**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10678

    เหรียญหลวงปู่หล้า วัดป่าตึง จ.เชียงใหม่ ปี 2528


    เกจิดังที่มีญาณวิเศษหยั่งรู้ฟ้าดินเป็นที่อัศจรรย์ จนได้ฉายานามว่าหลวงปู่หล้าตาทิพย์


    ราคา 450 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_123.jpg Clip_124.jpg

    clip_36-jpg.jpg clip_34-jpg.jpg clip_35-jpg.jpg

    หลวงปู่หล้า จันโทภาโส เกจิชื่อดังแห่งวัดป่าตึง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากปฏิปทาของท่านที่อัศจรรย์เสมือนมี อภิญญา คือ ตาทิพย์-หูทิพย์ ซึ่งทำให้รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ ชื่อเสียงของหลวงปู่หล้า เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปก็เนื่องด้วยท่านเป็นพระที่ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในหลักศีลธรรมอันงดงาม เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น หลวงปู่หล้าท่านได้รับสมญานามจากศรัทธาญาติโยมว่ามีญาณวิเศษที่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ข้างหน้าได้ จนชาวบ้านทั่วไปเรียกท่านว่า"หลวงปู่หล้าตาทิพย์"
    หลวงปู่หล้า (พระครูจันทสมานคุณ) ท่านเกิดในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ ๕ ซึ่งอยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่สมัยของเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๗ กับเจ้าอินทวโรรส สุริยวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๘ หลวงปู่หล้าเกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๗ ค่ำเดือน ๑๑ ตรงกับวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๔๔๑ ที่บ้านปง ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โยมพ่อชื่อ นายเงิน โยมแม่ชื่อ นางแก้ว นามสกุล บุญมาคำ เหตุที่มีนามสกุลนี้ หลวงปู่หล้าเล่าว่า
    เพราะพ่ออุ๊ย (ปู่) ชื่อบุญมา แม่อุ้ย (ย่า) ชื่อ คำ เมื่อมีการตั้งนามสกุล กำนันจึงตั้งให้เป็น บุญมาคำ หลวงปู่หล้าเป็นบุตรคนสุดท้องของครอบครัวจากจำนวนพี่น้อง 4 คน เมื่ออายุได้ 1 ขวบ ต้องกำพร้าพ่อ โยมแม่จึงได้เลี้ยงดูลูกทั้งหมดเพียงลำพัง หลวงปู่หล้าเล่าให้ฟังว่า การเลี้ยงลูกสมัยก่อน ต้องช่วยกันทำงาน ช่วยเลี้ยงวัว หากใครทำผิดก็จะถูกเฆี่ยน ทำพลาดก็ถูกเอ็ด
    เมื่อหลวงปู่หล้าอายุได้ ๘ ขวบ โยมแม่ก็นำไปฝากกับครูบาปินตา เจ้าอาวาสวัดป่าตึงให้เป็นเด็กวัด หลวงปู่หล้าจึงได้มีโอกาสเรียนหนังสือเป็นครั้งแรกกับครูบาอินตา ซึ่งสมัยนั้นจะเรียนหนังสือพื้นเมือง จนอายุได้ ๑๑ ขวบก็ได้บวชเป็นสามเณรในช่วงเข้ารุกขมูล เข้ากรรมอยู่ในป่า การเข้ากรรม หรือ อยู่กรรม เรียกว่า ประเพณีเข้าโสสานกรรมซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญอย่างหนึ่งของพระพุทธศาสนาที่พระสงฆ์จะต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งมักจะกระทำกันในบริเวณป่าช้าที่อยู่นอกวัด พระสงฆ์และผู้ที่เข้าบำเพ็ญ โสสานกรรมจะต้องถือปฏิบัติเคร่งครัดเพื่อต้องการบรรเทากิเลสตัณหา
    ขณะที่บวชเป็นสามเณรอยู่นั้น หลวงปู่หล้าไม่ได้เรียนแต่เพียงหนังสือพื้นเมืองเท่านั้น แต่ยังได้เรียนหนังสือไทยไปด้วย โดยเรียนกับพระอุ่นซึ่งเคยไปจำพรรษาที่วัดอู่ทรายคำในเมืองเชียงใหม่ และเรียนหนังสือไทยที่โรงเรียนประจำมณฑลพายัพ ปัจจุบันคือโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย แต่ครูบาปินตาไม่สนับสนุนให้พระเณรเรียนหนังสือไทย ในที่สุดพระอุ่นจึงต้องเลิกสอน หลวงปู่หล้าศึกษาเล่าเรียนทั้งอักขรวิธีและธรรมปฏิบัติกับครูบา ปินตาเรื่อยมาจนกระทั่งอายุได้ ๑๘ ปี จึงเดินทางเข้าไปจำพรรษาอยู่ในเมืองเชียงใหม่ เพื่อเรียนนักธรรมที่วัดเชตุพน หลวงปู่หล้าเรียนนักธรรมที่วัดเชตุพนเพียง ๑ ปี ยังไม่ทันสำเร็จก็ต้องเดินทางกลับวัดป่าตึง เพื่อปรนนิบัติครูบาปินตาที่ชราภาพ หลวงปู่หล้าอยู่ปรนนิบัติครูบาปินตาจนกระทั่งล่วงเข้าปี พ.ศ.๒๔๖๗ ครูบาปินตาก็มรณภาพด้วยวัย ๗๔ ปี ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่หล้าอายุ ๒๗ ปีเท่านั้น หลวงปู่หล้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าตึงต่อจากครูบาปินตา เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๗ และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลออนใต้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๗
    นอกจากนี้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๗ เมื่อครูบาศรีวิชัย ได้สร้างถนนขึ้นสู่ดอยสุเทพ โดยเริ่มสร้างตั้งแต่วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๔๗๗ จนถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๔๗๘ รวมเป็นเวลา ๕ เดือนกับ ๒๒ วัน ในครั้งนั้นหลวงปู่หล้าได้เดินทางไปร่วมสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพด้วย หลวงปู่หล้าเล่าถึงความยากลำบากในการสร้างถนนไว้ในหนังสือ ประวัติวัดป่าตึงว่า การสร้างถนนมีการแบ่งงานกันตามกำลังของคน ผู้คนที่ไปร่วมเป็นชาวบ้านจากวัดป่าตึงทำได้ ๕ วาใช้เวลา ๑๔ วัน ส่วนพวกที่มาจากเมืองพานทำได้ ๖๐ วา เมื่อปี ๒๕๐๔ หลวงปู่หล้าได้รับการแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็น พระครูจันทสมานคุณ ซึ่งขณะนั้นท่านอายุ ๖๓ ปี มีคนพากันยกย่องหลวงปู่หล้าว่าท่านสามารถรู้เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่งฝนตั้งเค้าจะตกหนัก หลวงปู่บอกให้พระเณรรีบออกจากกุฏิ เพราะกุฏิเก่าและทรุดโทรมมากและมีต้นลานขนาดใหญ่อยู่ข้างกุฏิ ปรากฏว่าวันนั้นฝนตกหนักกิ่งต้นลานก็หักโค่นลงมาทับกุฏิพัง พระเณรที่อยู่ในวัดทุกคนปลอดภัยและพากันสรรเสริญว่า ท่านมีตาทิพย์ นอกจากนั้นยังมีเรื่องเล่าอีกว่า เช้าวันหนึ่งเวลาประมาณตี ๕ หลวงปู่หล้าให้พระเณรรีบทำความสะอาดวิหารเพราะจะมีแขกมาหาที่วัด ครั้นพอถึงเวลา ๖ โมงเช้า พระศรีธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสันป่าข่อยนำญาติโยมมาหา ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงพากันเรียกท่านว่า "หลวงปู่หล้าตาทิพย์"
    กเหตุการณ์หนึ่งคือ ครั้งหนึ่งมีคณะผู้มากราบนมัสการหลวงปู่หล้าเกินจำนวนที่แจ้งความประสงค์จะขอของขลังจากท่าน แต่ท้ายที่สุดก็ได้รับแจกกันครบทุกคนอย่างน่าอัศจรรย์ ... จึงเชื่อกันว่าเป็นเพราะอิทธิฤทธิ์ของท่าน ไม่เพียงเท่านั้น อดีตครูใหญ่ของโรงเรียนบ้านป่าตึงท่านหนึ่งเล่าเพิ่มเติมว่า เช้าวันหนึ่งประมาณตี ๕ หลวงปู่หล้าได้ให้พระเณรรีบทำความสะอาดวิหาร (ราวกับว่าจะมีแขกมาหาที่วัด)ปรากฏว่า พอถึง ๖ โมงเช้า พระศรีธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสันป่าข่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ก็นำคณะญาติโยมมาหาท่านที่วัดจริงๆ หรือเวลาที่มีชาวบ้านทำของหายหรือถูกลักขโมย เมื่อมาถามหลวงปู่หล้า ท่านก็จะบอกให้ไปตามทิศนั้นทิศนี้ จนกระทั่งได้ของคืนมาทุกครั้ง แต่หากท่านห้ามว่า ไม่ต้องไปตามเพราะจะไม่ได้คืน ก็จะเป็นจริงตามนั้น
    ปาฏิหาริย์ครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งก็คือ เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ หัวเมืองเหนือ พระองค์ท่านได้เสด็จนมัสการหลวงปู่หล้าที่วัดจนเป็นที่เอิกเกริก ประชาชนจำนวนมากแห่แหนไปต้อนรับพระองค์อย่างมืดฟ้ามัวดิน เมื่อพระองค์ท่านจะเสด็จกลับ หลวงปู่หล้าก็ได้ถวายพระพรแด่พระองค์ ซึ่งคราวนี้ดูหลวงปู่จะตั้งใจเป็นพิเศษ
    ปรากฏว่า หลังจากล้างรูปขณะที่หลวงปู่หล้าถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่นั้น...มีแสงสีส้มแดงที่หน้าผากของหลวงปู่!! อันแสดงถึงกระแสจิตของหลวงปู่ที่ตั้งใจและอัดอย่างเต็มที่แก่พระราชาผู้เป็นธรรมราชาแห่งแผ่นดินสยาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2022
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10679

    สีผึ้ง+อิ่นครูบาก๋องคำ วัดดอนเปา อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ตลับเดิมๆ

    สีผึ่ง+อิ่นขลังดอนเปา"
    หนึ่งในตำนานเครื่องรางอิ่นเมตตาเสน่ห์ขลังแห่งดินแดนล้านนา
    พุทธคุณเมตตามหานิยมไม่เป็น2รองใครแน่นอน น่าบูชามาก ครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_19.jpg Clip_15.jpg Clip_17.jpg Clip_20.jpg Clip_21.jpg Clip_22.jpg Clip_23.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2022
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10680

    ตะกรุดยันต์จืนหน้าแหนบลบเจ็ดครั้ง หลวงปู่ครูบาอินตา วัดห้วยไซ

    หลวงปู่ครูบาอินตา อินทปัญโญ วัดห้วยไซ

    พระครูถาวรวัยวุฒิ (หลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ)พระเกจิผู้ทรงวิยาคมเเห่งเมืองลำพูนพระอาจารย์ของท่านครูบากฤษดาวัดสันพระเจ้าแดง

    เจ้าตำหรับตะกรุดยันต์จืน(ตะกั่ว)หน้าแหนบลบเจ็ดครั้งอันโด่งดัง เป็นตำราโบราณของท่านครูบาอินตาได้สืบทอดมาจากอาจารย์ ใช้ตะกั่วโบราณคนล้านนาเรื่องจืนได้จากพระกรุเก่าหรือตะกั่วจืนหน้าแหนบแผ่นตะกั่วที่ติดหลังแก้วอังวะ(แผ่นเเก้วจืนประดับโบราณ) นำมาหลอมแล้วนำมาตีเป็นแผ่นจารยันต์ลงไปทำแบบนี้จนครบตามตำรา 7 ครั้ง

    พุทธคุณลูกศิษย์ทุกท่านต่างทราบกันเป็นอย่างดีเป็นที่กล่าวขาน ไว้เพื่อแจกลูกศิษย์ลูกหา และแจกทหารกล้า พุทธคุณ ข่ามคงกระพัน (เหนียว)และ กันภูตผีปีศาจทั้งหลาย
    โด่งดังมากจนท่านครูบาชุ่ม โพธิโก แห่งวัดวังมุ่ยเจ้าของตำราตะกรุดหนังควายตายท้องกลม ได้ทราบกิตติคุณถึงตะกรุดจืนหน้าแหนบของครูบาอินตาแห่งวัดห้วยไซ ครูบาชุ่ม ท่านได้เดินเท้าจากวัดวังมุย มาถึงวัดห้วยไซ อ บ้านธิ เพื่อมาขอแลกเปลี่ยนวิชากับท่านครูบาครูบาอินตา ทั้งครูบาทั้ง 2 ท่านจึงได้เเลกเปลี่ยนวิชากันครูบาชุ่มนั้นท่านให้ตำรา ตะกรุดหนังควาย ให้กับครูบาอินตา ส่วนครูบาอินตาให้ได้มอบวิชาตะกรุดจืนหน้าแหนบแก่ครูบาชุ่ม จนกลายเป็นตานาน2 จอมขมังเวทย์เเห่งเมืองลำพูนครับ

    ราคา 1850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_40.jpg Clip_41.jpg Clip_48.jpg Clip_46.jpg Clip_39.jpg Clip_47.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2022
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10681

    พระผงหลวงปู่ทวดรุ่น 2 ครูบาจันต๊ะ อนาวิโล วัดหนองช้างคืน ต.หนองช้างคืน อ.เมือง จ.ลำพูน จัดสร้างในปี 2539 ตะกรุดหลัง หายาก ประสบการณ์มากมาย พระสวยเดิม

    ••มวลสารส่วนผสม•• มวลสารที่หลากหลาย อาทิ พระผงหลวงพ่อแดง ผงตะไบทองหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี เกสรดอกไม้ 108 ว่านต่างๆ กาฝากขนุน กาฝากมะรุม กาฝากชมพู่ ผงหลวงพ่อทองคำ วัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์ ผงเผาใบลานเก่า ผงพระเก่า อิฐ กระเบื้องเก่า น้ำมนต์ วัดหนองช้างคืน ผงหลวงพ่อเกษม ด้ายมงคลหลวงพ่อเกษม น้ำมนต์หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ผงพระวัดห้วยทรายใต้ ปูนเปลือกหอย จ.เพชรบุรี และด้วยบารมีอันล้นพ้น ประสบการณ์อันมากมาย ใครมีไว้สักการะบูชา จะแคล้วคลาดปลอดภัย จะค้าขายก็ดีเยี่ยม มีแต่โชคลาภวาสนา อยู่ร่มเย็น อุดมสมบูรณ์ เดินทางปลอดภัย ค้าขายเป็นเลิศครับ

    บูชาแล้วครับ

    พระลป.ทวดครูบาจันต๊ะ a.jpg Clip_7.jpg พระลป.ทวดครูบาจันต๊ะ b.jpg พระลป.ทวดครูบาจันต๊ะ c.jpg พระลป.ทวดครูบาจันต๊ะ d.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2022
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10682

    พระเกศาครูบาศรีวิชัย พิมพ์พระประทานเล็ก ยุคต้น ดูง่าย

    พระเกศาครูบาศรีวิชัย สร้างขึ้นสร้างจากผงดอกบูชาพระที่ชาวบ้านมาทำบุญกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เผาให้เป็นผงสมุก ผสมกับผงใบลานคลุกรัก ผสมเกศา ปั้นและนำไปกดพิมพ์แจกจ่ายให้แก่บรรดาผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้สักการะบูชาเป็นสิริมงคล
    พิมพ์พระประทานเล็กเนื้อหาจัดจ้านเก่าแห้ง ดูง่ายมากครับ น่าบูชาครับ


    ราคา 2550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    ghty.jpg ct.jpg cdrft.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2022
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10683

    พระสมเด็จ 109 เกศาหลวงปู่ครูบาบุญปั๋น และหลวงปู่ครูบาอินวัดฟ้าหลั่งร่วมเสกหายากสุดๆ

    จัดสร้างถวายโดยคุณเนาว์ นรญาณ ที่สำคัญ มีเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัย พระสมเด็จ 109 เกศา เป็นพระผงพิมพ์สมเด็จที่ทางลูกศิษย์ได้รวบรวมเกศาเกจิอาจารย์ได้ 109 รูปและมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากสถานที่สำคัญต่างๆรวบรวมทำเป็นพระพิมพ์สมเด็จและ ถวายหลวงปู่ครูบาบุญปั๋น โดยมีหลวงปู่ครูบาอินวัดฟ้าหลั่งร่วมเสกด้วยครับ สร้างปี พ.ศ. 2542
    #พระดีน่าใช้ เห็นเส้นเกศาเยอะมากครับ


    ราคา 2300 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    คุณ j999 จองแล้วครับ

    Clip_21.jpg Clip_22.jpg Clip_23.jpg Clip_25.jpg Clip_26.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2022
  7. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +788
    จองเหรียญในหลวง4รอบ
     
  8. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,144
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองขอบคุณครับ
     
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10684

    เหรียญรุ่นแรกรูปไข่ หลังยันต์ หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม ต.ลําพญา อ.บางเลน จังหวัดนครปฐม เนื้อทองแดง


    หลวงพ่อสำเนียงท่านเป็นพระเกจิที่เก่งมากตัวจริงเลย ทั้งทางด้านสรรพวิชาต่างๆที่ได้รับสืบทอดมาจาก หลวงปู่ศุข และเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร พระเครื่องของท่านนั้นความนิยมอาจจะไม่กว้างนักแต่ ผู้ที่เก็บสะสมบูชารวมถึงคนในพื้นที่ล้วนต่างทราบ คุณวิเศษของท่านทั้งนั้น และท่านยังป็น 1 ในคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพิธี 25 พุทธศตวรรษด้วย

    หลวงพ่อสำเนียงท่านเป็นพระโอรสของ เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กับ หม่อมทองนุ่น เกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2460 ที่วังไชยา ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียงจะถือกำเหนิดมาดูโลกนั้น นายเอม อยู่สถาพรเป็นพระสหายของเสด็จเตี่ย ได้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่า ขณะที่หม่อมแม่ทรงพระครรภ์ได้ 2 เดือน เสด็จเตี่ยได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปรับเรือหลวงพระร่วงที่ต่างประเทศ จึงได้พาหม่อมแม่ไปฝากไว้กับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาทซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์ของเสด็จเตี่ย โดยให้นายเอม อยู่สถาพรซึ่งเป็นพระสหายเป็นผู้ดูแล ตัวหลวงพ่อสำเนียงจึงกลายเป็นลูก 3 พ่อ ซึ่งเสด็จเตี่ย คือ พ่อผู้ให้กำเหนิด นายเอม เป็น พ่อเลี้ยงดู พร้อมกับ หลวงปู่ศุข เป็นพ่อ ผู้ดูแลให้การศึกษาเล่าเรียน หลวงพ่อสำเนียงใช้นามสกุลของนายเอม คือ อยู่สถาพร (ในหนังสือไม่ได้ระบุสาเหตุ)ได้อยู่กับหลวงปู่ศุขจนเติบโต จึงได้มาศึกษาในก.ท.ม.ที่ร.ร.อัสัมชัญ จนจบมัธยมปลายจากนั้นไปศึกษาต่อที่ร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า จนจบจึงได้รับราชการทหารบกจวบได้รับยศร้อยเอกและเคยได้ร่วมสมรภูมิถึง 2 ครั้งคือสงครามอินโดจีนและสงครามมหาบูรพา พอกลับจากศึกสงครามถูกมรสุมร้ายทางการเมืองกระทำเอาถูกจองจำพร้อมกับจอมพล ป. พิบูลสงคราม - หลวงเสรี - หลวงวิจิตรวาทการ และคนอื่นๆในข้อหาอาชญากรสงคราม

    เมื่อได้รับการปลดปล่อยหลวงเสรีได้ไปบวชที่วัด เบญจมบพิตร ส่วนหลวงพ่อสำเนียงท่านไปบวชอยู่ที่วัดกัลยาณมิตรฝั่งธนบุรี ท่านตั้งใจบวชเพียง 15 วันแต่พอบวชได้ 3 วันก็มีเหตุการณ์เมืองขึ้นมาอีกจึงทำให้ท่านเปลี่ยนความตั้งใจ เหตุการณ์บ้านเมืองกำลังยุ่งเหยิงจอมพล ป. พิบูลสงครามได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง แต่ต้องการให้หลวงพ่อสำเนียงกลับไปรับราชการอีก ทว่าท่านไม่ยอมสึกทั้งได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าจะขอยึดเอาผ้ากาสาวพัสตร์หุ้มห่อร่างกายจนกระทั่งตาย

    ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียงจะมาบุกเบิกทุ่งร้างกลางป่าทึบให้มาเป็นวัดวาอารามอันพรั่งพร้อมไปด้วย โบสถ์ วิหาร ศาลา โรงธรรมที่สวยงามนั้น ท่านกล่าวว่า ขณะที่ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน ก.ท.ม. ท่านได้เกิดนิมิตขึ้นว่าได้เห็นปราศาทร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งการนิมิตเห็นนี้ไม่ได้หลับตาเห็น แต่เป็นแบบลืมตาเห็นภาพขึ้นมา เมืองร้างแห่งที่ท่านพบเห็นในนิมิตนี้มีสมบัติล้ำค่าถูกฝังอยู่มากมายมหาศาล คนเฝ้าสมบัติล้ำค่านี้บอกกับท่านว่า ใครจะมาเอาสมบัติเหล่านี้ไปไม่ได้ คนที่จะมาเป็นเจ้าของจะต้องมาสร้างเมืองนี้ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาเหมือนเดิมเสียก่อน และคนที่จะมาอยู่เมืองนี้ได้จะต้องเป็นคนดี มีศีลธรรม ถ้าไม่เช่นนั้นจะหาความเจริญขึ้นมาไม่ได้นอกจากพินาศล่มจมเท่านั้น เพราะสถานที่แห่งนี้คือที่ตั้งเมืองธรรมานครอมรวดีศรีธานินทร์ มหินทรามหาเลิศลบภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์มาก่อน

    หลังจากหลวงพ่อสำเนียงได้นิมิตเห็นเมืองธรรมานครแล้วท่านเดินทางสู่เมืองร้างแห่งนี้โดยทางรถไฟไปลงสถานีงิ้วราย จากนั้นลงเรือต่อไปตลาดลำพญาต่อเรือไปอีก 3 ช.ม.จึงถึงตลาดลำพญาจากตลาดเดินเท้าอีก 4 ก.ม.โดยประมาณจึงถึงวัดแหลมชะอุย เป็นสถานที่รกร้างว่างเปล่าเหลือแต่ซากปรักหักพัง พอให้รู้ว่าสถานที่นั้นเคยเป็นวัดมาก่อนที่ๆแห่งนั้นเมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เต็มไปหมด ทำให้สถานที่นั้นร่มรื่นและเงียบสงัดวังเวงยิ่งนัก จึงมีสัตว์นาๆชนิด เช่นงูเห่า งูจงอางเป็นต้นเพราะปราศจากผู้คนสัญจรไปมา มีแต่บริเวณทุ่งกว้างที่ร้างซึ่งมีเด็กเลี้ยงควายอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น เด็กพวกนั้นปราศจากเสื้อผ้านุ่งห่มเพราะความแห้งแล้งทุรกันดารความยากจนของครอบครัว พ่อแม่เด็กเหล่านั้นหากินทางทุจริตลักลอบหาวัตถุโบราณในบริเวณวัดร้างแห่งนี้เพื่อนำเอาไปขาย

    เมื่อท่านไปถึงท่านได้เดินเข้าไปดูในโบสถ์ปรากฏว่าถูกปัดกวาดดูสะอาดสะอ้าน คล้ายกับมีคนมาอาศัยอยู่ ท่านจึงตัดสินใจที่จะอยู่ ณ. วัดร้างแห่งนี้ โดยท่านตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะพัฒนาวัดร้างแห่งนี้ร่วมกับชาวบ้านในถิ่นนี้ให้เจริญ ท่านจึงได้ยึดเอาโบสถ์เป็นที่อยู่อาศัย แต่ท่านหารู้ไม่ว่าที่แห่งนี้คือที่ซ่องสุมของพวกโจรและเสือร้ายปล้นฆ่าชื่อดัง คือ เสือแคล้ว เสือสด เสือเลียง เสือสมหมาย เสือผาด ทั้ง 5 เสือดังกล่าวทางการได้หมายหัวเอาไว้แล้วว่าต้องจับตายลูกเดียว พวกนี้หาทรัพย์มาได้เท่าไหร่ก็จะนำมาแบ่งปันที่นี่ประจำเพราะเป็นจุดศุนย์กลางระหว่างจังหวัดนนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี มีอยู่วันหนึ่งเสือร้ายเหล่านั้นปล้นทรัพย์ได้มาก็นัดกันมาแบ่งสมบัติที่โบสถ์ร้างแห่งนี้ เมื่อเสือแคล้วมาแอบเห็นหลวงพ่อสำเนียงอยู่ในวัดก็สบถจะต้องฆ่าพระองค์นี้ให้ได้ เพราะกลัวท่านมารู้เห็นความลับ อีกหรือท่านปลอมมาเป็นพระเพื่อมาสืบจากทางราชการ เสือแคล้วจึงตกลงกับพวกอีก 4 เสือจะต้องฆ่าท่านคืนแรกเสือแคล้วมาคนเดียวก้าวเข้าไปยืนในโบสถ์เห็นเพียงแสงเทียนสลัวๆพอเห็นว่ามีพระนั่งสมาธิอยู่ เมื่อเพ่งเข้าไปหมายจะฆ่าหลวงพ่อปรากฏว่า คุณพระช่วยภาพที่เขามองเห็นไม่ได้มีพรอยู่องค์เดียวเหมือนที่เขาเห็นตอนกลางวันเสียแล้ว เพราะภายในโบสถ์เต็มไปด้วยพระสงฆ์ห่มสีกลักกำลังนั่งสมาธิเต็มไปหมด พระเหล่านั้นต่างนั่งสมาธิอย่างสงบโดยไม่สนใจกับภายนอกโบสถ์เลย เสือแคล้วนึกอยู่ในใจว่าพระมาจากไหนเยอะแยะก็ตอนกลางวันเห็นมีอยู่องค์เดียว ส่วนมือยังกำปืนแน่นอยู่ในลักษณะพร้อมยิงเสมอ ในที่สุดก็เลิกล้มความตั้งใจ เพราะไม่ทราบว่าจะทำวิธีไหนที่จะฆ่าพระได้หมด หลังจากนั้นสหายอีก 4 เสือก็ผลัดกันมาทุกคืนโยผัดเปลี่ยนกันกับเพื่อนทุกคนในกลุ่ม ผลปรากฏว่าเหตุการณืเหมือนกันทุกครั้ง 4 วันเต็มๆ

    ผลสุดท้ายเขาและเพื่อนยอมแพ้ในอภินิหารที่ได้ประสพมาจึงไม่อาจฆ่าท่านได้ ซึ่งคงเป็นเพราะบารมีของท่านซึ่งปฏิบัติธรรมเคร่งครัดเสมอมานั่นเอง เช้าของวันที่ 5 พวกเสือร้าย 5 คนได้ปรึกษาหารือกันเข้าไปกราบหลวงพ่อสำเนียงในโบสถ์และเล่าความจริงให้ท่านฟัง พวกเขาแนะนำตัวเองหลวงพ่อจึงถามไปว่า โยมพากันมาทำไมที่นี่ เสือแคล้วและพวกจึงสารภาพว่าต้องการมากราบขอขมาหลวงพ่อ กรรมใดที่ได้ล่วงเกินท่านไว้ขอให้ท่านอโหสิกรรมแก่พวกเขา

    หลวงพ่อท่านว่า เวรของผู้จองเวรย่อมไม่ระงับ แต่เวรของผู้ที่ไม่จองเวรย่อมระงับ อาตมาอโหสิให้ แต่กรรมโยมได้กระทำไปนั้นไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน กรรมนั้นย่อมตอบสนองในภายหลังไม่มีใครให้อภัยได้ ดังนั้นขอโยมจงหยุดการกระทำชั่วนั้นๆเสียแล้วให้เริ่มทำความดีต่อไป หมั่นรักษาศีลเพราะศีลจะทำให้ผู้ปฏิบัติให้เป็นผู้ที่สมบูรณ์ในโภคทรัพย์ ทั้งในภพปัจจุบันนี้และจะนำสู่สุขคติและนิพพานในภพหน้า เมื่อได้รับฟังธรรมะจากหลวงพ่อ เสือร้ายทั้ง 5 สำนึกผิดและซาบซึ้งในโอวาสของหลวงพ่อสำเนียง พวกเขาพร้อมที่จะปฏิบัติตามจึงได้มอบตัวเป็นลูกศิษย์ของท่าน พร้อมได้ปวาราณาตัวว่าจะเลิกทำชั่ว แล้วตั้งอยู่ในศีลธรรมต่อไป


    ราคา 850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    คุณ j999 จองแล้วครับ


    Clip_39.jpg Clip_40.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2022
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองขอบคุณครับ
     
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10685

    เหรียญนเรศวรตองโข่ รุ่น 2

    เหรียญสุดยอดประสบการณ์. ใช้แทนเหรียญรุ่นแรกหลักแสนได้เลยครับ
    สนใจเชิญได้ครับ รับประกันความแท้ตลอดชีพครับ


    ราคา 2599 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_27.jpg Clip_28.jpg Clip_36.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2022
  13. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,144
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับพี่
     
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340

    รายการที่ 10686
    พระผงเกศารุ่นแรกครูบาตา วัดแม่ฮ้อยเงิน




    ครูบาอินตา คนฺธโกภิกขุ.......หรือครูบาตา อดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาวาสแม่ฮ้อยเงินเหนือ อ.ดอยสะเก็ดจ.เชียงใหม่ พระมหาเถราจารย์ผู้เป็นที่เคารพนับถือของคนดอยสะเก็ด เมื่อครั้งที่ท่านไปร่วมงานปอยหลวงวัดแม่ฮ้อยเงินได้ถูกคนร้ายที่ไล่ตีกันยิงกันจนโกลาหลขึ้นมาบนพระวิหารซึ่งเป็นช่วงที่ท่านกำลังเดินลงวิหารจะกลับวัด คนไล่ยิงกันมาจนถึงที่ท่านยืนอยู่ท่านจึงเข้าห้ามปรากฏว่าถูกคนใช้ปืนลูกซองยิงคู่อริแล้วพลาดไปถูกท่านเข้าแต่ทว่าลูกกระสุนปืนลูกซองยิงไม่เข้าถึงเนื้อตัวท่าน เมื่อท่านส่ายสะบัดผ้าจีวรออกลูกกระสุนก็ตกลงมาต่อหน้าท่านและคนที่มุงดูเป็นที่ฮือฮากันอย่างกว้างขวาง ถึงความคงกระพันของท่าน ในท้องถิ่นหากผีเข้าเจ้าสิงหรือเด็กร้องไห้กลางคืนไร้สาเหตุคนจะไปนิมนต์ท่านมาช่วยเหลือแต่มิเคยย่างก้าวถึงบ้านคนป่วย ผีร้ายจะร้องโหยหวนแล้วออกทันทีโดยเฉพาะผีกะจะกลัวท่านมาก ตลอดจนเวลาวัดวาอารามมีงานมีการมักจะนิมนต์ท่านมาเป็นประธานในการประกอบพิธีต่างๆควบคุมดูแลในงาน จะไม่มีคนกล้ามีเรื่องหรือวิวาทกันเพราะเกรงกลัวในบารมีท่าน สถานทีาใดบ้านเรือนใดที่ต้องอาถรรพ์หากท่านไปประกอบพิธีแก้ไขให้ก็จะสงบร่มเย็นเพราะเชื่อกันว่สท่านเป็นพระที่เก่งด้านสยบความอาถรรพ์(ต๋นแป๊ขึดจาและผีสาง)วัตถุมงคลของท่านมีน้อยมากล้วนเป็นที่เสาะแสวงหาของคนในพื้นที่และนอกพื้นที่โดยเฉพาะตะกรุดใบลานยันต์ลูกหลวง(ประจุธาตุพระเจ้า)ใช้พันช่องของท่าน ยันต์เก้ากุ่มและยันต์กันผีท่านตลอดจนพระผงเกศาเกษรพันดวงและเหรียญรุ่นแรกของท่านประสบการณ์เป็นที่ล่ำลือหนาหูเนื่อแคล้วคลาดและป้องกันภัยควรแก่การบูชารักษาไว้เป็นอย่างยิ่ง ท่านยังเป็นพระนักพัฒนาวัดวาอารามโรงเรียนสถานศึกษาและเป็นพระหมอยาสมุนไพรรักษาชาวบ้านโดยไม่คิดค่ารักษาโดยเมตตาเป็นที่เคารพรักของศรัทธาทั่วไปอย่างยิ่ง

    สายเหนียวแม่ฮ้อยเงิน เมืองดอยสะเก็ด


    เกจิที่เข้มขลังด้านวิชาคง ข่ามอีกท่านหนึ่งผู้มีวัตประบัติที่เคร่งครัดมาก

    ราคา 1550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ

    Clip_11.jpg Clip_12.jpg Clip_13.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2022
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10687

    พระผงข้าวเย็นครูบา อินสม สุมโน แห่งวัดทุ่งน้อย สวยเดิมๆ

    ที่ทำจากข้าวที่เหลือจากก้นบาตร นำมาผสมกับ ยางว่านมงคล ๑๐๘ กดเป็นพิมพ์รูปเหมือนครูบาอินสม สุมโน
    ข้าวเย็นใน หมายถึง ข้าวที่ครูบาอินสม สุมโน ได้ฉันท์ เหลือจากมื้อเพล ที่เหลือจากก้นบาตร เหลือเท่าไรก็เก็บ สะสมไว้ ดีกว่าเอาไปทิ้งให้เรี่ยราด ข้าวทุกเม็ด "ญาติโยมต้องเหน็ดเหนื่อย หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน ทำนาเหน็ดเหนื่อย กว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ด" คือเจตนาของครูบาฯ หลังจากฉันต์เสร็จ เหลือ 1เม็ด ก็เก็บ 1เม็ด เหลือ 2เม็ด ก็เก็บ 2เม็ด เก็บไว้เรื่อยๆ จนเต็มบาตรเก่า ก็นำมา ผสมกับ ยางว่านมงคล ๑๐๘ กดเป็นพิมพ์รูปเหมือน ครูบาอินสม สุมโน
    ก็ได้นำแจกจ่าย "คืนข้าว" ให้กับ ชาวบ้าน ชาวไร่ชาวนา ญาติโยม ผู้มาทำบุญ ได้ไว้เป็นพุทธบูชา รักษาเนื้อรักษาตัว จากภัยอันตราย
    พุทธคุณท่านด้าน เมตตามหาลาภ และคงกระพันชาตรี
    สวยเดิมๆท่านที่ชอบเก็บของสวยไม่ควรพลาดครับ


    ปิดรายการนี้ครับ

    Clip_15.jpg Clip_17.jpg Clip_19.jpg Clip_21.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2022
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10688

    เหรียญท้าวเวสสุวรรณ(ยักษ์เล็ก) เนื้อเนื้อทองแดง ตอกโค๊ต


    เหรียญ วัดเจดีย์สถาน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เหรียญยักษ์เล็ก (ศิษย์ร่วมสร้าง) วัดเจดีย์สถาน สร้างถวายโดยคณะศิษย์วัดเจดีย์สถาน เมื่อปี 2523 ในสมัยที่พระครูวิรุฬห์ธรรมโกวิท เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งในขณะนั้นมีพระอาจารย์เกษม เกตธัมโม ผู้มีพระคาถาอาคมอันลือชื่อ ร่วมอยู่ในวัดเจดีย์สถานด้วย เหรียญยักษ์นี้มีการสร้าง 2เนื้อ คือ อัลปาก้า และ ทองแดง , เนื้อทองแดง สร้างประมาณ 3000 เหรียญ ส่วนเนื้ออัลปาก้า สร้างประมาณ 100 เหรียญ
    เหรียญที่ตอกโค๊ตชัดเจน
    เหรียญยอดนิยมของเมืองเหนือ


    ราค 2550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ0861936900


    Clip_8.jpg Clip_9.jpg Clip_10.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2022
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10689

    พระกริ่ง สว. วัดพระแก้ว เชียงราย ปี 34 ในหลวงร 9 เสด็จ สวยกล่องเดิมๆ


    พระกริ่ง สว. วัดพระแก้ว เชียงราย ปี 34
    ในหลวงร 9 เสด็จ
    สร้างในวโรกาศเนื่องในมหามงคลวโรกาสที่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๙๐ พระชันษา วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๓ ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สวณฺณโชตมหาเถระ) เจ้าอาวาส วัดเบญจมบพิตรดุสิตวราราม กรรมการมหาเถระสมาคมและเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้มีบัญชาให้คณะสงฆ์ หนเหนือ (๑๖ จังหวัด ในภาคเหนือ) จัดกิจกรรมบำเพ็ญกุศลทางพระพุทธศาสนาเพื่อ เฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล คณะสงฆ์จังหวัดเชียงรายจึงจัดโครงการจัดสร้าง “พระแก้วหยกเชียงราย” ขึ้น เพื่อสนองบัญชาของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณฯ) ดังกล่าว และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ดังนั้นคณะ สงฆ์จังหวัดเชียงรายจึงจัดสร้าง “ พระแก้วหยกเชียงราย ” โดยมีวัตถุประสงค์ ๑. เพื่อเป็นอนุสรณ์ว่า วัดพระแก้ว จ.เชียงราย แห่งนี้เคยเป็นที่ค้นพบพระแก้วมรกตมาก่อน จึงได้สร้าง “ พระแก้ว หยกเชียงราย ” ขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้สักการบูชา และเพื่อเป็นการรำลึกว่า “ วัดพระแก้ว จ.เชียงราย แห่งนี้ก็มีความสำคัญคู่พระบารมีแห่งองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ” ๒. เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๙๐ พระชันษา ในวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ด้วยเหตุที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวเชียงรายเปรียบ พระองค์ดุจดังดวงประทีปยังความสว่างและนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่ จ.เชียงราย ในการนี้ คณะสงฆ์จังหวัดเชียงรายและคณะกรรมการดำเนินการจัดสร้าง “ พระแก้วหยกเชียงราย ” และ “ วัตถุมงคลเฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ” จึงได้ดำเนินการจัดสร้างพระ พุทธรูป “ พระแก้วหยกเชียงราย ” ขนาดหน้าตักกว้าง ๔๗.๙ เซนติเมตร ขนาดความสูง ๖๕.๙ เซนติเมตร ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับองค์ “ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ” หรือ “ พระแก้วมรกต ” องค์ดั้งเดิม โดยนำหยกเนื้อดีที่สุดจากประเทศแคนาดา ซึ่ง “ มิสเตอร์ ฮูเวิร์ดโลว์ ” เป็นผู้นำมาถวายท่านเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย และมอบหมายให้ อาจารย์กนก วิศวะกุล แห่งวิทยาลัยอาชีวศึกษาจังหวัดเชียงราย เป็นปฏิมากรผู้ปั้นหุ่นต้นแบบ แล้วส่งมอบให้ “ มิสเตอร์เหยน หวุนหุ้ย ” นายช่างแกะสลักหยกของโรงงานวาลินนานกู แห่งนครปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผู้ดำเนินการแกะสลักตามต้นแบบ และในโอกาสนี้ คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย ได้รับการอุปถัมภ์การจัดสร้างจาก ฯพณฯ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ (นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) และ ท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ เป็นประธานอุปถัมภ์และบริจาคเงินเป็นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดสร้าง โดย ท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ เดินทางไปเป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวงเทวดาบูชาฤกษ์ในการเริ่มสร้าง เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ และเดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบหุ่นต้นแบบ เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ณ วัดพระแก้ว อ.เมือง จ.เชียงราย พิธีพุทธาภิเษก ครั้งที่ 1 ณ วัดกว่างจี้ ประเทศจีน ครั้งที่ 2 ณ พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กทม. เมื่อวันที่20กันยายน พ.ศ. 2534 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จมาเป็นประธานในพิธี ครั้งที่ 3 ณ วัดพระแก้วเชียงรายจ.เชียงราย ปี 2534 พระหยก สว.เชียงราย สร้างจากหยกชนิดเดียวกับองค์พระแก้วมรกตบูชา..ด้านหน้าแกะเป็นองค์พระแก้วด้านหลังแกะเป็นพระนามย่อ สว.ของสมเด็จย่า..จำนวนไม่ทราบแน่นอนแต่ไม่มากเพราะแกะจากหยกที่เหลือจากการแกะพระแก้วบูชาครับ หยกชนิดนี้(เนไพร์)ได้นำมาจากประเทศแคนนาดา เป็นหยกที่มีพลังมากกว่าหยกทั่วไปมีพลังวิเศษในตัวเอง...คุณค่าแก่การสะสมยิ่งด้านหลังมีพระนามย่อของสมเด็จย่าด้วย
    พระดีพิธีเยี่ยม น่าใช้

    บูชาครับ

    Clip_22.jpg Clip_23.jpg Clip_25.jpg Clip_26.jpg Clip_27.jpg Clip_28.jpg Clip_29.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2022
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10690

    พระแก้วหยก วัดพระแก้ว เชียงราย ปี 34 รูปไข่ ในหลวงร 9 เสด็จ กล่องเดิมกำมะหยี่แดง หายากมาก

    สร้างในวโรกาศเนื่องในมหามงคลวโรกาสที่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๙๐ พระชันษา วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๓ ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สวณฺณโชตมหาเถระ) เจ้าอาวาส วัดเบญจมบพิตรดุสิตวราราม กรรมการมหาเถระสมาคมและเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้มีบัญชาให้คณะสงฆ์ หนเหนือ (๑๖ จังหวัด ในภาคเหนือ) จัดกิจกรรมบำเพ็ญกุศลทางพระพุทธศาสนาเพื่อ เฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล คณะสงฆ์จังหวัดเชียงรายจึงจัดโครงการจัดสร้าง “พระแก้วหยกเชียงราย” ขึ้น เพื่อสนองบัญชาของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณฯ) ดังกล่าว และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ดังนั้นคณะ สงฆ์จังหวัดเชียงรายจึงจัดสร้าง “ พระแก้วหยกเชียงราย ” โดยมีวัตถุประสงค์ ๑. เพื่อเป็นอนุสรณ์ว่า วัดพระแก้ว จ.เชียงราย แห่งนี้เคยเป็นที่ค้นพบพระแก้วมรกตมาก่อน จึงได้สร้าง “ พระแก้ว หยกเชียงราย ” ขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้สักการบูชา และเพื่อเป็นการรำลึกว่า “ วัดพระแก้ว จ.เชียงราย แห่งนี้ก็มีความสำคัญคู่พระบารมีแห่งองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ” ๒. เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๙๐ พระชันษา ในวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ด้วยเหตุที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวเชียงรายเปรียบ พระองค์ดุจดังดวงประทีปยังความสว่างและนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่ จ.เชียงราย ในการนี้ คณะสงฆ์จังหวัดเชียงรายและคณะกรรมการดำเนินการจัดสร้าง “ พระแก้วหยกเชียงราย ” และ “ วัตถุมงคลเฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ” จึงได้ดำเนินการจัดสร้างพระ พุทธรูป “ พระแก้วหยกเชียงราย ” ขนาดหน้าตักกว้าง ๔๗.๙ เซนติเมตร ขนาดความสูง ๖๕.๙ เซนติเมตร ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับองค์ “ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ” หรือ “ พระแก้วมรกต ” องค์ดั้งเดิม โดยนำหยกเนื้อดีที่สุดจากประเทศแคนาดา ซึ่ง “ มิสเตอร์ ฮูเวิร์ดโลว์ ” เป็นผู้นำมาถวายท่านเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย และมอบหมายให้ อาจารย์กนก วิศวะกุล แห่งวิทยาลัยอาชีวศึกษาจังหวัดเชียงราย เป็นปฏิมากรผู้ปั้นหุ่นต้นแบบ แล้วส่งมอบให้ “ มิสเตอร์เหยน หวุนหุ้ย ” นายช่างแกะสลักหยกของโรงงานวาลินนานกู แห่งนครปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผู้ดำเนินการแกะสลักตามต้นแบบ และในโอกาสนี้ คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย ได้รับการอุปถัมภ์การจัดสร้างจาก ฯพณฯ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ (นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) และ ท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ เป็นประธานอุปถัมภ์และบริจาคเงินเป็นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดสร้าง โดย ท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ เดินทางไปเป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวงเทวดาบูชาฤกษ์ในการเริ่มสร้าง เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ และเดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบหุ่นต้นแบบ เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ณ วัดพระแก้ว อ.เมือง จ.เชียงราย พิธีพุทธาภิเษก ครั้งที่ 1 ณ วัดกว่างจี้ ประเทศจีน ครั้งที่ 2 ณ พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กทม. เมื่อวันที่20กันยายน พ.ศ. 2534 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จมาเป็นประธานในพิธี ครั้งที่ 3 ณ วัดพระแก้วเชียงรายจ.เชียงราย ปี 2534 พระหยก สว.เชียงราย สร้างจากหยกชนิดเดียวกับองค์พระแก้วมรกตบูชา..ด้านหน้าแกะเป็นองค์พระแก้วด้านหลังแกะเป็นพระนามย่อ สว.ของสมเด็จย่า..จำนวนไม่ทราบแน่นอนแต่ไม่มากเพราะแกะจากหยกที่เหลือจากการแกะพระแก้วบูชาครับ หยกชนิดนี้(เนไพร์)ได้นำมาจากประเทศแคนนาดา เป็นหยกที่มีพลังมากกว่าหยกทั่วไปมีพลังวิเศษในตัวเอง...คุณค่าแก่การสะสมยิ่งด้านหลังมีพระนามย่อของสมเด็จย่าด้วย
    พระดีพิธีเยี่ยม น่าใช้


    บูชาแล้วครับ

    Clip_30.jpg Clip_31.jpg Clip_32.jpg Clip_33.jpg Clip_27.jpg Clip_28.jpg Clip_29.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2022
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,908
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10691

    เหรียญทรงผนวช ดอยตุง ปี 2516 เนื้อ อัลปาก้า บล็อกนิยมฐานแตก

    เมื่อปี พ.ศ. 2516 โดยกระทรวงมหาดไทย ได้สร้างพระธาตุองค์ใหม่ขึ้นครอบพระเจดีย์เดิมไว้ในคราวที่ครูบาศรีวิชัยร่วมกับชาวบ้านได้ทำการบูรณไว้โดยสร้างเป็นเจดีย์องค์ระฆังขนาดเล็กสององค์บนฐานแปดเหลี่ยม ตามศิลปะแบบล้านนา ในปี พ.ศ.2470 โดยกระทรวงมหาดไทยได้จัดสร้างวัตถุมงคลเป็นพุทธบูชาและจัดหารายได้เพื่อการบูรณะองค์พระบรมธาตุ ในปีนั้นด้วย ดังนี้
    ประวัติการสร้าง
    พระสิงห์หนึ่งดอยตุง ขนาด 5-9 นิ้ว
    พระกริ่งสิงห์หนึ่งดอยตุง ( ก้น ช ) เนื้อนวโลหะ สูง 3 ซ.ม. ฐานกว้าง 1.5 ซ.ม. จำนวนสร้าง 10,000 องค์ ส่วนเนื้อทองคำจัดสร้างตามสั่ง
    เหรียญพระบรมธาตุดอยตุง 3 แบบ มีเนื้อทองคำ อัลปาก้า ทองแดงรมดำ ทองแดงกะไหล่ทอง
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าให้สมเด็จพระบรมโอรสรธิราช เสด็จแทนพระองค์ในการเททอง ณ มณฑลพิธีวัดเจดีย์หลวง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย วันที่ 8 มกราคม 2516 และมีพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดพระเจ้าล้านทอง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ตรงกับวันวิสาขบูชา 16 พฤษภาคม 2516 เวลา 15.05 น.(จุดเทียนชัย) นับเป็นพิธีใหญ่มีเกจิอาจารย์ทั่วประเทศร่วมปลุกเสก มีพระเถราจารย์นั่งปรกอธิฐานจิต (ชุดที่แรก) เวลา 19.30 น. พระพิธีธรรมสำนักวัดราชนัดดารามวรวิหาร เจริญพระคาถาพุทธาภิเษก
    พระครูภาวนาภิรัตน์ (ครูบาอินทจักร) วัดบ่อน้ำหลวง จ.เชียงใหม่
    พระครูพรหมจักรสังวร(ครูบาพรหมจักร) วัดพระบาทตากผ้า จ.ลำพูน
    พระครูสุตตาธิการี(หลวงพ่อทองอยู่) วัดหนองพระองค์ จ.สมุทรสาคร
    พระครูจันทรโสภณ(หลวงพ่อนาค) วัดทัศนารุณสุนทริการาม กรุงเทพฯ
    พระวิบูลย์เมธาจารย์ วัดดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
    พระครูนนทกิจวิมล(หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี
    พระครูสาครกิจโกศล(หลวงพ่อจ้อน) วัดเจ็ดริ้ว จ.สมุทรสาคร
    พระครูพิพัฒน์ศิริธร(หลวงพ่อคง) วัดบ้านสวน จ.พัทลุง
    หลวงพ่อนำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
    หลวงพ่อเตียง วัดเขาลูกช้าง จ.พิจิตร
    พระครูพิพิธพัชรศาสตร์(หลวงพ่อจ้วน) จ.เพชรบุรี
    พระครูพิพิชวิหารการ(หลวงพ่อเทียน) วัดกษัตราธิราช จ.พระนครศรีอยุธยา
    พระครูปัญญาโชติคุณ(หลวงพ่อเจริญ) วัดทองนพคุณ จ.เพชรบุรี
    พระครูสมุห์อำพล วัดอัมพวา กรุงเทพฯ
    หลวงพ่อมิ่ง วัดกก กรุงเทพฯ
    ชุดที่สอง เวลา 01.30 น. พระพิธีธรรมสำนักวัดเลา เจริญพระคาถาจักรพรรดิ์ตราธิราช พระอาจารย์ไสว สุมโน วัดราชนัดดารามวรวิหาร กรุงเทพฯ(เจ้าพิธี)
    พระอาจารย์สม วัดหัวข่วง จ.ลำปาง
    พระครูพิบูลธรรมภาณ วัดภูเขาแก้ว จ.อุบลราชธานี
    หลวงพ่อแสน วัดท่าแหน จ.ลำปาง
    หลวงพ่อเปี่ยม วัดเทพธิดาราม กรุงเทพฯ
    พระครูชุณห์ วัดเขาชายธง จ.นครสวรรค์
    พระราชมุนี(หลวงพ่อโฮม) วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ
    พระอริยเมธี วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ
    พระครูสมุห์ละมัย วัดพระศรีมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
    พระครูประภาสธรรมาภรณ์(หลวงพ่อลำยอง) วัดบางระกำ จ.พิษณุโลก
    พระครูสาธุกิจวิมล(หลวงพ่อเล็ก) วัดหนองดินแดง จ.นครปฐม
    พระอาจารย์สมวงษ์ วัดวังแดงเหนือ จ.พระนครศรีอยุธยา
    หลวงพ่อแดง วัดบางเกาะเทพย์ศักดิ์ จ.สมุทรสงคราม
    พระครูศรีปริยัตยานุรักษ์ วัดพันอ้น จ.เชียงใหม่
    พระอาจารย์สิงห์คำ วัดล่ามช้าง จ.เชียงใหม่
    พระอาจารย์สิงห์คำ วัดเหมืองง่า จ.ลำพูน
    พระราชปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย วัดเจ็ดยอด
    พระพุทธวงศ์วิวัฒน์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย วัดพระแก้ว
    พระครูพินิตธรรมประภาส วัดมิ่งเมือง จ.เชียงราย
    พระครูโสภณธรรมมุนี วัดศรีโคมคำ อ.พะเยา
    พระครูเมธีธวัชคุณ วัดราชคฤห์ อ.พะเยา
    พระครูนิวัษฐ์สัทธาคุณ วัดอำมาตย์ อ.เทิง
    พระครูธีรธรรมวิวัฒน์ วัดกาสา อ.แม่จัน
    พระครูหิรัญญเขตคณารักษ์ วัดศรีบุญเรือง อ.แม่จัน
    เจ้าอธิการฝ้าย จันทโก วัดเหมืองแดง อ.แม่สาย
    พระอาจารย์ตี๋ สุวรรณโชโต วัดพรหมวิหาร อ.แม่สาย
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี

    บล็อกนิยมพระดีครบทุกด้านสมควรมีไว้ใช้บูชาครับ

    ราคา 1550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ0861936900



    Clip_34.jpg Clip_35.jpg Clip_36.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...