ประมูล ((ลพ.แพงตา เขมิโย ปิดคืนนี้วันที่ 7 พ.ค.59 เวลา 20.50 น.))มีแถมๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย namayti, 5 พฤษภาคม 2016.

  1. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ขอเรียนเชิญร่วมประมูลวัตถุมงคลเก่าเก็บ..เลิกสะสม..แบ่งกันไปใช้ครับ
    -------------------------------------------------------------------------------------
    เงื่อนไข
    1.ปิดประมูลวันที่ 7 พ.ค.2559 เวลา 20.50 น.(ยึดเวลาตามเว็ป)
    2.เค๊าะเท่าไหร่ก็ได้ แต่ให้ลงท้ายด้วย 0 นอกนั้นถือเป็นโมฆะครับ
    3.ใครประมูลสูงสุด ในเวลาที่กำหนด เป็นผู้ชนะการประมูล
    4.กรณียอดประมูลเท่ากัน ขอให้สิทธิ์ผู้เค๊าะประมูลก่อนเป็นผู้ชนะการประมูล
    5.ผู้พิมพ์"ปิดด่วน"ตามราคาที่ระบุเอาไว้ เป็นผู้ชนะการประมูล และถือว่าสิ้นสุดการประมูล
    6.โอนเงินภายใน 2 วันหลังจากวันปิดประมูล
    7.รับประกันพระแท้ตามกฏ-กติกาสากล
    [​IMG]
    เปิดประมูลที่ 99.-((ปิดด่วนที่ 300)) ผู้ชนะเพิ่มค่าส่งลงทะเบียน EMS = 50.-นะครับ
    -------------------------------------------------

    ...นำเสนอ...เหรียญ"ฉลองพัดยศ"ปี 2523 ลพ.แพงตา เขมิโย วัดประดู่วีรธรรม อ.ปลาปาก จ.นครพนม พระวิปัสสนากรรมฐาน สหธรรมมิก ลพ.คำพันธ์ โฆษะปัญโญ วัดธาตุมหาชัย เลี่ยมพร้อมใช้ สภาพสวยสมบูรณ์ครับ
    [​IMG]
    จัดเป็นเหรียญที่ หลวงปู่ท่านปลุกเสก อธิษฐานจิต นานที่สุด ในโอกาสเฉลิมฉลองสัญญาบัตรพัดยศ...น่าเก็บครับ

    ประวัติท่านครับ
    ...ขอบคุณที่มาครับ...ข่าวสด(คลิก)
    [FONT=Tahoma,]
    หลวงปู่แพงตา เขมิโย วิปัสสนาจารย์นครพนม


    อริยะโลกที่ 6
    ชนะ วสุรักคะ

    <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>"พระ ครูภาวนาภิรัต" หรือ "หลวงปู่แพงตา เขมิโย" อดีตเจ้าอาวาสวัดประดู่ วีรธรรม ต.กุดตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม พระวิปัสสนานักปฏิบัติที่มีลูกศิษย์ทั้ง ในประเทศและต่างประเทศ ที่ได้สร้างศาสนวัตถุ ศาสนสถานไว้สืบทอดพระพุทธศาสนา เป็นที่รู้จักแก่สาธุชนอย่างกว้างขวาง

    หลวงปู่แพงตา มีความรู้ทางยาสุมนไพร เยียวยาคนป่วยที่ได้มาอาศัยท่านเป็นที่พึ่ง

    มีนามเดิมว่า แพงตา นุนนท์ เกิดเมื่อวันพุธที่ 5 มิ.ย.2457 ที่บ้านดอนดู่ ต.กุดตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม

    ชีวิต ในวัยเยาว์ เมื่ออายุ 9 ขวบ บรรพชาเป็นสามเณรเพื่อการศึกษาธรรมวินัย อยู่ 3 ปี ด้วยเหตุจำเป็นทางครอบครัว จึงได้ลาสิกขา ก่อนเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อ พ.ศ.2479 ที่พัทธสีมาวัดบวรศรัทธาราม ต.กุดตาไก้ โดยมีพระวงษ์ เป็นพระอุปัชฌาย์

    ขณะนั้นหลวงปู่แพงตา ซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิชื่อดังภาคอีสาน วัดธาตุมหาชัย ชักชวนเข้าบวชเพื่อแสวงหาความหลุดพ้น

    หลังอุปสมบท ศึกษาเล่าเรียนมนต์น้อย มนต์กลาง มนต์หลวง และเรียนอักษรธรรมจนจบแล้ว ได้ศึกษาแนวทางการปฏิบัติธรรมจากพระอุปัชฌาย์

    กระทั่ง พ.ศ.2480 ไปจำพรรษาที่ภูค้อ จ.สกลนคร กับพระอาจารย์ลับ เพื่อปฏิบัติธรรมด้วยการอดข้าว ดื่มแต่น้ำอย่างเดียว หลังออกพรรษาเดินทางไปที่ถ้ำกวนพลอย ถ้ำยาโดน ประเทศลาว ขากลับแวะนมัสการพระอาจารย์ศรีทัตถ์ ที่วัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน ก่อนที่ท่านจะแนะนำให้ไปปฏิบัติธรรมที่ภูเขาควาย เป็นเวลาร่วม 3 เดือน จนมีอาการผิดปกติจากการนั่งมากจนเดินไม่สะดวก

    พ.ศ.2482-2484 หลังจากอาการดังกล่าวกลับมาปกติ จึงธุดงค์ไปเมืองกาสีและเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว จำพรรษาสอนมนต์น้อย มนต์กลาง ให้พระเณรครบ 7 วัน จึงสลับสับเปลี่ยนกับพระอาจารย์ลับไปปฏิบัติและสอนพระเณรที่วัดป่าต่อตลอด ทั้งพรรษา จากนั้นไปถ้ำภูผาเจริญ ก่อนนั่งบำเพ็ญภาวนาตามป่าช้าที่เป็นกลลวงของผีสางนางไม้ ในเขตน้ำมิ่ง น้ำปอน ของลาว แล้วธุดงค์ไปถ้ำจำปาที่ภูเขาควายนั่งสมาธิอีก 3 เดือน จึงกลับมาอยู่ที่วัดประดู่วีรธรรมนาน 7 พรรษา เพื่อปฏิสังขรณ์วัด

    พ.ศ.2492-2494 เดินทางไปพระบาทโพนสัน ประเทศลาว เพื่อช่วยสร้างกุฏิ วิหาร เรียนสนธิ ซึ่งมีความยาวกว่าปาติโมกข์ ก่อนมุ่งไปเวียงจันทน์และธุดงค์ไปยังเชียงตุง ผ่าน 10 เมืองของพม่าถึงย่างกุ้ง แล้วนั่งสมาธิบริเวณพระธาตุ 7 วัน เดินทางกลับสู่ไทยเพื่อร่วมทำบุญฉลองอุโบสถที่ได้ร่วมสร้างไว้ที่ จ.พะเยา และกลับสู่มาตุภูมิใน พ.ศ.2495 ได้ 1 ปี จึงเดินทางไปพม่าและลาวอีกครั้ง เพื่อทบทวนความทรงจำหลักวิปัสสนากัมมัฏฐานนานอีก 3 ปี

    งานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2517 เป็น เจ้าอาวาสวัดประดู่วีรธรรม

    งาน ด้านการศึกษา พ.ศ.2499 จัดตั้งสำนักวิปัสสนากัมมัฏฐาน พ.ศ.2500 ให้มีการสอนโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดประดู่วีรธรรม พ.ศ.2515 ให้มีการสอนพระอภิธรรม วัดประดู่วีรธรรม พ.ศ.2517 เป็นกรรมการอุปถัมภ์การสอนนักธรรม อ.ปลาปาก

    นอกจากนี้ ยังสร้างเสนาสนะในวัดประดู่วีรธรรม เช่น กุฏิ 6 หลัง ศาลาการเปรียญ 2 หลัง อุโบสถ หอระฆัง กำแพงวัด ซุ้มประตู สิมน้ำ สิ้นเงินทั้งหมดจำนวน 2,437,687 บาท

    หลวงปู่แพงตาเดินธุดงค์ไปตามป่าเขานาน 19 ปีท่ามกลางสัตว์ร้ายและภยันตราย ก่อนจะกลับมาทำนุบำรุงวัดบ้านเกิดดังกล่าว นอกเหนือจากเป็นพระวิปัสสนาจารย์ เป็นประธานในงานบุญต่างๆ ท่านยังมีพรสวรรค์พิเศษช่วยบรรเทาและรักษาโรคภัยไข้เจ็บแก่ญาติโยม อย่างไม่ถือชนชั้นวรรณะกระทั่งถึงวาระสุดท้าย

    ด้านวัตถุมงคล ท่านเมตตาให้ลูกศิษย์สร้างหลายรุ่น โดยเฉพาะรุ่น พ.ศ.2516 ซึ่งเป็นเหรียญอาร์มรุ่นแรก เนื้อกะไหล่ทอง ที่มีพุทธคุณด้านแคล้วคลาดคงกระพัน ปัจจุบันเป็นที่นิยมของนักอนุรักษ์ที่แสวงหาวัตถุมงคลชุดนี้

    ช่วง ระยะ 8 ปีให้หลัง พระครูภาวนา ภิรัตป่วยด้วยโรคเบาหวาน กระทั่งในวันที่ 9-10 ส.ค.2535 หลวงปู่ได้เกิดปวดท้องรุนแรงกะทันหัน ลูกศิษย์จึงนำไปหาหมอที่คลินิก ก่อนส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพนม แต่กว่าจะรู้ว่าไส้ติ่งอักเสบ อาการของท่านได้อ่อนระโหยโรยแรง

    จนกระทั่งเวลา 13.00 น. ของวันที่ 12 ส.ค.2535 ท่านมรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 78 ปี พรรษา 57

    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2016
  2. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    แถมๆๆๆ....แทนคำขอบพระคุณ....ลป.บุญจันทร์ กมโล สายกรรมฐานครับ
    [​IMG]
    มาคู่ 2 องค์...มีเลี่ยมพร้อมใช้ด้วยจ้า...
    [​IMG]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]พระครูศาสนูปกรณ์ (บุญจันทร์ กมโล)
    วัดสันติกาวาส อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี
    [/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif][​IMG]
    [/FONT] [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย[/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif] หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล เกิดเมื่อวันศุกร์ แรม 4 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง จุลศักราช 1278 ตรงกับวันที่ 15 เดือนกันยายน พุทธศักราช 2459 ที่บ้านคำพระ (กุดโอ) ตำบลคำไฮ อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด บิดาชื่อคำภา นามสกุล กัมปันโน มารดาชื่อ มุม มีพี่น้องร่วมท้องบิดามารดาด้วยกัน 5 คน โดยหลวงปู่เป็นลูกชายคนที่ 4 โดยครอบครัวมีอาชีพเลี้ยงช้าง[/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]พออายุได้ 13 ปี ท่านจึงย้ายตามมารดา ซึ่งขณะนั้นหย่ากับโยมบิดาของหลวงปู่ ไปอยู่บ้านบึงเป่ง ตำบลงูเหลือม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น วันหนึ่งพี่เขยให้ไปไถนา การไถนารู้สึกลำบากมากเพราะยังเล็กอยู่ เมื่อเวลาไถนาไป จิตเกิดความเมตตาสงสารควายที่กำลังลากไถอยู่เป็นอันมาก ในขณะนั้นจิตประหวัดไปถึงพระพุทธเจ้า ทันใดนั้นก็ปรากฏว่าพระพุทธเจ้าได้เกิดขึ้นที่ใจ เหมือนกับเป็นรูปโฉมของพระพุทธองค์จริงๆ จิตเกิดปีติเป็นกำลัง และมีจิตเลื่อมใสอยากจะบวชในพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก และมีปีติอิ่มเอิบอยู่อย่างนั้น [/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]บรรพชาครั้งที่ 1 ในปีพ.ศ. 2472 หลวงปู่จึงได้บวชเป็นสามเณรฝ่ายมหานิกายที่วัดบ้านท่าเดื่อ ตำบลตูม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น โดยมีพระอาจารย์อุ้ย เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชแล้วก็พำนักอยู่ในสำนักวัดบ้านท่าเดื่อ โดยมีพระอาจารย์ทอกเป็นพระพี่เลี้ยง ขณะที่บวชอยู่นั้น หลวงปู่มีความรู้สึกว่า การปฏิบัติไม่ได้ตรงตามเจตนาที่ตั้งใจมาบวช เนื่องจากสภาพแวดล้อมในขณะนั้น เช่นการปฏิบัติของหมู่พระเณร ที่บางวันฉันอาหารเย็น หรือรับเงิน แต่หลวงปู่ก็พยายามรักษาศีลและการปฏิบัติให้ถูกต้องเสมอ พอเมื่อหลวงปู่ไม่สบายจึงถูกโยมให้สึก[/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]บรรพชาครั้งที่ 2 ในปีพ.ศ. 2473 หลวงปู่ย้ายตามโยมมารดากลับมาที่บ้านเดิม จ.ร้อยเอ็ด จึงมีความคิดที่จะบวชใหม่อีกครั้ง พออายุได้ 18 ปี หลวงปู่จึงได้บวชเป็นสามเณรอีกครั้ง โดยหลวงปู่ได้ถวายตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์คำดี ซึ่งเป็นพระธุดงค์กัมมัฏฐานสายพระอาจารย์มั่น ที่มาปักกลดอยู่ไม่ไกลจากบ้านของหลวงปู่ และแจ้งความประสงค์ขอบรรพชา ท่านอาจารย์คำดีจึงพาหลวงปู่ไปบวชที่วัดฟ้าหยาด บ้านคำไฮ ตำบลคำไฮ อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพระครูวิจิตร (จันทา) เป็นพระอุปัชฌาย์ สังกัดฝ่ายมหานิกาย เพราะในสมัยนั้นพระอุปัชฌาย์ฝ่ายธรรมยุตมีน้อยและอยู่ห่างไกล และพาหลวงปู่กลับมาจำพรรษาที่วัดโนนช้างเผือก โดยอยู่ศึกษากับพระอาจารย์สิ้ว ต่อมาพระอาจารย์สิ้วพาหลวงปู่ธุดงค์ไปนมัสการพระธาตุพนม และขากลับท่านได้พบกับหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร จึงตั้งใจว่าหากอายุครบบวช ท่านจะมาบวชและศึกษากับหลวงปู่เสาร์[/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา

    เมื่ออายุครบบวช ท่านได้อุปสมบทที่วัดเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2479 เวลา 15.15 น. โดยมีท่านเจ้าคุณพระโพธิญาณมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาบุญถึง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้วได้กลับมาอยู่วัดป่าศรีไพรวัลย์ ถือนิสัยกับท่านพระอาจารย์สีโห เขมโก ได้ตั้งใจปฏิบัติกิจวัตร อาจาริยวัตร ข้อวัตรปฏิบัติด้วยความเคารพไม่ให้ขาดตกบกพร่อง[/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]ครั้นต่อมาท่านจึงได้เดินทางไป จ.อุบลราชธานี เพื่อขอศึกษากับพระอาจารย์เสาร์ดังที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ครั้งเป็นสามเณร และได้อยู่อบรมกับท่านพระอาจารย์เสาร์ ต่อมาท่านก็ได้ไปจำพรรษาตามที่ต่างๆ และศึกษาปฏิบัติร่วมกับพระอาจารย์องค์อื่นๆ อีกมากมาย[/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]ในปีพ.ศ. 2493 มีผู้ถวายที่ดิน เพื่อสร้างวัดป่าขึ้นโดยเรียกชื่อว่า วัดป่าหนองท้ม ภายหลังท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) ที่วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี ได้เดินทางมาเยี่ยมชม และได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น "วัดป่าสันติกาวาส" ในการสร้างวัดนี้ หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ ได้เดินทางมาร่วมสร้างวัดด้วย[/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]หลวงปู่ได้จำพรรษา ฝึกอบรมพระ เณร และญาติโยม ที่วัดป่าสันติกาวาสเรื่อยมา จนกระทั่งมรณภาพ หลวงปู่มรณภาพอย่างสงบที่วัดป่าสันติกาวาส ในปี พ.ศ.2537 พรรษาที่ 59


    ธรรมโอวาท
    ๑. “ถ้าทำสติให้กล้ามากขึ้นไป มันก็ปรากฏขึ้นมาให้เราเห็นด้วยทางใจ ใจของเราก็รู้ รู้ธรรมอยู่ที่นี่ มรรคผลอยู่ที่นี่ ไม่ได้อยู่ที่อื่น ก็อยู่ที่ใจของเรานั่นเอง ไม่ได้อยู่นอกเหนือจากใจของเราไป เราก็จะรู้จะเห็นอยู่ที่นี่ สมาธิอยู่ที่ไหน ก็อยู่ที่ใจนี่เอง”[/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]๒. “ความตั้งมั่นนั้นได้ชื่อว่าสมาธิ ท่านก็บอกอยู่อย่างนั้น ปัญญาความรอบรู้ในกองสังขารนั่น สังขารคือความคิด ความนึก ความปรุง ความแต่ง คิดในอารมณ์ต่าง ๆ นั่นเรียกว่าสังขาร เรามีสติรู้เท่าทัน สังขารเหล่านี้มันปรุงขึ้นมา เราระงับ เราตัดออกไม่ให้มันเกิด ไม่ให้มันมีในใจเรา ให้ใจเราตั้งอยู่มั่นอยู่ในสมาธินั่นแหละ มรรคผลมันจะเกิดขึ้นที่ไหน มันก็เกิดในใจนั่นแหละ ก็ปรากฏอยู่ที่นั่น จะไปหาเอาที่ไหน มรรคผลไม่ได้อยู่นอกเหนือจากใจของตน[/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]ไปบำเพ็ญที่ไหนก็เอา ‘ใจ’ นั่นแหละไป ในดงในป่าในภูเขาที่ไหนก็เอา ‘ใจ’ นั่นแหละบำเพ็ญ นี่ให้เราเข้าใจอย่างนั้น นักปฏิบัติทั้งหลายอย่าลืมตัว อย่าหลงตัวเท่านี้แหละ หมั่นฝึกหัดสติของตนให้กล้า เมื่อสติของเรามันกล้าพอแล้ว จะกำหนดดูที่ไหนมันก็ทะลุปรุโปร่งไปหมด ถ้าสติมันกล้าพอแล้ว มันมีกำลังพอแล้ว กำหนดดูกายของตน มันก็ทะลุปรุโปร่งไปหมด หรือจะกำหนดดูอะไรก็รู้ซาบซึ้งอยู่ภายใน...” [/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]ภาพพระธาตุ[/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG]
    [/FONT]​
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]แหล่งข้อมูล-ธรรมะหลวงปู่:เว็บไซต์ธรรมะ 5 นาที ตัดทอนและเรียบเรียงประวัติหลวงปู่จาก เว็บกมโล[/FONT]​
     
  3. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    เค๊าะแรกขอให้รวยๆๆๆๆ
    [​IMG]
     
  4. Thunder Rnk

    Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203

แชร์หน้านี้

Loading...