ร่วมบุญเททองหล่อ"พระองค์องค์ที่.11 (สมเด็จองค์ปฐมต้น) ลพ.โสธร ปาฎิหาริย์คู่แผ่นดิน"

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย jarawoot, 28 ตุลาคม 2013.

  1. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,763
    ค่าพลัง:
    +6,940
    ขอเชิญร่วมทำบุญเททองหล่อ
    หลวงพ่อโสธร ปาฎิหาริย์พระบารมีคู่แผ่นดิน 77 องค์77 จังหวัด
    พระองค์ที่ 11 สมเด็จองค์ปฐมต้น (กายมนุษย์)

    ณ.โรงหล่อศรัณย์ปติมา ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม (081-928-3844 , 081-917-7195)

    กำหนดเททอง วันเสาร์ ที่ 9 พฤศจิกายน 2556
    08.49 น. พิธีบวงสรวง
    10.00 น. ปฏิบัติกรรมฐานเมตตาใหญ่ ถวาย "หลวงพ่อโสธร, พระองค์ ที่ 11, พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระสังฆราช”
    11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล
    13.19 น. พิธีเททอง โดย พระธรรมกวี วัดราชาธิวาสวิหาร กรุงเทพ
    14.00 น. รับของที่ระลึก และพูดคุยแลกเปลี่ยนธรรมะตามอัธยาศัย


    ส่งแผ่นทองดวงชะตา...เพื่อหล่อหลอมเป็นองค์หลวงพ่อโสธร...เสริมดวงชะตาบารมี


    ร่วมทำบุญได้ที่.. 1.นายศรัณย์ธร ยกเชื้อ เลขบัญชี 385-006-7513 ออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย ส.กระทรวงพาณิชย์ หรือ ส่งธนาณัติที่ นายศรัณย์ธร ยกเชื้อ ตู้ปณ.10 ปณฝ.กระทรวงพาณิชย์ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11005 (สั่งจ่าย ปณ.กระทรวงพาณิชย์ รหัส 11005) โทร.มือถือ 081-875-4903
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2013
  2. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,763
    ค่าพลัง:
    +6,940
    ที่อยู่จัดส่งแผ่นทอง...นายศรัณย์ธร ยกเชื้อ ตู้ปณ.10 ปณฝ.กระทรวงพาณิชย์ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11005

    ขอเชิญร่วมทำบุญเททองหล่อ “หลวงพ่อโสธร ผ้าทิพย์ประดิษฐาน “ญสส” และบรรจุ “พระบรมสารีริกธาตุ” ที่สมเด็จพระสังฆราชประทานมอบไว้ ครั้งที่.2 จำนวน 39 องค์ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีมหาลาภสูง และเป็นพระองค์หนึ่งที่มีความสำคัญคู่แผ่นดินไทย จะเกิดอานิสงส์ประมาณมิได้


    เพื่อ....ขออัญเชิญพระบารมีหลวงพ่อโสธรอันศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองประเทศที่เกิดจากเภทภัยทั้งหลาย นำไปประดิษฐานทั้ง 76 จังหวัด ถวายเป็นพระราชกุศลต่อพ่อหลวงและสมเด็จพระสังฆราช เป็นกุศลบุญวาสนาบารมีสืบต่อไป

    การสร้างจะเกิดอานิสงส์
    1.จะเกิดมหาลาภความคล่องตัวในการทำมาหากิน
    2.อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
    3. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลายหายไป
    4. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้ว ก็จะเลิกเว้นการจองเวร
    5. เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษ เสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอันตรายได้
    6. จิตใจสงบ ปวงภัยไม่เกิด ฝันร้ายไม่มี ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล
    7. จิตใจมั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
    8. คำกล่าวเป็นสัตย์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา
    9. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้เกิดเป็นชาย
    10. พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาเลิศล้ำ บุญกุศลเรืองรอง
    11. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็น เป็นเนื้อนาบุญอย่างอเนกทุกชาติ เกิดมา จะได้พบได้ฟังธรรมจากพระอริยะเจ้าจนเกิดมรรค เกิดผล ตลอดจน สำเร็จโพธิญาณสืบไป
    ................................................................................................
    แผนที่...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image032.jpg
      image032.jpg
      ขนาดไฟล์:
      867.1 KB
      เปิดดู:
      154
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2013
  3. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,763
    ค่าพลัง:
    +6,940
    พบพระองค์ที่ ๑๑ กายเนื้อ (สมเด็จองค์ปฐม) ในงานฉลองวัดท่าซุง
    "สัตว์บางพวกกลับมาเกิด อีกพวกที่ทำบาป ไปนรก พวกที่ทำดี ไปสวรรค์ ท่านที่หมดอาสวกิเลส ปรินิพพาน"

    ตอนที่ ๑
    เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ขอเล่าตามที่พอนึกออกหรือจำได้ ซึ่งรายละเอียดอาจคลาดเคลื่อน ขาดๆ เกินๆ บ้าง หรือบางเหตุการณ์ และเวลาอาจจำสลับสับสนกันได้ เพราะ สัญญามันอนิจจัง ตามขันธ์ ๕ จริงๆ อย่างไรก็ดีหากบรรดาท่านทั้งหลายจะคิดว่า เป็นเรื่องจริงอิงความจำที่ขาดๆ เกิน เบลอๆ ก็ได้ ถ้าจะให้แม่นยำเหมือนจดบันทึกหรือถอดเทปนี่คงไม่ไหวครับ งั้นคงไม่ต้องอ่านกันแล้ว แต่สาระสำคัญนี่คงไม่ผิดแน่ครับ เมื่อโพสแล้วหากนึกออกภายหลัง หรือมีท่านที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ รวมทั้งพี่ดำ พี่เฉลิม จะมาบอกรายละเอียดข้อเท็จ หรือเพิ่มเติมภายหลัง ผม ก็ยินดีอย่างยิ่ง จะรีบนำมาปรับปรุงแก้ไขใหม่ทันทีครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
    หลวงพ่อได้บอกบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายที่ซอยสายลมบ้านเจ้ากรมเสริมทราบล่วงหน้าว่า (วันที่..พ.ศ...ยังนึกไม่ออกครับ) ซึ่งเป็นวันงานฉลองวัด ในวันนี้จะมีพระดีมาโมทนา และมาเพื่อโปรดบรรดาพุทธบริษัทจำนวนมาก มีทั้งพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ และพระประหลาด ท่านเหล่านี้จะมาแสดงให้ปรากฏให้เห็น ทั้งลักษณะที่มีกายเนื้อในปัจจุบัน และ กายเนื้อที่เบื้องบนท่านเนรมิตลงมาโปรด ท่านบอกว่าให้สังเกตุให้ดีๆ ว่า สมเด็จองค์ปฐมท่านจะมาแสดงให้เห็นในลักษณะที่คล้ายหลวงปู่ปาน ซึ่งท่านเคยมาแสดงให้หลวงพ่อเห็นก่อนหน้านานแล้ว และได้หล่อรูปเหมือนไว้ที่ศาลาองค์ที่ ๑๐ ใต้โคนโพธิ์ริมแม่น้ำ พวกเราบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายนี่ดีใจมาก ตื่นเต้นมาก ใจจดใจจ่อ อยากให้ถึงวันงานเร็วๆ
    ก่อนวันงานเราสามคนเดินทางล่วงหน้าไปก่อนมีผม พี่ดำ พี่เฉลิม วันนั้นเรานั่งรถบัสโดยสารประจำทางออกจากกรุงเทพฯ - อุทัยธานีช่วงบ่ายๆ เราจึงไปถึง อ. มโนรมณ์ เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. (ซึ่งก็มืดแล้ว) จากนั้นก็ข้ามแพไปต่อรถสองแถวเพื่อไปลงที่หน้าวัดท่าซุง แต่ปรากฏว่ารถสองแถวหมดเวลาวิ่งพอดี หลังทานข้าวเสร็จเวลาก็ปาเข้าไปหนึ่งทุ่มแล้ว ต่างจังหวัดนี่ดูมืดเร็วกว่าปกติเพราะไฟฟ้ามีน้อย เราสามคนจึงตัดสินใจเดินเท้าจากท่าแพมโนรมณ์มาที่วัดท่าซุง บังเอิญวันนั้นโชคดีหน่อยที่เดือนหงายทำให้มองเห็นทางที่เดินชัดเจน รู้สึกว่าเราเดินท่ามกลางเดือนหงายตอนกลางคืนต่างจังหวัด ที่ข้างทางมีทุ่งนา ป่าละเมาะ บางแห่งก็เป็นป่าคลื้มๆ น่ากลัวผี มันเป็นบรรยากาศที่ดีทีเดียว อากาศไม่ร้อนทำให้ใจนึกถึงพระรัตนตรัย และจินตนาการได้ดี แต่ในใจผมนี่ก็รู้สึกหวาดๆ เหมือนกันว่าจะมีอันตรายไหมหนอ เพราะมันดูเปลี่ยววังเวงชอบกลอยู่ ไม่มีรถวิ่งผ่านมาเลย หากมีผู้ร้ายมาทำอันตรายนี่สบายเขาเลยเราตายแหงๆ ประกอบกับหลวงพ่อเคยบอกที่ศาลานวราชว่า พวกฝ่ายตรงกันข้ามมันอาฆาตโกรธแค้นหลวงพ่อมาก ที่ไปขัดขวางอุดมการณ์ของเขา หลวงพ่อจึงบอกบรรดาลูกศิษย์ที่ไปวัดว่า หลังเวลา ๑๘.๐๐ น. (หรือตอนเย็นๆ) อย่าออกไปเดินเล่นนอกวัดมันอันตราย ถ้าเขาเห็นว่าติดเหรียญหลวงพ่อ หรือเป็นลูกศิษย์นี่เขาจะทำร้ายเราต้องระวัง (สมัยก่อนโน้นฝั่งโบสถ์เก่าติดแม่น้ำยังไม่ได้เป็นของวัดท่าซุงทั้งหมด ยังหญ้ารกๆ อยู่ จำได้ว่าตอนเช้าบรรดาลูกศิษย์ทำบุญใส่บาตรที่ศาลาพระพินิจอักษร และเปิดเทปหลวงพ่อ แต่อีกฝั่งเปิดเพลงลูกทุ่งกลบเสียงเลย)
    แต่ก็มีเรื่องแปลกอยู่เรื่องหนึ่ง ขณะที่เราออกเดินทางจากท่าแพมโนรมณ์มาสักพัก ก็มีสุนัขฝูงหนึ่งประมาณ ๔ ตัว (จำนวนนี่ไม่แน่ใจว่า ๓ ๔ ๕ ตัว) คล้ายเขามาตีสนิทกับเราวิ่งนำหน้าบ้าง ตามหลังบ้าง ข้างๆ บ้าง เหมือนเป็นทหารดูแลพวกเรา ทำให้เราอุ่นใจเหมือนกัน ตอนแรกๆ คิดว่าบังเอิญ แต่นี่พี่แกไปส่งจนถึงวัดเลย แล้วผมเผลอแป๊บเดียวไม่รู้เจ้าสุนัขมันหายไปไหน พี่ๆ อีกสองคนไม่รู้เหมือนผมหรือเปล่า เข้าใจว่าเป็นเทวดาท่าสงเคราะห์ครับ ไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่ส่วนตัวผมเข้าใจว่าเป็นเทวดาเนรมิตมา แต่ถ้าเป็นสุนัขมีเจ้าของก็คงเป็นเทวดาดลใจ หรือเข้าสิง (เอาจนได้แหะๆ) เป็นเอาว่าผมเชื่อของผมคนเดียวก็แล้วกันสบายใจดี ไม่มีใครเดือดร้อน...
     
  4. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,763
    ค่าพลัง:
    +6,940
    ตอนที่ ๒
    หลวงพ่อด่าว่า มีมโนมยิทธิทำไมรู้จักใช้ ปล่อยให้ตัวเองถูกหลอกถึงในวัด (ทำนองนี้แหละครับ)
    พอถึงวันงานผมและเพื่อนทั้งสาม ต่างตื่นเต้นใจจดใจจ่อหวังจะได้เจอะเพื่อกราบพระดีเหล่านั้น และเข้าใจว่าบรรดาลูกศิษย์หลวงพ่อที่ทราบเรื่องก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน ต่างคน ต่างกลุ่มก็ตั้งใจแสวงหาพระดีตามจุดต่างๆ ของวัด ผมก็คิดในใจว่าหากเจอะพระดีเราจะรีบถวายปัจจัยทันที เผื่อปะเหมาะเคราะห์ไม่มี ได้เจอะพระที่ออกจากนิโรธสมาบัติใหม่ๆ เข้า จะได้รวยไปเลย (ดูมันคิด) จะได้ทำบุญเยอะๆ
    วันนั้นช่วงเช้าหลวงพ่อลงรับแขกที่ศาลา ๒ ไร่ ถ้าจำไม่ผิดหลังจากเสร็จงนพีธีตอนเช้าแล้ว หลวงพ่อก็นั่งสนทนาธรรมต่อตามปกติ ผมและเพื่อนก็เริ่มออกปฏิบัติการแสงหาพระดี สมัยนั้นถัดจากศาลา ๒ ไร่ก็มีศาลา ๔ ไร่ และถัดจากศาลา ๔ ไร่ไปทางด้านมณฑปพระศรีอารย์ และมณฑปสมเด็จองค์ปฐมในปัจจุบัน ซึ่งขณะนั้นยังเป็นป่าละเมาะสลับป่าหญ้ารกเต็มไปหมด มีพระอาคันธุกะมาปักกลดกันเป็นจุดๆ ผมเดินไปเห็นพระองค์หนึ่งปักกลดอยู่โคนต้นไม้ (ถ้าจำไม่ผิดปัจจุบันต้นไม้ต้นนี้อยู่หน้ามณฑปพระศรีอารย์) ผมเห็นพระองค์หนึ่งท่าทางสำรวม หน้าตาผ่องใส สนทนาเรื่องธรรมะสอดคล้องกับหลวงพ่อชัด ผมป้อนคำถามทดสอบอย่างไรท่านตอบไม่ติดขัด ไม่ขัดกับหลวงพ่อเลย ยิ่งเรื่องกายคตานี่แป๊ะเลยแจ๋วมาก ผมทดสอบจนมั่นใจว่าใช่พระดีแน่ๆ อ้อ จำได้ว่าผมใช้มโนมยิทธิตรวจสอบดวงจิตท่านด้วย และคนอื่นที่ไปนอกจากเราก็มีอยู่หลายคนที่ไปนั่งล้อมวง คงจะตรวจสอบเหมือนผมด้วย เพราะหน้าตาแต่ละคนก็คุ้นๆ ที่เป็นครูฝึกก็มี เลยก้มลงกราบท่าน คือต่างคนต่างกราบด้วยความปิติ ผมรีบนำปัจจัยใส่ย่ามท่านอย่างไม่รอช้า และคนอื่นก็ใส่ตามบ้างต่างคนต่างใส่ โอ้ ท่านรับปัจจัยไปเพียบเลย ผมแอบลุ้นในใจให้ท่านเป็นพระอรหันต์ออกจากนิโธสมาบัติใหม่ๆ เถิดจะได้รวยปิ๊ดๆ เสียที ผมปลื้มปิติมากว่าได้พบพระดีและได้ทำบุญกับท่าน และ ข้าใจว่าทุกคนก็คงปลื้มเหมือนกัน พวกเราเดินกลับมานั่งฟังหลวงพ่อสนทนาธรรมที่ศาลา ๒ ไร่อีกครั้ง กะจะให้ท่านช่วยยืนยันว่าเราได้เจอะพระดี
    ถ้าจำไม่ผิดหลวงพ่อท่านจับไมค์ประกาศเลยว่า "ขณะนี้มีพระปลอม มีคนปลอมเป็นพระ มีผู้แอบอ้าง เข้าแสวงหาลาภลักการะปักกลดในเขตวัดจำนวนมาก ได้ให้เจ้าหน้าที่ขับไล่ออกไปแล้ว ปกติพระดีได้ลาภที่วัดไหนท่านจะถวายคืนที่วัดนั้น ที่มาปลอมทั้งนั้น" ถ้าจำไม่ผิดต่อมาภายหลังหลวงพ่อท่านได้ตำหนิว่ามีทิพย์จักขุญาณไม่รู้จักใช้ ปล่อยให้เขามาหลอกได้ (สัญญาอาจจะอนิจจังนะรับ อาจคลาดเคลื่อนในรายละเอียด ต้องกราบขอขมาพระเดชพระคุณหลวงพ่อนะที่นี้) เรานี้อารมณ์จิตจากที่อิ่มเอมปลื้มปิติมาตลอดนี่หุบเลย จิตทรุดฮวบเลย และเราก็รีบกลับไปที่จุดเดิมอีกครั้งตรงที่ๆ ท่านปักกลดปรากฏว่าหายไปแล้ว ท่านแสดงอภินิหารย์หายตัวได้แหะๆๆ ท่านหายไปพร้อมย่ามบรรจุธนบัตรเพียบ สังเกตุจุดอื่นๆ ก็เหลือปักกลดอยู่เหมือนกัน เรานี่หน้าจ๋อยเลยทำท่าจะเป็นลมเหงื่อซึมที่หน้าเลย คือหน้ามันแตกดังโป้งเลย โอ้ !! นี่ขนาดทดสอบด้วยหลักธรรมะของหลวงพ่อ แถมใช้มโนมยิทธิดูจิตพระองค์นี่ว่าแจ่มใสเป็นประกายอีกต่างหาก แสดงว่ามโนมยิทธิแจ่มใสเกินขนาดแหะๆ เลยถูกเทวดาแทรกจนได้
    หลังจากนั้นพวกเราสามคนยังไม่เข็ดครับ ช่วงบ่ายก็ตะลอนๆ ไปแสวงหาพระดีอีกแหละ เดินไปทั่วในวัดนอกวัดก็ไม่พบ ในที่สุดก็เดินมาฝั่งวัดเก่า (ฝั่งตึกรับแขกปัจจุบัน) ตอนนั้นยังมีหญ้าขึ้นรก โบสถ์เก่า ๒ หลังก็คือโบสถ์หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์และโบสถ์คู่กันยังโทรมแบบเดิมๆ อยู่เลย แต่ทางวัดได้สร้างแล้วบางแห่ง เช่น วิหารสมเด็จองค์ปฐม (องค์ที่ ๑๑) ที่พระรูปเนรมิตคล้ายหลวงปู่ปาน กับองค์ปัจจุบัน และขณะนั้นตึกรับแขกกำลังก่อสร้างอยู่ พวกเราเดินไปเดินมาก็ไปเจอะพระภิกขุ ๕ องค์ ท่านยืนเรียงเป็นแถวอยู่ตรงบริเวณหน้าวิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ มองดูท่านก็เป็นพระธรรมดาๆ แต่ทำไมจึงดูสง่างามจัง เหมือนไม่ใช่คน แต่ก็ใช่คน ท่านยืนเหมือนเท้าไม่ติดพื้นดิน แต่ก็ติดพื้นดิน เอ้า!! งง องค์แรกหัวแถวมีผมหงอกนิดๆ คล้ายๆ หลวงปู่ปานมาก องค์สุดท้าย (ลำดับที่ ๕) ถ้าจำไม่ผิดคล้ายองค์ปัจจุบันในรูปปั้นที่วิหารองค์ที่ ๑๑ มาก ท่านสง่างามมากอกไม่ถูก ทั้งๆ ที่เป็นพระธรรมดาๆ เราทั้งสามเข้าไปกราบท่านทันที
     
  5. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,763
    ค่าพลัง:
    +6,940
    ตอนที่ ๓
    ปาฏิหารย์ และพระธรรมคำสอนขององค์ที่ ๑๑
    น่าอัศจรรย์อย่างยิ่งว่าในช่วงเวลาที่พวกเรากำลังกราบนมัสการท่านอยู่นั้น มาทราบภายหลังว่าที่บริเวณใกล้ๆ กัน แทบจะติดกันเลยก็ว่าได้ คือที่ริมแม่น้ำบริเวณโคนโพธิ์ มีผู้คนจำนวนมากกำลังเข้าเฝ้ากราบนมัสการ และฟังธรรมจากองค์ที่ ๑๐ (องค์ปัจจุบัน) ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณไม่เกิน ๑๐ เมตร ระยะใกล้แค่นี้จะถือว่าอยู่ในบริเวณเดียวกันได้เลยครับ ที่อัศจรรย์มากคือพวกเรามองไม่เห็นใครเลยเงียบ กลับรู้สึกวังเวงด้วยซ้ำไป ซึ่งขณะเดียวกันกลุ่มคนที่ไปกราบนมัสการองค์ที่ ๑๐ ก็ไม่มีใครมองเห็นพวกเรา อันนี้ถ้ามองด้วยตรรกะ หรือหลักวิทยาศาสตร์อย่างไรก็เป็นไปไม่ได้ที่ระยะห่างแค่นี้จะมองไม่เห็นกัน พอเรามาทราบภายหลังตะลึงขนลุกเลย ยิ่งมาได้อ่านเรื่องของ ดร.ปริญญา และหลายท่านที่เล่าเหตุการณ์ ในหนังสือลูกศิษย์บันทึก ที่ได้เล่าถึงช่วงเวลา บรรยากาศ และมีจำนวนคนมากมายขนาดนั้น แต่เรากลับไม่เห็นซึ่งกันและกัน เรายิ่งมั่นใจในสิ่งที่พวกเราได้พบจนอดเล่าให้บรรดาท่านทั้งหลายได้ทราบไม่ได้ (เรื่องนี้ท่านที่มีโอกาสไปวัดท่าซุง ลองไปยืนหน้าวิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ แล้วมองไปที่วิหารองค์ที่ ๑๑ ดูซิครับว่าระยะแค่นี้ ถ้ามีคนมากมายขนาดนั้นเราจะรู้สึกเงียบวังเวงเหมือนไม่มีคนเช่นผมไหม)
    พอเราก้มลงกราบนมัสการท่านทั้ง ๕ องค์ ท่านยืนรับไหว้มองดูเราอย่างเมตตาสงบสง่า คือ ไม่รู้จะสื่ออย่างไรให้ท่านผู้อ่านเห็นภาพตาม ข้อย้ำอีกว่า ท่านดูเป็นพระธรรมดาๆ เหมือนมนุษย์ปกติ ไม่ได้แสดงลักษณะ ๓๒ เหมือนองค์จริง แต่ทำไมท่านสง่างามจริง เมื่อกราบท่านแล้ว อารมณ์เลวของผมก็เริ่มแสดงอภินิหาร อยากจะถามทดสอบธรรมะกับท่านว่าเป็นของจริงไหม แต่แค่กำลังจะถามท่านก็เดินเรียงแถวมุ่งหน้าไปทางตึกรับแขก และเห็นท่านเดินขึ้นไปที่ตึกรับแขก เป็นที่น่าสังเกตุว่าเวลาท่านเดินเป็นจะแถวเรียงแต่ละองค์ตำแหน่งลำดับไม่เปลี่ยน เราก็นึกเอาเองท่านเชิญชวนเราเป็นนัยๆ ว่าให้ตามท่านขึ้นไป (คิดเองเออเอง) อย่างไรก็ตามเราทั้งสามคนก็ลังเลว่าจะตามไปดีไหม ในที่สุดก็ตัดสินใจตามท่านขึ้นไปที่ตึกรับแขก ซึ่งขณะนั้นกำลังก่อสร้างอยู่หลังคายังไม่มี (ไม่แน่ใจ) เราเดินตามขึ้นไปห่างๆ เห็นท่านกำลังเดินคล้ายสำรวจดูตึกที่กำลังก่อสร้าง แต่ตำแหน่งลำดับยังเรียงเหมือนเดิมทุกอย่าง เราตัดสินเดินเข้าไปหาท่านและคุกเข่าลงกราบ ทั้ง ๕ องค์ท่านก็ยืนเรียงลำดับแหน่งลำดับเหมือนเดิม หันหน้ามาทางพวกเราทั้งสามคนสายตาท่านทุกองค์ดูสงบมีเมตตา ผมกราบนมัสการท่านแล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า "หากลูกจะได้สำเร็จพระโพธิญาณตามที่ทราบมาจริง หากท่านเป็นพระพุทธเจ้าจริง ขอให้พระองค์ทรงตรัสรับรองด้วยเถิด" พอตั้งจิตจบท่านตรัสว่า "ขอเจ้าจงสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา" ผมตกตะลึงและปิติมากท่านทราบวาระจิตเรา (รายละเอียดหากสัญญาอนิจจังคลาดเคลื่อน ลูกกราบขอขมากรรมพระพุทธเจ้าข้า เพราะเล่าตามที่จำได้ว่าถูก) ถ้าจำไม่ผิดผมและเพื่อนก็ตั้งจิตอธิษฐานเหมือนกัน และดูทุกคนทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ผมจากที่เคยคิดจะถามธรรมะลองทดสอบท่านเลยไม่กล้าแล้ว ผมพูดว่า " ขอธรรมะจากท่านครับ" ท่านตรัสว่า "ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีนี่แปลกนะ ไม่ขอเครื่องรางของขลัง ขอธรรมะอย่างเดียว"
     
  6. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,763
    ค่าพลัง:
    +6,940
    ตอนที่ ๔
    หลวงพ่อท่านถามกลับว่า "เหมือนรูปปั้นที่วิหารโคนโพธิ์ไหมลูก...ถ้าเหมือนก็ใช่ วันนี้ท่านมากันเป็นแสนๆ นะลูก"
    อ้อลืมบอกไปว่า จุดที่ท่านทั้ง ๕ พระองค์ยืนเทศนาธรรมที่ตึกรับแขกคือ บริเวณที่ขายหนังสือปัจจุบันอยู่ลึกเข้าไปด้านในสุด ผมจำได้ว่าถามท่านเรื่องพระนิพพาน (จิตลึกก็อยากรู้เหมือนกันว่าท่านจะตอบตรงที่หลวงพ่อสอนไหม คือ ถ้าไม่ตรงจะไม่เชื่อ) ท่านตอบว่า "นิพพานพานเป็นเมืองแก้วมีอยู่จริง หากปรารถนาจะไปอยู่ต้องมองทำจิตให้เป็นคนของเมืองนิพพานก่อน คือมองทุกอย่างเป็นธรรมะๆ มีอยู่รอบตัว" เสียงท่านเพราะมากเป็นจังหวะเสียงเล็กๆ เหมือนเสียงคนพูดเพราะธรรมดา แต่ทำไมไพเราะจับใจอย่างนี้ ผมทำท่าจะปล่อยโฮน้ำตาคลอ เพราะปกตินี่ถ้าสดุดนิดโดยเฉพาะด้านพุทธานุสตินี่ผมจะปล่อยโฮแบบไม่อายใครเสียด้วย (คนอื่นอาจอายแทน) เข้าใจว่าพี่ๆ ก็คงจะเหมือนผม ท่านตรัสต่อไปว่า "ทุกอย่างคือธรรมะ ใบไม้แห้งก็คือธรรมะ (ท่านชี้มือไปที่ใบไม้ที่อยู่ข้างหน้าพวกเรา) ธรรมะคือความไม่เที่ยง ในความไม่เที่ยงคือความทุกข์ และในที่สุดก็สลายตัว สุขทุกข์มันอยู่ที่เราเอาจิตไปผูกพันของไม่เที่ยง" ท่านยิ้มนิดๆ ตรัสต่อไปอีกว่า "เมื่อเรามองทุกอย่างเป็นธรรมะ คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และหายไป จนยอมรับได้เป็นปกติจิตเราก็เป็นคนขงพระนิพพาน" ท่านตรัสอีกเยอะแต่ลืมครับ ที่จำมาเล่านี่รายละเอียดอาจขาดๆ เกินๆ บ้างนะครับ แต่ก็เอาจิตอยู่แทบพระบาทท่านขณะเขียน ว่าตามที่จิตบอก (พี่ๆ ที่ไปด้วยด้วยกัน หากเข้ามาอ่านแล้วจำได้ส่วนไหน ก็อย่าลืมบอกด้วยครับจะได้นำมาเป็นธรรมทาน)...ผมกราบท่านกับพื้นอย่างไม่กลัวเปรอะเปื้อน มีความสุขปิติมาก ยิ่งเห็นท่านยืนเรียงลำดับเป็นแถวดูสง่างามมาก มองไม่เบื่อจริงๆ ท่านโปรดประมาณ ๑๐ นาที ท่านให้พรว่า "จงสมความปรารถนาเถิด" จากนั้นท่านก็ขอตัวกลับ ท่านเดินเป็นแถวเรียงเหมือนเดิมเดินลงไปทางบรรดาตึกรับแขก ซึ่งตอนนั้นยังโล่งๆ ใต้ถุนตึกก็โล่ง เพราะตึกเป็นแค่โครงขึ้นมาฝาผนังก็ยังไม่มี
    เรายืนดูท่านเดินลงบันใด และเดินตามไปห่างๆ เราอยู่ตรงกลางตึกบริเวณหน้าหุ่นขึ้ผึ่งหลวงพ่อในปัจจุบัน ทันใดนั้นเราก็มองเห็นผู้หญิงกลุ่มหนึ่งประมาณ ๑๐ คนหน้าตาตื่นกึ่งวิ่งกึ่งเดิน เดินสวนท่านขึ้นมา คือเวลาที่ท่านลงไปกับกล่มผู้หญิงขึ้นมาพร้อมๆ กัน ผมสังเกตุดูผู้หญิงกลุ่มนี้คุ้นหน้ากันทุกคนคือ เป็นบรรดาครูฝึกเกือบทั้งนั้น มาถึงบอกว่า "จะมาเฝ้าองค์ที่ ๑๑ ท่านอยู่ไหน ทราบว่าท่านอยู่ที่นี่" (เอาเข้านั่น) เอ พวกเธอทราบได้อย่างไรก็เรามีกันอยู่แค่นี่ อาจจะมีคนอื่นเห็นด้วยแต่เขาไม่ได้สนใจเป็นพิเศษผ่านๆ ไป ผมก็บอกพวกเธอว่า "ก็ท่านทั้ง ๕ องค์เดินสวนกันกับพวกคุณตรงบันใดเมื่อกี้นี้เอง" พวกเธอทำท่าตกใจแล้วหันกลับอย่างร้อนรนเพื่อลงไปตามหาพระทั้ง ๕ องค์ หายไปสักพักพวกเธอก็กลับขึ้นมาทำหน้าผิดหวัง บอกว่าหากันจนทั่วแล้วไม่เจอ เอ ผม งงๆ แค่เวลา ๒ -๓ นาทีนี่ต่อให้ท่านวิ่งหนียังตามทันเลย แต่นี่ท่านเดินเนิบๆ ช้าๆ แถมสมัยนั้นยังโล่งๆ อยู่เลย แต่หาท่านไม่เจอะ ผมนึกในใจว่า เอาแล้วท่านแสดงปาฏิหารย์อีกแล้ว พวกกลุ่มผู้หญิงก็ยกมือโมทนากับพวกเราว่า "โมทนานะคะที่ได้มีโอกาสกราบสมเด็จองค์ปฐมกายเนื้อ พวกเราไม่มีบุญ" เอ เรามีบุญได้ออย่างไรนี่ ถ้าเทียบกับบรรดาสาวๆ ครูฝึกทั้งหลายเหล่านี้เรารู้สึกว่า เหมือนเม็ดทรายเลย เพียงแต่เราปรารถนาพระโพธิญาณเท่านั้นเอง พอได้ยินบรรดาเธอคนสวยเหล่านี้พูดเราก็ยิ่งมั่นใจยิ่งปิติ แต่โดยวิสัยเลวๆ ของผมก็ยังไม่เชื่อสนิทใจนอกจากหลวงพ่อรับรองเท่านั้น
    ในที่สุดเราก็ตัดสินใจไปกราบหลวงพ่อที่ศาลานวราชบพิตร (ในวันงานช่วงเช้าท่านรับแขกที่ศาลา ๒ ไร่ บ่ายที่ ศาลานวราช) พอเราเข้าไปถึงบรรดาญาติโยมก็เหลือน้อยแทบไม่มีคนแล้ว เพราะหมดเวลารับแขก หลวงพ่อท่านกำลังยืนห่มจีวรเตรียมกลับที่พัก พวกเรานั่งมองท่านไม่มีใครกล้าเข้าไปถามเพราะรู้สึกกลัวท่านมาก เนื่องจากช่วงเช้าเจอเข้าไปดอกเบ้อเร้อ เกรงว่าจะเจอะดอกที่สองอีก ในที่สุดพี่ดำของผมแกทนไม่ไหวเลยคลานเข้าไปใกล้ๆ ท่าน เราก็คลานตามไปห่างๆ พี่ดำคุกเข่ายกมือพนมก้มกราบแทบเท้าหลวงพ่อ ท่านมองเหมือนจะรู้ คล้ายๆ ท่านรอตอบคำถามเราอยู่ (นึกเองครับ) ผิดคาดครับคิดว่าจะถูกท่านดุเหมือนตอนเช้า แต่ท่านกลับถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "มีอะไรลูก" เฮ้อ!! ค่อยโล่งอกหน่อยเห็นหลวงพ่อไม่ดุค่อยมีกำลังใจกล้าขึ้น พี่ดำก็เล่าให้หลวงพ่อฟังทั้งหมดจนจบ (พี่ดำนี่เล่าเรื่องราวได้เก่งและน่าฟังกว่าทุกคน อันนี้เป็นบุญส่วนตัวของพี่เขาแหละ) หลวงพ่อถามว่า "องค์แรกหน้าเหมือนรูปปั้นองค์ที่คล้ายหลวงพ่อปานที่โคนโพธิ์ไหมลูก" เนื่องจากเราพบท่านทั้ง ๕ องค์ด้วยอารามที่มัวแต่ปลื้มปิติเราเลยยังไม่ทันนึกถึงเพื่อเปรียบเทียบ (ท่านอาจดลจิตให้ลืมนึกก็ได้) จึงลืมนึกไปว่าท่านองค์แรกเหมือนรูปปั้นที่โคนโพธิ์ทั้งๆ ที่หลวงพ่อท่านบอกลักษณะไว้ล่วงหน้าก่อนวันงานแล้ว เราหยุดนึกและถ้านำเพชรไปแปะตรงหน้าผากท่าน (นึกศัพย์ไม่ออก) จะเหมือนท่านทุกประการ เลยตอบท่านไปว่า "เหมือนทุกอย่างครับหลวงพ่อ" หลวงพ่อตอบว่า "ถ้าเหมือนก็ใช่ลูก เพราะวันนี้ท่านมากันเป็นแสนๆ ลูก" หลวงพ่อท่านพูดเพราะมาก ต่างจากตอนเช้ามาก
    พวกเรานี่ปิติมากจะโฮให้ได้ ทราบว่า ทั้ง ๕ พระองค์องค์แรกคือองค์ปฐม และพระกกุกสันโธ พระโคนาคม พระพุทธกัสป และพระสมณโคดม (เหมือนรูปปั้นองค์ปัจจุบันมาก)...เรื่อเหล่านี้อยู่ในใจของพวกเรามาร่วม ๒๐ ปี พูดกันในกลุ่มเท่านั้นครับ (ทั้งหมดนี้รายละเอียดอาจคลาดเคลื่อนได้เพราะนานแล้ว คิดว่าเป็นเรื่องจริงอิงนิทานนะครับ.)



    เครดิต...http://www.kammatan.com/board/index.php?topic=1029.0
     
  7. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,763
    ค่าพลัง:
    +6,940
    พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น กับ Thanaporn Tantithanakornkul
    7 นาทีที่แล้ว

    "ชีวิตหลังความตายไม่มีการต่อรองได้ หากบุญมากก็ไปสวรรค์ในชั้นที่เหมาะกับแรงกุศลของตนเท่านั้น จะขอความเป็นทิพย์แห่งสวรรค์ที่มากหรือน้อยกว่านั้นไม่ได้ และหากแรงบาปมากก็ต้องไปนรกขุมต่างๆ ตามแรงกรรมของตนซึ่งเต็มไปด้วย ทุกข์ กับ ร้อนเท่านั้น จะขอต่อรองพักยกความทุกข์ร้อนทรมาณเพียง ช้างกระพือหู งูแลบลิ้นไม่ได้เลย ต้องก้มหน้ารับกรรมไป ต่อรองได้แต่ในชีวิตจริงในโลกมนุษย์ขณะนี้ เดี๋ยวนี้เท่านั้นที่่ทุกคนมีสิทธิ์จะเลือกทำดีหรือชั่ว บุญหรือบาป ฉะนั้น ขอทุกคนจะเร่งทาน เร่งศีล เร่งภาวนาของตนแต่บัดนี้เสีย จะได้ออกไปจากการซัดเหวี่ยงของสังสารวัฏนี้ได้"

    ......หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
     
  8. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467
    อนุโมทนาค่ะ
    เด่วจะรีบจัดส่งแผ่นทองและปัจจัยไปร่วมทำบุญนี้ด้วยค่ะ
     
  9. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,763
    ค่าพลัง:
    +6,940
    ขออนุโมทนาสาธุการครับ
     
  10. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,763
    ค่าพลัง:
    +6,940
    จะเททองหล่อสมเด็จองค์ปฐม 5 องค์ และหลวงพ่อโสธร 39 องค์ (แต่ในพิธีหล่อ 10 องค์เป็นปฐมฤกษ์แล้วทยอยหล่อให้ครบ เพราะสามารถควบคุมคุณภาพงานได้ดีโดยนำชนวนหล่อ 10 องค์มาหล่อจนครบ ส่วน 38 องค์แรกทำพิธีหล่อไปแล้วครับเมื่อปี 55)

    แผ่นทองเพียงแยกออกมา 2 ส่วนเท่านั้นพอครับ ส่วนที่หนึ่ง หล่อสมเด็จองค์ปฐมต้น และ ส่วนที่สองหล่อหลวงพ่อโสธร
     
  11. suppysuppy

    suppysuppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,483
    ค่าพลัง:
    +9,811
    ขอร่วมบุญด้วย 20 บาทค่ะ

    วัน/เวลาการทำรายการ 06-11-2013 00:10:33
    เลขที่อ้างอิงการทำรายการ 23576195732013116
    บัญชีผู้รับโอน 385-0-06751-3
    จำนวนเงิน 20.00 บาท

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะคะ
     
  12. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,763
    ค่าพลัง:
    +6,940
    ตอนนี้มีแผ่นทองที่ทยอยส่งเข้ามาเป็นระยะๆนะครับ แต่ไม่สามารถที่จะโพสต์รูปภาพลงให้ชมกันได้ครับ
     
  13. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,763
    ค่าพลัง:
    +6,940
    ใครเสกพระองค์ที่ ๑๑ ? permalink

    --------------------------------------------------------------------------------

    ถาม : (ถามเกี่ยวกับเรื่องการสร้างพระองค์ที่ ๑๑)

    ตอบ : ครั้งนั้นเป็นหมากบังคับ คือ ไม่ได้เจตนาที่จะสร้างพระองค์ที่ ๑๑ เป็นความคิดของคนหลายๆ คน อาตมาเองไม่อยากให้สร้าง เพราะว่าคนที่ไม่รู้จักแล้วไปปรามาสท่าน จะเกิดโทษมาก

    รุ่นนี้คณะของ แสงชัย เขาดื้อทำขึ้นมา เมื่อดื้อทำขึ้นมา ตอนพุทธาภิเษกอาตมานี่เหงื่อหยดเลย...ไปกราบขอ พระองค์ไหนก็ไม่รับเสกให้ทั้งนั้น ใครจะไปเสกรูปพระองค์ที่ ๑๑ ได้ ? ก็ต้องให้พระองค์ท่านเสกเอง ไอ้พวกหอกหลุดนั่นก็ไม่ไปเชิญเองเสียด้วย..! ขนาดนั้นยังโดนเข้าเต็มๆ เลย พอพระองค์ท่านเสด็จมาก็ชักแหง็กๆ อยู่ตรงนั้นแหละ ทำอะไรไม่ถูก ถ้าไม่ลากออกมาคงขาดใจตายไปแล้ว..!

    พวกเรายังไม่รู้ว่าพระองค์ที่ ๑๑ หรือสมเด็จองค์ปฐมนั้น บารมีของพระองค์ท่านขนาดไหน เวลาท่านคุม หลวงพ่อวัดท่าซุง พระในวัดก้มหน้าดูดินกันหมด ถ้าเห็นหลวงพ่อวัดท่าซุงตัวดำปี๋ขึ้นมาเมื่อไรก็ตัวใครตัวมันเถอะ..! ไม่รู้ว่าใครจะโดนอะไรบ้าง ?


    ถาม : ของผมรู้สึกว่าท่านใจดีครับ เวลาไหว้พระสวดมนต์ เวลาจุดธูปจุดเทียนมองท่านครั้งใดเหมือนท่านยิ้มสุดชีวิต ?

    ตอบ : ใจดีของคุณคือไม่มีเรื่องให้ระแวง ของพระเดี๋ยวศีลพร่องบ้าง เดี๋ยวกิเลสกินบ้าง...สู้กิเลสไม่ได้ ทำให้ขายขี้หน้า ขึ้นไปโดนพระองค์ท่านสับหัวหลุด..!


    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๕
     
  14. ปัญญาวุฒิ

    ปัญญาวุฒิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2012
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +588
    ได้โอนเงินมาร่วมบุญวันนี้ 200 บาทค่ะ
     
  15. Asun

    Asun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +117
    โอนเงินมาร่วมบุญสร้างองค์ปฐมวันนี้ 200 บาทครับ
     
  16. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,763
    ค่าพลัง:
    +6,940
    ภาพในพิธีเททอง โดยมีหลวงปู่พระธรรมกวี เจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส องค์ประธานเททอง ช่างกิตติมศักดิ์จำยอม ถ่ายภาพพระอาทิตย์ทรงกลด แบบบางๆ ขอให้ทุกท่านอนุโมทนาสาธุการ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_4601s.jpg
      IMG_4601s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100 KB
      เปิดดู:
      102
    • IMG_4602s.jpg
      IMG_4602s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.1 KB
      เปิดดู:
      54
    • IMG_4627s-1.jpg
      IMG_4627s-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.8 KB
      เปิดดู:
      84
    • IMG_4637s.jpg
      IMG_4637s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100 KB
      เปิดดู:
      90
    • IMG_4695s.jpg
      IMG_4695s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      115.1 KB
      เปิดดู:
      113
    • IMG_4664s-2.jpg
      IMG_4664s-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.9 KB
      เปิดดู:
      50
    • IMG_4648s-1.jpg
      IMG_4648s-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21.4 KB
      เปิดดู:
      45
    • IMG_4648s.jpg
      IMG_4648s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21.4 KB
      เปิดดู:
      39
  17. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,763
    ค่าพลัง:
    +6,940
    รูปหล่อสมเด็จองค์ปฐมต้น กายมนุษย์(พระองค์ที่ 11) หล่อพิเศษทันใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_4601s.jpg
      IMG_4601s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100 KB
      เปิดดู:
      64

แชร์หน้านี้

Loading...