ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวิฬาร์ย่ำเหยียบเงาหมื่นกฏไม่ใช่เรื่องของเรา(เงาปรากฏรวยอมตะ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา มีดเดือนดับแหกสัญญากรรมประทับนัยน์ตาสัจธรรม(ชุดโต้กลับ - ปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผล)

    ### เทพศาสตราที่ยิ่งใช้งานมาก...ก็ยิ่งขลัง...ยิ่งศักดิ์สิทธิ์..ประสิทธิ์มาก
    ### ด้วยเป็นศาสตราวุธที่เอาไว้ใช้...เพื่อตัวเอง..รักษาตัวเอง


    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะทำมีดแหกเพื่อสืบสานตำรับพระเวทย์นั้น องค์ปฐมท่านแนะแนวทางให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างทำในรูปของมีดอีโต้....และประทับนัยน์ตาแห่งสัจธรรมลงไป ด้วยเหตุว่ามีดนี้จะได้ตอบสนองผู้ถือผู้จับคอยตอบโต้ต้านทานโดยอาถรรพ์ในตัวมันเอง พ่ออาจารย์ท่านอธิบายเอาไว้ว่าอานุภาพของมีดแหกที่ทำเป็นรูปอีโต้นี้จะใช้โต้คืนและตอบโต้เสนียดและสิ่งที่คอยรังควานตลอดจนกฏแห่งกรรมได้ด้วยตัวของมันเองแม้เราจะไม่อาราธนา ทั้งยังโต้ตอบเอาคืนสวนกลับอย่างรุนแรงต่อการกระทำย่ำยีและการรังแกเจ้าของมีด ท่านว่าไม่เพียงแต่เวลามีเรื่องมีปัญหาเขาจะทานไว้ต้านไว้ให้เรา แต่มีดโต้นี้จะสวนกลับสนองคืนอย่างรุนแรงเรียกว่าโต้กลับไปในสิ่งที่ทำมาตีกลับการกระทำของฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรืออมนุษย์แม้แต่แรงกรรมที่กระทำกับเราเค้าก็โต้กลับเช่นกัน เรียกว่ากระทำตอบแก่คนหรือสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดด้วยความเท่าเทียมถ้าดีมาก็ดีกลับแต่หากร้ายมาเขาจะไม่เอาไว้เลย..แรงแค่ไหนก็คืนไปแค่นั้นให้สาสมกัน เช่นนั้นมีดแหกรุ่นนี้จึงใช้ต่อต้านขัดขวางคนที่รังแกเราและสิ่งที่ดึงชีวิตเราให้เปลี่ยนไปไม่ว่าจะมองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ดี ท่านว่าเขาจะค้านไว้คอยขัดขวางไม่ให้สำเร็จผลเรียกว่ารับและยันเอาไว้ให้เราก่อนโต้กลับทั้งหมด...ดั่งเช่นที่องค์ปฐมท่านบอกแก่เราว่า "ผู้ที่ทนมามากแล้ว ก็ให้เขาได้โต้กลับไปเสียบ้าง"

    ### มีดแหก คืออะไร พ่ออาจารย์ท่านว่ามีดแหกตำรับของท่านที่องค์ปฐมท่านให้ทำนั้นเรียกอีกชื่อว่า "มีดแหกทุกข์" หรือจะเรียกว่า "มีดครู" ก็ได้ พูดแค่นี้ก็รู้แล้วว่าแรงกว่ามีดทั้งหมดเป็นของครูที่มีอาถรรพ์มีแรงครูสูงสุดเมื่อยึดครองไว้จะเคารพเสมอด้วยเป็นตัวแทนของครูบาอาจารย์ก็ได้ ...ซึ่งมีดแหกนี้จะต่างจากเทพศาสตราทั้งหลายด้วยจะทำโดยวัสดุที่มีอาถรรพ์(ท่านเลือกใช้ธาตุกายสิทธิ์หลอมถลุงร้อยแปดครั้งจนเนื้อแร่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด) และจะทำออกมาแบบทื่อๆไม่ให้มีคม(ปกติมีดหมดจะเน้นคม)เพื่อเน้นผลประโยชน์ในการใช้งานอย่างแท้จริง ***...อย่างที่ท่านบอกไว้ว่าเป็นมีดที่ใช้โดยตัวเอง..เพื่อตัวเอง เพราะมีดนี้จะใช้ขูดและถูส่วนต่างๆตามร่างกายเพื่อเปิดสัมผัสให้มีดแหกช่วยขับของเสียออกไปทั้งกระตุ้นพลังงานและกรรมดีที่เราเคยทำไว้ให้ตอบสนองออกมาเรียกว่าผลักทุกข์ออกและส่งพลังไปกระตุ้นให้ผลดีเกิดเร็วขึ้น ท่านว่าเวลาใช้ขูดเนื้อตัวนี้บางครั้งร่างกายก็จะร้อนเพราะข้างในนั้นเขาเผาผลาญสลายกรรมปรับธาตุกันอยู่เพื่อให้ร่างกายเราอยู่ในภาวะที่สมดุลย์และสมบูรณ์ด้วยชะตาวาสนามากที่สุด ทั้งมีดแหกนี้ยังใช้ขับพิษหรือสิ่งเลวร้ายตกค้างในตัวเราได้ อะไรที่เป็นอันตรายต่อเราและขึ้นชื่อว่าเป็นภัยกับชีวิตเราที่มีติดมีตกอยู่ในธาตุในขันธ์ในตัวเอง อันจะทำให้เราทุกข์ เราเจ็บปวด เราพิการหรือเป็นเคราะห์ที่จะทำให้เราพลัดพรากจากความสุขสมบูรณ์ ..ทำให้เราตายเช่นนี้เขาขับออกได้ทั้งสิ้น *** เพราะมีดเเหกนั้นคือมีดที่ใช้บังคับให้ออกและต้องออก(ท่านว่าเป็นการบังคับเอาออก เอาทิ้งไปเลย) โดยใช้แรงครูเป็นกำลังดึงออกให้ชีวิตเราฝ่าความเจ็บปวดทั้งหลายพ้นไปทั้งสิ้น

    นอกจากใช้เพื่อดับล้าง - ขับไล่ เคราะห์ร้าย,สิ่งชั่วร้าย,วิญญาณร้าย,ยาพิษ,ยาเบื่อ,ยาสั่ง,โรคภัยไข้เจ็บ,โรคร้ายต่างๆ...บรรดามีอันฝังอยู่และทำให้เกิดอาถรรพ์ร้ายในตัวเราและธาตุขันธ์ของเรา เขายังขับสิ่งที่ทำให้เราทุกข์ออกมาในคราเดียวกันด้วยซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราเองมองไม่เห็น ไม่ว่าจะเกิดจากกรรม,สัญญากรรม แม้คุณไสยลมเพลมพัดหรือภูติผีปีศาจมันเล่นเอาก็ดี ทั้งเสนียดจัญไรต่างๆเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าหลุดหมดเลย องค์ปฐมท่านตั้งใจให้พ่ออาจารย์ทำมีดแหกในรูปอีโต้เพื่อแหกออกและโต้กลับในสิ่งที่เรามองไม่เห็นโดยเฉพาะ ทั้งมีดนี้มีแรงครูสูง *** ท่านเน้นว่าจะลับจะทำให้แหลมให้คมไม่ได้เด็ดขาดเพื่อจะได้ใช้ถากใช้ขูดร่างกายไม่ให้เข้าเนื้อเอาไว้ใช้แค่ขูดๆสับๆไม่บาดเนื้อ หากเข้าเนื้อได้เลือดเดี๋ยวเนื้อจะยุ่ยจะเปื่อยเอา(อุปมาว่ามีดถอนอาคมที่คุ้มตัวเราหมดท่านจึงให้ตัดปัญหาทำเป็นมีดทื่อๆจะสับจะขูดยังไงก็ไม่เข้าเนื้อเข้าเลือด) จะอาราธนาปัดเป่าสิ่งใด..จะอาราธนาขับไล่สิ่งใด...ฉันบอกแล้วว่าเป็นมีดครู มีแรงครูจะขับจะไล่อะไรก็ยกมีดจบหัวบอกครูท่านได้เลยแล้วเอามีดขูดไปจากบนลงล่างพอเป็นพิธี คนไหนที่เจ็บที่ป่วยปวดตรงไหนหากคิดว่าเป็นไปด้วยคุณไสยการกระทำแล้วก็ให้เอามีดกดลงไป จะจี้จะทิ่มลากไล่คุณไสยออกไปก็ได้

    ความนัยที่ครูแฝงไว้(นัยน์ตาแห่งสัจธรรม)

    มีดแหกทุกข์นี้ท่านว่านอกจากจะใช้ไล่ใช้โต้ตอบแล้วยังใช้ตัดก็ได้...ใช้ปัดก็ได้...ใช้แก้ก็ได้ จะตัดกรรมตัดทุกข์ปัดอุปสรรคปัดรังควานปัดสิ่งไม่พึงประสงค์ให้พ้นตัวหรือจะแก้อาถรรพ์ที่ทำให้ชีวิตเราไม่เจริญเหล่านี้ท่านว่าสุดแล้วแต่จะใช้ พกเอาไว้กับตัวภูติผีเทวดาเกรเรจะกลัวนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ข่มขู่พวกนี้ได้หมดเลยเพราะเขากลัวมีดครูกันทั้งนั้น องค์ปฐมท่านให้ประทับนัยน์ตาหรือดวงเนตรแห่งสัจธรรมลงไปด้วยตานี้คือการเปิดพระเนตรแล้ว..เบิกแล้ว...ลืมตาอ้าปากขึ้นมาแล้วไม่ปิดลงดั่งชีวิตเราที่ใครก็ไม่ปิดลง พ่ออาจารย์ท่านพูดถึงความสำคัญของดวงเนตรแห่งสัจธรรมนี้ไว้ว่าสำคัญนัก องค์ปฐมท่านได้จำแนกพอจะบอกสืบต่อไปถึงพวกเธอได้ ดังนี้

    - ปกตินั้นตาเป็นสัญลักษณ์ของการมองเห็น เป็นเครื่องรู้ เช่นเดียวกันกับดวงเนตรแห่งสัจธรรมนี้ หากเบิกขึ้นแล้ว ผู้ครอบครองไว้จะไม่เดินทางผิด สิ่งที่ไม่เห็น ไม่รู้ ไม่เคยประสบพบเจอ นับจากนี้ไปก็จะได้เห็นได้ทราบเฉพาะตัวของตนเอง

    - ตาเป็นสัญลักษณ์ของการเห็น การรู้แจ้ง เป็นสัญลักษณ์ของปัญญาอันยิ่ง ท่านว่าสัญลักษณ์ดวงเนตรแห่งสัจธรรมนี้ดีนัก ให้เอาไว้กับตัวสมองจะปลอดโปร่ง ความคิดจะแจ่มใสขึ้น จะคิดอ่านทำสิ่งใดย่อมเกิดตัวรู้ ตัวปัญญาเด่นชัด ไม่ขุ่นเคือง

    - แม้ในพระพุทธศาสนา สมเด็จพระสุคตบรมครูท่านก็ได้แสดงธรรมไว้อย่างชัดเจนแล้วถึงความสำคัญของการมองเห็นว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา สิ่งนี้นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเราถือเป็นเคล็ด สำหรับคนที่ยังมืดบอดอยู่ ยังไม่รู้จักคำว่ามี เพราะเรายัดหัวใจพระธรรมจักรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสกลงไปด้วย สิ่งใดที่ปรารถนาจะมี ยังไม่เกิด ยังไม่มี นับจากนี้ให้เกิดมีตามที่เรานี้สรรค์ประสิทธิ์เอาไว้

    - นัยน์ตานั้น คำนี้สื่อถึงความหมายยิ่งใหญ่ ประดุจสิ่งอันเป็นที่รัก สิ่งที่มีค่าสูงสุดของเจ้าของ ดั่งที่คำโบราณท่านเปรียบเปรยว่าแก้วตาดวงใจ นัยน์ตานี้ก็คือแก้วตาสื่อถึงความรักหวงแหนสูงสุด เป็นอิทธิคุณแฝดทางด้านมหานิยม มหาเสน่ใหญ่อย่างที่สุด ถ้ารักใครชอบใครนั้น ต่อไปไม่ใช่เรื่องยาก ดุจเราได้ครองของสำคัญคือแก้วตาดวงใจของเค้าไว้แล้วนั่นเอง ให้ตั้งจิตนึกเอาว่าเรากุมแก้วตาดวงใจของเขาไว้อยู่ในตัวเราเขาอยู่ในอุ้งมือเราแล้ว จะใช้ทางเสน่ห์เล่กลใดก็สุดแต่ใจเถิด

    - เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจการทำลายล้างสูงสุดในจักรวาล(ของครูพระสยม) พ่ออาจารย์
    ท่านว่าแม้ในเหล่ามาร อสุรกาย เทพเจ้า และพระเป็นเจ้าด้วยกัน ก็ยังเกรงอำนาจการทำลายล้างอันเป็นปรมัตถ์นี้ เพราะเป็นการทำลายขั้นสูงสุด พกไว้กับตัวเป็นมหาเดช มหาอำนาจเหนือสิ่งอื่นใด เป็นที่เคารพและเกรงกลัว จนเข้าต้องรีบเข้าหาเรามาประจบเอาใจเราเช่นนั้น

    เช่นนั้นดวงเนตรแห่งสัจธรรมจึงอยู่ในข่ายอันเรียกว่ามหาสัญลักษณ์ ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ใช้แทนตัวพระเป็นเจ้าแทนอำนาจบัญชาการศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกตินั้นดวงตาคือสิ่งที่ใครๆผู้ใดก็ย่อมมีแต่ตาแห่งสัจธรรมที่จะล่วงรู้ดูเห็นในตรีกาลทั้งสามอันจะปรากฏระหว่างพระนลาฎนั้น แม้ในหมู่เทพยดาผู้ทรงมเหศรศักดิ์ทั้งหลายก็ยังไม่ค่อยจะปรากฏมี เพราะเป็นสัญลักษณ์ป็นตัวแทนอำนาจที่จะทำให้เราล่วงเข้าถึงพลังของมหาจักรวาล เป็นสัญลักษณ์ของการหยั่งรู้คือรู้กาลอดีต,รู้กาลปัจจุบันและหยั่งรู้ในอนาคตกาลเช่นนี้จึงมีพลังเปิดญาณทัศนะของผู้ครอบครองได้โดยตรง *** เมื่อประทับลงบนมีดแหกทุกข์ ดวงเนตรนี้นอกจากจะเป็นตัวแทนกำลังฟ้าแล้ว ยังเป็นตัวแทนการดึงอำนาจครูบาอาจารย์ผู้สูงส่งทรงศักดิ์ทั้งหลายลงสู่มีดเพื่อสงเคราะห์เรา

    เพื่ออาถรรพ์สูงสุด...ท่านได้ลงวิชาแผ่นชนวนด้วย
    สองสุดยอดนัยนาวุธเพื่อจะให้เป็นที่สุดของการประทับดวงเนตรแห่งสัจธรรมลงไป นอกจากเสกมีดแล้วพ่ออาจารย์ท่านยังต้องแยกเสกเปิดเนตรเฉพาะดวงเนตรนี้ ท่านเสริมกำลังแห่งดวงตาพระสยมและดวงตายมราชลงไปเป็นกาลเฉพาะ

    ### เนตรพระสยมภูวญาณ เมื่อพูดถึงพระเนตรที่สามอันเกิดแต่พระนลาฏของเทพเจ้าผู้ทรงมเหศักดิ์แล้ว ก็หามีดวงพระเนตรใดอันจะเป็นที่เกรงกลัวและเชื่อได้ว่ามีอานุภาพร้ายกาจสูงสุด เท่ากับดวงนัยน์เนตรขององค์พระสยม(ศิวะเทพ) ด้วยดวงเนตรนี้หาได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความรู้แจ้งเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังการทำลายล้างสูงสุดอันเกิดมีมาแต่เดิมในฐานะพระผู้เป็นเจ้าอีกด้วย เหนือกว่าและมากกว่าเหล่าเทพอาวุธอันทรงอานุภาพทั้งหลายของเทพเจ้าต่างๆซึ่งอาจเกิดมีขึ้นได้ด้วยอำนาจการสร้างสรรค์ของแต่ละพระองค์ แต่เมื่อเทียบกับอำนาจการทำลายล้างของดวงเนตรพระสยมแล้วยังห่างกันไกลมาก สาเหตุที่เหล่าเทพเจ้านั้นเกรงกลัวและเคารพองค์พระศิวะเทพเป็นที่สุดนั้นก็เพราะกลัวอำนาจการทำลายล้างของดวงเนตรนี้ แม้พระองค์มีพระประสงค์จะทำลายมหาจักรวาลให้ถึงกาลพินาศย่อยยับไป ก็จะเกิดเพลิงประลัยกัลป์ขึ้นมาจากพระเนตรที่สามนี้เผาผลาญห้องมหาจักรวาลให้พังพินาศไป พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าดวงพระเนตรนี้ ถ้าจะสร้างเป็นเพียงสัญลักษณ์ดวงตานั้นย่อมกระทำได้ง่ายนัก แต่ถ้าจะทำเป็นดวงตาของพระศิวะเจ้าแล้วนั่นคือสิ่งที่สร้างได้ยากที่สุด เพราะมีอานุภาพรุนแรงนักแม้สัญลักษณ์ดวงเนตรพระสยมปรากฏขึ้นที่ใด เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายย่อมกลัวเกรงในอาญาสิทธิ์นี้ของพระเป็นเจ้า จึงอาจจะกล่าวได้ว่าบุคคลที่ได้ครอบครองไว้ จะสามารถปราบและข่มเขาได้ทั้งโลก วิชานี้ถือว่าเป็นมหาปราบอย่างที่สุดอีกสายหนึ่งทีเดียว

    ### นัยน์ตาแห่งยมราช นัยเนตรของท่านพญายมราชที่เพ่งแล้วภูตผีทั้งหลายจะมอดไหม้ไปเป็นจุลมหาวิจุลในพริบตา เมื่อพญายมราชพิโรธแล้ว สักว่ามองดูด้วย นัยนาวุธ กุมภัณฑ์ทั้งหลายนับหมื่นพันตนก็จะลุกเป็นไฟพินาศไป ดุจหญ้าและใบไม้บนกระเบื้องร้อนฉะนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านัยน์ตามยมราชนั้นเป็นอีกหนึ่งสุดยอดอาวุธทำลายล้างที่ทรงกำลังสูงสุดเพียงหนึ่งเดียวซึ่งเกิดจากการบำเพ็ญตบะและบารมีอย่างแท้จริงแตกต่างจากอาวุธวิเศษอื่นใดทั้งหมด ดังนั้นจึงมีฤทธานุภาพร้อนแรงสูงสุดสามารถแผดเผาสรรพสิ่งอันเป็นอุปาทวอันตรายทั้งหลายได้ อีกทั้งเมื่อญานบารมีแห่งพระยมนั้นเบิกเนตรจะทำให้ชีวิตคนใช้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อพลังแห่งนัยนนาวุธปรากฏเราจะมีพลังมีตบะดุจถือครองนัยน์ตาของพระยมฉันใดก็ฉันนั้น ท่านว่าฤทธิ์นัยนาวุธนั้นเพียงแค่มองใครเค้าก็กลัวก็เกรงเราแล้ว พอคนนอบน้อมจะทำอะไรก็สะดวกและง่ายไปเสียทั้งหมด ท่านว่าดวงเนตรแห่งพระยมนี้นอกจากจะสูงสุดด้วยฤทธิ์แล้ว ยังเป็นเนตรสอดส่อง เนตรแห่งความรักความยุติธรรมที่จะใช้มองสัตว์ทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือที่สุดแล้วของวิชาสายพญายม ใครจะได้ดีได้ชั่วอยู่ในอำนาจแห่งดวงเนตรนี้ทั้งสิ้น ท่านได้ทำการบอกกล่าวพญายมราชผู้เป็นนายเหนือหัวแห่งยมโลก เป็นนายแห่งสรรพชีวิตหลังความตาย ให้เมตตาช่วยเหลือและคุ้มเกรงผู้บูชา ท่านว่าบูชาไว้เถิด เราเชื่อใจพระยมท่านแล้วจะรู้ว่าได้ดีอย่างคาดไม่ถึงนั้นเป็นอย่างไร

    มีดแหกทุกข์ฝังตะกรุดปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผล

    ตะกรุดตัวนี้ได้ชื่อว่าเป็นตะกรุดชั้นสูงเพราะมีขั้นตอนรายละเอียดการสร้างที่ลึกซึ้งอย่างมาก ท่านว่าปกติสมัยก่อนจะเอาไว้ออกในช่วงที่คนเค้าลำบาก..เรียกว่
    า ไม่ขัดสน ไม่ทุกข์ยาก อย่าเพิ่งให้ใครเอาไปใช้ ตะกรุดนี้ชื่อว่าปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผล พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชานี้เป็นวิชาของสมเด็จองค์ปฐม ท่านเล่าว่าในมวลหมู่พระพุทธเจ้าทั้งหลายและเหล่าพระมหาโพธิสัตว์ตลอดจนเทวราชที่มีลำดับศักดิ์ใหญ่ๆนั้น จะมีจักรเพชรอันเกิดขึ้นแต่บุญและโพธิสมภารเป็นอาวุธประจำกาย เช่นพระศิวะก็มี,พระนารายณ์ก็มี,พระพรหมก็มี,พระอินทร์ก็มี แม้แต่ในสภาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็ล้วนแต่มีจักรเพชรอันเกิดแต่พุทธบารมีของแต่ละพระองค์ ขึ้นชื่อว่าจักรเพชรนั้นด้วยจักรนั้นจะหมุนไปไม่ขาดช่วงขาดตอนเหมือนการดำเนินวนเวียนของวัฏสงสาร หมุนถ่ายสับเปลี่ยนคงอยู่ดับไปเช่นนั้น เป็นวงล้อแห่งพระเวทย์และพระธรรม เป็นสัญลักษณ์ทางกายภาพของการตัดขาดหมดสิ้น ซ้ำยังเป็นยอดศาสตราวุธที่สูงส่ง มวลสรรพชีวิตเกรงกลัวด้วยอานุภาพการทำลายล้างนั้นสามารถตัดทุกสิ่งได้ หากจะกล่าวแล้วจักรเพชรที่เปี่ยมด้วยอานุภาพสูงสุดก็คือจักรเพชรของสมเด็จองค์ปฐมนั่นเอง

    จักรเพชร
    คือบารมีอันสำเร็จออกมาเป็นรูปทางกายภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละพระองค์เหนือกว่าพระขรรค์หรือศาสตราวุธใดๆ จะมีกำลังเพียงไหนก็ขึ้นอยู่ที่บารมีของผู้นั้นตกผลึกออกมา พ่ออาจารย์ท่านเคยได้รับนิมิตรจากองค์ปฐมท่าน ให้นำวิชาพุทธจักรเพชรของพระองค์ท่านมาทำเครื่องรางเอาไว้ ต่อไปจะสูงค่าหาได้ยากยิ่ง ด้วยว่าจะค้ำจุนสรรพชีวิตทั้งมวลและพาเค้าดำเนินเป็นสายตรงเข้าไปหาความสำเร็จสูงสุด ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์บอกว่าลึกล้ำพิศดารนักเพราะในส่วนของวิชาคือดวงความสำเร็จหรือจะเรียกว่าดวงสัมฤทธิ์ผลจะช่วนหนุนในทุกเรื่อง ทุกสรรพสิ่ง ที่มนุษย์จะคิดจะพึงปรารถนา ด้วยเป็นฐานดวงยันต์หนุนด้วยพุทธจักรเพชรองค์ปฐมแบบส่งต่อกันไร้จุดบกพร่อง ดุจดั่งว่าจักรเพชรของสมเด็จพระยอดแก้วดวงธรรมนั้นจะหมุนทำลายความขัดข้องและปัญหาทุกสรรพสิ่ง ตัดขาด ทำลาย ซึ่งจัญไรและอุปาทวมงคลทั้งปวง ด้วยอำนาจแห่งวิปัสนาญาณของสมเด็จองค์ปฐมอันจะริดรอนผลกรรมขยายขอบข่ายกรรมดีของสรรพสัตว์ ซ้ำยังเป็นสัญลักษณ์ที่หมุนวนไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ทำลายกรรมหนักชนเข้าด้วยกำลังแห่งวิปัสนาญาณ ทำให้ชีวิตสรรพสัตว์นั้นหมุนเวียนเปลี่ยนผันไปไม่มีหยุด ที่ว่าเลวลงก็จะดีขึ้น เจอแต่เรื่องดีๆยิ่งๆขึ้นไป ตัดสิ้นทุกสิ่ง สะบั้นให้เป็นธุลีแม้แต่กิเลสและอวิชชาทั้งหลายก็ไม่อาจทานอำนาจของพุทธจักรเพชรองค์ปฐมนี้ได้ ตัดแล้วก็หมุนวนไปหาความสำเร็จซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้แล้วได้อีก

    เหนือทุกสรรพสิ่งพ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าวิชานี้แปลก สมเด็จชินเจ้าผู้บรมครูท่านคงรู้กาลในอนาคตเบื้องหน้าจึงเมตตาถึงปานนี้ ด้วยวิชาที่ประทานนั้นเป็นพุทธจักเพชรอันทรงอำนาจสูงสุด แวดล้อมรักษาดวงความสำเร็จเอาไว้ ปฐมพุทธจักรเพชรนี้อยู่กับผู้ใดคิดการณ์จะกระทำสิ่งใดก็สำเร็จดั่งความคิด ท่านว่าเวลาจะใช้ให้อาราธนาให้ดี ระลึกถึงสมเด็จองค์ปฐมและจักรเพชรนี้เป็นที่สุด ตั้งจิตเพ่งความปรารถนาเข้าไปในตะกรุด เมื่อส่งความปรารถนาไปก็ได้ชื่อว่าสัมฤทธิ์แล้ว สำเร็จแล้วแก้เคล็ดของความตกต่ำย่ำแย่ในทุกๆสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าลงยากนัก วิชานี้ต้องลงในเวลาอันมีฐานของดวงมหาอุจจ์ ท่านว่าเบื้องบนกำชับมานักหนาใช้ฤกษ์อื่นไม่ได้ เพราะว่าฐานมหาอุจจ์นี้จะวิ่งยิงตรงไปเสริมพื้นดวงของผู้ครอบครองให้สูงส่ง หนุนขึ้นไป ยิ่งหน้าที่การงานจะยิ่งได้ผลดีมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตเค้าที่ว่าแย่จะหักเหเปลี่ยนแปลง พลิกตัวมาเจอสิ่งดีๆ จากหน้ามือเป็นหลังมือเปลี่ยนดุจคนละคน คนเราลองดวงชนเสียเจอแต่อะไรแย่ๆท่านว่าวิชานี้มันแก้ที่ฐานดวงกันเลย เสริมมหาอุจจ์เข้าชีวิต ใช้ปฐมพุทธจักรตัดขาดความยากจน ความสิ้นเนื้อสิ้นตัวทั้งหลาย สิ่งเลวร้ายทั้งปวงต่อไปจะไม่มาย่ำยี หนุนด้วยอำนาจแห่งสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณที่ 1 (องค์ปฐม) ย่อมเป็นที่เคารพเกรงใจแก่สรรพชีวิตทั้งหลายเป็นมหาจักรที่หมุนไปวิ่งเข้าหาความสำเร็จ

    ท่านว่าวิชานี้แปลกและตรงมาก คือปกติความสำเร็จนั้นมันคือเป้าหมายที่รอคนอยู่เบื้องหน้า มนุษย์ปรารถนาความสำเร็จในทุกกิจที่กระทำ มันไม่ได้วิ่งเข้ามาหาเรา แต่เราต้องวิ่งไปหามัน มันเหนื่อยยากตรงนี้ วิชานี้เป็นการขับเคลื่อนหนุนส่งด้วยปฐมพุทธจักรเคลื่อนตัวเข้าสู่ช่วงชีวิตวงจรแห่งความสำเร็จ ต่อไปทุกกิจที่กระทำไม่ต้องกลัวว่าจะล่าช้า ทำอะไรจะเลวจะแย่ไม่สัมฤทธิ์ประสิทธิ์ผลเพราะการกระทำและความสำเร็จนั้นจะเคลื่อนต่อกัน วิ่งเข้ามาชนกัน ไม่หยดุรอเราอยู่นิ่ง ว่องไวดั่งจักรผัน เมื่อลงตะกรุดนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นวิชาที่สำคัญในฝ่ายของพระโพธิญาณ เพราะอักขระที่แวดล้อมกงจักรนั้น ก็เปรียบเสมือนตัวแทนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหนึ่งพระองค์ มีกี่ตัวก็ยากเพียงนั้น ท่านว่าวิชานี้ยากเอาเรื่อง ต้องใช้ญาณใช้กำลังใจในการลงสูงมาก ดุจดั่งว่ามีพลังงานหมุนวนส่งต่อกันเป็นช่วงๆไม่ขาดตอน ดุจดั่งจักเพรชที่ผันอยู่ตลอดเวลาไม่มีช่องว่างเว้น ชีวิตเราก็จะหมุนวนดำเนินไปสู่หนทางที่ดีขึ้น สูงขึ้นตลอดเวลาเช่นกัน ท่านว่าเจอแต่สิ่งดีงามซ้ำๆซากๆไม่เลวลงด้วยมหาจักเพชรนั้นเป็นอาวุธทางกายภาพก็จริงแต่ก็มีจิตรู้เป็นเจตสิกที่จะแยกแยะออกว่าสิ่งไหนดีหรือไม่ดี จะดูดเข้ามาหรือทำลายให้ย่อยยับไป เป็นคติที่จะบอกเป็นความนัยย์ว่าตะกรุดนี้มีชีวิตไม่ใช่ของเล่น

    เมื่อจะเสกตลอดระยะเวลาสามปีนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ามันยาก เพราะต้องเชิญที่ละขั้นเริ่มจากเทวดาก่อน ให้เทพผู้มีมเหศรศักดิ์ทั้งหลายนำเอาจักแก้วจักรเพชรของแต่ละพระองค์นั้นมาเปล่งอานุภาพลงในตะกรุดนี้ ทำเป็นกลบทไป ไล่ไปทีละชั้นจากเทพ โพธิสัตว์ พรหม มหาพรหม มหาพรหมโพธิสัตว์ พระปัจเจกพุทธเจ้า แหละสภาพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่จะมีมหากรุณามาสงเคราะห์อันมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน ก่อนที่จะอาราธนาสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณให้ลงมากระทำวิชาประทานจักรเพชรของพระองค์ให้แยกออกและสิงสถิตย์ไว้ด้วยพุทธานุภาพ

    *** พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะทำมีดแหกทุกข์อันได้ชื่อว่าเป็นมีดครูแล้ว จึงจำเป็นจะต้องลงต้องอาบอาถรรพ์แห่งยอดศาสตราวุธอย่างแท้จริงลงไปด้วยท่านจึงนำยอดตะกรุดปฐมพุทธจักรเพชรที่ลงใส่เเผ่นทองเหลืองแยกไว้สมัยออกตะกรุดเงินรุ่นแรกฝังลงไปตอนหล่อมีดพร้อมๆกัน

    มีดแหกทุกข์(ตัดสัญญา)

    โดยมีดแหกทุกข์แต่ละเล่มนั้นท่านจะนำมาจารอักขระ
    ปลุกเสกทุกวันเดือนดับจึงเรียกว่ามีดเดือนดับแหกสัญญากรรม ท่านว่าถือเป็นเคล็ดเฉพาะทางที่จะใช้ดับพิษภัยโรคร้ายแลอาถรรพ์อัปมงคลทั้งปวง ท่านว่าเล่มหนึ่งก็วันหนึ่งต้องทำพิธีลงจารเสกเป่ามนต์ตามตำรับการสร้างมีดแหกโดยเฉพาะ แต่พ่ออาจารย์ท่านว่ามีดนี้ต่างกับมีดแหกอื่นๆเพราะฉันทำตามตำรับขององค์ปฐมท่านเป็นมีดที่ใช้แหกทุกข์ตัดสัญญากรรมเช่นนี้จึงทำยากแต่ก็ต้องทำ ..เพื่อที่จะใช้แหกสิ่งอัปมงคลดันเอาสัญญากรรมที่ผิดพลาดดับล้างไป ให้ผู้เป็นเจ้าของมีชีวิตปกติห่างจากภัยอันเกิดแต่การผูกสัญญากรรมอย่างน่าอัศจรรย์ แล้ว...สัญญากรรมร้ายแรงปานใด

    ด้วยปัญหาแห่งชนทั้งผอง ..คำสัญญาเมื่อชาติก่อนๆย่อมผูกพันอย่างไม่สิ้นสุด ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ด้วยคำสัญญา โดยหารู้ไม่ว่ากรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชาติภพใหม่ก็เลยแตกต่างกันไปแต่คำมั่นที่สาบานยังอยู่ ....

    สัญญากรรม ก็คือ ผลแห่งกรรมนั่นแหละหากจะกล่าวให้ละเอียดขึ้นก็คือผลแห่งกรรมที่ก่อให้เกิดพันธะข้อผูกมัดหรือก่อให้เกิดความสัมพันธ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพันธะหรือความสัมพันธ์(ทั้งด้านดีหรือไม่ดี) ต่อผู้หนึ่งผู้ใด กลุ่มหนึ่งกลุ่มใด หรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง
    ยิ่งคนบางคนสัญญากรรมซับซ้อนมาก เพราะเกิดบ่อยและเกิดมาแต่ละชาติก็ทำแต่ความดีเป็นส่วนใหญ่ การทำความดีก็ต้องไปเกี่ยวข้องกับบุคคลและสถานที่ทั้งหลายมากขึ้น ยิ่งหลากหลาย สัญญากรรมก็ยิ่งซับซ้อนถือว่าเป็นสัญญากรรมฝ่ายดี เมื่อสัญญากรรมฝ่ายดีตามทันก็ทำให้คนผู้นั้นไปรู้จักกับคนนั้นคนนี้ ต้องกลับไปสร้างบุญสร้างกุศลกับคนกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ หรือต้องเดินทางไปณ.จุดนั้นจุดนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหนเลยหากแต่เป็นที่ๆคนผู้นั้นเคยมีสัญญากรรมมานาน นานเสียจนอาจลืมไปแล้วแต่สัญญากรรมก็ยังคงมีอยู่

    สัญญากรรมไม่เคยเป็นฝ่ายลืมเราตราบใดที่เรายังไม่พ้นการเวียนว่ายตายเกิด เราเสียอีกกลับเป็นฝ่ายลืมเลือนสัญญากรรมนั้น จนกระทั่งต้องให้สัญญากรรมาเตือนแต่ก็ไม่ใช่ว่าเมื่อสัญญากรรมเตือนเราแล้วจะทำให้เรารู้ระลึกหรือเข้าใจได้เสมอไป ตรงกันข้ามอาจทำให้เรางุนงงสงสัยไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นอย่างนั้นทำไมต้องเป็นอย่างนี้หรืออาจคิดได้เพียงแค่ว่า "ซวยจริงๆ" และถึงแม้เราจะสร้างบุญสร้างกุศลมากเพียงใดก็ตาม ตราบใดที่กิเลสยังครอบงำใจเราอยู่เราก็ยังมีโอกาสทำกรรม
    มีโอกาสลุ่มหลงมัวเมาเมื่อเราทำผิดพลาดไปก็จะก่อให้เกิดสัญญากรรมฝ่ายไม่ดีรอเวลาให้เราชดใช้หนี้กรรมนั้น

    *** พ่ออาจารย์ท่านทราบถึงสาเหตุว่าคนส่วนใหญ่ คนส่วนมาก คนบางคนก็ตั้งสัจจะอธิษฐานกันเป็นจริงเป็นจัง ลั่นกันออกมาแล้วตั้งแต่ก่อนลงมาเกิดว่าจะขอมาสร้างบารมี จะขอลงมารับทุกขเวทนาขัดเกลาจิตใจตนเองให้พ้นห้วงกิเลสบรรดามี...ก็สัญญากรรมนั้นอย่างไรจึงทำให้เกิดมาทั้งชีวิตหนีห้วงแห่งทุกข์ไม่พ้นเลย จบเรื่องหนึ่งก็เจอเรื่องหนึ่งเหมือนฉากละครที่คอยมอบบทส่งบททดสอบให้ตั้งแต่เกิดจนตาย บันดาลให้ต้องจมทุกขเวทนาไปตลอดชีวิต ### เช่นนั้นท่านจึงทำมีดเดือนดับแหกสัญญากรรม(มีดแหกทุกข์) ขึ้นมา เพื่อจะได้ตัดสัญญารบกวนทั้งหลายเหล่านั้น ให้บอกกล่าวแก่ตัวมีดและแรงครูบาอาจารย์ให้ท่านตัดสัญญาที่ไม่ดีซึ่งคอยเปลี่ยนชีวิตเรา(ข้อนี้สำคัญพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องอาราธนานะเขาถึงจะทำ หากเอาไปพกเฉยๆไม่อาราธนาเฉพาะเรื่องนี้เขาจะไม่ทำไม่ยุ่งเลย)

    คาถาบูชา
    อมจะรุ่งชะชะ พิษสะหิงสะแห สะแกแม อมวะวะ กะริสสามิ อมสะวาหะเท็ก อุ่ง แซ แซ ซะตอแซ อุ่งตุ๊ก นะมุดวุ๊ก อุ่งสวาหะ เกสานัง ปิวิจะยะ อุอะมิ เกสาปะติ กุลาตุ สุเต กัตวา สวาหาย อุ่งมะ อุ่งปะ อุ่งฝะ อุ่งมะลิจอ ขันธะ สวาหะ นะอุ นะเต๋ ยะเย เจ๋ลัง
    อมพิษพญาเจ็บ อมพิษพญาไหม้ อมพิษพญาไข้ อมพิษพญาหนาว พิษเดือนพิษดาว ไสยศาสตร์คุณไสย์ กูจักเรียกหื้อมึงออก มึงจึงออก กูจักเรียกหื้อมึงหนี มึงจึงหนี สะหรี๋กันใจ กูจักบาด กูจักตัด หื้อมึงขาดเป็นสอง อมสวาหาย นะหลุด โมถอด พุธหลั่ง ธาเลื่อน ยะถอน อมปุปิ สะละหิง สวาหาย อุ่งทองปิ๊ทอง อมมะแล แจคอง ผั๊วหาย ติ๊ก ติ๊ก

    เวลาใช้มีดแหกทุกข์กดลากไปตามตัว ให้ภาวนาว่า เวสสุวัณณะราจา สุวัณณะเวสสะปัสสะติ ต๋าถาอาวุธา จัตต๋าโรอาวะ ทาโรเก๋ อาวุนันติ ทันติ หัตถานัง เสตตว๋า สันติ มรณัง

    นอกจากจะทำในส่วนของมีดแหกทุกข์ตัดสัญญากรรมแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังทำให้มีอานุภาพแบบเทพศาสตราไปพร้อมๆกันด้วยจะพกติดตัวไว้กำราบผีก็ทำได้ จะใช้ทางกันคุณไสย์,กันคุณคน,กันกระทำย่ำยี,กันภูติผีปีศาจ,กันภยันตราย,กันสิ่งอัปมงคล,กันลมเพลมพัด หรือจะใช้ทำลายอาถรรพ์จากอาคมของผู้ไม่หวังดีและภูตผีเวลาเดินทางหรือเวลานอนต่างถิ่นเข้าไปเกี่ยวข้องในที่อาถรรพ์แรงทั้งหลายในบริเวณที่เราก็ไม่ทราบว่ามีอาถรรพ์อะไรบ้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้มีดแหกนี้สับลงไปก็ทำลายได้ทั้งสิ้น จะอาราธนาทำน้ำมนต์ดื่มกิน ทำน้ำมนต์รักษาโรคที่เกิดจากอาถรรพ์ต่างๆก็ได้...สารพัดที่จะใช้

    *** มีดแหกทุกข์นี้สร้างไว้สำหรับคนพร้อมที่จะให้โอกาสตัวเอง..ท่านว่าพร้อมกันหรือยัง อยากหยุดอยากเลิกสัญญาเก่าเพื่อเปิดชีวิตใหม่ค่อยมาเอาไป มีดนี้ยิ่งใช้ยิ่งขลัง ท่านว่าชีวิตนึงทำได้ครั้งเดียว จะฝากให้คนที่เรารักพกติดตัวก็ได้ด้วยในอนาคตนั้น สัญญากรรมที่ผูกเราไว้ให้เกิดในยุคนี้ จะได้เห็นได้เจอความทุกข์ทับถมทวียิ่งกว่าทุกวันนี้ คนที่ไม่อยากจะทนให้เวลานั้นมาถึงในสภาพที่ตัวเองยังพึ่งตัวเองไม่ได้ก้ให้รีบตัดของเก่าเสียเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เตรียมตัวกันไว้ให้พร้อมให้ดี ...รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลเอาไว้ด้วย พ่ออจารย์ท่านจะประสิทธิ์ให้อีกครั้งหนึ่ง ท่านว่ามีดแบบนี้เราทำได้ครั้งเดียว ใครเค้าพลาดเค้าไม่สนใจรอจนเวลาทุกข์สาหัสมาถึงค่อยมาถามหาก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว เพราะนั่นย่อมสายเกินไปที่จะแก้กันใดๆได้อีก รายได้ส่วนหนึ่งร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มีดเดือนดับแหกสัญญากรรมประทับนัยน์ตาสัจธรรม(ชุดโต้กลับ - ปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผล) บูชา 2,500 บาท

    94779691-542248933151376-4631018503745306624-n.jpg 95281871-2891722690916312-3118179959504371712-n.jpg
    95597184-1341583666232526-6802413596186771456-n.jpg
    94884222-554204872198289-6482916820192854016-n.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลเวทย์สวรรค์ตะกรุดแปลงโชคหมุนกระแสเวลา (ปฐมมังกรดำ)

    ตะกรุดดอกดำ..ใช้แทนตัวของ ปฐมมังกรดำ

    ด้วยมังกรดำนั้นเป็นมังกรอหังการที่ขัดขืนต่อต้านกฏสวรรค์ ใช้กำลังแห่งตนฝ่าฟันเปลี่ยนแปลงชะตากรรมจนมีวาสนาได้มาซึ่งชะตาแห่งจักพรรดิมังกร พ่ออาจารย์ท่านว่าวาสนาของปฐมมังกรดำคือวาสนาที่น่ายำเกรงสูงสุดในหมู่มังกรเทพทั้งปวง...เขาได้ดีเข้าถึงซึ่งความเป็นจ้าวแห่งเผ่าพันธ์ด้วยกำลังตัวของเขาเอง(ซ้ำเผ่าพันธ์ของเขานั้นมองไปทางใดแต่ละตัวตนก็ล้วนแต่สั่นสะเทือนจักรวาลได้ทั้งสิ้น การปราบข่มและก้าวข้ามเหล่ามังกรเทพเจ้าทั้งปวงจึงเป็นเกียรติยศอย่างยิ่ง) ดังนั้นปฐมมังกรดำพ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนผ่านและเปลี่ยนแปลงยุคสมัยที่ใช้หมุนผ่านกาลเวลา..ไม่ใช่เป็นเพราะเกิดมาเป็น หรือเป็นเพราะเป็นมาโดยกำเนิด เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงยกย่องสรรเสริญปฐมมังกรดำว่าเป็นยอดแห่งนักสู้ที่เปลี่ยนวาสนาตนเองข้ามผ่านเหล่ามังกรเทพที่ยิ่งใหญ่ทุกตัวตนได้

    ### ปฐมมังกรดำ เป็นมังกรพิเศษต่างจากมวลมังกรเทพทั้งหลายด้วยว่าสามารถขโมยโชคชะตาเปลี่ยนแปลงวาสนาของตนเองและผู้อื่นได้ ทั้งยังขัดขวางการไหลไปหรือการดำเนินไปของโชคชะตาในโลกทั้งปวงได้ซึ่งสิ่งเหล่านี้แม้ตัวตนระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถกระทำได้ เพราะการไหลของกระแสเวลานั้นเป็นกฏแห่งวัฏจักรผู้ที่กำเนิดมาเพื่อหยุดการไหลของกระแสเวลาและกฏแห่งกรรมเหล่านั้นก็คือปฐมมังกรดำนั่นเอง ไม่เพียงแต่เขาจะหยุดได้เท่านั้นเขายังทำได้แม้แต่การขัดขวางและเปลี่ยนแปลงฉากละครชีวิตหมู่ชนทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าเป็นความสามารถพิเศษของปฐมมังกรดำโดยเฉพาะ *** พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเช่นนี้จริงๆแล้วเขาเป็นพาหนะขององค์ปฐมท่าน(ซึ่งแม้แต่องค์บรมครูก็ยังไม่ค่อยรบกวนเขาเท่าไหร่)เสมือนเป็นการให้ฐานะเชิดชูไว้เท่านั้น กอปรด้วยคุณลักษณะพิเศษของสายเลือดมังกรที่ชมชอบทรัพย์สมบัติ สิ่งไหนมีค่าแม้จะอยู่ไกลสุดหล้าฟ้าสวรรค์ก็ต้องไปหามาเก็บมาสะสมไว้ในวังฟ้าของตน เพราะเขาเป็นสายพันธุ์ที่มีความโลภและชอบในรัตนะแลอัญมณีและทองคำอันทรงค่าศักดิ์สิทธิ์..พ่ออาจารย์ท่านว่านิสัยมังกรคือรักและหวงแหนสมบัติอย่างถึงที่สุด มีเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักอิ่ม มีเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ มีแล้วก็อยากมีอีก เขาจะเก็บรวบรวมทุกอย่างซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมีค่าแม้จะเล็กน้อยสักปานใดก็ตาม พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นข้อดีเพราะเป็นคุณสมบัติของคนมีอันจะกิน เมื่อท่านสร้างตะกรุดปฐมมังกรดำซึ่งเป็นมังกรเทพอันมีตัวตนและคุณลักษณะพิเศษท่านจึงแฝงอิทธิคุณทางด้านเก็บสะสมวาสนาและชะตาแห่งทรัพย์สมบัติเหล่านี้ไว้พร้อมมูล

    ตะกรุดปฐมมังกรดำนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้ทำวิชาตามที่องค์ปฐมบรมครูท่านให้สัญลักษณ์(อันเป็นวิชาเวทย์สวรรค์กำกับปฐมมังกรดำโดยเฉพาะ)เพื่อสื่อถึงปฐมมังกรดำมาลงไว้ โดยตะกรุดนี้จะมีคุณให้ใช้อาราธนาเพื่อแก้ไขขัดขวางการไหลการดำเนินไปของกระแสกรรมในห้วงเวลา สถานะใดที่ผิดพลาด ความคับข้องใดที่ต้องการการแก้ไข กรรมใดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แต่อยากเปลี่ยนแปลงจากร้ายให้กลายดีเหล่านี้ สิ่งทั้งหลายซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของเทพเจ้าและเทพเจ้าช่วยไม่ได้เพราะเป็นอำนาจแห่งกฏวัฏจักรของปฐมมังกรดำท่านเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ขอกับปฐมมังกรดำ ท่านจะช่วยแปลงโชคหมุนกระแสเวลาขัดขวางการไหลของโชคชะตาเพื่อมอบกำลังและสถานะใหม่อันยิ่งใหญ่ให้กับผู้เรียกร้อง

    แปลงโชคหมุนกระแสเวลาวาสนา..ปฐมมังกร

    เรื่องของมังกรนั้น...เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเร้นลับอย่างมาก และมักจะไม่นิยมพูดถึงกันโดยละเอียด พ่ออาจารย์ท่านได้ให้วิทยาทานเกี่ยวกับมังกรไว้คร่าวๆดังนี้ ท่านว่ามังกรนั้นเป็นสัตว์เทพชั้นสูงที่เกิดขึ้นยาก และที่สำคัญคือเขาเป็นชนชั้นปกครอง เรามักจะนิยมนำมาเปรียบเทียบและโมเมไปกับพญานาคฝั่งเรา ซึ่งเอาจริงๆแล้วท่านว่าคนละเรื่อง เพราะนาคนั้นมีประชากรมากกว่าเป็นโกฏิจนมิอาจประมาณได้แต่มังกรนั้นมีน้อยกว่านักและหากยิ่งนับชนชั้นปกครองหรือมังกรขั้นสูงสุดก็น้อยเสียว่านับได้ด้วยนิ้วมือ พ่ออาจารย์ท่านว่าการกำเนิดของมังกรนั้นมีหน้าที่ต่างๆกันมากมายเพราะเป็นสัตว์เทพที่พิเศษ ถ้าเกิดบนฟ้าก็จะเป็นมังกรฟ้าเป็นมังกรชั้นสูงสุด เป็นมังกรสวรรค์มีอานุภาพมาก ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างเง็กเซียนฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ครอบครองบัลลังค์สวรรค์ของมหายานนี่ก็เป็นมังกรฟ้าเช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีลำดับรองลงมาเช่นมังกรควบคุมมหาสมุทร และมังกรที่เกิดตามเขาตามป่าหรือในน้ำทั่วไปซึ่งจะพบเจอหรือหาได้ง่ายกว่ามังกรฟ้า แต่ถึงอย่างนั้นก็เรียกว่าแทบหาไม่เจอกันเลยทีเดียว แม้ในมังกรระดับล่างสุดโดยประเภทหลังนี่เองที่มักทำหน้าที่เป็นภูมิเทวารักษาพิทักษ์แผ่นดินหรือแม่น้ำสำคัญต่างๆ บางตัวนอกจากเป็นภูมิเทวา,บางตัวก็ยังมีฐานะเป็นพระโพธิสัตว์อันมีภพชาติแน่นอนมีทั้งพุทธภูมิ,สาวกภูมิ ซึ่งมังกรเหล่านี้แม้ในระดับล่างสุดเมื่อลงมาเกิดขึ้นก็จะเป็นใหญ่เหนือพื้นที่นั้นๆ พ่ออาจารรย์ท่านยกตัวอย่างเช่นหากในพื้นที่นั้นมีนาคราชทั้งหลายหรือกษัตริย์นาคาปกครองอยู่ก็จะโดนปกครองโดยมังกรนั้นอีกทีหนึ่ง ท่านว่านี่เราพูดถึงเพียงมังกรระดับล่างสุดเท่านั้นนะ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะพูดถึงคุณวิเศษของมังกรฟ้าหรือเทพมังกรที่ท่านเชิญมาลงในตะกรุดปฐมมังกรดำคร่าวๆก็คงบอกแต่พอฟังได้ เพราะว่าท่านพูดมากไม่ได้มันพัวพันซับซ้อนเกินกว่าจะพูดถึงได้

    - เทพมังกรมีฤทธิ์มากกว่าสัตว์เทพทั้งหลาย หากให้เปรียบเทียบย่อมไม่ไกลกว่าพญาครุฑดึกดำบรรพ์

    - เทพมังกรเหินฟ้า เธอรู้มั๊ยคืออะไร ...นั่นคือเทพมังกรย่อมไม่มาแปดเปื้อนด้วยธุลีดินทั้งหลาย... เขาจะไม่ร่อนต่ำ ไม่ลงต่ำ ต่างจากมังกรทุกสายพันธุ์เช่นนั้น คนใช้ก็มีแต่จะสูงและสูงขึ้นไม่มีคำว่าเสมอตัวหรือตกต่ำ

    - เทพมังกรเป็นสัตว์ที่สูงศักดิ์ การบูชามังกรนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่า "ย่อมนำความสูงศักดิ์และสิ่งที่สูงศักดิ์มาสู่ผู้คน"

    - เทพมังกรเป็นสัตว์มงคลสูงสุดเป็นราชาของทุกเผ่าพันธุ์ ย่อมนำมาถึงซึ่งความเจริญในอำนาจ วาสนา บารมีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    - เทพมังกรคือจิตวิญญาณของการเปลี่ยนแปลงและฟื้นฟูให้ดีขึ้น คนจีนเชื่อและถือกันมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าเทพมังกรย่อมนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในหลายๆสิ่งอย่างของชีวิต พร้อมกับฟื้นฟูสิ่งที่เสียหายไปให้กลับมางอกงาม

    - เทพมังกรมักจะช่วยส่งเสริมธุรกิจการค้าให้รุ่งเรืองโดยเฉพาะสำนักงานหรือร้านค้า แม้บุคคลธรรมดาก็ยังช่วยเรียกโชคลาภให้มาเยือนได้ไม่ขาดสาย

    - เทพมังกรเป็นสัญลักษณ์ของการช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายพร้อมทั้งยังช่วยเพิ่มความเจริญรุ่งเรืองให้กับชีวิต

    - เทพมังกรเป็นตัวตนที่สื่อถึงอำนาจ การปกครอง การบังคับบัญชา ทุกสรรพสิ่ง

    - เทพมังกรเป็นตัวแทนของความแข็งแกร่ง ความตั้งใจ ความพยายาม กล้าหาญ และอดทน

    - เทพมังกรเป็นสัญลักษณ์นำโชคที่ดีต่อชีวิต ให้พรั่งพร้อมด้วยอำนาจ บารมี ความมั่งคั่ง พลานามัยที่สมบูรณ์

    - เทพมังกรเป็นสัตว์ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาปราณี ชอบส่งมอบความสุขให้กับผู้ประพฤติดี

    - เทพมังกรสามารถสลายพลังปราณพิฆาต และสามารถแก้ไขให้โชคชะตาดีขึ้นได้

    - เทพมังกรมีความสามารถที่จะดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาและผลักดันเรื่องเลวร้ายออกไป....


    พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพูดได้แค่คร่าวๆ เพราะหากจะถามหาคุณของปฐมมังกรดำนั้นย่อมไม่สมควรเหมือนเราไปสอบถามสิ่งที่เป็นอนันต์กาล เหมือนผู้น้อยไปถามต่อสิ่งที่ไม่อาจหยั่งวัดจุดจบได้ สิ่งที่เสมือนเป็นโคตรบรรพบุรุษของจักรวาลว่าเคยทำคุณอะไรไว้สามารถช่วยอะไรได้แบบนี้ย่อมไม่เหมาะสม จึงบอกได้เพียงเท่าที่ควรบอก ท่านว่าอันตะกรุดปฐมมังกรดำนี้แม้ผู้ใดได้พบเห็นนับว่าเป็นสิริมงคลอย่างมาก *** หากแม้นได้ครอบครองดุจคนผู้นั้นขี่หลังมังกรมีวาสนาดุจเทพยดาแปลว่าเขามีบุญเก่ามีของเก่าผูกพันธ์กันมาด้วยว่าแต่เก่าก่อนนับแต่เบิกฟ้าดินนั้นคนธรรมดาหาได้มีหวังที่จะจับต้องของใช้ซึ่งเป็นสิริมงคลสูงสุดเช่นนี้ อันปฐมมังกรดำนั้นมีชาติกำเนิดลึกลับเกินหยั่งทั้งยังมีตบะและวาสนาบารมีเปี่ยมล้นสูงสุด ท่านว่าเพียงมังกรฟ้าปกติก็จำกัดไว้ใช้เพียงองค์พระจักรพรรดิ์เท่านั้น แต่นี่กลับเป็นถึงปฐมมังกรดำที่เชิญและลงอาถรรพ์โดยศาสตร์ในองค์ปฐมของพ่ออาจารย์แล้วนับได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์โดยแท้จริง ถึงกับท่านบอกเปรยเป็นนัยๆว่า"แปลงโชคหมุนกระแสเวลาวาสนา..ปฐมมังกร" สิ่งนี้ย่อมต้องแฝงความยิ่งใหญ่อย่างถึงที่สุดแน่นอนเพราะเป็นสิ่งที่ใช้สื่อกำลังและวาสนาของจ้าวแห่งเผ่าพันธ์มังกรปฐมมังกรดำนั่นเอง

    ด้วยเป็นตะกรุดเวทย์สวรรค์อันทรงค่าที่ใช้เสมือนเป็นสื่อกลางเชื่อมถึงอำนาจแห่งปฐมมังกรดำ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเราร้องขอพลังการเปลี่ยนแปลงของปฐมมังกรดำมาใช้ การใช้การอธิษฐานแบบนี้ก็เหมือนกับการยืมเอากำลังแห่งปฐมมังกรดำมาช่วยเหลือดุจนำอำนาจของปฐมมังกรดำมาใช้ เช่นนี้ตะกรุดเวทย์สวรรค์ที่ใช้แทนตัวปฐมมังกรดำจึงมีความสำคัญมากองค์ปฐมท่านกำชับว่าจะให้ไปตกอยู่ในมือคนพาลทุจริตมิได้ จะให้มีแต่เจ้าของโดยแท้จริงเท่านั้นที่มองที่สนใจและนำไปครอบครองได้ เพราะอำนาจแห่งปฐมมังกรดำต่างจากอำนาจเทพเจ้าทั้งหลาย เขาจะอำนวยประโยชน์ช่วยเหลือเราเวลาติดขัดไร้หนทางเช่นนี้เมื่อยกตะกรุดระลึกถึงปฐมมังกรดำออกคำอธิษฐานใช้กำลังของเขาแล้วย่อมได้ชื่อว่ามีผู้อุปถัมภ์ทันที(ปฐมมังกรท่านจะเข้ารักษา)ด้วยชีวิตจะไม่ตกต่ำถึงเกิดมาชะตาลิขิตไว้อย่างไรก็ตาม แม้คนไม่เคยมีโชคดีใดๆเลยไม่เคยได้ทรัพย์ได้สิ่งปลอบประโลมหัวใจทำให้ใจชุ่มชื้นแบบนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าขอไปเถอะ...ขอกับตะกรุด ..ขอกับปฐมมังกรดำนี่แหละจนกว่าจะได้ท่านจะให้โชคลาภพึงมีพึงเกิดขึ้นมาตามวาสนาอย่างไม่ยากเย็น หากใครที่ในตัวมีเสนียดจัญไรแฝงอยู่คุณแห่งปฐมมังกรย่อมจะล้างจะดับสิ่งที่ไม่เป็นมงคลทั้งหลายออกไปจากตัว

    คุณแห่งปฐมมังกรดำนั้นใช้หมุนกระแสเวลา ...ด้วยกาลเวลาที่เคลื่อนผ่านไปนั้นส่งผลโดยตรงกับชีวิตคน เพราะกาลเวลานั้นพรากวัยอันสดใสไปจากเรา พรากความแข็งแรงไปจากเรา พรากโอกาสที่ดีทุกสิ่งไปจากเรา นำโรคมาให้เรา นำความชรามาให้เรา นำความตายมาให้เรา กาลเวลานั้นพรากทุกสิ่งจากเราไปทั้งหมดทำให้กำลังและชีวิตเราเสื่อมถอยลง เช่นนั้นถ้าใครไม่รู้ค่าของกาลเวลาก็เป็นชีวิตที่ไม่มีค่าพอที่จะสงเคราะห์ด้วยตะกรุดนี้ ด้วยตะกรุดนี้หากอาราธนาแล้วจะไม่ตกตระกำลำบากจะแคล้วคลาดจากเรื่องที่ทำให้เราเจ็บตัวและเจ็บใจในประการต่างๆ ทั้งยังมีผลไปถึงการแคล้วคลาดจากคุณไสยลมเพลมพัดด้วยซ้ำยังหนุนให้แรงบนบานแลอธิษฐานใดๆแสดงผลเร็วไวชั่วพริบตารุนแรงดั่งสายฟ้าฟาด ด้วยปฐมมังกรดำนั้นจะช่วยเพื่อนร่วมวัฏจักรที่ทุกข์ยากให้ชีวิตดำเนินไปสู่ความสำเร็จ ไม่ตกกรอบไม่ออกนอกเส้นทาง เมื่อมีเป้าหมายย่อมต้องไปถึงดุจใช้กำลังแห่งปฐมมังกรเป็นพลังไฟในการขับเคลื่อนชีวิตให้ไปสู่เป้าหมายไม่ใช่เพียงมีเป้าหมายไว้ให้เพ้อฝันแต่ไม่สามารถไปถึงได้ ทั้งปฐมมังกรท่านจะช่วยขจัดปัญหาอุปสรรคเหตุการณ์อาเพศต่างๆทั้งน้อยใหญ่ไม่ให้เกิดเเก่ผู้ครอบครอง คิดอ่านทำการณ์สิ่งใดใหญ่น้อยทั้งหลายก็ให้สัมฤทธิ์ผลพบเจอเเต่ชัยมงคลไร้พ่ายตลอดไป

    เมื่อแปลงโชคหมุนกาลเวลาแล้วท่านจะช่วยปิดเคราะห์ต่อให้ผีให้มารที่ไหนก็ทำอะไรเราไม่ได้เพราะปฐมมังกรท่านกำราบหมด แม้มีคนมาฆาตมาตรร้ายหมายทำลายเราทุกอย่างก็จะสะท้อนผลของมันกับไปทั้งสิ้นดีมาก็ดีกลับร้ายมาก็ร้ายกลับ เพราะเคราะห์กรรมไม่ได้กระทำแก่เราแล้วทุกอย่างจึงย้อนกลับไปที่ตัวเค้าเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าของบางอย่างมันต้องระลึกรู้ได้จากจิตสำนึกตัวเอง รู้ว่านี่คือของที่เรารอคอย ของที่เราตามหา ของที่ใช่ที่เหมาะสมกับตัวเรา นั่นจึงจะเป็นสิ่งคู่บารมีสำหรับเราอย่างแท้จริงหากตัวเองไม่รู้ด้วยตัวเองต้องรอให้คนอื่นคอยบอกแบบนี้ก็ป่วยการไม่ใช่คู่บารมีหรือชีวิตเขายังติดกรรมอยู่เพราะกรรมของสัตว์นั้นเราจะไปขวางเอาไว้ก็ไม่ใช่ที่ หากเขาไม่รู้ไม่มีจิตสัมผัสไม่ได้ขวนขวายด้วยตัวเองแล้วนั่นก็แปลว่ายังไม่หมดวาระของเขา

    ด้วยปกติคนนั้นย่อมมีความปรารถนาไม่สิ้นสุด มีความคิดที่จะทำนั่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา *** เหมือนคุณลักษณะความโลภ อยากได้ อยากครอบครองทุกสิ่งที่มีค่าของเผ่าพันธ์มังกร เช่นนั้นท่านจึงให้ผู้ครอบครองตะกรุดปฐมมังกรนี้อาศัยวาสนามังกรนำโชคชะตาแห่งทรัพย์ทั้งหลายเข้ามาหาตัวเอง ตะกรุดปฐมมังกรนั้นท่านสร้างไว้เพื่อให้คนสร้างฝันที่เป็นจริงผ่านการกระทำของตนเองไม่ละเมอเพ้อพกไปในสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ท่านว่าขอให้มีความฝันแต่อย่าเว่อร์มากอย่าไปคิดไปฝันอะไรเกินจริงที่เรารู้ตัวดีอยู่แล้วว่าแม้ชาติหน้าก็ยังทำไม่ได้เช่นนี้มันเสียเวลาคิดและจะติดอยู่กับจินตนาการติดอยู่ในความปรารถนานั้นเพราะการทำความฝัน,ความคิด,ความปรารถนาที่เราตั้งไว้ให้เป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตนั้นให้เป็นจริงมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ใครที่รู้ว่าตนเองกำลังไม่พอ แรงไม่พอ วาสนาไม่ถึงคิดอะไรทำอะไรก่อนจะได้อะไรมาต้องเสียอะไรไปต้องแลกกับอะไร..วันเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าเช่นนี้ใครเป็นแบบนี้ก็ให้บอกปฐมมังกรท่าน ใช้กำลังของท่านเช่นนี้ไขว่คว้ามา เมื่อกำลังท่านมาแฝงเราใจเราจะเกิดปิติเป็นพลังใจที่เข้มแข็งที่จะสร้างทางเดินแห่งโชคชะตาพร้อมวาสนาอันยิ่งใหญ่ไว้รอเราดังนี้ เมื่อเราสัมผัสได้ว่าใจมีกำลังมีปิติแล้วก็ก้าวเข้าไปเถิดใช้ใจที่เข้มแข็งไม่ย้อท้อต่อความลำบากเป็นจุดยืนและใช้กำลังใจจากคนรอบตัวที่รักเราหวังดีกับเรามาเป็นแรงผลักดันคอยสนับสนุนส่งเราอีกต่อหนึ่ง เรียกว่ามีทั้งกำลังภายนอกและภายในหนุนกันฟ้าหนุนดินดันคิดทำสิ่งใดการณ์เล็กการณ์ใหญ่ย่อมสำเร็จทั้งปวง

    คาถาบูชา
    # พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของทิพย์ ให้ยกตะกรุดไหว้จบหัวระลึกถึงออกนามขอความช่วยเหลือจากปฐมมังกรดำแล้วใช้ได้เลย

    ตะกรุดสำคัญนี้ท่านว่ามีเจ้าของทุกดอก มีผู้จับจองและมีผู้รับไปใช้แน่นอนแล้วทุกดอก ท่านว่าไม่ต้องกังวลเลย รุ่นนี้ต่อไปจะมีค่ามากกว่าทองคำเธอคอยดูเถอะ ใครที่เขามีเขาได้ใช้แม้เอาทองมาแลกเขาก็ไม่ขายไม่ให้หลุดมือไปได้เลย เพราะนี่คือตะกรุดดอกดำซึ่งใช้แทนตัวปฐมมังกรดำ

    ### ด้วยคนบางคนนั้นวาสนาเขามากล้นเกินเราคาดเดาเขาก็ต้องใช้หลายดอกเพราะตะกรุดหนึ่งดอกเปรียบกับวาสนามังกรหนึ่งตน บางคนเค้าเกิดมาชะตารองรับวาสนาได้มากเช่นนี้ก็มี ***กรณีนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้กี่ดอกติดกายเพื่อหนุนตัวเองแต่ละคนล้วนมีตัวรู้อยู่ในใจ ก็ตัวรู้นั่นแหละที่ข้างบนเขาสื่อเพื่อที่บอกเราว่าใครควรอาราธนาไว้เท่าไหร่ให้เหมาะสมกับวาสนาตามภพชาติแต่ละคนเช่นนี้ รายการนี้นั้นรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลเวทย์สวรรค์ตะกรุดแปลงโชคหมุนกระแสเวลา (ปฐมมังกรดำ) บูชา 900 บาท

    95500836-539845443385206-6651141171529646080-n.jpg
    96233084-255650842221268-3608942305932738560-n.jpg
    95330320-244888166752047-7506619053968982016-n.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา องค์มหากำเนิดธรรมอนันตคุณพระเจ้าจักรพรรดิ 84,000 ตรึงไตรภพ (ฝังเหรียญปราบโลกไพรีพินาศพุทธพรหมซ่อนหา)

    "เมื่อเกิดยุคเข็ญข้าวยากหมากแพง มโนธรรมตกต่ำ ศีลธรรมเสื่อมทราม คนใจร้ายยิงปล้นฆ่าฟัน กระทำสิ่งที่วิปริตผิดกว่าแต่กาลก่อนกันเพราะขาดจิตสำนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เหตุและปัจจัยเหล่านั้นถึงพร้อม องค์วิสุทธิเทพและครูบาอาจารย์ที่ประสงค์เจาะจงจะช่วยเหลือบรรเทาเคราะห์ภัยสัตว์ผู้ยากจึงเมตตาอนุเคราะห์ให้นำออกมาบูชา"

    พ่ออาจารย์ท่านมีดำริตามคำแนะนำของเสด็จพระใหญ่ว่าจะสร้างเครื่องมงคลชุดพิเศษเอาไว้เพื่อซ่อนกรรมบรรเทากรรมของสัตว์ไว้ซักวาระหนึ่ง อีกยังต้องลงให้ครบทั้งประทานทรัพย์ โชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองด้วยท่านไม่ปรารถนาจะให้กล่าวถึงมาก ท่านว่าองค์พระนี้ขึ้นอยู่กับวาสนาถ้าชะตาชีวิตไม่เปิดทำเสียอย่างไรก็ไม่มีวันได้พบจึงจะลงข้อมูลแต่พอสังเขปเท่านั้น

    องค์มหากำเนิดธรรมอนันตคุณพระเจ้าจักรพรรดิ 84,000 ตรึงไตรภพ

    พระพิมพ์นี้ท่านสร้างไว้ด้วย
    ผงลบวิชาเฉพาะกาลที่เก็บไว้ใช้ในยุคเข็ญอย่างแท้จริง เพราะกฏฟ้าได้กำหนดให้ยุคสามนี้เป็นยุคที่เทพยดาผู้มเหศรศักดิ์ทั้งหลายรวมไปถึงแม้กระทั่งองค์วิสุทธิเทพทั้งปวง ได้อนุเคราะห์สัตว์โลกตามงานตามภารกิจที่แต่ละพระองค์จะพึงกระทำ ด้วยพระบัญชานั้นเทพเจ้าทั้งหลายจึงต้องลงมาช่วยเหลือมนุษย์นั่นก็เพื่อจะสำเร็จภารกิจของแต่ละพระองค์ด้วยส่วนหนึ่ง เช่นนั้นท่านจึงได้ทำผงพระเจ้าแปดหมื่นสี่พันตรึงไตรภพนี้ขึ้นมา พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เราไม่ได้เขียนหรือตั้งเล่นๆเพราะข้างบนเขาเขียนเขาบอกให้ใช้ชื่อนี้ ท่านว่าท่านพูดอะไรไม่ได้มากให้คนที่บูชารู้ไว้แค่ว่า วิสุทธิเทพในนิพพานทุกพระองค์ "ทั้งกำลังและพลังงานอันบริสุทธิ์ทั้งหลายนั้นเขาพร้อมมานานแล้ว" ...พร้อมที่จะลงมาปรับเปลี่ยนชีวิต สมกับคำว่าพระเจ้าแปดหมื่นตรึงไตรภพที่จะตรึงเธอเอาไว้ดึงรั้งชีวิตของเธอไว้ไม่ให้ต่ำไม่ให้แย่ไปตามยุคเข็ญ เพื่อความสงบระงับไปของห้วงทุกข์ จากร้อนให้คลายเย็น แก้ปมทุกข์เข็ญเคราะห์กรรมบรรดามีด้วยกำลังแห่งอำนาจพระโพธิญาณและวิปัสสนาญาณอันโอฬารเกินกว่าเทวานุภาพจะบันดาลได้

    ผงนี้ท่านว่าทำยากมากเพราะสูตรและการลงแต่ละอย่างเหมือนย่อเอาพระคัมภีร์มาลงทีเดียว ท่านต้องลงผงในฤกษ์เวลาที่ตะวันดับคือสุริยคราสนั่นเอง ต้องลงหัวใจพระอิติปิโส ตามด้วยเดือนเบิกเมฆ ตะวันเบิกเมฆ ใส่นะมหากำเนิด นะพระเจ้าตรึงไตรภพ ถอดด้วยเมฆพยับ ลงจันทราส่องโลก สุริยันดั้นเมฆ กระหนาบด้วยมหาพรหมส่องโลก ลงองค์อิติปิโส องค์ตรีนิสิงเห องค์ปฐมพินธุ องค์อิทธิเจ พระเจ้าห้าพระองค์ถอดแบบตรึงไตรภพ ลงมหาพุทธาธิคุณและอุโองการมหาราช ถอดด้วยคาถามหาโพธิสัตว์ทั้งสามเหล่าทั้งปัญญาธิกะ,สัทธาธิกะ,วิริยาธิกะ.. พ่ออาจารย์ท่านว่าผงเช่นนี้ถ้าเสด็จพระใหญ่ไม่ให้ทำก็คงทำไม่ได้จริงๆเพราะมีอานุภาพครอบคลุมและเสมอด้วยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอันได้ตรัสรู้ไปแล้วทั้งสามเหล่าถ้วนแปดหมื่นสี่พันพระองค์ลงมาทำให้เอง ทั้งคุณพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ล้วนเป็นมหันต์คุณกล่าวคือล้ำเลิศไม่มีประมาณผงนี้จึงเป็นมากกว่าพุทธานุภาพใดๆเพราะดึงเอากำลังพุทธานุภาพของแปดหมื่นสี่พันพระองค์เชื่อมวาสนาชะตาเราโดยตรง ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ได้ง่ายเพียงเท่านั้นนอกจากนี้ท่านยังต้องลงผงยันต์พระรัตนไตร ลงหัวใจสมเด็จองค์ปฐม ใส่หัวใจพระเจ้าแปดหมื่นสี่พัน ครอบด้วยพระเจ้าเปิดโลก พระเจ้าลงโลกา พระเจ้าตรึงพระธรณี ลงหัวใจมหาปรารถนา(ท่านว่าสำคัญมาก เสด็จพระใหญ่ท่านบอกว่าบทนี้อยากได้อะไร ปรารถนาอะไรขอแค่แบมือขอ แบมือออกแล้วรับกลับไปจะได้ดั่งใจปรารถนา)เขียนงลงคาถาอัคคีเย็นเหมือนพระคงคา(ท่านว่าชีวิตคนนั้นที่จะสุขสบายฝ่ายเดียวย่อมไม่มี ความทุกข์ทั้งหลายเปรียบได้กับเครื่องร้อนของร้อนทั้งสิ้น อัคคีเย็นนั้นคือกลับร้อนเป็นเย็นกลับโชคร้ายเป็นโชคดีในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ต้องเจออยู่ร่ำไปก็กลับมันเอาไว้ให้กลายเป็นโชคดีเป็นเรื่องดีๆแทน พร้อมทั้งตรึงสังขารปรับธาตุ แก้สมดุลร่างกายทั้งหมด ให้พลังงานถ่วงดุลและทำงานโดยปกติเอาว่าไม่ป่วยไม่เป็นโรคง่ายๆสุขภาพแข็งแรง)

    ด้วยผงสำคัญนี้ล้วนเกิดจาก
    หัวใจยอดของตำราพระยันต์ทั้งสิ้นมีความสัมพันธ์กับพุทธกายและจิตใจมนุษย์ พร้อมกันนั้นยังสร้างแรงดึงดูดเอาแต่สิ่งดีๆมาหาตัวเองใช้ทางกลับร้ายกลายเป็นดีได้ผลที่สุดท่านว่ารู้กันกับใจตัว ใครคิดว่าชีวิตตัวเองร้ายแล้วร้ายอย่างไร คนอื่นดีนั้นเขาดีกันอย่างไรทำไมตัวเราเองเจอแต่อะไรร้ายๆอันนี้ต้องรู้ตัวเองเขาจะรู้เองว่าควรแก่การบูชาอะไร ซึ่งผงนี้ดีที่สุดเลยก็ทางกลับร้ายกลายเป็นดีนี่แหละ ซ้ำใครจะทำร้ายเราองค์พระท่านจะบังตากำราบใจให้เขามองไม่เห็นถึงเห็นก็เห็นเราเป็นคนอื่นเดินเลยผ่านไปเฉยๆนี่ตรงนี้บารมีครูท่านแผ่ท่านปกป้องรักษาให้แคล้วคลาดจากสิ่งไม่ดีทั้งหมด ท่านว่าผงที่สร้างองค์มหากำเนิดธรรมนี้จะกระตุ้นให้ความคิดความสามารถใดๆที่มีอยู่ในตัวเราให้มันเผยออกมาเอง แม้อาราธนาไว้ก็ปราศจากพันธะอันทำให้ชีวิตตกต่ำอย่างน้อยตัวก็โล่งเพราะปลอดเหตุแห่งทุกข์หัวก็โล่งงสมองก็ปลอดโปร่งไม่มืดทึบตีบตัน ท่านว่าได้อธิษฐานขอพระเสด็จพระใหญ่ไว้แม้ผู้ใดได้ไปติดตัวจะประกอบอาชีพด้วยความสัตย์สุจริตใดๆก็ให้ชีวิตคนผู้นั้นประสบแต่โชคลาภอยู่เนืองๆโภคทรัพย์หลั่งไหลเทมาดั่งพระแม่คงคาในห้วงมหาสมุทรไม่รู้จักสิ้นสุดให้มีความเจริญในลาภสักการะไม่รู้ยากรู้จน ผงเช่นนี้ท่านว่าลงยากเพราะสมัยนี้คนหากินลำบากเวลาลงท่านว่าต้องทำใจให้อยู่ในมหากรุณาตั้งใจสงเคราะห์สัตว์อย่างแท้จริง ท่านว่าตรงนี้สำคัญนะองค์ปฐมท่านกำกับไว้เลยว่าจะทรงอารมณ์ไหนต้องเปิดจิตเปิดใจเปิดรูปตั้งอยู่ในฐานมหากรุณาไม่อย่างนั้นลงไปคนเอาไปใช้ก็เท่านั้นเพราะฐานอารมณ์ไม่ได้ตั้งอยู่ในมหากรุณาของจะเอาไปสงเคราะห์แก้ทุกข์ภัยอย่างไรได้ อักขระแต่ละตัวนั้นต้องเรียกต้องภาวนา ผิดไม่ได้ วิบัติไม่ได้ เมื่อลงแล้วยังต้องอธิษฐานจิตเรียกสูตรตลอดเวลาท่านว่าต้องภาวนาตั้งแต่แท่งจับดินสอมาเขียนผงทีเดียว นี่แหละที่ว่ายากเพราะว่าท่านว่าทำครั้งเดียวพอ พอแล้วไม่เอาแล้วด้วยผงนี้คู่ควรแก่ผู้มีบารมีเสมอกันเราทำไว้เท่านี้ใครเหมาะใครสมเขาก็มาเอาของเขาไปเองถ้าทำมากไปเกรงว่าใครจะเอาไปใช้ก็ไม่รู้ เมื่อลบผงสะสมไว้ได้เรื่อยๆตอนเสกผงชนิดนี้แนกไว้ก่อนก็สำคัญเพราะเป็นเรื่องของเสด็จพระใหญ่และเบื้องบนท่านทำให้ทั้งนั้นส่วนตัวพ่ออาจารย์ท่านได้แต่ตั้งธาตุ ปลุกแม่ธาตุ หนุนธาตุ เจริญพระเวทย์และพระธรรมตามไปเฉยๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าข้างบนท่านเมตตาอนุเคราะห์ทำให้เราจนเสร็จจนผงนี้มีรัศมีสว่างไสวดุจดาวประกายพฤกษ์เพราะท่านยืมแต่เพียงธาตุสังขารของเราเพื่อลงเท่านั้นวิชาของพระองค์ท่านก็ต้องให้ตัวท่านสำเร็จของท่านเอง

    ### พ่ออาจารย์ท่านเมตตาบอกกล่าวไว้ว่าผงชุดนี้สำคัญมากเพราะลบตามโองการพระใหญ่มีการลงการบรรจุหัวใจของพระเจ้าทั้งแปดหมื่นสี่พันรวมไปถึงองค์ปฐมด้วย แม้อยู่ที่ไหนผู้นั้นย่อมเป็นผู้รู้ตื่นไม่มืดบอดเพราะบารมีพระแปดหมื่นสี่พันทรงดับทุกข์ได้ทั้งหมด อย่าว่าแต่ปัจจัยสังคมแวดล้อมเรื่องทุกข์ร้อนของมนุษย์เดินดินเลย ด้วยพุทธานุภาพอันไม่มีประมาณแม้จะเป็นไฟทุกข์์ของเทพยดาต่อให้ร้อนเช่นดวงอาทิตย์ก็ยังดับได้ ท่านว่านี่มันของแก้ทางกันนะรู้มั๊ยไอ้คำว่าของแก้ทางนี่น่ะสำคัญมากนะให้รู้ไว้เถิดว่าปกติไม่มีใครเขาทำ เพราะของแก้ทางคือเมื่อทำแล้วสิ่งเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นเพราะข้างบนเขาถือว่าได้แก้แล้วทุกอย่างต้องเบี่ยงเบนออกไปจะเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้วมีของแก้ทางกันเอาไว้อยู่เช่นนี้จึงถือได้ว่าพ้นแล้วนั่นเอง ท่านว่าฉันพูดได้เท่านี้ ผงนี้ให้เอาไว้แก้ทางเรื่องร้อนๆที่เจอในชีวิต..อะไรที่ร้อน...อะไรที่ไม่ปกติ...ไม่เป็นสุข เอาไว้แก้โดยโดยตรงนะ เหมือนพระเจ้าแปดหมื่นสี่พันท่านลงมาแล้ว..ท่านเหยียบดินแล้วเหยียบหัวเหยียบตัวเหยียบบ่าเราไร้ช่องว่าง อะไรที่มันร้อนย่อมต้องคลี่คลายทั้งหมด

    นอกจากนั้นองค์พระมหากำเนิดธรรมนี้ พ่ออาจารย์ท่านยังใช้ว่านยาวิเศษในตระกูลเศรษฐีที่ได้ชื่อว่าเก่ง มีฤทธิ์ มีตัว มีเจตสิก มีภูติมีคนธรรพ์รักษาทั้งหมด อันไหนดีอันไหนครูสั่งให้หาให้เก็บ ท่านไปแสวงหามาทั้งสิ้น นำมาเข้ากับผงวิเศษที่ชักพระยันต์ชั้นสูงตำรับพิชัยสงครามต่างๆและพระยันต์ที่ท่านลงคาถามหาเศรษฐีอีกนับร้อยบทลบถมกันไปตามวาระตามโอกาส พ่ออาจารย์ท่านมีความปรารถนาไม่อยากจะเห็นผงวิเศษที่ลบถมขึ้นจากมหายันต์ชั้นสูงที่สืบทอดกันในหมู่กษัตริย์แม่ทัพนายกองอันประกอบด้วยสรรพคุณที่ทรงพลานุภาพสูญหายไป ประกอบกับท่านพิจารณาว่าถึงเวลาอันดีที่ทำเอาไว้ให้กับผู้ที่ต้องการรับสุดยอดของดีไว้บูชาจึงได้จัดทำผงนี้ขึ้น ซึ่งในเรื่องของฤกษ์ยามที่ลงจะต้องคัดฤกษ์มงคลสูงสุดตามสายวิชาเพื่อทำผงโดยพ่ออาจารย์ท่านก็เลือกฤกษ์เพียงสองฤกษ์เท่านั้นที่จะใช้ลบผงนี้ประกอบไปด้วยราชาฤกษ์เเละเพชรฆาตฤกษ์ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เนื่องมาจากท่านตั้งใจจำทำให้ดีที่สุดนั่นเอง อันผงทั้งหลายนั้นพอจะยกตัวอย่างได้ดังนี้

    - ผงยันต์เกราะเพชรพระเจ้าสูตรพิชัยสงคราม ผงที่เกิดจากพระยันต์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพลานุภาพมากยากที่จะประเมิณค่าได้ หาผู้สืบทอดและทำได้ยาก เนื่องจากเป็นมหายันต์ชั้นสูงที่ทำให้เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน มีพลานุภาพปรากฎในทุกด้านในทุกทิศทางแม้ผงนี้อยู่ที่ใดก็จะแผ่รัศมีออกไปในทิศทั้งสิบ เปรียบดังเกราะแก้วกำแพงเหล็กที่ป้องกันภัยและเสนียดจัญไรจากทุกสารทิศไม่ให้มากล้ำกรายผู้บูชาได้ ทั้งยังมีพุทธคุณสุดแต่ใจนึก พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานจิตให้ผงนี้สอดคล้องรับกันกับอารมณ์ปรารถนาในใจเรา ไม่ใช่แต่เพียงให้ดีทางด้านคุ้มครองทั้งยังเป็นเมตตาและมหาอำนาจชั้นเลิศตามสูตรยันต์พิชัยสงครามอีกด้วย ในส่วนตัวพ่ออาจารย์จะเรียกผงนี้ว่าผงแหพันชั้น ท่านว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เพราะเวลาเสกต้องทำให้มีพุทธคุณสมกับชื่อผงที่ว่าแหพันชั้นนั้น ท่านหมายถึงว่าแม้ผู้บูชาใคร่จะปรารถนาอะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่ปรารถนาไว้จะไม่สามารถหลุดรอดพ้นหนีออกไปได้เลย ผงนี้ท่านว่าลงยากเพราะพระยันต์นั้นต้องชักถักคล้ายรูปร่างแห ดุจแหตาถี่ที่จะดลบันดาลให้ทุกสิ่งไม่สามารถหลุดรอดออกไปได้ตามคำอธิษฐาน แม้ว่าจะปรารถนาลาภยศชื่อเสียงเงินทองความเจริญก้าวหน้า สิ่งต่างๆเหล่านี้เมื่อได้มาแล้วจะต้องอยู่กับเราไปตลอดไม่รู้จักคำว่าตกต่ำลงเลย เปรียบดั่งแหฟ้าตาข่ายดินที่ดักจับสิ่งใดไว้ได้แล้วต้องพันธนาการไว้ไม่ให้รู้หลุดรู้เคลื่อนเลยฉันใดก็ฉันนั้น การเสกผงนี้ก็เช่นกันต้องทำให้ได้เฉกเช่นนั้น ความยากจึงไม่ได้อยู่ที่การลงการเชิญครูเพียงอย่างเดียวเพราะท่านเน้นพระพุทธคุณในทุกด้านให้ปรากฏในทุกทิศทางที่ผงนี้สถิตย์อยู่

    - ผงมหาจักรอนันตคุณ เป็นผงซึ่งก็จัดเป็นมหายันต์ตามสูตรพิชัยสงครามโดยแท้เช่นกันที่ต้องเลือกฤกษ์และเวลาลงอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ผู้บูชาไปใช้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ซึ่งพ่ออาจารย์กล่าวว่ามหายันต์สูตรนี้มีดีทุกด้านไม่ต่างกับชื่อเลยนั่นคือนันตคุณ คือมีคุณเป็นอเนกอนันต์นั่นเองสุดแต่ใจของผู้ใช้จะพึงปรารถนาแต่ที่แน่ๆนั่นคือ เด่นทางด้านเสริมสิริมงคลชื่อเสียงและเกียรติยศให้ปรากฏแก่ผู้บูชา ท่านว่าหากเราเองมีชื่อเสียง เป็นคนมีเกียรติเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคมแล้วแม้จะทำอะไรไม่ต้องเอ่ยปากทุกสิ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้มา ท่านว่าได้แบบไวด้วยไม่เหนื่อยด้วย ซึ่งการเสกนั้นท่านต้องตั้งธาตุหนุนธาตุตั้งนิมิตเสกให้มหาจักรนี้พัดหมุนไปได้ตลอดเวลา ถือเคล็ดที่ว่านอกจากดีมีคุณเป็นอนันต์ตามใจผู้ใช้แล้ว ยังเปรียบเสมือนกงจักรศาสตราเทพอาวุธแห่งองค์พระนารายณ์ที่ใช้ตัดและทำลายได้ทุกสิ่ง ไม่ใช่ตัดแต่เพียงเคราะห์กรรมเท่านั้นยังตัดทุกข์โศกโรคภัยและใช้ป้องกันเทพยดาอันธพาลทั้งหลายไม่ให้มากลั่นแกล้งได้อีกด้วย

    - ผงกาลกินวิชา ผงสำคัญนี้เป็นผงหลักที่พ่ออาจารย์ท่านลบถมวิชาหน้ากาลกินวิชาขึ้นมาโดยเฉพาะ ท่านว่าเจ้าตัวหน้ากาลนั้นเป็นอสูรที่มีลักษณะดุร้าย คิ้วขมวด นัยน์ตากลมโตถลน จมูกใหญ่ ปากกว้างเห็นฟันบนและมีเขี้ยว ไม่มีริมฝีปากล่าง ไม่มีลำตัว มีแขนออกมาจากด้านข้างของศีรษะสวมเครื่องประดับศีรษะลักษณะเป็นกระบังหน้าเรียกเกียรติมุขหรือหน้ากาลซึ่งกาลนั้นก็พ้องกับเวลา กาลหรือหน้ากาลมีความหมายเดียวกับเวลาเป็นผู้ซึ่งกลืนกินสรรพสิ่งทั้งมวล จึงมีคติว่ากินได้ทุกอย่างจึงเป็นผู้ครอบครองเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง นอกจากนั้นผงนี้ยังเสมือนสิ่งคุ้มครองปกปักรักษามิให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาสู่ตัวเราและยังนำเกียรติยศมาสู่เราด้วย เพราะเกียรติมุขนั้นหมายถึงหน้าอันมีเกียรติ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญและมีอาถรรพ์มากเพื่อให้ชีวิตและลมหายใจของเขาที่เกิดขึ้นจากการเรียกสูตรลบยันต์มอบพลังให้กับเราล้างอาถรรพ์ในชีวิตเรา ทั้งหน้ากาลยังได้ชื่อว่าหิวกระหายเป็นนิจกินอย่างไรก็ไม่อิ่มอันเป็นเคล็ดสื่อถึงความมั่งคั่งร่ำรวย ได้เปรียบ กินคนอื่นไปเรื่อย กินไม่รู้จบเพราะเป็นผู้กลืนกินเวลาทุกขณะในโลก เวลาอันเดินหน้าไปเรื่อยๆที่ไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้ จึงเป็นดั่งผู้ควบคุมกาลเวลาและครอบครองเหนือทุกสิ่ง ด้วยผงนี้จะเปลี่ยนอารมณ์เราในวันที่ร้อนให้เย็นลง ให้ชีวิตเราเคลื่อนไปสู่จุดที่สูงที่สุดและดีที่สุดอย่างรวดเร็ว ทั้งยังกลับสิ่งร้ายให้กลายเป็นดีสามารถล้างอาถรรพ์ไม่ดีต่างๆ ป้องกันสิ่งชั่วร้าย เสริมดวงชะตาทำให้มีราศีมีชื่อเสียงมีเกียรติยศ.. พ่ออาจารย์ท่านว่าหน้ากาลนี้มีฤทธิ์มากแม้เหล่าราชาอสูรตลอดจนเทพนพเคราะห์อย่างพระราหูก็ยังกลัวจะถูกหน้ากาลกลืนกินดังนั้นจึงเป็นเคล็ดว่าใครที่มีผงนี้อยู่กับตัวเทพอสูรทั้งหลายจะเกรงกลัวเรา นพเคราะห์ทั้งหลายจะไม่เล่นตลกกับชีวิตเรา ผงกาลกินวิชานั้นจะกินวิญญานกินความชั่วร้ายและอุบาทว์จัญไรทั้งหมด ที่จะมาทำร้ายเราให้โทษกับเรา จะกินคุณไสยในอากาศกินวิชาที่ไม่ดีทั้งพวกฝ่ายต่ำและของอุบาทว์เปลี่ยนเป็นพลังงานบริสุทธิ์เกื้อหนุนเรา ทั้งคุ้มครองผู้ที่เป็นเจ้าของกันคุณไสย และยังมีคุณสะกดให้คนหลงเชื่อหรืออยู่ในอำนาจของเราเชื่อฟังเราทุกอย่าง จะให้คนหลงรักเราก็ได้ ให้พ้นจากถ้อยความและสิ่งที่ถูกคนกระทำให้ร้ายก็ได้ ท่านว่าแล้วแต่จะอธิษฐานใช้กันเลย

    - ผงอาถรรพ์โสมเฝ้าทรัพย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเฮี้ยนเสียยิ่งกว่าภูติพรายใดๆมี ท่านว่าเป็นผงอาถรรพ์ซึ่งอาถรรพ์ในที่นี้ไม่เกี่ยวกับพรายกับผีแต่อย่างใด หากแต่เป็นพยนต์มหายักษ์ซึ่งถูกผูกไว้เฝ้าสมบัติสมัยอยุธยามหาสถาน พ่ออาจารย์ท่านว่าในกรุสมบัติแผ่นดินหนึ่งๆที่เป็นสมบัติของกษัตริย์แต่โบราณจะมีพยนต์เหล่านี้รักษาหลายตน ในสมัยที่ท่านบวชและมีโอกาสได้ธุดงค์ผ่านอยุธยานั้น ท่านได้พบกับโสมเฝ้าทรัพย์ซึ่งพาท่านไปดูกรุสมบัติตั้งแต่ยุคสมัยของพระนเรศวรเรื่อยมาจนถึงพระเจ้าเสือ และปู่โสมนั้นท่านได้ขอตามไปจะไปอารักขาท่านด้วย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเขามาจริงๆไม่ใช่แต่เพียงคำพูด เพราะปรากฏมีตุ๊กตายักษ์ดินเผาขนาดเล็กมาปรากฏอยู่ในย่ามของท่าน หลังจากท่านตรวจดูแล้ว ท่านว่าเค้าตั้งใจจะไปคุ้มครองเราจริงๆ จึงได้ทำพิธีพลีกรรมบอกกล่าวแก่เจ้าของเดิมและนำออกมาพ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้จะหวงไว้ใช้คนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องไหนๆทำแล้วก็ต้องให้ดีให้แรงที่สุดไปเลย ท่านถึงได้สอบถามโสมเฝ้าทรัพย์ว่าจะขอให้ไปสร้างบารมีช่วยเหลือสัตว์ผู้ยากทั้งหลายซึ่งเขาก็ยินดีอย่างยิ่ง พ่ออาจารย์จึงนำตุ๊กตายักษ์นั้นมาขออนุญาติและตะไบฐานออกส่วนหนึ่งเป็นผง ท่านนำมาคลุกและนวดเข้ากับสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบวัดกะบกขึ้นผึ้งก่อนที่จะนวดเข้ากับมวลสาร ท่านว่าผงนี้มีญาณโสมเฝ้าทรัพย์เฝ้าแผ่นดินทุกอณูเขาจะตามรักษาลูกหลานเลือดเนื้อเชื้อชาติไทยอันนี้ท่านว่าเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน แต่ว่าแรงน่ะแรงแน่ๆอธิษฐานใช้กันให้ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ท่านคลุกสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบให้เพื่อจะได้มีคุณทางเมตตาเป็นกฤติยาคมแฝดอย่างถึงที่สุด ท่านว่าสีผึ้งเขียวนี้มีคุณทางเมตตามหาเสน่ห์มากแต่ก็นั่นแหละสุดแต่ใจจะใช้จะเล่นทางเสน่ห์เมตตาหรือเอาไปทำมาหากินให้ได้ดิบได้ดีก็ตามแต่จริตชีวิตคน

    - ยาเทวีสิบสองนางหรือยานางสิบสอง พ่ออาจารย์ท่านนำแท่งยาสุระสะติ่ของเก่า ซึ่งหาได้ยาก เป็นยาเก่าที่ปรุงมาแต่โบราณของบูรพาจารย์พม่า ไม่ใช่ยาใหม่รึปรุงใหม่ที่มีขายแต่อย่างใดท่านว่าของใหม่นั้นทำอย่างไรก็เทียบของเก่าของโบราณไม่ได้ ท่านนำแท่งยามาฝนเอาผงนวดรวมกันกับผงอื่นๆ ท่านว่าลำพังยาสุระสะติ่นี่ก็เป็นปิยะสุดๆแล้วท่านพูดไปหัวเราะไปว่าเราเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นปิยะขนาดไหนเพราะนวดรวมมวลสารหลายตัวเอาว่าเทวดานางฟ้ายังหลงเท่านี้ก็พอ ยานี้ที่เรียกว่ายานางสิบสองก็เพราะทำจากยาสุระสะติ่ของเก่าของโบราณซึ่งนางสุระสะติ่นั้นก็คือพระแม่สุรัสวดีนั่นเอง เป็นครูใหญ่ทางสายวิชาพม่าไทใหญ่ที่เรียกนางสิบสองเพราะด้วยสายวิชานั้นเชื่อว่านางมีสิบสองปาง มีนางสุระสะติ่ทั้งหมดสิบสองคนจึงเป็นสิบสองกำลังของพระแม่แห่งภูมิปัญญาความรู้ที่จะช่วยและเกื้อกูลลูกที่ศรัทธา ท่านว่าพกไว้นะดียานี้สมองจะปลอดโปร่งคิดอะไรก็ออกสมัยนี้เขาเรียกว่าเก็ทคือคิดออกแต่เรื่องดีๆ คิดแล้วทำชีวิตก็ยิ่งดี จะนำชีวิตไปสู่ความเจริญทางภูมิปัญญามีวิวัฒนาการด้านความคิดสติปัญญาแตกแขนงไปไม่รู้จบ ซ้ำยานี้อยู่กับใครนอกจากจะเป็นปิยะเป็นที่รักของมนุษย์เทวดาแล้ว คนผู้นั้นจะมีสิริ เป็นทั้งเสน่ห์และเดช อำนาจครบถ้วนไม่มีอะไรจะเปรียบอยู่ในตัวเอง ท่านว่าคิดเอานะทั้งเสน่ห์เดชะตบะอำนาจรวมอยู่พร้อมๆกัน เช่นนี้จะหามีที่ไหน เป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆเพราะทั้งหลงทั้งกลัวทั้งเกรงใจเกิดขึ้นพร้อมกันหมดเลย


    พ่ออาจารย์ท่านได้พิจารณาถึงสภาวะของมนุษย์โดยรวมก่อนท่านจึงรู้ว่าถ้าจะทำพระให้เขารวย เพียงเท่านั้นมันคงไม่พอ เพราะถ้าจะรวยต้องต้านกระแสกรรมหนักได้ด้วยไม่เช่นนั้นพระก็ไม่สามารถส่งผลอะไรได้มากเนื่องจากสัตว์โลกยังอยู่ในกฏของกรรมจำต้องทำเครื่องสูงที่มีอานุภาพส่งผลโดยตรงกับกรรมนั้นด้วยท่านทราบดีว่าหากท่านทำแล้วจะมีผลสืบเนื่องไปถึงเรื่องกฏของกรรมนั่นเอง เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้ผสมผงทำพิมพ์พระขึ้นท่านได้ทำพระทรงเครื่องอย่างมหาจักรพรรดิ์ท่านว่านี่คิดเสียว่าเป็นพระผู้ดีเป็นพระทรงเครื่อง ### ใช้แทนตัวพระเจ้าทั้ง 84,000 จะได้มีกินมีใช้ไม่ขัดสนไพบูลย์ด้วยทรัพย์สมบัติเป็นเอนกประการ องค์พระนั้นอยู่ในท่านั่งมารวิชัยอาศัยอาถรรพ์ว่าชนะมารจะได้ชนะอุปสรรคทุกสิ่ง
    *** ตรงจุดน่าอกองค์พระท่านได้นำศิลาน้ำของเจ้าปู่ชัยพรหมฝังไว้ด้วยทุกองค์ ท่านว่าให้ผลทุกทางตามแต่จะอธิษฐานดุจแก้วสารพัดนึก
    พ่ออาจารย์ท่านใช้มวลสารล้วนๆทั้งหมดข้างต้นมากดก่อนจะนำองค์พระไปจุ่มรักท่านว่าผงมีเท่าใดก็ทำได้แค่นั้น พระรุ่นนี้ทำไว้เพื่อให้สร้างเนื้อสร้างตัวมีความสุขความสบายใจจะได้เอาเวลาที่เหลือไปสร้างบารมีปฏิบัติธรรมรักษาพระศาสนาให้เจริญงอกงามต่อไป

    ด้านหน้านั้นท่านเชิญเหล็กวิชาฝังไว้เป็นสำคัญส่วนด้านหลังนั้นเป็นเหรียญหล่อซ่อนหาและแร่กันอับเฉา ท่านเน้นว่าองค์กำเนิดธรรมนั้นดีทุกทางให้เอาติดตัวไว้ หากกรรมจะด่วนมา ถึงมาก็หาเราไม่เจอ(เจ้ากรรมนายเวรก็เช่นกัน)นี่คือผลของพระซ่อนหาของท่าน

    - เหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณสัณฐานเม็ดใหญ่ ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น) เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น) ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น.... พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น) ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด

    - แร่กันอับเฉา(กันพลาด) โบราณเขาเอาไว้ถ่วงท้องเรือสำเภา เวลาคนเดินทางแสวงโชคล่องเรือมานี่เขาก็จะหยิบแร่ที่ถ่วงท้องเรือออกมาเป็นที่ระลึกถือว่าเป็นของสิริมงคลด้วยอยู่ท้องสำเภายังถ่วงให้พ้นคลื่นลมแลภัยพิบัติได้ แม้เรื่อที่ว่างยังถ่วงให้เต็มได้ นี่เป็นเคล็ดแต่โบราณเอาไว้เริ่มตั้งตัว ดั่งว่าหยิบทรัพย์ ได้ทรัพย์ในสำเภามาครอบครองเป็นอาถรรภ์แฝด ซ้ำแร่ถ่วงท้องสำเภานี้ยังมีดีในตัวเองโบราณว่ามีคุณตามเคล็ดกันพลาดกันอับเฉาได้ครอบคลุมทั้งสิ้น หมายถึงกันสิ่งไม่ดี กันชีวิตอัปปาง กันชีวิตล่มจม ปิดทางให้ตั้งตัวได้เจริญขึ้นโดยส่วยเดียวไม่มีวิบัติภัยใดๆเลย แร่สำคัญนี้พอถ่ายทอดสืบสกุลจากรุ่นสู่รุ่นในตระกูลเศรษฐี ตัวแร่จึงถูกเคารพในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษซึ่งมีเทวดารักษา คนในสกุลมักจะนำมาอธิษฐานขอพรเพื่อเข้าถึงพลังงานและสิริมงคลเบื้องสูง พ่ออาจารย์ท่านว่าแร่ก้อนนี้นอกจากจะดีทางกันพลาดกันอับจนแล้ว ยังมีดีด้านมหาสะกดให้ฝูงชนหลงเมามัวเคลิบเคลิ้มได้อย่างประหลาดเป็นไปด้วยอานุภาพเทวดา เธอลองคิดเอาเถิดว่าเพียงก้อนแร่ก้อนหนึ่งยังทำให้คนนับสิบในสกุลยึดถือกราบไหว้มาหลายชั่วอายุคนนับร้อยๆปีตั้งแต่ต้นกรุงได้นี่แร่ก้อนนี้ต้องมีอาถรรพ์และวิเศษกว่าแร่ชนิดเดียวกันขนาดไหน ท่านว่าแร่นี้เมื่อนำมาพกพาจะเสริมส่งตบะ เพิ่มวาสนา เติมบุญบารมี ต่อชะตาชีวิตทำให้เกิดความก้าวหน้าในการงาน มีความสุขความเจริญรุ่งเรือง แม้ต้องอาถรรพ์ดวงตกก็หนุนชะตาได้เป็นอย่างดี พ่ออาจารย์ท่านถือเคล็ดว่าแร่นี้ได้ซึมซับ ความสุข ความบริบูรณ์มาชั่วรุ่นเศรษฐีหลายอายุคน ซึมซับความสุขมายาวนานไม่รู้จักคำว่าตกต่ำยากจน มีอาถรรพ์ดุจสำเภาที่ฝ่าคลื่นลมข้ามน้ำข้ามทะเล ฝ่าคลื่น ฝ่าพายุมรสุมวิบากกรรมผ่านพ้นได้นับกาลเวลาไม่ถ้วน เช่นนี้ท่านจึงนำแร่มาอธิษฐานจิต ทั้งยังได้ขอบารมีหลวงพ่อฤาษีเสกให้หลายวาระจนประจักษ์แก่ใจว่าอานุภาพเต็ม ท่านจึงบอกขอกับเทวดาที่รักษาแร่ให้ออกไปสร้างกุศลใหญ่ แล้วนำแร่มาทุบฝังพระนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราขอเขาให้ไปหนุนคนที่ได้ไปให้เจริญขึ้นโดยส่วนเดียวเหมือนที่เขาเคยสร้างคน เปลี่ยนคนติดสำเภาธรรมดาให้ตั้งตัวเป็นเจ้าสัวในเมืองกรุงเป็นเศรษฐีค้าสำเภาได้สืบทอดลูกหลานมาหลายร้อยปีโดยที่สกุลนี้ไม่มีตกต่ำเลย


    - เหรียญปราบโลกไพรีพินาศพุทธพรหมซ่อนหา ### ตำนานเหรียญซ่อนกรรม *** เหรียญเร้นกรรมของพ่ออาจารย์ท่านที่ให้ผลทันตา แต่ปางหลังนั้น นับจากสมเด็จพระพุทธโคดมศากยมุนีได้ทรงกระทำทิฏฐิในองค์ท้าวผกาพรหมให้แจ้ง รู้ชั่วดี มีปรีชาญาณแล้ว ท้าวผกาพรหมก็ได้บรรลุธรรมและกระทำบารมีต่างๆมากมายจนเลื่อนขึ้นสู่ปัญจสุทธาวาสมหาพรหม เป็นมหาพรหมขั้นสูงสุดคือมหาพรหมอนาคามี ครูบาอาจารย์แต่โบราณนั้นท่านรู้ดีว่าพระพุทธานุภาพทรงคุณเช่นไร พรหมคุณขององค์ท้าวผกาพรหมมีความสำคัญแตกต่างจากเทพเจ้าองค์อื่นอย่างไร ครูบาอาจารย์จึงหยิบยกพระคุณเหล่านี้มากระทำเป็นวัตถุมงคล

    หากจะกล่าวถึงสิ่งที่เป็นตำนานไปแล้ว หาดูได้ยาก มีพลังอิทธิคุณสูงส่งในพิมพ์พระพุทธเจ้าโปรดท้าวผกาพรหมนี้ ก็ต้องระลึกถึงเหรียญหล่อเมฆสิทธิ์ หลวงพ่อทับ วัดอนงคาราม ที่สภาพสวยๆสมบูรณ์นั้นมีมูลค่าว่ากันที่หลายๆแสน และนับวันจะทวีมูลค่าสูงขึ้นไปอีกและปรากฏของปลอมมากมาย ที่เกริ่นมาแล้วนี้เพราะต่อไปจะมาพูดถึงเหรียญหล่อปราบโลกไพรีพินาศพุทธพรหมซ่อนหานั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านได้สัมผัสบารมีและบุญญาภินิหาริย์ของหลวงปู่ทับ วัดอนงค์มาแล้ว ทั้งได้รับคำฝากฝังจากครูบาอาจารย์ว่า ให้ท่านทำให้อีกซักครั้ง ด้วยว่าของที่ท่านทำไว้แต่เดิมนี้ นับวันจะหาของจริงแท้ดูได้ยากเต็มที สมัยผมทำ ผมก็ทำด้วยกายสิทธิ์(เมฆสิทธิ์) ถ้าคุณจะทำไว้เป็นที่ระลึกก็เอากายสิทธิ์ที่เหลือของคุณมาทำ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ได้นำหุ่นเทียนมาแกะ โดยขอเมตตาจากบารมีหลวงพ่อทับตลอด ท่านว่าสมัยท่านนั้นจะทำเป็นเหมือนพระพุทธนั่งซ้อนอยู่บนพระพุทธอีกคำรบหนึ่ง คนจึงไม่รู้ว่าเป็นท้าวผกาพรหม ได้แต่เรียกกันว่าพระซ่อนหาไป เมื่อพ่ออาจารย์จะทำ หลวงปู่ทับท่านก็บอกให้แก้ไขพิมพ์ใหม่ ให้รู้ว่าองค์ไหนคือพระองค์ไหนคือท้าวผกาพรหม

    หลวงพ่อทับท่านได้กล่าวว่า
    ด้วยพุทธบารมีที่พระพุทธเจ้าได้โปรดท้าวผกาพรหมนั้น ท่านได้แสดงปาฏิหาริย์ไปปรากฏในพรหมโลก โปรดท้าวผกาพรหมโดยใช้ฤทธิ์และอภินิหาริย์โดยแท้ ซึ่งอานุภาพเหรียญหล่อนี้ จะมีไว้เพื่อคลายทิฏฐิความเห็นผิดในใจ ผู้บูชาจะระลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นอนุสติ ไม่ถูกฝ่ายมารครอบงำ หลุดพ้นจากอวิชชาทั้งหลาย แม้ขัดข้องสิ่งใดจะได้รับการช่วยเหลือการสงเคราะห์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยฤทธิ์แลอานุภาพ ทั้งยังเป็นที่เกรงกลัวของภูติผีปีศาจและเหล่ามารทั้งปวง ซ้ำยังนิราศโรคนิราศภัยร้ายทั้งหลาย เมื่อได้อาราธนาจะไม่มีโรคาพาธเบียดเบียนปลอดภัยจากโรคระบาด เป็นการนำพุทธและพรหมมาเกื้อกูลผู้ที่อาราธนาไปพร้อมกัน ที่เรียกว่าพระซ่อนหานั้น เพราะใครได้ไปได้ดีขึ้น ปรากฏเกียรติยศ ร่ำรวยกันทุกคน ดุจดังว่าได้สิ่งค้ำคูณเกื้อหนุนดวงชะตา ด้วยองค์พระนั้นสื่อความหมายว่าท้าวผกาพรหมไม่สามารถหาพระพุทธองค์พบเช่นไร เวรกรรมอันจะมาเบียดเบียน ทุกข์โทษภัยสิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่ตามติดผู้ครอบครองอยู่ก็หาตัวเราไม่พบเช่นนั้น ดุจดังว่าเรานั้นเป็นอากาศธาตุจะเพียรหาตามติดด้วยวิธีใดก็หลุดพ้นไปได้โดยพุทธานุภาพ ทั้งนี้ท่านยังได้เมตตาบอกพระคาถาที่จะใช้ในการเสกและการอาราธนาให้ด้วย ท่านว่าเมื่อทางสะดวก ปราบและกำราบคนที่คิดไม่ดีกับเราหมดแล้ว จะทำอะไรก็เจริญรุ่งเรือง จะเอาดีทางโลกก็ไร้เสี้ยนหนาม จะเอาดีทางธรรมก็ไม่มีอุปสรรค เพราะชั้นถือว่าปราบนี่คือปราบหด ปราบราบคาบแม้แต่กิเลสในใจตน ก็ตั้งจิตอธิษฐานกันเองระลึกให้ดีว่าจะเอาดีทางโลกหรือทางธรรม ยิ่งเมื่อเสริมกันกับอานุภาพธาตุกายสิทธิ์และพลังฤทธิ์เทวราชที่ดูแลรักษา ตลอดจนพ่อท้าวผกาพรหม และสมเด็จพระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว หายห่วงได้ทุกเรื่อง ฝากชีวิตไว้ได้ พ่ออาจารย์ท่านได้หล่อเหรียญปราบโลกไพรีพินาศพุทธพรหมซ่อนหาไว้ด้วยวัชรธาตุหยาดน้ำฟ้าทวาราวดี นำมาผสมกับเหล็กสังขวานรเก่าพระอุโบสถอยุธยา เข้าด้วยตะกั่วน้ำนมพระท่ากระดานชำรุด ผสมแร่เงิน และปรอทป่า จนหลวงพ่อทับท่านบอกว่าได้เช่นนี้ก็เป็นกายสิทธิ์แล้ว พลังหนักหน่วงแต่กลับเย็น..เบาและสบาย..ดี.ดีมากๆ

    พ่ออาจารย์ว่า
    เหรียญนี้ตอนเสกนั้นท่านลงวิชาสูตรหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าไว้ที่องค์พระ โดยใช้รัศมีกายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฉาบเคลือบไว้ทุกเหรียญ แบบที่หลวงปู่ศุขท่านทำเหรียญรัศมีซุ้มประภามณฑล จนปรากฏว่าหลวงปู่ศุขท่านมาอนุโมทนา เป่าเหรียญลงวิชาให้เองทีละเหรียญ ท่านว่าวิชานี้ดี คุ้มได้ทั้งหมด เป็นดั่งแสงสว่างส่องนำทางให้กับเรา ต่อไปไม่มีวันมืดบอดอับจน เปิดแล้ว สว่างแล้ว รัศมีพระสัพพัญญูตกต้องถึงเราแล้ว ทำอะไรจะไม่ตกอับอีกแล้ว โดยในส่วนของพระรูปด้านล่างที่เป็นองค์ท้าวผกาพรหมนั้น พ่ออาจารย์ท่านให้เสด็จปู่ผกาพรหมมาแฝงกายทิพย์ของท่านลงไปเอง พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าคนไทยนี้ สมควรจะรู้ไว้นะท้าวผกาพรหมนี่แหละท่านมีความเป็นห่วงผูกพันธุ์กับคนไทยมาก เพราะพวกเราเคารพและไหว้ท่านกันมานานด้วยไปเข้าใจผิดว่าท่านเป็นพรหมของพราหมณ์ เป็นพรหมสร้างโลกลิขิตชะตามนุษย์ เมื่อท่านมีความผูกพันธ์ท่านก็จะเป็นธุระคอยช่วยเหลือให้ในเบื้องบน คอยหาเหล่าเทพ พรหม โพธิสัตว์ให้มาจุติช่วยเหลือบ้านเมืองมาตลอดทุกยุคทุกสมัย นี่เลยหัวแรงมีบุญคุณเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมลูกหลานไทยอย่างแท้จริง พอรู้ว่าเป็นเรื่องของไทยนี่ท่านเอาเป็นธุระหมด ระลึกถึงพระคุณของท่านและอธิษฐานขอพรจากท่านดู เป็นคนไทยเป็นลูกหลานไทย ท่านไม่เพิกเฉยต่อคำร้องขอและอธิษฐานหรอก เพราะท่านมีน้ำพระทัยกรุณา จะตั้งจิตขออะไรก็ขอจากองค์ผกาพรหมนี่จะไวกว่าขอองค์พระนะจำไว้ องค์ผกาพรหมนี่จิตท่านก็สูงสุดในพรหมโลกแล้วเพราะเป็นมหาพรหมอนาคามี บารมีท่านไม่ธรรมดา เราเลยตั้งใจแกะรูปท่านในปางประทานพรเหมือนกลายกลายว่าให้ท่านให้พรคนที่เขาขอทุกเรื่อง ขอแล้วต้องช่วยเช่นนั้น เมื่อเสกนั้น ท่านนำเหรียญมาแช่น้ำมนต์ 9 สถานที่ ที่ผุดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ทั้งในบ่อ ในถ้ำ และในเศียรพระพุทธรูปโบราณ ที่ท่านรวบรวมไว้ ท่านว่าน้ำเหล่านี้ผุดเอง มาเอง ตักเท่าไหร่ก็ไม่หมด คนใช้จะได้มีกินมีโชคงอกเงย ผุดเองได้เองเรื่อยๆ และท่านก็ลงวิชาของท่าน เชิญครูท้าวผกาพรหม ตลอดจนขอความอนุเคราะห์จากหลวงปู่ศุข หลวงพ่อทับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำมาลงวิชาให้เพิ่มอีกคำรบหนึ่ง ซ้ำยังปรากฏญาณของสมเด็จพระพุฒนาจารย์(นวม)วัดอนงค์อีกด้วย เรียกว่าดีเหนือดีเลยเพราะหลวงปู่ทับคงจะอาราธนาท่านมาเสริมให้

    คาถาบูชา
    สุวัณณรัชชตัง จะระวะมัยหัง เทหิสาสะเต คฤหบดีเศรษฐี กุมภะโฆสะกะเศรษฐี เมณฑะกะเศรษฐี ธนัญชัยยะเศรษฐี ทุคคะตะเศรษฐี อนาถะบิณฑิกะเศรษฐี ปุริโสวา อิตถีวา ทาสีวา ทาสาวา สุวัณณัง รัชชะตัง วัตถังวา โอมมะหาสุนทริโพธิสัตโตจะ เทวะมนุสสานัง ตะระมาโภคาวะ ขิปปังขิปปะ มะหา สัมปัตติสุขัง สะระกะธะนัง อะหังวันทามิ สิทธิสะวาโหม(* ให้สวดและอธิษฐานตามแต่ใจจะปรารถนา ระลึกถึงพระพุทธานุภาพเป็นที่สุด ท่านว่าเคล็ดลับ ให้สวมคอบูชาปกติอย่าไปตั้งความหวังสิ่งใด ประกอบสัมมาอาชีพไปโดยปกติ ขอท่านเฉพาะในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น เดี๋ยวสิ่งดีๆก็จะเข้ามาด้วยตัวของมันเอง)

    อาราธนาพระเจ้า 84,000 ปราบทุกข์เข็ญ
    นาสสะ โจรา ปัสสะ หันติ นาติ มัญเญติ ขัตติโย สัพเพ อมิตเต ตรัสติโย ปิตตานัง นะทุพภะติ (ทุกข์จะคลาย เคราะห์จะหมดกาลแห่งทุกข์นั้นจะคลี่คลายไปอย่างรวดเร็ว)

    อาราธนาเหรียญปราบโลก
    ยะวะ อรหัง กะวิทู อิกะนาโถ โลกะนาโถ กะวิทู เวคะ สะหะกะ กัมมะ ถะละสัตตารา พรัมมะสิริ พรัมมะวังนัง พรัมมะสุขัง พรัมมะรูปัง พรหมันนิพพานัง อนิโสสะ สิวังพุทธัง ถ้าใช้ภาวนาสวดเฉพาะท่อนนี้ (พรัมมะสิริ พรัมมะวังนัง พรัมมะสุขัง พรัมมะรูปัง พรหมันนิพพานัง อนิโสสะ สิวังพุทธัง)

    *** องค์มหากำเนิดธรรมอนันตคุณพ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ 7 องค์ แต่ท่านได้บรรจุไว้ในพระเจดีย์ที่ท่านเคยสร้างให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษษพระธาตุเจดีย์องค์หนึ่ง(ท่านเลือกเช่นนี้องค์พระย่อมต้องมีพุทธคุณสูงสุดอย่างแท้จริง) และท่านอาราธนาเององค์หนึ่ง จึงมีให้บูชาเพียง 5 องค์เท่านั้น ผู้ใดปรารถนาบูชาองค์มหากำเนิดธรรมนี้ให้แจ้งจองเฉพาะทางPM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ารุ่นนี้ท่านได้อธิษฐานประสิทธิ์เชิญครูไว้อย่างดีมานานมากแล้ว...ไม่ต้องทำอะไรอีกใช้ได้เลยายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา องค์มหากำเนิดธรรมอนันตคุณพระเจ้าจักรพรรดิ 84,000 ตรึงไตรภพ (ฝังเหรียญปราบโลกไพรีพินาศพุทธพรหมซ่อนหา) บูชา 4,000 บาท


    96285913-234301244467521-7035681932981567488-n.jpg 95383249-279293416804348-868773636603904000-n.jpg
    95707135-2935025056589103-5714471467844894720-n.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญข้ามโลกสัปตภูมิพระเจ้าข้ามเจ็ดมหาทุกข์ (เหยียบสวรรค์หริรักษ์จักรแก้ว)

    " เมื่อชีวิตผู้ใดตกอยู่ในมหาทุกข์ ก็ค่อยอาราธนาเหรียญก้าวข้ามสัปตภูมิภูมิอันจะคลี่คลายต้นเหตุแห่งกองทุกข์ในชีวิตทั้งสิ้น "

    " เราคือเจ้าของทุกสรรพสิ่ง
    เราคือนายเหนือหัวที่เต็มไปด้วยอำนาจในการควบคุมธรรมชาติของเราเอง
    เราได้ใช้อานุภาพของเรา เนรมิตให้เราได้เกิดมา
    เมื่อใดที่ความถูกต้องเสื่อมลงและความไม่ถูกต้องเจริญขึ้น เราจะกลับมาเกิดอีกครั้ง
    เพื่อปกป้องผู้ที่กระทำถูกต้องและเพื่อทำลายผู้กระทำไม่ถูกต้อง
    เราจะนำสิ่งที่ถูกต้องกลับมาและให้ตั้งอยู่เช่นเดิม....เราจะกลับมา "

    เพื่อหวังผลในการเนรเทศเคราะห์หามยามทุกข์ทั้งหลายให้พ้นตัวทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าครูท่านกำหนดไว้ชัดเจนต้องทำสิ่งแทนองค์พระนารายณ์เท่านั้น ตัวพ่ออาจารย์ท่านก็เห็นว่าเป็นโอกาสอย่างดีจะได้ทำเครื่องมงคลแทนครูองค์พระวิษณุเจ้าให้ผู้มีศรัทธาทั้งหลายได้มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่ตนปรารถนาไปพร้อมกันทีเดียว เช่นนั้นท่านจึงหล่อพระนารายณ์สำคัญชุดนี้ไว้เป็นอาถรรพ์ด้วยพระนารายณ์เป็นมหาเทพผู้ปราบยุคเข็ญ เพราะเหตุนี้ท่านจึงได้สร้างพระนารายณ์เพื่อไถ่ถอนกลียุคในกาลข้างหน้า เพราะพระนารายณ์นับเป็นเทพเจ้าสูงสุดที่มีเทวฤทธิ์เหนือเทพเจ้าอื่นโดยมีหน้าที่ปราบปรามจักรวาลทั้งเป็นมหาเทพผู้อำนวยความสุข,ความสงบ,ความสบายให้ถึงพร้อมแก่ผู้บูชา แม้คราวใดที่โลกหรือศิษย์มีทุกข์เดือนร้อนจะถึงกาลแตกดับ พระนารายณ์ก็จะอวตารลงมาปราบปรามสร้างความสงบสุขแก่โลกทุกครั้งไป เรียกว่าเมื่อเดือดร้อนคราใดก็มีท่านนี่แหละคอยคืนความสุขให้ครานั้น...เช่นนี้คนที่เดือดร้อนก็ต้องพึ่งท่านเท่านั้น นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้ธำรงค์รักษาจักรวาล สถาปนาระบบคุณธรรมขึ้นในโลกให้มนุษย์และเทวดามีแนวทางการบำเพ็ญบุญเป็นกุศโลบายก็ว่าได้ เหรียญนี้จึงศักดิ์สิทธิ์เสมอด้วยองค์พระอวตารนั้นอยู่กับเรา

    ด้วยอาถรรพ์พระเวทย์โบราณนั้นของ # เหรียญพระเป็นเจ้าข้ามโลกสัปตภูมิ...ชีวิตจะจำเริญซึ่งเกียรติยศอย่างยิ่ง

    ปฐมพรหมท่านโองการให้พ่ออาจารย์สร้างเหรียญนี้เพื่อข่มอาถรรพ์และล้างอาถรรพ์ที่กัดกินต่อต้านกระแสบุญของชีวิตมนุษย์ โดยใช้รูปของพระนารายณ์เป็นเจ้าปางข้ามสัปตภูมินั้น...เพราะการย่างก้าวของพระภควาณเป็นเจ้านั้นท่านข้ามซึ่งภูมิทั้งเจ็ดด้วยการย่างพระบาทสามก้าว พระองค์ทรงทอดร่มเงาผ่านภูมิทั้งเจ็ดและมหาจักรวาลไว้ ดุจในเวลานั้นพระเป็นเจ้าท่านบังเงาปกคลุมทั้งพรหมโลก,สวรรค์,มนุษย์,บาดาล,นรกภูมิ..แม้อากาศและห้วงอวกาศน้อยใหญ่ทั้งสิ้นเสมอด้วยร่มเงาของพระองค์ห่อหุ้มสรรพสิ่งทั้งปวงไว้เช่นนี้แล พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยอาถรรพ์แห่งพระเวทย์และองค์ศรีหริการย่างก้าวสัปตภูมินี้ของท่านจึงเป็นกำลังขององค์แห่งแสงสว่างที่ปรากฏขึ้นฉับพลัน(เป็นองค์แห่งแสงเฉพาะของพระเป็นเจ้า)เหนือกว่าองค์แห่งแสงใดๆที่ปกคลุมทั้งเจ็ดภูมินั้นไม่ว่าจะองค์แห่งพระอัคคี,พระสุริยาทิตย์หรือองค์แห่งแสงในมหาจักรวาลก็ตาม เมื่อตกอยู่ใต้รัศมีและร่มเงาของท่วงทำนองแห่งการข้ามสัปตภูมิในองค์ศรีหริแล้วก็เสมือนทิ้งชีวิตไว้ในบารมีพระองค์นั่นเอง ด้วยโองการแห่งปฐมพรหมวิชาย่างก้าวผ่านสัปตภูมินี้มีอาถรรพ์เสมอด้วยการก้าวล่วงเหตุที่จะก่อให้เกิดทุกข์ทั้งเจ็ดประการ(สัปตะก็คือเจ็ด ท่านว่าเจ็ดภูมิ เจ็ดทุกข์)
    - เวทนาทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในอนิจจังแห่งเวทนา
    - วิบากทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในวิบากกรรมแต่หนหลังที่ต้องรับ
    - กิเลสทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในโทษแห่งกิเลส
    - ตัณหาทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในโทษแห่งความอยากเกินพอดีที่ไม่อาจหยุดได้
    - อุปทานทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในโทษแห่งความยึดมั่นถือมั่น
    - สัญญาทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในโทษแห่งสัญญาความจำได้หมายรู้
    - อวิชชาทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในท้ายที่สุดแห่งสรรพสิ่ง
    ด้วยมหาทุกข์ทั้งเจ็ดนั้นเป็นบ่อเกิดเป็นโคตรเหง้าแห่งกองทุกข์ทั้งปวงที่ชีวิตต้องผ่านไปให้ได้ เพราะชีวิตต้องก้าวต่อไป ต้องก้าวไปข้างหน้าและจะยิ่งจำเริญเกียรติยศหากก้าวหน้าได้เร็วไว เมื่อฝากชีวิตไว้กับองค์ศรีหริ ..ใช้การย่างพระบาทเหยียบพรหมโลกผ่านสัปตภูมินี้เป็นอาถรรพ์ดันชีวิตตน เหรียญนี้ท่านว่าเพียงยกขึ้นจบหัวนึกถึงคุณองค์นารายณ์ชีวิตจะถอยหลังไม่ได้ จะหลับตาลืมตาตื่นวันใดมีแต่ต้องก้าวหน้าต่อไปทุกวันไม่หยุดอยู่กับที่หรือถอยลงเหว เพราะศรีหริท่านรับเป็นภาระในการสงเคราะห์เราไว้ใต้ร่มเงา ทั้งการย่างพระบาทผ่านเจ็ดภูมินั้นเป็นการประกาศชัยชนะต่อท้าวมหาพลี(ยอดอสูรผู้มากบารมีที่จะได้ขึ้นเป็นพระอินทร์องค์ต่อไป) เหรียญนี้จึงนำชัยส่งพลังนำพาตัวเราพุ่งสู่ชัยชนะไม่ว่าจะทำอะไรทั้งสิ้นเอาว่าต่อไปนั้นแพ้ไม่เป็น ...ขอให้มีคู่แข่งและเราหมายตาสิ่งใดเป็นคู่แข่งแล้วท่านว่าจะชนะทั้งหมดเห็นชัยชนะตั้งแต่ยังไม่เริ่มทีเดียว
    เหรียญข้ามสัปตภูมินี้ตกแก่ใครดุจตัวเขาเดินเหยียบอยู่ใต้ร่มเงาแห่งศรีหริ(วิษณุเจ้า)จะปิดกั้นตัวเขาออกจากเรื่องวุ่นวายต่างๆทั้งหลายทีเดียว เพื่อให้คนใช้มีชีวิตที่ขยับเยื้อนเคลื่อนไหวได้แบบก้าวกระโดด ด้วยปัจจุบันท่านเห็นว่าคนเริ่มน้ำตาตกในเจ็บช้ำน้ำใจจากภัยรอบด้านด้วยไม่อาจต่อต้านหรือเปลี่ยนแปลงวงจรชีวิตของตนให้ดียิ่งๆขึ้นไปได้ ท่านจึงทำอาถรรพ์ "วิชาข้ามโลกสัปตภูมิ" นี้ขึ้นเพื่อประสงค์จะชะลอกรรมเก่า..ทั้งหยุดวิบากใหม่ด้วยวิชาและแรงองค์ศรีหรินั่นเองดุจท่านย่างเท้าก้าวเข้ามาในชีวิตเรายื่นขาเดินเข้ามาร่วมชะตากรรมอยู่กับเราเรียกว่าตกบันไดพลอยโจนทิ้งตัวลงมาอยู่กับเราเต็มขั้นแล้วเช่นนั้นก็ว่าได้ เช่นนี้แรงครูจะช่วยให้เจริญรุ่งเรืองได้อย่างน่าประหลาดใจ ที่แย่กลับเป็นรุ่ง จากดวงที่ตกต่ำกลับได้ดีเจริญด้วยธนสารสมบัติ ทั้งยังปราบศัตรู ปราบทุกข์เข็ญพิชิตมาร ทำให้สิ่งที่ข้องขัดและแน่นิ่งไปแล้วไหลลื่นสามารถก้าวต่อไปได้เรื่อยๆไม่หยุดอยู่กับที่และไม่ถอยหลังลงด้วยอาถรรพ์คุณวิชาข้ามโลกสัปตภูมิ เช่นนั้นจึงมีคติไว้ว่าผู้ใดรับไปอาราธนานั้นต้องมีบุญสัมพันธ์กับองค์ศรีหริโดยแท้จริงเพราะเขาจะใช้ชีวิตดุจเดินเหยียบอยู่ในร่มเงาของพระเป็นเจ้าเพื่อหวังอานิสงส์ให้กำราบทุกข์เข็ญ,ความอดอยาก,แห้งแล้ง และโรคภัยนานาประการที่กำลังเป็นอยู่ เพื่อประโยชน์ใหญ่ที่จะเห็นแจ้งแก่ตนเองว่าไม่ช้าไม่นาน ทั้งอาเพศ,ภัยร้าย,ทุกข์เข็ญ,ความอดอยาก,สิ่งอันขาดแคลนและโรคที่ย่ำยีทั้งหลายจะค่อยๆหมดไปอย่างน่าอัศจรรย์ ให้ผู้ใช้อยู่รอดปลอดภัยจากทั้งภัยของมนุษย์ที่พยายามคุกคาม,ทั้งภัยจากอมนุษย์,ภัยจากธรรมชาติและภัยที่มีอันตรายจนอาจทำให้เจ็บให้ตายได้ เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยมีกินมีใช้ต่อเนื่องไปจนถึงกาลดับซึ่งธาตุสังขาร ทั้งยังส่งเสริมให้มีวาสนาและบารมีเหนือผู้อื่นๆแลมีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพหน้าที่การงานที่คิดจะทำ ได้เป็นเจ้าคนนายคนหรือประสบความเจริญรุ่งเรืองในกิจธุระแห่งตนมีชีวิตขยับเยื้อนเคลื่อนไหวได้แบบก้าวกระโดด

    ### พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญพระนารายณ์ฉันรุ่นนี้
    ไม่ได้ทำไว้ให้ใครเอาไปออกรบตามความเข้าใจผิดๆของคนว่าท่านเป็นพนักงานบู๊ล้างผลาญเช่นนั้น แต่เหรียญนี้เป็นย่างก้าวที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายในสังสารวัฏ เพื่อข้ามไปให้พ้นผ่านปัญหาทุกสิ่งไม่ว่าจะปัญหารัก,ปัญหาชีวิต,ปัญหาครอบครัว,ปัญหาสุขภาพ,ปัญหาการทำกิน,ปัญหาดวงตกดวงแตก,ปัญหา...ทุกสิ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปัญหาล้วนข้ามพ้นทั้งสิ้นไม่ต้องเสียเวลาไปแก่งแย่งแข่งขันเลย *** เหรียญนี้เอาเร็วเข้าว่า พูดกันด้วยเวลา เห็นๆอยู่ว่าปัญหามันมีก็แค่ก้าวข้ามมันไปเพียงเท่านี้ไม่ต้องเปลืองตัวลงไปแก่งแย่งแข่งขันกับใคร

    หากชีวิตยังไม่มีที่เหยียบที่ยืนจะทำอะไรก็ยากลำบาก ลงทุนลงแรงเหนื่อยปานจะตาย ไม่มีฐานให้ยึดไม่มีหลักให้เกาะ..ให้ก้าวได้มั่นคง ชีวิตที่ต้องกะโดดบ้าง มีสะดุดบ้าง มีล้มลุกบ้างต้องเจ็บตัวเปล่าเพราะขาดความมั่นคง เหรียญอาถรรพ์วิชาย่างสัปตภูมินั้นย่อมแก้ไขได้ให้เราก้าวขึ้นไปอย่างมั่นคงบนเส้นทางซึ่งมีแรงครูคอยกำหนดชี้ช่องทางตามฉากลีลาแห่งโลกธาตุทั้งหลายจะได้สำเร็จทุกกิจทุกความปรารถนา..เสมอด้วยองค์พระศรีหริย่างพระบาทหนึ่งก้าวก็กวาดผ่านสวรรค์แตะพรหมโลกในร่างพราหมณ์แคระตัวสั้นขาสั้น (นั่นคือทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ทำสิ่งที่ใครๆก็คิดว่าเราทำไม่ได้แม้ใครๆก็ดูถูกเราขนาดคนแขนขายาวดีๆก็ยังทำไม่ได้..แต่องค์นารายณ์ท่านทำได้ ทำให้เกิดขึ้นรวดเร็วทันตาฉับพลันทันที *** ไม่ต้องเปลืองแรงหรือใช้ความพยายาม) เพื่อแก้กฏของกรรมให้คนมีที่ยืนมีชีวิตที่ก้าวหาความสูงส่งได้ด้วยตนเอง เหรียญคุณวิชานี้แม้รับไปก็จะค่อยๆคลายกฏของกรรมออก กฏใดที่ผูกมัดรัดตัวจะย่อหย่อนลงพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ได้ไปทำลายหรือริดรอนเขานะเพราะผิดกฏมหาวัฏจักรหากแต่จะคลายตัวลงจนสิ้นกำลัง อะไรที่ว่ายากในชีวิต ไม่เคยได้รับ ไม่เคยสำเร็จ ต้องเหนื่อยน้ำตาเป็นสายเลือดก็ยังไม่ได้รับ เมื่อกฏของกรรมที่ผูกมัดคลายตัวก็จะได้ขึ้นมาทันที นี่คืออาถรรพ์การก้าวข้าม..ก้าวพ้นเหตุแห่งมหาทุกข์ทั้งเจ็ดแม้ภพภูมิทั้งหลายก็ยังข้ามมาแล้วนับประสาอะไรกับเคราะห์กรรมและอุปสรรค เพื่อให้สาวกคนที่ระลึกถึงองค์ศรีหริทำอะไรก็สำเร็จโดยง่ายเปลี่ยนชีวิตคนได้ง่ายๆทำให้ฐานะเปลี่ยนแปลงทำอะไรต้องได้ผลไม่เหนื่อยและไม่ต้องลงแรงมาก ด้วยการมาปรากฏขององค์ศรีหริคือการสิ้นสุดของกลียุคสิ้นสุดความเดือดร้อนทุกข์ยากความลำบากทั้งหลาย ท่านว่าสรรพชีวิตนั้นล้วนจะเวียนว่ายไปตามกระแสโลกแลกฏแห่งกรรมของตน แต่เมื่อนารายณ์มาทุกข์ต้องไปแม้กลียุคอันชนต้องประสบกันทั้งโลกยังแก้ไขได้เช่นนั้นมหาทุกข์ใดๆในชีวิตเราย่อมถึงจุดสิ้นสุดได้ ###..นี่คือประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าศรีหรินะบอกได้เท่านี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจุดนี้เราต้องสำรวจตนเองว่ชีวิตเรานั้นผจญอยู่ในมหาทุกข์หรือไม่ โดนใครคดโกงหรือเปล่า ตกอยู่ในความเสื่อมทั้งตัวเราเองที่เสื่อมหรือสังคมรอบข้างที่เสื่อมหรือไม่..มีชีวิตมืดมนหรือไม่..มีชีวิตสับสนวุ่นวายหรือไม่ ซึ่งความมืดมนทั้งหลายนี้เองมักจะมาในเรื่องของการงาน,ความรัก,ปากท้อง,ฐานะ,ปัญหาครอบครัวหรือสังคมแวดล้อม ถ้ารู้ว่าชีวิตหนีจากเรื่องเหล่านี้ไม่พ้นก็ยกให้เป็นเรื่องขององค์ศรีหริพาเราก้าวข้ามไปโดยฉับพลันทันที เพราะพระองค์ลงมาปราบยุค,ล้างอธรรมเป็นหน้าที่ตายตัวที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับมวลมนุษย์

    นอกจากนี้ปกตินั้นพระนารายณ์ตำรับพ่ออาจารย์ก็มีเทวคุณคุณสูงอยู่แล้ว เป็นที่รู้กันว่าใช้ได้ทุกทาง ทั้งหนุนดวง เสริมดวง และยังมีคุณด้านมหาปราบ ปราบสิ่งเลวร้าย ขจัดทำลายอุปสรรคขวากหนามเคราะห์กรรมต่างๆแม้คนทำมาหากินประกอบอาชีพกิจการงานใดๆ พระนารายณ์ของท่านก็จะช่วยเสริมดวงชะตาและหนุนกิจการงานต่างๆให้ดีขึ้น เช่นนั้นคนที่รู้ว่าพระนารายณ์ของพ่ออาจารย์ท่านให้คุณมากจึงมักนิยมกันอยู่มากถึงขนาดว่าแม้ท่านจะแกะสลักองค์ใหญ่เท่าโทรศัพท์ไอโฟนก็ยังมีผู้มีอันจะกินยอมห้อยบูชาไม่ห่างตัว เมื่อพระนารายณ์เสด็จปราบจักรวาลถือเป็นมหาปราบชั้นสูงเหนือเทพ,พรหม,ยม,ยักษ์ทั้งปวง ทั้งคนที่บูชาพระนารายณ์ของท่านถึงมีศัตรูหมู่มารก็จะถึงกาลพ่ายแพ้แก่บารมี มีชัยชนะ มีเดช มีศรี มีตบะเดชะ เป็นมหาอำนาจแก่ผู้พบเห็น เป็นทั้งมหาปราบ มหาอำนาจชั้นสูง ด้วยแรงครูจะผลักให้ชีวิตเจริญก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ใช้ป้องกันได้สารพัด แม้นึกคิดสิ่งใดก็สมใจปราถนา กลับดวงจากร้ายกลายเป็นดีได้ จากดีก็ดีมากขึ้นเป็นทวีคูณ รู้ๆกันว่าขอแค่เป็นคนที่เดือดร้อนได้ใช้พระนารายณ์ตำรับพ่ออาจารย์แล้วที่เห็นๆมาก็ได้ผลดีชีวิตก้าวหน้าไม่ตกยากทุกราย พลิกดวงชะตาให้ดีขึ้นได้หมด ดุจพระนารายณ์อวตารลงมาปราบยุคเข็ญให้แผ่นดินร่มเย็นทั้งพลิกฟ้าหนุนดวงชะตาชีวิตให้ดีขึ้นได้ ซึ่งก่อนหล่อเหรียญนี้พ่ออาจารย์ท่านต้องหลอมรีดธาตุกายสิทธิ์ลงคาถา"นารายณ์ก้ามข้ามสัปตภูมิ" เป็นประธานแก่วิชานารายณ์ทั้งหมดก่อนจะลงแผ่นชนวนนารายณ์อวตารทั้งสิบปางใหญ่เป็นชนวนสำคัญในการหล่อรูปครูเพื่อจะทำพระนารายณ์ตำรับฮินดูอย่างแท้จริง ทั้งยังเตรียมมวลสารที่เกี่ยวเนื่องด้วยการทำวิชาของพระนารายณ์ทั้งสิ้นเอาไว้เป็นการเฉพาะด้วยได้แก่แผ่นชนวนที่ได้การถอดยันต์นารายณ์อวตาลทั้งร้อยแปดปางลงจารลงถมย่อสูตรพิศดาร,ชนวนนารายณ์เปิดโลก,ชนวนแผ่นจารนารายณ์ปราบเก้าโลก,ชนวนวิชานารายณ์สิบปาง,ชนวนวิชานารายณ์เบิกฟ้า,ชนวนวิชานารายณ์เบิกป่า,ชนวนนารายณ์เบิกบาดาล,ชนวนโองการพินธุนารายณ์,ชนวนนารายณ์ปราบไตรจักร,ชนวนนารายณ์พลิกแผ่นดิน,ชนวนนารายณ์กลึงจักร,ชนวนนารายณ์เกลื่อนสมุทร,ชนวนนารายณ์ตวาดป่าหิมพานต์,ชนวนนารายณ์เตล็ดไตรจักร,ชนวนนารายณ์ขว้างจักร,ชนวนนารายณ์ทรงเมือง,ชนวนนาราย์ถอดรูป,ชนวนนารายณ์แปลงรูป,ชนวนนารายณ์บันลือสีหนาท..ท่านได้นำชนวนสำคัญนี้มาหล่อหลอมเป็นแท่งก่อนจะแช่น้ำมนต์ปลุกเสกวาระหนึ่งก่อนพ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อทำพระนารายณ์แล้วจะให้ชีวิตคนใช้ร้อนเกินไปไม่ได้ จะดุเกินไปก็ไม่ได้ เพราะคติแต่โบราณเจ้านายเหนือหัวก็เชื่อกันนักหนาว่ารูปพระนารายณ์นี้เป็นของร้อน พ่ออาจารย์ท่านว่าหากทำเป็นจะไม่ร้อนเลยซ้ำด้วยคุณพระนารายณ์จริงๆนั้นเป็นเทวะกษัตริย์ที่มีทุกสิ่งบริบูรณ์เพียบพร้อมจนหาสิ่งใดเสมอไม่ได้ ท่านว่าเสกประจุคุณตั้งแต่เป็นแท่งชนวนเพื่อจะทำรูปพระนารายณ์อวตารให้เกิดคุณสูงสุดกับมนุษย์เท่านี้องค์นารายณ์ก็จะบรรดาลให้สิ่งที่พวกเธอปรารถนาสำเร็จประสงค์
    *** พ่ออาจารย์ท่านเสกชนวนจนท่านได้รับข่าวจากองค์ศรีหริแจ้งมาว่า ยุคนี้โลกตกต่ำลงสู่กลียุคอย่างรวดเร็วฉับพลัน วิชาทั้งหลายนั้นได้สถาปนาไว้ในการณ์ปกติไม่สามารถจะใช้ระงับเหตุหรือจะคุ้มโทษโทสาได้ มีแต่เราเท่านั้นที่จะนำแสงสว่างมาแทนที่ความมืดและสถาปนาความสุขนิรันดร์ให้เกิดแก่สรรพชีวิตได้ ว่าพลางก็เกิดรูปข้ามโลกสัปตภูมิขึ้นมาโดยการนิรมาณกายของพระผู้เป็นเจ้า พ่ออาจารย์ท่านจึงปั้นหุ่นเทียน..และเททองหล่อองค์พระ

    ด้านหลังองค์พระฝังตะกรุดโทนเนื้อเงินอันมีนามว่า.."ตะกรุดเบิกฟ้าบรมครูพระนารายณ์ปราบชมพู"

    ที่สุดแห่งตะกรุดครูตำรับพระวิษณุนารายณ์ที่พ่ออาจารย์ท่านได้เพียรสร้างและเสกเอาไว้เป็นอย่างดี โดยเน้นให้เฉพาะคนที่มีความทุกข์เผชิญหน้าอยู่ในกาลแห่งทุกข์เท่านั้นได้เอาไปบูชาถึงขนาดที่ว่าคนสิ้นไร้ไม้ตอก..ไม่มีเรือนคุ้มหัว..ไม่มีที่อยู่อาศัย..บ้านจะโดนยึดอยู่แล้วนั่นแหละยังพลิกร้ายกลับกลายเป็นความสุขได้มีกิจการใหญ่โตได้ ท่านจึงว่าวิชานี้ช่วยให้เจริญรุ่งเรืองได้ไวที่สุด .....ย้อนหลังไปเมื่อสามปีก่อนนั้นพ่ออาจารย์ท่านมีนิมิตรถึงครูสมเด็จโตได้แนะนำวิชาพระเจ้าเสี่ยงบารมี ท่านจึงจดจำไว้ด้วยว่าเป็นวิชาสำคัญในองค์สมเด็จบรมครูท่าน หลังจากนั้นท่านจึงได้ลงตะกรุดขึ้นมาแต่ตะกรุดชุดนั้นขรัวโตได้นิมิตรบอกท่านเสมอว่ายังไม่สมบูรณ์ยังใช้ไม่ได้พ่ออาจารย์ท่านจึงนำตะกรุดเหล่านั้นไปเป็นชนวนหล่อพระต่อไป จนกระทั่งท่านได้ลงตะกรุดเบิกฟ้าบรมครูพระนารายณ์ปราบชมพูนี้ท่านจึงนำวิชาพระเจ้าเสี่ยงบารมีมาลงเสริมเข้าไปจึงเป็นอันว่าใช้ได้และสอดรับกันอย่างถึงที่สุด

    ตะกรุดเบิกฟ้าบรมครูพระนารายณ์ปราบชมพูนี้เป็นเวทย์วิชาหนึ่งที่พ่ออาจารย์อธิบายว่า พระนารายณ์นั้นท่านเป็นใหญ่ในตรีโลก เวลาโลกไหนเขามีเรื่องเดือดร้อนปั่นป่วนจะเป็นธุระท่านต้องไปแก้ไขคลี่คลายสถานการณ์ต่างๆเสมอ แม้จะร้ายแรงถึงขั้นปราบปรามก็ทรงต้องทำเอาว่าเรื่องร้าย,กาลแห่งทุกข์,ความเดือดร้อน,กลียุคทั้งหมดทั้งสิ้นฉิบหายหมด เหลือแต่ความสุขสงบและสันติภาพด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้อวตารลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อจะล้างโคตรยักษ์มารและอสูรใจพาลทุจริตทั้งหลายตนแล้วตนเล่าให้สิ้นโลก พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าวิชานี้ไม่มีคนทำและท่านอยากให้ผู้ที่มีบุญญาบารมีคู่ควรแก่กันได้ใช้เป็นของคู่กาย จึงได้เสี่ยงสัตย์ขอองค์ศรีหริวิษณุนารายณ์เสียซักหนซึ่งท่านก็ได้อนุญาติให้พ่ออาจารย์ทำไว้เพื่อใช้ฝังเหรียญย่างก้าวสัปตภูมิอีกครั้งหนึ่ง

    ตะกรุดเบิกฟ้าบรมครูพระนารายณ์ปราบชมพูนี้ด้วยอาศัยคุณแห่งศรีหริวิษณุเทพเป็นปฐม มีคุณยิ่งใหญ่สามารถเบิกฟ้าเบิกดินเปลี่ยนชีวิตที่มืดมิดก็ให้พลันสว่าง
    ที่ว่าอับเฉาแห้งเหี่ยวไปก็ให้กลับอุดมสมบูรณ์เรียกว่าเปลี่ยนฟ้าเปลี่ยนชีวิตกันทีเดียว ที่แล้วก็แล้วกันไป..ดุจว่าเบิกฟ้าใหม่..รับอรุณดวงใหม่..มีชีวิตใหม่ ซ้ำยังมีอานุภาพเป็นมหาปราบคือปราบหมดซึ่งเสี้ยนหนามอุบาทวอันตรายทั้งปวง ท่านว่าทั้งสกลชมพูทวีปนี้หามีใครเอาชนะเราได้ไม่ ป็นที่สุดแห่งชัยชนะ จะทำการณ์กิจสิ่งใดแพ้ใครเขาไม่เป็นปราบทั่วทั้งชมพูมีชัยทั่วพื้นพระธรณีด้วยอานุภาพแห่งตะกรุดนั้นพ่ออาจารย์ได้ชักยันต์ลงวิชาโดยที่ระหว่างลงนั้นท่านได้กลั้นใจทำคาบสมาธิร่ายประสิทธิ์ด้วยเวทย์วิษณุมนต์เพื่อให้ตะกรุดนี้เป็นมากกว่าวิชานารายณ์หรือเป็นเพียงวิชาสามัญธรรมดาทั่วไป แต่ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเปรียบเสมือนหนึ่งเป็นครูพระนารายณ์โดยแท้จริงที่ผู้บูชาสามารถเข้าถึงได้ด้วยศรัทธา เมื่อลงรูปปลุกยันต์นั้นท่านได้ลงจารเป็นนารายณ์สะกดมารไว้ใต้ฝ่าเท้าซึ่งท่านว่าวิชานี้มีอาถรรพ์แรงนักแต่โบราณครูบาอาจารย์จึงไม่นิยมลงปลุกกันเพื่อมอบให้ศิษย์หากไม่รักและเชื่อใจกันจริง ด้วยท่านว่ายักษ์นั้นเป็นตัวแทนของความทุกข์อวิชชา ความตกต่ำยากแค้นลำบากจะเรียกว่าตัวนนทกหรือนนทุกข์ก็ได้ ไอ้ตัวทุกข์หรือเจ้าแห่งความทุกข์นี่แหละที่พระนารายณ์ท่านเหยียบท่านสะกดไว้เป็นอุบายที่ความทุกข์ยากลำบากทั้งหลายแต่นี้ต่อไปอย่าได้บังเกิดมี เพราะท่านข่มท่านระงับไว้เสียหมดเช่นนั้นซ้ำยังเป็นมหาอำนาจที่ตัวเราเองนั้นจะยิ่งใหญ่อยู่จุดสูงสุด ท่านว่าต่อให้มีผู้เรืองอำนาจเพียงไหนเราเหยียบหัวคนเขาอื่นขึ้นไปหมดเขาจะเคารพเทิดทูนเรานัก

    ตะกรุดดอกนี้เป็นตะกรุดสำคัญเนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านได้ลงวิชาพระเวทย์วิษณุมนต์ไว้
    ปลุกพระนารายณ์ให้ตื่นให้ท่านข่มท่านต่อต้านความทุกข์ตลอดเวลา *** ซ้ำด้วยอานุภาพแห่งพระนารายณ์นั้น โดยปกติยังได้ชื่อว่าเป็นอริกับดาวบาปเคราะห์ทั้งหมดด้วย ก็พระนารายณ์นี่เองที่ขว้างจักรตัดกายพระราหูขาดดังนั้นพระราหูจึงเกรงกลัวพระนารายณ์มากใครมีตะกรุดนี้อยู่ท่านว่าราหูเขาหนีไกลร้อยโยชน์พันโยชน์ ยิ่งดาวบาปเคราะห์ที่ทรงอานุภาพสูงสุดอย่าพระเสาร์หรือศนิเทพก็ยังเป็นศิษย์ให้ความเคารพสูงสุดแก่พระนารายณ์เมื่อเห็นคนที่มีญาณแห่งพระนารายณ์แฝงและคุ้มครองแล้วแม้จะเป็นศนิเทพก็ย่อมจะอวยชัยให้พรไม่เข้ามาทำร้ายด้วยเคารพในครูพระนารายณ์นั่นเอง ใครที่กลัวดวงจะตกจะต้องเคราะห์กรรมคอยเป็นกังวลกับชะตาชีวิตปีนี้ดาวไหนจะจรดวงจะตกไหมจะชงไหมจะแก้อย่างไร จุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ลงวิชาพิเศษกำกับไว้เสริมให้ตะกรุดนั้นมีคุณยิ่งขึ้นไปอีกในทางต้านเคราะห์กรรมด้วยวิชาพรหมหนุนดวง อาศัยบารมีพรหมในปัญจสุทธาวาสมหาพรหมชักยันต์เชิญครูประสิทธิ์วิชา ถึงขนาดที่ท่านบอกเอาไว้ว่าวิชานี้ติดตัวไว้สบายไปเจ็ดชั่วชีวิตเพราะว่าทุกข์มันหนีไกล ช่วยไม่ได้อย่างเดียวคือตอนถึงที่ตายหากไม่ถึงคราวตายอะไรก็ทำลายเราไม่ได้ ท่านว่าวิชานี้สำคัญเพราะคนใช้เจริญขึ้นโดยส่วนเดียวไม่มีตกต่ำ แต่คนใช้อย่าใช้ในทางที่ผิดอย่าทำลายตนเองก็พอมีข้อห้ามอยู่สองอย่างคืออย่าทำลายตนเองและก็อย่าตายนอกนั้นถือขึ้นหมด

    ท่านว่าตะกรุดดอกนี้สำคัญนัก
    เพราะเป็นเมตตาแห่งครูบาอาจารย์ที่ประสงค์จะช่วยสัตว์อันผจญเวรผจญกรรมหลงอยู่ในห้วงวัฏสงสารในทั้ง 31 ภพภูมิให้หลุดออกจากทุกข์ด้วยกรุณาแห่งพระวิษณุนารายณ์ โดยพ่ออาจารย์ท่านได้ลงวิชาไว้สองส่วนผสานกันกลืนกันทั้งพุทธศาสตร์และไสยศาสตร์ ด้วยว่าจะทำให้ผู้บูชานั้นเจริญรุ่งเรืองอย่างที่สุดซ้ำยังไม่ตกไปในอวิชชาความเลวร้ายมายาภาพทั้งหลายอันจะเป็นเหตุให้ตกสู่อบายภูมิด้านในตะกรุดท่านจึงลงวิชาเบิกฟ้าบรมครูพระนารายณ์ปราบชมพูไว้และกำกับด้วยพระเจ้าเสี่ยงบารมี
    - วิชาพระเจ้าเสี่ยงบารมีนั้นเป็นวิชาสำคัญ อาศัยเหตุที่พระมหาโพธิสัตว์จะได้ตรัสพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าและจะได้มีชัยแก่กองทัพของพญาวสวัตตีมาราธิราช ซึ่งเป็นกองทัพใหญ่ที่แม้แต่จอมเทพอย่างพระอินทร์หรือท้าวมหาพรหมทั้งหลายก็ยังหวาดกลัวได้หนีการอารักขาออกไปไกลเสียขอบจักรวาฬ เป็นเหตุให้พระมหาโพธิสัตว์เจ้าได้อธิษฐานเสี่ยงบารมีจนพระแม่ธรณีได้หลั่งอุทกธารามาพัดพากองทัพพญามารนั้นหายไปสิ้น วิชานี้ที่ว่าสำคัญนั้นเพราะท่านว่าเป็นปกติที่คนเกิดมามีชีวิต จะเป็นที่พึงรักพึงชังกับสัตว์ทั้งหลาย ที่รักก็ดีไป แต่ที่ชังนั้นด้วยจิตใจมนุษย์ในปัจจุบันนี้ มีแต่จะอิจฉาริษยากันรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกคราวไป ท่านว่าต่อไปใจมนุษย์นั้นจะหยั่งยากเสียยิ่งกว่ายาก น้ำใจนิสัยก็จะพาลอำมหิตขึ้นกว่าแต่เก่าก่อน ความอาฆาตริษยามาตรร้ายจ้องแต่จะทำลายซึ่งกันและกันจะมีปรากฏไปทั่ว แม้แต่มิตรหรือญาติสนิทก็จะทำลายกันด้วยเหตุของผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย ท่านว่าสังคมอยู่ยากขึ้นกว่าเดิม วิชาพระเจ้าเสี่ยงบารมีนั้นเป็นวิชาที่เราไปอาราธนามหาบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในนิพานทุกพระองค์มาเกื้อกูลผู้บูชา ไม่เพียงแต่ศัตรูผู้คิดร้ายจะทำร้ายเราไม่ได้ ซ้ำยังจะแพ้ภัยตนเองและตกไปอยู่ในห้วงกฏแห่งกรรมต่อไป ซ้ำวิชานี้ยังสำคัญนักเมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉิน ปรารถนาจะเสี่ยงโชคลาภหรือปรารถนาจะเสี่ยงดวง จะแข่งขัน จะสอบ จะเข้าหาผู้ใหญ่ จะไปเผชิญอันตราย หรือทำสิ่งใดที่เราคิดว่ายากนะ มันไม่สามารถเป็นไปได้นะ มันไม่น่าจะสำเร็จนะ ท่านว่าให้ยกมือไหว้ตะกรุด นึกถึงคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์และสมเด็จโตเป็นที่สุดเถิด อธิษฐานขอบารมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อน จะให้ท่านช่วยอะไรเหตุผลไหนเพราะอะไรก็กล่าวไปท่านว่าสำเร็จทั้งสิ้น

    ตะกรุดดอกนี้แม้อาราธนาไว้กับตัวจะเป็นตบะเดชะ กันโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายและกันคุณไสยอวิชชาการกระทำย่ำยีทั้งปวง อาราธนาไปที่แห่งใดท่านว่าเราชนะเขาทั้งสิ้นตรงนี้สำคัญนัก *** พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้อยากให้เป็นเสน่ห์ท่านว่าจะเป็นเสน่ห์อย่างถึงที่สุดเหลือประมาณ โดยให้ผู้บูชาตั้งใจระลึกถึงคุณของพระวิษณุนารายณ์อาราธนาตะกรุดลงแช่น้ำ แล้วเอาน้ำนั้นมาสระหัวเสียท่านว่าใครเห็นใครก็รักเป็นเสน่ห์เมตตา แม้นั่งภาวนานึกถึงผู้ใดแบบเฉพาะเจาะจงท่านว่าคนผู้นั้นรักเราจนโงหัวไม่ขึ้นด้วยคุณแห่งพระนารายณ์ การใช้วิธีนี้ท่านว่าไม่จำเป็นต้องใช้ทางเสน่ห์กับเพศตรงข้ามเสมอไปจะใช้ให้เจ้านายรักเอ็นดูก็ได้ ท่านว่าแม้ทำผิดมีโทษหนักถึงตายยังอภัยได้เพราะเอ็นดูเรานัก แม้คนอื่นจะโหดร้ายคลุ้มคลั่งอย่างไรก็กลับกลายเป็นรักใคร่เราได้ เชื่อมั่นและภักดีกับเราแบบไม่เสื่อมคลายเป็นความรักแบบพิเศษเพราะเป็นรักที่ให้ความเคารพนั่นเอง

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงวิชาเต็มสูตรแล้วท่านต้องประกอบพิธีปลุกเสกแยกกันถึงสามวาระ โดยวาระแรกท่านชุมนุมครูบาอาจารย์อธิษฐานจิตตามพุทธศาสตร์เชิญองค์สมเด็จโตบรมครูมาช่วยเปิดและครอบวิชาทำทีละดอกทีละแผ่น หลังจากนั้นจึงบวงสรวงพระวิษณุนารายณ์ปลุกเสกตามพระเวทย์คติฮินดูจนมั่นใจว่ามีบารมีมีญาณของพระวิษณุนารายณ์สถิตย์อยู่แล้ว จึงนำมาอธิษฐานจิตรวมปลุกวิชาต่างๆอีกคำรบหนึ่ง ถือเป็นครั้งแรกที่พ่ออาจารย์ท่านได้มีการจัดสร้างตะกรุดวิชาครูพระนารายณ์แบบลงพระเวทย์สองสายผสานเต็มสูตร


    พ่ออาจารย์ท่านเชิญคุณพระนารายณ์ประสิทธิ์ไว้จนบริบูรณ์แล้ว ท่านว่าเมื่อโลกเดือดร้อนคนก็นึกถึงพระนารายณ์ให้มาแก้ไขทุกครั้งไป แต่ครานี้ฉันขอเอาไว้ไม่ใช่ให้ท่านแก้ไขโลกหากแต่ให้มาแก้ไขชีวิตพวกเธอ ใครที่กรรมหนักก็เอาท่านไปช่วยสะเดาะเคราะห์ เพราะท่านจะปรากฏรูปมาขับไล่ความชั่วร้ายเลวทรามทั้งหลาย ให้สังเกตดูตัวเองเลยว่าที่ผ่านมานี้มีเคราะห์ โทษ ทุกข์หรือยัง มองให้ออกว่าชีวิตตัวเองสิ่งเหล่านี้เข้ามาหาหรือยัง ที่บ้านมีความสุขดีไหม ครอบครัวมีความอบอุ่นดีหรือเปล่า ทำมาหากินสะดวกสบายเหมือนก่อนหรือเปล่า ครอบครัวทะเลาะกันบ่อย ไม่มีความสุขเหมือนเมื่อก่อน การงานมีปัญหาโน่นปัญหานี่จุกจิก ทั้งเจ้านายลูกน้องไม่เกื้อกูลอุดหนุนเราทำมาค้าขายทำธุรกิจการงานเงียบเหงาซบเซามีปัญหาแล้วทำมาหากินไม่ขึ้น...ทำอะไรไม่เจริญ นั่นแหละท่านว่าให้เอาองค์นารายณ์นี้สะกดทุกข์ไว้ ความทุกข์ที่ทำให้ใครตกต่ำย่ำแย่ไปตามๆกันจะไม่เกิดขึ้นแก่เราเลยถ้าเราอยู่ในความคุ้มครองของพระนารายณ์

    คาถาบูชา
    โอม นารายะนายะ วิทัมเห วาสุเทวายะ ธีมะหิตันโน วิษณุ ประโจทะยาต
    โอม สะศางขะจักรัม สะกิริฏะกุณตะลัม สปิตะวัสตรัม สะระสีรูเหกษณัม สะหาระวักษะสถะละ เกาสตุภะศริยัม นะมามิ วิษณุม ศิระสา จตุรภุซัม


    เหรียญข้ามสัปตภูมินี้เมื่อเสกท่านได้นำไปแช่ในน้ำทิพมนต์ โดยใช้น้ำที่ผุดขึ้นตามถ้ำ ตามเศียรพระ และบ่อศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมาประกอบพิธีปะสระโลหิตอีกหนหนึ่ง ซึ่งท่านได้ทำวิชาปะสระโลหิตตามธรรมเนียมการสงเคราะห์สัตว์ของพระมหาโพธิสัตว์ในสายพุทธภูมิเพื่อให้เครื่องมงคลนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุด และที่สำคัญท่านว่าจะได้ช่วยขนถ่ายความทุกข์นำสัตว์ที่ได้ทุกข์ออกจากทุกข์อย่างฉับไวเสริมส่งกันไปด้วยคุณวิชาเสริมทับลงไปอีก พ่ออาจารย์ท่านรับรู้ได้ว่ายุคสมัยนี้คนที่ดีก็จะดียิ่งๆขึ้นไป ส่วนที่ร้ายก็จะเกิดทุกข์ภัยลำบายากจน เป็นหนี้สินล้นพ้นตัว ท่านว่าต่อให้ขยันอย่างไรก็มีแต่หน้าจะดำคล้ำหมองลงไม่สามารถยืนหรือตั้งตัวได้เพราะไม่มีอะไรจะไปสู้เขาได้ เช่นนั้นท่านจึงพิจารณาให้นำเหรียญสำคัญนี้ออกให้บูชาเพื่อความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ให้เจ้านายรัก-ลูกน้องหนุน แก้ทุกข์ภัยจากดวงตก ดวงไม่ดี เคราะห์ภัยเวรกรรมให้บรรเทาลงโดยพลัน ทั้งจะได้ก้าวขามมหาทุกข์ทั้งหลายในหนึ่งย่างก้าว

    ท่านว่าตอนเสกนั้นท่านทำพิธีปลุกเสกใหญ่ต้องขึ้นครูด้วย หัวหมู บายศรี ค่าครู หมากพลู บุหรี่เปิดทั้งสิบหกชั้นฟ้า สิบห้าชั้นดิน สิบสี่ชั้นบาดาล เชิญครูทุกทิศทุกทางมาช่วยเสก ต่อไปคนใช้ชีวิตเขาจะได้เปิดทั้งหมดไม่มีสิ่งใดมาปิดกั้นเอาไว้ได้...หากจะบนบานศาลกล่าวองค์พระศรีหริท่านพ่ออาจารย์ท่านว่าให้บนง่ายๆ โดยบนด้วยดอกดาวเรืองเก้าดอก(ชีวิตจะได้รุ่งเรืองเหมือนชื่อ) และเหรียญสำคัญนี้ท่านว่าเวลาเอาติดตัวไว้ ***เมื่อเรามีภัยเขาจะจะขยับสั่นเตือนเป็นการบอกกล่าวเราล่วงหน้า พ่ออาจารย์ท่านว่าหากวันไหนเหรียญสั่นก็ให้รู้ไว้ว่าวันนั้นจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างใดอย่างหนึ่งกับชีวิตเราแน่นอน ให้แก้กันล่วงหน้าด้วยการอธิษฐานเอาเหรียญทำน้ำมนต์ดื่มกินลูบหน้าลูบตถ้าจะให้ดีก็อาบไปเลยอธิษฐานให้ชีวิตก้าวพ้นอุปสรรคทั้งหลาย แล้วค่อยออกไปทำงานไปใช้ชีวิตตามปกติ หากทำได้ดังนี้จากภัยก็จะเปลี่ยนเป็นโชคเป็นความสุขความสำเร็จเช่นนั้น ด้วยชีวิตคนนั้นก็เป็นเสมือนดอกบัวพ่ออาจารย์ท่านว่าให้เลือกเอาเองว่าจะอยู่ในโคลนในตมหรือเลือกที่จะเป็นบัวซึ่งโผล่พ้นโคลนตมขึ้นมาแล้ว เพราะเหรียญนี้ที่ครูท่านให้ทำไว้ก็ด้วยเหตุที่ว่าจะได้เป็นทุกอย่างให้กับคนใช้ เป็นทั้งวาสนาบารมีให้กับบุคคลที่ไร้วาสนา แม้มีกาลทุกข์กาลร้อนหรือมีเหตุอาเพทใดกับชีวิตก็ให้ตั้งจิตบอกครูท่านเถิด ให้จำไว้ว่าเธอจะไม่มีวันตกอับตกต่ำกว่าใคร คำว่าอดอยากยากจนหม่นหมองสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ให้อธิษฐานเอาให้ดีจะได้ผลยิ่งกว่าถือแก้วมณีโชติแก้วสารพัดนึกเหล่านั้นเสียอีก จำเอาไว้ให้ดีว่าเหรียญนี้ปราบได้ทั้งหมด เราพูดมากไปกว่านี้ไม่ได้แต่เอาว่าปราบได้ทั้งสิ่งที่ตาเธอมองเห็นแล้วก็มองไม่เห็นก็แล้วกัน

    *** พ่ออาจารย์ท่านทำวิชาลงจารอาถรรพ์พระเจ้าข้ามโลกให้ทุกเหรียญเพื่อเบิกชีวิตผู้อาราธนาให้ก้าวข้ามอุปสรรคใดๆได้ฉับพลันทันที รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อสกุลไว้ด้วยท่านจะเจิมประสิทธิให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญข้ามโลกสัปตภูมิพระเจ้าข้ามเจ็ดมหาทุกข์ (เหยียบสวรรค์หริรักษ์จักรแก้ว) บูชา 2,500 บาท


    95675360-2638009889860129-1955916647625654272-n.jpg 97535449-2607230916266545-5461701308056600576-n.jpg
    97028936-313210306327868-1867351136332152832-n.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นถ่ายกรรมเพิ่มบุญสอดประสานแบ่งเบามหันต์โทษ (สูบแสนฟ้าลบถ่ายบรรจุกรรม)

    วิชาทำหุ่นถ่ายกรรมของพ่ออาจารย์นั้น นอกจากวัตถุประสงค์หลักตามชื่อหุ่นแล้วท่านยั่งเน้นให้เป็นพยนต์ใช้เฉพาะทางที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วย ท่านว่าพยน์ถ่ายกรรมนอกจากจะใช้ถ่ายถอนกรรมได้ยังต้องใช้ทางดับทุกข์ ดับภัย ดับเคราะห์กรรม ระงับเหตุร้าย ระงับอันตราย ระงับเรื่องไม่ดีทั้งหลาย ทั้งยังใช้กันภัย กันความเดือดร้อนได้ทุกอย่างปราบเขาได้ทั่วสยบเขาได้ทั้งโลกเช่นนี้จึงจะครบสูตรย่อมระงับดับพิษ,ดับภัย,ดับอุปสรรคปัญหาอันตรายใดๆไม่ให้เข้ามาใกล้ชีวิตได้เช่นนั้น เมื่อได้เอาติดตัวไว้ชีวิตก็จะสดใสทุกข์ภัยไม่มีเขาจะแก้กันปัญหาให้ทั้งหมดแรงกรรมจะเสื่อมถอยคราเคราะห์จะหมดไป ระงับดับเรื่องร้อนเรื่องร้ายเรื่องไม่ดีทั้งสิ้น จะใช้ปราบใช้ข่มคู่แข่งขันก็ทำได้ทุกด้านไม่ว่าจะเรื่องรัก,เรื่องงาน,เรื่องส่วนตัวสารพัดเรื่องเรียกว่าช่วยถึงใจช่วยในทุกช่วงทำนองแห่งชีวิตไม่ทิ้งกันเพราะพ่อหุ่นเขาเก่งนักสยบได้ทั้งหมดทั้งมายาศาสตร์แลเวทย์มนต์กลใดย่อมไม่มีผลแก่เราทั้งสิ้น มีอานุภาพทางป้องกันอันตรายทั้งบนบกในน้ำและอากาศและยังเป็นมหาอำนาจข่มศัตรูทุกกรณีเป็นเดชเดชะชนะไพรีได้ทั้งปวง *** ท่านว่าหุ่นถ่ายกรรมนี้เน้นไปที่พวกมีบารมีมาก มีบุญเยอะ มีวาสนาสูงให้ถ่ายของเขามาส่วนหนึ่งสะสมซึมซับเข้าตัวเรา ปกติเวลาชีวิตไปเจอดาวข่มเจอพวกที่มียศมีบารมีมากกว่าข่มจะทำตัวกันไม่ถูกท่านจึงทำหุ่นนี้ขึ้นด้วยว่าผ่านไปทางไหนเจอใครก็เอาดีเข้าตัวเราเสียให้ได้ทั้งหมด

    นอกจากหุ่นจะถ่ายกรรมหนักเบาให้กับเราแล้วยังสะกดข่มเรื่องราวและปัญหาที่เข้ามาถึงตัวเราสารพัดเรื่องเป็นประจำทุกเช้าค่ำด้วย โดยเฉพาะคนที่ต้องเผชิญเคราะห์ภัย,ทุกข์เข็ญ,เวรร้าย,คนที่ดวงไม่ดี,โชคชะตาอับ,ราศีเศร้าหมองไม่ผ่องใส เน้นว่าคนที่ชีวิตเรื่องหนักๆ ### พวกมีกรรมมาก มีเรื่องทุกข์มาก หุ่นถ่ายกรรมที่รับแทนตัวเราก็จะยิ่งมีฤทธิ์มากเป็นเงาตามตัว เรียกว่ายิ่งอกุศลกรรมแรง กรรมไม่ดีส่งผลแรงมากกับชีวิตเท่าไหร่หุ่นก็จะยิ่งมีฤทธิ์มากเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าให้อาราธนาติดตัวไว้เถิดชีวิตจะห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บและเคราะห์หามยามร้ายทั้งปวงเรื่องร้ายก็จะกลายเป็นดี..เคราะห์หนักก็จักเบาบาง...เคราะห์ดีก็จะยิ่งดีทวีขึ้นแบบฉับพลันทันใด

    ด้วยเป็นหุนที่ใช้เป็นพยนต์คุ้มกายได้จึงใช้ปราบศัตรูหมู่มารปราบสิ่งชั่วร้ายสิ่งไม่ดีกันคุณไสยได้ทั้งสิ้นสุดแต่จะบอกกล่าวพ่อหุ่น นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังเน้นลงวิชาทางโภคทรัพย์ให้เราใช้หุ่นหาเงินได้คล่องมือเพื่อเน้นขับเคลื่อนพลังให้คนใช้มีชัยชนะทางทำมาหากิน,ชนะคน,ชนะจน,ชนะชีวิตทั้งใช้ทางโภคทรัพย์เรียกทรัพย์ได้ตามต้องการ หุ่นนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นของวิเศษสามารถนำพาให้ผู้อาราธนาฟันฝ่าอุปสรรคเคราะห์กรรมที่ไหลเข้ามารบกวนได้อยู่กับผู้ใดนอกจากเปลี่ยนชีวิตให้เจริญในลาภยศมิขาดแล้วยังคุ้มกันสรรพเสนียดจัญไรอีกสารพัดแม้นำติดตัวไปทิศทางใดข้าศึกศัตรูก็จะพ่ายแพ้ไปสิ้นมิอาจทำอันตรายแก่เราได้เลยซ้ำยังเป็นที่รักใคร่แก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลายทั้งปวง...หากจะใช้พ่อหุ่นหาทรัพย์หาชะตาวาสนาอันมีมากมายในแผ่นดินทรัพย์สมบัติก็จะงอกเงยเพิ่มพูนขึ้นมาจะได้เงินทองมีวาสนามิขาดเลย

    " หุ่นถ่ายกรรมเราจะช่วยทำไว้ให้ตกแก่คนที่สมควร " วิชาทำหุ่นชุดนี้เป็นวิชาที่ครูพระศรีอาริย์เมตตาสอนให้ท่านลงไว้ โดยใช้รากไม้ค้ำฟ้าต้นพิเศษที่ท่านชี้ให้ขุดให้ถอนขึ้นมาซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะรากนี้มีอาถรรพ์เขาเคลื่อนไหวเลื้อยหลบไปมาใต้ดินยากที่จะขุดเจอได้ด้วยเป็นรากที่มีเทพารักษ์รักษามีตบะจากการบำเพ็ญเพียร *** พ่ออาจารย์ท่านว่าของมีจิตมีกายสิทธิ์มีฤทธิ์ในตัวเองจนถึงขั้นแสดงฤทธิ์ได้เช่นนี้เมื่อทำสำเร็จแล้วจะช่วยคนไปได้ตลอดชีวิตทั้งต้องให้องค์พระศรีท่านมาชี้ให้ขุดเท่านั้นด้วยเราไม่มีทางรู้เลยว่าอยู่ตรงไหนรากไหนที่มีตบะมีเทพารักษ์บารมีมากปานใดรักษา กว่าจะได้มาจึงหัวหมุนวุ่นวายพอสมควรต้องตั้งเครื่องเซ่นสรวงขอแก่เทพารักษ์ที่รักษาควบคุมเขา ทั้งโดยตัวไม้ค้ำฟ้าเองแล้วก็วิเศษเหนือไม้ชนิดอื่นเพราะไม้นี้ไม่ว่าจะขึ้นอยู่ที่ใดในป่าลึกสักเพียงไหนหรือในบริเวณรอบๆจะมีต้นไม้ใหญ่มากมายปกคลุมมากสักเท่าใดแต่ไม้ค้ำฟ้าจะไม่ยอมอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใดๆทั้งสิ้นเรียกว่าเป็นอาถรรพ์ที่ต้องอยู่เหนือผู้อื่นทั้งหมดตลอดกาล ท่านเอาไม้มาลงวิชาเสริมดวงต่อวาสนาเขียนยันต์ปลุกเสกรากไม้คำรบหนึ่งก่อนด้วยถือเคล็ดว่าจะได้ต่อดวงชะตาค้ำชะตาให้สูงขึ้นมีแต่ขึ้นสูงดังดวงตะวันจันทรา..สูงค้ำฟ้าไม่มีทางลงมาได้ไม่ร่วงหล่น ก่อนจะนำไปตั้งขันธ์ห้าบูชาครูทำพิธีชุบไม้อีกหนหนึ่ง ท่านแช่น้ำมนต์ที่ใส่หนามมัยราพปลุกเสกอีกคำรบหนึ่งด้วยองค์พระศรีท่านแนะให้ว่าเป็นเคล็ดโสรจสรงเพิ่มกฤติยาคมแฝดด้วยน้ำแช่หนามไมยราพนี้สิ่งอันไม่เป็นมงคลทั้งหลายภัยพิบัติทั้งปวงจะได้ราบคาบไปทั้งอุปสรรค์ขวากหนามใดๆก็ไม่อาจมาขวางกั้นได้ ทุกอย่างต้องทำในฤกษ์อย่างเคร่งครัดทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องให้องค์พระศรีท่านมาลงอาถรรพ์ทำวิชาให้เองทุกขั้นตอนเพื่อให้ไม้นั้นมีอาถรรพ์เสริมดวงพลิกชะตากลับจากร้ายกลายเป็นดีจากเนื้อในอย่างแท้จริง ทั้งยังขจัดปัดเป่าชำระภัยพิบัติได้ทั้งปวง

    ### หุ่นถ่ายกรรม พ่อเพิ่มบุญ

    หุ่นนี้สร้างขึ้นโดยวิชาเฉพาะในสมเด็จพระศรีอาริย์นอกจากจะมีอานุภาพดังกล่าวไว้ข้างต้นแล้ว
    ยังจะช่วยเพิ่มบุญเน้นหนักให้ผู้ครอบครองถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรือง ทั้งบันดาลทรัพย์เพิ่มลาภยศสักการะศฤงคารปรากฏศักดิ์ศรีเกียรติยศเพิ่มพูนข้าทาสบริวาร เอาว่าสิ่งใดที่ไม่เคยมีต่อไปก็จักได้มี ผู้คนจะเคารพนบไหว้ยำเกรงเรานักหนาดุจท้าวพระยามหากษัตริย์ทีเดียว เพราะพ่อหุ่นเค้าถ่ายกรรมจากเราโดยตรงลงที่ตัวเองแปลงเป็นพลังงานบันดาลด้วยวิชาเพิ่มบุญเติมเต็มสิ่งที่เราขาดเช่นนั้น...พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าหุ่นนี้อยู่ที่ไหน..จะทำอะไร..แม้เธอคิดการณ์ใหญ่เพียงใดก็สำเร็จไร้คนต่อต้าน แม้ชีวิตถูกป้ายสีมีชะตาเลวร้ายก่อนหน้าอย่างไรก็ผ่านไปได้ด้วยพ่อหุ่นจะป้องกันอันตรายอันจะเกิดขึ้นแก่ตัวเธอถึงเป็นภัยพิบัติก็ยังป้องกันได้ให้อยู่รอดเป็นปรกติสุขแต่ฝ่ายเดียว ด้วยว่าใครชีวิตตกอยู่ในคลื่นลมคลำทางไม่เห็นหาทางไม่เจอกาลอันมืดบอดอับจนหนทางนั้นก็จะเสื่อมสูญไปเพราะเขาเป็นหุ่นเพิ่มบุญโดยถ่ายกรรมร้ายในตัวเราเพื่อเปลี่ยนเป็นกรรมดีเข้าตัวเราตามพื้นฐานของกรรมเช่นนี้ ยิ่งมีใครคิดร้ายกับเรามากเท่าไหร่กรรมทั้งหลายจากภายนอกก็จะไปรวมที่ตัวหุ่นนั้นเปลี่ยนให้กลายกลับเป็นเรื่องดีแก่ตัวเราและคนเหล่านั้นก็จะแพ้ภัยตัวเองไปในที่สุด

    แม้เคราะห์กรรมทำให้ชีวิตเราอยู่ผิดที่ผิดทาง เ
    จ้ากรรมนายเวรจะทำให้ดวงชะตาเราพลิกกลับผิดฝาผิดตัวไปโดนเศษกรรมแทนผู้อื่นหรือบททดสอบอันแสนยาวนานของพญามาราธิราชและคณะเทวปุตมารก็ดี...เมื่อมีหุ่นเพิ่มบุญนี้ข้อผิดพลาดและด่านทดสอบทั้งหลายย่อมสงบระงับไปเพราะว่าสิ่งเลวร้ายแม้จะจะรุนแรงเพียงใดจะแกล้งเราอย่างไรทดสอบเราเช่นไรหากผ่านหุ่นนี้ต้องกลับเป็นดีทวิทวีมากขึ้นเท่านั้น ดังนี้ชีวิตที่ถึงคราวเคราะห์ไปติดร่างแหใช้กรรมเเทนคนอื่นก็ดีพ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องเหล่านี้แก้ง่ายๆ ..ถ่ายกรรมลงพ่อหุ่นเพิ่มบุญเสีย
    - คนที่ประสบเคราะห์ภัยจากชะตาลิขิตที่เบี่ยงเบน หันเห ผันผวน
    - คนที่เคราะห์กรรมที่ไม่ตรงดวงชะตาหรือฟ้าลงผิดที่ผิดทาง
    - คนที่ถูกให้ร้ายในเรื่องอันไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
    - คนที่ชะตาเล่นตลกทุกข์โทษไม่เกี่ยวกับเราแต่ไปๆมาๆแจคพอตมาตกที่เรา
    - คนที่กลับซวยแทนคนอื่นรับกรรมแทนคนอื่นซวยแทนชาวบ้าน
    - คนที่เคราะห์กรรมผกผันมากปมมากเรื่อง สะสมพอกพูนแก้ปมยาก
    - คนที่ชำระเศษกรรมกับคู่กรรมสัมพันธ์ด้วยบททดสอบอย่างหนักหน่วง
    พ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างไว้คร่าวๆแต่เอาให้จริงแล้วมีอีกหลายกรณี ท่านว่านี่แหละยิ่งกรรมมาแรงหุ่นเพิ่มบุญก็ยิ่งตอบสนองแรงให้คุณแรงแก่เรามากเท่านั้น เช่นนั้นเราจึงรู้ตัวเองที่สุดว่าตัวเรามีกรรมแรงแค่ไหน ท่านว่ากาลข้างหน้าจะยิ่งหนักกันมากขึ้น วาสนาคนจะลดลง โรคภัยจะก่อตัวรุนแรง อายุขัยคนจะถดถอยลงไปเรื่อยๆเช่นนี้องค์พระศรีท่านจึงให้ทำหุ่นถ่ายกรรมขึ้นมา

    เมื่อมีหุ่นนี้อยู่กับตัวแม้ใครจะเล่นงานเราก็เข้าผิดที่ผิดทาง ทำอะไรเราก็ทำผิดตัวผิดตนวนอยู่แบบนั้นไปลงกับพ่อหุ่นทั้งหมด(พ่ออาจารย์ท่านว่าพวกที่ปล่อยของนี่ไม่ได้กินเลยตะปูอะไรต่อมิ้อะไรที่เขาปล่อยกันในอากาศรอคนดวงตกวาสนาตกจะเข้ามาซ้ำเติมตกลงมาเต็มไปหมดตอนเสกหุ่น)เพราะเคราะห์หามยามซวยมันเกิดขึ้นไม่ได้ด้วยหุ่นไปเปลี่ยนวงจรชีวิตเราทั้งหมด ท่านจึงอุปมาว่าหุ่นนี้เป็นเสมือนตัวตายตัวแทนที่เป็นผู้ดูแลวงจรกรรมและชาตาของเราหากมีสิ่งรบกวนใดๆเขาจะรองรับเคราะห์กรรมแทนเราทั้งสิ้น และย้อนสนองคืนการกระทำไปตามเจตนาและชะตาฟ้าที่ควรจะเป็นเช่นนั้น

    ### เมื่อหุ่นถ่ายกรรมหรือพ่อเพิ่มบุญทำงานแม้เศษกรรมทั้งหลายเขาก็ไม่เว้นเพราะเขาชำระทิ้งตั้งศูนย์ให้ชีวิตเราใหม่ทั้งหมด ไอ้เศษที่ว่านี่แหละเป็นปัญหาใหญ่ของชะตาวาสนามนุษย์ เพราะมันเป็นเศษบางทีจึงไม่ได้ปรากฏในชะตาลิขิตทำให้อ่านอย่างไรก็อ่านไม่ออกจากเรื่องเล็กน้อยเมื่อลุกติดไฟแล้วมันก็กลายเป็นชนวนเผาผลาญตัวเองเผาไปลึกจนถึงจิตวิญญาณ ซ้ำเศษกรรมทั้งหลายร้อยทั้งร้อยล้วนแต่มีคู่กรณีที่ผูกมันเอาไว้ด้วยแรงอาฆาตพยาบาททั้งสิ้นดังนั้นพอเกิดผลมันจึงแรงบางคนชีวิตมาดีๆจึงไม่แปลกที่จะรู้สึกว่าถึงคราวซวยแทนคนอื่น บางคนก็โดนฉกฉวยชะตาวาสนาที่ควรจะเป็นของตัวเองทั้งชีวิตไปอย่างโจ่งแจ้ง บางครั้งมีวาสนารู้ว่าเป็นของตัวเองก็เอามาไม่ได้กลับกลายเป็นเราไปใช้หนี้กรรมให้คนอื่นแทน ซ้ำเศษกรรมทั้งหลายยังพร้อมขยายผลผูกพันธ์กับกรรมใหม่เสมอๆกลายมาเป็นกรรมปัจจุบันติดตามตัวเองไปอีกหลายภพชาติ เช่นนี้หุ่นถ่ายกรรมนอกจากจะช่วยให้คราวเคราะห์ระงับไปยังเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีอีกด้วย แม้มีเศษกรรมใดๆต่อแถวรอซ้ำเติมเรามากมายเพียงใดพ่ออาจารย์ท่านว่าก็ปล่อยให้มันเข้ามา หุ่นนี้ไม่ได้ไปหยุดวงจรเขาหากแต่จะเปลี่ยนวงจรใหม่ นี่แหละคือพระเวทย์วิชาในสมเด็จพระศรีอาริย์ท่าน

    ซ้ำหุ่นนี้สมเด็จพระศรีท่านยังโองการให้พ่ออาจารย์แกะเป็นหุ่นทรงมนต์(ขัดสมาธิพนมมือ) เพื่อให้เหมาะแก่การลงวิชาพระเจ้าทรงมนต์เสริมกำลังในตัวหุ่นด้วย เช่นนั้นหุ่นนี้จึงจะเสริมกำลังเครื่องมงคลวัตถุอาถรรพ์ทั้งหลายตลอดจนคนที่มีลอยสักอักขระเลขยันต์พระคาถาอยู่กับตัวหรือแม้แต่คนที่ท่องบ่นมนตราใช้พระคาถาก็ตาม พ่อหุ่นเขาจะทรงไว้ให้ทุกอย่างเป็นผล..สัมฤทธิ์ผล..ใช้ได้ผล ไม่มีการเสื่อมถอยในคุณวิชา เป็นการทวิบารมีให้กับสิ่งดีๆที่อยู่ในชะตาครอบครองของตนเอง ท่านว่าพลังตั้งต้นดีอย่างไรแรงอย่างไรพอตัวเรามีพ่อหุ่นเสริมเข้ามาเขาจะฟื้นฟูพลังงานของเวทย์มนต์คาถาอักขระทั้งหลายหนุนไปอีกชั้นหนึ่งเรียกว่าอะไรอยู่กับตัวเราถือว่าดีหมด ใครเคยรับอะไรใช้อะไรทำอะไรไม่ได้ดั่งใจไม่เห็นผลให้บอกแก่พ่อหุ่นท่านจะเห็นผลทันตา แม้โดนคนดีคนวิเศษจากไหนกลั่นแกล้งจะกระทำข่มอำนาจวาสนาบารมีคนใหญ่คนโตที่มีอำนาจล้นฟ้าล้นเมืองพ่ออาจารย์ท่านว่าขอแค่บอกพ่อหุ่นจะกลายกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ คนที่เคยแกล้งจะไม่กลั่นแกล้งเราอีกซ้ำยังมีแต่จะคอยช่วยเหลือ ...จะใช้พ่อหุ่นท่านข่มใครก็เปลี่ยนน้ำใจเขาให้กลับตาลปัตรดั่งหนูกลัวแมว หากจะขอวาสนาทางโชคลาภจากพ่อหุ่นด้วยตบะบารมีเทพารักษ์ที่รักษาหุ่น(พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาชอบให้โชคนัก) เมื่อจะเข้าที่นิทราในราตรีให้เอาพ่อหุ่นใส่ไว้ใต้หมอนที่หนุนนอน จะขอหวยขอโชคลาภหรือจะสอบถามสิ่งใดให้อธิษฐานบอกตัวพ่อหุ่นแล้วจะรู้เองเห็นเองอยากรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าอะไรท่านจะเปิดนิมิตให้รู้ให้เห็นทุกประการ นอกจากนี้ยังเป็นพยนต์ชั้นยอดมีจิตวิญญาณขอได้ไหว้รับตามไปทุกที่ไม่ต้องเลี้ยงดูแต่อย่างใด ท่านว่าแล้วแต่เราจะอธิษฐานเลยอยู่ในเคหะสถานบ้านเรือนเขาก็คอยเฝ้าบ้านให้ หากเราไปไหนเค้าก็เดินตามเราไปหมดเข้าได้ทุกที่ทุกทาง ติดอยู่กับเราตลอดเวลาเสมอด้วยมีเทพยดาประจำกายคอยช่วยเหลือเรา ซ้ำยังมีอานุภาพเด่นด้านกันเสนียดจัญไร คุณไสยสิ่งอัปมงคล ภูติผีปีศาจ ลมเพลมพัดทั้งมวล ป้องกันอันตรายที่จะมาสู่ตนเองจะมาสู่สถานที่พักอาศัยได้ทุกสิ่ง แม้มีภยันตรายเผชิญหน้ากับศัตรูด้วยอานุภาพทางมายาศาสตร์ศัตรูจะเห็นเรามีพวกมากมายหลายร้อยคน

    หุ่นถ่ายกรรมนั้นทำยากพ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากต้องได้วิชาขององค์พระศรีแล้วยังต้องคุยกับเทวดาเขารู้เรื่องต้องรู้ภูมิเทวดาเพื่อคนใช้จะได้สบายยิ่งกว่าคำว่านั่งกินนอนกิน เรียกว่าต้องหาพวกก่อนทำมันยุ่งแบบนี้ ยุ่งตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำโดยท่านต้องคุยกับเทวดาบอกว่าเทวดาจ๋าอยากจะทำบุญร่วมกันกับมนุษย์มั๊ย...*** ท่านว่าเพื่อให้หุ่นมีฤทธิ์มากจะต้องใช้เทพที่มีศักดิ์ใหญ่สุดแห่งฉกามาพจรภูมิมาช่วยทำโดยองค์พระศรีจำเพาะให้เลือกนิมมานรดีเทวภูมิและปรนิมมิตวสวัตตีเทวภูมิ ท่านว่าต้องเป็นสองภพภูมินี้เท่านั้น เมื่อจะเสกต้องเข้าไปขออนุญาติท้าวสุบินมิตรเทวราชซึ่งเป็นจอมภพของนิมมานรดีเพื่อจะขอบารมีท่านส่วนปรนิมท่านก็ขอบารมีท้าวมาลัยมาช่วย ท่านว่าที่ต้องใช้บารมีจอมภพของสองภพนี้เท่านั้นก็เพราะเค้ามีหน้าที่เกื้อหนุนกัน ท้าวสุบินมิตรนั้นเป็นเทวดาที่มีอานุภาพมาก อยากได้อะไรจะสนุกสนานเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายชนิดไหนเหนือไปกว่าห้วงคิดคำนึงของเรา(ความสุขของจอมภพ) ไม่ว่าจะสุขอันปราณีตล้ำค่าอย่างใดท่านก็ล้วนแต่เนรมิตได้เองเสมอใจตนเช่นนั้นเรียกว่าปรารถนาอะไรก็สร้างขึ้นมาเองแบบนี้ ซ้ำท้าวมาลัยนั้นอยากได้อะไรคิดอะไรเพียงแค่คิดก็สำเร็จได้เองดังพระประสงค์ เนื่องจากจะมีเทวดาของท้าวสุบินมิตรจากนิมมานรดีคอยตามอ่านใจตามเนรมิตสิ่งต่างๆให้เรียกว่าสบายที่สุดในหกภพสวรรค์ทีเดียว เมื่อขอบารมีของสองจอมเทพลงหุ่นถ่ายกรรมนั้นสมเด็จพระศรีอาริย์ท่านบอกพ่ออาจารย์ว่า " ต่อไปนี้จะกลายเป็นหุ่นเสมอใจ เพราะคิดสิ่งใดก็เสมอใจด้วยสิ่งนั้น "

    หุ่นทุกตัวให้มัดด้วย "ตะกรุดบารมีพระเจ้าห้าสิบหกชั้น"

    ตะกรุดบารมีพระเจ้าห้าสิบหกชั้นนั้น
    เป็นธรรมเวทย์ที่เน้นใช้ทางหนุนธาตุต่างๆในร่างกายตนทั้งยังคอยแบ่งเบาโรคภัยไข้เจ็บสาเหตุเพทภัยต่างๆทั้งภยันตรายทั้งปวงจากตัวเราส่งเข้าตัวพ่อหุ่น ท่านว่าในชีวิตเราสิ่งใดที่มันยังขาดไปมันก็จะเต็ม สิ่งใดที่มันเกินไปคุณของตะกรุดก็จะลดทอนทั้งอุปัทวอันตรายเคราะห์กรรมโรคภัยทั้งหลายเช่นนี้จะลดทอนไป ท่านว่ามนุษย์ที่เกิดมาตามกฏแห่งกรรมนี้มีอยู่แค่สองอย่างในความรู้สึกตนคือไม่เกินไปก็น้อยไปไม่มีมากไปหรือน้อยไปกว่านั้น ด้วยหากมากไปนั้นก็ได้ชื่อว่าทุกข์น้อยไปก็ยิ่งทุกข์อีกไม่ขาดก็เกินเป็นเช่นนี้ทุกคน ตะกรุดนี้จึงช่วยสร้างความสมดุลเป็นวิชาสายกลางเป็นวิชาของความพอดี ซึ่งจะปรับสมดุลย์ธาตุตลอดจนวิถีชีวิตไม่ให้มีมากหรือน้อยเกินไป

    ท่านว่าที่ว่ามีพอดีนั้นคือมีความสุข แบ่งเบาทุกข์โศกและหนุนกลับความสุขสนองกับพ่อหุ่น ให้เราห่างไกลจากทุกข์หรือนิรทุกข์ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้แม้ตกแก่ใครไม่เห็นเค้าว่าจะแย่ลงซักรายมีแต่กลายเป็นตัวตนที่คาดไม่ถึงไปแล้วทั้งนั้น ทั้งยังเป็นกำลังของพระพุทธเจ้าห้าสิบหกชั้น(เท่าคุณของพระพุทธเจ้า)อันได้ชื่อว่าสูงส่งเหนือกว่าคุณวิชชาหรือไสยเวทย์ทั้งหลาย ท่านว่ากำลังนี้แม้เพียงชั้นเดียวก็มีคุณมากประมาณยิ่งกว่าฝอยท่วมหลังช้างแล้วแต่นี่กลับมีถึง 56 พ่ออาจารย์ท่านทำการจารบีบอัดอักขระมากที่สุดเพื่อให้ได้ตะกรุดดอกเล็กๆที่บรรจุไว้แน่นด้วยคุณวิชาท่านว่าเป็นวิชาธรรมสูงส่งอันจะบันดาลให้เกิดความสำเร็จสมหวังด้วยอานุภาพแห่งอาถรรพ์ธรรมเวทย์ วิชาเช่นนี้เหนือกว่าคุณไสยอวิชชาทั้งปวงท่านว่าไม่มีใครเค้ามักใช้มักทำกันเพราะมันเหมือนเป็นดาวข่มสำหรับผู้ถือ ดุจว่าข่มและเหยียบวิชาไสยเวทย์และอาถรรพ์ฝ่ายต่ำฝฝ่ายอวิชชาทั้งหลายไว้ทีเดียว แม้ใครมีของดีหรือเล่นคุณไสยอย่างไรท่านว่าวิชานี้จะเสริมให้พ่อหุ่นข่มและกำราบเขาทั้งหมด ใครมาสายต่ำคนเหล่านั้นไม่มีที่ว่าจะชนะและอยู่เหนือกว่าเราเลยด้วยเป็นอาถรรพ์ที่เหนือกว่าวิชาอาถรรพ์ใดๆทั้งปวง เป็นการทำวิชาวาระสำคัญที่จิตวิญญาณเบื้องบนยังต้องน้อมเศียรนมัสการธรรมเวทย์นั้นเพราะธรรมเวทย์เหล่านั้นแม้แต่เหล่าองค์สมเด็จพระพิชิตมารพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังน้อมยึดถือไว้เป็นสรณะ ท่านว่าจะพูดมากก็ไม่ควรบอกได้คร่าวๆเพียงเท่านี้ เอาว่าห้าสิบหกชั้นนี้เมื่อเสริมกำลังกับพ่อหุ่นเพิ่มบุญเขาไอ้เรื่องแย่ๆร้ายๆต่างๆบรรดามีที่จะทำความเสียหายล่มจมพอมันว่าจะเกิดๆ มันก็กลับไม่เกิด กลับหน้ามือเป็นหลังมือไปหมด..เพราะตะกรุดเขาสูบมาลงที่พ่อหุ่นทันที พูดง่ายๆตัวเราก็คือไม่เหลือและไม่มีนั่นเอง คือไม่มีช่วงเวลาเสวยทุกข์เสวยเคราะห์กรรมเช่นนี้

    วิธีใช้
    เมื่อได้ไปบูชานั้นท่านว่าให้เอากระดาษมาเขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดของตน แผ่นหนึ่ง อธิษฐานว่าพ่อพระศรีอาริย์อันทรงคุณไม่มีประมาณ ขอพ่อคุณโปรดเมตตาสูบแสนฟ้าลบถ่ายบรรจุกรรมเพื่อแบ่งเบามหันต์โทษของลูกแก่พ่อหุ่นด้วย ท่านว่าต้องเขียนเองทำเองนะทำแทนกันไม่ได้ตั้งจิตอธิษฐานให้ดีๆกระดาษแผ่นนี้สอดไว้ด้านในถาวรเลย
    ### และในกรณีที่มีปัญหาใหญ่มีเรื่องเดือดร้อนที่แก้ไม่ตกคิดว่าตึงมือหาทางออกใดไม่เจอแล้ว ท่านว่าให้นำกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง มาเขียนเรื่องเหล่านั้นแล้วอธิษฐานยัดใส่ลงไปในส่วนของตะกรุด ท่านว่าตั้งจิตตั้งใจกันดีๆเมื่อจะยัดลงไปให้สวดคาถาไปเรื่อยๆเหมือนเราขอความช่วยเหลือโดยตรงจากพ่อหุ่น กระดาษนี้เมื่อใช้เสร็จก็ดึงออกและเผาไฟเสีย พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะกระดาษคือความทุกข์เมื่อเผาแล้วก็สิ้นเชื้อหมดกำลังไปเช่นนี้ทุกข์จะคลายเคราะห์จะหมดกาลแห่งทุกข์นั้นจะคลี่คลายไปอย่างรวดเร็ว ท่านว่าวิธีนี้ทำได้เรื่อยๆ

    หุ่นถ่ายกรรมนั้นทำยากมากใครได้ไว้ท่านย้ำว่าให้รักษากันให้ดี เพราะต้องเสกจนกระทั่งฟ้าผ่าผิดอุผมาดั่งว่ามีเรื่องเดือดร้อนจนพระอินทร์ร้อนอาสน์ แม้ฟ้ายังผ่าผิดที่ผิดตัว ด้วยสายฟ้านั้นพ่ออาจารย์ท่านเปรียบไว้กับการลงทัณฑ์ของสวรรค์ เป็นเคล็ดที่ว่าแม้ทัณฑ์สวรรค์ฟาดลงมาก็ยังไม่ถูกไม่โดนเนื้อตัวเสมอด้วยเคราะห์กรรมและเศษกรรมทั้งหลายก็เข้าไม่ถึงเนื้อตัวเราได้ ท่านว่าต้องเสกจนฟ้าผ่าฟ้าฟาดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าฟาดอย่างไรก็ไม่ถูกไม่โดนพ่อหุ่นและมณฑลพิธี เช่นนี้กว่าจะเสกสำเร็จได้จึงนับว่าเป็นของที่เสี่ยงตายทำมาให้ใช้กันโดยเฉพาะ คิดแล้วก็ยังอดใจหายไม่ได้กว่าจะทำสำเร็จจนเสกเก็บไว้ยาวๆเพราะถ้าพลาดก็คือเราตายมันท้าทายถึงขนาดนั้นดังนั้นจึงพลาดไม่ได้เลย ท่านว่าต้องพิถีพิถันมากเพราะเคราะห์กรรมไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ดังจะเห็นว่าเราพูดมากก็ไม่ได้เพียงทำได้แต่อธิบายให้เธอเข้าใจเท่านี้ พยนต์หรือหุ่นถ่ายกรรมนี้ท่านทำให้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นท่านว่าเราทำให้เพราะมีกรรมร่วมกันแต่ตอนนี้ก็หมดภาระของเราแล้วใครเขาจะสำนึกรู้เห็นความสำคัญอย่างไรก็ให้มาเอาไป พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าพ่อหุ่นนี้เป็นของเฉพาะตัวและที่สำคัญเป็นของคู่บารมีที่เบื้องบนท่านได้บัญญัติไว้แล้วว่าตนไหนเป็นของใครองค์พระศรีอาริย์ท่านเลือกเจ้าของเอง ดังนั้นจะมีคนที่ทันบูชาไม่มากท่านว่าถ้าไม่ใช่คู่กันแล้วแม้ประสงค์ก็ไม่ได้บูชา ด้วยพระศรีท่านบอกเอาไว้เพียงว่า "สว่างไสวมาก ทางเปิดแล้ว เจ้าของเขามาครบแล้ว"

    คาถาบูชา
    นะสูบๆ พุทโธกโรนิ โอมสูบมหาสูบ พุทโธนะสุคโต โคตมะสูบมหาสูบสิทธิสหับ สิทธิกูจักเชิญเอาพระสังโฆมาทรงบ่าซ้าย กูจักเชิญเอาพระนารายณ์มาทรงบ่าขวา กูจักเชิญเอาพระคาถามาทรงเหนือหัว ยะสะปุริสะทาโส มหาลาภัง ปุริสังมิมิ มิ
    กาลทุกสิ่งสมปรารถนาเสมอใจแล และหากหมั่นสร้างกุศลสั่งสมบารมี ท่านว่ามีกินมีใช้จนสิ้นภพจบชาติทีเดียว


    *** พ่อหุ่นถ่ายกรรมรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลและวันเดือนปิเกิดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะเชิญสมเด็จพระศรีเพื่อบอกกล่าวพ่อหุ่นและทำการฝากฝังสายบุญต่อไป รายได้ร่วมสมทบทุนข้าวสารอาหารแห้งบริจาคเป็นทานบารมีให้แก่สงฆ์ในวัดที่ห่างไกลความเจริญสืบไป

    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นถ่ายกรรมเพิ่มบุญสอดประสานแบ่งเบามหันต์โทษ (สูบแสนฟ้าลบถ่ายบรรจุกรรม) บูชา 4,000 บาท

    98205627-601730653760769-6680206009790627840-n.jpg 96685949-542982649938775-2475295480678973440-n.jpg
    97101893-2030209830456602-7339548077444825088-n.jpg 96686862-240119730647956-5426416549697159168-n.jpg 98000818-284259555929335-7141118290562121728-n.jpg 96740527-2274562166172833-9111293258947887104-n.jpg

    96866342-243216440292101-3505557297747197952-n.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสะกดทุกข์ (ชุดดับธาตุนิพพาน)

    เป็นที่จับตารอกันมายาวนานสำหรับตะกรุดสะกดทุกข์เพราะพ่ออาจารย์ท่านไม่ทำพร่ำเพรื่อนั่นเองพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดสะกดทุกข์นี้เป็นของสำคัญสายเสด็จพระใหญ่ เพราะต้องลงสูตรวิชาสะกดทุกข์จึงเรียกชื่อตะกรุดเช่นนี้ ทั้งนี้เมื่อลงสูตรสะกดทุกข์เสร็จแล้วจึงจะลงวิชาดับธาตุนิพพานเสริมไว้อีกชั้นหนึ่ง

    อันตะกรุดสะกดทุกข์นี้ท่านว่าใช้ได้สารพัดครอบฟ้าคลุมดิน อะไรที่เกี่ยวกับทุกข์มันสะกดไว้ได้ทั้งสิ้นเป็นการทำวิชาเพื่อข่มใส่ทุกข์..ให้หยุด..ให้รั้ง..ให้ชะลอไว้ ให้ทุกข์และความตึงเครียดตลอดจนความเศร้าหมองอาการไม่ผ่องใสในชีวิตเราทั้งหลายชะลอตัวลง ท่านว่าตะกรุดนี้ทำยากทำได้ไม่มากเพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าสะกดทุกข์..ใช้เพื่อสะกดความทุกข์เข็ญทั้งหลาย วิชานี้นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าลองพกไปดูเถิดนอกจากสะกดทุกข์แล้วยังจะทำให้จิตใจสดชื่น ทำให้ใจสูงมีกำลังใจมากอย่างน่าประหลาด ซึ่งกำลังใจตัวนี้ก็คือที่มาแห่งพลังจิต พลังที่จะใช้เปลี่ยนชีวิตของเรานั่นเอง..ดังนั้นท่านจึงทำตะกรุดสะกดทุกข์ชุดพิเศษที่เรียกว่าชุดดับธาตุนิพพานไว้โดยมีคติว่าทำเพื่อใช้กันและแก้ได้แม้กระทั่งตัวทุกข์ของสรรพสัตว์เป็นตำรับที่ครบรสในดอกเดียว ท่านว่าจะได้ไม่ต้องห้อยกันหลายอย่างบูชากันหลายดอกเพราะท่านทำให้ยิ่งกว่าตัวสะกดทุกข์ธรรมดาเสียอีก เพราะใช้สะกดทุกข์,ภัย,โรค,เวร..ได้ทั้งสิ้นเป็นวิชาของเสด็จพระใหญ่ที่สำเร็จด้วยตัวธรรม วิชาธรรมขั้นสูง สำเร็จด้วยคุณแห่งองค์พระทั้งแสนโกฏิ การสำเร็จตะกรุดสะกดทุกข์ด้วยคุณแห่งองค์พระแสนโกฏิอันมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นอาทินั้น นอกจากจะทำได้ยากและใช้เวลานานแล้ว..แต่ในผลที่ได้กลับคุ้มเกินคาด ท่านว่าก็คุ้มกับเวลาที่เสียไปหลายปี พ่ออาจารย์ท่านอธิบายให้เข้าใจกันแบบง่ายๆว่าให้ดูองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้เวลามีคนคิดร้ายหรือกระทำการณ์ใดๆหมายรังแกพระบรมศาสดา ท่านว่าสิ่งนั้นย่อมทำอะไรไม่ได้เลยทุกข์ทั้งหลายทำร้ายหรือทำลายคุณแห่งพระพุทธเจ้านั้นไม่ได้ทั้งสิ้น ซ้ำไม่ต้องรอชาติหน้าฉันใดใครทำอะไรเอาไว้ผลกรรมนั้นเห็นคาตากันในชาตินี้ ดังนั้นตะกรุดสะกดทุกข์ที่สำเร็จด้วยบารมีองค์พระทั้งแสนโกฏิในนิพพานก็มีคุณเช่นนั้น..ท่านว่าบอกได้เท่านี้นะ

    เนื่องจากเป็นของสำคัญและทำได้น้อยพ่ออาจารย์ท่านว่าพูดมากไม่ได้ เพราะคนเอาไปได้ใช้เค้าก็รู้เองเห็นเองชื่อเขาก็บอกตรงๆอยู่แล้วว่าเป็นตะกรุดที่เอาไว้สะกดทุกข์ ### ดังนั้นคนมีความทุกข์ก็ต้องใช้ และคงเป็นครั้งเดียวที่เราจะทำตะกรุดสะกดทุกข์ร่วมกับวิชาดับธาตุนิพพานนี้เพราะว่าของแบบนี้เป็นของที่มีอาถรรพ์สูงครูแรงเป็นของที่มีเจ้าของทุกคน อย่าเห็นว่าดอกเล็กแล้วจะได้ปรามาสหรือดูถูกไปเขาเรียกว่านี่แหละเล็กดีแต่รสโตมีอานุภาพเกินตะกรุดสะกดปกติทั่วไปมากมาย ด้วยเสด็จพระใหญ่ท่านเมตตาทำให้เองลำพังแค่สูตรสะกดทุกข์นี้ก็ไม่ธรรมดาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าเราขอองค์ปฐมท่านไว้ให้คนเอาไปใช้ได้มีวาสนาต่อเติมความสุข..ต่อชะตาความฝันแรงปรารถนาของตน
    *** พ่ออาจารย์ท่านว่าให้จำเอาไว้อย่างเดียว คนที่บูชาตะกรุดสะกดทุกข์ชุดนี้เมื่อได้ดีแล้วจำใส่ใจเอาไว้ว่าเรามาถึงจุดนี้ก็ด้วยพระพุทธคุณท่านสงเคราะห์ อย่าเอาฐานะไปใช้รังแกใครอย่าเอาตะกรุดนี้ไปสะกดหรือกลั่นแกล้งใคร เพราะตะกรุดนี้นอกจากจะสะกดทุกข์แล้วมันยังสะกดได้ทุกสิ่งด้วยเช่นภยันตรายต่างๆแต่ตรงนี้เราจะไม่พูด เพราะพูดเยอะไปคนจะเอาไปเล่นไปทำโทษแก่ชีวิตสัตว์ทั้งหลายดังนั้นเพียงอาราธนาไว้คุณพระท่านสงเคราะห์เต็มที่เรื่องอื่นไม่ต้องพูดกัน

    ตะกรุดชุด "ดับธาตุนิพพาน"

    ที่ผ่านมาถือว่าน้อยนักที่พ่ออาจารย์ท่านจะสร้างเครื่องมงคลอันมีอิทธิคุณเกี่ยงโยงกับเรื่องของ
    กรรมโดยตรง ท่านว่าสัตว์ทั้งหลายนั้นล้วนแต่ถูกผูกอยู่ในกฏแห่งกรรม มีเกณฑ์ชะตาที่จะเกิดสุขทุกข์ระคนกันไป ซึ่งเกณฑ์ชะตาเหล่านี้สามารถที่จะแก้ไขได้ด้วยความประพฤติและการกระทำ หากแต่กฏแห่งกรรมนั้นแก้ไขไม่ได้ เพราะสัตว์ทุกรูปนามนั้นปรารถนาความสุข ซึ่งสุขนั้นก็มีทั้งสุขที่ฉาบฉวย..ปราณีต..ไปจนถึงบรมสุข ไม่ว่าจะสัตว์ชนิดใดหรือมหาสัตว์,โพธิสัตว์ก็ตามล้วนบำเพ็ญบารมีทนรับความลำบากอย่างยิ่งเพื่อไปให้ถึงความสุขนั้นนั่นคือพระนิพพาน

    พ่ออาจารย์ท่านได้ลง
    วิชาดับธาตุนิพพานเสริมลงไปโดยท่านได้ทำตามวิชาเฉพาะซึ่งสมเด็จองค์ปฐมได้ประทานให้แก่ท่านไว้ ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาที่พิเศษมากเนื่องจากเกี่ยวเนื่องด้วยธาตุนิพพานอันต่างจากเครื่องมงคลใดๆที่จะพึงมีหรือปรากฏมี ซ้ำวิชาที่ใช้ลงนั้นก็เป็นของสูง เป็นวิชาชั้นสูงยิ่งกว่าตำรับใดๆท่านว่าไม่ว่าวิชาในมนุษย์โลกหรือเทวะโลกตลอดจนพรหมโลกก็ดีนั้นล้วนเทียบกันไม่ได้ เพราะวิชานี้มีเฉพาะเหล่าพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่รู้แม้พระอริยสาวกผู้เป็นอรหันต์ขีณาสพก็ไม่สามารถรู้ได้จะมีที่รู้ก็คือเหล่าพระพุทธเจ้านอกจากนั้นก็คือผู้ที่รับวิชาจากเสด็จพระใหญ่ท่านโดยตรง

    สำหรับพ่ออาจารย์นั้นท่านพิจารณาเห็นแล้วว่า
    กระแสแห่งพระนิพพานนั้นนอกจากเหล่าพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์แล้วยากที่บุคคลทั้งหลายจะเข้าถึง ท่านจึงได้สร้างลงสูตรดับธาตุนิพพานนี้เสริมไว้ในตะกรุดสะกดทุกข์เนื่องจากวิชานี้มีอานุภาพต่อต้านกรรมโดยตรง ท่านว่าเหนือกว่าวิชาหนุนดวงหรือวิชาที่เสกโดยคุณแห่งวิปัสนาญาณทั้งหลาย กอปรกับอักขระเลขยันต์นั้นซับซ้อนต้องลงถึงสองชนิดด้วยกัน พ่ออาจารย์ท่านได้ประกอบวิชาลงอักขระเดินธาตุนิพพานโดยขอความอนุเคราะห์และสงเคราะห์จากเสด็จพระใหญ่โดยตรงได้จารตะกรุดชุดดับธาตุนิพพานขึ้นมา ท่านว่าวิชานี้เป็นของสำคัญนักแม้ตกในพรหมโลกหรือเทวโลกก็ดี ทั้งพรหมและเทพยดาทั้งหลายย่อมให้ความเคารพนบนอบดุจเข้าเฝ้าเบื้องหน้าสมเด็จพระชินสีห์เช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าธาตุนิพพานในตะกรุดนี้มีผลเกี่ยวเนื่องกับบรมสุขโดยเฉพาะ เมื่อธาตุนิพพานอยู่กับผู้ใดก็ย่อมถือได้ว่าผู้นั้นถึงซึ่งบรมสุขอย่างแท้จริง เมื่อนั้นความทุกข์ทั้งหลายย่อมจะไม่มากล้ำกรายได้ แม้แต่กรรมเวรหรือภัยจากอมนุษย์ทั้งหลายก็ดี *** เช่นนี้จึงจะเรียกว่าสะกดทุกข์ทุกประการ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วแม้เหล่าสมเด็จพระบรมศาสดาเมื่อทรงตรัสรู้นั้นตลอดไปจนสิ้นอายุขัยแห่งพระชนม์ชีพท่านก็ยังรับผลของกฏแห่งกรรมอยู่ จวบจนท่านเข้านิพพานจึงจะพ้นกฏของสิ่งสมมติทั้งหลาย ดังนั้นธาตุนิพพานจึงเป็นสิ่งสำคัญวิชานี้จะลงจะเกิดขึ้นท่านว่าจะเกิดขึ้นในวาระสำคัญเท่านั้นแม้พระศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองหรือตกต่ำเพียงใดหากเสด็จพระใหญ่ท่านไม่เปิดให้แก่ผู้ใดแล้ววิชานี้ย่อมไม่เกิดขึ้นเลย
    เพราะมีผลใหญ่หลวงให้ล่วงกรรมได้โดยตรงท่านว่าแม้มีทุกข์เข็ญใดเป็นปัจจัยให้เผชิญอยู่ก็ดีให้ระลึกถึงองค์ปฐมเป็นที่สุด กาลแห่งทุกข์นั้นย่อมคลี่คลายและล่วงผ่านไปได้เสมอดุจว่าไม่เคยเกิดขึ้นเลย แม้ทุกข์นั้นจะมีผลสืบมาจากกฏแห่งกรรมก็ตาม ### ท่านว่าตรงนี้ศรัทธามีส่วนมาก ยิ่งศรัทธามากก็ยิ่งได้ผลมาก พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาแล้วว่าเหตุในปัจจุบันนั้นคนลืมสุขตกทุกข์นั้นมีมาก ด้วยว่าวาระเวรกรรมนั้นหนุนสัตว์ให้โลกปั่นป่วนวุ่นวาย ผู้มีอำนาจล้วนทุศีลขาดความสุจริตยุติธรรมส่งผลตามมาถึงคนกลุ่มใหญ่ในทุกๆประเทศล้วนเดือดร้อนตามกันไปทั้งหมด ท่านจึงเสี่ยงสัตย์เพื่อลงวิชาดับธาตุนิพพานในตะกรุดสะกดทุกข์ขึ้นมาให้ผู้ที่มีบุญในศาสนาพระสมณะโคดมและมีบุญสัมพันธ์กับเสด็จพระใหญ่องค์ปฐมได้นำไปบูชา

    ดังที่กล่าวไปแล้วว่าวิชาชุดดับธาตุนิพพานนี้ต้องลงสองส่วน อีกส่วนหนึ่งจารด้วยวิชาพุทธพรหมกายสิทธิ์ท่านว่าวิชานี้ดีทางเสริมบารมี
    คนเราเมื่อสะกดทุกข์แล้ว..ปิดกรรมแล้ว..ก็ต้องเร่งสร้างบารมีหนุนชีวิตตัวเอง วิชานี้เป็นวิชาที่หนุนบารมีให้กุศลกรรมส่งผลท่านว่าพูดได้เพียงเท่านี้ นอกจากเสริมบารมีแล้วยังเกี่ยวกับการสร้างฤทธิ์เป็นวิชาที่มีอิทธิฤทธิ์วิเศษ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วจะหาวิชาใดที่จะเสริมส่งให้ผู้ครอบครองนั้นล่วงอิทธิฤทธิ์วิเศษได้ย่อมไม่มีอยู่เลย ท่านว่าฤทธิ์วิเศษนี้คือฤทธิ์ทางใจไม่ใช่จะไปดำดินเหิรฟ้าที่ไหน ท่านพิจารณาแล้วว่าเป็นของมงคลชั้นเลิศเอาไว้ติดตัวเอาไว้ใช้เดี๋ยวก้รู้เอง มันจะพอกพูนและเกิดขึ้นกับจิตวิญญาณติดตัวไปถึงภพหน้าไม่ตายตามกายสังขารทั้งคนที่ไม่เคยมีสัมผัสพิเศษ,ไม่เคยมีลางสังหรณ์,ไม่เคยมีฤทธิ์ทางใจทั้งหลาย..ท่านว่าเดี๋ยวก็จะมีจะค่อยๆมีค่อยๆเกิดขึ้นค่อยๆเป็นค่อยๆไปและมากขึ้นแม่นยำขึ้นพอกพูนไปเรื่อยๆ ท่านว่านี่มันวิเศษถึงปานนั้น หากคนไหนใช้เป็นนำมาประกอบการทำสมาธิเข้าฌานหรือฝึกพลังทางจิตท่านว่านี่ยิ่งกว่าเสือติดปีก,จะไปชมป่าหิมพานต์,จะไปพิภพนาคาหรือจะไปคุยกับเทวดาหรือพรหมทั้งหลายก็ย่อมทำได้ทั้งสิ้น เช่นนี้มันจะสั่งสมพอกพูนขึ้นเองเวลาเราสร้างบารมีหรือนำมาใช้เวลานั่งสมาธิวิปัสนา แม้พกไว้ปกติก็ยังเป็นมหาอำนาจทำให้คนเคารพหวั่นเกรงมาจากจิตใจของเค้า

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดมาอุดคลุกมวลสารอันมีอิทธิมงคลอันมีพรรณคุณวิเศษอีกคำรบหนึ่งก่อนจะทาสีแดงทับไว้ ท่านว่าของที่คลุกไว้ก่อนลงสีนั้นแม้ไม่เสกก็ยิ่งกว่าขลังด้วยเป็นของที่มีอิทธิคุณสูง ดังนี้

    - สีผึ้งหลวงปู่ภูวัดอินทร์ ท่านว่าสีผึ้งนี้เป็นของโบราณสืบทอดมา อย่างที่ทราบกันว่าหลวงปู่ภูท่านเป็นพระทองคำเป็นศิษย์ในเจ้าพระคุณสมเด็จโต แต่น้อยคนนั้กจะรู้ว่าท่านมีวาจาสิทธิ์พูดอะไรก็เป็นไปตามปาก สำหรับสีผึ้งนี้เป็นของใช้แต่เดิมของท่านพ่ออาจารย์ว่าไม่รู้ท่านได้มาแต่ไหนหรือท่านทำขึ้นเองแต่เอาแน่ว่าเป็นของที่ท่านใช้ มันแน่นอนว่าย่อมต้องเป็นของดีที่สุดไม่มีอะไรดีกว่านี้ท่านว่าคนจะเล่นทางมหานิยมหรือมหาเสน่ห์ควรมีไว้ ท่านว่าไม่ต้องดูไกลดูแค่องค์หลวงปู่ภูท่านมีคนรักคนเคารพกันทั่วเมืองมีชื่อเสียงโด่งดังไปไกล พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งนี้แต่ก่อนมีทั้งอาจารย์ทั้งคนมาขอบูชาท่านเขาว่าแค่เม็ดกลมๆเท่าปลายเข็มหมุดให้ก่อนละหมื่นถึงกระนั้นท่านก็ยังเงียบท่านยังไม่เคยนำออกมาให้ใครทั้งสิ้นด้วยเก็บเอาไว้รอเวลาเสด็จพระใหญ่ใช้งานแล้วจะนำออกมาทำของโดยครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ป้ายสีผึ้งนี่เป็นสื่อแรงครูที่ตะกรุดทุกดอก

    - ผงโพธิ์นิพพาน ท่านว่าผงนี้ท่านปรุงขึ้นจากไม้ที่มีพรรณคุณวิเศษหลายชนิดแต่เพื่อให้ตรงตามชื่อตะกรุดจึงเรียกว่าผงโพธิ์นิพพาน โดยท่านได้นำผงไม้โพธิ์นิพพานมาผสมกับผงไม้ช่อฟ้าวัดระฆัง,ผงไม้กาตอมซาก,ผงไม้ตะเคียนหลักเมืองนคร,ผงไม้เสาตะลุงช้างโบราณ,ผงไม้เสาชิงช้าโบราณ ท่านว่าไม้แต่ละอย่างนั้นล้วนมีอิทธิคุณแฝดมีสิริมงคลและพุทธคุณอย่างสูงต่างกันไป ท่านว่าบางอย่างเป็นของโบราณอย่างไม้เสาตะลุงต้นนี้อายุกว่าสี่ร้อยปีนานกว่าอายุกรุงเทพเสียอีก ส่วนใหญ่เป็นของโบราณที่มีอำนาจลึกลับรักษาหวงแหนทั้งนั้นท่านพลีมาและก็เชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเหล่านั้นมาช่วยหนุนช่วยเสริมผู้บูชาโดยเฉพาะโดยนำผงไม้เหล่านี้คลุกไว้ที่ตะกรุดก่อนจะลงสีแดงทับอีกชั้นหนึ่ง

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดสะกดทุกข์(ชุดดับธาตุนิพพาน)ขึ้น ท่านว่าไม่ต้องพูดกันมากเพียงมวลสารต่างๆที่นำมาใช้นั้นก็ดีในตัวอยู่แล้วด้วยแต่ละอย่างถ้านำมาบอกกล่าวกันจริงๆแล้วก็เป็นทั้งหนุนดวงอย่างที่สุด,เป็นของสูงที่สุด,เป็นเสน่ห์อย่างที่สุด,เป็นมงคลอย่างที่สุดทั้งสิ้น เมื่อได้ตะกรุดแล้วท่านว่าการเสกนั้นยากกว่า การจะเสกให้ได้ตามที่เสด็จพระใหญ่ท่านมีบัญชาไว้ไม่ใช่ง่ายนอกจากเสกบนพื้นดินแล้วท่านยังให้เสกบนฟ้ากับใต้ดินอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านรู้ว่าการเสกที่เสด็จพระใหญ่ท่านกำหนดเช่นนี้ย่อมเป็นอุบายธรรม หลังจากเชิญเสด็จพระใหญ่มาบรรจุวิชาแล้วท่านจึงดำเนินการณ์เสกให้ครบทั้งสามภพภูมิดังกล่าว โดยเสกบนฟ้าท่านก็นำตะกรุดนั้นขึ้นไปเสกบนยอดเขายอดภูเชิญเทพพรหมทั้งหลายมาเป็นสักขีพยาน,เสกใต้ดินท่านก็ปิดถ้ำทำเชิญพญานาคคนธรรพ์วิทยาธรมาเป็นสักขีพยาน ท่านว่าให้คิดกลับไปใหม่ ท่านว่าคงทำไม่ได้อีกเป็นครั้งที่สองเพราะใช้เวลานานมาก...เสกแต่ละครั้งอย่างต่ำสามวันสามคืน ต่อไปคงทำไม่ได้อีก เพราะเทพพรหมและนาคราชทั้งหลายต้องลงมาช่วยหนุนช่วยกันทำอย่างต่อเนื่อง ท่านว่าทุกการกระทำไม่มีเสียเปล่าตะกรุดนี้มีฤทธิ์พิเศษอย่างแท้จริง

    คาถาบูชา
    นะมะพุทธัง นะพุทธะสังสะตะอุอิ ปาสุอุชาวิระสติ พุทธิจะติสิวังพุทธัง อิมังคะมังทิตวิสัง อรหังโลกะวิทู ยะวะโลกะวิทู สัพพะอะระหา พุทธะสังมิ พุทธะสังอิ อิสวาสุ สะระณะมะ ทุสะนิมะ ผะเวสัจเจเอหิ อะนิโสสะ เอตังสะตึง เยตะมังคะลัง


    ### เพราะเป็นธาตุนิพพานจึงสื่อกับจิตและศรัทธาจริตของผู้คนได้ง่ายที่สุดด้วยตัวรู้ในจิตของผู้บูชาที่จะสื่อกับนิพพานธาตุนั้นเป็นเรื่องอจินไตย คนไหนรู้ตัวว่าชีวิตมีทุกข์มาก-มีทุกข์น้อยต่างกันอย่างไรเขาก็ต้องใช้ตามจำนวนที่ใจเขาบอก(เพราะนั่นคือตัวเลขที่เสด็จพระใหญ่ท่านให้แต่ละคนรู้เห็นไม่ใช่ทุกข์น้อยใช้มากทุกข์มากใช้น้อย) ด้วยตะกรุดสะกดทุกข์เป็นของเฉพาะทาง..ใครที่มีกรรมหนัก..ยังไม่ลืมตาอ้าปาก..อยากสำเร็จ..อยากมั่นคงท่านว่าค่อยมานำไปบูชา ใช้ตัวรู้นั่นแหละที่ข้างบนเขาสื่อมาเพื่อจะบอกเราว่าใครควรอาราธนาไว้เท่าไหร่ให้เหมาะสมกับบารมีของเราตามภพชาติแต่ละคนเช่นนี้ รายการนี้นั้นรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสะกดทุกข์ (ชุดดับธาตุนิพพาน) บูชา 900 บาท

    97401699-654079618476559-6784947295633801216-n.jpg
    98205070-2842424775875117-1099390269180084224-n.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญแก้วครอบฟ้าอุปถัมภ์"ยัดรวย"พระนางลักขณาเทวี(ฝังตะกรุดพะหะปัตเยมหาราช)

    แต่เดิมนั้น พ่ออาจารย์ท่านเคยจัดสร้างตะกรุดพระนางลักขณาเทวีขึ้นมาคราหนึ่ง แต่เอาออกให้บูชาได้เพียงไม่นานประสบการณ์ปากต่อปากหลายคนก็แนะนำคนรู้จักให้มาบูชาเรื่อยๆ ท่านผิดสังเกตุว่าทำไมคนใช้จึงเปลี่ยนคู่ครองบ่อย พอท่านรู้สาเหตุท่านจึงเก็บเอาไว้ไม่ให้ใครบูชาอีก ด้วยเป็นเครื่องรางที่มีอาถรรพ์มากต่อมาพระนางลักขณาท่านได้ขอให้พ่ออาจารย์หล่อรูปท่านขึ้นเเรียกว่า "เหรียญแก้วครอบฟ้ายัดรวย" พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเฮี้ยนและเป็นเหรียญที่มีดวงจิตของเทพนารีรักษาอยู่ ...ซึ่งในอดีตแต่เดิมนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้พบกับไม้รักท่อนหนึ่งลอยทวนน้ำมา ซ้ำยังมีแสงสว่างวาบหนึ่งเข้ามาที่สายตาท่าน เหมือนจะบอกให้รู้ให้ท่านลงไปเชิญขึ้นมาเก็บรักษาไว้ หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านก็ทราบว่า ***ไม้รักนี้มีจิตวิญญาณของเทพเจ้าในกลุ่มมนาปกายิกาถือครองอยู่ชือว่าพระนางลักขณาเทวี ในสมัยก่อนนั้นมักจะมีคนมาขอเครื่องมงคลกับท่านกันมาก ท่านจึงได้นำไม้รักลอยน้ำอาถรรพ์นี้มาสวดมนต์แผ่เมตตาจิตบอกกล่าวอธิษฐานขอบารมีเทพนารีแห่งดาวดึงส์นี้ออกไปช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก ให้เจ้าแม่ลักขณาเทวีออกไปสร้างกำลังสร้างบารมีกับผู้มีวาสนาร่วมกัน จนภายหลังพระแม่ลักขณาท่านขอให้พ่ออาจารย์สร้างเหรียญรุ่นนี้ขึ้นโดนพระแม่ท่านแบ่งกำลังญาณเข้าสถิตย์เสมือนได้บูชาองค์จริงทุกเหรียญ

    เมื่อจะเหรียญยัดรวยขึ้นมา เจ้าแม่ท่านขอให้พ่ออาจารย์ลงชนวนแผ่นยันต์มากมายตามวิชาเฉพาะทางของท่าน ด้วยปรารถนาจะให้เป็นเมตตาเป็นเสน่หานำหน้าอย่างถึงที่สุด ### ตามมาด้วยยัดรวย(คือยัดเยียดให้มั่งมีจนรวยสมชื่อเหรียญ) เช่นนั้นเหรียญยัดรวยนี้จึงมีคุณทางเมตตาอย่างถึงที่สุดใช้ได้หมดทั้งทางรักทางหลงหรือจะเป็นเมตตาเข้าหาเจ้านายเข้าสังคมกับเพื่อนฝูงเป็นมหานิยม(แต่เสน่ห์เมตตาจากเหรียญพระแม่ลักขณานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเมตตาแบบขอได้ไหว้รับ คือเราขอกับท่านได้ว่าจะเอาทางไหนเรื่องใดได้ขอได้รับมันก็ดีกับตัวเอง) พ่ออาจารย์ท่านลงจารแผ่นชนวนด้วยมนต์คาถาต่างๆมากมายตามคำสั่งเจ้าแม่แห่งดาวดึงส์เพื่อจะนำมาเทเป็นเหรียญรูปท่านทั้งหมดได้แก่
    - แผ่นชนวนวิชาเสน่ห์มอญ เป็นยันต์ครูใหญ่ใช้ได้สารพัดนึกครอบจักรวาลดุจแก้วครอบฟ้า ด้วยวิชามอญนี้เป็นวิชาที่สร้างยากและลงยากซ้ำยังให้ผลแรงนัก พ่ออาจารย์ท่านว่ารุนแรงกว่าศาสตร์วิชาสายอื่นๆเพราะมอญนั้นไสยศาสตร์ของเค้าเป็นไสยสาสตร์ที่รับสืบทอดมาโดยตรงจากธิเบตลัทธิเวทย์มนต์คาถาไสยศาสตร์ต่างๆมาจากลัทธิมันตราญาณโดยตรง เวลาท่านจารท่านเสกนั้นท่านว่าหาฤกษ์ยากและจารยากมาก ซ้ำยังต้องเชิญเชิญครูฝ่ายมอญตลอดจนถึงครูพระเวทย์ดึกดำบรรพต์ต่างๆมาช่วยลงและประสิทธิ์ให้ ท่านว่าด้วยอำนาจแห่งครูบาอาจารย์อักขระทุกตัวนั้นมีชีวิตดิ้นได้ทั้งสิ้น
    - แผ่นชนวนมนต์แปลงรูป เพื่อให้คนเห็นผู้ครอบครองดูสวยงาม ดูดีขึ้น มีสง่าราศี น่าคบหาสมาคมกว่าที่ควรจะเป็น
    - แผ่นชนวนมนต์ร่ำไร เป็นวิชาทางเสน่ห์ ให้คนอื่นเกิดความร่ำไร พิรี้พิไรพะเน้าพะนอไม่ยอมห่างกาย
    - แผ่นชนวนมนต์คำนึงหา ทำให้คนเฝ้าคอย รอคอยการกลับมาของเรา ติดใจเราปรารถนาจะพบเรา
    - แผ่นชนวนมนต์คิดถึง ทำให้เค้าคิดถึงระลึกถึงเรา ไม่เห็นก็ส่งใจมากให้เราไม่หนีไปจากเรา
    - แผ่นชนวนมนต์นางไก่รักพง ให้เค้ารักเราเสมอด้วยแม่ไก่ที่รักพงหญ้า มักจะซ่อนตัวเป็นหนึ่งเดียวกับถิ่นที่อยู่คูหาของมัน ร่วมรัก ร่วมชีวิต
    - แผ่นชนวนมนต์หายโทโส ที่เค้าว่าโกรธว่าเกลียด เห็นหน้าแล้วหายกลายเป็นเมตตาสงสาร
    - แผ่นชนวนมนต์เกี้ยวชู้ เพิ่มเสน่ห์ในการเข้าหาพูดจา เกี้ยวพาราสีใครๆก็จะต้องตกเป็นรอง เคลิบเคลิ้มกับคำพูดของเรา
    ...พ่ออาจารย์ท่านว่า
    นี่แค่ยกตัวอย่างลึกๆยังมีแผ่นชนวนที่เน้นทางโชคาภอีกถึงสี่สิบชนิดตามวิชาของเจ้าแม่เพื่อใช้ดึงโชคสมกับชื่อเหรียญว่า"ยัดรวย" ต้องรวยต้องได้แม้ไม่เต็มใจจะรับก็ยัดเยียดให้เช่นนี้ ด้วยวิชาแต่ละสูตรที่หลอมรวมกันในเหรียญนี้ล้วนหนุนและซึมซับซึ่งกันและกันช่วยเร่งประสบการณ์ให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเองท่านว่าตัวของท่านก็คาดไม่ถึงด้วยชนวนชุดนี้ที่หลอมขึ้นจากเคล็ดวิชาต่างๆอันได้ลงไว้ตามที่เจ้าแม่ลักขณาท่านสั่งรูปของท่านรุ่นนี้ขอบเขตความรู้ความสามารถของพระนางลักขณาเทวีนั้นจัดว่ากว้างขึ้น (คือมีอานุภาพล้นและใหญ่มากเป็นเรื่องทางจิตวิญญาณ)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกตินั้นเหรียญพระนางลักขณาเทวีนี้ดีสารพัดด้านมีครบทุกทางอยู่แล้ว เพราะเป็นจิตแห่งเทพนารีที่มีเมตตามาก ปรารถนาสิ่งใดไม่ว่าจะการงานบนบานสิ่งใดก็บอกกล่าวกับท่านได้ เพราะว่ามีฤทธิ์สามารถเนรมิตรสิ่งต่างๆได้ดั่งปรารถนา และยังมีอุปนิสัยที่เอื้อเฟื้อคอยช่วยเหลือมนุษย์ซึ่งพระนางลักขณาเทวีนี้จะช่วยเหลือผู้ที่นับถือได้ทุกเรื่อง โดยผู้บูชาหมั่นกระทำทักษิณาทานอุทิศถวายท่านย่อมอนุเคราะห์ทุกสิ่งตามที่ปรารถนา ด้วยบุคคลใดก็ดีได้สิ่งวิเศษคือการที่มีองค์เทพนารีท่านรับตนไว้ในความอนุเคราะห์แล้ว โบราณท่านสรรเสริญนักว่าย่อมเจริญรุ่งเรืองในกิจแห่งตนทุกสิ่งตามที่ปรารถนา

    โดยตัวพ่ออาจารย์เองท่านนั้นปรารถนาจะให้คนทำบุญสร้างกุศลหมั่นทำความดี แล้วก็อย่าลืมชวนเจ้าแม่ท่านไปทำบุญตลอดจนอุทิศบุญกุศลนั้นถวายเป็นทักษิณาทานแก่เทพนารีพระนางลักขณาเทวีด้วย(เพื่อให้เราได้ขัดเกลาตนเองด้วยให้ทานแบ่งปันกันตลอด) ท่านว่าบุญใครทำใครได้ไม่ต้องกลัวว่าอุทิศไปแล้วจะสูญเปล่ามีแต่ยิ่งให้จะยิ่งได้ยิ่งดีกับตัวเอง พ่ออาจารย์ท่านทำเหรียญยัดรวย(พระนางลักขณาเทวี)ออกมาให้บูชาหลังจากที่เสกเก็บมายาวนาน ด้วยหนนี้ท่านว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วในเครื่องรางสายของเจ้าแม่ลักขณา ***ดั่งที่ท่านกล่าวไว้ว่ารูปท่านที่ลงอาถรรพ์ตามท่านสั่งเช่นนี้แหละเฮี้ยนขลังศักดิ์สิทธิ์กว่าเครื่องรางอื่นใดทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหนนี้หมดแล้วก็หมดไปเลยโดยท่านบอกว่าให้เค้าจองกันรอบนี้ แต่ใครช้าก็ระวังกันนิดเพราะหมดแล้วย่อมไม่มีอีก

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญแก้วครอบฟ้า"ยัดรวย"นี้ใช้ได้ทุกด้านดีครอบคลุมเหมือนดวงแก้วสารพัดที่จะอธิษฐานคลุมไปทั้งฟ้าทั้งโกฏิจักรวาลยิ่งใช้ยิ่งดี หากรู้จักแผ่เมตตาทำบุญอุทิศถวายองค์เทพที่ประจำอยู่ที่เหรียญแล้วจะทำให้บุญสัมพันธ์ของตนเองกับเทพธิดานั้นแน่นแฟ้นมากขึ้น ซ้ำยังทำให้พระนางมีอิทธิฤทธิ์บุญฤทธิ์สูงยิ่งๆขึ้นไป เพราะพระนางนั้นจะคอยอนุโมทนาบุญกับเราตลอดซ้ำยังจะคอยอนุเคราะห์ความปรารถนาความต้องการของเรา เสมอด้วยความรักของมารดาซึ่งเป็นความรักบริสุทธิ์สูงสุดที่มอบให้กับเรา..ุ.ดุจมารดาอนุเคราะห์บุตรฉันใดก็ฉันนั้น เหรียญนี้ท่านเน้นสั้นๆด้วยไม่รู้จะจำกัดคำพูดอย่างไร หากพกติดตัวไว้ก็เกินไปกับคำว่าเสน่ห์เมตตาถ้ามากกว่านั้นก็ขึ้นอยู่กับใจเราอยากให้เจ้าแม่ท่านช่วยทางไหน ใครอยากเจอองค์ท่านเร็ว(หากจิตไม่มีสื่อจริงๆรับสื่อใดไม่ได้เลยก็หมั่นแผ่เมตตาอุทิศผลบุญบ่อยๆ)เพราะแต่เดิมเจ้าแม่ท่านก็มีบุญมีฤทธิ์มากอยู่แล้ว ด้วยเหรียญนี้ท่านทำขึ้นเพื่อให้เป็นเทวตานุสสติให้คนใช้ระลึกถึงคุณเทวดาจะได้รูจักทำทักษิณาทานให้แก่เทวดาที่อยู่กับตน ท่านว่าบุญมันตอบสนองโดยตรงกับชีวิตผู้ครอบครองเป็นการให้ประโยชน์เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันดั่งเราให้เขาเขาก็ให้เรากลับมาเท่านั้น .... *** ถ้าใจเราใหญ่ขยันส่งบุญ ขยันส่งไมตรีให้ท่านโมทนาก็ยิ่งได้มากเสมอกันเช่นนี้

    ฝังตะกรุดพระแม่อุปถัมภ์(องค์พะหะปัตเยมหาราช)

    ด้านหลังท่านฝังตะกรุดหัวใจองค์พะหะปัตเยมหาราช(พระแม่อุปถัมภ์)ไว้ทุกองค์ อันองค์พะหะปัตเยหรือพระแม่อุปถัมภ์นี้ท่านเกิดจากธาตุและธรรมอันได้จุติเป็นดวงพลังงานซึ่งมีหน้าที่ควบคุมจักรราศีดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ต่างๆในมหาจักวาลขึ้นมา โดยดวงจิตนั้นพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าองค์พะหะปัตเย พระองค์ได้ควบคุมความเป็นไปและการเปลี่ยนแปลงต่างๆของมิติกาลอวกาศในรูปของพลังงานกลุ่มดาวฤกษ์ดาวเคราะห์ทั้งหมดทั้งมวล

    อันชีวจิตแห่งองค์พะหะปัตเยนั้นได้แบ่งรูปออกมาในลักษณะต่างๆและเข้ารักษาปกป้องสรรพชีวิตซึ่งเป็นจุดย่อยที่สุดในระบบโครงสร้างจักรวาล โดยสิ่งมีชีวิตนั้นก็ยังรับพลังงานการเปลี่ยนแปลงและอยู่ใต้อำนาจของดวงดาวต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าในส่วนของสยามนั้นพระองค์ท่านนิรมาณกายมาเป็นมหาเทวีเข้าพิทักษ์รักษาที่พ่ออาจารย์เรียกว่าพระแม่อุปถัมภ์นั่นเอง ดังนั้นองค์พะหะปัตเยมหาราชก็คือจอมราชาผู้ปกครองจักรราศีตลอดจนกลุ่มดาวฤกษ์ดาวเคราะห์ต่างๆทั้งหมดในมหาจักรวาล เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้ขออำนาจของพระองค์ผู้ยิ่งใหญ่เหนือพลังธรรมชาติให้ทำการจุติอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือลูกหลานที่มีจิตศรัทธาแน่วแน่เป็นรายบุคคลไป ท่านก็ให้สูตรลงตะกรุดลงหัวใจของท่านเอาไว้เพื่ออาศัยนัยยะสำคัญของกำลังปางพระแม่อุปถัมภ์นี้จะได้อุ้มดวงจิตอุ้มชีวิตของเธอทั้งหลายอุ้มไว้ในความอนุเคราะห์อุปถัมภ์ดุจมารดาอุ้มชูบุตรเช่นนั้น ตะกรุดหัวใจองค์พะหะปัตเยนี้จึงใช้เป็นของค้ำคูณตัวเอง

    ท่านว่าถ้าเปรียบตะกรุดหัวใจองค์พะหะปัตเยกับของค้ำคูณสิ่งอื่น สิ่งทั้งหลายอันใช้เป็นค้ำคูณเฉยๆมันย่อมจะธรรมดาด้วยไม่เกิดผลทันใจเท่าไหร่
    ผิดกับตะกรุดองค์พะหะปัตเยนี้ที่ค้ำคูณทันใจ ค้ำคูณได้ทุกเรื่องใช้ได้ทุกคน ท่านเอาตะกรุดมาฝังเทวีลักขณานี้ก็ด้วยผลประโยชน์ที่ว่าจะให้เราเปรียบตนเองเสมือนลูกที่แม่ต้องคอยรับการอภิบาลดูแลรักษาเอาใจใส่ไม่ให้เดือดเนื้อร้อนใจ...ด้วยแม่นั้นจะไม่ให้เราต่ำกว่าคนจนกว่าใครไม่ให้อันตรายใดๆกล้ำกรายลูกได้ อยากได้อะไรก็ให้ขอกับแม่ของตนแม่ก็จะทุ่มเทชีวิตหามาให้ลูกทุกครั้ง ### ด้วยกำลังแห่งองค์พะหะปัตเยปางพระแม่อุปถัมภ์นี้หากได้เข้าอุปถัมภ์ค้ำชูใครดุจมารดาบังเกิดเกล้าแล้วหวังอะไรย่อมสัมฤทธิ์ผล แม้เราจะไปขอกับแม่ที่ไหนก็ไม่สัมฤทธิเท่ากับมีแม่เป็นของตน(เทวีลักขณาฝังอาถรรพ์พระแม่อุปถัมภ์) และตะกรุดนี้ยังเป็นสายสัมพันธ์ที่ย้ำกับองค์มหาเทวีด้วยว่าให้รักและอุปถัมภ์ลูกผู้เป็นเจ้าของนี้ดุจเราเป็นเลือดเนื้อและชีวิตของตนเองแม้เลือดในอกก็ยังสละให้เราได้

    คาถาบูชา
    โอม จิตตังมหาจิตตัง พระลักขณาเทวีอิตถีเทวะ ธาตุระภูตานัง กายายะอินทรี จิวะรัง มะมะ(ตั้งจิตให้ดี เป็นการเชิญญาณบารมีของพระนางเข้าครอบตัวเรา)
    ขอบารมีพระแม่อุปถัมภ์ โอม พะหะปัตเย มาตากี โอมการัมพินทุสัมยุกตัม นิตยัมธยายันติ โยคินา กามะทัม โมกะสะทัม ไจวะ โอมการายะนะโมนะมะ พะหะปัตเยนะโมนะมะ


    วิธีใช้อาราธนา
    พ่ออาจารยท่านว่า
    ถ้าเลี่ยมพกติดตัวให้เจาะรูกลมๆด้านหน้าเอาไว้ด้วย เพื่อจะได้ฉีดน้ำหอมเครื่องหอมบูชาองค์เทวีท่าน ท่านโปรดปรานเครื่องหอม หากเราจะบนบานศาลกล่าวสิ่งใดให้ได้ผลไวก็ให้บนท่านด้วยน้ำหอมเช่นนี้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าให้บูชาเฉพาะคนที่มีบุญสัมพันธ์กัน ***คนที่ชีวิตทำอะไรไม่ขึ้นก็ควรจะใช้ ใครที่อยากได้ของทางทิพย์กายไปค้ำคูณท่านว่าสุดแล้วแต่จะเอาไปใช้เถิด แม้ห้อยไว้กับตัวก็เป็นเมตตาสุดๆด้วยเหรียญ"ยัดรวย"(ยัดเยียดให้รวย ให้ได้เรื่องสมใจ) ...ให้ได้ทุกสิ่งดั่งความรักของแม่ที่มีต่อลูกอันหาสิ่งใดในโลกที่จะมีเมตตามากกว่ามิได้ ท่านว่าทำของค้ำคูณที่ยิ่งกว่าหนุนดวงชะตาทั่วไปแบบนี้ทำยากมากเพราะมันให้ผลยิ่งใหญ่ครอบคลุมไปหมด คนใช้ให้หมั่นท่องคาถาบ่อยๆอธิษฐานขอพรท่านให้ความรักท่านแล้วจะรู้เองเห็นเองเพราะท่านจะให้ความรักกลับดุจความรักที่แม่มีต่อลูก

    *** พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้พลังไม่มีวันถดถอยเสื่อมคลายหากผู้บูชายังตั้งมั่นอยู่ในความรัก ไม่ต้องกลัวของจะเสื่อมพลังจะลดน้อยถอยลงใดๆทั้งสิ้น..ใจตนเองนั้นรักท่านแค่ไหนมันก็แรงเสมอใจตนเท่านั้น รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านควรใช้ติดตัวกันบ้าง เหมือนเรามีนางฟ้าผู้มากบารมีหนุนอยู่ท่านแบ่งกำลังของท่านองค์ต่อองค์เช่นนั้นเลย(ใครหัวไวอยากได้กำลังบุญมาก อยากให้นางฟ้าท่านอนุโมทนามาก ให้ความสำเร็จกับเรามากพ่ออาจารย์ท่านว่าก็ต้องใช้หลายองค์หน่อย จะกี่องค์ก็ได้สุดแต่ใจของเราเพราะของเช่นนี้เติมเต็มบารมีซึ่งกันและกันกับเรา...คำว่าบารมีนี้ไม่มีที่ว่าน้อยแล้วจะดีมีแต่ยิ่งเยอะยิ่งดี) รายการนี้รับจองทาง PM เท่านั้น ปัจจัยร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญแก้วครอบฟ้าอุปถัมภ์"ยัดรวย"พระนางลักขณาเทวี(ฝังตะกรุดพะหะปัตเยมหาราช) บูชา 900 บาท


    97398764-298977844429262-6903020774144081920-n.jpg 98175370-715339532566185-2849468551855603712-n.jpg
    97818837-1364253743772854-8979293452059541504-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2023
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระสำเร็จแก้วปัญจะสุทธาพรหมปกาศิต(หมื่นมนต์ยึดฟ้าพญาการเวก)

    พระสำเร็จรุ่นนี้สามารถใช้แจ้งการณ์บอกเหตุร้ายดีได้...เมื่อได้อาราธนาติดตัวไว้จะเตือนภัยแสดงพุทธานุภาพให้ปรากฏเพื่อให้ผู้อาราธนาได้รับรู้เค้าลางโชคชะตาในปัจจุบัน

    - หากเราห้อยองค์พระสวมคออยู่ ยามใดหรือไปไหนเช่นจะไปเสี่ยงดวงวันนี้**จะซื้อหวยวันนี้ ท่านว่าให้อธิษฐานกับองค์พระก่อน ถ้าเกิดองค์พระเย็นวาบพ่ออาจารย์ท่านว่าหยิบไปเถอะแม้หลับตาหยิบยังถูกเลย หากเราอาราธนาพระสวมคอแล้วมีอาการเย็นวาบพุ่งขึ้นมาจากองค์พระก็ดีหรือมีอาการเย็นวาบวิ่งขึ้นมาจากกลางหลังสู่ศรีษะก็ดีท่านว่าทำอะไรวันนั้นก็จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีทุกอย่างไม่ปรากฏสิ่งขัดข้องเลย

    - หากเราอาราธนาองค์พระสวมคออยู่ แล้วปรากฏเหล่านักปักษาชาติทั้งหลายบินมาจีบกันเกี้ยวกัน บินเล่นกันมาส่งเสียงไพเราะเสนาะโสตเบื้องหน้าเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเขาบินมาเล่นกันแบบนี้ไม่ได้ตีกัน วันนั้นตอนนั้นจะทำอะไรก็ให้ลงมือทำได้เลย จะเดินทาง,จะเสี่ยงดวง,จะเริ่มธุรกิจ,จะสานความสัมพันธ์กับใคร...(เอาว่าเรื่องร้อยแปดพันเก้าขอแค่ลงมือเดี๋ยวนั้นย่อมออกมาดีทั้งหมด) สถานการณ์ยามนั้นฟ้าจะหนุนส่งให้สำเร็จได้ดั่งใจคิด

    - หากอาราธนาองค์พระสวมคออยู่ แล้วเห็นนกบินโฉบกันไปมาร่อนลงกินอาหารต่อหน้าต่อตาเราก็ดี พ่ออาจารย์ท่านว่ายามนั้นเป็นมงคลนักให้ตัวเรารีบสาวเท้าก้าวเดินไปเถิด การณ์ที่หมายทำไม่ใช่เพียงจะสำเร็จเท่านั้นหากแต่จะมีเรื่องดีๆเข้ามาอีกอย่างน่าฉงนใจ

    - หากยามใดหรือวันเวลาใดก็ดี ถ้าตัวเรามีธุระจะออกไปทำกิจธุระข้างนอกให้อาราธนาองค์พระสวมคอแล้วอธิษฐานเสี่ยงทายดูถ้าเกิดสำแดงเหตุการณ์ประหลาดหลังจากก้าวพ้นธรณีประตูบ้านตัวเองแล้วดังนี้ เช่นเกิดมีอาการร้อนรุ่มเนื้อตัวก็ดี,มีพลังความร้อนวิ่งผ่านสวนขึ้นมาจากแผ่นหลังสู่บริเวณศรีษะ หรือบริเวณคอที่เราห้อยองค์พระอยู่เกิดร้อนผ่าวก็ดี,องค์พระสั่นก็ดี,กะตุกสร้อยก็ดี...พ่ออาจารย์ท่านว่าให้หยุดกิจที่จะไปทำนั้นเสียทันที หยุดการเดินทางใดๆหรือหากมีเหตุเลี่ยงไม่ได้ก็ให้เลื่อนสถานการณ์นั้นออกไปก่อน หากแม้ฝืนจะก้าวออกไปแล้วจะด้วยกรรมแต่งเวรทำอย่างไรก็ตามการณ์นั้นล้วนไม่มีทางสำเร็จ

    - หากเราห้อยองค์พระอยู่ แล้วปรากฏเค้าลางประจักษ์แก่สายตาเมื่อจะออกจากสถานที่ใดๆก็ดีหากเห็นนกบินมาจิกตีกันต่อหน้า พ่ออาจารย์ห้ามออกไปในเวลานั้นโดยเด็ดขาดยิ่งถ้าคนจะเดินทางไกลท่านว่าให้ยกเลิกทั้งสิ้นเพราะจะเกิดเหตุเสียเลือดเนื้อ โดยเฉพาะถ้านกจิกตีกันถึงขนาดตกลงมาตายต่อหน้าสถานการณ์จะยิ่งรุนแรงเกินคาดคิด

    พ่ออาจารย์ท่านมีดำริจะสร้างพระสำเร็จแก้วปัญจะสุทธาพรหมปกาศิตตามดำริเสด็จพระใหญ่ที่ให้สร้างเป็นพิมพ์พระสมเด็จทรงนกการเวกขึ้นมาเพื่อมอบให้เป็นของขวัญเเละกำลังใจเเก่ผู้ที่ศรัทธาในตัวท่านตลอดจนสายครูบาอาจารย์ของท่าน ซึ่งพระรุ่นนี้จะถือว่าทำได้ยากมากก็ได้ เนื่องจากการรวบรวมมวลสารมหามงคลมากมายในองค์พระก็ดีหรือเวลาที่จะใช้ทำเเละเสกอันเนิ่นนานนับปีก็ดีพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องค่อยๆทำไปเสกคาถากำกับกันนานมากเนื่องจากท่านต้องใช้ผงลบอักขระวิชาธรรมต่างๆตลอดจนต้องปลุกเสกเองด้วยบทธรรมหลายบท อาทิ ธรรมดวงเเก้ว,ธรรมเวียงแก้ว,ธรรมกำจัด,ธรรมเวียง 7 ชั้น,บารมี 9 ชั้น...เหล่านี้โดยนำผงลบวิชาธรรมทั้งหลายตลอดจนบทพระคาถาต่างๆหลายห้องธรรม(อันมีอานุภาพมากล้นพ้นประมาณ)มาผสมเข้ากับผงสมเด็จวัดระฆัง,ผงก้นกรุบางขุนพรหม,ผงยาวาสนาจินดามณีหลวงปู่บุญวัดกลางบางเเก้ว,ผงอิทธิเจหลวงพ่อเเก้ววัดเครือวัลย์,ผงพุทธคุณ,ผงปถมัง,ผงอิทธิเจ,ผงตรีนิสิงเห,ผงมหาราช ### ท่านได้เอาผงมาเข้ากับผงว่านยาและคตวิเศษนานาชนิดรวมถึงผงสำคัญศักดิ์สิทธิ์ทางธรรมชาติที่รวบรวมไว้ทั้งผงไม้กาฝากมางคล,คตที่เกิดจากไม้มงคล,ว่าน,เกสร,ผงไผ่ตัน,ผงไม้รวกตัน,ผงคตข้าวสารดำและข้าวสารหิน ตลอดจนผงที่ได้จากลานจารึกใบข่อยโบราณนำมาเผาไฟทำผงใบลาน,ผงข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธ,ผงมหาอุตม์กะลาไม่มีตา,ผงกะลาตาเดียว,ผงคตมะพร้าว,ผงกิ่งโพธิ์นิพพาน,ผงไม้ไก่กุก,ผงเครือร้อยปลา,ผงปูนากระตุกเดือนห้า,ผงกบจำศีลเดือนห้า,ผงเขี้ยวงูจงอางที่ตายคาไข่ที่ฟัก,ผงไม้คานและไม้ประตูคุก,ผงชันโรงกลางแจ้งตรงตะวัน,ผงไม้คานแม่หม้าย,ผงเขาควายเผือกฟ้าผ่า,ผงเขี้ยวเสือโปร่ง,ผงคตสมองวัวเป็นเอกทางตบะเดชะผู้คิดร้ายไม่กล้าขยับปากด่าว่า,ผงคตขนุนซึ่งมีเทพยดาอาศัยเป็นเมตตามหานิยมค้ำชูดวง,ผงงาช้างดำ,งากำจัด,งากำจาย,งาช้างน้ำ,ผงเขากวางคุด,ผงเขากระจงคุด,ผงพญางูปากเป็ดที่สุดทางโชคลาภวาสนา,ตะไคร่โบสถ์,ตะไคร่เสมา,ตะไคร่มหาเจดีย์,ตะไคร่หลักเมืองชื่อมงคล,กระเบื้องโบสถ์โบราณ,ดินสังเวชนียสถาน,ผงดินกากยายักษ์,ผงเพชรน่าทั่ง,ผงเหล็กน้ำพี้,ผงสังขวานร,ผงรังเหล็กไหล,ผงข้าวตอกพระร่วง,น้ำฝนเดือนห้าตกรดหลังคาโบสถ์,น้ำในเศียรพระพุทธรูป,น้ำมันช้างตกมัน,น้ำตาปลาดุหยง ท่านว่าต้องนำผงมาตำมานวดกัน(ชุดนี้ตำจนสากหักครกแตกกว่าจะนวดผงกดได้แต่ละองค์ทำได้ช้ามาก)

    ทั้งเสด็จพระใหญ่ท่านยังให้เพิ่มเติมผงมวลสารที่เก็บๆไว้ใส่เข้าไปอีกหลายชนิดได้แก่
    - คำข้าวผลึกเพชรของหลงพ่อฤาษีลิงดำ คำข้าวที่ไม่หม่นหมองและสุกใสดุจอัญมณี ด้วยเป็นคำข้าวที่หลวงพ่อท่านมอบให้พ่ออาจารย์ท่านไว้ใช้ในกาลอันเห็นสมควร เมื่อนำคำข้าวที่ท่านอธิษฐานจิตไว้ดีแล้วมาทำ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะให้ผลไม่ต่างจากพระคำข้าวของท่านเลยเชื่อว่าใครได้ไว้จะมีลาภผลมาก
    - คำข้าวพระอรหันต์ สิ่งนี้เป็นของส่วนตัวของท่าน โดยท่านได้รับเมตตามาจากหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพลผู้เป็นพระอรหันต์แห่งยุคองค์หนึ่งได้คายคำข้าวใส่มือท่าน ดุจจะรู้ว่ากาลในอนาคตนั้นท่านจะได้นำมาใช้ประโยชน์ช่วยเหลือผู้คน ซ้ำยังได้มอบคำข้าวขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตที่ท่านรักษาไว้มาให้พ่ออาจารย์อีกด้วย แค่คำข้าวที่พะอรหัต์คายออกมาเหล่านี้ก็ล้วนเชื่อได้เลยว่าองค์พระรุ่นนี้จะต้องมีลาภผลมากแน่นอน พ่ออาจารย์ท่านว่าใครมีไว้ดุจมีสมบัติทิพย์นับล้านโกฏิอยู่กับตัว
    - ผงพุทธคุณทั้ง 5 ของสมเด็จโตบรมครูที่ตกทอดมา ซึ่งพ่ออาจารย์จะผสมสร้างพระในบางกาลบางวาระเท่านั้น
    - ผงเหล็กไหลโกฏิปี อันได้ชื่อว่าเป็นเหล็กไหลน้ำหนึ่งที่มีอานุภาพสูงสุด ท่านได้นำมาเข้าเครื่องเจียจนเป็นผงละเอียดเพื่อผสมลงไปในองค์พระ ท่านว่าจะได้มีความเป็นทิพย์มีอำนาจกายสิทธิ์น้ำหนึ่งอยู่ภายในจะหยิบจับทรัพย์จะหาอะไรก็คล่องไม้คล่องมือ
    - ผงรังต่อ ท่านว่าขาดไม่ได้หรอกเพราะมันเป็นเคล็ดจะได้ต่อออกไปไม่รู้หมดไม่อยู่ที่เดิม มีพระรุ่นนี้จะได้ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่
    - ผงลบมนต์น้ำซึมบ่อทราย มนต์มหาเศรษฐีหลวง มนต์พระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้าสำเภา มนต์พระโพธิสัตว์เป็นมหาเศรษฐี ท่านว่าใช้ผงเพียงสี่ตระกูลนี้เท่านั้นมาผสมลบถมผงวิเศษ มนต์น้ำซึมบ่อทรายนี้จะได้รวยแบบมั่นคงดุจน้ำตกสู่ทรายก็ค่อยๆซึมเข้าไป ชีวิตผู้ใช้ที่ว่าไม่มีโชคก็จะได้มีโชคหล่นมาหาซึทซับเข้าไปในตัวเราอยู่ร่ำไปไม่มีวันหมด ส่วนผงมนต์พระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้าสำเภานั้นจะทำกิจการงานใดๆก็จะสำเร็จลุล่วงประสบโชคลาภครั้งใหญ่ได้โดยง่ายเมื่อรวมกับผงพระโพธิสัตว์เป็นมหาเศรษฐีและผงมนต์มหาเศรษฐีหลวงแล้ว ก็จะช่วยต่อยอดให้ได้เป็นมหาเศรษฐีเร็วขึ้น

    - ว่านยามหาโชค มหาเมตตา มหาเสน่ห์หลายตระกูลพอสมควร

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามวลสารชุดนี้ตำผสมมาเรื่อยๆ องค์ปฐมท่านกำกับเองตลอดเดี๋ยวก็ให้เพิ่มนั่นเดี๋ยวก็ให้เพิ่มนี่ลงไป พระชุดนี้จึงแก่มวลสารหลายชนิดมากเกินกว่าที่หยิบจับมาบอกเล่าได้เสียอีกทั้งเมื่อผสมผงเสร็จวาระหนึ่งแล้ว *** องค์ปฐมท่านยังให้จัดพิธีเสกผงเป็นวาระแรกก่อนเรียกว่าการบรรจุธาตุบรรจุธรรม พ่ออาจารย์ท่านว่าชุดนี้เน้นฤกษ์ยามมากเพราะท่านให้ทำในฤกษ์ปัญจมหาเศรษฐีเพราะว่าฤกษ์ปัญจมหาเศรษฐีทั้งห้าฤกษ์นี้ เป็นฤกษ์ที่นำมาสร้างพระทำวิชาจะส่งผลให้ผู้บูชามีผลมากร่ำรวยมากดุจมหาเศรษฐีผู้ยิ่งใหญ่แห่งพุทธกาลเอาดีได้ทั้งทางโลกและทางธรรม ด้วยแต่ละท่านไม่ใช่เศรษฐีธรรมดาแต่มีทรัพย์ไม่ต่างจากพระราชาเลยทีเดียว ฤกษ์เศรษฐีทั้งห้านี้คือนันทมหาเศรษฐี,ภัทรมหาเศรษฐี,ชัยมหาเศรษฐี,มิตรมหาเศรษฐี,ปุรณมหาเศรษฐี เมื่อเสกผงเป็นปฐมฤกษ์แล้วองค์ปฐมท่านดำริไว้เลยว่าต้องทำพิมพ์แบบนี้(ทรงนกการเวก)แล้วนำมวลสารทั้งหมดมากดพิมพ์ ท่านว่าเน้นให้ใช้ผงเพราะผงต่างๆนอกจากจะเป็นกายสิทธิ์มากมายหลายชนิดที่มีดีในตัวเองไม่มีวันเสื่อมอานุภาพยังได้ฤกษ์ยามปัญจมหาเศรษฐีที่ชนเข้าในมหัทธโนฤกษ์เพื่อเสริมผลทางด้านความร่ำรวยจนถึงขั้นมหาเศรษฐี และความสำเร็จ,ความเจริญก้าวหน้าจะได้ดึงพาโชคลาภวาสนามาสู่เจ้าของ

    อาถรรพ์แห่งพญาการเวก

    พระพิมพ์สำเร็จแก้วนี้องค์ปฐมท่านให้ใช้พญาการเวกเป็นพาหนะ ด้วยการสร้างพญานกการเวกเต็มวิชานั้นไม่ค่อยจะมีใครอยากทำกันต่างกับพญาครุฑ
    แต่พญาการเวกก็มีคุณสมบัติเฉพาะตัวของเขา...ตามตำนานนกการเวกจะอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์บินสูงเหนือเมฆกินลมเป็นอาหาร ในเวลาเกาะคอนจะเกาะอยู่บนก้อนเมฆและมีเสียงร้องไพเราะมากจนสัตว์ทั้งหลายและมนุษย์ที่ได้ยินเสียงจะเกิดอาการงงงวยจนกระทั่งหลงลืมถึงขนาดหยุดกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ชะงักไปชั่วครู่ด้วยความหลงใหลจับใจในเสียงร้องนั้น ทั้งวิชาพญาการเวกยังเป็นเมตตาลุ่มลึกที่ยากต้านทานทำให้ผู้ใช้มักจะได้คู่ครองที่เสมอตนเเละดีกว่าตนเป็นชนชั้นสูงมีวาสนาดี ชักพาให้ชีวิตดำเนินสูงขึ้นไปเรื่อยๆในคติเดียวไม่ตกต่ำลง ***ทั้งยังเป็นวิชาที่ผู้มีบุญญาธิการทั้งหลายแม้จะมีบารมีมากเพียงใดก็ไม่อาจจะต่อต้านได้

    ด้วยพญานกการเวกนี้เป็นพญานกขนาดมหึมา มีร่างกายสูงใหญ่พอที่จะบดบังเเสงตะวันอันสาดส่องมาบนพื้นโลกได้ไม่ใช่นกตัวน้อยน่ารักเช่นสาลิกา กำลังอาถรรพ์ของวิชาพญานกการเวกจึงมีอานุภาพดังนี้

    - พญาการเวกนั้นเวลาบินจะบินสูงเหนือเมฆ..บินสูงกว่านกทั้งปวง พ่ออาจารย์กล่าวว่าสำเร็จแก้วที่ลงอาถรรพ์พญาการเวกก็เช่นกัน เเม้เราหมายปองตั้งใจทำสิ่งใดหรือจะเจาะจงผู้ใดก็เหมือนพ่อพญานกที่ลอยลมบนบินตะครุบเหยื่อได้ง่ายดายฉันนั้น ทั้งบินขึ้นที่ยังอยู่เหนือกว่านก(อุปมาเหมือนผู้ที่อยู่ในที่สูงส่งทั้งหลาย)ทั้งหมด
    - พญาการเวกนั้นเป็นนกสวรรค์เเม้เเต่ขนติดกายยังเป็นของวิเศษ
    เป็นสิ่งที่มนุษยชาติต้องการกันมากที่สุดเพราะเมื่อพญาการเวกสลัดขนเเล้ว เชื่อว่าขนนั้นจะเปลี่ยนเป็นทองคำบริสุทธิ์ผู้ใดได้ครอบครองจะมีบารมีมาก อาถรรพ์วิชานี้ก็เช่นกันพ่ออาจารย์ท่านลงคุณพญาการเวกไว้ เมื่อผู้บูชาได้อธิษฐานต่อพญาการเวกท่านจะประทานทรัพย์สมบัติให้ถึงซึ่งความสุขอันจีรังยั่งยืน
    - พญาการเวกหรือที่เรียกกันว่าปักษาวายุภักษ์ เป็นพญานกที่ไม่รู้จักความอดอยากหิวโหยเพราะเล่นฟ้า(อุปมาดั่งเล่นของสูงไม่เกรงบารมีผู้ใด)กินลม(อยู่เป็นอมตะ)เป็นอาหาร ดังนั้นด้วยอาถรรพ์พญาการเวกจะนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์และความสุขสบาย พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตต่อไปจะไม่รู้จักอดจักอยากมีกินมิรู้สิ้น ด้วยธาตุลมนี่ว่องไวนักเมื่อนำมาเสริมขับเข้ากับวิชาทางเสน่ห์โภคทรัพย์ของพญานกยิ่งทำให้ผลของวิชาสำเร็จได้ไว *** เพียงเราอธิษฐานเป่าลมปากไปที่ตัวพญานกก็เหมือนกับว่าเราป้อนลมให้พญาการเวกนั้นเสพย์อาหารเเล้ว...เมื่อพญานกอิ่มเเล้ว..มีกำลังเเรงกล้าแล้ว..เขาก็พร้อมจะช่วยเหลือเรา...เราเองก็ย่อมอิ่มตามเขาไปด้วย
    - พญาการเวกนั้นมีเสียงไพเราะที่สุดในไตรภพ ### เพราะเสียงของพญานกนั้นเหมือนกับเสียงท้าวมหาพรหมเหมือนกับเสียงพระพุทธเจ้า กล่าวคือมีความแจ่มใส,ชัดเจน,อ่อนหวาน,สุขุม,สำเนียงเสนาะ,ไม่แตก,ลึกซึ้ง,ไพเราะ,มีเสียงกังวาล เป็นที่ปรารถนาจะได้ยินได้ฟังเเม้ในหมู่มนุษย์ตลอดจนเทพยดาทั้งหลายเป็นยิ่งนัก ด้วยอาถรรพ์พญาการเวกเมื่อเราจะพูดจาเจรจาสิ่งใดคนทั้งหลายย่อมเคลิบเคลิ้มอ่อนใจคล้อยตามไปเสียทั้งหมด จะพูดกับคนเขาก็ฟังจะพูดกับเทวดาเขาก็ทำตามเรียกว่าขออะไรใครที่ไหนเค้าก็ตั้งใจฟังเต็มใจทำให้ เพราะอาถรรพ์แห่งสุรเสียงพญาการเวก..อันไพเราะดุจเสียงมหาพรหม..ดุจเสียงพระพุทธเจ้า
    - พญาการเวกนั้นถือเป็นราชาเเห่งสัตว์มีอำนาจมากมิต่างจากพญาครุฑเลยทีเดียว ซ้ำยังมีรูปกายสีขนงดงามสัตว์ทั้งหลายได้พบย่อมเกรงกลัวในอำนาจบารมี ไปที่ใดก็มีเเต่คนเคารพยกย่องปรารถนาจะเห็นจะมองลุ่มหลงไปด้วยรูปกายเเห่งพญาการเวกนั้น ด้วยอาถรรพ์นี้ก็จะมีเเต่ผู้เคารพนบไหว้ลุ่มหลงเกรงกลัวเราเเต่ก็รักเราลืมเราไม่ลงไปที่ไหนเค้าก็อยากมองเรา แม้เราไม่มาเขาก็อยากเห็นเราอีกเป็นเสมือนราชเสน่ห์ ซ้ำยังมีมหาอำนาจมีบารมีมากปราบได้ทุกทิศไม่มีใครกล้าต่อกรกับกำลังพญานกการเวกเลยเป็นเช่นนี้นั่นเอง
    - พญาการเวกนั้นย่อมอาศัยในที่สูงมีถ้ำแก้วล้วนเเล้วเเต่สัตตรัตนมงคลเป็นที่อยู่ มีทรัพย์สินศฤงคาร,มีสมบัติมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้บูชาเมื่อขอทรัพย์จากพญานกจะได้รับทรัพย์สินสะดวกสบายได้เจอกับความเป็นอยู่เเละมีชีวิตทางโลกที่ดีขึ้น เพราะวิชานี้เป็นสื่อและพญาการเวกนั้นท่านโปรดปรานทรัพย์สมบัติเเก้วเเหวน - ยอดเพชร - ยอดอัญมณีที่มีความสวยงามจากทั่วทุกหนแห่งในพื้นพิภพแลสวรรค์ตลอดจนพรหมโลกท่านจะหามาสะสมไว้ในถ้ำแก้วของท่าน แม้นเราบูชาท่านก็จะขยันช่วยเราเเสวงหาทรัพย์เช่นกัน วิชาพญานกนี้มีอาถรรพ์มากแม้เเต่กระทรวงการคลังยังใช้รูปพญาการเวกเป็นสัญลักษณ์เครื่องหมายกระทรวงถือเป็นเคล็ดที่ว่าใครมีพญานกนี้ก็มีสื่อกับเทพวิหคที่ดูเเลทรัพย์สมบัติทั้งปวงของเเผ่นดินนี้ อยากมีโชคเสี่ยงโชค(ข้อนี้พ่ออาจารย์ท่านไม่ให้กล่าวมาก)ก็ขอกับท่านตรงๆเลย...เพราะสมบัติในเเผ่นดินนี้พญานกท่านดูแลไว้ทั้งหมด
    - พญาการเวกนั้นเป็นพญานกที่อยู่เหนือกฏแห่งวัฏฏจักร เพราะเป็นนกที่เกิดขึ้นมาพร้อมความเป็นอมตะไม่มีวันตาย แม้อาหารก็กินฟ้ากินลมเป็นภักษาหาร เป็นพญานกบริสุทธิ์ซื่อตรงต่อความรักมีความรักที่เป็นอมตะ ผู้ที่มีอาถรรพ์พญานกหนุนตัวพ่ออาจารย์ท่านว่าจะสุขสมสำเร็จในความรัก *** มีความรักที่ยั่งยืนเเละเป็นอมตะเช่นเดียวกันกับพญาการเวก
    - พญานกการเวกนั้นมีความเชื่อมาเเต่เดิมว่าเป็นวิหคฟ้าสกุณาสวรรค์ แม้ใครมีบุญญาธิการได้พบเสียครั้งหนึ่งก็ถือว่าได้พบโชค ต่อไปจะได้เป็นใหญ่เหนือพื้นพิภพได้ปกครองหมู่ชนทั้งหลาย สมัยก่อนก็ต้องเรียกว่าเป็นมหาราชเป็นราชาในหมู่ราชาเช่นนั้น เพราะไม่มีใครจะได้เห็น เนื่องจากพญาการเวกนั้นไม่ค่อยปรากฏให้ใครได้พบเห็น พ่ออาจารย์ท่านถือเคล็ดนี้ว่าเเม้ใครมีสำเร็จแก้วอยู่มององค์พระก็ดุจเห็นพญาการเวกทุกวัน ชีวิตเขาจะโชคดี เห็นทุกวันก็ดีทุกวันเจริญทุกวัน ไม่มีสิ่งใดเคราะห์ใดมายับยั้งความเจริญของเค้าได้

    เรื่องวิชาพญาการเวกนี้ไม่ใช้เรื่องเหลวไหลเพราะเป็นวิชาตำรับขอมโบราณที่หาผู้สิบทอดจริงจังได้น้อยมากในปัจจุบัน ด้วยเป็นพญานกที่เรืองอำนาจมากไม่ต่างจากพญาครุฑสุเรนทรชิตเลยทีเดียวแต่ในบางเรื่องก็ต้องยอมรับว่าพญาการเวกนั้นเขาเก่งกว่าครุฑ ในบางข้อก็เป็นคุณสมบัติที่จอมครุฑนั้นไม่มี ด้วยเป็นสัตว์เทพชนิดหนึ่งที่มีพรสวรรค์มากในเรื่องแห่งเสียงมีสำเนียงที่ไพเราะเสนาะหูเมื่อใครได้ยินเสียงร้องก็จะเกิดความเมตตา แม้แต่เทพ,พรหม,องค์อินทร์และบรรดาเทพเทวดาทุกๆชั้นเพียงได้ยินเสียงก็เกิดภวังค์กับคำว่าเคลิ้มและหลงในเสียงจนได้รับการเรียกขานจากองค์พระนารายณ์ว่า "จ้าวพญาการะเวก"
    ขนาดศัตรูขององค์เทพและพรหมบนสวรรค์ที่เกรี้ยวกราดและมุ่งหมายจะทำลายล้างสวรรค์(บรรดาพวกยักษ์มาร)ยกกองทัพมาถึงหน้าประตูสวรรค์ องค์พระนารายณ์ท่านได้ส่ง"จ้าวพญาการะเวก"ไปเกาะร้องให้บรรดายักษ์มารได้ยินเสียงและเกิดเปลี่ยนใจในการรบยกทัพกลับหายไปหลายรอบเช่นนี้ก็มีมาแล้ว(ฝั่งเทวดาจึงชนะโดยไม่ต้องสู้ศึกไม่ต้องลงแรงแม้จะยกดาบก้าวขาแต่อย่างใด) พระนารายณ์เจ้าเลยตรัสกับเทวดาทุกองค์ว่าผู้ใดที่มี "จ้าวพญาการะเวก" อยู่คู่กายไม่ว่าจะอยู่ที่ใดทำกิจใดก็จะสำเร็จสัมฤทธิ์ผลทุกประการ

    *** หมื่นมนต์ยึดฟ้าพญาการเวก วิชานี้ท่านอธิษฐานจิตครอบไว้ที่พญาการเวกอันเป็นพาหนะขององค์ปฐมทุกตน พ่ออาจารย์ท่านต้องอธิษฐานจิตจนสำเร็จทีละตนครอบทีละตัวเช่นนี้ ท่านว่าวิชานี้มีอาถรรพ์รุนแรงถึงขนาดว่าไม่จำเป็นจริงๆแล้วก็ไม่อยากให้เอาไปใช้กัน ด้วยว่าตัวเราพอใจอะไรก็ยึดก็ครองมาได้เสียทั้งหมดขอให้เราพอใจเป็นสิ่งมีค่าสมใจเราปรารถนาย่อมไม่รอดพ้นอานุภาพพญานกไปได้เลย(ท่านว่าองค์ปฐมท่านไม่ให้เราพูดถึงวิชานี้เลยจึงพูดได้เท่านี้ ### ท่านว่ามันอันตรายจึงพูดได้สั้นๆแต่ความหมายลึกซึ้ง..ว่าพอใจก็ยึดมาครองมาเช่นนั้น)

    แก้วปัญจะสุทธาพรหม

    ดวงแก้วนี้เป็นดวงแก้วโบราณมีวรรณณะหยาบดุจผ่านกาลเวลาและยุคสมัยมาเนิ่นนาน พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาตัวท่านไปจำศีลถือพรตอยู่บนดอย(ท่านไม่ให้ออกนามดอยนี้ภูเขานี้) เวลานั่งสมาธิก็มักจะมีดวงแก้วแบบนี้ตกใส่มือท่านบ้าง ตกบนตักท่านบ้าง หรือกลิ้งมาอยู่ข้างๆกายท่านบ้าง ทีแรกท่านยังนึกสงสัยว่ามาได้อย่างไรแต่พอเงยหน้าขึ้นไปมันก็มีแต่ท้องฟ้ากับก้อนเมฆเท่านั้น ท่านว่าเรามันก็นักปฏิบัติครูบาอาจารย์ก็มีจึงได้สอบถามกับครูพรหมสหัมบดีท่าน ท่านว่าเป็นดวงแก้วตกมาแต่พรหมโลกเรียกว่า"แก้วปัญจะสุทธาพรหม" ให้เก็บรักษาเอาไว้ให้ดีมีฤทธิ์เสมอด้วยแก้วสารพัดนึกเป็นของกายสิทธิ์เหมือนเหล็กไหลในโลกมนุษย์(เรื่องแก้วนี้เป็นอจินไตยเป็นความเชื่อส่วนบุคคล)

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามันก็ตกลงมาบ้างกลิ้งมาบ้างไม่รู้ว่ามาจากไหนแบบนี้แหละ เราก็เก็บไว้ทีละลูกๆ บางวันก็ตก บางวันก็ไม่ตก บางวันนั่งจ้องจะให้มันตกมันก็ไม่ตกเลย พอเก็บสะสมได้จำนวนหนึ่ง(หลายสิบปี) ท่านจึงนำแจกจ่ายไปบ้างท่านว่าใครทำตัวผิดทำนองคลองธรรมนี่แก้วหายไปเลยนะแต่แปลกคือหายจากเขาแล้วก็กลิ้งๆกลับมาหาเราไม่รู้ว่ามาได้ยังไงเหมือนกัน ท่านจึงยึดมติตามที่องค์พรหมท่านว่าดวงแก้วเป็นของสูงเป็นดั่งมณีจินดาคือแก้วสารพัดนึกและมีชีวิตเสมือนเหล็กไหลคือไหลไปไหนมาไหนกลิ้งไปได้เอง ท่านจึงตัดปัญหาเพื่อไม่ให้ดวงแก้วเสด็จหนีใครได้อีกโดยบอกกล่าวขออนุญาติสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาดวงแก้วนำท่านมาผนึกฝังไว้กับพระผงชุดนี้เพื่อให้เกิดพุทธคุณสูงสุด จะได้เป็นประโยชน์แก่สัตว์ผู้ยากบรรดามีอันจะเอาไว้ใช้ยึดถือและเคารพอธิษฐานเป็นสิ่งแทนตัวครูบาอาจารย์ในปัญจะสุทธาวาสแดนพรหมอนาคามีนั้นสืบไป

    ด้วยคติว่าเป็นดวงแก้วมณีที่มีอานุภาพมากสามารถอธิษฐานปรารถนาสิ่งใดก็ย่อมได้เรียกว่าแก้วหนึ่งดวงนั้นล้วนเป็นของประเสิรฐยิ่งเพราะสามารถบันดาลได้ทุกสิ่งไม่มีอับจน ท่านจึงตั้งใจจะฝังแก้วเสด็จนี้เพื่อมอบให้เป็นขวัญชีวิตเมื่อจะคิดหรือปรารถนาสิ่งใดจะได้สำเร็จดั่งใจดั่งว่าเทวดามาขวนขวายช่วยกันทำให้(เทวดาเหล่านี้เป็นทิพย์กายที่ลงมาชื่นชมบารมีดวงแก้วอันตกมาแต่พรหมโลก)พูดได้ว่าดวงแก้วอยู่ที่ไหนเทพพรหมทั้งหลายก็ลงมาประชุมที่นั่น คอยอารักขาดวงแก้วสำคัญนี้เมื่อเทพพรหมเค้าลงบ้านไหนอยู่กับใครคนนั้นก็เจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านว่าดวงแก้วนี้วันดีคืนดีก็มักจะสว่างวาบดั่งลูกไฟเล่นแสงจันทร์ยามค่ำคืน(แต่เขาจะหลบคนยากนักที่จะได้เห็น) ท่านว่าที่ฝังให้อาราธนาก็หวังเพียงว่าจะใช้ของวิเศษนี้ไปหนุนนำพาชีวิตตัวเอง เอาไปทำแก้วประจำตัวเป็นแก้วสารพัดนึกเสีย ก็ความคิดความปรารถนาคนมันมีร้อยแปดพันประการแต่ละวันนั้นหาจะซ้ำกันได้ซักวันหนึ่งเป็นไม่มีจะได้ขอเอากับดวงแก้วท่านง่ายๆได้ตามสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตตน #### ซึ่งดวงแก้วนี้ท่านว่าหากไร้วาสนาไม่มีบารมีเกิดมาเช่นใดก็ไม่มีวันได้พบเจอดวงแก้วนี้ได้เลยต้องมีวาสนาต้องกันจึงจะได้พบเจอและครอบครองเท่านั้นท่านว่าของใครของมัน แม้เกิดชาติภพใหม่ก็ย่อมมีเหตุให้ตามเราไปเป็นพันธะสัญญาเกื้อกูลกันทุกชาติ

    พ่ออาจารย์ท่านว่านี่จึงไม่ใช่ของเล่นเพราะเขามีอาถรรพ์ในตัวมากมาย เมื่อเราอาราธนา
    ก็ให้หาแผ่นทองมาอธิษฐานปิดบูชาที่ดวงแก้วนั้นอธิษฐานจิตดั่งถวายทองคำหุ้มดวงแก้วให้เขาช่วยนำสิ่งสูงค่าทั้งหลายกลับคืนมาให้ชีวิตเรา ท่านว่ามีแต่เจริญลูกเดียวเพราะเทพพรหมทิพย์กายทั้งหลายเค้าชอบของเค้า เวลาเราจะอธิษฐานจิตสิ่งใดกับดวงแก้วท่านว่าเมื่ออธิษฐานแล้วให้บอกกล่าวดวงแก้วพูดเองเออเองปิดท้ายด้วยว่าขอความปรารถนาหรือสิ่งที่อธิษฐานนั้นจงสำเร็จเดี๋ยวนี้เทอญ... ดวงแก้วนี้ดุจเก้วสารพัดนึกจะใช้ทางอธิษฐานก็ได้ - จะใช้ทางเจริญวิปัสสนาก็ได้พ่ออาจารย์ท่านได้ขอเสด็จพระใหญ่ลงธรรมห้องเเก้วสารพัดนึกเอาไว้ ท่านว่าจะขออะไรก็สุดแต่ใจแล ...เป็นของวิเศษอันมีที่มาสูงค่า..จะดึงชีวิตคนให้สูง..ประสบพบเจอกับสิ่งที่สูงเสมอกัน

    ด้านล่างท่านฝังแท่งผงวิเศษสำคัญเอาไว้ ท่านว่า "ผงในแท่งนี้ล้วนแต่ของที่มนุษย์ทำไม่ได้ทั้งนั้น" ด้วยเป็นผงที่ครูบาอาจารย์ให้ท่านออกป่ารวบรวมไว้ล้วนแต่มีเจ้าของเป็นทิพย์กายรักษา...ล้วนแต่เป็นของทิพย์ของเทวดาท่านสร้างไว้...บางอย่างพญานาครักษา..บางอย่างเทวดาเขาแปลงมาเป็นงูบ้างพังพอนบ้าง...บางอย่างฤาษีรักษามีกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั้งถ้ำ ด้วยเป็นผงที่เกิดจากการสร้างการเนรมิตของเทพพรหมนั่นเองท่านว่าเข้าป่าไปทั้งเหนือใต้ออกตกค่อยๆรวบรวมไว้พูดเหมือนจะสั้นเหมือนจะง่ายแต่ความจริงนั้นไม่ง่ายอย่างที่พูดเลย ท่านว่าเมื่อได้มาครบก็เอามาตำมาร่อนมาปั้นรวมกันเป้นแท่งๆเก็บเอาไว้จนได้เอามาฝังพระนี่แหละ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงเหล่านี้ใช้ได้ร้อยแปดพันประการเต็มไปด้วยอาถรรพ์แรงครูยุคดึกดำบรรพ์ที่ท่านสร้างของวิเศษไว้เพื่อลูกหลานมนุษย์ในภายหน้าจะได้พึ่งพาบารมี พ่ออาจารย์ท่านว่าสำเร็จแก้รุ่นนี้ฝังดวงแก้วแล้วเป็นพระที่เน้นคำอธิษฐานขับส่งอยู่แล้ว ท่านจึงฝังแท่งผงสารพัดดีนี้ลงไปด้วยเพื่อขับอาถรรพ์เน้นแรงครูให้ประสิทธิ์สูงส่งที่สุด

    คาถาบูชา
    บูชาองค์พระ อุกาสะ วันททิตวา สิริสัมพุทธัง อันตรายัง ปะนะมามิหัง อิถัญจะปูชิตัง เหฏฐายะฉะทินนา จัตตาสัตถา สาคะระมุนี ยักขะลา เวสสุวันโน อาทิปัตติราชา มหาสัตถา สาคโร ประสิทธิเมสัทธา
    เชิญดวงแก้ว อังคะสัมพุทโธ โลกะหิโตจะ เสฏโฐ ธัมมะยะโก เทวิเทโว โลโกหิ หาทายะ จิเจรุนิจิตตัง เจตตสิกกัง รูปังนิพพานัง นะมะพะทะ วาโยธาตุทิสังวา จะภะกะสะ วาโตเสโน อัสสะโส นิพพานังสูญญัง นะปะทุกะ จิปะตินะ หะกะ อิคะวิติ ปติ เอหะติอิกะวิปะติ
    อาราธนาพระคล้องคอขอโชคสุดเเต่ใจอธิษฐาน โอมสิทธิมหาสิทธิ กายะสิทธิ วาจาสิทธิ สารพัดสิทธิพันทนัง เมกะมุอุออธิฏฐามิ (ให้กำพระไว้ข้างหนึ่งอีกข้างเเบมือออกระหว่างท่องคาถานึกสิ่งที่อยากได้ เเละกำมือเอาเข้ามาไว้ในอกตัวสมมติว่าได้รับสิ่งที่ปรารถนาเเล้ว)
    อาราธนาพญานกการเวก โอมอิกะวิติ พญากอระวีกโก พุทโธเวหาสฟ้าคือรัง การเวกมะสะ พุทธัง มหารี การี การัต โอม


    **** พระสำเร็จแก้วปัญจะสุทธาพรหมนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของคู่บารมีคน(ข้างบนท่านไม่ให้กล่าวสิ่งใดมากไปกว่านี้เพราะเป็นของสูง) ท่านทำได้ครั้งเดียวไม่มีดวงแก้วให้ฝังอีกแล้ว รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อสกุลไว้ด้วยท่านจะประสิทธิให้เป็นมงคลอีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระสำเร็จแก้วปัญจะสุทธาพรหมปกาศิต(หมื่นมนต์ยึดฟ้าพญาการเวก) บูชา 2,500 บาท

    98331050-686422478860139-1400409198218444800-n.jpg 99296900-554491048598714-908060780497207296-n.jpg
    100747061-3394367010597462-678577143113842688-n.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เหรีญอุดรอยรั่วปฐมมารดาเทพบรรพกาลหนี่วา (ฝังหุ่นปั้นตรากำเนิดชีวิตจิตปฐมเทพ)

    "ด้วยมหาภัยพิบัตินับแต่บรรพกาลกำลังทยอยกลับคืนสู่โลกของเรา..."

    พ่ออาจารย์ท่านทราบดีว่าต่อไปจะเกิดอะไรและควรแก้หรือรับมือด้วยอะไร เพราะ
    วิกฤติในอดีตนั้นจะเริ่มหวนกลับคืนมาทีละอย่างครูเทพเบื้องบนจึงให้พ่ออาจารย์ทำ "เหรียญปฐมมารดาเทพบรรพกาลหนี่วา" ขึ้นมาจะได้มีไว้พึ่งบารมีในหมู่ผู้ที่เห็นภัยแห่งชีวิตตน...เพราะเจ้าแม่หนี่วานั้นเป็นเทพบรรพกาลที่ทรงมหิทธานุภาพสูงสุด(เป็นเทพปฐมกาลที่อยู่เหนือศักดิ์มหาเทพทั้งปวง) สามารถปกป้องคุ้มครองเราให้รอดพ้นและปลอดภัยจากภัยพิบัติและผลกระทบของภัยเหล่านั้นอันกำลังหวนย้อนคืนกลับมาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามหาเทวีหนี่วานี้นอกจากป้องกัยภัยพิบัติร้ายแรงทั้งหลายแล้วแม้ภัยที่จะเกิดในชีวิตประจำวันของปุถุชนลูกมนุษย์ท่านก็ไม่อนุญาติให้เกิดขึ้นได้เลย ภัยร้ายแรงทั้งจากสังคม..สิ่งรอบตัว..หรือธรรมชาติที่จะดึงชีวิตเราให้ถดถอยเกินควบคุมนั้นท่านปัดทิ้งออกไปทั้งสิ้น

    โดยพ่ออาจารย์ท่านตระหนักรู้ว่าเภทภัยนั้น..ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว เพราะโลกนั้นทวีความเดือดร้อนด้วยสาเหตุต่างๆทั้งโรคระบาดและสภาพภูมิอากาศที่ร้อนอย่างถึงที่สุด โลกกำลังหมุนเข้าไปหามหาภัยพิบัติเหมือนเมื่อครั้งบรรพกาลซึ่งจะทวีความรุนแรงจนถึงขั้นร้ายแรงที่สุดในประวัติมนุษยชาติ พ่ออาจารย์ท่านว่าภัยพิบัติบรรพกาลนั้นได้กลืนชีวิตกลืนเอาวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองจนมอดดับสิ้นสูญ ล้างชาติพันธุ์ล้างชีวิตมนุษย์และสรรพสัตว์กว่าครึ่งค่อนโลก...ตอนนี้โลกก็เริ่มหมุนเข้าไปสู่จุดนั้นแล้ว เราอาจจะตายก่อนจะได้เห็นความเสื่อมในระดับมหาภัยพิบัติแต่ก็รับรองว่ายังได้เห็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสขึ้นทุกๆที

    ทำไม...ต้องอัญเชิญพระแม่หนี่ว่าลงมาช่วยตอนนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะพระแม่หนี่วานั้นเป็นบูรพเทพเพียงองค์เดียวที่เสด็จลงมาช่วยโลกให้รอดพ้นจากภัยพิบัติในปฐมกาลนั่นเอง ท่านจะช่วยคนของท่านเท่าที่จะทำได้(ต่อเมื่อเราเป็นคนของท่านย่อมไม่มีอะไรที่พระแม่ท่านช่วยไม่ได้) ทั้งพระแม่ท่านยังรักมนุษย์ดุจลูกของตนเองด้วยว่าท่านเป็นเทพผู้สร้างและให้ชีวิตมนุษย์ตลอดจนสรรพสิ่งทั้งหลาย เพื่อลูกมนุษย์นั้นแม่ทรงทุ่มเทและเสียสละได้แม้แต่พระชนม์ชีพ เช่นกาลอดีตที่แผ่นดินแตกแยกมหาอัคคีไหม้ฟ้าเกิดภัยพิบัติดั่งฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย..พระแม่ก็ได้ช่วยโลกให้รอดพ้นมาได้เช่นนี้

    *** ในปัจจุบันนั้นโลกเริ่มร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกหลอมละลายธรรมชาติกำลังแปรปรวนวิปริต ภัยอันเกิดจากธรรมชาติเริ่มมองเห็นได้ชัดขึ้นเรื่อยๆทั่วทุกสถานที่ มนุษย์จะใช้ชีวิตได้ยากลำบากหนักหนา การดำรงค์อยู่จะเดือดร้อนสาหัสมากขึ้นเรื่อยๆหมุนวนไปจนครบกำหนดที่จะเกิดมหาภัยพิบัติ เช่นนั้นเทพเจ้ายุคปฐมกาลอันทรงกำลังที่จะคุ้มเกรงชีวิตเราข้ามพ้นเรื่องทั้งหลายนี้จึงมีแต่เทพที่รับมือกับมหาภัยเมื่อกำเนิดโลกได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าหากอยากรอดหรือดำรงค์สืบวงศ์ตระกูลให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆในขณะที่ธรรมชาติปรวนแปรเช่นนี้ก็จำเป็นจริงๆที่เธอต้องพึ่งบารมีเทวีหนี่วา ด้วยพระนางมีหน้าที่ในการกลับมาช่วยเหลือลูกมนุษย์(คนของท่าน)ยามต้องเผชิญหน้ากับเภทภัยโดยตรงดั่งที่เคยฉุดช่วยเหล่าบรรพบุรุษของมนุษย์เอาไว้

    เทวีหนี่วาเป็นเทพสวรรค์ดึกดำบรรพ์(พ่ออาจารย์ท่านว่านับถือมาแต่ยุคโบราณมากๆ)จนผู้คนล้มหายตายจากความศรัทธาเลือนหายกลมกลืนไปกับเทพต่างๆ องค์เทวีท่านสั่งให้พ่ออาจารย์สถาปนารูปท่านขึ้นอีกครั้งเพื่อให้มนุษย์ได้รู้จักและเข้าถึงพระองค์ในฐานะ "เทพมารดาผู้สร้างมนุษย์" ด้วยตราบใดที่โลกนี้ยังมีมนุษย์ที่พระนางสร้างขึ้นอำนาจจิตวิญญาณจากเทพบรรกาลหนี่ว่าย่อมไม่มีทางดับสูญไป ...ย้อนไปเมื่อผานกู่สร้างโลกและสวรรค์แล้ว เจ้าแม่หนี่วาก็ได้สร้างสรรพชีวิตและถูกบูชาในฐานะ "ผู้ปกครองโลกมนุษย์เบื้องล่าง" ชนทั้งหลายจะจำชื่อเจ้าแม่หนี่วาได้จากผลงานที่พระนางปั้นมนุษย์ขึ้นจากดินริมฝั่งแม่น้ำเหลืองและการอุดรูรั่วบนฟ้าด้วยหินห้าสีเมื่อวันมหาวิบัติโลก ...ในฐานะเทพมารดาผู้ให้กำเนิดปฐมชีวิตทั้งมนุษย์และสรรพสิ่ง

    มารดาแห่งมนุษยชาติอุดรอยรั่วพิบัติฟ้า

    เหรีญปฐมมารดาเทพบรรพกาลหนี่วานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่า
    องค์เทวีท่านตั้งใจให้ทำไว้เพื่ออุดรอยรั่วในชีวิตของลูกมนุษย์โดยเฉพาะ ด้วยปฐมมารดาหนี่ว่านั้นทราบดีเพราะท่านเป็นผู้ปั้นมนุษย์ขึ้นมา มนุษย์ที่เกิดขึ้นนั้นย่อมสูงต่ำดำขาวมีกำเนิดมีชะตาวาสนาไม่เท่ากัน ชีวิตมนุษย์ก็มีเหตุแห่งความวิบัติและรอยรั่วที่ไม่เสมอกัน เช่นนั้นปฐมมารดาท่านจึงจะช่วยอุดรอยรั่วในชีวิตปัจจุบันก่อน คนที่ไม่สมบูรณ์พร้อมเกิดมาไม่เท่าคนอื่นหรือชีวิตยังติดขัดในเรื่องใดๆทางกายภาพทางการดำรงค์อยู่ ### องค์ปฐมมารดาท่านจะแก้เรื่องเหล่านี้ก่อนเพราะท่านมีหน้าที่โดยตรงที่จะแก้ไขชะตาชีวิตของลูกได้(ในฐานะแม่ใหญ่) พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้มีอาถรรพ์ปิดรูโหว่รอยรั่วทั้งปวงลูกคนไหนขาดอะไรมีรูโหว่อะไรเรื่องไหนในชีวิตบอกกับแม่ได้ แม้แต่ภัยระดับโลกท่านยังช่วยได้เช่นนั้นภัยเรียงตัวเรื่องของแต่ละคนเหล่านี้ท่านย่อมแก้ไขได้ไม่ยากเลย

    ปฐมมารดานั้นท่านมีลำดับศักดิ์สูงกว่ามหาเทพและบูรพเทพทั้งหมดเแม้กระทั่งองค์หยวนสือเทียนจุน ด้วยท่านเป็นปฐมมารดาที่ประทานชีวิตแก่สรรพสิ่งทั้งปวง ซึ่งตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า
    บารมีของเทพบรรพกาลนั้นย่อมไม่อาจหยั่งวัดกับเทพในชั้นหลังได้ ท่านให้พ่ออาจารย์ปั้นรูปของท่านที่ถือเอาศิลาห้าสีไว้ในมือ(เพื่อจะอุดรอยรั่วของชีวิตคนได้ทันท่วงที) ซ้ำอีกมือหนึ่งยังชูแส้ปัดเสนียด(เหรียญนี้มีผลปัดและขับไล่เคราะห์กรรมทันที..อย่างแรง)ขึ้นมา ***พ่ออาจารย์ท่านพูดอยู่เสมอว่าการสร้างปฐมมารดาให้คนเข้าถึงได้อย่างแท้จริงนั้นต้องทำให้ดี เพราะมันกลืนอายุคนสร้างถ้าข้างบนเขาไม่สั่งแล้วไปทำแบบนี้คนทำรับรองอายุสั้นแน่นอน เมื่อทำออกมาสมบูรณ์ตามที่องค์ปฐมมารดาท่านให้สร้างพ่ออาจารย์ท่านก็นำมาเชิญองค์ปลุกเสกโดยให้องค์ปฐมมารดาท่านทำของท่านเองส่วนตัวท่านได้แต่กำหนดจิตตามดู พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้สว่างมาก จ้ามาก ท่านเน้นลงธาตุแสงเป็นแสงทิพย์ของท่านเลย(ชีวิตใครมามืดนี่ไปสว่างทางเดียวนะ สว่างมาก) อธิษฐานใช้ได้หมดเลยครอบคลุมทุกความมืดหรือปัญหาในชีวิต

    วิธีบูชา
    หากอยากสำเร็จผลไว หรือมีรอยรั่วใดที่ต้องการอุดต้องการบอกกล่าวปฐมมารดาแบบชัดเจนพ่ออาจารย์ท่านว่า พระแม่ท่านให้จุดเทียนถวายท่านหน้าเหรียญหล่อนี้เท่าอายุของตนเองแล้วจะไหว้จะขอสิ่งใดล่วนสัมฤทธิ์ผลทั้งสิ้น(ช่วยได้ทุกเรื่องตามแต่อาราธนา) ### พ่ออาจารย์ท่านบอกเป็นเคลล็ดไว้ว่าจุดเทียนเท่าอายุชีวิตปัจจุบันสว่างไสวเปิดรับโชคสิบทิศ ถ้าจุดเทียนถวายเกินอายุชีวิตก็จะยิ่งสว่างไม่มืดบอดในกาลข้างหน้า จะจุดแบบไหนให้เลือกเอาถ้าเกินอายุนี่เกินแค่ครั้งละเล่มก็พอ(ตรงนี้ท่านว่าปีหนึ่งจุดครั้งหนึ่งก็ได้ หรือยามใดที่ชีวิตมืดมนไร้ทางออกค่อยจุดก็ได้)

    ....ด้วยองค์ปฐมมารดามีอำนาจเหนือเหล่าบุรพเทพทั้งปวง ท่านให้คุณให้โทษกับมนุษย์ได้ทุกสิ่ง แม้ในยุคโบราณสมัยราชวงศ์ซาง ฮ่องเต้โจ้วหวังไปนมัสการศาลเจ้าแม่หนี่วาตามราชประเพณีแต่ด้วยเป็นคนบ้าราคะเมื่อได้พบเทวรูปเจ้าแม่หนี่วาก็พอพระทัยรูปโฉมถึงกับชมว่า "งามเหนือสตรีใดในใต้หล้า หากข้ามีบุญวาสนานั้นไซร้จะรับท่านไปเป็นมเหสีครองเมือง" ด้วยคำดูหมิ่นเช่นนี้พระแม่หนี่วาจึงสาปแช่งในราชวงศ์ซางถึงกาลล่มสลายและยังบัญชาวิสุทธิเทพและบุรพเทพทั้งหลายลงไปจุติเพื่อเปิดฉากสงครามจนราชวงศ์ซางถึงกาลดับสูญ เช่นนั้นเมื่อจะบูชาพระองค์พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าให้พูดจากับท่านดีๆพูดด้วยความเคารพในสถานะของลูกที่มีต่อแม่คนหนึ่งชีวิตย่อมจะเจริญรุ่งเรืองปราศจากภัยพิบัติใดๆท่านให้คุณถึงขั้นนั้นทีเดียว เพราะท่านถือว่ามนุษย์เป็นลูกของท่าน หากลูกรักแม่และต้องการความช่วยเหลือจากแม่แล้วแม่ย่อมไม่ปฏิเสธแน่่นอน

    ฝังหุ่นปั้นตรากำเนิดชีวิตจิตปฐมเทพ

    หุ่นนี้ท่านปั้นด้วย
    ผงปฐมอักขระ,ปฐมกำนิด,ปฐมจิตบุรพเทพ...(และผงที่ไม่อนุญาติให้เปิดเผย) โดนปั้นเป็นรูปชายหญิงกอดกันดุจปฐมบิดาและปฐมมารดาเช่นนั้น *** ทั้งหุ่นนี้ยังปั้นให้เหมือนรูปองค์กำเนิดทั้งสองอยู่ร่วมกันนั่นคือลึงค์และโยนีรวมอยู่ในรูปเดียวอันเป็นสัญลักษณ์แห่งการก่อเกิดสรรพสิ่ง การเกิดสรรพชีวิตและสิ่งที่เจริญไพบูลย์ขึ้นไปตามลำดับขั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าปฐมมารดาท่านให้ปั้นเช่นนี้เรียกว่า"หุ่นปั้นตรากำเนิดชีวิตจิตปฐมเทพ" ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาที่ใช้เร่งความเจริญรุ่งเรืองแบบรุนแรงสูงสุด เปรียบดั่งปฐมบิดาและปฐมมารดาท่านเบิกทางเปิดฟ้าประทานลมหายใจต่อชีวิตให้เลยก็ไม่ผิด วิชานี้จึงเป็นที่สุดของที่สุดและถูกถ่ายทอดจนเลือนหายไปตามอารยธรรมโบราณ พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นแบบนี้ใครก็ปั้นได้หากแต่ผงที่จะลบนำมาทำนั้นองค์ปฐมมารดาท่านต้องสอนต้องหัดจนเราทำเป็นทำคล่องทั้งสิ้น ท่านว่าจะได้ทำวิชาไว้ให้ของวิเศษแต่ครั้งโบราณกลับมามีลมหายใจอีกครั้ง(ผงต้องเสกจนเต้นได้) ด้วยหุ่นนี้จะได้สงวนไว้ รักษาไว้ สืบทอดไว้ให้มีใช้กันเฉพาะกลุ่ม(ลูกๆขององค์ท่าน) คนนอกจะไม่มีสิทธิ์ได้รู้หรือได้ครอบครองแม้เศษธุลีผงของหุ่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นหุ่นที่ใช้เร่งความเจริญให้พุ่งขึ้นถึงขีดสุดขององค์เทพบรรพกาลหนี่วาที่ได้ประทานให้ไว้แก่ลูกผู้มีใจศรัทธา

    ทั้งหุ่นนี้ความแรงนั้นท่านว่าไม่มีจำกัดและไม่มีลดลงเลย เป็นเรื่องที่แปลกมากด้วยใช้ศรัทธาเป็นสิ่งขับเคลื่อนหากศรัทธาต่อปฐมมารดามากเท่าไหร่หุ่นก็ยิ่งแรงมากขึ้นเท่านั้น...นำความเจริญรุ่งเรืองในประการต่างๆมาให้ไวขึ้นโตขึ้นเป็นเงาตามตัว ด้วยตัวหุ่นเขาซึมซับวิชาจากองค์ปฐมมารดาไว้ทั้งหมดจะเป็นเจตสิกภูติคอยตามช่วยเหลือเราไม่ต้องเลี้ยงไม่ต้องเซ่น ยิ่งใช้ยิ่งแรงยิ่งหมั่นอธิษฐานยิ่งมีกำลัง พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้เราจะหมายปองอนาคตที่อยู่สูงอยู่ไกลเกินเอื้อมเพียงใด(ในสิ่งที่เป็นไปได้)ก็ไม่พ้นมือเราไปได้เลยแม้ขออะไรปรารถนาสิ่งใดต้องได้สมใจปรารถนาไม่เคลื่อนคล้อย แม้เที่ยวไปแห่งหนใดถูกใจใครถูกใจสิ่งใดต้องได้กลับมาครอบครอง หุ่นนี้เน้นทำให้ชีวิตเรารุ่งและอยู่ในช่วงขาขึ้นตลอดเวลา

    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    ตั้งเเต่ทำมานี่รู้เลยเวลาเรียกสูตรทำผงลงจารเเต่ละตัวคาถาอักขระนั้นเรียกยากมากบางตัวเขียนเหมือนกันแต่เรียกสูตรต่างกันทำได้กระดานเดียวก็หมดฤกษ์ต้องเพียรทำเพียรเก็บเมื่อรวบรวมได้จึงเสกโดยเชิญองค์ปฐมมารดามาครอบวิชาแต่ละอย่างก่อนในระดับแรก(พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่ตอนเสกผงองค์ปฐมมารดาท่านก็กล่าวเอาไว้แล้วว่าใครได้ใช้นี่มีบุญนัก คนที่เดือดเนื้อร้อนใจถ้ายังไม่พบอย่าเพิ่งรีบตายไปเสีย) พอลงผงปั้นหุ่นทำอาถรรพ์ซ้อนอาถรรพ์ไปเรื่อยๆก็เกิดกลวิชาทับซ้อนขึ้นมาอีก เพื่อให้เราเจริญรุ่งเรืองได้ถึงขั้นสุดหุ่นตรากำเนิดนี้จึงกลืนทุกข์,กลืนภัย,กลืนเสนียด,กลืนอุบาทว์จัญไร,กลืนเคราะห์จร,กลืนเคราะห์ภัย,และสิ่งทั้งปวงที่คอยกลั่นแกล้งตัวเราไว้ทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าไอ้ตัวเหตุที่จะพลิกชีวิตเราให้พิบัตินั้นเขากลืนไปหมดเลยพูดได้ว่าต่อไปนี้ไม่มีที่ต้องโหยหาความสุขด้านใดมาเติมเต็มทั้งสิ้น หุ่นนี้แม้พกไว้เฉยๆดวงก็พุ่งแรงด้วยสิริสวัสดิ์จะวิ่งเข้ามาหาเราเอง ***นี่แหละเมื่อได้ฝากชีวิตไว้กับปฐมมารดาแล้วแม้ตายไปเกิดชาติภพหน้าต่อไปอีก 3 ชาติ 7 ชาติก็ยังนับเป้นลูกท่านทั้งสิ้น

    ### รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านไม่ให้เปิดเผยเลยว่าฝังผงมวลสารอะไรบ้างเพราะปฐมมารดาท่านว่าให้เก็บเอาไว้ของดีไม่ต้องใช้โฆษณาอะไรต้องใช้เพียงวาสนาเท่านั้น หากไม่มีวาสนาร่วมกันก็ยากที่จะได้เกื้อกูลกัน พ่ออาจารย์ท่านจึงบอกได้เพียงคร่าวๆว่าฝังอะไรบ้างแค่นี้เพราะท่านไม่ให้เจาะลึก

    - ธาตุกายสิทธิ์อันได้จากศาลเจ้าฮว๋างกงบนไหล่เขาที่เมืองเหอเป่ย อันเป็นศาลเจ้าแม่หนี่วาที่เก่าแก่ที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าแร่ดำๆนี้มีคหบดีชาวจีนเอามาให้บอกว่าบรรพบุรุษได้มาจากเขาที่ศาลตั้งอยู่เมื่อร้อยปีมาแล้ว เขาเอามาขอให้พ่ออาจารย์แกะสลักองค์หนี่วาให้เพื่อจะฝังก้อนแร่นี้ พ่ออาจารย์ท่านตรวจทราบว่าแร่นี้เป็นสิ่งสำคัญมีกำลังของบุรพเทวีหนี่ว่าอยู่ เศษที่เหลือจากการฝังท่านจึงขอไว้ทั้งหมดและได้นำมาฝังเหรียญรุ่นนี้ ท่านว่าจะได้สมนามปฐมกำเนิดจากดินแดนกำเนิดอันเก่าแก่ที่สุด ทั้งแร่นี้ยังเป็นมงคลช่วยให้ผู้ครอบครองเป็นเศรษฐีมีกิจการครอบคลุมทั่วประเทศได้รุ่นสืบรุ่น ท่านจึงถือว่าเป็นของสูงของเจ้าแม่หนี่ว่าที่ใช้ปิดรอยรั่วชีวิตคนได้แม้จะจากบ้านเกิดมาเอาดีต่างถิ่นก็ยังเจริญไม่รู้หยุด

    - แร่ฟ้าฟื้น แร่นี้เป็นแร่ที่พ่ออาจารย์ท่านสรรหามวลสารต่างๆตามตำราการทำดาบฟ้าฟื้นของพ่อขุนแผนมาหล่อไว้เป็นแท่งชนวน ท่านว่าอาศัยอิทธิฤทธิ์มหาธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่จะฟื้นคืนชีวิตที่เหี่ยวเฉาไปแล้วของคนที่สิ้นหวังได้ แม้ท้องฟ้ายังขานรับเปิดรับฤทธิ์แห่งแร่ฟ้าฟื้นนี้ฉันใด ชีวิตคนที่ติดขัดก็ต้องเปิดออกหมดสว่างหมดที่เหี่ยวเฉาใกล้ตายไปก็ต้องฟื้นทั้งหมดเช่นนั้น

    เพื่อที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองโดยเทวานุภาพอันยิ่งใหญ่สูงสุดของปฐมมารดา ที่ภัยพิบัติจะเกิดจากวิกฤติการณ์ซึ่งทวีคูณซ้อนทับความรุนแรงไปเรื่อยๆท่านจึงให้นำเหรียญอุดรอยรั่วนี้ออกมาให้คนได้อาราธนา ท่านว่าในยุคสมัยของเราขณะนี้ก็เมื่อฟ้าดินเปิดโอกาสให้แล้ว(แม่ใหญ่หนี่วาท่านอนุญาติ) ทีนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าใครจะเลือกอย่างไรด้วยวาสนาของคนเราแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกรรมเก่าแต่ที่มากกว่าเป็นเพราะกรรมในปัจจุบัน ตัวกรรมนี่แหละคือสิ่งที่เราตกลงใจที่จะทำหรือไม่ทำจะรับท่านรึไม่รับเท่านั้นมันจะบังตาเราไว้จนแสงสว่างใดๆก็ส่องเข้าไม่ถึง เช่นนั้นโอกาสใดๆย่อมไม่มีเพราะการเลือกที่จะรับแม่หรือไม่เป็นการเลือกว่าเราจะได้รับชีวิตใหม่ตอบแทนในท้ายที่สุดหรือไม่เช่นกัน

    คาถาบูชา
    นำมอเซียงยงไกผู่สัก
    ด้วยเป็นเทพบรรพกาลที่จริงท่านว่าคาถาไม่ต้องใช้
    ให้ใจสื่อถึงท่านได้ก็ไม่มีอะไรจะเร็วและแรงที่สุดไปว่าใจเราที่นึกถึงพระองค์แล้ว ด้วยปฐมมารดาทรงเป็นผู้ให้กำเนิดและเป็นจักรพรรดินีแห่งโลกมนุษย์ที่คอยค้ำจุนอุ้มชูหล่อเลี้ยงคุ้มครองเลี้ยงดูสรรพชีวิตบนโลก(เอาใจเราฝากไว้กับท่านคาถาใดๆไม่ต้องใช้เลย)

    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำให้จำเอาไว้ว่า "ลูกๆคนใดก็ดีที่ให้ความเคารพต่อปฐมมารดานั้น ท่านจะแบกรับภาระคอยค้ำจุนปัญหาทั้งปวงให้ ดุจมารดาผู้หล่อเลี้ยงอุ้มชูบุตร"

    *** พ่ออาจารย์ท่านว่ารายการนี้ถือเป็นของสำคัญที่ข้างบนท่านไม่ยอมเลย ไม่ยอมให้พูดให้บอกอะไรมากมายไปกว่านี้ ท่านว่าให้ใช้ใจสัมผัสกันเอาเองว่าปฐมมารดานั้นมีน้ำหนักในใจเราแค่ไหน ถ้าคำว่าแม่ยังไม่รู้สึกไม่มีความผูกพันธ์ลึกซึ้งก็ไม่ต้องเอาไป รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะทำการประสิทธิให้อีกวาระหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรีญอุดรอยรั่วปฐมมารดาเทพบรรพกาลหนี่วา (ฝังหุ่นปั้นตรากำเนิดชีวิตจิตปฐมเทพ) บูชา 4,000 บาท

    15135761-677807969062317-8531924275879083957-n.jpg
    100471862-251008579562175-7439594242478964736-n.jpg 98574661-731978840878919-486864874060644352-n.jpg
    100323507-1427264900791631-6886474550075195392-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2020
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา สมิงพระกาฬอุดชีวธาตุหัวใจสมิงไพร (ชุดสมิงวิชาผงสูบกำลัง16ชั้นฟ้า15ชั้นดิน)

    ชีวธาตุหัวใจสมิงไพร ก็คือหัวใจแก้วของเสือสมิงนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าเสือสมิงบางตัวเมื่อเขาทิ้งธาตุขันธ์ไปร่างกายก็ยังฟันแทงไม่เข้าอยู่เพราะมีอาถรรพ์ ต้องนำหัวใจซึ่งแข็งเป็นหิน(แก้วผลึก)ออกมาเสียก่อนถึงจะจัดการได้ หัวใจแก้วสมิงไพรนี้ท่านว่าเป็นยอดของสิ่งอาถรรพ์ดั่งกายสิทธิ์าตุแห่งสมิงที่อยู่เหนือกว่าเสือทั่วไปด้วยรวบรวมตบะและกำลังเป็นดั่งฤทธิ์ของสมิงตัวครู... มีฤทธิ์มากพ่ออาจารย์ท่านว่าสารพัดที่จะใช้แต่หากได้นำมาทำเครื่องรางรูปเสือและนำธาตุหัวใจบรรจุกลับเข้าไปในรูปเสืออีกครั้ง จะยิ่งมีฤทธานุภาพมากเสมือนด้วยเราทำพยนต์อันมีฤทธิ์ดั่งสมิงไพรที่แม้แต่เจ้าป่าเจ้าเขาเทวดารุกขเทพทั้งหลายเกรงกลัวนั่นทีเดียว ด้วยหุ่นเสือนั้นจะมีตบะที่บำเพ็ญมานับร้อยปีพันปีของพญาสมิงครูนี่เอง

    ### ด้วยเหตุนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงนำชีวธาตุหัวใจสมิงไพรที่แข็งเป็นหินดั่งผลึกดำซึ่งท่านได้จากนายพรานสมัยก่อนโดยถือเป็นกายสิทธิ์ที่ท่านบูชาไว้ใช้ส่วนตัว ท่านนำกายสิทธิ์สมิงนี้มาพลีขออนุญาติบอกเขาให้มาร่วมสร้างบารมีก่อนนำมาทุบมาบดเป็นชิ้นเล็กๆเพื่อบรรจุกลับเข้าไปในรูปพยนต์เสืออีกครั้งหนึ่ง ด้วยว่าจะได้เป็นคุณค้ำคูณและจะทำให้หุ่นเสือนั้นมีฤทธิ์อำนาจตบะพลังของสมิงอย่างแท้จริงเสมอด้วยเสือครูเช่นนั้น (พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าเสือในโลกนี้มีน้อยขนาดไหน เสือสมิงยิ่งมีน้อยมากกว่านั้นเป็นเงาตามตัว และในหมู่สมิงนี้ก็ใช่ว่าจะเกิดกายสิทธิ์ธาตุในร่างตนได้เสมอไป เรียกได้ว่าหนึ่งในล้านถึงจะได้เห็นทีเดียว)

    ยอดผงวิเศษ

    ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้ทำสมิงวิชาขึ้น โดยเน้นใช้มวลสารหลักตั้งต้นเป็น
    "ผงเทพวิชาสูบกำลัง16ชั้นฟ้า15ชั้นดิน"...ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นผงที่ทำให้สำเร็จยากเพราะไม่ใช่แต่เราลบแล้วจะทำได้สำเร็จ หากแต่ยังต้องกำกับเสกมนต์ถึงแปดหมื่นสี่พันจบ ซึ่งการลบผงนี้ท่านเคยทำเป็นตะกรุดครั้งหนึ่งท่านว่าสมัยนั้นมีคนไปคลี่ตะกรุดเอาไปให้เจ้าคุณพระธรรม..ที่มีความรู้ในภาษาและอักษรต่างๆปัจจุบันเป็นสมเด็จและมรณภาพไปแล้วท่านดู ท่านถามกลับมาว่า"อักษรโบราณแบบนี้ยังมีคนเรียนเอาไว้ได้อยู่อีกหรือเราไม่เคยเห็นใครจะใช้กันเลยนอกจากปรากฏในจารึกโบราณเพียงแห่งสองแห่ง อาจารย์คนนี้ท่านไม่ได้เขียนมั่วนะ อย่าเอาภูมิรู้เท่าหัวเต่าไปสงสัยท่านเลย" พ่ออาจารย์ท่านว่าหลังจากนั้นคนคลี่ตะกรุดก็เริ่มเกิดเรื่องร้ายๆขึ้นถาโถมเข้าใส่ตัวเขามากมายจนเขามาขอขมาเรา

    พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าควรจะใช้วิชาชุดนี้ทำเป็นผงวิเศษไว้ด้วยมีอานุภาพเสมอกันเพราะเป็นเทพวิชาท่านว่าต้องเพียรลบเพียรเสกกว่าจะได้ปริมาณผงที่กดพระได้ไม่ใช่ง่ายเลย ผงวิชานี้มักจะใช้ในการดูด ถ่ายเทพลัง สูบพลังจากสิ่งต่างๆเข้าสู่ตัวตนของผู้ใช้ ทั้งยังสลายพลังอาถรรพ์หรืออวิชชาให้สูญสิ้นไปอีกด้วย ท่านว่าฟังเหมือนง่ายแต่ติดที่ว่ามันใช้ได้ไม่มีข้อจำกัดนี่สิ เรียกว่าใช้ทั้งสูบทั้งสลาย แต่ที่อันตรายก็เพราะความคิดพิเรนทร์เพราะบางคนก็คิดจะใช้สูบมนต์จากครูบาอาจารย์ตนเอง ท่านว่าพิเรนทร์ถึงขนาดที่ว่าพระเกจิบางรูปที่รู้และสำเร็จวิชานี้เคยคิดแม้แต่จะสูบวิชาของพระพุทธเจ้าก็มีมาแล้วแต่ก็ทำไม่สำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าวิชานี้ด้วยจิตใจคนนั้นไม่มั่นคงจึงไม่ถ่ายทอดให้กับใคร ให้ใช้แต่เพียงคุณของวิชาที่ท่านลบทำผงเท่านี้ก็พอ จำเพาะเท่านี้ท่านว่าก็เป็นคุณมหันต์ไม่มีข้อจำกัดใดๆแล้ว ทั้งผงนี้ยังสำคัญนักนอกจากการสูบและสลายพลังงานแล้วยังให้คุณด้านต่างๆแม้เพียงอาราธนาไว้อีกด้วย
    - ผงนี้ท่านว่าดีทางมหาสะกด นอกจากสะกดให้คนหลงเชื่อ อยู่ในอำนาจเรา เชื่อฟังเราทุกอย่างแล้ว ท่านว่ามันใช้ออกได้ทุกทางนะ เป็นมหาสะกดนี่คนนอบน้อมเกรงใจ ใช้ทางการเจรจา การทำงาน การจีบสาวหาคู่ ท่านว่ามันสะกดไปหมด แม้แต่สัตว์ก็ยังรักเราอย่าว่าแต่คนเลยเอาว่าเกลียดไม่เผาผีกันก็ยังพูดกันรู้เรื่อง(พ่ออาจารย์ท่านว่าหากอยากใช้สะกดใคร ให้เขียนชื่อเขาแล้วเอาผงโรยทับภาวนาคาถาจะสะกดอะไรก็ว่ากล่าวไปแล้วกระทืบเท้าสามครั้ง เป็นการสะกดให้คนอยู่ในอำนาจเรา)
    - ผงนี้ทำให้คนรักปักใจ ไม่ใช่ของชั่วคราวหลงๆลืมๆ ท่านว่าการปักใจรักคือความรักที่แน่วแน่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลง ให้คุณทางมหานิยมมหาเสน่ห์อย่างพิเศษ ไม่ฉาบฉวย พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่รักใครจริงอย่าทำเป็นเล่นแค่พกไว้เฉยๆก็พอ แต่หากรักใครจริงและคิดว่าตนมีปัญญาเลี้ยงดูรับผิดชอบเขาได้ ก็ให้เขียนชื่อเขาเอาผงนี้โรยทับแล้วตั้งขันห้า ขันแปดในวันอังคาร(ห้ามแรมแปดค่ำ) ภาวนาคาถาท่านว่าทำเอาเถิดจะให้เขารักหรืออย่างไรก็สำเร็จ
    - ผงนี้ท่านเรียกว่าใช้ทางบัญชาการจะส่งผลโดยตรงกับสมองเขา ไม่อาจทัดทาน ต้าน ต่อใดๆได้เลยเป็นคติทางไสยเวทย์ที่รุนแรง จะเรียกว่าสั่งอะไรเขาก็ทำ ให้เราเขียนชื่อเขาแล้วเอาผงโรยทับไว้จึงเผาเอาเถ้านั้นผสมน้ำให้เขากิน(ท่านว่าไม่จำเป็นจริงๆห้ามทำ และหากทำก็อย่าเกินเลยมากเกินไป เอาให้เหมาะให้ควร) เพราะการทำเช่นนี้อาจทำให้คนดีกลายเป็นบ้า พิการ ง่อย เปลี้ยได้ ท่านว่าเพียงแค่พกเฉยๆคนทั้งหลายก็นอบน้อมถ่อมตนเข้าหาผู้ใดก็ดุจว่าเขาเป็นข้าทาสบริวารของเราแล้ว

    นอกจากเรื่องที่กล่าวข้างต้นพ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงเปลือก ไม่ใช่แก่นสารใดๆ หลักๆเลยวิชานี้ที่น่ากลัวแท้ที่จริงแล้วอยู่ที่เรื่องมหาสูบตามชื่อวิชา นอกจากใช้สูบมนต์สูบวิชาได้ทุกสิ่งแล้วสิ่งที่สูบมานั้นก็ไม่ได้สูญเปล่า ไม่ได้ทำไว้เพื่อให้เราเอาไปรังแกใครสูบมาแล้วก็ไม่ได้หายไปไหนท่านว่าพลังงานที่ให้คุณต่างๆอันสูบมานี้ก็จะมาเสริมส่งเราเป็นบารมีของเรา แต่เดิมนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่สำเร็จวิชานี้ที่เอาดีทางอาคมไปลองดีสูบวิชาคนก็มี แต่คนที่เรียนมาเหมือนกันแล้วเขาฉลาดเล่นทางอาคมเอาวิชานี้ไปสูบเงินสูบทองจากปุถุชน สูบบารมีจากคนจากสถานที่ต่างๆจนกลายเป็นเศรษฐีสืบวงศ์ตระกูลมาได้หลายชั่วโคตรก็มี ท่านจึงว่าวิชาเหมือนกันต่างกันที่คนใช้ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร ถ้าใช้เป็นหมายถึงใช้แล้วคิดเป็นก็จะได้ดีเกินคนโดยไม่ยาก ตรงนี้ท่านว่าให้ใช้ความคิดมากๆท่านว่าคิดซักเล็กน้อยผงนี้ยิ่งใช้เป็นมันยิ่งสนุกนะ เวลาเราพกอาราธนาผงนี้ไปตามสถานที่ต่างๆตามวัดวาอารามทั้งหลายเราก็นั่งภาวนาอธิษฐานสูบบารมีเข้าไปเพิ่มให้กับตัวเองคนที่วาสนาต่ำ ดวงตก ดวงแตก ดวงกาลกิณี ติดวิบัติ ติดพระเคราะห์ใดๆก็ตามให้ไปทำเถิด สูบบารมี สูบอำนาจตบะต่างๆของพระอริยะเจ้าที่ท่านเหลือทิ้งไว้ตามสถานที่ของท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าพ้นกรรมกันได้ง่ายๆเลยถ้าใช้เป็นไปอธิษฐานสูบเอาได้ไม่ต้องกลัวหมด คนที่ฉลาดหน่อยเวลาเขาไปธนาคารไปสถาบันการเงินการคลังก็จะอธิษฐานสูบสัญญาความจำได้หมายรู้ต่างๆเพื่อเปิดวาสนาทางการเงินเข้าไปให้ดวงเราชีวิตเราผูกพันธ์กับเงินกับโชคลาภตลอดเวลา *** ท่านว่ามันอยู่ที่วิธีคิดแล้วเอาไปใช้..ยิ่งคิดมากๆก็ยิ่งใช้ได้หลายทาง..ยิ่งใช้เป็นก็ยิ่งสนุก อยากมีวาสนาด้านไหนก็เอาไปสูบเอาตรงนั้นสถานที่นั้นๆ ท่านว่านี่คือคนที่คิดแล้วใช้ให้เป็นไม่ใช่พกแล้วสูบไปเรื่อยเช่นนี้ชีวิตก็คงที่ ฤทธิ์บารมีอะไรทั้งหลายมันกินไม่ได้แต่ถ้าเล่นเป็นผงนี้นับว่ามีค่าควรเมืองจริงๆ

    วิชานี้
    นอกจากสูบวิชา..สูบเงิน..สูบทอง..สูบมหาโชค..มหาชัย..มหาลาภที่ว่าบันดาลโชคเปิดวาสนาทำให้ทรัพย์งอกเงยแข่งขันสิ่งใดก็แพ้ไม่เป็นแล้ว ไม่เพียงพลังงานเหล่านี้จะเกื้อหนุนสูบเข้ามาหาตัวเราตลอดเวลา ท่านว่าเรื่องเหล่านี้เด็กๆไปเลย มนต์วิชามหาสูบนี้แท้จริงแล้วเขาใช้กันได้มากกว่านั้นนอกจากการสูบทั่วไปแล้ว ท่านว่าของที่ทำได้ยากเช่นสูบเอาฤทธิ์เอาตบะ บารมีสูบจนตนเองกลายเป็นร่างกายสิทธิ์ก็ยังทำได้(เมื่อได้ผงคุณวิชามาทำสมิงพระกาฬชุดเสือทิพย์ผสานกับธาตุหัวใจสมิงไพรจึงยิ่งมีฤทธิ์ค้ำคูณกัน) ด้วยตบะบารมีและฤทธิ์เดชเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการบำเพ็ญเพียรอย่างอุกฤติของบุคคลทั้งหลายเมื่อเราสูบมาสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็จะกลายมาเป็นของเรา..เสริมส่งตัวเรา นี่คือที่สุดของวิชามหาสูบที่แท้จริง *** เรียกว่าตัวเราเป็นศูนย์ไม่มีอะไรซักอย่างแต่...สูบจนมีได้ทุกอย่างในโลก..สูบจนตัวเองเป็นกายสิทธิ์เสมอด้วยเทพยดาเช่นนั้น ดังที่กล่าวไปพ่ออาจารย์ท่านว่ามันให้คุณมากสำหรับคนที่ใช้เป็นและมันก็น่ากลัวมากสำหรับคนทำผิดคิดชั่วครั้นจะปล่อยให้เสื่อมสูญไปก็น่าใจหาย พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาเห็นว่าหากเราไม่ถ่ายทอดเราก็เพียงนำวิชามาทำเป็นผงไว้เพราะเขาจะได้ใช้ด้วยมีของวิเศษที่เราเสกด้วยคุณวิชาจนสำเร็จ รู้เพียงคาถาเพื่อใช้ส่วนหนึ่งแต่หาได้รู้วิชาจริงๆไม่เช่นนี้ท่านว่าก็จะได้ใช้กันได้แล้วก็ไม่ต้องกลัวอะไร

    (ผงชุดนี้สำคัญนักใครรับไปก็ให้นอบน้อมในคุณเทพเทวดาและครูบาอาจารย์ ด้วยสิ่งนี้เป็นเทพวิชาที่ลึกลับมากต่างจากพุทธคาถาหรือธรรมคาถาใดๆ อันเทพวิชานั้นย่อมใช้ได้และให้คุณไว เห็นผลสัมฤทธิ์ชัดเจนต่างจากอำนาจคุณพระ ทั้งจุดประสงค์โดยตรงของวิชานี้ก็ชัดเจนยิ่งว่าขัดกับทุกๆหลักการ ดังนั้นคนใช้อาราธนาสิ่งที่ต้องมีก็คือความเชื่อ..ยิ่งเชื่อมากก็ยิ่งใช้ได้เร็วมาก..ยิ่งศรัทธามากก็ยิ่งสูบได้มาก การที่เราจะสูบอะไรจะได้มากหรือน้อยท่านว่าต่อจากนี้ไป มันขึ้นอยู่เพียงแค่ว่าเขามีความเชื่อหรือศรัทธามากแค่ไหนเท่านั้นเอง)

    พ่ออาจารย์นำยอดผงยอดกายสิทธิ์มาสร้างสมิงพระกาฬ

    เมื่อกล่าวถึงสมิงพระกาฬแล้วย่อมทราบกันดีว่าเป็นเสือครูของสำนักท่าน...ด้วยวิชาเสือนั้นในอดีตกาลที่ผ่านมาเป็นวิชาที่สร้างได้ยากอย่างยิ่งเนื่องจากคนสร้างต้องมีตบะบารมีโดยเเท้จริงต่างจากเช่นสมัยปัจจุบัน เนื่องจากเป็นเครื่องรางที่ทรงไว้ซึ่งอิทธิคุณครบครัน ทั้งมหาอำนาจดุดัน เป็นที่เกรงกลัวแต่ก็แฝงด้วยมหาเมตตามหานิยม..มหาเสน่ห์ แฝงด้วยเรื่องการทำมาหากินเจริญก้าวหน้าครบถ้วนกระบวนยุทธ์ ทั้งพ่ออาจารย์ท่านได้เคยร่ำเรียนวิชาเสือซึ่งมีทั้งในสายของภาคกลางเเละภาคเหนือไม่ว่าจะวิชาเสือ,เสือสมิง,เสือเย็นเสือหัวขาด,หวงด้วนต่างๆ ท่านจึงประสงค์จะรวมวิชาเสือทั้งหมดไว้เเละสร้างเสือครูออกมา ท่านว่าวิชาเหล่านี้เมื่อตกผลึกรวมกันเเล้วจะได้เสือครูที่มีอานุภาพมากเกินกว่าสติเเละความระลึกนึกคิดทั่วไปจะทำความเข้าใจ

    พ่ออาจารย์ท่านใส่ใจตรงนี้มากตั้งเเต่มวลสารท่านว่าทุกอย่างต้องเกิดจากอิทธิวิธีเเละสำเร็จด้วยฤทธิ์เท่านั้นถึงจะประกอบขึ้นมาเป็นกายแห่งมหาภูติรูป 4 นี้ได้ สมัยก่อนทำไว้อย่างไร ราจะไม่ขอเดินทับรอยครูบาอาจารย์เเต่เราจะทำเจ้าเเห่งเสือสมิงทั้งปวงอันเป็นเอกลักษณ์ของเราออกมา ซึ่งท่านได้นำมวลสารต่างๆเหล่านี้มานวดเเละผสมเข้าด้วยกัน ### โดยชุดนี้เน้นใส่ใช้ผงเทพวิชาสูบกำลัง16ชั้นฟ้า15ชั้นดินที่ท่านเพียรลบสะสมไว้เป็นมวลสารตั้งต้นนำมาผสมมวลสารตำรับสร้างสมิงพระกาฬของท่าน คือ

    - ผงลบอาถรรพ์มนต์พระกาฬ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้นั่งลบถมผงด้วยวิชามนต์พระกาฬหลังจากนั้นจึงนำผงที่ได้มาปลุกเสกเเละประกอบอิทธิวิธีเข้าว่านยาต่างๆ ท่านว่าผงนี้มีอานุภาพล้นเหลือ จึงเป็นเหตุที่มาของการตั้งชื่อเสือรุ่นนี้ว่าสมิงพระกาฬ เพราะว่าหากพระกาฬมาเเปลว่าคนผู้นั้นย่อมไม่รอดเเล้วไม่มีใครล่วงพ้นอำนาจของพระกาฬไปได้ คนเเต่โบราณจึงนิยมพูดกันติดปากว่า "เธอรู้จักพระกาฬหรือหาไม่" พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าผงที่สร้างสมิงพระกาฬนี้ก็เช่นกัน เป็นการรวมอิทธิคุณ 2 ส่วนเข้าสู่จุดเดียวกันนั่นคือศาสตร์วิชามนต์พระกาฬที่สะท้อนย้อนกลับสิ่งไม่ดี ดำรงค์ไว้ซึ่งคุณธรรมสุจริตหากใครคิดไม่ดีหรือกระทำไม่ดีกับเราเขาผู้นั้นจะมีอันเป็นไปให้พินาศฉิบหายย่อยยับเป็นร้อยเท่าพันทวี หลังจากนั้นท่านได้นำผงวิชาพระกาฬนี้มาผสมสูตรตามอิทธิวิธีเเละนำมาบูชาไฟอัญเชิญดวงจิตเชิญญาณพระกาฬแห่งยมโลกขึ้นมาให้สถิตย์อยู่ที่ทุกอณูผงนี้ด้วยการนิรมาณกายของพระองค์ท่าน พ่ออาจารย์กล่าวว่าจุดนี้เลยสำคัญเพราะวิชามนต์พระกาฬทั้งหลายนั้นเป็นวิชาใช้ฆ่าคนเเต่ปราศจากญาณเเละบารมีเเห่งพระกาฬโดยเเท้จริงสิงสถิตย์อยู่เป็นการตั้งชื่อไปเองเสียเท่านั้น ทำครั้งนี้เราจึงทำผงให้สำเร็จทั้งในคติมายาศาสตร์เเละเทวะวิทยา(ผงนี้แรงมาก เพราะตอนพ่ออาจารย์ลบถมผงนั้นได้มีคนที่คิดไม่ดีกับท่านถึงแก่ความตายโดยปัจจุบันทันด่วนจริงๆ)ท่านจึงว่าผงนี้สำเร็จเเล้วมีอาถรพ์เเรงกล้าตามสายวิชา
    - สีผึ้งผีหุง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านหวงมากเพราะได้มาพร้อมๆกับผงพรายกุมาร สีผึ้งนี้เรียกได้ว่าเป็นของสุดยอดที่จะหาของเเท้ชมยังยากในสายหลวงปู่ทิมนี้ได้ชื่อว่ามีอิทธิคุณและอาถรรพ์แรงกล้าหายากกว่าสีผึ้งเขียวของพ่อท่านทาบเสียอีก ซึ่งวิธีทำสีผึ้งนี้ค่อนข้างพิศดารหลังทำเสร็จหลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกจนสำเร็จ ใครได้ไปใช้ล้วนเห็นผลทันใจทันตากันทุกคนท่านให้เอาไปใช้ในทางที่ดี พ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาผสมเป็นเชื้อเพื่อนวดกับผงมนต์พระกาฬที่ลบถมได้
    - น้ำมันพระเจ้าตาก ซึ่งน้ำมันนี้เป็นอีกหนึ่งมวลสารที่ทำให้พระขุนแผนของหลวงปู่ทิมเฮี้ยนสุดๆเนื่องจากใช้น้ำมันนี้เป็นส่วนผสมเนื้อพระ พ่ออาจารย์ท่านได้รับมาพร้อมกับผงพรายกุมารเเต่ไม่เคยนำมาผสมสร้างเนื้อตามสูตรเลย นี่เป็นครั้งเเรกที่ท่านใช้เป็นตัวประสานเนื้อพระเพื่อให้สมิงพระกาฬนั้นดีที่สุดเช่นบูรพาจารย์เคยทำไว้
    - น้ำมันสังคโลกหรือน้ำมันชาตรี ของพลวงพ่อปานซึ่งท่านได้มาเเต่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งน้ำมันนี้เป็นวิชาการที่ทำยากที่สุดตามสายของหลวงพ่อ มีสรรพคุณรักษาได้ทุกโรครวมถึงโรคเวรโรคกรรมเเละยังบรรเทาเป็นลูกเบาเป็นมหาชาตรี พ่ออาจารย์ได้นำมานวดผสมลงในผงด้วย ท่านว่าจะได้มีทางมหาบารมีเเละคุณของพระอริยเจ้าแฝงเร้นลงไปด้วย
    - น้ำมันเสือสมิง หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ในส่วนนี้สำคัญที่สุด ที่ท่านต้องผสมของอาถรรพ์มากมายในส่วนของการนวดผงนั้นก็เพราะมีน้ำมันเสือสมิงนี้อยู่ท่านว่าจะให้กลิ่นนั้นเจือจางลงช่วยดับกลิ่นสาบเสือนี้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าตบะเสือสมิงนี่แรงกล้านักคนโบราณจะหาเขี้ยวเสือกลวงเป็นของยอดกายสิทธิ์ เราจะทำเสือทั้งทีถ้าไม่มีเชื้อไม่มีต้นเค้ามันเลยก็จะกระไรอยู่ ท่านจึงนำน้ำมันเสือสมิงเเท้ๆของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ยที่ได้มาสมัยรุ่นๆลองวิชาของท่านจากอาจารย์ฆราวาสในสายหลวงพ่อปาน ซึ่งน้ำมันนี้ท่านจะเอาไว้ทาลายสักเสือกลางหน้าอกท่าน ถือได้ว่าวิชาเสือของหลวงพ่อปานนั้นพ่ออาจารย์ท่านรับมาเต็มตัว น้ำมันนี้ท่านจะใช้ทาปลุกเสือสมิงที่หน้าอกท่าน จนปัจจุบันท่านลดความคึกคะนองลงจึงเลิกใช้เลิกทาเลิกเล่นและนำน้ำมันนี้เทผสมลงไปในสมิงพระกาฬเสียทั้งหมด ท่านว่าตบะของพญาเสือสมิงอยู่ในนี้เเรงกล้ากว่าเขี้ยวเสืออะไรนั่นอีกเป็นหัวใจเลยก็ว่าได้ไม่มีใครเขาทำกันหรอก เราเเค่อยากให้วิชาพญาเสือสมิงนี้ยังอยู่ต่อไป เป็นของฝากทางพุทธาคมเอาไว้ดูต่างหน้าบูรพาจารย์ทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วมีน้ำมันนี้ผสมก็ไม่ต่างจากพ่อปานท่านเสกเเต่อย่างใด
    - ผงลบพุทธคุณเเละว่านยาต่างๆที่ท่านลบถมสะสมไว้เเละหาเก็บสะสมไว้
    ***มวลสารอาถรรพ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านสร้างขึ้นเเละรับต่อมาเเต่บูรพาจารย์ก็ดี เมื่อผสมกันเเล้วย่อมเป็นภาชนะชั้นดีที่จะรองรับในการจุติของมหาภูติรูป 4 คือมหาญาณเเห่งท้าวพระกาฬในคราบของเสือสมิงนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านได้ทำพิธีปลุกเสกมายาวนานในระยะเวลาหนึ่ง เเละได้ประกอบพิธีในวันวิสาขบูชาจันทร์ซ้อนจันทร์ด้วย ซึ่งเวลาเสกเสือนี้ส่วนใหญ่ท่านจะเเยกเสกเสียมากกว่าเพราะจะเชิญครูวิชาเฉพาะสายรวมถึงเจ้าของมวลสารทั้งหมดมาลงเป็นการเฉพาะ ท่านว่าเชิญมาตั้งเเต่ หลวงพ่อแตง วัดอ่างศิลา,หลวงปู่ปาน วัดบางเหี้ย,หลวงพ่อปาน วัดบางโคนม,หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่,ท่านฤาษีลิงดำ ครูบาอาจารย์เหล่านี้ท่านเชิญมาหมดเวลาเสกสมิงพระกาฬ แต่ละท่านพึงพอใจกันเป็นอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าสมิงพระกาฬนี้สำเร็จขึ้นมามีอานุภาพมาก เพราะพระเถระที่สำเร็จวิชาเสือสมิงนั้นได้ประชุมองค์เสกโดยพร้อมเพรียงกัน ซ้ำยังได้ฤทธิ์จากเหล่าพระอรหันต์ท่านประสาทให้ด้วยเมตตา เเค่มวลสารนนั้นก็เกินคำว่าเข้มขลังเเล้ว เมื่อเขาสำเร็จขึ้นมาเทวดาเกเรนี่อยู่ไม่ได้ ### ใครมีสมิงพระกาฬนี้ทุกข์โทษเคราะห์หนีไกลเลย ภูติผีสัมภเวสีที่คิดร้ายจะให้ผลร้ายกับเรานี่ไม่มีอีกต่อไป เพราะปลุกเสกครั้งใดทั้งเทพเจ้าเเละภูติผีทั้งหลายก็ตกประหม่าขวัญเเตกกระเจิงกันทั้งนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าทำเพื่อรักษาสายวิชาเสือสมิงของท่านที่สืบมาเอาไว้เท่านั้น ไอ้เครื่องรางประเภทนี้มันต่างจากสิ่งอื่นๆเพราะมันใช้ง่ายของ่าย
    มันอยู่ในรูปของสัตว์เป็นสมิงเป็นเจตภูติที่ผูกขึ้นมาให้เชื่อฟังเเละรับใช้ผู้เป็นนายอย่างเต็มที่เต็มสติปัญญาเเละความสามารถอยู่เเล้ว
    *** ท่านว่ารุ่นนี้มีแรงครูสูงเอาไว้ให้คนที่ต้องการใช้งานจริงๆเเต่จะทำเยอะก็ไม่ได้เราจึงทำเเค่ครั้งเดียวนี่แหละ ให้ทำอีกครั้งมวลสารก็ไม่ครบเเบบครั้งนี้แล้ว ใครมีสมิงพระกาฬนี้คนเขาทั้งรัก ทั้งยอมทั้งเกรงกลัวเราเลย ใช้ข่มเขาได้ทั้งนั้นขออะไรเขาก็ให้ใครที่ว่าดีว่าสูงที่ว่ามีอาถรรพ์มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆรักษาจะมาเเข่งอำนาจวาสนากับเรานี่หนีเตลิดหมด จะไม่หนีได้อย่างไรสมิงในคราบนิรมาณกายของท้าวพระกาฬเชียวนะเป็นยอดอย่างยิ่งเเล้วในกระบวนสัตว์เทพพิทักษ์อันเเฝงคติมายาศาสตร์

    ### องค์สมิงนั้นสำหรับชุดนี้ท่านฝังตะกรุดพญาสมิงไพรที่ท่านตั้งธาตุปลุกเสกรูปนามเต็มสูตรทุกดอก ท่านว่าเน้นให้มีตบะเป็นเสือจ้าวสารพัดจะอธิษฐานใช้... เป็นราชาแห่งสมิง สมกับที่ได้มีโอกาสสร้างเสือสมิงที่บรรจุกายสิทธิ์ธาตุหัวใจสมิงกลับเข้ารูปเดิมเช่นนี้

    คาถาบูชา
    ว่าคาถาสูบกำลัง
    โอมสูบสูบมหาสูบสูบ กูจักสูบเอามนต์อยู่สิบหกชั้นฟ้า อยู่สิบห้าชั้นดินแลชั้นคน กูจักสูบได้แล้วจงจิตจงต่อก่อนำกู โอมสูบสูบ กูจักสูบเอามหาเงิน กูจักสูบเอามหาทอง กูจักสูบเอามหาโชค กูจักสูบเอามหาลาภมหาชัย กูจักสูบเอาธาตุกายสิทธิ์ กูจักสูบเอามนต์ กูจักสูบเอาฤทธิ์ กูจักสูบเอาบารมี โอมสวาโหมติด (เป่าไปที่ตัวเสือ)

    อาราธนา กานะสังถานุนิง ถานะสะกา(เป่าไปที่ตัวเสือ)
    หลังจากนั้นให้ระลึกถึงหลวงพ่อแตง วัดอ่างศิลา,หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย,หลวงพ่อปาน วัดบางโคนม,หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เจ้าของมวลสารทั้งหลายเป็นที่สุด ว่าคาถาดังนี้ โอม โองการครูกูจะบันดาลฟ้า บันดาลดิน บันดาลทั้งพระอินทร์แลพระพรหม บรรดาลทั้งพระยมและพระกาฬ บันดานทั้งพระยาพานพระยาพาลี บรรดาลทั้งเจ้ากรุงพาลีที่อยู่ในป่า อนันเทจะ พยัคคาจะ พยัคคะนะ ครูกูจึงให้กำเนิดมา ซึ่งพญาสมิงฆา โวมะถัง ปะกาเสนโต สะถะอาหา พยัคฆราโช เชนะ อาสิทิเสถถัง อาหะเฏชะนา อะปันนะอาสิติ(เป่าไปที่ตัวเสือ)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ใช้กันให้ดีเป็นเกียรติเป็นศรีเพิ่มบารมีให้กับตัว หากใช้ในทางที่ดีแล้วชีวิตจะเจริญไม่รู้จบ อย่านำไปทำกรรมชั่วไปทำลายชีวิตใครอย่าไปกระทำย่ำยีทำให้คนวิกลจริตให้ใช้เพื่อหนทางรุ่งเรืองของตัวเองเท่านั้น (ชุดนี้เป็นชุดที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้นานแล้วพร้อมกับสมิงพระกาฬรุ่นแรก หากแต่ท่านแยกใช้วัตถุอาถรรพ์และผงวิเศษต่างชนิดกัน ท่านว่าในปัจจุบันนั้นคนขาดตัวช่วยใช้ชีวิตตึงมือถามหาพยนต์บริวารเหล่านี้กันมากท่านจึงให้นำมาเปิดจอง) อิทธิฤทธิ์สมิงพระกาฬท่านว่าเกินจะใช้ ใช้งานได้เลย
    * เมื่อจะบนบานศาลกล่าวใดๆก็ดี ให้บนด้วยหมูนอนตอง คือนำชิ้นเนื้อหมูมาวางบนใบตอง จะใช้ชิ้นเนื้อหมูสดก็ได้ หรือต้มให้สุกก็ได้ ถ้าใช้ชิ้นเนื้อหมูสด สมิงพระกาฬจะมีอานุภาพเกรี้ยวกราดมากกว่าปกติ
    * สมิงพระกาฬนี้เป็นเสือตัวครู เป็นของสำเร็จ เวลาจะใช้ขึ้นอยู่กับกำลังใจของคนรับ ถ้ากำลังใจเปิดรับเขามากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีผลมากขึ้นเท่านั้น สุดเเต่ใจของผู้ใช้งาน
    * เนื้อพระเป็นมวลสารล้วนจึงต้องพ่นแชลคไว้กันการเสียหายดังภาพ จึงเเจ้งให้ทราบ


    *** สมิงพระกาฬอุดชีวธาตุหัวใจสมิงไพรชุดพิเศษผงสูบกำลังนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ได้น้อยเพราะเน้นผงลบล้วนๆจะบูชาเช่นใดสุดแต่ใจจะปรารถนา ### ใครจะทำฟาร์มเสือเพื่อเพิ่มตบะบารมีเป็นอาถรรพ์หนุนรูปนามตัวเองใช้ตบะสมิงหนุนสูบบารมีเช่นนี้จะบูชากี่ตนก็ตามแต่แรงครูท่านและตัวรู้ในใจจะบอกกับเราเองท่านว่าสุดแต่ครูเทพจะดลบันดาลให้สติระลึกนึกถึงได้ ด้วยอำนาจตบะบารมีนี้หากได้หนุนใครย่อมถึงซึ่งความเป็นเจ้าคนนายคนเช่นนี้(ท่านว่าพูดให้มากกว่านี้ไม่ได้แต่ตบะราชาพยัคฆ์สมิงซึ่งเป็นราชาในหมู่ราชาพยัคฆ์ย่อมปราบและสะกดได้ทุกสิ่ง) รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา สมิงพระกาฬอุดชีวธาตุหัวใจสมิงไพร (ชุดสมิงวิชาผงสูบกำลัง16ชั้นฟ้า15ชั้นดิน) บูชา 900 บาท

    99348760-539072840106688-599528390290046976-n.jpg 101233453-869523716873194-879780276278919168-n.jpg
    100559356-1171934096475855-8992167638004137984-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...