ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อแปลงสภาพสรรพวิชาหมื่นมรรคาสำแดง(มหาเทพสร้างโลกองค์ธรรรมฟ้าสวรรค์หยวนสือเทียนจุน)

    อันสรรพวิชาทั้งสามภพย่อมเกิดขึ้นจากธรรมวิถี
    มหาเซียนองค์นั้นร่างแทนแทนด้วยธรรมธาตุ... เมื่อจะกล่าวถึงยอดเซียนเต๋าที่พ่ออาจารย์สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมงคลแทนองค์ธรรมเทพนั้น ก็ต้องย้อนไปถึงความว่างเปล่าซึ่งเป็นต้นเค้าก่อให้เกิดความวุ่นวายของจักรวาลแรกกำเนิด โดยตอนนั้นทวิภาวะยังไม่มีการแบ่งแยกใดๆ ยังไร้ซึ่งสำเนียงและสรรพสิ่งปราศจากฟ้าดินอาทิตย์จันทราทั้งสิ้น.. ในโลกธาตุนั้นองค์เทพบิดรผานกู่ได้ถือกำเนิดจากความวุ่นวายโกลาหลจุติขึ้นจากธรรมธาตุและทำการแบ่งแยกฟ้าดิน ท่านตั้งฟ้าตั้งดินตั้งพระสมุทรและสายสินธุ์ก่อเกิดผืนฟ้าดวงดาราและแผ่นดินห้วงน้ำ...แต่บัดนั้นเป็นต้นมาจึงกำเนิดจักรวาล
    เมื่อจักรวาลได้เกิดขึ้นองค์ผานกู่หรือในนามหยวนสือเทียนหวางหลังจากเบิกฟ้าดินเสร็จก็ได้สลายร่างกายแตกดับไปเหลือเพียงดวงจิตที่ได้ไปเกิดอีกหนหนึ่ง ในเวลานั้นเมื่อเทพบิดรผานกู่ลงไปเอากำเนิดท่านเกิดโดยครรภ์บริสุทธิ์หาได้มีการเสพสังวาสใดๆจากผู้เป็นมารดา เมื่ออยู่ในครรภ์มารดานั้นไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใดก็จะมีเมฆเจ็ดสีไหลวนออกมารอบกายมารดาเสมอดิมผานกู่มีนามว่าหยวนสือเทียนหวาง เมื่อได้กำเนิดอีกครั้งจึงมีชื่อว่าหยวนสือเทียนจุน
    ท่านกำเนิดในฐานะมหาเซียนบรรพกาลมีศักดิ์เป็นจ้าวสูงสุดแห่งสามพิภพก่อนที่พระธรรมจะได้สร้างธรรมชาติทั้งหมดให้กับโลก แล้วก็ไปประทับบำเพ็ญอยู่ในตำหนักอี้ซูบนเขาคุนหลุน ท่านเป็นมหาเซียนที่แตกต่างจากเทพเซียนน้อยใหญ่ทั่วไปอันต้องหมุนเวียนตำแหน่งหน้าที่ตามวาระ พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์หยวนสือเทียนจุนนั้นท่านไม่มีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดเพราะตัวท่านเองเป็นอมตะนิรันดร์กาล ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆจะเกิดขึ้นกับท่านได้ตลอดกัปกัลป์ ทั้งในตัวท่านยังไม่มีข้อจำกัดใดๆทั้งสิ้นหรือก็คือเรื่องที่ทำไม่ได้ย่อมไม่ปรากฏ ตัวท่านเป็นที่รวมแห่งความบริสุทธิ์ทั้งปวง สามารถปรากฏองค์ได้ทุกหนแห่ง ทั้งยังเป็นต้นตอแห่งสัจธรรมความจริงทั้งหมด ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของฟ้าสวรรค์ ท่านเป็นใหญ่เหนือเทพเซียนทั้งปวง ทั้งยังถือศักดิ์สูงสุดในพิภพเหนือกว่าผู้ใดด้วยเป็นปฐมเทียนจวิน(เง็กเซียนองค์ปฐมต้น) กล่าวง่ายๆคือท่านเป็นเง็กเซียนองค์แรกสุดนั่นเองภายหลังจึงมีการหมุนเวียนตำแหน่งเง็กเซียนให้แก่เซียนรุ่นหลัง
    ท่านอยู่เหนือกว่าองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ทุกองค์แต่ครั้งบรรพกาล
    เรียกว่าคอยกำกับอยู่หลังม่านเป็นจักรพรรดิสูงสุดแห่งฟ้าสวรรค์โดยแท้จริง เมื่อจะแต่งตั้งเง็กเซียนหรือจะมีโองการให้แต่ละยุคนั้นใช้การปกครองอย่างไรล้วนเป็นไปตามบัญชาองค์หยวนสือเทียนจุนทั้งสิ้น ท่านจะคอยถ่ายทอดและแนะนำบัญชาสามภพให้เป็นไปโดยปกติสุข ดังนี้แม้เง็กเซียนยังต้องเคารพและอยู่ในบัญชาของหยวนสือเทียนจุน ท่านจึงเป็นใหญ่ไปทั่วพิภพทั้งหลายด้วยศักดิ์สูงสุดอันอยู่เหนือกว่ามหาเทพของเง็กเซียนฮ่องเต้
    ฐานะขององค์หยวนสือเทียนจุนนั้นสูงส่งมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าในสามสิบหกห้องสวรรค์อันแบ่งเป็นโลกีย์ภูมิ,รูปภูมิ,อรูปภูมิ,พรหมภูมิและอริยเทพพรหมนั้น ในอริยเทพพรหมก็จะแบ่งย่อยได้อีกสี่ชั้นโดยชั้นสูงสุดเรียกว่ามหาอณูเทพต้าหลอเทียน นั่นแหละคือวิมานที่ประทับขององค์หยวนสือเทียนจุนท่านอยู่ในวังอวี้ชิง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์หยวนสือเทียนจุนนั้นท่านมีศิษย์ระดับมหาเซียนอยู่มากมาย รวมกันเป็นคณะเรียกว่าสิบสองเทพทองคำ ซึ่งแม้ศิษย์ของท่านองค์ใดองค์หนึ่งก็ล้วนดำรงค์ศักดิ์ใหญ่กว่าเทพเซียนทั้งหลายแม้แต่องค์เง็กเซียนยังต้องเกรงใจไว้หน้าอยู่หลายส่วน แต่ละองค์ล้วนมีตบะมีฤทธิ์วิเศษเกินกว่าที่เราจะพึงคิดได้ จะเรียกว่าคณะเทพทองคำนั้นได้รับศิษย์และสร้างเซียนชั้นหลังที่เรารู้จักขึ้นมาก็ไม่ผิด ทั้งสอนวิชาประสาทเทพศาสตราและเนรมิตกายาลูกศิษย์ทั้งหลายให้มีสามเศียรหกกรก็ดี ให้เป็นเทพวิหคก็ดี...ตามสถานะหน้าที่แต่ละท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้เทพเซียนทั้งหลายนั้นล้วนแต่อยากจะสังกัดอยู่ในคณะเทพหรือเป็นศิษย์เทพทองคำเหล่านี้ทั้งสิ้น และองค์หยวนสือเทียนจุนนั้นก็ให้พ่ออาจารย์ท่านทำตามบัญชาของยอดเซียนเต๋า(ตัวท่านเอง) โดยทานกำชับไว้ว่าเมื่อปั้นหุ่นท่านในมือท่านให้ถือหรืออุ้มดวงแก้ววิเศษไว้ อันดวงแก้วนั้นมีนามวู่หุนหยวนจู เป็นลูกแก้วแห่งการสร้างสรรค์สามารถใช้เพื่อสร้างโลกและจักรวาลตลอดจนสรรพสิ่ง แม้จะทำให้แตกทำลายก็ย่อมทำได้ด้วยเช่นกัน เช่นนั้นองค์หยวนสือเทียนจุนจึงมีหน้าที่สร้างจักรวาลน้อยใหญ่ทั้งหลายนับแต่บัดนั้น

    ท่านจะคอยตรวจสอบความดีความชั่วของมนุษย์ทั้งเป็นผู้ให้โทษทุกข์แก่คนที่ทำผิดหรือรางวัลแก่คนที่ทำดี แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลย พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าในหมู่เทพเซียนทั้งหลายนั้นเค้านับถือกันตามศักดิ์อาวุโสเป็นที่สุด และองค์หยวนสือเทียนจุนนั้นท่านมีศักดิ์เป็นปฐมเทวา ด้วยมีกำเนิดมาจากดวงจิตเทพบิดรผานกู่ ท่านจึงถือเป็นปฐมเทพแห่งเทพทั้งปวงจึงเป็นที่สักการะแก่เทพทั้งหลายนับแต่ยุคฟ้าสวรรค์บรรพกาลจนปัจจุบัน ท่านมีหน้าที่คอยแสดงธรรมสั่งสอนสรรพสัตว์ในอาทิกัลป์คือกัลป์เบื้องต้นวางรากฐานสิ่งที่เรียกว่าธรรมทั้งหลาย...ก่อเกิดเป็นธรรมวิถีเปลี่ยนแปลงเป็นสรรพวิชาทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญรุ่นนี้สำคัญมากเพราะเป็นรูปทิพย์กายอันมีภาวะของอริยะเทพ ถ้าท่านไม่บัญชาจะสร้างให้มีภาวะเช่นนี้ไม่ได้เลยด้วยถือเป็นของสูงยิ่งกว่าเครื่องมงคลใดๆสูงกว่าแม้กระทั่งเง็กเซียนฮ่องเต้
    ### ท่านว่าชีวิตใครที่ทำมาหากินไม่เจริญ หรือมีปัญหาอุปสรรคใดๆให้เอากระดาษเขียนไว้ แม้ชีวิตใครเคยทำผิดบาปอะไรก็ให้เขียนเอาไว้สารภาพผิดพร้อมทั้งระบุชื่อแซ่สกุลของตนเอง เอารูปท่านทับไว้ตั้งจิตขอขมากรรมต่อท่านเพื่อเปลี่ยนแปลงกลับกฏให้กลายเป็นบุคคลที่จะทำสิ่งใดล้วนแต่เจริญรุ่งเรือง หรือจะปรารถนาสิ่งใดก็ให้ขอไป พ่ออจารย์ท่านว่าเขียนสารภาพบาปได้ทุกสิ่งในสิ่งที่ตนนึกออกว่าเคยพลาดพลั้งทำผิดไปเสร็จแล้วนำกระดาษนั้นไปเผาถวายตั้งจิตถึงองค์ท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าการที่เราขอขมากรรมกับองค์ท่านนั้นเสมอด้วยเราได้ขอขมากรรมต่อฟ้าดินต่อหน้าธรรมอริยะเทพ ต่อหน้าปฐมเทวาผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งฟ้าสวรรค์ ไม่ต่างอะไรกับเราไหว้ย้อนโคตรเหง้ากลับไปหาบรรพบุรุษและองค์ธรรมตลอดจนเหล่าอริยะภูมิทืั้งหลายเลย นั่นแหละติดขัดอะไรก็พ้นได้ทั้งสิ้น

    ด้านหลังท่านนำผงวิเศษที่เน้นทางเมตตามหานิยมสร้างความเจริญรุ่งเรืองฝังไว้ให้ครอบคลุมตั้งแต่ผงมหาราชเสน่ห์,ผงอิทธเจ,ผงนะหน้าทอง,ผงเมตามหาเสน่ห์,ผงมหาละลวย,ผงมหาหลง,ผงนะจังงัง,ผงคาถาสาลิกา,ผงสาลิกาหลงรัง,ผงสาลิกาลิ้นทอง,ผงคาถาพญาการเวก,ผงคาถามหาเศรษฐี,สีผึ้งอาถรรพ์ร้อยแปดเช่นหัวเชื้อสีผึ้งจันทร์เพ็ญหลวงปู่ศุข..,น้ำมันว่านอาถรรพ์ร้อยแปดเช่นน้ำมันนกกาเหว่า น้ำมันนะอกแตก น้ำมันหัวใจขุนแผน น้ำมันมหารัญจวน น้ำมันว่านพญาไก่แดง...เป็นต้น,ผงว่านมหาเสน่ห์ร้อยแปด ว่านที่ใช้ลงทำผงเป็นตระกูลเสน่ห์จันทร์ประกอบด้วย เสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์ เสน่ห์จันทร์ขาว เสน่ห์จันทร์แดง เสน่ห์จันทร์เขียว เสน่ห์จันทร์หอม เสน่ห์จันทร์ทองและว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์ทั้งหมดเป็นพื้นฐานรวมกับว่านเสน่ห์อื่นๆทั้งว่านสาวหลงเก้าดง ว่านขมิ้นขาวมหาเสน่ห์ ว่านดินสอฤๅษี ว่านแสนนางล้อม ว่านเสน่หา ว่านดอกทอง ว่านช้างผสมโขลง ว่านจูงนาง ว่านห้าร้อยนาง ว่านสาลิกา ว่านกระแจะจันทร์ ว่านกุมารทอง ว่านเทพรัญจวน ว่านกล่อมนางนอน ว่านขุนแผนสะกดทัพ ว่านเสน่ห์ขุนแผน ว่านนางกวัก ว่านมหาลาภ ว่านขอเงิน ว่านขันหมาก ว่านกวักมงคล ต้นตองแตก ดอกรักซ้อน ยอดกาหลง เครือเขาหลง ลูกพญาครองนาง ลูกสวาท นำมาเข้ากับผงยาแดงพม่า,ผงการะกันถี น้ำมันเก้ากลิ่นของหลวงปู่หมุน,ผงใบมะยมเสกของหลวงปู่หมุน ท่านว่าลำพังว่านแต่ละตัวก็เด่นด้านเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม โชคลาภ มีฤทธิ์ทำให้เกิดเป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็นอยู่แล้วซึ่งว่านเหล่านี้นิยมใช้กันมาแต่โบราณนอกจากเป็นเมตตามหาเสน่ห์แล้วยังให้ผลทางการค้า,การงาน,มีโชคลาภ,ร่ำรวยในตัวเอง นอกจากนั้นท่านยังได้นำมวลสารแร่เหล็กไหลกว่าสามสิบแปดชนิดผสมกับผงอาถรรพณ์ของคนธรรพ์และผงอาถรรพณ์ฤาษีต่างๆอีกมากมายกว่าร้อยชนิด ซึ่งเมื่อนำผงแร่เหล็กไหลต่างๆมาผสมผสมกับผงอาถรรพ์จะทำให้มีคุณวิเศษในตัวผงเหล่านี้เด่นในด้านเสริมดวง,หนุนดวง,เสริมบารมี,เมตตามหานิยม,ค้าขายร่ำรวย,กลับร้ายกลายเป็นดี,มีโชคลาภ,มีวาสนาบารมีเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยหนุนธาตุในร่างกายทำให้แข็งแรงไม่เจ็บป่วยได้ง่าย ผงเหล่านี้พกไว้ติดตัวจะไม่มีคำว่าอับจนหรือตกยาก เพราะเทพเทวดาดูแลรักษาคุ้มครองตลอดเวลา ใช้ได้ดีทั้งในเรื่องของด้านความรัก,ด้านเมตตามหานิยม

    กายแห่งเต๋า
    และองค์ยอดเซียนเต๋ายังบัญชาให้พ่ออาจารย์ท่านทำสัญลักษณ์เต๋าใส่ไว้ ซึ่งท่านได้นำไม้ยอดฟ้าโบราณตั้งแต่ยุคร.1มาแกะ โดยสัญลักษณ์เต๋าชุดนี้ยอดเซียนเต๋า(องค์หยวนสือเทียนจุน)ท่านว่าก่อนฝังท่านจะทำวิชาให้ก่อนเป็นพิเศษและเป็นครั้งแรกที่ท่านจะทำโดยใช้พลังงานเต๋าอย่างแท้จริง ด้วยพลังเต๋านั้นให้กำเนิดหนึ่ง หนึ่งให้กำเนิดสอง สองให้กำเนิดสาม สามให้กำเนิดสรรพสิ่ง ซึ่งสภาวะเต๋าอันไร้รูปนามนั่นเองที่ให้กำเนิดปราณก่อนที่จะมั่วสุมรวมกันเกิดเป็นหยินและหยางซึ่งมีสภาวะเป็นปฏิปักษ์กันโดยธรรมแต่ก็มิอาจแยกจากกันได้ และเริ่มจากหยินและหยางนี่เองที่ก่อให้เกิดมหาธาตุทั้งหลายจนถึงสรรพสิ่ง ด้วยพลังแห่งเต๋านั้นไม่อาจมองเห็นหรือจับต้องได้ แฝงกายเร้นอยู่ทั้งในสิ่งที่เรามองเห็นได้และมองเห็นไม่ได้ ทั้งในที่สว่างและมืดมัว เป็นพลังแห่งชีวิตที่มีอยู่จริงและปรากฏอย่างชัดแจ้งตั้งแต่ปฐมกำเนิดเป็นต้นมา
    เช่นนั้นสัญลักษณ์เต๋าจึงเป็นดั่งตัวแทนและรากฐานของวิชาทั้งมวลในองค์หยวนสือเทียนจุน พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ในตัวมนุษย์ก็มีพลังเต๋าจะต่างกันที่บางคนรู้จักบำเพ็ญและไม่รู้จักไปเลยแต่อย่างไรก็ต้องมี เพื่อที่จะสำแดงการฉุดช่วยของเต๋าในกายมนุษย์นี้องค์มหาเซียนอริยะหยวนสือเทียนจุนจึงจะผ่านวิชาของท่านผ่านสัญลักษณ์อันเคลื่อนจรหมุนวนด้วยทิพย์สภาวะไม่สิ้นสุดเพื่อจะช่วยผู้สัมผัสหรืออาราธนา เพราะเป้าหมายสูงสุดของพลังเต๋าก็เพื่อช่วยเหลือมนุษย์อันจะฉุดสู่เบื้องสูง กอปรกับองค์อริยะเซียนหยวนสือท่านมีโองการเอาไว้ว่าในยุคนี้หมู่มารกำเริบเสิบสานเนื่องมาจากสาเหตุแห่งกามตัณหาในตัวมนุษย์ ยังให้สัจธรรมถอยห่างและมารผู้เป็นศัตรูแก่สัจธรรมนั้นได้เข้าสิงสู่หมู่ชน แต่มารเหล่านั้นย่อมมิอาจล่วงเกินผู้ที่อาราธนาท่านได้ทั้งเหล่าเสนียดจัญไรปีศาจอสุรกายย่อมหนีไกลไม่อาจกล้ำกรายด้วยสัญลักษณ์เต๋าที่องค์หยวนสือท่านลงอาถรรพ์ไว้ เป็นดั่งธรรมวิถีของกายแห่งเต๋าซึ่งเป็นจุดกำเนิดของมารฟ้าและเทพสวรรค์ มารและอสุรกายชั้นต่ำไม่อาจเข้าใกล้หรือส่งผลเปลี่ยนแปลงชีวิตให้เรามัวหมองได้
    สัญลักษณ์เต๋าหรือจี้หยินหยางนี้ พ่ออาจารย์ได้เเกะออกมาโดยจี้นี้เป็นเครื่องหมายพลังงานทางธรรมชาตติระดับสูงนั่นคือพลังงานที่เป็นคู่กันเป็นพลังงานธรรมชาติที่นำมาประกอบกัน โดยแท้จริงเเล้วท่านอธิบายไว้ว่าถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการก่อกำเนิดทุกสรรพสิ่งก็ได้ เป็นการถ่วงดุลย์ของพลังงานธรรมชาติที่จำเป็นต้องมีให้เท่าๆกันไม่ควรมากไปหรือน้อยไป ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเสมอไปเเต่ถ้าอยู่ร่วมกันในภาวะที่ถ่วงดุลย์กันก็ถือว่าเป็นสิ่งดีงามเเละจะมีสิ่งที่ดีๆอุบัติขึ้น จี้หยินหยางนี้เเสดงให้เห็นถึงสภาวะคู่อย่างชัดเจนกล่าวได้ว่าในหยินมีหยางเเละในหยางก็มีหยินอีกเช่นกัน ถือเป็นสัจธรรมที่มีความหมายยิ่งใหญ่กว้างไกลยิ่งนักเเต่ท่านจะพูดถึงบริบทเมื่อท่านนำมาทำเป็นเครื่องมงคล พ่ออาจารย์ท่านถือเคล็ดตรงนี้ที่ว่า อยากจะให้คนใช้คนบูชาประสบพบเจอเเต่โชคดีมีความเจริญรุ่งเรืองจึงได้ทำจี้หยินหยางขึ้นมาด้วยเหตุผลหลายๆเรื่อง
    - เพื่อให้ถ่วงดุลย์เเละปรับสภาพในร่างกายตลอดจนสภาพเเวดล้อมรอบตัวให้สมดุลย์กันและปลุกเสกใส่พลังงานเพื่อที่คนบูชาจะได้พบเเต่สิ่งที่ดี ดึงดูดสิ่งที่ปรารถนาเเละต้องการมาสู่ตนเอง
    - เพื่อให้ปรับสภาพร่างกายให้รู้สึกสบาย สดชื่นเเจ่มใสไม่อมโรค ปรับสมดุลย์ทางด้านร่างกายเเละจิตใจให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดีไม่มีมากไปหรือน้อยไป ให้สมดุลย์กันใครที่อารมณ์ร้อนก็ให้เย็นลง ใครที่เย็นเกินไปก็ได้ปรับขึ้นมาอยู่ในความพอดี
    - พลังงานหยินหยางเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก ท่านหมายให้ผู้บูชาเข้าถึงพลังงานธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ นั่นคือเปิดสัมผัสพิเศษต่างๆของตัวเราเอง ให้มีพัฒนาการควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตประจำวัน จะได้มีความกะตือรือร้น เป็นคนตื่นตัวไม่เอื่อยเฉื่อย
    - เพื่อปรับธาตุทั้งห้าในร่างกายให้สมดุลย์กันไม่มีธาตุใดเเสดงผลออกมามากหรือน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เป็นเหตุให้เกิดโรค หรืออาการวิปริตทางด้านอารมณ์ต่างๆได้
    - เพื่อเปิดทางเปิดชะตาให้พบเจอเเต่โชคลาภเเละสิ่งที่ดีงาม เมื่อร่างกายได้ปรับสภาวะให้อยู่ในสภาพที่สมดุลย์แล้ว จี้ก็จะดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาเอง
    ซึ่งจี้หยินหยางนี้
    พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่เเละใช้ได้หลากหลายประการไม่สามารถอธิบายได้หมดหากคนใช้เข้าถึงก็จะเข้าถึงพลังงานธรรมชาติมากมายหลากหลาย ท่านว่ายอดเซียนเต๋าท่านมาเสกเเละประจุเปิดให้เต็มที่เเล้ว เฉพาะรูปสลักเต๋าชุดนี้ที่จะนำมาบรรจุในองค์ท่าน

    นอกจากนี้องค์หยวนสือเทียนจุนรุ่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านยังได้นำแร่ธาตุพิเศษที่องค์ท่านอนุญาติให้พ่ออาจารย์บรรจุลงไปใส่ไว้เพิ่มอีกสามชนิด คือ
    - แร่กันอับเฉา(กันพลาด) โบราณเขาเอาไว้ถ่วงท้องเรือสำเภา เวลาคนเดินทางแสวงโชคล่องเรือมานี่เขาก็จะหยิบแร่ที่ถ่วงท้องเรือออกมาเป็นที่ระลึกถือว่าเป็นของสิริมงคลด้วยอยู่ท้องสำเภายังถ่วงให้พ้นคลื่นลมแลภัยพิบัติได้ แม้เรื่อที่ว่างยังถ่วงให้เต็มได้ นี่เป็นเคล็ดเติมเต็มแต่โบราณเอาไว้เริ่มตั้งตัว ดั่งว่าหยิบทรัพย์ ได้ทรัพย์ในสำเภามาครอบครองเป็นอาถรรภ์แฝด ซ้ำแร่ถ่วงท้องสำเภานี้ยังมีดีในตัวเองโบราณว่ามีคุณตามเคล็ดกันพลาดกันอับเฉาได้ครอบคลุมทั้งสิ้น หมายถึงกันสิ่งไม่ดี กันชีวิตอัปปาง กันชีวิตล่มจม ปิดทางให้ตั้งตัวได้เจริญขึ้นโดยส่วนเดียวไม่มีวิบัติภัยใดๆเลย แร่สำคัญนี้พอถ่ายทอดสืบสกุลจากรุ่นสู่รุ่นในตระกูลเศรษฐี ตัวแร่จึงถูกเคารพในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษซึ่งมีเทวดารักษา คนในสกุลมักจะนำมาอธิษฐานขอพรเพื่อเข้าถึงพลังงานและสิริมงคลเบื้องสูง พ่ออาจารย์ท่านว่าแร่ก้อนนี้นอกจากจะดีทางกันพลาดกันอับจนแล้ว ยังมีดีด้านมหาสะกดให้ฝูงชนหลงเมามัวเคลิบเคลิ้มได้อย่างประหลาดเป็นไปด้วยอานุภาพเทวดา เธอลองคิดเอาเถิดว่าเพียงก้อนแร่ก้อนหนึ่งยังทำให้คนนับสิบในสกุลยึดถือกราบไหว้มาหลายชั่วอายุคนนับร้อยๆปีตั้งแต่ต้นกรุงได้นี่แร่ก้อนนี้ต้องมีอาถรรพ์และวิเศษกว่าแร่ชนิดเดียวกันขนาดไหน ท่านว่าแร่นี้เมื่อนำมาพกพาจะเสริมส่งตบะ เพิ่มวาสนา เติมบุญบารมี ต่อชะตาชีวิตทำให้เกิดความก้าวหน้าในการงาน มีความสุขความเจริญรุ่งเรือง แม้ต้องอาถรรพ์ดวงตกก็หนุนชะตาได้เป็นอย่างดี พ่ออาจารย์ท่านถือเคล็ดว่าแร่นี้ได้ซึมซับ ความสุข ความบริบูรณ์มาชั่วรุ่นเศรษฐีหลายอายุคน ซึมซับความสุขมายาวนานไม่รู้จักคำว่าตกต่ำยากจน มีอาถรรพ์ดุจสำเภาที่ฝ่าคลื่นลมข้ามน้ำข้ามทะเล ฝ่าคลื่น ฝ่าพายุมรสุมวิบากกรรมผ่านพ้นได้นับกาลเวลาไม่ถ้วน เช่นนี้ท่านจึงนำแร่มาอธิษฐานจิต ทั้งยังได้ขอบารมีหลวงพ่อฤาษีเสกให้หลายวาระจนประจักษ์แก่ใจว่าอานุภาพเต็ม ท่านจึงบอก ขอกับเทวดาที่รักษาแร่ให้ออกไปสร้างกุศลใหญ่ แล้วนำแร่มาทุบฝังไว้ส่วนหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าเราขอเขาให้ไปหนุนคนที่ได้ไป ให้เจริญขึ้นโดยส่วนเดียวเหมือนที่เขาเคยสร้างคน เปลี่ยนคนติดสำเภาธรรมดาให้ตั้งตัวเป็นเจ้าสัวในเมืองกรุง เป็นเศรษฐีค้าสำเภาได้สืบทอดลูกหลานมาหลายร้อยปีโดยที่สกุลนี้ไม่มีตกต่ำเลย
    - ก้อนธาตุกายสิทธิ์ เป็นก้อนแร่ที่พ่ออาจารย์ท่านนำปรอทที่ท่านดักมาหุงเข้ากับแร่พลวง แร่ตะกั่วขอมพันปี แร่ดีบุก และชินเงินเก่าสมัยต่างๆเทออกมาเป็นก้อนกายสิทธิ์ธาตุ ท่านว่ามีอานุภาพแรงดุจปรอทสำเร็จ ท่านจึงนำมาฝังไว้เป็นพลังงานอาถรรพ์จากธาตุกายสิทธิ์ ผู้ถื่อไว้จะได้สำเร็จศักดิ์สิทธิ์ในกิจที่ทำทุกเรื่อง ท่านว่ามีคุณเหมือนปรอทสำเร็จ ด้วยคนอมปรอทสำเร็จย่อมเหาะเหินเดินฟ้าฉันใด ก้อนกายสิทธิ์นี้ก็พาให้ชีวิตสูงขึ้นปานเหาะเหิน จะจรลงต่ำมิได้เลยฉันนั้น ต้องมีพลังรุ่งเรืองอยู่ด้วยตัวเองเสมือนกายสิทธิ์อันเป็นที่ชุมนุมมหาธาตุวิเศษ
    - เหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณสัณฐานเม็ดใหญ่ ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น) เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น) ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น.... พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น) ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อฉันทำองค์หยวนสือเทียนจุนที่ได้ชื่อว่าเป็นปฐมเทวดา เป็นทั้งพระอริยะเจ้า,เทพ,เซียนและองค์ธรรมในรูปเดียวกัน เช่นนั้นจึงต้องเอาบารมีองค์เหล็กปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณมาบรรจุไว้ด้วยเพราะเป็นธาตุขององค์ธรรมเช่นกัน ทั้งจะหามหาเซียนที่ไหนอันจะมีศักดิ์สูงเช่นนี้ไม่มีอีกแล้ว องค์ท่านตั้งใจจะให้ผู้ที่ศรัทธาตัวท่านหรือมีวาสนาเกื้อกูลกันได้ไปอาราธนา โดยเฉพาะกาลเบื้องหน้านั้นมาร(ไม่ใช่เทพมารชั้นสูงแต่เป็นมารที่มีพลังเกิดจากอำนาจกิเลสตัณหาคน)จะรุกหนักชีวิตคนจะสั่นคลอนไปมากกว่านี้ ก่อนถึงเวลานั้นท่านว่าต้องตั้งตัวกันให้ได้เสียแต่ตอนนี้ ก่อนที่ตัวเองจะไปผจญมารลแะย้อนคืนเวลาที่เสียไปกลับมาไม่ได้อีกเลยเพราะหาโอกาสไม่มีแล้ว *** พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญรุ่นนี้ทุกเหรียญองค์หยวนสือเทียนจุนท่านมาทำทั้งเบิกพระเนตรแบ่งจิตของท่านใส่ไวทุกองค์ ท่านว่ากับฉันไว้ว่า"ต่อไปเหรียญนี้อยู่กับใครอีกสิบปีร้อยปี จะเป็นเหตุนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง ในชั้นหลังนั้นเมื่อกาลเวลาผ่านไปสู่ยุคลูกหลานเขาจะมาตั้งศาลตั้งวิหารเซียนเพื่อบรรจุเหรียญนี้เอาไว้" พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอาถรรพ์ถึงปานนั้นต้องตั้งศาลวิหารเซียนเหมือนสร้างบ้านสร้างเมืองเพื่อบรรจุไว้ในภายภาคหน้า ท่านจึงเห็นว่าองค์มหาเซียนหยวนสือนั้นมีความตั้งใจจะทำให้ชีวิตคนเจริญโดยเร็วอย่างแท้จริง

    คาถา
    (ท่านว่าไม่ต้องใช้ ขอเพียงจำองค์ท่านให้ติดตาหลับตาแล้วมองเห็นท่านก็อธิษฐานใช้ได้เลย องค์หยวนสือเทียนจุนท่านบัญชาไว้ ว่าให้ผู้อาราธนาหมั่นเพ่งดวงแก้วในมือท่านเพื่อพัฒนาจิตวิญญาณของตนเอง)

    เหรียญนี้สร้างไว้ผจญมารในชีวิตหากมีทุกข์มีภัยมาไม่ต้องกลัวท่านว่าปล่อยให้มันมา เดี๋ยวท่านจะรับเอาไว้เอง แต่ตัวเราอย่าได้หลงคะนองใจว่ามีดีแล้วจะหยุดสร้างความดีเช่นนี้ครูท่านไม่ช่วย ไม่ใช่มีท่านแล้วตัวเราจะเที่ยวเกเรแทนที่จะอาราธนาท่านใช้แก้ปัญหากลับเป็นเอาท่านไปสร้างปัญหาแบบนี้ไม่ดี ### ท่านว่าให้จำเอาไว้เมื่อมั่งมีแล้วอย่ารังแกคนอื่น
    ด้วยท่านตั้งใจให้นำออกมาเพราะท่านว่า
    อีกไม่นานมารจะกำเริบสาหัสและสถานการณ์ปากท้องตลอดถึงชีวิตคนจะเลวลง ท่านว่ายิ่งนานก็ยิ่งหนักท่านจึงอนุโลมให้นำออกมาให้ใช้บูชากัน โดยมีข้อแม้แค่ว่าขอให้คนที่เอาไปเป็นคนดีขอแค่เป็นคนดีเรื่องอะไรมันก็ดีไม่ต้องไปกลัว

    *** เหรียญนี้ถือเป็นเหรียญชั้นครูของพ่ออาจารย์ที่ท่านอาราธนาขึ้นคอเพื่อเปิดบารมีเสมอ รายการนี้มีให้บูชาทั้งหมดห้าองค์ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อแซ่สกุลวันเดือนปีเกิดเอาไว้พร้อมกันด้วย (ท่านว่าแจ้งไว้เท่านี้แต่เรื่องมารในใจหรือเรื่องปัญหาอะไรอันนี้เธอต้องไปเขียนยื่นฏีกากับท่านเองจึงจะได้ผลดีสูงสุดคนอื่นทำแทนไม่ได้) ท่านจะเชิญครูเปิดบารมีให้อีกวาระหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนอาหารกลางวันเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อแปลงสภาพสรรพวิชาหมื่นมรรคาสำแดง(มหาเทพสร้างโลกองค์ธรรรมฟ้าสวรรค์หยวนสือเทียนจุน) บูชา 4,000 บาท



    87040375-200180721346664-8906776317995778048-n.jpg 86662717-793786164442852-6171427091599327232-n.jpg
    86975972-250380925949958-10813164283232256-n.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหาธาตุอณูไตรรัตนญาณปกาศิต(ธาตุนิพพานเนรมิต)

    ตะกรุดนี้สร้างขึ้นจากธาตุนิพพานทั้งสามชนิดที่สมเด็จองค์ปฐมท่านกำชับให้พ่ออาจารย์รวบรวมไว้ ท่านว่าแทนด้วยคุณพระไตรรัตนญาณอันประเสริฐเป็นเลิศกว่าสิ่งใดในโลกา ทั้งยังเป็นธาตุทิพย์หรือที่ท่านเรียกว่าธาตุนิพพานมาเนรมิตให้เกิดขึ้น - ให้ปรากฏรูป - ให้เป็นไป ...เพื่อที่จะได้ใช้ช่วยฉุดและปลดเปลื้องเภทภัยในอนาคตกาลอันจะนำมาซึ่งทุกขเวทนาทั้งหลาย ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าเป็นผงทิพย์หรือของทิพย์ฉันไม่ได้ทำเอง มีแต่พ่อพระปฐมท่านให้ไปรวบรวมมาตามสถานที่ซึ่งท่านกำหนด พ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนี้จึงก้าวล่วงไม่ได้ ได้แต่บอกอย่างเดียวว่าใช้ทำอะไรแค่นี้ ส่วนตัวตะกรุดท่านก็กำหนดกะเกณฑ์ด้วยวิชาของท่านให้เรารู้ว่าต้องลงตัวนั้นตัวนี้ เป็นวิชาโบราณที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น ตัวนั้นล้างหนี้,ตัวนี้อาญาสิทธิ์สวรรค์,ตัวนี้เบิกบุญ,ตัวนี้เปิดทางเปิดโลกเปิดชีวิต,ตัวนี้ขอพรเร็วสมดั่งใจ,ตัวนี้ชำระวิบาก,ตัวนี้ฟ้าอุปถัมภ์....พ่ออาจารย์ท่านว่าลงไว้เยอะมากหลายสูตรสุดแต่ท่านบัญชาเพราะท่านรับว่าจะทำวิชาให้เอง

    ธาตุนิพพานเนรมิตใช้ทำอะไร ธาตุนี้ท่านเรียกสั้นๆว่าธาตุทิพย์ เพราะเป็นของจากพระนิพพานที่พ่อองค์ปฐมท่านรักษาไว้ให้ลูกๆเอาไว้ใช้อธิษฐานขอเมตตา ดุจว่าจิตมีนิพพานเป็นที่หมายเป็นเครื่องระลึกถึง นึกถึงพระนิพพาน นึกถึงองค์ธรรมบิดา นึกถึงองค์ปฐมสัมมาสัมพุทธเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อมีเหตุปัจจัยย่อมมีผลไม่มีการกระทำใดเสียเปล่า

    ธาตุทิพย์นี้เป็นกำลังจากนิพพาน เต็มเปี่ยมด้วยบารมีสามสิบทัศน์ทั้งฉัพพรรณรังสีรัศมีหกประการขององค์สัมมาพุทธเจ้า เหล่าอรหันต์และมหาโพธิสัตว์ทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ปฐมเมตตารวมกำลังให้ทั้งหมดเลย นี่หากใครตาดีเค้าจะเห็นกันเลยว่าธาตุเหล่านี้แม้อณูเดียวแยกออกมาก็มีแสงทิพย์โอภาสขาวสุกใสประกายเพชร เพราะเป็นธาตุธรรมธาตุทิพย์ขององค์ปฐมต้น ทั้งยังเป็นธาตุทิพย์ขององค์ธรรมบิดา และเป็นธาตุทิพย์ขององค์วิสุทธิเทพ ทั้งสามธาตุนั้นเรียกว่าไตรรัตนญาณ พ่ออาจารย์ท่านว่าคลุมหมดทั้งฟ้าอนันตจักรวาล

    พ่ออาจารย์ท่านว่าอณูธาตุเหล่านี้เค้าทำงานกันด้วยการเปล่งรัศมี เมื่อเค้าเกาะกลุ่มรวมกันอยู่ในขวดนี้เค้าจะหมุนวนรัศมีของแต่ละธาตุมารวมกันแล้วสาดออกไปกระทบกับธรรมอักขระที่องค์ปฐมท่านบัญชาให้ลงพันไว้ทั้งหลาย เป็นตัวขับเคลื่อนผลักดันให้อานุภาพแต่ละด้านทั้งตัวนั้นล้างหนี้,ตัวนี้อาญาสิทธิ์สวรรค์,ตัวนี้เบิกบุญ,ตัวนี้เปิดทางเปิดโลกเปิดชีวิต,ตัวนี้ขอพรเร็วสมดั่งใจ,ตัวนี้ชำระวิบาก,ตัวนี้ฟ้าอุปถัมภ์....เกิดขึ้นทันใด สาดประกายผ่านตัวเราให้ตัวเรารับกำลัง สาดไปรอบตัวเรา รอบโลก รอบจักรวาล ซึ่งมหาอณูธาตุทิพย์นี้เขาทำงานกันด้วยความเร็วสูงสุดเรียกว่ามีความถี่มากแม้ตัวพ่ออาจารย์เองยังมิอาจกะเกณฑ์ใดๆได้(ทำงานไวนั่นคือสำเร็จไว) และด้วยเหตุว่าธาตุทิพย์นี้แม้เทพ,พรหม,ผี,สัมภเวสีใดๆก็ไม่อาจแตะต้องเข้าครองได้นอกจากมนุษย์ที่เคยมีวาสนาพลาผลอันจะได้เกื้อกูลในหนทางข้างหน้าต่อไปเท่านั้น

    ด้วยธาตุทิพย์นั้นวิเศษล้ำเลิศประเสริฐยิ่ง เพราะเป็นดั่งตัวแทนของกำลังที่ส่งเข้าหาตัวเราโดยตรงจากองค์ปฐม,องค์ธรรมบิดา,องค์วิสุทธิเทพ เป็นพลังของนิพพานธาตุที่องค์พระท่านเมตตาประทานลงมา ท่านว่าเพื่อประโยชน์ใหญ่ทั่วมหาอนันตจักรวาล ทั้งนรกโลก เทวโลก พรหมโลก เพื่อที่จะได้ยกระดับจิตคนที่ดีมีบุญวาสนาให้ดำรงค์ตนอยู่ ให้ได้อริยมรรคอริยผลทั่วทั้งหมดในอนาคตกาลไม่มีการยกเว้น ด้วยมีคุณผลักดันธรรมวิเศษอันทรงคุณที่พันไว้รอบนอกให้เกิดผลทันทีเพื่อจะได้สงเคราะห์ชีวิตตนแล้ว

    ตัวอณูธาตุทิพย์เองเมื่อเราอาราธนาพกติดกายประจำเขายังเข้าไปบรรเทากิเลส อวิชชา ตัณหา อุปาทานในจิตใจด้วยการชำระล้างตลอด พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละชำระให้เบาลง ของแบบนี้ต้องค่อยๆชำระเพราะมันตกตะกอนหนาจับเป็นชั้นๆมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติไม่ใช่พกปุ๊ปจะหายไปหมด ยิ่งคนไหนหนามากก็ต้องใช้เวลานานหน่อย คนไหนเบาบางก็จะไวหน่อย แต่ดีกว่าปล่อยไว้ไม่ทำอะไรจนเปิดรับทุกขเวทนาและเภทภัยทั้งผอง อย่างน้อยก็ชำระกันบ้างจะได้ปิดกั้นอบายภูมทั้งสี่อันมีนรก,เปรต,อสุรกาย,เดรัจฉานเป็นที่ไป พ่ออาจารย์ท่านว่าให้หมั่นจับธาตุที่บรรจุในขวดและระลึกถึงองค์พระไว้จิตจะเป็นกุศลเหมือนเราได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น หากเมื่อใดถึงกาลกิริยาตายกันจริงๆก็นั่นแหละนึกถึงองค์พระไว้ไปสวรรค์เป็นอย่างต่ำ ถ้ากำลังใจมากทำความดีมาพอประมาณก็ไปถึงชั้นพรหม แต่ถ้าชำระกันหมดชาตินี้จิตสะอาดเบิกบานดีแล้วนั่นก็ย่อมหมายเอานิพพานเป็นที่ไปได้...แต่จะถึงนิพพานเลยเช่นนี้ท่านบอกเลยว่าใช่ว่าจะเกิดได้กับทุกคน
    ด้วยอณูทิพย์นี้
    ปิดกั้นอบายภูมิและปิดกั้นเคราะห์กรรมทั้งหลายไม่ให้เกิดได้ระยะหนึ่ง(หากผู้ครอบครองไม่หลงมัวเมาจนยากกลับใจ)จึงทำให้ได้รับประโยชน์ใหญ่ในการดำเนินชีวิตตามวิถีแต่ละคน

    ### พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำอย่างน่าตระหนกว่า อณูทิพย์นี้องค์พุทธบิดาท่านจะประทานให้ในช่วงเวลาที่เกิดกลียุค ต่อไปเบื้องหน้าจะมีวาตะภัย ทั้งไฟบรรลัยกันต์อันเกิดจากความรู้และวิทยาการของมนุษย์ ทั้งจากอาวุธนิวเคลียร์ จากการทดลองดัดแปลงพันธุกรรมอันเกินธรรมชาติจะรับไหว ใท่านว่าต่อไปโลกจะถดถอยทั้งเกิดภัยธรรมชาติแปรปรวนทำให้ผู้คนล้มตายกันมากมาย นั่นแหละอณูทิพย์นี้จะช่วยปกปักรักษาให้ปลอดภัยจากอันตรายทุกชนิด ท่านว่าผู้ที่จะได้ไปต้องนับเนื่องในวาสนา ถือได้ว่าโชคดีเคยทำบุญมามหาศาลพอตัว

    ในยุคที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวไกลแต่ก็ไม่อาจจะหยุดยั้งภัยพิบัติคร่าชีวิตจากความเกรี้ยวกราดของธรรมชาติได้ทุกรูปแบบ ทั้งยังไม่มีเทคโนโลยีใดใช้ให้ไปถึงสวรรค์หรือนิพพานกันได้เลย ด้วยตัวความสบายและเทคโนโลยีนี่แหละที่จะพอกพูนกิเลสตัณหา ทำให้ทั้งคนทั้งพระติดสบาย ทำให้คนกลัวตายยื้อยุดให้ห่างไกลจากธรรมมากขึ้น เช่นนั้นอณูทิพย์ซึ่งเป็นธาตุนิพพานคือธาตุที่มาจากจิตเดิมขององค์ธรรม,องค์ปฐม..เหล่านี้จึงจัดเป็นธาตุประภัสสรที่จะแสวงหาจิตเดิม ทั้งยังนำความสุขกายสุขใจและวาสนาต่างๆไม่รู้สิ้นมาสงเคราะห์คน พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าเป็นแม่ธาตุอันประเสริฐที่เหนือกว่าธาตุใดทั้งหมดเพราะท่านย้ำว่าเขาช่วยให้ถึงความสุขในชาตินี้ได้เช่นนั้น

    ด้วยกฏของวัฏจักรการเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไปย่อมเป็นของธรรมดาโลก เพราะทุกสิ่งแม้ร่างกายเราย่อมเปฺ็นของสมมติขึ้นมาทั้งสิ้น คือดำรงค์อยู่อย่างแปรปรวนรวนเรดั่งสายน้ำวกวนรอวันสูญสลายเพียงเท่านี้ หากแต่เรื่องการเอาดีไม่ให้เสียชาติเกิดนั่นกลับเป็นของจริง เป็นหน้าที่ของสรรพชีวิตที่น้อยนักยากจะทำได้ เพราะจิตนั่นแหละคือตัวตนจริงของเรา การขัดเกลาดวงจิตพัฒนาดวงจิตต่างๆเหล่านี้จึงเป็นการทำให้จิตนเองนั้นสะอาดและศักดิ์สิทธิ์....พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือหน้าที่ขัดเกลาของอณูทิพย์

    เป็นปฏิบัติการณ์ชำระจิตใจให้ค่อยๆใสสะอาด ไม่เกาะเกี่ยวในสมมติ มองพ้นโลกพ้นสงสาร เพราะเขาอยู่เหนือกว่าสิ่งสมมติทั้งหลายไม่ว่าจะดิน,น้ำ,ลม,ไฟมหาธาตุทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านเปรียบให้เข้าใจง่ายๆว่าโลกและสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะสอดตามองไปทางไหนเราย่อมจะเห็นและรู้แต่บางคนก็ไม่รู้และไม่เข้าใจ ซึ่งก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความจริงไปได้ว่าทุกสิ่งนั้นผูกขึ้นมาด้วยธาตุทั้งสี่ เพราะมีธาตุทั้งสี่นี่แหละตัวเราหรือตัวเขาและสิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่ว่าจะโลกหรือจักรวาลจึงมีรูปกายมีรูปร่าง เมื่ออณูทิพย์อยู่เหนือธาตุทั้งสี่นั่นคือเขาเหนือโลกไปแล้ว เหนือไปกว่าทุกอย่างด้วยเป็นของสูงมากเพราะลงมาจากแดนทิพย์แดนนิพพานไม่เกาะเกี่ยวด้วยสิ่งสมมติทั้งหลาย เมื่ออยู่เหนือโลกเช่นนี้จึงมีพลังงานบันดาลได้ทุกสิ่งตามปรารถนาด้วยแสงทิพย์โอภาส พ่ออาจารย์ท่านว่าพ่อพระพุทธท่านเฉียบขาด เพราะท่านรู้ว่าคนเรามันจะเอาดีไม่ได้หากชีวิตยังทุกข์ยกต้องดินรนกันอยู่ เช่นนั้นนอกจากอณูทิพย์แล้วท่านยังประทานธรรม ประทานวิชาทั้งหลายมาให้โดยการลงเป็นตกรุดพันไว้รอบขวดธาตุทิพย์เพื่อให้ธาตุทิพย์ทำงานผลักเอาธรรมเอาคุณวิเศษเข้าตัวคน ไม่ว่าจะเรื่อง
    - ล้างหนี้
    - อาญาสิทธิ์สวรรค์
    - เบิกบุญ
    - เปิดทาง,เปิดโลก,เปิดชีวิต
    - ขอพรเร็วสมดั่งใจ
    - ชำระวิบาก
    - ฟ้าอุปถัมภ์...
    สิ่งต่างๆเหล่านี้ท่านเน้นย้ำว่า
    ตราบใดที่ยังเป็นคนยังต้องผจญอยู่กับความเกรี้ยวโกรธของธรรมชาติที่หนักข้อขึ้นเรื่อยๆย่อมต้องจำเป็นได้ใช้กันบ้างซักเรื่องสองเรื่อง แต่บางคนที่ชีวิตหนักมาและทรุดไป เสื่อมโทรมมากจริงๆอาจจำเป็นต้องใช้คุณทั้งหมด เช่นนี้จึงบอกได้ว่าธาตุทิพย์นี้ท่านตั้งใจจะให้ช่วยอย่างตรงกาล คือช่วยทั้งทางโลกทางธรรมไปพร้อมกันอย่างแท้จริง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าคุณวิชาที่รวมกันแต่ละอย่างของเครื่องมงคลชุดนี้จัดว่าเป็นที่สุดอย่างแท้จริง แม้ตัวธาตุนิพพานกว่าจะได้มาก็ยากนักเพราะต้องขึ้นเขาลงห้วยเข้าถ้ำครบ ไม่มีอะไรที่ไม่ลำบากเลยเพราะผู้เฝ้าผู้ดูแลเขาหวงหนัก ถ้าพ่อพระพุทธไม่เปิดทางไม่อนุญาติก็เหมือนนำชีวิตไปทิ้ง และธาตุทิพย์นี้พ่อพระพุทธท่านเรียกว่าลูกจิตนิพพาน เขามีความเป็นทิพย์ทั้งสุขสบายสมปรารถนาในตัวเองทุกอย่างย่อมจะช่วยให้ผู้ครอบครองได้ดังนั้นเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าปัจจุบันคนที่ตั้งหน้าทำงานหาเงินทั้งหลายย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่ายังติดอยู่ในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสต่างๆในโลก เมื่อเรามีขันธ์ห้าก็ย่อมแสวงหาสาเหตุของการผุดเกิดเวียนว่าย ทั้งกาย เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณหากแต่เราลืมหน้าที่และไม่ได้ค้นคว้าสนใจตรงนี้เพราะมัวแต่ทำงาน อีกทางหนึ่งก็พอกพูนกิเลสเมื่อเราทำงานเพื่อสิ่งเหล่านี้เราย่อมเกิดตัณหาอยากอยู่ในโลก ทั้งยังผูกพันก่อเกิดพันธะอันดักดานมาเนิ่นนานมั่นคง ที่จิตหยาบหนาหน่อยก็มีความโลภในสรรพสิ่ง มีความโกรธความหลงอยู่ในตนเอง พอกพูนทุกวินาทีนับวันเดือนปี นับชาติภพ นับกัปกัลป์ สิ่งเหล่านี้เสมือนยาขม ขมมาก ทรมานมาก หากจะรักษาก็ยิ่งยากเพราะสะสมกันมาเนิ่นนาน เช่นนี้ยาขมจึงต้องกลั้วไปพร้อมขนมหวาน เพื่อจะเอาดีทั้งทางโลกและทางธรรมให้ได้ก่อนในเริ่มแรกจึงจะพัฒนาตนเองเหนือกว่านี้ได้ ไม่เช่นนั้นกี่ชาติภพก็ไร้การพัฒนา เพราะเราตัดหน้าที่อันจำเป็นต้องพึงกระทำในชีวิตตนเองตอนนี้ไม่ได้จะเอาแก่ใจอะไรมาลดละเลิกอวิชาทั้งหลาย

    เพื่อประโยชน์ให้พ้นโลกียสมบัติ,สวรรค์สมบัติให้ถึงซึ่งนิพพานสมบัติไม่ต้องกลับมาเรียนรู้ในโลกมายาสมมุติทั้งสิ้นนี้อีกพ่ออาจารย์ท่านจึงให้อาราธนาอณูทิพย์ แม้ท่านเองก็ยังใช้ติดตัวเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าคนบางคนนั้นต่ำต้อยบุญน้อยวาสนาไม่มีหากแต่ดวงตากระจ่างยังมองเห็นภัยอันตรายในวัฏสงสาร หรือบางคนไม่ปรารถนาจะเกิดมาเป็นคนเป็นเทวดา..เหล่านี้อีก นี่คือคนที่มีความปรารถนาความตั้งใจแต่เบื้องต้น คนแบบนี้จะมองโลกไม่เหมือนคนประเภทอื่นเพราะเค้าเบื่อโลก เมื่อเขารับอณูทิพย์นี้ไปก็จะได้ชำระล้างจิต ชำระสิ่งสกปรกตกตะกอนทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายๆคนนั้นยังมีบาปกรรมมีความโกรธความอยากได้ใคร่ดีทั้งยังหลงงมงายไม่สิ้นสุดนั่นแหละสิ่งเหล่านี้คือความสกปรกในจิตเรา เพราะเราไม่รู้ความเป็นไปใดๆที่จะเปลี่ยนแปลงหรือเกิดขึ้นเบื้องหน้าเลย อณูทิพย์นี้จึงส่องสว่างทำหน้าที่ปัดเป่าชำระเคราะห์กรรมทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าพอชำระๆไปมันก็หมดพวกที่ชีวิตหนักๆเขาก็จะเบาขึ้นๆไปเองทีละขั้นทีละลำดับ ถ้าเรื่องมันน้อยเคราะห์มันไม่มากชำระพักเดียวก็ไม่ปรากฏแล้ว เป็นเช่นนี้เอง เพื่อจะให้พวกเธอถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรือง

    รายการนี้ท่านว่าฟ้าปิดแต่สวรรค์เปิดคือข้างบนเค้าไม่ให้รู้อะไรไม่ให้พูดถึงมากนัก เพราะใครจะได้สัมผัสหรือพบเจอนั้นย่อมต้องอาศัยวาสนาที่เคยทำมาเป็นเอนกชาติ ถ้าคนสติปัญญาไม่ถึงไม่เห็นความสำคัญก็จะมองไปอีกทางหนึ่งว่านี่ขวดอะไร พกทำไม ใช้อะไรไร้สาระเขาจะคิดอย่างนั้นกันไปเลย พราะเขาไม่ใช่ผู้ถูกกำหนด และภัยพิบัติในอนาคตนั้นก็ยากจะหลบเลี่ยง ท่านว่ารายการนี้เพราะพูดไม่ได้มาก พ่อพระพุทธท่านห้ามมาเอง ที่เราพูดเท่านี้ท่านก็เขม่นแล้ว คือของบางอย่างนั้นไม่ควรไปพูดถึงเลยต้องใช้กำลังใจรับรู้เท่านั้นจึงบอกได้แค่นี้

    คาถาบูชา
    เปิดธาตุนิพพานด้วยนะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ... ใช้อาราธนาธาตุนิพพานเปิดจิตขัดเกลาตัวเอง
    อิติปิโสภควา นิพพานะธาตุโย นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ... ใช้อาราธนาให้ธาตุนิพพานคลุมจิตเราตลอดเวลา


    *** รายการนี้เนื่องจากท่านห้ามท่านปรามไว้เพราะเป็นของสูงมากและจะมีคนบูชาเพียงเฉพาะผู้ที่ร่วมวาสนาหรือเคยทำบุญสะสมมามากพอสมควรจริงๆจึงอธิบายได้คร่าวๆ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิด ทั้งความปรารถว่าจะใช้ธาตุนิพพานสงเคราะห์เรื่องอะไรเป็นหลักใหญ่ๆของตนเอาไว้ด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหาธาตุอณูไตรรัตนญาณปกาศิต(ธาตุนิพพานเนรมิต) บูชา 2,500 บาท


    87572894-807154479785197-7204007319129030656-n.jpg 88011802-529409757686044-4472949628349710336-n.jpg
    87744440-1871160186351214-5769928588082020352-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2020
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยเหาะเหยียบเมฆ(ผันล้างด่านเคาะห์หมื่นพันชะตามนุษย์)

    " เราจะทำไว้ให้กับคนที่คู่ควร สำหรับคนผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่เห็นความสำคัญของกาลเวลา ห้ามใช้ "

    หากกล่าวถึงองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยแล้ว ย่อมต้องกล่าวได้ว่าเป็นองค์เทพที่พ่ออาจารย์ท่านพึ่งบารมีมากที่สุดยามรู้ว่าดวงตนเองตก(ท่านไว้ใจขนาดนี้) หรือแม้แต่มีคนดวงตกจริงๆแบบเลวร้ายเกินแก้ไขนั่นแหละท่านจึงจะนำเครื่องมงคลที่ทำไว้คือองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยรุ่นนี้มาขอบารมี
    พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยที่ท่านสร้างไว้นั้น
    นอกจากจะช่วยแหกด่านให้ผ่านพ้นเคราะห์กรรมทั้งหลายแม้ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดหรือจวนตัวที่สุดแล้วยังจะประคับประคองทุกหนทางได้อย่างวิเศษ ทั้งท่านยังปกปักรักษา อภิบาล...จนเป็นใหญ่เป็นโตนั่นแหละ *** เรื่องนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านว่าเปลี่ยนชีวิตง่ายเพราะองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยท่านมีบารมีของท่านเฉพาะทางด้านพิชิตมาร ปราบปรามศัตรูและสิ่งเลวร้ายทั้งหลายได้รอบทิศ กล่าวให้ชัดแจ้งเมื่อไม่มีศัตรูย่อมไม่มีอุปสรรคเช่นนั้นเอง แม้องค์ท่านหรือกระแสกำลังญาณของท่านปรากฏที่ใดก็เป็นที่วางใจได้เกินพันเกินหมื่นยิ่งกว่ากำลังใดๆว่าท่านอยู่กับใครแล้วย่อมจะนำพาความโชคดีมีชัยมาให้เสมอทุกเวลา

    คนไทยหลายคนเข้าใจผิดว่าท่านชื่อเจ้าพ่อเสือ เพราะไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือองค์เทพประธานก็คือองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านไม่ใช่เจ้าพ่อเสือหากแต่มีเสือเป็นบริวารต่างหาก เช่นนี้จึงเรียกกลายๆได้ว่าเจ้าพ่อเสือก็คือบริวารของท่าน องค์ตั่วเหล่าเอี๊ยนั้นท่านสำเร็จเป็นเซียนคืออุบัติขึ้นเองบนสวรรค์จนลงมาเอากำเนิดในโลกมนุษย์ภายหลังเรียกว่ามีกำเนิดใหญ่ผิดแปลกกว่าเทพทั้งหลายดุจจุติมาจากสภาวะธรรม จนมีบางคนเชื่อว่าท่านคือปางโปรดสัตว์หรือปางที่องค์เง็กเซียนแบ่งภาคลงมาบนโลกเช่นนี้ก็มี ท่านบำเพ็ญปลีกวิเวกจนสำเร็จธรรมโดยองค์เง็กเซียนฮ่องเต้โปรดประทานยศให้เป็นเทพประจำทิศเหนือทั้งยังพ่วงตำแหน่ง "ผู้ตรวจการสามโลก" มีนามว่า “เฮียงเทียนเสียงตี่” มีธงดำเป็นอาญาสิทธิ์ สยบปีศาจร้าย เหยียบเต่าและงู มีเสือเป็นยานพาหนะ
    พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยนั้นได้ชื่อว่า
    มีกำลังอันลึกลับอัศจรรย์เหรือเทพเซียนทั้งปวง มีอำนาจอิทธิฤทธิ์เลื่องลือในทางมหาปราบหรือจัดการกับภูติผีปีศาจทั้งหลายเรียกว่าท่านไล่ผีเก่งก็ได้ เพราะท่านได้รับหน้าที่สำคัญแทนองค์เง็กเซียนโดยตรงคือเป็น "ผู้ตรวจการสามภพ" และยังเป็นทั้ง "องค์พระผู้พิชิตมาร" จึงเป็นที่เกรงขามของทวยเทพทั้งหลายทั้งปวงอย่างยิ่ง เพราะแม้เทพ,เซียน,พรหม,มาร,ปีศาจ ล้วนตกอยู่ใต้อำนาจผู้ตรวจการของท่านทั้งสิ้น ใครจะได้รับผลบุญผลกรรม ใครจะผิดกฏฝ่าฝืนอย่างไรท่านลงโทษกระทำแทนสวรรค์แทนสัจธรรมได้ทั้งหมด นอกจากนี้ท่านยังมีอาญาสิทธิ์ถือธงเทพโองการดำเป็นสัญลักษณ์ของท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าธงนี้สำคัญนักเพราะมีอำนาจบัญชาการของเจ้าสวรรค์คือบังคับบัญชาได้แม้กระทั่งเทพหรือเหนือเทพไปอีกก็คือพรหมทั้งหลายผู้มากอานุภาพยังไม่มีละเว้น
    ท่านมีอาญาสิทธิ์เฉียบขาดในทุกเรื่องคือกระทำทุกอย่างได้เลย เป็นการกระทำแทนฟ้าไม่ต้องผ่านใครเพราะเป็นอำนาจเฉพาะของท่านเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาท่านช่วนท่านให้พรหรือใครที่มีด่านเคราะห์กรรมในชีวิตมากๆได้บูชาท่านจึงจะดี พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะทำได้ก็ไม่ง่ายเพราะต้องขอท่านก่อนให้ช่วยกันเต็มที่ เฉพาะคนของท่านที่มีบารมีวาสนาสัมพันธ์กันแค่นี้นั่นแหละ พ่ออาจารย์ท่านทำเป็นรูปหล่อองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยกระทำโดยธาตุกายสิทธิ์มือซ้ายยกชี้ระดับหน้าอกไปยังท้องฟ้าอันแสดงความหมายถึงการบรรลุธรรมสำเร็จเต๋า ท่านย้ำเตือนว่าขาต้องเหยียบเต่าและงูไว้ อันเต่างูนี้เป็นคู่มิตรกันซึ่งทั้งสองก็คือมารปีศาจอันมีกำเนิดมาจากอวัยวะภายในร่างกายท่านเมื่อครั้งลงไปเกิดเป็นมนุษย์ เรียกว่าแม้อวัยวะเพียงเท่านี้ก็หามีเทพเซียนใดปราบปรามได้แล้ว องค์เง็กเซียนจึงให้ท่านไปจัดการสยบจนหมดฤทธิ์ ภายหลังจึงเป็นบริวารของท่านทั้งยังเป็นเครื่องหมายของการเหยียบข่มปราบปรามศัตรูอันจะมีเข้ามาในชีวิต รวมไปถึงโรคร้ายภัยพิบัติทั้งปวงอันจะเกิดขึ้นต่อไป...พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเชิญพระญาณท่านลงมาแล้วเราได้สักการะจะพ้นภัยพิบัตินานา

    นายด่านผู้ผันผ่านด่านชีวิตชะตากรรม
    คติการบูชานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยโบราณแม้แต่เจ้าหรือฮ่องเต้ทุกสมัยก็เคารพท่านนัก โดยถือว่าองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยท่านเป็นผู้ดูแลโชคชะตาของมนุษย์เพราะท่านเป็นผู้ตรวจการณ์สามภพ สามารถเห็นกงล้อกรรมและการเปลี่ยนผ่านช่วงชีวิตได้ จึงแก้ไขเติมเต็มเปลี่ยนร้ายกลายเป็นดีได้ทั้งหมด แม้แต่คนชะตาขาดอายุสั้นหากบารมีท่านโปรดแล้วจะอยู่ต่อไปให้อายุยืนยาวนับร้อยปีก็ได้เช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือเคราะห์กรรมใหญ่สุดเพราะเกี่ยวกับชีวิตและความตาย หากจะนับเพียงเคราะห์ย่อยในด่านชีวิตจึงนับได้ว่าไม่นับเป็นอะไรเลย(ท่านว่าท่านพูดมากไปกว่านี้ก็ไม่ได้ เพราะถ้าพวกเขาจะ"ทึ่ม"กันจนไม่เข้าใจก็ต้องปล่อยไปตามมีตามเกิดแล้ว)
    คติการนับถือองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยนั้นมีมายาวนานมากกว่าสองพันปี เทพองค์นี้เดิมมีนามว่าซวนอู่ และเปลี่ยนเป็นเจินอู่ในเวลาต่อมา แล้วการยอมรับนับถือท่านก็มาถึงขีดสุดของความรุ่งเรืองสมัยราชวงศ์หมิง พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยนั้นมีหน้าที่เป็นเทพพิทักษ์นะ หากเหรียญหล่อนี้ตกอยู่กับใครท่านก็มีหน้าที่เข้าพิทักษ์ *** เมื่อจะถามเอาว่าพิทักษ์อะไร ก็พิทักษ์ความมั่นคงในชีวิตพวกเธอนั่นแหละ ไอ้ตัวความมั่นคงนี้เป็นอย่างไรบางทีทั้งชาติก็ไม่เห็นจะได้เห็นกันก็คราวนี้ นอกจากนี้ท่านยังมีอิทธิฤทธิ์ทางคุ้มครองรักษาโรคภัยอาราธนาทำน้ำมนต์อาบดื่มแก้โรคร้าย(โรคเวรโรคกรรมที่ติดมาแต่จิตเดิม)ทั้งหลายก็ได้
    ท่านเป็นผู้ถือดาบปราบมารสามภพหรือกระบี่เจ็ดดาวอันมีอำนาจปราบได้ทั้งเทพ,ผี,ปีศาจทั้งสามภพทำให้ท่านเป็นเทพพิชิตมารซึ่งภูติผีปีศาจจะเกรงกลัวท่านมากเพราะท่านเป็นเทพปราบมารที่ปราบกำลังด้านมืดโดยเฉพาเพราะองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยนี้ถือได้ว่าเป็นเทพที่มีฤทธิ์สูงสุดแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าหากเทียบในเหล่าเทพด้วยกันก็ไม่มีองค์ไหนเก่งทางฤทธิ์แบบนี้เพราะท่านมีอิทธิฤทธิ์เป็นอันดับหนึ่งของสวรรค์ โดยนามของท่านก็เป็นเทพเหนือเทพ เป็นเทพระดับมหาเทพผู้ใหญ่คือมีบารมีเหนือเทพเซียนทั้งปวง
    พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยรุ่นนี้ทำขึ้นมาด้วยปรารถนาจะให้กราบไหว้เพื่อเสริมบารมีทางด้านมั่งมีโชคลาภด้วยเพราะเหตุว่าจะอยู่ในยุคนี้อย่างสบายใจได้เงินและทรัพย์สินย่อมสำคัญที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่านับตั้งแต่ฮ่องเต้ถึงสามัญชนล้วนเชื่อว่าไหว้ท่านแล้วจะโชคดี จะช่วยเรื่องร่ำรวยโชคลาภ แต่ความเป็นจริงแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าที่ท่านช่วยคือผันล้างหลีกเลี่ยงด่านเคราะห์กรรมมนุษย์เมื่อหลบพ้นแล้วจะเปลี่ยนคนธรรมดาให้เฟื่องฟูร่ำรวยมากที่สุดจึงเป็นแค่สิ่งสามัญเท่านั้น ท่านว่าองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยนี้บารมีท่านใหญ่มาก จะขอเรื่อง สุขภาพ ครอบครัว การงานหรือแม้กระทั้งการเรียน..จะขออะไรก็ขอได้ตามที่เราเดือดร้อนในแต่ละจังหวะนั่นแหละ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้เรื่องเดือดเนื้อร้อนใจมันเยอะ ปัญหาชีวิตมันมาก หากจะถามว่าองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยท่านช่วยเรื่องไหนได้บ้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าบารมีท่านย่อมโปรดครบหมด หากจะว่าชีวิตดีนั้นเป็นอย่างไรท่านว่าถ้าไม่บอกก็คงไม่เห็นภาพ แต่ท่านว่าตอนเชิญองค์ท่านฉันขอและทำสัญญากันไปแล้วว่าให้ท่านช่วยลูกๆทุกๆเรื่องตั้งแต่ขจัดปัดเป่าเคราะห์ภัย,ความล้มละลาย,เรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย,เกิดสิริมงคลโชคลาภ,เสริมดวงชะตาให้ชีวิตราบรื่นดี,ดึงสิริมงคลเข้าหาชะตาชีวิต,ให้การงานไร้อุปสรรค,ให้อุปสรรคผ่านไปด้วยดี,ทำการค้าเจริญรุ่งเรือง,ให้สุขภาพแข็งแรงไร้โรคภัย,ดึงวาสนาบารมีให้สูง,มียศฐามีตำแหน่ง,ดลให้สิ่งแวดล้อมคู่มิตรและบริวารเกื้อหนุน,ให้เจริญก้าวหน้าในอาชีพ,ให้เงินทองไหลมาเทมาช่วยเรียกทรัพย์,เงินไหลเข้าไม่ขาดสภาพคล่อง,บังเกิดความมั่งมีศรีสุข,แก้ไขเคราะห์ร้าย,ลดเคราะห์บรรเทาให้เบาบางลง,ปิดความสูญเสียให้หมดสิ้นไป,ให้อันตรายผ่านพ้นตัว,สลายเหตุที่มาแห่งเภทภัย,ประทานสติปัญญาในทางแก้ปัญหา,นำมาซึ่งชัยชนะ,นำมาซึ่งชีวิตอันร่มเย็นเป็นสุข,นำมาซึ่งสุขสงบ,ประทานอำนาจบารมี,คิดหวังสิ่งใดให้สมปรารถนา,ชีวิตสำเร็จตามความมุ่งหวัง,มีโชคดีเข้ามาในชีวิต...นั่นแหละแม้สิ่งเหล่านี้หรือจะมากกว่านี้ท่านก็ช่วย

    พ่ออาจารย์ท่านเน้นเรื่องมวลสารผงวิเศษที่อุดฝังให้เข้มข้นที่สุด ท่านว่าทำทั้งทีต้องมีดีให้เค้าใช้ได้หลายด้าน ท่านจึงใช้ผงที่ลบเก็บสะสมไว้หลายสูตรมาเข้ากันเพื่ออุดองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยนี้ ได้แก่
    - ยาปัดอุบาทว์ ยานี้ท่านว่าทำยากเพราะนอกจากว่านยาที่จะกู้มาแล้วต้องนำมาลงอักขระตามสูตรเสกว่านยาแล้วจึงบดเป็นผงนำมาเข้ากับผงวิเศษต่างๆที่มีฤทธิ์รุนแรงและเป็นความลับอีกห้าชนิดจึงจะสำเร็จ ยานี้ใช้ปัดได้ทั้งเหตุที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติวิสัยหรือผิดธรรมชาติ ทั้งอัปมงคลเป็นลางไม่ดี ทั้งอาเพศ อุบาทว์ เหตุร้ายที่จะเกิดแบบปัจจุบันทันด่วน รวมไปถึงภัยอันตราย ความทุกข์ร้อนที่จะเป็นต้นตอลุกลามมอดไหม้ต่อไปทั้งกับตนเองและวงศ์ตระกูล พ่ออาจารย์ท่านว่าสรุปสั้นๆคือใช้ล้างอาถรรพ์ร้ายทั้งหลายทั้งปวงอันจะปรากฏมีขึ้นในโลกในชีวิตตนได้ดียิ่งนัก
    - ผงงอกเงยเศรษฐีจับช้าง ผงวิเศษนี้เป็นผงตระกูลเศรษฐีที่พ่ออาจารย์ท่านลบถมเอง โดยเมื่อจะทำต้องใช้ชิ้นส่วนสำคัญของครูช้างครูปะกำนำมาประกอบพิธี ทั้งหนังช้าง งาช้าง งวงช้าง หูช้าง... หางช้าง โดยแต่ละส่วนนั้นล้วนมีคุณอยู่ในตัวของมันเอง ท่านนำมาทำวิชาก่อนที่จะเผาตำเอาผงลงวิชาเศรษฐีจับช้าง ท่านว่าวิชานี้ดีอย่างไรทำไมถึงชื่อแปลกๆ ผงวิชาเศรษฐีจับช้างนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มากกำลัง มากบารมี ผงเศรษฐีจับช้างนี้ก็อาศัยกำลังของช้างสำคัญให้เป็นเศรษฐีแบบไม่นึกฝัน ท่านว่าคนที่ถูกเมินเฉย ชีวิตจับแต่งานเล็ก คิดการณ์ใหญ่ ทำสิ่งที่ต้องเติบโตและพัฒนาขึ้นไม่เคยประสบความสำเร็จ ตัวนี้ต้องใช้ผงนี้แก้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเคยทำให้พวกทำธุรกิจลองใช้กันหลายคน ที่บอกว่ามีแต่งานเล็กๆโครงการที่ไม่ค่อยจะได้กำไรกัน รายไหนรายนั้นกลายเป็นได้จับงานใหญ่โตทั้งสิ้น ท่านว่าผงนี้เหมาะสำหรับคนอยากมีพัฒนาการ ต้องการความสำคัญ อยากรับผิดชอบงานใหญ่จะได้รวยและมั่งมีแบบใหญ่โต ซ้ำวิชาเศรษฐีจับช้างนี้ยังสยบการแข่งขัน ปราบปรามคู่แข่ง กำราบปัจจามิตรคิดร้ายให้มีอันเป็นไปได้อีกด้วย
    - ผงสุริยะมณฑลทรงรถ ผงสำคัญนี้ท่านพบในถ้ำที่พม่าเป็นผงสำคัญคู่กับผงจันทร์ทรงกลด พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ทำไว้โดยฤาษียุคโบราณ เราสอบถามดูได้ความว่าเป็นองค์เดียวกันกับที่คิดประดิษฐ์ยันต์สุริยประภา จันทรประภาให้ใช้กันสืบมานั่นทีเดียว อันผงสุริยะมณฑลทรงรถนั้นท่านว่าเป็นของประเสริฐเลิศเสียกว่าทรัพย์สินจินดามณีใดๆในโลก หาค่ามิได้ หาสิ่งใดเทียบเทียมได้ยาก ถึงขนาดว่าแม้แก้วมณีโชติ สมบัติบรมจักรพรรดิ หรือสมบัติพระอินทร์สิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไม่อาจเสมอเหมือนได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้จะดีด้านหนุนดวง ซ้ำยังทำให้บุคคลทั่วไปผ่อนคลายอารมณ์ไม่มักโกรธถือโทษเรา ทั้งคนเคารพยำเกรง มีอายุยืนโสตสัมผัสแจ่มใสมิหลงลืมเลือน ทั้งระงับโรคาอาการเจ็บไข้โทษภัยร้ายแรงทุกประการ แม้นได้พบอาราธนากล่าวสืบมาว่าย่อมไม่รู้จักที่จะตกทุกข์ได้ยากนั่นทีเดียว มีค่าดุจได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กระทำสักการะให้ดี
    - ผงจันทร์ทรงกลด เป็นผงสำคัญคู่กับสุริยะมณฑล แต่ผงนี้จะเน้นหนักทางโชคลาภถึงขนาดที่ว่าแม้ไม่มีจะกินเทวดายังเอาอาหารมาให้ และผิว่าถิ่นที่อาศัยของเรารอบบริเวณมีสินทรัพย์สมบัติใดย่อมได้ตกเป็นกรรมสิทธิแก่เราทั้งสิ้น หรือแม้นจะปรารถนาแก้วแหวนเงินทองหรือวัตถุอะไรก็ตาม ให้จัดเครื่องบูชาแก่ผงนี้ดุจบูชาพระสัมมาสมพุทธเจ้า ท่านว่าบำเพ็ญไปเถิดปรารถนาอันใดต้องได้ดั่งใจทุกประการท่านว่าผงนี้สำคัญมากแม้นคนหนียังได้กลับคืน คนรักเอาใจออกห่างยังกลับมาสนใจ เป็นเสน่ห์เมตตาติดกันไม่แยกจาก ดั่งชะตาเปิดรับวาสนาดุจน้ำขึ้นทรัพย์เต็มท้องน้ำ ให้รีบตักรีบโกย ท่านว่าอุปมาไว้แก่ผู้ที่ได้ผงนี้ไปบูชาดุจชีวิตน้ำขึ้นอยู่เช่นนี้เรื่อยไปไม่ลดลงเสื่อมถอยเลย ท่านว่าผงทั้งสองนี้เป็นผงสำเร็จของฤาษีแต่โบราณ หากจะทำพระให้แรงและมีฤทธิ์เสมอหรือเกินกว่านั้นสิ่งอื่นย่อมมิอาจแทนกันได้ ผงนี้จึงเหมาะแก่การสร้างพระพุทธพักตร์ที่สุด พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้ผงสองชนิดนี้เป็นปัจจัยหลักในการสร้างพระผสมมวลสารนั่นเอง
    - ผงฤาษีสัมฤทธิ์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าหลวงพ่อฤาษีท่านยื่นใส่มือมาให้ บอกแค่ว่าชื่อผงฤาษีสัมฤทธิ์ ให้เก็บไว้รอคนมีบุญเอาไปใช้ ท่านว่าท่านไม่ได้ถามอะไรมากเพราะถือคำพระอริยะเจ้านั้นเป็นวาจาศักดิ์สิทธิ์ ที่ว่าสัมฤทธิ์แปลว่ามันดีไปหมด เกิดผลทุกอย่าง สัมฤทธิ์ผลไปหมดทุกอย่าง และผงนี้เป็นผงแต่โบราณที่สร้างโดยฤาษีเช่นกันท่านจึงเรียกว่าฤาษีสัมฤทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเก็บมานานจนทำพระหนนี้ ก็เพื่อจะให้คนมีบุญแต่กรรมบังทั้งหลายได้เอาไปอาราธนาใช้ดู ให้ชีวิตเขาสัมฤทธิ์ เป็นประสิทธิ์เกิดมรรคเกิดผลตามแนวทางของอาชีพและวิถีชีวิตที่คาดหวัง ท่านจึงนำมาผสมพร้อมผงทั้งหลาย
    - ผงมหาสะกดไมยราพสะกดทัพ ใช้สะกดวิญญาณ,ล้างอาถรรพณ์ ดีเด่นทางด้านป้องกันภูตผีปีศาจ วิญญาณร้าย,ผีภูต,ผีพรายมิกล้ากล่ำกลาย ทั้งผงนี้ยังใช้ล้างอาถรรพณ์อันไม่เป็นมงคลต่างๆในชีวิตเราได้ทั้งสิ้น(ท่านว่าเดี๋ยวนี้คนต้องอาถรรพ์กันเยอะทั้งคนเล่นของก้มากขึ้นทุกวันจนคุมไม่อยู่จะทำของวิเศษไปกลับชีวิตใครเขาได้ก็ต้องเอาเรื่องล้างตัวอาถรรพ์ออกให้ได้ก่อนจึงจะกลับได้) ทั้งเป็นมหาสะกด ใช้สะกดจิตสะกดใจถึงมีฤทธิ์เก่งกล้าดั่งหนุมานชาญสมรก็ยังสะกดให้หลับได้(ไมยราพสะกดทัพ) ตามตำรากล่าวไว้ว่าวิชากล้องยาเป่ามนต์สะกดทัพของพญาไมยราพนั้นมีฤทธิ์มากแม้จะสะกดองค์นารายณ์อวตารก็ยังทำได้ ดังนั้นวิชาผงนั้นก็เช่นกันพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องใช้สะกดได้แม้เทพยดานั่นแหละจึงจะกดตัวอาถรรพ์ลงไปได้
    - ผงตัดพลัง(สยบดวง) วิชานี้จริงๆแล้วท่านว่าต้องเรียกสยบดวงแต่ท่านเอาที่วิธีใช้พอจะพูดให้เข้าใจง่ายๆก็เหมือนเราตัดพลังคนอื่นเค้า เวลาเราจะทำกิจอันใดที่ต้องเกี่ยวข้องกับผู้อื่นคุณวิชานี้จะสยบดวงของเขาไว้ ใช้สะกดดวงทั้งลูกค้า คู่แข่งและคนรอบข้างเพื่อเบิกทางสู่ความมั่งคั่งของตนเอง ท่านว่าอะไรก็ตามที่เป็นการแข่งขันทั้งการค้า,ธุรกิจ,การเสี่ยงโชค หรือคนที่รู้ตัวว่าชีวิตมีความเสี่ยง เราทำแล้วมันไม่แน่ไม่นอนนะแบบไม่แน่ว่าจะได้ ผงนี้จะหนุนเราให้กิจที่ทำเป็นไปได้ด้วยดีดั่งเราตัดพลังคนอื่นเขา พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้เพิ่มโอกาสในหน้าที่การงานจะได้มีทรัพย์สินดั่งที่ต้องการ ให้ชีวิตรับเอาแต่สิ่งที่ดีมากกว่าคนอื่น จะทำอะไรก็มีลาภลอยไม่ขัดสน
    - ผงพระเจ้าดับทุกข์ ท่านว่าผงนี้ดีเพราะมีตัวรู้ ให้เราอธิษฐานดับทุกข์ได้ตามสั่ง จะใช้ปัดเคราะห์กันความก็ทำได้ตามต้องการ ทั้งยังเป็นกำบังแม้แต่อริศัตรูหมู่มารร้ายมาพบเจอย่อมไม่เห็นเราทำร้ายเราไม่ได้ไม่ต้องเนื้อตัว ท่านว่าผงนี้สำคัญเพราะผสมลงไปให้องค์พระมีคุณทางดับทุกข์,ปัดเคราะห์,เตือนภัย ถ้าเมื่อไหร่ที่ชีวิตเรามีภัยจะมีเหตุดลใจให้ฉุกคิดก็เป็นอันที่รู้กันว่าจะเกิดภัยอันตรายมาสู่ตัวให้ระวังภัย ทั้งคุณวิชานี้ยังมีผลงอกงามใครที่ขยันหมั่นสวดหมั่นอธิษฐานสิ่งใดไว้อะไรๆก็จะดีขึ้น แม้ฉุกเฉินต้องเผชิญอันตรายก็จะบังเกิดเป็นเกราะคุ้มภัยไม่ให้มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นเลย
    - ผงไก่กุกเรียกทรัพย์ ผงไม้นี้ท่านว่าเป็นทั้งเสน่ห์ก็ได้ใช้ทางเรียกทรัพย์ก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านปลุกเสกเสริมใส่ไว้ด้วยวิชาเมตตาอันเหลือล้นด้วยคนไหนพกไม้ไก่กุกไม่ว่าชายหรือหญิงย่อมเป็นที่ต้องจิตตรึงตาสะกดใจชนทั้งผองเมื่อได้พบหน้า จะเจรจาความอะไรก็เป็นไปตามปากสำเร็จสมหวังทุกประการ ผงนี้ท่านว่าดีทางเมตตาหากิน จะหาคู่หาทรัพย์ก็ใช้ได้ทั้งนั้นสุดแท้แต่จะต้องการเถิด
    - ผงเหยียบเซียน ท่านว่าวิชานี้ก็เป็นการหนุนดวงอย่างหนึ่ง แต่ต้องเรียกว่าหนุนเน้นไปในทางโชคลาภและการแข่งขันทุกรูปแบบโดยเฉพาะ ชนิดที่ว่าหากไปเจอใครมีอาถรรพ์มีวิชาอะไรในตัวเราข่มเขาหมด ของที่ผู้อื่นใช้จะอ่อนแรงดั่งเสือที่ว่าดุยังนอนหมอบสยบลง จะใช้ทางไหนก็ได้ท่านว่าใช้เพื่อให้ทุกสิ่งที่มันได้ชื่อว่าดีกับตัวเราเข้ามาในชีวิต หนุนให้ตัวเราสูงยิ่งขึ้นเหยียบเอาชัยเหนือผู้อื่นจนเขาหมอบกราบยอมแพ้กันแบบนั้น คนที่ชีวิตไม่ค่อยจะดีท่านว่าผงนี้จะพลิกกลับให้ชีวิตพลิกผัน จะกลับร้ายกลายเป้นดี พลิกชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองทั้งการเงินการงานความรักการเสี่ยงดวง...ครบเครื่อง
    - ผงภาคพระราหู วิชาสายราหูนั้นใช้ได้หลายเรื่องจะเน้นให้บังเกิดโชคลาภ ถามหาโชคใหญ่ เปลี่ยนคนโชคร้ายให้โชคดีมีทรัพย์ คนที่ดวงตกดวงไม่ดีดวงด้านการเงินเจ๊งเปลี่ยนให้ทำมาค้าขึ้นค้าขายคล่อง คนที่ดวงด้านความรักไม่ดีก็จะมีแต่คนรักคนเมตตา คนไม่มีคู่ก็จะพบคู่เรียกว่าใช้ได้หลายทาง แต่วิชานี้ส่วนใหญ่ต้องทำในคืนราหูอมจันทร์บางอย่างพ่ออาจารย์ท่านต้องทำอาถรรพ์นำผงออกมาอาบแสงจันทร์เป็นปี บางอย่างก็ผ่านพิธีรับส่งราหูมาหลายพิธี ที่เรียกว่าผงภาคพระราหูนั้นเพราะท่านท่านทำผงวิชาราหูหลายตำรับนำมาลบรวมกันเพื่อเน้นกำลังให้แรงที่สุดด้วยวิชาสายราหูนั้นจะเรียกเรียกเงินเรียกทองเรียกโชคลาภทรัพย์สินความร่ำรวยยิ่งยิ่งขึ้นไปให้เกิดกับผู้ที่นำมาสักการะบูชา ท่านว่ามีครบหมดทั้งราหูหาทรัพย์,ราหูค้นทรัพย์,ราหูรับทรัพย์,ราหูสะกดภูมิ(ท่านว่าตัวนี้แรงเพราะสะกดได้หมดแม้แต่เจ้าที่พระธรณีหรือเทวดาทั้งหลายรวมไปถึงสะกดอาถรรพ์สถานที่ต่างๆที่เราอาศัย) ท่านอธิษฐานจิตฝากพระราหูให้ช่วยเรื่องทรัพย์และการเสี่ยงดวงเป็นทางเฉพาะ ให้ผู้สักการะมีคนอุปถัมภ์คอยช่วยเหลือเวลาไร้ที่พึ่งพิง
    - ผงสมบัติพระอินทร์ ใช้สร้างคนให้เป็นมหาเศรษฐีเน้นทางมหาลาภใหญ่ ให้ผู้อาราธนาประสบความสำเร็จสมหวังในสิงที่ปรารถนาทั้งค้ำคูณหนุนดวงให้เจริญรุ่งเรืองดุจมีสมบัติเทวดาสมบัติพระอินทร์มีวาสนาจอมเทพนำทางชีวิต ผงนี้ท่านว่าใส่ไว้เดินไปทางไหนติดต่อใครไม่มีคนกล้าเกลียดเป็นที่รักของทั้งคนและเทวดาทั้งหลาย ไม่มีคำว่าอดอยากยากจนเพราะเป็นของทิพย์ ต่อให้ยามขัดสนหมดหนทางจริงๆก็จะเห็นทางไป เห็นทางออกที่ใช้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
    - ผงมนต์ดูดจิต ใช้ดูดจิตดูดใจให้มีคนมารักใคร่จะดูดจิตให้รักหรือดูดทรัพย์เข้ามาหา ดูดอะไรมาใส่ปากให้เรากลืนให้เรากินก็ได้ทั้งนั้นขึ้นอยู่ที่เจตนาเอาไปใช้ เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมและมหาลาภอยู่ในตัวเอง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือดูดจิตเรียกใจคนได้
    - ผงเต่าเลือนสูญความ ท่านว่าปกติวิชาเต่าก็ดีทางทำมาค้าขึ้นหนุนดวง เป็นสุดยอดทางมหาลาภเน้นโชคลาภดีอยู่แล้ว แต่เต่าเลือนนี้ยังช่วยให้ทุกข์ให้ถ้อยความสูญไปผ่านพ้นไปด้วยดีให้มีชัยชนะเหนือศัตรูคู่แข่ง ชนะคดีทำให้ศัตรูเลอะเลือนงุนงง ถ้าเราใช้เพื่อการแข่งขันผงนี้จะช่วยให้เรามีชัยเหนือศัครูคู่แข่งเสมอ ที่ทุกข์ที่ร้อนนั้นสูญสิ้น มีเรื่องมีความติดตัวก็เบาลงคลายลงผ่อนลง พ่ออาจารย์ท่านว่ามีชีวิตอยู่ย่างปกติสุขตามที่ควรจะเป็นนั้นแหละดีที่สุด
    - ผงสุริยกาล ผงนี้เกิดจากสุริยะเทวราชเมื่อครั้งที่ได้เข้ากรรมบำเพ็ญตบะเพื่อจะดับรัศมีความร้อนในร่างกายพระองค์ให้บรรเทาลงเสีย ด้วยตบะกรรมแห่งพระอาทิตย์เทพ จึงได้เกิดไคลตกลงมาเป็นตะกอนก้อนผง ท่านว่าผงนี้มีคุณอย่างวิเศษ แม้ใครเดือดร้อนทุก์ใจ เจอเรื่องร้ายอย่างใดก็ตามที ทุกสิ่งที่ว่าร้ายจะต้องกลายเป็นดี ทุกสิ่งที่เป็นกาลร้อนจะต้องสงบระงับไป เหลือแต่เพียงความสุขสมหวัง ความเจริญรุ่งเรืองเท่านั้น
    - ผงจันทรกาล เมื่อครั้งจันทรเทพได้ก่อเทวาสุรสงครามขึ้น พระองค์ได้เสด็จยังโลกมนุษย์เพื่อจะรวมกองทัพฝ่ายมนุษย์และเหล่าเทพอสูรต่อกรกับบรรดาเทพเจ้าทั้งหลาย ซึ่งกาลนั้นเองที่เป็นปฐมเหตุของตระกูลกษัตริย์จันทรวงศ์ที่จะสืบเชื้อสายต่อไปในชมพูทวีปได้อุบัติขึ้น ผงจันทรกาลจึงเกิดขึ้นเมื่อครานั้น เมื่อจันทรเทพได้บำเพ็ญตบะกรรมจนสำเร็จพิธีราชสูรยะ รัศมีของจันทรเทพก็สาดส่องไปกระทบกับมวลอากาศเกิดเป็นละอองขึ้นมา ซึ่งผงนี้เรียกว่าผงจันทรกาล เหล่านางฟ้า เทพธิดา อัปสรสวรรค์หรือแม้แต่นางพรายก็จะคอยเฝ้าไว้ด้วยความหวงแหน ซ้ำตนเองยังหลงใหลในผงนี้เสมอด้วยได้เห็นหน้าจันทรเทพอีกด้วย ท่านว่าเป็นที่สุดของผงทางเมตตามหานิยมเอาว่าขนาดนางฟ้ายังหลงเช่นนั้น ด้วยว่าผงทั้งสองชนิดนี้ต้องอยู่คู่กันจะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้ ท่านว่าเพราะธาตุพลังงานนั้นเกื้อหนุนกัน แม้จะใช้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็จะไม่เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด ด้วยว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากเทพยดา มีการพิทักษ์รักษาไว้อย่างดี เป็นของที่มีต้นกำเนิดมาจากองค์กำลังแห่งธาตุแสง ใช้เบิกชีวิตคนได้ ใช้เปิดโลกเปิดภพภูมิได้ เป็นแสงสว่างที่จะทำลายความมืด ขจัดกลียุค ทำลายเสียซึ่งอุปาทวจัญไรทั้งปวง ท่านจึงนำผงทั้งสองนี้ผสมด้วยกันและเพิ่มมวลสารมงคลอื่นๆได้แก่
    - ผงคตไข่แก้วงูจงอาง พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นที่สุดของอำนาจ ตบะบารมี บริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติที่จะประทานให้กับผู้ถือครอง สำหรับผงนี้ท่านว่าสำคัญนักเมื่อจะทำแล้วจะขาดไปไม่ได้ เหล่าพญางูหรือผู้พิทักษ์ทรัพย์แผ่นดินทั้งหลายจะได้ช่วยกันเต็มที่ ดังนั้นจะให้ใครรวย จะเกื้อหนุนใคร จะเปิดดวงใคร จึงเป็นหน้าที่โดยตรงของท่าน
    - ผงสำเร็จหลวงพ่อปาน เป็นผงเก่าตกทอดมาแต่สมัยหลวงพ่อปานท่านสร้างพระพิมพ์ทรงสัตว์ โดยผงนี้ท่านจะบรรจุอยู่ภายในพระพิมพ์แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเหมือนหัวใจ เหมือนพลังงานขององค์พระเลยก็ว่าได้ ถ้าหาพระพิมพ์ทรงสัตว์ของเก่าไม่ได้ท่านว่าให้เอาใช้แทนกัน
    - ผงลบวิชาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ วิชาเอกที่อำนวยลาภผล โชคลาภให้สำเร็จมาแล้วมากมาย หากใช้โดยจิตเมตตา และผู้ถือครองให้ท่านเป็นนิจ จะยิ่งมีแต่ทรัพย์สินงอกเงยเพิ่มพูนขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ด้วยอำนาจแรงครูบันดาลให้เป็นไป
    - ผงลบคาถารัตนมาลา ที่สุดแห่งคุณแก้วสามประการ พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอานุภาพเป็นเอนกอนันต์ด้วยอำนาจพระรัตนตรัยไม่สามารถบรรยายได้หมด ท่านว่าปรารถนาสิ่งใดก็มีครบ แม้ไม่ต้องปรารถนาก็ยังมี สุดแท้แต่จะขอจะอธิษฐานเอาตามเหมาะตามควร
    - สีผึ้งและนำมันครูเก่า เป็นของบูรพาจารย์ที่สืบทอดมามากมายหลายสิบชนิด ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้เคยไปขอเมตตาและท่านประสิทธิ์ประสาทให้มา ที่สำคัญมีสีผึ้งที่หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล และหลวงปู่ฝั้นท่านเคยใช้สีปากด้วย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าลมหายใจ น้ำลาย ไอปากของพระอริยเจ้า นี่แหละของวิเศษที่สุด
    - ว่านยาทางโชคลาภ หนุนดวง เมตตา มหานิยม ซึ่งเป็นว่านยาพิเศษที่มีฤทธิ์ในตัว มีอำนาจ มีตัวตนต้องปลูกต้องพลีด้วยวิธีเฉพาะทั้งสิ้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมมาผสมไว้
    - ผงมหาสะเดาะพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเเต่เดิมวิชานี้เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งในภาควิชาของเทพนิมิตร ท่านได้เฝ้าครูมหาพรหมคือองค์สหัมบดีบรมพรหมสูงสุดแห่งปัญจสุทธาวาสท่านจึงได้วิชานี้มา โดยใช้วิชานี้ตั้งตัวเเละทำไว้ให้ลูกศิษย์บ้างเฉพาะบางคนที่มีความประพฤติดี วิชานี้องค์บรมพรหมท่านให้มาโดยเฉพาะ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าแก่นเเท้ของวิชานี้ต้องสวนกับกระเเสของกรรมในระดับหนึ่ง พระองค์ท่านได้มอบอักขระให้พร้อมคาถาเสกเรียกว่ามหาสะเดาะ ครูท่านบอกว่าเพราะสัตว์นั้นมีกรรมเฉพาะเเต่ละบุคคล ถึงมีโชคบางทีก็รับไม่ได้ บางครั้งกรรมส่งผลหนักเเม้โชคก็ยังไม่มีเลยผงมหาสะเดาะ ในจุดนี้เพื่อให้ผู้ใช้ได้เสวยศุภมงคลอันเกิดเเต่โชคลาภวาสนา พระองค์ท่านจึงให้วิชามหาสะเดาะเเก่พ่ออาจารย์ ท่านว่าเมื่อพกไว้บูชาไว้กับตัว จะสะเดาะโซ่ตรวนบ่วงพันธนาการที่กุมรัดให้หลุดออก ให้ไขว่คว้าโชคลาภได้ จะทำอะไรก็มีเเต่โชคร่ำรวยง่ายๆโชคดีเเบบนั้น ในส่วนของเวรกรรมนั้นก็ไม่ได้หายหรือสลายไปไหน เพียงเเต่คลายพันธะทั้งหมดออกชั่วคราวให้สัตว์เหล่านั้นที่ได้บูชาสามารถรับโชคได้เเต่กรรมเก่าก็ยังรับเหมือนเดิม พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชานี้มันดีตรงที่เวลามีโชคพูดง่ายๆคือมีเงิน ให้เอาเงินไปทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวร บ่วงกรรมมันก็จะบรรเทาเบาบางลง ทีนี้อะไรก็ง่ายไปหมด ทำไปเรื่อยๆได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำบุญ ได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำการกุศลอุทิศให้เขา เช่นนี้ก็ขึ้นชื่อว่าต่อไปบ่วงพันธนาการต่างๆก็จะลดจะคลายลง เงินเเละความโชคดีมันจะยิ่งไหลมาไม่รู้จบ เมื่อท่านลงวิชาทำผงมหาสะเดาะลงด้วยว่านยาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจะล้อมมหาสะเดาะด้วยวิชาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ของหลวงพ่อปาน วัดบางโคนม พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ดีมากอยู่เเต่เดิมเเล้วในส่วนของพระคาถาไม่ต้องกล่าวอะไรมาก เเต่พอนำมาลงวิชาทำผงกลับต้องทำให้มากขึ้นไปอีก คืออัญเชิญบารมีพระปัจเจกพุทธเจ้าอันอภิเษกพระสัมโพธิญาณทั้งหลาย ซึ่งพระปัจเจกโพธิเจ้านั้นมีจำนวนมากกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรทั้งสี่ เอ่ยอ้างมหาบารมีในระดับโพธิญาณซึ่งสูงกว่าระดับวิปัสนาญาณของพระอรหันต์ทั่วไป มาช่วยเป็นตัวเบิกทางลดกระเเสเวรกรรมให้ผู้บูชาประสบโชคดี เมื่อเหล่าพระปัจเจกโพธิเจ้าทั้งหลายช่วยกันสงเคราะห์ ผสานกับพระเวทย์ในสายบรมพรหมสหัมบดีวิชานี้จึงรับเเละหนุนกันเป็นทอดๆ หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ลงพระเวทย์เฉพาะอันท้าวสหัมบดีบรมพรหมท่านสอนไว้ พระเวทย์นี้ไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดเผยเเก่ผู้ใด ท่านลงผงวิเศษล้อมวิชาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์อีกทีหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพระเวทย์นี้ต่อให้อยู่เฉยๆโชคลาภก็วิ่งเข้ามาหาเอง เเม้ปรารถนาเงินทองของมีค่าความสุขสบายใดก็ไม่ไกลเกินความปรารถนา จะเสี่ยงโชคจะพนันขันต่ออะไก็เอาเเต่พองามตามใจเถิดก่อนที่ท่านจะลบเอาผง ท่านว่าพระหรือเครื่องมงคลใดๆก็ดีที่สร้างด้วยผงนี้ ผู้ใช้ให้พึงรู้แก่ใจไว้ว่าอยากได้อะไรเท่าไหร่ให้ตั้งสัจจะกับผงนี้ไว้ ว่าวันนี้อยากได้เท่าไหร่ได้เเล้วให้พอให้หยุด เเล้ววันอื่นค่อยขอเมตตาในส่วนมหากรุณาของเสด็จปู่ท้าวสหัมบดีต่อไป ผงนี้มีอำนาจอาญาสิทธิ์ด้วยผู้ที่บูชานั้นเทพเจ้าท่านจะต้องสงเคราะห์ถ้วนทุกคน ไม่มีเลือกที่รักมักที่ชังโปรดเสมอหน้ากันหมดรักเราเต็มใจโปรดเรา อีกประการหนึ่งท่านว่าจะทิ้งวิชาทางเมตตานั้นไม่ได้ ยิ่งโชคลาภการพนันเสี่ยงดวงด้วยเเล้วมันต้องเดินไปควบคู่กับเมตตา ใครเห็นเราเค้าก็เต็มใจให้เรายิ้มให้กับเรา เราเอาเงินเขามาง่ายๆไม่ขัดขืนเรา เช่นนั้นผงมหาสะเดาะนี้ท่านจึงลงไว้ครอบคลุมทั้งหมด
    ทั้งยังเข้าด้วยมวลสารวิเศษที่ครูพรหมท่านให้หาไว้ได้แก่
    ดินกากยายักษ์,ผงเขี้ยวหนุมาน,ผงถ้ำเทวาพิทักษ์,ผงพระธาตุสีวลี,ผงเพชรหน้าทั่ง,นิลตัดเหล็ก,ผงบัวผุด,ขี้เหล็กเปียกภูสิงห์,เหล็กไหลพญานาคภูเขาควาย,แร่ทรหดประเทศลาว,ทรายดำหลวงปู่ทวด,ด้วงหิน,ข้าวสารหิน,ข้าวสารดำ,เหล็กไหลย้อย,เพชรประสาน,เหล็กน้ำพี้,ทรายคำ,ผงจักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่,แร่บางไผ่,แป้งเสกหลวงปู่บุดดา,น้ำมันชาตรีหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ด้านหลังฝังด้วยน้ำมันชำระตัดแรงบรรเทาวิบาก
    *** น้ำมันนี้พ่อาอจารย์ท่านว่าหุงยากมากเพราะเป็นสูตรของครูพรหมท่านว่ามีฤทธิ์แรงกว่าสมัยทำตะกรุดนับหมื่นๆเท่า ท่านว่าจะเล่าจะบอกอะไรก็ไม่ได้เลย บอกได้แค่ว่าแบ่งให้ใช้ได้คนละแค่นี้ก็นับว่าเหลือกินในชีวิตแล้ว
    เพราะวิบากเป็นผลที่เกิดขึ้นจากเหตุแห่งการกระทำกรรมนั้น ตามกฏสังสารวัฏชัดเจนว่าเมื่อมีเหตุก็ต้องมีผลตามมาเช่นกันเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นกรรมจะดีหรือชั่วก็มีผลอยู่ในตัวเองทั้งสิ้นทั้งยังจะอยู่ติดตัวเราตลอดไป เพราะทั้งกรรมดีและกรรมชั่วจะคอยอยู่เคียงข้างเราไปตลอดโดยไม่แยกไปไหน ทดแทนกันไม่ได้ไม่ใช่ว่าฉันมีกุศลมากกว่าฉันจะล้างบาปได้เช่นนี้ดั่งที่พระตถาคตเจ้าท่านสอนไว้ว่า “ดูก่อนปุณณะ กรรมสี่ประการนี้..กรรมดำ มีวิบากดำมีอยู่,กรรมขาว มีวิบากขาว มีอยู่, กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำทั้งขาวมีอยู่,กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาวเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมมีอยู่” นั่นหมายถึงทั้งกรรมดำ,กรรมขาวก็มีวิบากกรรมของตนเอง เป็นคนละเหตุ คนละปัจจัยและส่งผลคนละอย่างกัน ดังนี้

    - แนวทาง,ผลและการกระทำที่แสดงออกมาออกมาในด้านลบ คืออกุศล หรือบาป
    - บุญกุศลที่ส่งผลกระทำให้ชีวิตมีความสุขและสังคมก็มีความสงบ หลุดพ้นจากทุกข์ได้
    - เป็นผลแห่งการกระทำที่มีทั้งบวกและลบปนกันทำให้ผลกรรมออกผลมาเกิดทั้งสุขและทุกข์ปนกันไป
    - ส่วนกรรมอันแสดงอยู่เป็นกลางๆนั้นคืออพยากตากรรม เช่นการทำกิจวัตรประจำวันปกติ

    วิบากกรรมนั้นไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว,ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศล ล้วนแต่ส่งผลของตนเองทั้งสิ้นโดยมีองค์ประกอบมาจากการกระทำเกิดจากตัวเราเองเป็นเหตุและผลของมัน,เป็นสิ่งที่เราสร้าง,เป็นสิ่งที่เราสะสมมา เมื่อมีปัจจัยย่อมเกิดผลลัพธ์ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ในส่วนที่ดีนั้นก็แล้วกันไปแต่ในส่วนที่ร้ายอันหลายๆคนได้ประสบพบเจอก็จะเป็นเหตุทำให้ชีวิตจ่อมจมและร่วงหล่น เจอแต่สิ่งแย่ๆอุบัติขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วนทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านให้พิจารณากันเองว่าชีวิตของเรานั้นมีเรื่องเหล่านี้หรือไม่
    - เป็นคนทำบุญคนไม่ค่อยขึ้น ลำบากมาตั้งแต่เด็กพอมีเพื่อนเข้าสังคมก็มีแต่ปัญหา เป็นชนวนให้เราเข้าไปพัวพันเรื่องผลประโยชน์ได้เสีย,เรื่องเงินทองทรัพย์สิน ไม่ว่าจะช่วยเหลือใครไปก็ตามคนเหล่านั้นจะหาเรื่องปวดหัวตามมาให้ไม่เว้น ในส่วนคุณงามความดีนั้นแม้เราสงเคราะห์เพียงใดก็ไม่มีใครมองเห็น ทำดีกับใครก็ไม่เกิดผลใดๆ
    - เป็นคนชอบเชื่อคนง่ายและไว้ใจคน ทั้งยังเป็นคนกตัญญูกับผู้ที่ให้การช่วยเหลือแต่มักจะต้องเจอปัญหากับเรื่องของคนอื่นดึงเราไปเกี่ยวข้องอยู่เสมอ
    - มีกรรมจากความรัก มากรักแต่งงานบ่อย ได้คู่ยาก ได้คู่ต้องหลบซ่อน ได้คู่ที่ต่างวัยกัน ยิ่งรักยิ่งเจ็บยิ่งแค้น บางคนก็เกิดมาไร้คู่ ในส่วนคนที่มีคู่ก็กลายเป็นคู่ครองนำมาซึ่งปัญหา มีคู่ที่วาสนาบารมีไม่เสมอกัน เหล่านี้ล้วนเป็นวิบากทั้งสิ้น
    - ชอบโดนกลั่นแกล้ง,โดนรังแก,โดนเอาเปรียบ ยิ่งเราดูสบายๆง่ายๆก็ยิ่งมีปัญหาแบบนั่งอยู่ดีๆก็มีคนใส่ร้ายไม่รอให้เราแก้ไขหรือแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น ยิ่งหากตนมีอารมณ์ร้อนเป็นคนตรงก็จะยิ่งโดนรังแกมากขึ้นไปอีก ทั้งโดนเพ่งเล็ง โดนเอาเปรียบสารพัด
    - คนรอบตัวไม่ให้ความสำคัญมักจะนึกถึงเราในอันดับท้ายๆ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากใครเท่าที่ควร
    - งานที่ทำไม่สำเร็จ ไปได้ครึ่งๆกลางๆต้องออกกระทันหัน ต้องเลิกแบบไม่เต็มใจ เป็นคนท้อแท้เบื่อง่าย ชีวิตต้องเหนื่อย ต้องดิ้นรน แบกรับภาระที่เหนื่อยเกินตัวจะรับไหว
    - ปากพาจน มีคนเชื่อถือแต่ก็เอาทุกข์มาให้โดยไม่รู้ตัว มีบุคลิกเจ้าชู้ทั้งๆที่ไม่ใช่คนแบบนั้น นับว่ามีเสน่ห์อยู่ในตัวเองแต่ก็ต้องเหนื่อยเพราะปัญหาที่ไม่ได้ก่อตลอดเวลา
    - เป็นคนไม่รอบคอบ สติหลุดลอยจิตไม่นิ่ง แม้มีปัญญาสูงไหวพริบดีก็จะมีบุคลิกที่ดูไม่จริงใจไม่น่าคบหาเชื่อถือ
    - มักจะปวดหัวอยู่ข้างเดียวเป็นๆหายๆหรืออวัยวะร่างกายมีปัญหา ให้ความจริงใจกับใครก็กลายเป็นว่าอยู่ต่อหน้าเค้าทำกับเราอย่างนึง ลับหลังเค้าทำกับเราอย่างนึง
    - ชีวิตยังไร้จุดหมาย,ยังไม่รู้จักตัวตนของตัวเอง,ยังหาความสุขแท้จริงของชีวิตตัวเองไม่เจอ มีแต่ปั้นหน้ายิ้มแต่ภายในไม่มีความสุข ชอบสงสารชอบเห็นใจคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองใช่ว่าจะดี มีปัญหาทั้งความคิดและอารมณ์ยึดติด อาภัพคนอุปถัมภ์ คิดมากเรื่องเล็กๆน้อยๆ..เรื่องเก่าๆ..หาเงินเก่งแต่ก็ใช้เงินหมด
    - มีชีวิตที่สูญเสีย จ่อมจมอยู่กับเรื่องวิตกกังวล โดนคนเอาเปรียบต้องทุกข์ใจเสมอ พลัดพรากจากคนรักจากของรัก โดนทำร้ายจิตใจ
    ...ท่านว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้มีมากมายจนยากจะกำหนดเป็นคำพูดหรือตรรกะใดๆได้ ให้พิจารณาดูว่าตัวเองเป็นคนที่เจอกับเรื่องเหล่านี้หรือไม่ ถ้าใช่นั่นก็แปลว่าชีวิตเรานั้นวนเวียนอยู่ในวิบากกรรมที่กำลังส่งผลร้ายมากกว่าดี
    พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันชุดที่หุงพิเศษนี้จะป้องกันกระแสกรรมร้ายหรือไปยุ่ง,ขัดขืน,ต่อต้านกับชะตาฟ้าและอำนาจที่มองไม่เห็น เป็นดั่งกุศลจิตที่ต้องใช้ความตั้งมั่นอย่างสูงด้วยวิชาเหล่านี้พบเห็นได้น้อยมากทั้งยังไม่แพร่หลาย ไม่ใช่ของตลาด กล่าวได้ว่าไม่ใช่นึกอยากจะทำก็ทำได้ ต้องทำตามฤกษ์ ตามปัจจัยมงคลด้วยใจบริสุทธิ์ดั่งเจตนาครูท่านที่ให้ทำวิชาไว้สงเคราะห์ดุขครูท่านเล็งญาณกำหนดมาแต่เริ่มทำไว้ให้เป็นของส่วนตัว..ของที่มีชะตาต้องกันคู่กับเจ้าของดั่งฟ้ากำหนด พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเช่นนี้ถ้าพกไว้ซักระยะนึงจะเห็นผลมากเกินกว่าคุณวิชาเพราะว่าจิตเรานั้นจะซึมซับกระแสบรมครูเข้าร่าง,เข้าใจซึมอยู่กับเราไปทุกภพทุกชาติ นานไปจะรู้เองว่าสามารถสัมผัสองค์ท่านได้ติดต่อองค์ท่านได้ค่อยๆสว่างมากขึ้น และถ้าสัมผัสกันมากขึ้นเรื่อยๆนานกว่านั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าจะสื่อสารกับเทพทั่วโลกก็ยังทำได้..อันนี้เป็นเรื่องของครูท่านจะเปิดให้เราหรือไม่เมื่อไหร่ วิชาเช่นนี้เมื่อหมื่นปีก่อนก็ยังมีและปัจจุบันนี้ก็มีแต่จะหาที่แท้จริงนั้นคงยาก

    ### น้ำมันนี้ดีอย่างไรพ่ออาจารย์ท่านว่าห้เราก็ใช้เองของเราด้วย ถามว่าดีอย่างไรครูพรหมท่านบอกไว้แค่ชำระไอวิบากตัดแรงบรรเทา จากที่ตัวท่านใช้ท่านว่ามันไม่ใช่ชำระปกตินะแต่คนที่มีวิบากกรรมเหมือนครูท่านจะรู้ได้ หากเป็นกรรมร้ายวิบากที่ก่อทุกข์ยิ่งคนจำพวกนี้ใช้จะยิ่งมีฤทธิ์แรงกล้ามากกว่าปกติ เราดูได้จากช่วงไหนๆถ้าดวงเราตกพระเคราะห์เสวยอายุ น้ำมันนี้จะเดือดขึ้นมาเลยเขาจะชำระไอวิบากกรรมในตัวเรา ..ชำระอย่างไรก็ชำระเข้าตัวเขา การชำระนี่ก็เหมือนเธอใช้เงินชำระค่าใช้จ่ายนั่นแหละจ่ายไปก็จบหนี้กันสิ่งนั้นช่วงเวลานั้นก็ไม่ใช้ภาระของเราแล้ว หมดภาระกันไป จึงเรียกได้ว่าชำระตัดแรงและบรรเทา พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆแล้วฉันไม่ควรพูดเลยเพราะเป็นวิชาของครูบรมพรหม เป็นกิจของท่านที่ท่านเลือกคนของท่าน จะชำระอย่างไรก็เป็นลีลาของท่านเรียกว่าเป็นรหัสลับที่เปิดเผยไม่ได้พอแต่จะบอกได้ว่าให้เอาติดตัวไว้ตลอดก็พอย่าเอาไปติดบ้าน ถ้าติดกับตัวพอมีวาสนาชะตาร้ายเมื่อไหร่นั่นแหละเขาชำระทิ้งทันที ชำระให้ไม่ได้เกิดขึ้นเลย ชำระ ตัดแรง ..บรรเทาให้ชีวิตเราที่ว่าหนักก็เบา ที่เบาอยู่ก็สบาย ด้วยขึ้นชื่อว่าวิบากนั้นย่อมส่งผลได้สารพัดเรื่องตามเหตุและปัจจัยกรรมที่ทำมาต่างคนก็ต่างเรื่องร้อยสาเหตุหมื่นเหตุผล ขึ้นชื่อว่าวิบากแล้วจึงเกินอำนาจผู้ได้ล่วงเกินได้ ยกไว้แต่บรมพรหมอันมีหน้าที่ตรวจสอบและปัดเป่าเคราะห์กรรมของผู้ภักดีเท่านั้น เมื่อจิตถูกรบกวนดวงก็ตก ชีวิตก็เครียดใจก็ฟุ้งซ่านอารมณ์จึงหงุดหงิดง่าย เช่นนี้จะคิดจะไตร่ตรองทำสิ่งใดย่อมไม่ออกมาเป็นผลดีแต่เพียงน้อย ด้วยไม่ได้มีสติ ห่วงหน้าพะวงหลังภาระรัดรึงเต็มไปหมด หนักบ่าหนักชีวิตจะวางลงสักอย่างก็ไม่ได้ ด้วยอำนาจร้ายหรือวิบากดำนั้นกำลังต่อต้านความพยายาม,ความสำเร็จของเราอยู่ ใจของเราที่ขุ่นมัว ชีวิตที่มีปัญหา หนทางที่ไม่ได้แก้ไขทุกสิ่งนั้นย่อมมีสาเหตุ ดั่งควันจะไม่เกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีไฟ เพราะสรรพชีวิตมีวิถีให้ตั้งอยู่และดับไป พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขอครูเอาน้ำมันนี้ออกมาฝังเพื่อจะได้ปลดเปลื้องปัญหาทุกข์ของผู้ที่เป็นเจ้าของและมีวาสนาสัมพันธ์กัน
    *** ท่านย้ำว่าชุดน้ำมันนี้อย่างแรงกว่าสมัยท่านออกตะกรุดมาก เพียงพกก็พอ เพราะอาถรรพ์กระแสและรัศมีของน้ำมันนั้นโดยปกติเขาก็ซึ้มเข้าเนื้อเข้าตัวเข้าชีวิตไวที่สุดอยู่แล้ว

    ด้านซ้ายขวาขวดน้ำมันนั้นท่านเชิญแร่สองชนิดอันมีเทพศักดิ์สิทธิ์รักษาเรียกว่าแร่ดูดกรรม...แร่สลายกรรม ท่านว่าฝั่งหนึ่งดูด อีกฝั่งสลาย เป็นการขับพลังชีวิตในตัวเราให้ผ่อนคลายสิ่งที่หนักหนาเกินจะรับทั้งกระตุ้นพลังให้สร้างขึ้นใหม่เปิดรับวาสนาทั้งหลายที่องค์ตั่วเหล่าเอี๊ยท่านจะประทานให้ นอกจากนี้ท่านยังฝังตะกรุดเงินสำคัญอันเป็นโองการขององค์ตั่วเหล่าเอี๊ยที่ให้ท่านทำลงไว้ด้วย ท่านว่าวิชานี้อยู่ที่ไหนองค์ท่านก็อยู่ตรงนั้น(มีอาถรรพ์มาก พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เมื่อลงเมื่อเชิญท่านมาแฝงบารมีแล้ว แม้เพียงวางไว้เฉยๆคนเดินผ่านไปผ่านมายังเห็นเทพจีนองค์ดำ***องค์ตั๊วเหล่าเอี๊ยแท้จริงท่านกายดำ พ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าฝังลงไปในรูปท่านนั้นเป็นการเปิดบารมีก่อนจะเสกอีกคำรบหนึ่งอย่างแท้จริง)

    จะเห็นว่าพ่ออาจารย์ท่านพิถีพิถันเรื่องมวลสารมากเป็นพิเศษที่สุดนับตั้งแต่ท่านสร้างเครื่องมงคลมา เหมือนจะประกาศว่านี่คือของดีที่สุดของท่านเพราะท่านพูดแค่องค์ตั่วเหล่าเอี๊ยให้ทำรูปท่านแล้วเราต้องทำให้สมศักดิ์ศรี จะให้คนเค้าใช้หักด่านเคราะห์กรรมชะตาชีวิตแล้วต้องใช้ได้จริง นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังเน้นย้ำว่าองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยไม่เพียงแต่มนุษย์จะนับถือแม้เทพด้วยกันยังนับถือท่าน ท่านจึงเป็นเทพที่มีคณะมีบริวารมาก บริวารท่านล้วนแต่เซียนศักดิ์สูงที่ออกนามแล้วย่อมสั่นสะเทือนทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเทพเทพต่างๆทั้งหลาย(พ่ออาจารย์ท่านว่าเบื้องบนไม่ให้พูด)เรียกว่าครบครันพอที่จะอำนวยความอุดมสมบูรณ์ในชีวิตคนได้
    ในยุคที่กิจการต่างๆพากันปิดตัว โรคภัยระบาดรุนแรง ...ชีวิตคนเริ่มหาที่ยึดเกาะไม่ได้ พ่ออจารย์ท่านว่าคนที่มีภาระมีอุปสรรคมากให้เชื่อเรา เอาองค์ท่านไปติดตัวอาราธนาเสียชีวิตไม่ต้องหาอะไรมาหนุนดวงอีกเลย จะกลับชีวิตให้ก้าวหน้ามากมายในเวลาในขณะที่คนอื่นต้องตกต่ำพบเจอชะตากรรมในห้วงเวลาเลวร้ายที่สุด คนที่ชะตาไม่ดี ชีวิตวุ่นวาย ขาดการเอาใจใส่จากเทพพรหมเหล่านี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าสังเกตุกันเอาเอง เดี๋ยวจะเห็นว่าไวพอที่ต้องการหรือไม่ จะดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ปานใด อุปสรรคปัญหาจะคลี่คลายลดลงอย่างไร ท่านว่ารอดูกันฉันบอกได้เลยว่าแม้แต่ตัวเธอก็ยังไม่เชื่อตัวเอง

    คาถาบูชา
    (พ่ออจารย์ท่านว่าเทพเซียนท่านสำเร็จแล้วไม่ต้องไปท่องให้ยุ่งยาก ท่านสถิตย์อยู่เหนือหัวเราเพียงเท่านี้ ให้ทำใจให้ใสสะอาด ทำใจให้สงบ อยากขอ อยากบอก อยากอธิษฐานสิ่งใดก็ทำได้เต็มที่เลย)

    *** ท่านว่าเหรียญเหาะเหยียบเมฆนี้ฉันบอกเธอตรงๆชัดๆจนไม่รู้จะชัดไปกว่านี้ได้อย่างไร คำว่าเหาะไม่ใช่ใส่แล้วบินได้ แต่หมายถึงตัวเธอจะเบาลงๆ ภาระจะน้อยลงๆ นั่นคือเบาบางดุจปลดปล่อยสิ่งถ่วงสิ่งเหนี่ยวรั้งออกไป เหมือนเบาจนเหาะได้ไปเหยียบเอาก้อนเมฆอันเป็นที่สูง เป็นภูมิสวรรค์คือไปดีขึ้นสูงขึ้นสบายขึ้น ท่านว่าบอกกันได้เท่านี้ เหรียญนี้ท่านทำไว้เจ็ดเหรียญ ปัจจุบันมีให้บูชาเพียง 4 เหรียญเท่านั้น เพราะท่านใช้เองเหรียญหนึ่งด้วย รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อวันเดือนปีเกิด รวมไปถึงความหวังอันจะมีในอนาคตแก่องค์ตั่วเหล่าเอี๊ยไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมและบอกกล่าวอีกวาระหนึ่งายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยเหาะเหยียบเมฆ(ผันล้างด่านเคาะห์หมื่นพันชะตามนุษย์) บูชา 4,000 บาท


    88369618-553357588860847-1920174286270627840-n.jpg 87948116-1269648779893069-2433910125002489856-n.jpg
    88100435-195466555009196-2712893385026306048-n.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระธรรมสวามีผงพุทธอุปถัมภ์พยาบาลรักษาปิดเคราะห์ซ่อนกรรม(ชุดอโรคยาสงเคราะห์โรค)


    "เมื่อไหร่ที่บารมีถึงพร้อม...ให้เธอทำผงพุทธอุปถัมภ์ให้ลูกหลานของฉันเสียคราวหนึ่งนะ"
    "สำหรับคนที่ไม่มีอะไรมา...มาแต่ตัว ไม่มีอนาคตอะไรเลยท่านต้องช่วยพวกเขามากๆหน่อยนะครับ”
    "พระผงพุทธอุปถัมภ์นี้พระใหญ่ท่านให้ทำมาใช้ติดตัวนะ ไม่เหมาะสำหรับเก็บไว้เฉยๆใครวางไว้นานๆไม่ใช้เดี๋ยวหายได้ แหมม..ของดีก็ต้องใช้ก่อนใช่มั๊ยจึงจะรู้ว่าดี"


    พระพุทธเจ้าผู้เป็นสรรเพชชุดาญาณนั้นท่านคือครูผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ด้วยทรงมีคุณทั้งสามได้แก่พระปัญญาคุณ,พระบริสุทธิคุณ,พระมหากรุณาธิคุณโดยปรกติ เมื่อเสด็จพระใหญ่ท่านให้พ่ออาจารย์ทำผงพุทธอุปถัมภ์โดยอาศัยพุทธานุภาพนั้นก็เพื่อที่จะได้พยาบาลรักษาปิดเคราะห์ซ่อนกรรมช่วยเหลือบุคคลอันมีบุญสัมพันธ์กันมาก่อนร่วมกับท่าน คนที่เกิดไม่ทันยุคศาสนาของท่าน...หรือคนที่ผ่านกระแสธาราของกฏแห่งกรรมอันเชี่ยวกรากมาจนถุงยุคนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาพุทธอุปถัมภ์นี้เจาะจงเหลือเกินในการที่จะคํ้าจุน,คํ้าชูทั้งให้การสนับสนุนผู้ตั้งจิตอาราธนา เปรียบเสมือนการรับเราไว้ในอุปถัมภ์,อุปการะของเสด็จพระใหญ่ ท่านจะคอยเลี้ยงดูเราทั้งค้ำยันไว้ไม่ให้ล้ม จะคอยอุดหนุน คอยบำรุงให้เราเจริญขึ้น พยุงให้สูงขึ้น ทั้งส่งเสริมช่วยเหลือคอยอุปการะสงเคราะห์อนุเคราะห์กันในทุกๆโอกาส พ่ออาจารย์ว่าเช่นนี้ฉันจึงย้ำว่าต้องใช้แล้วจะรู้เอง เพราะพระผงรุ่นนี้ท่านตั้งใจทำมาให้คนที่ได้ทุกข์ยากและต้องการการเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษเหล่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าจะรู้สึกได้เองเหมือนชีวิตเรามีผู้เลี้ยงดูคอยอุปถัมภ์ชุบเลี้ยงค้ำจุนเผื่อแผ่อยู่ข้างๆตัวเองเสมอ
    สำหรับผู้มีศรัทธาในพุทธานุภาพ,มีความเชื่อท่านจะช่วยจะรักษาไว้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องทนทรมานกับความทุกข์ยากสาหัสใดๆมานานขนาดไหนก็ตาม
    ด้วยกำลังแห่งผงพุทธอุปถัมภ์นั้นจะบรรเทาช่วยเหลือสิ่งที่หนักหนาสาหัสได้ อุปมาดุจเธอนั้นเป็นคนป่วย,มีโรคภัย,มีไข้ที่พร้อมจะกำเริบอยู่เนืองๆตามกรรมเก่าที่เธอทำไว้ พอชีวิตเธอเกิดศรัทธาได้บูชาผงพุทธอุปถัมภ์นี้ก็ให้เธอขอบารมีองค์พระท่านรักษาโรคเวรโรคกรรมทั้งหลาย ที่ว่าได้เจ็บได้ไข้กันมายาวนานนั้นอันใดจะมี...อันนั้นจักหายไป ด้วยเมตตาธิคุณในพระตถาคตเจ้าอันไม่มีสิ่งใดมาวัดมาประมาณได้นั้นดั่งท่านได้ให้คำปกาศิตไว้ว่า"บุคคลใดก็ตามที่ไม่มีผู้สนใจจะดูแล ทั้งยังตั้งอยู่ในกระแสของโรคเวรโรคกรรมทั้งหลายเราจะช่วยเหลือบุคคลนั้นจนกว่าจะหาย" พ่ออาจารย์ท่านว่าผงพุทธอุปถัมภ์ที่เสด็จพระใหญ่ให้ทำขึ้นมานี้มีอาถรรพ์มากเพราะท่านตั้งใจจะช่วยเหลือทั้งให้การพยาบาลอุปถัมภ์ผู้อาราธนาอย่างแท้จริงแม้ในยามปกติหรือยามที่ชีวิตทรุดตกต่ำลง แม้ในกิจต่างๆกรรมต่างๆที่ชีวิตเราวนเวียนข้องเกี่ยวอยู่ท่านก็จะช่วยให้มีกำลังกาย กำลังใจถึงพร้อมอยู่เสมอ เรียกได้ว่าจะช่วยให้เธอนั้นกลับเข้าสู่สภาวะที่ตัวของเธอเองช่วยตนเองได้,ยืนขึ้นมาได้ด้วยขาตัวเองโดยไม่ต้องรับการช่วยเหลือจากใครอีกโดยเร็วที่สุด
    วิชาพุทธอุปถัมภ์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าจะผูกพันกับผู้ที่ได้อาราธนาดุจบิดามารดาคอยดูแลปกป้องบุตร..จะเป็นอยู่เช่นนั้นและเป็นตลอดไป ด้วยคนเราเมื่อตกทุกข์ได้ยากสิ้นไร้ไม้ตอกหรือเจ็บไข้ไม่สบาย เมื่อใดก็ตามที่เราได้ทุกขเวทนาอย่างถึงที่สุดคนทั้งหลายก็มักจะนึกถึงพ่อแม่ก่อนเป็นลำดับแรก แล้วนั่นก็จริงอีกที่คุณบิดามารดานั่นแหละที่ช่วยเราได้เสมอ เพราะได้ชื่อว่ามีพระคุณเกื้อกูลโดยตรงต่อเราอย่างหาที่สุดไม่ได้ ดังนั้นวิชาพุทธอุปถัมภ์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านจึงให้ฉันผูกวิชาไว้นอกจากคนใช้เวลาอาราธนาจะต้องนึกถึงพระพุทธคุณแล้วยังต้องนึกถึงคุณบิดามารดาของตัวเองอีกด้วย
    ท่านว่าเกิดมาเป็นคนอย่าลืมพระคุณพ่อแม่ที่แม้แต่พระศาสดายังทรงสรรเสริญเท่านี้ก็เจริญโดยลำดับแล้ว ด้วยบิดามารดานั้นเป็นพระพรหมของลูก,เป็นพระอรหันต์เป็นพระที่ไม่เคยทอดทิ้งเราไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่นนั้นผงพุทธอุปถัมภ์นี้จึงเปรียบได้กับกระแสความรักอันสูงสุดเมื่อเราเชื่อ มีศรัทธาจนเกิดปิติปาฏิหาริย์ทั้งหลายก็จะเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นนาถของโลกพระองค์ก็ยังรู้ซึ้งถึงพระคุณของผู้เป็นบิดามารดาที่คอยอนุเคราะห์บุตรนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่นั้นท่านได้สรรเสริญกำลังบิดามารดานี้เมื่ออนุเคราะห์แก่กุลบุตรธิดาใดว่าดุจเป็นบุรพเทวดา,เป็นบุรพาจารย์,เป็นอาหุเนยยบุคคลของบุตรดังนี้ ด้วยจะมีแต่กำลังแห่งบิดามารดาเท่านั้นที่จะมั่นคงอยู่ได้ในพรหมวิหารธรรมโดยไม่ยอมทิ้งลูกของตน ย่อมมีเมตตารักใคร่ปรารถนาจะเห็นลูกของตนมีความสุขปราศจากโรคภัยเบียดเบียน ทั้งยังมีกรุณาสงสารเมื่อบุตรนั้นประสบกับความทุกข์คิดแต่จะช่วยให้พ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อน ช่วยให้มีความสุขความเจริญก้าวหน้าแบบสุดกำลังเท่าที่จะช่วยได้ เมื่อลูกถึงพร้อมซึ่งความสุขสามารถยืนขึ้นได้ด้วยตัวเองก็พลอยมีใจยินดีด้วยไม่อิจฉาริษยาในความสุขของลูก เมื่อเห็นลูกต้องประสบทุกข์เดือดร้อนก็ไม่ซ้ำเติมเช่นนั้นจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์รักษาลูกก่อนเทวดาทั้งปวง เพราะวิชานี้เป็นของกลางที่จะช่วยเหลือผู้บูชาโดยไม่ยึดติดกับอารมณ์เกลียดและโกรธใดๆดั่งคุณพระบิดามารดา...ดั่งพระพุทธคุณเช่นนั้นแม้เราทำผิดก็ยกโทษให้ไม่คำนึงถึงความผิดใดๆทั้งสิ้นมุ่งแต่ให้พวกเขามีความสุขความเจริญฝ่ายเดียว ทั้งจะให้อุปการะดุจนำพาลาภสักการะทั้งหลายมาป้อนให้ลูกถึงปากพ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนั้นพระผงพุทธอุปถัมภ์นี้จึงมีอานุภาพมากแม้ใครได้อาราธนาติดตัวหรือกราบไหว้บูชา ดุจดั่งว่าได้ดำรงค์อยู่ใกล้ชิดพระอรหันต์ขีณาสพทั้งยังได้กราบไหว้บูชาท่านอยู่ตลอดเวลา ####เช่นนั้นพระผงนี้ใครได้ไปแนะให้เอาไปให้พ่อแม่ตนเองอธิษฐานให้พรซ้ำๆพูดแต้สิ่งที่ดีกับลูกเสมอต่อองค์พระลูกจะมีแต่เจริญไม่มีตกอับ(หากผู้ใดพ่อแม่ไม่อยู่แล้วก็ให้นึกถึงพ่อแม่ของตัวเองไว้ คิดเองเออเองเลยว่าท่านพูดอะไรให้พรเราอย่างไร..อยากได้พรอะไรก็คิดอย่างนั้น) แม้ทำได้ดังนี้ก็จะมีความสุขความเจริญแก่ชีวิตทั้งเป็นที่สรรเสริญของเทวดาทั้งหลายแลเป็นเหตุให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวง
    ท่านได้ลบถมผงวิเศษตามสูตรเฉพาะของเสด็จพระใหญ่ที่ท่านกำชับไว้หนักหนาว่าไม่ให้พูดออกไปเด็ดขาดใครเชื่อใครมาเอาไปใช้ก็ให้เป็นที่บุญและวาสนาของเขาจริงๆเท่านั้นท่านว่าพอจะบอกได้ก็มี
    - ผงวาสนาค้ำฟ้า ใช้ค้ำชูชะตาเร่งนำพาวาสนาของเราให้เปิดออก ให้รับความสุขมีชีวิตอยู่ในช่วงที่ดีที่สุด
    - ผงสร้างคน ใช้สร้างอำนาจลาภยศและบารมีชื่อเสียงต่างๆให้คนกลายเป็นคนเต็มตัว
    - ผงหาทรัพย์ ท่านว่าใช้ทางหาลาภทำมาหากินให้เจริญในอาชีพได้ทุกทาง
    - ผงแก้โรค อันนี้ใช้แก้โรคภัยไข้เจ็บตลอดจนฟื้นฟูสุขภาพที่ทรุดโทรม
    - ผงดับทุกข์ ใช้แก้ทุกข์แก้ความเดือดร้อนทั้งหลาย
    - ผงแก้อาถรรพ์ ใช้ล้างสิ่งอัปมงคลและแก้อาถรรพ์ร้ายต่างในตัวเราไม่ให้กำเริบขึ้นมา
    - ผงเมตตา ใช้ในการเข้าหาคนให้ผู้ใหญ่เมตตามีแต่คนรักไม่มีคนเกลียด
    - ผงยกฐานะ ช่วยให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าไม่มีทางตันสามารถขยับฐานะตัวเองได้ง่ายและไวขึ้น
    - ผงขุมทรัพย์ ช่วยไม่ให้อดดุจคนมีทรัพย์ตลอดเวลาแม้ทรัพย์ขาดไปเทวดาต้องช่วยเหลือ...
    ท่านว่าบอกได้คร่าวๆแค่นี้เพราะผงแต่ละอย่างนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านทำให้เต็มที่
    ท่านว่าผงแต่ละอย่างนี้แม้ตกในแผ่นดินผืนใด จะเป็นเหย้าเรือนหรือได้ไว้เป็นกรรมสิทธิ์แก่บุคคลใด จะมีผลเพิ่มพูนให้ไม่รู้จบ มีคุณล้ำค่ายิ่งกว่าแก้วสารพัดนึก แค่ได้พบเห็นก็ได้ชื่อว่ามีบุญมีบุพกรรมได้ทำมาดีแล้ว อย่าไปกลัวเลยว่าจะตกทุกข์ได้ยาก ขอให้บูชาไว้ให้ดีเถิดชีวิตจะเต็มไปด้วยมงคลทั้งหลายทั้งข้าวของสมบัติก็บริบูรณ์นักถึงขั้นคหบดีเป็นเศรษฐีรุ่งเรือง แม้ปรารถนาสิ่งใดก็จะสัมฤทธิ์ผลเจริญขึ้นวัฒนาสถาพรตลอดไป
    **** พระผงชุดอโรคยาสงเคราะห์โรคนี้ท่านแยกกดพิมพ์ไว้เป็นพิเศษ นอกจากชนวนมวลสารดังกล่าวแล้วยังแก่ผงแก้โรคผงแก้อาถรรพ์อย่างถึงที่สุด ท่านว่าในอนาคตโรคภัยจะมาก จะมาหาถึงตัวหลีกเลี่ยงกันไม่ได้เลย พระชุดนี้องค์ปฐมท่านให้ทำไว้เพื่อสงเคราะห์ยามผจญทุกข์โรคาพาธทั้งหลาย

    เสด็จพระใหญ่ท่านเจาะจงให้พ่ออาจารย์ทำพิมพ์พระเป็นพระปางพยาบาลเช่นนี้เพราะจะได้สื่อเข้าไปให้ถึงใจว่าต่อแต่นี้ด้วยผงคุณพระวิชาพุทธอุปถัมภ์นั้นก็จะได้โอบอุ้มดูแลกันไป แม้ในวันที่ตกต่ำและทุกข์ยากหรือในวันที่เธอเจ็บอย่างถึงที่สุดก็จะไม่ทอดทิ้งกันพระธรรมสวามีเนื้อผงพุทธอุปถัมภ์นี้ท่านว่าทำไว้ให้ครบแล้วตามแต่จะอธิษฐานใช้ แม้ผู้ใดนำไปอาราธนาจะยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ดั่งบุญวาสนาที่แข่งกันไม่ได้ท่านว่าแม้ได้พบได้นำไปอาราธนานั่นก็ถือว่ามีวาสนาแล้ว "อุปมาดั่งกาไก่จะกลายเป็นหงส์" จะเกิดเมตตามหามงคลล้นมากดังมีเทวดาอยู่กับตัว ไปทางไหนคนทั้งหลายก็เปิดทางให้จะรักเมตตาเราด้วยอำนาจของศีลของพระธรรม อำนาจนี้แรงกว่าการทำให้รักด้วยวิชาใดๆหลายเท่านัก ทำให้เรามีบารมีโดดเด่นเป็นที่ยำเกรง ทั้งยังจะระงับภัยและเหตุการณ์เลวร้ายเบื้องหน้าได้ ทั้งยังนอนกินมีชีวิตความเป็นอยู่สบายดุจมีคนคอยอุ้มชูอุปถัมภ์ใช้แล้วจึงมีชื่อเสียงโด่งดังเสริมสง่าราศีเสริมความก้าวหน้าเสริมกิจการให้สำเร็จสมหวังทุกอย่าง เหตุหลายประการล้วนสรุปที่คำว่าดีทั้งสิ้นยังให้เกิดผลดีต่างๆตามมาเป็นอันมาก สุดท้ายจะไม่ตายโหงไม่ตายเป็นผีสัมภเวสีมีที่อันจะไปด้วยดี

    พระชุดอโรคยาสร้างด้วยมวลสารพิเศษผงธาตุทิพย์หรือธาตุนิพพาน

    ซึ่งผงธาตุนิพพานนี้ถือว่าเป็นยอดผงที่พ่ออาจารย์ท่านได้แบ่งออกมานวดผสมไว้ตอนกดพระชุดอโรคยาสงเคราะห์โรคนี้


    ผงนี้กิดขึ้นจากธาตุนิพพานทั้งสามชนิดที่สมเด็จองค์ปฐมท่านกำชับให้พ่ออาจารย์รวบรวมไว้ ท่านว่าแทนด้วยคุณพระไตรรัตนญาณอันประเสริฐเป็นเลิศกว่าสิ่งใดในโลกา ทั้งยังเป็นธาตุทิพย์หรือที่ท่านเรียกว่าธาตุนิพพานมาเนรมิตให้เกิดขึ้น - ให้ปรากฏรูป - ให้เป็นไป
    ...เพื่อที่จะได้ใช้ช่วยฉุดและปลดเปลื้องเภทภัยในอนาคตกาลอันจะนำมาซึ่งทุกขเวทนาทั้งหลาย ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าเป็นผงทิพย์หรือของทิพย์ฉันไม่ได้ทำเอง มีแต่พ่อพระปฐมท่านให้ไปรวบรวมมาตามสถานที่ซึ่งท่านกำหนด พ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนี้จึงก้าวล่วงไม่ได้ ได้แต่บอกอย่างเดียวว่าใช้ทำอะไรแค่นี้
    ธาตุนิพพานเนรมิตใช้ทำอะไร ธาตุนี้ท่านเรียกสั้นๆว่าธาตุทิพย์ เพราะเป็นของจากพระนิพพานที่พ่อองค์ปฐมท่านรักษาไว้ให้ลูกๆเอาไว้ใช้อธิษฐานขอเมตตา ดุจว่าจิตมีนิพพานเป็นที่หมายเป็นเครื่องระลึกถึง นึกถึงพระนิพพาน นึกถึงองค์ธรรมบิดา นึกถึงองค์ปฐมสัมมาสัมพุทธเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อมีเหตุปัจจัยย่อมมีผลไม่มีการกระทำใดเสียเปล่า ธาตุทิพย์นี้เป็นกำลังจากนิพพาน เต็มเปี่ยมด้วยบารมีสามสิบทัศน์ทั้งฉัพพรรณรังสีรัศมีหกประการขององค์สัมมาพุทธเจ้า เหล่าอรหันต์และมหาโพธิสัตว์ทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ปฐมเมตตารวมกำลังให้ทั้งหมดเลย นี่หากใครตาดีเค้าจะเห็นกันเลยว่าธาตุเหล่านี้แม้อณูเดียวแยกออกมาก็มีแสงทิพย์โอภาสขาวสุกใสประกายเพชร เพราะเป็นธาตุธรรมธาตุทิพย์ขององค์ปฐมต้น ทั้งยังเป็นธาตุทิพย์ขององค์ธรรมบิดา และเป็นธาตุทิพย์ขององค์วิสุทธิเทพ ทั้งสามธาตุนั้นเรียกว่าไตรรัตนญาณ พ่ออาจารย์ท่านว่าคลุมหมดทั้งฟ้าอนันตจักรวาล
    พ่ออาจารย์ท่านว่าอณูธาตุเหล่านี้
    เค้าทำงานกันด้วยการเปล่งรัศมี เมื่อเค้าเกาะกลุ่มรวมกันอยู่เค้าจะหมุนวนรัศมีของแต่ละธาตุมารวมกันแล้วสาดออกไปกระทบกัน สาดประกายผ่านตัวเราให้ตัวเรารับกำลัง สาดไปรอบตัวเรา รอบโลก รอบจักรวาล ซึ่งมหาอณูธาตุทิพย์นี้เขาทำงานกันด้วยความเร็วสูงสุดเรียกว่ามีความถี่มากแม้ตัวพ่ออาจารย์เองยังมิอาจกะเกณฑ์ใดๆได้(ทำงานไวนั่นคือสำเร็จไว) และด้วยเหตุว่าธาตุทิพย์นี้แม้เทพ,พรหม,ผี,สัมภเวสีใดๆก็ไม่อาจแตะต้องเข้าครองได้นอกจากมนุษย์ที่เคยมีวาสนาพลาผลอันจะได้เกื้อกูลในหนทางข้างหน้าต่อไปเท่านั้น ด้วยธาตุทิพย์นั้นวิเศษล้ำเลิศประเสริฐยิ่ง เพราะเป็นดั่งตัวแทนของกำลังที่ส่งเข้าหาตัวเราโดยตรงจากองค์ปฐม,องค์ธรรมบิดา,องค์วิสุทธิเทพ เป็นพลังของนิพพานธาตุที่องค์พระท่านเมตตาประทานลงมา ท่านว่าเพื่อประโยชน์ใหญ่ทั่วมหาอนันตจักรวาล ทั้งนรกโลก เทวโลก พรหมโลก เพื่อที่จะได้ยกระดับจิตคนที่ดีมีบุญวาสนาให้ดำรงค์ตนอยู่ ให้ได้อริยมรรคอริยผลทั่วทั้งหมดในอนาคตกาลไม่มีการยกเว้น ด้วยมีคุณผลักดันธรรมวิเศษอันทรงคุณที่พันไว้รอบนอกให้เกิดผลทันทีเพื่อจะได้สงเคราะห์ชีวิตตนแล้ว
    ตัวอณูธาตุทิพย์เองเมื่อเราอาราธนาพกติดกายประจำเขายังเข้าไปบรรเทากิเลส อวิชชา ตัณหา อุปาทานในจิตใจด้วยการชำระล้างตลอด พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละชำระให้เบาลง ของแบบนี้ต้องค่อยๆชำระเพราะมันตกตะกอนหนาจับเป็นชั้นๆมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติไม่ใช่พกปุ๊ปจะหายไปหมด ยิ่งคนไหนหนามากก็ต้องใช้เวลานานหน่อย คนไหนเบาบางก็จะไวหน่อย แต่ดีกว่าปล่อยไว้ไม่ทำอะไรจนเปิดรับทุกขเวทนาและเภทภัยทั้งผอง อย่างน้อยก็ชำระกันบ้างจะได้ปิดกั้นอบายภูมทั้งสี่อันมีนรก,เปรต,อสุรกาย,เดรัจฉานเป็นที่ไป พ่ออาจารย์ท่านว่าให้หมั่นจับธาตุและระลึกถึงองค์พระไว้จิตจะเป็นกุศลเหมือนเราได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น หากเมื่อใดถึงกาลกิริยาตายกันจริงๆก็นั่นแหละนึกถึงองค์พระไว้ไปสวรรค์เป็นอย่างต่ำ ถ้ากำลังใจมากทำความดีมาพอประมาณก็ไปถึงชั้นพรหม แต่ถ้าชำระกันหมดชาตินี้จิตสะอาดเบิกบานดีแล้วนั่นก็ย่อมหมายเอานิพพานเป็นที่ไปได้...แต่จะถึงนิพพานเลยเช่นนี้ท่านบอกเลยว่าใช่ว่าจะเกิดได้กับทุกคน ด้วยอณูทิพย์นี้ปิดกั้นอบายภูมิและปิดกั้นเคราะห์กรรมทั้งหลายไม่ให้เกิดได้ระยะหนึ่ง(หากผู้ครอบครองไม่หลงมัวเมาจนยากกลับใจ)จึงทำให้ได้รับประโยชน์ใหญ่ในการดำเนินชีวิตตามวิถีแต่ละคน

    ### พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำอย่างน่าตระหนกว่า อณูทิพย์นี้องค์พุทธบิดาท่านจะประทานให้ในช่วงเวลาที่เกิดกลียุค ต่อไปเบื้องหน้าจะมีวาตะภัย ทั้งไฟบรรลัยกันต์อันเกิดจากความรู้และวิทยาการของมนุษย์ ทั้งจากอาวุธนิวเคลียร์ จากการทดลองดัดแปลงพันธุกรรมอันเกินธรรมชาติจะรับไหว ท่านว่าต่อไปโลกจะถดถอยทั้งเกิดภัยธรรมชาติแปรปรวนทำให้ผู้คนล้มตายกันมากมาย นั่นแหละอณูทิพย์นี้จะช่วยปกปักรักษาให้ปลอดภัยจากอันตรายทุกชนิด ท่านว่าผู้ที่จะได้ไปต้องนับเนื่องในวาสนา ถือได้ว่าโชคดีเคยทำบุญมามหาศาลพอตัว
    ในยุคที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวไกลแต่ก็ไม่อาจจะหยุดยั้งภัยพิบัติคร่าชีวิตจากความเกรี้ยวกราดของธรรมชาติได้ทุกรูปแบบ ทั้งยังไม่มีเทคโนโลยีใดใช้ให้ไปถึงสวรรค์หรือนิพพานกันได้เลย ด้วยตัวความสบายและเทคโนโลยีนี่แหละที่จะพอกพูนกิเลสตัณหา ทำให้ทั้งคนทั้งพระติดสบาย ทำให้คนกลัวตายยื้อยุดให้ห่างไกลจากธรรมมากขึ้น เช่นนั้นอณูทิพย์ซึ่งเป็นธาตุนิพพานคือธาตุที่มาจากจิตเดิมขององค์ธรรม,องค์ปฐม..เหล่านี้จึงจัดเป็นธาตุประภัสสรที่จะแสวงหาจิตเดิม ทั้งยังนำความสุขกายสุขใจและวาสนาต่างๆไม่รู้สิ้นมาสงเคราะห์คน พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าเป็นแม่ธาตุอันประเสริฐที่เหนือกว่าธาตุใดทั้งหมดเพราะท่านย้ำว่าเขาช่วยให้ถึงความสุขในชาตินี้ได้เช่นนั้น

    ด้วยกฏของวัฏจักรการเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไปย่อมเป็นของธรรมดาโลก เพราะทุกสิ่งแม้ร่างกายเราย่อมเปฺ็นของสมมติขึ้นมาทั้งสิ้น คือดำรงค์อยู่อย่างแปรปรวนรวนเรดั่งสายน้ำวกวนรอวันสูญสลายเพียงเท่านี้ หากแต่เรื่องการเอาดีไม่ให้เสียชาติเกิดนั่นกลับเป็นของจริง เป็นหน้าที่ของสรรพชีวิตที่น้อยนักยากจะทำได้ เพราะจิตนั่นแหละคือตัวตนจริงของเรา การขัดเกลาดวงจิตพัฒนาดวงจิตต่างๆเหล่านี้จึงเป็นการทำให้จิตนเองนั้นสะอาดและศักดิ์สิทธิ์....พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือหน้าที่ขัดเกลาของอณูทิพย์ เป็นปฏิบัติการณ์ชำระจิตใจให้ค่อยๆใสสะอาด ไม่เกาะเกี่ยวในสมมติ มองพ้นโลกพ้นสงสาร เพราะเขาอยู่เหนือกว่าสิ่งสมมติทั้งหลายไม่ว่าจะดิน,น้ำ,ลม,ไฟมหาธาตุทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านเปรียบให้เข้าใจง่ายๆว่าโลกและสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะสอดตามองไปทางไหนเราย่อมจะเห็นและรู้แต่บางคนก็ไม่รู้และไม่เข้าใจ ซึ่งก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความจริงไปได้ว่าทุกสิ่งนั้นผูกขึ้นมาด้วยธาตุทั้งสี่ เพราะมีธาตุทั้งสี่นี่แหละตัวเราหรือตัวเขาและสิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่ว่าจะโลกหรือจักรวาลจึงมีรูปกายมีรูปร่าง เมื่ออณูทิพย์อยู่เหนือธาตุทั้งสี่นั่นคือเขาเหนือโลกไปแล้ว เหนือไปกว่าทุกอย่างด้วยเป็นของสูงมากเพราะลงมาจากแดนทิพย์แดนนิพพานไม่เกาะเกี่ยวด้วยสิ่งสมมติทั้งหลาย เมื่ออยู่เหนือโลกเช่นนี้จึงมีพลังงานบันดาลได้ทุกสิ่งตามปรารถนาด้วยแสงทิพย์โอภาส

    พ่ออาจารย์ท่านว่าคุณวิชาที่รวมกันแต่ละอย่างของเครื่องมงคลชุดนี้จัดว่าเป็นที่สุดอย่างแท้จริง แม้ตัวธาตุนิพพานกว่าจะได้มาก็ยากนักเพราะต้องขึ้นเขาลงห้วยเข้าถ้ำครบ ไม่มีอะไรที่ไม่ลำบากเลยเพราะผู้เฝ้าผู้ดูแลเขาหวงหนัก ถ้าพ่อพระพุทธไม่เปิดทางไม่อนุญาติก็เหมือนนำชีวิตไปทิ้ง และธาตุทิพย์นี้พ่อพระพุทธท่านเรียกว่าลูกจิตนิพพาน เขามีความเป็นทิพย์ทั้งสุขสบายสมปรารถนาในตัวเองทุกอย่างย่อมจะช่วยให้ผู้ครอบครองได้ดังนั้นเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าปัจจุบันคนที่ตั้งหน้าทำงานหาเงินทั้งหลายย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่ายังติดอยู่ในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสต่างๆในโลก เมื่อเรามีขันธ์ห้าก็ย่อมแสวงหาสาเหตุของการผุดเกิดเวียนว่าย ทั้งกาย เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณหากแต่เราลืมหน้าที่และไม่ได้ค้นคว้าสนใจตรงนี้เพราะมัวแต่ทำงาน อีกทางหนึ่งก็พอกพูนกิเลสเมื่อเราทำงานเพื่อสิ่งเหล่านี้เราย่อมเกิดตัณหาอยากอยู่ในโลก ทั้งยังผูกพันก่อเกิดพันธะอันดักดานมาเนิ่นนานมั่นคง ที่จิตหยาบหนาหน่อยก็มีความโลภในสรรพสิ่ง มีความโกรธความหลงอยู่ในตนเอง พอกพูนทุกวินาทีนับวันเดือนปี นับชาติภพ นับกัปกัลป์ สิ่งเหล่านี้เสมือนยาขม ขมมาก ทรมานมาก หากจะรักษาก็ยิ่งยากเพราะสะสมกันมาเนิ่นนาน เช่นนี้ยาขมจึงต้องกลั้วไปพร้อมขนมหวาน เพื่อจะเอาดีทั้งทางโลกและทางธรรมให้ได้ก่อนในเริ่มแรกจึงจะพัฒนาตนเองเหนือกว่านี้ได้ ไม่เช่นนั้นกี่ชาติภพก็ไร้การพัฒนา เพราะเราตัดหน้าที่อันจำเป็นต้องพึงกระทำในชีวิตตนเองตอนนี้ไม่ได้จะเอาแก่ใจอะไรมาลดละเลิกอวิชาทั้งหลาย
    เพื่อประโยชน์ให้พ้นโลกียสมบัติ,สวรรค์สมบัติให้ถึงซึ่งนิพพานสมบัติไม่ต้องกลับมาเรียนรู้ในโลกมายาสมมุติทั้งสิ้นนี้อีกพ่ออาจารย์ท่านจึงให้อาราธนาอณูทิพย์ แม้ท่านเองก็ยังใช้ติดตัวเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าคนบางคนนั้นต่ำต้อยบุญน้อยวาสนาไม่มีหากแต่ดวงตากระจ่างยังมองเห็นภัยอันตรายในวัฏสงสาร หรือบางคนไม่ปรารถนาจะเกิดมาเป็นคนเป็นเทวดา..เหล่านี้อีก นี่คือคนที่มีความปรารถนาความตั้งใจแต่เบื้องต้น คนแบบนี้จะมองโลกไม่เหมือนคนประเภทอื่นเพราะเค้าเบื่อโลก เมื่อเขารับอณูทิพย์นี้ไปก็จะได้ชำระล้างจิต ชำระสิ่งสกปรกตกตะกอนทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายๆคนนั้นยังมีบาปกรรมมีความโกรธความอยากได้ใคร่ดีทั้งยังหลงงมงายไม่สิ้นสุดนั่นแหละสิ่งเหล่านี้คือความสกปรกในจิตเรา เพราะเราไม่รู้ความเป็นไปใดๆที่จะเปลี่ยนแปลงหรือเกิดขึ้นเบื้องหน้าเลย อณูทิพย์นี้จึงส่องสว่างทำหน้าที่ปัดเป่าชำระเคราะห์กรรมทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าพอชำระๆไปมันก็หมดพวกที่ชีวิตหนักๆเขาก็จะเบาขึ้นๆไปเองทีละขั้นทีละลำดับ ถ้าเรื่องมันน้อยเคราะห์มันไม่มากชำระพักเดียวก็ไม่ปรากฏแล้ว เป็นเช่นนี้เอง เพื่อจะให้พวกเธอถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรือง

    รายการนี้ท่านว่าฟ้าปิดแต่สวรรค์เปิดคือข้างบนเค้าไม่ให้รู้อะไรไม่ให้พูดถึงมากนัก เพราะใครจะได้สัมผัสหรือพบเจอนั้นย่อมต้องอาศัยวาสนาที่เคยทำมาเป็นเอนกชาติ ถ้าคนสติปัญญาไม่ถึงไม่เห็นความสำคัญก็จะมองไปอีกทางหนึ่งว่านี่อะไร พกทำไม ใช้อะไรไร้สาระเขาจะคิดอย่างนั้นกันไปเลย เพราะเขาไม่ใช่ผู้ถูกกำหนด และภัยพิบัติในอนาคตนั้นก็ยากจะหลบเลี่ยง ท่านว่ารายการนี้เพราะพูดไม่ได้มาก พ่อพระพุทธท่านห้ามมาเอง ที่เราพูดเท่านี้ท่านก็เขม่นแล้ว คือของบางอย่างนั้นไม่ควรไปพูดถึงเลยต้องใช้กำลังใจรับรู้เท่านั้นจึงบอกได้แค่นี้

    คาถาบูชา(ท่านให้นึกถึงพระพุทธคุณและคุณบิดามารดาเป็นที่สุดก่อนว่าบทสักกัตวา)
    สักกัตวาพุทธะรัตตะนัง โอสะถังอุตตะมังวะรัง หิตังเทวะมะนุสสานัง พุทธะเตเชนะ โสตถินานัสสันตุ ปัททะวา สัพเพทุกขาวูปะสะเมนตุเมฯ
    สักกัตวาธัมมะรัตตะนัง โอสะถังอุตตะมัวะรัง ปิริฬาหูปะสะมะนัง ธัมมะเตเชนะ โสตถินานัสสันตุ ปัททะวา สัพเพภะยาวูปะสะเมนตุ เมฯ
    สักกัตวาสังฆะรัตตะนัง โอสะถังอุตตะมังวะรัง อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง สังฆะเตเชนะ โสตถิน นัสสันตุปัททะวา สัพเพภะยาวูปะสะเมนตุเมฯ


    *** ร่วมทำบุญบูชาองค์พระธรรมสวามีผงพุทธอุปถัมภ์(ชุดอโรคยาสงเคราะห์โรค)ได้เฉพาะทาง PM เท่านั้น รายการนี้ท่านทำไว้อาราธนาใช้โปรดสรรพสัตว์แช่ทำน้ำมนต์อาราธนาแช่น้ำว่านน้ำยาอาบกินของท่านด้วย ท่านว่าพระรุ่นนี้วาสนาเราทำได้แค่ครั้งเดียว ใครจะได้จะบูชานั่นก็ขึ้นอยู่กับวาสนาอีกท่านว่าต้องมีวาสนาทั้งผู้ทำและผู้รับจริงๆ ใครบารมียังอบรมมาไม่พอก็ไม่ได้ไป รายได้ร่วมสมทบทุนค่าน้ำค่าไฟตามวัดต่างๆเพื่อเป็นปัจจัยนำมาซึ่งแสงสว่างแก่ชีวิตสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระธรรมสวามีผงพุทธอุปถัมภ์พยาบาลรักษาปิดเคราะห์ซ่อนกรรม(ชุดอโรคยาสงเคราะห์โรค) บูชา 900 บาท


    89490566-624569461453665-8032828031779209216-n.jpg 89203428-1233114906881067-6027063066003243008-n.jpg
    88273861-3450899181603848-6491913810310332416-n.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระเปิดโลกเบิกมรรคาพยุงนิพพานเจ็ดชาติจักพรรดิเทวะบัญชา(พระสยามนั่งเมือง)


    "ต่อไปนั้นหากไม่พยุงไว้คงล้มกันทั้งหมด"

    ด้วยชีวิตคนเรานั้นก็เปรียบเสมือนดวงดาว หากเป็นดาวฤกษ์ย่อมเปล่งแสงในตัวเอง หากเป็นดาวเคราะห์ย่อมอาศัยแสงจากดาวฤกษ์ อยู่ที่ตัวเองเลือกจะเป็นอะไร จะพึ่งตัวเองจนส่องแสงออกมาได้สำเร็จเช่นดาวฤกษ์ หรือชีวิตนี้จะต้องพึ่งแสงจากคนอื่นเช่นดาวเคราะห์ พ่ออาจารย์ท่านให้คติไว้ดังนี้เพราะพระชุดจักรพรรดิเทวะบัญชานั้นเปรียบเสมือนแสงสว่างที่จุดประกายให้คนใช้อาราธนาต้องไม่ล้มลงไปในยามที่ชีวิตมืดมิดลง ท่านว่าหากเลือกที่จะยืนส่องประกายขึ้นได้ด้วยตัวเองนั่นแหละค่อยใช้พระของฉันท่านว่าจะได้เป็นแสงสว่างเปิดนำทางให้สาธุชนทั้งหลาย ต่อไปใครพบกับพระพิมพ์นี้เท่ากับพบแสงสว่าง มีปัญญาบารมีมาก นำชัยชนะ นำความสำเร็จ นำความสุข นำความเจริญมาให้ จะได้พบกับแสงสว่างในกิจที่ทำที่ดำรงค์อยู่ ทั้งการทำมาหากิน ราชการ การค้า...ทุกกิจอาชีพ ต้องสำเร็จ ต้องสมหวัง ต้องมีชัยชนะทุกคราวไป คิดทำสิ่งใดก็ออกผลงอกงาม การทำมาหากินได้โชคลาภเงินทอง มีความสุข ชีวิตมีทางออกตลอดเวลา ให้เสด็จพระใหญ่ท่านแผ่พุทธานุภาพให้แสงสว่างชี้ทิศ นำทาง นำชัยชนะ นำความสำเร็จมาสู่ชีวิตเธอ

    ...แต่เดิมนั้นสมัยท่านยังแสวงหาความวิเวก พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านได้รับเหล็กไหลก้อนหนึ่งจากพวกบังบด มีลักษณะเป็นก้อนสัณฐานกลมแบบดวงแก้ว มีสีทองคำเหลือบเขียวและมีเหล็กไหลไพรดำซึ่งเป็นสุดยอดตำนานของวัตถุธาตุกายสิทธิ์เคียงคู่มากับเหล็กไหลน้ำหนึ่ง เป็นสายแร่เหล็กไหลไพรดำวิ่งผ่านภายในเนื้อบางส่วน ซึ่งท่านเล่าว่าการเลี้ยงไพรดำถือว่ายากแล้ว แค่ว่านไพรดำนั้นก็มีอำนาจไม่ต่างจากเหล็กไหลน้ำหนึ่งดีๆนี่เอง แต่การเลี้ยงให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ให้เกิดธาตุกายสิทธิ์ในไพรดำนั้นจนเป็นเหล็กไหลไพรดำ และสายธาตุเหล็กไหลไพรดำวิ่งเข้ารวมกับธาตุกายสิทธิ์อื่นนั้น หากเทพพรหมไม่เล่นฤทธิ์แล้ว ท่านว่าปุถุชนแม้มีอาคมเฟื่องฟูอย่างไรก็ไม่สามารถทำได้เลย พ่ออาจารย์ท่านเรียกของวิเศษนี้ว่าเหล็กไหลจักรพรรดิทองคำ ท่านว่ามันอยู่นอกเหนือกฏเกณฑ์ตลอดจนวรรณะของตระกูลเหล็กไหลต่างๆ มีฤทธิ์และบารมีมากจนถึงขั้นที่ว่ามีจิตวิญญาณและกายทิพย์ของตน ท่านว่าเป็นอจินไตยไม่สามารถพูดได้ เอาแค่ว่ากายสิทธิ์นี้สามารถบันดาลให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ สามารถเปลี่ยนเป็นไปได้ ทำให้สิ่งที่ไม่มี เกิดมีขึ้นได้ เป็นของสวรรค์ที่ควรกล่าวว่ามีคุณอนันต์จะตกมาเป็นสมบัติในครอบครองของผู้ทรงศีลธรรมเท่านั้น ว่ากันว่าของวิเศษเช่นนี้เป็นหนึ่ง ไม่มีสองทีเดียว ยากที่จะปรากฏให้พบเห็นหรือให้ผู้ใดได้ไว้ถือครอง คราวหนึ่งเมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้รับพุทธนิมิตจากสมเด็จองค์ปฐม ซึ่งเรื่องนี้จะไม่กล่าวมากเพราะเป็นเรื่องของญาณวิถี จะกล่าวแต่พอสังเขปเท่านั้น ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านขอให้ทำพระพิมพ์พิเศษขึ้นมาเพื่อให้ตกต้องแก่ศาสนิกอันมีวาสนาต้องกันกับพระองค์ท่าน เพื่อจะได้ช่วยปลดเปลื้องกาลแห่งทุกข์ ช่วยให้กิจและภาระทั้งหลายสำเร็จไปโดยพุทธานุภาพ เพื่อเป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งใจ เป็นเครื่องระลึกถึงพระมหากรุธาธิคุณ โดยท่านนิรมิตให้เห็นรูปแบบเฉพาะ พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านกำชับไว้ว่าห้ามทำในลักษณาการประทับนั่ง ให้ทำในปางเปิดโลกอันหมายถึงเปิดหมดทั้งห้วงจักรวาล ทั่วทั้งหมื่นโลกธาตุในแสนโกฏิจักรวาล ตรงนี้สว่างแล้ว เปิดแล้ว ที่ให้ทำในปางนี้นั้น เพราะการเปิดโลกของพระองค์ท่าน ท่านว่านอกจากจุดประสงค์ในการเปิดให้สามโลกได้รู้เห็นว่าพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้ว พระสัทธรรมสถิตย์เสถียรมั่นคงดีแล้ว ในกาลนั้นสัตว์ทั้งหลายตลอดสามภูมิก็ได้อานิสงค์บรรลุธรรมเป็นอันมาก ตลอดจนมีผู้ตั้งปรารถนาประสงค์ในการตรัสพระโพธิญาณสืบต่องวงศ์วานหน่อเนื้อพระชินสีห์สืบมา ท่านว่านี่คือสาเหตุที่มาแห่งความเจริญรุ่งเรือง รุ่งอรุณของชีวิต เมฆร้ายจะถูกปัดเป่าไป สัตว์ทั้งปวงจะไม่ถึงฆาตไม่เข้าสู่ความพินาศและตกต่ำลง

    ด้วยโองการบรมครูนั้นท่านให้หาไม้วิเศษซึ่งเป็นทนสิทธิ์ในตัวเองมาสถาปนาขึ้นเป็นองค์พระนี้ แต่พ่ออาจารย์ท่านก็ว่าของมันยังไม่ถึงเวลา หาให้ตายอย่างไรก็ไม่พบแม้แต่เงา จนกระทั่งท่านได้รับปากไปทำพิธียกศาลพระภูมิให้ที่บ้านของมหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านว่าความหวังของเราสำเร็จได้ บรรลุได้ก็ด้วยการเดินทางครั้งนี้ ด้วยท่านเศรษฐีนี่เองที่ได้เข้ามากราบขอคำปรึกษากับพ่ออาจารย์ว่าแต่เดิม บรรพบุรุษของเค้าได้เคยรับคำทำนายและบอกกันสืบต่อมาภายในวงศ์ตระกูลว่าตระกูลของเราจะเป็นเศรษฐีมีเชื้อสายยิ่งใหญ่เจริญสืบต่อไปภายหน้าถึงเจ็ดชั่วอายุคน ซึ่งท่านก็กล่าวว่าหากนับตามชั่วอายุแล้วก็เห็นว่าจะมาสิ้นสุดที่ตัวผมพอดี จึงอยากกราบขอพ่ออาจารย์ให้ทำพิธีเสริมดวงหนุนต่อวาสนานี้ให้ภายในตระกูลของตนด้วย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ไม่ได้รับปากแต่อย่างใด หากแต่ได้เดินดูในบริเวณบ้านและพื้นที่ของท่านคหบดีท่านนี้แทน ก็ปรากฏว่าท่านพบต้นขนุนต้นใหญ่ที่ขึ้นทับบริเวณโคนต้นไม้ยอ ที่โคนมีจอมปลวกปกคลุมยืนต้นตายอยู่ในลักษณะนี้ ท่านได้ให้ความสนใจกับต้นขนุนนี้เดินสำรวจลักษณะต่างๆ ก็พบกาฝากรัก กาฝากชุมแสงและพยุงอยู่ตามต้นด้วย นอกจากนี้ยังมีลักษณะพิเศษอีกสองประการที่เข้าลักษณะตามที่ครูท่านกำหนดซึ่งท่านว่าเราบอกไม่ได้ เมื่อท่านพบต้นไม้ทนสิทธิ์ที่เกิดขึ้นต้องตำราในตระกูลเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ที่สืบทอดมาถึงเจ็ดชั่วอายุคนดังนี้ ท่านก็ได้ออกปากขอท่านเศรษฐีว่าเราจะทำให้ แต่ท่านได้ขอกาฝากพยุงสุดยอดอาถรรพ์ที่พยุงชะตาชีวิตบ้านเศรษฐีมาถึงเจ็ดชั่วอายุคนนั้นเพื่อจะทำพระชุดนี้โดยเฉพาะโดยเสด็จพระใหญ่ท่านเรียกไม้อาถรรพ์ชุดนี้ว่า "พยุงนิพพานเจ็ดชาติ" ท่านว่าด้วยองค์พระที่แกะจากกาฝากพยุงอันมีอาถรรพ์มากชุดนี้ จะได้ช่วยพยุงค้ำชะลอกรรมในยามยาก ด้วยเป็นไม้อาถรรพ์เป็นมงคลนาม ซึ่งองค์ปฐมท่านบอกแก่พ่ออาจารย์เอาไว้ว่า *** ต่อไปนั้นหากไม่พยุงไว้คงล้มกันทั้งหมด
    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้นำกิ่งไม้ขนุนสำคัญที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกนี้มาเสกและแกะพระประจำตระกูลให้เศรษฐีนำไปบูชา พร้อมกับกำชับว่าตราบใดที่องค์พระนี้ยังอยู่วาสนาในตระกูลจะไม่เสื่อมจะได้เป็นเศรษฐีมหาคฤหบดีอยู่ดีมีสุขไปอีกหลายชั่วอายุคน ในกาลนั้นท่านก็ได้นำไม้กาฝากพยุงมาแกะพระชุดนี้ ท่านว่าเหมือนอาศัยบารมีเศรษฐีเขาสร้างคนไปในตัว เอาบารมีในกาฝากที่เขาฝากไว้มาหนุนเรา ากของเดิมที่มันไม่เหลือไม่มีแต่นี่เรามีกาฝากของเขาเอาบุญเขามาใช้เราก็ไม่เหนื่อย(พ่ออาจารย์ว่าเคล็ดมันมีอะไรมากกว่านี้อีกเยอะที่องค์ปฐมท่านบอกไว้แต่ท่านห้ามพูด เราจึงบอกได้แค่"สบาย" จำคำนี้ไว้ก็พอ) เกี่ยวกับพระเปิดโลกตำรับวิเศษนี้ท่านว่าไม่ใช่นึกจะทำก็ทำได้ แค่เปิดโลกหากแต่อาศัยกำลังตัวเองอย่างเดียวก็เหนื่อยเท่าเดิม มีมานะมีความพยายามมากก็ยิ่งจะแย่กันหนักเข้าไปอีก ดังนั้นจึงต้องเอาความสบายไว้ก่อนทั้งช่วยพยุงให้ล้มไม่เป็น ท่านว่าลำพังองค์พระนี้ก็มีคุณอยู่ในตัวอย่างถึงที่สุด ด้วยเป็นไม้ทนสิทธิ์ที่เกิดจากวาสนาของมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินระดับหมื่นล้าน และเป็นเศรษฐีทั้งตระกูลสืบมาถึงเจ็ดชั่วอายุคนไม่มีตกต่ำลงแม้ซักชั่วอายุหนึ่งทั้งยังอาศัยบารมีเขาดั่งกาฝากที่ฝากเอาไว้อาศัยร่มเงาเขาจนเติบโตเจริญงอกงามเช่นนั้น ถือคติว่าไม่ต้องไปลงแรงเหนื่อยจนตายเองถึงจะมีได้ ดึงเอาบารมีเขามาผลักดันให้เราสูงขึ้นจากที่ไม่เคยมีก็จะได้มี จากที่จะล้มก็พยุงเราขึ้นทั้งชีวิต พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าทั้งชีวิตฉันคงทำได้ครั้งเดียวเพราะจะหาไม้มงคลที่เป็นทนสิทธิ์ซ้ำซ้อนให้เข้าตามโองการบรมครูเช่นนี้ทั้งชีวิตเชื่อได้ว่าย่อมเจอหนเดียวเช่นกัน

    พ่ออาจารย์ท่านเมื่อแรกนั้นก็ได้แกะองค์พระไม้ไว้ ก่อนนำมาลงอาถรรพ์พระจักรพรรดิ์เปิดโลกก่อนคำรบหนึ่ง ### โดยชุดพิเศษนี้ท่านได้ทำวิชาพระเจ้าย่างบาทลงไปด้วย ท่านว่าเมื่อพระพุทธองค์ท่านเปิดโลกแล้วท่านย่อมเยื้องย่างพุทธดำเนินไปไม่หยุดนิ่ง องค์ปฐมจึงสำทับให้พ่ออาจารย์อาราธนาองค์พระเสกกำกับวิชาชุดนี้เสริมไปอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่า "วิชานี้คนอาราธนา ดุจตัวเขาเดินเหยียบอยู่ใต้ร่มพระฉาย(เงา)ของพระพุทธองค์...เดินเหยียบอยู่ในร่มเงาของพระตถาคตเจ้า จะปิดกั้นตัวเขาออกจากเรื่องวุ่นวายต่างๆทั้งหลายทีเดียว" วิชาพระเจ้าย่างพระบาทนั้น พ่ออาจารย์ท่านเปรียบเทียบเอาไว้ว่าดุจครูท่านย่างเท้าก้าวเข้ามาในชีวิตเรา ดุจครูท่านยื่นขาเดินเข้ามาร่วมชะตากรรมอยู่กับเราเรียกว่าตกบันไดพลอยโจนทิ้งตัวลงมาอยู่กับเราแล้วเช่นนั้นก็ว่าได้ ดังนั้นวิชานี้จึงเป็นวิชาสำคัญที่เรียกว่าเลือดไม่เข้าตาอย่างถึงที่สุดก็อย่าได้นำมาใช้เพราะคุณครูบาอาจารย์นั้นจะช่วยให้เจริญรุ่งเรืองได้อย่างน่าประหลาดใจ ที่แย่กลับเป็นรุ่ง จากดวงที่ตกต่ำกลับได้ดีเจริญด้วยธนสารสมบัติ ทั้งยังปราบศัตรู ปราบทุกข์เข็ญ พิชิตมาร ทำให้สิ่งที่ข้องขัดและแน่นิ่งไปแล้วไหลลื่น สามารถก้าวต่อไปได้เรื่อยๆไม่หยุดอยู่กับที่และไม่ถอยหลังลงด้วยอาถรรพ์คุณวิชาดุจพระเจ้าเยื้องย่างพระบาทประกาศพระศาสนามีแต่จะก้าวไปข้างหน้าไม่มีทางถอยหลังกลับ เช่นนั้นจึงมีคติไว้ว่าผู้ใดรับไปอาราธนานั้นต้องมีบุญสัมพันธ์กับสมเด็จพระตถาคตเจ้า ด้วยเขาจะใช้ชีวิตดุจเดินเหยียบอยู่ในร่มเงาของพระศาสดา เช่นนั้นคนไม่เชื่อก็ไม่ต้องใช้ เพราะถ้าใครไม่เชื่อก็จะตกนรกอย่างเดียวด้วยเป็นวิชาของพระองค์ท่านให้ผลแรงถึงขนาดนั้น
    - วิชาพระเจ้าย่างพระบาท องค์ปฐมท่านเลือกทำวิชาพระเจ้าย่างพระบาทนี้กับพระพิมพ์เปิดโลกเสริมเข้าไป ท่านว่านอกจากอาถรรพ์จากคุณวิชาแล้วรูปแบบพิมพ์ทรงก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันซึ่งกันและกันด้วย ด้วยถือคติว่าจะทำวิชาพระเจ้าย่างพระบาทใส่พระเปิดโลกให้เป็นมงคลนิมิตแห่งความก้าวหน้า ความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จเพิ่มพูนเกียรติยศแบบไม่รู้สิ้นสุด ดั่งคำว่ามีแล้วไม่จนเป็นอย่างไรท่านก็จะทำให้เช่นนั้น ถือเป็นพระพิมพ์สำคัญที่มีคุณูปการอุปถัมภ์ให้คนใช้เจริญก้าวหน้าเป็นเศรษฐีได้ไม่หยุดนิ่งซ้ำยังประทานพรให้เราดั่งใจได้ทุกสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านเสกกำกับทำวิชาจนมั่นใจว่าใครได้ไปมีไว้จะไม่ตกอับ จะต้องสำเร็จ และต้องเจริญไปควบคู่กันเท่านั้น เรียกว่าวิชาแต่ละชุดนั้นท่านเสกให้เสร็จนานนับเดือนตั้งแต่ยังไม่ได้อุดไม่ได้ฝังอะไรนั่นทีเดียว ทั้งวิชาอาถรรพ์พระเจ้าย่างพระบาทนั้นยังมีอำนาจพิเศษนอกเหนือจากที่กล่าวไปแล้วเพื่อใช้ชะลอผลแห่งกรรมได้ในระดับหนึ่ง เช่นนั้นท่านจึงนำองค์พระที่แกะไว้มาลงจารด้านหลังก่อนกำกับวิชาชะลอกรรมตามศาสตร์ของหลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง เสริมลงไปด้วยอีกคำรบหนึ่งเพื่อให้มั่นใจว่าจะเกิดผลการชะลอกรรมทั้งหนักและเบาทั้งหลายอย่างแน่นอนด้วยอำนาจแรงครู ท่านอธิษฐานจิตเข้าสมาธิเสกตามวิธีของท่านจนจิตเกิดความว่างแล้วถอยอารมณ์เดินคาถาเสกอักขระนี้จนเกิดนิมิตสำเร็จในเบื้องต้น พ่ออาจารย์ท่านว่าการชะลอกรรมนั้นชื่อก็ตรงตัวอยู่แล้วเราจะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้อีก เอาว่ารู้ตัวกันนะสำหรับคนที่กรรมมันหนักมากจนหยุดไม่ได้แล้วจริงๆก็ควรรู้ตัว ในเมื่อหยุดไม่ได้แต่กลับชะลอได้ การชะลอนี้ก็คือการให้โอกาสเธอมีชีวิตใหม่ ให้โอกาสได้สะสม ได้ประกาศคุณงามความดีให้สมกับเป็นคนที่ได้รับโอกาสแล้ว อย่าเอาไปใช้ให้เสียของเปล่ามีโอกาสแต่กลับไม่ทำบุญไม่สนใจการภาวนา เช่นนี้ท่านว่าอย่าได้เอาไปเลยเพราะต่อให้มีของดีเพียงไหน มีโอกาสอย่างไรก็เสียชาติมนุษย์เปล่าๆพ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานจิตทำวิชาชะลอกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่าห้าสิบหกครั้ง เท่ากับกำลังของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ให้มีอิทธิคุณแฝดดั่งกำลัง ดั่งคุณของพระชินสีห์เช่นนั้น ทั้งยังเชิญเสด็จพระใหญ่มาแผ่กำลังทำวิชาพระเจ้าย่างพระบาทให้จนสำเร็จในวาระแรกอีกแปดสิบครั้งให้ได้เท่าวาสนาของพระชินสีห์ดั่งกำลังของ “พุทธะ” ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ผู้รื่นเริงอยู่ในธรรม และไม่มีการหวนกลับย้อนคืนมาสู่ความเป็นปุถุชนอีก เมื่อก้าวไปข้างหน้าย่อมขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุด(พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ทำยากอย่างมาก แค่คิดจะเสกก็นานนับปีแล้ว เพราะทุกอย่างของพิธีกรรมล้วนสัมพันธ์กับวาสนาของพระตถาคตเจ้า ด้วยหมายเอาวาสนานั้นดึงคน ดังผู้มีบุญสัมพันธ์ในอดีตอยู่บ้างแม้เพียงเล็กน้อยกับพระองค์ให้พ้นออกจากเรื่องวุ่นวายทั้งหลาย)
    ท่านเรียกพระสำคัญนี้ว่า
    พระเปิดโลกก้าวหน้า เพราะท่านว่าองค์ปฐมท่านให้ใช้กำราบทุกข์เข็ญ ความอดอยาก แห้งแล้ง และโรคภัยนานาประการที่กำลังเป็นอยู่ เพื่อประโยชน์ใหญ่ที่จะเห็นแจ้งแก่ตนเองว่าไม่ช้าไม่นาน ทั้งอาเพศ ภัยร้าย และทุกข์เข็ญ ความอดอยาก สิ่งขาดแคลน และโรคที่ย่ำยีทั้งหลายจะค่อยๆหมดไปอย่างน่าอัศจรรย์ ให้ผู้ใช้อยู่รอดปลอดภัยจากทั้งภัยของมนุษย์ที่พยายามคุกคาม ภัยจากอมนุษย์ ภัยจากธรรมชาติ และภัยที่มีอันตรายจนอาจทำให้เจ็บให้ตายได้ เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย มีกินมีใช้ต่อเนื่องไปจนถึงกาลดับซึ่งธาตุสังขาร ทั้งยังส่งเสริมให้มีวาสนาและบารมีเหนือผู้อื่นๆ แลมีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพหน้าที่การงานที่คิดจะทำ ได้เป็นเจ้าคนนายคนหรือประสบความเจริญรุ่งเรืองในกิจธุระแห่งตน มีชีวิต ขยับเยื้อนเคลื่อนไหวได้แบบก้าวกระโดด

    แล้วท่านจึงรวบรวมผงวิเศษและว่านยาต่างๆ ทั้ง ไพรดำสาลิกา เทพรำพึง เทพรำลึก ดอกทอง มหาเสน่ห์ กะลาตาเดียว ธาตุแม่โพสพ กฤษนา กะลำพัก ขอนดอก ชมด พิมเสน พิกุล บุญนาก กาหลง บัวเผื่อน สัตตบุตร สัตตบรร บัวหลวง ชงโค โยทกา สวาท หนาด พุท มะกรูด ส้มป่อย จำปา กุหลาบ อังกาบ คันทรง สาวหลง จันขาว จันแดง มะลิวัล มะลิซ้อน มะลิลา ญาณรังสี สหัสรังสี ฉัพรรณรังสี มรกต เหล็กไหล ศรีมหาโพธิ์ สหรีพันต้น ผงคตวิเศษสามตระกูลอาทิคตพืช คตสัตว์จตุบท คตสัตว์ทวิบาท ผงกูโบ๊ท ผงจักรพรรดิ์ ผงเศรษฐีทั้งหก ผงวิชาเศรษฐีทั้งเก้า ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงพุทธคุณ ผงปถมัง ผงปถมังเก้าวรรค ผงปถมังเก้าชั้น ผงสุริยะประภา ผงจันทรประภา ผงเศรษฐี ผงเงินล้าน ผงมหากัน มหาเมตตา มหานิทรา มหาถอน และอื่นๆ ท่านว่าเป็นการรวบรวมมวลสารเพื่อจะสถาปนาพระเครื่องชั้นสูงสุดเช่นนี้เป็นครั้งแรก เมื่อพ่ออาจารย์ท่านทำเครื่องมงคลที่ท่านพิจารณาแล้วว่าเหมาะแก่กันคู่ควรกันทุกกรณี เพื่อฝังและประสิทธิ์ประสาทลงไปนั้น ท่านยังได้ทำวิชาเพิ่มไว้ในองค์พระอีกสองวิชาด้วย โดยลงตะกรุดฝังไว้ด้านหลังสองชนิด
    - ตะกรุดเงินหรือตะกรุดเทวะบัญชา สำหรับตะกรุดเงินนั้นเป็นวิชาที่ปกติพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ทำเด็ดขาด เพราะว่าท่านกริ่งเกรงคนไม่ดีจะเอาไปใช้ แต่เมื่อท่านสร้างสมเด็จองค์ปฐมเพื่อบูชาครูพระบรมศาสดานั้น ท่านว่าวิชาที่จะลงเสริมไว้ย่อมต้องเป็นที่สุด หนึ่งไม่มีสองเช่นกันถึงจะคู่ควร ท่านจึงทำตะกรุดเทวะบัญชาขึ้น ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาทางปากดีๆนี่เอง แต่ว่าอยู่คนละขั้นกับปากพระร่วง ท่านว่าวิชานี้แทบจะสูญหายหรือไม่มีคนใช้กันแล้ว เพราะให้คุณรุนแรงตรงตามปากพูด ดุจว่าเป็นเทวราชบรรหาร ทุกสิ่งที่ขอที่อธิษฐานเป็นปกาศิตจากเทวดา เมื่อพูดสิ่งใดย่อมเป็นไปตามนั้น เสมอปาก เสมอความคิด เสมอใจ จึงเรียกตะกรุดนี้ว่าเทวะบัญชา เหมือนเทวดามีคำสั่งอะไรออกมาทุกสิ่งย่อมสำเร็จสัมฤทธิ์ผลเสียบัดเดี๋ยวนั้น ไม่ช้าไม่นานเลย
    - ตะกรุดเงินดอกที่สองหรือตะกรุดเสมอฝัน ท่านว่าคนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิด ที่จะฝัน ที่จะสร้างกำลังใจให้ตัวเอง เพื่อขวนขวายชีวิตความเป็นอยู่หรือสิ่งต่างๆบรรดามีให้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น แต่จะมีซักกี่คนเล่าที่เดินตามความคิด ความฝัน มีบุญเปิดฟ้าหนุนส่งจนประสบความสำเร็จ ซึ่งแน่นอนว่าคนเหล่านี้มีเสียน้อยยิ่งกว่าน้อย ที่เหลือนั้นเดินไปได้แต่ไม่สุดบ้างหรือแค่คิดจะเดินก็ล้มเหลวแล้วบ้าง ท่านว่าตะกรุดเสมอฝันนี้ท่านไม่พูดมาก บอกแค่คร่าวๆว่าฝันที่เป็นจริงก็แล้วกัน มันจะช่วยทำให้เราสานต่อและเติมเต็มความฝันความปรารถนาในชีวิตเราได้ไม่มีอุปสรรคใหญ่โตหรือติดขัดสิ่งใดจนต้องหยุดชะงัก ความหมายก็ตรงตามชื่อว่าเสมอฝัน ขอให้ความฝันนั้นเป็นเหตุแห่งความเจริญรุ่งเรืองย่อมสำเร็จโดยพระพุทธานุภาพ

    ทั้งองค์พระเปิดโลกนั้นครูท่านโองการให้พ่ออาจารย์ท่านหล่อ"พระสยามเทวาธิราชนั่งเมือง"ฝังไว้ด้วย
    "พระสยามเทวาธิราชนับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โดยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์มีพระราชดำริว่า ประเทศไทยมีเหตุการณ์ที่เกือบจะต้องเสียอิสรภาพมาหลายครั้ง แต่บังเอิญมีเหตุให้รอดพ้นภยันตรายมาได้เสมอ ชะรอยคงจะมีเทพยดาที่ศักดิ์สิทธิ์คอยอภิบาลรักษาอยู่ สมควรที่จะทำรูปเทพยดาองค์นั้นขึ้นสักการบูชา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าประดิษฐวรการปั้นรูปสมมติขึ้น แล้วหล่อด้วยทองคำแท่ง มีลักษณะแบบเทวรูป มีความสูง ๘ นิ้ว ทรงเครื่องอย่างเทพารักษ์ ทรงมงกุฎ ประทับยืน พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นในท่าจีบเสมอพระอุระ ประทับในเรือนแก้วทำด้วยไม้จันทน์ มีลักษณะแบบวิมานเก๋งจีน และถวายพระนามว่า พระสยามเทวาธิราช โปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐานไว้ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง"......
    เกี่ยวกับพระสยามนั้นก็เป็นที่น่าแปลกใจว่าเป็นเทพซึ่งมีชื่อใกล้เคียงกับท้าวสุยามเทวราชจอมภพแห่งสวรรย์ชั้นยามาจริงๆพ่ออาจารย์ท่านได้พูดถึงพระสยามเทวาธิราชนี้ไว้คร่าวๆ ว่าเป็นชื่อเรียกเทวดา แต่เป็นชื่อที่เรียกรวมแบบหมู่คณะ มิได้เจาะจงเฉพาะผู้ใด เอาว่าถ้าเราเรียกพระสยามเทวาธิราชนี่จะมากันหมด มากันเป็นหมู่ใหญ่เชียวล่ะ มีทั้งเทพ จอมเทพ และพรหมชั้นต่างๆรวมกันอยู่มากมาย พระสยามเทวานี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยรวมส่วนใหญ่จะเป็นดวงพระวิญญาณอดีตบูรพกษัตริยาธิราชเจ้าตั้งแต่ยุคบุกเบิกอาณาจักรย้อนไปถึงอารยธรรมโบราณนั่นทีเดียว ทั้งพระมหากษัตริย์เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินที่เค้ารักบ้านรักเมือง ห่วงบ้านห่วงเมือง คุ้มเกรงบ้านเมืองและประชาชนที่นับถือบูชา นอกจากนั้นคำว่าพระสยามเทวานี้ พ่ออาจารย์ท่านยังบอกว่าเป็นชื่อที่สำคัญมากนะ ส่วนใหญ่คนจะใกล้เกลือกินด่าง รู้จักชื่อท่าน แต่ไม่เคยไหว้หรือบนบอกท่านกันเสียเท่าไหร่
    จริงๆแล้วท่านเป็นเทพที่มีคุณใหญ่หลวง มีอานุภาพมาก มีความรักและปรารถนาดีอย่างยิ่งกับลูกหลานเชื้อชาติไทย พ่ออาจารย์ท่านว่าพระสยามเทวาธิราชนี้คือกลุ่มคณะเทพพรหมที่มีอำนาจใหญ่สูงสุด เรืองอำนาจที่สุดของพระราชอาณาจักร ไม่ว่าจะเป็นเทพที่มาจากอำนาจ ความเชื่อ หรือลัทธิใด เมื่อมาอยู่ในประเทศไทยแล้วก็ล้วนแต่อยู่ในอำนาจของกลุ่มพระสยามนี้ทั้งสิ้น
    พ่ออาจารย์ท่านมีดำริจะสร้างพระสยามเทวาธิราชตามแบบอย่างเทวรูปที่สร้างไว้ในสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่สี่ แต่ด้วยโองการครูพ่ออาจารย์ท่านว่าครูท่านให้ทำปางนั่งเมืองถือพระขรรค์ จะได้ประทานพรเรื่องความมั่นคงให้รากฐานแข็งแรงทั้งทรัพย์สมบัติ ดลความปรารถนาให้บังเกิดให้สำเร็จให้มั่งมีในวิถีชะตาของผู้กระทำสักการะเทวะบูชา ดังน้นพ่ออาจารย์ท่านจึงกระทำตามครูสั่งเช่นนั้น ก่อนจะใช้ธาตุกายสิทธิ์เหล็กไหลต่างๆผสมด้วยแผ่นจารวิชายันต์เรียกทรัพย์และปรอทกายสิทธิ์ทั้งหลายทั้งปรอทดิน ปรอทป่า ปรอทดำ ปรอทหลวงปู่ละมัย หลอมหล่อออกมาเป็นรูปเทพยดาเจ้าทรงพระขรรค์เพชร พ่ออาจารย์ว่าโดยนัยน์แล้วหมายถึงการกระทำสำแดงพระราชอำนาจอันเป็นอาญาสิทธิ์เหนือสรรพีวิตทั้งปวงในพระราชอาณาจักรของพระสยามเทวาธิราช
    เมื่อท่านหล่อองค์พระสยามนั้น พ่ออาจารย์ท่านก็นำมาเสกเก็บไว้ ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่าพระสยามนี้เป็นของสูง มีปรากฏการณ์ธรรมชาติตั้งแต่เมื่อครั้งหล่อหลอมแล้ว ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านพูดเกี่ยวกับพิธีตอนหล่อพระสยามว่า ได้ปรากฏมีสายอสุนีบาตฟาดลงมาใส่เบ้าตอนหลอมชนวนมวลสาร ดังนั้นพระสยามรุ่นนี้จึงได้ประจุอานุภาพของสายฟ้าไว้ เป็นอานุภาพที่รุนแรงของเทพเจ้า ที่จะใช้ทำลายหมู่มารไพรี ทั้งอุปัทวมงคล โภยภัย อันตราย โรคร้ายต่างๆ เครื่องขัดขวางหนทางอุปสรรคชีวิตทุกประการ เป็นอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นด้วยกาล ด้วยวาระที่พิเศษจริงๆ เมื่อท่านหล่อหลอมแล้วพ่ออาจารย์ท่านก็นำมาเสกเก็บไว้เนืองๆ เพราะท่านให้เหตุผลว่าคณะพระสยามนี้เป็นเทพคณะใหญ่ครอบคลุมสวรรค์ชั้นฟ้า มีตั้งแต่ชั้นจาตุมหาราชิกาไล่ขึ้นไปจนถึงมหาพรหม ดังนั้นเมื่อจะสร้างพระสยาม เทพทั้งหลายหรือคณะเทพพระสยามนี้ท่านจะลงมากันหมด ด้วยท่านถือว่าชื่อพระสยามนี้เป็นชื่อเป็นตำแหน่งของพวกท่าน ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านต้องค่อยๆทำและเชิญไปเรื่อยๆให้รูปเปรียบพระสยามนี้มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์สูงสุด โดยพ่ออาจารย์ท่านได้นำเหล็กกจารมาลงจารเรียกสูตรกลึงวิชานะเรียกเงินมาใส่ไว้ที่ด้านหลังองค์พระทุกองค์ ท่านว่าครูเขาสั่งจะได้ประเคนมาให้ถึงที่ ขอให้มีมานะขยันทำมาหากินอีกนิด มีความเห็นที่ถูกทางประพฤติตนในกรอบคุณธรรม ครูพระสยามท่านว่า "กูจะไม่ทิ้งมึง" พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกสิ่งนั้นล้วนเป็นไปตามกฏและกำหนดการณ์ไม่มีความบังเอิญใดๆทั้งสิ้น เมื่อองค์ประกอบครบจึงจะลงตัว อันคณะเทพพระสยามนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีทั้งเทพและพรหม เป็นคณะของอดีตบูรพกษัตริย์ตลอดจนดวงจิตของขุนศึกทุกท่านตลอดจนบุคคลสำคัญต่างๆตั้งแต่ยุคปฐมก่อกำเนิดอาณาจักรย้อนกลับไปไกลกว่ายุคสุโขทัยที่ยังรักบ้านรักเมืองรักลูกหลานเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย ที่ยังรักยังห่วงแผ่นดินท่านสายเลือดของพวกท่าน ซึ่งพ่ออาจารย์ก็ได้ค่อยๆทำและเชิญไปจนครบจนสำเร็จเพื่อให้พระสยามนี้มีอานุภาพสูงสุด ท่านกล่าวว่าในรูปพระสยามของเราเพียงองค์เดียวนั้น หากใครตาดีจิตดีก็จะมองออกว่าประกอบไปด้วยเทพพรหมมากมายมาอารักขา เป็นคณะเทพพระสยามนั่นเอง ไม่ใช่รูปของเทพทั่วไปเพียงองค์สององค์ไม่ พ่ออาจารย์ท่านว่าของเช่นนี้สำคัญนะ เพราะว่าไหว้ทีก็ไปถึงกันทั่ว ขอพรองค์เดียวเหมือนขอพรคณะเทพนับร้อยพัน ด้วยองค์เทพพระสยามทั้งคณะนี้ก็อธิษฐานบอกกล่าวท่านได้ร้อยแปดพันประการอยู่แล้ว ท่านหมั่นเพียรเสกเก็บค่อยๆทำไปจนมั่นใจว่าเปล่งอานุภาพครบเต็มพระบารมี ท่านจึงให้นำมาฝังพระชุดนี้
    *** จากที่มีคนถามหามาเรื่อยๆ และญาติตลอดจนเพื่อนๆของเศรษฐีผู้โชคดีคนที่เคยใช้พระสยามของพ่ออาจารย์ที่รู้ข่าวก็ปิดข่าวและติดต่อมาอยู่เนืองๆ ถามหาและรอเวลากันว่าเมื่อไหร่พ่ออาจารย์จะนำพระสยามออกมาให้ร่วมทำบุญ เพราะพวกเขาอยากได้กันจริงๆและกลัวใจว่าจะไม่ทันจึงต้องปิดต้องบังและถามกันมาเรื่อยๆ ประกอบกับที่บางคนเจอแรงครูท่านไปตาม จึงทำให้พระสยามนั้นเป็นเครื่องมงคลลับๆที่มีคนรอจองมากมายนับ ด้วยองค์พระมีน้อยท่านจึงตัดปัญหาฝังในพระเปิดโลกสำคัญนี้ทั้งหมด ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็บอกว่าท่านไม่ได้จำกัดไว้ว่าจะต้องให้ใครหรือเป็นของผู้ใด ท่านว่าให้รอพร้อมๆกัน ใครมีบุญรับได้ก็เป็นของคนนั้น ถ้าเราใช่ เป็นของๆเราจริงๆเราก็จะได้ครอบครอง

    เมื่อท่านได้เตรียมมวลสารพร้อมแล้ว ทุกอย่างประกอบกันสมบูรณ์ดีแล้ว ท่านได้ขอคำปรึกษาจากเสด็จพระใหญ่ให้ลงมาช่วยกำกับในทุกขั้นตอนด้วย ซึ่งตรงนี้นั้น เมื่อท่านขอท่านได้รับคำแนะนำว่าให้นำของกายสิทธิ์อันมีพลังงานของสวรรค์ เป็นของวิเศษที่เทพพรหมรักษาอันท่านได้มาจากชาวบังบดมาประดิษฐานลงไปด้วย พ่ออาจารย์ท่านปกติจะใช้เหล็กไหลนี้ทำน้ำมนต์บ้าง อธิษฐานจิตภาวนาหรือสวดบริกรรมบ้าง แต่เมื่อได้รับคำสั่งท่านถือว่าเป็นโองการที่ไม่ควรคิดเป็นอื่น ทุกสิ่งเป็นของนอกกาย เมื่อควรจะสละก็ต้องสละมันเสีย ท่านจึงอาราธนาให้ดวงเหล็กไหลนั้นแตกออกมา มีกี่ส่วนท่านก็จะทำพระเพียงเท่านั้นองค์ หากแตกออกมาชิ้นเดียวก็จะทำเพียงองค์เดียว โดยวันรุ่งขึ้นนั้นท่านตรวจสอบพบความอัศจรรย์ว่าก้อนเหล็กไหลนั้น ได้แบ่งส่วนตัวเองออกมาถึงเก้าส่วนซึ่งท่านได้ทำพระชุดเนื้อผงไปหมดแล้ว และในวาระเดียวกันยังเหลือส่วนนึงซึ่งเป็นลูกที่ไม่สมบูรณ์(***ส่วนนี้เองที่ท่านได้แยกไว้บดทำพระชุดพิเศษนี้)และจะตกต้องแก่ผู้มีบารมีคู่ควรกันเท่านั้น เมื่อท่านผสมเนื้ออุดผงฝังของอาถรรพ์แล้วท่านได้นำมาเสกเก็บไว้ตกสองปี ซึ่งการเสกนี้ไม่ใช่การเสกแบบธรรมดา แต่เป็นการเสกและอธิษฐานจิตแบบเปิดโลก ซึ่งต้องใช้กำลังใจสูงมากกว่าการเสกที่ผ่านๆมา โดยทุกวาระท่านจะหาสถานที่สงบที่มีพลังธรรมชาติสูงจากการคำนวณของท่านเองและนำองค์พระนี้ไปเสกแบบเฉพาะกิจเปิดโลกมาตลอด ท่านว่าทำทุกครั้งเราไม่ได้ทำคนเดียว ท่านบอกแค่เราเสกแบบเปิดโลก เสด็จพระใหญ่ท่านก็ทำให้แบบเปิดโลกเช่นกัน ทั้งยังนำไปหนุนหัวนอนเสกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันท่านว่าเรานอนอธิษฐานทำการเสกแบบถือเคล็ดไว้ด้วยนั่นคือเอามาหนุนหัวนอน เพื่อที่คนบูชาจะได้หนุนดวงไม่ให้ตกดุจดั่งองค์พระนี้ที่หนุนหัวค้ำศรีษะของท่านมานานนับปี ให้มีคุณวิเศษทางหนุนดวง ค้ำชะตา ยกฐานชีวิตให้สูงขึ้น คงจะไม่มีพระรุ่นใดแล้วที่พระองค์ท่านจะเมตตาทำให้ถึงเพียงนี้ ท่านพูดเพียงแต่ว่านี่คือตำนานสืบไป เบื้องหน้านั้นย่อมไม่ปรากฏขึ้นอีก

    "ถ้าไม่น้ำตาตกอย่าเพิ่งเอามาใช้" ด้วยปัจจุบันท่านเห็นว่าคนเริ่มน้ำตาตกใน เจ็บช้ำน้ำใจจากภัยรอบด้านด้วยไม่อาจต่อต้านหรือเปลี่ยนแปลงวงจรชีวิตของตนให้ดียิ่งๆขึ้นไปได้ พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าอาการเหล่านี้ตรงกับคำของเสด็จพระใหญ่ท่านนั่นคือคนเริ่มน้ำตาตกในแล้ว ควรแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะเอาองค์พระเปิดโลกนี้ให้กับคนที่เหมาะสมและคู่ควรใช้อาราธนาเพื่อวัตถุประสงค์ชะลอกรรมด้วยวิชาและแรงของครูต้นวิชานั่นเอง

    คาถาบูชา(ท่านว่าจิตดีๆนึกถึงพระพุทธเจ้าก็ใช้ได้แล้ว แต่ถ้าจิตไม่ไดีก็สวดพุทธคุณนึกถึงองค์ปฐมเอาแค่นั้นเพราะนี่เป็นวิชาของท่าน)
    อิติปิโสภะคะวา อะระหังสัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

    - อาราธนาพระสยามเทวาธิราช
    สยามะเทวาธิราชา เทวาติเทวามหิทธิกา เตปิตุมเหอนุรักขันตุ อาโรคะเยเนะสุเขนะจะ เอเตนะสัจจะวัชเชนะสุวัตถิโหตุสัพพะทา
    สยามะเทวานุภาเวนะ สยามะเทวะเตชะสา ทุกขะโรคะภะยาเวรา โสกาสัตตุจุปัททะวา อะเนกาอันตะรายาปิ วินัสสันตุอะเสสะโต ชะยะสิทธิธะนังลาภัง โสตถิภาคะยังสุขังพะลัง สิริอายุจะวัณโณจะ โภคังวุฑฒีจะยะสะวา สะตะวัสสาจะอายุจะ ชีวะสิทธีภะวันตุเม
    (พระสยามเทวาธิราชเป็นจอมเทวดา ยิ่งใหญ่กว่าเทวดาทั้งหลายทรงมีมหิทธิฤทธิ์แกล้วกล้ายิ่ง ขอพระองค์จงอภิบาลรักษาข้าพเจ้าให้ปราศจากโรคาพาธ อุปาทวะอันตราย ความพินาศทั้งหลาย ขอให้ข้าพเจ้ามีความร่มเย็นเป็นสุขด้วยประการทั้งปวง ด้วยอำนาจสัจจะวาจาที่อ้างถึงพระสยามเทวาธิราชนี้ ขอจงประทานความสุขสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ข้าพเจ้าด้วยประการทั้งปวง ด้วยอานุภาพพระสยามเทวาธิราชและเดชพระสยามเทวาธิราช ขอจงขจัดทุกข์ โรคภัย ความโศก ศัตรู อุปัทวะ และอันตรายมิใช่น้อย ให้พินาศไปโดยไม่เหลือ ขอชัยชนะความสำเร็จแห่งกิจการ ทรัพย์ ลาภ ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข กำลัง ศรี อายุ วรรณะ โภคสมบัติ ความเจริญ และยศ ตลอดจนการมีอายุยืนหนึ่งร้อยปีขึ้นไป ความสำเร็จแห่งกิจการงานในความเป็นอยู่จงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ)


    **** สำหรับพระเปิดโลกเนื้อพยุงนิพพานเจ็ดชาตินั้น พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ได้ห้าองค์โดยท่านแยกไว้เลี่ยมติดตัวเององค์หนึ่งจึงมีให้บูชาสี่องค์ ท่านว่าจะมีไว้เป็นมงคลแก่ชีวิตเฉพาะผู้มีวาสนาต้องกัน ต้องเกื้อหนุนกัน ต้องช่วยเหลือกัน ต่อไปภายหน้าถึงแม้รวยล้นฟ้าแต่ไม่มีวาสนาก็ไม่สามารถครอบครองได้ รายการนี้รับเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้บูชาท่านให้แจ้งเพียงชื่อนามสกุลไว้ ท่านจะทำการเจิมบอกกล่าวเสด็จพระใหญ่รวมถึงจิตกายสิทธิ์ในไม้อาถรรพ์และองค์เหล็กไหลอีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษาต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระเปิดโลกเบิกมรรคาพยุงนิพพานเจ็ดชาติจักพรรดิเทวะบัญชา(พระสยามนั่งเมือง) บูชา 4,000 บาท



    87492219-888959284867097-6106312591368257536-n.jpg 87872267-625699858274158-928029835802968064-n.jpg
    89512632-592780148118116-588841828757798912-n.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดทวิภาคฟ้าสั่งรวยมหาศาสตร์โยนีคลั่งรัก(อุดยาภารตะ,ว่านดอกทองเข้านางสามตัณหา)

    *** ตะกรุดรุ่นนี้เป็นดอกครูที่ต้องบีบอักขระทั้งสองพระยันต์จารไว้ในดอกเดียว
    ถือว่าทำได้ยากทั้ยังต้องใช้พลังจิตพลังใจมากกว่าดอกปกติที่เคยให้บูชาทั่วไป จึงนับได้ว่ารุ่นนี้ตะกรุดแต่ละดอกนั้นย่อมแกร่งกล้าอิทธิคุณอย่างแท้จริง

    พ่ออาจารย์ท่านอธิบายว่าวิชาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องทะลึ่งหรือสิ่งผิดแต่อย่างใด โยนีนี้เป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิง หรือเปรียบแทนแม่ผู้ให้กำเนิด แม้แต่ในคัมภีร์พระเวทย์นับแต่ยุคโบราณก็มีกล่าวถึงหลายครา ท่านว่าโยนีคือต้นกำเนิดแห่งชีวิต ทุกสิ่งถ้าปราศจากชีวิตนั่นคือสิ่งที่ตายแล้ว ไม่อาจจะเจริญหรือมีพัฒนาการใดๆได้ ซ้ำโยนี้นี้ยังเป็นตัวแทนของพลังงานแห่งมหาศักติและองค์เทวีทั้งหลายด้วย พลังงานแห่งมหาศักติและมหาเทวีนั้นคือรูปของการสร้างสรรค์ เป็นพลังยิ่งใหญ่ที่ไม่หยุดนิ่งสามารถเคลื่อนไหวไปได้ทั่วหมื่นจักรวาล มหาศาสตร์โยนีนี้จึงมีความสำคัญมาก เพราะเชื่อกันว่าหากปราศจากโยนีแล้วความเป็นบุรุษเพศก็จะไร้ค่าและหมดความหมายไป ท่านว่าวิชานี้จึงมุ่งเสริมให้ใช้ได้ทั้งชายและหญิงทีเดียว และเมื่อจะสร้างท่านพิจารณาแล้วจึงได้ใช้ความรู้เก่าซึ่งนับว่าครูแรงที่สุดเมตตามาใช้ทำการสร้างและปลุกเสก
    พ่ออาจารย์ว่าวิชามหาศาสตร์โยนีคลั่งรักนั้น ท่านจะลงวิชาซึ่งเป็นโยนีมหาภูติเอาไว้ วิชานี้ท่านได้มาสมัยธุดงค์เป็นวิชาของเหล่าเพชรพญาธรที่จะมาจารึกไว้ตามผนังถ้ำให้พวกฤาษีได้เห็นได้เรียน ตลอดจนให้ผู้มีบุญที่คิดว่าจะรับวิชาได้ ได้เห็นได้รู้ นำไปใช้ให้เกิดคุณประโยชน์ ท่านว่าวิชาเหล่านี้ย่อมมีพลังสูงสุด ต่างจากวิชาที่เรียนหรือศึกษากันโดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากครูเค้าแรง ท่านว่าเรียนได้ครั้งเดียว เมื่อไปดูอีก ทุกสิ่งย่อมอันตรธานหายไปดั่งเช่นไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

    พ่ออาจารย์ท่านทำอย่างพิถีพิถัน โดยตะกรุดทวิภาคนั้นจะแบ่งออกเป็นสองส่วน จะขอกล่าวถึงก่อนเป็นส่วนๆไป
    - ในระดับแรกเราก็จะมาพูดถึงวิชาโยนีก่อน ท่านว่าท่านทำตามวิชาศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวไว้ข้างต้น นำมาผสมผสานกับศาสตร์วิชาโยนีสายเขมรกลั่นกรองออกมา โดยท่านกล่าวว่ามหาโยนีนี้คือเครื่องรางที่มีอำนาจของเทพเจ้าฝ่ายมหาศักติทั้ง 108 องค์หนุนส่งไหลเวียนอยู่ จะไม่แรงได้อย่างไรก็ในเมื่อมีแม่ที่เก่งกล้าในทุกทางสารพัดอยู่ร่วมกันถึงปานนั้น เพื่อให้ได้เครื่องรางทางเสน่ห์ที่แรงที่สุด ปลุกเสกเรียกธาตุมหาโลกียะทั้งสี่ใส่อาการจนครบ ท่านว่าเครื่องมงคลนี้พระสงฆ์องค์เจ้าจับไม่ได้เลย อย่าแม้แต่คิดจะนำไปใช้ เดี๋ยวผ้าเหลืองจะร้อน วัวเขานิ่ม(สตรีเพศ)จะมาขวิดเอาไปกินเสียหมด
    ด้านอานุภาพนั้น ตะกรุดมหาศาสตร์โยนีคลั่งรักนี้ใช้ได้หลายอย่าง
    พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้ให้เจริญทางโลกก็ได้ จะเล่นทางเสน่ห์เมตตาก็ย่อมได้ เพราะท่านเสกเน้นด้านเสน่ห์ รัญจวนจิตอย่างแรงให้ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย พกพาอาราธนาไว้จะทำให้คนอื่นมองเห็นเราดูดีขึ้นเพราะพลังแห่งมหาศักติคือพลังที่อ่อนโยนจะช่วยให้เราดูหนุ่มขึ้นหรือสาวขึ้นกว่าปกติ หรือแม้จะใช้อธิษฐานให้ดลใจคนที่เราหมายปองก็ย่อมได้ ท่านว่าคำว่าคนที่หมายปองนั้นไม่จำเป็นต้องรักใคร่ชอบพอถึงจะอาภัพคู่ รูปไม่สวย ไม่หล่อไม่น่าพึงใจก็เปลี่ยนเป็นเจริญใจได้ จะใช้ในการงานการเข้าหาคน อธิษฐานให้แม่โยนีดลจิตดลใจเขาก็ได้ มีอำนาจพลังลึกลับในการจูงจิต จูงใจ ผูกจิต ผูกใจคน กระตุ้นให้เค้าอยากรู้จักเรา สนใจเรา ใกล้ชิดเรา ท่านว่าใช้ไปเรื่อยๆจะรู้เอง ท่านเรียกว่าแรงสั่งได้ สะกดให้ลุ่มหลงก็ได้ ออกได้ทุกทางตามแต่ใจจะปรารถนา

    นอกจากนี้มหาศาสตร์โยนียังมีคุณด้านอื่นๆเสริมอยู่ในตัวเองอีกด้วย ท่านว่ากันคุณกันของ การกระทำทางไสยศาสตร์ทั้งหมดไม่ต้องห่วง รับรองว่าไม่ได้กิน ซ้ำเมื่อใดที่พกตะกรุดนี้อยู่ผีสางทั้งหลายย่อมไม่ปรากฏตัวมาหลอกหลอน หรือแม้แต่จะคิดทำร้ายรังแกเราได้เลย ที่สำคัญกว่านั้นท่านว่าโยนีนี้ท่านตั้งใจทำมาก เพราะมันเป็นวิชาพิเศษที่หาไม่ได้จากที่ไหน คือมีพลังอำนาจในการดูดทำลายเรื่องอัปมงคลต่างๆ แม้พกไว้กับตัวใครที่ว่าป่วยหน้าดำ มีเรื่องไม่ดี ต้องอุบาทว์ ชีวิตซวย มีสิ่งผิดปกติในร่างกายทุกสิ่งนั่นแหละท่านว่าจะถูกดูดทำลายให้เสื่อมถอยกำลังไปหมด ### ถึงขั้นที่ว่าอาราธนาตะกรุดนี้แม้ตัวเองผ่านอาถรรพ์เรื่องเสื่อมเหตุอันเสื่อมหรือโดนของใดๆกระทำมาก็หลุดหมด เป็นดาวข่มอวมงคลทั้งหลายอย่างแท้จริง เพื่อแก้ทางไม่ให้เรามีสิ่งใดมาปิดกั้นขัดขวาง จะได้รับพลังได้โดยง่าย ปรารถนาสิ่งใดจะใช้ทำอะไรล้วนสำเร็จทุกประการ

    นอกจากนี้ยังใช้ทางโชคลาภได้ จะค้าขายก็ดีหรือแสวงหาโชคลาภก็ดีท่านว่าใช้ได้หมด เสกให้เกื้อหนุนดวงชะตา ใครที่คิดว่าชีวิตอดอยาก เงินทองฝืดตัว ทำมาหากินติดขัด นี่แหละท่านว่าของแก้ทาง รับรองว่ามีกินไม่อด เงินทองไม่ขาดสภาพคล่อง มีดีทางโชคลาภอยู่แล้ว ทำมาหากินราบรื่นไม่ติดขัด ท่านว่าถ้าใช้เรื่องเสี่ยงโชค มีแต่ดีกับได้ทุกทาง ท่านว่าไม่อยากจะพูดเลยแต่ก็จะบอกไว้คร่าวๆ ### ตะกรุดนี้เวลาพกพาไปในสถานที่ต่างๆที่มีการฝังของฝังอาถรรพ์ไว้ ท่านว่าต่อให้ของที่ไหนแรงๆก็เถอะรับรองว่าสะกดหรือข่มเราไม่ได้ทั้งนั้นในมหาทิศทั้งสี่นี้ไปได้กลับได้อย่างปลอดภัยทุกที่

    นอกจากนั้นตะกรุดทวิภาคหนึ่งดอกนั้นแบ่งเป็นสองส่วนที่พ่ออาจารย์ท่านต้องเพ่งสมาธิมนต์วิชาลงจารอักขระพ่ออาจารย์ท่านยังได้ลงวิชาปถมังสูงสุดในสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าเสริมไว้ด้วย ท่านว่า *** วิชานี้มีสามระดับหาคนเรียนสำเร็จและทำได้จริงยากนัก ท่านว่าหลวงปู่ศุขใช่ว่าจะดีแต่ทางเหนียว แต่ท่านทำได้ทุกทาง ด้านโชคลาภนี้ก็หาตัวจับยากเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเล่นแต่เสน่ห์อย่างเดียวก็ไม่งาม ยุคนี้สมัยนี้ต้องรวย ต้องมีกินด้วย ท่านจึงลงตะกรุด ที่เรียกว่าฟ้าสั่งรวย ตำรับหลวงปู่ศุขไว้คู่กัน ท่านว่าวิชานี้เป็นศาสตร์วิชาโบราณ เป็นอีกหนึ่งคุณวิชาที่มีดีครบหมด เมตตาก็มี แต่ทว่าที่เด่นและแรงแซงหน้าทางอื่นก็คือโชคลาภ ท่านว่าตัวฟ้าสั่งรวยนี้เน้นทางหาเงินหาทอง ให้ผู้ใช้เจริญในเงินทองทรัพย์สมบัติบริบูรณ์ ให้รุ่งเรืองเป็นมหาจำเริญขั้นสูงสุด ท่านว่าตะกรุดฟ้าสั่งรวยนี้สมัยก่อนหลวงปู่ศุขท่านจะทำให้พวกเศรษฐี คนธรรมดาไม่มีหวังจะได้เห็น เพราะว่าเค้าจะแข่งความร่ำรวยกัน ใครมีตะกรุดนี้เงินทองเหมือนอยู่ใกล้มือ ทำอะไรก็ทางสะดวกไม่ไกลเกินเอื้อม เป็นเคล็ดลับที่เศรษฐีสมัยก่อนไม่นิยมบอกหรือพูดต่อกัน เรียกว่าใช้จนตายไปกับตัว วิชาฟ้าสั่งรวยนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแรงนัก...จะไม่แรงได้อย่างไร ท่านว่าชีวิตคนนั้นประกอบด้วยตัณหาทั้งสาม คือความอยากในอารมณ์รักใคร่หนึ่ง ความอยากในอารมณ์อยากมีอยากเป็นหนึ่ง ความอยากในอารมณ์ที่ไม่อยากมีไม่อยากจะเป็นหนึ่ง ท่านว่าตะกรุดฟ้าสั่งรวยคือวิชาที่เสริมตัณหาทั้งสามนี้ให้บริบูรณ์ พูดให้ครบคือได้ในสิ่งที่คิด ห่างไกลในสิ่งที่ไม่พึงใจ ก็แล้วมันจะไม่ดีได้ยังไง ก็ในเมื่อมันตอบสนองความคิดจิตวิญญาณตัณหาคนใช้ถึงปานนั้น

    วิชานี้ท่านว่านอกจากจะเป็นสิ่งที่ถูกปกปิดแล้วยังเป็นวิชาที่แปลกพอๆกับศาสตร์มหาโยนีเลยทีเดียว ท่านจึงตัดสินใจนำมารวมกัน เพราะวิชาฟ้าสั่งรวยนั้น ก็เหมือนกับชื่อคืออยู่ดีๆฟ้าก็สั่งให้คนๆนี้รวย มันเป็นพลังวิชาแบบปาฏิหาริย์ ตั้งแต่สมัยหลวงปู่ศุขแล้วท่านก็ไม่ได้ทำให้ใครมาก เพราะผู้รับก็เหมือนภาชนะที่จะรองรับปาฏิหาริย์ฟ้า เป็นชีวิตที่จะต้องเกิดปาฏิหาริย์ ถ้าเดิมชีวิตเค้าไม่ดีก็เรียกว่าจะพลิกกลับจากหน้าเป็นหลังมือทีเดียว *** พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเจริญขึ้นเป็นลำดับ ต่อชาติ ต่อภพไป เช่นว่าคนยากจนจะเป็นเศรษฐี เศรษฐีจะเป็มหาคหบดี มหาคหบดีจะเป็นขุนนางเจ้าพระยามหาอำมาตย์ เจ้าพระยามหาอำมาตย์จะเป็นกษัตริย์ กษัตริย์จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ท่านว่านี่คือวงจรชีวิตที่ต้องเกิด ถ้าชาตินี้จบลงที่ตรงไหน ก็ไปเริ่มใหม่ที่ชาติหน้าไม่มีถอยกลับจนกว่าจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์นั่นเอง

    ### เหนือสิ่งอื่นใดตะกรุดชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านยังได้นำผงชุดพิเศษมีพืชพรรณอาถรรพ์ ว่านเก่งมีฤทธิ์มีตัวมีเพชรพญาธรรักษา ตลอดจนผงยาต่าง ท่านเรียกว่ายาสิบหกภาษา หมายถึงยาวิเศษสิบหกชาติพันธุ์เป็นการเรียกให้ครอบคลุมชาติพันธุ์สิ่งมีชีวิตทั้งหมด ท่านว่าผงยาเหล่านี้แรงสะเทือนอารมณ์กันเลยทีเดียว ตลอดจนผงวิเศษต่างๆมาผสมกันโดยเน้นใช้เนื้อว่านดอกทองเป็นหลัก ลำพังว่านดอกทองนี้ก็แรงพอดูแล้วท่านว่า ตั้งแต่สมัยโบราณเชื่อกันว่า ถ้าใครได้สัมผัส ได้กลิ่นหอมของว่านชนิดนี้ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย จะทำให้ผู้ใช้มีเสน่ห์ น่ารัก น่าคบหามากขึ้นคืออันนี้พูดแบบอ่อนที่สุดแล้วนะเอาว่าเขาอยากจะเข้าหาเราแล้วกัน ความจริงมันรุนแรงกว่านั้นเยอะถึงขั้นเลยเถิดไปไกลทีเดียว เอาแค่อย่างอ่อนๆเพราะท่านว่าไม่สามารถพูดได้เต็มที่ เอาว่าใครเห็นจะรักจะชอบ หากใช้กับคนรัก ไปไหนแล้วจะต้องกลับมาเชยชม กินอยู่หลับนอนอยู่ด้วย ดังนั้นครูบาอาจารย์แต่โบราณจึงนิยมนำมาทำมวลสารพระในตระกูลขุนแผนอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่ขุนแผนหลวงปู่ทิมก็ตาม เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และว่านนี้ก็ยังมีหลายตัวหลายตระกูล มีความแรงแตกต่างกันไป พ่ออาจารย์นำว่านดอกทองที่ท่านปลูกและกู้เองทุกตระกูล ซึ่งเป็นว่านที่เปี่ยมด้วยฤทธิ์ของเพชรพญาธรซึ่งมีอานุภาพมากกว่าว่านดอกทองปกติมาพลีหั่นบดลงเป็นผงเพื่ออุดตะกรุดครั้งนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ท่านยังเมตตานำยาภารตะผสมคลุกลงในผงและว่านวิเศษเป็นกฤติยาคมแฝดด้วย
    - ยาภารตะ พ่ออาจารย์ท่านได้ปรุงยาภารตะสั่งเสน่ห์ขึ้นมานานนักหนาแล้ว เรียกว่าเป็นวิชาที่ยากและซับซ้อนมากที่สุด เพราะท่านทำแบบเต็มสูตร ท่านว่ายาภารตะสั่งเสน่ห์นี้ไม่ใช่แค่นึกจะทำก็หามวลสารมาผสมนั่งเสกๆเอาหรือใครจะทำก็ทำได้ มันมีวิธีการและขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่านั้น ท่านว่าทุกสิ่งต้องดูมิติของดวงดาว ต้องทำในฤกษ์ในยามที่ดวงดาวมีกำลังส่งผลอย่างเด่นชัด เป็นเรื่องละเอียดอย่างมาก เช่นต้องหามวลสารเมื่อราหูอมจันทร์เท่านั้นทำให้ตอนนั้นถ้าท่านไม่มีความตั้งมั่นจริงๆย่อมไม่สามารถกระทำได้เลย ดีที่ว่ามีราหูอมจันทร์เกิดขึ้นเนืองๆ แล้วยังต้องหุงมวลสารในกำลังพระราหูเพื่อจะเน้นอำนาจจากดาวราหูส่งผลให้มีอานุภาพทางกามราคะ กามตัณหาความลุ่มหลงมัวเมาต่างๆ และนำมาเสกในฤกษ์ที่มีอิทธิพลของดาวศุกร์ เพื่อจะให้แสดงผลในเรื่องการเงินความมั่งคั่งร่ำรวย ความรักชายหญิง เครื่องเพศ กามราคะ ท่านว่าในส่วนของวิชาทุกอย่างเคร่งครัดอย่างมาก หากอธิษฐานจิตเฉยๆเสกอย่างไรก็เสกไม่ขึ้น ไม่มีทางสำเร็จยาภารตะสั่งเสน่ห์นี้ได้ ยานี้ท่านว่ามีความแตกต่างในตัวเองสูงมาก เป็นมนต์สูงสายขาวใช้ได้ไม่เป็นอันตรายกับตัวเองแน่นอน ท่านว่าเราทำให้ไม่เพียงแต่ทำตรงตำรา แต่ยังทำให้เกินตำราอีกด้วยท่านว่าในอดีตนั้นยาสั่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวนัก พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ยังแค่ไสยศาสตร์แบบไทยๆเรานะ แล้วลองย้อนขึ้นไปของเขมรดูสิ จากนั้นก็ย้อนขึ้นไปถึงวิชาแขกฮินดูแดนภารตะอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่าแน่นอนวิชาเขมรย่อมแรงอย่างยิ่งแต่หากเทียบกันแล้วก็ยังสู้ของแขกไม่ได้ แรงครูเค้าก็แรงกว่า ท่านว่ายาภารตะสั่งเสน่ห์นี้แรงกว่ายาสั่งที่ปรุงธรรมดาร้อยเท่าพันเท่า เพราะมวลสารนั้นมีตั้งแต่ของสูงชนิดตาเห็นก็ไม่มีปัญญาเอาได้ ของที่ประดิษฐานอยู่กลางฟ้าบ้าง แม้ตัวขี้ผึ้งที่ผสมลงไปนี้ท่านก็ไม่ได้ใช้ขี้ผึ้งธรรมดามาทำ ท่านนำขี้ผึ้งน้ำตานางมัทรีมาทำ ซึ่งมันมีอาถรรพ์สูงมากในตัวเองอยู่แล้วจึงกล่าวได้ว่าเป็นเสน่ห์เหนือมหาเสน่ห์เลยกว่าได้ ท่านว่าขี้ผึ้งน้ำตานางมัทรีนี้แค่นี้ก็ปวดหัวแล้วเพราะไม่ใช่ของที่จะเดินเข้าไปขอวัดไหนก็ได้ แต่เราต้องทำไปถวายเองต้องเสาะหาสิ่งอาถรรพ์มาปั้นเทียนทำสารพัดกว่าจะได้สิ่งที่เรียกว่าน้ำตานางมัทรี ท่านว่าทุกอย่างที่นำมาทำนั้นท่านพยายามจะให้มีอิทธิคุณแฝดอย่างแรงสูงสุดในสายขาวสายเทพเจ้าไม่มีให้ไปยุ่งกับซากศพ กับของต่ำหรือต้องเสกในป่าช้าแต่อย่างใด เพราะว่าจะนำเรื่องไม่ดีที่เรียกว่าซวยมาถึงคนใช้ ทุกอย่างเป็นปริศนาต้องตีต้องคิดขบด้วยปัญหาให้แตกฉานกว่าจะเข้าใจและเตรียมตัวออกไปตามหาได้จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ท่านว่าไม่เพียงเท่านี้ แต่ท่านยังนั่งลบผงวิชาเสน่ห์ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดทางโซนของเราถึงสิบชนิด เสาะหาว่านยาเฉพาะทางเพื่อนำมาบดทำผงปั้นแท่งดินสอ ก่อนจะลบยันต์กระดานชนวนนวดกับยาภารตะไปด้วย ทั้งวิชาอีหง่างโบราณ พระศรีสะแลงแงง อีเป๋อ ม้าเสพย์นาง หมูเสพย์เสือ ช้างผสมโขลง พญาเขาคำ อิ้นแก้ว วัวกินนมเสือ หนูกินนมแมว ซึ่งแต่ละวิชานั้นพูดได้คำเดียวว่าอย่างแรงแม้ได้ซักตัวหนึ่งก็เป็นยอดคนมีคุณวิเศษในตัวเองอยู่แล้ว แต่นี่รวมกันถึงสิบชนิดท่านว่าถ้าคนจะเอาดีทางโลกไม่สามารถมองข้ามได้เลยทีเดียว ท่านว่าเน้นเอาคุณวิชาทำให้อย่างเต็มที่ พ่ออาจารย์ท่านว่ายานี้เป็นของวิเศษนัก ท่านว่ามันมีอำนาจเกินยาสั่งที่คนไทยเข้าใจไปมากโข ด้วยแรงครูแห่งมหาเทพทั้งหลายลงประสิทธิ์แฝงพลังอย่างแรง ท่านว่าถึงขนาดดาวบนฟ้าแม้ปรารถนาก็ต้องได้ ของสูง ของที่ไม่มีปัญญาเอา หมายปองดอกฟ้า คนที่ชาติตระกูลสูงกว่าเราทั้งหลาย เมื่ออยากรักก็ต้องได้รักสมใจเช่นนั้น นอกจากนี้ยังเป็นยาสั่งรวย ยาเปลี่ยนชีวิตด้วย ท่านว่าสั่งฟ้าสั่งรวยได้ตามใจ ถึงขนาดว่าสั่งอะไรได้อย่างนั้น คนไม่มีวาสนาจะไม่พาลพบยาสวรรค์โอสถของพระเจ้าเช่นนี้แน่นอนทีเดียว ท่านว่าวิสัยของเราให้พูดหรืออธิบายคงจะไม่งามให้เอาไปใช้เองเถิด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ใช้ง่ายๆ นั่นคือหากเราอยากบูชาคุณของอิตถีเทพนารีด้านใน ก็ให้หาสำรับขนมหวาน พวกเครื่องทองยิ่งดี คือทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุนต่างๆ มาไหว้บูชาครู ลำดับต่อไปเมื่อจะใช้ ท่านว่าตะกรุดนี้ใช้ได้สุดที่จะอธิษฐานกันเลย หากพกแล้วยังรู้สึกว่าไม่แรงสมใจ อยากจะเร่งอีกหน่อย อยากให้แรงกว่านี้อีกนิด ท่านว่าเมื่อเลี่ยมให้เจาะรูที่ปลอกตะกรุดไว้ ถ้าจะเอาด้านเสน่ห์ก็ให้เซ่นด้วยเหล้าขาว โดยเอาเหล้าขาวหยอดลงไปในรูที่เจาะ หรือว่าถ้าวันไหนต้องการทางด้านโชคลาภเงินทองแบบเร่งด่วน ก็ให้ประพรมด้วยน้ำหอมฉีดใส่รูนั้นเช่นกัน
    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์บอกว่ายิ่งใช้ยิ่งมีแต่จะดีจะแรงขึ้น ไม่ต้องการการดูแลรักษาแต่อย่างใด ยิ่งไหว้ด้วยเครื่องทองต่างๆก็ยิ่งครูแรง ยิ่งใช้เซ่นเหล้าเซ่นน้ำหอมก็ยิ่งแรงเสริมไปอีก พกไว้ในที่ต่ำได้ท่านว่าถ้าร่นไว้ระดับเดียวกับจุดเพศเราตรงนี้ไม่ได้ลามกหรืออนาจารแต่อย่างใด ท่านว่าจะยิ่งแรง ยิ่งดูดขับสิ่งไม่ดีทั้งหลายได้มากขึ้น เรียกว่าแก้ไขจากภายในก็ไม่ผิด ท่านว่าถ้าใครเห็นว่าพกแล้วเสน่ห์แรงไปจะปวดหัวควบคุมไม่ไหว ก็ให้ร่นตะกรุดออกมาภายนอก คือใส่ในระดับการคาดตะกรุดปกติเพียงเท่านี้ก็จะทุเลาลงถ้าร่นตะหรุดมาภายนอกก็จะเหมาะกับการหาโชคลาภเน้นๆแทน ท่านว่าปรับใช้ตามแต่สถานการณ์นั่นเลย

    คาถาบูชา
    โอม อุอุ อะอะ มหาภูตา ปริภูเต ภูติ เวสันติ มะมะมามา โยนิโส ธะฮีนะ สวาหับ


    พ่ออาจารย์ท่านทำการเสกปิดในวันวาเลนไทน์ ที่เรียกว่าเป็นวันและเวลาที่มีพลังงานแห่งความปรารถนา ความรักของมนุษย์ที่รุนแรงเป็นพิเศษ ประกอบกับเป็นตะกรุดที่คุณวิชานั้นแรงมากแต่เดิมอยู่แล้ว ท่านว่าเสกจนตัวท่านนั้นรู้สึกได้เลยว่าวิชานี้ทำแล้วเหนื่อยจริงๆเรียกว่าถึงกับไข้ขึ้นทีเดียว ท่านว่าวิชาแบบนี้ต่อไปท่านจะไม่ทำอีก เพราะเป็นวิชาที่ฝืนวัฏฏะสงสารมากเกินไป ก็แค่อยากเห็นคนใช้มีชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขความสบายมากขึ้น ท่านจึงตั้งใจว่าจะทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ท่านว่านี่คือหนึ่งในตำนาน หลังจากนี้จะมีเสียงเรียกร้องให้สร้างอีกมากเพราะคนที่เค้าใช้ ได้เห็น ได้รู้ กับเนื้อกับตัวก็จะอยากมีอยากได้เอาไว้ให้คนที่เค้ารัก ให้คนในครอบครัวใช้บ้าง ท่านว่าหลังจากนี้จะไม่มีอีกซักครึ่งรุ่น เพราะมันทำยากยิ่งเสกก็ยากขึ้นไปอีก ท่านว่าทำครั้งเดียวจบ เพราะครูเบื้องบนคงไม่พอใจแน่หากเราจะทำของแบบนี้ขึ้นมาเป็นครั้งที่สอง มันหนักเกินไป ของเช่นนี้ปกติมนุษย์แล้วไม่มีที่จะได้ใช้ได้เห็น แม้สมัยหลวงปุ่ศุขก็ยังต้องเลือกคนรับคนให้เช่นกัน ดังนั้นท่านจึงอธิษฐานฝากครูพระ ครูเทพทั้งหลาย ให้ดลใจผู้ที่มีวาสนากับเครื่องมงคลให้รีบรู้และรีบมารับไป

    *** รายการนี้เนื่องจากเป็นเครื่องรางรุ่นเก่าของท่านที่ท่านทำพร้อมกับตัวที่ออกให้บูชามาหลายปีแล้ว และตัวนี้เป็นตัวพิเศษท่านค้นออกมาและให้บูชากันในราคาพิเศษจริงๆ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้จองให้แจ้งชื่อ นามสกุลมาด้วย ท่านจะทำพิธีเป่ามนต์มหากำเนิดประสิทธิ์ตะกรุด และจะสระสรงตะกรุดด้วยน้ำปรุงอีกคำรบหนึ่งเป็นการเบิกฤกษ์ให้ก่อนนำไปใช้กัน รายได้ร่วมสมทบทุนสถานพยาบาลที่ขาดแคลนอุปกรณ์ต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดทวิภาคฟ้าสั่งรวยมหาศาสตร์โยนีคลั่งรัก(อุดยาภารตะ,ว่านดอกทองเข้านางสามตัณหา) บูชา 2,500 บาท


    89275946-797779987399084-4140578004986232832-n.jpg 89275946-797779987399084-4140578004986232832-n.jpg 89685867-530709034519680-387292843351212032-n.jpg
    89285093-490150428324445-7985318400630980608-n.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงพลังอมตะทศภูมิกลืนกินวิบากกรรมเก้าชั้นฟ้า (ปู่ฟ้าพระทันใจได้จับเงินล้านล้นไม้ล้นมือ)

    "เงินล้านต้องได้รับ..หมื่นล้านต้องได้มี"
    ปู่ฟ้าพระทันใจนี้เน้นใช้ให้วาสนาท่วมท้นหยิบจับสิ่งใดล้นไม้ล้นมือเหลือกินเหลือใช้..ก็อยากรวย แบบล้นเหลือแบบเหลือกินเหลือใช้ ทำกิจที่ใดก็สำเร็จ มีแต่คนคอยรัก คอยโอบอุ้มเมตตา คอยให้โอกาสสนับสนุนยกย่องเราไม่สิ้นสุดค่อยเอาไปใช้ พ่ออาจารย์ท่านเน้นเรื่องเงินทองล้นเหลือแก้กระแสเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง คนที่มีหนี้จะได้ปลดหนี้ไว เอาไปไว้ใช้ให้มีให้เหลือล้นไม้ล้นมือฉันจะทำให้ดู...ผู้ที่เชื่อศรัทธาจะได้ไม่อดไม่จน ไม่ต่ำกว่าคนไม่จนกว่าใคร ให้มีเงินหนาๆหนักๆแน่นๆเหลือๆล้นๆ ให้เปลี่ยนชีวิตจะพลิกชะตาจะนำพาให้รุ่งเรือง ยิ่งหากใช้แล้วตัวตนของเธอหมั่นสร้างบุญทำดี ถือเบญจางคิกศีลจะยิ่งช่วยเพิ่มแรงให้ได้สมหวังทุกสิ่งปราถนา เปลี่ยนทุกเรื่อง ให้ชีวิตกลายเป็นง่ายๆกล้วยๆหมูๆภายในพริบตา
    ในยุคแห่งความตกต่ำของเศรษฐกิจการหาเงินทองเริ่มยากลำบากกันมากขึ้น เช่นนี้ปู่ฟ้าพระทันใจจะได้ช่วยเปิดโชคเปิดลาภได้ทุกอย่าง แม้จะขอนิมิตใดก็ทำได้โดยให้นำองค์พระแช่ในน้ำ แล้วตั้งเทียนจะทำตัวเลขหรือดูลางร้ายดี แม้แต่วางใต้หมอนเวลานอนหรือภาวนาเพื่อเปิดนิมิต ### เงินล้านต้องได้รับ หมื่นล้านต้องได้มี(ท่านย้ำเพียงว่าเงินล้านต้องมีในชาตินี้แน่นอนพ่ออาจารย์ท่านว่าปู่ฟ้าท่านโองการไว้เพียงคำนี้เราพูดมากกว่านี้ไม่ได้) เพราะท่านเน้นให้เรื่องความมั่งคั่ง ความเจริญรุ่งเรืองเพิ่มพูนในทรัพย์สมบัติ เกี่ยวกับเงินทองล้วนๆเงินจะสะพัดหมุนเวียนคล่องมือเหลือเชื่อจนน่าแปลกใจ แม้ชีวิตใครที่ได้ชื่อว่าเงินขาดมือสุดๆอาการหนักหนาเจียนตายจะมีเรื่องดีขึ้นให้เห็นได้ทันตา

    ปู่ฟ้าหรือปู่สวรรค์..คือใคร
    ปู่ฟ้าที่พ่ออาจารย์เรียกนั้นก็คือองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ เป็นเทพเจ้าแห่งสรวงสวรรค์ที่ได้ชื่อว่าสูงศักดิ์อย่างไร้เทียมทานมีความเชื่อว่าทรงได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าสูงสุดตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๔ เป็นต้นมา ปู่ฟ้ามีหน้าที่ดลบันดาลทุกอย่างที่มีบนโลก ทั้งธรรมชาติ ดวงชะตา และความเป็นไปของมนุษย์ เช่นนั้นท่านจึงมีผลให้คุณให้โทษกับชีวิตมนุษย์ได้โดยตรง พ่ออาจารย์ท่านได้ทำเหรียญทีกง(องค์เง็กเซียน)ขึ้นมาให้เราได้กราบไหว้กันตามคติที่ว่าก่อนที่จะทำการบูชาเทพเจ้าองค์อื่นต้องบูชาทีกงเป็นอย่างแรกเพื่อเป็นการให้เกียรติพระองค์
    ปู่ฟ้าหรือทีกงนั้นได้ชื่อว่ามีอำนาจเหนือทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้เป็นเทพเหนือเทพทั้งปวง ได้รับการเทิดทูนให้เป็นราชันแห่งสวรรค์ปกครองสวรรค์ทุกชั้นทุกภูมิ ###บางคนจะอ้างว่าเง็กเซียนก็คือพระอินทร์ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระอินทร์นั้นยังครองเพียงดาวดังษ์ แต่เง็กเซียนนั้นท่านบัญชาการทุกภูมิ ทุกโลก ท่านสถิตย์ที่พระราชวังสวรรค์หรือเทียนกงปกครองดูแลทั้งสามโลก,สิบทิศ,สี่กำเนิดและหกมรรคา ดูแลตั้งแต่สวรรค์,โลก,จรดบาดาลพื้นสมุทรจนถึงนรกภูมิ ปู่ฟ้านั้นท่านเป็นประมุขแห่งฟ้าปกครองเทพทั้งหลายอยู่ที่เทียนกงหรือพระราชวังสวรรค์ เป็นใหญ่เหนือกว่าพญามังกร(เจ้าสมุทร) และตำหนักพญายม(เจ้านรก) ด้วยท่านมีหน้าที่ผู้ดลบันดาลทุกอย่างที่มีบนสวรรค์,โลกและนรก ทั้งธรรมชาติ,ดวงชะตาและความเป็นไปของมนุษย์เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้บูชาทีกงย่อมเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตได้ตรงงานท่านมากที่สุด เพราะท่านมีหน้าที่ข้องเกี่ยวกับชะตาของมนุษย์โดยตรง ใครที่ทุกข์มากกว่าสุข ยากมากกว่ามี ทำดีไม่ตอบสนองไม่ส่งผล...ทุกสิ่งเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าปู่ฟ้าคลี่คลายได้ทั้งสิ้น
    แม้จะใช้ทางปราบมารก็ได้เพราะเหล่ามารปีศาจเทวดาเกเรจะกลัวทีกงหรือปู่ฟ้ากันหัวหด ด้วยราชโองการแห่งฟ้าของทีกงนี่เองที่ท่านใช้เนรเทศปีศาจทุกตนทุกเผ่าพันธุ์ให้ไปอยู่ในภูเขาเพลิง เช่นนั้นเหรียญทีกงจึงมีความหมายยิ่งใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มากกว่าเทวดาบนสวรรค์องค์ใดๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าทีกงจะทรงคทาหยกหรือป้ายอาญาสิทธิ์สวรรค์มีกระบี่อาญาสิทธิ์และแส้จามรีเป็นอาวุธและถือว่าเสามังกรสวรรค์เป็นสัญลักษณ์แทนพระองค์ ท่านมีมเหสีคือพระนางหวังหมู่เป็นเจ้าเเม่เเห่งสวรรค์ตะวันตกทั้งยังเป็นมหาราชินีผู้ควบคุมกาลเวลาเเละมิติรวมทั้งความตายอีกด้วย
    ด้วยเป็นประมุขแห่งฟ้า
    เมื่อปรากฏเหรียญนี้ที่ใดเหล่าทวยเทพบนสวรรค์จะพากันมาคารวะอวยพรพระองค์ ท่านเป็นเทพเจ้าสูงสุดของด้านการปกครอโดยงทรงรับพระบัญชาหรือคำแนะนำจากองค์หยวนสือเทียนจุนโดยตรง ด้วยทรงปกครองเทวดาทั้งเก้าชั้นฟ้าเป็นใหญ่เหนือฟ้า,ดินและมนุษย์ ทรงเป็นผู้สร้างสวรรค์มีพระราชอำนาจที่จะสั่งเทวดาได้ทุกชั้นฟ้า ทรงควบคุมการสงคราม,ควบคุมหยินและหยาง,ควบคุมการกำเนิด,ควบคุมองค์จักรพรรดิภูมิมนุษย์,ควบคุมดูแลพื้นดินแลแม่น้ำ,ควบคุมดูแลเทพารักษ์ที่สถิตอยู่ณ.มหาสมุทรทั้งหมดและภูเขาทั้งห้า ภาระหน้าที่ของพระองค์ก็คือการบริหารจัดการสวรรค์,พื้นดินและมนุษย์ เช่นนั้นเหรียญทีกงนี้จึงอธิษฐานได้ทุกอย่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นไปเพื่ออภินิหาริย์โดยตรง
    ### ผู้ใช้เหรียญทีกงนี้เมื่อทีกงท่านจะเสด็จมาโปรดชีวิตผู้ใด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะมีเสียงทิพย์ดนตรีแลดุริยางค์สวรรค์บรรเลงขับกล่อมนำมาก่อนรัศมีมงคลจะตกกระทบกายผู้นั้น เป็นอาถรรพ์มากถ้าโชคดีจะเจอกันทุกคน จะได้ยินเสียงดนตรที่หาคนเล่นไม่มี หาคนบรรเลงไม่เจอ เป็นทิพย์ดนตรีอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านว่าได้ยิน ได้ฟังเวลาไหน ก็เวลานั้นแหละถือได้ว่าดวงดีอย่างถึงที่สุด ตอนนั้นชีวิตจะรุ่งจะขึ้นสู่จุดสูงสุด จะเห็นดีแม้ไม่ข้ามวันได้ดีตรงนั้นเดี๋ยวนั้นเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าอุปมาแม้ซื้อหวยเก็บไว้ก็ถูกรางวัลที่หนึ่งวันนั้น แม้ทำอะไรอยู่มีกิจใดคั่งค้างไปไม่ถึงฝันก็จะสำเร็จแต่บัดนั้น แม้มีดคีความก็ชนะเขา แม้หาคู่ครองก็ได้ยอดหญิงเบญจกัลยา ท่านว่ามือขึ้นทำอะไรก็มีแต่ได้ทั้งหมดดั่งว่าเทพทีกงท่านอุ้มสมให้สำเร็จสมปรารถนาและจะโชคดีเสมอต้นเสมอปลายไม่เหี่ยวแห้งอีกต่อไป
    นี่คืออานุภาพของเหรียญทีกงที่พ่ออาจารย์ท่านเชิญญาณประสิทธิ์ไว้
    ท่านหล่อเสร็จเสกเสร็จใหม่ๆองค์ท่านก็ลงมาเลย ลองให้คนเอาไปใช้สองสามคนเป็นได้ยินทิพย์ดนตรีกันทุกคนจนท่านจับสังเกตุได้ บางคนนึกว่าผีอำบ้าง บางคนนึกว่าหูแว่วบ้าง หูฝาดบ้าง บางทีก็มาเป็นเสียงพระสวดแต่ไม่รู้ว่าภาษาอะไรฟังไม่ออกเป็นทำนองที่ไพเราะ พ่ออาจารย์ท่านว่าหลังจากนั้นแหละที่สำคัญชีวิตเปลี่ยนไม่สนฤดูกาลกันทุกคน นี่คือการมาหามาเหยียบบ่าเหยียบหัวของเทพที่มีศักดิ์สูงที่สุดในสวรรค์ ก่อนรัศมีมงคลจะเปิดย่อมมีดุริยางค์สวรรค์ให้ได้ยินเช่นนี้ เหรียญสำคัญเช่นนี้ท่านจึงได้นำมาฝังไว้ในพระผงวิเศษอันมากอานุภาพสำคัญที่กลืนกินวิบากรรมผู้ใช้ได้..โดยผงขอขมากรรม

    พ่ออาจารย์นั้นท่านมักจะได้รับความเมตตาจากครูบาอาจารย์มากมาย โดยบางสิ่งบางอย่างนั้นครูบาอาจารย์ทั้งหลายก็ให้ท่านมา แม้แต่พ่ออาจารย์ตัวท่านเองยังกล่าวว่าถ้าเอาจริงๆแล้วชีวิตเราทั้งชีวิตก็ไม่แน่แก่ใจเหมือนกันว่าจะหาของแบบนี้ได้ที่ไหน เพราะเป็นธาตุเฉพาะตัวเฉพาะบารมีเป็นของสืบทอดมาแต่บรรพบุรุษของบูรพาจารย์ทั้งหลายดุจดวงแก้ววิเศษของหลวงปู่ทวด เขี้ยวงูยักษ์แห่งสมเด็จพระร่วงเจ้า เป็นต้น เมื่อท่านละแล้วสละแล้วท่านก็จะมอบให้เราไว้สืบทอดต่อ โดยพูดเสมือนกันว่าต้องใช้ทำของสำคัญเท่านั้น
    เมื่อได้รับพ่ออาจารย์ท่านก็นำไปผนึกฝังดินเอาไว้
    ท่านว่าฝากไว้กับพระแม่ธรณี ซึ่งของเหล่านี้ประกอบไปด้วย เหล็กไหลน้ำนมพระธรณี เพชรน้ำรอด ผงเกร็ดแก้วพิศดาร มณีนาคราช(ไข่แก้วพญางู) เกล็ดพญามังกรไฟ สุธรรมธาราธาตุ ผงจันจิราจันทราทิพย์ เหล็กหลบ เหล็กเปียก พญาสมิงเหล็ก ทองคำดำ เหล็กไหลดำ เหล็กไหลแก่น โพธิสัตว์ธาตุ แร่เขาเขียว แร่เพชรนิลกาฬ เกล็ดนาคราช ชินวร ตับหิน ขวานฟ้า เขี้ยวแก้วกลางเพดานปาก เพชรพญางู งากำจัด งากำจาย งากระเด็น งาช้างกลวง เขี้ยวเสือกลวง ตะขาบทองแดง รกแมว งูปากเป็ด จิ้งจกสองหาง หน้าผากเสือโคร่ง คตผึ้ง คตต่อ คตปลวกขาว ขนุนทองแดง
    ซึ่งท่านว่าของแต่ละอย่างนั้นล้วนเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่ปัจจุบันแม้แต่จะหาดูยังยาก ล้วนเป็นของมีชื่อแต่โบราณที่บูรพาจารย์อันมีวาสนาและบารมีต้องกันให้บังเอิญได้พบได้เห็นได้ถือครอง บางอย่างก็มีค่าควรเมือง บางอย่างก็มีค่าล่มเมือง ท่านว่าเมื่อได้มาก็ไม่รู้จะนำไปทำอะไรเพราะครูบาอาจารย์ทั้งหลายก็พูดเสมอกันว่าให้เอาไว้ทำของสำคัญ ท่านจึงไม่ได้นำมาถือครอง แต่นำไปใส่กล่องเหล็กผนึกฝังไว้กับดินใต้รูปปั้นพระแม่ธรณีของท่าน
    ในกาลต่อมามีผู้ทรงวิชาได้นำผงรัตนมาลาของก๋งจาบ สุวรรณ หนึ่งในครูใหญ่ทางสายวัดประดู่ทรงธรรมมามอบให้ท่านทำของศักดิ์สิทธิ์โดยจะขอเพียงพระที่ท่านทำขึ้นจากผงนั้นเมื่อแล้วเสร็จไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งก๋งจาบนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นอาจารย์ใหญ่เลยของสายวัดประดูทรงธรรม แม้หลวงพ่อปานของเราท่านยังนับถือ และยังเป็นอาจารย์ของพระเกจิรุ่นต่อมาอีกมากเช่นพ่อเทียมวัดกษัตรา พ่อแทนวัดธรรมเสน พ่อกี๋วัดหูช้าง เมื่อได้ผงของก๋งจาบพ่ออาจารย์ท่านก็ปรารถนาจะทำของดีจริงดีที่สุดไปเลย เรียกว่าใช้ผงวิเศษสูงสุดในสายบูรพาจารย์แห่งสยามประเทศผสมลงไปด้วย ท่านว่าทำไว้เป็นที่ระลึกถึงครูสายวัดประดู่ทรงธรรมเสียหน่อย ท่านจึงนำเอาผงของหลวงปู่รอด(เสือ)ผู้เป็นบูรพาจารย์วัดประดู่ทรงธรรมแต่กาลก่อน ซึ่งตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ท่านว่าหลวงปู่รอดนี้สมัยกรุงศรีแตกท่านเคยมาจำพรรษาอยู่วัดระฆังก่อนจะกลับไปฟื้นฟูสำนักวัดประดู่ทรงธรรมอีกคำรบหนึ่ง ซึ่ง
    ผงวิเศษของหลวงปู่รอดเสือนั้นก็มีฤทธิ์มากนักเป็นของตกทอดมาแต่รุ่นสืบรุ่นซึ่งท่านได้มาจากเจ้าคุณวัดระฆังเมื่อนานมาแล้ว เรียกว่าเป็นที่สุดของผงในสยามประเทศ ที่สุดของสายวัดประดู่ทรงธรรมก็ไม่ผิด
    เมื่อท่านตั้งใจเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขอพระพุทธนิมิตจากเสด็จพระใหญ่(องค์ปฐม)ว่าจะทำพระพิมพ์แบบไหน อย่างไรดี
    จนได้รับพระพุทธเนรมิตเป็นรูปองค์พระประคองสุริยะจันทร์ไว้ในฝ่าพระหัตถ์ดั่งทั้งโลกทั้งมหาจักรวาลนี้อยู่ในการดูแลของพระองค์ *** ท่านจึงมีดำริว่าหนนี้ชะรอยว่าองค์ปฐมท่านหมายใจจะให้ทำพระเครื่องมงคลที่มีพุทธานุภาพเหนือโลกเหนือจักรวาล เป็นพระพิมพ์พิเศษท่านจึงคิดว่างานนี้ท่าจะยากและตึงมือเสียมากเพราะแค่รูปลักษณ์ภายนอกก็สูงเทียมฟ้าซะแล้วท่านจึงตั้งใจจะขอบารมีครูอาจารย์เข้าช่วยโดยนึกไปถึงของสำคัญที่ท่านผนึกไว้ และคำสั่งพ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านจึงได้กู้ขึ้นมาเพื่อสร้างของต่อไป หลังจากนั้นพ่ออาจารย์จึงเอาธาตุปิดผนึกทั้งหลายมาตำจนละเอียด บางอย่างก็ต้องผ่านไฟให้กลายเป็นผง บางอย่างก็ต้องมีวิธีในการย่อยสลายต่างๆกันไป ท่านว่าใช้เวลานานมากกว่าจะตำหรือย่อยสิ่งต่างๆให้เป็นผงได้ เพราะท่านถือคติที่ว่าท่านต้องทำของท่านคนเดียวไม่ให้ใครมายุ่ง เมื่อได้ผงกายสิทธิ์ทั้งหลายรวมกันแล้วท่านจึงบอกกล่าวและอธิษฐานจิตต่อครูบาอาจารย์ขออนุญาติและบอกกล่าวให้ท่านทั้งหลายทราบและลงมาช่วยกันอีกวาระหนึ่ง หลังจากนั้นท่านจึงนำเอาผงธาตุกายสิทธิ์นั้น มาผสมกับผงรัตนมาลาของก๋งจาบ และผงของหลวงปู่รอด(เสือ)ปรมาจารย์แห่งตักศิลาวัดประดู่ทรงธรรม เพื่อเตรียมกดพิมพ์เป็นองค์พระต่อไป พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านตั้งใจจะใช้มวลสารล้วนๆ จริงๆไม่ได้มีเท่านี้ แต่ท่านยังผสมผงวิเศษห้าประการตำรับสมเด็จโตลงไปด้วย แล้วก็ยังมีผงเก่าของหลวงพ่อปาน หลวงพ่อแก้ว ท่านว่าท่านใส่ลงไปหมดเน้นผงของบูรพาจารย์ยุคเก่าทั้งสิ้น ทั้งยังได้ผสมผงในตำนานของยอดเกจิต่างๆตลอดจนผงที่ทำที่หาได้ตามนิมิตตั้งแต่ ผงหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ ผงอิทธิเจหลวงปู่ภูวัดต้นสน ผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ ผงกล่อมนางนอนหลวงพ่อพรหมเขาปากแรด ผงของหลวงปู่คงวัดแค(ปรมาจารย์ขุนแผน) ผงมหานิยมเจดีย์วัดโลกา ผงของอาจารย์เกตุวัดขวิด ผงอิทธิเจวัดดอนศาลา ผงถ้ำยายหอม ผสมด้วยผงนะเสน่หา นะเข้าหา นะมหานิยม ตลอดจนผงวิชาเทพนิมิตมากมายที่พ่ออาจารย์ท่านลบถมไว้ด้วยตนเองสมัยเป็นพระจนเกิดปรากฏการณ์หญิงสาวมากมายมาเข้าหาท่านจนครูท่านเกรงว่าจะอาบัติท้ายที่สุดหลวงปู่ขาวท่านต้องเมตตาประพรมน้ำมนต์ให้คนเหล่านั้นจึงคืนสติ
    เสด็จพระใหญ่ท่านให้นำผงธาตุผงแร่ศักดิ์สิทธิ์ตลอดจนผงคุณวิชาทั้งหมดมารวมกันใช้ตัวประสานปั้นขึ้นเป็นแท่งเพื่อจะเขียนผงเป็นกฤติยาคมแฝดอีกสามวิชาตั้งแต่

    - ผงดวงเศรษฐีใหญ่ ผงนี้ในกาลก่อนกาลก่อนหลวงพ่อปานท่านได้ผูกวิชานี้ไว้ให้ลูกศิษย์ท่านได้ใช้กันจนทั้งทำตะกรุดบ้างสร้างพระบ้างเป็นที่เสาะหากันมาก...ตามตำราท่านว่าผงนี้มีไว้เพื่อเสริมดวงชะตาผูกดวงชะตาของตนให้มั่งมีกว่าผู้ใด พ่ออาจารย์ท่านสรรเสริญว่าเป้นผงคุณวิชาอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง หากใช้ทำพระจะบังเกิดแต่ความสุขสวัสดีเป็นศิริมงคลแก่ผู้ที่บูชา มีฤทธิ์ มีเดช มีอานุภาพมาก ปราศจากทุกข์โศกโรคภัยต่างๆตลอดทั้งศัตรูหมู่มารร้ายก็ไม่อาจแผ้วพาลได้ และยังมีอานุภาพยิ่งในเรื่องโภคทรัพย์ การงาน การเงิน การค้าขายต่างๆ ให้ดวงดีจนกลายเป็นเศรษฐีใหญ่กันเป็นทีเดียว วิชานี้แม้ยาจกตกยากเคยมาขอมาใช้ตะกรุดจากหลวงพ่อปานยังสัมฤทธิ์ผลมีเงินดั่งใจกลายเป็นเศรษฐีมีฐานะเลื่องลือในหมู่คน มีหน้ามีตา กลับมาทำบุญสร้างกุศล นี่คืออานุภาพของวิชาดวงเศรษฐีใหญ่..พ่ออาจารย์ท่านว่าสมชื่อถึงเพียงนั้น
    - ผงจับเงินล้าน ใช้เปิดดวงชะตาที่ปิดอยู่รับโชคลาภไม่ได้ ให้เปิดรับโชคลาภกระแสวาสนาที่จะพัดพาเข้ามาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายคนชีวิตมีปัญหาตรงนี้ แม้มีดวง มีโชคลาภวาสนาปัจจัยเกื้อกูลจากครูบาอาจารย์ทั้งหลายก็เอาไม่ได้ ติดกันอยู่เพียงแค่นี้ ผงนี้จึงใช้เปิดรับดวงชะตาให้ได้จับเงินล้านให้ร่ำรวยเงินทอง ให้โชคดีวิ่งเข้าหา ทั้งยังดึงวาสนาบารมีให้เหลือล้นแม้บริวารคนใกล้ชิดยังหนุนนำ จะได้เร่งทรัพย์ได้จับเงินล้านให้เป็นยอดเศรษฐีด้วยวิชาของมหาเศรษฐีเขาใช้กัน
    - ผงขอขมากรรม เพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรเขาผ่อนผันเคราะห์กรรมจากหนักกลายเป็นเบา เคราะห์ผิดถ้อยคำผิดวาจา***ท่านว่าสำคัญมาก ตั้งแต่เกิดมาทั้งจากอดีตชาติถึงปัจจุบันชาติ เพื่อขอขมาให้เลิกแล้วต่อกันเพื่อเปิดทางชีวิตให้เดินต่อจะได้ไม่ติดกรรม เปิดทางรัก เปิดทางรวย ผงนี้ท่านลงไว้เพราะท่านบอกว่าเสด็จพระใหญ่ท่านกำชับมาโดยตรงเพราะคนเราทุกคนนั้นได้ชื่อว่ามีกรรมเลวส่งผลกันทุกคน ยิ่งกับคนที่เจอวิบากกรรมหนักๆทำมาหากินไม่ขึ้น ใช้ของขลังแล้วก็ยังไม่ดีเหมือนคนอื่น บางคนก็มีกรรมจากการทำแท้ง กรรมในความรักไม่พบรักแท้เสียที กรรมหนักใจ คิดทำสิ่งใดไม่สมหวังกรรมพวกนี้ล้วนเป็นวิบากกรรม วิชานี้จะช่วยบรรเทาเคราะห์กรรม เคราะห์กรรมที่แรงหนักหนาจะช่วยบรรเทาจากหนักเป็นเบาจากเบาให้มลายหายสิ้นไป

    ทั้งด้านหน้าด้านหลังองค์พระท่านฝังด้วยของวิเศษมากมาย นอกจากเหรียญทีกงแล้วยังมีเครื่องมงคลอื่นๆที่สำเร็จมีฤทธิ์อำนาจในตัว โดยด้านหน้าท่านฝังสิ่งแทนเครื่องหมายของสุริยะจันทร์อันสื่อถึงโลกและมหาจักรวาลที่อยู่ในความดูแลของพุทธะเพื่อจะสื่อถึงอานุภาพที่จะช่วยฉุดดึงสรรพสัตว์ได้ทุกหมู่เหล่า ทุกสถานะ ทุกสถานที่ ทุกสภาพ ทุกสถานการณ์ ไม่มียกเว้น สิ่งแทนสิริยันจันทรานั้นได้แก่
    - รูปหล่อเทพจันทรา ด้วยคติที่ว่าจันทร์นั้นเปรียบคือสตรีถูกสร้างจากนางฟ้าสิบห้าองค์บดเป็นผงจึงเกิดเป็นจันทราเทพ รูปจันทราเทพนี้จึงช่วยเพิ่มสง่าราศี ความงามให้แก่กายสังขารของเรา ทั้งยังชักพาความโอบอ้อมอารีจากผู้อื่นดึงสู่ตัวเราโดยตรง รูปหล่อจันทราเทพเนื้อมหาชนวนวิเศษนี้ท่านลงอาถรรพ์เฉพาะทางก่อนใช้ฝังพระ นอกจากจะดีทางเสน่ห์สำหรับคนเอาไปอธิษฐานทางเจ้าชู้แล้ว(คนที่ไม่อธิษฐานใช้ด้านนี้ก็จะไม่เจอ) ยังนำพามิตรภาพรอบด้านเป็นเมตตาอย่างเอก จะพูดคุยอะไรปรารถนาสิ่งใดย่อมสัมฤทธิ์ผล ทำให้ใจเราปลอดโปร่งมีความคิดสร้างสรรค์ ทั้งขจัดปัดเป่าทุกข์นำพาโชคดีความมั่งคั่งร่ำรวยมาให้ดั่งคติที่ว่าอยากรวยเร็วอยากได้เงินต้องขอกับพระจันทร์ เมื่อขุนช้างนั่งทับจันทร์นั่นจึงเปรียบได้ว่าแม้แต่เดือนแต่ดาว แม้สมบัติกลางหาวก็หยิบให้เราได้ ทั้งกำลังของพระจันทร์ยังมีอิทธิพลกับโลกกับตัวมนุษย์โดยตรงโดยเฉพาะธาตุน้ำ และร่างกายของมนุษย์ก็เป็นธาตุน้ำมากกว่าครึ่งท่านจึงควบคุมความเป็นไปของเราได้ทุกอย่าง พ่ออาจารย์ท่านอยากเห็นผู้ใช้สะดวกสบายครบทุกทางตามความปรารถนาท่านจึงยอมนำพระสำคัญรุ่นนี้ออกมาให้บูชา เช่นนั้นจันทร์เทพจึงช่วยสะกดทุกข์เอาไว้เร่งโชคลาภเงินทองและเปิดทางให้เราได้ทุกด้านอย่างถึงที่สุด ทั้งจันทรายังเป็นกฤติยาคมแฝดหมายถึงได้สิ่งที่มีค่าทั้งคู่ครองสัตว์สองเท้าหรือทรัพย์สินอันเป็นที่รักสมความปรารถนา
    - องค์แทนสุริยาอันมากฤทธิ์ เหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณสัณฐานเม็ดใหญ่ ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น) เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น) ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น.... พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น) ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด

    ด้านหลังท่านฝังเหรียญทีกงอันมากอานุภาพยิ่งกว่าเทพทันใจเอาไว้แล้วยังเสริมด้วยของมงคลทั้งหลาย ดังนี้
    - แก้วราหูนิลกาฬ ซึ่งแก้วราหูนี้ก็มีดีทางด้านคุ้มกันและหนุนดวงอย่างถึงที่สุด ท่านว่าบารมียิ่งใหญ่ทั้งยังดันยังผลักหนุนเราพร้อมกันทีเดียว
    - เม็ดประคำใส่ตะกรุดเทพชุมนุม เปม็ดประคำที่ท่านใช้นับจริงๆใช้เจริญสติมายาวนานหลายสิบปีมีทั้งบารมีองค์พระและเทพพรหมนับไม่ถ้วน ด้วยลูกประคำคือตัวแทนของการภาวนาการพัฒนาทางจิตวิญญาณที่จะเปิดโลกเปิดมิติได้ทั้งหมดให้ตัวเราพัฒนาขึ้นอย่างไม่มีประมาณ ท่านจารตะกรุดเทพชุมนุมม้วนใส่เป็นแกนประคำไว้ ท่านว่าเมื่อทีกงปรากฏขึ้นที่ใดเทพทุกชั้นฟ้าต้องลองมาคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ทีกงตรงนั้นเสมอ
    - ตะกรุดสลายกรรม เป็นวิชาเฉพาะที่ท่านลงด้วยธาตุธรรมขั้นสูง ท่านว่ามีคุณตรงตามชื่ออันนี้ไม่ขอพูดมาก ท่านลงฝังไว้ให้ด้านหลังด้วยอาศัยเหตุว่าคนเราถ้ามีกรรมเข้ามาทุกอย่างคือจบหมด จะห้อยพระอะไรมีของดีเพียงไหนก็ฉุดชักช่วยเหลือไม่ได้ ท่านจึงทำตะกรุดสลายกรรมเสริมไว้ในส่วนนี้เผื่อคนใช้ถึงคราวเคราะห์ ได้เสวยทุกข์เวทนาจากกฏแห่งกรรมอันเกินกว่าพุทธานุภาพและเทวานุภาพจะเยียวยาได้ จะได้อาศัยธรรมวิชานี้ค่อยๆกัดกินสลายเคราะห์กรรมนั้นทันท่วงที ส่งผลให้พุทธานุภาพเข้าถึงและช่วยเหลือได้ตลอดไม่ติดขัดอย่างใด เอาว่าผ่านช่วงเคราะห์ได้เสมอไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ต้องทนสามวันดีสี่วันไข้ตามยถากรรม ท่านว่าบางคนจะมีคู่ก็มีไม่ได้ เจอบุพเพแต่ไร้วาสนาก็มี บางคนจะรวยก็รวยไม่ได้ทำงานอยู่ดีๆกรรมเข้ามาหมดเนื้อหมดตัวไป บางคนจะเสี่ยงโชคก็เฉียดแล้วเฉียดอีกเหมือนบุญมีแต่กรรมบังทำอะไรไม่ถูก ท่านว่านี่แหละสลายกรรมพูดได้เท่านี้เรื่องร้ายๆเป็นไม่มี
    - ตะกรุดชนะมาร สำหรับตะกรุดชนะมารนั้นท่านลงไว้นานมากและเสกพร้อมกับชุดตะกรุดชนะมารมหาสะท้อนหลวงอันลือลั่นของท่าน เรียกว่าเป็นตำรับที่แรงที่สุดของมหาสะท้อนก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วตะกรุดมหาสะท้อนธรรมดาก็แรงพอใจอยู่แล้ว แต่มหาสะท้อนหลวงนี้ยิ่งกว่านั้นเพราะกันได้แม้แต่ธรรมชาติ อันนี้พวกมีวิชาอาคมทั้งหลายทำอันตรายเราไม่ได้เลย อย่าว่าแต่มนุษย์ต่อให้เป็นพวกคนธรรพ์วิทยาธรก็ยังต้องแพ้ภัยตัวเอง โดยปกติสำหรับตะกรุดมหาสะท้อนนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเน้นทางปกป้องคุ้มกันตลอดจนคุ้มครองและให้ผลสะท้อนกลับเท่านั้น ซึ่งต่างจากตะกรุดชนะมารมหาสะท้อนหลวงเพราะตำรับนี้จะมีครบรสในดอกเดียว ท่านว่าได้ไม่ต้องห้อยกันหลายอย่างบูชากันหลายดอก เพราะท่านทำให้ยิ่งกว่ามหาสะท้อนเสียอีก ท่านว่าตัวชนะมารมหาสะท้อนหลวงนั้น อะไรที่มีคำว่าหลวงต่อท้ายเชื่อขนมกินไว้ได้เลยว่ามันเป็นที่สุดแล้ว เพราะมันเป็นมหาสะท้อนตำรับใหญ่นำมาผูกรวมกันถึงสามสูตรซ้ำยังหนุนอัดด้วยธาตุคาถาและวิชาต่างๆ ท่านว่าข้างบนเขาไม่ให้พูดมากถ้าคนใช้ตั้งจิตดีๆให้แน่วแน่ในสมาธิภาวนาพระคาถา เราทำไว้ให้ใช้กัน สะท้อนโรคเวรโรคกรรมได้ทั้งสิ้น ไม่มีข้อแม้ใดเลยเพราะเป็นกันสะท้อนที่สำเร็จด้วยคุณแห่งวิปัสสนาขององค์พระทั้งแสนโกฏิ การสำเร็จตะกรุดมหาสะท้อนหลวงด้วยคุณแห่งวิปัสสนาขององค์พระแสนโกฏิอันมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นอาทินั้น นอกจากยากและใช้เวลานานแล้ว แต่ผลที่ได้ท่านว่าก็คุ้มกับเวลาที่เสียไปหลายปี เพราะท่านว่าจะอธิบายให้เข้าใจกันแบบง่ายๆ ให้ดูองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้เวลามีคนคิดร้ายหรือกระทำการณ์ใดๆหมายรังแกพระบรมศาสดา ท่านว่าสิ่งนั้นย่อมสะท้อนย้อนกลับไป ไม่ต้องรอชาติหน้าฉันใด ผลกรรมนั้นเห็นคาตากันในชาตินี้ ตะกรุดมหาสะท้อนหลวงที่สำเร็จด้วยบารมีองค์พระทั้งแสนโกฏิในนิพพานก็มีคุณเช่นนั้น ท่านว่าบอกได้เท่านี้นะ ดังที่กล่าวไว้แต่ต้นพ่ออาจารย์ท่านว่าตำรับมหาสะท้อนหลวงนี้นอกจากจะใช้ทางด้านมหาสะท้อนย้อนกลับคืนได้แรงที่สุดแล้วยังใช้หนุนดวง เสริมชะตาวาสนาบารมีในตัวได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีครบทั้งทางเสน่ห์เมตตาท่านว่าไม่ใช่เสน่ห์เรี่ยดินแต่อย่างใดแต่เป็นเสน่ห์ถึงขั้นขึ้นหานาง เข้าตัวขุนได้ จะเจรจาพาทีเอ่ยปากขออะไรก็ได้เป็นที่สุดทางมหานิยมเข้าหาคน ไปที่ไหนมีแต่คนรักคนตามใจไม่มีใครกล้าเกลียดหรืออยากเป็นศัตรูเพราะท่านลงมหาสะกดไว้ด้วย ซ้ำยังขับดันหนุนนำให้อาชีพที่กระทำอยู่เจริญก้าวหน้าผิดหูผิดตา แม้ทางด้านป้องกันก็ไม่ได้ทิ้งเพราะกันได้ทั้งคุณผีคุณคนตลอดจนมากกว่าผีหรือคน ซ้ำยังกันเคราะห์ภัยร้ายแรงที่พร้อมจะเกิดกับตนได้ตลอดเวลาด้วย
    ท่านว่าปกติตะกรุดมหาสะท้อนนั้นผู้เสกจะวางอารมณ์ไปทางมหาอุตม์ ทำให้คนใช้โชคลาภจะไม่มี หากินก็จะตกต่ำทำให้ไม่กล้าใช้ หรือจะหยิบมาใช้ได้เฉพาะช่วงที่คิดว่าชีวิตโดนรังแก เพราะมันอุดหมดปิดหมดทุกทางได้แต่กันและสะท้อนย้อนกลับอย่างเดียว แต่มหาสะท้อนหลวงไม่ใช่เช่นนั้นเพราะต้องเน้นพลังคุณทุกด้านพร้อมกัน ซ้ำยังสำเร็จด้วยวิปัสสนาญาณขององค์พระพุทธเจ้าทั้งแสนโกฏิแน่นอนว่าทุกพระองค์นั้นไม่เหลืออารมณ์ใดๆอีกแล้ว ดังนั้นจึงไม่อุดไม่ปิดชีวิตใคร ไม่ปัดโชคลาภออกไปเช่นปกติ ที่สำคัญกว่านั้นตะกรุดทุกดอกต้องเสกจนมีธาตุรู้ นั่นคือมีจิตวิญญาณของตะกรุด ท่านว่าที่ต้องทำขนาดนี้เพื่อจะได้ไม่เสียชื่อตำรับมหาสะท้อนหลวง คนใช้ก็จะได้ไม่เป็นอันตรายด้วย เพราะว่าโดยปกติคนใช้ตะกรุดมหาสะท้อนนั้นจะต้องระวังลูกหลาน เด็กน้อยตลอดจนญาติมิตรคนสนิทรักใคร่ของตน ซึ่งทุกคนได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์ย่อมมีอารมณ์รักโลภโกรธหลง อาจจะมีคิดร้ายเราบ้าง คิดแกล้งเราบ้างหรือจะแหย่เราบ้าง ก็เกรงว่าผลร้ายนั้นจะสะท้อนย้อนกลับไป กลัวว่าจะกลับไปหายังคนที่ตนเองรัก ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าการสำเร็จตะกรุดมหาสะท้อนหลวงนั้นจึงต้องสำเร็จจนตะกรุดมีธาตุรู้ เมื่อเจ้าของได้รับตะกรุดไปเวลาอธิษฐานภาวนาพระคาถาตัวธาตุรู้นี้ก็จะจดจำปราณและคุณลักษณะของเจ้าของไปด้วย เหมือนการทำสัญญากันเชื่อมต่อเข้าถึงสัญญาความจำได้หมายรู้ของเรา ต่อไปเขาก็จะไม่ทำร้ายพวกเดียวกับเราญาติสนิทพี่น้องของเราที่มีอารมณ์โกรธชั่ววูบชั่วคราวเช่นนั้น หากแต่จะสะท้อนย้อนกลับเฉพาะผู้ที่คิดร้ายประสงค์ร้ายตั้งใจจะทำความพินาศฉิบหายให้เกิดขึ้นแก่เราโดยเฉพาะเจาะจง
    ตะกรุดชนะมารมหาสะท้อนหลวงนั้น เป็นตะกรุดที่พ่ออาจารย์สร้างเพื่อให้สรรพชีวิตได้ถือครองอันจะนำมาซึ่งประโยชน์เกื้อกูลที่จะตกต้องอย่างใหญ่หลวงกับคนใช้จริงๆ เนื่องด้วยท่านได้จรดเหล็กจารหัวใจคาถาพิเศษลงไป ซึ่งหัวใจนั้นมีผลมากกับชีวิตมนุษย์นั่นเอง สืบเนื่องมาจากมนุษย์ในปัจจุบันนั้น ส่วนใหญ่จะมีวาระกรรมร่วมกันเยอะ ชีวิตแต่ละคนมีมารผจญกันมาก จะหาใครมีชีวิตที่ดีไปหมดนั้นยาก ท่านว่าแม้แต่คนที่เรามองว่าชีวิตเขาดี แม้จะรวยเป็นมหาเศรษฐีก็ยังมีปัญหามากมายแก้ไม่ตก ท่านว่าเพราะมารเขาทำงานกันหนัก มารในที่นี้ก็คือเทวปุตมารหรือเทพเจ้าใต้การปกครองของท้าวมาลัยนั่นเอง เทพฝ่ายมารทั้งหลายมีทั้งที่เชื่อฟังก็ดี ไม่เชื่อฟังก็ดี กลับตัวกลับใจแล้วก็มีหรือที่จุติขึ้นมาใหม่ก็มาก ซึ่งแน่นอนว่าเทวปุตมารเหล่านี้ล้วนมีอานุภาพเป็นเลิศเหนือกว่าเหล่าเทพเจ้าทุกชั้นฉกามาพจรสวรรค์ มีฤทธิ์แทรกแซงได้แม้กับเหล่ามหาพรหม ดังนั้นพ่ออาจารย์จึงได้ขออนุญาติท่านท้าวมาลัยหรือที่รู้จักกันในฐานะพระจักรพรรดิ์พญามารผู้เป็นสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ เพื่อขอเทวราชอาชญากับเหล่าเทวปุตมารฝ่ายมิจฉาทิฏฐิ อันจะได้ใช้อนุเคราะห์แก่สัตว์ผู้ยาก
    ซึ่งท่านก็ได้เมตตาให้หัวใจพระคาถาไว้ ท่านว่าแม้ปรากฏขึ้นที่ใดเหล่าเทวปุตมารตลอดจนเทพบริวารจะไม่กล้าแทรกแซงทำร้ายหรือก่อความวุ่นวายเข็ญใจให้เกิดขึ้นเลย เพราะว่าเขาจะเกรงกลัวเทวราชอาชญาแห่งสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ผู้เป็นพระจักรพรรดิ์พญามารนั่นเอง ท่านว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากในระบบกรรมนั้นมนุษย์ยังหนีไม่พ้นบ่วงมาร ดังนั้นจึงต้องจำกัดให้เฉพาะผู้ที่มีบุญสัมพันธ์กันในวงศ์บรมโพธิสัตว์เท่านั้นที่จะได้ถือครองต่อไป ดังนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุที่เรียกตะกรุดมหาสะท้อนหลวงว่าตะกรุดชนะมารมหาสะท้อนหลวง เพราะว่าเป็นตะกรุดที่ทำเฉพาะกรรม เฉพาะวาระของคน เมื่อหมดแล้วท่านว่าก็ให้มันหมดไปย่อมไม่มีเสริมเพิ่มเติมอีก ให้เฉพาะคนที่มีบุญสัมพันธ์มารู้มาเห็นพอดี คนเหล่านี้ท่านว่าถ้าเค้ารู้ตัวว่าชีวิตของเค้ามีมารเยอะ มีมารผจญมาก ไม่รู้จะหาทางออกให้ตัวเองอย่างไร จะเป็นเวรกรรมหรือไม่ เจ้ากรรมนายเวรหรือไม่ เป็นเทวปุตมารหรือไม่ ไม่แน่ใจว่าเหตุใดชีวิตจึงหาความเจริญไม่ได้ ท่านว่าเอาว่ารู้ตัวกันดีทุกคนว่าชีวิตใครเป็นอย่างไร ตรงนี้ก็ให้มาบูชาไป เพราะตะกรุดที่ทำขึ้นในกรรมและวาระนี้ครอบคลุมทั้งหมดทั้งสามสถาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวรกรรม เรื่องเจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนมารและเทวปุตมาร ล้วนตรงกับอานุภาพตะกรุดทั้งสิ้น


    คาถาบูชา
    อัญเชิญพระธรรมธาตุแลพระคาถา นมัสการองค์พระว่า เอหิ นะโมพุทธานุภาเวนะ เอหิ นะโมธัมมานุภาเวนะ เอหินะโมสังฆานุภาเวนะ มาเรโสสะ พุทธังสะเรมิ ธัมมังสะเรมิ สังฆังสะเรมิ คาถังอาคัจเฉยยะ อาคัจเชหิเม
    อธิษฐานเปิดโลก นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ อิติปิโสโลกะนาถัง พุทธังบังเกิด ธัมมังบังเกิด สังฆังบังเกิด พระเจ้าประเสริฐ เปิดโลกพระคาถา อิติปิอะระหัง โมเปิดไว้ให้เห็น ยะเป็นที่สุด
    อาราธนาใช้คุณของตะกรุดชนะมาร อิติปิโสภะคะวา สัมมาที่ไหน สัมไปที่นั่น นะอยู่หัว โมอยู่ท้าย ศัตรูคิดร้าย มรณะสันติ โอม มะกระดอนศรทอง เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เตสัมมุกขา ขอให้สะท้อนย้อนกลับไป ด้วยเดชเดชะแห่งมะอะอุนี้เทอญ

    พระผงรุ่นนี้ท่านเน้นให้ "สำเร็จทันใจได้จับเงินล้านล้นไม้ล้นมือ" ดังชื่อ ท่านว่าพูดมากกว่านี้ไม่ได้ ขอแค่ให้ห้อยติดคอไว้สักการะให้ดีๆ ท่านเน้นมวลสารมากทุกๆองค์ ท่านว่าเอาคุณภาพเน้นให้มีกำลังฤทธิ์อย่างถึงที่สุด ดังนั้นองค์พระทุกองค์จึงแก่มวลสารมากๆ ### ยิ่งเหรียญทีกงนั้นท่านพูดเป็นปริศนาเอาไว่ว่าตอนเสกทั้งดึงลม ดึงแดด ดึงฝน วายุพัดเป่า ลมก็แรง ทั้งพระอาทิตย์ทรงกรด เสกจนเหรียญเปลี่ยนเป็นรุ้งเจ็ดสี ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอแบบนี้เลย (เมื่ออาราธนาท่านว่าให้ทำใจให้สงบอธิษฐานถึงปู่ฟ้าหรือทีกงได้ทันที)

    *** พระผงรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอานุภาพแรงมากและไวมาก ทันตาเห็น เว้นไว้แต่นิพพานที่หาให้กันไม่ได้ทุกสิ่งย่อมไม่เกินชาติภพนี้ ท่านพูดได้เพียงเท่านี้ มีอะไรให้อธิษฐานกันเองได้เลย ท่านสร้างไว้ทั้งหมดแปดองค์ แต่มีเหลือให้บูชาเพียงสี่องค์เท่านั้นเพราะท่านใช้โปรดคนเปลี่ยนชีวิตคนไปบ้าง รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้แจ้งชื่อสกุลวันเดือนปีเกิด รวมถึงสิ่งที่ปรารถนาอยากให้ปู่ฟ้าหรือทีกงช่วยเหลือเอาไว้ด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงพลังอมตะทศภูมิกลืนกินวิบากกรรมเก้าชั้นฟ้า (ปู่ฟ้าพระทันใจได้จับเงินล้านล้นไม้ล้นมือ) บูชา 4,000 บาท


    89971802-807326393085186-1948979592542814208-n.jpg 89926773-217419189458822-599799952482238464-n.jpg 90370585-496246341071548-8274298974425317376-n.jpg
    90129225-204006514186368-5366938451012747264-n.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญดุริยางค์สวรรค์ฟ้าสำเร็จองค์ทีกง (ปู่ฟ้าพระทันใจ)

    "เงินล้านต้องได้รับ..หมื่นล้านต้องได้มี"

    ปู่ฟ้าพระทันใจนี้เน้นใช้ให้วาสนาท่วมท้นหยิบจับสิ่งใดล้นไม้ล้นมือเหลือกินเหลือใช้..ก็อยากรวย แบบล้นเหลือแบบเหลือกินเหลือใช้ ทำกิจที่ใดก็สำเร็จ มีแต่คนคอยรัก คอยโอบอุ้มเมตตา คอยให้โอกาสสนับสนุนยกย่องเราไม่สิ้นสุดค่อยเอาไปใช้ พ่ออาจารย์ท่านเน้นเรื่องเงินทองล้นเหลือแก้กระแสเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง คนที่มีหนี้จะได้ปลดหนี้ไว เอาไปไว้ใช้ให้มีให้เหลือล้นไม้ล้นมือฉันจะทำให้ดู...ผู้ที่เชื่อศรัทธาจะได้ไม่อดไม่จน ไม่ต่ำกว่าคนไม่จนกว่าใคร ให้มีเงินหนาๆหนักๆแน่นๆเหลือๆล้นๆ ให้เปลี่ยนชีวิตจะพลิกชะตาจะนำพาให้รุ่งเรือง ยิ่งหากใช้แล้วตัวตนของเธอหมั่นสร้างบุญทำดี ถือเบญจางคิกศีลจะยิ่งช่วยเพิ่มแรงให้ได้สมหวังทุกสิ่งปราถนา เปลี่ยนทุกเรื่อง ให้ชีวิตกลายเป็นง่ายๆกล้วยๆหมูๆภายในพริบตา

    ในยุคแห่งความตกต่ำของเศรษฐกิจการหาเงินทองเริ่มยากลำบากกันมากขึ้น เช่นนี้ปู่ฟ้าพระทันใจจะได้ช่วยเปิดโชคเปิดลาภได้ทุกอย่าง แม้จะขอนิมิตใดก็ทำได้โดยให้นำองค์พระแช่ในน้ำ แล้วตั้งเทียนจะทำตัวเลขหรือดูลางร้ายดี แม้แต่วางใต้หมอนเวลานอนหรือภาวนาเพื่อเปิดนิมิต ### เงินล้านต้องได้รับ หมื่นล้านต้องได้มี(ท่านย้ำเพียงว่าเงินล้านต้องมีในชาตินี้แน่นอนพ่ออาจารย์ท่านว่าปู่ฟ้าท่านโองการไว้เพียงคำนี้เราพูดมากกว่านี้ไม่ได้) เพราะท่านเน้นให้เรื่องความมั่งคั่ง ความเจริญรุ่งเรืองเพิ่มพูนในทรัพย์สมบัติ เกี่ยวกับเงินทองล้วนๆเงินจะสะพัดหมุนเวียนคล่องมือเหลือเชื่อจนน่าแปลกใจ แม้ชีวิตใครที่ได้ชื่อว่าเงินขาดมือสุดๆอาการหนักหนาเจียนตายจะมีเรื่องดีขึ้นให้เห็นได้ทันตา

    - ปู่ฟ้าหรือปู่สวรรค์..คือใคร


    ปู่ฟ้าที่พ่ออาจารย์เรียกนั้นก็คือองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ เป็นเทพเจ้าแห่งสรวงสวรรค์ที่ได้ชื่อว่าสูงศักดิ์อย่างไร้เทียมทาน มีความเชื่อว่าทรงได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าสูงสุดตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๔ เป็นต้นมา ปู่ฟ้ามีหน้าที่ดลบันดาลทุกอย่างที่มีบนโลก ทั้งธรรมชาติ ดวงชะตา และความเป็นไปของมนุษย์ เช่นนั้นท่านจึงมีผลให้คุณให้โทษกับชีวิตมนุษย์ได้โดยตรง พ่ออาจารย์ท่านได้ทำเหรียญทีกง(องค์เง็กเซียน)ขึ้นมาให้เราได้กราบไหว้กันตามคติที่ว่า ก่อนที่จะทำการบูชาเทพเจ้าองค์อื่นต้องบูชาทีกงเป็นอย่างแรกเพื่อเป็นการให้เกียรติพระองค์

    ปู่ฟ้าหรือทีกงนั้นได้ชื่อว่ามีอำนาจเหนือทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้เป็นเทพเหนือเทพทั้งปวง ได้รับการเทิดทูนให้เป็นราชันแห่งสวรรค์ปกครองสวรรค์ทุกชั้นทุกภูมิ ###บางคนจะอ้างว่าเง็กเซียนก็คือพระอินทร์ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระอินทร์นั้นยังครองเพียงดาวดังษ์ แต่เง็กเซียนนั้นท่านบัญชาการทุกภูมิ ทุกโลก ท่านสถิตย์ที่พระราชวังสวรรค์หรือเทียนกงปกครองดูแลทั้งสามโลก,สิบทิศ,สี่กำเนิดและหกมรรคา ดูแลตั้งแต่สวรรค์,โลก,จรดบาดาลพื้นสมุทรจนถึงนรกภูมิ ปู่ฟ้านั้นท่านเป็นประมุขแห่งฟ้าปกครองเทพทั้งหลายอยู่ที่เทียนกงหรือพระราชวังสวรรค์ เป็นใหญ่เหนือกว่าพญามังกร(เจ้าสมุทร) และตำหนักพญายม(เจ้านรก) ด้วยท่านมีหน้าที่เป็นผู้ดลบันดาลทุกอย่างที่มีบนสวรรค์,โลกและนรก ทั้งธรรมชาติ,ดวงชะตาและความเป็นไปของมนุษย์เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้บูชาทีกงย่อมเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตได้ตรงงานท่านมากที่สุด เพราะท่านมีหน้าที่ข้องเกี่ยวกับชะตาของมนุษย์โดยตรง ใครที่ทุกข์มากกว่าสุข ยากมากกว่ามี ทำดีไม่ตอบสนองไม่ส่งผล...ทุกสิ่งเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าปู่ฟ้าคลี่คลายได้ทั้งสิ้น

    แม้จะใช้ทางปราบมารก็ได้เพราะเหล่ามารปีศาจเทวดาเกเรจะกลัวทีกงหรือปู่ฟ้ากันหัวหด ด้วยราชโองการแห่งฟ้าของทีกงนี่เองที่ท่านใช้เนรเทศปีศาจทุกตนทุกเผ่าพันธุ์ให้ไปอยู่ในภูเขาเพลิง เช่นนั้นเหรียญทีกงจึงมีความหมายยิ่งใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มากกว่าเทวดาบนสวรรค์องค์ใดๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าทีกงจะทรงคทาหยกหรือป้ายอาญาสิทธิ์สวรรค์มีกระบี่อาญาสิทธิ์และแส้จามรีเป็นอาวุธและถือว่าเสามังกรสวรรค์เป็นสัญลักษณ์แทนพระองค์ ท่านมีมเหสีคือพระนางหวังหมู่เป็นเจ้าเเม่เเห่งสวรรค์ตะวันตกทั้งยังเป็นมหาราชินีผู้ควบคุมกาลเวลาเเละมิติรวมทั้งความตายอีกด้วย

    ด้วยเป็นประมุขแห่งฟ้า เมื่อปรากฏเหรียญนี้ที่ใดเหล่าทวยเทพบนสวรรค์จะพากันมาคารวะอวยพรพระองค์ ท่านเป็นเทพเจ้าสูงสุดของด้านการปกครอโดยทรงรับพระบัญชาหรือคำแนะนำจากองค์หยวนสือเทียนจุนโดยตรง ด้วยทรงปกครองเทวดาทั้งเก้าชั้นฟ้าเป็นใหญ่เหนือฟ้า,ดินและมนุษย์ ทรงเป็นผู้สร้างสวรรค์มีพระราชอำนาจที่จะสั่งเทวดาได้ทุกชั้นฟ้า ทรงควบคุมการสงคราม,ควบคุมหยินและหยาง,ควบคุมการกำเนิด,ควบคุมองค์จักรพรรดิภูมิมนุษย์,ควบคุมดูแลพื้นดินแลแม่น้ำ,ควบคุมดูแลเทพารักษ์ที่สถิตอยู่ณ.มหาสมุทรทั้งหมดและภูเขาทั้งห้า ภาระหน้าที่ของพระองค์ก็คือการบริหารจัดการสวรรค์,พื้นดินและมนุษย์ เช่นนั้นเหรียญทีกงนี้จึงอธิษฐานได้ทุกอย่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นไปเพื่ออภินิหาริย์โดยตรง

    ### ผู้ใช้เหรียญทีกงนี้เมื่อทีกงท่านจะเสด็จมาโปรดชีวิตผู้ใด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะมีเสียงทิพย์ดนตรีแลดุริยางค์สวรรค์บรรเลงขับกล่อมนำมาก่อนรัศมีมงคลจะตกกระทบกายผู้นั้น เป็นอาถรรพ์มากถ้าโชคดีจะเจอกันทุกคน จะได้ยินเสียงดนตรที่หาคนเล่นไม่มี หาคนบรรเลงไม่เจอ เป็นทิพย์ดนตรีอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านว่าได้ยิน ได้ฟังเวลาไหน ก็เวลานั้นแหละถือได้ว่าดวงดีอย่างถึงที่สุด ตอนนั้นชีวิตจะรุ่งจะขึ้นสู่จุดสูงสุด จะเห็นดีแม้ไม่ข้ามวันได้ดีตรงนั้นเดี๋ยวนั้นเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าอุปมาแม้ซื้อหวยเก็บไว้ก็ถูกรางวัลที่หนึ่งวันนั้น แม้ทำอะไรอยู่มีกิจใดคั่งค้างไปไม่ถึงฝันก็จะสำเร็จแต่บัดนั้น แม้มีดคีความก็ชนะเขา แม้หาคู่ครองก็ได้ยอดหญิงเบญจกัลยา ท่านว่ามือขึ้นทำอะไรก็มีแต่ได้ทั้งหมดดั่งว่าเทพทีกงท่านอุ้มสมให้สำเร็จสมปรารถนาและจะโชคดีเสมอต้นเสมอปลายไม่เหี่ยวแห้งอีกต่อไป

    นี่คืออานุภาพของเหรียญทีกงที่พ่ออาจารย์ท่านเชิญญาณประสิทธิ์ไว้ ท่านหล่อเสร็จเสกเสร็จใหม่ๆองค์ท่านก็ลงมาเลย ลองให้คนเอาไปใช้สองสามคนเป็นได้ยินทิพย์ดนตรีกันทุกคนจนท่านจับสังเกตุได้ บางคนนึกว่าผีอำบ้าง บางคนนึกว่าหูแว่วบ้าง หูฝาดบ้าง บางทีก็มาเป็นเสียงพระสวดแต่ไม่รู้ว่าภาษาอะไรฟังไม่ออกเป็นทำนองที่ไพเราะ พ่ออาจารย์ท่านว่าหลังจากนั้นแหละที่สำคัญชีวิตเปลี่ยนไม่สนฤดูกาลกันทุกคน นี่คือการมาหามาเหยียบบ่าเหยียบหัวของเทพที่มีศักดิ์สูงที่สุดในสวรรค์ ก่อนรัศมีมงคลจะเปิดย่อมมีดุริยางค์สวรรค์ให้ได้ยินเช่นนี้

    ### ยิ่งเหรียญทีกงนั้นท่านพูดเป็นปริศนาเอาไว่ว่าตอนเสกทั้งดึงลม ดึงแดด ดึงฝน วายุพัดเป่า ลมก็แรง ทั้งพระอาทิตย์ทรงกรด เสกจนเหรียญเปลี่ยนเป็นรุ้งเจ็ดสี ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอแบบนี้เลย (เมื่ออาราธนาท่านว่าให้ทำใจให้สงบอธิษฐานถึงปู่ฟ้าหรือทีกงได้ทันที)

    *** องค์ทีกงนี้เป็นรายการที่มีให้บูชาไม่มากและเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวจริงๆที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างองค์เง็กเซียนเช่นนี้ รายการนี้เปิดรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อสกุลเอาไว้ด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญดุริยางค์สวรรค์ฟ้าสำเร็จองค์ทีกง (ปู่ฟ้าพระทันใจ) บูชา 900 บาท

    89967372-143410623670322-6498218530243084288-n.jpg
    87669278-159713258472039-2065183128191762432-n.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ดวงตราศานตายะบัญชาเทพขุนพลสิบอสูรฟ้าสละตน(ภูติพยนต์โสฬส..สิ้นทุกข์..)

    ดวงตราศานตายะนั้นเป็นตราที่จะนำมาซึ่งความสุขถ้วนทุกประการ จะเรียกว่าเป็นดวงตราสำคัญที่รวมญาณของเทพอสูรฟ้าถึงสิบองค์ไว้ด้วยกันก็ไม่ผิด นั่นก็คือเทพอสูรในตระกูลพระไภรวะซึ่งมีอานุภาพสูงสุดเหนือกว่าครูอสูรทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าแรงดุจครูอสูรมหาวีรภัทรนั่นทีเดียวแต่ที่แตกต่างกันนั่นคือกลุ่มไภรวะนี้เค้ามีพวกของเขา มีถึงสิบองค์ สิบแรง สิบกำลัง ที่ว่าแรงแล้วก็คูณสิบเข้าไปอีก ทั้งสิบบรมครูนั้นจะสละตนปกป้องเรารักษาเรา ให้พรแก่เราสิบด้านสิบเรื่องปิดรอยรั่วรอยต่อของชีวิตทั้งหมดทั้งสิ้น *** ทำไมต้องบูชาครูอสูร ก็เพราะว่าความดุร้ายและเกรี้ยวกราดตลอดจนเทวานุภาพนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเชิญญาณท่านให้แฝงและประสิทธิ์อย่างเต็มกำลังเพื่อนำไปช่วยเหลือคุ้มครองผู้บูชาตามประสงค์ต่างๆ และเพื่อให้เหมาะสมแก่กลียุค ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้อธิษฐานบอกกล่าวครูบาอาจารย์ไว้ ว่าต่อไปใครที่มีดวงตรานี้ไว้บูชาจะสามารถรอดพ้นจากเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆได้สามารถดำรงค์ตนอยู่ได้เป็นปกติในยุควิกฤติและคับขัน

    พระไภรวะนั้นเป็นชื่อที่เรียกเทพคณะหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเรียกว่าคณะไภรวะก็ได้จัดอยู่ในกลุ่มของเทพอสูรระดับพระเป็นเจ้าที่มีความดุรุนแรงเกรี้ยวกราดอย่างถึงที่สุด ### ตามคติของพ่ออาจารย์ท่านที่ว่ายิ่งดุมากยิ่งให้คุณมาก ยิ่งให้คุณมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีแก่ตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เช่นนี้ท่านจึงมีดำริจะสร้างดวงตราสำคัญที่เป็นตัวแทนมหาเทพในกลุ่มไภรวะท้้งหมดขึ้นมา
    ด้วยเทพไภรวะนั้นเป็นตัวแทนของอำนาจแห่งการทำลายล้างสูงสุด โดยปกติแล้วจะไม่ปรากฏองค์เลยแต่เมื่อปรากฏรูปขึ้นมาจะแสดงฤทธิ์ยิ่งใหญ่สะท้านสะเทือนจักรวาลโดยจะมีหัวหน้าคณะเป็นผู้ปกครอง ได้ชื่อว่าเป็นเทพอสูรผู้ครองอำนาจสูงสุดของจักรวาลนี้ ซึ่งก็คือ " พระกาละไภรวะ "
    **** พระกาละไภรวะนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นครูสูงสุดในคณะไภรวะ เพราะมีฤทธิ์มากที่สุดจะคอยดูแลร่างไภรวะอวตารทั้งแปดองค์อันประจำอยู่ขอบกำแพงจักรวาลทั้งแปดทิศ ดุจว่าแปดเทพอสูรนี้เป็นดั่งด่านสุดท้ายของจักรวาลที่ไม่มีใครฝ่าหรือต้านทานได้ องค์กาละไภรวะท่านจะคอยบัญชาคณะไภรวะนั้น ซึ่งแต่ละองค์จะมีฤทธานุภาพแตกต่างกันไป

    - พระโคทไภรวะ มีพระวรกายสีเข้ม มีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะนกเหยี่ยว พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์นี้มีอำนาจฤทธิ์ที่กล้าหาญ เป็นผู้อยู่เหนือกาลเวลาและห้วงมิติทั้งหลาย ท่านจะคอยประสาทพรแก่เราเวลาเราต่อกรสู้กับปัญหาอุปสรรคทั้งปวงหรืออำนาจชั่วร้ายทั้งหลายมีปัญหาที่ใหญ่เกินตัวท่านจะคอยช่วยเราตลอด

    - พระกาปาลไภรวะ มีพระวรกายผ่องใส มีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นช้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงเป็นเลิศในความสมบูรณ์ เป็นครูผู้เลิศในอุดมคติและนำความสำเร็จทั้งปวง ทั้งยังทรงธรรมคอยประทานความยุติธรรมแก่โลกแก่สรรพชีวิตที่ถูกกลั่นแกล้ง
    ท่านจะคอยประสาทพรให้เรามีชัยชนะในกิจการที่ได้รับมอบหมาย นำความสมบูรณ์ในอุดมคติและความสำเร็จทั้งหลายเข้ามาในชีวิต นำความยุติธรรมมาสู่ตัวเรา

    - พระอสิตังกะไภรวะ มีพระวรกายคล้ำ มีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นหงส์ พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงเป็นผู้มีความสามารถเชี่ยวชาญงานศิลปะมีความรู้ทางสติปัญญาที่มั่นคงสูงส่ง ท่านจะคอยประสาทพรให้ความรู้ความเชี่ยวชาญในศาสตร์ทั้งหลายที่เราศึกษาจับต้อง ทั้งเปิดสมองเปิดสติปัญญาให้ดวงจิตเราแจ่มใส มีสติมั่นคงมีดวงปัญญาสว่าง กระจ่าง สูงส่ง

    - พระจันดาไภรวะ มีพระวรกายขาว มีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นนกยูง พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงไร้พ่ายในการศึกสงคราม มีอานุภาพสิบทิศไร้ผู้ต้านมีชัยชนะเหนือศัตรู มีความสามารถในการสู้รบและเป็นผู้พิชิตปัญหาทั้งปวงให้ราบรื่น ท่านจะคอยประสาทพรเวลาเราเจอหมู่มารหรือศัตรูเบียดเบียนกวนใจชีวิตเขาจะอยู่ไม่เป็นสุขเลย(ครูแรงมากพ่ออาจารย์ท่านว่าพูดเยอะไม่ได้ข้างบนเขาห้ามเด็ดขาด) ทั้งยังคอยแก้ไขปัญหาชีวิตที่เราเองสะสมเอาไว้ดลให้ชีวิตเราราบรื่นเช่นนี้

    - พระคุรุไภรวะ มีพระวรกายสีเทา มีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นวัว พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ท่านเป็นนักปราชญ์ เป็นมหาปราชญ์คือรู้ทุกสิ่งในจักรวาลไม่มีสิ่งใดที่ท่านไม่รู้
    ท่านจะคอยประสาทพรให้คุณความรู้ ให้ดวงตาเรามองเห็นปรัชญาการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง เห็นทางที่ควรเดินชีวิตที่ควรเลือกควรดำเนินไป และยังให้พรการศึกษาวิทยาความรู้และพระเวทย์ทั้งปวง

    - พระสัมหาระไภรวะ ทรงอวตารเปลือยกายวรกายสีแดง มีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะสุนัข พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นปางแห่งการสังหารกำจัดซึ่งอวิชา สิ่งชั่วร้ายความอหิงสาและความอหังการ์ทั้งหลาย เรียกว่าเป็นมหาปราบจักวาล ลองได้ลงมือปราบแล้วย่อมสิ้นนามสิ้นเชื้อ
    ท่านจะประสาทพรดับล้างความเสื่อมโทรมและกำจัดคุณแห่งอวิชชาทั้งหลาย คุณของไสยต่ำอสุรกายภูติผีทั้งหลาย แม้การกระทำคำสาปแช่งหากมีตกตะกอนในตัวเราย่อมมลายหายสิ้น

    - พระอุนมัตตะไภรวะ รูปนี้ทรงบริสุทธิ์สูงสุดวรกายผุดผ่อง มีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นม้า พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นที่มาแห่งความรื่นรมย์ความสุขสงบแห่งธรรมสูงสุด
    ท่านจะคอยประสาทพรทำลายล้างความชั่วทั้งหลายในจิตใจของมนุษย์ ดลให้ชีวิตเห็นธรรม เห็นสัจจะ ถึงซึ่งความรื่นรมย์และสงบสุขไปกับธรรมเหล่านั้น

    - พระภีชานะไภรวะ มีพระวรกายขาวผ่องใส มีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นสิงโต พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นครูที่คอยกำจัดอำนาจมืด กำจัดวิญญาณชั่วร้ายหรือสิ่งที่ไม่เป็นมงคลในโลก
    หากชีวิตเราโดนอำนาจมืดรังแกหรือตกอยู่ใต้การรุกรานของผู้อื่นท่านจะประสาทพรคอยช่วยเหลือทั้งยังล้างอัปมงคลทั้งหลายให้สูญสิ้น

    คณะไภรวะทั้งเก้านี้แม้เป็นเทพอสูร แต่ก็เป็นครูสูงสุดที่จะนำพรแห่งความสุขสมหวังมาสู่ผู้บูชาหาได้น่ากลัวดั่งคำว่าอสูรไม่ พ่ออาจารย์ท่านว่าอสูรก็เป็นเทวะไม่ใช่ยักษ์ใช่มารมีความเป็นทิพย์เช่นกัน ทั้งคณะไภรวะนั้นยังมีอำนาจหน้าที่อันสมควรเรียกได้ว่าตรงงานที่สุดอันจะนำมาซึ่งองค์ประกอบถ้วนทุกประการประสานกันเป็นความสุขแห่งชีวิตของผู้บูชา ท่านจึงได้จัดสร้างดวงตราศานตายะอันเป็นตัวแทนพลังของคณะเทพอสูรไภรวะทุกองค์ขึ้นเพื่อจะให้คณะไภรวะได้ปกป้องและนำพรมงคลมาสู่ผู้ถือครอง
    แต่เพื่อให้กำลังของคณะไภรวะสมบูรณ์อย่างถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่า
    ไม่ใช่เก้าแต่ต้องเป็นสิบ เป็นสิบเทพอสูรเป็นคณะไภรวะไร้ผู้ต้าน ท่านจึงเชิญครูไภรวะองค์สำคัญให้ร่วมประสิทธิ์ประสาทแฝงญานในรูปนามด้วย นั่นก็คือองค์พระไภรวะที่เกิดขึ้นจากอวตารขององค์พระศิวะ
    - พระบาตุกไภรวะ อยู่ในรูปของเด็กหนุ่มมีสี่พระกรทรงสุนัขดำเป็นพาหนะ องค์นี้ได้ชื่อว่ามีฤทธิ์อำนาจยิ่งใหญ่ ในมือถือกระบองดัมรูและชามกะโหลกทรงถือศรีษะของอสูรอพาต และเศียรที่ห้าของท้า่วมหาพรหม องค์บาตุกนั้นได้ชื่อว่ามากฤทธิ์ที่สุดเพราะทรงประหารเศียรที่ห้าของพระบรมบิดาพรหมเทพซึ่งเศียรนี้หมายถึงอัตตาเป็นความลุ่มหลงในตัวตนของตนเองทำลายความอหังการแต่นั้นมา ทั้งเป็นสาเหตุให้พรหมทั้งหลายเหลือเพียงสี่เศียร เรียกว่ามีอำนาจทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่แห่งฟ้าดินให้เกิดขึ้นได้ ทั้งองค์บาตุกนั้นยังได้สังหารอสูรอพาตที่ไม่มีใครสังหารได้แม้แต่พระแม่กาลี ด้วยพระแม่กาลีได้เชิญอวตารองค์บาตุกไภรวะนั้นสังหารอสูรในรูปเด็กห้าขวบ องค์บาตุกนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีฤทธิ์มากสามารถประสาทพรให้เราทำสิ่งที่ไม่คาดคิดไม่คาดฝันให้สำเร็จเสร็จสิ้นได้ ***ซึ่งนามบาตุกนั้นแปลว่าบุตรชายแห่งพราหมณ์ ทั้งยังเป็นเทพที่ถือว่ามีความสำคัญยิ่งยวดด้วยองค์พระศิวะท่านโองการให้บูชาบุตรพราหมณ์ที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ก่อนคือบาตุกไภรวะแล้วจึงบูชาพระองค์

    ดวงตราศานตายะเป็นดวงตราแทนมหาจิตทั้งสิบของครูเทพอสูรที่มีอานุภาพร้ายแรงดุดันและร้ายกาจมากที่สุด อันจะพึงมีบังเกิดขึ้นทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตกาล ด้วยเป็นพระรูปแห่งการทำลายล้างอันมีทิพย์อำนาจสูงสุดแห่งพระเป็นเจ้าทั้งหมด เพราะพระรูปนี้เป็นการทำลายล้างอกุศลและบาปกรรมเพื่อจะให้กำเนิดสิ่งที่ดีงามมั่นคงขึ้นมาทดแทน ผู้บูชาจะก้าวล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายและเริ่มมีสิ่งที่ดีงามปรากฏแก่ชีวิตตนเองด้วยอานุภาพแห่งดวงตราศานตายะนี้ ท่านว่าตรานี้อยู่ที่ไหนสิ่งไม่ดีไม่อาจเข้าใกล้หรือรังควานได้เลย สิ่งอกุศลไม่ดีทั้งหลายตลอดจนวิญญาณร้ายจะกลายเป็นอาหารที่สิบเทพอสูรคณะไภรวะท่านเสพย์ท่านกินไปหมดสิ้น แม้มีใครคิดร้ายต่อเราได้ ไม่ต้องพูดอะไรมากหรอกหากเราบูชาและมีดวงตรานี้อยู่ในคอใครได้ชื่อว่าคิดร้ายทำร้ายเราอยู่ให้เตรียมดูความพินาศฉิบหายของคนเหล่านั้นได้เลย

    พ่ออาจารย์ท่านได้หล่อพระรูปดวงตราศานตายะตามนิมิตที่มหาพรหมอาตมันท่านแนะนำด้วยวัชรธาตุหยาดน้ำฟ้าทวาราวดี นำมาผสมกับเหล็กสังขวานรเก่าพระอุโบสถอยุธยา เข้าด้วยตะกั่วน้ำนมพระท่ากระดานชำรุด ผสมแร่เงิน และปรอทป่า จนครูท่านนิมิตบอกว่าได้เช่นนี้ก็เป็นกายสิทธิ์แล้ว พลังหนักหน่วงแต่กลับเย็น เบาและสบาย ดี ดีมากๆ ทั้งยังได้ทำผงเฉพาะทางฝังไว้ด้านหลังด้วยคือผงที่นำมาจัดสร้างนั้นจะเรียกให้กระชับว่า " ผงมหาสูตร " ที่พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างผงนี้ขึ้นมาเฉพาะเป็นกรณีพิเศษเก็บไว้นานแล้ว เพื่อที่จะทำครูในสายเทพอสูรโดยเฉพาะซึ่งท่านได้นำผงว่านยามาตำรวมกัน โดยว่านที่ใช้นั้นท่านจะคัดเฉพาะว่านที่เก่ง มีฤทธิ์ มีตัวตนเป็นกายสิทธิ์ หาได้ยาก จับได้ยาก พลีได้ยาก มาบดสะสมไว้ร่วมกับผงมหายันต์ลบตามสูตรของท่านที่เน้นเลือกสะสมเฉพาะที่เสกจนเรียกว่าอักขระดิ้นได้พร้อมกับเข้าด้วยผงอาถรรพ์อีก 9 ชนิดที่หาง่าย แต่เอายากไม่สามารถเปิดเผยที่มาได้ ท่านได้นำผงมหาสูตรนั้นมารวมกับผงสำคัญคือผงยาสัจจะและผงกฤษณะยันตราอุดไว้ด้านหลังดวงตราศานตายะเป็นกฤติยาคมสูงสุด
    - ยาสัจจะ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจการเปลี่ยนแปลงของโลกและสังคมตลอดจนท่านมีญาณรู้สิ่งที่จะเกิดในอนาคตพ่ออาจารย์ท่านจึงได้รับนิมิตจากครูบาอาจารย์ผู้เป็นเจ้าของยาแดงอันสอนวิชาแก่ท่าน ให้นำผงยาแดงที่ประสิทธิ์แรงครูและมอบให้ไว้ออกมาทำเครื่องมงคลเพื่อให้เป็นที่เจริญสติแก่สัตว์ทั้งหลาย ต้องย้ำว่ายาแดงที่พ่ออาจารย์นำมาทำนั้นเป็นของบูรพาจารย์ท่านในฝั่งพม่าทำไว้ ท่านว่ายาแดงนั้นมีอานุภาพมากท่านเรียกว่ายาสัจจะ ยานี้แค่มีไว้กับตัวได้ไว้ครอบครองหรือเก็บรักษายังไม่ต้องบูชาแต่อย่างใด อานุภาพของยาก็ช่วยทำให้ชีวิตดีขึ้นแล้วอานุภาพยาสัจจะนั้นมีมากมายนัก นอกจากเปลี่ยนแปลงชีวิตช่วยให้ชีวิตดีขึ้นทันตาเห็นได้แล้วตัวยาสัจจะเองนั้นยังมีอานุภาพต่างๆอีกมาก ท่านว่าดีเกินกว่าจะคิดนั่นคือทำให้รวยมีทรัพย์สินศฤงคาร ทำให้คนเมตตาเป็นเสน่ห์มหานิยม เป็นมหาอำนาจวาสนาบารมี คุ้มครองป้องกันเป็นข่ามคง ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยให้มีอายุยืนนานไม่ตายด้วยโรคปัจจุบันทันด่วน ขับไล่คุณผีคุณคนเสน่ห์ยาแฝด ล้างมนต์ดำ ทำลายอาถรรพ์เมฆหมอกปิดกั้นชีวิต ทำลายล้างวิชาอาคมต่างๆ...(ท่านว่าไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ยังมีอีกแต่พูดไม่ได้) ท่านว่าเอาว่าเหมาะ ไม่ใช่ด้วยว่าควรจะมีแต่ต้องมี เพราะยาสัจจะนั้นมีอานุภาพวิเศษที่จะทำให้ชีวิตคนบริบูรณ์ด้วยความสุขทุกประการได้
    ยาแดงหรือยาสัจจะเก้าขั้นที่ท่านนำมาอุดดวงตรานั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษาผงยาวิชาทุกระดับขั้น ท่านว่าจะไม่เจริญเปลี่ยนชีวิตคนได้อย่างไร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น ทั้งพระรัตนตรัย คุณครูบาอาจารย์ พระอินทร์ จตุโลกบาลและอื่นๆอีกมากมายที่รักษายานี้ พ่ออาจารย์ท่านได้นำยาแดงนั้นมาเข้ากับผงยาจินดามณีนิดหน่อยเป็นผงยาจินดามณีเก่าของหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้วท่านว่าดีอย่างไรคงไม่ต้องบอก แรงครูสูงจะหาผงที่สร้างขึ้นจากยอดยาเช่นนี้คงหาไม่ได้อีก
    - ผงกฤษณะยันตรา ด้วยว่าพระกฤษณะนั้นนับถือว่าเป็นองค์อวตารของพระวิษณุผู้ปกปักรักษาสรรพสิ่งซึ่งคนนิยมนับถือท่านว่าเป็นคนเลี้ยงวัวเป็นผู้อภิบาลโคทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านจึงเลือกทำวิชาลงผงวิเศษขึ้น ท่านได้เขียนยันต์อักกะตัชชารีเป็นเลขยันตร์คาถาอาคมที่ถอดจากคำพูดแต่ละคำกลายเป็นตัวอักษรและสัญลักษณ์อันถูกจัดเรียงอย่างมีระเบียบและนำตัวเลขแทนสัญลักษณ์ดวงดาว มหาธาตุ และเทพเจ้าต่างๆจัดเรียงอยู่ในผังสมมุติของจักวาลทำการจัดเรียงตัวเลขเหล่านั้นในทิศทางที่ดีที่สุด ด้วยว่าอำนาจจากตัวเลขที่ถูกสมมุติแทนดาวดวงทั้งหลายจะส่งพลังงานจากดาวดวงจริงหรือพลังจักรวาลมาสู่ตัวผู้บูชาเพื่อให้สำเร็จในเหตุการณ์และความปรารถนาต่างๆ ผงนี้จะแผ่พลังงานจากมหาธาตุ ดวงดาว ตลอดจนถึงเทวราช เป็นพลังที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องไม่มีบกพร่อง พ่ออาจารย์ท่านว่าผงสำคัญนี้อันที่จริงเราก็ไม่อยากทำเท่าไหร่ ด้วยอานุภาพของมันนั้นจะส่งผลไปถึงการบิดเบือนมิติต่างๆรอบด้าน เป็นสื่อของพลังงานจักรวาล พลังงานกาลเวลาตลอดจนนำพาอำนาจพระกฤษณะมาสู่ผู้ศรัทธา ด้วยวิถีของการกระจายพลังงานที่แผ่ออกมาดุจคลื่นกระทบฝั่งไม่มีวันหยุดพัก ทั้งตัวผงเองยังดึงดูดพลังจักรวาลเข้ามาใช้เป็นตัวขับเคลื่อนพลังงานอันจะแผ่นี้ตลอดเวลา ดังนั้นผงกฤษณะยันตราก็เป็นผงที่มีอานุภาพการปรับเปลี่ยนสมดุลย์ให้ร่างกายผู้อาราธนาโดยอัตโนมัติด้วยจะควบคุมพลังงานเข้าออกทั้งดึงทั้งแผ่ไปในทิศต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านลบ " ยันตรากฤษณะมณฑล" ให้มีอานุภาพเฉพาะทาง ท่านว่าหากใครถามว่าทำไมต้องเจาะจงลงยันต์กฤษณะมณฑล ทำไมไม่ใช้ศิวะมณฑล หรือวิษณุ อัคนีแลเทพเจ้าทั้งหลาย ทำไมเราถึงเจาะจงกฤษณะมณฑลนี้ ก็ให้บอกเขาไปว่า เพราะยันตราแต่ละรูปแบบนั้นมีอานุภาพต่างๆกันไปและเราพิจารณาแล้วว่ากฤษณะมณฑลนั้นมีอานุภาพเหมาะแก่ยุคสมัย ด้วยมีอานุภาพดึงดูดความรัก ดึงดูดน้ำจิตน้ำใจสัตว์ทั้งหลายอันมีน้อยและหาได้ยากในยุคนี้ให้เข้าหา ซ้ำผงยันต์กฤษณะมณฑลนี้ก็เป็นเสน่ห์อย่างเหลือล้น ทั้งยังเป็นผงเดียวที่มีอานุภาพทำให้ผู้พกผู้บูชาหลุดพ้นจากความทุกข์ ซึ่งเราพิจารณาแล้วว่าผงยันต์ตัวอื่นก็ไม่วิเศษเช่นนี้ ก็สมัยนี้ตัวทุกข์มันมาก สืบไปเบื้องหน้าคนก็จะยิ่งทุกข์หนักมาก เมื่อจะมีผู้ใดบูชาดวงตราก็ด้วยปรารถนาการอภิบาลให้พ้นจากทุกข์ เช่นนั้นจึต้องอาราธนากระแสพลังงานของกฤษณะยันตราให้ดึงดูดธาตุและพลังจักรวาลขับออกซึ่งภัยพิบัติ ดลให้เจอแต่สิ่งดีงามพ้นห้วงทุกข์ทั้งหลาย

    ภูติพยนต์โสฬสภวัคคพรหมวิชาชายทุกคะตา(สิ้นทุกข์ เกิดใหม่ ได้ดี)
    เป็นพยนต์พิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านใช้ฝังดวงตราศานตายะโดยเฉพาะ ท่านเสกขึ้นมาด้วยการปลุกมหาภูติพยนต์โสฬสภวัคคพรหมซึ่งพยนต์นี้จะมีฤทธิ์มากมีกำลังดุจมหาพรหม มีอานุภาพยิ่งใหญ่เกินกว่าเทพยดาทั้งมวล ท่านว่ายิ่งมีฤทธิ์มากก็ยิ่งช่วยให้สำเร็จได้มากจึงเป็นพยนต์กายสิทธิ์ที่ไม่เคยปรากฏมีมาก่อน ซึ่งท่านได้หล่อพยนต์นี้จากปรอทยอดธาตุอันท่านได้มาแต่สมัยออกธุดงค์กับครูบาอาจารย์ เป็นปรอทสำคัญแข็งดุจหินที่ฝังไว้ในมหาธาตุเจดีย์สมัยสุโขทัยอันได้โค่นล้มลงมาตามกาลเวลา ซึ่งท่านว่าจะได้เสริมกำลังชีวิตทำอะไรจะได้ว่องไวสำเร็จรวดเร็ว โดยท่านได้นำมาหลอมรวมกับแร่โคตรเศรษฐีและตะกั่วปากถุงเงินก่อนจะนำมาตั้งธาตุอ่านโองการปลุกเสกเป็นพยนต์วิชาชายทุกคะตาจนแล้วเสร็จ
    วิชาชายทุกคะตานั้น ...เมื่อเกิดเป็นมนุษย์นั้นไม่ว่าจะต่างชาติต่างวรรณณะกันเพียงไหน เชื่อได้ว่าย่อมมีความทุกข์ทั้งสิ้น แต่เดิมนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้วิชามาจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำวิชาหนึ่ง ซึ่งในสมัยมีชีวิตอยู่ท่านก็ไม่ได้ทำวิชานี้ให้กับใคร ท่านได้สอนเเละบอกกล่าวพ่ออาจารย์ไว้เท่านั้น ท่านว่าอนาคตให้เอาไว้ช่วยคนที่เขาเดือดเนื้อร้อนใจจริงๆ วิชานี้หลวงพ่อฤาษีท่านเรียนสืบมาเเต่บูรพาจารย์คือองค์หลวงพ่อปาน วัดบางโคนม ถือว่าสำคัญมาก จะเห็นว่าใครก็ตามตกต่ำย่ำเเย่ไปหาหลวงพ่อปานท่านช่วยได้เเก้ไขให้ดีขึ้น พ้นทุกข์ได้ทุกคน วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าชายทุกคะตา อดีตท่านเรียนไว้ลงตะกรุดเก็บไว้เสกขอบารมีเสด็จพระใหญ่สมเด็จองค์ปฐมตลอดจน หลวงพ่อปานเเละหลวงพ่อฤาษีช่วยสงเคราะห์อยู่ทุกวันตลอดเวลา วิชานี้ดีอย่างไรทำไมถึงเรียกว่าชายทุกคะตา เพราะขึ้นชื่อว่ามนุษย์นั้น ยอมมีความทุกข์เรื่องต่างๆทุกคน จะจนจะรวยเเค่ไหนก็หนีไอ้คำว่าความทุกข์นี้ไม่พ้น ในอดีตจวบจนปัจจุบัน สิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็อยู่ในห้วงทุกข์ทั้งสิ้น เพราะเสวยผลแห่งกรรมตามติดไปตามวาระตามระบบที่ตนเองเป็นคนก่อขึ้นมา เมื่อมีความทุกข์ก็ก้มหน้ารับทุกข์กันไป สมัยหลวงพ่อปานนั้นท่านก็ไม่ได้ใช้วิชานี้เพื่อโปรดใครมากเพราะเป็นวิชาที่ส่งผลยิ่งใหญ่ สามารถบรรเทาเคราะห์กรรมเปลื้องปลดทุกขเวทนาได้ "บุคคลทั้งหลาย พึงล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร" วิชานี้ก็เช่นกันไม่ว่าจะเจอทุกข์จากอะไรมา
    - ทุกข์จากกฏแห่งกรรม
    - ทุกข์จากความผิดหวัง
    - ทุกข์จากความรัก
    - ทุกข์จากอุปสรรคในหน้าที่การงาน
    - ทุกข์จากสิ่งที่ไม่ชอบเนื้อชอบใจ
    - ทุกข์จากความอิจฉาริษยาของบุคคลเเวดล้อม
    - ทุกข์จากฐานะการเงิน หน้าที่สิ่งที่เป็นอยู่
    - ทุกข์จากคนรอบข้าง
    - ทุกข์จากการกระทำการกลั่นเเกล้ง
    - ทุกข์จากใจตนเอง และ อื่นๆอีกมากมาย

    ขึ้นชื่อว่าความทุกข์ทั้งหมดนั้น เพราะไม่ได้ดั่งใจตนเองย่อมพินาศปราศนาการไป วิชานี้หลวงพ่อได้บอกกล่าวต่อมาเป็นรุ่นๆถึงพ่ออาจารย์ว่า เราจะเป็นเพียงคนทำให้ คนนำวิชาไปใช้ไปสำเร็จ เป็นที่ตัวของโยมเค้าเอง ซึ่งวิชานี้เริ่มจากพ่ออาจารย์ได้ลงตะกรุดชายทุกคะตาก่อน โดยเเปลงเป็นอักขระพระเวทย์สายเหนือที่ท่านถนัด พระยันต์ด้านในนั้นมีพุทธคุณมาก ผู้ใดมีความทุกข์ก็ล่วงทุกข์ได้ ซ้ำยังมีพระพุทธคุณวิเศษ สุดเเต่จะคิดจะปรารถนาไม่ว่าจะความทุกข์ใดๆก็ล่วงผ่านไปได้ ล้อมด้วยคาถาที่ให้คุณทางด้านมีทรัพย์สมบัติมาก ท่านว่าตัวนี้มีกินทั้งชาติไม่รู้สิ้น ซ้ำยังรักษาสิริสวัสดิ์ในกายตนเอง ปกป้องคุ้มครองต่างๆ เเม้อยู่ในสถานที่ใดๆสิ่งมีชีวิตทั้งหลายย่อมให้ความรักความกรุณา ก่อนจะนำตะกรุดนี้ไปผสมเป็นมวลสารหล่อพยนต์และเมื่อปลุกภูติพยนต์โสฬสภวัคคพรหมแล้วจึงนำมาหนุนวิชาชายทุกคะตาอีกคำรบหนึ่ง
    ภูติพยนต์นี้เเฝงนัยยะสำคัญหลายประการ
    - เป็นพยนต์เเห่งการสร้างสรรค์การให้กำเนิด เมื่อสิ้นทุกข์เเล้วจะได้เกิดการเปลี่ยนเเปลงเกิดสิ่งดีๆ
    - เมื่อสิ้นทุกข์เเล้วจะได้พบกับความสุข เพราะอาศัยกฏธรรมชาติข้อนี้ที่ใครๆก็ปรารถนาจะมีความสุขด้วยกันทั้งนั้น
    - ภูติพยนต์นี้จะมีพลังองค์คุณเเห่งบิดามารดาผู้ให้กำเนิดเราปกปักรักษา มีพระคุณพ่อพระคุณแม่เหนือหัวใครก็ทำอันตรายลูกไม่ได้ ใครก็ทำร้ายลูกไม่ได้
    - เสริมสมดุลย์ปรับธาตุพลังงานหยินยางให้อยู่ในสภาวะพอดีไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป สุขภาพร่างกายจะได้เเข็งเเรงไม่เขจ็บป่วยง่าย
    - เป็นรูปอาถรรพ์ เม้คุณไสยฝ่ายต่ำก็ไม่สามารถทำอันตรายเราได้พลังงานด้านลบต่างๆย่อมสูญสลายไป ซ้ำยังกันกระทำกันผู้มีวิชาอาคมคัดถอนอีกด้วย
    พยนต์ชายทุกคะตาวิชานี้คืออะไร
    คือบุคคลผู้มีความทุกข์แต่ล่วงทุกข์ประการต่างๆ ไม่ว่าจะทุกข์จะสาหัสเเค่ไหนเดือดร้อนเพียงใด ทิ้งความทุกข์ไว้แล้วเกิดเป็นคนใหม่ พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือไม่เหลือคราบคนเก่า จากคนประสบทุกข์กลายเป็นคนไร้ทุกข์ ได้ดีในสิ่งที่ตนปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านอธิบายสั้นๆเพียงเเค่นี้ ท่านว่าวิชานี้เมื่อเผยเเพร่ออกไปแล้วเหมือนไปชุบชีวิต ไปต่อชีวิตเค้า ต่อไปจะเป็นวิชาหลักของเรา คงจะได้ใช้ช่วยสงเคราห์คนอีกมาก

    นอกจากนี้ดวงตรายังฝังตะกรุดสำคัญอีกสามชนิด
    - ตะกรุดกาลกลืนกิน เป็นตะกรุดตะกั่วขอมโบราณโดยกำหนดให้อดีต ปัจจุบัน อนาคต มีเราเป็นหนึ่งแต่ผู้เดียว ซ้ำอีกนัยน์หนึ่งท่านว่าผู้ที่อยู่เหนือกาลเวลาได้ย่อมเอาชนะทุกสิ่งอย่างบรรดามี อยู่เหนือวัฏฏ อยู่เหนือกฏแห่งกรรม ลอยตัวออกห่างจากอกุศลเพื่อบ่มเพาะคุณความดี กาลกลืนกินนี้คือวิชาอาถรรพ์ของหน้ากาลที่สามารถกลืนกินได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ท่านปลุกเสกอธิษฐานจิตให้กลืนกินเคราะห์กรรม คุณไสยอวิชชาอันติดมาจากรากเหง้าจิตดั้งเดิม ให้เหลือแต่ความสุข โชคลาภ ความมั่นคง ท่านว่าคุณของหน้ากาลนั้นยิ่งกว่าราหูนะ เพราะราหูอมแล้วยังคลายออก แต่หน้ากาลอมแล้วไม่มีวันคลายจะกลืนกินไปทั้งหมดทั้งสิ้นเช่นนั้น ท่านว่าเมื่อปรารถนาสิ่งใดอธิษฐานขอตะกรุดให้ช่วยเรากลืนกินแล้ว ก็ให้ใช้กำลังใจพิจารณาให้เกียรติมุขนี้กลืนกินสิ่งที่เราต้องการหรือปรารถนานั้นเสีย ทุกอย่างก็สำเร็จดั่งใจไม่ไกลเกินเอื้อมถึง
    - ตะกรุดตราล้างโลก เรียกอีกอย่างว่าดวงตาพระอิศวร(ศิวะ) ซึ่งเป็นตะกรุดที่มีอานุภาพในการทำลายล้างสิ่งไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นสิ่งไม่ดีในร่างกายเราหรือสิ่งไม่ดีอันติดมาแต่ชาติกำเนิด สิ่งไม่ดีอันเป็นอุปสรรคบั่นทอนชีวิตของเราในทุกๆด้าน ใช้ขับล้างพลังงานด้านลบออกไปจากร่างกายของเราตลอดจนมีอานุภาพเป็นที่หวาดกลัวแก่เหล่าวิญญาณร้ายมิจฉาทิฏฐิตลอดจนเทวดาทั้งหลายเป็นที่ยิ่ง ตะกรุดนี้มีกลวิธีในการลงซับซ้อนเเละต้องมีพระคาถาเข้ามาเสริมและหนุนเฉพาะเพื่อเสกให้ทรงอานุภาพสูงสุด ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าตาของพระอิศวรหรือศิวะนั้นเป็นสิ่งที่มีอานุภาพสูงสุดในการทำลายล้างใช้ทำลายจักรวาลให้เป็นจุณมหาจุณในพริบตา เพื่อให้กำเนิดสิ่งที่ดีงามประดิษฐานขึ้นต่อไปตามกลไกแห่งวัฏฏจักร เราจึงเรียกตะกรุดตัวนี้ว่าตะกรุดตราล้างโลก เพื่อให้เหมาะสมและเข้ากับดวงตราศานตายะโดยสมบูรณ์ ถือได้ว่าตะกรุดดอกนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้พระมีอานุภาพแรงกล้าขึ้นไปอีก
    - ตะกรุดมหาปราบโลก ตะกรุดนี้ลงพระยันต์มหาปราบโลกและเสกโดยหลังเสกนั้นท่านเรียกของท่านเองว่าตะกรุดไพรีพินาศ ท่านว่าเสริมตัวนี้เข้าไปนี่แหละเราปราบเขาได้หมดเลย ในโลกนี้ขอให้มีจิตมีชีวิตเถอะจะคนจะผีจะเจ้าที่ไหนเอาชนะเราไม่ได้ใครคิดร้ายทำร้ายเราก็พินาศสมชื่อ เป็นศัตรูเรามีแต่ตกอับล่มจมไป แต่ผู้ครอบครองต้องประพฤติดีปฏิบัติชอบด้วยนะถึงจะใช้ขึ้นและได้ผลแรงกว่าปกติหลายเท่าตัว ท่านว่าเมื่อทางสะดวกปราบและกำราบคนที่คิดไม่ดีกับเราหมดแล้วจะทำอะไรก็เจริญรุ่งเรือง จะเอาดีทางโลกก็ไร้เสี้ยนหนามจะเอาดีทางธรรมก็ไม่มีอุปสรรค เพราะชั้นถือว่าปราบนี่คือปราบหมดปราบราบคาบแม้แต่กิเลสในใจตน ก็ตั้งจิตอธิษฐานกันเองระลึกให้ดีว่าจะเอาดีทางโลกหรือทางธรรม ยิ่งเมื่อเสริมกันกับอานุภาพดวงตราศานตายะแล้วเป็นว่าหายห่วงได้ทุกเรื่องฝากชีวิตไว้ได้

    คาถาบูชา
    โอม ศรีไภระวายะนะมะ โอมศรีกาละไภรวะ โอมบาตุกไภรวะ ชาบา สะโตตระมันตระ
    คาถาใช้พยนต์ชายทุกคะตา อาหะ ภันเต อิทะเน กัปปันเน อิทาเทหิ สะกะทิชีวิตา สัพพะทุกขา มุจเจยยะ

    ดวงตราศานตายะคือตราที่นำมาซึ่งความสุขสวัสดี ขับไล่ล้างบาปอวิชชาและตะกอนทุกข์ตลอดจนกลืนกินหกวัฏจักร(ที่ทุกข์ยาก)...เป็นสิ่งที่อยู่เหนือวัฏฏอย่างแท้จริงด้วยสิบอสูรฟ้าหรือครูใหญ่อสูรทั้งสิบท่านจะสละตนทำให้ทุกข์สูญไปสละคำพรและอมฤตธรรมตลอดจนปัจจัยทั้งหลายเพื่อเกื้อกูลความสุขแก่ตัวเราด้วยความรักความเมตตา

    *** ตราศานตายะนั้นมีอาถรรพ์มากเสมือนตรารวมวาสนาพรมงคลของสิบเทพอสูรคณะไภรวะ พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมดหกองค์ แต่ท่านอาราธนาเององค์หนึ่ง จึงมีให้บูชาห้าองค์ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลและคำพรที่ปรารถนาจะขอกับครูไภรวะทั้งสิบไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะเจิมประสิทธิให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนอาหารกลางวันโรงเรียนชนบทของเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ดวงตราศานตายะบัญชาเทพขุนพลสิบอสูรฟ้าสละตน(ภูติพยนต์โสฬส..สิ้นทุกข์..) บูชา 4,000 บาท



    90428412-218530239207151-8367574243776397312-n.jpg 90979979-2834324296662697-586585188515971072-n.jpg
    90529675-1275399562650431-3742303986821103616-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2020
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ภูติพยนต์โสฬสภวัคคพรหมวิชาชายทุกคะตา(สิ้นทุกข์ เกิดใหม่ ได้ดี) ชุดพิเศษผูกตะกรุดบุญนิมิต

    วิชาปลุกมหาภูติพยนต์โสฬสภวัคคพรหมนี้ ท่านว่าเป็นวิชาที่ใช้สร้างให้พยนต์มากอภินิหาริย์ดุจเทพพรหม มีฤทธิ์มาก เป็นพยนต์เทพเจ้าคอยรักษาตัวผู้ใช้และควบคุมดวงของโชคลาภความมั่งคั่งทั้งหลายให้มีเข้ามาเนืองๆ อำนวยผลตามแต่ปรารถนา ท่านว่าพกไว้ไม่ต้องเลี้ยงต้องเซ่นเพราะพยนต์นี้มีความเป็นทิพย์ดุจเทพชั้นสูง อธิษฐานให้เขาช่วยเปิดดวงเปิดทางให้เราคอยรับใช้ผู้บูชาด้วยความซื่อสัตย์ไม่ใช่ทำให้เป็นเทวดาที่เราต้องตามไปรับใช้ท่าน *** หากแต่เป็นพยนต์ที่มีฤทธิ์ดุจเทวดาซึ่งเปรียบเสมือนทาสของเราเวลาจะขอจะบนอะไรก็บอกเขาดีๆ หากอยากถวายของจริงๆก็ให้ใช้ดอกไม้เครื่องหอมสุคนธ์รสทั้งหลาย งดเว้นอาหารดิบหรือสิ่งมึนเมาอย่างเด็ดขาด

    รุ่นนี้เป็นพยนต์พิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านใช้ฝังดวงตราศานตายะโดยเฉพาะ
    ท่านเสกขึ้นมาด้วยการปลุกมหาภูติพยนต์โสฬสภวัคคพรหมซึ่งพยนต์นี้จะมีฤทธิ์มากมีกำลังดุจมหาพรหม มีอานุภาพยิ่งใหญ่เกินกว่าเทพยดาทั้งมวล ท่านว่ายิ่งมีฤทธิ์มากก็ยิ่งช่วยให้สำเร็จได้มากจึงเป็นพยนต์กายสิทธิ์ที่ไม่เคยปรากฏมีมาก่อน ซึ่งท่านได้หล่อพยนต์นี้จากปรอทยอดธาตุอันท่านได้มาแต่สมัยออกธุดงค์กับครูบาอาจารย์ เป็นปรอทสำคัญแข็งดุจหินที่ฝังไว้ในมหาธาตุเจดีย์สมัยสุโขทัยอันได้โค่นล้มลงมาตามกาลเวลา ซึ่งท่านว่าจะได้เสริมกำลังชีวิตทำอะไรจะได้ว่องไวสำเร็จรวดเร็ว โดยท่านได้นำมาหลอมรวมกับแร่โคตรเศรษฐีและตะกั่วปากถุงเงินก่อนจะนำมาตั้งธาตุอ่านโองการปลุกเสกเป็นพยนต์วิชาชายทุกคะตาจนแล้วเสร็จ

    วิชาชายทุกคะตานั้น ...เมื่อเกิดเป็นมนุษย์นั้นไม่ว่าจะต่างชาติต่างวรรณณะกันเพียงไหน เชื่อได้ว่าย่อมมีความทุกข์ทั้งสิ้น แต่เดิมนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้วิชามาจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำวิชาหนึ่ง ซึ่งในสมัยมีชีวิตอยู่ท่านก็ไม่ได้ทำวิชานี้ให้กับใคร ท่านได้สอนเเละบอกกล่าวพ่ออาจารย์ไว้เท่านั้น ท่านว่าอนาคตให้เอาไว้ช่วยคนที่เขาเดือดเนื้อร้อนใจจริงๆ วิชานี้หลวงพ่อฤาษีท่านเรียนสืบมาเเต่บูรพาจารย์คือองค์หลวงพ่อปาน วัดบางโคนม ถือว่าสำคัญมาก จะเห็นว่าใครก็ตามตกต่ำย่ำเเย่ไปหาหลวงพ่อปานท่านช่วยได้เเก้ไขให้ดีขึ้น พ้นทุกข์ได้ทุกคน วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าชายทุกคะตา อดีตท่านเรียนไว้ลงตะกรุดเก็บไว้เสกขอบารมีเสด็จพระใหญ่สมเด็จองค์ปฐมตลอดจน หลวงพ่อปานเเละหลวงพ่อฤาษีช่วยสงเคราะห์อยู่ทุกวันตลอดเวลา

    วิชานี้ดีอย่างไรทำไมถึงเรียกว่าชายทุกคะตา เพราะขึ้นชื่อว่ามนุษย์นั้น ยอมมีความทุกข์เรื่องต่างๆทุกคน จะจนจะรวยเเค่ไหนก็หนีไอ้คำว่าความทุกข์นี้ไม่พ้น ในอดีตจวบจนปัจจุบัน สิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็อยู่ในห้วงทุกข์ทั้งสิ้น เพราะเสวยผลแห่งกรรมตามติดไปตามวาระตามระบบที่ตนเองเป็นคนก่อขึ้นมา เมื่อมีความทุกข์ก็ก้มหน้ารับทุกข์กันไป สมัยหลวงพ่อปานนั้นท่านก็ไม่ได้ใช้วิชานี้เพื่อโปรดใครมากเพราะเป็นวิชาที่ส่งผลยิ่งใหญ่ สามารถบรรเทาเคราะห์กรรมเปลื้องปลดทุกขเวทนาได้ "บุคคลทั้งหลาย พึงล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร"

    วิชานี้ก็เช่นกันไม่ว่าจะเจอทุกข์จากอะไรมา

    - ทุกข์จากกฏแห่งกรรม
    - ทุกข์จากความผิดหวัง
    - ทุกข์จากความรัก
    - ทุกข์จากอุปสรรคในหน้าที่การงาน
    - ทุกข์จากสิ่งที่ไม่ชอบเนื้อชอบใจ
    - ทุกข์จากความอิจฉาริษยาของบุคคลเเวดล้อม
    - ทุกข์จากฐานะการเงิน หน้าที่สิ่งที่เป็นอยู่
    - ทุกข์จากคนรอบข้าง
    - ทุกข์จากการกระทำการกลั่นเเกล้ง
    - ทุกข์จากใจตนเอง และ อื่นๆอีกมากมาย

    ขึ้นชื่อว่าความทุกข์ทั้งหมดนั้น เพราะไม่ได้ดั่งใจตนเองย่อมพินาศปราศนาการไป วิชานี้หลวงพ่อได้บอกกล่าวต่อมาเป็นรุ่นๆถึงพ่ออาจารย์ว่า เราจะเป็นเพียงคนทำให้ คนนำวิชาไปใช้ไปสำเร็จ เป็นที่ตัวของโยมเค้าเอง ซึ่งวิชานี้เริ่มจากพ่ออาจารย์ได้ลงตะกรุดชายทุกคะตาก่อน โดยเเปลงเป็นอักขระพระเวทย์สายเหนือที่ท่านถนัด พระยันต์ด้านในนั้นมีพุทธคุณมาก ผู้ใดมีความทุกข์ก็ล่วงทุกข์ได้ ซ้ำยังมีพระพุทธคุณวิเศษ สุดเเต่จะคิดจะปรารถนาไม่ว่าจะความทุกข์ใดๆก็ล่วงผ่านไปได้ ล้อมด้วยคาถาที่ให้คุณทางด้านมีทรัพย์สมบัติมาก ท่านว่าตัวนี้มีกินทั้งชาติไม่รู้สิ้น ซ้ำยังรักษาสิริสวัสดิ์ในกายตนเอง ปกป้องคุ้มครองต่างๆ เเม้อยู่ในสถานที่ใดๆสิ่งมีชีวิตทั้งหลายย่อมให้ความรักความกรุณา ก่อนจะนำตะกรุดนี้ไปผสมเป็นมวลสารหล่อพยนต์และเมื่อปลุกภูติพยนต์โสฬสภวัคคพรหมแล้วจึงนำมาหนุนวิชาชายทุกคะตาอีกคำรบหนึ่ง

    ภูติพยนต์นี้เเฝงนัยยะสำคัญหลายประการ
    - เป็นพยนต์เเห่งการสร้างสรรค์การให้กำเนิด เมื่อสิ้นทุกข์เเล้วจะได้เกิดการเปลี่ยนเเปลงเกิดสิ่งดีๆ
    - เมื่อสิ้นทุกข์เเล้วจะได้พบกับความสุข เพราะอาศัยกฏธรรมชาติข้อนี้ที่ใครๆก็ปรารถนาจะมีความสุขด้วยกันทั้งนั้น
    - ภูติพยนต์นี้จะมีพลังองค์คุณเเห่งบิดามารดาผู้ให้กำเนิดเราปกปักรักษา มีพระคุณพ่อพระคุณแม่เหนือหัวใครก็ทำอันตรายลูกไม่ได้ ใครก็ทำร้ายลูกไม่ได้
    - เสริมสมดุลย์ปรับธาตุพลังงานหยินยางให้อยู่ในสภาวะพอดีไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป สุขภาพร่างกายจะได้เเข็งเเรงไม่เขจ็บป่วยง่าย
    - เป็นรูปอาถรรพ์ เม้คุณไสยฝ่ายต่ำก็ไม่สามารถทำอันตรายเราได้พลังงานด้านลบต่างๆย่อมสูญสลายไป ซ้ำยังกันกระทำกันผู้มีวิชาอาคมคัดถอนอีกด้วย


    พยนต์ชายทุกคะตาวิชานี้คืออะไร คือบุคคลผู้มีความทุกข์แต่ล่วงทุกข์ประการต่างๆ ไม่ว่าจะทุกข์จะสาหัสเเค่ไหนเดือดร้อนเพียงใด ทิ้งความทุกข์ไว้แล้วเกิดเป็นคนใหม่ พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือไม่เหลือคราบคนเก่า จากคนประสบทุกข์กลายเป็นคนไร้ทุกข์ ได้ดีในสิ่งที่ตนปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านอธิบายสั้นๆเพียงเเค่นี้ ท่านว่าวิชานี้เมื่อเผยเเพร่ออกไปแล้วเหมือนไปชุบชีวิต ไปต่อชีวิตเค้า ต่อไปจะเป็นวิชาหลักของเรา คงจะได้ใช้ช่วยสงเคราห์คนอีกมาก

    คาถาใช้พยนต์
    อาหะ ภันเต อิทะเน กัปปันเน อิทาเทหิ สะกะทิชีวิตา สัพพะทุกขา มุจเจยยะ

    ตะกรุดบุญนิมิต

    ตะกรุดตัวนี้เป็นวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านได้รับจากนิมิต โดยหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้วมาสอนให้ท่านลงพร้อมบอกคาถากำกับเวลาลง และคาถาที่ใช้เสก คาถาที่ใช้อาราธนา ท่านย้ำเอาไว้ว่าเมื่อเกิดโรคระบาดข้าวยากหมากแพงคนเจ็บคนตายเกลื่อนเมืองก็ให้ทำตะกรุดนี้ซักหน ใครได้ไปท่านว่าให้ภาวนาคาถาคู่กับตะกรุดด้วยจะพิษโรค พิษเศรษฐกิจ ภัยจากกลียุคประการใดๆย่อมรอดทุกคน พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่านิมิตนี้เป็นมงคลอยู่มากท่านจึงตั้งใจลงตะกรุดและเสกเตรียมพร้อมไว้ตลอดและขนานนามตะกรุดโดยใช้ชื่อท่านผู้มาบอกว่า"ตะกรุดบุญนิมิต" จนภาวะในปัจจุบันคนเจ็บคนตายมากขึ้นและจะมากขึ้นต่อไป พ่ออาจารย์ท่านว่าภัยพิบัติเรื่องต่อไปในอนาคตยังรุนแรงกว่านี้ คนจะตายกันมาก ท่านจึงนำตะกรุดชนิดนี้มาผูกไว้กับพยนต์ให้ใช้คู่กัน

    ท่านว่าวิชาประเภทนี้เรียกแบบโบราณก็คือวิชาผีบอก เป็นวิชาที่ครูบาอาจารย์ เทพยดาหรือภูติผีมาบอกมามอบให้เฉพาะคนที่ท่านเลือก ถือเป็นของเฉพาะคนที่จะไม่มีการถ่ายทอดเพราะจะปรากฏในยุคใดยุคหนึ่ง
    ตามที่ครูบาอาจารย์ท่านโปรดเท่านั้น แม้ใครก็ทำตามหรือสืบทอดต่อกัน
    ไม่ได้ พูดอีกแบบหนึ่งก็คือให้ตายไปกับตัว ท่านว่าตะกรุดบุญนิมิตนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลแต่เรามั่นใจมากว่าใช้ได้ผลจริงยามชีวิตเธอทุกข์ยาก ไม่ว่าจะด้วยโรคระบาด หรือปัญหาเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพง แม้จะเกิดกลียุคอย่างไรให้พกตะกรุดแล้วภาวนาคาถาพ่ออาจารย์ท่านว่ารอดทุกคน
    ### เพราะเป็นวิชาทางปาฏิหาริย์เป็นของเฉพาะคน มีเจ้าของ มีผู้ครอบครองที่ครูบาอาจารย์ท่านเลือกท่านเพ่งเล็งเอาไว้ พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าใครควรได้ควรใช้ เบื้องบนย่อมเลือกของท่านเอง

    คาถาใช้ตะกรุด

    พุทธะนิมิตตัง จิตตัง พระอรหัง พุทธนิมิตตัง จิตติ

    *** รายการพยนต์ชุดพิเศษนี้เป็นรายการที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจทำเก็บไว้อย่างมากเพราะตะกรุดบุญนิมิตที่ท่านผูกนี้เป็นของใช้เฉพาะตนที่ยากจะปรากฏในยุคหนึ่งๆอย่างแท้จริง รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยเพื่อพ่ออาจารย์ท่านจะได้ใช้ในการประสิทธิ์พยนต์ต่อไป รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ภูติพยนต์โสฬสภวัคคพรหมวิชาชายทุกคะตา(สิ้นทุกข์ เกิดใหม่ ได้ดี) ชุดพิเศษผูกตะกรุดบุญนิมิต บูชา 900 บาท

    90428403-230030798056229-2684147409432346624-n.jpg 90544488-1418204235017516-7862944113669177344-n.jpg
    91052714-262177611456208-8406490457114148864-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...