วิธีการถนอมอาหาร

น้ำทับทิม

ทุกท่านคงเคยเห็นลูกทับทิมกันแล้ว เป็นผลไม้ที่สวยงามและมีกลิ่นหอมมาก
ทับทิมสามารถปลูกได้ในประเทศไทย
แต่ที่แท้จริงเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากเปอร์เซีย
( ประเทศอิหร่านในปัจจุบัน) และมีแถบอินเดียตอนเหนือบริเวณเทือกเขาหิมาลัย

ในเมืองไทย ทับทิมดูจะเป็นผลไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์
และเป็นที่นิยมนำไปถวายแก่พระแม่กวนอิม
ในประวัติศาสตร์พบว่าได้มีการนำทับทิมมาทำเป็นยารักษาโรคตั้งแต่
8,000ปีมาแล้ว ในประเทศเปอร์เซียโบราณมีความเชื่อว่า
คุณค่าทางอาหารทุกชนิดที่มีอยู่ในผลไม้ต่างๆ นั้น รวมกันอยู่ในทับทิม
ทับทิมจึงเป็นสัญลักษณ์ของผลไม้
ถือว่าเป็นผลไม้จากสวรรค์หรือเป็นของขวัญจากพระเจ้า

ในผลทับทิมมีวิตามินมากมายหลายชนิด รวมทั้งแมกนีเซียมและแคลเซียม
ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบฟอกโลหิต และระบบการหมุนเวียนในร่างกาย
ในตำราแพทย์โบราณของเปอร์เซีย
(ซึ่งถือว่าเป็นต้นตำรับของวิชาแพทย์ตะวันตกในปัจจุบัน)
ระบุว่าทับทิมมีประโยชน์ดังต่อไปนี้

* การฟื้นฟูสู่สภาพเดิมของหัวใจและตับ
* การฟอกไตและท่อปัสสาวะ
* สมรรถนะในการส่งเสริมการย่อย
* ขจัดไขมันส่วนเกิด
* เป็นยาบำรุงกำลัง
* ช่วยป้องกันการแพ้ท้อง
* ช่วยปรับฮอร์โมนในวัยหมดประจำเดือน
* ปรับปรุงระบบการฟอกและหมุนเวียนโลหิต
* การฟื้นฟูจากโรคเบาหวาน
* สมรรถนะในการกลั้นเสมหะ
* ต่อต้านการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและเพิ่มพลัง
* ป้องกันโรคขี้หลงขี้ลืมในผู้สูงอายุ
* ทำให้ผิวหน้าสวย


การวิจัยทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกาพบว่าในน้ำทับทิม
มีสารต้านนอนุมูลอิสระหลายชนิด และมีประสิทธิภาพสูงมาก
งานวิจัยแรกพบว่าสารจากน้ำทับทิม สามารถลดภาวะการแข็งตัวของ
เส้นเลือดจากไขมันในเลือดสูงได้



อีกรายงานยังสรุปว่าทำให้เส้นเลือดที่หนาตัวและมีไขมันสะสม
ซึ่งเป็นเส้นเลือดที่ไม่ดี มีความหนาตัวลดลง และลดไขมันที่สะสมลงอีกด้วย
มีรายงานการให้สารจากทับทิมในหนูทดลอง
ก่อนที่จะให้สารพิษคาร์บอนเตตราคลอไรด์ต่อตับ
พบว่าหนูที่ได้รับสารจากทับทิมมีฤทธิ์ป้องกันการเป็นพิษต่อตับได้จริง
ยังมีงานวิจัยอีกว่า ทั้งในรูปน้ำสดและผ่านการหมักต่อเซลล์มะเร็งหน้าอกของ
คนพบว่ามีฤทธิ์ในการยับยั้งของเซลล์มะเร็งได้จริงอีกด้วย

ในประเทศญี่ปุ่นมีรายการแนะนำทับทิมทางโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ว่า
ทับทิมมีสรรพคุณในการบรรเทาโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มพลัง
เพิ่มความงาม และประโยชน์อื่นอีกมากมาย ทำให้ทับทิมเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง


ในปัจจุบัน ได้มีการค้นคว้าและแปรรูปทับทิมมากมายจากหลายประเทศทั่วโลก เช่นในประเทศเยอรมนี นอกจาก จะมีการผลิตสินค้าจากน้ำทับทิมเข้มข้นแล้วยัง
ได้นำเมล็ด ใบ และดอก มาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าหลากหลายชนิด
น้ำทับทิมจึงเป็นน้ำผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีคุณประโยชน์และเป็นของที่มาจากธรรมชาติ
นับเป็นหนึ่งในอาหารสุขภาพที่มีผลบำรุงร่างกายที่แท้จริง

 

แนะนำการเตรียมเสบียงอาหาร
1.อาหารจำพวกแป้ง เช่น ข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง อาหารที่แปรสภาพมาจากธัญพืช เช่น แผ่นแป้ง โรตี ฯลฯ
2.อาหารจำพวกน้ำตาล และไขมัน เช่น น้ำตาลประเภทต่างๆ กะทิผง ไขมันหมู หรือกากหมู เนย น้ำมัน
3.อาหารจำพวกโปรตีน ได้แก่ เนื้อสัตว์ โปรตีนเกษตร และเห็ด
4.อาหารจำพวกเกลือแร่ และวิตามิน ได้แก่ เกลือทะเล ผลไม้แห้ง สาหร่าย
5.เครื่องปรุงรส พริก น้ำพริก เครื่องแกง ข่า ตะไคร์ ใบมะกรูด หอม ฯลฯ แห้ง นอกจากเป็นเครื่องปรุง ยังสามารถใช้เป็นยาได้ด้วย

เดี๋ยวจะลง Check List รายการของที่ต้องเตรียมไว้ให้ เริ่มเก็บของลงกระเป๋ากันได้แล้วจ้า สำหรับ List ที่จะลงให้ สามารถปรับใช้ได้ตามสภาพความเหมาะสม

 

โยเกิตอบแห้ง

ส่วนผสม:

1. โยเกิต..(รสธรรมชาติ) plain nonfat yogurt 1 ถ้วย
2. 1 cup applesauce or
1 cup cook peachs or pear or
1 cup fresh carrot juice or
1 cup pineapplesauce (สัปรดปั่นละเอียด).....
****กรุณาเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น***

****และในกรณีที่เราจะใช้โยเกิตแบบรสผสมผลไม้ที่มีขายอยู่ตามท้องตลาด...ก็สามารถทำไ้ด้เลย...โดยไม่ต้องใช้ส่วนผสมใด ๆ อีก....เทโยเกิตของในถาดอบแห้งเลยค่ะ...ประมาณ 2-2 1/2 ถ้วยต่อ 1 ถาด...)

วิธีทำ : เหมือนกันทุกอย่างกับสูตรวิธีทำ applesauce ที่ได้กล่าวไว้แล้ว (กรุณาย้อนกลับไปดูด้วยค่ะ....)

****เก็บไว้ในตู้เย็นก่อนนะคะ...ช่วงที่ยังไม่ได้ใช้...เมื่อจะใช้ค่อยนำออกมา...สามารถเก็บไว้ได้เป็นปี ๆ ค่ะ...)

 

แผ่นฟักทองอบแห้ง

ส่วนผสม :
1. ฟักทองนึ่งสุกแล้ว 2 ถ้วย
2. นมข้นหวาน (กระป๋อง) 1 ถ้วย
3. ผลไม้ปั่นละเีอียด (สัปรดปั่นละเอียดละกันค่ะ...ง่ายดี...หาง่ายด้วย...) 2 ถ้วย
4. น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย
5. ลูกเกดแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ :
นำส่วนผสมทั้งหมด มาปั่น puree รวมกัน ชิมรส เทลงในถาดอบแห้ง (อย่าลืมเคลือบผิวด้วยน้ำมันพืชก่อนทุกครั้ง...) ใช้เวลาในการอบประมาณ12-18 ชั่วโมง (มั่นค่อยเช็คความแห้ง...ของอาหาร...อย่าให้แห้งมาจนเกินไป...เผื่อว่าเมื่ออาหารเย็นแล้วจะจับความแข็งเพิ่มมากยิ่งขึ้น...)

***สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปี ๆ เช่นเดียวกันค่ะ

 

ยังไม่มีโอกาสทำมะม่วงกวนสูตร ของคุณรัตนาพรเลย พอดีว่าช่วงนี้ลูกสอบนะคะเลยยุ่ง ๆ ไว้ลูกสอบเสร็จคงมีเวลาได้ทำ นะคะ

 

ทันไม๊ รอขึ้นไปช่วยชิมกันด้วยนะนี่

 

น้องนิ่มจ๊ะ....พี่ส่งเครื่องอบแห้งไปเมืองไทยแล้วนะจ๊ะ...น้ำหนักจะอยู่ประมาณ เกือบ 70 lbs...แน่ะค่ะ...และพี่ก็ add... trays อีก 5 อัน... และ...add clean a screen 2 อัน.... และ...add roll up fruit leather sheets 4 อัน...ไปให้ด้วยค่ะ...

และพี่ก็มีสูตรทำ Power bar...2 -3 สูตรแล้วด้วยค่ะ...แล้วพี่จะ มาโพส์ตบอกน้องนิ่มนะค่ะ...

แต่ตอนนี้พี่อยากจะทราบว่า...ทางเมืองไทยเรา...(ทีมเชียงใหม่...)...ใครพอจะมีเครื่องอบ ( oven)...บ้างค่ะ...เพราะถ้าเราจะทำ Power bar จะต้องใช้เตาอบแบบฝรั่งทำค่ะ...

ทืมทางเชียงใหม่...ถ้าใครพอจะมี...และสามารถให้ทางทีมใช้ประโยชน์ได้...กรุณาแจ้งกลับไว้ที่กระทู้นี้ด้วยนะคะ...เพราะเราจำเป็นต้องใช้มันจริง ๆ ค่ะ...(ขอความร่วมมือจากทุก ๆ ท่านด้วยนะคะ..)...ขอบพระคุณค่ะ...

 

เดี๋ยวเงินเดือนออก (หลังวันที่ 9) นิ่มจะทะยอยซื้อวัตถุดิบที่จะต้องใช้ละค่ะ ช่วงแรกที่ทดลองคงต้องซื้อที่เชียงใหม่ก่อนนะ ถ้าทำแล้วพี่คณานันท์ กับ พี่เปี๊ยก ไม่ท้องเสีย ท้องผูก ก็น่าจะหมายถึงว่า รอดตาย (เอิ๊ก...เอิ๊ก...เอิ๊ก...)

ส่วนเครื่องอบแบบฝรั่งนิ่มไม่มีนะจ๊ะ ไม่รู้ว่าพี่หนมผิง กะ พี่ตุ๋ม จะพอมีในโกดังเก็บของเก่าบ้างรึป่าวเอ่ย

เมื่อวานนิ่มทดลองใช้เครื่องปั่นที่แม่พี่นายให้มา พยายามแกะส่วนที่บดตั้งนานสองนาน ก็แกะไม่ออก โทรถามแม่พี่นายก็แร้ว ในที่สุดเลยตัดสินใจไม่ถอดละ ลองเอางาคั่วใส่แล้วกดเลย ปรากฏว่ายังใช้ได้ดีค่า ตอนนี้ก็ยังถอดไม่ได้เลยค่า .....หุ หุ หุ ไม่รู้ว่าจะถอดได้เมื่อไหร่เนี่ย
เจ๊ตุ๋มมาช่วยถอดให้น้องหน่อยดิ

 

ที่บ้านมีเตาอบ เครื่องปั่น เครื่องแยกกากพร้ม ให้สูตรมาได้เลยจะลองทำแล้วเมล์ไปให้ชิมที่เชียงใหม่
ฮุ ฮุ ฮุ ช่วงโปรโมชัน แถมยาธาตุน้ำแดง และคาร์บอน 1 ชุด สำหรับ Order แรก


แนะนำ Power Bar สูตร OTOP -> ข้าวตัง

ข้าวตัง ข้าวที่เหลือติดก้นหมอที่แซะออกมาตากแดดเป็นแผ่น แปรรูปมาเป็นอาหารว่างจานอร่อย หลายรูปหลายแบบ รสชาติหลากหลาย ทั้งข้าวตังหน้าตั้ง ข้าวตังหน้ากุ้ง ข้าวตังหน้ามะพร้าว ข้าวตังเมี่ยงลาว หรือข้าวตังกะทิ ซึ่งเป็นข้าวตังที่ได้จากการหุ้งข้าวมันกะทิ กินกับส้มตำไทยโบราณ รสออกเค็มๆ มันๆ กินเล่นได้อร่อย แต่สูตรนี้จะเป็น "ข้าวตังน้ำพริกเผาผัด" โดยนำข้าวตังมาทอดกรอบ ทาด้วยน้ำพริกผัด ตามอย่างกาพย์เห่เรือ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 6 ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ว่า "ข้าวตังกรอบถนัด น้ำพริกผัดละเลงทา ข้าวตังปิ้งใหม่มา จิ้มหน้าตั้งทั้งเค็มมัน" น้ำพริกผัดเป็นน้ำพริกเผาผัดที่ออกรสเค็ม หวาน เปรี้ยว และเผ็ดเล็กน้อย ซึ่งน้ำพริกเผานี้สามารถทำเก็บไว้กินได้นานวันเช่นเดียวกับข้าวตังเลยทีเดียว การทำข้าวตังแต่ก่อนต้องแซะข้าวกันหม้อหรือก้นกระทะใบบัว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องรอเพราะข้าวตังมีขายทั้งแบบเป็นแผ่นกลม แผ่นสี่เหลี่ยมให้เลือกซื้อ หรือจะทำเองก็ได้ เพียงเลือกข้าวสารใหม่มาหุง ข้าวจะแฉะ มีความเหนียว นำมากดให้เป็นแผ่น ตากพอแห้ง กลับอีกด้านตากจนแห้งสนิท เก็บใส่ขวด ปิดฝา เมื่อมีแขกหรือยามว่าง เพียงทอดข้าวตังแล้วนำมาทาด้วยน้ำพริกเผา เท่านี้ก็ได้อาหารว่างจานอร่อยแล้ว
เครื่องปรุง
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="50%"> <tbody><tr> <td> ข้าวตัง </td> <td align="right"> 300 </td> <td> กรัม </td> </tr> <tr> <td> กุ้งแห้งตัวใหญ่ </td> <td align="right"> 1/2 </td> <td> ถ้วย </td> </tr> <tr> <td> มะม่วงดิบซอยเป็นเส้นเล็กๆ </td> <td align="right"> 1 </td> <td> ถ้วย </td> </tr> <tr> <td> พริกแห้งเม็ดใหญ่ </td> <td align="right"> 5 </td> <td> เม็ด </td> </tr> <tr> <td> หอมแดงซอย </td> <td align="right"> 1/2 </td> <td> ถ้วย </td> </tr> <tr> <td> กระเทียมซอย </td> <td align="right"> 3 </td> <td> ช้อนโต๊ะ </td> </tr> <tr> <td> น้ำตาลปีบ </td> <td align="right"> 1/4 </td> <td> ถ้วย </td> </tr> <tr> <td> เกลือป่น </td> <td align="right"> 2 </td> <td> ช้อนชา </td> </tr> <tr> <td> น้ำปลา </td> <td align="right"> 2 </td> <td> ช้อนโต๊ะ </td> </tr> <tr> <td> กะปิ </td> <td align="right"> 1 </td> <td> ช้อนชา </td> </tr> <tr> <td> น้ำมันพืชสำหรับผัด </td> <td align="right"> 2 </td> <td> ช้อนโต๊ะ </td> </tr> <tr> <td> น้ำมันพืชสำหรับทอด </td> <td align="right">
</td> <td> </td> </tr> </tbody></table>
วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่ข้าวตัง ทอดให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน พอเย็นเก็บใส่ภาชนะ ปิดฝาให้สนิท
2. พริกแห้งแกะเมล็ดออกแช่น้ำพอนุ่ม เจียวหอมและกระเทียมให้เหลืองกรอบ (แยกเจียวทีละอย่าง)
3. โขลกกุ้งแห้งให้เนื้อฟูเป็นปุย โขลกพริกแห้งให้ละเอียด ใส่หอมแดงเจียว กระเทียมเจียวโขลกเข้าด้วยกัน ใส่เกลือ กุ้งแห้ง โขลกรวมกัน ใส่กะปิ โขลกให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง ใส่มะม่วงเคล้าเบาๆ พอทั่ว
4. ใส่น้ำมันลงในกระทะ 2 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟกลางพอร้อน ใส่น้ำพริกที่โขลกในข้อ 3 ผัดให้ทั่วปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ผัดเข้าด้วยกัน ผัดพอแห้ง ตักใส่ถ้วย
วิธีจัดเสิร์ฟ ตักน้ำพริกเผาผัด ทาบนข้าวตังบางๆ ให้ทั่ว จัดวางในจาน อย่าวางซ้อนกัน

 

Honey-Nut Bar

Preheat oven to 350 F

Beat together:
1 egg
1/2 cup honey
1 teaspoon vanilla extract

Combine:
3/4 cup whole wheat flour
1/4 cup instant dry milk
1 teaspoon baking power
1/2 teaspoon ground coriander
1/4 teaspoon ground nutmeg
1/4 teaspoon salt

Add dry ingredients to egg-honey mixture and blend well. Then add:

1 cup chopped roasted peanuts or almonds
3/4 cup ground sesame seeds

Mix gently; spread batter in a g geased 9-inch square pan and bake for 25-30 minutes. Let cool and cut into 12 bars.


******Do you want thai version ???.... khunkik...

 

fruit Balls

grind togerther dried fruit and raisins; mix in some peanut butter and flaked coconut. Shape into ball; roll in chopped nuts or sesame seeds.

*****The end...very easy...

 

Trekker Treats

preheat oven to 350 F.

Blend in large bowl:
3/4 cup whole wheat flour
1/2 cup quick oatmeal
1/2 cup softened margarine
1/4 cup toasted wheat germ
1/2 cup brown sugar
grated peel of 1 orange

Pat this mixture into an oiled 9-inch square pan. In a small bowl, beat 2 eggs with 1/4 cup cup brown sugar, then stir in 1/4 cup rach chopped walnuts, slivered almonds and shredded coconut. Pour this mixture over the patted-down mixture and bake for 30 minutes. Let cool completely, then cut into 12 bars. Wrap in dividually in foil or plastic wrap.

*****The end .... Please say something if you want thai version...

 

Orange-mincemeat Bars

Preheat oven to 350 F.

Mix well:
1/2 cup chopped walnuts
1 1/4 cups quick oatmeal
1 cup flour (all purpose flour)
1 cup firmly packed brown sugar
1/2 teaspoon salt

With a pastry blender, cut in 3/4 cup margarine. Pat half this misture into a well-buttered 9-inch square pan. Combine:
1 1/2 cups prepared mincemeat
1 unpeeled seedless orange, cut in large chunks and put through food grinder
2 tablespoons cornstarch

Spread over the crumbs, then top with the remaining crumb mixture, patting down well. Blend 1 beaten egg wolk with 2 tablespoons water; spoon over crumb mixture. Bake for 50 minintes. Let cool in pan; cut into 9 or 12 bars.

****The end...

 

Sesame Honeys

Preheat oven 350 F. (for 15 minutes)

Mix:
2 cups toasted sesame seeds
1/2 cup chopped nuts (peanuts,almonds,walnuts or else..)

In a large frying pan, combine : 1/2 cup each honey and packed brown sugar, 1/4 teaspoon salt and 3/4 teaspoon ground cinnamon. Bring to boil over medium heat, stirring constantly; cook for 2 minutes. Remove pan from heat and quickly stir in seeds and nuts, mixing well. Turn into a buttered 9-by-14- inch pan. With the back of a spoon, press mixture firmly and evenly down. Let cool at room temperature for 15 minutes, then cut into bars. When very firm (about 2 hours), wrap in plastic wrap.

****the end

 

ขนาดไม่มีภาพประกอบอ่านแล้วน้ำยายล้อยเยย....ถ้ามีรูปด้วยจะขนาดไหนเนี่ย

 

หิว...หิว...

 

แต่ละสูตรนี่กินได้จริงเป่าเนี่ย

แต่ละสูตรเนี่ยกินได้จริงเป่า ใครทำให้ลองกินมั่งจิ คนดูจะได้เปลี่ยเป็นคนชิมซะเลย (b-oneeye)(bb-flower

 

นั่นนะสิค่ะ...แล้วใครจะเป็นคนทำกันล่ะเนี้ย...แต่เห็นคุณกิ๊กบอกว่า...จะโชว์ฝีมือนะ....คุณเปิ้ลก็ลองทาบทามดูสิค่ะ....อาจจะได้ชิมเร็ว ๆ นี้ก็ได้....

 

เชื่อแล้วค่ะว่า....คุณzz...หิวเก่ง....อิอิ
และตอนนี้ก็ได้คุณzz....มาหิวแทนคุณคณานันท์แล้ว...

 

ขออนุญาต คุณนาย ก่อนจ้า เดี๋ยวจะลองทำดู แต่สำหรับสูตรงา คงจะขอไม่ทำน่ะ เพราะจะซื้อขนมงาตัดมาใช้แทน ที่ขายร้านขนมเปี๊ยะน่ะ เพราะดูต้นทุนในการทำกับซื้อมา ท่าทางซื้อสำเร็จพร้อมกินเลยจะถูกกว่า เพราะบอกจริงๆ ว่าผลไม้แห้งในเมืองไทยราคาค่อนข้างแพง ทั้งที่ผลิตในเมืองไทยแท้ๆ เมื่อวาน Khunkik ไปซื้อ Dry Mix Fruit มา 500 กรัม ราคา เกือบ 300 บาท แล้วเดี๋ยวต้องเอาไปทำอีก แต่ลองทำไว้ก็ดี ดีกว่าไม่มีเนอะ

Thavornsiripat เตรีมพุงไว้เลย เดี๋ยวนายต้องเป็นเหยื่อเราแน่ๆ ฮุ ฮุ ฮุ (ดูอย่างเดียวไม่ปวดท้องเน้อ ^-^)