*ร้านพุทธศิลป์* พระเครื่อง เครื่องราง วัตถุมงคลทั้งเก่าและใหม่ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ร้านพุทธศิลป์, 24 กรกฎาคม 2019.

  1. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    ร้านพุทธศิลป์
    ยินดีต้อนรับ ทุกท่าน ทางร้างมีพระเครื่องเกจิคณาจารย์ สายเหนือทั้งใหม่และเก่าใว้ให้บริการตามหลักสากลนิยมและรับประกันพระแท้100%
    1.เปิดราคาแบ่งปันรับประกันแท้ตามหลักสากล
    2.จองพระเกิน3วันถือว่าสละสิทธิ์และท่านอื่นสามารถจองได้ตามลำดับต่อไป
    3.โอนแล้วกรุณาแจ้งชื่อที่อยู่และเบอร์โทรด้วยคับ 1548491602917.jpg 1548491602917.jpg
    #รายละเอียดการโอนเงิน#
    ธนาคาร กรุงไทย สาขาดอยสะเก็ดเชียงใหม่
    ชื่อบัญชี นายวรพจน์ แก้วดุลดุก
    เลขบัญชี672-8-38343-3
    เบอร์โทรติดต่อ 0826218049 จา เชียงใหม่
    #ขอเชิญคุณลูกค้าทุกท่านเยี่ยมชมพระเครื่องและเครื่องรางได้เลยคับ
     
  2. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    #รายการที่1 พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก เนื้อผงชานหมาก" ครูบาบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอนเรือง จัดสร้างปี 2536 ผสมเส้นเกศาของพระครูบา จัดสร้างน้อย หายากครับ
    ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร (ครูบาเจ้าศีลธรรม) เป็นชาว อ.เชียงแสน เกิดเมื่อปี ๒๕๐๖ ก่อนหน้านี้ได้ไปจำพรรษา ณ สำนักสงฆ์ดอนเรือง บ้านเมืองพง เขต อ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน และธุดงค์ไปตามศาสนสถานหลายแห่งในรัฐฉาน และพม่า ท่านเป็นพระโพธิสัตว์รูปหนึ่งที่มีบารมีสูงมาก
    รู้จัก "ครูบาบุญชุ่ม" เจ้าตนบุญแห่งล้านนา ครูบาสายวิปัสสนากัมมัฏฐาน ที่ชาวพม่า-อินเดีย-เนปาล-ภูฏานเคารพนับถือ
    ชื่อของ “ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร” เป็นที่สนใจของสื่อมวลชนอีกหน เมื่อท่านเดินทางมาทำพิธีอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาจิต ที่หน้าถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ถึงสองวันติดกัน (29-30 มิ.ย.2561) ครูบาบุญชุ่มขอให้ดวงวิญญาณทั้งหลายที่อยู่ในถ้ำเปิดประตูเปิดทางให้ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ออกมาโดยสวัสดิภาพ
    "ครูบาชุ่ม"พระภิกษุผู้มีบารมีมาก มีฤทธานุภาพตั้งแต่เป็นสามเณร
    10 ปีที่บวชเป็นสามเณร ท่านได้สร้างพระธาตุดอยเวียงแก้ว ที่วัดพระธาตุดอยวังแก้ว ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน, พระธาตุดอยเวียงแก้ว พระธาตุงำ พระธาตุดอยดอกคำ พระธาตุจอมสวรรค์บ้านโปร่ง ต.เมืองพง ประเทศพม่า พระธาตุจอมยอง เมืองยอง ประเทศพม่า ฯ
    พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร แห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน ประเทศพม่า
    "ครูบาชุ่ม"พระภิกษุผู้มีบารมีมาก มีฤทธานุภาพตั้งแต่เป็นสามเณร
    ประวัติอันน่าอัศจรรย์ของท่าน#พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร แห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน ประเทศพม่าถือเป็นเกจิชื่อดัง เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธหลายประเทศ ทั้งประเทศไทย, ลาว, เมียนมา, จีน และภูฏาน และเคยจำพรรษาในถ้ำเป็นเวลานานมาแล้ว
    เกิดในหมู่บ้านแม่คำหนองบัว ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
    เมื่อวันอังคารที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๘ เวลา ๐๙.๐๐ น. ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๔
    ได้บวชเรียนตามปณิธานที่ตั้งไว้ตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2519 ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 8 ณ วัดศรีบุญยืน ต.ศรีดอนมูล (ป่าถ่อน) อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
    โดยมีพระครูหิรัญเขตคณารักษ์ วัดศรีบุญเรือง อำเภอแม่จัน เจ้าคณะอำเภอเชียงแสนเป็นองค์พระอุปัชฌาย์ บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๑๙ ตรงกับเดือน ๘ ขึ้น ๑๑ ค่ำ วันพฤหัสฯ เวลา ๙.๓๙ น. ได้บวชเสร็จเรียบร้อย มีสามเณรที่บรรพชารวมกันทั้งตำบลสามสิบสองรูป ปัจจุบันเหลือพระครูบาฯเจ้าองค์เดียว
    ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่บวชเป็นสามเณร ได้สร้างธรรมนุสรณ์จากการอนุโมทนาบุญของพุทธศาสนิกชนหลายแห่ง เช่น สร้างพระธาตุดอยเวียงแก้ว ที่วัดพระธาตุดอยวังแก้ว ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน, พระธาตุดอยเวียงแก้ว พระธาตุงำ พระธาตุดอยดอกคำ พระธาตุจอมสวรรค์บ้านโปร่ง ต.เมืองพง ประเทศพม่า พระธาตุจอมยอง เมืองยอง ประเทศพม่า ฯลฯครั้นเสร็จพิธีบรรพชาแล้วก็กลับมาวัดบ้านด้ายเข้ากรรมฐานภาวนา ๓ วัน เริ่มเรียนสวดมนต์ภาวนาทำกิจวัตรต่างๆ มีล้างบาตรล้างถ้วยล้างชามทำความสะอาดวัด ดายหญ้า ท่านทำทุกอย่างที่ทำได้ในวัด จำเป็นที่สุดคือ การเจริญภาวนา ท่านนอนองค์เดียว นอนในกุฏิที่เก็บกระดูกผีตายชอบอยู่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่
    ครูบาชุ่มเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธหลายประเทศ ทั้งประเทศไทย, ลาว, เมียนมา, จีน และภูฏาน
    #เปิดราคา1200฿ พร้อมส่งรับประกันพระแท้100%
    ปิดการขายคับขายนอกเว็บ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2019
  3. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่2 พระเลียงกรุดอยคำ ช้างค้ำ
    เปิดแบ่งบูชาพระเลียงสถาพสวยงามสีออกแดงแบบนี้หาได้ยากยิ่งไม่มีอุดมีช้อมนาเก็บน่าบูชายิ่งพระแท้จะหาได้ยากมาก
    พระเลี่ยง กรุดอยคำ-กรุช้างค้ำ แตกกรุ ปี ๒๕๐๙ พระกระจายอยู่ตามพื้นดิน พระส่วนใหญ่ที่พบมีราดำ และคราบดินกรุติดตามองค์พระ พระกรุช้างค้ำ แตกกรุ ปี ๒๕๒๕ พบ พระสามหอม พระคง พระเลี่ยง พิมพ์เดียวกับ “พระกรุดอยคำ” พระส่วนใหญ่ฝังอยู่ในทราย ผิวพระสะอาด ทางวัดออกให้บูชาองค์ละ ๒๐๐ บาท พระคัดสวย องค์ละ ๕๐๐ บาท สมัยนั้น องค์สวยแชมป์ซื้อกัน ๒,๐๐๐ บาท วัดพระธาตุดอยคำสร้างในสมัยพระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งหริภุญชัย โดยพระโอรสทั้ง 2 เป็นผู้สร้างในปี พ.ศ. 1230 ประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ศาลาการเปรียญกุฏิสงฆ์ และพระพุทธรูปปูนปั้น เดิมชื่อวัดสุวรรณบรรพต แต่ชาวบ้านเรียกว่า "วัดดอยคำ" พ.ศ. 2509 ขณะนั้นวัดดอยคำเป็นวัดร้าง ต่อมากรุแตกชาวบ้านพบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระรอดหลวง พระหินทรายปิดทององค์ใหญ่ พระเลี่ยง พระสามหมอ (เนื้อดิน) ซึ่งนำมาประดิษฐานไว้ ณ วัดพระธาตุดอยคำ ตำนาน เทือกเขาถนนธงชัย ด้านทิศตะวันตกบนเทือกเขาเหล่านั้นจะเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระเจดีย์สำคัญและเก่าแก่ คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ถึง 2 องค์พระเจดีย์ แต่ละแห่งถูกสถาปนาขึ้นโดยพระมหากษัตริย์ในสมัยหริภุญชัยและล้านนาตามลำดับ หนึ่งในนั้นคือพระธาตุดอยคำ อยู่บนยอดเขาเล็ก ๆ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 200 เมตร อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของตัวเมืองเชียงใหม่ เรียกว่า “พระธาตุดอยคำ” เคยเป็นที่อยู่อาศัยของยักษ์สองผัวเมีย ชื่อ จิคำและตาเขียวมาก่อน ซึ่งต่อมาชาวบ้านได้เรียกยักษ์ทั้งสองนี้ว่า “ปู่แสะ – ย่าแสะ” ปู่แสะย่าแสะมีลูก 1 คน ชื่อว่า “สุเทวฤๅษี” เหตุที่ได้ชื่อว่าดอยคำ เนื่องจากศุภนิมิตที่ยักษ์ทั้งสองได้รับพระเกศาธาตุจากพระพุทธเจ้า เกิดฝนตกหนักหลายวัน ทำให้น้ำฝนเซาะและพัดพาแร่ทองคำบนไหล่เขา และลำห้วยไหลลงสู่ปากถ้ำเป็นจำนวนมาก จึงเรียกภูเขาลูกนี้ว่า “ดอยคำ” จากตำนานหลายฉบับได้กล่าวว่า เทวดาได้นำพระเกศาธาตุที่พระพุทธเจ้าได้ประทานแก่ปู่แสะและย่าแสะ นำขึ้นมาฝังและก่อสถูปไว้บนดอยแห่งนี้ และต่อมาในปี พ.ศ. 1230 เจ้ามหันตยศ และเจ้าอนันตยศ 2 พระโอรสแฝดของพระนางจามเทวี แห่งหริภุญชัยนครได้ขึ้นมาก่อเจดีย์ครอบพระสถูปเกศานั้นไว้ ส่วนพระเจดีย์แห่งที่ 2 ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ทางทิศเหนือของดอยคำ คือ พระธาตุดอยสุเทพ
    #####ราคา12000฿#####รับประกันแท้ตามหลักสากล
    หรือโทร0826218049
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2019
  4. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่3พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก เนื้อผงชานหมาก" ครูบาบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอนเรือง จัดสร้างปี 2536 ผสมเส้นเกศาของพระครูบา จัดสร้างน้อย หายากครับ
    ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร (ครูบาเจ้าศีลธรรม) เป็นชาว อ.เชียงแสน เกิดเมื่อปี ๒๕๐๖ ก่อนหน้านี้ได้ไปจำพรรษา ณ สำนักสงฆ์ดอนเรือง บ้านเมืองพง เขต อ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน และธุดงค์ไปตามศาสนสถานหลายแห่งในรัฐฉาน และพม่า ท่านเป็นพระโพธิสัตว์รูปหนึ่งที่มีบารมีสูงมาก
    รู้จัก "ครูบาบุญชุ่ม" เจ้าตนบุญแห่งล้านนา ครูบาสายวิปัสสนากัมมัฏฐาน ที่ชาวพม่า-อินเดีย-เนปาล-ภูฏานเคารพนับถือ
    ชื่อของ “ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร” เป็นที่สนใจของสื่อมวลชนอีกหน เมื่อท่านเดินทางมาทำพิธีอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาจิต ที่หน้าถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ถึงสองวันติดกัน (29-30 มิ.ย.2561) ครูบาบุญชุ่มขอให้ดวงวิญญาณทั้งหลายที่อยู่ในถ้ำเปิดประตูเปิดทางให้ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ออกมาโดยสวัสดิภาพ
    "ครูบาชุ่ม"พระภิกษุผู้มีบารมีมาก มีฤทธานุภาพตั้งแต่เป็นสามเณร
    10 ปีที่บวชเป็นสามเณร ท่านได้สร้างพระธาตุดอยเวียงแก้ว ที่วัดพระธาตุดอยวังแก้ว ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน, พระธาตุดอยเวียงแก้ว พระธาตุงำ พระธาตุดอยดอกคำ พระธาตุจอมสวรรค์บ้านโปร่ง ต.เมืองพง ประเทศพม่า พระธาตุจอมยอง เมืองยอง ประเทศพม่า ฯ
    พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร แห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน ประเทศพม่า
    "ครูบาชุ่ม"พระภิกษุผู้มีบารมีมาก มีฤทธานุภาพตั้งแต่เป็นสามเณร
    ประวัติอันน่าอัศจรรย์ของท่าน#พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร แห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน ประเทศพม่าถือเป็นเกจิชื่อดัง เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธหลายประเทศ ทั้งประเทศไทย, ลาว, เมียนมา, จีน และภูฏาน และเคยจำพรรษาในถ้ำเป็นเวลานานมาแล้ว
    เกิดในหมู่บ้านแม่คำหนองบัว ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
    เมื่อวันอังคารที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๘ เวลา ๐๙.๐๐ น. ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๔
    ได้บวชเรียนตามปณิธานที่ตั้งไว้ตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2519 ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 8 ณ วัดศรีบุญยืน ต.ศรีดอนมูล (ป่าถ่อน) อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
    โดยมีพระครูหิรัญเขตคณารักษ์ วัดศรีบุญเรือง อำเภอแม่จัน เจ้าคณะอำเภอเชียงแสนเป็นองค์พระอุปัชฌาย์ บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๑๙ ตรงกับเดือน ๘ ขึ้น ๑๑ ค่ำ วันพฤหัสฯ เวลา ๙.๓๙ น. ได้บวชเสร็จเรียบร้อย มีสามเณรที่บรรพชารวมกันทั้งตำบลสามสิบสองรูป ปัจจุบันเหลือพระครูบาฯเจ้าองค์เดียว
    ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่บวชเป็นสามเณร ได้สร้างธรรมนุสรณ์จากการอนุโมทนาบุญของพุทธศาสนิกชนหลายแห่ง เช่น สร้างพระธาตุดอยเวียงแก้ว ที่วัดพระธาตุดอยวังแก้ว ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน, พระธาตุดอยเวียงแก้ว พระธาตุงำ พระธาตุดอยดอกคำ พระธาตุจอมสวรรค์บ้านโปร่ง ต.เมืองพง ประเทศพม่า พระธาตุจอมยอง เมืองยอง ประเทศพม่า ฯลฯครั้นเสร็จพิธีบรรพชาแล้วก็กลับมาวัดบ้านด้ายเข้ากรรมฐานภาวนา ๓ วัน เริ่มเรียนสวดมนต์ภาวนาทำกิจวัตรต่างๆ มีล้างบาตรล้างถ้วยล้างชามทำความสะอาดวัด ดายหญ้า ท่านทำทุกอย่างที่ทำได้ในวัด จำเป็นที่สุดคือ การเจริญภาวนา ท่านนอนองค์เดียว นอนในกุฏิที่เก็บกระดูกผีตายชอบอยู่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่
    ครูบาชุ่มเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธหลายประเทศ ทั้งประเทศไทย, ลาว, เมียนมา, จีน และภูฏาน
    #เปิดราคา1200฿ พร้อมส่งรับประกันพระแท้100%
    ปิดนอดเวบคับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2019
  5. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่4 เปิด#พระปิดตาจิ๋วหลวงพ่อเกษมเขมโก
    มีออฟชั่นพิเศษ มีทั้งเกษาและผ้าจีวรท่าน
    พระผงรัตนเกษม หลวงพ่อเกษม เขมโก
    เมื่อปี พ.ศ.2517 วัดพลับพลา จังหวัดนนทบุรี กำลังดำเนินการสร้างพระอุโบสถแต่ขาดทุนทรัพย์ จึงคิดไปขอพึ่งบารมีหลวงพ่อเกษม ขอสร้างเหรียญและพระผงรุ่นสร้างโบสถ์วัดพลับพลา และหลวงพ่อเกษมได้อนุญาตให้สร้างตามประสงค์เมื่อวันที่20 สิงหาคม พ.ศ.2517 ทางวัดพลับพลาโดยหลวงพ่อพระครูสิรินนทคุณเจ้าอาวาส จึงได้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น 3 รายการ คือ 1.เหรียญรูปเหมือน หลวงพ่อเกษม เนื้อทองคำ เงิน นวโลหะ และทองแดง 2.พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม และ 3.พระปิดตาเขมโก
    เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้นำขึ้นไปให้หลวงพ่อเกษมปลุกเสก เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2517 เวลา 19.39. น. ณ สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ในการพิธีมนต์นี้ได้มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นซึ่งท่านพระครูสิรินนทคุณได้บันทึกไวัดังนี้ ในวันปลุกเสกนั้นเป็นเวลากลางคืนทางเหนือหมดฝนแล้วได้ เวลาหลวงพ่อเกษมเดินออกจากกุฏิที่พักของท่าน พอมาถึงศาลามุงแฝก (หญ้าคา) ปะรำพิธีปลุกเสก ข้าพเจ้ากับคณะกรรมการและทุกคนในที่นั้นได้ยินเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง ชาวลำปางจึงตั้งชื่อพระรุ่นนี้ว่า รุ่นฟ้าลั่น ปัจจุบันนี้ชาวลำปางเก่าๆยังจำชื่อรุ่นฟ้าลั่นได้ พระชุดนี้เริ่มออกจำหน่ายจ่ายแจก ในวันที่ 9 ตุลาคม 2517 ที่วัดพลับพลา จังหวัดนนทบุรี ได้เงินสมทบจากพระชุดนี้จนสร้างพระอุโบสถวัดพลับพลาสำเร็จ
    อยู่มาเมื่อปี 2536 ทางวัดได้จัดเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังอุโบสถ ขาดทุนทรัพย์ จึงนำพระชุดนี้ในส่วนที่เหลือ คือเหรียญเนื้อทองแดงประมาณ 200 เหรียญ พร้อมพระผงปิดตาเขมโก และ พระผงรัตนเกษม ออกมาให้เช่าบูชาจนได้เงินค่าเขียนภาพจิตรกรรมสำเร็จ เงินเหลือจากค่าจ้างเขียนภาพก็นำไปสร้างโรงครัวและห้องน้ำ 18 ห้อง ทุกวันนี้เหรียญหลวงพ่อเกษมและพระปิดตาเขมโกหมดลงแล้ว คงเหลือแต่พระผงรัตนเกษม หรือ พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม รุ่นสร้างโบสถ์วัดพลับพลา ปี 2517 เท่านั้น
    หลังจากนั้นทางวัดได้นำพระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม หรือ พระผงรัตนเกษม ในส่วนที่เหลือออกให้เช่าบูชาอีกครั้ง โดยท่านพระครูสิรินนทคุณได้มีลิขิตอธิบายดังนี้ ข้าพเจ้าได้ทราบว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อเกษมได้ละสังขารไปแล้ว เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2539 ข้าพเจ้าได้รำลึกถึงพระคุณของหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่มีเมตตาต่อวัดพลับพลามาในอดีต คือได้เมตตาอนุญาตวัดพลับพลาจัดสร้างเหรียญและพระผงรูปเหมือนของหลวงพ่อเกษมเพื่อแจกจ่ายให้แก่คณะศรัทธาบริจาคทรัพย์สร้างอุโบสถจนสำเร็จตามโครงการ ข้าพเจ้าจึงปรึกษากรรมการวัดว่าพวกเราควรหาทางตอบแทนพระคุณของท่านบ้าง เพื่อทำบุญอุทิศไปให้ท่าน จึงได้นำพระผงรัตนเกษมที่เก็บไว้จำนวน 2000 องค์ ไปมอบให้ท่านประธานจัดงานศพ คือ เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง เพื่อสมทบทุนมูลนิธิหลวงพ่อเกษม เขมโกต่อไป โดยมอบให้เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2539 พร้อมรับเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมถวายในวันนั้นด้วย หลังจากเจ้าประเวทย์ได้รับมอบพระผงรัตนเกษมแล้ว ท่านคิดว่าการก่อสร้างของสุสานไตรลักษณ์หรือสิ่งอื่นภายในเมืองลำปาง โดยเฉพาะในสุสานไตรลักษณ์นั้นไม่มีอะไรจะปลูกสร้างแล้วหรือว่าจะสร้างต่อไป มูลนิธิของหลวงพ่อเกษมก็มีเพียงพอจึงปรึกษากันว่าสำหรับพระผงรัตนเกษม 2000 องค์นี้ ควรจะได้สร้างอะไรสักอย่างที่เป็นอนุสรณ์ของหลวงพ่อเกษม ถวายให้วัดพลับพลา พอดีวัดพลับพลากำลังจะดำเนินการสร้างศาลาการเปรียญขนาด 10 x 15 เมตร อยู่ เนื่องจากของเก่าไม่พอต้อนรับประชาชนในเวลาเทศกาล เจ้าประเวทย์จึงเมตตามอบพระผงรัตนเกษมกลับคืนให้วัดพลับพลาเพื่อดำเนินการต่อไป และขอให้ตั้งชื่อศาลาการเปรียญว่า ศาลาการเปรียญเขมโก
    นี่ก็เป็นอันว่าพระผงรัตนเกษมที่เคยสร้างพระอุโบสถวันพลับพลาเมื่อ ปี พ.ศ.2517 จะได้กลับมาสร้างศาลาการเปรียญให้วัดพลับพลาอีกครั้งในปี พ.ศ.2539 หรือ 22 ปีให้หลัง
    #เปิดราคา500฿พร้อมส่งคับ
    #ปิดบูชานอกเว็บคับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2019
  6. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    ราคาการที่5
    : เหรียญสันติสุข กำเนิด ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง ปี 2536 เนือทองแดง
    ตำบลสันติสุข แยกออกจากตำบลยางครามเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นตำบลที่ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของกิ่งอำเภอดอยหล่อ ในขณะนั้น (ปัจจุบันเป็น อำเภอดอยหล่อ) ซึ่งเมื่อตั้งเป็นตำบลใหม่แล้ว ก็มี กำนันบุญมา มานะตา เป็นกำนันตำบลสันติสุขคนแรก และมี พระครูวรวุฒิคุณ (หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท) เป็นเจ้าคณะตำบลสันติสุข รูปแรก ด้วยเหตุนี้ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ กำนันบุญมา มานะตา จึงได้ขออนุญาตหลวงปู่ครูบาอิน จัดสร้างเหรียญรุ่น “สันติสุขกำเนิด” ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกการก่อตั้งตำบลสันติสุข และเพื่อหารายได้ จัดสร้างศาลาประจำตำบลสันติสุข บริเวณข้างวัดหนองเหียง โดยขอความอนุเคราะห์คุณหมอสมสุข คงอะไร คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก เป็นผู้ประสานงานจัดสร้าง

    จำนวนการสร้าง: เนื้อเงิน ๙๙ เหรียญ เนื้อทองแดง ๗,๐๐๐ เหรียญ และเนื้อทองแดงกาไหล่ทอง จำนวน ๓,๐๐๐ เหรียญ

    ลักษณะเหรียญ: เป็นเหรียญรูปไข่พร้อมห่วง ด้านหน้า แกะเป็นรูปหลวงปู่ครูบาอิน ครึ่งองค์ ห่มจีวรคลุมไหล่ มีลักษณะคล้ายคลึงกับเหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัย ปี ๒๔๘๒ ด้านบน มีข้อความว่า “สันติสุขกำเนิด พ.ศ. ๒๕๓๔” ด้านล่าง มีชื่อหลวงปู่ “พระครูวรวุฒิคุณ (อิน)” ถัดมาเป็นวันที่จัดสร้าง “๒๗ มี.ค. ๓๖” ด้านหน้าตอกโค้ต "มะ" อักขระขอม ด้านหลัง เป็นอักขระล้านนาแกะบล็อคจากลายมือหลวงปู่ อ่านได้ว่า “เม กะ ม อุ” บรรทัดถัดมา อ่านได้ว่า “นะ ชา ริ ติ” ด้านล่างใต้พระคาถา สมณศักดิ์หลวงปู่ อ่านได้ว่า “พระครูวรวุฒิคุณ” บรรทัดถัดมามีข้อความ “จ.เชียงใหม่” ในรอบวงกลมด้านนอก ด้านบนเป็นชื่อ “วัดฟ้าหลั่ง” ด้านล่าง มีข้อความว่า “เจ้าคณะตำบลสันติสุขแท้รับประกันครับ
    #เปิดราคา300฿ พร้อมส่งคับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่6 อิ่นมหาเสน่เนื้อผงว่าน วัดป่าแคโยงสารภี เชียงใหม่ อิ่นรุ่นแรกรุ่นนี้เป็นยุคต้นๆของวัดที่ทำออกมาแจกจายให้กับประชาชนที่ทำบุญและอิ่นรุ่นนี้เป็นอิ่นที่มีประสบการณ์มากชาวบ้านแถววัดต่างหวงแหนกันมากเพราะนำไปบูชาแล้วได้ผลเกินคาดมีทั่งด้าน้มตาค้าขายโชคลาภเป็นเลิดคับ
    พูดถึงสุดยอด “เครื่องรางของขลังทางด้านความรักและมหาเสน่ห์” แห่ง ‘แผ่นดินล้านนา’ เมืองเหนือของไทยเราที่สืบทอดกันมาช้านานนั้น ทุกคนต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “อิ้น”

    ชาวล้านนาเชื่อว่า การที่ได้มี “อิ้น” ไว้บูชา จะทำให้มีคนเมตตารักใคร่ ถ้าบูชาไว้ในเคหสถานก็จะทำให้ผู้คนในบ้านนั้นรักใคร่ปรองดองกัน ถ้าบูชาไว้กับตัวก็จะทำให้มีเสน่ห์เมตตามหานิยม อุดมด้วยโชคลาภ ข้าวของเงินทองไหลมาเทมา ค้าขายรุ่งเรือง มีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข “อิ้น” จึงเป็นหนึ่งในเครื่องรางยอดนิยมตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันไม่เสื่อมคลาย
    ประวัติความเป็นมาของ “อิ้น” นั้น ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าชนชาติใดคิดสร้างเป็นชาติแรก มีเพียงตำนานซึ่งมากมายหลายหลากต่างกันไปตามภูมิภาค บางท่านว่า ‘อิ้น’ มาจากทิเบตซึ่งมีความเชื่อเรื่องศักติว่า หญิงชายเสพสมกันจะทำให้เกิดสิ่งมีชีวิต การมีชายหญิงร่วมกัน เป็นตัวแทนของการเกิด การงอกงาม และความสมดุล (หยิน หยาง) และสืบทอดกันเข้ามาทางพม่า บางท่านก็ว่าเป็นการสร้างเพื่อระลึกถึงหญิงชายคู่แรกของโลก เป็นต้น
    สำหรับประเทศไทย ความเชื่อเรื่อง “อิ้น” เริ่มเข้ามาทางล้านนา ซึ่งอาจสืบทอดเข้ามาทางพม่า ต่อมาขยายไปยังภาคอีสาน ภาคกลาง จน ณ ปัจจุบัน “อิ้น” กลายเป็นเครื่องรางของขลังที่เป็นที่นิยมกันทั่วประเทศ มีพระเกจิอาจารย์หลายสำนักนิยมจัดสร้างกัน และแต่ละท่านจะมีวิธีปลุกเสกเฉพาะตัว โดยคำนึงถึงพุทธคุณว่าด้วยเมตตามหานิยมและโภคทรัพย์เป็นหลัก เป็นความเชื่อในลักษณะเดียวกับการเอาส่วนต่างๆ ของสัตว์มาพกติดตัวเป็นเครื่องรางของขลัง เช่น เขี้ยวหมูป่า งาช้าง เขี้ยวเสือ เขาควาย ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาแกะเป็นรูปต่างๆ
    “วิชาพญาอิ้นแก้ว” ของล้านนา ก็เป็นหนึ่งในวิทยาอาคมการผูกจิตผูกใจให้คนรักใคร่กัน โดยการสร้างเป็นหุ่นรูปผู้หญิงผู้ชายกอดกัน ซึ่งเป็นตำราเฉพาะของล้านนาเท่านั้น มีการลงคาถาที่เป็น ‘หัวใจของพญาอิ้นแก้ว’ โดยตรง ปลุกเสกแล้วจะมีพลังอำนาจเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทำให้ “อิ้น” ของล้านนา ไม่ได้มีแต่พุทธาคมที่เป็นไปทางด้านกามารมย์หรือเกี่ยวกับทางเพศเพียงอย่างเดียว ‘วิชาพญาอิ้นแก้ว’ ของล้านนานั้น มีทั้งด้าน เมตตา มหาเสน่ห์ มหานิยมผูกจิตมัดใจ คิดถึง นะจังงัง โกรธไม่ลง และรักใคร่เอ็นดู อยู่ครบถ้วน
    มีการขุดค้นทางโบราณคดี พบเป็นตุ๊กตาดินเผาโบราณ ทำเป็นรูปชาย-หญิงเปลือย นั่ง หรือยืนกอดกัน เข้าลักษณะที่เรียกว่า "อิ้น" ซึ่งมีข้อสันนิษฐานว่าผู้สร้างตั้งใจสร้างเพื่อเอาไปใช้ในด้านนี้โดยเฉพาะ น่าจะเป็นเครื่องรางรุ่นแรกๆ ที่นอกจากแสดงถึงความรักระหว่างชายหญิงที่ชัดเจนแล้ว ยังเป็นเครื่องมือที่ใช้สอนให้สังคมรู้จักแสดงความรักที่มีขอบเขตตามมาตรฐานของสังคมนั้นๆ รวมทั้งเป็นเครื่องมือสอนเพศศึกษาในยุคโบราณอีกด้วย
    อิ่นนางล้อม เนื้อผงผสมว่าน
    วัสดุที่ใช้ในการสร้าง “อิ้น” นั้น มีทั้ง ไม้นามมงคล เช่น ไม้มะยม ไม้รัก ไม้คูณ ไม้มะรุม กาฝาก, โลหะ พวก เงิน ทอง นาก สัมฤทธิ์, ดินเจ็ดป่าช้า เจ็ดท่า เจ็ดกลางใจเมือง, ผงยา รวมไปถึงอัญมณีต่างๆ โดยหลักการใช้ “อิ้น” ตามแบบฉบับล้านนาโบราณนั้นกล่าวไว้ว่า ‘อิ้นต้องคู่กับน้ำมัน’ การใช้อิ้นที่ถูกต้อง คือ ใช้น้ำมันที่แช่อิ้นมาทาตัวถึงจะเกิดผลดีทางเสน่ห์เมตตามหานิยม ใช้น้ำมันแตะตัวก่อนออกจากบ้านก็เสมือนพกอิ้นไปด้วยเช่นกัน แต่หากจะมีพกไว้ติดตัวก็ย่อมได้ โดยเวลาแตะน้ำมันทาตัวหรือก่อนพกอิ้นออกจากบ้านต้องท่อง “คาถาอิ้น” ด้วยจิตใจที่ศรัทธาไปด้วย
    อิ้นล้านนาโบราณ เนื้อโลหะ
    คาถาบูชาอิ้น ก็มีมากมายหลายบทหลายที่มา แต่ให้คุณเช่นเดียวกันหมด ยกตัวอย่างเป็นการปิดท้ายไว้สักบทครับผม
    ´โอมละลวยมหาละลวย ละลวยหน้า ละลวยหลัง ละลวยทั้งอินทร์ พรหม ยมราช อากาศ เทพยดา ละลวยทั้งพระแม่คงคา มาช่วยคํ้าคู่สู่องค์ สัพพะสิทธิสวาหะ โอมละลวยมหาละลวย ละลวยทั้งจิต ละลวยทั้งใจ กูจะเสกใส่นวดให้สาวแล่นมาหากูเน้อ กูจะเสกใส่นํ้ามันงาให้สาวพระยาแล่นมาสู่กูเน้อ สาวอยู่มิได้ร้องไห้มาหากู โอมสวาโหมติด โอมละลวยมหาละลวย กูจักละลวยเอาเขาพระสุเมน ก็อ่วยหน้าทบ ก็อ่วยหน้าท่าว กูจักอ้าปากอ่วยขัน นางก็ย่อมพึงใจ โอมสวาโหมติด´

    #เปิดราคาบูชาที่ 600฿ พร้อมส่งคับ




     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่7
    ลูกอมชุนช้าง ครูบาออ ปัณฑิต๊ะ พระธาตุดอย จ อมแวะ จ.เชียงใหม่.
    คำอธิบายเพิ่มเติม :
    เปิดมหาตำนานเจ้าแห่งยอดมหาทรัพย์ มหาเศรษฐี มหาสมบัติ ยอดแห่งยศฐาบรรดาศักดิ์ มีกินมีใช้ไม่ขาดมือ ค้าขายดีเจริญรุ่งเรือง ผู้ที่มากด้วยสมบัติพัสสถาน
    #ขุนช้างรุ่นแรก (มหาลาภ 100 ปี) หลวงปู่ครูบาออ ปัณฑิต๊ะ”
    สุดยอดพระมหาเกจิเถราจารย์ ผู้มากด้วยอาคมขลังชาวไทใหญ่ แห่งยอดเขาพระธาตุดอยจอมแวะ
    เนื่องในโอกาสที่องค์หลวงปู่ครูบาท่าน เจริญอายุวัฒนมงคลครบ 100 ปี
    ทางศิษยานุศิษย์จึงได้ร่วมใจกันจัดสร้างสุดยอดวัตถุมงคลที่จะเป็นตำนานแห่งยุค เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสนี้
    #รูปแบบของวัตถุมงคลชุดนี้ #ด้านหน้าเป็นขุนช้างนั่งถือถุงมหาสมบัติ ชันเข่า เป็นอากับกิริยาตามตำรับของมหาเศรษฐีในโบราณ ด้านหลังยิ่งงดงามด้วยการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียว ที่ไม่มีใครเหมือน
    #ล้อมรอบด้วยคาถาเรียกทรัพย์ตามตำรับหอคำหลวง ที่หลวงปู่ยังไม่เคยมอบให้มาบรรจุในวัตถุมงคลรุ่นไหนของท่าน
    #แพะนำโชคถูกออกแบบให้อยู่ในหยดน้ำ บ่งบอกถึงโชคลาภเงินทอง เพราะแพะถือว่าเป็นสัตว์แห่งโชคลาภ และปีนี้เป็นปีแพะ ซึ่งหลวงปู่มีอายุครบ 100 ปีพอดี

    #วัตถุประสงค์เพื่อ จัดซื้อเครื่องสาธารณูปโภค ไว้บนสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ เช่น ถังน้ำคลูเลอร์ หม้อ ถาด จาน ชาม ถ้วย ช้อน เป็นต้น ซึ่งทางสำนักสงฆ์ยังขาดแคลนอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อมีงานบุญประเพณี มักไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งมีศิษยานุศิษย์ทั่วทุกสารทิศ เดินทางมาร่วมงานและนมัสการองค์หลวงปู่ครูบาเพิ่มขึ้นทุกปี และอีกส่วนยังถวายหลวงปู่ครูบาออ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆภายในสำนักสงฆ์พระธาตุดอยแวะ

    มวลสารหลักชุดแรกในการจัดสร้าง ขุนช้างรุ่นแรก (มหาลาภ100ปี) ครูบาออ ปัณฑิต๊ะ สำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ รายละเอียดมวลสารต่างๆดังนี้

    #ชานหมากหลวงปู่ครูบาจันทร์ โชติโก

    #ชานหมากหลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี

    #ชานหมากเปียกหลวงปู่ครูบาออ ปัณฑิต๊ะ

    #ผงแป้งเจิมในงานพิธีพุทธาภิเษก 9 พิธี

    #ว่านเสน่ห์จันขาว

    #ผงไม้ตะเคียนตายพราย

    #ข้าวก้นบาตรหลวงปู่ครูบาออ

    #รากว่านมหาทรัพย์ เงินไหลกอง

    #ว่านเศรษฐีใหญ่

    ##ดอกบัวอธิษฐานหลวงปู่ครูบาออ

    #ดอกไม้มงคลในงานพุทธาภิเษก

    #ผงไม้เครือเขาหลงป่า ตัวผู้

    #ขี้ผึ้งบิกเนตรพระพุทธรูป 9 องค์

    และสุดยอดมวลสารหลวงพ่อรักษ์ อนาลโย #ยอดพระเกจิดังแห่งเมืองกรุงเก่า วัดสุทธาวาส วิปัสนา จ.พระนครศรีอยุทธยา ที่ท่านเมตตามอบมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมายให้นำมาผสมหลอมรวมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ อาทิเช่น

    1.#ผงว่าน๑o๘

    2.#ผงธูปบูชาพระธาตุ

    3.#ผงเกษรดอกไม้บูชาพระ

    4.#ผงเกษรดอกไม้ บูชาครูของหลวงพ่อรักษ์ อนาลโย

    5.#ผงพรายกุมาร

    6.#ผงยันต์ศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงพ่อรักษ์ ประกอบพิธีลบผงยันต์ อาทิ..

    #ผงปถมัง - #ผงนะมหาเศรษฐี - #ผงอิทธิเจ - #ผงนะหน้าทอง - #ผงตรนิสิงเห - #ผงนะปัดตลอด - #ผงมหาราช - #ผงยันต์๕ยอด - #ผงธาตุสี่ - #ผงยันต์บารมี๓oทัศ #ผงยันต์องค์พระ ตามตำหรับวัดประดู่ทรงธรรม 9ล9

    #เปิดราคาบูชา350฿ พร้อมส่งคับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    #รายการที่8
    รายละเอียด ลูกอมดอกดาวเรือง+ลูกอมขุนช้าง หลวงปู่ครูบาออ ปัณฑิต๊ะ แห่งสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ พุทธคุณ ใช้ได้108ประการให้ตั้งจิตอธิฐาน เป็นสุดยอดของมงคล ที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย จะเด่นในเรื่องโชคลาภค้าขายรุ่งเรืองลูกค้าเมตตาไหลมาเทมาไม่ขาด ทำมาหากินง่ายเป็นเมตตาช่วยให้ร่ำรวย สวยเดิมน่าเก็บน่าใช้ครับ
    #เปิดบูชา 700฿ พร้อมส่ง
    (ประวัติครูบาออ)

    ครูบาออ ปัณฑิต๊ะ แห่งสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ อ.เชียง ดาวจ.เชียงใหม่4 ปีที่ผ่าน
    พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแดนเหนือ "หลวงปู่ครูบาออ ปัณฑิต๊ะ" สิริอายุ 99 ปี (นับอายุตามปีของชาวไทใหญ่) แห่งสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ อ.เชียง ดาว จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมอย่างมาก
    ตามประวัติท่านเป็นครูบาผู้เฒ่าที่มากด้วยวิชาขมังเวท เจ้าอาคมชาวไทยใหญ่ ปลีกตัว เร้นกายอยู่บนดอยสูงเพียงรูปเดียว
    "ครูบาออ" รูปนี้ท่านเป็นที่เคารพศรัทธาจากประชาชนรัฐไทยใหญ่มาก
    "เจ้าฟ้าแสงเชียง" เจ้าแผ่นดินรัฐฉานหรือไทยใหญ่ เป็นผู้สักสังวาลเพชรบนศีรษะท่านตอนอายุ 20 ปี เพราะโปรดที่ "นายออ" ตอนนั้นเป็นทหารกล้า นำพากองทัพไทยใหญ่รบชนะข้าศึก โดยไม่เสียกำลังพลแม้แต่คนเดียว
    จากคำบอกเล่าของท่าน "เจ้าปิ่นยา" พระสังฆราชไทยใหญ่ เป็นผู้บวชให้ เมื่อบวชแล้วท่านศึกษาอักขระ ตำราเลขยันต์ฉบับหอคำหลวง เจนจบพุทธาคม จนได้รับการวางตัว เป็นพระมหาเถระองค์ต่อไป
    ท่านเรืองวิชาตั้งแต่เป็นสามเณร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้ถูกเกณฑ์เป็นทหารไทยใหญ่ รบกับพม่า ทั้งกองร้อยรบไม่เคยแพ้ เพราะก่อนรบท่านทำน้ำมนต์และสักกระหม่อมให้เพื่อนทหารสู้กับศัตรู ปรากฏว่า ปืนทหารพม่ายิงมาไม่ออกบ้าง ออกแต่ไม่ถูกบ้าง ลูกระเบิดตกใกล้ๆ ไม่ระเบิดบ้าง แม้ตอนนี้เจ้ายอดศึก ผู้นำไทยใหญ่ ก็เคารพนับถือท่านอย่างที่สุด
    หลวงปู่ครูบาออ ปณฺฑิต๊ะ ปัจจุบันอายุย่างเข้าได้ 100 ปี
    เจ้าสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
    ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศเหนือโดยประมาณ 110 กิโลเมตร
    หลวงปู่ครูบาออ ปณฺฑิต๊ะ ท่านเกิดวันอังคาร เดือนสิบสองไตยใหญ่ตรงกับเดือนพฤศจิกายนของไทยเรา
    เมื่อปีพุทธศักราช 2461 ปีขาล ที่หมู่บ้านน้ำหน่อ ตำบลปางซาง จังหวัดลายข่า ประเทศพม่า(รัฐฉานไทยใหญ่)
    บิดาเป็นกำนันชื่อนายจั่นตา มารดาชื่อนางเห็งแปรมีพี่น้องร่วมกันทั้งหมด 10 คน
    หลวงปู่ครูบาออ เป็นคนที่ 10 ของครอบครัว
    ปัจจุบันพี่น้องได้เสียชีวิตไปหมดแล้วคงเหลือแต่หลวงปู่ครูบาออท่านเดียวท่านยังมีหลานๆ อยู่ในตำบลเมืองนะ
    หลายคนในปัจจุบัน ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 7 ขวบจนถึงอายุได้ 15 ปี
    เกิดสงครามโลกครั้งที่๒ท่านได้ลาสิกขาไปเป็นทหารร่วมรบกับกองกำลังทหารไทยใหญ่ในฐานะผู้นำทัพ(เทียบเท่านายพลของไทย) พอปลดจากทหารแล้วท่านได้กลับมาอุปสมบทอีกครั้งโดยมีเจ้าปิ่นยา สังฆราชของไทยใหญ่บวชให้เมื่อราวปีพุทธศักราช 2497
    ท่านเคร่งครัดในวินัยการปฏิบัติของสงฆ์เป็นอย่างยิ่ง ใช้ชีวิตสันโดษสมถะ เรียบง่ายและมีความมานะอดทนสูงที่บนสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีชาวบ้านสักหลังคาเรือน แต่ท่านอยู่ได้ถือได้ว่าท่านเป็นพระเกจิสุปะฏิปันโณที่น่าศรัทธาเลื่อมใสรูปหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าใครได้พบเห็นหลวงปู่ครูบาออจะมีความศรัทธาเลื่อมใสแทบจะในทันทีแล้วตรงเข้ามากราบไหว้ด้วยใจศรัทธาเลื่อมใสโดยปกติท่านจะมีเมตตาต่อญาติโยมทุกๆคนที่เข้าไปกราบไหว้หลวงปู่ครูบาออไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตามและใครก็ตามท่านจะมีเมตตาให้เสมอในด้านความเข้มขลังในวิทยาและอาคมกล่าวได้ว่าสุดยอดเลยทีเดียว
    หลวงปู่ครูบาออได้ร่ำเรียนจากตำราบ้างครูบาอาจารย์ของท่านจำนวน 9 รูป
    ปัจจุบันยังคงเหลืออยู่ ๑รูปอยู่ที่ประเทศพม่ารัฐฉานไทยใหญ่เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาอาคมและการปฏิบัติตน
    ในแบบฉบับวิปัสสะนากรรมฐานสันโดดตอนที่เป็นทหารนั้น
    ท่านก็ยังเป็นหมอรักษาผู้ป่วยด้วยวิชาอาคมจนหายนับไม่ถ้วนจนเป็นที่เล่าขานมาทุกวันนี
    ในรอบ 1 ปีพลโทเจ้ายอดศึกผู้นำทหารไทยใหญ่รัฐฉานต้องมากราบไหว้และ
    ลงอักขระสำทับวิชาอาคมในตัวโดยอาราธนาหลวงปู่ครูบาออทำพิธีตามแบบไทยใหญ่เพื่อความเป็นศิริมงคล
    แก่ชีวิตเพิ่มความเข้มขลังขมังเวทย์อยู่ยงคงกระพันใว้ป้องกันภัยสาระพัดในสนามรบที่ล้วนมีแต่อันตรายทุกนาที
    หลวงปู่ครูบาออได้มอบหมายให้ลูกศิษย์จัดสร้างวัตถุมงคลมาหลายชนิดทั้งที่บันทึกไว้
    และไม่ได้บันทึกไว้เมื่อสร้างแล้วลงอักขระสำทับวิชาอาคมทำพิธีตามแบบไทยใหญ่แล้วปลุกเสกหลัง
    จากนั้นมอบให้ลูกศิษย์แจกจ่ายให้ทหารและชาวบ้านบ้างพ่อค้าแม่ค้าบ้างนำไปใช้จนเกิดผลสำเร็จทุกคนปัจจุบันหายากสุดๆ

    เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556 เวลาประมาณ 12.20 น. คณะศรัทธาศิษยานุศิษย์ นำโดย คุณสุทิน แซ่ล่าย บ้านบุญนาค อ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้มากราบนมัสการ-ร่วมทำบุญ กับหลวงปู่ครูบาออ ปณฺฑิต๊ะ วัดดอยธาตุเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลังจากทำบุญเสร็จแล้วได้ออกจากวัด โดยขับรถนิสสัน นาวาร่า สีทอง เลขทะเบียน กค 1768 พะเยา ออกจากสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะโดยมีผู้โดยสารทั้งหมด 6 คน ได้เกิดประสบอุบัติเหตุขณะลงจากดอย รถได้เสียหลักพุ่งชนโขดหิน เพราะคนขับไม่ชำนาญทาง จนทำให้รถพลิกคว่ำหลายตลบ แต่ปรากฏว่า ทั้ง 6 คน บาดเจ็บเล็กน้อย-รอดตาย ราวปาฏิหาริย์ ทุกคนต่างเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีหลวงปู่ครูบาออ ปัณฑิต๊ะที่ได้ี่ให้พรแคล้วคลาด ปลอดภัย และทุกคนต่างมีเฉพาะวัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาออ เช่น เหรียญรุ่นแรกและตะกรุดโทนหนึ่งไตรมาส เรื่องนี้ได้รับแจ้งความจาก คุณสุทิน แซ่ล่าย ถึงอุบัติเหตุครั้งนี้ โดยรับแจ้งจากสถานีตำรวจภูธร ต.นาหวาย อ.เชียงดาว ร้อยเวรผู้รับแจ้งความ คือ พันตำรวจโท ไชยา คนชอบ และดาบตำรวจ สุวรรณ เอ้ยวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำหลักฐานการแจ้งความไปกระกอบในการขอประกันภัยรถยนต์
    ครูบาออ รูปนี้ แม้วัยชรา ก็มีวิชาดี มีบารมีมาก ท่านแบกกลด ธุดงค์จากฝั่งไทยใหญ่ พม่า มาดอยจอมแวะ เพียงรูปเดียว ค่ำไหนนอนนั่น ถ้ำลึกลับ ป่าช้ารก เป็นที่อาศัย ผจญภูตผีปีศาจ เจ้าป่าเจ้าเขา ผ่านมาได้หมด
    เจ้าฟ้าแสงเชียง เจ้าแผ่นดินรัฐฉาน ไทยใหญ่ เป็นผู้สักสังวาลเพชร บนศีรษะท่านเมื่ออายุ 20 ปี เพราะโปรดที่ครูบาออ ตอนนั้นเป็นทหารกล้า นำพากองทัพไทยใหญ่รบชนะข้าศึกโดยไม่เสียกำลังพลแม้แต่คนเดียว ตอนบวช เจ้าปิ่นยา สังฆราชไทยใหญ่ บวชให้ เมื่อบวชแล้วท่านศึกษาอักขระ ตำราเลขยันต์ฉบับหอคำหลวง เจนจบพุทธาคม จนได้รับการวางตัว เป็นพระมหาเถระองค์ต่อไป
    ท่านขมังเวทย์ เรืองวิชาตั้งแต่เป็นเณร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านถูกเกณฑ์เป็นทหารไทยใหญ่ รบกับพม่า กองร้อยของท่านทั้งกองร้อย รบไม่เคยแพ้ ไม่ตาย ไม่เจ็บ เพราะก่อนรบ ท่านทำน้ำมนต์ทั้งสักกระหม่อมให้เพื่อนทหารสู้กับศัตรู ปรากฏว่า ปืนทหารพม่ายิงมาไม่ออกบ้าง ออกแต่ไม่ถูกบ้าง ลูกระเบิดตกใกล้ๆ ไม่ระเบิดบ้าง แม้ตอนนี้ เจ้ายอดศึก ผู้นำไทยใหญ่ ก็เคารพนับถือท่านอย่างที่สุด
    เรื่องเล่าจากศิษย์กรุงเทพฯ ขึ้นดอยไปกราบท่าน ขณะคุยอยู่เห็นเมฆฝนตั้งเค้าดำทะมึน ก็จะรีบลาท่านกลับ เพราะขืนช้า ฝนตกหนัก ดินลื่น น้ำหลาก จะลงดอยไม่ได้ ท่านห้ามไม่ให้กลับ แล้วก็คว้าผ้าเช็ดปากเดินไปที่ลานดิน ท่านเอาผ้าเช็ดปาก โบกอากาศไปมาอยู่ 3-4 ครั้ง ปากก็ว่าคาถาขมุบขมิบ แล้วก็เดินกลับ!! อัศจรรย์!! เมฆฝนดำทมึน ค่อยๆ จางหายไป กลับมีแสงอาทิตย์ส่องผ่านเมฆมาแทน ปรากฏว่า ดอยจอมแวะ ทั้งดอยฝนไม่ตก แต่ตกรอบอำเภอเชียงดาวแทน แบบไม่ลืมหูลืมตา
    เรื่องเล่าจากศิษย์เชียงใหม่ นักธุรกิจน้ำดื่ม ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อนเลย ตอนกลางคืนหลับฝันว่าได้ขึ้นไปกราบพระชรา บนดอยสูง พระรูปนี้ ในฝันจำได้แม่น เพราะท่านสักยันต์รูปสี่เหลี่ยมสีทองไว้รอบศีรษะ ตื่นขึ้นมาก็เล่าความฝันให้ลูกน้องฟัง บังเอิญลูกน้องเป็นคนเชียงดาว ก็นึกถึงครูบาออ ว่าลักษณะตรงกับในฝัน เลยพากันขึ้นดอย ไปกราบท่าน เมื่อพบหน้าก็ต้องตะลึง ขนลุกทั้งตัว เพราะครูบาออ คือพระชราที่ตนฝันถึง เพราะจำใบหน้าเหี่ยวย่นได้ ที่สำคัญจำรอยสักยันต์สี่เหลี่ยมรอบศีรษะท่านได้แม่นยำ
    เรื่องเล่าจากหลานท่านเอง หลานท่าน
    ปลูกบ้านอยู่เชิงดอย สองวันบ้าง สามวันบ้าง จะขึ้นไปกราบท่านนำน้ำบ้าง อาหารแห้งบ้าง ไปถวาย มีช่วงหนึ่ง งานมาก เลยไม่ได้ขึ้นไปหาท่าน ตอนเช้าจะออกไปรับจ้าง พอเปิดประตูบ้าน ก็เห็นครูบาออ ในมือถือกาน้ำ ออกเดินนำหน้าอยู่ ก็นึกแปลกใจว่า ท่านลงจากดอยมาได้ยังไงกัน ทางก็ไกล ทั้งลาดชัน ขึ้นลงลำบาก สักครู่ ร่างท่านก็หายไป ก็เลยตัดสินใจไม่ไปรับจ้าง แต่นำน้ำดื่มขึ้นไปหาท่านแทน พอเจอหน้ากัน ท่านก็ทักเป็นภาษาไทยใหญ่ว่า “หายไปนาน น้ำดื่มหมดแล้ว กลัวว่าเดี๋ยวจะออกจากบ้านไปก่อน ก็เลยรีบมาเตือนให้นำน้ำดื่มขึ้นมาให้ด้วย”
    เรื่องเล่าจากหลวงพี่นิ่ม พระสงฆ์รูปหนึ่ง ชอบฝากตนเป็นศิษย์หลวงปู่ หลวงพ่อต่างๆ และศึกษาทางจิตศาสตร์ สักยันต์ลงของได้ มีวิชาอาคมพอสมควร ได้ขึ้นไปกราบครูบาออ ขอเรียนวิชาด้วย ความที่อยู่บนดอยสูงภาคเหนือจึงฉันภัตตาหารแบบตามมีตามเกิด คือข้าวนึ่ง น้ำพริก ผักจิ้ม ยืนพื้น ครั้นอยู่นานเป็นสัปดาห์ก็เบื่ออาหาร ฉันได้น้อยลง ครูบาออ ท่านคงรู้อาการ เย็นวันหนึ่ง เห็นท่านเอากระป๋องพลาสติกเปล่าๆ ไปแขวนไว้บนต้นไม้ พอตอนเช้ามาท่านบอกให้ไปดูที่กระป๋อง ก็เจอคราบน้ำ และพบปลาช่อนตัวเขื่องอยู่ในนั้น 1 ตัว มีน้ำพอท่วมหลังปลา พอดีกับศิษย์ท่านขึ้นมากราบท่าน จึงนำปลาช่อนทำอาหารถวายพระ พระนิ่มเล่าว่า วันนั้นฉันอาหารได้มากเป็นพิเศษ ที่อร่อยคือ เนื้อปลาช่อนที่ครูบาออ ดักด้วยกระป๋องเปล่าบนต้นไม้กลางดอยสูง น่าแปลก ปลาช่อนนา ขึ้นไปอยู่ในกระป๋องที่แขวนไว้บนต้นไม้ กลางดอยสูงได้อย่างไร....
    และวันละสังขารของท่าน ท่านจากไปด้วยการนั่งสมาธิในตอนเช้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    #รายการที่9
    #เหรียญรายเช็นรุ่น1หลวงปูทองวัดพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
    #เปิดราคาบูชา 600฿พร้อมส่ง
    ธนาคาร กรุงไทย สาขาดอยสะเก็ดเชียงใหม่
    ชื่อบัญชี นายวรพจน์ แก้วดุลดุก
    เลขบัญชี672-8-38343-3
    เบอร์โทรติดต่อ 0826218049 จาเชียงใหม่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2019
  11. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่10
    ขออนุญาติเปิดแบ่งปันคับ เอาราคาจองออกวัดเลยคับ 1050฿ พร้อมส่ง ราคาจองก่1000 คับสนใจพิมพ์ปิดคับ
    #เปิดคับสนใจทักหรือโทร0826218049
    ราคาขนมคับกำไรนิดหน่อยก่เอาละจ๋า
    รับประกันแท้ทุกวินาที
    #พระสมเด็จหลังท้าวเวสสุวรรณ
    วัดดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยการปกครองของพระใบฏีกาเจริญศักดิ์ สิริภัทโท เจ้าอาวาสนักพัฒนา ได้จัดทำโครงการเผยแพร่ธรรมปฎิบัติให้แก่ชาวบ้านและเยาวชน มีการเปิดการเรียนการสอนพระพุทธศานาวันอาทิตย์ให้แก่เยาวชน มีการอบรมปฏิบัติสมาธิให้แก่อุบาสกอุบาสิกาทุกๆวันธรรมสวนะ มีการมอบทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนที่มีการศึกษาดีแต่ยากจน โดยมีวัดเป็นหลักในการให้การศึกษาฝึกอบรมบ่มนิสัย ร่วมกับทางเทศบาลตำบลดอนแก้วในการนี้ทางวัดได้ทำการก่อสร้างหอพระไตรกลางน้ำ เพื่อจะได้ใช้สถานที่นี้ในการปฎิบัติธรรม เป็นถาวรวัตถุสืบทอดไว้ในพระพุทธศาสนาและใช้เป็นที่อบรมพุทธศาสนิกชนซึ่งในปัจจุบันยังขาดทุนทรัพย์อีกจำนวนหนึ่ง ทางวัดจึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลใน

    รูปพระสมเด็จเนื้อโลหะด้านหลังเป็นรูปท้าวเวสสุวรรณ โดยได้นำโลหะชนวนที่หลอมเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกชนวนที่วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม เมื่อวันที่16 สิงหาคม 2557 และนำโลหะเข้าร่วมพิธีพุทธาพิธีเษกที่วัดสันป่าข่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อีกครั้ง เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2557และจะมีพิธีพุทธาภิเษกที่วัดดอนแก้วในวันที่ 1 พฤศจิกายน2557 โดยนิมนต์พระผู้ทรง

    คุณวุฒิแห่งล้านนามาร่วมพิธีพุทธาภิเศกเทวาภิเศก ในกาารนี้ได้นิมนต์หลวงพ่ออิฎฐ์ เจ้าอาวาสวัดจุฬามณี ศิษย์เอกของหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี จ.สมุทรสาคร มาเป็นองค์ประธาน

    ประวัติองค์ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นอธิบดีแห่งอสูรย์หรือยักษ์ หรือเป็นเจ้าแห่งผี เป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุ ทรงอิทธิฤทธิ์อานุภาพมากประทับ ณ โลกบาลทิศเหนือ

    มียักษ์เป็นบริวาร คนไทยโบราณนิยมนำผ้ายันต์รูปยักษ์ผูกไว้ที่หัวเตียงเด็ก เพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้ายไม่ให้มารังควาญแก่เด็ก ท้าวกุเวรองค์นี้มีกล่าวถึงในอาฏานาฏิยปริตว่านำเทวดาในสวรรค์ชั้นจตุมหา ราชิกา มาเฝ้าพระพุทธเจ้าและได้ถวายสัตย์ที่จะดูแลพระพุทธเจ้าและเหล่าสาวก ไม่ให้ยักษ์หรือบริวารอื่นๆ ของท้าวจตุโลกบาลไปรังควาญท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งมีท้าวมหาราชทั้งสี่ปกครอง คือ ท้าวธตรัฏฐะ ท้าววิรุฬหกะ ท้าววิรูปักชะ และท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) ประจำทิศต่างๆ ทั้งสี่ทิศโดยเฉพาะท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) เป็นใหญ่ปกครองบริวารทางทิศเหนือ ว่ากันว่าอาณาเขตที่ท้าวเธอดูแลปกครองรับผิดชอบมีอาณาเขตใหญ่โตมหาศาล กว้างขวาง และเป็นใหญ่ (หัวหน้าท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ) กว่าท้าวมหาราชองค์อื่นท้าวเวสสุวรรณ เป็น เทพแห่งขุมทรัพย์ เป็น มหาเทพแห่งความร่ำรวย มั่งคั่ง รักษาสมบัติของเทวโลก ทั้งเป็นเจ้านายปกครองดูแลพวกยักษ์ ภูตผีปีศาจทั้งปวง (ในคัมภีร์เทวภูมิ กล่าวไว้ว่า ท้าวเวสสุวรรณได้บำเพ็ญบารมี มาหลายพันปี รับพรจาก พระอิศวร พระพรหม ให้เป็นเทพแห่งความร่ำรวย ) นอกจากนี้หน้าที่ของท้าวเวสสุวรรณมีมากมาย เช่น การดูแลปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา, ปกป้องคุ้มครองแก่ผู้นั่งสมาธิปฏิบัติพระกรรมฐาน เป็นต้นในคัมภีร์โบราณ ได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดหวัง ความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ให้บูชารูป ท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวกุเวร

    ท้าวเวสสุวรรณ มีทั้งหมด 4 ภาค

    - ท้าวเวสสุวรรณพรหมาสูติเทพ ชั้นพรหม มีรูปกายสีทอง ภูษาสีทอง
    - ท้าวเวสสุวรรณเทพบุตรสูติเทพ ชั้นดาวดึงค์ มีรูปกายสีทอง ภูษาสีแดง
    - ท้าวเวสสุวรรณ จาตุมมหาราช มีรูปกายสีเขียวหรือดำ ภูษาสีเขียว
    - ท้าวเวสสุวรรณ ชั้นมนุษย์ มาในรูปแบบมนุษย์

    คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ

    จุดธูป 9 ดอก ดอกกุหลาบแดง 9 ดอก
    ตั้ง นะโม 3 จบ ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดา มารดา ครูบาอาจารย์

    ปุตตะ กาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง
    อัตถิกาเย กายะญายะ เทวานัง ปิยะตังสุตตะวา
    อิติปิโส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ
    มรณังสุขัง อะหังสุคะโต นะโมพุทธายะ
    ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชาชิกา ยักขะพันตา ภัทภูริโต
    เวสสะ พุสะ พุทธัง อรหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธา
    #เปิดแบ่งบูชา 2500฿ คับ
    รับประกันแท้ตามหลักสากล
    ปิดบูชานอกเว็บ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2019
  12. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่10
    #เกษาพิมพ์พระรอดครูบาขาวปี ราคาหลักร้อยพุทธคุณหลักล้านคับ
    พระเกศาในลักษณะนี้ จะถูกสร้างขึ้นในยุคของลูกศิษย์ของครูบาบาเจ้าศรีวิชัย นั้นก็คือ ครูบาอภิชัยขาวปี แห่งวัดพระพุทธบาทผาหนาม นั้นเอง
    ในข้อมูลเบื้องต้น มีข้อถกเถียงกันมากว่า พระเกศาพิมพ์พระรอด พระเกศาพิมพ์พระคง หรือ พระเกศาพิมพ์อื่นๆ นั้นที่พบเห็น จะมีเหล็กหรือบางองค์เป็นลวดทองแดงเสียบเพื่อที่จะทำเป็นบ่วงคล้องเชือกเพื่อห้อยคอหรือคล้องเชือกสาย ตะกรุด ....สรุปว่าเป็นเกศา ของใครกันแน่ ????
    ผู้เขียนขอ อธิบายแตกออกมาดังนี้
    +++ 1.ถ้าเป็นเกศา พิมพ์ อะไรก็แล้วแต่ ถ้ามีลวดหรือ ทองแดงเสียบเพื่อทำบ่วง และ ด้านหลังองค์พระ (มี) รอยจาร คำว่า อุ หรือ ตัวอักษร ป.(ปลา) ถือว่าเป็นพระเกศา ครูบาอภิชัยขาวปี
    +++ 2.ถ้าเป็นเกศา พิมพ์ อะไรก็แล้วแต่ ถ้ามีลวดหรือ ทองแดงเสียบเพื่อทำบ่วง และ ด้านหลังองค์พระ (ไม่มี) รอยจาร คำว่า อุ หรือ ตัวอักษร ป.(ปลา) เป็นเรียบๆ ถือว่าเป็นพระเกศา ครูบาเจ้าศรีวิชัย แต่ถูกสร้างขึ้นโดยครูบาอภิชัยขาวปี โดยเส้นเกศาเหล่านั้น ครูบาอภิชัยขาวปีได้เป็นผู้เก็บรักษาไว้ เป็นจำนวนหนึ่ง และในเวลาต่อมาจึงได้นำมาจัดสร้าง โดยได้จัดสร้างพร้อมๆกับ พระเกศาครูบาอภิชัยขาวปีนั้นเอง
    +++ 3.ถ้าเป็นเกศา พิมพ์ อะไรก็แล้วแต่ (ไม่มี)ลวดหรือ ทองแดงเสียบเพื่อทำบ่วง ด้านหลังองค์พระ (ไม่มี) รอยจาร คำว่า อุ หรือ ตัวอักษร ป.(ปลา) เป็นเรียบๆ ถือว่าเป็นพระเกศา ครูบาเจ้าศรีวิชัย โดยจัดสร้างขึนโดยชาวบ้านผู้เคารพ และศรัทรา องค์ครูบาเจ้า ส่วนใหญ่จะถูกกดพิมพ์ จากพระนิยมเนื้อดิน ในจังหวัดลำพูน เพื่อชาวบ้านจะได้เก็บรักษา พระเกศาครูบา หรือบ้างพกพานำติดตัวไว้เพื่อป้องกันภัย ตามความเชื่อ ของชาวบ้านแต่ละบุคคล บ้างก็จะมีรอยจาร บ้างก็จะไม่มีรอยจาร บางองค์ก็จะ ปิดทองรองชาด เพื่อเป็นรักษาองค์พระไว้ แต่ก็มิได้หมายความว่า การที่ ปิดทองรองชาติ จะถึอว่าเป็นยุคต้น เสมอไปไม่ได้ จะต้องพิจารณา จากเพื่อผงใบลานหรือรักเป็นจุดหลัก โดยจะแบ่งแยกออกเป็น สามยุคสมัย
    ++ 3.1 ยุคต้น (สมัยครูบาเจ้ายังมีชีวิตอยู่)
    ++ 3.2 ยุคกลาง (เป็นยุคช่วง ปี 2481 ถึง ปี 2500 สร้างโดยศิษย์)
    ++ 3.3 ยุคปลาย ( เป็นยุคช่วง ปี 2500 เป็นต้นไปสร้างโดยศิษย์ )
    อ้างอิงจาก เวบไซท์ www.Plalanna.com โดย : พระช้างเผือก
    #เปิดราคาบูชา 800 ฿พร้อมส่ง
    ปิดการขายคับ ปิดนอกเว็บไซต์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2019
  13. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่11
    ชื่อพระเครื่อง เหรียญครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลัง เชียงใหม่ รุ่น ฉลองอายุ 97 ปี 2541
    รายละเอียด “พระครูวรวุฒิคุณ” หรือ “หลวงปู่ครูบาอิน อินโท” หรือ “ครูบาฟ้าหลั่ง-ฟ้าลั่น” อมตะมหาเถราจารย์แห่งนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ผู้สูงยิ่งด้วยศีล จริยาวัตร และพุทธาคม เชี่ยวชาญสรรพวิชาตามตำราโบราณล้านนา จนเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ดังคำกล่าวของบรรดาพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ว่า

    “ขอเธอจงไปกราบครูบาอินที่เชียงใหม่และขอศึกษาวิชาจากท่านให้ดีๆ เถิด ท่านเป็นพระผู้เก่งกล้าสามารถมากจริงๆ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม บ้านบ้านเเค ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท

    “ดีอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว พระของครูบาอิน ไม่ต้องเสกอะไรอีกแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

    “จิตของครูบาอิน ประภัสสรยิ่งแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อชม วัดโป่ง จังหวัดชลบุรี

    “ครูบาอิน ท่านมีจิตมีจิตบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งเลยทีเดียว” เป็นคำกล่าวของครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน

    “หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งนั้น ดีที่หนึ่งเลย” เป็นคำกล่าวของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง ตำบลบ้านถ้ำ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

    “ครูบาอินท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบนะ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต บ้านลูกกลอน ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ฯลฯ

    *******

    สวยเดิมๆ
    #ราคาบูชา 350฿ พร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่12
    #เปิดๆคับ ราคาหลักร้อยพุทธคุณหลักล้าน รับประกันแท้ทุกวินาที สนใจทักหรือโทร0826218049
    #ผ้ายันต์พญาเขาคำหลังติดผ้าอาถรรพ์เป็นผ้ายันต์ยุคต้นๆของท่าน
    ผ้ายันต์พญาเขาคำ”เทพผู้ศักดิ์สิทธิ์ของล้านนาบ้างก็ว่าท่านคือกษัตริย์นักรบและนักรัก เป็นรูปกษัตริย์แต่งองค์เครื่องทรงเต็มยศ มีหมวกเป็นรูปเขาทองคำ นั่งกอดหญิงสาวหลายคนตามตำนานได้กล่าวกล่าวไว้ว่า ท่านเป็นผู้ที่มียศถาบรรดาศักดิ์สูง เป็นคหบดีผู้มั่งคั่งร่ำรวย เป็นผู้มีภรรยา4คนที่มักได้เห็นเสมอทุกคนรักใคร่และปองดองกันอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ครูบาอาจารย์พระเกจิล้านนาจึงนำมาเป็นอุปเท่ห์สร้างรูปเคารพของ “พญาเขาคำ”เป็นตัวแทนของความรักและเมตตาและปลุกเสกด้วยมนต์คาถาตามตำราสร้างพญาเขาคำขึ้นมาไว้ให้ลูกศิษย์เอาไว้ใช้บูชา มีความวิเศษในทุกๆด้านครบเครื่องทั้งด้านเมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ และมีวาสนาเป็นใหญ่เป็นโต ในการสร้างพญาเขาคำนั้นมักจะมีการทำในหลายรูปแบบเขียนลงใน ผ้ายันต์บ้าง แกะจากงาช้างเนื้อไม้มงคลเนื้อดินเจ็ดป่าช้า และเนื้อผง ก็มีครับ แล้วแต่ครูอาจารย์ท่านจะสรรสร้างกันแบบไหน ผู้ที่นำพกติดตัวหรือมีไว้บูชาที่บ้านต่างรู้ว่าพญาเขาคำนั้นดีเพียงไร จึงเป็นที่ต้องการของนักสะสมเครื่องรางอย่างกว้างขวาง บางชิ้นราคา6หลักยังไม่ปล่อยกันเลยเพราะของแท้ๆหายากมากครับในปัจจุบัน
    เปิดราคาบูชา 900฿ พร้อมส่งคับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    #รายการที่13เปิดคับสนใจทักหรือโทร0826218049
    เกจิที่มาแรงที่สุดในเวลานี้สุดยอดด้านเมตา
    #พระขุนแผนพรายพูนทรัพย์ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง
    รายละเอียด : พระขุนแผนพรายพูนทรัพย์ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง (สร้างประมาณปี 38-39 จำไม่ได้แน่ชัด) พระขุนแผนพรายพูนทรัพย์ นี้ประกอบไปด้วย มวลสารทางมหาเสน่ห์และโชคลาภล้วนๆ เช่น ว่านกาฝากรัก กาฝากมะยม เครือเถาว์หลง เสน่ห์ขุนแผน นางคุ้ม สาวหลง พลูสองหาง ดินป่าช้า 2 จังหวัด สายสิญจน์มัดตราสังข์ น้ำมันพรายจันหอม(ครูบากฤษดา มอบให้) น้ำมันพรายวันดี (อาจารย์ชัช มอบให้) น้ำมันพรายกมลกาณ (อาจารย์ตี๋ มอบให้) ว่านเงินไหลมา ว่านการะกันถี ตัวผู้ ตัวเมีย ข้าวสารดำ บุษราคัม ทับทิม ฉะนั้น พระขุนแผนพรายพูนทรัพย์ จึงดีเด่นทางมหาเสน่ห์ มหานิยม โชคลาภ พระขุนแผนชุดนี้มวลสารจึงไม่เป็นลอง สำนักใดและพิเศษกว่า คือ ผงที่ใช้คลุกน้ำมันพราย พระขุนแผนพรายพูนทรัพย์ ก่อเกิดประสบการณ์มากมายจริงๆครับ ทั้งทางด้าน เมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ สาวรัก สาวหลง โชคลาภมีมาไม่เคยขาด และยังมีประสบการณ์ ทางด้านคงกระพันชาตรี และมหาอุด ด้วย เรียกว่าครบเครื่อง มีพุทธคุณสูงทุกทาง
    ปิดบูชานอกเวบคับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2019
  16. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    #ks0404 สนใจทักหรือโทร0826218049 รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    #พระสังกัจจายน์ รุ่น "ทวีโชค" สร้างปี พ.ศ 2542 ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง 3
    รายละเอียด พระสังกัจจายน์ ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง 3
    พระสังกัจจายน์ รุ่น "ทวีโชค" สร้างปี พ.ศ 2542 พุทธลักษณะองค์พระสังกัจจายน์นั่งหน้าตรง มือข้างขวาถือถุงเงิน และมือข้างซ้ายถือถุงทอง ด้านหลังองค์พระ มีชื่อครูบากฤษดา และปี พ.ศ. ที่จัดสร้าง
    พระสังกัจจายน์ ใครมีไว้สักการะบูชา จะแคล้วคลาดปลอดภัย จะค้าขายก็ดีเยี่ยม มีแต่โชคลาภวาสนา เมตตามหานิยมอยู่ร่มเย็น อุดมสมบูรณ์ เดินทางปลอดภัย ค้าขายเป็นเลิศครับ
    เนื้อผงไม่มีตะกรุด จำนวนสร้าง 3,000 องค์
    --------------------------------
    พระสังกัจจายน์ พระอสีติมหาสาวก "แห่งโชคลาภ" เป็นพระอรหันต์ 1 ใน 80 พระอสีติมหาสาวกในศาสนาของพระโคตมพุทธเจ้า ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทางผู้อธิบายความย่อให้พิสดาร พระมหากัจจายนมีอีกชื่อหนึ่งว่า กัจจานะ (หรือกัจจายนะ) ในญี่ปุ่นรู้จักทั่วไปในชื่อ "คะเซ็นเน็น" (Kasennen) ส่วนในประเทศไทยนอกจากชื่อตามภาษาบาลีแล้ว ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ "พระสังกัจจายน์" หรือ "พระสังกระจาย"
    พระสังกัจจายน์ มีพุทธลักษณะอ้วน พุงพลุ้ย มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ โชคลาภ เป็นหนึ่งในพระสาวกผู้ใหญ่ จัดอยู่ในเอตทัคคะ ลักษณะของพระสังกัจจายน์ โดดเด่นมองเห็นก็รู้ว่า เป็นพุทธสาวกองค์ไหน
    เมื่อสรุปแล้วจะเห็นว่า พุทธสาวกจำนวน ๘๐ องค์ พระเอตทัคคะ ๔๑ องค์นั้น มีเพียงพระสังกัจจายน์ เท่านั้นที่สร้างอย่างโดดเด่น คติการสร้างพระสังกัจจายน์นิยมการสร้างมาก พระสังกัจจายน์จีน แบบมหายาน หินยาน โดยเฉพาะแบบจีน พระสังกัจจายน์จีนนิยมสร้างมากกว่าในเมือง
    โดยมีคติความเชื่อที่ว่า "ผู้ใดบูชาพระสังกัจจายน์ ย่อมเป็นมหามงคลอุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล"
    เป็นพระพุทธสาวกที่มีความเฉลียวฉลาดมีความรู้ และเป็นที่โปรดของพระพุทธองค์ยิ่งมีบารมี มีอิทธิฤทธิ์ ผู้ใดบูชาพระสังกัจจายน์ จึงได้รับพรจากพุทธสาวก อันเป็นเอตทัคคะอย่างสมบูรณ์ เมื่อพูดถึงเรื่องโชคลาภแท้ที่จริงแล้วชาวพุทธเราจำนวนไม่น้อยต่างได้ลาภอันประเสริฐกันทุกคน ลาภอันประเสริฐที่ว่าคือ "ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" นั่นเองตามบาลีที่ว่า "อโรคฺยาปรฺมา ลาภา"
    ความเชื่อเรื่องการกราบไหว้พระสังกัจจายน์มีอยู่มากทั้งในคติแบบพุทธศาสนาและแบบพระอ้วนของชาวจีน ซึ่งพระสังกัจจายน์เป็นผู้มีบุญบารมีสูงสุดหากนับตามลำดับชั้นเพราะเป็น พระอรหันต์ที่มีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ ใบหน้ายิ้มแย้มและได้ชื่อว่าเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย การบูชาพระสังกัจจายน์ เริ่มจากการตั้งจิตอธิษฐานให้ใจเกิดความมั่นคง แล้วทำการสวดบูชาพระสังกัจจายน์ด้วยพระคาถาว่า
    ตั้งนะโม 3 จบแล้วกล่าว คำบูชาว่า
    “กัจจานะจะมหาเถโร พุทโธ พุทธานัง พุทธะตัง พุทธัญจะ พุทธะสุภา สิตัง พุทธะตังสะมะนุปปัตโต พุทธะโชตัง นะมามิหัง ปิโยเทวะ มะนุสสานัง ปิโยพรหม นะมุตตะโม ปิโยนาคะ สุปันนานัง ปิยินทะริยัง นะมามิหัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ปุริโสชะนา อิถีชะนา ราชาภาคินิ จิตตัง อาคัจฉาหิ ปิยังมะมะ ฯ ”
    จากนั้นให้ใช้มือขวาลูบท้องขององค์พระโดยให้ลูบเป็นวงกลมหมุนตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ แล้วทำการขอพรให้ได้กระทำความดีและประกอบอาชีพอย่างขยันขันแข็งกระทำการใดๆให้สำเร็จ และคำขอพรใดๆต้องเป็นเรื่องที่ดีงามเท่านั้น บางตำราก็กล่าวว่าให้ใช้มือบีบที่หัวเข่าของพระสังกัจจายน์ก็ได้ ดังเช่นที่พระอินทร์เคยนั่งรอพระสังกัจจายน์อยู่นานเพื่อรอฟังธรรม ครั้นพระสังกัจจายน์เดินทางมาแล้ว พระอินทร์ก็ตรงเข้าไปบีบหัวเข่าด้วยความเคารพศรัทธาร้องว่า “พระผู้เป็นเจ้าของเรามาแล้ว” เป็นการอธิษฐานด้วยความดีใจและบันดาลให้เกิดความสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาอันดีงาม
    เคล็ดการบูชา
    ในการบูชาพระสังกัจจายน์นั้นบูชาด้วยธูป 3 ดอก พร้อมดอกไม้สีขาวมีกลิ่นหอมต่างๆ หรือดอกบัว๗ดอก มิว่าจะบูชาด้วยดอกใดให้ใช้ 7 ดอก และควรบูชาสองเวลาคือเช้าก่อนไปทำงานและเย็นก่อนนอน เพื่อขอให้ท่านประสาทพรโชคลาภพูนทวี และมีเคล็ดอย่างนึงว่าพระสังกัจจายน์นั้นหากบูชาไว้ในบ้านให้ปิดทองที่พุงของท่านเชื่อว่าจะมีลาภไหลมาไม่ขาดสาย
    ปิดการขายคับขายนอกเวป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2019
  17. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    รายกานที่15
    ครูบาศรีวิชัย รุ่นสร้างทาง เนื้อแร่ไมก้า
    ราคา : โทรถามคับ0826218049
    รายละเอียด : องค์นี้เป็นพิมพ์กนกนูน หน้าใหม่ในวงการ จากหิ้ง...สุดยอดของพระเครื่องล้านนา ต้องยกให้ ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย โดยเฉพาะเหรียญปี ๒๔๘๒ ซึ่งเช่าหากันที่หลักแสนขึ้นไป ทั้งๆ ที่เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นหลังจากท่านมรณภาพแล้ว ซึ่งชาวเหนือไม่ถือสาในเรื่องนี้ เพราะเป็นรูปของท่านย่อมมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว...สำหรับ พระครูบาเจ้าศรีวิชัย รุ่น “สร้างทางแร่ไมก้า” เป็นพระครูบารุ่นเดียวที่มีพยานบุคคลคนเฒ่าคนแก่เล่าว่า ไปร่วม สร้างทางขึ้นดอยสุเทพ เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๗-๒๔๗๘ ได้รับแจกมา เป็น พระเนื้อดินผสมแร่ไมก้า มี ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์กนกนูน และ พิมพ์กนกจม เนื้อพระส่วนใหญ่สีเทาดำ ส่วนสีแดงมีน้อย เข้าใจว่าเกิดจากการเผาพระใช้ไฟอ่อน เป็นการเผาแบบง่ายๆ ของชาวบ้าน ไม่ได้ใช้เตาเผา มาถึงวันนี้พระรุ่นนี้มีอายุร่วม ๘๐ ปีแล้ว มีความเก่าพอสมควร เนื้อพระแห้งสนิท ดูเก่าใหม่ง่าย สำหรับผู้ศรัทธาท่านครูบา พระรุ่นนี้น่าใช้ที่สุด ราคาถูกกว่าเหรียญครูบาปี ๒๔๘๒ เยอะครับ ขอบคุณข้อมูล จาก คมเลนส์ส่องพระ ประจำวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556 : แล่ม จันท์พิศาโล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่16
    สนใจทักหรือโทร0826218049 ราคาแบ่งปันสาย (ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง)
    ..#เปิดล๊อกเก็ตครูบาคำคง ครูบากฤษดา
    วัดสันพระเจ้าแดง สร้างน้อย
    รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ
    ,,,,#ล๊อกเก็ตครูบาคำคง อดีตพระเกจิอาจารย์วัดห้วยยาบ จัดสร้างในปี พ.ศ 2545 จำนวน องค์ ด้านหลังบรรจุผงว่าน และบรรจุเส้นเกษา พระเกจิหลายท่าน เช่น ครูบาเจ้าศรีวิชัย ครูบาอินตา วัดห้วยไซใต้ ครูบาคำ วัดศรีดอนตัน ครูบาอินตาวัดวังทอง หลวงปู่แหวน หลวงพ่อเกษม หลวงพ่อมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ หลวงพ่อกองแก้ว วัดต้นยางหลวง ครูบาต๋า วัดบ้านเหล่าอุโบสถ ครูบากฤษดา หลวงปู่ดู่ หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด หลวงพ่อดี วัดพระรูป หลวงปู่สิม ครูบาชัยวงศ์ ครูบาพรหมจักร และอีกมากมายหลายท่าน ส่วนพระที่ติดบรรจุด้านหลัง คือ พระผงครูบาคำคง ทีสร้างในช่วงปี 2525-2526 โดยมีครูบาขันแก้ว ครูบาอินตา ครูบาวัง ครูบาแก้ว และยังมีพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูปร่วมปลุกเสก ที่วิหารวัดห้วยยาบ สำหรับล๊อกเก็ตครูบาคำคง มีพระเกจิอาจารย์ผู้ร่วมปลุกเสก ดังนี้
    1.หลวงพ่อดี วัดพระรูป
    2.หลวงพ่อสวัส วัดศาลาปูน
    3.ครูบาคำ วัดศรีดอนตัน
    4..หลวงพ่อชื่น วัดตาอี
    5.หลวงพ่อผาด วัดบ้านกรวด
    6.ครูบาอินตา วัดหนองหมู
    7. ครูบาอิ่นคำ วัดมหาวัน
    8.หลวงปู่คีย์ วัดศรีลำยอง
    9..หลวงปู่หงษ์ วัดเพรชบุรี
    10.หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร
    11.หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
    12 หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ
    13.ครูบาอินตา วัดวังทอง
    14.ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง
    ปิดนอกเว็บคัับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2019
  19. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่17เปิดบูชา
    #พระผงรูปเหมือนนั่งรุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ 2514 หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน
    **รูปเหมือนรุ่นนี้หลวงปู่ยังแนะนำให้ลูกศิษย์หาบูชาไว้ติดตัว
    เกร็ดประวัติ อภินิหาร ครูบาวงศ์ (๔) โดย อ.เล็ก พลูโต
    Font Size:
    เรื่องที่ ๒๒ พระรอดเนื้อดิน ครูบาวงศ์ คือ ว่าพระรอดรุ่นนี้ หลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ท่านสร้างขึ้น เป็นพระรอดที่ดังมาก จนกระทั่งเป็นเบญจภาคีในจำนวนพระเครื่องสุดยอด ๕ องค์ ก็จะมีสมเด็จวัดระฆัง พระรอดลำพูน พระซุ้มกอกำแพงเพชร พระนางพญาพิษณุโลก แล้วก็ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นพระผงสุพรรณ ใช่มั้ย ๕ องค์?พระรอดลำพูน สร้างขึ้นโดยฤๅษีวาสุเทพ ผู้เป็นอาจารย์ของพระนางเจ้าจามเทวี ปรากฏว่าหลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ ท่านหลับๆ ตื่น นึกขึ้นมาได้ว่า ท่านเคยเกิดเป็นฤๅษีวาสุเทพ ท่านก็เลยสร้างพระใหม่ซะอีกยกหนึ่ง อย่าลืมว่าดินลำพูนแพงที่สุดนะ แค่นิ้วมือแค่นี้ตั้งหลายล้าน นั่นแหละดินที่สร้างพระรอด ตอนนี้พระรอดองค์หนึ่งหลายล้าน สมัยโน้นอาจจะไม่เก่งพอ สมัยนี้สะสมบารมีต่อมาเก่งกว่าเดิม สร้างของใหม่ก็คงจะดีกว่าเดิม
    เรื่องที่ ๒๓ ครูบาแจกพระรอด มีเรื่องเล่าเพิ่มเติมอีกหนึ่งเรื่องครับ เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๓๖ เป็นวันเสาร์ ๕ ผมได้นั่งรถตู้จากวัดพระบาทห้วยต้ม ไปวัดมหาวันกับหลวงปู่ด้วย หลวงปู่ไปปลุกเสกพระรอด กับพระนางจามเทวี ในวันนั้นเมื่อหลวงปู่ปลุกเสกเสร็จ หลวงปู่ก็เดินออกจากโบสถ์ไปที่รถตู้ โดยหลวงปู่ถือไม้เท้าโดยใช้มือทั้งสองจับไม้เท้าทั้งสองข้าง ตามแบบฉบับของหลวงปู่ ดังที่เราเห็นกันจนชินตา โดยมีลูกศิษย์ติดตามมาส่งหลวงปู่ถึงรถกันจำนวนหนึ่ง เมื่อหลวงปู่เข้าไปนั่งในรถ ก็ปล่อยมือที่ถือไม้เท้าทั้งสองข้างออก โดยเอาไม้เท้าวางไว้ข้างๆ ขณะนั้นลูกศิษย์ต่างก็กราบหลวงปู่กัน

    มีคนหนึ่งเอ่ยปากขอพระรอดกับหลวงปู่ หลวงปู่ก็ยื่นมาให้องค์หนึ่ง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ขอพระรอดกับหลวงปู่บ้าง หลวงปู่ซึ่งขณะนั้นอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ก็ใช้มือไปเอาพระรอดที่อยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายท่าน ตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง ซึ่งก็ไม่ทราบว่าหลวงปู่ไปนำพระรอดมาได้อย่างไร เพราะที่ๆ หลวงปู่เอามือไปแตะไม่น่าจะเก็บพระรอดได้ และหลวงปู่ก็ไม่ได้กำพระมาจากไหนแน่นอน เพราะหลวงปู่ท่านกำไม้เท้ามา บริเวณส่วนของร่างกายที่ท่านเอามือไปแตะ ก็ไม่มีที่ใส่ของ เพื่อไม่ให้เสียโอกาส ผมก็เอากับเขาด้วยเหมือนกัน จำภาพได้ติดตาว่า เห็นมือหลวงปู่อยู่ตรงหน้า ผมมองหน้าหลวงปู่ หลวงปู่ก็ยิ้มแล้วแบมือออก ปรากฏว่ามีพระรอดหล่นมาจากมือหลวงปู่หนึ่งองค์ วันนั้นหลวงปู่คงต้องเรียกพระรอดมาหลายองค์เลยครับ เรื่องแบบนี้ศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่ทราบกันดีครับ
    ตอนที่ไปวัดบ้านปาง เพื่อไปหารอยเท้าท่านบนหิน ว่าจะยกกลับมาวัดห้วยต้ม เพราะไม่มีคนสนใจ ครูบาให้ไปแจ้งเจ้าอาวาสก่อน ตอนนั้นหลวงพ่อมหาจรูญ เป็นเจ้าอาวาส นั่งคุยกันเรื่องพระรอดครูบา มหาจรูญบอก...มีนายธนาคารคนนึง มาขอพระรอดจากครูบา แต่ท่านก็ไม่ได้ให้ไว้...
    อย่างที่ทราบ บางคนท่านก็ให้ บางคนท่านก็ไม่ได้ให้
    มีลูกศิษย์อีกคน มาเล่าเรื่องให้ฟัง ตอนประมาณปี ๒๕๒...กว่า เค้าบอกว่า ครูบารับนิมนต์ไปวัดที่ชลบุรี ถ้าจำไม่ผิด วัดนอก?? ไปงานพุทธาภิเษก เค้าบอกว่า หลังงานเสร็จ มีคนมาขอวัตถุมงคลจากท่าน ครูบาล้วงเอาพระเนื้อผงในย่ามแจก มีอยู่คนนึงมาขอ แต่พระของครูบาหมด ท่านหยิบส้มให้แทน เค้าเล่าว่า ครูบาบอก ลองดูซิ พระอาจจะอยู่ในส้ม โยมคนนั้นแกะส้มออกมา เจอพระรอดข้างในจริงๆ
    ครูบาวงศ์ ท่านได้สร้างพระรอดทั้งเนื้อดิน และเนื้อว่านไว้ ๒-๓ รุ่น ซึ่งผมก็พอจะแบ่งปันให้ได้ คือ รุ่นพิเศษ ปี ๒๕๔๐ (ดังภาพ) ซึ่งถอดพิมพ์มาจากพระรอดวัดมหาวันของเก่า อีกทั้งยังมีมวลสารที่เป็นพระรอดกรุมหาวันแตกหักมากมายผสมในเนื้อพระ โดยแบ่งปันให้บูชาองค์ละ ๙๙ เหรียญ และ พระรอดเนื้อดิน ปี ๒๕๔๓ (รุ่นสุดท้าย ปลุกเสกก่อนมรณภาพ) ด้านหลังฝังพระธาตุข้าวบิณฑ์ บูชาองค์ละ ๑๐๙ เหรียญ (มีน้อย เพราะหาสวยๆ ยาก) สนใจ โทร.ติดต่อผมด่วนที่เบอร์โทร. (909) 525-6041 ว่ายังมีอยู่ไหม? แล้วค่อยส่งเช็คสั่งจ่าย Boonsom Corhiran ตามที่อยู่หัวคอลัมน์ พระทุกองค์ใส่ตลับแสตนเลสแกะลายอย่างดี พร้อมอาราธนาขึ้นคอได้ทันที
    เรื่องที่ ๒๔ ประทับรอยเท้าเป็นอนุสรณ์ ขณะที่ท่านช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ท่านได้ประทับรอยเท้า ลึกลงไปในหินประมาณ ๑ ซ.ม. ข้างน้ำตกห้วยแก้ว (ช่วงตอนกลางๆ ของทางขึ้นดอยสุเทพ เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่ท่านได้มาช่วย ครูบาศรีวิชัยสร้างทาง

    เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๓ หลวงพ่อขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ ขากลับท่านได้พาไปนมัสการวัดอนาคามี (ซึ่งเป็นวัดที่ครูบาศรีวิชัยได้มอบให้ท่านเป็นผู้ควบคุมการสร้าง ปัจจุบันทรุดโทรมหมดแล้ว) ระหว่างทาง ท่านได้พาพวกเราไปดูรอยเท้าที่ท่านประทับไว้ รอยเท้านั้นลึกลงไปในหินประมาณ ครึ่งเซนติเมตร มีรอยถูกน้ำกัดเซาะ พวกเราแปลกใจมากที่เห็นรอยเท้านั้น พอดีกับเท้าของท่านเมื่อท่านเหยียบลงไป (การประทับรอยเท้า เช่นนี้ ท่านเคยไปประทับรอยเท้า และรอยมือ ไว้บนแผ่นหิน ณ ประเทศศรีลังกา เพื่อเป็นอนุสรณ์ เช่นกัน เป็นที่ประจักษ์สายตาของคณะศิษย์ที่ร่วมเดินทางไปทุกครั้ง)
    รอยเท้าที่น้ำตกห้วยแก้ว ดอยสุเทพ อยู่ข้างๆ รอยเท้า ของครูบาศรึวิชัย เหยียบไว้กลางลำห้วย จะเห็นชัดเวลาหน้าแล้ง (เคยมีลูกศิษย์ได้ทำที่ครอบไว้ แต่คนใจบาปได้ทุบทำลายไป) น้ำที่ผ่านลำห้วยนี้ ก็เป็นเสมือนน้ำมนต์ที่ผ่านรอยเท้าของพระอาจารย์ทั้ง ๒ องค์ ได้อธิษฐานไว้ ส่วนรอย อื่นๆ ของครูบา ผมรวบรวมจากลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด และที่ผมทราบมีประมาณ ๙ แห่ง ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยชอบเล่า หรือเขียนเรื่องทำนองนี้ ไว้ในที่สาธารณะ แต่เห็นว่าไหนๆ ก็มีคนกล่าวกันมามากแล้ว ก็ เขียนไว้กับเค้าด้วย
    หมายเหตุ. รอยเท้าของครูบาที่ท่านเหยียบไว้ บางแห่งก็อยู่ในที่ไปมาลำบาก ผมเข้าใจว่า เทวดาคงขอท่านไว้ ตอนท่านยังดำรงขันธ์อยู่ ผมแทบจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย เชื่อก็ดีไป ไม่เชื่อก็ลำบาก ครูบาท่านก็ไม่เคยอวดตัว แต่ละวันท่านก็สอนลูกศิษย์ทำบุญทำทาน นั่งกรรมฐาน และสวดมนต์ เท่านั้นเอง
    เรื่องที่ ๒๕ ครูบา สอนลูกศิษย์ ลูกศิษย์คนไหนที่เคยได้รับใช้ท่าน คงจะคุ้นเคย ครูบาท่านจะเอาเงินที่ญาติโยมถวายมาจัดเรียงอย่างดี บางแบงค์ที่ยับๆ หรือไม่สะอาด ท่านจะเอามาใส่ขันน้ำเพื่อล้าง และตากให้แห้ง แล้วเอามารีดให้เรียบ พวกลูกศิษย์คงได้ช่วยท่านทำกันบ่อยๆ เคยถามท่านว่า...ทำไปทำไม ครูบาท่านว่า "คนไม่รู้จักค่าของเงิน คนไม่เคารพพระเจ้าอยู่หัว" ส่วนตัวผมก็จะติดนิสัยตามท่าน ต้องเอาธนบัตรที่ยับๆ มารีดให้เรียบเสมอ เดี๋ยวครูบาท่านจะตำหนิเราได้ว่า ไม่เคารพค่าของเงิน เดี๋ยวจะค้าขายไม่เจริญ
    จำได้ว่าครั้งหนึ่ง เมื่อได้อยู่อุปฐากท่าน มีโยมส่งพัสดุไปรษณีย์มาถวาย ท่านบอกให้เปิดกล่อง เราเองด้วยความคุ้นเคย มักง่ายจึงหยิบกรรไกรจะตัดเชือกที่มัดพัสดุ ท่านห้ามไว้โดยบอกว่า "อย่าตัด ค่อยๆ แก้...ถ้าไม่ตัด พอแก้เสร็จก็ใช้มัดอย่างอื่นได้อีก...คนไม่รู้จักแก้เชือก..ก็จะไม่รู้จักแก้ปัญหา" และ เต่าสำลีที่ท่านพับ โดยบรรจุพระธาตุข้าว และเกศานั้น เป็นสำลีที่ท่านเช็ดตาเมื่อเปลี่ยนคอนแท็คเลนส์ หรือบางทีท่านนำมาฝั้นเป็นเชือกไว้มัดคัมภีร์ธรรมใบลาน ท่านจะสอนให้พวกเรามัธยัสถ์ ไม่ฟุ่มเฟือย

    เรื่องที่ ๒๖ พระธาตุข้าวบิณฑ์ ความเป็นมา หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เล่าไว้ว่า..ท่านเห็นในนิมิตว่า มีถ้ำแห่งหนึ่งในเขตอำเภอดอยเต่า มีพระธาตุสำคัญเกิดขึ้น สืบเนื่องจากในอดีตที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เทข้าวที่เหลือจากการฉันไว้ ณ บริเวณนั้น ด้วยพุทธานุภาพ ข้าวดังกล่าว ได้กลายเป็น พระธาตุข้าวบิณฑ์ หลวงปู่ฯ จึงอธิบายถึงบริเวณ และลักษณะพระธาตุข้าวบิณฑ์ ให้ชาวเขาไปค้นหา และก็เป็นไปตามที่ท่านได้บอกกล่าวจริงๆ ท่านจึงอธิษฐานจิต และ แจกจ่ายให้แก่ลูกหลานเก็บไว้ สักการะ
    อานุภาพพระธาตุข้าวบิณฑ์ ท่านบอกไว้ว่า สามารถอาราธนาใส่น้ำเป็นน้ำมนต์ รักษาโรคภัยที่ไม่เหนือวิสัยได้ ใครที่มีไว้บูชา จะมีความคล่องตัว ไม่อดอยาก พระธาตุข้าวบิณฑ์ มีผลต่อผู้ที่เป็น สัมมาทิฐิบุคคล จะเสด็จมาเพิ่มเติม และลดจำนวนลงได้ รวมทั้งจะแตกหักเสียได้ เช่นกัน
    เรื่องที่ ๒๗ ทิฆัจฉา ปรมะโรคา โรคหิวเป็นโรคอย่างยอด ในแต่ละวัน โรคหิว ปรากฏแก่เราอย่างน้อยๆ ก็ ๓ ครั้ง ๓ ครา อาหาร ช่วยประทังความหิว ไม่ให้ขันธ์ ๕ คือ ร่างกายสลาย.. ตายไป..การตั้งมั่น ตรงต่อพระนิพพาน ก็เช่นกัน จะหยุดยั้งในเรื่องทาน ศีล ภาวนา เพื่อให้เกิดปัญญา นั้น เราคงยังไม่สามารถก้าวเข้าถึงซึ่งพระนิพพานเป็นแน่ หากคิดว่าเราสร้างบุญใหญ่ยิ่งไว้แล้ว สร้างไว้มากแล้ว พอแล้ว อย่างนั้น ก็อาจจะเป็นการประมาทเกินไป กินข้าวมื้อหนึ่งอิ่มไปได้แค่ไหน บุญในทานศีลภาวนาก็เช่นกัน ต้องเติมพลังบุญ พลังอานิสงส์ตลอดเวลา หากเราคิดได้ดังนี้ ก็ได้ชื่อว่า ไม่ประมาท ใช่ไหมครับ
    บุญบารมีแต่ละคนมีเพียงใดก็จะเข้าถึงได้ตามเกณฑ์นั้นๆ บารมีต้น บารมีกลาง (อุปปะ) ปรมัตถบารมี ย่อมแตกต่างกันไป บารมีต้น.. ก็ "ต้องเข็น" ก็นาน ยากหน่อย บารมีกลาง.. ก็เข้าเขตง่าย เพียงแค่บอกก็เกิดศรัทธา ปรมัตถ์.. ก็ยิ่งง่ายใหญ่ แค่ได้ข่าว มองเห็น ก็ทำเอง
    หลวงปู่วงศ์ฯ ท่านเปรียบเทียบให้ฟัง ว่า....บารมีกลาง นี่.. มี บาท.. อยากทำ ๓ บาทคล้ายกันกับองค์หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านก็กล่าว ไว้ว่า...."บารมี" มัน เร่งรัด กันได้.. ไม่ใช่มา นั่งรอ ตามบุญบารมีเดิมๆ หากเดินทางเท้าจาก กทม. ไป เชียงใหม่ มันก็นานเป็นเดือน หากหาทางเร่งบารมี "ซื้อ" (เร่งทำบุญ ทาน ศีล ภาวนา) ซื้อรถจักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง หรือนั่งเครื่องบินไป อย่างนี้ก็เร็วกว่า ตรงกับ หลวงปู่วงศ์ฯ ที่ท่านกล่าว ว่า.. "บุญ" ต้องใช้ "เงิน" ซื้อ (ใช้กำลังใจ ตัด ความโลภ ของตนเอง)
    คำตรัสสอนสุดท้าย ของ องค์สมเด็จพระประทีปแก้ว พระพุทธองค์ ก็ทรงตรัสสอนให้พวกเรา "ไม่ประมาท" นั่นเอง เมื่อใดที่ "พวกเรา" ยังไม่ถึง "พระนิพพาน" เพียงใดก็ตาม ขอคำว่า "ประมาท" อย่าได้บังเกิดแก่ "พวกเรา" ด้วยเทอญ.
    #เปิดราคาแบ่งปัน1200บาทพร้อมส่งคับประกันแท้
    ปิดนอกเวบคับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2019
  20. ร้านพุทธศิลป์

    ร้านพุทธศิลป์ พุทธศิลป์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่17
    เปิดคับพรอดแสงต๋าเนื้อเขียวครกติดหน่าตาชัดเจนพร้อมเลียมขึ้นคอสนใจโทร0826218049 จา เชียงใหม่

    รอดแสงตา วัดมหาวัน จ.ลำพูน สร้างขึ้นในยุคปี 2470 เนื้อสีเขียว โดย พุทธศิลป์ไทย
    พระรอดแสงตา วัดมหาวัน จ.ลำพูน สร้างขึ้นในยุคปี2470กว่าๆ โดยพระภิกษุชื่อว่า "เเสงตา" ท่านสร้างไว้เพื่อบรรจุในกรุเเท่นเเก้วเเละกรุที่ฝังดินบริเวณในสิ่งก่อสร้างของวัดมหาวัน ลำพูนพระรอดเเสงตาสร้างขึ้นโดยการเเกะพิมพ์ใหม่ไม่เหมือนพิมพ์อื่นๆของวัดมหาวันเลย เเต่จะสร้างจากเศษพระที่ชำรุดเเตกหัก เช่น พระรอด พระคง พระเปิม พระเลี่ยง พระสิบสอง ฯลฯขนาดขององค์พระจะเท่าๆกับพระรอดโดยทั่วไป เเต่ค้างหรือใบหน้าจะเเหลมยาว คอจะเป็นลำ ตั้งเเต่ค้างจนถึงหน้าอก เมื่อปี 2500 ได้มีการนำพระรอดเเสงตามากดพิมพ์ใหม่อีกครั้ง เเต่ได้ประทับตรายางไว้ด้านหลัง ว่ารุ่นสร้างโรงพยาบาลสงฆ์ปี2500 เเต่เนื้อหาความเก่าคลาสสิคยังห่างจากพระรอดแสงตา กรุวัดมหาวัน จ.ลำพูนในยุคปี2400กว่าๆ อยู่มากครับพระรอดแสงตาหน่อเนื้อเชื้อมหาวันโดยแท้ มีพิมพ์เเละประวัติชัดเจนขึ้นคอเเล้วสบายใจเเน่นอนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...