ร้านพระกรรมฐาน พ่อแม่ครูอาจารย์ แท้ทุกรายการ (กระทู้ใหม่)

39. ล็อกเก็ต 8 รอบ หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป วัดป่าคำเเคนเหนือ จ.ขอนเเก่น ปี 2554 สร้างรูปแบบ 8 เหลี่ยม สวยๆ ด้านหลังอุดมวลสาร เกศาหลวงปู่ ท่านเป็นพระอรหันต์กลางป่าบำเพ็ญสมณะกรรมฐานเป็นนิจ



**หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป เป็นศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น และเป็นศิษย์ผู้พี่ของหลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต (ผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าท่านเป็นศิษย์หรือสหธรรมิกของหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต แต่ที่จริงไม่ใช่เพราะถ้านับพรรษาหลวงปู่มหาโสพรรษามากกว่าหลวงปู่ผางถึง 10 ปี เพราะหลวงปู่ผางท่านอุปสมบทตอนอายุ 40 ปีครับ) ในขณะที่ผู้คนรู้จักชื่อเสียงของหลวงปู่ผาง หลวงปู่มหาโสยังคงธุดงธ์แสวงวิเวกอยู่ในป่าอยู่

หลวงปู่โส นับเป็นพระเถราจารย์ชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดขอนแก่น มีพระฝากตัวเป็นศิษย์ผู้สืบทอดปฏิปทาจากท่านมากมาย และท่านยังปฏิบัติศาสนกิจของท่านอยู่เสมอต้นเสมอปลาย ทั้งการอบรมธรรมะแก่พระเณร อุบาสก อุบาสิกา การพัฒนาวัด การต้อนรับศรัทธาญาติโยมที่มากราบเยี่ยมที่วัด ซึ่งมีมาไม่เคยขาดสายเลยแม้แต่วันเดียว ไม่ว่าจะอยู่ไกลขนาดไหนก็มา ด้วยบารมีแห่งแสงธรรมขององค์หลวงปู่โส ที่จริงแล้วหลวงปู่ไม่เคยดำริให้สร้างวัตถุมงคลเลย แต่จะมีศิษยานุศิษย์ขออนุญาตจัดสร้างเพื่อหาทุนทรัพย์สร้างสาธารณะกุศล หลวงปู่โสก็มีเมตตาให้จัดสร้างและอธิฐานจิตให้ โดยวัตถุมงคลที่หลวงปู่อธิฐานจิตให้ล้วนมีพุทธคุณวิเศษ มีประสบการณ์แก่ผู้บูชาทั้งสิ้น


ราคา 350 บาท

 

40. พระผงหลวงปู่มั่น ภูิริทัตโต ครบรอบ 56 ปี วันบูรพาจารย์ ปลุกเสกโดยพระมหาเถระสายธรรมยุตทั่วทั้งอีสาน พิธีใหญ่วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร....หายากมาก พิเศษองค์ทาเงิน ทาทอง เดิมๆจากวัดเลยครับ

หายากจริงๆนะครับ พิธีใหญ่ในสายธรรมยุต สายพระป่าทั้งหมด มีหลวงปู่บุญหนา หลวงปู่สุธรรม วัดป่าหนองไผ่ และอีกมากมายครับ

รุ่นนี้มีประสบการณ์แล้วครับ โดยมีคนห้อยพระผงรุ่นนี้ ขับรถยนต์เกิดอุบัตเหตุพลิกคว่ำที่ จ.สกลนคร รถยนต์พังยับเยิน แต่คนขับไม่เป็นอะไรเลยครับ เขาจับสร้อยพระโชว์เลยว่าห้อนพระผงรุ่นนี้แต่องค์เดียวครับ


ราคา 350 บาท ท่าน shaj

 

41. พระผงพระแก้วมรกต หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ปี 2544 พิธีบูชาคุณแผ่นดินไทย ณ มลฑลพิธีท้องสนามหลวง

สุดยอดวัตถุมงคลที่หายากของหลวงตามหาบัว อีกรุ่นครับ

งานบูชาคุณแผ่นดิน ที่ท้องสนามหลวงนับเป็นงานรวมรุ่นพระกรรมฐานที่ใหญ่ที่สุด พ่อแม่ครูอาจารย์สายกรรมฐานมากันเพียบ พระรุ่นนี้น่าเก็บมากครับ เข้าพิธีชัดเจนครับ

ไม่ค่อยได้เจอกันครับ น่าเก็บน่าบูชาอย่างยิ่ง มาพร้อมกล่องเดิม

ราคา 550 บาท ท่าน shaj

 

42. พระผงโต๊ะหมู่รุ่นเเรก หลวงพ่อจันมี อนาลโย วัดป่าแก้งใหม่ อ.สังคม จ.หนองคาย เนื้อผงว่านสีขาว หายากครับ รีบเก็บตอนนี้ก่อนราคาจะแพงจนเก็บไม่ได้นะครับ ตอนนี้ในพื้นที่เนื้อธรรมดาก็ตามเช่ากันที่ 4-500 บาท แล้วครับผม



ราคา 350 บาท

 

43. พระปิดตา หลวงปู่สุธรรม สุธัมโม วัดป่าหนองไผ่ จ.สกลนคร ปี 2555 ที่ระลึกผ้าป่าวิทยุเสียงธรรมสกลนคร หายากมากครับ วัตถุมงคลของหลวงพ่อมีน้อยครับ เป็นที่นิยมทุกรุ่นครับ มีเกศาหลวงปู่ลีติดเต็มครับ



มูลเหตุการสร้างพระปิดตาขึ้นมา เนื่องจาก คุณพงษ์ศักดิ์ บุญใหญ่ ประธานสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนสกลนคร (ประธานสภาทนายความจังหวัดสกลนคร)

ได้กราบเรียนขอเมตตาจากพ่อแม่ครูอาจารย์เพื่อสร้างมงคลวัตถุที่ระลึก ไว้เพื่อแจกเป็นที่ระลึกสำหรับผู้มาร่วมในงานผ้าป่าสามัคคีวิทยุเสียงธรรมในวันที่ 15 มกราคม 2555

และได้รับความเมตตาอย่างสูงสุดจากหลายองค์ท่านให้จัดสร้าง พร้อมทั้งได้มอบสิ่งมงคลชนวนมวลสารมาเพื่อการจัดสร้างในครั้งนี้

หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม วัดป่าหนองไผ่ ได้มอบเกษาหลวงปู่ลี กุสลธโร วัดเกษรศีลคุณ ที่องค์ท่านได้เก็บรักษาบูชามานานหลายปี ให้คณะกรรมการเพื่อจัดสร้าง

หลวงปู่อว้าน วัดป่านาคนิมิตต์ ได้รับความเมตตาอย่างสูงสุดจากองค์ท่านได้มอบส่วนปลายเสาไม้กุฎิหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่เคลื่อนย้ายจากที่เดิมเพื่อจัดสร้างอุโบสถไม้หลังใหม่ ให้ป็นมวลสารในการจัดสร้าง

พระอาจารย์บัณฑิต จันทวัณโณ วัดป่าอุดมสมพร ได้มอบผงพุทธคุณของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ที่องค์ท่านเก็บรักษาไว้นานหลายปี ให้เป็นมวลสารในการจัดสร้าง

วัดผาเทพนิมิต ได้รับเมตตาจากองค์ท่านมอบผงทองเศียรพระใหญ่ และดินสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าจากประเทศอินเดีย

ดำเนินการจัดสร้างพิมพ์พระที่วัด และชนวนมวลสารที่ท่านประธานสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนสกลนคร ท่านพงษ์ศักดิ์ บุญใหญ่ และผู้มีจิตศรัทธาร่วมในการจัดสร้างได้มอบมงคลวัตุเพื่อร่วมในการจัดสร้างครั้งนี้ คือ

1.ดินกากยายักษ์จากตำบลลำพญา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา 2.ผงว่านพุทธตุณ 108 3.ดินใต้กุฎิหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่านาคนิมิตต์ 4.ชนวนผงตะไบจากช่อพระกริ่งเพชรกลับเมตตาค้ำจุนโลก

5.ผงไม้งิ้วดำจากวัดผาเทพนิมิต 6.ผงพุทธคุณจากวัดผาเทพนิมิต 7.ผงกระเบื้องหลังคาโบสถ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส 8.ผงบดพระกรุเก่าอยุธยา และวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร

9.ผงบดแร่หินเหล็กไหล 10.ผงบดหินพญานาคแม่น้ำโขง 11.ผงพุทธคุณพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 11.ข้าวตอกดอกไม้พิธีมหาพุทธาภิเศกพระกริ่งเพชรกลับเมตตาค้ำจุนโลก และพิธีพุทธาภิเศกที่วัดสุขุมวารี โดยหลวงปู่บุญพิน กตปุญโญ

12. ผงชานหมากหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน 13.ผงชานหมากหลวงปู่ขาว อนาลโย 14.ผงชานหมากหลวงปู่อว้าน เขมโก 15.ข้าวก้นบาตรหลวงปู่อว้าน เขมโก

16.เกษาพระอาจารย์วัน อุตตโม 17.เกษาหลวงตาแตงอ่อน กัลยาณธัมโม 18.เกษาหลวงปู่อุ่นหล้า จิตตธัมโม 19.เกษาหลวงปู่เนย สมจิตโต 20.เกษาหลวงปู่อ้ม สุขกาโม 21.เกษาหลวงปู่อว้าน เขมโก 22. เกษาหลวงตาบุญหนา ธัมมทินโน........สุดยอดครับ


ราคา 250 บาท ท่าน shaj

 

44. พระผงยอดทรัพย์ หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ วัดสิงหารินทราราม จ.บึงกาฬ เทพเจ้าแห่งบึงโขงหลง สวยๆ เนื้อทาทอง กรรมการ หายาก



ขอนำเสนอ พระผง ยอดทรัพย์ หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ (พระครูภาวนานุศิษฏ์)วัดสิงหารินทราราม อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เทพเจ้าแห่งบึงโขงหลง เป็นชื่อที่ชาวบ้านยกย่องเรียกขานท่าน กับพระผงยอดทรัพย์ ที่กลายเป็นพระประจำองค์ท่านหรือเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ประจำวัด พระผงรุ่นนี้โดยส่วนใหญ่เนื้อหามวลสาร จากประเทศลาว แร่วิเศษจากภูลังกา และ ภูวัว ภูทอก ส่วนผงว่าน จะมีน้ำผึ้งผสมกับผงว่านที่หาได้จากบริเวณแถบนั้น อาทิ เครือสาวหลง สะเก็ดดาว งิ้วดำ เหล็กไหล และอื่นๆ การสร้าง ก็คือสมัยหลวงปู่อยู่นั้นก็จะสร้างไปแจกไป (ทำกันในวัด) หมดก็ทำใหม่ก็แจกอีก แล้วแต่มวลสารช่วงนั้นที่ผสมพระจะได้อะไรมากอะไรน้อย บางทีพระออกโซนสีขาว, ออกสีน้ำตาล, หรือออกไปทางสีดำ ก็มี แล้วแต่ส่วนผสมครับ และพระรุ่นนี้ก็มีประสบการณ์มากมาย เมตตา มหานิยม ค้าขาย ป้องกันภัย แคล้วคลาดก็มี ดูดพิษก็ได้ มีโชคลาภต่างๆ มากมาย ชื่อพระก็ดี มวลสารก็เยี่ยม พระผู้ที่อธิฐานจิตให้ก็ไม่ธรรมดาครับ

ดังนั้นผงรุ่นนี้จึงเป็นที่นิยมเพราะหลวงปู่ตั้งใจทำให้ลูกศิษย์ลูกหาเก็บใว้บูชา
ขนาดเล็กจิ๋วแต่แจ๋ว พุทธคุณครอบจักรวาลจริงๆ ครับ


ราคา 250 บาท ท่าน shaj

 

45. ล็อกเก็ตรุ่นแรก หลวงพ่อหอม รตินธโร วัดไตรคามวาสี อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร สวยๆ หลังมวลสาร เกศา จีวร ตะกรุดจารมือ ฉากขาวสร้างน้อยเพียง 220 องค์ องค์นี้หมายเลข 220 พอดีครับ เลขสุดท้าย



ประวัติ พระครูธรรมไตรสังวรกิจ( ธ.) ( หลวงพ่อผจญ(หอม) รตินธโร ) เกิด วันที่ 1 มีนาคม 2503 ที่บ้านอีกุด ต.กุสุมาลย์ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร นามเดิม ผจญ สกุลเดิม ใบแสน บิดา นายกาญจน์ ใบแสน ( เสียชีวิตแล้ว) มารดา นางพล ใบแสน พี่น้อง ร่วมสายโลหิต 5 คน 1.หลวงพ่อหอม รตินธโร 2.นายสุรพล ใบแสน 3.นายสุพัฒตร์ ใบแสน 4.นางสุวัฒนา 5.นางพัชรี

เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ บรรชาสามเณร พ.ศ.2522 อยู่ วัดป่าสันติวาส (ปัจจุบันวัดป่าสันติกุสุมาลย์)

อุปสมบท เมื่ออายุ 21 ปี พ.ศ.2524 พระอุปัชฌาย์ พระราชสุทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดศรีเทพ อ.เมือง จ.นครพนม พระกรรมวาจา พระครูพิศาลปัญโญภาส (หลวงปู่คำดี ปัญโญภาโส) การศึกษา พ.ศ.2522 เป็นสามเณร จำพรรษาที่วัดป่าสันติวาส- เรียนนักธรรมตรี ที่วัดโพนธาราม อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร พ.ศ.2524 อุปสมบทแล้ว –เรียนนักธรรมโท ที่วัดศรีเทพประดิษฐ์ธาราม อ.เมือง จ.นครพนม พ.ศ.2525 เรียนนักธรรมเอก ที่วัดศรีเทพประดิษฐ์ธาราม อ.เมือง จ.นครพนม ด้านธุดงควัตร เมื่อปี 2526

หลังจากที่ได้เรียนนักธรรม จนเป็นที่พอใจเห็นเหมาะแก่การดำรงตนให้อยู่ในสมณเพศแล้ว จึงมีแนวคิดอยากออกธุดงค์ วิเวกตามแนวทางในพระพุทธศาสนา เริ่มจากเดินทางไปจำพรรษาที่วัดเม็งรายมหาราช (ดอยฮ้องลี่) อ.เมือง จ.เชียงราย และได้ ธุดงค์ ไปจำพรรษา ตามวัดในเขต ภาคเหนือ เพื่อศึกษาธรรมมะ จากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่างๆ อาธิ เช่น หลวงปู่ฤาษีดาบส จ.เชียงราย , หลวงปู่สิม พุทธาจาโร , หลวงปู่แว่น ธนปาโล , หลวงปู่ชอบ ฐานสโม , หลวงปู่หลุย จันทสาโร โดยพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกรูป ทุกท่านจะเน้นย่ำ แนะนำการปฏิบัติด้านวิปัสนากัมฐาน เป็นหลักสำคัญ จนเป็นที่ พอจิตพอใจ จึงกราบลา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร แสวงหาวิโมกข์ธรรม ตามป่าเขาแถบ จ.เชียงราย ดอยแม่สะลอง , สามเหลี่ยมทองคำ ,เชียงใหม่ , เลย , เพชรบูรณ์ , พะเยา จนวกกลับภาคอิสาน ไปกราบพระธาตุพนม แล้วธุดงค์ต่อไปภาคใต้ เมื่อปี พ.ศ.2528 ธุดงค์ไปจำพรรษา ที่จังหวัด นราธิวาส วัดประชาภิรมย์ แล้วกลับมาจำพรรษา ที่ทางภาคเหนือ และภาคอีสาน อีก จนถึง ปี พ.ศ.2533 จึงเดินกลับมา จำพรรษา ที่ จ.สกลนคร

****การปกครองทางสงฆ์ ฝ่ายธรรมยุต**** --พ.ศ.2537 จำพรรษาที่วัดหนองหอย อ.กุสุมาย์ จ.สกลนคร ในปีนี้เอง หลวงปู่คำดี ปัญโญภาโส มีดำริในการอนุรักษ์ป่าไม้ทางธรรมชาติเพื่อให้อนุชนรุ่นหลัง และเป็นที่พักพิง หลบลี้ภัย ของสัตว์นานาชีวิต จึงดำริสร้างวัดป่า ที่ป่าช้าโคกกลาง โดยได้ให้หลวงพ่อหอม รตินธโร รักษาการเจ้าอาวาส จัดตั้งวัดป่าช้าโคกกลาง เป็นวัดไตรคามวาสี ในเวลาต่อมา --พ.ศ.2538 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดไตรคามวาสี (วัดป่าช้าโคกกลาง) อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร --พ.ศ.2546 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูธรรมไตรสังวรกิจ เป็น เจ้าคณะตำบล(ธรรมยุต) อ.กุสุมาลย์ ปกครองเขตอำเภอกุสุมาลย์ จ.สกลนคร จนถึงปัจจุบัน


ราคา 350 บาท

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

จอง 34 38

 

ขอจองครับ

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

โอนเงินแล้ว 2,800.- บาท วันที่ 14/11/62 เวลา 13.11 น.

ที่อยู่ ตาม PM

 

โอนแล้วรับ 15/11/62 เวลา 09.43 น.จำนวน 450 บ.ชื่อ-ที่อยู่จัดส่งแจ้งทาง pm.ครับ ( รูปหล่อรุ่นแรก หลวงปู่แสง จนฺทวํโส วัดโพธิ์ชัย ต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม ปี 2561 เนื้อชนวน)

 

46. เหรียญบำรุงขวัญสาธารณสุขมูลฐาน(พระธาตุพนม) หลวงปู่คำพันธ์ อธิษฐานพร ปี 2533 เนื้อทองแดง รุ่นนี้อยู่เย็นเป็นสุขดี พุทธคุณสูงครับ

(บทความข้อเขียนนี้เป็นข้อเขียนของอาจารย์อำพล เจน)
“ความจริงเรื่องเหรียญบำรุงขวัญสาธารณสุขมูลฐานนี้ผมได้อยู่ร่วมมือในเหตุการณ์ตัดสินใจสร้างและมีส่วนในการคิดและแนะนำครูบาอาจารย์ปลุกเสกด้วยเรื่องเริ่มที่คุณหมอชัชวาล คล่องพิทยาคม รองแพทย์ใหญ่จังหวัดนครพนม ดำริในขณะกินข้าวมื้อเย็นด้วยกันกับผมและคุณปัญญา โกวิทวงศ์ เจ้าของบริษัทเอเวอร์กรีน ฟาร์ม่า โดยบอกว่าอยากจะทำเหรียญที่ระลึกเพื่อแจกบำรุงขวัญสาธารณสุขหมู่บ้านในจังหวัดนครพนมทุกหมู่บ้าน รวมแล้วมีประมาณสองพันกว่าคน คุณหมอเพิ่งย้ายมาอยู่นครพนมใหม่ๆ ก็คิดว่าอยากจะทำเป็นรูปพระธาตุพนมเพราะว่าเป็นสัญลักษณ์ของนครพนม แต่เรื่องปลุกเสกและออกแบบเหรียญยังไม่ได้คิด ผมและคุณปัญญาก็แนะนำว่าให้ไปกราบเรียนขออนุญาตหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ ว่าจะทำอย่างนี้เพื่ออย่างนี้ ท่านก็คงจะอนุญาตและเต็มใจปลุกเสกให้หรอก ส่วนการออกแบบและการสร้างก็ควรขอความกรุณาจากอาจารย์อนันต์ สวัสดิ์สวนีย์ ช่วยทำให้ ซึ่งคุณหมอก็คล้อยตามทุกประการ
ทีแรกเหรียญนี้จะสร้างแค่แจกตามจำนวนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหมู่บ้านในเขตนครพนมเท่านั้น แต่คุณหมอแขก ดูเหมือนจะเป็นแพทย์ใหญ่จังหวัดสกลนครทราบ ก็ร้องเอะอะว่าจะเอาด้วย จะเอาไปแจกให้เจ้าหน้าที่ทางสกลนครบ้านจำนวนสร้างที่ต้องเพิ่มขึ้นและเมื่อคุยกันหลายฝ่ายแล้วก็ตกลงใจว่าจะสร้างดังนี้
เนื้อเงิน จำนวน 1,000 เหรียญ
เนื้อทองแดง จำนวน 40,000 เหรียญ
เนื้อเงินไม่แจก แต่ทำขึ้นจำหน่ายหาทุนสร้างห้องสมุดโดยจำหน่ายเหรียญละ 300 บาท
เนื้อทองแดงแบ่งออกเป็นสองส่วนคือของนครพนมและสกลนคร แต่ละผ่ายก็นำไปแจกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหมู่ในจังหวัดของตนตามที่ตั้งใจไว้ ส่วนที่เหลือจากแจกก็จำหน่าย ทั้งเนื้อเงินและทองแดงจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ถวายหลวงปู่คำพันเพราะฉะนั้นเนื้อเงิน 30 เหรียญ ทองแดง 4,000 เหรียญได้นำมาขึ้นถวายหลวงปู่คำพัน

ถึงตรงนี้ก็เป็นที่ซึ่งผมจะต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ และจริงใจต่อผู้อ่าน เพราะเหตุว่านี่ดูเหมือนจะป็นเหรียญร่นเดียวที่ผมเล่ารายละเอียดในแบบที่เคยเล่าไม่ได้ นั่นเพราะสัจวาจาที่ให้ไว้กับหลวงปู่คำพัน หลังจากที่ท่านห้ามผมไม่ให้เขียนประวัติท่าน ผมจึงไม่กล้าที่จะเขียนถึงท่านมากกว่านี้ คนอื่นๆอาจเขียนได้ แต่ว่าผมไม่เขียนแน่

ถ้าใครอยากรู้จีก อยากรู้เรื่องหลวงปู่คำพัน ให้แวะไปที่ท่าพระจันทร์ ถามหาคุณเง็ก บางลำภู ใครก็ตามจะได้ฟังเรื่องหลวงปู่คำพัน ตั้งแต่เช้ายันเย็นก็ไม่หมด

เชื่อผมเถิดครับ บูชาเหรียญนี้ไว้ไว้อย่างน้อยคนละเหรียญ รับรองไม่ขาดทุน….


เหตุใดอาจารย์อำพลถึงบอกว่าเหรียญนี้ดี

ด้วยเหตุที่สนใจพระเครื่องนี้เองทำให้ผมได้รู้จักนักตรวจพลังพระเครื่องซึ่งเที่ยวเดินไปเรื่อย พอเจอองค์ที่เหมาะใจก็เช่าทันทีแม้ว่าพระเครื่องนั้นจะเห็นชัด ๆ ว่าปลอมพันเปอร์เซ็นต์ก็ตาม นักตรวจพลังเหล่านั้นมีอยู่มาก ซึ่งทุกรายผมเห็นว่าเป็นตัวตลกทั้งสิ้น
วิชาตรวจพระเครื่องผมพอจะทำใจเชื่อได้บ้างว่าอาจมีจริง แต่ผมไม่เชื่อว่าคนที่ทำท่าตรวจพลังนั้นจะสามารถตรวจได้จริง เพราะดูไปแล้วเขาก็ไม่ได้มีความประพฤติเลิศเลอไปกว่าผมเท่าใดเลย
นักตรวจพลังพระเครื่องที่ผมรู้จักก็กลายเป็นของเล่นสนุกสำหรับผมโดยที่เขาไม่มีทางรู้ตัว
ผมทั้งเอาของปลอมของแท้ให้เขาตรวจ ซึ่งคำตอบที่ออกมาก็ทำให้ผมรู้ว่าหมอนี่มั่วซั่วอย่างหาที่ติไม่ได้
อาจารย์ประโยชน์คณบดีคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เคยเล่าว่า เพื่อนของท่านคนหนึ่งเป็นนักตรวจพระเครื่องเคยไปเช่าพระกรุ วัดดาวคะนองด้วยกัน ก่อนเช่าก็เอาพระกรุที่ขุดได้นั้นให้ตรวจเสียก่อนว่าเป็นของสมเด็จฯโตหรือไม่ เขากำพระไว้ในมือครู่หนึ่งแล้วร้องโอ้โฮใช่แน่นอน แรงมากก็เลยเช่ามาคนละองค์
อาจารย์ประโยชน์ก็คล้ายผมแหละครับ ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ ท่านก็รอเวลาให้ผ่านไปก่อน
1 ปี แล้วเอาพระเครื่ององค์เดิมกลับมาให้นักตรวจพลังคนเดิมตรวจอีกที แล้วถามคำถามเดิมว่าใช่พระของสมเด็จฯโตหรือเปล่า
คำตอบคือไม่ใช่ แถมยังอ๊อนอ่อนอีกต่างหาก
อาจารย์ประโยชน์ก็ขบขันไปแต่นักตรวจพลังพระเครื่องที่อาจารย์ประโยชน์เชื่อถือก็มีอยู่คนหนึ่งคืออาจารย์เบิ้ม ซึ่งอาจารย์เบิ้มนี้เมื่อครั้งที่ผมรู้จักท่านใหม่ๆ ก็ไม่ปลงใจเชื่อเหมือนรายอื่น ๆ แต่ผมก็เกรงใจในฐานะที่ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่มีความประพฤติดีกว่าผม และก็แอบๆ ลองของกับท่านอยู่หลายเที่ยวโดยที่ท่านไม่รู้ตัวหรืออาจจะรู้ก็ไม่ทราบ
วิธีลองของผมนั้นก็คล้ายกับอาจารย์ประโยชน์ทำไว้ก่อนนั่นแหละครับ แต่คำตอบที่ได้รับก็เหมือนเดิมทุกครั้ง
ครั้งที่สำคัญที่ผมลองก็คือผมเอาจีวรหลวงปู่แหวนฝากกับเพื่อนไปให้อาจารย์เบิ้มตรวจ โดยที่เพื่อนผู้รับฝากไม่ทราบว่าผมกำลังทำอะไรผมเพียงบอกว่าจีวรนี้ได้มานานแล้วและก็ลืมแล้วว่าเป็นจีวรของใคร ขอให้อาจารย์ตรวจดูด้วย โดยนำเอาพระเครื่องของหลวงปู่แหวน หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ขาว หลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่ผาง หลวงปู่สิม ไปเป็นเครื่องประกอบการจรวจให้ดูว่าจีวรนั้นเป็นขององค์ไหน
เพื่อนผมก็นำไปและกลับมาเล่าให้ฟังว่า อาจารย์เบิ้มออกปากว่าอย่างนี้ยากอยู่นะ ต้องผู้มีฌานระดับหลวงปู่จึงจะรู้ แต่ท่านก็จะลองพยายามดู และก็เอาจีวรขึ้นมาตรวจก่อน แล้วเอาเหรียญหลวงปู่ทุกองค์ขึ้นมาตรวจไล่ไปทุกเหรียญ ที่สุดท่านก็บอกว่า จีวรนี้น่าจะเป็นของหลวงปู่แหวน เพระว่าเหมือนกันมาก
นี่สิครับเจ๋ง!
อีกคราวหนึ่ง เพื่อนผมได้อัฐิธาตุของหลวงปู่จันทร์วัดศรีเทพ มาชิ้นหนึ่งก็นำไปให้อาจารย์เบิ้มดูว่าเป็นของใครโดยวิธีเดียวกับของผม ปรากฏว่าอาจารย์เบิ้มตอบได้ถูกต้องว่าเป็นอัฐิธาตุของหลวงปู่จันทร์จริงๆ
ที่เจ๋งกว่านั้นก็คือพระเครื่องรุ่นเดียวกันเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว คือเป็นพระเครื่องของหลวงปู่ขาว อนาลโย แต่ว่ามีอยู่องค์หนึ่งได้นำไปถวายหลวงปู่สิม,หลวงปู่ชอบและหลวงปู่คำพันเสก เพิ่มแล้วนำมาให้อาจารย์เบิ้มตรวจดูซึ่งเมื่อตรวจแล้วอาจารย์เบิ้มก็แสดงความแปลกว่าใจทำไมพระเครื่องสององค์นี้ไม่เหมือนกันทั้งๆที่เป็นรุ่นเดียวกันของหลวงปู่ขาวเหมือนกันและอีกองค์หนึ่งกลับดีกว่าอีกองค์หนึ่งองค์ที่ดีกว่าก็คือองค์ที่ไปเสกเพิ่มมานั่นแหละครับ
ผมทดลองอาจารย์เบิ้มมาแล้วแทบทุกวิธี ทั้งวิธีเอากระดาษห่อพระไว้ไม่ให้เห็นด้วยตาท่านก็ยังทราบว่าอะไรเป็นอะไรจริงได้อย่างถูกต้องทำให้ผมเชื่อใจท่านได้สนิทว่านักตรวจพลังพระเครื่องท่านนี้เป็นของจริง
อาจารย์เบิ้มเคยฝึกปฏิบัติกับหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ เพราะว่าบ้านอยู่ใกล้วัดปากน้ำ และก็เคยฝึกปฏิบัติกับหลวงพ่อชา สมัยไปอยู่อุบลฯ และก็หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีอีกองค์หนึ่งวิชาตรวจพระ ดูเหมือนว่าจะได้มาจากหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี (ผมไม่แน่ใจนะครับ)
ในกลุ่มพวกเราที่เชื่อถืออาจารย์เบิ้มมักจะประพฤติกันเสมอคือใครได้พระอะไรมาก็เอามาให้อาจารย์เบิ้มตรวจเสียก่อน ทั้งนำไปตรวจด้วยตนเอง และฝากไปตรวจซึ่งการฝากไปตรวจนั้นโดยมากเป็นผมประพฤติเพราะการฝากมีโอกาสลองของได้ง่าย
ล่าสุดนี้ได้มีการนำเหรียญบำรุงขวัญ ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดนครพนม สร้าง ไปให้อาจารย์เบิ้มตรวจ อาจารย์เบิ้มตรวจแล้วก็เปล่งวาจาว่า
“อยู่เย็นเป็นสุข”
นั่นยังไม่หนำใจ มีการแอบนำกลับไปตรวจอีกเป็นรอบสองโดยที่อาจารย์เบิ้มไม่รู้จักว่าอะไรซึ่งเมื่อตรวจแล้วก็เปล่งวาจาเดิมอีก “อยู่เย็นเป็นสุข”


ราคา 350 บาท