**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับพี่
     
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8073

    เหรียญรุ่นแรกพระบรมธาตุหริภูญไชย จ.ลำพูน ปี2460 เนื้อเงิน


    ประวัติพระธาตุหริภุญไชย

    ครั้งหนึ่งพระเจ้าอาทิตยราช โปรดให้ช่างสร้างปราสาท แล้วปลูกหอจัณฑาคาร (ที่พระบังคน) ไว้ใกล้กับปราสาทนั้น โดยพระองค์มิได้ทรงทราบว่าที่นั้น มีพระบรมสารีริกธาตุ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว เวลาพระองค์เสด็จไปลงพระบังคนครั้งใด ก็จะมีกาตัวหนึ่งที่เฝ้าอยู่ นั้น บินมาถ่ายมูลต้องพระเศียร กระพือปีกบินโฉบพระเศียร ทำกิริยาขับไล่พระองค์ให้ไปพ้นจากที่นั้น พระเจ้าอาทิตยราช ทั้งทรงพิโรธ ทั้งอัศจรรย์ พระทัย จึงรับสั่งให้ข้าราชบริพาร ช่วยจับกาตัวนั้นมาให้ได้ แต่ทำอย่างไรก็จับกาตัวนั้นไม่ได้ จนพระเจ้าอาทิตยราช ต้องบนบานต่อเทวดาผู้รักษา พระนครให้จับกาตัวตั้น ในที่สุดก็จับได้ แล้วนำไปขังไว้ คืนนั้น ทรงพระสุบินว่า เทพยดามาแจ้งแก่พระองค์ว่า ให้เอาทารกเกิดได้ 7 วัน ไปขังรวมกับกา ทารกได้ฟังเสียงกาทุกวัน ก็จะฟังภาษากาออกครั้งบรรทมตื่นแล้ว พระเจ้าอาทิตยราช ก็โปรดให้ทำตามที่ทรงพระสุบินทุกประการ เมื่อทารกอายุได้ 9 ขวบ ก็สามารถรู้ภาษา และพูดกับกาได้ พระเจ้าอาทิตยราช ก็โปรดให้ถามสาเหตุที่กาประพฤติต่อพระองค์แต่หนหลัง ก็ทรงทราบว่า บริเวณหอจัณฑา คาร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระบรมศาสดา และกาได้รับคำสั่งให้เฝ้ารักษาสถานที่นี้ จึงได้ทำอาการทักท้วง พระเจ้าอาทิตยราช ทรงเลื่อมใสศรัทธาในพระบรมศาสดาเป็นอันมาก จึงโปรดให้รื้อหอจัณฑาคาร และขุดดินไม่ดีออกไปทิ้งนอกพระนคร แล้วนำดินดีมาถมปราบพื้น ให้เรียบ แล้วโรยด้วยทราย ตั้งพิธีมณฑลปักราชวัตรฉัตรธง แต่งด้วยดอกไม้หอม และจุดเทียนทำการสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ทั้งยังป่าว ประกาศชาวเมือง ให้มาสักการะบูชาด้วย เมื่อประกอบพิธีสักการะบูชาแล้ว ผอบแวขนาดเท่าปลีกล้วย ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ก็ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ให้เห็นเป็นปาฏิหาริย์ทั่วกัน ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้น ต่างปีติยินดีอย่างยิ่ง พระเจ้าอาทิตยราช โปรดให้สร้างพระธาตุ สูง 3 วา เป็นแบบเจดีย์มอญ แล้วสร้าง พระวิหารการเปรียญ มีซุ้มทั้ง 4 ด้าน ครอบโกศทองคำสูง 3 ศอก ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แล้วสร้างพระวิหารการเปรียญ ศาลาน้อยใหญ่ขึ้น ประกอบ จึงกลายเป็นวัดสำคัญประจำพระนคร เสร็จแล้ว โปรดให้จัดงานฉลองใหญ่ โดยเหตุนี้ จึงให้ถือกันในโบราณว่า หากผู้ใดจะปลูกบ้าน สร้างเรือน ในเมืองลำพูนนั้น จะต้องมีความสูง ไม่เกิน 3 วา เพราะเกรงว่า จะสูงกว่าพระธาตุ

    ในรัชกาลพระเจ้าสัพพสิทธิ โปรดให้สร้างโกศทองเสริมต่ออีก 1 ศอก และสร้างมณฑปเสริมต่อพระธาตุขึ้นไปอีก 2 วา กษัตริย์ รัชกาลหลัง ๆ ทรงทะนุบำรุง จนกระทั่งเมืองหริภุญชัย ตกอยู่ในอำนาจของพ่อขันเม็งรายมหาราช พระองค์โปรดให้สร้างมณฑปเสริมต่อพระบรมธาตุขึ้นอีก 10 วา และเอาทองสักโก (ทองที่ตีเป็นแผ่น ๆ) หุ้มพระธาตุ ตั้งแต่ชานจนถึงยอดแลดูเหลืองอร่ามงดงาม ต่อมามีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุนี้อีกหลาย ครั้ง ในรัชกาลพระเจ้าติโลกราช เมื่อ พ.ศ. 1986 ได้โปรดให้เสริมพระธาตุเป็น 23 วา ฐานกว้าง 12 วา 2 ศอก ยอดมีฉัตร 7 ชั้น ต่อมาพระเมืองแก้ว ได้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ และสร้างระเบียงหอก ซึ่งเป็นรั้วล้อมเมืองแก้ว 500 เล่ม แล้วทรงสร้างวิหารหลวง พ.ศ. 2329 ซึ่งพระเจ้ากาวิละทรงทำการ บูรณะพระบรมธาตุ และทรงสร้างฉัตรหลวงขึ้น 4 มุม พร้อมกับสร้างฉัตรยอดเจดีย์ด้วยทองคำเป็น 9 ชั้น ฐานพระธาตุเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 10 วา และสร้างรั้วทองเหลืองล้อมรอบองค์เจดีย์ ด้านในองค์พระธาตุเป็นสีทองอร่าม

    พระธาตุหริภุญชัย เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์สำคัญของจังหวัดลำพูน เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลำพูน และเป็นหนึ่งในพระธาตุสำคัญแห่งดินแดนล้านนา นอกจากนี้ยังเป็นพระธาตุประจำปีของคนเกิดปีระกา(ไก่)

    จัดเป็นเหรียญประจำปีสำหรับคนเกิดปีระกา สร้างเพื่อหารายได้บูรณะวัดเมื่อคราวถูกพายุพัดวิหารจนพังเมื่อปี 2458

    #เป็นเหรียญเก่าที่หายากของเมืองลำพูนครับ

    คุณ MTH บูชาแล้วครับ

    Clip_13.jpg Clip_14.jpg

    clip_101-jpg-jpg-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2021
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8074

    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ครูบาสิงห์แก้ว สิริวิชโย วัดป่าขาม ต. เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน


    พระเกจิผู้ทรงวิทยาคมแห่งหนองช้างคืน ศิษย์ในองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ผู้สมถะ สหธรรมิกหลวงปู่ครูบาชุ่ม วัดวังมุย ครูบาหน้อย วัดบ้านปง ครูบาอินตา วัดห้วยไซ ครูบาบุญปั๋น วัดร้องคุ้ม ตำนานพระผู้เฒ่าหนังเหนียวแห่งหนองช้างคืนตะกรุดและเหรียญของท่านมีประสบการณ์มากมายเด่นทางด้านคงกระพันชาตรี

    ถือเป็นเหรียญดีที่น่าใช้มากๆครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_33.jpg Clip_34.jpg Clip_35.jpg Clip_50.jpg Clip_42.jpg Clip_43.jpg Clip_44.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2021
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8076

    เหรียญพระนางจามเทวี ปี12 ครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืน


    เหรียญพระนางจามเทวี รุ่นแรก ปี 2512 วัดหนองช้างคืน ปลุกเสกโดยครูบาจันต๊ะ

    .วัดหนองช้างคืน เป็นวัดที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะนักนิยมสะสมวัตถุมงคลสาย "ครูบาจันต๊ะ อนาวิโล" อดีตพระเกจิชื่อดัง และอดีตเจ้าอาวาสฯ เจ้าตำรับตะกรุดขมังเวทย์ฯ,ขุนแผนล้านนาทั้ง รุ่น 1 รุ่น2 และเหรียญเจ้าแม่จามเทวี รุ่น 1,รุ่น2 ที่ปัจจุบันกำลังเป็นที่กล่าวขวัญในด้านพุทธคุณ ของวัตถุมงคลชุดนี้..เรียกได้ว่าพระกรุบางกรุต้องชิดซ้าย ราคาพุ่งพรวดทวีคูณ เป็นของรักของหวง ของผู้มีไว้ครอบครอง..
    เหรียญเจ้าแม่จามเทวี วัดหนองช้างคืน ปี 2512 เนื้อทองเหลือ กะไหล่เงิน(ชุบนิกเกิ้ล) อีกหนึ่งเหรียญหลักสุดยอดประสพการณ์ของจังหวัดลำพูน
    เหรียญพระนางจามเทวี รุ่นแรก วัดหนองช้างคืน ได้จัดสร้างเป็นครั้งแรก เนื่องในวาระที่ วัดหนองช้างคืนครบ 700 ปี เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ปี พ.ศ. 2512 เป็นความคิดริเริ่มของ นายสง่า พงษ์ศิลป์ อดีตข้าราชการกรมทางรถไฟ ซึ่งขณะนั้นเป็นเขยบ้านหนองช้างคืน และโดยความเห็นชอบจากครูบาจันต๊ะ อนาวิโล ซึ่งขณะนั้นเป็นรองเจ้าอาวาสวัดหนองช้างคืน ซึ่งทานเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วไปและมีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านการทำตระกรุด แจกจ่ายให้ลูกศิษย์ไปใช้ มีประสบการณ์ทางด้านหนังเหนียวคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากอาวุธ ของมีคม จนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีของคนในพื้นที่ และแม้กระทั่งคนต่างถิ่นแดนไกล ที่ได้ตระกุดของท่านไปไว้บูชา การสร้างเหรียญรุ่นดังกล่าวโดยการดำเนินการของคุณสง่า พงษ์ศิลป์ เป็นผู้ติดต่อประสานงานดำเนินการโดยมีพรรคพวกเพื่อนฝูงที่กรมศิลปากร ขณะนั้นเป็นผู้ช่วยออกแบบ และครูบา จันต๊ะ อนาวิโล เป็นผู้ลงอักขระภาษาล้านนา ในบล็อกแม่พิมพ์ของเหรียญที่สร้าง โดยมีวัตถุประสงค์การสร้างเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระนางเจ้าจามเทวีปฐมกษัตริรีแห่งนครหริภุญชัย ในโอกาสสร้างวัดหนองช้างคืน ครบรอบ 700 ปี และเพื่อเป็นการหาเงินไว้ตั้งเป็นกองทุนมูลนิธิวัดหนองช้างคืน ลักษณะของเหรียญเป็นรูปวงกลมรีมีห่วงในตัว เนื้อทองเหลืองเคลือบผิวสีเงิน(ชุบนิเกิล)
    จำนวนเหรียญที่สร้างมีทั้งหมดจำนวน 3,000 เหรียญ
    พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกในพิธีอาทิเช่น.
    - ครูบาเสาร์ ปัญโญ วัดหนองช้างคืน
    - ครูบาจันต๊ะ อนาวิโล วัดหนองช้างคืน
    - ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดชัยมงคล ( วังมุย )
    - ครูบาสิงห์แก้ว วัดป่าขาม
    - ครูบาพรหมมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    - ครูบาชัยวงค์ วัดพระบาทห้วยต้ม
    - ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล เป็นต้น
    -พระญาณมงคล เจ้าคณะ จังหวัดลำพูนวัดมหาวัน
    เป็นต้น การปลุกเสกนั้นได้จัดพิธีกรรมตามประเพณีเมืองเหนือล้านนา
    โดยมีการบวงสรวง อัญเชิญดวงพระวิญญาณ ของพระนางเจ้าจามเทวี โดยพิธีพราหมณ์ โดยมีการนั่งปรกตลอดคืน จนกระทั่งถึงรุ่งเช้า
    การเปิดให้เช่าบูชาสำหรับผู้สนใจขณะนั้นองค์ละ 10 บาท
    -ลักษณะเหรียญ
    เป็นเหรียญปั๊มตัดรูปไข่ มีหูในตัว เนื้อทองเหลืองเคลือบนิกเกิ้ล ด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปพระนางจามเทวี (ท่ายืน ) มือขวาถือดาบ มือซ้ายถือธนู และยังสะพายลูกธนูแสดงถึงการพร้อมรบ, ด้านหลังเหรียญ เป็นรูปพระธาตุเจดีย์ทับหน้าโบสถ์
    จัดสร้างทั้งหมดจำนวน 3,000 เหรียญ
    พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกในพิธีอาทิเช่น.
    - ครูบาเสาร์ ปัญโญ วัดหนองช้างคืน
    - ครูบาจันต๊ะ อนาวิโล วัดหนองช้างคืน
    - ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดชัยมงคล ( วังมุย )
    - ครูบาสิงห์แก้ว วัดป่าขาม
    - ครูบาพรหมมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    - ครูบาชัยวงค์ วัดพระบาทห้วยต้ม
    - ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล เป็นต้น
    คำบูชาเจ้าแม่จามเทวี,คำกราบไหว้พระนางจามะเทวี
    "ยา เทวี จามะเทวีนามิกา อภิรูปา อโหสิ ทัสสะนียา ปาสาทิกา พุทธสาสเน จะ อะภิปะสันนา, สา อตีเต เมตตายะ เจวะ ธัมเมนะ จะ หะริภุญชะยะธานิยา รัชชัง กาเรสิ, หะริภุญชะยานะคะระวาสีนังปิ มะหันตัง หิตะสุขัง อุปาเทสิ, อะหัง ปะสันเนนะ เจตะสา ตัง วันทามิ สิระสา สัพพะทาฯ"
    อีกหนึ่งรุ่นเหรียญที่ได้รับความนิยมสูงมาก..ปัจจุบันหายากพอสมควร มีของเทียมเลียนแบบมากมายเนื่องจากมีประสบการณ์สูงมาก


    ปิดรายการนี้ครับ

    Clip_50.jpg Clip_51.jpg Clip_52.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2021
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8077

    พระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์เก้าใบ หลังยันต์จักรแก้วพระพุทธเจ้า หลวงพ่อดาบส สุมโน แห่งอาศรมไผ่มรกต จังหวัดเชียงราย ลงทอง สวยกล่องเดิม


    เนื้อผงวิเศษมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ปีพ.ศ. 2540 ออกที่อาศรมเวฬุวัน จังหวัดเชียงราย สร้างไว้ก่อนท่านมรณะภาพ 3ปีเศษ
    สัญลักษณ์ยันต์ "กงจักร" ด้านหลังพระ ความหมายที่แท้จริง ก็คือ จักรแก้วพระพุทธเจ้า อันเป็นอาวุธของพระพุทธเจ้าที่มี ความสำคัญที่สุด ใช้ปราบมาร ปราบสิ่งชั่วร้าย มีฤทธานุภาพสูงสุด ดวงแก้ว นั้นมีรัตนะเจ็ด คือ แก้ว 7 ประการ ดังนี้ คือ จักรแก้ว 1 ช้างแก้ว 1 ม้าแก้ว 1 ดวงแก้วมณี 1 นางแก้ว 1 คฤหบดี (ขุนคลัง) แก้ว 1 ขุนพล
    สวยกล่องเดิมๆครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_53.jpg Clip_54.jpg Clip_55.jpg

    clip_333-jpg.jpg

    “หลวงพ่อดาบส สุมโน ” เดิมชื่อ “สง่า” นามสกุล “เจริญจิตต์” เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ กัน ยายน ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ พ.ศ.๒๔๖๗ ปีชวด ตำบลบางกระไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นลูกคนที่ ๖ ในจำนวนทั้งหมด ๘ คน บิดาชื่อ “นายเถียน” มารดาชื่อ “นางเวียง” ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๔ ขณะอายุได้ ๗ ปี มารดาก็ถึงแก่กรรมและต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๘ อายุได้ ๑๑ ปี “เด็กชายสง่า” ก็ต้องสูญเสียบิดาบังเกิดเกล้าไปอีกคน จึงอยู่ภายใต้การดูแลของ “คุณป้า” และเริ่มเรียนหนังสือชั้นประถมศึกษาที่ ๑ โรงเรียนวัดบางกระไชย จบชั้นประถมปีที่ ๔ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๘ ครั้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕ อายุได้ ๑๘ ปี “คุณป้า” ได้นำ “เด็กชายสง่า” ไปบรรพชาที่ “วัดจันทนาราม จังหวัดจันทบุรี” เพื่อเรียนปริยัติธรรมซึ่งต่อมาสามารถ สอบได้ทั้ง “นักธรรมตรี” และ “นักธรรมโท” ในปี พ.ศ.๒๔๘๗ อายุครบ ๒๐ ปี “สามเณรสง่า” จึงอุปสมบทเป็น “พระภิกษุ” โดยมีท่าน “เจ้าคุณอมรโมลี” เป็นอุปัชฌาย์ได้ฉายาว่า “สุมโน” กระทั่งปี พ.ศ.๒๔๘๙ อันเป็นพรรษาที่ ๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” ได้กราบลา “พระอุปัชฌาย์” เพื่อเดินทางไปศึกษา “ภาษาบาลี” กับท่าน “เจ้าคุณรัชมงคลมุณี” วัดหนองบัว จังหวัดระยอง ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๙๐ ด้วยจิตที่มุ่งมั่นจะปฏิบัติธรรม แสวงหาธรรม จึงออกเดินธุดงค์ไป “จังหวัดเชียงใหม่” ตามเส้นทาง “อำเภอดอยสะเก็ด” สู่ “ถ้ำเชียงดาว” อำเภอเชียงดาวได้ธุดงค์พลัดเข้ามาสู่เขตพื้นที่ของ “อำเภอพร้าว” ในปี ๒๔๙๐ ถึง ๒๔๙๔ จึงพำนักและปฏิบัติธรรมใน “ป่าช้า” ของตำบลเวียง อำเภอพร้าว หรือ “วัดป่าเลไลย์” เป็นเวลาถึง ๔ ปี ปี พ.ศ.๒๔๙๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” เดินทางมาพำนักที่ “วัดเจดีย์หลวง” จัง หวัดเชียงใหม่ โดยปฏิบัติธรรมกับ “เจ้าคุณวินัยโกศล” (จันทร์ กุสโล) หรือ “พระพุทธพจนวราภรณ์” แล้วจึงออกจาก “วัดเจดีย์หลวง” ธุดงค์ไปตามเส้นทางสู่ “อำเภอดอยสะเก็ด” อีกครั้งพร้อมลัดเลาะไปตามป่าเขาถึง “ดอยพระเจ้าหล่าย” วันนั้นเป็น วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๔ ตรงกับแรม ๖ ค่ำ เดือนยี่เวลา ๑๗.๐๐ น. “พระภิกษุสง่า สุมโน” จึงตั้งสัจจะอธิษฐาน ณ ดอยพระเจ้าหล่าย ขอสละเพศบรรพชิตขอลาสิกขาบทจากการเป็น “พระภิกษุสงฆ์” โดยหันมาถือการครองเพศเป็น “ดาบส” ที่มีเพียง ผ้าอังสะและผ้าสบง เพียงสองผืนหุ้มห่อร่างกายไว ้จากนั้นจึงครองเพศเป็น “ดาบส” และปฏิบัติธรรมอยู่บน “ดอยพระเจ้าหล่าย” โดยมิได้ฉันทั้งอาหาร และน้ำถึง “๓ วัน ๓ คืน” จากนั้นจึงเดินทางลงจากดอยเพื่อธุดงค์ไปจังหวัด ต่างๆ ทั้ง แพร่ ลำปาง น่าน ยะลา ชุมพร และท้ายสุดปฏิบัติธรรมที่ “อาศรมไผ่มรกต” ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย จนมรณภาพ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๓๔ สิริอายุได้ ๗๖ ปี “หลวงพ่อดาบส สุมโน” นับเป็น “ผู้บำเพ็ญเพียร” ด้วยศีลาจารวัตร บริสุทธิ์ผุดผ่องจนได้พบแสงสว่างแห่งธรรมเจิดจ้า และธรรม ที่ท่านแสดงให้บรรดาศิษย์ได้ยังความสุข ความสงบ ความร่มเย็น ให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้ที่เคยฟังธรรมจากท่านจึงนับได้ว่าท่านเป็น “ประทีปธรรม” แห่งภาคเหนือที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ และในจิตใจ ของประชาชนตลอดไป

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2021
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8078

    พระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์เก้าใบ หลังยันต์จักรแก้วพระพุทธเจ้า หลวงพ่อดาบส สุมโน แห่งอาศรมไผ่มรกต จังหวัดเชียงราย สวยกล่องเดิม


    เนื้อผงวิเศษมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ปีพ.ศ. 2540 ออกที่อาศรมเวฬุวัน จังหวัดเชียงราย สร้างไว้ก่อนท่านมรณะภาพ 3ปีเศษ
    สัญลักษณ์ยันต์ "กงจักร" ด้านหลังพระ ความหมายที่แท้จริง ก็คือ จักรแก้วพระพุทธเจ้า อันเป็นอาวุธของพระพุทธเจ้าที่มี ความสำคัญที่สุด ใช้ปราบมาร ปราบสิ่งชั่วร้าย มีฤทธานุภาพสูงสุด ดวงแก้ว นั้นมีรัตนะเจ็ด คือ แก้ว 7 ประการ ดังนี้ คือ จักรแก้ว 1 ช้างแก้ว 1 ม้าแก้ว 1 ดวงแก้วมณี 1 นางแก้ว 1 คฤหบดี (ขุนคลัง) แก้ว 1 ขุนพล
    สวยกล่องเดิมๆครับ


    ราคา 550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_56.jpg Clip_64.jpg Clip_65.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2021
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8079

    เหรียญต่ออายุครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เนื้อเงิน สวยกล่องเดิม

    เหรียญชื่อดีเป็นมงคลต่ออายุ ต่อชีวิต

    หลวงปู่ท่านเมตตาตั้งชื่อรุ่นนี้ ว่ารุ่น ต่ออายุ ยืดอายุไข เหรียญประสบการณ์อีกรุ่นของหลวงปู่ เป็นที่ประจักแก่ลูกศิษย์ลูกหาทราบถึงพุทธคุณกันเป็นอย่างดีครับ


    เหรียญประสบการณ์ต่อดวงชะตา อายุไข จนเป็นชื่อมาของรุ่นนี้ครับ
    น่าใช้มากครับ


    คุณ j999 บูชาแล้วครับ

    Clip_66.jpg Clip_67.jpg Clip_68.jpg Clip_69.jpg Clip_70.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2021
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8080

    รูปหล่อลอยองค์รุ่น แรก เนื้อนวะ ครูบาสิทธิ อภิวัณโณ วัดปางต้นเดื่อ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ สวยกล่องเดิม

    นักบุญ เทพเจ้าแห่งขุนเขาดอยลาง แม่อาย

    หลวงปู่ครูบาสิทธิ อภิวัณโณ เจ้าอาวาสวัดปางต้นเดื่อ ต.แม่อาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ นักบุญแห่งขุนเขาดอยลาง ผู้ปลุกศรัทธาอยู่ท่ามกลางกองกำลังชนเผ่า สุดยอดคณาจารย์อายุยืนแห่งดินแดนล้านนา หรือพระครูมงคลรัตน์ อายุ 92 ปี (69 พรรษา ) เป็นศิษย์พุทธาคมครูบาสิงห์แก้ว ครูบาอุ่นเรือน พ่อหนานวงศ์ เป็นพระนักปฏิบัติ นักพัฒนา ผู้เจริญรอยตามครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา นามเดิมชื่อ "สิทธิ เมืองใจ" เกิดวันที่ 10 มิ.ย. 2465 ณ บ้านแม่ฮ่าง ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เป็นบุตรคนโตของพ่อบุญมา และแม่ป้อ เมืองใจ ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 5 คน หลังจากที่หลวงปู่เกิดได้ไม่นานพ่อแม่ก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านปานกลาง เมื่ออายุ 16 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดปางกลาง (ก่อนถึงวัดปางนอก ปัจจุบันไม่มีแล้ว) ต.มะลิกา อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ตรงกับวันอังคาร ที่ 5 เม.ย. พ.ศ.2481 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 7 เหนือ โดยมีครูบาแก้ว กาวิชโย วัดมงคลสถาน เป็นพระอุปัชฌาย์ อายุ 21 ปี ได้อุปสมบท ณ วัดชัยสถาน (สันโค้ง) ต.มะลิกา อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ตรงกับวันเสาร์ ที่ 13 มิ.ย. 2485 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 เหนือ โดยมีครูบาก๋องคำ วัดมาตุการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ ครูบาอุ่นเรือน ธีรไปัญโญ เป็นพระวาจาจารย์ พระคัมภีร์ ธมมวโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ จากนั้นได้ไปศึกษาพระปริยัติธรรม ณ วัดแม่อายหลวง จนสอบได้ นักธรรมตรี โท โดยมีครูบาสิงห์แก้ว เป็นครูสอน พร้อมกันนี้ก็ได้ศึกษาอักขระและเวทย์มนต์ล้านนาจากพระอธิการวงศ์ เจ้าอาวาสวัดจองกลาง ควบคู่ไปด้วย อีกทั้งยังใช้เวลาว่างศึกษาค้นคว้าพระเวทย์จากปั๊บสาต่างๆอีกจำนวนมาก หลังจากนั้นในปี ๒๔๙๓ ท่านได้ถูกส่งไปรักษาการเจ้าอาวาสวัดห้วยม่วงเป็นเวลา 3 ปี พ.ศ.2495ไปจำพรรษา ณ วัดปางแดง ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย 1 พรรษา หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2497 จึงถูกส่งไปดูแลวัดถ้ำตับเต่าเนื่องจาก ครูบาธรรมชัย (ศิษย์ครูบา ศรีวิชัย) เจ้าอาวาสในสมัยนั้นถูกอาราธนาไปพัฒนาวัดทุ่งหลวง อ.แม่แตง ปัจจุบัน อายุ 92 ปี ตั้งสัจปณิธานว่า "ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะอยู่ค้ำชูดูแลพระพุทธศาสนาและเป็นที่พึ่งให้ กับศรัทธาชาวบ้านให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้"

    ทั้งนี้ วัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาสิทธิส่วนใหญ่จะเป็นพวกเครื่องรางของขลังอย่าง ตะกรุด ผ้ายันต์ ลูกอม ซึ่งมีประสบการณ์เข้มขลัง เนื่องจากหลวงปู่อยู่ในดินแดนสู้รบที่อำนาจรัฐเข้าไม่ถึง ประสบการณ์ส่วนมากจึงได้ยินมาแต่เรื่องคงกระพันเป็นส่วนใหญ่ แต่เรื่องเมตตา ค้าขาย ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน พ่อค้า แม่ค้าต่างมั่นใจในผ้ายันต์ของท่านว่าสามารถเรียกลูกค้าได้ดีนักแล ด้วยพุทธคุณและประสบการณ์มากมายทำให้เป็นที่ศรัทธาของคน 4 อำเภอ คือ แม่อาย ฝาง เชียงดาว ไชยปราการ เป็นปฐมบทก่อนที่จะเลื่องลือไปทั่ว จ.เชียงใหม่ และหัวเมืองภาคเหนือในที่สุด

    จัดเป็นพระายอดนิยมของท่านครูบาก้นตอกโค๊ต อุดตะกระเทียนชัยเกศา เดิมๆครับ


    ราคา 850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_71.jpg Clip_72.jpg Clip_73.jpg Clip_74.jpg

    s200k.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2021
  10. MATHS

    MATHS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    783
    ค่าพลัง:
    +908
    ขอจองครับ
     
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองขอบคุณครับ
     
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8081

    พระปิดตารุ่นแรก ยันต์นะ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ออกวัดชัยมงคล ปี 2522 โค๊ตรวย


    ตะกรุดเงิน7 ดอก หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ออกวัดชัยมงคล หลวงปู่โต๊ะปลุกเสกครั้งมาจำพรรษาที่วัดชัยมงคลเพื่อนำปัจจัยบูรณะวัดพระ ธาตุสบฝางใน ปี 2522 ของดีที่หลวงปู่โต๊ะมอบให้คนเมืองเหนือได้ใช้ สวย กล่องเดิมๆครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_75.jpg Clip_76.jpg Clip_77.jpg Clip_78.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2021
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8082

    พระผงครอบจักรวาลครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืน ลำพูน


    พระผงครอบจักรวาล ครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืน จ.ลำพูน

    ลักษณะพุทธศิลป์ของพระผงครอบจักรวาลจะเป็นพระเครื่องทรงรูปไข่ มีอักขระอยู่ตรงกลางซึ่งขนาดของพระจะไม่ใหญ่มากพอดีๆครับเนื้อหามวลสารจะจัดมากเพราะส่วนผสมเยอะสุดๆแถมผงที่ใส่เข้าไปยังใส่ในปริมาณเยอะปลุกเสกขุนแผนรุ่น 2 โดยใช้มวลสารเดียวกัน แต่จำนวนสร้างน้อยกว่าขุนแผน เท่าตัว หายากกว่าขุนแผนครูบาจันต๊ะรุ่นสอง
    ด้านหน้าเป็นยันต์ตัวขอมมีพระพุทธประทับในรัศมี บอกชื่อครูบาจันต๊ะ ด้านหลังเป็นยันต์ บอกชื่อวัดและปีที่ทำ โดยเรียกพระผงชุดนี้ว่า “ ผงยันต์ครอบจักรวาล ”

    จำนวนการสร้างพระผงครอบจักรวาลครูบาจันต๊ะ 4,985 องค์

    1. ชนิดธรรมดา 4,483 องค์ ( ยันต์ตรง )
    2. ชนิดพิเศษ 502 องค์ ( ยันต์กลับ )
    มวลสารการสร้างพระผงยันต์ครอบจักรวาลครูบาจันต๊ะ
    (เป็นมวลสารชุดเดียวกับการสร้างขุนแผนชัยมงคล รุ่น 2)
    - พระผงหลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ เพชรบุรี
    - ผงตะไบ หลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ เพชรบุรี
    - เกษรดอกไม้ 108
    - ว่านต่างๆ
    - กาฝากขนุน
    - กาฝากมะรุม
    - กาฝากชมพู่
    - ผงหลวงพ่อทองคำ วัดท่าทอง อุตรดิตถ์
    - ผงเผาใบลานเก่า(ธรรมเก่า) วัดหนองช้างคืน
    - ผงพระหลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
    - ผงพระห้วยทรายใต้ เพชรบุรี อิฐ
    - กระเบื้องเก่า วัดหนองช้างคืน
    - น้ำมนต์ วัดพระสงฆ์
    - น้ำมนต์หลวงพ่อเกษม สุสารไตรลักษณ์ ลำปาง
    - น้ำมนต์ วัดหนองช้างคืน
    - ปูนเปลือกหอย
    - พลอยพระธาตุจอมทอง (พลอยกินบ่เซี่ยง / กินไม่หมด)
    - เกษาครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืน
    - ชานหมากพ่อแก่
    - แร่ร่องระกำ เพชรบุรี
    - ผงขุนแผนหลวงปู่ทิม วัดระหาไร่ ระยอง 1 ถ้วย
    - ลูกอมผงพรายกุมาร
    - ผงพรายกุมาร ลป.ทิม วัดระหารไร่


    ราคา 1950 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    GYRer0AubrfJ07FcEH6D0u9yly2K_xmwwvHj3LlgkCP5&_nc_ohc=A12YOna4qpAAX8fclKG&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg

    พระอธิการจันต๊ะ อนาวิโล ( ครูบาจันต๊ะ )เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 28ก.พ.2468 ที่ตำบลหนองช้างคืน อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อเยาว์วัยได้มาเป็นลูกศิษย์วัดหนองช้างคืนเพื่อศึกษาเล่าเรียนจากครูบา อาจารย์หลายท่าน เมื่อมีอายุได้ 12ปีได้บรรพชา จนเมื่อท่านอายุได้ 20 ปีท่านก็ได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 5มิ.ย.2487 ท่านได้เล่าเรียนธรรมจนสอบธรรมสนามหลวงแผนกธรรม ชั้นโท พ.ศ. 2494 หลังจากนั้นท่านได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองช้างคืนเมื่อ พ.ศ.2520 ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสและได้พัฒนาวัดให้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้น เป็นตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ บูรณะอุโบสถ ท่านมีความเมตตาธรรมสูง มีความสามารถพิเศษในด้านการเทศน์ธรรมมหาชาติ กัณฑ์มัทรี และได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงว่าเป็นเกจิอาจารย์ในด้านเครื่องลางของขลัง วัตถุมงคล คาถาอาคมและยันต์ต่างๆเป็นต้น จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ในปี 2537 และปี 2542 ท่านได้สร้างพระเครื่องครั้งใหญ่ขึ้นโดยเป็นเนื้อผงพุทธคุณ ได้แก่ พิมพ์ขุนแผน ขุนช้าง สังขจาย ล.ป.ทวด กลีบบัว และปิดตา วัตถุมงคลรุ่นนี้ต่อมาภายหลังได้รับความนิยมของในพื้นที่มาก โดยมีความโดดเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย โดยเฉพาะขุนแผนและขุนช้างนั้นได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในเรื่องเมตตาและ มหาเสน่ห์โชคลาภ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Clip_79.jpg
      Clip_79.jpg
      ขนาดไฟล์:
      159.9 KB
      เปิดดู:
      21
    • Clip_80.jpg
      Clip_80.jpg
      ขนาดไฟล์:
      146.5 KB
      เปิดดู:
      20
    • Clip_81.jpg
      Clip_81.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.1 KB
      เปิดดู:
      22
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2021
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8083

    เสือครูบาหน้อย วัดบ้านปง จ.เชียงใหม่ จารล้านนาเดิมๆ

    เกจิผู้ทรงวิทยาคมแห่งเมืองเชียงใหม่
    เสือรุ่นนี้แกะขึ้นจากเขี้ยวหมูป่าซึ่งกลุ่ม ต.ช.ด กลุ่มหนึ่งที่มีความศรัทธาในตัวครูบาท่านได้สร้างขึ้น
    เสือแห่งเมืองเหนือที่มีศิลป์การแกะ เนื้อหาเขี้ยว มีรอยจารที่ตัว เป็นคาถา อักขระ ล้านนาชัดเจน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
    ใช้ทางเมตตามหานิยมดีนักแล สุดยอดเครื่องรางแห่งเมืองเหนืออีกชิ้นที่น่าใช้มาก ๆ ครับ


    ราคา 3650 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_82.jpg Clip_83.jpg Clip_84.jpg Clip_85.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2021
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8085

    เหรียญท้าวเวสสุวรรณ(ยักษ์เล็ก) เนื้ออัลปาก้า 1 ใน 100 ตอกโค๊ต


    เหรียญ วัดเจดีย์สถาน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เหรียญยักษ์เล็ก (ศิษย์ร่วมสร้าง) วัดเจดีย์สถาน สร้างถวายโดยคณะศิษย์วัดเจดีย์สถาน เมื่อปี 2523 ในสมัยที่พระครูวิรุฬห์ธรรมโกวิท เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งในขณะนั้นมีพระอาจารย์เกษม เกตธัมโม ผู้มีพระคาถาอาคมอันลือชื่อ ร่วมอยู่ในวัดเจดีย์สถานด้วย เหรียญยักษ์นี้มีการสร้าง 2เนื้อ คือ อัลปาก้า และ ทองแดง , เนื้อทองแดง สร้างประมาณ 3000 เหรียญ ส่วนเนื้ออัลปาก้า สร้างประมาณ 100 เหรียญ
    เหรียญที่ตอกโค๊ตชัดเจน

    เหรียญยอดนิยมของเมืองเหนือ


    ปิดรายการนี้ครับ

    Clip_86.jpg Clip_87.jpg Clip_89.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2021
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8086

    พระกริ่ง 7 คัมภีร์ หลวงปู่ครูบาบุดดา วัดหนองบัวคำ


    ใต้ฐานปิดด้วยใบลานศิลปแบบพม่า สวยงาม เข้มขลัง
    "พระกริ่ง 7 คัมภีร์อุดใบลาน" พระกริ่งรุ่นแรกดินไทย ปิดใบลานจารยันต์ล้านนา พระกริ่งที่คนเมืองเหนือหากันมาเมินขนาด ครูบาท่านบรรจงสร้างพระกริ่ง 7 คัมภีร์ โดยอัญเชิญพระกริ่งพม่า ศิลปะพม่าอันเป็นเอกลักษณ์และอ่อนช้อยพระกรรณโปร่งซึ่งเป็นศิลปะในแบบพม่า แท้ๆหล่อจากแผ่นยันต์ในตำรา 7 คัมภีร์ เป็นการสร้างกริ่งพม่าตำรับดั้งเดิมคำว่า 7 คัมภีร์ เชิญเทวดามาช่วย 7 องค์ มีดี 7 ด้าน คือ
    1.เตือนภัยได้สารพัด
    2.มีอำนาจ เดชานุภาพ ชนะศัตรูผู้คิดร้ายกับเรา คิดไม่ดีต่อเรา ชนะราบคาบ
    3.มีโชคลาภไหลมาทั้ง 7 ทางดั่งแม่น้ำคงคาที่ไม่เคยเหือดแห้ง
    4.สงเคราะห์ดวงเรา ดวงเราไม่รู้ว่าจะดีหรือร้ายตอนไหนเวลาใด พระกริ่ง 7 คัมภีร์นี้ ห้ามทัพเคราะห์ร้ายได้
    5.ค้าขาย นายหน้านายประกันหรือติดต่อเจรจา ดังมีสาริกาลิ้นทองซัก 100 ตนล้อมตนไปหมด
    6.เมตตามหานิยมมีมาตลอด
    7.อธิฐานสำเร็จให้เขย่าพระกริ่งดังๆเท่าอายุ ถ้าดังทุกครั้งที่อธิฐานไว้สำเร็จทุกอย่าง
    ใต้ฐานปิดด้วยใบลานจารมือล้านนา จากพระธุดงค์เหนือโลกที่ผูกคาถาอธิธรรมที่มีผลมากไว้ให้ เป็นใบลานที่มีค่ามาก อักขระที่พระบริสุทธิ์เขียนจารตัวหนึ่งตีค่าไว้เท่ากับทองคำหนึ่งชั่งมีโค๊ด และหมายเลขกำกับทุกองค์ครูบาท่านสร้างเป็นรุ่นแรกของท่านครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_90.jpg Clip_91.jpg Clip_92.jpg Clip_93.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2021
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8087

    เหรียญรุ่น2หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน ปี 2512 บล็อกวงเดือนของดีน่าใช้เบาๆ


    ...พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองลำปางน้อยคนที่จะรู้จัก....

    .....ประวัติ เล่าขานสืบมาคับ.... หลวงพ่อเมืองวัดท่าแหนเกจิแดนล้านนายุค250ถึง251กว่าที่ร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลสำคัญๆในยุคนั้นทั่วประเทศท่านเป็นสหายธรรมกับหลวงปู่ทิมวัดช้างให้ท่านหลวงพ่อเมืองท่านเก่งทางมองเห็นอดีตและอนาคต(จากบรรทึกการสนทนาของหลวงพ่อเกษม เขมโกที่ถวายตอบข้อซักถามขององค์ในหลวงเราเมื่อคราวเสด็จเยือนอาการอาพาธของหลวงพ่อเกษม ที่สุสานไตรลักษณ์)ท่านเป็นประธานปลุกเสกหลวงพ่อแช่มวัดฉลองภูเก็ตปี12ที่นายหัวไมตรี บุญสูงเศรษฐีเจ้าของเหมืองแร่เป็นประธานฆราวาสสร้างและฮือฮาโด่งดังเพราะหลวงพ่อเมืองมองเห็นว่าหลวงพ่อแช่มมาร่วมพิธีปลุกเสกจึงให้จัดอาสนะเพิ่มอีก1ที่สำหรับหลวงพ่อแช่มเป็นที่ฮือฮากันมากคิดดูว่าถ้าไม่ดีจริงคนทางใต้คงไม่นิมนต์พระทางเหนือไปเป็นประธานปลุกเสกวัตถุมงคลโดยเฉพาะของหลวงพ่อแช่มวัดฉลองซึ่งชาวใต้นับถือท่านมาก..คิดดูครับ..ขออนุญาตเล่าเกล็ดเล็กๆน้อยๆจากประสบการณืจริงเมื่อยุคปีพ.ศ251กว่าเป็นต้นมาหมู่บ้านที่ผมอยู่ห่างจากหมู่บ้านท่าแหนของหลวงพ่อเมืองประมาณ5ก.มช่วงฤดูฝนคือประมาณระยะช่วงนี้ชาวบ้านนอกชนบทยุคนั้นอุปกรณืทำนาที่สำคัญยิ่งคือควายชึ่งมีกันแทบทุกครัวเรือนเอาไว้ไถนาบางบ้านมีเยอะเลี้ยงกันแทบทุกหลังไอ้พวกโขมยโจรขี้ลักควายจะจ้องโขมยควายชาวบ้านก็ช่วงหน้านี้แหละเพราะหลังจากทำงานไถนาเหน็ดเหนื่อยทั้งวันตอนเย็นเสร็จงานชาวบ้านมักตั้งวงก๊งส.ร.ถ(สุราต้มกลั่น)กันแก้ปวดเมื่อยชึ่งเหนื่อยกันมาทั้งวันพอกลางคืนฝนตกตลอดบรรยากาศให้..หลับเป็นตาย..ตื่นเช้าสีหูสีตาลงกระไดบ้านมาเตรียมไถนาต่อปรากฎว่าคอกโล่งเกลี้ยงโจรลักไปหมดไม่รู้ถูกต้อนไปถึงไหนแล้วบางคนถึงกะลมจับเพราะนาก็ยังไม่เสร็จต้องถือพานดอกไม้ธูปเทียนไปหาหลวงพ่อเมืองที่วัดท่าแหนขอหลวงพ่อช่วยดูให้ว่าไอ้โจร500มันเอาไปทางไหนชึ่งหลวงพ่อมักจะบอกให้ไปทางทิศไหนก็จะเกณฑ์ชาวบ้านออกติดตามและไม่พลาดเจอแทบทุกรายจริงๆแต่จะเจอสภาพตัวเป็นๆหรือซากแค่นั้นและครับและเสือร้ายโขมยยุคนั้นส่วนใหญ่อยู่เขตติดต่ออ.แม่ทะทางทิศตะวันตกมีอยู่2อำเภอเยอะจริงมีหลายก๊กบ้างขโมยไปเรียกค่าไถ่บ้างขโมยไปชำแหละเป็นที่รู้กันในยุคนั้น..หลวงพ่อเมืองเป็นที่กล่าวขวัญรู้กันในยุคนั้นของหายไม่รู้พึ่งใครวิ่งไปหาหลวงพ่อเมืองให้หลวงพ่อนั่งทางในดูให้และมักเจอตามที่หลวงพ่อบอกทุกรายจึงเป็นที่ศรัทธาของคนสมัยนั้นมา หลวงพ่อเมือง หรือที่ชาวบ้านรู้กัน คือท่านหยั่งรู้ ฟ้าดิน

    ประวัติหลวงพ่อเมือง อุตฺตโม วัดท่าแหน
    หลวงพ่อเมือง อุตฺตโม
    วัดท่าแหน ตำบลแม่ทะ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง

    "พระผู้มีอตีตังสญาณ ผู้หยั่งรู้"

    พระครูอุดมเวทวรคุณ (นามเดิม เมืองใจทาหลี) เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2435 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปีมะโรง เป็นบุตรคนโตของ นายดวงแก้ว นางต่อม ใจทาหลี ณ บ้านเลขที่ 15 บ้านท่าแหน ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 5 คน คือ

    1. พระครูอุดมเวทวรคุณ (หลวงพ่อเมือง)
    2. นายมูล ใจทาหลี
    3. นางเกี๋ยง โยธา
    4. นายซุน ใจทาหลี
    5. นางคำใส ฟูชุม

    เมื่อเยาว์วัยได้เข้าเล่าเรียนศึกษากับอาจารย์คันธรฐ ที่วัดท่าแหน โดยเรียนอักขระภาษาภาคพายัพ (ภาษาพื้นเมือง) จนจบหลักสูตร เมื่อท่านได้เรียน อักขระพื้นเมือง ตลอดจนเจ็ดตำนานและสิบสองตำนานจบแล้ว จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2449 ณ วัดท่าแหน โดยมีอาจารย์ตันธวงศ์ วัดสันดอน ต.ดอนไฟ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์
    เมื่อบรรพชาเป็นสามเณร ก็ได้เล่าเรียนตำรับตำราต่างๆ และเมื่ออายุครบบวช จึงได้ทำการอุปสมบท ในวันที่ 21 มิถุนายน 2455 ณ วัดท่าแหน โดยมีพระคันธวงศ์เป็นผู้อุปชฌาย์ พระคันทะรต เป็นพระกรรมวาจารย์ พระปิ่นไชย วัดบ้านหลวง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้ปฏิบัติศาสนกิจอยู่วัดท่าแหน ก็ได้มีความสนใจใคร่เรียนรู้วิธีปฏิบัติสมถะ วิปัสสนากัมมัฏฐานจึงได้ค้นคว้าจากตำราเก่าแก่ และทดลองปฏิบัติเรื่อยมา โดยไปศึกษาค้นคว้านอกสำนักบ้าง โดยมีหลักฐานจากการบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่สืบต่อกันมา อาทิเช่น

    1. ไปจำพรรษา ณ วัดสันดอน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง 1 พรรษา
    2. ไปจำพรรษา ณ วัดพระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง 1 พรรษา
    3. ไปจำพรรษา ณ วัดศรีหมวดเกล้า อ.เมือง จ.ลำปาง 1 พรรษา
    4. ไปจำพรรษา ณ วัดสันดอน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง 1 พรรษา
    ซึ่งทั้งนี้ไปเพื่อค้นคว้าศึกษาด้านสมถะวิปัสสนากัมมัฏฐาน หลวงพ่อเมือง ท่านเสาะแสวงหาหนทางวิธีวิปัสสนากัมมัฏฐานไปแทบทั่วทุกแห่ง เมื่อครั้งที่พระเทพวิสุทธิโสภณ (อดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง) ในปี พ.ศ.2473 ขณะนั้นยังเป็นพระสิงห์คำได้ไปตรวจตราคณะสงฆ์แทน เจ้าคณะมณฑลพายัพกับพระมหาปู อัตตลีโว อดีตเจ้าคุณอุบาลีคณูปมาจารย์ วัดพระสิงห์เจ้าคณะภาค 5 ได้ตรวจไปจนถึงวัดท่าแหน พบหลวงพ่อเมืองอยู่ในกุฎิมืดทึบไม่มีหน้าต่าง มีแต่ช่องลมเล็กๆ ประมาณคืบเศษ มีเนื้อตัวผอมเหลือง จึงได้ถามหลวงพ่อเมืองว่าเป็นโรคอะไร หลวงพ่อเมืองก็ได้ตอบว่าไม่เป็นอะไร และภายหลังได้ทราบว่า หลวงพ่อเมืองท่าเป็นพระชอบอยู่ป่าช้าเจริญสมถะ และวิปัสสนากัมมัฏฐานเพ่งกสิณอยู่เป็นนิจ กระทั่งวันหนึ่ง หลวงพ่อเมืองได้เป็นพบคำภีร์โบราณ (หนังสือภาคพายัพ) ในตู้พระไตรปิฎก ณ วัดบ้านหลุก ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้ทราบถึงวิธีปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในขณะที่อ่านนั้น ท่านก็ได้สัมผัสกลิ่นหอมของดอกไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีกลิ่นหอมมาก หลวงพ่อเมืองไม่เคยได้สัมผัสกลิ่นชนิดนี้มาก่อน ดังนั้นหลวงพ่อเมืองจึงขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดบ้านหลุก นำเอาตำราวิปัสสนากัมมัฏฐานนี้กลับไป วัดท่าแหน เพื่อศึกษาและปฏิบัติ โดยศึกษานานอยู่ 6 ปี จึงสามารถกระทำจิตใจให้แน่วแน่เป็นสมาธิได้ คือสามารถรวมใจเป็นดวงเดียว ซึ่งเรียกกันว่า บริกรรมนั่งทางใน จนสามารถนั่งทางในมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่คนธรรมดาสามัญมองไม่เห็นได้ ตั้งแต่นั้นมาก็มีลูกศิษย์ลูกหาให้ท่านนั่งทางในดู หลวงพ่อเมืองก็สามารถทำนายทายทักให้ถูกต้องแม่นยำ หรือแม้กระทั่ง หลวงพ่อเกษม เขมโก ยังได้เอ่ยกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อพระองค์ทรงตรัสถามหลวงพ่อเกษมว่า "ชาติที่แล้วพระองค์ทรงเป็นนักรบใช่หรือไม่" หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ตอบพระองค์ท่านว่า "เราไม่รู้สิต้องไปถามหลวงพ่อเมือง ท่านมีอตีตังสญาณ" แสดงให้เห็นว่า หลวงพ่อเกษม ทราบดีว่า หลวงพ่อเมือง ได้สำเร็จในการปฏิบัติธรรมถึงขั้น ทิพย์จักษุฌาน ซึ่งเป็นระดับความสำเร็จของการปฏิบัติกัมมัฏฐานขั้นสูงชั้นหนึ่ง

    หลวงพ่อเมือง ได้ช่วยเหลือประชาชนด้วยความกรุณา โดยไม่เลือกชั้นวรรณะมีหรือจน ท่านปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเท่าเทียมทั่วกัน โดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยาก ท่านช่วยเหลือประชาชนในด้านสุขภาพ และเดือดร้อนประการอื่นๆ ด้วยการนั่งสมาธิแล้วแจ้งให้ผู้มาขอความช่วยเหลือได้ทราบถึงมูลเหตุ และแก้ไขด้วยวิธีต่างๆ เช่น ทำบุญให้ทาน หรือกำจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคและเป็นมูลเหตุให้เกิดความเดือดร้อนที่ได้ขุดพบ ซึ่งทั้งนี้เป็นผลที่พอใจของทุกคน ฝูงชนจึงได้หลั่งไหลไปสู่วัดท่าแหนไม่ขาดสายบางวันก็มาเต็มคันโดยสาร และค้างคืนที่วัดก็มี ที่กรุงเทพมหานครก็เช่นกันหากหลวงพ่อเมืองมาพัก ณ วัดใด ฝูงชนจะพากันไปวัดนั้นอย่างคับคั่ง

    ถึงแม้นท่านจะมีความเมตตาธรรมต่อผู้อื่นทั่วไปอย่างไรก็ตาม แต่ทุกชีวิตที่เกิดย่อมที่จะหนีไม่พ้นสังขารไปได้ ดังนั้นเมื่อปลายแห่งชีวิต โรคภัย ไข้ เจ็บ ก็เริ่มคุกคามหลวงพ่อเมือง จนกระทั่งศิษยานุศิษย์ได้นำท่านไปรักษายังโรงพยาบาลหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายได้นำท่านไปทำการผ่านตัด และรักษาที่โรงพยาบาลสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ แต่อาการของหลวงพ่อก็ไม่ดีขึ้น ในที่สุดเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้น ศิษยานุศิษย์จึงได้นำท่านกลับมายังวัดท่าแหนและแล้วหลวงพ่อเมืองก็ได้ถึงแก่มรณภาพ ณ วัดท่าแหน เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2519 เวลา 21.39 รวมอายุได้ 85 ปี ซึ่งนำความเศร้าโศกเสียใจมาสู่ญาติพี่น้องและคณะศิษยานุศิษย์ ประชาชนทั่วไป ที่ได้สูญเสียท่านพระครูอุดมเวทวรคุณ (หลวงพ่อเมือง อุตฺตโม)ไปอย่างไม่มีวันกลับ

    อ้างอิงจากหนังสือ พระเครื่องเมืองลำปาง 2556 หน้า 119-120 โดย ธีรเดช จังตระกูล(ต้น ลำปาง)
    ดูน้อยลง


    บูชาแล้วครับ

    Clip_94.jpg Clip_95.jpg
    Clip_96.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2021
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 8088

    เหรียญรุ่นแรกครูบาคำหล้า วัดป่าลาน สันทราย เชียงใหม่ บล็อกหน้าหนุ่มนิยม


    ท่านเป็นพระมหาเถระแห่งล้านนาไทย ผู้สืบทอดปฏิปทา แห่งครูบาเจ้าศรีวิชัย ท่านมีอายุยืน มีุคุณวิเศษ คือ ความคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า "ข่าม"

    สุดยอดความเหนียว
    ท่านโด่งดังจากกรณีถูกโจรปล้นพระบูชาในวัดไป 3 องค์
    แต่โจรหวังทำร้ายท่านให้ถึงแก่ชีวิต โดยใช้มีดจ้วงแทงท่านหลายครั้ง
    แต่ไม่สามารถเรียกเลือดจากท่านได้

    พวกทหารให้ความนับถือท่านเป็นอย่างมาก เนื่องจากประสบการณ์
    ทางด้านเหนียวเป็นหนึ่ง


    ราคา 999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_97.jpg Clip_98.jpg Clip_99.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2021
  19. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับพี่
     

แชร์หน้านี้

Loading...