ร่วมบุญ ซื้อแผ่นทองคำแท้ ปิดองค์หลวงพ่อรุ่งเรือง อายุ435ปี วัดนางตะเคียน แม่กลอง

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพหรือบริจาคทรัพย์ซื้อแผ่นทองคำแท้ ปิดองค์หลวงพ่อรุ่งเรืองในวิหารเก่าแก่วัดนางตะเคียน

​

มีหน้าตักกว้าง ๒ เมตร สูง ๒.๕๐ เมตร ใช้ทองคำเปลว ๑๕,๐๐๐ แผ่น
ขนาดกว้างยาว ๔ ซ.ม. ราคาแผ่นละ ๑๐ บาท งบประมาณในการลงรักปิดทองคำเปลวหลวงพ่อรุ่งเรือง ๒๐๐,๐๐๐ บาท

หรือจะจับจองซื้อแผ่นทองคำเปลวตามกำลังศรัทธา ติดต่อได้ที่วัดทุกวัน​

(วัดนางตะเคียน อยู่ตรงข้ามวัดสวนแก้วข้ามสะพานปูนถึงกัน รถยนต์ข้ามได้ ปากซอยวัดสวนแก้ว คือ ขนส่งจังหวัดสมุทรสงคราม ฝั่งตรงข้ามคือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม ) เดินทางมาทางถนน เอกชัย วิ่งผ่าน ศูนย์ราชการ จ.สมุทรสงคราม ศาลหลักเมือง ศาลจังหวัดสมุทรสงคราม สถานีตำรวจ วิ่งผ่าน วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม จะเจอแยกไฟแดง ถนนบายพาส ตรงไป ไม่เกิน 200 เมตร ซ้ายมือ คือ ปากทางเข้าวัดสวนแก้ว
วัดนางตะเคียน ต.คลองเขิน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม 75000
โทร. 034-756-029 085-186-3363

ติดต่อทางวัด facebook วัดนางตะเคียน จ.สมุทรสงคราม



อานิสงส์ปิดทองพระพุทธรูป
การปิดทองพระพุทธรูปมีอานิสงส์มากเหลือประมาณ เป็นอเนกอนันต์ บุคคลผู้นั้นเมื่อเกิดเป็นมนุษย์ในภายภาคหน้า ก็จะมีผิวพรรณวรรณะงามบริสุทธิ์ ไม่มีโรคผิวหนังต่าง ๆ เป็นที่เจริญหูเจริญตาแก่ผู้พบเห็น เป็นที่รักใคร่แก่คนทั้งหลาย
ในอดีต มีกษัตริย์พระองค์หนึ่ง พระนามว่า มหารัฏฐราช ครองราชย์ในเมืองสกลราชวดีนคร เป็นผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และกษัตริย์อีกพระองค์หนึ่งพระนามว่าปัญจาลราช ครองเมืองปัญจาลนคร พระองค์เป็นมิจฉาทิฐิ กษัตริย์ทั้งสองพระองค์เป็นสหายที่ไม่เคยพบกันมาก่อน ต่อมาพญาปัญจาลราชทรงส่งผ้ารัตนกัมพลมาถวายแด่พญามหารัฏฐราช พระองค์ทรงดำริที่จะถวายของตอบแทน พิจารณาดูแล้วว่าควรที่พระองค์จะส่งพระพุทธปฏิมากรถวาย พระองค์ทรงให้ช่างทองวาดรูปพระพุทธปฏิมากรลงบนแผ่นทองคำ ลงชาด สูงราวหนึ่งศอก เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็ให้ราชทูตนำไปถวาย พระองค์ตรัสซึ่งพระพุทธรูปว่า ขอพระองค์จงเสด็จไปสู่ประเทศนั้น จงสำเร็จประโยชน์ทั้งหลายแก่สรรพสัตว์เหล่านั้น ขอพระองค์แสดงปาฏิหาริย์ให้พญาปัญจาละได้ทิ้งมิจฉาทิฐิเสีย จากนั้นพระองค์ทรงตามเสด็จส่งลงในน้ำจนท่วมถึงพระศอ ในขณะนั้น แก้วทั้งหลาย ๗ ประการในมหาสมุทรก็ผุดลอยขึ้นมา ดอกบัวห้าวรรณะก็ลอยขึ้นมาเหนือน้ำ พญานาคทั้งหลายพร้อมบริวารออกมาบูชา เทวดาทั้งหลายนำข้าวตอกดอกไม้มาโปรยปรายบูชาบนอากาศ
เมื่อราชทูตไปถึงปัญจาลนครแล้ว กราบถวายบังคมกราบทูลเรื่องราวแด่พญาปัญจาลนครแล้ว พระองค์จึงตรัสว่า พระองค์จะกระทำสักการบูชาให้ยิ่งขึ้นกว่าสองเท่า พระองค์ทรงจัดขบวนจาตุรงคเสนา เครื่องประโคมดุริยดนตรี ทรงเสด็จไปที่ท่าน้ำ นมัสการด้วยเบญจางคประดิษฐ์ บูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียน ประทีปโคมไฟ เสด็จลงในน้ำลึกถึงพระศอ ทอดพระเนตรพระพุทธปฏิมากรแล้วตรัสว่า พระองค์ขอเอาพระพุทธปฏิมากรเป็นสรณะตลอดชีวิต พระองค์จะอุปถัมภ์ค้ำชูพระศาสนา
ในขณะนั้น พระพุทธปฏิมากรก็แสดงปาฏิหาริย์ลอยขึ้นประทับนั่งสมาธิบนอากาศ มีรัศมีหกประการพวยพุ่งออกมาจากพระวรกาย ส่องสว่างบนพื้นดินถึงพรหมโลก บดบังพระอาทิตย์ เทวดาและมนุษย์ต่างมองเห็นกัน พญาปัญจาละทอดพระเนตรปาฏิหาริย์นั้นแล้ว ตรัสนิมนต์พระพุทธปฏิมากรเสด็จประทับปราสาทอาสนะที่ทรงจัดเตรียมไว้ ครั้นพระพุทธปฏิมากรเสด็จลงแล้ว พระองค์พร้อมบริวารนำพระพุทธปฏิมากรมาประดิษฐานไว้ในพระราชมณเฑียร บูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียน ทรงพรรณนาคุณพระพุทธปฏิมากร กล่าวขอพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะ ขอให้พระองค์พ้นจากวัฏสงสาร จากนั้นพระองค์ให้นายช่างนำไม้จันทน์แดงแกะสลักเป็นพระพุทธรูปปฏิมากร เสร็จแล้วทรงอาราธนานำมาประทับที่บรรณศาลาในพระราชวัง ทรงให้ราชบุรุษป่าวประกาศว่า บุคคลใดที่มีความเลื่อมใสศรัทธาต้องการที่จะปิดทองก็ให้มาตามศรัทธา
เวลานั้น พระโพธิสัตว์เกิดมาเป็นคนยากไร้เข็ญใจ มีภริยาชื่อสุชาตา บุตรชื่อวัตตกุมาร พระโพธิสัตว์ได้ยินประกาศของราชบุรุษแล้ว ปรารถนาที่จะปิดทองเพื่อเป็นกุศลบุญที่พึ่งในภายภาคหน้า พระโพธิสัตว์ปรึกษาภริยาว่าจะเอาตัวเองไปขายเพื่อเอาเงินมาซื้อทองปิดพระพุทธรูป นางสุชาตาจึงขอให้พระโพธิสัตว์นำนางและบุตรไปขายแล้วนำเงินมาซื้อทองคำ หลังจากพระโพธิสัตว์นำภริยาและบุตรไปขายแล้วก็รีบนำเงินที่ได้มาซื้อทองคำ ให้ช่างตีเป็นแผ่นเพื่อที่จะไปปิดทอง เมื่อไปถึงบรรณศาลา ผู้รักษาพระปฏิมากรไม่ให้ปิดทอง บอกว่าต้องรอให้พระราชาปิดทองเสียก่อน วิริยบัณฑิตได้ยินแล้วน้อยเนื้อต่ำใจเดินเข้าไปในบรรณศาลา พวกบุรุษที่เฝ้ารักษานั้นพากันจับตัวไว้แล้วกล่าวว่าขอให้วิริยบัณฑิตกล่าวกราบทูลพระราชาเพื่อทรงขออนุญาต วิริยบัณฑิตจึงเข้าไปกราบทูล พระราชาต้องการที่จะทดลองพระโพธิสัตว์จึงกล่าวว่า ถ้าพระพุทธรูปพูดกับท่านก็จะทรงอนุญาต พระโพธิสัตว์นำทองคำเข้าไปสู่บรรณศาลา ก้มลงกราบแล้วกล่าวว่า ถ้าระพุทธรูปไม่ยอมพูดกับพระองค์ พระองค์จะขอยอมตายแทบพระบาท
ขณะนั้นเทวดาที่รักษาพื้นปฐพีเข้าไปสิงสถิตในองค์พระพุทธรูปแล้วเปล่งรัศมี ๖ ประการออกมาจากพระพุทธรูปแล้วกล่าวกับพระโพธิสัตว์ว่า พระองค์เป็นผู้เลื่อมใสขอให้พระองค์จงเป็นสุข พระโพธิสัตว์พิจารณาว่า ทองคำที่นำมานั้นคงจะไม่พอ ถ้าผู้ใดสามารถทำให้เนื้อเราเป็นทองคำได้ เราจะบริจาคเนื้อเราเป็นทาน พระองค์ทรงดำริเช่นนั้นแล้ว ก็เกิดแผ่นดินไหวเลื่อนลั่นถึงสวรรค์ พระอินทร์เสด็จลงมายืนต่อหน้าพระโพธิสัตว์ พระองค์ถามพระอินทร์ว่าท่านชื่ออะไร พระอินทร์ตอบว่าเป็นช่างปิดทอง วิริยบัณฑิตถามพระอินทร์ว่าสามารถที่จะทำให้เนื้อคนกลายเป็นทองได้หรือไม่ พระอินทร์ตอบว่าได้ วิริยบัณฑิตจึงกล่าวแก่เทวดาทั้งหลายว่า ถ้าพระองค์จะได้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งขอให้มีศาสตราวุธตกลงมา ทันใดนั้นก็มีดาบเล่มหนึ่งตกลงมา พระโพธิสัตว์เอาดาบเฉือนเนื้อตนพร้อมกับกล่าวกับเทวดาว่า ถ้าพระองค์จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ขอให้เนื้อของพระองค์กลายเป็นทองคำ แล้วจึงค่อยดับจิตวิญญาณ กล่าวแล้วก็เฉือนเนื้อตนให้นายช่างทำเป็นทองคำปิดพระพุทธรูป ก้มกราบแล้วหมดสติไป พระอินทร์จึงนำเอายาทิพย์มาทาผิวพระองค์จนฟื้นคืนสติขึ้นมา มีร่างกายผ่องใสงาม พระอินทร์กล่าวกับพระโพธิสัตว์ว่าพระองค์จะได้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งแน่แท้ ลำดับนั้นพญาปัญจาลราชและคนทั้งหลายก็ทำสักการบูชาแล้วจึงแบ่งสมบัติให้แก่พระโพธิสัตว์ เมื่อพระองค์เสด็จดับขันธ์แล้วก็ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต
เมื่อพญามหารัฏฐราชเสด็จสวรรคตแล้วก็ได้ไปเกิดเป็นพระสารีบุตร พญาปัญจาลราชได้ไปเกิดเป็นพระอานนท์ พุทธอนุชา ท่านราชทูตได้ไปเกิดเป็นพระโมคคัลลานะ พระอินทร์ได้ไปเกิดเป็นพระอนุรุทธเถระในกาลบัดนี้ ส่วนวิริยบัณฑิตโพธิสัตว์ก็ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นที่พึ่งแก่โลกทั้ง ๓ คือ กามโลก รูปโลก และอรูปโลก