วัดแจ้ง..เมืองอุทัยเก่า กับพระเจ้าตาก..

บนสวรรค์ขอแบ่งตามความเข้าใจของข้าพเจ้าว่า มีสองพวกครับคือหนึ่งเป็นเทวดาและเทพธิดาชั้นปกครองและสองคือพวกที่อยู่ใต้การปกครองครับ เมื่อข้าพเจ้าสามารถทำใจให้สงบได้ ปรากฏว่าข้าพเจ้าเจอเทพธิดาโชคชะตาครับ

 

ข้าพเจ้าจดจำเทพธิดาองค์นี้ได้อย่างแม่นยำเพราะข้าพเจ้าสัมผัสเทพธิดาองค์นี้อยู่บ่อยๆครับ ข้าพเจ้าเลยถามเทพธิดาว่า ในแต่ละวันเทพธิดาทำกิจกรรมอะไรบ้างครับ เทพธิดาตอบว่า

 

วันเวลาบนสวรรค์กับภพภูมิมนุษย์นั้นแตกต่างกันมาก หนึ่งวันบนสวรรค์นานกว่าหนึ่งวันบนภพภูมิมนุษย์ สำหรับหน้าที่ของเรามีหน้าที่คอยส่งเสริมเทวดาหรือเทพธิดาที่ลงไปเกิดเป็นมนุษย์ให้พยายามให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถมีสิทธิ์กลับคืนมายังบนสวรรค์นี้ได้ แต่ต้องอยู่ในกฏของสวรรค์อย่างเคร่งครัดคือ สามารถดลจิตดลใจพวกเขาเหล่านั้นได้แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจและการตั้งใจกระทำของพวกเขาเหล่านั้นได้ ต่อจากนั้นเมื่อมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ก็ต้องไปแจ้งให้เทวดาชั้นปกครองนั้นทราบ งานแค่นี้ก็เกือบหมดวันแล้ว พอตกเย็นก็ต้องไปทานอาหารทิพย์และก็รื่นเริงกับเหล่าบรรดาเทพธิดาองค์อื่นๆ

 

ข้าพเจ้าอยากรู้เรื่องที่บรรดาเทวดาที่ทำผิดกฏแล้วต้องลงมาจากสวรรค์เพื่อมารับโทษนั้น เทวดาองค์นั้นจะเป็นอย่างไร เทพธิดาโชคชะตาตอบว่า ต้องให้เทพธิดาหยั่งรู้เป็นผู้ตอบคำถามนี้จะดีกว่า

 

...........คิดถึงพี่เสือดาว และติดตามอ่านท่านคุรุวาโร จร้า..........

 

บรรดาเทวดาหรือเทพธิดานั้นที่ต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์ส่วนใหญ่จะลำบากในช่วงเยาว์วัย และจะมีสัมผัสพิเศษไม่มากก็น้อยแล้วแต่ตัวของเขาจะมีแรงบุญเก่าเหลือมากน้อยเท่าไหร่

 

เมื่อสวดมนต์ นั่งสมาธิ จะมีอาการตัวลอย แล้วก็สัมผัสบางสิ่งได้ บางครั้งสามารถเห็นเป็นรูปร่าง หรือคนในโลกทิพย์ได้เลย

 

ขออนุญาติแม่ชีท่านหนึ่งประกอบเรื่องเล่านะครับ ปัจจุบันท่านเป็นแม่ชีที่มีคนเคารพ ศรัทธาค่อนข้างมากครับ

 

นัดคือเด็กหญิงที่เกิดมาในครอบครัวที่มีมารดาชอบทำบุญ ตักบาตรทุกวันครับ และครั้งหนึ่งเด็กหญิงนัดกำลังทำกิจวัตรประจำตอนเช้าคือการใส่บาตรพระและกรวดน้ำให้สรรพสัตว์อยู่นั้น นัดมองเห็นคนแต่งตัวขมุกขมัวมายืนมองนัดทำอะไรแบบนั้นครับ นั้นเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่สัมผัสโลกทิพย์นั้นได้ครับ และเมื่อครูที่โรงเรียนถามว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร เด็กหญิงนัดตอบทันทีว่า อยากเป็นแม่ชี ทำให้คนในห้องพากันหัวเราะครับ

 

ตั้งแต่วันนั้นมาเด็กหญิงนัดเก็บเอาความรู้สึกภายในลึกๆเอาไว้แบบไม่แสดงออกให้คนอื่นเขารับรู้ครับนอกจากมารดาของตนเองครับ ต่อมาเมื่อมารดาพาเด็กหญิงนัดไปที่วัดแห่งหนึ่ง ขณะที่มารดากำลังเจรจาพูดคุยกับพระท่านอยู่ เด็กหญิงนัดก็ไปเดินเล่นรอบๆวัด ปรากฏว่า เด็กหญิงนัดนั้นเห็นตนเองสวมใส่ชุดแม่ชี และมีเพื่อนๆที่เป็นแม่ชีด้วย เด็กหญิงนัดตกใจเลยมาเล่าให้พระและมารดาฟัง พระท่านก็ทักว่า เด็กคนนี้มีบุญเก่ามาเยอะครับ

 

และเมื่อบิดาพาไปบ้านสวนเด็กหญิงนัดก็เห็นตนเองในชุดแม่ชีอีกครั้งหนึ่งครับ นิมิตที่นัดเห็นนั้นเป็นเพราะสวรรค์สามารถสร้างนิมิตให้สัมผัสได้ครับ เพื่อย้ำเตือนคนในอดีตที่มาจากสวรรค์ครับให้สามารถเลือกเดินทางเข้าสู่ทางธรรมมากกว่าความสุขสบายทางโลกครับ

 

วันเวลาผ่านไปเด็กหญิงนัดโตเป็นสาวสวย ก็ต้องชดใช้กรรมเก่าคือการมีคู่ครับ แต่เสบียงบุญยังดีอยู่ พอสาวนัดป่วยก็นิมิตไปว่าตนเองไปเห็นสวรรค์ถิ่นเดิมที่เคยอยู่ ผู้ปกครองบนนั้นก็บอกว่า ถึงเวลาต้องกลับแล้ว แต่สาวนัดอยากจะมีเสบียงบุญมากกว่านี้ เลยขอท่านว่า อยากบวชชีก่อน ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่เด็กแล้ว ผู้ปกครองบนสวรรค์ก็เลยยอมครับ เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงสวรรค์สามารถดลใจคนของสวรรค์นั้นได้ครับ

 

ติดตามกระทู้พี่เสือดาวกะมิ๊กกี้ เรื่อย ๆ นะคะ
แต่ไม่ค่อยมีเวลาโผล่หัวทักทายเท่าไหร่ค่ะ
หวังว่าคงยังพอจำกันได้เน้อ...^^


แอบแปลกใจที่ท่านประธานกลับมาแล้ว
ติดตามอ่านเรื่องราวโลกทิพย์อยู่นะคะ สิ่งที่ท่านเล่าน่าสนใจดีค่ะ

 

เป็นคนคั่นเวลาครับ ไม่ใช่ตัวจริงครับ เล่าต่อดีกว่า หลังจากสาวนัดตั้งใจมั่นในเส้นทางธรรม ก็พยายามหาเวลาไปปฏิบัติธรรมครับ ด้วยบุญเก่าที่มาจากอดีตเทพธิดาเป็นเสบียงบุญหนุนนำทำให้สาวนัดสามารถรุดหน้าในการปฏิบัติแบบไม่ยากเย็นครับ ต่อมาเมืีอสาวนัดมาปลงผมเป็นแม่ชีที่ถือศลีแปด และเลิกยินดียินร้ายกับเรื่องราวทางโลก แม่ชีนัดก็สามารถมีสัมผัสพิเศษเช่น ครั้งหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอคำปรึกษาว่า ตนเองทำอะไรก็ติดๆขัดๆไปหมด เกิดอะไรขึ้น แม่ชีนัดเพียงแค่หลับตาและทำใจให้สงบก็สามารถสัมผัสได้ว่า

 

ผู้หญิงที่มาขอความช่วยเหลืออยู่ตรงหน้านี่นั้นมีวิญญานเด็กเกาะอยู่ แม่ชีนัดก็บอกว่า เธอเคยทำแท้งมาก่อนใช่ไหม ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบว่า ใช่ แม่ชีนัดก็แนะนำให้ทำบุญส่งผลบุญให้วิญญานนั้นไปสู่ภพภูมิที่ดีต่อไป เรื่องราวของแม่ชีนัดที่ยกมาประกอบเรื่องเล่าหวังว่าคงพอจะเข้าใจนะครับ

 

แวะมา จำกันได้อยู่ บ่ ค้า อิอิ

 

จำได้ครับนาคีสีทองหนอ แต่ตอนนี้เล่าเรื่องบนสวรรค์ครับ

 

ขออนุญาติยกตัวอย่างอีกสักเรื่องนะครับ อดีตของแม่ชีอีกท่านหนึ่งครับ สมมุติว่าท่านมีนามว่า พรครับ เด็กพรนั้นเติบโตมากับครอบครัวที่มีมารดาเป็นคนชอบทำบุญครับ และเด็กหญิงพรนั้นครั้งหนึ่งเคยตามมารดาไปที่วัดปรากฏว่า เด็กหญิงพร เห็นคนในผนังพระอุโบสถนั้นลอยออกมาจากผนังนั้นได้ครับ ลักษณะแต่งชุดไทยสวมชฎาครับ นี้คือการสัมผัสได้ด้วยตาเปล่าครับ ถัดมาเมื่อสาวพรโตขึ้น

 

ครั้งหนึ่งเมื่อสาวพรไปทำบุญที่วัดแล้วเจอยายแก่ๆสามคนกำลังคุยกันอยู่ท่าทางยายทั้งสามคนใส่ชุดขมุกขมัว สาวพรเลยไปคุยด้วยแต่พอถามว่าบ้านยายอยู่ไหน ยายคนหนึ่งกลับตอบว่า ข้าก็อยู่ที่นี้ แล้วยายทั้งสามก็หายตัวไป สาวพรก็เป็นลมเมื่อหายดีแล้วก็พบว่ายายสามคนที่เจอคือยายที่มีอัฏฐิอยู่ตรงนั้นครับ ตั้งแต่วันนั้นสาวพรสามารถมองเห็นรึสัมผัสสัมภเวสีได้ทุกที่ครับไม่ว่าจะเป็นทางแยกที่มีอุบัติเหตุครับหรือ ตามวัดต่างๆครับ ต่อมามารดากลัวบุตรสาวจะกลายเป็นมีสติฟั่นเฟื่อนไปก็นำเรื่องนี้ไปเรียนปรึกษาพระป่ารูปหนึ่ง พระป่ารูปนั้นก็อธิบายว่า สาวพรต้องบวชชีถึงจะดี ทำบารมีให้สูงกว่าเขาก็จะสามารถกำหนดเห็นรึว่าไม่เห็นนั้นได้ เพราะบารมีบุญสาวพรก็จะสูงกว่าครับ สาวพรเลยตกลงปลงผมบวชชีไปครับ ในอดีตนั้นสาวพรมาจากสวรรค์ชั้นมายาครับ แต่ทำผิดกฏของสวรรค์เลยต้องลงมาเป็นมนุษย์ครับแต่ความสามารถสัมผัสพิเศษยังพอมีอยู่บ้างก็ทำให้สาวพรในอดีตที่ยังไม่บวชชีนั้นสัมผัสได้แค่พวกโลกทิพย์ชั้นต่ำทั่วไปครับ

 

กำลังติดตามตอนต่อไปค่ะ.......