"วัดเชียงมั่น"แหล่งธรรมล้านนา ที่ประดิษฐาน"พระเสตังคมณี"

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย paang, 11 มิถุนายน 2007.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    "พระเสตังคมณี" หรือ พระแก้วขาว ที่วัดเชียงมั่น อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ รวมทั้งยังเป็นพระพุทธรูปสำคัญ หนึ่งในสามของเชียงใหม่ อันได้แก่ พระพุทธสิหิงค์ พระเสตังคมณี และพระเจ้าฝนแสนห่า พระเสตังคมณี เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นจากหินควอตซ์สีขาวขุ่น โดยช่างชาวละโว้

    กล่าวถึงวัดเชียงมั่นในอดีต เมื่อครั้งที่พระยา มังรายมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งล้านนาไทยได้ทรงสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1839 พระองค์ทรงโปรดให้สร้างวัดขึ้นเป็นวัดแรกแห่งนครเชียง ใหม่ คือ วัดเชียงมั่น ซึ่งเป็นวัดที่มีการผสมผสานศิลปะแบบเชียงแสน ที่ได้รับอิทธิพลมาจากลังกาเข้ากับศิลปะแบบล้านนา

    งานศิลปะเชียงแสนเข้ามาแพร่หลายอยู่ในอาณาจักรล้านนาไทยราวปี พ.ศ.1880 โดยพระเจ้าปักกรมพาหุมหาราช โดยสมัยนั้นสถาปัตยกรรมต่างๆ ในเชียงใหม่สร้างขึ้นตามอิทธิพลแบบลังกา

    สังเกตได้จากการทำฐานสถูปเจดีย์เป็นฐานสูงมีลาดบัวซ้อนกันหลายๆ ชั้น ทั้งที่มีซุ้มและไม่มีซุ้ม บริเวณซุ้มเหล่านั้นมักจะทำประตูทางเข้า-ออก หรือทำเป็นซุ้มสำหรับตั้งพระพุทธรูป เช่น เจดีย์ของวัดเจดีย์หลวง วัดพระธาตุดอยสุเทพ และวัดเชียงมั่น เป็นต้น

    ตามประวัติการสร้างวัดเชียงมั่น แต่เดิมวัดนี้เป็นพระราชวังหรือคุ้มหลวง อันเป็นที่ประทับของพญามังรายมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งล้านนาไทย ก่อนที่พระองค์จะทรงสร้างเวียงนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ได้ยกรี้พลโยธาเข้ามาตั้งเป็นปฐมที่บริเวณแห่งนี้ เรียกกันว่า "เวียงเหล็ก" หมายถึงความแข็งแรงมั่นคง

    กระทั่งถึงจุลศักราช 658 ราวปี พ.ศ.1839 เดือนวิสาขะ ขึ้น 8 ค่ำ ตรงกับวันพฤหัสบดี ปีวอก ตรีศก อันมีพญามังรายมหาราชเป็นประธาน พร้อมด้วยพญางำเมืองแห่งเมืองพะเยาและพ่อขุนรามคำแหง แห่งกรุงสุโขทัย ได้ทรงสร้างพระเจดีย์ขึ้นตรงที่ราชมณเฑียรหอประทับของพระองค์ แล้วทรงขนานนามว่า "วัดเชียงมั่น" ให้เป็นพระอารามแห่งแรกของเมืองเชียงใหม่

    โบราณสถาน โบราณวัตถุที่สำคัญในวัดเชียงมั่นก็คือ พระเสตังคมณี หรือ พระแก้วขาว กับพระพุทธรูปศิลาปางปราบช้างนาฬาคีรี ถือได้ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่ นอกจากนั้นยังมีเจดีย์ช้างล้อม อายุเกือบ 700 ปี ศิลปะแบบ ล้านนา

    ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว 700 ปี ในวันเพ็ญเดือน 7 พระสุเทวฤๅษี ได้เอาดอกจำปา 5 ดอก ขึ้นไปบูชาพระจุฬามณียังดาว ดึงส์ และได้สนทนากับพระอินทร์ ทำให้ทราบว่าในเดือนวิสาขะเพ็ญที่เมืองลวะรัฏฐะ (ลพบุรี) จะมีการสร้างพระพุทธรูปปฏิมากรด้วยแก้วขาว

    ครั้นสุเทวฤๅษีกลับลงมาจากดาวดึงส์สวรรค์แล้ว จึงได้เดินทางไปยังเมืองละโว้ ขณะนั้นพระกัสสปเถระเจ้าได้ปรารภที่จะสร้างพระแก้ว แล้วขอพระวิษณุกรรมมาเนรมิตเป็นองค์พระพุทธปฏิมากร สุเทวฤๅษีและฤๅษีอื่นๆ ก็ได้ช่วยในการสร้างพระแก้วองค์นี้ด้วย

    เมื่อสำเร็จจึงได้บรรจุพระบรมธาตุ 4 องค์ไว้ในพระโมลี (กระหม่อม) พระนลาฏ (หน้าผาก) พระอุระ (หน้าอก) และพระโอษฐ์ (ปาก) รวม 4 แห่ง

    เมื่อสร้างแล้วเสร็จ พระแก้วขาวได้ประดิษฐานอยู่ที่เมืองละโว้เป็นเวลานาน กระทั่งเมื่อพระนางจามเทวี ซึ่งเป็นพระราชธิดาของพระเจ้ากรุงละโว้ ถูกอัญเชิญขึ้นมาครองเมืองหริภุญชัย (นครลำพูน) พระนางจึงทูลขออนุญาตจากพระราชบิดานิมนต์พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ช่าง สล่า นักปราชญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...