ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวิฬาร์ย่ำเหยียบเงาหมื่นกฏไม่ใช่เรื่องของเรา(เงาปรากฏรวยอมตะ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    รายการนี้เป็นวัตถุมงคลชุดเก่ามากๆ ที่พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าสั้นๆไว้ 2 ประการ
    - พ่ออาจารย์ท่านได้อธิษฐานฝากครูพระสยมให้ล้างบาปเปลี่ยนแปลงมหาวัฏฏของผู้บูชา

    - ท่านว่าใครพบเจอก็ถือว่าชีวิตนั้นท่านเปิดให้แล้ว
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ชุดปิดตำนานตะกรุดล้างบาปมหากลับวัฏฏะ(พระเจ้าบิณฑบาตรทุกข์รับเคราะห์กรรม)

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า ตะกรุดดอกนี้เป็นมหาตะกรุดที่มีคุณใหญ่ เนื่องจากมีพรรณคุณพิเศษเฉพาะทางสามารถใช้รับเคราะห์กรรมแทนตัวเองได้

    ..ทุกข์
    ..โศก
    ..โรค
    ..ภัย
    ..เคราะห์ร้าย
    ..เวรกรรม

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งเหล่านี้ย่อมไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างแน่นอน เพราะบาปเคราะห์ทั้งร้ายเมื่อมาส่งผลนั้นย่อมจะให้ทุกข์โทษภัยในประการต่างๆมีทั้งที่เบาบางและสาหัส ดังนั้นท่านจึงได้ทำตะกรุด
    ล้างบาปมหากลับวัฏฏะ(พระเจ้าบิณฑบาตรทุกข์รับเคราะห์กรรม) ขึ้น

    ท่านว่าอันที่จริงแล้ววิชาเช่นนี้ไม่ควรจะมีปรากฏหรือมีทำออกมาเลย เนื่องจากสัตว์ทั้งหลายนั้นย่อมมีเคราะห์กรรมเป็นของตัวเอง ดังนั้นวิชาการต่างๆจึงมีทั้งได้รับการสืบทอดและหายสาบสูญไปไม่ปรากฏคนสืบทอด เพราะว่าวิชาเช่นนี้ส่วนใหญ่เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ ถึงจะใช้จะทำก็ทำได้ไม่มาก เพราะท่านต้องเลือกและมอบให้แก่คนที่พิจารณาแล้วว่าได้ไปไม่เอาไปทำกรรมสร้างเวรจริงๆ ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงไม่ค่อยนำออกมาให้ใครบูชาเท่าไหร่ แม้มีหลายคนถามหาว่ามีเครื่องรางที่ให้ผลเร็วทางด้านลดโทษชะลอกรรมเก่าเหล่านี้มั๊ยท่านก็จะรั้งไว้เงียบไว้ จะมีเฉพาะบางคนที่ท่านเห็นว่าเป็นกรรมหนักจริงๆเท่านั้นเรียกว่าถึงขั้นวิบัติได้ทุกเวลา ท่านจึงจะนำออกมาให้บูชาและก็ปรากฏผลว่าดีขึ้นทุกคราทุกครั้งไป จากคนเสวยทุกขเวทนากลายเป็นพลิกฟื้นกลับตัวตั้งฐานะได้มั่นคงทุกคน

    ด้วยเหตุผลบางประการ พ่ออาจารย์ท่านว่ากาลข้างหน้านั้น คนจะได้ทุกข์กันมากด้วยเป็นวาระชะตากรรมที่จะต้องรับกรรมเสวยบาปเคราะห์กันโดยส่วนรวม ดังนั้นท่านจึงให้นำตะกรุดมหากลับวัฏฏะนี้ออกมาให้ร่วมทำบุญ ท่านว่าตะกรุดเรามีจำนวนเพียงน้อยเท่านี้ เมื่อออกไปก็คงไปยื้อไปเปลี่ยนแปลงคนหมู่มากไม่ได้ จะทำได้ก็แค่เพียงส่งผลเฉพาะกับผู้ที่ครอบครองตะกรุดเท่านั้น

    ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านเล็งเห็นกาลสำคัญเบื้องหน้าดั่งว่าไว้ จึงได้นำออกมาให้บูชา ท่านว่าตัวตะกรุดล้างบาปนี้เป็นตะกรุดที่มีคุณใหญ่อยู่มาก แม้ผู้ใช้อาราธนาให้ต้องกายหรืออาราธนาไว้ในกายรัศมีที่แผ่ออกมาจากเครื่องมงคลนี้จะครอบคลุมองคาพยพโดยถ้วนทั่ว ..แม้จะมีกรรมหนักหรือกรรมเบาติดตามตัวหรือกำลังให้คุณส่งผลอยู่ในเบื้องปัจจุบันชาติกับเจ้าของดวงจิตนั้นๆก็ดี ผลแห่งบาปกรรมนั้นจะค่อยๆชะลอไปอย่างเห็นได้ชัด เรียกว่าเบาบางลง ค่อยๆเบาลงๆจนหมดอำนาจที่จะแสดงผลไป ท่านว่าที่เป็นดั่งนี้ก็ด้วยบารมีบูรพาจารย์ตลอดจนเสด็จพระใหญ่ท่านได้เมตตาสั่งการกำชับไว้แก่มหาพรหมสุทธาวาสทั้งหลาย ให้สร้างวาระบุญให้สรรพสัตว์มีโอกาสได้กระทำดีเพื่อเป็นต้นทุนในชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่ามันมีเหตุและผลของมันอยู่ จริงๆแล้วบาปกรรมทั้งหลายนั้นย่อมล้างกันไม่ได้ แต่ทว่าด้วยตะกรุดและคุณวิชานี้จะให้ผลในช่วงเวลาที่เราได้ครอบครองและอาราธนาตะกรุดเสมอกับได้ล้างบาป มีชีวิตที่ดีขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปเช่นนั้น เป็นโอกาสให้สร้างวาระบุญ สร้างบารมีค้ำจุนตัวเองอีกคำรบหนึ่ง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นมหากลับวัฏฏะ คือไม่ว่าจะร้ายจะเลวอย่างไร ก็กลับมาให้ดีได้ทั้งหมดทุกเรื่องในวัฏฏะสงสารนี้ ดุจพระเจ้าเปิดบาตรเอ่ยวจีขอบิณฑบาตรทานเคราะห์กรรมทุกข์โศกโรคภัยในชีวิตเจ้า ฉันใดก็ฉันนั้น
    1. เป็นตะกรุดที่ผูกขึ้นมาเพื่อแทนตัวแทนร่างกายของตน
    2. ให้รับเคราะห์รับบาปแทนตน
    3. มีอะไรที่จะเกิดกับตนก็ให้ลงที่ตะกรุดนี้เสียทั้งหมด
    4. ดุจตะกรุดนี้แทนร่างกายเราจะคอยดูดขับพลังงานไม่ดีทั้งหลาย ซ้ำยังรับเคราะห์กรรมแทนได้อย่างน่าอัศจรรย์

    ท่านว่า
    เครื่องรางเช่นนี้มันฝืนกฏฟ้าฝืนทุกสิ่งทุกอย่างอย่าเรียกว่ามากเกินไปเลย เรียกว่ามากที่สุดก็ได้ ดังนั้นจึงทำยากท่านว่าลงก็ลำบากเมื่อทำจึงทำได้ไม่มาก ท่านว่าเอาไว้ให้คนที่เขาเดือดร้อนและต้องการใช้กันจริงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเคยมีคนถึงฆาตเราดูว่าอย่างไรก็ต้องตาย ปรากฏว่าได้เกิดอุบัติเหตุแต่เจ้าตัวและร่างกายกลับไม่เป็นอะไรเลยไม่มีแม้แต่บาดแผลใดๆ แต่ตะกรุดดอกนี้ที่คาดเอวเค้าไว้กลับหักเป็นสองท่อน มีเพียงเท่านั้น นี่คือหนึ่งชีวิตที่ถึงที่ตาย ทุกวันนี้เขาก็ยังอยู่ดีและเจริญมากขึ้นด้วย คนๆนั้นก็ยังคาดตะกรุดที่หักสองท่อนนี้เอาไว้ จ้างให้ถอดเขาก็ไม่ถอด เพราะเขารู้ว่ารอดมาได้เพราะอะไรพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีพรรณคุณวิเศษนัก อย่าว่าแต่หักสองท่อนเลยแม้หลอมละลายกลายเป็นน้ำมันก็ยังช่วยค้ำจุนชีวิตคนได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้โดยรวมต้องลงหลายวิชาและแยกกันเสกแต่ละอย่างจนสำเร็จก่อนจะนำมารวมกันและขอบารมีเสด็จพระใหญ่ท่านสำเร็จอีกครั้งเพื่อขับเคลื่อนพลังงานให้แสดงผลมาได้ลงตัวที่สุด ท่านว่าตะกรุดนี้ต้องลงอักขระยันต์ถึงสีแผ่น ให้คุณใหญ่สี่ด้านหลักด้วยกัน ประกอบด้วย
    1. วิชามหากลับวัฏฏะ ท่านว่านี่ตัวสำคัญเลย วิชานี้ถ้าเสด็จพระใหญ่ไม่ให้ใครก็เอาไม่ได้เพราะต้องถือศีลถือสัตย์เคร่งครัดมาก มหากลับวัฏฏะนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าดีทุกทางที่เกี่ยวกับตัวเอง เพราะมันใช้รับบาปกรรมเคราะห์ เวร ภัย แทนตัวเรา ท่านว่าลงยากมีข้อจำกัดมาก แต่เชื่อเถอะว่าต่อจากนี้ไป ทำอย่างไรก็ไม่ตาย เว้นแต่จะหาที่ตายและถึงอายุขัยในกาลสมควรด้วยเวลาของตนเอง ทั้งทุกข์โศกโรคภัยถึงขั้นวิกฤติ หรือมีเคราะห์บ้านจะแตก ท่านว่าเอารวมว่าที่ร้ายๆทุกสิ่งมันกลับมันรับแทนเราทั้งหมด

    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    วิชานี้มันช่วยให้คนเป็นคน ฟื้นตัว ดุจต้นไม้ที่เหี่ยวเฉากลับมาแผ่กิ่งก้านร่มรื่นเช่นนั้น ท่านว่าขอเพียงแค่อย่าเหลิงในความสุขความสบายเบื้องหน้า ให้หมั่นทำทานตามกาลทุกเมื่อที่มีโอกาส ให้สร้างบุญต่อชะตาวาสนาให้ตัวเองยิ่งๆขึ้นไป ท่านว่าให้จำเอาไว้ว่าชาตินี้มี ชาติหน้าก็ย่อมมี และบุญกุศลเหล่านี้จะได้เป็นปัจจัยตามอุดหนุนกันต่อไป

    2. วิชามหาสะท้อนมนต์พญายมราช พ่ออาจารย์ท่านเรียกวิชานี้ว่ามะยมราช โดยท่านว่าปกติแล้ววิชานี้จะแรงกว่ามนต์พระกาฬที่เป็นคำสาปสะท้อนกลับ แรงกว่ามากนัก พ่ออาจารย์ท่านผูกเอาไว้และทำวิชาลงเต็มสูตรทั้งหน้าหลัง ท่านว่ากว่าจะสำเร็จได้ต้องเจรจากับพญายมอยู่นาน ซ้ำยังต้องเชิญท่านมาสำเร็จคุณวิชาด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นมหาสะท้อนอย่างที่สุด คือสะท้อนสิ่งไม่ดีทั้งหลายสะท้อนกลับไปทั้งหมด แต่ท่านได้ขอเมตตาพญายมราชไว้ ว่าถ้าเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันเกี่ยวกับเรื่องความคิดคนอันจะล่วงเกินกันตามปกติวิสัยมนุษย์มีก็ให้ละเว้นเสีย

    ท่านว่าถ้าเป็นอริศัตรูคู่แข่ง คิดมุ่งร้ายหมายทำให้เราวิบัติหรือตกต่ำลง และหมายให้เราถึงแก่ชีวิต ไม่ว่าจะมุ่งร้ายก็ดี ใส่ร้ายก็ดี ความคิดร้ายเหล่านั้นจะสะท้อนกลับไป สิ่งต่างๆนั้นไม่มีวันจะตกถึงตัวเราเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ต้องลงและผูกรวมเอาไว้เช่นนี้ เพราะน้ำใจคนในปัจจุบันนั้นถือว่าน่ากลัวนัก ยิ่งโลกเปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ก็ยิ่งน่ากลัวเท่านั้น ท่านว่าต่อไปจะอยู่กันยากก็เพราะน้ำใจมนุษย์นี่แหละ ท่านจึงได้ผูกไว้ให้ท่านว่าจะได้เอาตัวรอดกันได้ทำชีวิตของตนให้ดีให้พ้นไป

    3. วิชาพระเจ้าเปิดบาตร พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาจริงๆวิชานี้ทำยากที่สุดยากกว่ามหากลับวัฏฏะเสียอีก เพราะบาตรหนึ่งใบนี้เป็นที่รวมของความอุดมสมบูรณ์
    - เป็นโชคลาภทุกทิวาราตรีกาล
    - เป็นทั้งโภคทรัพย์และมหาอุดมอย่างที่สุด
    - ท่านว่าใครที่ได้ๆขาดๆ ได้ไม่สม่ำเสมอ นี่แหละต่อไปจะได้ไม่หยุด

    ก็บาตรนี้อยู่ที่ไหนแห่งใดก็มีวันไหนบ้างที่พระอริยเจ้าเปิดบาตรแล้วไม่ได้อาหารบิณฑบาตร ต่อให้ไม่มีมนุษย์อยู่เลยก็ยังร้อนถึงเทพยดาให้มาถวายทานกันถ้วนทั่ว เรียกว่าสมบูรณ์อย่างถึงที่สุดท่านว่าต่อไปใครที่ไม่มีก็จะได้มี พ่ออาจารย์ว่านี่ไม่ใช่บาตรของพระอริยะเจ้าธรรมดาแต่ท่านลงไว้ให้เป็นบาตรของพระเจ้าทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้

    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    ขอเพียงยังอยู่ในอายุของพระพุทธศาสนาในภัทรกัปนี้ วิชานี้มีคุณอย่างถึงที่สุดไม่มีอดอยากยากจนเลย ซ้ำท่านยังลงวิชาสำคัญลงไปอีกหลายส่วนทั้งกลับดวง,พลิกดวง,ค้ำดวง,หนุนดวงท่านว่าเอาง่ายๆมันตกลงไม่ได้เลย เพราะผูกไว้ด้วยกันทั้งเรื่องดวงและโชคลาภมีแต่ได้แล้วดีขึ้นดีขึ้นยิ่งๆขึ้นไปไม่มีต่ำลง นอกจากนี้ท่านยังลงวิชาเฉพาะให้เรื่องเลวร้าย,ทุกข์เคราะห์ภัยเวรและสิ่งเลวร้ายแบบปัจจุบันทันด่วน เรื่องไม่คาดคิดทั้งหลายอันจะเกิดกับตัวกับร่างกายในเบื้องหน้า..ให้มาลง..ให้สงบ..ให้ระงับไปที่บาตรนี้ ดุจว่าพระเจ้าเปิดบาตรบิณฑบาตรทุกสิ่ง แม้เจ้ากรรมนายเวรจะเพ่งโทษเขาก็ยังต้องหยุดคิดแล้วคิดอีกเพราะว่าไม่อาจล่วงเกินพระอริยะเจ้าได้นั่นเอง

    4. ยันต์มหาอุปถัมภ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้คนมักจะเพ่งโทษกัน หาความทุกข์ยากใส่กัน ดังนั้นท่านจึงลงวิชามหาอุปถัมภ์นี้เสริมไว้ด้วย ท่านว่าวิชานี้ดีด้านเมตตาดีด้านมหานิยมอย่างถึงที่สุด จะทำให้ใจคนเค้าเอ็นดูเรามีแต่ความรักความเมตตาให้เรา คนเรานั้นพอได้รับความเมตตาจากผู้อื่นแล้ว อันนี้สำคัญเลย ท่านว่าทำอะไรมันก็สะดวกราบรื่นไปหมด จะทำอะไรก็มีแต่คนช่วยเหลือ มีแต่คนคิดจะสงเคราะห์เรา จะอุปถัมภ์เราให้ได้ดี ไม่คอยใส่ร้ายขัดแข้งขัดขาเรา พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละมหาอุปถัมภ์สำคัญนัก แต่ทั้งนี้ตัวของเราเองก็ต้องหมั่นเจริญเมตตาบารมีทำจิตใจให้โอบเอื้ออารีย์เอาไว้ด้วย

    ท่านว่า
    พึงตอบสนองความเมตตาของผู้อื่นด้วยรอยยิ้มและเมตตาแล้วสิ่งดีๆทั้งหลายทั้งความเมตตาจากคนรอบข้างมันจะประดังเข้ามาหาเราเองมากเสียยิ่งกว่าเขื่อนแตกทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนลำพังจะทำให้คนเมตตากันยิ้มให้กันอย่างเดียวมันอยู่ไม่ได้ เพราะคนเรานั้นมีสังคมมีการสมาคมกับผู้อื่นตลอดเวลา ดังนั้นนอกจากเขาจะเมตตาเราแล้วยังต้องคิดอุปถัมภ์เราด้วย เพื่อจะเปิดช่องทางสร้างโอกาสใหม่ๆให้กับเราได้ตลอดเวลานั่นเอง

    ตะกรุดนี้ท่านว่าต้องเน้นทุกทางไปพร้อมกันเมื่อม้วนและเสกรวมกัน จึงเป็นตะกรุดที่มีคุณใหญ่มาก ท่านว่ามีคุณใหญ่จนคาดคะเนไม่ได้ คิดกันไม่ถึงทีเดียว ยิ่งเรื่องการเสกแต่ละอย่างจนสำเร็จก่อนจะมารวมกันนั้นท่านว่ายากหนักหนาสาหัสกว่าการลงซะอีก ใครจะบอกว่าตะกรุดแค่เขียนๆลงๆไปก็สำเร็จแล้ว ท่านว่าไม่จริงเลย คนละเรื่อวิชาบางสูตรก็ยากจะทำสุกเอาเผากินไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากเมื่อทำเสร็จแล้วต้องนำด้ายสายสิญจน์ที่ท่านขอจากพระลูกศิษย์ให้หามาให้นำมาพันตะกรุด ท่านว่าด้ายนี้ต้องเป็นด้ายมงคลที่ทำพิธีในบ้านเศรษฐีถึง 9 ท่าน และต้องเป็นเศณษฐีทั้ง 9 ที่มีนามเป็นมงคลอีกด้วย หลังจากนั้นจึงอธิษฐานจิตฝากตะกรุดทุกดอกไว้ในบาตรของเสด็จพระใหญ่และเชิญท่านมาร่วมปลุกเสกอีกหลายคำรบ ท่านว่าทำหลายปีจึงสำเร็จได้

    คาถาบูชา
    อะโหสิสุขขัง ปรมังสุขขัง


    ตะกรุดล้างบาปนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดคุณวิชาเฉพาะทางและท่านตั้งใจว่าจะสร้างเพียงครั้งเดียว..แต่คนมีความต้องการมากท่านจึงทำชุดปิดตำนานให้เป็นครั้งสุดท้ายเอาแค่คนมีวาสนาทันกันเท่านั้น เมื่อใครได้บูชาไปแล้วจะเป็นตะกรุดเฉพาะตัวที่จะอยู่กับเราไปชั่วชีวิต ท่านว่าตะกรุดนี้เลือกเจ้าของ ความจริงต้องพูดว่าไม่ใช่ตัวตะกรุดที่เลือก แต่เป็นเสด็จพระใหญ่และพรหมทั้งหลายเบื้องบนต่างหากที่เลือก พ่ออาจารย์ท่านว่าพูดได้เท่านี้ พูดมากกว่านี้ไม่ได้ คนทุกคนย่อมรู้ตัวเองดีว่าใครมีเคราะห์ มีกรรม เหมาะและควรที่จะบูชาอย่างไร

    *** ตะกรุดตะกรุดมหากลับวัฏฏะพระเจ้าบิณฑบาตรทุกข์รับเคราะห์กรรม นี้เปิดรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านให้แจ้งว่าคนที่จะบูชาให้ส่งชื่อสกุล วันเดือนปีเกิดไว้ให้พร้อมด้วย ท่านจะชักยันต์ครอบอากาศประสิทธิ์ให้

    ร่วมทำบุญบูชา ชุดปิดตำนานตะกรุด
    ล้างบาปมหากลับวัฏฏะ(พระเจ้าบิณฑบาตรทุกข์รับเคราะห์กรรม) บูชา 4,000 บาท
    357218180-1631884610655047-6329776326055736586-n.jpg
    image.png
    image.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    รายการนี้เป็นตะกรุดชุด 4 แผ่น ที่ม้วนแผ่นเงิน 3 แผ่นไว้ด้านนอกซึ่งมีการตอกโค้ตชื่อพ่ออาจารย์ไว้ ท่านว่าชุดปิดตำนานคือเลิกทำต่อไปไม่ต้องขอเพราะเราทำครั้งสุดท้ายผ่านไปแล้ว

    อย่าลืม
    คนที่จะบูชาให้ส่งชื่อสกุล วันเดือนปีเกิดไว้ให้พร้อมด้วย ท่านจะชักยันต์ครอบอากาศประสิทธิ์ให้ ตะกรุดนี้เลือกเจ้าของ ความจริงต้องพูดว่าไม่ใช่ตัวตะกรุดที่เลือกเจ้าของ แต่เป็นเสด็จพระใหญ่และพรหมทั้งหลายเบื้องบนต่างหากที่เลือก
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    มีแจ้งประสบการณ์เข้ามากัน แต่หลังๆผมจะไม่ค่อยลงโพสให้อ่านโดนเฉพาะเรื่องเสน่ห์ เพราะมันเหมือนการชี้นำและพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเจอเองกับตัวถึงจะเข้าใจ เรื่องของคนๆนึงจะไปเหมือนคนอีกคนได้ยังไง
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดโสฬสพรหมประสิทธิ์ครูจักรพรรดิจำแลง(อุดกากยาสีผึ้งลืมตาอ้าปาก,เปิดทางรวย)

    ท่านนำสูตรการทำน้ำมันโสฬสพรหมประสิทธิ์มาสร้างเป็นตะกรุดอุดกากยาสีผึ้งเพื่อประโยชน์ใหญ่...ให้ควบคุมง่ายที่สุด 1 ...แลทรงอานุภาพมากกว่าของสิ่งอื่นทั้งหมด 1 การทำตะกรุดโสฬสพรหมประสิทธิ์ครูจักรพรรดิจำแลงนั้นเป็นหนึ่งในวิชาของท่านที่เกี่ยวกับวงจรกรรมของสัตว์ เป็นศาสตร์การทำวิชาชั้นสูงโดยบางครั้งท่านจะเรียกว่าวิชาสามภพ เพราะต้องลงถึงสามสูตรที่สำเร็จด้วยคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ดังนี้
    - คุณของพระยอดแก้ว องค์อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในนิพพานอันมีสมเด็จพระโลกนาถองค์ปฐมเป็นที่สุดหนึ่ง
    - คุณของเหล่ามหาพรหมปัญจมหาสุทธาวาส อันมี ท้าวสนังกุมารมหาพรหม,ท้าวผกาพรหม,ท้าวฆฏิการพรหม,ท้าวมหาพรหมประชาบดี,ท้าวสหัมบดีบรมพรหมเป็นที่สุดหนึ่ง
    - คุณของกำลังพระจักรพรรดิและเหล่าเทพยดาผู้ทรงมเหศักดิ์ อันมี องค์บรมอมรินทร์ตลอดจนเทพผู้ดูแลผลึกจักรวาลและเหล่าจอมภพโดยมีองค์พระสยมภูวญาณเป็นที่สุดหนึ่ง

    การทำตะกรุดนี้ท่านว่าต้องขออนุญาติจากสมเด็จในนิพพานและครูมหาพรหมตลอดจนครูเทพทั้งหลายเพื่อจะขอวิชาและวิธีทำจากท่านในการทำโดยองค์บรมพรหมสหัมบดีท่านได้มีโองการไว้ ว่าหากจะขอวิชาไปใช้
    ...เพื่อยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของโลก
    ...ตลอดจนมีผลเหนือเวรกรรมของสัตว์
    ...ฝ่าฝืนลิขิตฟ้าดินและวิถีดวงดาว

    ครูพรหมท่านก็จะทำให้ แต่พ่ออาจารย์ต้องทำตามวิธีการและเตรียมธาตุตลอดจนสิ่งของกำกับทั้งหลายตามวิธีของท่าน โดยท่านได้ตั้งเงื่อนไขและข้อแม้เอาไว้กับพ่ออาจารย์ว่า สิ่งที่จะทำนี้มีอานุภาพมาก ดังนั้นอย่าได้สร้างเป็นเครื่องมงคลหรือถาวรวัตถุใดอันจะคงสภาพไม่เสื่อมสูญไปตามกาลเวลาเพราะมันฝืนลิขิตฟ้าชะตาดิน ไม่เหมาะไม่ควรในกาลทุกเมื่อ เอาแต่เพียงให้เค้าใช้ได้หมดไปตามวาระกรรมเพียงนั้น ท่านว่าต้องคิดอยู่นานว่าจะทำสิ่งใดหนอที่จะไม่คงสภาพอยู่นานหากเพียงใช้ก็จะหมดไปไม่คงรูปดุจเครื่องมงคลทั้งหลายจนท่านระลึกได้ว่าน้ำมันซึ่งมีคุณวิเศษนั้นจัดอยู่ในเงื่อนไขขององค์บรมพรหมทุกประการ ท่านจึงกราบเรียนตลอดขอวิธีสร้างน้ำมันวิเศษ ท่านว่าต้องค่อยๆทำเก็บรวบรวมไว้มวลสารทั้งหลายกว่าจะได้จึงไม่ใช่ง่ายเลย น้ำมันสามชนิดที่นำมาผสมกันเป็นส่วนผสมมีดังนี้


    1. น้ำมันจักรพรรดิ์บันลือ(สีหนาท)
    อันสำเร็จด้วยคุณของพระจักรพรรดิและเหล่าเทพยดาเจ้าผู้มเหศักดิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นน้ำมันชั้นสูงที่ทำยากและยากที่คนจะได้เห็นตลอดจนได้ครอบครอง ท่านว่ามีคุณวิเศษดุจสมบัติพระจักรพรรดิ์ แม้ได้อาราธนาติดตัวไปแห่งหนใดจะช่วยเสริมหนุนผู้ครอบครองทุกด้านเรียกว่าดวงไม่มีวันตกไม่มีวันแตก ซ้ำยังมีคุณเฉพาะทางที่แปลกประหลาดอีกอย่างหนึ่งนั่นคือใช้สยบคู่แข่งได้ทุกชนิดไม่มีใครทำอะไรแซงหน้าเราได้ ท่านว่าด้วยกำลังแห่งพระจักรพรรดินั้นแม้มนุษย์ตลอดจนเทพยดาก็ยังต้องเคารพดุจว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์ได้กระทำสีหนาทประกาศแก่ไตรโลกเป็นที่สุดของมหาอำนาจ ซ้ำท่านว่าอิทธิคุณแฝดของน้ำมันนี้ยังช่วยให้มีชัยชนะเหนือศัตรูผู้คิดร้ายตลอดจนจ้องจะทำร้ายได้ทุกรูปแบบ และยังช่วยให้เจริญในหน้าที่การงานเป็นใหญ่เป็นโต ปลอดภัยจากภัยอันตรายตลอดจนอุบัติภัยจากธรรมชาติและศาสตร์มืดตลอดจนเดรัจฉานวิชาทั้งปวง


    2. น้ำมันมหาพรหมรังสฤษฏ์ อันสำเร็จด้วยคุณของเหล่าบรมพรหมปัญจสุทธาวาสทั้งหลายมีท้าวสหัมบดีเป็นที่สุด ท่านว่าน้ำมันนี้วิเศษนักเป็นของเฉพาะกาลอย่างแท้จริง มีคุณขจัดและริดรอนอุปสรรคขวากหนามในชีวิต ดุจองค์ท้าวมหาพรหมผู้สร้างจะสร้างจะลิขิตเส้นทางให้ชีวิตมีแต่เรื่องดีๆไม่มีอุปสรรคขัดขวางแต่อย่างใด
    - ใครที่มีชะตาชีวิตติดขัด
    - ทำไม่พ้น
    - หาทางออกไม่ได้
    - ไม่เจอแสงสว่าง
    - ไม่พบเนื้อคู่
    - การงานไม่สำเร็จ
    - ความรักไม่ราบลื่น
    - โดนกลั่นแกล้ง
    - โดนกระทำ
    ท่านว่าอานุภาพของน้ำมันมหาพรหมนี้จะปัดเป่าสิ่งที่ติดขัดและความขัดข้องของผู้บูชาให้หมดไป
    ท่านว่าปลอดโปร่งโล่งสบายทีเดียว คำๆนี้มีความหมายยิ่งใหญ่ ใครที่รู้สึกว่าชีวิตมันหนัก มันแบกภาระแบกโลกไว้ทั้งใบ ท่านว่านี้มันช่วยได้เกินกว่านั้นไม่เพียงนำออกจากความขัดข้องทั้งหลาย ซ้ำยังช่วยให้สำเร็จทุกทางตามมหากรุณาธิคุณของเหล่ามหาพรหมปัญจมหาสุทธาวาสไม่ว่าจะเรื่องเงินทอง วาสนา โชคลาภผลาผลครบถ้วนทุกประการ ที่สำคัญท่านว่าวิชาสายมหาพรหมนี้แม้พกไว้กับตัวก็ถือว่าเป็นเสน่ห์มหานิยมชั้นเยี่ยม ในเวทย์วิชาทั้งหลายทั้งสายต่ำสายสูงแม้แต่สายเทพล้วนไม่มีวิชาใดมีอำนาจมากไปกว่าวิชาของพระพรหมหรือศาสตร์ของพระพรหมนี้ ท่านว่าพูดคร่าวๆได้เท่านี้

    3. น้ำมันหมื่นพุทธ(12 นักษัตร) เป็นน้ำมันที่ท่านสร้างตามศาสตร์ของสมเด็จองค์ปฐมที่ท่านว่ายากเย็นแสนเข็ญเหลือใจ ท่านไม่อนุญาติให้พูดถึงหรือเปิดเผยสิ่งใดเลยจึงจำต้องปกปิดไว้ บอกได้แต่เพียงคร่าวๆว่าป็นน้ำมันที่มีฤทธิ์รุนแรง ท่านว่าเหนือกว่าน้ำมันสองชนิดข้างต้นนั้น ดีทุกอย่างเอาว่าอยู่กับใครพูดสั้นๆได้ว่าบุคคลนั้นได้ดีแน่นอน น้ำมันตัวนี้อธิษฐานได้ทุกเรื่อง เป็นดุจศูนย์กลางโลกมีคนแวดล้อมรักใคร่ให้ความเมตตาเอ็นดูปรารถนาโชคลาภก็จะมีโชคลาภรุมล้อม ปรารถนาอยากใช้ทางเสน่ห์เมตตาก็จะมีสตรีตลอดจนเพศตรงข้ามที่ปรารถนารุมล้อม สุดแล้วแต่จะปรารถนา ดีกับคนใช้ในทุกที่ ทุกวัน ทุกกาลสมัย ซ้ำมีคุณเฉพาะทางที่สมเด็จองค์ปฐมท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ดุจรู้ชะตาเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ท่านว่าน้ำมันตัวนี้แปลก ยิ่งคนด่าเรา ตีเรา นินทาเรา ใส่ร้ายป้ายสีเรา พูดไม่ดีกับเราเท่าไหร่ เรายิ่งได้ดีขึ้นเช่นนั้นเป็นเงาตามตัว เหมือนกลองยิ่งตียิ่งดังไม่มีเสื่อมถอยหรือตกต่ำเลย ปล่อยให้เขาด่าไปตีไปด้วยคุณวิชาที่หนุนส่งเราจะมีแต่ได้กับได้ ท่านว่าปกติชีวิตคนนั้นย่อมมีผู้คอยอิจฉาริษยาพูดจาให้ร้ายเราทั้งนั้น ตั้งแต่เจ้ายันไพร่สูงสุดฟ้าหรือต่ำสุดดินไม่มีใครหนีพ้นวงจรเหล่านี้ทั้งสิ้น ปากคนมันยาวกว่าปากนกกาขึ้นชื่อว่าเกิดเป็นมนุษย์จะพ้นอย่างไรไอ้การนินทาใส่ร้ายป้ายสีความอิจฉาริษยาทั้งหลาย อย่าว่าแต่ในมนุษย์เลย แม้ในเทวดาบางจำพวกก็ยังมี แต่วิชาน้ำมันหมื่นพุทธนี้กลับให้ผลแปลกประหลาดกล่าวง่ายๆยิ่งมีคนคิดอกุศลมีใจอิจฉาริษยาเราเท่าไหร่ เรายิ่งได้ดีมากขึ้นเท่านั้น


    *** พ่ออาจารย์ท่านได้นำกากยาทั้งหมดมาหุงสีผึ้งเพื่อจะผนึกไว้ในตัวตะกรุดครูจักรพรรดิจำแลงนี้ ท่านว่าเพียงพกไว้ก็ใช้ได้รุนแรงดุจเดียวกันและนี่เป็นกากยาแบบหัวเชื้อล้วนๆเอามาผนึกไว้ ด้วยตอนทำท่านเห็นนิมิตมงคลหลายประการล้วนแต่เป็นของมงคลเป็นสมบัติจักรพรรดิทั้งนั้นปรากฏออกมาจากสีผึ้กากยาเหล่านี้ ท่านจึงเรียกว่าวิชาครูจักรพรรดิจำแลง ท่านว่า..เราไม่ได้ทำเป็นสิ่งคงสภาพอันไม่เสื่อมสูญเพราะสีผึ้งนั้นยิ่งใช้ก็ยิ่งหมดดุจเดียวกัน หากแต่เราหลอมรวมวิชามากลั่นสีผึ้งด้วยหัวเชื้อกากยาและผนึกไว้จะได้ใช้สงเคราะห์ตามวาระกรรม..ตะกรุดชุดนี้ท่านว่าหากเรามั่งมีครบถ้วนทุกทางมากมาย..มหาศาล..ไม่ขาดสิ่งใดดุจจักรพรรดิจำแลงแล้วตัวตะกรุดนั้นจะอันตรธานหายไปเองเพราะครูพรหมท่านจะเอาคืนไป

    ลืมตาอ้าปาก,เปิดทางรวย
    นอกจากกากยาชุดโสฬสพรหมประสิทธิ์แล้วพ่ออาจารย์ท่านยังนำกากยาสีผึ้ง 2 สูตรที่เกื้อหนุนกันอย่างมหาศาลมาหุงรวมกันเพื่อประโยชน์ใหญ่ของผู้แขวนตะกรุดที่ผนึกสีผึ้งกากยาทั้ง 2 ชนิดนี้ อีกชนิดนึงคือสีผึ้งที่หุงจากหัวชนวนกากยาน้ำมัน
    จ้าวชีวิตโคตรเศรษฐีอมฤตโชค(ลืมตาอ้าปาก,เปิดทางรวย) จัดเป็นของเก่าที่มีอายุมากกว่า100ปี *** พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนคนที่มารับต้องนำทองมาขอทีละ5บาทครูท่านจึงให้ใช้ เพราะถือเป็นน้ำมันชั้นสูงสุดในบรรดาน้ำมันสายวาสนาโชคลาภทั้งหมดและยังประกอบพิธีสร้างทำได้ยากยิ่ง ท่านเรียกสั้นๆว่าน้ำมันโคตรเศรษฐี(เป็นน้ำมันที่สืบทอดมาในตระกูลของพระอริยเจ้าท่านหนึ่ง...ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเราจะไม่ขอออกนามท่าน)

    น้ำมันนี้ต้องหาวันดีไปทำพิธีกรรมเพื่อเอาน้ำมัน..ในตำราว่า..ถ้าผู้ไม่มีอาคมแก่กล้าอย่าได้บังอาจทำเพราะอาจต้องอาถรรพ์ถึงตายได้(พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันพูดไม่อายเลยนะว่าตัวเองก็ยังไม่คิดจะทำเพราะมวลสารที่ใช้ทำแต่ละอย่างล้วนเสี่ยงตายทั้งนั้นแค่คิดจะทำก็เหมือนเอาชีวิตไปทิ้งแล้ว)เมื่อได้มาครบแล้ว..ก็ให้เสกมวลสารก่อนรอบหนึ่งเสก7โบสถ์, 7เสาร์ ,7อังคาร, 7จันทร์ดับ ,7วันเพ็ญ..วิชาเหล่านี้ปัจจุบันจึงหาได้น้อยนักเพราะทำได้ยากยิ่งและสูญหายไปมาก ท่านว่าของแต่ละอย่างที่ว่าหายากทำยากคือเขากำหนดสถานที่หาที่เอาไว้ทั้งสิ้นไม่ใช่ว่าจะไปเก็บที่ไหนก็ได้กว่าจะรวบรวมได้ครบจึงยากขึ้นไปอีก

    จะบอกแต่คร่าวๆได้แก่
    ยอไม่ตกดิน,ไม้ไก่กุ๊ก,ว่านสาลิกาลิ้นทอง,ว่านสาลิกาชนิดหัว,ว่านกาหลง,ว่านดอกทองมหาอุดม,ว่านมหาลาภ,ว่านจักรพรรดิ์,ว่านกวักพระพรหม,ว่านกวักมรกต,ว่านพระฉิมพลี,ว่านนางคุ้ม,ว่านแม่โพสพ,ว่านเศรษฐร้อยล้าน,ว่านมหาโชค,ว่านอุดมโชค,ว่านเศรษฐีก้านทอง,ว่านรวยไม่เลิก,ว่านบังลังค์เศรษฐี,ว่านเสน่ห์จันต่างๆ,ดอกรักซ้อน,ดอกรัก,ดอกมะรุม,ลูกยอ,รากยอ,ต้นยอไม่ตก,ดอกพิกุล,ดอกจัน,ดอกเข็มขาว,ดอกบานไม่รู้โรย,ดอกบัวทั้ง4 ,ต้นไทรต้นตาลตายคาต้น,กาฝากรัก,กาฝากยอยอ,กาฝากมะยม,ย่านสะบ้าข้ามคลอง,ลูกสวาทล่องวารี,รากไม้เล่นวารี

    นำมาหุงเข้ากับผงวิเศษต่างๆเช่น ผงกำเนิด,ผงนอโม,ผงอาการสามสิบสอง,ผงยันต์โสฬสมงคล,ผงยันต์ปฐมอักขระ,ผงยันต์ปถมังสูตร,ผงยันต์นพเคราะห์ทั้ง 9 ดวง,ผงยันต์หัวใจวันทั้ง 7,ผงดวงตราพระอิศวร,ผงดวงตราพระนารายณ์,ผงดวงตราพระพรหม,ผงดวงตราพระพาย,ผงดวงตราพระอินทร์,ผงดวงตราพระลักษมี,ผงยันต์ธาตุ 4,ผงยันต์เทพชุมนุม,ผงยันต์ทางเสน่ห์,ผงเทพนิมิตร,ผงเทพรัญจวน,ผงมหาลาภ,ผงพุทธนิมิต,ผงหัวใจขุนแผน,ผงเทพจินดามณี,ผงประกาศิตพระร่วง,ผงชาตรี,ผงรักซ่อนชู้,ผงเทพบันดาลทรัพย์,ผงเทพเศรษฐี,ผงนางกวัก,ผงพระฉิมพลี,ผงมณฑาสวรรค์,ผงลบคืนจันทร์เพ็ญ ...ท่านว่าผงลบต่างๆเองก็ต้องลงอักขระเลขยันต์ในวันเวลาตามวิชาทั้งทำการปลุกเสก-ร่ายโองการตลอดพิธีลบผงเพื่อให้เกิดฤทธานุภาพสูงที่สุด เมื่อจะหุงก็ต้องแต่งเครื่องพลีกรรมขึ้นบูชาเทวดาทั้งสิบหกชั้นฟ้ารวมถึงบูชาเทวดานพเคราะห์บวงสรวงครูบาอาจารย์

    ผู้ที่กวนก็ต้องเลือกวันและเวลาเกิดอีกสามคนเวียนวนกวนกันตามยามต่างๆ,ทั้งยังต้องใช้คนที่เกิดอีกฤกษ์ยามหนึ่งเป็นคนคอยเติมฝืนสุมไฟใส่เชื้อ,คนเทน้ำมัน,คนใส่มวลสารว่านยานี่ก็อีกอย่างล้วนแต่ต้องใช้ฤกษ์และเวลาเกิดตามกำหนดทั้งสิ้นซ้ำยังต้องเป็นคนที่ดำรงค์พรหมจรรย์มาตลอดชีวิต(พ่ออาจารย์ท่านจึงว่ายากนักที่จะทำได้อีก)
    ไม้ที่ใช้กวนก็ต้องใช้ไม้ชัยพฤกษ์,ไม้พลับพลา ไม้ที่ทำเชื้อเพลิงก็ต้องใช้ไม้เทพทาโร,ไม้ราชพฤกษ์,ไม้ยอ,ไม้รัก,ไม้ขนุน,ไม้มะยม แม้การหุงน้ำมันก็ต้องใช้ก้อนเส้าแบบโบราณโดยใช้ไม้กางหยาง,ใช้กะทะทองสำริดรอบกระทะพันด้วยหญ้าคาปักเฉลวเพชรสามด้าน,วางก้อนเส้าสามก้อนลงยันต์ทุกจุดทั้งไม้กางหยาง,ก้อนเส้าในกะทะ,ก้นกะทะ,หูกะทะ,ขอบกะทะ,แม่ไฟ,ไม้ฟืนต้องลงอักขระกำกับทุกอย่าง การหุงใช้วิธีเดียวกับการกวนเกษียณสมุทรมีการตั้งโลกธาตุ,มีพิธีการปลุกว่าน,การชุมนุมยา,เซ่นไหว้ว่านยา ,เซ่นไหว้เหล่าเพชรพญาธรแลคนธรรพ์ที่รักษาหัวว่านต่างๆ ต้องบูชาไฟตามสูตรแต่โบราณ ทั้งต้องนำใบยาใบว่านมาลงอักขระเลขยันต์ให้ครบสูตรก่อนจะเคี่ยว ขณะหุงก็จะปลุกเสกเดินธาตุ,เรียกธาตุ,ชุมนุมธาตุและร่ายโองการมหาโชคต่างๆ ต้องขับเคลื่อนและดึงพลังจากธรรมชาติมาลงในกระทะน้ำมันโดยห้ามน้ำมันพุ่งลงในกองไฟเป็นอันขาดทั้งไม้ฟืนที่ใส่ก็ห้ามดึงออกจนได้น้ำมันว่านมหาลาภชั้นเลิศที่ไม่ข้น,ไม่หนืด,ไม่เหม็นหืนเป็นน้ำมันชั้นสูง

    แล้วจึงเริ่มปลุกเสกในฤกษ์อมฤตโชคทั้ง 7 วันได้แก่ อาทิตย์ 8,จันทร์ 3,อังคาร 9,พุธ 2,พฤหัส 4,ศุกร์ 1,เสาร์ 5 และใช้ฤกษ์พิเศษ ปลุกวันจันทร์เพ็ญอีก 4 วัน,ใช้ฤกษ์จันทรคราส 3,สุริยะคราส 3,ใช้ฤกษ์ชัยโชค 1,มหาสิทธิโชค 1,สิทธิโชค 1 ท่านว่ากระทำให้ครบตามกำลังเทวดาเท่ากับกำลังเทวดาซึ่งกว่าจะปลุกเสกให้ครบและเกิดอาถรรพ์ทั้งลมพัด,ฟ้าผ่า,ฝนตกแดดออกแลเหตุผิดธรรมชาติที่ปรากกฏชัดตรงตามข้อกำหนดนั้น ท่านว่ากว่าจะหุงได้ยากกว่าไปหามวลสารเสียอีกเพราะมีสูตรทำขลังให้ตายตัวเช่นนั้นแต่โบราณท่านจึงหวงและปกปิดนักแม้จะใช้ยังต้องแลกด้วยทองคำ เพราะว่ากว่าจะทำได้นั้นไม่ง่ายเลยบางครู,บางยุค,บางสมัยเกิดมาแล้วตายไปก็ไม่มีวาสนาจะได้ทำ

    *** พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องยาของศักดิ์สิทธิ์แต่โบราณที่เอามาต้มเป็นหัวสีผึ้งเพื่อบรรจุเฉพาะตะกรุดนั้น เป็นของที่ทำไว้ในสูตรปิดผนึกเพียงพกก็แรงมากแล้ว ครูบรมพรหมท่านจึงให้ผนึกไว้กันคนนำไปใช้เพราะสูตรนี้ใช้กากยาหัวเชื้อชนวนล้วนๆมาทำ..แรงแบบสั่งได้

    ตะกรุดชุดนี้
    เน้นพุทธคุณทางเมตตามหาลาภ เรียกเงินเรียกทอง เป็นน้ำมันที่สร้างจากแรงครู,แรงวิชา,ว่านยาล้วนๆไม่มีพรายไม่มีมนต์ดำใดๆทั้งสิ้น ผู้ใดได้บูชาย่อมเกิดเสน่หาเมตตา,เกิดโชคลาภเงินทองแก่ผู้ครอบครอง,มีคนนิยมชมชอบ,ทั้งจักบังราศีไม่ให้อับ,ไม่มีคนคิดร้าย,แม้แต่เทพเทวายังเมตตาแก่ตัวเราพียงนำตะกรุดเจิมหน้าผากหรือแช่น้ำอาบก็ได้ผลดีแล
    - เหมาะสำหรับบุคคลที่ใช้ของทางโชคลาภไม่ขึ้น
    - ใช้ของทางโชคลาภมาหลายอย่างแต่ไม่เป็นผล

    ท่านว่านี่เป็นมหาโชคชั้นสูงเพียงใช้พกพาก็เห็นผลแค่ครอบครองไว้ก็เป็นที่รักแก่มนุษย์,เทพ,เทวดาและสัตว์ทั้งหลาย
    ครูแต่เดิมท่านว่าผู้ใดใครมีนับได้ว่าประเสริฐกว่าคนทั้งหลายยิ่งนัก
    - จะแก้อาถรรพ์คนที่ดวงขาดโชค,ขาดวาสนา
    - จะถอดอาถรรพ์ต่างๆทั้งเล่นผี,เล่นพรายมากเกินไป
    - จะถอดเหตุที่ใช้ของโชคลาภไม่ได้ผล
    - จะแก้กันพวกของเข้าตัว

    ท่านว่าสามารถใช้ตะกรุดแขวนหรือเจิมตัวแม้แต่แช่น้ำอาบได้เพื่อขับสิ่งไม่ดีออกจากร่างกายช่วยเสริมราศีเราให้ดีที่สุด
    คนที่ใช้ประจำท่านว่าจะเป็นเสน่ห์ในตัวแม้จะต้องการสิ่งใด ย่อมได้สมหวังตามปราถนาถ้าจะใช้เพื่อการใดเป็นเฉพาะสามารถอธิษฐานบอกครูเทพที่รักษาตะกรุดเอาได้แล เพราะตะกรุดนี้ผู้ใดได้ไว้ครูย่อมเข้ารักษาให้ปลอดภัยทั้งเจริญในโชคลาภมากด้วยเงินทอง เจริญด้วยพรสวัสดิมงคลทุกประการ


    ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดนี้มาบอกกล่าวเชิญมหาเศรษฐีทั้ง 9 ในสมัยพุทธกาล ขอบารมีท่านทั้งหลายมาทำมาลงสงเคราะห์เฉพาะอีก เพื่อจะได้มั่นใจว่าตะกรุดนี้คนรับไปบูชาจะได้ร่ำรวยกันจริงๆ เพราะบารมีของมหาเศรษฐีทั้ง 9 ซึ่งเป็นอริยบุคคลนี้ เเต่ละท่านร่ำรวยระดับอภิมหาเศรษฐีกันเลยทีเดียว บุคคลเหล่านี้ถึงจะใช้จ่ายเเม้สมบัติพร่องไปเเต่เพียงน้อยพระภูมิเเละเทวดาทั้งหลายก็ต้องหามาเติมให้เต็มคลังมิรู้จักขาดตกบกพร่อง เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อเสวยสุขทางโลกเลยจริงๆก็ว่าได้ท่านไม่ให้กล่าวอะไรมาก เพียงเเต่บอกว่า เอาไปใช้ รู้จักการให้ทานอย่าได้ขาดนะ จะได้ลืมตาอ้าปากได้ มีได้เหมือนคนอื่นเขาไม่น้อยกว่าใครเขา กากยาสีผึ้งของครูสอน,ครูฝึกของเรา ครูเราไม่ได้ทำคนเดียวหรอกนะ ก่อนใช้อย่างน้อยก็นึกถึงมหาเศรษฐีพุทธกาลทั้ง 9 ท่านนั่นแหละ จำท่านเอาไว้เรียกท่านให้ติดปากนึกถึงท่านเมื่อใช้ตะกรุด เพราะตะกรุดนี้พวกท่านมาช่วยกันลงช่วยกันสงเคราะห์ นึกถึงท่านก่อนใช้กุศลก็จะได้เกิดมีบุญหล่นทับหัวทับตัวกันทุกคน ดีอย่างไรเราพูดไปก็เท่านั้น ตะกรุดชุดนี้เราบอกได้แค่ให้บูชาเอาไว้ใช้สืบรุ่นลูกรุ่นหลานนะ รักษากันดีๆ

    เฉพาะตัวน้ำมันเดิมนั้น ท่านเคยนำมาออกมาให้คนที่เดือดร้อนเรื่องธุรกิจการหากินบูชาไปหลอดหนึ่ง ปรากฏว่าเขาระงับความต้องการและกิเลสของตนไม่ได้สุดท้ายจนท้ายที่สุดหลอดน้ำมันก็อันตรธานหายไป ท่านว่าพอมี,พอได้ก็หลงอยู่ในกามในกิเลส ไม่ได้รู้เลยว่าถือของสูงขนาดไหนอยู่และใครเขาเป็นคนช่วยฉุดขึ้นมา ที่จะสำนึกประกอบคุณงามความดีทำบุญทำกุศลเอาพระธรรมใส่ตนมาปฏิบัติเช่นนั้นยังไม่มี ท่านจึงเก็บน้ำมันชุดนี้ไว้ไม่ยอมนำออกมาให้ใครได้บูชาอีกเลยจนวาระนี้

    *** วิธีทำหวย
    ให้ทำกลางคืนในดึกสงัด ท่านว่าทำเงียบๆคนเดียวอย่าไปบอกใคร เมื่อจะทำให้จุดธูปสิบหกดอก จุดเทียนสองเล่ม เตรียมดอกไม้หรือพวงมาลัยบูชาตะกรุดไว้ตั้งจิตบูชาครูบาอาจารย์ทั้งชั้นฟ้า ทั้งครูเทพ ครูพรหม ครูฤาษี มหาเศรษฐีพุทธกาลทั้งเก้า และองค์อาตมันเป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ขอลาภกับครูท่าน ถ้าเรามีวาสนาก็ให้ท่านโปรดให้เราเห็น โดยให้นำตะกรุดมาแตะบริเวณหนังตาซ้ายขวาและนำกระดาษมาแผ่นหนึ่งเขียนเลข 0-9 ล้อมกันไว้เป็นวงกลม อธิษฐานบอกครูบาอาจารย์นำตะกรุดนั้นวางลงตรงกลางวงกลม ภาวนาคาถาว่า"สัพเพชะนา พะหูชะนา เมตตาสุขัง จะมหาลาภัง ปิยังมะมะ" แล้วจึงเข้านอน พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้ามีวาสนาแรงจะถูกหวยหลับไปตัวเลขจะมาเป็นสีแดงๆในนิมิตฝันของเรานั่นเลย
    *** แต่ถ้าไม่ได้ฝันเห็นพอตื่นมาท่านให้จ้องแผ่นกระดาษตัวเลขนั้นโดยหลับตาและลืมตาครั้งหนึ่งเห็นเลขใดเป็นเลขแรกก็เอาตัวนั้น ท่านว่าจะสองตัวหรือสามตัวก็ทำตามนี้โดยการหลับตาและลืมตาสองถึงสามครั้ง(ให้ทำได้เฉพาะคืนก่อนวันหวยออกเท่านั้น) ได้เลขอะไรก็ตามอย่าได้บอกกับใครเด็ดขาด รู้คนเดียวและซื้อคนเดียวเท่านั้น

    คาถาบูชา
    มะอะอุพุทธังบังเกิด ธัมมังบังเกิด สังฆังบังเกิด พระเจ้าประเสริฐบังเกิดเป็น ออ อา ออ แอ ออเมตตา อาเอ็นดู ให้พระธรรมอุปถัมภ์ ให้พระธรรมค้ำชู ยกกูหนีไกลวัฏฏะทุกข์แต่ใดไม่มาแผ้วมาพาน อนิจจาพุทโธ พุททังมาโส ธัมมังมาโส สังฆังมาโส มาแล มาแล มาเชย มาชม มา ออ แอ ฤ ฤา ธัมมังมาโส เมตตามาโสมาสิมา

    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น (ผู้บูชาให้แจ้งชื่อ,นามสกุล,วันเดือนปีเกิดไว้ด้วยท่านจะบอกกล่าวครูประสิทธิให้อีกคราหนึ่ง)

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดโสฬสพรหมประสิทธิ์ครูจักรพรรดิจำแลง(อุดกากยาสีผึ้งลืมตาอ้าปาก,เปิดทางรวย) บูชา 4,000 บาท
    [​IMG]
    359654129-955301135527561-257516778593794391-n.jpg
    [​IMG]
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ใครรอหลักร้อย พรุ่งนี้ห้ามพลาดกันนะ
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลอธิษฐานเทวดาตามใจ(ราหูกลับธาตุ,กากยาสีผึ้งลืมตาอ้าปากเปิดทางรวย)

    มงคลอธิษฐานเทวดาตามใจ
    เป็นตะกรุดชนิดหนึ่งที่พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้เรียกว่าตะกรุด แต่ท่านเรียกว่ามงคลอธิษฐานเทวดาตามใจโดยจำเพาะเจาะจงทำให้รู้ว่าต้องเป็นวิชาที่มีฤทธิ์วิเศษแน่นอน โดยปกตินั้น ท่านว่าตะกรุดแต่ละชนิดจะเน้นอานุภาพครอบคลุมทุกอย่าง ครูบาอาจารย์แต่โบราณก็มักจะทำสืบมาเช่นนั้น แต่วิชามงคลอธิษฐานเทวดาตามใจนั้น เป็นวิชาเฉพาะกิจ ที่สืบทอดกันมาในสายในดงจริงๆมีต้นกำเนิดที่บรมครูหลวงปู่เทพโลกอุดรเป็นวิชาสายเหนือโลกวิชาหนึ่งก็กล่าวได้

    ท่านว่าของสิ่งนี้ประจุวิชาไว้เพื่อให้มีฤทธิ์วิเศษเหมาะกับคนใช้ประเภทหนึ่ง นั่นคือคนชอบขอ ขอแล้วต้องได้ การขอในที่นี้ไม่ใช่การขอโดยปราศจากเหตุผลใดๆแต่เป็นการร้องขอสิ่งที่ตนเองต้องการต่อเทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วิชานี้อาศัยบารมีในอดีตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพื้นฐานเวลานานนับสี่อสงไขยกำไรแสนมหากัปที่พระองค์ในฐานะของพระมหาสัตว์ได้บำเพ็ญบารมีไว้ก่อนจะตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น บารมีเหล่านั้นมากมายเหลือคณามงคลอธิษฐานเทวดาตามใจนั้น ได้กล่าวอ้างบารมีนับอสงไขยเหล่านั้นเป็นฐานให้เหล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพยดาทั้งหลายรับฟังคำขอคำอธิษฐานของผู้บูชา

    พ่ออาจารย์ว่าสิ่งนี้ทำยากเป็นวิชาเฉพาะอันละเอียดลึกซึ้งไม่สามารถกล่าวได้หมด ท่านว่าให้บอกวิธีใช้กับเค้าก็พอ ซึ่งมงคลอธิษฐานนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ลงพระยันต์ไว้เต็มสูตรทั้งหน้าและหลัง โดยท่านประทับด้านหลังด้วยยันต์มหากำเนิดตำรับหลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัวเพื่อเสริมอานุภาพให้กับเครื่องมงคลสอดรับกันมากขึ้น ท่านว่าที่ทำนี้ ท่านทำให้เป็นกำลังใจโดยตรง ถือว่าแก้เคล็ดอยู่ในตัวเอง นั่นคือเวลาที่เราขออะไรเทพยดาผ่านมงคลอธิษฐานนี้ คำขอนั้นก็ได้ถือว่าบังเกิดแล้ว เป็นจริงแล้ว สำเร็จแล้ว เป็นปกาศิตที่จะหลีกเลี่ยงมิได้ ขอได้ไหว้รับ ขอแล้วต้องให้เช่นนั้น

    มงคลอธิษฐานเทวดาทันใจนี้ พ่ออาจารย์ท่านทำไว้เพื่อให้เป็นกำลังใจแก่คนที่ทำมาหากิน และปรารถนาโชคลาภวาสนาต่างๆ ท่านว่าความสำเร็จทั้งหลายที่ว่าไม่ไกลเกินเอื้อมนั้น แต่นี้ไปจะได้ไม่ต้องเอื้อม เพราะมันอยู่ในมือเราแล้ว โดยวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านได้เชิญปู่ใหญ่หรือบรมครูหลวงปู่เทพโลกอุดรให้มาทำการประสิทธิ์ให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาไปใช้ได้เลยเดี๋ยวก็รู้เอง ตะกรุดนี้เราเชิญพระโบราณมาทำ ท่านทำให้เต็มกำลังความสามารถให้เหมาะแก่กาลและยุคปัจจุบัน โดยมงคลอธิษฐานนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าเทวดาทันใจก็เพราะ อาศัยคุณอำนาจของวิชาที่หากผู้ใดได้บูชาแล้วเทพยดาอันรักษาบวรพระพุทธศาสนาทั้งหลายย่อมเข้าดลช่วยเหลือในสิ่งที่ปรารถนาให้สำเร็จเสร็จกิจด้วยบารมีพุทธภูมิขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านว่าเป็นวิชาโบราณที่ครูบาอาจารย์ไม่ค่อยทำและสืบทอดกันเท่าไหร่

    บรรจุผงราหูกลับธาตุ
    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ยิ่งกว่าวิชาเพชรกลับหรือมหากลับอะไรเหล่านั้น เพราะเป็นผงที่ทำยากมากเป็นผงของพระราหูอสุรินทร์โพธิสัตว์เป็นวิชาเฉพาะของมหาโพธิสัตว์ใหญ่พระองค์หนึ่งซึ่งก็คือพระราหู

    อันว่าราหูกลับธาตุนี้ธรรมดาท่านว่าแม้ใครได้บูชาพระราหูก็มีความเชื่อกันว่าจะบรรเทาเคราะห์กรรมได้ ยิ่งใครดวงตกพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกต่างๆจึงมักนิยมบูชาพระราหูกัน ด้วยถือว่าจะผ่านพ้นช่วงเวลาเลวร้ายและเคราะห์กรรมเหล่านั้นไปได้ แต่วิชาราหูกลับธาตุนี้ท่านว่ามันมากกว่านั้นอยู่หน่อยนึง

    ไอ้เรื่องแย่ๆร้ายๆต่างๆบรรดามีที่จะทำความเสียหายล่มจมพอมันว่าจะเกิดๆ
    มันก็กลับไม่เกิด กลับหน้ามือเป็นหลังมือไปหมด พูดง่ายๆคือไม่มีนั่นเอง ...พูดง่ายๆก็คือไม่มีช่วงเวลาที่ต้องเสวยทุกข์ เสวยเคราะห์กรรมใดๆเหลือ วิชาราหูกลับธาตุนี้จึงเป็นยิ่งกว่าวิชาหนุนดวงใดๆ ท่านว่าพกไว้สบายใจอย่างยิ่ง

    บรรจุด้วยกากยาสีผึ้ง
    การทำตะกรุดนี้ท่านว่าต้องขออนุญาติจากสมเด็จในนิพพานและครูมหาพรหมตลอดจนครูเทพทั้งหลายเพื่อจะขอวิชาและวิธีทำจากท่านในการทำโดยองค์บรมพรหมสหัมบดีท่านได้มีโองการไว้ ว่าหากจะขอวิชาไปใช้
    ...เพื่อยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของโลก
    ...ตลอดจนมีผลเหนือเวรกรรมของสัตว์
    ...ฝ่าฝืนลิขิตฟ้าดินและวิถีดวงดาว
    ครูพรหมท่านก็จะทำให้ แต่พ่ออาจารย์ต้องทำตามวิธีการและเตรียมธาตุตลอดจนสิ่งของกำกับทั้งหลายตามวิธีของท่าน โดยท่านได้ตั้งเงื่อนไขและข้อแม้เอาไว้กับพ่ออาจารย์ว่า สิ่งที่จะทำนี้มีอานุภาพมาก ดังนั้นอย่าได้สร้างเป็นเครื่องมงคลหรือถาวรวัตถุใดอันจะคงสภาพไม่เสื่อมสูญไปตามกาลเวลาเพราะมันฝืนลิขิตฟ้าชะตาดิน ไม่เหมาะไม่ควรในกาลทุกเมื่อ เอาแต่เพียงให้เค้าใช้ได้หมดไปตามวาระกรรมเพียงนั้น ท่านว่าต้องคิดอยู่นานว่าจะทำสิ่งใดหนอที่จะไม่คงสภาพอยู่นานหากเพียงใช้ก็จะหมดไปไม่คงรูปดุจเครื่องมงคลทั้งหลายจนท่านระลึกได้ว่าน้ำมันซึ่งมีคุณวิเศษนั้นจัดอยู่ในเงื่อนไขขององค์บรมพรหมทุกประการ ท่านจึงกราบเรียนตลอดขอวิธีสร้างน้ำมันวิเศษ ท่านว่าต้องค่อยๆทำเก็บรวบรวมไว้มวลสารทั้งหลายกว่าจะได้จึงไม่ใช่ง่ายเลย น้ำมันสามชนิดที่นำมาผสมกันเป็นส่วนผสมมีดังนี้

    1. น้ำมันจักรพรรดิ์บันลือ(สีหนาท) อันสำเร็จด้วยคุณของพระจักรพรรดิและเหล่าเทพยดาเจ้าผู้มเหศักดิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นน้ำมันชั้นสูงที่ทำยากและยากที่คนจะได้เห็นตลอดจนได้ครอบครอง ท่านว่ามีคุณวิเศษดุจสมบัติพระจักรพรรดิ์ แม้ได้อาราธนาติดตัวไปแห่งหนใดจะช่วยเสริมหนุนผู้ครอบครองทุกด้านเรียกว่าดวงไม่มีวันตกไม่มีวันแตก ซ้ำยังมีคุณเฉพาะทางที่แปลกประหลาดอีกอย่างหนึ่งนั่นคือใช้สยบคู่แข่งได้ทุกชนิดไม่มีใครทำอะไรแซงหน้าเราได้ ท่านว่าด้วยกำลังแห่งพระจักรพรรดินั้นแม้มนุษย์ตลอดจนเทพยดาก็ยังต้องเคารพดุจว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์ได้กระทำสีหนาทประกาศแก่ไตรโลกเป็นที่สุดของมหาอำนาจ ซ้ำท่านว่าอิทธิคุณแฝดของน้ำมันนี้ยังช่วยให้มีชัยชนะเหนือศัตรูผู้คิดร้ายตลอดจนจ้องจะทำร้ายได้ทุกรูปแบบ และยังช่วยให้เจริญในหน้าที่การงานเป็นใหญ่เป็นโต ปลอดภัยจากภัยอันตรายตลอดจนอุบัติภัยจากธรรมชาติและศาสตร์มืดตลอดจนเดรัจฉานวิชาทั้งปวง

    2. น้ำมันมหาพรหมรังสฤษฏ์ อันสำเร็จด้วยคุณของเหล่าบรมพรหมปัญจสุทธาวาสทั้งหลายมีท้าวสหัมบดีเป็นที่สุด ท่านว่าน้ำมันนี้วิเศษนักเป็นของเฉพาะกาลอย่างแท้จริง มีคุณขจัดและริดรอนอุปสรรคขวากหนามในชีวิต ดุจองค์ท้าวมหาพรหมผู้สร้างจะสร้างจะลิขิตเส้นทางให้ชีวิตมีแต่เรื่องดีๆไม่มีอุปสรรคขัดขวางแต่อย่างใด
    - ใครที่มีชะตาชีวิตติดขัด
    - ทำไม่พ้น
    - หาทางออกไม่ได้
    - ไม่เจอแสงสว่าง
    - ไม่พบเนื้อคู่
    - การงานไม่สำเร็จ
    - ความรักไม่ราบลื่น
    - โดนกลั่นแกล้ง
    - โดนกระทำ
    ท่านว่าอานุภาพของน้ำมันมหาพรหมนี้จะปัดเป่าสิ่งที่ติดขัดและความขัดข้องของผู้บูชาให้หมดไป ท่านว่า
    ปลอดโปร่งโล่งสบายทีเดียว คำๆนี้มีความหมายยิ่งใหญ่ ใครที่รู้สึกว่าชีวิตมันหนัก มันแบกภาระแบกโลกไว้ทั้งใบ ท่านว่านี้มันช่วยได้เกินกว่านั้นไม่เพียงนำออกจากความขัดข้องทั้งหลาย ซ้ำยังช่วยให้สำเร็จทุกทางตามมหากรุณาธิคุณของเหล่ามหาพรหมปัญจมหาสุทธาวาสไม่ว่าจะเรื่องเงินทอง วาสนา โชคลาภผลาผลครบถ้วนทุกประการ ที่สำคัญท่านว่าวิชาสายมหาพรหมนี้แม้พกไว้กับตัวก็ถือว่าเป็นเสน่ห์มหานิยมชั้นเยี่ยม ในเวทย์วิชาทั้งหลายทั้งสายต่ำสายสูงแม้แต่สายเทพล้วนไม่มีวิชาใดมีอำนาจมากไปกว่าวิชาของพระพรหมหรือศาสตร์ของพระพรหมนี้ ท่านว่าพูดคร่าวๆได้เท่านี้

    3. น้ำมันหมื่นพุทธ(12 นักษัตร) เป็นน้ำมันที่ท่านสร้างตามศาสตร์ของสมเด็จองค์ปฐมที่ท่านว่า
    ากเย็นแสนเข็ญเหลือใจ ท่านไม่อนุญาติให้พูดถึงหรือเปิดเผยสิ่งใดเลยจึงจำต้องปกปิดไว้ บอกได้แต่เพียงคร่าวๆว่าเป็นน้ำมันที่มีฤทธิ์รุนแรง ท่านว่าเหนือกว่าน้ำมันสองชนิดข้างต้นนั้น ดีทุกอย่างเอาว่าอยู่กับใครพูดสั้นๆได้ว่าบุคคลนั้นได้ดีแน่นอน น้ำมันตัวนี้อธิษฐานได้ทุกเรื่อง เป็นดุจศูนย์กลางโลกมีคนแวดล้อมรักใคร่ให้ความเมตตาเอ็นดูปรารถนาโชคลาภก็จะมีโชคลาภรุมล้อม ปรารถนาอยากใช้ทางเสน่ห์เมตตาก็จะมีสตรีตลอดจนเพศตรงข้ามที่ปรารถนารุมล้อม สุดแล้วแต่จะปรารถนา ดีกับคนใช้ในทุกที่ ทุกวัน ทุกกาลสมัย ซ้ำมีคุณเฉพาะทางที่สมเด็จองค์ปฐมท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ดุจรู้ชะตาเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ท่านว่าน้ำมันตัวนี้แปลก ยิ่งคนด่าเรา ตีเรา นินทาเรา ใส่ร้ายป้ายสีเรา พูดไม่ดีกับเราเท่าไหร่ เรายิ่งได้ดีขึ้นเช่นนั้นเป็นเงาตามตัว เหมือนกลองยิ่งตียิ่งดังไม่มีเสื่อมถอยหรือตกต่ำเลย ปล่อยให้เขาด่าไปตีไปด้วยคุณวิชาที่หนุนส่งเราจะมีแต่ได้กับได้ ท่านว่าปกติชีวิตคนนั้นย่อมมีผู้คอยอิจฉาริษยาพูดจาให้ร้ายเราทั้งนั้น ตั้งแต่เจ้ายันไพร่สูงสุดฟ้าหรือต่ำสุดดินไม่มีใครหนีพ้นวงจรเหล่านี้ทั้งสิ้น ปากคนมันยาวกว่าปากนกกาขึ้นชื่อว่าเกิดเป็นมนุษย์จะพ้นอย่างไรไอ้การนินทาใส่ร้ายป้ายสีความอิจฉาริษยาทั้งหลาย อย่าว่าแต่ในมนุษย์เลย แม้ในเทวดาบางจำพวกก็ยังมี แต่วิชาน้ำมันหมื่นพุทธนี้กลับให้ผลแปลกประหลาดกล่าวง่ายๆยิ่งมีคนคิดอกุศลมีใจอิจฉาริษยาเราเท่าไหร่ เรายิ่งได้ดีมากขึ้นเท่านั้น


    *** พ่ออาจารย์ท่านได้นำกากยาทั้งหมดมาหุงสีผึ้งเพื่อจะผนึกไว้ในตัวตะกรุดครูจักรพรรดิจำแลงนี้ ท่านว่าเพียงพกไว้ก็ใช้ได้รุนแรงดุจเดียวกันและนี่เป็นกากยาแบบหัวเชื้อล้วนๆเอามาผนึกไว้ ด้วยตอนทำท่านเห็นนิมิตมงคลหลายประการล้วนแต่เป็นของมงคลเป็นสมบัติจักรพรรดิทั้งนั้นปรากฏออกมาจากสีผึ้กากยาเหล่านี้ ท่านจึงเรียกว่าวิชาครูจักรพรรดิจำแลง ท่านว่า..เราไม่ได้ทำเป็นสิ่งคงสภาพอันไม่เสื่อมสูญเพราะสีผึ้งนั้นยิ่งใช้ก็ยิ่งหมดดุจเดียวกัน หากแต่เราหลอมรวมวิชามากลั่นสีผึ้งด้วยหัวเชื้อกากยาและผนึกไว้จะได้ใช้สงเคราะห์ตามวาระกรรม..ตะกรุดชุดนี้ท่านว่าหากเรามั่งมีครบถ้วนทุกทางมากมาย..มหาศาล..ไม่ขาดสิ่งใดดุจจักรพรรดิจำแลงแล้วตัวตะกรุดนั้นจะอันตรธานหายไปเองเพราะครูพรหมท่านจะเอาคืนไป

    ลืมตาอ้าปาก,เปิดทางรวย
    นอกจากกากยาชุดโสฬสพรหมประสิทธิ์แล้วพ่ออาจารย์ท่านยังนำกากยาสีผึ้ง 2 สูตรที่เกื้อหนุนกันอย่างมหาศาลมาหุงรวมกันเพื่อประโยชน์ใหญ่ของผู้แขวนตะกรุดที่ผนึกสีผึ้งกากยาทั้ง 2 ชนิดนี้ อีกชนิดนึงคือสีผึ้งที่หุงจากหัวชนวนกากยาน้ำมัน
    จ้าวชีวิตโคตรเศรษฐีอมฤตโชค(ลืมตาอ้าปาก,เปิดทางรวย) จัดเป็นของเก่าที่มีอายุมากกว่า100ปี *** พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนคนที่มารับต้องนำทองมาขอทีละ5บาทครูท่านจึงให้ใช้ เพราะถือเป็นน้ำมันชั้นสูงสุดในบรรดาน้ำมันสายวาสนาโชคลาภทั้งหมดและยังประกอบพิธีสร้างทำได้ยากยิ่ง ท่านเรียกสั้นๆว่าน้ำมันโคตรเศรษฐี(เป็นน้ำมันที่สืบทอดมาในตระกูลของพระอริยเจ้าท่านหนึ่ง...ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเราจะไม่ขอออกนามท่าน)

    น้ำมันนี้ต้องหาวันดีไปทำพิธีกรรมเพื่อเอาน้ำมัน..ในตำราว่า..ถ้าผู้ไม่มีอาคมแก่กล้าอย่าได้บังอาจทำเพราะอาจต้องอาถรรพ์ถึงตายได้(พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันพูดไม่อายเลยนะว่าตัวเองก็ยังไม่คิดจะทำเพราะมวลสารที่ใช้ทำแต่ละอย่างล้วนเสี่ยงตายทั้งนั้นแค่คิดจะทำก็เหมือนเอาชีวิตไปทิ้งแล้ว)เมื่อได้มาครบแล้ว..ก็ให้เสกมวลสารก่อนรอบหนึ่งเสก7โบสถ์, 7เสาร์ ,7อังคาร, 7จันทร์ดับ ,7วันเพ็ญ..วิชาเหล่านี้ปัจจุบันจึงหาได้น้อยนักเพราะทำได้ยากยิ่งและสูญหายไปมาก ท่านว่าของแต่ละอย่างที่ว่าหายากทำยากคือเขากำหนดสถานที่หาที่เอาไว้ทั้งสิ้นไม่ใช่ว่าจะไปเก็บที่ไหนก็ได้กว่าจะรวบรวมได้ครบจึงยากขึ้นไปอีก

    จะบอกแต่คร่าวๆได้แก่ ยอไม่ตกดิน,ไม้ไก่กุ๊ก,ว่านสาลิกาลิ้นทอง,ว่านสาลิกาชนิดหัว,ว่านกาหลง,ว่านดอกทองมหาอุดม,ว่านมหาลาภ,ว่านจักรพรรดิ์,ว่านกวักพระพรหม,ว่านกวักมรกต,ว่านพระฉิมพลี,ว่านนางคุ้ม,ว่านแม่โพสพ,ว่านเศรษฐร้อยล้าน,ว่านมหาโชค,ว่านอุดมโชค,ว่านเศรษฐีก้านทอง,ว่านรวยไม่เลิก,ว่านบังลังค์เศรษฐี,ว่านเสน่ห์จันต่างๆ,ดอกรักซ้อน,ดอกรัก,ดอกมะรุม,ลูกยอ,รากยอ,ต้นยอไม่ตก,ดอกพิกุล,ดอกจัน,ดอกเข็มขาว,ดอกบานไม่รู้โรย,ดอกบัวทั้ง4 ,ต้นไทรต้นตาลตายคาต้น,กาฝากรัก,กาฝากยอยอ,กาฝากมะยม,ย่านสะบ้าข้ามคลอง,ลูกสวาทล่องวารี,รากไม้เล่นวารี

    นำมาหุงเข้ากับผงวิเศษต่างๆเช่น
    ผงกำเนิด,ผงนอโม,ผงอาการสามสิบสอง,ผงยันต์โสฬสมงคล,ผงยันต์ปฐมอักขระ,ผงยันต์ปถมังสูตร,ผงยันต์นพเคราะห์ทั้ง 9 ดวง,ผงยันต์หัวใจวันทั้ง 7,ผงดวงตราพระอิศวร,ผงดวงตราพระนารายณ์,ผงดวงตราพระพรหม,ผงดวงตราพระพาย,ผงดวงตราพระอินทร์,ผงดวงตราพระลักษมี,ผงยันต์ธาตุ 4,ผงยันต์เทพชุมนุม,ผงยันต์ทางเสน่ห์,ผงเทพนิมิตร,ผงเทพรัญจวน,ผงมหาลาภ,ผงพุทธนิมิต,ผงหัวใจขุนแผน,ผงเทพจินดามณี,ผงประกาศิตพระร่วง,ผงชาตรี,ผงรักซ่อนชู้,ผงเทพบันดาลทรัพย์,ผงเทพเศรษฐี,ผงนางกวัก,ผงพระฉิมพลี,ผงมณฑาสวรรค์,ผงลบคืนจันทร์เพ็ญ ...ท่านว่าผงลบต่างๆเองก็ต้องลงอักขระเลขยันต์ในวันเวลาตามวิชาทั้งทำการปลุกเสก-ร่ายโองการตลอดพิธีลบผงเพื่อให้เกิดฤทธานุภาพสูงที่สุด เมื่อจะหุงก็ต้องแต่งเครื่องพลีกรรมขึ้นบูชาเทวดาทั้งสิบหกชั้นฟ้ารวมถึงบูชาเทวดานพเคราะห์บวงสรวงครูบาอาจารย์

    ผู้ที่กวนก็ต้องเลือกวันและเวลาเกิดอีกสามคนเวียนวนกวนกันตามยามต่างๆ,ทั้งยังต้องใช้คนที่เกิดอีกฤกษ์ยามหนึ่งเป็นคนคอยเติมฝืนสุมไฟใส่เชื้อ,คนเทน้ำมัน,คนใส่มวลสารว่านยานี่ก็อีกอย่างล้วนแต่ต้องใช้ฤกษ์และเวลาเกิดตามกำหนดทั้งสิ้นซ้ำยังต้องเป็นคนที่ดำรงค์พรหมจรรย์มาตลอดชีวิต(พ่ออาจารย์ท่านจึงว่ายากนักที่จะทำได้อีก)ไม้ที่ใช้กวนก็ต้องใช้ไม้ชัยพฤกษ์,ไม้พลับพลา ไม้ที่ทำเชื้อเพลิงก็ต้องใช้ไม้เทพทาโร,ไม้ราชพฤกษ์,ไม้ยอ,ไม้รัก,ไม้ขนุน,ไม้มะยม แม้การหุงน้ำมันก็ต้องใช้ก้อนเส้าแบบโบราณโดยใช้ไม้กางหยาง,ใช้กะทะทองสำริดรอบกระทะพันด้วยหญ้าคาปักเฉลวเพชรสามด้าน,วางก้อนเส้าสามก้อนลงยันต์ทุกจุดทั้งไม้กางหยาง,ก้อนเส้าในกะทะ,ก้นกะทะ,หูกะทะ,ขอบกะทะ,แม่ไฟ,ไม้ฟืนต้องลงอักขระกำกับทุกอย่าง การหุงใช้วิธีเดียวกับการกวนเกษียณสมุทรมีการตั้งโลกธาตุ,มีพิธีการปลุกว่าน,การชุมนุมยา,เซ่นไหว้ว่านยา ,เซ่นไหว้เหล่าเพชรพญาธรแลคนธรรพ์ที่รักษาหัวว่านต่างๆ ต้องบูชาไฟตามสูตรแต่โบราณ ทั้งต้องนำใบยาใบว่านมาลงอักขระเลขยันต์ให้ครบสูตรก่อนจะเคี่ยว ขณะหุงก็จะปลุกเสกเดินธาตุ,เรียกธาตุ,ชุมนุมธาตุและร่ายโองการมหาโชคต่างๆ ต้องขับเคลื่อนและดึงพลังจากธรรมชาติมาลงในกระทะน้ำมันโดยห้ามน้ำมันพุ่งลงในกองไฟเป็นอันขาดทั้งไม้ฟืนที่ใส่ก็ห้ามดึงออกจนได้น้ำมันว่านมหาลาภชั้นเลิศที่ไม่ข้น,ไม่หนืด,ไม่เหม็นหืนเป็นน้ำมันชั้นสูง

    แล้วจึงเริ่มปลุกเสกในฤกษ์อมฤตโชคทั้ง 7 วันได้แก่ อาทิตย์ 8,จันทร์ 3,อังคาร 9,พุธ 2,พฤหัส 4,ศุกร์ 1,เสาร์ 5 และใช้ฤกษ์พิเศษ ปลุกวันจันทร์เพ็ญอีก 4 วัน,ใช้ฤกษ์จันทรคราส 3,สุริยะคราส 3,ใช้ฤกษ์ชัยโชค 1,มหาสิทธิโชค 1,สิทธิโชค 1 ท่านว่ากระทำให้ครบตามกำลังเทวดาเท่ากับกำลังเทวดาซึ่งกว่าจะปลุกเสกให้ครบและเกิดอาถรรพ์ทั้งลมพัด,ฟ้าผ่า,ฝนตกแดดออกแลเหตุผิดธรรมชาติที่ปรากกฏชัดตรงตามข้อกำหนดนั้น ท่านว่ากว่าจะหุงได้ยากกว่าไปหามวลสารเสียอีกเพราะมีสูตรทำขลังให้ตายตัวเช่นนั้นแต่โบราณท่านจึงหวงและปกปิดนักแม้จะใช้ยังต้องแลกด้วยทองคำ เพราะว่ากว่าจะทำได้นั้นไม่ง่ายเลยบางครู,บางยุค,บางสมัยเกิดมาแล้วตายไปก็ไม่มีวาสนาจะได้ทำ

    *** พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องยาของศักดิ์สิทธิ์แต่โบราณที่เอามาต้มเป็นหัวสีผึ้งเพื่อบรรจุเฉพาะตะกรุดนั้น เป็นของที่ทำไว้ในสูตรปิดผนึกเพียงพกก็แรงมากแล้ว ครูบรมพรหมท่านจึงให้ผนึกไว้กันคนนำไปใช้เพราะสูตรนี้ใช้กากยาหัวเชื้อชนวนล้วนๆมาทำ..แรงแบบสั่งได้

    วิชานี้นอกจากมีคุณใช้ในการอธิษฐานแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่ายังเป็นวิชาทางมหาลาภชิ้นเอก ซึ่งมีวิธีใช้ง่ายมากไม่ยากอย่างไรเลยไม่ต้องสวดหรือภาวนาอะไรทั้งสิ้น เพียงแค่พกไว้กับตัวท่านว่าเอาว่าคนที่พกเฉพาะบุคคลนั้นเค้าจะมีกินมีใช้ไม่ขาดโดยเฉพาะเรื่องเงินทอง จะเป็นเหตุให้พบความโชคดีจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปเสียหมด มีเงินทองบังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ท่านว่าเป็นวิชาทางเศรษฐีมหาศาลเช่นนั้น มีเงินต่อเงิน มีทองต่อทองไม่รู้หมดรู้สิ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นคุณสมบัติพิเศษของผู้ที่ได้ครอบครองวิชามงคลอธิษฐานนี้โดยพ่ออาจารย์ท่านได้ทำไว้และเสกจนสำเร็จเต็มคุณวิชา มีจำนวน 20 ดอก แต่ท่านได้เอาไปให้ผู้ที่เดือดร้อนและรักการขอการอธิษฐาน ช้กู้วิกฤติชีวิตไปแล้ว 4 ดอก ก็มีเสียงตอบรับที่ดีมากถึงขนาดจะขอบูชาเพิ่มและเหมาแจกญาติพี่น้องกันเลยทีเดียว แต่ตัวท่านก็ไม่ได้อนุญาติ ด้วยปรารถนาจะให้เก็บไว้ ท่านว่าจะได้กระจายกันได้ทั่วๆเพราะเราทำได้น้อย สรุปคือมงคลอธิษฐานนั้นจึงเหลือเพียง 16 ดอก

    วิธีใช้
    มงคลอธิษฐานนี้เมื่อจะใช้งานให้ทำจิตให้เป็นสมาธิ นำมงคลวางไว้บนฝ่ามือแบมือและขอในสิ่งที่เราปรารถนา ด้วยเดชะเทพยดาเจ้าทั้งหลายโปรดสงเคราะห์ข้าพระพุทธเจ้า(ขอในสิ่งที่ปรารถนา) ท่านว่าทำได้ทุกวันขยันขอเถิด ห็นผลมามากนักแล้ว เมื่อจะใช้ให้ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นที่สุด เทวดาทั้งหลายย่อมบันดาลให้เป็นไปด้วยพุทธานุภาพ

    *** รายการนี้เปิดรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลอธิษฐานเทวดาตามใจ(ราหูกลับธาตุ,กากยาสีผึ้งลืมตาอ้าปากเปิดทางรวย) บูชา 900 บาท

    357319032-317623144029637-9121847862813543643-n.jpg
    1-75.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านทำจากกากยาสีผึ้งติดก้นถ้วยซึ่งมีเพียงเล็กน้อย ..แต่ท่านว่าอานุภาพนั้นไม่เล็กเลยห้อยได้เหมือนกัน รายการนี้เป็นรายการที่พ่ออาจารย์ท่านพูดถึงสั้นๆว่า อยากให้บูชาไว้ให้พอห้อยกับทุกคนในครอบครัว อย่างน้อยก็ให้ติดตัวไว้ ในกิจที่ติดขัดหรือปรารถนาใดๆหมั่นขอแล้วจะได้รับ เพราะเราทำหนเดียวแม้ติดก้นถ้วยก็หมดแล้วย่อมไม่ได้ทำอีก
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    แจ้งการส่ง ems

    พี่เกษมธิดา ED 7200 4668 5 TH

    พี่ศิระ ED 7200 4669 4 TH
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    พรุ่งนี้ห้ามพลาดกันนะ กับชุดเสก 10 ปี ซึ่งทำไว้น้อยมากๆ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา สมเด็จจักรพรรดิเพลิงพระเจ้าชุบราศีซ้อนเงาซ้อนกาย(วังเวียนชุมนุมเคราะห์พินาศ)

    "สมเด็จจักรพรรดิเพลิง..ทุกวิกฤติพินาศ..ขอบารมีพระสัมฤทธิ์ผลดีนัก"
    พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ไหนมีแสงที่นั่นย่อมมีเงาเป็นของคู่กันดุจความสว่างและความมืดที่แยกกันไม่ออก ชีวิตคนก็เช่นกัน
    - เมื่อมีสุข..ย่อมมาพร้อมความทุกข์
    - เมื่อคนสรรเสริญ..ย่อมมาพร้อมคำนินทา
    ทุกสิ่งมีสองด้านเสมอ สมเด็จบรมครูท่านบอกแก่พ่ออาจารย์เป็นปริศนาธรรมไว้ในทางตรงกันข้าม
    คนที่มีทุกข์ย่อมไม่ยากที่จะพบความสุข,คนที่จนก็ไม่ยากที่จะร่ำรวยขึ้นมา,คนที่มืดมาทั้งชีวิตก็ใช่ว่าจะสว่างไม่ได้ เพียงแค่เราหลุดออกมาจากวงจรเดิมแล้วเริ่มวงจรที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงเช่นนั้นท่านจึงได้สร้างพระสมเด็จชุด "จักรพรรดิเพลิงพระเจ้าชุบราศีซ้อนเงาซ้อนกาย(วังเวียนชุมนุมเคราะห์พินาศ)" หากแต่การทำการเสกวังเวียนชุมนุมเคราะห์พินาศนั้นต้องใช้เวลานานนับ 10 ปี จึงพูดได้ว่าเป็นพระสมเด็จที่ทำได้ยากที่สุดและเสกนานที่สุดชุดหนึ่งที่พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ทำอีกเป็นหนที่สองแล้วเพราะการสร้างการเสกกินเวลายาวนานจำกัดด้วยอายุขัย

    วังเวียนชุมนุมเคราะห์พินาศ
    ด้วยหนทางแห่งความทุกข์และเคราะห์กรรมนั้น
    เป็นเส้นทางที่หมุนวนล้อมรอบตัว อันรวบรวมไว้ซึ่งทุกข์,โศก,เวร,ภัย,เคราะห์กรรมต่างๆโคจรมารวมมาบรรจบกันที่ตัวเราท่านเรียกว่าชุมนุม 10,000 เคราะห์กรรม(ลำพังเรื่องเดียวก็ยากจะทนทานไหว) ห้วงเคราะก์กรรมทั้งนี้มีผลยิงตรงเข้าชีวิตเราเพราะมันเกิดด้วยตะกอนกรรมและเรื่องที่เราก่อขึ้นมาในอดีตชาติล้วนๆเรียกว่าเป็นผลแห่งการกระทำของตัวเอง

    มันจึงเป็นห้วงเคราะห์ที่
    ค่อยๆดึงค่อยๆดูดเราลงไปให้จ่อมจมลงไปเรื่อยๆจากข้อเท้าจมมากหน่อยก็ครึ่งตัว บางคนจมมากก็มิดหัวเลยพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่า "วังเวียนชุมนุมเคราะห์ไร้ก้น" ที่สูบสัตว์โลกให้จมลึกลงไปทีละน้อยๆจนถอนตัวไม่ขึ้น และขึ้นมาไม่ได้ยิ่งลึกยิ่งแก้ไขยาก วังเวียนชุมนุมเคราะห์คืออำนาจของวังวนเคราะห์เวรภัยที่จะสูบทุกสิ่งของเราลงไปพ่ออาจารย์ท่านว่ามันทุกข์แบบชีวิตยุ่งเหยิงคือเกิดเรื่องหลายเรื่องพัวพันเกินกว่าจะแก้ไข จะเรียกว่าถูกกระทำย้อนกลับจากเวรกรรมตัวเองจนสูญสิ้นก็ได้ คนที่มีชีวิตเจ็บปวดมามาก..
    - ถูกดึงกลับไปสู่
    วังวนความเจ็บปวดเดิมๆบ้าง
    - ถูกดึงกลับไปสู่วังวนความเจ็บปวดใหม่ๆบ้าง
    - ถูกดึงกลับไปสู่วังวนความเจ็บปวดแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้บ้าง

    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    นี่เหละคือวังเวียนชุมนุมเคราะห์ที่เป็นวังวนคอยวนมากระทำซ้ำเติมชีวิตแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท่านจึงได้สร้างสมเด็จจักรพรรดิเพลิงพระเจ้าชุบราศีซ้อนเงาซ้อนกาย(วังเวียนชุมนุมเคราะห์พินาศ)ไว้ตามวิชาของบรมครู เพื่อจะเปลี่ยนวังเวียนชุมนุมเคราะห์ให้พังพินาศไป ให้หนทางที่เธอเดินวกวนอยู่ในผลอกุศลกรรมขัดขวางนั้นแตกทำลายลง ให้เรื่องบ้าๆที่เกิดซ้ำๆวกวนแก้ไขไม่ได้สร้างความเจ็บปวดสูญเสียหมดไป พ่ออาจารย์ท่านว่าจากวังเวียนชุมนุมเคราะห์ที่พินาศไปนี้สู่วังวนแห่งความสุขนิรันดร์นี่จึงเป็นหนทางแก้กัน ท่านจึงได้ทำไว้โดยใช้เวลานับสิบปี พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จรุ่นนี้เราถือเป็นมรดกของเราให้ผู้ใช้ได้อาราธนาออกจากวังวนทุกข์วังวนความตกต่ำและเรื่องเลวร้ายที่วนเวียนเกิดขึ้นไม่รู้จุดสิ้นสุด จะปรารถนาสิ่งใดก็ให้อธิษฐานกับองค์พระเถิดสัมฤทธิ์ผลดีนัก

    พระเจ้าชุบราศีซ้อนเงาซ้อนกาย
    "วังวนแห่งความสุขนิรันดร์" พระสมเด็จชุดนี้มีพุทธคุณมหาศาลดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าจักรพรรดิเพลิงอัคคี เพราะสงเคราะห์โดยตรงช่วยทำลายหนทางแห่งความทุกข์เคราะห์กรรมของเราให้พังพินาศ **** และนำเธอออกจากวังเวียนชุมนุมเคราะห์ อะไรที่สูญเสียและนำไปสู่วังวนแห่งความทุกข์ซ้ำระกำทนตรงนี้ถูกทำลายหมด(ท่านจึงเรียกว่าสมเด็จจักรพรรดิเพลิง)

    แต่
    การที่คนเราออกจากเคราะห์แล้วจะจมเข้าสู่วังวนสุขนิรันดร์ไม่เคลื่อนคลายออกมาได้นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ใช่ทุกข์หายแล้วสุขจะเข้ามาแทนที่ทันที นี่คือเหตุผลที่ท่านสร้างพระสมเด็จชุดจักรพรรดิเพลิงนี้ เพราะเมื่อเราได้อาราธนาองค์พระแขวนคออยู่เนืองๆ อำนาจพระพุทธคุณจะขัดเกลาแต่งร่างแต่งกายของเรา
    - องค์พระจะชุบราศีที่เสื่อมถอยไป
    - คุณพระจะซ้อนเงาซ้อนกายเปลี่ยนทางมืดกลับเป็นทางสว่างเสมอไป
    - คุณพระพุทธจะชุบทั้งเลือดเหลวและเลือดข้น
    - คุณพระพุทธจะชุบทั้งกระดูกและภายใน
    - คุณพระธรรมจะเข้ามาอยู่เหนือเกษา
    - มหาธาตุทั้งสี่ในกายจะชุบชูด้วยพระสูตรพระวินัย...
    พ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนี้คือค่อยๆขัดเกลาตัวเราออกจากวังเวียนชุมนุมเคราะห์เข้าสู่วังวนสุขนิรันดร์ได้อย่างแท้จริง ไม่จ่อมจมอยู่กับที่หรือต้องขวนขวายพยายามไปเลือกหาเพื่อจะพบหนทางอันเกษมเช่นนั้น

    ท่านว่าพูดง่ายๆเลย
    ไอ้ที่ดับๆไป โอกาสที่สูญเสียไปมหาศาลความสำเร็จต่างๆที่ดับสลายไปแล้วหมดหนทางแล้ว การชุบการขัดเกลานี้มันให้ผลตรงข้ามกัน โดยเรื่องดีๆทั้งนั้นทั้งสิ้นที่ดับๆไปแล้วจะเกิดขึ้นมาใหม่อยู่เรื่อยๆเนืองๆ เรียกว่าชุบตัวเธอให้เกิดขึ้นในหนทางที่เธออยากจะเป็นก็ได้ สมเด็จจักรพรรดิเพลิงนี้ใครได้ไว้ถือว่ามีบุญมากนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานสิ่งใดจะสัมฤทธิ์ผลทั้งก้าวหน้าสำเร็จสมหวัง

    *** แต่พุทธคุณสูงสุดของพระชุดนี้จริงแล้วคือ "การมีชีวิตอันหามลทินไม่ได้"

    1. เธอไม่ต้องกลัวเรื่องมัวหมองเหตุการณ์และสถานการณ์อันไม่บริสุทธิ์ทั้งหลายจะวนเวียนเข้ามาทำให้ตัวเธอด่างพร้อยเลย
    2. ทั้งหนทางอันสกปรกและเรื่องสกปรกรอบตัวรอบข้างก็จะไม่ทำลายเธอ
    3. ไม่ต้องไปเกลือกกลั้วตกบันไดพลอยโจนเป็นแพะรับบาปให้กับใคร
    4. แม้ความเสื่อมเสียถดถอยทั้งปวงก็ไม่ครอบงำ
    5. ไม่มีเหตุแห่งทุกข์สะสมหมักหมมรอกระทำย่ำยี
    6. ต่อไปจะมีชีวิตที่กระจ่าง,สะอาด,สว่างอย่างแท้จริง


    พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จชุดจักรพรรดิเพลิงนี้อยู่ที่ไหนดวงชะตาคนผู้นั้นจะลุกโชนดั่งดวงตะวันพันแสงทั้งรุ่งเรืองและเข้าสู่จุดที่สูงส่งที่สุดอุปมาดั่งตะวันจันทรายามขึ้นสู่จุดสูงสุดไม่โยกย้ายสั่นคลอน จะเจริญไปตามแต่ความปรารถนาอธิษฐานของตนไม่กลับไปตกต่ำยากจนทั้งเป็นมหาเมตตาอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าอาราธนาให้ดีเถิดชุบราศีสิ่งที่ขาดหายไปของเราให้เป็นไปได้ให้กลับมีกลับได้ขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ทุกประการ ลำดับต่อไปจะรุ่งเรืองด้วยคุณวิชาและพุทธคุณ

    สมเด็จชุดจักรพรรดิเพลิงนี้ *** หากผู้ใดขณะปัจจุบันนั้นหาความสำราญกายสบายใจไม่ได้..จะด้วยเหตุต่างๆก็ดี
    - เคยสบายมาก่อนแต่ตอนนี้ทุกข์อกทุกข์ใจ
    - เคยเสมอตัวมาก่อนแต่ตอนนี้หนักอกหนักใจ
    - ไม่เคยสบายมาก่อนและตอนนี้ก็ยังเหนื่อยเพิ่มมากขึ้น


    พ่ออาจารย์ท่านว่าอาราธนาองค์พระจักรพรรดิเพลิงไว้ให้สงเคราะห์
    ไม่ว่าเหตุแห่งความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเราจะเกิดจากอะไรก็ตามย่อมกลับคืนสู่ความสบายเพียงหนทางเดียว ต่อไปจะสุขสำราญกายสบายใจไม่ทุกข์อกทุกข์ใจ..ย่อมหาความสำราญเพลิดเพลินในชีวิตได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าหมั่นอาราธนาเถิดหนาหวังสิ่งใดสัมฤทธิ์ผลดีนักเอาไว้แก้ทางความคับข้องใจทุกข์อกทุกข์ใจโดยตรง

    จักรพรรดิเพลิงของเราไม่ใช่ของร้อนแต่ตรงกันข้ามแล้วอยู่กับคนจะชุ่มเย็นอยู่ในบ้านในเรือนจะร่มเย็นอยู่ดีมีสุข
    จะเดินทางไปไหนก็มีโชคลาภสืบต่อเข้ามาเป็นบรรณาการแก่องค์พระเรื่อยๆไม่ขาดตอน ทั้งมีคนเอ็นดูเมตตาไม่ขาดสายติดตัวไว้เป้นมหาโชคอย่างยิ่งถึงขั้นที่พ่ออาจารย์ท่านว่าให้บูชาเอาโชคโภคสมบัติตามแต่จะปรารถนาเอาเถิด(ทางลาภลอยก็ดีแท้ๆ)
    ***..บุคคลใดที่เคยมีความทุกข์ร้อนมาแต่เก่าก่อนแม้จะทุกข์เรื้อรังมานานแรมปี ก็หายขาดสิ้นไม่มีกาลทรมานใดๆวนเวียนมากระทำสืบต่อ

    องค์พระมีคุณดุจดั่งแม่เหล็ก พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่ว่าพระนี้แม่เหล็กดูดติดแต่อย่างใด หากแต่พุทธคุณนั้นมีคุณดุจแม่เหล็กที่ใช้ทั้งดูดทั้งผลักกลับออกไปและปะทะทุกเรื่องแทนเราทั้งหมด
    - จะดูดอัปมงคลพลังลบในตัวเราถ่ายออกไป
    - จะผลักคุณไสยอวิชชาพลังลบ,ทุกข์,โทษ,ภัยที่เข้ามาให้ออกไป
    - จะปะทะกระแทกออกกับพลังงานอันแข็งแกร่งที่ทำต่อเรา(โรคเวรโรคกรรมเก่าทั้งสิ้น)

    พระสมเด็จจักรพรรดิเพลิงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าครูสมเด็จท่านบอกให้เราสืบหาว่านยามวลสารทั้งผงวิเศษต่างๆแบบเฉพาะกาล
    พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำไว้แค่หนเดียวนี่แหละเพราะไม่สู้จะหามาทำแล้วด้วยต้องเข้าๆออกๆป่าถึง 5 ปีกว่าจะหามวลสารต่างๆได้ครบตามคำสั่ง และยังมาเสกอีกตก 10 ปีรวมแล้วก็ 15 ปีได้พระเพียงนับนิ้วมือ รายการชนวนมวลสารนั้นท่านว่าล้วนแต่ของวิเศษอันมีพรรณคุณพิศดารทั้งสิ้นแต่เรารับปากเป็นคำตายไว้เพราะท่านไม่ให้บอกหรือชี้แจงมวลสารต่างๆให้ทำและตายไปกับตัว เช่นนั้นใครได้หรือทันองค์พระชุดนี้เราจึงพูดได้เต็มปากว่า "เป็นผู้มีวาสนามาแต่เก่าก่อน"

    เมื่ออาราธนาองค์พระติดตัวไว้เป็นประจำให้พึงสังวรณ์ไว้เลยว่า พระพุทธคุณนั้นท่านจะตัดขาดจำแนกสิ่งอัปมงคลทั้งหมดให้ออกไปจากชีวิตตน..อุปมาเหมือนเราใส่หรือครอบสิ่งใดไว้กับตัวแล้วโดนถอดออกไปเช่นนั้นไม่เหลือเชื้อเพลิงให้ลุกลามได้ ทั้งนี้เป็นไปเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของผู้บูชาและถึงพร้อมด้วยตบะอำนาจทั้งสิ้น องค์พระนั้นเป็นของค้ำคูณหนุนดวงชะตาอย่างยิ่งยวดมีแต่จะเติบโตต่อไปด้วยดีไม่หักไม่ล้ม แลยังล้างอาถรรพ์ทั้งพลังงานลบรวมไปถึงขับไล่สิ่งไม่ดีทั้งปวงออกไปพ้นจากชีวิตได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าให้หมั่นอาราธนาไว้เถิดไม่ต้องกลัวภูติผีปีศาจที่ไหนเลยเพราะองค์พระนี้ภูติผีปีศาจเกรงกลัวยิ่งนักดุจเข้าใกล้ไฟประลัยกัลป์ที่จะเผาผลาญทำลายเขาได้ หากแต่เก่าก่อนเคยมีชีวิตวิปริตไปด้วยคุณไสยมนต์ดำหรืออาคมจากการกระทำของสิ่งใดผู้ใดก็ดี..ย่อมเสื่อมสลายหายขาดและยังจะป้องกันการทำซ้ำซ้อนต่อไปในภายภาคหน้า

    พ่ออาจารย์ท่านแนะเคล็ดว่าพระสมเด็จองค์นี้ถ้าวางไว้ในที่เก้บเงิน เงินทองจะทวีคูณทรัพย์สินเพิ่มพูนทับถมทวี..ในเวลาปกติก็แขวนคอไว้แต่เวลาจะถอดจะวางให้วางทับเงินทองหรือวางไว้ในที่เก็บเงินเถิด ถือว่าแก้เคล็ดชีวิตคนที่มีเงินเก็บไม่มากได้ดีนัก แม้จะไม่วางไว้บนที่เก็บเงินก็ยังเป็นมงคลถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านว่าวางอยู่ที่ไหนความอุดมสมบูรณ์จะบังเกิด ณ.ที่ตรงนั้นไม่คลาดแคล้วเลยและถ้าอยู่ติดคอใครก็ไม่มีคติอื่นนอกจากเร่งให้เกิดความอุดมสมบูรณ์เช่นกัน แขวนไว้ก็อุ่นใจเพราะองค์พระนี้จะช่วยป้องกันเหตุเภทภัยต่างๆอันเหนือกว่าสติปัญญาและเกินไปกว่าความคาดคิด..เรียกว่าเรื่องบังเอิญจะเกิด(แบบความซวยไม่แน่ไม่นอนเช่นนั้น) ***เมื่อเธอตั้งจิตให้สงบพนมมือไหว้พระสวดพระคาถาอธิษฐานสิ่งใดกับองค์พระก็ดีย่อมหนุนนำให้คำอธิษฐานส่งผลได้รวดเร็วรุนแรงว่องไวดั่งสายฟ้าฟาด..พ่ออาจารย์ท่านว่าไวชั่วพริบตาเช่นนั้นเอง

    และเมื่ออาราธนาองค์พระแขวนคอไว้หากในตัวเราหรือในบ้านเรือนของเรา หากมีวัตถุมงคลอื่นๆ องค์พระยังจะเสริมส่งและผลักดันให้เราอาราธนาพุทธคุณวัตถุมงคลนั้นๆได้เต็มประสิทธิภาพ อุปมาเหมือนเรารู้สึกไปเองว่าพอห้อยองค์พระนี้เสริมเข้าไปแล้วรู้สึกคิดไปเองว่าเหมือนท่านไปเสริมพุทธคุณทั้งกำลังแลอิทธิฤทธิ์ให้แก่วัตถุมงคลอื่นๆที่เราใช้อยู่ด้วย แต่ความจริงแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ได้เสริมหากแต่เปิดสิ่งที่ปิดและเชื่อมต่อสิ่งที่เข้าไม่ถึงใช้ไม่ได้ห้อยไปแบบเสียของเช่นนั้น พอใช้ได้เต็มประสิทธิภาพก็จะรู้สึกว่าองค์พระมีพลานุภาพมากขึ้นจากที่ไม่เคยมีก็มีไม่เคยเห็นก็เห็นใช้ได้ตามที่บูรพาจารย์ท่านกำกับไว้ดีแล้วนี่คือหนุนนำขึ้นมาทั้งตัวเธอและของที่อยู่ในตัวเธอด้วยหนุนนำขึ้นมาทั้งหมดเลย พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ถือว่าวิปริตแปลกประหลาดอย่างมากผู้มีปัญญาย่อมเข้าใจว่าจะเกิดประโยชน์ใหญ่แก่ตนเองสักปานใดเกินกว่าจะอุปมาได้

    คาถาบูชา(จะสวดชินบัญชรก็ได้)
    ### คาถาใช้สวดเฉพาะให้เกิดคุณเกิดผลจะมอบแก่ผู้ครอบครองเท่านั้น

    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM รายการนี้ท่านทำไว้ 9 องค์
    และท่านห้อยคอตนเองด้วยปัจจุบันมีให้จองเพียง 5-6 องค์เท่านั้น เพราะ พระชุดนี้เหนี่ยวนำด้วยบุญวาสนาแต่กาลก่อนชักนำ เราไม่อยากให้เช่าแบบไม่ใช้บุญสัมพันธ์ใดๆเลย

    ร่วมทำบุญบูชา สมเด็จจักรพรรดิเพลิงพระเจ้าชุบราศีซ้อนเงาซ้อนกาย(วังเวียนชุมนุมเคราะห์พินาศ) บูชา 4,000 บาท
    358890717-1011575913347471-8079312951147736171-n.jpg 359383369-1420559368736946-7003065006112165982-n.jpg
    1-75.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2023
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    พระชุดนี้เหนี่ยวนำด้วยบุญวาสนาแต่กาลก่อนชักนำ เราไม่อยากให้เช่าแบบไม่ใช้บุญสัมพันธ์ใดๆเลย พ่ออาจารย์ท่านว่า พุทธคุณสูงสุดของพระชุดนี้จริงแล้วคือ "การมีชีวิตอันหามลทินไม่ได้"
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ลงรายละเอียดครบถ้วนนะครับ พ่ออาจารย์ท่านว่าอาราธนากันให้ดีพระคาถาที่ส่งให้ท่องอย่าได้ขาดมีแต่จะดีเหนือดีขึ้นไปเรื่อยๆ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    แจ้งการส่ง ems

    พี่พรหมพล ED 7200 7475 2 TH

    พี่กฤตยชญ์ ED 7200 7476 6 TH

    พี่ภาคภูมิ ED 7200 7477 0 TH

    พี่ศิระ ED 7200 7478 3 TH

    พี่ธีรนนท์ ED 7200 7479 7 TH
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    วันนี้เวปล่มนานมากๆ เดี๋ยวยกยอดไว้เป็นวันพรุ่งนี้แทนนะครับ
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา โอสถฟ้าดัชนีชี้ชะตาสำเภานาวาแล่นตรงฝั่ง(ปลอบประโลมมนุษย์วิสัยใช้พรพรหมสหัมบดี)

    เป็นสีผึ้งที่พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าเหมาะแก่การใช้งานและมีพลานุภาพทันใจ ..หากไม่พ้นมนุษย์วิสัยที่พึงจะมี1,ที่พึงจะเป็น1,ที่พึงจะได้1(กล่าวได้ว่าหากไม่เกินความเป็นไปได้ในโลก) ย่อมไม่สุดพ้นวิสัยที่พึงจะได้จะมีจะเป็นเลย พ่ออาจารย์ท่านว่า *** สีผึ้งนี้ประหนึ่งดุจดัชนีที่เธอจะใช้ขีดเขียนชี้ชะตาชีวิตตัวเอง
    - ให้เธอเป็นไปตามสิ่งอยากเป็น
    - ให้เธอมีในสิ่งที่อยากมี
    - ให้เธอได้ในสิ่งที่อยากได้


    ไม่ช้าไม่นานนับจากนี้ไปจะสัมฤทธิ์ผลดังปรารถนาประดุจพรหมลิขิตพ่อครูสหัมบดีมาขีดเขียนเกณฑ์ชะตาชีวิตให้ก็ไม่ปาน เรียกว่าไม่คลาดแคล้วกันเลยพ่ออาจารย์ท่านว่ามันมีข้อแม้นะเคล็ดนั้นคือคนใช้ต้องกำหนดและทำด้วยตนเอง
    ..กำหนดนั้นคือตั้งจิตในสิ่งที่ตนต้องการจะมีจะเป็นจะได้
    ..ทำด้วยตนเองคือใช้ดัชนี(นิ้วมือตน)แตะเนื้อสีผึ้งเวลาตั้งปรารถนาและจุณเจิมตรงนี้ท่านว่าทำแทนกันไม่ได้ทำแทนใครไม่ได้

    ..และต้องใช้นิ้วชี้เท่านั้นเพราะเป็นนิ้วที่เอาไว้บัญชาการสั่งการโดยเฉพาะเจาะจงเพื่อควบคุมให้ทุกสิ่งเข้าเกณฑ์ตรงตามปรารถนา

    อุปมาดั่งชีวิตจะเปลี่ยนเข้าเกณฑ์บุพเพสันนิวาสจะคน,จะงาน,สถานที่,ฐานะ,บุคคล,มิตรสหาย...ร้อยแปดพันเรื่องประดุจมีบุญวาสนาร่วมกันมาก่อนทั้งสิ้นไม่คลาดแคล้วยากเกินที่จะครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกสิ่งทุกอย่างถ้ามันมีเหตุมาก่อนเรานอนอยู่เฉยๆมันก็เข้ามาประเคนถึงปากแต่หากไม่มีเหตุผูกกันมาแต่เก่าก่อนพยายามให้ตายก็เป็นไม่ได้ไปไม่ถึงเป็นเช่นนี้ทุกเรื่อง คุณแห่งสีผึ้งนี้คือการขีดเขียนวาสนาให้เข้ากับชะตาเรารุนแรงประหนึ่งมีบุญวาสนากันมาแต่เก่าก่อนเช่นนั้นทีเดียว ท่านว่าเป็นเครื่องมงคลที่โกงชีวิตมากประการหนึ่ง

    สำเภานาวาแล่นตรงฝั่ง
    ฝั่งชีวิตของแต่ละคนนั้นไม่เสมอกัน พ่ออาจารย์ท่านเปรียบชีวิตคนกับเรือน้อยที่ลอยอยู่กลางทะเลธรรมดานั้นย่อมหนีจากโขดหินและคลื่นลมไม่พ้นเลยชีวิตคนก็เช่นกัน เมื่อเจอโขดหินแลคลื่นลมเรือน้อยเหล่านั้นอาจจะแตก,ล่ม,จมอัปปางอยู่กลางทะเล นั่นคือเรือชีวิตที่กลับเข้าไปหาฝั่งไม่ได้ทำตามจุดหมายไม่สำเร็จโดนสะกัดด้วยสารพัดอุปสรรคขวากหนามเข้ากระทำ

    เช่นนั้นท่านจึงลง
    ตะกรุดคู่วิชาที่ครูบรมพรหมท่านกำกับไว้ให้ใช้ฝังสีผึ้งนี้เท่านั้นไม่สามารถแยกขาดจากกันได้ก็คือ "สำเภานาวาแล่นตรงฝั่ง" ..เพื่อหมายพลิกกลับให้ชะตาตนแข็งแกร่งต้านคลื่นลมได้ทุกประการ
    - จากอุปสรรคทำลายชีวิตจะเปลี่ยนไปเป็นฝุ่นติดเท่าที่ติดเท่าไหร่ก็ไม่ระคายเคือง
    - เปลี่ยนจากเรือลำน้อยที่ลอยคว้างกลางทะเลชนโขดหินเจอคลื่นลมเรือก็แตกกลับสำเภาแก้วสำเภาทองมหานาวาที่แล่นฝ่าคลื่นลมได้แบบไม่รู้สึกสั่นสะเทือน

    เพื่อประโยชน์ในความมั่นคงของชีวิต..พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาชุดนี้ทำสิ่งใดจะไม่มีล่มจมลงไปก่อนได้เลยมีแต่ลอยตัวจมไม่ได้ คลื่นลมชีวิตจะรุนแรงเพียงใดก็ทำให้เรือแตกไม่ได้

    แล่นตรงท่าจอดเกยฝั่ง ..พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อฝั่งคือจุดหมายชีวิตแล้ว เรือชีวิตของคนเราก็สำคัญที่สุดว่าแล่นตรงเข้าหาเป้าหมายหรือไม่
    - เสียเวลาเดินผิดทางหรือไม่
    - ไปจอดพักท่าอื่นนานเกินไปหรือไม่

    นอกจากชะตาที่แข็งแกร่งแล้วยังต้องเป็นชะตาที่วิ่งตรงเข้าหาจุดประสงค์ตัวเองได้ เพราะมนุษย์เราไม่ได้มีเป้าหมายเดียวในชีวิต..ทำสิ่งนี้สร็จยังมีสิ่งอื่นๆรออีกมากมายเหมือนเริือที่ต้องพัดตรงเข้าหาฝั่งไม่ออกนอกเส้นทางทั้งยังต้องพร้อมไปฝั่งต่อๆไปเปลี่ยนจุดหมายไปได้สม่ำเสมอ ไม่เสียเวลาขวนขวายเพียงเป้าหมายเดียวไปทั้งชีวิต

    ตะกรุดคู่นี้มีอาถรรพ์มากอีกประการหนึ่งที่พ่ออาจารย์ท่านยกย่องไว้มากนัก ท่านว่าหากเจอลมแล้วโชคไม่ขาดเลย..ก็ที่ใดในโลกเล่าที่ลมไม่มีเธอไม่หายใจแล้วจะตายหรือไม่..นั่นคือทุกที่ย่อมมีลมอยู่เสมอไม่ขาดลมไปได้เลยตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ตามนั่นเป็นคติเดียวว่ามีโชคลาภให้ใช้ไม่ขาดเลยจะมีพลังวาสนาทางโชคลาภอย่างประหลาดไหลเวียนอยู่ในตัวเองสม่ำเสมอไม่ขาดสาย แล้วด้วยลมนี้ถ้าชีวิตเราเป็นเรือแล้วมันจะไม่จอดอยู่กับที่เลยนะเพราะตะกรุดคู่นี้จะเป็นดั่งลมที่กระหน่ำพัดเราไปในทิศทางเดียวคือชายฝั่ง เมื่อน้ำพยุงเรือลมก็เป็นแรงเรือยิ่งแรงก็ยิ่งไวซ้ำยังพัดไปไม่ผิดที่ผิดทาง ต่อไปนี้จะมีแต่ลมหนุนจากทุกทิศคือปัจจัยแวดล้อมทุกอย่างพร้อมมูลเข้ามาสนับสนุนทุกทิศทางจากคนที่ขาดการสนับสนุนเติมเต็มทุกเรื่อง จะกลายเป็นได้รับการสนับสนุนผลักดันตรงเป้าทุกอย่างประเสริฐเช่นนั้นทีเดียว

    ตะกรุดคู่นี้
    จะนำมาซึ่งความสำราญทั้งทางกายและทางใจได้อย่างน่าประหลาด นั่นคือบริบูรณ์ทั้งทางโลกและทางธรรมไม่สั่นคลอนทั้งยังคอยป้องกันเหตุเภทภัยอันตรายแวดล้อมทุกประการ เป็นตะกรุดคู่ที่จะคอยเสริมอำนาจวาสนาเสริมบารมีหนุนดวง เปลี่ยนคนธรรมดาให้ไม่ธรรมดาอีกต่อไปทั้งไม่มีเหตุมาทำให้อับจนเลยหากปรารถนาชัยชนะในกิจใดก็ไม่รู้ความพ่ายแพ้ตามแต่จะปรารถนาทั้งโชคลาภก็สำเร็จได้ดั่งใจทุกประการไม่อดอยากยากจนเจริญด้วยลาภสักการะ ไปที่ใดคนก็สรรเสริญเข้าหาสิ่งใดที่ไม่เคยมีก็จะมีสิ่งที่ไม่เคยได้จะพลันได้รับ ### จะมีวาสนาซ้อนทับอยู่ในโชควาสนาเสมอๆเรียกว่าได้อะไรมักได้ซ้อนสองเท่าได้รับมากกว่าเดิม ไม่ได้เพียงทางเดียวเรื่องเดียวแต่ซ้อนทับมาหลายเรื่องพร้อมกัน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งนี้แม้เพียงพกพาไว้ยังจะถ่ายเทให้ร่างกายเราซึมซับสิริมงคลและพลังศักดิ์สิทธิ์จะดึงดูดสิ่งที่เหมาะสมคู่ควร ***ไม่ก่ออาเพศเป็นต้นเหตุของปัญหาในภายหลัง ทั้งยังเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่คอยพยุงชีวิตทุกย่างก้าวคอยดึงไม่ให้เราตก,คอยดันไม่ให้เราช้า,คอยพัดพาให้รุ่งเรืองได้ไวแบบไม่ผิดพลาด

    1. อยู่ติดกายภูติผีปีศาจไม่เข้าใกล้ตัวเราเลย
    2. กิจการที่ทำไว้ทั้งหมดก็คล่องตัวไม่ขาดช่วงขาดตอน
    3. จะไม่ก่อเกิดความเสียหายอันจะทำลายความสมดุลย์ชีวิต
    4. แม้วางไว้ในเคหะสถานบ้านเรือนก็คุ้มบ้านได้
    5. จะได้สิ่งที่คิดหวังแบบคาดไม่ถึง
    6. จะได้สิทธิ์ในสิ่งที่ไม่สามารถอ้างสิทธิ์ได้และไม่ใช่ของเรา
    7. จะปัดเป่าอุปสรรคทั้งหมดออกไปจากชีวิต

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเหนือสิ่งอื่นใดก็คือการอ้างสิทธิ์ให้ได้มาในสิ่งที่เราไม่มีสิทธิ์ นี่คืออำนาจแห่งครูบรมพรหมสหัมบดีดุจดั่งการกำหนดมนุษย์วิสัย..ทุกสิ่งย่อมไม่เกินวิสัยที่มนุษย์จะได้ครอบครองแม้สิ่งที่อยู่นอกเหนือฐานะรวมไปถึงวาสนาชะตาเราแล้ว หากปรารถนาและตั้งใจทำก็ยังได้กรรมสิทธิ์ดุจพรหมลิขิตขีดไว้ให้เป็นของเราตั้งแต่แรก

    วิธีใช้
    พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะบนบานศาลกล่าวสิ่งใดก็บนได้เลยไม่ต้องเปิดตลับแม้พกพาใช้ก็ไม่ต้องเปิดหรือสัมผัสสีผึ้งเลยอธิษฐานเอาก็สำเร็จ...*** เว้นไว้เสียแต่หากอยากเปลี่ยนแปลงพรหมลิขิตชีวิตตัวเองให้เอานิ้วชี้มาวางไว้ที่ลูกอมพรหมจินดาแล้ววนนิ้วเป็นวงกลมไปสัมผัสองค์เหล็กไหลก่อนลากกลับมาที่ลูกอมพรหมจินดาและชักปาดมาที่ศูนย์กลางตะกรุดทั้งสอง(ระหว่างนั้นให้อธิษฐานไปด้วย) เสร็จแล้วจึงเจิมหน้าผาก

    พ่ออจารย์ท่านว่าสีผึ้งนี้แม้เพียงพกติดตัวก็เป็นยอดกว่าคนอื่น..อุปมาว่าจะอยู่เหนือมนุษย์ทั้งหลาย
    - จะเอาดีได้มากกว่าชีวิตที่ผ่านมา
    - จะมั่งมีมากกว่าช่วงชีวิตที่ผ่านมา
    - จะสูงส่งมากกว่าฐานะเก่าในชีวิตที่ผ่านมา
    - จะได้รับง่ายกว่าช่วงชีวิตที่ทำมา
    - จะเป็นศูนย์รวมของความช่วยเหลือเกื้อกูลแลเมตตา

    สีผึ้งนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่หนีทรัพย์เรียกได้ว่าทรัพย์เก่าไม่หายไม่ขาดแม้สิ่งที่หายไปก็จะทยอยได้คืนมาจนเติมเต็มและเติบโตขยับขยายออกไป

    จะปลอบประโลมชะตาชีวิตตามปกาศิตบรมพรหมสหัมบดีว่า...
    "หากไม่เกินมนุษย์วิสัยแล้วจงได้มาอย่าช้าที" ทั้งชะตาต่อจากนี้จะไม่มีสิ่งใดขาดหายและขาดแคลนไม่ว่าช่วงเวลาชีวิตที่ผ่านมาจะเจอสิ่งใดมาก็ดี..จะขาดไปเพียงใดก็ดี..จะเผลอทำสิ่งใด(ความสุขต่างๆ)ตกหายไประหว่างดำเนินชีวิตก็ดี..ทุกสิ่งจะได้รับกลับคืนมาในรูปของความสุขไม่มีสิ่งอันเป็นทุกข์ย้อนกลับเลย

    *** สีผึ้งนี้เป็นเหมือนยาอายุวัฒนะป้ายในน้ำเพียงเล็กน้อยดื่มกินท่านว่าดับทุกข์เข็ญเคราะห์ภัยในเนื้อตัว
    - สิ่งใดที่ยึดเกาะฝังแน่นเกาะติดอยู่ในกายเราเอาไม่ออก
    - สิ่งใดที่แอบแฝงดุจปรสิตคอยสูบวาสนาชะตาเรา
    - สิ่งใดที่เข้ามาโดยที่เรามองไม่เห็นและไม่รู้เนื้อรู้ตัว
    - สิ่งใดที่คอยตามรังควานเกาะกิน
    - สิ่งใดที่อาฆาตพยาบาทติดตามบ่วงเวรกรรม
    - สิ่งใดที่เป็นอัปมงคลซ่อนเร้นเกินสติปัญญาจะแก้ไข
    - สิ่งใดที่ให้โทษและคอยฉุดดึงให้เราตกต่ำ


    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    ดื่มกินแล้วอุปมาว่าปลดพันธนาการจากภายใน ข้อนี้ครูพรหมสหัมบดีท่านให้บอกไว้เท่านี้เพราะมันมีคุณมากและยิ่งใหญ่พอที่จะเปลี่ยนชะตาคนได้โดยง่าย เหตุการณ์ที่จะให้คุณประเสริฐมากกว่านี้กับเขาต้องปล่อยให้เขาพบเจอระหว่างใช้ชีวิตตามวิถีของตัวเอง แต่พูดได้ว่านอกจากล้างอาถรรพ์ต่างๆภายในแล้วแม้ในทุกย่างก้าวในการใช้ชีวิตนั้นเธอจะอยู่รอดปลอดภัยในทุกๆเรื่อง ในเส้นทางของเธอจะไม่มีภูติผีปีศาจมารังควานอีกต่อไปทั้งคิดการทำสิ่งใดก็เป็นมหาสมปรารถนา *** หากมีสิ่งใดที่ไม่เกินวาสนาของตัวเอง(เรื่องที่คาดการว่าเป็นไปได้)พ่ออาจารย์ท่านว่าให้พึงตั้งสัจจะอธิษฐาน "ขอรับเข้ามาสู่ชีวิตในบัดเดี๋ยวนี้เวลานี้เทอญ" พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละมหาสมปรารถนา

    ผู้ใดแม้นมีวาสนาครอบครองให้ถือเป็นสิริมงคลสูงสุดที่จะได้เปลี่ยนชะตาชีวิตอุปมาเหมือน 1 ดัชนี้ใชีขีดเส้นชี้ชะตาของตนเอง แม้นพกพาอาราธนาไว้ครูบาอาจารย์ท่านไม่ทิ้งไปไกลตัวเลยเปรียบเสนมือนกายนั้นได้รับการปกปักรักษาด้วยความเอื้ออารีย์ทั้งครูบาอาจารย์เทพพรหมมากมายยังมาคอยช่วยเหลือเปิดทาง ถือไว้ติดกายดุจดังได้แก้ววิเศษสารพัดนึกเพียงต้องการก็นึกเอาจะประสบความสำเร็จทุกๆด้านแลไปทิศใดก้สว่างไสวไม่มืดมนเพราะครูบาอาจารย์(กายทิพย์ครูพรหม)ไม่ทอดทิ้งเลย เรื่องใดที่ไม่เหนือกว่ากรรมเกินกว่ามนุษย์วิสัยก็ไม่ใช่ของยาก...พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องมงคลชิ้นนี้ถือเป็นวัตถุเกินตัวเกินคุณค่าไปมาก ท่านจึงให้ลงรายละเอียดเพียงคร่าวๆเพราะของบางอย่างเรื่องบางเรื่อง ก็มีเพียงบางคนที่กระแสกาลเวลาพัดพามาได้ถูกจังหวะถูกช่องทางเท่านั้นจะนะไปถือครอง ..ท่านว่าทุกอย่างมันจะรวดเร็วและคล่องตัวทั้งหมด

    คาถาบูชา
    (คาถาเมื่อเานิ้วชี้(ดัชนี)สัมผัสสีผึ้งเพื่อจะวนตามพิธีกรรม จะมอบให้ตกทอดเฉพาะผู้เป็นเจ้าของเท่านั้น)

    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลและอาชีพหลักอาชีพรองที่ตัวเองทำไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะอธิษฐานจิตบอกครูพรหมให้อีกวาระหนึ่ง

    ร่วมทำบุญบูชา โอสถฟ้าดัชนีชี้ชะตาสำเภานาวาแล่นตรงฝั่ง(ปลอบประโลมมนุษย์วิสัยใช้พรพรหมสหัมบดี) บูชา 4,000 บาท
    364215345-679293760250353-7733085920431538409-n.jpg
    996b91a9ce17a76dd30b3aa0b44086c0.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2023
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    *** หากมีสิ่งใดที่ไม่เกินวาสนาของตัวเอง(เรื่องที่คาดการว่าเป็นไปได้) พ่ออาจารย์ท่านว่าให้พึงตั้งสัจจะอธิษฐาน "ขอรับเข้ามาสู่ชีวิตในบัดเดี๋ยวนี้เวลานี้เทอญ" เรื่องใดที่ไม่เหนือกว่ากรรมเกินกว่ามนุษย์วิสัยก็ไม่ใช่ของยาก...

    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    เครื่องมงคลชิ้นนี้ถือเป็นวัตถุเกินตัวเกินคุณค่าไปมาก ท่านจึงให้ลงรายละเอียดเพียงคร่าวๆเพราะของบางอย่างเรื่องบางเรื่อง ก็มีเพียงบางคนที่กระแสกาลเวลาพัดพามาได้ถูกจังหวะถูกช่องทางเท่านั้นจะนะไปถือครอง

    ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุล และอาชีพหลักอาชีพรองที่ตัวเองทำไว้ด้วย
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    วันนี้ตอบ PM ที่ค้างไว้ครบนะครับ
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ใครชอบสายกุมารติดตามกันนะ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พี่ครูนาจาราชันอัคคีเหยียบเผ่ามังกร(ฝังหุ่นเทพน้อยตรีกาลมหาสะเดาะ)

    *** พี่นาจาให้คุณมากเหลือประมาณ
    เพราะเป็นยอดแห่งอิทธิฤทธิ์คุมทัพฟ้าทั้งสี่ทิศปราบปรามหมู่มารจึงมีฤทธิ์มากกว่าเทพเซียนหรือกุมารใด ทั้งยังมีจิตใจเอื้ออารีย์ของความเป็นเด็กรู้จักรักรู้จักเกลียดทั้งกตัญญูต่อผู้เอ็นดูตนเป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านจึงรับคำยอดเซียนเต๋า(องค์หยวนสือเทียนจุน)ให้ทำกุมารนาจาไว้โดยทำเป็นรูปนาจาเหยียบมังกรจะยิ่งให้คุณมาก
    - เพราะนาจาข่มอ๋องข่มเผ่าพันธ์มังกรไว้ทั้งหมด
    - กุมารนี้จะสะกดข่มผู้ที่มีอำนาจมาก
    - ชนชั้นสูงที่เราเอื้อมไม่ถึงล่วงเกินไม่ได้ทั้งหลายจะดึงลงมาอยู่ใต้เท้าเราทั้งสิ้น

    คนที่ถูกกระทำโดยพวกชอบใช้อำนาจไปในทางที่ผิด..คนที่โดนของ..โดนสะกด..โดนข่มหรือคนที่เกิดมาวาสนาต่ำมีชะตาต่ำไม่อาจลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงตัวเองได้
    พ่ออาจารย์ท่านว่ายอดเซียนเต๋าท่านให้รับองค์นาจา(พี่นาจา)ไปบูชา จะเปลี่ยนชีวิตตนได้ฉับพลัน ด้วยองค์นาจานั้นมีอาญาสิทธิ์ของเง็กเซียนหรือถือโองการสวรรค์ที่ตรีโลกไม่กล้าขัดขืนอยู่กับตัวไปไหนจึงผ่านได้ตลอดทั้งเซียนทั้งมารต้องเปิดทางให้ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตจะได้ไม่โดนกลั่นแกล้งจากเทพมารปีศาจใด ทั้งอธิษฐานขอสิ่งใดจากเทพทั้งหลายย่อมผ่านสะดวกสัมฤทธิ์ผลเพราะองค์นาจาเปิดทางเหล่าทหารสวรรค์ที่คอยเฝ้าศาลในศาลทุกที่

    *** อาถรรพ์พี่นาจาเหยียบเผ่ามังกร
    ด้วยมังกรคือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แห่งฟ้าดินมีอยู่ทั้งในทะเล ในฟ้าสวรรค์ แม้ที่ขดตัวอยู่ตามผืนดินและภูเขา มีทั้งที่เป็นมิตรและร้ายกาจ การที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างองค์นาจาและปลุกจิตท่านขึ้นมาในรูปเหยียบหัวมังกรนั้นท่านว่าองค์นาจาท่านดีใจมากและบอกว่ารู้ใจท่านมาก ทั้งองค์นาจายังจะปราบพยศมังกรทุกเผ่าพันธ์ให้นำมาซึ่งความสุขและความอุดมสมบูรณ์แก่ตัวผู้บูชาและคนในบ้าน องค์นาจาท่านว่าเผ่าพันธ์มังกรทั้งหลายนั้นมีมากได้แก่
    1.มังกรปกติ มีอำนาจมากสามารถทำให้เกิดฝนได้แม้เสียงใครได้ยินก็หูหนวกโดยสิ้นเชิง
    2.มังกรไฟ เป็นมังกรมีปีกและเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีนิสัยดุร้าย
    3.มังกรฟ้าสวรรค์ ที่มาจากฟ้าสวรรค์เป็นอมตะนิรันด์เป็นมังกรในหาดสวรรค์ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองปราสาทราชวังของเทพเจ้าบนสรวงสรรค์ และเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของฮ่องเต้
    4.มังกรวิญญาณ เป็นมังกรที่บันดาลให้เกิดลมฝนเพื่อประโยชน์ต่อการเกษตรต่อมนุษย์ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของจักรราศี
    5.มังกรบาดาล เป็นมังกรเฝ้าทรัพย์สมบัติในแผ่นดิน จะรักหวงแหนดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดในโลกอันตกทอดมาจากยุคดึกดำบรรพ์
    6.มังกรเหลือง เป็นมังกรเจ้าปัญญา มีความรู้แจ้งต่อสรรพสิ่ง
    7.มังกรอารักษ์ เป็นมังกรที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรและในทะเลมักอาศัยอยู่ในหนองน้ำใกล้ๆกับถ้ำที่มีอากาศอับชื้น และมังกรประเภทนี้ก็อาศัยแม้ในบ้านของมนุษย์
    8.พญามังกร ปกครองสี่สมุทรคือทะเลเหนือใต้ออกตก

    ปางนี้จึงปราบทุกเผ่าพันธุ์ดึงเอากำลังของมังกรทุกสิ่งมามอบให้กับผู้บูชา เหมือนตอนนาจาถลกเอ็นมังกรทำเสื้อเกราะให้พ่อ ...ด้วยมังกรนั้นมีความสามารถที่จะทำตัวเองให้มีขนาดใหญ่เท่ากับจักรวาลหรือมีขนาดเล็กเท่ากับหนอนไหมก็ได้จึงถือเป็นเคล็ดว่าเมื่อองค์นาจาปราบข่มมังกรไว้ชีวิตเราต้องมีแต่ใหญ่โตขึ้นไม่เล็กลงเด็ดขาด ทั้งยังได้คุณของมังกรทั้งความทะเยอทะยาน,ความฉลาดเจ้าปัญญา,เด็ดขาดทรงพลังมาส่งเสริมจิตวิญญาณตัวเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าพี่นาจาข่มมังกรไว้ให้ส่งต่อเฉพาะคุณของเขาแก่เราไม่เอาโทษนี่คือการปราบปรามอย่างเด็ดขาด เพราะปกติมังกรมักจะโกรธง่ายและให้โทษผู้คน แต่นี่ท่านกลับบังคับให้มังกรคายแก้วดุจมังกรคายมุกจันทรามุกแห่งความอุดมสมบูรณ์เสริมส่งชีวิตผู้บูชา ให้มีแต่ความเจริญงอกงามมีโชคลาภวาสนาอายุยืนยาว คอยปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายดุจสะกดข่มความยิ่งใหญ่ๆใดทั้งปวงที่กดทับชีวิตเราจนโงหัวไม่ขึ้น
    - ทำลายอำนาจที่เราต่อต้านไม่ได้ทั้งที่มองเห็นหรือไม่เห็นก็ดี
    - ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่มาจากไหนมีอำนาจบารมีดุจเทพเจ้ามากเพียงใดองค์นาจาท่านข่มไว้ดุจเหยียบมังกรทั้งสิ้น
    - แก้ไขคนที่โดนกระแสคลื่นลมและมีชีวิตเปลี่ยนแปลงไปตามอำนาจความคิดผู้อื่นที่เหนือกว่าตน
    -หยุดพ่ายแพ้แก่ผู้ที่มีอำนาจมากกว่าในทุกด้าน

    ด้วยมังกรเป็นตัวแทนของธาตุ,ทั้งน้ำ,ความอบอุ่น,ทะเล,ผืนดิน,ธรรมชาติ..อันเป็นพลังสูงสุดของโลกและสิ่งที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย เมื่อองค์นาจากดมังกรเอาไว้ย่อมข่มสิ่งที่ดูยิ่งใหญ่ทั้งปวงรอบข้างเราให้อ่อนน้อมตามไปด้วย ทั้งธรรมชาติและพลังงานจะปกป้องเราให้รอดพ้นจากภยันตรายต่างๆ คนที่ยิ่งใหญ่เหนือคน คนที่สูงกว่าคนจะอ่อนน้อมกับเราและชะตาเราจะเดินขึ้นไปอยู่ในจุดนั้นแทน พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์นาจาเหยียบหัวมังกรนั้นถือได้ว่าแทนวาสนาที่อยู่สูงสุดของสิ่งมีชีวิตที่อยู่สูงที่สุดเหนือทุกเผ่าพันธ์ ดังนั้นองค์นาจานี้จะนำมาซึ่งความโชคดีสูงสุดเช่นกัน

    หากจะกล่าวถึงกุมารวิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านประยุกต์หลายศาสตร์วิชาเพื่อสร้างยอดกุมารคงหนีไม่พ้นองค์นาจา ตามที่เห็นกันคือองค์นาจานั้นจะปรากฏในรูปลักษณ์ของเด็กผู้ชายยืนเหยียบอยู่บนกงจักร(วงล้อไฟ)และมักจะถืออาวุธคือหอกและห่วงติดกายเสมอ เทพองค์นี้มีอิทธิฤทธิ์มากและมีหน้าที่ใหญ่(สำคัญ)มากสามารถเหาะเหินเดินอากาศไปที่ไหนที่เทพเซียนไปไม่ได้ก็ล้วนไปได้ทั้งสิ้นเพราะมีกงล้อไฟเป็นพาหนะ เรียกว่าไม่มีที่จำกัดหรือเข้าไม่ได้เลย มีอำนาจมากในทางปราบมารและปีศาจ พ่ออาจารย์ท่านจึงยกว่าเป็นเทพกุมารที่เก่งมาก ทั้งเง็กเซียนฮ่องเต้ยังแต่งตั้งเป็นแม่ทัพสวรรค์เสมอด้วยเทพเอ้อหลางที่ทำหน้าที่ปกป้องประตูสวรรค์นั่นทีเดียว แต่นาจานั้นกลับมีหน้าที่พิเศษอยู่อีกนั่นก็คือเป็นองครักษ์ขององค์เง็กเซียนโดยตรง(พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเก่งมากๆจริงๆถึงรับหน้าที่ตรงนี้ คนจะไม่ค่อยรู้กันว่าท่านเก่งขนาดไหน) องค์กุมารนาจานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีศักดิ์ใหญ่มากเพราะมีตำแหน่งเป็นแม่ทัพฟ้าสามารถบัญชาการทหารสวรรค์หรือเซียนที่มีฤทธิ์แกร่งกล้าเป็นทหารของชั้นฟ้าได้ทั้งสี่ทิศ(ควบสี่เหล่าทัพเลย)

    โดยนิสัยขององค์นาจานั้นจะเป็นเด็กที่ซนมากและไม่กลัวใครทั้งสิ้น ทั้งยังเป็นอริถือว่าเป็นอาถรรพ์ที่ใช้สะกดข่มเหล้าจ้าวมังกรได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์กุมารนาจานั้นมีงานอดิเรกที่ชอบทำเวลาว่างคือการล่ามังกรถือเป็นเทพองค์เดียวที่เง็กเซียนยกให้เป็นพิเศษ ดังนั้นมังกรตนใดที่มีพฤติกรรมนอกรีตหรือทำความเดือดร้อนส่วนใหญ่จะโดนนาจาล่าเล่นทั้งสิ้น ดังที่ทราบกันว่านาจาเคยปราบมังกรเจ้าสมุทร ทั้งยังไปเมืองบาดาลถลกเอ็นมังกรและเสกมังกรให้กลายเป็นงูเขียว...วีรกรรมทางนี้นับว่ามีมาก
    - บางที่ก็ว่าท่านสังหารพญามังกรถึงเก้าตน
    - บ้างก็ว่าท่านสังหารมังกรโอรสเจ้าสมุทร
    - บ้างก็ว่าท่านฆ่าไม่เหลือโดยใช้ธนูของพระยูไลยิงตาย
    เช่นนั้นจึงถือว่า
    ท่านมีอิทธิฤทธิ์มาก...มากเกินเด็กเกินกว่าเทพทั้งหลายจะมีได้ด้วยซ้ำทั้งยังเป็นที่นับถือศรัทธาของฝูงชนได้รับการสักการะมายาวนาน

    เมื่อนาจาสำแดงฤทธิ์ตัวจะสูงถึงเก้าเมตร..ศรีษะจะมีกงจักร..พร้อมทั้งสามเศียรแปดกร..มีตาเซียนเก้าดวงมีฤทธิ์พ่นควันพ่นไฟในมือถือกฤษฏีกาของเง็กเซียนฮ่องเต้(แม้เหล่าเทพมารปีศาจก็ไม่กล้าขัดโองการสวรรค์ที่ท่านถือไปไหนมาไหนตลอด)ทั้งเหล่ามารต่างก็สยบต่อท่านทั้งสิ้นด้วยท่านคุมทัพสวรรค์มีกองกำลังส่วนตัวไว้ใต้บัญชาอีกสามหมื่นสามพันนาย มีอาณาเขตตระเวณรอบพระราชวังสวรรค์ของเง็กเซียนได้ ทั้งยังเป็นผู้ปราบและกำราบมังกรทั้งมวล(พ่ออาจารย์ท่านจึงทำองค์นาจาเหยียบหัวมังกรเอาไว้)

    พ่ออาจารย์ท่านว่า นาจามีกำลังประเสริฐเพราะสามารถง้างคันธนูของพระยูไล (โดยนัยยะว่าเป็นคันธนูที่พระสิทธัตถะเคยง้างยิงหรือสหัสถามธนู) ที่ได้ชื่อว่ามีน้ำหนักมากและไม่มีเทพเซียนที่ไหนสามารถง้างได้(เป็นเด็กมีบุญจริงๆ) ด้วยนาจานั้นเป็นศิษย์ของไท่อี้เจิ้นเหริน(หนึ่งในผู้ศักดิ์สิทธิ์หรือสิบสองเทพทองคำของลัทธิเต๋า)ซึ่งบำเพ็ญพรตที่เขากันหยวนซานถ้ำจินกวง ด้วยตัวอาจารย์นั้นก็มีวีรกรรมอยู่มากในทางช่วยโลกมนุษย์สังหารมารปีศาจ ทั้งยังคอยช่วยนาจาตลอดไม่ว่าจะเก็บวิญญาณไว้ในดอกบัวหรือสร้างร่างใหม่เป็นมนุษย์บัว จะเรียกว่านาจาโชคดีที่มียอดอาจารย์ซึ่งใช้เส้นสายหาแต่ของดีๆในหมู่สิบสองเทพทองคำมาให้ศิษย์ตนก็ไม่ผิด ด้วยนาจานั้นมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว รู้จักการเสียสละและมีความกตัญญูต่อบิดามารดา

    พ่ออาจารย์ท่านว่า ถ้าจะทำกุมารที่แรงฤทธิ์และมีศักดิ์ใหญ่ในโลกก็ต้องทำองค์นาจาไว้ให้คนได้พึ่งบารมีท่าน ด้วยเหตุง่ายๆว่า
    - ไม่มีกุมารใดที่มีฤทธิ์เสมอนาจา
    - ไม่มีกุมารใดที่มีศักดิ์เป็นแม่ทัพฟ้าเสมอนาจา
    - ไม่มีกุมารใดที่มีกองทหารสวรรค์ในบัญชาการหลายหมื่นเสมอนาจา
    - ไม่มีกุมารใดที่ถือกฤษฎีกาหรืออาญาสิทธิ์โองการสวรรค์ไว้กับตัวตลอดเสมือนนาจา
    - ไม่มีกุมารใดที่บัญชาทหารฟ้าในมหาทิศทั้งสี่ได้ทุกกองพลเสมือนนาจา
    - ไม่มีกุมารใดมากฤทธิ์ล่าเหล่าจ้าวมังกรเล่นเสมือนนาจา..
    ทั้งในศาลเจ้าทุกศาลในโลกมนุษย์นาจายังมีหน้าที่คุมทหารในศาลเหล่านั้นด้วย ทั้งยังคอยดูแลพิธีกรรมต่างๆที่มนุษย์ทำหรือบนบอกขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นไปด้วยดี พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือหน้าที่ของกุมารนาจาที่คนไม่ค่อยรู้ถึงไปศาลเจ้าที่ไหนๆก็ตาม จะได้สมปรารถนากันหรือไม่ก็อยู่ที่องค์นาจาทั้งสิ้น

    เดิมนาจาคือกุมารไฟหรือราชันอัคคีอมตะมาจุติจึงมีฤทธิ์มากปราบได้ทั้งสิ้นทุกเผ่าพันธ์แบบที่ไม่เคยปรากฏมีมาก่อนทั้งยังมีการบูชานับถือมายาวนานหลายพันปี

    *** หลายเค้าเงื่อนและต้นตอซึ่งเป็นที่มาของกำลังอันมากฤทธิ์

    บ้างก็ว่านาจาคือนลกุเวรหรือบุตรของท้าวเวสสุวรรณเพราะท้าวกุเวรจีนบางที่ก็นับถือเป็นหลี่จิ้งพ่อของนาจา ทั้งด้วยพฤติกรรมของนาจาเองที่มีทั้งสภาวะของเทพและมารเหมือนสภาวะของเผ่าพันธ์ยักษ์จึงเชื่อว่านาจาคือนลกุเวรก็มี แต่ในบางที่ก็เชื่อว่านาจาคือพระกฤษณะเพราะพระกฤษณะเจ็ดขวบก็ฆ่าพญานาคเหมือนที่นาจาฆ่ามังกรทั้งยังง้างธนูซึ่งไม่มีใครง้างได้เช่นนาจา...ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาท่านสร้างนาจารุ่นนี้ท่านจึงเชิญบารมีของท้าวเวสสุวรรณและพระกฤษณะมาเสริมองค์กุมารนาจาด้วยให้มีฤทธิ์หนักขึ้นเก่งขึ้นเป็นอาญาสิทธิ์ของทุกชาติพันธ์ ไม่ว่าจะพุทธ,เต๋าหรือฮินดูพ่ออาจารย์ท่านว่าทำให้เต็มกำลังอย่างถึงที่สุุด

    *** ถือครองยอดแห่งเทพศาสตรา
    ด้วยเป็นศิษย์รักของไท่อี้เจิ้นเหริน อาจารย์จึงนำของวิเศษที่ได้จากองค์หยวนสือเทียนจุน(ปรมาจารย์เซียน)มามอบให้นาจาทั้งหมดไม่ว่าจะ
    - ห่วงเฉียนคุนหรือแพรฮุ่นเทียนที่เรียกง่ายๆว่าห่วงจักรวาลและแพรไหมฟ้า ที่มีฤทธิ์มากสามรารถขจัดมารร้ายได้ทั้งสิ้น แม้ห่วงจักรวาลนั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นยอดของเทพศาสตราเพราะเหวี่ยงถูกใครย่อมตายสนิททั้งใช้รัดรึงสิ่งใดก็ไม่มีหลุดรอดออกไปได้ใช้พันธนาการได้ทุกสรรพสิ่ง
    - ทั้งตัวนาจายังมีของวิเศษติดกายมาแต่กำเนิดคือกำไลทองคำและเอี๊ยมไหมแดงซึ่งเป็นของวิเศษที่เจ้าแม่หนี่วาประทานให้ ของวิเศษของนาจานั้นแม้เพียงแพรไหมฟ้าเมื่อเหวี่ยงลงน้ำยังสั่นสะเทือนไปถึงวังบาดาล เหวี่ยงถูกใครก็ตายเรียบไม่ว่าจะพลทหารหรือจ้าวมังกร
    - นอกจากนี้นาจายังมีกงล้อไฟเป็นพาหนะ ทั้งยังใช้โจมตีศัตรูได้
    - ไม่เพียงเท่านั้นนาจายังถือครองทวนอัคคี หรือทวนวิเศษที่หลอมมาจากเปลวสุริยันอันเป็นอัคคีเที่ยงแท้แห่งสามภพที่เผาทำลายได้ทุกอย่าง
    เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่านาจามีฤทธิ์มากทั้งยังเข้าไปได้ทุกที่ซ้ำมีศักดิ์ใหญ่มีหน้าที่ใหญ่โตไม่มีใครกล้าอวดดีกับเขา

    *** พ่ออาจารย์ให้เรียกท่านว่า "พี่นาจา"
    พูดหวานๆเพราะๆกับพี่เขานี่สารพัดที่จะขอกันทีเดียว เพราะเขาต่างจากเทพเซียนอื่นๆด้วยมีนิสัยเหมือนเด็ก เป็นเด็กอารมณ์ดียิ้มง่ายและให้การดูแลแก่คนในครอบครัวของตนมากเป็นพิเศษ เมื่อเรารับท่านไปก็เสมือนว่าเราเป็นครอบครัวของท่านแล้ว

    กดพิมพ์จากยอดมวลสาร
    องค์นาจาชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านกดพิมพ์ด้วย
    ผงวิเศษที่ผสมด้วยเถ้าฮู้ที่ท่านทำพิธีเขียนด้วยโลหิตและเผาเก็บเถ้าไว้ตามที่องค์ยอดเซียนและองค์นาจาแนะนำ ผสมด้วยผงที่มีแรงครูสูงที่สุดของท่านคือผงมหาธาตุพันสังขารของเหล่าโยคีมหาฤาษีที่บำเพ็ญยิ่งใหญ่ในตบะฌาณ พ่ออาจารย์ท่านว่าครูแต่กาลก่อนย่อมเป็นบรมครูของสรรพศาสตร์ทุกแขนงการจะทำยอดกุมารอันเป็นเอกกว่ากุมารทั้งปวงนี้จะใช้ผงพรายผงผีไม่ได้ แต่ต้องใช้ผงธาตุขันธ์ของผู้ทรงตบะอภิญญาอันแก่กล้า

    เหมือนดั่งพระอินทร์จะใช้ยอดอาวุธวชิราวุธนั้น
    ยังต้องทำมาจากแก่นกายของฤาษีผู้ยิ่งในตบะ เช่นนั้นการจะปลุกนาจายอดกุมารก็ต้องใช้สังขารอันยิ่งด้วยตบะแห่งบรมโยคีพันตนเป็นปฐม พ่ออาจารย์ท่านจึงนำผงมหาธาตุพันสังขารของเหล่าโยคีในอินเดียที่ท่านสืบเสาะหาสะสมไว้เพื่อปั้นรูปครูฤาษีของท่านนำมาผสมกดพิมพ์ พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะได้ผงนี้มาแม้อินเดียจะมีฤาษีอยู่มากแต่จะหาที่มีชาติตระกูลสูงทั้งยิ่งในตบะและสันโดษอย่างแท้จริงทิ้งร่างสังขารถอดจิตสู่พรหมโลกก็ไม่ใช่ว่าจะหาง่ายไม่เหมือนฤาษีเก๊อย่างทางบ้านเรา

    ...ก็นั่นแหละผงนี้จึงเป็นที่สุดแห่งอำนาจตบะบารมี
    ดั่งมีอำนาจแห่งโยคีพันองค์คอยพิทักษ์รักษากว่าจะรวบรวมมาได้ต้องใช้อุตสาหะคอยสืบคอยตามอยู่นานปีเพื่อให้ได้ผงอาถรรพ์ที่มีแรงครูสูงสุดเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงว่าเป็นยอดผงแม้ช้อนชาละเป็นแสนก็ขายไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านนำมาผสมเข้ากับผงยันต์พระเวทย์ที่ท่านลบถมไว้..ตลอดจนผงอาถรรพ์ที่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยุคโบราณทำฝังไว้ตามถ้ำ..ตามปราสาท..ตามเจดีย์ร้าง

    ด้านหลังฝังเครื่องมงคลเสริมอิทธิคุณให้เทพกุมารนาจามีฤทธิ์แก่กล้ามาก
    - หุ่นเทพน้อย(เจ้ามารน้อย) ที่พ่ออาจารย์ท่านแกะขึ้นและเสกไว้ตามตำรับครูพระศรีอาริย์...ท่านว่าพระศรีให้เราเอาไม้มะเขือบ้ามาแกะหุ่นเทพน้อยท่านว่าเป็นบริวารของท่าน เอาไว้ช่วยเหลือเวลาใครขออะไรจะช่วยได้เต็มที่แต่ก็ไม่เกินวาระกรรมของเขา พ่ออาจารย์ท่านว่าเราก็แกะแต่ไม่มีปัญญาเสก เพราะหุ่นเทพน้อยนี้ต้องเชิญพระศรีท่านมาทำมากำกับบริวารของท่านเองเรามีหน้าที่ทำและดูอย่างเดียวพระศรีท่านให้เอาหุ่นนี้แช่น้ำมนต์ในขันสัมฤทธิ์ท่านจะทำให้เพราะท่านถือว่าน้ำเป็นบ่อเกิดเป็นปัจจัยแห่งชีวิตสิ่งมีชีวิตจะขาดน้ำไม่ได้เหมือนท่านจะหนุนธาตุน้ำนำหน้า และหุ่นนี้ก็นับว่าแปลกเพราะพระศรีท่านตั้งใจใช้ให้ลงไปช่วยคนเอาว่าเรื่องอะไรที่มันไม่ใคร่จะงาม สองแง่สองง่าม ดูไม่อยู่ในหลักในธรรมเท่าไหร่ เรื่องแบบนี้ให้บอกกับเทพน้อยรับรองว่าได้เรื่อง เทพน้อยเป็นเทพวิชาที่ใช้ให้มนุษย์ได้มีโอกาสสร้างบารมี พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นเทพน้อยนี่อาถรรพ์แรงใช้อะไรเขาก็สู้ไม่ถอยและสู้จนตาย ตอนพระศรีท่านเชิญท่านทำของท่านเสร็จเราเห็นเป็นรัศมีสีเขียวจับที่ตัวหุ่น เอาว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัตตังแต่จงรู้ไว้ว่าหุ่นนี่มีชีวิตเวลาเดือดร้อนอะไรหรือต้องการอะไรขอให้บอกกล่าวให้เทพน้อยช่วย เขาจะช่วยเธอได้..จะช่วยเหลือใครก็ไวทันตาเห็น ### เราตั้งเสกไว้นานและเห็นฤทธิ์มามากจึงนำมาฝังไว้กับนาจาหนุนแรงสองกุมารให้แสดงฤทธิ์ได้รุนแรงขึ้นทั้งภาคบู๊และภาคปัญญา....กุมารที่ดีนอกจากมีฤทธิ์มากยังต้องมีปัญญาฉลาดเป็นกรดถึงจะยกพ่อแม่ขึ้นสูงสุดได้ เช่นนี้การรวม 2 ยอดกุมารจะเป็นกุมารที่เก่งที่สุดควรค่าให้โลกต้องจดจำตลอดไป พ่ออาจารย์ท่านว่าสารพัดจะใช้เลย

    - ตะกรุดเวทย์สวรรค์สามกษัตริย์(ตรีกาลมหาสะเดาะ) พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดสามกษัตริย์นั้นหากนำมารวมกันก็จะเกิดเป็นเนื้อสัมฤทธิ์ จึงมีความหมายมงคลให้ความปรารถนาที่ตั้งไว้ทุกสิ่งสัมฤทธิ์ผลเป็นสูตรทำตะกรุดว่าด้วยวิชาแก้เคราะห์กรรม หากพูดถึงวิชาแก้เคราะห์แล้วตัวนี้ท่านว่ามันต่างกับเคราะห์ทุกตัวด้วยเป็นเวทย์สวรรค์ที่ออกจากโอษฐ์พระเป็นเจ้าจะเรียกว่าเวทย์ดึกดำบรรพ์ก็ได้ โดยปกติวิชาแก้เคราะห์จะหมายให้แก้เคราะห์ฉาบฉวยหรือเคราะห์ที่มันหนักๆเอาให้ถึงตายเป็นครั้งคราวให้ผ่านเรื่องแรงๆได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่เคราะห์รายวันเล็กๆน้อยๆก็ยังเจอยังต้องปวดหัวคลี่คลายกันต่อไป ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าให้สังเกตุเอาก็ดวงดาวทั้งหลายยังเคลื่อนตัวไม่หยุดที่จะให้พระเคราะห์ไม่ทำงานนั้นจะเป็นไปได้ที่ไหน ถึงหลายๆครั้งมหาเคราะห์เช่นนั้นจะเบาลงไม่ถึงแก่ชีวิตแต่ก็ยังมีผลของเคราะห์กรรมอยูดีด้วยมนุษย์นั้นเกิดมาเพื่อเสวยกรรม แต่วิชานี้กลับระบุครอบคลุมเคราะห์กรรมสามสถานนั่นคือ
    1. เคราะห์วัน
    2. เคราะห์เดือน
    3. เคราะห์ปี

    เรียกว่าหากล่วงออกมาจากเคราะห์สามสถานนี้ก็ไม่มีเคราะห์หามยามร้ายใดไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่กล้ำกรายได้อีกแล้ว ถึงจะหยุดการเคลื่อนไหวของดวงดาวไม่ได้แต่ก็ล่วงเคราะห์ด้วยเวทย์สวรรค์ ด้วยอาญาสิทธิ์แห่งพระเป้นเจ้า ซึ่งเคราะห์สามสถานนั้นครอบคลุมชีวิตคนทั้งชีวิตไม่ว่าจะเคราะห์วันตลอดจนเดือนหรือปี พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้มันสอดคล้องกับการจะเปลี่ยนชีวิตคนที่ยากลำบากให้มีชีวิตแบบหมูๆ..กินแบบหมูๆ..สบายแบบหมูๆ

    วิธีขอพร
    ท่านว่าให้ตั้งใจ,ตั้งจิตดีๆจับที่ห่วงจักรวาลในมือที่พี่นาจาชูอยู่ ..ตั้งสมาธิแล้วนึกสิ่งที่จะเอา
    - อยากได้อะไรก็เอาห่วงนี่ไปคล้องจับ
    - ชีวิตขาดอะไรก็เอาห่วงไปคล้องจับ

    - ชีวิตอยากเป็นอะไรก็เอาห่วงไปคล้องจับ
    อยากได้อะไรอยากเป็นอะไร
    อยากเลื่อนขั้น,อยากได้ใจคน,อยากได้เงิน,อยากได้บ้าน,อยากได้รถ,อยากได้คู่ครอง...อยากได้อะไรก็คล้องอันนั้น ให้เธอทำจิตนิ่งๆตั้งสมาธิดีๆเอาห่วงไปคล้องรูปจินตภาพนั้นไว้ ท่านว่ายิ่งทำบ่อยยิ่งได้ไว เพราะเค้าคล้องไว้แล้วไม่มีวันหลุดเลย พอคล้องได้ก็ให้ลากมาหาเราทันที ยิ่งทำบ่อยจุดหมายยิ่งใกล้ความสำเร็จยิ่งเห็นง่ายเพราะทุกอย่างลงตัวไปหมด ใครก็ขัดก็ขืนฤทธิ์องค์นาจาไม่ได้

    คาถาบูชา
    นำมอ หน่าจาซาไท้จื้อ นำมอ หน่าจาซิ้งเซียงฮุก นำมอ หน่าจาตงตั๊วหง่วงส่วย

    รายการนี้เป็นของอาถรรพ์ที่ใช้เหยียบหัวมังกรขึ้นสู่ที่สูง ดังนั้นคนที่ชีวิตไม่มีวาสนามากพอจะไปอยู่ในจุดนั้นได้..เขาก็จะชวดไปแบบง่ายๆ ด้วยการตัดสินใจแบบหลับหูหลับตาเพราะองค์นาจาจะบังตาไว้ทั้งหมด ### ทั้งกุมารนาจารุ่นนี้ยังไม่ต้องการการเลี้ยงดู เครื่องเซ่น ไอธูป ควันเทียนใดๆทั้งสิ้น ด้วยเป็นเทพบดีที่มีศักดิ์สูงต้องการเพียงการเปิดอกพูดคุยกับเราด้วยความจริงใจไม่เสแสร้งแกล้งทำ..อยากได้อะไรก็บอกท่านไปหากไม่ใช่เรื่องผิดหนักหนาสาหัสร้ายแรงย่อมเป็นไปได้ องค์นาจานั้นเป็นเทพมารคือมีอารมณ์ร่วมไปกับเราทุกอย่าง มีทั้งความเป็นเทพและมารอยู่ในตัวตนของท่านอาจกล่าวได้ว่าเป็นเทพองค์เดียวที่ช่วยเราได้ทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องที่เราขอจะถูกหรือผิด ขอเพียงถูกสำหรับเราท่านช่วยทั้งหมด เพราะท่านไม่ได้เป็นเทพที่เคร่งครัดหรือเป็นเทพที่วางตัวสูงส่งไปเลยแบบเทพทั้งหลายหากแต่ท่านเป็นกันเองและปกป้องคนของท่าน

    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้สั่งจองให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะอธิษฐานเปิดโลกเปิดบารมีของตัวท่านเองและบอกกล่าวให้องค์กุมารนาจาคุ้มครองอีกคำรบหนึ่ง

    ร่วมทำบุญบูชา พี่ครูนาจาราชันอัคคีเหยียบเผ่ามังกร(ฝังหุ่นเทพน้อยตรีกาลมหาสะเดาะ) บูชา 4,000 บาท
    363776862-668147245349815-710566887897116542-n.jpg 363485136-886780512278732-906465596321301662-n.jpg
    1080700-img-t2bglc-4p.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...