วาระจิตแบบนี้ถือว่า ปิตุฆาต หรือไม่ครับ การคิดกับผู้ป่วยที่ทรมานป่วยก่อนตาย

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย theseng99, 26 กรกฎาคม 2012.

  1. theseng99

    theseng99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +487
    รบกวนสอบถามครับ

    ผมได้ดูแลแม่มาตลอดครึ่งปี หลังจากทราบว่าท่านเป็นมะเร็งขั้น 4

    ไม่นานมานี้จู่ๆ ท่านมีอาการหนัก หายใจเหนื่อยหอบมาก จนต้องเข้ารพ. จากนั้นหมอก็ถามว่าจะใส่ท่อหายใจหรือไม่ ผมเลยให้ใส่ (ด้วยความไม่รู้ว่ามันทรมานมากกับการใส่ท่อ) ผมยังจำได้ดีว่าแม่เจ็บเพียงใด เป็นความรู้สึกผิดในใจจนตอนนี้ แม่ส่ายหัว ทรมานมากเมื่อต้องโดนใส่ท่อโดยผมขอให้แม่ใส่แบบลังเล หลังจากใส่แล้วผมรู้สึกผิดอย่างมาก


    ต่อมาแม้ใส่ท่อแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้น จนวันสุดท้ายหมอมาบอกให้ทำใจ อาการหนักมากๆ หมอจะได้ลดยาต่างๆ ให้คนป่วยจะได้ไป ตอนนี้ให้ยานอนหลับอยู่คนไข้จะได้ไม่ทรมาน

    ผมไม่เชื่อหมอ เพราะก่อนเข้ายังดีดีอยู่ กินข้าวเองได้ขณะยังอยู่รพ. ก่อนใส่ท่อช่วยหายใจ เลยขอกลับบ้าน จะไปเข้ารพ. อื่นแทน (อาจเพราะผมบอกหมอไม่มีเงินจ่ายด้วย เลยคิดว่าหมอจะให้คนไข้เสียเร็วๆ)


    แต่จะออกไปที่อื่นก็ยุ่งยาก ทำเรื่องหลายขั้นตอน และ รพ.ที่จะย้ายไปถ้ามีท่อช่วยหายใจอยู่เค้าจะไม่รับ เราก็คิดว่าแม่น่าจะหายใจเองได้บ้าง ถึงแม้จะไม่มีท่อช่วยหายใจ (บวกกับความรู้สึกผิดและกลัวแม่เจ็บจากท่อช่วยหายใจมันฝังใจเลยอยากให้ถอดออกตั้งแต่่วันแรกด้วยซ้ำ) และถ้าเข้ารพ. ใหม่จะไม่ให้ใส่ท่อช่วยหายใจให้แม่อีกแล้ว แม่จะได้ไม่เจ็บ ไม่อยากให้แม่เสียโดยที่ต้องมีท่อช่วยหายใจคาไว้ เลยต้องบอกหมอว่าขอกลับบ้านจะได้เร็วสุด บอกหมอว่าอย่างน้อยคนป่วยก็อยากกลับไปอยู่บ้าน ซึ่งวิธีนี้จะได้ออกเร็วสุด ซึ่งเราก็จะจัดเตรียมรถพยาบาลอื่นไว้รอส่งผู้ป่วยไปรพ ใกล้บ้านอยู่แล้ว


    ช่วงที่กลับบ้านก็ขอถอดท่อช่วยหายใจด้วย เพราะอยากได้ยินเสียงแม่ ก็รู้อยู่ว่ามีความเสี่ยง แต่เราก็คิดว่าแม่น่าจะสู้ได้ ก่อนออกจากรพ. ก็ขอให้ยานอนหลับแม่ เพราะถ้าแม่ตื่นจะทรมานมากกับการหายใจไม่ออกทั้งที่มีเครื่องช่วยหายใจ

    ก็เลยขอออกมา รถโรงพยาบาลมาส่งบ้าน พอถึงบ้านถอดท่อช่วยหายใจ เราเตรียมออกซิเจนแบบฝาครอบปากแล้ว แต่พอใส่ไปสักพัก แม่เหมือนไม่หายใจ แต่ก็ไม่แน่ใจ แล้วพอรถพยาบาลอีกคันมารับเพื่อส่งต่อไปรพอื่น เช็คร่างกายแม่บอกว่าหัวใจแม่ไม่เต้นแล้ว ท่านเสียแล้ว

    เราก็เตรียมใจไว้แล้วว่าตอนถอดท่ออาจเสี่ยง แต่เราคิดว่าแม่น่าจะหายใจได้ ยังไม่เชื่อหมอนัก พอคนจากรถพยาบาลบอกเสียแล้ว ตอนนั้นคิดว่า เพราะเราคิดเองเองใช่ไหมว่าแม่น่าจะสู้ได้ ทำให้แม่เสีย ไม่ยอมปรึกษาคนอื่น แล้วคนจากรถพยาบาลก็บอกจะปั้มหัวใจไหม แต่เสียไปหลายนาทีแล้วนะ อาจสมองตาย เรากับญาติก็บอกไม่ต้อง เดี๋ยวตื่นมาจะทรมานจากมะเร็งอีก เราก็เลยบอกให้เค้าไปละกัน

    ตอนที่รอรถพยาบาลอีกคันเนื่องจากรถมาช้า ความคิดอะไรสับสนไปหมด กรูกันเข้ามา แม่จะเสียไหม เสียแบบนี้เหรอ แบบนี้ดีกว่าไหม แม่ไม่ต้องทรมานกับมะเร็งในอนาคตอีก แต่ก็ร้อนรนอยากให้รถมาเร็ว ๆๆ จะได้พาแม่ไปรพ ทัน มั่วไปหมด และพอรถพยาบาลมา บอกแม่เสีย หลังจากแม่เสียได้สิบห้านาทีเราก็รู้สึกว่าถ้าแม่เสียไปเราก็คงค่อยหายเหนื่อยจากการดูแลอันยาวนานครึ่งปีได้ ต่อไปคงได้พักสักที คิดแบบนี้บาปไหมครับ

    แล้วการกระทำ และการคิดของผมถือเป็น "มาตุฆาต" หรือเปล่าครับ (ขอโทษครับ หัวกระทู้เขียนผิด)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2012
  2. vichayut

    vichayut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +665
    ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

    อ่านข้อความคุณแล้ว ให้ต้องตอบด้วยความไม่ประมาทมาก และจะยกให้เห็นว่า

    ถ้าไม่มีเจตนา ไม่หวังมุ่งร้าย ไม่พึงกระทำอันใดเป็นเหตุให้ถึงฆาตด้วยการกระทำนั้น

    อันนี้ไม่เป็นมาตุฆาตุ ก็ต้องกลับไปถามเจ้าของกระทู้แหละครับว่าใช่หรือไม่

    แต่ถ้าถามถึงว่าวาระจิตที่พอใจ ว่าต่อไปตัวเองจะได้พักสักที อันนี้เป็นความเห็นผิด

    อันเป็นจิตอกุศล เกิดจากความอยากให้ตัวเองพ้นทุกข์ แล้วคิดว่ามารดาเป็นเหตุ

    ของทุกข์ เมื่อท่านเสีย ความทุกข์หายไป วางอารมณ์ทุกข์ได้ อารมณ์ความพอใจที่ละเอียดกว่า

    ก็เกิดขึ้นทันที นี่แหละเป็นความเห็นผิด เกิดได้เสมอเมื่อเราเข้าไปรู้ทุกข์ แต่ไม่เข้าใจทุกข์



    อีกอย่าง ท่าน จขกท มีความเชื่อมั่นตัวเองเกินไป อาจหลงไปกับความไม่รู้มากไปนิด

    เพราะอ่านแล้วไม่เห็นอะไรมารองรับกับเหตุที่คุณคิด ที่คุณกระทำ ว่านี่สมควร

    ว่านี่ถูกต้อง อย่างไร เมื่อมาถึงตอนนี้ ความไม่รู้อันนี้ต่างหากที่มันยังเป็นปมในใจคุณ

    เป็นความเห็นส่วนตัวชอบใจ ไม่ชอบใจก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

    _________________
    ดูจิต.........ด้วยสติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2012
  3. theseng99

    theseng99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +487
    แต่ถ้าอยู่รพต่อ หมอแนะนำให้ทำใจ ถ้าทำใจได้จะได้ลดยาช่วยปล่อยให้แม่เสียไป นี่ก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าท่าน ผมเลยขอเลือกย้ายรพครับ แต่ประมาทไปครับ จิตมุ่งร้ายไม่มีแน่ แต่การกระทำเสี่ยงคงมี ทำให้คิดมากอยู่ครับ
     
  4. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +3,776
    เราไม่ได้ฆ่านิ...
    มาตุฆาต นี่ฆ่าแม่
    เราไม่ได้ฆ่า

    เหมือนกับหมอรักษาคนไข้ แล้วคนไข้ตาย เจตนาของหมอไม่ได้ฆ่า
    แต่ทำเท่าที่จะทำได้
    ขอโทษนะครับ แต่ต้องกล่าวว่า
    เมื่อถึงเวลาแล้ว คนจะตายยังไงก็ตาย ได้เวลาแล้ว
    ขนาดกินยาทัน ยายังติดคอตายได้เลยครับ

    คุณไม่ได้ฆ่าแม่ คุณทำเท่าที่จะทำได้ ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นไปตามเวลาที่กรรมกำหนดครับ
    กรรมอยู่ที่เจตนา เจตนาเราไม่มี เรามีแต่ความรักที่ให้แม่
    หมอรักษาแล้วให้ยาผิด คนไข้ตาย หมอยังไม่บาปเลยครับ เพราะไม่มีเจตนาฆ่า
    เพียงแต่ความรู้มันจำกัด ความโง่ทุกคนยังมี

    อย่าไปคิดมากครับ คิดถึงสิ่งดีๆที่มีให้กับแม่ และแม่มีให้กับเราดีกว่าครับ
     
  5. vichayut

    vichayut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +665
    อันนี้แหละครับ ความไม่รู้ที่เป็นความเห็นผิด

    ถ้าคุณเข้าใจได้ว่า ไม่มีใครอยากให้ใครเกิดความสูญเสียในชีวิตหรอกนะ

    ถ้าทางการแพทย์พิสูจน์แล้วว่า ที่คุณแม่คุณสามารถอยู่ได้ขณะนั้นก็เพราะยา

    ที่ให้ นั่นแสดงว่าร่างกายสังขารนั้นไม่รับรู้การรักษาอะไรต่อไปแล้ว อันนี้

    เราสามารถพิสูจน์ได้ เพราะทางการแพทย์มีวิชาการรองรับ มีเหตุมีผล

    ถูกต้อง สมควรหรือไม่ ถ้าวินิจฉัยผิดเราก็สามารถฟ้องร้องได้ ถ้าวินิจฉัย

    ถูกก็ต้องยอมรับได้ว่าหมดทางรักษาหมอจึงบอกว่าว่าให้ทำใจ ผมถึงบอก

    เหตุผลในตอนต้นว่า ถ้าความคิดเห็นมีสิ่งที่รองรับได้ ปมของความไม่รู้ว่า

    ถูกผิด ใช่ไม่ใช่จะไม่ติดค้างคาใจอยู่


    แต่ตอนนี้ความถูกผิดไม่เป็นประโยชน์แล้ว แต่ได้เห็นถึงเจตนาดีที่มีอยู่ว่า

    นั่นเราทำได้ดีแล้ว คิดมากตอนนี้ไม่เห็นประโยชน์ว่าเพื่ออะไร ที่เห็นประโยชน์

    ตอนนี้คือหมั่นตั้งใจทำบุญ อุทิศส่วนกุศลด้วยจิตที่เป็นกุศล ให้ท่านตลอด

    ตลอดชั่วชีวิตของเรา นี่แหละเป็นประโยชน์ทีสุด

    __________________
    ดูจิต.........ด้วยสติ
     
  6. theseng99

    theseng99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +487
    คุณ vichaiyut

    ผมยังไม่เข้าใจ ถ้าคนเรายังอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยชีวิต เช่นท่อช่วยหายใจ ถ้าดึงออกจะเสียทันที และถ้าไม่ให้ยานอนหลับก็จะทรมานจากการหายใจไม่ออกเช่นกัน ต้องให้หลับไปตลอด ห้ามตื่นดีกว่าไม่งั้นจะทรมาน แต่ก็ยังยื้อชีวิตไว้ได้ด้วยเครื่อง และมีหลายๆ ความเห็นบอกว่า ถ้าเราไปดึงท่อออก เพื่อให้คนไข้ไปดีกว่า ถ้าหลับโดยไม่ต้องตื่นก็เปล่าประโยชน์ แบบนี้ถือว่าฆ่าคนคนนั้น ไม่ใช่หรือครับ
     
  7. vichayut

    vichayut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +665
    กรรมปาณาติบาต สำเร็จได้ด้วยเจตนาครับ
    ถ้าเรามีความเข้าใจตรงตามธรรม จะเข้าใจเหตุปัจจัยเรื่องของกรรม
    วิบากกรรม เข้าใจว่านี่ทุกข์ ว่านี่เหตุของทุกข์ เกี่ยวเนื่องกันไป

    พอดีเราไม่ได้คุยกันในประเด็นนี้ แต่เป็นประเด็นที่คุณ theseng99
    อยากรู้ข้อเท็จจริงที่ว่า เหตุที่ผ่านมานั่นถูกหรือผิด ผมจึงให้ข้อสังเกตุว่า
    เหตุที่ทำจะถูกหรือผิด ต้องมีข้อเท็จจริงที่ถูกต้องจริงมารองรับ มีเหตุผลที่
    ยอมรับได้ เมื่อเหตุที่เกิดแล้วจะมีผลอย่างไรก็ตาม เราจะไม่ย้อนกลับ
    มาโทษตัวเองภายหลัง

    ผมค่อนข้างเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเคยมีเหตุเกิดคล้ายๆกรณีของคุณ
    แต่ผมโชคร้าย ที่ต้องสูญเสียไป 2 ชีวิตเพราะความไม่รู้ของผมเอง ขอบคุณครับ

    ____________________
    ดูจิต.........ด้วยสติ
     
  8. theseng99

    theseng99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +487
    แล้ัวอย่างกรณีผมคล้ายกับของคุณ vichaiyut คือเพราะความไม่รู้ส่วนใหญ่ นึกเอาเองส่วนใหญ่ว่าต้องเป็นอย่างนี้ๆ ถือว่าทำผิด แต่ไม่เข้าข่ายมาตุฆาตใช่ไหมครับ
     
  9. vichayut

    vichayut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +665
    ไม่รู้ ไม่ใช่ผิดเสมอไปครับ เพราะที่เราอยู่กันบนโลกทุกวันนี้
    ก็เพราะเราไม่รู้นี่แหละเป็นเหตุ พระศาสดาจึงสั่งสอนว่าอย่าประมาท
    และผมมั่นใจครับว่า ไม่ใช่เหตุมาตุฆาตแน่นอน ขอบคุณครับ

    __________________
    ดูจิต.........ด้วยสติ
     

แชร์หน้านี้

Loading...