วันนี้ ดีใจสุดๆ พบความรู้อารมณ์ใหม่จากสติ เห็นเกิดดับจากการเสพกามแค่ขณะจิตเสร็จสับ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย somkiatfem, 22 ตุลาคม 2016.

  1. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    วันนี้ ดีใจสุดๆ พบความรู้อารมณ์ใหม่จากสติ เห็นเกิดดับจากการเสพกามแค่ขณะจิตเสร็จสับ
    วัตถุประสงค์ในการบรรยายนี้เพื่อ ช่วยยืนยันให้กับผู้ที่เคยผ่าน อารมณ์นี้มาก่อน เเละเป็นกำลังใจเเนวทางต่อผู้ที่กำลังปฏิบัติซึ่งจะผ่านมาถึงอารมณ์ทำนองนี้ครับ

    หลังจากที่ผม พยายามพ้นกิเลส ด้วยสาระพัด วิธี ทั้งสู้ เเละถอย กิเลสก็ค่อยๆเบาลงเรื่อยๆ ยกตัวอย่าง ต้องการเสพกาม เเต่ก่อนโน้นหลายเดือนก่อน 5-6 เดือน ยังต้องการละเมียนละไมในการเสพกามให้ อื่มสมอารมณ์หมาย พอนานๆเข้า สะสมตัวสมาธิ บวก วิปัสนา ปัสนึกคิด การตั่งใจเสพกามก็ ลดเวลาลง เรื่อยๆๆ เเต่ไม่เคยคิดเลยว่า สุดท้ายวันนี้จะพบตัว สติบอก การ เกิดดับที่รวดเร็ว เเค่ขณะจิต ไม่ใช้หลักนาที เป็นหลักวินาทีเท่านั้น เเค่ไม่ได้เกิดจากการเสพจริง มาเพียงความคิด เเละดับไป

    พูดอีกแบบก็คือ เสพในความคิดนั้นเอง เเละรู้สึกความอยากในกามก็หายไปเองวูบ ต้องวูบนี้เองสติบอกให้รู้ว่า ดับเเล้ว ก็แแปลกใจอารมณ์นี้ไม่เคยเกิด ไม่เคยรู้ มีแบบนี้ด้วย

    รู้สึกว่าเป็นความรู้ใหม่ ก็อยากเเชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ พี่น้อง ทั้งหลายเพื่อการปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์ในชาตินี้ ไม่ใช้เหตุอื่นใดครับ
     
  2. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    คล้ายๆ ฝันเปียกป่ะ
     
  3. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ขอบคุณมากครับสำหรับคำถามเพราะผมคงอธิบายไม่ละเอียด มีส่วนคล้ายครับ ตรงที่ ฝันเปียกจะ ต้องการจริงๆจังๆ เเละสุดท้ายเปียก เเต่กรณีนี้ เมื่อเปิดใจที่จะเสพปั้บ เกิด เเละ ดับวูบลงไม่ทันได้เปียกครับ ผม

    หรือคล้ายๆ กับจะไปนอกบ้านเเล้วพอเดินข้ามประตูออกไปพ้นหนึ่งก้าว เเล้วก็หายอยากเดินถอยกลับบ้านครับ

    ขอเพิ่มเติมครับ

    อีกอารมณ์หนึ่งที่ ควบคู่กันมาคือ การกินอาหาร เเต่ก่อนผมจะซื้ออาหารที่ชอบกินมากิน อาทิตย์ หรือ เดือนละครั้ง เดียวนี้ผมกินตามที่มี เเละเวลาก่อนกินก็ยังเลือกที่ถูกใจที่สุดอยู่ เเต่เวลามากินเเล้วก็ ลืมรสมันไป กำหนดว่ากินเพื่ออิ่ม ปากก็กินไป กลืนไปเเค่นั้น ครับ ตอนนี้ก็ทรงอารมณ์ แบบนี้ครับ

    พอพูดไปก็นึกได้อีก เมื่อวานนอนอ่านหนังสือ ยุงมาบินกวน นึกขึ้นว่ายุงมาเล่นดลตรีให้ฟัง เพราะมันไม่ได้มากัด บินอยู่นั้นเเหละก็คิดไปในทางที่ดี เเต่เรื่องจริง สาบานให้ตาย ไม่กี่วินาที เสียยุงมันบินหายไปเฉย เเละพิจาราณาเพิ่มในวันนี้ก่อนที่อารมณ์เเรกในประเด็นนี้จะเกิดขึ้นคือ พินาว่า ถ้ายุงมันจะกัดเรา ก็ถือว่า ตอบเเทนบุญคุณ ที่มันมาเล่นดลตรี เสียงบินให้เราฟัง (วันนี้ยุงก็มาวันที่ สอง ก็เหมือนกันครับ มาแปปเดียวก็บินหายไป)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2016
  4. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    เหตุในครั้งนี้ไม่ พ้น บารมีนายหลวง เเละหลวงพ่อ

    ผมฟัง นายหลวงตรัสว่าเกิดเป็นคนต้องอดทน ถึงจะสำเร็จ ผมจำข้อนี้ครับ

    เเละผสมกับ คลิปของหลวงพ่อที่พูดถึงนายหลวง เเละคลิปอื่นๆของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่เคารพยิ่ง ผสมๆกันก่อให้เกิดกำลังใจ เป็นไปตามธรรมชาติ
    คล้ายๆ ใบไม้เเห้งที่ เจออากาศร้อนๆ มันก็ลุกไหม้ขึ้นมา ใบไม้เปรียบเหมือนกิเลสที่เเห้ง ไฟคือพลังใจที่ได้รับบารมีของท่านมาเพื่อ เผากิเลส ครับ เป็นการเปรียบเฉยๆ ของจริงกิเลสยังดิ้นได้ยังสดๆครับ
     
  5. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    หลังจากผมตั่งกระทู้นี้ จนถึงตอนนี้ ผมก็พยายามลอง จะเสพกิเลส ทั้งโทสะ ราคะ ดูอารมณ์ใจ ก็รู้สึกว่าอิ่ม เเละตึงๆ คือยังใช้ต้องพื้นฐานกำลังใจต่อต้านกิเลสอยู่บ้าง จนถึงวินาทีนี้ ผมรู้สึกเบื่อจริงๆ ผมเหนื่อย กับความวุ่นวายของอารมณ์ เหมือนคนหมดอะไรตายอยาก อยากที่จะถือดี อย่างกระทู้ที่ผมพูดคุยในเวปนี้ผมก็เบื่อ พูดเเล้วก็เเล้วกันไปขี้เกลียดตามอ่าน ถือว่าเราเจตนาดี ใครว่าไม่ดีก็ตามใจเขา ใครว่าดีก็เอาไปทำต่อ

    เเต่ที่ผมยังมากล่าวข้อความนี้ เพื่อจะเหมือนการบันทึก ความทรงจำอารมณ์ใจของผมไว้ ก็เพื่อประโยชน์ทั้งตัวผมเองจะได้ย้อนมาดู เผื่อว่าผมจะผ่านเเล้วผ่านเลย เเต่ถ้ายังไม่ผ่านมีย้อนลงไปเลวกว่าเดิมก็จะได้รู้เตือนสติตัวเองเอาไว้ เเละเพื่อแชร์ประสบการณ์สู่เพื่อนๆ พี่ๆทั้งหลาย ครับ

    คือส่วนตัวผมก็ไม่ได้ไว้ใจความฟุ้งของจิต ความฟุ้งยังมีเเน่ เเต่ผมรู้สึกว่า มันมีอัตราเร่งของการลดลงของกิเลสมากเหมือน การขับรถลงจากภูเขา เเละในทางตรงกันข้ามกับคนที่เพิ่งฝึกมันยากเหลือเกินกับการต่อสู้กับกิเลส เดียวก็เเพ้เด้งกลับไป บางคนหมดกำลังใจ ทำๆหยุดๆ ส่วนนี้ผมก็เขียนขึ้นเพื่อจะเป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติว่าเมื่อท่านถึง ส่วนยอดของภูเขาเเล้ว คือคุมกิเลสได้เเล้ว ต่อจากนี้ตัวกิเลสจะฝ่ออย่างรวดเร็ว เหมือนการขับรถลงจากภูเขา

    ที่ผมมาเล่านี้ก็ถือว่ามีความฟุ้งอยู่ ยังมีตัวอยากคุยอยากโม้อยู่ หวังว่าคงจะไม่ว่ากันนะครับ

    แก้ไข เพิ่ม

    ความรู้สึกของ ขาลงของกิเลสก็คือ ยังมีกิเลสครบ เเต่คุมมันได้ เช่น อยากติคน ก็พูดด้วยสติเหตุผล ไม่ผสมโทสะเข้าไป หรืิอ อยากเสพกาม เเค่ก็คุมได้พิจาราณานิดเดียว จิตก็เฉยไป ไม่ติดค้าง(อารมณ์ไม่ค้างท่อ) เป็นต้นครับผม

    ต้องขออถัยด้วยนะครับ ผมอ่านของตัวเอง ก็รู้สึกว่าผมมันขี้โม้อยู่เหมือนกัน เเต่ด้วยเจตนาที่ต้องการสื่อตรงไปมา ก็พยายามใช้คำพูดโม้น้อยสุดละครับผม ขออภัยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2016
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    40,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,014
    เอาเพลงมาฝากค่ะถ้ามันมาอีก๑๐๐ครั้งขอให้ชนะ๑๐๐ครั้ง(มาอีกแน่ๆ)
    บทสวดมนต์ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ทำนองอินเดีย พร้อมคำแปล


    เธอผู้ไม่แพ้ ตลอดกาล;-
     
  7. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ขอบคุณมากครับ

    พอดีผมเข้ามานี้เพราะรู้สึกอยากหา ผู้เจริญกว่าผ่านมาเเล้ว สอบถามเเชร์ประสบการณ์ ดีจังเลย ไม่เหนือยเจอพอดี ขอบคุณมากครับ ผมก็กลัวผมเองขี้มโน

    เรียนเชิญ ผู้ผ่านมาเเล้ว เเนะนำสั่งสอนด้วยครับ
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    40,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,014
    [ame]https://www.youtube.com/watch?v=oZXlgoZmiIc&index=1&list=PLPvOAx7rfxuepcKCi8P8CysC4BRUqsNMo[/ame]
    โกปิโก้ โกยารักษ์;-Published on Feb 15, 2015

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ : ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2016
  9. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    1 อาทิตย์ผ่านไป ผมเริ่มทบทวน การควบคุม กามราคะ โทสะ ว่าทำไมถึงชนะมันได้ คือคุมได้ เเล้วดับไป (เชื้อยังมี เเต่ ณ เวลานั้นดับจริงๆเหมือนไม่เคยมีอารมณ์กามราคะเกิดขึ้น)

    ปัจจัยที่ชนะได้คือรู้สึก เหนื่อย เเละเบื่อตามมา เหนื่อยมาจาก การที่มีสมาธิเป็นตัวสติบอกเวลาเราอยากเสพกาม จะรู้สึกว่า หัวใจเต้นเเรง หน้าตึงหน้ามืด เส้นเลือดในร่างกายมันสั่น ลมหายใจติดขัด ตรงนี้เองทำให้รู้สึกถึงความลุ่มร้อน อึดอัด เป็นตัวหักล้างกิเลสได้อีกในชั้นที่ 2

    ส่วนการหักล้างกิเลสชั้น ที่1 มาจากการ เจริญสมาธิส่งผลให้ สมาธิขั้นพื้นฐานของจิตยกระดับขึ้นมา(พลังจิต หรือ ทำการใดจะสำเร็จได้ง่าย คือจดจ่อให้ความสำคัญ ในจุดนั้นๆ เอาจริงจังในความดีหรือชั่วก็เเล้วเเต่) จากนั้นผสมกับ วิปัสนา คือการพิจาราณาเห็นถูกต้องตามธรรมชาติที่จะต้องเป็นไปเช่นนั้นเอง ไปคัดขืนไม่ได้ เช่น อสุภ อุจจาระ คนแก่ ความเหม็นในกาย เมื่อพิจาราณาบ่อยเข้าจะไวขึ้น ไวจนเป็นอารมณ์ เเละถูกเพิ่มความเเข็งเเกร่งหุ้นเกราะจากสมาธิ ส่งผลให้เกิด พลังการหักล้างกิเลสในขั้นที่ 1 การผสม ภวานา เเละวิปัสนา คล้าย คันธนู(ภวานา)กับศร(วิปัสนา ความเฉียบทางปัญญา) หรือ น้ำกับน้ำมัน(เกิดพลังไฟเผากิเลส)

    สรุป คือ ฝึกสมาธิ บ่อยๆ ฝึก วิปัสนาควบคู่บ่อยๆ สะสมไปสิ่งเหล่านี้จะค่อยขับไล่ความฟุ้งในใจเเละเเทนที่ด้วยความสงบไปเรื่อยๆ ความฟุ้งได้แก่ ฟุ้งในทุกข์ เเละสุข เป็นพ่อเเม่ของกิเลส ดับไปสิ่งหนึ่ง ที่เหลือก็ดับไปด้วย คือ ลดสุข ก็ลดทุกข์ ใช้เงินมาก ก็ต้องหาเงินมาก เป็นต้น

    เมื่อกิเลส เจอ หักล้าง 2 ชั้น เมื่อกิเลสจาง ความว่างก็เเทนที่ สงบสุข คุมได้ ชนะไป ถ้ากระบวนการนี้เกิดบ่อยๆ ต่อไปกระบวนการนี้จะลดเวลาลงไปเรื่อยๆ จนเข้าใกล้ 0.001 วินาที ไปเรื่อยๆ
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ได้อ่านจาก #Rep แรกแล้วทราบได้เลยว่าปฏิบัติมาจริงครับ
    ซึ่งกิริยาที่เกิดมันจะเหมือนที่คุณเข้าใจและสัมผัสมานั่นหละครับ..
    เด่วต่อไป มันจะพัฒนาคือ จิตไม่เอาไม่เกาะเลยครับ
    จิตเนี่ย ถ้ามันได้ตัดเรื่องอะไรออกแล้ว ต่อให้เรานึก เราคิด
    มันก็จะไม่เกิดอีกนะครับ...เด่วถ้าผ่านเรื่องนี้ได้ถึงขั้นละเอียด
    อีก ๒ ถึง ๓ ปีข้างหน้าให้ระวังไว้ก่อนครับ มันอาจจะกลับมาได้อีก
    และช่วงนี้ มันจะเปลี่ยนไปเรื่องอื่นๆที่เรายังอ่อนอยู่แทนครับ
    วิธีการและหลักการในการผ่าน ก็คล้ายๆวิธีที่คุณได้ทำมานั่นหละครับ..
    แต่ถ้า จะให้แนะนะครับ ให้เพิ่มอีกอย่างหนึ่งก็คือ
    '' ต้องมีความเด็ดขาดในการตัด ไม่ว่า
    กิเลสเรื่องอะไรก็ตามที่เรารู้จากกำลังสติทางธรรมของเรา
    ก็ตามที่เรายังอ่อนอยู่ครับ ''

    และขอแทรกทริคให้อีกอย่างหนึ่งนะครับ
    คุณจำสภาวะเสี้ยววินาที ที่มันตัดตรงนั้นได้ไหม...
    คุณสังเกตุสภาวะตรงนี้ได้ทันมากขึ้นเท่าไร..
    ตรงนี้หละครับ ที่กำลังสติเราจะพัฒนาเป็นมหาสติได้ครับ
    ..เพราะทั่วๆไปเราไม่ค่อยได้สังเกตุเพราะมักจะสังเกตุไม่ทัน
    ว่ามันขึ้นเกิดเพราะอะไร ก่อนที่มันจะตัด
    และไม่ค่อยได้สังเกตุว่ามันดับไปตอนไหน
    เรามักจะรู้แต่ตอนหลังจากที่มันดับไปแล้ว...
    การพัฒนาสติให้เป็นมหาสติได้นั้นก็จาก
    การสังเกตุตรงนี้ให้ทันให้เห็นชัดมากขึ้นนี่หละครับ
    ที่ส่วนตัวเล่าก็ไม่ใช่ว่าจะเก่งหรือชำนาญนะครับ
    แต่พอเคยมีประสบการณ์มาบ้าง
    ถ้าคุณทำได้ ไม่ต้องห่วงนะครับ กำลังสติมันจะตามรู้ทุกเรื่อง ตามรู้เหตุ
    ทุกเรื่องที่เข้ามาจนจิตรู้เห็นตามความเป็นจริงและปล่อยวางได้ทุกเรื่อง
    ที่พูดนี่เร็วมากนะครับ ก็หลักเสี้ยววินาทีนั่นหละครับ
    ที่นี้ เราจะพบกับกิริยาที่จิตคลายตัวได้เองแบบธรรมชาติ
    ในระหว่างใช้วิตปกติได้นานขึ้นด้วยตัวเราเองได้ครับ...
    ปล ขอให้โชคดีนะครับ (^_^)ยินดีด้วยเน้อ อ่านแล้วดีใจแทน
     
  11. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ด้านภวานา สติเห็นดับ จิตพุ่งเคลื่อนไป

    7วันหลังสุดนี้ เริ่มกลับมานั่งสมาธิ คือเมื่อคืน ได้พบประสบการณ์ใหม่ เล่าย้อนกลับไปนิดนึงช่วงหลังๆนี้ {ส่วนมาจะใช้สติในชีวิตประจำวันไปกับ รู้กาย เเต่ไม่ได้ใช้เพื่อการรู้ลมหายใจ เเต่ก็รู้สึกว่า ตัวเองไม่ค่อยหายใจระหว่างวัน เป็นไปได้ 2 อย่างคือ ไปเน้นรู้กายมากเเทน หรือ จิตมีความสงบมากขึ้น กายจึงทำงานแบบเงียบๆ หรือ ทั้ง2 อย่าง} กลับมาเรื่องเมื่อคืน ผมฟังคลิปหลวงพ่อฤาษีนิดนึง เรื่องอารมณ์ทิพย์ อุปจารสมาธิ ผมจับคำว่าอารมณ์ เเล้วพยายามหาอารมณ์ที่มีคุณภาพนั้น หรือ สมาธิขั้นสูงก็ได้ ผมลืม theory ทุกอย่างขณะนั่งสมาธิ เน้นความสงบอารมณ์ จนผ่าน ปิติ เเละต่อมา สิ่งที่เหลืออยู่คือความสั้นของระบบหัวใจ เเละเสียง ไม่เเน่ใจว่า สมาธิตกลงหรือไม่ คือผมก็ไม่สนใจอะไรมาก ต่อมาคิดว่า จิตกับ กายเป็นคนละอย่าง เราจะไม่สนใจในกายเพื่อ คุณภาพจิตที่ดีกว่านี้ จับอารมณ์ไร้กายช่วย ไม่นานนัก ก็หาลมหายใจไม่เจอ บางทีลองนึกกลับมาหาลมหายใจ ก็หลายวินาทีถึงกลับมาจะรู้ ลม ส่วนเสียงนั้น ยังมีเป็นช่วงๆ ได้ยินมั่ง เงียบมั่ง ตามคุณภาพจิต 50 นาทีก็นอน ลง วันนี้รู้สึกว่า คุณภาพจิตดีที่สุดอีกครั้ง 1 คือไม่ได้สนใจว่าได้สมาธิขั้นใดเเต่สุดท้ายก็ดีที่สุด เเละยังพอสัมผัสเห็นขณะจิตค่อยๆเคลื่อนการรู้สิ่ง1เป็นอีกสิ่ง1 คล้ายๆสโลโมชั่น เพิ่มเติมเข้ามา ก็นอนลงไป

    พอหัวถึงหมอน จิตแปร้ปขึ้นมา รู้สึกทางใจเหมือนหลวงพ่อมายืนอยู่ เเละขณะจิตต่อมา ผมก็คงมโนเองว่า หลวงพ่อมาบอกว่าดีเเล้วๆ ทั้งหมดนี้ผมคงมโนเองก็ยอมรับได้ ครับ

    หลังจากนอนลงไปอารมณ์แนบนิ่งยังคงรบกวนใจติดมา คือมีสมาธิดี โดยไม่ได้ตั่งใจ ก็เลยปล่อยไปตามธรรมชาติ ประคองสมาธินิดหน่อย พอเกิดอาการทรงตัวมากๆเบามากๆเหมือนจะหลับ แต่สติมันไม่หลับ มันเห็นการดับจากความรู้สึกทางกาย วูบเข้ามา เหมือนไฟดับ ขณะจิตต่อมา เหมือนเราถูกดึง คล้ายๆขึ้นลิฟ ความเร็วสูง สติเห็นว่ามีการพุ่งออก ภาพเป็นขาวดำ ก็เลยตั่งสติว่า พระ มาคำเเรก สวรรค์ นิพพาน นึกไล่มา เห็นเป็นขาวดำ จากไกลเข้ามาใกล้เห็นภาพคนนั่งไข้วห้าง ไหลต่อไปไม่รู้ทิศทาง ใจก็นึกว่า ถ้าไปได้ขอไปดูสวรรค์ สักพักมันไม่เห็นอะไรเลยนึกว่ากลับดีกว่า เริ่มรู้สึกทางกาย มากขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นว่ากายเรานี่เเข็งเป็นก้อนเลย เเรกๆขยับไม่ออก เหมือนไม่ค่อนชิน ก็มีเพียงเท่านี้ครับ

    สรุปว่า ผมพอจะมโนได้ว่า เวลาคนตายเป็นยังไงจิตมันดับอย่างไร มันเร็วจริงๆถ้า สติดีกว่านี้ 10 20 เท่า คงปรับอารมณ์เพื่อหวังนิพพานทัน คงต้องทำสมาธิให้ วสีกว่านี้ ทั้งหมดนี้มันเกิดเองโดยไม่ได้ตั่งใจ

    ขอผู้มีประสบการณ์แนะนำด้วยครับ
     
  12. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    พักการทำสมาธิไประยะหนึ่ง เช้านี้มาทำอีกครั้งพบว่าจิตละเอียดขึ้นไปอีกมีอาการดังนี้ หัวใจเต้นเบามากที่เเรกนึกว่าไม่เต้น เห็นการเกิดดับของจิตชัดขึ้น เห็นจิตโดดไปมา ไม่ทรงตัว ซึ่งเป็นโจทย์ที่ต้องทำให้ละเอียดต่อไป เมื่อจิตละเอียด ปากอ่าน้ำลายจะไหล สภาวะ ของกายที่ไร้ซึ่งจิตควบคุม มันไม่น่าดูจริงๆ เมื่อหัวใจเต้นช้า ร่างกายระบบสูบฉีดเลือดก็ทำงานน้อย อาการชาก็บางจ้อย ทำให้ผมเห็นชัดเจนว่า นิโรธสมาบัติ ร่างกายเหมือนหยุดทำงาน เต้นช้าแบบ 0.000xx วินาที เหมือนจำศีล จึงทำให้ท่านเหล่านั้น ทรงสมาบัติ สมาธิได้ หลายวัน เพราะร่างกายมันสบายตัวของมัน ตามลำดับ สรุปหัวใจสั้นๆว่า ยิ่งสมาธิละเอียด ยิ่งเห็น ความไม่ดีที่ซ้อนอยู่ในจิตชัดขึ้น เป็นโจทย์ให้เราได้ทำดีต่อไปครับ เหมือน สวย100 เมตรอะครับ พอเข้าไปใกล้ๆแป้งนั้นทั้ง หน้าไม่เนียนเลย มองไกลๆนึกว่าเนียน ก็คือเห็นสมาธิจริงๆเเล้วยังหยาบมากนั้นเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...