ร่วมทำบุญ รับพระธาตุ(หน้า5)คงเหลือกองบุญ กลาง 5 ชุด

ขออนุโมทนาครับ...ที่ให้ความกระจ่าง.....

ขอเป็นกำลังใจในการทำความดีของคุณนะครับ.....

ผมก็มีพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุอยู่จำนวนหนึ่ง
บางส่วนได้ร่วมบรรจุในพระเจดีย์ธาตุและเศียรพระพุทธรูปหลายๆแห่งในภาคเหนือ...
มีรูปให้ชมบางส่วนนะครับ..........

 

สวัสดีครับ ผมเป็นแพทย์อยู่รพ.ชุมชนในจังหวัดลพบุรี มาขอฝากเนื้อฝากตัวครับ ผมเพิ่งเริ่มสนใจธรรมะเมื่อมาเป็นแพทย์ที่ชนบท และมีโอกาสได้สนทนาธรรมกับหลวงพ่อผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพระธาตุแล้วรู้สึกสนใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ทราบว่าหากต้องการศึกษาเพิ่มเติมจะหาได้ที่ใดบ้างครับ

 

แนะนำไปที่นี้เลยครับ http://www.relicsofbuddha.com/index.htm
หรือhttp://www.pratatlanna.com/
หรือhttp://www.rakpratat.com/

 

งามจริงๆครับ ขอโมทนาที่นำภาพดีๆมาให้ทุกท่านได้ชมกันนะครับ และขอเจริญในธรรมะครับ

 

ขอบพระคุณครับ แล้วผมจะเข้าไปศึกษาหาความรู้มาประดับปัญญาครับ หูตาจะได้แจ่มใส ผมรบกวนขอคุณ pongdoo เป็นที่อาจารย์ช่วยแนะนำได้ไหมครับ

 

โมทนาด้วยครับ คุณปราโมทย์ ประธานชมรมรักษ์พระธาตุ ก็เป็นคนหนุ่มที่มีบารมีสูงท่านหนึ่ง และมีความตั้งใจดี ถ้ามีโอกาสลองไปคุยดูที่ชมรมน่าจะได้ประโยชน์ครับ ส่วนตัวผมเคยไปมาครั้งหนึ่งหลายปีแล้วครับ

 

พระอรหันตธาตุนิรมิต

 

(||)
​

อนุโมทนาครับ....ผมมิกล้าเป็นอาจารย์....หรอกครับเป็นกัลยาณมิตร......กัลยาณธรรมดีกว่าครับ...อยากชมรูปพระบรมสารีริกธาตุอีกที่ http://www.palungjit.org/buddhism/gallery/showgallery.php?cat=581 นะครับ ผมก็โพสไว้หลายรูปครับ.......

 

โมทนากับธรรมทานด้วยครับ

 

กระผมโอนปัจจัยร่วมทำบุญแล้วครับ จำนวน 1,399.-บาท สำหรับชุดกลางชุดที่ 2 เมื่อเวลา 08.33 น กรุณาจัดส่งมาที่
นายบุญเวศน์ เรืองช่อ สนง.สรรพากรพื้นที่หนองบัวลำภู
ศูนย์ราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ถ.หนองบัวลำภู - เลย อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู 39000

 

รับทราบครับจะรีบจัดส่งให้พรุ่งนี้นะครับ ขอโมทนา

 

เป็นพระธาตุที่ได้จากถ้ำทางภาคเหนือพร้อมกับพระอรหันตธาตุอื่นๆครับ
เป็นพระธาตุ ที่ท่านไม่อนุญาต หรือไม่เปิดเผยนามครับให้ทราบครับ หากท่านใดได้ไป มีบารมีแก่ท่านอาจลองอธิษฐานถามท่านดูได้ครับ
ที่สุดแล้วขอให้สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เตือนจิตให้มองในคุณงามความดี เข้าใจในธรรม เมื่อรู้ก็ขออย่าได้ยึดติด จิตก็จะหลุดพ้นครับ ขอโมทนา

 

เมื่อวานนี้ได้จัดส่งพระธาตุให้คุณสุชาโตเรียบร้อยแล้วครับ ขอโมทนา

 

พระธาตุข้าวบิณฑบาตรพระพุทธเจ้า

 

ท่านที่ยังไม่ได้รับพระธาตุแรบกวนช่วยแจ้งผมด้วยนะครับ จะได้ทำการตรวจเช็คให้ ขอบคุณครับ

 

ประวัติพระควัมปติ(1)
ที่มา หนังสือพระอรหันตธาตุ ในสังฆาชูปถัมภ์ จัดทำโดยคุณทองดี หรรษคุณารมณ์

พระควัมปติ เกิดในวรรณะไวศยะ ในตระกูลเศรษฐีแห่งเมืองพาราณสี แคว้นกาสี เนื่องจากเป็นบุตรเศรษฐี เป็นไปได้ว่าท่านคงมีความเป็นอยู่อย่างสุขสบายสมบูรณ์ทุกประการ มีนางระบำบรรเลงดนตรีขับกล่อมตลอดเวลาเข้านอน
พระควัมปติเป็นเพื่อนกับพระยสะ เมื่อได้ทราบว่าพระยสะออกบวชจึงมีความเห็นว่าการบวชของพระยสะคงไม่ใช่ต่ำต้อย ธรรมวินัยที่ประพฤติคงไม่ต่ำทราม จีงได้เดินทางพร้อมพระวิมละ พระสุพาหุ พระปุณณชิ ไปหาพระยสะ ณ ป่าอิปตนมฤคทายวัน ด้วยความศรัทธา พระยสะ ได้พาทั้ง4 ท่านเข้าเฝ้าอริยสสัจ 4 ให้ฟังโดยลำดับเมื่อจบพระธรรมเทศนาทั้ง 4 ท่านได้ดวงตาเห็นธรรมสำเร็จเป็นพระโสดาบันครั้งแล้วได้ทูลขอบวช พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ด้วยวิธีบวชแบบเอหิภิกขุอุปสัมปทา หลังจากบวชแล้วพระพุทธเจ้ายังคงแสดงธรรมโปรดอยู่เนืองๆ ไม่ช้า พระสาวกทั้ง 4 รูปก็ได้บรรลุอรหัตผล

 

ประวัติพระควัมปติ(2)
ที่มา หนังสือพระอรหันตธาตุ ในสังฆาชูปถัมภ์ จัดทำโดยคุณทองดี หรรษคุณารมณ์
หลังบรรลุอรหัตผลแล้ว คราวหนึ่งพระควัมปติได้จำพรรษา ณ ป่าอัญชนวันเมืองสาเกตกับพระพุทธเจ้าและพระภิกษุสามเณรจำนวนมาก ปรากฏว่าเสนาสนะไม่พอ พระภิกษุสามเณรที่ไม่ได้เสนาสนะ ต้องพากันไปจำวัดตามหาดทรายชายฝั่งแม่น้ำสรภู ตกเที่ยงคืนเกิดฝนตกน้ำหลากพระเณรต้องหนีน้ำกันจ้าละหวั่น พระพุทธเจ้าจึงทรงใช้พระควัมปติให้ไปใช้ฤทธิ์กั้นสายน้ำช่วยพระเณรที่เดือดร้อนท่านไปตามพุทธบัญชาแล้วใช้ฤทธิ์กั้นสายน้ำไม่ให้ไหลมารบกวนพระเณรอีก พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญท่านว่า

 

ได้รับพระธาตุแล้วครับ ขอบคุณครับและขออนุโมทนาด้วยครับ

 

ขอเจริญในธรรมนะครับ ยินดีที่ได้ร่วมบุญกันครับ

 

ประวัติพระมหากัปปินะ(1)
ที่มา หนังสือพระอรหันตธาตุ ในสังฆาชูปถัมภ์ จัดทำโดยคุณทองดี หรรษคุณารมณ์
พระมหากัปปินะ เกิดในวรณะกษัตริย์ ราชตระกูลแห่งเมืองกุกกุฏวดีปัจจันตชนบท มีนามเดิมว่า มหากัปปินะ เมื่อพระราชบิดาสวรรคตแล้วก็ได้รับมุรธภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงอโนชาเทวี พระราชธิดาของพระเจ้าสาคละ แห่งแคว้นมัททะ ท่านสนใจในการแสวงหาความรู้ ทุกวันจะส่งราชฑูตออกไปหาข่าวว่ามีผู้รู้ในทิศใดบ้าง
พระมหากัปปินะตัดสินใจออกบวชทันทีหลังจากได้ทราบจากพ่อค้าชาวเมืองสาวัตถีที่เดินทางมาค้าขายในแคว้นของท่านว่า พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์อุบัติขึ้นในโลกแล้ว ท่านทรงสละราชสมบัติ แล้วพาบริวาร 1000 คนเดินทางมุ่งหน้ามาเมืองสาวัตถีเพื่อเฝ้าพระพุทธเจ้า การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องด้วยต้องผ่านภูเขาและแม่น้ำจันทภาคา ท่านก็สามารถพาบริวารข้ามได้ด้วยการตั้งจิตอธิษฐานขอให้พื้นน้ำจงแข็งดุจแผ่นดิน ม้าของท่านและบริวารก็สามารถวิ่งไปบนน้ำได้เหมือนวิ่งบนแผ่นดิน พระพุทธเจ้าออกไปรับท่าน ณ โคนต้นพหุปุตตกนิโครธ(ต้นไทร) ริมฝั่งแม่น้ำจันทภาคา พระเจ้าหมหากัปปินะครั้นเข้าไปใกล้พบว่าผู้ที่นั่งเปล่งรัศมีอยู่นั้น คือนักบวชรูปหนึ่งก็ปลงใจเชื่อว่านี่คือพระพุทธเจ้า จึงเกิดปีติจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จึงเข้าไปกอดพระบาทถวายบังคมแล้วถอยออกมานั่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆ ท่านพร้อมกับบริวารได้ทูลขอบวชหลังจากได้ฟังอนุปุพพิกถาและอริยสัจ 4 จบลง ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ทรงบวชให้ด้วยวิธีบวชแบบเอหิภิกขุอุปสัมปทา