วิจารณ์ พุทธทำนาย

วิจารณ์พุทธทำนาย

เวไนยสัตว์ ทั้งหลาย ล้วนเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในคติภูมิทั้ง 5

นับตั้งแต่ครั้งบุราณกาลนานมาแล้ว สรรพสัตว์ สรรพจิต ทั้งหลาย ล้วนเวียนว่ายตายเกิดอยู่ใน สังวัฏจักร หรือ สังยุค หมายถึง สังสารวัฏโกฏิ สังสารวัฏกัป สังสารวัฏ การอุบัติขึ้นของ สรรพสิ่ง สรรพจิต สรรพสัตว์ ล้วนอุบัติขึ้น อย่างเป็นขั้น เป็นตอน อย่างละมุนละม่อม ล้วนแล้วถูกวางแผนไว้อย่างเป็นสารระบบ ทั่งทั้งมหาสากลจักรวาล การอุบัติขึ้นของโลกและจักรวาล รวมทั้งสรรพสิ่ง สรรพจิต สรรพสัตว์ ล้วนอุบัติขึ้นตามห้วงแห่งกาลเวลาอันเหมาะสมทั้งสิ้น มิอาจบังเกิดขึ้นเองแม้เพียงเศษเสี้ยวธุลีดิน ทั้งนี้ เวไนยสัตว์ทั้งหลาย ล้วนอยู่ภายใต้การกำกับดูแล ของสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติทั้งสิ้น เป็นพลังจิต พลังชีวิต เป็นพลังแห่งความดี สร้างสรรค์ทุกสรรพสิ่งขึ้นมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน นับตั้งแต่ อุบัติ พื้นแผ่นฟ้า พื้นแผ่นดิน พื้นแผ่นน้ำ สร้างกงกรรมกงเกวียน สร้างกฎแห่งกรรมขึ้นมา เริ่มต้นด้วยยุค สังสารวัฏโกฏิ มนุษย์ ทั้งหลายล้วนมีอายุขัยนับได้เป็นโกฏิ (หนึ่งโกฏิ เท่ากับ หนึ่งล้านกัป หนึ่งกับ เท่ากับ หนึ่งล้านพรรษา) อายุมนุษย์ในยุคนั้น นับได้เป็นอสงไขยปี เพียงแต่นับได้เป็นโกฏิ หลายๆ โกฏิ จนกระทั่งล่มสลายไป กลับเข้าสู่ยุคที่สอง เรียกว่า สังสารวัฏกัป อุบัติขึ้นในยุคของไดโนเสาร์ โดยบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย รวมทั้งมนุษย์ซึ่งอุบัติขึ้นในยุค สังสารวัฏโกฏิ ล้วนกลับลงมาอุบัติเป็น สรรพสัตว์ สังสารวัฏกัป ทั้งสิ้น โดยกัดกินกันเป็นกงกรรมกงเกวียน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน เป็นผู้กิน ผู้ถูกกิน เป็นวัฏจักรชีวิต วงจรชีวิตของสรรพสัตว์ ล้วนได้รับการสร้างขึ้นมาอย่างเป็นสารระบบทั้งสิ้น นับตั้งแต่ครั้งบุราณกาล สร้างกฎแห่งกรรมขึ้นมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งนี้เป้าหมายสูงสุด เพียงเพื่อสร้างสรรค์ผลงานอันวิจิตร ได้มนุษย์ซึ่งพร้อมไปด้วยความฉลาดหลักแหลม สามารถวิวัฒนาการตนเองไปสู่ความเจริญรุ่งเรื่อง รุดหน้าไปอย่างไร้ขอบเขต ดังเฉกเช่นปัจจุบัน

นับตั้งแต่ครั้งบุราณกาลนานมา ภายหลังจากหมดยุค สังสารวัฏกัป จึงย่ำกลายเข้าสู่ยุคที่สามคือ ยุคสังสารวัฏ อายุขัยของสรรพจิต สรรพสัตว์ ล้วนได้รับการบรรจุจิตไว้บนสวรรค์ชั้น อาภัสสรพรหม นำสรรพจิต นับตั้งแต่ยุค สังสารวัฏโกฏิ สังสารวัฏกัป มาแบ่งอายุขัย เป็นสรรพสัตว์อายุขัยสั้น เพื่อเป็นห่วงโซ่อาหาร สร้างกงกรรมกงเกวียน สร้างกฎแห่งกรรม ขึ้นมาบังคับใช้ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน อย่างแยบยล ล้วนอุบัติขึ้นอย่างเป็นสารระบบ ภายใต้การกำกับดูแล ของผู้ซึ่งมีอำนาจเหนือธรรมชาติ เป็นพระผู้สร้าง ไร้ขอบเขตจำกัด ไม่มีขอบ คือ เอกรรตา พระผู้สร้าง สรรพสิ่ง สรรพจิต ทั้งหลาย ล้วนเรียกท่านว่า