พระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเจริญลาภปราบไพรี- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

ทางทีมงานแจ้งมาว่าพิมพ์เสร็จแล้ว กำลังเย็บเล่มอยู่ครับ ได้รับของเมื่อไหร่ จะจัดส่งให้ท่านที่จองเอาไว้ครับ

 

สวัสดียามเที่ยงครับป๋า

 

สวัสดียามเที่ยงครับป๋า

 

#ภพภูมิในวัดเทพ..
จากประสบการณ์ที่ได้เข้าไปพักอยู่กับองค์หลวงปู่พิศดูที่วัดเทพธารทอง ทำให้พบความมหัศจรรย์มากมายหลายประการแบบที่อธิบายความรู้สึกได้ยาก เรื่องที่เราเคยได้ยินได้ฟังหรือได้อ่านมาจากหนังสือประวัติครูบาอาจารย์รุ่นเก่าๆ หรือตำนานความเชื่อต่างๆ เรื่องราวเหล่านั้นก็กลับบังเกิดขึ้นกับบรรดาลูกศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดหลวงปู่ หรือผู้ที่เข้าไปปฏิบัติธรรมภาวนาที่วัดเทพธารทองนี่เอง แม้แต่ตัวผมเองก็ได้พบประสบการณ์อันยากจะลืมเลือนหลายครั้งด้วยกัน ก็จะขอหยิบยกมาเล่าเฉพาะบางเรื่อง และจะเล่าแต่เนื้อหาแบบเจาะจงลงไปในเรื่องราวนั้นๆเลย เพื่อจะได้ทันใจท่านผู้อ่านและจะได้ไม่เสียเวลาพิมพ์ให้มากความ เหตุการณ์ที่ได้พบเจอเกี่ยวกับภพภูมิต่างๆเท่าที่ผมได้พบเจอ และได้ทราบจากศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งหลายที่พูดคุยแลกเปลี่ยนกันมีดังนี้..

หลวงปู่เคยเล่าให้ฟังว่า ภพภูมิหรือพวกชาวลับแลที่อยู่ในบริเวณวัดเทพธารทองและเทือกเขาคิชฌกูฏ นั้นมีมากมาย และส่วนใหญ่จะเป็นภูมิที่สูงกว่าที่ใดๆในพื้นที่ของจังหวัดจันทบุรี และที่เคยได้ยินจากลูกศิษย์รุ่นเก่าได้เล่าเอาไว้ ว่าหลวงปู่ท่านก็เคยท่องเที่ยวไปสัมผัสมาหมดแล้วในทุกภูมิ ทั้งด้วยกายเนื้อและกายละเอียด ยิ่งในสมัยนั้นยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน ท่านจึงมีเวลาไปพบและทำความรู้จักเอาไว้ทั้งหมด และในบรรดาท่านที่อยู่ในภพภูมิเหล่านั้นก็ล้วนแต่เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่แทบทั้งสิ้น และไม่เพียงแต่ภูมิที่อยู่ใกล้แถบเขาคิชฌกูฏเท่านั้นที่ท่านเคยไปสัมผัส แม้แต่ภูมิในสถานที่อื่นๆ ท่านก็ไปมาและรู้เห็นโดยละเอียดแทบจะทั้งหมด ท่านจึงแบ่งชั้นภูมิต่างๆเอาไว้ 7 ระดับด้วยกัน(เพียงแต่ท่านมิได้อธิบายให้ทราบโดยละเอียด) และเมื่อเวลาว่างจากผู้คนที่เข้ามากราบนมัสการ ชาวลับแลหรือเทพเทวาเท่านั้นก็จะเข้ามาอยู่รอบตัวท่านเสมอ เพราะด้วยอุปนิสัยที่หลวงปู่เป็นผู้มากด้วยองค์ภาวนา ท่านจึงเป็นที่รักยิ่งของเทวดาทั้งหลาย ซึ่งจากที่ผมเคยกราบเรียนถามหลวงปู่เกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ ท่านเองท่านก็ยอมรับไปด้วยแววตาและใบหน้าที่เปี่ยมด้วยเมตตายิ่ง

ด้วยเรื่องราวที่ผมได้ฟังมามาก ก็เป็นเหตุปัจจัยให้บังเกิดศรัทธาปสาทะเป็นอย่างยิ่ง และแล้วก็มีอยู่วันหนึ่ง(ซึ่งเป็นครั้งแรกของประสบการณ์ชีวิต) ในช่วงเวลาเย็นกลางปี 2549 หลังตะวันเริ่มจะลับขอบฟ้า ตอนนั้นหลวงปู่สั่งให้ผมไปเดินจงกรมอยู่หน้าเจดีย์เล็ก เมื่อเดินไปเรื่อยๆจิตกำลังมีความสงบเพลินอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแว่วมาเป็นเสียงคล้ายบทสวดอยู่ตลอดเวลา ยิ่งจิตมีความสงบเท่าไรก็ยิ่งได้ยินเสียงนั้นชัดขึ้น แรกๆก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอส่งใจออกนอกเพื่อตั้งใจจะฟังเสียงที่แว่วมา ก็ปรากฏว่าไม่ได้ยินเสียงดังกล่าวเลย จึงได้เดินจงกรมต่อไปจนจิตเริ่มสงบอีกครั้ง ก็ได้ยินเสียงเช่นนั้นอีก จึงตั้งใจหยุดฟังเสียงนั้นอีก เสียงก็เงียบไปอีก จึงเดินจงกรมต่อไปก็ได้ยินเสียงอีก เป็นเช่นนี้สลับกันหลายครั้ง ยิ่งจิตสงบยิ่งได้ยินเสียงชัด เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นบทสวดอะไร..

(จะขอบอกก่อนว่าช่วงเวลาที่พักอยู่กับหลวงปู่ที่วัด พวกเราส่วนใหญ่ก็มักจะกำหนดสติพยายามไม่ให้ส่งออกนอก แม้แต่เวลาเดิน นั่ง หรือทำอะไรก็ตาม ก็จะพยายามดึงสติให้รู้ตัวอยู่เสมอ ได้บ้าง ไม่ได้บ้างตามแต่สภาวะจิตในขณะนั้น และตระหนักอยู่เสมอว่าหลวงปู่ท่านกำลังคอยดูจิตเราอยู่)

อีกครั้งหนึ่งในปีเดียวกัน ระหว่างที่ผมเดินอยู่ในวัด ก็เคยได้ยินเสียงกลองขนาดใหญ่ ตีเป็นจังหวะแบบเว้นระยะค่อนข้างดังคล้ายกับห่างจากจุดที่เราอยู่ไม่ไกลนัก บางครั้งก็ได้ยินเสียงดนตรีไทยที่ไพเราะในทำนองที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน และกลิ่นหอมเย็นประหลาด แต่พอถามลูกศิษย์อีกคนที่อยู่ข้างๆกัน เขากลับบอกว่า ไม่ได้ยิน และไม่ได้กลิ่นอะไรเลย ก็แปลกดี
ได้เคยกราบเรียนถามหลวงปู่ว่า เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ท่านอมยิ้มแล้วก็ตอบว่า " ได้รู้ก็ดีแล้ว.. รู้ ดีกว่าไม่รู้ จะได้หายสงสัย.."
(ข้อมูลสิรภพ)

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

eu454097238th สามเสนใน

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

ภพภูมิในวัดเทพ..(ยักษ์)
ตามที่ผมได้เคยเล่าเอาไว้ในบทความที่แล้วว่า ภพภูมิที่วัดเทพธารทองและบริเวณเทือกเขาคิชฌกูฏนั้นมีอยู่หลายภูมิ หลายชั้น วันนี้ก็จะมาเล่าเรื่องราวในภูมิอีกประเภทหนึ่งให้ฟังกัน

มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงปู่ได้แจกรูปถ่ายยิ้มที่มีคาถาป้องกันภัยของท่าน พร้อมกับบอกว่า " รูปนี้ยักษ์กลัวผีกลัว.. วัดเรานี่มียักษ์ด้วยนะ.."

...
ด้วยความที่ผมยังไม่เคยทราบมาก่อน จึงถามท่านไปด้วยความสงสัยว่า ยักษ์ที่ว่านี่คือ ยุง ใช่ไหมครับ ที่ดูดกินเลือดคน..?? หลวงปู่หันขวับมาจ้องหน้าผม แล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า..
" ยักษ์ ไม่ใช่ยุง..!! ยักษ์ที่ถือกระบองเนี่ย วัดเรามีนะ..แต่มันกลัวเรา.."

" รูปยิ้มนี่(รูปมหากัน) เขามาถ่ายที่นี่ เราอธิษฐานให้รูปนี้เป็นมหาอำนาจ.. รูปนี้ยักษ์กลัวผีกลัว.."

นั่นเป็นความรู้ใหม่ ซึ่งทำให้ผมได้ทราบว่านอกจากภูมิอื่นๆดังเคยกล่าวแล้ว ที่วัดนี้ก็ยังมีภูมิของยักษ์คอยพิทักษ์รักษา และเป็นลูกศิษย์และเป็นบริวารของหลวงปู่อยู่อีกด้วยเช่นกัน

และหลังจากนั้นไม่นานได้มีโยมท่านหนึ่งที่มาอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดเทพธารทอง ได้พบประสบการณ์เกี่ยวกับภูมิของยักษ์ที่วัด กล่าวคือ ในยามดึกสงัดคืนหนึ่งโยมท่านนี้ได้ไปนั่งสมาธิที่ริมลำธารของวัด เมื่อออกจากสมาธิก็ได้แผ่เมตตาไปยังภพภูมิทั้งหลายที่ปกปักรักษาอยู่ทั่วไปในบริเวณวัด แต่ระหว่างที่แผ่เมตตาก็ต้องตกใจเพราะรู้สึกได้ว่ามีร่างอันสูงใหญ่จำนวนหลายร่างเดินเข้ามาอยู่ใกล้ๆบริเวณด้านหลังของเขา อากาศบริเวณนั้นก็เปลี่ยนไปจนกลายเป็นความกดดัน และมีความรู้สึกหวาดกลัวเกิดขึ้น แต่ก็ทำใจดีเข้าไว้และนึกถึงองค์หลวงปู่ ก็พอดีกับแผ่เมตตาเสร็จ ร่างใหญ่ที่ยืนตระหง่านอยู่ด้านหลังก็เคลื่อนวูบออกไปทันที ซึ่งแม้จะไม่ได้หันกลับไปมองดู แต่ความรู้สึก(Sixth sense) ก็เชื่อแน่ว่าพลังงานที่มานั้นต้องเป็นยักษ์อย่างแน่นอน..(สิรภพ)

 

เปิดล็อกเก็ตจิ๋วฉากทองรุ่น3 หลวงปู่พิศดู เลี่ยมพร้อมแหวนนาคบาศนวหรคุณ สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ

ล็อกเก็ตรุ่นนี้สร้างปี พ.ศ.2549 โดยลูกศิษย์ชุดอุปัฏฐากดูแลองค์หลวงปู่ เพื่อแจกเป็นที่ระลึก ด้วยความเมตตาขององค์หลวงปู่ ท่านยินดีและเห็นด้วยที่ลูกศิษย์จะจัดสร้างพระชุดนี้ ท่านจึงสั่งให้เอาหมากมาถวาย ท่านจะเคี้ยวหมากให้ เพื่อเอาชาญหมากและน้ำหมากไปเป็นมวลสารอุดด้านหลังล็อกเก็ตชุดนี้ จริงๆแล้วหลวงปู่ท่านไม่ได้ติดหมาก แต่ท่านเมตตาเคี้ยวให้โดยเฉพาะ เคี้ยวไปเสกไปตลอดเวลา (จึงเป็นช่วงหนึ่งที่คนนิยมนำหมากมาถวายให้หลวงปู่ฉัน เพื่อหวังว่าจะได้ชาญหมากกัน แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้ เพราะท่านเคี้ยวนานมาก ไม่ยอมคายเลย บางคนก็รอไม่ไหวกลับไปก่อน แต่ในระยะนั้นผู้ที่โชคดีจะได้รับการพ่นน้ำหมากจากหลวงปู่ โดยท่านจะพ่นใส่ศรีษะเลย พ่นไปเสกไปครับ) . พอท่านเคี้ยวหมากเสร็จก็จะมีคนคอยเก็บชาญหมาก และน้ำหมากไว้ รวมไปถึงข้าวก้นบาตร ผงไม้หอมเทพทาโร ดอกไม้บูชาพระของท่าน ผงธูปต่างๆในวัดเทพฯและวัดอื่นๆ มวลสารจากพระเครื่องรุ่นเก่าๆและมวลสารจากล็อกเก็ตรุ่นแรกเป็นต้นมา ไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ ท่านสั่งให้คนช่วยกันเอา บุ้ง ตะไบมาถู เพื่อให้ได้ผงจากไม้เท้านี้ไปทำมวลสารโดยถูไปก็สวดมนต์กันไป และมวลสารต่างๆจากหลายที่ ที่ลูกศิษย์หามาด้วยความวิริยะอย่างมาก เอามาผสมกัน มวลสารพระชุดนี้เนื่องจากแก่ชาญหมากและน้ำหมากสีจึงออกแดงน้ำตาลเข้ม คล้ายสีเนื้อช็อกโกแล็ต และได้มีการเอาพระนาคปรก รุ่น2 รวมทั้งเกษา จีวร ตะกรุดเมตตา แผ่นโค๊ต มามาติดใส่ไว้เพื่อให้เป็นรุ่นที่ครบสูตรเป็นมาตรฐานอย่างดีครับ
จำนวนสร้างทั้งหมด..
- ล็อกเก็ตสี่เหลี่ยมนั่งเต็มองค์ สีซีเปีย สร้าง 8 องค์
- ล็อกเก็ตสี่เหลี่ยมนั่งเต็มองต์ ภาพสีฉากเขียว สร้าง 20 องค์

- ล็อกเก็ตรูปไข่ครึ่งองค์ ภาพสีฉากทอง สร้าง 20 องค์
- ล็อกเก็ตรูปไข่ครึ่งองค์ ภาพขาวดำ สร้าง 200 องค์

- ล็อกเก็ตจิ๋ว ครึ่งองค์ ฉากทอง สร้าง 100 องค์
- ล็อกเก็ตจิ๋ว ครึ่งองค์ ฉากเขียว สร้าง 200 องค์
- ล็อกเก็ตจิ๋ว ครึ่งองค์ ฉากชมพู สร้าง 200 องค์
- ล็อกเก็ตจิ๋ว ครึ่งองค์ ภาพซีเปีย สร้าง 200 องค์

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

คงรอกันอีกไม่นานครับ

 

***ราคาบูชาครับพี่บัติ

 

แจ้งให้ทราบในกล่องข้อความแล้วครับ

 

สวัสดียามดึกครับป๋า