ร่วมทำบุญบูชา พระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์ชุดปฐมพุทธันดร(มหาเสาร์ล้างอาถรรพ์) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา เทพศาสตราวิญญาณมหากาลสุทรรศนจักรราชัน(วิถีหมื่นพันผันแปร)

    ตามคติความเชื่อในเรื่องเทพศาสตรานั้น จักรรัตนะนับว่าเป็นอาวุธวิเศษซึ่งมีอานุภาพมากและก็มีหลายชนิด ทั้งจักรของพระเป็นเจ้า จักรของเทพเจ้า จักรของพระโพธิสัตว์และจักรของพระจักรพรรดิ์ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าจักรแต่ละตัวก็มักจะมีชื่อเรียกต่างๆเป็นชื่อเฉพาะของเค้าไปดุจชื่อที่เราเรียกคน เช่นนายเอ นายบี ทั้งนี้ก็เพราะเค้ามีชีวิต แต่หากจะกล่าวถึงจักรที่เป็นเจ้าแห่งจักรทั้งปวงแล้วก็ต้องยกให้จักรพระนารายณ์นั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่านามของจักรนารายณ์นั้นถูกยกอ้างอิงขึ้นมาพูดหลายครั้ง และคนทำก็หาได้เข้าใจถึงแก่นแท้ของเขาไม่ จึงทำได้เพียงชื่อไม่อาจสมบูรณ์พร้อมทั้งรูป นาม และพลังเทพวิญญาณ ตามลัทธิพราหมณ์ถือว่ากงจักรของพระนารายณ์นี้ปราบได้ทั้งโลก แม้สวรรค์ อสูรพิภพและใต้บาดาล มีอิทธิฤทธิ์มากมายเหลือคณานับเป็นอาวุธวิเศษที่ใช้ทำลายจักรวาลได้อีกชนิดหนึ่ง ซึ่งพระนารายณ์จะทรงอาวุธนี้เสมอ เมื่อกล่าวถึงจักรพระนารายณ์แล้วพ่ออาจารย์ท่านก็ได้นำสุทรรศนจักรที่ท่านทำพิธีหล่อเก็บไว้เมื่อสามปีก่อนออกมา ท่านว่าหากจะทำจักรพระนารายณ์ก็ต้องทำให้ได้อย่างนี้

    ***สิ่งที่น้อยคนนักยากจะรู้
    สุทรรศนจักรนั้นเป็นตัวแทนของมหาจักรวาลที่หมุนวนแสดงถึงห้วงสังสารวัฏ อันเป็นสถานที่ตั้งอยู่ให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายได้พึ่งพาอาศัย เปรียบได้กับวงโคจรของมหาจักรวาลนั้นเอง ทั้งการปรากฏของสุทรรศนจักรยังได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนสิ่งดีงาม เป็นรูปลักษณะของกาลอันเป็นมงคลทั้งปวง ซึ่งในอำนาจของเทพอาวุธนั้นนับว่ามีพลังทำลายล้างร้ายแรงยิ่ง ด้วยสามารถใช้ประหารศัตรูอันเป็นสิ่งมีชีวิตไม่จำกัดเผ่าพันธุ์ได้ทุกชนิด ทั้งยังเลือกจำกัดอำนาจพลังทำลายเฉพาะคนหรือจะทำลายให้เป็นภัยพิบัติในวงกว้างก็ได้ ทั้งนี้สุทรรศนจักรยังใช้เปลี่ยนวิถีวงโคจรของดวงดาวที่แม้แต่อำนาจของเทพเจ้ายังทำไม่ได้ ทั้งยังบันดาลสุริยคราสและกดขี่ดาวบาปเคราะห์ได้ทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะเปลี่ยนวิถีดวงดาวจึงเท่ากับเปลี่ยนกฏวัฏจักร ทำลายกฏแห่งกรรมที่ดำเนินอยู่ตลอดได้ทั้งสิ้น ทั้งยังใช้พลิกแพลงปรับเปลี่ยนวิถีดวงดาว วิถีชีวิตและชะตาลิขิตให้พลิกกลับผันแปรได้นับหมื่นนับพันหนทาง "แม้จะตัดมงจรของกรรมกลางวิถีก็ยังทำได้" เช่นนั้นอำนาจของสุทรรศนจักรจึงเป็นจักรที่ทำได้มากกว่าการทำลายล้าง ซ้ำเขายังมีชีวิตของเขา มีฐานะเป็นเทพวิญญาณองค์หนึ่ง และเป็นดุจเจ้าชีวิตในบรรดาจักรรัตนะทั้งหมดด้วยเขาดำรงค์อยู่ในสถานะจักรเทวะราชัน คือผู้ปกครองและเจ้าแห่งเทพวิญญาณในจักรรัตนะทั้งปวง

    ในโลกทิพย์นั้นเมื่อกล่าวถึงจักรราชันย่อมหมายถึงสุทรรศจักรแห่งพระนารายณ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะทำจักรแล้วก็ต้องทำให้มีอานุภาพแบบสุทรรศนจักร ด้วยเขาเป็นเทพวิญญาณ ดังนั้นเราก็จะเชิญให้เขาลงมาทำหน้าที่ เมื่อสำเร็จเป็นเครื่องรางแล้วเทวานุภาพแห่งจักรนารายณ์นั้น จะดีเด่นด้านคุ้มภัยทั้งปราบศัตรู และยังใช้ส่งเสริมการงานให้สำเร็จ ด้วยอำนาจเฉพาะทางเขาจะปราบทุกข์เข็ญทั้งอุปสรรคทั้งปวงให้สลายหายสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ว่าจะพิชิตหมู่มาร มีชัยเหนือศัตรูทำลายทะลุทะลวงคุณไสยมนต์ดำอวิชชาต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ นอกจากใช้เสริมอำนาจบารมีและทำให้วงจรชีวิตและการงานไหลลื่นแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าเขายังทำอะไรได้มากกว่านั้นไม่เสียชื่อจักเทวะราชันแน่นอน

    สุทรรศนจักรนั้นเป็นของทิพย์ แม้สำหรับทวยเทพเองก็ยังได้ชื่อว่าเป็นสิ่งเร้นลับไม่อาจเข้าใจอำนาจของเขาได้ทั้งหมด คุณสมบัติของผู้ที่ถือครองสุทรรศนจักรนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าโดยทั่วไปเมื่อบังเกิดจักรรัตนะขึ้นในโลก จักรจะสามารถมอบให้ซึ่งความเป็นใหญ่ในทวีปใหญ่ทั้งสี่มีทวีปน้อยสองพันเป็นบริวารแก่ผู้ครอบครอง แต่กับผู้ถือครองสุทรรศจักรนั้นเค้าจะมอบความเป็นใหญ่ในมหาจักรวาลทุกมิติให้กับผู้ครอบครองไว้เช่นนั้น ทั้งนี้ด้วยวาสนาคนมิได้เสมอกันดุจยอดเขาและลำธาร จะเห็นว่าผู้ได้จักรรัตนะต้องมีวาสนามหาจักรพรรดิ์ราชพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจจะใช้อำนาจแห่งสุทรรศนจักรยกวาสนาของคนบูชา ให้บุคคลเหล่านั้นอยู่ในเงาของมหาจักรเทวะราชัน มีวาสนาที่รุ่งเรืองขึ้นดุจวาสนาจักรพรรดิ์หรือโพธิสัตว์ที่มาทำงานในยุคปัจจุบัน


    ทั้งนี้อำนาจอันเป็นเอกเทศน์ของจักรเทวะราชันนั้นยังใช้ชี้และแก้ไขสิ่งต่างๆได้ เช่นการปรับภพปรับภูมิของตนเองให้ดีขึ้น แก้ไขประหารสิ่งชั่วร้ายในเบื้องหลังวัฏจักรกรรมทั้งอดีตกาล ปัจจุบัน และอนาคต ด้วยจักรนี้ถือว่าเป็นยอดแห่งจักรมหาจักรพรรดิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าอยากได้อะไรก็บอกพี่จักรเขา อยากจะปราบอะไรก็บอกพี่จักรเขา

    เช่นไปทำงานเรามีเพื่อนร่วมรุ่น เพื่อนร่วมงานหรือใครๆก็ดีที่วันๆหนึ่งเราต้องประสบพบเจอ พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ยกพี่จักรนี่แหละบอกกล่าวเขาไปเลยว่าใครทำอะไรไม่ดีกับเราทั้งต่อหน้าและลับหลังให้พี่จักรจัดการได้เลย ถ้าเขาคิดร้ายและทำเรื่องเลวร้ายกับเราจริงพ่ออาจารย์ท่านว่าจักรนี้จะตัดวาสนาของเขาทันทีคิดง่ายๆดุจเราปาจักรไปตัดหัวเขานั่นแหละ แต่นี้หัวเขาไม่ได้หาย ชีวิตเขาก็ยังอยู่ แต่เมื่อตัดวาสนาแรงกฏแห่งกรรมที่เขาทำไว้อันควรจะเป็นก็จะถาโถมเข้ามา พ่ออาจารย์ท่านว่าจักรตัวนี้ให้ใช้กันให้ดี เพราะหากผู้ใดใช้เป็นสามารถทำลายได้แม้กระทั่งแรงตบะอันสะสมมาทุกชาติภพ ท่านว่าเราพูดมากกว่านี้ไม่ได้ แต่อย่าเอาไปอธิษฐานความคิดพิกลพิการกันเท่านั้นก็พอ

    แม้คนแสวงหาทรัพย์ หาลู่ทางการเงิน อยากได้ทรัพย์พ่ออาจารย์ท่านว่าให้บอกพี่จักรเขาได้เลย เพราะนี่คือสุทรรศนจักรของพระเป็นเจ้าเป็นจักรเทวะราชัน เป็นจักรเทพวิญญาณซึ่งมีบารมีมากที่สุดแล้ว จะปราบปรามตัดอุปสรรคลดทอนแรงกรรมหรือแก้อาถรรพ์ใด จะเปลี่ยนแปลงกฏเปลี่ยนแปลงมหาวิถีทั้งหมื่นพันพ่ออาจารย์ท่านว่าแค่จักรหมุนก็ไม่เหลือแล้วให้อธิษฐานกันให้ดีบอกพี่เขา ใช้ได้ทั้งทางโลกและทางธรรม คนที่ชอบทางสมาธิปัญญาก็จะเกิดง่ายขึ้น ความรู้และวิชชาต่างๆก็จะเข้าถึงง่ายขึ้น ด้วยพลังที่หนุนได้ทั้งมหาจักรวาลไปพร้อมๆกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องของมนุษย์คนเดียวนั้นจึงเป็นเรื่องเล็กอย่างถึงที่สุด

    จักรนี้พ่ออาจารย์ท่านหล่อและเสกมาหลายปี ท่านพูดยิ้มๆเหมือนปัดออกไปว่ากว่าจะสำเร็จได้เรียกกันว่าเสกจนลืมตายทีเดียว ลืมไปเสียแล้วว่าทำอะไรไปบ้างเพราะมันยากเหลือเกิน ยากจนไม่อยากจะจำ ด้วยความเป็นเทพวิญญาณและฐานะจักรเทวะราชัน ไม่ใช่นึกจะทำนึกจะเอาชื่อเขามาใช้ก็ทำได้ มหาจักรนี้พ่ออาจารย์ท่านให้พกติดตัวท่านว่าป้องกันภัยทุกอย่าง ปรับธาตุกันแก้ ล้างคุณไสยเสนียดจัญไร อาถรรพณ์วิชาชั้นต่ำ แถมยังขอบารมีท่านให้ตามไปปราบคนสั่ง คนกระทำใส่เราได้ด้วย จะดูดทรัพย์ ดูดคน ดูดโชคลาภ ดูดสิ่งมงคลในสากลโลกท่านว่าแลล้วแต่จะอธิษฐานเลย จะนำมาแช่ทำน้ำมนต์ก็มีฤทธิ์สารพัดตามอธิษฐาน ป่วยไข้ให้นำจักรมาวางตรงจุดที่มีอาการโรคนั้นก็จะบรรเทา นั่งสมาธิทำกรรมฐานวางบนฝ่ามือจะรวมจิตได้เร็ว ใครชอบสายวิชาพลังจักรวาล จักนี้ก็จะดูดพลังงานเข้าร่างคนใช้ได้เร็ว ทั้งยังตรึงรูปพลังงานนั้นไว้ให้อยู่ในร่างกายเราให้เราสามารถใช้ประโยชน์ได้นานตามบุญวาสนา ทั้งคุ้มครองป้องกันภัย ปราบศัตรู แก้คุณไสยมนต์ดำอวิชาต่างๆ เพิ่มพูนอำนาจวาสนาบารมี หนุนเสริมหน้าที่การงานให้สำเร็จ อานุภาพใหญ่ๆเลยที่จักรจะหนุนเรา พ่ออาจารย์ท่านว่ามีดังนี้
    1. ตัวกูผู้ชนะ
    2. มหาอำนาจราชศักดิ์
    3. เมตตาชนนิยม
    4. ป้องกันโรคภัย
    5. ความมั่นคงและมั่งคั่ง
    6. ป้องกันภัยพิบัติ
    7. ปรับภพหนุนนภูมิ
    8. เปลี่ยนลิขิตดวงดาวหลีกเลี่ยงบาปเคราะห์
    9. บารมี โชคลาภ ความก้าวหน้า


    พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของที่ใช้ได้ทุกภาค ไม่ว่าจะเล่นทางปราบหรือทางโปรดแล้วแต่ใจแล้วแต่สถานการณ์ทีเดียว ขอให้ยึดมั่นในคุณพระนารายณ์จักรนี้จะใช้ได้ร้อยแปดพันประการดุจพระนารายณ์ท่านใช้งานทีเดียว เพียงเราใช้อาราธนาพกไว้เฉยๆ จักรนั้นก็จะครอบตัวเราหมุนติ้วๆอยู่ตลอดเวลาเช่นนั้น ตามที่ฉันบอกว่าอยู่ในเงาของสุทรรศจักรแม้ดาวบาปเคราะห์ก็กล้ำกรายไม่ได้ด้วยเป็นมหาศัตรูกัน แม้เราเจอภัยอะไร ทั้งที่รู้ตัวก็ดี ไม่รู้ตัวก็ดี จักเขารจะออกหน้ารับแทนอย่าได้กังวล นั่นก็เพราะว่าเขาเป็นเทพวิญญาณซึ่งมีชีวิต อะไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมเขาตัดสินใจได้เอง อะไรที่มันไม่ดี เห็นอะไรผิดสังเกตแค่นี้เขาก็พุ่งออกไปแล้ว จะใช้ทางอบรม กำจัด ปราบปรามนี่เขาทำให้อัตโนมัติหมดเลย แค่คิดก็แล่นไปเลย ยิ่งถ้าใจเราเกิดความระแวงใครขึ้นมาแล้วเขาเหล่านั้นผิดจริงๆก็จะเป็นไปตามกฏแห่งกรรมได้รวดเร็วเพราะอำนาจเร่งเร้าของจักรสำคัญนี้

    ด้วยจักรสำคัญนี้จะมีพลังพิเศษเพราะเขาสามารถหนุนชีวิตเราให้ลอยขึ้นสูงดุจดาวค้างฟ้าได้ พ่ออาจารย์ท่านว่า******อย่าลืมเชียวว่านอกจากจะเป็นอาวุธแล้วจักรรัตนะยังเป็นพาหนะในพระจักรพรรดิ์ด้วย ดังนั้นจึงสามารถแบก ยก และหนุนชะตาชีวิตขึ้นไปได้ ทั้งการทำงานที่จะหมุนตัวเข้าหรือคลายตัวออก หากหมุนเข้าก็คือเร่งรัดกฏวัฏจักรหากคลายออกก็จะคลายกฏชาติสงสาร เวลาจะใช้ก็ให้เรากำหนดจิตบอกกับพี่จักรเขาว่าจะเร่งหรือคลาย จะขออะไรก็ตามก็บอกเขาไป ทั้งนี้ยังใช้เล่นทางดูดพลังงานได้อีกด้วย จะใช้ดูดพลังงานอะไร ถ่ายพลังงานใส่สิ่งไหนก็ให้อธิษฐานเอา พ่ออาจารย์ท่านว่าทำได้ง่ายๆเช่นเราไปงานเสกพระ เราก็กำหนดจิตบอกพี่จักรไปว่าให้เขาช่วยกักเก็บพลังงานในพิธีนี้ให้หน่อย พอจะถ่ายลงอะไรให้ประสิทธิ์กับวัตถุมงคลชิ้นไหนก็ให้เอาพี่จักรไปวางทับไว้และบอกให้พี่เขาถ่ายพลังงาน พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่ช้างกะดิกหูงูแลบลิ้นชั่วพริบตาก็เป็นอันสำเร็จ เรียกว่าเราสามารถดัดแปลงใช้งานเขาได้อีกมากสุดแล้วแต่ความต้องการ ความปรารถนาของเรานั่นทีเดียว แต่จำไว้ข้อปฏิบัติใหญ่สำหรับคนใช้ คือต้องใช้ด้วยความเคารพและให้เกียรติเขา เรียกเขาว่าพี่ทุกคำได้ยิ่งดี

    ***สุทรรศนจักรสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านนำมาเจาะติดพลอย(คละสี)หรือที่ท่านเรียกว่าแก้วจักรพรรดิ์ทุกชิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแก้วนี้เสกลงไว้ครบมีอำนาจดุจมณีรัตนะ ท่านติดไว้ให้หนุนส่งเสริมพลังงานซึ่งกันและกัน ท่านว่าต่อไปทุกความปรารถนาของเรา จะได้สำเร็จด้วยอานุภาพแห่งมณีรัตนะ ซ้ำจักรรัตนะก็จะช่วยหนุนตัวเราในทุกที่ ทุกเวลา

    คาถาบูชา
    หริโอม ตัสสะ สุเมรุนารายัสสะ ศรีนาราเยน สุทัศนะจักราวุธธัง


    * เทพอาวุธอันมีจิตวิญญาณซึ่งเป็นราชันแห่งอาวุธนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาเป็นของเฉพาะบุคคลเรียกว่ามีคู่บารมี มีคู่บำเพ็ญเพียรอยู่แล้ว แม้ใครสั่งสมบารมีมาทางสายโพธิสัตว์ สายมหาจักรพรรดิ์ เขาเห็น เขาจะรู้ ว่านี่คือเครื่องบริโภคของเขา คือคู่บารมี คู่บำเพ็ญเพียรอันจะตามติดตัวเขาไปทุกภพ และเขาก็จะมานำของคู่บารมีของเขาไปใช้เอง พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าคนที่มีปัญหาเยอะหรือชีวิตอยู่ในที่ต่ำตั้งแต่เบื้องต้นให้ถือได้เต็มที่คนละสองเล่ม ให้กำหนดเป้าหมายแบ่งแยกหน้าที่บอกพี่จักรเขาให้ชัดเจนหนึ่งนั้นไว้เพื่อนหนุนชูชีวิตตน อีกหนึ่งนั้นเอาไว้เพื่อทำลายสิ่งขัดขวางทั้งปวง

    ร่วมทำบุญบูชา เทพศาสตราวิญญาณมหากาลสุทรรศนจักรราชัน(วิถีหมื่นพันผันแปร) บูชา 2,500 บาท

    45043822-1892646610817602-4970462512316153856-n.jpg
    45204283-730508240632221-6707808802529345536-n.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระอินทร์กินอาหาร (นั่งรับทรัพย์เปิดโลกเบิกบารมี)

    พระอินทร์ท่านสั่งให้ฉันสร้าง ...ทำให้คนไม่มีจะกิน อดกิน ไม่ได้กิน

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าปู่พระอินทร์นั้น นับได้ว่าท่านเป็นเทวดาที่มีความผูกพันธ์กับมนุษย์อยู่มาก เวลาคนดี คนกตัญญู คนมีความเพียร...สรุปเอาว่าคนดีคนมีบุญทั้งหลายเดือดร้อน เธอรู้มั๊ยยิ่งดีมาก ยิ่งมีบุญมาก อันนี้พระอินทร์ท่านก็จะอยู่ไม่ได้เพราะท่านจะรู้จะเห็นในข่ายญาณของท่าน ทำให้ท่านต้องรีบมาช่วยเหลือ ประจวบกับโลกในปัจจุบันนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าคนดีที่เดือดร้อนนี้ก็มีมากเหลือเกิน แม้ปู่พระอินทร์ท่านอยากจะช่วยบางคนท่านก็ช่วยไม่ได้ ทั้งออกหน้าไม่ได้ หรือลงมาเล่นเองไม่ได้ ด้วยเพราะคนเหล่านั้นมีอุปสรรคที่จำเป็นต้องผ่านให้ได้ด้วยตัวเอง หรือกำลังชดใช้เศษกรรมอันใดอันหนึ่งอยู่ จึงกลายเป็นว่าคนดีล้นโลกแต่ทุกคนก็เดือดร้อนเหมือนๆกันและเสียงของความน้อยเนื้อต่ำใจนั้นก็ดังก้องอยู่ในโสตประสาทปู่พระอินทร์ท่านทุกคราไป

    เมื่อท่านช่วยตรงๆไม่ได้ก็ต้องช่วยกันทางอ้อม ด้วยเหตุว่าคนที่มีบุญสัมพันธ์กันกับท่านนั้นยังมีอยู่มาก ทั้งเทพที่เคยอยู่ในคณะ เทพที่เป็นบริวาร ตลอดจนคนที่มีวาสนาจะได้เป็นเทพในดาวดึงส์หรืออดีตชาติซึ่งผ่านมาหลายภพเคยอุบัติในดาวดึงส์เหล่านั้น ล้วนแต่เป็นคนที่มีวาระกรรมร่วมกับท่านทั้งสิ้น ท่านจึงถือเสมือนว่าเป็นคนของท่าน เป็นลูกหลานท่านกลายๆ ดังนั้นท่านจึงปรารถนาจะช่วยให้พ้นทุกข์ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยครอบมือ ครอบวิชาเฉพาะของท่านให้พ่ออาจารย์ท่านทำแทนไว้จะได้สงเคราะห์คนที่มีแรงกรรมมากหลายชาติหลายภพทั้งหลายสืบต่อไป

    ทำไมต้องตะกรุดดอกเขียวๆ
    เพราะวิชานี้จัดเป็นวิชาเฉพาะ เป็นเทพวิชาอย่างแท้จริง ที่พ่ออาจารย์ท่านสืบวิชาโดยตรงจากปู่พระอินทร์ ให้ทำไว้ช่วยคนสามสถานหรือคนสามจำพวก คือ คนที่ไม่มีจะกิน คนอดกิน แล้วก็คนไม่ได้กิน
    - คนไม่มีจะกิน คนประเภทนี้ความหมายก้ตรงตัวอยู่แล้วคือในปัจจุบันนั้นไม่มีอะไรเลย ถึงอดีตจะมีหรือไม่มีก้ตาม ถ้าปัจจุบันไม่มีก้เป็นคนประเภทนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าบางคนเขาถึงกับไม่มีเงินจะกินข้าว หรืออาจอุปมาได้กับคนที่เวลาจะใช้ทรัพย์ทำอะไรจำเป็จะต้องคิดหนักเพราะชีวิตฝืดเคือง ทำอะไรก้ไม่สะดวกราบลื่น ท่านว่าสมัยนี้คนที่ติดเศษกรรมไม่สมารถพ้นไปได้เช่นนี้ยังมีอยู่มาก บางคนจากชีวิตสบายๆกลายเป็นต่ำลงๆเรื่อยๆก็มี ดังนั้นคนประเภทแรกก็คือคนที่ยังไม่มีจุดยืน คนที่อับจนหนทาง ไม่มีทรัพย์ ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตน ไม่มีคนยอมรับ ไม่มีที่ยืนในสังคม
    - คนอดกิน อดกินก็คือกินไม่ได้ ซึ่งอันนี้ต้องแยกแยะระหว่างกินไม่ได้กับไม่ได้กิน เพราะกินไม่ได้กินไม่ทันคนอื่นนั้นยังนับว่ามีวาสนายังมีสิทธิที่จะกิน คนประเภทนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ถึงกับแย่ บางคนนับว่ามีวาสนาหรือมีชีวิตสบายทีเดียว แต่คนจำพวกนี้เวลาทำอะไรอาจจะมีอุปสรรค หรือเรียกว่าชอบสิ่งใด ทำสิ่งใด อยากได้อะไร สิ่งเหล่านั้นล้วนไม่สมหวัง ไม่ได้ดั่งใจตัวเองไปทั้งสิ้น ท่านจึงเรียกคนประเภทนี้ว่าคนอดกิน คือทำไปก็แห้ว ทำไปก็พลาดเรียกว่ามีทุน มีวาสนา แต่ไม่มีดวงทั้งที่มันควรจะได้ ควรจะเป็นของเรามากกว่าใคร ทั้งที่เรามีพร้อมในปัจจัยต่างๆมากกว่าคนอื่นเขา แต่เรากลับผิดพลาดอยู่เรื่อยโดยหาสาเหตุไม่เจอ ในขณะเดียวกันคนที่มีดวงแต่ไม่มีทุนไม่มีวาสนากลับได้กินแบบฟลุ๊คๆอยู่ตลอด ทั้งด้านการงาน เรื่องคู่ครอง เรื่องจังหวะโอกาสต่างๆในชีวิต เช่นนั้นคนอดกินพ่ออาจารย์ท่านจึงเปรียบเทียบไว้กับคนที่ไม่สมหวังในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจทำ พูดง่ายๆคือเหมือนจะได้กินแต่ก็หิวอยู่ ยังอดอยู่ ยังชวดอยู่นั่นเอง
    - คนไม่ได้กิน คนประเภทนี้ท่านว่าเป็นคนที่ไม่ทันกินกับคนอื่นเขา ดุจว่าคนอื่นเขากินกันอิ่มแล้ว เขาแยกย้ายกันไปหมดแล้วตัวเองก็ยังหิวยังไม่ได้กินกับใครเขา เพราะไขว่คว่า หยิบฉวย แย่งชิงโอกาสกับใครเขาไม่ทัน แบบว่ามองไม่เห็นโอกาส ต่อให้โอกาสนั้นมาตั้งมาวางอยู่เบื้องหน้าก็จะละเลยมองข้ามไป ซึ่งคนจำพวกนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะน่าเวทนากว่าคนประเภทอื่น เพราะเขาชวดไปหมด ไม่มีแม้แต่จุดเริ่ม เพราะเขามองไม่เห็นอะไรแล้วชีวิตเขาก็จะไม่ได้อะไร ดังนั้นชีวิตจึงวนเวียนอยู่กับคำว่าไม่ได้กินเสียหรอกๆๆอยู่เช่นนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าคนทั้งสามลักษณะนี้ เป็นคนที่ให้คำจำกัดความในชีวิตได้สั้นๆแบบผรุสวาทเลยว่า "ซวย" คำเดียว เช่นนั้นพระอินทร์ท่านจึงสั่งให้ฉันสร้าง (วิชาเฉพาะ)...ทำให้คนไม่มีจะกิน อดกิน ไม่ได้กิน หรือสรุปตรงตัวคือมีชีวิตวนเวียนอยู่กับเรื่องซวยซับซ้อนง่ายๆเช่นนี้

    วิชาสำคัญนี้ท่านเรียกว่าพระอินทร์กินอาหาร พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าเทวดานั้นก็มีหลากหลายขั้นด้วยกัน ระดับดีๆหน่อยเขาก็เรียกกันว่าเทพบดีซึ่งพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือเปรียบได้กับเจ้าคนนายคนนั่นเอง แต่ที่เหนือไปกว่านั้นก็คือพระอินทร์เพราะท่านเป็นราชาของเทวดา เป็นประธานของเทวสภาเช่นนั้น ดังนั้นความวิจิตรละเอียดอ่อนของกามคุณทั้งหลายในวิมานของพระอินทร์ก็ดี ในชีวิตของพระอินทร์ก็ดี ในวาสนาของพระอินทร์เจ้าสวรรค์นั้นก็ดี แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ย่อมจะประณีตสูงสุดในกามภพจนเหล่าเทพบดีทั้งหลายเทียบกันไม่ติด

    อันความสุขจากกามคุณทั้งหลายนั้น ต้องยอมรับว่าจะหาใครที่สุขเกินพระอินทร์เป็นไม่มี เรียกได้ว่าทั้งกินมากที่สุด ทั้งเสพย์มากที่สุด ทั้งอิ่มมากที่สุด แล้วก็สบายอย่างปราณีตมากที่สุดเช่นกัน ด้วยความสุขจากกามคุณที่เหนือกว่าเทพเจ้าทั้งปวงนั้นสิ่งเหล่านี้ย่อมดูขัดกับการเป็นพหูสูตรของพระองค์ท่าน จนคราหนึ่งพระมหาโมคคัลลานะถึงกับต้องไปเตือนสติท่านถึงดาวดึงส์พิภพทีเดียว แต่หากใครไปอยู่ในจุดนั้น จุดที่เป็นราชาของทวยเทพ จุดที่เสวยสุขอย่างประณีตสูงสุดทุกด้านของกามคุณก็อาจจะลุ่มหลงจนองค์พระอรหันต์ต้องมาตักเตือนเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ใครๆก็ปรารถนาอยากจะเป็นพระอินทร์ อสูรก็อยากยึดสวรรค์ เทวดาก็อยากโค่นบัลลังค์ จนสวรรค์นั้นต้องมีตำแหน่งพระอินทร์รองจากพระอินทร์องค์หลักเพิ่มขึ้นรองรับผู้มีบุญวาสนาอีกหลายตำแหน่ง ดั่งคำกล่าวยืนยันของพระอริยะเจ้าหลายๆท่านว่าพระอินทร์นั้นมีหลายองค์เช่นนี้

    ดังนั้นวิชาพระอินทร์กินอาหาร จึงอุปมาได้กับการกิน การเสพย์ความสุขที่ประณีตสูงสุดในกามภพแล้วนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเหนือกามภพขึ้นไปเทพพรหมทั้งหลายเขาจะไม่ลงมายุ่งกับมนุษย์มากหากไม่มีวาสนาสัมพันธ์กันจริงๆ ดังนั้นเทพที่ยังติดต่อหรือคอยช่วยเหลือมนุษย์ส่วนใหญ่จึงเป็นชาวจาตุมหาราชิกากับดาวดึงส์นี่เอง เช่นนี้ปู่พระอินทร์ท่านจึงตั้งใจให้พ่ออาจารย์ลงวิชาพระอินทร์กินอาหาร เพื่อเอาวาสนา เอาความสุขของเทวะราชา เอาวาสนาของเทวราชอินทรามาล้างความซวยในโชคชะตาของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นคนไม่มีจะกิน คนอดกิน หรือคนไม่ได้กินก็ดี ท่านว่าต่อไปต้องได้กิน ได้เสวยความสุขอย่างปราณีตมากขึ้นๆไปเรื่อยๆตามลำดับขั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ฉันทำง่าย เพราะฉันไม่ได้ทำเอง แต่ให้พระอินทร์ท่านทำท่านสำเร็จให้ล้วนๆ ฉันกำหนดจิตคอยดูอย่างเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่รู้จะพูดจะบอกอะไรกันมาก ให้พิจารณากันเองว่ามันตรงกับชีวิตตัวเองหรือเปล่า แต่ไอ้ตะกรุดดอกเขียวๆนี่แหละที่เคยให้คนเอาไปใช้แล้วเขาก็เอาไปตั้งชื่อกันเองว่าตะกรุดนั่งรับทรัพย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าปู่พระอินทร์ท่านลงให้ครบทั้งหมดฉันก็พูดมากไม่ได้ พูดได้แต่น้อยๆว่าครอบคลุมความซวยของมนุษย์ ซ้ำท่านยังกำชับว่าตะกรุดนี้คนที่ไม่มีวาสนาเคยเป็นลูกหลานหรือบริวารกับตัวปู่พระอินทร์ท่านมาก่อนนั้น เขาจะไม่พบ จะไม่เห็น สัมผัสไม่ได้แม้แต่เงาของตะกรุดดอกนี้เลย ถึงจะพบก็จะบันดาลให้ผ่านพ้นไปไม่อยู่ในสายตา มองไม่เห็นความสำคัญของตะกรุดนี้

    แต่เดิมนั้นพ่ออาจารย์ท่านนำมาเสกเก็บรักษาไว้ เวลาเชิญปู่พระอินทร์ทำพิธีท่านก็จะฝากตะกรุดนี้ให้ปู่พระอินทร์ท่านเสกเรียงดอกจนสำเร็จจึงใช้เวลาค่อนข้างนานและปู่พระอินทร์ท่านยังย้ำว่าให้เก็บเอาไว้ก่อน จนปัจจุบันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่คนบ่นว่าทำไมมันซวยขนาดนี้ ยุคนี้คือยุคอะไร ประจวบกับปู่พระอินทร์ท่านมีนิมิตอนุญาติให้พ่ออาจารย์นำตะกรุดออกมาได้ ท่านจึงได้นำมาอธิษฐานจิตเสกเปิดโลกเบิกบารมีให้อีกวาระหนึ่ง ท่านว่าดีอย่างไรไม่ต้องพูดเพราะเราเสกจนฟ้าลั่น เสมือนเทวดาท่านรับรู้พระอินทร์ท่านให้พร ดังนั้นตะกรุดนี้จึงใช้ได้หลายด้าน
    - เปิดโลก คือเปิดสิ่งที่ปิด โอกาสที่มีน้อยหรือแทบไม่มีมี เปิดให้พร้อม เปิดให้สำเร็จทั้งหมด
    - เบิกบารมี คือขอบารมีปู่พระอินทร์ท่านต่อวาสนาให้คนนำไปบูชาไม่ให้หมด ไม่ให้อด ไม่ให้ทิ้งกันไปกลางทาง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าทำให้ทุกอย่างสำเร็จหมดแล้ว จะใช้อย่างไรก็สุดแล้วแต่จะอธิษฐานใจกัน แต่วิชานี้ท่านไม่ได้ทำบ่อยแล้วก็นานปีจึงจะทำได้สำเร็จซักครั้งหนึ่ง ***จะใช้จะบูชากี่ดอกท่านว่าแต่ละคนจะมีสัมผัสอยู่ในใจของเขาเองเป็นตัวรู้ที่เกิดขึ้นเฉพาะตัวเขากับวิชาตะกรุดนี้ นั่นคือวาสนาบารมีของเค้า เป็นพลังที่พอเหมาะกับกายเนื้อเขาจะรับได้เพื่อฟันฟ่าอุปสรรควิบากกรรมของเขาเองปู่พระอินทร์ท่านจะดลใจให้รู้ได้เฉพาะคน

    คาถาบูชา
    นะอินทะราชา นะมามีมา สุวัณณังวา ราชะตังมา มณีวา ธนังวา นะพามานะ(ขอตามปรารถนา)


    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระอินทร์กินอาหาร (นั่งรับทรัพย์เปิดโลกเบิกบารมี) บูชา 900 บาท

    45376644-2231854117050287-5910276127766609920-n.jpg
    45339976-2197372970481435-526536705289748480-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2023
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญย้อนมารพระเจ้าย่างพระบาท (ชะลอกรรม)

    "วิชานี้คนอาราธนา ดุจตัวเขาเดินเหยียบอยู่ใต้ร่มพระฉาย(เงา)ของพระพุทธองค์...เดินเหยียบอยู่ในร่มเงาของพระตถาคตเจ้า จะปิดกั้นตัวเขาออกจากเรื่องวุ่นวายต่างๆทั้งหลายทีเดียว"

    เพื่อไม่ให้รับรู้เรื่องวุ่นวายต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างเครื่องมงคลที่ให้ผลทางมหาสะท้อนอย่างหนักควบคู่ไปกับความเจริญก้าวหน้า เจริญรุ่งเรืองด้วยจุดประสงค์หลักที่ท่านตั้งใจไว้เพื่อให้คนใช้มีชีวิตที่ขยับเยื้อน เคลื่อนไหวได้แบบก้าวกระโดด ดังนั้นท่านจึงได้ทำวิชาพระเจ้าย่างพระบาทของเสด็จพระใหญ่ที่ถือว่าเป็นที่สุดของศาสตร์แห่งการสงเคราะห์ด้วยแรงครูอย่างแท้จริง ถึงกับว่าเหรียญสำคัญนี้ "ถ้าไม่น้ำตาตกอย่าเพิ่งเอามาใช้"

    ด้วยปัจจุบันท่านเห็นว่าคนเริ่มน้ำตาตกใน เจ็บช้ำน้ำใจจากภัยรอบด้านด้วยไม่อาจต่อต้านหรือเปลี่ยนแปลงวงจรชีวิตของตนให้ดียิ่งๆขึ้นไปได้ พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าอาการเหล่านี้ตรงกับคำของเสด็จพระใหญ่ท่านนั่นคือคนเริ่มน้ำตาตกในแล้ว ควรแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะเอาวิชาพระเจ้าย่างพระบาทนี้ให้กับคนที่เหมาะสมและคู่ควรใช้อาราธนาเพื่อวัตถุประสงค์ชะลอกรรมด้วยวิชาและแรงของครูต้นวิชานั่นเอง

    พระเจ้าย่างพระบาทนั้น พ่ออาจารย์ท่านเปรียบเทียบเอาไว้ว่าดุจครูท่านย่างเท้าก้าวเข้ามาในชีวิตเรา ดุจครูท่านยื่นขาเดินเข้ามาร่วมชะตากรรมอยู่กับเราเรียกว่าตกบันไดพลอยโจนทิ้งตัวลงมาอยู่กับเราแล้วเช่นนั้นก็ว่าได้ ดังนั้นวิชานี้จึงเป็นวิชาสำคัญที่เรียกว่าเลือดไม่เข้าตาอย่างถึงที่สุดก็อย่าได้นำมาใช้เพราะคุณครูบาอาจารย์นั้นจะช่วยให้เจริญรุ่งเรืองได้อย่างน่าประหลาดใจ ที่แย่กลับเป็นรุ่ง จากดวงที่ตกต่ำกลับได้ดีเจริญด้วยธนสารสมบัติ ทั้งยังปราบศัตรู ปราบทุกข์เข็ญ พิชิตมาร ทำให้สิ่งที่ข้องขัดและแน่นิ่งไปแล้วไหลลื่น สามารถก้าวต่อไปได้เรื่อยๆไม่หยุดอยู่กับที่และไม่ถอยหลังลงด้วยอาถรรพ์คุณวิชาดุจพระเจ้าเยื้องย่างพระบาทประกาศพระศาสนามีแต่จะก้าวไปข้างหน้าไม่มีทางถอยหลังกลับ เช่นนั้นจึงมีคติไว้ว่าผู้ใดรับไปอาราธนานั้นต้องมีบุญสัมพันธ์กับสมเด็จพระตถาคตเจ้า ด้วยเขาจะใช้ชีวิตดุจเดินเหยียบอยู่ในร่มเงาของพระศาสดา เช่นนั้นคนไม่เชื่อก็ไม่ต้องใช้ เพราะถ้าใครไม่เชื่อก็จะตกนรกอย่างเดียวด้วยเป็นวิชาของพระองค์ท่านให้ผลแรงถึงขนาดนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านเลือกทำวิชาพระเจ้าย่างพระบาทนี้กับพระพิมพ์ลีลาทุ่งเศรษฐี ท่านว่านอกจากอาถรรพ์จากคุณวิชาแล้วรูปแบบพิมพ์ทรงก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันซึ่งกันและกันด้วย โดยท่านได้ขอยืมพระลีลาเม็ดขนุนกรุทุ่งเศรษฐีกำแพงเพชรมาหนี่งองค์จากศิษย์ที่มีความเป็นอยู่สุขสบายโดยเชื่อว่ามาจากพุทธคุณการอาราธนาพระพิมพ์พิเศษนี้ โดยทางผู้ให้ยืมก็มีข้อแม้อยู่ว่าเมื่ออาจารย์ท่านสร้างเสร็จต้องเก็บไว้ให้เขาร่วมทำบุญหนึ่งองค์ ที่ท่านยืมองค์พระเขามานั้นก็เพื่อจะตรวจดูว่าพระที่เจ้าสัวเขาใช้นั้นมีมงคลอย่างไร มีสิริเช่นไร โบราณเขาเสกอะไรไว้ บรรจุพุทธานุภาพด้านไหนและพระลีลาพิมพ์นี้ที่เศรษฐีเขาเชื่อว่าเปลี่ยนชีวิตเขานั้นมีคุณต่างจากพระลีลากรุนี้องค์อื่นๆอย่างไร พอท่านรู้แล้วท่านก็ปั้นหุ่นเทียนเป็นพระพิมพ์ลีลาเม็ดขนุนเช่นนั้น ด้วยถือคติว่าจะทำวิชาพระเจ้าย่างพระบาทใส่พระลีลาก้าวหน้าให้เป็นมงคลนิมิตแห่งความก้าวหน้า ความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จเพิ่มพูนเกียรติยศแบบไม่รู้สิ้นสุด ดั่งคำว่ามีแล้วไม่จนเป็นอย่างไรท่านก็จะทำให้เช่นนั้น เพราะนี่คือพระเศรษฐี เพราะนี่คือพระพุทธลีลา เพราะนี่คือพระประทานพร เป็นพระองค์เดียวที่มีคุณูปการอุปถัมภ์ให้คนใช้เจริญก้าวหน้าเป็นเศรษฐีได้ไม่หยุดนิ่งซ้ำยังประทานพรให้เราดั่งใจได้ทุกสิ่ง ท่านนำหุ่นเทียนนั้นมาเสกทำวิชาให้แก่กล้าอิทธิคุณดุจพระลีลากรุทุ่งเศรษฐีองค์นั้นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านเสกกำกับทำวิชาจนมั่นใจว่าใครได้ไปมีไว้จะไม่ตกอับ จะต้องสำเร็จ และต้องเจริญไปควบคู่กันเท่านั้น เรียกว่าเสกให้เสร็จนานนับเดือนตั้งแต่เป็นหุ่นเทียนนั่นทีเดียว

    ต่อจากนั้นท่านจึงนำธาตุกายสิทธิ์มาหลอมรีดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อลงวิชาอาถรรพ์พระเจ้าย่างพระบาท อันมีอำนาจพิเศษนอกเหนือจากที่กล่าวไปแล้วเพื่อใช้ชะลอผลแห่งกรรมได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ท่านเองยังได้กำกับวิชาชะลอกรรมตามศาสตร์ของหลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง เสริมลงไปด้วยอีกคำรบหนึ่งเพื่อให้มั่นใจว่าจะเกิดผลการชะลอกรรมทั้งหนักและเบาทั้งหลายอย่างแน่นอนด้วยอำนาจแรงครู เสร็จแล้วจึงนำแผ่นธาตุกายสิทธิ์มาอธิษฐานเข้าสมาธิเสกตามวิธีของท่านจนจิตเกิดความว่างแล้วถอยอารมณ์เดินคาถาเสกแผ่นธาตุศักดิ์สิทธิ์นี้จนเกิดนิมิตสำเร็จในเบื้องต้น พ่ออาจารย์ท่านว่าการชะลอกรรมนั้นชื่อก็ตรงตัวอยู่แล้วเราจะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้อีก เอาว่ารู้ตัวกันนะสำหรับคนที่กรรมมันหนักมากจนหยุดไม่ได้แล้วจริงๆก็ควรรู้ตัว ในเมื่อหยุดไม่ได้แต่กลับชะลอได้ การชะลอนี้ก็คือการให้โอกาสเธอมีชีวิตใหม่ ให้โอกาสได้สะสม ได้ประกาศคุณงามความดีให้สมกับเป็นคนที่ได้รับโอกาสแล้ว อย่าเอาไปใช้ให้เสียของเปล่ามีโอกาสแต่กลับไม่ทำบุญไม่สนใจการภาวนา เช่นนี้ท่านว่าอย่าได้เอาไปเลยเพราะต่อให้มีของดีเพียงไหน มีโอกาสอย่างไรก็เสียบชาติมนุษย์เปล่าๆ

    พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานจิตหลอมรีดทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าห้าสิบหกครั้ง เท่ากับกำลังของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ให้มีอิทธิคุณแฝดดั่งกำลัง ดั่งคุณของพระชินสีห์เช่นนั้น ก่อนจะหล่อหลอมให้สำเร็จและเทเนื้อธาตุเป็นพระพิมพ์ และทำการเสกพระพิมพ์นั้นทั้งยังเชิญเสด็จพระใหญ่มาแผ่กำลังทำวิชาพระเจ้าย่างพระบาทให้จนสำเร็จในวาระแรกอีกแปดสิบครั้งให้ได้เท่าวาสนาของพระชินสีห์ดั่งกำลังของ “พุทธะ” ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ผู้รื่นเริงอยู่ในธรรม และไม่มีการหวนกลับย้อนคืนมาสู่ความเป็นปุถุชนอีก เมื่อก้าวไปข้างหน้าย่อมขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุด(พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ทำยากอย่างมาก แค่คิดจะเสกก็นานนับปีแล้ว เพราะทุกอย่างของพิธีกรรมล้วนสัมพันธ์กับวาสนาของพระตถาคตเจ้า ด้วยหมายเอาวาสนานั้นดึงคน ดังผู้มีบุญสัมพันธ์ในอดีตอยู่บ้างแม้เพียงเล็กน้อยกับพระองค์ให้พ้นออกจากเรื่องวุ่นวายทั้งหลาย) หลังจากนั้นจึงนำมาทำวิชาเศรษฐีก้าวหน้าอีกวาระหนึ่งเพื่อหวังอานิสงส์ให้กำราบทุกข์เข็ญ ความอดอยาก แห้งแล้ง และโรคภัยนานาประการที่กำลังเป็นอยู่ เพื่อประโยชน์ใหญ่ที่จะเห็นแจ้งแก่ตนเองว่าไม่ช้าไม่นาน ทั้งอาเพศ ภัยร้าย และทุกข์เข็ญ ความอดอยาก สิ่งขาดแคลน และโรคที่ย่ำยีทั้งหลายจะค่อยๆหมดไปอย่างน่าอัศจรรย์ ให้ผู้ใช้อยู่รอดปลอดภัยจากทั้งภัยของมนุษย์ที่พยายามคุกคาม ภัยจากอมนุษย์ ภัยจากธรรมชาติ และภัยที่มีอันตรายจนอาจทำให้เจ็บให้ตายได้ เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย มีกินมีใช้ต่อเนื่องไปจนถึงกาลดับซึ่งธาตุสังขาร ทั้งยังส่งเสริมให้มีวาสนาและบารมีเหนือผู้อื่นๆ แลมีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพหน้าที่การงานที่คิดจะทำ ได้เป็นเจ้าคนนายคนหรือประสบความเจริญรุ่งเรืองในกิจธุระแห่งตน มีชีวิต ขยับเยื้อนเคลื่อนไหวได้แบบก้าวกระโดด

    เมื่อได้องค์พระแล้วท่านจึงนำมาอุดด้วยผงพระเจ้าเปิดบาตรอีกรอบหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะเจริญก้าวหน้าแล้วยังต้องอุดมสมบูรณ์ด้วย ให้อุดมสมบูรณ์ร่ำรวยในโภคทรัพย์ ให้อยู่ยั้งยืนยงเป็นหลักชัยแห่งความสำเร็จ ด้วยอาศัยคุณบาตรแห่งพระตถาคตเจ้าที่เปิดเมื่อไหร่เป็นเต็มเมื่อนั้น อุปมาดั่งพระองค์เลี้ยงภิกษุและพุทธบริษัทได้มากมายฉันใดก็จะเผื่อแผ่พระพุทธานุภาพมาฉุดดึงเราได้มายมายดุจเดียวกัน ทั้งนี้องค์พระเจ้าย่างพระบาทนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังได้นำสิ่งมงคลมีอิทธิคุณรุนแรงฝังไว้เสริมอำนาจให้อีกดังนี้
    - เม็ดมหาธาตุปาฏิหาริย์ ของใช้เฉพาะทางด้านพลิกกลับชะตาชีวิตคนที่พ่ออาจารย์ท่านหวงแหน ท่านว่าเขาก็มีชื่อ มีคุณสมดั่งชื่อของเขานั่นคือเม็ดมหาธาตุที่เอาไว้สร้างปาฏิหาริย์นั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะทำมาให้คนได้ใช้ก็ไม่ใช่ง่าย เพราะท่านต้องนำธาตุปาฏิหาริย์พูดง่ายๆก็คือพระกรุต่างๆที่ท่านทำพิธีไปดัก ไปเชิญขึ้นมานำมาเก็บไว้นำมาล้างมาหล่อหลอมกำลังธาตุและหุงประชุมธาตุทั้งหมดใหม่ ท่านว่าพระกรุเหล่านี้แม้จะเอาองค์อื่นในกรุเดียวกันมาใช้ก็ยังนับว่าใช้ไม่ได้ ไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น ด้วยท่านจะใช้เฉพาะพระกรุที่เสด็จหนี วิ่งได้ตามพื้นดิน ต้องทำพิธีดัก ทำพิธีขุดกว่าจะได้ซักองค์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าลงทุนลงแรงไปมากมาย เพราะเชื่อว่าพระกรุประเภทนี้จะมีคุณแรงกล้ากว่าพระองค์อื่นในกรุเดียวกันดุจเป็นองค์จ่าฝูงที่แก่กล้าอิทธิคุณกว่าองค์อื่นทั้งหมด ท่านว่าสมัยสามถึงสี่สิบปีก่อนท่านก็จะออกหาจะคอยดักทั้งพระท่ากระดาน พระร่วงและพระยอดขุนผลต่างๆซึ่งตอนนั้นยังไม่มีราคาค่านิยมมาก พอได้มาก็สะสมไว้แล้วตอนหลังครูสมเด็จท่านแนะนำให้ทำเม็ดมหาธาตุปาฏิหาริย์นี้ขึ้นมา เมื่อหล่อออกมาได้แล้วก็จะนำมาตีบุไว้ด้วยแผ่นตะกั่วน้ำนมที่ลงคาถามหาเศรษฐี เก็บเอาไว้ให้คนที่มีศรัทธาอย่างจริงใจนำไปทำจี้ทองคำเลี่ยมบูชา พ่ออาจารย์ท่านว่าเม็ดมหาธาตุนี้มีปาฏิหาริย์มากนะไม่ใช่เพียงหนุนชีวิต พลิกชีวิตแต่คุ้มครองเองก็ใช่ย่อย เห็นคนที่เขาห้อยเขาว่าแม้แต่ฟ้าผ่าลงมาใส่เขาก็ยังไม่เป็นอะไร(ไม่ใช่ฟ้าผ่าไม่ตายนะ)แต่คนเขาว่าเห็นสายฟ้านั้นแยกออกเป็นหลายเส้นและเบี่ยงออกไป นั่นคือแม้ฟ้าก็ยังไม่ทำอันตรายผู้ครอบครองมหาธาตุนี้
    - ตะกรุดย้อนมารสะท้อนกลับ ดีก็คืน ชั่วก็สนอง ให้ทำใจกลางๆเดี๋ยวเกิดผลเองให้ทำใจเสียว่า "กรรมใครกรรมมัน" พ่ออาจารย์ท่านได้ลงเฑาะว์มหากระดอนสะท้อนกลับ เสริมด้วยมหาสะท้อนย้อนมารผลาญศัตรู ท่านว่าวิชาตะกรุดชุดนี้ฉันทำไว้ให้เธอแค่กันตัวนะอย่าเอาไปใช้ทำร้ายใคร เพราะปกติแล้ววิชานี้จะมีแรงครูสูงมาก สมัยลองวิชาท่านว่ามีแขกฮินดูมาทำของใส่ฉัน ตอนนั้นเขาท้าตรงๆซึ่งหน้ากันเลย เรียกว่าเราก็ยอมให้เขาท้าเลยอยากทำอะไรก็ทำไป ตัวเราก็นั่งภาวนาตำรับย้อนมารไปเรื่อยๆนี่แหละ ส่วนในมือก็กำหนดจิตขีดลากเฑาะว์ตัวนี้แล้วตบเอาคุณไสยที่เขาทำมากลับไป ปกติวิชาทางนั้นของพวกแขกทมิฬจะนับว่าเป็นวิชาฆ่าคนแบบไร้รูป ไร้เสียงที่ค่อนข้างรุนแรงขนาดว่าแม้โดนไปก็ยังตายทรมานเรียกว่าถึงตายก็ไม่ได้ตายดีและแก้ไขได้ยากมากที่สุด แต่คุณของการสะท้อนย้อนมารนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเวรกรรมมันสนองตรงนั้นเลย นับถอยหลังไปสามวันไอ้ไสยวิชชาที่เค้าทำเรานั่นแหละก็เข้าตัวเขาและตายตกไปชนิดไม่น่าดูชม ดังนั้นวิชาสะท้อนตัวนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาฝังไว้ในองค์พระให้คุ้มครองป้องกันตัวผู้บูชา ท่านว่าเราจะไม่เสี่ยงทำเป็นตะกรุดเฉยๆเด็ดขาดเพราะไม่รู้ว่าอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆของคนปกตินั้นเขาจะเอาไปใช้ทำอะไรกันบ้าง เพราะวิชานี้ถ้าลองได้กำตะกรุดและไปสาปแช่งใครเข้าแล้วเอาว่าผลน่ากลัวจนไม่กล้าคิดทีเดียว ดังนั้นท่านจึงบรรจุไว้ในองค์พระ ท่านว่าหากใครคิดร้าย ทำร้าย หรือกระทำเราก็ให้เขารับเวรรับกรรมไปตามสมควรแห่งความคิดและการกระทำเขาเท่านั้นพอ แม้เขาดีกับเราชีวิตเขาก็ดี แม้เขาร้ายกับเราชีวิตเขาก็สั้นเต็มทีเช่นนี้
    - พลอยดิบบูรพาจารย์ พลอยดิบชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันเก็บไว้นานแล้วนะ สมัยก่อนเวลาไปกราบไหว้ครูบาอาจารย์ที่ไหนก็จะขอเมตตาท่านให้ลงให้หน่อย เรียกว่าผ่านมือครูบาอาจารย์ยุคเก่าทำวิชาให้มามากมายจนฉันเองก็จำได้ไม่หมด ตั้งแต่หลวงปู่ขาวท่านก็เสกให้พร้อมกำกับว่าสว่างหมดแล้ว หลวงพ่อกวยท่านก็เสกให้เพราะฉันขอให้ท่านลงจินดามณีให้ด้วย หลวงปู่โต๊ะท่านก็ทำให้บอกว่าเสกรวมไว้กับพระปิดตา(ชุดดังในปัจจุบัน)เลย ...จนถึงหลวงพ่อฤาษีท่านบอกว่าข้าเสกไม่ลงว่ะเพราะคนที่ทำไว้ก่อนหน้าเขาเชิญพระพุทธเจ้ามาทำให้แล้ว ดังนั้นพลอยดิบชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงเก็บไว้และไม่ค่อยนำมาใช้เพราะกลัวคนจะเห็นว่าเป็นแค่พลอยดิบ กลัวคนเขาจะเผลอคิดปรามาสครูบาอาจารย์เพราะไม่ได้รู้ว่าเป็นของมีค่า ซึ่งพลอยดิบสมัยนี้ก็มีฝังอยู่ในวัตถุมงคลทั่วๆไป เช่นนั้นท่านจึงเก็บมาตลอดแต่หนนี้ที่ทำพระเจ้าย่างพระบาทนั้นพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจะทำให้องค์พระมีแรงครูหนุนนำอย่างแรงกล้า ท่านจึงนำเอาพลอยดิบชุดนี้มาฝังไว้ ท่านว่าใครรู้ค่าก็มาเอาไป

    เมื่อเสกทำวิชาและฝังของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆแล้ว พ่ออาจารย์ท่านก็ทำวิชาดั้นเมฆเสริมองค์พระอีกคำรบหนึ่งเป็นอันเสร็จพิธี ท่านว่าดั้นเมฆก็คือยกเมฆบังดวงอาทิตย์ วิชานี้ต้องเสกแดดจ้าๆเสกกำหนดนิมิตยกเมฆมาบังดวงอาทิตย์จนเมฆเคลื่อนมาบังปิดแสงนั้นทั้งหมด ท่านว่าอาถรรพ์แห่งคุณวิชานั้นกันเดือดร้อน กันทุกภัยทั้งปวงได้ เมื่อเสกดั้นเมฆแล้วพ่ออาจารย์ท่านต้องถอนจิตมาระดับอุปจารสมาธิเชิญเสด็จพระใหญ่และครูต้นวิชาเต็มอัตรากำหนดจิตให้ผู้นำไปใช้สมความปรารถนา ทั้งยังยกดวง ยกชะตา ยกใจคน ยกชีวิตคนไม่ให้ตกต่ำ ท่านว่าเมื่อยกขึ้นเขาก็จะไม่ล้ม เมื่อเขาไม่ล้มเขาก็จะก้าวต่อไปเรื่อยๆไม่หยุดนิ่งเช่นนั้นจึงเป็นอันเสร็จพิธี

    คาถาบูชา
    พุทโธ ภควา (พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้ากำลังใจดีก็นึกถึงพระพุทธเจ้าและกาะพระองค์ท่านไปไม่ต้องใช้คาถาใดๆเลย แต่ถ้ากำลังใจยังไม่ถึงก็ให้ภาวนาไปจนนิ่งแล้วเกาะท่านไป)


    *** องค์พระนี้เหลือให้บูชาห้าองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ให้พูดเยอะเพราะตั้งแต่เริ่มทำทุกอย่างก็ถูกกำหนดให้เข้ากับวาสนาในพระตถาคตเจ้า จะมีเฉพาะผู้ที่มีวาสนาสัมพันธ์กับองค์พระชินสีห์เท่านั้นที่จะได้ไปอาราธนา รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทาน

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญย้อนมารพระเจ้าย่างพระบาท (ชะลอกรรม) บูชา 4,000 บาท

    45769053-265126447690938-7327912976680222720-n.jpg 45728276-2147096778645582-2505604287497764864-n.jpg
    45593437-486505878504300-246717343982419968-n.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา สิงห์ราชลากเนื้อ(สิงห์ทิพย์)

    พญาราชสีห์เป็นยอดของสัตว์ทั้งหลายมีอำนาจเหนือป่าหิมพานต์ ด้วยหมู่สัตว์ต่างๆจะเกรงกลัวแม้เสียงคำรามเมื่อได้ยินไม่ตกตายก็สิ้นสติเลยทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านสร้างสิงหราชขึ้นด้วยท่านว่าพญาราชสีห์นี้ทรงไว้ซึ่งอำนาจบารมี ตบะบารมี ศีลบารมี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุอันเป็นที่สุดแห่งมหาอำนาจ เป็นที่สุดแห่งความเกรงกลัวเช่นนั้นท่านจึงสร้างพญาราชสีห์ขึ้นมาช่วยเสริมอำนาจราชศักดิ์ ตบะ เดชะ หนุนนำคน หนุนนำชะตาชีวิตให้ผู้บูชาได้เป็นเจ้าคนนายคน

    การสร้างพญาสีห์ราชนั้นแต่โบราณย่อมมีการสร้างกันมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะสร้างให้สำเร็จจริงๆได้อย่างน้อยก็ต้องได้หัวใจสิงห์เป็นเบื้องต้นถึงจะสร้างและเสกได้ขลัง ยิ่งถ้าได้วิชาเกี่ยวกับสิงห์หนุนเสริมลงไปด้วยอีกทอดหนึ่ง อันนี้ก็จะขลังยิ่งขึ้นเด่นในทางต่างๆเฉพาะด้านไป แต่สมัยนี้ท่านเห็นเขาสร้างสิงห์กันมากใช้ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างก็เป็นไปตามกรรมวิธีของเกจิแต่ละท่านซึ่งพ่ออาจารย์ท่านสอบดูสิงห์หลายๆที่แล้วแม้แต่หัวใจก็ยังลงไม่ถูก

    เช่นนั้นท่านจึงตั้งใจจะสร้างสิงห์ที่เป็นสิงห์จริงๆโดยสายเลือดและชาติกำเนิดขึ้นมาซักรุ่นหนึ่ง ท่านว่าไอ้สิงห์กับไอ้เสือนี้มันต่างกันอย่างไรพวกเธอรู้มั๊ย สิงห์จริงๆนั้นไม่ค่อยจะมีใครเขาสร้างกันสำเร็จนัก ด้วยมันเป็นราชาของป่า เป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่าทั้งหลายเป็นมหาอำนาจ เป็นราชศักดิ์อย่างถึงที่สุด แต่โบราณเขาถึงมีตำราสิงหราชครองโลกบ้าง สิงหราชเหยียบโลกบ้าง ดุจใครได้ครอบครองสิงห์ที่ทำขึ้นจากวิชาเหล่านี้เสมอได้โลกทั้งใบเช่นนั้น ด้วยเป็นสัตว์ตระกูลสูงแม้ใครได้เลี้ยงได้พกพาก็จะหนุนนำวาสนาให้ได้มีอำนาจเหนือคน ดั่งกษัตริย์หรือตัวเจ้าตัวนายในรามเกียรติ์ก็จะมีสิงห์เป็นพาหนะเป็นสัตว์บริวารเสมอเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจจะทำสัตว์บริวารให้เป็นดั่งเพื่อน เป็นดั่งเงาตามตัวคอยติดสอยห้อยตามเรา ทั้งยังเป็นทาสที่ซื่อสัตย์อันจะคอยใช้อำนาจราชศักดิ์เสริมชะตาให้เจ้านาย เรียกขานประกาศหาชัยชนะกำราบศัตรู

    คนที่สิงห์หนุนนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องชื่อเสียง เกียรติยศ ลาภศฤงคารเหล่านี้เขาจะรู้ว่าสิ่งต่างๆล้วนเป็นของตาย คือมันจะเข้ามาในรูปแบบไหนมันก็เข้ามาแน่ๆ เราจะเหนือกว่า เด่นกว่าคนอื่นเช่นนั้นดั่งกำชัยชนะไว้ เห็นทาง เห็นความสำเร็จตั้งแต่ต้น ดุจเอาชัยชนะใส่พานมาประเคนให้ถึงปากถึงมือเลยทีเดียว หนุนกำลังวาสนา หนุนอำนาจตบะเดชะให้ครบสมบูรณ์

    ด้วยปกติสิงหราชจะอาศัยซ่อนตัวอยู่ในหลืบในถ้ำแม้จะเก็บตัวเงียบแต่สัตว์ต่างๆก็ยังตื่นกลัวเป็นที่สุด ไม่ว่าจะสัตว์ใด ทั้งเทวดาหรือเพชรพญาธรก็ไม่กล้าจะเข้าไปตอแยถึงในถ้ำพระคูหา แม้เสือเจ้าป่าหรือเสือจ่าฝูงและสัตว์ต่างเมื่อเจอสิงหราชยังต้องเผ่นหนีอยู่ห่างๆ นั่นเพราะเขาสู้กำลังของสิงหราชไม่ได้ ได้แต่จะคอยชะเง้อมองเป็นแค่บริวารคอยพิทักษ์รักษาความปลอดภัยให้แก่สิงหราชเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือเคล็ดมหาอำนาจของสิงหราชอุปมาดั่งว่าแม้สัตว์เหล่าใดมีตบะมีอำนาจมากมายเพียงใดก็ตาม ย่อมต้องพ่ายแพ้ต่อราชศักดิ์ของพญาสิงห์นี้ ดุจเราคนเลี้ยงคนที่อุปถัมภ์สิงหราชก็เช่นกันท่านว่าบอกได้แค่เพียงต่อไปนั้นคนอื่นย่อมต้องชะเง้อคอคอยมองเราเท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสาปของพญาราชสีห์นั้นจะแรงมากทั้งยังฟุ้งกระจาย แม้เทวดา เพชรพญาธร ผีป่า เจ้าทุ่ง เจ้าเขา เจ้าท่าก็ยังต้องคอยดูแลรักษาสิงหราชนี้ ด้วยคุณวิเศษอันมีมาเฉพาะตัวของสิงหราชอันเป็นสัตว์ตระกูลสูง พ่ออาจารย์ท่านจึงบอกเคล็ดไว้ว่าสิงหราชที่ทำวิชาถูกต้องนั้นแม้พกหนังเสือ เขี้ยวเสือ หน้าผากเสือก็ยังไม่เป็นมหาอำนาจเทียบเท่ากับพญาสิงห์เพราะใช้ได้ทางเพิ่มทั้งมหาอำนาจและหนุนส่งบารมีให้กับผู้เป็นเจ้านายแบบลูกโดดดังนี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำธาตุกายสิทธิ์มาเสกลงหัวใจสิงหราชพร้อมทั้งทำวิชาสิงหราชครองโลก สิงหราชเหยียบโลก สิงหราชครองเมือง สิงหราชเชิญธง สิงหราชตะปบเหยื่อและวิชาตระกูลสิงหราชเฉพาะทั้งร้อยแปดตัวนำไปหล่อหลอมเป็นพญาสิงหราชขึ้นมา ท่านว่าสิงหราชที่เราทำนี้เป็นสัญลักษณ์ของมหาอำนาจกลืนโลกไม่ว่าจะสิ่งมีชีวิตใดทั้งอยู่ในป่า อยู่บนดิน อยู่บนฟ้า อยู่ในน้ำ หรือต่อให้ขุดรูอยู่เมื่อขึ้นชื่อว่าอยู่ในโลกไม่ว่าจะที่ไหนหรือมิติไหนก็ยังต้องยอมสยบ ด้วยเขามีบารมีโดดเด่นเป็นที่เคารพยำเกรงทั้งมีฤทธิ์เลิศช่วยเราดับทุกข์ภัยเหตุการณ์เลวร้ายได้ชงัดนัก ท่านว่าทำให้บริบูรณ์ทั้งหมดสุดแต่จะเอาไปใช้กันแม้ถามหาโชคลาภก็ดุจมีคนเอามาป้อนให้ถึงปากทั้งลงมหากันแก้สารพัดเหตุการณ์ ทั้งกำบังภัยมองไม่เห็นตัว ทั้งแปลงภาคแบ่งรูปแม้ใครประทุษร้ายก็จะเห็นเป็นหลายคนเช่นนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านกำกับวิชาให้คนที่พกสิงห์ ใช้สิงห์มีอำนาจบารมีแลดูสง่า องอาจ เกียงไกรเป็นที่ยำเกรงเคารพในสายตาคนทั่วไป ทั้งยังกำกับให้สิงห์เค้าหนุนอำนาจวาสนา หนุนความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานให้เป็นพิเศษ ท่านได้ทำการปลุกเสกขั้นแรกด้วยวิธีเปิดอาการทั้ง32 แล้วจึงกำหนดสมาธิเปิดอักขระทั้ง108ที่ท่านจารท่านเสกใส่ไว้ก่อนนำมาหลอมสิงหราชเพื่อให้สิงห์นี้มีฤทธิ์อย่างถึงที่สุดเป็นการเปิดกำลังคุณวิชาทั้งหมด แล้วจึงเบิกแม่ธาตุทั้งสี่เปิดทิศทั้งสิบหก จากนั้นจึงได้เชิญกายทิพย์ครูอาจารย์สายวิชาสิงหราชท่านมาประสิทธิ์ทำพิธีให้ ซึ่งครูท่านได้กำกับไว้ว่าใครมีสิงห็รุ่นนี้นอกจากเป็นผู้มีอำนาจบารมีวาสนามาก ยังจะเปี่ยมไปด้วยตบะเดชะศัตรูกลัวเกรง

    ทั้งนี้เมื่อสร้างสิงห์แล้วท่านยังตระหนักได้ว่าคนที่สู้ชีวิต สู้กับชะตากรรมเดิมของตนนั้นยังมีอยู่มากและท่านยังรู้ว่าสังคมปัจจุบันนั้นต้องฉกฉวยแย่งชิง หากอยู่นิ่งๆก็จะไม่ได้อะไร ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตจั้งใจจะทำวิชาสิงหราชลากเนื้อเพื่อลงสิงห์ของท่านซ้อนอาถรรพ์ให้คนใช้อีกคำรบหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ครูบาอาจารย์ของท่านมักไม่ใช้กันพร่ำเพรื่อ เพราะจะใช้ก็ต่อเมื่อต้องการเอาของที่เอาไม่ได้ หรือจะเรียกว่าเป้าหมายใหญ่เกินตัวเกินกำลังนั่นเอง ทั้งสิ่งที่ลากไม่ขึ้น เกินวาสนา เกินแรง เกินกำลังนั้นจะกลับลากขึ้นมากินได้ง่ายๆอย่างสบายๆ...เรียกว่าใช้ได้ทั้งฉกฉวยแย่งชิง ลากมา บังคับมาแม้ไม่เต็มใจ ท่านว่าถึงไม่ใช่ของเราก็ยังเอามาได้แบบนั้น พ่ออาจารย์ท่านต้องเสาะหากระดูกหน้าผากของสิงห์โตที่แก่ตายโดยมีซากเหยื่อคาปากเอาเฉพาะกระโหลกหน้าผากของมันมาลงอาถรรพ์สิงหราชลากเนื้อก่อนจะใช้ผงกะโหลกสิงห์บดละเอียดมาปั้นเป็นแท่งและลบยันต์สิงหราชลากเนื้อปั้นเป็นเม็ดกลมๆเรียกว่าตบะสิงหราชเก็บไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านทำวิชานี้ก็เพื่อตั้งใจให้คนที่เค้าทำอะไรเกินแรง เกินกำลัง เกินวาสนาตนเองเป็นหลักจะได้บรรเทากำลังลงบ้าง ทั้งสิ่งที่ลากไม่ขึ้นเหล่านั้นจะกลับลากขึ้นมากินได้อย่างง่ายดาย ท่านได้นำเม็ดตบะสิงห์นี้มาลงวิชาสิงห์ตะปบเหยื่อให้อีกหนหนึ่งด้วยตั้งใจจะให้คนใช้เอาไปทำมาหากินจะได้เป็นดั่งมหาอำนาจครองเมือง ได้เป็นใหญ่เป็นโตเป็นเจ้าคนนายคน ด้วยกำลังจิตวิญญาณแห่งราชสีห์ทั้งยังดวงกำลังของสิงหราชจะเป็นดั่งฐานมหาอำนาจหนุนชะตาพลิกวาสนาให้เป็นใหญ่เหนือคนได้ดั่งพญาสิงห์หาเหยื่อหากินไม่อดอยาก คนใช้ก็ต้องหากินดี หากินเก่งมีเหยื่อมีลูกค้ามากๆดุจเดียวกัน เมื่อเสกหนุนวิชาทั้งสองในลูกอมตบะสิงหราชแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาเสกปิดด้วยวิชาสุดท้ายคือสิงห์ราชนอนกกถ้ำ วิชานี้คือพญาสิงห์แม้นอนอยู่เฉยๆสบายๆในถ้ำพระคูหาไม่ได้ออกไปไหนก็ยังมีเหล่าสัตว์บริวารหาเหยื่อมาให้กินถึงปากดั่งตำราว่าไว้ว่าแม้ยอมพลีชีวิตร่างกายก็ยังให้ได้ด้วยเต็มใจเพื่อเป็นอาหารแก่พญาสิงห์ราชนั้นท่านจึงเรียกวิชานี้ว่าสิงห์นอนกินซึ่งเหนือและลึกซึ้งกว่าเสือนอนกินหลายเท่านักเพราะจะมีโภคพลาหารมากมีทรัพย์สมบัติไหลมาเทมาให้หยิบจับสมใจไม่รู้จักหยุดหย่อน ทั้งทำมาหากินสบายหากินได้ง่ายดายในทุกถิ่น เงินทองจะไหลเข้ามาได้ง่าย ท่านว่าลงไว้ให้ครบเครื่องมีทั้งเสน่ห์แบบราชเสน่ห์ทั้ง ต่อเงินทองเรียกเงินทอง และมหาอำนาจเข้าไปอีก

    ท่านได้นำเม็ดตบะสิงหราชนี้มาฝังไว้ในพญาสิงหราชของท่านทุกตัวแล้วนำมาเสกปิดในราชาฤกษ์ เพชรฆาตฤกษ์ ภูมิปาโลฤกษ์และเดชาฤกษ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าสิงห์ของฉันถือว่ามีความดุร้ายและมีกำลังมากกว่าสิงห์ที่ลงหัวใจสิงห์โดยทั่วไป สิงห์ของฉันนั้นเป็นผู้นำเป็นสิงห์ตัวผู้กินเนื้อเป็นอาหารมีเสียงคำรามดังก้องมากจนทำให้สัตว์อื่นที่ได้ยินอาจสลบหรือตายเช่นนั้นด้วยฉันเสกให้เป็นอำนาจของไกรสรราชสีห์ ทั้งยังให้มีนิสัยดุร้ายให้คุณมากแบบติณสีห์ มีสิงหนาทเป็นที่หวาดกลัวยำเกรงในสรรพชีวิตแบบบัณฑุราชสีห์ ทั้งยังมีความลึกลับงามสง่าแบบกาฬสีห์ ท่านว่าฉันเสกยกเอาคุณลักษณะที่ดีของราชสีห์ทั้งสี่ตระกูลมารวมกันไว้ในสิงห์ของฉัน ใครที่เอาไปใช้เวลามีปัญหาให้นำสิงห์นี้ขึ้นขึ้นมาระลึกอธิษฐานแล้วเขาจะเอาเป็นธุระรีบช่วยในทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าสิงห์นี้ท่านให้ขอ ต้องการอะไรก้ให้บอก หมั่นบอกกล่าวพูดคุยกับเขาบ่อยๆเหมือนเลี้ยงกุมาร เรียกเขาว่าพี่สิงห์ก็ได้ท่านว่าให้พูดกับเขาบ่อยๆ ยิ่งคุยบ่อยยิ่งเห็นผลไว แล้วจะรู้เองทุกอย่างทั้งศัตรูหมู่มารที่ไม่เป็นมิตรจะแพ้ภัยตนเอง ส่วนเราก็จะได้ดิบได้ดีไม่ว่าจะทำอะไรไปที่ไหนก็มีแต่จะเจริญยิ่งๆขึ้นเท่านั้น เรียกว่าต้องดีที่สุด เป็นยอด เป็นที่หนึ่งไม่เป็นสองรองใคร

    **เกล็ดเล็กๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนเสกวราหา(หมูนารายณ์) พานสิงห์ที่วางอยู่ใกล้กับพานที่ใส่วราหานั้น ปรากฏว่าในนิมิตนั้นเราเห็นมันไปไล่กัดพระวราหา พอออกจากสมาธิมาท่านว่ายังเห็นเครื่องรางชิ้นนี้กระโดดข้ามพานโดยพระวราหาก็กระโดดหลบลงพื้นทั้งนั้นเลย
    *** ทั้งพอเสกเสร็จแล้วมีคนเขาเอาไปใช้แล้วโดนรุมแทงหนนึง โดนดักยิงหนนึง มีคนที่เห็นเหตุการณ์เค้าเล่าว่าเห็นเงาดำมายืนบังผู้ชายคนนี้ไว้ เป็นเงาดำเช่นนี้ถึงสองครั้งสองหน เรียกว่าหนแรกมีดทำอันตรายไม่ได้ ส่วนหนที่สองกระสุนนั้นตกลงตรงหน้า ถือได้ว่าปลอดภัยทั้งสองครั้งจนคนที่พกขนานนามให้ว่าสิงห์ผีสิง เพราะมีคนเห็นเป็นเงาดำมากันตัวให้ทั้งสองหนเช่นนั้น


    แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าสิงห์นี้ไม่ใช่สิงห์ผีสิงแต่อย่างใด แต่เราลงกำบังภัยทั้งแปลงภาคแบ่งรูปไว้ เวลามีอันตรายแบบจวนตัวจริงๆเขาจะมารับภัยพิบัติเหล่านั้นแทนเจ้านายของเขา ท่านว่าสิงห์ของฉันไม่ใช่ผีนะแต่ถ้าจะเรียกให้สนุกปากก็ไม่ว่ากันเพราะมันแรงมันเฮี้ยนด้วยเป็นสิงห์วิชา เป็นสิงห์ทิพย์ แม้หมู่สัตว์จตุบททวิบาทอันได้ชื่อว่าเป็นสัตว์วิเศษใดๆมันก็ควบคุมเขาได้ทั้งหมดเพราะเขาถือตัวว่าตนเป็นสัตว์ตระกูลสูง เป็นเจ้าโลกเจ้าถิ่นเช่นนั้น ดังนั้นท่านว่าคนที่เอาไปก็ต้องบอกกล่าวเขาเสียก่อนว่าไม่ให้ไปข่มเหงหรือรังแกผู้ใด***และจะบริบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีกหากได้อาราธนาเป็นคู่เพราะครูท่านกำหนดมาแต่โบราณว่าหากใช้สิงห์ราชได้ครบคู่จะเก่งกาจมหากาฬระงับทุกข์โทษภัยได้ในทันที(ท่านว่าคนเลี้ยงให้ตั้งชื่อให้เขาด้วย และเขาเป็นสิงห์ทิพย์ไม่ต้องเซ่นด้วยอะไรทั้งนั้นเพราะเขาจะหากินของเขาเอง เว้นแต่เราบนบานก็ให้บนด้วยหมูสดไก่สดเช่นนั้น)

    คาถาบูชา

    อันตะภาโว กะจะยะสะ โวมะถังปะกาเสนโต สะถะอาหาพญาราชะสีโห เชชะนะอาสิทิเสตถัง อาหะเตชะนะ อะปันนาอาสิติ

    * รายการสิงห์ทิพย์นี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย ท่านว่าจะบอกกล่าวให้เขาภักดีกับเจ้าของทั้งฝากฝังให้เขาเชื่อใจเคารพเจ้านายให้อีกหนหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนโรงศพให้ชาวเขาที่ไม่มีทุนทรัพย์เวลาทำฌาปนกิจ

    ร่วมทำบุญบูชา สิงห์ราชลากเนื้อ(สิงห์ทิพย์) บูชา 2,500 บาท

    45973451-1381772978623875-4644831706979762176-n.jpg 46113192-351405895419730-4022475230504026112-n.jpg
    45593484-313654695897752-2841957835170906112-n.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พญากากาศดึงกำลัง(พาลีไร้พ่าย)

    - ทำไมต้องใช้พญาพาลีของพ่ออาจารย์
    ก่อนอื่นก็ต้องมาทำความรู้จักพญาพาลีในสายพ่ออาจารย์กันก่อน หนึ่งในวิชาและพระเวทย์ฝ่ายไศวะศาสตร์โบราณที่มีอิทธิคุณแปลกประหลาด สามารถดลบันดาลให้ผู้ครอบครองชนะไร้พ่าย ทำอะไรก็สำเร็จ แต่ทว่าครูบาอาจารย์นั้นเกรงกลัวว่าคุณสมบัติแท้จริงของวิชานี้น่ากลัวเกินไป จึงปิดบังอำพรางหรือไม่สร้างไปเลยก็มี ถึงยอมสร้างก็มักจะไม่ทำกันแบบเต็มวิชา ด้วยเกรงว่าจะก่อภัยอันตรายให้กับศิษย์ทั้งหลายที่ได้ใจ เกิดความหลงมัวเมาในอำนาจเร้นลับนำไปครอบครอง
    แต่เดิมนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้กดพิมพ์กากาศหรือพญาพาลีขึ้นมา เพื่อจะสืบทอดพระเวทย์ฝ่ายไศวะโบราณที่ขาดการสืบต่อไป ท่านว่าเห็นควรเสียที ที่จะจรรโลงขึ้นมาเสียใหม่และต้องทำไว้ให้เต็มวิชาด้วยพาลีนั้นชาติพันธุ์เป็นลิงแต่หน่อเนื้อเชื้อวงศ์เป็นอินทรวงศ์ เป็นลิงมีศักดิ์สูงเป็นลูกเจ้าสวรรค์ต่างกับบรรดาลิงทั้งหลายไม่ว่าจะสุครีพ นิลพัตร หรือหนุมาน ซ้ำยังมีฤทธิ์เลิศเป็นเอกอีกด้วย ถึงขนาดพ่ออาจารย์กล่าวไว้ว่า พาลีถ้าไม่ตายเสียก่อน ในรามเกียรติ์นั้นพระรามไม่ได้เกิดแน่นอน เพราะใครก็ฆ่าพาลีไม่ได้ ใครสู้ก็แพ้พาลี ขนาดเจ้าทศกัณฐ์ที่พระรามตามล่าทำสงครามจนเรื่องกินระยะเวลายาวนานนั้น เจอพาลีเข้าก็หมดแรง รบกี่ทีก็แพ้ แถมยังโดนพาลีจับไปกระทำการทรมานทรกรรมให้กินข้าวเหลือของนางกำนัลแล้วให้องคตลูกชายเอาทศกัณฐ์ไปลากเล่น(เหมือนจูงหมาเดินเล่น)ไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยง หยามเกียรติอสูรวงศ์พรหมถึงปานนั้น
    พ่ออาจารย์ท่านว่าที่จริงนั้นถ้าว่ากันด้วยฤทธิ์พระรามก็ยังฆ่าพาลีไม่ตาย พาลีตายด้วยมือของตนเอง แม้แต่พระรามแผลงศร ศรพระรามที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดศาสตราวุธฝ่ายเทพ แผลงที่ไรได้เรื่องทุกที พาลีก็ยังคว้าจับมาเล่นได้ไม่ได้สะทกสะท้านในฤทธิ์อำนาจใดๆเลย แต่เพราะระลึกถึงคำสาบานแต่หนหลังได้ว่าตนเองนั้นแย่งเมียน้องคือสุครีพ และเคยถวายสัตย์ต่อพระนารายณ์ไว้ว่าถ้าแย่งจะให้ศรพระนารายณ์ล้างชีวิตจึงตั้งใจจะจบชีวิตตัวเอง แต่พระรามก็ยังอาลัยในตัวพาลีมากนัก เพราะในประวัติศาสตร์ไม่เคยปรากฏมีผู้ใดที่จะมีฤทธิ์แกล้วกล้าเฉกเช่นพญาวานรผู้นี้ พระรามจึงอยากได้พาลีมาทำราชการกับพระองค์ ได้เอ่ยขอเพียงเลือดของพาลีเสียครึ่งหยดมาล้างคำสัตย์ที่สาปสรรค์ไว้ถึงชีวิตให้แก่ศรพระเป็นเจ้า แต่พาลีก็หายอมไม่เพราะต้องการรักษาคำสัตย์นั้น จึงใช้ศรของพระรามทำการปลิดชีพตัวเอง เมื่อตายไปก็ได้เกิดเป็นเทพเจ้ากลับมาทำลายพิธีบูชาหอกของทศกัณฐ์ที่ทำให้อินทร์พรหมยมยักษ์ทั้งสวรรค์เดือดร้อนอีกครั้งนั่นเอง
    พาลีนั้นพ่ออาจารย์บอกว่าเขามีความสามารถที่ไม่เหมือนใคร ในชั้นฤทธิ์นั้นถ้าเปรียบกับวานรชั้นหลานอย่างหนุมานแล้ว ตัวพาลีซึ่งเป็นเจ้าเหนือหัวระดับผู้ครองนครขีดขินก็มีความสามารถแต่เดิมอยู่แล้วไม่เป็นรองกันแต่อย่างใด เพราะสืบสายเลือดศักดิ์สิทธิ์เป็นบุตรพระอินทร์เจ้าสวรรค์นั่นเอง แต่สิ่งหนึ่งซึ่งรู้กันไปทั่ว ว่าเป็นความสามารถที่ขี้โกงที่สุดในสามโลก ทำให้กากาศนั้นเก่งเกินกว่าเก่ง เก่งจนแม้แต่พระเป็นเจ้าก็ยังไม่สามารถต่อกรให้มีชัยชนะได้ นั่นคือพรของพระศิวะเจ้าที่ให้กับพาลี กล่าวคือ เวลาสู้กับใครให้กำลังอีกฝ่ายนั้นลดลงเสียครึ่งหนึ่งแล้วกลับมาเพิ่มเป็นกำลังให้พาลี เพราะเช่นนี้พาลีเมื่อสู้กับใครจึงมีฤทธิ์เพิ่มอีกมหาศาล ยิ่งศัตรูเก่งแค่ไหน พาลีก็ยิ่งเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเพราะเขามีอำนาจเดิมของเขาใช่ย่อยเลยและยิ่งนำกำลังและตบะทั้งหลายของศัตรูครึ่งหนึ่งมาเพิ่มให้กับตัวเองตลอดนั้น เรียกได้ว่าเผชิญหน้ากับใครก็เหนือเขาไปทั้งหมดเป็นพาลีไร้พ่ายนั่นเอง ซ้ำพระศิวะเป็นเจ้ายังมอบพระขรรค์เพชรของพระองค์ให้เป็นเทพศาสตราคู่กายอีกด้วยในฐานะที่พาลีและสุครีพทั้งสองพี่น้องช่วยกันยกเขาไกรลาสให้ตั้งตรงได้ตามเดิม
    หากจะกล่าวถึงความเจ้าชู้แล้ว กากาศนั้น เหนือเสียยิ่งกว่าที่เรียกว่าเจ้าชู้ยักษ์อีกหลายขุม เพราะสนมกำนัลนั้นเต็มวังสนุกปานวิมานของบิดาคือพระอินทร์ก็ไม่ปาน แถมไม่พอใจใครก็ไปช่วงชิงเมียเค้ามาได้ดื้อๆไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น เช่นนางมณโฑของทศกัณฐ์ ที่มีลูกกับพาลีเป็นองคต ด้วยทศกัณฐ์นั้นได้รางวัลพระเป็นเจ้าประทานนางมณโฑให้ ยังไม่ทันที่จะได้เชยชมเผลอเหาะข้ามเมืองของพาลี กากาศนั้นพิโรธสุดกำลังกล่าวหาว่าทศกัณฐ์หยามเกียรติกล้าบินข้ามศรีษะตน จึงสั่งสอนต่อรบด้วย เอาทศกัณฐ์มาทรมานและเอาเมียพระราชทานนั้นมาเป็นเมียตนเอง แม้แต่นางดาราที่พระศิวะเจ้าโปรดประทานให้น้องชายคือสุครีพก็ยังตกเป็นของพาลี เรียกว่าถ้าใจรักผู้ใดไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมหน้าไหนทั้งนั้น เพราะใครก็สู้ด้วยไม่ได้ รบไปก็แพ้เปล่าๆ
    พ่ออาจารย์ท่านจึงใช้ผงมหาธาตุทั้งสี่เรียกสูตรพญาวานรเชิญลิงดำหรือลิงตัวครูในสายครูของพ่ออาจารย์มาทำวิชาลบผงโดยพิศดารซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้ลงผงสำคัญไว้สามสูตรโดยท่านต้องการจะทำให้ขลังเฉกเช่นของเดิมานจึงได้ลงผงวิเศษทั้งสามเสริมเป็นกำลังอาถรรพ์ให้กับรูปพญาพาลีนี้ด้วยได้แก่
    - หัวใจพาลีเต็มสูตร ท่านว่าต้องลงต้องเดินให้ครบเพื่อจะเสริมการตั้งจิตตั้งรูปพญาพาลี ซ้ำท่านยังเมตตาลงจารผงวิชาพาลีรั้งทวีป และทำผงเอกคือวิชาพาลีลูบหลังนางแก้วดาราที่เรียกว่าเป็นเสน่ห์เจ้าชู้สุดๆอีกวิชาหนึ่ง ลูบหลังใครได้ร่วมรักหลับนอนท่านว่าจะได้ขานรับกับผงลบวิชานี้ส่งพลังถึงผู้บูชาได้แรงและไวยิ่งนัก
    - ยันต์ทศกัณฐ์ฆ่าไม่ตาย ท่านว่าผงนี้ตั้งตัวดี ใช้ได้หลายทาง ศัตรูที่ไหนจะฆ่าจะล้มเรา เราก็ไม่ตาย ยังลุกกลับมาสู้ใหม่ได้เสมอ เรียกว่าล้มได้ก็ลุกได้ สู้ไม่ถอยแบบนั้น หรือจะเรียกว่าล้มแล้วลุก ปลุกแล้วฟื้น ตื่นแล้วมีกำลังก็ได้ ยิ่งอุปสรรคเยอะ ยิ่งล้มบ่อยเท่าไหร่ก็จะยิ่งเก่งกาจ ยิ่งสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น
    - ผงยันต์วิชาหนุมาน หนุมานนี้เก่งทุกด้านทั้งบุ๋นและบู๊ ซ้ำยังเสริมกำลังด้วยวิชาสายมหาธาตุหนุนด้วยธาตุลมเป็นเอก เอาพระพายเข้ามาใช้ เอาพ่อมาหนุนลูก ทำอะไรจะได้สำเร็จ จะได้ว่องไว เหมือนลมที่เข้าไปได้ทุกที่ อยู่ที่ไหนก็ไปถึง ไม่มีที่ไหนที่ปราศจากลม ท่านว่าของที่ทำด้วยธาตุลมนี่เสน่ห์ดีนัก ผงนี้ผู้ใดได้ใช้เวลาเราคิดถึงใครเค้าก็คิดถึงเรากลับ จะทำอะไรก็อธิษฐานฝากบอกพระพายบอกหนุมานไว้ก็ได้ เขาช่วยได้จะสำเร็จไวดั่งมหาวายุพัด
    พ่ออาจารย์ท่านผสมผงวิชาลิงสายต่างๆ ซ้ำยังลงผง 18 มงกุฏ อันเป็นลิงเจ้ายอดทหารเอกของพระรามทั้ง 18 ตน และได้นำเศษไม้ เศษงาช้างตกทอดที่เหลือจากการแกะสลักหนุมานของหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน อันเป็นตำนานเครื่องรางในสายหนุมานมาบดเป็นผงผสมลงไปด้วย ท่านว่าหาหนุมานที่หลวงพ่อสุ่นทำไม่ได้ราคาแพงเกินเอื้อม เอานี่ไปใช้ฤทธิ์ท่านก็อยู่ในนี้ใช้ได้เหมือนกัน เมื่อจะผสมผงท่านต้องคอยชักยันต์กำกับในอัปปนาสมาธิตามวิชาเฉพาะตัวและไล่ทำวิชาดึงกำลังของพระอินทร์(โดยขออนุญาติปู่พระอินทร์ท่านให้แบ่งกำลังมาก่อกำเนิดเป็นพญาพาลีอีกวาระหนึ่ง) และใช้ผงนั้นกดรูปกากาศ(พญาพาลี)ขึ้นมา โดยท่านแกะพิมพ์ให้ดูกันง่ายๆโดยมือหนึ่งนั้นกากาศได้เชิญพระขรรค์เพชรอันเป็นเทพศาสตราที่พระสยมประทานให้ใช้รบกี่ศึกก็ไร้พ่ายเช่นนั้น ส่วนอีกมือหนึ่งท่านทำไว้คล้ายท่ายกมือคว้าจับนภากาศเป็นการดึงกำลังของคู่ต่อสู้เรา โดยท่านแกะพิมพ์ให้พาลีนั้นเหาะอยู่บนอากาศเป็นปางที่ใช้เพื่อดึงกำลังและวาสนา บารมี ตบะ วิชา...โดยเฉพาะ


    พ่ออาจารย์ท่านว่าพาลีนี้คือลูกพระอินทร์ เมื่อจะทำให้เขาเกิดนอกจากเชิญญาณบารมีของเขาแล้วก็ต้องเอากำลังของบิดาเขาหนุนเข้าไปด้วยเหมือนเอาพ่อมาไว้กับลูก พ่ออยู่กับลูกเป็นเคล็ดว่าทำอะไรก็เจริญขึ้นฝ่ายเดียวไม่เสียเปรียบตกต่ำ เมื่อพาลียกอาวุธและใช้พรวิเศษของพระเป็นเจ้าดึงกำลังศัตรูจึงเป็นอำนาจดึงดูดชะตากรรมเปลี่ยนโชควาสนาแบบฉับพลันทันทีด้วยบัญชาศักดิ์สิทธิ์ของครูพระสยมที่ให้ไว้เฉพาะแก่พญาพาลี พ่ออาจารย์ท่านว่าพรนี้สำคัญนักแม้นเทพยดาทั้งหมื่นเสนโกฏิจักรวาลก็ไม่เสมอด้วยพาลีเขา หรือไม่มีความสามารถจะกระทำเช่นนี้ได้แบบเขา เรียกว่าไม่ว่าจะเรื่องใด เราจะขันแข่งกับใคร จะเข้าไปสู้ไปเผชิญหน้ากับใคร ถ้าเราปรารถนาแล้วไซร้เราย่อมใช้อำนาจของพญาพาลีลดทอนกำลึงวาสนาบารมีของคู่แข่งเราลงได้ครึ่งหนึ่งและนำมาเพิ่มมาเสริมให้กับตัวเรานั่นเอง ด้วยอำนาจนี้จึงจัดเป็นกำลังหนุนที่รุนแรงพ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้คนเขาใช้ ยิ่งเขามีเป้าหมายสูงมากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งตั้งจุดหมายไว้ไกลเท่านั้น และตัวตนที่เป็นจุดหมายของเขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งมีวาสนาบารมีสูงขึ้นเรื่อยๆ (พ่ออาจารย์ท่านว่าพญาพาลีรุ่นนี้ถ้าคนใช้เป็นเขาจะอธิษฐานถึงจุดหมายของเขาเป็นตัวตนที่เขาอยากล้มให้ได้แบบสูงๆไว้ก่อนเลย เพื่อดึงกำลังและวาสนาของคนๆนั้นมาใช้) ซ้ำอีกมือหนึ่งนั้นพาลี(กากาศ)ได้เชิญพระขรรค์เพชรสุดยอดเทพศาสตราที่พระศิวะเจ้าประทานให้กากาศไว้ ไม่มีปรากฏว่าศึกไหนที่พญากากาศจะแพ้ถ้ามีอาวุธพระเป็นเจ้าอยู่ในมือจะได้ฟาดฟันเคราะห์ร้าย ปัญหาและอุปสรรคให้หมดไปจากเส้นทางชีวิตคนที่ได้รับ

    ด้านหลังท่านฝังตะกรุดสำคัญไว้เรียกว่าตะกรุดแก้วประกายพฤกษ์ ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำได้ยากมากเพราะเวลาทำท่านต้องตั้งจิตไว้ที่รูปฌาณในชั้นที่ละเอียดที่สุด ซึ่งการทำต้องยกวาระจิตในกำลังฌาณระดับต่างๆอันต้องใช้ความชำนาญที่คล่องแคล่วในการเข้าออกฌาณเป็นวสี ท่านว่าจะไม่กล่าวมากเกินไป เอาว่าทำยากมากด้วยตะกรุดแก้วประกายพฤกษ์นี้เมื่อจารก็ต้องใช้อำนาจแห่งฤทธิสมาบัติ พอออกจากสมาบัติก็ต้องใช้ทิพยจักษุชักองค์ยันต์ขึ้นประทับรอยจารอีกคำรบหนึ่งก่อนที่จะมาเสกด้วยอำนาจฌาณที่กล่าวมา ...ท่านว่าทำยากเพราะต้องเสกจนตะกรุดมีรัศมีสว่างจ้าปรากฏออกมาในทิพยจักษุของเรา เท่านั้นยังไม่พอเมื่อทำได้เช่นนั้นก็ต้องยกระดับความสว่างของอำนาจตะกรุดให้สูงยิ่งขึ้นไปอีกเป็นความสว่างระดับประกายเพชร แลสุดท้ายเพื่อให้สำเร็จตะกรุดนี้ก็ต้องยกอำนาจเป็นความสว่างระดับแก้วประกายพฤกษ์อันมีอำนาจขยายไปได้ในโกฏิจักรวาลไม่มีประมาณ พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องทำให้ได้เช่นนี้จึงจะใช้ได้ เป็นตะกรุดที่เทียบได้กับสมบัติขององค์เทพ องค์พรหม และตะกรุดนี้ก็จะมีอำนาจดั่งแก้วประกายพฤกษ์โดยแท้จริง ท่านว่าทั้งทำยากเสกยากแต่ก็ต้องทำเพื่อเอาพุทธคุณให้พวกเธอใช้กันตามแต่กำลังจะอธิษฐาน ดุจผู้ใดมีแก้วประกายพฤกษ์ไว้ในครอบครอง สิ่งที่หวัง สิ่งที่ทำอยู่ สิ่งที่ระลึก สิ่งที่อธิษฐานกับดวงแก้วนั้นก็จะได้สำเร็จสมความประสงค์ด้วยเจตน์จำนงค์ของอำนาจดวงแก้วประกายพฤกษ์อันมีกำลังสนองคำอธิษฐาน...สูงสุดนั่นเอง

    เมื่อกดพิมพ์แล้วท่านได้นำองค์พระมาลงเสกเป่าคาถาหัวใจพญากากาศไว้ทีละองค์ ทุกองค์ ก่อนจะเรียกจิตตั้งรูปนาม และนำไปแช่น้ำทิพย์ที่เกิดเองตามธรรมชาติอันมีกำลังเวทย์สูงและปลุกเสกบนยอดดอยเพื่อจะให้มีกำลังธาตุที่เข้มข้นสำเร็จเป็นพาลีที่มีอานุภาพยิ่งใหญ่ สุดท้ายท่านก็ได้เชิญครูพระสยม(พระศิวะ)มามอบพรแก่พญาพาลีเพื่อให้มีฤทธิ์แกล้วกล้าเช่นในวรรณคดีจริงๆ โดยพาลีนั้นถือพรที่ว่า "ถ้าแม้เผชิญหน้าด้วยผู้หนึ่งผู้ใด ให้กำลังเขาถดถอยเสียครึ่งหนึ่งและมาทดแทนให้กับเรา"

    พ่ออาจารย์กล่าวว่าเฉพาะวิชาพญาพาลีโดดๆนั้นก็มีฤทธิ์มากแล้ว แม้อยู่ต่อหน้าใครก็ลดทอนกำลังวาสนาบารมีเค้าเสียครึ่งหนึ่งมาเพิ่มให้ตนเอง แต่พระผงนี้ยังได้เพิ่มทางสำเร็จ ชนะอุปสรรคด้วย สำเร็จไว ทำอะไรก็ไวดั่งพญาพาลีที่เปิดม่านปุ๊ปก็สุขสมใจปานนั้น จะเล่นทางเสน่ห์ก็ยอดเสียยิ่งกว่าพระขุนแผน จะเอาผงผีผงพรายมาเทียบนั้นไม่ได้เลย ผงวิชาลิงนี่แหละแรงกว่ามาก

    ท่านเมตตาฝากไว้ว่า ลิงอย่างไรก็คือลิงเห็นแบบนี้องค์ๆหนึ่งนั้นมีวิชาลิงอยู่สารพัดเลย เป็นลิงเจ้าทั้งนั้น ถ้าจะขออะไรอย่าลืมให้กล้วยท่านด้วย จะบนอะไรก็เอากล้วยซักหวีน้ำเปล่าซักแก้ว ผลหมากรากไม้ถวายบ้างตามกำลังแล้วแต่เหตุการณ์ที่เราจะบน ลิงนี่ทำอะไรก็สำเร็จไว ขออะไรเขาก็เต็มใจทำให้ พ่ออาจารย์ท่านยังพูดให้คิดว่าไวกว่าพิมพ์พระพิมพ์เทพเจ้าเสียอีก

    พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องไปแจกแจงอธิบายอะไรเขามากเอาแค่ครอบจักรวาลบอกไปแค่นั้น ลำพังเวลาทำอะไรเจอใครลดทอนกำลังเขาลงครึ่งหนึ่งเพิ่มให้ตนเองก็ใช้ได้ร้อยแปดพันประการแล้ว เวลาจะใช้ท่านว่าให้เลี่ยมห้อยคอก็ได้ พกที่เอวก็ได้ ทำพวงกุญแจก็ได้ ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ได้ แต่เลี้ยงก็หมั่นพูดคุยบอกกล่าวท่านหน่อย ของที่มีจิตมีญาณรู้สิงสู่แบบนี้ ยิ่งเราพูดยิ่งเราคุยกับเค้าท่านว่ามันยิ่งดีกับตัวเราเอง

    อีกประการหนึ่งท่านว่าวิชานี้แท้จริงนั้นมันอันตรายอยู่มากเพราะเป็นการสร้างเครื่องมงคลอันมีอำนาจลี้ลับพิเศษ สำหรับคนสถานะพิเศษ(ท่านว่าพูดได้เท่านี้) ถ้าอยู่กับคนดีจะเจริญขึ้นสืบต่อไปในเบื้องหน้า แต่เราแค่ทำสืบวิชาไว้ จึงอธิษฐานจิตให้คนดี ให้ผู้มีบุญฝ่ายสัมมาทิฏฐิได้มาประสบพบเจอและได้ครอบครองเป็นเจ้าของไปแต่เพียงเท่านั้น ผู้ที่ใจคิดคดอย่าได้คิดอย่าได้เห็นเลย รายการนี้ท่านอธิษฐานจิตเสร็จแล้ว ท่านว่าเต็มแล้ว ใครจะบูชาก็ขอให้รีบกันหน่อยเพราะเป็นรายการที่มีผู้สนใจมาก

    คาถาบูชา
    โอม หันตะนุภา อักขระนะ ยาลิ อิสวาสุ จะ อุอะมะ


    ***สำหรับคนที่มีกำลังไม่มาก(หมาายถึงกำลังความสำเร็จของการกระทำ) พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นเคล็ดสำคัญเราจะบอกครั้งเดียว พาลีนี้องค์หนึ่งนั้นใช้ลดทอนกำลังได้กึ่งหนึ่งมาเสริมรากตั้งฐานให้กับเรา ดังนั้นสององค์ก็จะดึงกำลังเขาได้เสียทั้งหมด ท่านว่าเราพูดได้เท่านี้ ไม่สมควรพูดมากไปกว่า เอาว่าถ้าใช้ต่อคนให้บูชาเป็นคู่ ทีนี้เผชิญหน้ากับใครเขาก็ไม่ต้องกลัวทั้งสิ้นเพราะเราถ่ายกำลังของเขามาทั้งหมดนั่นเอง
    ท่านใดต้องการบูชารับจองทาง PM เท่านั้น รายได้ท่านจะนำไปสมทบทุนที่เอาไว้บูรณะวัดวาอารามในชนบทต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พญากากาศดึงกำลัง(พาลีไร้พ่าย) บูชา 900 บาท


    46388226-358635121570956-9214778984116518912-n.jpg 46317260-316915845572950-856629912927207424-n.jpg
    46352524-2059015234161453-2233842963442565120-n.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา หูหลู:น้ำเต้าตั้งตัวฟื้นชะตาดูดวิญญาณ(ปราบหมื่นมาร)

    แต่เดิมนั้นวิชาทำน้ำเต้าได้รับความนิยมตกทอดกันมายาวนาน หากจะหาต้นสายหรือใครที่ทำได้ดังและมีชื่อเสียงที่สุด นั่นย่อมต้องเป็นพระสังวราชุ่มวัดพลับที่ทำน้ำเต้ากันไฟขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักแพร่หลาย โดยท่านได้วิชานี้มาขณะออกเดินธุดงค์และได้พบศาลาพักร้อนกลางป่าหลังหนึ่งถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหมด แต่ตัวศาลากับไม่ได้รับความเสียหายเป็นที่น่าอัศจรรย์ เมื่อท่านสำรวจจึงพบว่าบริเวณอกไก่มีน้ำเต้าแขวนไว้ลูกหนึ่งพอเทออกดูก็พบคาถากันไฟบทหนึ่งบรรจุอยู่ภายใน.....เมื่อประจักษ์ในอภินิหารดังกล่าวท่านจึงได้สร้างน้ำเต้าขนาดเล็กบรรจุคาถาแจกจ่ายแก่ศิษย์ยานุศิษย์จนมีชื่อเสียงถึงทุกวันนี้ ดังนั้นวิชาทำน้ำเต้าจึงนิยมกันสืบมา แต่ทว่าก็มีหลายอาจารย์ได้สร้างขึ้นให้น้ำเต้านั้นมีอานุภาพแตกต่างกันออกไป ไม่ใช่ดีทางด้านกันไฟแบบเดียว มีทั้งใช้กันไฟ กันปืน แคล้วคลาด หรือทำมาหากินเจริญรุ่งเรืองตามความถนัดของผู้สร้างนั้นๆ

    น้ำเต้าหรือ “หูหลู” ในภาษาจีน มีความเชื่อถือต่อเนื่องกันมาโดยนับถือเป็นหนึ่งในของวิเศษของเซียน ซึ่งภายหลังคณาจารย์จีนนิยมเอามาทำเป็นเครื่องรางมงคลและแขวนไว้ตามบ้านเรือนเพื่อขับไล่สิ่งชัวร้ายไล่สิ่งอัปมงคล คนจีนที่นับถือลัทธิเต๋าเชื่อว่าน้ำเต้าเป็นของวิเศษของเซียนที่มีศักดิ์ใหญ่หลายองค์ ไม่ว่าจะเป็นทิก้วยลี้หนึ่งในแปดเซียน หรือไท่ซ่างเหล่ากุงผู้ปรุงยาในสรวงสวรรค์ดังนี้ ความวิเศษของน้ำเต้าเซียนนั้นนอกจากจะเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์มงคลแล้ว ภายในน้ำเต้าเซียนยังเชื่อว่าบรรจุน้ำทิพย์แห่งความเป็นอมตะไว้ ดังนั้นการแขวนน้ำเต้าจึงทำไปเพื่อเป็นการเก็บกักเคราะห์ภัยร้ายไว้ภายในไม่ให้มาเยือนสถานที่หรือผู้พกพา ทั้งยังใช้น้ำเต้าวิเศษนั้นดูดหรือกักขังมารปีศาจไว้ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการแขวนน้ำเต้าไว้จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงไร้โรคภัยอีกด้วย ซึ่งชาวจีนเชื่อกันว่าน้ำเต้าเป็นสัญลักษณ์ของสิริมงคล ความมั่งคั่ง ร่ำรวย เพราะมีรูปลักษณะคล้ายเลขแปดอันหมายถึงความร่ำรวยที่ไม่สิ้นสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพลังงานที่ไม่สิ้นสุดหรือการมาถึงของวาสนาแบบอินฟินิตี้จึงถือว่าเป็นสิริมงคลเพราะจะได้ใช้แก้เคล็ดคนที่วาสนายังมาไม่ถึงเหล่านั้น ทั้งยังจะได้ทำเครื่องรางเกี่ยวทรัพย์ บันดาลโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหลายในรูปน้ำเต้านี้ ด้วยน้ำเต้าของท่านนั้นจะคอยดูดซับพลังงานที่ดี ดูดทรัพย์สินเงินทอง นำพาให้เกิดโชคลาภแก่ผู้บูชา ทำให้มีผลด้านโชคลาภอย่างมาก ทั้งยังจะคอยเก็บกักความชั่วร้ายเอาไว้ไม่ให้เข้ามาเยือนในชีวิตได้ เช่นนั้นท่านจึงทำน้ำเต้าขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หลักคือ...ให้คนเอาไปใช้ตั้งตัวตั้งตนได้

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวย้ำว่าวิชาน้ำเต้านั้นถ้าทำให้ละเอียดและมีอิทธิคุณสูงสุดแล้ว จะมีอานุภาพสูงมากกว่าพวกเบี้ยแก้นับหมื่นนับแสนเท่า เพราะน้ำเต้าทิพย์นั้นจะเป็นของวิเศษที่มีหน้าที่ในตัวเอง นั่นคือการใช้เขาเพื่อดลบันดาลความสุขให้แก่มนุษย์โดยมหาศาสตร์ของวิชาทำน้ำเต้านั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าภายในจะต้องมีความสุขห้าประการของมนุษย์อุปมาดุจค้างคาวห้าตัวเช่นนั้น ทั้งยังมีอานุภาพเฉพาะทางเป็นพลังซึ่งใช้สลายและป้องกันสิ่งไม่ดีตลอดจนฟื้นฟูสุขภาพที่ทรุดโทรมให้กับผู้พกพาด้วย แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใดเลยนั่นก็คือใช้กักเก็บเงินทองดั่งน้ำเต้าทิพย์นี้ต้องมีกำลังของธาตุทอง ดังนั้นเมื่อสร้างพ่ออาจารย์ท่านจึงต้องรีดทองคำหนักหนึ่งบาทเป็นฉนวนลงจารยันต์โภคทรัพย์ในเบื้องต้นหล่อหลอมลงไปด้วยเพื่อเอากำลังของธาตุทองที่จะไปช่วยสลายถ่ายเทพลังร้าย ช่วยขับไล่สลายโรคภัยไข้เจ็บและความมืดมนชั่วร้ายให้พ้นไปจากชีวิตผู้พกพา ทั้งอานุภาพธาตุทองที่เสริมกับยันต์โภคทรัพย์จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ถือเปี่ยมด้วยโชคลาภวาสนา และบรรลุผลสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวัง ยิ่งมีพลังความชั่วร้ายหรือโรคภัยมากเท่าไหร่ ยิ่งดวงซวยหรือตกต่ำมากเท่าไหร่ น้ำเต้านั้นก็จะดูดและแปรเปลี่ยนพลังงานนั้นกลับมาฟื้นฟูตัวเราได้มากขึ้นเป็นเงาตามตัวมากเท่านั้น จะเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีเป็นทรัพย์สินสิริมงคลเช่นนั้น เพื่อเปลี่ยนถ่ายพลังงานให้มีแต่สิ่งที่ดีเข้ามาหาตลอดเวลา ทั้งเสริมดวง แก้อาถรรพ์ เพิ่มความเป็นสิริมงคล ปราบสิ่งชั่วร้าย ด้วยคติที่ว่าน้ำเต้าเป็นผลไม้ที่อยู่ในดินเมื่อเอาเมล็ดฝังดินแล้วโผล่จากดินขึ้นมาอยู่ด้านบน เพราะน้ำเต้าเป็นธาตุทองพ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นเคล็ดว่าดินที่ต่ำที่สุดกลับให้กำเนิดทองที่อยู่สูงที่สุดได้(ดินให้กำเนิดทอง)ดังนั้นเครื่องรางน้ำเต้านี้ท่านจึงตั้งใจทำเพื่อแก้วาสนาคนที่อยู่ต่ำที่สุดดุจดั่งเม็ดน้ำเต้าที่โดนฝังดินไว้นั่นเอง

    ด้วยศาสตร์การสร้างน้ำเต้าที่ให้คุณด้านต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านจึงทำน้ำเต้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท่านขึ้นมาและทำการปลุกเสกไว้ ซึ่งวาระนี้ท่านทำด้วยสองมหาศาสตร์ควบคู่กัน หนึ่งก็คือใช้พระยันต์กันไฟ กันฟ้า กันเคราะห์ กันกระทำย่ำยีมาหลอมหล่อกับชนวนทองคำหนักหนึ่งบาทที่ลงยันต์โภคทรัพย์ดังกล่าวข้างต้นเทออกมาเป็นองค์น้ำเต้าแล้วจึงเสกตามวิชาลงน้ำเต้าของท่าน เมื่อสำเร็จดีแล้วท่านจึงเชิญโพธิสัตว์และเซียนฝ่ายมหายานตลอดจนลัทธิเต๋ามาช่วยสำเร็จน้ำเต้านี้ ซึ่งท่านตั้งใจทำให้เป็นของวิเศษที่ให้คุณมหาศาลกับผู้พกพาเพราะน้ำเต้านั้นเป็นของสูง เมื่อเสกสำเร็จพ่ออาจารย์ท่านว่าคติคนจีนนั้นเขาเชื่อว่าในน้ำเต้าจะมีสุราเซียนหมื่นปีซึ่งเป็นยาอายุวัฒนะถ้าบ้านเราก็ต้องเรียกว่าน้ำอมฤตนั่นเองดังนั้นน้ำเต้าทิพย์นี้ผู้บูชานอกจากจะอายุยืน สุขภาพแข็งแรงแล้ว ในทางกลับกันยังใช้ปราบปีศาจดูดสิ่งชั่วร้ายเข้ามาสลายด้วยอานุภาพน้ำทิพย์ในน้ำเต้าเช่นนั้น เรียกได้ว่าน้ำเต้าจะดูดสิ่งชั่วร้ายแล้วแปรเปลี่ยนเป็นสิริมงคลให้กับเรานั่นเอง เพราะคติที่ในน้ำเต้ามีน้ำอมฤตสามารถนำมาใช้ชุบชีวิตคนตายให้กลับฟื้นคืนชีพได้ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงอุปมาว่าชีวิตของใครที่โดนปัญหารุมเร้าหนักๆ หรือคนที่มีชีวิตดุจคนตายแม้จะแก้ไขได้ยากแล้ว หากได้น้ำเต้าทิพย์ไปเขาก็จะต้องฟื้นได้ฉับพลันทันทีดุจมีชีวิตด้วยน้ำอมฤตเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันเสกกำกับเชิญครูมาลงไว้เป็นขั้นเป็นตอนเพื่อให้มีอานุภาพดุจน้ำเต้าทิพย์ดังนี้ถ้วนทุกประการ

    เมื่อได้องค์น้ำเต้าทิพย์แล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อให้คนใช้เอาไปตั้งตัวได้ไวๆท่านจะต้องนำมาสำเร็จด้วยธาตุน้ำเพื่อให้เขาอยู่เย็นเป็นสุข ทำมาค้าขายดี ทำอะไรก็ดี มีความชุ่มเย็นเหมือนธาตุน้ำ กันไฟได้ ทั้งยังดับความร้อนรุ่มในใจ ทำให้ผู้บูชามีสติมากขึ้น ใจเย็นขึ้นเรียกว่าประคองตนให้เป็นคนดีได้ แล้วน้ำเต้านี้เมื่อหนุนด้วยกำลังธาตุน้ำแล้วเวลาเขาพกพานำไปใช้จะได้เกิดประสบการณ์ในด้านโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง ค้าขายดี มีกำไร ด้วยน้ำเต้านั้นจะดึงดูดทรัพย์ ถ้าเขาจะพกไปค้าขายหรือไปหาลาภสักการะก็จะได้สมความปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านเสกให้มีไว้ดูดเงินดูดทอง นอกจากนี้ยังมีอิทธิคุณในด้านหนุนดวงให้ดีขึ้น หนุนให้มีโชคลาภ หนุนให้มีความเจริญรุ่งเรือง หนุนให้การค้าดีทุกด้าน ทั้งเป็นเมตตามหานิยม กันภัย ให้โชคลาภ เสริมดวง ปัดเป่าสิ่งไม่ดีต่างๆ โดยน้ำเต้าทิพย์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากพกเอาคุณวิเศษแล้วยังสามารถใช้แก้ฮวงจุ้ยได้อีกด้วยไม่ว่าจะในบ้านหรือร้านค้าก็ดีทั้งคุ้มครอง ปกป้องภัยอันตรายต่างๆ โดยเฉพาะกันคุณไสยกันสิ่งอัปมงคลลมเพลมพัดมนต์ดำคาถาต่างๆได้เป็นอย่างดีเพราะเขาจะขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงให้ไกลห่างจากเราไป ทั้งใช้เสริมดวง เสริมบารมี กันดวงตก ดวงแตกก็ได้เพราะพ่ออาจารย์ท่านลงไว้ครบทั้งกันไฟกันฟ้ากันเคราะห์กันกระทำ...

    พ่ออาจารย์ท่านถือคติว่าด้วยน้ำเต้านั้นนับเป็นไม้มงคลที่มักจะออกลูกตลอดจนกว่าจะแก่ตาย ซึ่งมีความหมายอุปมาถึงชีวิตคนพกพาว่าจะมีดอกหรือออกผล ได้กำไร ได้โชคลาภ ดั่งวาสนา ทรัพย์สินเงินทองต้องเพิ่มพูลงอกเงยขึ้นเท่านั้น เงินทองจะไหลมาเทมาไปตลอดชีวิตจนสิ้นใจจากภูมิมนุษย์นี้ไปและเพื่อสิริมงคลเช่นนั้นท่านจึงให้พกน้ำเต้าทิพย์นี้ไว้กับตัวเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ออกไปทั้งยังคุ้มภัย และที่สำคัญคือพลังในการดูดทรัพย์สินเงินทองและความโชคดีมาให้กับผู้ครอบครองนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงไม้โพธิ์นิพพานแก้อาถรรพ์ ผงไม้ยอ ผงหัวว่านนางกอดทรัพย์ ผงไม้พญาพรานหลง ผงว่านเศรษฐีและผงกะลาตาเดียวลงราหูหนุนชะตา ที่ให้คุณทางเรียกโชคลาภให้มาหา เสริมโชค เสริมลาภ หนุนดวง เมตตามหานิยม เสี่ยงโชครับลาภ นำมาปั้นรวมกันเป็นแท่งผงลงมนต์ลบผงพระสังข์เรียกเนื้อ และเสกผงลบนั้นให้มีคุณทางด้านเรียกโชคเรียกลาภให้เข้ามาหาได้เองในชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ ท่านว่าผงนี้แม้ไม่คาดคิดว่าจะได้อยู่ดีๆก็ได้ เรียกว่าอยู่เฉยๆโชคลาภก็มาให้เอาถึงที่อยู่เฉยๆโชคลาภก็เข้ามาหาเองเช่นนั้น ท่านนำผงลบนี้มาผสมเข้ากับผงน้ำเต้าตายพรายที่ลงวิชาดูดทรัพย์เอาไว้เพื่อให้ผู้ที่ได้ไปบูชามีลาภผลไม่ขาดมือ มีทรัพย์สมบัติเพิ่มพูนขึ้นตลอดเวลา หากมุ่งหวังสิ่งใดก็ให้อธิษฐานเอาก็จะสำเร็จสมความปารถนาก่อนจะนำมาอธิษฐานจิตเปิดโลก เปิดทาง ขอบารมีคุณครูคุณพระช่วยเสริมอาถรรพ์ผงวิเศษ พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันบอกได้แค่ฉันขอให้ครูท่านช่วยหน่อย ช่วยในเรื่องเสี่ยงดวงเรื่องโชคลาภให้เขาได้กันหนักๆหน่อย ให้มีแต่โชคลาภไม่ขาดสาย..(ท่านว่าบอกได้เท่านี้) ก่อนที่จะนำผงสำคัญนี้มาชักยันต์นะสำเร็จคลุมไว้เป็นกฤติยาคมแฝดว่าหวังอะไรล้วนแต่ต้องได้ ต้องสำเร็จ ก่อนจะนำผงมาผสมกันแล้วกดฝังองค์น้ำเต้าทิพย์ลงไป พ่ออาจารย์ท่านว่าเฉพาะผงวิเศษนี้ก็เอาว่าเฉียบขาดแน่นอนโดยเฉพาะคนชอบเสี่ยงดวง เสี่ยงโชคเอาว่าสำเร็จ

    ด้านหลังท่านฝังก้อนผงดูดพลังเอาไว้ ท่านว่าก้อนผงนี้สมัยก่อนท่านธุดงค์เข้าไปในมเหนทรบรรพต ก็ไปเจอก้อนผงนี้วางอยู่หน้าแท่นศิวลึงค์ ไม่รู้ว่าเป็นก้อนอะไรรู้แต่ว่ามีอาถรรพ์มากเพราะรอบๆบริเวณสถานที่นั้นมันแสดงออกมาอย่างชัดเจน(ไม่สามารถเล่าได้) ท่านจึงได้พลีกรรมบอกกล่าวและขอมาเพื่อจะทำประโยชน์ให้เกิดแก่ชนหมู่มากในภายหลังจนครูพระสยมท่านมอบให้และบอกว่าเป็นก้อนผงดูดพลังที่พวกฤาษีสมัยก่อนทำมาวางข่มอาถรรพ์ไว้... เมื่อพ่ออาจารย์ท่านนำออกมาแล้วท่านว่าเราก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดีเพราะผงนี้มีอาถรรพ์มาก และก็มีพลังงานสูงเกินไป จนเมื่อได้ทำน้ำเต้านี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันจำเป็นต้องใช้พลังดูดเพื่อย่อยสลายสิ่งตกค้างทั้งวิบากกรรมและอกุศลกรรมอย่างมหาศาล ซึ่งคุณวิชาทั่วไปไม่สามารถทำได้ครอบคลุม ท่านจึงนำก้อนผงที่แข็งเป็นหินนี้มาทุบและฝังเอาไว้เป็นพลังงานตั้งต้นเพื่อให้น้ำเต้าทิพย์นี้มีอำนาจรุนแรงที่สุดนั่นเอง เพราะท่านเสกกำกับให้ดึงดูดความรุ่งโรจน์ ให้ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง ให้ก่อเกิดความมั่งคั่งมีชัยชนะทุกๆด้าน

    ด้วยน้ำเต้าทิพย์นี้จะเป็นของค้ำคูณ แม้นักแสวงโชคก็ยังจำเป็นต้องมี ทั้งคนที่เก็บเงินไม่อยู่ก็จะแก้อาถรรพ์ให้เก็บเงินเก็บทองได้ดี อีกประการหนึ่งน้ำเต้าทิพย์นี้จะกระตุ้นให้วาสนาผู้พกเปิดรับโชคลาภ ทั้งยังดูดทรัพย์สินเงินทองให้ไหลมาเทมา เสริมส่งให้การงานการค้าเจริญรุ่งเรือง ปราศจากอุปสรรคเคราะห์ภัย ทั้งอำนวยให้มีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวครบถ้วน จะมีดอกออกผลทรัพย์สมบัติงอกเงยเช่นนั้น ท่านว่าเอาว่าบูชาไว้เพื่อดูดทรัพย์ดีมาก ให้หมั่นสักการะบูชานำติดตัวไว้จะเจริญด้วยลาภ


    คาถาบูชา
    พระโสนามะยักโข เมตทันตปริวาสะโก อะสุณิหะเตโหตะโต ชยะมังคละ เออุ อุเอ อาคัจฉะ มานิ มานิ


    **** น้ำเต้าทิพย์นี้เป็นของสำคัญซึ่งพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจนำมาเสกปิดในฤกษ์จันทร์เพ็ญ ท่านว่าหากจะคิดว่าเป็นเทพศาสตราวุธเขาก็มีอานุภาพมากกว่าการทำลาย เพราะน้ำเต้าทิพย์นี้ใช้ได้ทั้งปราบปรามและทำลายล้าง ทั้งยังเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ไปพร้อมๆกัน เป็นคุณที่เกินกว่าเทพศาสตราทั้งหลายจะทำได้เพราะเขามีอานุภาพการดึงดูด การย่อยสลาย การสร้างเสริมถ่ายเทพลังงานเข้าสู่วาสนาคนพกพาเป็นของตัวเขาเอง สำหรับผู้ที่บูชาน้ำเต้าทิพย์นี้ควรจะใช้ติดตัวหนึ่งใบและอาราธนาไว้ในเคหะสถานที่อยู่อาศัยเพื่แก้ฮวงจุ้ยอีกหนึ่งใบ ****และพ่ออาจารย์ท่านได้ลงตะกรุดจันทร์เพ็ญตำรับนารายณ์พลิกดวงไว้ในฤกษ์จันทร์เพ็ญที่ผ่านมา ท่านว่าจะมอบให้แถมไปกับผู้บูชาเฉพาะน้ำเต้านี้ ซึ่งตะกรุดจันทร์เพ็ญหนนี้ไม่มีแยกให้บูชาในกรณีใดๆทั้งสิ้น ท่านให้แถมไว้ใช้คู่กันเพราะทำวิชามาด้วยกัน

    ร่วมทำบุญบูชา หูหลู:น้ำเต้าตั้งตัวฟื้นชะตาดูดวิญญาณ(ปราบหมื่นมาร) บูชา 2,500 บาท

    46519830-2012880328751256-974538284304695296-n.jpg 46516197-308163589798133-7647884591373484032-n.jpg
    46517352-721410324898543-4509289136187768832-n.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นตาจันทร์ไล่ล่าคล้องบ่วงบาศก์(มหาโจรปล้นทรัพย์)

    ใช้ปัดความอับจนทั้งหลายทั้งปวง…แม้คนใจบาปก็ยังใช้ได้ผล

    วิชาการทำพยนต์มหาโจรนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาในสายของแม่ย่ากาลี เพราะมหาโจรทั้งหลายแต่ก่อนเขาจะนิยมบูชาพระแม่และเป็นสาวกของพระแม่กัน ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีตัวมีตนและใช้ได้หลายทางทีเดียว เพราะขุนโจรสมัยเก่าเขามีพระเวทย์ มีคาถาอาคมกันทั้งนั้น ไม่งั้นเป็นโจรไม่ได้โดนจับตายกันหมด ต่างจากโจรลักเล็กโขมยน้อยสมัยนี้ ท่านว่าเรื่องมนต์ขลังหนังเหนียวประเภทฟันแทงไม่เข้านั้นเป็นเรื่องพื้นๆ โจรถ้าไม่หนังเหนียวโดนฟันทีเดียวขาดกลางอย่างนี้ใครเขาจะนับถือ เคยได้ยินไหมโจรเก่าเมื่อก่อนที่เขามีอาคมดีหลายคนเป็นคนดีแต่ถูกบ้านเมืองกดขี่เลยต้องไปเป็นเสือเป็นโจรปล้น เวลาปล้นแต่ละครั้งเป่ามนต์ทีนอนหลับกันทั้งบ้านขนาดขึ้นไปหุงข้าวกินบนบ้านเจ้าของเรือนยังไม่ตื่นเลย โจรสมัยก่อนเขาชำนาญวิชามหาระงับกันขนาดนี้ สะกดแม้แต่หมาเฝ้าบ้านเฝ้าสวนไม่ให้เห่าได้ วิชามหาอำนาจมหาอุตต์นั้นก็เก่ ขนาดปืนเป็นสิบกระบอกยิงไม่ออกจึงไม่ต่างอะไรกับไม้ฟืน ทั้งเสกด้วยวิชาหินเบาของหนักๆเช่นครกหินทุ่มมาโดนกลับเบาเหมือนโดนนุ่น บางทีไปปล้นบ้านไหนมีลูกสาวสวยก็เป่ามนต์ให้หลงเดินตามกลับต้อยๆพามาอยู่ด้วยกัน เพราะคนสมัยก่อนเขาเป็นคนจริงแม้เป็นเสือเป็นโจรก็ใจถึงจริงทำวิชาได้ขลังจริงจึงมีคนนับถือกันมาก

    เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงทำวิชามหาโจรสร้างตาจันทร์ขึ้น เพื่อเป็นพยนต์รับใช้เฉพาะทางให้กับคนที่ขาดที่พึ่งพิงเพราะท่านถือว่าโจรนั้นเป็นผู้ทำลายล้าง เมื่อท่านลงวิชาใช้หัวใจโจรจึงเป็นการใช้เกลือจิ้มเกลือ ดุจหนามยอกต้องเอาเอาหนามบ่ง เพื่อให้โจรนั้นทำลายล้างสิ่งไม่ดีต่างๆให้หมดไป

    พยนต์ตาจันทร์ หรือจะเรียกว่าขุนโจรบ้าง มหาโจรบ้างก็สุดแต่จะเรียกนั้นเป็นวิชามหาโจรที่สืบทอดกันมาจากตำนานโบราณท่านว่าถ้าทำได้และสำเร็จขึ้นมาแล้ว เขาจะมีฤทธิ์แรงกล้าเป็นพยนต์ที่เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร ใช้ปกปักษ์รักษาดูแลผู้ที่ได้ครอบครองได้ตามความประสงค์ ไม่ว่าจะทำการแข่งขันประการใดก็จะมีแต่โชคชัยอำนวยให้ในทุกโอกาสหรือที่เรียกเอาว่าโชคเข้าข้างกลายๆว่าทำอะไรก็อยู่เหนือกว่าเขา หากมีผู้ใดคิดร้ายหรือคิดจะทำร้ายเราตาจันทร์เขาจะสนองตอบกลับคืนทันทีให้มันเหล่านั้นแพ้ภัยตัวเอง ทั้งกันคุณไสยมนต์ดำล้างอาถรรพ์กันคนถอนของถอนวิชา เอาว่าอยู่ที่แห่งใดไม่อับจน แม้อาราธนาไว้กับตัวตาจันทร์เขาก็จะช่วยขับสง่าราศีให้เหนือกว่าใคร ทั้งเสริมดวงเสริมบารมีด้วยมีขุนโจรเป็นบริวารรับใช้ คิดหวังจะทำการณ์สิ่งใดก็จะได้มาแบบง่ายๆปุปปัปหรือฟลุ๊คๆนั่นเอง

    ด้วยตาจันทร์นั้นเขาเป็นวิชาพยนต์มหาโจรซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้จะต่างจากพยนต์ทั้งหลายอย่างสิ้นเชิง เพราะดวงมหาโจรนั้นจะเป็นผู้ทำลายล้าง เมื่อขึ้นชื่อว่าโจรแล้วย่อมกระทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาในทุกๆสิ่งไม่มีอะไรจะต้านได้ หากมีเป้าหมายแล้วตาจันทร์เขาจะเดินหน้าอย่างเดียวไม่มีถอย เรียกว่าอยากได้ต้องได้และอยากมีก็ต้องมี เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเปรียบพยนต์ขุนโจรไว้กับดวงแก้วสารพัดนึก เพราะจะกระทำการสิ่งใดก็สมหวังตาจันทร์เขาจะกระทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มา เพื่อให้งาน ให้สิ่งที่เราคาดหวังนั้นสำเร็จ ดั่งคำว่ามหาโจรมีแต่ได้ไม่มีเสียไม่ว่าจะต้องฆ่าหรือปล้นเขามาก็ตามก็ต้องมีแต่ได้กับได้ เพื่อให้ได้มาซึ่งวาสนา เงินทองทรัพย์สมบัติ อำนาจยศถาบรรดาศักดิ์ แม้กระทั่งบริวารและเหล่านารีรอบกาย ทั้งนี้ตาจันทร์ยังเป็นที่สุดของมหาอำนาจอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าหากเอ่ยถึงมหาโจรอย่างพระองคุลิมาลก่อนท่านจะบรรพชานั้น เห็นหรือไม่แม้แต่รัฐหรือพระราชาแคว้นต่างๆยังเกรงกลัว เรียกว่าพยนต์ตาจันทร์นั้นผู้ใดครอบครองอาราธนาผู้คนก็ต่างเกรงกลัวและเกรงขามจะทำอะไรย่อมต้องเกรงใจเราหลายส่วน เอาว่าคนใช้จะมีตบะบารมี มีมหาอำนาจเสริมบารมีหน้าที่การงานให้เจริญก้าวหน้า อยากได้อะไรต้องได้ไม่ว่าจะเงินทอง ทรัพย์สิน หรือความรักก็ตาม

    เมื่อจะทำพ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องของผงและมวลสารต่างๆนั้นย่อมจะสำคัญ จะขาดตัวใดอย่างใดไปไม่ได้เลยเพราะท่านต้องใช้ผงไม้รอดคุกเอามาปั้นเป็นแท่งดินสอเขียนด้วยวิชาทำผงหัวใจโจร ผงหัวใจมหาโจร ผงหัวใจหัวหน้าโจร ผงชุมโจร ผงวิชาล้มซ่องโจร พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้นับว่าสำคัญมากเพราะต้องใช้อาถรรพ์ของผงไม้รอดคุกหนุนวิชาเป็นเคล็ดว่ามหาโจรนี้แม้แต่คุกยังรอด ดังนั้นคนใช้ก็จะรอดจากทุกข์ทั้งปวงทั้งยังแคล้วคลาดจากศัตรู แม้เราทำเรื่องที่ผิดก็ยังจะแคล้วคลาดปลอดภัยได้ จากนั้นจึงจะหามวลสารสำคัญตามตำราได้แก่ผงลูกกรอกแมวซึ่งแมวธรรมดานั้นยังใช้ไม่ได้จะต้องเป็นลูกกรอกที่แมวตาเพชรเอามาให้เองเท่านั้น ทั้งผงหนังวัวฟ้าผ่าเพศผู้ ผงหนังงูเหลือม ผงเดือยงูเหลือมซึ่งมีอาถรรพณ์ในตัวสูงเพราะงูเหลือมที่มีตบะมากจะมีมนต์สะกดให้สัตว์ทั้งหลายเข้ามาหามันได้ เรียกว่ามาให้มันกินถึงที่เพียงนอนรออ้าปากรับเหยื่อแค่นั้นเหยื่อก็เดินเข้ามาให้กินเองแบบง่ายดาย ทั้งยังดีในด้านมหาเสน่ห์มีงูตัวเมียเข้ามาให้ผสมพันธุ์ไม่ขาดสายไม่อดอยากปากแห้งในเรื่องกามราคะ พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องนำผงต่างๆอีกชุดนึงนี้มาปั้นเป็นแท่งดินสอนั่งเขียนผงวิชานะรอด นะแคล้ว นะคลาด นะป้อง นะกัน นะปัดตลอด หัวใจปลาไหลเผือก หัวใจขุนแผนเสดาะตรวน ผงเสี่ยงโชค ผงเสี่ยงดวง ผงชนะพนัน ผงวิชาพรายกระซิบ ท่านว่าผงต่างๆนี้บางตัวต้องลงในฤกษ์มหาโจรแล้วนั่งเสกในฤกษ์เศรษฐีโดยชักยันต์ด้วยเตโชกสิณสมาบัติคลุมวิชาทั้งหมดไว้ด้วยยันต์หัวใจเศรษฐีเพื่อจะหนุนมหาโจรตาจันทร์นี้ให้หาทรัพย์เก่ง ฉกทรัพย์ง่าย ไล่ล่าทรัพย์ได้อย่างรวดเร็วทั้งยังจะดีด้านเปิดดวงเสริมทรัพย์เสริมบารมีโชคลาภ เสริมด้านการงาน การเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคให้เจ้าของซ้ำเขายังจะหนุนให้เราเป็นเจ้าคนนายคน

    เมื่อได้ผงมวลสารแล้วพ่ออาจารย์ท่านยังต้องนำมาผสมผงว่านไพรดำ ผงว่านกุมารทอง ผงพรายกุมาร ผงตาจันทร์กระชากทรัพย์น้ำมันตาทิพย์ น้ำมันที่เคี่ยวจากขี้ผึ้งขวางตะวัน แป้งเสกโนราห์ สีผึ้งพระสีวลี น้ำมันช้างผสมโขลง ซึ่งผงเหล่านี้ต้องใช้เวลาลบรวมสะสมกันมานานนับเป็นเวลาหลายปีด้วยต้องใช้มวลสารอาถรรพ์ลบผงก่อนจะนำมาผสมมวลสารอื่นๆแล้วนำมาเสกอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่าทำไม่ง่ายนะพยนต์มหาโจรนี้ต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน แม้ผงที่จะใช้ทำตาจันทร์นั้นก็ยังต้องขอบารมีแม่ย่ากาลีมาชุบ มาเสกจนกว่าจะเกิดดวงไฟสีขาวกระจ่างครอบคลุมผงทั้งหมดจึงจะถือว่าใช้ได้ ด้วยวิชามหาโจรตาจันทร์นั้นสามารถรับเคราะห์แทนตัวเราได้ อีกทั้งยังใช้ทางเมตตามีมหาเสน่ห์อยู่ในตัวเอาว่าครบเครื่องพ่ออาจารย์ท่านว่าขอให้เอาไปใช้กันในทางที่ดีก็จะมีแต่ความสุขความเจริญๆด้วยตาจันทร์เขาไม่เลือกคนใช้จะคนดีก็ใช้ได้ คนเลวก็ใช้ดี เอาไปอธิษฐานใช้เลยดีทุกทาง

    ท่านเลือกกดพิมพ์ในโจโรฤกษ์ อธิษฐานขอฤกษ์ขอบารมีกับพญามาราธิราชหรือองค์ท้าวมาลัยให้ลงมาคุมพิธี เพื่อให้ตาจันทร์นี้มีอำนาจเหนือกามคุณทั้งหลายไม่ว่าจะคนดีก็ใช้ได้ โจรก็ใช้ดี คนบาปใจหยาบช้าก็ยังใช้ได้ผล ต้องเสกเก็บในทุกช่วงเวลาทั้งเช้า สาย บ่าย เย็น หัวค่ำ เที่ยงคืน ก่อนสว่าง ท่านจะปลุกเสกทุกวันเพื่อป้องกันคนชะตาขาดให้เอาไปก็ยังใช้ได้เรียกว่าเสกให้ครบทุกเวลาและก็ให้ครบทุกวันตั้งแต่วันจันทร์จนถึงอาทิตย์ ท่านต้องเพียรกระทำแลเสกเก็บไปเช่นนั้นแม้วันไหนกำลังอ่อนก็ยิ่งต้องเสกให้มากขึ้นไปอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าตาจันทร์นี้สำหรับคนชอบเสี่ยงดวง เสี่ยงโชค จะดีและแรงมาก อีกทั้งเป็นพรายกระซิบที่คอยเตือนเหตุเภทภัย หากมีเรื่องร้ายใดๆเกิดขึ้นก็จะกลับร้ายให้กลายเป็นดี ใช้เสริมดวงชะตา ใช้เรียกทรัพย์ ทำมาค้าขายก็ได้ ท่านว่าเราทำไว้ให้ธาตุครบหมดเลยทั้ง 4 ด้าน คือดิน น้ำ ลม ไฟ ครบถ้วน อันนี้ให้จำไว้ว่าของที่ลงธาตุให้ครบนี้เวลาคนใช้เดือดร้อนเขาจะสนองตอบและช่วยเหลือเราได้ทันที

    ด้านหลังตาจันทร์นั้นพ่ออาจารย์ท่านนำด้ายสายสิญจน์ม้วนเก่าที่ท่านใช้โยงสายเสกวิชาต่างๆมามากมายนับไม่ถ้วน นำมาม้วนเป็นบ่วงบาศก์ลงเสกด้วยวิชานาคบาศก์(งูกินหาง) ที่ดีทางเสี่ยงโชค จับลาภ จับคนสัตว์ทั้งหลาย ท่านว่าอันบ่วงบาศก์นี้เวลาเราปรารถนาสิ่งใดเขาจะจับและรัดไว้ไม่คลายออก ไม่ปล่อยออกไปจนกว่าสิ่งนั้นจะตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่เรา นอกจากจะเป็นสุดยอดวิชารับทรัพย์แล้วยังใช้หนุนดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำอีกด้วยแม้ใครดวงตกพกไว้จะช่วยพยุงดวง หนุนดวงให้ดีขึ้นเรียกว่าดีวันดีคืน ทั้งกลับร้ายกลายเป็นดี อันวิชานาคบาศก์นั้นท่านว่าแม้ยาจกยากไร้พกเอาไว้ให้ขยันทำมาหากินก็จะมีลาภไหลมาอยู่เนืองๆไม่อดไม่อยากจะกลายเป็นเศรษฐีมีทรัพย์มหาศาลในเวลาไม่ช้าไม่นานเลย ทั้งใครที่ชอบเสี่ยงโชคเสี่ยงดวงก่อนใช้ก็ให้คิดเสียว่าเอาบ่วงบาศก์นี้ไปคล้องโชคลาภที่เราต้องการและดึงให้สุดมัดไว้ให้มั่นท่านว่าใช้ได้หลายทางสุดแต่จะใช้เถิด ท่านฝังไว้เพื่อให้เป็นอาวุธคู่มือตาจันทร์เขา ท่านว่าเขาจะได้ทำงานง่ายเวลาเราใช้อะไรจะได้มีตัวช่วยมีแรงเสริมกัน

    นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังลงตะกรุดมหาสะกดเอาไว้เสริมอำนาจตาจันทร์อีกต่อหนึ่ง ท่านว่าตะกรุดนี้ใช้ได้ทั้งหมดทั้งสะกดคน สะกดสัตว์ ตลอดจนภูติผีสิ่งไม่ดีต่างๆ สะกดให้ตกตะกอนหลับใหลชั่วคราว ทั้งยังใช้สะกดคนที่เป็นคู่แข่งเรา สะกดแม้กระทั่งวิชาหรือของขลังตลอดจนไสยเวทย์ทั้งหลายที่อีกฝ่ายใช้งานอยู่เช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านปลุกธาตุคุณวิชามหาภูติ เชิญญาณครูทั้ง16ชั้นฟ้ามาปลุกเสกเดินธาตุจนขุนโจรตาจันทร์นั้นสำเร็จตรงตามนิมิต แล้วจึงนำไปอาบแสงจันทร์ในคืนน้ำเพ็ญเดือนสิบสองอธิษฐานจิตเสกร่วมพิธีคืนเพ็ญเน้นทางหนุนดวงชะตาเปิดโชคลาภวาสนาผู้บูชาอีกคำรบหนึ่ง

    คาถาบูชา
    โอม นะมะอะอุ เอหิจิตตัง(ตาจันทร์มหาภูติ)มานิมามา สิทธิวิชชามหาโจรัง ข้าขอเรียกหัวใจโจรว่ากันหะเนหะ ให้ตาจันทร์จงแผลงฤทธิ์ด้วยกำลังดุจดังพยัคฆราชดั่งชาติเสือร้ายว่าภูภิภูภะนะหะกันตุง บัดนี้ตาจันทร์จะออกปล้นไล่ล่าด้วยนะอึงคะนึงอื้อฉาว ให้พ่อขุนโจรคุ้มครองข้าพเจ้าผู้เป็นนายนะ นะกะอะปิ หุลู หุลู สวาหะ


    ***ขุนโจรตาจันทร์นั้นเป็นบริวารของตัวเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าดวงบริวารนั้นมีน้อยไปก็ไร้วาสนา ถ้าต้องการใช้ดวงบริวารขับอำนาจวาสนาของตนเองให้สูงขึ้น ท่านว่าให้บูชาไว้ติดตัวเป็นมหาภูติคอยรักษาคุ้มกายเราคนละคู่หนึ่งไม่เกินหรือมากไปกว่านี้ ส่วนวิธีบูชานั้นท่านว่าให้เซ่นเหล้าขาว หรือสุราอะไรก็ได้ที่เรามีนั่นแหละ ให้เอาตาจันทร์ไปเลี่ยมและให้คนเลี่ยมเขาเจาะรูกรอบไว้บริเวณปาก จะใช้จะขออะไรเขาก็เอาเหล้าหยดไว้ครั้งละหนเพียงเท่านี้ ท่านว่ายิ่งเซ่นยิ่งแรงยิ่งเห็นผลไว เพราะขุนโจรนั้นจะมีใจฮึกเหิมกล้าได้กล้าเสีย ไม่ว่าเราจะดีจะเลวจะใช้อะไรเขา เอาว่าเราใช้ทำอะไรเขาทำหมด

    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นตาจันทร์ไล่ล่าคล้องบ่วงบาศก์(มหาโจรปล้นทรัพย์) บูชา 2500 บาท

    47012210-344237006354615-1522213104933404672-n.jpg 47045867-263466997660117-5778213455441952768-n.jpg
    47079596-593896244401586-5591659841543208960-n.jpg
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระคลังสมุทรเทพ(บุญหล่นทับรวยผิดตัว)

    "ถึงเวลาน้ำลงน้ำพร่อง ชั่วข้ามคืนมันก็ขึ้นมาจนเต็มได้"

    วิชาตำรับนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของที่เอาไว้ใช้ตั้งตัวได้หลังเกิดภัยสงคราม นั่นคือต้องผ่านทุกข์มหันต์หรือเข้าตาจนขั้นหนักที่สุด อุปมาเหมือนเกิดสงครามคนไม่มีจะกิน ไม่มีทางทำมาหากินเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าในเมื่อทุกวันนี้เห็นบ่นกันว่าอยู่กันยากยิ่งกว่าอะไร กลายๆก็เหมือนสงครามเศรษฐกิจที่กินผลในระยะเวลาเนิ่นนานคั่งค้างอยู่ เช่นนั้นจึงไม่ต่างกันจากภัยสงครามเลย ท่านก็เลยสงเคราะห์ให้ใช้วิชาสำคัญนี้ได้

    ตะกรุดพระคลังสมุทรเทพเป็นวิชามหาลาภที่ทำยาก พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนนี้มีแรงทำได้เสกไหวต้องทำก่อน ต่อไปถ้าภายหน้าเกิดสงครามหรือเข้าสู่ยุคเข็ญแล้วคิดจะทำก็ไม่มีแรงแล้ว ทำไม่ได้ ทำไม่ทันแล้ว ให้จำเอาไว้นะต่อไปตะกรุดนี้ในแผ่นดินจะหาไม่เจอเพราะคนใช้เค้าจะเก็บกันหมด ด้วยแต่โบราณนั้นหากกล่าวถึงทรัพย์สมบัติแล้วท่านว่าไม่มีที่ไหนเลยจะมั่งคั่งเทียบเท่าคลังของพระมหาสมุทรได้ ปราชญ์แต่โบราณย่อมสรรเสริมมหาคลังนี้ว่ามั่งคั่งที่สุด แม้เทพยดาทั้งหลายยังต้องร้องขอทรัพย์จากพระสมุทร ทั้งแก้วอันประเสริฐของพระวิษณุเจ้า ทั้งเพชรยอดมงกุฏของพระอินทร์ ทั้งทรัพย์ต่างๆอันเลิศล้ำบรรดามีที่เกินกว่าเทวานุภาพจะเสกสร้างบันดาลได้ แม้สมบัติในเทวโลกหรือพรหมโลกก็ดีสิ่งต่างๆก็ย่อมนำไปแต่พระสมุทรนั้นทั้งสิ้น ด้วยวิชานี้แม้ผู้ใดถูกความทุกข์กลืนกินหรือต้องพระเคราะห์ใหญ่หลวงมีดวงทางทรัพย์และโชคลาภวิบัติไปต่างๆนาๆ ท่านว่าให้อาราธนาตะกรุดดอกนี้เอาไปใช้เถิด แม้ทรัพย์จะพร่องเท่าไหร่ก็จะถูกถมจนเต็มได้ดั่งทรัพย์ในคลังพระสมุทรเช่นนั้น ท่านเปรียบเทียบชีวิตสัตว์โลกอันขวนขวายทรัพย์ทั้งหลายเอาไว้ดุจคลื่นน้ำ ที่มีทั้งขึ้นบ้าง ลงบ้าง พร่องบ้าง เต็มบ้าง เมื่อกระแสแห่งโชคไม่ได้อยู่นิ่งท่านจึงทำตะกรุดตัวนี้ขึ้นมาเพื่อให้สิ่งที่พร่องนั้นกลับมาเต็ม ดุจเวลาน้ำลงที่ไม่พ้นคืนมันก็ขึ้นมันก็เต็มเอ่อล้นทุกรอบปีเช่นนั้น ตะกรุดตำรับนี้ท่านว่าให้เอาไว้ใช้ตั้งตัว ถ้าคนไม่สันหลังยาวหรือเดินทางผิดก็เอาว่าตั้งตัวได้ถึงขนาดว่าต่อให้เกิดสงครามแม้หลังภัยสงครามก็ยังเป็นเศรษฐีได้เช่นนั้น ท่านว่าทำยากเพราะต้องลงหัวใจไว้ครบสูตรและอธิษฐานจิตไว้เต็มกำลัง

    ปกติว่าผู้บูชาตะกรุดพระสมุทรนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า จะมีทรัพย์มิขาด จะทำมาค้าขึ้น แม้ค้าขายก็ร่ำรวย ทั้งเรียกเงินเรียกทองให้ไหลมาเทมาไม่ขาดสาย บังเกิดโชคลาภ เพิ่มทรัพย์ รักษาทรัพย์ พิทักษ์ทรัพย์สมบัติให้เยือกเย็นทรงตัวร่ำรวยยิ่งๆขึ้นไป แม้บูชาอยู่ที่ใดที่นั้นจะบังเกิดทรัพย์แลเงินทองงอกเงยไม่ขาดสาย ท่านว่าให้จำเอาไว้ฉันจะบอกรอบเดียวเพราะตะกรุดนี้ทำไว้ให้ใช้สำหรับการเก็บเกี่ยว จะเก็บเกี่ยวอะไรมันก็สุดแล้วแต่เธอ จะปรารถนาความสุข โภคทรัพย์ สัตว์สองเท้า พาหนะ ปัจจัยสี่ต่างไม่ว่าจะอะไร นั่นแหละคือทำไว้ให้ใช้ในการเก็บเกี่ยว ฉกฉวย กักตุนทั้งดักเงินดักทอง ดักโชคลาภ เจรจาค้าขายทำธุรกิจ เสี่ยงโชค เสี่ยงดวง จะทำอะไรก็ให้เอาพกไว้ติดตัวลูกค้าเขาจะพุ่งมาหาเราเอง เรียกว่าไม่ต้องสูญแรงเยอะ ไม่ต้องใช้ความพยายามมาก เพราะเราถือตะกรุดนี้ดุจคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำแล้วบุญหล่นทับ ดุจหนูตกถังข้าวสาร ทำอะไรก็ฟลุ๊ครวย ฟลุ๊คได้ ฟลุ๊คมี ใช้ชีวิตแบบฟลุ๊คๆรวยผิดตัวเช่นนั้น

    ทั้งท่านยังได้ลงมนต์อธิษฐานวิชาขอคุณเทพฤทธิ์ให้ประสิทธิ์ด้านการเสี่ยงโชค รับทรัพย์ เรียกลาภที่เห็นผลเร็วไวเป็นที่สุด ใครที่ชอบเรื่องเสี่ยงดวง เสี่ยงโชค วอนขอครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านว่าให้เอาไปใช้เถอะเพราะตะกรุดนี้ฉันลงเป็นตัวสะกดเอาไว้ด้วย ปกติแล้วขออย่างเดียวมันก็ต้องรอจังหวะแต่ถ้าเราลงมหาสะกดไว้พร้อมกันอันนี้มันเป็นการสร้างโอกาสเรียกว่าสะกดให้อยู่หมัด ให้ได้ให้มีให้เป็นของเราแน่นอนเช่นนั้น เอาว่าแรงไม่ตกทีเดียวจะไปแข่งไปสู้ทั้งประกวดประชันกับใครกำลังเรา วาสนาของเรา จะไม่สะดุดไม่หักกลาง มีแต่ทำมาค้าขึ้นเช่นนี้จะมีแต่สิ่งดีๆหลั่งไหลเข้ามา ให้เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานทั้งจะดูดทรัพย์ให้เงินทองมีไม่ขาดมือไม่ขาดกระเป๋า การเงินไม่ขัดสนหรือขาดสภาพคล่อง ให้ทำมาหากินคล่องตัวผู้คนเห็นอกเห็นใจ

    และหากผู้ถือตะกรุดนี้ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมแล้วด้วยก็จะเกิดผลดียิ่งๆขึ้นไป เอาสั้นๆง่ายเลยยิ่งหมั่นทำบุญก็จะยิ่งประสบการณ์เยอะ เดี๋ยวจะเห็นเองว่าทรัพย์สินเงินทองไหลมาเทมาเองไม่ขาดทั้งค้ำคูณหนุนดวงเสี่ยงโชคก็ได้สมปรารถนา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้แต่โบราณถือกันว่าเป็นวิชาอาถรรพ์และต้องเลือกคนรับเพราะเอาไว้ใช้เปลี่ยนโชควาสนาคนจากต่ำสุดให้พุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วได้ เรียกว่าอุปมาไว้ถึงขนาดจำตัวเองไม่ได้มั่งมีผิดตัวผิดคนแบบนั้น ท่านจึงอธิษฐานให้คนมีวาสนาต้องกันกับคุณวิชาเท่านั้นที่ได้รับไป เมื่อนำตะกรุดมาม้วนแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่ายังต้องนำมาแช่น้ำมนต์เสกอีกคำรบหนึ่งแล้วลงด้วยหัวใจพระสมุทร หัวใจท้าวเวสสุวรรณที่ว่าด้วยสองเทพที่คุมมหาคลังที่ยิ่งใหญ่ทั้งของโลกและสวรรค์ทั้งสองท่านพร้อมทั้งขอบารมีท้าวเธอทั้งสองให้ประสิทธิ์เทวานุภาพเบิกทางทรัพย์ให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงเท่านั้นก็ถือว่าคลุมได้ทั้งหมด เพราะทั้งสองท่านนั้นเป็นผู้คุมวาสนาและคลังทรัพย์สินของสวรรค์และโลกอย่างแท้จริง เช่นนั้นเวลาคนเอาไปใช้เมื่อทำอะไรเกี่ยวกับการเงินการคลังการแสวงหาทรัพย์สินและผลประโยชน์ก็จะคุมเกมเขาเอาไว้ได้ทั้งหมดเหนือกว่าบารมีเทพยดาใดๆอย่างชัดเจน ท่านว่าทำเอาไว้ให้ครบแล้วให้เอาไปใช้ให้ดีเถิด ความรวยก็เป็นของคนๆนั้นท่านนั่งทำวิชาครอบไว้ให้ทีละดอกเอาว่าสยบได้ทุกที่ ต่อให้คู่ค้าเราเขาเลี้ยงผีเลี้ยงพรายหรือใช้บารมีเทพยดาใดๆก็ตาม ถ้าจะเล่นเรื่องโชคลาภวาสนาแล้วเอาว่าบารมีพระสมุทรกับท้าวเวสนี่สยบได้ทั้งสิ้น ขอแค่เรื่องอย่าขี้เกียจอันนี้บอกก่อนเลยเทวดาเขาไม่ชอบถ้าจะเอาไปก็ให้ขยันทำมาหากินแค่นั้นจะได้มีลาภไหลมาอยู่เนืองๆไม่อดไม่อยากจะกลายเป็นผู้มั่งมี เป็นเศรษฐี มีทรัพย์มหาศาลส่วนใครที่ชอบเรื่องเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคก็เอาไปใช้ได้เลย

    ภายในตะกรุดอุดด้วยผงมวลสารสำคัญต่างๆ นั่นก็คือข้าวก้นบาตรวันออกพรรษขององค์หลวงปู่ขาวที่พ่ออาจารย์ท่านเก็บสะสมไว้ท่านเรียกว่าก้นบาตรเปิดโลก โดยท่านนั้นนำข้าวมาตากแห้งแล้วโขลกเป็นผงละเอียดปั้นกับว่านและมวลสารต่างๆทั้งว่านอุดมทรัพย์ ว่านมหาลาภ ว่านมหาเศรษฐีทำเป็นดินสอเพื่อลบผงวิเศษ ทั้งพิชัยสมบัติ นะโภคสมบัติ นะโภคทรัพย์ พระเจ้าให้ลาภ พระเจ้าเปิดโลก พระเจ้าเปิดลาภ พระเจ้าเปิดดวง เทวดาให้โชค หัวใจเศรษฐี หัวใจพระสีวลี ท่านว่าจำเพาะต้องลบผงในวันวันพระเจ้าเปิดโลกคือวันออกพรรษาให้ได้แปดพรรษาเท่านั้นแล้วเอาผงนี้มาผสมกับผงสำคัญต่างๆ(ท่านว่าอานุภาพผงแต่ละอย่างก็รวยมั่งมีหลายชั่วอายุคนแล้ว) ได้แก่ผงเหล็กไหลดูดทรัพย์ ผงหินอกธรณี แร่ดูดทรัพย์แม่น้ำโขง ท่านว่าเฉพาะผงแร่เหล่านี้ก็มีอานุภาพนำโชคลาภมาให้ผู้บูชาทั้งดูดเงินดูดทอง ดูดโชคลาภได้ ให้มีเงินทองไหลมาเทมาตลอดหรือมีกินมีใช้ตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อนำมารวมกับผงวิเศษก็ยิ่งเสริมกันเอาว่าได้ไปท่านว่ามีกินมีใช้ไม่อดอยากและยากจนเลย ทั้งช่วยเสริมบารมีค้ำคูณหนุนดวงชะตา ช่วยเปิดทางเปิดโชคเปิดลาภวาสนาให้ไหลมาเทมา มีโชคลาภเข้ามาไม่ขาดสาย เงินทองไม่ขาดมือ ตรงนี้สำคัญถ้ารู้จักเก็บออมนะเขาจะเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีในเร็ววัน ซ้ำใครที่ติดขัดเรื่องการเงินการงานก็ให้ขอบารมีครูบาอาจารย์ท่านช่วยเปิดดวงหนุนชะตานำพาให้พบแต่สิ่งดีๆ

    ให้พกพาใส่กระเป๋าเงินจะเห็นว่าเงินเพิ่มพูนมากขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ หากอาราธนาติดตัวก็จะเป็นที่สะดุดตาเรียกว่าแรงทางเมตตาโภคทรัพย์ให้คนอยากเข้าหาเราเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่ออุดผงสำเร็จแล้วยังต้องนำมาเสกกลางคืนวันพระจันทร์เต็มดวงอาบพลังพระจันทร์ทำวิชาน้ำขึ้นน้ำลงหรือเรียกว่าทองท่วมหัว เงินเข้าตัว(รวยผิดตัว) ให้โชคโภคสมบัติงอกเงยเพิ่มพูน ทั้งถือฤกษ์นี้เพื่อใช้เสริมสง่า ราศี เสริมเสน่ห์และโภคทรัพย์ดีที่สุด นับได้ว่าเป็นตะกรุดนี้ใช้เพื่อเสริมทางด้านโชคลาภการทำมาหากินโดยเฉพาะแม้เอาไปเสี่ยงดวงเวลาเสี่ยงโชคได้ก็ให้รีบไปทำบุญอุทิศให้ครูบาอาจารย์

    ตะกรุดพระคลังสมุทรเทพนั้นเป็นตะกรุดเปิดดวงด้านโชคลาภโภคทรัพย์และหนุนดวงเฉพาะทาง พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้เกิดมาดวงกุลีก็ยังเอาดีได้ เรียกว่าตะกรุดนี้จะทำให้ฐานดวงหรือวาสนาแต่เดิมของคนเราผิดพลาดตลบแตลงกลับไปกลับมา ที่มันมีเคราะห์หรือภัยก็กลับเปลี่ยนเป็นดี ที่มันไม่เคยได้ไม่เคยมีอยู่ดีๆก็ได้ เอาว่าอะไรที่มันห่างหายไปจากชีวิตนั่นแหละเดี๋ยวก็เจอ ท่านว่าให้ตั้งจิตบอกกล่าวครูบาอาจารย์ท่านให้ดีเพราะนี่เป็นวิชาเทวดาให้โชคเป็นตำรายันต์พระคาถาที่ให้คุณด้านมหาลาภ มีกินมีใช้ไม่ขาดสาย ทำมาค้าขึ้น ทั้งหนุนดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำ ท่านว่าต่อให้โทษถึงตายก็ไม่ตายเอาว่าดีครบ ยิ่งคนทำดีมีความประพฤติดีเอาไปบูชาแล้วเทวดาท่านจะสงสาร ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพุดไม่ได้มากแต่เดี๋ยวจะรู้กันเองเพราะเวลาเทวดาท่านสงสารเดี๋ยวท่านก็จะหาทางสงเคราะห์เองจะมีนิมิตเลขหวยหรืออะไรเกิดขึ้นให้เราเห็นให้เรารู้ของเราเอง ให้จำเอาไว้อยู่อย่างว่ารู้หรือเห็นอะไรแล้วอย่าเอาไปบอกใครเท่านั้น

    คาถาบูชา
    อุเยอะเย อุเยอะเยอะ อะยะ อุอุยะเสมิ ติหังจะโตโลจิ


    ***ตะกรุดดอกนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันจะไม่พูดมากเพราะคนทำไม่ได้ใช้ มันเป็นเรื่องของทางโลก เป็นเรื่องของเงินทองความมั่งคั่งหรือโชคลาภการเสี่ยงดวงต่างๆซึ่งเหล่านี้ท่านตัดออกไปหมดแล้ว ท่านว่ากว่าจะทำให้สำเร็จได้ก็ไม่ใช่ง่าย ดังนั้นใครมีบุญสูงเสมอกันและคู่ควรกับคุณวิชาก็ให้ครูเทพพรหมท่านคัดสรรค์คนของท่านเองด้วยเป็นตะกรุดคู่บารมีจำพวกหนึ่ง หากจะใช้ก็ให้ถือได้เต็มที่เพียงคนละสองดอกเท่านั้น ถ้าใครพอมีวาสนาอยู่แล้วก็ใช้ดอกเดียว รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระคลังสมุทรเทพ(บุญหล่นทับรวยผิดตัว) บูชา 2,500 บาท

    47396559-768798603455103-5587777358611349504-n.jpg
    47391917-770441343305105-1302469194951950336-n.jpg
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พัดหวนฟื้นคืนวิญญาณ,พัดฟื้นความสุข(องค์เหล็กไหลพระเพชรมหากายสิทธิ์)

    ด้วยในปัจจุบันนั้นคนตกอยู่ในสภาวะทุกข์ มีความเป็นอยู่ที่ไม่พร้อมด้วยขาดการเติมเต็มในปัจจัยทั้งสี่พ่ออาจารย์ท่านจึงให้นำเอาของวิเศษอันเป็นมงคลนามออกมาเพื่อให้ผู้มีทุกข์นั้นได้บูชา ด้วยพัดนับเป็นสัญลักษณ์มงคล เนื่องมาจากคำว่าพัดในภาษาจีนออกเสียงเรียกว่า “ซ่าน”หรือ “ซ่านจื่อ”ซึ่งสำเนียงเรียกดังกล่าวไปพ้องเสียงกับ “ซ่าน” ที่แปลว่า ความดีงาม นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ “พัด”(ซ่าน) ได้รับการยกย่องให้เป็นเสมือนของวิเศษอันเป็นมงคลนาม และของวิเศษสิริมงคลที่มีอิทธิฤทธิ์สามารถป้องกันภูตผีปีศาจได้ ตลอดจนสามารถกำจัดสิ่งชั่วร้ายไม่ให้มากล้ำกลายมนุษย์ ในขณะเดียวกันยังมีความเชื่อว่าพัดของจงหลีเฉวียน(โป๊ยเซียน)หรือพัดใบกล้วยเป็นพัดวิเศษที่สามารถโบกพัดคนตายให้กลับฟื้นคืนชีพได้ ดังนั้นจึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “พัดฟื้นคืนวิญญาณ” หรือ “พัดหวนคืนชีวิต” เพราะในปัจจุบันนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าหลายคนจมอยู่ในความทุกข์ ใช้ชีวิตก็เหมือนไร้ชีวิต มีชีวิตที่ปราศจากสุข อิสระ ถูกยึดเหนี่ยวอยู่ในวังวนแห่งภาระ หน้าที่ สถานภาพความเป็นอยู่ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริจะทำพัดเซียนหรือพัดใบกล้วยที่เรียกกันว่าพัดหวนฟื้นคืนวิญญาณขึ้นมา เพื่อจะได้พัดหวนสิ่งดีๆกลับเข้ามาในชีวิต เพื่อจะได้พัดชีวิตที่ตายแล้วในทุกๆด้านให้ฟื้นคืนกำลังอีกสักครั้งหนึ่ง เพื่อจะได้พัดให้ร่างที่ไร้วิญญาณอันเหนื่อยหน่ายต่อโลกหรือปัญหาทับถมตลอดจนอุปสรรคต่างๆกลับมามีกำลังใจได้อีกครั้ง แต่เหตุผลสำคัญเลยของพัดกายสิทธิ์นี้ที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นมาก็เพื่อจะได้พัดสิ่งที่ไม่ดีออกไป และพัดสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตนั่นเอง

    ด้วยพัดเซียนนั้นมีอานุภาพมากเพราะสามารถใชัพัดฟื้นคืนความหวังตลอดจนพัดเพื่อขับไล่โชคร้ายปรับเปลี่ยนชะตาสถานะให้กับชีวิตตนเองได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าในชีวิตแต่ละคนนั้นย่อมเจอวังวนของความทุกข์และปัญหาอยู่เรื่อยไป ดังนั้นการแก้ทุกข์ต่างๆเป็นครั้งคราวจึงไม่จีรังและความสุขนั้นย่อมไม่อาจตั้งอยู่ได้นาน เช่นนั้นท่านจึงได้ทำพัดเซียนขึ้นด้วยตั้งใจจะให้ผู้อาราธนานั้นได้ใช้คุณวิเศษของมันพัดสิ่งเลวร้ายทั้งหลายออกไปอยู่เนืองๆ เรียกว่าใช้ขับไล่ให้พ้นไปซึ่งทุกข์ภัย โรคโรคาพยาธิ หรือเสนียดจัญไรคุณไสยการกระทำและอวิชชาเวรกรรมทั้งปวงได้ตลอดช่วงชีวิต เมื่อพัดเอาทุกข์ภัยพ้นตัวแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าทีนี้ชีวิตคนก็จะเข้าสู่สภาวะเฉื่อยคือไม่มีอะไรดีหรือไม่ดีต่างไปจากเดิม เรียกว่าเป็นเพียงชีวิตที่กลับมาทรงตัวได้ พออยู่ พอมี พอกิน ใช้ให้มันหมดไปวันๆไร้จุดหมายเช่นนั้น ในตอนนี้ท่านว่าาเขาจะได้อาราธนาคุณของพัดอีกครั้งหนึ่งเพื่อใช้นั้นพัดเอาความร่มเย็นเป็นสุขเข้ามาในชีวิตเค้า ***สำหรับคนที่โชคร้าย มีทุกข์ มีโรคภัย มีเวรกรรมเบียดเบียนนั้น ท่านว่าให้จำเอาไว้ให้แม่นเลยว่าต้องใช้พัดทั้งหมดสองครั้งเวลาอธิษฐานพัดแต่ละหน ครั้งหนึ่งนั้นก็เพื่อพัดเอาความทุกข์โศกต่างๆออกไปให้ตั้งใจขอกำลังพัดนั้นเช่นนี้ ส่วนอีกครั้งหนึ่งนั้นก็ให้ตั้งใจบอกพัดเขาว่าให้พัดเอาสิ่งดีๆเข้ามาหาตัวเรา จะโชคลาภสิริมงคลต่างๆก็ดีหรือจะพัดอะไรที่เราปรารถนาในช่วงชะตาจังหวะชีวิตนั้นก็ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าอันพัดวิเศษนั้นเป็นอาวุธของเทพเจ้าผู้มีศักดิ์สูงมีอำนาจมากเกินกว่าที่เราจะหยั่งคาด เพราะเขาสามารถใช้บันดาลเป็นลมพายุใหญ่ก็ได้ เป็นห่าฝนนอกฤดูที่จะสร้างความสุขหรือภัยพิบัติก็ได้ และแม้แต่จะพัดให้เกิดไฟบรรลัยกัลป์(ไฟที่ไม่มีวันดับ)ติดขึ้นเผาผลาญศัตรูจนมอดไหม้ก็ย่อมได้ เช่นนี้พัดวิเศษจึงเป็นทั้งอาวุธและของวิเศษนำพาสิริมงคลไปในตัว เรียกว่าใช้ได้หลายแง่มุมหลายประการแล้วสุดแล้วแต่จะใช้ เป็นอาวุธหนึ่งเดียวที่มีทั้งพระเดชและพระคุณเป็นมหันต์อยู่ในตัว เมื่อพ่ออาจารย์ท่านนำธาตุกายสิทธิ์มาหล่อสร้างเป็นเครื่องมงคลพัดวิเศษนั้นท่านว่าเห็นจิ๋วๆอย่างนี้ก็แรงใช่เล่นเลย เอาว่าพัดนี่นอกจากจะใช้ระงับโรคเวรโรคกรรมแลทุกข์โศกโรคภัยและใช้พัดฟื้นความสุขได้แล้วแม้เอาติดตัวไว้ยังใช้ป้องกันภูตผีปีศาจได้ทั่วไปเอาว่าเขาจะไม่กล้าย่ำกรายเข้ามาใกล้ เพราะเกรงกลัวในอาถรรพณ์เวช หากบูชาพัดไว้ในบ้านเรือนก็จะแก้กันล้างอาถรรพ์เสนียดจัญไรและคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายต่างๆภายในบริเวณบ้าน ทั้งคุ้มครองรักษาบริวารตลอดจนครอบครัวมิให้เป็นอันตรายไม่ว่าจะภัยอันเกิดจากภัยพิบัติทั้งปวงก็ดี หากพกติดตัวไปด้วยอำนาจแห่งพัดวิเศษนี้นอกจากจะล้างอาถรรพณ์ต่างๆแล้วยังเป็นเมตตามหานิยมตลอดจนแสริมดวงชะตาวาสนาให้เจ้าของอีกด้วย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพัดนี้ทำสำเร็จได้ยากเพราะตอนทำต้องลงฮู้สำคัญต่างๆตามที่โพธิสัตว์กวนอิมท่านสอนเผาเสกกำกับวิชาไว้กับพัดนับสิบนับร้อย ซึ่งแต่ละฮู้หรือที่เราเรียกว่ายันต์นั้นก็มีอานุภาพแตกต่างกันออกไป เมื่อทำเสร็จแล้วยังต้องชุมนุมหมื่นพุทธ หมื่นโพธิสัตว์และเทพเซียนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้มาช่วยกันชุบและประจุอิทธิคุณในวาระพิเศษ เพราะเราบอกเจตนาเขาไปแต่เริ่มว่าจะสร้างเทพอาวุธ ที่ไม่ได้เอาไว้ฟันแทง เอาไว้รบราฆ่าฟันกับใคร แต่จะทำเทพอาวุธในคติของเขาที่เอาไว้พลิกชะตาวาสนาความเป็นอยู่ของคน ใชัพัดหวนชีวิต พัดสิ่งดีงามและสิริมงคลทุกประการเข้ามาเสริมส่งผู้ใช้ให้กลับมาได้ดีรุ่งโรจน์เช่นนั้น เพื่อพัดเอาโรคภัย ความเจ็บ ความจน ความไม่เสมอภาคทั้งหลายให้หลุดพ้นไป พ่ออาจารย์ท่านว่าตามธรรมชาติของมนุษย์นั้นเมื่อกายและใจปราศจากสิ่งอันเป็นมลทินแล้วตัวปัญญาของเขาย่อมจะเกิดขึ้น ท่านเจตนาสร้างพัดนี้เพื่อขจัดมลทินโทษทั้งหลายในกายและใจของเขา เพื่อยังปัญญาให้เกิดเมื่อปัญญาเกิดแล้วก็จะยังความเบิกบานให้มีขึ้นทั้งกายและใจ อันชีวิตที่มีปัญญาดำรงค์อยู่นั้นไม่ว่าจะพูดสิ่งใด คิดสิ่งใด หรือกระทำสิ่งใด ทุกกิจนั้นย่อมสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ด้วยตัวปัญญานั้นต่อไปเขาจะกลายมาเป็นกำลังสำคัญของพระศาสนาทั้งจะคอยดูแลพระศาสนาให้สถาพรสืบต่อไป เมื่อสำเร็จได้ดังนี้ก็นับได้ว่าชีวิตเขาคู่ควรแก่การเกิดมาเป็นมนุษย์เพื่อสะสมและสร้างเสริมบารมีให้แก่ตนเองอยู่มากแล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านนำพัดวิเศษนั้นมาผนึกลงในผงมงคลที่มีคุณทางหนุนดวงและใช้แก้กรรมทั้งหลายนับสิบๆสูตรที่ท่านเพียรลบถมเก็บสะสมไว้พร้อมกับนำมาผนึกฝังใส่ไว้ด้วยเหล็กไหลสำคัญของท่าน ซึ่งโดยปกติเหล็กไหลชนิดนี้จะมีเหล่าเพชรพญาธรเป็นผู้ดูแลรักษา มีฤทธิ์อำนาจพิเศษทางสร้างมายาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาง่ายๆก็คือการเนรมิตสิ่งที่ผู้บูชาปรารถนานั้นแหละทั้งยังดีในทางเมตตามหานิยม โชคลาภ และส่งเสริมความรักเป็นพิเศษตามแนวทางของเขาด้วยเหล็กไหลนี้เป็นขององค์เพชรพญาธรที่ต้องการจะสร้างบารมีเขาจึงมักจะขวนขวายช่วยงานเราในทุกๆสิ่งที่เราปรารถนา ยิ่งเป็นความต้องการอันติดอยู่ในอารมณ์กล่าวคือทั้งความรัก ความโลภ ความต้องการ ความหลงใหลทั้งหลาย สิ่งเหล่านั้นเขาจะยังให้เกิดผลได้ในทันที ต่างจากบารมีของเทพพรหมที่มีกำลังมากมีบารมีเต็มแล้ว อิ่มตัวแล้ว ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะเอาไปใช้งานก็ต้องเอาพระเพชรนี่แหละเพราะเขาขยันดีทั้งยังติดอยู่ในโลกียฌาณมีความปรารถนาที่จะสร้างบารมีของเขาให้ยิ่งๆขึ้นไป เหมาะกับสถานะของคนใช้ที่ยังแสวงหาความสุข ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ตัวเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์เหล็กนี้มีอานุภาพครอบคลุมทั้งหมดทั้งคุ้มครอง แคล้วคลาด กันภัยได้ทั้งสิ้น แต่จะชอบกินน้ำผึ้งเมื่อถึงคืนวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงแล้วก็ให้อาราธนาเขาลงแช่ในน้ำผึ้งด้วยเขาจะงอกจะโตขึ้นตามวาสนาบารมีของคนใช้หรือแม้แต่จะแวววาวและเปลี่ยนสีไปอย่างไรก็ได้ อันนี้ก็สุดแต่วาสนาของผู้บูชาเอง ท่านว่าก่อนทำอะไรเวลาอธิษฐานกับเขาให้สังเกตุดูให้ดี ถ้าองค์เหล็กนั้นแววาวท่านว่าออกไปทำได้เช่นนั้นจะโชคดี แต่ถ้าองค์เหล็กท่านหม่นหมองจะทำสิ่งใดก็ให้คิดให้รอบคอบและควรระงับไว้ก่อน

    เหล็กไหลครูพระเพชรนี้นับเป็นชุดเหล็กไหลวิชา เพราะพ่ออาจารย์ท่านได้นำมาเป่ามนต์พระเพชรพร้อมทั้งชุบฤทธิ์อำนาจให้ใหม่ ให้มีพลังสูงสุดในสายวิชาพระเพชรพญาธร อย่างที่รู้กันว่าครูพระเพชรของท่านมีประสบการณ์แรงใช้ได้จริง อีกทั้งบางครั้งคนยังนำไปบำบัดรักษาโรคภัยจนมีร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดีขึ้น ทั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้นำวิชาพระเพชรมามนต์ใส่ในเหล็กไหลครูพระเพชรขึ้นมา โดยความตั้งใจเดิมของท่านคืออยากจะทำให้คนใช้มีเครื่องมงคลที่เป็นอาถรรพ์รุนแรงสามารถใช้เปลี่ยนชะตาชีวิตตัวเองได้ด้วยตนเอง ดังนั้นท่านจึงทำวิชาพระเพชรพญาธรหน้าทองกายสิทธิ์ครอบใส่องค์เหล็กไหล ซึ่งเป็นที่มีอุปเท่ห์และคุณวิเศษอย่างใหญ่หลวง พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าองค์เหล็กไหลนี้ท่านตั้งใจจะให้คนบูชานำไปช่วยตัวเองได้ เพียงแค่พกพาหรือใช้ตามอุปเท่ห์ก็มีคุณวิเศษเสียยิ่งกว่าไปลงนะหน้าทอง หรือครอบครูพระลักษณ์หน้าทองทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์เหล็กสำคัญของท่านนี้เพียงเอามาตั้งจิตอธิษฐานวนบนใบหน้า ทำหนไหนวันใดก็ตามเสมือนได้ครอบครูพระเพชรพญาธรหน้าทองในวันนั้น ตรงนี้ท่านว่าการครอบครูนั้นอาจจะเสื่อมอาจจะถอยและสูญเสียสิริมงคลได้ เนื่องจากคนที่ครอบไม่รักษาคุณความดี ท่านจึงได้นำองค์เหล็กพระเพชรที่ครอบวิชาไว้ออกมาสงเคราะห์สำหรับคนที่เล่นหรือใช้ของทั้งหลายไม่ขึ้น จะได้ครอบได้ใช้ให้ครูอยู่กับเราได้ตลอดเวลา ท่านว่าจะวนวันละกี่หนก็ได้ให้ตั้งจิตดีๆ เพราะครูเพชรนอกจากเป็นเสน่ห์แล้ว หากสถิตย์กับตัวผู้ใด ยังจะกินพลังงานด้านลบต่างๆ กินเชื้อโรคและอวิชชา ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งแข็งแรงยิ่งๆขึ้นอีกด้วย ยิ่งวนก็เหมือนยิ่งครอบ ทำให้ร่างกายเราสะอาดบริสุทธิ์ ตรงนี้ท่านว่าทำบ่อยๆยิ่งดีเพราะพลังงานครูจะเข้าทดแทนพลังงานด้านลบและซ่อมแซมพลังงานและสิ่งสึกหรอต่างๆใช้กายสิทธิ์ทำให้ร่างกายเราเป็นกายสิทธิ์

    ยอดปรารถนา...วิชาพระเพชรของพ่ออาจารย์ดีอย่างไร
    ท่านว่า
    พระเพชรของท่านนั้นยิ่งคนใช้มีเคราะห์กรรมเท่าไหร่ยิ่งมีฤทธิ์แรงมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเอาติดตัวไว้ได้นานเท่าไหร่ ยิ่งมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เพราะว่าเค้ากินพิษ กินเคราะห์กรรม กินคุณไสยฝ่ายต่ำ กินตะกอนเวรกรรมและสิ่งที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเราเป็นอาหาร รวมไปถึงอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลาย นี่เห็นหรือไม่ ท่านว่าเค้ากินหมดอะไรที่ว่าไม่ดีไม่งามในตัวเรา เค้ากินไปก็ยิ่งเพิ่มฤทธิ์ให้กับเค้า มันจึงเข้าทำนองว่าได้ประโยชน์ร่วมกัน เค้าก็อยากจะช่วยเรากินมากๆเพื่อเพิ่มฤทธิ์ให้ตัวเองเรียกว่าเสพย์เพื่อฤทธานุภาพ ส่วนตัวเรานั้นเมื่อพระเพชรเสพย์สิ่งปฏิกูลทั้งหลายในตัวเราออกไปแล้วเราก็จะดูอ่อนกว่าวัยกลายเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดขึ้นมาทันตาเห็น พอสิ่งอาถรรพ์ทั้งหลายหมดไปเรื่องดีๆมันก็จะตามเข้ามาไม่รู้จักหมด ท่านว่าไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรเลี้ยงเค้าเอาแค่ว่าตราบใดยังอยู่ในกฏแห่งกรรมยังโดนดาวบาปเคราะห์จรทับตามวาระอยู่พูดง่ายๆตราบที่ยังหายใจเป็นมนุษย์อยู่ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรให้เค้ากิน พระเพชรของท่านนั้นท่านว่ามันแปลกและดีเช่นนี้ ท่านว่าพระเพชรนั้นเก่งเหมือนกับเทวดาองค์หนึ่งเลยแต่เค้าสามารถทำอะไรทั้งหลายที่เค้าประสงค์ได้มากกว่าเทวดา และตัวเค้านั้นยังมีความรู้ครอบคลุมในทุกศาสตร์วิชาทั้งสิบแปดศาสตร์ หากจะพูดถึงวิชาเพชรพญาธรแท้ๆแบบไม่ใช่ของเล่นนั้น ท่านว่าให้คุณมากและเป็นสรรพวิทยาการที่ตกทอดมาแต่โบราณ ดังนั้นท่านว่าถ้าจะทำก็ต้องทำให้ดีที่สุด และพระเพชรของท่านนั้นต้องชุบให้ไม่มีจิตมารจึงจะใช้ได้ ท่านว่าเพชรพญาธรนั้นมีสี่จำพวก ซึ่งแต่ละจำพวกก็จะมีวรรณะและฤทธิ์แตกต่างกันไป ตั้งแต่ระดับต่ำที่มีร่างกายสีทองแดง สูงขึ้นมาหน่อยก็เป็นสีเงิน และสีทอง ตลอดจนกายศักดิ์สิทธิ์หรือเนื้อสีผิวกายสิทธิ์ ซึ่งยิ่งมีระดับสูงกว่าก็ยิ่งมีฤทธิ์มากกว่าและสามารถเสพย์หรือกินชั้นที่ต่ำกว่าตนเองหนึ่งขั้นได้ พ่ออาจารย์ท่านสำเร็จวิชาพระเพชรกายสิทธิ์ ท่านว่าพระเพชรกายสิทธิ์หน้าทองนี่แหละเป็นเสน่ห์ที่สุดแค่เห็นหน้าก็อ่อนระทวยลืมเลือนทุกสิ่ง เมื่อท่านครอบวิชาพระเพชรพญาธรลงในเหล็กไหลองค์พระเพชรที่เป็นต้นธาตุพลังงานสายวิชาพระเพชรพญาธรแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านไม่ได้ทำเพียงแค่วิชาครูเสน่ห์หรือลงเฉพาะวิชาพระเพชรอย่างเดีย แต่องค์เหล็กนี้เดิมก็มีจิตวิญญาณของเขาอยูู่แล้วก่อนที่ท่านจะนำมายกระดับให้เขาเสพย์ให้เขากินจนเลื่อนขั้นมีกำลังเป็นระดับพระเพชรกายสิทธิ์ แต่ทั้งนี้นอกจากนั้นท่านยังลงวิชาให้ใช้เสริมราศี เสริมสิริมงคลแก่ผู้บูชาด้วย ตรงนี้สำคัญมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าสิริและสง่าราศีนี้เหมือนเป็นของขวัญจากฟ้าใครมีนับว่าเป็นยอดคน จะทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ เป็นสิ่งดึงดูดนำมาซึ่งชีวตที่ดี ทำให้มีโชคชะตาดี มีวาสนาที่ดี ในขณะที่พระเพชรดูดซับเชื้อโรคและพลังงานลบออกจากร่างกายครั้งนี้ท่านก็ลงมหาสิริไว้ด้วยซึ่งวิชานี้จะดึงดูดเติมเต็มพลังงานด้านบวกเข้าไปแทนที่ ด้านนึงดูดซึมพลังงานลบอีกด้านหนึ่งดูดเพื่อทดแทนพลังงานบวกเติมเต็มซึ่งกันและกันท่านจึงลงวิชาเสริมราศีและสิริมงคลที่เรียกว่ามหาสิริ ดังนั้นองค์เหล็กพระเพชรนี้จึงมีคุณวิเศษยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนำมาใช้วนหน้าครอบครูเสริมเสน่ห์แล้วยังใช้ทางด้านอื่นๆได้อีกด้วย องค์เหล็กเมื่ออยู่กับเรานั้นก็จะเกาะกินดูดซับเคราะห์ตลอดจนทุกข์โศกโรคภัยของเรา นอกจากนี้ท่านว่าหากปรารถนาจะทำกิจใดก็ดีให้สำเร็จ เรียกว่าเอาให้ได้เรื่อง ไปทำอะไรแล้วได้โชคได้ชัยกลับมา ไม่พบกับความผิดหวัง พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ดูเวลา สำหรับกิจที่จะทำนั้น ตรงนี้สำคัญมากท่านว่าวันหนึ่งใช้ได้หลายรอบ ใช้ได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องงานเพราะปกติวิสัยมนุษย์นั้นวันๆย่อมเจอปัญหาและมีสิ่งที่ปรารถนาที่ต้องทำอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเรื่องเสนห์เพศตรงข้าม การเข้าหาผู้ใหญ่ ทุกสิ่งที่ยังต้องลุ้นยังไม่ประสบความสำเร็จ ยังไม่ได้ชัยชนะ โชคชะตายังไม่เข้าข้าง ท่านว่าให้อาราธนาองค์เหล็กนี้แล้วดูเวลา ขอเพียงรู้วิธีใช้และดูเวลาเป็นเท่านั้นเราจะไปทำกิจนั้นๆเวลาใดด้วยอานุภาพของมหาสิริตัวนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าให้เราอาราธนาองค์เหล็กในเวลานั้นๆแล้วเอาไปวนส่วนต่างๆดังนี้
    1. เมื่อจะทำกิจต่างๆเวลาเช้าถึงก่อนเที่ยงก็ดี ให้อธิษฐานขอความสำเร็จแล้วนำองค์เหล็กวนใบหน้า
    2. เมื่อจะทำกิจต่างๆตั้งแต่เที่ยงจนถึงหกโมงเย็น ท่านว่าให้อธิษฐานแล้วนำองค์เหล็กวนบริเวณอก
    3. เมื่อจะทำกิจต่างๆหลังหกโมงเย็นลงไปจนถึงหกโมงเช้า ท่านว่าให้อธิษฐานแล้วจรดองค์เหล็กที่หน้าผากลากลงมาจรดปลายเท้า
    พ่ออาจารย์ท่านว่าเคล็ดเหล่านี้สำคัญมากสำหรับคนบูชา
    ถ้าทำได้ตามนี้จะทำอะไรก็ตามย่อมสำเร็จ ซ้ำยังพ้นออก นำออก จากความอัปรีย์จัญไรทั้งปวงอีกด้วย

    พ่ออาจารย์ท่านนำวิชาทำพัดวิเศษมาผสานกับองค์คุณในองค์เหล็กพระเพชรขั้นกายสิทธิ์ของท่าน ท่านว่านี่แหละจึงเป็นยอดของศักดิ์สิทธิ์ที่เอาไว้ใช้ขับชะตาเปลี่ยนวิถีชีวิต ทั้งกลืนกินบาปเคราะห์และอวิชชาอย่างแท้จริง ทั้งด้วยตบะเดชะ อำนาจวาสนา บารมีและเมตตาธรรม สิ่งใดที่เกิดจากการบำเพ็ญธรรมในชาติเพชรพญาธรนี้ขององค์เหล็กพระเพชรเขาก็ได้มาร่วมอธิษฐานตั้งใจทำ ตั้งใจสร้างเสกคุณวิชาด้วยความจริงใจและเจตนาอันบริสุทธิ์ เพื่อให้ทุกเจตนาของคนใช้สมหวังและเป็นไปด้วยดี

    คาถาบูชา
    จิเจรุนิ เตชะสะติ วายุละภะ ภะเวสัจเจ เอชิมะอะปานุติ ปะฐะวิยัง

    อาราธนาพระเพชร...
    โอมพระเพชรพญาธร เธอเสด็จจรขึ้นบนอากาศ กูจะตวาดเรียกให้มึงมา โอมปลุกมหาปลุกกูจะปลุกมึงให้ลุก ลุกแล้วอย่านั่ง เจ้าครูกูสั่งให้มึงไปเรียกไปหา กูจะเรียกมึงมา กูจะใช้มึงไปหา.......(พูดสิ่งที่เราปรารถนา)...มาให้กับกู มาเรโสเอหิพุทธานุภาเวนะ มาเรโสเอหิธัมมานุภาเวนะ มาเรโสเอหิสังฆานุภาเวนะเอหิ

    * องค์เหล็กนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าของเหล่านี้มันเป็นของมีเจ้าของ เป็นของคู่บารมี ให้เป็นไปตามวาสนาบารมีของเขา ใคีพอจะมีวาสนา เขารู้ว่าเป็นของเขาเดี๋ยวเค้าก็มาเอาไปเอง แต่วิชาการสร้างพัดตลอดจนครอบวิชาใส่องค์เหล็กนี้เราทำให้แค่ครั้งเดียวนั้นแหละ เอาไว้ให้กับคนที่มีความทุกข์ มีชีวิตยากกว่าคนอื่นเขาใช้กัน ***โดยปกติแล้วพัดกายสิทธิ์นี้ควรใช้สองชิ้นต่อหนึ่งคน นั่นคือชิ้นหนึ่งติดตัว อีกชิ้นหนึ่งติดบ้านใส่ประจำไว้ใต้หมอนที่เราหนุนนอนทับไม่ต้องเคลื่อนออกไปไหนเว้นแต่เวลาอาราธนาให้เขาเสพย์น้ำำผึ้งเท่านั้น เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่านี่ก็จะดีทั้งยามหลับยามตื่น ครูท่านจะให้โชคสมควรแก่วาสนาของเรา หรือใครที่ชอบวิชาครูพระเพชรอยากเลี้ยงองค์เหล็กเอาไว้เสริมวาสนาบารมีหน้าที่การงานเพราะชีวิตเรามันหนัก มันยากกว่าคนอื่น ท่านว่าก็ให้ใช้จิตสื่อเลยจะรู้เองว่าวาสนาของเราควรบูชากี่องค์

    ร่วมทำบุญบูชา พัดหวนฟื้นคืนวิญญาณ,พัดฟื้นความสุข(องค์เหล็กไหลพระเพชรมหากายสิทธิ์) บูชา 2,500 บาท

    47574265-279721392887099-904987044202151936-n.jpg 47683938-534903926977164-1638494882001584128-n.jpg
    47576660-1143615639149833-403910333812441088-n.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์หมามหานิลดำเมตตาเข้าไส้(เสน่ห์หน้าหมา)

    ยุคก่อนสมัยหลวงพ่ออ่ำวัดหนองกระบอก เจ้าตำนานแพะมหาเสน่ห์ก็เคยใช้เขาควายเผือกฟ้าผ่าแกะหมาพยนต์ให้ลูกศิษย์ใช้ ว่ากันว่าเฮี้ยนและหายากกว่าแพะแท้ๆมากมายนัก แม้พ่ออาจารย์ท่านก็เคยเอาดินมาปั้นเสกหมาพยนต์ให้คนใช้ จนถึงท่านก็ยังปั้นไว้ใช้เองตามศาสตร์วิชาการสร้างหมาพยนต์หรือหมานิลดำโดยหมานิลดำของท่านนั้นท่านจะรักมันมากและมักบอกเป็นนัยน์ๆเสมอๆว่าเห็นแบบนี้มันเก่งนะมันมาช่วยเราหลายครั้งแล้ว ซึ่งท่านว่าศาสตร์เหล่านี้เขาให้คุณมากเพราะหมานั้นซื่อสัตย์กับมนุษย์เป็นที่สุด

    ด้วยคุณสมบัติต่างๆอันหาได้ยากนานาประการของพยนต์หมานิลดำ ได้แก่
    - ยอมรับเราเป็นเจ้านาย
    - เชื่อฟังคำสั่ง
    - คอยติดตามเราไม่ห่างดุจเงาตามตัว
    - คอยเตือนภัยบอกเหตุร้ายให้รู้ตัว
    - เข้าใจความคิดและการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลอดจนบุคลิกของเรา
    - ปกป้องเมื่อมีภัย
    - พยายามเข้าหาเราด้วยตัวเองและเขาจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับเรา

    สิ่งต่างๆเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้จะทำวัวธนู ควายธนู หรือพยนต์สัตว์เทพใดๆเขาก็ไม่ได้ให้ค่าความซื่อสัตย์จงรักภักดีหรือใส่ใจเรา ทั้งจะพยายามเข้าหาเราด้วยตัวเองตลอด เรียกได้ว่าผู้เป็นนายต้องอยู่ในสายตาตลอดเช่นพยนต์หมานิลนี้พราะเขาต้องการสื่อสารกับเราและต้องการพึ่งพาเรา เล่นกับเรา เป็นภาวะที่เอื้อเฟื้อความอารีย์ซึ่งกันและกันเช่นนั้นเองเขาจึงซื่อสัตย์และจงรักภักดีกับเรามากด้วยเห็นว่าเราเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขา และผู้ที่บูชาพยนต์หมามหานิลดำนั้นจะรู้ได้เองว่าเขาชอบผลประโยชน์ที่เท่าเทียม อันนี้พูดกันง่ายๆคือขออะไรเพียงมีตัวล่อ มีเรื่องบน มีของกินเข้ามาล่อมาเสนอเอาว่าสำเร็จไวแน่นอนชนิดทำงานได้ทันตาเห็น เป็นข้อแลกเปลี่ยนง่ายๆยิ่งเราให้เขาก็ยิ่งคืนให้เช่นนี้ ทั้งความรักความรู้สึกก็จะยิ่งผูกพันธ์กันมากขึ้นไปเรื่อยๆ

    ด้วยความเก่ง ความซื่อสัตย์จงรักภักดีและคุณสมบัติเฉพาะตัวงของพยนต์หมามหานิลดำที่เขาเห็นเราเป็นเพื่อนและใส่ใจความรู้สึกนึกคิดเราตลอดเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจจะทำพยนต์หมาให้ใช้อย่างเป็นทางการไว้ซักรุ่น ซึ่งท่านว่าเราจะทำให้เพียงครั้งเดียวเพราะวิชาเหล่านี้ถ้าทำให้สุดๆจริงๆแล้วล้วนมีอาถรรพ์อยู่มาก โดยท่านตั้งใจปั้นหุ่นเทียนให้มีลักษณะคล้ายหมาจิ้งจอกด้วยเหตุผลว่าหมาท่านต้องเก่ง เป็นหมานักล่า จะมาหงอยๆซึมๆนั้นใช้ไม่ได้ ท่านทำให้เป็นจิ้งจอกเพราะต้องการไหวพริบ ความเจ้าเล่ห์ ความฉลาด ปราดเปรียว มีสัญชาติญาณดิบ มีความเป็นนักล่า เพื่อจะให้ให้คนนำไปบูชาสามารถใช้ด้เหมาะแก่ยุคสมัยไม่ใช่เอาไว้เป้นเพื่อนเฝ้าบ้านเท่านั้น แต่ยังต้องล่าเหยื่อ หาทรัพย์ ทั้งยังคิดเป็นคอยช่วยเหลือเจ้านายเวลาตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ

    ทั้งหมาพยนต์นี้ยังเป็นวิชาทางด้านเมตตาชั้นยอดอันโดดเด่นไม่มีใรเหมือนชนิดหนึ่งด้วย เพราะลักษณะของลูกหมาตัวเล็กๆนั้น ย่อมดูน่ารัก น่าใคร่ น่าเอ็นดู ใครเห็นก็เมตตา ใครเห็นก็อยากเข้าหา อยากเข้ามาเล่นด้วย เรียกว่าเราพกหมาพยนต์ไว้ใครเห็นใครก็ชอบ อยากเล่น อยากหยอก ซึ่งคุณสมบัตินี้พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าคนมีไหวพริบดีเขาจะรู้ว่าใช้ได้หลายทางเช่นเอาไปใช้กับเจ้านายเขาก็รักเขาก็วางใจ ที่เคยไม่พอใจนึกโกรธเราเคืองเราพอเห็นหน้ามันก็วูบไปหมดลืมไปสิ้น ถ้าเอาไปใช้กับเพื่อนเขาก็รักคอยเกื้อกูลเราเช่นนั้น และวิชาหมานิลดำนั้น ท่านว่าพกเขาไว้เถิดจะมีกินมีใช้ตลอดแม้ไม่ต้องขออะไร เพราะหมามันไม่มีวันอดตาย คนโบราณเขาเชื่อเขาถือกันยิ่งนักว่าหมาไม่เคยอดตายดังนั้นวิชานี้จึงดีทางความอุดสมบูรณ์ ความบริบูรณ์อย่างลงตัวเรียกว่าขาดอะไรก็เติมเต็มสิ่งนั้น จะใช้ให้เขาเฝ้าเจ้าของ,เฝ้าทรัพย์ หรือจะใช้ให้ล่าให้หาล้วนใช้ได้ทั้งสิ้น พอได้ไปให้ตั้งชื่อให้เขาด้วย หรือว่าจะเรียกเจ้ามหานิลก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าใครคิดร้ายหรือเล่นไม่ซื่อกับเรา ถ้าใครทำอันตรายปองร้ายหมายชีวิตเราอันนี้เขาจะไปปรากฏกายให้มันเห็นโดยมาเป็นรูปกายสีดำตาแดงตัวใหญ่เรียกว่าไปเตือน และอาจจะไปลงโทษมันผู้นั้นตามระดับความเหมาะควรแก่โทษที่เขาปองร้ายเช่นนี้ และหากผู้บูชาเห็นเขาเองก็ให้รู้ตัวไว้ถ้าเขามาแบบน่ารักๆเป็นลูกหมาตัวเล็กๆนั่นก็คือเขามาเล่นด้วย แต่ถ้าวันไหนเขามาให้เห็นเป็นสุนัขดำตัวใหญ่โตตาแดงเมื่อไหร่ให้รู้ไว้ว่าเรากำลังมีเคราะห์ภัยหรือดวงเรากำลังจะตกกำลังจะเจอเรื่องไม่ดี ให้รีบเอ่ยนามเรียกชื่อเขา บอกให้เขาช่วยเสียแต่เนิ่นๆแล้วคราเคราะห์ตลอดจนเหตุเภทภัยทั้งหลายก็จะระงับไปเอง ***ตรงนี้ให้จำไว้ให้ดีเพราะเขาจะใส่ใจเรามากและถือว่าเขามาเตือนเราแล้ว ถ้าเราไม่เอ่ยปากเคราะห์ภัยนั้นก็จะมาถึงตัว

    เพราะวิชานี้น่าอัศจรรย์ถึงเพียงนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะมันใช้กินเคราะห์ภัย เตือนบอกเหตุร้าย ทั้งเฝ้าระวังคอยป้องกันเราไปเสียทุกอย่าง พออะไรมาที่ดูไม่ดีๆนี่เขาจะรีบเตือนเรา เอาว่าถ้าเราอนุญาติหรือเอ่ยปากเขาจะเขมือบสิ่งเหล้านั้นทันทีเช่นนี้ เราจึงบอกได้คำเดียวว่ามันเก่งมากและมันก็เคยช่วยเรามาเยอะแล้ว

    เมื่อท่านใช้ธาตุกายสิทธิ์สูตรเล่นแร่แปรธาตุของท่านหล่อหลอมพยนต์มหานิลดำขึ้นมาท่านยังได้ทำวิชาฝังตะกรุดสำคัญไว้ด้วย นั่นคือตะกรุดวิชาเสน่ห์หน้าหมาหรือหมาเข้าไส้นั่นเอง อันวิชานี้ก็มีตำนานพื้นเมืองสืบทอดกันมาว่า
    " เมื่อโบราณการนานมา มีเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งทางภาคเหนือ มีพระธิดาที่มีรูปโฉมงดงามมาก เป็นที่หมายปองของเจ้าเมืองน้อยใหญ่ต่างปรารถนาจะได้นางมาเป็นมเหสี แต่พระธิดานางนั้นก็ยังไม่ตกลงปลงใจกับกษัตริย์เมืองใดเลย จนเรื่องความงามนี้ไปเข้าหูกษัตริย์นักรบเมืองใหญ่ผู้มีฝีมือการรบเก่งกล้า มีวิชาอาคมดี และที่สำคัญมีพระฤาษีที่ทรงฤทธิ์แก่กล้าเป็นที่ปรึกษา แต่ด้วยเป็นกษัตริย์นักรบที่ภาพลักษณ์โหดเหี้ยมกระหายเลือดและรูปโฉมไม่งดงาม เมื่อส่งพ่อสื่อส่งของไปบรรณาการและสู่ขอ เจ้าหญิงจึงปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใย กษัตริย์นักรบหนุ่มรู้เช่นนั้นก็โมโหโกรธายกทัพเข้าตีเมืองหวังหักชิงเอาด้วยกำลัง พระบิดาองค์หญิงก็ออกรบต้านไว้เต็มกำลังก็มิอาจสู้ได้ ทหารประชาชนต่างบาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เจ้าหญิงเห็นดังนั้นก็สลดพระทัยตัดสินใจกลั้นใจตายในห้องบรรทมหวังให้เรื่งทุกอย่างยุติไปพร้อมกับความตายของนาง กษัตริย์นักรบหนุ่มหลังตีพิชิตเมืองได้พอทราบข่าวก็เสียใจและเจ็บแค้นใจที่พระธิดาเลือกความตายแทนที่จะเลือกตนจึงปรึกษาพระฤาษีผู้อาจารย์ อาจารย์ท่านนั้นจึงใช้พระเวทย์นำดวงจิตของพระธิดาใส่ในร่างของสิงโตหวังจะหาทางแก้ไขให้นางฟื้นด้วยวิชา แต่เมื่อดวงจิตของพระธิดาไปอยู่ในร่างสิงโตก็เกิดดุร้ายไล่กัดทหารล้มตายลงเป็นอันมาก พระฤาษีท่านนั้นจึงย้ายดวงจิตเจ้าหญิงไปไว้ที่หมาตัวเมียตัวหนึ่ง แต่ด้วยสัญชาติหมา เมื่อติดสัด ก็วิ่งร่านไปหาเพศผู้เพื่อเสพสังวาส ด้วยอาถรรพ์ร้ายแรงใดไม่ทราบได้ไม่ใช่แต่หมาด้วยกัน แม้แต่ ม้า วัว ควาย ยันคน ต่างมาหลงเสน่ห์นางหมาพากันมาร่วมเสพสังวาสกับนางกันทั้งเมืองจนเป็นเรื่องวิปริตอาเพศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โบราณจารย์ท่านจึงได้ผูกวิชาเสน่ห์หน้าหมาหรือหมาเข้าไส้ขึ้นมาเช่นนั้น"


    ด้วยเป็นวิชาที่ไม่ค่อยปรากฏผู้สร้างมากนักเพราะจะหาผู้รู้จริงทำได้จริงยากยิ่ง อีกทั้งวิชานี้มีเคล็ดการสร้างและวิธีการปลุกเสกพิสดารสร้างได้ยากมากๆ ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจว่าจะทำไว้ซักหนแต่ท่านจะไม่พูดไปถึงทางเสน่ห์ราคะแบบต้นสายวิชา ท่านว่าท่านพูดมากไม่ได้เอาแค่เมตตานี่แหละคนเราเมตตากันมันก็รักกันเอง(ท่านพูดเป็นนัยน์ๆไว้เท่านี้) พ่ออาจารย์ท่านจารตะกรุดปลุกวิชาเสกจนเกิดนิมิตรตรงตามตำราจึงเห็นแจ้งว่าสำเร็จ แล้วจึงนำตะกรุดนี้ฝังลงไปในหมาพยนต์มหานิลดำตอนหล่อหลอม ด้วยตะกรุดเสน่ห์หน้าหมานี้เวลาใครเอาไปใช้ท่านว่าจะเป็นเสน่ห์เมตตาในลักษณะของหมาหยอกไก่นั่นคือหยอกกันคุยกันแบบทีเล่นทีจริง ไปไหนก็มีคนรัก คนนิยมชมชอบ อยากเข้ามาหาไปจีบสาวเขาก็ไม่กลัวต่างก็ยอมเปิดใจให้กับเรา ดังนั้นวิชานี้จึงมีดีทางตี้ซี้หรือจะเรียดว่าตีสนิทก็ได้เพราะขึ้นชื่อว่าคนแล้วหากลองสนิทใจกันเมื่อไหร่ ที่เหลือก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้วเช่นนั้นวิชานี้จึงเป็นวิชาเสน่ห์ชั้นสูงตำรับสายขาว เป็นเสน่ห์มหานิยมดึงดูดผู้คนให้อยากเข้ามาพบปะเจรจาด้วย เจ้านายก็รักเมตตา คนรักก็รักเมตตาอยากอยู่กับเราเพราะเขาอยู่กับเราแล้วเขามีความสุข คนทั่วไปหรือเพศตรงข้ามก็อยากเข้ามาหาเรา ใครที่โกรธเคืองหรือไม่ลงลอยกัน ก็จะมีน้ำใจอ่อนลงอยากเข้ามาหาเรา ***พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่โบราณวิชานี้จึงไม่ทำกันบ่อย เพราะมันจะเป็นเหมือนวิชากล่อมจิต กล่อมประสาทเขา ใช้ในการกล่อมจิตใจคนที่เราอยากเข้าหาให้เผยความในใจออกมาและดลจิตดลใจให้รักและซื่อสัตย์กับเราดั่งหมารักนายของมันเช่นนั้น ท่านว่าทำให้หนนี้แล้วจะไม่ทำอีกเลย ใครมีวาสนาก้มาเอาไปเพราะเราทำให้เพียงแค่นี้

    ทั้งความเชื่อแต่โบราณนั้นยังเชื่อว่าสุนัขจะเป็นผู้นำพาเจ้านายไปหาขุมสมบัติ เมื่อได้เลี้ยงสุนัขดีก็จะมีวาสนาดี หรือทางอียิปต์เขาก็เชื่อว่าเทพหน้าสุนัขนั้นเป็นผู้นำพาในโลกวิญญาณทั้งสุนัขดำยังเป็นสัญลักษณ์ของการตายแล้วเกิดใหม่ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะคตินี้ท่านจึงทำพยนต์มหานิลดำขึ้นด้วยถือเป็นสิริมงคลไว้อย่างหนึ่ง ด้วยใครที่เขามีชีวิตทุกข์ยากจะได้เปลี่ยนชีวิตตัวเองเสมือนตายแล้วเกิดใหม่ จะได้เจอเพื่อนเจอผู้นำทางไปหาวาสนาและโชคลาภที่ประเสริฐยิ่งๆขึ้นไปตามอาถรรพ์ของพยนต์มหานิลดำเช่นนี้

    คาถาบูชา
    โอม วาวาคุปุเน คุวิสสุสัง มะ มะ สวาโหมติด
    ใช้ทางเสน่ห์ว่า โอม พระญาหน้าหมา คันกูไปนอนที่ขอนไม้จนก้านพอโป่งใบ ตกไปตางใดก็หื้อรักกูกูจักเนรมิตรเป๋นผม นางก็ลู่กันชิงกันเกล้ากูจักเนรมิตรเป๋นเข้า นางก็ลู่กันชิงกันกินกูจักเนรมิตรเป๋นดิน นางก็ลู่กันชิงกันย่ำสองพร่ำรักกู แท้เนอนางเนอเออนางรัก โอม สาวหุมติด

    *** ผู้บูชาเวลาจะกินข้าวทุกมื้อ ให้ใช้ช้อนเขี่ยข้าวกับอาหารมาไว้ที่มุมจานกองเล็กๆกองหนึ่งและตั้งจิตเรียกมหานิลดำให้เขากินกับเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าจะได้ไม่ต้องเปลืองหรือเสียเวลาไหว้ให้อาหารเขา และเรายังจะได้ผูกสัมพันธ์กับเขาให้ใช้ชีวิตอยู่กับเราไปตลอดเค้าก็จะติดและซื่อสัตย์กับเรามากยิ่งๆขึ้นไป ด้วยปรกติของหมานั้นท่านว่ามักจะอยู่ร่วมกันเป็นฝูง หากใครบูชาไปใช้ติดตัวก็พกตัวเดียวได้ แต่ถ้าอยากให้เค้ามีเพื่อน ให้เค้าอุปถัมภ์และเกื้อกูลเราแบบเป็นระบบฝูงของเขาตามสัญชาติญาณก็ให้พกไว้เป็นคู่หรือสองตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าหมานั้นเป็นสัตว์ให้คุณ รายการนี้จะเลี้ยงกี่ตัวก็ได้บอกได้แค่ว่ายิ่งอยู่เป็นฝูงยิ่งดี ให้ตั้งจิตดีๆแล้วครูท่านจะทำให้รู้สึกได้เองว่าเรามีวาสนาจะเลี้ยงเขากี่ตัว

    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์หมามหานิลดำเมตตาเข้าไส้(เสน่ห์หน้าหมา) บูชา 900 บาท


    48361174-1817118641747467-7185316626479185920-n.jpg 48225574-2011245538993539-7150500251483242496-n.jpg
    48324888-1203644969804232-1910315790138081280-n.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,477
    ค่าพลัง:
    +17,874

แชร์หน้านี้

Loading...