///วัตถุมงคล/เครื่องราง...เริ่มหน้า 72..//

รายการที่1115 ***พระผงหลวงพ่อเกษม เขมโก (มวลสาร จิตรลดา)*** พิธีมหาพุทธาภิเษก เสาร์๕ รุ่นกาญจนาภิเษก วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2539
พิธีมหาพุทธาภิเษก เสาร์๕ พระผงมวลสาร จิตรลดา รุ่นกาญจนาภิเษก วัดบวรนิเวศวิหาร

วันเสาร์ที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๓๙ (ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕)
รายได้เพื่อสมทบทุนสร้างอุโบสถ วัดอัมพุวราราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

วัดอัมพุวรารามสร้างอุโบสถถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสที่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี
มวลสารในการสร้าง
มวลสาร ผงจิตรลดา และผงจากสถานที่ต่างๆ ดังนี้
ผงจิตรลดาเก่า :ผงไพรีพินาศ ผงพระศาสดา ข้าวสารหิน จากวัดบวรนิเวศวรวิหาร
ผงจิตรลดาใหม่ :จากรุ่นโครงการหลวง CP สร้าง จากรุ่นผงจิตรลดาผสมพระเกษ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช พระองค์โสม สร้าง
ผงมวลสารวัดไชโย :รุ่นสร้างเขื่อน รุ่นประวัติศาสตร์ รุ่นทำน้ำมนต์
ผงมวลสารวัดปากน้ำ :รุ่น๔-๕-๖-๗ รุ่น ๑๐๐ ปี
ผงมวลสารจาก :หลวงพ่อเกษม หลวงพ่อคูณ หลวงพ่อแพ หลวงพ่ออุตตะมะ หลวงพ่อเปิ่น เส้นเกศาของ หลวงปู่หล้า ภูจ้อก้อ
ผงมวลสารจาก :หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อบ้านแหลม หลวงพ่อวัดเขาตะเครา หลวงพ่อพุทธชินราช จากดอยสุเทพ พระแก้วมรกต วัดไตรมิตร วัดศรีสุดา วัดจุฬามณี วัดพนัญเชิง หลวงพ่อมงคลบพิตร วัดหน้าพระเมรุ วัดนางพญา วัดพระธาตุพนม วัดช้างไห้ วัดเจดีย์หลวง พระธาตุดอยตุง พระธาตุดอยอินทนนท์
พิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันอังคารที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๙

สมเด็จพุฒาจารย์ วัดสระเกศฯ ประธานจุดเทียนชัย
พระเถราจารย์ทั่วประเทศ ๑๐๘ รูป นั่ง-ปรกอธิษฐานจิต
พุทธาภิเษกวาระที่ ๒ เสาร์ห้า ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร
พระครูวิสุทธิ์กัลยาณคุณ เจ้าอาวาส
บูชา 200 บาท

 

รายการที่1116 หลวงปู่ทวดพิมพ์พระรอด เนื้อผง วัดศรัทธาธรรม ต.บางจะเกร็ง อ.เมือง จ. สมุทรสงคราม มีด้วยกัน 2 พิมพ์ คือหงษ์ขาสั้นกับหงษ์ขายาว หลวงปู่หมุนเสก เจ้าอาวาสวัดศรัทธาธรรมและพยานบุคคลอีกหลายท่านยังอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นครับ
ปิดครับ

 

รายการที่1117 พระปิดตาพิมพ์นักกล้ามเล็ก หลังยันต์กระบองไขว้ เนื้อผงพุทธคุณ วัดอ่างศิลา ชลบุรี
บูชา 200 บาท

 

รายการที่1118 พระขุนแผนกุมารทิพย์ หลวงพ่อเขียว (หลวงปู่เขียว อินฺทโชโต) วัดระเว จ.นครราชสีมา ปี 47
หลวงปู่เขียว อินฺทโชโต วัดระเว จ.นครราชสีมา ท่านเก่งการลงนะ หน้าทอง ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อใหญ่ วัดระเว ยอดพระเกจิเมืองโคราชในอดีต ศิษย์สายหลวงพ่อหมา วัดระเว เจ้าของพระปิดตาคลุกรักพิมพ์หูกระต่าย ร่วมสมัยกับหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ พุทธคุณเด่นด้านเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม ประสบการณ์ดีครับ หลวงพ่อเขียวท่านก็เก่งจริงๆ พระเครื่องท่านเนื้อมวลสารยอดเยี่ยม ท่านหาว่านเอง โขก สับ บดมวลสารเอง กว่าจะสร้างพระได้แต่ละชุดใช้เวลานานมาก
บูชา 200 บาท

 

รายการที่1119 เหรียญหมอชีวกโกมารภัจจ์ หลังพระพิฆเนศ รุ่นสร้างพระอุโบสก วัดป่าบ้านขนาน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น พร้อมกล่องเดิม
เปิดประวัติ "หมอชีวกโกมารภัจจ์"แพทย์ประจำสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นบรมครูแห่งแพทย์แผนโบราณ พร้อมวิธีบูชา ให้ได้ผล!!
..ในอดีตกาลอันไกลโพ้นยุคสมัยของพระพุทธเจ้านามว่า "ปทุมุตตระ" มีชายคนหนึ่งเห็น ชายชราคนหนึ่งเดินเข้าออกอยู่ที่พระคันธกุฎีของพระพุทธเจ้าอยู่เป็นประจำ จึงถามให้หายสงสัย ก็ทราบว่าชายชราคนนั้นเป็น แพทย์ประจำพระองค์ของพระพุทธเจ้า จึงอยากเป็นบ้าง

ชายชราจึงบอกให้หนุ่มคนนั้นจงอธิษฐานเอาเพราะหน้าที่นี้ ในช่วงพุทธกาลมีได้แค่คนเดียวเท่านั้น

ชายหนุ่มแม้จะหายสงสัยแต่ก็เข้าไปถามโดยตรงต่อพระพุทธเจ้าเรื่องการอธิษฐานบุญให้เป็นไปได้ตามที่ต้องการนั้นมีจริงหรือไม่

"ดูก่อน การอธิษฐานจิตคือ การตั้งใจมั่นว่าจะทำอะไรและตั้งใจมั่นทำในสิ่งนั้นให้สำเร็จ การกระทำเช่นนี้ย่อมส่งผลต่อชาตินี้ ชาติหน้าและภพชาติต่อไป" พระพุทธองค์ตรัสตอบ

"โอ ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายภัตตาหารแด่พระองค์ ด้วยอานิสงส์นี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้เป็นแพทย์ประจำพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งในอนาคตด้วยเถิดพระเจ้าข้า"

"เอวัง โหตุ ขอให้คำอธิษฐานสัมฤทธิ์ดังท่านปรารถนาเถิด" พระพุทธองค์กล่าวอำนวยพร

เมื่อสิ้นชีวิตไปแล้ว ชายผู้นี้ก็ไปเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฎเป็นเวลานาน ต่อมาในช่วงพุทธกาลที่เมืองไพศาลีเขาก็ได้กำเนิดขึ้นอีกครั้ง

เขาเกิดเป็นบุตรนางโสเภณีนามว่า "สาลวดี" นางนครโสเภณีผู้ทรงเกียรติแห่งเมืองราชคฤห์ โดยพระเจ้าแผ่นดินทรงแต่งตั้ง มีเงินเดือนและค่าตัวสำหรับผู้ร่วมอภิรมย์อีกคนละ ๑๐๐ กหาปณะ (ประมาณ ๔๐๐ บาท)

ด้วยเพราะไม่ได้ตั้งใจให้เกิด เมื่อเกิดมาแล้วแถมเป็นชายเสียด้วย นางจึงไม่เลี้ยง สั่งให้เอาไปทิ้งที่หน้าประตูวัง เช้าตรู่วันนั้น เจ้าฟ้าอภัยกุมาร พระโอรสของพระเจ้าพิมพิสารเสด็จไปพบเข้า จึงนำไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมตั้งชื่อให้ว่า "ชีวกโกมารภัจจ์" (ชีวะกะ) แปลว่า ผู้ยังมีชีวิตรอดมาได้ ตอนเป็นเด็ก

ชีวกเป็นคนฉลาดมีปฎิภาณเฉียบคม ถูกเด็ก ๆ ในวังด่าเสียดสีว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ จึงมีความมานะจะเอาชนะหาความรู้ใส่ตัวให้ใครดูถูกไม่ได้

เขาหนีไปกับกองคาราวานไปยังเมืองตักกสิลา ฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชาแพทย์กับอาจารย์ทิศาปราโมกข์ เรียนอยู่ 7 ปีก็จบ ลาอาจารย์กลับบ้านเกิดเมืองนอน
โดยอาจารย์ให้เสบียงมานิดหน่อยหมดระหว่างทาง จึงต้องใช้วิชาความรู้ที่เรียนมารักษาโรคปวดหัวของภรรยาเศรษฐีเมืองสาเกต ที่เป็นมา 7 ปีแล้ว รักษาหมอที่ไหนก็ไม่หายสักที สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการปรุงยาขนานเดียว เขาจึงได้รับรางวัลถึง 4 พัน กหาปณะ

เมื่อกลับถึงเมืองราชคฤห์แล้วได้มีโอกาสรักษาโรคภคันทอาพาธ (โรคริดสีดวงทวาร) ของพระเจ้าพิมพิสารจนหายขาด พระเจ้าพิมพิสารจึงแต่งตั้งให้เป็นแพทย์หลวงประจำพระราชสำนัก ได้พระราชทานบำเหน็จจำนวนมาก รวมทั้งสวนมะม่วงด้วย

หมอชีวกได้ผ่าตัดเนื้องอกในลำไส้ของบุตรเศรษฐีชาวเมืองพาราณสี คนหนึ่งให้หายขาดจากโรคร้ายได้ แล้วได้ผ่าตัดสมองเศรษฐีชาวเมืองราชคฤห์คนหนึ่งจนอาการโรคปวดหัวหายขาด

ชื่อเสียงเกียรติคุณของหมอชีวกก็แพร่สะพัดไปทั่วเมืองว่าเป็น "หมอเทวดา" ชื่อเสียงได้ฟุ้งขจรไปยังต่างแดน ถึงเมืองอุชเชนีแคว้นอวันตีซึ่งอยู่ห่างไกล

พระเจ้าจัณฑปัชโชต กษัตริย์ผู้ดุร้ายประชวรด้วยโรคปวดพระเศียรข้างเดียวมาเป็นเวลานาน ๗ ปีแล้ว จึงส่งราชฑูตมาขอจากพระเจ้าพิมพิสารให้ไปรักษา หมอชีวกถวายการรักษาจนหายแต่ก็เกือบถูกประหารชีวิตเพราะพระเจ้าจัณฑปัชโชติไม่ชอบเนยใส หมอชีวกปรุงยาใส่เนยใสไว้

พระเจ้าจัณฑปัชโชติถึงกับสั่งคนตามล่าหาว่าหมอชีวกแกล้ง แต่หมอชีวกก็เอาชีวิตรอดกลับมาได้ด้วยปัญญาของตน

เมื่อพระเจ้าจัณฑปัชโชตหายประชวรแล้วทรงสำนึกในบุญคุณหมอชีวกจึงทรงส่งผ้ากัมพลหรือผ้าแพรเนื้อละเอียดอย่างดีสองผืนไปพระราชทานแก่หมอชีวก
หมอชีวกได้นำผ้าสองผืนนั้นไปถวายพระพุทธเจ้า จนเป็นเหตุให้พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้พระภิกษุสงฆ์รับผ้าสำเร็จทำชาวบ้านถวายได้แต่บัดนั้นมาทำให้คหบดี และชาวเมืองต่างดีใจพากันนำจีวรมาถวายพระเป็นจำนวนมาก

ในสมัยนั้น พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเวฬุวัน เมื่อบำเพ็ญพุทธกิจตลอดทั้งวัน ทรงมีเวลาพักผ่อนน้อย พุทธกิจ ๕ ประการคือ

- เวลาเช้ามืด ทรงตรวจดูอุปนิสัยสัตว์โลกที่ควรโปรด
- เช้า เสด็จออกบิณฑบาต หรือโปรดสัตว์
- เวลาเย็น ทรงแสดงพระธรรมเทศนาแก่พุทธบริษัท
- เวลาค่ำ ทรงให้โอวาทแก่ภิกษุสงฆ์
- เวลาดึก ทรงแก้ปัญหาเทวดา

พระวรกายของพระพุทธองค์จึงเกิดหมักหมมด้วยสิ่งอันเป็นโทษ พระพุทธองค์ต้องเผชิญอาการท้องผูกอย่างร้ายแรงเนื่องจากนั่งนาน

พระอานนท์จึงไปหาหมอชีวกแจ้งพระอาการของพระพุทธเจ้าให้ทราบ หมอชีวกได้ไปถวายยาถ่าย พระวรกายของพระพุทธองค์ได้กลับเป็นปกติดังเดิม และได้ถวายตัวเป็นแพทย์ประจำพระองค์ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา พร้อมทั้งถวายสวนมะม่วงให้เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าอีกด้วยโดยชื่อว่า "ชีวกอัมพวัน"



หมอชีวกได้ถวายการรักษาพระพุทธเจ้าอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระพุทธองค์ถูกพระเทวทัตลอบทำร้าย กลิ้งหินบนยอดเขาคิชฌกูฏหมายจะให้ทับพระองค์ให้สิ้นพระชนม์ แต่ก็ทำได้แค่ทำให้พระบาทของพระพุทธองค์มีพระโลหิตห้อเท่านั้นหมอชีวกได้ถวายการรักษาที่สวนมะม่วงนั้น

หมอชีวกตลอดชีวิตท่านยุ่งอยู่กับการรักษาโรคคนทั้งเมืองไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม แต่ท่านก็เป็นพระโสดาบัน ได้ใช้วิชาความรู้ที่เล่าเรียนมาบำเพ็ญประโยชน์แก่ชนหมู่มาก ช่วยเหลือผู้เจ็บไข้ไม่เลือกยากดีมีจน

ท่านได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ว่าเป็นเอตทัคคะในด้านเป็นที่รักของปวงชน ในที่สุด

อยากเป็นสิ่งใดท่านจงอธิษฐานและพยายามทำสิ่งนั้นให้สำเร็จเถิด หากเป็นสิ่งที่ดีงามแล้ว สิ่งนั้นย่อมสำเร็จผลแน่นอน

วิธีบูชา บรมครูหมอชีวกโกมารภัจจ์

พระคาถาบูชา บรมครูหมอชีวกโกมารภัจจ์

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสะฯ (๓ จบ)

“โอม นะโม ชีวะโก สิระสา อะหัง กะรุณิโก สัพพะสัตตานัง
โอสะถะ ทิพพะมันตัง ปะภาโส สุริยาจันทัง โกมาระภัจโจ
ปะกาเสสิ วันทามิ ปัณฑิโต สุเมธะโส อะโรคา สุมะนา โหมิ”

ข้าพเจ้า ขอกราบไหว้นมัสการบูชาต่อองค์บรมครูหมอชีวกโกมารภัจจ์ หมอหลวงประจำองค์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล ข้าพเจ้า (ชื่อ – นามสกุล) ขอตั้งจิตอธิษฐานกราบไหว้บูชาด้วย ความเคารพ โดยน้อมระลึกถึงองค์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ เป็นที่ตั้ง ดุจดั่งที่บรมครูหมอ มีศรัทธาเป็นมั่นคงต่อองค์พระสัมมาในสมัยพุทธกาล ขอบารมีของบรมครูหมอชีวกโกมารภัจจ์ ให้บรรดา โรคร้ายภัยเวรที่เกิดขึ้นในร่างกาย บรรดาโรคร้ายภัยเวรที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ ที่ทำให้เป็นทุกข์ และโรคร้าย ภัยเวรอันเกิดจากโรคเวรโรคกรรมทั้งหมดทั้งมวลนั้น ทำให้เกิดความทุกข์กายทุกข์ใจแก่ข้าพเจ้า บิดามารดา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท มิตรสหายของข้าพเจ้า จงมลายหายสิ้นไปด้วยบารมีของ บรมครูหมอชีวกโกมารภัจจ์ บารมีของบรมครูหมอชีวกโกมารภัจจ์ จงคุ้มครองพิทักษ์รักษาข้าพเจ้า (ชื่อ – นามสกุล) ไปตลอดปี ตลอดไป
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอให้ประสบความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรง สุขภาพกาย สุขภาพใจ มีความสมบูรณ์เป็นสุข ดุจดั่งพระพุทธองค์ได้ตรัสว่า “อะโรคะยา ปะระมาลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอัน ประเสริฐ ขอให้ความมีลาภอันประเสริฐ จงบังเกิดขึ้นตามคำอธิษฐานของข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ด้วยเทอญ

สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิลาโภ ชะโยนิจจัง ภะวะตุสัพพะทา

คำอธิษฐานโดย อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ

ที่มา :
สำนักพิมพ์เสบียงบุญ ธรรมทาน 19 บาท
และ โหรฟันธง ลักษณ์ เรขานิเทศ
บูชา 200 บาท

 

ได้รับพระแล้วครับ ขอบคุณสำหรับของแถมครับ

 

ขอบคุณครับ

 

รายการที่1120 ***พระผงหลวงพ่อแพ (มวลสาร จิตรลดา)*** พิธีมหาพุทธาภิเษก เสาร์๕ รุ่นกาญจนาภิเษก วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2539
พิธีมหาพุทธาภิเษก เสาร์๕ พระผงมวลสาร จิตรลดา รุ่นกาญจนาภิเษก วัดบวรนิเวศวิหาร

วันเสาร์ที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๓๙ (ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕)
รายได้เพื่อสมทบทุนสร้างอุโบสถ วัดอัมพุวราราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

วัดอัมพุวรารามสร้างอุโบสถถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสที่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี
มวลสารในการสร้าง
มวลสาร ผงจิตรลดา และผงจากสถานที่ต่างๆ ดังนี้
ผงจิตรลดาเก่า :ผงไพรีพินาศ ผงพระศาสดา ข้าวสารหิน จากวัดบวรนิเวศวรวิหาร
ผงจิตรลดาใหม่ :จากรุ่นโครงการหลวง CP สร้าง จากรุ่นผงจิตรลดาผสมพระเกษ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช พระองค์โสม สร้าง
ผงมวลสารวัดไชโย :รุ่นสร้างเขื่อน รุ่นประวัติศาสตร์ รุ่นทำน้ำมนต์
ผงมวลสารวัดปากน้ำ :รุ่น๔-๕-๖-๗ รุ่น ๑๐๐ ปี
ผงมวลสารจาก :หลวงพ่อเกษม หลวงพ่อคูณ หลวงพ่อแพ หลวงพ่ออุตตะมะ หลวงพ่อเปิ่น เส้นเกศาของ หลวงปู่หล้า ภูจ้อก้อ
ผงมวลสารจาก :หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อบ้านแหลม หลวงพ่อวัดเขาตะเครา หลวงพ่อพุทธชินราช จากดอยสุเทพ พระแก้วมรกต วัดไตรมิตร วัดศรีสุดา วัดจุฬามณี วัดพนัญเชิง หลวงพ่อมงคลบพิตร วัดหน้าพระเมรุ วัดนางพญา วัดพระธาตุพนม วัดช้างไห้ วัดเจดีย์หลวง พระธาตุดอยตุง พระธาตุดอยอินทนนท์
พิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันอังคารที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๙

สมเด็จพุฒาจารย์ วัดสระเกศฯ ประธานจุดเทียนชัย
พระเถราจารย์ทั่วประเทศ ๑๐๘ รูป นั่ง-ปรกอธิษฐานจิต
พุทธาภิเษกวาระที่ ๒ เสาร์ห้า ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร
พระครูวิสุทธิ์กัลยาณคุณ เจ้าอาวาส
บูชา 200 บาท

 

รายการที่1121 เหรียญเปิดโลก 9 เจริญ 9 มงคลหลวงปู่คำบุ กรรมการหลังเรียบ ตอกโค๊ด 9 เนื้ออัลปาก้า พุทธคุณเด่นด้าน เมตตา มหานิยม โชคลาภ สร้างน้อยหายากครับ หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมพู อธิฐานจิตเดี่ยววันที่ 5 ธันวาคม 2554
คุณสักการะ ปิดครับ

 

รายการที่1122 รูปหล่อ ลพ.เขียน ธมฺมรักขิโต วัดวังตะกู(สํานักขุนเณร) อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร
หลวงพ่อเขียนเดิม ชื่อ เสถียร เกิดเมื่อวันเสาร์เดือน 4 ปีขาล พ.ศ.2399 ที่บ้านตลิ่งชัน ตำบลชอนไพร อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นบุตรของนายทอง กับนางปลิด มีพี่น้องร่วมท้อง5 คน ท่านเป็นคนที่3 อายุได้12 ปี ท่านได้เข้าบรรพชา เมื่อปี พ.ศ.2411 ที่วัดทุ่งเรไร ในขณะที่เป็นสามเณร ได้ศึกษาอักขระและอักษรขอมจนอ่านออกเขียนได้ในเวลาอันรวดเร็จกรอปกับท่าน เป็นคนขยันมั่นขีดเขียน จนเจ้าอาวาสวัดทุ่งเรไรเปลี่ยนชื่อของท่านจาก เสถียร...เป็นเขียน...ตั้งแต่นั้นมาต่อมาเมื่อใกล้เวลาอุปสมบทท่านได้ลา สิกขาออกมาเป็นฆาราวาสอยู่ระยะหนึ่ง จนอายุครับ20 ปีพ.ศ.2420 ท่านจึงได้เข้าอุปสมบทที่วัดภูเขาดิน จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีพระอาจารย์ประดิษฐ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระอาจารย์สอนกับพระอาจารย์ทองมี เป็นพระกรรมวาจาจารย์
เมื่อท่านบวชเป็นพระได้ไม่นานโยมมารดาของท่านลบเร้าให้ท่านสึกเพื่อจะได้ แต่งงานกับหญิงที่ได้จัดหาไว้ให้ แต่ท่านปฏิเสธ เพื่อตัดปัญหาท่านได้เดินทางมาที่บ้านวังตะกู อำเภอบางบุญนาค จังหวัดพิจิตร ในปีนั้นทางวัดวังตะกูขาดพระจำพรรษา ทางกำนันตำบลวังตะกูและชาวบ้านได้นิมนต์ท่านให้จำพรรษาที่วัดนี้ ต่อมาท่านได้เริ่มศึกษา ปริยัติธรรมที่วัดเสาร์ธงทอง จังหวัดลพบุรีมีพระอาจารย์ทองป็นผู้สอนท่านอยู่ที่วัดนี้นาน9 ปี และหลวงพ่อเขียนได้เข้ามาศึกษาต่อที่วัดรังษี กรุงเทพมหานครมีท่านเจ้าคุณธรรมกิตติเป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้นต่อมาทางวัดรัง ษีจะโอนเป็นธรรมยุตนิกายแต่ท่านไม่ยอมจึงได้กลับมาที่วัดเสาธงทองอีกครั้ง ท่านกลับมาจำพรรษาที่วัดเสาธงทองได้9 พรรษา กำนันตำบลวังตะกูและชาวบ้านได้มานิมนต์หลวงพ่อให้มาจำพรรษาที่วัดวังตะกู หลวงพ่อเขียนท่านรับนิมนต์และได้มาจำพรรษาที่วัดวังตะกูอีกวาระหนึ่งตั้งแต่ นั้นมา
หลวงพ่อเขียนได้อยู่ที่วัดวังตะกูจนกระทั้งถึงปี พ.ศ.2491 กำนันเถาว์ ทิพย์ประเสริฐ์ บ้านสำนักขุนเณร ตอนนั้นท่านยังเป็นกำนันตำบลวังงิ้วพร้อมด้วยญาติโยมได้มานิมนต์ท่านให้ไปจำ พรรษาที่วัดสำนักขุนเณรซึ่งอยู่ห่างกันกับวัดวังตะกูเพียง5 กม.เท่านั้น หลวงพ่อท่านเดินทางไปมาระหว่าง2 วัดนี้มิได้ขาดจนปี พ.ศ.2493 หลวงพ่อเขียนจึงตัดสินใจจำพรรษาที่วัดสำนักขุนเณรตั้งแต่นั้นมา จวบจนปี พ.ศ.2507 หลวงพ่อเขียนท่านได้มรณภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อคืนวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2507 เวลา 23.50น. รวมสิริอายุได้ 108 ปี

...อภิญญา/บารมีธรรม
หลวงพ่อเขียน ธมฺมรกฺขิโต
วัดสำนักขุนเณร อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร
หลวงพ่อเขียน ธมฺมรกฺขิโต วัดสำนักขุนเณร อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ที่มีอภินิหารความศักดิ์สิทธ์เป็นที่เล่าลือกันมานาน แม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้วก็ตาม มีทั้งเรื่องราวที่เคยมีผู้เขียน
แล้ว และยังไม่ได้เขียนผู้เขียนจึงขอนำมาเล่าให้ฟังพอสมควรแก่เวลาและเนื้อที่
ดังเช่นที่ คุณวิเชียร นันทนพิบูล นายกยุวพุทธสมาคม อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร
ได้บันทึกไว้ดังนี้….
ข้าพเจ้าได้รับเชิญให้เป็นกรรมการวัดสำนักขุนเณร คราวนั้นวัดจะจัดพิธีพุทธาภิเษกเพื่อหาทุนมาบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะในวัด มีจดหมายแจ้งมาให้ข้าพเจ้าในวันเวลาที่กำหนดเป็นเวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น.เศษ เมื่อใกล้จะถึงเวลาข้าพเจ้าก็เตรียมรถจักรยานยนต์คู่ชีพเพื่อออกเดินทางไป ประชุม พอจะออกเดินทางก็มีพายุฝนตั้งเค้าทะมึนมา ลมพัดแรงทำท่าว่าฝนจะเทกระหน่ำลงมาในไม่ช้านี้ ข้าพเจ้าจึงเข็นรถจักรยานยนต์เข้ามาเก็บ และตัดสินใจว่าจะไม่ไปประชุมเพราะหากฝนตกลงมาขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเดินทางละ ก็จะยุ่งกันใหญ่ คิดไปคิดมาแล้วก็เป็นห่วงการประชุมเพราะหากว่าทางคณะกรรมการรอข้าพเจ้าก็จะ ทำให้เสียเวลาเปล่า จึงออกมายืนหน้าบ้านขณะที่ลมพัดแรงแล้วพนมมือหันหน้าไปทางวัดสำนักขุนเณร ปากก็บอกหลวงพ่อเขียนว่า หากบารมีหลวงพ่อเขียน
มีจริง ขอให้ไล่ฝนไปให้พ้นด้วยเถิดผมจะได้ไปประชุมได้ทันเวลา พอข้าพเจ้าบอกท่านเสร็จแล้วก็ยืนดูเหตุการณ์ ปรากฎว่าท้องฟ้าเริ่มแปรปรวน ลมพัดมาจากไหนไม่รู้หอบเอาเมฆฝนกระจายไปหมดเพียงไม่ถีง ๑๐ นาที หลังจากที่ข้าพเจ้ายกมือพนมบอกกับหลวงพ่อเขียนข้าพเจ้าจึงเข็นรถจักรยานยนต์ คู่ใจออกมาข้างนอก สตารท์เครื่องแล้วขับบึ่งไปวัดสำนักขุนเณร ไปถึงเวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น.
พวกคณะกรรมการเห็นข้าพเจ้ามาก็พากันดีใจ การประชุมจึงดำเนินไปจนเสร็จสิ้น จากนั้น ข้าพเจ้าได้นั่งอยู่ที่กุฏิหลวงพ่อเขียนพักหนึ่งแล้วนมัสการลากลับ เมื่อออกจากวัดสวนทางกับกำนันที่เป็นกรรมการวัดคนหนึ่ง กำนันพูดถึงเรื่องประหลาดก่อนหน้าที่จะมีการประชุมว่าเมื่อถึงเวลา ๑๔.๐๐น คณะกรรมการได้ไปนมัสการเรียนหลวงพ่อเขียนให้เปิดการประชุม แต่หลวงพ่อเขียนท่านส่ายหน้า พูดว่า "ประเดี่ยวมันก็มาน่อ รอให้มันมาก่อนพายุฝนขวางทางมันอยู่มันมาแน่ นั่งรอก่อน มันไม่ได้ต้องการไม่มาประชุมน่อ” ทุกคนก็รอ หลายคนเริ่มบ่นว่าข้าพเจ้าไม่รักษาเวลา จนในที่สุดข้าพเจ้าก็มาถึง กำนันถามข้าพเจ้าว่าที่หลวงพ่อพูดมาถูกต้องหรือไม่ ข้าพเจ้าจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าให้กำนันฟัง กำนันจึงบอกข้าพเจ้าว่าหลวงพ่อท่านแน่จริง ๆ แม้ข้าพเจ้าอธิษฐานจิตอยู่ไกลออกไปท่านยังรับรู้ได้ เรื่องนี้ข้าพเจ้ายังระลึกถึงบารมีของหลวงพ่อเขียนไม่รู้ลืม....
อีกเรื่องหนึ่ง ภรรยาของคุณวิเชียรป่วยเป็นไข้ทับฤดู ไข้นี้รักษาแผนปัจจุบันไม่หาย ต้องกินยาต้มแผนโบราณ ภรรยาของคุนวิเชียรจึงนอนซมอยู่กับบ้านด้วยความทรมาน คงมีคนไปกราบเรียน
หลวงพ่อเขียน ท่านจึงเดินทางมาจากวัดสำนักขุนเณร มาเยี่ยมภรรยาของคุณวิเชียรที่บ้านเมื่อมาถึง
หลวงพ่อเขียนพูดกับคุณวิเชียรว่า “ไม่เป็นไรน่อ เดี่ยวก็หาย”
กล่าวจบหลวงพ่อเขียนก็หันมาทางคุณวิเชียร สั่งให้ไปหาลวดมาสามสี่เส้น ท่านจะทำพิธีมัดไข้ให้หมดฤทธิ์ หลังจากนั้นหลวงพ่อเขียนก็เสกลวดสี่เส้นอยู่นานพอสมควร จึงนำมามัดเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว แล้วให้นำไปทิ้งน้ำปรากฎว่าอาการไข้ของภรรยาคุณวิเชียรลดลงเป็นปกติ ชาวบ้านที่มานมัสการหลวงพ่อเขียนที่บ้านคุณวิเชียร ตีความหมายที่หลวงพ่อสั่งให้คุณวิเชียรไปหาลวดมาสามสี่เส้นเป็นตัวเลขหวยว่า ๓ - ๔ ปรากฎว่าวันหวยออก เลขท้ายสองตัวเป็นเลข ๓๔ ตรง ๆ ไม่ต้องกลับ ชาวบ้านรวยเละแต่คุณวิเชียรไม่ได้เล่นหวย
มีนักปฏิบัติทางจิตรายหนึ่งเขียนจดหมายมาเล่าประสบการณ์ ให้คุณวิเชียรฟังเป็นความว่า
ผมเขียนจดหมายมาหาคุณเพื่อจะให้คุณช่วยบันทึกเอาไว้ และเอาไปเผยแพร่ให้กับผู้เคารพนับถือ
หลวงพ่อเขียนฟัง ว่าแม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้วแต่ดวงวิญญาณของท่านยังรับรู้เรื่องราวความ ทุกข์ยากของผู้เคารพนับถืออยู่เสมอ ผมปฏิบัติทางจิตมานานจนสามารถติดต่อกับดวงวิญญาณของ
หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณรได้ ผมจึงปฏิบัติทางจิตจนพบท่าน ผมกราบเรียนท่านว่า ขอบารมีของหลวงพ่อช่วยนำลูกสาวของผมกลับคืนมาด้วยเถิด ท่านบอกกับผมว่า “โยมมีเคราะห์แต่ตอนนี้หมดเคราะห์แล้ว อาตมาจะทำให้เจ้าหนุ่มที่ทำผิดธรรมเนียมประเพณีนำลูกสาวโยมกลับมาคืนถึง บ้าน”
ไม่นานนักเจ้าหนุ่มนั้นก็นำลูกสาวผมมาคืนถึงบ้าน เขากราบเท้าขอโทษผมแล้วบอกว่า
“ ผมทำผิดไปแล้ว หลวงพ่อเขียนท่านไปเข้าฝันผมทุกคืนซ้ำ ๆ กันบอกว่าผมทำให้เสียชื่อคนพิจิตร อีกอย่างพ่อของสาวที่ผมไปพาหนีมา เป็นนักปฏิบัติทางจิตได้ไปขอให้ท่านช่วยนำลูกสาวกลับคืนบ้านด้วย หลวงพ่อท่านก็ได้รับปากไปแล้ว จึงให้ผมนำลูกสาวเขาไปคืนจนถึงบันไดบ้าน หากยังไม่ทำตาม พ้นเจ็ดวันไปแล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะก็ จะมาโทษท่านไม่ได้เพราะท่านได้บอกไปแล้ว”
วัดวังตะกู อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร เป็นวัดที่หลวงพ่อเขียนอุปถัมภ์มาโดยตลอด
ช่วยสร้างโบสถ์จนสำเร็จ ประกอบพิธีเททองหล่อพระประธานและพระอัครสาวกซ้ายขวาไว้ประจำโบสถ์มีพุทธลักษณะงดงามมาก
เช้าวันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ พระที่ออกบิณฑบาตพบว่าประตูโบสถ์ถูกงัดเปิดออก รูปหล่อพระอัครสาวกซ้ายขวาถูกนำออกมาพิงไว้ข้างเจดีย์บรรจุอัฐิ นายมานพ จันทร์พวง
จึงไปแจ้งให้เจ้าอาวาสทราบ และเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.อ.บางมูลนาก ให้มาตรวจสถานที่เกิดเหตุ
พบว่าคนร้ายได้ตัดกุญแจโบสถ์แล้วขนเอารูปหล่อพระอัครสาวกซ้ายขวา ออกมาเตรียมจะนำขึ้นรถบรรทุกที่จอดรออยู่ ( เพราะพบรอยรถบรรทุกอยู่นอกกำแพงวัด ) ครั้นแบกออกมาแล้วนำขึ้นรถ
ปรากฎว่ารถสตาร์ทไม่ติด แก้ไขอย่างไรก็ไม่เป็นผล เวลาผ่านไปจนเกือบรุ่งสว่าง เห็นท่าไม่ดีจึงช่วยกันหามรูปหล่อพระอัครสาวกกลับเข้าไปพิงไว้ข้างเจดีย์ บรรจุอัฐิแล้วกลับมาสตาร์ทรถใหม่ ปรากฎว่าเครื่องติดจึงรีบขับหนีออกไปแบบมือเปล่า เรื่องนี้เชื่อกันว่าเพราะบารมีดวงวิญญาณของหลวงพ่อเขียนท่านมาคุ้มครอง สมบัติวัดเอาไว้นั่นเอง
สำหรับชาวพิจิตรแล้วมีความเคารพนับถือหลวงพ่อเขียนตั้งแต่ครั้งท่านยังมี ชีวิตอยู่ จนแม้ท่านมรณภาพไปแล้ว รูปหล่อหลวงพ่อก็มีผู้ไปบนบานศาลกล่าวไม่ขาดสาย จนองค์ท่านถูกปิดทองจนหนาเตอะ น้ำมนต์หน้ารูปหล่อต้องเติมกันวันละหลาย ๆ รอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไปท้าสาบานกัน
หน้ารูปหล่อของหลวงพ่อเขียน อย่าได้ทำเป็นเด็ดขาด เพราะคนที่ผิดคำสาบานจะถูกลงโทษอย่างหนัก
ตามคำที่กล่าวต่อหน้าท่าน เพราะเมื่อตอนหลวงพ่อเขียนยังมีสังขาร วาจาท่านศักดิ์สิทธ์นัก พูดอย่างไรเป็นไปที่ท่านพูดทุกประการ
หากท่านผ่านไปอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ควรหาเวลาไปนมัสการรูปหล่อของ
หลวงพ่อเขียนเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว ส่วนวัตถุมงคลของท่านหากมีไว้ก็รักษาไว้ให้ดีเพราะหาไม่ได้อีกแล้ว......ขอบคุณข้อมูลจากคุณอ้วน พิจิตร
บูชา 200 บาท

 

รายการที่1123 นางกวัก หลวงพ่อแดง วัดฝาโถ สุพรรณบุรี เนื้อสัมฤทธิ์
นางกวักเนื้อสำริด ใบหน้าอิ่มเอิบ ดูใจดีมากๆ มีไว้จะเจริญ พูดจาคนรักเมตตาสงสาร แคล้วคลาดอันตราย ค้าขายจะเจริญร่ำรวย เหลือกินเหลือใช้ เรียกว่าดีทุกอย่าง
บูชา 200 บาท

 

รายการที่1124 พระผงหลวงปู่ทวด พิมพ์เตารีด (หลังหงษ์) วัดศรัทธาธรรม จ.สมุทรสงคราม ( หลวงปู่หมุน ปลุกเสก 1 ไตรมาส )
หลวงปู่ทวดหลังหงษ์หลวงปู่หมุนฐิตสีโลปลุกเสก ปี2543 วัดศรัทธาธรรม ต.บางจะเกร็ง จ.สมุทรสงคราม หลวงปู่หมุนปลุกเสกหนึ่งไตรมาสเต็ม พระดี พิธีใหญ่ เนื้อผงสีเทาดำ รุ่นนี้มีสองพิมพ์คือ 1.พิมพ์ด้านหลังหงษ์ยืน 2.พิมพ์ด้านหลังหงษ์นั่ง สำหรับองค์นี้พิมพ์ด้านหลังหงษ์นั่ง
ปิดครับ

 

จองแล้วครับ

 

จองแล้วครับ

 

รายการที่1125 เหรียญจตุคามรามเทพ รุ่นเจ้าสัวสยาม ปลุกเสก วัดมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ.2550 ขนาด 2 ซ.ม.
บูชา 200 บาท

 

รายการที่1126 พระสมเด็จบางขุนพรหม เนื้อเหลืองขมิ้น รุ่นอภินันท์ 36 พุทธาภิเศกบางขุนพรหม พร้อมกล่องเดิม
บูชา 200 บาท

 

รายการที่1127 เหรียญหลวงพ่อเพิ่ม วัดสรรเพชร นครปฐม ปี22 ที่ระลึกทำบุญครบอายุ 81 ปี
บูชา 200 บาท

 

รายการที่1128 หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง เหรียญรุ่น 42 (เหรียญ 1 มีนาคม ปี 21 )
บูชา 200 บาท

 

รายการที่1129 พระผงแก้วสามดวง "พิมพ์เตารีด" หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค จ.นครสวรรค์ ต้มยา 100 ปี 2554
บูชา 200 บาท

 

รายการที่1130 เทพสาริกาคู่ ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ วัดป่ามหาวัน จ.นครราชสีมา สุดยอดเทพเจ้าแห่งสาริกา""หลังฝังพลอย
บูชา 200 บาท