25.วัดม่วง มีอะไรดี????...

๒๕

วัดม่วง มีอะไรดี???​

คำถามนี้ตั้งขึ้นมาด้วยทีเห็นว่าวัดนี้ชื่อพยางค์เดียว ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ แม้ชื่อจะไม่มีจุดเด่นแต่ภายในวัดมีอะไรที่โดดเด่นมากกว่าชื่อเลยหล่ะ


ด้วยเห็นว่ามีสมาชิกมาโพสต์ภาพพระพุทธรูปองค์ใหญ่มากๆๆๆๆๆๆ เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจก็เลยสนใจขึ้นมา ติดตามอ่าน ก็ได้ความว่า วัดม่วงอยู่ที่จังหวัดอ่างทอง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปที่วัดนี้วันไหนดี

พระอุโบสถ​

วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๓ เป็นวันหยุดชดเชยวันมาฆบูชา กะว่าจะไปทำโอทีสักกะหน่อยคิดไปคิดมายังไงไม่รู้โทรศัพท์กลับบ้าน บอกคุณพ่อกับคุณแม่ไปไหว้พระที่จังหวัดอ่างทองกัน ก็เลยไม่ไปทำโอทีเลย ทางไปก็ไม่รู้จัก ต้องพึ่ง GPS อีกแล้วหล่ะ


ออกจากบ้านก็ ๑๐.๓๐ น.เห็นจะได้ขับมาทางสายเอเซียแล้วเข้าเส้นตัวเมืองจังหวัดอ่างทองอยู่ห่างจากอำเภอเมืองประมาณประมาณ ๘ กิโลเมตรไปตามเส้นทางสายอ่างทอง-วิเศษชัยชาญ (ทางหลวงหมายเลข ๓๑๙๕) กิโลเมตรที่๒๙เข้าไป ๑ กิโลเมตร วัดจะอยู่ทางซ้ายมือ ก็เห็นองค์พระอยู่ลิบๆ เห็นได้แม้อยู่ไกลๆ เลยหล่ะ


แล้วก็มาถึงวัดม่วง เมื่อตอนประมาณเกือบๆเที่ยงได้มั้ง มาอ่านประวัติกันนะ

วัดม่วง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง

ประวัติความเป็นมา

เดิมทีวัดม่วงเป็นวัดร้างสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปี พ.ศ. ๒๒๓๐ ณแขวงเมืองวิเศษชาญซึ่งเคยได้เป็นเมืองหน้าด่าน ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๑๐กรุงศรีอยุธยาได้เสียกรุงให้แก่พม่า พม่าได้เผาผลาญบ้านเมือง วัดวาอารามและพระพุทธรูปไปเป็นจำนวนมาก สิ่งที่หลงเหลืออยู่ คือ ซากปรักหักพังของวัดวาอารามและพระพุทธรูป ที่อยู่บนเนินมีต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก

พระประธานในพระอุโบสถ​

​

เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๕ ท่านพระคูวิบูลอาจารคุณ ( หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ ) ได้มาปักกลดธุงดงค์เห็นว่าบริเวณนี้เคยเป็นวัดร้างจึงน่าปฏิบัติธรรม แต่ขณะปฏิบัติธรรม ได้ปรากฏนิมิต เห็นองค์หลวงปู่ขาวและหลวงปู่แดง มาบอกว่าให้ท่านได้ช่วยก่อสร้างวัดม่วงขึ้นมาใหม่ เพราะท่านพระครูเป็นผู้มีบารมี ที่สามารถจะก่อสร้างบูรณะวัดม่วง ขึ้นมาใหม่ได้ด้วยผู้ที่เคยอาศัยในสมัยก่อนได้มาเกิด และจะมาช่วยท่านแล้วและในบริเวณวัดร้างนี้จะมีศิลาขาว และศิลาแดงอยู่ คือ องค์ของหลวงปู่ขาวและหลวงปู่แดง นั้นเอง ซึ่งต่อมาท่านพระครูวิบูลอาจารคุณได้มีการปั้นองค์พระครอบศิลาขาว และศิลาแดงไว้ โดยเรียกนามว่า หลวงปู่ขาวและหลวงปู่แดง จนถึงปัจจุบันนี้

ในปีพ.ศ. ๒๕๒๖ ท่านพระครูวิบูลอาจารคุณได้มีการเริ่มบูรณะและได้สร้างเสนาสนะต่าง ๆ ขึ้น โดยได้รับการบริจาค ทั้งเงินทำบุญและทำบุญด้วยแรงงาน ร่วมกันดำเนินงานในการก่อสร้างจนกระทั้งวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้มีการประกาศยกฐานะให้วัดม่วงซึ่งเคยเป็นวัดร้างให้เป็นวัดที่มีพระสงฆ์

เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ได้มีการแต่งตั้งท่านพระครูวิบูลอาจารคุณเป็นเจ้าอาวาสวัดม่วง ตำบลหัวตะพานอำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง

เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๒๙พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงพระราชทานวิสุงคามสีมาให้แก่วัดม่วง เป็นต้นมา

​

​

​

ในปีพ.ศ. ๒๕๓๔ ท่านพระวิบูลอาจารคุณ ได้ร่วมพลังจิตอธิฐานร่วมกับประชาชนผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศได้สมทบทุนสร้างพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อน้อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และราชวงศ์จักรี มีพระนามว่าพระพุทธมหานมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ มีหน้าตักกว้าง ๖๒เมตร สูง ๙๓ เมตร ขนาดความสูงเท่ากับตึก ๔๐ ชั้นและมีขนาดหน้าตักกว้างถึง ๑ ไร่ ๙ ตารางวา เลยทีเดียว ถือเป็นสัญลักษณ์ในศาสนาพุทธที่ยิ่งใหญ่ และสวยงาม ที่สุดในโลกก็ว่าได้ หากจะดูพระพักต์ต้องถอยออกจากฐานประมาณ๑๐๐ เมตร และถ้าจะเดินเวียนฐาน ต้องใช้เวลาเดิน ประมาณ ๓ นาทีในตัวองค์พระมีบันไดขึ้นไปชมทัศนียภาพ รอบ ๆ วัด สามารถขึ้นไปได้ประมาณช่วงท้องเท่านั้นงานก่อสร้างใช้คนงานที่รับช่วงนานขนาดรุ่นลูกของช่างที่สร้างมาก่อนหน้านี้มาสร้างกันต่อมูลค่าในการก่อสร้าง๑๐๖,๐๐๐,๐๐๐ บาท ( หนึ่งร้อยหกล้านบาท )

​

​

เมื่อวันเสาร์ที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ( วันแรม ๑ ค่ำา เดือน๔ ) ปีมะเมีย เวลา ๙.๐๐ น. ได้วางศิลาฤกษ์ โดยสมเด็จพระโฆษาจารย์ วัดสุวรรณดารามกทม. เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพระครูวิบูลอาจารคุณ (หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ ) เป็นประธานฝ่ายดำเนินการก่อสร้าง และหาทุน และให้กฤษ์การก่อสร้างได้ดำเนินมาจนสำเร็จใน ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ( วันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๘ ) รวมเป็นเวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น ๑๖ ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ – ๒๕๕๐

องค์ใหญ่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ​

ปัจจุบันวัดม่วงแห่งนี้ มีเนื้อที่ทั้งหมด ๗๒ ไร่ซึ่งที่ดินดังกล่าว ท่านพระครูวิบูลอาจารคุณ ได้ซื้อรวบรวมได้ก่อนที่ท่านจะมรณภาพโดยวัตถุประสงค์ เพื่อทำโครงการ ดังต่อไปนี้

๑. สถานที่ศึกษาพระธรรม พระพุทธศาสนา และปฏิบัติธรรม สำหรับพระภิกษุสงฆ์ และประชาชน
๒. สร้างโรงพยาบาลสงฆ์
๓. ศูนย์จำหน่ายสินค้าศิลปาชีพในโครงการหลวง
๔. แหล่งท่องเที่ยวเชิงพระพุทธศาสนา แก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ


รายนามชื่อเจ้าอาวาส ถึง ปัจจุบัน
ลำดับที่ ๑
พระครูวิบูลอาจารคุณ ( หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ )
ดำรงตำแหน่ง วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๗
มรณภาพ วันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
ลำดับที่ ๒
พระใบฎีกาบุญเลิศ ทีปธมโม
ดำรงตำแหน่ง ในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ – ๒๕๔๕
ลำดับที่ ๓
พระปลัดวินัย วินโย
ดำรงตำแหน่ง ในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ – ๒๕๔๖
ลำดับที่ ๔
พระอธิการสุธน สุธมโม
ดำรงตำแหน่ง ในปี พ.ศ. ๒๕๔๖ – ปัจจุบัน



วัดม่วง ตั้งอยู่ที่บ้านหัวตะพาน หมู่ที่ ๖ ตำบลหัวตะพานอำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๗ไร่ ๓๐ ตารางวา อาณาเขตทิศเหนือ ๗๘ เมตร ทิศใต้ยาว ๘๘ เมตร ทิศตะวันออกยาว ๑๓๖ เมตรทิศตะวันตกยาว ๑๑๐ เมตรพื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบมีถนนเข้าถึงวัด อาคารเสนาสนะต่าง ๆ มี ศาลาการเปรียญกว้าง สร้างด้วยไม้หอสวดมนต์กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๗ เมตร สร้างด้วยคอนกรีต กุฎิสงฆ์ จำนวน ๗ หลังเป็นอาคารคอนกรีตและไม้


ภายในวัดมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น พระอุโบสถล้อมรอบด้วยกลีบบัวสีชมพูขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ​

​

​

พระวิหารแก้วรัตนพราหมณ์ - สุวรรณปาล
ชั้นล่างเป็นพิพิธภัณฑ์วัตถุมงคลและวัตถุโบราณเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์๐๙.๐๐ -๑๗.๐๐ น.ภายในมีรูปปั้นเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศ
ชั้นบนประดิษฐานพระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เนื้อเงินแท้ องค์แรกองค์เดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

สังขารพระคูวิบูลอาจารคุณ(หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ)​

บริเวณวัดมีรูปปั้นแสดง แดนนรก แดนสวรรค์แดนเทพเจ้าไทยและแดนเทพเจ้าจีนซึ่งมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่มีรูปปั้นแสดงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงครามไทย-พม่าที่เมืองวิเศษชัยชาญด้านหลังมีวังมัจฉาและสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของดีเมืองอ่างทองได้

​

เปรต แดนนรก พอดีแบตเตอรี่หมด เลยถ่ายภาพได้แค่นี้เอง​

ที่จริงวันนี้กะว่าจะไปสัก ๙ วัด แต่พอเข้ามาถึงวัดแห่งนี้ก็ต้องเปลี่ยนใจแล้วหล่ะ เพราะต้องใช้เวลานาน...........​

ออกจากวัดก็ประมาณบ่ายสองโมงกว่า สถานที่ต่อไปที่จะไปกันก็คือ พระราชวังบางปะอิน แต่คงไม่ลงกระทู้เพราะว่าเคยตั้งกระทู้ไว้แล้ว (ตามหาความทรงจำที่ขาดหาย ตอน พระราชวังบางปะอิน)......​

ไปเข้าวังก่อนนะ ขอจบกระทู้นี้เพียงเท่านี้จ่ะ.............​

...............................................................................​

กุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำในครั้งนี้ขออุทิศถวายแด่ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดาคุณมารดา วงศาคณาญาติทั้งหลาย คุณครูบาอาจารย์ เจ้าฟ้า พระมหากษัตริย์เจ้านายทุกพระองค์ เทพยดาทั้งหลาย พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ท่านท้าวเวสสุวรรณ เจ้ากรุงพาลี ภูมิเจ้าที่ทั้งหลาย คุณแม่พระธรณี พระคงคาแม่พระธรณี พระคงคา พระพาย พระเพลิง พระโพสพ พระยายมราช เจ้ากรรมนายเวร และขอให้ผลบุญจงได้สำเร็จผลแด่เพื่อนๆ สมาชิกในเว็ปพลังจิต ทุกท่าน ด้วยกุศลนี้จงเป็นเหตุปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้พบพระพุทธเจ้าและศาสนาของพระองค์ในทุกๆ ชาติ จนถึงพระนิพพานเป็นที่สุด​

ข้อมูลจาก : www.baanmaha.com,www.holidaythai.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย : สร้อยฟ้ามาลา
ภาพโดย : สร้อยฟ้ามาลา​

.......................​

​

.............​

เดี๋ยวมีรูปมาให้ดูอีกหน่อย​

............​

 

มีรูปมาฝาก


รอยพระพุทธบาทจำลอง ภายในพระอุโบสถ วัดม่วง



เห็นเด็กๆ มาทำบุญที่วัดกับครอบครัว แล้วรู้สึกดี

...........................​

 

​

รอบๆ พระอุโบสถจะมีพระพุทธรูปประจำวัน และพระสงฆ์ พระเกจิอาจารย์หลายๆ รูป เยอะมาก ถ่ายรูปมาไม่หมด
(ถ่ายไม่สวยเลยไม่เอามาให้ดู อิ อิ)​

 

พญานาคตรงบันไดทางเข้าพระอุโบสถด้านใน...​

มังกรตรงบันไดซุ้มประตูทางเข้าพระอุโบสถด้านนอก...​

......................................​

 

ดอกสาละ ข้างพระอุโบสถ...



................................​

 

มองต่างมุม......
ดูออกไหม...............
ดูมาก เริ่ม ตาลาย...............................

......................................​

 

กล้องไม่มีเลนส์ WIDE เก็บภาพไม่หมด
เพราะใช้กล้องธรรมดา เปลี่ยนเลนส์ไม่ได้อ่ะ.... T_T


......................................​

 

​

คนเหลือตัวติ๊ดเดียวเอง
ถอยหลังสุดระเบียงเลยหล่ะ
เก็บภาพไม่หมดอยู่ดี....


.........................................​

 

สวยจัง อิจฉาพี่สร้อยจังเยย อยากไป อยากไป

 

อนุโมทนาค่ะคุณสร้อย อยากมีโอกาสไปกราบสักครั้ง สาธุ

 

อนุโมทนากับกุศลจิต และขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ภาพสวย ๆ อีกเหมือนเคย

คราวหน้าถ้าวิ่งเส้นอยุธยา-อ่างทอง-สุพรรณฯ แล้วไปไม่ถูก ขอแนะนำให้มารับเค้าไปด้วย
รับรองไม่มีหลงจ้า..^^

 

ไม่มีหลง แต่พากันหลงอ่ะสิ......^^

 

ขออนุโมทนาด้วยนะครับ และขออนุโมทนากับผู้ที่ได้ร่วมสร้างองค์หลวงพ่อด้วยครับ

 

มีรูปเพิ่มเติม....​

ใบเสมารอบๆ พระอุโบสถจะประดิษฐานอยู่บนฐานบัว​

 

รอบๆ พระอุโบสถ จะมีรูปปั้นพระสงฆ์ พระเกจิอารจารย์ มากมาย....​

 

รูปหล่อของพระเกจิอาจารย์ อยู่ภายในพระวิหารแก้วรัตนพราหมณ์ - สุวรรณปาล​

 

๑๒ นักษัต ปีขาล ไม่น่าจะดุนะ....​

 

กระทะทองแดง....​

 

เปรตอีกตนหนึ่ง.....​

 

เป็นรูปสุดท้ายแล้วหล่ะ

.........
​