///วัตถุมงคล/เครื่องราง...เริ่มหน้า 72..//

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 20 มกราคม 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1049 พระผงพระสมเด็จเสาร์ห้า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ อธิฐานจิตปรกปลุกเสกเดี่ยว 20 มีนาคม 2553 กล่องเดิ
    ***เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้เรียนพระกรรมฐาน ในเบื้องต้น จากหลวงพ่อพริ้ง ซึ่งเป็นพระวิปัสสนาจารย์องค์สำคัญของเกาะสมุย โดยหลวงพ่อพริ้งได้นำเจริญพระกรรมฐานบนหลุมฝังศพขณะมีอายุ ๑๒ ปี เท่านั้น ต่อมา ได้เรียนพระกรรมฐานจากเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) ซึ่งเป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่า พระองค์ท่านมีความชำนาญด้านกสิณ และเจ้าประคุณสมเด็จฯ ยังได้ให้ความสนใจวิธีการเจริญพระกรรมฐานตามแนวต่างๆ จนมีความชำนาญสามารถสวดพระปาฏิโมกข์ได้ในพรรษาแรกแห่งการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ และยังสามารถเรียนสำเร็จเปรียญธรรม ๙ ประโยค อันเป็นการศึกษาพระปริยัติธรรมชั้นสูงสุดของคณะสงฆ์ สำนึกที่มีต่อความรับผิดชอบพระพุทธศาสนาเช่นนี้ ก่อตัวขึ้นท่ามกลางการฝึกฝนอย่างหนักของเจ้าพระสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) ผู้เป็นพระอาจารย์ ผู้ได้เล็งเห็นอุปนิสัยแล้วว่า ศิษย์ผู้นี้ คือ ผู้ที่จะนำพาพระพุทธศาสนาผ่านห้วงแห่งความยากลำบากในอนาคต

    จากวันที่สำเร็จการศึกษาเปรียญธรรม ๙ ประโยค เพราะความรักที่มีต่อพระพุทธศาสนาอย่างเปี่ยมล้น เมื่อก้าวขึ้นสู่การบริหารคณะสงฆ์ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะผู้ปกครอง แม้พระเถระผู้ใหญ่ในสมัยนั้น ต้องการให้เป็นเจ้าคณะผู้ปกครองในภาคกลาง แต่เจ้าประคุณสมเด็จฯ กลับเลือกที่จะไปเป็นผู้ปกครองทางภาคที่กันดารและเดินทางไปยากที่สุด คือ ภาคอีสาน เนื่องจากเจ้าประคุณสมเด็จฯได้เล็งเห็นว่า หากจะพัฒนาประเทศชาติและพระศาสนา จะต้องพัฒนาจากภาคที่มีประชากรมากที่สุดก่อน โดยเน้นที่การให้การศึกษา

    เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ประทานโอวาท แก่ พระธรรมทูตอาสา ว่า “หากไม่มีพระสงฆ์ ในพื้นที่ ชาวพุทธก็หมดที่พึ่ง ...ก็ชื่อว่า พระพุทธศาสนาได้หมดไปแล้ว ขอให้ทุกองค์หนักแน่น มั่นคง อยู่เป็นกำลังใจให้ชาวพุทธ ถึงแม้วันหนึ่งวันใดข้างหน้า พระพุทธศาสนาจะหมดไปจาก ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ขอให้วันนั้น มีพระสงฆ์เดินออกจากพื้นที่เป็นคนสุดท้าย” นับเป็นแสงแห่งจิตวิญญาณความมั่นคงพระพุทธศาสนา แสงสุดท้าย ที่เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณความรักในพระพุทธศาสนา ผ่านพระธรรมทูตอาสา อันเป็นอมตะวาจาที่จะตรึงใจเหล่าพุทธบุตร ผู้ทำหน้าที่พระธรรมทูตอาสา ไปตราบนานเท่านาน ความสำเร็จของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศทั่วโลก จนพระพุทธศาสนาเบ่งบานกลางหิมะในโลกตะวันตกอย่างแข็งแกร่ง เกิดจากการวางรากฐานที่สำคัญของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ผู้ริเริ่มการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ริเริ่มการสร้างวัดไทยในต่างประเทศ และริเริ่มให้มีการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปประจำ ณ วัดไทยในต่างประเทศ เป็นเหตุให้พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นพระธรรมทูตได้ยึดเป็นแนวทางอันเดียวกัน เป็นที่มาแห่งความสำเร็จของงานพระศาสนาในต่างประเทศ นับได้ว่า เจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นผู้เปิดวิสัยทัศน์ธรรมสู่วิสัยทัศน์โลก ทำให้พระพุทธศาสนาแผ่ไพศาลไป เป็นที่พักพิงทางด้านจิตใจแก่ชาวไทย และประชาชนในต่างประเทศทั่วโลก เรื่องราวทั้งหมดเหล่านี้ จะถูกจดจำ เล่าขานถ่ายทอดสืบต่อกัน จนกลายเป็นตำนาน จากตำนานกลายเป็นประวัติศาสตร์ จากประวัติศาสตร์กลายเป็นความทรงจำของโลก ที่สุดแล้ว นามของพระมหาเถระท่านนี้ ก็จะถูกจารึกบนหน้าประวัติศาสตร์แห่งความทรงจำของโลก ในนามผู้นำพระพุทธศาสนาไปประดิษฐานยังแผ่นดินตะวันตกอันไกลโพ้น ตลอดไป.

    บูชา 200 บาท

    IMG_20181205_075523.jpg IMG_20181205_075512.jpg IMG_20181205_075609.jpg
     
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1050 พระผงหลวงพ่อโต พิมพ์ปรุหนัง วัดพนัญเชิง อยุธยา กล่องเดิม
    ***พระปรุหนัง พุทธลักษณะ องค์พระประธานองค์กลางประทับนั่งขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย บนฐานสำเภาบัวเบ็ด 2 ชั้น(ฐานประทับที่ปรากฏอยู่ในรูปคล้ายสำเภานั้น สำเภาเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธรูปสมัยอู่ทอง จะมีเส้นขีดทแยงบนและอีกแถวหนึ่งขีดทแยงล่างนั้น เรียกว่า บัว 2 ชั้น) ภายในซุ้มเรือนแก้ว ช่วงบนของซุ้มทั้งสองข้างจะปรากฏลวดลายช่อชัยพฤกษ์หลายเส้นวิ่งม้วนตัวไปบรรจบกันที่จุดยอดเหนือพระเศียร เปลวเส้นดังกล่าวนี้เองตรงกลางระหว่างริมข้างองค์พระพุทธ จะมีเส้นวิ่งลงมาม้วนตัวเป็นรูปประภามณฑลครอบเศียรองค์พระพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ยืนพนมมืออยู่ด้านขวาและซ้ายอยู่ในพิมพ์นี้อย่างเด่นชัด ด้านหลังองค์พระเครื่องแบนเรียบ

    1. องค์พระปรุหนัง เป็นพระมีศิลปะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สร้างแบบฉลุโปร่ง แลดูคล้ายแบบของหนังตะลุงที่สร้างด้วยหนังวัวหรือหนังกระบือ ลายเส้นจะเท่ากันทั้งซ้ายขวา สร้างด้วยชินเงิน ผิวสนิมสีดำอมเทา พระปรุหนังหล่อบางมาก จึงหาองค์พระที่สมบูรณ์ได้น้อย ที่ไม่มีชำรุด ใช้แว่นขยายส่องดูมักจะพบรอยร้าวแถวพระศอพระทั้ง 3 องค์เลยก็มี พระหล่อด้วยพิมพ์ประกบ เมื่อหล่อเสร็จแล้วแกะออกจากแม่พิมพ์ จะสกัดเนื้อชินตรงชนวนด้วยของมีคม ด้านล่างสุดขององค์พระ พระปรุหนังบัวเบ็ดสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยม ขนาดกว้างฐาน 4 ซม.สูง 5 ซม.

    2. ยุคสมัยการสร้าง พระปรุหนังพิมพ์บัวเบ็ดเป็นพระเครื่องประเภทปราณีตศิลป์ กำเนิดเมื่อพ.ศ. 1896 สมัยอยุธยายุคต้น อายุถึงปัจจุบันราว 700 ปี ที่ จ.อยุธยานี้เป็นกรุต้นกำเนิดของพระสกุลนี้ ที่งดงามกว่าและมีอายุสูงกว่ากรุอื่นที่สร้างแบบตามอย่างภายหลังทั้งหมดทรงอพยพที่ ต.เวียงเหล็ก

    3. ผู้สร้าง จารึกสุโขทัยหลักที่ 1 ราวปีพ.ศ. 1835 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาแล้ว โปรดให้สร้างวัดเป็นพุทธบูชา และพระอนุสรณ์ ณที่ตั้งพลับพลาที่ประทับ เพื่อทรงอพยพที่ ต.เวียงเหล็ก เมื่อปีพ.ศ. 1896 คือวัดพุทไธสวรรค์ บรรจุกรุพระปรุหนังบัวเบ็ดชินเงิน(ชินกรอบ)

    พุทธคุณ แคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุตม์

    บูชา 200 บาท

    IMG_20181205_075547.jpg IMG_20181205_075537.jpg IMG_20181205_075557.jpg
     
  3. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1051 พระผงหลวงพ่อปากแดง หลวงพ่อตึ๋ง วัดหลวงพ่อปากแดง นครนายก รุ่นดวงดีตลอดชีวิต เนื้อแร่เหล็กไหล มหามงคล มหาลาภ มหารวยๆ กล่องกำมะหยี่ เจิมแป้งเสก
    บูชา 200 บาท
    IMG_25620210_140223.JPG IMG_25620210_140250.JPG IMG_25620210_140421.JPG IMG_25620210_140452.JPG IMG_25620210_140520.JPG
     
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1052 หลวงปู่ทวด เนื้อผงว่าน พิมพ์กลักไม้ขีด รุ่นทรัพย์ไพศาล หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย จ.อยุธยา ปี2559
    บูชา 200 บาท

    8059.jpg 8060.jpg
     
  5. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1053 สมเด็จปรกโพธิ์เเม่ธรณีรุ่น101 ปี หลวงพ่อผาด วัดบ้านกรวดออกวัดปราสาททองชุดนี้ลพ.ผาด หลวงพ่อเมียน วัดบ้านจะเนียงปลุกเศกเข้มขลัง เนื้อผงพุทธคุณเมตตาค้าขาย ออกวัดปราสาททอง บ้านกรวด บุรีรัมย์
    ปิดครับ

    8062.jpg 8061.jpg get_auc3_img (13).jpg get_auc3_img (14).jpg get_auc3_img (16).jpg get_auc3_img (15).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2019
  6. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1054 พระสังกัจจายน์เนื้อผง ปลุกเสกโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ พระดีอีกหนึ่งรูปที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำให้การรับรองไว้ครับ
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำยกย่องว่าเป็นพระทองคำตั้งแต่ครั้งยังมิใช่ดำรงอยู่ในสมเด็จฯ
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำบอกว่าท่านเป็นพระที่สูญ (จากกิเลส) ไม่ต้องเกิดอีกแล้ว


    หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศ
    โดยหลวงตาวัชรชัยถ้ำนารายณ์(วัดเขาวง) สระบุรี


    เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) แห่งวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หลวงตากล้าเรียกท่านว่า "หลวงพ่อ" ได้อย่างเต็มใจเต็มคำ

    ครั้งหนึ่ง ขณะที่หลวงพ่อสมเด็จยังพอเจียดเวลาพักผ่อนจากภารกิจอันหนักหน่วงได้บ้าง ครั้งนั้น ท่านได้ไปพักผ่อนที่สำนักปฏิบัติธรรมไร่กิตติลักษณ์ จังหวัดเชียงราย ตามคำอาราธนานิมนต์ของเจ้าของสถานที่ หลวงตาก็มีโอกาสได้รับนิมนต์ด้วย

    ในใจหลวงตานี้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับศีลและมารยาทพระอยู่ข้อหนึ่ง คือเวลาฉันภัตตาหารด้วยกันในหมู่สงฆ์ จะคุยกันบ้างได้ไหม ได้ในระดับไหน และคิดว่าถ้าจะมีพระสักองค์ที่ตอบให้หายสงสัย ก็น่าจะเป็นหลวงพ่อสมเด็จ ฯ เพราะท่านเรียนจบ ๙ ประโยค เป็นสามเณรที่เรียนความเป็นสมณะโดยตรงจากสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทัย) แห่งวัดสระเกศ เป็นเลขาเจ้าคณะ เป็นอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เป็นพระอุปัชฌาย์ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย จนปัจจุบันเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ทำหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ต่อไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่กล้าคิด

    แต่ที่กล้าคิดก็คือ ถ้าท่านตอบให้ได้ฟัง ก็น่าจบเป็นอันยุติข้อสงสัยใช้เป็นแบบปฏิบัติรักษาตัวได้เลย แต่...ใครจะไปกล้าถาม ลูกหลานเอ๋ย เช้าตรู่ของคืนแรกที่พักในไร่กิตติลักษณ์ เขาถวายข้าวต้มพร้อมถ้วยตะเกียบเพียบพร้อมด้วยกับข้าว หลวงพ่อสมเด็จเรียกหลวงตาให้เข้ามานั่งเก้าอี้ตัวที่ติดกับท่าน คีบกับข้าวต้มใส่ถ้วยหลวงตา แล้วพูดว่า

    "เอ้า ฉันเสีย ของเขาดี เอ้อ..เอานี่ หลวงพ่อผาจม ฉัน..." คีบกับข้าวใส่ถ้วยหลวงพ่อวิชัย เขมิโย แห่งวัดถ้ำผาจม แล้วท่านก็คีบกับใส่ปากเคี้ยว เขี่ยข้าวต้มใส่ปากเคี้ยว ทั้งหมดนี้ดูไม่เร็วไม่ช้า พอเคี้ยวได้กลืนแรก ท่านก็หันมาพูดกับหลวงตาเบา ๆ พอได้ยินสองคนว่า

    "ทำพองาม สบาย ๆ ก็พูดคุยธุระที่ควรพูดได้บ้าง เอาพอรู้เรื่องกัน เอาพอไม่ให้อาหารหล่นจากปาก เอ้า ! หลวงพ่อจอมกิตติ ..ฉัน...ฉัน" แล้วก็คีบใส่ถ้วยท่านเจ้าอาวาสวัดพระธาตุจอมกิตติต่อไป แล้วก็ฉันต่อไปแบบสบาย ๆ เพราะไม่มีใครนอกจากพระด้วยกันทั้งนั้น

    ...ลูกหลานเอย หลวงตาคิดอยู่ในใจไม่เคยถามใคร ๆ และโดยเฉพาะหลวงพ่อสมเด็จ ฯ แต่ท่านตอบให้เราได้ ลูกหลานช่วยกันคิดซิว่า หลวงพ่อสมเด็จทราบได้อย่างไร

    หลวง ตารู้จากหลวงพ่อฤาษี ฯ วัดท่าซุง ของเราว่า หลวงพ่อสมเด็จ...เป็นพระทองคำ หากจะหาเนื้อนาบุญในกรุงเทพ ฯ บำเพ็ญเพิ่มพูนบารมีให้ตัวเองให้ไปที่วัดสระเกศ ท่านเป็นพระนักปฏิบัติมาตลอดชีวิต ไม่มีใครรู้...
    หลวงตาก็เลยสงสัยในแง่ปฏิบัติธรรมต่อไปว่า ตลอดชีวิตตั้งแต่เป็นสามเณรก็เรียนบาลีจนจบประโยค ๙ จบแล้วก็ทำงานหนักมากมาตลอด ไม่เคยหยุด แล้วท่านเอาเวลา เอาอารมณ์ใจที่ไหนมาปฏิบัติพระกรรมฐานจนเป็น พระทองคำ


    ต้องเล่าย้อนไปเมื่อตอนกลางคืน ก็สวดมนต์เย็นด้วยกัน พอเจ้าของบ้านเข้าพัก พระก็คุยกัน "เอ้า พระจะคุยกัน โยมไปพักก็ได้นะ" ท่านจะใช้คำพูดและน้ำเสียงเป็นกลางๆ ยิ้มแย้มเมตตาอย่างนี้เสมอ ท่านหันหน้ามาทางพระ ชำเลืองดูหลวงตาพลางพูดว่า

    "จะเล่าให้ฟัง คุยกัน เออ..งูนี่มันตัวร้อนนะ"

    พระก็มองหน้าหลวงพ่อสมเด็จกันหมดทุกองค์
    "คืออย่างนี้ ผมบวชเณรเมื่ออายุ ๑๓ ปี บวชแล้วก็เรียนหนังสือท่องบาลี เรียนกันหนัก"
    แหม ลูกหลานเอ๋ย เหมือนที่หลวงตาคิดขมวดไว้ในใจ เป๊ะเลย ฟังเอาเถิด !


    "แต่ผมโชคดี มีครูบาอาจารย์ดี ท่านให้ผมเรียนปฏิบัติพระกรรมฐานไปด้วย ดูหนังสือไป สลับกับภาวนาไปตลอดเวลา อารมณ์ก็ไม่เสีย ดูหนังสือก็จำแม่น"

    ท่านพูดช้า ชัดเจน น้ำเสียง สีหน้า ดวงตานี่...เล่าเหมือนเรื่องเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้

    "บางครั้งก็ออกธุดงค์กับพระอาจารย์ เอาหนังสือใส่ย่ามติดตัวไปด้วย"
    "มีอยู่ครั้งหนึ่งเดินทางกันไปด้านชายทะเล นั่งภาวนาอยู่ในที่สงัดนะ จิตมันบังเอิญลงร่องยังไงก็บอกไม่ถูก มันดิ่งสงบลงไป จนเหมือนนอนหลับ"


    ลูกหลานเอ๋ย ถ้าเป็นหลวงตาละก็..จะต้องโม้โอ่องค์ให้รู้เสียบ้างว่าเรานี่เข้าฌาณได้นะ แต่หลวงพ่อสมเด็จไม่ใช่อย่างหลวงตา

    "มันรู้สึกตัวอีกที รู้สึกว่าเหมือนเด็กที่ไหนมาปัสสาวะรดมือ รดหน้าตักเรา ลืมตาขึ้นดู งูตัวเบ้อเริ่ม ใหญ่ขนาดลำตัวเด็กเล็ก กำลังเลื้อยผ่านตักทับมือเราไป มันอุ่นมันร้อนไอตัวงู ก็ตกใจ ถอนใจหวาดหวั่น เท่านั้นแหล่ะ งูนั้นก็ตวัดหัวชูขู่ฟ่อเหมือนจะงับหัวเราเข้า ใจเราก็ยอมตาย เอาเถอะ ตายก็ตาย มันไปไหนไม่ได้แล้ว ตายขณะทำความเพียรก็เอา
    พอใจสบาย งูก็เลื้อยไป พอลืมตาดู งูก็ชูหัวขู่เอาใหม่ ก็หลับตาไปใจสงบ งูก็เลื้อยต่อ สลับกันไปอย่างนี้ จนใจสบายจริง ๆ งูก็ไม่รู้หายไปไหน เอ้อ..งูนี่มันร้อนนะ"
    "นั่นแหละ พอบวชเณร เขาก็จัดให้อยู่กุฎิเจ้าคณะ ๕ มันสบายตามอัตภาพสามเณร บวชพระแล้วก็ยังอยู่ห้องนั้น เอาไม้มาตอกกะข้างฝาเป็นหิ้งพระพุทธรูปหลายหิ้ง นอนใต้หิ้งพระ มองพระสบายใจ ทุกวันนี้เขาให้เป็นสมเด็จ ก็ยังนอนห้องเณรอย่างเดิม ทาสี ๓ ครั้ง เปลี่ยนกระเบื้องหลังคา ๒ ครั้ง ยังอยู่ได้"


    ท่านพูดไป ยิ้มอิ่มใจ ดูท่านเป็นสุขจริง ๆ ที่ได้ทำอนุสติ ย้อนนึกถึง " ตอนนั้นรัฐบาลคุณสัญญา ธรรมศักดิ์ คุณสัญญานี่..นับถือกัน เขาเอางบประมาณมาช่วยซ่อมตำหนักสมเด็จ บังคับขอร้องให้ไปอยู่อาศัย จะได้สมศักดิ์ศรีสมเด็จ เราก็ไปนั่งให้เขาเห็น พอเขากลับเราก็กลับมานอนกุฏิเณร สบายใจของเรา "

    ท่านผู้อ่านทั้งหลาย สหายในทางธรรม ลูกหลานทุกคนเอย.. ผู้อ่านอ่านแล้วจะรู้สึกอย่างไร หลวงตาไม่ทราบ แต่ตัวหลวงตาฟังดู สัมผัสกระแสเมตตาจากใจของหลวงพ่อสมเด็จแล้ว หลวงตาเชื่อท่าน ซ้ำมีคุณสมบัติบางอย่างในตัวท่านที่ไม่เกินวาสนา หลวงตาตั้งใจจะนำมาปฏิบัติเอาเยี่ยงอย่างท่าน ก็เลยกราบฝากตัวขอให้ท่านว่ากล่าวตักเตือนประหนึ่งว่าเป็นลูกคนหนึ่ง ท่านก็พูดว่า

    "เรียกว่าหลวงพ่อ ง่าย ๆ ดี มีอะไรให้ช่วยก็ไปหาที่วัด ไปเองก็ได้ โทรศัพท์ก็ได้"
    เมื่อ หลวงตามาอยู่วัดเขาวงได้ ๑ ปี ก็ประสบอุบัติเหตุ เอารถไปขวางให้เขาชนกลางสี่แยกวัดใจ เจ้าซ้ง คนขับรถ มองแต่ทางซ้ายไม่เห็นมีรถ ก็ลืมขวา ออกรถเต็มที่รถปูนผง ๔ เต้าแล่นมาทางขวาพอดี สลบคาที่ ฟื้นขึ้นมาอีกทีก็ได้ของเพิ่มตัว คือ สายโยงเยง เสียบจมูก คาปาก คาท้อง และของประจำตัวที่หายไปก็มี ม้าม ถุงน้ำดี ตับบางส่วน และระบบหายใจอีกครึ่งระบบ


    อยู่ห้อง ไอ.ซี.ยู. หลายวัน ออกมาพักฟื้นในห้องพิเศษ รพ.ภูมิพลได้ ๓ วัน หลวงพ่อสมเด็จก็เมตตามาเยี่ยมพร้อมกับพระอุปัฏฐากติดตาม ๑ องค์ เวลาบ่ายโมงพอดี

    "จะมาเยี่ยมแต่เมื่อค่ำวานนี้ ออกรถมาได้แค่สี่แยกหลานหลวง รถติดอยู่กว่าชั่วโมง เห็นไม่ไหวก็เลยเดินกลับวัด นี่ออกมาบ่ายวันนี้ถึงมาได้ เออ..ไม่ได้หนักหนาอะไรอย่างที่เขาไปลือให้ฟังนะ ไม่เป็นไร...เดี๋ยวหายปรกติ ตั้งใจนะ ตั้งใจให้ดี จะสวดโพชฌงค์ให้หายเร็ว ๆ"

    ลูกหลานเอ๋ย หลวงพ่อสมเด็จนั่งสวดมนต์บนเก้าอี้หน้าเตียง หลวงตาแก่ไร้ชื่อเสียง ไร้ความเคารพนบนอบประจบเอาใจ วันเกิดท่าน วันเข้าพรรษาก็ไม่ได้ไปกราบทำวัตร คนหยาบอย่างนี้ หลวงพ่อยังเมตตาถึงขนาดนี้ ที่หลวงตาว่าเหมือนแสงสว่างส่องโลกไม่เห็นแก่สิ่งตอบแทน มันจริงไหมเล่าลูกหลานเอ๋ย....

    หลังจากนั้นหลายปี เมื่อพบท่านข้างพระอุโบสถวัดสระเกศ เข้าไปยืนไหว้ ขอประทานอภัยและขออนุญาต ย้อนหลังที่ได้เอาเรื่องของท่านไปเล่าให้พระใหม่ พระเก่าฟัง ตามที่หลวงตาซาบซึ้งใจ ท่านก็จับมือไว้ ยิ้มอย่างเดิม เสียงกลาง ๆ อย่างเดิม กระแสใจปนกระแสอบอุ่นใจอย่างเดิมว่า

    "เอ้อ...ความเป็นพระก็อยู่ตรงนี้ ไม่มีอะไร.."
    คุณshaj ปิดครับ
    8313.jpg 8314.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2019
  7. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1055 พระสมเด็จกริ่ง พิธีพุทธาภิเษก เสาร์ ๕ วัดสุทัศน์เทพวราราม ๓๐ เมษายน ๒๕๓๗ อุดกริ่งเสียงดังกังวาน
    คุณpalmcc38 ปิดครับ
    8311.jpg 8312.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2019
  8. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +6,461
    ขอจองครับ
     
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1056 รูปภาพสี1.5นิ้ว หลังติดจีวรและเกศา ปี54 หลวงปู่หลุย วัดลาดบัวขาว(ราชโยธา) มีนบุรี
    หลวงปู่หลุยศึกษาวิชาอาคมจากสายวัดราชโยธา และอาจารย์ฆราวาสอีกท่านหนึ่งชื่อว่า อาจารย์แช่ม ได้รับฉายาว่าหมอเทวดา ท่านอาจารย์แช่มได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆให้แก่หลวงปู่หลุยจนหมดสิ้น เช่น วิชารักษากระดูก โดยใช้น้ำมันงาประสานกระดูก วิชารักษาบาดแผลต่างๆ ด้วยน้ำมนต์และเสกเป่าคาถา จนบาดแผลสนิทกัน และวิชาต่างๆอีกมากมายด้านไสยเวทย์ภูติผีปีศาจ ผีเจ้าเข้าสิงท่านรักษาได้หมด พระเครื่องและวัตถุมงคลทุกๆรุ่นที่ท่านได้อธิฐานจิตปลุกเสกไว้ มีผู้เจอประสบการณ์มาแล้วมากราย เช่น เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย และคงกระพันชาตรี
    บูชา 200 บาท

    IMG_25620213_202627.JPG IMG_25620213_202606.JPG
     
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1057 เบี้ยแก้หล่อโลหะ เนื้อนวะ หลวงปู่บุญ วัดวิเศษชัยชาญอ่างทอง ตอกโค๊ต
    สร้างตามตำราของสายอ่างทองใช้โลหะชนวนหล่อ หลวงปู่บุญเป็นเกจิสายอ่างทองสร้างตามตำราที่ได้รับสืบทอดมาเป้นลูกศิษย์หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม และเกจิหลายๆรูปในอ่างทอง
    บูชา 200 บาท

    IMG_25620213_201534.JPG IMG_25620213_201447.JPG IMG_25620213_201412.JPG IMG_25620213_201315.JPG
     
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1058 ศิลาน้ำ และข้าวตอกพระร่วง อุณมิลิต เครื่องรางป้องกันภัย
    ข้อมูลเพิ่มเติมhttp://www.ounamilit.com/ad_silanham.html
    ปิดครับ
    8728.jpg 8727.jpg 8726.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2020
  13. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1059 เหรียญเสมาเล็ก หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล แห่งวัดบ้านจาน โดยจัดสร้างที่วัดป่าหนองหล่ม อ.วัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ปี2558 ตอกโค๊ต
    พระอาจารย์ขวัญเมือง สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าหนองหล่ม จังหวัดสระแก้ว ขอเชิญท่านพุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ สายหลวงปู่หมุนทุกๆท่าน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคี ณ วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว ในวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2558 (ตรงกับแรม 12 ค่ำเดือน 11) หลังวันออกพรรษา 10 วัน

    วัตถุประสงค์ 1.เพื่อสมทบทุนสร้างวิหารแปดเหลี่ยมให้แล้วเสร็จ 2. เพื่อสมทบทุนสร้างองค์หลวงปู่หมุนใหญ่ที่สุดในโลก โดยจัดสร้างที่วัดป่าหนองหล่ม อ.วัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว
    คุณpalmcc38 ปิดครับ
    8965.jpg 8966.jpg 11931702_1054877371203188_247203839_n.jpg 11813361_1878581709034208_5045496677354407921_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2019
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1060 พระซังฮี้ อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ อุณมิลิต
    ซังฮี้นั้นถือเป็นมงคลวัตถุที่บริบูรณ์ไปด้วยศาสตร์และศิลป์โดยด้านหน้านั้นเป็น “ซังฮี้” ที่ถือเป็นศาสตร์และสัญลักษณ์มงคลของชาวจีนที่หมายความว่ามงคลซ้อนมงคลคือ “ดีแล้วก็ยิ่งดีขึ้นอีก” ส่วนด้านหลังประกอบด้วยยันต์ต่างๆ ที่สำคัญที่อาจารย์ประคองเชี่ยวชาญมากมายไม่ว่าจะเป็นนะวิเศษคนคู่ วิชาเสน่ห์มอญ วิชานะรุ่งเรือง เป็นต้น


    ส่วนมวลสารที่ใช้ประกอบเป็นซังฮี้นั้นประกอบด้วยผงธาตุกายสิทธิ์จากปราสาทโบราณ (แร่สุวรรณโลหิต) ผงแก่นจันทร์แดงร้อยปีและที่สำคัญคือ “ผงแก่นโมกแดง” ซึ่งหาได้ยากมากเนื่องจากไม้โมกแดงหรือมวกแดงที่นำยางมาใช้ในการทำน้ำมันโสฬสวังหน้านี้เป็นไม้ที่ไม่มีแก่นหากต้นใดมีแก่นถือว่ามีกายสิทธิ์ลงสถิต มีเทพรักษา (คันทัพเทวา) จะทรงคุณเอนกประการ, ผงจูซาอั้ง, ผงว่านมหานิยม, ผงพระกรุเก่าอาจารย์ประคอง, ผงทรายเจ้าน้ำเงิน, ผงแร่ทรายทอง, ผงว่านไก่แดง, ผงไม้งิ้วแดง และอื่นๆ อีกมากครับ

    พระซังฮี้รุ่นนี้อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญท่านเสกเดี่ยวเป็นเวลานานมากก่อนนำออกให้บูชา เป็นของดีที่ไม่ควรมองข้ามครับ
    บูชา 200 บาท
    IMG_20181213_204715.jpg IMG_20181213_204706.jpg
     
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1061 พระผงหลวงพ่อโสธร รุ่นสร้างพระอุโบสถ ปี 2544 (มวลสารองค์หลวงพ่อ)
    พระผงหลวงพ่อโสธร รุ่นสร้างอุโบสถ ปี พ.ศ. 2544 เนื้อผงผสมมวลสารจากองค์หลวงพ่อ
    ถือเป็นอีกรุ่นที่ออกแบบองค์หลวงพ่อได้งดงามเหมือนองค์จริงมากๆ อลังการในซุ้มเรือนแก้ว โดยอันเชิญมวลสารจากองค์หลวงพ่อโสธรเช่น ทอง,ปูน,ลัก ที่ลอกออกมาจากองค์หลวงพ่อ
    เมื่อครั้งบรูณะองค์ท่าน ถือเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนรุ่นใดๆและยากยิ่งที่จะสร้างได้อีก ที่สำคัญรุ่นนี้วัดโสธรฯเป็นผู้สร้างแท้ๆ ต่อไปจะต้องเป็นที่เสาะแสวงหาของทุกคนแน่นอน
    วัตถุมงคลของท่านทุกรุ่น
    ล้วนมีพุทธคุณเด่นในด้าน เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ค้าขายดีเยี่ยมครับ
    คุณpalmcc38 ปิดครับ

    IMG_25620217_164412.JPG IMG_25620217_164331.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2019
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1062 พระผงรูปเหมือนพิมพ์รูปไข่หลังยันต์ หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน จ.ปราจีนบุรี
    หลวงพ่อเอีย เป็นพระคณาจารย์แห่งยุค อันหมายถึงพระคณาจารย์ที่เราๆต่างได้ทันช่วงขอท่าน แม้จะเป็นบั้นปลายหรืออีกนัยหนึ่งคือ เป็นพระคณาจารย์ที่ยังคงสืบสาวราวเรื่อง รู้ที่มา หาที่ไปพบ ประการสำคัญคือการลำดับความเป็นมาแห่งการสร้างวัตถุมงคลต่างๆได้ชัดเจน
    หลวงพ่อเอีย นับเป็นพระคณาจารย์ผู้งดงามในวัตรปฏิบัติปฏิปทาเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาทั้งคนในพื้นที่และประชาชนต่างถิ่นต่างแดนมาเป็นเวลานาน

    วัตถุมงคลของท่านมีมากพอสมควร แต่มิได้มากจนเฟ้อหลากหลาย ความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ มีประสบการณ์ เป็นที่น่าเชื่อถือได้สนิทใจในพระพุทธานุภาพ
    ถึงแม้ว่าวัตถุมงคลของท่านจะไม่หวือหวา แต่ก็ไม่เคยห่างหายไปจากความนิยม กล่าวได้ว่ามีออกสู่วงการให้ได้ชมได้สะสม อีกทั้งมูลค่ากลางๆหาบูชาได้ไม่ยากในขณะนี้
    บูชา 200 บาท
    IMG_25620219_144114.JPG IMG_25620219_144031.JPG
     
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1063 พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์ทรงไก่ รุ่นสร้างเขื่อน พระเครื่อง เมืองกรุงศรีฯ ปี 2548 (รุ่นนี้มีความสำคัญที่บรรจุผงมวลสารสมัยที่หลวงพ่อปานยังมีชีวิตอยู่ไว้ที่ส่วนบนขององค์พระ)
    พระเนื้อผง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์ทรงไก่ รุ่นสร้างเขื่อน จัดสร้างขึ้นและพุทธาภิเษกตรงกับ วันที่ 18 สิงหาคม ปี 2548 ครับ ดูจากรุ่นที่พุทธาภิเษกแล้วน่าบูชาเก็บไว้เป็นอย่างยิ่งเนื่องจากวัตถุมงคลชุดนี้จัดสร้างขึ้นเพื่อจัดหาทุนในการสร้างเขื่อนของวัดซึ่งเป็นศาสนสถานของวัด ด้านหน้าองค์พระเป็นพิมพ์ทรงไก่ครับ รุ่นนี้มีความสำคัญที่บรรจุผงมวลสารสมัยที่หลวงพ่อปานยังมีชีวิตอยู่ไว้ที่ส่วนบนขององค์พระ ในรูปจะเห็นเป็นสีขาวๆครับ

    หลวงพ่อปาน ถือกำเนิดที่ย่านวัดบางนมโค เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2418 ท่านเป็นบุตรชายคนเล็กของ คุณพ่ออาจ และคุณแม่อิ่ม สุทธาวงศ์ อาชีพของครอบครัว คือการทำนา
    สาเหตุที่โยมบิดาขนานนามท่านว่า ปาน เนื่องจากท่านมีสัญญลักษณ์ประจำตัวที่นิ้วก้อยมือซ้ายเป็นปานแดง ตั้งแต่โคนนิ้วถึงปลายนิ้ว ซึ่งนับว่าแปลกและไม่ค่อยจะมีกัน
    หลวงพ่อปาน อุปสมบทเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2438 โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.อยุธยา
    พระกรรมวาจาจารย์ คือ พระอาจารย์จ้อย วัดบ้านแพน ต.สามกอ อ.เสนา จ.อยุธยา
    พระอนุสาวนาจารย์ คือ พระอาจารย์อุ่ม วัดสุธาโภชน์ ต.บางนมโค อ.เสนา จ.อยุธยา ท่านได้ ฉายาว่า โสนันโท

    เมื่อหลวงพ่อปาน อุปสมบทแล้ว ได้มาอยู่ที่วัดบางปลาหมอ โดยมีหลวงพ่อสุ่น เป็นอาจารย์สอนกรรมฐานวิปัสสนาพุทธาคมต่างๆ โดยเฉพาะในด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดจนผู้คนที่ถูกคุณไสยฯ หลวงพ่อปานได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆจนหมดสิ้น
    เรียนพระปริยัติธรรมและภาษาบาลีกับอาจารย์จีน วัดเจ้าเจ็ด ๒ ปี, และไปเรียนต่อที่วัดสระเกศ กรุงเทพฯ อีก จนจบอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ใช้เวลาอยู่กรุงเทพฯ ๕ ปี
    ขณะที่อยู่กรุงเทพฯ เรียนเพิ่มเติมที่วัดสังเวชด้านแพทย์แผนโบราณ ได้หลวงพ่อเนียม วัดน้อย อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี เป็นอาจารย์สอนด้านกรรมฐานเพิ่มเติม เป็นเวลารวมประมาณ ๓ เดือน
    ศึกษาเพิ่มเติมกับหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน อ.สองพี่น้อง สุพรรณบุรี ประมาณ ๑ เดือน
    เรียนวิชาจากชีปะขาว ในการสร้างพระเครื่อง มีรูปแบบ ๖ พิมพ์ เรียนวิชาจากอาจารย์แจง ซึ่งเป็นฆราวาสชาวสวรรคโลก ได้สอน "ยันต์เกราะเพชร" เป็นยันต์ที่ยอดเยี่ยมมาก

    เมื่อเรียนจบแล้วก็มาตั้งสำนักสอนภาษาบาลี และนักธรรมที่วัดบางนมโค และได้เริ่มก่อสร้างวัดบางนมโค จนเจริญรุ่งเรือง ตราบจนกระทั่งทุกวันนี้ นอกจากวัดบางนมโคแล้ว ท่านยังได้สร้างวัดต่างๆ อีกประมาณ ๔๑ วัด และยังมีการสร้างโบสถ์อีกมากมายหลายแห่ง นับว่าเป็นพระที่มีบารมีสูงมาก จึงสามารถสร้างสิ่งถาวรวัตถุ เพื่อสืบศาสนาได้มากขนาดนี้

    เมื่อท่านเรียนวิชาจากหลวงพ่อสุ่นแล้ว ก็ออกธุดงค์เพียงองค์เดียวในป่าลึก และเมื่อท่านได้ลูกศิษย์ (ซึ่งมีพระมหาวีระ ถาวโร รวมอยู่ด้วย) ก็พาออกธุดงค์จนถึงเขตแดนพม่า ซึ่งระหว่างธุดงค์ได้พบกับเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งนับว่าล้วนแปลกมหัศจรรย์ บางท่านเมื่อได้อ่านพบ หรือได้ฟังแล้วต่างพูดกันว่าเป็นไปได้หรือ

    ส่วนการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อีกทั้งผู้ที่ถูกของหรือถูกคุณไสยทุกชนิด ถ้าพาคนเจ็บมาถึงวัดบางนมโค และได้รับการรักษาจากหลวงพ่อปานแล้ว ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ผิดหวัง รอดตายหายดีทุกราย

    หลวงพ่อปานท่านมีลักษณะของมหาบุรุษ มีผิวพรรณขาวสะอาด เสียงกังวานไพเราะ มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ลักษณะ รูป กาย สมส่วน มีเมตตาปราณีแก่สัตว์โลกทั้งหลาย ไม่ถือชั้นวรรณะ ต้อนรับผู้คนที่มาหาโดยไม่เลือกว่าเป็นเศรษฐี ผู้ดี ไพร่, ว่ากันว่าบุคคลที่มีจิตใจชั่วช้ามัวเมา หากได้สนทนากับหลวงพ่อแล้ว จะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    กิจวัตรประจำวันของท่านฯ ยามที่ท่านอยู่วัด ส่วนใหญ่หลังจากที่ท่านฉันเรียบร้อยแล้ว ท่านฯ จะพักผ่อนจนถึงเวลาฉันเพล นั่นคือเวลาที่ท่านได้พักผ่อนจริงๆ หลังจากนั้นแล้ว ท่านก็จะออกมานั่งรับแขก และทำน้ำมนต์เตรียมไว้เพื่อรักษาคนไข้ คนป่วยต่างๆ ที่มาหาท่าน วันหนึ่งๆ มีคนมาหาท่าน เพื่อขอความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก สารพัดโรค ถูกทำของหรือถูกคุณไสยก็มีเยอะ รักษากันตั้งแต่เพลเรื่อยไป บางวันถึงดึกดื่นก็มี แม้ท่านฯ จะเหนื่อยยากเพียงไร ท่านก็สงเคราะห์ชาวบ้านเช่นนี้เสมอไป

    ถึงแม้หลวงพ่อปานท่านจะจากไปแล้ว แต่ท่านก็ได้ทิ้งมรดกอันล้ำค่า ไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน หรือบุคคลที่นับถือเลื่อมใสท่าน มรดกอันมีค่าควรเมืองได้แก่

    ๑. พระหลวงพ่อปาน
    ๒. ผ้ายันต์, ยันต์เกราะเพชร
    ๓. พระคาถาพระปัจเจกะโพธิ์

    ยันต์เราะเพชร

    การเป่ายันต์เกราะเพชรนี้ ท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านได้เรียนมาจากอาจารย์แจง ซึ่งเป็นฆราวาส ชาวสวรรคโลก จากตำราของอาจารย์พระร่วง แต่ผู้ที่จะทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ได้ ต้องมีศีลบริสุทธิ์ และมีฌานแก่กล้า จึงจะทำให้ยันต์นั้นเข้าไปสถิตย์อยู่ในตัวของผู้ที่ต้องการได้

    ยันต์เกราะเพชรนี้ มาจากการเขียนบทพระพุทธคุณห้องต้น คือ พระอิติปิโสภควา จนถึง พุทโธภควาติ เรียกว่า พระอิติปิโสแปดทิศนี้ รูปแบบและพระคาถาแบบนี้

    ๑. อิระชาคะตะระสา
    ๒. ติหังจะโตโรถินัง
    ๓. ปิสัมระโลปุสัตพุท
    ๔. โสมานะกะริถาโธ
    ๕. ภะสัมสัมวิสะเทภะ
    ๖. คะพุทปันทู ทัมวะคะ
    ๗. วาโธโนอะมะมะวา
    ๘. อะวิสุนุสานุสติ

    พระคาถานี้ มีอุปเท่ห์การใช้แต่ละบทอย่างพิศดาร ทั้งแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี คุ้มกันอันตราย เรียกว่าฝอยท่วมหลังช้าง แล้วแต่จะใช้คุ้มกันตัว เวลากลางคืนก่อนนอนให้ท่องพระคาถานี้ตามกำลังวัน แล้วตั้งจิตให้นิ่งและให้เป็นวงรอบเขตบ้าน หรือสถานที่พักแรม จะป้องกันภัยได้ทุกสารทิศ ศัตรู โจรจู่โจมก็ให้รู้สึกตัวก่อน ป้องกันได้ทันแล

    ยันต์เกราะเพชรของหลวงพ่อปานนี้ ก็ใช้บทพระพุทธคุณห้องต้น มาเรียงกันตามตำรา กำหนดแล้วขีดเส้นโยงเป็นตารางสานกันไปมา ระหว่างตัวอักขระพระอิติปิโสนี้ บังเกิดเป็นเกราะแก้ว ประสานกันรอบตัวยันต์ โดยเพิ่มตัวอุณาโลมและตัวโมลงไปด้วย ดังนั้น ยันต์เกราะเพชรของท่าน จึงสามารถคุ้มกันอันตราย ดุจมีเกราะแก้วกำบังตัว และมีกำแพงแก้วแปดชั้นมากั้นมารร้ายแล

    (ผ้ายันต์ของหลวงพ่อปานก็มียันต์เกราะเพชร ตกถึงสมัยยุคนี้ยังพอมีให้เห็น แต่ผู้เป็นเจ้าของก็หวงแหนมาก)

    บูชา 200 บาท

    IMG_25620219_144727.JPG IMG_25620219_144803.JPG IMG_25620219_144647.JPG
     
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1064 พระเชตุพน กรุอยุธยา เนื้อดินเผา
    บูชา 200 บาท

    IMG_25620219_144411.JPG IMG_25620219_144350.JPG
     
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1065 หลวงพ่อทวด พิมพ์กลักไม้ขีด ขนาดเล็กจิ๋ว สร้างด้วยมวลสารเป็นว่าน 108 ชนิด วัดห้วยมงคล พระของขวัญ ปี2549
    พระพิมพ์หลวงพ่อทวด วัดห้วยมงคล พิมพ์กลักไม้ขีด ขนาดเล็กจิ๋ว สร้างด้วยมวลสารเป็นว่าน 108 ชนิด ผงพระพุทธคุณ จากพระคณาจารย์ทั่วประเทศ อีกทั้งดินศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศ ปลุกเสกโดยพระอาจารย์ไพโรจน์ เจ้าอาวาสวัดห้วยมลคล ในวาระดิถีวันขึ้นปีใหม่ ปีพ.ศ. 2549 สำหรับพิมพ์นี้องค์พระมีขนาดน่ารักเหมาะสำหรับเด็ก และผู้หญิงครับ
    บูชา 200 บาท

    IMG_25620219_144543.JPG IMG_25620219_144609.JPG
     
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1066 พระปิดตามหาลาภ (บรรจุตะกรุดทองคำ) หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง เสาร์5 อายุ 84 ปี พ.ศ. 2533
    การศึกษาพระเวทวิทยาคม หลวงพ่อเชิญเป็นพระอาจารย์ที่มีมากครูมากอาจารย์ เพราะท่านมีใจรักทางด้านพระเวทวิทยาคมมากกว่าการศึกษาด้านพระปริยัติธรรม เมื่อได้รับการปูพื้นฐาน โดยที่ หลวงพ่อเพิ่ม เป็นพระอาจารย์องค์แรกที่ถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆ ให้ อาทิ
    การศึกษาอักษรสมัยทั้งภาษาไทยและภาษาขอม การท่องบ่นมนต์คาถา การลงอักขระเลขยันต์ แพทย์แผนโบราณ ยาแก้กันกระทำคุณไสย์ นั่งเจริญสมาธิภาวนาพระกรรมฐาน ตลอดทั้งสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน มาตั้งแต่หลวงพ่อเชิญมีอายุเพียง 10 ขวบ
    ในคราวที่บวชเณรแล้วได้ติดตามหลวงพ่อเพิ่มไปซื้อซุงที่ชัยนาท ได้ไปกราบนมัสการ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อเพิ่ม หลวงพ่อเชิญจึงโชคดีได้วิชาบางประการมาจากพระปรมาจารย์อันยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงเกรียงไกรอย่างหลวงปู่ศุข
    เมื่ออุปสมบทในพรรษาแรกก็ไปขึ้นพระกรรมฐานกับ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก แล้วเดินทางไป ๆ มา ๆ ร่ำเรียนวิชากับหลวงพ่อจงมากมายเป็นระยะเวลาหลายปี
    หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค สหายทางธรรมของหลวงพ่อเพิ่ม ชอบมาพำนักที่วัดโคกทอง หลวงพ่อเชิญก็ฝากตัวเป็นศิษย์คอยปรนนิบัติรับใช้แล้วติดตามพายเรือไปส่งและพักเรียนวิชาที่วัดบางนมโคเป็นประจำ
    ในปี พ.ศ.2473 หลวงพ่อเพิ่มพาท่านไปฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์อีกรูปหนึ่งของท่านคือ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อกลั่นชราภาพมากแล้ว
    ในปี พ.ศ.2482 หลวงพ่อเชิญเกิดอาพาธด้วยโรคตาอักเสบจึงเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อพักรักษาตัวอยู่กับ หลวงปู่กล้าย วัดหงษ์รัตนาราม บางกอกใหญ่ เลยได้รับการแนะนำวิชาการต่าง ๆ จากหลวงปู่กล้ายอีกรูปหนึ่ง
    ขณะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เวลานั้นวัสดุก่อสร้างขาดแคลน การบูรณะวัดก็หยุดชะงักลง หลวงพ่อเชิญจึงถือโอกาสเรียนวิชาแพทย์แผนโบราณว่าด้วยสาขาเวชกรรมกับ ครูนพ ที่โรงเรียนประทีป ตลาดพลู เป็นเวลา 2 ปีด้วยกัน
    นอกจากนั้นยังมีพระอาจารย์เรืองวิชาที่มีชื่อเสียงในอยุธยาที่หลวงพ่อเชิญเคยไปขอศึกษาวิชามาก็มี หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน หลวงพ่อแจ่ม วัดบัวหัก และหลวงพ่อแพ วัดกลางคลอง ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นพระอาจารย์ยุคเก่าที่เรืองวิชาทั้งสิ้น

    บูชา 200 บาท

    IMG_25620219_144908.JPG IMG_25620219_144843.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2019

แชร์หน้านี้

Loading...