เรื่องเด่น วิธีทำบุญให้เป็นฌานแบบง่ายๆก่อนหลับและหลังจากตื่นนอนใหม่ๆ- หลวงพ่อฤาษีฯ

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย อกาลิโก!, 18 มีนาคม 2018.

  1. อกาลิโก!

    อกาลิโก! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    609
    กระทู้เรื่องเด่น:
    531
    ค่าพลัง:
    +3,731
    วิธีทำบุญให้เป็นฌานแบบง่ายๆก่อนหลับและหลังจากตื่นนอนใหม่ๆ- หลวงพ่อฤาษีฯ

    Untitled-1-44.png


    ก่อนจะหลับทำบุญเสียหน่อย ตั้งใจเอาเงินใส่ในภาชนะนั้นเก็บไว้ คิดว่าเราจะถวายพระเป็นค่าภัตตาหารก็ได้ เป็นวิหารทานก็ได้ เป็นธรรมทานก็ได้ หรือสร้างพระพุทธรูปก็ได้ตามใจชอบ แต่ก่อนที่จะใส่ถ้าว่าคาถาวิระทะโยเป็นก็ว่าไป ถ้าไม่ว่าก็นึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ หรือพระปัจจเจกพุทธเจ้า ถือว่าเวลานั้นจิตของท่านเป็นพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ เป็นอนุสสติใหญ่ การคิดว่าจะเอาสตางค์ใส่ในบาตรหรือใส่ในกระป๋อง คิดว่าจะใส่ อันนี้เป็นจาคานุสสติกรรมฐาน เป็นทาน การใส่อย่างนั้นเป็น ทานบารมี

    บรรดาท่านพุทธบริษัท การทำเพียงแค่นี้ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททำทุกวันอย่างนี้ อาตมาขอยืนยันว่าทุกคนนี่ลงนรกไม่ได้ ถ้าเรามีการเริ่มต้นอย่างนี้ หากว่าญาติโยมจะถามว่าทุกคนต้องการไปนิพพาน ทำจิตถ้าเป็นฌานอย่างนี้พื้นฐานใหญ่ ถ้าหากว่านอนหลับตื่นขึ้นมาใหม่ ๆ ถ้าเราหวังนิพพาน สำหรับท่านที่ได้มโนมยิทธิ อย่าลืมพุ่งใจตรงไปนิพพานทันที แล้วก็ตั้งใจว่าถ้าตายเมื่อไรขอมาที่นี่จุดเดียว อย่างนี้ไปนิพพานแน่

    196279.jpg

    ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัทปฏิบัติแบบ สุกขวิปัสสโก เมื่อหลับตื่นขึ้นมาหายเหนื่อยแล้ว ก็รวบรวมกำลังใจจะนอนอยู่แบบนั้นก็ได้ ไม่ต้องนั่งก็ได้ตามสบาย เพราะการเจริญสมาธิทำจิตบริสุทธิ์ มันสำคัญอยู่ที่จิตใจไม่ได้สำคัญที่กาย ต้องปล่อยให้กายสบายอย่าฝืนกาย รวบรวมกำลังใจนึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพระธรรม นึกถึงพระสงฆ์ คิดตามความเป็นจริงว่าชีวิตนี้มันต้องตาย จะตายวันนี้ตายพรุ่งนี้ตายเมื่อไร อันนี้ไม่ทราบคิดว่ามันตายแน่ ก็คิดว่าถ้ามันจะตายเมื่อไร ขอไปนิพพานจุดเดียว หลังจากนั้นจิตก็คิดตามความเป็นจริงว่า

    ขึ้นชื่อว่า ความโลภ อยากได้ทรัพย์สมบัติของบุคคลอื่น มาเป็นของเราโดยไม่ชอบธรรม เป็นของไม่ดีเราไม่ต้องการ

    ความโกรธคิดประทุษร้ายบุคคลอื่นเป็นของไม่ดี เราจะไม่โกรธ ความจริงมันต้องโกรธอาจจะลืม ก็คิดทุกวัน อารมณ์จะตายตัว

    และความหลงไหลใฝ่ฝันในรูปเสียงกลิ่นรส คือร่างกายของเรา คิดว่าจะทรงตัวเป็นของไม่จริง ของในโลกทั้งหมดมีอันจะต้องฉิบหายไปในที่สุด คือ พังหมด เราไม่ต้องการ ร่างกายเลว ๆ อย่างนี้ โลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์อย่างนี้เราไม่ต้องการอีก เราต้องการจุดเดียวคือ นิพพาน หลังจากนั้นถ้ามีเวลาก็ภาวนานิดหน่อยพอใจสบาย ก็ลุกไปทำงานต่อไป

    เพียงเท่านี้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ทำวันละเล็กละน้อย กำลังบุญของท่านส่วนใหญ่ นี่ใหญ่มากไม่ใช่เล็ก กำลังใหญ่มาก เวลาที่ท่านป่วยไข้ไม่สบาย ถ้าอาการตายจะเข้ามาถึง ให้สังเกตไว้ถ้าป่วยครั้งใด ถ้าจิตใจยังวุ่นวายอยู่ ขณะนั้นมันไม่ตาย ป่วยคราวนั้นไม่ตาย ถ้าป่วยถึงคราวเครียดมันจะตายจริง ๆ พอเริ่มป่วยใหม่ ๆ จิตจะเริ่มทรงตัว จิตนี่จะเริ่มไม่เป็นห่วงอะไร เริ่มป่วยน้อย ๆ นี่จิตใจมีความรู้สึกว่า ชีวิตนี้มันไม่แน่มันอาจจะตายก็ได้ ทรัพย์สินทั้งหลายที่มีอยู่ ไม่มีความสำคัญสำหรับเรา ถ้าเราตายเวลานี้ เราหมดห่วง จิตมันเริ่มเป็นสุข อารมณ์เยือกเย็นจิตวางเฉย ถ้าเป็นอย่างนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท ให้หวังได้คราวนี้ตายแน่

    แต่ก่อนจะถึงเวลาตายจริง ๆ ถ้าใน ๗ วันในระยะ ๗ วัน หรือ ๓ วันก่อจะต
    ายจะพบภาพ ภาพที่ได้เห็นจะเต็มไปในอากาศ จักรวาลนี่เต็มไปหมด ถ้าเห็นเทวดาอยู่แนวหน้าให้ท่านทราบว่าตายคราวนี้ไปเป็นเทวดาแน่ ถ้าเห็นพรหมอยู่แนวหน้า ให้ทราบว่าตายคราวนี้เป็นพรหมแน่ ถ้าเห็นพระอยู่แนวหน้า พระพุทธเจ้าอยู่ใกล้ที่สุดตายคราวนี้ไปนิพพานแน่ อันนี้เป็นนิมิตหมายแน่นอน.

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วัดจันทาราม(ท่าซุง)อุทัยธานี.


    -----------------------
    ขอบคุณที่มา
    http://108resources.com/2777-2/
     

แชร์หน้านี้

Loading...