พระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเจริญลาภปราบไพรี- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย bat119, 20 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,494
    ค่าพลัง:
    +30,840
    5485.gif
     
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,664
    ค่าพลัง:
    +14,063
  3. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,494
    ค่าพลัง:
    +30,840
    AW503415_00.gif
     
  4. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,494
    ค่าพลัง:
    +30,840
    พระกสิณเนื้อดินเผา พิมพ์ฤาษีนั่งในซุ้มเรือนแก้ว
    พิมพ์ฤาษีเนื้อดินเผา.JPG DSC_0247.JPG DSC_0248.JPG

    พระเนื้อดิน และพระเนื้อผงผสมดินของหลวงปู่พิศดูท่าน เรียกว่า พระกสิณ ครับ เริ่มสร้างประมาณปี 2520 เป็นต้นมา... พระเนื้อดินเผา เมื่อกดพิมพ์พระ และนำมาตากแห้งเรียบร้อยแล้ว จะนำมาเผาไฟ สุมด้วยแกลบตามกรรมวิธีแบบโบราณ ในระหว่างนั้น หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมด ถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับ สำหรับพระยุคแรกๆของท่าน
    องค์หลวงปู่ได้ทําการลงอักขระบนกระดาน และลบผงเอง นอกจากนั้น ยังแกะพิมพ์และกดพิมพ์กันเองในวัด โดยลูกศิษย์ลูกหาที่มีความสามารถ และผู้ที่สนใจ (ฟังแล้วคิดถึงตอนที่สมเด็จโต วัดระฆังท่านสร้างพระสมเด็จครับ) อย่างใน มวลสารหลักๆ นอกจากผงที่หลวงปู่ท่านได้ลบสูตรเองแล้ว ยังมี ธูปอธิษฐาน ดอกไม้องค์หลวงปู่ไหว้พระ ว่านยา แร่ต่างๆ ผงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ กาฝาก 108 เกศา ชาญหมาก ดิน ทรายลำธารศักดิ์สิทธิ์ของวัดเทพธารทอง(ปฐวีธาตุ)
    พระกสิณ คณะสมัยก่อนได้เล่าให้ฟังว่า องค์หลวงปู่ได้บอกว่า ถึงไม่ค่อยสวย แต่ก็เมตตามากนะ อีกหน่อยจะหายาก...ซึ่งก็เป็นไปตามองค์หลวงปู่ได้ทํานาย ใครมีใครก็หวง จะหาได้ที่ไหนที่พระป่าสายกรรมฐานจะสร้างพระแบบนี้ครับคือ ลงมือทําเอง และลบผงเองครับ (ส่วนมากทางสายป่ากรรมฐานนี้ลูกศิษย์จะยกมาให้เสก เสกเสร็จก็ยกไปแจกครับ)
    พระกสิณถ้าจะมองผ่านๆบางคนอาจจะบอกว่า ไม่คมไม่สวย แต่ถ้าคิดในมุมกลับจะรู้ถึงคุณค่า เพราะกว่าจะได้แต่ละองค์ต้องผ่านอะไรๆหลายๆอย่าง เช่น หามวลสาร ทําบล็อค รวมถึงองค์หลวงปู่จะต้องลบผงอีกต่างหาก อีกทั้งองค์หลวงปู่จะเดินจงกลมรอบกองไฟ ระหว่างเดินท่านจะภาวนาตลอดครับ เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนการสร้างท่านควบคุมดูแลตลอด ไม่ปล่อยให้ตกหล่นเลยครับ คณะสมัยนั้นเล่าให้ผมฟังว่า แม้กระทั่งที่ไม่สวยองค์หลวงปู่สั่งว่าห้ามทําลาย ให้ปล่อยไว้แบบนั้นครับ.. ( ข้อมูลคุณแฝงจันทร์.. )

    เนื้อดินเผา ผสมผงวิเศษ และเผาแบบสุมไฟด้วยแกลบให้ดินสุก โดยทำกันในวัด ในระหว่างนี้หลวงปู่ท่านจะเดินจงกรมรอบกองไฟ(เพิกกสิณ)ครับ..
    พระกสิณนี้ เมื่อทำสำเร็จและได้จำนวนมากพอแล้ว ท่านจะสั่งให้ลูกศิษย์เอามาเก็บไว้ที่กุฏิโดยเอาผ้าขาวปูรอง แล้วเอาพระกสิณวางเรียงกันไว้เป็นชั้นหนึ่ง จากนั้นก็เอาผ้าขาวปูทับ และนำพระมาเรียงซ้อนกันไว้อีกเป็นชั้นที่สอง แล้วปูผ้าขาวทับอีก สลับกันไปเรื่อยๆ จนพระหมด ท่านจึงทำการอธิษฐานจิต เป็นเวลายาวนานนับสิบๆปี คล้ายกับรอเวลาที่จะแจกในอนาคตมากกว่า.. ซึ่งโดยปกติพระที่มีพลังจิตสูงอย่างหลวงปู่พิศดู ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเสกพระอะไรที่ยาวนานขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแค่ท่านกำหนดจิตแป๊บเดียว หรือแค่จิตท่านคิดของก็มีความศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงที่สุดแล้ว.. แต่การอธิษฐาน สวดมนต์ ภาวนาเป็นระยะเวลานานเกือบ 20 ปี พระที่อยู่กับท่านจะยิ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มากแค่ไหน..? อันนี้คงไม่ต้องกล่าวถึง
    แต่ที่หลวงปู่เก็บพระชุดนี้ไว้นานถึง 20 ปี ก็เพราะว่าท่านอาจทราบเหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าในอนาคตจะมีภัยต่างๆมากขึ้น อีกอย่างถ้าหลวงปู่ท่านแจกพระในสมัยที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน พระที่ทำก็คงสูญหายไปหมด ไม่มีใครรู้จัก สิ่งที่สร้างไว้ก็คงเสียเปล่า..
    พระอริยะอจิณไตยอย่างองค์หลวงปู่พิศดู ท่านทราบความเป็นไปในทุกสภาวะธรรม(ชาติ) ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ท่านทราบโดยละเอียดด้วยความเมตตากรุณา สิ่งใดที่ท่านตั้งใจทำ ตั้งใจสร้างขึ้นมานั้น ย่อมมีเหตุมีผลทั้งสิ้น เรื่องบางเรื่องเราไม่อาจรู้ได้ แต่หลวงปู่ท่านรู้โดยละเอียด..
    พระกสิณนี้ก็เป็นวัตถุมงคลอีกสิ่งหนึ่งที่หลวงปู่เป็นผู้ดำหริให้จัดสร้างด้วยองค์ท่านเอง ด้วยมวลสารที่ท่านสะสมมาสมัยธุดงค์ และของมงคลของครูบาอาจารย์ของท่าน ฯลฯ ทุกอย่างทำกันในวัด ทั้งลบผง ผสมเนื้อ กดพิมพ์ เผาดิน ตลอดถึงการอธิษฐานจิตเดี่ยว ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น ตั้งใจอย่างดีที่สุด นับเป็นพระเครื่องชุดแรกของท่านก็ว่าได้ ถึงรูปแบบอาจจะดูไม่สวยคมชัดเหมือนพระสมัยนี้ แต่ว่ามีความคลาสสิคในตัวมาก เพราะพระทุกองค์เป็นงานที่ทำด้วยมือ และใจของผู้ศรัทธาจริงๆ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจสูงมาก.. หลวงปู่เคยบอกว่า ถึงจะไม่ค่อยสวย แต่คุณภาพสูงครับ.. สาธุ
    ( ข้อมูลคุณทุเรียนทอด..)

    " นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะโมพุทธายะ นะชาลีติ พุทธคุณัง ธัมมะคุณัง สังฆคุณัง สะระณังคัจฉามิ "
    พระคาถาหลวงปู่พิศดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิณ. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติ สาคะลังฯ และอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วย สมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่าๆรู้ดีครับ..
    ( ข้อมูลคุณเอื้อนขจี.. )

    พระกสิณหลวงปู่พิศดู ครูบาอาจารย์บอกมาว่าหลวงปู่ท่านลงวิชาหัวใจพระพรหม ไว้ในองค์พระมีอยู่ 2 รุ่น คือพระกสิณ และพระรูปหล่อพระธรรมธาตุ
    หัวใจพรหมหรือที่เรียกกันว่า พรหมวิหารธรรม คือ หลักธรรมของผู้ใหญ่ หรือหลักของผู้ครองเรือน ประกอบด้วยหลักธรรมสำคัญ 4 ประการ คือ
    - เม ตตา = ความรัก ความเอื้ออารีย์
    - ก รุณา = ความสงสาร เห็นอกเห็นใจกัน
    - มุ ทิตา = ความพลอยยินดี ที่เห็นผู้อื่นได้ดี
    - อุ เบกขา = ความวางภาระ วางเฉย
    ครูบาอาจารย์จึงถอดเป็นหัวใจของพระพรหม หรือ หัวใจพรหมวิหารธรรม ได้เป็น เม กะ มุ อุ ครับ

    ปกิณกะพระกสิณ ตอน 1
    พระกสิณเริ่มสร้างขึ้นเมื่อประมาณ ปี 2520 เป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นพระกสิณพิมพ์ไหนๆก็ดีเหมือนกันหมดทุกพิมพ์แท้จริงครับ ยิ่งถ้าพิมพ์ที่เป็นรูปพระพุทธเจ้าหลวงปู่ท่านจะชอบมาก ส่วนพิมพ์โพธิจักร(ล้อพิมพ์ของท่านพ่อลี) จะเป็นพระยุคแรกๆ และหลวงปู่ท่านทำล้อพิมพ์นี้ไว้เพื่อระลึกบูชาคุณครูบาอาจารย์ของท่านอีกด้วย..
    ตามข้อมูลนั้นพระกสิณทุกยุคทุกองค์ มีการอธิษฐานจิต สวดมนต์ ภาวนาจากหลวงปู่มาพร้อมๆกันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ประมาณปี 2520ปลายๆ จนมาแจกเอาเมื่อปี 2540-2542 จากนั้นหลวงปู่ท่านก็ฝากพระเกือบทั้งหมดให้ลูกศิษย์ของท่านจำนวน 4-5 ครอบครัวไปดูแลต่อเรื่อยมาเป็นเวลานับสิบปี... จนลูกศิษย์ที่ท่านฝากพระไว้นั้นยอมเอาออกมา(ให้บูชาต่อ) เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ราวกับว่าหลวงปู่ท่านอาจทราบกาลล่วงหน้าแล้วว่า ถ้าแจกพระออกไปตั้งแต่ต้น ไม่ฝากพระกับลูกศิษย์เหล่านี้เอาไว้ พระกสิณที่ท่านสร้างนี้ คนก็คงจะไม่รู้จักของดีกัน เพราะพระทำแบบฝีมือชาวบ้านไม่ค่อยสวย และพระองค์ใหญ่มาก ประกอบกับยุคนั้นยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน และท่านคงทราบอีกด้วยว่า พระกสิณของท่านคงต้องออกมาเผยแผ่ในยุคนี้ ยุคที่มีเครื่องมือสื่อสารในการเผยแพร่ข้อมูลที่ดีกว่ายุคก่อนๆ หลักๆโดยมีคุณแฝงจันทร์ คุณbat119 และคุณหนุ่มเมืองแกลง คุณTIDTON ฯลฯ สมาชิกในเว็บพลังจิต ที่บูชาจากลูกศิษย์ที่หลวงปู่ฝากไว้เหล่านั้น เพื่อมาเผยแพร่ต่อ ก็เท่ากับว่าได้ช่วยเหลือเจือจุนครอบครัวของผู้ที่หลวงปู่ฝากพระกสิณเอาไว้ในยามเจ็บป่วยในวัยชราอีกด้วย..
    ซึ่งยุคที่พระกสิณออกมาเผยแพร่นี้ ก็คล้ายเป็นยุคที่เปิดตัวของหลวงปู่ท่าน ลูกศิษย์ที่หลวงปู่ได้ฝากพระกสิณไว้จึงได้นำออกมาให้เผยแผ่ในช่วงเวลานี้พอดี ซึ่งเป็นยุคที่ผู้คนลำบาก และมีภัยต่างๆนาๆมากมายรอบตัวไปหมด โดยเฉพาะภัยที่มาจากธรรมชาติ ภูติผีปีศาจ วิญญาณร้าย ไสยศาสตร์ ฯลฯ ภัยเหล่านี้เหมือนดั่งเป็นมารที่มองไม่เห็น และไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้อย่างชัดเจน ที่จะมาบั่นทอน และทำลายความสงบสุขของผู้คนในยุคนี้เลยก็ว่าได้
    แต่ผู้ที่มีกำลังใจเข้มแข็ง โดยเฉพาะผู้ที่มีศีล มีธรรมนั้น ก็คงไม่มีปัญหาอะไรมากนัก เพราะธรรมย่อมคุ้มครองผู้มีธรรมนั้น แต่ถ้าผู้ที่กำลังใจยังไม่ดีพอ หรือยังไม่ค่อยมั่นใจในศีลธรรม บารมีของตน ก็พึงแสวงหาที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวทางใจ และกาย โดยเฉพาะของที่เปรียบเป็นตัวแทนที่ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ที่พึ่งอันประเสริฐที่สุด ซึ่งตัวแทนของคุณพระเหล่านั้นที่เราเห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ วัตถุมงคล ที่เป็นรูปพระพุทธรูป รูปเหมือนครูบาอาจารย์ ฯลฯ แต่ทว่า ถ้าจะให้มั่นใจได้จริงๆควรจะเลือกหาของที่พระอริยสงฆ์ หรือพระผู้มีศีลมีธรรมอันบริสุทธิ์เป็นผู้อธิษฐานจิตให้ เนื่องจากท่านเหล่านั้นสามารถเข้าถึงความเป็นพุทธะได้จริงๆ และเวลาที่ท่านเหล่านั้นจะอธิษฐานจิตของอะไรก็ตาม ท่านจะอาราธนาคุณพระรัตนตรัยเข้าครอบสถิตที่ของไว้ทุกครั้งไป..
    ( มีต่อตอน 2 )
    ปกิณกะพระกสิณ ตอน 2
    พระกสิณนั้น ก็เป็นหนึ่งในของมงคลชั้นดี ที่สุดยอดพระอริยสงฆ์เนื้อนาบุญใหญ่อย่างองค์หลวงปู่พิศดูได้สรรสร้างขึ้นจากเหล่าสรรพมวลสารที่ทรงอิทธิคุณต่างๆ ทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติที่เรียกว่าเป็นทนสิทธิ์ อันได้แก่แร่ธาตุ ว่านยา ไม้มงคลต่างๆ และมวลสารที่ท่านตั้งใจเสกสรรค์ปรุงแต่งขึ้นมาเอง อาทิ ผงลบสูตรสนธิต่างๆ เกศา ชาญหมาก น้ำหมากน้ำมนต์ ข้าวก้นบาตร ฯลฯ จนเรียกมวลสารเหล่านั้นว่า ‪#‎ผงกสิณ‬‬‬‬ บวกกับความศรัทธาและภูมิปัญญาของชาวบ้านลูกศิษย์ลูกหาในสมัยนั้นที่ร่วมกันมาช่วยสร้างพระถวาย จัดเป็นผลงานที่ดูเข้มขลังคลาสสิคได้ใจมากๆ..
    ผมเองเคยฟังหลวงปู่ท่านพูดถึงการอธิษฐานจิตของๆท่าน ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า ไม่ว่าจะวัตถุมงคล หรือของที่มีคนเอามาถวาย หลวงปู่ท่านก็จะน้อมเอาของนั้นไปถวายพุทธนิมิตรของพระพุทธเจ้า บนพระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์สถานให้อีกต่อหนึ่งด้วย เพราะฉะนั้นผู้ที่ถวายของให้หลวงปู่ท่าน ก็จะได้รับอานิสงส์สูงเป็นพิเศษอีกชั้นหนึ่งเลย แต่ถ้าเป็นวัตถุมงคลต่างๆนั้น ถ้าได้องค์หลวงปู่ท่านน้อมเอาไปถวายแด่พระพุทธเจ้าตามที่ท่านบอกไว้ ของนั้นจะเป็นของศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สุดหาที่เปรียบมิได้เลย เนื่องจากของนั้นๆเป็นของพระพุทธเจ้าท่านแล้วนั่นเอง ประกอบกับความบริสุทธิ์ของจิตหลวงปู่ท่าน แถมกำลังแห่งฤทธิ์อภิญญา และสมาบัติ ที่หาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยาก ถ้าท่านตั้งใจอธิษฐานธรรมบรรจุเข้าไปทำให้ของเหล่านั้นบังเกิดอานุภาพอย่างไม่มีประมาณ ยิ่งเป็นพระกสิณ ว่ากันว่าหลวงปู่ท่านอธิษฐานธรรม และบรรจุวิชชาหัวใจมหาพรหมเข้าไว้ด้วย คงต้องเรียกได้ว่าเป็นพลังอจิณไตย อย่างไม่มีประมาณเลยทีเดียว..
    ที่ผมนำเรื่องของพระกสิณมาเขียนนี้ก็ไม่ได้จะเชียร์เพื่อการอันใด และผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครใดๆทั้งสิ้นนะครับ เพียงแต่อยากจะบอกเล่าต่อๆกันไป ถึงความเป็นจริง และคุณค่าของพระชุดนี้ว่าดีมากๆ แต่อาจจะเล่นยากสักหน่อย ค่อยๆศึกษากันไป สำคัญคือ อย่าโลภจนทำให้ประมาทพลาดพลั้งจนได้ของปลอมมาบูชาก็เท่านั้น
    เรื่องดีๆบางเรื่องหากเราไม่เอามาเล่ากันบ้าง ก็คงยังเป็นที่ปิดบังไปอีกนาน ซึ่งกว่าจะรู้ ของเหล่านั้นก็คงสูญหายไปเยอะ และหลายท่านคงพลาดโอกาสดีๆไปเสียเปล่าครับ
    แต่ก็ต้องขอออกตัวอีกนิดนะครับว่า ที่ผมไม่มีพระกสิณที่จะแบ่งให้ท่านใดไปบูชาทั้งสิ้น เพราะผมสะสมไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตรงกันข้ามผมคิดอยากจะเก็บเพิ่มเติมเสียด้วยซ้ำ และกราบขอร้องท่านสมาชิกทุกท่านว่า โปรดอย่าเอาพระกสิณมาถามผมเลย ผมไม่รับดูพระกสิณ เพราะผมเองก็ยังเป็นผู้เริ่มศึกษาเหมือนกัน และไม่อยากมีปัญหากับใครไม่ว่าจะเป็นคนที่ขาย โดยเฉพาะพวกทำพระปลอม ทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่าเป็นใคร แต่ขออย่างเดียวว่าถ้าคุณ(คนที่ทำพระปลอม) ยังนับถือพระพุทธศาสนา และเห็นหลวงปู่เป็นครูบาอาจารย์ เลิกทำเถิดครับ เพราะการกระทำของคุณ ไม่ได้ทำให้คุณเจริญขึ้นเลย มีแต่จะทำให้วิบากกรรมพาชีวิตคุณและครอบครัวของคุณตกต่ำไปมากกว่านี้ หลวงปู่ท่านมีบารมีสูง เทวดาประจำตัวท่านแรง และดุมาก ถ้าใครทำดีท่านก็ช่วยหนุนให้คุณเจริญยิ่งๆขึ้นไป แต่ถ้าทำไม่ดี ชีวิตจะตกต่ำย่ำแย่สุดๆ..!!!
    ยิ่งพระกสิณนี้เป็นพระมีอาถรรพ์บารมีสูง เพราะเทพผู้ที่รักษาเป็นพรหม ที่สามารถลิขิตชะตาชีวิตของคนเราได้นั่นเอง จึงขอให้ท่านที่มีรักษาบูชาไว้ดีๆ เพราะปัจจุบันหาพระผู้ทำได้แบบนี้ยากเสียแล้วครับ.. สาธุ
    (ข้อมูลคุณสิรภพ)‬
     
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,664
    ค่าพลัง:
    +14,063
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,664
    ค่าพลัง:
    +14,063
    สวัสดียามสายครับป๋า
     
  7. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,494
    ค่าพลัง:
    +30,840
    สำหรับท่านที่เริ่มศึกษาพระกสิณยุคแรก ของหลวงปู่พิศดู ผมนำรูปเก่าๆข้อมูลเดิมๆรวบรวมจากเวปพลังจิตและในfacebook มาลงให้ศึกษากันครับ


    พระกสิณที่ผมนำข้อมูลมาลงให้ศึกษา ก็ลูกศิษย์กับคนที่เผยแพร่พระกสิณในครั้งแรกในเวปพลังจิต ลงกันไว้ในศึกษา ผมก็แชร์มาให้อีกต่อนึง ไม่ใช่ผมมานั่งเขียนเล่าเรื่องสร้างนิยายเองนะครับ ข้าน้อยมิบังอาจ กลัวจะทำอะไรก็ไม่เจริญครับ มีบางข้อมูลผมจัดเรียงใหม่ ให้ท่านที่เพิ่งเข้ามาศึกษาได้อ่านเข้าใจง่ายขึ้นครับ

    ปกิณกะพระกสิณ ตอนที่1

    พระกสิณเริ่มสร้างขึ้นเมื่อประมาณ ปี 2520 เป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นพระกสิณพิมพ์ไหนๆก็ดีเหมือนกันหมดทุกพิมพ์แท้จริงครับ ยิ่งถ้าพิมพ์ที่เป็นรูปพระพุทธเจ้าหลวงปู่ท่านจะชอบมาก ส่วนพิมพ์โพธิจักร(ล้อพิมพ์ของท่านพ่อลี) จะเป็นพระยุคแรกๆ และหลวงปู่ท่านทำล้อพิมพ์นี้ไว้เพื่อระลึกบูชาคุณครูบาอาจารย์ของท่านอีกด้วย..
    ตามข้อมูลนั้นพระกสิณทุกยุคทุกองค์ มีการอธิษฐานจิต สวดมนต์ ภาวนาจากหลวงปู่มาพร้อมๆกันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ประมาณปี 2520ปลายๆ จนมาแจกเอาเมื่อปี 2540-2542 จากนั้นหลวงปู่ท่านก็ฝากพระเกือบทั้งหมดให้ลูกศิษย์ของท่านจำนวน 4-5 ครอบครัวไปดูแลต่อเรื่อยมาเป็นเวลานับสิบปี... จนลูกศิษย์ที่ท่านฝากพระไว้นั้นยอมเอาออกมา(ให้บูชาต่อ) เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ราวกับว่าหลวงปู่ท่านอาจทราบกาลล่วงหน้าแล้วว่า ถ้าแจกพระออกไปตั้งแต่ต้น ไม่ฝากพระกับลูกศิษย์เหล่านี้เอาไว้ พระกสิณที่ท่านสร้างนี้ คนก็คงจะไม่รู้จักของดีกัน เพราะพระทำแบบฝีมือชาวบ้านไม่ค่อยสวย และพระองค์ใหญ่มาก ประกอบกับยุคนั้นยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน และท่านคงทราบอีกด้วยว่า พระกสิณของท่านคงต้องออกมาเผยแผ่ในยุคนี้ ยุคที่มีเครื่องมือสื่อสารในการเผยแพร่ข้อมูลที่ดีกว่ายุคก่อนๆ หลักๆโดยมีคุณแฝงจันทร์ คุณbat119 และคุณหนุ่มเมืองแกลง คุณTIDTON ฯลฯ สมาชิกในเว็บพลังจิต ที่บูชาจากลูกศิษย์ที่หลวงปู่ฝากไว้เหล่านั้น เพื่อมาเผยแพร่ต่อ ก็เท่ากับว่าได้ช่วยเหลือเจือจุนครอบครัวของผู้ที่หลวงปู่ฝากพระกสิณเอาไว้ในยามเจ็บป่วยในวัยชราอีกด้วย..ซึ่งยุคที่พระกสิณออกมาเผยแพร่นี้ ก็คล้ายเป็นยุคที่เปิดตัวของหลวงปู่ท่าน ลูกศิษย์ที่หลวงปู่ได้ฝากพระกสิณไว้จึงได้นำออกมาให้เผยแผ่ในช่วงเวลานี้พอดี ซึ่งเป็นยุคที่ผู้คนลำบาก และมีภัยต่างๆนาๆมากมายรอบตัวไปหมด โดยเฉพาะภัยที่มาจากธรรมชาติ ภูติผีปีศาจ วิญญาณร้าย ไสยศาสตร์ ฯลฯ ภัยเหล่านี้เหมือนดั่งเป็นมารที่มองไม่เห็น และไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้อย่างชัดเจน ที่จะมาบั่นทอน และทำลายความสงบสุขของผู้คนในยุคนี้เลยก็ว่าได้
    แต่ผู้ที่มีกำลังใจเข้มแข็ง โดยเฉพาะผู้ที่มีศีล มีธรรมนั้น ก็คงไม่มีปัญหาอะไรมากนัก เพราะธรรมย่อมคุ้มครองผู้มีธรรมนั้น แต่ถ้าผู้ที่กำลังใจยังไม่ดีพอ หรือยังไม่ค่อยมั่นใจในศีลธรรม บารมีของตน ก็พึงแสวงหาที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวทางใจ และกาย โดยเฉพาะของที่เปรียบเป็นตัวแทนที่ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ที่พึ่งอันประเสริฐที่สุด ซึ่งตัวแทนของคุณพระเหล่านั้นที่เราเห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ วัตถุมงคล ที่เป็นรูปพระพุทธรูป รูปเหมือนครูบาอาจารย์ ฯลฯ แต่ทว่า ถ้าจะให้มั่นใจได้จริงๆควรจะเลือกหาของที่พระอริยสงฆ์ หรือพระผู้มีศีลมีธรรมอันบริสุทธิ์เป็นผู้อธิษฐานจิตให้ เนื่องจากท่านเหล่านั้นสามารถเข้าถึงความเป็นพุทธะได้จริงๆ และเวลาที่ท่านเหล่านั้นจะอธิษฐานจิตของอะไรก็ตาม ท่านจะอาราธนาคุณพระรัตนตรัยเข้าครอบสถิตที่ของไว้ทุกครั้งไป..
    ปกิณกะพระกสิณ ตอน 2
    พระกสิณนั้น ก็เป็นหนึ่งในของมงคลชั้นดี ที่สุดยอดพระอริยสงฆ์เนื้อนาบุญใหญ่อย่างองค์หลวงปู่พิศดูได้สรรสร้างขึ้นจากเหล่าสรรพมวลสารที่ทรงอิทธิคุณต่างๆ ทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติที่เรียกว่าเป็นทนสิทธิ์ อันได้แก่แร่ธาตุ ว่านยา ไม้มงคลต่างๆ และมวลสารที่ท่านตั้งใจเสกสรรค์ปรุงแต่งขึ้นมาเอง อาทิ ผงลบสูตรสนธิต่างๆ เกศา ชาญหมาก น้ำหมากน้ำมนต์ ข้าวก้นบาตร ฯลฯ จนเรียกมวลสารเหล่านั้นว่า ‪#‎ผงกสิณ‬‬‬‬ บวกกับความศรัทธาและภูมิปัญญาของชาวบ้านลูกศิษย์ลูกหาในสมัยนั้นที่ร่วมกันมาช่วยสร้างพระถวาย จัดเป็นผลงานที่ดูเข้มขลังคลาสสิคได้ใจมากๆ..
    ผมเองเคยฟังหลวงปู่ท่านพูดถึงการอธิษฐานจิตของๆท่าน ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า ไม่ว่าจะวัตถุมงคล หรือของที่มีคนเอามาถวาย หลวงปู่ท่านก็จะน้อมเอาของนั้นไปถวายพุทธนิมิตรของพระพุทธเจ้า บนพระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์สถานให้อีกต่อหนึ่งด้วย เพราะฉะนั้นผู้ที่ถวายของให้หลวงปู่ท่าน ก็จะได้รับอานิสงส์สูงเป็นพิเศษอีกชั้นหนึ่งเลย แต่ถ้าเป็นวัตถุมงคลต่างๆนั้น ถ้าได้องค์หลวงปู่ท่านน้อมเอาไปถวายแด่พระพุทธเจ้าตามที่ท่านบอกไว้ ของนั้นจะเป็นของศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สุดหาที่เปรียบมิได้เลย เนื่องจากของนั้นๆเป็นของพระพุทธเจ้าท่านแล้วนั่นเอง ประกอบกับความบริสุทธิ์ของจิตหลวงปู่ท่าน แถมกำลังแห่งฤทธิ์อภิญญา และสมาบัติ ที่หาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยาก ถ้าท่านตั้งใจอธิษฐานธรรมบรรจุเข้าไปทำให้ของเหล่านั้นบังเกิดอานุภาพอย่างไม่มีประมาณ ยิ่งเป็นพระกสิณ ว่ากันว่าหลวงปู่ท่านอธิษฐานธรรม และบรรจุวิชชาหัวใจมหาพรหมเข้าไว้ด้วย คงต้องเรียกได้ว่าเป็นพลังอจิณไตย อย่างไม่มีประมาณเลยทีเดียว..
    ที่ผมนำเรื่องของพระกสิณมาเขียนนี้ก็ไม่ได้จะเชียร์เพื่อการอันใด และผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครใดๆทั้งสิ้นนะครับ เพียงแต่อยากจะบอกเล่าต่อๆกันไป ถึงความเป็นจริง และคุณค่าของพระชุดนี้ว่าดีมากๆ แต่อาจจะเล่นยากสักหน่อย ค่อยๆศึกษากันไป สำคัญคือ อย่าโลภจนทำให้ประมาทพลาดพลั้งจนได้ของปลอมมาบูชาก็เท่านั้น
    เรื่องดีๆบางเรื่องหากเราไม่เอามาเล่ากันบ้าง ก็คงยังเป็นที่ปิดบังไปอีกนาน ซึ่งกว่าจะรู้ ของเหล่านั้นก็คงสูญหายไปเยอะ และหลายท่านคงพลาดโอกาสดีๆไปเสียเปล่าครับ
    แต่ก็ต้องขอออกตัวอีกนิดนะครับว่า ที่ผมไม่มีพระกสิณที่จะแบ่งให้ท่านใดไปบูชาทั้งสิ้น เพราะผมสะสมไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตรงกันข้ามผมคิดอยากจะเก็บเพิ่มเติมเสียด้วยซ้ำ และกราบขอร้องท่านสมาชิกทุกท่านว่า โปรดอย่าเอาพระกสิณมาถามผมเลย ผมไม่รับดูพระกสิณ เพราะผมเองก็ยังเป็นผู้เริ่มศึกษาเหมือนกัน และไม่อยากมีปัญหากับใครไม่ว่าจะเป็นคนที่ขาย โดยเฉพาะพวกทำพระปลอม ทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่าเป็นใคร แต่ขออย่างเดียวว่าถ้าคุณ(คนที่ทำพระปลอม) ยังนับถือพระพุทธศาสนา และเห็นหลวงปู่เป็นครูบาอาจารย์ เลิกทำเถิดครับ เพราะการกระทำของคุณ ไม่ได้ทำให้คุณเจริญขึ้นเลย มีแต่จะทำให้วิบากกรรมพาชีวิตคุณและครอบครัวของคุณตกต่ำไปมากกว่านี้ หลวงปู่ท่านมีบารมีสูง เทวดาประจำตัวท่านแรง และดุมาก ถ้าใครทำดีท่านก็ช่วยหนุนให้คุณเจริญยิ่งๆขึ้นไป แต่ถ้าทำไม่ดี ชีวิตจะตกต่ำย่ำแย่สุดๆ..!!!
    ยิ่งพระกสิณนี้เป็นพระมีอาถรรพ์บารมีสูง เพราะเทพผู้ที่รักษาเป็นพรหม ที่สามารถลิขิตชะตาชีวิตของคนเราได้นั่นเอง จึงขอให้ท่านที่มีรักษาบูชาไว้ดีๆ เพราะปัจจุบันหาพระผู้ทำได้แบบนี้ยากเสียแล้วครับ.. สาธุ
    (ข้อมูลคุณสิรภพ)

    29216343_2101677280069865_8798244268119674468_n.jpg?_nc_cat=106&_nc_ht=scontent.fbkk5-8.jpg
    26758345_2101678330069760_782950386282711917_o.jpg?_nc_cat=104&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.jpg
    29216126_2101677316736528_6928466391304549127_n.jpg?_nc_cat=105&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.jpg
    29243600_2101677423403184_3359202473983109004_n.jpg?_nc_cat=106&_nc_ht=scontent.fbkk5-8.jpg
    29244483_2101677470069846_1928671076841365173_n.jpg?_nc_cat=106&_nc_ht=scontent.fbkk5-8.jpg
    29216195_2101677503403176_507571368289167670_n.jpg?_nc_cat=104&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.jpg
    28698839_2101677643403162_5360316172972121478_o.jpg?_nc_cat=101&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.jpg
    28700925_2101677740069819_7946088454247235496_o.jpg?_nc_cat=103&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.jpg
    28953746_2101677916736468_1419069980528149100_o.jpg?_nc_cat=104&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.jpg
    29261703_2101678130069780_1642041190866897834_n.jpg?_nc_cat=101&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.jpg

    เหตุผลสำหรับความน่าสนใจในพระกสิณของหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี วัดเทพธารทอง จันทบุรี
    1. เป็นวัตถุมงคลที่สำเร็จขึ้นโดยพระอภิญญาใหญ่ ที่ทุกท่านได้ยอมรับในความเป็นพระอรหันต์
    2. เป็นวัตถุมงคลในยุคแรกสุดของท่าน ที่ได้มีความประสงค์การจัดสร้างเพื่อสงเคราะห์แก่ศิษย์
    3. เป็นวัตถุมงคลไม่กี่ประเภทในสายธรรมยุตินิกายที่ได้กำหนดให้สร้าง ลบผงและกดพระด้วยตัวเอง
    4. เป็นของมีการปลุกเสกทับถมนับครั้งไม่ถ้วน อธิษฐานจิตยาวนานมากเป็นพิเศษตลอดเวลากว่า 20 ปี
    5. เป็นวัตถุมงคลที่ท่านลงไว้ครบถ้วนทุกวิชาและวิชาเฉพาะทาง ทั้งด้านจิตตานุภาพและธรรมฤทธิ์
    6. เป็นวัตถุมงคลที่มีอายุการสร้างมานานพอสมควร มีธรรมชาติ มีความเก่า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
    7. ท่านรับรองในความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลชุดนี้มาแต่สมัยก่อนแล้วว่า “พระนี้ดีมากและจะโด่งดังมาก”
    8. มวลสารและของวิเศษที่ท่านมอบให้นำมาสร้างล้วนเป็นของพิสดารที่ท่านรวบรวมไว้เมื่อครั้งเดินธุดงค์
    9. มีประวัติการสร้างไว้ชัดเจนโดยตัวท่านและศิษย์ใกล้ชิด ไม่ได้สร้างโดยโรงงาน ยังมีคนรุ่นเก่าให้ข้อมูลได้
    10. วัตถุมงคลชุดนี้มีไม่มากนัก และส่วนหนึ่งไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศไว้มากมายเป็นที่เสาะแสวงหากัน
    11. มีประสบการณ์สูงล้ำและเด่นชัด ชนิดปากต่อปากมาแต่ยุคสมัยก่อนแล้ว คนในพื้นที่ให้การยอมรับมานาน
    12. ประสบการณ์ที่มีได้มากหลายคนคือด้านคุ้มครองป้องกันและเจริญด้วยลาภยศสักการะและมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

    พระเนื้อดิน และพระเนื้อผงผสมดินของหลวงปู่พิศดูท่าน เรียกว่า พระกสิณ ครับ เริ่มสร้างประมาณปี 2520 เป็นต้นมา... พระเนื้อดินเผา เมื่อกดพิมพ์พระ และนำมาตากแห้งเรียบร้อยแล้ว จะนำมาเผาไฟ สุมด้วยแกลบตามกรรมวิธีแบบโบราณ ในระหว่างนั้น หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมด ถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับ สำหรับพระยุคแรกๆของท่าน
    องค์หลวงปู่ได้ทําการลงอักขระบนกระดาน และลบผงเอง นอกจากนั้น ยังแกะพิมพ์และกดพิมพ์กันเองในวัด โดยลูกศิษย์ลูกหาที่มีความสามารถ และผู้ที่สนใจ (ฟังแล้วคิดถึงตอนที่สมเด็จโต วัดระฆังท่านสร้างพระสมเด็จครับ) อย่างใน มวลสารหลักๆ นอกจากผงที่หลวงปู่ท่านได้ลบสูตรเองแล้ว ยังมี ธูปอธิษฐาน ดอกไม้องค์หลวงปู่ไหว้พระ ว่านยา แร่ต่างๆ ผงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ กาฝาก 108 เกศา ชาญหมาก ดิน ทรายลำธารศักดิ์สิทธิ์ของวัดเทพธารทอง(ปฐวีธาตุ)
    พระกสิณ คณะสมัยก่อนได้เล่าให้ฟังว่า องค์หลวงปู่ได้บอกว่า ถึงไม่ค่อยสวย แต่ก็เมตตามากนะ อีกหน่อยจะหายาก...ซึ่งก็เป็นไปตามองค์หลวงปู่ได้ทํานาย ใครมีใครก็หวง จะหาได้ที่ไหนที่พระป่าสายกรรมฐานจะสร้างพระแบบนี้ครับคือ ลงมือทําเอง และลบผงเองครับ (ส่วนมากทางสายป่ากรรมฐานนี้ลูกศิษย์จะยกมาให้เสก เสกเสร็จก็ยกไปแจกครับ)
    พระกสิณถ้าจะมองผ่านๆบางคนอาจจะบอกว่า ไม่คมไม่สวย แต่ถ้าคิดในมุมกลับจะรู้ถึงคุณค่า เพราะกว่าจะได้แต่ละองค์ต้องผ่านอะไรๆหลายๆอย่าง เช่น หามวลสาร ทําบล็อค รวมถึงองค์หลวงปู่จะต้องลบผงอีกต่างหาก อีกทั้งองค์หลวงปู่จะเดินจงกลมรอบกองไฟ ระหว่างเดินท่านจะภาวนาตลอดครับ เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนการสร้างท่านควบคุมดูแลตลอด ไม่ปล่อยให้ตกหล่นเลยครับ คณะสมัยนั้นเล่าให้ผมฟังว่า แม้กระทั่งที่ไม่สวยองค์หลวงปู่สั่งว่าห้ามทําลาย ให้ปล่อยไว้แบบนั้นครับ.. ( ข้อมูลคุณแฝงจันทร์.. )

    เนื้อดินเผา ผสมผงวิเศษ และเผาแบบสุมไฟด้วยแกลบให้ดินสุก โดยทำกันในวัด ในระหว่างนี้หลวงปู่ท่านจะเดินจงกรมรอบกองไฟ(เพิกกสิณ)ครับ..
    พระกสิณนี้ เมื่อทำสำเร็จและได้จำนวนมากพอแล้ว ท่านจะสั่งให้ลูกศิษย์เอามาเก็บไว้ที่กุฏิโดยเอาผ้าขาวปูรอง แล้วเอาพระกสิณวางเรียงกันไว้เป็นชั้นหนึ่ง จากนั้นก็เอาผ้าขาวปูทับ และนำพระมาเรียงซ้อนกันไว้อีกเป็นชั้นที่สอง แล้วปูผ้าขาวทับอีก สลับกันไปเรื่อยๆ จนพระหมด ท่านจึงทำการอธิษฐานจิต เป็นเวลายาวนานนับสิบๆปี คล้ายกับรอเวลาที่จะแจกในอนาคตมากกว่า.. ซึ่งโดยปกติพระที่มีพลังจิตสูงอย่างหลวงปู่พิศดู ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเสกพระอะไรที่ยาวนานขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแค่ท่านกำหนดจิตแป๊บเดียว หรือแค่จิตท่านคิดของก็มีความศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงที่สุดแล้ว.. แต่การอธิษฐาน สวดมนต์ ภาวนาเป็นระยะเวลานานเกือบ 20 ปี พระที่อยู่กับท่านจะยิ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มากแค่ไหน..? อันนี้คงไม่ต้องกล่าวถึง
    แต่ที่หลวงปู่เก็บพระชุดนี้ไว้นานถึง 20 ปี ก็เพราะว่าท่านอาจทราบเหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าในอนาคตจะมีภัยต่างๆมากขึ้น อีกอย่างถ้าหลวงปู่ท่านแจกพระในสมัยที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน พระที่ทำก็คงสูญหายไปหมด ไม่มีใครรู้จัก สิ่งที่สร้างไว้ก็คงเสียเปล่า..
    พระอริยะอจิณไตยอย่างองค์หลวงปู่พิศดู ท่านทราบความเป็นไปในทุกสภาวะธรรม(ชาติ) ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ท่านทราบโดยละเอียดด้วยความเมตตากรุณา สิ่งใดที่ท่านตั้งใจทำ ตั้งใจสร้างขึ้นมานั้น ย่อมมีเหตุมีผลทั้งสิ้น เรื่องบางเรื่องเราไม่อาจรู้ได้ แต่หลวงปู่ท่านรู้โดยละเอียด..
    พระกสิณนี้ก็เป็นวัตถุมงคลอีกสิ่งหนึ่งที่หลวงปู่เป็นผู้ดำหริให้จัดสร้างด้วยองค์ท่านเอง ด้วยมวลสารที่ท่านสะสมมาสมัยธุดงค์ และของมงคลของครูบาอาจารย์ของท่าน ฯลฯ ทุกอย่างทำกันในวัด ทั้งลบผง ผสมเนื้อ กดพิมพ์ เผาดิน ตลอดถึงการอธิษฐานจิตเดี่ยว ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น ตั้งใจอย่างดีที่สุด นับเป็นพระเครื่องชุดแรกของท่านก็ว่าได้ ถึงรูปแบบอาจจะดูไม่สวยคมชัดเหมือนพระสมัยนี้ แต่ว่ามีความคลาสสิคในตัวมาก เพราะพระทุกองค์เป็นงานที่ทำด้วยมือ และใจของผู้ศรัทธาจริงๆ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจสูงมาก.. หลวงปู่เคยบอกว่า ถึงจะไม่ค่อยสวย แต่คุณภาพสูงครับ.. สาธุ
    ( ข้อมูลคุณทุเรียนทอด..)

    " นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะโมพุทธายะ นะชาลีติ พุทธคุณัง ธัมมะคุณัง สังฆคุณัง สะระณังคัจฉามิ "
    พระคาถาหลวงปู่พิศดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิณ. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติ สาคะลังฯ และอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วย สมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่าๆรู้ดีครับ..
    ( ข้อมูลคุณเอื้อนขจี.. )

    พระกสิณหลวงปู่พิศดู ครูบาอาจารย์บอกมาว่าหลวงปู่ท่านลงวิชาหัวใจพระพรหม ไว้ในองค์พระมีอยู่ 2 รุ่น คือพระกสิณ และพระรูปหล่อพระธรรมธาตุ
    หัวใจพรหมหรือที่เรียกกันว่า พรหมวิหารธรรม คือ หลักธรรมของผู้ใหญ่ หรือหลักของผู้ครองเรือน ประกอบด้วยหลักธรรมสำคัญ 4 ประการ คือ
    - เม ตตา = ความรัก ความเอื้ออารีย์
    - ก รุณา = ความสงสาร เห็นอกเห็นใจกัน
    - มุ ทิตา = ความพลอยยินดี ที่เห็นผู้อื่นได้ดี
    - อุ เบกขา = ความวางภาระ วางเฉย
    ครูบาอาจารย์จึงถอดเป็นหัวใจของพระพรหม หรือ หัวใจพรหมวิหารธรรม ได้เป็น เม กะ มุ อุ ครับ
     
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,175
    ค่าพลัง:
    +458
    ยิ่งอ่านแล้วยิ่งอยากได้บูชาครับ^^
     
  9. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,494
    ค่าพลัง:
    +30,840
    az.png
     
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,664
    ค่าพลัง:
    +14,063
    สวัสดียามเย็นครับป๋า
     
  11. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,494
    ค่าพลัง:
    +30,840
    #พระโค..(วัวธนู)

    พระโค หรือวัวธนูรุ่นนี้ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2552 โดยคุณสุภชัย ลูกศิษย์สายวัดท่าซุง ได้สร้างวัวธนูขึ้นมา และได้ฝากขอความเมตตาให้ท่านครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง อธิษฐานจิตให้เป็นเวลากว่า 3 เดือน และท่านครูบายังได้เมตตาจารอักขระตัวเมืองที่ศักดิ์สิทธิ์กำกับเอาไว้ที่พระโคทุกองค์อีกด้วย และคุณสุภชัยยังได้ฝากขอความเมตตาให้องค์หลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิตให้อีกหลายวัน พระโคชุดนี้จึงเป็นสุดยอดเครื่องราง 2 แผ่นดิน(บูรพา+ล้านนา) ที่ทรงฤทธิคุณอย่างยิ่ง พระโคชุดนี้สร้างทั้งหมด 63 องค์ เป็นเนื้อทองสัมฤทธิ์รมดำเพียงเนื้อเดียว ( ตอกโค๊ต รันหมายเลข )

    #ประสบการณ์พระโค
    ผมเองรู้จักลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่คนหนึ่งที่ได้มีโอกาสรับพระโคมาบูชาที่บ้าน 3 องค์ ซึ่งเป็นสูตรพระโคหลวง ที่เมื่อประชุมรวมกันครบ 3 องค์แล้ว (พระโคของท้าวสักกะเทวราช พระโคของท้าวเวสสุวรรณ พระโคของพระยายมราช) จะยิ่งเพิ่มพูนอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อย่างสูงสุด ยากที่จะมีสิ่งใดมาต้านทานพลังอานุภาพได้ พอได้มาเขาก็จัดหิ้งที่จะใช้วางพระโคทั้ง 3 องค์นี้ แต่ตอนที่กำลังจะนำพระโคเหล่านั้นวางบนหิ้งที่ได้จัดเตรียมไว้ ปรากฏว่า พระโค 2 ใน 3 องค์ขยับไปมาและมีเสียงดัง กึก กึก ได้อย่างอัศจรรย์เป็นที่สุด เห็นกับตาได้ยินกับหู ซึ่งเขาเองเกิดมาก็เพิ่งเคยเห็น ยิ่งเพิ่มความศรัทธาในครูบาอาจารย์ทั้งสองท่านเป็นล้นพ้น จึงได้อาราธนา อัญเชิญขึ้นไว้บนหิ้งตามความตั้งใจ


    S__94707717.jpg
     
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,664
    ค่าพลัง:
    +14,063
    สวัสดียามสายครับป๋า
     
  13. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,494
    ค่าพลัง:
    +30,840
    AW503415_00.gif
     
  14. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,494
    ค่าพลัง:
    +30,840
    44551293_2269701089934149_4468985472319750144_n.jpg
     
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,664
    ค่าพลัง:
    +14,063
  16. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,494
    ค่าพลัง:
    +30,840
    5485.gif
     
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,664
    ค่าพลัง:
    +14,063
  18. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,494
    ค่าพลัง:
    +30,840


    ในกลุ่มนี้ครับ
    หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี
     
  19. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,494
    ค่าพลัง:
    +30,840
    ew316399270th มุกดาหาร
     
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,664
    ค่าพลัง:
    +14,063
    สวัสดียามสายครับป๋า
     

แชร์หน้านี้

Loading...