนาพระท่านว่าก้ให้นึกเอาว่าใช้ดาบขีดลงใช้ได้เหมือนกัน)......


    เพราะพ่ออาจารย์ท่านทราบดีว่าเครื่องรางประเภทดาบหรือพระขรรค์ที่สร้างได้ถูกต้อง ปลุกเสกมาดีนั้น ย่อมมีอานุภาพสูงสามารถใช้ริดรอนกรรมเก่าได้ ด้วยยุคนี้ท่านว่าคนที่ถูกกรรมริดรอนตัดขวางชะตากรรมนั้นมีอยู่มากจึงต้องอาศัยดาบคู่วิเศษนี้เพราะเป็นของสูงที่ใช้ผ่าและใช้ตัดได้ทุกสิ่งและสำเร็จด้วยพุทธคุณ เป็นไปด้วยพุทธานุภาพและพรหมานุภาพนำไปใช้เพื่อกาลนั้น

    โดยส่วนตัวนั้นท่านว่าดาบตัดกรรมชุดเล็กนี้เหมือนกับกรรไกร เห็นเขาเล็กๆแบบนี้แต่ใช้ได้สารพัดเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าคนตาดีจะเห็นเขาลอยไปทั่ว ทั้งย่อหรือขยายขนาดได้ จะอยู่คู่เนื้อตัวเราคอยสำรวจเจ้าของและตัดปัญหาอุปสรรคทั้งหลายให้พ้นตัว ด้วยดาบตัดกรรมชุดจิ๋วนั้นฝังให้ไปแล้วท่านว่ามีอานุภาพมากกว่ามีดหมอศาสตราวุธทั้งหลาย ดุจวิชาพระขรรค์ชัยศรีหรือดาบสาหรี๋กัญไชย เช่นนั้น เป็นของสูงเฉพาะดาบก็มีญาณเทพพรหมรักษาเข้าถือครองทุกเล่ม ที่ฝังเช่นนี้เพื่อประสงค์จะให้เอาไว้กับเนื้อกับตัว นอกจากจะได้ช่วยขับล้างริดรอนกรรมอันส่งผลในปัจจุบันแล้วยังจะได้ขับไล่สิ่งไม่ดีทั้งหลายจากร่างกายเรา ให้เทวดาเข้าคุ้มครองรักษา ซ้ำยังใช้ได้ทุกทางตามแต่ปรารถนาไม่ต่างจากเครื่องพิชัยสงครามชั้นสูงแต่อย่างใด ทั้งปราบมาร ขจัดศัตรู ขับไล่คุณคนคุณไสย อวิชชาต่างๆท่านว่าทำทั้งที่ต้องให้ดีที่สุด ลงด้วยวิชาลงเครื่องสูงลงตามเครื่องพิชัยสงคราม สำหรับถวายเจ้านาย เป็นพระแสงดาบที่ใครได้ครองไว้ ไม่ใช่จะมีแต่บุญ ยังต้องยิ่งด้วยบารมีที่สั่งสมมามากจึงจะได้พาลพบและครอบครองได้

    จี้ดาบชุดจิ๋วนี้พิเศษด้วยผงผนึกผงทรงกฤติยาคม ได้แก่
    - ผงพระสุเมรุค้ำฟ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้เปรียบกับเขาพระสุเมรุราชที่ตั้งสวรรค์จตุมหาราชิกาและดาวดึงส์นั่นเอง เป็นดุจแกนโลกเป็นหลักโลก ค้ำโลกกับสวรรค์เอาไว้ เป็นหลักปักฟ้าดินให้แยกออกจากกัน ไม่มีวันเอนเอียงย่อยยับลงได้เลย ผงนี้มีคุณทางค้ำชะตา ได้ค้ำจุนใครแล้วจะไม่มีวันทรุดลงมาได้ดั่งเขาพระสุเมรุเข้าค้ำยันปักชีวิตเอาไว้ วิชานี้เป็นของเทพเบื้องบน ท่านว่าจะค้ำไว้ไม่ให้ตกและยังค้ำให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ดีวันดีคืนไม่มีตกต่ำย่อยยับลงดั่งเขาพระสุเมรูที่ค้ำฟ้าค้ำดินเช่นนั้น ท่านว่าให้อธิษฐานบอกกล่าวกับเทพเจ้าเถิดว่าลูกชื่ออะไรนามสกุลอะไร อยู่ที่แห่งไหน ใครเป็นบิดามารดา ขอพรท่านให้รักษาค้ำชูชีวิตและชะตาตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงแค่นั้นก็พอแล้ว ท่านว่าใช้ผงนี้ดีกว่าพกตะกรุดหนุนดวงดอกใหญ่ๆหนักๆมากนัก

    - ผงมหาพรหมซ้อนเงา ผงนี้ท่านว่าเป็นปริศนาธรรมที่ทำไว้ให้ผู้บูชาได้พิจารณา โดยขึ้นชื่อว่าทุกสรรพสิ่งบรรดามี รวมถึงมนุษย์นั้นย่อมมีปรากฏการณ์ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากแสงสว่างนั่นคือเงา หรือความมืดที่ดำรงค์อยู่คู่กับแสงสว่าง เหมือนท่านจะบอกว่าเมื่อมีแสงสว่างก็มีเงาคือความมืดเป็นของคู่กัน หากปราศจากเงาแล้วนั่นย่อมไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์ไปได้ แต่อีกนัยน์หนึ่งนั้นท่านกล่าวว่าผงมหาพรหมซ้อนเงานี้ ให้บูชาไว้ ดุจมีเงาครูบาอาจารย์ผู้เป็นเอกองค์อรหันต์แห่งรัตนโกสินทร์กับมหาพรหมทั่วหมื่นโลกธาตุมีท้าวสหัมบดีเป็นประธานซ้อนเงาปกป้องคุ้มครองกายตน สิ่งไม่ดีอันตรายต่างๆจะไม่มาย่ำยีเพราะมีครูอยู่เหนือหัว มีครูซ้อนเงาเราอยู่ มีเดชมาก ให้ลาภผลมาก ให้ความสำเร็จมาก

    - ผงอินทรานิรมิต ผงนี้ท่านว่าดีตรงตามชื่อของวิชาเลย เพระาเป็นยอดของวิชา อยู่เหนือจินดามณีขึ้นไปอีก เพราะเป็นวิชาที่เทวดาระดับเจ้าสวรรค์คือพระอินทร์ต้องรับฟังเรา คอยนิรมิตสิ่งต่างๆให้เราตามปรารถนา คือปรารถนาอะไร ตั้งความปรารถนาไว้ พระอินทร์เจ้าสวรรค์ท่านรับรู้นิรมิตให้สมความปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านวาความปรารถนาคนนั้นมีอยู่เสมอ ตราบใดที่ยังเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏสงสาร ท่านว่าจิตที่ปรารถนาดุจน้ำที่เติมไม่มีวันเต็ม เพราะเสร็จเรื่องนี้ก็มีเรื่องใหม่มาตลอด นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่าชีวิต ชีวิตของมนุษย์นั้นดำรงค์อยู่เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของตนนั่นเอง แต่ละคนก็ปรารถนาต่างกันไป พ่ออาจารย์ท่านจึงทำวิชาไว้เพื่อที่ผงวิเศษนี้ตกถึงใครจะได้ใช้สมความคิดหวังกันทุกคน

    คาถาบูชา
    - อาราธนาดาบตัดกรรม ให้อาราธนาพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยเจ้าทั้งหมด พรหมและเทวดาทั้งหมด ครูบาอาจารย์ และท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง4
    พุทโธ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ ธัมโม ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ สังโฆ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ
    - ถ้าใช้รักษาโรค บรรเทาเวรกรรม ให้เอาองค์พระเเตะศรีษะแล้วว่าคาถา
    ทุกขา ทุกขัง ปฏิฐิตัง สัมปติฉามิ


    *** รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านเน้นผงลบกระดานชนวนล้วนๆมาปั้นไว้จึงมั่นใจได้ว่ามีกฤติยาคมสูงมากทั้งยังเป็นสาเหตุให้ทำได้น้อยมีไม่กี่คู่เท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา จี้ดาบคู่ตัดกรรมประหารทุกข์ลาภ (ผงพระสุเมรุค้ำฟ้า,มหาพรหมซ้อนเงา) บูชา 900 บาท

    75412247-2510928212563480-8554385740396494848-n.jpg 75339379-2416108805384261-7337657205207859200-n.jpg
    75196269-1783153611829460-4953859611858829312-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...