ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวิฬาร์ย่ำเหยียบเงาหมื่นกฏไม่ใช่เรื่องของเรา(เงาปรากฏรวยอมตะ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ทวดกุมภีร์สาริกาวิชาแต่งคน(พระโพธิสัตว์,นารายณ์อวตาร,พญาเถรกวาด)

    วิชาจระเข้นี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีความซับซ้อนมาก เพราะเค้ามีอยู่หลายตัวในวิชาภาคต่างๆถ้าจะทำแล้วก็ต้องลงให้ครบทุกอย่าง ท่านว่าจะทำขอไปทีก็ไม่ได้เพราะเสกจระเข้นั้นจำเป็นต้องมีวิชาของเค้าไม่ใช่จะทำไปเรื่อยเสกแบบอาศัยแรงครูอย่างเดียวเช่นนี้ย่อมไม่สำเร็จ

    จระเข้ถือว่าเป็นใหญ่ในสัตว์น้ำทั้งปวง แต่โบราณจะใช้ธงรูปจระเข้เป็นผู้นำสัตว์ต่างๆมาช่วยคุ้มกันขบวนเรือกฐิน ถือเป็นสัตว์ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารเนื่องจากเป็นสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ทั้งยังเป็นผู้ล่าที่ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติ เช่นนั้นครูบาอาจารย์จึงนิยมทำจระเข้กันมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาจระเข้นี้มีหลายตัวถ้าจะทำก็ต้องทำเป็นเนื้อผงเพราะจะลบผงคุณวิชาผสมไปในเนื้อด้วย ทั้งนี้ท่านว่าวิชาจระเข้แต่ละตัวนั้นก็มีคุณแรงแต่ละด้านต่างกันไป โดยรวมผงคุณวิชาจระเข้ทุกตัวจึงดีครบทุกด้าน ซ้ำจระเข้ยังเป็นตัวแทนของความโลภเพราะเขามีปากใหญ่ที่กินไม่อิ่ม ดังนั้นคนที่บูชาเครื่องมงคลรูปจรเข้ที่ลงถูกต้องตามคุณวิชาจะสังเกตุได้ว่าเขาจะเป็นสื่อ จะทำให้โชคดี นำโชคลาภมาให้เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสกับเรา ทำให้ค้าขายดี ผ่อนปัญหาความทุกข์ยาก...จนถึงคดีความต่างๆ หรืออาการเจ็บไข้ได้จะหายป่วยได้ แม้คนที่มีอาชีพที่ต้องอาศัยดวงเรียกว่ามีอาชีพหรือชีวิตที่ไม่แน่นอนหากบูชาก็เชื่อว่าจะทำให้ได้ผลประโยชน์ในปริมาณที่มากกว่าเดิม เรียกว่าไม่ว่าอาชีพของเราจะหาอะไรก็ตามจะหาได้ง่าย ได้เร็ว ได้มากกว่าเดิมแบบนั้น

    โดยปกติวิชาจระเข้นั้นจะดีทางปกป้องคุ้มครอง แคล้วคลาด ภูตผีปีศาจเกรงกลัว ป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน ถอดถอนเสน่ห์ยาแฝดต่างๆ สามรถพกใส่ใส่กระเป้าเสื้อกางเกงหรือผูกติดเอวก็ได้ จะคล้องคอลอดราวผ้าลอดไต้ถุนไม่ถือไม่เสื่อมอะไรทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างจระเข้อาคมมานานแล้วแต่มักทำเป็นขนาดบูชาคือขนาดใหญ่ จะแกะด้วยไม้มงคลแล้วเอาผงอุดบ้าง หรือเอาผงมาปั้นเป็นตัวบ้างก็มี ท่านทำให้ใช้กันในหมู่คนพิเศษหรือเป็นของเฉพาะคนหากแต่ท่านกลับไม่เคยทำขนาดที่พกติดตัวได้ให้กับใครเลย ผู้ที่ได้รับจระเข้มนต์จากท่านไปต่างบอกกันปากต่อปากว่าป้องกันภัยได้ดีบ้าง รักษาทรัพย์คุ้มครองสมบัติเงินทองดีบ้าง แถมยังขยันหาทรัพย์เก่งมีมหาโภคทรัพย์ได้เงินได้ทองทำให้ทรัพย์สมบัติงอกเงยเพิ่มพูลขึ้น คำว่ายากจนข้นแค้นจะหนีไกลไปเลยไม่ปรากฏกับผู้ที่ได้บูชาจระเข้วิชาของพ่ออาจารย์

    วิชาจระเข้นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะทำให้ครบต้องลงไว้สามภาค แต่ละภาคก็มีสูตรมีวิชาย่อยต่างๆประกอบกัน ตั้งแต่
    - กุมภีร์โพธิสัตว์ เป็นชาติหนึ่งซึ่งพระพุทธองค์เสวยชาติเป็นพญากุมภีร์ เป็นเจ้าแห่งสัตว์น้ำทั้งหลาย มีบริวารเป็นจระเข้อีก 500 ตัว เรียกได้ว่าใครๆ ต่างก็เกรงกลัวบารมีของพญากุมภีร์เป็นอันมาก
    - จระเข้นารายณ์อวตาร ตำรับนี้ท่านว่าทำให้ถึงจริงๆนั้นทำยากเพราะแต่ละส่วนตามร่างกายจระเข้นั้นล้วนแต่เป็นพระอิศวi พระนารายณ์ พระพรหม เทพนพเคราะห์แลเทพสำคัญอื่นๆตั้งแต่พระยม พระกาฬ พระอัคนี พระอาทิตย์ พระจันทร์ ท้าวกุเวร...จุติลงมาเกิดเข้าพิทักษ์รักษาร่างกายตามจุดต่างๆทั้งสิ้น เช่นนี้วิชานารายร์อวตารเป็นจระเข้จึงมีฤทธิ์มากเกินจระเข้ทั้งหลาย
    - จระเข้พญาเถรกวาด อันนี้เป็นมนต์จำแลงกายแยกออกไปหลายตัว ใช้ได้ตั้งแต่หาทรัพย์ เป็นเมตตาจนถึงมหาเสน่ห์หัวกระได้ไม่แห้งนั่นทีเดียว...ท่านว่ามีอุปเท่ห์ใช้ได้เยอะมากจึงลงไว้ให้ครบทุกตัว
    แล้วก็ต้องเสริมด้วยวิชาแต่งคนให้หุ่นจระเข้นั้นให้คุณกับคนใช้โดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติแล้วหลายๆที่ทำจระเข้จะยึดเอาตัวใดตัวหนึ่งแต่ส่วนใหญ่จะใช้กุมภีร์โพธิสัตว์ บางที่ทำเป็นกุมภีร์นารายณ์อวตารได้ก็นับว่าแรงมากมีอาถรรพ์เป็นที่สุดแล้ว ที่จริงยังมีวิชาจระเข้หลายๆแบบเช่นผงชุดวิชาพญาชาละวัน...ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าตัวท่านก็ลบถมผสมลงไปให้ทั้งหมด


    พ่ออาจารย์ท่านได้ลบถมผงต่างๆให้มีอาถรรพ์ ท่านว่าในส่วนของผงคุณพระก็ลบได้ตามปกติ แต่ในส่วนของผงวิชาจระเข้จริงๆหากจะทำให้เข้มขลังขมังเวทย์ก็ต้องใช้หนังจระเข้ที่เคยกินคนมาก่อนเอามาล้างเสนียดลงวิชาเสียใหม่ก่อนจะเอามาทำเป็นมวลสารแท่งผงเพื่อจะลบวิชาเช่นนั้นจระเข้มนต์ที่ได้ก็จะเป็นเจ้าแห่งกุมภีร์มีอาถรรพ์มากแตกต่างจากจระเข้บริวารทั่วไป ท่านลบถมผงต่างๆตั้งแต่ ผงโพธิสัตว์รัตนมงคล,ผงวิชาจระเข้นารายณ์อวตาร,ผงวิชาพญาเถรกวาดตัวที่หนึ่งถึงเก้า,ผงพญาชาละวันทุกตัว,ผงพระพุทธคุณห้าสิบหก,ผงพระธรรมคุณสามสิบแปด,ผงพระสังฆคุณสิบสี่,ผงวิชาแต่งคน,ผงนะเมตตา,ผงนะหน้าทอง,ผงนะมหาละลวย,ผงนะอกแตก,ผงนะมหาเสน่ห์,ผงไม้มะยมตายพราย,ผงไม้รักช้อนตายพราย,ผงไม้พญายอ,ผงพญาไม้กายู,ผงว่านดอกทอง,ว่านเสน่ห์จันทร์,ผงดินเจ็ดโป่ง เมื่อได้ผงต่างๆแล้วก็นำมาคลุกคลีด้วยน้ำมันนางตานีปั้นเป็นหุ่นจรเข้ตัวใหญ่ไว้ก่อนจะเสกทุกคืนวันเพ็ญ จนกระทั่งจระเข้เดินลงน้ำแหวกว่ายดุจมีชีวิตในน้ำคืนจันทร์เพ็ญได้ ท่านว่าเช่นนั้นจึงถือว่าสำเร็จพลีเอาหุ่นจระเข้นี้มาทำผงกดพิมพ์พระได้ ท่านว่าพระผงที่ได้นั้นจะมีอาถรรพ์มากไม่ต่างกันเลย ทั้งดีเด่นทางอยู่ยงคงกระพันกันเขี้ยวงา เป็นมหาอำนาจ เมื่อได้ธาตุน้ำมาหนุนก็จะเป็นเสน่ห์เมตตาอยู่เย็นเป็นสุขใช้ได้ครอบคลุมทุกด้าน

    ด้านหลังพ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดหัวใจเถรกวาดฝังไว้ ท่านว่าปกติจระเข้ก็ให้คุณด้านโชคลาภอยู่แล้ว แต่จระเข้ของท่านนั้นพิเศษกว่าปกติก็คือทำให้คนที่เขามีความต้องการสูงเอาไปใช้ หากชีวิตเหมือนการเดิมพันต้องการชนะเพราะมีการแข่งขันในสายอาชีพสูง หรืออยากได้รับความร่วมมือจากคนอื่น ต้องการความเมตตาจากบุคคลอื่น เช่นนี้ต้องใช้จระเข้วิชชาของท่านเพราะท่านตั้งใจลงตะกรุดไม้กวาดพระอินทร์(เถรกวาด) ซึ่งมีอิทธิคุณกวาดเรียบ กวาดได้ทุกอย่าง(ตามแต่จะตั้งจิตบอกขอทวดจระเข้) จะกวาดเสน่ห์แก่คนทั่วไปหรือจะให้เก็บกวาดทางใดตั้งแต่ศัตรูผู้คิดร้าย หรือจะกวาดจะโกยทรัพย์สินโชคลาภเข้ากระเป๋าตน ให้แผ้วถางทางกวาดเก็บอุปสรรคเช่นนี้ย่อมใช้ได้หมด ท่านว่ามันขึ้นอยู่กับเราอธิษฐานเองนี่แหละว่าจะใช้ทำอะไรทางไหน และช่วยในเรื่องธุรกิจการค้าให้ได้ดี ไปไหนมีแต่คนรักใคร่ ไม่มีอด เป็นสง่าราศรีแก่ผู้พบเห็นก็ทำได้ จระเข้ของท่านงมนต์เถรกวาดไว้ครบทุกตัวนอกจากโชคลาภแล้วคนใช้จะมีสาวมากวนเกาะแกะเรียกว่าหัวกะไดไม่แห้งเลย***ถ้าเน้นเสน่ห์เอาไปใช้เป็นคู่ผูกไว้คู่กันก็จะได้คู่สมใจ

    ด้วยจระเข้นี้เป็นวิชาผูกหุ่นพยนต์ชนิดหนึ่ง ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านจะทำการเรียกอาการสามสิบสองเพื่อให้จระเข้นี้มีอาถรรพ์เสมือนมีชีวิต ทุกตัวมีจิตวิญญาณคอยเรียกโชคลาภ คุ้มครองอันตรายเมื่อพกติดตัวให้แคล้วคลาดจากเรื่องอุบัติเหตุต่างๆ หรือเฝ้าคุ้มครองบ้านเรือนทรัพย์สิน ป้องกันภูติผีปีศาจและคุณไสยต่างๆได้เป็นอย่างดี ท่านว่ายิ่งรวมเข้ากับผงคุณวิชาก็จะยิ่งแรงมากแม้ใครคิดร้ายก็จะมีอันเป็นไปต่างๆนาๆ ทั้งยังใช้เคล็ดคาดเอวเป็นมหารูดได้อีกด้วย เมื่อจะใช้กันตัวในยามทำศึกสงครามหรือต้องใช้ในด้านคงกระพันชาตรีก็ให้ไว้ด้านหน้า เมื่อจะใช้ทางด้านมหานิยมเเละเป็นมหาอำนาจให้ชนเกรงขามก็ให้รูดไว้ด้านซ้าย ถ้าจะเดินทางไปเพื่อแสวงหาโชคลาภทำการค้าขายก็ให้รูดไว้ด้านขวา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ต้องเรียกว่าทวดกุมภีร์นั้นก็เพราะจระเข้ของฉันเทวดาท่านมาทำให้ เป็นใหญ่กว่าจระเข้แลปีศาจทั้งหลาย มีกำลังตบะมากเปรียบกับชาละวันแล้วก็เหมือนจระเข้รุ่นทวดของมันนั่นทีเดียว เมื่อบูชาไปก็ให้นำเข้าบ้านตามปกติ แค่อธิฐานบอกว่าในบ้านมีใครบ้าง ชื่ออะไร นามสกุลอะไร ให้ทวดจระเข้ได้รู้ทุกคน เขาจะได้คุ้มครองป้องกันภัยคนในบ้านไม่ให้เป็นอันตรายใดๆจากสิ่งไม่ดีต่างๆ หากไว้เฝ้าร้านเฝ้าบ้านเรือนโจรขโมยก็จะขึ้นบ้านไม่ได้ ทั้งด้วยอำนาจตบะของทวดจระเข้ยังเป็นที่หวั่นเกรงของภูติผีปีศาจ เวลาเดินทางไปในที่แห่งใดไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางน้ำสรรพสัตว์ทั้งหลายจะยำเกรง ศัตรูหมู่มารจะเกรงขามตัวเรา สามารถป้องกันเสนียดจัญไร ถอดถอนเสน่ห์ยาแฝดต่างๆ จะไต่เต้าเจ้าสัวแสนทะนานทองลาภเต็มห้องทองเต็มไห ขุนนางใดมีไว้ดีนักแลจักให้คุณเป็นถึงท้าวพระยาพานทองทรัพย์สินสิ่งของเต็มวังอีกทั้งช้างม้าวัวควายนับได้เหลือหลาย

    นอกจากนี้ที่สำคัญที่สุดพ่ออาจารย์ท่านว่าจระเข้ของท่านยังเป็นวิชาแต่งคนด้วย ความแตกต่างของการพกเครื่องมงคลทั่วไปกับเครื่องมงคลที่ลงวิชาแต่งคนไว้นั้นมีช่องว่างอยู่สูงมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่งคนก็เหมือนแต่งตัวเราให้อาถรรพ์และวิชานั้นเกิดขึ้นกับเรา จะสังเกตุได้ง่ายๆว่าเวลาที่เราพกทวดจระเข้นี้ ตัวเราจะมีกำลังวังชาอย่างน่าประหลาดใจ ไอ้โรคน้อยใหญ่เจ็บไข้ได้ป่วยแพ้อากาศอะไรต่างๆนาๆก็ไม่ค่อยจะมี จะถึกจะทนกว่าชาวบ้านอย่างน่าประหลาดรู้สึกว่าตัวเองมีพลังงานเยอะมากเพราะพลังชีวิตมันเอ่อล้นออกมา ไอ้ทีนี้อะไรที่คิดๆไว้มันก็จะเดินเข้ามาเอง โชคลาภก็เข้ามาอย่างน่าประหลาด ความปรารถนาก็ได้เติมเต็มอย่างน่าประหลาดเพราะวิชามันแต่งเราไว้หมดแล้วจากที่เราต้องไปใช้ไปพึ่งมันกลายเป็นว่าแค่เราจับทวดจระเข้มันก็เข้ามาเป็นกำลังเป็นตบะเป็นฤทธิ์ให้กับเรา มันแต่งตัวของเราให้เราเอง จะหันหน้าไปทางไหนทำอะไรแข่งกับใครก็กวาดเขาเรียบ ไล่กวาดเขาต้อนเขาไปซะหมด จากที่เคยถูกต้อนก็จะกลายเป็นฝ่ายไล่ต้อนไม่รู้จักอับจนเลย

    คาถาบูชา
    โอมยะ โอมมิ โอมอิ โอมพระนางคงคาสุสะสะสิติกันตัง โอมกูจะปลุกพญากุมภาให้สะท้านลั่นพระธรณี ว่าพระนารายณ์อวตารเป็นพญากุมภีร์ ทรงศรศรีกำกับกายหวังจักปราบมารร้ายราวี โอมปลุก ปลุก ลุกแล้วอย่าไปอื่น ตื่นแล้วจงมารักษา เข้าคุ้มครองกายาทั่วสารพางกาย พุทธังสะระณังเมสิทธิ ธัมมังสะระณังเมสิทธิ สังฆังสะระณังเมสิทธิ พุทธังเอหิมาเรโส ธัมมังเอหิมาเรโส สังฆังเอหิมาเรโส พุทธังกุมภีโรโจรังคงคังปิติอิ ธัมมังกุมภีโรโจรังคงคังปิติอิ สังฆังกุมภีโรโจรังคงคังปิติอิ


    *** ทวดจระเข้นี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้น้อยมากและท่านยังได้ใส่วิชาสำคัญคือไม้กวาดพระอินทร์กำกับด้วย ท่านว่าเพราะจระเข้นี้มีกำลังมาก และยังมีสมบัติมากดุจพญานาค ทั้งมีเมืองแก้วปราสาทแก้วดุจเดียวกัน พอลงกำกับกันกับคุณวิชาท่านว่าจะกวาดอะไรมันก็มีกำลังมีตบะมากพอที่จะหักเอามาได้ทั้งหมด(ถ้าจะบูชาแบบเป็นเรื่องเป็นราวก็ให้ใช้ติดตัวตนหนึ่งและบูชาไว้ในบ้านอีกคู่หนึ่งคือเก็บไว้ใช้สามตนนั่นเองอันนี้เป็นเคล็ดของกุมภีร์รัตนมงคล พ่ออาจารย์ท่านว่าให้เขาอยู่เป็นกลุ่มสามตัวจะเป็นยอดของวิชามหาปราบและสิทธิมงคลชัยทั้งหมด) ท่านเขียนสีให้ดุจมีชีวิตทุกตัว

    ร่วมทำบุญบูชา ทวดกุมภีร์สาริกาวิชาแต่งคน(พระโพธิสัตว์,นารายณ์อวตาร,พญาเถรกวาด) บูชา 900 บาท

    53918420-670749666674673-2379538514799755264-n.jpg 54517991-349381985676212-6705612768571031552-n.jpg
    53781840-330684290987216-2253975029937078272-n.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันคุณธรรมฟ้าชำระไอมารเปิดวาสนาพระลักษมีกมลา(ยายพิณเรียกรักกวักทรัพย์)

    น้ำมันยายพิณ
    - ว่าด้วยวิชา..เรียกคน,เรียกรัก,เรียกทรัพย์
    เกี่ยวกับน้ำมันนี้หาใช่น้ำมันพรายแต่อย่างใด หากแต่ในทางกลับกันถือเป็นน้ำมันเปิดโลกชั้นเอกที่หาคนทำได้ยาก ด้วยผู้ที่เคยทำไว้นั้นเป็นถึงอดีตหมอหลวงซึ่งมีชีวิตไม่ธรรมดาเพราะว่าตั้งแต่สูงสุดจนถึงต่ำสุดขอให้เป็นมนุษย์ท่านย่อมยื้อชีวิตช่วยเหลือได้ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าที่เราเรียกว่าน้ำมันยายพิณนั้นก็เพราะตั้งชื่อเรียกน้ำมันตามชื่อเจ้าของรุ่นสุดท้านยว่ายายพิณ ซึ่งยายท่านเป็นทายาทในรุ่นลูกที่รับมอบน้ำมันต่อมา และท่านก็มีบารมีมาก เมื่อสิ้นชีพลงก็ยังคอยช่วยเหลือคนอยู่เสมอ ...ยามมีชีวิตนั้นยายพิณมีบิดาเป็นหมอในวังจึงมีทรัพย์สมบัติมากตั้งแต่ของที่คนธรรมดาไม่อาจจะมีได้ไม่ว่าจะสร้อยสังวาลย์หรือเครื่องสูงที่เจ้านายเคยใช้และมอบให้กับพ่อของยายเพราะตระกูลยายเป็นตระกูลหมอมาหลายชั่วอายุคน พ่ออาจารย์ท่านว่ายายพิณนั้นเป็นผู้หญิงตัวขาวอ้วนท้วมสูงใหญ่มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าตลอดเวลา ท่านเป็นคนชอบแจกชอบช่วยเหลือคน เห็นใครเดือดร้อนหรือรู้ว่าใครเดือดร้อนนี่ไม่ได้เลย ใครมาบอกมาพูดก็เอาเงินให้เขาไปทั่ว พวกลูกจีนคนไหนล่องเรือมาตั้งตัวขาดที่ทางไม่มีที่ดินทำกินใครขอที่ดิท่านก็ยกให้เขาไปฟรีๆเพราะบิดาของท่านนั้นมีที่ดินอยู่มาก แม้แต่ใครขอสายสะพายทองคำ สร้อยสังวาล เข็มขัดทองเข็มขัดนาคจะเอาไปเล่นพนันหรือใช้หนี้พนันท่านก็ยกให้เขาไม่มีหวงเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนนี่นะพวกคนในชุมชนตั้งแต่นายอำเภอหรือปลัดพวกข้าราชการศาลต่างๆจะมารวมตัวกันที่บ้านยายพิณกันประจำเพราะยายจะเลี้ยงอาหารคนเหล่านี้เสมอทั้งทำแกง ทำขนม ว่ากันว่าท่านเลี้ยงคนไว้มื้อๆหนึ่งต้องล้มวัวล้มควายทำอาหารกันหลายตัว ใจท่านกว้างยิ่งกว่ามหาสมุทรท่านช่วยเหลือคนแบบใครขอก็ให้ทั้งยังหมั่นทำทานการกุศลมิได้ขาดซักวันซึ่งนิสัยเช่นนี้ยากที่จะพบเจอได้ในคนสมัยนั้น เมื่อสิ้นชีพลงคนที่นับถือยายก็ยังเจอยายพิณอยู่ หลายคนที่รู้จักยายเขาว่ายังเห็นยายเดินแจกเงินในตลาดไปทั่ว บางคนยายมาบอกหวยตีไม่ถูกซื้อไม่เป็นงวดต่อไปยายก็มาบอกใหม่ตีหวยก็ถูกทุกคราว ท่านสงเคราะห์คนไม่หยุดด้วยมีบุญมีบารมีอันเกิดจากบุพกรรมได้ทำมาดีแล้วเมื่อสิ้นลงเป็นเทพก็ยังคอยช่วยเหลือคนที่ระลึกถึงท่านอยู่เสมอ
    ....น้ำมันเปิดโลกเรียกรักกวักทรัพย์นี้ เป็นน้ำมันโบราณที่ต้องเคี่ยวทำด้วยวิชาจนใสดั่งตาตั๊กแตนจึงจะสำเร็จ ยายพิณท่านได้มอบไว้ให้กับพ่ออาจารย์ตามที่ท่านขอเพราะท่านรู้ว่าบ้านนี้มีวิชาน้ำมันดีด้วยถูกสร้างขึ้นจากผู้รู้อาคมและสรรพยาซึ่งมีวาสนาบารมีมากระดับหมอในวัง พ่ออาจารย์ท่านว่าสูตรการสร้างนั้นย่อมสิ้นไปกับไฟไม่มีใครรู้จึงทำไม่ได้อีกแต่อาศัยบารมีของผู้สร้างที่เป็นหมอชั้นสูงแถมยังเชี่ยวชาญอาคมมีอำนาจจิตลึกล้ำ น้ำมันนี้ท่านจึงอธิษฐานไปทางต่อชีวิต ยื้อช่วงเวลาและวาสนา เปิดหนทางให้กับผู้ใช้ เมื่อยายท่านนำมามอบให้พ่ออาจารย์จึงเรียกน้ำมันชุดนี้ว่าน้ำมันยายพิณเพราะเมื่อสิ้นยายลงไปแล้ว คุณยายก็ยังมาหาพ่ออาจารย์ท่านอยู่เนืองๆด้วยท่านประสงค์จะสร้างบารมีตามวิสัยของท่าน เมื่อใดที่พ่ออาจารย์ลองเอาน้ำมันให้คนบูชา ยายก็มักจะไปช่วยเขา ไปแจกโชค แจกวาสนาให้เขาตามนิสัยของยาย พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าน้ำมันชุดนี้ดีมากเพราะเป็นน้ำมันเปิดโลก อยากได้อะไรก็เรียกได้ทุกอย่างคนที่มีน้ำมันมีหน้าที่แค่อธิษฐานหรือพกไว้แล้วบอกเอา เมื่อบอกแล้วต้องได้เอา ตั้งแต่คนตั้งใจทำมาหากินจนถึงคนไร้แก่นสาร ขาดหลักฐานไม่มีที่ซุกหัวนอน หรืออยากใช้เส้นสายบารมีของยายให้เจริญในอาชีพ ในราชการ คนที่ขาดความรัก ชีวิตขาดที่พึ่ง ขาดคนช่วยเหลืออุปถัมภ์ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนไม่รู้จะพึ่งใคร ท่านว่าต่อไปก็ให้เอ่ยชื่อยายนึกถึงยาย อยากขอ อยากได้ อยากเรียกอะไร ยายล้วนนำมาให้ได้ทั้งสิ้น ให้คิดเสมอว่ารักท่านเสมือนด้วยญาติผู้ใหญ่ของเราคนหนึ่งเท่านั้นเอง

    นอกจากเร่งลาภแล้ว ทำไมจึงเรียกน้ำมันยายพิณว่าน้ำมัน...เรียก พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นก็เพราะน้ำมันนี้ใช้เรียกได้ทุกอย่างอุปมาเหมือนตัวเราแม้อืดอาดเชื่องช้านอนอยู่เฉยๆก็ยังมีเหยื่อที่ใหญ่กว่าไวกว่ามาติดกับเข้าปากเรา พูดง่ายๆคือเรียกมาหาได้ ได้โดยไม่ต้องออกแรง เพียงแค่นอนคอยอยู่เฉยๆปรารถนาสิ่งใดมันก็จะเข้ามาหาเราเอง ถ้าแรงปรารถนาของเรานั้นแรงมากพอ แม้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งใช้แรงปรารถนาเยอะ พ่ออาจารย์ท่านว่าอันนี้ขึ้นอยู่กับตัวเองแล้วว่าเรามีความปรารถนาจากใจจริงในเรื่องนั้นๆแค่ไหน ส่วนเรื่องหากินนั้นท่านว่าน้ำมันนี้ให้อาราธนาไปเถอะรับรองว่าหากินเก่ง ไม่ต้องออกแรงมาก ก็ได้กินแล้ว จะได้รับผลประโยชน์โดยไม่ต้องลงมือทำงาน ไม่ต้องลงทุนในกิจการใดกิจการหนึ่ง หรือลงมือทำงานหรือลงทุนแต่เพียงเล็กน้อยก็มีส่วนได้หรือมีรายได้ในกิจการนั้นๆ มีอานุภาพดีเด่นทางด้านโชคลาภ เรียกเงิน เรียกทอง เรียกคู่..สารพัดจะเรียก เป็นเมตตา แคล้วคลาด เตือนภัย ถ้าบูชาเข้าบ้านจะทำให้มีโชคลาภ มีเงินทอง มีข้าวของและสิ่งที่เราปรารถนปรารถนาสิ่งใดหากไม่เหลือแก่วิสัยแห่งบุญกุศลที่ได้สร้างเอาไว้แล้วไซร้จะต้องเป็นผลสำเร็จดังใจหวังอย่างแน่นอน หากใครเอาไปใช้เรื่องชู้สาวเมื่อได้แล้วก็สับรางกันเอาเองแต่ท่านว่าเราไม่แนะนำ เอาแค่ให้อธิษฐานขอคู่ครองที่เป็นคู่แท้นั่นก็เกินพอแล้ว

    ท่านปรารถนาให้ยายพิณช่วยหนุนเรื่องโชคลาภค้ำวาสนา เพราะคนส่วนใหญ่ชอบเล่นหวยหวังรวยทางลัดไม่ยอมเดินกันทางตรง แม้กิจการ หน้าที่ การงานก็ตามหากมีทางลัดให้เดินได้ย่อมจะเดินไปทันที ทั้งยังมีนิสัยชอบเสี่ยงโชคอะไรที่เสี่ยงก็ยังทำสร้างความเจ็บช้ำให้กับตนเอง ท่านว่ายกตัวอย่างง่ายๆคนเล่นหวยนี่มักจะเจอบ่อยคือออกเฉียดๆ ซื้อบนออกล่าง ซื้อล่างออกบน ตัวเลขเคลื่อนไปหน้าไปหลังเฉียดไปเฉียดมา พ่ออาจารย์ท่านจึงได้เสกวิชาสำคัญกำกับน้ำมันไว้อีกชุดหนึ่งสำหรับคนที่ชีวิตชอบเสี่ยงโชคทั้งหลาย หรือคนที่ทำงานมีความเสี่ยง มีโอกาสจะเปลี่ยนแปลงให้พอกพูนหรือล่มจมได้ตลอดเวลาเช่นกัน ท่านจึงนำน้ำมันยายพิณนั้นเดินธาตุปลุกวิชาเปิดวาสนาให้สถิตย์ในน้ำมัน ท่านว่าน้ำมันนี้แค่พกก็เสมอด้วยเรามีวาสนาคอยค้ำช่วยเหลือเรา ท่านบอกว่าวิชานี้สำคัญนักเพราะใช้เปลี่ยนวาสนาคนกันมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งแต่ขรัวตาทำให้สีกาบูชาในเวลาต่อมาได้เป็นแม่นมเจ้าฟ้าซึ่งต่อมาได้เป็นกษัตริย์คือเปลี่ยนชาวบ้านธรรมดาให้มีวาสนาได้เป็นแม่นมเทียบเท่าแม่ของกษัตริย์ ทำให้หญิงชาวบ้านได้เป็นเมียท่านพระนาย ทำให้ไพร่ได้เป็นสนมขุนหลวง ทำให้หัวหมื่นได้เป็นพระยา ทำให้ยาจกเป็นพ่อค้าสำเภาได้โชคมีทรัพย์หลายพันตำลึง(เทียบกับค่าเงินสมัยนี้ก็หลายพันล้าน) พ่ออาจารย์ท่านจึงว่านี่เป็นวิชาเปิดโลก เปิดวาสนาอย่างชัดเจน แม้เสกใส่น้ำมันแล้วใครได้ถือไปบูชาชีวิตก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดี

    นอกจากน้ำมันชุดนี้จะมีสิริมงคลสูงแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังได้นำผงศักดิ์สิทธิ์และวิชาสำคัญของพระแม่ลักษมีบรรจุไว้เสริมอาถรรพ์เป็นกฤติยาคมแฝดพร้อมกันด้วยโดยพระแม่ลักษมีถือว่าเป็นเทพีแห่งความงดงาม ความมั่งคั่ง ร่ำรวย และโชคลาภ ใครที่ทำมาค้าขายหรือประกอบกิจการต่างๆก็สามารถขอพรได้ ท่านเป็นแม่ เป็นเทวีแห่งความงดงาม ความร่ำรวย และความอุดมสมบูรณ์ พระองค์มักประทานแนวทางทำกินทั้งยังจุดประกายความคิดหรือการส่องแสงแห่งภูมิปัญญา ความสำเร็จในการประกอบกิจการ การเจรจาต่อรอง การทำมาค้าขาย การประกอบธุรกิจทุกสาขา ตลอดจนประทานโภคทรัพย์ เงินทอง สมบัติ แก่ผู้หมั่นบูชาพระองค์และประกอบความดีอยู่เป็นนิจ ในคุณสมบัติที่พระนางมีอย่างเปี่ยมล้นคือ ศิริ-ความดีงามและความมั่งคั่งร่ำรวยนั่นเองเป็นกำลังนามธรรมที่สำคัญที่สุดอันจะเปลี่ยนวาสนาวิถีชีวิตและฐานะของมนุษย์ ดั่งที่รู้กันว่าพ่ออาจารย์ท่านมีบุพกรรมร่วมกันกับพระแม่และท่านมักจะทำรูปเคารพพระแม่ให้กับคนที่มีวาสนาจริงๆเท่านั้น แม้จะทำแต่สำหรับผงชุดนี้ท่านก็ยังหวงแหนไว้ท่านเรียกผงนี้ว่าผงดวงตาสวรรค์ของเทวีลักษมี ผงนี้มีคุณมากเมื่อสถิตย์อยู่กับผู้ใด ว่ากันถึงขั้นเมื่อเขาเปิดตาลืมตาขึ้นมาเวลาไหนย่อมได้รับทรัพย์และโชคลาภในเวลานั้นทั้งสิ้น พระแม่จะช่วยชี้นำความสว่าง ดุจเรามีวาสนาเส้นทางโชคลาภโคจรอยู่ในสายตาของพระองค์ เป็นชีวิตที่โดนพระองค์จับจ้องคอยประทานพรกำกับให้เรา ทั้งเพิ่มพูนกำลังสติปัญญาความเฉลียวฉลาดให้ประสบแต่ความสำเร็จในชีวิตทุกๆด้าน มีโชคลาภ ช่วยปรับให้ทุกอย่างทุกเรื่องในชีวิตเราเกิดความสมดุลไม่ว่าจะร่างกาย หน้าที่การงาน หรือชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังถือว่าผงนี้เป็นตัวแทนพระญาณธาตุอากาศของพระแม่ที่จำแลงรูปปรากฏขึ้นมาเป็นสสารอันมีจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เป็นตัวแทนของทรัพย์สิน แม้อยู่กับใครจะช่วยเพิ่มความมั่งคั่งร่ำรวยให้ผู้เป็นเจ้าของ ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้จิตวิญญาณ ช่วยกำจัดลางร้าย และยังช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดรวมทั้งการสูญเสียพลังงานได้อีกด้วย ...ที่สำคัญเหนืออื่นใดคือใช้ปัดเป่าวังวนของพายุวิบากรรมให้ผ่อนผันลงได้ ใครที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ใครที่เก็บทรัพย์ไม่อยู่มีเท่าไหร่ก็ไม่เหลือ หาได้เท่าไหร่ก็มีเรื่องต้องจ่ายเกินกว่าที่ได้รับไป ใครที่การเงินย่ำแย่ยุ่งเหยิงเกินเยียวยา ท่านว่าต้องพึ่งบารมีของพระแม่ลักษมีโดยเฉพาะชีวิตถึงจะดีขึ้น หากกำลังประสบวิกฤตปัญหาการเงินหรือมีหนี้สินรุมเร้าอย่างรุนแรง ท้อแท้หมดหนทางแก้ไข ท่านว่าให้พระแม่ท่านสะเดาะเคราะห์ให้เราเสีย ปัญหาการเงินทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างพลิกชีวิต เงินทองที่ไม่เคยมีเก็บมีแต่ชักหน้าไม่ถึงหลังจะเริ่มขังตัวเพิ่มพูนขึ้นในบัญชี ชีวิตจะดีขึ้น มีทางออกให้เห็นหลายด้านดั่งแสงสว่างที่รออยู่ปลายอุโมงค์ ให้พระแม่ท่านพาผ่านพ้นเคราะห์กรรม ใหท่านคุ้มครองเรา เปิดโชควาสนาให้เราตามหน้าที่ของท่าน

    ผงดวงตาสวรรค์ของเทวีลักษมีนี้เป็นผงพลิกดวงชะตา จะเปลี่ยนชีวิต พลิกกรรม เสริมดวงหนุนชะตาราศีให้ไม่มีตกต่ำอับจน ให้ดีได้ สุขได้ พ้นจากกลกรรมหนี้เวรได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ากรรมเก่านั้นแก้ไม่ได้แต่ลดกำลังลงได้ด้วยอำนาจแห่งบุญฤทธิ์และอโหสิกรรมซึ่งเป็นกำลังของพระลักษมีที่จะเปิดทางทรัพย์ให้กับผู้ถือบูชา พลังชีวิตจะถูกต่อให้ยืนยาว ดวงชะตาจะยกสูงขึ้น ดีขึ้น ท่านจะพาผ่านพ้นจากเคราะห์หามยามร้ายและอุปสรรคต่างๆ ให้หลบเคราะห์หมดภัยพ้นโชคร้ายเปิดดวงรับโชคดีให้มีโชคลาภวาสนา คิดอ่านสิ่งใดจะเจอความสำเร็จสมประสงค์ ทั้งมหาเทวีท่านยังบอกให้พ่ออาจารย์นำสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ชุดพิเศษของท่านสองชุดมาทำวิชาลงไว้เสริมคุณน้ำมันโดยตรงอีกด้วย
    - ตะกรุดคุณธรรมฟ้า ดอกนี้ท่านว่าต้องลงในวันดิวาลีซึ่งพิธีนี้เกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยวเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์กำจัดความชั่วร้าย ตะกรุดนี้จึงมีพลังดั่งดวงไฟนับล้านดวงที่ใช้ขับไล่ความมืดมิดออกไป ทั้งยังดึงพลังงานของฟ้าและวิถีดวงดาวมาช่วยชุบอุปถัมภ์ ดุจผืนฟ้ากว้างใหญ่มีคุณธรรมไม่ลำเอียงเลือกเข้าข้างผู้ใดหากคนอื่นมีได้เราก็ต้องมีเช่นกัน ทั้งจุดสำคัญของอำนาจตะกรุดนี้ก็คือการชำระไอลบ ชำระพลังงานในร่างกาย ชำระธาตุให้บริสุทธิ์ พระแม่ท่านกำหนดไว้ให้ทำเป็นตะกรุดแช่ในน้ำมัน เพื่อช่วยให้ผู้บูชาปรับธาตุปรับวาสนาได้ตลอดเวลา และคุณธรรมฟ้านี้เมื่อสถิตย์กับผู้ใดแล้วแม้จะเป็นเทพเจ้ายังนับว่าช่วยเพิ่มพูนตบะและอิทธิฤทธิ์ได้ เมื่อสถิตย์อยู่กับคนนั่นจึงเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เกินคาดเดา พระแม่ท่านว่าปกติวิชานี้จะเอาไว้ลงใส่เทวรูปหรือรูปเคารพให้มีอิทธิฤทธิ์เพื่อที่จะชำระใจคน ชำระสถานที่ให้บริสุทธิ์ ให้คนเหล่านั้นเข้าใกล้พระเป็นเจ้า ดึงเอาไอพลังของสุริยะเทพที่สาดแสงมาปลดปล่อยจิตวิญญาณ หากต้องคำสาปใดๆ หรือแม้แต่โดนสะกด โดนของ โดนการกระทำ ต้องเสนียด ต้องอัปมงคลทั้งหลาย ตะกรุดคุณธรรมฟ้านี้จะคลายพันธนาการที่สะกดไว้ แม้ปราณภูติผีฝ่ายต่ำก็อยู่ไม่ได้จะหนีไปห่างไกลตัวเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นการดึงพลังฟ้าให้ทวยเทพสำแดงอิทธิฤทธิ์ เมื่อใส่ในน้ำมันยายพิณและผงดวงตาพระแม่ลักษมีก็จะขับอำนาจพลังงานให้เปิดออกมาเชื่อต่อกับเราโดยตรงชนิดที่ว่ามีคุณเท่าไหร่ก็แสดงออกมาให้หมด
    - แผ่นยันต์มงคลอธิษฐานลักษมีกมลา แผ่นยันต์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าพระแม่ให้พันไว้อยู่รอบๆขวด ท่านว่าวิชานี้ทำยากเพราะท่านกำหนดให้ลงจารในวันอุปถัมภ์สามประสานเวลามงคล ทั้งยังต้องนมัสการสิบทิศ จุติเทพทั้งห้า ให้อวยชัย นำมงคล ความราบรื่นโชคลาภ ความปรารถนาดีเป็นมงคลมาสู่ตัวคนอาราธนา นำพาชีวิตเขาไปในทางก่อให้เกิดกุศล ให้ลงจารได้เฉพาะในภูเขา ซึ่งจะเป็นยอดเขาธรรมดาก็ไม่ได้หากแต่ต้องเป็นเขาที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์หนาแน่นดุจเขาพระสุเมรุที่เป็นเสาค้ำสวรรค์เช่นนั้น เพราะยันต์มงคลอธิษฐานนี้เมื่อนำมาพันรอบขวดน้ำมันแล้วเจ้าของได้อาราธนาก็จะค้ำชีวิตคนจากต่ำให้สูง ทั้งยังส่งเสริมให้การงานก้าวหน้า ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรท่านว่าต้องก้าวหน้าทุกอย่างไม่มีถอยหลังลงคลอง ทั้งยังใช้เป็นสื่อมงคลในการส่งพลังคำอธิษฐานของเราไปถึงเทพเจ้าได้และเทพเหล่านั้นต้องรับฟัง พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติวิชานี้จะลงไว้ในเทวรูปที่สำคัญจริงๆเพื่อให้มหาชนสักการะทำการอธิษฐานบูชา แต่นี่พระแม่ท่านเห็นว่าได้นำผงสำคัญอันเป็นสื่อถึงองค์ท่านมาสถิตย์ลงในน้ำมันแล้ว ท่านจึงให้ลงวิชาของท่านกำกับไว้ด้วยเพื่อที่เราจะได้กำขวดน้ำมันนี้แล้วอธิษฐานส่งใจไปถึงท่านได้ หรือแม้แต่จะเขียนคำอธิษฐานวางไว้แล้วนำขวดน้ำมันวางทับก็ได้จะเป็นมหามงคลชัย พ่ออาจารย์ท่านกำชับว่าอยากได้อะไร อยากขออะไรให้กำขวดน้ำมันที่มียันต์อธิษฐานนี้พูดคุยบอกกล่าวกับพระแม่ท่านตอนเที่ยงคืน ท่านว่าเวลานี้ดีขออะไรก็สำเร็จ(แต่ในส่วนของน้ำมันยายพิณนั้นขอได้ตลอดเวลา) ส่งเสริมให้การงานก้าวหน้า


    น้ำมันนี้เมื่อขอพรเสร็จแล้วท่านว่าเพียงอธิษฐานครั้งเดียวก็เสมือนให้พระแม่ลักษมีได้เห็นเราทั้งตัวทะลุปรุโปร่ง ท่านจะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ได้ออกไปจากตัวเราให้หมดทั้งดึงดูดโชคลาภให้เข้ามา ใช้ทางขอโชคลาภ ขอพรความรักได้ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าสายเทพนี่จะไวกว่าพระและมีเรื่องติดขัดน้อยกว่า เช่นนั้นท่านจึงเสริมด้วยน้ำมันยายพิณอีกชั้นหนึ่งเพื่อกันไว้ในเรื่องที่แม้แต่เทพชั้นสูงยังช่วยไม่ได้ก็จะได้บอกกล่าวยายพิณให้ท่านเมตตาช่วยเหลือเราอีกแรง ในส่วนของคนที่บูชาพระแม่ลักษมี พ่ออาจารย์ท่านว่าหากอยากบนหรือถวายของสิ่งใดเราบอกแค่ว่าท่านโปรดดอกบัว ถ้าได้สีชมพูก็จะดี จะขอเรื่องใดและท่านควบคุมนามธรรมอย่างไรอันนี้คงไม่ต้องกล่าวถึงเพราะชนทั้งโลกย่อมรู้กันดีอยู่ว่าพระนางนั้นให้คุณมากและเปลี่ยนฐานะคนมามากต่อมากแล้ว

    คาถาบูชา
    โอม ชยะศรี ลักษมี กมลา (นึกถึงพระแม่อธิษฐานขอยามเที่ยงคืน)
    - หากจะอธิษฐานถึงยายพิณให้บอกกล่าวออกนามท่าน ว่ายายพิณจ๋า ช่วยหลานทีเถิดนะจ๊ะ..(อยากขออะไรท่านก็ว่าไป)


    *** น้ำมันชุดนี้เป็นน้ำมันโบราณ ท่านว่าเราจะแบ่งให้แค่ครั้งเดียวเพราะแบ่งไปให้หมดแล้วด้วยน้ำมันมีน้อย หมดชุดนี้ก็ไม่ต้องมาขออีก ใครได้ไปก็ให้บูชาไว้กับตัวหรือจะวางไว้บูชาในเคหะสถานบ้านเรือนก็ได้ และท่านยังกำชับว่านี่ไม่ใช่น้ำมันผี ไม่ใช่น้ำมันพรายอะไร ไม่มีโทษ ไม่ต้องการเครื่องเซ่น มีแค่คุณของเทวดา คุณของคาถา อักขระ วิชา และว่านยาเป็นที่สุด หากใช้แล้วเมื่อได้ผลจะรู้คุณครูบาอาจารย์ก็ให้ทำบุญอุทิศไปถวายให้กับท่านออกนามพระแม่ออกนามยายพิณเช่นนี้ ความรัก ความเจริญก็จะบังเกิดมีแก่เราอยู่ตลอดไป พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าน้ำมันนี้มีเจ้าของทุกคน ใครมีวาสนาพอจะได้นำมันหรือมีวาสนาที่จะรับวิชาสำคัญของพระลักษมีก็ให้เร่งขวนขวายกันเอง ให้บูชาแขวนคอไว้ให้คนที่เรารัก ให้เขาเจริญก้าวหน้า ชำระพลังงานลบที่กัดกินร่างกายหรือจิตวิญญาณเช่นนี้ก็ได้ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้มอบเป็นทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันคุณธรรมฟ้าชำระไอมารเปิดวาสนาพระลักษมีกมลา(ยายพิณเรียกรักกวักทรัพย์) บูชา 2,500 บาท

    54518800-2157288074354482-773733255953252352-n.jpg 54520752-2075847342464406-1549542239535890432-n.jpg
    53782597-399155227548985-4819753978210287616-n.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระปัจเจกทศพลสิขีเจ้าเด็ดดอกบัวผงวิชาปิดฟ้าปฐมกาล(ตะกรุดมัจฉาแปลงมังกร)

    พระปัจเจกองค์ปฐมหรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าสมเด็จพระปัจเจกทศพลสิขีท่านเมตตาให้พ่ออาจารย์ทำพระบรรจุวิชาไว้อาราธนาแทนองค์ท่านขึ้นมาซักหนซึ่งครั้งนี้นอกจากจะควบวิชาปัจเจกโพธิโปรดสัตว์แล้ว ยังมีวิชาสำคัญที่ท่านทำให้ด้วย โดยปกตินั้นองค์ปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์ไม่มีกิจที่จะต้องเผยแผ่พระศาสนา จึงยินดีที่จะเสวยวิมุติในณานสมาบัติและนิโรธสมาบัติ เพื่อประโยชน์แก่หมู่เวไนยสัตว์ทั้งหลาย แม้จะอยู่ไกล้ไกลท่านก็ทรงไปโปรดตามบุญวาสนาบารมีที่ได้เกื้อกูลกันมา ผลของการถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าหลังจากที่ออกจากนิโรธสมาบัติจะปรากฏผลฉับพลันทันทีในชาติปัจจุบัน กล่าวว่าจะได้เป็นมหาเศรษฐี หลังตายจากความเป็นมนุษย์ก็จะไปเกิดจุติเป็นเทวดาไปเสวยสุขมีบริวารมากมายนับเป็นกัป ต่อมาจุติเป็นมนุษย์ก็จะเป็นพระมหาจักรพรรดิ์ พระมหากษัตริย์ มหาเศรษฐี ตามลำดับ ทั้งด้วยผลอานิสงส์นี้ก็สามารถที่จะบรรลุพระโพธิญาณเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสาวกของพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งก็ได้ตามที่ตั้งจิตอธิฐานบารมี ดั่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสยกย่องไว้ว่า " ในโลกทั้งปวง เว้นเราแล้ว ไม่มีใครเสมอพระปัจเจกพุทธเจ้าเลย " แลเพราะว่าพระปัจเจกพุทธเจ้านั้นทรงสงเคราะห์สัตว์โลกให้ตั้งอยู่ในทาน และศีลเสมอมา เมื่อสัตว์โลกเหล่านั้นละร่างกายไปแล้วก็ไปสู่สุคติภูมิอันมีสวรรค์เป็นต้น ทั้งยังทรงสงเคราะห์บุคคลที่ตกทุกข์ได้ยากแต่มีศรัทธาเต็มเปี่ยมให้ได้เป็นมหาเศรษฐีด้วยการออกจากนิโรธสมาบัติแล้วทรงมารับบิณฑบาตกับบุคคลนั้น พระปัจเจกพุทธเจ้าจึงเป็นเอกควรแก่การได้รับอัครทักขิไณยบุคคลในยุคพุทธันดรอย่างแท้จริง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ที่ ขัดสน ติดข้อง ในเรื่องอะไรก็ดีให้เอาพระปัจเจกองค์ปฐมที่ฉันสร้างนี้ไปอาราธนาเขาจะได้รับผลมีความสุขในทันที ในครั้งนี้สมเด็จพระปัจเจกองค์ปฐมท่านมีเมตตาให้พ่ออาจารย์ทำการลบผงเป็นกรณีพิเศษและทำวิชาเฉพาะกาลให้ศิษย์ที่มีศรัทธาเลื่อมใสได้นำไปพึ่งพาอาศัย ท่านว่าสมเด็จพระทำวิชาต้นกัปอย่างมหาพรหมเด็ดดอกบัวควบไปกับปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ โดยมีนัยยะว่าชนทั้งหลายนั้นเปรียบได้กับบัวสามเหล่าดั่งวลีที่พระพุทธองค์ทรงอุปมาไว้ว่า" เมื่ออาตมภาพตรวจดูโลกด้วยพุทธจักษุ ก็ได้เห็นหมู่สัตว์ซึ่งมีกิเลสดุจธุลีในจักษุน้อยก็มี มีกิเลสดุจธุลีในจักษุมากก็มี มีอินทรีย์แก่กล้าก็มี มีอินทรีย์อ่อนก็มี มีอาการดีก็มี มีอาการเลวก็มี จะพึงสอนให้รู้ได้ง่ายก็มี จะพึงสอนให้รู้ได้ยากก็มีบางพวกมีปกติเห็นโทษในปรโลกโดยเป็นภัยอยู่ก็มีเปรียบเหมือนในกอบัวขาบ ในกอบัวหลวง หรือในกอบัวขาว ดอกบัวขาบ ดอกบัวหลวง หรือดอกบัวขาว ซึ่งเกิดในน้ำ เจริญในน้ำ"
    - บางเหล่ายังไม่พ้นน้ำ จมอยู่ในน้ำ น้ำหล่อเลี้ยงไว้
    - บางเหล่าตั้งอยู่เสมอน้ำ
    - บางเหล่าตั้งขึ้น พ้นน้ำ น้ำไม่ติด ฉันใด
    ในเมื่อ
    สมเด็จพระท่านจะโปรดสัตว์แล้วไซร้ ไม่ว่าเหล่าใด เป็นคนประเภทไหนท่านก็ต้องโปรดทั้งหมด จะทิ้งเพราะว่ายังต่ำตม ยังอยู่ในโคลนตม รอเป็นอาหารเต่าปลาเช่นนั้นไม่ได้ สมเด็จพระท่านจึงให้พ่ออาจารย์แกะพิมพ์เป็นรูปท่านกำลังพิจารณาบัวทั้งสามเหล่า(พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นอนุสติ เป็นที่พึ่ง ว่าพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์นี้ท่านช่วยคนได้ไม่เลือกชั้นวรรณะ จะดี จะเลว ก็ลูกท่าน ศิษย์ท่าน เมื่อเคารพท่านย่อมต้องช่วยขัดเกลาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นชนชาติชนิดไหนจะในน้ำ ปริ่มน้ำ หรือพ้นน้ำก็ตาม)ซ้ำสัญลักษณ์บัวสามดอกนี้ พ่ออาจารย์ท่านยังถือเป็นเคล็ดสำคัญที่ช่วยกู้วิกฤติ ท่านอุปมาว่าเวลาเราขออะไรองค์ปัจเจกพุทธเจ้าก็ดี ไม่ใช่ว่าท่านจะช่วยเราแค่ครั้งสองครั้ง แม้เราขอสิบขอร้อยท่านก็สงเคราะห์เราซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่เช่นนั้น เพราะท่านเจาะจงให้เป็นมงคลวิเศษเช่นนี้ทั้งมีสัมพันธ์กับความเชื่อชาวจีนที่ว่าสัญลักษณ์ดอกบัวหลายดอกนั้น ถือว่าเป็นมงคลนักมีเสียงคล้ายกับคำว่าเหนียนเหนียนจะเรียกว่าซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ได้ ปีแล้วปีเล่าก็ได้ รวมแล้วก็จะหมายความว่ามีกำไรและอำนาจซ้ำแล้วซ้ำอีก ได้ซ้ำไปซ้ำมาปีแล้วปีเล่า ความมั่งคั่งและยศถาบรรดาศักดิ์หรือเกียรติยศจะไม่ทิ้ง ไม่ห่างจากเราเลย จะขออะไรท่านก็ย่อมสงเคราะห์เราซ้ำๆอยู่เช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพิมพ์ครั้งนี้จึงวิเศษนัก เพราะองค์ปัจเจกพุทธเจ้าท่านโปรดให้มีฤทธิ์พิศดารแฝงความหมายมงคลตั้งแต่ทำพิมพ์แล้วนั่นเอง

    เพื่อหวังผลให้ศิษยานุศิษย์มีความคล่องตัวในเรื่องเงินทอง ไม่ขัดสน ท่านจึงให้พ่ออาจารย์ทำพระพิมพ์เพื่อจะลงวิชาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์และย้ำว่าวิชานี้ท่านต้องลงให้เอง จะให้ใครทำแทนหรืออธิษฐานแทนพระปัจเจกองค์ปฐมไม่ได้ ถึงทำได้ก็ได้แค่หางๆปลายๆไม่มีอานุภาพเท่าที่พระปัจเจกองค์ปฐมท่านสงเคราะห์ ด้วยวิชานี้เมื่ออาราธนาจะเกิดลาภผลมากมาย ไม่รู้ยาก ไม่รู้จน ไม่ตกต่ำ มิหนำซ้ำเงินทองโภคทรัพย์ สมบัติ จะยิ่งเจริญงอกงามเพิ่มพูนขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ มีอานุภาพกินใช้ไม่หมดไม่พร่อง โภคทรัพย์จากสิบทิศหลั่งไหลเข้ามาสู่ผู้บูชา อุดมสมบูรณ์พูนผล เงินทองไม่ขาดมือ ข้าวน้ำไม่ขาดยุ้ง บริวารไม่ขาดเรือน ผู้บูชามีลาภเงินทองมาก ทั้งยามหลับและยามตื่น ผู้บูชาเป็นเศรษฐีมีเงินนับไม่ถ้วน ทำอะไรก็คล่องตัว มีอานิสงค์ดั่งการใส่บาตรพระปัจเจกพุทธเจ้านั่นแล จะเพิ่มเติมให้ความปรารถนา สำเร็จ สมหวัง มีลาภสักการะมากและจักร่ำรวยในที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าพระปัจเจกพระพุทธเจ้าของท่าน ท่านเองไม่ได้เสก เพราะตัวท่านนั้นเสกไม่ได้แน่ ไม่รู้จะเอาอะไรไปเสก ด้วยสมเด็จพระปัจเจกองค์ปฐมนั้นท่านจับมือตั้งแต่แกะแม่พิมพ์เสียแล้ว ท่านบัญชาทุกอย่าง กำหนดทุกอย่างว่าต้องออกมาอย่างไร ทำให้ทุกอย่าง ลงวิชาเองทุกอย่าง เพราะท่านเองบรรลุเองสำเร็จเอง พอท่านทำให้ทุกอย่างก็สำเร็จแล้วดังนั้นใครจะไปเสกท่านได้ เมื่อท่านมาสถิตย์รูปก็ต้องถือเป็นองค์แทนของท่าน ใครที่ได้ไปก็ให้ทำตัวดีๆทำบุญทำทานเป็นปกติวิสัยจะได้ไม่จน จะได้มีเงินทองผุดขึ้นมาเอง ให้ผู้บูชาบังเกิดความร่ำรวยคล่องตัวเพียงทางเดียว

    ทั้งท่านยังให้พ่ออาจารย์เป็นธุระไปหาธาตุกายสิทธิ์ต่างๆเพื่อจะทำผงวิชาปิดฟ้าปฐมกาลเป็นมวลสารเฉพาะ ท่านว่า"อาตมาภาพจะทำวิชานี้ให้แต่ครั้งนี้ครั้งเดียว เพื่อประโยชน์ใหญ่จะได้เกื้อกูลสาธุชนในพระศาสนา" พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเองก็ยังไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็มั่นใจอยู่หลายส่วนว่าดีแน่ เพราะนี่เป็นการทำรูปท่าน ทำด้วยวิชาของท่าน ต้องแทนตัวท่านได้ เช่นนั้นจะไม่ดีได้อย่างไร พอท่านบัญชาจะให้หาให้ทำอะไรเราก็ทำๆไปตามนั้น ท่านให้รวบรวม หินใต้สะดือทะเล,ผงโป่งขาม,ผงแร่เจ็ดสี,ผงแร่เขาอึม,ผงไม้ไผ่ตัน,ผงไม้งิ้วดำ,ผงตะเคียนดำกลายเป็นหิน,ผงแร่อกธรณี,ผงแร่บังบด,ผงแร่ทรหด,ผงแร่เกาะล้าน,ผงเหล็กไหลย้อย,ผงเพชรประสาน,ผงเหล็กไหลพญานาค,ผงเหล็กไหลบารมี,ผงไหลคำดำ,ผงไหลน้ำพี้,ผงเหล็กน้ำพี้,ผงคตดักแด้หิน,ผงอุกกามณีดำ,ผงทรายดำ,ผงข้าวสารดำ,ผงหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด,ผงหินเขี้ยวหนุมาน,ผงแก่นมะขาม,ผงลูกไม้มณีโคตรกลายเป็นหิน,ผงปฐวีธาต,ผงเหล็กไหลเพลิง,ผงไม้สัก,ไม้พยุง,ผงจากกรุพระสำคัญ,ผงปรอทดำ,ผงปรอทสำเร็จ,ผงทิพย์ถ้ำเอราวัณ,ผงทิพย์ถ้ำเทวาพิทักษ์,ผงอิฐพระธาตุพนม,ขี้เหล็กเปียกภูสิงห์,กรามพญาช้างเขมรโบราณ...
    ท่านบัญชาให้รวบรวมธาตุกายสิทธิ์ต่างๆที่มีพลังธรรมอยู่มากนำมาเสกสร้างด้วยวิชาเป็นผงปิดฟ้าปฐมกาลขึ้นมาโดยเฉพาะ ท่านว่าปิดก็คือทำให้ไม่เห็น ไม่ทราบ ให้ตัวเรากลายเป็นดั่งมิติลวงที่ปกปิด เมื่อเราปิดฟ้าก็ย่อมพ้นจากการกดขี่ของอำนาจวัฏจักรหรือบ่วงกรรมที่ทำมาเสียชาตินึง หนนึง ในขณะที่กฏต่างๆนั้นไม่ได้เสียไปดุจว่าเขาเห็นภาพลวง กฏต่างๆก็จะดำเนินไปตามปกติด้วยความคุ้นชิน แต่ตัวเราจริงๆนั้นย่อมถูกละเลยหละหลวมจากกฏกรรมแลธรรมเหล่านั้น เมื่อปกปิดตัวตนเราจากกรรมและธรรมทั้งหลายแล้วท่านว่าก็ให้ฉวยโอกาสทำสิ่งต่างๆให้ลุล่วงเถิด กิจใดที่หวังผลประการใดก็ดี ย่อมสำเร็จลุล่วงได้อย่างง่ายดายเพียงเราทำ ชนิดที่ว่าไม่มีแรงเสียดทาน แรงต้านทานเลยแม้แต่น้อย นี่คือวิชาปิดฟ้าปฐมกาล พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อใครได้อาราธนาแล้วก็จะติดตัวไป แต่วิชานี้ท่านทำไว้ให้เป็นบทเฉพาะกาล เพราะมันมีคุณและอาจก่อให้เกิดโทษมากเกินไปกับคนที่ไม่รู้จักพอ ท่านจึงทำให้เฉพาะองค์พระ เมื่อจะใช้ก็ให้อาราธนาเอา ท่านว่าจะให้ทำไปติดตัวใครทั้งชีวิตเช่นนั้นไม่ได้ แต่ตราบใดที่เราห้อยคออยู่วิชาก็จะสถิตย์อยู่กับเรา วันไหนห้อยก็ขอบารมีสมเด็จพระปัจเจกทศพลสิขีท่านสงเคราะห์ได้

    ทั้งท่านยังกำหนดให้ทำวิชาปลากินดาวหรือมัจฉาแปลงมังกรเสริมไว้ที่ด้านหลังด้วย โดยให้พ่ออาจารย์หล่อรูปปลามังกรขึ้นมาและทำตะกรุดบอกวิชาสำคัญ ท่านว่าให้ปลาว่ายชนตะกรุดดุจปลากำลังกลืนดวงดาวอุปมาดั่งปลาอยู่ในน้ำต่ำกว่าดินก็ยังกินดาวบนฟ้าได้ ผู้บูชาจะได้เป็นดั่งปลากินดาว เป็นบัวพ้นน้ำเช่นนั้น ทั้งวิชามัจฉาแปลงมังกรนั้นยังเป็นวิชาที่เปลี่ยนกรรม เปลี่ยนคุณลักษณะของคน พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาสำคัญของสมเด็จพระปัจเจกท่าน " เอาว่าเธอเปลี่ยนตัวเองนะ แต่จะเปลี่ยนไปมากจนจำตัวเองไม่ได้เลยดั่งปลาว่ายฝ่าแม่น้ำข้ามจุดหมายสูงสุดเปลี่ยนเป็นมังกรเช่นนั้น " ทั้งวิชานี้ยังหมายถึงคนที่พยายามและหวังความก้าวหน้ากระโดดข้ามอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ซึ่งไม่มีใครทำได้ ท่านเปรียบชีวิตคนว่าเหมือนปลา หากไม่ทำอะไรเลยก็จะปล่อยชีวิตทิ้งไปตามกระแสของน้ำ แต่หากหมายความฝันความสำเร็จที่อยู่สูงกว่าชาติกำเนิดตนแล้วก็จะต้องว่ายทวนน้ำ ทวนกระแส ทวนแรงกรรม แรงต้านทานต่างๆขึ้นไป แน่นอนว่าคนที่มีความพยายามนั้นมีอยู่มากเปรียบกับปลาที่ว่ายทวนน้ำแต่ก็ตกลงมาตายหมดทุกตัว จะมีรอดเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ได้ข้ามประตูสวรรค์ แปลงชาติกำเนิด แปลงวาสนา แปลงกฏแห่งธรรมจากปลากลายเป็นมังกรบินขึ้นสวรรค์ได้ ท่านว่าวิชานี้ใช้เร่งความสำเร็จสำคัญในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นจุดที่ยากแก่การผ่านพ้น ด่านปราการสำคัญที่ยากแก่การเข้าถึงซึ่งบ่งชี้อนาคตของบุคคลนั้น ท่านว่าจะผ่านไปได้อย่างง่ายดาย จะมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานยิ่งๆขึ้นไป แม้เจอความลำบากก็เปลี่ยนให้ง่ายดายปีนข้ามไปได้ ท่านว่าสมเด็จพระปัจเจกท่านลงให้ครอบคลุมทั้งหมดไม่ว่าจะความอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่ง มั่งมี ความสำเร็จ ให้มีเหลือกินเหลือใช้ มีความโชคดี จะเจรจากับใครก็ราบรื่น อยากได้อะไรก็ได้ สิ่งร้ายๆผ่านไปด้วยดีและยังช่วยเสริมให้ครอบครัวอบอุ่นลูกหลานเชื่อฟังดีขอเพียงผู้อาราธนามีใจจะสู้ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคความยากลำบาก ให้สะสมความเพียรจากความกล้าหาญ ความตั้งใจนี้จะเป็นพลังให้พบความสำเร็จ ท่านว่าทำอะไรก็เห็นผลกำไร เห็นความเจริญเติบโต อุปมาดั่งเราเป็นปลาเมื่อกำไรยิ่งมากเราก็ตัวใหญ่ขึ้น โตขึ้น เราจะเสพย์ผลกำไรไปเรื่อยๆจนมั่งคั่งสืบลูกสืบหลาน ยิ่งเราเสพย์มากตัวเรายิ่งใหญ่มาก การงานก้าวหน้ามาก เมื่อเราถึงซึ่งความมั่งคั่ง มีอำนาจเราก็จะกลายเป็นมังกรในที่สุด
    วิธีใช้
    ***
    พ่ออาจารย์ท่านว่าเคล็ดการใช้ สมเด็จพระปัจเจกท่านให้เราขลิบผมออกเสียหน่อย นำมาบรรจุปิดไว้ในรูตะกรุด ให้หาสีผึ้งหรือขี้เทียนปิดไว้ก็ได้ ท่านว่านี่เป็นอาถรรพ์ด้วยกลิ่นอายของเราและกำลังของเราทั้งยังพื้นฐานชาติตระกูลเดิมของเราจะเปลี่ยนแปลงไป ดุจเรายกตัวเองขึ้นสูงเป็นดาวบนฟ้า ดุจปลาที่กำลังกลืนดาว จะเปลี่ยนมัจฉาให้กลายเป็นมังกรเช่นนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จท่านทำไว้ให้มีครบแล้วดุจเป็นมงคลสักการะแทนตัวท่าน ทั้งกำราบทุกข์ภัย ปราบทุกข์แสนเข็ญ ปัดความยากร้ายลำเค็ญให้ออกจากชีวิตได้โดยเร็วพลัน ด้วยวิชาปิดฟ้าปฐมกาลและมัจฉาแปลงมังกรนี้จะบังเกิดมีแต่ความผาสุขสวัสดิมงคล มั่งมีในโชคชัย อุดมทรัพย์ อุดมลาภผลพูนทวี เจริญรุ่งเรืองดี บริบูรณ์ด้วยธนสารสมบัติอันมากค่า หากตั้งจิตปรารถนาสิ่งใดก็จะได้ไม่ช้าเลย สมเด็จพระปัจเจกทศพลสิขีท่านตั้งใจสร้าง บรรจุธรรม บรรจุวิชาเป็นอย่างมากเพื่อหวังเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้ผู้ศรัทธาในองค์พระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์ได้พ้นจากความทุกข์ในเรื่องเงินทอง ให้ลืมตาอ้าปาก ให้มีกินมีใช้ไม่รู้ขาด ใครที่มีหนี้สินก็ให้ท่านหมดหนี้ในไม่ช้า ใครที่ไร้โชคขาดลาภ อยากรับทรัพย์ อยากนั่งนับเงินกับเขาบ้าง ท่านว่าให้อาราธนาไว้จะทำอะไรก็ไร้เหตุติดขัด ไร้ปัญหาอย่างน่าประหลาดใจ ทั้งยังเป็นมหาคลาด มหาสะท้อน ผู้ใดคิดไม่ดี หรือสัตว์ร้ายที่ปรี่เข้ามาอย่างมุ่งร้ายหมายขวัญ พอเข้าใกล้เรามันผู้นั้นก็จะเปลี่ยนใจ ท่านว่าลงให้ครบหมดแล้ว

    เมื่อลงวิชาครบพ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จพระปัจเจกท่านพูดเป็นพรมงคลกำกับองค์พระที่ท่านทำและกำลังพิจารณาไว้น่าคิดว่า "แหม่ มั่งมีตลอดเลยนะพ่อคุณ พระนี้ให้เอาไปใช้เร่งลาภเป็นของวิเศษขึ้นชื่อ ชนที่อยากมั่งมีให้เอาไปใช้ รวยกันใหญ่รวยกันโต " พ่ออาจารย์ท่านว่าหากใครไม่ห้อยคอจะนำไปตั้งบูชาเห็นองค์เล็กอย่างนี้นี่ท่านมาเต็มฟ้ายิ่งกว่าพระประธานองค์ใหญ่อีกนะ ทั้งคณะพระปัจเจกโพธิเจ้าของท่านก็มหาศาล หากใครจะนำไปตั้งบูชาก็ให้บูชาด้วยน้ำสะอาดทุกวันพระหรือเปลี่ยนน้ำทุกวันได้ก็จะสำเร็จดังปรารถนาบังเกิดโชคลาภอย่างเห็นได้ชัด จะไม่ตกทุกข์ได้ยากในชีวิตเลย " ใครกำลังลำบากให้เอาฉันไปติดตัว ไปยกลาภเข้าตัวให้โชคเข้ามาไม่ขาดแม้แต่วัน ลองเองรู้เองขอเพียงมีศรัทธา ใครยกฉันขึ้นคอจะไม่ขาดเลยเรื่องโชคลาภความอุดมสมบูรณ์ ทั้งยังมีสติความจำเป็นเลิศ มีความงามเป็นที่รักแก่มนุษย์พรหมและเทพยดา " พระองค์เล็กๆนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าคุ้มได้ทั้งชีวิตเมื่ออาราธนาอยู่เย็นเป็นสุข ที่ว่าทุกข์กายทุกข์ใจ ความเดือดร้อนหม่นหมองในชีวิตตนจะหายไป จะปลอดภัยจากโรคาพยาธิทั้งปวง เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ช่วยทำให้เงินทองโชคลาภไหลมาเทมา แต่จะมีผลตามนี้เฉพาะกับคนที่มีศรัทธาในพระรัตนตรัยเท่านั้น

    คาถาบูชา (พ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วไม่ต้องใช้คาถาใดๆเลย เพราะท่านเป็นผู้สำเร็จทั้งหมดแล้วเพียงแค่ระลึกถึงองค์สมเด็จพระปัจเจกทศพลสิขี(พระปัจเจกองค์ปฐม)และเหล่าพระปัจเจกพุทธเจ้าก็พอจะอธิษฐานพูดจาอะไรกับท่านก็พูดคำไทยได้เลย)
    สัพเพปัจเจกะสัมพุทธา นิโรธะฌานะโกวิทา นิราละยา นิราสังกา อัปปะเมยยา มะเหสะโย ทูเรปิ วิเนยเย ทิสวา สัมปัตตา ตังขะเณนะ เต สันทิฏฐิกะผะเล กัตตะวาสะทา สันติง กะโรนตุโน


    *** องค์พระปัจเจกทศพลสิขีนี้เป็นพระสำคัญ พ่ออาจารย์ว่าสมเด็จท่านกำหนดเจ้าของเฉพาะไว้ทุกองค์ และวิชาปิดฟ้าปฐมกาลกับมัจฉาแปลงมังกรนั้นท่านจะทำให้เพียงครั้งเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่ากดพิมพ์ได้ทั้งหมดแปดองค์ แต่ท่านอาราธนาห้อยเององค์หนึ่ง และตั้งไว้ปฏิบัติบูชาถวายข้าวน้ำใส่ในรูปหล่อพระปัจเจกของท่านอีกองค์หนึ่ง พร้อมกับมีคนที่อาราธนานำไปเปลี่ยนชีวิตแล้วสององค์(ท่านว่าทำเสร็จก็ลองวิชา พ่อเขาเอาไปให้ลูกแขวนเป็นดาราไปแล้วก็มี) จึงมีให้บูชาทั้งหมดสี่องค์ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างสุขา และที่ปลดทุกข์ในวัดที่ขาดแคลนต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระปัจเจกทศพลสิขีเจ้าเด็ดดอกบัวผงวิชาปิดฟ้าปฐมกาล(ตะกรุดมัจฉาแปลงมังกร) บูชา 4,000 บาท


    54268373-361046181290748-7414769971458211840-n.jpg 54346134-583655442148938-8515787367523549184-n.jpg
    54525434-382089909011875-6484108480343965696-n.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดถามใจพระเจ้าย่นหนทาง(เปิดดวง,กลับดวง)

    ตะกรุดถามใจนี้ ...ต้องถามกับใคร
    ก่อนอื่นต้องถามใจตัวเองก่อนว่า เคยไหมที่ทำอะไรแล้วรู้สึกติดขัดทำอะไรไม่ราบรื่น หรือรู้ตัวว่าตัวเองดวงตก ดวงไม่ดี ชีวิตติดๆขัดๆ ดวงตกอับ มีปัญหาเรื่องชีวิต คิดไม่ตกหาทางออกไม่ได้ มีเรื่องไม่สบายใจ จากปัญหาจุดเล็กๆเรื่องเล็กๆกลายเป็นเรื่องใหญ่ อยู่ดีๆก็เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา กว่าจะทำอะไรให้ลุล่วงเป็นชิ้นเป็นอันได้ก็มีอุปสรรคมากมาย ธุรกิจมีปัญหา ดวงตก ดวงซวย ค้าขายขาดทุน ....ลองมองย้อนไปหาสาเหตุอะไรก็ไม่ได้ อีกทั้งเจ็บไข้ได้ป่วยเจ็บออดๆแอดๆสามวันนี้สี่วันไข้เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าตามนี้ หรือมากกว่านี้จะใช้เพียงวิชาหนุนดวงนั้นก็ยังตึงมืออยู่ จำต้องเปิดดวงและกลับดวงไปพร้อมๆกันด้วย เมื่อถามใจตัวเองได้แล้วว่าเราติดขัดอะไร เมื่อรู้ตัวถึงปานนั้นแล้วท่านว่านั่นแหละจึงจะมาเอาตะกรุดพระเจ้าย่นหนทางตัวนี้ไปใช้ ***ย่นหนทางคือย่นอะไร ทำไมต้องย่นให้สั้นลง ย่นแล้วได้อะไร พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้จะทำให้ระยะเวลาเร็วขึ้น สั้นขึ้น ย่นให้สั้น ย่นให้เร็ว ย่นหนทาง ย่นเวลา..ให้เร็วเข้า ให้เวลาหดลง หนทางที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ หนทางที่จะนำเราไปสู่จุดหมาย หนทางที่จะนำเราไปสู่ชัยชนะ หนทางที่ดีงามและหอมหวานของความรัก หนทางที่ปราศจากอุปสรรคและข้อขัดข้องทั้งปวง สั้นๆได้ใจความคือหนทางที่ไม่มีปัญหา เมื่อย่นย่อหนทางต่างๆนั้นลงมาให้อยู่ใกล้ๆเราประหนึ่งว่าแค่ออกแรงเอื้อมก็หยิบมาได้ แค่เริ่มเดินก็ไปเหยียบจุดหมายทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อย่นแล้วชีวิตคนก็จะเหนื่อยน้อยลง จากที่ต้องทำอะไรกว่าจะได้ซักเรื่องอาจจะใช้เวลาทั้งชีวิตนี่ท่านว่ามันนานเกินไปเอาให้เหลือเพียงเดือนรึปีก็พอ แล้วก็เอาเวลาไปต่อยอดทำอย่างอื่นเพราะเวลาเป็นสิ่งที่มีค่าไม่สามารถซื้อหาได้ วิชาพระเจ้าย่นหนทางนี้เมื่อย่นแล้วไอ้ที่ว่าจะเหนื่อยมันก็น้อยลง เมื่อความเหนื่อยความพยายามน้อยลงคนเราก็สุขสบายขึ้น มีเวลาคิด เวลาทำสิ่งต่างๆได้อีกหลายอย่างมากขึ้น ทำให้หนทางชีวิตหนทางนำไปสู่ความสำเร็จนั้นสั้นลง

    ใครมีปัญหาเหล่านี้ ทั้งดวงตกชะตาขาด ชีวิตมีแต่ปัญหาการเงินไม่ก้าวหน้า การค้าไม่ก้าวไกล มีปัญหาทะเลาะกันในครอบครัว ทะเลาะกับคนรัก เงินทองรั่วไหลเก็บไม่อยู่ใช้จ่ายไม่คล่อง คนรักนอกใจ เจ้านายไม่รัก เพื่อนร่วมงานกลั่นแกล้ง ค้าขายไม่ดี มีหนี้สินมาก ทำธุรกิจเจ๊ง ไม่มีเสน่ห์ไม่มีคู่ ไม่เคยถูกหวย..พ่ออาจารย์ท่านว่าต่างๆเหล่านี้ก็คือเรื่องหยุมหยิมหรือจะพูดง่ายๆภาษาที่หลายๆคนพูดกันเวลาเจอเรื่องแบบนี้ก็คือทำไมวันนี้เราดวงซวย ทำไมวันนี้ดวงเราไม่ดี แต่พอปัญหาที่มีมันเข้าแถวเรียงเข้ามาติดๆกัน มันมาชนกับเราวันต่อวันตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าควรนำวิชาเปิดดวง กลับดวงนี้ไปบูชาเช่นนั้นท่านจึงย้ำว่าอย่ามองข้ามตะกรุดดอกนี้ เพราะถือว่าเป็นคุณวิชา..เป็นวิชาอีกแขนงหนึ่งที่มีพลังอานุภาพครอบคลุมทุกด้าน และสามารถที่จะเกื้อหนุนดวงที่ตกต่ำให้โดดเด่นขึ้นมาได้ หากใครนำไปบูชาจะเปลี่ยนชีวิตได้อย่างอัศจรรย์ มีคำกล่าวไว้ในตำราว่ายาจกจะกลายเป็นเศรษฐี คนเหมือนๆกันต้องไม่ต่ำกว่ากัน ไม่ต่ำกว่าคนไม่จนกว่าใครเขา เพียงอาราธนาใช้ ว่าคาถาทุกวันเช้าเย็น จากยาจกก็เป็นคนมีอันจะกินมามากแล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ทำไม่ง่ายเลย ก่อนจะจารได้ครั้งหนึ่งก็ต้องบวงสรวงฟ้าดิน เมื่อลงจารฤกษ์มีแค่ไหนก็ต้องเอาแค่นั้นทำมากไม่ได้ ต้องเดินดาว โยกดาว เพ่งกสิณ กลั้นหายใจเมื่อลงเหล็กจารจะหายใจแต่น้อยก็ไม่ได้เลยทั้งยังต้องจารและภาวนาคาถาหมื่นห้องธรรมไปด้วยเพื่อประโยชน์ใหญ่แก่ผู้อาราธนา นอกจากจะเปิดดวง กลับดวงแล้ว ยังเป็นแรงขับให้จิตบ่มเพาะได้เต็มที่ ให้จิตดวงนั้นพ้นรูปลักษณ์ สามารถเห็นธรรมและรู้ธรรมได้อย่างง่ายดาย เมื่อผู้พกนำไปอาราธนาใช้แรงครูนั้นจะชำระจิต ทำให้จิตแผ่รัศมี ดึงดูดสิ่งที่เป็นมงคลเข้ามาหาตนเอง ท่านว่าเมื่อจิตมีกำลังแล้วอธิษฐานในสิ่งที่ดีกับตัวเองก็จะมีกำลังให้สิ่งที่ดีเกิดขึ้นกับตัวเองและสำเร็จได้ ตะกรุดนี้จึงเป็นเสมือนสิ่งที่กระตุ้นจิตให้มีพลังและเหนี่ยวนำพลังนั้นมาชำระทั้งจิตทั้งกายนำไปสู่สิ่งที่เป็นมงคล ทั้งปรับความสมดุล ทำลายอาถรรพ์กำราบเทวดามิจฉาทิฏฐิที่บดบังชะตาของตน เปิดหนทาง เปิดโลก เปิดโอกาสให้ผู้ถือครองมีชีวิตที่สว่างไสว

    ยันต์นี้เป็นยันต์ยกดวงที่เจ็บก็คลาย ที่ทุกข์ก็หาย เมื่อทำเสร็จแล้วต้องนำมาเสกในฤกษ์สุริยคราสหนหนึ่งก่อน ท่านว่าแรงนักทางหนุนดวงชะตา ทั้งเปิดทั้งกลับดั่งค่ายกล จะใช้ทางเมตตา ค้าขาย เสี่ยงดวงเสี่ยงโชค มหาลาภก็ดี ดีทางโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา ทำมาค้าขึ้น ค้าขายดี อธิษฐานได้ใช้เป็นดั่งแก้วสารพัดนึก ในยามคับขันก็ใช้ในทางแคล้วคลาดปลอดภัยดียิ่ง แก้อาถรรพ์ คุณไสยมนต์ดำ เปิดดวงตก กลับดวงแย่ แก้เคราะห์สะเดาะกรรม แม้ชีวิตคนที่ต้องธรณีสารทำอะไรไม่ขึ้นมีแต่เรื่องมีแต่ราวมีแต่ศัตรูไม่เว้นแต่ละวัน ต่อให้ไปถอนไปแก้ไปรดน้ำมนต์จนครบร้อยแปดวัดก็ยังไม่หายท่านว่านี่แก้ผิดต่อให้รดจนจนขันทะลุก็ไม่หาย ยิ่งสะเดาะเคราะห์ก็ยิ่งมีแต่เรื่องติดๆขัดๆ ชีวิตลุ่มๆดอนๆตามมีตามเกิด พอจะดีก็ดีไม่ถึงที่สุด ดีแล้วสะดุด หยุด แล้วก็ถอยหลังเป็นวงจรซ้ำไปๆมาๆ เรียกว่าชีวิตเดินหน้าหนึ่งก้าว หยุดหนึ่งก้าว ถอยหลังหนึ่งก้าว ผลสรุปคือยืนอยู่ที่เดิมเดินไปข้างหน้าแล้วก็เดินกลับมาไม่ก้าวหน้า ไม่รุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านว่าให้เอาตะกรุดนี้ไปใช้เถิด เห็นว่าลงยากอย่างนี้แต่แรงครูเขาสูงจริงไม่เสียของทีเดียว ให้เธอเอาไปปราบสิ่งเลวร้ายในชีวิต จะตัดกรรม สะเดาะเคราะห์ เสริมส่งให้ดวงชะตาราศีดีขึ้น เจริญมั่นคงถาวรขึ้น ท่านว่าเป็นทั้งมหาปราบคือปราบสิ่งเลวร้ายในเส้นทางเดินของชีวิตตน เป็นทั้งมหาตัดสั้นๆคือตัดกรรม และเป็นมหาหนุนคือหนุนตนขึ้น ยกตนขึ้นให้ดวงกลับ ดวงเปิดให้เคราะห์หายให้ทุกข์คลายดังนี้ เช่นนี้ตะกรุดนี้จึงมีไว้เปิดดวง พลิกดวง ทั้งยังหนุนดวงและค้ำชะตาผู้บูชา

    นอกจากนี้แต่ละปีตามเวลาที่พ้นผ่าน ชีวิตคนย่อมตกอยู่กับสิ่งที่เรียกว่าปีชง ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงลงกันชงกำกับไว้ด้วย เมื่อบูชาแล้วตะกรุดจะได้ให้คุณเป็นขั้นๆของเขาไปเริ่มจากหนุนดวง ต่อชะตา สะเดาะเคราะห์ สุดท้ายก็ต้องรับโชคเข้ามาให้ตัวเรา ท่านว่าตะกรุดดอกนี้ใช้บูชาติดตัวจะดียิ่งนักห้อยเอวก็ดี ห้อยคอก็ได้ อย่าเอาไปวางทิ้ง ไปวางไว้เฉยๆในบ้านเช่นนั้นมันจะไม่เกิดผลโดยตรงกับตัวเราแต่อย่างใด ผู้ที่มีตะกรุดนี้บูชาติดตัวจะช่วยลดเคราะห์ หลีกภัย พลิกผันต่อดวง เสริมชะตากลับจากร้ายให้กลายเป็นดี นอกจากนี้ยังใช้ข่มศัตรูคู่แข่ง ขับคุณไสยไล่อัปมงคลภูตผีวิญญาณร้ายต่างๆออกจากตัวมิให้มาแผ้วพานอีกชั้นหนึ่งด้วย ทั้งผู้ใดคิดร้ายก็จะสะท้อนกลับผู้ใดปล่อยคุณปล่อยของมาต้องเราก็จะโดนทำลายไปเสียสิ้น ท่านว่านี่ครูท่านลงกันไว้ให้ครบทุกทางแล้วเพื่อประโยชน์ใหญ่ที่เหลือคือมีชีวิตดำเนินไปด้วยดีให้บังเกิดแต่โชคลาภ มีเงินมีทองมั่งมีไม่ขัดสน ธุรกิจการงานเจริญก้าวหน้าดียิ่งขึ้นไป ***หากผู้ใดฝันดีรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะมีโชคมีลาภแต่ก้รู้ตัวว่าสิ่งต่างๆจะไม่เกิดขึ้นนั่นคือซื้อไปก็เสียเปล่าเหมือนว่ามีอะไรมาบดบังโชคลาภของเราเสมอๆทุกครั้งท่านว่าให้นำตะกรุดนี้ไปอธิษฐานติดตัวจะเป็นการช่วยเปิดทาง เปิดดวงให้แก่เจ้าของได้ดียิ่งขึ้นมิให้ตกต่ำหรือมีสิ่งใดมาปิดกั้น หากใครไม่ได้เกิดชงกับปีนั้นๆหรือดวงดีอยู่แล้วถ้าบูชาก็จะช่วยให้หนุนชูค้ำชะตาให้ดียิ่งๆขึ้นไป ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดอยู่ใกล้กับผู้ใดก็ตามผู้ที่มีตะกรุดนี้จะดวงดีเหนือกว่าผู้อื่นทั้งปวงพ่ออาจารย์ท่านว่าจะเปลี่ยนคนไม่มีโชคให้มีโชค คนไม่มีดวงให้มีดวง อุปมาเล่นๆว่าคนเล่นหวยคนไม่เคยถูกรางวัลให้ถูกรางวัลเช่นนั้น แม้ต้องมีการแข่งขัน แย่งชิง หรือต่อสู้กับผู้อื่นต่อให้เราไม่มีดวงวิชาพระเจ้าย่นหนทางนี้ก็จะชำระจิตเราให้สูงกว่าเขาชั่วครู่ดั่งว่าเราไปยกดวงเขา ไปนำดวงเามา ใช้ดวงเขาเป็นบันไดเหบียบขึ้นไปให้สูงกว่าชั่วครั้ง ชั่วคราว พอให้เหตุการณ์ที่เราแข่งกัน แย่งชิงกันผ่านพ้นไปได้โดยที่เราอยู่เหนือกว่าคู่แข่งเสมอ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติแล้วคนเราหากหมั่นทำบุญ ทำทานสะสมไว้แต่อดีตชาติเรียกว่ามีเสบียงเพียงพอ เมื่อเกิดมาชาตินี้ก็ย่อมมีโชค ในทางกลับกันคนที่ไม่เคยทำเลยแต่มาเร่งทำเอาชาตินี้ที่ยังไม่มีโชคนั่นก็เพราะมันยังไม่พอ ยังทดแทนกันไม่ได้แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำเลย เช่นนั้นท่านจึงเขียนผงที่ลบได้ยากนั่นคือผงยันต์แดงที่เกิดจากคุณวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านลงเป็นการเฉพาะเพื่อสงเคราะห์คนไร้โชค นั่นคือผงมหาเทพเปิดโลก ผงเทวดาให้ทรัพย์ ผงมหาเทพเปิดลาภ นะเทวดา นะมหาโภคทรัพย์ ท่านว่าผงเหล่านี้ต้องลบด้วยว่านยาผสมน้ำฝนห่าแรกในวันพระเจ้าเปิดโลกเมื่อผสมแล้วต้องมีสีแดงดั่งชาดจึงจะต้องตามตำรานำมาปั้นอุดตะกรุดอีกคำรบหนึ่งจะใช้หนุนตะกรุดให้เสริมชะตาดึงเรื่องราวและวาสนาอันเป็นมหามงคลเข้ามาสู่ชีวิต ทั้งยังเป็นมหาปราบ ระงับภัย ให้ทรัพย์ ดีทั้งโชคลาภ เมตตามหานิยม และยังเปิดดวงทรัพย์สินให้มีวาสนาได้จับต้องเงินทองอย่างต่อเนื่องเป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าให้นำติดตัวไว้เป็นสิริมงคลเสริมชะตาราศี เพราะว่าผงนี้ที่อุดตะกรุดนั้น ท่านว่าแม้เป็นเพียงผงแต่ก็มีเทวดารักษาอยู่ทุกอณู เมื่อผู้ใดได้พกเทวานุภานั้นก็จะอาบร่างอาบตัวนี่มันได้ข้อดีไปอีกอย่างก็คือขับราศีทำให้ตัวดูดีมีวาสนา บุคคลอื่นเขามองเห็นเราก็ว่าเราน่าคบหา ผู้ที่ได้ไว้ย่อมมีคุณเทพเจ้าติดตามอารักษ์ในกาลทุกเมื่อนับเป็นวาสนาอย่างยิ่ง ทีนี้ความอดอยากย่อมไม่มีกล้ำกรายแก่ตัวเองที่แม้ผงนี้ใครได้ถือครองได้อาราธนาติดกายไว้เสมอ ท่านว่านับเป็นวาสนาอย่างหนึ่งอย่าเอาไว้ให้ห่างจากตนเลย ด้วยคุณแห่งผงมหาเทพเปิดโลก,เปิดลาภ,ให้ทรัพย์นี้ไปไหนก็จะมีคนคอยอุ้มชูอุปถัมภ์ค้ำส่งเราให้สูงเด่นอยู่เสมอ เทวดาท่านจะช่วยไม่ให้ดวงชะตาเราตก เมื่อเอาผงมาอุดตะกรุดเทพย่อมอุ้มสมให้ทุกการกระทำเราสำเร็จได้ดั่งใจคิดแบบเสมอต้นเสมอปลายไม่ขาดๆหายๆอีกต่อไป

    เมื่อชำระจิตแล้วตะกรุดก็จะรักษากายวาจาใจเราให้สบายทั้งยังขับราศี และตัดกรรมริดรอน ห้ามเวรให้ผู้อาราธนา ท่านว่าใช้สยบมาร สยบอาถรรพ์ก็ได้ผลดี ดังนั้นคนทืี่เอาไปใช้จึงควรรู้ค่าว่าตะกรุดนี้เปรียบดังตะกรุดคู่ชีวิตใช้ได้เฉพาะบุคคลเท่านั้น ใช้บูชาติดตัวหนุนดวงชะตา เสริมบารมีหน้าที่การงาน พลิกจากด้านร้ายให้กลายเป็นดี ใช้สยบสะกดหรือล้างอาถรรพณ์ในตัวของผู้บูชา บันดาลโชคลาภบารมี เสริมดวงชะตาหน้าที่การงานให้เจ้านายรักใคร่เมตตาบังเกิดความเจริญก้าวหน้า ทั้งยังฆ่าล้างสยบสะกดอาถรรพณ์ในสถานที่ที่เราไปอันจะนำความวุ่นวายมาสู่ชีวิตเราได้อีกชั้นหนึ่ง ทั้งกันและแก้สิ่งชั่วร้ายเสนียดจัญไรคุณไสยคุณผีคุณคน ใครคิดไม่ดีย่อมสะท้อนกลับไป และยังช่วยเรียกทรัพย์เรียกเงินเรียกทองปรับดวงชะตาให้ดีขึ้นให้มีวาสนารับเงินทองเรียกสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต เมื่ออาราธนาติดตัวแล้วจะให้คุณต่างๆเป็นลำดับขั้นดังนี้
    - จะช่วยด้านแก้ไข ปรับอาถรรพ์ต่างๆในร่างกายเมื่อใช้ติดตัว หากนำไว้ในบ้านก็จะช่วยเรื่องฮวงจุ้ยปรับสมดุลย์พลังงานที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะชนทางสามแพ่ง เป็นซอยตัน ประตูตรงกัน หรือต้องธรณีศาล ต้องโทษทั้งหลายตะกรุดจะช่วยคลี่คลายได้
    - จะเปิดดวง กลับดวง พลิกดวง หนุนดวง เช่น ดวงขาด ดวงต่ำ ดวงถูกบิดเบือนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ทำมาหากินไม่ขึ้น โชคลาภไม่มี วาสนาหาไม่เจอ ที่รู้ว่าควรจะมี ควรจะมา ควรจะได้แก่เราตามนิมิตที่เห็น ตามฝันที่เกิด ตามสังหรณ์ที่รู้สึกได้ก็ไม่เกิดขึ้น ตะกรุดนี้จะช่วยพลิกร้ายให้กลายเป็นดี ทั้งเกื้อหนุนดวงที่ตกต่ำให้โดดเด่นขึ้นมาได้ ให้เราได้รับในสิ่งที่ควรได้ ควรจะเป็นของเรา
    - มีอานุภาพทางด้านแคล้วคลาด อาราธนาเดินทางไปที่ใดชีวิตก็ปลอดภัย ทั้งในด้านอุบัติเหตุก็ระงับไว้ไม่ให้เกิดขึ้น แม้ศัตรูปองร้ายก็จะช่วยให้พ้นจากอันตรายได้ในยามคับขัน กันของจำพวกคุณไสย กันคนปล่อยของต้องมนต์ กันผีสาง กันเสนียดจันไร แก้อาถรรพ์ผีข่มตัว อาถรรพ์ที่เกิดจากวิญญาณบังตา ทำให้เราเห็นผิด มีความเข้าใจผิด มีความรู้สึกนึกคิดที่ผิด
    - เป็นตะกรุดเปิดดวงโชคลาภ การเงิน การงาน และความสำเร็จ ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ช่วยให้ประสบความสำเร็จไปด้วยดี ช่วยให้เราเหนื่อยน้อยลง ช่วยให้หนทางสั้นลง ไม่ต้องพยายามหนักหน่วงเหมือนที่ผ่านมาเพื่อให้ได้รับสิ่งตอบแทนเล็กๆ ท่านว่านี่คือจุดสำคัญเลยช่วยคนที่ล้มบนหนทางชีวิตบนหนทางทำมาหากิรให้ฟื้นตัว ช่วยเปิดช่องทางขยายโอกาส คอยหนุนอาชีพให้ก้าวหน้ามั่นคงยิ่งขึ้น
    - ทั้งเป็นเมตตามหานิยม สามารถผูกใจผู้อื่นให้เกิดความรู้สึกที่ดีกับผู้ใส่ตะกรุดไว้ ทำให้ได้รับการสนับสนุนในหน้าที่การงานและอาชีพที่ทำอยู่ รวมถึงการเจรจาต่างๆกับผู้ใดก็ทำให้เขาเอ็นดู ทั้งยังความรักใคร่ปรองดองในหมู่คณะให้เกิดขึ้นได้


    คาถาบูชา(ว่าสามจบแล้วเป่าไปที่ตะกรุด หากเคราะห์กรรมเยอะท่านว่าให้ทำบ่อยๆทั้งตั้งจิตถึงเจ้ากรรมนายเวรโดยตรงให้ท่านเมตตาเรา)
    สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ สัพพะเทวะตาอานุภาเวนะ สัพเพเมโรคา สัพเพเมภะยา สัพเพเมอันตะรายา สัพเพเมอุปัททะวา วินาสสันตุ


    *** ตะกรุดถามใจนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยาก ลงได้น้อย แตกต่างจากตะกรุดหนุนดวงทุกตำรับเพราะเป็นตัววิชาพระเจ้าย่น ย่อหนทาง ท่านว่าทำได้ครั้งเดียวเพราะตั้งใจจะทำให้คนใช้มีชีวิตที่ดี ที่สบายมากขึ้น ทั้งยังขับดันแก้ไขจากข้างในออกมาสู่ภายนอกอย่างแท้จริง ไม่ต้องขวนขวายอะไรเยอะ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมทำบุญสร้างพระใหญ่ต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดถามใจพระเจ้าย่นหนทาง(เปิดดวง,กลับดวง) บูชา 1,500 บาท

    54523078-2271634746190807-3143221225157820416-n.jpg 54463115-2414008238609931-212391398417104896-n.jpg
    54390955-300465527297292-834747595719966720-n.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญเบิกวิชาองค์ต้นธรรมโคตรสยมภูว(ธรรมบดี84000บันดาลสุข)

    หากพูดถึงองค์ธรรมแล้วหลายๆคนย่อมจะนึกภาพกันไม่ออกว่ามีลักษณะทางกายภาพอย่างไร เพราะเป็นสิ่งที่ไม่มีรูป ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงสร้างองค์ธรรมบดีหรือองค์ต้นธรรมขึ้นเพื่อเป็นวัตถุที่ระลึกทางกายภาพซึ่งเกิดจากธรรมเวทย์ให้ผู้ศรัทธาได้จับต้องกราบไหว้และอาราธนาองค์ธรรม ตามหลักพระธรรมอันเป็นนามธรรมที่ยิ่งใหญ่ไร้รูปลักษณ์ที่จะจับต้องได้ เป็นกฏเกณฑ์ที่บัญชาการทั้งหมื่นโลกธาตุพ่ออาจารย์ท่านจึงสร้างเพื่อให้คุณวิเศษขององค์ต้นธรรมนั้นได้ต่อติด และได้เป็นที่พึ่งพาของผู้ศรัทธา ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะทำได้นั้นถือว่ามีอาถรรพ์อยู่มาก เพราะจะหล่ออย่างไรก็หล่อไม่ติด ตอนแรกท่านว่าท่านอยากจะทำให้สวยๆจึงปั้นหุ่นเทียนเป็นเทพทรงชุดจักรพรรดิ์เสด็จพระใหญ่ท่านก็ไม่เอา ให้ทำแบบศิลป์บริสุทธิ์ไปเลย พอท่านสลักอักขระคาถาลงในหุ่นเทียนบล๊อกก็หล่อไม่ติด เปลี่ยนมาขึ้นรัศมีก็หล่อไม่ติด ใส่วงเดือนกระจายออกจากองค์พระก็หล่อไม่ติด เรียกว่าพ่ออาจารย์ท่านทำอยู่หลายรอบจนเสด็จพระใหญ่ท่านบอกว่าต้องทำแบบเปลือยๆ ในเหรียญนี้ห้ามมีอะไรนอกจากความว่างเปล่าและท่านต้องทำเป็นทรงกลมเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าพอเราปั้นหุ่นเทียนเสร็จแล้วก็มาคิดๆดูว่าออกมาแบบนี้กลัวใจคนเขาจะปรามาสกันจริงๆเพราะเหรียญนี้ดูโล่งๆไม่มีอะไรเลย ท่านจึงถามเสด็จพระใหญ่ว่าผมจะลงจารทำวิชาธรรมคู่ไปกับเหรียญด้วยเพื่อให้เป็นสิริมงคลกับผู้อาราธนาได้หรือไม่(จุดประสงค์คือไม่อยากให้เหรียญดูเปลือยๆไม่มีอะไร)ซึ่งพระท่านก็อนุญาติ พ่ออาจารย์ท่านว่าจุดนี้สำคัญเพราะเสด็จพระใหญ่ท่านรู้ที่เรากังวล ท่านจึงว่า " ไม่ต้องกังวลไปองค์ต้นธรรมนี้ไม่ใช่ใครจะมีก็ได้ ย่อมขึ้นอยู่กับสัญญาแต่เก่าก่อนของคนอาราธนา ถ้าไม่มีสัญญาร่วมกับท่านมาแต่กาลก่อนก็ไม่มีวาสนาผูกพันธ์ การจะเป็นศิษย์ของท่านก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นคนที่จะเอาไปก็เป็นคนที่มีวาสนาร่วมกัน หากขาดสัญญาไปแล้วการจะเป็นศิษย์ในองค์ต้นธรรมย่อมเป็นไปมิได้เลยเขาก็จะมองเป็นเหรียญโล้นๆเปลือยๆไม่ได้สนใจเท่านั้น "

    การสร้างองค์ต้นธรรมอันมีศักดิ์สูง เป็นสุดยอดหรือจุดสูงสุดที่เหล่าศาสดาและมหาเทพทั้งหลายต้องอาศัยความเพียรเพื่อเข้าให้ถึงนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ง่ายเลย เพราะท่านต้องอาศัยการปั่นธรรมทีละชนิดเพื่อดึงพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดจนครูบาอาจารย์จากเบื้องบนเพื่อรวมกันมาอาราธนาองค์ต้นธรรม ท่านว่านี่จึงสำเร็จประโยชน์ใหญ่เพราะเราสร้างรูปเคารพให้กับสิ่งที่สูงที่สุดอันเป็นดวงพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้องค์ต้นธรรมนั้นลงมาช่วยกระทำการต่างๆ ทั้งยังเป็นการขอพลังจากองค์ท่านมาช่วยอำนวยพรให้สิ่งต่างๆที่เรากระทำ หรือสิ่งต่างๆที่โคจรอยู่รอบตัวเราและในชีวิตของเรานั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่น แต่การอาราธนาองค์ต้นธรรมนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแน่นอน ว่าท่านมีอุปการคุณมากและมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้ หากเธอเอาเหรียญเบิกวิชานี่ไปห้อยแล้วก็เท่ากับว่าเธอเข้ารับพลังของดวงแก้วดวงธรรม นำพลังขององค์ต้นธรรมมาขัดเกลาจิตใจหรือใช้ในการฝึกจิตได้ ...พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คล้ายๆกับเหรียญแทนครูเลยเพราะใครมีจะเสกเครื่องรางของขลังต่างๆให้มีพลังศักดิ์สิทธิ์ก็ยังทำได้ แม้จะไล่ผี ปราบปอบ ล้างอาถรรพ์ต่างๆท่านว่านี่พลังขององค์ต้นธรรมทำได้หมด จากคนที่ไม่มีวิชาธาตุธรรมนั้นก็จะปั่นธรรมในตัวเองให้เรารู้เราเห็นอะไรได้กว้างขึ้น

    ท่านว่าการอาราธนาองค์ต้นธรรมก็เหมือนกับการเปิดประตูต่างๆเชื่อมโยงกันทุกมิติ เรียกว่าหากใครที่ปฎิบัติมาพอสมควรมีสะสมมาตั้งแต่ชาติที่แล้วก็จะได้มาต่อยอดจากตรงนี้ การอาราธนาองค์ต้นธรรมนั้นเป็นการปลุกจิตวิญญาณของตนเองให้แผ่พลังขยายไปยังมิติอื่นๆนอกจากมนุษยโลกแล้วยังมียมโลกและเทวโลกตลอดจนถึงนิพพานได้อีกด้วย ผู้ที่รับพลังขององค์ต้นธรรมนั้นมักจะมีปัญญารู้แจ้ง เข้าใจ เข้าถึงสิ่งต่างๆได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังจะสัมผัสถึงพลังเหนือโลกต่างๆได้ง่ายขึ้น พ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าดุจองค์ต้นธรรมใหญ่หรือที่เราเรียกพระธรรมท่านลงมาสอนสั่งเราด้วยตัวเองเราจะค่อยๆปรับกายเนื้อให้เข้าใจและเข้าถึงสิ่งต่างๆที่คนปรกติธรรมดาทั่วๆไปมองไม่เห็นหรือเข้าไม่ถึงตรงนี้ท่านเรียกว่าฤทธิ์ทางใจ ท่านว่าจะค่อยๆเห็นแน่ชัดมากขึ้นแต่ขอเอาไว้อย่างเดียวว่าอย่าไปหลงใหลได้ปลื้มกับฤทธิ์ตัวนี้ว่าตนเองจะเป็นผู้วิเศษแต่อย่างใดเพราะหากเราหลงมันก็จะขวางการเข้าถึงสภาวะธรรมในลำดับที่สูงขึ้นไป ท่านว่าให้ผู้อาราธนามีใจเป็นกลางไว้ถึงได้มาก็ไม่ต้องยินดีกับมันสุดท้ายเราก็จะเข้าถึงสัจจะแห่งธรรมทั้งหลายได้ สำหรับคนที่อาราธนาองค์ต้นธรรมนั้นต่อไปก่อนจะกระทำการใดๆก็ให้เชื้อเชิญท่านมาช่วยเหลือเสียก่อนจะขอพร,ขอเรื่องใดๆหรือใช้ทางขจัดปัดเป่าและป้องกันรักษาให้พ้นจากภัยอันตรายย่อมทำได้ทั้งสิ้น..ท่านว่าค่อยๆขัดเกลาจิตที่หยาบให้ละเอียดขึ้นเมื่อเข้าถึงธรรมแล้วต่อไปการบรรลุธรรมนั้นก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย ในเรื่องความสามารถแปลกๆที่ติดตัวมาเช่นการแก้ถอนคุณไสย ไล่ผี ไล่ปอบ การใช้คาถาอาคมได้เห็นผล หรือใช้วัตถุมงคลได้ดียิ่งขึ้น เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงผลพลอยได้ทั้งสิ้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อท่านสร้างองค์ต้นธรรมแล้ว นอกจากจะเชิญครูบาอาจารย์ทั้งหลายตั้งแต่เสด็จพระใหญ่ลงไปช่วยกันปั่นธรรมและอาราธนาองค์ต้นธรรมลงมาแล้ว ท่านยังได้นำวิชาธรรมต่างๆของท่านได้แก่ธรรมบรรลุ ธรรมเก้าโกฎิ ธรรมห้องพระไตร ธรรมฤาษี ธรรมบันดาล ธรรมพระอรหันต์ ธรรมกาบแก้ว ธรรมแก้วสารพัดนึก ธรรม84000...และอีกหลายๆวิชาธรรมที่เรียกว่าธรรมทั้งหมด ครอบให้กับเหรียญทีละเหรียญ ท่านว่ากว่าจะทำได้เสร็จยอมรับเลยว่านานจริงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะยกตัวอย่างได้พอสังเขป เพื่อให้รู้คร่าวๆว่าเหรียญนี้มีอะไรมากกว่าที่ตาเนื้อจะรู้เห็นและสัมผัสได้ ดวงธรรมต่างๆนั้นได้แก่
    - ธรรมกาบแก้ว เป็นธรรมห้องสำคัญที่ใช้ในการรักษา ทั้งใช้ในทางแคล้วคงเสกน้ำเสกเหล้ากินได้สารพัด ขอให้พิจารณากันให้ดีเถิด พ่ออาจารย์ท่านว่านี่รักษาได้สารพัดเลยพอลงไว้แล้วเหรียญนี้ใช้แช่น้ำกินแทนยาได้เลย จะป่วยจากสิ่งใดๆที่ผิดธรรมชาติหรือโดนกระทำจากจิตวิญญาณชั้นสูงชั้นต่ำก็ดี ย่อมรักษาได้ทั้งสิ้น
    - ธรรมพระอรหันต์ ท่านว่าธรรมพระอรหันต์นี้จะช่วยขจัดปัดเป่าเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดี ด้วยชีวิตคนส่วนใหญ่นั้นย่อมร้ายมากกว่าดี ถึงดีก็ดีไม่สุด ท่านจึงครอบธรรมสำคัญนี้ไว้เพื่อหวังประโยชน์ให้การใช้ชีวิตนั้นง่ายขึ้นทั้งยังใช้อาราธนารักษาคนเป็นบ้าเป็นปอบ หรือถูกภูตผีปีศาจเบียดเบียนก็ย่อมได้ แม้โดนเทวดาผีเข้าเจ้าสิงทำอาถรรพ์ร้ายต่างๆที่บ้าน ที่ไร่ ที่นา ในป่า ในดงดอน ห้วย หนอง คลองบึง ที่เราเข้าไปอาศัยอยู่ด้วยความรักความหวงแหนสถานที่ ท่านว่าให้อาราธนาเหรียญออกชื่อธรรมพระอรหันต์นี้ก็จะขจัดปัดเป่าไปได้
    - ธรรมเก้าโกฏิ วิชานี้โบราณท่านถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากใช้ป้องกันภูตผีปีศาจมิให้มารบกวนย่ำยีได้ดีนักแล ทั้งยังใช้ป้องกันและรักษาปอบ โพง ผี เทพอารักษ์ เจ้าหลัก เจ้าที่ นายผี เทวดามิจฉาทิฏฐิ ผีดง ผีป่า ผีบ้า ท่านว่าจะทำให้ฤทธิ์ที่แรงกล้าของมันจืดจางไป
    - ธรรมพระไตร ห้องนี้ท่านว่าสำคัญเพราะใช้ขจัดปัดเป่าความทุกข์ความโศกรวมไปถึงโรคภัยที่ติดตัวเราโดยเฉพาะ ตลอดทั้งอุบัติเหตุและอุปัททวะอันตรายอันจะเกิดขึ้นกับเราก็ดีหรือเกิดขึ้นไปแล้วก็ดีให้เหตุที่ยังไม่เกิด,ให้ผลที่เกิดขึ้นแล้วเสื่อมสลายไป ท่านว่าใช้อาราธนาป้องกันโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายนับว่าได้ผลดีสมความปรารถนากันมามากแล้วเมื่ออธิษฐานออกชื่อใช้ในการป้องกันและรักษาอาราธนาให้หากโรคภัยไข้เจ็บเหือดหายไปได้ แม้บ้านเมืองเกิดความเดือดร้อนจากภูตผีปีศาจเข้ามาเบียดเบียนก็ยังรักษาได้ แม้ที่อยู่ซึ่งไม่มีใครจับจองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เมื่อเราเข้าไปอยู่ จะเป็นเจ้าป่าหรือภูตผีปีศาจที่มารักษาและถือครองแม้เราลุกล้ำเข้าไปก็ย่อมจะถูกผู้รักษาเหล่านั้นทำอันตรายบางรายถึงแก่ความตายหรือจะสะกดไว้ให้เจ็บป่วยและตกต่ำลงก็ดี ผู้คนที่ถูกเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขาเบียดเบียนท่านว่าให้อาราธนาธรรมพระไตรนี้ปัดเป่าออกไปเสีย
    - ธรรมแก้วสารพัดนึก ท่านว่าเป็นบทวิเศษใช้ได้สารพัดนึกสมดั่งชื่อมีค่าร้อยแปดพันประการ เมื่อเอ่ยชื่อธรรมแก้วสารพัดนึกแล้วหันหน้าไปทางทิศตะวันออกวันนั้นทำอะไรก็จักได้ชัยชนะ แม้เอ่ยนามแล้วหันหน้าไปทางทิศเหนือก็จะมีเดชาอานุภาพเป็นที่หวั่นเกรงแก่ฝูงชนยิ่งนัก แม้หันหน้าไปทางทิศใต้ทุกข์โศกโรคภัยต่างๆก็จะหายไป หากเงยหน้าขึ้นบนฟ้าก็จะชนะข้าศึกศัตรู จะอาราธนาตอนเช้าก็มีลาภมาก อาราธนาตอนสายรูปก็จะงาม ท่านว่านี่ใช้ได้สารพัดเลยทั้งให้ลาภให้มีทรัพย์สินมาก,ให้เทวดารักษา,ให้ศัตรูดับสูญสิ้น,ให้คนบูชาเรา,ให้อันตรายหายสิ้น,ถามหาความสุขย่อมได้ความสุข,ให้คนกลัวเรา,ให้ความแค้นมลายหายไป.. ท่านว่าย่อมใช้ได้ทั้งสิ้นแม้ปรารถนาอันใดก็จะได้ดั่งใจทีเดียว
    - ธรรมแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้อาราธนาธรรมนี้ผู้คนจะนับหน้าถือตาเป็นที่เลื่องลือว่าเก่งกล้าวิชา เป็นที่เกรงขามของทั้งคนทั้งผี ทั้งยังใช้ทางป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บอันเกิดจากภูตผีปีศาจได้ผลดีมาก ท่านว่าเมื่ออาราธนาธรรมดวงนี้แล้วก็ให้เคร่งครัดในศีลทั้งห้าจะยิ่งได้ผลดีมากขึ้น องค์ธรรมนี้ท่านว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้หรือเอ่ยชื่อแต่หากว่าเราดีจริงนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะธรรมสำคัญนี้จะหนุนความสำเร็จในทุกกิจการ แต่ถ้าหากเราไม่มีศีลก็ดี ไม่เชื่อในองค์ธรรมก็ดีนอกจากจะไม่ได้ผลแล้วยังจะเป็นโทษอีกด้วย(ท่านว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ วันไหนตัวเองดีพอก็ค่อยอาราธนาธรรมนี้)

    นอกจากนั้นท่านว่าธรรมแต่ละวิชานั้นยังแบ่งเป็นห้องต่างๆมากมาย เมื่อจะลงก็ต้องลงให้ครบเช่นนั้นจึงใช้เวลานาน ท่านให้ยกตัวอย่างคร่าวๆเช่น
    - ห้องสมาธิ ท่านว่าก่อนจะทำการใดๆก็ให้อาราธนาธรรมห้องสมาธินี้เสียก่อน ธรรมนี้จะช่วยให้จิตใจของเราแน่วแน่ ทั้งยังสามารถมองเห็นภาพนิมิตเหตุการณ์ต่างๆเบื้องหน้าได้เป็นบางช่วง นอกจากนั้นยังใช้ป้องกันหรือปราบปรามภูตผีปีศาจได้
    - ห้องจืด ทำให้ฤทธิ์ของผี,เทวดาหรือผู้มีวิชาที่มาขัดขวางสร้างเรื่องให้เรานั้นจืดจางไป แม้คนที่ผีเข้าเจ้าสิงห็หายได้หรือใช้ให้หายจากเจ็บไข้ได้ป่วยก็ได้ มีภูตผีปีศาจในที่ใดย่อมขับได้ทั้งสิ้น จะอาราธนาเสกน้ำมนต์,เสกทรายซัดสถานที่,เสกก้อนหินฝังอาถรรพ์ก็ย่อมได้ ท่านว่าสถานที่ใดก็ดีเมื่อฝังแล้วฤทธิ์ของภูติผีปีศาจนั้นย่อมจืดจางหายไป
    - ห้องหิริโอตโอตตัปปะ ใช้ขับภูตผีปีศาจ เป็นดั่งกำแพงแก้วสามประการคือพระพุทธ,พระธรรม,พระสงฆ์ เมื่ออาราธนาคุณพระรัตนตรัยก็จะเป็นดั่งกำแพงป้องกันสรรพทุกข์,สรรพโศก, สรรพโรค,สรรพภัย,สรรพอันตรายและอุบาทว์ต่างๆได้ทั้งภายนอกและภายใน เช่นนั้นเครื่องป้องกันอันเกิดจากคุณพระรัตนตรัยนี้จึงประเสริฐยิ่งนัก
    - ห้องล้อมรักษา ใช้อาราธนาเพื่อล้อมรักษาตัวเอง ทั้งขับไล่อาถรรพ์หรือภูติผีที่อยู่ก่อนแล้วให้ออกไปไกลจากตัวเรา ไม่ให้ศัตรูและภูติผีปีศาจเข้ามาใกล้เราได้
    - ห้องกำจัด ใช้อาราธนาเมื่อจะทำการกำจัดศัตรูทั้งภายในและภายนอก ท่านว่าเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกกว่าเพียงแต่ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ภูตผีปีศาจก็จะแตกระจัดกระจายไป ทั้งนี้เป็นไปด้วยเดชานุภาพแห่งพระรัตนตรัย
    - ห้องแผลงฤทธิ์ ฤทธิ์เดชเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการและจะเกิดขึ้นได้เมื่อบำเพ็ญคุณงามความดี ครั้นได้แล้วก็อาจเสื่อมสูญไปได้ เช่นนั้นคนแต่ยุคก่อนย่อมถือเอาว่าพระพุทธเจ้าเป็นเจ้าแห่งฤทธิ์เป็นจอมอิทธิฤทธิ์เพราะพระองค์ได้สร้างพระบารมีมาครบถ้วน เช่นนั้นก่อนเราจะทำกิจใดจึงต้องฃแผลงฤทธิ์ หรือทำการร้องขอเอาฤทธิ์ของพระพุทธเจ้ามาใช้ ท่านว่าให้อาราธนาไปเถิดจะเกิดผลดีแน่นอน
    - ห้องกำบัง ท่านว่าให้อาราธนาเพื่อไม่ให้ภูตผีปีศาจแลสิ่งที่ไม่ดีมองเห็นตัว เพื่อความไม่ประมาทก็ควรจะป้องกันไว้เพราะการแก้ไขนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่าการป้องกัน ท่านจึงให้อาราธนาธรรมกำบังนี้ไว้เสมอๆให้น้อมระลึกนึกถึงถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เพียงเท่านี้ภูตผีปีศาจก็ทำอันตรายหรือเบียดเบียนไม่ได้ ทุกสิ่งย่อมกำบังได้ทั้งหมดกำบังได้หมดไม่เป็นอันตรายแก่ตัวเรา แม้คนหรือผีจะทำอะไรเราก็เข้าไม่ถึงมาลองก็ไม่ถูกจนถึงขั้นที่สุดเขาให้วัวธนูปล่อยออกมาก็ยังไม่อาจทำอันตรายเราได้
    - ห้องตัน ท่านว่าเมื่ออาราธนาจะเป็นที่หวาดเกรงแก่ภูตผีปีศาจตลอดจนเป็นที่เคารพนับถือจากคนทั้งหลาย เมื่อเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยเนื่องจากภูตผีปีศาจเบียดเบียนก็ดีให้อาราธนาปราบปรามได้เลย ทั้งยังจะช่วยป้องกันรักษาให้อยู่เย็นเป็นสุขปราศจากทุกข์โศกโรคภัยได้ดียิ่งนัก
    - หยาดน้ำ ท่านว่าใช้อาราธนาในการแผ่กุศลเจริญเมตตาจิตถือเป็นการให้อภัยแก่กัน เมื่อได้ทำหรือปราบภูตผีใดๆแล้ว ท่านให้อาราธนาห้องนี้แผ่ส่วนกุศลให้เพื่อมิให้มีกรรมมีเวรต่อกัน อนึ่งสัตว์ที่ถูกเราข่มเหง ขับไล่ หรือผูกมัดไว้ จักได้หายความพยาบาทอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน

    ท่านว่านี่ก็ยกตัวอย่างได้เพียงระดับหนึ่งแต่เอาว่าอาราธนาใช้ได้สารพัดนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าการสร้างองค์ธรรมบดีหรือองค์ต้นธรรมก็เรียกนั้น ต้องบรรจุวิชาธรรมไว้ให้ครบถ้วนซึ่งปกติแล้ววิชาเหล่านี้ย่อมอาศัยความเอาใจใส่ขยันหมั่นเพียรในการฝึกเพื่อจะทำให้ดวงธรรมเข้มแข็งขึ้น สามารถนำออกมาใช้ได้อย่างดี แต่หนนี้ท่านว่าองค์ต้นธรรมท่านช่วยครอบให้ทั้งหมดแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าบุคคลทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ย่อมมีบุญกรรมและวาสนาบารมีที่แตกต่างกันออกไป บางคนกรรมยังหนักอยู่จึงต้องขับกรรมก่อนเรียกว่าเมื่ออาราธนาเหรียญองค์ต้นธรรมนั้นท่านก็จะขับกรรมให้ก่อนในกรณีคนที่มีปัญหาด้านนั้นๆ แล้วค่อยพัฒนาขัดเกลาธรรมไปพร้อมๆกับตัวเรา***เหรียญชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้จารหัวใจธรรมแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์กำกับลงวิชาไว้ทั้งหน้าและหลัง ท่านว่ามีฤทธิ์มากสารพัดจะใช้ จะเป็นรอยจารเล็กๆละเอียดๆและอาจจะเป็นการจารให้เยอะๆเต็มวิชาในวัตถุที่แข็งเช่นนี้ครั้งสุดท้ายเนื่องจากต้องใช้ความพยายามมากในการลงเหล็กจาร (ท่านว่าจะให้ใช้ครื่องจารสบายๆนั้นท่านไม่ทำเพราะรุ่นพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านก็ไม่ทำ ไม่เอาความมักง่ายทำอะไรก็สบายเข้าว่าแบบนั้น)

    คาถาบูชา(ท่านให้อาราธนาองค์ต้นธรรมแล้วนึกถึงคุณพระรัตนตรัยก็ใช้ได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ห้อยๆไปท่านจะตอบสนองกับใจเราโดยตรง คาถาไม่จำเป้นต้องใช้ จะหยิบอะไรเอามากล่าวให้เป้นมงคลก็ได้ แต่ถ้าคนที่ใจยังแกว่งยังอยากท่องอยากบ่นก็ท่องไป)
    เอวัง พุทธัง สะรันตานัง ธัมมัง สังฆัญจะ ภิกขะโว ภยังวา ฉิมภิตัตตังวา โลมะหังโส นะเหสสะติ (เมื่อท่านระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อยู่อย่างนี้ ความกลัวก็ดี ความหวาดสดุ้งก็ดี ความคนพองสยองเกล้าก็ดี อันใดจักมี อันนั้นจักหายไป ความหวาดผวาจักไม่บังเกิดขึ้น)


    ***เหรียญเบิกวิชาองค์ต้นธรรมโคตรสยมภูว พ่ออาจารย์ทำไว้ได้เพียงห้าเหรียญเท่านั้น ท่านพูดสั้นๆว่า"ใครได้เห็นถือเป็นบุญตา ใครมีไว้นับเป็นวาสนา" คนที่บูชาท่านให้แจ้งชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดตลอดจนสิ่งที่ติดขัดและสิ่งที่ปรารถนาแก่ท่านด้วย ท่านจะอธิษฐานบอกกล่าวองค์ต้นธรรมให้เป็นพิเศษ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญเบิกวิชาองค์ต้นธรรมโคตรสยมภูว(ธรรมบดี84000บันดาลสุข) บูชา 4,000 บาท

    54729932-410124396471588-8864362416436150272-n.jpg 54799426-342526456622472-3178740755019595776-n.jpg
    55882268-2309013092721179-4908663121247207424-n.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดต้าน,ลดแรงเสียดทานชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์

    ตะกรุดตัวนี้ ### ท่านเอาไว้ใช้ต้านและลดแรงเสียดทานของชีวิต ###
    - แรงเสียดทานชีวิต...คือพลังงานที่มองไม่เห็นซึ่งเข้ามาในชีวิตเรา พยายามจะหยุดเราไม่ให้เราเจริญขึ้นได้ ต้านการเติบโต ต่อต้านไม่ให้เราก้าวไปข้างหน้า ทำให้เราเจริญช้าลง พัฒนาได้ช้าลง คอยหน่วงเราเอาไว้ เมื่อจะทำอะไรจึงต้องออกแรงมากกว่าคนอื่น ใช้กำลัง ใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่น ในขณะที่ได้รับผลหรือความสำเร็จน้อยกว่าคนอื่นเช่นกัน เรียกว่าสิ้นเปลืองกำลังอย่างมากในการพัฒนาขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย พ่ออาจารย์ท่านว่าพลังที่มองไม่เห็นเหล่านี้เราควบคุมมันไม่ได้ และมันก็ส่งผลกระทบโดยตรงสะสมมาโดยตลอดทุกๆวัน ซ้ำยังเสี่ยงที่จะเจอได้อีกเรื่อยๆดุจว่าไปเจอมาก็สะสมไว้ สะสมไว้เพื่อชะลอความสำเร็จ เพื่อทำให้หนทางการก้าวเดินแต่ละก้าวของเรายากลำบากยิ่งขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าพลังงานเหล่านี้มันเป็นกฏทั่วไปของโลกที่จะโคจรหมุนเวียนถ่ายเทกันไปมา เราไปกำหนดไม่ได้ว่าจะต้องป้องกันได้ทั้งหมดนะ ไม่ให้พบ ไม่ให้เจอแรงเสียดทานต่างๆในชีวิตนั้นเลยแบบนี้ทำไม่ได้ แต่ท่านว่าถ้าไม่ช่วยกันก็จะมีอีกหลายๆคนที่ชีวิตเติบโตได้ช้า พัฒนาไม่ได้ หรือไปถึงทางตันแล้วก้าวต่อไม่ถูก ซ้ำเจอแรงเสียดทาน แรงปะทะต่างๆ ถ้าเบาก็พอแก้ไขได้ทำให้มีชีวิตพอถูๆไถๆไป แต่ถ้าหนักในบางกรณีอาจจะหยุดชีวิตของคนนั้นไว้กับที่ สต๊าฟให้หยุดนิ่งไม่สามารถหาทางออกได้ ท่านว่าเมื่อฝืนบังคับไม่ได้ แต่ในกรณีเดียวกันเสด็จพระใหญ่ท่านว่าสามารถต้านเอาไว้ หรือลดกำลังที่มันจะเข้ามาปะทะกับชีวิตเราลงได้ ที่แรงก็ให้อ่อนลงกึ่งหนึ่ง ที่หนักก็ต้านไว้ใม่ให้ปะทะตัวเรา เช่นนี้ท่านว่ามันคือการริดรอนอำนาจแรงเสียดทานในชีวิตของเรานั่นเอง

    " เราตั้งใจจะทำของดีให้คนเค้าใช้ เราลงด้วยใจ ทำให้เขาเหมือนกับที่เราทำไว้ใช้เอง " วลีสั้นๆของพ่ออาจารย์ที่ได้ใจลูกศิษย์ทุกครั้งที่ท่านเอ่ยกล่าว ด้วยมีเสียงเรียกร้องกันเข้ามามากเนื่องจากตะกรุดลบถมหลายๆชนิดของพ่ออาจารย์นั้น ในบางท่านที่อยากได้ของดีเเต่ทุนทรัพย์มีจำกัดไม่พอที่จะบูชา ดังนั้นท่านจึงตั้งใจจะทำตะกรุดตัวนี้ให้เป็นของประจำตัวลูกศิษย์ทุกคนที่จะต้องมีต้องใช้ก็ว่าได้ แต่บอกไว้ก่อนว่าตะกรุดหนนี้เป็นของสูง ทำยาก ถึงเเม้จะไม่ใช่ตะกรุดลงถมเเต่ก็เป็นตะกรุดชั้นสูงที่ทำยากมากอีกชนิดหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าจะให้ลงเป็นชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์เฉยๆก็จะกระไรอยู่ ดังนั้นที่ผ่านมาท่านจึงเก็บตัวลงตะกรุดดอกสำคัญนี้ด้วยวิชาของเสด็จพระใหญ่ เพื่อหวังประโยชน์อย่างจริงใจในการที่จะให้ผู้บูชานั้นได้ต้านและลดแรงปะทะร้ายทั้งหลายในชีวิตของตัวเอง

    แต่ก่อนนั้นสาเหตุของการสร้างตะกรุดชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์ของพ่ออาจารย์พล ด้วยท่านมักจะปรารภเสมอว่าสมัยนี้บ้านเมืองไม่ปกติ เหตุการณ์ธรรมชาติก็ร้ายเเรง เรื่องที่ไม่สมควรจะเกิดก็มาเกิดเหมือนผีซ้ำด้ามพลอยไม่รู้จักจบจักสิ้น บรรดาคนทั้งหลายต่างก็โหยหาวัตถุมงคลที่เป็นของดีเเละดีที่สุดของท่านนั่นก็คือสมเด็จวัดระฆัง ซึ่งพ่ออาจารย์ก็ไม่ได้มีความสามารถจะนำมาแจกให้บูชาได้ทุกคนเเละทั่วถึงเเละนับวันพระก็จะยิ่งหมดไป ท่านจึงตั้งใจจะลงตะกรุดสำคัญนี้ไว้ให้ใช้แทนกันโดยจะขอบารมีสมเด็จโตท่านอธิษฐานจิตให้เต็มที่ ทำให้เต็มกำลังเสมอกัน ซึ่งเมื่อทำแล้วก็ต้องทำให้เต็มสูตร เรื่องนี้พ่ออาจารย์ก็บอกว่าความจริงการลงหัวใจไม่กี่ตัวในตะกรุดดอกหนึ่งนั้นเราก็สามารถจะทำได้ เเต่ครูบาอาจารย์สมัยก่อนถ้าหากไม่เเก่จนสังขารร่างกายไม่ไหวจริงๆเเล้วท่านก็จะทำเต็มที่เต็มสูตรวิชาของท่านเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียถึงครูบาอาจารย์ เสียถึงพระคาถาเเละเสียถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะทำของอะไรก็ไม่รู้ออกไปให้คนเค้าใช้ยึดหน่วงจิตใจ ดังนั้นท่านจึงเก็บตัวลงตะกรุดสำคัญนี้โดยผูกชินบัญชรคาถาให้สัมพันธ์ เชื่อมโยง หนุนส่งกำลังแห่งพระพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ และอานุภาพพระปริตรต่างๆเชื่อมต่อกับธาตุทั้งสี่ของเราโดยตรง เพื่อหนุนส่งและเกื้อกูลเราแบบตรงไปตรงมาอย่างถึงที่สุดตามวิธีที่สมเด็จโตท่านเมตตาให้พ่ออาจารย์ท่านผูกโดยเฉพาะ ทั้งยังเสริมด้วยวิชาต้านและลดแรงปะทะ หรือแรงเสียดทานทั้งหลายที่จะชะลอเราให้ห่างจากความสำเร็จอันเป็นสูตรของเสด็จพระใหญ่ท่านด้วย

    เมื่อท่านมีความคิดจะทำตะกรุดสำคัญสงเคราะห์คน พ่ออาจารย์จึงตั้งใจทำตะกรุดชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์ตัวพิเศษเฉพาะกาลนี้ ซึ่งท่านกล่าวว่าเราจะลง,ทำวิชา,เชิญครู จะเสกให้ดีกว่ายันต์จักรพรรดิ์เสียอีกให้คนที่หาเช้ากินค่ำอยากได้พระสมเด็จเเต่หาไม่ได้สามารถเอาไปบูชาเเทนกัน ซึ่งพุทธคุณของตะกรุดนี้ก็มีถึงร้อยแปดพันประการเเบบฝอยท่วมหลังช้าง ถ้ารู้จักใช้เเละใช้เป็นก็ใช้ได้หมดดั่งจินตนาสมใจนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้กว่าจะทำได้เเต่ละดอกไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องผูกเข้ากับธาตุทั้งสี่ในร่างกายม้วนเอาพุทธคุณแห่งชินบัญชรคาถาเข้าหาตัวเราเป็นเกราะแก้วสิริมงคลที่จะปกปักเราตอลดเวลาทั้งยามหลับและยามตื่น ไม่ใช่เล่นปาหี่เขียนๆไปเท่านั้นแบบนี้ท่านไม่ทำ ท่านว่าลงไปก็ต้องเสกต้องอธิษฐานจิตกำหนดอารมณ์ไปพร้อมๆกันด้วย ลงจารตามฤกษ์ได้เต็มที่ก็วันละสอง,สามดอก ดังนั้นกว่าที่จะเปิดให้จองได้ก็ต้องรอเวลาให้อาจารย์ท่านเก็บตัวลงเเละเสกของท่านจนพร้อมด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ล่าช้าและตะกรุดสำคัญนี้นานทีปีหนถึงจะมีให้บูชาซักครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะให้ได้ครบตามองค์คุณที่ท่านต้องการ เนื่องจากตะกรุดนี้เป็นตะกรุดพิเศษที่พ่ออาจารย์จะกราบเรียนเชิญเสด็จพระใหญ่และสมเด็จครู(สมเด็จโต) มาทำวิชาเฉพาะของท่าน ให้มาร่วมประสิทธิ์ในการเสกด้วยทุกครั้งนั่นเอง

    ท่านกล่าวว่าการจะให้ของขวัญคนนั้น ให้ของกินเเป็ปเดียวก็หมด ให้ของใช้พักเดียวก็พัง แต่ถ้าเราให้ของที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเป็นขวัญกำลังใจในชีวิตเค้าเอาไปใช้เกิดมรรคเกิดผลเช่นนี้ย่อมดีกว่า เมื่อมั่นใจเเล้วว่าตัวเองมีดีจะได้ทำตัวให้สมกับมีของดี เเต่ก็อย่าได้อวดดี ให้ตั้งใจทำมาหากิน หมั่นศึกษาธรรมปฏิบัติธรรม เพียงเท่านี้ชีวิตก็ไปได้สวยอีกนานเเล้ว ซ้ำการมีตะกรุดนี้ ท่านจะบังคับให้ผู้ที่รับสวดมนต์ทุกวันเเละต้องท่องพระคาถาชินบัญชรให้ได้ ท่านว่าชินบัญชรคาถานี้จะจำก็ง่าย จะท่องก็ง่ายเป็นที่สุด เมื่อจะใช้ทีก็สวดมนต์ทีกุศลเหล่านี้ย่อมเกิดไม่รู้จบรู้สิ้น(แต่หากการสวดมนต์นั้นเหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ ท่านก็ให้เป่าหัวใจชินบัญชรไปที่ตะกรุดว่า.."ชินะปัญชะระปะริตตัง ปะชัง มัง รักขันตุ สัพพะทา" เพียงเท่านี้ก็ได้) ท่านว่าการสวดมนต์นั้นแม้ได้ยินผ่านหูก็เหมือนใกล้เกลือกินด่างเอาจริงๆเเล้วจะหาที่เข้าถึงได้สวดไปพร้อมน้อมจิตทำความเข้าใจนั้นเเทบไม่มี ท่านว่าตะกรุดนี้เธอเอาไปบูชานะสมเด็จครูท่านขอให้สวดมนต์กันมากๆ อย่างน้อยก็จะได้รู้จักสวดมนต์ไหว้พระ ได้รู้จักทำจิตให้ดิ่งลงในสมาธิซักชั่วครู่ชั่วขณะเป็นมหากุศลให้เเก่ร่างกายเเละชีวิตของตนเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ฉันทำถวายเสด็จพระใหญ่ท่านจึงถือว่าเป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือเป็นของสูงสำหรับพุทธศาสนิกชนด้วยเป็นมหามงคลอันยิ่งใหญ่เเก่ชีวิตที่จะบูชา ท่านลงไว้ครบทั้งหมดให้ดีทางเมตตามหานิยมเจริญด้วยลาภยศสรรเสริญ ให้ผลชัดเจนในเรื่องทำให้จิตใจผ่องใส,สดชื่น คนที่หน้าตาหมองคล้ำพวกวิตกจริตก็แก้ด้วยวิชานี้ได้ เพราะคนสมัยนี้ชอบปั้นหน้ายักษ์ใส่กันไม่มองหน้ากันหรือมองเเล้วบางทีก็ไม่สบอารมณ์ อาจารย์พ่อจึงตั้งใจเพิ่มในสิ่งนี้ให้เพื่อให้ใช้สำหรับออกไปเข้าสังคมโดยเฉพาะ ท่านว่าถ้าอารมณ์พื้นฐานเราดีอะไรมันก็ดีไปหมด ทั้งยังอธิษฐานบอกกล่าวใช้ได้ตามเเต่จะปรารถนาทุกอย่างทีเดียว นอกจากนี้ตะกรุดยังเปรียบเสมือนเป็นสิ่งเเทนองค์ของสมเด็จโตท่าน ใช้สื่อจิต สื่อใจ บอกกล่าวท่าน ท่านว่ามีตะกรุดดอกนี้ก็เหมือนเชิญสมเด็จโตท่านมาทำให้ เชิญท่านไว้เป็นขวัญชีวิตเรา เวลาเราพกตะกรุดก็เหมือนอาราธนาท่านไปกับเราด้วย เวลาสวดพระคาถาชินบัญชรท่านว่าจะให้ดีก็อย่าลืมสวดคาถาบูชาสมเด็จโตท่านก่อนทำได้เเล้วจะเจริญมากด้วยอานุภาพแห่งพุทธคุณนั้นจะปกปักรักษาชีวิตเราประดุจกำเเพงเเก้วทั้งเจ็ดชั้น ทั้งท่านยังได้ลงเสริมทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม และกำกับด้านดีโชคลาภเป็นพิเศษให้เข้ากับเศรษฐกิจที่ย่ำเเย่ในสมัยนี้ ทั้งยังใช้กันผีกันคุณไสยได้ทุกชนิด ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังลงเสริมไว้ให้ผู้บูชาเป็นที่รักทั้งกับคนกับผี เนื่องจากการกลั่นเเกล้งจากสิ่งที่มองไม่เห็นเเละไม่รู้ว่าเราจะไปทำอะไรให้ไม่ถูกใจเขาเมื่อไหร่นั้นปัจจุบันมีให้เห็นได้มากขึ้นเรื่อยๆท่านจึงลงกันไว้ให้ ให้เขารักเเละเมตตาเราเเต่เเรก เช่นเจ้าที่ผีบ้านผีเรือนเขาจะได้ช่วยอำนวยโชคลาภสิ่งดีๆไม่ขัดแข้งขัดขาเรา จะทำให้เป็นที่รักเเละเมตตาแก่คนทั้งหลายทั้ง คน,เทวดา,ภูติ,ผี,ปีศาจ เอาว่าสิ่งที่มีชีวิตไม่มีใครกล้าเกลียดเราทั้งยังใช้ป้องกันการกระทำด้วยไม่ว่าจะเป็นลมเพลมพัดปล่อยคุณปล่อยของผีเข้าเจ้าสิงไม่ได้ทำอันตรายแก่เรา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีคุณภาพเกินกว่าเครื่องรางทั้งหลายนัก ดอกเดียวคุ้มได้ทั้งบ้านกันได้ถึงคนที่อยู่ข้างๆท่านทำให้เป็นของขวัญให้ศิษย์ให้ผู้ศรัทธานำไปใช้ นำไปแล้วต้องใช้ต้องบูชาในที่สูง จะห้อยคอก็ได้ ทำพวงกุญแจเหน็บกระเป๋าเสื้อก็ได้ แต่ห้ามห้อยต่ำกว่าเอว *** หากจะไปทำตัวไม่ดีไม่งามที่ไหนท่านว่าให้ถอดออกก่อน เมื่อจะใช้เเช่น้ำทำน้ำมนต์ให้อาราธนาตะกรุดแช่น้ำก็สามารถทำน้ำมนต์ขับล้างคุณไสยได้ทั้ง12ภาษา ปรารถนาอยากอาบน้ำมนต์ก็ไปทำเอาเองจะอาบซักกี่วันหรือทุกวันก็ย่อมได้

    ข้อแม้ง่ายๆเเค่กราบพระสวดพุทธคุณ,ธรรมคุณ,สังฆคุณนึกถึงคุณพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณพระองค์ทรงตรัสรู้สัจธรรมใช้เวลานานนับสี่อสงไขยกำไรแสนมหากัป ทรงลำบากเเละพากเพียรเพื่อค้นหาสัจธรรมเเละประกาศออกไปเป็นพระศาสนา มีพระสงฆ์พระอริยสาวกมากมายที่เสียสละตัวเองเพื่อพระศาสนานี้ เราระลึกถึงคุณของพระองค์ท่าน ระลึกถึงคุณพระธรรมคำสั่งสอน และพระสาวกเหล่านั้น อัญเชิญพระองค์ให้ประทับฝ่าพระบาทไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของเรา คิดให้ละอองธุลีพระบาทของพระองค์ตกต้องเกล้ากระหม่อมของเราหลังจากนั้นจึงสวดคาถาบูชาสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)ต่อด้วยพระคาถาชินบัญชร เพียงเท่านี้หากมีเวลาว่างเเละจิตใจสงบอยู่ก็ให้นั่งทำสมาธิต่อแบบค่อยเป็นค่อยไป เกินกว่านี้ขอไม่กล่าวถึงเเล้วท่านจะรับรู้ได้ถึงสิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตท่านเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าในส่วนตะกรุดนั้นย่อมมีพุทธคุณเป็นอันมาก แต่ที่เราตั้งข้อปฏิบัติดังนี้ไว้ก็เพราะอยากให้คนใช้สวดมนต์กันบ้าง จะได้ฝึกจิต ฝึกสมาธิให้จดจ่อกับสิ่งที่ทำจนเป็นกิจวัตรประจำวัน

    คาถาบูชา(ท่านให้สวดชินบัญชรคาถา ถ้าสวดไม่ได้หรืออยู่ในกรณีเร่งรีบจึงค่อยว่าหัวใจ)
    ชินะปัญชะระปะริตตัง ปะชัง มัง รักขันตุ สัพพะทา

    *** ตะกรุดสำคัญวาระนี้ พ่ออาจารย์ท่านใช้เวลาลงยาวนานมาก และท่านตั้งใจไว้ว่าหลังจากนี้จะไม่ลงตะกรุดชินบัญชรตัวนี้อีก ท่านว่าทำให้ครั้งแรกและก็ครั้งสุดท้าย ทิ้งทวนกันไปเลยว่าต้องดีที่สุด ท่านว่าทำได้ไม่มากท่านอยากให้คนเอาไปใช้ไปสวดมนต์ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง รักใคร มีใครบ้างในครอบครัวก็ให้เขาห้อยบอกให้เขาไหว้คุณสมเด็จโต รู้จักสวดมนต์คิดถึงพระ นึกถึงพระแล้วพระก็จะนึกถึงเรา ตะกรุดนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนไถ่ชีวิตโคกระบือสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดต้าน,ลดแรงเสียดทานชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์ บูชา 900 บาท

    55782409-979874472345194-3039727717508448256-n.jpg
    55704602-468541547017527-8867759288890687488-n.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ผงมงคลยารักตันตระอภิรมย์ศิวะตาณฑวะ(กาลึงคะกามสูตร)

    หากกล่าวถึงครูพระสยมแล้วหลายๆคนย่อมทราบคร่าวๆว่าเป็นครูใหญ่ฝ่ายเทวะที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจเผยแผ่เกียรติคุณของท่านมายาวนาน แต่น้อยคนนักที่รู้อะไรลึกๆ...พ่ออาจารย์ท่านว่าพระศิวะนั้นคือกลไกยิ่งใหญ่อันลี้ลับซึ่งพระองค์จะเป็นผู้ผลักเคลื่อนมวลพลังธรรมชาติ โดยพลังเหล่านี้แม้มนุษย์จะเข้าใจว่ามีอยู่หรือรู้ว่ามีก็ไม่สามารถเข้าถึงหรือเชื่อมต่อกระแสนั้นเพื่อนำพลังงานไปใช้ได้ ท่านว่าหากอยากเข้าไปสัมผัสพลังงานเหล่านั้นจำต้องฝึกตนด้วยโยคะ ดังนี้ครูพระสยมท่านจึงให้สร้างพระสำคัญเพื่อเชื่อมต่อมหากระแสให้ผู้ศรัทธาในรูป ในนามของท่านได้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง ในพลังที่เป็นวงจรเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันมีความลึกซึ้งอยู่มากเพราะทั้งจังหวะและอุบัติการณ์ต่างๆในลีลาของธรรมชาติล้วนเกิดขึ้นเมื่อครูพระสยมท่านผลักเคลื่อนมวลพลังทั้งหลาย

    ซึ่งครูพระสยมท่านต้องการให้พ่ออาจารย์ทำพระผงตาณฑวะและต้องเป็นพิมพ์นี้เท่านั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อพระศิวะทรงเต้นตาณฑวะ การเต้นนั้นก็ถือเป็นการเคลื่อนวงจรพลังงานชีวิตให้ปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงสิ้นสุด เมื่อพระองค์ทรงเต้นอย่างร้อนแรงและรวดเร็วขึ้นจังหวะและวงจรที่จะเกิดอุบัติการณ์ต่างๆในลีลาของธรรม ของกรรม ของชีวิตก็จะหมุนไปอย่างรวดเร็วนั่นคือกาลเวลาตั้งแต่เกิดจนดับ จะได้หรือมี จะอยู่หรือตาย จะรักษาหรือจะทำลายนั้นย่อมถูกควบคุมด้วยกระแสพลังธรรมผ่านการผลักดันขับเคลื่อนของตาณฑวะทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพระสยมท่านตั้งใจให้เราทำพระผงตาณฑวะนี้ก็เพื่อให้เหล่าผู้มีศรัทธาในตัวท่านได้อาราธนาพระผงคุณวิชาติดตัว จะได้ซึมซับและผลักดันกระแสพลังงานต่างๆให้คงที่ไม่มากไปจนร่างกายผิดปกติ ไม่น้อยไปจนเกิดโรคภัยและความยากลำบาก ที่ต้องเพียรพยายามมากหน่อยก็ลดลงมา ที่ไม่ได้ก็ต้องได้ ที่ไม่มีก็ต้องมีต้องเกิด เรียกว่าปรับจังหวะหลายอย่างในชีวิตให้ลงตัวหรือให้มีความพอดีนั่นเอง ท่านว่าชีวิตของใครที่คิดว่าขาดความพอดี,ขาดสมดุลย์,ยังไม่ลงตัวเหล่านี้ต่อไปเขาจะต้องเข้าถึงองค์พระศิวะเพื่อจะใช้กำลังแห่งตาณฑวะเปลี่ยนแปลงตัวเขา ด้วยการเต้นรำของพระศิวะก่อให้เกิดปฏิกิริยาของการสร้างโลกและมนุษย์เป็นพลังการสร้างสรรค์ที่แตกต่างจากการสร้างของพรหม เพราะจังหวะของตาณฑวะนั้นดำเนินไปอย่างร้อนแรงและรวดเร็วมาก ดังนั้นคนที่ใจร้อนหรือมีปรารถนาสิ่งใดที่แข่งกับเวลา หรือมีเป้าหมายที่ต้องการความสำเร็จและเห็นผลในระยะอันใกล้เช่นนี้จึงจำเป็นต้องใช้พลังแห่งตาณฑวะนี้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นการสร้างสรรค์,ผลักเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่สุด
    ความหมายแห่งตาณฑวะ
    ศิวนาฏราชจะปรากฏในท่าย่างสามขุมหรือเรียกว่าตรีวิกรมโดยมีสัญลักษณ์ที่พระกรขวาถือกลองคือการสร้างโลก พระกรซ้ายมีเปลวเพลิงล้อมเป็นกรอบคือการสิ้นสุดที่ไฟจะเผาผลาญโลก เสียงกลองเป็นสัญลักษณ์แทนธาตุแรกที่ถือกำเนิดขึ้นในจักรวาล นั่นคือกลองเป็นสัญลักษณ์แห่งการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ทั้งมวลในขณะที่อัคนีเป็นสัญลักษณ์ของการทำลายล้าง ทั้งนี้การทำลายล้างนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นการทำลายเพื่อให้เกิดใหม่ ให้มีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม ทั้งยังล้างความชั่ว ล้างอวิชชาทั้งหลายให้หมดไป เพื่อเปิดเส้นทางการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆขึ้นมาใหม่และสร้างสิ่งที่เป็นมงคลเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เมื่อแขนทั้งสองซึ่งแทนการสร้างสรรค์และการทำลายล้างนี้กางออกไปในระดับเสมอกันย่อมบ่งบอกถึงสัจธรรม"มีเกิด ก็ย่อมมีดับ" นั่นเอง ในขณะที่อะไรที่ดับไปแล้วก็ย่อมเกิดขึ้นมาใหม่ได้ ส่วนมือด้านหน้าขององค์ท่านนั้นอยู่ในปางอภัยด้วยท่านตั้งใจจะบอกทุกคนว่า"จงอย่าได้กลัวสิ่งใดๆเลย"เพราะไม่มีภัยใดๆจะมากล้ำกรายต่อเราได้ด้วยครูพระสยมท่านจะเป็นผู้ปกป้องเราเสมอ ทั้งมืออีกข้างที่มีลักษณะดั่งงวงช้างนั้นปลายนิ้วย่อมชี้ลงไปที่พระบาท อันพระบาทที่ยกขึ้นมาจากพื้นย่อมบ่งบอกถึงการหลุดพ้นจากวัฏสงสาร ส่วนพระบาทที่ยืนเหยียบอย่างมั่นคงนั้นแทนการเหยียบสะกดข่มอวิชชาไม่ให้โผล่ขึ้นมาบดบังความจริง,ความรู้แจ้ง ในขณะที่เกศาของท่านแผ่ขยายไปทั้งซ้ายและขวาดุจว่าไม่ยึดติดและละทิ้งชีวิตทางโลก

    พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพระสยมนั้นท่านกำชับเสมอว่าพิมพ์ทรงตาณฑวะนี้ต้องกลับข้างกันท่านกำหนดให้ไขว้ขาในท่ากลับข้าง ท่านว่าวงจรทุกอย่างจะได้กลับทั้งหมด เป็นวิชาเพชรกลับจะเปลี่ยนจากร้ายให้กลายดี ซึ่งวิชานี้เมื่อจุติในเทวศาสตร์แห่งครูพระสยมย่อมได้ชื่อว่ามีอาถรรพ์สูงที่สุดแม้ผู้ที่จะกระทำการปลุกเสกต้องเป็นผู้ที่มีพลังจิตสูงอีกทั้งต้องชำนาญในการเข้าออกสมาธิ ต้องบริกรรมพระคาถาปลุกเสกจำเพาะทั้งเดินหน้าและถอยหลัง พ่ออาจารย์ท่านว่าขณะที่บริกรรมปลุกเสกนั้นหากวางอารมณ์ผิดแม้แต่นิดเดียวตรงนี้อาจถึงขั้นเสียสติวิปลาสหรือไม่ก็มีอันเป็นไปประสบวิบัติต่างๆ เพราะนี่เป็นวิชาเพชรกลับของครูพระสยมที่มีอาถรรพ์มาก และทำเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตคน ดังนั้นนอกจากพ่ออาจารย์ท่านจะทำวิชาปลุกเสกแล้วยังเชิญครูพระสยมท่านมาทำให้ด้วยอีกแรงหนึ่ง ท่านว่าต่อให้เราทำได้ดีซักร้อยครั้งก็ไม่สู้ครูท่านทำให้เสียครั้งเดียว

    นอกจากนั้นเหตุหนึ่งแห่งการเกิดตาณฑวะยังปรากฏขึ้นด้วยปรากฏการณ์ของความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ด้วยความเสน่หาและระลึกถึงอย่างยิ่ยวดที่องค์มหาเทพมีต่อพระชายา เมื่อพระแม่สตีสิ้นไปกับไฟพระองค์ทรงแบกพระศพพระแม่สตีที่ยังถูกเผาไม่หมดไปทั่วทั้งจักรวาล และทรงเต้นตาณฑวะจนจักรวาลกำลังจะเข้าสู่การทำลายล้างเป็นมหาวิจุณ พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยเหตุนี้เองครูพระสยมจำให้สร้างพระผงตาณฑวะขึ้นอีกครั้ง เพราะพระผงนี้แสดงอออกถึงกำลังอันจะเปลี่ยนแปลงกฏแห่งธรรมทั้งหมด โดยมีพลังพื้นฐานที่ใช้ขับเคลื่อนมาจากความรัก,ความเสน่หาและความคิดถึงอย่างยิ่ง ทั้งในกระบวนการวิชาทางมายาศาสตร์ทั้งหลายที่พ่ออาจารย์ท่านถนัดที่สุดก็คือวิชาในฝ่ายของเทววิทยา พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าวิชานี้แต่เดิมท่านไม่เคยลงหรือทำให้ใครเต็มวิชาเช่นนี้มาก่อน ด้วยว่าวิชานี้หาผู้รู้และสืบทอดยากนักท่านเลยประสงค์จะทำไว้เสียซักครั้งหนึ่ง สืบเนื่องจากวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าเป็นวิชาด้านมหาเสน่ห์ที่รุนแรงสูงสุดในสายของพระศิวะเทพ ซึ่งแน่นอนว่าพระองค์นั้นเปรียบประดุจดั่งมหาเทพที่มีบทบาทสำคัญสูงสุดของนิกายตันตระทางเรื่องกามารมณ์เลยก็ไม่ผิด เช่นนั้นนี่จึงเป็นที่สุดของที่สุดซ้ำยังเป็นวิชาที่ถูกถ่ายทอดผ่านมาทางอารยธรรมเขมรโบราณยาวนานนับพันปี เป็นศาสตร์อันสงวนไว้ รักษาไว้ สืบทอดไว้ ให้มีใช้กันเฉพาะกลุ่ม เรียกว่าคนนอกไม่มีสิทธิ์ได้รู้หรือได้ครอบครองแม้เศษเสี้ยวของวิชาลับนี้เลย ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นวิชามหาเสน่ห์ที่รุนแรงสูงสุดของพระผู้เป็นเจ้าที่ได้ประทานให้ไว้แก่ศิษย์ผู้ศรัทธา เป็นวิชาทำผงมงคลที่เรียกว่า"ยารักตันตระอภิรมย์"

    พ่ออาจารย์ท่านว่าการทำผงยา หรือการลบผงในสมัยโบราณนั้นถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ผงที่ลบได้นั้นถือว่ามีความศักสิทธิ์ ทั้งผงที่ลบเกิดจากการลบนะวิเศษต่างๆที่ต้องเขียนตามกลบทพร้อมกับเรียกสูตรเรียกนามให้บังเกิดให้ผงมีชีวิต,มีจิตวิญญาณพร้อมทั้งเสกเพิ่มฤทธิ์และอิทธิคุณเสร็จแล้วจึงนำผงเหล่านั้นมาสร้างเครื่องมงคล เช่นนี้แม้ตัวท่านหรือคณาจารย์ในสมัยก่อนจึงมีนิสัยเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งนั่นคือหวงแหนผงที่ลบมาก ใครมาขอผงนี่ต้องรู้ต้องถามก่อนว่าจะเอาผงที่ลบไปใช้ทำอะไร ในสมัยก่อนคนที่เล่นทางไสยเวทย์นั้นจะรู้กันดีว่าผงสามารถนำไปผสมสิ่งต่างๆให้คนทั้งหลายกินให้เขาตามมารักเรา หรือจะเอาไปผสมแป้งผัดหน้าตา ผสมสีผึ้งสีปากตนเช่นนี้เพื่อให้เกิดเป็นเสน่ห์ลุ่มหลง แม้จะผสมน้ำประพรมของเป็นมงคลให้ค้าขายดีก็ยังทำได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่รู้พ่ออาจารย์ท่านว่าก่อนจะเป็นองค์พระ เธอรู้มั๊ยว่าผงนี้ต้องเสกจนมีชีวิต เรียกว่าแม้กาลเวลาจะกัดกร่อนพระนี้เหลือเพียงฝุ่นผงก็ยังต้องคงความศักดิ์สิทธิ์ไว้ได้อยู่ จะเปรียบผงวิเศษเสมือนพระหรือตระกรุดก็ได้นั่นคือมันดี มันสำเร็จ มันมีคุณในตัวของมันเอง เช่นนั้นโบราณจารย์ท่านจึงห้ามคนที่บูชาพระหลายๆอย่างเช่นห้ามขูดผงที่องค์พระให้คนอื่นกินเป็นอันขาด สำหรับ"ผงยารักตันตระอภิรมย์นี้ก้เช่นกัน" คนที่บูชาไปท่านว่าให้อธิษฐานใช้ได้เลยตามความประสงค์สารพัดของตน ท่านว่าผงที่ได้มาจากการเขียนไปเสกไปลบไปเช่นนี้ทำได้น้อยและกว่าจะได้ประมาณนึงก็ใช้เวลานานอย่างมากจึงไม่นิยมมอบให้ผู้ใดเพราะพระผงเหล่านี้จะมีอานุภาพมากและใช้เวลาเสกนานใครได้ไปก็ควรที่จะหวงแหน

    ผงยารักตันตระอภิรมย์
    เป็นวิชาทำยาทางสายเทพเจ้าดึกดำบรรพ์ ต้นวิชาคือครูพระสยม มีอานุภาพไปทางเสน่ห์หา กามารมณ์กับเพศตรงข้าม จึงมีคำกล่าวว่า
    ให้มียารักนี้ติดตัวก็อย่าคิดออกบวชหรือเป็นบรรพชิตเลยคำกล่าวนี้การันตรีความแรงได้อย่างดีที่สุดในวิชาเสน่ห์แห่งพระศิวะเป็นเจ้า วิชาทำยานั้นสืบทอดต่อกันมาในศิษย์ของสายวิชาอิสีศาสตร์ เป็นยาที่ถูกถูกปิดบังกล่าวกันแค่ในหมู่ลูกศิษย์ที่เรียนวิชาเท่านั้นถือเป็นศาสตร์ลึกลับที่สืบทอดส่งต่อวิชาอย่างบริสุทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าจำต้องส่งต่อกันผ่านครูเบื้องบนเท่านั้นเป็นวิชาที่ตรงตัวและตรงประเด็นในเรื่องความสุขสมอภิรมย์ในทุกสิ่งที่เกิดจากกามตัณหา,ทั้งตาหูจมูกลิ้นกายใจ,รูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะทั้งหลาย ด้วยมนุษย์เกิดมาเมื่อถึงเวลาสูญสิ้นก็หนีไม่พ้น เช่นนั้นยารักจึงเป็นสัจธรรมอย่างหนึ่งที่สืบทอดแต่โบราณ จะเห็นว่าเมื่อมีความต้องการคนย่อมแสวงหาหนทางให้ได้ครอบครองถึงขนาดฆ่ากันรบกันถึงชีวิตก็มี พ่ออาจารย์ท่านว่ายานี้ตั้งใจฝังให้เพื่อให้เสริมแต่งพลังงานร่างกายให้มีกำลังวังชาจะไม่ไปเพิ่มความปรารถนาจนจิตฟุ้งซ่านหรือเกิดมารในตัวเอง คนที่จะใช้ไปทางหาคู่เพื่อดำรงค์เผ่าพันธุ์ให้ได้คู่ครองที่ดีมีชาติตระกูลเช่นนั้นก็ได้ แต่ถ้าคนเจ้าชู้ใช้ท่านว่าทำอะไรก็รับกันไปเองหากจิตเราหนักไปทางตัณหาราคะ ต้องการอย่างไรมันก็จะเข้ามาอย่างนั้น ดังนั้นยารักตันตระนี้จึงเป็นวิชาที่ช่วยให้มนุษย์ประสบผลสำเร็จในการหาคู่อภิรมย์ หรือหากผู้ใดมีจิตใจมุ่งมั่นกล้าแข็งไม่ได้นำไปเพื่ออธิษฐานเรื่องคู่ครอง ก็จะสำเร็จในกามคุณทั้งหลาย ทั้งหน้าที่การงาน ความสุขจากทรัพย์สมบัติและวาสนาบรรดามี ได้อภิรมย์ในสิ่งที่ตัวเองนิยมชมชอบ "นิยมสิ่งไหนชอบอะไรก็ได้อย่างนั้น" พ่ออาจารย์ท่านว่าอันนี้ต้องถามตัวเองก่อนว่าจิตใจเราอยากได้อะไร เพราะเป็นยาที่เกี่ยวกับครูพระสยมและองค์พระแม่อุมาถือเป็นยาปฐมกำเนิดต้นแห่งกามสูตร เป็นปฐมแห่งการเกิดชีวิตและดำเนินวงจรชีวิตอย่างลึกซึ้ง *** พ่ออาจารย์ท่านนำยารักสำคัญนี้ใส่ขวดบรรจุให้ในองค์ตาณฑวะโดยเฉพาะ

    ในส่วนของมวลสารองค์ครูพระสยมนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมผงเกสรมงคลทั้งเก้า,ผงดอกรักซ้อน,ผงว่านดอกทอง,ผงเสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์ เสน่ห์จันทร์ขาว เสน่ห์จันทร์แดง เสน่ห์จันทร์เขียว เสน่ห์จันทร์หอม,ผงเสน่ห์จันทร์ทอง,ผงหิ่งหายผี,ผงไม้กาหลงรากรักซ้อน,ผงไม้กาหลงรากมะยม,ไม้ยอตายพราย,ผงยาสัก,ผงหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์,ผงรังต่อหัวเสือ,ผงรังแตน,ผงรังผึ้งขวางตะวัน,ผงไม้คูณตายพราย,ผงพรายตานี,ผงพรายตะเคียน,ผงกาฝากรัก,ผงกาฝากมะยม,ผงกาฝากขนุน,ดินเจ็ดนครเก้าบุรี,ดินขุยปู,ดินจอมปลวก,ข้าวก้นบาตรหินพระฤาษี,ชานหมากหินพระฤๅษี, เพชรหน้าทั้ง,ผงเสน่ห์ยาแฝดสายเขมร,น้ำมันตบะเสือ,น้ำมันกำลังหมี,น้ำมันหมื่นคาถา,น้ำมันแกแล,น้ำมันร้อยชู้,น้ำมันหนูกินนมแมว,น้ำมันนาคกระสัน,น้ำมันเสน่ห์นางอกแตก...ท่านนำมวลสารทั้งหมดมาหมักและผสมคลุกเคล้าปั้นเป็นแท่งผงก่อนจะลงยันต์ทำผงวิเศษต่างๆ ได้แก่ ผงดันดะสมาสธิคุณ,ผงขุนแผนชมตลาด,ผงคาถาเณรแก้ว,ผงคาถาพรายแก้ว ,ผงยันต์นะเสน่ห์ร้อยแปด,ผงกำเนิดราคะ,ผงศิวลึงค์แผลงฤทธิ์,ผงอุค้ำฟ้า,ผงวิชากามเทพแผลงศร,ผงวิชานางอัปสรสวรรค์,ผงนาคเกี้ยว,ผงนาคีเสน่หา...ท่านว่าพอเสกผงครบแล้วก็นำผงทุกชนิดมาครอบด้วยวิชากาลึงคะกามสูตร พ่ออาจารย์ท่านว่าผงชุดนี้ไม่มีพรายผสม หากแต่เกิดจากการลบผงในกระดานชนวน ทั้งเสก ทั้งเรียกให้กำเนิด เสกเรียกฤทธิ์ให้เกิดเป้นกายสิทธิ์ ท่านว่าเขียน,เสก,ลบทำสลับกันซ้ำๆอยู่เช่นนี้

    นอกจากผงยาตันตระแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังฝังสิ่งต่างที่มีอิทธิคุณในตัวเอง ดังนี้
    - ตะกรุดนารายณ์สังหาร ใช้แก้อาถรรพ์ชีวิต ท่านว่าทำให้เต็มสูตรสาธยายมนต์พราหมณ์โบราณกำหนดตั้งจิตบรรจุคุณมนต์จนตัวท่านเกิดนิมิตและตะกรุดเกิดปฏิกิริยาครบถ้วนต้องตามตำรา ท่านว่าใช้สังหารทุก,โทษ,ภัย ในคราวเคราะห์ทั้งหลายที่กระหน่ำซ้ำเติมชีวิตเราได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

    - แร่ต่อยอด "แร่นี้ตกอยู่ที่ไหนที่นั่นจะเจริญเติบโตงอกงาม" ท่านเก็บรวมรวมตามต้นว่านยาอาถรรพ์ที่ท่านสังเกตดูว่าหากมีแร่นี้อยู่ใต้ต้นว่านจะเจริญเติบโตดีอย่างน่าฉงน ไม่มีที่จะเหี่ยวเฉาหรือเลี้ยงแล้วตายเลย ดุจเม็ดแร่ที่มีเทวาสถิตย์ ท่านว่าแร่อาถรรพ์เช่นนี้จะหายากคนโบราณเจอเข้าจะนำมาพกไว้เป็นมงคลใช้ด้านความเจริญงอกงามความก้าวหน้า ความสำเร็จ ถ้าตกอยู่ที่ไหนจะเจริญเติบโตยิ่งใหญ่ที่นั้น บ้านขุนนางท้าวพระยาจะมียศถาบรรดาศักดิ์เติบโตยิ่งใหญ่ มีบ่าวไพร่บริวารแผ่ขยายไปมาก จำเริญในลาภยศชื่อเสียงเกียรติคุณไม่ตกต่ำ ไม่หยุดอยู่กับที่ แม้ทำกิจการงานเรือกสวนไร่นาจะผลิดอกออกผลงดงาม ได้กำไรดียิ่งนัก ใช้ต่อยอดให้เกิดความเจริญก้าวหน้า ทำสิ่งใดไว้ที่รอผลิดอกออกผลก็จะได้กินได้ใช้ผลมันสมปรารถนา คนที่มีแร่นี้จะดีจริงๆแต่พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องมีความตั้งใจจริงด้วย
    - ยาวาสนาจินดามณี เป็นยาของหลวงปู่เจือที่พ่ออาจารย์ท่านนำมาเสกเพิ่มด้วยมนต์จินดามณีทุกสาย,ทุกบทของท่าน ท่านว่าใช้ได้ดีดุจมีแก้วสารพัดนึก เป็นเมตตา,มหานิยม,โชคลาภ,ซื้อง่ายขายคล่องลงไว้คบทุกทาง เพราะคาถาจินดามณีแต่ละบทนั้นย่อมใช้ได้นับร้อยนับพันช่อง


    *** พระผงตาณฑวะนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสร้างไว้เพื่อให้คนที่รอคอยจังหวะและโอกาสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ต้องการจะเห็นลีลาและปรากฏการณ์ในชีวิตที่แปรผันไปในทางที่ดีขึ้นด้วยความว่องไว ท่านว่านี่คือจุดประสงค์หลัก ส่วนเรื่องเสน่ห์นั้นก็รู้กันอยู่ว่าพ่อครูพระสยมท่านเป็นเจ้าแห่งตันตระและกามสูตร นี่ถ้าใครอยากให้ออกด้านนี้ก็ขอท่านเปิดพลังยารักเท่านั้น แต่หากใครจะนำไปใช้ทางทำมาหากินพ่ออาจารย์ท่านว่าแค่พกไว้อธิษฐานปกติก็เป็นเสน่ห์ในตัวระดับนึงอยู่แล้ว (ในส่วนคนที่ใช้ของเสน่ห์ไม่ขึ้นให้จุดธูปบอกกล่าวครูพระสยมท่านขอพลังงานยารักและตาณฑวะแห่งครูท่านเปลี่ยนกลไกขับเคลื่อนชีวิตตนเอง ให้ได้เจอรักแท้ พบความรักที่ดีที่เหมาะสม...ตามแต่ตนจะอธิษฐาน)***ซึ่งคนที่ติดขัดในชีวิตอยากจะเห็นจังหวะความสำเร็จหรือการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วก็ให้อธิษฐานเช่นนี้ได้เช่นกัน แต่เปลี่ยนคำอธิษฐานว่า(ขออานุภาพแห่งตาณฑวะของครูพระสยมขับเคลื่อนพลังกรรม พลังธรรม พลังวัฏจักรสงสารเปลี่ยนวิถีทั้งหลายให้สุขเกิด ทุกข์ดับ ให้ลูกมีกำลังในการสร้างสรรค์ ให้ความสำเร็จเรื่อง.(บอกเหตุท่านไป).เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วดุจท่วงทำนองแห่งตาณฑวะเถิด)

    คาถาบูชา
    โอมตรีเนตรสวาโหม โอมตรีเนตสวาหะ นะลึงลัง คลึงคลังตัณหาหิ นะลึงลังกามมะจิตติพันธะนัง ลังลึงคะอิติ


    *** ผงมงคลยารักตันตระอภิรมย์ศิวะตาณฑวะ พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ห้าองค์ แต่ท่านเก็บไว้เององค์หนึ่งด้วยท่านใช้กำลังแห่งตาณฑวะนี้อยู่เสมอๆ ดังนั้นจึงมีให้บูชาเพียงสี่องค์ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาท่านว่าให้แจ้งชื่อ สกุล วันเดือนปีเกิด รวมถึงเรื่องที่ต้องการบอกกล่าวครูพระสยมไว้เป็นพิเศษด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กที่ยากไร้ขาดแคลนสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ผงมงคลยารักตันตระอภิรมย์ศิวะตาณฑวะ(กาลึงคะกามสูตร) บูชา 4,000 บาท

    55887680-2266455440071809-65525751939596288-n.jpg 56377157-433204744117663-3319562824165883904-n.jpg
    56398254-385714342267474-1971227286912892928-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2021
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันเป็นต่อเลิศภพจบแดนมารฟ้าสะท้อนกรรม(ปรับแต่งกรรม)
    วิชาสร้างน้ำมันสำคัญของท้าวมาลัย(พญามาราธิราช)
    พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันนี้เป็นของทิพย์ ของเทวดา เพราะพระผู้สร้างและมีดำริให้สร้างนั้นท่านเป็นกายทิพย์นั่นก็คือท้าวมาลัยหรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่า"จอมฟ้า" ซึ่งน้ำมันนี้จะมีพุทธคุณพื้นฐานในทางบำบัดโรคร้ายนานาชนิด ตลอดจนโรคอันเกิดจาก"เคราะห์กรรม" บันดาลในเรื่องทุกข์ภัยให้คลายเคลื่อน จนถึงทุเลาเบาบางลง และหายสาบสูญไป ท่านว่าน้ำมันสำคัญนี้ต่อให้ไม่ใช้เลยเพียงนำมาพกติดตัวอาราธนาไว้เหมือนเครื่องรางนำไปไหนมาไหนด้วยเช่นนี้ก็ล้ำเลิศนัก ด้วยคุณวิเศษดังกล่าวผู้ใดมีก็ถือว่าเป็นผู้มีวาสนา ด้วยเป็นของทำยาก อัศจรรย์ พันลึก คือมีคุณขลังดั่งคำคนสมัยโบราณท่านอุปมาไว้ว่าใช้แลกบ้านแลกเมืองก็ยังได้ เช่นนั้นจอมฟ้าพญามารท่านจึงกำกับการณ์นี้โดยควรและกล่าวถึงสูตรการทำน้ำมันนี้ไว้แก่พ่ออาจารย์ว่า "เป็นมงคลวิเศษ ผู้มีบุญได้ใช้น้ำมันคุณวิชานี้จะเหนือกว่า ยิ่งใหญ่กว่า จนถึงมีความสำเร็จ มีพละกำลังมากกว่าคนอื่นสิบหกช่วงตัว มีกำลังสิบหกแรง มีวาสนาสิบหกชาติ มีอำนาจสิบหกชั้น"


    ดั่งที่กล่าวไว้ว่าน้ำมันนี้ใครได้จุลเจิมหรืออาราธนาใช้ติดตัวจะมีชัยชนะเหนือผู้อื่นไปไกลหลายช่วงตัว แม้ต่อสู้แข็งขันแข่งบุญแข่งวาสนากับใครก็ทำให้เป็นต่อคู่แข่งทั้งนั้นจำชนะนำหน้าเขาไปไกลมากโข ทำกิจการงานอันใดก็มีผลสำเร็จแรงกว่าคนอื่นได้มากกว่าที่ควรได้,มีมากกว่าที่ควรมีดั่งลงแรงสิบผลงานออกมาร้อยแบบนี้ จะค้าขายทำมาหากินก็ได้เงินได้ชัยมีกำไรเหนือคนอื่นอยู่หลายช่วงชั้น แม้แต่เล่นหวยเสี่ยงโชค,เสี่ยงดวง,การพนันท่านว่าเวลาคนดวงมันเปิดสุดๆก็จะมีโอกาสชนะเจ้ามือได้ง่ายๆ เอาว่าขอให้คนใช้นำไปใช้ในทางที่ดี คิดดี ทำดี จะทำอะไรก็เป็นบุคคลพิเศษมีแต้มเป็นต่อคนอื่นเขาหรือแม้กระทั่งใช้ในทางเทาๆ ทางที่ไม่ดีก็ยังมีชนะเหนือคนอยู่ดี ยิ่งกว่านั้นคนที่พกเครื่องมงคลทั้งหลายก็ดี คนที่มีของขลังสำนักต่างๆ หรือในร่างกายมีรอยสัก เคยฝังเข็ม,ฝังตะกรุด,ฝังเหล็กไหล,ฝังปรอท,ลงทองทั้งหลาย ให้เอาน้ำมันนี้เจิมๆนวดๆถูๆวนบริเวณเครื่องรางเหล่านั้น หรือจะเป็นรอยสักและของที่ฝังตามร่างกาย ท่านว่าเพียงเท่านี้สิ่งทั้งหลายก็จะมีแรงมีพละกำลังอำนาจพุทธคุณมากกว่าเดิมสิบหกช่วงตัว น้ำมันมารฟ้าสะท้อนกรรมนั้นท่านว่าเป็นของกายสิทธิ์ที่ใช้แต่งกรรม ให้คนใช้มีกำลังวาสนาสูงเท่ายอดเขาพระสุเมรุมาเรียงต่อกันเป็นทางสวรรค์ให้เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งยังแต่งให้ผู้ใช้น้ำมันมีเดชมากดังเทวดาในกามภพ ท่านอุปมาว่ามีฤทธิ์มากอยากทำอะไรก็ทำได้ดุจว่าจะดึงเอามหาสมุทรและพระมหาปฐพี ทั้งสี่ทวีปให้พลิกกลับก็ได้ดังนั้น ผู้ใช้จะมีฤทธิ์มากชีวิตเขาจะบินได้ด้วยปีกทั้งสองข้างของตัวเอง(พ่ออาจารย์ท่านว่าหมายถึงไปได้สูง,ไปได้สุดในกิจที่ปรารถนาอยากกระทำด้วยกำลังของตัวเอง ขึ้นไปได้เรื่อยๆไม่กลัวแรงลม แรงปะทะ แรงโน้มถ่วงที่กดเราอยู่ตลอดเวลาเช่นนั้น) ดุจว่าตัวเราเมื่อสยายปีกเวลาใดก็จะผุดขึ้นขึ้นมาเหนือมหาสมุทรทั้งสี่ทวีป ไม่ได้เป็นบัวใต้ตมตอต่อไป จะสัญจรไปได้ทั่วนภากาศเหยียบไปได้ทั่วแผ่นดินเช่นนั้น

    สำหรับผู้มีวาสนาได้รับน้ำมันในสายวิชาของจอมฟ้า(พญามาร)นี้ พ่ออาจารย์ท่านให้ถือคติที่ว่าตัวเราอยากจะทำอะไรก็ต้องได้ดีไม่มีใครกล้าขวาง "เปรียบตัวเราดั่งพญามารยามแผลงฤทธิ์..เมื่อพญามารแผลงฤทธิ์แม้หมู่เทพเทวาท้าวมหาพรหมยังขวัญหายใจสั่นหนีตายกันวุ่นวายไปถึงกำแพงจักรวาล ดั่งตัวเราเมื่อจะทำกิจใดผู้เป็นใหญ่ทั้งหลายก็ย่อมต้องหนีต้องหลบหน้าให้เรา ต่อให้เป็นผู้วิเศษ,ผู้ศักดิ์สิทธิ์ใดๆก็ขวัญหายใจสั่นเฉพาะอยู่เบื้องหน้าเรา" น้ำมันชุดนี้ท่านว่าเอาไว้ใช้สำหรับคนที่โดนนินทา หรือโดนกระทำ,ให้ร้าย,กลั่นแกล้งต่างๆ... เรียกว่ายิ่งโดนหนักเท่าไหร่ยิ่งมีกำลังมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งโดนรังแกได้ดีเป็นผลสนองกลับต่อตัวเองมากขึ้น ท่านว่าสมัยนี้หายากที่จะมีซักวันนึงที่คนจะไม่พูดถึงเราเลย ชีวิตเราจะไม่โดนใครนินทาว่าร้ายเลยในแต่ละวัน ท่านว่ามันหนีกันไม่พ้นหรอกทั้งเรื่องโดนพูดส่อเสียด,ให้ร้ายหรือนินทาลับหลังอยู่แล้วนี่แค่พื้นๆ แต่ที่หนักกว่านั้นคือการกลั่นแกล้ง,เรื่องอิจฉาริษยา,ทั้งเขม่นกัน,ไม่ชอบหน้ากัน,ไม่ถูกชะตากัน น้ำมันนี้นอกจากให้ผลกับผู้ที่โดนนินทาแล้ว ยิ่งโดนแกล้ง โดนดูถูก โดนกระทำ โดนให้ร้ายต่างๆก็ยิ่งมีผลสะท้อนกลับให้เราได้ดีแรงขึ้น มีวาสนามากขึ้นเป็นเงาตามตัว ท่านว่าถึงขั้นเกลียดแรงรักแรงแบบนั้นเลย กล่าวง่ายๆไอ้ที่เกลียดเราเดี๋ยวก็กลายมาเป็นเพื่อนเป็นเมียเราหมด ส่วนไอ้ที่ดูถูกเรา คอยแกล้งเรา สักพักเดี๋ยวเราจะได้ดีเกินหน้าพวกนั้นไปอีกไกล (ท่านว่ายิ่งคนแกล้งเราเก่งเท่าไหร่,ชะตาแรงเท่าไหร่,วาสนาดีเท่าไหร่ สิ่งเหล่านั้นล้วนแต่มาส่งเสริมเราที่เป็นศัตรูเขาทั้งสิ้น) บางคนที่เคยใช้ก็เรียกน้ำมันนี้ว่า น้ำมันขี้โกงบ้าง,น้ำมันบ้าดีเดือดบ้าง,น้ำมันบ้าระห่ำบ้างหรือตั้งฉายาให้ว่าน้ำมันซาดิสเพราะต้องโดนกระทำถึงจะได้ดีและมีกำลังวาสนา แต่ความจริงแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือน้ำมันแต่งกรรมหรือจะเรียกเพราะว่าน้ำมันชีวิตเป็นต่อก็ไม่ผิด ซึ่งคนเราทุกวันนี้มันหนีไม่พ้นเรื่องนินทาว่าร้ายพูดลับหลังอะไรเหล่านี้อยู่แล้ว ท่านว่าท่านหวงแหนเอาไว้นานนักไม่ค่อยให้ใครใช้นอกจากพวกที่โดนแกล้งหนักๆจริงๆ เพราะน้ำมันนี้ใช้แล้วมันซึมเข้าเนื้อเข้าตัวต่อไปมันจะโกงเขาหมด(ท่านว่าแบบนั้น) ถือคติที่ว่ายิ่งเกลียดแรงยิ่งรักแรง ยิ่งดูถูกยิ่งได้ดี ยิ่งโดนกระทำกำลังแลวาสนายิ่งสูงส่ง(ท่านว่าคิดเอาเองเรื่องพวกนี้มันเรื่องพื้นฐานชีวิตของคน ในแต่ละวันไม่มีเรื่องใดที่คุณจะหนีพ้นซักเรื่อง)

    ที่มีอานุภาพวิเศดังนี้เพราะพ่ออาจารย์ท่านใช้น้ำตาพญามารนำมาเป็นส่วนผสมหลักตามโองการของจอมฟ้าที่ให้หุงน้ำมันชุดสำคัญนี้ น้ำตาพญามาร...ของวิเศษนี้จะมีอานุภาพอัศจรรย์เพียงใด เกี่ยวข้องกับพญามารอย่างไร ทำไมพ่ออาจารย์ถึงขนาดออกปากกล่าวถึงอานุภาพอันน่าประหลาดว่า " บิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิต ".....ความพิเศษของน้ำตาพญามารนั้นทำไมถึงมีอานุภาพเพียงนั้น
    พระพุทธองค์ได้ทรงยกย่องในคราหนึ่งว่า "บรรดาสัตว์ผู้มีอัตภาพ(ใหญ่)อสุรินทราหูเป็นเลิศ บรรดาบุคคลผู้บริโภคกามพระเจ้ามันธาตุราชเป็นเลิศ บรรดาผู้ใหญ่ยิ่งมารเป็นเลิศ "...(พุทธดำรัส)"
    "ซึ่งพญามารนี้ เวลานี้ท่านช่วยชาวบ้านพวกพุทธมามกะทุกคน ใครนับถือพระพุทธเจ้าพญามารต้องบังคับบัญชาให้ลูกน้องไปช่วยเหลือ คือ เทวดาที่ประคับประคองพวกเรานี่แหละ"(หลวงพ่อฤาษี)
    หากจะสร้างน้ำมันวิเศษอันมีพระบารมีของจอมฟ้าอยู่เต็มภูมิโดยเฉพาะและยังใช้อาราธนาให้เข้ากับกรรมหรือวงจรสำคัญที่มีคุณลักษณะพิเศษนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะสร้างแล้วย่อมยากอย่างแท้จริง ด้วยต้องใช้วัตถุและมวลสารที่เป็นของพญามารมีบารมีของท่านจริงๆมาทำ สิ่งนี้ย่อมเรียกได้ว่าเห็นยากเอายาก ตามปกติวิสัยของพญามาราธิราชนั้นท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่องค์สำคัญ แต่คนส่วนมากก็ยังยึดติดกับคำว่ามาร ไม่ได้เข้าใจว่าท่านคือเทวดาจำพวกหนึ่ง ไปเข้าใจเสียว่ามารคือตัวตนที่น่าเกลียดน่ากลัว จินตนาการให้น่าสยดสยองดุจยักษ์มารเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วพญามารนอกจากจะเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ที่มีบารมีล้นฟ้าแล้ว ยังมีฐานะเป็นถึงจอมภพหรือเจ้าสวรรค์ชั้นปรนิม ขึ้นชื่อว่ามีภพภูมิที่สูงส่ง กายทิพย์ย่อมสง่างามและมีความปราณีตมากกว่าเทวดาต่ำชั้นลงไปทั้งหมด ท่านว่าในกามภพนั้นแม้เราคิดว่าเทวดาตั้งแต่จาตุมหาราชิกาไปจนถึงนิมานรดีมีรูปงาม แต่นั่นย่อมไม่อาจเทียบได้กับชั้นปรนิม นับประสาอะไรจะไปเทียบกับค่าความเป็นทิพย์พญามาร ดังที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า "ในบรรดาผู้ใหญ่ยิ่งทั้งหมด มารเป็นเลิศ .... พญามารมีโคตรเสมอด้วยพระอินทร์ " จะเรียกว่าพญามารคือประมุขฝ่ายมารหรือเทวดาฝ่ายมารในสวรรค์ชั้นสูงสุดก็ได้ เช่นนั้นท่านจึงมีความเป็นทิพย์ประณีตที่สุดอันจะพึงมีได้ในสวรรค์และเทวดาทั้งมวลก็ไม่ผิด แท้จริงแล้วมารก็คือเทวดา หากแต่มีหน้าที่เฉพาะของเขา ซึ่งตรงนี้หน้าที่ของพญามารก็คืออำนาจที่จะบัญชากามคุณทั้งหลายประกอบด้วยรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ด้วยท่านมีหน้าที่ดูแลและควบคุมมหาวงจรแห่งกามคุณ การดูแลวงจรที่ยิ่งใหญ่นั้นเมื่อมองในมุมกลับหากพ้นจากจุดนี้ก็จะถึงซึ่งความเป็นอริยะเช่นกัน ดังนั้นเมื่อไม่มีมารแล้วจะมีพระอริยะได้อย่างไรจุดนี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า "ของบางอย่างอาจมองว่าขัดแย้งกัน แต่แก่นแท้กลับหนุนเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกันโดยที่เราไม่อาจเข้าใจ เมื่อขาดสิ่งหนึ่ง บารมีของอีกสิ่งหนึ่งย่อมจะไม่เกิดขึ้นได้เลย อย่าคิดรังเกียจเทวดาฝ่ายมารเพราะหากไม่มีท่าน จะมีใครเล่ามาสร้างบททดสอบอันนำไปสู่เส้นทางพุทธภูมิและอริยภูมิทั้งหลาย" หากไม่มีเหล่าเทวปุตตมารบรรดาโพธิสัตว์แลเทวดาทั้งหลายย่อมไม่มีหน้าที่ให้กระทำเพื่อที่จะเพิ่มบารมีของตน ย่อมไม่มีบททดสอบต่างๆเพื่อการก้าวล่วงไปถึงความเป็นอรหันต์หรือโพธิญาณในตนทั้งสิ้น พญามารนั้นท่านก็มีหน้าที่ของท่าน หากให้กล่าวกันจริงๆแล้วหน้าที่ของมารนั้นกลับเป็นคุณประโยชน์กับหมื่นจักรวาลและสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังประกอบกรรมสร้างคุณงามความดีโดยเฉพาะกับคนที่บารมีเรายังไม่เต็ม ไม่ถึงพร้อม ยังไม่ใช่อริยะบุคคลในชาตินี้อย่างแน่นอนอยู่มากเสียด้วย หน้าที่นั้นคือหน้าที่ของการสร้างสรรค์จะเรียกว่าพญามารก็เป็นพระผู้สร้างองค์หนึ่งทีเดียวย่อมไม่ผิด เพราะพญามารคือกษัตริย์แห่งภพปรนิมในฝ่ายมาร ภพนี้เทวดาทั้งหลายปรารถนาสิ่งใดก็ตาม จะมีเทวดาในภพต่ำกว่าหรือภพนิมมานรดีมาคอยตามเนรมิตถวาย เรียกว่ามีหน้าที่สร้างพลังความปรารถนา มีหน้าที่คิดสิ่งต่างๆให้เทวดาภูมิที่ต่ำกว่านำความคิดของตนเองไปกระทำให้สำเร็จ แต่ถึงกระนั้นหากเป็นเรื่องการสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับกามคุณทั้งห้าก็ไม่มีเทวดาที่ไหนจะมีฤทธิ์ มีอานุภาพใหญ่ มีความประณีตที่จะสร้างสรรค์ได้เหนือไปกว่าเทวปุตตมาร แม้แต่มหาพรหมก็ยังไม่เป็นเลิศในกามคุณเช่นนั้น


    ท่านได้นำน้ำตาพญามารอันเป็นของสำคัญยิ่งยวดซึ่งผูกพันธ์กับพญามารมากนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันจะเล่านิทานให้ฟังนะ หากแต่เป็นนิทานที่เคยเกิดขึ้นจริง คนที่มองเห็นเขาก็จะเชื่อ ส่วนคนที่มองไม่เห็นนั้นก็จะคิดว่าเป็นนิทานหลอกเด็กไป นี่เป็นอดีตในห้วงเวลาหนึ่งของพญามาราธิราช...เมื่ออดีตกาลนั้นท่านไม่สามารถเอาชนะพระโพธิสัตว์ได้ จนพระบรมโพธิสัตว์ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ท่านก็รู้สึกโศกเศร้าน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่อาจดำรงค์พระองค์อยู่ในเทวโลกได้ จึงมานั่งน้อยใจหม่นไหม้อยู่บนพื้นโลก ท่านได้นั่งขีดเขียนแผ่นหินศิลาในมหาทวีปเทียบวิชาความรู้ระหว่างตนเองกับพระพุทธองค์ ก็รู้ว่าตนกับพระพุทธเจ้านั้นยังห่างไกลกันอยู่ด้วยพระพุทธองค์ทรงรู้มากกว่าตนถึงสิบหกประการ ตั้งแต่บารมีสิบ อินทรียปโรปริยัติญาณ สยานุสยญาณ มหากรุณาสมาบัติ ยมกปาฏิหาริยญาณ อนาวรณญาณ สัพพัญญุตญาณ เมื่อท่านรู้ความแตกต่างท่านก็กำสรวลโศกเศร้าจนน้ำตาแห่งพญามารได้หลั่งลงต้องปฐพี เป็นน้ำตาแห่งความสำนึกและกลับตัวกลับใจพร้อมกับทำพิณประจำพระองค์หล่นไว้ตรงนั้น ซึ่งองค์อมรินทร์ก็ได้มาเชิญพิณนั้นพร้อมกับนำน้ำตาพญามารซึ่งเป็นกายสิทธิ์ธาตุประดิษฐานในพานทองนำกลับไป "...เมื่อพ่ออาจารย์จะทำเครื่องมงคลแทนครูพญามารนั้น องค์อมรินทร์ท่านว่าถ้าจะให้ควรก็ให้นำน้ำตาพญามารประดิษฐานลงไปด้วย โดยท่านได้นำน้ำตานั้นมามอบให้แข็งค้างไว้แต่เบื้องอากาศ พ่ออาจารย์ท่านต้องทำพิธีอัญเชิญและนำขวดน้ำมันจินดามณีมารองรับ ส่งผลให้น้ำมันจินดามณีเปลี่ยนสีไปใสกระจ่างดุจสีน้ำทะเลเมื่อผสมกลมกลืนเข้ากับน้ำตาพญามาร ท่านจึงเรียกน้ำมันนี้ว่าน้ำตาพญามาร

    ท่านนำน้ำตาพญามารส่วนนึงมาสร้างน้ำมันมารฟ้าสะท้อนกรรม โดยท่านได้นำเอาคตของเจ้าปู่ชัยพรหมและของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเช่น แร่เหล็กไหลปรอท,เหล็กไหลตาน้ำ,เหล็กไหลแม่น้ำโขง,พญาเหล็กไหล,เหล็กดำ,สมิงเหล็ก,อกธรณี,ทองมหาสัตตะโลหะ,แร่โคตรเศรษฐีแม่ชีประทุม,ไม้เท้าพญายม,นิ้วเพชรพระอิศวร,พระขรรค์จักรพรรดิ,กำไลจักรพรรดิ,ขวานสำฤทธิ์โบราณ,คตปรอทชมพูนุช,เหรียญฟูนัน,มีดทิเบต,วัชระโลหะ,ยอดฉัตร,ยอดเจดีย์,ขวานฟ้า,ปรอทกรอ..ท่านนำของสำคัญเหล่านี้มาหุงกับน้ำมันว่านสูตรเฉพาะที่พญามารท่านสั่งให้พ่ออาจารย์หาและทำไว้แล้วจึงนำของกายสิทธิ์ทั้งหลายมาเคี่ยวรวมกับน้ำตาพญามารเพื่อหุงอีกคำรบหนึ่ง พร้อมทั้งใช้เพลิงพิธีหลอมเอาตบะและอานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้นมารวมกันให้มีพลังงานเหนือโลกที่อยู่เหนือกฏและความเป็นไปทุกอย่างของโลกท่านว่าบอกได้เพียงเท่านี้จริงๆ

    น้ำมันมารฟ้าสะท้อนกรรมนี้สร้างยากท่านว่าหากไม่ดูฤกษ์จะไม่สัมฤทธิ์ผลเลย แล้วพญามารท่านยังกำกับให้ลงเหล็กจารในแผ่นตะกั่วด้วยบท"มารฟ้าข่มสรรพสัตว์" พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นบารมีของพญามารปางข่มที่แม้แต่ฤทธิ์ของพรหมหรือเทวดานางฟ้าก็ไม่อาจจะต้านอำนาจพญามารปางนี้ได้ หากใครมีศัตรูท่านว่าต้องนี่เลยเพราะจะดีมากหากใช้ในการข่มศัตรู ยิ่งใครทำงานแล้วโดนรังแกจากหัวหน้าบ้าง จากเพื่อนร่วมงานบ้าง ยิ่งมีคนแกล้งคนดูถูกเราเอาว่ายิ่งได้ดีมากขึ้น ยิ่งโดนเกลียดโดนกระทำยิ่งมีคนเข้ามารักเรามากขึ้นเป็นเงาตามตัว มนต์พญามารข่มสรรพสัตว์นี้ท่านว่าเป็นวิชาโบราณที่หาผู้รู้สร้างได้ยาก เพราะถ้าพญามารท่านไม่สอน ไม่ครอบให้ก็ไม่มีทางที่จะทำให้สำเร็จได้เลยแต่เมื่อสร้างสำเร็จ เสร็จตามสูตรแล้วจะมีคุณใหญ่ เป็นกำลังหนุนเราไปหลายกัป ให้ดีครบด้านแรงฤทธิ์มากครอบคลุมทั้ง ลาภ ยศ สรรเสริญ เจริญ ก้าวหน้า สมบัติพัสถาน มีชัยชนะปราศจากศัตรู ดวงชะตาดีมีสง่าราศีพร้อมสรรพดังนี้แลใครก็สู้ไม่ได้ ต่อให้ไปได้ครูดีมีฤทธิ์แม้จะเป็น ยักษ์มาร คนธรรพ์ รากษส พญาครุฑ นาค กินนร เทวดา นางฟ้า มหาพรหม ก็มีฤทธิ์สู้พญามารอันเป็นตัวตนสำคัญที่อยู่เหนือกฏวัฏจักรมิได้ เพราะตัวท่านได้รับการละวางและงดเว้นจากกฏแห่งเผ่าพันธุ์เป็นกรณีพิเศษ พ่ออาจารย์ท่านว่าพวกเธอรู้มั๊ยแต่เดิมนั้นมีคติสืบต่อมาว่าอันพญามหาโพธิสัตว์ผู้เป็นใหญ่นั้นย่อมจะไม่จุติในภพเทวปุตมาร หากแต่ท้าวมาลัยหรือจอมฟ้านี้ได้เปลี่ยนแปลงกฏบรรพกาลที่เคยมีมาทั้งหมดไปแล้วทั้งสิ้นโดยตัวของท่าน เพราะตัวท่านเป็นเทวปุตตมารและเป็นพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่ยิ่งอันมีพระชาติพระนามแน่นอนแล้วนั่นเอง เช่นนั้นน้ำมันสำคัญนี้ของท่านย่อมแปรเปลี่ยนสิ่งที่คงอยู่มาแต่เดิมหากอะไรที่มันไม่ดี ไม่ควรจะมี มีแล้วก็ไม่ก้าวหน้าไม่ทำให้ชีวิตเราพัฒนามากขึ้นก็ควรจะเปลี่ยนแปลงได้แล้วดังนี้

    น้ำตาพญามาร ...ของวิเศษเทวโลกที่มีอานุภาพอันน่าอัศจรรย์ยิ่งดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านได้กล่าวไว้ว่า " บิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิต " เป็นธาตุบารมีของพญามาราธิราชอย่างแท้จริงพ่ออาจารย์ท่านได้นำมาหุงเป็นน้ำมันเฉพาะศาสตร์,เฉพาะกิจเพื่อให้เราได้มีโอกาสใช้แต่งแต้มเจิมตนเป็นสิริมงคลและจะได้แต่งกรรมตนเอง พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนเรานั้นถ้าถึงกับบิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิตได้แน่นอนว่าชีวิตนี้ย่อมไม่มีไม่รู้จะให้เดือดร้อนเรื่องอะไรแล้ว อันจอมฟ้าพญามารนั้น หากลงมาทำหน้าที่หนุนส่งผู้ใด ด้วยฐานะที่ตนก็มีหน้าที่สร้างสรรค์กามคุณ มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองในเทคโนโลยีและวิวัฒนาการทั้งหลายของทุกชาติพันธุ์ มีหน้าที่ดูแลความเป็นไปและความเจริญก้าวหน้าของโลกแลมนุษยชาติ ด้วยกามคุณนี้ก็คือความสะดวกสบาย ความยิ่งใหญ่ในภพ ในชาติ หลายคนสงสัยว่าพวกที่รวยๆ อยู่เฉยไม่ทำอะไรก็รวย หรือพวกที่ใช้เงินให้ตายใช้ทั้งชาติมันก็ยังไม่หมด พวกที่มีบารมีมากคับฟ้าคับแผ่นดินใครก็เอาลงมาไม่ได้ หรือสถานที่อันใหญ่โตโอ่อ่าเกินความจำเป็น เกินประโยชน์ใช้สอย เกินชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งคนและสถานที่เหล่านี้ นั่นคือการอุปถัมภ์ในสังกัดของเหล่าเทวปุตตมารนั้นทั้งสิ้น แม้ตัวจอมฟ้าพญามารก็ได้เคยกล่าวไว้เบื้องหน้าพระบรมศาสดาว่า "ตัวพระองค์มีฤทธิ์ที่จะบันดาลภูเขาทั้งลูกให้เป็นทองคำได้ มีอานุภาพยิ่งใหญ่ในกามสามารถขวนขวายเรื่องทรัพย์ อำนวยประโยชน์สุขต่างๆตามแต่จะประสงค์ " ดังนั้นบุคคลใด สถานที่ใด หากได้รับความอุปถัมภ์หรือบารมีจากเทวปุตตมาร บุคคลเหล่านั้นก็จะถึงซึ่งความเปลี่ยนแปลง ความเจริญรุ่งเรือง สมกับอานุภาพทางด้านสร้างสรรค์ความสุขอันเกิดแต่กามคุณของพญามาราธิราช ***ทั้งนี้ในขวดน้ำมันพ่ออาจารย์ท่านยังได้ใส่เครื่องมงคลแกะสลักจากไม้กายสิทธิ์ธาตุอันมีคุณเป็นมหากำเนิด เป็นตัวก่อเกิดเฉพาะทางเสริมคุณแห่งการสร้างสรรค์กามคุณของพญามารลงไปด้วยทุกขวด...จะเป็นอะไรผู้ครอบครองเท่านั้นที่มีสิทธิ์จะรู้ ท่านว่าให้เปิดดูเอาเอง(เคล็ดการใช้ท่านว่าใช้น้ำมันแตะแต้มเจิมหน้าผากเป็นสิริมงคลได้ แต่ถ้าจวนตัวหรือจำเป็นเร่งด่วนต้องใช้ในกิจสำคัญรอช้าไม่ได้ท่านว่าให้ช้อนเครื่องมงคลไม้แกะสลักนั้นขึ้นมา ใช้เครื่องมงคลนั้นจุ่มน้ำมันเจิมหน้าตาตัวเอง) ทั้งยังลงตะกรุด"บริโภคกาม"เพื่อให้คนใช้ได้มีวาสนารับผลความเจริญและความสุขทั้งหลายในโลกอันสรรค์สร้างและแต่งแต้มจากกามคุณนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าคราวนี้ที่ทำน้ำมันสำคัญชุดนี้ก็เพื่อให้บารมีของจอมฟ้าท่านซึมซับเข้าสู่ร่างกายของผู้มีจิตศรัทธา ท่านว่าอำนาจคุณวิเศษจากน้ำมันชุดนี้หากนำมาใช้แตะต้องสัมผัสโดยตรงมันจะซึมเข้าเนื้อเข้าตัว ท่านว่านี่ตรงทางเลย แล้วก็ไม่เป็นอันตรายเพราะไม่มีมวลสารของพรายหรือสัตว์ใดๆแม้แต่น้อย พ่ออาจารย์ท่านว่าคุณวิเศษของน้ำมันนั้นแม้ตัวเธอจะตายสังขารจะไหม้ไปกับไฟแล้ว หากเธอเคยใช้น้ำมันนี้มันก็จะติดตัวเธอไปทุกชาติภพ ให้เสวยสุขอยู่ในชาติตระกูลที่ดี มีกามคุณอันละเอียดอ่อนบริโภคอยู่ทุกเมื่อทุกขณะและจะมีผลสะท้อนกรรมปรับแต่งกรรมนั้นตามคุณลักษณะน้ำมันติดตัวเธอไปทุกชาติจนกว่าจะเข้าสู่พระนิพพาน

    คาถาบูชา
    นะโม วะสะวะตีมาเร อนาคะตังเส พุทธัสสะ(ใช้ภาวนา)
    โอม วสวัตตีโพธิสัตโตนะโมพุทธานะ ปาฏิหารัญจะ ทวาทะสะ กาละกัญชะมหา ภิสมาปะสะนะวา อิติสิทชะติ


    *** น้ำมันสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ได้ห้าขวด ท่านว่าหากใช้จวนจะหมดแล้วให้เหลือเชื้อน้ำมันไว้แล้วนำเอาน้ำมันจันทร์ไปซื้อมาเติมให้เต็มก้ใช้ได้เหมือนเดิม รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าจอมฟ้าท่านจะรับครอบชะตาเปิดวาสนาในกามภพและกามคุณทั้งปวงให้หนหนึ่งทั้งยังจะประสิทธิ์กำกับน้ำมันให้เฉพาะด้วย ท่านกล่าวเสมอว่าน้ำมันของท่านนั้นมีเฉพาะผู้ที่ผูกพันธ์หรือมีวาสนากับท่านเท่านั้นที่จะรู้คุณและนำไปใช้ได้ เพราะท่านดลใจให้คนที่ไม่มีวาสนามองข้ามไป รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างพระใหญ่สืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันเป็นต่อเลิศภพจบแดนมารฟ้าสะท้อนกรรม(ปรับแต่งกรรม) บูชา 4,000 บาท

    56184201-2113174508972677-5760728055169417216-n.jpg 56236108-262859807995860-2630378765393330176-n.jpg
    56835671-583831455448016-8878072458851123200-n.jpg
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เทพรัตติกาลจ้าวเวหาพญาการเวกปักษามนต์ยึดตัว-ยึดทรัพย์(สูตรพญาครอบเมือง)

    พ่ออาจารย์ท่านว่า"การสร้างพญานกการเวกเต็มวิชานั้นไม่ค่อยจะมีใครอยากทำกันต่างกับพญาครุฑ แต่พญาการเวกก็มีคุณสมบัติเฉพาะตัวของเขา..." ตามตำนานนกการเวกจะอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ บินสูงเหนือเมฆ กินลมเป็นอาหาร ในเวลาเกาะคอนจะเกาะอยู่บนก้อนเมฆ และมีเสียงร้องไพเราะมาก จนสัตว์ทั้งหลายและมนุษย์ที่ได้ยินเสียงจะเกิดอาการงงงวยจนกระทั่งหลงลืม แม้กิจกรรมที่กำลังทำอยู่ก็จะต้องหยุดชะงักไปชั่วครู่ด้วยความหลงใหลจับใจในเสียงร้องนั้น

    ศาสตร์อาถรรพ์นกการเวกของพ่ออาจารย์
    พญานกการเวกนี้
    เป็นพญานกขนาดมหึมา มีร่างกายสูงใหญ่พอที่จะบดบังเเสงตะวันได้ ไม่ใช่นกตัวน้อยน่ารักเช่นสาลิกา พ่ออาจารย์กล่าวว่าหุ่นเทพรัตติกาลนั้น มีอานุภาพดังนี้
    - พญาการเวกนั้น เวลาบิน จะบินสูงเหนือเมฆ บินสูงกว่านกทั้งปวง พ่ออาจารย์กล่าวว่า วิชานี้ก็เช่นกัน เเม้เราหมายปองเจาะจงผู้ใด ตั้งใจทำสิ่งใด ก็เหมือนพ่อพญานกแม่พญานกที่ลอยลมบน บินตะครุบเหยื่อได้ง่ายดายฉันนั้น
    - พญาการเวกนั้น
    เป็นนกสวรรค์ เเม้เเต่ขนติดกาย ยังเป็นของวิเศษ เป็นสิ่งที่มนุษยชาติต้องการกันมากที่สุด เพราะเมื่อพญาการเวกสลัดขนเเล้ว เชื่อว่าขนนั้นจะเปลี่ยนเป็นทองคำบริสุทธิ์ ผู้ใดได้ครอบครองจะมีบารมีมาก พญานกนี้ก็เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านลงพญาการเวกไว้ทั้งตัวพ่อเเละตัวเเม่ ผู้บูชาไปให้อธิษฐานให้พญาการเวกประทานทรัพย์สมบัติให้ย่อมมีความสุขที่จีรังยั่งยืน
    - พญาการเวก
    หรือที่เรียกกันว่าปักษาวายุภักษ์ เป็นพญานกที่ไม่รู้จักความอดอยากหิวโหย เพราะเล่นฟ้ากินลมเป็นอาหาร ดังนั้นผู้บูชาตะกรุดนี้ก็จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยความสุขสบาย ชีวิตต่อไปจะไม่รู้จักอดจักอยาก มีกินมิรู้สิ้น พ่ออาจารย์กล่าวว่าธาตุลมนี่ว่องไวนัก เมื่อนำมาเสริมขับเข้ากับวิชาทางเสน่ห์ยิ่งทำให้ผลของวิชาสำเร็จได้ไว หรือจะเสริมด้วยโภคทรัพย์ก็ยิ่งหากินเก่งหาได้ไวมากขึ้นเพราะมีธาตุลมหนุนอยู่ตลอดเวลา เพียงเราอาราธนาคาถาเป่าไปที่พญานกก็เหมือนกับว่าเราป้อนลมให้พญาการเวกนั้นเสพย์ลมเเล้ว(เห็นมั๊ยนี่ให้อาหารท่านกินกันง่ายๆแบบนี้เลย แถมลมนั้นยังมีปราณของเราด้วย ท่านก็จะผูกพันธ์กับเราอยู่ในบัญชาเรา เป็นมิตรกับเราไปในตัว) เมื่อพญานกอิ่มเเล้ว มีกำลังเเรงกล้าแล้ว เขาก็พร้อมจะช่วยเหลือเราเเล้ว
    - พญาการเวกนั้น
    มีเสียงไพเราะที่สุดในไตรภพ เพราะเสียงของพญานกนั้นเหมือนกับเสียงท้าวมหาพรหม เหมือนกับเสียงพระพุทธเจ้า กล่าวคือ มีความแจ่มใส ชัดเจน อ่อนหวาน สุขุม สำเนียงเสนาะ ไม่แตก ลึกซึ้ง ไพเราะ มีเสียงกังวาลเป็นที่ปรารถนาจะได้ยินได้ฟังเเม้ในหมู่มนุษย์ตลอดจนเทพยดาเป็นยิ่งนัก ผู้ที่ได้บูชาพญานกไปก็เปรียบได้กับพญาการเวก เวลาตนอาราธนาจะพูดจาอะไร คนย่อมเคลิบเคลิ้มคล้อยตามไปเสียทั้งหมด จะบนบานศาลกล่าวขออะไรใครที่ไหนเค้าก็ตั้งใจฟังเต็มใจให้ เพราะสุรเสียงของเรานั้นไพเราะดุจพญาการเวก ดุจเสียงมหาพรหม ดุจเสียงพระพุทธเจ้า
    - พญาการเวกนั้น ถือเป็นราชาเเห่งสัตว์จตุบททวิบาทและปักษาชาติมีอำนาจมาก มิต่างจากพญาครุฑเลยทีเดียว(เปรียบครุฑดูสง่าองอาจ,พญาการเวกก็อ่อนช้อยงดงามน่าหลงใหล) ซ้ำยังมีรูปกายสีขนงดงาม สัตว์ทั้งหลายได้พบย่อมเกรงกลัวในอำนาจบารมี ไปที่ใดก็มีเเต่คนเคารพเเต่ก็ปรารถนาจะเห็นจะมอง(ไม่ใช่หวาดกลัวแต่กลับดึงดูดให้ลุ่มหลง) ลุ่มหลงไปด้วยรูปกายเเห่งพญาการเวกนั้น ผู้ใช้พญานกวิชานี้ก็จะมีเเต่ผู้เคารพนบไหว้ลุ่มหลง เกรงกลัวเราเเต่ก็รักเรา ลืมเราไม่ลงไปที่ไหนเค้าก็อยากมองเรา เราไม่มาเขาก็อยากเห็นเราอีกเป็นเสมือนราชเสน่ห์ ซ้ำยังมีมหาอำนาจ มีบารมีมาก ปราบได้ทุกทิศ ไม่มีใครกล้าต่อกรกับกำลังพญานกการเวกเลยเป็นเช่นนี้นั่นเอง
    - พญาการเวกนั้น ย่อมอาศัยในที่สูงมีถ้ำแก้วล้วนเเล้วเเต่สัตตรัตนมงคลเป็นที่อยู่ มีทรัพย์สินศฤงคาร มีสมบัติมาก หุ่นพญานกนี้ก็เช่นกัน ผู้บูชาจะได้รับทรัพย์สินสะดวกสบายได้เจอกับความเป็นอยู่เเละมีชีวิตทางโลกที่ดีขึ้นเพราะหุ่นนี้จะเป็นสื่อ ด้วยปรกติวิสัยพญาการเวกนั้นย่อมโปรดปรานทรัพย์สมบัติเเก้วเเหวน ยอดเพชร ยอดอัญมณีที่มีความสวยงามจากทั่วทุกพิภพแม้หมายตาสิ่งล้ำค่าใดๆแล้ว ต่อให้เป็นของจอมเทพท่านก็จะหาและไปนำ,ไปยึดมาสะสมไว้ในถ้ำแก้วของท่าน แม้นเราบูชาท่านอยู่เช่นนี้ท่านก็จะขยันช่วยเราเเสวงหาทรัพย์เช่นกัน แม้เเต่กระทรวงการคลังยังใช้รูปพญาการเวกเป็นสัญลักษณ์เครื่องหมายกระทรวง ถือเป็นเคล็ดที่ว่า ใครมีหุ่นนกนี้ก็มีสื่อกับเทพวิหคที่ดูเเลทรัพย์สมบัติทั้งปวงของเเผ่นดิน อยากมีโชคเสี่ยงโชค(ข้อนี้พ่ออาจารย์ท่านไม่ให้กล่าวมาก)ก็ขอกับท่านตรงๆเลย เพราะสมบัติในเเผ่นดินนี้ท่านดูแลไว้ทั้งหมด
    - พญาการเวกนั้น เป็นพญานกที่อยู่เหนือกฏแห่งวัฏฏจักร เพราะเป็นนกที่เกิดขึ้นมาพร้อมความเป็นอมตะไม่มีวันตาย แม้อาหารก็กินฟ้ากินลมเป็นภักษาหาร เป็นพญานกบริสุทธิ์ซื่อตรงต่อความรักมีความรักที่เป็นอมตะ ผู้ที่ได้บูชาหุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านก็อธิษฐานจิตให้สุขสมสำเร็จในความรัก มีความรักที่ยั่งยืนเเละเป็นอมตะเช่นเดียวกันกับพญาการเวก
    - พญานกการเวกนั้น
    มีความเชื่อมาเเต่เดิมว่าเป็นวิหคฟ้าสกุณาสวรรค์ แม้ใครมีบุญญาธิการได้พบเสียครั้งหนึ่งก็ถือว่าได้พบโชค ต่อไปจะได้เป็นใหญ่เหนือพื้นพิภพ,ได้ปกครองหมู่ชนทั้งหลาย สมัยก่อนก็ต้องเรียกว่าเป็นมหาราชหรือเป็นราชาในหมู่ราชาเช่นนั้น(เพราะไม่มีใครจะได้เห็น) เนื่องจากพญาการเวกนั้นไม่ค่อยปรากฏให้ใครได้พบเห็น พ่ออาจารย์ท่านถือเคล็ดนี้ เเม้ใครมีหุ่นนี้ เห็นหุ่นก็เหมือนเห็นพญาการเวก ชีวิตเขาจะโชคดี เห็นทุกวัน,ดีทุกวัน,เจริญทุกวัน ไม่มีภัยใดเคราะห์ใดมายับยั้งความเจริญของเค้าได้
    ความเชื่อเกี่ยวกับพญานกการเวกหรือปักษาวายุภักษ์นี้ เป็นรากเหง้าความเชื่อที่มีมานาน ทั่วโลกนั้นย่อมรู้จักพญานกการเวก อย่างในจีน ญี่ปุ่น เกาหลีเหล่านั้น เค้าจะรู้จักกันในนามของหงส์แดงหรือพญาหงส์ไฟ เเต่ทั่วโลกก็จะรู้จักนกพญาการเวกในอีกชื่อหนึ่งคือนกฟีนิกซ์นั่นเอง เรื่องวิชาพญาการเวกนี้ไม่ใช้เรื่องเหลวไหลเพราะเป็นวิชาตำรับขอมโบราณที่หาผู้สืบทอดจริงจังได้น้อยมากในปัจจุบัน เป็นศาสตร์พญานกที่เรืองอำนาจมากไม่ต่างจากพญาครุฑสุเรนทรชิตเลยทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้มีดีแต่ในบางเรื่องก็ต้องยอมรับว่าพญาการเวกนั้นเก่งกว่าครุฑในบางข้อ มีคุณสมบัติหลายๆอย่างที่ครูฑนั้นไม่มี ด้วยเป็นสัตว์เทพชนิดหนึ่งที่มีพรสวรรค์มากในเรื่องแห่งเสียงมีสำเนียงที่ไพเราะเสนาะหู เมื่อใครได้ยินเสียงร้องก็จะเกิดความเมตตา แม้แต่เทพ,พรหม,องค์อินทร์และบรรดาเทพเทวดาทุกๆชั้น เพียงได้ยินเสียงก็เกิดภวังค์กับคำว่าเคลิ้ม และหลงในเสียง จนได้รับการเรียกขานจากองค์พระนารายณ์ว่า "จ้าวพญาการะเวก" ขนาดศัตรูขององค์เทพและพรหมบนสวรรค์ที่เกรี้ยวกราดและมุ่งหมายจะทำลายล้างสวรรค์(บรรดาพวกยักษ์มาร)ยกกองทัพมาถึงหน้าประตูสวรรค์ องค์พระนารายณ์ท่านได้ส่ง"พญาการะเวก"ไปเกาะข้างหูบรรดายักษ์มารแล้วส่งเสียงร้องข้างหู จนทำให้บรรดายักษ์มารที่ได้ยินเสียงเกิดเปลี่ยนใจในการรบและยกทัพกลับไปหลายรอบแล้ว พระนารายณ์เจ้าเลยตรัสกับเทวดาทุกองค์ว่า ผู้ใดที่มี "พญาการะเวก" อยู่คู่กายไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็จะสำเร็จสัมฤทธิ์ผลทุกประการ (คุณแห่งเสียงของพญาการเวกมีมากขนาดนั้น ได้รับการยกย่องเป็นทั้งจ้าว+ทั้งพญา)

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำมวลสารพิเศษมาสร้างเป็นพญานกการเวกพร้อมปลุกเสกด้วยมนต์มหาเสน่ห์พญาการเวกสูตรยึดตัว - ยึดทรัพย์วิเศษขลังตามตำราตามที่ครูบาอาจารย์ที่ได้กำหนดไว้ ซ้ำยังเป็นยอดเป็นเอกแห่งมนตรามหาเสน่ห์เมตตาสุดลึกล้ำ ที่จักนำพาท่านที่มีไว้บูชาให้พบพานสานต่อเรื่องความรักได้อย่างไม่ยากเย็น ดีเด่นเป็นยิ่งนักเรื่องหาคู่ครอง ให้เกี่ยวดองผูกสัมพันธ์กันโดยเร็ววัน พ่ออาจารย์ท่านลงสูตรพญาการเวกที่เป็นเอกมีแก้วเสียงอันไพเราะเพราะพริ้งแม้แต่พระนารายณ์เป้นเจ้ายังสรรเสริญ ว่ากันว่าพญาการเวกเกาะเกี่ยวอยู่กิ่งก้านต้นไม้ไหน นกการเวกตัวเมียก็จักมาเกาะเกี่ยวคลอเคลียครองชิดใกล้ให้เต็มต้นเป็นร้อยๆตัว ใครคิดที่จักนำหุ่นพญาการเวกนี้มาห้อยบูชาพ่ออาจารย์ท่านเน้นเป็นหนักหนาว่าหุ่นนี้แรงดีเรื่องมหาเสน่ห์เป็นยิ่งนัก อย่าผิดลูกเมียเขาเป็นอันขาด(ถ้ารู้ว่ามีเจ้าของก็อย่าทำ) แต่หากใครที่ไร้คู่ ยู่เป็นโสดมานานแม้ขึ้นคานมาเป็นปีหีือคนที่ยังหาคู่ชีวิตดีๆไม่ได้ ชอบสายมหาเสน่ห์แรงๆนั่นจึงควรใช้ติดตัว ยิ่งเรื่องความรักไม่ต้องกลัวง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากชนิดที่เรียกว่าตักข้าวเข้าปากยังยากเสียกว่า ด้วยมีคุณมากพอจะสรุปได้ดังนี้
    - เป็นวิชาทางมหาเสน่ห์ที่กล่าวกันว่าไม่มีสิ่งใดต้านทานได้
    - เป็นวิชาที่ผู้ใช้มักจะได้คู่ครองที่เสมอตนเเละดีกว่าตนเป็นชนชั้นสูงมีวาสนาดี
    - เป็นวิชาหนึ่งที่เเม้เเต่ผู้มีบุญญาธิการ มีจริตกิริยามารยาทเรียบร้อยงดงามซักเพียงไหนก็มิอาจจะต่อต้านได้
    ซ้ำใครที่ได้ยินได้ฟังเสียงของเราต่างต้องหลงใหลในคำกล่าวเจรจา ฟังแล้วเกิดภวังค์หลงใหลจับจิตจับใจรู้สึกว่าคำพูดเราน่าเชื่อถือมีมนต์ขลังไพเราะเพราะพริ้ง พูดแล้วทำให้เกิดความนับถือ ,พูดสิ่งใดจักได้สิ่งนั้นตามที่ใจปรารถนา,หญิงใดชายใดฟังแล้วได้ยินแล้วต้องหลงใหลใจพะวงถวิลหาทุกเช้าค่ำ อนึ่งแม้จะทำการเจรจาค้าขายก็ดีเป็นที่หนึ่ง,แม้จะถามหาลาภก็มีแต่โชคลาภมั่งคั่งร่ำรวยเงินทอง ก่อนใช้ท่านว่าให้ตั้งจิตอธิษฐานตั้งมั่นให้ดีจักได้สมตามความปรารถนาทุกๆประการ หากต้องการให้คนรักใคร่เอ็นดูพูดจาดีน่าเชื่อถือมีพุทธคุณทางด้านเมตตา มหาเสน่ห์เจรจาอย่างดีเยี่ยมเหนือกว่าสาลิการ้อยคู่,หงส์ทองร้อยตนก็ต้องใช้พญาการเวกนี่แหละ เขาจะช่วยเสริมสง่าราศีให้เด่นดีมากขึ้นยิ่งกว่าใครๆ


    พญาการเวกของพ่ออาจารย์ท่าน ปั้นจากผงวิเศษและว่านยาต่างๆก่อนนำมาคลุกรักดังนี้ งมหาราชเสน่ห์,ผงอิทธเจ,ผงนะหน้าทอง,ผงเมตามหาเสน่ห์,ผงมหาละลวย,ผงมหาหลง,ผงนะจังงัง,ผงคาถาสาลิกา,ผงสาลิกาหลงรัง,ผงสาลิกาลิ้นทอง,ผงคาถาพญาการเวก,ผงคาถามหาเศรษฐี,สีผึ้งอาถรรพ์ร้อยแปดเช่นหัวเชื้อสีผึ้งจันทร์เพ็ญหลวงปู่ศุข..,น้ำมันว่านอาถรรพ์ร้อยแปดเช่นน้ำมันนกกาเหว่า น้ำมันนะอกแตก น้ำมันหัวใจขุนแผน น้ำมันมหารัญจวน น้ำมันว่านพญาไก่แดง...เป็นต้น,ผงว่านมหาเสน่ห์ร้อยแปด ว่านที่ใช้ลงทำผงเป็นตระกูลเสน่ห์จันทร์ประกอบด้วย เสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์ เสน่ห์จันทร์ขาว เสน่ห์จันทร์แดง เสน่ห์จันทร์เขียว เสน่ห์จันทร์หอม เสน่ห์จันทร์ทองและว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์ทั้งหมดเป็นพื้นฐานรวมกับว่านเสน่ห์อื่นๆทั้งว่านสาวหลงเก้าดง ว่านขมิ้นขาวมหาเสน่ห์ ว่านดินสอฤๅษี ว่านแสนนางล้อม ว่านเสน่หา ว่านดอกทอง ว่านช้างผสมโขลง ว่านจูงนาง ว่านห้าร้อยนาง ว่านสาลิกา ว่านกระแจะจันทร์ ว่านกุมารทอง ว่านเทพรัญจวน ว่านกล่อมนางนอน ว่านขุนแผนสะกดทัพ ว่านเสน่ห์ขุนแผน ว่านนางกวัก ว่านมหาลาภ ว่านขอเงิน ว่านขันหมาก ว่านกวักมงคล ต้นตองแตก ดอกรักซ้อน ยอดกาหลง เครือเขาหลง ลูกพญาครองนาง ลูกสวาท นำมาเข้ากับผงยาแดงพม่า,ผงการะกันถี น้ำมันเก้ากลิ่นของหลวงปู่หมุน,ผงใบมะยมเสกของหลวงปู่หมุน ท่านว่าลำพังว่านแต่ละตัวก็เด่นด้านเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม โชคลาภ มีฤทธิ์ทำให้เกิดเป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็นอยู่แล้วซึ่งว่านเหล่านี้นิยมใช้กันมาแต่โบราณนอกจากเป็นเมตตามหาเสน่ห์แล้วยังให้ผลทางการค้า,การงาน,มีโชคลาภ,ร่ำรวย นอกจากผงว่านยาและผงวิเศษอาถรรพ์แล้ว พ่ออาจารย์ว่าจะทำพญาการเวกที่เป้นของกายสิทธิ์ในตัวเอง ธาตุตั้งต้นก็จำต้องมีพลังศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ยังเป็นผงเช่นกัน ท่านจึงได้นำมวลสารแร่เหล็กไหลกว่าสามสิบแปดชนิดผสมกับผงอาถรรพณ์ของคนธรรพ์และผงอาถรรพณ์ฤาษีต่างๆอีกมากมายกว่าร้อยชนิด ซึ่งเมื่อนำผงแร่เหล็กไหลต่างๆมาผสมผสมกับผงอาถรรพ์จะทำให้หุ่นพญานกมีคุณวิเศษในตัวผงเหล่านี้เด่นในด้านเสริมดวง,หนุนดวง,เสริมบารมี,เมตตามหานิยม,ค้าขายร่ำรวย,กลับร้ายกลายเป็นดี,มีโชคลาภ,มีวาสนาบารมีเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยหนุนธาตุในร่างกายทำให้แข็งแรงไม่เจ็บป่วยได้ง่าย พกหุ่นพญานกนี้ไว้ติดตัวจะไม่มีคำว่าอับจนหรือตกยาก เพราะเทพเทวดาดูแลรักษาคุ้มครองตลอดเวลา ใช้ได้ดีทั้งในเรื่องของด้านความรัก,ด้านเมตตามหานิยม

    วิชายึดตัว-ยึดทรัพย์
    ก่อนจะครอบหุ่นด้วยมนต์ยึดตัว-ยึดทรัพย์ ที่พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอาถรรพ์รุนแรงถึงขนาดว่าไม่จำเป็นจริงๆแล้วก็ไม่อยากให้เอาไปใช้กัน เพราะลำพังนิสัยพญาการเวกเองก็แรงพอตัวแล้วแต่เดิมนี่เขาอยากได้อะไรแม้ไม่ใช่ของตัวเองก็ไปตามหยิบตามยึดเขามาทั้งหมด ขอให้สวย ขอให้งาม ขอให้ดี ขอให้มีค่ายิ่งหายากในปฐพีเถิดหนาไม่มีสิ่งใดรอดสายตาพญาการเวกไปได้ เมื่อนำมาครอบมนต์ยึดตัว-ยึดทรัพย์แล้วพ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งมีอาถรรพ์แรงเข้าไปอีก ทีนี้ล่ะอะไรก็ของของกู กูจะเอา กูต้องได้แล้วก็ต้องได้จริงๆ เช่นนั้นวิชายึดตัว-ยึดทรัพย์วิชานี้จึงไม่ใช่วิชาเล่นๆเลยเพราะเป็นวิชาที่สืบทอดกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ซ้ำยังเป็นขั้นสูงสุดของสายวิชาพญาการเวกที่ใช้ลงอาถรรพ์ในหุ่นนกเมื่อปลุกเสกจะต้องอธิษฐานจิตแบบพิเศษประจุพลังทีละตนๆ เพราะถือว่าเป็นนกที่มีพลังแห่งเทพเทวาอารักษ์รักษาด้วยเสน่หาอยู่มากมายมากล้นจนเกิดความเข้มขลัง ท่านใช้เวลาเสกทำวิชายึดตัว-ยึดทรัพย์นานถึงเก้าวันเก้าคืน ท่านว่านกการเวกนั้นเป็นนกกลางคืน ตอนกลางวันที่ว่าแรงด้านเมตตามหาเสน่ห์แล้ว แต่กลางคืนจะยิ่งเด่นชนิดหาตัวจับยากเรียกว่าเอามาเทียบกับตอนกลางวันไม่ได้ พอตกเย็นปุ๊ปพญานกจะมีฤทธิ์เพิ่มขึ้นอีกเป็นหลายเท่า เช่นนั้นท่านจึงต้องอธิษฐานจิตทีละตนทั้งกลางวันและกลางคืนทั้งเก้าวันเก้าคืนจนกว่านกการเวกจะส่งเสียงที่ไพเราะเป็นสำเนียงขับขานท่วงทำนองที่ลึกซึ้งทำให้พลังงานตีกลับท่านจึงจะถอนออกและหยุดเพราะถือว่าเต็มแล้ว หุ่นนกนี้กำเนิดขึ้นมาแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าลำพังพญาการเวกนี้ก็เชื่อว่าให้คุณแรงทำให้ผู้ที่ได้รับฟังคำพูดเชื่อเราจนไปถึงวันตายเขาเลยทีเดียว พลังมหาเสน่ห์เป็นพลังอำนาจที่มาจากพญาการเวกซึ่งมีลิ้นเป็นทองคำได้รับพรวิเศษจากสรวงสวรรค์ ทำให้ผู้ที่ได้รับฟังเสียงหลงไหลเคลิบเคลิ้มกับเสียงไม่เว้นเเม้กะทั่งเหล่าเทวดา ท่านว่าแน่ไม่แน่ก็คิดเอาแล้วกันว่าพวกวิชาสาลิกานั้นเมื่อเทียบกับวิชาพญาการเวกถือเป็นของชั้นรองไปทีเดียว ด้วยศักดิ์และชาติกำเนิดที่พอเกิดมานกการเวกก็เป็นเจ้าเป็นนายของปักษาทั้งปวงอยู่แล้ว ซ้ำเหล่าสาลิกาทั้งหลายยังเป็นเพียงบริวารจำพวกหนึ่งของเขาด้วย ด้วยวิชาพญาการเวกใครที่ได้ยินเสียงเราแล้วมักเกิดความหลงใหลในน้ำเสียงที่มีความไพเราะจับใจ อยู่ไกลแสนไกลแค่ไหนเมื่อได้ยินเสียงเราก็ต้องมาให้เห็นหน้า ถ้าไม่ได้มาเหมือนหัวใจจะแตกเป็นเสี่ยงๆทีเดียว นับว่าเป็นวิชาอาถรรพณ์โบราณอีกรูปแบบหนึ่ง ก่อให้เกิดผลดีทุกด้านตามแต่จะใช้ จะใช้ให้เกิดความมั่นใจในการประกอบธุรกิจการงานติดต่อประสานงานกับบุคคลทั่วไปเช่นนี้ก็ได้(ท่านว่าใช้ยังไงก็ได้อย่างนั้น)

    นอกจากนั้นพญาการเวกพ่ออาจารย์ยังฝังอาถรรพ์ต่างๆให้ดังนี้ในตัวของเขาด้วย
    - แร่กันอับเฉา(กันพลาด) โบราณเขาเอาไว้ถ่วงท้องเรือสำเภา เวลาคนเดินทางแสวงโชคล่องเรือมานี่เขาก็จะหยิบแร่ที่ถ่วงท้องเรือออกมาเป็นที่ระลึกถือว่าเป็นของสิริมงคลด้วยอยู่ท้องสำเภายังถ่วงให้พ้นคลื่นลมแลภัยพิบัติได้ แม้เรื่อที่ว่างยังถ่วงให้เต็มได้ นี่เป็นเคล็ดเติมเต็มแต่โบราณเอาไว้เริ่มตั้งตัว ดั่งว่าหยิบทรัพย์ ได้ทรัพย์ในสำเภามาครอบครองเป็นอาถรรภ์แฝด ซ้ำแร่ถ่วงท้องสำเภานี้ยังมีดีในตัวเองโบราณว่ามีคุณตามเคล็ดกันพลาดกันอับเฉาได้ครอบคลุมทั้งสิ้น หมายถึงกันสิ่งไม่ดี กันชีวิตอัปปาง กันชีวิตล่มจม ปิดทางให้ตั้งตัวได้เจริญขึ้นโดยส่วนเดียวไม่มีวิบัติภัยใดๆเลย แร่สำคัญนี้พอถ่ายทอดสืบสกุลจากรุ่นสู่รุ่นในตระกูลเศรษฐี ตัวแร่จึงถูกเคารพในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษซึ่งมีเทวดารักษา คนในสกุลมักจะนำมาอธิษฐานขอพรเพื่อเข้าถึงพลังงานและสิริมงคลเบื้องสูง พ่ออาจารย์ท่านว่าแร่ก้อนนี้นอกจากจะดีทางกันพลาดกันอับจนแล้ว ยังมีดีด้านมหาสะกดให้ฝูงชนหลงเมามัวเคลิบเคลิ้มได้อย่างประหลาดเป็นไปด้วยอานุภาพเทวดา เธอลองคิดเอาเถิดว่าเพียงก้อนแร่ก้อนหนึ่งยังทำให้คนนับสิบในสกุลยึดถือกราบไหว้มาหลายชั่วอายุคนนับร้อยๆปีตั้งแต่ต้นกรุงได้นี่แร่ก้อนนี้ต้องมีอาถรรพ์และวิเศษกว่าแร่ชนิดเดียวกันขนาดไหน ท่านว่าแร่นี้เมื่อนำมาพกพาจะเสริมส่งตบะ เพิ่มวาสนา เติมบุญบารมี ต่อชะตาชีวิตทำให้เกิดความก้าวหน้าในการงาน มีความสุขความเจริญรุ่งเรือง แม้ต้องอาถรรพ์ดวงตกก็หนุนชะตาได้เป็นอย่างดี พ่ออาจารย์ท่านถือเคล็ดว่าแร่นี้ได้ซึมซับ ความสุข ความบริบูรณ์มาชั่วรุ่นเศรษฐีหลายอายุคน ซึมซับความสุขมายาวนานไม่รู้จักคำว่าตกต่ำยากจน มีอาถรรพ์ดุจสำเภาที่ฝ่าคลื่นลมข้ามน้ำข้ามทะเล ฝ่าคลื่น ฝ่าพายุมรสุมวิบากกรรมผ่านพ้นได้นับกาลเวลาไม่ถ้วน เช่นนี้ท่านจึงนำแร่มาอธิษฐานจิต ทั้งยังได้ขอบารมีหลวงพ่อฤาษีเสกให้หลายวาระจนประจักษ์แก่ใจว่าอานุภาพเต็ม ท่านจึงบอก ขอกับเทวดาที่รักษาแร่ให้ออกไปสร้างกุศลใหญ่ แล้วนำแร่มาทุบฝังไว้ในพญาการเวกนี้ส่วนหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าเราขอเขาให้ไปหนุนคนที่ได้ไป ให้เจริญขึ้นโดยส่วนเดียวเหมือนที่เขาเคยสร้างคน เปลี่ยนคนติดสำเภาธรรมดาให้ตั้งตัวเป็นเจ้าสัวในเมืองกรุง เป็นเศรษฐีค้าสำเภาได้สืบทอดลูกหลานมาหลายร้อยปีโดยที่สกุลนี้ไม่มีตกต่ำเลย

    - น้ำมันพญาครอบเมือง ครอบเมือง,ครองเมืองหรืองำเมืองนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพุทธคุณด้านมหาอำนาจและเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ ตลอดทั้งเป็นแคล้วคลาดคงกะพัน ท่านว่าเป็นน้ำมันเวทย์ของพระเกจิชื่อดังในอดีต เอาว่าไม่ต้องไปเอ่ยนามท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าหากพูดชื่อออกไปรับรองว่าพญาการเวกรุ่นนี้คนจะแห่กันมาจองถล่มทลายหนักกว่ายอดข้ามปีตอนเป็นตะกรุดเสียอีก ด้วยเป็นน้ำมันที่มีประสบการณ์ให้เห็นอย่างต่อเนื่องในอดีต ทั้งนักการเมืองท้องถิ่นโดนลอบยิงไม่เข้า,บางคนก็ถูกหวย,นายทหารห้อยเข้าหาเจ้าหานายได้เลื่อนตำแหน่ง,เด็กขนของกลายเป็นซีอีโอ ท่านว่าน้ำมันชุดนี้ปัจจุบันอยู่ในมือข้าราชการระดับสูง,ผู้ว่า,ทหาร,ตำรวจหรือนักบริหารเกือบทั้งหมด น้ำมันพญาครอบเมืองนั้นท่านถือคติว่าเมื่อเหน็ดเหนื่อยจากกิจที่ทำแล้ว ย่อมถึงเวลาอันสมควรที่จะได้รับบำเหน็จ***ได้รับรางวัลชีวิต,ได้รับความชอบเช่นนั้นมีอานุภาพทั้งครอบและงำไว้เป็นของอาถรรพ์ที่ทำได้ยาก และยากยิ่งกว่าที่จะทำให้สำเร็จในสมัยนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใครรู้ตัวว่าเหนื่อยมามากแล้วถึงเวลาแล้วที่อยากจะได้รางวัลชีวิต อยากจะได้บำเหน็จเป็นสิ่งตอบแทนถ้ารู้ตัวก็เอาไปใช้ ทั้งในขวดน้ำมันพ่ออาจารย์ท่านยังได้ลงตะกรุดพญาการเวกใส่ไว้ด้สนในเป็นหัวใจของน้ำมันด้วย ซึ่งตะกรุดนี้มีวิธีการลงที่ค่อนข้างซับซ้อนตามขั้นตอนต่างๆเริ่มตั้งแต่
    1.นำเเผ่นตะกั่วให้ศิษย์ที่เป็นดาวในสถานเริงรมย์ ต้องสวยที่สุด มีเเขกติดพันมากที่สุด ให้เค้านำไปสอดไว้ใต้เตียงซึมซับอาถรรพ์ ความใคร่ ความเสน่หาต่างๆ ของผู้ที่มาเที่ยวจนเเรงกล้าด้วยกระเเสของความใคร่
    2.หลังจากนั้นจึงนำเเผ่นตะกั่วมาตัด เเละพ่ออาจารย์ท่านนำลงเเช่ในน้ำผึ้งเดือน 5 เสกเเละอธิษฐานจิตด้วยมนต์เทพรัญจวน เทพรำลึก เทพรำพึง ถือเป็นเคล็ดเพื่อให้ความรักของผู้ที่ได้บูชานั้นหอมหวานสุกงอมที่สุด
    3.นำมาเเช่ในน้ำค้างกลางหาว มิตกต้องพื้นเเผ่นดิน ถือเป็นน้ำฟ้าปริสุทธิ์ นำมาปลุกเสกอธิษฐานจิตลงอาถรรพ์เพิ่มเติม ท่านว่าเพื่อเป็นเคล็ดให้เจอกับความรักที่บริสุทธิ์ดีงาม(เป็นเคล็ดให้พบคนบริสุทธิ์นั่นเเหละ)
    4.นำมาลงวิชาพญาการเวกโดยตัวผู้กับตัวเมียนั้นต้องเเยกกันลง แยกกันเสกจะลงพร้อมกันไม่ได้นั่นคือเมื่อลงพ่อพญาการเวกตัวผู้เสร็จจึงจะลงตัวเเม่นางพญาเเละนำมาอธิษฐานจิต เชิญดวงจิตเเห่งพญาวายุภักษ์ทั้งสองให้มาจุติปฏิสนธิขึ้นรูป ก่อกำเนิดขึ้นมาแล้วจึงนำมาม้วนทับกันเป็นเคล็ดที่ว่ารักกันทุกเวลาไม่เสื่อมคลาย ก่อนจะนำมาเสกให้พญานกทั้งสองมีปฏิสัมพันธ์กัน รักกัน จนเกิดภาพนิมิตรที่พญานกทั้งสองมีปฏิสัมพันธ์กันเเล้วจึงเสร็จพิธี


    หุ่นพญานกนี้มีคุณานุภาพมากซ้ำยังสร้างได้ยากมากทีเดียว หลังจากได้รับไปก็ยังมีวิธีบูชาอีกขั้นหนึ่ง
    - เมื่อได้รับไปหรือเวลาจะขออะไร หรือต้องการให้หุ่นมีอานุภาพมากขึ้นก็ตาม(ท่านว่าให้ขอตอนกลางคืนเพราะพญาการเวกเป็นเทพรัตติกาล(***ซ้ำยิ่งนำมาอาบแสงจันทร์ยามค่ำคืนได้ทุกคืนพญานกจะยิ่งมีฤทธิ์เลิศล้ำหลายเท่าเป้นเงาตามตัว) ถ้าต้องการให้พ่อพญานกเเม่พญานกรักเราสนิทกับเราไวๆก็ให้คั้นน้ำมะม่วงสุกด้วยมือตัวเองเลือกเฉพาะที่มีกลิ่นหอมหวานเท่านั้น เพราะพ่อพญานกเเม่พญานกท่านโปรดเป็นพิเศษ หลังจากนั้นจึงท่องคาถาอาราธนานำน้ำมะม่วงสุกนั้นถวายท่าน อธิษฐานใจให้พ่อนกเเม่นกลงเสพย์น้ำมะม่วงสุกที่หอมหวานนั้น เมื่อบูชาเสร็จน้ำมะม่วงนั้นให้เราลาพ่อนกเเม่นกมาดื่มกิน อธิษฐานจิตขอให้เป็นยารักษาโรครักษาสิ่งไม่ดีทั้งหลายภายในกายของเรา เเละเป็นอาหารอันเป็นสวัสดิมงคลแก่ชีวิตเรา *การไหว้นี้ยิ่งทำยิ่งได้ ยิ่งทำยิ่งดี พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ทำไปเรื่อยๆจะดีกับตนเองมาก


    คาถาบูชา
    อาราธนา(ให้นึกถึงพ่อนกแม่นกเป็นที่สุด) โอมการเวก มะสะ พุทธัง มหารี การี การัต โอม สะโหมติด
    เมื่อจะใช้ทางมหาเสน่ห์(ให้นึกถึงพ่อนกแม่นกเป็นที่สุด) โอม อิกะวิติ พญากอระวีกโก พุทโธ เวหาสฟ้าคือรัง บินบนแผ่น แม่นกแล่นบินตาม สาวงามบ่มิได้ต้านต่อ ชาวพ่อกูนา ชาวพาสาลืมเพศ ด้วยเดชดัวดี
    เมื่อจะใช้มนต์ยึดตัว-ยึดทรัพย์(ให้นึกถึงพ่อนกแม่นกเป็นที่สุด)
    กุ๊กกรู กุ๊กกรู กุ๊กกรู พญาการะวิโก ทรัพย์ของมึงเป็นทรัพย์ของกู เงินของมึงเป็นเงินของกู จิตของมึงอยู่ใต้อำนาจจิตกู ธายะอกตรมตรอมระทม(เอาทรัพย์-เอาตัว)มึงมาให้แก่กู โอมสะโหมติด***มนต์ยึดตัว-ยึดทรัพย์นี้มนวงเล็บท่านว่าใช้ตามสถานการณ์ จะเปลี่ยนเป็นโชคของมึง วาสนาของมึงแบบนี้ก็ได้ และให้จำไว้ว่าจะใช้ในกรณีที่เราอยากได้ของคนอื่นจริงๆ หรือปรารถนาสิ่งที่มีเจ้าของแล้ว ไม่เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงอธิษฐานเอาตามปกติก็ได้ว่าจะให้พญานกท่านช่วยอะไร

    *** พญานกสำคัญนี้ท่านว่าสร้างไว้แปดตน แต่มีให้บูชาห้าตนเท่านั้น เพราะคนที่มอบมวลสารต่างๆทั้งแร่ทั้งน้ำมันให้เขาขอเราเอาไปใช้จนวาสนาแซงคู่แข่งขึ้นไปไกลมาก เช่นนั้นจึงจะให้บูชาจองกันเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้แจ้งชื่อสกุลวันเดือนปีเกิดรวมถึงสิ่งที่ต้องการบอกกล่าวเป็นการส่วนตัวหรืออยากจะขออะไรที่สำคัญๆกับพญานกก็แจ้งไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการประสิทธิ์ให้ รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กยากไร้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ต่อไป(ท่านว่าสร้างคนให้ดี ประเทศชาติก็ดีกุศลมหาศาล)

    ร่วมทำบุญบูชา เทพรัตติกาลจ้าวเวหาพญาการเวกปักษามนต์ยึดตัว-ยึดทรัพย์(สูตรพญาครอบเมือง) บูชา 4,000 บาท

    56456138-806514736371699-2781795007030362112-n.jpg 56866341-2226592904046229-662878616740167680-n.jpg
    56547315-537587496766364-6180896425040150528-n.jpg
    img-sm-mural-nokgarawake1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2019
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดโยอริโยโลกุตรังธรรมนิรมิต(คนเหนือดวง,ทำให้ได้)

    เป็นที่ทราบกันดีของสายในดงว่าหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร ท่านได้มอบวิชาต่างๆตามแต่จริตของศิษย์ ซึ่งวิชาเหล่านี้สำหรับผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่เมื่อนำไปบูชาแล้วจะเกิดปาฏิหาริย์ด้วยอำนาจบารมีของหลวงปู่ใหญ่เป็นประการต่างๆทั้งขอได้ดั่งใจปรารถนา แคล้วคลาด เตือนภัย ครอบคลุมพลังงานทุกสิ่ง ด้วยเป็นวิชาโลกุตระนั่นคือพ้นโลกหรืออยู่เหนือวิสัยของโลก ทั้งผู้บูชายังจะสัมผัสได้ถึงกระแสแห่งความเมตตาของหลวงปู่ใหญ่เสมือนพ่อที่ให้ทุกสิ่งแก่ลูกอันเป็นที่รักได้อย่างเต็มใจ พ่ออาจารย์ท่านว่าสายนี้ท่านถือพระพุทธเจ้าคือพ่อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทุกๆคน เป็นหนึ่งไม่มีสองไม่เป็นรองใครในทุกๆโลก เช่นนั้นวิชาที่หลวงปู่ใหญ่ใช้สงเคราะห์คนจึงเปรียบเสมือนดวงแสงของอาทิตย์ที่ส่องสาดต้องตัวเรา เมื่อตัวเราโดนแสงอันอบอุ่นนั้นมากกว่าความร้อนพ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อผู้อาราธนากำหนดรู้ความสุกใสย่อมเกิดขึ้นได้ วิชาของหลวงปู่นี้ท่านใช้โปรดในผู้มีบุญอันได้ทำร่วมกันมา เพื่อปรารถนาให้บารมีเปิดแผ่ก้องเป็นที่แซ่ซ้องของผองชนที่บรรเทิงอยู่ในธรรมตามความเป็นจริง ดุจธรรมของพระพุทธองค์ที่ไม่อาจถูกบิดเบือนหรือลบล้างให้เลือนลางได้ฉันใด วิชาที่ยึดมั่นให้จิตใจใฝ่ธรรมก็ย่อมน้อมนำผู้ใช้ให้ถึงซึ่งชีวิตที่สดใส ไร้สิ่งอันมีมลทินใดๆมากล้ำกรายทำให้หมองใจได้เช่นนั้น

    วิชาธรรมนิรมิตนี้คือวิชาธรรมที่บันดาลให้มีขึ้น,ได้เป็น,และเกิดขึ้น ท่านว่าอะไรที่เป็นไปไม่ได้โดยคติก็ต้องทำให้ได้ ด้วยธรรมนิรมิตนั้นจะบันดาลด้วยอำนาจฤทธิ์แลอภินิหารให้บังเกิดเป็นขึ้นมีขึ้นโดยฉับพลัน พ่ออาจารย์ท่านได้รับการสอนวิชานี้โดยตรงสมัยท่านแสวงหาครู แสวงหาธรรมโดดเดี่ยวอยู่ในป่าเมืองกาญจนบุรี โดยได้รับการสอนจากหลวงปู่ใหญ่โดยตรงทั้งยังกำชับว่า"เมื่อจะใช้ให้นึกถึงเรา เราจะมาช่วยทำให้" พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาของหลวงปู่ใหญ่นี้นับเป็นวิชาศักยไนยประเภทหนึ่ง กล่าวคือเป็นวิชาที่สามารถเป็นที่พึ่งพิงได้ซึ่งวิชาทั้งหลายก็มีหลายประเภทแต่วิชาที่กำหนดไว้ว่าคนใช้สามารถพึ่งพิงได้นั้นกลับมีไม่มากเลย พ่ออาจารย์ท่านได้บรรจุอักขระเวทมนต์โบราณขอมลาวแบบพิศดารตั้งแต่ครั้งบรรพกาลเพื่อทำเป็นตะกรุด ท่านว่าทุกตำราทุกวิชาคาถาสายในดงเราอาราธนาขอหลวงปู่ใหญ่รวมเอาไว้ในนี้หมดแล้ว หลวงปู่ท่านใช้พลังญาณฌานสมาบัติขั้นสูงสุดเปลี่ยนเจ้ากรรมนายเวรให้เป็นสัมมาทิฐิหันมาเชิดชูพระพุทธศาสนา ทั้งยังอำนวยสิริมงคลและโชคลาภแก่ผู้ใฝ่การบุญการกุศล พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้สำคัญนักด้วยอำนาจญาณบารมีบริสุทธิ์ขั้นสูงสุดที่หลวงปู่ท่านมาทำให้ใครอยากได้การคุ้มครองอย่างไรอันนี้ให้อธิษฐานเอาเองตามใจได้หมดเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องค้าขายดี,มีโชคลาภ,สอบติด,เลื่อนตำแหน่ง,แข่งขัน,เข้าหาผู้ใหญ๋,ประจบนาย,ดวงตก,ดวงแตก,ต้องชงต้องทุกข์โทษเคราะห์กรรม พ่ออาจารย์ท่านว่าเราได้อาราธนาขอบารมีหลวงปู่เทพโลกอุดรแผ่พลังบารมีลงในวัตถุมงคลตั้งแต่เริ่ม เพราะนี่เป็นวิชาของท่านระหว่างที่เราจารท่านก็มาจับมือเราทำให้ชนิดที่ได้กลิ่นหอมเย็นๆของท่านเป็นกลิ่นเดียวกันกับที่เคยพบและระลึกถึง เพียงแรกลงแผ่นอักขระก็ปรากฏมีแสงฉัพพรรณรังสีครอบเหล็กจารและแผ่นตะกั่วไว้ พ่ออาจารย์ท่านจึงมั่นใจมากว่าหลวงปู่มาแล้วเชิญพระมาทำให้แล้วด้วยตัวท่านเอง ด้วยหลวงปู่ท่านจบกิจในพระพุทธศาสนาแล้วและเป็นผู้ทรงอภิญญาและทรงพระไตรปิฏกองค์หนึ่ง วิชาที่ท่านทำให้จึงมีพุทธคุณคุ้มครองชีวิตจากภัยพิบัตินานัปการ อีกทั้งใครหมั่นบูชาจะมีโชคลาภเจริญรุ่งเรือง

    ทั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้นำหมากทิพย์ หรือคำหมากที่หลวงปู่ใหญ่ท่านเคยคายเอาไว้ให้เมื่อมาปรากฏองค์สั่งสอนพ่ออาจารย์ท่าน พ่อครูท่านบูชาและยึดถือ,ยึดมั่นพุทธคุณในคำหมากนี้มาตลอดโดยท่านเรียกหมากคำนี้ว่าหมากโลกุตระ ท่านว่าเป็นหมากที่มีพุทธคุณอันน่าอัศจรรย์หลายประการ ทั้งเป็นของวิเศษด้วยเอาไว้ใช้เชื่อมโยงความสัมพันธ์กับครูในโลกทิพย์,เอาไว้เป็นเครื่องระลึกตรึกถึงมหากรุณาของท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นของที่หลวงปู่ใหญ่องค์นั้นท่านทำให้ ทำให้ด้วยลมหายใจ,น้ำลาย,และไอปากรวมถึงอำนาจสมาบัติของท่านเช่นนั้นฉันจึงถือว่าเป็นที่สุดแล้วของสายบุญฤทธิ์ แม้บางคนสิ้นเนื้อประดาตัวท่านได้แบ่งหมากคำนี้ให้ไปบูชาไม่ถึงครึ่งเดือนชีวิตก็ดีขึ้นเดี๋ยวนี้มีเงินเจริญรุ่งเรือง ถึงกับซื้อรถยนต์มามอบให้พ่ออาจารย์ด้วยระลึกคุณว่าคำหมากนั้นเปลี่ยนชีวิตเขาได้ แต่ท่านก็เพียงรับแล้วก็ให้คืนเจ้าของไปให้เขาเอาไปใช้ทำมาหากิน เช่นนั้นท่านจึงพูดติดตลกว่าคำหมากหินชุดนี้แลกรถได้เป็นคันๆสำหรับคนที่เขาศรัทธาอย่างจริงใจ ซ้ำคำหมากที่หยิบออกไปเมื่อพร่องลงลดลงในทีแรกพอวันรุ่งขึ้นก็กลับมาเต็มผอบเหมือนเดิม ดุจว่าแรงครูนั้นมีชีวิตทำให้เขางอกได้ฟูได้ไม่พร่องไม่ลดลงเลยเป็นที่น่าอัศจรรย์เช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าบุญฤทธิ์ในสายหลวงปู่ใหย่นี้จะเป็นอิทธิฤทธิ์ที่อยู่เหนือฤทธิ์ เป็นยอดแห่งโลกุตระฤทธิ์ที่ไม่มีวันเสื่อมแม้ผู้ใดเข้าถึงหลวงปู่ศรัทธาหลวงปู่ หมากคำนี้จะปกป้องคุ้มครองทั้งป้องกันภัย,เร่งวาสนากำลังบุญให้มีโชคมีลาภ,ทำกิจการใดล้วนเจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งวิชาของท่านและคำหมากของท่านครูวิชาท่านแรงมากๆใช้ได้ทุกคนเห็นผลกันทุกราย เช่นนั้นท่านจึงตั้งใจขอหลวงปู่ใหญ่แบ่งหมากคำนี้ให้ผู้มีวาสนาร่วมกับครูบาอาจารย์นำไปใช้บูชาพร้อมๆกั

    ตัวตะกรุดนั้นนอกจากดึงพลังโลกุตระให้เทวดาช่วยเปิดดวงบังเกิดทรัพย์แล้ว ท่านว่าเมื่อจารนั้นยังกำกับธาตุประกอบ ทั้งเปิดฟ้า เปิดดิน เปิดโชคชะตา เปิดความร่ำรวยให้รับทรัพย์ ทุกดอกมีครูสายในดงรักษาจะชี้ทางเปิดโชคลาภให้ผู้บูชาใช้ได้ผลเห็นผลจริง ด้วยเป็นอักขระเลขยันต์คุณวิชาธรรมนิรมิตโบราณนับพันปีที่ใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวแก่ผู้ศรัทธานำไปใช้สร้างหนทางทำกินของชีวิต แม้ว่าเกิดมาเป็นคนที่ไม่มีโชคลาภก็จะมีเข้ามาไม่ขาดสาย หรือคนที่มีมาประจำก็จะยิ่งเพิ่มทวีคูณยิ่งๆขึ้นไปท่านลงกำกับไว้ให้เทวดาให้ลาภแม้ตัวเราอยู่ที่ไหนเทวดาในทิศนั้นก็ต้องมาช่วยเราก่อน ใช้เรียกทรัพย์เรียกลาภให้มีกินมีใช้ไม่ขาดสายให้มีชีวิตเป็นเจ้าสัวเป็นเศรษฐี ท่านว่ารักษาบูชาไว้ให้ดีจะบังเกิดผลเห็นผลได้ทันใจ ผู้ที่เป็นยาจกยากจนจะกลายเป็นเศรษฐี,เศรษฐีจะกลายเป็นมหาเศรษฐีและจักรักษาทรัพย์ไว้ได้นาน,ทรัพย์สินเงินทองจะเพิ่มพูน,คนโชคร้ายจะกลับกลายเป็นคนโชคดี,คนไม่มียศจะมียศ,คนไม่มีผัวจะมีผัว,คนไม่มีเมียจะมีเมีย,คนไม่มีลูกจะมีลูก,ผัวเมียรังเกียจกันจะคืนดีต่อกัน,คนไม่มีสติปัญญาจะมีสติปัญญา,คนไม่มีข้าทาสบริวารจะมีข้าทาสบริวาร,คนไม่เป็นที่รักจะเป็นที่รัก จะบังเกิดตบะเดชาปรากฏไปทั่วทุกทิศ ทั้งบ้านเมืองที่เสื่อมโทรมก็จะเจริญรุ่งเรือง แม้ประกอบการค้าต่างๆจะมีโภคทรัพย์หลั่งไหลมาสู่เรามิได้ขาดหายผู้ใดได้ไหว้กราบบูชาจะเจริญวัฒนาสถาพรจะเกิดโชคลาภใหญ่ยิ่งจะมีคนมาบำรุงให้รุ่งเรือง ไปอยู่ในทิศใดตำบลใดไม่มีตกต่ำเลย เป็นของวิเศษอย่าได้ประมาทประสงค์สิ่งใดก็จะเป็นเช่นนั้น ท่านว่าผู้ที่ศรัทธาใช้อย่างแน่วแน่จะก่อเกิดปาฏิหาริย์ด้านโชคลาภอย่างแน่นอน ทั้งตะกรุดนี้ยังใช้ในด้านหนุนดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำ,ชูดวง,ค้ำดวงก็ได้ จะใช้เปิดดวงด้านโชคลาภเพื่อเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคก็ได้ จะทำกิจการอันใดพกติดตัวเอาไว้จะฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาทุกอย่างไปด้วยดี เปิดดวงเปิดทางให้โชคลาภไหลมาเทมาดุจดั่งมหาสมุทรที่ไม่เคยเหือดแห้ง ขอให้นำไปใช้ด้วยความศรัทธาแล้วจะเกิดผลจริง

    ด้วยสภาพสังคมปัจจุบันนี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขอบารมีครูตอนเสกปิดอีกคำรบหนึ่งให้ช่วยเรื่องปากท้องคน ใครที่บูชาครูหรืออาราธนาตะกรุดนี้อย่าให้เงินเขาขาดตกไปจากกระเป๋า แม้ผู้ครอบครองหมั่นทำบุญหมั่นบูชาสวดคาถาที่ท่านให้ไว้เป็นประจำ เงินทองจะไหลมาเทมาเองมีเข้ามาเองไม่ขาดอย่างน่าประหลาด พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่ดีจริงหลวงปู่ใหญ่ท่านคงไม่กำชับให้ฉันทำวิชาเสกอยู่ถึงสองปีโดยที่ท่านจะมาช่วยเสกด้วยไม่อย่างนั้นท่านไม่ยอม เพราะเอาไปใช้แล้วต้องได้ผลจริงๆเท่านั้น ตะกรุดนี้จึงมีอาถรรพ์มากถึงขั้นแค่จับก็ขนพองสยองเกล้าแล้วบ่งบอกถึงความแรงและพลังจิตที่เสกยัดเข้าไป คนที่ทำมาหากินไม่คล่องอยากมีของดีไว้ช่วยส่งเสริมให้ทำมาหากินคล่องหาเงินง่ายหรือมีปัญหายากๆในชีวิตท่านว่าให้มาเอาไปใช้เลยจะได้มีทรัพย์ไม่ขาดทั้งยังทำมาค้าขึ้น ถ้าเอาไปขอเรื่องเงินตะกรุดฉันเขาจะเพิ่มทรัพย์และรักษาทรัพย์สมบัติให้เยือกเย็นทรงตัวร่ำรวยยิ่งๆขึ้นไป ถ้าขัดสนกันจริงๆให้เอาไว้ในที่เก็บเงินเก็บทองเช่นนี้จะเรียกลาภเรียกผล ตะกรุดนี้มีบูชาอยู่ที่ใดที่นั้นจะบังเกิดทรัพย์เงินทองไม่ขาดสายไปอีกนับร้อยปี พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดคำหมากหินนี้มีค่ามากนักต่อไปในสายหลวงปู่ใหญ่ต่อให้เอาเงินเป็นหมื่นเป็นแสนมาแลกเขาก็ไม่ยอม เพราะคนใช้จะรู้ตัวเองดีว่าเมื่อไม่มีอะไรเลยแล้วชีวิตเป็นเช่นไร แล้วตอนกลับมามั่งคั่งเป็นเสี่ยเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โตชีวิตมันต่างกันอย่างไร ท่านทำให้เป็นเครื่องรางดักทรัพย์ เป็นตะกรุดที่สร้างมาไว้ใช้เพื่อให้พบกับความร่ำรวย เป็นเครื่องรางที่เอาไว้ใช้ในการเก็บเกี่ยวเพราะนี่คือธรรมนิรมิต ตัวเราคือคนรอรับผลประโยชน์ รอรับการเก็บเกี่ยว อธิษฐานกันให้ดีๆจะเก็บจะเกี่ยวสิ่งใดไม่ว่าจะโอกาส,การเสี่ยงโชคเสี่ยงดวง,การประกอบอาชีพ...สิ่งต่างๆท่านว่ามันเก็บเกี่ยวได้หมดอยู่ที่ความเหมาะสมที่เราจะขอบารมีหลวงปู่ใหญ่ท่าน ต่อไปการเงินจะได้ไม่ฝืดเคืองไม่อดไม่อยาก ทำมาหากินคล่องมีโชคลาภเนืองๆนำพาความสำเร็จมาสู่ผู้บูชา ทั้งหนุนดวง,หนุนนำ,ค้ำยันดวงชะตาเป็นสิริมงคล เปิดบารมีเปิดวาสนาเป็นเมตตาสุดคณานับทั้งยังดึงดูดทุกสายตานำพาให้มีแต่คนเอ็นดูรักใคร่เข้าหาผู้ใหญ่เจ้านายก็ง่าย...ทุกสิ่งจะเปลี่ยนไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ บอกให้เปิดทางรวยครูท่านก็จะชี้ทางรวยให้ จะเปิดรับเอาแต่สิ่งดีๆที่ไม่ดีไม่เอา

    เมื่ออาราธนาบารมีของหลวงปู่ใหญ่นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากธรรมวิชาแล้วแรงครูของท่านยังรักษาเราด้วย ...รักษาอย่างไร..รักษาจากอะไร
    - ท่านจะคุ้มครองป้องกันเราทั้งจากสิ่งที่มองเห็นก็ดี มองไม่เห็นก็ดี พวกพลังงานลบรังสีต่างๆที่เป็นต้นตอของโรคร้ายเหล่านี้ท่านว่าไม่ได้กิน
    - จะมีสติระลึกได้ อยู่กับปัจจุบันไม่เพ้อเจ้อ
    - ทั้งจะปรับธาตุ ปรับอารมณ์ของเราให้ดีอยู่ตลอด
    - มีชีวิตทางโลกอยู่เย็นเป็นสุข
    - ห่างไกลจากคุณไสยแลภูติผีตจลอดจนการกระทำทางไสยศาสตร์ ท่านว่าบารมีหลวงปู่ใหญ่นี่ผีกลัว
    - จะทำการงานกิจใดก็สำเร็จ เป็นมรรคเป็นผล จะเห็นปลายทางทันทีไม่ช้าไม่นานเลย
    - จะมีสัมผัสพิเศษ ท่านว่าจะติดต่อหรือสัมผัสถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ง่าย
    - ทั้งป้องกันการเจ็บไข้ได้ป่วยโรคลมเพลมพัดที่จะเกิดกับร่างกาย
    - มีกำลังวังชาบริบูรณ์
    - รักษาร่างกายแลธาตุขันธ์ไม่ให้เสื่อมทรามก่อนวัยอันควร
    - ลดอำนาจ ลดอิทธิฤทธิ์ ของเทวดามิจฉาทิฏฐิ ของเจ้ากรรมนายเวร ของคนไม่ดีจำพวกเล่นอวิชาทั้งหลายที่กระทำต่อตัวเราให้แพ้พ่ายไปทั้งหมด


    เคล็ดก่อนใช้ตะกรุด
    ให้ทำบุญใส่บาตรก่อนแล้วค่อยอธิษฐานต่อหลวงปู่ใหญ่ เมื่อทำบุญนั้นจะได้อุทิศกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรให้เขาเปิดโชค อย่าได้ขวางทางรวย แล้วค่อยขอค่อยเอาตะกรุดพกติดตัวไม่มีข้อห้ามใดๆเลย(ท่านว่าในกรณีคนที่ใช้ของยาก หรือรู้ตัวว่าอยู่ในอำนาจครอบงำของเจ้ากรรมนายเวร)


    คาถาบูชา
    ชิตัง มุนินทะวะรังพะละมุตตะมัง นะชาลิติมานิโภคา เทวะพามา เอหิหิหิ ปิยังมะมะ แล้วอธิษฐานจิตว่าขออำนาจบารมีหลวงปู่ใหญ่ อธิษฐานตามต้องการที่อยากจะขอได้ทุกประการแล


    *** ตะกรุดคุณวิชาธรรมนิรมิตนี้พ่ออาจารย์ท่านให้บูชาคู่กับคำหมากทิพย์หลวงปู่ใหญ่ ท่านว่าสิ่งนี้เป็นของสำเร็จในตัวอยู่แล้วมีธาตุครบทั้งลมหายใจน้ำลายและไอปากของหลวงปู่ใหญ่ มีเจ้าของ มีคู่บุญ คู่วาสนาของเขา เขาจะมานำพาของเขาไปเองด้วยเป็นของหายากและเอายาก ทั้งยังเป็นตะกรุดที่เลือกเจ้าของใครได้ไปก็ถือว่าเขาทำบุญมาดีก็แล้วกัน ตะกรุดรุ่นนี้ท่านว่ามีไม่มาก รับจองเฉพาะทาง PM พร้อมกันเท่านั้น รายได้ร่วมถวายบำรุงรักษาสงฆ์ที่อาพาธขาดปัจจัยรักษาต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดโยอริโยโลกุตรังธรรมนิรมิต(คนเหนือดวง,ทำให้ได้) บูชา 2,500 บาท


    56997641-874360619566556-9025269741228392448-n.jpg image.jpg 56949205-828949047440242-6604635055195160576-n.jpg
    57070935-284628395821008-4377712254729060352-n.jpg
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นอิทธิฤทธิ์ผกผันค้ำคูณลัคนาชะตารุ่งโรจน์(พญานอเดียวย้อนรอยแทงสวนกลับ)

    วิชาเสกพญานอเดียวพ่ออาจารย์ท่านว่ามีมานานหนักหนาเสมอด้วยการทำเสือ ทำสิงห์ ทำวัว ทำควายธนูทีเดียว มีตั้งแต่การกำหนดหัวใจพระคาถาและมวลสารต่างๆ หากแต่การที่จะหามวลสารหรือผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจที่จะทำนั้นย่อมหาได้ยากยิ่งนัก พญานอเดียวในตำนานเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนยาว ทรหด อดทน และมีอำนาจในตัวมันเองถึงขนาดว่าแม้พญาเสือ,สิงห์และสัตว์ที่ดุร้ายยังยำเกรงไม่กล้าทำร้ายมัน พ่ออาจารย์ท่านว่าการเสกพญานอเดียวนั้นแตกต่างจากการทำสัตว์เวทย์ชนิดอื่นๆไปไกลเพราะครูแต่เดิมท่านถือกันนักหนาว่าพระเพลิงทรงบันดาลให้บังเกิดแรดขึ้นมาเพื่อเป็นพาหนะ ดังนั้นพญานอเดียวจึงเกิดจากธาตุไฟที่ร้อนแรงที่สุดยิ่งกว่าไฟของสุริยเทพ เป็นธาตุไฟแห่งเพลิงพิธีที่โชติช่วงที่สุดเมื่อปรากฏขึ้นคราใดเหล่าทวยเทพทั้งหลายย่อมกระทำสักการะบูชาในไฟของพระอัคนี ด้วยมีเพลิงแห่งพระเพลิงอยู่กับพญานอเดียวเช่นนั้นจึงถือว่าเป็นสัตว์แทนตัวของเทพเจ้าคือพระเพลิงหรือพระอัคนีนั่นเอง

    ความพิเศษของพญานอเดียวนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าสามารถป้องกันศัตรูแทงข้างหลังได้ ท่านว่ายิ่งแทงเราแรงเท่าไหร่เขาก็ยิ่งสวนกลับแรงเท่านั้น ทั้งยังสามารถปัดเป่าลางร้าย เผาผลาญพลังงานที่ก่อให้เกิดโรคภัยหรือเหตุวิกฤติปัจจุบันทันด่วนต่างๆ โดยเฉพาะภัยจากคู่แข่ง จะเรียกว่าเป็นที่หนึ่งในเรื่องป้องกันและการสวนกลับก็ไม่ผิด พ่ออาจารย์ท่านว่าพญานอเดียวนั้นต่างจากพวกสัตว์ที่เสกด้วยวิชาธนูและพยนต์ทั้งหลาย ที่มีไว้รบหรือตั้งรับเสียส่วนใหญ่ เพราะพญานอเดียวนั้นจะนำโชค นำพาโอกาส นำพาความรุ่งเรืองมาสู่คนที่เป็นเจ้าของ ด้วยเกิดจากเพลิงพิธีแห่งพระอัคนีจึงมีอำนาจในการสร้างสรรค์และทำลายล้างไปพร้อมๆกันไม่ใช่จะเป็นพนักงานล้างผลาญแต่อย่างเดียว ซ้ำคุณลักษณะนิสัยของเขายังเต็มไปด้วยโลกทัศน์ที่ดีเพราะเขาจะสงบและมองเราเป็นมิตรพร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุนเราอยู่เสมอ ทั้งยังมีความอบอุ่นเยือกเย็นพ่ออาจารย์ท่านว่านี่เสกพญานอเดียวแล้วจิตผ่อนคลายมากใครที่เอาไปใช้ลองดูได้เลย พวกที่พกเครื่องรางแล้วชีวิตร้อนๆทั้งหลายนี่ลองใช้พญานอเดียวดูจะรู้ว่าไม่ร้อนเลยซ้ำอะไรที่หนักๆในชีวิต ที่มันตึงมันจะแตกเหล่านั้นจะผ่อนคลายลง ใช้อธิษฐานไปในการผูกสมัครรักใครก็ได้ ใช้เชื่อมความสัมพันธ์กับคนที่เราหมายตาเป็นพิเศษก็ได้ หรือใช้ให้บรรยากาศในครอบครัวเราผ่อนคลายไม่แตกร้าวก็ได้ คนที่บูชาไปจะรู้ว่ากำลังของพญานอเดียวนั้นเขาหนุนเราให้กล้าแสดงออกมากขึ้น ทั้งใครที่มีโรคเกี่ยวกับระบบเลือดทั้งหลายหรือระบบการทำงานของอวัยวะน้อยใหญ่ในร่างกายทรุดโทรมท่านว่าให้อาราธนาพ่อพญานอเดียวนี้ไปเถิดพลังงานของเขาจะเสริมสร้างและช่วยในการผลิตเม็ดเลือดต่างๆเอาว่าทำให้ระบบสมดุลย์และไหลเวียนได้สะดวก

    พญานอเดียวเป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังของการคุ้มครองให้พ้นจากอันตรายและอุบัติเหตุทุกรูปแบบ ทั้งยังช่วยยับยั้งและกำจัดผู้ที่มีเจตนาร้ายซึ่งเข้ามายุ่มย่ามในชีวิตเราหรือทำร้ายคนในครอบครัวของเราได้ ท่านว่าปกติเขาก็เป็นสัตว์ที่แข็งแกร่ง,อดทน,บึกบึนอยู่แล้ว เมื่อทำเป็นหุ่นอิทธิฤทธิ์จึงมีคุณครบทั้งเรื่องเมตตามหานิยม,มหาอำนาจ,วาสนา,เสริมบุญญาธิการ,หนุนดวงชะตาความสามารถให้ได้เป็นเจ้าคนนายคน,ป้องกันอันตรายอันเกิดจากอัคคีภัย,ป้องกันอันตรายจากศัตรู,ป้องกันผีร้ายและคุณไสย,ป้องกันชีวิตที่โดนแทงข้างหลัง,เป็นปฏิปักษ์กับศัตรูของเราพร้อมจะเล่นงานสวนกลับตลอดเวลา...ท่านว่าเขาใช้ได้ครอบคลุมทุกด้าน คนพกจะรู้แก่ใจว่าเขาปกป้องเราได้ขนาดไหนไม่ว่าจะเป็นเรื่องจากการปล้นชิงและอุบัติเหตุ ทั้งยังมีพรวิเศษแห่งพระอัคนีที่จะเปลี่ยนพลังงานอันชั่วร้ายให้กลายเป็นดี ใครที่โดนกลั่นแกล้งหรือมั่นใจว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องต่างๆเช่นการเผชิญหน้ากับปัญหาในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองหรือเรื่องส่วนตัวเพราะโดนเพื่อนร่วมงานที่ไร้ศีลธรรมแว้งกัดไม่เลิก ท่านว่าลองเอาพญานอเดียวไปใช้ดูอุปมาเหมือนหมามันกัดมาก็กัดเราไม่เข้าแถมยังจะมีเหตุให้โดนแสงสวนกลับไปปางตายเรียกว่าทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นทีเดียว

    สิ่งที่ค่อนข้างพิเศษของพญานอเดียวนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ายังมีอีกหลายเรื่องชนิดที่ว่าคนใช้จะรู้สึกว่าใช่และหลงรักเขาเลยเพราะเขาเป็นสัตว์ที่น่ารัก และเขามีประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นไวมากจึงตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาไม่มีซึมหรือปล่อยให้เหตุร้ายเกิดขึ้นโดยที่ไม่ทันระวังตั้งตัวเช่นนั้นเพราะนี่เป็นสัญชาติญาณดิบของเขา โดยปรกติแล้วเขาจะชอบอยู่ในที่อุดมสมบูรณ์ในป่าดงดิบใกล้แหล่งน้ำโคลนตมเมื่อทำพญานอเดียวแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นคติว่าที่ใดก็ตามที่เขาอยู่ต้องอุดมสมบูรณ์,ต้องมีการเปลี่ยนแปลงจะยากจนข้นแค้นต่อไปมิได้ท่านว่านี่เขาใช้พญานอเดียวแก้เคล็ดชีวิตที่ตกต่ำอับเฉาได้ถึงขนาดนี้ ทั้งเป็นสัตว์วิเศษที่ถือศีลกินแต่ใบไม้และผลไม้ไม่เบียดเบียนใครจึงนิยมว่ามีอำนาจตบะต่างจากสัตว์ทั้งหลายทั้งยังมีฤทธิ์มากกว่าเสือสิงห์ใดๆทั้งสิ้น

    พ่ออาจารย์ท่านปั้นพญานอเดียวจากผงวิเศษแรดหนังหนารวมกับมวลสารต่างๆที่ท่านทำขึ้นมากมายหลายสิบชนิดจนท่านว่าเราจำไม่ได้แล้ว แต่ที่ท่านไม่ลืมเลยนั่นก็คือนอแรดเพราะท่านเอามาเผาไฟพลีกรรมถวามแก่พระอัคนีเอาผงเถ้านอแรดนั่นเเหละมาปั้นพญานอเดียวนี้ ท่านว่ารู้กันหรือไม่นอของแรดนี้จัดเป็นของหายากมากๆที่คนโบราณนับถือ ว่ากันว่าในทางโชคลาภค้ำคูณให้คุณทางด้านหนุนชะตาดีทางโภคทรัพย์แล้วแม้ธาตุกายสิทธิ์ทั้งหลายก็ไม่มีสิ่งใดเสมอด้วยนอแรดเลย บูรพาจารย์แต่ครั้งโบราณท่านยกย่องกันหนักหนาว่าดีเสียยิ่งกว่าเพชรตาแมวซะอีก มีบันทึกในใบลานทั้งของไทยและลาวกล่าวถึงอาถรรพ์นอเดียวนี้เอาไว้ว่าบ้านใดมีนอแรดสีธรรมชาติบุษราไว้ในบ้านแม้ฝนที่ตกลงหลังคาบ้านหลังนั้นไหลไปสู่ที่ใด น้ำนั้นก็จะนำความเป็นมงคลแลความเจริญรุ่งเรืองไปสู่ที่นั้นๆด้วย นั่นคือนแแรดเพียงหน่อเดียวกลับมีรัศมีครอบคลุมบ้านทั้งหมด มีอานุภาพมากขนาดเปลี่ยนหยาดฝนที่ตกรดบ้านให้เป็นน้ำมนต์นำความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาได้ แต่โบราณถือว่านอแรดนี้มีราคาแพงถึงขนาดตั้งชื่อให้ว่าทองคำดำทีเดียว เพราะว่าเป็นของมีค่าแพงกว่าทองคำหลายเท่าตัวชนิดที่ว่าหาทองเท่ากำปั้นยังหาง่ายกว่า ด้วยคติที่ถือว่าแรดนั้นเป็นสัตว์ลับแลไม่ได้พบเห็นกันง่ายๆบางทีหากสะกดรอยตามมันไปอยู่ดีๆเดินไปสามวันมันก็หายไปเฉยๆไร้ร่องรอยไม่ปรากฏแม้แต่รอยเท้า ด้วยแรดบรรพกาลนั้นเป็นพาหนะของพระอัคนีเช่นนั้นแรดทั้งหลายจึงมักได้รับการคุ้มครองจากเจ้าป่าและเลือกมันเพื่อใช้เป็นพาหนะ ท่านว่าแรดนั้นต้องมีนอเมื่อนำนอมาสร้างเป็นพญานอเดียวแน่นอนว่าเขาจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่หนุนส่งตัวเรามากๆ ท่านเปลี่ยนนอแรดทำเป็นผงปั้นพยนต์พญานอเดียวจึงถือว่าเป็นการนำของกายสิทธิ์มาสร้างหุ่นกายสิทธิ์เป็นเคล็ดที่โบราณถือว่าเป็นกายสิทธิ์ซ้อนกายสิทธิ์หุ่นนั้นจะมีพลังวิเศษทวิทวีเพิ่มพูนเป็นเท่าตัว

    ด้วยพญานอเดียวเป็นหุ่นค้ำคูณนำพาสิริมงคลหนุนเสริมให้คนใช้เจริญก้าวหน้า พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งนอแรดที่ท่านเอามาใช้ทำผงปั้นหุ่นนั้นยังเป็นของที่ชาวลับแลมอบให้กับท่านไว้ซึ่งใครได้ครอบครองจะไม่มีวันพบกับคำว่าตกอับเด็ดขาด พญานอเดียวนอกจากจะไวต่ออันตรายและปัญหาที่เข้ามาหาเราในทุกทางแล้ว ยังดีทางป้องกันเราได้ทุกอย่างสมกับชื่อที่เขาเป็นเสมือนรถถังหุ้มเกราะนั่นทีเดียว นอกจากมีฤทธิ์มากยังเด่นทางโภคทรัพย์,หนุนดวงไม่ให้ตก,ทั้งผลักดันเป็นบันไดให้เราเหยียบขึ้นไปจนถึงที่สุดแห่งเจริญรุ่งเรือง,ทั้งปัดเป่าให้แคล้วคลาดพ้นภัยอันตรายทั้งหลาย,แม้เล่นทางด้านเมตตามหานิยมก็ไม่เป็นสองรองผู้ใด

    ท่านปั้นพญานอเดียวปั้นไปเสกไป ท่านว่าเสกเสร็จก็เชิญเหล่าฤาษีมาช่วยกันเสกอีกคำรบหนึ่ง ต่อมาก็เชิญพระเพลิงมาปลุกพลังงานให้อีกคำรบหนึ่งจึงเสร็จครบถ้วนกระบวนความ เพราะเป็นเครื่องรางเฉพาะสายที่เน้นใช้ทางอิทธิฤทธิ์ท่านว่าจะเสกแบบพระก็ไม่ได้และจะเชิญครูพระทั้งหลายมาทำให้ก็ไม่ได้ ถือว่าเป็นของเฉพาะสายเฉพาะตัวจริงๆด้วยเป็นสัตว์เทพของพระเพลิงทั้งยังสามารถเดินเข้าออกแดนลับแลได้ดั่งใจนึกซ้ำโอกาสที่จะได้เจอพญานอเดียวตัวจ่าฝูงนั้นยังยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร พ่ออาจารย์ท่านว่าพญานอเดียวนี้เสกทุกตัวให้เป็นตัวจ่าฝูงทั้งหมด เสกให้มีฤทธิ์เหมือนปฐมกาลยามที่พระอัคนีใช้เพลิงพิธีสรรค์สร้างแรดขึ้นมาในตำนานกล่าวว่าเหล่าสัตว์วิชาธนูและของทนสิทธิ์กายสิทธิ์ต่างๆล้วนมีมากมายหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีคุณลักษณะพิเศษพิสดารเหนือสามัญธรรมดาในจำนวนสัตว์เหล่านี้ท่านว่าหากขาดพญานอเดียวไปแล้วไซร้ตำนานที่เป็นตำนานในหมู่สัตว์ลึกลับก็ยังถือว่าไม่อาจสมบูรณ์ได้ ในกระบวนการของอาถรรพ์ทั้งหมดผู้รู้ต่างยกย่องนอแรดว่าประเสริฐและให้คุณหนักเสียยิ่งกว่าเพชรตาแมว และเหนือกว่านั้นนอแรดนั้นต้องได้มาจากเมืองลับแลโดยชาวลับแลอีกด้วยจึงจะมีอาถรรพ์เหนือสามัญธรรมดามีฤทธิ์ดีเด่นกว่าของวิเศษทั้งหมด เมื่อนำมาทำหุ่นพญานอเดียวเขาจะหนุนดวงชะตา ค้ำคูณเจ้าของมิให้ตกต่ำหรือมีอันเป็นไปตามลัคนาราศีที่ผันเปลี่ยนไปในห้วงเวลาต่างๆ เรียกว่าผกผันค้ำคูณให้มีชะตาที่รุ่งโรจน์ดุจเปลวไฟของพระอัคนีให้เป็นคนเหนือดวง ด้วยดวงชะตาคือแผนที่ชีวิตจะมีวิถีชีวิตอย่างไร มีบุญวาสนาหรือมีกรรมแค่ไหน รุ่งโรจน์หรือคับแค้นอย่างไรทุกอย่างย่อมเป็นไปตามระเบียบ หากแต่หุ่นพญานอเดียวนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาครอบครองเพลิงปฐมกาลแห่งการสร้างสรรค์และทำลายล้างของพระอัคนีเช่นนั้นคนใช้ย่อมเหนือดวงทั้งยังผกผันวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสอยู่เนืองๆทั้งท่านได้ลงกำกับเป็นพิเศษให้ของอาถรรพ์เสริมด้วยผงอาถรรพ์และคุณวิชาตลอดจนแรงครูแห่งพระอัคนีหนุนนำชะตาคนใช้ ทั้งพญานอเดียวนี้ยังเป็นเจ้าแห่งภูติพรายที่ภูติพรายทั้งหลายและจิตรูปมายาทั้งปวงในโลกวิญญาณนั้นเกรงกลัว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำหุ่นพญานอเดียวนี้ให้สำหรับผู้ที่อยากเป็นยอดคนหมดจากนี้ไปอย่าได้ไปแสวงหาที่ไหนอีกเพราะนอแรดที่คนลับแลเอาออกมาให้เองนั้นมีน้อยพอๆกับหางกิเลนกับเขามังกรนั่นเอง ใครที่มีพญานอเดียวไว้ครอบครองจะสามารถขอสิ่งใดก็ได้จากพระเพลิง ด้วยตบะบารมีของพระเพลิง เทพทั้งหลายย่อมจะดูแลรักษาเราเป็นอย่างดีไม่ว่าจะสัญจรไปที่ใดก็ตาม จะต้องให้ความช่วยเหลือไม่ว่าบุคคลที่ครอบครองจะเป็นคนดีหรือคนไม่ดีเรียกว่าช่วยโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆด้วยแต่เดิมแรดก็มีตบะสูงเพราะเขากินแต่พืชอยู่แล้ว เมื่อร่วมกับเพลิงและตบะของพระอัคนีด้วยเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าหุ่นแรดนี้เป็นของมีค่ามาก ผู้ใดมีโอกาสได้ครอบครองย่อมมีความเกี่ยวข้องผูกพันสร้างบารมีร่วมกันมากับพระอัคนีแต่ปฐมกาล ท่านว่าจะเคยเป็นบริวาร เป็นลูกเป็นหลาน เป็นเผ่าพันวงศ์วานร่วมชาติกันมาแต่ปางก่อนอย่างแน่นอน หาไม่แล้วจะไม่มีโอกาสได้พบเจอและครอบครองของพญานอเดียวกายสิทธิ์ที่นำพาความเจริญรุ่งเรืองเช่นนี้

    พ่ออาจาย์ท่านนำพญานอเดียวมาผูกไว้กับตะกรุดมารุมมะตุ้มทุกตัว ท่านว่าจะเสริมคุณด้านเมตตาเรียกคนเข้าหา นำพาสิ่งดีๆเข้ามาหาเราได้อีกเยอะด้วยตะกรุดจะบันดาลให้เกิดเหตุการณ์ที่คนทั้งหลายจะมารักมาชอบเรา ท่านว่ามีคนรักดีกว่ามาคนเกลียด ยิ่งมีคนรุมรักมันก็จะดีกว่าคนรุมเกลียด เพราะคนเขารักเราเขาก็เอื้อประโยชน์ให้กับเราคอยช่วยเหลือเป็นหูตาเส้นสายให้เรา เมื่อเราได้ใจเขาอะไรมันก็ง่ายไปหมด เป็นเมตตาแบบหาตัวจับยาก เช่นนั้นพญานอเดียวตัวจ่าฝูงจึงมีฤทธิ์จูงให้ชนทั้งหลายเข้ามาคลอเคลียอยากชิดใกล้มารุมมะตุ้มรักเราเอ็นดูเราเช่นนั้น จะดึงดูดใจคนให้รู้สึกดีประเภทที่ว่าเราทำอะไรเล็กๆน้อยๆเขาก็มองเราดีแล้วเก็บเอาไปซาบซึ้งนึกถึงไม่เสื่อมคลาย เรียกว่าเห็นแต่คุณไม่เห็นโทษ ดูดดื่มดึงดูดใจอยู่กับความทรงจำดีๆเราทำอะไรก็ต้องจิตต้องใจไปเสียหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าพญานอเดียวสามารถบันดาลได้ทุกสิ่งให้วิ่งเข้ามาไม่ช้าไม่นาน เมื่ออาราธนาให้ขอกับพ่อพญานอเดียวเขาดีๆให้หนุนนำพาตัวเราไปสู่สังคมที่ดี ด้วยปกตินั้นพญานอเดียวก็ได้ชื่อว่าเป็นยอดแห่งความอดทนอยู่แล้ว เมื่อทำกิจใดๆแล้วหากไม่สำเร็จก็จะไม่ท้อถอย ถ้าใครเอาไปใช้หนุนวาสนาตัวเองเขาก็จะขับเคลื่อนดวงชะตาราศี นำพาวาสนาให้ดวงดี,ดวงรุ่งเป็นดาวที่ไม่ตกไม่ดับแสงอยู่อย่างนั้น ท่านว่าลองดูได้ชีวิตใครที่เข้าขั้นซวยไปแล้วให้พกพญานอเดียวดูซักวันหนึ่ง พออีกวันไม่ต้องพก ท่านว่าเพียงแค่นี้จะเห็นความแตกต่างของชีวิตได้ราวกับหน้ามือและหลังมือ

    คาถาบูชา
    กะนะอะหาคุณา โสสะอะนิ ปะสิสะ สิขิสังมิ อะ อิ อา อี ออ แอ อึ อือ อุกาโรโหตุสัมภะโว


    พญานอเดียวนี้ท่านเคยให้ฝรั่งคนหนึ่งนำไปบูชา ท่านว่าฝรั่งคนนี้ไม่ใช่พุทธศาสนิกชนทั้งยังเป็นคนประเภทที่ว่าไม่นับถือศาสนาใดๆเป็นคนไร้ศาสนาไม่เชื่อในพระเจ้าหรือสิ่งที่มองไม่เห็นเช่นนั้น เมื่อเขาประสบกับปัญหาธุรกิจล้มละลายจนมีเพื่อนคนไทยแนะนำว่าให้ลองหาของวิเศษเมืองไทยไปใช้ดู พอดีกับวาสนาที่เขาได้มาเจอพ่ออาจารย์ท่านช่วงที่ออกกู้ว่านยาต่างๆท่านพิจารณาแล้วเห็นว่ามีวาสนากับพญานอเดียว ทั้งยังไม่ใช่รูปพระและเทพเจ้าต่างๆที่จะไม่นำพาศรัทธาของเขาได้ ท่านจึงได้มอบพญานอเดียวตัวที่ท่านพกใช้อยู่ให้ไปบูชาเมื่อฝรั่งคนนั้นได้ของไปใช้ก็ปรากฏว่าธุรกิจที่กำลังจะย่อยยับอับปางพังพินาศลง กลับฟื้นตัวขึ้นมาในระยะเวลาอันสั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฝรั่งคนนี้ถึงแม้จะไม่ศรัทธาในพระเจ้า เป็นคนไม่มีศาสนา แต่เขากลับศรัทธาในพญานอเดียวและบูชาเป็นอย่างดีเสมือนเพื่อนที่จะอาศัยพึ่งพิงกันในยามยาก เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงพูดเสมอว่าพญานอเดียวนี้ไม่ว่าใครก็ใช้ได้ จะเป็นคนดี คนชั่ว หรือแม้แต่คนไม่มีศาสนาก็ยังใช้ได้เพราะเขาช่วยโดยไม่เลือกเช่นนี้

    *** พญานอเดียวพ่ออาจารย์ท่านปั้นได้ไม่มากเพราะมวลสารมีจำกัด รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย ท่านจะได้ทำการประสิทธิให้ใช้กันได้สืบต่อไป ท่านว่าแม้เจ้าของตายก็ยังสืบทอดในวงศ์ตระกูลได้ ///รายการนี้ท่านว่ายิ่งเลี้ยงเยอะก็ยิ่งดีกับงานและกิจการของตนเอง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กไร้โอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นอิทธิฤทธิ์ผกผันค้ำคูณลัคนาชะตารุ่งโรจน์(พญานอเดียวย้อนรอยแทงสวนกลับ) บูชา 1,500 บาท

    96.jpg
    58374135-377208146336785-5589083376561684480-n.jpg image.jpg
    57368818-1240046176145992-2190883966108565504-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...