วาระจิตก่อนตายสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับยานอนหลับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย theseng99, 24 กรกฎาคม 2012.

  1. theseng99

    theseng99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +487
    รบกวนสอบถามครับ

    ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ มีอาการหายใจไม่ออกเหมือนจมน้ำ ทรมานมากช่วงที่ตื่น เนื่องจากใส่ท่อช่วยหายใจจึงพูดไม่ได้ มีอาการอ่อนแรงมาก ยกแขนแทบไม่ได้

    เมื่อสื่อสารแล้วก็ไม่เข้าใจกัน เพราะได้แต่พยักหน้า ส่ายหน้าเท่านั้น ผู้ป่วยก็เครียด มีอาการไม่พอใจ อาการทรมานมากตอนหายใจไม่ได้ เกร็งไปทั้งร่างจนถึงปลายขา ชักกระตุกให้เราเห็น (มาคิดทีหลังอาจจะเป็นเพราะผู้ป่วยปวดท้องถ่ายมากเพราะไม่ได้ถ่ายมาสองวัน แต่บอกแล้วไม่มีใครเข้าใจ จนหลัง
    สุดมีการถ่ายออกมา)

    แล้วคนป่วยก็ยังหิวอีกด้วย เนื่องจากได้รับแต่นมมาสองวัน วันละสามถุง (หมอบอกอาการหนัก ยังไม่ค่อยเชื่อทำไมคนจะเสียยังหิวได้อีก ไม่รู้กลัวเราไม่มีตังจ่ายหรือเปล่า)

    จนต้องให้ยานอนหลับให้หลับไปประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วก็ถอดเครื่องช่วยหายใจออก สักพักก็เสียไปเหมือนหลับไป

    อยากรู้ว่าส่วนใหญ่กรณีเช่นนี้ จะรู้ได้ไหมครับ ว่าผู้ป่วยคนนั้นจะมีจิตเช่นใดขณะเสีย ถ้าก่อนหลับมีความทรมานมาก แล้วหลับไปสักสองชั่วโมง ค่อยถอดเครื่องช่วยหายใจออก จิตจะจำความทรมานอยู่หรือไม่ครับแม้ขณะหลับ หรือว่าถ้าเสียขณะหลับก็ขึ้นกับบุญกรรมที่ทำมาว่าจะส่งไปที่ใดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2012
  2. MaximusDeximus

    MaximusDeximus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +117
    ในกรณีที่อาการหนักมาก ทางการแพทย์ลงความเห็นว่าการรักษาต่อไม่เป็นประโยชน์ การถอดท่าหายใจออก !! ไม่เป็นปาณาติบาต !! เป็นการเสื่อมไปตามสังขารของผู้ป่วยเอง [ที่ไม่สามารถหายใจได้แล้ว]

    จะรู้ได้ไหมครับ ว่าผู้ป่วยคนนั้นจะมีจิตเช่นใดขณะเสีย

    เจ้าตัวรู้แน่นอน แต่ที่เราจะรู้ได้ก็สังเกตอาการทั่วๆไป ทรมานไหม ร้องโอดโอยไหม ทุรนทุรายไหม ประมาณนี้

    ' มีอาการไม่พอใจ อาการทรมานมากตอนหายใจไม่ได้ เกร็งไปทั้งร่างจนถึงปลายขา ชักกระตุกให้เราเห็น'
    - ถือว่าเป็นสํญญาณที่ไม่ดี ''แต่'' ยังไม่จบครับ มันวัดกันที่จิต 'ขณะตาย' ตอนสามเฮือกสุดท้าย
    จิตจะจำความทรมานอยู่หรือไม่ครับแม้ขณะหลับ
    - กายหลับ 'ใจ' ไม่หลับนะครับรับรู้ทุกกระบวนการ

    ! สำคัญ สิ่งที่เราควรจะทำ [ก่อนเขาตาย]
    1. !อย่า พูดให้ห่วง เช่น เรื่องมรดกไม่ต้องเป็นห่วงนะ [พูดไปนั่นละคนจะตายยิ่งห่วง]
    ทำใจให้สบายนะเรื่องบ้านที่กำลังสร้างเดียวจะดูให้ [นั่นละเป็นห่วงพอดีเลย]
    2. !อย่า รั้ง แข็งใจไว้นะ อดทนไว้นะ อยู่ต่อไปเพื่อลูกหลาน
    ถ้า...ถึงเวลาแล้วจริงๆ [ไม่ใช่เป็นไส้ติ่ง] อย่ารั้งครับสิ่งสำคัญที่สุดคือผู้จะตายต้อง"ตัดห่วง"
    3. !ต้อง ชวนผู้ป่วยระลึกนึกถึง "บุญทุกบุญ'[ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่] ที่ผู้ป่วยเคยทำ อาจบอก, เอารูปให้ดู, เอาของให้ดู เช่น จำได้ไหมที่ลูกตั้มบวชให้แม่ ฉอดๆๆ , จำรูปนี้ได้ไหมที่ป้าเคยไปหลอมพระพุทธรูปถวาย... , นี่ไงรูปตอนไปทำบุญ 9 วัด
    4.!ต้อง คนรอบเตียงเองก็ต้องตั้งสติครับ อย่าไปฟูมฟายให้เกิดบรรยากาศเศร้าสลดที่ทำให้ผู้ป่วย 'ใจหมอง' ดีที่สุดคือยิ้มแย้มแจ่มใส หรือ อย่างน้อยก็ทำเป็นปกติ

    จิตตอนตายสำคัญที่สุด ว่าผู้ตายจะไปทุกคติ หรือ สุขคติ

    ส่วนว่าจะรู้ได้อย่างไรหากเอาแบบ 100% ก็คงต้องอาศัยธรรมะไปดู

    แต่ ดูอาการทั่วๆไปก็พแเห็นเป็นแนวแล้วละครับ

    ข้อคิด...... นี่ละครับ... คนเราทำดีบ้าง ทำชั่วบ้าง มากมายหลายอย่างมันจะมาตัดสินตอนจะตายนี่เอง ทุกท่านที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ให้หมั่นทำบูญ ละเว้นความชัว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ เมื่อเวลานั้นมาถึงเราจะได้ไม่ต้องกลัวการตาย
     
  3. MaximusDeximus

    MaximusDeximus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +117
    ผมเคยศึกษาเรื่องผู้ป่วยมะเร็งช่องท้อง [ลามไปทั้วช่องท้อง] อายุแค่ 14 ปี ทรมานมาก [สเกลวัดความเจ็บปวดที่ระดับ 9 จาก 10] มากขนาดที่เด็กกดปุ่มปั็มมอร์ฟีนรัวๆก็ยังไม่หายเจ็บ สุดท้ายให้เด็กทำสมาธิแยกกายกับใจออกจากกันเด็กมีอาการสงบจนยิ้มหัวเราะได้ ท้ายที่สุดก็จากไปอย่างสงบได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2012
  4. ป้าเล็ก

    ป้าเล็ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +2,447
    สนใจเรื่องเกี่ยวกับจิตกับการเจ็บป่วยแบบนี้้มากค่ะ หาอ่านที่ไหนได้บ้าง และว่างๆช่วยเล่าให้ฟังบ่อยๆนะคะ
     
  5. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +4,562
    คุณเต็งเส็ง99
    แม่ผมเป็นมะเร็ง นอนศิริราช อายุ88ปี
    หมอถามจะต่อท่อหายใจ หรือ ไม่ต่อ
    ผมถาม คนที่ต่อท่อ รอดกี่เปอร์เซ็นต์
    หมอบอก รอด ศูนย์ เปอร์เซ็นต์
    ผมถาม คนไข้คือแม่รู้สึกตัวไหม
    หมอตอบไม่มีความรู้สึกแล้ว
    ผมถาม ทำไมผู้คนจึงนิยมต่อท่อ(กรณีมะเร็ง)
    หมอบอก ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่าจะยื้อชีวิต จะเป็นการกตัญญูฯลฯ
    แต่ก็จะลำบากญาติมิตร บางรายหลายเดือนกว่าจะไป...
    ผมจึงตัดสินใจ ให้แม่เป็นไปตามอายุขัย(88ปีนี่มากมายแล้ว)เป็นไปตามกฏแห่งกรรม กฏอนิจจังฯลฯ...จนเผาท่านไปแล้วในปี2544 โน่น....
    ..ส่วนกรณีคุณ ไม่มีข้อมูลเพียงพอ......คนไข้อาจรู้ตัวก็ได้.....
    กรณีแบบนี้ จะกินยาหรือไม่กินยา มีค่าเท่ากัน
    เพราะสมองตอนมีสติ ก็ภาวนาพุทธโธ...
    แต่พอจิตเริ่มเลือน ไร้สติ...จิตใต้สำนึกที่เคยทำบุญ หรือ ทำบาปก็จะปรากฏขึ้นในวิญญาน
    พอดับปุ๊บ...ก็ไปตามจิตใต้สำนึกสุดท้ายที่ตนเองผูกพันรักไคร่เกลียดชัง.....บางรายกล่าวกันว่า ทำบุญมามาก ตายไปต้องเป็นเทวดา แต่ไม่ใช่
    พอตายลง จิตใต้สำนึกสุดท้าย ดันไปห่วงสมบัติ จึงกลายเป็นโอปาติกะทันที เป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์...แต่พอพ้นจากโอปาติกะ จึงได้เป็นเทวดาตามบุญ(แต่ไปใช้กรรมโลภ โกรธ หลงก่อน คือ ไปเป็นผีก่อนนั่นเอง)
     
  6. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,117
    ค่าพลัง:
    +2,136
    ผู้ที่ตั้งใจฝึกสมาธิ แม้ยังไม่เป็นพระอริยะ ก็สามารถทำแบบนี้ได้ครับ
    แยกกายกับจิต เพื่อตัดสภาวะต่างๆ ของร่ายกาย
    การเริ่มต้นของการฝึกแบบนี้ คือ การเข้าฌาน เพื่อไม่รับรู้สภาวะต่างๆ ของร่างกาย
    และเมื่อชำนาญมากๆ เข้าแล้ว บวกกับการฝึกวิปัสสนาเห็นสภาวะต่างๆ การตัดสภาวะต่างๆ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในฌาน สามารถตัดเวทนาในชีวิตปกติประจำวันได้เลย โดยไม่ต้องนั่งสมาธิอะไร

    ผู้ที่อยากตัดสภาวะในชีวิตปกติประจำวัน โดยไม่ต้องเข้าฌาน ต้องฝึกจนได้วิปัสสนาญาณมีกำลังระดับนึงครับ แล้วจะทำได้ ต้องเห็นว่า กายเรา ไม่ใช่เรา ละอุปาทานของความเจ็บปวด ละความห่วงกังวลในร่างกายของเราไปได้ เห็นความเจ็บปวดเป็นสภาวะปรมัตถ์ และจิตเห็นความไม่เที่ยงจนมีกำลังปัญญาเพียงพอ ความเจ็บปวดนั้นจะไม่มีผลกระทบต่อใจ และเมื่อกำลังสติตั้งมั่นพอ ใจจะไม่รับความเจ็บปวด เสมือนไม่มีได้ครับ

    วิธีนี้แหละ คือวิธีที่พระอริยะ หลวงปู่ หลวงตา ทั้งหลาย ใช้เพื่อระงับทุกขเวทนาต่างๆ ได้ คือวิธีเดียวกับที่หลวงปู่เทสก์ ได้เทศนาไว้ในกระทู้นี้ครับ

    http://palungjit.org/posts/6447318

    ผมสามารถแนะนำพระอาจารย์ที่ชำนาญการสอนในแนวนี้ได้ครับ หากสนใจ เป็นประโยชน์กับผู้ป่วย และผู้ที่เป็นโรคร้ายต่างๆ ครับ
     
  7. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,276
    ค่าพลัง:
    +82,733
    อนุโมทนากับคำตอบของทุกๆท่านนะคะ โดยเฉพาะคุณปุณบพิธ ได้ประโยชน์มากค่ะ
    เรื่องการใส่ท่อช่วยหายใจ...
    เท่าที่ได้พบมา คนใส่ท่อ อย่างเก่งก็ยื้อชีวิตได้ช่วงหนึ่ง สุดท้ายก็จากไป ไม่คุ้มกับความเจ็บปวด ความทรมานเลยค่ะ
     
  8. theseng99

    theseng99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +487
    รู้สึกผิดที่เลือกให้คนป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ ทำให้ได้รับความทรมานมาก พูดไม่ได้ก่อนเสีย จะทำอย่างไรดี
     
  9. MaximusDeximus

    MaximusDeximus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +117
    ถ้าแพทย์ลงความเห็นแล้วว่าการรักษาต่อไปไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยก็พิจารณาใหม่ได้ครับ

    สิ่งสำคัญคือการเตรียมพร้อมของผู้ป่วยเองตามที่ได้กล่าวไปแล้ว
     
  10. theseng99

    theseng99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +487
    ถ้าแพทย์ลงความเห็นว่าไม่มีทางรอดแล้ว แนะนำให้ลดยาเพื่อให้เค้าไป แต่บางทีถ้าแพทย์วินิจฉัยผิด ทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดละ ทำให้เค้าไปก่อนเวลา ทำอย่างไรดี
     
  11. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,117
    ค่าพลัง:
    +2,136
    เราไม่ได้มีเจตนาครับ ทุกอย่างเป็นวิบาก
    อดีตผ่านไปแล้ว ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเถิด
     
  12. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ส่วนใหญ่ กรณีแบบนี้ หลังหมดลม จิตวิญญาณเขาจะสับสนอยู่ ระหว่างภาวะความเป็นกับความตาย แล้วสักพักใหญ่ คิดเป็นระยะเวลาก็ เป็นวันของภพมนุษย์ เขาถึงจะรู้สภาวะแท้จริงของเขา

    เรื่องอาการเจ็บปวดทรมานของกายเนื้อช่วงก่อนหมดลม ไม่ติดไปหลังจากนั้น จิตวิญญาณจะไม่รู้สึกอะไรทำนองนี้อีก

    [​IMG]

    ส่วนภพภูมิที่จะไปหลังจากนั้น นั่นขึ้นอยู่กับคะแนนบุญ คะแนนบาปที่สะสมไว้ช่วงที่ยังใช้ชีวิตอยู่
     

แชร์หน้านี้

Loading...