วิกฤติเศรษฐกิจคดีลักทรัพย์พุ่ง ช่วง 10 เดือนเกิด 16,000 ครั้ง

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 25 พฤศจิกายน 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>วิกฤติเศรษฐกิจคดีลักทรัพย์พุ่ง ช่วง 10 เดือนเกิด 16,000 ครั้ง</TD></TR><TR><TD vAlign=top>24 พฤศจิกายน 2550 22:26 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] วิกฤติเศรษฐกิจพ่นพิษ ปี 2550 เกิดคดีแล้วกว่า 1.6 หมื่นครั้งในช่วง 10 เดือน รถจยย.เป้าหมายหลัก หายแล้วกว่า 5 พันคัน ขณะที่ เชียงใหม่-ขอนแก่น-ร้อยเอ็ด-อุดรธานี-นครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี วิกฤติไม่แพ้กัน กลุ่มโจ๋ตั้งแก๊งลักทรัพย์หาเงินเที่ยวเตร่และซื้อยาเสพติด
    สภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฝืดเคืองอย่างหนักทำให้คดีลักทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี 2550 ที่ผ่านมากระทั่งถึงปัจจุบัน "คม ชัด ลึก" ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนอยู่ไม่ขาดระยะว่าบ้านเรือนถูกคนร้ายบุกโจรกรรมทรัพย์สินไม่ขาดระยะ เช่น นายพงษ์ธรณ์ กาฬสินธุ์ อายุ 51 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเพิ่งถูกคนร้ายขโมยรถยนต์ขณะจอดไว้ที่หน้าบ้านพักเลขที่ 99/1454 หมู่บ้านนักกีฬา แขวงและเขตสะพานสูง กทม. เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2550 ภายในหมู่บ้านนักกีฬามีโจรเข้ามาลักทรัพย์ไม่เว้นแต่ละวัน และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ทำให้คนในหมู่บ้านหวาดผวาไม่เป็นอันหลับอันนอน
    นายพงษ์ธรณ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ร่วมกับเพื่อนบ้านจัดเวรยามช่วยกันสอดส่องดูแลความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันไม่ให้คนร้ายเข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินภายในหมู่บ้านได้ เนื่องจากคนร้ายอาศัยจังหวะที่เวรยามเผลอโจรกรรมทรัพย์สินไปได้อีก แม้จะแจ้งความให้ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบพื้นที่ก็ไม่ได้ผลเช่นกัน
    ความเดือดร้อนของนายพงษ์ธรณ์ ไม่แตกต่างจาก น.ส.ชนิกา พันภักดี ซึ่งมีบ้านพักอยู่ในหมู่บ้านออคิดวิลล่า ย่านถนนบางนา-ตราด ซึ่งในหมู่บ้านดังกล่าวเกิดกรณีตีนแมวลอบเข้าไปในบ้านพักแล้วขโมยทรัพย์สินไปเช่นกัน น.ส.ชนิกา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.00 น. มีคนร้ายลอบปีนเข้ามาในบ้านพักเพื่อขโมยทรัพย์สิน แต่ระหว่างนั้นคนรับใช้ในบ้านพบเห็นเข้าพอดี คนร้ายจึงใช้มีดจี้บังคับ ข่มขืนคนรับใช้จนสำเร็จความใคร่แล้วหลบหนีไป ซึ่งหลังเกิดเหตุตนพาคนรับใช้รายดังกล่าวเข้าแจ้งความกับตำรวจ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้แต่อย่างใด
    "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความหวาดวิตกให้ตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก รู้สึกไม่มีความปลอดภัยเลย ในหมู่บ้านที่ฉันอยู่ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้กับบ้านฉันบ้านเดียว แต่เพื่อนบ้านเรือนเคียงก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน จนหวาดผวากันไปหมดแล้ว" น.ส.ชนิกา กล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบสถิติการเกิดอาชญากรรมที่ทำโดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล พบว่าในปี 2550 คดีลักทรัพย์มีสถิติที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการรวบรวมสถิติพบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม มีคดีโจรลักทรัพย์ในเคหสถานเกิดขึ้นทั้งสิ้นรวม 16,118 ครั้ง โดยเดือนมิถุนายนเกิดขึ้นมากที่สุด 1,805 ครั้ง รองลงมาคือเดือนสิงหาคม 1,796 ครั้ง และเดือนพฤษภาคม 1,782 ครั้ง โดยเดือนที่สถิติต่ำสุดคือเดือนกุมภาพันธ์ 1,364 ครั้ง โดยทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมมากที่สุดคือรถจักรยานยนต์ ซึ่งยังไม่ทันสิ้นปี 2550 สูญหายไปแล้วกว่า 5,507 คัน ทั้งนี้ พื้นที่ที่มีปัญหาทรัพย์สินถูกโจรกรรมมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ สน.ลาดพร้าว สน.ท่าข้าม สน.ห้วยขวาง สน.ราษฎร์บรูณะ และ สน.โชคชัย
    ทั้งนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2549 พบว่าในปี 2550 มีคดีสูงกว่า 1,571 คดี แต่อย่างไรก็ตามหากรวมในปี 2549 ทั้งปี คดีที่เกี่ยวกับการประทุษร้ายต่อทรัพย์เกิดขึ้นรวมทั้งสิ้น 19,742 ครั้ง ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล วิตกว่าในช่วงเวลาที่ยังรวบรวมข้อมูลสถิติอาชญากรรมไม่แล้วเสร็จคือระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2550 รวมเวลา 3 เดือน สถิติคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์จะเพิ่มมากกว่าปี 2549 ค่อนข้างมาก
    โดย พ.ต.อ.ดร.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับว่า ในรอบปี 2550 คดีเกี่ยวกับการประทุษร้ายต่อทรัพย์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเพิ่มสูงขึ้นจริง ทั้งคดีลักทรัพย์ในเคหสถาน ชิงทรัพย์ การโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้เป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี ประกอบกับจำนวนประชากรที่เข้ามาอาศัยอยู่ใน กทม.ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ตำรวจซึ่งมีกำลังอยู่อย่างจำกัดควบคุมปัญหาอาชญากรรมได้ยากขึ้น
    พ.ต.อ.ดร.ปิยะพันธ์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่าช่วงเวลาที่คนร้ายลงมือก่อเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์มากที่สุดจะอยู่ในช่วงระหว่างเวลา 05.00-08.00 น. เนื่องจากห้วงเวลาดังกล่าวตำรวจสายตรวจซึ่งมีหน้าที่หลักในการป้องปรามอาชญากรรมล้าจากการทำงานมาตลอดทั้งคืน และจะมีการเปลี่ยนเวรกันอีกครั้งในเวลา 08.00 น. ทำใหคนร้ายอาศัยช่วงเวลาดังกล่าวลงมือก่อเหตุร้ายขึ้น
    พ.ต.อ.ดร.ปิยะพันธ์ กล่าวด้วยว่า ล่าสุด พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. มีนโยบายให้ตำรวจสายสืบเข้ามาช่วยในงานด้านป้องปรามอาชญากรรมแล้ว ภายใต้โครงการ "ตำรวจวัด" โดยให้ตำรวจสายสืบเข้าไปร่วมเดินบิณฑบาตกับพระสงฆ์ เพื่อสอดส่องดูแลพื้นที่ตามเส้นทางที่พระสงฆ์เดินบิณฑบาต ซึ่งเชื่อว่าสามารถป้องปรามไม่ให้โจรก่อเหตุในช่วงระหว่างเวลา 05.00-08.00 น. ได้ในระดับหนึ่ง
    ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ก็มีสถิติเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดย พ.ต.อ.มนตรี สัมบุณณานนท์ รองผู้บังคับการหัวหน้าศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ในรอบปี 2550 เมื่อเทียบกับปี 2549 พบว่ามียอดสูงขึ้นกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ โดยสาเหตุหลักเกิดจากสภาพเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ประชาชนมีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย จึงมีคนจำนวนไม่น้อยหันไปก่อคดีลักทรัพย์และจี้ชิงทรัพย์
    พ.ต.อ.มนตรี กล่าวต่อว่า คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ที่เกิดขึ้นมากที่สุดคือคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2550 ถึงปัจจุบันมีรถจักรยานยนต์หายแล้ว 900 คัน ขณะที่ในรอบปี 2549 หายเพียง 600-700 คัน เท่านั้น โดยคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ถึงร้อยละ 80 เป็นเด็กและเยาวชน
    ส่วนที่ภาคอีสานตอนบนในเขตรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พบว่าจังหวัดใหญ่ๆ อย่าง จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี และ จ.ร้อยเอ็ด คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน โดย พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า ในรอบปี 2550 คดีลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ และปล้นทรัพย์ เกิดขึ้นสูงกว่าปี 2549 โดยสาเหตุเกิดจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ น้ำมันแพง ค่าครองชีพสูง และคนตกงานมากขึ้น
    พ.ต.อ.ยรรยง กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ก่อเหตุมีแนวโน้มว่าจะมีอายุลดน้อยลงจากเดิมจะอยู่ระหว่าง 18-20 ปี แต่ปัจจุบันลดลงเหลือ 14-15 ปี โดยเด็กเหล่านี้ต้องการเงินไปเที่ยวเตร่และซื้อยาเสพติด
    ขณะที่ภาคใต้ตอนบนในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภ.8 ยอมรับว่า ในพื้นที่รับผิดชอบมีคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช โดยคดีที่เกิดมากสุดคือคดีการฉ้อโกง ร่วมกันปล้นทรัพย์และลักทรัพย์ ซึ่งกำชับให้ตำรวจในพื้นที่เร่งป้องปรามไม่ให้เกิดคดีลักษณะนี้ให้ได้ผลมากที่สุดแล้ว รวมทั้งให้เร่งดำเนินการกวาดล้างจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วด้วย




    -->
    วิกฤติเศรษฐกิจพ่นพิษ ปี 2550 เกิดคดีแล้วกว่า 1.6 หมื่นครั้งในช่วง 10 เดือน รถจยย.เป้าหมายหลัก หายแล้วกว่า 5 พันคัน ขณะที่ เชียงใหม่-ขอนแก่น-ร้อยเอ็ด-อุดรธานี-นครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี วิกฤติไม่แพ้กัน กลุ่มโจ๋ตั้งแก๊งลักทรัพย์หาเงินเที่ยวเตร่และซื้อยาเสพติด
    สภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฝืดเคืองอย่างหนักทำให้คดีลักทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี 2550 ที่ผ่านมากระทั่งถึงปัจจุบัน "คม ชัด ลึก" ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนอยู่ไม่ขาดระยะว่าบ้านเรือนถูกคนร้ายบุกโจรกรรมทรัพย์สินไม่ขาดระยะ เช่น นายพงษ์ธรณ์ กาฬสินธุ์ อายุ 51 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเพิ่งถูกคนร้ายขโมยรถยนต์ขณะจอดไว้ที่หน้าบ้านพักเลขที่ 99/1454 หมู่บ้านนักกีฬา แขวงและเขตสะพานสูง กทม. เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2550 ภายในหมู่บ้านนักกีฬามีโจรเข้ามาลักทรัพย์ไม่เว้นแต่ละวัน และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ทำให้คนในหมู่บ้านหวาดผวาไม่เป็นอันหลับอันนอน
    นายพงษ์ธรณ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ร่วมกับเพื่อนบ้านจัดเวรยามช่วยกันสอดส่องดูแลความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันไม่ให้คนร้ายเข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินภายในหมู่บ้านได้ เนื่องจากคนร้ายอาศัยจังหวะที่เวรยามเผลอโจรกรรมทรัพย์สินไปได้อีก แม้จะแจ้งความให้ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบพื้นที่ก็ไม่ได้ผลเช่นกัน
    ความเดือดร้อนของนายพงษ์ธรณ์ ไม่แตกต่างจาก น.ส.ชนิกา พันภักดี ซึ่งมีบ้านพักอยู่ในหมู่บ้านออคิดวิลล่า ย่านถนนบางนา-ตราด ซึ่งในหมู่บ้านดังกล่าวเกิดกรณีตีนแมวลอบเข้าไปในบ้านพักแล้วขโมยทรัพย์สินไปเช่นกัน น.ส.ชนิกา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.00 น. มีคนร้ายลอบปีนเข้ามาในบ้านพักเพื่อขโมยทรัพย์สิน แต่ระหว่างนั้นคนรับใช้ในบ้านพบเห็นเข้าพอดี คนร้ายจึงใช้มีดจี้บังคับ ข่มขืนคนรับใช้จนสำเร็จความใคร่แล้วหลบหนีไป ซึ่งหลังเกิดเหตุตนพาคนรับใช้รายดังกล่าวเข้าแจ้งความกับตำรวจ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้แต่อย่างใด
    "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความหวาดวิตกให้ตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก รู้สึกไม่มีความปลอดภัยเลย ในหมู่บ้านที่ฉันอยู่ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้กับบ้านฉันบ้านเดียว แต่เพื่อนบ้านเรือนเคียงก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน จนหวาดผวากันไปหมดแล้ว" น.ส.ชนิกา กล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบสถิติการเกิดอาชญากรรมที่ทำโดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล พบว่าในปี 2550 คดีลักทรัพย์มีสถิติที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการรวบรวมสถิติพบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม มีคดีโจรลักทรัพย์ในเคหสถานเกิดขึ้นทั้งสิ้นรวม 16,118 ครั้ง โดยเดือนมิถุนายนเกิดขึ้นมากที่สุด 1,805 ครั้ง รองลงมาคือเดือนสิงหาคม 1,796 ครั้ง และเดือนพฤษภาคม 1,782 ครั้ง โดยเดือนที่สถิติต่ำสุดคือเดือนกุมภาพันธ์ 1,364 ครั้ง โดยทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมมากที่สุดคือรถจักรยานยนต์ ซึ่งยังไม่ทันสิ้นปี 2550 สูญหายไปแล้วกว่า 5,507 คัน ทั้งนี้ พื้นที่ที่มีปัญหาทรัพย์สินถูกโจรกรรมมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ สน.ลาดพร้าว สน.ท่าข้าม สน.ห้วยขวาง สน.ราษฎร์บรูณะ และ สน.โชคชัย
    ทั้งนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2549 พบว่าในปี 2550 มีคดีสูงกว่า 1,571 คดี แต่อย่างไรก็ตามหากรวมในปี 2549 ทั้งปี คดีที่เกี่ยวกับการประทุษร้ายต่อทรัพย์เกิดขึ้นรวมทั้งสิ้น 19,742 ครั้ง ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล วิตกว่าในช่วงเวลาที่ยังรวบรวมข้อมูลสถิติอาชญากรรมไม่แล้วเสร็จคือระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2550 รวมเวลา 3 เดือน สถิติคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์จะเพิ่มมากกว่าปี 2549 ค่อนข้างมาก
    โดย พ.ต.อ.ดร.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับว่า ในรอบปี 2550 คดีเกี่ยวกับการประทุษร้ายต่อทรัพย์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเพิ่มสูงขึ้นจริง ทั้งคดีลักทรัพย์ในเคหสถาน ชิงทรัพย์ การโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้เป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี ประกอบกับจำนวนประชากรที่เข้ามาอาศัยอยู่ใน กทม.ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ตำรวจซึ่งมีกำลังอยู่อย่างจำกัดควบคุมปัญหาอาชญากรรมได้ยากขึ้น
    พ.ต.อ.ดร.ปิยะพันธ์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่าช่วงเวลาที่คนร้ายลงมือก่อเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์มากที่สุดจะอยู่ในช่วงระหว่างเวลา 05.00-08.00 น. เนื่องจากห้วงเวลาดังกล่าวตำรวจสายตรวจซึ่งมีหน้าที่หลักในการป้องปรามอาชญากรรมล้าจากการทำงานมาตลอดทั้งคืน และจะมีการเปลี่ยนเวรกันอีกครั้งในเวลา 08.00 น. ทำใหคนร้ายอาศัยช่วงเวลาดังกล่าวลงมือก่อเหตุร้ายขึ้น
    พ.ต.อ.ดร.ปิยะพันธ์ กล่าวด้วยว่า ล่าสุด พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. มีนโยบายให้ตำรวจสายสืบเข้ามาช่วยในงานด้านป้องปรามอาชญากรรมแล้ว ภายใต้โครงการ "ตำรวจวัด" โดยให้ตำรวจสายสืบเข้าไปร่วมเดินบิณฑบาตกับพระสงฆ์ เพื่อสอดส่องดูแลพื้นที่ตามเส้นทางที่พระสงฆ์เดินบิณฑบาต ซึ่งเชื่อว่าสามารถป้องปรามไม่ให้โจรก่อเหตุในช่วงระหว่างเวลา 05.00-08.00 น. ได้ในระดับหนึ่ง
    ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ก็มีสถิติเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดย พ.ต.อ.มนตรี สัมบุณณานนท์ รองผู้บังคับการหัวหน้าศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ในรอบปี 2550 เมื่อเทียบกับปี 2549 พบว่ามียอดสูงขึ้นกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ โดยสาเหตุหลักเกิดจากสภาพเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ประชาชนมีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย จึงมีคนจำนวนไม่น้อยหันไปก่อคดีลักทรัพย์และจี้ชิงทรัพย์
    พ.ต.อ.มนตรี กล่าวต่อว่า คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ที่เกิดขึ้นมากที่สุดคือคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2550 ถึงปัจจุบันมีรถจักรยานยนต์หายแล้ว 900 คัน ขณะที่ในรอบปี 2549 หายเพียง 600-700 คัน เท่านั้น โดยคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ถึงร้อยละ 80 เป็นเด็กและเยาวชน
    ส่วนที่ภาคอีสานตอนบนในเขตรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พบว่าจังหวัดใหญ่ๆ อย่าง จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี และ จ.ร้อยเอ็ด คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน โดย พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า ในรอบปี 2550 คดีลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ และปล้นทรัพย์ เกิดขึ้นสูงกว่าปี 2549 โดยสาเหตุเกิดจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ น้ำมันแพง ค่าครองชีพสูง และคนตกงานมากขึ้น พ.ต.อ.ยรรยง กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ก่อเหตุมีแนวโน้มว่าจะมีอายุลดน้อยลงจากเดิมจะอยู่ระหว่าง 18-20 ปี แต่ปัจจุบันลดลงเหลือ 14-15 ปี โดยเด็กเหล่านี้ต้องการเงินไปเที่ยวเตร่และซื้อยาเสพติด ขณะที่ภาคใต้ตอนบนในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภ.8 ยอมรับว่า ในพื้นที่รับผิดชอบมีคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช โดยคดีที่เกิดมากสุดคือคดีการฉ้อโกง ร่วมกันปล้นทรัพย์และลักทรัพย์ ซึ่งกำชับให้ตำรวจในพื้นที่เร่งป้องปรามไม่ให้เกิดคดีลักษณะนี้ให้ได้ผลมากที่สุดแล้ว รวมทั้งให้เร่งดำเนินการกวาดล้างจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วด้วย



    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ----------------
    ที่มา:คมชัดลึก
    http://www.komchadluek.net/2007/11/25/a001_175207.php?news_id=175207
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2007
  2. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,270
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,079
    กรรมของสัตว์โลก
     

แชร์หน้านี้

Loading...