+ วันเวลาแห่งภัยพิบัติ +

อ่านดูหลายกระทู้ในนี้ดี ที่แนะนำให้เตรียมตัวรับภัยต่างๆ ที่มันไม่แน่ว่าจะเกิดอย่างยิ่งใหญ่ มาในวันไหน ส่วนตัวเห็นว่า เตรียมไว้ทั้งใจทั้งกายอย่างกลางๆ ท่าจะดี ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป จะได้ไม่ทุกข์เกิน เพราะกังวลจัด กับสารพัดเรื่อง แต่ข่าวคราวก็คอยติดตามอยู่ ให้รู้ว่าชาวบ้านเขาไปถึงไหนกันแล้ว เช่นข่าวนี้

http://tvshow.tlcthai.com/%E0%B8%9A%...-%E0%B8%A2-55/

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=JWcRVRIw8NM]บอก9เล่า10 12-Sep-12 ดาวหายนะสู่โลก -TMC-2 - YouTube[/ame]

เปิดแผนนาซา รับมืออุกาบาต เอจี. 5 ชนโลก

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/world/20120301/439237/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B8%B5-5%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81.html



นักวิทย์นาซาเร่งระดมสมองหลังพบมีโอกาสที่อุกาบาตชื่อ เอจี 5 พุ่งชนโลกในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2583 และก่อให้เกิดวิบัติภัย "วันสิ้นโลก"



http://www.jpl.nasa.gov/news/news.php?release=2012-051

MThai News (29 กพ. 2012) : องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซ่า รายงานว่า ในปี 2040 โลกเสี่ยงถูกอุกกาบาต ขนาดกว้าง 460 ฟุตพุ่งชน

ทั้งนี้ รายงานยังระบุอีกว่าโลกมีความเสี่ยงถึง 1:625 โดยนาซ่าได้คำนวณว่าโลกจะถูกอุกกาบาตพุ่งชนในวันที่ 5 ก.พ. 2040 แต่ในอนาคตความเสี่ยงดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้น หรือลดลงก็ได้

แม้ว่าขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับอุกาบาตลูกดังกล่าว แต่จะมีการตรวจสอบอีกครั้งในปีหน้า

นอกจากนี้ นาซ่าคาดการว่าการพุ่งชนของอุกกาบาตครั้งนี้ จะคร่าชีวิตผู้คนหลายล้านคน แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางนาซ่าและสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กำลังร่วมมือกันเพื่อหาวิธีป้องกันไม่ให้เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น


<!-- google_ad_section_end -->

ท่าน ว.เตือนสติ "วันนี้สำคัญ กว่าวันโลกแตก"





ทางด้าน พระนักคิดชื่อดัง พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือท่าน ว.วชิรเมธี ได้ออกมาเตือนสติคนในสังคมที่กำลังตื่นกลัวเรื่องโลกแตกว่า เรื่องภัยพิบัติธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นบนโลกในตอนนี้ ในมุมของพุทธศาสนา ถือว่า เป็นเรื่องที่ไม่น่าตื่นเต้น


เพราะธรรมชาติคือธรรมะ มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นปกติ ทุกสรรพสิ่งย่อมเป็นเช่นนั้นเอง


สำหรับคนที่พูดถึงเรื่องโลกแตก มันยังมาไม่ถึง ไม่ต้องกังวล เป็นเรื่องของ "วันหน้า" แต่ที่สำคัญคือ เราจะใช้ "วันนี้" ให้ดีที่สุด ให้คุ้มค่าได้อย่างไร ?


เหมือนกับที่สตีฟ จ็อบส์ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นซีอีโอของโลกเคยกล่าวไว้ว่า "จงใช้ชีวิตดังเหมือนหนึ่งว่าทุกวันคือวันสุดท้าย" หากถือคตินี้ เราจะใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า มีแก่นสาร เลิกประพฤติตัวเหลวไหล
ถ้าเราทำวันนี้ให้ดีที่สุด วันนี้ที่อยู่ในมือของเรา ท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นอดีตที่ดี ทั้งยังเป็นรากฐานของวันพรุ่งนี้ที่มั่นคง


เพราะฉะนั้น ถึงโลกจะแตกก็ไม่น่ากังวล เพราะสิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่เราจะใช้ชีวิตอย่างไรก่อนที่โลกจะแตกต่างหาก



<!-- google_ad_section_end -->

 

ไทยโชคดี ตั้งอยู่บน “เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก”

http://manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9550000112179

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>12 กันยายน 2555 </TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=center></TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=top background=/images/linedot_hori.gif align=center></TD><TD height=1 vAlign=top width=1 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=center>ภาพจำลองแสดงขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ และขั้วแม่เหล็กโลก (Smithsonian National Museum of Natural History)



ในขณะที่เราใช้ชีวิตท่ามกลางความวุ่นวายของสารพัดปัญหาบนโลก หลายคนอาจจะไม่รู้ตัวว่ากำลังได้รับการปกป้องจาก “สนามแม่เหล็กโลก” ที่กันไม่ให้อนุภาคที่มีประจุรุนแรงลงมาทำลายชีวิตบนโลกได้

และโชคดีกว่าใคร ที่ไทยตั้งอยู่บน “เส้นศูนย์สูตรแม่เหล็กโลก” ที่มีพลังปกป้องเข้มข้นกว่าใคร

ข้อมูลจาก ดร.เดวิด รูฟโฟโล อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งกล่าวไว้ในงานเสวนาวิชาการหลายครั้ง ระบุว่า แม้ในทางภูมิศาสตร์ไทยไม่ได้ตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตร แต่ในแง่สนามแม่เหล็กโลกนั้น ไทยตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก

ซึ่งทำให้ มีสนามแม่เหล็กเข้มที่สุด และปกป้องไม่ให้อนุภาคมีประจุผ่านลงมาได้ง่ายๆ หรือได้รับผลกระทบน้อยสุด เมื่อเกิดพายุสุริยะ หรือรังสีคอสมิคตรงมายังโลก โดย จ.ชุมพรมีความเข้มของสนามแม่เหล็กสูงสุด


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วันเวลาไม่อาจรู้ แต่ที่รู้คือตัวกับใจ หนูรู้สึกว่าทุกอย่างมันต้องเกิด ส่วนจะมากหรือน้อยก็ต้องแล้วแตปัจจัยต่างๆ เพราะในอดีตมันเคยเกิดมาแล้ว ถ้าเทียบกับนาฬิกาก็คงเดินครบรอบพอดี หนูขออนุโมทนากับความข้างบนด้วยคะ ติดตาอ่านของคุณน้ามาตลอด คะ;k04

 

ถ้ารู้ว่ามันจะเกิดอะไรที่จะไม่ดี ไม่สนุก ไม่สบาย ยิ่งต้องเร่งเครื่องการปฏิบัติทาน ศีล ภาวนา ให้ใจเข้าถึงธรรม ทีนี้พอปลดเบรคได้ ปล่อยวางได้ มันก็ไม่ทุกข์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็เหอะ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=SMOM7fdc9EI"]???????????????? ???????? - YouTube[/ame]

 

ใช่ๆๆเห็นด้วยกับท่านพนมกุเลน การเตรียมจิตเตรียมใจของตนเองเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่เมื่อเิกิดเหตุเราจะได้มีสติไม่เตลิด จงตั้งอยู่ในความไม่ประมาททุกขณะจิต ใครจะไปรู้เรานั่งทำงานอยู่ดีๆๆตึกอาจถล่ม หรืออาจเกิดอะไรก็ได้ขอแต่ตอนนั้นจิตเราพร้อมเสมอทุกขณะจิตนึกถึงความตายเป็นอารมณ์ไม่มีใครรู้วันตายตนเอง ฉะนั้นทำดีเข้าใว้แล้วแผ่ความดีและความสุขใจเผื่อแผ่ไปยังเพื่อนร่วมข้างเรา เพื่อนร่วมแก่ ร่วมเจ็บ ร่วมตายเหมือนเราทั้งสิ้น เมื่อคิดเช่นนี้จะกลัวอะไรหละ

 

ที่ท่านกล่าวมาก็ถูกนะจ๊ะ เราก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง แต่เรามีความคิดว่าหนทางที่จะไปในวาระสุดท้ายของจิตนั้นยังไม่นอนนัก เพราะอาจจะไปได้แค่สววรค์เท่านั้น ทางที่ดีเพื่อความไม่ประมาท ควรเตรียมจิตให้ดีโดยให้ คิดถึงความตายเป็นอารมณ์ ว่ามนุษย์ทุกคนต้องตายหมดไม่มีเหลือ ร่างกายนี้มันก็เป็นของเลวเป็นที่สะสมของเชื้อโรค ไม่นานร่างกายนี้มันก็ต้องเสื่อสลายและพังไปในที่สุด เรามาอาศัยร่างกายนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะร่างกายนี้ก็ไม่ใช่ของเรา และให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ บ่อยๆ ทำไปเรื่อยๆถึงจะลืมไปบ้างก็ไม่เป็นไร พอมีสติก็ให้ระลึกนึกถึงต่อไป ไม่นานจิตของเราก็จะชินไปเองโดยจะนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เองโดยอัตโนมัติ และสุดท้ายก็ตั้งจิตอธิษฐานว่าถ้าตายเมื่อไหร่เราขอไปนิพพานเพียงจุดเดียวเท่านั้น ไม่นานจิตมันก็จะเบื่อร่างกายและทรัย์สมบัติต่างและสิ่งอื่นๆไปเอง
รู้ลม รู้ตาย รู้นิพพาน

 

อ่านกระทู้นี้แล้วน่าตอบจัง เหมือนพวกเรามาซ้อมตายกันดีกว่า

สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ ไม่ได้เล่าให้เชื่อนะครับ แต่เล่าให้ฟังเฉยๆ เชื่อไม่เชื่อไม่เป็นไร

หากประเทศไทยเราจะเกิดภัยพิบัติ จะไม่เกิดปุ๊บปั๊บแบบประเทศอื่น

ประเทศอื่นเขาจะเกิดปุ๊บปั๊บไม่ให้ทันตั้งตัว แต่ของเราจะมีเวลา เราจะตั้งตัวทัน

ภัยพิบัติที่จะเกิดจะเป็นภัยพิบัติทางน้ำที่เกิดจากแผ่นดินไหว จะเกิดขึ้นทั่วโลก

แผ่นดินไหวในต่างประเทศมีเกิดขึ้นบ่อย จนเราคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ในปีหน้า

แผ่นดินไหวในต่างประเทศจะเกิดขึ้นใกล้กับชายฝั่งทะเล ทำให้เกิดภัยทางน้ำเพิ่มเข้ามาอีก

ประเทศไทยและประเทศพม่าก็เกิดแผ่นดินไหวอยู่บ้าง ประมาณ 2-3 ริกเตอร์เป็นปกติ

แต่หากในปีหน้าประเทศพม่าเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ซึ่งรุนแรงผิดปกติเกิดขึ้น

ขอให้เราชาวไทยและชาวพุทธทุกคนจงเตรียมพร้อม เตรียมตัวและเตรียมใจ

ให้คิดว่าเมื่อเกิดขึ้นที่พม่าได้ก็เกิดขึ้นที่ประเทศไทยได้ ไม่มีสิ่งใดแน่นอน

ปีหน้าทั้งปีให้สังเกตุที่ประเทศพม่าไว้ ตามความคิดเห็นผมว่าเกิดในปีหน้าแน่นอน


และสำหรับท่านที่เป็นห่วงเรื่องสงครามระหว่างศาสนาจะเกิดขึ้นหรือไม่

ผมอยากแนะนำลองอ่านตรงนี้หน่อยครับ ท่านอาจเข้าใจอะไรมากขึ้น

ตรงหัวข้อที่ว่า "ไทยจะเป็นมหาเศรษฐี" ท่านกล่าวไว้ชัดเจนมาก : http://palungjit.org/threads/หลวงพ่อเล่าเรื่อง-พุทธพยากรณ์โลกและไทยจะได้เป็นมหาเศรษฐี.119672/