**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6100

    ประคำหลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    สวย เชือกเดิม


    หลวงปู่ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ท่านได้สร้างจาก108 ที่ทำจากเม็ดลูกหวาย เม็ดลูกลาน พญาไม้ โดยได้นำวัสดุดั่งกล่าวนำมากลึงและร้อยเป็นสร้อยลูกประคำ 108 เม็ด ตามภูมิปัญญาพื้นบ้าน สำหรับใช้ในการภาวนากรรมฐาน
    หลวงปู่ครูบาวงศ์ฯ ท่านอธิฐานจิตปลุก ขึ้นกรรมฐาน ไว้ให้ลูกศิษย์ไว้ใช้ในการภาวนา หลวงปู่เคยบอกว่า... “ประคำนี้ดีใช้ภาวนาทำกรรมฐาน ต่อไปจะหายากต้องเอาทองคำเส้นเท่ากันมาแลก”และท่านยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า... “ประคำเป็นเครื่องมือสู่พระนิพพาน” ...เป็นปริศนาธรรมให้เรานำไปคิดพิจารณาครับ การนับภาวนาสร้อยประคำนั้น มีกุศโลบายต่างๆ มากมายในการที่จะทำให้การภาวนาสัมฤทธิผลมากที่สุด การนับลูกประคำก็เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้การทำภาวนามีผลดี เเละจิตใจสงบนิ่ง

    ประคำเป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาพวกเรามักจะสังเกตเห็นสร้อยประคำแบบนี้ที่สวมใส่ไว้กับองค์หลวงปู่เสมอ เรียกว่าลูกประคำ มี 108 ลูก ตามจำนวนพระคุณของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ 54พระธรรมคุณ 38 สังฆคุณ 14 รวมเป็น 108 พอดี
    เป็นสัญลักษณ์แทนคุณพระรัตนตรัย และความเป็นมงคลทั้งหลายในจักวาล หากนับจำนวนได้ 108 นั่นคือคุณแห่งพระพุทธองค์ คุณแห่งพระธรรม และคุณแห่งพระสงฆ์ คุณแห่งพระพุทธเจ้านั่นคือบทพระพุทธคุณ (อิติปิโส) พระธัมคุณ (สวาขาโต) คุณพระสงฆ์ (สุปฏิปันโน) นับตามอักขระในบทพระพุทธคุณจะพบว่ามีจำนวน 56 คำ พระธรรมมี 38 คำ พระสงฆ์มี 14 คำ รวมกันได้ 108 และยังหมายถึงสัญลักษณ์มงคล 108 อย่าง
    วิธีการนับลูกประคำของหลวงปู่

    ตั้งนะโม 3 จบ

    รอบ 1 อิติปิโสภะคะวา อะระหังสัมมาสัมพุทโธ (บริกรรม)....พุทโธพุทโธ พุทโธ .....
    รอบ 2 สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม (บริกรรม)....ธัมโม ธัมโม ธัมโม.....
    รอบ 3 สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ....(บริกรรม) สังโฆ สังโฆ สังโฆ.....
    รอบ 4 (บริกรรม)...เมตตา เมตตา เมตตา .....
    รอบ 5 (บริกรรม)...กรุณากรุณา กรุณา .....
    รอบ 6 (บริกรรม)...มุทิตา มุทิตา มุทิตา .....
    รอบ 7 (บริกรรม)...อุเบกขา อุเบกขา อุเบกขา .....
    รอบ 8 (บริกรรม) " อนิจจัง อนิจจัง อนิจจัง .....
    รอบ 9 (บริกรรม) " ทุกขัง ทุกขัง ทุกขัง .....
    รอบ 10 (บริกรรม) " อนัตตา อนัตตา อนัตตา ....

    - ความหมายของประคำ 108 เม็ด เริ่มนับทีละเม็ด บทสวดพระพุทธคุณ "อิ ติ ปิ โส ภะ คะ วา อะ ระ หัง สัม มา...."
    - พระธรรมคุณ " สะ หวาก ขา โต ภะ คะ วะ ตา ธัม โม ..."
    - พระสังฆคุณ " สุ ปะ ฏิ ปัน โน ภะ คะ วะ โต สา วะ กะ สัง โฆ " ครบพอดี 108 เม็ด
    - บางเส้นมีเพิ่มอีก 1 เม็ด คือ พระนิพพาน รวม 109 เม็ด

    เส้นนี้ เก่าผ่านการใช้มาตามธรรมชาติ ถึงยุค เชือกเดิม ดูง่ายมากครับ ประคำเอกลักษณ์ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ปัจจุบันหาได้ยากยิ่งแล้วครับ

    สวยแตกลายงา เชือกเดิมดูง่ายครับ รับประกันความแท้ตลอดชีพครับ


    ราคา 1950 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    ประคำหวายครูบาชัยวงศ์ e.jpg ประคำหวายครูบาชัยวงศ์ f.jpg ประคำหวายครูบาชัยวงศ์ g.jpg ประคำหวายครูบาชัยวงศ์ h.jpg Clip_14.jpg Clip_15.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2020
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6101

    เหรียญรุ่น 2 หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน ปี 2512 วงเดือนนิยม สวย ๆ ครับ

    บูชาแล้วครั

    เหรียญลพ.เมือง วงเดือน a.jpg เหรียญลพ.เมือง วงเดือน b.jpg เหรียญลพ.เมือง วงเดือน c.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2020
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6102
    เหรียญรุ่น 2 หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน ปี 2512 สวย ๆ ครับ

    ราคา 850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    เหรียญลพ.เมือง a.jpg เหรียญลพ.เมือง b.jpg เหรียญลพ.เมือง c.jpg
     
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6103

    เหรียญ หลวงพ่อแสนเมือง วัดท่าแหน

    ราคา 450 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    เหรียญลพ.แสน a.JPG เหรียญลพ.แสน b.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2020
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6104

    เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์เสนาะ วัดปงท่าข้าม อ.สูงเม่น แพร่ เนื้อทองฝาบาตร โค๊ด เลข " ๙" และมีจารย์ นิยม ลูกศิษย์สร้างถวาย ปี ๒๕๓๖

    ราคา 950 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    เหรียญลพ.เสนาะ a.JPG เหรียญลพ.เสนาะ b.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2020
  6. MATHS

    MATHS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    783
    ค่าพลัง:
    +908
    โอนแล้วครับ รายละเอียดทางpmครับ
     
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6105

    ประคำหลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม สวยเชือกเดิม
    ( เส้นที่ 1 )


    หลวงปู่ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ท่านได้สร้างจาก108 ที่ทำจากเม็ดลูกหวาย เม็ดลูกลาน พญาไม้ โดยได้นำวัสดุดั่งกล่าวนำมากลึงและร้อยเป็นสร้อยลูกประคำ 108 เม็ด ตามภูมิปัญญาพื้นบ้าน สำหรับใช้ในการภาวนากรรมฐาน
    หลวงปู่ครูบาวงศ์ฯ ท่านอธิฐานจิตปลุก ขึ้นกรรมฐาน ไว้ให้ลูกศิษย์ไว้ใช้ในการภาวนา หลวงปู่เคยบอกว่า... “ประคำนี้ดีใช้ภาวนาทำกรรมฐาน ต่อไปจะหายากต้องเอาทองคำเส้นเท่ากันมาแลก”และท่านยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า... “ประคำเป็นเครื่องมือสู่พระนิพพาน” ...เป็นปริศนาธรรมให้เรานำไปคิดพิจารณาครับ การนับภาวนาสร้อยประคำนั้น มีกุศโลบายต่างๆ มากมายในการที่จะทำให้การภาวนาสัมฤทธิผลมากที่สุด การนับลูกประคำก็เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้การทำภาวนามีผลดี เเละจิตใจสงบนิ่ง

    ประคำเป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาพวกเรามักจะสังเกตเห็นสร้อยประคำแบบนี้ที่สวมใส่ไว้กับองค์หลวงปู่เสมอ เรียกว่าลูกประคำ มี 108 ลูก ตามจำนวนพระคุณของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ 54พระธรรมคุณ 38 สังฆคุณ 14 รวมเป็น 108 พอดี
    เป็นสัญลักษณ์แทนคุณพระรัตนตรัย และความเป็นมงคลทั้งหลายในจักวาล หากนับจำนวนได้ 108 นั่นคือคุณแห่งพระพุทธองค์ คุณแห่งพระธรรม และคุณแห่งพระสงฆ์ คุณแห่งพระพุทธเจ้านั่นคือบทพระพุทธคุณ (อิติปิโส) พระธัมคุณ (สวาขาโต) คุณพระสงฆ์ (สุปฏิปันโน) นับตามอักขระในบทพระพุทธคุณจะพบว่ามีจำนวน 56 คำ พระธรรมมี 38 คำ พระสงฆ์มี 14 คำ รวมกันได้ 108 และยังหมายถึงสัญลักษณ์มงคล 108 อย่าง
    วิธีการนับลูกประคำของหลวงปู่

    ตั้งนะโม 3 จบ

    รอบ 1 อิติปิโสภะคะวา อะระหังสัมมาสัมพุทโธ (บริกรรม)....พุทโธพุทโธ พุทโธ .....
    รอบ 2 สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม (บริกรรม)....ธัมโม ธัมโม ธัมโม.....
    รอบ 3 สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ....(บริกรรม) สังโฆ สังโฆ สังโฆ.....
    รอบ 4 (บริกรรม)...เมตตา เมตตา เมตตา .....
    รอบ 5 (บริกรรม)...กรุณากรุณา กรุณา .....
    รอบ 6 (บริกรรม)...มุทิตา มุทิตา มุทิตา .....
    รอบ 7 (บริกรรม)...อุเบกขา อุเบกขา อุเบกขา .....
    รอบ 8 (บริกรรม) " อนิจจัง อนิจจัง อนิจจัง .....
    รอบ 9 (บริกรรม) " ทุกขัง ทุกขัง ทุกขัง .....
    รอบ 10 (บริกรรม) " อนัตตา อนัตตา อนัตตา ....

    - ความหมายของประคำ 108 เม็ด เริ่มนับทีละเม็ด บทสวดพระพุทธคุณ "อิ ติ ปิ โส ภะ คะ วา อะ ระ หัง สัม มา...."
    - พระธรรมคุณ " สะ หวาก ขา โต ภะ คะ วะ ตา ธัม โม ..."
    - พระสังฆคุณ " สุ ปะ ฏิ ปัน โน ภะ คะ วะ โต สา วะ กะ สัง โฆ " ครบพอดี 108 เม็ด
    - บางเส้นมีเพิ่มอีก 1 เม็ด คือ พระนิพพาน รวม 109 เม็ด

    เส้นนี้ เก่าผ่านการใช้มาตามธรรมชาติ ถึงยุค เชือกเดิม ดูง่ายมากครับ ประคำเอกลักษณ์ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ปัจจุบันหาได้ยากยิ่งแล้วครับ

    เชือกเดิมดูง่ายครับ


    ราคา 1550 บาทสนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    kj.jpg ds.jpg v.jpg g.jpg Clip_3.jpg Clip_4.jpg



     
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6106

    ประคำหลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม สวยเชือกเดิม
    ( เส้นที่ 2 )


    หลวงปู่ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ท่านได้สร้างจาก108 ที่ทำจากเม็ดลูกหวาย เม็ดลูกลาน พญาไม้ โดยได้นำวัสดุดั่งกล่าวนำมากลึงและร้อยเป็นสร้อยลูกประคำ 108 เม็ด ตามภูมิปัญญาพื้นบ้าน สำหรับใช้ในการภาวนากรรมฐาน
    หลวงปู่ครูบาวงศ์ฯ ท่านอธิฐานจิตปลุก ขึ้นกรรมฐาน ไว้ให้ลูกศิษย์ไว้ใช้ในการภาวนา หลวงปู่เคยบอกว่า... “ประคำนี้ดีใช้ภาวนาทำกรรมฐาน ต่อไปจะหายากต้องเอาทองคำเส้นเท่ากันมาแลก”และท่านยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า... “ประคำเป็นเครื่องมือสู่พระนิพพาน” ...เป็นปริศนาธรรมให้เรานำไปคิดพิจารณาครับ การนับภาวนาสร้อยประคำนั้น มีกุศโลบายต่างๆ มากมายในการที่จะทำให้การภาวนาสัมฤทธิผลมากที่สุด การนับลูกประคำก็เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้การทำภาวนามีผลดี เเละจิตใจสงบนิ่ง

    ประคำเป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาพวกเรามักจะสังเกตเห็นสร้อยประคำแบบนี้ที่สวมใส่ไว้กับองค์หลวงปู่เสมอ เรียกว่าลูกประคำ มี 108 ลูก ตามจำนวนพระคุณของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ 54พระธรรมคุณ 38 สังฆคุณ 14 รวมเป็น 108 พอดี
    เป็นสัญลักษณ์แทนคุณพระรัตนตรัย และความเป็นมงคลทั้งหลายในจักวาล หากนับจำนวนได้ 108 นั่นคือคุณแห่งพระพุทธองค์ คุณแห่งพระธรรม และคุณแห่งพระสงฆ์ คุณแห่งพระพุทธเจ้านั่นคือบทพระพุทธคุณ (อิติปิโส) พระธัมคุณ (สวาขาโต) คุณพระสงฆ์ (สุปฏิปันโน) นับตามอักขระในบทพระพุทธคุณจะพบว่ามีจำนวน 56 คำ พระธรรมมี 38 คำ พระสงฆ์มี 14 คำ รวมกันได้ 108 และยังหมายถึงสัญลักษณ์มงคล 108 อย่าง
    วิธีการนับลูกประคำของหลวงปู่

    ตั้งนะโม 3 จบ

    รอบ 1 อิติปิโสภะคะวา อะระหังสัมมาสัมพุทโธ (บริกรรม)....พุทโธพุทโธ พุทโธ .....
    รอบ 2 สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม (บริกรรม)....ธัมโม ธัมโม ธัมโม.....
    รอบ 3 สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ....(บริกรรม) สังโฆ สังโฆ สังโฆ.....
    รอบ 4 (บริกรรม)...เมตตา เมตตา เมตตา .....
    รอบ 5 (บริกรรม)...กรุณากรุณา กรุณา .....
    รอบ 6 (บริกรรม)...มุทิตา มุทิตา มุทิตา .....
    รอบ 7 (บริกรรม)...อุเบกขา อุเบกขา อุเบกขา .....
    รอบ 8 (บริกรรม) " อนิจจัง อนิจจัง อนิจจัง .....
    รอบ 9 (บริกรรม) " ทุกขัง ทุกขัง ทุกขัง .....
    รอบ 10 (บริกรรม) " อนัตตา อนัตตา อนัตตา ....

    - ความหมายของประคำ 108 เม็ด เริ่มนับทีละเม็ด บทสวดพระพุทธคุณ "อิ ติ ปิ โส ภะ คะ วา อะ ระ หัง สัม มา...."
    - พระธรรมคุณ " สะ หวาก ขา โต ภะ คะ วะ ตา ธัม โม ..."
    - พระสังฆคุณ " สุ ปะ ฏิ ปัน โน ภะ คะ วะ โต สา วะ กะ สัง โฆ " ครบพอดี 108 เม็ด
    - บางเส้นมีเพิ่มอีก 1 เม็ด คือ พระนิพพาน รวม 109 เม็ด

    เส้นนี้ เก่าผ่านการใช้มาตามธรรมชาติ ถึงยุค เชือกเดิม ดูง่ายมากครับ ประคำเอกลักษณ์ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ปัจจุบันหาได้ยากยิ่งแล้วครับ

    เชือกเดิมดูง่ายครับ


    ราคา 1550 บาทสนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    iiu.jpg kj[.jpg iu.jpg j.jpg Clip_3.jpg Clip_4.jpg
     
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6107

    แมลงภู่ ไทใหญ่ งาแกะเก่า อุดปรอท แช่น้ำว่าน มหาเสน่ห์ เก่าเก็บ
    ศิลปะขาฉลุ ตัวใหญ่ ขนาด 2.3 ซม.


    แมลงภู่ไทยใหญ่นั้นถือได้ว่าเป็นสุดยอดเครื่องรางสายพม่า-ไทใหญ่ ที่มีวิธีการสร้างที่ยากและสลับซับซ้อนมาก ซึ่งตามตำนานกล่าวว่าผู้สร้างคนแรกที่ทำก็คือ ท่านโป๊ะโป๊ะอ่องบรมครูแห่งปถมังสิทธิธรรมเจดีย์ เชื่อกันว่าท่านเป็นบรมครูแห่งสมเด็จพระเจ้าสิบทิศบุเรงนองและองค์สัจจะยามิน(โป๊ะต่อเอ)ต้นสายยาส่วยหยิ่นจ่อ ท่านได้สร้างแมลงภู่นี้โดยการใช้ปรอท และยาสายปถมังที่ท่านได้สร้างไว้บรรจุลงให้ตัวแมลงภู่และมอบให้กับพระเจ้าสิบทิศบุเรงนอง ซึ่งบัลลังก์ของบุเรงในพม่ามีแมลงภู่อารักษ์ไว้ถึง8คู่เลยทีเดียว เชื่อว่าสิ่งนี้คงเป็นสิ่งเสริมให้บุเรงนองเป็นผู้ชนะสิบทิศในการก่อนแล.
    มีสรรพคุณบันทึกไว้ดังนี้.
    1.เด่นทางเมตตามหานิยม เมตตามหาเสน่ห์ คนรักคนหลง
    2.อยู่ดีมีโชค มีเงินมีทอง ซื้อง่ายขายคล่อง
    3.ป้องกันภยันตรายทั้งปวงได้วิเศษนัก
    4.ดับอวิชา การทำร้ายด้วยคุณไสยมนต์ดำทั้งปวง
    5.ป้องกันโจรภัยได้
    6.ปกป้องคุ้มครองกันภัย ที่จะกระทำต่อเด็กเล็ก
    7.เดินทางใกล้ - ไกล กันภูตผีและผู้คิดร้าย เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา


    คุณ คุณต้า บูชาแล้วครับ

    แมงภู่ PL a.jpg แมงภู่ PL b.jpg แมงภู่ PL c.jpg แมงภู่ PL d.jpg แมงภู่ PL e.jpg แมงภู่ PL f.jpg แมงภู่ PL g.jpg แมงภู่ PL h.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2020
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6108

    เหรียญรุ่นแรกครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน
    บล็อกไหล่ขีด นิยม สวย ๆ


    หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก ท่านเป็นมหาเถร พระอริยสงฆ์อีกองค์ของแดนล้านนา ที่มีอายุพรรษามากถึง 103 ปี ถึงพร้อมด้วยจิตที่เป็นวิสุทธิจิต
    ครูบาดวงดีท่านเป็นพระนักพัฒนาและยังเป็นหมอยาแผนโบราณอีกด้วย โดยสมัยก่อนท่านทำยาแผนโบราณได้หลายอย่าง โดยท่านทำเองทั้งหมด ตั่งแต่ไปเก็บว่านสมุนไพรต่างๆ ในป่า แล้วนำมาคั่วและบดทำเองทุกขั้นตอน รักษาชาวบ้านหายมานักต่อนักแล้ว หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรมอย่างเคร่งครัด และได้คอยอบรมสั่งสอนพระ เณรและศรัทธาญาติโยมของท่านอยู่มิขาด
    ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีจริยาวัตรอันงดงาม และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังรูปหนึ่ง ครูบาดวงดี ยติโก นับเป็นพระผู้มีอริยะคุณอันยอดเยี่ยมยิ่งที่หาได้ยากยิ่งแล้วในปัจจุบัน เป็นผู้มีความชำนาญในเรื่องยาวิเศษนานาประการ ที่ในสมัยก่อนหลวงปู่ท่านดั้นด้นค้นหายาวิเศษตามป่าเขาในทุกที่เพื่อนำมาปรุงยา อีกทั้งได้นำเอาผงยาวิเศษอันเลื่องลือคือ ว่านไก่แดง มาจัดสร้างเป็นวัตถุมงคลให้ลูกหลานญาติธรรม ได้มีไว้บูชาติดตัว จึงนับว่าหลวงปู่ท่านได้นำเอาผงยาวิเศษนี้ มาให้ชนรุ่นหลังได้รู้จัก จนมาถึงทุกวันนี้ วัตถุมงคล ครูบาดวงดี ยติโก ทุกรุ่นล้วนได้รับความนิยม มีคำร่ำลือเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย มีศรัทธาญาติโยมมาเคารพสักการบูชา อยู่มิขาดได้ทุกวันโดยมีศรัทธาญาติโยมจากต่างตำบล ต่างอำเภอ ต่างจังหวัดเดินทางมาขอพรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์มิได้ขาด หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก นับเป็นพระผู้มีอริยะคุณอันยอดเยี่ยมยิ่งที่หาได้ยากในปัจจุบัน
    #เหรียญรุ่นแรกของท่านครูบาดวงดี ยติโก จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2540

    โดยได้นำเหรียญไปขอเมตตาให้สุดยอดเกจิเมืองเหนือได้ร่วมอธิฐานจิตปลุกเสกอาธิเช่น
    ครูบาบุญปั๋น วัดร้องคุ้ม
    ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง
    ครูบาเผือก วัดไชยสถาน
    ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน

    #วัตถุมงคล ยอดนิยมของท่านหลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก ที่ได้รับความนิยม มีคำร่ำลือเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัยจัดเป็นเหรียญเกจิยุคปัจจุบันที่มาเเรงมากๆครับ

    บูชาแล้วครับ

    เหรียญครูบาดวงดี 4.0 a.jpg เหรียญครูบาดวงดี 4.0 b.jpg เหรียญครูบาดวงดี 4.0 c.jpg เปิดดูไฟล์ 5336789 Clip_21.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2020
  11. คุณต้า

    คุณต้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2014
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +408
    จองครับ รายการที่ 6107 แมลงภู่ ไทใหญ่ งาแกะเก่า
     
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองครับ ขอที่อยู่จัดส่งของด้วยนะครับ ขอบพระคุณครับพี่

    รายละเอียดการโอนเงิน
    Clip_2.jpg
     
  13. คุณต้า

    คุณต้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2014
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +408
    โอนแล้วครับ เวลา 12:44 น. เข้าแบงค์กสิกร รายละเอียดใน PM. ครับ ขอบคุณมากครับ
     
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6109

    เหรียญรุ่นแรกครูบาดวงดีวัดท่าจำปี บล็อกจ จุดนิยม ปี 2507 สวย ๆ


    หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท หรือ ท่านเจ้าคุณพระมงคลวิสุต ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์พระเถระชื่อนามมงคล ผู้มีอายุพรรษาสูงอีกองค์ของประเทศไทยที่ลือชาลือลั่น ท่านเป็นพระที่มีจิตเย็นที่สุดในเชียงใหม่ ชาวล้านนาในอดีตต่างเลื่อมใสศรัทธาต่อท่านเป็นที่สุด ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่มีอายุพรรษามากที่สุด ถึงพร้อมด้วยจิตที่วิสุทธิเป็นจิตธรรมธาตุแห่งพระอริยะอรหันต์ครเกิดเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2449 อุปสมบทเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2466 มรณภาพ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 สิริรวมอายุ 104 ปี พรรษา 83 ศิษย์สายครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยมื่อครั้งเยาว์วัยได้ติดตามบิดามารดาไปทำบุญกับครูบาศรีวิชัย ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย ครูบาศริวิชัยมีเมตตาบอกให้พ่อแม่พาเข้าบวช จึงได้พาไปฝากเป็นศิษย์วัดอยู่กับครูบาโปธิมา เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี เคยปรนนิบัติ และรับการอบรมสั่งสอนจากครูบาศริวิชัย ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร และวัดสวนดอก ในเมืองเชียงใหม่ เจริญรอยตามครูบาศรีวิชัยด้วยการสร้างวัดวาอารามหลายแห่ง รวมทั้งการสร้างวิหารวัดท่าจำปี และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส และเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตก สมณศักดิ์ที่ได้รับ พ.ศ. 2518 เป็นพระครูชั้นประทวน พ.ศ. 2530 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ราชทินนามที่พระครูสุภัทรสีลคุณ พ.ศ. 2540 ได้เลื่อนเป็นชั้นเอกราชทินนามเดิม และ พ.ศ. 2550 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่พระมงคลวิสุต

    ท่านเป็นผู้สำเร็จวิชาการสร้างกุมารทอง ซึ่งเป็นต้นแบบกุมารทองล้านนา ไทย

    เหรียญยอดนิยมของท่านครูบาดวงดี ครับ

    ราคา 7500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    เหรียญครูบาดวงดี a.jpg เหรียญครูบาดวงดี b.jpg เหรียญครูบาดวงดี c.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2020
  15. คุณต้า

    คุณต้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2014
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +408
    รับพัสดุแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
     
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    ยินดีรับใช้ครับพี่ ขอบพระคุณที่เมตตาไว้วางใจใช้บริการร้านศิวิไลครับ
     
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6110

    เหรียญรุ่นแรกครูบาดวงดีวัดท่าจำปี บล็อกจ จุดนิยม ปี 2507

    หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท หรือ ท่านเจ้าคุณพระมงคลวิสุต ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์พระเถระชื่อนามมงคล ผู้มีอายุพรรษาสูงอีกองค์ของประเทศไทยที่ลือชาลือลั่น ท่านเป็นพระที่มีจิตเย็นที่สุดในเชียงใหม่ ชาวล้านนาในอดีตต่างเลื่อมใสศรัทธาต่อท่านเป็นที่สุด ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่มีอายุพรรษามากที่สุด ถึงพร้อมด้วยจิตที่วิสุทธิเป็นจิตธรรมธาตุแห่งพระอริยะอรหันต์ครเกิดเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2449 อุปสมบทเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2466 มรณภาพ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 สิริรวมอายุ 104 ปี พรรษา 83 ศิษย์สายครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยมื่อครั้งเยาว์วัยได้ติดตามบิดามารดาไปทำบุญกับครูบาศรีวิชัย ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย ครูบาศริวิชัยมีเมตตาบอกให้พ่อแม่พาเข้าบวช จึงได้พาไปฝากเป็นศิษย์วัดอยู่กับครูบาโปธิมา เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี เคยปรนนิบัติ และรับการอบรมสั่งสอนจากครูบาศริวิชัย ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร และวัดสวนดอก ในเมืองเชียงใหม่ เจริญรอยตามครูบาศรีวิชัยด้วยการสร้างวัดวาอารามหลายแห่ง รวมทั้งการสร้างวิหารวัดท่าจำปี และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส และเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตก สมณศักดิ์ที่ได้รับ พ.ศ. 2518 เป็นพระครูชั้นประทวน พ.ศ. 2530 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ราชทินนามที่พระครูสุภัทรสีลคุณ พ.ศ. 2540 ได้เลื่อนเป็นชั้นเอกราชทินนามเดิม และ พ.ศ. 2550 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่พระมงคลวิสุต
    ท่านเป็นผู้สำเร็จวิชาการสร้างกุมารทอง ซึ่งเป็นต้นแบบกุมารทองล้านนา ไทย
    เหรียญยอดนิยมของท่านครูบาดวงดี ครับ

    ราคาเบาๆน่าใช้ครับ


    ราคา 3750 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_36.jpg Clip_37.jpg Clip_38.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2020
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6111

    เหรียญรุ่นแรกครูบาติ๊บ อุปาลี วัดหัวฝาย ปี 2511 บล็อกนิยม


    ครูบาติ๊บ อุบาลี อดีตเจ้าอาวาสวัดหัวฝาย สุโขทัย

    อาจารย์ติ๊บ อุบาลี เป็นคำที่ชาวบ้านตลอดทั้งศิษยานุศิษย์เรียกกัน ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนรูปหนึ่ง ที่ได้พบเห็นมา ท่านเป็นพระที่มักน้อย สันโดษ ที่แท้จริง ท่านไม่มีความทะเยอทะยานในเรื่องลาภ ยศ สรรเสริญใดๆ ทั้งสิ้น เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างมาก เปรี่ยมด้วยเมตตาบารมี ศิษย์ในสายครูบาเจ้าครูบาศรีวิชัย ครูบาขาวปี

    พระอาจารย์ติ๊บ อุบาลี นามเดิมติ๊บ นามสกุล มณีอุด นามฉายา อุบาลี เกิด พ.ศ.๒๔๔๐ ณ บ้านผาปัง ตำบลผาปัง อำเภอเถิน (ขณะนี้เป็นอำเภอแม่พริก) จังหวัดลำปาง บิดาชื่อปั๋น มารดาชื่อหน่อแก้ว มณีอุด มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๕ คน เป็นหญิง ๒ ชาย ๓ คือ
    ๑.นางจันทร์
    ๒.นางดิบ อุประวรรณา
    ๓.นายยา มณีอุด
    ๔. พระอาจารย์ติ๊บ อุบาลี
    ๕.นายใจมา มณีอุด

    บิดา มารดาของพระอาจารย์ติ๊บ อุบาลี ได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่ท่านอายุยังไม่ถึง ๑๐ ขวบ ท่านได้อาศัยอยู่กับนางดิบ ผู้เป็นพี่สาว นับว่าท่านเป็น กำพร้าตั้งแต่เยาว์วัย ท่านเป็นคนว่านอนสอนง่ายไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับใครเป็นเกรงใจคนอื่นและเป็น คนเสงี่ยมเจียมตนเสมอ พอ อายุ ย่าง ๑๔ ปี พี่ก็นำไปฝากให้เป็นศิษย์วัด เพื่อเรียนหนังสือแบบล้านนา ณ วัดบ้านผาปังหลวง ซึ่งเป็นวัดในหมู่บ้าน พระอาจารย์ติ๊บ อุบาลี ท่านเป็นคนมีเมตตามาตั้งแต่เด็ก ๆ สมัยเมื่อท่านเป็นศิษย์วัด ได้มีศิษย์วัดด้วยกันชวนท่านไปจับนกตะขาบโดยใช้กับดัก ท่านก็ไปด้วยความ ไม่อยากจะขัดใจเพื่อน ท่านก็ไปเมื่อจับนกตะขาบได้เพื่อนๆ ก็ให้ท่านเป็นผู้ถือเพราะท่านไม่ค่อยจะร่วมทำกิจกรรมอื่นๆ เมื่อท่านถือนก ก็เกิดความสงสารจึงแอบปล่อยนกไปหมด แล้วบอกเพื่อนๆ ว่านกหลุดมือไป เพื่อนๆ ชวนท่านไปจับปลาท่านก็แอบปล่อย จนเพื่อนๆไม่ชวนท่าน ไปอีกเลย ต่อมาเมื่อท่านเรียนสวดมนต์ได้คล่องแล้วก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัด บ้านผาปังหลวงนั่นเอง โดยมีพระคำมูลเป็นเจ้าอาวาส พอวันแรกที่ท่านเป็น สามเณรท่านก็เริ่มฉันอาหารมื้อเดียว ไม่นานท่านก็ได้ไปเรียนหนังสือไทยภาคกลางและเรียนนักธรรมที่วัดท่านางอำเภอ เถิน ตามประเพณีท้องถิ่นของอำเภอเถินพอมีสามเณรมาเรียนนักธรรมจะมีพ่อแม่อุปถัมภ์ (เรียกว่าพ่อออกแม่ออก)จะนำอาหารมาส่งให้ทั้งตอน เช้าและตอนกลางวันสามเณรรูปอื่นเขามีโยมอุปถากกันหมด พระอาจารย์ติ๊บมีพ่อแม่อุปถัมภ์ช้ากว่าเขาเนื่องจาก บุคลิกที่ไม่ค่อยพูดประกอบกับหน้าตาไม่ หล่อเหลาเหมือนคนอื่นเขาในที่สุดท่านก็ได้พ่อหนานป้อง แม่มา (ไม่ทราบนามสกุล)เป็นผู้อุปถัมภ์ มีเรื่องเล่าว่าพ่อหนานป้อง แม่มา เกิดความ-สงสัยว่า อาหารมื้อกลางวันที่ส่งให้พระอาจารย์ติ๊บ ไม่พร่องเลยคล้ายกับไม่ฉันหลายวันติดต่อกัน พ่อหนานป้องจึงถามดู ด้ความว่าพระอาจารย์ติ๊บ ฉันอาหารมื้อเดียว และเลือกแต่อาหารผักเท่านั้น เกิดความปลื้มปิติยินดีแก่พ่อแม่อุปถัมภ์เป็นอย่างมากถึงกับเที่ยวอวดใครต่อ ใครว่าสามเณร เหลือเดนที่พ่อหนานป้องรับอุปถาก นั้นเป็นเพชรในตม ที่คนอื่นมองไม่เห็น พ่อหนานป้องแม่มาจึงภูมิใจและเพิ่มความเอาใจใส่มากยิ่งขึ้น เป็น พิเศษ พออยู่มา ๒ ปี ท่านก็เริ่มฉันอาหารเจ และออกปฏิบัติธรรมในที่ต่างๆ นับว่าท่านสร้างสมบารมีมามากท่านจึงทำได้ถึงเพียงนี้เพราะสมัยนั้นท่านไม่มี แบบอย่างที่ไหนมาก่อนเลย

    พออายุครบ๒๑ปี ท่านก็อุปสมบท ณ วัดผาปังหลวง พอจำพรรษาอยู่ที่วัดผาปังหลวงได้ไม่นาน ท่านก็เดินทางไปเรียนมูลกัจจาย์สามัญญภิธาน-สนธิ กับครูบาหมีที่วัดเมืองหม้อ อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ อยู่หลายพรรษาจนจบแล้วสามารถแปลบาลีได้ ครูบาติ๊บท่านมีความศรัทธาครูบาศรีวิไชยเพราะได้ยินกิตติศัพท์ของครูบาศรีวิ ไชย ท่านจึงจาริกติดตามครูบาเจ้าศรีวิชัยและอยู่ปรนนิบัติรับใช้ครูบาศรีวิไชย ตลอดมา และครูบาศรีวิไชยคงจะทราบด้วยญาณว่าครูบาติ๊บเป็นพระระดับไหน จึงทำให้ครูบาถึงกับเอ่ยว่า ครูบาติ๊บจะเสมอท่านแต่ติดตรงที่ ครูบาศรีวิไชยชี้ไปที่ลำตัวครูบาติ๊บที่สักยันต์เต็มตัวไปหมด หลายปี ท่านก็แยกตัวออกมาจาริกไปจำพรรษาอยู่วัดพระนอนม่อนช้าง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ได้ ๕ พรรษา แล้วจึงกลับมาวัดผาปังบ้านเดิม

    ปีพ.ศ.๒๔๗๔ ชาวบ้านผาปังประมาณ ๒๐ ครอบครัว ได้พากันอพยพมาอยู่บ้านหัวฝาย ตำบลนาทุ่ง อำเภอสวรรคโลก(สมัยนั้นยังไม่แยกเป็นอำเภอทุ่งเสลี่ยม) จังหวัดสุโขทัย ตามบรรดาชาวบ้านที่อพยบมาก่อนหน้านี้ ๕-๖ ปี ในจำนวนผู้อพยบมีนางดิบพี่สาวของท่านด้วย ท่านก็ได้อพยบมาพร้อม กับพี่สาว มาอยู่บ้านหัวฝายในปัจจุบัน สมัยนั้นบ้านหัวฝายยังเป็นป่าดงดิบเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายนานาชนิด ชาวบ้านก็ช่วยกันถางป่าบนเนินเขาเล็กๆใกล้ๆหมู่บ้านเป็นที่ จำวัตรและเป็นที่ปฏิบัติของท่าน จนมาเป็นวัดหัวฝายในปัจจุบัน ท่านก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดหัวฝายเป็นรูปแรก สมัยนั้นในระแวกนี้ไม่มีอุปัชฌาย์กุลบุตร ที่มีความประสงค์จะบรรพชาอุปสมบทต้องไปที่อำเภอสวรรคโลก ระยะทางไกลประกอบอันตรายต่างๆนาๆ เจ้าคุณสังวรสังฆปรินายก ซึ่งเป็นเจ้าคณะ จังหวัดสุโขทัยสมัยแต่งตั้งท่านเป็นอุปัชฌาย์ พอท่านทราบข่าว(ตอนนั้นท่านมีพรรษา ๑๒ พรรษา) ท่านกลัวจะเป็นการผูกมัดด้วยยศตำแหน่งท่านจึงลาสิกขา ๗ วัน โดยนุ่งขาวห่มขาวถือศีลแปดอยู่ในวัด และก็อุปสมบทใหม่ เพื่อให้ พรรษาต่ำลงจนไม่สามารถเป็นอุปัชฌาย์ได้ ท่านเป็นพระที่ไม่ชอบอยู่กับที่ท่านมักจะหาทีสงบอยู่เสมอเช่นในถ้ำเช่นถ้ำ แม่กะสา ถ้ำเชิงผา
    และหลายๆที่ ท่านเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านเป็นจำนวนมากสมัยนั้นมีญาติโยมหลายที่ นิมนต์ท่านไปเป็นประธานสร้างวัดทั้งใกล้ทั้งไกลพอที่
    จะเรียบเรียงได้มีดังนี้
    ๑. กุฏิ วิหารวัดสันหล่อ อำเภอแม่ละมาด
    ๒. เจดีย์ วัดผาปัง อำเภอแม่พริก
    ๓.เจดีย์ ถ้ำแม่กะสา อำเภอแม่สอด
    ๔.หอประชุม อุบาลีอุปถัมภ์ โรงเรียนบ้าหัวฝาย

    แล้วก็มีวัดที่ญาติโยมนิมนต์ท่านเป็นประธานก่อตั้งวัดมีดังนี้
    ๑.วัดสังฆทน(แม่ทุเลา) อำเภอทุ่งเสลี่ยม
    ๒.วัดคลองสำราญ อำเภอทุ่งเสลี่ยม
    ๓.วัดท่วิเศษ อำเภอทุ่งเสลี่ยม
    ๔.วัดเชิงผา อำเภอทุ่งเสลี่ยม
    ๕.วัดต้นธงชัย (วัดที่ครูบาขาวปีมรณะภาพ) อำเภอทุ่งเสลี่ยม
    ๖.วัดชัยอุดม อำเภอทุ่งเสลี่ยม
    ๗.วัดเขาแก้วชัยมงคล อำเภอทุ่งเสลี่ยม
    ๘.วัดม่อนศรีสมบุรณาราม อำเภอทุ่งเสลี่ยม
    ๙.วัดฝั่งหมิ่น อำเภอทุ่งเสลี่ยม
    ๑๐.วัดวังธาร อำเภอทุ่งเสลี่ยม
    ๑๑.วัดห้วยขี้นก อำเภอแม่พริก
    ๑๒.วัดป่าคา อำเภอศรีสัชชนาลัย
    สร้างวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังท่านครูบาติ๊บ ท่านได้สร้างเครื่องรางของขลังทุกอย่างไว้แจกจ่ายชาวบ้านเพื่อป้องกัน อันตราย ครั้ง เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2485 ครูบาอายุราวๆ 45 ปี นับได้ว่าเก่งคาถาอาคมมาตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น ตะกรุดชนิดต่างๆ ผ้ายันต์แบบต่างๆ เสื้อยันต์แบบต่างๆ รูปถ่ายขาวดำ เหรียญรุ่น 1 และ รุ่น2 ในปี 2511- 2513 พอมาปี 2514 ก็ไปออกที่วัดผาปังกลางอีก 1 รุ่น คราวบูรณะวัดผาปังกลาง วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์มากมาย ดีเด่นทางแคล้วคลาดมหาอุด จนหนังสือข่าวสดนำไปลงว่าเหรียญครูบาติ๊บอุดลูกปืนครูบาติ๊บที่สุโขทัยยกย่องให้ท่านเป็น 1 ใน 15 บูรพาจารย์ของจังหวัดสุโขทัย ครับ

    เหรียญรุ่นแรกของท่านจัดสร้างขึ้นในปี 2511 ด้านหน้าเป็นรูปขององค์ท่านครูบาด้านหลังเป็นยันต์นะฉัพพัณรังสีหน้าทอง

    กะระณียะเมตตา นารี สุขุมารา ชาโน โจรัง ไมยถีจิตตัง อนุกัมปัง อุปปาธายะ (คาถาหลังเหรียญครูบาติ๊ป)

    เป็นยันต์ที่ท่านย่อลงมา เพื่อให้พอกับพื้นที่หลังเหรียญ ซึ่งคาถาบทนี้ บทเต็มท่านเรียกว่า คาถา นะฉัพพัณรังสี เมตตาดี

    คัดย่อมาจาก

    นะสุวัณโณนะมัสสิต์วา โมกาโรมะณีโชตะกัง พุทกาโรสังขะเมวะจะ ทากาโรสุริยังเอวะ ยะกาโรมุกขะเมวะจะ สะทะมะมัง มังมะทะสะกะระณียะเมตตังสัตตา เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา จิตตัง ๆ เชยยะนารี จักกะวัตติราชา มะโนโจรัง ไมตรี จิตตัง ฯ

    นะฉัพพัณรังสีหน้าทองนี้ ใช้ลงผงหรือจะลงใส่ฝ่ามือก็ได้แล้วให้เอาผงทาหน้าไปเป็นเมตตามหานิยมประเสริฐยิ่งนัก แก้วหาค่ามิได้เลยนะอันเป็นฉบับวัดประดู่โรงธรรมอยุธยา สืบมาแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ต้นฉบับมาจากท่านยวัดมะขามเฒ่าฉบับหนึ่ง จากต้นฉบับของสมเด็จกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (พระบัณฑูร) อีกฉบับหนึ่ง สอบทานตรงกันแล ฯ

    เหรียญรุ่นแรกจัดสร้างน้อยมากเป็นเหรียญยอดนิยม หายากของสุโขทัย


    คุณ j999 บูชาแล้วครับ

    Clip_41.jpg Clip_42.jpg Clip_35.jpg Clip_31.jpg Clip_33.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2020
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6112

    เหรียญรุ่นแรกครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุยเนื้อทองแดง บล็อก2 ตานิยม สวยเดิมๆ


    ครูบาเจ้าชุ่ม โพธิโก เป็นพระผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ท่านปฏิบัติตามแนวทางกรรมฐาน 40 ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างอุกฤษฏ์ ชนิดยอมเอาชีวิตเข้าแลก จึงปรากฏว่าท่านเป็นที่เคารพบูชาของชาวล้านนา และบุคคลทั่วไปอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเมื่อ 30 ปีก่อน นามของท่านยิ่งขจรขจายฟุ้งไปอีก กับเรื่องราวที่ท่านเข้านิโรธสมาบัติ ด้วยพลังแห่งฌานสมาบัติที่แก่กล้า และพลังแห่งเมตตาจิต รวมทั้งสรรพวิชาที่ท่านได้เพียรศึกษาและสั่งสมมาตามคติครูบาอาจารย์ ทำให้กิตติศัพท์ความเก่งกล้าทางด้านวิชาพุทธาคมของหลวงปู่ชุ่ม เป็นที่เชื่อมั่นในหมู่ประชาชนยิ่งนัก โดยเฉพาะด้านคงกระพัน มหาอุด แคล้วคลาด หลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ผู้เป็นสหธรรมมิกอาวุโสสูงกว่า เคยนิมนต์หลวงปู่ชุ่มไปเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่อง เพื่อหาทุนสร้างโรงเรียนและศาลาวัดป่าดอนมูล กล่าวว่า
    “หลวงปู่ชุ่มท่านเป็นพระภิกษุที่มีความชำนาญด้านการผูกอักขระเลขยันต์ต่างๆ รวมทั้งมีอำนาจฌานสมบัติที่แกกล้าและขลังมาก”
    พระเครื่องทั้งประเภทเนื้อโลหะ และประเภทเนื้อผง เมื่อผู้เลื่อมใสศรัทธานำไปพกพาติดตัว เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ต่างประสบเหตุการณ์ มีอภินิหารต่างๆ นานา ทั้งด้านเมตตามหานิยม มหาอุด แคล้วคลาด คงกระพัน ส่งผลให้ชาวจังหวัดลำพูน และชาวจังหวัดใกล้เคียงในยุคนั้น ต่างแวะเวียนมากราบนมัสการท่าน เพื่อขอของดีกันไม่ขาดสาย ท่านจึงมักเมตตาทำวัตถุมงคลแต่ละชนิดให้แต่ละคนตามวาสนาที่แตกต่างกัน โดยที่หลวงปู่ชุ่มไม่เคยตั้งราคาวัตถุมงคลที่ท่านแจกเลย ทั้งนี้ผู้มีจิตศรัทธาจะทำบุญกับท่านตามกำลังทรัพย์ที่พึงมี ปัจจัยทั้งหลายที่มีผู้ทำบุญถวายแด่ท่าน ล้วนถูกนำไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ และการศาสนาทั้งสิ้นวัตถุมงคลของท่านในยุคเริ่มแรกจะเป็น ผ้ายันต์ ตะกรุด ล็อกเกตรูปถ่ายของท่าน และพระผงที่จัดสร้างเพื่อนำไปบรรจุตามพระเจดีย์ต่างๆ ที่ท่านไปนั่งหนักเป็นประธานสร้าง หรือบูรณปฏิสังขรณ์ไว้นั่นเอง
    สวยเดิมมีเกศาชัดเจน สร้างน้อยครับ

    ยันต์ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์ที่ครูบาชุ่มท่านผูกเป็นพระยันต์ขึ้นมาเอง โดยอาศัยการนำบทพุทธมนต์ที่ศึกษามาจากธรรมมูลกัจจาย(ในสมัยก่อน ครูบาชุ่มท่านเป็นผู้คงแก่เรียนศึกษาตำราทุกอย่าง และเป็นผู้แตกฉานเรื่องคัมภีย์มูลกัจจาย อย่างเออุท่านหนึ่งเลยทีเดียว)มาตีเป็นตารางยันต์ตามหลักแม่ธาตุหัวใจยันต์ ตรงใจกลางยันต์ถอดมาได้เป็นยันต์ หัวใจพระพุทธคุณ บางตำราท่านกล่าวว่าเป็นยันต์ สิริแปดเหลี่ยม ( หรือ สิริทั้ง 8) เน้น ทางชุ่มเย็นเป็นสุขด้วยสิริทั้ง8ประการ ล้อมด้วยพระคาถา หัวใจขึด (อุบาทว์ หรือความเชื่อที่เป็นข้อห้ามของชาวล้านนา) คาถาธรรมโลกะวุฒธิ ซึ่งเป็นต้นบทคาถาที่ใช้สวดการเทศนา คาถา หัวใจธรรมเกี่ยวกับการเกิดดับแห่งสรรพสิ่ง และคาถา หัวใจก่าสะท้อน(ท่านเพิ่งนำมาลงในยันต์ด้านหลังเหรียญนี้ครั้งแรก) ถัดขึ้นไป เขียนยันต์ที่ล้านนาที่ชื่อว่า ก๋ะ ย๊ะ ว๊ะ( ยักษ์3ตัว) ใช้สำหรับกันผี ผีกลัว ถัดไปเป็นคาถา มะ อะ อุ (หัวใจพระรัตนไตร ) ส่วนในยันต์รูปน้ำเต้านั้น ครูบาชุ่มท่านน่าจะคิดเป็นรูปแห่งพระอรหันต์ทั้งแปดทิศ ไว้บูชาสำหรับกันภัย และเพื่อคุณวิเศษต่างของพระอรหันต์เหล่านั้นที่พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงยกย่องว่า เป็น เอตทัคคะในด้านต่างๆเช่น 1.พระอัญญาโกณฑัญญะ ประจำทิศ ตะวันออก เป็นเอตทัคคะในด้าน รัตตัญญู เป็นพระสงฆ์องค์แรกแห่งพระพุทธศาสนา เด่นทางด้านเมตตามหานิยมมีความสำเร็จก่อนผู้ใด 2.พระมหากัสสปะ ประจำทิศ ตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเอตทัคคะในด้าน ถือธุดงค์วัตรเป็นเอก เด่นทางด้านคุ้มภัย 3.พระสารีบุตร ประจำทิศ ใต้ เป็นอัครสาวกด้านขวาแห่งพระพุทธเจ้า เอตทัคคะเป็นผู้เลิศทางปัญญา เด่นทางด้านมีสติปัญญาแก้ปัญญา 4.พระอุบาลี ประจำทิศ ตะวันตกเฉียงใต้ เอตทัคคะด้านพระวินัยเป็นเลิศ เด่นทางด้านมีสิ่งมงคลในชีวิตป็นเลิศ 5.พระอานนท์ ประจำทิศ ตะวันตก เป็นพระอุปัฎฐากของพระสัมามสัมพุทธเจ้าและเป็นพระที่พระพุทธเจ้าพระองค์ท่านทรงยกย่องให้เป็นเอตทัคคะ5ประการด้วยกันคือ 1.มีสติรอบคอบ 2.มีความทรงจำแม่น 3.มีความเพียรดี 4.ผู้เป็นพหูสูตร 5.เป็นยอดพระภิกษุผู้อุปัฎฐากพระพุทธเจ้า 6.พระควัมบดี (พระมหากัจจายนะ)หรือพระสิวลีเถระ ประจำทิศ ตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นเอตทัคคะด้านการมีลาภสักการะเป็นเลิศ 7.พระโมคคัลลานะ ประจำทิศ เหนือ พระอัครสาวกด้านซ้ายแห่งพระพุทธเจ้าเป็นเอตทัคคะเรื่องการมีฤทธิ์ อิทธิปาฏิหาริย์มาก เด่นเรื่องคุ้มภัย มีตบะเดชะ 8.พระราหุล ประจำทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นบุตรแห่งองค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธะเจ้า เป็นเอตทัคคะ เรื่องการใฝ่รู้และการศึกษา เด่นทางด้านเจริญรุ่งเรือง นั่นคือเรื่องของพระอรหันต์ที่เป็นเลิศด้านต่างๆ ที่โบราณคณาจารย์ท่านกำหนดไว้ในเรื่องทิศทั้ง8มาแต่อดีตกาล ในส่วนยันต์ของครูบาชุ่มนั้นท่านจะไม่บอกอักษรใดที่แสดงชื่อของพระอรหันต์ทั้ง8 แต่จะใช้ลักษณะรูปยันต์น้ำเต้า(เหมือนพระนั่งทั้ง8ทิศ) ล้อมรอบด้วยตารางยันต์ที่กล่าวไว้ข้างต้น เพราะรูปลักษณะแห่งยันต์ของครูบาชุ่มนี้เป็นเอกลักษณ์ของครูบาชุ่มเอง โดยตรง แม้แต่ตัวโค๊ตรูปวงกลมที่ตอกนั้นยังเป็นอักษรย่อของยันต์กันขึด คือ ว๊ะ ม๊ะ ต๊ะ (คาถาเต็มคือ ว๊ะ ม๊ะต๊ะ ก๊ะม๊ะย๊ะ) รวมไปถึงพระเนื้อผงรุ่นแรกครูบาชุ่มที่เขียนเป็นตัวล้านนาที่อ่านว่า “วิวะ อะวะสุสัตตะ วิวะสวาหะ” ไม่ใช่คาถาบูชาครูบาชุ่มอย่างที่หนังสือต่างๆพิมพ์กัน นี่คือหัวใจคาถากันภัยนะครับ ชื่อว่า คาถาพระโพธิสัตว์พาแม่ข้ามฝั่ง ส่วนในด้านพุทธคุณโดยรวมแห่งเหรียญรุ่นแรกครูบาชุ่มนั้น มีครบทุกกระบวนความ ทั้งเรื่องมหาอุตย์ คงกระพัน เมตตา มหานิยมโชคลาภ กันภัย กันผี ก่าสะท้อน ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ร่มเย็นเป็นสุข ทำมาค้าขายคล่องกันขึด แก้อุบาทว์แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาและก็ด้วยบารมีแห่งพระรัตนะไตร ครูบาศรีวิชัยตลอดจนครูบาอาจารย์ของครูบาชุ่มทุกองค์และบารมีของครูบาชุ่ม รวมถึงการปลุกเสกแห่งพระอริยะเจ้าที่ได้ชื่อว่าเป็นดั่งมือขวาของครูบาเจ้าศรีวิชัย ประเด็นเรื่องพุทธคณของเหรียญนี้ยังมีหลายท่านเข้าใจว่าเหรียญรุ่นแรกของครูบาชุ่ม เป็นมหาอุตย์ คงกระพันอย่างเดียว ด้วยในยุคสมัยนั้นยังมีเรื่องต่อสู้ เข้ารบสงคราม โจรผู้ร้ายยังชุกชุมอยู่ คนที่เล่ากันส่วนมากจะต้องแคล้วคลาดปลอดภัยเป็นหลักเกิดเป็นความเชื่อที่ว่า เหรียญของครูชุ่มเด่นเรื่อง มหาอุตย์ คงกระพันแคล้วคลาด เมื่อคราวที่ครูบาชุ่มท่านสร้างตะกรุดหนังฯ ท่านได้ลงพระคาถาต่างๆไว้ ซึ่งรวมทั้งก๋าสะท้อนด้วย ต่อมาท่านได้ผูกพระยันต์ขึ้นเองดังที่ลงไว้หลังเหรียญรุ่นแรก ซึ่งมีคุณทางสะท้อนสิ่งไม่ดีด้วย
    ครูบาชุ่ม วัดวังมุย พระอริยสงฆ์ศิษย์สายครูบาศรีวิชัย
    พระสุฏิปันโนที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคารพนับถือในตัวท่านมาก
    เจ้าของตำรา ตะกรุดหนังพอกครั่งแห่งล้าน วัตถุมงคลท่านมีประสบการณ์ทุกรุ่นจนเป็นพระยอดนิยมของเมืองเหนือ


    บูชาแล้วครับ


    Clip_43.jpg Clip_44.jpg Clip_46.jpg Clip_47.jpg Clip_48.jpg Clip_49.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2020
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6113

    ปิดตารุ่นแรกพิมพ์เล็กหลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน เนื้อนวะโลหะ ปี 2518 กล่องเดิมครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_64.jpg Clip_59.jpg Clip_60.jpg Clip_61.jpg Clip_62.jpg Clip_63.jpg [ Clip_54.jpg

    หลวงพ่อเมือง อุตฺตโม
    วัดท่าแหน ตำบลแม่ทะ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง
    "พระผู้มีอตีตังสญาณ ผู้หยั่งรู้"
    พระครูอุดมเวทวรคุณ (นามเดิม เมืองใจทาหลี) เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน 2435 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปีมะโรง เป็นบุตรคนโตของ นายดวงแก้ว นางต่อม ใจทาหลี ณ บ้านเลขที่ 15 บ้านท่าแหน ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 5 คน คือ
    1. พระครูอุดมเวทวรคุณ (หลวงพ่อเมือง)
    2. นายมูล ใจทาหลี
    3. นางเกี๋ยง โยธา
    4. นายซุน ใจทาหลี
    5. นางคำใส ฟูชุม
    เมื่อเยาว์วัยได้เข้าเล่าเรียนศึกษากับอาจารย์คันธรฐ ที่วัดท่าแหน โดยเรียนอักขระภาษาภาคพายัพ (ภาษาพื้นเมือง) จนจบหลักสูตร เมื่อท่านได้เรียน อักขระพื้นเมือง ตลอดจนเจ็ดตำนานและสิบสองตำนานจบแล้ว จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2449 ณ วัดท่าแหน โดยมีอาจารย์ตันธวงศ์ วัดสันดอน ต.ดอนไฟ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์
    เมื่อบรรพชาเป็นสามเณร ก็ได้เล่าเรียนตำรับตำราต่างๆ และเมื่ออายุครบบวช จึงได้ทำการอุปสมบท ในวันที่ 21 มิถุนายน 2455 ณ วัดท่าแหน โดยมีพระคันธวงศ์เป็นผู้อุปชฌาย์ พระคันทะรต เป็นพระกรรมวาจารย์ พระปิ่นไชย วัดบ้านหลวง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้ปฏิบัติศาสนกิจอยู่วัดท่าแหน ก็ได้มีความสนใจใคร่เรียนรู้วิธีปฏิบัติสมถะ วิปัสสนากัมมัฏฐานจึงได้ค้นคว้าจากตำราเก่าแก่ และทดลองปฏิบัติเรื่อยมา โดยไปศึกษาค้นคว้านอกสำนักบ้าง โดยมีหลักฐานจากการบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่สืบต่อกันมา อาทิเช่น
    1. ไปจำพรรษา ณ วัดสันดอน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง 1 พรรษา
    2. ไปจำพรรษา ณ วัดพระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง 1 พรรษา
    3. ไปจำพรรษา ณ วัดศรีหมวดเกล้า อ.เมือง จ.ลำปาง 1 พรรษา
    4. ไปจำพรรษา ณ วัดสันดอน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง 1 พรรษา
    ซึ่งทั้งนี้ไปเพื่อค้นคว้าศึกษาด้านสมถะวิปัสสนากัมมัฏฐาน หลวงพ่อเมือง ท่านเสาะแสวงหาหนทางวิธีวิปัสสนากัมมัฏฐานไปแทบทั่วทุกแห่ง เมื่อครั้งที่พระเทพวิสุทธิโสภณ (อดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง) ในปี พ.ศ.2473 ขณะนั้นยังเป็นพระสิงห์คำได้ไปตรวจตราคณะสงฆ์แทน เจ้าคณะมณฑลพายัพกับพระมหาปู อัตตลีโว อดีตเจ้าคุณอุบาลีคณูปมาจารย์ วัดพระสิงห์เจ้าคณะภาค 5 ได้ตรวจไปจนถึงวัดท่าแหน พบหลวงพ่อเมืองอยู่ในกุฎิมืดทึบไม่มีหน้าต่าง มีแต่ช่องลมเล็กๆ ประมาณคืบเศษ มีเนื้อตัวผอมเหลือง จึงได้ถามหลวงพ่อเมืองว่าเป็นโรคอะไร หลวงพ่อเมืองก็ได้ตอบว่าไม่เป็นอะไร และภายหลังได้ทราบว่า หลวงพ่อเมืองท่าเป็นพระชอบอยู่ป่าช้าเจริญสมถะ และวิปัสสนากัมมัฏฐานเพ่งกสิณอยู่เป็นนิจ กระทั่งวันหนึ่ง หลวงพ่อเมืองได้เป็นพบคำภีร์โบราณ (หนังสือภาคพายัพ) ในตู้พระไตรปิฎก ณ วัดบ้านหลุก ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้ทราบถึงวิธีปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในขณะที่อ่านนั้น ท่านก็ได้สัมผัสกลิ่นหอมของดอกไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีกลิ่นหอมมาก หลวงพ่อเมืองไม่เคยได้สัมผัสกลิ่นชนิดนี้มาก่อน ดังนั้นหลวงพ่อเมืองจึงขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดบ้านหลุก นำเอาตำราวิปัสสนากัมมัฏฐานนี้กลับไป วัดท่าแหน เพื่อศึกษาและปฏิบัติ โดยศึกษานานอยู่ 6 ปี จึงสามารถกระทำจิตใจให้แน่วแน่เป็นสมาธิได้ คือสามารถรวมใจเป็นดวงเดียว ซึ่งเรียกกันว่า บริกรรมนั่งทางใน จนสามารถนั่งทางในมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่คนธรรมดาสามัญมองไม่เห็นได้ ตั้งแต่นั้นมาก็มีลูกศิษย์ลูกหาให้ท่านนั่งทางในดู หลวงพ่อเมืองก็สามารถทำนายทายทักให้ถูกต้องแม่นยำ หรือแม้กระทั่ง หลวงพ่อเกษม เขมโก ยังได้เอ่ยกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อพระองค์ทรงตรัสถามหลวงพ่อเกษมว่า "ชาติที่แล้วพระองค์ทรงเป็นนักรบใช่หรือไม่" หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ตอบพระองค์ท่านว่า "เราไม่รู้สิต้องไปถามหลวงพ่อเมือง ท่านมีอตีตังสญาณ" แสดงให้เห็นว่า หลวงพ่อเกษม ทราบดีว่า หลวงพ่อเมือง ได้สำเร็จในการปฏิบัติธรรมถึงขั้น ทิพย์จักษุฌาน ซึ่งเป็นระดับความสำเร็จของการปฏิบัติกัมมัฏฐานขั้นสูงชั้นหนึ่ง
    หลวงพ่อเมือง ได้ช่วยเหลือประชาชนด้วยความกรุณา โดยไม่เลือกชั้นวรรณะมีหรือจน ท่านปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเท่าเทียมทั่วกัน โดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยาก ท่านช่วยเหลือประชาชนในด้านสุขภาพ และเดือดร้อนประการอื่นๆ ด้วยการนั่งสมาธิแล้วแจ้งให้ผู้มาขอความช่วยเหลือได้ทราบถึงมูลเหตุ และแก้ไขด้วยวิธีต่างๆ เช่น ทำบุญให้ทาน หรือกำจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคและเป็นมูลเหตุให้เกิดความเดือดร้อนที่ได้ขุดพบ ซึ่งทั้งนี้เป็นผลที่พอใจของทุกคน ฝูงชนจึงได้หลั่งไหลไปสู่วัดท่าแหนไม่ขาดสายบางวันก็มาเต็มคันโดยสาร และค้างคืนที่วัดก็มี ที่กรุงเทพมหานครก็เช่นกันหากหลวงพ่อเมืองมาพัก ณ วัดใด ฝูงชนจะพากันไปวัดนั้นอย่างคับคั่ง
    ถึงแม้นท่านจะมีความเมตตาธรรมต่อผู้อื่นทั่วไปอย่างไรก็ตาม แต่ทุกชีวิตที่เกิดย่อมที่จะหนีไม่พ้นสังขารไปได้ ดังนั้นเมื่อปลายแห่งชีวิต โรคภัย ไข้ เจ็บ ก็เริ่มคุกคามหลวงพ่อเมือง จนกระทั่งศิษยานุศิษย์ได้นำท่านไปรักษายังโรงพยาบาลหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายได้นำท่านไปทำการผ่านตัด และรักษาที่โรงพยาบาลสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ แต่อาการของหลวงพ่อก็ไม่ดีขึ้น ในที่สุดเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้น ศิษยานุศิษย์จึงได้นำท่านกลับมายังวัดท่าแหนและแล้วหลวงพ่อเมืองก็ได้ถึงแก่มรณภาพ ณ วัดท่าแหน เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2519 เวลา 21.39 รวมอายุได้ 85 ปี ซึ่งนำความเศร้าโศกเสียใจมาสู่ญาติพี่น้องและคณะศิษยานุศิษย์ ประชาชนทั่วไป ที่ได้สูญเสียท่านพระครูอุดมเวทวรคุณ (หลวงพ่อเมือง อุตฺตโม)ไปอย่างไม่มีวันกลับ
    อ้างอิงจากหนังสือ พระเครื่องเมืองลำปาง 2556 หน้า 119-120 โดย ธีรเดช จังตระกูล(ต้น ลำปาง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2021

แชร์หน้านี้

Loading...